สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27  (อ่าน 178013 ครั้ง)

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ทางออกที่ดีน่าจะเป็นคุณธนิกยอมขัดใจแม่ สู้กับแม่สักตั้ง แล้วไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 17



“อย่าเป็นแบบนี้ไอ้เพื่อนเวร!” เสียงของปฐพีดุจัดเมื่อเห็นเพื่อนรักเพียงคนเดียวนั่งตัวสั่่นและร้องไห้ไม่หยุด “มีสติหน่อยสิวะ!”

เสื้อผ้าของธนิกเปรอะไปด้วยเลือดของคนที่ถูกพาตัวเข้าห้องผ่าตัด เขานั่งงอตัวอยู่บนเก้าอี้สีฟ้า ยกมือขึ้นประสานกันราวกับกำลังภาวนา ไหล่หนาสั่นไหวไม่หยุด มันเริ่มสั่นตั้งแต่ที่ขวัญพัฒน์ล้มลงตรงหน้า ทั้งที่รอยยิ้มยังคงไม่จางหาย ทั้งที่มือบางก็ยังจับมือของเขาไว้ รถไฟกำลังจะออกวิ่ง กำลังจะพาเขากับขวัญพัฒน์ไปยังสถานีปลายทางที่ไกลจากความวุ่นวาย ความสุขกำลังจะเกิดขึ้นแต่กลับหายวับไปกับตาเมื่อเสียงมรณะแสบแก้วหูแล่นเข้ามาในโสตประสาท ทีแรกเขายังคงนิ่งอึ้ง ไม่ทันได้ตั้งตัว ขวัญพัฒน์ก็คงเหมือนกับเขา แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่เมื่อสีแดงฉ่านปรากฎขึ้น ไหลทะลักบนเสื้อยืดสีขาวราวกับน้ำป่าเชี่ยวกราก แสงสว่างบนโลกนี้พลันดับลงราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบดบังแสงอาทิตย์เอาไว้ เขาขยับตัวทั้งที่ยังคงมึนงง แต่เพราะขวัญพัฒน์กำลังจะล้มลงบนพื้น มือของเขาก็ยื่นออกไปอัตโนมัติ

คนในอ้อมแขนหายใจโรยรินแต่พยายามพูดกับเขา ริมฝีปากบางขยับเปล่งเสียงอย่างยากลำบากเพื่อปลอบโยน

วินาทีนั้น...เขากลัวจับใจ มาจนถึงวินาทีนี้...ความกลัวก็ยังไม่จางหาย

“ธนิกได้ยินกูไหม” ปฐพีวางมือบนไหล่หนาของเพื่อนพลางบีบเบาๆ “หยุดร้องไห้ น้องจะต้องปลอดภัย ขวัญมีแค่มึงนะ ถ้ามึงไม่เข้มแข็งแล้วน้องจะพึ่งใคร”

“โม มันเป็นความผิดของกูเอง” ธนิกไม่อาจควบคุมความสั่นของน้ำเสียงได้ เขายกมือขึ้นปิดหน้า กลิ่นคาวเลือดของขวัญพัฒน์ยังติดที่ฝ่ามือ “กูเห็นแก่ตัว กูแม่ง...ไม่เคยทำให้น้องมีความสุขจริงๆ สักครั้ง”

“มึงไม่ผิดเลยเพื่อน คนผิดก็คือคนที่ทำเรื่องเลวๆ” ปฐพีบอกเสียงขรึม เขาได้รับสายจากธนิกเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน แม้ว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะพูดคุยกันรู้เรื่อง ธนิกแทบไม่มีสติ เอาแต่พูดวนไปวนมาว่าขวัญพัฒน์ถูกยิง นอกจากประเด็นนี้ก็ไม่ได้รู้อะไรมากขึ้น ทว่าโชคดีที่นางพยาบาลในห้องฉุกเฉินช่วยพูดให้ หล่อนบอกชื่อโรงพยาบาลแล้วเขาจึงรีบตรงมาทันที “แล้วตกลงเรื่องมันเป็นมายังไง มึงเห็นคนยิงไหม”

“กูไม่รู้อะไรเลยไอ้โม” ธนิกบอกอย่างอ่อนล้า เขาปาดน้ำตาออกจากใบหน้าและพยายามควบคุมไม่ให้มือสั่นไปมากกว่านี้ มือที่ยังเปื้อนเลือดของขวัญพัฒน์ยืนยันว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความจริง “ตอนนั้นไม่ได้สนใจใคร กูมองแต่หน้าขวัญ เราจับมือกันกำลังจะไปขึ้นรถไฟ แล้วจากนั้นเสียงปืนก็ดัง กระสุนถูกยิงมาจากทางไหนกูไม่รู้ เหมือนตอนนั้นในหัวกูตื้อไปหมด มัน...ตั้งตัวไม่ทัน รู้อีกทีเลือดก็ไหล แล้วขวัญก็ล้ม ต่อหน้าต่อตากู”

“ใจเย็นๆ” ปฐพียกมือขึ้นลูบแผ่นหลังกว้าง “มันผ่านมาแล้วและตอนนี้น้องถึงมือหมอ”

“น้องตัวก็แค่นั้น น้องเป็นเด็กดี น่ารักเก่งด้วย แต่ทำไมถึงทำกันได้ลงวะ ใครมันทำได้ขนาดนี้”

“ก่อนจะสืบหาตัวคนร้าย กูขอถามมึงหน่อยนะว่าทำไมครั้งนี้ถึงประมาท รู้ว่าไม่ใช่เวลาแต่กูไม่คิดว่าคนของเราจะพลาด มึงทำอะไรลงไปหรือเปล่า” ปฐพีมองเพื่อนซี้ของตัวเองด้วยสายตาตำหนิ “ตอบกูมาธนิก”

“กู...กูแค่อยากพาน้องไปเที่ยว อยากไปด้วยกันสองคนแบบที่ไม่ต้องมีใครมารบกวน ไม่ต้องมีใครรายงานให้แม่กูรู้ กูก็แค่...” ธนิกพยายามเรียบเรียงคำพูดแต่ก็จนด้วยความจริงที่ว่าหากเขาไม่เห็นแก่ตัว เรื่องเลวร้ายครั้งนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น

“ขอโทษที่บีบมึงมากเกินไป” ปฐพีพูดพลางถอนหายใจยาว “กูน่าจะรู้ว่าความรู้สึกของมึงที่มีต่อขวัญพัฒน์มันมากกว่าครั้งของเขมินทรา”

“มึงไม่ผิด กูผิดเองโม กูคิดอะไรตื้นๆ เอง”

“ความรักทำให้คนขาดสติและไร้เหตุผล” ปฐพีว่าอย่างอ่อนใจ เห็นสีหน้าของเพื่อนรักแล้วก็ตำหนิมันต่อไม่ลง “เอาเถอะ เรื่องมือปืนปล่อยเป็นหน้าที่กู แต่มึงก็รู้ใช่ไหมว่าจะเป็นใครก็ได้ในบรรดาสามคน ทั้งแขไข เขมินทราและคุณธนิษฐา”

“แม่กูเหรอ”

“อืม” ปฐพีรับคำในลำคอก่อนจะบอกอย่างระมัดระวังเมื่อเห็นคิ้วเข้มบนใบหน้าหล่อเหลาขมวดมุ่น “ตัดออกไม่ได้หรอก แรงจูงใจก็มี”

“แม่รู้เรื่องกูเหรอ”

“ถามดีกว่าว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมึงบ้าง”

“แต่กูสงสัยขิม” ธนิกบอกเสียงหนักแน่น “ขิมขู่จะฆ่าขวัญมาพักหนึ่งแล้ว ทั้งให้คนสะกดรอยตาม มาป้วนเปี้ยนแถวหมู่บ้าน แล้วก็ส่งพวกตุ๊กตาที่ถูกแทงจนไส้ทะลักแถมยังเปื้อนเลือดมาที่บ้านบ่อยๆ”

“มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะคนที่ไม่น่าสงสัยมากที่สุดอย่างแขไขก็อาจจะเป็นคนส่งมือปืนมาเองก็ได้” ปฐพีออกความเห็น “ในเมื่อเกมยังไม่เริ่ม ผู้เล่นตัวจริงยังไม่ชัด ก็มีสิทธิ์ว่าจะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น”

“พวกชอบเล่นสกปรก กูจะเป่าหัวทิ้งให้หมด”

“ต่อไปก็อย่าประมาทก็พอ บทเรียนราคาแพงเลยนะ แต่แบบนี้ค่อยสมกับเป็นมึงหน่อย” ปฐพียกยิ้ม มองสีหน้าเครียดขรึมของธนิกอย่างคลายกังวล “ริอ่านจะไปเที่ยวแต่ไม่ได้ดูเลยว่าตัวมึงกับน้องไม่ได้กำลังวิ่งอยู่ในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ อย่าใส่ฟิลเตอร์ความรักให้มาก มองให้ออกหน่อยว่าแม่งที่วิ่งกันอยู่เนี่ยคือทุ่งกับระเบิด ต้องค่อยๆ ก้าว แถมนอกทุ่งยังมีคนดักยิงหัวมึงทิ้ง หลังจากนี้คิดให้ดีนะ เดินเกมฉลาดหน่อย จัดการคนที่จัดการง่ายสุดอันดับแรก”

“มีใครบ้างที่ง่าย แม่งตัวบอสทั้งนั้น มีแต่แฟนกูเนี่ยเป็นกระต่ายอยู่ตัวเดียว”

“แฟน” ปฐพีทวนคำพลางเลิกคิ้ว “เอาล่ะไอ้สัดธนิก มึงควรจะอธิบายกับกูเรื่องนี้อีกเรื่อง! ทำไมชอบสร้างปัญหาไม่หยุดหย่อนวะ!”

“ไม่ใช่เวลาด่ากูมั้ย น้องกำลังแย่อยู่นะเว้ย กูไม่มีกะจิตกะใจ”

“กูพูดกับมึงเหมือนพูดกับกำแพง บอกว่าอย่าทำให้อะไรวุ่นวายไปกว่านี้ มึงผูกมัดน้องไว้ทำไมทั้งๆ ที่ต้องทิ้ง” ปฐพีไม่ได้ล้มประเด็นลงง่ายๆ แค่เพราะธนิกกำลังกังวลใจกับคนที่อยู่ในห้องผ่าตัด “โดนยิงว่าเจ็บแล้ว แต่เชื่อกูดิว่ามีเรื่องที่ทำให้น้องเจ็บมากกว่านี้หลายเท่า และคนที่ทำก็คือมึงเอง”

“น้องบอกจะรอ น้องบอกว่าต่อให้กูจะไปเป็นของใครก็อย่าเลิกกับน้อง น้องจะรอที่เดิม มึงเข้าใจมั้ยว่าสักวันมันจะเป็นไปได้”

“ฝันอยู่เหรอวะ” ปฐพีพูดอย่างใจร้าย แต่เขาไม่นิยมสร้างโลกจินตนาการที่เต็มไปด้วยความสุขให้ใครเพราะมันไม่มีประโยชน์ในเมื่อคนทุกคนต้องอยู่กับความเป็นจริง “มึงจะบอกว่าต่อให้แต่งงานกับนิ่มไปแล้วก็จะหย่าถ้ามีโอกาสที่จะกลับไปหาน้อง เฮ้ย ธนิก มันเห็นแก่ตัวเกินไปนะเว้ย นิ่มไม่ได้ทำผิดอะไรที่มึงจะยัดเยียดสถานะแม่หม้ายให้เขา”

“แล้วขวัญผิดอะไร กูผิดอะไร ทั้งที่รักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้”

“ไปถามแม่มึงสิ” ปฐพีบอกอย่างหัวเสีย “ถามแม่มึงคนเดียวเลยจ้า กูก็ช่วยอย่างเต็มที่แล้ว ทั้งที่ก็รู้ว่าสุดท้ายมึงต้องตกบ่วงตัวเองแล้วมาดื้อแพ่งแบบนี้ ไอ้ห่า เอาความเป็นห่วงกูคืนมา”

“ไอ้โม...”

“เออๆ แม่ง...มีเพื่อนอย่างมึงเนี่ยกูปวดหัว” ปฐพีรู้สึกเหนื่อยใจกับไอ้เพื่อนดื้อเงียบที่กำลังนั่งซึมอยู่ข้างๆ แต่ที่เหนื่อยใจมากยิ่งกว่าก็คือตัวเขาเองที่ต่อให้จะหงุดหงิดหัวเสียมากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ต้องหาทางช่วยเพื่อนงี่เง่าอยู่ดี “เอาตามสะดวกมึงก็แล้วกัน กูห้ามเตือนอะไรก็ทำสวนทางหมด แต่มึงตกลงกับน้องได้ก็ดีแล้วล่ะ จะเป็นแฟนเป็นอะไรก็ตามใจมึง ไม่เหนื่อยใจไม่เจ็บปวดก็นั่นแหละ ไปให้สุดละกัน แต่อย่าลืมว่าเราเปลี่ยนแพลนไม่ได้ นิ่มจะกลับมาวันศุกร์หน้า กูบอกแค่นี้”

“มึงทำยังไงเขาถึงกลับมาเร็วอย่างนี้”

“กูไม่ได้ทำ เพิ่งคุยกับมึงเมื่อคืนจะทำอะไรได้เร็ววะ” ปฐพีบอกพลางเอนหลังพิงกับพนักแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพดานสีขาวสะอาดตา “แม่มึงต่างหากที่เรียกนิ่มกลับมา เขาจะเร่งเวลาแต่งด้วย”

“นิ่มยังเรียนไม่จบไม่ใช่เหรอ” ธนิกถามเสียงแผ่ว หัวใจบีบรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม

“แต่งแล้วก็กลับไปเรียนได้ ไม่ใช่ปัญหาของพวกผู้ใหญ่นี่ อีกอย่างแม่มึงอยากให้แต่งตอนที่พ่อมึงยังพอจะมีแรง”

“เขาแค่ขยับตัวก็เหนื่อยแล้ว ไม่น่าจะลุกมางานแต่งไหวหรอก”

“ไปคุยกับแม่มึงละกัน คุณธนิษฐาเขาฟังใครที่ไหน”

“อืม...แม้แต่กูยังไม่ฟังเลย”

ปฐพีช่วยอะไรไม่ได้มากนัก เขาทำได้เพียงนั่งอยู่ข้างๆ เพื่อไม่ให้ธนิกรู้สึกเดียวดาย รู้ดีว่าไม่ควรเพิ่มเรื่องให้คิดมากไปกว่านี้ ขวัญพัฒน์ที่ยังอยู่ในห้องผ่าตัดจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่อาจบอกได้ ธนิกคงกำลังรู้สึกทรมาน ทั้งเรื่องของขวัญพัฒน์และปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาเชื่อแน่ว่าเพื่อนรักของเขาจะสามารถผ่านมันไปได้ เอาใจช่วยมาขนาดนี้แล้วไม่ทิ้งมันไว้กลางทางอย่างแน่นอน

“ที่จริงนะมึง...ตอนที่ขวัญถูกยิง กูเผลอคิดไปว่าถ้ากูถูกยิงด้วยก็คงดี ปล่อยพวกกูไว้อย่างนั้นไม่ต้องมาช่วย พวกกูจะได้อยู่ด้วยกันอย่างที่ตั้งใจไว้”

ปฐพีตกใจกับถ้อยคำที่ได้ยิน เขาเหลือบมองสีหน้าเหม่อลอยของธนิก เห็นความจริงจังในแววตานั้นแล้วความกังวลก็กลับเข้ามาเกาะกุมใจ “อย่าคิดอะไรตื้นๆ นะเว้ย”

“ก็แค่เผลอคิด”

“เผลอก็ไม่ได้ไอ้ห่า มึงจะทิ้งกูไม่ได้ไอ้เพื่อนเวร กูช่วยมึงมาตั้งขนาดนี้ ต้องอยู่กับกู เข้าใจไหม! ชิงตายห่าไปก่อนแล้วกูจะทำยังไงวะ หมดมึงไปก็ไม่มีใครคบแล้ว กูไม่อยากตายอย่างเหงาๆ ตอนแก่”

ธนิกหลุดหัวเราะ “มึงก็นิสัยดีไอ้โม แค่ชอบทำตัวหยิ่ง เข้าสังคมไม่เป็น คุยกับใครก็เหมือนจะง้างตีนใส่เขา ปรับนิสัยตรงนี้ก็เพื่อนเยอะแยะ”

“ไม่! กูไม่อยากมีเพื่อนคนอื่น มึงน่ะเลิกคิดเรื่องตาย เลิกคิดด้วยว่าจะตายกับน้อง น้องไม่ตายกับมึงด้วยแน่ๆ อายุยังน้อย วัยรุ่นอะรู้จักไหม ต้องใช้เวลาให้คุ้ม โลกในอีกสิบปีข้างหน้าจะเป็นยังไงไม่อยากรู้เรอะ น้องยังต้องเรียนมหาลัยอีก ไหนมึงจะส่งน้องเรียน ชุดนักศึกษาก็ซื้อเตรียมไว้ให้ เนี่ย ไหนจะกล้องถ่ายรูปที่ซื้อไว้ถ่ายวันรับปริญญาน้อง ซื้อล่วงหน้าไปแล้วแต่มึงควรรู้ไว้ว่าตอนน้องจบเทคโนโลยีใหม่ก็เข้ามา มึงต้องเสียเงินซื้ออีกแน่”

“โห...ใส่เต็มขนาดนี้ จริงจังไปมั้ย”

“จำสโลแกนตอนมหาลัยกูไม่ได้เรอะ”

“อ้อ…” ธนิกทำท่านึกออก “นายปฐพีคนดีที่จัญไร”

“คนดีที่จริงจังและจริงใจไอ้สัด!”

ธนิกหัวเราะเต็มเสียง หวนนึกถึงเรื่องราวในวันรับน้องของมหาวิทยาลัย ความทรงจำในวันนั้นยังคงเป็นความทรงจำที่น่าคิดถึงและเขาหวังว่าขวัญพัฒน์จะได้มีความทรงจำแบบนั้นบ้าง อยากเห็นคนน่ารักของเขาในชุดนักศึกษา เต้นแรงเต้นกาอยู่หน้าแถวหรืออาจจะร้องไห้ในห้องประชุดเชียร์อย่างที่ไอ้โมผู้อ่อนไหวเคยร้องมาก่อน ขวัญพัฒน์ในรั้วมหาลัยจะต้องน่ารักมากแน่ๆ แต่ตอนนี้...ปลอดภัยก่อนเถอะนะ เพราะเขายังอยากจะเห็นชีวิตที่มีความสุขของขวัญพัฒน์ต่อจากนี้

แม้ว่าจะอยู่เป็นความสุขให้ไม่ได้...แต่ก็อยากให้ขวัญพัฒน์มีความสุขในทุกๆ วัน









“ฮืออ ฮึก! ฮืออ ไอ้เพื่อนเวร มึงรีบตื่นขึ้นมาสิวะ มึงจะทิ้งกูไม่ได้ ต่อให้กูรับปากว่าจะจัดงานศพให้มึง แต่มันเร็วเกินไป ไอ้ขวัญ! ลูกกูจะเรียกใครว่าลุงล่ะถ้าไม่มีมึง! ฮือออ”

ผมได้ยินเสียงร้องไห้น่ารำคาญดังอยู่ใกล้ๆ ความรู้สึกหนักอึ้งที่เปลืองตาทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าที่จะลืมขึ้นแล้วก็เห็นว่าไอ้แนนกำลังฟุบหน้ากับแขน ฟูมฟายอยู่ข้างเตียง ผมอยากจะยื่นมือไปตบหัวมันเรียกสติแต่แค่เพียงขยับก็ร้าวไปทั้งร่าง เจ็บเหมือนรถสิบล้อชนอัดกับเสาไฟฟ้า แต่ก็นั่นแหละ...เจ็บแต่ยังไม่ตาย แล้วไอ้แนนมันมาคร่ำครวญแช่งผมอย่างนี้ได้ยังไง!!

“แนน…” แค่เปล่งเสียงพูดก็เจ็บ แม้ในใจจะก่นด่าแต่ผมก็ทำแค่ส่งเสียงเรียกเบาๆ ลำคอแห้งผาก เพิ่งเข้าใจว่าฉากในละครที่ตื่นมาในโรงพยาบาลต้องกินน้ำมันเป็นยังไง เพราะตอนนี้ผมอยากซัดน้ำลงกระเพาะไปสักสองลิตร “ไอ้..แนน”

“เชี่ยยยย!!” ไอ้แนนร้องลั่น มันชะงักไปตั้งแต่ที่ผมเรียกครั้งแรกแล้ว แต่กลับทำแค่นิ่ง แต่พอผมเรียกอีกครั้งมันก็ผงกหัวขึ้นมาแถมยังทำตาโตใส่ “มึงฟื้น!”

“เออ”

“มึงนอนหลับไปกี่วันมึงรู้มั้ย กูคิดว่าถ้าวันนี้มึงไม่ฟื้นกูจะให้หมอมาฉีดฟอมาลีนแล้วยัดมึงใส่โลงแล้วเนี่ย!”

“ไอ้..สัด”

อยากด่า...อยากลุกขึ้นถีบมันด้วยซ้ำ แต่ผมทำได้แค่กระพริบตามองและเปล่งเสียงแหบแห้ง รอจนไอ้แนนมันคิดได้ว่าควรทำอะไรก่อนหลังนั่นแหละ ผมถึงได้จิบน้ำให้คล่องคอ จากนั้นมันก็วิ่งหน้าตั้งออกจากห้อง ก่อนไปก็บอกว่าจะไปตามหมอมาดูอาการ

ผมนอนมองเพดานสีขาวนิ่งๆ ไม่กล้าขยับเขยื้อนตัวเพราะเจ็บเกินจะทน แน่ใจว่าตอนถูกยิงไม่ได้เจ็บมากขนาดนี้ แต่ตอนนี้เจ็บเกินบรรยาย

ในห้องสีเหลี่ยมมีเพียงผม ก่อนหน้าก็มีไอ้แนน แล้ว...คุณธนิกไปอยู่ที่ไหน ภาพก่อนที่ผมจะออกเดินทางสู่ความฝันอันยาวนานก็คือภาพที่เขากำลังร้องไห้ ผมเอาแต่ห่วง เอาแต่คิดว่าถ้าตื่นมาแล้วเขายังไม่หยุดร้องผมจะทำยังไงดี แต่...ผมไม่ต้องคิดอะไรมากเลย เพราะเขาไม่อยู่ให้เห็น

ผิดหวัง...

รู้ว่าไม่ควรแต่ผมอดรู้สึกไม่ได้ เพราะผมหวังว่าในระหว่างที่กำลังอยู่ในความฝันที่ไม่รู้จบ ผมจะตื่นขึ้นมาแล้วได้เจอเขา ในความฝันผมเจอกับน้าลี เราพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ผมในความฝันคือผมในวัยเด็ก ก็เป็นเพียงแค่ภาพเหตุการณ์ที่ผสมปนเปกันของช่วงเวลา ปะติดปะต่อจนเกิดเป็นสถานที่ที่เหมือนจะคุ้นแต่ก็ไม่คุ้น ไอ้หลงที่วิ่งอยู่รอบตัวผมยังคงตัวเล็ก ยังคงเป็นหมาเรียบร้อยไม่ใช่หมาเพลบอยที่มั่วตัวเมียไปทั่ว พวกเรามีความสุขกันมาก น้าลีหัวเราะเสียงดังอย่างไม่เข้ากับคาแรคเตอร์ของคนเงียบๆ พูดเสียงเบา แต่น้าเวลาดุหรือด่าผมนี่เสียงดังนักเชียว ส่วนไอ้หลงก็เห่าอย่างร่าเริง เห็นอะไรก็เห่าไปหมด ก่อนฉากหลังจะเปลี่ยนจากบ้านเช่าหลังเล็กเป็นสถานีรถไฟหัวลำโพงในตอนสาย ผมกับคุณธนิกนั่งอยู่ที่ชานชาลา สีหน้าของเขาเศร้าสร้อยจนผมอดรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้ ความสมจริงของความรู้สึกทำให้ไม่แน่ใจว่าใช่ความฝันไหม ผมมาแน่ใจเอาตอนที่ตื่นขึ้นแล้ว ทว่าพอตื่นขึ้นมาคำบอกลาของเขาก็ยังคงติดอยู่ในหัว ไม่เหมือนกับความฝันก่อนหน้าที่อยู่ๆ ก็ลางเลือนขึ้นมาเสียดื้อๆ จำรายละเอียดไม่ได้จำได้แค่ว่าฝันถึงใครและอยู่ที่ไหน

ผมทบทวนความฝันในขณะที่รอหมอเข้ามาตรวจจนเมื่อหมอทำหน้าที่เสร็จเรียบร้อย บอกรายละเอียดของอาการและข้อปฏิบัติที่ผู้ป่วยพึงทำก่อนจะขอตัวออกไป แต่ผมก็ยังคงติดใจกับความรู้สึกในความฝันจนไอ้แนนลากเข้าบทสนทนาเพื่อบ่นผมเสียยกใหญ่

“จะไปไหนก็ไม่บอกกูสักคำ แล้วดันไปโดนยิงที่สถานีรถไฟ เนี่ย คนจะหนีเที่ยวมันจะโชคร้ายอย่างนี้ แล้วเป็นยังไงบ้างวะ ประสบการณ์แรกของการโดนยิง เปิดซิงที่ช่องท้อง กระสุนเจาะทะลุกระเพาะอาหาร เกือบตายไอ้สัด ดีที่ม้ามไม่แตก ไตไม่พัง” ไอ้แนนเหมือนผีเจาะปากมาพูด พอมันได้พูดได้บ่นแล้วมันก็รัวไม่หยุด

“ก็ดี...เจ็บ...ดี”

“ไม่เจ็บก็ซุปเปอร์แมนละ ตำรวจบอกว่าพบปลอกกระสุนของปืนเก้า มม. ตกอยู่ไม่ไกลจากจุดที่มึงถูกยิง คือระยะหวังผลไม่กี่เมตร ถ้ามันจ่อยิงคงโดนจุดสำคัญไปแล้ว แต่มึงน่าจะอ้วนจนมันเล็งยิงโดนตัวได้”

“ไอ้…สัด!”

“ชอบจริงๆ เวลามึงไม่ค่อยมีแรงพูดเนี่ย หึหึ” ไอ้แนนหัวเราะในลำคอเหมือนคนโรคจิตก่อนจะพูดต่อ “แต่ดีที่ว่าไม่โดนคนอื่น กูได้ยินว่ามีเด็กๆ วิ่งเล่นแถวนั้นด้วย คือถ้าโดนเด็กคงไม่น่ารอด แต่ผู้ชายแข็งแรงอย่างมึงฟื้นตัวเร็ว ตำรวจว่างั้นแหละ เห็นว่ากำลังตามสืบพยานกับเก็บหลักฐานกันอยู่ คงจะมาสอบปากคำมึงเร็วๆ นี้ แต่มึงอะนอนนานไปหน่อย กูต้องมานอนเฝ้า ไม่...ไม่ต้องทำหน้าคิดมาก กูเต็มใจ สองคืนแรกฝนก็มานอนด้วยเพราะกูไม่อยากให้อยู่คนเดียว มึงโดนยิงกูก็เลยกลัวไปหมด แต่นอนไม่ค่อยสบาย อีกวันก็เลยให้กลับบ้านไปนอนบ้านแม่ ส่วนกูก็อยู่ยาว”

“แล้ว...คุณ...”

“อ๋อ…” ไอ้แนนตัดบทด้วยคำว่าอ๋อแล้วทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก จนผมอยากจะยื่นมือไปล้วงอะไรก็ตามที่ติดคอมันอยู่ออกสักที แต่ไม่มีแรงก็เลยต้องรอให้มันพูดเอง “คือ...ยังไงดีวะ เขาก็มาบ้างแหละแต่มากับ...”

“อย่า...ลี...ลา”

“คู่หมั้น ได้ยินว่าชื่อคุณนิ่ม” ไอ้แนนทำหน้าอิหลักอิเหลื่อ ในขณะที่ผมได้แต่จ้องมองเพดานด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก จะบอกว่าเสียใจก็ไม่ถึงขนาดนั้น จะบอกว่าเข้าใจก็เกือบๆ หรือจะเป็นความรู้สึกอื่นๆ ก็มีเหมือนกัน

มัน...ตีกันวุ่นไปหมด

“คุณนิ่มเป็นคนสวยมาก พูดเพราะแล้วก็...ดูจะรักคุณธนิกของมึงเอามากๆ เลยว่ะ” ไอ้แนนบอกเสียงเบา มันยื่นมือเข้ามาใกล้ ผมไม่แน่ใจว่ามันจะทำอะไรจนเมื่อนิ้วโป้งของมันปาดน้ำใสๆ ออกจากแก้มให้ผม “ขวัญ มันจะผ่านไปด้วยดีเพื่อน”

“กู...เจ็บ”

ผมยังติดอยู่กับภาพที่เขาร้องไห้ ยังติดอยู่ที่สถานีรถไฟ ยังไม่ทันได้ขึ้นไปตามหาความสุข เราจับมือกันได้แค่ตรงนั้น

“ไม่เป็นไร” ไอ้แนนบอกเสียงเบาและคอยเช็ดน้ำตาให้ผม “กูอยู่กับมึง มึงเก่งมากแล้วล่ะ อดทนได้ดีแล้ว”

ผมพยายามไม่สะอื้นเพราะยิ่งสะอื้นร่างกายก็จะยิ่งเจ็บตามไปด้วย รู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเจ็บอย่างสาหัส แต่ในตอนนั้นผมก็แค่จินตนาการถึงความเจ็บที่จะได้รับ ทว่าพอเอาเข้าจริง ผมกลับ...

ก๊อกๆ ๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน ไอ้แนนส่งสายตามาให้ผมที่หลับตาลงในทันทีที่เห็นความนัยจากมันหรือเอาจริงๆ แล้วก็ไม่เข้าใจแต่สีหน้าของไอ้แนนมันชัดว่าคนที่เคาะประตูไม่ใช่พยายามหรือคุณหมอ

“ขวัญหลับไปแล้วเหรอ” ผมได้ยินเสียงของเขาดังขึ้นใกล้ๆ

“น้องฟื้นแล้วใช่ไหมคะน้องแนน” เสียงหวานใสของใครอีกคนก็อยู่ไม่ห่าง “ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม”

“ครับ ไม่เป็นไรแล้ว คุณหมอเพิ่งเข้ามาตรวจแล้วก็บอกเมื่อกี้ว่ารอดูอาการไปก่อน แต่คงได้ออกเร็วๆ นี้ครับ เพราะไข้ก็ลดลงแล้ว แผลก็ไม่อักเสบ ภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่นก็ไม่มี พวกคุณหายห่วงได้เลยครับ” ไอ้แนนตอบอย่างสุภาพดูไม่สมกับลุคเถื่อนๆ ของมัน “แต่ตื่นมาแล้วก็หลับไปอีก คงจะเพลียอยู่น่ะครับ”

“ดีแล้วค่ะ ได้ยินอย่างนี้ก็หายห่วง” เสียงหวานดังขึ้นอีกครั้ง “พี่ธนิกก็เลิกทำหน้าเครียดได้แล้วน้า รู้ว่าห่วงน้องชายมาก แต่ก็ต้องดูแลตัวเองด้วย อย่าให้นิ่มต้องพูดบ่อยๆ เกิดป่วยขึ้นมาอีกคนคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ นี่ถ้าน้องขิมตื่นนะ จะให้บ่นซะให้เข็ด”

“นิ่ม” เสียงของคุณธนิกเข้มขึ้นมา “น้องชื่อขวัญ ไม่ใช่ขิม”

“อ้าว...เดี๋ยวนะคะ”

“ไอ้ขวัญเป็นฝาแฝดคุณขิมน่ะครับคุณนิ่ม” ไอ้แนนเฉลยข้อข้องใจพลางพูดเสียงกลั้วหัวเราะ “มองผ่านๆ เหมือนกันแต่ไอ้ขวัญมันตาสวยกว่าแล้วมันก็อ้วนกว่าด้วยครับ ฮ่าๆ ๆ”

“โห...อย่างนี้ต้องรอน้องตื่นซะแล้วค่ะจะได้รู้ว่าตาสวยอย่างที่น้องแนนว่าจริงไหม แต่นิ่มกำลังงงๆ นิดหน่อย งั้นอย่างนี้ถ้าเจอพร้อมกันจะรู้มั้ยคะเนี่ย”

“ไม่มีทางเจอพร้อมกันหรอกครับ” ไอ้แนนยืนยัน น้ำเสียงมันจริงจังจนผมคิดว่าคุณนิ่มอาจจะงงเข้าไปใหญ่

“หรือต่อให้เจอพร้อมกันก็แยกออกง่าย” คุณธนิกพูดแทรกขึ้น “น่ารักต่างกัน”

“พี่ชายห้ามลำเอียงน้า” เสียงของผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในห้องพูด “ว่าแต่ใครน่ารักกว่ากันคะพี่ธนิกคนหลงน้อง”

“ขวัญ” เขาตอบในทันที “ขวัญน่ารักกว่ามาก”

“น้อยใจแทนน้องขิมเลย จะว่าไปก็ไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว นิ่มไปต่างประเทศ ส่วนน้องก็คงวุ่นกับเรื่องเรียน ได้ยินว่าใกล้จบแล้วด้วย นิ่มทักไลน์ก็ไม่อ่านไม่ตอบด้วยนะ ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไลน์ใหม่ไปหรือยัง”

“พี่ก็ไม่รู้”

เรื่องราวในอดีตคงมีแต่พวกเขาเท่านั้นที่รู้และผมอิจฉาคุณนิ่มนิดๆ ที่ได้อยู่ในทุกช่วงเวลาของคุณธนิก มิสเตอร์ทีเคยบอกผมว่าคู่หมั้นของคุณธนิกนั้นหมั้นกันมานานแล้ว ตามประสาพวกลูกคนรวยที่ผูกชะตากันไว้ตั้งแต่เกิด นอกจากเพื่อนสนิทของคุณธนิกก็คงจะมีคุณนิ่มที่อยู่ด้วยกันมานาน เธอคนนี้คงมีความสำคัญไม่น้อย ถึงไม่ใช่ในฐานะคนรักก็เป็นในฐานะน้องสาว แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถอยู่ในฐานะภรรยาของเขาได้ ส่วนผมเป็นคนรักที่อยู่ในฐานะน้องชายและไม่สามารถเป็นมากกว่านี้ได้

“พี่ธนิกมีประชุมต่อจากนี้นี่คะ เราไปกันเลยมั้ย ไปกินข้าวกันก่อน นิ่มหิวแล้ว”

“ครับ งั้นนิ่มไปรอพี่ที่รถก่อนได้ไหม พี่มีเรื่องจะคุยกับแนนสักสิบนาที”

“อ๋อ ได้ค่ะ นานๆ ก็ได้ นิ่มรอได้ ไม่ต้องรีบค่า จะแวะซื้อเค้กที่ร้านกาแฟชั้นล่างด้วย น้องแนน พี่ไปก่อนน้า ดูแลตัวเองจ้า”

“ขอบคุณครับคุณนิ่ม”

ผมได้ยินเสียงเปิดประตูและปิดตามลง คุณนิ่มคงออกไปแล้ว ถ้างั้นตอนนี้ในห้องก็คงเหลือแค่ไอ้แนนกับคุณธนิกที่จะพูดคุยกันด้วยเรื่องอะไรสักอย่าง ผมไม่อยากเสียมารยาทเลยแต่ให้หลับจริงๆ ก็หลับไม่ได้อีก เพราะมีเรื่องให้คิดจนปวดหัว

ผมเฝ้ารอให้บทสนทนาเริ่มขึ้นแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีเสียงใดๆ จากนั้นไม่นานก็มีเสียงประตูเปิดอีกครั้ง ก่อนเสียงลากเก้าอี้จะดึงขึ้นใกล้ๆ ไม่นานหลังจากนั้นมือของผมก็ถูกคว้าไปกุมไว้ ซึ่งทำให้ผมแน่ใจว่าเสียงประตูที่เปิดนั้นคนที่ออกไปข้างนอกก็คือไอ้แนน

“ขวัญ” เสียงเรียกของคุณธนิกทำให้ผมไม่อาจแกล้งหลับตาได้อีกต่อไป ผมลืมตาขึ้น มองสบตากับเขา แววตาที่ปิดบังความรู้สึกกลับมาอีกครั้ง “เป็นไงบ้างเรา”

“ดี...ครับ”

“อืม ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว”

ผมยิ้ม แน่ใจว่ามันไม่ใช่การฝืน ผมยิ้มเพราะตอนนี้เขาไม่ได้กำลังร้องไห้อยู่ ภาพที่เขาร้องไห้ยังตามหลอกหลอนผม แต่ว่า...น้ำตาของเขาหายไปแล้ว...หายไปพร้อมกับความรู้สึก

“พี่…” เขาพูดแค่นั้น สีหน้าที่นิ่งเรียบย่ำแย่ลงทุกขณะที่เวลาเดินผ่าน ผมนิ่งฟัง ได้ยินแม้แต่เสียงเข็มวินาทีบนนาฬิกาข้อมือของเขา “พี่กำลังจะแต่งงานนะ”

ผม...

ควร...

รู้สึก...

ยังไง...

นี่ผมคงยังไม่ตื่นจากฝันร้ายใช่ไหม ผมยังติดอยู่ที่สถานีรถไฟนั้น ยังเห็นเขาร้องไห้ ยังจับมือเขาไว้แล้วกำลังจะเดินขึ้นรถไฟเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยกัน

“อีกสามเดือน”

รถไฟออกวิ่งไปแล้ว แต่ผมขึ้นไม่ทัน

“ครับ”

ผมวิ่งตามไม่ทันแล้ว

“มางานพี่ด้วยนะขวัญ”

รถไฟเร่งความเร็ว ไปไกลจนผมเห็นเพียงแค่ท้ายขบวนรถ

“ครับ”

ผมยิ้มแม้จะเห็นเพียงแค่เท่านั้น

“อยู่ได้ใช่มั้ย”

ยิ้มให้กับคำลาและเฝ้ารอการกลับมาของรถไฟขบวนเดิม

“ได้...ครับ”

ผมอยู่ที่เดิมตามคำสัญญาและจะอยู่ได้เป็นอย่างดี

“ไม่ต้อง...ห่วงผมครับ...คุณธนิก”

มีความสุขนะครับ เหนื่อยเมื่อไหร่ก็กลับมาหาผมนะ

“ผม...โอเค”

คุณธนิกลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ใบหน้าของเขาไม่มีรอยยิ้ม แววตาของเขาไม่ใช่ธุระที่ผมจะต้องอ่านความนัยออกอีกแล้ว เขาบีบมือผมเบาๆ ก่อนที่จะผละออกไป ปล่อยให้ไออุ่นนั้นจางหาย แต่หัวใจของผมรับรู้ถึงความอบอุ่นจากมือของเขาแล้ว เรามองกันเพียงครู่ จากนั้นเขาจึงหันหลังเดินไปที่ประตู ในขณะที่ผมทำได้แค่เพียงมองประตูที่เปิดออกและปิดลงตามเดิม เหลือแค่เพียงตัวผมที่อยู่เพียงลำพัง

ผมยิ้มรับกับความเจ็บปวด มันเจ็บยิ่งกว่าที่คาดคิดแต่ผมจำเป็นต้องอยู่ให้ได้ รถไฟด่วนพิเศษที่จะพาผมไปเจอความสุขออกไปแล้ว แต่นิทานที่ผมกำลังอ่านนั้นชายขอทานยังคงต้องเดินต่อเพื่อส่งเจ้าชายกลับปราสาท แต่ที่ข้างๆ เจ้าชายในตอนนี้เป็นของเจ้าหญิงไม่ใช่ชายขอทาน เจ้าหญิงคนสวยถูกส่งออกจากปราสาทมาเพื่อร่วมเดินทางไปกับเจ้าชาย ส่วนชายขอทานได้แค่เดินตามหลังคนทั้งคู่ ที่ต้องเป็นอย่างนี้คงได้แต่โทษราชินีที่เปลี่ยนบทในนิทานตามใจชอบ

ผมได้แต่คิดว่าทำไมบทบาทในนิทานต้องเป็นไปตามที่ราชินีกำหนด ราชินีที่เปรียบดั่งแม่เลี้ยงใจร้ายของสโนไวท์ที่ขับไล่ให้เจ้าชายตัวจริงกลับกลายเป็นเพียงแค่ชายขอทาน ผู้กำหนดบทบาทในนิทานควรจะเป็นของชายขอทานที่เป็นตัวหลักไม่ใช่หรือ

ผมครุ่นคิดถึงบทบาทสำคัญของชายขอทาน จะเป็นอย่างไรถ้าไม่มีปราสาทให้เจ้าชายได้กลับไป จะเป็นอย่างไรถ้าเจ้าหญิงหายไปในระหว่างการเดินทาง จะเป็นอย่างไรถ้าเหล่าขุนนางที่เต็มไปด้วยความละโมบกำจัดราชินีใจร้ายลงได้

ผมส่ายหน้าเมื่อนึกได้ว่าไม่ว่าจะสมมติฐานไหน ชายขอทานก็ยังเป็นได้แค่ชายขอทาน กะลาทองคำที่ถืออยู่คงไม่สามารถขว้างใส่ยอดปราสาทให้พังทลายลงได้ เอาไปตีหัวเจ้าหญิงก็ดูจะใจร้ายเกินไป หรือจะเอาไปติดสินบนกับเหล่าคุณนางให้กำจัดราชินีแต่ก็คงไม่มีอะไรการันตีว่าสุดท้ายแล้วจะไม่โดนกำจัดเสียเอง

เฮ้อ...เพราะพระราชาที่อ่อนแอแท้ๆ เชียว ชายขอทานถึงต้องมาลำบากเกินตัวขนาดนี้ ทำอะไรไม่ได้ได้แต่เอากะลาทองคำมารองน้ำตาตัวเอง



*****************

[ต่อด้านล่าง]


ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
Monday, 08:20 PM

เขมินทรา: ตายหรือยังพี่

เขมินทรา: อยากไปเยี่ยมแต่หมาที่เฝ้าดุเป็นบ้า

เขมินทรา: ถ้าว่างออกมาเจอกันหน่อยไหม

เขมินทรา: ผมรู้นะว่าใครสั่งยิง

เขมินทรา: ไม่อ่านไม่ตอบอย่างนี้นอนจมน้ำตาตายไปแล้วหรือเปล่า

เขมินทรา: มั่นหน้าว่าเขาจะรักแล้วเป็นไง อีกสามเดือนแต่งงาน

เขมินทรา: เตือนแล้วแท้ๆ ไอ้พี่โง่





ผมเหลือบตามองหน้าจอโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะข้างเตียงผู้ป่วยอย่างเบื่อหน่าย เขมินทรารัวข้อความมาอีกแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่หยุดรัวจนกว่าผมจะตอบ เพราะนี่ก็เป็นวันที่สามแล้วมั้งที่ไอ้แฝดบ้าบอของผมติดต่อมา

ผมขยับตัวเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์มือถือ ระมัดระวังแผลไม่ให้ปริยิ่งกว่าชีวิต แม้จะขยับเขยื้อนได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังกังวลตอนที่ขยับตัวอยู่ดี





ขวัญพัฒน์: ยังไม่ตายครับไอ้น้องโง่

ขวัญพัฒน์: มีอะไรก็พูดมาตรงนี้

ขวัญพัฒน์: ไม่มีอารมณ์ไปเจอใคร

เขมินทรา: กว่าจะตอบ นึกว่าโดนยิงจนโง่ยิ่งกว่าเดิมแล้วตอบไลน์ไม่เป็น

ขวัญพัฒน์: ผมบล็อกนะ

เขมินทรา: เดี๋ยว!

เขมินทรา: มาคุยเรื่องพี่ธนิก

เขมินทรา: ทำไมไม่รั้งเขาไว้ เขากำลังจะแต่งงานนะ จะไปเป็นของคนอื่นแล้ว

ขวัญพัฒน์: อยากรั้งก็รั้งเอง มีค่าพอไม่แย่งใคร

เขมินทรา: มีค่าหรือหน้าโง่

ขวัญพัฒน์: ไอ้ขิม มึงจะเอายังไง

เขมินทรา: กระสุนเปลี่ยนนิสัยเหรอหรือหัวร้อนเป็นปกติ

ขวัญพัฒน์: กูเลือกปฏิบัติ คนอย่างมึงพูดดีไม่ได้แล้ว

เขมินทรา: กูน้องมึงนะ ทำดีกับกูบ้าง

ขวัญพัฒน์: น้องเหี้ยน่ะสิ สั่งคนมาดักอุ้มกู

เขมินทรา: กูสั่งจริง แต่คนที่ยิงมึงไม่ใช่คนของกูจ้า

ขวัญพัฒน์: มึงรู้อะไรมา

เขมินทรา: มึงเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากเกินไปไง เลยโดนสอยร่วง

เขมินทรา: ออกมาเจอกันหน่อย มีเรื่องคุย

ขวัญพัฒน์: โทษทีนะขิม กูไม่โง่ไปให้มึงฆ่าหรอก

เขมินทรา: ต่อให้กูจะเกลียดมึงแต่กูก็ใจเหี้ยมไม่พอฆ่าคนที่หน้าเหมือนตัวเองนะ แค่เห็นแผลบนหน้ามึงกูก็เจ็บแล้วไอ้สัดพี่ แต่ถ้าสั่งคนทำก็อีกเรื่อง กูไม่ให้เลือดมึงเปื้อนมือกูหรอก ฉลาดพอ

ขวัญพัฒน์: เออ ก็ดี ได้ยินแล้วค่อยสบายใจ แต่กูยังอยู่โรงบาลอีกสองวัน

เขมินทรา: เจอได้เมื่อไหร่

ขวัญพัฒน์: วันอาทิตย์ละกัน

เขมินทรา: เออ รีบมาให้กูยิงหัวมึง

ขวัญพัฒน์: กูมีพันธมิตร มึงยิงหัวกูเมื่อไหร่ หัวมึงก็โดน จบเรื่องแบบแฮปปี้ คนอื่นก็ได้สมบัติพ่อมึงไป

เขมินทรา: แอ๊บใสมานาน พี่ธนิกคงไม่มีวันรู้ว่าคนน่ารักของพี่แม่งก็เหี้ยไม่ต่างจากกูหรอก มึงนี่เป็นคนยังไงนะ มีหลายร่างเหรอไอ้สัดพี่

ขวัญพัฒน์: ก็เพราะกูเป็นพี่มึงไงเขมินทรา สันดานเหี้ยถ่ายทอดกันได้ แต่เนื้อแท้กูเป็นพลเมืองดีที่ไม่ชอบวุ่นวาย กูบอกมึงแล้วว่ากูเลือกปฏิบัติ :)

เขมินทรา: แล้วแต่เลย กูไม่ใส่ใจ ว่าแต่มึงจะปล่อยพี่ธนิกแต่งงานจริงเหรอ มึงไม่รักพี่ธนิกเลยรึไง มึงยอมเหรอวะ

ขวัญพัฒน์: มึงไม่ยอม?

เขมินทรา: เออ ใครจะไปยอม กูยอมให้มึงได้ไปดีกว่าคนอื่นได้ เพราะยังไงมึงก็หน้าเหมือนกู

ขวัญพัฒน์: เรื่องของมึงครับ แต่บอกเลยว่าพอมึงพูดอย่างนี้กูแทบจะหามีดมากรีดหน้าตัวเอง

เขมินทรา: มึงมันพี่เหี้ยอะไอ้ขวัญ ไม่เคยคิดช่วยน้องอย่างกู ให้ทำอะไรก็ไม่เคยทำให้ เกิดมาหน้าเหมือนกูซะเปล่า ไร้ประโยชน์ รกโลก น้าตายก็ไม่คิดแก้แค้น หมาตายก็ไม่หือไม่อือ มึงเกิดมาทำไมไอ้ขวัญ เกิดมาแดกแล้วตายไปรึไง

ขวัญพัฒน์: ถ้าตอนเกิดกูรู้ว่าโตมามึงจะเป็นอย่างนี้ กูจะเอาเท้ายันหน้ามึงไม่ให้ตามกูออกมาเลยนะ ออกมาแล้วสร้างแต่เรื่อง กูก็อยู่ของกูดีๆ ดึงกูเข้ามาวุ่นวาย กูเก่งแค่ขับมอเตอร์ไซค์ ไม่เก่งเรื่องแย่งของ รู้ไว้!

เขมินทรา: ไม่เก่งก็แค่เป็นผู้ช่วยของกู กูบอกแล้วว่ากูแย่งเอง กูแค่พลาดเซ็นเอกสาร แต่มึงก็ไม่ช่วย แถมยังจะไปช่วยลูกของศัตรูที่ฆ่าแม่

ขวัญพัฒน์: ไม่เรียกพลาด กูเรียกโง่ มึงก็ไม่ได้ต่างจากกูไอ้ขิม มึงหลงเขาจนยอมยกให้เขาเอง ลายเซ็นมึงสวยจนกูรู้เลยว่าไม่มีใครบังคับให้มึงเซ็นแน่ๆ แม่งคงจับปากกานั่งไขว้ห้างเซ็นด้วยซ้ำ

เขมินทรา: มึงเห็นเอกสารแล้วเหรอ แล้วได้มามั้ย

ขวัญพัฒน์: ได้ มันเคยอยู่ที่กู พี่นิกไว้ใจให้กูเอง แต่ตอนนี้พันธมิตรกูเก็บไว้ กูบอกเขาไว้ว่าถ้ากูตายก็ช่วยจัดการเรื่องต่อให้ด้วย มึงจะไม่ได้สักแดงเลยนะไอ้น้องโง่ ที่จริงพี่นิกให้กูตัดสินใจด้วยซ้ำว่าจะทำยังไงกับเอกสารของมึง แต่กูไม่ช่วยมึงจ้าไอ้น้องเหี้ย พี่นิกต้องได้คนเดียว กูบอกแค่นี้

เขมินทรา: กูเกลียดมึงจนไม่รู้จะเกลียดยังไงแล้วไอ้เหี้ยเอ้ย!

เขมินทรา: แต่มึงไว้ใจคนอื่นมากเกินไปมั้ย หึ เดี๋ยวกูหาทางเอาคืนมาได้เอง ไม่ต้องพึ่งพี่นรกอย่างมึง

ขวัญพัฒน์: กูไม่ได้ไว้ใจใคร แต่เพราะเป็นผลประโยชน์ของพี่นิก พันธมิตรกูไม่มีทางปล่อยหลุดมือหรอก อีกอย่างนะไอ้ขิม ก่อนที่มึงจะหาเอกสารโง่ๆ นั่น มึงจัดการคนอื่นก่อนเถอะ

เขมินทรา: ไม่บอกกูก็คิดได้เอง ไม่เสียเวลานั่งโง่ทำตัวน่ารักเหมือนมึงหรอกนะ

ขวัญพัฒน์: งั้นอีกสามเดือนล่มงานแต่งสิ เรื่องแค่นี้กูไม่บอกมึงก็คิดได้ใช่มั้ย

เขมินทรา: จะยืมมือกูเหรอ คนนิสัยดีอย่างมึงทำไม่ได้ว่างั้น เก่งแต่ทำตัวน่าสงสาร

ขวัญพัฒน์: สมกับที่เป็นฝาแฝดกู อยู่ด้วยกันแค่ในท้องแม่แต่ทำไมรู้ใจจังวะ นี่ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นน้องนรก กูจะหอมหัวให้รางวัล

เขมินทรา: ขยะแขยงไอ้พี่เหี้ย ไว้มาเจอกูวันอาทิตย์แล้วกูจะให้คำตอบว่าจะล่มงานให้มึงมั้ย

ขวัญพัฒน์: ไม่ได้เพื่อกู แต่เพื่อพี่นิก เขายังไม่พร้อมมีห่วงผูกคอตอนนี้ เพราะแต่งเร็วกว่าแพลนที่มิสเตอร์ทีบอกกูไว้ กูไม่อยากให้เขาทรมานไปมากกว่านี้

เขมินทรา: เออ เรื่องนี้กูก็รู้ เพราะกูก็รู้จักพี่นิ่ม ถือว่ากูเข้าใจก็แล้วกัน แต่งอีกสามเดือนแต่ร่อนการ์ดเชิญให้กูแล้ว

ขวัญพัฒน์: ทีเรื่องพี่นิกมึงเข้าใจง่ายจังเลยนะ

เขมินทรา: ผัวกูเหมือนกันจ้า

ขวัญพัฒน์: ไอ้มือปืนที่ยิงกูมันหายหัวไปไหนวะ จะจ้างไปยิงมึงอีกคน เป็นของเก่าอย่าเจ๋อให้มาก

ขวัญพัฒน์: แต่มึงก็ระวังไว้เถอะ ยิงผิดตัวตายฟรีไม่รู้ด้วย

เขมินทรา: ก่อนหน้ามึงสามวันกูโดนยิงถากแขนเลือดอาบไปแล้ว ฟาดเคราะห์ก่อนมึงอีกไอ้พี่เหี้ย

ขวัญพัฒน์: ทำไมไม่ตาย น่าจะเดี้ยงไปนานๆ ยิงปากมึงด้วยก็น่าจะดีแต่ดันโดนแค่แขน ทียิงกูล่ะเสือกแม่น

เขมินทรา: มึงอ้วนไง ตัวกูบางกว่า พื้นที่กระสุนเจาะมีน้อย

ขวัญพัฒน์: เออ ระวังตัวไว้ละกัน ตายก่อนพ่อแน่ปากอย่างมึง

เขมินทรา: พูดถึงพ่อ มึงเคยเจอพ่อมั้ย

ขวัญพัฒน์: เคย แล้วมึงล่ะ

เขมินทรา: เขาไม่มาหากูเลย

ขวัญพัฒน์: แต่มึงเคยเจอแม่

เขมินทรา: ครั้งเดียวก่อนเขาตาย ไม่ได้ตั้งใจด้วย แค่บังเอิญเจอ

ขวัญพัฒน์: แม่หน้าตายังไง สวยมั้ย

เขมินทรา: ตอนกูเจอ สภาพไม่น่าดูหรอก แต่น่าจะสวยมั้ง แล้วพ่อล่ะ

ขวัญพัฒน์: จำหน้าไม่ได้ กูไม่ได้สนใจ นึกว่าเป็นชู้น้าลี กูเลยไม่ชอบ

เขมินทรา: มึงสนใจใครบ้างเถอะบนโลกนี้ ขนาดกูเป็นน้องก็ไม่สนใจกู

ขวัญพัฒน์: เลิกสั่งคนมาอุ้มกูก่อน ค่อยมาขอความรัก

เขมินทรา: ใครขอความรักจากมึงไม่ทราบ

ขวัญพัฒน์: มึงไงไอ้น้องนรก

ขวัญพัฒน์: นี่ไอ้ขิม มึงคงไม่คิดส่งคนปลอมเป็นหมอมาฆ่ากูใช่ไหม หมอแม่งแปลกๆ กูเจอหมอเจ้าของไข้กูทุกวัน เมื่อเช้ามาแล้ว เย็นก็มาแล้ว แต่นี่สามทุ่มไม่น่ามา แต่มายืนจ้องกูอยู่เนี่ย

เขมินทรา: กูจะฆ่ามึงทำหอกอะไรตอนนี้ล่ะ นัดเจอกันวันอาทิตย์ มึงตายก่อนแล้วจะให้กูจุดธูปเรียกคุยเรอะ

ขวัญพัฒน์: กูว่าหมอแม่งมองกูแปลกๆ มันใส่แมสก์ด้วย ไม่เห็นหน้า กูควรทำไงวะ

เขมินทรา: มึงอยู่คนเดียวเหรอ เพื่อนหมาบ้ามึงล่ะ

ขวัญพัฒน์: ส่งข้าวให้เมีย ไอ้ขิม มึงแจ้งตำรวจให้กูดิ๊

เขมินทรา: ตายไปเลยจ้า มึงชอบกินอะไรพิมพ์ไว้ กูจะทำบุญไปให้

ขวัญพัฒน์: ไอ้ขิม หมอแม่งปลดเข็มขัดแล้ว รูดซิบกางเกงด้วยยย

เขมินทรา: ข่มขืนก่อนเหรอ? ทำไมมันสิ้นคิดจังวะ กูว่ามันโรคจิตแน่ๆ ขนาดมึงเล่นมือถือมันก็ยังปล่อยให้มึงพิมพ์ ผิดวิสัยคนร้ายที่ควรจะเข้ามาแย่งตั้งนานแล้ว

ขวัญพัฒน์: มันล็อกประตูก่อนเข้ามาด้วยไอ้ขิม กูนอนเดี้ยงคลุมโปงแอบมองมันอยู่เนี่ย มันยังไม่เห็นว่ากูเล่นมือถือ มึงโทรแจ้งตำรวจยัง

เขมินทรา: ไอ้สัดพี่ งั้นมึงแหกปากดังๆ เลย เดี๋ยวกูว่างเมื่อไหร่โทรแจ้งตำรวจให้

ขวัญพัฒน์: มึงว่างแล้วก็โทรเรียกมูลนิธิฯ มาเก็บศพกูละกันไอ้น้องนรก

เขมินทรา: โทรเรียกทำไม มึงอยู่โรงบาล ตายก็เข้าห้องดับจิตได้เลย

ขวัญพัฒน์: ไอ้ขิม หมอหยิบเข็มแล้ว

เขมินทรา: แล้วมึงจะพิมพ์หากูยิกๆ ทำไมเนี่ย วิ่งหนีไป!

ขวัญพัฒน์: แผลกูจะปริ กูถอดสายน้ำเกลือเองไม่ได้ เลือดกูจะทะลัก!

เขมินทรา: เหี้ยย แล้วเอาไงเนี่ยยย กูโทรแจ้งแล้วแต่แม่งถามวกวนเหี้ยไรไม่รู้ คนของกูแม่งก็ไปลงอ่างกันหมด พี่มึง เอาไง มีใครอยู่แถวนั้นบ้าง ห้องพักคนป่วยหรือป่าช้า ไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาเรอะ แหกปากดังๆ

เขมินทรา: ไอ้ขวัญ

เขมินทรา: ไอ้พี่ขวัญ

เขมินทรา: พี่!

เขมินทรา: สัด อย่าเงียบ อย่ามาตายตอนที่คุยกับกูนะเว้ย กูไม่อยากเป็นคนสุดท้ายที่ได้คุยกับมึง เกิดก็ดันมาเกิดพร้อมกัน จะตายกูต้องรู้กับมึงด้วยเหรอ

เขมินทรา: ไอ้สัดพี่! อย่าเงียบ กูใจไม่ดี มึงถ่วงเวลาไว้อีกครึ่งชั่วโมง กูจะพาตำรวจเข้าไป

ขวัญพัฒน์: Sent a photo.

เขมินทรา: ...

ขวัญพัฒน์: ไม่ต้องละมึง

ขวัญพัฒน์: พี่นิกมาหากู

เขมินทรา: ไอ้เวรเอ้ย!

ขวัญพัฒน์: โทษๆ กูระแวงไปเอง แต่งตัวเหมือนหมอเจ้าของไข้กู เชิ้ตขาวกางเกงแสลค เบสิคฉิบหาย

เขมินทรา: ควายยย ไอ้พี่เหี้ยอย่างมึงนี่มัน กูหมดคำพูด

เขมินทรา: เจอกันวันอาทิตย์กูจะเอามีดแทงมึง

ขวัญพัฒน์: แทงด้วยความรักเหรอ

เขมินทรา: ความเกลียดชังไอ้สัด

ขวัญพัฒน์: เรื่องของมึงครับ แต่ว่านะไอ้ขิม

ขวัญพัฒน์: ขอบใจว่ะ มึงแม่งรักกูด้วยเหรอเนี่ย

เขมินทรา: กูไม่อยากเป็นคนสุดท้ายที่ได้คุยกับมึงก่อนตายเว้ย

ขวัญพัฒน์: ที่จริงนะไอ้ขิม กูก็ไม่ได้เกลียดการมีน้องชายนักหรอก

เขมินทรา: ...

เขมินทรา: กูก็เหมือนกัน





“ทำไมมาดึกขนาดนี้ หมดเวลาเยี่ยมแล้วไม่ใช่เหรอครับ” ผมวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวหลังจากลบบทสนทนากับเขมินทรา ก่อนจะตั้งคำถามกับบุรุษหนุ่มร่างสูงที่เล่นเอาเกือบหัวใจวายเพราะดันปิดหน้าไปซะครึ่งหน้าแถมยังทำตัวน่าสงสัย

“คิดว่าขวัญนอนแล้ว ก็เลยมา” คุณธนิกตอบเสียงเรียบ เขากลับไปสวมแมสก์ตามเดิมแล้ว เพราะเมื่อกี้ถอดออกเพื่อไม่ให้ผมส่งเสียงโวยวาย อีกนิดถ้าไอ้แฝดน้องของผมมันคุยกับตำรวจรู้เรื่องคงได้ถูกจับไปแล้ว ดันมาแสดงบทคนโรคจิตให้ใจหายใจคว่ำ

“ทำไมมาตอนผมตื่นไม่ได้ล่ะครับ” ผมเอียงคอมองคนที่นั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง เห็นแค่ดวงตาก็เลยไม่รู้ว่ากำลังทำหน้ายังไง “ป่วยเหรอ ทำไมต้องใส่ผ้านี่ด้วย”

“เปล่า” เขาปฏิเสธ “ไม่ได้ป่วย”

“ตอบคำถามก่อนหน้า”

“ไม่ขอตอบ”

ต่อให้เขาไม่พูด ผมก็รู้คำตอบดี แค่อยากถามให้ได้ยินจากปากเท่านั้น

“คุณนิ่มล่ะครับ วันนี้ไม่อยู่ด้วยกันเหรอ”

คำถามของผมทำให้คิ้วเข้มๆ ใต้ผมหน้าที่ไม่ได้ถูกเซ็ตเสยไปข้างหลังขมวดมุ่น “ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันทุกวันไหม”

“แล้วทุกคืนล่ะ”

“นอนคนเดียว นิ่มเป็นผู้หญิง” เขาบอกเสียงเข้ม “พี่ให้เกียรติ”

“หลังจากแต่งงานก็จะนอนเหรอ”

“เข้าหอก็ต้องนอน”

“คืนเข้าหอมาหาผมสิ”

“ขวัญพัฒน์” เขาเรียกเสียงดุ แววตาที่มองผมก็ดุตามไปด้วย “พี่แค่มาเยี่ยม อย่าคิดไกล”

“พี่นิก”

“อย่าเรียกแบบนี้”

บทเขาจะใจร้าย...แม้แต่ชื่อที่เขาชอบให้เรียกก็ยังไม่อนุญาตเลย

“ก็ได้ครับคุณธนิก”

เขาพยักหน้า ท่าทางพึงพอใจ ก่อนจะถาม “แล้ว...เป็นไงบ้าง”

“ใกล้หายแล้วครับ ไกลหัวใจ”

“ปากเก่ง”

“ต้องเก่งแล้วครับ ต้องเก่งทุกอย่างเพราะต้องดูแลตัวเอง แฟนอยู่ด้วยไม่ได้แล้ว” ผมยิ้มให้เขา แน่ใจว่าเป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ฝืน แต่ไม่แน่ใจว่าจะสดใสดังเดิมหรือไม่ “ผมเผลอทำหายที่สถานีรถไฟ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เห็น เขากำลังร้องไห้ ไม่รู้ว่ายังร้องไห้อยู่มั้ย ไม่เจอผมเขาอาจจะเศร้าอยู่ก็ได้”

“ไม่หรอก เขาสบายดี” คุณธนิกตอบ “มีความสุขมากด้วย”

“เหรอครับ”

“แล้วเราล่ะ”

“ผมก็โอเคครับ สบายดี ถ้าแผลหายก็จะสบายดีมากขึ้น”

แม้จะไม่ได้เห็นริมฝีปากที่ถูกผ้าปิดจมูกบดบัง แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังยิ้ม

“ขวัญ”

“ครับ”

“มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมั้ย”

ตอนนี้ผมไม่ขออะไรมาก แค่อยากไลน์หาไอ้แฝดนรกให้มันส่งคนมายิงหัวผมให้ตายไปซะ เพราะผมก็ชักสงสัยว่าผมเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่อร้องไห้แล้วตายไปเหรอ!

“เตรียมชุดให้ผมด้วยครับ” คำตอบของผมก็คือไม่ ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อร้องไห้แล้วก็ตายไปอย่างน่าสมเพช แต่ผมเข้มแข็งพอจะอยู่รอดูไอ้แฝดนรกล่มงานแต่ง เรื่องนี้ผมเชื่อใจมันเกินร้อยว่ามันทำได้ “ผมจะไม่ถามหรอกนะว่าทำไมไม่เลือกพี่โมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว”

“แล้วทำไมไม่ถาม รู้คำตอบเหรอ”

“รู้ครับ” ผมพยักหน้าพลางให้คำตอบ “เพราะคนหล่อมักใจร้าย นอกจากจะเปลี่ยนผมเป็นน้องชายแล้วยังให้ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ดีครับ...ทำได้ดี ขอชื่นชม”

“เราประชดพี่เหรอขวัญ”

“ด่าครับ”

“ขวัญพัฒน์”

ผมไหวไหล่ ยักคิ้วใส่เขา “แต่วันงาน พี่นิกต้องถ่ายรูปคู่กับผมนะ ใครจะมองว่าผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวก็ช่างเขา แต่พี่นิกรู้นี่ว่าในใจพี่ผมเป็นใคร”

“พูดแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะน้องขวัญ” น้ำเสียงเขาเข้มอีกแล้ว ทำตาดุอีกตามเคย

“ผมน่ารักสำหรับพี่นิกตลอดแหละ ผมรู้” ดุไปเถอะ ผมไม่สนใจหรอก ปล่อยให้ผมได้พูดเรื่อยเปื่อยให้สบายใจก็พอแล้ว

“น้องขวัญดื้อ”

“น้องดื้อกับพี่นิกคนเดียว” ผมคลี่ยิ้มให้เขา ไม่กล้าที่จะยื่นมือไปแตะต้องคนตรงหน้า แม้ว่าผมจะอยากกุมมือเขาเอาไว้ แต่เพราะเราบอกลากันแล้ว ผมก็แค่พูดเอาแต่ใจไปอย่างนั้น ต่อชีวิตของตัวเองไปวันๆ เสริมกำลังใจให้กับการรอคอยรถไฟขบวนเดิมอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด ผมอาจจะตายไปก่อนหรือแก่จนเดินไม่ไหวก็ตอบไม่ได้เหมือนกันเพราะเป็นเรื่องของอนาคต

“พี่ต้องกลับแล้ว” เขามองโทรศัพท์มือถือแล้วพูดขึ้น คุณนิ่มคงไลน์มาตามเพราะผมเห็นแจ้งเตือนบนหน้าจอ

“ครับ กลับดีๆ นะ” ผมยิ้มส่งให้เขา “แล้วก็...ไม่ต้องมาหาแล้วนะครับ ผมสบายดี”

“อืม”

“เจอกันที่บ้านครับ”

“พี่…" เขาเอาอีกแล้ว หยุดพูดให้ผมต้องลุ้น เพราะพอเขาทำแบบนี้ทีไร เมื่อเขาพูดขึ้นมา ความเจ็บของผมก็จะเริ่มต้น...ครั้งแล้วครั้งเล่า “พี่จะไปอยู่คอนโดฯ มันอยู่ใกล้ที่ทำงานแล้วก็...”

“อยู่ใกล้คุณนิ่ม” ผมต่อท้ายให้ด้วยรอยยิ้ม “พี่โมบอกผมแล้วครับ เขาจะมาอยู่เป็นเพื่อนผมแทนคุณธนิก”

“อืม” เขารับคำ แววอาวรณ์ในดวงตาทำให้ผมเสมองไปทางอื่น “อย่าดื้อกับโมนะขวัญ”

“ผมก็บอกไปแล้วนี่ครับว่าผมไม่ดื้อกับคนอื่น” ไม่มีอะไรยากไปกว่าการยิ้มทั้งที่ในใจกำลังเจ็บ ผมเคยคิดนะว่าข้อสอบคณิตศาสตร์เป็นอะไรที่ยากเกินสมองของผมรับไหว แต่พอเจอคุณธนิก ข้อสอบที่คิดว่ายาก...ง่ายขึ้นมาทันตาเห็น “ไปเถอะครับ อย่าให้เขารอ”

“ครับ” เขาพยักหน้าแล้วฝากถ้อยคำให้ผมนอนร้องไห้ไปจนเช้า “นอนได้แล้วนะ ฝันดีครับขวัญ”

ฝันดีอะไรกัน...แค่ปลุกผมให้ตื่นจากฝันร้ายนี้ คำอวยพรให้ฝันดีก็ไม่จำเป็นแล้ว!

แต่ผมก็ได้แค่ท้วงอยู่ในใจและนี่คงเป็นอีกครั้งที่ผมได้แต่มองแผ่นหลังของเขา...ที่ห่างจากตัวผมไปไกลทุกที


............To be Continue....................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
 :z3: :z3: :z3: :z3:  เจ็บไหม...เจ็บไหม
วันนี้ที่เธอถูกทิ้ง
เจ็บแผล เจ็บจริง เธอแทบจะทนไม่ไหว
แผลมันมองไม่เห็น จะใส่ยาตรงไหน...
ไม่อาจรักษาให้เธอ

แผลใจฉันก็เคยเจ็บมา น้ำตานั้นไม่ช่วยอะไร
มีเพียงความข่มขื่นลึกๆในใจ ลึกๆในใจ
วันเวลาเท่านั้นที่เหมือนเป็นตัวเยียวยา รักษาใจกันไป   :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เราชอบช่วงที่ขวัญคุยกับขิมมาก ทั้งสองคนเป็นตัวของตัวเองได้น่าหมั่นไส้สุดๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แย่มาก

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชอบตอนขวัญคุยกับขิมมาก ฟีลแบบ ยามศึกร่วมรบ ยามสงบเรารบกันเอง ด่ากันไปด่ากันมา เป็นห่วงกันซะงั้น

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :hao5: ว่าแล้วเชียวววว ต้องมีคนตามมาแน่ ฮือออ

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
น้ำตาซึม สุดท้ายฆ่าแม่เลี้ยงใจร้ายก่อนเถอะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
รักไม่ได้ ไม่ใช่ไม่รัก  เจ็บทั้งคู่เลย / ชอบแฝดเขาคุยกัน ดูน่ารักน่าชัง มุ้งมิ้งกันเชียว 55555

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เราล่องลอยไปแล้ว  :z3:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
พี่นิกคือขัดใจแม่ไม่ได้เลยหรอ ชีวิตตัวเองทั้งคน

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ยยยยยยยยใจร้าวสงสารนุ้งขวัญ แต่ขำช่วงพี่น้องคุยกันมากกกกก

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ความรักคงไม่ช่วยอะไร เพราะอย่างไรคุณธนิกก็เลือกครอบครัวตัวเองอยู่ดี
การชวนเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวก็ดูจะใจร้ายเกินทำใจไหว
อ่านข้อความของสองพี่น้องแล้วกวนดีแต่ในใจก็คงผูกพันกันซักนิดอะนะ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ฮาพี่น้องคุยกัน 5555

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จากที่เห็นแฝดคุยกันอย่างน้อยขวัญก็ยังมีขิม TT
ไม่น่าเกลียดกันขนาดนั้นหรอกมั้ง

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่นิกนี่ใจร้ายกับน้องขวัญจังเลยเนอะ  :hao5:
พูดมาได้ว่าให้น้องเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว สงสารใจน้องไปหมดแล้วววว  :sad4:

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขอเปลี่ยนพระเอกค่าาา เอาเป็นพี่โมก็ได้ สงสารน้อง
 :hao5:

ออฟไลน์ CRP_N

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารน้องขวัญ ฮือ อยากกอดน้องงงง ¥_¥

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ยังไงต่อไปนะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไม่รู้เป็นไง แต่อยากเพิ่มนิ่มเข้าไปในฐานะผู้บงการฆ่า  :hao3:

ออฟไลน์ mpalism31

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เจ็บดีค่ะ ชอบ

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ไปๆมาๆขวัญ​กะแฝดน้องก็มีสายใยดีๆให้กันอยู่เนอะ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เหมือนพี่นิกเอามีดกรีดตัวน้องให้เป็นแผลซ้ำๆทั้งๆที่รักน้องทำไมใช้คำพูดทำร้ายน้องได้ขนาดนั้น ถ้าเราเป็นขวัญคงถามว่าพี่ต้องการอะไรจากผมอีกแต่เพราะมันไม่ใช่เลยได้แต่ล่องลอยอยู่แบบนี้ อีกอย่างหวังว่าโมคงไม่ใช่มิสเตอร์ทีนะ

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ตอนนี้ไม่รู้จะไว้ใจใครแล้วขนาดมิสเตอร์ทียังไม่น่าไว้ใจ แล้วตกลงขวัญนี้ทันคนใช่ไหมฉากนอกแค่หลอกตาคนใช่ไหม ชอบที่พี่น้องคุยแชทตอนนี้จังให้ความรู้สึกอบอุ่นดี ชอบที่ขวัญเรียกไอ้น้องนรก ขิมเรียกไอ้สัดพี่ ตลกดีหรือเราโรคจิตหว่า
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ rcbpdr

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นอนน้ำตาไหลเป็นสาย อยากกอดขวัญแน่นๆ
ส่วนคุณธนิก สงสารเหมือนกันนะ
แต่เพราะความลังเลของตัวเองมันทำร้ายคนอื่นอ่าคุณ
พี่ก็จะรออยู่ที่สถานีรถไฟเป็นเพื่อนขวัญนะ ฮืออออ
ปล.พี่น้องฝาแฝดคู่นี้คือไปสุดมากจริง555555555
 ทั้งรักทั้งเกลียด เอ็นดูก็เอ็นดูแต่ก็บอกไม่ถูกเลย  :z6:

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ่านตามทันแล้ว... เป็นนิยายที่จะเศร้าก็เศร้าไม่สุดเพราะถึงจะรักไม่ได้แต่เขาก็รักกัน...ใช่ไหมคะ? มิสเตอร์ทีคือคุณธ.ญาติคุณธนิกคนนั้นใช่ไหม  เป็นอีกคนที่อยู่ในสถานะรักไม่ได้เหมือนกันใช่ไหมคะ... แต่ดีใจกับคุณธนิก ที่ถึงแม้จะต้องแบกความหวังของแม่ไว้มากมายและคิดว่าตัวเองถูกสาปไม่ให้มีความสุขแต่ก็ยังมีคนที่รักและหวังดีกับเขาจริงๆอย่างน้อยสองคนเลยนะ ดีใจกับคุณเขาจริงๆ ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไงแต่ทั้งหมดที่ได้อ่านและรู้จักคุณธนิกเราไม่โกรธหรือเกลียดคุณเขาเลย เป็นกำลังใจให้น้องขวัญด้วยนะคะ พลังบวกน้องเยอะมากๆและหวังว่าจะไม่หมดไปง่ายๆ เรื่องเพื่อนเจ้าบ่าวแอบคิดว่าพี่นิกอยากให้น้องอยู่เพราะเหมือนได้แต่งงานกันเอง แต่ขิมต้องล่มงานก่อนนะ แสบขนาดนี้แล้วต้องทำได้แหละ555555 เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะคะ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ตอนเถียงกันเหมือนได้ปลดปล่อยเลย

ว่าแล้วเชียว มันต้องมีห่วงกันบ้างแหละ


ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ดีใจที่น้องขวัญเข้มแข็งนะ ไปแต่งงานเลยคุณธนิกเพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับขวัญอยู่แล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด