บทที่ 46 ครับ ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาอ่านนะครับ
อย่าลืมกันนะ
บทที่ 46
พจนีย์ยืนกระสับกระส่ายอยู่ที่ลอบบี้โรงแรม มองซ้ายมองขวาไม่เห็นอนุภาพเสียที
"พี่บั๊ด เดี๋ยวหนูโทรไปตามพี่นุก่อนนะ ป่านนี้ยังไม่เห็นมาเลย สิบโมงกว่าแล้ว"
"ไม่ต้องหรอก ปล่อยให้เขานอน" สมบัติปราม หยิบกระเป๋าผ้าขึ้นสะพาย กวักมือเรียกตั้มแฟนหนุ่มรุ่นน้องที่เพิ่งเดินทางมาถึงเมื่อคืนที่ผ่านมา ชายหนุ่มกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เงียบๆ อยู่บนโซฟาใกล้กับแจกันดอกไม้ที่จัดตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
"นี่จะสิบเอ็ดโมงแล้วนะ ปรกติพี่นุไม่เคยตื่นสาย เราจะได้ไปกันเสียที ป่านนี้เขาถ่ายกันไปแล้ว"
"ยังหรอก แบ๊งค์เพิ่งตื่น คงบ่ายล่ะกว่าจะได้เริ่มถ่าย แล้วหล่อนก็ไม่ต้องไปปลุกนุ เขาไม่อยากให้รบกวน"
"พี่รู้ได้ไง" พจนีย์ทำหน้าสงสัย
"รู้สิ...คนไม่ได้นอนคนเดียวจะให้รีบตื่นขึ้นมาทำไม"
"แล้วเขานอนกลับใคร ตอนเช็คอินเขาก็นอนคนเดียว"
สมบัติถอนหายใจ "นี่ยัยพจน์ เธอเลิกสงสัยซักหน่อยจะได้ไม๊ ใครเขาจะเช็คอินห้องเดี่ยวแล้วนอนคนเดียวอย่างหล่อนล่ะย่ะ..."
พจนย์เริ่มเข้าใจ พยักหน้าหงึกหงัก
"อ้อ...ที่เลือกห้องเดี่ยวกันก็เพราะอย่างนี้นี่เอง รู้อย่างนี้หนูชวนรชานนท์มาด้วยก็ดี"
"ทะลึ่ง..." สมบัติใช้นิ้วจิ้มขมับเพื่อนสาวรุ่นน้อง "อย่าไปรีบเสียตัวให้เขา เดี๋ยวโดนทิ้ง"
"สายไปซะแล้วล่ะพี่บั้ด" พจนีย์ยักไหล่แล้วรีบเดินนำหน้าไปยังรถที่จอดอยู่หน้ารีสอร์ท
สมบัติตาโต ไม่คิดว่าพจนีย์จะไวไฟขนาดนี้ รีบขว้าแขนตั้มเดินตาม...ต้องถามรายละเอียดให้รู้เรื่อง
------------------
อากาศริมทะเลตอนบ่ายร้อนจนแสบผิว...แต่นักแสดงและทีมงานทุกคนยังทำงานอย่างขะมักเขม้น แบ๊งค์ นิตินัย พูดสโลแกนประโยคสุดท้ายของสินค้าที่กำลังถ่ายโฆษณา แล้วทำหน้าหล่อ ยิ้มกว้าง ก่อนจะกระโดดตัวลอยกางขาให้ช่างภาพจับภาพสุดท้าย
ผู้กำกับสั่งคัท ทีมงานทุกคนปรบมือชื่นชม...งานช่วงแรกเสร็จไปแล้วโดยไม่ใช่เวลามากนักเพราะนักร้องหนุ่มแสดงได้ไม่ขัดเขิน ไม่เหมือนใครคนหนึ่งในอดีตที่เล่นเอาผู้กำกับแทบจะลาออก
"อ้าวทุกคนเก็บของ...เย็นนี้คุณตฤณสั่งให้เลี้ยงอีกแล้ว พรุ่งนี้ไปตะเวนหมู่เกาะอ่างทองแต่เช้า...เย็นนี้ฟรีไทม์นะจ๊ะ ทางใครทางมัน" พจนีย์ตะโกน ก่อนหันหลังกลับเดินเข้ามาในร่มสีสดที่ปักอยู่ใกล้ๆ ต้นมะพร้าว มองไปเห็นสมบัตินั่งจู๋จี๋อยู่กับตั้มไม่สนใจใคร หญิงสาวนึกถึงรชานนท์ชายหนุ่มรุ่นน้องที่พบในงานวันเกิดของอาทิตย์ อดนึกไม่ได้ว่าอยากให้เขามาอยู่ด้วยที่นี้ในบรรยากาศริมทะเลสวยงามเช่นนี้
"พี่บั๊ด เย็นนี้ไปเที่ยวไหนดี" พจนีย์นั่งลงข้างๆ พลันเหลือบไปเห็นอนุภาพเดินมาแต่ไกลจึงรีบลุกขึ้นโบกมือเรียก "พี่นุ ทางนี้...ต๊ายตาย สารวัตรก็มาด้วย"
"ยัยพจน์ ทรายปลิวโว๊ย" สมบัติโวยวาย ตั้มรีบเอามือปัดป้องบังหน้าของสมบัติด้วยความเป็นห่วง
"เข้าตาพี่หมดแล้วตั้ม ช่วยดูให้หน่อยสิ แสบไปหมดแล้ว" สมบัติมารยา หนุ่มน้อยหัวเราะเบาๆ อย่างรู้ทัน...ตอนนี้โลกของทั้งสองเป็นสีชมพู อะไรๆ จึงสวยงามไปหมด
อนุภาพและอธิคมเดินเข้ามาถึง ยิ้มทักทายทุกคน...สองหนุ่มดูท่าทางสดชื่น
"สารวัตรมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ พจน์ไม่เห็นเลย"
"ตั้งแต่เย็นวานแล้วครับ"
"อ้าวตอนทานข้าวเย็นทำไมไม่เห็น แล้วนี่พักที่ไหนค่ะ ตอนนี้เขามีงานกัน โรงแรมเต็มจนป่องทุกที่" พจนีย์เสียงใส
"ยัยพจน์ โรงแรมไม่ได้ท้องนะ" สมบัติอดเหน็บแนมไม่ได้
"พี่บั๊ดอยู่เฉยๆ สิ อย่าขยับ" ตั้มปราม เพราะกำลังเขี่ยผงออกจากตาของหนุ่มใหญ่
"ก็พักใกล้ๆ นี่ล่ะครับ" อธิคมยิ้ม ปรายตาไปมองอนุภาพที่ทำท่าไม่สนใจ
"ยัยพจน์ ไม่ต้องไปห่วงสารวัตรหรอก เขามีที่พักสบาย นอนหลับอย่างมีความสุข ใช่ไม๊นุ" สมบัติล้อ
"เหรอค่ะ อ้อ...สารวัตร คืนนี้มาปาร์ตี้กับเรานะค่ะ คุณตฤณสั่งให้เลี้ยงทีมงาน มาดวลเหล้ากันอีก คราวนี้พจน์พนันฝ่ายสารวัตร"
"คงไม่ได้หรอกครับ ผมกำลังถูกทัณฑ์บน ห้ามดื่มเหล้า" อธิคมยิ้มกริ่ม คนหน้านิ่งข้างเขายังนั่งเงียบไม่พูดไม่จา
"แย่จัง...งั้นสารวัตรก็มาทานข้าวเฉยๆ ที่รีสอร์ทเรานะค่ะ รู้แล้วใช่ไม๊ว่าเราพักที่ไหน" พจนีย์ลอยหน้าลอยตา ชวนอธิคมคุย
"ยัยพจน์ เลิกเซ้าซี้สารวัตรได้แล้ว" สมบัติเริ่มจะทนพจนีย์ไม่ได้ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเอาเสียเลย
"พี่บั๊ด ผมจะไม่เขี่ยให้อีกแล้วล่ะ ไม่ยอมอยู่นิ่งๆ ซะที" ตั้มเริ่มงอน
"จ้าๆ พี่หยุดพูดแล้ว" สมบัติเสียงอ่อนเสียงหวาน ทุกคนอมยิ้ม
"แล้วตั้มมีงานใหม่อีกหรือเปล่า เมื่อไหร่จะได้ดูผลงานเรื่องใหม่" อนุภาพเอ่ยถามเพื่อนรุ่นน้อง
"ก็มี..."
"แสดงคู่แน๊ท เจนจิราช่อง 3 เรื่อง..." สมบัติแทรก
"พี่บั้ด" ตั้มทำเสียงดุ สมบัติรีบหุบปากกลัวตั๊มจะไม่ยอมเขี่ยผงออกจากตาให้
"เรื่องสับรางรักครับ หนังโรแมนติกคอมมิดี้ ต้นเดือนหน้าก็ออนแอร์แล้ว อย่าลืมดูนะครับทุกคน" ตั้มยิ้มกว้าง อวดลักยิ้มน่ารัก
"ไม่ลืมหรอก พี่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทุกวัน" พจนีย์รีบตอบ
"ส่วนพี่จะไปนั่งเฝ้าที่กองถ่ายทุกวันเหมือนกัน" สมบัติแทรก
ทั้งหมดหัวเราะกันสนุกสนาน ไม่ทันสังเกตว่าดลชัย ผู้จัดการนักร้องหนุ่มชื่อดังเดินมายืนอยู่ใกล้ๆ
"คุณพจน์ครับ ดลมีเรื่องจะคุยด้วย" ดลชัยเอ่ยเสียงเสียงหวาน "อ้าวนุ สวัสดีครับ พี่ไม่ทันเห็น"
อนุภาพลุกขึ้นยืน ยิ้มกว้างให้ผู้จัดการหนุ่มรุ่นพี่
"คือว่าแบ๊งค์ต้องเข้ากรุงเทพฯ พรุ่งนี้บ่าย เรารีบถ่ายให้เสร็จเช้าพรุ่งนี้เลยได้ไม๊ครับ เช้าวันมะรืนจะให้รีบตามไปที่ภูเก็ต"
"แต่แบ๊งค์ให้คิวเราสี่วันติดต่อกันแล้วนี่" อนุภาพประท้วงเสียงเรียบ
"พอดีมีงานด่วน แบ๊งค์เขาไปตกลงอะไรก็ไม่ได้บอกพี่ มันมีปัญหาเรื่องตารางหน่อยนึง"
"อ้าวพี่เป็นผู้จัดการเขาไม่ใช่หรือ ให้เด็กพี่รับงานเองได้ไง" พจนีย์โวย
อนุภาพแทรกว่า "เราไปสุราษฏร์พรุ่งนี้ กว่าจะเตรียมกองเสร็จก็สาย ยังไงเที่ยงก็ถ่ายทำไม่เสร็จหรอกครับ"
"แหมเร่งให้พี่หน่อยนึง แบ๊งค์เขาก็เกรงใจนุกับผู้กำกับเหมือนกัน แต่เขาบอกว่าจำเป็นต้องไป เขาสัญญาว่าจะเพิ่มคิวให้อีกวันด้วยซ้ำ"
"พี่ดล เราต้องทำงานกันขาดๆ เกินๆ นะ นี่ได้คิวแบ๊งค์มาสี่วัน แล้วหยุดไปสองวัน แล้วแบ๊งค์ถึงจะมาให้เราอีกสามวัน เราก็ยอมแล้วนะ แต่ตอนนี้มาชะงักไปตั้งแต่วันแรก ตารางของเรายุ่งหมดเลยนะครับพี่"
อธิคมลุกขื้นยืน อยากช่วยคุยแต่เขาเป็นคนนอกไม่รู้เรื่องอะไร จึงขยับตัวออกมาข้างนอก ไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ใต้ร่มอีกคันหนึ่งที่ปักไว้ไม่ไกล
เสียงของอนุภาพกับผู้จัดการของนักร้องหนุ่มยังต่อรองกันอยู่ ท่าทางจะตกลงกันไม่ได้ง่ายๆ ตารางงานของนักร้องหนุ่มชื่อดังคงจะแน่นเอี๊ยด ไม่เช่นนั้นคงไม่ให้ผู้จัดการมาต่อรองกับกองถ่ายตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำ
ท้องฟ้าสีครามสดใสเหลือเกิน น้ำทะเลก็น่าเล่น เขาอยากชวนอนุภาพลงไปลอยคลอในทะเลให้สดชื่น ลาพักร้อนมาง้องอนชายหนุ่มครั้งนี้ไม่เสียเที่ยว เขาได้รับความสุขที่เฝ้าโหยหามานานหลายเดือนนับตั้งแต่ได้รู้จักกับชายหนุ่ม...อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองให้ยาวนานขึ้นในบรรยากาศสดชื่นเช่นนี้
"พี่คม" เสียงเรียกเบาๆ จากข้างหลังนายตำรวจหนุ่มหันไปมองต้นเสียง
"แบ๊งค์" นิตินัยยืนอยู่ไม่ห่าง ยิ้มกว้าง แว่นกันแดดสีชากรอบโตเสริมใบหน้าคมสันให้ดูเข้มขึ้น
เขากับแบ๊งค์เคยมีอะไรกันเมื่อต้นปีที่แล้วตอนที่ชายหนุ่มเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ เวลาเพียงปีเดียวชายหนุ่มโด่งดังจนฉุดไม่อยู่ ด้วยรูปร่างหน้าตาประกอบกับพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงทำให้ชายหนุ่มประสบความสำเร็จกลายมาเป็นนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงในไม่ช้า
"พี่คมมาทำอะไรที่นี้ แบ๊งค์ไม่นึกว่าจะเจอ ดีใจจังเลย...คิดถึงมากเลยรู้ไม๊"
"เอ่อ...พี่มากับ..." อธิคมกำลังจะพูดว่าแฟน...แต่ยั้งเอาไว้ทัน เขาไม่แน่ใจว่าอนุภาพจะชอบใจหรือไม่ที่เขาจะแสดงตัว จึงพูดเลี่ยงๆ "เพื่อนครับ...หนึ่งในทีมงาน...พี่ก็เลยถือโอกาสมาเที่ยว"
"ดีจังเลยครับ แล้วพี่พักที่รีสอร์ทเดียวกันใช่ไม๊ งั้นคืนนี้แบ๊งค์ชวนพี่ไปดื่มด้วยกันนะ"
"เอ่อคือ พี่ยังไม่รู้เลยครับ ต้องรอถามเขาก่อน"
"ชวนเขาไปด้วยก็ได้ เพื่อนพี่ใครล่ะ" นิตินัยยิ้มร่าเริง ดีใจเป็นล้นพ้นที่พบกับนายตำรวจหนุ่มอีกครั้ง...ผู้ชายที่ประทับใจเขาไม่รู้ลืม จะเรียกว่าหลงรักก็ได้
ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้รู้จักกัน เขาได้เรียนรู้ว่าอธิคมไม่เคยคิดจริงจังอะไร เพียงแค่อยากสนุกชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น...ผู้ชายเจ้าชู้ ไม่ยอมหยุดอยู่กับใคร...รูปหล่ออารมณ์ดี อบอุ่น เซ็กซี่ มีเสน่ห์ร้ายกาจ บทรักเร่าร้อน เร้าใจจนเขาลืมไม่ลง
"คุณนุ" อธิคมเอ่ยเบาๆ
"อ้อพี่นุ อืมม งั้นเขาอาจจะไม่ไปกับเราก็ได้ พี่นุเขาไม่ชอบดื่มเหล้าหรืออยู่ดึก...งั้นเราไปสองคน พี่คมเป็นเพื่อนแบ๊ค์ท่องราตรีเมืองกระบี่นะครับ นะ นะ คิดถึงมาก อยากรำลึกถึงความหลัง" นิตินัยใจกล้า เปิดเผยความรู้สึก
"ไม่กลัวใครเห็นหรือ" อธิคมท้วง นักร้องดังควงผู้ชายออกไปเที่ยว คงน่าดูนักล่ะ อีกอย่างเขาไม่อยากตกเป็นข่าว ดังไปทั่วประเทศ ที่สำคัญ...อนุภาพ
"ไม่กลัว แบ๊งค์มีวิธีปลอมตัว พี่คมไม่รู้ว่าแบ๊งค์เก่งขนาดไหน เรื่องแค่นี้สบายมาก ยิ่งอยู่ไกลกรุงเทพฯ ขนาดนี้ยิ่งไม่ต้องห่วง"
บทสนทนาชะงักเพราะคนสามคนเดินเข้ามาใกล้ ดลชัย อนุภาพ พจนีย์ยังต่อรองกันอยู่
"คุณนุ ถามแบ๊งค์ดูเอาแล้วกัน พี่ก็หมดปัญญาจะอธิบายแล้ว" ดลชัยเสียงสะบัด
สองหนุ่มหันไปมองอนุภาพ ซึ่งกำลังมองอยู่ใบหน้าเรียบนิ่ง อนุภาพแปลกใจที่เห็นอธิคมกำลังนั่งคุยอยู่กับนิตินัยนักร้องชื่อดังเหมือนคนรู้จักกัน
"คุณแบ๊งค์ พี่ดลบอกว่าคุณแบ๊งค์ขอกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้บ่าย แล้วจะตามเราไปภูเก็ตเช้าวันมะรืน"
"คือเอ่อ แบ้งค์มีงานด่วนครับ ก็เลยอยากจะขอ..."
"งานผมสะดุดนะครับ เราไม่มีเวลามากคุณแบ๊งค์ก็รู้ ตกลงกันไว้ก็น่าจะให้เป็นตามข้อตกลง"
"พี่ดลยังไม่ได้อธิบายให้ฟังหรือครับ" นิตินัยปรายตาไปมองผู้จัดการส่วนตัว "คือแบ๊งค์ก็อยากทำงานนี่ให้ได้ตามตารางนะ แต่ว่าพอดีมันมีแบบนี้ขึ้นมา แบ๊งค์ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แต่แบ๊งค์จะให้พี่เพิ่มอีกหนึ่งวันเลยก็ได้"
อนุภาพถอนหายใจ เพราะรู้ว่าคงจะต้องคุยกันอีกนาน เสียเวลา เสียอารมณ์ เพราะนิตินัยคงพูดสิ่งเดียวกันกับที่ดลชัยพูด
"เอาไว้คุยกันเย็นนี้ตอนทานข้าวเย็นดีกว่า ทีมงานเขาเหนื่อยกันมากแล้ว เรากลับรีสอร์ทกันก่อนเถอะครับ" อนุภาพตัดบท มองอธิคม หันหลังกำลังจะเดินกลับแต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงนักร้องหนุ่ม
"นะครับ พี่คม ตกลงนะ"
อธิคมพะอืดพะอม...กลัวอนุภาพจะเข้าใจผิด
...เพิ่งง้อได้สำเร็จ นิตินัยจะมาทำให้เสียเรื่องอะไรตอนนี้...
"ขอพี่ถามเขาดูก่อนนะครับ" หันไปมองอนุภาพหวาดๆ เพราะตอนนี้ชายหนุ่มปรายตาหันมามองเขาแว่บหนึ่งแล้วเดินกลับไปสมทบกับกลุ่มของสมบัติ นายตำรวจหนุ่มรีบเร่งเท้าก้าวยาวๆ ไปถึงตัวชายหนุ่มหน้าเคร่ง
"คุณนุ รอด้วยสิ"
"รู้จักแบ๊งค์ นิตินัยด้วยเหรอ" อนุภาพถามเสียงเรียบ
สารวัตรหนุ่มยังไม่ทันได้ตอบ ทั้งสองก็ถึงกลุ่มของทีมงานที่เสียงดังระเบ็งเซ็งแซ่เพราะกำลังตกลงกันว่าจะทำอะไรกันดีในเวลาที่เหลืออยู่ก่อนถึงเวลาทานอาหารเย็น เวลาส่วนตัวของอธิคมกับอนุภาพจึงหมดไป
"ไปเช่ารถมอเตอร์ไซด์ขับเที่ยวกันดีกว่า"
"ไม่เอา ไปพายเรือคะยัก" โต้ง ช่างภาพหนุ่มเสียงดังกลบคนอื่น เสียงผู้หญิงร้องไม่เห็นด้วย บอกว่าไปเดินซื้อของดีกว่า
"ไปสปา...นวดซะหน่อยเผื่อได้นาบ" เสียงอธิปดังขึ้น ทั้งหมดจึงหัวเราะครื้นเครง
อนุภาพยืนนิ่งเงียบ ฟังเสียงนกกระจอกแตกรังถกเถียงกัน สลับกับหันมามองอธิคมที่ยืนทำตาเจ้าชู้อยู่ใกล้ๆ ในที่สุดก็ถึงบทสรุปเมื่อสมบัติร้องกรี๊ดออกมาดังๆ
"ไปโรงแรมก่อน เอาของไปเก็บ แล้วไปหาอะไรเย็นๆ ดื่มในเมือง มื้อนี้เรามีเจ้ามือเลี้ยง" สมบัติปรายตามาทางผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ตัวโตที่ยืนอยู่ข้างๆ
"พี่บั๊ด" อนุภาพดุเสียงเข้ม
"ยูเป็นเจ้าของเงินเหรอ" สมบัติหันมาทำตาเขียวใส่อนุภาพ แล้วหันไปพูดกับคนอื่นๆ "แล้วเราก็ไปช๊อปปิ้ง แต่จ่ายเองนะ ไม่มีเจ้ามือ เสร็จแล้วกลับมาโรงแรม ไปเดินชายหาดกัน ใครจะเล่นน้ำหรือทำอะไรก็ค่อยทำ"
อธิคมหัวเราะขัน พึมพำเบาๆ ว่า "จะเป็นแฟนคุณนุนี่แพงจริงๆ"
"ใครบอกว่าจะเป็นแฟน" อนุภาพพูดเสียงเรียบ พอให้ได้ยินกันสองคน
อธิคมเลิกคิ้ว ยักไหล่ข้างเดียว แล้วพูดว่า "ผมบอก ผมจะเป็น คุณนุหนีผมไม่พ้นหรอก ยอมผมเสียเถอะ...โอ๊ย..." นายตำรวจหนุ่มร้องเบาๆ เมื่อโดนคนหน้านิ่งหยิกเข้าที่บั้นเอว
ระหว่างทางกลับรีสอร์ท อนุภาพนั่งนิ่งเงียบ เหมือนกำลังครุ่นคิด อธิคมเบียดตัวเข้ามาใกล้ กระซิบค่อยๆ เพราะเกรงว่าคนในรถตู้จะได้ยิน
"คุณนุ เราไปว่ายน้ำกันนะครับ"
อนุภาพส่ายหน้า
"น่านะ...ผมอยากลงทะเลให้ชื่นใจ" นายตำรวจหนุ่มยักคิ้ว
"ที่ลงไปเมื่อเย็นวานยังไม่พออยู่อีกหรือ"
"เมื่อวานลงไปถูกแกล้ง แต่วันนี้ลงไปจู๋จี๋กัน" อธิคมทำตาเจ้าชู้
"ไปลงกับคนอื่น"
"หึงเหรอ" อธิคมอมยิ้มก่อนจะร้องเบาๆ "โอ๊ย"
อนุภาพเอาศอกกระทุ้งสีข้างของเขาค่อนข้างแรง ฉุนคนเสน่ห์แรง มาไกลถึงกระบี่ยังมีคนชอบ
"เขามาคุยกับผมเองนะ ผมนั่งของผมอยู่เฉยๆ" สารวัตรหนุ่มกระซิบเสียงเบา แล้วรีบขยับตัวเพราะอนุภาพขยับแขนอีกครั้ง
"ชอบเล่นเจ็บๆ ระวังคืนนี้เจอดี"
แล้วนายตำรวจหนุ่มก็ต้องร้อง "โอ๊ย" อีกครั้ง
สมบัติและตั้มหันกลับมามอง 'คู่กัด' ที่นั่งอยู่เบาะหลังสุด เพื่อนรุ่นพี่กรอกตาไปมาแล้วหันกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มๆ ก่อนจะวางมือแหมะบนเป้าของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง แล้วบีบเบาๆ
"อู๊ยส์" ตั้มร้อง
พจนีย์ที่นั่งอยู่แถวหน้าข้างๆ อธิปและผู้กำกับหันมามองหน้างงๆ สายตาเหมือนมีคำถามว่า "อะไรกัน?"
อนุภาพมองออกไปนอกรถ เพลิดเพลินกับทัศนียภาพสองข้างทางที่สวยงามยิ่งนัก อธิคมยังไม่เข็ด กลับนั่งเบียดเขามากกว่าเดิม สองร่างแนบชิดกันตั้งแต่ไหล่เรื่อยมาถึงสะโพก ต้นขา หัวเข่า น่อง จนถึงปลายเท้า ไออุ่นแผ่ซ่านถ่ายเทมาจากร่างกายแข็งแกร่งของผู้ที่พยายามยื่นมือมาเกาะกุมมือเขาไว้
"ผู้กอง จะมาจับมือไว้ทำไม" อนุภาพขมวดคิ้ว ปรายตามองผู้ชายหน้าเข้มที่ยังกวนไม่หยุด
“ก็ผมกลัวถูกถองอีก ศอกแหลมจริงๆ” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู
“ถ้าไม่อยากโดนอีกก็สงบปากสงบคำสิครับ”
“ฮื่อ...ได้ครับท่านผู้กำกับ”
“ถ้าเป็นผู้กำกับจะย้ายตำรวจเจ้าชู้ไปเป็นจราจรโบกรถกลางสี่แยกปากซอยหน้าบ้าน จะได้ไม่มีรถชนกัน”
“เขามีไฟแดงแล้วนา...มีตัวเลขนับถอยหลังด้วย....อูย...” อธิคมครางเบาๆ เพระถูกหยิกเข้าที่ต้นแขน
“คุณนุซาดิสม์...เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวเย็นนี้จัดให้...โอ๊ย..."
ขณะที่รถตู้คันนั้นกำลังบ่ายหน้ากลับโรงแรมที่พัก มีเสียงห้าวๆ ร้องดังขึ้นเป็นระยะๆ เพราะนายตำรวจหนุ่มจอมกวนไม่ยอมหยุดยั่วเย้า...
อนุภาพรู้ดีว่านายตำรวจหนุ่มเลิกเจ้าชู้แล้ว แต่อดหึงหวงไม่ได้ เพราะอดีตเก่าของอธิคมมีมากมายเหลือเกิน ไม่รู้ว่าวันไหนจะมีโผล่ขึ้นมาอีก อัสนัยผ่านไปแล้ว คราวนี้มีแบ๊งค์ นิตินัย และอาจจะยังคงมีใครต่อใครอีกที่เขายังไม่รู้
ชายหนุ่มบอกตัวเองว่าเขาต้องมั่นคง เวลาจะพิสูจน์ใจของคนที่บอกว่ารักเขา อดีตที่ผ่านมามีทั้งดีและไม่ดี น่าลืมและน่าจดจำ ปัจจุบันต่างหากที่เราต้องทำให้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันก็คืออดีตของอนาคตนั่นเอง
หากวันนี้ได้ทำดีที่สุดแล้ว เมื่ออนาคตมาถึง เราก็มองย้อนกลับมาได้ว่า อดีตของเรานั้น...ช่างสวยงามยิ่งนัก
เวลานี้ของอนุภาพมีปัจจุบันที่เขากำลังร่วมกันสร้างกับอธิคม...ผู้ชายคนเดียวที่อยู่ในหัวใจของเขา และเขาก็มั่นใจแล้วว่า ในหัวใจของผู้ชายตัวโตคนนี้ก็มีเขาเพียงคนเดียวเช่นกัน
......
“โอ๊ย...คุณนุอ่ะ...อีกแล้ว...” อธิคมครางเสียงอ่อย
“สารวัตรก็เลิกยั่วซะทีสิครับ” อีกฝ่ายพูดเสียงระอาใจ
รถจอดหน้าโรงแรม อธิคมร้องเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะกระหยิ่มยิ้มย่องว่า อีกไม่นานหรอก...คนที่จะร้องคืออนุภาพ...
...เอ...หรือว่าจะร้องประสานกัน?...
******************************** ภาคหนึ่งก็มีด้วยประการฉะนี้แล ***************************
ต่อไปเป็นตอนพิเศษสามตอนที่เ็ป็นภาคผนวกของเรื่องครับ
ถ้ารวมเล่มก็เมตตาซื้อหน่อยนะครับ พิมพ์ด้วยทุนตัวเอง ขายที่ไหนเดี๋ยวมาประกาศ คงขายออนไลน์ล่ะ ร้านหนังสือทั่วไปไม่รู้จะยอมวางหรือเปล่า (งก อ่ะครับ ไม่อยากถูกหักเปอร์เซ็นต์ พูดตรงๆ แบบนี้ล่ะ ผมมันคนซื่อ)