09
“ไปทำงานดี ๆ น้า ชาริน ซังรีบกลับบ้านด้วย” เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นในช่วงเช้าแห่งการไปทำงาน หลังอาการไข้ทุเลาลงแล้ว เจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวเล็กก็สวมบทเป็นแม่บ้านจำเป็นเหมือนอย่างเคย วันนี้แตกต่างไปจากทุกวัน เพราะน้องมีพัฒนาการเพิ่มมากขึ้นคือผูกเนคไทให้ชาริน ซัง!
หลังจากลองผิดลองถูก ให้ชาริน ซังสอนอยู่ตั้งนานสองนาน ในที่สุดน้องก็ทำสำเร็จจนได้ แม้มันจะบิดเบี้ยวไม่ค่อยสวยก็ตาม แต่ชาริน ซังก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยอมใส่แบบที่น้องผูกให้ไปทำงานอีกต่างหาก
มันเป็นความภาคภูมิใจเล็ก ๆ ของเจ้าจิ้งจอกที่สามารถทำตัวมีประโยชน์ต่อชาริน ซังได้มากกว่าหนึ่ง อย่างน้อยก็มากกว่าการทำงานบ้านหรือเป็นเด็กดี น้องรู้ดีว่าโลกของมนุษย์กำหนดทุกอย่างไว้ด้วยเงินตรา อยากจะทำงานหาเงินเหมือนชาริน ซังเช่นกัน แต่ไม่รู้จะหายังไง สุดท้ายจึงเลือกที่จะทำตัวให้มีประโยชน์ต่อชาริน ซังมากที่สุดแทน
หลังพิษไข้เพราะหนักเรื่องนั้นเกินไปทุเลาลงแล้ว ดวงตากลมโตก็กลับมาใสแป๋วเหมือนเดิม เจ้ามนุษย์จิ้งจอกชอบยามที่ชาริน ซังอยู่ในชุดไปทำงานมาก ๆ มันดูมีเสน่ห์อย่างอธิบายไม่ถูก น้องหลงใหลชุดไปทำงานของชาริน ซังพอ ๆ กับกลิ่นเหงื่อ กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของอีกฝ่าย
ฝั่งชริณเองก่อนออกจากบ้านก็เช็กกระเป๋ากางเกงว่าลืมโทรศัพท์ กระเป๋าตังไว้หรือเปล่า ก่อนจะพยักหน้ารับปากเจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวเล็กแล้วยีหัวอีกฝ่าย พอให้ผมยุ่ง พร้อมกับบอกว่าให้’ดูแลบ้านดี ๆ’อย่างเช่นทุกวัน
ชริณเข้าบริษัทโดยจิตใจที่เบิกบาน อาจเพราะว่าได้ลาเฉพาะกิจเมื่อวานนี้ ทำให้เขาได้พักผ่อนอย่างจริง ๆ จัง ๆ ทำให้เขารู้สึกดีกว่าวันทำงานวันแรกหลังหยุดยาวเสียอีก
โชคดีที่ก่อนลางานเขาไม่ได้มีงานคั่งค้างอะไร พองานใหม่ของเมื่อวานที่ลา ถูกวางไว้บนโต๊ะ ชริณก็รีบจัดการสะสางต่ออย่างไม่รีรอทันที ตั้งใจจะรีบเคลียร์รีบเสร็จ จะได้ไม่ต้องเอาเรื่องงานไปคิดที่บ้าง
“รู้ตัวไหมวันนี้มึงผูกเนคไทเบี้ยวทั้งวันเลย”
“อ๋อ...เห็นตั้งแต่เขาผูกให้แล้ว ช่างมันเถอะ”
ในช่วงพักกลางวันชริณก็ออกมาทานราเม็งกับเมฆเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานแผนกเดียวกันอีกเช่นเคย อีกฝ่ายมิวายทักท้วงเรื่องเนคไทบิด ๆ เบี้ยว ๆ ของเขาที่ถูกเจ้ามนุษย์จิ้งจอกผูกให้ก่อนออกมาทำงาน
“เขา? สรุปคนนั้นที่มึงเคยเล่าให้ฟัง จริงจังใช่ไหมวะ”
“ก็...ระดับหนึ่ง” ชริณตอบอย่างเลี่ยง ๆ พร้อมกับโช้ยเส้นราเม็งเข้าปาก
จะให้พูดกันตามตรงเขาก็ไม่รู้จะเอาไงเหมือนกัน เรื่องนี้จะคิดจะตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ เจ้าจิ้งจอกต้องร่วมตัดสินใจด้วย ชริณไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหากถึงวันนั้น วันที่เจ้ามนุษย์จิ้งจอกได้ท้องสมใจอยาก ตัวเขาเองจะยอมปล่อยไปไหม เพราะเจ้าตัวเล็ก ๆ ในท้องนั่นก็ลูกของเขาเหมือนกัน
“ไว้ใจได้ใช่ไหมมึง” เมฆถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง กลัวเพื่อนจะถูกหลอกเอา ตามประสาคนเป็นห่วงเพื่อน อีกอย่างเขาก็ไม่เคยเจอผู้ชายคนนั้นที่ชริณเล่าให้ฟัง ได้ฟังเรื่องราวจากปากเพื่อนตัวเองแค่ครั้งคราว จึงไม่สามารถประเมินได้ว่าดีไม่ดี
“ไม่ได้ร้ายหรอก ออกจะซื่อบื้อด้วยซ้ำ มึงไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ขอบใจมาก”
“เออ ๆ อย่ารีบร้อนแล้วกัน คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้อยู่ด้วย แล้วอย่าลืมพาเขามาแนะนำให้กูรู้จักด้วยนะ ดู ๆ ช่วยกัน” ในเมื่อชริณยืนยันเช่นนั้น เมฆก็เบาใจลงอีกเปราะหนึ่ง คิดว่าเพื่อนเองก็คงดูคนออกอยู่หรอกว่าคนนั้นเข้าหาด้วยความจริงจัง คนไหนเข้าหาด้วยผลประโยชน์
“ไอ้เมฆ....”
“หืม?”
“กูเริ่มอึดอัดกับซากุระว่ะ” หลังลังเลอยู่ตั้งนานสองนานว่าควรเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟังดีไหม สุดท้ายชริณก็ตัดสินใจเล่าออกมา หลังไม่รู้จะปรึกษาใครดีและเขาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังอึดอัดมาก ๆ ความอัดอัดนี้ ชริณก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันก่อตัวขึ้นตอนไหน แต่เขาแน่ใจว่ามันชัดเจน
“ไหงเป็นงั้นล่ะ ไหนว่าชอบเขา” เมฆเลิกคิ้วสูง
“ก็ใช่...แต่กูคิดว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเลิกชอบเขาแล้วว่ะ” ชริณว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“.....”
“กูยังดีใจนะที่เดินผ่านกันเขาก็ทักทายตลอด แต่กูไม่ได้ใจเต้นแรงกับซากุระแล้ว....”
“.....”
“อีกอย่างพักหลังมานี้ เขาชอบทักมาหากูหลังเลิกงานด้วย ถามเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับงานอะและซากุระเองก็มีแฟนอยู่แล้วด้วย กูเลยรู้สึกอึดอัด”
มันไม่ใช่แค่หนนั้นหนเดียวที่เธอโทรมาปรึกษาเรื่องแฟน แต่ยังมีการส่งข้อความมาหายามดึก ชวนคุยเรื่องส่วนตัวอีกด้วย ชริณเองก็ตอบตามมารยาท นาน ๆ ทีตอบหนหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสร้างความอึดอัดให้เขาอยู่ดี
“กูไม่รู้กูเล่าเรื่องนี้ให้มึงฟังยัง วันก่อนซากุระชวนกูไปคาเฟ่ด้วย” ชริณพูดต่อ
“ยัง เรื่องนี้มึงยังไม่เล่าให้กูฟัง”
“เออ นั่นแหละ เขาชวนกูไป ตอนแรกกูตั้งใจจะปฏิเสธ แต่เขาก็บอกว่าชวนมึงไปก็ได้ ถ้ารังเกียจเขา กูเลยต้องไป...”
“เรื่องอะไรวะเนี่ย...เขาก็ดูสวย ๆ เชิด ๆ เหมือนจะรู้ว่ามึงมีใจให้ตั้งนานแล้วนะมึง แล้วทำไมถึงเพิ่งจะมาเล่นด้วยเอาปานนี้ อีกอย่างเขาก็มีแฟนอีก”
“ใช่ เขามีแฟนแล้ว”
“อันตรายว่ะชริณ เหมือนซากุระจะเอามึงเป็นกิ๊กปะ เจตนาคลุมเครือแบบนี้ ไม่ต่างจากการเริ่มนอกใจแฟนเลยนะเว้ย” เมฆว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“กูควรทำไงดีว่ะ”
“ไหน ๆ ก็ทำคนละแผนกกันอยู่แล้ว มึงก็บล็อกเขาเลยดิ ยังไงก็ไม่ได้ทำงานร่วมกันอยู่แล้ว อีกอย่างไลน์บริษัทก็มี ถ้ามีเรื่องสำคัญ เกี่ยวกับงานก็คุยกันในนั้นเอา ถ้าเขาเห็นว่ามันไม่เล่นด้วย ก็คงยอมถอยละมั้ง....”
“.....”
“แต่กูอึ้งจริง ๆ นะ ถ้าเขาทำแบบนั้นอะ ก็ใช่ย่อยนะเนี่ย”
“เฮ้อ...กูก็คิดแบบมึงนั่นแหละ ถึงกูจะชอบเขา เคยบอกว่าจะแย่งแต่ก็ไม่เคยคิดจะทำนะมึง เจอแฟนนอกใจไม่ใช่เรื่องตลก” ชริณว่า
เขาเองก็เคยมีความรักแบบเด็ก ๆ ตอนช่วงมัธยมปลาย แต่ตอนนั้นสถานะก็แค่คนคุยกันกับผู้หญิงคนหนึ่ง ทุกอย่างเข้ากันได้ดี เราคุยกันรู้เรื่อง จนชริณคิดว่าเราอาจพัฒนาไปได้ไกลว่าคนคุย ๆ กัน แต่เขาก็ต้องมาพบว่าเธอคนนั้นคุยซ้อน ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟน แต่เขายังรู้สึกว่าถูกหักหลัง ยังเจ็บ แล้วถ้าแฟนนอกใจจะเจ็บขนาดไหน
ถ้าเมื่อก่อนตอนที่ชริณได้พบซากุระครั้งแรก แล้วเธอตอนนั้นยังไม่มีแฟน เขาคงจะลองเสี่ยงดูสักตั้ง….
แต่นั้นก็เป็นแค่ความคิด เพราะตอนนี้เธอเองก็ยังคบกับแฟนคนนั้น และตัวเขาเองก็เริ่มไม่มั่นใจว่าถ้าหากเธอเลิกกับผู้ชายคนนั้น จะลองเสี่ยงอย่างที่อยากอยู่ไหม....
หลังกลับเข้ามาในบริษัท ชริณเลือกที่จะทำตามคำแนะนำของเพื่อน นั่นก็คือการบล็อกไลน์ซากุระ เขาไม่สบายใจจริง ๆ ที่เธอชอบทักมาหายามดึก แม้จะไม่ได้มีการพูดคุยที่ทำให้ชวนฝัน แต่ศีลธรรมของคนไทยที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ก็อยู่ปลุกขึ้นมาอยู่ดี จนชริณรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำบาป ทั้ง ๆ ที่เขานอนอยู่บ้านเฉย ๆ
ชริณคิดว่านี่แหละคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้ว....
เพราะวันนี้ชริณขี้เกียจทำอาหาร จึงเลือกที่จะแวะย่านโตเกียว ราเม็ง สตรีท เพื่อที่จะได้ซื้อราเม็งที่ร้านโรคุรินฉะ ร้านราเม็งเจ้าดัง เจ้าอร่อยในโตเกียว ไปฝากเจ้ามนุษย์จิ้งจอกด้วย
“ถ้าอร่อยขนาดนั้น เลียถ้วยเลยไหมล่ะ”
“น้องทำได้เหรอ”
“ประชด!” ชริณได้แต่ส่ายหัวอย่างระอา หลังเจอเจ้ามนุษย์จิ้งจอกถามกลับตาแป๋ว เขามองเจ้ามนุษย์จิ้งจอกอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะเสียสละราเม็งเกือบครึ่งถ้วยให้เจ้าจิ้งจอกจัดการต่อ หลังเห็นอีกฝ่ายเอร็ดอร่อยกับอาหารมื้อนี้จนแทบจะเลียถ้วยอยู่แล้ว
“กินเสร็จแล้วจะตัดเล็บให้นะ” ชริณว่าต่อหลังเขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าเล็บเจ้าจิ้งจอกยาว หากเราทำภารกิจกันมากกว่าหนึ่งครั้ง เห็นทีคงต้องรีบจัดการเรื่องเล็บให้ เพราะมีความเสี่ยงว่าสร้างบาดแผลให้กับแผ่นหลังของเขา เพราะเพียงแค่มองชริณก็รู้สึกแสบ ๆ แล้ว
“ตัดเล็บ? อันนี้เหรอ” เจ้าจิ้งจอกเอียงคอมอง พร้อมกับชี้เล็บของตนเอง ซึ่งชริณที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็พยักหน้ารับ
“ตัดทำไมอะ ไม่ตัดไม่ได้เหรอ เล็บน้องก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนะ”
“ไม่ตัดไม่ได้ หากไม่ตัดก็ไม่ต้องทำแล้วลูก”
“ชาริน ซังใจร้าย”
กลายเป็นว่าตอนนี้ชริณได้ยกหน้าที่หลักของเจ้าจิ้งจอกแล้ว นั่นก็คือการล้างถ้วยจานตอนเย็น มันงานชิ้นเดียวที่เขามอบหมายให้อีกฝ่ายเป็นชิ้นเป็นอัร ซึ่งมันก็ไม่ได้มากมายอะไร อย่างมากใช้กันก็แค่หกเจ็ดชิ้น เพราะอยู่ในเพียงแค่สองคน
ระหว่างที่เจ้ามนุษย์จิ้งจอกกำลังล้างจานอยู่ ชริณก็เดินไปหามีดตัดเล็บมารออีกคนแล้ว เขานั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อย พอได้ย้ายมาทำงานที่ญี่ปุ่น เขาก็เล่นสื่อโซเชียลน้อยลง เพราะทำงานแต่ละวันก็เหนื่อยมากพอแล้ว นาน ๆ ทีถึงได้อัปรูปลง พอให้กลุ่มเพื่อในไทยเลิกถามหา
ชายหนุ่มถึงกับหลุดหัวเราะออกมา ทันทีที่อัปรูปแผ่นหลังของเจ้าจิ้งจอกลง เพื่อนก็แทบเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันทันที ส่วนใหญ่แต่มีคนแซวทั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้มีอะไร เขาก็แค่ช่วยเจ้าจิ้งจอกสานต่อภารกิจเท่านั้นเอง
ไม่รู้ว่าวันนี้อีกฝ่ายจะทำอีกไหม แต่ชริณอยากให้เจ้าจิ้งจอกได้พัก เพราะเมื่อวานเขาก็รังแกจนแทบไม่ได้นอน หลังจากเห็นว่าเจ้ามนุษย์จิ้งจอกล้างจานเสร็จแล้ว ชริณก็เรียกให้มาใกล้ ๆ
“นั่งดี ๆ เดี๋ยวตัดเล็บให้” ว่าจบก็ตบที่วางตรงหว่างขาตัวเอง เรียกให้เจ้าจิ้งจอกมานั่งดี ๆ จะได้จัดการเรื่องเล็บยาว ๆ ของเจ้าตัวเสียที ถ้าได้ข่วนที คงได้แผลยาว เมื่อเห็นว่าจะถูกเรียกไปทำอะไร เจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็มีท่าทีอิดออดอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมไปนั่งที่ ๆ ที่ชริณเตรียมไว้ให้อยู่ดี
ฟอด~
“อือ...แก้มน้อง” เสียงเจ้าจิ้งจอกร้องประท้วง หลังทันทีที่ทิ้งน้ำหนักลงชาริน ซังก็หอมแก้มฟอดใหญ่จนเกิดเสียง
“หมั่นไส้ อีแค่ตัดเล็บ ลีลาจังนะ”
“ก็มันกลัวนี่ จะเจ็บไหม”
“ไม่เจ็บหรอก เอาล่ะยื่นมือ”
“ไม่เจ็บแน่นะ”
“ฉันไม่โกหก” ชริณว่าก่อนจะถือวิสาสะจับมือเล็กออกมาเอง หลังเจ้าจิ้งจอกยังคงลีลา ไม่ยอมยื่นมือให้เขาดี ๆ ชริณเอาคางเกยไหล่แคบของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกเอาไว้ ขณะที่เขาค่อย ๆ ตัดเล็บที่ละนิ้วไปด้วย เพื่อที่จะให้เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเลือกขยุกขยิกเสียที ซึ่งมันก็ได้ผล อีกฝ่ายนั่งนิ่งยอมให้เขาตัดเล็บให้แต่โดยดี
“ไม่เจ็บจริงด้วย”
“บอกแล้วว่าไม่โกหก” ชริณว่าพร้อมกับตัดเล็บนิ้วสุดท้ายให้ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เจ้าจิ้งจอกน้อยถึงกับเผยรอยยิ้มร่า หลังความน่ากลัวก็ผ่านพ้นไปเสียที
ดวงตากลมโตสบตาชาริน ซังในระยะกระชั้นชิด น้องบอกแล้วว่าชอบชาริน ซังในชุดทำงานมาก ๆ พอ ๆ กับกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ อีกฝ่าย ซึ่งบ่งบอกตัวตนของชาริน ซังได้เป็นอย่างดี พอมันมารวมกันแล้ว น้องก็...
“อ้าว ๆ”
“กอดน้องหน่อย”
“ไปโดนตัวไหนมาอีกล่ะเนี่ย”
“กอดน้องหน่อย นะๆ” ชริณถึงกับหลุดหัวเราะออกมาให้กับท่าทีตลก ๆ ของเจ้ามนุษย์จิ้งจอก หลังจู่ ๆ อีกฝ่ายก็เกิดอาการตัวอ่อนกะทันหัน จากนั่งให้ตัดเล็บดี ๆ ก็เอนตัวมาซบอกเขาแทน จริตจะก้านมารยาไม่มีใครเกิน ฝ่ามือตวัดโอบเอวอีกคนตามคำสั่ง ซึ่งเจ้ามนุษย์จิ้งจอกก็แสดงท่าทีพอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ชอบแบบนี้จัง”
“.....”
“ชอบชุดทำงานของชาริน ซัง”
“.....”
“ชอบกลิ่นน้ำหอมด้วย”
“.....”
“แล้วก็อะไรอีกนะ...อืม ชอบหน้าหล่อ ๆ ของชาริน ซัง”
“......”
“ชาริน ซังทำลูกกันเถอะ!”
“เฮ้ย! เดี๋ยว ๆ!” ทันทีที่เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดจบ ก็พลิกตัวทำท่าจะโน้มตัวมาจูบเขา แต่ชริณเอามือขึ้นมากั้นไว้ก่อนทำให้เจ้าจิ้งจอกได้จูบหลังมือเขาแทน
“ทำไมล่ะ”
“เมื่อวานก็เพิ่งทำไปเอง ร่างกายไหวไหมเนี่ย”
“ไหวววววว น้องแข็งแรง”
“เมื่อวานเป็นไข้นะ เจ้าจิ้งจอก”
“แต่วันนี้น้องหายแล้วไง” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกว่าอย่างดื้อรั้น พยายามปล้ำจูบชาริน ซังอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ให้ความร่วมมืออยู่ดี ทำเอาเจ้าจิ้งจอกตัวเล็กถึงกับหน้ามุ้ย เพราะถูกขัดใจ
“ไม่เชื่อน้องเหรอ น้องแข็งแรงแล้วจริง ๆ”
“จะเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ไหมวะเนี่ย” ชริณว่า
“ไหวก็คือไหว เชื่อใจน้องซี่! น้องรู้ว่าร่างกายตัวเองรับได้แค่ไหน ทำกับน้องเถอะนะ ๆ จะได้มีลูกกัน” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอน พยายามชักชวนชาริน ซังอย่างเต็มที่
น้องมั่นใจว่าครั้งนี้ก็รับไหวแน่ หนที่แล้วมันก็แค่ตั้งรับไม่ทัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ แต่ครั้งนี้คนนอนซมต้องไม่ใช่น้อง! เจ้าจิ้งจอกรับรู้ได้เลยว่าตอนนี้ร่างกายกำลังแข็งแรงเอามาก ๆ คงเพราะได้รับพลังเอาใจใส่จากชาริน ซังแน่ ๆ ถึงได้แข็งแรงขนาดนี้
“ไม่อยากคุยด้วยแล้ว จะไปอาบน้ำ” ชริณบอกปัด ตบสะโพกอิ่มเบา ๆ ให้อีกคนลุกขึ้น ทว่าเจ้ามนุษย์จิ้งจอกกลับมีท่าทีอิดออดอย่างเห็นได้ชัด คราวนี้ยิ่งกว่าตอนเรียกให้มาตัดเล็บเสียอีก
“ลุก” เขาว่าสั้น ๆ
“ทำลูกกับน้องก่อนค่อยไปอาบน้ำไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้”
“งั้นน้องอาบด้วย!” เมื่อเห็นชาริน ซังไม่มีท่าทีใจอ่อน เจ้าจิ้งจอกตัวเล็กก็เลือกที่จะตามเข้าห้องน้ำไปเสียดีกว่า หลังเห็นว่าชาริน ซังก็ไม่ได้เอ่ยปฏิเสธอะไร เจ้าจิ้งจอกก็ไม่รอช้า รีบวิ่งไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปรอที่ห้องน้ำทันที
“จริง ๆ เลย” ชริณพูดเบา ๆ พร้อมกับส่ายหน้าให้เจ้าจิ้งจอกอย่างระอา ดื้อกว่านี้ไม่มีใครแล้ว
“แน่ะ ๆ เดี๋ยวโดน”
“แหะ ๆ” เสียงหัวเราะแห้ง ๆ ดังขึ้นเบา ๆ เมื่อถูกชาริน ซังจับได้เข้าให้ หลังพยายามยั่วยวนชาริน ซังระหว่างการสระผมให้ทำลูกอย่างแนบเนียน โดยการบดเบียดสะโพกมาทางด้านหลัง จนกลายเป็นว่าบั้นท้ายแน่นกำลังถูไถไปกับส่วนนั้นของชริณ
“ไม่เจ็บหรือไง ทำไมลามกอย่างนี้” ชริณว่า เมื่อวานเขาก็ว่าตัวเองก็ทำหน้าที่ไม่ขาดบกพร่องแล้วนะ หนหนึ่งก็ทำมากกว่าสองครั้งด้วย แต่ทำไมเจ้าจิ้งจอกยังรู้สึกไม่พอใจอีก
หรือชริณฝีมือตก?
“น้องไม่ได้ลามกนะ น้องแค่ทำภารกิจ”
“อ๋อเหรออออ” ชริณลากเสียงยาว ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา
“จริง ๆนะชาริน ซัง เมื่อวานน้องแค่ตั้งหลักไม่ทันอะ แต่วันนี้พร้อมแล้ว” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกหันไปพูดกับชาริน ซังด้วยท่าทีจริงจัง แต่ทำไมชาริน ซังไม่ยอมเชื่อเสียที น้องบอกว่าไหวก็คือไหวไง!
“หึ.....”
“จูบน้องหน่อย” เสียงเล็ก ๆ เอ่ยร้องขอสิ่งที่ตัวเองต้องการ ขณะเดียวกันก็ตวัดท่อนแขนโอบกอดคอหนาเอาไว้ ดวงตากลมโตปิดสนิทลง ปล่อยให้ชาริน ซังบดจูบริมฝีปากตัวเองซ้ำ ๆ ขณะที่เรากำลังเดินตรงไปที่เตียง
ในที่สุดคำร้องขอของเจ้าจิ้งจอกก็สำเร็จเสียที ชาริน ซังยอมใจอ่อนยอมทำภารกิจร่วมกันอีกจนได้ ทั้งคู่ที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า หลังออกมาจากห้องน้ำก็เดินตรงดิ่งไปที่เตียงทันทีโดยมีชริณเป็นฝ่ายอุ้มเจ้าจิ้งจอกออกมาจากห้องน้ำ
จมูกโด่งสูดดมกลิ่มสบู่อ่อน ๆ ในแบบที่เขาชอบจากตัวของอีกคน ก่อนจะวางร่างเจ้ามนุษย์จิ้งจอกลงอย่างแผ่วเบา กลีบปากของทั้งคู่แทบไม่ผละออกจากกัน ต่างตักตวงและหิวกระหาย...
“อือ....” เสียงครางแผ่วเบาของเจ้าจิ้งจอกดังขึ้น เมื่อถูกชาริน ซังดูดดุนจนแถวซอกคอ ซึ่งน้องก็เงยหน้าขึ้น หลับตาพริ้มยอมให้ชาริน ซังทำสัญลักษณ์ แสดงความเจ้าข้าวเจ้าของไว้อย่างเต็มใจ
ดูเหมือนนอกจากกลิ่นน้ำหอม ชุดทำงาน การถูกชริณโอบกอดไว้ ก็จะเป็นอีกหนึ่งรายการที่น้องโปรดปรานเสียแล้ว น้องชอบหิมะ... น้องชอบอากาศหนาว... แต่น้องก็ชอบร่างกายอุ่น ๆ ของชาริน ซังเช่นกัน ชอบที่ตัวเองกำลังถูกโอบกอด ทุกครั้งที่ถูกกอด เจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวน้อยก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกปกป้องจากผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
มันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก...เจ้ามนุษย์จิ้งจอกเองก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองโหยหาความรักมาโดยตลอด จนกระทั่งได้พบชาริน ซัง
ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปตามสัดส่วนต่าง ๆ ของเจ้าจิ้งจอก ขณะเดียวกันนั้นชริณก็ทำสัญลักษณ์ความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของอีกคนไว้ทุกแห่งหนที่ริมฝีปากของตนลากไปถึง
ร่างเล็กบิดเร้าเมื่อชาริน ซังผละจูบแล้วเคลื่อนหน้าต่ำลงไปอีก จูบสะเปะสะปะตามซอกคอ ก่อนที่มาหยุดที่ยอดอกสีอ่อนที่กำลังชูชันอยู่แล้วใช้เรียวลิ้นแตะผะแผ่ว
“ดีจัง....” เจ้าจิ้งจอกเล็กพูด ขณะที่หลุบตามองการกระทำทุกอย่างของชริณ ยิ่งจังหวะที่ชาริน ซังเองเงยหน้าขึ้นมามอง หน้าน้องก็ยิ่งเห่อร้อน ก่อนที่ชาริน ซังจะผละออกไป ให้น้องมองตามอย่างนึกสงสัย
“อยากรู้ใช่ไหมว่ามันคืออะไร” ชริณถามเจ้ามนุษย์จิ้งจอก หลังผละลงจากเตียง ไปหยิบสิ่งนั้นออกมาจากกล่อง ดวงตากลมโตจ้องมองของในมือชาริน ซัง เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่
“แล้วมันคืออะไร” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกถามต่อ นับตั้งแต่วันนั้นวันที่น้องถาม ชาริณ ซังก็ไม่อธิบายให้น้องฟังเลย ปล่อยไว้นานจนลืมสิ่งที่ตัวเองสงสัยด้วยซ้ำ
“จะพาใช้งานตอนนี้แหละ” ชริณกว่าพร้อมกับกลับขึ้นมานั่งบนเตียงอีกครั้ง ดวงตาคมจ้องมองเจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวแสบอยู่ครู่หนึ่ง เห็นว่าสงสัยมากนัก เขาจะอธิบายแบบภาคปฏิบัติให้แล้วกัน
หัวใจดวงเล็กถึงกับกระตุกวูบ เมื่อจู่ ๆ ชาริน ซังก็จับขาน้องอ้าออกกว้าง ดวงตากลมโตแสดงท่าทีหวาดหวั่นออกมา แต่ในขณะเดียวกันก็เชื่อในตัวชาริน ซัง
“พร้อมไหม...” ชริณถาม
“พร้อม” เจ้าจิ้งจอกเองก็ตอบอย่างไม่ลังเล
ชายหนุ่มเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็เริ่มทำต่ออย่างไม่ลังเล หยิบเอาเจ้าอุปกรณ์ที่อีกฝ่ายสงสัยและเป็นของขวัญวันเกิดจากเพื่อนสนิทมาตรวจตราดูความปลอดภัยอยู่ครู่นึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ จับหัวมันสอดเข้าไปในร่างของเจ้าจิ้งจอก ส่วนมือเขาเองก็รูดรั้งส่วนหน้าของเจ้าจิ้งจอกไปด้วย
ร่างกายของเจ้ามนุษย์จิ้งจอกช่างแปลกประหลาด แต่ดูโดยรวมแล้วกลับได้เปรียบกว่ามนุษย์ธรรมดา เพราะสามารถคลอดได้ ทั้ง ๆ ที่ยังมีอวัยวะเพศชาย
ส่วนหน้าของเจ้าจิ้งจอกเป็นเพศชาย ถัดจากถุงอัณฑะถึงจะเป็นช่องคลอดและตามด้วยช่องทวารหนัก ชริณมองท่าทีเจ้าจิ้งจอกเป็นระยะ ซิลิโคนที่เมฆซื้อให้เป็นแบบอ่อนนุ่มพิเศษ ไม่ให้สัมผัสของมันไม่เหมือนอุปกรณ์ทำรักทั่วไปที่วางขายอยู่ท้องตลอด
“อ—อ๊ะ อือ มันใช้แบบนี้นี่เอง” เจ้าจิ้งจอกว่า รู้ซึ้งถึงประโยชน์ของมันก็คราวนี้
“ชอบไหม”
“ชอบ...” เจ้าจิ้งจอกตอบโดยไม่มีความลังเล “น้องชอบมากเลย” ร่างเล็กพูดขณะที่บิดเร้าร่างกายไปด้วย
“เป็นเด็กเป็นเล็ก ใครหัดให้พูดแบบนี้”
“ก็ชารินถามนี่นาแล้วน—น้องก็คิดว่า อ๊ะ...อ๊า! น้องไม่เด็กแล้วอะ....ชาริน ซัง เข้ามาเลย น้องพร้อมแล้ว!” เจ้าตัวเล็กหลับตาปี๋รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะใกล้ฝั่งฝันอยู่ร่อมร่อ
ฝั่งชริณเองเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็ถอดของเล่นออกจากร่างเล็ก ชายหนุ่มโน้มหน้าไปจูบปากเจ้าจิ้งจอกพอเป็นพิธี พร้อมกับรูดรั้งส่วนนั้นของตัวเองเพื่อตั้งหลัก ก่อนจะค่อย ๆ เข้าไปในร่างเจ้าจิ้งจอกตามคำสั่งของเขา
“อือ....ชอบ”
“ดูเข้าคำพูดคำจา”
“ก็น้องชอบนี่ ชาริณ ซัง อ๊ะ! เข้ามาลึก ๆ หน่อย” เจ้าจิ้งจอกตัวเล็กสั่งการสามี ท่อนแขนเล็กตวัดโอบคอหนาไว้ดังเดิม ส่วนล่างถูกกระทำซ้ำ ๆ เป็นจังหวะ เหงื่อกาฬผุดขึ้นรอบกรอบหน้า เหมือนจะขาดใจ แต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ยิ่งเห็นสีหน้าชาริน ซังในตอนนี้ เจ้าจิ้งจอกตัวเล็กก็ยิ่งเขินจนอธิบายไม่ถูก ชอบที่ตัวเองได้มองเห็นชาริน ซังจากใต้ร่าง พอสิ้นคราบพนักงานบริษัทและมาอยู่บนเตียงสองต่อสองกับน้อง เจ้ามนุษย์จิ้งจอกตัวเล็กรู้สึกได้เลยว่าชาริน ซังดูร้อนแรงเอามาก ๆ
“หอมแก้มน้องหน่อย ๆ” เจ้ามนุษย์จิ้งจอกสุดอ้อนเอ่ยขอ ขณะที่ชาริน ซังเองก็กำลังขยับเข้าออกในร่างบาง เพื่อทำภารกิจการมีเจ้าตัวเล็ก ๆ ด้วยกัน
หลังได้ยินคำเอ่ยขอเขาก็หอมแก้ม สูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเจ้าจิ้งจอกอย่างไม่มีเกี่ยงงอน กลีบปากหนาจูบพรมตามลาดไหล่เล็กตระครองกอดร่างเจ้าจิ้งจอกเอาไว้ จนในที่สุดภารกิจทำลูกครั้งที่สามของเรา ก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
สกรีมแท็ก #น้องจะตอบแทนพี่เอง