(จบแล้ว) Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.17 (16.08.18)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (จบแล้ว) Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.17 (16.08.18)  (อ่าน 132725 ครั้ง)

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ครอบครัวสุขสันต์   :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น่ารักมากๆเลย

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ใกล้ได้เปิดตัวความน่ารักให้คุณปู่คุณย่าหลง
อยากยืมตัวแม่มาฟัด เจ้าจิ้งจอกลามก อยากทำภารกิจอยู่เรื่อยเลย บีบก้นให้เนื้อเขียว

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เด็กๆคิ้ :katai2-1:วมาก

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
น่ารัก

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ครอบครัวสุขสันต์  :m3:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เด็กๆดื้อมาก 5555

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น้องน่ารักกกก ลูกของน้องก็น่ารักกกก  :mew1:

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ครอบครัวสุขสันต์ แฝดสี่มันก็จะวุ่นวายหน่อย เด็กน่ารักมาก

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1


        หลังจากที่เล่นกับบรรดาลูก ๆ ฟัดแก้มยุ้ยของลูกทั้งสี่จนหนำใจแล้ว ชริณก็ปล่อยให้ลูกได้พักผ่อนแล้วมาคุยกับภรรยาสองคน พูดคุยเรื่องลูกกัน ชายหนุ่มคิดมาสักพักแล้ว่าจะให้ลูก ๆ ชื่ออะไรกันบ้าง
   “ทำไมไม่ให้ชื่อว่าน้อง น้อง น้องและน้องล่ะ” คุณแม่จิ้งจอกเอียงคอมองสามีด้วยความสงสัย น้องว่าชื่อนี้ก็เพราะดีออก จำง่ายด้วย อีกอย่างตอนนี้น้องก็เลื่อนขั้นไปเป็นเมียแล้ว แต่น้องก็จะเรียกตัวเองว่าน้องอยู่ดี จะเรียกลูก ๆ ว่าน้องด้วย
   “ไม่ได้ ตั้งแบบนั้นสับสนตาย” ชริณว่า เขาล่ะยอมใจความคิดคุณแม่ลูกสี่จริง ๆ
   “อะ...งั้นจะตั้งชื่อลูกว่าอะไร”
   จะให้บอกชื่อเฉย ๆ ก็ไม่ได้ เพราะเราไม่ได้มีลูกแค่คนเดียว ชริณจึงพาภรรยาไปที่เปลของเจ้าของก้อน เพื่อชี้ให้ดูว่าลูกคนไหน ชื่ออะไรกันบ้าง ซึ่งบัดนี้เจ้าของเปลทั้งสี่ก็กำลังนอนกลางวัน เรียงกันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อชาร์ตพลังชั่วคราว เพราะพลังงานเมื่อเช้าถูกใช้เล่นกับคนพ่อไปหมดแล้ว
   “คนนี้ชื่อ สายรุ้ง” ชริณว่าพร้อมกับชี้สมาชิกก้อนขนคนขวาสุด เพราะเป็นเพศหญิงจนเหมาะกับชื่อนี้มากที่สุด
   “คนนี้ชื่อดวงจันทร์” ชริณว่าพร้อมกับชี้คนถัดมา เป็นเจ้าก้อนขนเพศชาย
   “นี่ชื่อตะวัน”
   “.....”
   “และนี่ก็ชื่อดวงดาว” ชริณว่า มองเจ้าก้อนขนทั้งหลายด้วยสายตาอบอุ่น เรื่องราวของดำเนินมาถึงจุดยืนมองลูกหลับก็มีความสุขแล้ว
    “สายรุ้ง ดวงจันทร์ ตะวัน ดวงดาว” คุณแม่ว่าแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ
   เพราะมีเรื่องลูกมากกว่าหนึ่งตัว ต่อให้ลูกแต่ละคนมีหน้าตาไม่ได้คล้ายกันเท่าไร ถึงอย่างนั้นก็ยังทำให้คุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงสับสนอยู่ไม่น้อย ในช่วงแรก ๆ ฝั่งคุณแม่จิ้งจอกต้องอาศัยจดจำลูก ๆ ผ่านการจำกลิ่นเอา ส่วนฝั่งจากคนพ่ออย่างชริณก็อาศัยจดจำจากเพศและลักษณะพิเศษ
   ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี มันกำลังเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่ก็ยังมีสิ่งที่ชริณนอนกังวลอยู่หลายคืนนั่นก็คือการบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่และเพื่อน สังคมของเขา จริง ๆ เขาเองก็เคยคิดว่าอยากเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นเรื่องส่วนตัว คนอื่นอาจจะใช่ แต่เขาต้องบอกพ่อแม่ เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยสำหรับคนในครอบครัว
   ในตอนแรกชริณตั้งใจว่าจะพาครอบครัวเขาเดินทางไปประเทศไทยในร่างสุนัขจิ้งจอก แต่คิด ๆ ดูแล้ว หากอยู่ในร่างจิ้งจอกคงยากกว่าการเป็นมนุษย์เสียอีก เพราะหากครอบครัวก้อนขนอยู่ในร่างมนุษย์ มีบัตรประชาชน ทำพาสปอร์ต ทุกอย่างก็จะจบ แต่หากอยู่ในร่างสัตว์ อาจต้องทำเรื่องมากมาย เพราะจิ้งจอกเป็นสัตว์ป่า จะนำเข้าประเทศไทย คงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่
   “คิดอะไรอยู่” ฝั่งเจ้าจิ้งจอก หลังจากทำงานบ้านเสร็จ ก็เห็นสามีนั่งซึม เหมือนมีเรื่องรบกวนใจอยู่ตลอดเวลา ทำให้อดใจที่จะถามไถ่ไม่ไหว
   คนตัวเล็กนั่งลงข้าง ๆ ชาริน ซัง สังเกตท่าทางของอีกฝ่ายไปด้วย ชาริน ซังดูแปลกไปจริง ๆ และน้องคิดว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังกลุ้มใจก็คงเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวของเรา ชาริน ซังเคยเอาเรื่องงานมาเครียดที่บ้านที่ไหนกัน...ไม่มีหรอก
   “เครียดเรื่องที่บ้านนิดหน่อย” ชริณว่า
   “งั้นบอกน้องได้ไหมว่าเรื่องอะไร”
   “.....”
   “เรื่องที่เราจะไปไทยกันเหรอ” เจ้าตัวเล็กสันนิษฐาน ช่วงนี้น่าจะเป็นเรื่องนี้แหละ
   “ใช่...อยากพาไปไหว้พ่อแม่ แต่มันติดเรื่องเอกสาร” ชริณว่าตามตรง
   “คงไปหาพ่อแม่ไม่ได้” ชายหนุ่มว่าต่อ แต่ถึงอย่างนั้นชริณก็ต้องบินไปคุยกับพ่อแม่อยู่ดีว่าทำไมเขาถึงจะไม่แต่งงานแล้ว เพราะหากพ่อแม่ยังไม่รู้ว่าเขากำลังสร้างครอบครัว สร้างฐานะ มีหวังคงได้จับคู่ให้เหมือนในละครหลังข่าวแน่
   “ถ้าเราไปหาเขาไม่ได้ งั้นให้พ่อแม่ชาริน ซังมาหาเราได้ไหม”
   “.....”
   “น้องสัญญาว่าน้องจะทำตัวน่ารัก ๆ ให้พ่อแม่ชาริน ซังเอ็นดูน้องกับลูกขอฃเรา” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่า น้องเข้าใจดีว่าชาริน ซังมีสังคม ครั้นจะปล่อยเบลอก็คงไม่ใช่ ทางที่ดีที่สุดคือเราต้องพยายามเข้าใจกัน
   น้องตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะชนะใจพ่อแม่ของชาริน ซังให้ได้ เพื่อที่ครอบครัวของเราจะได้อยู่กันอย่างสงบสุข ไม่ต้องกังวลกับเรื่องแบบนี้อีก
   “ไม่ต้องเครียดน้าชาริน ซัง มีปัญหาเราก็จะแก้ด้วยกัน น้องจะไม่ปล่อยให้ชาริน ซังแก้อยู่คนเดียวหรอก เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนี่นา” เจ้าจิ้งจอกคนเก่งศรีภรรยาของชริณว่า พร้อมกับยิ้มตาหยี หมายให้อีกฝ่ายคลายความกังวลลงเสียที นั่นทำให้ชริณรู้เลยว่า เขาตัดสินใจไม่ผิดที่กล้าเสี่ยงจะสร้างครอบครัวกับเจ้าจิ้งจอกตัวนี้...

   [ช่วงนี้รู้สึกไหมว่าตัวเองไม่ค่อยได้กลับไทยนะ เจ้าลูกชาย ฮ่า ๆ] เสียงปลายสายกลั้วหัวเราะในช่วงท้ายประโยคเหมือนไม่ได้จริงจังกับสิ่งที่เพิ่งถามมา แต่ชริณรู้ดีว่ามันแฝงไปด้วยความคิดถึงของคนเป็นพ่อเป็นแม่
   [งานหนักเลยลูก?] คนพ่อถาม
   “ก็ไม่เชิงหรอกครับ แต่ช่วงนี้ผมมัวแต่จัดการชีวิตตัวเองมากกว่า ไม่ได้กลับไทย ไม่ได้โทรหาด้วย ขอโทษนะครับ” ชริณเอ่ยขอโทษคนเป็นพ่ออย่างใจจริง ช่วงนี้เขามัวแต่ยุ่งเรื่องครอบครัวก้อนขน คอยแก้ปัญหาจุกจิกทั้งหลายแหล่ ยอมรับว่านั่นอาตทำให้เขาเผลอละเลยคนที่รออยู่ที่บ้านไป
   [ไม่เป็นไรหรอกลูก แค่ได้ยินว่ายังปลอดภัยดี พ่อแม่ก็สบายใจแล้ว]
   “ครับ....ผมจะดูแลตัวเองดี ๆ แล้วพ่อแม่เป็นยังไงบ้างครับ อย่าทำงานหนักมากนะครับ ถ้าเหนื่อยก็เพลา ๆ ลงบ้าง” บทสนทนาระหว่างพ่อลูกดำเนินไปอย่างเรื่อย ๆ พ่อแม่ของชริณรับราชการครูกันทั้งคู่ ใกล้จะเกษียณอายุราชการกันแล้ว แต่ยังมีเปิดสอนพิเศษ กวดวิชาให้เด็กที่หัวอ่อน ตามไม่ทันในห้องเรียนอยู่เรื่อย ๆ ชริณก็เริ่มเป็นห่วงสุขภาพ กลัวท่านพักผ่อนไม่พอ
   [เหนื่อยอยู่หรอก....แต่มันเหงานี่จะให้พ่อทำยังไง อยู่บ้านเฉย ๆ ก็เบื่อ]
   “แต่แลกกับสุขภาพพ่อแม่มันไม่คุ้มหรอกนะครับ”
   [งั้นเราก็มีหลานให้พ่อสักคนสิ] เมื่อฝั่งคนพ่อพูดเช่นนั้น ชริณก็ถึงกับเงียบไป อยากจะถามกลับเหมือนกันว่าอยากได้เจ้าก้อนขนตัวไหนล่ะ แต่สุดท้ายนั่นก็เป็นแค่ความคิดของเขาเท่านั้น
   “.....”
   [อายุใกล้จะสร้างครอบครัวแล้วนะ ได้คุยกับใครบ้างหรือยังลูก ได้สะใภ้เป็นญี่ปุ่นพ่อแม่ก็ไม่ขัดหรอกนะ]
   “พ่อแม่อยากได้หลานเหรอครับ” ชริณถาม เขาสามารถมีหลานให้พวกท่านได้ แต่ปัญหามันติดตรงที่ว่าจะอธิบายยังไงให้ท่านได้เข้าใจว่าแก๊งเจ้าก้อนขนเป็นบรรดาลูก ๆ ของชริณจริง ๆ ไหนจะต้องอธิบายเรื่องแม่ของลูกอีก ซึ่งนั่นก็ทำไม่ได้ เพราะว่าเผ่าพันธุ์เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเป็นความลับ
   หากจะพูดกันตรง ๆ ชริณหาทางออกกับเรื่องนี้ไม่ได้เลย เขาจะทำยังไงให้พ่อแม่และครอบครัวก้อนขนของเขารับรู้การมีอยู่ของกันและกัน และไปด้วยกันได้ โดยที่ฝั่งของพ่อแม่ไม่ล่วงรู้ความลับของเผ่าพันธุ์จิ้งจอก
   [มีลูกชายอยู่คนเดียวไปทำงานไกลถึงญี่ปุ่น พ่อแม่ก็ต้องอยากมีหลานสิลูก อย่างน้อยก็ได้อยู่เป็นเพื่อนเล่นกัน]
   “งั้นถ้าผมไม่สามารถมีหลานให้ได้ พ่อจะโกรธไหมครับ” สุดท้ายชริณก็ตัดสินใจเอ่ยคำถามที่กดดันทั้งคนถามและคนตอบออกไป
   มันไม่ใช่แค่คำถามลองใจอย่างเดียว แต่คำตอบของพ่อจะทำให้ชริณรับรู้ว่าครอบครัวจะรับได้ไหม หากเขาคบหากับเพศเดียวกัน แม้เจ้าจิ้งจอกภรรยาของเขาจะมีลักษณะพิเศษคือมีสองเพศ แต่มองจากภายนอกก็ยังว่าเป็นผู้ชายอยู่ดี หากว่าพ่อรับได้ แม่เองก็คงไม่มีปัญหาอะไร ชริณจะฝ่าด่านพ่อ ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวไปให้ได้เสียก่อน ถึงคอยคิดเรื่องอื่น
   […..] คุณพ่อของชริณเงียบไปนานนับนาที....และทุก ๆ วินาทีที่ผ่านไปก็สร้างความกดดันให้กับชริณมากขึ้นเรื่อย ๆ
   [ชอบผู้ชายเหรอเรา...]
   “ก็ไม่เชิงหรอกครับ....ผมกำลังคบหากับคนหนึ่งอยู่ เขาเป็นผู้ชาย” ชริณยอมรับอย่างแมน ๆ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ต่อให้คำตอบของพ่อจะทำให้เขาผิดหวัง แต่ชริณหันหลังกลับไปไม่ได้แล้ว เพราะเขาสร้างครอบครัวกับเจ้ามนุษย์จิ้งจอก จนเรามีทายาทตัวน้อย ๆ แสนซนด้วยกันถึงสี่คนแล้ว
   […..]
   “พ่ออย่าเงียบสิ ผมเครียดนะครับ”
   [ถ้านั่นมีคือความสุขของลูก พ่อแม่ก็คงขัดใจไม่ได้หรอกจริงไหม? พ่อแม่ที่ดีควรสนับสนุนความสุขของลูก แล้วปรับตัวให้อยู่ร่วมกันได้ไม่ใช่เหรอ]
   “.....”
   [งั้นเราแบ่งกันคนละครึ่งทางดีไหม]
   “ยังไงครับ”
   [พ่อแม่ไม่มีปัญหาหรอก หากลูกจะคบกับผู้ชาย แต่ช่วยอุปถัมภ์เด็กกำพร้าสักคนดีไหม ลูกมีความสุข พ่อแม่ก็ไม่ต้องเหงา]
   “ได้ครับ แต่จริง ๆ ไม่ต้องถึงขั้นอุปถัมภ์เด็กหรอกครับ” พอได้ยินคำตอบจากปากพ่อ ชริณก็รู้สึกเบาใจลงเปราะหนึ่ง ต่อไปเขาต้องคุยเรื่องลูกต่อ มิวายต้องผิดศีลพูดปด เพื่อไม่ให้ความลับของจิ้งจอกแพร่งพรายอยู่ดี
   [ยังไง]
   “แฟนของผมเขามีลูกติดครับสี่คน....” ชริณเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง “หากพ่อแม่ไม่ติดขัดอะไร ผมอยากให้คิดซะว่านั่นคือหลาน คือลูกของผมจริง ๆ”
   […..]
   “และถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้พ่อแม่มาญี่ปุ่นครับ ว่าที่หลานของพ่อแม่ยังเด็กเกินไปที่จะเดินทาง หากเป็นไปได้ ช่วงหยุดยาวอยากให้พ่อแม่ถือโอกาสมาเที่ยวและได้เจอกับคนรักของผม ว่าที่หลาน ๆ ของพ่อแม่ที่นี่เลย พอจะได้ไหมครับ” ชริณว่า เริ่มเห็นเค้าลางทางออกของปัญหานี้แล้ว เหลือเพียงแค่พ่อแม่จะว่ายังไง จะมาหรือไม่มา
   [ก็ได้]
   “......” เมื่อคนพ่อไฟเขียวเช่นนั้น ชริณก็ถึงกับลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ปัญหาทีแบกไว้บนบ่ามาหลายสัปดาห์กำลังจางหายไปอย่างช้า ๆ ตั้งแต่ที่ครอบครัวของเขาเริ่มเข้าใจว่าชริณชอบผู้ชายแล้ว ชริณนึกขอบคุณพ่อแม่จริง ๆ ที่พยายามเข้าใจทุกอย่างที่เขาเป็น พยายามที่จะเข้าใจความสุขของเขา
   “ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมจะจองตั๋วและไปรับเองที่ไทยนะครับ ขอบคุณมากจริง ๆ ครับที่เข้าใจผม”

   ฝั่งเจ้าจิ้งจอกที่เพิ่งได้พักหายเหนื่อยเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน หลังสงครามกับดวงดาวลูกสาวคนสุดท้องเพิ่งจบลง กว่าบรรดาลูก ๆ จะโตพอได้เล่นเป็นเพื่อนกัน คุณแม่ลูกสี่ก็คงเหนื่อยไม่น้อย นี่เพิ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งปี คุณแม่ลูกสี่ยังดูแลลูก ๆ จนหัวฟูเลย
   เลี้ยงลูกไม่ง่ายเลย....
   หลังจากกล่อมดวงดาวลูกสาวคนสุดท้องให้เข้านอนแล้ว คุณแม่จิ้งจอกก็รีบจับลูกเข้าเปลให้นอนเรียงกันแต่วัน เพื่อตัดปัญหาทันที ไว้ไปสู้รบกันต่อในพรุ่งนี้ดีกว่า โชคดีที่บรรดาแก๊งก้อนขนของเรา ไม่มีอาการงอแงยามวิกาล เพราะถ้าไม่เช่นนั้น เจ้าจิ้งจอกน้อยคงไม่มีเวลาอยู่กับสามีเพียงลำพังแน่
   “ลูกหลับกันหมดแล้วเหรอ”
   “อื้อ!” คุณแม่ตัวเล็กหันไปตอบคุณพ่อที่เพิ่งเดินเข้ามา หลังจากหายไปคุยโทรศัพท์อยู่ตั้งนานสองนาน “หนูดวงดาวดื้อมาก กว่าจะสิ้นฤทธิ์น้องก็แทบแย่แน่ะ” ได้ทีก็รีบฟ้องสามีทันที ลูกสาวคนสุดท้องนี่ดื้อจริง ๆ จะเรียกว่าตัวเล็ก พริกขี้หนูก็คงไม่ผิดอะไร
   “ยัยหนูทำอะไรล่ะ”
   “งอแงอยากกินนมน้องไม่หยุดเลยนะซี่ เพิ่งกินอิ่มไปก็งอแงจะกินอีก เมื่อกี้ร้องบ้านแตกเลย กินเยอะสุดในบรรดาเจ้าก้อนขนของเราแล้ว น้องให้จนไม่มีจะให้แล้ว” คุณแม่ตัวเล็กรีบฟ้องสามีทันที ดูท่าในอนาคตดวงดาวคงเป็นลูกสาวตัวอ้วนแน่
   “เดี๋ยวลองจะจุกนมมาให้ลูกดูดก็ได้ น่าจะแทนกันได้” ชริณว่าพร้อมกับกวาดสายตามองแก๊งก้อนขนที่กำลังหลับปุ๋ยอย่างมีความสุข พอปัญหาเริ่มคลี่คลาย อะไรก็ดีไปทั้งหมดจริง ๆ
   “แล้วเมื่อกี้ชาริน ซังคุยกับพ่อแม่เหรอ” เจ้าจิ้งจอกน้อยถาม
   “อืม...”
   “......”
   “พ่อแม่จะมาญี่ปุ่นนะ อะไรที่เคยบอกไว้เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อได้ยินสามีพูดเช่นนั้น ดวงตากลมโตก็เป็นประกายทันที เมื่อคืนเจ้าจิ้งจอกน้อยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แอบชาริน ซังคิดแผนการอยู่ทั้งคืนว่าจะทำอะไร เพื่อมัดใจพ่อแม่สามีดี ที่น้อง ๆ คิดไว้ก็มีแต่เด็ด ๆ ทั้งนั้น รับรองว่าพ่อแม่ชาริน ซังชอบน้องแน่นอน
   “แต่ฉันบอกว่าลูกของเราเป็นลูกติดนาย ไม่โกรธใช่ไหม....” เมื่อโกหกพ่อแม่ฝั่งทางนั้นเอาไว้ ชริณก็ต้องมาพูดความจริงกับเจ้าจิ้งจอกว่าเขาพูดอะไรไปบ้าง เพื่อที่เราจะได้เข้าใจตรงกันและไม่ทะเลาะกันภายหลังว่าทำไมเขาถึงพูดเช่นนั้น
   “ไม่โกรธ ชาริน ซังว่าดีน้องก็ดี น้องรู้ว่าชาริน ซังเองก็ทำเพื่อครอบครัวของเราเหมือนกัน” เจ้าจิ้งจอกน้อยพูดอย่างว่าง่าย ชาริน ซังว่าอะไรน้องก็ว่าตามนั้น ขอแค่เราได้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวน่ารัก ๆ แบบนี้ก็พอ
   “ดีมาก...” ฝั่งชริณเองก็ลูบหัวคุณแม่ตัวเล็กด้วยความเอ็นดู ก่อนจะโอบกอดอีกฝ่ายจากด้านหลัง มองดูพยานรักตัวน้อย ๆ ด้วยกัน “ปัญหาทุกอย่างกำลังคลี่คลายนะ อดทนหน่อย เราจะได้อยู่กันเป็นครอบครัวแบบไม่ต้องกังวลแล้วนะ”
   “อื้อ”
   “.....”
   “ไหน ๆ ลูกก็เข้านอนแล้ว งั้นเราก็เข้าห้องกันเถอะ น้องจะให้รางวัล”
   “รางวัล? รางวัลอะไร” คนฟังถึงกับขมวดคิ้ว นึกสงสัยว่าเจ้าจิ้งจอกน้อยจะมาไม้ไหน
   “รางวัลความน่ารัก สามีดีเด่นของชาริน ซังไงเล่า เข้าห้องนอนกันเถอะ เดี๋ยวจะเสียเวลา” เจ้าจิ้งจอกว่าแล้วหันมองหน้าสามีด้วยสายตาแพรวพราว น้องชอบตอนที่ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชาริน ซังมากเลย มันแหบพร่า ยิ่งอีกฝ่ายมาครางใกล้ ๆ หู น้องยิ่งชอบ ฟังแล้วรู้สึกขนลุกซู่ซ่าแปลก ๆ ได้โอกาสทีเลยขอทำภารกิจอยู่บ่อย ๆ
   “......”
   “รับรองว่าครั้งนี้จะเด็ดจนชาริน ซังไม่ได้นอนถึงเช้าเลย”

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.14 (2/2) (2.08.18)
« ตอบ #129 เมื่อ: 02-08-2018 18:43:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
น้องนี่ศรีภรรยาที่ดีจริงๆเลยน้าาา 555555555555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Perfect สุดๆ  ดีทั้งบนเตียงและเลี้ยงลูก

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
อย่าพี่งได้ไหมอยากอ่านช่วงความสัมพันธ์ของลูกๆกับพ่อแม่แบบมีพัฒนาการมากขึ้นค่ะ :m5:

ออฟไลน์ OffJii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากๆเลยคร่า เป็นอะไรที่อยู่เหนือกฏเกณฑ์ทุกอย่างเลย ชอบแม่น้อง น้อง น้อง น้อง และน้อง
น้องแฟมิลี่ ยังไม่อยากให้จบเลยค่ะอยากอ่านน้องๆไปยาวๆ :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2018 21:32:18 โดย OyominOb »

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
คุณพ่อลูกสี่น้องน่ารักแล้วจะพากลับไทยยังไงดี

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี  :call: :call: :call:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ทำไมถึงไม่ชื่อ น้อง น้อง น้อง แล้วก็น้องคะ 5555555555555555555555555555555555

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นี่ถ้าเป็นพ่อกับแม่นะจะตกใจมากอ่ะ ว่าแฟนของลูกชายตัวเองมีลูกติดตั้งสี่คน5555555 คนที่มีลูกติด4คนได้เนีย ไม่ธรรมดาแน่5555 :hao6:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :กอด1: อยากกอดน้อง น้อง น้อง น้อง และก็น้อง งงไปนะ 55555 โถ่คุณแม่ แค่เรียกเรายังมึนเลย
น่ารักจริงน้องนิ เป็นแม่ เป็นเมีย ที่ดีจริงๆ รอเป็นลูกสะใภ้ที่ดีด้วยน๊าาา  :mew1:
 :3123:  :pig4:  :L1:

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จะได้เจอคุณปู่คุณย่าแล้วว  :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Red fox#น้องจะตอบแทนพี่เอง Ch.14 (2/2) (2.08.18)
« ตอบ #139 เมื่อ: 03-08-2018 11:31:17 »





ออฟไลน์ ืNtop

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักจัง อยากเห็นความสัมพันธ์พ่อแม่ลูกอีกจังเลยค่ะ อย่าพึ่งจบได้มั้ยค่ะ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ チイ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งงๆนิดหน่อยว่าชรินจะอธิบายกับพ่อแม่ยังไงแล้วเด็กจะสลับร่างไปมาแบบนี้ไปตลอดหรอ
คือนี่สับสนจริงๆนะในหัวนี่จินตนาการกว้างไกลมากเป็นไปได้หลายกรณีสุดๆ
คุณแม่จิ้งจอกน่ารักน่าฟัดมากๆเลยคำพูดคำจาน่าเอ็นดูไปหมดอยากจับกลืนลงท้อง
จะจบแล้วใช่มั้ยคะแอบอยากอ่านตอนพิเศษนะเป็นแบบคุณพ่อคุณแม่หัวหมุนเลี้ยงเด็กๆ
ตอนกำลังซนๆหรือจะเป็นช่วงที่เด็กเริ่มโตเข้าโรงเรียนอะไรประมาณนี้คงจะสนุกดีนะคะ
ยังไงก็จะเป็นกำลังใจให้น๊าาาาา :mew1:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
น้องว่าแสบแล้ว อีกสี่น้องก็แสบไม่แพ้กัน
แต่ก็ขอให้ผ่านด่านครอบครัวไปได้ด้วยดีนะ

ปล. นี่ยังแอบคิดถึงพี่หมาป่าอยู่นะคะเนี่ย

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ยัยน้อนนนนน ฮือออ5555555 มีหลานให้ป้าแล้วทำไมขยันนนน

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เรื่องนี้ดีจังเลยค่ะ คงเสียใจมากถ้าไม่ได้เข้ามาอ่าน น้องน่ารักมากอยากจับกลืนลงท้อง รักๆๆๆ

ออฟไลน์ lalun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น้องน่าร้ากกกกกก

ออฟไลน์ MR.J

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องงงงงงงงงงงงงงงงงงง น่ารักมาก เอ็นดูววววอะ

ออฟไลน์ MR.J

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แหม่ ชารินซังไม่หยุดเลยน้าาาาาา

ออฟไลน์ MR.J

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักมากมายเลยทั้งชารินซังและคุณแม่ลูกสี่ แงงงงงงง ครอบครัวอบอุ่น

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1


15


   เมื่อพ่อว่ายังไงแม่ก็ว่าตามนั้น เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เราคุยกันเสร็จ พ่อของชริณก็โทรมาอีกครั้ง เพื่อบอกว่าจะสามารถหยุดยาวมาญี่ปุ่นได้อีกตอนไหน
   หลังจากคุยกับคนพ่อเสร็จ ชริณก็นอนก่ายหน้าผากอยู่บนเตียง เขาทวนถามตัวเองในใจอีกครั้งว่าคิดดีหรือยังที่โกหกพ่อแม่ไปอย่างนั้น เขาไม่อยากโกหก...แต่หากบอกความจริงก็ต้องมีปัญหาตามมาอีก แค่การที่ชริณคบกับผู้ชาย ยังเป็นเรื่องยากเลย เขาก็โชคดีที่มีพ่อแม่พยายามเข้าใจแค่นั้น
   แม้โลกจะค่อย ๆ เปิดกว้าง ให้เสรีในสิ่งที่เป็นแล้ว แต่ลึก ๆ เราเองก็ต้องยอมรับว่าคนที่เกิดก่อนยุคสมัยที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา ลำพังบอกแค่เท่านี้ เรื่องยังยุ่งยาก ชริณไม่รู้ว่าหากพ่อแม่ของเขารับรู้สิ่งที่เจ้าจิ้งจอกเป็น ทุกอย่างจะเป็นอย่างไรต่อไปและยอมรับลึก ๆ ว่าเขาเองก็ไม่กล้าเสี่ยงด้วย
   “ชาริน....”
   “.....”
   “ชาริน ซัง!”
   “....!!” คนที่ถูกเรียกถึงกับสะดุ้ง เมื่อจู่ ๆ ก็ถูกเจ้าจิ้งจอกน้อยเรียกพร้อมเขย่าตัวหลังเขานอนเหม่ออยู่นานสองนาน
   “ว่าไง มีอะไร”
   “วันนี้ชาริน ซังไม่ได้ไปทำงานใช่ไหม?” คุณแม่ลูกสี่ถามด้วยน้ำเสียงนึกสนุก ก่อนจะปีนขึ้นเตียงคลานมาหาสามีพร้อมกับโบรชัวร์สินค้าใบหนึ่ง ตอนนี้น้องกำลังมีที่ ๆ อยากไป แต่จะไปคนเดียวก็ไม่ไปเป็นอีก สุดท้ายจึงตัดสินใจกำโบรชัวร์จากหน้าห้างสรรพสินค้ากลับมาให้สามีดู เผื่อชาริน ซังจะใจดีพาน้องกับบรรดาลูก ๆ ของเราออกไปข้างนอกด้วย
   เดี๋ยวนี้คุณแม่ลูกสี่เริ่มมีการพัฒนาแล้ว จากที่ทุกครั้งต้องออกไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้ากับชาริน ซัง เดี๋ยวนี้สามารถไปซื้อคนเดียวโดยที่สามีไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว
   ฝั่งชริณเองก็รับเอาใบโบชัวร์จากเจ้าจิ้งจอกมาดู มันเป็นโบชัวร์ของสวนสนุกแห่งหนึ่งซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านใหม่ของเราเท่าไรนัก ตอนนี้กำลังจัดโปรโมชั่นเชิญชวนให้คนไปเที่ยวสวนสนุกกัน
   “อยากไปเหรอ” เขาถามเจ้าจิ้งจอกและดูเหมือนอีกฝ่ายก็กำลังมองชริณอย่างมีความหวังเช่นกัน
   “อื้อ! ขอไปได้ไหม เอาลูกไปเที่ยวด้วย” เจ้าจิ้งจอกน้อยว่าพร้อมกะพริบตาปริบ ๆ หมายจะอ้อนสามี ใจอ่อนยอมพาแก๊งก้อนขนของเราไปเที่ยว
   “ก็ดีเหมือนกัน ไม่เคยได้ออกไปไหนเลยนี่” ชริณว่า อนุมัติอย่างไม่ต้องคิด
   เขาเองก็สงสารบรรดาลูก ๆ เหมือนกัน ตั้งแต่เกิดมาก็อยู่แต่ในบ้าน มีงานหลักคือป่วนคุณแม่ ให้คุณแม่มาฟ้องพ่อ กิน ๆ แล้วก็นอนตามประสาเด็ก ออกไปเปิดหูเปิดตา สัมผัสกับโลกภายนอกก็น่าจะดีอยู่ไม่น้อย
   “เย้! ชาริน ซังน่ารักที่สุด จุ๊บ!” เจ้าจิ้งจอกน้อยโผกอดสามีด้วยท่าทางสุดดีใจก่อนจะจุ๊บแก้มของสามีเพื่อเป็นรางวัล ดีใจมาก ๆ ที่ชาริน ซังอนุมัติ น้องจะได้ไปเที่ยวแล้ว!
   การที่สามีอนุมัติ จะไปสวนสนุกด้วยกัน ทำให้คุณแม่ลูกสี่อารมณ์ดีแทบทั้งวัน พรุ่งนี้น้องจะได้ออกไปเที่ยวแล้ว น้องรอให้ถึงเวลานั้นอย่างใจจดใจจ่อ เหมือนเด็กที่ถูกผู้ใหญ่ล่อด้วยขนม
   นับเป็นครั้งแรกที่ครอบครัวก้อนขนได้ออกไปข้างนอกด้วยกัน แต่เจ้าจิ้งจอกเชื่อว่าแม้จะเป็นครั้งแรกของลูก ๆ ก็จะไม่สร้างปัญหาให้ใครแน่นอน เพราะวันว่าง ๆ น้องเองที่อยู่บ้านกับลูกตลอดเวลา ก็มักจะคอยสอนลูกเสมอ อย่างน้อยในตอนนี้แก๊งก้อนขนก็รู้การควบคุมวิธีการกลายร่างได้แล้ว
   “ปายยยเที่ยวว เที่ยวไหนอ่า” ตะวันลูกคนที่สามเอียงคอมองแม่ตาแป๊ว หลังเห็นคุณแม่มาบอกข่าวดีด้วยท่าทางดีใจ ขณะที่ลูก ๆ ยังงุนงงอยู่
   “เที่ยวสวนสนุกไง”
   “แล้วมันคืออะไยหลอคะ” สายรุ้งพี่สาวคนโตถามแม่ต่อ
   “แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ” เจ้าจิ้งจอกถึงกับห่อไหล่อย่างหงอย ๆ เมื่อให้คำตอบบรรดาลูก ๆ ไม่ได้ เพราะตัวเองก็ไม่เคยไปเหมือนกัน เติบโตมาแต่ในป่า คลุกคลีกับมนุษย์แค่ตอนหาเศษอาหาร จะไปรู้จักได้ยังไงว่าสวนสนุกคืออะไร จริง ๆ น้องเพิ่งมารู้จักสวนสนุกก็ตอนได้เป็นครึ่งชีวิตของชาริน ซังนี่แหละ
   “อ้าว แล้วทำไมคุงแม่ดีใจอ่า” ดวงจันทร์ว่าด้วยความสงสัย
   “งืม หนูว่าถ้าที่นั่งไม่มีขนง มังก็คงไม่นุกหลอก คุงแม่เชื่อหนู!” ดวงดาวลูกสาวคนสุดท้อง ผู้มีแนวโน้มจะเป็นตุ้ยนุ้ยยิ่งกว่าใครพูดต่อ ขณะเดียวกันก็จับจุกนมเปล่า ๆ ขึ้นมาดูดอีกหน พักหลังคุณแม่ไม่ค่อยยอมให้เธอกินนมเลย จะกินได้ต้องได้กินเท่าพี่น้อง ไม่มีสิทธิ์พิเศษอีกแล้ว สุดท้ายหนูน้อยก็ต้องดูดจุกนมเปล่า ๆ เล่นพอให้แก้อยาก
   “มันต้องสนุกซี่ เชื่อแม่” คนเป็นแม่เถียงลูก ดูจากรูปภาพแล้วมันต้องสนุกแน่นอน น้องมั่นใจ!
   ในที่สุดวันที่เราจะได้ไปสวนสนุกก็เวียนมาถึงเสียที จริง ๆ น้องก็ไม่ได้รอนานอะไร แต่เพราะน้องอยากไปมาก ทำให้ทุกนาทีรู้สึกเดินช้าเหลือเกิน
   หลังจากที่ชาริน ซังอนุมัติเสร็จ วันรุ่งขึ้นเราก็จะไปกันเลย โดยที่มีชาริน ซังเป็นคนวางแผน จัดการอะไรให้เสร็จสรรพ ส่วนน้องเองก็มีหน้าที่โม้กับลูกว่าการออกไปท่องโลกกว้างครั้งนี้ มันต้องสนุกอย่างงั้นอย่างงี้ แต่เหมือนจะมีแค่คุณแม่ลูกสี่ที่ตื่นเต้นอยู่คนเดียว ส่วนลูก ๆ ก็ได้แต่ทำหน้างง เพราะไม่เคยออกไปข้างนอก
   “เจ้าจิ้งจอก พร้อมยัง?”
   “แป๊บนึงน้า” หลังจากได้ยินเสียงสามีตะโกนถามมา คุณแม่ลูกสี่ก็รีบเร่งทำสิ่งที่กำลังทำอยู่ในเร็วมากขึ้น นั่นก็คือการแต่งตัวให้ลูก ๆ ของเรา เรามีเสื้อผ้ามากมายด้วยเงินของชาริน ซังทั้งนั้น ซื้อทีก็ต้องซื้อสี่ชุด เพื่อให้ลูก ๆ ได้ใส่เหมือนกันอย่างเท่าเทียม
   น้องรู้ดีว่าไม่ใช่แค่น้องที่หัวฟูเพราะเจ้าก้อนขน แต่ชาริน ซังเองก็เช่นกัน แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้คลุกคลี ให้เจ้าตัวป่วนให้เล่นงานเหมือนคุณแม่ แต่ชาริน ซังก็มีเรื่องเครียดเพราะต้องหาเงิน การเลี้ยงดูลูกหนึ่งคนไม่ใช่เรื่องง่าย คราวนี้มาพร้อมกันถึงสี่คนก็ยิ่งไปกันใหญ่ ตอนนี้กลายเป็นว่าอันไหนพอช่วยเหลือชาริน ซังได้ น้องก็จะช่วย อย่างน้อยก็ได้แบ่งเบาภาระในแบบของน้อง
   “พร้อมยัง”
   “พร้อมแล้ว”
   “ฮะ เจ้าตัวเล็กของพ่อน่ารักจัง” ชริณที่เข้ามาดูความคืบหน้าการแต่งตัวของลูก ๆ ถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ หลังเห็นเจ้าจิ้งจอกแต่งตัวให้บรรดาลูก ๆ ของเรา คล้ายกันหมดจนเหมือนร่างโคลนนิ่ง ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว ตรงเข้าไปฟัดแก้มยุ้ยของลูก ๆ ทันที ฟัดคนเดียวไม่ได้ ต้องฟัดรวดถึงสี่คน เพื่อที่ทุกคนจะได้รับความรักเท่าเทียมกัน
   “คุงพ่อ”
   “แอ๊ะ ๆ”
   “คุงป๊อของหนู”
   ทันทีที่ถูกคนพ่อฟัด แก๊งก้อนขนทั้งหลายก็ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวด้วยความชอบใจ พากันหัวเราะเรียกหาพ่อชาริน ต่างชูมือขึ้นกลางอากาศหมายจะอ้อนขอกอด แต่น่าเสียดาย เราไม่ได้มีเวลาพอจะฟัดกันให้หนำใจ ควรรีบออกจากบ้าน ก่อนจะหมดวันไปเสียเปล่า ๆ
   “พร้อมไปเที่ยวกันยัง” ชริณถามเด็ก ๆ
   “พร้อมแย้ว แอ๊ะ ๆ!”
   ชริณเลือกใช้การเดินทางด้วยรถไฟพาครอบครัวก้อนขนของเขาไปยังสวนสนุกที่คุยกันไว้ ระหว่างการเดินทางก็มีผู้คนเข้ามาทักทายพวกเราเป็นระยะ ด้วยความที่ลูก ๆ ทั้งสี่แต่งตัวเหมือนกันจนคล้ายร่างโคลนนิ่ง ทำให้ผู้คนที่พบเห็นต่างให้ความเอ็นดูกันทั้งนั้น
   เมื่อมาถึงสวนสนุกที่ว่า ดูเหมือนคุณแม่ลูกสี่จะตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าบรรดาลูก ๆ หันมองนั่นมองนี่ไม่หยุด จนเขาต้องปรามให้ดูลูกด้วย เชื่อเถอะว่าชริณแอบเห็นประกายในดวงตาของเจ้าจิ้งจอก ดูท่าคนแม่นี่แหละที่อยากมาสวนสนุกยิ่งกว่าใคร เมื่อมาถึงงเราก็แบ่งกันเข็นรถ รับผิดชอบลูก ๆ คนละสอง ตอนนี้บรรดาลูก ๆ ของชริณเริ่มหัดเดินได้แล้ว แต่ยังไม่แข็งเท่าไร มีล้มลุกคลุกคลานบ้าง แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
   พัฒนาการของแก๊งก้อนขนเป็นที่น่าพอใจสำหรับชริณ ลูก ๆ มีพัฒนาขึ้นในทุก ๆ วัน ชริณสอนในการเป็นมนุษย์ ส่วนเจ้าจิ้งจอกก็ปลุกสัญชาตญาณจิ้งจอกในตัวลูก ๆ ให้เจ้าก้อนทั้งสี่ได้เรียนรู้การเป็นมนุษย์และมีสัญชาตญาณความเป็นจิ้งจอกตามเชื้อกำเนิดไม่ทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป
   ชริณกำชับหมวกของลูก ๆ ให้เข้าที่ ก่อนจะพาเดินเข้าเขตสวนสนุกหลังซื้อบัตรมาแล้ว เขาเองก็ไม่ได้มาที่แบบนี้นานเหมือนกัน ครั้งล่าสุดเท่าที่จำได้น่าจะเป็นช่วงมัธยมต้น สวนสนุกเป็นสถานที่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ร่วมถึงเขาด้วย การพอเจ้าจิ้งจอกและลูก ๆ มา ชริณก็อยากให้ทุกคนได้ประทับใจเหมือนกับตอนที่เขาได้มาครั้งแรก
   “ชาริน ซางงงงงง”
   “หืม?” ชายหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่กับการดูแลลูก ๆ ให้อยู่ในกรอบสายตา หันมองตามเสียงของภรรยา ก่อนจะพบว่าเจ้าจิ้งจอกกำลังยิ้มแป้นแล้นยืนข้างโซนขายสายไหมสีสดใส เป็นอันรู้กันว่าคุณแม่ลูกสี่อยากกิน
   
   “อร่อยจัง น้องให้ลูกกินได้ไหม” บัดนี้มือของคุณแม่ลูกสี่กำลังถือสายไม้สีสดใสไม้ใหญ่เอาไว้กับมือ เป็นครั้งแรกที่เจ้าจิ้งจอกได้กินสายไหม มันรสชาติดีไม่ต่างจากที่จินตนาการไว้เลย อร่อยจนอยากให้ลูก ๆ เจ้าก้อนขนของแม่ได้กินด้วย แต่ต้องถามความเห็นพ่อก่อน เพราะคนพ่อฉลาดกว่า
   “ไม่ได้ ลูกยังไม่ควรกิน ฟันน้ำนมยังไม่ขึ้นเลย” เมื่อชริณว่าเช่นนั้น คุณแม่ที่กำลังแบ่งสายไหมออกเป็นคำ ๆ เตรียมป้อนลูก ๆ ถึงกับหงอยเหมือนกำลังถูกเอ็ด ทั้ง ๆ ที่ชริณก็แค่ห้ามเอง
   “เสียดายจัง....”
   “ไว้ลูกโตค่อยให้กันนะ” ชริณว่าอย่างใจเย็น พลางเข็นลูกเข้าไปในโซนสวนสนุก ก่อนจะมีเหล่ามาสคอตทั้งหลายซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสวนสนุก ขวัญใจของเด็ก ๆ เข้ามารุมล้อมทันที
   ทุกอย่างควรจะแฮปปี้แต่ทว่าเจ้าจิ้งจอกน้อยกลับมองเจ้ามาสคอตรูปร่างสัตว์ ตัวใหญ่กว่ามนุษย์ปกติด้วยความตื่นกลัว เจ้าจิ้งจอกรีบเขย่าแขนชริณยกใหญ่ เมื่อเห็นสามียังคงยืนนิ่ง ก็ตั้งท่าจะเข็นรถลูก ๆ หนีจากตรงนั้นโดยไม่ฟังเสียงสามี
   “ด—เดี๋ยว!” ชริณร้องห้ามภรรยาเสียงหลง ก่อนที่เราจะผลัดหลงกันในสวนสนุกขนาดใหญ่นี้ แต่ดูเหมือนเจ้าจิ้งจอกจะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น คว้ารถเข็นลูกได้ก็จะพาเดินหนีจากตรงนั้นลูกเดียว ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน ควรจะเป็นเด็กสิที่กลัว ทว่าลูก ๆ กลับหัวเราะด้วยความชอบใจ ยกเว้นคนแม่ที่เหมือนจะไม่สนุกด้วย
   “น้อง!” ชริณเรียกภรรยาอีกครั้ง หากเป็นปกติเขาคงจะเรียกว่า เจ้าจิ้งจอก แต่เพราะเราไม่ได้อยู่กันในบ้าน เขาจึงไม่สามารถเรียกเช่นนั้นได้ นาน ๆ ทีชริณถึงเรียกเจ้าจิ้งจอกว่าน้อง ซึ่งเป็นชื่อเรียกจริง ๆ ของอีกฝ่าย การเรียกแบบนั้นได้ผลชะงัก มีใครเรียกชื่อก็ต้องหันอยู่แล้ว นั่นคุณแม่ลูกสี่หยุดยืนอยู่กับที่และหันกลับไปมองสามีตัวเอง
   ดวงตากลมโตคลอด้วยน้ำใส แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวเจ้าตัวการ์ตูนประจำสวนสนุกแห่งนี้ นั่นทำให้ชริณไม่มีทางเลือกมากนัก จากที่ตั้งใจว่าจะถ่ายรูปรวมกับครอบครัวโดยมีมาสคอตเป็นตัวประกอบเก็บไว้เป็นที่ระลึก ก็ต้องยกเลิกไป เดินเลี่ยงไปอีกทาง ไม่ให้เราได้เจอกับมาสคอตอีกหน ก่อนที่เจ้าจิ้งจอกจะปล่อยโฮกลางสวนสนุก
   เขาเข็นรถลูกอีกสองคนเดินมาทางเจ้าจิ้งจอก ตั้งใจว่าหลังจากนี้จะพาครอบครัวก้อนขนเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อที่จะได้ไม่ต้องพบเจอเจ้ามาสคอตอีก
   “ชาริน ซังจะถ่ายรูปกับเจ้านั้นเหรอ จะถ่ายก็ได้นะ” เจ้าจิ้งจอกน้อยที่เห็นว่าสามีอยากทำอะไร ก็รีบคว้าแขนไว้ก่อนที่ชาริน ซังจะเดินนำไปอีกทาง น้องรู้ว่าชาริน ซังอยากถ่ายรูปกับเจ้าตัวประหลาดพวกนั้น จริง ๆ น้องกลัว มันตัวใหญ่เกินไป แต่ถ้าชาริน ซังอยากพาลูก ๆ ของเราไปถ่ายรูปรวมกับเจ้าพวกนั้น น้องจะรวบรวมความกล้าไปถ่ายด้วยก็ได้
   “ไม่เป็นไรหรอก กลัวไม่ใช่เรา” ชริณว่าด้วยความเสียงอ่อนโยน ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวคุณแม่ลูกสี่เพื่อปลอบโยน เห็นชัดว่าเจ้าจิ้งจอกกลัว ยิ่งจะพยายามเอาใจ เพื่อที่จะให้เราถ่ายรูปด้วยกันอีก
   “แล้วชาริน ซังจะเสียใจไหม ถ้าเราไม่ได้ถ่ายรูปกับเจ้าพวกนั้น”
   “เสียใจทำไม? ไม่ถ่ายรูปกับเจ้าพวกนั้น เราก็ไปถ่ายที่อื่นก็ได้ ไม่ต้องร้องไห้นะ...เรื่องแค่นี้เอง” ชริณว่า เพราะอยู่ด้วยกันเกือบตลอดเวลา ห่างกันแค่ตอนเขาไปทำงาน ทำให้ชริณรู้เลยว่าตอนนี้เจ้าจิ้งจอกกำลังกังวล เป็นห่วงความรู้สึกคนอื่นมากกว่าตัวเองที่กลัวจนร้องไห้
   คราวที่แล้วก็ปกป้องเขาด้วยชีวิตตัวเอง....คราวนี้ก็เป็นห่วงความรู้สึกเขามากกว่าความรู้สึกตัวเองอีก จะไม่ใช่ชริณหลงได้ยังไง
   ถ้าเป็นอยู่บ้านเขาคงจูบหน้าผากเพื่อปลอบแล้ว แต่เพราะเราอยู่ที่สาธารณะ สุดท้ายชริณถึงทำได้แค่ลูบหัวปลอบ ก่อนจะพาไปเล่นโซนอื่น ๆ ในสวนสนุกเพื่อให้อาการหวาดกลัวของคุณแม่ลูกสี่หายไปแล้วค่อยไปให้รางวัลกันที่บ้าน

   “แล้วน้องจะดูพวกการ์ตูนเหล่านี้ได้ที่ไหนอะ”
   “ในโทรทัศน์”
   “ไม่เห็นมีเลย”
   “ก็ไม่เคยเปิดให้ดู”
   “งั้นวันนี้เปิดให้น้องดูหน่อยนะ ให้ลูกเราดูด้วย”
   “อือ...” ชริณขานรับส่ง ๆ ดูเหมือนการมาสวนสนุกตามคำขอของคุณแม่ลูกสี่ครั้งนี้ จะสร้างความปวดหัวให้เขาเสียแล้ว เพราะตั้งแต่ออกมาจากสวนสนุก เจ้าจิ้งจอกก็ถามจ้อไม่หยุด คอยพูดถึงเหล่าตัวการ์ตูน มาสคอตทั้งหลายแหล่ที่เดินขบวนพาเลตมาสร้างความสนุกกับเด็ก ๆ ที่มาชื่ออะไรกันบ้าง ทำไมตัวถึงสีนี้ มีลูกไหม สารพัดสิ่งสงสัย
   ชริณว่าการมาสวนสนุกครั้งนี้ เจ้าจิ้งจอกคงมีความสุขมากกว่าใคร แม้จะเสียน้ำตาตอนเห็นมาสคอตของสวนสนุกในตอนแรก แต่สุดท้ายก็ปิดฉากการมาเที่ยวครั้งแรกของเราด้วยรอยยิ้ม
   คุณแม่ลูกสี่ดี๊ด๊าเหมือนเด็กห้าขวบ ส่วนก็เจ้าก้อนขนทั้งหลายก็ได้แต่มองตัวการ์ตูนทั้งหลายอย่างมึนงง เพราะไม่เคยเห็น บ้างก็หัวเราะชอบใจ แต่คงไม่มีใครแฮปปี้เท่ากับคุณแม่แล้ว
   “ชาริน ซัง ตัวนี้ชื่ออะไรนะ มินนี่ใช่ไหม?”
   “ถามแต่เจ้าตัวการ์ตูน ชักจะน้อยใจแล้วนะ” เพราะดูเหมือนตัวเองกำลังถูกแย่งความสนใจ ชริณที่กำลังพาครอบครัวก้อนขนกลับบ้านของเราจึงหันไปพูดกับเจ้าจิ้งจอกด้วยท่าทีจริงจัง ปกติเจ้าจิ้งจอกก็มักจะให้ความสำคัญแต่เขาเสมอ ไม่เคยสนใจสิ่งใดนอกจากเขา พอเจอแบบนี้ ชริณก็ชักจะโมโหเหมือนกัน อะไรจะขนาดนั้น
   จากตอนแรกที่ตั้งใจจะให้รางวัล น่าจะเปลี่ยนเป็นการลงโทษเสียให้เข็ด....
   “ชาริน ซังโกรธเหรอ”
   “.....”
   “งั้นน้องไม่พูดถึงแล้วนะ” เจ้าจิ้งจอกน้อยว่า พับความสนใจเกี่ยวกับเรื่องเจ้าตัวการ์ตูทั้งหลายแหล่ลงไป ก่อนที่ชาริน ซังจะโกรธมากกว่านี้แล้วเราก็ขึ้นรถไฟกลับบ้านกันโดยที่น้องไม่พูดเรื่องเจ้าตัวการ์ตูนอีก
   ชาริน ซังบอกน้องว่าไม่ได้โกรธ... แต่กลับไม่พูดกับน้อง แบบนี้มันหมายความว่ายังไง? เมื่อกลับมาถึงบ้าน คุณแม่ลูกสี่ก็กลับมาสวมบทเป็นแม่บ้านอีกครั้ง พ่อแม่แบ่งหน้าที่กันคนละส่วน ชาริน ซังอาบน้ำให้เจ้าก้อนขนที่เหมือนจะเพลีย เพราะออกไปเที่ยวเล่นโลกภายนอกทั้งวัน ส่วนน้องเองก็รับหน้าที่ชงนม เตรียมส่งลูก ๆ เข้านอนในคืนนี้
   หลังจากชาริน ซังอาบน้ำแต่งตัว ใส่ชุดนอนให้ลูก ๆ แล้วพาเข้าเปลนอนเสร็จ ก็เดินตัวละลิ่วผ่านน้องที่กำลังถือขวดนมมาเสิร์ฟลูก ๆ โดยไม่พูดจา ทำเอาเจ้าจิ้งจอกถึงกับห่อไหล่ ทำมือสามีในรูปแบบนี้ไม่ถูก ชาริน ซังไม่ได้เมินเฉยกับน้องแบบนี้นานแล้ว ล่าสุดก็ก่อนที่เราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน
   ขณะที่น้องกำลังยืนถือขวดนมอย่างเหม่อลอย กำลังคิดจะทำยังไงดีให้ชาริน ซังหายโกรธตัวเอง ลูก ๆ ทั้งสี่ก็ร้องหานมร้อนส่งเข้านอน เจ้าจิ้งจอกน้อยจึงไม่มีทางเลือกมากนัก ยังไงเสียตอนนี้ก็ต้องดูแลลูกให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยไปง้อสามีทีหลัง

   “ชาริน ซังงงงง น้องอาบน้ำด้วย”
   “.....”
   “อย่าเพิ่งปิดประตูซี่!”
   “จะเข้ามาก็รีบมา”
   หลังจากที่จัดการส่งลูก ๆ เข้านอนเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ลูกสี่ก็วิ่งแจ้นตรงเข้าห้องนอนตัวเอง หมายจะง้อสามีตามที่วางแผนเอาไว้ทันที
    พอเข้ามาถึงห้องก็เห็นชาริน ซังคว้าผ้าเช็ดตัว เตรียมจะเข้าไปอาบน้ำ เจ้าจิ้งจอกก็ไม่รอช้า รีบเดินตามไปคว้าผ้าเช็ดตัวเช่นกัน ตั้งใจว่าจะขออาบน้ำด้วยคน เดี๋ยวน้องจะขัดหลังให้ชาริน ซังหายโกรธเอง ทว่าในตอนแรกทันทีที่ชาริน ซังได้ยิน อีกฝ่ายก็ตั้งท่าจะปิดประตูใส่ น้องต้องร้องห้ามเสียก่อน ชาริน ซังถึงยอมเปิดประตูให้ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก
   พอได้อยู่กับสามีเพียงลำพัง เจ้าจิ้งจอกลูกสี่ก็กลายร่างเป็นน้องเหมือนเดิม เพราะดูเหมือนชาริน ซังจะไม่เข้าเต็มใจให้น้องเข้ามาอาบน้ำด้วย เจ้าจิ้งจอกน้อยก็เริ่มเบะปากบ้าง แต่น้อยใจมากไม่ได้เพราะชาริน ซังยังโกรธน้องอยู่ ถ้าน้องน้อยใจแล้วชาริน ซังรู้ ด้วยเรื่องจะบานปลาย
   เราต่างแยกมุมปลดเปลื้องเสื้อผ้าเพื่อเตรียมอาบน้ำ บรรยากาศระหว่างมาคุจนเจ้าจิ้งจอกน้อยรู้สึกอึดอัดจึงถอนหายใจออกมา
   “ถ้าไม่อยากอาบน้ำด้วยกัน ก็ไม่ต้องก็ได้นะ ไม่ได้บังคับ” ฝั่งชริณเอง เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจก็พูดออกมาด้วยน้ำเรียบนิ่ง
   “เปล่าสักหน่อย” เจ้าจิ้งจอกเถียง
   ชาริน ซังชอบคิดไปเองอยู่เรื่อย น้องบอกตอนไหนว่าไม่อยากอาบน้ำด้วย!

   หลังจากจัดการสลัดเสื้อผ้าออกให้พ้นตัวได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะได้อาบน้ำกันเสียที เจ้าจิ้งจอกน้อยค่อย ๆ เดินเลียบ ๆ เคียง ๆ เข้าไปหาชาริน ซัง บอกตามตรงว่าตอนนี้น้องเองก็ไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ชาริน ซังเท่าไรนัก เพราะอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ แต่กำลังโกรธน้องอยู่และดูเงียบมาก ๆ ด้วย
   “ชาริน ซัง....” คุณแม่ลูกสี่เกริ่นนำโดยการเรียกชื่อสามีก่อน
   “.....”
   “ด—เดี๋ยวน้องขัดหลังให้นะ วันนี้เหนื่อยมากใช่ม้า จะนวดให้ด้วย” เจ้าจิ้งจอกว่าด้วยน้ำเสียงสดใส พยายามแสดงออกสุดฤทธิ์ว่าอยากปรนนิบัติสามี เมื่อเห็นว่าชาริน ซังไม่ได้พูดอะไร ก็เตรียมคว้าใยบวบหมายจะมาขัดหลังให้สามี ทว่าอีกฝ่ายกลับชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
   “ไม่เป็นไร...ไม่มีอารมณ์”
   “อ๋อ...อือ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าจิ้งจอกน้อยก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากขานรับในลำคอ ก้อนน้อยใจเล็ก ๆ ในตอนแรกที่พยายามไม่สนใจ เพราะสามีกำลังโกรธอยู่ เริ่มขยายใหญ่มากขึ้น
   น้องก็อยากง้อชาริน ซังนะ...แต่อีกฝ่ายไม่ยอมให้ง้อแล้วน้องจะทำยังไง
   แผนที่วางไว้ถูกชาริน ซังทำพังอย่างไม่เป็นท่า กลายเป็นว่าเราต่างแยกย้ายกันอาบน้ำและแต่งตัว ไม่มีนัวเนียกันเหมือนเคย ชาริน ซังไม่ใช่ผู้ชายหวาน ไม่ค่อยแสดงความรักอย่างเปิดเผย แต่อย่างน้อย ๆ ก่อนนอนอีกฝ่ายต้องมีจูบหน้าผาก บอกฝันดีบ้าง แต่ครั้งนี้ไม่เลย
   เราแยกย้ายกันนอนอีกแล้ว....
   ดวงตากลมโตได้แต่มองตามทุกการกระทำของสามีตาละห้อย อีกฝ่ายเมินเฉยน้องอย่างตั้งใจ เมินเฉยจนกระทั่งเราจะเข้านอนกันแล้ว ไม่ต้องรอดูท่าที รู้เลยคืนนี้เรานอนหันหลังให้กันแน่
   ฝั่งเจ้าจิ้งจอกที่อยากจะเดินหน้าง้อเต็มที่ก็ได้แต่ปิดปากเงียบ เพราะกลัวชาริน ซังจะปฏิเสธกลับมาให้เจ็บใจเล่นซ้ำสอง
   “ชาริน ซังจะนอนแล้วเหรอ” เจ้าจิ้งจอกน้อยถาม อีกฝ่ายจะไม่จูบหน้าผากน้องก่อนนอนจริงเหรอ?
   “อืม”
   “งั้น...ลืมอะไรหรือเปล่า” เจ้าจิ้งจอกถามต่อ เอาน่า....อีกฝ่ายอยากลืมก็ได้ บอกใบ้นิด ๆ ก็คงไม่เป็นอะไร
   “ไม่ลืม”
   “อ๋อ งั้นฝันดีนะ” เจ้าจิ้งจอกน้อยว่า ใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ ชาริน ซังลืมกิจวัตรที่เรามักจะทำกันจริง ๆ ก้อนน้อยใจเริ่มขยายใหญ่กว่าครั้งที่แล้ว คราวนี้มันจุก ๆ ในคอ คุณแม่ลูกสี่ต้องรีบเข้านอนก่อนที่จะได้ร้องไห้ต่อหน้าชาริน ซัง
   เพราะน้องมีชาริน ซังเป็นโลกทั้งใบมาโดยตลอด พอมีสิ่งหนึ่งของโลกภายนอกที่ดูน่าสนใจ ทำให้อดใจไม่ไหวที่จะให้ความสำคัญ แต่ในขณะเดียวกันชาริน ซังก็ยังเป็นโลกทั้งใบของน้องเหมือนเดิม เพียงแค่ว่าโลกทั้งใบของน้องมีบางอย่างเพิ่มเติม นั่นก็คือการ์ตูน
   การไปเที่ยวสวนสนุกครั้งนี้ของเรา เป็นครั้งแรกที่เจ้าจิ้งจอกน้อยได้รู้จักตัวการ์ตูน โลกในจินตนาการของมนุษย์ มันดูน่าสนุก ตัวการ์ตูนแต่ละตัวก็น่ารักน่าชัง ยกเว้นพวกเจ้ามาสคอตของสวนสนุก ทำให้น้องประทับใจอยากรู้จักมากกว่านี้ ชาริน ซังเท่านั้นที่สามารถไขความสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ ของเจ้าตัวการ์ตูนให้น้องได้ น้องถึงเอ่ยปากถามไม่หยุด จนเป็นเหตุให้ชาริน ซังโกรธ กล่าวหาว่าน้องให้ความสนใจกับตัวการ์ตูนมากกว่าเจ้าตัว
   มันไม่ใช่สักหน่อย ชาริน ซังยังเป็นที่หนึ่งในใจน้องอยู่ดี...
   “งั้นน้องปิดไฟเลยนะ” เจ้าจิ้งจอกน้อยว่าต่อ ต้องรีบปิดไฟให้ห้องมันมืดก่อน น้องจะไม่ไหวอยู่แล้ว
   “......” เมื่อเห็นชาริน ซังไม่พูดไม่จา น้องก็ไม่รอช้า รีบชิงปิดไฟ ล้มตัวนอนหันหลังให้ชาริน ซังโดยไม่คิดจะหันไปมองหน้าอีกฝ่ายอีก มือเล็กคว้าผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมถึงหัวไหล่ตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ ร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ ขนตายาวชุ่มไปด้วยน้ำตา ก้อนน้อยใจที่ว่ากำลังแผลงฤทธิ์อย่างช้า ๆ
   เจ็บจัง....
   ไหล่แคบสั่นเทิ้มไปตามแรงร้องไห้ กลีบปากบางเม้มแน่น ต้องการที่จะร้องไห้ให้เบาเสียงที่สุด ไม่อยากให้ชาริน ซังได้รับรู้ว่าก้อนน้อยใจขนาดใหญ่กำลังเล่นงานน้องอย่างช้า ๆ ชาริน ซังเป็นโลกทั้งใบของน้อง หากอีกฝ่ายเมินเฉย พยายามตีตัวออกห่างน้องแบบนี้น้องจะทำยังไง
   “เจ้าจิ้งจอก”
   “....!!” ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ เมื่อชาริน ซังที่คิดว่าคงนอนหันหลังให้เช่นกันก็เรียกขานน้องขึ้นมา จะขานรับในทันทีก็ไม่ได้ อีกฝ่ายฉลาด หากตอบกลับไปในทันทีคงรู้แน่ว่าน้องกำลังร้องไห้อยู่
   “น้อง....” คราวนี้ชาริน ซังไม่พูดเปล่า น้องรับรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังเขยิบเข้ามาใกล้ มือหนาจับเข้าที่ไหล่ของน้อง ส่วนจิ้งจอกเองก็หยุดร้องไห้ชั่วขณะ รีบใช้ผ้าห่มเช็ดน้ำตาตัวเองออกอย่างรวดเร็ว ตั้งใจจะทำลายหลักฐาน อีกอย่างตอนนี้เราอยู่ในความมืด ชาริน ซังคงไม่เห็นหรอกว่าน้องกำลังอยู่ในสภาพไหน
   “ร้องไห้เหรอ?”
   “ป—เปล่า!” เจ้าจิ้งจอกน้อยรีบปฏิเสธ แต่นั่นยิ่งเป็นหลักฐานมัดตัวว่าเจ้าตัวกำลังร้องไห้ เพราะน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ชาริน ซังนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเขยิบเข้ามาใกล้น้องยิ่งกว่าเดิม แล้วตวัดแขนกอดเอวน้องไว้อย่างหลวม ๆ
   “แน่ใจ?” ชริณว่า งับใบหูเจ้าจิ้งจอกขี้แงเบา ๆ
   “ฮือ!น้องไม่อยากคุยด้วยแล้ว” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าจิ้งจอกน้อยก็ว่าหันไปตีไหล่ชาริน ซังทันควัน พร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายอีกต่อไป รู้ทั้งรู้ว่าน้องกำลังร้องไห้ ยังมีหน้ามาถามกันอีก ชาริน ซังใจร้าย! ฝั่งชริณเองก็ถึงกับหัวเราะออกมา ไม่คิดว่าตัวเองจะทำให้เจ้าจิ้งจอกร้องไห้ การลงโทษของเขาได้ผล เขาปล่อยให้อีกคนตีครู่หนึ่งก่อนจะคว้ามือไว้ ไม่ให้ประทุษร้ายตัวเองอีกครั้ง
   “อย่าตีแรง เจ็บ” เขาว่าเพียงสั้น ๆ
   “โอ๋ ๆ ไม่ร้องน้าเจ้าจิ้งจอก” เพราะยังเห็นดวงตาของเจ้าจิ้งจอกยังคงเต็มไปด้วยน้ำตา ชริณจึงลูบหัวปลอบโยนอีกฝ่ายเหมือนเด็ก ๆ
   “ไม่ต้องเลย ชาริน ซังใจร้าย” ตีเสร็จก็นอนซุกอกชาริน ซังกอดเอวไว้อย่างหลวม ๆ พร้อมกับสะอื้นไห้ อยากจะโมโหชาริน ซัง อยากจะหยิกให้เนื้อเขียว แต่ในขณะเดียวกันก็อยากกอดด้วย เมื่อกี้ที่เมินเฉยน้องทุกอย่างเป็นแค่การแสดงงั้นเหรอ
   “เมื่อกี้ ชาริน ซังโกรธน้องเหรอ” เจ้าจิ้งจอกน้อยถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย
   “ไม่ได้โกรธ” ชริณเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง
   “.....”
   “แค่ต่อหน้าอย่ามาให้ความสนใจอะไร นอกจากฉันอีกไม่ชอบ เข้าใจไหม” ชริณว่า เขาไม่ชอบที่ตัวเองถูกลดความสำคัญ ไม่ชอบที่ตัวเองถูกเจ้าจิ้งจอกละเลย
   “อือ...น้องก็ให้ชาริน ซังเป็นที่หนึ่งของน้องอยู่แล้วนี่นา” เจ้าจิ้งจอกน้อยว่าเสียงอ้อมแอ้ม ก้อนน้อยใจเริ่มดีขึ้น เมื่อได้รับคำตอบและฟังเหตุผลของชาริน ซัง
   “....ก็ดี”
   “แต่ว่าพรุ่งนี้เปิดการ์ตูนให้น้องหน่อยได้ไหม”
   “เจ้าจิ้งจอก!”





__________________________
สกรีมแท็ก #น้องจะตอบแทนพี่เอง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด