นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 844157 ครั้ง)

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
กลัวโดนฆ่าจังเลย
แต่ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าเลยนะครับ กรุณาอย่าข่มขืนก่อนฆ่าเลย มันทรมานและเสียดายชีวิต
(ชักไม่ปลอดภัยแล้วสิเรา พอถึงบทที่ 15 คงต้องไปหาเสื้อกันกระสุนมาสวม พอถึงบทที่ 20 กว่าตอนที่มี "อีกคนหนึ่ง" โผล่ขึ้นมาผมคงต้องไปหารถถังมาขับแทนรถอีแก่ที่ขับอยู่ทุกวันนี้แล้วสิ)
และขอบคุณคุณ krappom ที่ตาดีแท้ๆ เจอที่ผิดนะครับ เดี๋ยวมีรางวัลให้  :impress2:

แม้จะมีคนคิดถึงผมแค่คนเดียวก็ทำให้ผมเคลิ้มได้แล้วครับ เลยมาโพสบทที่ 4 ต่อ

อนุภาพนั่งฟังอาวุธตาปริบ ก่อนที่อีกฝ่ายจะหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า "เอ ผมพูดแล้วเข้าใจได้ไหมเนี่ย หรือทำให้งงเฉยๆ"
"เข้าใจครับ" อนุภาพยิ้มบางๆ "ขอบคุณสารวัตรนะครับ ขอบคุณที่ไม่ถามอะไรที่ผมไม่อยากพูด"
"ยินดีครับ" อาวุธรับคำ "ผมว่าถ้าคุณอยากพูดก็คงพูดเอง แต่ถ้าอยากมีใครรับฟังเรื่องอัดอั้นตันใจ ผมก็ยินดีรับฟัง การได้ระบายออกมาบ้างก็เป็นผลดีนะครับ นักจิตวิทยาเขาก็แนะนำ"
"หวังว่าผมคงไม่ต้องถึงกับต้องไปพบกับหมอโรคจิต" อนุภาพฝืนยิ้ม
"ผมเป็นหมอให้ก็ได้" อาวุธยิ้ม แล้วหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้านิ่ง แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก

อนุภาพนั่งนิ่ง มองออกไปยังความมืดด้านข้าง อาวุธขับรถเอื่อยๆ ดูไม่ได้เร่งรีบ ต่างกับอธิคมที่ขับรถเร็ว แม้เวลาไม่ได้รีบร้อน
"สารวัตรอาวุธครับ ผมขอค้างแค่คืนเดียว พรุ่งนี้เช้าก็ไม่รบกวนแล้ว"
"คุณนุ อย่าถือว่าเป็นการรบกวนเลย ถ้ารู้สึกลำบากใจ เกรงใจผม หรืออะไรก็แล้วแต่ ให้ถือซะว่าผมช่วยเพื่อนก็แล้วกันนะครับ นานๆ จะได้ช่วยใครกับเขาบ้าง"
อาวุธชะลอรถหน้าบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลังรั้วไม้สีดำแดงสูงเกือบท่วมหัว บ้านชั้นเดียวแต่มีความสูงเกือบเท่าบ้านสองชั้น นายตำรวจหนุ่มกดรีโมทคอนโทรลเปิดประตูรั้ว แล้วเคลื่อนรถเข้าไปในบริเวณบ้านที่กะจากสายตาแล้วน่าจะมีพื้นที่เกินสามร้อยตารางวา
บ้านมืดสนิท มีเพียงไฟหน้าประตูเปิดอยู่ อาวุธดับเครื่องยนต์แล้วหันมายิ้มกับอนุภาพ "ยินดีต้อนรับสู่บ้านชายโสดครับ"
"สารวัตรอยู่คนเดียว?" อนุภาพก้าวลงจากรถ มองไปรอบๆ แปลกใจว่าหนุ่มโสดอย่างอาวุธจะอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่โตเช่นนี้เพียงคนเดียว ที่สำคัญ เขาเป็นตำรวจ...
...ตำรวจอยู่บ้านน้อยมาก...หรือแทบจะไม่อยู่บ้านเลย...เหมือนธงรบ...เหมือนอธิคม...
...อธิคม...ไม่ว่าจะคิดเรื่องอะไรก็ย้อนกลับมาที่อธิคมจนได้...
"ผมชอบที่กว้างๆ ครับ ที่จริงมีคอนโดอยู่กลางเมือง ซอยเย็นอากาศ แต่ถ้าพอมีเวลาไม่ดึกมากนัก ผมก็กลับมานอนบ้าน" อาวุธเปิดประตู เอื้อมมือไปเปิดไฟ เบื้องหน้าของอนุภาพเป็นห้องโถงกว้าง เพดานสูง มีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ดูว่างเปล่า ไม่สมดุลกับพื้นที่กว้างขวาง
"ห้องนอนคุณนุอยู่ทางซ้ายมือครับ ระเบียงเปิดออกไปก็เป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนเช้าๆ วิวสวย เห็นพระอาทิตย์ขึ้นด้วย" อาวุธพูดเบาๆ แต่เสียงเขาก้อง นำอนุภาพเดินไปยังห้องพัก หยุดยืนคอยที่หน้าประตูไม้โอ๊คบานใหญ่ สูงเสียจนมือเขาอาจเอื้อมไม่ถึงขอบบนของประตู
"อาบน้ำอุ่นให้สบายนะครับ เดี๋ยวผมจะไปหาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน ในห้องมีเสื้อคลุม แต่ไม่มีเสื้อผ้า ที่ห้องผมมีเสื้อยืดที่ตัวเล็กๆ บ้าง ผมจะไปหามาให้ กางเกงเลก็มี คุณนุคงใส่ได้ อาจตัวโคร่งไปหน่อย แต่ไม่มีใครเห็นหรอก เพราะฉะนั้นคงไม่น่าอายเท่าไหร่" อาวุธพูดยาว ใบหน้ายิ้มระเรื่ออยู่ตลอดเวลา
อนุภาพขอบคุณนายตำรวจหนุ่มเบาๆ รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างแปลกประหลาด ไม่รู้สึกว่าอาวุธเป็นคนแปลกหน้า ทั้งที่พบกันเพียงไม่กี่ครั้ง
...คงอาจเป็นเพราะอาวุธเป็นเพื่อนรักของอธิคม...หนึ่งในสามทหารเสือ...อธิคม ธงรบ อาวุธ...สองคนแรกเจ้าชู้เหลือเกิน...ในขณะที่อีกคนหนึ่งไม่มีวี่แวว...แต่กลับดูเป็นผู้ใหญ่และอบอุ่น...ไม่เหมือนธงรบ...ไม่เหมือนอธิคม...
...อธิคมอีกแล้ว...ความคิดของเขาย้อนกลับมาที่อธิคมอีกแล้ว...
อนุภาพสะบัดหัวเมื่อเริ่มรู้สึกชื้นๆ ในดวงตา อยากจะสลัดภาพอธิคมออกไปให้หมด...ไม่อยากนึกถึงภาพของอธิคมกับนิตินัย...ในบ้านของอธิคม...บนเตียง...บนพื้น...ในห้องน้ำ...บนโซฟาในห้องรับแขก...บนโต๊ะทำงาน...บนเก้าอี้...บนพรมหน้าทีวี...บนเบาะเครื่องออกกำลังกาย...
...อธิคม...ผู้ชายที่มีเสน่ห์เหลือเฟือ...มิน่า...คนเก่าๆ ของอธิคมถึงไม่มีใครลืมเขาได้เลยซักคน...
อนุภาพเม้มริมฝีปากอย่างเจ็บช้ำ เมื่อไม่สามารถขจัดภาพของอธิคมออกไปได้...ความคิดในหัวช่างวุ่นวายเหลือเกิน
...แล้วคืนนี้ของเขาจะเป็นอย่างไร...จะผ่านไปได้หรือไม่...จะทรมานเพียงใด
...แล้วอธิคมล่ะ...ดึกขนาดนี้ จะยังคงตามหาเขาอยู่หรือเปล่า...หรือกลับไปนั่งออเซาะอยู่กับนิตินัย...หรือออกไปเที่ยวกับธงรบ...หรือธงรบจะพาอธิคมไปเสียคนที่ไหน...หรือไปกับคนเก่าคนอื่นที่เขาไม่รู้จัก...มีเด็กมากนักนี่...
...คนเจ้าชู้...เป็นไงล่ะอนุภาพ เป็นแฟนคนเจ้าชู้ก็ต้องมานั่งเสียใจแบบนี้...เสียงเบาๆ เริ่มดังขึ้นในหัว
...อธิคมเลิกเจ้าชู้แล้ว...อีกเสียงหนึ่งเถียง
...ไม่จริงๆ เขาแค่หลอกให้ตายใจชั่วคราว คนเจ้าชู้ยังไงก็เจ้าชู้ มันฝังอยู่ในเลือดเนื้อ ไม่มีทางเลิกได้...
ก่อนที่เสียงสองเสียงในหัวจะทะเลาะกัน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ตามด้วยเสียงของอาวุธร้องบอกว่าเอาเสื้อผ้ามาให้
ใบหน้าของอาวุธเรียบนิ่งเมื่อมองเห็นใบหน้าของอนุภาพที่เปิดประตูยื่นมือไปรับเสื้อผ้าจากมือของอาวุธ
"คุณนุครับ แน่ใจนะว่าอยู่คนเดียวได้" อาวุธกล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใย
"ได้สิครับ เรื่องแค่นี้ไม่ถึงตาย" อนุภาพทำเสียงมั่นใจ ทั้งที่อยากจะขอยาแก้ปวดจากอาวุธ ไม่ก็ยานอนหลับ
"ดีแล้วครับที่คิดได้อย่างนั้น"
อนุภาพกล่าวขอบคุณเบาๆ แล้วดึงประตูปิด แต่อาวุธกลับยกมือขึ้นดันประตูไว้พร้อมพูดว่า "คุณนุครับ อย่าเพิ่งคิดหาบทสรุปทุกอย่างให้ได้ภายในคืนนี้นะครับ เพราะอะไรแบบนี้ต้องใช้เวลา ค่อยคิดไปทีละน้อย ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ขอให้บอก ถ้าไม่ไหวจริงๆ ผมมียาไทลีนอล ทานยาซักเม็ดก็อาจจะดีเหมือนกัน"
"ขอบคุณครับ แต่ผมคิดว่าคงไม่ต้องถึงขนาดนั้น เอาเป็นว่าสารวัตรไม่ต้องเป็นห่วง ไปนอนเถอะ เพราะท่าทางสารวัตรก็ดูเหนื่อยเหมือนกัน"
ธนาวุมิยิ้มบางๆ "พรุ่งนี้ผมต้องรีบเข้ากรมแต่เช้า ไม่อย่างนั้นจะอยู่เป็นเพื่อนทานอาหารเช้า แต่เที่ยงๆ ผมก็เสร็จแล้ว ถ้าอยากมีเพื่อน ผมจะรีบกลับ หรือถ้าคุณนุอยากกลับบ้าน ผมจะมารับ หรือถ้าอยากไปที่ไหนๆ ผมก็จะพาไป"
อนุภาพขอบคุณอาวุธอีกครั้ง บอกว่ายังไม่ตัดสินใจ ขอรบกวนอาวุธจนถึงตอนเย็น อาวุธยิ้มกว้างแล้วกล่าวว่า "ดีครับ ถ้ายังงั้นผมทำอาหารเย็นให้ทาน แล้วคุณนุก็ดูพระอาทิตย์ตกดิน ฝั่งห้องคุณนุเป็นพระอาทิตย์ขึ้น ฝั่งห้องผมเป็นพระอาทิตย์ตก"
อนุภาพปิดประตู เอนตัวพิงประตูอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเดินช้าๆ ไปที่ห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นลงอ่าง...ตั้งใจว่าจะนอนแช่น้ำอุ่นสักพัก...ก่อนที่จะ "ต่อสู้" กับค่ำคืนอันโหดร้ายที่กำลังจะผ่านพ้นไป
...ค่ำคืนที่เขาเสียใจยิ่งนักกับการกระทำของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเขา...คนรักคนที่สอง...นับจากธนาภพที่เป็นคนแรก...

อนุภาพนั่งมองสายน้ำที่กำลังไหลหลาก ระเบียงกว้างหลังบ้านของอาวุธอยู่ชิดริมแม่น้ำมาก ใกล้จนเกือบจะกระโดดลงจากระเบียงลงเล่นน้ำได้เลยทีเดียว สายลมเอื่อยทำให้อนุภาพรู้สึกสดชื่นขึ้น เมื่อคืนเขานอนแทบไม่หลับเพราะคิดถึงอธิคม นึกถึงภาพของนายตำรวจที่ป่านนี้คงวิ่งตามหาเขาไปทั่ว
...หรือไม่ก็ไม่เมาที่ผับไหนอยู่กับธงรบ...หรือกับนิตินัย...หรือ “เด็ก” คนอื่นๆ...
โกรธอธิคมนัก...อุตส่าห์ไว้ใจ ทำไมทำให้เขาผิดหวังแบบนี้...แล้วนี่เขาจะต้องนั่งอยู่ที่นี่ทั้งวั้นหรือ...จะต้องหลบอยู่บ้านอาวุธอีกนานเท่าไหร่ หากอธิคมมาขอให้อาวุธช่วยตามเขาแล้วมาเห็นเขาอยู่บ้านอาวุธอธิคมจะรู้สึกอย่างไร
อนุภาพรู้สึกลึกๆ ว่าอธิคมดูเหมือนจะหึงอาวุธอยู่เหมือนกัน แม้แต่ธงรบอธิคมก็ไม่เว้น ธงรบก็ชอบยั่วเพื่อน ทำท่าเจ้าชู้ใส่เขากวนประสาทอธิคมอยู่บ่อยๆ
...ดีสิ...ให้อธิคมประสาทเสียเสียบ้างก็ดี ดูสิว่าอธิคมจะหึงเขาขนาดไหน...

อนุภาพเดินไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรกลับไปที่คอนโดเพื่อสอบถามว่ามีใครมาหาหรือฝากข้อความให้เขาหรือไม่ คำตอบที่ได้ทำให้เขาฉุนกึกขึ้นมาทันที พนักงานถามเขาด้วยความห่วงใย บอกว่ามีตำรวจมาหาหลายครั้งแล้ว
“เกิดอะไรขึ้นค่ะคุณนุ เขามาถามซอกแซกจนพลอยรู้สึกอึดอัด หล่อก็หล่ออยู่หรอก แต่ดูดุเหลือเกิน นี่เมื่อคืนก็นั่งเฝ้าตั้งนาน และไปคุยกับสิงห์ สั่งให้สิงห์เฝ้าประตูไม่ให้คลาดสายตา” พลอย พนักงานงานต้อนรับรายงาน
“แล้วเขาไม่ฝากข้อความอะไรให้ติดต่อกลับเลยหรือครับ” อนุภาพถาม
“ไม่ค่ะ เมื่อเช้ามาอีกรอบ พอพลอยบอกว่าไม่รู้เพราะเพิ่งมาทำงาน ดูเขาหงุดหงิดมาก แทบจะบีบคอพลอยเลยล่ะ แล้วก็ไปคุยกับสิงห์ นี่สิงห์ก็ยังไม่ได้ออกเวร” เสียงของพลอยกังวลก่อนจะถามด้วยความห่วงใยว่า “คุณนุ ไม่มีเรื่องอะไรใช่ไม๊ค่ะ”
“ไม่มีหรอกครับ เขาคงมาตามผมไปเป็นพยาน ถ้าเขามาอีกก็บอกว่าผมยังไม่กลับ ตอนนี้ผมพักอยู่ที่โรงแรม The Heights”
...โรงแรมของธนาภพ...อยากตามเขาดีนัก...คราวนี้จะทำให้อธิคมหึงจนหน้ามืด...คอยดูนะ...
อนุภาพวางโทรศัพท์ รู้สึกฉุนอธิคมเป็นที่สุด...ใช้กำลังตำรวจสกัดจับเขายังไม่พอ ยังไปข่มขู่พนักงานที่คอนโด บังคับให้สิงห์เข้าเวรข้ามวันข้ามคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะความเจ้าชู้ของตนเองคนเดียวแท้ๆ

อนุภาพอาบน้ำเสร็จก็ได้รับโทรศัพท์จากอาวุธ ชายหนุ่มถามเขาด้วยความห่วงใยเพราะกลัวว่าเขาจะเบื่อที่นั่งอยู่บ้านเฉยๆ อนุภาพบอกว่านั่งเล่นอยู่ที่ระเบียงหลังบ้านและเริ่มสบายใจขึ้นมาก
“ถ้าสบายใจ อยู่นานๆ ก็ได้ครับ ถือซะว่าเป็นบ้านคุณนุก็แล้วกัน แต่อยู่คนเดียวอาจจะเหงาหน่อยเพราะบ้านหลังใหญ่ เจ้าของบ้านก็ไม่ค่อยได้อยู่ต้อนรับ”
“งานยุ่งหรือครับ” อนุภาพถาม
“ผมกำลังทำคดีใหญ่ คดีทูตอาร์เจนติน่าที่กำลังเป็นข่าวอยู่ คุณนุได้ดูทีวีไม๊ครับ” อาวุธพูดเสียงเรียบตามเคย
“ดูบ้างครับ แต่ไม่เห็นสารวัตรในทีวีเลย”
อาวุธหัวเราะเบาๆ “ผมไม่ได้เป็นพระเอกนี่นา ผมเป็นพระรอง พระเอกหน้าจอยกให้ท่านโฆษกไป เห็นว่ากำลังจะสมัคร ส.ส. ไม่ได้ออกทีวีก็ดีแล้วล่ะ ผมกลัวจะหลงแสงสีจนไม่อยากเป็นตำรวจ”
อนุภาพยิ้มบางๆ กับมุขตลกของอาวุธ...มุขตลกที่ค่อนข้างแตกต่างจากอธิคมที่ทำให้เขาหัวเราะจนแทบน้ำตาไหล หรือของธงรบที่ทำให้เขาหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
...อธิคม...ตอนนี้ทำอะไรอยู่นะ จะยังทำงานคดีสำคัญๆ เหมือนอาวุธจนไม่มีเวลาตามหาเขาหรือเปล่า...

ธงรบเดินเข้ามาในห้องทำงาน ทรุดตัวลงนั่งไม่ทันไร อธิคมก็มาหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะ มองหน้าเพื่อนด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม ธงรบเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนแล้วยกมือขึ้นปราม
“อย่าเพิ่งถามนะเพื่อน ขอข้าหายใจก่อน” ธงรบเสียงอ่อนระโหยโรยแรง
“แสดงว่าเอ็งยังไม่ได้เรื่องอะไร”
“กรุงเทพฯ ไม่ได้เล็กๆ นะโว้ยคุณผู้กำกับ นี่เอ็งมาสั่งให้ข้าตามแฟนให้ ไม่ได้หายใจเลยนะนี่ ทำเหมือนเป็นผู้กำกับ ส.น. ทองหล่อยังไงยังงั้น” ธงรบแหงนคอพิงเก้าอี้ ไม่สนใจมองหน้าอธิคมที่เดินเข้ามานั่งอยู่ขอบโต๊ะ ยกเท้าข้างหนึ่งเหยียบที่วางแขนเก้าอี้ของธงรบ
“อย่าถีบนะคม เจ็บนะเว้ย” ธงรบเตือน
“ข้าจะถีบเอ็งได้ไง เอ็งช่วยข้ามาทั้งวันทั้งคืนแล้วนี่หว่า” อธิคมพูดเสียงเบา “แต่รู้ไม๊ว่าทำไมเอ็งต้องช่วย”
“รู้แล้วๆ” ธงรบรีบตอบ “ก็เพราะข้าเป็นเพื่อนรักที่แสนดีของเอ็งไง อ๊ะ อ๊ะ ไม่ต้องมาพูดว่าเพราะแบ้งค์เป็นเด็กข้านะ เอ็งมันซวยเองที่พาแบ้งค์เข้าบ้าน ไม่นึกหรือไงว่าคุณนุจะกลับมาเจอ ใกล้เวลาเลิกงานขนาดนั้น แล้วปล่อยให้พ่อหนุ่มเดินไปเปิดประตูอีก แล้วตัวเองก็นุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกจากห้องนอนไปจ๊ะเอ๋กัน เป็นใครก็คิด ประวัติแกมันเสียเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว”
“ถ้าตามตัวแกได้ตั้งแต่แรก ข้าก็พาแบ้งค์ไปหลบที่บ้านเอ็งแล้วล่ะ ไม่ก็เรียกเอ็งไปรับตัว แต่ตามแกได้ที่ไหน โทรศัพท์ก็ไม่เปิด แล้วแบ้งค์นี่ก็เป็นเด็กเก่าเรา แกเสือกไปยุ่งด้วยอีกทำไมวะ ถ้าแกไม่มักมากในกาม แบ้งค์ก็ไม่กลับมาสร้างปัญหาให้ข้าหรอก” อธิคมตำหนิเสียงเข้ม
“น้อยๆ หน่อยไอ้สารวัตร” ธงรบย้อนเสียงเข้มไม่แพ้กัน “ข้าก็ขอแค่ซ้ำรอยเดิมซักสองสามครั้ง แล้วก็ไม่ได้คิดจะส่งต่อให้เอ็งเหมือนเคย เพียงแต่ว่าคราวนี้เอ็งมันซวยเอง เข้าใจไม๊ ซอ สระออ ยอยักษ์....ซวย”
“ซอ วอ ยอ ซวยต่างหากให้ห่...เสาธง สะกดคำอะไรไม่เคยถูกเลย” อธิคมยันเท้าให้เก้าอี้ของธงรบเคลื่อนไปข้างหลัง ฝ่ายนั่นเอะอะโวยวายหน้าตาตื่นเพราะกลัวล้ม
“ความซวยมันน่าจะไปหาเอ็งมากกว่าข้า ทำไมวะ ทำไมเอ็งไม่ซวยซะที ทำไมต้องเป็นข้า ทำไมคุณนุเกิดจะมาหาข้าที่บ้าน แต่ก่อน อ้อนเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยจะยอมไป ทำไมอยู่ดีๆ ก็ไปโผล่ที่หน้าห้อง แล้วนี่คุณนุไปไหน” อธิคมบ่นคร่ำครวญเดินไปที่ประตูห้องทำงานของธงรบ ยกขึ้นเตะกล่องกระดาษใส่เอกสารที่วางอยู่ใกล้ๆ จนเจ้าของห้องสะดุ้ง
“เฮ่ย เบาๆ สิวะคม” ธงรบร้องห้ามแล้วเสนอทางเลือกอีกอย่าง “เอ่อ เดี๋ยวข้าโทรไปหาอาวุธให้ช่วยอีกแรง”
“ทำไมต้องโทรไปหามัน” อธิคมถามกลับมาทันที พักหลังเขากับอาวุธค่อนข้างห่างๆ กัน แต่ลึกๆ แล้วเขาไม่ไว้ใจอาวุธ คราวที่เขาลักพาตัวอนุภาพไปบ้านริมทะเลแล้วอาวุธไปเจอเขากับชายหนุ่มที่ร้านอาหารโดยบังเอิญ สัญชาตญาณระวังภัยของเขาบอกว่าอาวุธมีปฏิกิริยาทันทีที่พบอนุภาพ...เขาบอกตัวเองว่า อาวุธทำเหมือนกับเจอรักแรกพบยังไงยังงั้น
“มันก็เพื่อนแกเหมือนกันนี่หว่า จะให้ข้าเหนื่อยคนเดียวได้ไงวะ” ธงรบครวญ “หรือว่าแกกลัวมันจะมาขโมยปลาย่าง”
“ไอ้...” อธิคมหันขวับมาถลึงตาใส่เพื่อนที่เอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายกายไม่มีท่าทางจะกลัวหากเขาจะกระโดดเข้าไปต่อย
อธิคมถอนหายใจเบาๆ แล้วจึงพูดว่า “แบ้งค์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอาวุธ ที่แกช่วยข้าอยู่นี่ก็เพราะแบ้งค์โผล่มา เพราะแกไม่ลืมรสสวาทนักร้องดัง”
“ตอนนั้นแบ้งค์ยังไม่ดังขนาดนี้นี่หว่า ตอนนี้ดังสุดๆ ข้าก็เลยขอลองฟันซักหน่อยเพื่อเปรียบเทียบว่าต่างไปจากเดิมหรือเปล่า แกเอ๊ย ยิ่งร้อนกว่าเดิม แบ้งค์ยังมีหน้าพูดกับข้าเลยว่ายังติดใจเอ็ง ให้ข้าช่วยพูดกับเอ็งให้ยอมมีอะไรกับเขาหน่อย ไม่ก็สองรุมหนึ่งเหมือนตอนที่...”
“หุบปากนะไอ้หื่น ไม่อยากฟัง” อธิคมเดินลิ่วออกประตูห้องทำงาน ทิ้งให้ธงรบเหน็บแนมตามหลัง
“หนอย ทำเป็นฟังไม่ได้ แกนั่นล่ะเป็นคนชวนข้า แบ้งค์นี่ก็แกส่งต่อมาให้ข้าไม่ใช่เหรอวะ ทำเป็นลืม” ธงรบส่ายหน้าเมื่ออธิคมเดินพ้นประตูห้องออกไป
...เพื่อนทรยศ อยู่ดีๆ ก็มาเลิกเจ้าชู้ ที่เคยพากันไปสนุกแทบทุกคืน ตอนนี้ทิ้งเราต้องโดดเดี่ยว เซ็งเป็นบ้า...ธงรบคิดแล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์ของ “พ่อคนเก่ง” ที่เขากับอธิคมมักจะค่อนขอด ด้วยมีความหวังว่าอาวุธคงช่วยจัดการได้เช่นเคย

อาวุธรับโทรศัพท์ธงรบ ฟังเพื่อนพร่ำจนจบแล้วแอบถอนหายใจเบาๆ ตามองอนุภาพที่เพิ่งลงจากรถเขาเดินเข้าโรงแรมหรูที่สูงจนต้องแหงนมองคอตั้งบ่า ธงรบขอให้เขาช่วยสืบหาแฟนของอธิคมที่หนีออกจากบ้านไป เขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ธงรบอ้ำอึ้งแต่ในที่สุดก็เล่าให้ฟังเกินละเอียด
“มันจะแย่อยู่แล้วนะวุฒิ นี่ก็มาบีบคอข้าให้ตามหา มันเห็นว่าข้าไม่ค่อยมีคดีทำ ตอนนี้ไอ้คมมันปลีกตัวทำงานราษฏร์ไม่ค่อยได้ ผู้กำกับกำลังจี้ตัวมันให้ปิดคดี ข้าหมดปัญญาแล้ว นี่เนื้อไม่ได้นั่ง กระดูกไม่ได้กิน ต้องเอาหนังมาแขวนคอ” ธงรบเปรียบเทียบอะไรแปลกๆ อีกแล้ว
“เนื้อไม่ได้กิน...” อาวุธอดแก้ไม่ได้
“รู้แล้วๆ ข้าพูดผิดอีกแล้วสิ นี่ตำรวจนะโว้ย ไม่ใช่ครูภาษาไทย” ธงรบรีบแทรก “จะว่าไป ข้าก็ไม่เคยมีแฟนเป็นครูเลยซักคน สงสัยต้องลองดูซักหน่อย เผื่อข้าจะพูดเก่งกว่านี้”
“หาศัลยแพทย์ซักคนจะดีกว่า จะได้เย็บปาก” อาวุธเหน็บแนมเพื่อนที่ยังไม่คิดว่าตัวเองพูดเก่งพอ
“ข้าหมายความว่า...” ธงรบรีบแก้ตัว
“ไว้จะลองสืบให้ แต่ไม่เห็นมีข้อมูลอะไร” อาวุธตัดบทเสียงเรียบ มือดันเกียร์ เคลื่อนรถออกจากหน้าโรงแรมที่อนุภาพบอกให้มาส่งเพราะคืนนี้ชายหนุ่มจะพักที่นี่ ไม่ใยที่เขาจะทัดทานให้พักที่บ้านต่อ แต่อนุภาพก็ยืนกรานจะมาพักโรงแรมให้ได้
“เดี๋ยวส่งรูปให้” ธงรบตอบ “แต่ว่าขอเวลาเดี๋ยว ไปหาคนช่วยก่อน ข้ายังส่งเอ็มอีเอสไม่เป็น เป็นแต่ถ่ายคลิป”
“เอ็มเอ็มเอส” อาวุธแก้คำพูดธงรบอีกครั้ง แล้วพูดต่อว่า “ไม่ต้องหรอก แค่รู้จักชื่อก็ตามได้”
“งั้นส่งชื่อคุณนุให้ทางเอสเอ็มเอส” ธงรบเน้นสามคำสุดท้าย จงใจประชดอาวุธที่ชอบแก้คำพูดเขาเวลาพูดอะไรผิด
“เรารู้ชื่อคุณนุแล้วธงรบ ไม่ต้องลำบากสะกดส่งมาให้หรอก”
...กว่าธงรบจะหาตัวอักษรบนปุ่มโทรศัพท์ได้ เขาก็คงหาอนุภาพเจอไปนานแล้ว...ก่อนวางสายอาวุธบอกธงรบให้ดูแลอธิคมดีๆ ทั้งที่ในใจคิดว่าสองคนนั้นคงพากันไปดื่มเหล้าเมากันอีกแล้วหากทำอะไรไม่สำเร็จ
...อธิคม...อุตส่าห์คิดว่ากำลังไปได้ดี แต่ก็จะเริ่มเหลวซะแล้ว ตอนแรกที่เขารู้ว่าอธิคมมีแฟนเป็นตัวเป็นตน และคราวนี้ยาวนานกว่าคนอื่นๆ เขายังไม่เชื่อเท่าใดนัก แต่เวลาที่ผ่านไปนานพอสมควร เขาจึงเห็นว่าเพื่อนเขาเปลี่ยนไปจนไม่น่าเชื่อ เลิกความเจ้าชู้มาทำตัวเป็นคนรักที่ดีของอนุภาพ แต่สิ่งที่เขาหวั่นใจแทนทั้งสองก็เกิดขึ้น...
อาวุธยอมรับว่าเขาถูกตาต้องใจอนุภาพ หากจะให้เขามีแฟนอีกครั้ง อนุภาพก็คือคนแรกที่เขาจะนึกถึง ตั้งแต่นทีจากเขาไป มีหลายคนที่เขาพบ แต่ไม่มีใครเลยสักคนที่ทำให้หัวใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะเช่นนี้มาก่อน ความจริงเขาพบอนุภาพไม่กี่ครั้ง แต่คราวนี้เป็นครั้งที่ได้ใกล้ชิดกับอนุภาพสองต่อสอง เป็นช่วงเวลาที่นานที่สุด นานพอที่จะได้มีโอกาสสังเกตชายหนุ่มและถามตัวเอง นอกจากนั้น ความ “คล้ายคลึง” กันระหว่างอนุภาพกับอดีตคนรักเขาก็เป็นอีกประการหนึ่งที่ผลักดันให้ความรู้สึกส่วนลึกของเขาเปิดใจมากเป็นพิเศษ
อาวุธคิดว่า หากจะใช้โอกาสนี้โน้มน้าวใจอนุภาพ ชี้ให้เห็นถึงข้อเสียของอธิคม อาศัยเวลาที่ทั้งสองกำลังเข้าใจผิดกัน ทำคะแนนเพื่อให้อนุภาพหันมามอง เขาก็น่าจะมีโอกาส
...แต่เขาแย่งแฟนเพื่อนไม่ได้...ไม่ใช่แบบนี้...ไม่ใช่วิธีการนี้...หากอนุภาพแยกกับอธิคม...หรือหากอธิคมทิ้งอนุภาพ...อย่างที่ทิ้งคนอื่นๆ เขาก็จะไม่รีรอ...ตอนนี้คงต้องช่วยเพื่อนก่อน ถ้าอธิคมคืนดีกับอนุภาพสำเร็จก็ดีไป เขาก็คงต้องเฝ้ารอต่อไป แต่หากผลลัพท์ออกมาเป็นอีกอย่าง...เขาก็คงโชคดี
4.4.4.4.4.

เบื้องหลัง -- ตอนแรกกะจะให้เพื่อนเก่าอธิคมชื่อใหม่ว่า คธาวุธ ก็เลยเปลี่ยนใจ เพราะมีแววว่าจะโดนเกลียดอยู่ไ่ม่ใช่น้อย ก็เลยให้ชื่อว่า อาวุธ แทนเพราะนั่งๆ อยู่มองไปเห็นปืน colt
อิอิ คธาวุธ เลยรอดตัวไป


ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เหอะ เหอะ เหอะ



ฆ่าแล้วค่อยข่มขืนนี่ยอมใช่ป่ะ

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
แง..........ไม่เอาแบบนี้ ถ้าเลิกกัน แล้วยังโดนเพื่อนสอยไปเนี่ย

จะตามไปยิงทิ้งทั้งคู่เลย   o18

แค้นอ่ะ แล้วถ้าแฟนเราไปเอากับเพื่อนเราด้วยเนี่ย ไม่เหลือครับไม่เหลือ

ตายกันไปข้าง  :m31:

(เริ่มระงับอารมณ์ไม่อยู่)

อยากอ่านอาทิตย์กะธงรบมากกว่า




"ขอบคุณครับ แต่ผมคิดว่าคงไม่ต้องถึงขนาดนั้น เอาเป็นว่าสารวัตรไม่ต้องเป็นห่วง ไปนอนเถอะ เพราะท่าทางสารวัตรก็ดูเหนื่อยเหมือนกัน"
ธนาวุมิยิ้มบางๆ "พรุ่งนี้ผมต้องรีบเข้ากรมแต่เช้า ไม่อย่างนั้นจะอยู่เป็นเพื่อนทานอาหารเช้า แต่เที่ยงๆ ผมก็เสร็จแล้ว ถ้าอยากมีเพื่อน ผมจะรีบกลับ หรือถ้าคุณนุอยากกลับบ้าน ผมจะมารับ หรือถ้าอยากไปที่ไหนๆ ผมก็จะพาไป"



ลืมเปลี่ยนชื่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2009 12:32:10 โดย jokirito »

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Vote ให้แล้วนะครับ
อ่านแล้วอิ๊นอินอ่ะ แต่ว่า...ขอร้องพี่นายนะครับ ว่าอย่าให้พี่นุเลิกกะพี่คมเลยน๊า ไม่รู้สิ รู้สึกว่ากว่าจะผ่านอะไรๆมาด้วยกันขนาดนี้ได้เนี่ย มันยากนะครับ ถึงแม้ว่าผมจะเกลียดคนเจ้าชู้ แต่สารวัตรก็ไม่ได้ทำอะไรผิด นอกจากใจดีเกินเหตุเอง แล้วนี่อาร๊าย อีตาอาวุธนี่ก็เหลือเกิน ไม่ชอบเลยคับ อย่างที่คุณดัษบดินทร์ (เขียนผิดป่าวน๊อ) บอกอ่ะคับ แฟนเพื่อน ถึงจะเป็นแฟนเก่าก็เถอะ ยังไงเพื่อนกันก็ไม่น่าทำแบบนี้ ขอร้องร้องนะครับว่าอย่าให้พี่นุกะพี่คมเลิกกันเลย ไม่งั้น ผมจะเคืองพี่นายอย่างแรงด้วย
เอ้า  นะนะนะ นะค๊าบ

ผมไม่ค่อยอิน เท่าไรครับ จะเป็นยังไง ก็ปล่อยตามใจ คนแต่งนะครับ เราคงไป บอกให้เขาเปลี่ยนไม่ได้หรอกนะครับ
ถ้าเลิกกัน คนแต่งคงอยากแสดงให้เห็นว่าผลของความเจ้าชู้เป็นยังไง
แต่ถ้าเลิกกันจริง  พ่อจะเอาระเบิดไปปาบ้านเลยคอยดูดิ
คุณ sasi จะไปกับผมมะ

ปล. ย้ำนะ ว่าไม่ได้อิน

จ๊ากกก!!!!

โหย จะแท๊กทีมกันมาเลยหรือ
กลัวจัง  :m14:
มาิสิ จะจับปล้ำทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
ม่ายชอบ อาวุธ

ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


จาเอา สารวัตร อธิคม   :serius2:

ออฟไลน์ sasi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Vote ให้แล้วนะครับ
อ่านแล้วอิ๊นอินอ่ะ แต่ว่า...ขอร้องพี่นายนะครับ ว่าอย่าให้พี่นุเลิกกะพี่คมเลยน๊า ไม่รู้สิ รู้สึกว่ากว่าจะผ่านอะไรๆมาด้วยกันขนาดนี้ได้เนี่ย มันยากนะครับ ถึงแม้ว่าผมจะเกลียดคนเจ้าชู้ แต่สารวัตรก็ไม่ได้ทำอะไรผิด นอกจากใจดีเกินเหตุเอง แล้วนี่อาร๊าย อีตาอาวุธนี่ก็เหลือเกิน ไม่ชอบเลยคับ อย่างที่คุณดัษบดินทร์ (เขียนผิดป่าวน๊อ) บอกอ่ะคับ แฟนเพื่อน ถึงจะเป็นแฟนเก่าก็เถอะ ยังไงเพื่อนกันก็ไม่น่าทำแบบนี้ ขอร้องร้องนะครับว่าอย่าให้พี่นุกะพี่คมเลิกกันเลย ไม่งั้น ผมจะเคืองพี่นายอย่างแรงด้วย
เอ้า  นะนะนะ นะค๊าบ

ผมไม่ค่อยอิน เท่าไรครับ จะเป็นยังไง ก็ปล่อยตามใจ คนแต่งนะครับ เราคงไป บอกให้เขาเปลี่ยนไม่ได้หรอกนะครับ
ถ้าเลิกกัน คนแต่งคงอยากแสดงให้เห็นว่าผลของความเจ้าชู้เป็นยังไง
แต่ถ้าเลิกกันจริง  พ่อจะเอาระเบิดไปปาบ้านเลยคอยดูดิ
คุณ sasi จะไปกับผมมะ

ปล. ย้ำนะ ว่าไม่ได้อิน

จ๊ากกก!!!!

โหย จะแท๊กทีมกันมาเลยหรือ
กลัวจัง  :m14:
มาิสิ จะจับปล้ำทั้งคู่เลย


000000000000000000000000

เหอะๆๆ ยอม :oo1: เอ๊ย มะช่ายๆๆๆ

ก็ว่าจะแท๊กทีมอยู่ล่ะครับ คอยดูนะ ถ้าให้เค้าเลิกกันล่ะก็ เหอะๆๆ

ได้ปล้ำทั้งคู่ เอ๊...มะช่ายๆๆๆ  :-[ ต้องบอกว่าได้โดนระเบิดคู่แน่ๆ เลย อิ่ๆ

เฮ๊อ เกือบไปละ เกือบโดนจับได้ว่าแอบปลื้มคนแต่งอ่ะ  :เฮ้อ:


three

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าทนไม่ไหวก็ไม่ต้องทนเห๊อะ :เฮ้อ:

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
จะไปช่วยลุยอีกคน  กร๊ากๆๆๆๆ


 55+


หงุดหงิดๆๆๆ  เมื่อไรห่จะดีกันอ่ะ

ออฟไลน์ bellebee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-3
อาวุธ ไม่เหมาะกับ คึณนุ หรอกคร่า เพราะนิ่งๆ เหมือนกัน ชีวิตคงน่าเบื่อตาย อิ อิ ^^

อยากให้คู่นี้คืนดีกันเร็วๆ จัง

แต่ยังไงก็อย่าลืมคู่ ธงรบกับ อาทิตย์ นะคะ ตอนที่แล้ว ค้างมากมายๆๆๆๆๆ  รอทุกวันเลยค่ะ   :impress2:

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป
อืมม อดีต กับ ปัจจุบัน แทนกันไม่ได้อ่ะค้าบ

อีกอย่าง นุ ก็รักอธิคมเหมือนกัน อธิคมจะไม่มีโอกาสแก้ตัวเลยเชียวเหรอ

หรือว่า จะต้องเลิกกัน ด้วยเรื่องเข้าใจผิด 555

ผมว่าเจ้าของเรื่องต่อให้ใส่เกราะอะไร ก็ตาม คงไม่รอดละค้าบ

เพราะผมเตรียม ขีปนาวุธ ไว้แล้ว คิดว่า คงไม่รอดนะค้าบ อิอิ  :fire: 555

ปล. จับอาทิตย์ไปคู่กะคนอื่นดีก่า ตาธงรบ ไม่ได้เรื่องเลย วัยรุ่นเซงงงง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






prawy

  • บุคคลทั่วไป

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
โอยมะไหร่จะตามเจอเนี่ย
แต่ชอบที่คุณนุประชดนะ
อยากเห็นสารวัตรหึง
555+

StopLove

  • บุคคลทั่วไป
 :impress3:


เลิกกันมี โป้ง

ฮ่าๆ

^
^
^ :z13: จิ้มทุกคน

kimagain

  • บุคคลทั่วไป

animob

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งอ่านครั้งแรก นั่งอ่านตั้งแต่หน้าหนึ่งถึงหน้า่สุดท้าย

เจอสปอย - -* ว่าจะไม่อ่านต่อละมันบีบหัวใจเกินไป


aimaim

  • บุคคลทั่วไป
อธิคมสู้ๆ รักแม่ย่อมมีอุปสรรค ถ้าอยากราบรื่นแนะนำให้จับอนุภาพแต่งงานไปเลย อิอิ นายอาวุธเป็นคนดีใช่ได้เลยนะเนี่ย อิอิ

ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
เตะอาวุธ :z6:
จิ้มคนแต่ง  ฐานทำให้เราช้ำใจ :z13:
และขอบคุณคนแต่งด้วยที่ทำให้เรามีชีวิตชีวา :z2:

ดัษบดินทร์ กษิดิษฐ์

  • บุคคลทั่วไป
 :m16:
รอผ่านพ้นช่วงนี้ค่อยมาอ่าน
มันบีบหัวใจนะน้องนาย

Siri_nan

  • บุคคลทั่วไป
อะหุ อะหุ เค้าหายไปนาน ภาคสองมาเยือนเล้าแล้ว
แต่มันช่างบีบหัวใจคนอ่านเหลือหลาย :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Zarch_Chabu_Chabu

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
นี่แหล่ะรสชาดของชีวิต แต่อาจจะเผ็ดๆแสบไปหน่อยนะคุณนุ ก็สารวัตรแสบขนาดทิงเจอร์ยกธงขาวขนาดนี้ :laugh:

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
Vote ให้แล้วนะครับ
อ่านแล้วอิ๊นอินอ่ะ แต่ว่า...ขอร้องพี่นายนะครับ ว่าอย่าให้พี่นุเลิกกะพี่คมเลยน๊า ไม่รู้สิ รู้สึกว่ากว่าจะผ่านอะไรๆมาด้วยกันขนาดนี้ได้เนี่ย มันยากนะครับ ถึงแม้ว่าผมจะเกลียดคนเจ้าชู้ แต่สารวัตรก็ไม่ได้ทำอะไรผิด นอกจากใจดีเกินเหตุเอง แล้วนี่อาร๊าย อีตาอาวุธนี่ก็เหลือเกิน ไม่ชอบเลยคับ อย่างที่คุณดัษบดินทร์ (เขียนผิดป่าวน๊อ) บอกอ่ะคับ แฟนเพื่อน ถึงจะเป็นแฟนเก่าก็เถอะ ยังไงเพื่อนกันก็ไม่น่าทำแบบนี้ ขอร้องร้องนะครับว่าอย่าให้พี่นุกะพี่คมเลิกกันเลย ไม่งั้น ผมจะเคืองพี่นายอย่างแรงด้วย
เอ้า  นะนะนะ นะค๊าบ

ผมไม่ค่อยอิน เท่าไรครับ จะเป็นยังไง ก็ปล่อยตามใจ คนแต่งนะครับ เราคงไป บอกให้เขาเปลี่ยนไม่ได้หรอกนะครับ
ถ้าเลิกกัน คนแต่งคงอยากแสดงให้เห็นว่าผลของความเจ้าชู้เป็นยังไง
แต่ถ้าเลิกกันจริง  พ่อจะเอาระเบิดไปปาบ้านเลยคอยดูดิ
คุณ sasi จะไปกับผมมะ

ปล. ย้ำนะ ว่าไม่ได้อิน

จ๊ากกก!!!!

โหย จะแท๊กทีมกันมาเลยหรือ
กลัวจัง  :m14:
มาิสิ จะจับปล้ำทั้งคู่เลย

 :a1: ขอตามไปด้วยคนนะ ระเบิดไม่ต้องเอาไปเผื่อเค้านะ
เดี๋ยวจัดไปเอง 3 คันรถ รถถังอ่ะ เพื่อนไรอ่ะ จะแทงกันข้างหลัง
ชิ หมั่นไส้ๆๆๆๆๆๆๆๆ  :serius2:
ป.ล. ไม่ได้อินนะ แค่เข้าข้าง ชอบ รัก เอ็นดู อธิคม  :z1:  มากกว่า
ยังไงๆ คุณนุก็เป็นของคมเท่าน้านนนนนนนน

kimagain

  • บุคคลทั่วไป
มือที่ 3  =  ส่วนเกิน   =   ตัดทิ้งซะ  o18 o18

ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
นึกถึงอนุภาพกับอาวุธอยู่ด้วยกันแล้ว......ดูไม่จืดเลย :เฮ้อ:

มองหน้ากัน     ทำหน้าเรียบๆเฉยๆทั้งคู่
จะจูบกัน         ทำหน้าเฉยๆไม่แสดงความรู้สึก
จะอะจึ๊ยกัน      ทำหน้าเรียบๆเฉยๆ

กว๊าก..........ชีวิตที่.....เรียบๆเฉยๆ.....ไม่แสดงความรู้สึก
:z3:

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
นึกถึงอนุภาพกับอาวุธอยู่ด้วยกันแล้ว......ดูไม่จืดเลย :เฮ้อ:

มองหน้ากัน     ทำหน้าเรียบๆเฉยๆทั้งคู่
จะจูบกัน         ทำหน้าเฉยๆไม่แสดงความรู้สึก
จะอะจึ๊ยกัน      ทำหน้าเรียบๆเฉยๆ

กว๊าก..........ชีวิตที่.....เรียบๆเฉยๆ.....ไม่แสดงความรู้สึก
:z3:

 :a5:
นะก็ไม่อยากคิดเหมือนกัน

ถ้าคู่นี้เป็นแฟนกันคง เอ่อ...   o22

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมไม่มีใครชอบอาวุํูธกันบ้างเลย แบบนี้ก็ไม่ชอบผู้เขียนสิครับ เพราะคาแรคเตอร์อาวุธนี่คือตัวตนผู้เขียนนะครับ  :เฮ้อ:

บทที่ 5 ครับ (ตอนนี้เคยโพสไปแล้วครับ ที่เคยเป็นตอนพิเศษเรื่องของธงรบกับอาทิตย์ครับ)

5

หลังจากที่อธิคมปล่อยตัวธงรบแล้ว ผู้กองเจ้าชู้ก็รีบตรงรี่ไปกระทำ "ภารกิจประจำวัน" เขาตั้งใจว่าวันนี้จะต้องชวนอาทิตย์ไปทานข้าวด้วยให้ได้ จะต้องให้ใช้เล่ห์เหลี่ยมแค่ไหนก็จะทำ
ธงรบใช้เวลาไม่นานก็มาจอดรถที่ประจำอีกฟากหนึ่งของถนนตรงข้ามอาคารทาวน์โฮมสี่ชั้นซึ่งเป็นบริษัทของอาทิตย์ ชายหนุ่มยังอยู่ในออฟฟิส มู่ลี่หน้าต่างรูดปิดไม่หมด เขาเห็นอาทิตย์เดินไปเดินมาชัดเจนเพราะใช้กล้องส่องทางไกล
...เห็นเฉพาะช่วงเอวลงมาก็รู้แล้วว่านี่คืออาทิตย์...บั้นท้ายสวยๆ ที่เขาเคยสัมผัส และยังถวิลหาอยู่ไม่คลาย...

ขณะที่กำลังเพลินกับการ "ซุ่มดู" อาทิตย์ นายตำรวจหนุ่มก็สะดุ้งเพราะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ธงรบเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ สายตายังจับจ้องอยู่ที่กระจกหน้าต่างห้องทำงานของอาทิตย์ รู้สึกครึ้มอกครึ้มใจที่ได้ตามตื๊อตี๋หนุ่มใจแข็ง
"หวัดดีจ๊ะรูปหล่อ" นายตำรวจทำเสียงหวาน
"ไม่เห็นโทรหาเดี่ยวเลย ผู้กองลืมเดี่ยวแล้วเหรอครับ" เสียงนุ่มในสายออดอ้อน "หรือว่าผู้กองเจอเด็กใหม่เลยลืมเด็กเก่าซะแล้ว"
"โถ ใครจะลืมได้ลง เล่นฝากแผลรักให้พี่ซะขนาดนั้น" ธงรบแก้ตัว "พอดีตอนนี้พี่กำลังทำคดีสำคัญ เลยไม่ค่อยมีเวลา นี่มานั่งดักซุ่มจับผู้ร้ายเป็นนานสองนาน ข้าวก็ยังไม่ได้กิน หิวจะแย่อยู่แล้ว"
...หิวจริงๆ... ประโยคหลังนี่ธงรบไม่ได้ตอแหล
"งั้นมากินด้วยกันสิครับ เดี่ยวอยู่ที่พารากอน มางานของแอร์เมส" ชายหนุ่มชวน
"ไปไม่ได้ครับ ซุ่มจับผู้ร้ายอยู่ คราวที่แล้วหนีไปได้ คราวนี้จะจับให้อยู่หมัด"
"จับให้อยู่หมัด?" เดี่ยว หรือดนุพล นักร้องนำวงดนตรีวัยรุ่นชื่อดังของเมืองไทยถาม
"พี่หมายถึงจับเข้าคุก นี่ถ้าดื้อ...เอ๊ย ถ้าขัดขืนการจับกุม คงมีการได้ยิงกันล่ะ" ธงรบยิ้มพราว ขัดกับเสียงที่ทำเป็นขึงขัง
"โอ้โห ถึงกับยิงกันเลยหรือครับ" อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "ผู้กองระวังตัวดีๆ นะครับ เดี่ยวเป็นห่วง"
"ไม่ต้องห่วงหรอก มือชั้นนี้ ไม่พลาดซักราย" ธงรบรับประกัน ทั้งที่ลึกๆ แล้วอดหนักใจไม่ได้
...ผู้ร้ายหน้าตี๋รายนี้ท่าทางจะจับกุมยากกว่ารายอื่นๆ หลายเท่านัก...ไอ้คมนะไอ้คม ไม่น่าหลวมตัวช่วยมันเล๊ย...ธงรบอดด่าเพื่อนไม่ได้
...ถ้าไม่ใช่เพราะอธิคมขอให้เขาเผด็จศึกอาทิตย์เพื่อกันไม่ให้ไปยุ่มย่ามกับแฟนตัวเอง เขาก็คงไม่มาตกหลุมเสน่ห์ของหนุ่มน้อยน่ารักคนนี้ ตอนนี้ทุกอย่างผิดแผนไปหมด เดิมทีนั้นเขากะจะพิชิตตี๋เข้มให้ได้ภายในสองสามสัปดาห์ แต่กลับยืดเยื้อมาหลายเดือน จนป่านนี้เขายังไปไม่ถึงไหน
จะว่าไป อาทิตย์ก็ทำให้เขาเสียความมั่นใจไปเยอะ...
อธิคมเพื่อนรักของเขากลับมาขอร้องเขาแกมบังคับให้จัดการกับอาทิตย์ต่อ ทั้งๆ ที่ตอนแรกบอกว่าไม่จำเป็นแล้วเพราะเพื่อนเขาลงเอยกับอนุภาพที่ตามจีบตามง้อจนสำสำเร็จ
อธิคมบอกว่า "ไว้ใจไม่ได้โว้ย อาทิตย์ไม่ยอมเลิกรักคุณนะซะที ข้ากลัวจะเป็นหอกข้างแคร่ ถึงจะลาออกจากบริษัทแยกตัวออกไปแล้ว ก็ไม่แน่ว่าจะเกิดหวนกลับมาเกาะแกะคุณนุของข้าอีก เอ็งไปจัดการให้เรียบร้อย"
"เฮ่ย ไม่ใช่หมูๆ นะโว้ยคม" ธงรบโอด...ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจัดการอาทิตย์ เขาอยากทำมาก...อยากเสียจนแทบจะเลิกจีบคนอื่นๆ ไปเลย หันมาทุ่มเวลาให้อาทิตย์คนเดียว
...แต่อาทิตย์ใจแข็งนัก...ตื๊อแล้วตื๊ออีกก็ยังไม่ยอมใจอ่อน...หนำซ้ำมีพัฒนาการในการหลบหลีกเขาจนต้องปรับกลยุทธ์เป็นพัลวัน

"ผู้กอง...ผู้กอง" เสียงในสายเรียก ธงรบสะดุ้ง รีบตอบรับเสียงหวาน
"เหม่อลอยเชียวนะ หรือว่าอยู่กับใครเอ่ย" เดี่ยวตัดพ้อ
"บอกแล้วไงกำลังซุ่มจับคนร้าย" ธงรบตอบ "พอแค่นี้ก่อนนะจ๊ะทูลหัว พี่เห็นคนร้ายกำลังเคลื่อนไหว" ธงรบรีบตัดบทสนทนาเมื่อมองไปเห็นเป้าหมายของเขากำลังเดินออกประตูหน้าบริษัท
อาทิตย์ยืนนิ่งชั่วครู่ พับแขนเสื้อขึ้นมาเหนือศอก หันซ้ายหันขวามองรถบนถนนก่อนจะวิ่งเหยาะๆ ข้ามถนนมายังฟากที่เขาจอดรถอยู่
...เอ๊ะ...ดูเหมือนตรงมาทางนี้...ธงรบสงสัย อาทิตย์ดูท่าจะมุ่งมาที่รถเขา
...อะไรกันนี่...เอาไงดีว่ะ...ผู้ร้ายบุก...ตำรวจทำตัวไม่ถูก...

"ผู้กอง ไม่เบื่อหรือไง" อาทิตย์เปิดฉากทันทีที่ธงรบลดกระจกรถลง
"เบื่ออะไรจ๊ะ" นายตำรวจหนุ่มตีหน้าซื่อ
"ก็มานั่งเฝ้าอยู่หน้าบริษัทแบบนี้น่ะสิ ไม่เบื่อเหรอ ผมไม่ได้เฝ้า มองออกมายังเบื่อเลย"
ธงรบยิ้มกว้าง ส่งสายตาเจ้าชู้ให้หนุ่มน้อย "เบื่อแล้วจะมาเหรอ"
"ไปซะที" อาทิตย์ไล่ตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
"อ้าว มาไล่กันได้ไง ไม่ได้ไปจอดรถขวางหน้าบริษัทอาทิตย์ซะหน่อย ไม่ได้กีดขวางทางจราจรที่ไหน อาทิตย์เป็นตำรวจจราจรหรือไงจ๊ะ" ธงรบทำหน้าทะเล้น "หรือว่าอยากเป็นแฟนตำรวจ"
"ผู้กองธงรบ" ตี๋หนุ่มถอนหายใจ "หยุดตามตื๊อผมซะที ผมบอกแล้วไง ว่าผมไม่สนผู้กอง เรามันขั้วเดียวกัน ถ้าผู้กองยังคิดจะ..." อาทิตย์ชะงัก นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
นายตำรวจนิ่งฟัง เลิกคิ้วรออย่างตั้งใจ แต่อาทิตย์ก็ยังนิ่งอยู่
"คิดจะอะไรครับ"
อาทิตย์อึกอัก พยายามนึกหาคำพูดเหมาะๆ "คิดจะ...นั่นผม เลิกคิดเสียก่อน"
"นั่นอาทิตย์" ธงรบทำท่านึก "อาทิตย์หมายความว่า ทำอย่างว่ากันใช่ไม๊"
"อย่าหวังเลย ถ้าไม่มอมเหล้าผมจนเมาเหมือนวันนั้นก็อย่าได้คิดว่าจะได้เห็นก้นผม"
ธงรบทำท่าพยักหน้าหงึกหงัก "พูดแรงนะอาทิตย์ นี่กำลังท้าทายใช่ไหมเนี่ย"
"ก็แล้วแต่จะคิด" อาทิตย์ยักไหล่ แล้วเดินเข้ามาใกล้ มองหน้านายตำรวจนิ่งอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า "ผมไม่มีวันยอมผู้กองหรอก ฝันไปเถอะ"
"ไปกินข้าวกันนะ" ธงรบเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง "มาจอดรอกะว่าจะชวนไปทานข้าวกันเฉยๆ ไม่ได้คิดจะมาจอดรอฟันซักหน่อย ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้"
"ผมไม่หิว ผมไม่กิน ผมไม่ไปกับผู้กอง ผมจะทำงาน" อาทิตย์เสียงดัง ส่ายหน้าอย่างเอือมระอาแล้วเดินจากไป...ทันได้ยินเสียงนายตำรวจจอมเจ้าชู้ลอยตามมา
"ก้นสวย..."
...ผู้กองธงรบ...บ้าจริงๆ ทำไมจะต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขานะ คนอื่นมีเยอะยะ ทำไมจะต้องเป็นเขาที่มาซวยเจอคนเจ้าชู้ประตูดินแบบนี้...

อาทิตย์เสร็จงาน เก็บของใส่กระเป๋าและลุกเดินตรงไปยังประตูห้องแต่ก็ชะงักแล้วเดินกลับมาที่หน้าต่าง อดคลี่มู่ลี่มองออกไปยังถนนไม่ได้ ผู้กองธงรบยังจอดอยู่ที่เดิม รออย่างอดทนได้เป็นหลายชั่วโมง
...ทำยังไงดี...
อาทิตย์พยายามใช้ความคิด หลายครั้งเขาแอบหนีออกทางประตูรั้วหลังบริษัท แต่ไม่นานธงรบก็รู้ทัน ไปดักจนรอจนได้ เขายังจำได้ถึงครั้งแรกที่ธงรบลงทุนปลอมเป็นแท็กซี่ไปจอดรถดักอยู่หน้าปากซอย เย็นนั้นเหนื่อยมาก เห็นแท็กซี่ก็ขึ้นนั่ง บอกให้ไปส่งบ้านแล้วก็หลับไปตลอดทาง ใกล้จะถึงบ้านถึงเห็นว่าคนขับแท็กซี่ที่แท้ก็คือยอดนักตื๊อคนเดิม
คราวนี้เดินออกหน้าบริษัทเลยดีกว่า...ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เบื่อจะหลบหลีกเหมือนกัน ดูสิว่าถ้าไม่ยอมไปด้วยซะอย่าง ธงรบคงไม่ถึงกับฉุดขึ้นรถหรอก

ทันทีที่ก้าวออกจากประตู อาทิตย์ก็ขมวดคิ้วเพราะคนหน้าเป็นยืนคอยอยู่ข้างรถเขา ธงรบมือล้วงกระเป๋า เอนตัวพิงรถ เอียงหน้ามองเขาอยู่ ใบหน้ายิ้มๆ ดูราวกำลังสบายใจเป็นอย่างยิ่ง
อาทิตย์หมุนตัวไปทางซ้ายทันที เดินไปตามฟุตบาธ ตั้งใจจะเรียกแท็กซี่ ธงรบขยับตัวตามมาอย่างไม่รอช้า เขาเดินมาไกลจากหน้าสำนักงานพอสมควร ธงรบไม่ได้รีบเร่งเดินตามให้ทัน รักษาระยะห่างประมาณสองถึงสามช่วงตัว จนเขาหยุดเดินแล้วยืนอยู่ริมฟุตบาธรอเรียกแท็กซี่ นายตำรวจหนุ่มจึงเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ
"ไปไหนครับ" เสียงห้าวๆ ถาม "รถก็จอดอยู่ตรงโน้น จะเรียกแท็กซี่หรือ"
อาทิตย์ไม่ตอบ ทำเป็นมองไม่เห็นว่ามีธงรบยืนอยู่ใกล้ เขายืนนิ่งมองรถที่กำลังวิ่งผ่านไปผ่านมา ได้แต่หวังว่าจะมีแท็กซี่ซักคันผ่านมาบ้าง แต่โชคไม่เข้าข้าง เวลาผ่านไปชั่วครู่ เขาจึงตัดสินใจเดินย้อนกลับไปทางเดิม
ธงรบก็ยังเดินตาม
อาทิตย์หยุดกึก ถอนหายใจแรง บอกตัวเองว่าไม่ไหวแล้ว จะให้หนีผู้กองธงรบแบบนี้ต่อไปทุกวันเขาคงประสาทกินในไม่ช้า
... คนอะไรตื้อได้ตื้อดี...ไม่เบื่อบ้างหรือไงนะ...อาทิตย์นึกว่าธงรบในใจแล้ว หันหน้ากลับมาเผชิญหน้านายตำรวจนักตื้อที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างหลัง
"ว่าไงอาทิตย์ ตกลงไปด้วยกันนะ" ธงรบยักคิ้ว ยิ้มเผล่ มือล้วงกระเป๋ากางเกงท่าทางสบายๆ
"ผู้กอง ไม่เบื่อหรือไงที่วิ่งตามผมอยู่ได้ทุกวัน" อาทิตย์ทำหน้าเซ็ง
"เบื่อแล้วจะตามเหรอ" ธงรบยิ้มกว้าง "อาทิตย์ก็หยุดหนีบ้างสิ รู้ทั้งรู้ว่าหนียังไงก็ไม่พ้น เหนื่อยเปล่า"
อาทิตย์เบือนหน้าไปมองถนนชั่วครู่ สูดลมหายใจลึกๆ แล้วพ่นออกมาช้า ก่อนจะตัดสินใจไปกับธงรบ
... ถ้าไม่ยอมไป ธงรบก็คงไม่ยอมเลิกตาม พรุ่งนี้เขาก็ต้องค่อยๆ ย่องออกมาจากสำนักงานอีกเช่นเคย อุตส่าห์ออกประตูหลัง ธงรบก็มายืนรออยู่แล้วอย่างรู้ทัน เหมือนรู้เวลา เหมือนมีญาณวิเศษ...
... เอาเถอะ...วันนี้วันเดียว...พรุ่งนี้จะได้ไปไหนมาไหนอย่างสบายใจ ไม่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ...
คิดได้ดังนั้น อาทิตย์จึงพูดว่า "ไปก็ได้ แต่ผู้กองต้องสัญญาว่าภายในสองสามวันนี้ ห้ามมาวุ่นวายกับผมอีก"
"ได้เลย" ธงรบรีบรับปาก
อาทิตย์มองตากรุ้มกริ่มคู่นั้นอย่างไม่มั่นใจว่าจะเชื่อผู้กองธงรบได้เพียงใด คำสัญญาของคนเจ้าชู้ไม่น่าจะเชื่อได้ แต่ก็เอาเถอะ ลองดูก็ไม่น่าเสียหาย หากธงรบไม่รักษาสัญญาก็ค่อยว่ากันอีกที
อาทิตย์เดินนำธงรบไปที่รถของเขา นายตำรวจหนุ่มเดินผิวปากตามหลังอย่างอารมณ์ดี ตรงข้ามกับตี๋หนุ่มที่ตีหน้าเคร่ง เหมือนนักโทษถูกนำตัวไปแดนประหาร พอถึงหัวมุม ธงรบแตะแขนอาทิตย์เบาๆ แล้วพูดว่า "ทางนี้ครับ"
"รถผมจอดอยู่ตรงโน้น" อาทิตย์แย้ง ชี้นิ้วไปยังเบนซ์สีดำที่จอดอยู่ไม่ไกล
"ไปรถผมดีกว่า"
"ผมไม่ชอบนั่งบีเอ็ม" อาทิตย์ให้เหตุผล
"เบ็นซ์กับบีเอ็มมันต่างกันที่ไหนเล่า"
"บีเอ็มโช้คแข็งไม่นุ่มเท่าเบ็นซ์ กระเทือน นั่งไม่สบาย" อาทิตย์จงใจกวนธงรบ...เอาคืนที่โดนกวนมานาน...ทีใครทีมัน
"อ๋อ กลัวเจ็บ...ก้น..." ธงรบผงกหัว ทำท่าเข้าใจ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า "อาทิตย์ครับ ยังจะโยกโย้อะไรอีก งั้นไปแอลติสสีเขียวเหลืองดีไม๊"
ธงรบขยับตัวเข้ามาใกล้ ทำท่าราวกับว่าจะจับแขนชายหนุ่มลากไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่อีกด้านหนึ่ง ของลานจอดรถ
"ถ้าจะไปกินข้าวด้วยกัน ก็ต้องไปรถผม ไม่งั้นผมไม่ไป" อาทิตย์ยื่นคำขาด ชักนึกสนุกที่ได้ 'สู้' กับนายตำรวจหนุ่มจอมตื้อ
ธงรบหรี่ตา ประเมินท่าทีของตี๋เข้มที่เขาตามจีบอยู่เป็นเวลานาน บอกตัวเองว่าคงต้องยอมอาทิตย์ไปก่อน ขอให้จีบติดก่อนเถอะ เขาจะกำราบตี๋น้อยคนนี้ให้อยู่ในโอวาท
...ดื้อนัก...ต้องเจอหนักๆ...
ธงรบพยักหน้า เดินผิวปากนำอาทิตย์ไปที่รถเบ็นซ์สีดำคันหรู ไม่วายต่อรองอีกว่า "ผมขับนะ"
"ไม่" อาทิตย์ปฏิเสธทันควัน "ผมไม่ไว้ใจ"
...ไว้ใจได้ยังไง เห็นรอยขูดขีดบนรถธงรบแล้วก็พอเดาออกว่าพ่อคุณขับรถแบบไหน...เขาหวงรถจะตาย ธงรบอย่าได้หวังว่าจะได้แตะรถเขาเลย
นายตำรวจหนุ่มแกล้งถอนหายใจแรงๆ แล้วหยุดยืนรออยู่ข้างรถสปอร์ตสีดำคันงาม อาทิตย์เดินตามมาติดๆ ยืนมองธงรบหน้านิ่งแล้วจึงเอ่ยขึ้นมาว่า "ผู้กอง ถ้ามีปัญหาเรื่องรถนัก ไม่ไปก็ได้นะ"
"ไปสิ" ธงรบเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มพราว "อุตส่าห์ตื้อขนาดนี้แล้ว จะให้ถอยง่ายๆ ได้ยังไง"
อาทิตย์ยักไหล่ ไม่ใส่ใจคำพูดของธงรบ เดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วพยักหน้าเตือนให้คนที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ขึ้นรถเสียที คิดในใจว่าทำให้เสร็จๆ ไป ไม่นานธงรบก็คงเบื่อเขา แล้วก็เปลี่ยนเป้าหมายไปหาหนุ่มคนใหม่หน้าตาสดใสกว่า
...คนเจ้าชู้...หยุดอยู่ที่คนเดียวไม่ได้หรอก...พอได้แล้วก็ทิ้ง
...ได้...ธงรบต้องได้เขาหรือ...นี่เขาต้องเสียตัวให้ธงรบก่อนหรือถึงจะโดนทิ้ง...
"อาทิตย์ ไปได้แล้ว" ธงรบยื่นหน้าเข้ามาใกล้ อาทิตย์สะดุ้ง หันไปทำตาขวางแล้วสตาร์ทรถ ทะยานออกจากช่องจอดอย่างรวดเร็ว
ผู้กองธงรบอุทานเสียงลั่นเพราะยังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย แรงเหวี่ยงของรถทำให้เขาตัวเอนกระแทกกับกระจก "เฮ้ย เบาๆ สิ" ธงรบหันมาปรามชายหนุ่มหน้าตี๋ "ขับรถไม่นุ่มเลยนะอาทิตย์ แล้วนี่ยังมาว่าผมอีก"
"ไปที่ไหนครับ" อาทิตย์ไม่สนใจสิ่งที่ธงรบพูด ยังขับรถเร็วเหมือนเดิม หมุนพวงมาลัยอย่างคล่องแคล่วหักมุมเลี้ยวเข้าถนนที่โล่งปราศจากรถ
"โอ๊ย" เสียงผู้กองหนุ่มดัง
...แกล้งหรือเจ็บจริง...ถ้าเจ็บจริงก็สมน้ำหน้า...อาทิตย์นึกอยู่ในใจ เร่งความเร็วรถมากขึ้นกว่าเดิม
"อาทิตย์ ไปกินข้าวนะ ไม่ได้ไปยมโลก" ธงรบบ่นเบาๆ
"ตกลงผู้กองจะไม่บอกใช่ไม๊ว่าไปทานที่ไหน" อาทิตย์เสียงเข้ม
" ขอคิดก่อนสิ ขับรถเร็วแบบนี้ใครจะไปคิดออก" ธงรบจงใจกวน เขาอยากใช้เวลาอยู่กับอาทิตย์นานๆ รู้สึกเริ่มสนุกกับคนหน้าหวานที่กำลังทำหน้าบึ้งอยู่
...อาทิตย์เอ๊ย...หน้าใสๆ แบบนี้ทำหน้าบึ้งยังไงก็ยังน่ารักเหมือนเดิม...เสียเวลา เมื่อยกล้ามเนื้อบนใบหน้าเปล่าๆ...
" ผู้กอง" อาทิตย์เสียงเข้มมากกว่าเดิม "มัวแต่อมยิ้มอยู่นั่น ถ้าไม่บอกชื่อร้านก่อนถึงทางแยกข้างหน้า ผมจะจอดทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางร้านแรกที่เจอ"
"ก๋วยเตี๋ยวก็ได้" ธงรบพูดหน้าตาเฉย
อาทิตย์ถอนหายใจแรงๆ สองตามองข้างทางเผื่อจะเห็นรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยว ชักจะรู้สึกเดือดกับการกวนอารมณ์ของผู้กองธงรบ
...นี่หากธงรบเป็นแฟนเขา คงประสาทกินทุกวันก่อนนอน...
...แล้วนี่จะตื๊อกันนานถึงไหน...

ร้อยตำรวจเอกธงรบลอบมองอาทิตย์ที่ทำหน้าเคร่งขับรถอยู่ ตอนนี้ชายหนุ่มลดความเร็วลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังเร็วอยู่เกินอัตราความเร็วที่กฏหมายกำหนด...
...ตื๊ออาทิตย์นี่สนุกจริงๆ...ชายหนุ่มเป็นสีสันชีวิตของเขาที่ไม่เคยได้พบมานาน...ทุกครั้งที่ผ่านมามีแต่หนุ่มรักสนุกที่เขาพบเจอกันไม่ถึงวันก็เสร็จสมอารมณ์หมายได้ไม่ยาก แต่อาทิตย์นี่สิ...สีสันจี๊ดจ๊าดจริงๆ ให้ตายเถอะ...
...เอ...แต่ว่านานนักก็อาจไม่ไหว...ทำยังไงถึงจะรวบหัวรวบหางได้น๊า...ธงรบคิดเพลินๆ พลันนึกอะไรได้บางอย่าง...ท้องที่นี้มันท้องที่น้องชายเขานี่หว่า อาทิตย์ก็ขับรถเร็ว อีกหน่อยก็ถึงด่านตรวจ...อย่ากระนั้นเลย...ไหนๆ ก็จีบอาทิตย์แล้ว ลองอะไรเล่นสนุกๆ หน่อยท่าจะดี เมื่อกี้เขาก็บอกอาทิตย์แล้วว่า "อุตส่าห์ตื้อขนาดนี้แล้ว จะให้ถอยง่ายๆ ได้ยังไง"
ธงรบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาผู้กองอัศวิน เพื่อนรุ่นพี่ของน้องชายเขา และเป็นเพื่อนเขาเอง...เจ้าของพื้นที่ที่เกลียดนักซิ่งวัยรุ่นเข้าใส้...

อาทิตย์สบถออกมาเบาๆ เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า หันไปมองธงรบก็มัวแต่สนใจกับการกดโทรศัพท์ราวกับพยายามหาตัวสะกดเวลาส่งเอสเอ็มเอส
"มอม้าคึกคัก ยอยักษ์เขี้ยวใหญ่ รอเรือพายไป อ้อ...ลอ ลิงอยู่นี่เอง" ธงรบบ่นพึมพำ แล้วทำท่าดีใจที่หาตัวอักษรเจอ
"ผู้กอง" อาทิตย์เรียกเบาๆ หากคนที่ถูกเรียกยังไม่ได้ยิน คงยังท่องพยัญชนะหาตัวอักษรต่อ
"ปอปลาตากลม ฟอฟันสะอาดจัง ฝอฟาอยู่ไหนวะ"
"ผู้กอง" อาทิตย์เสียงเข้ม ตามองไปยังตำรวจในเครื่องแบบที่เดินตรงมาที่รถ "เงยหน้าขึ้นมาดูนี่สิครับ"
ธงรบถอนหายใจ "ผมกำลังส่งเอสเอ็มเอ็สอยู่ เดี๋ยวนะ กำลังหาฝอฝา"
"ผู้กองธงรบ ตำรวจมา" อาทิตย์พ่นลมหายใจ แล้วลดกระจกลง "เราถูกตำรวจเรียก"
"อ้าว" ธงรบเงยหน้าขึ้น หันไปมองหน้ารถแล้วบ่นว่า "บอกแล้วว่าอย่าขับรถเร็ว"
"ผู้กองเคลียร์ด้วยนะ" อาทิตย์สั่ง
"เฮ่ย ได้ไง อาทิตย์เป็นคนขับรถเร็ว นี่คงโดนจับติดคุกแหงๆ โทษฐานขับรถหวาดเสียวเกินอัตรากฏหมายกำหนด"
"ผู้กองเป็นตำรวจ" อาทิตย์เสียงแข็ง "ตำรวจก็เคลียร์กับตำรวจ ไม่เห็นจะแปลก"
"ผมไม่ได้เอาตราตำรวจมาด้วยสิ เขาคงเชื่อหรอกว่าเป็นตำรวจ โดนจับแน่ๆ เลยเรา นี่ถ้าให้ผมขับรถตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องโดนแบบนี้ หิวข้าวก็หิว ต้องมาซวยถูกจับกับขาซิ่ง"
อาทิตย์นั่งฟังอย่างอดทน ทั้งที่ในใจอยากจะเอื้อมมือไปดึงโทรศัพท์ที่ธงรบกำลังกดอยู่ไม่ยอมหยุดยัด เข้าปากช่างจำนรรจาของนายตำรวจเหลือเกิน
"สวัสดีครับ...อ้าวผู้กองนี่เอง " เสียงตำรวจที่หยุดยืนอยู่ข้างกระจกพูดกับอาทิตย์แล้วเปลี่ยนน้ำเสียงทันใด เมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ข้างๆ หนุ่มน้อยหน้าตี๋
...บ้าเอ๊ย...ธงรบสบถในใจ...เสียเรื่องซะแล้วไหมล่ะ
"จ่า" ธงรบเลี่ยงไม่ได้ จ่าสมัยลูกน้องของหมวดชัชชัยน้องชายของเขายิ้มเผล่ ยกมือขึ้นวันทยหัตถ์แสดงท่าทางรู้จักเขาเป็นอย่างดี
"จะรีบไปไหนกันหรือครับ" จ่าสมัยถาม
"ไปกินข้าว" ธงรงตอบสั้นๆ
"หลานชายผู้กองขับรถเร็วมาก คือว่า...เอ่อ..." จ่าสมัยหันไปมองอาทิตย์ที่กลั้นยิ้มทันใด
"แล้วไงจ่า...งั้นก็จับเข้าคุกเลยสิ" ธงรบฉุน...จ่าสมัยยิ้มแหยๆ แล้วรีบขอโทษขอโพย ยกมือขึ้นวันทยหัตถ์แล้วรีบถอยฉากไป
... หลานชาย...พูดออกมาได้...ธงรบหน้าบึ้ง ไม่นึกว่าจ่าสมัยจะตาถั่วขนาดนั้น แต่ในใจอดสงสัยไม่ได้ว่าโดนแกล้งหรือเปล่า...ชัชชัยอาจอยู่แถวนี้ก็ได้ อาจคุมลูกน้องตั้งด่านแล้วเห็นว่าเขานั่งมากับอาทิตย์ แต่เมื่อครู่เขาโทรหาผู้กองอัศวิน คุยกับเป็นโค้ดลับอย่างดี ไม่น่าจะเข้าถึงหูน้องชาย แต่ถ้าชัชชัยรู้เรื่องจริงๆ ก็แสดงว่าอัศวินหักหลังเขา
...รอก่อนเถอะ ไอ้เพื่อนและน้องตัวแสบ...ตั้งใจจะให้จับอาทิตย์ข้อหาขับรถเร็ว เขาจะได้ให้อาทิตย์เสียเวลาอยู่ที่ด่านนานๆ หลังจากนั้นถึงจะแสดงตัว ช่วยเหลือชายหนุ่มให้พ้นข้อหา กลายเป็นพระเอกสมใจนึก แต่จ่าสมัยกลับดันมาทำให้เสียเรื่อง แบบนี้ต้องโดนแตะยกแถว
...แต่ก็เอา เถอะ เมื่อครู่ไม่ได้มีเวลาวางแผนเท่าใดนัก ของแบบนี้มันผิดพลาดกันได้...คราวหน้า อาทิตย์ต้องเจอดีแน่ แต่ที่เจ็บใจที่สุดคือจ่าสมหมายเรียกอาทิตย์ว่าเป็นหลานชายเขานี่สิ...พ่อ ตี๋หนุ่มยังทำหน้าขันอยู่ไม่ยอมหยุด
"ขำมากหรือไงอาทิตย์" ธงรบแกล้งทำหน้าบึ้ง
"ขำเรื่องอะไรครับ" อาทิตย์เลิกคิ้ว ทำทีเป็นไม่เข้าใจ แล้วพูดต่อว่า "อ้อ...เรื่องนั้นเอง เรื่องที่ตำรวจคนนั้นว่าผมเป็นหลานชายผู้กองใช่ไม๊ครับ"
"จะเรื่องอะไรอีกล่ะ"
"ผมไม่ใส่ใจหรอก ผู้กองก็ไม่ได้ดูแก่ตรงไหนนี่ ดูยังไงก็ไม่เห็นแก่พอจะเป็นลุงผมได้ ดูเหมือนเพื่อนกันมากกว่า"
...เอ๊ะอาทิตย์ชมหรือแดกดันกันนี่...ธงรบขมวดคิ้ว...ชักไม่พอใจ นึกว่าอาทิตย์เป็นหนุ่มน้อยที่ใสซื่อบริสุทธ์ ที่ไหนได้ ปากคอไม่เบา
"ว่าไงครับลุง เอ๊ย ผู้กอง จะทานอาหารที่ร้านไหน" อาทิตย์พูดหน้าเป็น แต่นัยน์ตาเรียวเล็กคู่นั้นเป็นประกายขัน
...น่ารักจริงๆ...ธงรับหันไปมอง แทนที่จะโกรธเขากลับเห็นว่าน่ารักนัก...
...เอาว่ะ...ชอบเข้าแล้วนี่...โดนล้อซักหน่อยก็ไม่เป็นไร อีกหน่อยอาทิตย์ก็คงลืม...
ธงรบบอกอาทิตย์ให้แวะร้านอาหาร ส. กุ้งเผาข้างทาง ชายหนุ่มบ่นอิดออดแต่ก็ยอมเลี้ยวรถเข้าไป ธงรบรู้ว่าอาทิตย์ไม่คุ้นเคยกับบรรยากาศร้านอาหารแบบนี้ แต่ตอนนี้เขาหิวมากจนแทบทนไม่ไหว
"ผู้กอง อย่าลืมสัญญานะ" อาทิตย์ทวงคำสัญญา หลังจากทานอาหารไปได้ครึ่งจาน
"สัญญาอะไร" ธงรบทำหน้าเหรอหรา เขาจำสัญญานั้นได้ แต่จงใจแกล้งชายหนุ่ม
ได้ผล...อาทิตย์หน้าคว่ำ วางช้อนลงทันใด "นึกอยู่แล๊ว หาอะไรจากคำสัญญาของตำรวจไม่ได้" ตี๋หนุ่มของธงรบเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม
"อ้าว อิ่มแล้วหรืออาทิตย์"
"ทานไม่ลงแล้วครับ" อาทิตย์เสียงเรียบ ใบหน้าขรึม หันไปมองน้ำพุที่ร้านจัดไว้ประดับตกแต่งสถานที่
หัวใจธงรบกระตุกวูบ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เห็นใบหน้าผิดหวังของอาทิตย์แล้วทำให้เขาต้องรีบแก้ตัว "ล้อเล่นน่า จำได้สิ จะไม่มาให้เห็นหน้าเลยสองวันตามคำสัญญา ถ้าเบื่อหน้าผมนัก"
"สามครับ ไม่ใช่สอง"
"อ้าว อาทิตย์พูดว่าสองสามวันนะครับ" ธงรบประท้วง
"ก็สามไหมล่ะผู้กอง สองสามวันก็คือสามวันนั่นล่ะ"
"งั้นก็สองก็ได้ หรือสามก็ได้น่ะสิ" ธงรบแย้ง น้ำเสียงของคู่สนทนาทั้งสองเริ่มแปรเปลี่ยนไปทันใด จากหงอยเหงาเมื่อครู่กลายเป็นตรงกันข้าม
"โอ๊ยปวดหัว" อาทิตย์บ่น แล้วยกมือขึ้นกุมขมับ เพราะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
"อยากหายปวดหัว ผมมียาดีให้" ธงรบยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "มาเป็นแฟนกันเถอะ รับรองว่าอาการที่กำลังเป็นอยู่จะหายไปเป็นปลิดทิ้ง"
...จะเป็นโรคประสาทน่ะสิ...อาทิตย์เถียงอยู่ในใจ...นึกภาพเป็นแฟนธงรบแล้วเขาขอฆ่าตัวตายหนีไปจากโลกนี้ดีกว่า...
...เขารักอนุภาพ...จะให้มารักธงรบได้อย่างไรกัน...
---แต่ อนุภาพเป็นของสารวัตรอธิคมแล้ว...ความหวังเขาหมดสิ้นไปแล้ว...และที่สำคัญ เขาไม่ได้เป็นฝ่ายรับ...จะให้มาเป็นฝ่ายรับของธงรบเขาทำไม่ได้หรอก...ท่าทาง ผู้กองนักรักคนนี้ไม่ใช่ย่อย...เขามิโดน...??
"คิดอะไรอยู่เหรออาทิตย์" ธงรบถามเสียงนุ่ม
"เปล่า" ชายหนุ่มปฏิเสธ ในใจคิดว่าจะบอกธงรบไปอย่างที่คิดได้อย่างไรกันเล่า...
...บอกว่าเขากลัวโดนธงรบทำ 'แบบนั้น' กับเขา...แบบที่เขาไม่เคยโดนมาก่อน...
"น่าอาทิตย์ ความจริงผมก็ไม่ได้แย่อย่างที่คนเขามองผมหรอกนะ ลองคบกันดูซักหน่อย ถ้าไม่ชอบใจก็ค่อยว่ากันอีกที แต่ตอนนี้ก็อย่าเพิ่งปฏิเสธกันสิ ให้โอกาสกันบ้าง ขอให้ผมได้จีบหน่อยจะเป็นไรไป เปิดใจน่ะ เข้าใจไม๊ เปิดใจ โอเพ่นยัวร์ฮาร์ท ไม่ใช่โอเพ่นยัวร์เลกอย่างเดียว"
อาทิตย์ยังก้มหน้ามองพื้นโต๊ะอยู่ ทั้งฉุนทั้งขัน ชายหนุ่มกัดฟันอย่างพยายามสงบอารมณ์ ธงรบนี่ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ เมื่อครู่นายตำรวจพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่จบลงด้วยความขี้เล่น...
...หากสมมุติว่าเขาตกลงลองคบกับธงรบจริง เขาจะทนความขี้เล่น...ความยียวนกวนประสาท...หรือความเจ้าชู้ของผู้กองธงรบได้ไหมหนอ...
... ที่สำคัญ...เขาจะทนคิดถึงอนุภาพได้หรือไม่...หากเขาจะมีความสัมพันธ์กับใคร เขาก็อยากให้มันเป็นไปเพราะความรัก แต่หากจะคบคนนี้แล้วมีภาพของคนอื่นซ้อนอยู่ เขาก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
...คนเรา...ต้องมีรักเดียวใจเดียวเท่านั้น...

ผู้กองธงรบให้อาทิตย์ไปส่งที่คอนโดทั้งที่อาทิตย์บอกว่าจะย้อนกลับไปส่งที่รถก็ได้ แต่นายตำรวจหนุ่มยักไหล่ บอกว่าไม่เป็นไร เขาไม่กลัวรถหาย ดีเสียอีก จะได้ไปหาอาทิตย์อีกครั้ง
"ลืมสัญญาแล้วเหรอผู้กอง สามวันที่สัญญาว่าจะปล่อยให้ผมอยู่อย่างสงบสุข" อาทิตย์รีบทวง
"สองวันครับ ไม่ใช่สามวัน"
"สาม เมื่อกี้เราตกลงกันว่าสาม" อาทิตย์เริ่มเสียงดัง หลังจากที่สงบมาแล้วตั้งแต่จ่ายเงินค่าทานอาหารเย็นที่ธงรบบอกว่าเขาต้องเป็นคนเลี้ยง
ตั้งแต่ออกจากร้านอาหาร ธงรบทำตัวดีมาตลอด นั่งสงบปากสงบคำ ไม่ก็ชวนเขาคุยเรื่องทั่วๆ ไป จนเขาแปลกใจไม่นึกว่าธงรบจะคุยอะไรเหมือนผู้ใหญ่คุยกันก็ได้ จนกระทั่งถึงตอนนี้ การถกเถียงกันก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
"งั้น" นายตำรวจหนุ่มทำท่านึก "สองวันครึ่ง พบกันครึ่งทาง นับจากคืนนี้ไปอีกสองวันครึ่ง ผมจะหายหน้าไปไม่ให้อาทิตย์เห็นหน้าหล่อๆ เลยเด็ดขาด วันศุกร์ถึงจะมารับไปกินข้าวกลางวัน"
อาทิตย์ถอนหายใจ...เริ่มจะยอมรับชะตากรรมตัวเอง...
...เอาเถอะ ซื้อเวลาได้สองวันครึ่งก็ยังดี ยอมไปทานอาหารกับผู้กองธงรบหนึ่งครั้ง แลกกับสันติสุขสองวันครึ่ง...
"คราวหน้าผมจ่ายเองก็ได้"
ธงรบทิ้งคำพูดประโยคสุดท้ายไว้ ยกมือขึ้นบายบายอาทิตย์อยู่ข้างรถ ยักคิ้วหลิ่วตาให้อย่างอารมณ์ดี รอจนหนุ่มน้อยกระชากรถออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วจึงเดินผิวปากเข้าไปในคอนโด...
อาทิตย์...สีสันของชีวิตเขา...
...สองวันครึ่งหรือจ๊ะตี๋น้อย...ฝันไปเถอะ...
ร้อยตำรวจเอกธงรบยกโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องใหม่เอี่ยมในมือขึ้นมาจูบ แล้วเอื้อมมือไปกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังห้องพัก
พรุ่งนี้ล่ะ อาทิตย์ก็จะโทรหาเขาเพื่อตามหาโทรศัพท์ที่เขาแอบฉกมา...
...อาทิตย์...รู้จักธงรบน้อยไปซะแล้ว...


๕๕๕๕ สงสัยจัง ที่มีคนบอกว่าอาทิตย์ไม่น่าจะคู่กับธงรบนี้ คนแบบอาทิตย์น่าจะคู่กับใคร?

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 6 ครับผม  :oo1:

6

อธิคมยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าเคาท์เตอร์รีเซฟชั่นของโรงแรม The Heights สิบห้านาทีหลังจากธงรบโทรมาบอกเขาว่าตามตัวอนุภาพได้แล้ว เขาตรงรี่มาโรงแรมทันทีและขณะนี้ก็กำลังรอคำตอบจากพนักงานต้อนรับที่ยืนทำหน้าผะอืดผะอม
"เอ่อ พอดีว่า ลูกค้า..."
"อยู่ห้องไหน ผมต้องการพบคุณอนุภาพเดี๋ยวนี้" อธิคมเสียงเข้ม จ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง อีกฝ่ายหันซ้ายหันขวาราวกับพยายามหาคนช่วย
"คือคุณอนุภาพเป็นแขกวีไอพีค่ะ ดิฉันต้องขอ..."
"วีไอพีผมก็จะพบ บอกผมมาเถอะ ผมเป็นตำรวจคุณก็รู้ ถึงไม่บอกตอนนี้ อีกไม่กี่นาทีก็รู้แล้ว อย่าให้ผมต้องโกรธ มันเป็นเรื่องเฉยๆ" อธิคมแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ยิ่งพนักงานต้อนรับเห็นยศพันตำรวจตรีอธิคม หญิงสาวก็ยิ่งหน้าเสีย
"คุณมุกดา บอกๆ มาเถอะ ผมจะได้ไปเสียที คุณจะได้ไปทำอย่างอื่นต่อ"
"เอ่อ ดิฉันต้องเรียนท่านประธานก่อนค่ะ สารวัตรรอสักครู่ได้ไหมคะ"
"โทรเดี๋ยวนี้เลย บอกคุณธนาภพว่าสารวัตรอธิคมมาพบคุณอนุภาพ"
มุกดาหยิบโทรศัพท์ กดเบอร์แล้วพูดเสียงเบากับคนที่อยู่ในสาย ไม่นานหญิงสาวก็ทำสีหน้าโล่งอกแล้ววางสาย
"The Avalon Suite ลิฟท์วีไอพีด้านในสุดค่ะ" มุกดารีบพูดแล้วผายมือไปยังด้านขวามือ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่ตำรวจหนุ่มหล่อกระชากใจแต่หน้าดุจะผละไป

ลิฟท์วีไอพีเป็นลิฟท์แก้ว ผนังเป็นกระจกใสทุกด้าน แม้แต่พื้นก็ใสแจ๋ว มองเห็นพื้นเบื้องล่างชัดเจนขณะที่กล่องกระจกสีขาวใสวิ่งขึ้นสู่ยอดตึกอย่างรวดเร็วแต่นุ่มนวลเงียบสนิท
อธิคมก้าวออกจากลิฟท์ เหลือบตามองลูกศรที่ชี้ไปยังห้องสวีทห้องเดียวบนชั้น แล้วเดินตรงไปตามทางเดินเบื้องหน้าเพื่อไปหาคนที่เขารักที่สุด แต่ไม่กี่สิบก้าวอธิคมก็หยุดเมื่อเห็นร่างสูงในชุดสูทที่ยืนหันหลังให้หมุนตัวมาเผชิญหน้าเขาช้าๆ
“ธนาภพ...”
...นึกอยู่แล้วเชียว...แต่ไม่คิดว่าจะกล้ามายืนขวางทางแบบนี้...
อธิคมเดินตรงไปยังร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“คุณอธิคม คุณกำลังบุกรุกโรงแรมผม” ธนาภพพูดเสียงต่ำ จ้องหน้าอธิคมอย่างเอาเรื่อง
อธิคมยืนจังก้าประจันหน้าธนาภพ กรามขบกันจนเป็นสันนูน ตาสองคู่ประสานกันนิ่ง ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน
นายตำรวจหนุ่มพยายามสะกดอารมณ์ไม่ให้พุ่งขึ้นมา กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เผลอทำร้ายธนาภพ ยิ่งไปกว่านั้น ยังกลัวว่าจะทำให้อนุภาพโกรธและเกลียดที่ใช้กำลังทำร้ายคนอื่น
"ผมมาตามแฟนผมกลับบ้าน" อธิคมเน้นเสียงเข้ม
"คุณคิดหรือว่าคุณนุจะอยากกลับ" ธนาภพเสียงเข้าไม่แพ้กัน
"คุณเป็นคุณนุหรือถึงพูดแทนกันได้ ให้คุณนุพูดเอง ถอยไป อย่ามาขวางทางผม"
"ถ้าผมไม่ถอย คุณจะทำอะไร จะต่อยผมหรือ นี่โรงแรมผม คนของผมเยอะแยะ"
อธิคมยิ้มเยาะ "คิดว่ากลัวหรือไง คนอย่างอธิคมไม่กลัวหรอก ถ้าไม่เรียกหน่วยคอมมานโดติดอาวุธครบมือมา อย่าคิดว่าจะขวางผมได้ ที่ยืนอยู่นี่ก็เพราะอยากพูดกันดีๆ" นายตำรวจหนุ่มขยับตัวเดินเข้าใกล้
ธนาภพขยับตัวเช่นกัน ทั้งที่เขารู้ว่าหากจะสู้กันจริงๆ คงสู้อธิคมไม่ได้เพราะร่างกายอีกฝ่ายกำยำล่ำสันและท่าทางบ้าระห่ำน่าดู กว่าที่เขาจะเรียก รปภ. ได้ อธิคมคงอัดเขาหมอบไปเสียก่อน
"คุณอธิคม อย่าดันทุรังเลย คุณก็รู้ว่าคุณนุต้องการอยู่คนเดียวซักพัก ผมไม่ได้ขวางอะไรคุณ เพียงแต่ปกป้องไม่ให้ใครรบกวน"
"ปกป้อง คุณมีสิทธิ์อะไรมาปกป้อง สิทธิของแฟนเก่าที่เคยทิ้งคุณนุหรือ...ถอยไปธนาภพ อย่าให้ต้องพูดซ้ำอีก" อธิคมเริ่มเสียงดัง "จะเรียกรปภ. ก็เรียกมาเสียตอนนี้ ก่อนจะไม่มีโอกาสได้เรียก"
นายตำรวจหนุ่มชักจะทนไม่ไหว ธนาภพกวนยั่วโมโหเขาจริงๆ
"สิทธิของเพื่อนไง" ธนาภาพพยายามสะกดอารมณ์ "สิทธิของเพื่อนที่นุอุตส่าห์มาขอที่พักพิงจากการโดนทำร้าย"
อธิคมสะอึก...ไม่นึกว่าธนาภพจะว่าเขาได้เจ็บแสบ
"ผมไม่ได้ทำร้ายคุณนุ มันเป็นเรี่องเข้าใจผิด แฟนเขาจะงอนง้อกันมายุ่งอะไรด้วย"
"เข้าใจผิดที่เห็นนักร้องชื่อดังของเมืองไทยคู่ขาคุณอยู่ในห้องคุณตอนค่ำงั้นเหรอ ถึงคุณบอกว่าเข้าใจผิด ไม่ได้มีอะไรกัน อะไรแบบนั้นก็ไม่ควรเกิดขึ้น"
"ธนาภพ" อธิคมโกรธจนหน้าแดง เอื้อมมือไปผลักผู้บริหารหนุ่มให้พ้นทาง ธนาภพปิดมืออธิคมออก ไม่ให้ถูกเนื้อต้องตัว
"คุณอธิคม ผมเคยทำให้นุผิดหวังและเสียใจก็จริง แต่นั่มมันตอนผมอายุยี่สิบกว่าๆ และเป็นเรื่องสุดวิสัยของการต้องมารับผิดชอบธุรกิจของครอบครัว เป็นเรื่องการเลือกทางเดินชีวิต นอกจากเรื่องนี้เรื่องเดียวผมไม่เคยทำให้นุต้องร้องให้ ต้องเสียใจ ไม่เคยซักครั้งเดียว ไม่ใช่เรื่องนอกใจ"
ธนาภพพยายามขวางอธิคม ยกมือขึ้นดันอกอธิคมไว้ไม่ไห้ตรงไปยังห้องของอนุภาพ
"นี่แหน่ะนอกใจ" อธิคมเหลืออด เลือดพุ่ง ทนไม่ไหวแล้ว กำหมัดยกขึ้นต่อยปากธนาภพขนหน้าหัน ตัวเซไปประทะข้างผนัง
ธนาภพพยายามพยุงตัวเองไม่ให้ล้ม สารวัตรอธิคมหมัดหนักมาก หน้าเขาสั่น เจ็บเหมือนถูกลิ่มตอกกระแทกเข้าในปาก เขาเหวี่ยงหมัดหมายจะเอาคืน แต่อธิคมเก่งและไวกว่า หลบฉากแล้วสวดหมัดเข้าที่ท้องเขาจนจุกแทบหายใจไม่ออก
เขาแทบจะกองลงกับพื้น แต่ฝืนตัวไว้ มือกุมท้อง ส่วนอีกข้างยันผนังไว้ เขาทำงานด้านธุรกิจไม่คุ้นกับการต่อสู้เหมือนนายตำรวจมือปราบ หากแลกหมัดกันอีกต่อไปก็คงจะอยู่ไม่พ้นอีกสองหมัด
"ธนาภพ อย่ามาพูดเรื่องนอกใจ หรือเรื่องอะไรเกี่ยวกับผมและคุณนุ" อธิคมชี้หน้า "อย่าแส่เรื่องของผม คุณกับคุณนุจบกันไปแล้ว อย่ายุ่งกับแฟนผม คุณนุงอน ผมจะง้อ อย่าคิดว่าจะขวางทางผมได้"
ธนาภพยังไม่ยอมหยุดความพยายามจะขัดขวางอธิคม "ง้อเหรอ อีกกี่ครั้งที่คุณจะง้อ อีกกี่ครั้งที่คุณจะทำให้นุเสียใจหนีออกมาอย่างนี้ อีกกี่ครั้ง บอกสิ อีกกี่ครั้ง ผมไม่ต้องการให้คุณทำร้ายนุอีก"
ชายหนุ่มเข้าประชิดตัวอธิคม กะว่าจะใช้ทั้งตัวโถมทุ่มเข้าใส่ให้เสียหลักลงไปนอนกองกับพื้นด้วยกัน อธิคมยกสันมือขึ้น ตั้งใจจะฟันเข้าตรงต้นคอ แต่ต้องหยุดชะงักค้างไว้ เมื่อประตูห้องตรงหน้าเปิดออก อนุภาพยืนมองอย่างตกใจ
"ผู้กอง หยุดนะ"
อนุภาพวิ่งเข้ามาใกล้ คว้ามืออธิคมไว้ได้ มืออีกข้างดันธนาภพออกไป
"ทำไมต้องทำร้ายกันด้วย" ชายหนุ่มหันไปมองใบหน้าขาวสะอาดของธนาภพมีเลือดแดงๆ กลบปาก แล้วหันไปมองอธิคมหน้าเคร่ง
"ผู้กอง"
"เขาจะสู้กับผม" อธิคมเสียงอ่อนลง
"ถึงงั้นก็เถอะ ไม่น่าต้องใช้กำลังกัน" อนุภาพเสียงเข้ม แล้วหันไปถามธนาภพ "ภพเจ็บมากไม๊"
"คุณนุ ไปห่วงเขาทำไม" อธิคมทนไม่ได้ที่เห็นอนุภาพห่วงใยธนาภพ
"ผมห่วงทุกคน ใครโดนต่อยจนปากแตกขนาดนี้ ไม่ให้ถามได้ยังไง" ชายหนุ่มมองอธิคมนิ่ง
"นุ กลับเข้าไปในห้องเถอะ ไม่ต้องห่วงภพหรอก"
"อยากจะโดนอีกหรือไง" อธิคมหมั่นใส้ธนาภพ ทำอวดดี
"สารวัตร" อนุภาพเสียงเย็น
"คุณนุ ผมมาคุยกับคุณนุดีๆ เขาก็เข้ามาขวาง มายั่วโมโหผม"
"ผมเหรอยั่วโมโห ผมพูดความจริง แทงใจดำคุณต่างหาก" ธนาภพเถียง
"ปักปำสิไม่ว่า ไม่รู้อะไรอย่ามายุ่ง ปล่อยให้ผมกับคุณนุคุยกัน"
"คุณก็รู้ นุอยากอยู่คนเดียว ไม่อยากเจอใคร"
"อย่ามาทำเป็นรู้ดี คนไม่เข้าใจกันเขาจะคุยกัน แฟนเขาจะคุยกัน เข้าใจไม๊"
สองหนุ่มเริ่มเสียงดัง ไม่มีใครยอมใคร
"พอแล้ว ทั้งสองคน หยุดเดี๋ยวนี้เลย" อนุภาพเสียงดังบ้าง
"ภพ...ขอให้นุได้ติดสินใจเองเถอะ...สารวัตร ผมไม่ชอบที่ใช้กำลังทำร้ายคนอื่น"
"นุบอกว่าอยากอยู่คนเดียว คิดอะไรเงียบๆ" ธนาภพกล่าว
"ผมแค่ต่อยหมัดเดียว ป้องกันตัว เข้าจะสู้กับผม" อธิคมแก้ตัว
"โกหก ผมแค่ขวางไม่ให้รบกวนนุ" ธนาภพชีหน้านายตำรวจ
"ผมแค่มาง้อแฟนผม"
"ผมปกป้องนุ..."
"พอ...หยุด" อนุภาพตวาด เริ่มจะทนไม่ไหว
สองหนุ่มนิ่งเงียบ แต่ตายังจ้องกันเขม็ง แข็งกร้าวทั้งสองฝ่าย มีอนุภาพที่ตัวเล็กกว่ายืนอยู่ตรงกลาง พยายามห้ามศึก
"คิดว่าที่กำลังทะเลาะกันอยู่จะทำให้ผมสบายใจหรือ แค่นี้ก็ยุ่งยากใจพออยู่แล้ว ยังจะมาทำเลาะกันให้ปวดหัว" ชายหนุ่มถอนหายใจหนักๆ ก่อนหันไปบอกธนาภพ "ภพ...นุขอบคุณที่ห่วงใยและช่วยเหลือนุ ส่วนสารวัตร ถ้าอยากจะคุย ผมจะให้เวลาห้านาที" ประโยคหลังชายหนุ่มหันมาบอกนายตำรวจที่เปลี่ยนสีหน้าจากบึ้งตึงมาเป็นหน้ามุ่ยแทน
...ห้านาทีเองหรือ...จะให้ง้องอนแค่ห้านาทีเองหรือ...มีเวลาน้อยขนาดนี้ คุณนุต้องรีบหายงอนไวๆ นะครับ...อธิคมคิดในใจ
"คุณนุ ห้านาทีเองหรือ" อธิคมเสียงอ่อน
"ถ้าเป็นปัญหานัก ผมจะหายตัวไปซักพัก ไม่ให้รู้ว่าอยู่ไหน ทั้งสองคนเลย"
"แล้วทำไมคุณนุต้องมาที่นี่ล่ะ" อธิคมเสียงน้อยใจ
"ที่ไหนที่ไปแล้วสบายใจ คนเขาก็อยากไป"
"ภพ...สารวัตร" อนุภาพปราม "ถ้าพูดไม่รู้เรื่องผมจะไปเดี๋ยวนี้ แล้วเราไม่ต้องคุยกันอีก" ชายหนุ่มถอนหายใจ "ภพ...ขอนุคุยกับสารวัตรซักครู่นะ รับไปให้ใครดูแผลเถอะ"
อธิคมมองหน้าธนาภพ ยิ้มเยาะ ในที่สุดอนุภาพก็เลือกอยู่กับเขา
"แผลกายไม่เจ็บหรอกนุ" ธนาภพเสียงเข้ม สบตาชายหนุ่มชั่วครู่ แล้วหันไปจ้องตาอธิคมเขม็ง อีกฝ่ายพึมพำเบาๆ
"คุณนุมาช้าอีกนิดเดียว ได้น๊อคกลางอากาศแน่"
ธนาภพก้าวถอยหลังเดินไป ตายังจับจ้องอธิคมนิ่ง จนในที่สุดก็หันตัวกลับ เดินตรงไปที่ลิฟท์
อนุภาพถอนหายใจอีกครั้ง อ่อนใจกับนายตำรวจหนุ่มเลือดร้อน...อธิคมไม่มีท่าทีจะยอมเชื่อฟังที่เขาขู่ กลับไปขู่ธนาภพต่อ
คืนนี้เขาได้เห็นความหึงหวงของอธิคม ร้ายกาจไม่ใช่เล่น นี่ถ้าเขาไม่ได้ยืนอยู่ใกล้ประตูแล้วได้ยินเสียงทะเลาะกัน อาจไม่ฉุกคิด เปิดประตูออกมาดู หรือหากช้าไปอีกนิดเดียว ธนาภพอาจเจ็บหนักกว่านี้ หรือไม่ก็น๊อคกลางอากาศอย่างที่อธิคมขู่
"สารวัตร ผมขอเถอะนะ อย่าใช้กำลังทำร้ายกันเลย ไม่ว่าโกรธขนาดไหนก็อย่าถึงต้องชกต่อย"
"คุณนุ...กลับบ้านกับผมเถอะ อย่าอยู่ที่นี่เลย" อธิคมไม่สนใจฟัง อยากพูดสิ่งที่ต้องการจะพูด "ผมขอโทษ"
"ขอโทษเรื่องอะไรครับ"
"ขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ผมกับนิตินัยไม่ได้มีอะไรกัน ฟังผมอธิบายก่อน" อธิคมอ้อนวอน
"เห็นขนาดนั้น จะให้ผมคิดยังไง"
"โธ่ ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณนุคิดนะครับ"
"งั้นเขาไปใส่กางเกงขาสั้นตัวจิ๋ว เดินเล่นในห้องสารวัตรแก้เซ็งยังงั้นเหรอ"
"ห้องนั่งเล่น"
"บ้าน...ในห้องนั่งเล่นในบ้าน ในคอนโด ที่สารวัตรตื้อให้ผมไปอยู่บ่อยๆ นิตินัยใส่กางเกงตัวเดียว สารวัตรกำลังอาบน้ำ ทีนี้บอกมาสิว่าผมควรเข้าใจยังไง"
"โธ่ ฟังผมอธิบายก่อนสิ เรื่องมันยาว" อธิคมเสียงอ่อน ต่างจากใบหน้าบึ้งตึงเมื่อครู่ตอนที่ทะเลาะกับธนาภพ "ไปคุยกันในห้องดีกว่านะครับ อย่ามายืนคุยกันตรงทางเดินแบบนี้เลย
อนุภาพยกมือขึ้นมองนาฬิกา "ตามใจ สารวัตรอยากเสียเวลาก็ตามใจ"
"โธ่คุณนุ เอาจริงหรือ ห้านาทีจะไปพออะไร"
"งั้นสารวัตรก็ต้องอธิบายให้กระชับและชัดเจนที่สุด" อนุภาพเสียงแข็ง จะเล่นกับอธิคมต้องเอาให้เฮี๊ยบ ไม่เช่นนั้นเอาไม่อยู่
"คุณนุ ขยายเวลาอีกซักนิด เป็นสิบนาที ไปคุยกันในห้องนะ"
"ผู้กอง" อนุภาพหน้านิ่ง รู้ดีว่าหากปล่อยให้อธิคมเข้าไปในห้อง นายตำรวจหนุ่มก็คงไม่ยอมออกจากห้องง่ายๆ เขากอดอก ยืนพิงผนังห้องใกล้ประตู รอฟังอธิคมพูด
"ที่จริงมันคือปัญหาของธงรบ" อธิคมอึดอัด ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ยิ่งถูกกำหนดด้วยเวลาและอนุภาพยืนกอดอกจ้องมองเขายิ่งตื่นเต้น "แบ้งค์เขามีอะไรๆ กับธงรบอยู่"
"ผู้กองธงรบกำลังจีบอาทิตย์นี่นา" อนุภาพแทรก
"ใช่ครับ แต่ว่าก็มีอะไรกับแบ้งค์ด้วย" อธิคมโยนทุกอย่างให้ธงรบไปก่อน "คุณนุอย่าไปบอกอาทิตย์นะครับ...คือว่าแบ้งค์เขามีปัญหาเรื่องคลิปหลุด ผมก็ไม่รู้เรื่องอะไร นักข่าววิ่งไล่ตามถ่ายรูปเขาที่ยิม แล้วเขาก็วิ่งหนีออกมาเจอผมที่ประตูทางออกแล้วขอให้ผมช่วย ผมเลยพาขึ้นรถหลบนักข่าว"
อนุภาพหรี่ตา
"เรื่องจริงนะครับ นี่อีกไม่กี่วันคุณนุก็จะเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ ผมสงสารเขาก็เลยพาไปหลบ"
"ที่ห้องสารวัตร"
"โธ่คุณนุ ตอนนั้นมันกระทันหัน นักข่าวก็วิ่งไล่ แล้วมันก็ใกล้ๆ บ้านผม อีกอย่างผมต้องแวะไปเอาเอกสาร กะว่าจะพาเขาไปหลบที่บ้านธงรบ แต่ติดต่อไอ้เสาธงไม่ได้" อธิคมทำเสียงโอดครวญ
"สารวัตรเลยอาบน้ำก่อน นิตินัยร้อนเพราะแอร์ที่บ้านสารวัตรไม่เย็น เลยถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงขาสั้นตัวเดียว แล้วเดินไปเปิดประตู" อนุภาพสรุปเรื่องให้ชัดเจน กรอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย
"บ๊อกเซอร์ครับ" อธิคมแก้ให้ถูก
"รู้ได้ไงว่าเป็นบ๊อกเซอร์"
"ก็ผมอาบน้ำเสร็จเดินออกมา เห็นเขาใส่แต่บ๊อกเซอร์ ผมยังแปลกใจเลย เขาบอกผมว่ามีคนมาหา ผิวขาวๆ หน้าตาดี ทำหน้าตกใจ แล้วมองเขาแปลกๆ เหมือนโกรธ ผมก็เลยนึกว่าต้องเป็นคุณแน่ๆ เพราะไม่มีใครมาหาผมหรอกถ้าไม่ใช่ธงรบ" อธิคมละล่ำละลัก
"คุณนุ ผมกับเขาไม่มีอะไรกันจริงๆ นะ ที่เห็นมันอาจจะชวนให้คิดก็จริง แต่เราไม่มีอะไรกันจริงๆ แบ้งค์เขาใส่กางเกงตัวเดียวเดินไปเดินมามันเป็นเรื่องปรกติของเขา"
"แล้วทำไมเมื่อกี้บอกว่าพอสารวัตรเห็นแล้วยังตกใจ ไม่นึกว่าจะเห็น"
"แปลกใจต่างหากครับ ไม่ใช่ตกใจ แต่ว่าก็เคยเห็นเขาใส่ยังงั้น คือว่าเมื่อก่อน เอ่อ...เมื่อก่อนนานๆ มาแล้ว ผมก็เคยเห็นบ่อยๆ" อธิคมเริ่มตะกุกตะกัก ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ยี่งพูดไปก็ยิ่งเข้าเนื้อตัวเอง อนุภาพที่ยืนหน้านิ่งเรียบอยู่ตรงหน้าทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง ความเก่งกาจที่เคยสอบสวนผู้ต้องหาตอนนี้หายไปหมดเมื่อกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง
"ผมโทรลงไปถามยาม เขาบอกว่ามีรถนักข่าวดักรออยู่หน้าประตูรั้วคอนโด ผมเลยต้องรอซักระยะ อีกอย่างผมรอติดต่อธงรบให้ได้เสียก่อน ถ้าแบ้งค์จะหาที่หลบ ผมก็อยากให้เขาไปหลบอยู่กับธงรบ อย่างน้อยสองคนนั้นเขาก็คบๆ กันอยู่ คุณก็รู้ แบ้งค์เปลี่ยนเป้าหมายจากผมไปเป็นธงรบกับอธิปตั้งแต่กลับมาจากกระบี่ใหม่ๆ จำได้ไม๊ครับ"
"แล้วสารวัตรไม่กลัวนักข่าวจะถ่ายรูปได้หรือ ยิ่งจะไปกันใหญ่ ทีนี้เจ้าของคลิปฉาวอะไรนั่นอาจเป็นสารวัตรกับแบ๊งค์ก็ได้"
"รู้สึกว่าเป็นตัวเขาคนเดียวในคลิ๊ปนะครับ"
"งั้นก็เถอะ เดี๋ยวสารวัตรก็ได้กลายเป็นแฟนเขา ดังกันไปทั่วเมือง"
"แล้วจะให้ผมทิ้งเขาไว้ที่หน้ายิมถูกนักข่าวรุมล้อมเหรอ ตอนนั้นผมพอช่วยได้ ผมก็ช่วย อย่างน้อยก็คนรู้จักกัน ตอนที่ผมพาขึ้นรถ นักข่าวยังตามมาไม่ทัน"
อนุภาพพอจะเข้าใจสถานการณ์ เขาเริ่มเชื่ออธิคม แต่เขาก็หวั่นใจว่าหากอธิคมเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ จะพลาดเข้าสักวัน
"ผมไม่อยากให้สารวัตรยุ่งกับนิตินัย ถึงแม้เขาเบนไปหาผู้กองธงรบ เขาก็ยังชอบสารวัตรอยู่ นิตินัยเป็นยังไงก็รู้ๆ กันอยู่"
"หวงผมใช่ไม๊" อีกฝ่ายทำเสียงออดอ้อน
"ห่วง" อนุภาพมองนาฬิกา "สารวัตรเหมือนไฟ นิตินัยเองก็เป็นน้ำมันที่พร้อมจะสาดใสกองไฟให้ลุกไหม้ ผมกลัวว่าสารวัตรจะพลาดเข้าซักวัน"
"คุณนุครับ อย่าโกรธผมเลยนะ ครั้งต่อไปผมจะระวังมากกว่านี้ กลับบ้านกับผมเถอะ อย่าอยู่ที่นี่เลย ผมหึง"
"ที่ตัวเองทำ ไม่คิดวาคนอื่นจะหึงเหรอ" อนุภาพเสียงเบา เริ่มใจอ่อน
"รู้ครับรู้ จะไม่ทำอีกแล้ว" อธิคมขยับเข้ามาใกล้ ทำท่าจะคลอเคลีย อนุภาพหันซ้ายหันขวา แล้วหลบฉากเดินตรงไปที่ประตู นายตำรวจหนุ่มเดินตาม ในใจมุ่งมั่นว่า ยังไงก็จะต้องตามอนุภาพเข้าห้องให้ได้
"คุณนุ ถ้ายังไม่กลับก็ขอผมเข้าห้องน้ำหน่อย ผมไม่ไหวแล้ว อีกอย่างผมจะดูรอยช้ำที่ธนาภพชกผมที่อก เจ็บจะแย่อยู่แล้ว" เสียงอธิคมอ้อดอ้อน
อนุภาพรู้ทันคนเจ้าเล่ห์ เขาไม่นึกว่าธนาภพจะชกอธิคมได้ขนาดนั้น
"สารวัตรกลับไปก่อนเถอะ ขอผมอยู่คนเดียวซักครู่ เดี๋ยวผมก็กลับบ้านแล้ว" อนุภาพยืนอยู่หน้าประตูยังไม่ยอมเปิด
"ไม่ไป ผมจะนั่งคอยอยู่หน้าห้องไม่ไปไหน จนกว่าจะกลับไปพร้อมกัน"
"ตามใจ อยากจะนั่งอยู่จนดึกดื่นก็ตามสบาย" ชายหนุ่มหลงกล เปิดประตูเพื่อกลับเข้าไปในห้อง อธิคมโผเข้ากอด แล้วดันตัวอนุภาพเข้าไปข้างใน
"ปล่อยนะผู้กอง"
"ไม่ปล่อย" อธิคมได้ที คิดในใจว่า...เอาวะ...เป็นไงเป็นกัน
"คุณนุ อย่าเกลียดผมเลย จะให้ผมกลับไปคนเดียวได้ยังไง เราเป็นแฟนกันก็ต้องอยู่ด้วยกัน สงสารผมบ้างเถอะ" อธิคมเสียงแหบพร่า...เริ่มจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้อีกครั้งหนึ่ง...แต่ครั้งนี้ต่างจากเมื่อครู่ที่ควบคุมอารมณ์โกรธไม่ได้
"ผมรักคุณนุคนเดียว สองตาไม่เคยเหลียวมองใครเลย เชื่อผมสิครับ" อธิคมเสียงหวาน กอดอนุภาพไว้ในอ้อมแขน ยกเท้าขึ้นดันประตูให้ปิด
"ดีแต่พูด คนเจ้าชู้ แฟนเก่าเป็นโขยงเข้ามายุ่มย่าม สารวัตรจัดการได้หรือเปล่าล่ะ"
"ไม่ใช่แฟนเก่า แค่คนเคยคบกัน ผมไม่เคยมีแฟน คุณนุเป็นคนแรก และคนเดียว" อธิคมซุกหน้าลงมา...ทนไม่ไหวแล้ว
"คุณนุ ผมเลิกเจ้าชู้แล้วนะครับ แล้วคนที่ผมเคยคบมาผมก็ไม่ได้ติดต่อด้วย เอาแต่หลบ ไม่อยากให้เขาเข้ามาวุ่นวายกับผม เห็นใจผมบ้างสิ มันต้องใช้เวลาอีกซักหน่อยกว่าจะกว้างล้างให้หมดไปได้"
"คงอีกหลายปี" อนุภาพเสียงอู้อี้ มือรีบเอื้อมลงไปตะปบมือของสารวัตรหนุ่มเอาไว้ไม่ให้ลุกล้ำไปมากกว่านี้ "สารวัตรหยุดนะ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้ เราต้องคุยกันก่อน"
"เดี๋ยวค่อยคุยทีหลัง" อธิคมเริ่มป่ายมือไปมา ดันหลังชายหนุ่มให้ติดผนัง ตรึงเอาไว้ไม่ให้ขยับตัวได้ ใบหน้าซุกไซร้ไม่ยอมหยุด
"หยุด บอกให้หยุด ถ้าไม่ยอมฟัง ผมจะ..." อนุภาพหมดแรงจะต้านทานเพราะปากถูกประกบปิดเสียแล้ว
อธิคมใช้ร่างทั้งร่างของเขาแนบประกบอนุภาพเอาไว้ เบียดตัวเข้ามาจนชายหนุ่มแทบจะจมหายเข้าไปในผนังห้อง ไม่ยอมรับฟังคำห้ามปรามใดๆ ทั้งสิ้น เขารอไม่ไหวแล้ว เขาปรารถนาอนุภาพเหลือเกิน เกือบสองวันที่เฝ้าตามหาอนุภาพช่างทรมานยิ่งนัก...คราวนี้โชคดีที่ง้อได้เร็ว ไม่ต้องไปทรมานลอยคลออยู่กลางทะเลเหมือนครั้งที่แล้ว
อนุภาพยังดิ้นขัดขืนไม่หยุด บอกว่าจะไปเก็บของเตรียมตัวกลับบ้านดีกว่า แต่นายตำรวจหนุ่มบอกว่าไม่ต้องกลับแล้ว
"คืนนี้นอนที่นี่กันก็ได้" อธิคมเสียงกระเส่า พยายามจะดันตัวอนุภาพไปที่เตียง
"ผู้กองไม่เอานะ"
"ทำไมล่ะ คุณนุอย่าดื้อสิ หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นยืน หือ"
"บ้า" อนุภาพเสียงเบาๆ อดหมั่นใส้อธิคมไม่ได้ ยกมือข่วนต้นคอคนเจ้าเล่ห์ ขอฝากแผลให้ดูต่างหน้าซักหน่อย
"โอ๊ย...เจ็บนะ" อธิคมร้องเสียงดังแล้วใช้แรงมหาศาลอุ้มอนุภาพเดินลิ่วตรงไปที่เตียง "คุณนุ ทำไมชอบเล่นเจ็บๆ แล้วยังมาห้ามผมไม่ให้ใช้กำลังทำร้ายใคร ที่ทำร้ายผมล่ะ"
อธิคมวางชายหนุ่มลงบนเตียงแล้วโถมตัวลงทับ เริ่มรุกรานอนุภาพจนเสื้อผ้าเริ่มหลุดลุ่ย ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ต่อให้เอาช้างมายื้อยุดก็ฉุดเขาไม่อยู่
อนุภาพหลับตา ยอมอธิคมเพราะรู้ว่าขัดขืนไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะในที่สุดแล้ว นายตำรวจหนุ่มต้องทำตามใจของตัวเองให้ได้ และที่สำคัญ ร่างกายของเขาก็ตอบสนองทุกครั้งที่อธิคมสัมผัสตัว...หากจะเปรียบ เขาก็เหมือนขี้ผึ้งที่โดนไฟอย่างอธิคมลนจนแทบหลอมละลายภายใต้ร่างแกร่งกำยำนั้น..

เีดี๊ยะมีต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2009 20:38:23 โดย katawoot »

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 6 ต่ิอ (เย็นวันนี้เซ็งๆ อ่ะครับ นั่งมองคอมพิวเตอร์อยู่เฉย ไ่ม่รู้จะทำไร เลยโพสนิยายต่อดีกว่า อ่านให้ตายไปกันข้างนึงเลยนะ)

อาทิตย์ขับรถออกจากบริษัทเมื่อเวลาเกือบสี่ทุ่ม เย็นวันนี้เขาไม่เห็นธงรบมาจอดรถดักรอเขา ความจริงไม่เห็นมาเกือบสี่วันแล้ว โทรศัพท์หรือข้อความสั้นก็ไม่เคยได้รับ
...ท่าทางคงไปราชการหรือทำคดีสำคัญ เลยไม่มีเวลามากวนใจเขา ตั้งแต่เขาแวะไปที่สถานีตำรวจเพื่อไปเอาโทรศัพท์วันนั้น ธงรบก็หายหน้าหายตาไป จะบอกลาสักคำก็ไม่มี...
วันนี้ถนนโล่งอย่างน่าแปลกใจ คนไม่รู้หายไปไหนกันหมด อาทิตย์ขับรถด้วยความเร็วปานกลาง วันนี้เขาขับรถฮอนด้าซีอาร์วีของคุณแม่มาทำงานเพราะต้องขนทีวีกับเครื่องเสียงมาบริษัท ที่บ้านมีหลายเครื่อง เขาตัดสินใจประหยัดเงิน อย่างน้อยหลายคนในบริษัทก็ได้ดูทีวีพักผ่อนอารมณ์บ้าง แม่บ้านกับยามดีใจใหญ่ที่มีทีวีในห้องพักผ่อน ณิชาเย้าว่า หากมีดีวีดีด้วยท่าจะดี เธอจะได้ย้ายมานอนที่บริษัท เลขาประจำบริษัทบอกว่าห้องทานเข้าหรือห้องพักผ่อนที่อาทิตย์จัดให้พนักงานนั่นน่าอยู่ยิ่งกว่าคอนโดของเธอเสียอีก
ชายหนุ่มเจ้าของบริษัทใหม่อ้าปากหาวเพราะความง่วงและเหนื่อยล้า เขาทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมงตั้งแต่เช้า พรุ่งนี้เขาต้องไปพบลูกค้าคนแรก คนนี้เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่หากงานนี้สำเร็จด้วยดี ก็จะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้บริษัทเป็นอย่างมาก
...เผลอๆ...จะแข่งกับบริษัทคุณตฤณเสียเลย...อาทิตย์คิดเล่นๆ แล้วอมยิ้ม แต่ทันใดต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ มีรถจักรยานยนต์สองคันวิ่งเบียดกันสวนทางมาไหล่ถนนทางด้านซ้าย
อาทิตย์หมุนพวงมาลัย เบี่ยงรถออกทางด้านขวาเพื่อหลบให้พ้น แต่ไม่ทันเสียแล้ว เสียงมอเตอร์ไซด์ครูดรถเขาแล้วตามด้วยเสียงดังโครม...มอเตอร์ไซด์สองคันนั้นเสียหลักล้มลงข้างทาง และในเวลาเดียวกัน เขาได้ยินเสียงรถบีบแตรลั่น เพียงชั่วกระพริบตา รถฝั่งด้านคนขับก็ถูกเบียดกระแทก เสียงห้ามล้อกรีดร้องราวผีพรายที่กำลังเกรี้ยวกราด รถกระบะยกสูงสีเงินแถออกไปด้านขวา เสียการทรงตัวชนกระแทกกับเสาไฟฟ้า
...เสียงคนร้องโวยวายดังรอบๆ แม่ค้ารถเข็นที่ขายของอยู่ข้างทางชี้ไม้ชี้มือด้วยความตื่นตระหนก ลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ผุดลุกยืนด้วยความตกใจ บางรายตั้งสติได้ รีบวิ่งเข้ามาช่วย
ไม่นาน...ไทยมุงก็เริ่มล้อมตัวเข้ามา...อาทิตย์ใจเต้นแรงด้วยความตกใจ มือสั่น ขาสั่น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาประสบอุบัติเหตุ
ชายหนุ่มนั่งสงบสติอยู่ในรถครู่หนึ่ง แล้วจึงเปิดประตูรถออกมา วิ่งอ้อมไปอีกด้านเพื่อดูคนขับขี่รถจักรยานยนต์ที่นอนกองอยู่บนพื้นถนน โชคดีที่ทั้งหมดสวมหมวกนิรภัย สามคนนั่งงงงวยอยู่บนพื้น กำลังพยายามถอดหมวกออก แขนถลอกปอกเปิก เห็นเลือดแดงๆ เลอะเทอะเสื้อยืดสีขาว หญิงสาวที่ซ้อนท้ายใส่กระโปรสั้นเหนือเข่า เลือดไหลมากว่ากว่าคนอื่น ตอนนี้เริ่มร้องให้น้ำตานองหน้า
"เอ้าช่วยๆ กันหน่อย อย่ามุงๆ" เสียงชายวัยกลางคนร่างใหญ่คนหนึ่งดังขึ้น พยายามกันคนไม่ให้ออกันเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มอีกคนสวมชุดกากีท่าทางเป็นข้าราชการเข้ามาช่วยอีกแรง หญิงวัยกลางคนคาดผ้ากันเปื้อนเข้ามาคุกเข่าข้างหญิงสาวที่บาดเจ็บ สอบถามด้วยเสียงห่วงใย
อาทิตย์หันรีหันขวางไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่ก็นึกได้ว่าเขาควรจะแสดงน้ำใจ แม้ตอนนี้เขาจะบอกตัวเองว่าเขาเป็นฝ่ายถูก จู่ๆ มอตอร์ไซด์สองคันนี้ก็วิ่งแซงกันมาสวนทางเดินรถช่องทางซ้าย
"พี่ เป็นยังไงบ้าง" อาทิตย์นั่งลงข้างชายหนุ่มผิวขาวที่นั่งกองอยู่กับพื้น
ชายหนุ่มหันมามองเขาตาขวาง ตวาดเสียดัง "ขับรถยังไงวะ ไอ้..."
อาทิตย์สะดุ้ง ตกใจเพราะไม่นึกว่าจะโดนด่าเช่นนี้ จึงขยับตัวถอยไปเล็กน้อย ชายคนนั้นยังโวยวายไม่หยุด จนเขาแย้งว่า "พี่ขับรถสวนเลน แซงกันมาด้วยซ้ำ ผมพยายามหลบแล้ว"
"ไม่เห็นหรือไงมีมอเตอร์ไซด์วิ่งมา มึงคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของถนนหรือไงวะ"
ชายคนนั้นเสียงแข็ง ท่าทางเป็นอันธพาลไม่เบา หน้าตาก็ดี แต่มารยาทแย่มาก อาทิตย์เริ่มอารมณ์คุกรุ่น
"เฮ้ย ตัวเองขับรถสวนทางยังมาด่าคนอื่นอีก บ้าหรือเปล่า" เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากกลุ่มไทยมุง
"น้องอย่าไปยอมมัน พี่ช่วยเป็นพยานให้"
"ให้เงินช่วยเขาหน่อย เขาเจ็บ"
"อุบัติเหตุน่ะ โทษกันก็ไม่ถูก"
"ใครตามปอเต็กตึ้งหรือยัง"
"คนยังไม่ตายนะโว้ย"
"โทรร่วมด้วยช่วยกันสิ"
เสียงคนดังระเบ็งเซ็งแซ่ อาทิตย์หูอื้อ ไม่รู้จะทำอะไรต่อไปดี แต่ที่แย่กว่านั้น ชายร่างผอมผิวคล้ำคนหนึ่งเดินมาดึงแขนเขาจากข้างหลัง ถามว่าเขาเป็นคนขับรถซีอาร์วีหรือไม่ เขาพยักหน้า แล้วจากนั้นก็ได้คู่กรณีต่อล้อต่อเถียงเพิ่มอีกหนึ่งคน

อาทิตย์ทั้งเหนื่อยทั้งหิว ตอนนี้มีอารมณ์โกรธเพิ่มเข้ามาผสมด้วย คู่กรณีของเขาพูดไม่รู้เรื่อง มิใยที่เขาบอกว่าให้รอประกันภัย ชายคนนั้นกลับเอาแต่เรียกร้องค่าเสียหายอย่างเดียว แฟนสาวก็เข้ามาช่วยเถียงด้วย เสียงแหลมๆ ของหญิงร่างผอมเหมือนไม้เสียบผีดังเสียดแทงประสาทของเขามากนัก ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เสียงดังยิ่งกว่าไซเรนรถตำรวจ
...ไม่ไหวแล้ว...เขาสู้กับคู่กรณีที่กำลังรุมเขาคนเดียวไม่ไหวแล้ว ต้องหาคนช่วย...อาทิตย์นึกถึงเพื่อน...รชานนท์เป็นคนแรกที่นึกได้ แต่ก็ต้องรีบสลัดความคิดนั้นออก รชานนท์ยิ่งแย่กว่าเขา ไม่เคยเถียงสู้ใครได้เลย ใครล่ะที่พอใจช่วยได้...พี่นุ...พี่บั๊ด...อธิป...ใช่อธิปน่าจะพอไหว อธิปออกห้าวๆ คงพอข่มคู่กรณีเขาได้...เจ...บอย...ทศ...ชาติ...ต๊อป
...ตำรวจสิ...เรียกตำรวจเสียเลย...เขารู้จักตำรวจอยู่...
...สารวัตรอธิคม...ท่าทางเหี้ยมเหมือนกันเวลาอารมณ์เสีย...
...จะบ้าเหรออาทิตย์...อธิคมแฟนพี่นุนี่นะ...ไม่ได้หรอก เขาจะบากหน้าไปขอความช่วยเหลือไม่ได้หรอก พี่นุจะได้เห็นว่าเขาไม่เป็นผู้ใหญ่ ไม่แข็งพอที่จะจัดการกับวิกฤติได้
...ผู้กองธงรบ!...
ชื่อนี้แว่บขึ้นมา อาทิตย์ควักโทรศัพท์ กดดูเบอร์ที่ธงรบเคยโทรหาเขา แม้ธงรบจะหายหน้าไปกว่าห้าวัน และเขาก็หวั่นใจอยู่ว่านายตำรวจอาจไปราชการหรือทำคดีที่ไหนไกลๆ แต่เขาขอเสี่ยซักหน่อยเถอะ....
...อาทิตย์โชคดี เพราะผู้กองธงรบรับสายทันที ด้วยประโยคเดิมที่แต่ก่อนเขาต้องถอนหายใจเพราะความระอา...
...แต่ครั้งนี้ เขาถอนหายใจเพราะความโล่งอก
"ว่าไงครับคุณชายอาทิตย์" ธงรบรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีเช่นเคย
"ผู้กองธงรบครับ ช่วยผมด้วย..." อาทิตย์ละล่ำละลัก "ผมรถชน"
นายตำรวจหนุ่มอุทานเสียงตระหนก สอบถามรายละเอียด แล้วบอกเขาให้อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ให้รอประกันและรอเขาก่อน อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงเขาจะไปถึง
"พี่จะไปดูแลอาทิตย์ของพี่เอง"
...ธงรบไม่วายทิ้งท้ายน้ำเสียงยั่วเย้า หลังจากที่พูดจริงจังเป็นงานเป็นการ อาทิตย์ไม่ตอบโต้อะไรเพราะไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเช่นนั้น แต่เมื่อวางสายโทรศัพท์เขารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอีกโข
...อย่างน้อยธงรบเป็นตำรวจ...คงช่วยได้มากพอสมควร แม้จะทะเล้นเป็นนิจ แต่เครื่องแบบร้อยตำรวจเอกคงขลังบ้างแล่ะน่า...คู่กรณีของเขาคงพูด "รู้เรื่อง" ขึ้นอีกเยอะ

อาทิตย์ยืนมองด้วยความแปลกใจ ธงรบจัดการสถานการณ์ได้เรียบร้อยน่าทึ่ง เขาคิดไม่ผิดที่ว่าชุดเครื่องแบบตำรวจนั้นช่วยได้มากเวลาเกิดเหตุการณ์คับขันเช่นนี้ ธงรบไม่เหลือคราบนายตำรวจเจ้าชู้ทะลึ่งทะเล้นแบบที่เคยเห็นเป็นประจำ หากกลับดูดุและเอาจริง คู่กรณีเขาคอตกเพราะธงรบโวยวายใส่เสียงดังบอกว่าจะจับเข้าคุกให้หมด ผิดแล้วยังข่มขู่คู่กรณี ต้องเอาให้หนัก
"ผู้กอง เขาแถออกมากชนผม" คนขับรถกระบะยังไม่วายโต้แย้ง
"แซงในที่คับขัน ถ้าไม่พอใจไปโรงพักกัน เอาไม๊" ธงรบตะคอก "แล้วนี่จะรีบไปไหนกันนี่ น้องเขาบอกว่าขับจี้ก้นเขามาตลอด พอเขาหลบมอเตอร์ไซด์ลื๊อก็แซง"
ชายร่างผอมหน้ามุ่ย แฟนสาวที่ยืนอยู่ใกล้ทำท่าจะอ้าปากเถียง ธงรับหันขวับไปมองตาเขม็ง หญิงคนนั้นจึงรีบหุบปาก

คนที่โดนหนักกว่าคือคนขับรถจักรยานยนต์สวนทางมาเฉี่ยวกับรถของอาทิตย์ ธงรบหันไปสั่งตำรวจอีกสองนายที่มาถึงสถานที่เกิดเหตุให้เอาทั้งหมดไปโรงพักและปรับให้หนัก นายตำรวจที่เจ้าชู้เป็นนิจทำราวกับว่าตัวเองเป็นหัวหน้าก็ไม่ปานทั้งๆ ที่ไม่ใช่ท้องที่ของตน ตำรวจสองคนนั้นดูท่าทางรู้จักธงรบดี เรียกเขาว่าท่านผู้กองอย่างสนิทสนม
"แล้วนี่เมื่อไหร่สารวัตรอัศวินจะมาถึงซะทีว่ะ"
"อยู่กับกิ๊กครับ" นายดาบตำรวจร่างท้วมตอบ
"เจ้าชู้จริงๆ ไอ้นี่" ธงรบเปรย แต่ทันใดรีบหันมามองอาทิตย์เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าชายหนุ่มเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆ ยิ้มให้บางๆ
"เรียบร้อยแล้วล่ะอาทิตย์ จะเอาค่าเสียหายหน่อยไม๊" ธงรบยิ้มกว้าง เปลี่ยนสีหน้าจากดุดันกลับมาเป็นคนเดิม
"อย่าเลยครับ สงสารเค้า นี่ก็บาดเจ็บ ทำไมผู้กองไม่ยอมให้ไปโรงพยาบาล"
"แค่นี้ไม่ถึงตายหรอก ให้เจ็บซะบ้าง ขับรถแบบนี้มันน่านัก โชคดีนะไม่เจอรถบรรทุก" ธงรบส่ายหน้า หันไปมองคนเจ็บที่นั่งอยู่กับพื้นแล้วพูดขึ้นว่า "อ้าว ลุกๆ ไปโรงพัก ไปทำแผลที่โน่น เดี๋ยวเลือดไหลไม่หยุด แห้งตายตรงนี้ซะก่อน"

รถกระบะตำรวจมาถึงและรับคู่กรณีของอาทิตย์ไปโรงพักพร้อมรถมอเตอร์ไซด์ที่ล้อบิดเบี้ยวจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม ผู้หญิงที่เป็นคนซ้อนท้ายได้รับการปฐมพยาบาลแล้ว มีผ้าพันแผลเรียบร้อยเพราะหญิงสาวคนหนึ่งที่รับประทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ใกล้ๆ มีกล่องปฐมพยาบาลในรถ จึงเข้ามาช่วย
อาทิตย์หันไปขอบคุณธงรบที่กำลังยืนมองรถตำรวจที่วิ่งลับสายตาไป นายตำรวจหนุ่มหันมามองเขานิ่ง แววตาห่วงใย ต่างจากนัยน์ตากรุ้มกริ่มที่เห็นอยู่เป็นนิจ...แววตาที่เขาเคยคิดว่าอยากจะชกให้เบ้าตาเขียวซักครั้งเวลาที่กวนประสาทเขามากๆ
"ทำไมกลับดึกนักล่ะ" ธงรบถาม
"ผมเพิ่งเสร็จงาน" อาทิตย์ตอบเสียงเบา
"งานยังไม่เสร็จก็รอเอาไว้ทำพรุ่งนี้สิ ดึกขนาดนี้ขับรถมันตราย ถนนสายนี้มันเป็นแบบนี้ล่ะ เดี๋ยวอีกหน่อย ตอนหกทุ่มนี่มีพวกรถซิ่งแข่งกันด้วย ว่าแต่ว่าอาทิตย์หลับในหรือเปล่านี่ หรือว่าอั๊พยา" ธงรบเริ่มด้วยเสียงและสีหน้าจริงจัง หากลงท้ายด้วยความทะเล้นเช่นเคย
"บ้าเหรอผู้กอง นี่จะว่าผมก็ผิดใช่ไม๊" อาทิตย์เสียงเข้ม
"เปล่านี่ ไม่ได้ทำก็ไม่ต้องร้อนตัว"
...ธงรบเริ่มอีกแล้ว...เริ่มกวนเขาอีกแล้ว...
"งั้นเสร็จธุระแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณมากๆ ครับที่มาช่วย" อาทิตย์ขอบคุณอย่างจริงใจ ขยับเท้าจะเดินกลับไปที่รถ
"อ๊ะ เดี๋ยวก่อนสิ ใช้ผมแล้วจะทิ้งผมแบบนี้เลยหรือ" ธงรบขยับตัวตาม "ขอติดรถไปด้วย"
"อ้าวผู้กองไม่ได้ขับรถมาหรือ" อาทิตย์สงสัย ไม่ทั้นได้สังเกต เพราะตอนที่ธงรบมาถึง ทุกอย่างกำลังโกลาหล พอเห็นหน้าธงรบเขาก็โล่งใจ เอาแต่ฟังและมองนายตำรวจจัดการกับปัญหา
"นั่งแท็กซี่มา"
"จริงหรือครับ" อาทิตย์แกล้งเย้า "หรือว่าติดสินบนแท็กซี่อย่างเคย"
"อะโธ่ โถ อาทิตย์จ๊ะ อย่ามากัดกันแบบนี้สิ คราวนี้นั่งแท็กซี่มาจริงๆ เสียเงินค่ามิเตอร์ไปตั้งร้อยกว่ากว่าบาท เอาเงินคืนมาซะดีๆ ไม่ก็เลี้ยงข้าวต้มโต้รุ่งผม นี่หิวแทบแย่แล้ว" ธงรบโอดครวญ แต่หน้าตาไม่ไปตามคำพูด
...แพรวพราวเช่นเคย...ไม่มีท่าทีจะเดือดร้อนอะไรเลย...อาทิตย์ยิ้มมุมปาก แล้วพูดขึ้นว่า "ผมก็หิว"
"งั้นเราไปกินกัน" ธงรบชวน แล้วรีบทำท่านึกอะไรได้ "โอ๊ะๆ หมายความว่าไปหาอะไรรับประทานกัน ไม่ใช่ไปกินกัน แบบ...แบบว่า...อย่างที่อาทิตย์อาจกำลังคิด"
"ผมไม่ได้คิดอะไรครับ" อาทิตย์เสียงเขียว แล้วเร่งเดินกลับไปที่รถซีอาร์วีที่มีรอยบู้บี้ทั้งฝั่งซ้ายฝั่งขวา
"ตอนนี้ก็คิดแล้วล่ะสิ ใช่ป่ะ" ธงรบพูดกลั้วหัวเราะ เดินตามมาช้าๆ จนอาทิตย์ต้องหยุดยืนรอข้างประตูคนขับ ยังไม่ก้าวขึ้นรถ
"คร้าบ เร็วแล้วครับคุณชาย" ธงรบรู้ตัวว่าถูกเร่งด้วยสายตา จึงรีบก้าวเท้ายาวๆ ตรงไปหาชายหนุ่มหน้าตี๋ที่ยืนมองเขาอยู่เขม็ง
"มามะ ผมขับเอง อย่าปฏิเสธนะ ไม่อยากสวมหน้ากากนายตำรวจใจร้ายรอบสอง มันปวดกล้ามเนื้อใบหน้าชอบกล"
ธงรบแบมือขอกุญแจจากอาทิตย์ ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธ ยื่นกุญแจให้แล้วเบี่ยงตัวจะเดินย้อมกลับมาอีกด้านหนึ่งของรถ
ไหล่ชนกัน...ไออุ่นจากร่างสูงใหญ่ของธงรบแผ่ซ่านจนอาทิตย์รู้สึกได้...ธงรบจับมือเขาไว้หลังจากรับกุญแจจากมือของเขา อาทิตย์ชะงัก ก้มหน้านิดๆ ไม่รู้ตัวว่าตัวเองแก้มแดง แต่รู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบวาบ
ธงรบได้จับมือของอาทิตย์เพียงไม่กี่วินาทีเพราะชายหนุ่มหน้าขาวรีบดึงมือออก แล้วเดินก้มหน้าอ้อมไปเปิดประตูรถอีกด้าน ขึ้นไปนั่งรอบนรถเงียบๆ
...ไมตรีจิตเริ่มก่อตัวขึ้น...ธงรบอมยิ้ม  ออกรถช้าๆ เลิกกวนใจชายหนุ่ม ปล่อยให้ตี๋เข้มของเขานั่งพักอย่างสงบสุข

6666666666

poom

  • บุคคลทั่วไป
 :m31:...ภาค 2 ยังไม่ได้อ่านเลย...กัวๆๆๆ ต้องมาเห็นอธิคมต้องเสียใจเพราะ...ใครมาสปอยเอาไว้ว่าคุณนุ...จะไปได้กะเพื่อนของสารวัตร...เลยไม่อยากอ่าน... :m16:

**ถ้าออกหนังสือก้อเอาแต่ภาค 1 เท่านั้น***



poom_โอ๋ :L1: :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด