ตอนที่ 12 : การเคลื่อนตัวของโลก“แปลกแฮะวันนี้ทำไมถึงอยากไปกินในห้างกันครับ” ผมถามพี่โชระหว่างเดินไปขึ้นรถ พวกผมไม่ได้ออกความคิดเห็นเพราะพี่ๆ สรุปกันมาเรียบร้อยแล้ว
“มันก็ต้องเปลี่ยนบรรยากาศบ้างหรือเปล่าวะ” จอมขวัญไม่เห็นว่ามันแปลกตรงไหน
“ส่วนผมอะไรก็ได้พราะพี่นอร์ทบอกว่าจะเลี้ยง” นะโมไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น
“มึงเห็นแก่กิน” จอมขวัญยังทำหน้าที่ขัดคอเพื่อนได้เป็นอย่างดี
“หรือมึงไม่กิน”
“กินสิวะ”
“พอๆ พี่โชเวียนหัวแล้ว” ผมแทรกกลางระหว่างเพื่อน ยกมือขึ้นกอดคอทั้งสองคน พี่โชเดินตามมาเงียบๆ แม้ไม่พูดไม่ยิ้มแต่ก็ไม่ทำหน้าเบื่อหน่าย ผมถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีมาก
• • • • • • • •
“เริ่มเลยไหม”
“เริ่มอะไรครับ” พวกผมมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เมื่อพี่เดียวพูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยหลังกินข้าวเสร็จ
“ช็อปปิ้ง”
“ช็อปปิ้ง!”
“จะเสียงสูงทำไมไอ้เด็กพวกนี้” พี่เดียวหัวเราะขำพวกผมที่ประสานเสียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ผมไม่มีตังค์” นะโมส่ายหน้าเป็นคนแรก
“บ่นทำไม พวกพี่ๆ จะช็อปย่ะไม่เกี่ยวกับเรา” จอมขวัญตีแขนเพื่อน ซึ่งผมก็เห็นด้วย มิน่าถึงอยากมากินข้าวที่ห้างกัน
“เกี่ยว เกี่ยวเต็มๆ” พี่นอร์ทพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
“หา!” ผมกับนโมหน้าเหวอ
“ช็อปอะไรพี่ ผมไม่มีตังค์จริงๆ เหลือติดกระเป๋าไม่ถึงพัน” นะโมยังยืนยันคำพูดเดิม ผมเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ใกล้สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ
“ไม่ต้องห่วงมีสปอนเซอร์” พี่เดียวบุ้ยใบ้ไปทางพี่โช ผมกับนะโมยิ่งงงเข้าไปใหญ่
“ซื้ออะไรหรือครับพี่โช” เมื่อสงสัยก็ต้องถาม
“เสื้อผ้า” เสียงตอบราบเรียบ โมโนโทนมาก
“เสื้อผ้า?”
“เราต้องไปงานวันเกิดแฝดกับพี่ นะโมด้วย”
“อ๋อครับ” ผมพยักหน้าเริ่มเข้าใจ “แต่ไม่ต้องซื้อก็ได้มั้งครับ”
“ซื้อ!” ไม่ใช่พี่โชหรอกครับแต่เป็นจอมขวัญที่พูดแทรกขึ้นมา “กูไหว้ล่ะซื้อเถอะ”
“มึงก็เกินไป คราวก่อนกูออกจะหล่อ” นะโมภาคภูมิใจในตัวเอง เสื้อของเขาเด่นที่สุดในโต๊ะ
“จ้าหล่อมาก หล่อจนคราวนี้พี่โชต้องชวนมาซื้อเสื้อผ้า มึงคิดดู” ผมกับนะโมเบิกตาโต หันไปมองพี่โชเป็นตาเดียว
“ก็ไม่แย่ขนาดนั้น”
“โหพี่โชพูดขนาดนี้ฆ่าผมเลยเหอะ ลายดอกลูกพ่อ” นะโมโอดครวญไปถึงเสื้อตัวเก่งที่เลือกอย่างดีคราวก่อน
“ฮ่าๆ อย่าคิดมาก ไอ้โชมันไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่งานนี้ต้องจัดเต็มกันหน่อยจะได้สมน้ำสมเนื้อกับฝ่ายโน้น” พี่นอร์ทช่วยอธิบาย
“เออใช่ๆ” นะโมดีดนิ้วเปาะเมื่อนึกได้ “เอาเลยพี่เดียว เอาให้ไอ้ลีหล่อๆ เลย”
“เราด้วย” พี่เดียวไม่ปล่อยนะโมไป
“ผมไม่เกี่ยว” เจ้าเพื่อนตัวดีของผมยังพยายามเอาตัวรอด
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ถือว่าเป็นทีมเดียวกัน”
“อืมม” นะโมหยุดค้านทำท่าคิดจริงจัง “ก็ได้ครับแต่เดี๋ยวสิ้นเดือนผมจ่ายเงินคืน”
“ผมด้วยครับ” ผมรีบยกมือขึ้น ไม่อยากรบกวนพี่โช
“ไม่ต้อง” สั้นๆ ห้วนๆ ไม่มีเหตุผลประกอบนี่แหละครับพี่โชตัวจริงเสียงจริง “ไปหรือยัง มัวแต่ยืนคุยเสียเวลา”
“โอ้~” นะโมออกเสียงเบาๆ ทำคอย่น แต่ทำหลังจากพี่โชเดินนำไปแล้ว
“ไปเถอะ” พี่นอร์ทเรียกพวกผม สาวเท้าตามพี่โชไปเป็นคนแรก จอมขวัญเดินกับนะโม เหลือผมกับพี่เดียวเดินรั้งท้าย
“รู้อะไรไหม”
ผมหันไปมองพี่เดียว อีกฝ่ายยกยิ้มที่มุมปาก สายตาที่มองผมเจ้าเล่ห์นิดๆ “อะไรครับ”
“โชมันเป็นพวกไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ไม่เคยแคร์ว่าใครจะมองยังไง ความจริงพี่ว่ามันชอบกวนปู่กับอานิดๆ ด้วยซ้ำ คงชอบใจถ้าพวกเราแต่งตัวแปลกๆ ไป”
ผมฟังเงียบๆ รอว่าพี่เดียวจะพูดอะไรต่อ
“แต่คราวนี้โชเป็นคนเอ่ยปากให้พี่มาช่วยซื้อเสื้อผ้าให้พวกเรา”
“ก็คราวนี้คุณปู่ใช้แผนหาผู้หญิงมาแนะนำให้พี่โชนี่ครับ คงอยากเปิดตัวผมดูดีหน่อย จะได้พอสู้ไหว”
“คิดงั้นเหรอ” ผมมองรอยยิ้มแปลกๆ ของพี่เดียว
“ไม่ใช่เหรอครับ”
“หึๆ”
นั่นไง สมกับเป็นเพื่อนกันมากครับ พี่เดียวทำท่าจะไม่ยอมเฉลยให้ผมฟัง ผมเลยต้องดึงชายเสื้อไว้ไม่ให้เดินหนี
“พี่เดียวเฉลยก่อน”
“คนเรามีสองประเภท หนึ่งคนที่อยากให้แฟนดูดีเพื่อให้ตัวเองดูดี กับคนที่อยากให้แฟนดูดีเพราะไม่อยากให้ใครมองแฟนไม่ดี”
คำว่าแฟนกับคำว่าดีเต็มไปหมด แต่ผมก็พยายามตามพี่เดียวให้ทัน สายตาของพี่เดียวอ่อนแสงลง มองผมด้วยความเอ็นดูปนขำ
“หึๆ แค่นี้ยังนึกไม่ออกเหรอ” พี่เดียวยื่นมือมาจับหัวผมโยกเบาๆ
“คนไม่แคร์อะไรกำลังแคร์ใครบางคน ไม่อย่างนั้นจะสนใจทำไมว่าใครจะคิดยังไง”
ผมเบิกตากว้าง เดี๋ยวนะ! เดี๋ยว ที่พี่โชทำทั้งหมดนี้เพื่อผมเหรอ
“มีความสุขมากหรือไงยิ้มซะกว้าง” พี่เดียวแซวผม เมื่อผมเอาแต่ยิ้มไม่หุบ
“มากสิครับ ใครไม่ดีใจมั้ง”
“ชอบโชเหรอ”
ผมยิ้มค้างหันไปมองหน้าพี่เดียว สายตาคู่นั้นจับจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว ผมตัดสินใจในเสี้ยววินาทีก่อนคลี่ริมฝีปากออกเป็นรอยยิ้ม จ้องตาพี่เดียวโดยไม่หลบ
“ครับ ขอบครับ”
“คิดอยู่เชียว ไม่ต้องห่วงพี่ไม่บอกใคร” พี่เดียวพาดมือลงบนไหล่ของผม “พยายามเข้าพี่เอาใจช่วย”
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มกว้าง หัวใจพองโต พี่โชห่วงผมด้วย
• • • • • • • •
“ลองใส่ตัวนี้” พี่โชยื่นเสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งให้ผม เป็นเสื้อเชิ้ตไม่มีปกสีขาว ผมกับพี่โชแวะร้านนี้กันสองคน ที่เหลือไปช่วยนะโมเลือกเสื้ออีกร้าน ดูเหมือนทุกคนพากันประกบนะโม คงเข็ดเสื้อลายดอกคราวที่แล้ว
“มันบาง” ผมรีบปฏิเสธเมื่อเห็นเนื้อผ้า มั่นใจว่าใส่แล้วต้องมองเห็นหุ่นผอมๆ ผมรำไรแน่นอน
“เป็นผู้หญิงหรือไงไปลองใส่ดู”
“ครับๆ ดุจริง” ผมรับเสื้อเชิ้ตมาจากพี่โชเดินตรงไปยังห้องลองเสื้อ
“ใส่แล้วออกมาให้ดูด้วย”
“คร้าบบ” ผมตะโกนตอบ รู้สึกเหมือนตัวเองมากับผู้ปกครอง ผมจัดการเปลี่ยนเสื้อ มองตัวเองในกระจก พี่โชตาถึงแฮะ ถึงจะเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดาแต่ด้วยทรงและเนื้อผ้าทำให้ผมดูดีขึ้นมาก
“ตัวนี้ก็ได้ครับ” ผมเปิดประตูออกมาให้พี่โชดู แสงไฟบนเพดานสาดเข้ามาที่ตัวผมพอดี
“อย่าเลย”
“อ้าวทำไมครับ ผมว่ามันดูดีออกพี่โชเลือกเก่ง” ผมก้มลงมองตัวเอง คนเลือกให้ทำหน้าดุ
“เปลี่ยนเถอะ”
“ก็ได้ครับ” ผมเดินกลับเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้องงๆ อดมองดูตัวเองในกระจกก่อนถอดออกไม่ได้ ออกจะหล่อ
“ลี”
“ครับ” ผมตะโกนตอบ เพิ่งถอดเสื้อออกจากตัวเสร็จ ยังไม่ได้ใส่เสื้อตัวเดิมเข้าไป
“ลองตัวนี้”
“ได้ครับ” ผมเปิดประตูห้องลองเสื้อออกไป คนรอยื่นเสื้อให้ชะงัก สายตาตกลงมองอกของผมก่อนเงยหน้าขึ้นมา
“แค่แง้มประตูก็พอ” เสียงพี่โชดุมาก
ผมรับเสื้อมาแบบงงๆ ก่อนจะงงยิ่งขึ้นเมื่อเสื้อที่ส่งมาให้เหมือนเดิมแทบทุกอย่าง
“เป็นไงครับ” ผมเปิดประตูห้องลองเสื้ออีกครั้ง สายตาพี่โชที่มองมาดีขึ้น ดูพอใจอย่างเห็นได้ชัด
“อืม”
“เอาตัวนี้ใช่ไหมครับ”
พี่โชพยักหน้า
“ครับ” ผมเดินกลับเข้าไปในห้องลองเสื้อ ขมวดคิ้วมองตัวเองในกระจก มันต่างกันตรงไหน สีขาวเหมือนกัน แบบเดียวกัน ทรงเดียวกัน เมื่อคืนพี่โชนอนน้อยหรือเปล่าหว่า ถึงลืมว่าเอามาให้ผมลองแล้ว
“ซื้อหรือยังวะ” นะโมเดินตามเข้ามาในร้าน
“เรียบร้อย มึงล่ะ”
“เหมือนกัน” นะโมชูถุงให้ผมดู “กูได้เชิ้ตลายสก็อตแดงขาวมา ผ้านิ่มๆ ใส่สวยดี เอาสีนี้แหละจะได้เตะตา”
“มึงตั้งใจใส่ไปเตะตาใครเป็นพิเศษหรือเปล่า กวนไม่เลิก”
“กูก็อยากกวนนะ ตอนแรกเลือกสีโคตรแสบสันแต่พี่เดียวไม่ยอม กูเลยได้ตัวนี้มาแทน แล้วมึงใส่อะไร”
“ตัวนี้” ผมยกเสื้อในมือให้ดู แต่เพราะมีสองตัวอยู่ด้วยกัน นะโมจึงยื่นมือมาหยิบไปดู
“ตัวหนาใช่ไหม”
ผมมองหน้านะโมก่อนก้มหน้ามองเสื้อ เมื่อกี้ผมไม่ทันสังเกตแต่พอถือเทียบกันจะเห็นว่าเป็นคนละเนื้อผ้า”
“ใช่ ตัวหนา” ผมยิ้มจนปวดแก้ม ใครกันนะบอกผมว่าเป็นผู้หญิงหรือไงถึงใส่บางไม่ได้
“ยิ้มอะไรของมึง” นะโมมองผมด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ เพราะเมื่อกี้ผมยังเฉยๆ แป๊บเดียวก็ยิ้มร่าเริงขั้นสุด
“เปล่า กูแค่ชอบเสื้อที่ซื้อ”
“แค่เนี่ย! ต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“อืม” ผมพยักหน้า ยังหุบยิ้มไม่ได้
“ช่างเถอะกูไม่เข้าใจความอินดี้ของมึง ไปจ่ายเงินได้แล้วพี่โชรออยู่”
ร่างสูงเดินนำไปยืนรอใกล้เคาน์เตอร์จ่ายเงิน ผมหยุดคุยกับนะโมกลางร้าน
“อืม”
ผมเดินตรงไปหาพี่โช ถึงจะไม่รู้ว่าพี่โชคิดอะไรอยู่ แต่ผมเข้าข้างตัวเองได้ไหม ว่าระหว่างเราเริ่มมีความผูกพันเกิดขึ้นตามกาลเวลา โลกของผมกับพี่โชกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้กันหรือเปล่านะ
• • • • • • • •
“ลี”
“ครับ” ผมขานรับ พี่โชกำลังขับรถไปส่งผมที่บ้าน คนอื่นๆ ติดรถพี่เดียวกลับเพราะบ้านไปทางเดียวกัน
“ไม่ต้องกังวลเรื่องวันงาน”
“ครับ”
“ใครจะพูดอะไรจะคิดอะไรอย่าสนใจ เป็นอย่างที่เราเป็นก็พอ พี่ไม่มีปัญหาไม่อย่างนั้นคงไม่ชวนไป”
พี่โชคงอยากบอกผมว่าให้ทำตัวตามสบายไม่ต้องฝืนให้ดูดี
“พี่โชเป็นห่วงผมเหรอครับ”
“พี่เป็นคนชวน”
“ก็แปลว่าเป็นห่วงอะเนอะ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก
“ทำไมต้องแปล”
“เก๊กอะคนเรา”
“เจ้าเด็กนี่!” พี่โชทำหน้าดุแต่เจอยิ้มกว้างของผมเข้าไปหันกลับไปแทบไม่ทัน
“ผมก็เป็นห่วงพี่โชนะครับ เพราะงั้นไม่ว่าเรื่องอะไรถ้าช่วยได้ก็อยากทำ หรือถ้าไม่อยากให้ยุ่งให้ผมนั่งข้างๆ ก็ได้ ผมสัญญาว่าจะไม่พูดอะไรเลย”
“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง”
แปลกที่ผมไม่ตกใจสักนิด แม้คนพูดจะใช้คำรุนแรง ทว่าใบหน้าด้านข้างที่ผมเห็นคือคนที่กำลังทำหน้าไม่ถูก กึ่งยิ้มกึ่งบึ้งแต่แววตามีความสุข มันมีรอยยิ้มอยู่ในนั้น
“ดังนั้นมาเป็นแฟนกันให้ดีที่สุดเลยนะครับ”
“หึ”
“ว่าแต่...” ผมลากเสียงยาว ยกยิ้มเจ้าเล่ห์
“อะไร!”
“ผมต้องเรียกพี่โชว่าที่รักไหมครับ”
“ขืนเรียกเราจะโดน”
“อืมมม ก็ได้ครับที่รัก”
รถเกิดอาการแฉลบก่อนจะกลับมาทรงตัวได้ ผมกลั้นขำจนตาพราว พี่โชถอนใจเฮือกใหญ่ หันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าเหลืออดเหลือทน
“พี่คิดผิดคิดถูกที่ให้เราช่วย”
“ไม่รู้ครับ” ผมส่ายหน้า “แต่ว่าเปลี่ยนแฟนไม่ได้แล้ว”
!!!
พี่โชหันกลับไปมองถนน ไม่พูดอะไรสักคำ มีเพียงเสียงถอนใจดังๆ ให้ได้ยิน ผมนั่งอมยิ้ม ฮัมเพลงเบาๆ นึกหรือว่าผมจะถอดใจเพราะแค่เสียงถอนหายใจ ถ้าพี่โชโมโหป่านนี้ไล่ผมลงจากรถแล้ว ยอมเป็นเพื่อนกับผมแล้วก็บอก คนขี้เก๊ก^^
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin