ตอนที่ 27 : อ้อน (2)“เป็นไงครับ หล่อที่สุดในสามโลกเลยใช่ไหม” คูนยิ้มกว้าง ยืนให้คนตรงหน้าดูเสื้อที่เพิ่งลองใส่ ชลนทีไล่สายตาตั้งแต่ใบหน้าของเขาลงไปจนถึงเอวแล้วไล่กลับขึ้นมามองหน้า
“มันก็ดี...”
“แต่ผมใส่แล้วดูไม่ดีใช่ไหมครับ” คูนถอนใจเฮือก เขากำลังลองเสื้ออยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ตัวนี้เป็นตัวที่สามแล้วที่เขาอยากได้แต่ถูกปฏิเสธ
“ไม่ถึงขนาดนั้น” คนพูดหัวเราะเบาๆ
“นั่นไง” คูนถอนใจซ้ำ
“ลองอีกตัวที่หยิบมาด้วยสิ ผมว่าตัวนั้นเหมาะกับคูนมากกว่า”
“จะบอกว่ารสนิยมผมไม่ดีก็บอกเถอะครับ” คูนหมุนตัวกลับเข้าห้องลองเสื้อ เขาไม่ได้ปึงปังปิดประตู หรือทำหน้างอนแต่อย่างใด เขาไม่ใช่เด็กและไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล เพียงแต่...
คูนถอนใจเบาๆ ถึงเป็นผู้ชายก็อยากถูกตามใจบ้างหรือเปล่าวะ สวีทนิดๆ ก็ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไรนะโว้ยยย ไอ้คุณชลนที!
“หาอะไร” ชลนทีถาม เพราะตั้งแต่ออกจากร้านเสื้อมา คูนเดินเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนหาอะไรบางอย่างอยู่
“คุณชลครับ”
“หือ”
“นั่นอะไรครับ”
ชลนทีมองตามมือของคูน เขาขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นใช่สิ่งที่อีกฝ่ายถามหรือไม่
“หมายถึงเสาไม้ตรงนั้นเหรอ”
“ไม้เหรอครับ”
“ใช่ คิดว่าทำจากไม้ ไม่ใช่วัสดุเลียนแบบธรรมชาติ”
“ไม่ใช่นกเหรอครับ” คูนมองหน้าอีกฝ่าย
“นก? เมื่อคืนได้นอนไหม” เสียงพูดปนเสียงหัวเราะ บ่งบอกว่าคนพูดขำเขาจริงๆ คูนถอนใจเฮือก ออกเดินต่อ
“ไม้ก็ไม้ครับ ยังไงมันก็คือไม้จริงๆ”
“มุกอะไรของเรา” มือใหญ่เอื้อมมาวางบนต้นคอ บีบเบาๆ คูนหันไปแสยะยิ้มให้ชลนที
“อย่าบอกว่าอย่างคุณชลไม่รู้จักมุกนี้นะครับ มุกนี้เล่นกันให้เก่อ ตอบเอาใจกันหน่อยก็ไม่ได้”
“หึๆ รู้จักน่ะใช่ แต่ที่ไม่รู้คือนึกยังไงถึงเอามาเล่น”
“ว่างจัดครับ ไม่มีอะไรทำ” คูนยักคิ้วกวนๆ ออกเดินนำไปข้างหน้า นั่นสิเขาก็งงตัวเองเหมือนกัน มุกแบบนี้เอามาเล่นทำไมวะ
• • • • • • • •
“อิน” คูนเรียกชื่อเพื่อนด้วยน้ำเสียงและสีหน้ากระตือรือร้น อินชะงักมือที่กำลังตักข้าวเข้าปาก
“ไม่คุยได้ไหม”
“หะ!” คูนเบิกตากว้างมองเพื่อน
“ไอ้ที่มึงอยากคุยไม่คุยได้ไหม กูไม่ค่อยไว้ใจท่าทางมึง”
“ฮ่าๆ” คูนหัวเราะกลบเกลื่อน “ไม่มีอะไรน่า กูแค่อยากถามว่าเวลามึงอ้อนคุณศิระ มึงทำยังไงวะ”
“อ้อน?”
“เอออ้อน อย่าบอกว่ามึงไม่เข้าใจภาษาไทยขึ้นมา”
“กูเข้าใจแต่กำลังงง มึงถามทำไมวะ”
“เล่าๆ มาเถอะน่า มึงทำยังไงวะคุณศิระถึงยอมมึงขนาดนั้น”
อินมองหน้าเพื่อนด้วยสายตาพิจารณา เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เมื่อเพื่อนยังไม่อยากบอกเขาก็จะไม่ถาม ดูจากรูปการแล้วคงไม่มีเรื่องอะไร
“คำว่าอ้อนมันกินความหมายกว้าง ขึ้นอยู่กับว่ามึงถามถึงแบบไหน ถ้าแบบอ้อนเอาโน่นเอานี่ หรือทำตัวอ่อนแอทำอะไรไม่เป็น แบบนั้นกูไม่เคยทำ ทำไม่เป็นด้วย แต่ถ้าหมายถึงอ้อนเอาใจ กูก็ทำบ้าง”
“เออๆ อ้อนแบบนั้นก็ได้” คูนคิดว่าเขาน่าจะเอามาดัดแปลงได้
“ถ้าถามกู...” อินหยุดคิด เขาไม่ได้คิดถึงตัวเองแต่กำลังคิดว่าอ้อนแบบไหนถึงจะเหมาะกับเพื่อน
“ก็อย่างวันนี้พี่ศิระกับคุณชลไปงานเลี้ยงบริษัทลูกค้าเลยต้องใส่สูทมา กูก็อาจจะช่วยจัดเนคไท จัดสูท ช่วยดูให้มันเรียบร้อย ให้เขารู้ว่าเราใส่ใจ หรืออย่างรู้ว่าพี่ศิระชอบทานอะไร กูก็จะสั่งให้โดยไม่ต้องให้บอก แตะตัวบ่อยๆ เพราะรู้ว่าพี่ศิระชอบ อย่างแตะหลัง จับแขนอะไรแบบนั้น”
“แค่นี้เหรอวะ”
“ใครจะพูดได้หมดวะ” อินหน้าแดง เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่ควรเอามาเล่าให้เพื่อนฟัง
“เล่ามาเถอะ” คูนยังซักด้วยความกระตือรือร้น แต่อินส่ายหน้า ขืนเล่าได้เขินเพื่อนตาย
“เอาเป็นว่าก็แค่ทำตัวให้น่ารัก ใส่ใจอีกคนมากๆ ไม่ทำตัวน่ารำคาญ เซ้าซี้ ขี้บ่น แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง”
“งั้นเหรอ” คูนพยักหน้า สมองเก็บรวบรวมความรู้ เคยแต่อ้อนผู้หญิงนี่หว่า ไม่เคยอ้อนผู้ชายสักที
• • • • • • • •
“คุณชลกลับเข้ามาหรือยัง” คูนแวะถามประชาสัมพันธ์ของบริษัท หลังกลับจากทานมื้อเที่ยงกับอิน
“เข้ามาแล้วค่ะ เพิ่งเข้ามาเมื่อกี้นี่เอง”
“ขอบใจมาก” คูนส่งยิ้มขอบคุณคนให้ข้อมูล
“มึงไปแผนกก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป”
“ได้” อินไม่ซักถาม จากสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ก็รู้แล้วว่าคูนจะแวะไปที่ไหน
คูนเคาะประตูเบาๆ รอจนได้ยินเสียงอนุญาตจึงเปิดเข้าไป สายตาของเขามองตรงไปยังเป้าหมาย
“จะรีบถอดไปไหนวะ”
“พูดอะไร”
“เปล่าครับ” คูนรีบส่ายหน้า นึกอยากตบปากตัวเองที่เผลอพูดสิ่งที่คิดออกมา “คุณชลกลับมานานหรือยังครับ”
“เพิ่งถึง คูนมีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าครับผมมาหาพี่สอง ไหนๆ มาแล้วเลยแวะมาดูว่าคุณชลกลับมาหรือยัง”
“ผมนึกว่าคุณคิดถึงผม” คนพูดดวงตาแพรวพราว
“เพิ่งเจอกันยังไม่ถึงสี่ชั่วโมงดีจะคิดถึงทำไมครับ” คูนตอบไปตามความรู้สึก พอพูดออกไปแล้วเขาถึงคิดได้ ไอ้ซื่อบี้อเอ๊ย ไหนว่าจะอ้อนคุณชล
“อ่า..” ชายหนุ่มยิ้มแห้ง จะแก้คำพูดตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว
“หึๆ” ชลนทีหัวเราะในลำคอ ดวงตาที่มองเขาแสดงชัดว่าอีกฝ่ายกำลังขำ
“แล้วคุณชลไปงานมาเป็นไงบ้างครับ เหนื่อยไหมครับ”
ดวงตาที่มองตรงมาหรี่ลง คูนยิ้มจืด ทำไมพูดเองขนลุกเองวะ เขาไม่เหมาะกับเสียงเหมียวๆ สักนิด
“ทำอะไรผิดมาหรือเปล่า”
“ครับ?” คูนเบิกตากว้าง เดี๋ยวนะ มันไปเรื่องนั้นได้ยังไง
“บอกมา มีเรื่องอะไร”
“เปล่าครับ ไม่มี จะไปมีได้ไงครับ”
“ไม่มีก็แล้วไป เห็นคุณทำตัวแปลกๆ”
แปลกๆ!! มันต้องน่ารักสิโว้ยยย แปลกบ้านบิดาคุณชลสิ
“ผมกลับไปทำงานดีกว่าครับ แค่แวะมาดูว่าคุณชลมาหรือยัง” คูนลุงขึ้นยืน วันนี้ท่าทางจะไม่เป็นใจกลับไปตั้งหลักก่อนดีกว่า
“เดี๋ยว”
คูนชะงักเท้า หันกลับไปมองเจ้าของห้อง
“เป็นอะไร หงุดหงิดอะไรหรือเปล่า เหมือนคุณโมโหผม”
คูนอยากขยี้ผมตัวเอง เขาตั้งใจมาอ้อนชลนที แต่ทำไมถึงกลายเป็นอีกฝ่ายคิดว่าเขาโกรธไปได้
“เปล่าครับ ผมมีงานค้างต้องรีบกลับไปทำให้เสร็จ”
“งั้นไปเถอะตอนเย็นเจอกัน” เสียงพูดทุ้มหู คูนส่งยิ้มแห้งให้ เปิดประตูก้าวออกมาพร้อมกับเสียงถอนใจเฮือกใหญ่ เริ่มสงสัยว่ามันจะไม่ใช่ทางของเขา แต่เอาวะไหนๆ ก็ลองแล้วขอลองเย็นนี้อีกที มันจะยากขนาดนั้นเลยเหรอวะ
• • • • • • • •
“พ่อกับแม่ไม่อยู่เหรอครับ” คูนมองไปรอบๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแวะมาบ้านของอีกฝ่าย ชลนทีเคยพาเขามาแนะนำให้พ่อแม่รู้จักแล้วในฐานะคนรัก
“ไม่อยู่ ไปงานแต่งงานลูกชายเพื่อน ทานข้าวเถอะ”
“ครับ” คูนพยักหน้า แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน วันนี้เขาอยากอยู่กับชลนทีสองคนพอดี
หลังทานข้าวเสร็จ ชลนทีชวนเขาไปเล่นสนุกเกอร์ที่ห้องพักผ่อนแต่คูนปฏิเสธ
“ไม่เล่น?” ชลนทีแปลกใจ เพราะเป็นกิจกรรมที่อีกฝ่ายชอบมาก มาที่บ้านเขาทีไรต้องชวนเล่นทุกครั้งไป
“วันนี้ผมเหนื่อยๆ ครับ อยากนั่งพักมากกว่า”
“งานเยอะเหรอ หรือว่ามีปัญหาเรื่องงาน” สายตาที่มองมาเป็นห่วงเป็นใย
“ไม่มีครับ” คูนส่ายหน้า “ผมก็แค่..แค่..อยากดูหนังมากกว่า”
“เอาสิ” ชลนทีลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร เดินนำเขาไปที่ห้องนั่งเล่น
“เดี๋ยวครับคุณชล”
“หือ?” ชลนทีหยุดเดินหันมามอง
“ไปดูบนห้องคุณชลได้ไหมครับ”
“หึๆ นี่คุณอ่อยผมอยู่หรือเปล่า”
“ปะ...” คูนเกือบพูดคำว่าเปล่าแต่เขาหยุดไว้ได้ทัน อ่อยกับอ้อนมันก็เหมือนกันหรือเปล่าวะ
“เดี๋ยวนะผมแซวเล่น อย่าบอกว่าใช่” คนถามหัวเราะเสียงดัง คูนได้แต่สบถในใจ ให้มันได้อย่างนี้สิ!
“ผมอ่อยแล้วยังไงครับ” เสียงถามจึงเอาเรื่องโดยไม่รู้ตัว
“ก็น่ารักดี” เสียงพูดตามด้วยเสียงหัวเราะ ท่าทางคนพูดขำเขาหนักมาก มันทำให้คูนรู้ว่าคำว่าน่ารักที่อีกฝ่ายพูดน่าจะคนละความหมายกับที่เขาต้องการ
“มาเถอะ” มือใหญ่แตะแผ่นหลังเขาให้ออกเดิน คูนเริ่มคิดจริงๆ ว่านี่ไม่ใช่ทางของเขา
“ไม่เปิดหนังเหรอครับ” คูนถามเมื่อเจ้าของห้องลงมานั่งบนเตียงกับเขา
“เดี๋ยวก่อน คุยกันก่อน”
“คุยอะไรครับ”
“วันนี้เกิดอะไรขึ้น มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าครับ” คูนส่ายหน้า
“แน่ใจนะ”
“ครับ”
“แล้วทำไมวันนี้ถึงทำตัวแปลกๆ”
คูนถอนใจเฮือกใหญ่ให้อีกฝ่ายได้ยิน “ให้ตายเถอะ! คำก็แปลกสองคำก็แปลก เป็นแฟนกันอ้อนกันมันแปลกตรงไหนครับ ผมถามจริงๆ”
“อ้อน?” คิ้วของชลนทีเลิกขึ้น เขาพยายามกลั้นขำ เพราะคนตรงหน้าเริ่มออกอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้ว
“ครับ อ้อน”
“อ้อนหรือกำลังคิดจะตีหัวผมกัแน่” ชายหนุ่มอดแซวไม่ได้ เมื่อเห็นสีหน้าคุกคามของอีกฝ่าย
“เฮ้อ” คูนถอนใจเสียงดัง ทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียง ตามองขึ้นไปบนเพดาน
“ช่างมันเถอะครับ ถือว่าผมเล่นตลกให้ดูก็ได้”
“หึๆ นี่คุณไม่รู้จริงๆ เหรอ”
คูนเอียงหน้ามองคนที่นั่งอยู่ข้างกาย “ไม่รู้อะไรครับ”
“ไม่รู้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องพยายามอ้อนผมเลย เพราะทุกวันนี้คุณก็อ้อนผมอยู่แล้ว”
“ผมเหรอครับอ้อน” คูนเบิกตากว้าง งงในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
ชลนทีไล้นิ้วไปตามกรอบหน้าของคูน ยิ้มเอ็นดูอีกฝ่าย “ใช่ ผมชอบเวลาที่คุณพูดซื่อๆ แล้วหน้าแดง ผมชอบเวลาคุณเงอะงะทำอะไรไม่ถูก ผมชอบเวลาคุณพูดซื่อๆ ผมชอบเวลาคุณยิ้มให้ผม ผมชอบเวลาที่คุณมองมา”
“ดีๆ ทั้งน้านน” คูนลากเสียงยาว
“ดีสิ สำหรับผมมันน่ารักมาก คุณไม่รู้เหรอว่าผมตกหลุมรักคุณเพราะอะไร”
“คุณชล” คูนสบตากับชลนที ดวงตาของอีกฝ่ายอ่อนแสงลง นิ้วไล้ริมฝีปากของเขาช้าๆ
“ทำไมอยู่ๆ ถึงอยากอ้อนผมขึ้นมา”
“ก็คุณชลไม่เคยตามใจผมเลยนี่ครับ ขัดทุกอย่าง ห้ามทุกทาง”
“หึๆ” ชลนทีไม่คิดว่าจะได้คำตอบนี้ แต่นี่แหละสมกับเป็นคูนของเขา
“ทำไมถึงคิดแบบนั้น”
“ก็ดูอย่างวันก่อนที่ไปซื้อของกัน อะไรที่ผมเลือกไม่ดีสักอย่าง ไม่มีตามใจกันบ้างเลย สวีทบ้างก็ได้ครับ ทำเหมือนผมเป็นลูกน้องอยู่ได้ สั่งเอาๆ โอ๊ะ!” คูนร้องเบาๆ เมื่อโดนอีกฝ่ายบีบจมูกแรงๆ
“ก็เพราะไม่ใช่ลูกน้องน่ะสิผมถึงทำแบบนั้น”
“อะไรนะครับ ผมไม่เข้าใจ” คูนมองคนพูด ยิ่งฟังยิ่งงง
“ไม่รู้ตัวเหรอว่ามีแฟนขี้หวง เลือกเสื้อมาแต่ละตัวใครให้ใส่ก็บ้าแล้ว”
“หา!!” คูนทะลึ่งตัวขึ้นนั่ง “แค่เสื้อเนี่ยนะครับ” คูนหัวเราะเสียงดังลั่น
“โอ๊ะ!” ชายหนุ่มสะดุ้งโหยง เมื่อร่างสูงผลักเขาลงนอนหงายก่อนตามลงมาทาบทับลง ใบหน้าอยู่ใกล้กันแค่คืบ
“คุณชล” คูนเรียกอีกฝ่ายเสียงเบา ชลนทีมองใบหน้าตื่นๆ ที่จ้องตา ก็เพราะซื่อแบบนี้ใครจะปล่อยได้
“อื้อ” เสียงประท้วงดังขึ้นก่อนที่ริมฝีปากของคูนจะถูกทาบทับด้วยริมฝีปากร้อน
“คุณชลครับ” เสียงกระซิบแหบพร่า ชลนทีไล้ริมฝีปากไปรอบๆ ขบเม้มริมฝีปากบนล่าง ก่อนสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นชื้นของอีกฝ่าย ดูดชิมความหวานที่เขาหลงใหล ชายหนุ่มดึงเสื้อเชิ้ตออกจากกางเกงของคูน สอดฝ่ามือเข้าไปลูบไล้ผิวเย็น ร่างที่เขาทาบทับกระตุกน้อยๆ เมื่อนิ้วชี้วนรอบตุ่มไตบนหน้าอก
“ยะ..อย่าเพิ่งครับ” เสียงที่ได้ยินหวาดหวั่นไม่แน่ใจ
“ผมรักคูน” ชลนทีกระซิบชิดริมฝีปาก จ้องเข้าไปในดวงตาสั่นไหว
“ผม..ผมก็รักคุณชลครับ แต่..”
“แต่อะไร” ชลนทีไล่นิ้วจากกลางอกสู่ท้องน้อย ร่างที่เขาสัมผัสแอ่นขึ้นจากที่นอน
“ผม..ผมไม่แน่ใจ ผมกลัว”
“กลัวผมเหรอ” ชลนทีหยุดมือเขาแตะริมฝีปากกับแอ่งชีพจรของคูน เสื้อถูกแหวกออกจากกัน
“เปล่าครับ” เสียงตอบหอบน้อยๆ ตามแรงอารมณ์ “แต่ผมกลัวเรื่องนั้น คือ..คือ..” คนพูดหน้าแดงซ่าน ชลนทีมองด้วยสายตาเอ็นดู เขาไม่เร่งเร้าปล่อยให้อีกฝ่ายค่อยๆ พูด
“คือผมพอรู้ว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายไหน ผมรักคุณชลนะครับ รักมาก แต่พอคิดถึงเรื่องนั้นแล้ว มัน.. คือ..พอคิดว่าจะต้องโดนอะไรบ้าง ผมยังทำใจไม่ได้” คนพูดเสียงอ่อย ดวงตาบอกถึงความเกรงใจ
ชลนทียิ้มเอ็นดู เขาไม่กล้าหัวเราะเพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว เขาไม่ได้ขำแต่เขากำลังคิดว่าอีกฝ่ายน่ารักเหลือเกิน เขาชอบเวลาคูนหน้าแดงแบบนี้
ชลนทีแตะริมฝีปากที่ปลายจมูกของอีกฝ่าย ยันตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองหน้าคูนให้ชัด
“จ้องกันแบบนี้ผมก็เขินเป็นนะครับ”
“หึๆ”
“คุณชลโกรธผมไหมครับ” ดวงตาที่มองขึ้นมาลังเลและเป็นกังวล ชลนทีไล้มือไปตามกรอบหน้าของอีกฝ่าย
“จะโกรธทำไม ดีแล้วที่คูนบอกผม”
“ผม..ผมจะพยายามทำใจให้ได้เร็วๆ ครับ คุณชลรอนิดนะครับ” เสียงพูดร้อนใจยิ่งทำให้คูนน่าเอ็นดู
“ไม่ต้องรีบร้อน เราจะค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปด้วยกัน ตกลงไหม”
“คุณชล”
“วันนี้แค่ได้กอดคูน ได้จูบคูน ผมก็พอใจแล้ว”
สายตารักใคร่และเชื่อใจที่มองขึ้นมา ทำให้ชลนทีอดก้มหน้าลงดูดซับความหวานจากริมฝีปากของอีกฝ่ายไม่ได้
“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่เข้าใจผม”
“ไม่เห็นจำเป็นต้องขอบคุณ ผมอยากให้เรามีความสุขด้วยกัน ไม่ใช่ผมสุขแค่คนเดียว”
“คุณชล” คูนมองชลนทีด้วยความรักที่มีเต็มหัวใจ เขาโชคดีจริงๆ ที่ได้รักคนๆ นี้
“แต่ตอนนี้ผมต้องสงบสติอารมณ์ก่อน” ดวงตาที่มองมาล้อเลียน ริมฝีปากร้อนแตะริมฝีปากของเขาแผ่วเบา ก่อนที่ร่างสูงจะทิ้งตัวลงนอนหงายข้างเขา
คูนพลิกตัวนอนตะแคงมองคนรัก ชลนทีกำลังสะกดกลั้นอารมณ์อย่างเต็มที่ ดูเหมือนเขาปลุกอีกฝ่ายให้ตื่นขึ้นมา
“คูน!ทำอะไร” มือใหญ่ตะปบมือของเขาให้หยุดเคลื่อนไหว
คูนขยับมือหนีมือของชลนที เขาปลดเข็มขัด รูดซิป ก่อนแตะมือลงบนส่วนที่กำลังขยาย
“ผมกังวลเรื่องนั้นก็จริงแต่บางเรื่องผมถนัดนะครับ”
“คูน” เสียงเรียกชื่อเขาแหบพร่า
คูนขยับมือขึ้นลงช้าๆ ยิ้มเมื่อได้ยินเสียงครางแผ่วเบา ในที่สุดเขาก็เจอเรื่องที่เขาทำได้ดีแล้ว
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin