ตอนที่ 24 : คำที่รอ“เรียบร้อยไหม”
“ครับ เก็บงานอีกนิดหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว” อินส่งยิ้มให้ศิระ อีกฝ่ายเพิ่งมาถึงโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานให้กับบริษัทของไตรรัตน์ ศิระติดประชุมที่บริษัทจึงตามมาภายหลัง
“ดีแล้ว พี่ไปทักทายไตรก่อนเดี๋ยวมา”
“ครับ” อินพยักหน้า อันที่จริงเขากับคูนไม่จำเป็นต้องมาหน้างาน แต่ชลนทีให้เหตุผลว่าเผื่อมีอะไรต้องแก้ไขก็อยากให้ออกมาดีที่สุด แม้ฝ่ายจัดการจะทำกันเองได้และทำได้ดีมาตลอด
“อิน”
เสียงเรียกไม่คุ้นหูเรียกสายตาอินให้หันไปมอง ก่อนใบหน้าจะปรากฏรอยยิ้มกว้าง
“พี่ภพ” ผู้ชายตรงหน้าแทบไม่เปลี่ยนไปเลย ภพธรรมเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมหา’ลัยของเขา นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอกัน
“ไม่เปลี่ยนเลยนะอิน”
“พี่ภพก็เหมือนกันครับ ยังดูดีเหมือนเดิม” อินมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทด้วยสายตาชื่นชม
“แล้วนี่อินมาทำอะไร”
“บริษัทที่ผมทำงานเป็นคนจัดงานนี้ครับ แล้วพี่ภพละครับ” เนื่องจากงานยังไม่เริ่ม อินจึงไม่มั่นใจว่าภพธรรมมาเป็นแขกหรือมาทำธุระอื่น
“พี่มาแสดงความยินดีกับคุณไตร”
“ทำไมมาตอนนี้ละครับ อีกเกือบชั่วโมงครึ่งกว่างานจะเริ่ม”
“พี่ออกมาประชุมนอกบริษัท เสร็จเร็วเลยมาก่อนเวลา ทีแรกว่าจะหาที่นั่งรอแต่เจอคุณไตรพอดี”
“อ๋อ” อินพยักหน้า
“อินสบายดีหรือเปล่า แต่งงานหรือยัง”
“ยังครับ พี่ภพละครับ”
“เพิ่งหย่า อย่าทำหน้าแบบนั้นพี่โอเค ยังใจดีเหมือนเดิมนะเรา” ร่างสูงยกมือขึ้นจับไหล่เขา สายตาที่มองมาทำให้นึกถึงวันเก่าๆ
“สมแล้วที่เป็นผู้ชายคนเดียวที่พี่ชอบ เพราะหลังจากนั้นพี่ไม่เคยชอบผู้ชายคนไหนอีกเลย”
“พี่ภพ”
“เสียดายที่อินไม่ชอบผู้ชาย ไม่อย่างนั้นตอนนี้เราอาจเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว” เสียงคนพูดออกไปทางขำมากกว่า
“คือ...” อินมองชายหนุ่มด้วยสายตารู้สึกผิด เขาเองก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งนึ่งจะกลายเป็นคนที่ชอบผู้ชายเสียเอง
“อิน”
อินหันไปมอง ศิระเดินนำหน้าไตรรัตน์เข้ามาหา
“ที่คุณภพบอกว่าเจอคนรู้จัก คุณอินเองเหรอครับ” ไตรรัตน์เดินตามเข้ามาหยุดยืนข้างภพธรรม
“ใช่ครับ อินเป็นรุ่นน้องผมสมัยเรียน”
“โลกกลมจริงๆ ผมแนะนำให้รู้จักกันก่อน นี่ศิระเพื่อนผมและเป็นเจ้าของบริษัทออแกไนซ์ที่ดูแลงานนี้”
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ”
“เมื่อกี้คุณภพชมว่างานทำออกมาได้สวยมาก ก็ต้องชมรุ่นน้องคุณภพเลยครับ คุณอินเป็นคนออกแบบงานนี้เอง”
“ฝีมืออินเหรอ” ดวงตาที่มองมาฉายแววแปลกใจและประทับใจไปพร้อมกัน
“ครับ”
“เห็นทีพี่ต้องใช้บริการอินบ้างแล้ว”
“ยินดีครับ”
“ผมกับศิระจะลงไปดื่มกาแฟที่คอฟฟี่ช็อปของโรงแรม เลยมาชวนคุณภพลงไปด้วยกัน”
“ผมขอผ่านได้ไหมครับ นานๆ เจออินทีเลยอยากอยู่..”
“อินลงไปด้วยกันสิ” มือหนาแตะที่กลางหลังของเขา อินหันไปมองศิระ ริมฝีปากอีกฝ่ายยิ้มก็จริง แต่ดวงตาเหมือนคนพยายามสะกดอารมณ์เอาไว้
“ผมขอตัวดีกว่าครับ ขอโทษพี่ภพด้วยนะครับ ผมก็อยากอยู่คุยแต่อู้นานแล้ว ต้องไปช่วยทีมงานคนอื่นๆ เก็บงานให้เรียบร้อย”
“อย่างนั้นเหรอ น่าเสียดาย งั้นเดี๋ยวพี่แวะมาคุยตอนงานเริ่มแล้ว หรือถ้าอินยุ่งมากเอาไว้พี่ติดต่อไปวันหลัง จะได้ร่วมงานกัน”
“ได้เลยครับ”
ภพธรรมยิ้มกว้าง ดวงตาที่มองเขาวาววับ “แต่พี่ยังไม่มีเบอร์ของอิน”
“โอ๊ะผมลืมไปครับ นี่นามบัตรผม พี่ภพโทรมาที่เบอร์นี้ได้เลยครับ” อินส่งนามบัตรให้ภพธรรม
“ขอบใจมาก นี่ของพี่” อินรับนามบัตรจากมือของอีกฝ่าย
“นายกับคุณภพลงไปก่อนเดี๋ยวตามไป ขอเช็คงานนิด” ศิระพูดกับไตรรัตน์แต่ก็ทำให้การสนทนาระหว่างอินกับภพธรรมยุติลง
“รีบตามมาล่ะ ฉันมีเวลาไม่ถึงชั่วโมงเดี๋ยวต้องขึ้นมาเตรียมตัว”
“สิบนาที”
“ได้” ไตรรัตน์พยักหน้า เชิญแขกคนแรกของงานเดินลงบันไดวนจากห้องบอลลูนลงไปหน้าล็อบบี้ของโรงแรม
“อิน”
“ครับ” อินมัวแต่มองตามหลังไตรรัตน์กับภพธรรม จึงไม่เห็นว่าร่างสูงมองอยู่
“กลับกันเถอะ” มือใหญ่คว้าที่ข้อมือของเขา
“หา!” อินตกใจจนเผลออุทานออกมา “เดี๋ยวสิครับคุยกันก่อน” อินดึงให้ศิระหยุดเดิน สายตาที่มองเขาดื้อดึงจนอินอดขำไม่ได้
“งานยังไม่เริ่มเลยครับจะกลับได้ยังไง”
“พี่ได้ยิน”
“อะไรนะครับ”
“พี่ได้ยินที่หมอนั่นพูด”
“โธ่” อินอุทานด้วยเสียงอ่อนใจ “เรื่องมันนานมาแล้วครับตั้งแต่สมัยผมเรียนปีสอง”
“พี่ไม่ชอบสายตาหมอนั่นที่มองอิน”
“ผมจะหนีงานได้ยังไงครับ ขืนกลับก่อนคนอื่นจะว่าได้ เสียไปถึงพี่ศิระเลยนะครับ” อินพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ “แล้วไหนพี่ศิระเองก็ต้องตามคุณไตรลงไปดื่มกาแฟด้วย”
“ไตรไม่มีปัญหาเดี๋ยวพี่โทรบอกเอง ส่วนเรื่องงาน อินกับคูนอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร ตามเนื้องานไม่ต้องมาก็ได้ เท่าที่เห็นงานก็เรียบร้อยดี พี่เองแวะมาให้ไตรเห็นหน้าเท่านั้น หัวเรือใหญ่เป็นนายชล”
“เดี๋ยวนะครับ” อินหรี่ตามองร่างสูง “แล้วใครบอกให้พวกผมมาครับ”
“ชล” คนตัวโตโยนให้เพื่อนหน้าตาเฉย
“ถ้าอย่างนั้นตอนไปดูสถานที่ต่างจังหวัด พวกผมก็ไม่จำเป็นต้องไปใช่ไหมครับ”
“ชลเป็นคนบอกให้ไป พี่เห็นอินไปพี่เลยไปด้วย”
“แล้วคุณชลจะทำแบบนั้นทำไมครับ”
“สงสัยชลจะรู้ใจพี่ มีเพื่อนดีมันก็ดีแบบนี้” คนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เมื่อครู่ตาพราว
“พี่ศิระ” อินเรียกด้วยเสียงอ่อนใจ เมื่ออีกฝ่ายทำตาเจ้าเล่ห์ ร้ายทั้งคู่จริงๆ
“ลงไปทำหน้าที่เจ้าของบริษัทที่ดีเลยครับ ผมจะไปช่วยพี่สองกับคูนทำงานแล้ว”
“พี่ไม่ใช่เจ้าของบริษัทพี่เป็นลูกเจ้าของบริษัท”
“พี่ศิระครับ” อินลงเสียงหนัก “อย่างอแงสิครับ” อินขำก็ขำ อ่อนใจก็อ่อนใจ คนตัวโตมาดขรึมในสายตาคนอื่น กำลังทำตัวเป็นเด็กน้อยกับเขา
“พี่ไม่ชอบหมอนั่น”
อินถอนใจยาว เมื่ออีกฝ่ายวกกลับเข้าเรื่องนี้จนได้ “พี่ศิระครับถ้าผมจะชอบพี่ภพ ผมชอบตั้งแต่วันที่พี่ภพมาสารภาพไม่ดีกว่าเหรอครับ จะรอมาถึงป่านนี้ทำไม”
“อิน” ศิระยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขา
“ครับ”
“เวลาคนเราหึงไม่เลือกหรอกนะว่าเมื่อไหร่ เห็นตอนนี้ก็หึงตอนนี้ เข้าใจไหมครับ”
คำพูดที่ได้ยิน ดวงตาดื้อดึงของอีกฝ่ายทำให้อินหัวใจพองโต เขาต้องกลั้นยิ้มแทบตายเพราะกลัวอีกฝ่ายจะได้ใจ
อินมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจมองมา เขาจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นจับใบหน้าของศิระที่ยื่นเข้ามาหา ยิ้มใส่ดวงตาคู่นั้น
“พี่ศิระครับ”
“ครับ”
อินใจอ่อนยวบ เมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มตอบกลับมา ต้องเตือนสติตัวเองให้ใจแข็งเข้าไว้
“ครบสิบนาทีที่บอกคุณไตรแล้วครับ ไปได้แล้ว”
อินปล่อยมือลง หมุนตัวเดินห่างออกมา ไม่สนใจเสียงเรียกออดอ้อนของร่างสูง
“อินเดี๋ยวก่อน!”
“อินครับ”
จริงๆ เลย อินบ่นในใจ แต่ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“อะไรวะ” คูนขยับเข้ามาใกล้ทันที
“ไม่มีอะไร”
“ไม่มี แต่หน้ามึงบานยิ่งกว่ากระด้ง”
“ทำงานๆ” อินพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติแต่มันยากยิ่งกว่าอะไร ศิระในตอนนี้น่ารักที่สุดในสายตาของเขา
“พี่ภพครับผมมีบางอย่างต้องบอก” อินอาศัยช่วงเวลาที่ไตรรัตน์เชิญคนสำคัญขึ้นไปถ่ายรูปบนเวที แต่ภพธรรมไม่ขึ้นไปเพราะถือว่าตัวเองเป็นแค่แขกธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานนี้โดยตรง
“อะไรเหรอ”
“คือ..ตอนนี้ผมคบกับผู้ชายครับ”
ชายหนุ่มตรงหน้านิ่งไปครู่ใหญ่ ก่อนริมฝีปากจะคลี่ออกเป็นรอยยิ้มช้าๆ “คุณศิระใช่ไหม”
“ครับ”
“ทีนี้พี่ก็ได้คำตอบแล้ว ว่าทำไมคุณศิระถึงดูไม่ชอบขี้หน้าพี่”
“ขอโทษครับ”
“ขอโทษทำไม”
“ขอโทษที่วันนั้นผมใช้เหตุผลว่าผมไม่ชอบผู้ชาย”
“ไม่จำเป็นเลยพี่เข้าใจ มันไม่เกี่ยวกับผู้ชายผู้หญิงใช่ไหม เกี่ยวแค่ว่าคนๆ นั้นเป็นใคร”
“ครับ”
“ดีใจด้วยนะ พี่ดีใจที่เห็นอินมีความสุข”
“ขอบคุณครับ ผมก็ขอให้พี่ภพมีความสุขเช่นกันครับ”
“ขอบใจ พี่ดีใจนะที่ได้เจออินอีกครั้ง”
“ผมก็เหมือนกันครับ” อินยื่นมือไปหาภพธรรม เขาจับมือนั้นเขย่าด้วยความรู้สึกสบายใจ
“ไปเถอะ ก่อนที่จะมีคนเขม่นพี่มากไปกว่านี้”
อินมองตามสายตาของภพธรรม ถึงเห็นว่าศิระมองตรงมาจากบนเวที เขาหัวเราะออกมาเบาๆ
“อย่าให้ถึงกับลงมาเตะพี่เลย”
“ไม่หรอกครับ”
“ไม่เตะ”
“ไม่แน่ครับ”
“ฮ่าๆ งั้นพี่แยกก่อนดีกว่า ไว้เจอกันใหม่ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้อง”
“ครับ แล้วเจอกันใหม่” อินส่งยิ้มให้ภพธรรม และได้รอยยิ้มเป็นมิตรกลับมาเช่นเดียวกัน
• • • • • • • •
“มีอะไรอยากถามผมไหมครับ”
อินหันไปมองศิระเต็มตัว เมื่ออีกฝ่ายจอดรถที่หน้าบ้านของเขา ตลอดทางศิระพูดถึงเรื่องงาน และเรื่องอื่นอีกมากมายยกเว้นเรื่องของภพธรรม
“ไม่มี”
“ผมถามหนเดียวนะครับ” อินยกยิ้มมุมปาก หมั่นไส้คนท่ามากนิดๆ
“ไม่มีครับ” มือของเขาถูกดึงไปลูบเล่น “พี่แค่กำลังคิดว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่อินรัก”
“พี่ศิระ”
“สายตาที่คุณภพธรรมมองพี่มันทำให้รู้สึกแบบนั้น สายตาที่บอกว่าคุณโชคดีมาก โชคดีกว่าผม”
“ไม่ใช่แค่พี่ศิระหรอกครับที่โชคดี ผมเองก็เหมือนกัน ผมยังไม่อยากเชื่อว่าพี่ศิระจะหันกลับมา”
“อิน” มือใหญ่ประคองใบหน้าของเขา “ถ้าไม่หันกลับมาพี่คงเป็นผู้ชายที่โง่ที่สุด”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”
“ใช่สิ อินรู้ไหมว่าตอนนี้พี่มีความสุขมากแค่ไหน”
“ผมก็มีความสุขครับ”
“แต่งงานกันนะ”
“ครับ...หะ!” อินผงะศีรษะออก มองศิระด้วยดวงตาตกตะลึง “อะ..อะไรนะครับ!”
“อินตกลงแล้ว”
“เดี๋ยวสิครับ เมื่อกี้ผมไม่ทันฟังดีๆ”
“ให้พี่เข้าไปขอวันนี้เลยดีไหม ไม่สิ พี่ควรพาผู้ใหญ่มารู้จักกันก่อน”
“พี่ศิระครับ” อินเรียกด้วยเสียงอ่อนใจ เมื่อคนตัวโตไม่ฟังเขาเลย
“หึๆ” มือที่จับแก้มเขาลูบเล่นเบาๆ “พี่แหย่เล่น หมายถึงสำหรับตอนนี้ แต่พี่อยากให้อินรู้ว่าพี่อยากอยู่กับอิน อยากใช้ชีวิตกับอิน อยากเห็นอินในทุกวัน พี่ช้ามามากแล้วไม่อยากช้าอีกแล้ว แต่พี่จะรอวันที่อินพร้อม”
“ขอบคุณครับ”
“อย่านานเลยนะพี่อยากกอดอินแล้ว”
อินหลุบสายตาลงต่ำ หน้าขึ้นสีแดงเรื่อ “ผมก็ไม่ได้ห้ามพี่ศิระกอดนี่ครับ”
เขายังพูดไม่จบประโยค เมื่อร่างถูกมือของศิระรวบเข้าไปกอด ริมฝีปากถูกปิดทับด้วยริมฝีปากร้อน บดเบียดหนักหน่วงราวกับโหยหามานาน
“ผมหมายถึงแค่กอด” อินโอดเมื่ออีกฝ่ายยอมปล่อยให้ริมฝีปากของเขาเป็นอิสระ
“พี่ขอเป็นค่าทำขวัญ”
“ทำขวัญอะไรครับ” อินใจเต้นแรง เพราะอีกฝ่ายพูดชิดริมฝีปากของเขา
“ค่าหัวใจกระเจิงตอนเห็นอินอยู่กับคุณภพธรรม”
“คิดได้ไงครับ” อินอดหัวเราะไม่ได้ จึงถูกทำโทษอีกพักใหญ่
“พี่ศิระหาเรื่องเอาเปรียบผม”
“เปล่า พี่หาเรื่องจูบอินต่างหาก”
คนพูดสาธิตอีกครั้งเหมือนกลัวเขาไม่เชื่อ
“พอแล้วครับ” อินใช้มือแตะอกแกร่งเอาไว้
“ไม่ต้องห่วงพี่ไม่เกเรแล้ว”
“ดีมากครับ”
“เพราะขืนจูบอินอีกที พี่คงต้องปล้ำอินในรถเพราะอดใจไม่ไหว”
“พี่ศิระ!” อินมองตาร้ายๆ ของอีกฝ่ายด้วยใบหน้าแดงเรื่อ
“ตอนนี้พี่เป็นเด็กดีแล้ว”
“จริงหรือเปล่าครับ พี่ศิระไม่ติดใจเรื่องของพี่ภพแล้วใช่ไหมครับ”
“อืม ก่อนกลับคุณภพธรรมมาแสดงความยินดีกับพี่แล้ว”
“ไม่เห็นเล่าให้ผมฟังเลย”
“ถ้าเล่าอินก็ไม่ให้กอดสิ”
“ผมน่าจะได้รู้ว่าพี่ศิระร้ายแบบนี้ตั้งแต่แรกนะครับ ไม่งั้น..”
“เสียใจด้วย ถึงอินอยากเปลี่ยนใจพี่ก็ไม่ยอม”
“ดูสิครับร้ายขึ้นทุกวัน” อินบ่นกับตัวเองเบาๆ “ถ้าอย่างนั้นผมรับงานพี่ภพนะครับ”
“ไม่!”
“อ้าว” อินหน้าเหวอ มองใบหน้าเอาแต่ใจของคนพูด “ทำไมละครับ”
“พี่หึง”
“พี่ศิระ” อินลากเสียงยาว ทั้งขำทั้งอ่อนใจ วันนี้เขารู้สึกแบบนี้กี่ครั้งแล้วนะ น่าจะนับไม่ถ้วน
“ไม่ได้ครับ ใครที่ชอบอินห้ามเข้าใกล้อินเด็ดขาด เว้นพี่คนเดียว”
“แต่บริษัทพี่ภพเป็นบริษัทใหญ่นะครับ ผมเสียดายงาน พี่ภพเก่งมากงานน่าจะออกมาดี”
“อยากถูกปล้ำในรถเหรอ”
อินอ้าปากค้าง มองดวงตาวาววับของอีกฝ่าย
“ว่าไงครับ” ใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้เขา อินต้องรีบผละหน้าออกห่าง บอกตรงๆ ว่าชักกลัวใจ
“ดึกแล้ว ผมเข้าบ้านดีกว่าครับ ถึงนานแล้ว”
“หึๆ” ดวงตาที่มองมารู้ทัน “ตกลงครับ” เสียงปลดล็อคประตูดังขึ้นเบาๆ
“ถึงบ้านแล้วส่งข้อความมาบอกผมด้วยนะครับ”
“เดี๋ยวอิน”
“ครับ” อินหันกลับไปมองคนเรียก
“กู๊ดไนท์คิสครับ” ริมฝีปากร้อนแตะลงมาที่ริมฝีปากเขาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของอินแดงซ่าน ใจเต้นแรง ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ศิระจูบเขา อินก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี
“พรุ่งนี้เจอกัน”
“ครับ” อินพยักหน้า พยายามซ่อนความเขินเอาไว้
“หวังว่าพี่จะไม่ต้องพูดประโยคนี้ เร็วๆ นี้นะครับ”
“ครับ?”
“พรุ่งนี้เจอกัน”
อินหน้าแดงยิ่งขึ้นเมื่อเข้าใจความหมายของศิระ เขาพยักหน้าช้าๆ โดยไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา ไม่ใช่แค่ศิระหรอกที่อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เขาเองก็เช่นกัน
แต่...
คนขี้แกล้งต้องโดนเองซะบ้าง รอไปก่อนนะครับคนร้ายกาจของผม
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin