(จบแล้ว) Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.17 (16.08.18)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (จบแล้ว) Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.17 (16.08.18)  (อ่าน 133411 ครั้ง)

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.4(2/2) 8.07.18
«ตอบ #30 เมื่อ12-07-2018 08:23:44 »

น้องงงงงง  :o9:

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
05


                ชริณถอนหายใจอยู่หน้าประตูบ้างตัวเองได้เกือบห้านาทีแล้ว เขาคิดหนักตั้งแต่ตอนอยู่ที่บริษัท ยิ่งใกล้เวลาเลิกงานเท่าไร เขาก็ยิ่งเครียดมากขึ้นเท่านั้น ไม่ได้อยากกลับบ้านเร็ว แต่เขาเองไม่รู้จะไปไหนต่อเหมือนกัน สุดท้ายก็ต้องกลับบ้านอยู่ดี



                ชริณยืนทำใจหน้าบ้านตัวเองอยู่นาน รู้ดีว่าเข้าไปต้องเจออะไรบ้าง ดูท่าแล้วเจ้ามนุษย์จิ้งจอกคงไม่ยอมรามือจากเขาง่าย ๆ แน่ ปรึกษาใครก็ไม่ได้อีก เขาสูดลมหายใจเข้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตัดสินใจผลักประตูเข้าไป เอาวะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด! ยิ่งเห็นว่าเจ้ามนุษย์จิ้งจอกกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ส่งรอยยิ้มมาให้กับเขา ยิ่งทำให้ชริณหวาดระแวงมันเข้าไปใหญ่



                แบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ ....



            “กลับมาแล้วเหรอ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเอ่ยทักเขาด้วยน้ำเสียงสดใส ถ้ามันมีหูงอขึ้นบนหัว มีหางโผล่เขาคงได้เห็นมันสับส่ายไปมาอย่างดีใจแน่



                “ก็เห็นอยู่ไม่ใช่หรือไง เห็นจะมาถามอีก” เขาตอบกลับเจ้ามนุษย์จิ้งจอกด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ พร้อมกับโยนกระเป๋าทำงานลงข้าง ๆ มัน



                เรื่องเมื่อเช้าที่มันทำไว้กับชริณ เขายังไม่ลืม ยังโกรธอยู่ด้วย! เพราะมันทำให้เขาเดือดร้อน จนต้องหาพลาสเตอร์มาปิดรอยเอาไว้ เพื่อไม่ให้ใครถามอีก แสบกว่านี้ ดื้อกว่านี้ ไม่มีใครเกินเจ้ามนุษย์จิ้งจอกแล้ว



                ฝั่งมนุษย์จิ้งจอกก็ได้แต่มองชาริน ซังด้วยสายตาตัดพ้อ แต่น้องเข้าใจดีว่าตอนนี้อีกฝ่ายยังโกรธเรื่องเมื่อเช้าอยู่ ซึ่งน้องก็ผิดเองที่ไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเอง



                “ใจร้ายจัง... แต่ชาริน ซังนั่งลงนะ ตรงนี้ ๆ” น้องมนุษย์จิ้งจอกพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อเพียงแป๊บเดียว ก่อนจะกลับมาสดใสร่าเริงเหมือนเดิม รีบลุกขึ้นดึงชริณให้มานั่งที่ของตัวเอง ก่อนจะกุลีกุจอเดินเข้าไปในครัว หยิบน้ำเปล่าเย็น ๆ ที่เตรียมไว้ให้ก่อนชาริน ซังจะเลิกงานมาเสิร์ฟ



                “เหนื่อยไหม เดี๋ยวน้องนวดให้นะ” น้องมนุษย์จิ้งจอกพูดด้วยน้ำเสียงเอาอกเอาใจ ก่อนจะเดินอ้อมไปข้างหลังโซฟาแล้วนวดบริเวณต้นคอให้ชาริน ซัง หวังจะให้อีกคนหายเหนื่อยและเลิกโกรธตนเสียที ฝั่งชริณเองก็เงียบไป ปล่อยให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกทำ เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนเหมือนกัน



                “หายโกรธน้องหรือยัง” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกนวดหลังคอให้เขานานเกือบห้านาที ก่อนจะหยุดนวดแล้วกระซิบถามข้างหูเขา



                “ไม่” ชริณตอบอย่างไม่ลังเล



                “ฮือ ไม่เป็นไรน้า เดี๋ยวน้องนวดอีกก็ได้ เอาให้หายโกรธไปเลย”



                “ไม่ต้องแล้ว” ว่าจบก็จับมือเจ้ามนุษย์จิ้งจอกออกพร้อมกับลุกขึ้น เตรียมจะเข้าห้องนอนเพื่อไปอาบน้ำให้หายเหนื่อยล้าแทน ทิ้งให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกที่ตั้งใจอยากจะเอาอกเอาใจ ปรนนิบัติเหมือนในโทรทัศน์มองตามตาละห้อย



                ฝั่งเจ้ามนุษย์จิ้งจอก หลังชาริน ซังเดินเข้าห้องนอนไปแล้วก็ถึงกับไหล่ตก ได้แต่ตัดพ้อกับตัวเองในใจ ดูท่าชาริน ซังคงจะโกรธน้องมากแน่ ๆ ขนาดอยากเอาอกเอาใจเพื่อให้หายโกรธ อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอม ความลับแตกได้ไม่ทันไรก็แผลงฤทธิ์ใส่ชาริน ซังเสียแล้ว สมควรหากชาริน ซังจะตั้งแง่ใส่น้อง



                แอบนึกอยากย้อนเวลากลับไป ไม่เปิดเผยร่างแท้ของตัวเอง ปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจไปเองว่าทุกอย่างเป็นเพียงแค่ความฝัน สถานการณ์อาจจะดีกว่าตอนนี้ก็ได้ แต่ภารกิจน้องล่ะ? เมื่อไรจะสำเร็จและถ้าถอยตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว ยกเว้นจะทำให้ชาริน ซัง ผู้เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของน้อง ยอมรับตัวเองให้ได้



                น้องได้แต่ให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อไปสู้หน้าชาริน ซังต่อที่ห้องนอน ต้องตื้อ ต้องอ้อนเท่านั้น ถึงชนะใจชาริน ซัง



                เสียงน้ำอุ่นจากฝักบัวทำให้ชริณได้คิดเรื่องราวอะไร ๆ หลาย ๆ อย่างรวมไปถึงเรื่องราวของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกด้วย หลายครั้งที่เขาเกิดคำถามในใจว่าจะเอายังไงกับมันต่อดี



                 ลึก ๆ แล้วเขาเข้าไม่อยากทิ้งมันหรือย้ายบ้านเพื่อหนีปัญหาเสีย เพราะคำพูดที่เคยให้ไว้กับเจ้าจิ้งจอกตั้งแต่เขายังไม่ล่วงรู้ความลับอันพิศวงนั่น ในขณะเดียวกันเขาเองก็ไม่อยากยอมรับให้ข้อเสนอของเจ้าจิ้งจอกด้วย แต่จะหนีปัญหาก็ใช่เรื่อง



                โตแล้ว...การหนีปัญหาไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก

     

                 ถ้าเขาทำให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกท้องได้ ปัญหาจะจบหรือเปล่า? แต่ที่แน่ ๆ ชริณคงไม่สามารถทำตอนที่มีตัวเองยังมีสติแน่นอน เป็นเรื่องยากเกินไป หากต้องมีความสัมพันธ์กับคนที่ไม่ใช่คน



                แล้วถ้าเกิดเขาทำให้ตัวเองเมาล่ะ? วูบหนึ่งทำให้ชริณคิดอะไรดี ๆ ออก ครั้งแรกตอนที่มีอะไรกัน ต้นเหตุเกิดขึ้นตอนที่เขาเมามายจนไม่ได้สติ แล้วถ้าเขาทำแบบนั้นอีกครั้งล่ะ?



                “เอาวะ! วิธีนี้นี่แหละ เวิร์กสุด” ชริณว่ากับตัวเอง ขณะที่พันผ้าเช็ดตัวคาดเอวพอลวก ๆ เพื่อเตรียมไปแต่งตัวข้างนอก



                “....!!” เขาชะงัก ใจร่วงไปถึงตาตุ่ม  เมื่อเห็นเจ้ามนุษย์จิ้งจอกกำลังนั่งตาแป๋วอยู่บนเตียงอย่างเรียบร้อย เจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นหนที่สองแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ชิน เพราะคิดว่าตัวเองอยู่เพียงลำพังอยู่เรื่อย เจ้ามนุษย์จิ้งจอกที่ยังอยู่ในชุดเดียวกับเมื่อวานเอียงคอมองเขาอย่างสงสัย



                “ไปอาบน้ำ” ชริณพูดกับเจ้ามนุษย์จิ้งจอกเพียงสั้น ๆ พอเขาได้อาบน้ำแล้ว ไหนจะคิดวิธีดี ๆ ออก ใจก็เริ่มสงบลง ก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เพื่อรีบหาชุดนอนมาใส่ พออยู่ในสภาพไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไรนัก ยอมรับว่ากลัวเจ้าจิ้งจอกจะพุ่งเข้ามาทำไม่ดีไม่ร้ายกับตน ยิ่งตอนนี้เดาทางไม่ค่อยถูก มิหนำซ้ำยังชอบเชิญชวนเขาทำลูกอยู่ด้วย



                “อาบน้ำ?”



                ฝั่งเจ้ามนุษย์จิ้งจอกทวนคำอย่างงุนงง เพราะธรรมชาติไม่เคยสอนในจิ้งจอกอาบน้ำ ก่อนที่ภาพเหตุการณ์บางอย่างจะฉายขึ้นมาในความคิดของน้อง เป็นเหตุการณ์ที่จัดว่าสุดแสนจะสยอง ใช่แน่ ๆ! ต้องเป็นเหตุการณ์ตอนชาริน ซังหลอกล่อน้องเข้าห้องน้ำแน่ ๆ



                “น้องไม่อาบ!” น้องถึงกับส่ายหน้าพรืด อยากเชื่อฟังเป็นเด็กดีของชาริน ซังเหมือนกัน แต่เป็นตายร้ายดี น้องจะไม่ยอมอาบน้ำเด็ดขาด



                “ต้องอาบ” ชริณที่กำลังจะใส่เสื้อยืด หันมาพูดกับเจ้ามนุษย์จิ้งจอกเสียงแข็ง



                “ถ้าไม่อาบก็ไปนอนข้างนอก” เขายื่นข้อเสนอ



                “ไม่!” แต่เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเองก็ไม่ยอมเช่นเดียวกันและไม่มีท่าทีจะยอมเชื่อฟังง่าย ๆ ด้วย ทำเอาชริณถึงกับถอนหายใจ ไม่ทันไรเขาก็ต้องเจอปัญหาแล้ว ไม่ว่าจะหมาที่บ้านเมืองไทยหรือสัตว์ป่าก็ต่างไม่ชอบอาบน้ำกันทั้งนั้น เห็นทีก่อนเข้านอนชริณจะต้องพาเด็กอาบน้ำเสียก่อน ถึงจะได้หลับนอน








 

                “ปล่อยน้องงง ไม่อาบ!”



                “อย่าดื้อ! เมื่อกี้จะทำอะไร! ถ้ากัด ตบนะ” ชริณว่าเสียงเข้ม เมื่อเจ้ามนุษย์จิ้งจอกที่ยังอยู่ในร่างมนุษย์ทำท่าจะงับนิ้วเขาอย่างดื้อรั้น เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ สุดท้ายเขาก็ต้องลากเจ้ามนุษย์จิ้งจอกเข้ามาอาบน้ำด้วยความทุลักทุเล



                ชริณที่อยู่ในสภาพเกงกางขาสั้นตัวเดียว ลากเจ้ามนุษย์จิ้งจอกเข้ามาในห้องน้ำด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดของตัวเอง  มันเหนื่อยกว่าการหลอกล่อเจ้าจิ้งจอกแดงเข้าห้องน้ำเยอะ เพราะตอนนั้นแค่ใช้อาหารล่อก็ได้แล้ว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่... เมื่อเขาลากเจ้ามนุษย์จิ้งจอกเข้ามาได้สำเร็จ ชริณก็รีบปิดประตู เอาตัวบังไม่ให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกสุดดื้อหนี



                “น้องขอไม่อาบนะ ๆ สัญญาจะตามใจทุกอย่างเลย แต่ขอไม่อาบน้ำนะ” เมื่อไม่เห็นหนทางที่จะรอดแล้ว น้องก็รีบอ้อนชาริน ซังใหญ่ พยายามจะขยับตัวมาซุกอกชาริน ซัง หวังจะให้อีกฝ่ายใจอ่อน ไม่ต้องให้น้องอาบน้ำ เพราะน้องไม่ชอบจริง ๆ



                “ไม่!” ทว่ามุกอ้อนของน้องกลับไม่ได้ผล เพราะชาริน ซังเองก็ไม่ยอมแพ้ แม้น้องจะพยายามอ้อนตาแป๋วก็ตาม



                “ถอดเสื้อผ้าออก”



                “ไม่”



                “จิ๊ ทำไมดื้ออย่างงี้ว่ะ” ชริณว่าพร้อมกับขยับเข้าใกล้เจ้ามนุษย์จิ้งจอก หมายจะถอดเสื้อผ้าให้ ซึ่งเจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็พยายามขัดขืนสุดกำลัง จนเขาต้องจ้องตาดุถึงยอมเรียบร้อย



                “ไม่อาบไม่ได้เหรอ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดใส่กำแพง ในที่สุดเจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าเหมือนตอนที่มา ชริณให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกหันหน้าใส่กำแพง เขายอมเห็นก้นชมพูอ่อน ๆ ของมัน ดีกว่าเห็นอะไรที่เขามีเหมือนกันยังดีกว่า



                “ถ้าไม่อาบ ก็ไม่ต้องทำแล้วมั้งลูกเนี่ย” เขาว่าเตรียมจะเอื้อมมือเปิดน้ำเพื่ออาบให้มัน เพราะยิ่งอาบช้า อากาศก็ยิ่งหนาวมากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้เขาจะอาบน้ำให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก่อน เพื่อสอนให้มันรู้จักวิธีการอาบน้ำของมนุษย์ ในวันหน้ามันจำได้รู้จักอาบเอง



                “ลูกงั้นเหรอ....ชาริน ซังยอมแล้วเหรอ” พอได้ยินคำว่าลูก เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็รีบหันมาถามชริณด้วยน้ำเสียงสดใส



                “ถ้าอาบน้ำ เชื่อฟัง ทำตัวเองให้หอม ๆ จะพิจารณาอีกที” เขาว่า



                “งั้นเรามาอาบน้ำกันเถอะ น้องชอบอาบน้ำ!”










                “ฮึก....”



                “ขวดนี้เป็นสบู่ เวลาใช้ก็กด ๆ แบบนี้แล้วเอามาถูให้ทั่ว กินไม่ได้เข้าใจไหม”



                “ฮ—ฮึก เมื่อไรจะเสร็จอะ”



                “ยังไม่ถึงนาทีเลย...”



                “น—น้องอยากออกไปแล้ว ฮือ...” เสียงงอแงเหมือนเด็กดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ลงชริณได้ลงมืออาบน้ำให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกอย่างเป็นจริงเป็นจังเสียที เขาจับมือมันลูบไล้ตามร่างกายของตัวเอง พร้อมกับสอนว่าแต่ละขวดมีหน้าที่ทำอะไรบ้างและไว้ใช้ตรงไหน เจ้ามนุษย์จิ้งจอกฟังคำสอนของเขาขณะที่น้ำตานองหน้าไปด้วย



                ร่างเล็กเอียงเอนมาซบแผ่นอกของชริณ กลายเป็นว่าตอนนี้เขาอาบน้ำหนที่สองแล้ว เมื่อเขาไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ จากเอนเอียงก็เปลี่ยนเป็นหันหน้ามา กอดหมับเข้าที่เอวของเขาอย่างถือวิสาสะ มือนิ่มกอดเอวเขาไว้แน่น ยิ่งกว่าแมวกลัวน้ำ สงสัยจะไม่ชอบอาบน้ำจริง ๆ ที่บอกว่าชอบอาบน้ำ ทั้งหมดทั้งมวลก็แค่อยากเอาใจเขาเท่านั้น



                “ไหนบอกว่าชอบอาบน้ำ” ชริณถามทั้งหน้ายิ้ม ตอนนี้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกที่แสบสันที่สุดในปฐพีได้สิ้นฤทธิ์เดชไปแล้ว หรือเพียงแค่เจ้าจิ้งจอกแดงที่กลัวการอาบน้ำมากที่สุดไว้เท่านั้น



                “ไม่ชอบแล้ว... รีบ ๆ เสร็จสักที!” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกสั่งการ มิหนำซ้ำยังไม่ยอมถูสบู่อีก แต่เอามือมากอดเอวเขาไว้แทน มันน่านัก!               



                “อีกแป๊บหนึ่ง” ชริณว่า



                “ชาริน ซังแกล้งน้อง!”



                “จะแกล้งได้ไง ก็เห็นอยู่นี่ว่ามันยังไม่เสร็จ ไม่ยอมถูร่างกายตัวเองอีก ปล่อยให้ฉันถูให้ สะอาดไหมก็ไม่รู้” เขาว่ายาวเหยียด พยายามไม่ให้ความสนใจกับการลูบไล้ร่างกายของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกมากเกินไป อันไหนไม่ควรสัมผัสเขาก็พยายามเลี่ยง แต่ก็แอบสงสัยว่าทำไมผิวของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกมันถึงได้นุ่มนิ่มนัก 



                แป๊ะ!



            “โอ้ย! ตีมือน้องทำไม”



                “ทำเป็นเนียน อย่าคิดว่าไม่รู้ทัน” ชริณว่าเสียงเข้ม เขาเพิ่งตีมือเจ้ามนุษย์จิ้งจอกไป หลังมันทำเนียน พยายามจะสอดมือเข้ามาในกางเกงเขา เผลอเป็นไม่ได้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะบีบเข้าที่บั้นท้ายของเจ้ามนุษย์จิ้งจอก เพื่อเป็นการลงโทษอีกครั้ง

     

               “อย่าบีบก้นน้อง”



                “งั้นก็เก็บมือตัวเองไปเลย”



                “ฮือ...ก็ได้” สุดท้ายเจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ยอมทำตามอย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก เลิกกอดเอวชริณแล้วกอดอกตัวเองแทน



                “เจ้าจิ้งจอก”



                “จ๋า...”



                “มีชื่อไหม? ชื่อแบบชื่อเรียกน่ะ ไม่ใช่คำว่าน้อง” ชริณชวนคุย หลังเขาเริ่มสระผมให้มัน เจ้ามนุษย์จิ้งจอกนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ



                “ไม่มีหรอก...พ่อก็เรียกน้อง แม่ก็เรียกน้อง ทุกคนเรียกน้องหมด”



                “แล้วอยากมีชื่อไหม” ชริณถามต่อ ถ้ามันไม่มีชื่อ เขาจะได้ตั้งชื่อให้ อืม...ชื่อน้องแสบสัน คงบอกอุปนิสัยของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี



                “ไม่อยาก...ไม่เอาหรอก น้องก็คือน้องไง”



                “น้องแสบสันเป็นไง” เขาลองเสนอชื่อ เผื่อเจ้ามนุษย์จิ้งจอกจะชอบ



                “ไม่เอา แล้ว...แล้วฮือ...เมื่อไรจะเสร็จอะ อยากออกไปจากห้องน้ำแล้ว”



                “งั้นก็หลับตา จะล้างผมให้”



                ในที่สุดการจับเจ้ามนุษย์จิ้งจอกอาบน้ำครั้งแรกก็สิ้นสุดลง ชริณรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นพี่เลี้ยงเด็กยังไงยังงั้น  เขายกผ้าเช็ดตัวผืนที่ไม่เคยใช้ให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกหนึ่งผืน ให้มันจัดการเช็ดตัวเอาผ้าคลุมร่างเอาไว้แล้วเขาก็เดินไปหาชุดนอนอีกชุดเพื่อให้เจ้าจิ้งจอกสวมใส่ในค่ำคืนนี้ โดยที่มันยืนรออยู่ห้องน้ำ



                “ชาริน ซัง น้องหนาว...”



                “เดี๋ยวกำลังหาให้เนี่ย”



                สุดท้ายเขาก็เลือกเสื้อยืดสีขาวโง่ ๆ กับกางเกงขาสั้นให้กับมัน เจ้ามนุษย์จิ้งจอกรีบรับและใส่เสื้อผ้าที่เขาเลือกให้อย่างไม่อิดออดแม้แต่คำเดียว  พอเจ้ามนุษย์จิ้งจอกอยู่ในหมวดไม่ดื้อรั้นแบบนี้ ก็ค่อยน่าคบหาขึ้นมาหน่อย ไม่เอาแบบตอนเจอครั้งแรกแล้วนะ ชริณขยาดเหลือเกิน แบบนั้นเขาปวดหัวตาย ทำท่าจะแยกเขี้ยวใส่ตลอดเวลา มิหนำซ้ำยังใช้กำลังกันอีก



                “เสร็จแล้ว” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าพร้อมกับส่งรอยยิ้มสดใสมาให้ทางเขา นั่นทำเอาเขาถึงกับกระแฮ่มเสียง เพื่อตั้งหลัก ชริณก็เพิ่งสังเกตว่ามันมีเขี้ยวด้วย สมกับที่เป็นมนุษย์จิ้งจอกจริง ๆ



                ดวงตากลมโตดูซุกซนตลอดเวลา ไหนจะรอยยิ้มสดใสนั่นอีก คงสามารถทำให้ใคร ๆ ตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย หากเจ้ามนุษย์จิ้งจอกเป็นเพียงแค่มนุษย์ปกติ..



                “ก็ดีแล้ว”



                “งั้นแสดงว่าคืนนี้น้องนอนกับชริณ ซังได้ใช่ไหม” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเอ่ยถามอย่างลุ้น ๆ



                “เออ”



                “เย้...งั้นเรามาทำลูกกันเถอะ คืนนี้เลย” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกกระโดดไปมาอย่างดีอกดีใจ ตั้งท่าจะมาโผกอดเขา ทำเอาชริณถึงกับยกมือห้ามแทบไม่ทัน



                “ใครบอกว่าจะทำลูก”



                “อ้าว...ก็ชาริน ซังไง จะผิดคำพูดกับน้องเหรอ”



                “ฉันไม่ได้บอกว่าจะทำลูกคืนนี้สักหน่อย บอกแค่ว่าจะพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง”



                “ฮือ....แล้วทำไมคิดนานจัง” เมื่อไม่ได้เป็นอย่างที่ตัวเองหวังเอาไว้ เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็แสดงท่าทีผิดหวังออกมาอย่างเห็นได้ชัด เจ้ามนุษย์จิ้งจอกขยับตัวเข้ามาใกล้ชาริน ซังอย่างแนบเนียน ก่อนที่มือเล็กโอบเอวหนาอีกครั้ง เงยหน้าขึ้นจ้องชาริน ซังตาแป๋วอย่างรอคำตอบ



                “แล้วทำไมถึงอยากทำลูกจัง” ชริณถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย



                “ก็มันเป็นภารกิจน้อง แล้วน้องต้องทำให้สำเร็จด้วย.....ช่วยกันหน่อยนะ ๆ ถือว่าคนญี่ปุ่นด้วยกัน”



                “ใครบอกว่าฉันเป็นคนญี่ปุ่น ฉันเป็นคนไทยต่างหาก”



                “คนไทย? คืออะไร น้องไม่รู้จัก”



                “ก็อยู่แต่ในป่าจะรู้จักได้ไงเล่า!”



                “งั้น...ถึงจะเป็นคนไทยแต่ก็ช่วยน้องหน่อยนะ ๆ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพยายามอ้อนอีกครั้ง คราวนี้นอกจากจะโอบกอดเอวชริณไว้แน่นแล้ว ยังพยายามดันตัวว่าที่สามีล้มใส่เตียงที่อยู่ไม่ไกลอีกด้วย แต่ชริณไหวตัวทัน ชายหนุ่มขืนตัวเองไว้ไม่ยอมง่าย ๆ



                ในที่สุดก็ได้เวลาเข้านอนเสียที หลังจากที่ชริณควรจะได้นอนตั้งนานแล้ว แต่ต้องเจียดเวลามาสอนเจ้าลูกหมาอาบน้ำก่อน แม้จะปิดไฟลงแล้ว แต่เจ้ามนุษย์จิ้งจอกหาได้สิ้นฤทธิ์ไม่ ทันทีที่ไฟในห้องดับลง เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ขยับมาใกล้ชริณ จนในที่สุดมันก็ได้นอนเกยอกว่าที่สามีอย่างสมใจอยาก



                “ชาริน ซังกอดเอวน้องหน่อยสิ น้องหนาว”



                “มากไป” ชริณตอบเพียงสั้น ๆ ยอมให้นอนเกยบนอกก็แล้ว ยังจะให้เขาโอบเอวอีก ได้คืบจะเอาศอกเสียจริง



                “ตัวชาริน ซังห๊อมหอม” เสียงเจื้อยแจ้วของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกดังขึ้นเป็นระยะ ๆ เหมือนพลังงานของมันในแต่ละวันมีมากเกินไป ในขณะที่ชริณก็ใกล้จะเข้าสู่ห้วงนิทราอยู่รอมร่อแล้ว เพราะวันนี้เขาทำงานเต็มวัน เหนื่อยใช่ย่อย ไหนเวลาว่างก็ไม่เคยได้พักอีก เพราะคิดหนักกับเรื่องของมนุษย์จิ้งจอกแทบทั้งวัน



                เขาว่าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์คงต้องได้พาเจ้ามนุษย์จิ้งจอกไปห้างเพื่อเลือกซื้อของใช้จริง ๆ จังเสียที อย่างน้อยก็พวกเสื้อผ้า เจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวเล็กกว่าเขา ทำให้เสื้อผ้าบางชิ้นยามมันสวมใส่ดูหลวมโคร่งไปหมด ไหนจะของใช้บางอย่างมันก็ไม่สามารถใช้ร่วมกับเขาได้อีก



                “ชาริน ซัง...”



                “.....”



                “หลับแล้วเหรอ?”



                “อือ....” ชริณได้แต่ขานรับเจ้ามนุษย์จิ้งจอกอย่างสุดแสนจะรำคาญ มันไม่เหนื่อยบ้างหรือไงถึงได้ชวนเขาคุยไม่ยอมหยุดเสียที



                “งั้นน้องขอเอาปากแตะกันได้ไหม” เมื่อเห็นว่าชาริน ซังกำลังเคลิ้มหลับและเวลานี้เหมาะสมที่สุดแล้ว เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็รวบรวมความกล้า พูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการออกมา จากที่ดูโทรทัศน์ในช่วงบ่าย น้องจำได้ว่านอกจากการนวดแล้ว ยังมีการเอาปากประกบเพื่อปิดท้ายด้วย การง้อถึงจะเสร็จสมบูรณ์



                “.....”



                ฝั่งเจ้าจิ้งจอกเมื่อไม่ได้รับคำตอบจากปากชาริน ซัง น้องก็ถือว่านั่นเป็นการอนุญาตแล้ว ร่างเล็กลุกขึ้นเพื่อตั้งหลัก แล้วค่อย ๆ โน้มหน้าเข้าไปใกล้กับชาริน ซัง ก่อนที่กลีบปากเล็กประกบเบา ๆ ที่กลีบปากหนาของอีกคน หลังอยากทำมานานแล้ว และจดจำวิธีนี้มาจากโทรทัศน์ว่า หากทำแล้วจะทำให้คนที่ได้รับสัมผัสรู้สึกดี



                ....ทว่าเพียงแค่ได้สัมผัสกันอย่างบางเบา เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็รู้สึกใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง น้องไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันทำให้น้องรู้สึกดี ขนาดคนให้ยังรู้สึกดีขนาดนี้ ก็คงไม่แปลกหากคนรับสัมผัสจะรู้สึกดีเช่นกัน



                จังหวะที่ใกล้หมดลมหายใจแล้วน้องก็ค่อย ๆ ผละออกอย่างแสนเสียดาย ทว่าชาริน ซังกลับจับหัวน้องให้ปากของเราประกบกันอีกครั้ง ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อชาริน ซังพยายามจะสอดลิ้นเข้ามาในโพลงปากน้อง ทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาอยู่



                “อือ....” น้องได้แค่ครางงึมงำ หลังรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะหมดลมหายใจ ยิ่งชาริน ซังเป็นฝ่ายเริ่มก่อน น้องก็ยิ่งใจเต้นแรงมากขึ้นเท่านั้น นานเกือบนาที จนน้องต้องทุบอก ชาริน ซังถึงยอมผละออก



                “พอใจยัง” ชาริน ซังลืมตาขึ้นมา มองเจ้ามนุษย์จิ้งจอกด้วยสายตาเรียบนิ่ง แต่นั่นกลับทำให้น้องหน้าร้อนผ่าว อย่างไร้สาเหตุ



                ความเงียบเข้าปกคลุมเราทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไรออกมา ชาริน ซังเองก็ไม่ได้มีท่าทีรำคาญหรือโมโหที่น้องทำแบบนั้น แต่ก็มองน้องด้วยสายตาเรียบนิ่ง เดาทางไม่ออก



                ก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของชาริน ซังจะดังขึ้นขัดจังหวะเราเสียก่อน ชาริน ซังคว้าโทรศัพท์มาดูแล้วเหลือบมองหน้าเจ้ามนุษย์จิ้งจอกครู่หนึ่ง



                “เดี๋ยวมา รออยู่นี่ไม่ต้องออกไป” ชาริน ซังว่าเช่นนั้นแล้วถือโทรศัพท์ลุกออกไปคุยข้างนอก ปล่อยให้น้องสงสัยว่าใครโทรมาในเวลานี้



                ชาริน ซังออกไปแล้ว... แต่อีกฝ่ายคุยโทรศัพท์นานเหลือเกิน ปกติน้องไม่เคยสงสัย แต่ไม่เคยมีใครโทรหาชาริน ซังในเวลานี้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องสำคัญมาก จนน้องอดสงสัยไม่ได้ ต้องลงจากเตียง เพื่อไปแอบฟัง แอบมองผ่านประตูห้องนอนที่ยังพอมีซี่เล็ก ๆ ให้มองลอดออกไปข้างนอกได้



                ถึงร่างกายในเป็นมนุษย์ แต่ทักษะบางอย่างของจิ้งจอกก็ยังติดตัวมาด้วย อย่างน้อยใบหูที่ประสาทสัมผัสดีกว่ามนุษย์ทั่วไป ทำให้น้องลองเอาหูแนบประตูดู เพื่อได้ยินอะไรบ้าง



                เมื่อได้รับคำตอบแล้วว่าเป็นใคร น้องก็ได้แต่มองแผ่นหลังชาริน ซังตาแป๋วผ่านซี่ประตูแคบ ๆ ...แอบมอง แอบฟังชาริน ซังคุยโทรศัพท์ผู้หญิงคนนั้น....เสียงของเธอเหมือนจะกำลังร้องไห้ ฟังไม่ได้ศัพท์เท่าไรนัก และดูเหมือนเธอจะให้ชาริน ซังปลอบตลอดทั้งคืน




                 น้องรู้ดีว่าชาริน ซังมีใจให้ผู้หญิงคนนั้น เขารักเธอ รู้สึกดีกับเธอ...  แต่...แต่น้องอยากมีแบบนั้นบ้าง....อยากให้ชาริน ซังพูดน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนั้นกับน้องบ้าง โดยที่น้องไม่ต้องอ้อน ปฏิบัติกับน้องด้วยความเต็มใจ เหมือนเธอคนนั้น...เป็นน้องไม่ได้เหรอ










____________

สกรีมแท็ก #น้องจะตอบแทนพี่เอง

อยากจับน้องมากอด รีบเคลียร์เรื่องซากุระ ก่อนน้องท้องเด้อ ชาริน ซัง



ปล. วันนี้นั่งนึกๆพล็อตน้องแล้ว ร้องไห้ อินอยู่เดียว สรุปเป็นบ้า555

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น้องอย่าเพิ่งมีลูกเลยยยย ถ้ามีแล้วหนูหนีหายไปเลยพี่ชริณจะเสียใจที่เอาแต่ไล่นะ!

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เรื่องแม่ดอกกกกกกซากุระเนี่ยเมื่อไรจะเคลียร์ได้ซักทีเนี่ย เบื่อนางมากกก
ผู้หญิงดีๆที่ไหนมีผัวอยู่แล้วยังจะมาให้ความหวังคนอื่นอยู่อีก
มาอีหรอบนี้มีปัญหากับผัวมาแน่ๆแล้วต้องโทรมาร้องไห้ให้ผู้ชายปลอบด้วยนะ
ดูท่าทางนางก็เหมือนอ่อยชริณ สนใจชริณอยู่ รู้ว่าชริณก็ชอบตัวเองอยู่ป่ะ
นี่ก็งงว่าแล้วทำไมไม่คบกับชริณไปเลยอ่ะ จะได้ไม่เสียเวลามาอ่อย
ส่วนชาริน ซัง พระเอกของเราน้านนนน (เราแอบไม่ชอบค่ะ ไม่ชอบมากๆเลยด้วย 555)
เราไม่ชอบตั้งแต่ที่นางบอกว่าถึงซากุระจะมีแฟนแล้วก็จะแย่งมา ทำไมนิสัยเป็นงี้ล่ะ
อห จะชอบจะหลงอะไรเบอร์นั้นอ่ะ ยังคิดอยู่เลยผู้ชายคนนี้ควรได้รับความรักจากน้องจริงๆเหรอ
เอาตรงๆสงสารน้องอ่ะ ไม่ควรจะมาเสียเวลากับผู้ชายคนนี้อ่ะ เราอยากให้น้องได้กับคนอื่นซะจะได้จบๆ 555
ปล่อยชริณให้ไปตามหาความรักกับแม่ดอกซากุระนั่นเถอะ



ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
โถ่ น้องงงงงงงง :m15:

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เปลี่ยนพระเอกได้ไหมอ่ะ สงสารน้องมากเลย แบบทำไมชารินซังทำแบบนี้คิดแบบนี้อ่ะ คือไม่ชอบตั้งแต่บอกว่าจะแย่งซากุระมาแล้วอ่ะ เออ เข้าใจว่ารักมากชอบมาก แต่แบบสติหน่อยไหม นั้นเขามีแฟนแล้วอ่ะ คือถ้าเขาเลิกกันแล้วจะไม่ว่านะ แล้วยังคิดกับน้องแบบนั้นอีก เข้าใจว่าระแวงกลัว แต่คือแบบอยู่กันมาก็สักพักแล้วไหม น่าจะรู้ว่าน้องไม่ได้คิดร้ายกับตัวเองอ่ะ น้องรักตัวเองมากด้วยซ้ำ ทำไมคิดงั้นวะ ไม่ชอบเลย ถ้าต่อไปยังเป็นแบบนี้นะ เราจะให้น้องไปหาหมาป่าทิ้งให้ชารินซังอยู่คนเดียวไปเลย!!  :katai4: :katai1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
คิดว่า..ดราม่าจะบังเกิด   :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1

                ซากุระทะเลาะกับแฟนและเธอโทรมาปรึกษาเขา นั่นคือสิ่งที่ชริณรับรู้....



            เธอวางสายไปได้เกือบสิบนาทีแล้ว แต่ชริณยังนั่งอยู่ที่เดิม กำลังวิเคราะห์เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เขาไม่เข้าใจการกระทำของซากุระ เหมือนเธอจะมีใจให้ แต่ก็มาปรึกษาเรื่องแฟนกับเขา นั่นทำให้เขาสับสน เหมือนจะให้ความหวัง แต่ก็ไม่....



                เขาได้แต่ถอนหายใจออกมา ถึงปากบอกว่าจะแย่งซากุระมาจากผู้ชายคนนั้น แต่สุดท้ายก็เป็นแค่เรื่องขำขันที่เอาไว้พูดโม้กับเมฆก็เท่านั้น เขาไม่กล้าหรอก... เขาไม่กล้าแย่งคนมีเจ้าของมาจากใคร พ่อแม่ไม่เคยสอนให้ชริณทำแบบนั้นและเขาไม่แน่ใจว่าหากซากุระเล่นด้วย.. ขณะที่ตัวเธอเองมีเจ้าของอยู่แล้ว เขาจะสามารถมองเธอในแบบเดิมได้ไหม...



                “เฮ้อ...” ชริณถอนหายใจออกมาอีกระลอก พยายามเลิกสนใจเรื่องของซากุระ เธอก็แค่มองเขาเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้ามาปรึกษาเรื่องความรักกับเขาหรอก



                “....”



                เขาถึงกับชะงักไป เมื่อเดินกลับมาห้องนอนก็เห็นเจ้ามนุษย์จิ้งจอกกำลังหลับโดยการนั่งกอดเข่าเอาหัวพิงผนังห้องข้างประตูเอาไว้ เป็นท่านอนที่แปลกดี แต่ก็สามารถบอกได้ว่าเจ้ามนุษย์จิ้งจอกได้ทำอะไรก่อนที่จะเผลอหลับไป คงจะแอบฟังเขาคุยโทรศัพท์น่ะสิท่า สั่งอะไรไม่เคยทำตาม สมควรแล้วที่จะชื่อน้องแสบสัน



                “นี่ก็ซนจัง” เขาบ่นเบา ๆ แต่ถึงอย่างนั้นชริณก็ไม่ได้ใจร้าย ปล่อยให้เจ้าจิ้งจอกนอนแบบนั้นทั้งคืนได้ลงคอ เขาค่อย ๆ ช้อนร่างมันขึ้น อุ้มไปวางบนเตียงให้ได้นอนดี ๆ



                “ฮือ...อย่าทิ้งน้องนะ”



                 “หืม?”



                “ไม่เอา...ม—ไม่ทิ้งน้อง ฮึก” เสียงบ่นงึมงำของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกที่ไม่ฟังไม่ค่อยได้ศัพท์นัก แต่ก็พอเดาได้ว่ามันพูดอะไร ทำเอาชริณถึงกับขมวดคิ้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขาเพิ่งสังเกตว่าขนตาของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกชุ่มไปด้วยน้ำตา...



                “ทิ้งอะไร ไม่ทิ้งหรอก” เขาว่าแล้วลูบหัวมันอย่างเผลอเอ็นดู



                พอสิ้นฤทธิ์แล้วค่อยดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย จริง ๆ หากชริณไม่เห็นกับตาว่าเจ้าจิ้งจอกกลายร่างเป็นจิ้งจอกแดงได้ เขาคงเข้าใจว่ามันเป็นลูกครึ่งลิงค่างไปแล้ว เพราะไม่เคยอยู่เป็นสุขสักที แต่ดีหน่อยที่มันรู้ภาษา จึงไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับเขา นอกจากการชักชวนทำลูกทุกสิบนาที



                ชริณได้แต่ถอนหายใจอย่างระอา ยิ่งมองใบหน้าอ่อนเยาว์แต่นิสัยแก่แดดของเจ้าจิ้งจอก เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังเลี้ยงลูกอยู่อย่างไงอย่างงั้น ก่อนจะห่มผ้าให้มัน เพราะตอนกลางคืนก็หนาวใช่ย่อย



                “ฝันดีล่ะกัน ไอ้แสบ” เขากล่าวราตรีสวัสดิ์มัน ก่อนจะหลับตาลงเก็บแรงไว้สู้กับเช้าวันใหม่







 

                “ห้ามดื้อ”



                “น้องไม่เคยดื้อ!”



                “แต่ไม่เคยอยู่เฉย”



                “ก็แค่อยากช่วย!”



                “นี่เถียงฉันเหรอ?”



                “.....”



                เสียงโวยวายระหว่างชริณและเจ้ามนุษย์จิ้งจอกดังขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าของวัน หลังก่อนออกจากบ้าน เขากำชับให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกดูแลบ้านดี ๆ หรือดื้อห้ามซน หรือทำอะไรที่เขาไม่ได้สั่งเหมือนเช่นทุกที เพราะเจ้ามนุษย์จิ้งจอกไม่เคยอยู่เฉย ทำโน้นทำนี่ตลอด รวมถึงการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย เขาก็แค่กลัวว่าหากมันทำพลาด รู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจทำให้บ้านหลังนี้วายวอดทั้งหลังก็เป็นได้



                “เข้าใจที่ฉันสั่งไหม”



                “เข้าใจแล้ว”



                “ก็ดี....”



                “ชาริน ซัง”



                “…?”

                “วันนี้จะพาน้องออกไปข้างนอกเหรอ” เจ้าจิ้งจอกทวนถาม หลังเมื่อช่วงเช้าชริณได้บอกไว้ว่าให้เตรียมตัว เลิกงานเสร็จจะแวะพาออกไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแถวบ้าน



                “อืม ก็เตรียมตัวไว้แล้วกัน” ชริณว่า เขารอให้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ไม่ได้แล้ว เพราะของบางอย่างเช่นของกิน ของใช้เริ่มหมดไปแล้ว จึงต้องเปลี่ยนแผน วันนี้เลยต้องไปซื้อของเข้าตู้เย็นและถือโอกาสไปหาซื้อเสื้อผ้าขนาดเท่าตัวเจ้าจิ้งจอกเสียเลย



                “ดีใจจัง”



                “เดี๋ยวเลิกงานแล้วฉันจะรีบกลับมา ทำตัวดี ๆ เข้าไว้ล่ะ ไปแล้ว” เขาว่าเพียงสั้น ๆ ก่อนจะคว้ากระเป๋าทำงานเตรียมเดินทางไปบริษัท

         

           ชาริน ซังออกไปทำงานแล้ว แต่น้องยังหุบยิ้มไม่ได้ รู้สึกดีใจแปลก ๆ ที่จะได้ออกไปท่องโลกกว้างกับชาริน ซัง น้องดีใจมาก จนเผลอกลับคืนเป็นร่างจิ้งจอกแดงเหมือนเดิม แม้จะแอบเจ็บปวดกับเรื่องเมื่อคืน แต่พอคิดไปว่าเมื่อคืนชาริน ซังก็ประกบปากน้องกลับเช่นกัน จึงพอทำให้หักล้างไปได้ ยิ่งวันนี้จะได้ออกไปข้างนอกกับชาริน ซัง น้องก็ยิ่งดีใจ



                เจ้าจิ้งจอกเดินไปยืนอยู่หน้าตู้เย็นที่มีเงาสะท้อนของตัวเองอย่างสบายใจ ดูพวงหางตัวเองอีกครั้ง แม้พวงหางจะไม่ได้สวยเฉกเช่นเดิม พอที่จะโชว์ชาริน ซังได้อีกแล้ว เพราะบาดแผลจากน้ำมือมนุษย์คราวนั้น แต่พอมาถึงตอนนี้ มันก็ยังพอมองได้ ดีกว่าวันแรก ๆ อยู่มาก ตอนนั้นทำให้เจ้าจิ้งจอกแดงรู้สึกอาย เหมือนถูกมนุษย์แต่งแต้มความอัปยศไว้ให้



                น้องไม่รู้หรอกว่าห้างสรรพสินค้าคืออะไร ชาริน ซังจะพาน้องไปที่ไหน แต่คิดว่ามันต้องสนุกเหมือนตอนไล่ล่ากระต่ายป่าแน่ นั่นทำให้น้องในร่างจิ้งจอกแดงตัวจ้อย กระโดดไปมาบนพรมเช็ดเท้าอย่างดีอกดีใจ เฝ้ารอให้ชาริน ซังรีบกลับบ้าน



                เพราะชาริน ซังกำชับว่าห้ามทำอะไรทั้งนั้น นอกจากอยู่เฉย ๆ ทำให้น้องเลือกที่จะสงบเสงี่ยม เชื่อฟังคำสั่งของชาริน ซังแต่โดยดี รอจนกระทั่งชาริน ซังกลับบ้านมา....



                “กลับมาแล้ว!” เสียงสดใสของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกดังขึ้นทันที เมื่อได้ยินเสียงไขประตูบ้าน หากในร่างมนุษย์มีหางโผล่ตรงบั้นท้าย มีหูโผล่บนหัวจนได้เห็นภาพเจ้ามนุษย์จิ้งจอกแสดงความดีอกดีใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่การยืนย่ำเท้าบนพรมไปมา มองประตูที่กำลังถูกเปิดตาลุกวาว



                ชริณที่เพิ่งเปิดประตูบ้านเข้ามาถึงกับชะงักไป เมื่อเห็นเจ้ามนุษย์จิ้งจอกกำลังยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าประตู แสดงท่าทางดีอกดีใจ เหมือนนั่งรออยู่หน้าประตูนานแล้ว



                อะไรจะดีใจปานนั้น...



            “ก็แค่ไปซื้อของเองแป๊บเดียวเอง จะดีใจทำไม ขยับไปสิ....จะเอากระเป๋าเข้าไปไว้ มันหนัก”



                “เดี๋ยวน้องช่วย” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่า ก่อนจะกุลีกุจอมารับกระเป๋าทำงานจากมือชาริน ซัง เอาไปไว้ตรงที่เก็บ



                ดวงตาสุกใส ดูซุกซนและท่าทีตื่นเต้นจนดูล้น ๆ ของเจ้ามนุษย์จิ้งจอก ทำเอาชริณถึงกับหลุดขำออกมา ไม่รู้ว่าเจ้าแสบสันคิดว่าการไปห้างสรรพสินค้า มันคือการไปเล่นสวนสนุกกันหรือไง ถึงได้กระดี๊กระด๊าขนาดนี้ เลือกซื้อของที่ห้างมันสนุกน่าเบื่อจะตาย แถมยังปวดขาอีกต่างหาก



                “ไปกันเถอะ!”



                “เดี๋ยว ๆ ขอพักก่อน” ชริณว่า “หิวน้ำว่ะ ไปหยิบน้ำมาให้หน่อยดิ”



                “ได้เลยจ้ะ!” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกรับคำ รีบวิ่งไปหยิบน้ำเย็น ๆ ออกมาจากตู้ ชริณจึงเข้ามานั่งพักบนโซฟาเพื่อตั้งหลักก่อน วันนี้หลังเลิกงานเสร็จ เขาก็รีบกลับบ้านเร็วกว่าปกติ เพราะมีที่ต้องไปต่อ จากบริษัทกลับมาถึงบ้าน พอรีบกลับก็เหนื่อยใช่ย่อย ทำเอาเขาถึงคอแห้งผาก เกิดอาการกระหายน้ำกะทันหันแถมยังเหงื่อซกอีก



                “น้ำมาแล้วจ้ะ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกรีบเอาน้ำเย็น ๆ มาเสิร์ฟตามคำสั่งของชาริน ซัง ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ จ้องชาริน ซังที่ดื่มน้ำตาแป๋ว ทำเอาคนถูกจ้องถึงกับดื่มไม่ลง



                “ม—มองอะไร ไม่เคยเห็นคนดื่มน้ำหรือไง” ชริณถึงกับทำตัวไม่ถูก เมื่อถูกเจ้ามนุษย์จิ้งจอกจ้องไม่เลิก



                “ชาริน ซังหล่อจัง”



                “.....”



                “อยากได้...” ตอนแรกชริณก็ตั้งรับไม่ทันที่ถูกเอ่ยชมแบบโต้ง ๆ คนปกติไม่มีใครเขาทำแบบนี้หรอก แต่ประโยคตามหลังของเจ้ามนุษย์จิ้งจอก ฟังดูทะแม่ง ๆ ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไรนัก ทำเอาเขาถึงกับหรี่ตามองมันอย่างไม่ไว้วางใจ รอดูว่าเจ้าจิ้งจอกจะมาไม้ไหนกันแน่



                “พอได้กลิ่นของชาริน ซังแล้วน้องรู้สึก....” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นหน้ามาฟุดฟิดแถวเสื้อชริณอีกครั้ง ร่างเล็กถึงกับคิ้วขมวด เพราะทุกครั้งที่อยู่ในร่างมนุษย์ ร่างกายจะไวต่อความรู้สึกมาก ๆ และคราวนี้ชาริน ซังมีเหงื่อออกมาด้วย ยิ่งทำให้รู้สึกเร็วมากกว่าปกติ



                “รู้สึกอะไร” เขาถาม หากบอกว่ารู้สึกหงุดหงิดเพราะกลิ่นน้ำหอมผู้หญิง เขาจะเขกหัวเข้าให้ เพราะทั้งวันมานี้เขาไม่ได้เฉียดเข้าใกล้ผู้หญิงคนไหนเลย



                “ชาริน ซัง ทำลูกกันนะ” พอว่าจบ เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ตะปบเข้าที่คอเสื้อชริณทันควัน พยายามเบียดตัวเข้ามาชิด ทำเอาชายหนุ่มถึงกับทำตัวไม่ถูก



                “เฮ้ย! ออกไป!”



                “ทำลูกกันเถอะ!”



                “เฮ้ย ไม่ได้!!” ชริณถึงกับเซถอยหลังด้วยความตกใจ พยายามปัดมือเจ้าจิ้งจอกออกพัลวัน ไหนจะต้องเบี่ยงหน้าหนีมันอีก หลังเจ้าจิ้งจอกพยายามยื่นปากเข้ามาใกล้เขาหมายจะจูบเหมือนอย่างเมื่อคืน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ามนุษย์จิ้งจอก แต่ที่แน่ ๆ เหมือนมันจะปล้ำเขาให้ได้



                “ก็บอกว่าไม่ได้ไง! วันนี้ต้องไปซื้อของนะเว้ย”



                “ค่อยซื้อไม่ได้เหรอ น้องทนไม่ไหวแล้ว!” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าอย่างเอาแต่ใจ พยายามจะปล้ำจูบว่าที่สามีตนให้ได้ ก่อนจะรีบขึ้นไปนั่งตักชาริน ซังเพื่อที่จะได้จัดการอะไรง่าย ๆ กลิ่นของชาริน ซังมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกน้องจริง ๆ



                “ไม่ได้! ถ้าดื้อจะไม่ให้อยู่บ้านหลังนี้แล้วนะ!” ชริณพูดเสียงเข้ม ถือว่าเป็นการยื่นคำขาดให้กับเจ้าจิ้งจอก เขาเอาจริงแน่! ถ้ามันไม่เชื่อฟังเขา บอกว่าไม่ก็คือไม่ ตอนนี้เขายังไม่พร้อมจะมีเมียและทันทีที่เขายื่นคำขาดเช่นนั้น เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ถึงกับชะงัก กลับมาหน้าหงอยเหมือนเดิม ยอมปีนลงจากตักชาริน ซังอย่างลีลา เพราะไม่อยากถูกชาริน ซังไล่ออกจากบ้าน



                “สักนิดไม่ได้เหรอ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกต่อรอง พยายามเอาความออดอ้อนเข้าสู้ แต่ชาริน ซังใจแข็งยิ่งกว่าอะไร



                “ไม่ได้!”



                “เฮ้อ...ทำไมหวงตัวจัง”



                “อ้าว ไอ้นี่!”



                “ถ้ากลัว.... ก็หลับตาลงก็ได้นะ น้องจะทำเอง” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกยังคงไม่ละความพยายาม ยังขอต่รองอีกครั้ง ด้วยความหวังเล็ก ๆ ว่าชาริน ซังจะตอบตกลง



                “ไม่!”








____________

สกรีมแท็ก #น้องจะตอบแทนพี่เอง

น้องงงงงงงงงงงง เล่นตัวแบบนี้อย่ามาโหยหาให้น้องทำการบ้านทีหลังเด้อ

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชารินซังคิดได้ซะบ้างเหอะ ผู้หญิงที่มีแฟนอยู่แล้วยังมามีท่าทีสนใจผู้ชายอื่นอีก
นี่คิดว่ามองเป็นผู้หญิงที่ดีไม่ได้แล้วนะ อย่าเสียเวลากับผู้หญิงอย่างนี้เลย ไม่ไหวจริงๆ
อยากให้ตัวชาริน ซังจัดการกับความคิด ความรู้สึกของตัวเองเรื่องซากุระให้ได้ซะก่อนจะดีกว่า
ไม่อยากให้มามีปัญหาอีกทีหลัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.5(2/2) 13.07.18
« ตอบ #39 เมื่อ: 13-07-2018 19:45:36 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เมื่อไหร่จะใจอ่อน พ่อคู๊น..นนนนนนน #ทีมน้อง  :ruready

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1


06


                “เอาตัวนี้ไหม”



                “เอา”



                “ตัวนี้ล่ะ”



                “เอา”



                “ระหว่างตัวนี้กับตัวนี้ชอบตัวไหน”



                “เอาทั้งคู่”



                “นี่ใจคอจะให้ฉันหมดตัวเลยหรือไง”



                “ก็น้องชอบอะ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกจ้องชริณตาแป๋วอีกครั้ง หลังถูกพามาโซนเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายและไม่ว่าชริณจะหยิบยกเสื้อตัวไหนขึ้นมาถาม เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ชื่นชอบหมด ไม่มีอิดออดหรือลังเลเลยสักครั้ง



                “แล้วแบบนี้ชอบปะ”



                หลังจากเลือกเสื้อผ้าขนาดเท่าตัวของมนุษย์จิ้งจอกได้หกเจ็ดชิ้นแล้ว เขาก็พาเจ้ามนุษย์จิ้งจอกไปยังโซนชุดชั้นในสำหรับผู้ชายต่อ ชริณหยิบชั้นในเนื้อดีสีเหลืองอ๋อยให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกดู อยากลองใจว่ามันจะชอบไหม จะเอาลูกเดียวเหมือนเดิมไหม เพราะถ้าเป็นเขา ต่อให้แม่จ้างก็ไม่มีวันใส่แน่นอน ถ้าสาวรู้มีอาย



                “เอา....ถ้าชาริน ซังใส่สีนี้ด้วย” ว่าจบเจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็หันไปคว้าชั้นในสีแดงแสบตามาให้ “ถ้าชาริน ซังใส่จะกลายเป็นคนร้อนแรง”



                “แก่แดด” ชริณว่าเพียงสั้น ๆ ก่อนจะหันไปหยิบเช็ตชั้นสีเทาและขาวใส่เจ้ามนุษย์จิ้งจอกแทน การพาเจ้ามนุษย์จิ้งจอกมาห้างแห่งนี้ เหมือนได้เปิดโลกอีกใบให้เจ้าตัวได้รู้จัก เพราะเจ้ามนุษย์จิ้งจอกดูตื่นตาตื่นใจไปหมด โชคดีที่ไม่แตกตื่นผู้คนที่มาซื้อของอย่างที่ชริณกลัว



                ทันทีที่เดินผ่านผู้คนเบียดเสียด มือเล็กก็รีบคว้าหมับเข้าที่แขนของเขา ดูท่าไม่มีทางปล่อยง่าย ๆ แน่ เพราะเจ้ามนุษย์จิ้งจอกกลัวชริณทิ้งไว้ที่นี่ หลังเขาขู่ว่าถ้าดื้อหรือทำให้ทุกคนสงสัย จะไม่พากลับบ้านด้วย ดูเป็นวิธีที่โหดร้ายกับเจ้ามนุษย์จิ้งจอกไปหน่อย แต่ก็ได้ผลเลยทีเดียว



                “ชาริน ซัง...อันนี้เอากลับบ้านเราได้ไหม”



                “กินเป็นเหรอ”



                “ไม่เป็นอะ แต่น้องอยากลอง นะ ๆ”



                ฝั่งเจ้ามนุษย์จิ้งจอก เมื่อมาถึงแผนกข้าวปั้น ซูซิสำเร็จรูป น้องก็หยุดชะงักโดยทันที ดวงตากลมโตจ้องซูซิสำเร็จรูปตาลุกวาว ดวงตาเหมือนถูกสะกดให้มองแต่ถาดซูชิ



                ความฝันในวัยเด็กถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง หลังเคยอยากกินมาเนิ่นนาน ตั้งแต่ชีวิตนี้ยังไม่รู้จักชาริน ซัง แต่ตอนนั้นได้กินแค่คราบซอส เศษข้าวที่ติดอยู่ตามถาดโฟม แล้วอาศัยจินตนาการถึงรสชาติของมันเท่านั้น เพราะในแต่ละวันแค่อาหารตามถังขยะ หายากมาก จึงแทบไม่มีอะไรตกถึงท้อง ตัวผอมซูบ รอดมาได้ถึงขนาดนี้ก็ดีเท่าไรแล้ว



                ตอนนี้น้องคิดว่าน้องสามารถซื้อได้ แต่ติดที่ว่าไม่มีเงิน แค่น้องไม่มีเงินเอง ไม่งั้นก็ซื้อได้แล้ว....



            “แล้วมีเงินเหรอ” ชริณถามต่อ



                “ไม่มีอะ”



                “อ้าว แล้วจะซื้อไง”



                “ฮือ...ซื้อให้น้องนะ ๆ”



                “ถ้าจะให้ซื้อ ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน รู้จักไหมของฟรีไม่มีในโลก”



                “น้องจะเป็นเด็กดี!”



                “อืม...ไม่ค่อยคุ้มเลย เด็กดีนี่ต้องเป็นอยู่แล้ว”



                “งั้น...น้องจะทำงานบ้าน”



                “ก็ทำอยู่ทุกวันไม่ใช่เหรอ”



                “งั้นชาริน ซังต้องการอะไร” เมื่อไม่รู้ว่าจะต่อรองด้วยอะไร น้องก็เอ่ยถามชาริน ซังอย่างจนปัญญา หากจะบอกว่าจะทำลูกทุกวัน ชาริน ซังก็คงไม่ตอบตกลงอยู่ดี เพราะเท่านี้ยังไม่ยอมเลย



                “ตอนนี้ฉันยังคิดไม่ออก เป็นว่านายติดหนี้ฉันไว้ก่อนแล้วกัน เจ้าตัวแสบ” ชริณว่าหน้ายิ้ม ก่อนจะปล่อยให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเลือกว่าจะเอาซูซิถาดไหน ซึ่งเจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ฉลาดพอที่จะหยิบถาดที่แพงที่สุดในนั้นมา



                “น้องเอาถาดนี้!”



                “ร้ายนักนะ” เขากลั้วหัวเราะ แต่สุดท้ายหยิบถาดซูซิที่เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเลือกลงตะกร้า



                เราช่วยกันซื้อของเข้าบ้าน ไม่ว่าจะเป็นของใช้ เสื้อผ้าหรืออาหาร ชริณก็อาศัยจังหวะนี้สอนให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกได้รู้จักด้วย ว่าอะไรเป็นอะไร หากคิดจะอยู่บนโลกของมนุษย์ ไม่กลับคืนสู่ร่างจิ้งจอกแดงแล้ว มันก็ต้องเรียนรู้ทุกอย่างที่มนุษย์รู้จัก มันอาจจะเป็นเรื่องยากเสียหน่อย แต่ชริณเชื่อว่ามันทำได้



                “แล้วอันนี้ไว้ใช้ทำอะไรอะ”



                “.....”



                “น้องอ่านไม่ออกด้วย”



                เมื่อมาถึงแผนกคิดเงินเตรียมกลับบ้าน เจ้ามนุษย์จิ้งจอกที่กำลังเรียนรู้โลกของมนุษย์ก็เกิดความสงสัยไม่หยุด หันไปคว้ากล่องถุงยางอนามัยแบบมีปุ่มสัมผัสมาถามชริณหน้าตาเฉย



                “เอาไปเก็บ มันไม่ใช่เรื่องของเด็ก” ชริณกระซิบบอกเจ้ามนุษย์จิ้งจอกที่เกิดอาการสงสัย ในเรื่องที่ไม่ควรสงสัย มิหนำซ้ำตอนนี้พนักงานกำลังอมยิ้มให้กับความสงสัยของเจ้าจิ้งจอกด้วย นั่นทำให้ชริณรู้สึกอาย



                “น้องอยากรู้ บอกน้องหน่อยนะ ๆ”



                “ก..ก็เอาไว้ใช้งานตอนไม่อยากมีลูก” ชริณเลือกที่จะตอบแบบเลี่ยง ๆ มันใช่เรื่องที่เขาจะต้องมาอธิบายเรื่องถุงยางอนามัยกลางห้างไหมเนี่ย!



                “แต่ว่า....”



                “ขอเถอะ....เอาไปเก็บไว้ อย่าสงสัย” ชริณว่า ภาวนาให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเชื่อฟังคำสั่งของเขาเสียที เขายอมแล้ว...



 







                “แล้วถ้าน้องอยากมีลูก ก็ไม่ต้องใช้ใช่ไหม”



                “อืม”



                “งั้นแสดงว่าตอนนั้นทำถูกแล้ว”



                “ตอนไหน”



                “ก็ตอนที่เราทำลูกด้วยกันครั้งแรกไง” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดออกมาหน้าซื่อ ทำเอาชริณถึงกับกุมขมับ แม้เขาจะจำเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ได้ แต่เขาก็อายทุกครั้งเจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดถึงมัน เหมือนพยายามตอกย้ำว่าเขาได้ตกเป็นเมืองขึ้นของเจ้าตัวไปแล้ว



                เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาก็จัดการเก็บข้าวของให้เข้าที่เข้าทาง ทำอาหารสองที่เผื่อเจ้าจิ้งจอกด้วย เขาก็ลืมไปเสียสนิทว่ามันต้องกินอาหารเหมือนกับเขา เคยชินแต่การอยู่คนเดียว จึงไม่ได้ไถ่ถามอย่างที่ควรจะทำ



                 พอชริณถามว่าก่อนหน้านี้สองสามวันที่เป็นกลายร่างมนุษย์แล้ว ได้กินอะไรบ้าง เจ้าจิ้งจอกก็ตอบกลับเสียงซื่อ ว่ากลายร่างกลับคืนเป็นจิ้งจอกแดงแล้วกินอาหารเม็ดเอา เคยลองกินอาหารเม็ดในร่างมนุษย์แล้วมันเคี้ยวยาก ติดฟันด้วย เลยต้องกินในร่างจิ้งจอก



                “เมื่อไรชาริน ซังจะใจอ่อนอะ น้องอยากแล้วน้า เป็นเด็กดีมาก ๆ แล้วด้วย ไม่ดื้อ ไม่ซนแล้ว”



                “ดูพูดเข้า อายไหมเนี่ย” ชริณถามต่อ เขายอมความมุ่งมั่นของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกเสียจริง



                 ตั้งแต่วันแรกที่เขาล่วงรู้ความลับ มันก็เชิญชวนเขาเป็นสามีแทบทุกวัน ไม่มีวันไหนไม่พูดถึงเลย เรื่องภารกิจทำลูกด้วยกันเนี่ย พูดบ่อยเสียจนเขาเริ่มเกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมานิด ๆ  อดคิดไม่ได้ว่าหากให้เขาทำขึ้นมาจริง ๆ จะมาร้องโอดโอย เจ็บสะโพกไหม



                “ไม่อาย จะอายทำไมก็ภารกิจน้องนี่นา...”



                “แล้วใครบอกว่านี่คือภารกิจ มีคนบอกเหรอว่าต้องทำให้สำเร็จ” ชริณถามในสิ่งที่ตนสงสัยต่อ



                “สัญชาตญาณบอกน้องเอง”



                “ไม่มีหลักการเลยว่ะ มั่วไปเองหรือเปล่า จริง ๆ นายอาจเป็นแค่จิ้งจอกแดงลามกก็ได้”



                “ไม่ใช่สักหน่อย น้องไม่ใช่จิ้งจอกลามกนะ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเถียงกลับ ก่อนจะล้มตัวนอน แล้วขยับไปซุกอกชาริน ซังอย่างช่างอ้อน ยามที่ตัวของชาริน ซังไม่มีน้ำหอมของผู้หญิง น้องรู้สึกชอบจริง ๆ อยากกอดตลอดเวลา แถมสัมผัสของชาริน ซังก็ยังอบอุ่นด้วย



                ฝั่งชริณเองก็ยอมปล่อยให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกขยับเข้ามากอดตัวเองเอาไว้ น่าแปลกที่เขาไม่คิดจะผลักไสเจ้ามนุษย์จิ้งจอกออกให้พ้นตัว ห้ามเข้าใกล้ในรัศมีห้าสิบเมตร เหมือนในช่วงแรก ๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจ้าจิ้งจอกเขยิบเข้ามากอดเขาเช่นนี้ ป่านนี้คงได้ไปนอนพื้นแล้ว



                “ชอบจัง...ตัวชาริน ซังห๊อมหอมมมมม”



                “ไม่ทำ”



                “น้องยังไม่ได้พูดอะไรเลย”



                “รู้หรอก”



                “ว่าแต่ไม่ทำจริงอะ”



                “ไม่” ชริณพูดน้ำเสียงเฉียบขาด เขาเดาผิดเสียที่ไหนกะแล้วว่าเจ้ามนุษย์จิ้งจอกจะวกมาพูดเรื่องนี้อีกครั้ง มันน่านัก



                “งั้นทำแบบเมื่อวานไม่ได้เหรอ ที่เราเอาปากแตะกันอะ” เมื่อขอสิ่งหนึ่งไม่ได้ เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็เลือกที่จะขออีกสิ่งแทน มันรู้ดีว่าจะทำยังไงให้ชริณใจอ่อน คราวนี้เอียงคอมองชริณตาแป๋วตามแบบฉบับของเจ้าตัว พยายามใช้สายตาอ้อนขออย่างที่ต้องการ ทำให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกดูน้องเข้าไปใหญ่



                “แบบเมื่อวาน เขาเรียกว่าจูบ ไม่ใช่การเอาปากแตะกัน” ชริณอธิบาย พอพูดเขาก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองหายใจติดขัดขึ้นมาเสียดื้อ ๆ  ขนาดเจ้ามนุษย์จิ้งจอกยังไม่เขินอายเลย พูดมันออกมาหน้าตาเฉย ทำไมเขาไม่เป็นแบบนั้นบ้าง รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกับหูแดงแน่ ๆ



                พอนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ก็แอบคาดไม่ถึงเหมือนว่าว่าตัวเองจะกล้าจูบน้องกลับแบบนั้น ทุกอย่างมันเป็นไปเองตามธรรมชาติ เขารู้สึกว่าจูบรอบแรกมันไม่พอ เรียกว่าปากโดนกันเฉย ๆ ก็ได้ ชริณรู้แค่ว่านั่นไม่ใช่การจูบที่ถูกวิธี มารู้สึกตัวอีกทีเขาก็เป็นฝ่ายเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ เพื่อสอนน้องจูบเสียแล้ว



                “งั้นคืนนี้เราจูบกันอีกได้ไหม”



                “.....”



                “นะ ๆ เมื่อคืนน้องหลับฝันดีมาก ๆ เลย คงเป็นเพราะเราจูบกัน” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพยายามอ้อนขอ อยากได้รับความรู้สึกดี ๆ แบบนั้นอีก



                “ฝันดีอะไร นั่งร้องไห้ไม่ใช่เหรอ” ชริณแย้ง เขาจำได้ว่าเมื่อคืนตนเห็นคราบน้ำตาของเจ้ามนุษย์จิ้งจอก



                “แล้วเมื่อคืนร้องไห้ทำไม” เขาถามต่อ



                “ก็...ก็น้องกลัวถูกทิ้ง” เมื่อถูกถาม เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ได้แค่ตอบเสียงแผ่ว ไม่กล้าสบตา



                “ถูกทิ้ง?”



                “น—น้องรู้ดีว่าชาริน ซังแค่มีความเมตตากับน้องเฉย ๆ น้องก็แค่กลัวว่าหากวันหนึ่งชาริน ซังรักผู้หญิงคนนั้น ยอมให้เธอเข้ามาในบ้านนี้ ชาริน ซังก็จะทิ้งน้อง”



                “.....”



                “บ้านหลังนี้อยู่ด้วยกันสามหรอกคนไม่ได้หรอก ใช่ไหมล่ะ?” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง



                “แต่..แต่อย่าทิ้งน้องนะ น้องมีแค่ชาริน ซังคนเดียว” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าด้วยน้ำเสียงเว้าวอน ท่อนแขนเล็กโอบเอวหนาไว้ทันที เมื่อความกลัวที่มีอยู่ในใจถูกสะกิดอีกครั้ง ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์อันซ้ำซ้อนของมนุษย์มากนัก แต่น้องก็ฉลาดพอ รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร



                “.....”



                “ถ้าน้องท้อง น้องจะหายไปก็ได้ ขอสิ่งเดียวจากชาริน ซังจริง ๆ ช่วยน้องก็พอแล้วน้องจะหายไปจากชีวิตเอง”



                “บ้า...จะให้ฉันดูเป็นคนใจร้ายไปถึงไหน” ชริณพูดเบา ๆ ก่อนจะลูบหัวเจ้าจิ้งจอกน้อยอย่างอ่อนโยน “กับซากุระไม่มีทางเป็นไปได้เลย เธอมีเจ้าของแล้ว”



                “แต่ชาริน ซังรู้สึกดีกับเธอและเธอก็รู้สึกดีกับชาริน ซัง” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าต่อ มั่นใจว่าสัญชาตญาณตัวเองไม่ผิดพลาด อันที่จริงน้องมั่นใจตั้งแต่เห็นผู้หญิงคนนั้นแอบเหลือบมองชาริน ซังเป็นระยะ ๆ ในบ้าน ตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว นั่นเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องไม่ชอบเธอ เพราะกลัวจะถูกแย่งชาริน ซังไป



                “ใครบอก” ชริณถึงกับขมวดคิ้ว



                “สัญชาตญาณของน้องไง”



                “เฮ้อ.... เขามีคนรักอยู่แล้วจะมีรู้สึกดีกับผู้ชายคนอื่นไม่ได้หรอกนะ มันเท่ากับไม่ซื่อสัตย์กับคนรักของเขา” ชริณว่า



                “แต่น้องมั่นใจ!” เจ้าจิ้งจอกน้อยเถียง



                “สัญชาตญาณนายผิดพลาดแล้วมั้ง” ชริณว่า ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเข้าใจอย่างนั้น แต่ถ้าเป็นอย่างที่อีกฝ่ายว่าจริง ๆ เขาก็คงมองซากุระเปลี่ยนไป



                “งั้นคืนนี้จะให้แค่จูบหน้าผากแล้วกัน ข้อหาสัญชาตญาณนายผิดพลาด” ชริณพูดตัดบท แล้วโน้มหน้าลงไปจูบหน้าผากเจ้ามนุษย์จิ้งจอกเบา ๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเถียงเรื่องซากุระต่อ ทันทีที่ได้รับสัมผัส เจ้ามนุษย์จิ้งจอกถึงกับหลับตาพริ้มในทันที แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าชอบในสัมผัสของชริณ



                “งือ...ชอบจัง” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าอย่างเพ้อ ๆ



                “ทำตัวน่ารัก ๆ เดี๋ยวจะทำบ่อย ๆ” ชริณว่า เขารู้สึกเลยว่าตัวเองกำลังใจดีกับเจ้ามนุษย์จิ้งจอกสุดแสนประหลาดตัวนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพียงเพราะคิดว่าเจ้ามนุษย์จิ้งจอกไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไร นอกจากชอบทำตัวน่ากลัว ล่อเขาขึ้นเตียงบางครั้ง แต่โดยรวมก็ช่วยให้เขาคลายเหงาได้ดี บางครั้งก็ทำให้หายเหนื่อยเช่นการทำงานบ้านของเจ้าตัว



                “ฮือ...รักชาริน ซัง” ฝั่งเจ้าจิ้งจอกพอได้ยินเช่นนั้น ก็ยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่ น้องเลือกที่จะบอกรักชาริน ซังต่อหน้า จากที่แต่ก่อนมักจะแอบบอกรักลับหลัง เพราะวันนี้ชาริน ซังใจดีกับน้องมาก น้องก็จะมอบความรักให้ชาริน ซังเยอะ ๆ ทั้งต่อหน้าและลับหลังเพื่อตอบแทน



                “อือ ฝันดีครับ” ชริณว่าก่อนจะข่มตานอน ในขณะที่เจ้ามนุษย์จิ้งจอกอยู่ในอ้อมกอดเขาทั้งคืน




               

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1











               กลายเป็นว่าทุก ๆ เช้า ก่อนออกไปทำงาน ชริณต้องคอยกำชับให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกอย่าทำอะไรที่เขาไม่ได้สั่ง เพราะเจ้าจิ้งจอกไม่เคยอยู่เฉย



                เมื่อตื่นเช้ามาแทนที่เขาจะเห็นเจ้าจิ้งจอกนอนอยู่บนเตียงด้วยกัน กลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายก็ออกไปกวาดห้อง ทำนั่นนี่ที่เรียกว่าเป็นงานบ้านไปเรื่อย พอชริณถามว่าไปจำวิธีพวกนี้มาจากไหน ก็บอกว่าจำมาจากเขาส่วนหนึ่งและอาศัยความฉลาดของเจ้าตัว พอเขาบอกว่าไม่ต้องทำอีกแล้ว ก็มีการตัดพ้ออีก บอกว่าอยากช่วยแบ่งเบาภาระ ทำเอาชริณถึงกับกุมขมับ



                “ถ้าใส่อันนี้แล้ว ไม่ใส่อันนี้ไม่ได้เหรอ”



                “ไม่ได้”



                “แล้วทำไมต้องใส่หลายชั้นด้วย”



                “ก็อันนี้ชั้นในแล้วอันนั้นชั้นนอก”



                “แล้วถ้าน้องใส่แต่ชั้นนอกล่ะ”



                “ไม่ได้”



                “แล้วถ้าใส่แต่ชั้นใน...”



                “ก็ไม่ได้อีก”



                “แต่....แต่ถ้าใส่หลายชั้น มันอึดอัดนะ”



                “เดี๋ยวก็ชิน” หลังจากบอกให้หยุดทำความสะอาด ชริณก็ต้องมาปวดหัวกับเรื่องการแต่งตัวของเจ้าจิ้งจอกต่อ หลังเจ้าตัวแสบต่อรองขอใส่แต่กางเกงขาสั้น ไม่ใส่ชั้นใน ไม่ก็ขอใส่ชั้นใน แต่ไม่ใส่กางเกงแทน



                “ชาริน ซังใส่แบบนั้นไปได้ไง” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกถามอย่างอึ้ง ๆ ลำพังตอนนี้แค่ใส่ชั้นใน น้องก็รู้สึกไม่สบายตัวแล้ว ไม่รู้มนุษย์จะใส่อะไรซ้ำซ้อน



                “ก็มันชินไง ถ้าเราอยากอยู่โลกมนุษย์ก็ต้องปรับตัวให้ได้นะ จะมาไม่ใส่เสื้อผ้า ขอใส่แค่กางเกงในแบบนั้นไม่ได้หรอก” ชริณสอน



                ยิ่งนับวันเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังเลี้ยงลูกอยู่ โชคดีที่วันนี้เราตื่นเช้ากว่าปกติ เขาจึงไม่ต้องรีบเร่งไปทำงานอย่างในทุกวัน ยังพอมีเวลาได้บอกได้สอนเจ้ามนุษย์จิ้งจอกให้เรียนรู้โลกของมนุษย์อยู่บ้าง แต่ชริณก็ต้องอาศัยความใจเย็นอยู่ไม่น้อย บางครั้งการอธิบายเรื่องง่าย ๆ ครั้งเดียวก็ไม่สามารถทำให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเข้าใจได้ แม้ตัวน้องจะมักอวดอ้างสรรพคุณว่าตัวเองแสนฉลาดก็ตาม



                สุดท้ายเจ้าจิ้งจอกก็ยอมใส่กางเกงชั้นในและนอกตามคำสั่งของชริณ น้องอิดออดเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมทำตามอยู่ดี ร่างเล็กอยู่ในเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นเลยหัวเข่านิดหน่อย ดูแล้วก็เหมือนคนปกติดี สามารถเนียน ๆ ไปกับคนทั่วไปได้ จะมีพอให้สังเกตว่าแตกต่าง ก็ตรงการพูดจา ที่บางครั้งก็ชะงักไป เหมือนยังไม่ค่อยเข้าใจภาษามนุษย์



                “วันนี้ชาริน ซังไม่ต้องทำอาหารเผื่อนะ น้องจะกินซูซิ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่า เมื่อเห็นชาริน ซังลงทุนเข้าครัวแต่เช้า เตรียมทำอาหารเช้าสำหรับเราสองคน



                “อ้าว ยังไม่กินอีกเหรอ”



                “น้องยังกินไม่หมด ตั้งใจว่าจะกินวันละคำ เดี๋ยวมันหมดเร็ว” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่า คาดการณ์ไว้แล้วว่าซูซิถาดนี้ น้องจะกินได้นานถึงหนึ่งอาทิตย์!



                “ของแบบนั้นจะค่อย ๆ กินไม่ได้นะ ถ้าปล่อยไว้นานแล้วมากินทีหลังจะท้องเสีย รีบเอามากินให้หมดไป”



                “แต่มันจะหมดเร็ว น้องอยากกินนาน ๆ” เจ้าจิ้งจอกว่า เพิ่งรู้ว่าของโปรดตัวเองคือซูซิ เพียงแค่ได้กินคำเดียวก็รู้เลยว่านี่สิ่งที่ตามหามาทั้งชีวิต แทบจะลืมอาหารเม็ดที่บ้านไปเลย รสชาติของเจ้าซูซิไม่ได้ต่างจากที่จินตนาการไว้ เผลอ ๆ อร่อยกว่าที่คิดเสียอีก ฉะนั้นถ้าอยากกินนาน ๆ ก็ต้องค่อย ๆ กิน เพราะเดี๋ยวจะหมดเร็ว



                “หมดก็ซื้อใหม่ได้ ถ้าอยากกินอีกก็ค่อยซื้อ”



                “ชาริน ซังจะซื้อให้น้องใช่ไหม”



                “ก็คงมีแค่ฉันนี่แหละหรือว่านายมีเงิน?”



                “ฮือ น้องรักชาริน ซังที่สุด!”



                หลังจากอาหารเช้าเสร็จ ชริณก็แต่งตัวเตรียมออกไปทำงาน ยังไม่ลืมกำชับเจ้ามนุษย์จิ้งจอกให้อยู่เฉย ๆ อีกครั้ง  อย่าทำอะไรนอกเหนือจากคำสั่งของเขรา อย่าเล่นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะอยากทำให้ไฟไหม้ได้ ซึ่งเจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ตกปากรับคำเสียดิบดี



                “ห้ามดื้อด้วย จะไปแล้ว”



                “ชาริน ซัง” เสียงเจ้ามนุษย์จิ้งจอกดังขึ้น เมื่อชริณหันหลังให้



                “......”



                “รีบกลับมานะ น้องจะรอ” เจ้าแสบสันว่าพร้อมกับส่งยิ้มโชว์เขี้ยวเล็ก ๆ มาให้กับเขา ทำเอาชริณถึงกับหลุดยิ้ม ดูเผิน ๆ เหมือนภรรยารอสามีไปทำงานยังไงไม่รู้...



                แต่เดี๋ยวนะ ทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น ชริณบ้าไปแล้ว!



                “ไอ้บ้าเอ้ย!” เขาด่าตัวเองหนึ่งที หลังรู้สึกว่าตัวเองเริ่มคล้อยตามคำเชิญชวนของเจ้าจิ้งจอกเสียแล้ว



                ฝั่งเจ้ามนุษย์จิ้งจอก เมื่อแผ่นหลังชาริน ซังพ้นสายตาไปแล้วก็กลับมาหงอยเหมือนเดิม คล้ายหมาเฝ้าหน้าประตูรอเจ้าของกลับบ้าน น้องได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ชอบเวลาที่ชาริน ซังไปทำงานแล้วน้องตามไปไม่ได้ที่สุด



                เมื่อปิดประตูบ้านและพ้นสายตาชาริน ซังไปแล้ว กางเกงชั้นนอกก็ถูกถอดออกแล้วโยนทิ้งไว้มุมบ้านอย่างไม่ใยดีทันทีโดยน้องเอง การใส่กางเกงหลาย ๆ ชั้นเป็นเรื่องที่แปลกใหม่เกินไปและน้องก็ไม่เคยชิน แต่เพราะชาริน ซังบอกให้ใส่ น้องก็เลยต้องเชื่อฟัง เพราะอยากเอาใจ



                เบื่อ....



            คำนี้สามารถอธิบายความรู้สึกของน้องได้เป็นอย่างดี ความเบื่อหน่ายเข้าเล่นงานอย่างจัง หลังชาริน ซังไม่อยู่บ้าน ครั้นจะทำงานบ้านก็ถูกสั่งไม่ให้ทำอีก ทั้ง ๆ ที่น้องฉลาดจะตาย แต่ชาริน ซังกลับไม่เชื่อใจ



                ดวงตากลมโตได้มองไปรอบ ๆ บ้านอย่างเบื่อหน่าย เพราะไม่รู้จะทำอะไรหรือว่าควรแอบออกไปเที่ยวเล่นในป่าดี พอชาริน ซังใกล้กลับบ้าน ค่อยมารอที่บ้านเหมือนเดิม ความคิดนี้ดูเหมือนจะเข้าท่าในทันที เมื่อวูบหนึ่งในความคิดอยากลองล่ากระต่ายป่าเพื่อแก้มืออีกสักครั้ง



                หนที่แล้วอาจเป็นกระต่ายของมนุษย์ที่เลี้ยงแบบปล่อย คราวนี้น้องจะเข้าไปในป่าลึก ๆ เลยจะได้ไม่ต้องถูกมนุษย์ใจร้าย (ยกเว้นชาริน ซัง) ครหาว่าเป็นฆาตกร ฆ่าสัตว์เลี้ยงของพวกเขาอีก



                 ครั้งที่แล้วน้องไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้ากระต่ายนั่นมีเจ้าของแล้ว ถ้ารู้ก็คงไม่คิดจะฆ่า ให้เขาชังน้ำหน้าจิ้งจอกแดงยิ่งกว่าเดิมหรอก



                แต่ตอนนั้นที่ฉีกเนื้อกิน น้องก็แอบแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าทำไมเนื้อตัวของเจ้ากระต่ายสะอาดสะอ้านนัก มิหนำซ้ำยังตัวเล็กกว่ากระต่ายป่าทั่วไปอีก แต่คราวนี้น้องจะไม่พลาด จะหากระต่ายป่ากินด้วยตนเอง แม้มันจะค่อนข้างยากก็ตาม



                เมื่อตั้งเป้าหมายได้แล้วว่าวันนี้จะล่ากระต่ายป่าให้ได้อย่างน้อยหนึ่งตัว ก่อนที่ชาริน ซังจะกลับบ้าน เจ้ามนุษย์จิ้งจอกแสนซุกซนในร่างมนุษย์ที่สวมใส่เพียงเสื้อยืดบาง ๆ และกางเกงในตัวเดียวก็เดินตรงไปยังประตูบ้านที่ถูกชาริน ซังล็อกไว้แค่จากด้านใน น้องบิดลูกบิดค่อย ๆ เปิดประตูออกอย่างช้า ๆ เตรียมออกจากบ้าน



                ดวงตากลมโตหันมองซ้ายขวา กวาดสายตาไปทั่วบริเวณเพื่อตรวจตราว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม ก่อนจะจัดการล็อกประตูบ้านไว้เช่นเดิม แต่ก็ลืมเสียสนิทว่าตัวเองไม่มีกุญแจบ้านเหมือนชาริน ซัง....



                หลังล็อกประตูบ้านเสร็จสรรพแล้ว น้องเดินไปด้านหลังบ้าน เพื่อกลายร่างเป็นจิ้งจอกแดง นักล่ากระต่ายที่เก่งที่สุดในป่าอีกครั้ง ทิ้งเสื้อยืดและกางกางในไว้ข้างหลัง พอใกล้เวลาชาริน ซังกลับบ้าน น้องจะค่อยกลับมาเก็บ



 

                อยู่ไหนน้า....



            เมื่อนักล่ากระต่ายป่ากลับมาสวมบทบาทอีกครั้ง หลังเดินย่างเท้ามาได้เกือบกลางป่าแล้วและมั่นใจว่าแถวนี้จะไม่มีสัตว์เลี้ยงของมนุษย์มาโผล่แน่นอน ดวงตาคมโตก็สวมบทเป็นสายตานักล่า กวาดสายตามองรอบ ๆ บริเวณอย่างระวังภัยและมองหาอาหารในเวลาเดียวกัน



                แน่นอนเมื่อที่ตรงนี้จะไม่มีสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ ก็แปลว่าสิ้นสุดเขตมนุษย์และนิ้วตารางนิ้วต่อจากนี้ไปจะเต็มไปด้วยสัตว์ป่า ที่มีทั้งเหยื่อและผู้ล่าแทน.....



                หูที่สามารถรับความถี่ได้มากกว่ามนุษย์ถึงกับตั้งชัน เมื่อได้ยินเหมือนเสียงเคลื่อนไหวของสัตว์ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตำแหน่งที่ยืนอยู่ คราวนี้เจ้าจิ้งจอกแดงไม่ใจร้อนอีกแล้ว มันยืนนิ่งฟังเสียงให้แน่ใจอีกครั้งว่านั่นไม่ใช่สัตว์ใหญ่อย่างเจ้าหมาป่า ศัตรูตลอดกาลของตนเหมือนครั้งก่อน



                เมื่อได้รับคำตอบที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นเสียงขยับตัว เสียงเหยียบเศษใบไม้จนแน่ใจแล้ว เจ้าจิ้งจอกแดงตัวจ้อยก็ถึงกับเลียปากตัวเอง เพราะเสียงเคลื่อนไหวที่ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ บ่งบอกว่าสัตว์นั้นไม่ได้ตัวใหญ่ไปกว่ามัน ดีไม่ดีอาจจะตัวเล็กกว่าด้วยซ้ำ



                มันหยุดเคลื่อนไหวครู่หนึ่ง รอฟังเสียงขยับตัวของว่าที่อาหารอีกครั้ง เพื่อฟังว่าตอนนี้อีกฝ่ายอยู่ตำแหน่งไหน ซ้ายหรือขวา ไกลจากจุดที่กำลังยืนอยู่มากน้อยเพียงใด ก่อนจะค่อย ๆ ย่องเงียบ เคลื่อนตัวเข้าไปหาว่าที่อาหารอย่างเบาเสียงยิ่งกว่าแมวป่า



                ดวงตากลมโตวูบไหวเล็กน้อยเมื่อไม่ได้กระต่ายป่าอย่างที่ต้องการ แต่กลับเป็นหนูป่าตัวเล็ก ๆ ที่กำลังแทะเมล็ดพืชโดยไม่ระแวงข้างหลังแทน แต่ถึงจะไม่ใช่กระต่ายป่า เป็นเพียงแค่หนูก็ถือว่าเป็นอาหารของจิ้งจอกแดงอยู่ดี มันจึงไม่คิดจะปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดมือ



                ตุบ!



                เท้าหน้าทั้งสองข้างตะครุบเข้าที่หนูพัลวัน ก่อนจะฝังคมเขี้ยวลงบนตัวนุ่มนิ่ม เพื่อให้เจ้าอาหารหยุดดิ้นเสียที เพราะความยังอิ่มท้องจากอาหารมนุษย์อยู่ ปากแหลมจึงทำหน้าที่คาบหนูป่าไว้ในปาก ขณะที่ดวงตาก็กวาดมองรอบ ๆ เผื่อเจอเหยื่อรายใหม่



                ตั้งใจจะเอาหนูตัวนี้ไปฝากชาริน ซัง เพื่อบอกตัวเองก็เก่งไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน....



            แม้น้องจะได้ย้ายเข้าบ้านชาริน ซังเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว แต่ป่าแห่งนี้ก็ยังคงขาดแคลนอาหารเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุไหน ที่ทำให้ธรรมชาติขาดความดุล แต่ที่แน่ ๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหน อาหารก็ยังขาดแคลนเหมือนเดิม จนสัตว์ป่าต้องเข้าใกล้เขตของมนุษย์ เพื่อความอยู่รอด



                ดวงตากลมโตเบิกกว้างอีกครั้ง เมื่อเห็นเงาบางอย่างกำลังตะคุ่ม ๆ จ้องมองน้องอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ หูทั้งสองข้างตั้งขึ้นอัตโนมัติ หัวใจดวงน้อยเริ่มร่วงไปถึงตาตุ่ม กลัวประวัติจะซ้ำรอยอีกครั้ง คราวนี้ขาหลังทั้งสองข้างถอยหลังในทันที หลังเห็นพวงหางบางอย่างโผล่ออกมาจากหลังต้นไม้



                ปากแหลมที่กำลังคาบซากหนูป่าเอาไว้ ถึงกับปล่อยว่าที่อาหารร่วงลงสู่พื้น เมื่อเจ้าหมาป่าปรากฏกายออกมาและกำลังจ้องเขม็งมาทางเจ้าจิ้งจอกแดงตัวจ้อย แต่ทว่ากับเจ้าหมาป่าตัวนี้ เจ้าจิ้งจอกแดงกลับรู้สึกคุ้นเคยแปลก ๆ เหมือนเราเคยพบพานกันมาก่อน



                ไม่รู้ว่านึกบ้าอะไร แต่ด้วยความสงสัย ทำให้เจ้าจิ้งจอกเลือกที่จะขยับเดินหน้าเข้าไปใกล้ ๆ เจ้าหมาป่าอย่างระแวดระวัง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่านั่นมันอันตราย อยากถูกจับกินเป็นอาหารก็ได้ แต่เพราะความอยากรู้ ทำไมมันเลือกที่จะพิสูจน์หาความจริง แทนที่จะวิ่งหนี



                จิ้งจอกแดงแยกหน้าตาสัตว์ชนิดอื่นไม่ค่อยออกนัก ต้องดมกลิ่นพิสูจน์เอา...



            จมูกเล็ก ๆ ที่ยื่นยาวค่อย ๆ ดมขนตรงแผลงอกของหมาป่าอย่างระมัดระวัง ดวงตากลมโตเหลือบมองเจ้าหมาป่าอย่างหวาดหวั่น เพราะกลัวจะถูกทำร้าย ทว่าเจ้าหมาป่าหนุ่มกลับมองเจ้าจิ้งจอกแดงตัวกระจ้อยร่อยด้วยสายตานิ่ง ๆ



                แอ๊!



                เมื่อมั่นใจว่าไม่ใช่ใครที่ไหนไกล เจ้าจิ้งจอกแดงก็ถึงกับส่งเสียงร้องอย่างดีอกดีใจ จำได้แม่นเลยว่าเป็นกลิ่นนี้ คิดไว้แล้วเชียวว่าต้องเป็นคุณหมาป่า ศัตรูต่างสายพันธุ์เพียงตัวเดียวที่ไว้ชีวิตน้องในคราวนั้น เจ้าจิ้งจอกแดงรีบเอาหน้าถูไถแผลงอกคุณหมาป่าอย่างดีใจ อย่างกับมิตรสหายที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทั้ง ๆ ที่ในความจริงอีกฝ่ายก็แค่เคยไว้ชีวิตก็เท่านั้น



                แอ๊!



                ดูเหมือนเจ้าจิ้งจอกแดงจะดีอกดีใจฝั่งเดียว พวงหางที่ขาดวิ่นเพราะอุบัติเหตุคราวนั้น โบกสะบัดไปมาอย่างดีใจ วิ่งไปรอบ ๆ คุณหมาป่า ทำเอาสัตว์ใหญ่ถึงกับงุนงง ก่อนที่น้องจะเดินไปคาบเอาซากหนูที่เพิ่งล่ามา วางไว้ต่อหน้าคุณหมาป่า เพื่อเป็นของขวัญในการพบกันของเรา แทนที่จะเอากลับไปให้ชาริน ซังอย่างที่ตั้งใจไว้



                ฝั่งหมาป่าเองที่แอบถ้ำมอง จิ้งจอกแดงตัวน้อยอยู่นานสองนานก็ถึงกับแอบยกยิ้ม แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความสุขุม หน้านิ่ง ตามประสานักล่าและนิสัยของตนเอาไว้ ดีใจไม่น้อยที่จิ้งจอกแดงตัวนี้ยังไม่ลืมกัน ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยลืมเจ้าตัวเล็กเลย นับตั้งแต่วันนั้น....



                ก่อนที่ดวงตาคมจะเบิกกว้าง ดูเหมือนเจ้าจิ้งจอกแดงตัวนี้จะดีใจเกินไปที่เราได้กลับมาพบอีกครั้ง ถึงได้กระโดดเลียปากเขา จนเราจูบทางอ้อม...











________________

สกรีมแท็ก #น้องจะตอบแทนพี่เอง

พี่หมาป่ามาแล้ววว พาว่า10บทมันไม่พออะ อันนี้บทที่6แล้ว ยังไม่ทำลูกเลย น่าจะ12-15 บทเลยค้าบ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.6 14.07.18
«ตอบ #43 เมื่อ15-07-2018 12:28:51 »

เอ้า..ยังไง รักสามเส้า เราสามคน (ตัว)หรืออย่างไร รอจ้า  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
Re: Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.6 14.07.18
«ตอบ #44 เมื่อ15-07-2018 13:13:11 »

คุณหมาป่าแปลงร่างได้คงหล่อล่ำน่าดู

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.6 14.07.18
«ตอบ #45 เมื่อ15-07-2018 17:15:08 »

จริงๆแล้วชาริน ซังต้องเป็นแค่ตัวประกอบแน่ๆ พระเอกตัวจริงคือ หมาป่า มันต้องใช่แน่ๆ 5555555555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.6 14.07.18
«ตอบ #46 เมื่อ15-07-2018 17:55:30 »

ทำลูกเลยจ้า ในป่านี่แหละ ซารินซังไร้น้ำยา เยไปแล้วยังไม่ติดอีก

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1




07
[/b]



   อ—แอ๊!
    เสียงร้องของเจ้าจิ้งจอกแดงดังขึ้นเป็นระยะ ๆ หลังถูกคุณหมาป่าหอมแก้มซ้ายขวาจนมันล้มกองกับพื้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมหงายท้องขึ้น ให้คุณหมาป่าซุกไซ้ได้อย่างเต็มที่
   ดวงตากลมโตฉายแววความสดใสออกมา เมื่อรู้สึกกำลังจะมีเพื่อน แม้จะต่างไซซ์กันไปหน่อย แต่น้องเชื่อว่าเราจะเป็นเพื่อนกันได้ ขอเพียงแค่คุณหมาป่าไม่จับน้องกินก็พอ
   ซากหนูที่เพิ่งล่ามาสด ๆ ร้อน ๆ ถูกนำไปเป็นของขวัญในการพบกันอีกครั้งของคุณหมาป่า แต่ทว่าหมาป่าหนุ่มกลับไม่ยอมรับซากหนูป่านั่น จึงตกเป็นของเจ้าจิ้งจอกตัวน้อยครั้ง แต่ทว่าในเวลาเดียวกันเจ้าจิ้งจอกแดงก็ไม่ให้ความสนใจกับอาหารเท่าที่ควร เพราะยกความสนใจทั้งหมดไปให้คุณหมาป่าแล้ว
   แอบแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าทำไมคุณหมาป่าตัวนี้ถึงอยู่เพียงลำพัง ทั้ง ๆ ที่ปกติหมาป่าจะออกล่าและอยู่กันเป็นฝูง มีสองอย่างที่น้องคิดได้ในตอนนี้คือ คุณหมาป่าตัวนี้ถูกเนรเทศออกจากกลุ่ม ไม่ก็ เพราะคุณหมาป่าใจดีเกินไป ทนเห็นความโหดร้ายไม่ได้จึงเลือกที่จะออกมาจากกลุ่มนั้นเอง
   แต่ไม่เป็นไรนะ....น้องจะเป็นเพื่อนคุณหมาป่าเอง
   มีพบก็ต้องมีจาก เล่นซุกซนกับคุณหมาป่าได้ไม่ทัน ดวงตะวันก็เริ่มลับขอบฟ้า เป็นอันรู้กันว่าใกล้ถึงเวลาที่ชาริน ซังกลับบ้านแล้ว ดวงตากลมโตมองหน้าคุณหมาป่ารูปหล่อ สายตาละห้อย อยากจะอยู่เล่นอีกสักครั้ง แต่ก็หมดเวลาสนุกของน้องแล้ว
   คุณหมาป่าครางฮึมฮัมในลำคอ เมื่อน้องเดินเข้ามาเลียปากอีกครั้ง แม้จะอยู่ในสปีชีส์เดียวกัน แต่เราก็ต่างสายพันธุ์ จึงไม่รู้ภาษาของกันและกัน ต้องอาศัยการสังเกตท่าทางกันและกันเอา
   ดวงตมคมวูบไหวครู่หนึ่ง เมื่อหลังจากที่เจ้าจิ้งจอกแดงคลอเคลีย พยายามเอาหัวมาถูไถหรือแม้กระทั่งเลียปากเพื่อทักทาย เจ้าตัวเล็กก็ค่อย ๆ ก้าวถอยและหันหลังเพื่อตั้งหลัก ก่อนจะวิ่งเดินหนีไปทางฝั่งเหนือของป่าอย่างสุดกำลัง ซึ่งทางนั้นจะเป็นเขตของมนุษย์
   หมาป่าหนุ่มรีบลุกขึ้นด้วยความตกใจ มันไม่รอช้ารีบออกตัววิ่งตามเจ้าจิ้งจอกแดงในทันที ดวงตาคมกวาดสายตามองรอบบริเวณ เพื่อหาตำแหน่งของเจ้าจิ้งจอกแดงตัวจ้อย ทว่าได้พบแค่ความว่างเปล่าและเงียบเชียบ เหมือนอีกฝ่ายจะอาศัยความที่สรีระเล็กกว่า วิ่งหนีหายไปว่องไวราวกับสายลม
   อะไรกัน...อยู่ด้วยกันได้ไม่เท่าไรเอง
   
   ฝั่งน้องเองหลังวิ่งหน้าตั้งจนเข้าสู่เขตแดนของมนุษย์แล้ว ก็รีบวิ่งตรงมาหลังบ้าน กลายร่างกลับคืนเป็นมนุษย์แล้วคว้าหาเสื้อผ้ามาใส่ทันที เพราะเดี๋ยวอีกไม่นานชาริน ซังก็คงกลับมาถึงที่บ้านแล้ว น้องจำเวลากลับบ้านของอีกฝ่ายได้
   กางเกงในถูกสวมใส่อย่างเฉียดฉิว ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นชาริน ซังกำลังยืนตรงมาทางนี้พร้อมกับกระเป๋าทำงานเมื่อเช้า แต่ยังอยู่ไกลอีกหลายสิบก้าว น้องเดาผิดเสียที่ไหน คิดไว้แล้วเชียวว่าเวลานี้แหละ!
   เจ้าจิ้งจอกแดงตัวป่วนเลียริมฝีปากอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะออกตัวเดินย่องสองเท้า ตั้งใจจะแอบเข้าบ้าน ก่อนชาริน ซังจะเดินมาถึง อยากรีบไปกางเกงใส่ ก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ความจริงว่าน้องใส่เพียงกางเกงใน หลังชาริน ซังหันหลังให้ไม่ถึงสิบนาที
   ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ พยายามหมุนลูกบิดประตูซ้ำ ๆ แต่มันก็เปิดไม่ออกอยู่ดี ไม่ว่าน้องจะเป็นบิดซ้ายก็แล้ว บิดขวาก็แล้ว ออกแรงเยอะที่สุดก็ตาม แต่ประตูก็ไม่ยอมเปิดออก
   ได้โปรด...ประตูจ๋าเปิดออกให้น้องเถอะ
   “ทำอะไรน่ะ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกแดงในสภาพเสื้อยืดตัวบางและกางเกงในตัวเดียวถึงกับปล่อยมือออกจากลูกบิดทันที เมื่อได้ยินเสียงชาริน ซังดังมาจากด้านหลังของตน ดวงตากลมโตถึงกับหลับตาปี๋ทันที นึกไว้แล้วว่าจะเข้าบ้านไม่ทันอีกฝ่าย
   “.....”
   “แล้วทำไม...” ชริณเว้นวรรคครู่หนึ่ง ไล่สายตามองเจ้ามนุษย์จิ้งจอกตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างมึนงง ทำไมเจ้ามนุษย์จิ้งจอกถึงได้มาอยู่ข้างนอกบ้าน
   “น้องไม่รู้นะ!”
   “หืม?” ชริณยิ่งงงเข้าไปใหญ่
   “ตื่นมาปุ๊บ น้องก็มาโผล่อยู่หน้าบ้านเลย” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าเสียงซื่อ หันมาจ้องเขาตาแป๋ว ยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองทั้ง ๆ ที่เขายังไม่ได้ทันได้ถามอะไร
   “.....”
   “ไม่เชื่อใจน้องเหรอ”
   “เข้าบ้านแล้วค่อยคุย” ชริณว่าเพียงสั้น ๆ ก่อนจะไขประตูแล้วให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเดินนำเข้าไปก่อน
   เพียงแค่เข้ามาในบ้าน ชายหนุ่มก็หันไปเจอกางเกงตัวที่เจ้ามนุษย์จิ้งจอกใส่ไว้เมื่อเช้า บัดนี้กำลังถูกห้อยอยู่โต๊ะโคมไฟข้างโซฟา ก่อนจะถูกเจ้าตัวแสบวิ่งไปคว้าแล้วสวมใส่เข้าอย่างรวดเร็ว แล้วค่อยหันมายิ้มแห้ง ๆ ให้กับเขา
   ทุกอย่างถูกประติดประต่อในหัวของชริณอย่างรวดเร็ว การที่เจ้าจิ้งจอกมายืนรอหน้าบ้านแบบนี้ คงเพราะว่าเข้าบ้านไม่ได้? แสดงว่าเจ้าตัวออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านในสภาพแบบนั้นแล้วเผลอล็อกประตูไว้ แล้วลืมว่าตัวเองไม่มีกุญแจบ้าน
   “มีอะไรจะสารภาพไหม” เขากอดอก เอ่ยถามเสียงเรียบ
   “ไม่มี”
   “จริงเหรอ” เขาถามซ้ำจ้องเขม็ง
   “ก—ก็ได้ น้องออกไปเล่นที่ป่าหลังบ้านมาอะ อยู่บ้าน ไม่มีอะไรทำมันเบื๊อเบื่อ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกที่รู้แล้วว่าชริณรู้ทัน รีบยอมรับและหาเหตุผลมากล่าวอ้างต่อทันที ก่อนจะเดินไปอ้อนชริณโดยการไปกะพริบตาปริบ ๆ แล้วลูบแขนล่ำไปมา ทำเอาชริณถึงกับขนลุก จนเผลอสะบัดออกด้วยความตกใจ
   “ชาริน ซังก็ไม่อยู่บ้าน ลูกก็ไม่มีให้เล่นด้วย น้องก็ไม่รู้จะทำอะไรนี่นา เลยต้องออกไปเล่นข้างนอก.....” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดเสียงเศร้า ขณะเดียวกันก็ทำตัวเนียน ขยับเข้าไปใกล้ชาริน ซัง แค่เนื้อตัวสัมผัสกัน น้องก็รู้สึกมีความสุขแล้ว
   “ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่” ชริณว่า ก่อนจะเขยิบตัวหนีเจ้าจิ้งจอกอย่างเนียน ๆ หลังอีกฝ่ายพยายามยุ่มย่ามบนร่างกายเขาไม่เลิก
   แม้เขาจะเขยิบตัวหนี หลบเลี่ยงสัมผัสจากเจ้าจิ้งจอกอย่างเนียน ๆ แค่ไหน เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็พยายามเขยิบเข้ามาใกล้อยู่ดี ในที่สุดเขาก็สามารถต้อนเขาจนถึงมุมห้องได้สำเร็จ เขามองหน้าเจ้าจิ้งจอกด้วยสายเรียบนิ่ง เบี่ยงประเด็นเก่งเหลือเกิน สงสัยกลัวเขาจะว่าที่ออกไปข้างนอก แต่ชริณก็ไม่ได้คิดจะว่า เพราะเป็นสิทธิ์ของอีกฝ่าย
   ชริณเกลียด....เขาเกลียดสายตาแพรวพราวของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกที่กำลังมองเขาอยู่ในขณะนี้ มองเขาเหมือนตนเองเป็นกำลังถือไพ่เหนือกว่า...
   “ขยับออกไป จะไปทำกับข้าวจะกินไหม?”
   “เดี๋ยวก่อนซี่” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกจิ๊ปากอย่างขัดใจ ดูเหมือนชาริน ซังไม่อยากฟังน้องพูด ถึงได้ตัดบทอย่างเดียว อีกทั้งอีกฝ่ายคงรู้ทันว่ากำลังเสียเปรียบ
   “อะไร” ชริณถามเสียงเข้ม
   “น้องก็แค่อยากบอก...เพราะน้องไม่มีลูก น้องก็เลยเหงา” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดด้วยน้ำเสียงสุดแสนจะอ้อน แม้ชาริน ซังจะยังไม่มีท่าทีโอนอ่อน แต่น้องก็จะพยายาม ภารกิจอันใหญ่หลวงนี้จะต้องสำเร็จให้ได้!
   “......”
   “พูดดี ๆ ก็แล้ว อ้อนก็แล้ว ทำไมชาริน ซังไม่ยอมสักทีเล่า” ว่าจบก็เขี่ยแผ่นอกชริณเบา ๆ พอให้อีกคนขนลุกซู่
   “......”
   “จะเล่นตัวไปถึงไหน ขี้เกียจรอแล้วนะ” ฝั่งคนน้องว่า
   จริง ๆ น้องก็ไม่ได้อยากจะพูดเรื่องนี้บ่อยครั้งหรอก แต่เพราะภารกิจไม่สำเร็จสักที ครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนี้ น้องเองก็นอนไม่หลับอยู่หลายคืนเหมือนกัน ได้ทำครั้งแรกก็ใช่ว่าจะท้องเลย นี่ทำได้ไม่ถึงสามหน ชาริน ซังก็ไม่ยอมซะแล้ว ขอดี ๆ ไม่เคยมีท่าทีอ่อนให้ มีแต่พูดให้ความหวัง แต่ไม่เคยให้จริง ๆ สักที สงสัยจะชอบให้ลักหลับเหมือนตอนครั้งแรก
   “หรือว่าแท้ที่จริงแล้ว....”
   “.....”
   “ชาริน ซังไม่มีน้ำยา”
   ฝั่งชริณเองเมื่อถูกเจ้าตัวแสบปรามาสก็ถึงกับชะงักไป เหมือนถูกกระตุกหนวดเสือ เจ้าจิ้งจอกคงไม่เคยรู้ว่าไม่ควรปรามาสเรื่องบนเตียงกับเพศชาย ถ้ายอมทำลูกด้วยจริง ๆ จนเจ้าตัวท้องโย้ เจ้ามนุษย์จิ้งจอกคงสมใจอยากนัก เขาได้มองเจ้าจิ้งจอกนิ่ง ๆ ไม่รู้ทำไมมันถึงกล้าท้าทายเขาแบบนั้น
   “คิดดีแล้วใช่ไหมที่พูดแบบนี้” ชริณถาม
   “ก็มันจริงนี่นา....เฮ้อ หนที่แล้วน้องก็ทำเอง เพราะชาริน ซัง เมามายจนไม่ได้สติ แล้วจะให้น้องคิดเป็นอย่างอื่นได้ไงเล่า”
   “......”
   “ขนาดน้องไม่เก่งเรื่องแบบนั้น ยังทำได้ดีกว่าชาริน ซังเลย...อ๊ะ!” ยังพูดไม่ทันจบประโยค เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ร้องเสียงหลง ใบหน้าเล็กเหยเกทันที เมื่อถูกชาริน ซังตะปบบั้นท้ายของตนเองเข้าให้ ตะปบไม่พอยังขย้ำอีก ชาริน ซังสามารถขย้ำก้นน้อง ภายใต้ใบหน้านิ่ง ๆ นั่น
   “.....”
   “อือ...ชาริน ซัง” น้องถึงกับครางฮือในลำคอ เมื่อมือที่กำลังขย้ำบั้นท้ายของตัวเอง ถูกเปลี่ยนจากหนึ่งมือกลายเป็นสอง ชนิดที่ว่าเต็มไม้เต็มมือ
   เพี๊ยะ!
   “อ๊ะ! ชาริน ซังอยากตีก้นน้อง”
   “หมั่นไส้ ทำไม? ก็อยากทำลูกไม่ใช่เหรอ ก็กำลังจะเริ่มเนี่ย” ชริณว่าหน้าตาย ในขณะที่อีกคน ที่เร่งเร้าให้ทำลูก พูดเรื่องบนเตียงแทบทุกชั่วโมง เริ่มทำหน้างอแง เมื่อถูกเขานวดบั้นท้าย ขย้ำด้วยความหมั่นไส้ กางเกงมีไม่ชอบใส่ ชอบใส่แต่กางเกงใน ไม่ก็โป๊เปลือย มันน่านัก!
   พอถูกสบประมาทเข้าหน่อย เหตุผลต่าง ๆ นานามากมายที่ชริณหามากล่าวอ้าง ว่าจะไม่มีวันทำลูกกับเจ้ามนุษย์จิ้งจอกเด็ดขาด ก็หายไปชั่วขณะ ภายใต้ชีวิตเรียบง่าย ทำงานเสร็จก็กลับบ้านนอน เป็นเพียงผู้ชายธรรมดา ๆ แต่พอถูกสบประมาท ปรามาส ก็ยอมไม่ได้ เขาต้องเอาชนะ ให้รู้เสียบ้างว่าชริณเองก็ไม่ได้กระจอก แค่ไม่อยากทำก็เท่านั้น หาใช่คนไร้น้ำยา
   “เตรียมพร้อมมาแล้วใช่ไหม” เขากระซิบถามข้างหูอีกคน เป็นครั้งแรกที่ชริณเป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้าไปหาก่อน ฝั่งน้องเมื่อถูกลมหายใจร้อนรดแก้มเข้าหน่อยก็ถึงกับหันหนีทันที รู้สึกร้อนวูบวาบ หายใจติดขัดยังไงไม่รู้
   “ท—ทำไมต้องเตรียมร่างกายเล่า”
   “จะมาบ่นว่าเจ็บสะโพกทีหลังไม่ได้นะ จะไม่หายามานวดให้ด้วย กล้าหรือเปล่า?” เขาหยอกเย้า หวังให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกใจฝ่อ
   “.ต....แต่ครั้งที่แล้วก็ไม่เห็นเจ็บนี่” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่า เพราะจำได้แม่นว่าครั้งนั้นยังวิ่งได้ปรื๋อเลย ชาริน ซังขี้โกหก ฝั่งชริณเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากยื่นหน้าเข้าไปใกล้กว่าเดิม จนกระทั่งริมฝีปากเกือบจะสัมผัสกัน แต่กลับเจียดไปโดนแก้มเนียนแทน เพราะอีกคนไม่ยอม
   “.....”
   “อย่าเพิ่งน้องยังไม่พร้อม!!” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกหลับตาปี๋ เบี่ยงหน้าไปทางอื่นทันควัน เมื่อริมฝีปากของชาริน ซังเกือบจะโดนปากตัวเองอยู่รอมร่อ หัวใจดวงน้อยถึงกับเต้นแรง ครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ  ปกติน้องจะเล่นลามกคนเดียว แต่คราวนี้เหมือนชาริน ซังจะเล่นด้วย มันเลยเหนือความคาดหมายนิดหน่อย
   “ยังไม่พร้อมอะไร เมื่อกี้ยังชวนทำลูกอยู่ไม่ใช่เหรอ”
   “ไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม!”
   “จะไปไหน....ก็เป็นคนเรียกร้องเองไม่ใช่หรือไง” ชริณว่า เมื่อเจ้ามนุษย์จิ้งจอกตั้งท่าจะเดินหนีไปทางอื่น ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายเป็นคนต้อนให้เขาเดินมาจนมุมเอง
   “ก—ก็น้องไม่มั่นใจอะ”
   “....?”   
   “ตัวยังไม่หอมเลย ไปวิ่งเล่นในป่ามาด้วย ตัวเหม็นหมดแล้ว ขอไปอาบน้ำก่อนนะ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าตั้งท่าจะวิ่งไปเข้าห้องน้ำอย่างที่บอกไว้
   “ไม่เป็นไร ไม่ถือ” ชริณว่าพร้อมกับคว้าข้อมือมนุษย์จิ้งจอกที่กำลังจะหลบหนีไว้ทันควัน เขาถึงกับกลั้วหัวเราะ เมื่อเห็นท่าทีทำตัวไม่ถูกของอีกฝ่าย
   ไม่แน่จริงนี่หวา....
   “แต่น้องถือ”
   “งั้นก็อาบน้ำด้วยกัน เห็นบ่นว่าอาบไม่ค่อยไม่ใช่เหรอ ปะ เดี๋ยวไปช่วยสอนอีกรอบ” พูดจบชริณก็ทำเป็นลากเจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวป่วนให้เดินไปห้องน้ำด้วยกัน แต่คราวนี้อีกฝ่ายกลับทิ้งตัวลงพื้น ส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่ไปด้วยลูกเดียว
   “ม—ไม่เป็นไร น้องอาบเองได้” เจ้าตัวป่วนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ส่ายหน้าปฏิเสธพยายามทำตัวเองให้หนักที่สุด เพื่อที่ชาริน ซังจะได้ลากไม่ไหว มันเกินความคาดหมายเล็กน้อย เจ้าจิ้งจอกน้อยไม่คิดว่าชาริน ซังจะใจอ่อนเร็วปานนี้ ตอนนี้ก็แค่ตั้งใจแหย่ ๆ เท่านั้น แต่เหมือนอีกฝ่ายจะเอาจริง 
   “อ้าว ยังอาบไม่เก่งไม่ใช่เหรอ คืนก่อนยังชวนให้อาบด้วยกันอยู่เลยนี่ เนี่ยมีเวลาจะสอนอาบน้ำใหม่ วันนี้งดข้าวเย็นเนอะ เรื่องสอนอาบน้ำสำคัญกว่า”
   “ไม่เป็นไร! น—น้องอาบเก่งแล้ว!”
   “จริงเปล่า”
   “ปล่อยน้องเถอะนะ ๆ เดี๋ยวน้องอาบเอง แป๊บเดียว” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกรีบส่งสายตาเว้าวอนให้ชาริน ซังเพื่อที่จะขออาบน้ำเอง จริง ๆ น้องไม่ชอบอาบน้ำ ทุกอย่างที่พูดไปก็เป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น
   “.....”
   “ชาริน ซังปล่อยน้องเถอะ พอน้องอาบน้ำ ชาริน ซังก็จะได้มีเวลาทำอาหารไง นะ ๆ ตอนนี้น้องหิ๊ววววหิว รีบทำข้าวเย็นให้น้องเถอะนะ เราคงทำกันตอนกลางคืนก็ได้นี่ แต่ข้าวเย็นเราต้องทำตอนนี้” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดประโยคยาวเหยียด หวังจะให้ชาริน ซังเห็นด้วย
   ฝั่งชริณเองก็อยากจะแกล้งต่อเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะปล่อยให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำไป เพราะเขาต้องทำอาหารเย็น แต่ไม่เป็นไร....ทั้งคืนนี้ เขายังมีเวลาแกล้งเจ้าจิ้งจอกน้อยอีกเยอะ อยากเชิญชวนเขาทำลูกนัก ชริณจะเล่นด้วยสักตั้งก็แล้วกัน!

   การกลั่นแกล้งของชริณยังไม่สิ้นสุด....
   “หลับแล้วเหรอ” หลังจากที่เราทานข้าวเย็นเสร็จ เขาก็ปล่อยให้เจ้าจิ้งจอกแดงตายใจโดยการไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก คนอย่างชริณฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ยิ่งเฉพาะเรื่องบนเตียง เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครมันจะแน่กว่ากัน
   ชายหนุ่มเลือกที่จะปล่อยให้เจ้าจิ้งจอกขึ้นไปนอนรอบนเตียงก่อน ส่วนเขาเองก็ไปอาบน้ำ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น จนกระทั่งอาบน้ำเสร็จก็ได้เวลาที่ชริณจะแก้เผ็ดเจ้าจิ้งจอกตัวแสบเสียที
   “.....” ฝั่งเจ้าจิ้งจอกก็ถึงไปหยุดหายใจไปชั่วขณะ มือเล็กเผลอกำผ้าห่มแน่นทันที หลังเสียงพร่ามากระซิบข้างหู ทำเอาเจ้าจิ้งจอกน้อยถึงกับเกร็งอัตโนมัติ ขนลุกซู่ซ่าไปหมด เพราะตั้งรับชาริน ซังในหมวดแบบนี้ไม่ทัน ลมหายใจเริ่มติดขัด เมื่อจมูกโด่งคลอเคลียข้างใบหู มิหนำซ้ำยังเป่าลมร้อนใส่อีก
   ฮือ....ทำไงดี น้องไม่คิดว่าชาริน ซังจะเอาจริงนี่นา
   “น—น้องง่วง” เจ้าตัวแสบเลือกที่จะพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย อาการใจเต้นแรงกลับมาอีกครั้ง เมื่อรับรู้ได้ถึงแรงยุบตัวข้างกาย
   “ไหนบอกว่าคืนนี้จะทำลูกกัน” ชริณถาม แอบยิ้มอย่างผู้ชนะที่แท้จริง พูดไป มือหนาก็สอดเข้าไปในเสื้อนอนตัวบาง ลูบไล้หน้าท้องขาว ๆ ให้เกร็งกล้ามเนื้อเล่น ก่อนจะสะกิดยอดอกสีอ่อน ให้คนแกล้งหลับ เผลอส่งเสียงครางกระเส่า
   “ไว้คืนพรุ่งนี้!” น้องว่า ขณะเดียวกันก็พยายามเม้มปากไว้แน่น เพื่อไม่ให้เสียงครางหลุดรอดออกมา ภาวนาให้ตัวเองรอดพ้นในคืนนี้ คืนนี้น้องยังไม่พร้อมจริง ๆ แต่วันพรุ่งนี้จะข้อแก้ตัว!
   “เอาแบบนั้นจริงเหรอ แต่ตอนนี้เครื่องพร้อมแล้วนะ” ชริณแหย่
   “อื้อ! ไว้วันหลัง วันนี้น้องเหนื่อย”
   “ก็ได้....หึ”

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ขอย้ายข้างไปอยู่ #ทีมพี่หมาป่า   :hao3: :hao3: :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.7 (1/2) 16.07.18
« ตอบ #49 เมื่อ: 16-07-2018 09:42:23 »





ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
พี่หมาป่าาาาาาาาาา ชอบอ่าาาาาา o18

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
นี่่กังวลรึว่ากลัวเจ็บกันแน่เด็กน้อย

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
           


               “ชาริน ซังทำลูกกัน!”



                “อือ...จะนอน”



                “ทำลูกกกกกก วันนี้น้องพร้อมแล้วนะ!”



                “ก็ทำเองดิ ง่วง” ชริณพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย พร้อมคว้าหมอนมาปิดหูตัวเองเอาไว้ หลังเช้าแห่งวันหยุด เขาถูกเจ้าจิ้งจอกตัวแสบปลุกด้วยประโยคทำลูกกันตั้งแต่เช้า



                ฝั่งคนที่เตรียมใจมาทั้งคืนก็ไม่ย่อท้อเช่นกัน หลังเห็นชาริน ซังเอาหมอนปิดหู หันหลังให้ น้องก็รีบลุกขึ้นปีนไปนั่งบนตัวของชาริน ซังทันที วันนี้น้องพร้อมแล้ว แต่ทำไมชาริน ซังถึงไม่พร้อม



                “ชาริน ซางงงงงงง” น้องลากเสียงยาวพร้อมขย่ม



                “โอ้ย...คนจะหลับจะนอน แล้วจะขึ้นมามาทำไมเนี่ย อยากโดนขย้ำก้นหรือไง!” ชริณว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะพลิกตัวหงายขึ้น มองเจ้าตัวแสบที่กำลังนั่งทับกลางตัวเขา มิหนำซ้ำยังขย่มลงมาอีก ตัวก็ไม่ใช่น้อย ๆ ด้วย มันน่านัก!



                “ทำลูกกันเถอะ โอ้ยยยยย อย่าบีบก้นน้อง”



                “หมั่นไส้ว่ะ” เขายังยืนยันคำเดิมว่าก้นของเจ้ามนุษย์เด้งสู้มือ ว่าจบก็ขย้ำท้ายเจ้าจิ้งจอกอีกครั้งด้วยความมันเขี้ยว ได้คืบจะเอาศอก พอเริ่มใจอ่อนเข้าหน่อย ก็พัฒนากล้ามานั่งบนตัวเขาแล้ว เหิมเกริมแบบนี้ไม่มีใครเกิน



                ชริณได้แต่มองเจ้ามนุษย์จิ้งจอกที่กำลังนั่งบนตัวเขาอย่างเงียบ ๆ ไหน ๆ วันนี้ก็เป็นวันหยุด เขาก็อยากจะนอนต่อเหมือนกัน ตื่นให้สายกว่าทุกวัน แต่ดูเหมือนคนบนร่างคงไม่ยอมแน่



                “ง—งั้นไว้ทำตอนกลางคืนก็ได้”



                ฝั่งเจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็เริ่มทำตัวไม่ถูก หลังถูกชาริน ซังจ้องด้วยสายตานิ่ง ๆ โดยไม่พูดอะไร ตอนแรกตั้งใจจะขย่มตัวชาริน ซังตื่นเต็มตาอีกสักสองสามยก แต่ดูเหมือนจะไม่ต้องแล้ว มือเล็กจึงเอื้อมไปจับมือชาริน ซังที่กำลังจับบั้นท้ายของตัวเองอยู่ออก ตั้งใจว่าจะลงจากร่างอีกคน



                “จะลุกไปไหนเล่า” ชริณเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง โดยจับร่างเจ้าจิ้งจอกตัวแสบให้นั่งตักตนไว้เหมือนเดิม



                “น้องจะไปล้างจาน เมื่อคืนเรายังไม่ล้างเลย”



                “ค่อยล้างก็ได้มั้ง”



                “งั้นน้องจะไปอาบน้ำ”



                “ชอบอาบน้ำหรือไง?”



                “ไม่อะ....แต่ชาริน ซังไม่โกรธน้องใช่ไหม”



                “หืม โกรธเรื่องอะไร” ชริณถึงกับขมวดคิ้ว



                “ก็น้องปลุกชาริน ซังขึ้นมาทำลูกไง โกรธน้องไหม?” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกถามได้ไม่เต็มเสียงนัก เห็นชาริน ซังมองด้วยสายตาเรียบนิ่งก็กลัวจะถูกโกรธเข้า เพราะไปรบกวนการพักผ่อนของอีกฝ่าย ทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุดของชาริน ซังทั้งที



                “ถ้าโกรธแล้วจะทำยังไง” ชริณถามต่อ



                “ก็จะ...ง้อ”



                “ยังไงล่ะ”



                “.....” ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา นอกจากแขนเล็กที่ตวัดโอบรอบคอของอีกคน ก่อนจะซุกหน้าลงกับบ่าแกร่ง เอาแก้มตัวเองเกยบ่าอีกคนไว้



                “แค่นี้เองเหรอ”



                “อือ... ถ้าน้องอยู่ร่างจิ้งจอก น้องจะไปล่ากระต่ายป่ามาให้ชาริน ซังเอง แต่ตอนนี้น้องไม่มีอะไรเลย เลยง้อได้แค่เท่านี้” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดเสียงอู้อี้ ขณะที่ยังซุกบ่าชาริน ซังไปด้วย



                เมื่อได้รับคำตอบเช่นนั้น ชริณก็ถึงกับหลุดยิ้มออกมา นึกว่าจะง้ออะไรใหญ่โตที่แท้ก็อ้อนนี่แหละ ไม่รู้ว่าเจ้าจิ้งจอกตัวนี้ลืมหรือเปล่าว่าตัวเองไม่ใช่แมวบ้าน ถึงได้อ้อนเขาเช้า อ้อนเย็นแบบนี้ ตอนตื่นก็อ้อน ก่อนนอนก็อ้อน ตอนหิวก็อ้อน ตอนจะง้อก็ยังอ้อนอีก เรียกได้อ้อนได้ทุกสถานการณ์จริง ๆ



                ยิ่งกำลังถูกเจ้ามนุษย์จิ้งจอกกอดคอไว้แล้ววางแก้มลงบนบ่าของเขา ชริณก็ยิ่งยืนยันคำเดิมว่าเหมือนเขากำลังเลี้ยงลูกจริง ๆ แต่ติดแค่ว่าลูกคนนี้ลามกเกินเด็กก็เท่านั้น



                เขารับรู้ได้เลยวาตัวเองกำลังใจดีกับเจ้ามนุษย์จิ้งจอกตนนี้เรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด พอคิด ๆ ดูแล้วเจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวนี้ก็ไม่ได้มีข้อเสียอะไรเลย มันกินอยู่แบบเขา มีแค่ค่าอาหารเพิ่มขึ้นก็เท่านั้น แต่ชริณก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร อีกทั้งอีกฝ่ายก็ไม่ได้มุ่งร้าย ก็แค่มาขอแลกเปลี่ยนบางอย่างจากเขา



                จากที่เคยมองว่าเป็นตัวประหลาดไม่กล้าเข้าใกล้ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นความเคยชินแทน อาจจะยังมีตกใจบ้างที่เห็นเจ้าจิ้งจอกกลายร่างไปมา แต่ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าช่วงแรก ๆ ที่อยู่ด้วยกัน



                ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าชาริน ซังในระยะใกล้ ตาไม่กะพริบ ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา นอกจากจ้องหน้ากันเงียบ ๆ น้องเองก็แอบภูมิใจอยู่ไม่น้อยที่จะได้สามีหล่อขนาดนี้ บางอย่างสามารถการันตีได้เลย ว่าลูกออกมาต้องหน้าตาดีแน่นอน



                อีกทั้งชาริน ซังไฟเขียวแล้ว เดี๋ยวเราก็คงได้ทำลูกกันบ่อย ๆ



                “คิก....”



                “หัวเราะอะไร”



                “เปล่า....”



                “คิดเรื่องลามกอยู่ใช่ไหม” ชริณถามดักอย่างรู้ทัน ซึ่งเจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ถึงกับทำตาโต ส่ายหน้าปฏิเสธยกใหญ่



                “น้องก็แค่ภูมิใจอะ”



                “ภูมิใจ?”



                “ก็จะได้สามีหล่อไง” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าอย่างเขิน ๆ พร้อมกับกระชับอ้อมแขนตัวเอง นอกจากที่จะได้มองหน้าชาริน ซังใกล้ ๆ แล้ว น้องยังชอบตอนที่ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่ายด้วย มันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก อยากให้ชาริน ซังกอดตัวเองแบบนี้บ่อย ๆ



                “ถามจริง วัน ๆ สมองคิดแต่เรื่องทำลูกเหรอ” ว่าจบชริณก็คลึงข้างขมับของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกอย่างนึกหมั่นไส้



                “ก็จะให้น้องคิดเรื่องอะไรล่ะ น้องไม่ได้ทำงานเหมือนชาริน ซังนะ”



                “เออ....จริงว่ะ” ชริณว่า เขาก็ลืมไปว่ามันคงไม่ต้องคิดอะไรมากมายเหมือนมนุษย์ หนังสือก็ไม่ต้องเรียน



                “แล้วนี่ครอบครัวไม่มีเหรอ ทำไมเหลืออยู่ตัวเดียว” ชริณถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยต่อ เท่าที่เคยดูสารคดีมา หากจำไม่ผิดจิ้งจอกแดงจะจับกลุ่มอยู่ประมาณสองถึงสี่ตัว ไม่นิยมอยู่กันเป็นฝูง แต่ก็แอบทึ่งอยู่ไม่น้อย ว่าเจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวนี้สามารถดำรงชีวิตเพียงลำพังได้จริงหรือ ทั้ง ๆ ที่ตัวมันเล็กจนแทบไม่น่ารอด



                “ตายหมดแล้ว พ่อก็ตาย แม่ก็ตาย เหลือแค่น้องคนเดียว”



                “.....”



                “เฮ้...ไม่ต้องรู้สึกผิดนะ น้องชินแล้ว” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกรีบพูดต่อ หลังเห็นชาริน ซังเงียบไป



                “มันไม่ใช่ความผิดของชาริน ซังหน่อย ชาริน ซังไม่ได้ฆ่าพ่อแม่น้องนี่” เพราะความเคยชินทำให้น้องสามารถพูดออกมาได้โดยไม่ต้องคิดอะไร อาจจะมีคิดถึงครอบครัวบ้าง ตามประสาสัตว์ที่เคยมีครอบครัว แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าตอนนี้น้องเหลืออยู่ตัวเดียวแล้วและต่อให้ตัวเองเป็นสัตว์วิเศษ ก็ไม่สามารถเรียกวิญญาณคนรักกลับคืนมาได้อยู่ดี...



                “แล้วเหลืออยู่ตัวเดียว ใช้ชีวิตยังไง” พอรู้ว่าพ่อแม่ของเจ้าตัวเล็กล้มหายตายจากไปหมดแล้ว ชริณก็เกิดความสงสารขึ้นมาเสียดื้อ ๆ มีภารกิจไม่พอ ยังไม่มีใครยืนอยู่เคียงข้างอีก



                “แต่ก่อนน้องก็ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ป่าไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมแล้ว อาหารก็หายากมากขึ้น เลยได้กินบ้าง ไม่ได้กินบ้าง อาศัยมาหากินแถวเขตมนุษย์เอา น้องเลยตัวเล็กเท่านี้” เจ้าจิ้งจอกว่าด้วยน้ำเสียงสดใส แต่ภาพในอดีตกลับไม่ได้สดใสเหมือนน้ำเสียงของเจ้าตัว เพราะก่อนที่จะได้เจอชาริน ซัง ชีวิตของน้องลำบากจริง ๆ จนแทบอยากตายให้รู้แล้วรู้รอด เพราะโลกของสัตว์มันโหดร้ายเกินไป เมื่อไม่มีอาหารและต้องกินกันเอง



                “.....” ชริณเงียบเพื่อฟังเจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดต่อ วูบหนึ่งเขามองเห็นสายตาเศร้าสร้อยของคนตรงหน้า ก่อนจะกลับมาฉายแววความสดใสเช่นเดิม



                “ตอนนั้นน้องมองไม่ออกด้วยซ้ำว่าจะมีชีวิตอยู่รอดจนถึงอายุขัยได้ยังไง นอกจากอาหารไม่เพียงพอ ยังต้องหลบเลี่ยงศัตรูอีก ยิ่งอาหารไม่เพียงพอมากเท่าไร นักล่าก็ยิ่งต้องออกล่าหนักมากขึ้นเท่าไร พอ ๆ กับจำนวนอาหารที่ลดลง”



                 มันเป็นเรื่องธรรมดาของระบบนิเวศ แต่มันโหดร้ายเกินไปสำหรับจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่มีภารกิจติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดอย่างน้อง แค่หาอาหารกินแต่ละวันก็ยากพอแล้ว ยังต้องคอยหลบเลี่ยงศัตรูอีก ศัตรูในที่นี้ ไม่ใช่แค่หมาป่า แต่รวมไปถึงพวกงู สัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่กว่าอีกด้วย



                “.....”



                “ส่วนเรื่องภารกิจน้องยิ่งแทบไม่มีหวังเลยว่ามันจะสำเร็จ แต่พอได้เจอชาริน ซังทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแล้วไง เพราะชาริน ซังช่วยชีวิตน้องไว้แล้วยังใจดีกับน้องมาก ๆ ด้วย น้องก็เลยรักชาริน ซังมาก ๆ น้องสามารถตอบแทนชาริน ซังได้มากกว่าที่คิดนะ นอกจากการทำลูกน่ะ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าพร้อมกับยิ้มตาหยีให้ชริณ ความโหดร้ายของโลกจิ้งจอกที่เผชิญมาแทบทั้งชีวิต ถูกหยุดไว้โดยผู้ชายธรรมดา ๆ ตรงหน้าน้อง



                “ยังไง?” ชริณเลิกคิ้ว



                “ก็...สามารถตายแทนกันได้เลยไง”



                “อย่าพูดเกินจริงเลย” ชริณถึงกับกลั้วหัวเราะ การยกชีวิตของตัวเองให้กับใครคนหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะชีวิตมีแค่ชีวิตเดียว



                “น้องพูดจริง ๆ นะ” เจ้าจิ้งจอกว่าตาโต ไม่ได้พูดเล่นหรือพูดให้ชาริน ซังพอใจ แต่ทุกอย่างถูกคิดไต่ตรองมาดีแล้ว



                “น้องยอมตายแทนได้เลย แค่น้องก็ได้ใช้ชีวิตมานานถึงขนาดนี้ ไม่ต้องค่อยคุ้ยถังขยะ หลบเลี่ยงศัตรูเพราะชาริน ซัง ก็ถือว่าเป็นกำไรมากน้อย ทั้ง ๆ ที่ความจริง น้องควรจะตายตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ แค่ต้องตายแทนชาริน ซัง เพื่อปกป้องชีวิตของชาริน แค่นี้ถือว่าเรื่องเล็ก”



                “แม้ว่าเชื้อสายของนายจะสูญพันธุ์ไปน่ะเหรอ”



                “....น้องยอม”



                “โธ่...เจ้าจิ้งจอก” ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาจากปากชริณมากกว่านั้น เขาสวมกอดเจ้าจิ้งจอกตัวน้อยไว้แน่นโดยไม่มีคำพูดอะไรออกมา ชริณเองก็พูดไม่ออกเหมือนกัน เขาอธิบายความรู้สึกตัวเองไม่ถูก รู้สึกดีมั้งที่มีคนยอมตายแทนกันได้ขนาดนี้




                “ถ้าให้เลือกระหว่างมีทายาทสืบต่อและปกป้องชีวิตชาริน ซัง อยากให้ชาริน ซังรู้ไว้ว่าน้องจะเลือกอันหลังอย่างไม่ลังเล”









_________________

สกรีมแท็ก #น้องจะตอบแทนพี่เอง

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
โถ่ น้องงงงงงงง  :m15:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ทำไมใจไม่ดี..เหมือนเป็นลางว่าจะจบเศร้า โอ โนว..วววววววว   :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ไม่เอานะน้อง ไม่เอามาม่า กินตับอย่างเดวพอ

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1



08

   “ทำไมไม่ใส่กางเกง”
   “มันอึดอัด อ๊ะ....! อย่าบีบก้นน้อง!”
   “ดื้อ....”
   “โอ้ย! ชาริน ซังอะ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกหันมาทำหน้ามุ่ยใส่ชริณทันที หลังถูกเขาบีบก้นเด้ง ๆ เข้าให้ รู้เหมือนจะไม่ชอบใส่กางเกงจริง ๆ ถึงได้ใส่กางเกงในตัวเดียวพร้อมกับเสื้อยืดเดินไปรอบ ๆ บ้าน ทั้ง ๆ ที่อากาศหนาวแบบนี้ ข้างนอกก็เริ่มหิมะตกแล้ว ทำเอาชริณปวดหัวอยู่ไม่น้อย พูดเท่าไรก็ไม่เชื่อฟัง
   หลังจากเราทานอาหารเช้าเสร็จ ซึ่งชริณก็สวมบทเป็นพ่อครัวอีกเช่นเคย เจ้าจิ้งจอกจึงอาสาเป็นคนล้างถ้วยจานเอง รวมถึงของเมื่อวานด้วย เพราะอยากแบ่งเบาภาระ ซึ่งชริณก็ไม่ได้ห้าม หากอีกฝ่ายอยากทำก็ทำไป ขอแค่ไม่ทำถ้วยจานแตกก็พอ
   ปฏิเสธไม่ได้ว่าพอได้รู้จักความเป็นอยู่เจ้าจิ้งจอกน้อย ก่อนที่จะเจอเขา ชริณก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดูอีกฝ่ายมากขึ้นเท่านั้น ตัวเล็กแค่นี้แต่ต้องต่อสู้อะไรมากมายโดยปราศจากพ่อแม่ ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว เขาเริ่มมองเจ้ามนุษย์จิ้งจอกในมุมที่แตกต่างออกไป คนเราไม่มีใครเลือกเกิดได้ เจ้าจิ้งจอกเองก็คงไม่อยากเกิดเป็นตัวประหลาดในสายตาของใครหรอก
   แต่จะทำไงได้ เมื่อทุกอย่างถูกกำหนดมาแล้ว เหลือเพียงแค่เราจะทำให้มันดีขึ้นหรือแย่ลง....
   “ช—ชาริน...”
   “หืม?”
   “จ—จมูก...ปากด้วย”
   “อืม....” ชริณขานรับในลำคอ วันหยุดทำให้เขากลายเป็นคนว่างงานโดยปริยาย ไม่รู้ตัวเองนึกบ้าอะไรอยู่ จู่ ๆ ก็อยากลองดมหลังคอเจ้ามนุษย์จิ้งจอกดู อยากรู้ความรู้สึกตอนดมจะเป็นยังไง
   จากที่บีบก้นเล่น เพราะความมันเขี้ยว ก็แปรเปลี่ยนเป็นอยากทำอย่างอื่นแทน ต้นเหตุเกิดจากความสงสัยล้วน ๆ กลายเป็นว่า ตอนนี้ชริณมายืนซ้อนหลังคนตัวเล็กกว่าที่กำลังล้างจานอย่างเป็นงานเป็นการ มือหนาที่บีบก้นอีกฝ่ายอย่างมันมือ ก็เลื่อนมาสัมผัสสะโพกอิ่มไว้แทน ก่อนจะโน้มหน้าดมหลังคอและจูบเบา ๆ อย่างที่สงสัย ทำเอาคนรับสัมผัสถึงกับสะดุ้ง
   “อืม...ก็ดี” ชริณพูดพึมพำกับตัวเอง
   เพราะลมหายใจร้อนที่เป่ารดต้นคอ ทำให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกที่กำลังล้างจานอย่างตั้งใจถึงกับขนลุกซู่ มือจับขอบอ่างล้างจานไว้แน่น ย่นคอหลบลมหายใจร้อนกรุ่นของชริณ
   ฝั่งชริณเองเมื่อเห็นปฏิกิริยาของอีกคนก็เริ่มอยากแกล้งขึ้นมา ดวงตาคมเลื่อนมองบั้นท้ายแน่น ก่อนที่ก้านนิ้วยาวจะเกี่ยวขอบกางเกงในตัวบางเอาไว้ ทำท่าจะเกี่ยวแล้วดึงลง แต่เจ้าจิ้งจอกจับไว้ทันเสียก่อน
   “ทำไม? ไหนบอกว่าใส่แล้วอึดอัดไง นี่ไงกำลังจะถอดให้”
   “ไม่ต้อง น—น้องอาย”
   “เมื่อก่อนไม่เห็นอาย ชอบเดินโป๊ไปรอบบ้านไม่ใช่เหรอ”
   “ก็ตอนนี้น้องอายแล้ว” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่า ขณะเดียวกันแก้มบางก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ แต่ก่อนน้องไม่เคยต้องรู้สึกอาย หากต้องโป๊เปลือยต่อหน้าชาริน ซังเลย เพราะธรรมชาติของสัตว์ก็ไม่เคยสอนให้ใส่เสื้อผ้าอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป ความกล้าที่เคยมีเริ่มลดหลั่นหายไปกลายเป็นความขี้ขลาดเข้ามาแทนที่
   สุดท้ายชริณก็เลือกที่จะเลิกแหย่เจ้ามนุษย์จิ้งจอก ปล่อยให้อีกฝ่ายล้างจานต่อไปจนเสร็จ ส่วนเขาเองก็หาหนังสือที่เคยซื้อไว้แต่ยังอ่านไม่จบมาอ่านฆ่าเวลา พอให้วันหยุดผ่านพ้นไปหนึ่งวัน
   ฝั่งน้องเองก็ถึงกับถอนหายใจออกมา เมื่อชาริน ซังยอมถอยทัพ อาการใจเต้นแรงจนคงทำงานอยู่ แม้อีกฝ่ายจะเดินไปนั่งบนโซฟาเพื่อไปอ่านหนังสือ
   “ร้อนจัง...” เจ้าตัวเล็กบ่นพึมพำ หน้าก็เห่อร้อน ตัวก็ร้อนไปหมด แม้ข้างนอกหิมะกำลังโปรยปรายอยู่ก็ตาม...
   หลังจากล้างจานเสร็จ เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ไปเก็บห้องนอนต่อ มือเล็กพับผ้าห่ม จัดหมอนนอนอย่างขยันขันแข็ง จริง ๆ ห้องนอนไม่ได้สกปรก ผ้าห่มก็ถูกพับอย่างลวก ๆ ไปก่อนจะออกจากห้องแล้ว แต่น้องไม่มีอะไรทำ หนังสือก็อ่านไม่ออก ทำได้แค่การสื่อสารเท่านั้น จึงเลือกที่จะทำงานบ้านดีกว่า อย่างน้อยก็ดีกว่านั่งนิ่ง ๆ
   คิ้วเรียวเผลอขมวด เมื่อจังหวะที่ก้มตัวหมายจะกวาดใต้เตียงก็เผอิญไปเห็นกล่องบางอย่างวางเอาไว้ น้องหยิบมันออกมาอย่างนึกสงสัย ก่อนจะถือวิสาสะเปิดกล่องนั้น
   “ชาริน ซัง อันนี้มันคืออะไรเหรอ” แม้จะดูของแล้ว แต่ก็ยังงุนงงอยู่ดี น้องจึงเดินไปเอ่ยถามชาริน ซังเองพร้อมกับหยิบเจ้าสิ่งนั้นไปถามเจ้าของบ้านด้วยความสงสัย ก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร รูปร่าง หน้าตาแปลกประหลาด เหมือนเคยเห็นในตัวของชาริน ซังอีกด้วย
   ฝั่งชริณเองเมื่อเห็นเจ้ามนุษย์จิ้งจอกถือของที่ว่าไว้ก็ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ รีบวางหนังสือลง แล้วลุกไปแย่งสิ่งนั้นออกจากมือเล็กทันควัน ทิ้งให้อีกคนทำหน้างุนงง
   “ไม่ใช่เรื่องของเด็กน่า” เขาพูดเพียงสั้น ๆ แล้วเอาของที่ว่าไปซ่อนไว้ด้านหลัง นึกก่นด่าเมฆในใจอยู่พันล้านคำ ข้อหาซื้ออะไรก็ไม่รู้ว่าเป็นของขวัญวันเกิดเขา
   “ก็น้องอยากรู้นี่”
   “ถ้าอยากรู้....ไว้วันหลังจะพาใช้งาน” ชริณตอบส่ง ๆ
   “แล้วมันคืออะไรอะ เห็นมีสองชิ้นด้วย” ว่าจบเจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็คว้าเซ็กส์ ทอยอีกชิ้นชูให้ชริณดู ชายหนุ่มก็รีบแย่งจากมือเล็กอีกทันควัน
   “บอกแล้วไงว่าไม่ใช่เรื่องของเด็ก”
   “ก็.....”
   “ไว้จะอธิบายให้ฟัง โอเคไหม” ชริณพูดแทรกก่อนเจ้ามนุษย์จิ้งจอกจะพูดจบ เรื่องสงสัยในเรื่องที่ไม่ควรสงสัยนี่เป็นที่หนึ่งเลย รอบสงสัยตอนอยู่ห้างสรรพสินค้าก็อดหนึ่งแล้ว เขาล่ะยอมใจเจ้ามนุษย์จิ้งจอกเสียจริง สงสัยแต่เรื่องแบบนี้

   “อรุณสวัสดิ์ครับ เพื่อน” ขณะที่กำลังชงกาแฟร้อนอยู่ในโซนของพนักงาน เมฆเพื่อนสนิทของชริณก็เดินมาทักทายพอดี วันนี้เป็นวันทำงานวันแรกหลังวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
   “เออ” ชริณพยักหน้ารับอย่างส่ง ๆ ก่อนที่กลับไปจัดการกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่
   “นี่ไม่คิดจะทักทายกูกลับเหรอ”
   “ก็ตอบเออไปแล้วไง”
   “แม่งโคตรน่าน้อยใจว่ะ ทีกลับคนอื่นทำไมไม่เห็นเป็นแบบนี้บ้าง กับเพื่อนล่ะชินชาจังเลยครับ”
   “อะไรของมึงว่ะไอ้เมฆ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเป็นแบบนี้ วิญญาณสาวน้อยร่างบางเข้าสิงเหรอมึง” ชริณได้แต่มองเพื่อนอย่างงุนงง ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมาพูดตัดพ้อใส่ ทั้ง ๆ ที่เราก็ทักทายกันแบบนี้ประจำ
   “อ้อ! อีกอย่างกูยังไม่เคลียร์กับมึงนะ เรื่องของขวัญวันเกิดกูอะ” ชริณพูดต่ออย่างเพิ่งคิดได้ ให้ของขวัญธรรมดา เหมือนคนอื่นเขา คงไม่ใช่ไอ้เมฆเพื่อนรักเพื่อนแท้แน่ มันให้ทีเขาเอาไปอวดใครไม่ได้เลย ต้องแอบเก็บไว้อย่างเงียบ ๆ
   “ทำไม? ติดใจเหรอ ไม่ต้องขอบคุณกูนะมึง ไม่ต้องอายด้วย มันเป็นเรื่องธรรมดาของชายโสดอย่างเราว่ะ” เมฆว่าพร้อมกับตบบ่าชริณ ทำเป็นเข้าอกเข้าใจจนเขาอยากแตะก้นสักป้าป
   “ไอ้เวร”
   “ฮ่า ๆ แล้วตกลงมึงชอบไหม”
   “ชอบกับผีน่ะสิ กูไม่ได้ใช้โว้ยยย”
   “ไม่ได้ใช้? อะไรว่ะ กูซื้อมาตั้งแพงเลยนะ”
   “แล้วกูบอกยังว่าอยากได้ มึงน่ะคิดอะไรอยู่ถึงได้ซื้อของแบบนั้นมาให้” การชงกาแฟของเรากลายเป็นเรื่องรองไปแล้ว เมื่อเรื่องของขวัญวันเกิดเขาเป็นเรื่องสำคัญกว่า เขาแทบลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้าเจ้ามนุษย์จิ้งจอกไม่เจอกล่องนั้นเข้าเสียก่อน แถมดูจะอยากรู้มากอีกด้วย เล่นถามเขาเช้าเย็น แม้กระทั่งก่อนนอน จะให้ชริณอธิบายว่ายังไง
   “ก็มึงโสดไง เอ๊ะหรือไม่แล้ววะ? เออ นั่นแหละกูแค่คิดว่ามึงอาจเบื่อโลกสวยด้วยมือเราแล้วก็ได้ เลยซื้อให้ ของไม่ใช่ถูก ๆ ด้วยนะมึง พลาสติกเกรดดีมาก เหมือนผิวมนุษย์ ของจริงสุด แถมกูซื้อทั้งแบบของผู้ชายและผู้หญิงอะ มึงก็ควรขอบใจกูไม่ใช่เหรอวะ”
   “ก็กูไม่ได้ใช้ไง”
   “ไม่ได้ใช้ ก็ใช้เลยสิ เออ...ว่าแต่ว่าเรื่องเด็กผู้ชายที่มาทำงานบ้านเพื่อเอาใจมึง เป็นไงบ้างวะ” เมฆชวนคุยต่อ หลังเพิ่งนึกได้ว่าชริณเคยเล่าเรื่องประหลาด ๆ ของเจ้าตัวให้เขาฟัง
   เขาก็อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป เพราะตัวชริณเองก็ไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องความรักกับกลุ่มเพื่อนเท่าไรนัก เขาก็กลัวจะถูกเด็กญี่ปุ่นหลอกเอา ส่วนชริณเอง หลังถูกทักถามเช่นนั้นก็ถึงกับชะงักไป เขาลืมเกือบไปแล้วว่าเคยโกหกเมฆเอาไว้
   “กูไม่รู้แล้ว”
   “หืม?” เมฆหรี่ตามองอย่างจับผิด
   “มึงมาสงสัยอะไรเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวกูว่ะ ว่างนักก็ไปทำงานไป” สุดท้ายชริณก็เลือกที่จะเอ่ยปากไล่ ทำเป็นโวยวายกลบเกลื่อน หลังเห็นอีกคนชงกงแฟร้อนเสร็จก่อนตนแล้ว
   “ทำตัวมีพิรุธนะมึง ก็ได้....เดี๋ยวกูทำงานเสร็จ แล้วจะมาสอบสวน” ส่วนเมฆเองก็ได้แต่มองอย่างเคลือบแคลงใจ ทุกอย่างดูน่าสงสัยและพบพิรุธเต็มไปหมด ก็แต่อยากรู้เอง ไม่เห็นจะต้องโวยวาย แต่สุดท้ายเขาก็ยอมเดินกลับไปโต๊ะทำงานพร้อมกับถ้วยกาแฟร้อนตัวเอง
    พ้นหลังเพื่อนไปแล้ว ชริณก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ความหนักใจเริ่มมีขึ้น เมื่อคิดว่าหากทุกอย่างยังคงเป็นเช่นนี้อยู่ ไม่ช้าก็เร็วสองคนนี้ต้องได้พบกันแน่ แต่อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง
   หลังเมฆเดินออกมาไปแล้ว ซากุระก็เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วชงกาแฟพอดี เราทั้งคู่ต่างชะงัก นับตั้งแต่วันที่เธอโทรมาหาเขา ปรึกษาปัญหาหัวใจ เราก็ไม่ได้พบกันอีกเลย แม้จะอยู่ในบริษัทเดียวกันก็ตาม ก็เพิ่งมาเจอกันอีกครั้งก็วันนี้ ชริณผงกหัวแล้วทักทายเธอเสียงแผ่ว ส่วนซากุระก็เช่นกัน
   ชริณเขยิบตัวนิดหน่อย เพื่อให้เธอได้เข้ามาชงชาร้อนบนเคาน์เตอร์ได้ถนัด ความอึดอัดโรยอยู่รวมตัวเราทันที เมื่ออยู่ด้วยกันเพียงลำพัง ส่วนตัวเขาเองก็เริ่มเร่งมือรีบจัดการเครื่องดื่มร้อน ๆ ของตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องอยู่กับเธอสองต่อสอง
    เขายังชอบเธอและรู้เหมือนว่าจะรู้ว่าเขาแอบมีใจให้เช่นกัน แต่การกระทำบางอย่างเริ่มทำให้เขามองผู้หญิงคนนี้ในมุมมองที่ต่างจากเดิม....
   ชริณก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเป็นมุมที่ดีไหม...
   “เรื่องครั้งก่อน ขอบคุณชริณ ซังมาก ๆนะคะ ที่คอยให้คำปรึกษาฉัน แม้จะเป็นตอนดึก” ซากุระเป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อน ความกระอักกระอ่วนเกิดขึ้นทันที เมื่อชริณทำตัวไม่ถูก
   “อ—อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกครับ เป็นเพื่อนกันนี่นา...” ชริณว่าเสียงแผ่ว วูบหนึ่งในความคิดใบหน้าของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ลอยขึ้นมา นั่นทำให้เขาเขยิบห่างจากซากุระไปอีก เพราะกลัวว่าน้ำหอมของหญิงสาวจะติดตัว
   “ค่ะ....เพื่อนกัน” ฝั่งซากุระเอง เมื่อเห็นท่าทีที่แปลกไปของชริณ ทำท่าเหมือนไม่อยากเข้าใกล้ หญิงสาวก็ได้แต่ยิ้มแบ่งรับแบ่งสู้
   “ชริณ ซังคะ”
   “ครับ?”
   “วันนี้ฉันอยากเลี้ยงขอบคุณเรื่องวันนั้นน่ะค่ะ คาเฟ่เปิดใหม่แถวบริษัทเราที่ฉันเคยเล่าให้ฟัง” ซากุระหันหน้ามาคุยกับชริณอย่างจริงจัง
   “ไม่เป็นไรหร--”
   “เถอะนะคะ.... “ หญิงสาวพูดแทรกก่อนที่ชริณจะเอ่ยคำปฏิเสธออกมา “ฉันไม่สบายใจจริง ๆ เหมือนกำลังติดหนี้คุณอยู่ ไปกับฉันสักครั้งเถอะนะคะ แต่ถ้าคุณรังเกียจฉัน...ก็ชวนเมฆ ซังไปด้วยกันก็ได้ค่ะ”
   เธอเดินจากไปแล้วพร้อมกับทิ้งคำชวนไว้กับเขา ทิ้งให้ชริณมองตามด้วยความหนักใจ เขาควรจะดีใจสิ....ใช่ ชริณควรจะรู้สึกเช่นนั้น คนที่ตัวเองแอบชอบมานาน ชวนไปคาเฟ่ทั้งที แต่กลับกลายเป็นว่าเหมือนเขากำลังหลอกตัวเอง ไม่มีความดีใจอะไรทั้งนั้น มีแต่ความหนักใจเต็มไปหมด    
   สุดท้ายชริณก็ต้องตอบรับคำชวนนั้นตามมารยาท ชริณไม่ได้ชวนเมฆมาด้วย เพราะกลัวซากุระจะมองว่ารังเกียจเธอ ซึ่งไม่ใช่...ชริณไม่ได้รังเกียจเธอ เขาก็แค่ไม่สบายใจ
   “ดูคุณรีบ ๆ นะคะ มีอะไรหรือเปล่า” ซากุระเอ่ยถาม หลังเห็นชริณเหลือบมองประตูอยู่หลาย ๆ ครั้งในรอบสิบนาที
   “ป—เปล่าครับ”
   “อ๋อค่ะ งั้นลองกินเค้กจานนี้ดูสิคะ เห็นเขาบอกว่าขึ้นชื่อที่สุดในร้านเลย.....”




   หนึ่งทุ่ม....

   นั่นคือเวลาที่ชริณได้แยกจากเธอ หลังเราเลิกงานกันตอนห้าโมงเย็น ขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน เขาก็คิดเรื่องราวของวันนี้อย่างเหม่อลอย ชริณได้แต่เดินเตร็ดเตร่ระหว่างทางกลับบ้านอย่างไม่เร่งรีบนัก ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทพาดบ่าไว้อย่างลวก ๆ ขณะที่หิ้วกระเป๋าทำงานไปด้วย
   ตอนนี้เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ถูกพรมมาอย่างลวก ๆ เขาไม่แน่ใจว่ากลิ่นน้ำหอมของซากุระติดตัวมาหรือเปล่า เพื่อไม่ให้ชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยง ไม่ให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกอารมณ์เสีย เขาจึงลงทุนซื้อแอลกอฮอล์กระป๋องมาทำเป็นกระเด็นหกใส่เสื้ออย่างไม่ตั้งใจ พอให้กลิ่นของมันติดร่าง
   ชริณมองเห็นแสงหลอดไฟสีเหลืองนวลที่สว่างอยู่ในบ้านลาง ๆ เพียงเท่านั้นเขาจึงรีบเร่งฝีเท้ามากขึ้น เพราะตระหนักได้ว่าเจ้ามนุษย์จิ้งจอกคงรอเขานานแล้ว
   “ชาริน ซัง!!” ทันทีที่เปิดประตูออก เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ถลามากอดเขาไว้แน่นทันที แก้มนิ่มแนบกับอกของเขา ทำเอาชริณถึงกับมึนงงไปหมด
   “.....”
   “เมาเหรอ” โล่งอกที่อีกฝ่ายกลับบ้านมาได้ไม่ทันไร เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็ทำหน้าเหยเกทันที เมื่อได้กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งออกมาจากตัวชาริน ซัง
   “ไม่เป็นไรนะ ๆ นั่งลง ๆ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดพึมพำ พร้อมกับแบกร่างชริณที่สวมบทเป็นคนเมาชั่วคราว ไปนั่งที่โซฟา พร้อมกับเก็บซื้อสูทไปลงตะกร้าซัก หยิบกระเป๋าทำงานไปวางไว้ที่มัน ก่อนจะกุลีกุจอมานั่งลงข้าง ๆ เจ้าของบ้าน
   ดวงตากลมโตมองชาริน ซังอย่างพินิจพิจารณา นับว่าเป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้เจอชาริน ซังในหมวดคนเมา ครั้งแรกที่ได้เจอก็เป็นตอนที่มนุษย์จิ้งจอกได้เข้าบ้านหลังนี้ครั้งแรก เจ้ามนุษย์จิ้งจอกนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่รู้จะจัดการคนเมายังไง ในขณะเดียวกัน ชริณก็จ้องหน้าน้องกลับตาไม่กะพริบ
   “เมาจริงด้วยแหะ” เจ้าจิ้งจอกพูดเสียงแผ่ว อุตส่าห์เป็นห่วงนั่งไม่ติดที่ตั้งนาน เพราะอีกฝ่ายกลับบ้านช้าผิดปกติ จนนึกว่าเกิดเหตุร้ายขึ้น ที่แท้ก็ไปแวะดื่มจนเมาแอ๋นี่เอง
   “......”
   “น้องไม่รู้วิธีให้หายเมาด้วยอะ ....ชาริน ซังอย่าจ้องน้องอย่างนั้นสิ อยากนอนไหมหรือจะอาบน้ำ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวน้อยที่กำลังประสบปัญหา ไม่รู้วิธีรับมือกับคนเมา รีบโบกมือปัดทันที เพื่อไม่ให้ชาริน ซังจ้องนาน เพราะเห็นว่าชาริน ซังยังจ้องตนไม่เลิก จนน้องเริ่มเคอะเขิน
   แม้ถามว่าจะนอนหรือจะอาบน้ำ ชาริน ซังก็ไม่คิดจะตอบโต้อะไรออกมา ทำเอาน้องถึงงงไปหมด ตั้งใจว่าวันนี้จะทำลูกเสียหน่อย สงสัยต้องอดไป เพราะชาริน ซังเมา...
   เอ๊ะ....แต่ตอนนั้นครั้งแรกของเรา ชาริน ซังก็เมานี่นา
   ดวงตากลมโตฉายแววสนุกขึ้นทันที เมื่อเห็นว่าคืนนี้แผนการของตัวเองคงไม่ล่มแน่ เพราะต่อให้ชาริน ซังเมา น้องก็ยังคิดว่าตัวเองรับมือไว้ อันที่จริงน้องคิดว่าตัวเองน่าจะจัดการชาริน ซังตอนเมาได้ดีกว่าตอนอีกฝ่ายมีสติเสียอีก
   เมื่อคิดได้เช่นนั้นแผนการจะให้ชาริน ซังเข้านอนหรือไม่ก็อาบน้ำถูกพับเก็บไว้ทันที ก่อนที่เจ้าตัวแสบจะปีนขึ้นตักอีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะ ฝั่งชริณเองที่อยู่ในบทบาทคนเมาก็มองตาม รอดูว่าเจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวแสบจะจัดการเขายังไง แต่ที่แน่ ๆ เขารอดตัวแล้ว เพราะอีกฝ่ายไม่ได้กลิ่นน้ำหอมของซากุระ กลิ่นแอลกอฮอล์เหม็นหึ่งคงทำหน้าที่ได้ดี
   “หอมแก้มน้องหน่อย ข้างนี้ ๆ” ว่าจบก็เอียงแก้มข้างซ้ายใส่ชาริน ซังได้หอม ยิ่งอีกฝ่ายยอมทำตามอย่างไม่อิดออด น้องก็ยิ่งชอบใจใหญ่ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นใหญ่ กำลังอยู่เหนือชริณ มีอำนาจในกำมืออย่างไงอย่างงั้น
   รังแกคนเมานี่มีความสุขเสียจริง!
   “ชาริน ๆ หอมแก้มน้องข้างนี้ด้วย” พูดแล้วก็เอียงแก้มข้างขวาให้
   “.....”
   “จูบไหล่น้องหน่อย” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าพร้อมกับดึงคอเสื้อให้ออก เปิดหัวไหล่มนเอียงให้ชาริน ซังได้จูบ ยิ่งชาริน ซังทำตามเท่าไร น้องก็ยิ่งรู้สึกดีมาก ดวงตากลมโตฉายแววความสนุกขึ้นด้วยพลัน ก่อนจะกระซิบข้างหูคนเมาที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์อยู่ทั่วตัว
   “งั้นคืนนี้น้องจะเอาจริงแล้วนะ...” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกกระซิบบอกชาริน ซัง ในขณะเดียวกันมือเล็กก็เริ่มปลดกระดุมอีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะ
   พอจะได้สัมผัสอารมณ์แบบนั้นอีกครั้ง เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็เริ่มใจเต้นแรง น้องเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าว่าที่สามีออกอย่างช้า ๆ ขณะที่ชาริน ซังก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนอะไร ดูเหมือนจะสมยอมด้วยซ้ำ
   พออยู่กับชาริน ซังตอนที่เมา น้องรู้สึกว่าตัวเองมีความกล้ามากขึ้น ไม่เหมือนตอนที่ชาริน ซังชักชวนให้เราทำลูกด้วยกัน ตอนนั้นความกล้าหาญหดหายไปหมดจนแทบไม่เหลือ แต่ตอนนี้น้องรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นผู้นำ ตามประสาคนที่มีประสบการณ์มาแล้ว อย่างน้อยก็น่าจะมากกว่าชาริน ซัง เพราะน้องได้ทำเกือบสองครั้งเลยนะ และครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สาม!
   “ไม่เจ็บหรอกนะ นิดเดียว เหมือนมดกัด” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ หวังจะปลอบใจชาริน ซังที่กำลังมองทุกการกระทำของเจ้าจิ้งจอกเป็นตาเยิ้ม ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะลุกออกจากตักชาริน ซัง เพื่อที่จะได้รูดซิปกางเกงลง เพื่อที่จะได้จัดการอะไร ๆ อย่างที่ควรจะเป็น
   หลังจากจัดการถอดเสื้อผ้าชาริน ซังให้อยู่ในสภาพที่พร้อมแล้ว น้องก็เริ่มจัดการเสื้อผ้าอาภรณ์ตัวเองออกบ้าง มือเล็กค่อย ๆ เกี่ยวขอบกางเกงในของตนเองลงอย่างใจเย็น พร้อมกับถอดเสื้อผ้าด้านบนออกด้วย จนอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า พอ ๆ กับชาริน ซัง
   “ไม่ต้องกลัวนะ ชาริน ซังน้องจะทำเบา ๆ”







   “อ๊ะ! ชาริน...มัน อึก! ลึกไป”
   “ลึกอะไร เท่านี้แหละ”
   “ไม่เอาแล้ว!”
   “อะ...อา ไหนบอกจะทำลูกไง ยังไม่เสร็จเลย”
   “ฮือ...มันลึกไป อ๊ะ!”
   “แล้วชอบไหม”
   “ชอบ อ๊ะ..อา ไม่ชอบแล้ว!”
   ชาริน ซังโกหก! ชาริน ซังแกล้งน้อง ชาริน ซังไม่ได้เมา!
   เจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวเล็กตกเป็นรองทันที เมื่อชาริน ซังเผยตัวตนที่แท้จริงว่าตัวเองไม่ได้เมาอย่างที่น้องเข้าใจ ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด ทันทีที่เจ้าจิ้งจอกขึ้นคร่อมตักชาริน ซังอีกครั้ง อีกฝ่ายก็เริ่มจัดการเองทุกเอง แม้กระทั่งอุ้มน้องขึ้นควบเอว พาน้องมาที่เตียงนอนเพื่อจะได้จัดการได้อย่างถนัดถนี่
   กลีบปากบางถูกบดขยี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งยินยอมสมัครใจและขัดขืนในเวลาเดียวกัน เพราะตัวตนของชาริน ซังเข้ามาลึกเกินไป ครั้งที่แล้วน้องทำเอาไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย! มันทำให้น้องใจหวิวไปหมดและในขณะเดียวกัน น้องก็อยากถูกชาริน ซังจูบซ้ำ ๆ ด้วย มันจึงกลายเป็นความย้อนแย้งไปหมด
   มือเล็กกำปูมือที่นอนไว้แน่น ปล่อยให้ชาริน ซังส่งตัวตนเข้ามาข้างใน ขณะเดียวกันชาริน ซังเองก็ฟัดเนินนมเล็ก ๆ ของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกด้วยความมันเขี้ยว ฝ่ามือหนาลูบไล้สัมผัสไปทุกสัดส่วน ก่อนจะวนมาหยุดที่เนินอกเล็กอีกหน
   “อ๊ะ! ชาริน ซัง....”
   “อะ....อา”
   “อือ...รู้สึกดี จ—จัง” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดออกมา ขณะเดียวกันก็เริ่มเหนื่อยล้ากับกีฬาในร่ม หลังเราเริ่มปฏิบัติการภารกิจทำลูกร่วมกันได้เกือบชั่วโมงแล้ว
   กรอบใบหน้าของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ชาริน ซังเองก็ไม่ต่างกัน ในเวลานี้ชาริน ซังดูร้อนแรงขึ้นเป็นสิบเท่า น้องชอบกลิ่นเหงื่อ กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของชาริน ซังที่บ่งบอกถึงการเป็นผู้ชายมาก ๆ เพราะมันสามารถปลุกอารมณ์ดิบของน้องได้เป็นอย่างดี
   “อ๊ะ! ชาริน พ—พอก่อนไหม” เจ้าตัวเล็กเริ่มร้อง เมื่อรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ทัน จังหวะขยับตัวของชาริน ซังกำลังทำให้น้องซับซ้อน ตอนนี้มันยังไม่หนักหน่วงถึงขนาดนี้เลย
   ....แต่น้องก็ชอบดี
   “ยังไม่เสร็จเลย เพิ่งได้ยก...เดียวเอง ไม่อยากท้องแล้วเหรอ” ชริณพูดต่อ ขณะที่ขบกรามและสวนสะโพกเข้าหาร่างเล็กไปด้วย แม้จะตกใจกับเพศของน้องอยู่ไม่น้อย อวัยวะเพศบางอย่างที่ไม่เหมือนมนุษย์อย่างเรา ๆ แต่พอเข้าใจว่าเพราะน้องเหลืออยู่ตัวเดียวบนโลกใบนี้ ทำให้ธรรมชาติสร้างร่างกายให้เป็นแบบนี้ ชริณก็พร้อมจะเข้าใจ
   “น—น้องอยากท้อง!”
   “งั้นถึงเช้าเลยไหม จะได้ท้องเร็ว ๆ” ชริณว่าพร้อมกับโน้มตัวลงไปหอมแก้มนิ่ม ยิ่งได้ฟัดบ่อย ๆ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังเสพติดเจ้าจิ้งจอกตัวนี้เสียแล้ว
   “หา....”
   “จะทำถึงเช้าไปเลย อยากมีลูกนักไม่ใช่เหรอ ยกเดียวไม่ติดหรอกนะ”
   “แต่...แต่น้องเหนื่อยแล้ว”
   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการต่อเอง” นั่นคือสิ่งที่ชาริน ซังบอก แต่น้องเองก็เริ่มเหนื่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว เปลือกตาบางปิดสนิทลง ยินยอมให้ชาริน ซังทำลูกต่อแต่โดยดี แต่น้องไม่ทำนะ น้องเหนื่อยแล้วจึงยกหน้าที่ทั้งหมดให้ชาริน ซังรับช่วงต่อ
   แขนเล็กได้แต่กอดคล้องชาริน ซังไว้อย่างหลวม ๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายจูบ อีกฝ่ายหอมตามอำเภอใจ ย่นคอหนีบ้างยามที่อีกฝ่ายงับหู ชาริน ซังจัดการให้เองทุกอย่าง ทำจนถึงรุ่งสางตามที่อีกฝ่ายได้ลั่นวาจาไว้...



_________________________
สกรีมแท็ก #น้องจะตอบแทนพี่เอง
ิอย่าลืมคอมเมนต์ สกรีมแท็กนะคะ กำลังใจทั้งหมดของเรา
รักค่ะ



ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อยากจะแหมให้ถึงสุไหง
ซารินซังแค่อยากทำลูกจริงๆหรอ แลดูมีเจตนาแอบแฝงนะ ขอให้น้องตกไข่พอดีๆ

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 
ฮื้ออ อยู่ทีมคุณหมาป่าใจพี่ร้าวไปหมดแล้ววววว

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด