-----Twenty four hours : ส่งรักนี้ 24 ชั่วโมง----- ตอนพิเศษ วาเลยไทน์ 2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -----Twenty four hours : ส่งรักนี้ 24 ชั่วโมง----- ตอนพิเศษ วาเลยไทน์ 2  (อ่าน 60757 ครั้ง)

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ 

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.เรื่องสั้นให้จั่วคนว่าเรื่องสั้นด้วยนะครับ และนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



*************************************************







สารบัญ








Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2019 10:22:52 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2








บทนำ









ตั้งแต่เริ่มเปิดกิจการมา นี่เป็นครั้งแรกที่ร้าน ‘พี่รถกับข้าว’ ของวายุเกิดปัญหาวุ่นวายจนตารางเวลาในการส่งของให้ลูกค้าปั่นป่วนไปหมด และนั่นก็ทำให้เขาผันตัวเองจากหุ้นส่วนร้านมาควบหน้าที่พนักงานส่งเดลิเวอรี่จำเป็นอีกหนึ่งตำแหน่ง



“ไปถูกแน่นะพี่ลม”


“รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอยู่กับใคร ทางแค่นี้พี่ไม่หลงหรอกน่า อีกอย่างจีพีเอสก็มี เบอร์ลูกค้าก็มี นายนั่นแหละ อยู่เฝ้าร้านดีๆ นะแซม เดี๋ยวส่งของเสร็จจะพาคนมาช่วย”


“จริงสิเนอะ ผมลืมไปได้ไงว่าคุยอยู่กับคุณวายุ ผู้ที่หลงอยู่ในป่าแอมะซอนก็รอดออกมาได้”


“ไอ้เว่อ เลิกโม้แล้วไปเฝ้าหน้าร้านได้แล้ว ลูกค้ามาโน่นละเห็นไหม”



แซมมองตามนิ้วของเจ้านายไป พอเห็นว่ามีลูกค้าเข้ามาจริงๆ เขาก็รีบออกไปต้อนรับทันที “ครับๆ”



วายุเลิกยุ่งกับเด็กในร้าน แล้วหันมาตรวจเช็คของในตะกร้ากับลิสต์ที่ลูกค้าสั่งมาทางออนไลน์ เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่ขาดอะไร เขาจึงลำเลียงตะกร้าทั้งหมดไปที่รถ



โชคดีที่ออเดอร์ในวันนี้เหลือตกค้างไม่มาก ซ้ำทุกเจ้ายังอยู่ในละแวกเดียวกัน ทำให้เขาไม่ต้องเสียเวลา ซ้ำยังไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพอาหารสด



เมื่อจัดของเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกเดินทางเสียที







++++++






วายุตระเวนส่งของให้ลูกค้าจนเกือบครบทุกเจ้า พร้อมทั้งมอบบัตรส่วนลดในการใช้จ่ายครั้งต่อไปให้แทนคำขอโทษส่งของให้ล่าช้า ลูกค้าที่ถูกปล่อยให้รอจึงค่อนข้างพอใจและไม่คอมเพลนเรื่องการบริการมากนัก



กระทั่งถึงที่สุดท้าย เป็นลูกค้าที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขา แต่ก่อนออกมา แซมบอกว่าได้ติดต่อไว้แล้ว และลูกค้าก็แจ้งว่าอยู่บ้าน พร้อมให้ส่งสินค้าได้ตลอดทั้งวัน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจมาตามรายละเอียดที่ให้ไว้



เขาจอดรถหน้าคอนโดหรูกลางกรุง แล้วลงจากรถพร้อมตะกร้าเครื่องปรุงรสและผักสดในมือ เขาไปติดต่อที่หน้าเคาน์เตอร์ตามรายละเอียดที่ลูกค้าแจ้งมา รอจนพนักงานรักษาความปลอดภัยตรวจสอบเรียบร้อย เขาจึงถูกปล่อยให้ขึ้นไปยังชั้นบนได้



ชั้น 17 ห้อง 1707



เลขสวยแฮะ…ชายหนุ่มคิดในใจขณะที่ลิฟต์เคลื่อนไปด้วยความเร็ว เผลอแวบเดียวก็มาถึงชั้นที่ 17 แล้ว เขาเดินออกจากลิฟต์ ตรงไปตามทางเดินที่เปิดไฟสีนวลตา ก่อนหยุดหน้าห้องซึ่งเป็นที่หมาย



วายุเช็คเลขที่ห้องให้แน่ใจอีกครั้ง แล้วจึงกดกริ่งเรียก



ตื๊อ ตือ ตื๊อ ตื่อ~ ตื่อ ตือ ตื๊อ ตื่อ~



เสียงกริ่งที่เหมือนกับเสียงนาฬิกาบอกเวลาพักเที่ยงในโรงเรียนทำเอาวายุหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย ขณะที่รอยยิ้มยังไม่ลดเลือนไป อยู่ๆ ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงดังตึงคล้ายกับของอะไรสักอย่างตกอยู่หลังประตู



จังหวะที่เขาขมวดคิ้วนิดๆ ด้วยความสงสัย ประตูห้องก็เปิดผลัวะ แล้วใบหน้าของชายหนุ่มคนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากหลังบานประตู พร้อมกับรอยยิ้มและเสียงสดใส



“มาแล้ว!~”



ชายหนุ่มคนนั้นถลาออกมาจากห้องในชุดเสื้อย้วยๆ กางเกงขาสั้นยืดๆ บนหัวติดกิ๊บรูปสับปะรดสองข้าง ดูแล้วไม่ใช่เพื่อเสริมความน่ารัก แต่เพื่อกันไม่ให้ผมยุ่งๆ นั่นปรกลงมาจนปิดแว่นตาทรงกลมมากกว่า



“ขอโทษที่ทำให้รอครับ พอดีเกิดเหตุขัดข้องกับพนักงานของเรานิดหน่อย ทางเรามี…” ยังไม่ทันได้พูดจบ ลูกค้าของวายุก็แทรกขึ้นมาทันที


“คิดอยู่แล้วเชียวว่าต้องมีเรื่องอะไรสักอย่าง ไม่เป็นไรๆ ผมไม่ถือ อย่างน้อยพี่รถกับข้าวก็เอากับข้าวมาส่งผมล่ะนะ ถ้าไม่มา ผมต้องกินข้าวคลุกน้ำปลาแน่ๆ”



ไม่ว่าเปล่า หนุ่มคนนั้นยังเข้ามาคว้ามือที่ถือตะกร้าขึ้นมาจับ วายุคิดว่าอีกฝ่ายคงตั้งใจจะเอาตะกร้ากับข้าวของตัวเองไปนั่นแหละ แค่ดันรวบมือของวายุไปด้วย
   


“เป็นหน้าที่ที่เราต้องส่งอยู่แล้วครับ ทางเรามีบัตรส่วนลด 25% แนบไปพร้อมกับใบเสร็จในตะกร้า ให้คุณลูกค้าใช้เป็นส่วนลดซื้อของในครั้งถัดไป แทนคำขอโทษน่ะครับ”
   

“โอ๊ะ! จริงหรือครับ” ลูกค้าของวายุตาเป็นประกาย แล้วดึงตะกร้ามาตรวจดู มือของพวกเขาจึงเลื่อนหลุดออกจากกัน “มีจริงด้วย! ขอบคุณนะครับ ไว้ผมจะใช้สั่งครั้งต่อไป--”
   

จ๊อก~~
   


ระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังพูดไม่หยุด เสียงปริศนาที่น่าจะมาจากท้องของคุณลูกค้าก็ดังขึ้น แก้มย้วยๆ ที่ขยับไปขยับมาตอนพูดขึ้นสีแดงแปร๊ด ก่อนเจ้าตัวจะขยับแว่นพลางยิ้มแหยๆ แล้วเอ่ยเสียงเบา
   

“อีกสามวันเจอกันนะครับ”
   


ว่าแล้วคุณลูกค้าก็ค่อยๆ กระดึ๊บถอยหลังเข้าไปในอาณาเขตของตัวเอง ก่อนปิดประตู ทิ้งให้วายุยืนงงอยู่ตรงนั้นไปหลายวินาที


เป็นลูกค้าที่แปลกชะมัด…วายุคิด ขณะกลับลงมาจากคอนโด
   


“อีกสามวันเจอกันนะครับ”
   


เสียงของลูกค้าคนนั้นดังขึ้นในหัว



วายุไม่รู้อีกสามวันข้างหน้า พนักงานส่งที่ป่วยกะทันหันจะออกจากโรงพยาบาลหรือยัง แน่นอนว่าเขาอยากให้งานกลับมาเป็นระบบเหมือนเดิม



แต่สมมติ…แค่สมมติเท่านั้น



ว่าหากพนักงานยังไม่หาย และเขาหาใครมาทำงานแทนไม่ได้ สามวันข้างหน้าก็จะได้เจอกับคุณลูกค้าที่ติดกิ๊บสับปะรดอีกสินะ



อีกสามวันงั้นหรือ…






+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++





วันนี้ได้ฤกษ์ดีมาลงนิยายเรื่องใหม่แล้ว
เรื่องนี้เป็นแนวใสๆ แทบจะไร้ดรามา
อ่านได้สบายๆ คลายเครียดค่ะ
พักจากที่ก่อนหน้านี้เป็นเรื่องหนักๆ หน่อย
ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ


ละอองฝน.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-06-2018 19:47:43 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
 :mc4:  ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
พี่รถกับข้าว  ชื่อร้านน่ารัก

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ติดตามนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ติดตามนะคะ เริ่มเรื่องได้น่ารักจังโดยเฉพาะคุณลูกค้า 55 กำลังหานิยายสบายๆอ่านเลยค่ะ
หลงไปอ่านนิยายปวดตับมานอยไปหลายวัน ต้องหาเรื่องสดใสชิวๆมาล้างความจำหน่อย  :mew1:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ กด +1 ให้นะครับ :pig4:

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2



บทที่ 1




   [03:49]


   รุ่งสางกำลังมาเยือนในอีกไม่ถึงสองชั่วโมง ทว่าภายในห้องพักบนคอนโดหรูของนักเขียนนิยายชื่อดังกลับยังมีเสียงพรมนิ้วบนคีย์บอร์ดรัวเร็วแข่งกับเสียงเข็มวินาทีไม่หยุดยั้ง ราวกับกลัวว่าหากหยุดพักสายตาแค่เดี๋ยวเดียว เขาจะไล่ตามเข็มวินาทีไม่ทัน


   กวี นั่งเอนหลังกับเบาะนุ่มนิ่มที่ถูกจัดตำแหน่งไว้อย่างดี สองขาเหยียดยาวสอดเข้าไปใต้โต๊ะญี่ปุ่นสูงพอดีตัว ดวงตาแดงก่ำใต้แว่นทรงกลมจ้องมองไปที่จอคอมพิวเตอร์ไม่กระพริบ ริมปีปากอิ่มขยับพึมพำบางประโยคออกมาแทบไม่มีเสียง สมองคิดบทสนทนาและบทบรรยายให้สอดคล้องกับพล็อตอย่างละเอียดที่วางเอาไว้ก่อนหน้า โดยพยายามอย่างยิ่งยวดไม่ให้สติแตกจนพาให้เนื้อเรื่องมหากาพย์ไหลออกทะเล


   เขาจมดิ่งลงไปในเรื่องราวของผู้กล้าและจอมมารทั้งเจ็ด และรู้สึกอินกับฉากต่อสู้ของเรื่องจนเหมือนกำลังเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์เสียเอง กระทั่งผ่านจุดพีคของตอนไปแล้ว จมูกรั้นจึงค่อยๆ ผ่อนลมหายใจและปล่อยไหล่ตั้งตรงให้ลู่ลงอย่างผ่อนคลาย


จากนั้นจึงพาให้จังหวะของบทบรรยายไปหยุดลงที่ช่วงสุดท้ายของตอน เหมือนเครื่องบินค่อยๆ แลนดิ้งลงสู่พื้นดินโดยสวัสดิภาพ
   

ครั้นเคาะเส้นปิดตอนจบจนเขียนบทสนทนาคุยกับคนอ่านตอนท้าย และไม่ลืมกดเซฟเสร็จเรียบร้อย กวีก็ทิ้งตัวลงกับเบาะนิ่มๆ ที่ใช้พยุงหลัง ก่อนผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ อีกครั้ง และส่งเสียงออกไปอย่างอ่อนแรง
   

“…เสร็จสักที”
   


หลังจากเค้นพลังกายและพลังสมองเขียนงานหามรุ่งหามค่ำมาสามวันติด ชายหนุ่มก็สามารถหายใจหายคออย่างโล่งอกไปได้อีกสองสามวันก่อนวงจรนรกจะวนกลับมาอีกครั้ง
   

ตอนนี้กวีทำงานหลักเป็นนักเขียนนิยายรายปักษ์ให้กับเว็บไซด์นิยายออนไลน์ชื่อดังเว็บไซด์หนึ่ง วงจรการทำงานของเขาจะเริ่มค่อยเป็นค่อยไปในอาทิตย์แรก แต่จะมาปั่นไฟแล่บในช่วงอาทิตย์หลัง


ความจริงก่อนหน้านี้กวีจะเขียนนิยายจนจบก่อนจึงเอามาทยอยลงเว็บไซด์สาธารณะให้คนได้อ่าน แต่หลังจากที่ทำงานกับทางเว็บไซด์ เขาก็เริ่มเขียนเรื่องยาวหลายภาคต่อ ดังนั้นมันจึงต้องเขียนไปลงไป ช่วงไหนที่ไม่มีงานเขียนอื่นๆ มาแทรกเขาก็จะมีสต็อกต้นฉบับไว้บ้าง แต่สักพักก็จะมีงานอื่นๆ มาช่วยลดทอนเวลาของต้นฉบับรายปักษ์เรื่องนี้ทุกที
   

ครืด ครืด ครืด~
   

เอนหลังได้ไม่นาน กวีก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือสั่นอยู่ไม่ไกลจากที่มือเอื้อมถึง เขาจึงคว้าเอาเครื่องมือสื่อสารนั่นมาถือไว้ และรับสายโดยไม่ต้องมองว่าคนปลายสายคือผู้ใด
   

[ไอ้ก้อน!]
   

ทันทีที่กดรับ เสียงของบก.ที่ดูแลต้นฉบับให้กวีก็แผดดังลั่น จนนักเขียนหนุ่มต้องดึงโทรศัพท์ออกห่างเพราะกลัวหูดับไปเสียก่อน


“ครับพี่เจน” กวีตอบเนือยๆ


[ไม่ต้องมาทำเสียงเฉื่อยเลยนะ ทำไมเพิ่งรับสาย] เธอดุเขาคำหนึ่ง


“ผมก็รีบปั่นต้นฉบับอยู่ไงครับ พี่ก็รู้นี่นา”


ทุกครั้งที่กวีเขียนงาน เขาจะตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกโดยอัตโนมัติ ทั้งที่โทรศัพท์หรือช่องทางติดต่อทางออนไลน์ก็ยังเปิดรับปรกติ ทว่านักเขียนหนุ่มจะไม่ตอบกลับมนุษย์หน้าไหนที่พยายามติดต่อเข้ามาเลย ซึ่งบก.ประจำตัวอย่างเจนก็รู้เรื่องนี้ดี ด้วยเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นทุกครั้งตั้งแต่กวีเริ่มเขียนนิยายรายสัปดาห์ให้กับทางเว็บไซด์


เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ พยายามปรับอารมณ์ให้สงบเพื่อรับมือกับนักเขียนสุดเฉื่อยของตัวเอง


[งานเสร็จหรือยัง] เจนเลิกบ่นแล้วพุ่งเข้าจู่โจมเป้าหมายทันทีโดยไม่อ้อมค้อม
   

“เสร็จแล้วครับ ร้อนๆ เลย” กวีตอบคำที่คิดว่าเจนอยากได้ยินให้เธอชื่นใจ
   

[เสร็จแล้วก็ส่งมาเร็วเข้า จะรอให้ใครมาตัดริบบิ้นล่ะ]
   

ได้ยินเสียงของบก.ประจำตัวผ่อนคลายลง ชายหนุ่มก็อดหยอกไม่ได้


“ผมรอพี่ทวงไง”


[แหม~ กับเรื่องนี้ไม่ต้องทำตัวสม่ำเสมอทุกอาทิตย์ก็ได้ค่ะคุณก้อน เดี๋ยวก็ทำต้นฉบับไม่ทันกันพอดี อาทิตย์นี้ส่งช้าอีกแล้วนะ ถ้าต้องแก้เยอะจะทำไงฮึ ไม่ให้พี่ทวงสักอาทิตย์จะกินข้าวไม่อร่อยหรือไง]


“ไม่ได้พี่ เดี๋ยวหลุดคอนเซ็ปต์”


[แกนี่จริงๆ เล้ย] เธอว่าพลางถอนหายใจ ก่อนจะเร่งอีกครั้ง [เอ้า! เร็วเข้า ส่งมาสักที คนจะได้ไปหลับไปนอนบ้าง]
   

“ครับๆ รอแป๊บหนึ่ง”
   

กวีรับปาก ก่อนจะดึงตัวเองขึ้นมาจากกองเบาะนุ่มอย่างเกียจคร้าน เขากดส่งงานให้บก.ทางอีเมล์ รอครู่เดียวเธอก็ได้รับ


   [โอเค พี่ได้ไฟล์แล้ว]
   

“งั้นผมไปนอนแล้วนะครับ ตาจะปิดอยู่แล้ว”
   

[อืมๆ เดี๋ยวมีปัญหาอะไรพี่จะติดต่อไป บ่ายๆ ตื่นมารับโทรศัพท์ด้วยนะ อย่าให้ต้องไปหาถึงบ้านเข้าใจไหม]
   

“ครับๆ จะพยายาม แต่ถ้าผมไม่ตื่น ผมฝากพี่ซื้อหมูหยองมาให้ด้วยได้ไหม อยากกินข้าวต้มกุ๊ย”
   

[เดี๋ยวเถอะไอ้ก้อน! มีขาก็ลงไปซื้อเองสิ เลิกหมกอยู่แต่ในห้องได้แล้ว]
   

“โอเคๆ งั้นผมวางละนะ ง่วง~”
   

[อื้ม ไปนอนเถอะ]


เจนสั่งไว้แค่นั้น แล้วเธอก็วางสายไป แต่กวีจับได้ว่าตรงท้ายประโยคนั้นทอดเสียงอ่อนลง นั่นแสดงให้เห็นว่าเจนคงปรานีเขาอยู่บ้างหลังจากใช้งานหนักมาทั้งอาทิตย์
   

จากนั้นกวีก็ปิดคอมพิวเตอร์ ยกโต๊ะญี่ปุ่นออกไปให้พ้นตัวแบบส่งๆ ลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเรียบร้อย ล้มตัวลงนอนบนกองเบาะและหมอนตรงนั้น พร้อมกับคว้าผ้าห่มขนนุ่มมาห่มเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนหลับไปอย่างรวดเร็วราวกับถูกปิดสวิตซ์
   










   ติ้ง!


   กวีสะดุ้งตื่นเพราะเผลองีบหลับคาโต๊ะอาหารเมื่อได้ยินเสียงไมโครเวฟร้องเตือนตอนหมุนรอบครบ 30 วินาที เขาลุกจากเก้าอี้อย่างเกียจคร้านเพื่อหยิบนมจืดอุ่นๆ ออกมาเทใส่กาโนล่าก้นห่อ จากนั้นจึงเริ่มกินมื้อเช้าหกโมงครึ่ง


   ถูกแล้ว เวลานี้เพิ่งจะหกโมงครึ่ง…


   นั่นเท่ากับว่าชายหนุ่มเพิ่งหลับไปได้ไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ!


   แต่แม้กวีจะง่วงเพราะอดนอนจนตาลึกโหลเพียงใด เขาก็ไม่อาจทนนอนได้จนถึงบ่ายเหมือนที่บอกบก.เจน เพราะท้องเจ้ากรรมดันร้องประท้วงไม่หยุด


   สุดท้ายความง่วงก็พ่ายให้ความหิว ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องลุกมาอุ่นนมกินกับกาโนล่าแบบนี้


   ครั้นจัดการมื้อเช้าเสร็จ เขาก็ทิ้งถ้วยไว้ในอ่างล้างจานแบบส่งๆ ก่อนกลับเข้าห้องนอนที่ไม่ได้นอนมาหลายคืน เพราะอาศัยงีบหลับในห้องทำงานแทน


   เขาเปิดเครื่องปรับอากาศให้อุณหภูมิต่ำกว่ามาตรฐาน จากนั้นจึงแทรกตัวลงไปในกองหมอนนิ่มๆ บนเตียงแล้วห่มผ้า


กวีเป็นคนติดหมอนกับผ้านิ่มๆ มาก เขาชอบให้ร่างกายมีอะไรมารองรับทุกด้านเวลานอน เพราะมันให้ความรู้สึกปลอดภัยกว่า แต่เนื่องจากรอบตัวมีผ้าห่มกับหมอนมากเกินไปทำให้ต้องปรับแอร์เย็นๆ จะได้ไม่ร้อนและสามารถนอนได้นานๆ
   

ซึ่งนั่นเป็นความชอบส่วนตัวที่ใครก็ตามที่มาค้างด้วยไม่เข้าใจ
   

พอหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนอีกครั้ง ทว่าก่อนมันจะหย่อนจนปิดสนิท ชายหนุ่มก็บังเอิญนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เป็นเรื่องที่เขาจะละเลยไม่ได้ ทำให้กวีต้องเอื้อมมือไปหยิบแว่นมาสวมพร้อมกับโทรศัพท์ตรงหัวเตียงมากดเข้าแอปพลิเคชันหนึ่ง
   

พี่รถกับข้าว
   

แอปพลิเคชันนี้ เป็นแอปพลิเคชันสำหรับแม่บ้านยุคใหม่ แม่บ้านที่ไม่มีเวลาพอจะออกไปจ่ายตลาดด้วยตนเอง โดยทางร้านจะมีข้าวของให้เลือกซื้อหลากหลาย ตั้งแต่อุปกรณ์ทำอาหาร เครื่องปรุงรส ไปจนถึงอาหารสด ซ้ำยังมีบริการส่งอีกด้วย
   

กวีเป็นคนทำงานที่บ้าน ไม่ชอบออกไปไหนถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะเบื่อกับสภาพอากาศและการจราจร ซ้ำชายหนุ่มยังอาศัยอยู่คนเดียว ดังนั้นพอเจอเข้ากับตัวช่วยที่ทำให้ไม่ต้องนั่งรถไปจ่ายตลาด ชายหนุ่มก็กดโหลดแอปฯ และสมัครสมาชิกเพื่อลองใช้บริการทันที
   

ซึ่งร้านพี่รถกับข้าวก็ไม่ทำให้กวีต้องผิดหวัง
   

หลังจากทดลองสั่งมาครั้งหนึ่ง กวีก็ได้รับวัตถุดิบทำอาหารคุณภาพดี โดยที่ไม่ต้องออกไปเลือกซื้อเองให้เหนื่อย แถมยังมีเวลาปั่นต้นฉบับมากขึ้นเวลาเร่งรีบ


ทุกวันนี้พี่รถกับข้าวจึงเป็นแอปพลิเคชันที่สำคัญและจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของกวีไปแล้ว


ชายหนุ่มกดเลือกรายการอาหารที่คิดว่าจะทำตุนไว้ในสามวันนี้ กับพวกเครื่องปรุง นม ซีเรียล และขนมกระจุกกระจิกเล็กน้อยก่อนกดสั่งและจ่ายเงินผ่านบัตรเรียบร้อย เพราะเขาไม่ค่อยพกเงินสด


เมื่อทุกขั้นตอนเสร็จสิ้น ชายหนุ่มก็ถอดแว่นเก็บแล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้ง


คราวนี้ก็นอนได้อย่างสบายใจเสียที...
   

สบายใจกับผีน่ะสิ!
   

ยังหลับไปไม่ถึงสี่ชั่วโมง บก.คนดีของกวีก็โทรเข้ามาหา ก่อนเวลาที่เธอบอกเขาไว้ตั้งสามชั่วโมง!
   

กวีเกือบหลุดเสียงหงุดหงิดใส่เธอเสียแล้ว หากไม่ได้ยินข่าวดีที่เธอบอกล่ะก็...
   

เหตุที่เจนโทรมาก่อนกำหนด เพราะเธออยากแจ้งข่าวว่ารวมเรื่องสั้นที่เขาเขียนเมื่อเดือนที่แล้วและส่งไปให้พิจารณากำลังจะได้รับการตีพิมพ์ และรูปเล่มจะออกพร้อมการเปิดตัวสำนักพิมพ์ของทางเว็บไซด์
   

แต่เดิมเว็บไซด์ที่เขาลงนิยายออนไลน์จะมีแต่การขายงานเขียนให้ทางอ่านทางออนไลน์อย่างเดียว โดยมีระบบเหรียญให้คนอ่านซื้อเพื่อจ่ายตอนอ่านนิยายที่ต้องการ แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางเว็บไซด์มีการทำหนังสือแบบรูปเล่มเพื่อจำหน่ายในกรณีพิเศษ เพราะนิยายเรื่องที่ว่าค่อนข้างเป็นที่สนใจมาก ซึ่งกระแสตอบรับก็ดีมาก จึงทำให้ทางผู้บริหารของเว็บไซด์มีโครงการเปิดตัวสำนักพิมพ์ เพื่อพิมพ์นิยายในเว็บไซด์ของตัวเอง
   

[เดี๋ยววันนี้พี่จะเอาสัญญาเข้าไปให้เราดูรายละเอียดก่อน หลังจากสัญญาเรียบร้อยเราค่อยคุยกันเรื่องรูปเล่มและการPR]
   

“PRหรือครับ” กวีขมวดคิ้ว “ปรกติก็โฆษณาในเว็บอยู่แล้วนี่ครับ”
   

[นั่นมันนิยายลงออนไลน์ แต่คราวนี้เห็นนายบอกว่าจะให้นักเขียนแจกลายเซ็นด้วย]
   

“แจกลายเซ็นเนี่ยนะพี่ ผมไม่ไปหรอกครับ”
   

[เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งปฏิเสธสิ นายเขาอยากให้เราดูเงื่อนไขก่อนนะ]
   

“แต่ผมไม่ชอบเจอคนเยอะๆ พี่ก็รู้”
   

กวีเป็นมนุษย์ที่ไม่ชอบทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นมาตั้งแต่สมัยเรียน ที่ไม่ทำ ไม่ใช่เพราะรังเกียจหรือกลัวผู้คน แต่เพราะกวีขี้เกียจ


กิจกรรมที่ชายหนุ่มชอบ คือกิจกรรมที่ไม่ต้องออกแรงมาก ทำคนเดียวเงียบๆ ได้ เช่น การอ่านหนังสือ ดูหนัง หรือดูการ์ตูนอยู่ที่บ้านเงียบๆ เพราะมันไม่ทำให้เขาเหนื่อย


ทว่าการเก็บตัวอยู่คนเดียวนานๆ ทำให้กวีไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก ทั้งที่รู้สึกว่าตัวเองอัธยาศัยดีพอตัว แต่เวลาที่ไปสังสรรค์พบปะกับเพื่อนร่วมรุ่นนานๆ ครั้ง หรือไปงานเลี้ยงสิ้นปีของทางเว็บไซด์ ชายหนุ่มกลับคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง เหมือนกำลังคุยกันคนละภาษาอย่างไรอย่างนั้น


กวีจึงเริ่มขยาด และทำตัวไม่ถูกเวลาพบเจอคนมากๆ
   

[แต่นี่คนอ่านนะ ไม่รู้หรือไงว่าพวกเขาอยากเจอน้องวีจะตายไป]
   

ชายหนุ่มนิ่งไปเมื่อได้ยิน หากเรื่องนี้เป็นความต้องการของคนอ่าน เขาคงทำอะไรไม่ได้ อีกทั้งถ้าบก.เจนกลับมาเรียกชื่อจริงของเขา แทนชื่อย่อๆ จากนามปากกาแล้วล่ะก็...


กวีจะรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่มีทางปฏิเสธเธอได้แล้ว
   

“เอาไว้เราคุยเรื่องสัญญาให้เรียบร้อยก่อนก็แล้วกันครับ” กวีบอกอ้อมแอ้ม ไม่ได้ค้านอะไรอีก เจนจึงตอบรับเสียงหวาน
   

[โอเค เดี๋ยวเย็นนี้พี่เอาสัญญาเข้าไปให้ดูนะคะน้องวี]
   

“ไม่ต้องทำมาเรียกน้องกดดันเลยพี่เจน”
   

[ทำไมล่ะคะน้องวี]
   

“ผมขนลุก”
   

[ฮ่าๆๆๆ] เจนหัวเราะร่วน [โอเคๆ ฉันก็ขนลุกเหมือนกัน งั้นตกลงตามนี้นะ เย็นๆ เจอกันนะก้อน]
   

“ครับ”
   

[ว่าแต่แกจะยังเอาหมูหยองอยู่ไหม พี่จะได้ซื้อเข้าไปให้]
   

“ไม่ต้องแล้วครับ ผมสั่งซื้อแล้ว”
   

[นี่ร้านนั้นเขามีทุกอย่างเลยหรือไง]
   

“แทบทุกอย่างแหละครับ”
   

[แต่เรทราคาก็เอาเรื่องอยู่ไม่ใช่หรือ ฉันเห็นคนที่ออฟฟิศบ่นอยู่เพราะซื้อตามที่แกโฆษณาน่ะ]
   

“แต่ของเขามีคุณภาพนะพี่ ไม่ต้องไปหาซื้อเองด้วย เนื้อสัตว์กับผักก็เกรดดี ผมว่าก็สมราคาเค้านั่นแหละ”
   

[พอๆ ไม่ต้องมาอวยแล้ว ฉันไม่ซื้อตามหรอก เพราะถึงซื้อก็ไม่ได้ทำเองอยู่ดี ซื้อเค้ากินเหมือนเดิมง่ายกว่า]
   

“แต่กินอาหารแช่แข็งบ่อยๆ มันไม่มีประโยชน์นะ แถมไม่อร่อยด้วย”


เขาเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้กับทุกอย่าง ติดจะใช้ชีวิตแบบคนขี้เกียจขั้นสุดด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นเรื่องกิน กวีก็อดเถียงไม่ได้ทุกที


[งั้นถ้าเป็นห่วงกัน เย็นนี้ทำกับข้าวเผื่อด้วยนะ จะทำข้าวต้มกุ๊ยใช่ไหม]


“ครับ”


[งั้นเดี๋ยวซื้อไชโป๊วผัดไข่ไปเผื่อ] เธอเอ่ยชื่อเมนูโปรดอีกอย่างของกวีออกมา ก่อนจะเอ่ยตัดบทเอาดื้อๆ [เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะก้อน คุณภาคเรียกอีกแล้ว ไม่รู้จะอะไรนักหนา]


“ครับๆ สู้ๆ นะพี่”


[อื้ม] ตอบรับเสร็จเจนก็วางสายไปทันที ดูท่าจะรีบมากจริงๆ


ตอนเริ่มคุยโทรศัพท์กับเจน กวียังรู้สึกงัวเงียไม่น้อย แต่พอได้ยินข่าวเรื่องงานเขียนจะได้ตีพิมพ์ ตาเขาก็สว่างขึ้นมาทันที จะให้กลับไปหลับตอนนี้ก็หลับไม่ลงเสียแล้ว เขาลุกขึ้นจากที่นอน ปัดกองหมอนและผ้าห่มไปรวมกันข้างหนึ่ง ไม่ลืมหยิบแว่นขึ้นสวมก่อนหย่อนขาลงจากเตียง


เขาหยิบกิ๊บติดผมที่เจนซื้อให้จากกล่องใส่หน้าห้องน้ำมาติดลวกๆ กันไม่ให้ผมเปียก ก่อนเข้าไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน พอจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ ชายหนุ่มก็ออกมาที่ครัวเพื่อทำอาหารกลางวันง่ายๆ กิน


แต่กวีเพิ่งสังเกตว่าของสดในตู้ไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่ไข่ หรือต้นหอมผักชีก็ไม่มี เขาเหลือบมองนาฬิกา มันบอกเวลาเที่ยงกว่าๆ แล้ว


อีกเดี๋ยวพี่รถกับข้าวคงมา


ชายหนุ่มคิดเช่นนั้น เขาจึงหันไปหุงข้าวเอาไว้รอ เพราะมีข้าวสารเหลืออยู่ กะว่าวันนี้มีเวลาว่าง จะทำอาหารใส่กล่องแช่ตู้เก็บไว้กินในวันถัดๆ ไปช่วงที่ไม่มีเวลาทำกับข้าว


นักเขียนหนุ่มวุ่นวายอยู่ในครัวพักหนึ่ง ก่อนเปิดสมุดจดสูตรอาหารที่เขียนเก็บไว้บนหลังตู้เย็นขึ้นดู เขาตั้งใจจะเลือกอาหารง่ายๆ สองสามอย่างที่สอดคล้องกับรายการของสดซึ่งสั่งไปเมื่อเช้ามาทำ ทว่ายังไม่ทันเลือกก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่นเสียก่อน


“สวัสดีครับ” เพราะเป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้ กวีจึงทักทายด้วยและน้ำเสียงคำสุภาพ


[สวัสดีครับ คุณกวีใช่ไหมครับ]


“ครับ” กวีตอบรับอีกฝ่ายที่ทำเสียงสุภาพไม่แพ้เขา


[ผมโทรมาจากร้านพี่รถกับข้าวนะครับ พอดีทางร้านมีเหตุขัดข้องนิดหน่อย เราจึงจะแจ้งให้ทราบว่าวันนี้สินค้าที่สั่งอาจไปถึงล่าช้ากว่าที่แจ้งในทีแรก ไม่ทราบว่าคุณกวียังต้องการจะสั่งสินค้าอยู่ไหมครับ หรือจะยกเลิกออเดอร์ก่อน]


“เอ่อ…ผมไม่ยกเลิกครับ แต่ทางร้านจะมาส่งได้ประมาณกี่โมงครับ”


[จากคิวของคุณกวี น่าจะเป็นช่วงบ่ายสองถึงบ่ายสามครับ ไม่ทราบจะสะดวกไหมครับ]


“สะดวกครับ ผมอยู่บ้านทั้งวัน”


[โอเคครับ ทางร้านต้องขอโทษด้วยนะครับที่ล่าช้า แต่เราจะรักษาคุณภาพอาหารอย่างดีจนกว่าจะถึงมือคุณลูกค้า ขอบคุณที่ใช้บริการครับ]


นักเขียนหนุ่มคุยกับพนักงานอีกเล็กน้อยก่อนกดวางสาย แล้วไปเลือกเมนูที่จะทำอีกหน ตอนนี้เขาหิวนิดหน่อย แต่ยังพอทนได้ กวีจึงหันไปหาอะไรทำเพลินๆ


กระทั่งผ่านไปหลังจากนั้นเกือบสองช่วงโมง...


“เมื่อไหร่พี่รถกับข้าวจะมานะ” ชายหนุ่มบ่นงึมงำกับตัวเอง ขณะที่เดินวนอยู่ในครัวเพื่อหาอะไรประทังความหิว


นี่นอกจากอาหารสดจะหมดเกลี้ยงแล้ว ทั้งนม ซีเรียล กาโนล่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือแม้แต่ผงโรยข้าวของญี่ปุ่นที่เขามีติดบ้านเสมอก็ยังหมด


อะไรมันจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้!


กวีคิดพลางเดินงุ่นง่านไปที่หม้อหุงข้าว


ข้าวสุกรอกับข้าวเป็นชั่วโมงแล้ว แต่พี่รถกับข้าวก็ยังไม่มา กวีหิวจนแสบไส้ไปหมด เพราะตั้งแต่เช้าเขากินไปแค่มื้อเดียว มิหนำซ้ำยังเป็นแค่อาหารรองท้อง


ถ้าเรื่องอื่นกวีคงพอทนได้ แต่พอเป็นเรื่องกินเขาก็ชักอยากจะร้องไห้ขึ้นมา


ทำไมมันหิวอย่างนี้!!


ชายหนุ่มกรีดร้องในใจ และมองนาฬิกาอย่างสิ้นหวัง เขาคิดจะโทรสั่งอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ มากินประทังความหิว แต่มาคิดได้เอาตอนนี้ เขาก็ต้องนั่งรออีกอยู่ดี


กวีมองข้าวเม็ดสวยที่เรียงกันในหม้อสลับกับขวดน้ำปลาที่วางอยู่ใกล้ๆ ระหว่างอาหารอร่อยที่ต้องรอ กับอาหารประทังชีวิตกันหิวตายแบบไม่ต้องรอครู่เดียว นักเขียนหนุ่มก็ตัดสินใจ


เขาเปิดตู้เหนือหัวเอาถ้วยออกมาตักข้าว ก่อนจะหยิบน้ำปลาดีขึ้นเปิดฝาเหยาะ


“น่ากินจัง”


กวีเอ่ยออกมาอย่างเคลิบเคลิ้มทันทีที่ซอสสีจางหยดพรมลงบนข้าวขาว ฟิลเตอร์ของของหิวทำให้มองอะไรก็ดูน่ากินไปหมด จนไม่รู้ว่ากลิ่นข้าวหอมมะลิกับกลิ่นน้ำปลาหอมถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
   

ทว่าก่อนจะหยิบช้อนมาตักกิน เสียงกริ่งหน้าประตูห้องก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงท้องร้อง
   

ตื๊อ ตือ ตื๊อ ตื่อ~ ตื่อ ตือ ตื๊อ ตื่อ~
   

เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้นแค่จังหวะเดียว กวีก็วางช้อนกับถ้วยข้าวคลุกน้ำปลาในมือลง ก่อนจะรีบสาวเท้าเร็วๆ ไปที่ประตูหน้า


ตึง!


กวีรีบจนเผลอเตะที่ใส่ร่มกลิ้งหลุนๆ หากมันก็ไม่อาจหยุดยั้งคนดีใจจนลิงโลดได้ นักเขียนหนุ่มเปิดประตูห้องดังผลัวะ ก่อนยื่นหน้าออกไปพร้อมรอยยิ้มกว้าง


“มาแล้ว!~”


เขาเอ่ยเสียงสดใส ก่อนถลาออกจากห้องไปอย่างยินดี ลืมไปหมดสิ้นว่าก่อนเปิดประตูให้คนแปลกหน้า เขาควรส่องตาแมวดูก่อนว่าใครมา


พนักงานของร้านพี่รถกับข้าวคนนี้ไม่ใช่พนักงานคนเก่า ซ้ำยังแต่งตัวดีจนดูไม่เหมือนพนักงานส่งของ แต่กวีก็ไม่คิดสนใจ เพราะพอเขาเห็นตะกร้ากับข้าวของตัวเอง เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว


“ขอโทษที่ทำให้รอครับ พอดีเกิดเหตุขัดข้องกับพนักงานของเรานิดหน่อย ทางเรามี…” ยังไม่ทันที่พนักงานส่งคนใหม่พูดจบ กวีก็แทรกขึ้น


“ไม่เป็นไรๆ ผมไม่ถือ อย่างน้อยพี่รถกับข้าวก็เอาเสบียงมาส่งผมล่ะนะ ถ้าไม่มา ผมคงต้องกินข้าวคลุกน้ำปลาแน่ๆ”


คนหิวจนหน้ามืดบอกเรื่องน่าอายไปตามตรง


ไม่เพียงเท่านั้น นักเขียนหนุ่มยังเข้ามาคว้าหมับที่มือของพนักงานส่งซึ่งถือตะกร้าเอาไว้ ตั้งใจจะเอาตะกร้ากับข้าวของตัวเองไปถือ แต่พนักยังไม่ยอมปล่อยตะกร้าให้ กวีจึงรวบมือของอีกฝ่ายเอาไว้ด้วย
   

“เป็นหน้าที่ที่เราต้องส่งอยู่แล้วครับ ทางเรามีบัตรส่วนลด 25% แนบไปพร้อมกับใบเสร็จในตะกร้าให้คุณลูกค้าใช้เป็นส่วนลดซื้อของในครั้งถัดไป แทนคำขอโทษน่ะครับ”
   

“โอ๊ะ! จริงหรือครับ” คนฟังตาเป็นประกายก่อนดึงตะกร้ามาตรวจดู มือของพวกเขาจึงเลื่อนหลุดออกจากกัน “มีจริงด้วย! ขอบคุณนะครับ ไว้ผมจะใช้สั่งครั้งต่อไป--”
   

จ๊อก~~
   

ระหว่างที่กวีกำลังพูดไม่หยุด เสียงน้ำย่อยในกระเพาะของเขาก็ร้องเตือน แก้มย้วยๆ ที่ขยับไปขยับมาตอนพูดขึ้นสีแดงแปร๊ด ชายหนุ่มขยับแว่นพลางยิ้มแหยๆ แล้วเอ่ยแก้เก้อ
   

เพราะครานี้รู้สึกอายขึ้นมาจริงๆ เสียแล้ว
   

“อีกสามวันเจอกันนะครับ”
   

พูดจบกวีก็ค่อยๆ กระดึ๊บถอยหลังเข้าไปในอาณาเขตของตัวเอง ก่อนปิดประตูห้องเขาเห็นพนักงานหน้าหล่อยืนยิ้มแหยๆ ท่าทางคงตกใจกับเสียงกระเพาะของเขาไม่น้อย
   

แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ก็คนมันหิวนี่นา!
   

กวีนึกแก้ตัวให้ตนเองในใจ ก่อนจะเลิกสนใจเรื่องน่าอายแล้วเอาตะกร้ากับข้าวเข้าไปในครัว
   

มื้ออาหารกันตายของกวีคือไข่ดาวสองฟองโปะข้าวสวยกับน้ำปลาที่เหยาะเอาไว้ก่อนหน้า หลังกินอิ่มจนท้องกลับมาป่องเหมือนเดิมแล้ว นักเขียนหนุ่มจึงเริ่มล้างจานและเก็บของที่สั่งซื้อมาเข้าที่
   

พอจัดของเสร็จกวีก็เริ่มทำอาหารที่ตั้งใจจะตุนเก็บไว้เป็นเสบียง
   

เขาทำอกไก่อบกับซอสบาบีคิว รวมทั้งอบผักต่างๆ อย่างพวกเบบี้แครอท กะหล่ำดาว บรอกโคลีอบในซอสเดียวกัน ปรุงรสง่ายๆ โรยพริกไทยกับออริกาโน่ เสร็จทุกขั้นตอนแล้วก็รอให้เย็นแล้วเก็บใส่กล่องเข้าตู้เย็นเอาไว้อุ่นกินมื้อต่อๆ ไป


   แต่เย็นนี้อาหารของเขาจะพิเศษหน่อย เพราะเป็นอาหารที่อยากกินมาหลายวันตอนเขียนนิยาย ซ้ำยังมีบก.คนสวยมากินด้วย กวีจึงโชว์ฝีมือทำกับข้าวหลายอย่างหน่อย
   

ชายหนุ่มเอาข้าวในหม้อมาต้มเป็นข้าวต้มกุ๊ย ระหว่างนั้นก็เริ่มทำผัดผักบุ้ง ทอดกุนเชียง และยำไข่ต้มเป็นอย่างสุดท้าย ถึงตอนนี้เขาก็หมดพลังพอดี
   

กวีทิ้งจานชามกองโตเอาไว้ในอ่างแล้วหนีไปอาบน้ำ อาบเสร็จก็เข้าไปนอนเปิดแอร์กลิ้งไปกลิ้งมาในห้องพร้อมกับเล่นทวิตเตอร์ไปด้วย
   

กวีตามข่าว ตามงานเขียนของเพื่อนนักเขียนไปเรื่อย ก่อนจะแจ้งข่าวกับคนอ่านว่าคืนพรุ่งนี้เขาจะลงนิยายตอนใหม่ ต่อจากนั้นชายหนุ่มก็อัพเดตชีวิตประจำวันเล็กๆ น้อยๆ ตามประสา
   

เขานึกถึงบัตรส่วนลดที่ได้มากับเหตุการณ์ในวันนี้ นักเขียนหนุ่มจึงถ่ายรูปลงทวิตเตอร์พร้อมกับแคปชั่น



   หินก้อนสุดท้าย @ROCK_01
   วันนี้เพิ่งได้บัตรลดราคามาจาก #พี่รถกับข้าว
   ถึงจะส่งช้าแต่ให้อภัย เพราะบริการหลังจากขายเขาดีมากครับ
   อวยขนาดนี้ก็จ้างเป็นพรีเซนเตอร์เถอะ /ค่าตัวไม่แพง 555
   5:24 PM . 07 ก.ค.18



   พอกดส่งทวีตเสร็จก็เป็นจังหวะที่เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้นอีกครั้ง กวีจึงเก็บมือถือลงก่อนออกไปต้อนรับบก.คนสนิท โดยไม่ทันเห็นว่าแอคเคาท์ร้านพี่รถกับข้าวกดปุ่มรูปหัวใจให้เขาเป็นคนแรก พร้อมกับตอบ



   พี่รถกับข้าว @Peerodkubkhao
   กำลังตอบกลับถึง @ROCK_01
ค่าตัวผมคงไม่มี แต่ถ้าส่งกับข้าวฟรีก็พอไหวครับ 555
   5:26 PM . 07 ก.ค.18






----------------------------------------------------------------------








มาต่อแล้วค่ะ
พาร์ทนี้เป็นของเจ้าก้อนที่จริงๆ ไม่ได้ชื่อก้อน 555
อาจจะเรื่อยๆ เปื่อยๆ นิดนึง แต่ไม่ดราม่านะคะ นี่แต่งเพราะต้องการจะฮีลหัวใจตัวเองค่ะ 555
ความตั้งใจคืออยากดำเนินเรื่องเรื่อยๆ ตัดสลับระหว่างสองฝั่งค่ะ
ดังนั้นตอนหน้าจะเป็นพาร์ทของพี่ลมนะคะ
จะรีบมาต่อเร็วๆ ฝากเอ็นดูเจ้าหมูก้อนของฝนด้วยน้า ^^

เจอกันตอนหน้าค่ะ

ละอองฝน.

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักมากเลยค่ะ เอ็นดูน้องก้อนนนนน


ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
อยากลองสั่่งพี่รถกับข้าวบ้าง แต่ทำไม่เป็น น้องก้อนพอจะทำเพื่อบ้างได้มั้ย  :mew1:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
แอฟ พี่รถกับข้าว น่าใช้มากเลย

ออฟไลน์ praewypn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เอ็นดูค่า งืออ  :o8: :-[

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
อยากใช้บริการพี่รถกับข้าวบ้างจังเลยค่ะ 5555

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ชื่อร้านน่ารัก พี่รถกับข้าวว หิวจังง  :ling1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Mookpichh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารัก น่ารัก น่ารักกกก มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด :-[
ชื่อร้านตัลล้าคค อยากให้เจอกันอีกกก ฮืออ ปริ่ม :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มันมีแอปแบบนี้จริงๆไหมนะ รู้สึกว่าตอบโจทย์มาก ฮ่าๆๆๆๆ วิถีหมีจำศีล
เวลาสั่งอาหารเดลิเวอรี่ก็ชอบคิดเหมือนกันนะคะว่าจะมีคนส่งอาหารคนไหนจีบลูกค้าไหม
แบบเนียนๆ เบอร์โทรก็มีอ่ะ ไลน์ก็คงหาไม่ยาก
———————
ไปหาแอปมาแล้วววว ฮือออ ไปอยู่ไหนมานะทำไมไม่รู้ว่ามีแบบนี้  :hao7:
ขอบคุณเรื่องนี้นะคะที่ชี้ทางสว่าง ฮ่าๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-07-2018 21:47:14 โดย saccarrum »

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ ให้ +1 แต้มนะครับ :a9:

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2



บทที่ 2




   หลังจากเคลียร์ปัญหาติดขัดในการส่งสินค้าเรียบร้อย วายุก็กลับมาดูร้านพร้อมกับพาคนมาเสริมกำลังทัพอีกแรง เขาอยู่ดูแลร้านจนถึงสี่ทุ่มร้านพี่รถกับข้าวก็ได้เวลาปิดทำการ


ชายหนุ่มอยู่รอจนพนักงานปิดหน้าร้าน ก่อนหันมาสั่งงานพวกกะดึกที่รอรับของเข้าห้องแช่เย็น พอเสร็จสรรพจึงกลับไปพักผ่อนบ้าง


ร้านค้าแห่งนี้ตั้งอยู่บนย่านเศรษฐกิจใจกลางกรุง เป็นอาคารพาณิชย์สี่ชั้น ชั้นที่หนึ่งเป็นหน้าร้านเปิดให้บริการลูกค้า ด้านหลังมีห้องเย็นเอาไว้เก็บรักษาอาหารสด ชั้นสองเป็นโกดังเก็บสินค้าทั่วไป ชั้นสามเป็นออฟฟิศของพนักงานจัดการรายการสั่งซื้อทางออนไลน์ และเป็นที่ตั้งของห้องพักพนักงานกะดึกด้วย


ส่วนชั้นสี่กับด่านฟ้าเป็นที่พักของวายุ


เมื่อก่อนวายุอาศัยอยู่กับครอบครัวที่บ้านใหญ่ แต่พอเริ่มทำกิจการของตัวเอง เขาก็ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่นี้แทบจะถาวรเพราะสะดวกในการดูแลร้านมากกว่า


พี่รถกับข้าว เป็นร้านที่เขาคิดขึ้นเอง และดูแลบริหารงานเองกับมือ เพียงแต่เงินที่ใช้ลงทุนเป็นเงินกงสีของครอบครัว ดังนั้นชื่อหุ้นส่วนจึงมีพี่ชายสองคนกับผู้เป็นพ่อของเขารวมอยู่ด้วย


วายุเปิดร้านพี่รถกับข้าวมาได้ปีกว่าแล้ว กิจการอาจไม่ได้ทำกำไรหลายเท่าเหมือนกิจการส่งออกของที่บ้านใหญ่ แต่มันก็ไปได้ดีในระดับไม่ขาดทุน ยิ่งช่วงนี้ดูเหมือนว่าจะมีกระแสปากต่อปากในโซเชียลจะทำให้ทางร้านมีลูกค้ามากขึ้น ยอดเมมเบอร์และการสั่งจองก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย


หลังจากอาบน้ำอาบท่าแล้วชายหนุ่มก็มาจัดการกับบัญชียอดค่าใช้จ่ายรายวันของร้าน กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังนอนไม่ได้ เพราะต้องเช็คกระแสทางโซเชียลเสียก่อน


พี่รถกับข้าวมีเพจเฟซบุ๊ก ไลน์และทวิตเตอร์ออฟฟิเชียลของตัวเอง นอกเหนือไปจากเว็บไซด์ที่เปิดให้สั่งซื้อสินค้า ตามปรกติวายุจะมีทีมแอดมินในการดูแลระบบและคอยตอบคำถามลูกค้าอยู่แล้ว แต่ถ้ามีเวลาว่าง เขาก็มักจะเข้ามาตอบคำถามลูกค้าเองบ้างเหมือนกัน


เพราะนอกจากจะได้ตรวจสอบการทำงานของทีมแอดมินแล้ว เขายังคอยสอดส่องเสียงคอมเพลนและชื่นชมจากลูกค้าเพื่อนำเอาสิ่งเหล่านั้นมาพัฒนาร้านต่อไป


ครั้นตรวจดูอะไรต่ออะไรเรียบร้อย ชายหนุ่มก็นึกถึงลูกค้าคนหนึ่งที่เขาเมนชั่นไปพูดคุยเมื่อช่วงเย็น...


   หินก้อนสุดท้าย @ROCK_01
   วันนี้เพิ่งได้บัตรลดราคามาจาก #พี่รถกับข้าว
   ถึงจะส่งช้าแต่ให้อภัย เพราะบริการหลังจากขายเขาดีมากครับ
   อวยขนาดนี้ก็จ้างเป็นพรีเซนเตอร์เถอะ /ค่าตัวไม่แพง 555
   5:24 PM . 07 ก.ค.18


   พี่รถกับข้าว @Peerodkubkhao
   กำลังตอบกลับถึง @ROCK_01
ค่าตัวผมคงไม่มี แต่ถ้าส่งกับข้าวฟรีก็พอไหวครับ 555
   5:26 PM . 07 ก.ค.18


   กล่องเมนชั่นของพี่รถกับข้าวไร้การตอบกลับอย่างที่วายุคาดหวังให้เป็น เขาจึงกดเข้าไปในแอคเคาท์ของคนคนนั้นเพื่อดูการเคลื่อนไหว


   แล้วก็เป็นไปตามคาด ทวิตล่าสุดของเจ้าของแอคเคาท์นั้นคือทวิตที่เขาเมนชั่นไปหา เป็นไปได้สูงว่าอีกฝ่ายไม่ได้เข้าทวิตเตอร์อีกหลังจากเมื่อเย็น


   วายุเดินไปเอนหลังบนที่นอน มือก็เลื่อนย้อนดูทวิตของคุณหินก้อนสุดท้ายไปด้วย


   คนคนนี้เป็นนักเขียนชื่อดัง มีคนติดตามมากเกือบแสนคน ข้อความที่เขาทวิตส่วนใหญ่จึงมีคนสนใจมากพอสมควร ยิ่งถ้าขุดให้ลึกลงไปอีก เขาพบว่าคนคนนี้เคยทวิตถึงร้านพี่รถกับข้าวมาแล้วหลายครั้ง และทุกครั้งก็ชื่นชมจนเหมือนจะเป็นการโฆษณาให้กลายๆ ด้วย


   บางทีกระแสปากต่อปากที่เกิดขึ้นในระยะหลังอาจมีส่วนมาจากการรีวิวของคนคนนี้ด้วย


   วายุยิ้มอย่างพอใจที่การบริการของเขาซื้อใจคนมีชื่อเสียงได้ ทว่าในขณะที่เลื่อนดูทวิตย้อนหลังของคุณหินก้อนสุดท้ายไปเรื่อยๆ เจ้าของร้านหนุ่มก็ไปสะดุดที่ข้อความหนึ่ง



หินก้อนสุดท้าย @ROCK_01
   #จะเล่าเรื่องงานเขียนตามจำนวนรีทวิต
   ก่อนจะเขียนนิยายแฟนตาซี ผมเคยเขียนนิยายรักมาก่อน
แต่ดูเหมือนจะไม่เข้าท่า หลังจากนั้นมาก็เลยลองเปลี่ยนแนว
ไม่รู้ในนี้มีใครเคยอ่านเรื่อง Best place กันไหม
   23:14 PM . 21 พ.ค.18



Best place งั้นหรือ…วายุขมวดคิ้วแน่น


ถ้าถามถึงผลงานแฟนตาซีชื่อดังของคุณหินก้อนสุดท้ายแล้วล่ะก็ วายุยอมรับว่าไม่เคยรู้จักสักเรื่อง แต่พอเห็นชื่อนิยาย Best place จากที่กำลังง่วงๆ ตาเขาก็ตื่นทันที


เพราะนิยายเรื่องนั้นเป็นนิยายเรื่องโปรดของเขายังไงล่ะ!


หากให้เท้าความ คงต้องย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน…


ตอนที่วายุกำลังจะเดินทางไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในอเมริกา เพื่อนสนิทในกลุ่มได้ให้หนังสือเป็นของขวัญแก่เขาเล่มหนึ่ง


นิยายที่ว่าเล่าถึงชายคนหนึ่ง ผู้ซึ่งออกเดินทางเพื่อตามหาสถานที่ที่เป็น Best place ของตัวเอง โดยระหว่างการเดินทางเขาก็ได้พบกับหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง คนที่ทำให้เขาพบกับสถานที่แห่งนั้น


ที่ที่เป็น Best place ของเขา
   

วายุจำได้ว่าเขานำหนังสือเล่มนั้นติดตัวไปอเมริกาด้วย แต่ไม่เคยอ่านมันเลย จนกระทั่งวันหนึ่งที่เขารู้สึกเหนื่อยกับการเรียนและการปรับตัวในการใช้ชีวิตจนคิดถึงบ้าน คิดถึงเพื่อนๆ ที่อยู่ไทย ชายหนุ่มจึงค้นของดูต่างหน้าพวกนั้นออกมาดู


แล้วในที่สุดวายุก็ได้อ่านมัน


“ชีวิตของผมคือการเดินทาง”


“เพราะแบบนี้คุณถึงวางแผนจะออกเดินทางอีกครั้งหรือ”


“อืม” เขาพยักหน้าสั้นๆ ก่อนจะหันมาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แต่ครั้งนี้...คุณไปกับผมนะ”
   

วายุจำไดอะล็อกนั้นได้แม่ยำ เพราะมันเป็นท่อนที่เขาชอบที่สุด


นิยายเรื่องนี้ไม่ได้ช่วยให้เพิ่มกำลังใจให้เขายามเหนื่อยล้า ทว่าหลังอ่านจนจบ วายุกลับลืมความรู้สึกแย่ๆ ที่สะสมมาตลอดราวปลิดทิ้ง
   

ต่อมาไม่นาน พอเว้นว่างจากการเรียนและงานพิเศษแล้ว วายุก็เริ่มออกเดินทางตามหา Best place บ้าง เพราะเขาอยากรู้ว่าที่แบบนั้นมันมีหน้าตาอย่างไร และมันมีอยู่จริงไหม


แม้ผ่านไปสักพักเขาจะเข้าใจว่ามันคือนามธรรมอย่างหนึ่ง แต่วายุในเวลานั้นกลับกลายเป็นคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปเสียแล้ว


ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่นิยายเรื่อง Best place จะกลายเป็นนิยายในความทรงจำที่ชายหนุ่มรู้สึกประทับใจทุกครั้งที่นึกถึง น่าเสียดายที่เขาทำหนังสือเล่มนั้นหายระหว่างเดินทางไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูเขาหินในโคโรราโด ซ้ำกลับมาไทยก็ยังหาซื้อไม่ได้เพราะมันเลิกพิมพ์ไปแล้ว วายุจึงไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนั้นอีก


นี่ลูกค้าของเราเป็นคนเขียนนิยายเรื่องนั้นหรือ


แค่คิดชายหนุ่มก็อดยิ้มออกมาอย่างปลื้มปริ่มไม่ได้


ทว่าพอมานึกๆ ดู ถ้าอ่านจากทวิตเตอร์ที่นักเขียนทวิตเมื่อช่วงเย็น แปลว่าคุณหินก้อนสุดท้ายจะต้องเป็นหนึ่งในลูกค้าที่ได้รับของวันนี้


และเขาก็ได้พบกับเจ้าตัวแล้วด้วย


ทว่ามันก็ยังไม่อาจระบุตัวได้อยู่ดี เพราะลูกค้าที่สั่งของวันนี้มีตั้งหลายคน


มีใครที่ดูท่าทางเหมือนนักเขียนบ้างไหมนะ


เจ้าของร้านพี่รถกับข้าวพยายามนึกหน้าลูกค้าที่เขาพบให้ออกว่ามีใครบ้าง แต่ภาพในหัวกลับดูเลือนราง เขาจำทุกคนได้แค่คร่าวๆ เท่านั้น


ยกเว้นอยู่คนเดียวที่นึกแล้วก็จำได้ทันที นั่นคือผู้ชายแก้มป่องที่แต่งตัวสบายๆ คนนั้น


คุณลูกค้ากิ๊บสัปปะรด!


แค่นึกหน้า วายุก็จำเสียงท้องร้องกับสัมผัสจากมือนิ่มๆ ที่เข้ามาจับเพื่อยื้อตะกร้าไปจากเขาได้แม่นยำ เขาไม่รู้ว่าลูกค้าคนนั้นจะใช่นักเขียนในดวงใจหรือเปล่า


เขาไม่รู้ว่าการคาดเดาของตนเองจะถูกต้องหรือไม่ แต่ถ้าได้พบกันอีกสักสองสามครั้ง วายุคิดว่าบางทีเขาอาจจะจับสังเกตได้


แต่ถ้าพนักงานที่ลาจะกลับมาทำงานได้ เขาก็คงไม่มีโอกาสได้ไปส่งของให้คุณกิ๊บสัปปะรดอีก เว้นเสียแต่ว่าเขาจะใช้อำนาจบริหารจัดการซิกแซ็กนิดหน่อย ให้ได้เป็นคนส่งของให้ลูกค้าคนนั้นด้วยตัวเอง


บ้าน่า...จะทำอย่างนั้นได้ยังไง


แค่เรื่องของนักเขียนคนเดียว เขายังมีโอกาสอีกมากที่จะได้เจอตามงานหนังสือหรืออีเว้นท์ต่างๆ เวลานี้ที่ร้านมีงานให้ต้องทำอีกมาก มิหนำซ้ำมันคงไม่ถูกต้องด้วย


วายุเตือนตัวเอง ก่อนจะมองนาฬิกาแล้วพบว่าเวลานี้ดึกมากแล้ว ฉะนั้นเขาสมควรเข้านอนได้เสียที


ทว่าก่อนเคลิ้มหลับไป ภาพรอยยิ้มกว้างกับเสียงสดใสที่บอกว่า “อีกสามวันเจอกันนะครับ” ก็แทรกเข้ามาในห้วงความคิด


เจ้าของร้านพี่รถกับข้าวจึงต้องรีบสะบัดไล่ความคิดแปลกๆ ไปจากสมองแล้วก็หลับไปในที่สุด










1707
   

นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองเลขที่ห้องตรงหน้าอยู่นาน ก่อนเจ้าของดวงตาคู่นี้จะถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วเอื้อมมือไปกดกริ่ง


ในที่สุดเขาก็ใช้อำนาจเจ้าของร้านพาตัวเองมาอยู่ที่นี่จนได้ แม้ว่าพนักงานส่งของจะกลับมาทำงานตามปรกติแล้วก็ตาม


แล้ววันก่อนใครกันนะที่คิดว่าจะไม่ทำอย่างนี้...วายุนึกตำหนิตัวเองในใจ


ทว่าสุดท้ายเขาก็ต้องแพ้ให้ความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง


ใช่แล้ว...วายุบอกตัวเองว่าที่อุตส่าห์ลงทุนเอาสินค้าของลูกค้าคนนี้มาส่งเอง ก็เพราะเขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายใช่นักเขียนคนดังที่เขียนนิยายเรื่องโปรดของตัวเองหรือเปล่า ไม่ได้เกี่ยวกับอาการแปลกๆ ที่เอาแต่นึกถึงหน้าและเสียงร่าเริงเหมือนดีใจยามที่เห็นเขาของคุณลูกค้าบ่อยๆ เลยสักนิด


ครั้นกดกริ่งได้ไม่นาน ประตูตรงหน้าก็เปิดออก โดยที่ครานี้ไม่มีเสียงตึงตังดังมาจากข้างใน


“พี่รถกับข้าวมาแล้ว!~”


ทันทีที่สบตากัน อีกฝ่ายก็ส่งเสียงสดใสพร้อมแนบรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์พุ่งเข้ากระแทกใจวายุเข้าอย่างจัง จนชายหนุ่มอดยิ้มตามอีกฝ่ายไม่ได้


วันนี้คุณลูกค้าของวายุไม่ได้ติดกิ๊บรูปสัปปะรดแล้ว แต่ใส่ที่คาดผมแทน ทั้งหน้าตาก็ดูแจ่มใสกว่าที่เจอกันครั้งแรกมาก ทว่าเสื้อผ้าของเขายังเป็นเสื้อผ้าย้วยๆ ท่าทางเนื้อสัมผัสยามสวมใส่คงจะนิ่มสบายไม่น้อย


“วันนี้มาเร็วนะครับ” คุณลูกค้าว่า


“ระบบขนส่งของเราเข้าที่แล้วน่ะครับ ลำดับคิวการส่งจึงรันตามปรกติ” เจ้าของร้านที่จำแลงกายเป็นพนักงานส่งกล่าว


“ดีจัง” อีกฝ่ายตอบรับอย่างนั้นก่อนจ้องมาที่ตะกร้ากับข้าวตาเป็นประกาย วายุจึงยื่นตะกร้าอาหารนั้นให้เจ้าตัวไป


วันนี้มือของพวกเขาไม่ได้แตะกันเหมือนวันก่อน แต่วายุก็ไม่ได้คาดหวังให้มันเป็นเช่นนั้นหรอกนะ เพียงแต่ที่เขาเผลอจ้องลูกค้าของตัวเองนานกว่าปรกติ ก็เพราะกำลังสังเกตว่าอีกฝ่ายจะใช่นักเขียนคนดังจริงๆ หรือเปล่าเท่านั้น


และดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ากำลังถูกจ้องจับผิด


“เอ่อ...พี่รถกับข้าวมีอะไรหรือเปล่าครับ”


”ป่ะ...เปล่าครับ” คนที่ถูกเรียกว่าพี่รถกับข้าวปฏิเสธ ก่อนจะแสร้งทำเป็นเอ่ยถึงเรื่องอื่นกลบเกลื่อน “คือทางร้านแนบใบเสร็จการชำระลงในตะกร้าเรียบร้อยแล้วนะครับ และตอนนี้ร้านเรามีสะสมแต้มเพื่อของสะสมพรีเมี่ยมในทุกๆ ยอดการสั่งซื้อครบ 100 บาท โบรชัวร์ของพรีเมี่ยมก็แนบอยู่กับใบเสร็จด้วยครับ”


“อ้อ...มีโปรใหม่แบบนี้ด้วยหรือ” ดวงตากลมใสคู่นั้นมองตามที่วายุบอก พอเห็นโบรชัวร์ก็ยิ้มให้เขาอีกครั้ง “เห็นแล้วครับ ขอบคุณนะ”


”ทางเราต่างหากที่ต้องขอบคุณลูกค้าที่ใช้บริการครับ”


“อื้ม เอาไว้ผมจะรีวิวให้อีกนะครับ”


“รีวิว?”


“จะเรียกรีวิวไม่รู้ถูกไหม แค่ติดแท็กในทวิตเตอร์น่ะ” คนอัธยาศัยดีบอกแบบนั้น ก่อนจะตัดบทโดยที่วายุไม่ทันได้ถามต่อ “งั้นผมเข้าบ้านก่อน อีกสามวันเจอกันครับ”


พูดจบอีกฝ่ายก็หิ้วตะกร้าแล้วหายลับเข้าไปในห้อง ทิ้งให้วายุยืนอยู่กับข้อมูลใหม่ที่เขาอยากรู้นักอยากรู้หนา


สรุปคนที่ติดแท็กในทวิตเตอร์ก็คือลูกค้าคนนี้จริงๆ สินะ และนั่นก็แสดงว่าเขาคือนักเขียนนามปากกาหินก้อนสุดท้ายด้วย


เจ้าของร้านหนุ่มยิ้มออกมาอย่างสมใจ ที่ได้รู้เรื่องที่อยากรู้แล้ว


ไม่เสียแรงที่เอาของมาส่งให้ด้วยตนเอง...เขาคิดพลางกลับลงมาจากคอนโด


กระทั่งเข้ามานั่งในรถเรียบร้อย ชายหนุ่มก็เพิ่งฉุกคิดได้ว่า ในเมื่อเขารู้สิ่งที่อยากรู้แล้ว ต่อไปเขาก็ไม่จำเป็นต้องมาส่งของด้วยตนเองอีกต่อไปแล้ว


“อีกสามวันเจอกันครับ”


แม้เมื่อกี้คุณลูกค้าบอกแบบนั้น แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะมัวทำตัวเป็นเด็กๆ เล่นขายของเช่นนี้ ดังนั้นอีกสามวันข้างหน้าเขาตั้งปณิธานแล้วว่าต้องปล่อยให้การส่งสินค้าเป็นไปตามระบบเดิม จะไม่มีการใช้อำนาจของเจ้าของร้านในทางมิชอบแบบนี้อีก


พอย้ำกับตัวเองเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว วายุก็ขับรถกลับร้านทันที










ทว่า...


“พี่รถกับข้าวมาแล้ว!”


หรือจะเป็น...


“มาแล้วๆ”


และ


“วันนี้พี่รถกับข้าวมาเร็วอีกแล้วนะครับ!”


ไม่ว่าทางคุณลูกค้าคนพิเศษจะทักทายด้วยประโยคไหน ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า วายุยังคงทำงานนอกเหนือหน้าที่เจ้าของร้านเหมือนเดิม


มิหนำซ้ำยังทำมากว่าสองอาทิตย์แล้วด้วย!


ที่เคยบอกตัวเองว่าไม่ควรทำแบบนี้ ที่คิดถึงความยุ่งยากและจรรยาบรรณของผู้ประกอบการ ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็พ่ายแพ้ให้กับประโยค...


“อีกสามวันเจอกันนะครับ”


และรอยยิ้มพิมพ์ใจของคุณลูกค้าคนพิเศษทุกที


ให้ตายเถอะ! ทำไมถึงควบคุมตัวเองไม่ได้กันนะไอ้ลม


เจ้าของร้านหนุ่มสบถและก่นด่าตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พอเอาเข้าจริงเขากลับไปทำอีหรอบเดิม เหมือนเช่นเวลานี้...


1707


วายุกลับมายืนอยู่หน้าห้องห้องเดิมอีกครั้ง ในมือถือตะกร้าวัตถุดิบในการทำอาหารไว้มั่น เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ปัดความคิดว้าวุ่นออกไปจากสมอง ก่อนกดกริ่งเรียกคุณลูกค้า


ตื๊อ ตือ ตื๊อ ตื่อ~ ตื่อ ตือ ตื๊อ ตื่อ~


วายุขมวดคิ้วมุ่น เพราะยืนรออยู่พักใหญ่ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้าของห้องจะออกมาเปิดพร้อมทักทายด้วยรอยยิ้มน่ารักๆ เช่นทุกที เขาจึงจำใจกดกริ่งเรียกเป็นครั้งที่สอง


ตื๊อ ตือ ตื๊อ ตื่อ~ ตื่อ ตือ ตื๊อ ตื่อ~


คราวนี้ไม่ต้องรอนานอย่างตอนแรก บานประตูก็ปลดล็อคและค่อยๆ แง้มออกมา


“มาแล้วหรือครับ พี่รถกับข้าว...”


เสียงอ่อนระโหยโรยแรงบวกกับขอบตาคล้ำๆ กับสภาพไม่สู้ดีของคุณลูกค้าทำให้วายุถึงกับยิ้มไม่ออก


“ครับ...พี่รถกับข้าวมาส่งแล้วครับ”


อีกฝ่ายเดินเข้ามารับตะกร้าอาหารไปจากเข้าโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงเหมือนทุกที ร่างกายโอนไปทางซ้ายที เอียงมาทางขวาที ดวงตาล่องลอยๆ ราวกับซากศพไร้วิญญาณ


“อีกสามวัน...” คุณลูกค้าพูดแค่นั้น ก่อนนิ่งงันไป


“คุณ...ไหวไหมครับ” คนตัวสูงกว่าถามด้วยความเป็นห่วง


“ไหวครับ...หวะ”
   

ตึง!!


เสียงตะกร้าอาหารหลุดมือกระแทกพื้นดังตึง ข้าวของข้างในหล่นกระจัดกระจายเต็มไปหมด มันฝรั่งลูกงามกลิ้งหลุนๆ ไปไกลจนเกือบถึงหน้าลิฟต์ ส่วนเจ้าของตะกร้ายังไม่ทันล้มหน้าจูบพื้น ร่างทั้งร่างก็ถูกพนักงานส่งสิ้นค้าจากร้านพี่รถกับข้าวรับเอาไว้ทั้งตัว


“คุณ!”


วายุเขย่าร่างนุ่มนิ่มอย่างร้อนใจ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่รู้สึกตัวเลย เขามองข้าวของเกลื่อนพื้น ก่อนจะก้มมองเจ้าของแก้มกลมที่วางแหมะอยู่บนอกอีกครั้ง


อีกฝ่ายเป็นลม และต้องปฐมพยาบาลโดยด่วน


จะปล่อยคุณลูกค้าไว้แบบนี้ไม่ได้


ในสมองคิดประมวลผลฉับไว และแล้วเจ้าของร้านหนุ่มก็ตัดสินใจอุ้มร่างหมดสติของคุณลูกค้าขึ้น ก่อนพาเข้าไปในห้อง 1707







<><><><><><><><><><><><><><><><><><>





กับข้าวมาแล้วครับกับข้าวววว

เรื่องนี้ฝนจะเขียนสลับกันระหว่างสองคน ผลัดไปคนละตอน
ตอนหน้าเป็นตอนของเจ้าก้อนนะคะ
ส่วนแอปกับข้าวฝนไม่รู้ว่ามีไหม ไม่เคยหาเลยค่ะ
เคยเห็นแต่พวกสั่งอาหารแบบสำเร็จรูปเลย
เดี๋ยวต้องไปลองหาดูบ้างแล้ว
นี่คิดว่าถ้ามีแอปแบบนี้ก็น่าจะดี เพราะหลายครั้งก็ขี้เกียจออกจากบ้านไปจ่ายตลาดมากๆ 555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ


ละอองฝน.

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 แหมพี่ลมมมมม คุณนักเขียนเค้าน่ารักจนห้ามใจไม่ไหวล่ะซี่  :hao3:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
อิหนูไหวม้ายยย สงสัยปั่นต้นฉบับไม่หลับไม่นอนเป็นลมไปซะแล้ว ดีที่พี่ลมมาพอดี ว่าแต่พี่ลมนี่ก็ได้โอกาสเข้าห้องนักเขียนที่ชอบเลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
พี่รถกับข้าววว  :o8:

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
น้องก้อนต้องโหมงานหนักแน่เลย  :m15:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
เอาแต่ทำงานอีกแล้ว พี่รถกับข้าวรีบดูแลเลย

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่รถกับข้าวมาแล้ววววว // พูดด้วยฟีลิ่งเดียวกับเจ้าก้อน ฮ่าๆๆๆ
หลังอ่านจบตอนแรกก็ไปหาแอปนั้นทันทีค่ะ มีหลายเจ้าทีเดียว ทำกันมาหลายปีแล้วด้วยค่ะ
หลังจากรู้จัก โหลดมาปุ๊ปก็ละลายทรัพย์ปั๊ปเลย ฮ่าๆๆๆ สบายยยย

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
พี่รถกับข้าวววววววว ชื่ออน่ารัก :impress2: :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด