นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 844199 ครั้ง)

kororo

  • บุคคลทั่วไป
เอ้า ... กั๊กกันเข้าไป ช่างมัน ไม่ต้องลงก็ได้ แต่เวลารวมเล่ม รวมให้หมดนะ ทั้งภาค 1 ภาค 2 และภาคพิเศษ แล้วบอกด้วยว่าจะเป็นเมื่อไหร่ จะตามไปซื้อเก็บไว้อ่าน  :angry2:

^ - ^A s A v I n * o *

  • บุคคลทั่วไป
ลงเถอะนะครับบบบ ตอนจบนะ

อยากอ่านไม่ไหวแล้วววววว ลงเถอะนะ แหะๆ

สนุกมากมาย อิอิ

พี่นุของผมเสียทีซะแล้ว เหอะๆ  :call:

ออฟไลน์ flyingploy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ฮือ ตอนจบอยู่หนายยยยยยยยยยยยย  หนุกหนานมากเลยเรื่องนี้

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
^
^

ได้เจาะไข่ด้วย

กรี๊ดดดดดดด

ตี๋อาทิตย์  แสบบบบบบบบบ

มารอตอนจบด้วยค่ะ


ออฟไลน์ Namehoto

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +696/-9
รับผิดชอบต่อความรู้สึกของคนอ่านและแฟนๆ หน่อยเถอะค่ะ

ถึงจะรวมเล่มอะไรก็เถอะ ก็ควรจะลงให้จบ ครบทุกตอน

ถ้าเรื่องคุณดีจริง แฟนๆ รักจริง เขาก็ยอมเสียเงินซื้อแบบรวมเล่มมาเก็บไว้อยู่แล้ว

อย่าทำเหมือนไม่ใส่ใจความรู้สึกคนอ่านแบบนี้

จะทำเพื่อเรทติ้ง ให้คนอยากอ่านอะไรก็เถอะค่ะ แต่เมื่อเรื่องมันมีมาสี่สิบกว่าตอน อยู่ๆ มาตัดเพราะเหตุผลที่ว่า เพื่อประโยชน์ทางการค้า

เสียศรัทธาค่ะ

จะกี่ตอน ก็ลงให้ครบ ให้สมกับเป็นนักเขียนดีกว่าไหมคะ

ขอโทษที่พูดตรงๆ ค่ะ ฝากไว้เป็นอีกความเห็นนึงก็แล้วกันนะคะ

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
จาอ่านอ่ะครับ  อิอิอ

มามะ จุ๊บๆ คนเีขียน เอามาลงเถอะนะครับ ขอร้อง

ออฟไลน์ sasi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :o11:
เอ่อ ถามไรอย่างดิ่คับ
เวลารวมเล่มแล้วเนี่ย ขายที่ไหนอ่า อยากอ่านมากมาย แต่ไม่รู้แหล่งซื้ออ่ะคับ
แล้วก็นิยายเรื่องอื่นๆ ด้วยที่รวมเล่มแล้วอ่ะ ขายที่ไหนคับ
อยากอ่านนิยาย Y มากๆ :monkeysad:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 46 ครับ ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาอ่านนะครับ
อย่าลืมกันนะ  :call:
บทที่ 46

พจนีย์ยืนกระสับกระส่ายอยู่ที่ลอบบี้โรงแรม มองซ้ายมองขวาไม่เห็นอนุภาพเสียที
"พี่บั๊ด เดี๋ยวหนูโทรไปตามพี่นุก่อนนะ ป่านนี้ยังไม่เห็นมาเลย สิบโมงกว่าแล้ว"
"ไม่ต้องหรอก ปล่อยให้เขานอน" สมบัติปราม หยิบกระเป๋าผ้าขึ้นสะพาย กวักมือเรียกตั้มแฟนหนุ่มรุ่นน้องที่เพิ่งเดินทางมาถึงเมื่อคืนที่ผ่านมา ชายหนุ่มกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เงียบๆ อยู่บนโซฟาใกล้กับแจกันดอกไม้ที่จัดตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
"นี่จะสิบเอ็ดโมงแล้วนะ ปรกติพี่นุไม่เคยตื่นสาย เราจะได้ไปกันเสียที ป่านนี้เขาถ่ายกันไปแล้ว"
"ยังหรอก แบ๊งค์เพิ่งตื่น คงบ่ายล่ะกว่าจะได้เริ่มถ่าย แล้วหล่อนก็ไม่ต้องไปปลุกนุ เขาไม่อยากให้รบกวน"
"พี่รู้ได้ไง" พจนีย์ทำหน้าสงสัย
"รู้สิ...คนไม่ได้นอนคนเดียวจะให้รีบตื่นขึ้นมาทำไม"
"แล้วเขานอนกลับใคร ตอนเช็คอินเขาก็นอนคนเดียว"
สมบัติถอนหายใจ "นี่ยัยพจน์ เธอเลิกสงสัยซักหน่อยจะได้ไม๊ ใครเขาจะเช็คอินห้องเดี่ยวแล้วนอนคนเดียวอย่างหล่อนล่ะย่ะ..."
พจนย์เริ่มเข้าใจ พยักหน้าหงึกหงัก
"อ้อ...ที่เลือกห้องเดี่ยวกันก็เพราะอย่างนี้นี่เอง รู้อย่างนี้หนูชวนรชานนท์มาด้วยก็ดี"
"ทะลึ่ง..." สมบัติใช้นิ้วจิ้มขมับเพื่อนสาวรุ่นน้อง "อย่าไปรีบเสียตัวให้เขา เดี๋ยวโดนทิ้ง"
"สายไปซะแล้วล่ะพี่บั้ด" พจนีย์ยักไหล่แล้วรีบเดินนำหน้าไปยังรถที่จอดอยู่หน้ารีสอร์ท
สมบัติตาโต ไม่คิดว่าพจนีย์จะไวไฟขนาดนี้ รีบขว้าแขนตั้มเดินตาม...ต้องถามรายละเอียดให้รู้เรื่อง

------------------
อากาศริมทะเลตอนบ่ายร้อนจนแสบผิว...แต่นักแสดงและทีมงานทุกคนยังทำงานอย่างขะมักเขม้น แบ๊งค์ นิตินัย พูดสโลแกนประโยคสุดท้ายของสินค้าที่กำลังถ่ายโฆษณา แล้วทำหน้าหล่อ ยิ้มกว้าง ก่อนจะกระโดดตัวลอยกางขาให้ช่างภาพจับภาพสุดท้าย
ผู้กำกับสั่งคัท ทีมงานทุกคนปรบมือชื่นชม...งานช่วงแรกเสร็จไปแล้วโดยไม่ใช่เวลามากนักเพราะนักร้องหนุ่มแสดงได้ไม่ขัดเขิน ไม่เหมือนใครคนหนึ่งในอดีตที่เล่นเอาผู้กำกับแทบจะลาออก
"อ้าวทุกคนเก็บของ...เย็นนี้คุณตฤณสั่งให้เลี้ยงอีกแล้ว พรุ่งนี้ไปตะเวนหมู่เกาะอ่างทองแต่เช้า...เย็นนี้ฟรีไทม์นะจ๊ะ ทางใครทางมัน" พจนีย์ตะโกน ก่อนหันหลังกลับเดินเข้ามาในร่มสีสดที่ปักอยู่ใกล้ๆ ต้นมะพร้าว มองไปเห็นสมบัตินั่งจู๋จี๋อยู่กับตั้มไม่สนใจใคร หญิงสาวนึกถึงรชานนท์ชายหนุ่มรุ่นน้องที่พบในงานวันเกิดของอาทิตย์ อดนึกไม่ได้ว่าอยากให้เขามาอยู่ด้วยที่นี้ในบรรยากาศริมทะเลสวยงามเช่นนี้

"พี่บั๊ด เย็นนี้ไปเที่ยวไหนดี" พจนีย์นั่งลงข้างๆ พลันเหลือบไปเห็นอนุภาพเดินมาแต่ไกลจึงรีบลุกขึ้นโบกมือเรียก "พี่นุ ทางนี้...ต๊ายตาย สารวัตรก็มาด้วย"
"ยัยพจน์ ทรายปลิวโว๊ย" สมบัติโวยวาย ตั้มรีบเอามือปัดป้องบังหน้าของสมบัติด้วยความเป็นห่วง
"เข้าตาพี่หมดแล้วตั้ม ช่วยดูให้หน่อยสิ แสบไปหมดแล้ว" สมบัติมารยา หนุ่มน้อยหัวเราะเบาๆ อย่างรู้ทัน...ตอนนี้โลกของทั้งสองเป็นสีชมพู อะไรๆ จึงสวยงามไปหมด
อนุภาพและอธิคมเดินเข้ามาถึง ยิ้มทักทายทุกคน...สองหนุ่มดูท่าทางสดชื่น
"สารวัตรมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ พจน์ไม่เห็นเลย"
"ตั้งแต่เย็นวานแล้วครับ"
"อ้าวตอนทานข้าวเย็นทำไมไม่เห็น แล้วนี่พักที่ไหนค่ะ ตอนนี้เขามีงานกัน โรงแรมเต็มจนป่องทุกที่" พจนีย์เสียงใส
"ยัยพจน์ โรงแรมไม่ได้ท้องนะ" สมบัติอดเหน็บแนมไม่ได้
"พี่บั๊ดอยู่เฉยๆ สิ อย่าขยับ" ตั้มปราม เพราะกำลังเขี่ยผงออกจากตาของหนุ่มใหญ่
"ก็พักใกล้ๆ นี่ล่ะครับ" อธิคมยิ้ม ปรายตาไปมองอนุภาพที่ทำท่าไม่สนใจ
"ยัยพจน์ ไม่ต้องไปห่วงสารวัตรหรอก เขามีที่พักสบาย นอนหลับอย่างมีความสุข ใช่ไม๊นุ" สมบัติล้อ
"เหรอค่ะ อ้อ...สารวัตร คืนนี้มาปาร์ตี้กับเรานะค่ะ คุณตฤณสั่งให้เลี้ยงทีมงาน มาดวลเหล้ากันอีก คราวนี้พจน์พนันฝ่ายสารวัตร"
"คงไม่ได้หรอกครับ ผมกำลังถูกทัณฑ์บน ห้ามดื่มเหล้า" อธิคมยิ้มกริ่ม คนหน้านิ่งข้างเขายังนั่งเงียบไม่พูดไม่จา
"แย่จัง...งั้นสารวัตรก็มาทานข้าวเฉยๆ ที่รีสอร์ทเรานะค่ะ รู้แล้วใช่ไม๊ว่าเราพักที่ไหน" พจนีย์ลอยหน้าลอยตา ชวนอธิคมคุย
"ยัยพจน์ เลิกเซ้าซี้สารวัตรได้แล้ว" สมบัติเริ่มจะทนพจนีย์ไม่ได้ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเอาเสียเลย
"พี่บั๊ด ผมจะไม่เขี่ยให้อีกแล้วล่ะ ไม่ยอมอยู่นิ่งๆ ซะที" ตั้มเริ่มงอน
"จ้าๆ พี่หยุดพูดแล้ว" สมบัติเสียงอ่อนเสียงหวาน ทุกคนอมยิ้ม
"แล้วตั้มมีงานใหม่อีกหรือเปล่า เมื่อไหร่จะได้ดูผลงานเรื่องใหม่" อนุภาพเอ่ยถามเพื่อนรุ่นน้อง
"ก็มี..."
"แสดงคู่แน๊ท เจนจิราช่อง 3 เรื่อง..." สมบัติแทรก
"พี่บั้ด" ตั้มทำเสียงดุ สมบัติรีบหุบปากกลัวตั๊มจะไม่ยอมเขี่ยผงออกจากตาให้
"เรื่องสับรางรักครับ หนังโรแมนติกคอมมิดี้ ต้นเดือนหน้าก็ออนแอร์แล้ว อย่าลืมดูนะครับทุกคน" ตั้มยิ้มกว้าง อวดลักยิ้มน่ารัก
"ไม่ลืมหรอก พี่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทุกวัน" พจนีย์รีบตอบ
"ส่วนพี่จะไปนั่งเฝ้าที่กองถ่ายทุกวันเหมือนกัน" สมบัติแทรก
ทั้งหมดหัวเราะกันสนุกสนาน ไม่ทันสังเกตว่าดลชัย ผู้จัดการนักร้องหนุ่มชื่อดังเดินมายืนอยู่ใกล้ๆ

"คุณพจน์ครับ ดลมีเรื่องจะคุยด้วย" ดลชัยเอ่ยเสียงเสียงหวาน "อ้าวนุ สวัสดีครับ พี่ไม่ทันเห็น"
อนุภาพลุกขึ้นยืน ยิ้มกว้างให้ผู้จัดการหนุ่มรุ่นพี่
"คือว่าแบ๊งค์ต้องเข้ากรุงเทพฯ พรุ่งนี้บ่าย เรารีบถ่ายให้เสร็จเช้าพรุ่งนี้เลยได้ไม๊ครับ เช้าวันมะรืนจะให้รีบตามไปที่ภูเก็ต"
"แต่แบ๊งค์ให้คิวเราสี่วันติดต่อกันแล้วนี่" อนุภาพประท้วงเสียงเรียบ
"พอดีมีงานด่วน แบ๊งค์เขาไปตกลงอะไรก็ไม่ได้บอกพี่ มันมีปัญหาเรื่องตารางหน่อยนึง"
"อ้าวพี่เป็นผู้จัดการเขาไม่ใช่หรือ ให้เด็กพี่รับงานเองได้ไง" พจนีย์โวย
อนุภาพแทรกว่า "เราไปสุราษฏร์พรุ่งนี้ กว่าจะเตรียมกองเสร็จก็สาย ยังไงเที่ยงก็ถ่ายทำไม่เสร็จหรอกครับ"
"แหมเร่งให้พี่หน่อยนึง แบ๊งค์เขาก็เกรงใจนุกับผู้กำกับเหมือนกัน แต่เขาบอกว่าจำเป็นต้องไป เขาสัญญาว่าจะเพิ่มคิวให้อีกวันด้วยซ้ำ"
"พี่ดล เราต้องทำงานกันขาดๆ เกินๆ นะ นี่ได้คิวแบ๊งค์มาสี่วัน แล้วหยุดไปสองวัน แล้วแบ๊งค์ถึงจะมาให้เราอีกสามวัน เราก็ยอมแล้วนะ แต่ตอนนี้มาชะงักไปตั้งแต่วันแรก ตารางของเรายุ่งหมดเลยนะครับพี่"

อธิคมลุกขื้นยืน อยากช่วยคุยแต่เขาเป็นคนนอกไม่รู้เรื่องอะไร จึงขยับตัวออกมาข้างนอก ไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ใต้ร่มอีกคันหนึ่งที่ปักไว้ไม่ไกล
เสียงของอนุภาพกับผู้จัดการของนักร้องหนุ่มยังต่อรองกันอยู่ ท่าทางจะตกลงกันไม่ได้ง่ายๆ ตารางงานของนักร้องหนุ่มชื่อดังคงจะแน่นเอี๊ยด ไม่เช่นนั้นคงไม่ให้ผู้จัดการมาต่อรองกับกองถ่ายตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำ
ท้องฟ้าสีครามสดใสเหลือเกิน น้ำทะเลก็น่าเล่น เขาอยากชวนอนุภาพลงไปลอยคลอในทะเลให้สดชื่น ลาพักร้อนมาง้องอนชายหนุ่มครั้งนี้ไม่เสียเที่ยว เขาได้รับความสุขที่เฝ้าโหยหามานานหลายเดือนนับตั้งแต่ได้รู้จักกับชายหนุ่ม...อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองให้ยาวนานขึ้นในบรรยากาศสดชื่นเช่นนี้
"พี่คม" เสียงเรียกเบาๆ จากข้างหลังนายตำรวจหนุ่มหันไปมองต้นเสียง
"แบ๊งค์" นิตินัยยืนอยู่ไม่ห่าง ยิ้มกว้าง แว่นกันแดดสีชากรอบโตเสริมใบหน้าคมสันให้ดูเข้มขึ้น
เขากับแบ๊งค์เคยมีอะไรกันเมื่อต้นปีที่แล้วตอนที่ชายหนุ่มเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ เวลาเพียงปีเดียวชายหนุ่มโด่งดังจนฉุดไม่อยู่ ด้วยรูปร่างหน้าตาประกอบกับพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงทำให้ชายหนุ่มประสบความสำเร็จกลายมาเป็นนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงในไม่ช้า
"พี่คมมาทำอะไรที่นี้ แบ๊งค์ไม่นึกว่าจะเจอ ดีใจจังเลย...คิดถึงมากเลยรู้ไม๊"
"เอ่อ...พี่มากับ..." อธิคมกำลังจะพูดว่าแฟน...แต่ยั้งเอาไว้ทัน เขาไม่แน่ใจว่าอนุภาพจะชอบใจหรือไม่ที่เขาจะแสดงตัว จึงพูดเลี่ยงๆ "เพื่อนครับ...หนึ่งในทีมงาน...พี่ก็เลยถือโอกาสมาเที่ยว"
"ดีจังเลยครับ แล้วพี่พักที่รีสอร์ทเดียวกันใช่ไม๊ งั้นคืนนี้แบ๊งค์ชวนพี่ไปดื่มด้วยกันนะ"
"เอ่อคือ พี่ยังไม่รู้เลยครับ ต้องรอถามเขาก่อน"
"ชวนเขาไปด้วยก็ได้ เพื่อนพี่ใครล่ะ" นิตินัยยิ้มร่าเริง ดีใจเป็นล้นพ้นที่พบกับนายตำรวจหนุ่มอีกครั้ง...ผู้ชายที่ประทับใจเขาไม่รู้ลืม จะเรียกว่าหลงรักก็ได้
ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้รู้จักกัน เขาได้เรียนรู้ว่าอธิคมไม่เคยคิดจริงจังอะไร เพียงแค่อยากสนุกชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น...ผู้ชายเจ้าชู้ ไม่ยอมหยุดอยู่กับใคร...รูปหล่ออารมณ์ดี อบอุ่น เซ็กซี่ มีเสน่ห์ร้ายกาจ บทรักเร่าร้อน เร้าใจจนเขาลืมไม่ลง
"คุณนุ" อธิคมเอ่ยเบาๆ
"อ้อพี่นุ อืมม งั้นเขาอาจจะไม่ไปกับเราก็ได้ พี่นุเขาไม่ชอบดื่มเหล้าหรืออยู่ดึก...งั้นเราไปสองคน พี่คมเป็นเพื่อนแบ๊ค์ท่องราตรีเมืองกระบี่นะครับ นะ นะ คิดถึงมาก อยากรำลึกถึงความหลัง" นิตินัยใจกล้า เปิดเผยความรู้สึก
"ไม่กลัวใครเห็นหรือ" อธิคมท้วง นักร้องดังควงผู้ชายออกไปเที่ยว คงน่าดูนักล่ะ อีกอย่างเขาไม่อยากตกเป็นข่าว ดังไปทั่วประเทศ ที่สำคัญ...อนุภาพ
"ไม่กลัว แบ๊งค์มีวิธีปลอมตัว พี่คมไม่รู้ว่าแบ๊งค์เก่งขนาดไหน เรื่องแค่นี้สบายมาก ยิ่งอยู่ไกลกรุงเทพฯ ขนาดนี้ยิ่งไม่ต้องห่วง"

บทสนทนาชะงักเพราะคนสามคนเดินเข้ามาใกล้ ดลชัย อนุภาพ พจนีย์ยังต่อรองกันอยู่
"คุณนุ ถามแบ๊งค์ดูเอาแล้วกัน พี่ก็หมดปัญญาจะอธิบายแล้ว" ดลชัยเสียงสะบัด
สองหนุ่มหันไปมองอนุภาพ ซึ่งกำลังมองอยู่ใบหน้าเรียบนิ่ง อนุภาพแปลกใจที่เห็นอธิคมกำลังนั่งคุยอยู่กับนิตินัยนักร้องชื่อดังเหมือนคนรู้จักกัน
"คุณแบ๊งค์ พี่ดลบอกว่าคุณแบ๊งค์ขอกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้บ่าย แล้วจะตามเราไปภูเก็ตเช้าวันมะรืน"
"คือเอ่อ แบ้งค์มีงานด่วนครับ ก็เลยอยากจะขอ..."
"งานผมสะดุดนะครับ เราไม่มีเวลามากคุณแบ๊งค์ก็รู้ ตกลงกันไว้ก็น่าจะให้เป็นตามข้อตกลง"
"พี่ดลยังไม่ได้อธิบายให้ฟังหรือครับ" นิตินัยปรายตาไปมองผู้จัดการส่วนตัว "คือแบ๊งค์ก็อยากทำงานนี่ให้ได้ตามตารางนะ แต่ว่าพอดีมันมีแบบนี้ขึ้นมา แบ๊งค์ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แต่แบ๊งค์จะให้พี่เพิ่มอีกหนึ่งวันเลยก็ได้"
อนุภาพถอนหายใจ เพราะรู้ว่าคงจะต้องคุยกันอีกนาน เสียเวลา เสียอารมณ์ เพราะนิตินัยคงพูดสิ่งเดียวกันกับที่ดลชัยพูด
"เอาไว้คุยกันเย็นนี้ตอนทานข้าวเย็นดีกว่า ทีมงานเขาเหนื่อยกันมากแล้ว เรากลับรีสอร์ทกันก่อนเถอะครับ" อนุภาพตัดบท มองอธิคม หันหลังกำลังจะเดินกลับแต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงนักร้องหนุ่ม
"นะครับ พี่คม ตกลงนะ"
อธิคมพะอืดพะอม...กลัวอนุภาพจะเข้าใจผิด
...เพิ่งง้อได้สำเร็จ นิตินัยจะมาทำให้เสียเรื่องอะไรตอนนี้...
"ขอพี่ถามเขาดูก่อนนะครับ" หันไปมองอนุภาพหวาดๆ เพราะตอนนี้ชายหนุ่มปรายตาหันมามองเขาแว่บหนึ่งแล้วเดินกลับไปสมทบกับกลุ่มของสมบัติ นายตำรวจหนุ่มรีบเร่งเท้าก้าวยาวๆ ไปถึงตัวชายหนุ่มหน้าเคร่ง
"คุณนุ รอด้วยสิ"
"รู้จักแบ๊งค์ นิตินัยด้วยเหรอ" อนุภาพถามเสียงเรียบ
สารวัตรหนุ่มยังไม่ทันได้ตอบ ทั้งสองก็ถึงกลุ่มของทีมงานที่เสียงดังระเบ็งเซ็งแซ่เพราะกำลังตกลงกันว่าจะทำอะไรกันดีในเวลาที่เหลืออยู่ก่อนถึงเวลาทานอาหารเย็น เวลาส่วนตัวของอธิคมกับอนุภาพจึงหมดไป
"ไปเช่ารถมอเตอร์ไซด์ขับเที่ยวกันดีกว่า"
"ไม่เอา ไปพายเรือคะยัก" โต้ง ช่างภาพหนุ่มเสียงดังกลบคนอื่น เสียงผู้หญิงร้องไม่เห็นด้วย บอกว่าไปเดินซื้อของดีกว่า
"ไปสปา...นวดซะหน่อยเผื่อได้นาบ" เสียงอธิปดังขึ้น ทั้งหมดจึงหัวเราะครื้นเครง
อนุภาพยืนนิ่งเงียบ ฟังเสียงนกกระจอกแตกรังถกเถียงกัน สลับกับหันมามองอธิคมที่ยืนทำตาเจ้าชู้อยู่ใกล้ๆ ในที่สุดก็ถึงบทสรุปเมื่อสมบัติร้องกรี๊ดออกมาดังๆ
"ไปโรงแรมก่อน เอาของไปเก็บ แล้วไปหาอะไรเย็นๆ ดื่มในเมือง มื้อนี้เรามีเจ้ามือเลี้ยง" สมบัติปรายตามาทางผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ตัวโตที่ยืนอยู่ข้างๆ
"พี่บั๊ด" อนุภาพดุเสียงเข้ม
"ยูเป็นเจ้าของเงินเหรอ" สมบัติหันมาทำตาเขียวใส่อนุภาพ แล้วหันไปพูดกับคนอื่นๆ "แล้วเราก็ไปช๊อปปิ้ง แต่จ่ายเองนะ ไม่มีเจ้ามือ เสร็จแล้วกลับมาโรงแรม ไปเดินชายหาดกัน ใครจะเล่นน้ำหรือทำอะไรก็ค่อยทำ"
อธิคมหัวเราะขัน พึมพำเบาๆ ว่า "จะเป็นแฟนคุณนุนี่แพงจริงๆ"
"ใครบอกว่าจะเป็นแฟน" อนุภาพพูดเสียงเรียบ พอให้ได้ยินกันสองคน
อธิคมเลิกคิ้ว ยักไหล่ข้างเดียว แล้วพูดว่า "ผมบอก ผมจะเป็น คุณนุหนีผมไม่พ้นหรอก ยอมผมเสียเถอะ...โอ๊ย..." นายตำรวจหนุ่มร้องเบาๆ เมื่อโดนคนหน้านิ่งหยิกเข้าที่บั้นเอว

ระหว่างทางกลับรีสอร์ท อนุภาพนั่งนิ่งเงียบ เหมือนกำลังครุ่นคิด อธิคมเบียดตัวเข้ามาใกล้ กระซิบค่อยๆ เพราะเกรงว่าคนในรถตู้จะได้ยิน
"คุณนุ เราไปว่ายน้ำกันนะครับ"
อนุภาพส่ายหน้า
"น่านะ...ผมอยากลงทะเลให้ชื่นใจ" นายตำรวจหนุ่มยักคิ้ว
"ที่ลงไปเมื่อเย็นวานยังไม่พออยู่อีกหรือ"
"เมื่อวานลงไปถูกแกล้ง แต่วันนี้ลงไปจู๋จี๋กัน" อธิคมทำตาเจ้าชู้
"ไปลงกับคนอื่น"
"หึงเหรอ" อธิคมอมยิ้มก่อนจะร้องเบาๆ "โอ๊ย"
อนุภาพเอาศอกกระทุ้งสีข้างของเขาค่อนข้างแรง ฉุนคนเสน่ห์แรง มาไกลถึงกระบี่ยังมีคนชอบ
"เขามาคุยกับผมเองนะ ผมนั่งของผมอยู่เฉยๆ" สารวัตรหนุ่มกระซิบเสียงเบา แล้วรีบขยับตัวเพราะอนุภาพขยับแขนอีกครั้ง
"ชอบเล่นเจ็บๆ ระวังคืนนี้เจอดี"
แล้วนายตำรวจหนุ่มก็ต้องร้อง "โอ๊ย" อีกครั้ง
สมบัติและตั้มหันกลับมามอง 'คู่กัด' ที่นั่งอยู่เบาะหลังสุด เพื่อนรุ่นพี่กรอกตาไปมาแล้วหันกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มๆ ก่อนจะวางมือแหมะบนเป้าของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง แล้วบีบเบาๆ
"อู๊ยส์" ตั้มร้อง
พจนีย์ที่นั่งอยู่แถวหน้าข้างๆ อธิปและผู้กำกับหันมามองหน้างงๆ สายตาเหมือนมีคำถามว่า "อะไรกัน?"

อนุภาพมองออกไปนอกรถ เพลิดเพลินกับทัศนียภาพสองข้างทางที่สวยงามยิ่งนัก อธิคมยังไม่เข็ด กลับนั่งเบียดเขามากกว่าเดิม สองร่างแนบชิดกันตั้งแต่ไหล่เรื่อยมาถึงสะโพก ต้นขา หัวเข่า น่อง จนถึงปลายเท้า ไออุ่นแผ่ซ่านถ่ายเทมาจากร่างกายแข็งแกร่งของผู้ที่พยายามยื่นมือมาเกาะกุมมือเขาไว้
"ผู้กอง จะมาจับมือไว้ทำไม" อนุภาพขมวดคิ้ว ปรายตามองผู้ชายหน้าเข้มที่ยังกวนไม่หยุด
“ก็ผมกลัวถูกถองอีก ศอกแหลมจริงๆ” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู
“ถ้าไม่อยากโดนอีกก็สงบปากสงบคำสิครับ”
“ฮื่อ...ได้ครับท่านผู้กำกับ”
“ถ้าเป็นผู้กำกับจะย้ายตำรวจเจ้าชู้ไปเป็นจราจรโบกรถกลางสี่แยกปากซอยหน้าบ้าน จะได้ไม่มีรถชนกัน”
“เขามีไฟแดงแล้วนา...มีตัวเลขนับถอยหลังด้วย....อูย...” อธิคมครางเบาๆ เพระถูกหยิกเข้าที่ต้นแขน
“คุณนุซาดิสม์...เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวเย็นนี้จัดให้...โอ๊ย..."

ขณะที่รถตู้คันนั้นกำลังบ่ายหน้ากลับโรงแรมที่พัก มีเสียงห้าวๆ ร้องดังขึ้นเป็นระยะๆ เพราะนายตำรวจหนุ่มจอมกวนไม่ยอมหยุดยั่วเย้า...
อนุภาพรู้ดีว่านายตำรวจหนุ่มเลิกเจ้าชู้แล้ว แต่อดหึงหวงไม่ได้ เพราะอดีตเก่าของอธิคมมีมากมายเหลือเกิน ไม่รู้ว่าวันไหนจะมีโผล่ขึ้นมาอีก อัสนัยผ่านไปแล้ว คราวนี้มีแบ๊งค์ นิตินัย และอาจจะยังคงมีใครต่อใครอีกที่เขายังไม่รู้
ชายหนุ่มบอกตัวเองว่าเขาต้องมั่นคง เวลาจะพิสูจน์ใจของคนที่บอกว่ารักเขา อดีตที่ผ่านมามีทั้งดีและไม่ดี น่าลืมและน่าจดจำ ปัจจุบันต่างหากที่เราต้องทำให้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันก็คืออดีตของอนาคตนั่นเอง
หากวันนี้ได้ทำดีที่สุดแล้ว เมื่ออนาคตมาถึง เราก็มองย้อนกลับมาได้ว่า อดีตของเรานั้น...ช่างสวยงามยิ่งนัก
เวลานี้ของอนุภาพมีปัจจุบันที่เขากำลังร่วมกันสร้างกับอธิคม...ผู้ชายคนเดียวที่อยู่ในหัวใจของเขา และเขาก็มั่นใจแล้วว่า ในหัวใจของผู้ชายตัวโตคนนี้ก็มีเขาเพียงคนเดียวเช่นกัน
......
“โอ๊ย...คุณนุอ่ะ...อีกแล้ว...” อธิคมครางเสียงอ่อย
“สารวัตรก็เลิกยั่วซะทีสิครับ” อีกฝ่ายพูดเสียงระอาใจ
รถจอดหน้าโรงแรม อธิคมร้องเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะกระหยิ่มยิ้มย่องว่า อีกไม่นานหรอก...คนที่จะร้องคืออนุภาพ...
...เอ...หรือว่าจะร้องประสานกัน?...

******************************** ภาคหนึ่งก็มีด้วยประการฉะนี้แล ***************************
ต่อไปเป็นตอนพิเศษสามตอนที่เ็ป็นภาคผนวกของเรื่องครับ
ถ้ารวมเล่มก็เมตตาซื้อหน่อยนะครับ พิมพ์ด้วยทุนตัวเอง ขายที่ไหนเดี๋ยวมาประกาศ คงขายออนไลน์ล่ะ ร้านหนังสือทั่วไปไม่รู้จะยอมวางหรือเปล่า (งก อ่ะครับ ไม่อยากถูกหักเปอร์เซ็นต์ พูดตรงๆ แบบนี้ล่ะ ผมมันคนซื่อ)

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 48 (บทพิเศษ 2)

หนึ่งปีผ่านไป (เช่นเดียวกันกันบทพิเศษ 1)

ร้อยตำรวจโทชัชชัยกำลังจะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ จ่าสมบูรณ์ก้าวฉับๆ เข้ามาหา ยกมือขึ้นวันทยหัตถ์แล้วรายงาน
"หมวดครับ อุบัติเหตุสองรายซ้อน ใกล้ๆ กัน กลางซอยวัชรพลครับ เชิญหมวดเดี๋ยวนี้ด้วยครับ เจ้าของรถสั่งมา ยิงนกทีเดียวได้ถึงสี่ตัวครับ" จ่าสมบูรณ์ทะเล้นเหมือนเคย
"เจ้าของรถสั่งเลยหรือจ่า"
"ครับผม สายรายงานว่าบีเอ็มสปอร์ตทะเบียน สส6969 ถูกอัดก้นครับ"
ชัชชัยเด้งตัวผึง "พี่ธงรบ"
"ใช่แท้แน่นอนตัวจริงครับ สารวัตรสั่งสายของเรามาสั่งให้หมวดรีบไป ท่านบอกว่าจะรีบไปจับเด็กดื้อ" จ่าสมบูณ์ไม่เคยสักครั้งเดียวที่จะรายงานขาด มีแต่รายงานเกิน
สองปีที่ทำงานด้วยกันมา ชัชชัยเลิกคิดที่จะแก้ไขพฤติกรรมของลูกน้อง รีบคว้าสมุดบันทึกประจำวันเดินลิ่วลงจาก ส.น.
จ่าสมบูรณ์ยังเดินตาม หมวดหนุ่มสั่งงาน "ไปดูรถคู่แรกก่อนนะ อย่าให้ขวางทางจราจร หมวดจะไปคู่สารวัตรก่อน...อ้อแล้วทำไมถึงยิงนกได้ทีเดียวสี่ตัวล่ะ" เขาอดสงสัยไม่ได้
"ชนกันสองคู่ เก๊าะคนสี่คนครับ หมวดทำหน้าที่ร้อยเวรครั้งเดียวได้คู่กรณี 4 คน สถิติใหม่ในซอยนี้"
ชัชชัยส่ายหน้า รีบก้าวขึ้นรถ...

ธงรบเดินส่ายอาดๆ ไปยังรถคู่กรณีคันจิ๋วที่ชนท้ายรถเขาบู้บี้ แรงกระแทกทำให้กระโปรงหน้ารถฮอนด้าแจ๊ซป้ายแดงบุบเข้าไปจนแทบถึงกระจกหน้ารถ เจ้าของรถยังนั่งอยู่ข้างใน มือเกาะพวงมาลัยแน่น หน้าตาตื่นตระหนก มองดูความเสียหายอย่างไม่เชื่อสายตา

ภานุวัฒน์มือสั่น ใจเต้นแรงแทบระเบิด วันนี้เป็นวันแรกที่เขาขับรถออกถนนใหญ่ รถใหม่เอี่ยมที่บิดาเพิ่งจะซื้อให้เป็นรางวัลที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยตอนนี้จอดนิ่ง กระโปรงหน้ายับยู่ยี่อยู่ท้ายรถสปอร์ตหรูราคาแพง กลัวถูกพ่อดุ กลัวเจ้าของรถคันหน้าที่กำลังเดินเข้ามาหน้าตาเอาเรื่อง...ตำรวจเสียด้วย...วันนี้ซวยจริงๆ เมื่อเช้าก่อนพ่อออกจากบ้านก็กำชับนักหนาว่าให้ระวังเพราะเพิ่งหัดขับรถได้เพียงอาทิตย์เดียว

ธงรบเดินเข้ามาใกล้จนเห็นเจ้าของรถชัดเจน เด็กหนุ่มหน้าตาดีนั่งตัวสั่นเหมือนลูกนก...อายุไม่น่าจะเกินยี่สิบ เขาเคาะกระจกหน้ารถ พยักหน้าให้ชายหนุ่มลงมาคุยกัน
"ว่าไงคุณ...จะเอาไง" ธงรบยกมือค้ำสะเอว กางขาออกเล็กน้อย เอียงคอ ทำหน้าเข้ม
ชายหนุ่มก้าวลงมาจากรถ หน้าตาตื่นๆ ตัวสูงเพรียวพอสมควร...หน้าเด็กกว่าที่คิด ตาเรียวเล็ก จมูกโด่งคม ปากแดง แก้มขาวใส...ถูกใจธงรบ
นายตำรวจหนุ่มอึ้งไปชั่วครู่...ตี๋หนุ่มในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัย...เขากำลังจะเข่าอ่อนแล้ว...เห็นตี๋เข้มน่ารักที่ไหนไม่ได้ ตัวเขาแทบจะละลายทุกครั้ง
แต่สารวัตรหนุ่มยังฝืนทำหน้าดุ
"น้องชนรถพี่...ยับเลยเห็นไม๊ เมารึเปล่านี่"
"ไม่นะครับ ไม่...ผมไม่ได้เมา ผมเอ่อ..." เด็กหนุ่มละล่ำละลัก ยกมือขึ้นประกอบท่าทาง ตาเรียวเล็กเบิกกว้างเพราะความกลัว
"ถ้าไม่เมาแล้วชนได้ไง ไม่ใช่เบาๆ ยับเยินขนาดนี้ มีใบขับขี่หรือยัง ไหนมาดูซิ"
เขาเดินอ้อมเข้าไปใกล้...เด็กหนุ่มหันซ้ายหันขวาอย่างตื่นตระหนก ยังไม่ยอมควักกระเป๋าสตางค์
"อย่าบอกนะว่าขับรถไม่มีขับขี่ โดนหลายกระทง เผลอๆ เจอยาอีซุกอยู่ในรถด้วยอีกต่างหาก" ธงรบขู่ เดินเข้ามาจนใกล้ตี๋หนุ่มที่ทำหน้าตาผะอืดผะอมเหมือนจะร้องให้
ภาณุวัฒน์เงอะงะ ทำอะไรไม่ถูก เขาเคยได้ยินเพื่อนพูดว่าตำรวจชอบยัดข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองแล้วเอาตัวไปโรงพัก ซ้อมให้ยอมรับ
"เปล่านะครับผู้กอง"
"สารวัตร" ธงรบแก้
"ครับๆ ผมเอ่อ...ใบขับขี่ผม..." ภาณุวัฒน์ตะกุกตะกัก ล้วงกระเป๋ากางเกง ลังเลว่าควรจะให้นายตำรวจดูใบขับขี่ดีหรือไม่เพราะกลัวถูกยึด
กระเป๋าสตางค์เขาไม่ได้อยู่ในกางเกง...แล้วอยู่ที่ไหน...ความประหม่า ความกลัว ความกังวล ความอ่อนเยาว์ ทำให้เขาเงอะงะ ยิ่งนายตำรวจหน้าดุยืนจ้องหน้าเขม็ง ยิ่งทำให้เชาลุกลี้ลุกลน
"ว่าไง...ไม่มีล่ะสิ...ท่าทางแปลกๆ มีพิรุธ ไหนหันหน้าเข้ารถซิ มือวางบนหลังคา กางขาออก"
"โธ่ คุณตำรวจครับ ผมไม่ได้มียาอีนะครับ ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้น ผม..." ภาณุวัฒน์ตาแดง คิ้วขมวด กลัวจะโดนยัดข้อหา...เพื่อนบอกเขาว่าตำรวจจะแกล้งทำเป็นตรวจ แล้วแอบยัดห่อเล็กๆ เข้าไปในกางเกง หรือวางไว้ในรถ แล้วก็จะทำทีเป็นว่าพบโดยบังเอ็ญ แล้วรีดเงินแลกกับการไม่ต้องไปโรงพัก
"ไหนขอตรวจดูหน่อย"
ธงรบเอามือตบตรงบ่าด้านหลังของชายหนุ่ม เรื่อยลงมาชายโครงทั้งสองข้างเหมือนกำลังค้นหาสิ่งของต้องสงสัยในตัวผู้ต้องหา...เรื่อยลงมาจนถึงเอว...
...อืมมม เนื้อแน่นซ่อนรูปไม่ใช่เล่น คงขาวเนียนน่าดู...
บั้นท้ายงอนได้รูปนั่นเล่า...ธงรบอมยิ้ม...
...ขอจับซักหน่อยเถอะ...
มือแตะเบาๆ ผ่านลงมาถึงสะโพกทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนไปยังต้นขาด้านใน
"โอย ตำรวจ" เสียงชายหนุ่มอุทาน ธงรบสะดุ้ง นึกว่าผู้ต้องหาประท้วงที่เขาทำเกินความจำเป็น...เสร็จสิ้นภารกิจนอกอำนาจหน้าที่ของเขาแล้ว จึงยืดตัวขึ้น...เห็นร้อยตำรวจโทชัชชัยเจ้าของพื้นที่เดินตรงมา
ภาณุวัฒน์หน้าเสียมากกว่าเดิมที่เห็นตำรวจอีกหนึ่งนายเดินเข้ามา...ที่เพื่อนๆ เคยพูดกันในวงสนทนาเห็นจะจริงเสียแล้ว ซ้ำร้ายยังจะมาเกิดขึ้นกับเขาในเวลาพลบค่ำเช่นนี้...
"ไม่มีอะไรแล้ว...เอาล่ะ เรามาตกลงกันค่าเสียหาย" ธงรบกระซิบเบาๆ ข้างหู แล้วเดินอ้อมมาทักนายตำรวจผู้มาใหม่
"หมวดชัช คุณคนนี้เขาชนท้ายรถพี่...ยอมรับผิดใช่ไม๊ครับ" ประโยคหลังธงรบหันหน้าถามชายหนุ่มที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่ข้างรถ
นักศึกษาหนุ่มพยักหน้าช้าๆ ยอมรับโดยไม่ปริปาก
"พี่คงขู่เขาจนกลัวหน้าซีดไปหมดแล้ว ไม่รู้จะเรียกผมมาทำไม ผมมีอีกคู่หนึ่งเพิ่งชนกันเหมือนกัน โน่นน่ะ เห็นอยู่ลิบๆ" หมวดชัดชัยพยักเพยิด
"น่า แกเขียนมาเถอะ จะได้ไปซะที"
"พี่อยากรีบไปนักรึไง" ชัชชัยรู้ทัน...เขาพยักหน้าเรียกหนุ่มหน้าตี๋ที่ยืนหน้าซีดอยู่เข้ามาใกล้
"ไหนขอดูใบขับขี่หน่อยสิครับ เราชนเขาแล้วยอมรับว่าผิดนะ รถมีประกันหรือเปล่า"
"มีครับ...แต่ว่า...เอ่อ...ใบขับขี่ผม.."
ธงรบแกล้งถอนหายใจ "ยังไม่ได้ใบขับขี่...แล้วขับรถออกมาชนเขาอย่างนี้นี่นะ...จับขังคุกเลยหมวด"
"พี่ธง" ชัชชัยปราม เด็กหนุ่มหน้าถอดสี ระล่ำระลัก
"มีครับมี..แต่ว่าผมหาไม่เจอ ผมลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่...ผมหากระเป๋าตังค์ไม่เจอ"
"มุขเดิม...หาไม่เจอก็เหมือนไม่มี แบบนี้ต้องจับ"
"พี่ธง พอเถอะน่า สงสารเด็ก" ชัชชัยส่ายหน้า แล้วเริ่มเขียนบันทึกประจำวัน ภานุวัฒน์ก้มหน้าลงมองสมุดที่ร้อยเวรหนุ่มน้องชายคู่กรณีกำลังเขียนบันทึกอยู่
ธงรบลอบมองใบหน้าเนียนใส คิ้วขมวด ปากเม้มสนิท...มือสองข้างกุมอยู่ข้างหน้าอย่างนอบน้อม...น่ารักจริงๆ ใส...สะอาด...จนเขาแทบจะทนไม่ไหว อยากจับขึ้นรถไป 'สอบสวน' เสียเดี๋ยวนี้
"บอกเบอร์โทรผู้หมวดด้วยนะ ทั้งมือถือทั้งบ้าน"
"มือถืออย่างเดียวก็พอแล้วสารวัตร" ชัชชัยขวาง
"แล้วเรื่องประกันล่ะ...รู้จักเบอร์ประกันหรือเปล่า" ธงรบถามเด็กหนุ่ม
"รู้ครับรู้...เดี๋ยวผมโทรเรียก...หมวดครับ ผมไม่ต้องไปโรงพักใช่ไม๊ครับ"
ชัชชัยเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายเหมือนจะตำหนิว่าคงไปขู่เด็กเอาไว้
"ไม่ต้องครับ คุณยอมรับผิดแล้ว ตกลงกันได้ รอประกันอย่างเดียว แล้วก็แยกย้ายกันไปได้ ถึงสารวัตรรีบไปจับผู้ต้องหา แต่คงรอประกันอยู่กับคุณภาณุวัฒน์ได้ใช่ไม๊ครับ" ชัชชัยประชด ยื่นเบอร์โทรศัพท์คู่กรณีให้
"ขอที่อยู่ด้วยนะหมวด" ธงรบทำไม่รู้ไม่ชี้ว่าน้องชายเหน็บแนม

ทั้งสองแยกย้ายกันไปขยับรถให้ชิดขอบถนนรอเจ้าหน้าที่ประกันภัยที่กำลังเดินทางมา...ชายหนุ่มหน้าอ่อนนั่งหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆ รถ มองรถคันใหม่อย่างเสียดายปนกังวล...
ธงรบสังเกตเห็นว่าภาณุวัฒน์โทรศัพท์เพียงครั้งเดียวเพื่อเรียกประกันแล้วไม่โทรอีก อย่างน้อยเพื่อบอกพ่อแม่หรือบอกเพื่อนๆ
เขาเดินเข้าไปไกล้ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง หน้าตายังดูหวาดๆ อยู่
"โทรหาพ่อแม่รึยัง"
"เอ่อ...ยังครับ" ชายหนุ่มตอบเบาๆ ก้มหน้าลงมองรองเท้าตัวเอง
"อ้าวทำไมล่ะ รถชนขนาดนี้...หรือว่าไม่กล้าบอก กลัวถูกดุ"
ภาณุวัฒน์พยักหน้า ไม่เงยหน้าขึ้นมามองนายตำรวจหน้าดุที่กลายมาเป็นคนอ่อนโยน
"พ่อแม่เขาดุหน่อยเดียวเท่านั้นล่ะ อย่ากังวลไปหน่อยเลย ประกันซ่อมให้ก็เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเสียเงินซักบาท หรือกลัวว่าจะถูกห้ามขับรถ" เด็กหนุ่มพยักหน้าเบาๆ ธงรบหยุดชั่วครู่ก่อนพูดต่อ "ใครขับรถใหม่ๆ ก็มีอุบัติเหตุแบบนี้กันทุกคนล่ะ"
"คุณพ่อผมไปทำธุรกิจต่างประเทศเมื่อเช้า ตอนนี้ผมอยู่คนเดียว"
"แล้วนี่จะกลับบ้านยังไง ไฟหน้ารถแตกหมด ขับกลับบ้านมืดๆ ไม่ได้นะ ไม่ปลอดภัย ยิ่งขับรถไม่ค่อยเก่งอยู่ด้วย" ธงรบยิ้มมีเลศนัย
ภาณุวัฒน์ส่ายหน้า ยังนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร เขาตั้งใจรอให้ประกันภัยมาถึงเสียก่อนแล้วค่อยคิดว่าเอาอย่างไร...บางทีอาจโทรเรียกเพื่อนให้มาช่วย แต่เขาเพิ่งเปิดเรียนได้เพียงสามวัน เพิ่งทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่...ยังไม่ได้สนิทกับใคร เพื่อนคนอื่นๆ ที่เรียนจบมัธยมด้วยกันมาก็ต่างแยกย้ายกันไปเรียนที่ต่างๆ แล้ว มีเหลือเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แค่สี่ห้าคน ผู้หญิงทั้งนั้น...จะตามมาให้ช่วยเรื่องนี้ก็กระไรอยู่
"เอางี้แล้วกัน...พี่ก็ไม่ได้ใจร้ายอะไรนะ ตอนแรกที่ทำดุไปเพราะฉุนที่โดนชนท้าย" ธงรบเริ่มแผนการ มือแตะไหล่ชายหนุ่มรูปหล่อหน้าใส
"ขับรถไปทั้งๆ อย่างนี้มันอันตราย เอารถไปจอดทิ้งไว้ที่โรงพักก่อน เดี๋ยวพี่ไปส่ง พรุ่งนี้เช้าค่อยมาเอาไปเข้าอู่"
ภาณุวัฒน์เงยหน้า ใจชื้นขึ้นมาบ้าง ความตกใจ ความกังวล ความกลัวเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาเริ่มหายไป สติเริ่มกลับมา...นายตำรวจหนุ่มตรงหน้าก็ไม่มีท่าทีคุกคาม...ท่าทางเขาก็ไม่ได้ร้ายอย่างตอนแรกที่นึกหวั่น
"ผมขอโทษ ผมหยุดไม่ทัน ผมกะเหยียบเบรกแล้วแต่ว่า..."
"ไปเหยียบคันเร่งแทน...รถพี่เลยกลายเป็นเบรก" ธงรบยิ้มบางๆ
ภาณุวัฒน์หัวเราะเบาๆ ทำหน้าแหยๆ "พี่จะซ่อมแพงไม๊ครับ ถ้าแพงมากผมคงสู้ไม่ไหว ผมไม่มีเงิน โชคดีพ่อไม่อยู่ ถ้าอู่รีบทำให้เสร็จก่อนกลับ พ่อก็ไม่รู้ อู่เขาจะทำให้เสร็จทันก่อนสิบวันไม๊ครับ"
เด็กเอ๋ยเด็ก...ยังไงพ่อก็รู้อยู่ดี...สิ้นปีต่อประกันค่าเบี้ยประกันก็เพิ่ม พ่อก็ต้องตรวจสอบกับบริษัทประกันภัยอยู่ดี
"อืมมม เดี๋ยวพี่ช่วย เพื่อนพี่เขารู้จักอู่ดีๆ แถวนี้ ถ้าเข้าอู่ที่นี่เดี๋ยวพี่ให้เขาเร่งเป็นพิเศษ รับรองเสร็จทันก่อนพ่อกลับเมืองไทย"
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ตาเป็นประกายเพราะมีทางออก ใบหน้าหม่นหมองเมื่อครู่มีชีวิตชีวา รอยยิ้มนั้นสว่างจ้าสดใสจนธงรบรู้สึกเหมือนมีแสงวูบวาบรอบๆ บริเวณริมฟุตบาทข้างถนน...เป็นประกาย...เหมือนรอยยิ้มอนุภาพ...เหมือนรอยยิ้มของอาทิตย์...ชายหนุ่มสองคนที่คอนวนเวียนอยู่ให้ห้วงความคิดของเขาไม่เสื่อมคลาย
"ขอบคุณครับ พี่ตำรวจใจดีจังที่ช่วยผม"
ธงรบยิ้ม ยกมือขึ้นโอบไหล่หนุ่มรุ่นน้อง...ไม่ใช่สิ...รุ่น...
'ช่างเถอะ...รุ่นอะไรไม่รู้...รู้แต่ว่าชุ่มชื่นหัวใจดีเป็นบ้า...อย่าว่าแต่ช่วยเลย...ให้ไปรับไปส่งยังได้ แถมสอนขับรถให้ด้วย...หน้าตาน่ารักถูกใจอย่างนี้ ธงรบไม่เคยถอย'
"เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่พาไปอู่ เลิกเรียนกี่โมง" ธงรบอมยิ้ม...ในใจนึก...ได้จับผู้ร้ายอีกแล้ว...
********

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 49 (ตอนพิเศษ 3)

เวลาไม่กี่นาทีไล่เลี่ยกับเหตุการณ์ตำรวจเจ้าชู้ใช้เล่ห์เหลี่ยมจับผู้ร้ายหน้าอ่อน...

เอี๊ยด...โครม...
เสียงเบรกดังลั่น ตามมาด้วยเสียงชนสนั่น แรงปะทะผลักอัสนัยกระดอนไปข้างหน้ากระแทกกับพวงมาลัย ก่อนที่เข็มขัดนิรภัยจะกระชากตัวเขากลับ
ชายหนุ่มดึงเบรกมือ...แล้วรีบเก้าเดินลงจากรถ ตั้งใจจะโวยวายใส่คู่กรณีเต็มที่...รถเขาใหม่เอี่ยมป้ายแดงเพิ่งออกมาวิ่งบนท้องถนนได้ไม่ถึงวัน ตอนนี้ถูกชนท้ายยับ
คู่กรณีเป็นรถเบนซ์สีดำคันหรู ...เอสคลาส...ท่าทางรวยไม่ใช่เล่น...ดี...จะได้คุยกันง่ายขึ้นไม่ต้องเสียเวลานาน...คราวที่แล้วเขาถูกรถกระบะเก่าๆ ชนท้าย...แทนที่จะได้ค่าเสียหาย กลับต้องเสียเงินให้คนขับเพราะลูกชายตัวเล็กๆ ที่นั่งมาด้วยหน้ากระแทกกับคอนโซลรถจนฟันหักแทบหมดปาก เขาสงสารจึงให้เงินไปรักษาตัว คุณแม่ของเด็กน้อยขอบคุณเขาเสียยกใหญ่...ตอนนี้กลายมาเป็นแม่บ้านทำงานที่บริษัทของเขาไปแล้ว...
ชายหนุ่มคู่กรณีลงจากรถ สวมสูทสีเข้ม ตัวสูงกว่าเขาเล็กน้อย ใบหน้าเรียบนิ่งไม่มีท่าทีตกใจ
แว่บหนึ่งอัสนัยรู้สึกเหมือนกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...หน้าคุ้น แต่นึกไม่ออก

"ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจชนท้าย ผมเรียกประกันแล้ว อีกไม่นานคงมาถึง" ชายหนุ่มมาดขรึมเอ่ยเบาๆ เสียงเขาทุ้มลึก เป็นจังหวะจะโคน
อัสนัยอารมณ์กรุ่นเป็นธรรมดาที่มีใครขับรถชนท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถใหม่เอี่ยมป้ายแดงราคาแพงที่เพิ่งขับได้ไม่พ้นวัน
"ถ้าตั้งใจรถผมคงเป็นเศษเหล็กไปแล้วล่ะ" อดประชดไม่ได้
"คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ รถคุณแข็งแรงพอสมควร ไม่งั้นคงไม่ขายกันราคาเจ็ดแปดล้าน" คนหน้านิ่งทำเป็นไม่รู้สึกว่าถูกประชด
"คุณขับรถยังไง มาให้ชนผมได้ เสียเวลาจริงๆ"
"ผมไม่ได้อยากชน อีกอย่าง ผมว่าคุณหยุดกระทันหัน"
อัสนัยฉุนกึกที่โดนตำหนิ "ผมไม่ได้หยุด ผมชะลอ มีคนวิ่งข้ามถนนผมก็ต้องเหยียบเบรกสิ ไม่งั้นเขาก็คงแบนติดถนนไปแล้วล่ะ"
"ผมก็ต้องเบรกเหมือนกัน เพราะไม่ได้อยากชนท้ายรถคันสวยของคุณ เราต่างคนต่างไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ หรือคุณว่าผมจงใจ ลองตรองดูสิครับ" เขายังทำหน้าเคร่งขรึม ไม่แสดงอารมณ์ แต่น้ำเสียงเข้มขึ้น
อัสนัยยอมรับว่าจริงอย่างที่พูด แต่อารมณ์ยังคุกรุ่นอยู่ ยิ่งเห็นหน้านิ่งเรียบไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรของคู่กรณียิ่งทำให้เขาหงุดหงิด
"อย่าใช้แต่อารมณ์" เสียงเบาๆ ดังขึ้นมาจากปากของคนหน้าเรียบคนนั้นเหมือนจะพึมพำกับตัวเอง แต่อัสนัยได้ยิน
เหมือนลูกโป่งถูกสะกิดด้วยเข็มด้ามเล็กๆ อัสนัยเดินเข้าไปใกล้ กะจะต่อล่อต่อเถียงให้รู้ดำรู้แดง แต่ต้องชะงักเมื่อสายตาคมกริบของเขาจ้องมองตาเขาเขม็ง...พลังบางอย่างแผ่รัศมีออกมา...ทำให้เขารู้สึกลังเลชั่วครู่...เห็นหน้านิ่งๆ แต่ผู้ชายคนนี้ท่าทางไม่ยอมคน และดูจะร้ายพอสมควร
"อย่ามีเรื่องเลยครับ ผมไม่อยากทะเลาะ รอประกันเถอะ" เขาพูดเสียงเรียบๆ ก่อนจะหันหลังกลับเดินไปที่รถ เปิดประตู แล้วหันมามองอัสนัยอีกครั้ง
"ตอนนี้เราขยับรถออกให้พ้นทางดีกว่าครับ ยังไงผมก็ผิด ผมรับผิดชอบอยู่แล้ว ไม่หนีไปไหนหรอก"

อัสนัยยังฉุนไม่หาย ผู้ชายคนนั้นน่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง เขาก็ผู้บริหารเหมือนกัน แต่คนหน้านิ่งดูควบคุมตัวเองได้ดีมาก เขาเสียอีกที่ทำฟึดฟัดปล่อยให้อารมณ์โกรธเข้าครอบงำอยู่ นี่ถ้าต้องเจรจาธุรกิจกัน เขาก็อาจจะเสียเปรียบ
อัสนัยเดินกลับไปที่รถ...แต่ยังพยายามนึกถึงใบหน้าของผู้ชายตัวโตหน้าเข้ม...ใบหน้าคุ้น แต่นึกไม่ออก...
เขาขยับรถชิดขอบทาง แล้วโทรศัพท์เลื่อนนัด เปิดเพลงฟังเบาๆ เอนคอลงพิงกับเบาะ หลับตาลง สูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ พยายามผ่อนคลายอารมณ์ให้เย็นลง...ต้องรอเจ้าหน้าที่ประกันราวครึ่งชั่วโมง ดีเหมือนกัน ได้นั่งพักนิ่งๆ ตั้งครึ่งชั่วโมง ทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง มืดค่ำยังไม่จบไม่สิ้น แทบไม่ได้พักผ่อน บริษัทตัวเองที่เพิ่งเริ่มเปิดก็กำลังจะเข้าที่เข้าทาง...ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนัก ไม่มีอะไรให้กังวลมาก ไม่มีอะไรให้คิด...
คิด...มีสิ...คิดถึง...เขาคิดถึงอธิคม...
หนึ่งปีผ่านไป...เขาเพิ่งรู้ว่าอธิคมย้ายไปแล้ว...ไปที่ไหนไม่รู้...ไกลจากเขาไปอีกกว่าเดิม
แต่ถึงแม้จะอยู่ใกล้ อธิคมก็ยังดูไกลอยู่...ระยะทางระหว่างเขากับอธิคม...ห่างกันเสมอ

อัสนัยต้องสะดุ้งตี่นจากภวังค์เมื่อมีเสียงเคาะกระจกด้านข้างดังๆ ชายหนุ่มหน้าเคร่งคู่กรณีของเขานั่นเอง
อัสนัยลดกระจกลง มองตาคนหน้านิ่งอย่างมีคำถาม
"ดับเครื่องรถเถอะครับ ไปนั่งรอข้างในร้านอาหารข้างๆ นี่ดีกว่า ติดเครื่องยนต์รถไว้อย่างนี้ไม่ดี สร้างมลพิษเปล่าๆ เราต้องช่วยกันลดภาวะโลกร้อน"
สั่งเสร็จ เขาก็ยืดตัวขึ้น โดนกลับไป แต่ยังหันหน้ามามองอัสนัยแว่บหนึ่งเพื่อสั่งด้วยสายตาให้ตามมา
อัสนัยเม้มปาก อารมณ์ที่เพิ่งควบคุมได้กลับพุ่งขึ้นมาอีก นึกเห็นหน้านิ่งๆ ของผู้ชายตัวโตคนนั้นเขาก็เริ่มอารมณ์เสีย...
จะนั่งอยู่ในนี้ใครจะทำไม...โลกร้อนก็ร้อนไป...ลำพังเขาเพียงคนเดียวคงไม่ทำให้โลกละลายได้หรอก...
จะให้ไปนั่งมองหน้าเขาในร้านอาหารหรือ...ไม่มีทาง...คงอกแตกตายพอดี
...ตัวเองเป็นคนรณรงค์โครงการรถยนต์เป็นมิตรกับธรรมชาติลดภาวะโลกร้อนอยู่เมื่อไม่นานมานี้...ลืมแล้วหรือ
อัสนัยถอนหายใจ...นึกถึงงานโครงการสุดท้ายที่ทำให้กับบริษัทรถยนต์ก่อนจะลาออกมาทำธุรกิจของตัวเอง
...เอาเถอะ...นั่งรอในร้านอาหารก็ได้ นั่งโต๊ะคนละตัว หันหลังให้กัน เขาก็ไม่ต้องมองเห็นใบหน้าเคร่งขรึมไร้อามรณ์ของผู้ชายคนนั้นแล้ว...พอเห็นหน้าแล้วทำให้เขาเสียการควบคุมตัวเอง...อุตส่าห์ไปเรียนโยคะ ฝึกพลังจิต...ไม่มีประโยชน์อะไรเลย…

ตฤณหันไปมองคนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในร้าน เขาอดอมยิ้มไม่ได้...ชายหนุ่มหน้าคุ้นตาเตือนให้เขานึกถึงใครคนหนึ่งที่ไม่ได้พบมาเกือบปี...ท่าทางเจ้าอารมณ์ หัวรั้น...พยศเล็กๆ แต่ก็ดูมีเหตุผล --- หลังจากต้องให้ใคร 'สะกิด' เสียบ้าง
ชายหนุ่มกระแทกตัวนั่งตรงโต๊ะที่อยู่เยื้องๆ กับเขา หันหลังมาทางเขาเผยให้เห็นแผ่นหลังกว้าง ชายวัยกลางคนที่นั่งทานอาหารอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะเงยหน้าขึ้นมองดูงงๆ ที่จู่ๆ มีชายหนุ่มแต่งตัวเนี๊ยบทันสมัยทรุดตัวลงนั่งตรงข้าม ก่อนจะเงยหน้ามองหญิงคนหนึ่งที่เดินมาใกล้ๆ จูงมือเด็กชายหน้าตาน่ารัก แล้วหันกลับมามองชายหนุ่มหน้าตาดีอีกครั้ง
โต๊ะในร้านมีลูกค้าเต็มทุกโต๊ะ อัสนัยรู้สึกตัวว่ากำลังแย่งที่นั่งคนอื่น จึงกล่าวขอโทษเบาๆ แล้วลุกขึ้น
"ลูกไม่เอาผักนะคุณ แล้วทำไมให้เขาใส่ผักหล่ะ"
"เถอะน่า กินๆ เข้าไปเถอะ อย่าเรื่องมากนักเลย หัดให้ลูกกินผักบ้าง นะน้องต้อลนะ หนูกินผักจะได้แข็งแรง"
เสียงสองสามีภรรยายังเถียงกันเบาๆ สลับกับเสียงงอแงของเด็กชายที่ยังไม่ยอมกินผัก อัสนัยยืนหันรีหันขวาง เสียงทุ้มๆ จึงดังขึ้น
"คุณครับ มานั่งตรงนี้เถอะ ตรงนี้ว่าง" แล้วตฤณก็ต่อประโยคในใจ 'จะไปแย่งเก้าอี้คนอื่นเขาทำไม'
เขานึกขำคนเจ้าอารมณ์ที่ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้...
อัสนัยยักไหล่...แม้ไม่อยากไปนั่งร่วมโต๊ะกับคู่กรณี แต่เวลานี้เขายังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี จึงนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม หันข้างให้ ตามองไปข้างหน้า
"ดื่มอะไรเย็นๆ ไม๊ครับ อารมณ์จะได้เย็นลง"
อัสนัยส่ายหน้า...เขาตั้งใจจะยั่วหรือ...คนหน้าเป็นแบบนี้ยั่วเย้าเป็นด้วยหรือ...
"นี่นามบัตรผม พอประกันมาคุณจะได้รีบไป เสียเวลาคุณมานานมากแล้ว" ตฤณเสียงเรียบ
อัสนัยหยิบนามบัตรมามอง
ตฤณ...ชื่อสั้นๆ พยางค์เดียว...เหมาะกับตัวเหลือเกิน...เจ้าของชื่อดูนิ่งๆ พูดอะไรสั้นๆ เฉียบขาด...ท่าทางคุ้นเคยกับการออกคำสั่ง…

"เบนซ์สองคันหน้าร้านที่ชนกันของใครครับ" เสียงห้าวๆ ดังขึ้นที่ประตูหน้าร้าน ชายหนุ่มทั้งสองหันไป แล้วลุกขึ้น
ตำรวจหนุ่มพยักหน้าเชิญให้เจ้าของรถออกไปข้างนอก ตฤณขยับตัวหันหลังแต่ชะงัก รอให้อัสนัยก้าวเดินไปก่อน

ข้างถนน อัสนัยบอกตำรวจหนุ่มร่างผอมแกร่งว่าตกลงกับคู่กรณีได้แล้ว ไม่ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ
"อ้อ พอดีสายของเรารายงานอุบัตเหตุครับ ผมเลยรีบมาดูแล"
"ขอบคุณนะครับจ่า" อัสนัยยิ้มกว้าง
"เราเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ครับ ต้องดูแลประชาชนเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีอะไรผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ"
"แหมมีตำรวจอย่างจ่า ผมรู้สึกปลอดภัยจังเลย โดยเฉพาะคนที่ขับรถไม่ค่อยระวัง ชอบชนคนอื่น" อัสนัยปรายตามองตฤณที่ยืนอยู่ข้างๆ...เขายังทำหน้านิ่ง ไม่แสดงอารมณ์ว่าไม่พอใจที่ถูกกระทบกระเทียบ
จ่าหนุ่มผู้รักการบริการประชาชน เดินจากไป หยิบโทรศัพท์รายงานผู้บังคับบัญชา
"ฮัลโหล หมวดไม่ต้องมาแล้วครับ คู่นี้ซี้กันไม่ต้องไกล่เกลี่ย ตกลงกันได้แล้วครับ"
อัสนัยไม่เห็นด้วยกับคุณจ่า...เขาตั้งใจว่าไม่ยอมหรอก ถึงประกันภัยจะจ่ายทั้งหมด แต่เขาจะเรียกร้องค่าเสียหายส่วนอี่น...ค่าเสียเวลา...ค่าบาดเจ็บ...จริงสิ หัวเขากระแทกนี่นา...ตอนนี้น่าจะเริ่มปูดขึ้นมา
ยกมือขึ้นคลำหน้าผาก...รู้สึกเจ็บเล็กน้อย...
"คุณเจ็บ...ไปหายาทาก่อนดีไม๊ครับ" ตฤณมองอยู่ก่อนแล้ว
"ไม่เป็นไร" อัสนัยเผลอตอบไปทันที แต่นึกได้ว่าจะเรียกค่าเสียหาย...แกล้งคนหน้านิ่งเสียหน่อย...เห็นหน้าเคร่งขรึมเย็นชาแล้วเขารู้สึกหมั่นใส้
"ผมต้องไปหาหมอ คงเลือดคั่ง ช้ำใน" อัสนัยหันไปมองตาของตฤณ "หวังว่าคุณคงรับผิดชอบ"
"แน่นอนครับ ผมผิด ผมรับผิดชอบอยู่แล้ว ขอนามบัตรผมด้วย" ตฤณแบมือ ยื่นออกมา
"ผมจะโทรไปเอง" อัสนัยพูดสั้นๆ แล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถ เริ่มจะนึกสนุก
...ขอปั่นหัวเจ้าชายน้ำแข็งเล่นดูซักเดือนหน่อยเถอะ...ดูซิจะเปลี่ยนสีหน้าเรียบนิ่งได้หรือเปล่า...
อัสนัยเห็นพนักงานประกันจอดรถมอเตอร์ไซด์ข้างรถเขาจึงเดินไปหา...อารมณ์แปลกๆ แทรกซึมเข้ามาในความคิด...แม้นึกหมั่นใส้เล็กน้อยกับหน้าตาเคร่งขรึม และ 'มาด' นิ่งๆ ของผู้ชายคนนี้ แต่อะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกอยากจะตอแยด้วย...
ชายหนุ่มหารู้ไม่...ตฤณไม่ใช่น้ำแข็ง...หากแต่เป็นมังกรพ่นไฟ
**********

 :pig4: ขอบพระคุณผู้อ่านที่เคารพรักและบูชาทุกท่านนะครับ ที่เสียวสละเวลาอ่านนิยายผม และแสดงความคิดเห็นและเป็นกำลังใจ ทุกคนน่ารักมาก น่ารักจนอยากเอามาเป็นแฟนให้หมดทุกคนเลย  :z1: แต่ทว่า...
ยังไงก็ขอฝากสารวัตรอธิคมไว้ในอ้อมอกอ้อมใจอ้อมแขนและอ้อมขาของทุกท่านด้วยนะครับ หากวันใดที่อธิคมและอนุภาพได้รับการตีพิมพ์เป็นกระดาษ ก็ฝากด้วยนะครับ ตอนนี้กำลังจัดรูปเล่มส่งโรงพิืมพ์อยู่ครับ พิมพ์เองลงทุนเอง ไม่ง้อสำนักพิมพ์ อิ อิ  :z3: เพราะสำนักพิมพ์เขาก็แบ่งเปอร์เซ็นต์ไป และร้านขายก็หักไป 30 เปอร์เซ็นต์ แล้วข้อกำหนดก็เยอะแยะมากมาย รวมถึงตอน  :oo1: และจำนวนหน้าด้วย และโปรเจ็คก็ต้องรอถึงเกือบ 6 เดือน แต่ว่าผมอยากให้ทันขายรับวาเลนไทน์  :L2:  :กอด1:  :3123:  :L1:
พอดีเพิ่งอกหักหมาดๆ เลยหวังว่าอานิสงส์ที่โพสให้คนอ่านมีความสุขจะช่วยให้ผมมีความสุขสมหวังด้วย  :sad11:
ตอนรวมเล่มอาจมีเขียนแทรกเพิ่มเข้าไปบ้างเพื่อให้สมบูรณ์ มีบางช่วงที่เนื้อเรื่องมันกระโดดๆ ไป และอาจเพิ่มตอนตำรวจธงรบวิ่งไล่จับผู้ร้ายหน้าตี๋เข้าไปบ้าง
และขอขอบคุณคนตาดีที่ช่วยตรวจตัวสะกดนะครับ  :pig4:
ไม่อยากจากยกมือบายบายแต่คงต้องบายบายแล่ะนะ  :เฮ้อ:ขอบคุณที่ำทำให้ผมยิ้มเวลามานั่งหน้าจออ่านคอมเมนท์ของทุกท่านนะครับ  :impress2: 
:กอด1:


February

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: น่ารักอย่างแรง




...ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆ ให้ได้อ่านนะคะ จะคอยติดตามการรวมเล่มนะคะ...

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องสนุกๆ แล้วภาค2มีโครงการไม๊ค่ะ  :pig4:

jobisuka

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะค้า สนุกมากมาย จะเป็นกำลังใจให้ต่อไปค้า :pig4:

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
จบแล้วหรอ

ประทับใจจัง

แต่อยากอ่านอีกอ่า

ต่อเถอะ น้าๆๆ :impress2:


ชอบ มังกรพ่นไฟ 5555  o13

ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4


   ...... ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีนะค่ะ  อัสนัยกะตฤณ น่าสนใจสุดค่ะ เรื่องเน้   ..........

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องสนุกๆ แล้วภาค2มีโครงการไม๊ค่ะ  :pig4:
คุณฟาง ผมลงบทที่ 46 แล้วนะ กลัวคนอ่านไปทำร้ายคุณน่ะ  :z1: เห็นไม๊ว่าผู้เขียนน่ารักขนาดไหน  :mc4: โครงการสองตอกเสาเ็ข็มไปแล้วครับ แต่คงต้องใช้เวลาก่อสร้างเหมือนสนามบินสุวรรณภูิมิล่ะมั๊ง ตอนนี้ต้องเอาโครงการวิทยานิพนธ์กับสอบดีเฟนซ์ให้จบก่อนครับ
ขอบคุณนะครับ  :z2:  :pig4:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ขอบคุณค่ะที่ทำให้ยังมีชีวิตรอดอยู่อ่านภาค2ของคุณต่อไป  :m23:
จะติดตามเรื่องการรวมเล่มและรอภาค2นะคะ :m1:


ปล.รู้สึกเหมือนกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัว กร๊ากกกกกก :laugh:
    ลืมตอนพิเศษแบบNC ไปรึเปล่าค่ะ :impress2:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ sasi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เป็นกำลังใจให้คับ
สู้ๆนะ เรื่องอกหักอ่ะเรื่องเล็ก โสดก็ดีสิ เด๋วปั๊ดจีบ อิ่ๆ :z2:

ว่าแต่ ถ้าพร้อมวางขายก็แจ้งด้วยนะครับ จะอุดหนุดเอง o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sasi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อ้อ !! ลืมถาม

เอ่อ ภาค 2 จะมาเมื่อไหร่อ่ะครับ (อยากอ่านสารวัตรอธิคม & อนุภาพมากกว่าอ่ะ)
เรื่องคนอื่นๆ ก็แทรกเอาได้ป่ะ คับ น๊านะๆๆๆ :monkeysad:

three

  • บุคคลทั่วไป
กรรมคุณธงรบกับอาทิตย์นี้ไม่ได้รักกันเหรอเนี้ยแย่จัง :sad11:
ป.ล.จำหน่ายก็บอกนะครับจะได้สั่งอ่อบอกราคาล่วงหน้าก่อนนะครับจะได้เก็บเงินถูกอ่ะครับผม :z2:

bixzz

  • บุคคลทั่วไป
มา +1 ให้แทนการขอบคุณสำหรับตอน 46 และตอนพิเศษนะครับ  :pig4:
แต่... :o8: ตกลงตฤณคู่กับอัสนัยหรือนี่ ผิดคาดแฮะ
พิมพ์รวมเล่มเสร็จแล้วส่งข่าวด้วยนะครับ...
ช่วยอุดหนุนแน่นอนครับ

loginmymind

  • บุคคลทั่วไป
ว้า..!ตกลงธงรบไม่ได้กับอาทิตย์เหรอค่ะ....แต่ก็ดีแล้วค่ะ เพราะว่าธงรบดูเจ้าชู้มั่กๆๆๆ เลย กลัวอาทิตย์ต้องช้ำใจอีก..

ว่าแต่ถามหน่อยค่ะ ตกลง คุณนุรู้รึยังว่า อธิคมรวย และเป็นลูกเจ้าของโรงแรมเนี่ย..

ขอบคุณที่แต่เรื่องดีๆให้อ่านคร้า.. :pig4: :pig4: :pig4:..

มาลงตอนพิเศาบ่อยๆนะค่ะ... o13

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
มา +1 ให้แทนการขอบคุณสำหรับตอน 46 และตอนพิเศษนะครับ  :pig4: แต่...ตกลงตฤณคู่กับอัสนัยหรือนี่ ผิดคาดแฮะ พิมพ์รวมเล่ เสร็จแล้วส่งข่าวด้วยนะครับ...ช่วยอุดหนุนแน่นอนครับ
ขอบคุณคร้าบบบ
เด๋วมีผิดคาดมากกว่านั้นอีก ขอเวลาหาเซฟเฮ้าส์ซะก่อนจะมาโพสตอนกลางๆ ของภาคสอง โพสเสร็จต้องรีับหนี เพราะกลัวผู้อ่านหลายคนตามฆ่า :z1:
ขอบคุณที่จะซื้อเวอร์ชันพิมพ์เป็นกระดาษนะครับ ตอนนี้กำลังออกแบบปกอยู่ครับ
ว่าจะเอารูปใครลงปกดี
ระหว่างรูปอธิคมเปลือย หรือรูปผู้เขียนเปลือย   :z1:  :เฮ้อ:
ส่วนราคาก็ไม่เอากำไรหรอกครับ ขอให้ไ่ม่ขาดทุนก็พอ (ซึ่งดูเหมือนจะขาดทุนแหง็มๆ)
ใครน่ารักลดให้ 50 เปอร์เซ็นต์
ใครเป็นตี๋ให้ฟรีไปเล๊ย (หมวยจ่ายเต็มราคา)  :z1:

ออฟไลน์ ben~ya

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
วางแผนเมื่อไรบอกกันบ้างเน้อ
1 ชุด ขอเป็นสมบัติส่วนตัว



ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
มาขอบคุณ ขอบคุณมากมาย  (จิง ๆ แล้วอยากกระโดดจูบปากเลยอ่ะ)

สำหรับ ทุก ๆ ตัวอักษร ที่บรรจง ถ่ายทอดออกมา

ขอให้มีภาคสองก็แล้วกันนะ


แล้วยังไงจะช่วยอุดหนุนอ่ะ นะ นะ

kororo

  • บุคคลทั่วไป
เอาด้วยคนครับ ถ้าจัดพิมพ์เป็นเล่นเรียบร้อยแล้วเมื่อไหร่ จะซื้อมาเก็บไว้อ่านเล่มนึงแน่นอนครับ

แล้วภาค 2 น่ะ อยากให้มาต่อเร็ว ๆ จังเลย อยากอ่าน จะได้ต่อเนื่อง (อ้างไปเรื่อย) นะนะนะ  :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด