อดโพสต่อไม่ได้อ่ะ ไม่รักผู้เขียนคราวนี้ให้ัมันรู้ไป
7
แสงไฟวูบวาบเป็นจังหวะเข้ากับเสียงดนตรีระทึกใจ เสียงปรบมือดังกึกก้องเมื่อนายแบบชุดแรก 10 คนเดินออกมาบนรันเวย์ที่ยกพื้นสูงกลางห้อง The Metropolis Convention Center นายแบบทั้งหมดสวมเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของ B. Narang ดีไชเนอร์คลื่นลูกใหม่ของประเทศไทยที่กำลังเป็นที่จับตามอง
อธิคมยืนกอดอกอยู่ข้างๆ อนุภาพที่ยืนผงักหัวเข้ากับจังหวะดนตรี แม้จะได้ที่นั่งติดรันเวย์เพราะมีบัตรวีไอพี แต่อนุภาพเลือกที่จะปลีกตัวออกมายืนดูอยู่หลังสุด ใกล้ๆ ประตูใหญ่ที่เปิดออกไปเป็นระเบียงกว้าง
สมบัติเป็นแม่งานใหญ่ของการจัดการแสดงแบบครั้งนี้ ตั้งแต่ลาออกจากบริษัทโฆษณา เพื่อนรุ่นพี่ของอนุภาพเปิดบริษัทรับจัดงานทั่วไปซึ่งตอนนี้มีงานชุกมากจนแทบไม่มีเวลาเจอกันกับเขา อาทิตย์ลาออกเป็นคนแรก อนุภาพกลับมาจากกระบี่ครั้งที่ไปถ่ายทำโฆษณาที่มีมีแบ้งค์นิตินัยเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ไม่เจออาทิตย์แล้ว ตฤณบอกว่าอาทิตย์ลงทุนเปิดบริษัทโฆษณาเล็กๆ ร่วมกับรชานนท์เพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน พจนีย์ลาออกตามไปเป็นคนที่สองเพราะต้องไปช่วยรชานนท์ทำงาน ตามด้วยสมบัติที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของตั้ม แฟนหนุ่มที่กำลังกลายเป็นดาราดัง สมบัติเคยบ่นว่า บางทีก็เบื่อที่จะหลบๆ ซ่อนๆ เป็นแฟนกับตั้ม ยิ่งตั้มโด่งดังมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องระวังตัวมากขึ้น แม้กลับบ้าน ยังต้องแยกกันกลับคนละเวลา ออกจากบ้านคนละเวลา ซื้อบ้านไว้สองหลัง กันเอาไว้เผื่อนักข่าวจะขุดคุ้ย ดีที่ความรักของทั้งสองยังมั่นคงอยู่ เขาเคยคุยกับตั้ม ดาราหนุ่มบอกว่าเขารักสมบัติที่ตัวตนภายในที่ใครอาจมองไม่เห็นเหมือนเขา อนุภาพบอกว่าเขามองเห็น ใครจะรักคนอื่นมากกว่าตัวเองเหมือนสมบัติกันเล่า
“คุณนุ อยากดื่มอะไรไหมครับ ผมจะไปหามาให้” อธิคมสะกิด
อนุภาพส่ายหน้า ตามองไปที่รันเวย์ เจสันกับธนิตนายแบบรุ่นน้องที่เขารู้จักดีเดินออกมาในชุดสีน้ำตาลขลิบดำ อนุภาพชมว่าสวยจนอยากจะซื้อมาใส่ อธิคมจึงล้อว่า
“สวยเพราะสีน้ำตาลเข้มล่ะสิ อะไรสีน้ำตาลผมเห็นคุณนุซื้อหมด ว่าแต่ใส่ชุดนี้ผมไม่ขอเดินด้วยนะ”
“สีกากีก็ชอบ” อนุภาพตอบเอาใจคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ผมก็ชอบสีน้ำตาล” อธิคมตอบเสียงหนุ่ม “เห็นไหมว่าเสื้อกางเกงทุกตัวที่ซื้อให้ผมใส่หมด ชุดสีน้ำตาลยังเคยใส่เลยๆ”
“ใส่อีกบ่อยๆ นะ ผมจะซื้อให้อีกเซ็ท” อนุภาพใจดี
“เอ่อ รอไว้ก่อนดีกว่า เพลาๆ ลงหน่อยก็ดี” อธิคมยิ้มแห้งๆ แล้วเปลี่ยนกลับมาถามเรื่องเครื่องดื่ม “เอาพันช์ซักแก้วนะ”
อนุภาพส่ายหน้าอีกครั้ง ไม่ละสายตาจากนายแบบบนเวที
“ดื่มหน่อยน่า นะ พันช์สีเขียวๆ นั่นก็น่าอร่อย สีเขียวเป็นธรรมชาติ ลดภาวะโลกร้อน ผมเห็นเขาถือกันหลายคน ส่วนผมของดื่มวิสกี้ซักแก้วนะครับ” อธิคมคะยั้นคะยอ
“เกี่ยวอะไรกับภาวะโลกร้อน ตัวเองอยากดื่มก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องมาถามผมว่าจะดื่มอะไรหรอก” อนุภาพรู้ทัน...ในใจก็สงสารอธิคมอยู่ไม่ใช่น้อยที่ได้ดื่มแต่น้ำส้มคั้นและนมสดเมื่ออยู่ที่บ้าน “สารวัตร จะดื่มอะไรก็ดื่มเถอะ แต่อย่าให้ถึงเมาจนผมต้องลากไปขึ้นรถก็แล้วกัน ตัวยังกับยักษ์ ลากไม่ไหว”
“ผมคลานไปเองก็ได้” อธิคมทำหน้าทะเล้นแล้วรีบเดินหายไป
อธิคมแว๊บหายไปไม่ถึงห้าสามนาทีก็กลับมาพร้อมกับเครื่องดื่ม ใบหน้ายิ้มระรื่น ชี้นิ้วไปที่เวทีแล้วพูดว่า “คนนั้น แฟนเก่าธงรบ เคยบุกไปที่ ส.น. ธงรบต้องรีบหนีออกประตูหลังแทบไม่ทัน” อธิมยื่นแก้วพันช์สีเขียวให้อนุภาพ
“แล้วคนไหนของสารวัตรอธิคมครับ”
อนุภาพยิ้มแหยๆ...เอาซะแล้วไหมล่ะ อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องใส่ตัว...
“คนนี้ไง” อธิคมชี้หน้าอกอนุภาพ “คนที่อยู่ในหัวใจผมคนเดียว”
อนุภาพอมยิ้ม ไม่ตอบอะไร ยกแก้วพันช์ขึ้นดื่มแล้วมองเลยไปยังด้านหลังของอธิคม เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งเดิมตามหลังอธิคมมา จ้องมองเขาทั้งสองไม่วางตา
สัญชาตญาณบอกอนุภาพว่าชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้ต้องเป็น “เด็กเก่า” คนหนึ่งของอธิคมแน่นอน...
----- หิวข้าวแล้ว ขอออกไปหาข้าวทานก่อนนะคร้าบบ ------