Monday, 08:20 PM
เขมินทรา: ตายหรือยังพี่
เขมินทรา: อยากไปเยี่ยมแต่หมาที่เฝ้าดุเป็นบ้า
เขมินทรา: ถ้าว่างออกมาเจอกันหน่อยไหม
เขมินทรา: ผมรู้นะว่าใครสั่งยิง
เขมินทรา: ไม่อ่านไม่ตอบอย่างนี้นอนจมน้ำตาตายไปแล้วหรือเปล่า
เขมินทรา: มั่นหน้าว่าเขาจะรักแล้วเป็นไง อีกสามเดือนแต่งงาน
เขมินทรา: เตือนแล้วแท้ๆ ไอ้พี่โง่
ผมเหลือบตามองหน้าจอโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะข้างเตียงผู้ป่วยอย่างเบื่อหน่าย เขมินทรารัวข้อความมาอีกแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่หยุดรัวจนกว่าผมจะตอบ เพราะนี่ก็เป็นวันที่สามแล้วมั้งที่ไอ้แฝดบ้าบอของผมติดต่อมา
ผมขยับตัวเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์มือถือ ระมัดระวังแผลไม่ให้ปริยิ่งกว่าชีวิต แม้จะขยับเขยื้อนได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังกังวลตอนที่ขยับตัวอยู่ดี
ขวัญพัฒน์: ยังไม่ตายครับไอ้น้องโง่
ขวัญพัฒน์: มีอะไรก็พูดมาตรงนี้
ขวัญพัฒน์: ไม่มีอารมณ์ไปเจอใคร
เขมินทรา: กว่าจะตอบ นึกว่าโดนยิงจนโง่ยิ่งกว่าเดิมแล้วตอบไลน์ไม่เป็น
ขวัญพัฒน์: ผมบล็อกนะ
เขมินทรา: เดี๋ยว!
เขมินทรา: มาคุยเรื่องพี่ธนิก
เขมินทรา: ทำไมไม่รั้งเขาไว้ เขากำลังจะแต่งงานนะ จะไปเป็นของคนอื่นแล้ว
ขวัญพัฒน์: อยากรั้งก็รั้งเอง มีค่าพอไม่แย่งใคร
เขมินทรา: มีค่าหรือหน้าโง่
ขวัญพัฒน์: ไอ้ขิม มึงจะเอายังไง
เขมินทรา: กระสุนเปลี่ยนนิสัยเหรอหรือหัวร้อนเป็นปกติ
ขวัญพัฒน์: กูเลือกปฏิบัติ คนอย่างมึงพูดดีไม่ได้แล้ว
เขมินทรา: กูน้องมึงนะ ทำดีกับกูบ้าง
ขวัญพัฒน์: น้องเหี้ยน่ะสิ สั่งคนมาดักอุ้มกู
เขมินทรา: กูสั่งจริง แต่คนที่ยิงมึงไม่ใช่คนของกูจ้า
ขวัญพัฒน์: มึงรู้อะไรมา
เขมินทรา: มึงเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากเกินไปไง เลยโดนสอยร่วง
เขมินทรา: ออกมาเจอกันหน่อย มีเรื่องคุย
ขวัญพัฒน์: โทษทีนะขิม กูไม่โง่ไปให้มึงฆ่าหรอก
เขมินทรา: ต่อให้กูจะเกลียดมึงแต่กูก็ใจเหี้ยมไม่พอฆ่าคนที่หน้าเหมือนตัวเองนะ แค่เห็นแผลบนหน้ามึงกูก็เจ็บแล้วไอ้สัดพี่ แต่ถ้าสั่งคนทำก็อีกเรื่อง กูไม่ให้เลือดมึงเปื้อนมือกูหรอก ฉลาดพอ
ขวัญพัฒน์: เออ ก็ดี ได้ยินแล้วค่อยสบายใจ แต่กูยังอยู่โรงบาลอีกสองวัน
เขมินทรา: เจอได้เมื่อไหร่
ขวัญพัฒน์: วันอาทิตย์ละกัน
เขมินทรา: เออ รีบมาให้กูยิงหัวมึง
ขวัญพัฒน์: กูมีพันธมิตร มึงยิงหัวกูเมื่อไหร่ หัวมึงก็โดน จบเรื่องแบบแฮปปี้ คนอื่นก็ได้สมบัติพ่อมึงไป
เขมินทรา: แอ๊บใสมานาน พี่ธนิกคงไม่มีวันรู้ว่าคนน่ารักของพี่แม่งก็เหี้ยไม่ต่างจากกูหรอก มึงนี่เป็นคนยังไงนะ มีหลายร่างเหรอไอ้สัดพี่
ขวัญพัฒน์: ก็เพราะกูเป็นพี่มึงไงเขมินทรา สันดานเหี้ยถ่ายทอดกันได้ แต่เนื้อแท้กูเป็นพลเมืองดีที่ไม่ชอบวุ่นวาย กูบอกมึงแล้วว่ากูเลือกปฏิบัติ

เขมินทรา: แล้วแต่เลย กูไม่ใส่ใจ ว่าแต่มึงจะปล่อยพี่ธนิกแต่งงานจริงเหรอ มึงไม่รักพี่ธนิกเลยรึไง มึงยอมเหรอวะ
ขวัญพัฒน์: มึงไม่ยอม?
เขมินทรา: เออ ใครจะไปยอม กูยอมให้มึงได้ไปดีกว่าคนอื่นได้ เพราะยังไงมึงก็หน้าเหมือนกู
ขวัญพัฒน์: เรื่องของมึงครับ แต่บอกเลยว่าพอมึงพูดอย่างนี้กูแทบจะหามีดมากรีดหน้าตัวเอง
เขมินทรา: มึงมันพี่เหี้ยอะไอ้ขวัญ ไม่เคยคิดช่วยน้องอย่างกู ให้ทำอะไรก็ไม่เคยทำให้ เกิดมาหน้าเหมือนกูซะเปล่า ไร้ประโยชน์ รกโลก น้าตายก็ไม่คิดแก้แค้น หมาตายก็ไม่หือไม่อือ มึงเกิดมาทำไมไอ้ขวัญ เกิดมาแดกแล้วตายไปรึไง
ขวัญพัฒน์: ถ้าตอนเกิดกูรู้ว่าโตมามึงจะเป็นอย่างนี้ กูจะเอาเท้ายันหน้ามึงไม่ให้ตามกูออกมาเลยนะ ออกมาแล้วสร้างแต่เรื่อง กูก็อยู่ของกูดีๆ ดึงกูเข้ามาวุ่นวาย กูเก่งแค่ขับมอเตอร์ไซค์ ไม่เก่งเรื่องแย่งของ รู้ไว้!
เขมินทรา: ไม่เก่งก็แค่เป็นผู้ช่วยของกู กูบอกแล้วว่ากูแย่งเอง กูแค่พลาดเซ็นเอกสาร แต่มึงก็ไม่ช่วย แถมยังจะไปช่วยลูกของศัตรูที่ฆ่าแม่
ขวัญพัฒน์: ไม่เรียกพลาด กูเรียกโง่ มึงก็ไม่ได้ต่างจากกูไอ้ขิม มึงหลงเขาจนยอมยกให้เขาเอง ลายเซ็นมึงสวยจนกูรู้เลยว่าไม่มีใครบังคับให้มึงเซ็นแน่ๆ แม่งคงจับปากกานั่งไขว้ห้างเซ็นด้วยซ้ำ
เขมินทรา: มึงเห็นเอกสารแล้วเหรอ แล้วได้มามั้ย
ขวัญพัฒน์: ได้ มันเคยอยู่ที่กู พี่นิกไว้ใจให้กูเอง แต่ตอนนี้พันธมิตรกูเก็บไว้ กูบอกเขาไว้ว่าถ้ากูตายก็ช่วยจัดการเรื่องต่อให้ด้วย มึงจะไม่ได้สักแดงเลยนะไอ้น้องโง่ ที่จริงพี่นิกให้กูตัดสินใจด้วยซ้ำว่าจะทำยังไงกับเอกสารของมึง แต่กูไม่ช่วยมึงจ้าไอ้น้องเหี้ย พี่นิกต้องได้คนเดียว กูบอกแค่นี้
เขมินทรา: กูเกลียดมึงจนไม่รู้จะเกลียดยังไงแล้วไอ้เหี้ยเอ้ย!
เขมินทรา: แต่มึงไว้ใจคนอื่นมากเกินไปมั้ย หึ เดี๋ยวกูหาทางเอาคืนมาได้เอง ไม่ต้องพึ่งพี่นรกอย่างมึง
ขวัญพัฒน์: กูไม่ได้ไว้ใจใคร แต่เพราะเป็นผลประโยชน์ของพี่นิก พันธมิตรกูไม่มีทางปล่อยหลุดมือหรอก อีกอย่างนะไอ้ขิม ก่อนที่มึงจะหาเอกสารโง่ๆ นั่น มึงจัดการคนอื่นก่อนเถอะ
เขมินทรา: ไม่บอกกูก็คิดได้เอง ไม่เสียเวลานั่งโง่ทำตัวน่ารักเหมือนมึงหรอกนะ
ขวัญพัฒน์: งั้นอีกสามเดือนล่มงานแต่งสิ เรื่องแค่นี้กูไม่บอกมึงก็คิดได้ใช่มั้ย
เขมินทรา: จะยืมมือกูเหรอ คนนิสัยดีอย่างมึงทำไม่ได้ว่างั้น เก่งแต่ทำตัวน่าสงสาร
ขวัญพัฒน์: สมกับที่เป็นฝาแฝดกู อยู่ด้วยกันแค่ในท้องแม่แต่ทำไมรู้ใจจังวะ นี่ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นน้องนรก กูจะหอมหัวให้รางวัล
เขมินทรา: ขยะแขยงไอ้พี่เหี้ย ไว้มาเจอกูวันอาทิตย์แล้วกูจะให้คำตอบว่าจะล่มงานให้มึงมั้ย
ขวัญพัฒน์: ไม่ได้เพื่อกู แต่เพื่อพี่นิก เขายังไม่พร้อมมีห่วงผูกคอตอนนี้ เพราะแต่งเร็วกว่าแพลนที่มิสเตอร์ทีบอกกูไว้ กูไม่อยากให้เขาทรมานไปมากกว่านี้
เขมินทรา: เออ เรื่องนี้กูก็รู้ เพราะกูก็รู้จักพี่นิ่ม ถือว่ากูเข้าใจก็แล้วกัน แต่งอีกสามเดือนแต่ร่อนการ์ดเชิญให้กูแล้ว
ขวัญพัฒน์: ทีเรื่องพี่นิกมึงเข้าใจง่ายจังเลยนะ
เขมินทรา: ผัวกูเหมือนกันจ้า
ขวัญพัฒน์: ไอ้มือปืนที่ยิงกูมันหายหัวไปไหนวะ จะจ้างไปยิงมึงอีกคน เป็นของเก่าอย่าเจ๋อให้มาก
ขวัญพัฒน์: แต่มึงก็ระวังไว้เถอะ ยิงผิดตัวตายฟรีไม่รู้ด้วย
เขมินทรา: ก่อนหน้ามึงสามวันกูโดนยิงถากแขนเลือดอาบไปแล้ว ฟาดเคราะห์ก่อนมึงอีกไอ้พี่เหี้ย
ขวัญพัฒน์: ทำไมไม่ตาย น่าจะเดี้ยงไปนานๆ ยิงปากมึงด้วยก็น่าจะดีแต่ดันโดนแค่แขน ทียิงกูล่ะเสือกแม่น
เขมินทรา: มึงอ้วนไง ตัวกูบางกว่า พื้นที่กระสุนเจาะมีน้อย
ขวัญพัฒน์: เออ ระวังตัวไว้ละกัน ตายก่อนพ่อแน่ปากอย่างมึง
เขมินทรา: พูดถึงพ่อ มึงเคยเจอพ่อมั้ย
ขวัญพัฒน์: เคย แล้วมึงล่ะ
เขมินทรา: เขาไม่มาหากูเลย
ขวัญพัฒน์: แต่มึงเคยเจอแม่
เขมินทรา: ครั้งเดียวก่อนเขาตาย ไม่ได้ตั้งใจด้วย แค่บังเอิญเจอ
ขวัญพัฒน์: แม่หน้าตายังไง สวยมั้ย
เขมินทรา: ตอนกูเจอ สภาพไม่น่าดูหรอก แต่น่าจะสวยมั้ง แล้วพ่อล่ะ
ขวัญพัฒน์: จำหน้าไม่ได้ กูไม่ได้สนใจ นึกว่าเป็นชู้น้าลี กูเลยไม่ชอบ
เขมินทรา: มึงสนใจใครบ้างเถอะบนโลกนี้ ขนาดกูเป็นน้องก็ไม่สนใจกู
ขวัญพัฒน์: เลิกสั่งคนมาอุ้มกูก่อน ค่อยมาขอความรัก
เขมินทรา: ใครขอความรักจากมึงไม่ทราบ
ขวัญพัฒน์: มึงไงไอ้น้องนรก
ขวัญพัฒน์: นี่ไอ้ขิม มึงคงไม่คิดส่งคนปลอมเป็นหมอมาฆ่ากูใช่ไหม หมอแม่งแปลกๆ กูเจอหมอเจ้าของไข้กูทุกวัน เมื่อเช้ามาแล้ว เย็นก็มาแล้ว แต่นี่สามทุ่มไม่น่ามา แต่มายืนจ้องกูอยู่เนี่ย
เขมินทรา: กูจะฆ่ามึงทำหอกอะไรตอนนี้ล่ะ นัดเจอกันวันอาทิตย์ มึงตายก่อนแล้วจะให้กูจุดธูปเรียกคุยเรอะ
ขวัญพัฒน์: กูว่าหมอแม่งมองกูแปลกๆ มันใส่แมสก์ด้วย ไม่เห็นหน้า กูควรทำไงวะ
เขมินทรา: มึงอยู่คนเดียวเหรอ เพื่อนหมาบ้ามึงล่ะ
ขวัญพัฒน์: ส่งข้าวให้เมีย ไอ้ขิม มึงแจ้งตำรวจให้กูดิ๊
เขมินทรา: ตายไปเลยจ้า มึงชอบกินอะไรพิมพ์ไว้ กูจะทำบุญไปให้
ขวัญพัฒน์: ไอ้ขิม หมอแม่งปลดเข็มขัดแล้ว รูดซิบกางเกงด้วยยย
เขมินทรา: ข่มขืนก่อนเหรอ? ทำไมมันสิ้นคิดจังวะ กูว่ามันโรคจิตแน่ๆ ขนาดมึงเล่นมือถือมันก็ยังปล่อยให้มึงพิมพ์ ผิดวิสัยคนร้ายที่ควรจะเข้ามาแย่งตั้งนานแล้ว
ขวัญพัฒน์: มันล็อกประตูก่อนเข้ามาด้วยไอ้ขิม กูนอนเดี้ยงคลุมโปงแอบมองมันอยู่เนี่ย มันยังไม่เห็นว่ากูเล่นมือถือ มึงโทรแจ้งตำรวจยัง
เขมินทรา: ไอ้สัดพี่ งั้นมึงแหกปากดังๆ เลย เดี๋ยวกูว่างเมื่อไหร่โทรแจ้งตำรวจให้
ขวัญพัฒน์: มึงว่างแล้วก็โทรเรียกมูลนิธิฯ มาเก็บศพกูละกันไอ้น้องนรก
เขมินทรา: โทรเรียกทำไม มึงอยู่โรงบาล ตายก็เข้าห้องดับจิตได้เลย
ขวัญพัฒน์: ไอ้ขิม หมอหยิบเข็มแล้ว
เขมินทรา: แล้วมึงจะพิมพ์หากูยิกๆ ทำไมเนี่ย วิ่งหนีไป!
ขวัญพัฒน์: แผลกูจะปริ กูถอดสายน้ำเกลือเองไม่ได้ เลือดกูจะทะลัก!
เขมินทรา: เหี้ยย แล้วเอาไงเนี่ยยย กูโทรแจ้งแล้วแต่แม่งถามวกวนเหี้ยไรไม่รู้ คนของกูแม่งก็ไปลงอ่างกันหมด พี่มึง เอาไง มีใครอยู่แถวนั้นบ้าง ห้องพักคนป่วยหรือป่าช้า ไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาเรอะ แหกปากดังๆ
เขมินทรา: ไอ้ขวัญ
เขมินทรา: ไอ้พี่ขวัญ
เขมินทรา: พี่!
เขมินทรา: สัด อย่าเงียบ อย่ามาตายตอนที่คุยกับกูนะเว้ย กูไม่อยากเป็นคนสุดท้ายที่ได้คุยกับมึง เกิดก็ดันมาเกิดพร้อมกัน จะตายกูต้องรู้กับมึงด้วยเหรอ
เขมินทรา: ไอ้สัดพี่! อย่าเงียบ กูใจไม่ดี มึงถ่วงเวลาไว้อีกครึ่งชั่วโมง กูจะพาตำรวจเข้าไป
ขวัญพัฒน์: Sent a photo.
เขมินทรา: ...
ขวัญพัฒน์: ไม่ต้องละมึง
ขวัญพัฒน์: พี่นิกมาหากู
เขมินทรา: ไอ้เวรเอ้ย!
ขวัญพัฒน์: โทษๆ กูระแวงไปเอง แต่งตัวเหมือนหมอเจ้าของไข้กู เชิ้ตขาวกางเกงแสลค เบสิคฉิบหาย
เขมินทรา: ควายยย ไอ้พี่เหี้ยอย่างมึงนี่มัน กูหมดคำพูด
เขมินทรา: เจอกันวันอาทิตย์กูจะเอามีดแทงมึง
ขวัญพัฒน์: แทงด้วยความรักเหรอ
เขมินทรา: ความเกลียดชังไอ้สัด
ขวัญพัฒน์: เรื่องของมึงครับ แต่ว่านะไอ้ขิม
ขวัญพัฒน์: ขอบใจว่ะ มึงแม่งรักกูด้วยเหรอเนี่ย
เขมินทรา: กูไม่อยากเป็นคนสุดท้ายที่ได้คุยกับมึงก่อนตายเว้ย
ขวัญพัฒน์: ที่จริงนะไอ้ขิม กูก็ไม่ได้เกลียดการมีน้องชายนักหรอก
เขมินทรา: ...
เขมินทรา: กูก็เหมือนกัน
“ทำไมมาดึกขนาดนี้ หมดเวลาเยี่ยมแล้วไม่ใช่เหรอครับ” ผมวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวหลังจากลบบทสนทนากับเขมินทรา ก่อนจะตั้งคำถามกับบุรุษหนุ่มร่างสูงที่เล่นเอาเกือบหัวใจวายเพราะดันปิดหน้าไปซะครึ่งหน้าแถมยังทำตัวน่าสงสัย
“คิดว่าขวัญนอนแล้ว ก็เลยมา” คุณธนิกตอบเสียงเรียบ เขากลับไปสวมแมสก์ตามเดิมแล้ว เพราะเมื่อกี้ถอดออกเพื่อไม่ให้ผมส่งเสียงโวยวาย อีกนิดถ้าไอ้แฝดน้องของผมมันคุยกับตำรวจรู้เรื่องคงได้ถูกจับไปแล้ว ดันมาแสดงบทคนโรคจิตให้ใจหายใจคว่ำ
“ทำไมมาตอนผมตื่นไม่ได้ล่ะครับ” ผมเอียงคอมองคนที่นั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง เห็นแค่ดวงตาก็เลยไม่รู้ว่ากำลังทำหน้ายังไง “ป่วยเหรอ ทำไมต้องใส่ผ้านี่ด้วย”
“เปล่า” เขาปฏิเสธ “ไม่ได้ป่วย”
“ตอบคำถามก่อนหน้า”
“ไม่ขอตอบ”
ต่อให้เขาไม่พูด ผมก็รู้คำตอบดี แค่อยากถามให้ได้ยินจากปากเท่านั้น
“คุณนิ่มล่ะครับ วันนี้ไม่อยู่ด้วยกันเหรอ”
คำถามของผมทำให้คิ้วเข้มๆ ใต้ผมหน้าที่ไม่ได้ถูกเซ็ตเสยไปข้างหลังขมวดมุ่น “ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันทุกวันไหม”
“แล้วทุกคืนล่ะ”
“นอนคนเดียว นิ่มเป็นผู้หญิง” เขาบอกเสียงเข้ม “พี่ให้เกียรติ”
“หลังจากแต่งงานก็จะนอนเหรอ”
“เข้าหอก็ต้องนอน”
“คืนเข้าหอมาหาผมสิ”
“ขวัญพัฒน์” เขาเรียกเสียงดุ แววตาที่มองผมก็ดุตามไปด้วย “พี่แค่มาเยี่ยม อย่าคิดไกล”
“พี่นิก”
“อย่าเรียกแบบนี้”
บทเขาจะใจร้าย...แม้แต่ชื่อที่เขาชอบให้เรียกก็ยังไม่อนุญาตเลย
“ก็ได้ครับคุณธนิก”
เขาพยักหน้า ท่าทางพึงพอใจ ก่อนจะถาม “แล้ว...เป็นไงบ้าง”
“ใกล้หายแล้วครับ ไกลหัวใจ”
“ปากเก่ง”
“ต้องเก่งแล้วครับ ต้องเก่งทุกอย่างเพราะต้องดูแลตัวเอง แฟนอยู่ด้วยไม่ได้แล้ว” ผมยิ้มให้เขา แน่ใจว่าเป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ฝืน แต่ไม่แน่ใจว่าจะสดใสดังเดิมหรือไม่ “ผมเผลอทำหายที่สถานีรถไฟ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เห็น เขากำลังร้องไห้ ไม่รู้ว่ายังร้องไห้อยู่มั้ย ไม่เจอผมเขาอาจจะเศร้าอยู่ก็ได้”
“ไม่หรอก เขาสบายดี” คุณธนิกตอบ “มีความสุขมากด้วย”
“เหรอครับ”
“แล้วเราล่ะ”
“ผมก็โอเคครับ สบายดี ถ้าแผลหายก็จะสบายดีมากขึ้น”
แม้จะไม่ได้เห็นริมฝีปากที่ถูกผ้าปิดจมูกบดบัง แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังยิ้ม
“ขวัญ”
“ครับ”
“มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมั้ย”
ตอนนี้ผมไม่ขออะไรมาก แค่อยากไลน์หาไอ้แฝดนรกให้มันส่งคนมายิงหัวผมให้ตายไปซะ เพราะผมก็ชักสงสัยว่าผมเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่อร้องไห้แล้วตายไปเหรอ!
“เตรียมชุดให้ผมด้วยครับ” คำตอบของผมก็คือไม่ ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อร้องไห้แล้วก็ตายไปอย่างน่าสมเพช แต่ผมเข้มแข็งพอจะอยู่รอดูไอ้แฝดนรกล่มงานแต่ง เรื่องนี้ผมเชื่อใจมันเกินร้อยว่ามันทำได้ “ผมจะไม่ถามหรอกนะว่าทำไมไม่เลือกพี่โมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว”
“แล้วทำไมไม่ถาม รู้คำตอบเหรอ”
“รู้ครับ” ผมพยักหน้าพลางให้คำตอบ “เพราะคนหล่อมักใจร้าย นอกจากจะเปลี่ยนผมเป็นน้องชายแล้วยังให้ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ดีครับ...ทำได้ดี ขอชื่นชม”
“เราประชดพี่เหรอขวัญ”
“ด่าครับ”
“ขวัญพัฒน์”
ผมไหวไหล่ ยักคิ้วใส่เขา “แต่วันงาน พี่นิกต้องถ่ายรูปคู่กับผมนะ ใครจะมองว่าผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวก็ช่างเขา แต่พี่นิกรู้นี่ว่าในใจพี่ผมเป็นใคร”
“พูดแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะน้องขวัญ” น้ำเสียงเขาเข้มอีกแล้ว ทำตาดุอีกตามเคย
“ผมน่ารักสำหรับพี่นิกตลอดแหละ ผมรู้” ดุไปเถอะ ผมไม่สนใจหรอก ปล่อยให้ผมได้พูดเรื่อยเปื่อยให้สบายใจก็พอแล้ว
“น้องขวัญดื้อ”
“น้องดื้อกับพี่นิกคนเดียว” ผมคลี่ยิ้มให้เขา ไม่กล้าที่จะยื่นมือไปแตะต้องคนตรงหน้า แม้ว่าผมจะอยากกุมมือเขาเอาไว้ แต่เพราะเราบอกลากันแล้ว ผมก็แค่พูดเอาแต่ใจไปอย่างนั้น ต่อชีวิตของตัวเองไปวันๆ เสริมกำลังใจให้กับการรอคอยรถไฟขบวนเดิมอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด ผมอาจจะตายไปก่อนหรือแก่จนเดินไม่ไหวก็ตอบไม่ได้เหมือนกันเพราะเป็นเรื่องของอนาคต
“พี่ต้องกลับแล้ว” เขามองโทรศัพท์มือถือแล้วพูดขึ้น คุณนิ่มคงไลน์มาตามเพราะผมเห็นแจ้งเตือนบนหน้าจอ
“ครับ กลับดีๆ นะ” ผมยิ้มส่งให้เขา “แล้วก็...ไม่ต้องมาหาแล้วนะครับ ผมสบายดี”
“อืม”
“เจอกันที่บ้านครับ”
“พี่…" เขาเอาอีกแล้ว หยุดพูดให้ผมต้องลุ้น เพราะพอเขาทำแบบนี้ทีไร เมื่อเขาพูดขึ้นมา ความเจ็บของผมก็จะเริ่มต้น...ครั้งแล้วครั้งเล่า “พี่จะไปอยู่คอนโดฯ มันอยู่ใกล้ที่ทำงานแล้วก็...”
“อยู่ใกล้คุณนิ่ม” ผมต่อท้ายให้ด้วยรอยยิ้ม “พี่โมบอกผมแล้วครับ เขาจะมาอยู่เป็นเพื่อนผมแทนคุณธนิก”
“อืม” เขารับคำ แววอาวรณ์ในดวงตาทำให้ผมเสมองไปทางอื่น “อย่าดื้อกับโมนะขวัญ”
“ผมก็บอกไปแล้วนี่ครับว่าผมไม่ดื้อกับคนอื่น” ไม่มีอะไรยากไปกว่าการยิ้มทั้งที่ในใจกำลังเจ็บ ผมเคยคิดนะว่าข้อสอบคณิตศาสตร์เป็นอะไรที่ยากเกินสมองของผมรับไหว แต่พอเจอคุณธนิก ข้อสอบที่คิดว่ายาก...ง่ายขึ้นมาทันตาเห็น “ไปเถอะครับ อย่าให้เขารอ”
“ครับ” เขาพยักหน้าแล้วฝากถ้อยคำให้ผมนอนร้องไห้ไปจนเช้า “นอนได้แล้วนะ ฝันดีครับขวัญ”
ฝันดีอะไรกัน...แค่ปลุกผมให้ตื่นจากฝันร้ายนี้ คำอวยพรให้ฝันดีก็ไม่จำเป็นแล้ว!
แต่ผมก็ได้แค่ท้วงอยู่ในใจและนี่คงเป็นอีกครั้งที่ผมได้แต่มองแผ่นหลังของเขา...ที่ห่างจากตัวผมไปไกลทุกที
............To be Continue....................
