Photo(7)
กลางวันเครียดกับการเรียน กลางคืนก็ต้องหาเรื่องไปผ่อนคลาย โยนเรื่องเครียดออกจากหัว อยู่กับบรรยากาศที่ชอบ ฟังเพลงเพราะๆ พูดคุยเรื่องไร้สาระ กินของที่อยากกิน และใส่ใจเรื่องของเพื่อนรักอย่างสม่ำเสมอ
โดยเฉพาะไอทีที่ตั้งแต่เลิกคลาสก็แทบไม่เงยหน้าจากโทรศัพท์เลย
"วางมือถือบ้างก็ได้มั้ง เดี๋ยวมิ้มก็รำคาญหรอก"
"มิ้มจะรำคาญเหรอวะ" ได้ยินคำพูดจี้ใจดำของจิวขึ้นมานิดเดียวไอทีก็เงยหน้าถามสวนกลับไปจนเพื่อนตั้งตัวไม่ทัน
"ก็แซวเล่น แล้วมึงเป็นอะไรเนี่ย หรือมีปัญหากับมิ้ม" เรื่องที่จะทำให้ไอทีผู้น่าเริงทำตัวเซื่องซึมได้มีไม่มากนัก และหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่สุดคือทะเลาะกับแฟน แม้ตอนนี้จะไม่ถึงขั้นซึม แต่เห็นหน้าหงอยๆ เอาแต่จ้องมือถือจิวเลยสันนิษฐานเอาไว้ก่อนว่าน่าจะมาจากสาเหตุนี้
"ก็ไม่เชิงว่ะ"
"ยังไง"
ทัพที่ตอนแรกฟังแบบผ่านๆ เริ่มกลับมาสนใจวงสนทนามากขึ้นเมื่อจิวเริ่มการไต่สวน ถ้าคู่นี้ทะเลาะกันจริงแสดงว่าเรื่องใหญ่
"มิ้มไม่ตอบไลน์กูอ่ะ"
"แค่นี้"
"มันผิดปกตินะเว้ย"
"ไม่ตอบตอนไหน"
"ตั้งแต่เย็น ที่กูบอกจะมากับพวกมึง"
"คงไม่ใช่เพราะงอนพวกกูใช่มั้ย" จิวถามปนขำ รู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางใช่เหตุผลนี้แน่นอน
"มิ้มไม่ได้ให้ความสนใจกับพวกมึงขนาดนั้น"
"ขอบคุณสำหรับคำตอบ" แต่เจอตอบกลับมาแบบนี้ก็หมดอารมณ์จะถามต่อเหมือนกัน คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง
"แล้วตอนมึงบอกว่าจะมากับพวกกูมิ้มบอบว่าอะไร" ทัพลองถามบ้าง คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กว่าการแซวแบบทีเล่นทีจริงของจิว
"บอกแค่ว่าโอเค แต่พอกูทักไปอีกก็เงียบเลย ขนาดกูเซลฟี่ส่งไปให้ก็ยังไม่ตอบอะไรกลับมา"
"กูว่ามิ้มเบื่อขี้หน้ามึง"
"ถ้าหาคำพูดที่ดีกว่านี้ไม่ได้ก็หุบปากไปมึงอ่ะ" อย่างจิวต้องโดนด่าสักทีถึงจะยอมหยุดปากเสีย ทัพมองอย่างเอาเรื่องให้รู้ว่าครั้งนี้เขาไม่เล่น เพราะรู้ว่าไอทีแคร์มิ้มแค่ไหนเลยไม่อยากให้เพื่อนคิดมาก
"ก็แซวเล่นมั้ยล่ะ"
"มึงก็อย่าไปฟังมันมาก"
"เออ รู้" ไอทีตอบรับแบบหน่ายๆ ทัพเลยถามต่อ
"แล้วมิ้มอ่านไลน์มึงหรือยัง"
"ยังเลย"
"งั้นก็อย่าคิดมาก อาจจะหลับก็ได้ แต่ถ้ามึงเป็นห่วงจะกลับไปดูก็ได้ไม่ว่า"
ทัพพูดยังไม่ทันขาดคำโทรศัพท์ของไอทีที่วางอยู่บนโต๊ะก็สว่างวาบขึ้นมาจนทุกคนพากันหันไปมอง แล้วต่างคนก็ต่างถอนหายใจ สุดท้ายก็แค่คิดมากกันไปเอง
ไอทีรีบหยิบมือถือขึ้นมาตอบไลน์ของแฟนหนุ่มที่กำลังนึกเป็นห่วง พอหายคาใจแล้วก็กลับมายิ้มร่าเริงเหมือนเดิม จนคนที่โดนทัพด่าอย่างจิวเกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมาเล็กๆ
"ทีงี้ล่ะยิ้มหน้าบาน"
"กูมีความสุข"
"เออดี ทีหลังมีปัญหาพวกกูไม่ปลอบแล้วนะ"
"เรื่องของมึง"
"หมาเลยกู" จิวว่าติดตลก เขาเองก็แซวเพื่อนไปอย่างนั้น เห็นมันยิ้มได้ก็หมดเรื่องกังวลใจแล้ว
"ว่าแต่มึงกับเพ้นท์เป็นไงบ้างวะ ที่ว่าบอกชอบไปแล้ว" จบเรื่องตัวเองไอทีก็หันมาเปิดประเด็นกับคนที่กำลังมีเรื่องให้พูดถึงอย่างทัพแทน
"ก็เหมือนเดิม เหมือนคนคุยกันไม่เคลียร์ เชื่อที่กูบอกหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"ทำไมเป็นงั้น"
"ที่ผ่านมากูอาจจะเล่นมากไปมั้ง"
"จริงจังเมื่อสาย" แล้วก็เป็นจิวจอมปากเสียที่พูดแทรกขึ้นมา
"มึงไม่ต้องย้ำขนาดนี้ก็ได้"
"สงสัยกลุ่มเราคนที่สมหวังจะมีแค่ไอทีแล้วว่ะ" พูดจบจิวก็หัวเราะร่วน ใครไม่ขำด้วยเขาก็จะขำคนเดียว
ทัพกับไอทีมองคนปากเสียที่ตอนนี้เหมือนจะเป็นบ้าไปแล้วด้วยสีหน้าเอือมระอา ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันพูดจาแบบนี้คงมีแลกกันสักหมัดสองหมัด แต่จะเลิกเป็นเพื่อนมันก็ไม่ได้เสียด้วยเพราะหลวมตัวไปแล้ว ยังไงซะถึงจะปากเสียแต่จิวก็มีข้อดีอยู่เยอะ โดยเฉพาะเรื่องเรียนที่คงต้องพึ่งพากันต่อไป
คืนนี้เพ้นท์ต้องอยู่ห้องคนเดียวเพราะทัพออกไปสังสรรค์กับเพื่อนกว่าจะกลับก็เข้าสู่วันใหม่ หรือดีไม่ดีอาจจะได้เห็นหน้ากันอีกทีพรุ่งนี้ตอนเย็นเลยด้วยซ้ำ ซึ่งก็ดีแล้วที่เพ้นท์จะได้อยู่ห้องแบบเงียบสงบ ได้ปั่นงานอย่างสบายใจโดยไม่มีคนกวน
อาบน้ำเสร็จ เตรียมเสบียงเรียบร้อยเพ้นท์ก็นั่งประจำโต๊ะ เปิดโน้ตบุ๊กเข้างานที่ค้างไว้ เปิดเพลงคลอเบาๆ ตั้งสมาธิจดจ่ออยู่กับงานจนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตู เขาถึงได้รู้ตัวว่าตอนนี้ปาเข้าไปตีสองแล้ว
ทัพเดินเข้ามาในห้องด้วยสภาพที่สติครบถ้วนสมบูรณ์แม้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ พวกเขาสบตากันแวบเดียวต่างคนก็ต่างหันกลับไปสนใจสิ่งที่ตัวเองต้องทำ ทัพไปอาบน้ำ ส่วนเพ้นท์ก็นั่งทำงานต่อ แต่ความอยากทำงานที่เคยมีมันกลับหายไปหมดเมื่อเจ้าของห้องอีกคนกลับมา
ทนนั่งทำต่อได้อีกไม่กี่นาทีเพ้นท์ก็ต้องปิดโน้ตบุ๊กกระโดดขึ้นเตียง เขาดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปงทำทีเป็นหลับทั้งที่ตายังสว่าง ฝืนให้ตายก็คงหลับไม่ลง
ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดไม่นาน ไฟในห้องก็ถูกปิดตาม ทัพนั่งลงที่เตียงเพ้นท์แทนที่จะเป็นเตียงตัวเอง จนคนตกใจง่ายเผลอสะดุ้งกับการทำอะไรแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง แบบนี้ก็รู้กันพอดีว่ายังไม่หลับ
"นึกว่าหลับไปแล้ว"
"ยัง" เพ้นท์ยอมรับง่ายๆ โดยที่ยังมุดอยู่ในผ้าห่ม
"นอนด้วยดิ"
"นอนเตียงมึงบ้างเหอะทัพ"
"กูอยากนอนกอดมึง"
ทัพไม่สนใจคำไล่แบบครึ่งๆ กลางๆ ล้มตัวลงนอนเบียดแถมแย่งผ้าห่มมาห่ม เจ้าของเตียงก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากแบ่งที่ให้และทำตัวเป็นหมอนข้างเหมือนเคย
"มึงง่วงหรือยัง" ผู้บุกรุกเอ่ยถาม สายตาเขาเริ่มชินกับความมืดแล้ว แต่น่าเสียดายที่ไม่เห็นหน้าเพ้นท์เพราะถูกนอนหันหลังใส่
"ยัง"
"งั้นกูขอถามอะไรหน่อย"
ทัพกระชับกอดจนแผ่นหลังของเพ้นท์ขยับมาชิดหน้าอก เขากระซิบชิดต้นคอ แต่ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา เพราะฉะนั้นจะคิดเสียว่าอนุญาตให้ถาม
"ทำไมมึงไม่อยากถ่ายแบบคู่กับกูอ่ะ"
"แล้วทำไมมึงต้องเข้ามายุ่งเรื่องนี้ด้วยล่ะทัพ" เพ้นท์ถามกลับมาทันที ปัญหามันอยู่ที่เขาไม่อยากถ่ายคู่ ไม่ใช่ว่าไม่อยากถ่ายคู่กับใคร
"เอฟมันเป็นคนชวนกูนะ"
"กูไม่ได้อยากถ่ายแบบคู่ กูบอกเอฟไปแล้ว แต่แม่งไม่ฟัง บางทีก็อาจจะเลิกถ่ายไปเลยก็ได้"
"ทำไมต้องเลิก"
"หรือมึงอยากให้กูถ่ายต่อ"
"เพราะกูเหรอ"
คำที่พูดออกไปโดยไม่ทันคิดพอโดนสวนกลับมาเพ้นท์ถึงได้รู้ว่าพลาดท่าเสียแล้ว บอกไปแบบนั้นย่อมเข้าทางทัพเต็มๆ ถึงเขาจะเลิกถ่ายแบบเหตุผลนั้นต้องไม่ใช่เพราะรูมเมทจอมกวนประสาทนี่อยู่แล้ว มันเป็นเพราะเขาเบื่อจะหลบๆ ซ่อนๆ เบื่อที่จะต้องโชว์เรือนร่างให้ใครต่อใครดูผ่านภาพถ่าย
ใช่...เป็นเพราะเขาเบื่อ
"ไม่ใช่ทัพ คือกู..."
ไม่รอให้พูดจบประโยคทัพก็ช้อนตัวเพ้นท์ให้หันหน้ามาหา เขากอดเอวไว้หลวมๆ อยากฟังคำพูดพวกนี้ต่อหน้า อยากเห็นสีหน้าที่อีกคนแสดงแม้จะอยู่ในความมืด แต่เชื่อเถอะว่าเขารู้สึกได้
"พูดต่อสิ"
"กู...แค่เบื่อ ไม่ใช่เพราะมึง"
"กูนี่ชอบคิดไปเองเนอะ เรื่องที่มึงอาจจะชอบกูด้วยเหมือนกัน"
เพ้นท์พูดอะไรไม่ออก จะบอกว่าทัพคิดไปเองทั้งหมดก็ไม่ใช่เพราะเขารู้ดีแก่ใจ บางทีที่ว่าเบื่อ เขาอาจจะเบื่อความเล่นตัวและความปากหนักของตัวเองด้วยก็ได้ รู้ว่าการกระทำนำคำพูดไปไกลแล้ว แต่ก็ยังเลือกที่จะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป
"ถามจริงๆ นะเพ้นท์ มึงชอบกูหรือเปล่า ขี้เกียจคิดเอาเองแล้ว บอกกูได้มั้ย ตอนนี้มึงทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ ไปหมด ช่วยทำอะไรให้ชัดเจนที มึงไม่ต้องตอบเป็นคำพูดก็ได้ กูจะถามมึงอีกครั้ง ถ้าไม่ก็ตอบมาเลยว่าไม่ชอบ แต่ถ้ามึงคิดเหมือนกันจะเงียบไว้ก็ได้ เพราะคำตอบมันคือใช่"
ทัพเว้นระยะให้คนในอ้อมกอดได้คิด ที่ผ่านมาเขาจะไม่คิดอะไรเลยถ้าเพ้นท์ไม่ยอมให้กอดอยู่แบบนี้ แม้ปากจะด่าเขาจนไม่เป็นผู้เป็นคน ทว่าหลายๆ การกระทำกลับตรงกันข้าม เข้าข่ายพวกปากไม่ตรงกับใจคนหนึ่ง
ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาแทนที่จนเห็นว่าสมควรแก่เวลาทัพก็เริ่มขยับตัว เขาถอยออกห่าง ปล่อยแขนที่กอดเพ้นท์เอาไว้ เพราะถ้าคำตอบคือ 'ไม่' เขาก็พร้อมที่จะกลับออกไปโดยไม่คัดค้านอะไรอีก
"มึงชอบกูหรือเปล่า"
ความเงียบกลับเข้ามาแทนที่อีกครั้งเมื่อสิ้นเสียง ทัพเริ่มนับเวลาในใจ เขาไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าเพ้นท์ต้องเงียบไปถึงเมื่อไร แต่เขาจะให้เวลากับตัวเองแค่หนึ่งนาที และตัดสินคำตอบเอาเอง
...สามสิบวินาที
ทัพหลับตานับอยู่ในใจอย่างรอคอย ยิ่งผ่านไปนานเท่าไรใจก็ยิ่งเต้นแรงจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน แต่ทัพคงไม่รู้หรอกว่าเพ้นท์ก็กลัวว่าทัพจะได้ยินเสียงหัวใจของเขาเหมือนกัน
...หกสิบวินาที
และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย
ทัพรวบตัวเพ้นท์เข้ามากอดอีกครั้งก่อนพลิกตัวขึ้นคร่อมเอาไว้โดยที่ไม่เพ้นท์ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด
"มึงเลือกแล้วนะ"
ไร้คำตอบใดๆ กลับมาเหมือนเคย
ทัพก้มลงจูบเมื่อถูกสองแขนของคนข้างล่างคล้องคอให้โน้มลงไปหา ริมฝีปากบดเบียดแนบชิดก่อนรุกล้ำเมื่อเพ้นท์เปิดทางให้ เป็นจูบครั้งที่สองที่แสนดูดดื่มและแสนหวานของเขาสองคน
กับคนคนนี้เมื่อได้ลองแล้วกลับยิ่งรู้สึกว่ามันไม่พอ ละจากริมฝีปากทัพก็ฝังจมูกที่ต้นคอ มือไม้เริ่มไม่อยู่นิ่งสอดเข้าไปใต้เสื้อนอน บีบช่วงเอวคอดที่คนใต้ร่างชอบโชว์ในเห็นบ่อยๆ ในภาพถ่าย ก่อนลากผ่านไปที่หน้าท้องจนเพ้นท์ต้องรีบห้ามเอาไว้
"ทัพ เยอะไป"
"ให้แค่ไหน"
"แค่จูบ...แค่จูบพอ"
ให้แค่จูบทัพก็จูบ ไม่เถียงไม่ต่อรอง อยู่ด้วยกันมานานย่อมรู้นิสัย คนอย่างเพ้นท์ห้ามแกล้งห้ามกวนใส่แล้วจะได้อย่างที่ต้องการเอง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เนียนจนได้กอดได้หอมเป็นปีๆ แต่เพราะส่วนใหญ่ชอบกวนให้โมโหเลยมักโดนด่ากลับมาแทน
สองร่างบนเตียงยังนัวเนียไม่เลิกและไม่รู้จะยาวนานไปจนถึงเมื่อไร ปากจูบมือก็นัวเนียไปตามอารมณ์ ได้จับตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยพอให้หอมปากหอมคอ รุกคืบแบบช้าๆ ให้เหยื่อรู้ตัวช้าตาม กว่าจะโดนห้ามก็เมื่อได้สิ่งที่ต้องการมาครอบครองแล้ว
"ทัพ"
มือที่กำลังจะล้วงเข้าไปในกางเกงนอนหยุดชะงัก และต้องรีบดึงออกทันทีเมื่ออีกประโยคตามมา
"ถ้ายังไม่หยุดกูจะถีบมึงออกแล้วนะ"
ขู่กันแบบนี้แล้วทัพจะไปขัดอะไรเพ้นท์ได้
นับว่าเป็นคืนแรกที่นอนกอดกันยันเช้าตื่นมายังเจอหน้ากันก็คงไม่ผิด หลังจากที่ทัพได้จูบเพ้นท์จนหนำใจก็นอนกกก่ายไม่ห่างไปไหน ทั้งที่ปกติจะลุกหนีไปก่อนไม่รอให้อีกฝ่ายตื่นมาบ่นให้หูชา แต่เช้านี้ถึงจะบ่นกี่ตลบเขาก็จะรับฟังอย่างยินดี
"ลุกได้แล้ว" หลังจากนอนมองหน้ากันมาร่วมนาทีเพ้นท์ก็ผลักทัพออกเบาๆ ยังดีที่รูมเมทจอมกวนประสาทยอมลุกออกไปโดยไม่อิดออด เพราะถ้าพูดดีๆ แล้วไม่ลุก เขาจะใช้ตีนถีบให้หล่นจากเตียงเอง
ทัพเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาพาดบ่าไว้ก่อนหันกลับมาหาคนที่ยังเอาแต่นอนอุตุ เห็นแล้วก็อยากจะกระโดดขึ้นเตียงอีกรอบ
"วันนี้มึงเรียนบ่ายใช่มั้ย"
"อืม" เสียงงัวเงียครางรับกลับมาทั้งที่ยังไม่ลืมตา คนมองเลยอมยิ้มพลางส่ายหน้าก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเพ้นท์ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะลุก ทัพเลยเดินไปนั่งข้างเตียงก่อนกดจูบข้างขมับที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมา ทำลงไปแล้วก็นึกขำตัวเอง พอรู้ว่าใจตรงกันก็อยากจะถนอมขึ้นมาเสียอย่างนั้น
จากนี้เขาจะแกล้งแรงๆ ให้น้อยลงแล้วเปลี่ยนเป็นลวนลามด้วยความอ่อนโยนแทนก็แล้วกัน
"มิ้มครับ ทีไปเรียนก่อนนะ" ไอทีก้มลงกระซิบข้างหูคุณแฟนตัวเล็กที่ยังซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเหมือนอย่างเคยเมื่อเขาต้องออกจากห้องก่อน ไม่ได้ตั้งใจจะปลุก แต่วันนี้มิ้มตื่นก่อนเขาเสียอีก ตื่นแต่ยังนอนไม่ยอมลุก
"อือ ตั้งใจเรียนนะ"
"จุ๊บให้กำลังใจหน่อย"
ไอทียื่นแก้มเข้าไปใกล้มิ้มก็แตะริมฝีปากเบาๆ ให้ตามคำขอจนแฟนหนุ่มยิ้มตาเป็นขีดก้าวถอยออกห่างจากเตียง
"ไปแล้วนะ"
"เดี๋ยวที"
"ครับ ว่าไง" ไอทีรีบหมุนตัวกลับมาทั้งที่หันหลังให้แล้ว เลิกคิ้วมองคุณแฟนตัวเล็กที่กำลังลุกขึ้นนั่ง
"ช่วงนี้ทีได้รับถ่ายรูปหรือเปล่า"
"ไม่มีนะ ไม่ได้รับถ่ายรูปมานานแล้วด้วย"
"เหรอ"
"มิ้มถามทำไมเหรอ"
"เปล่าๆ ไม่มีอะไร เราแค่อยากรู้เฉยๆ" มิ้มอมยิ้มบางๆ เป็นรอยยิ้มที่คนมองพอจะดูออกว่าแสร้งทำ
ไอทีเดินกลับมานั่งบนเตียง เพราะรอยยิ้มฝืนๆ นั้นทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ไหนจะอาการแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อวาน แต่เขายังเดาไม่ออกว่ามิ้มเป็นอะไร
"มิ้มมีอะไรไม่สบายใจบอกทีได้นะ"
"ไม่มีอะไรหรอก ทีไปเรียนเถอะ"
"แน่ใจนะ"
มิ้มพยักหน้ารับแล้วยิ้มให้อีกครั้ง เป็นร้อยยิ้มที่ดูไม่ฝืนใจเหมือนครั้งก่อนเพราะมิ้มรู้สึกดีจากใจจริงๆ ที่ไอทียังห่วงใยกันอยู่ แม้จะมีบางอย่างที่ปิดบังเขาอยู่ก็ตาม
"มีอะไรรีบบอกทีนะ รู้ใช่มั้ยว่าเป็นห่วง" ไอทีลูบหัวยุ่งๆ ของอีกคนอย่างแสนรัก เขาอยากให้มิ้มมีความสุขทุกวันที่อยู่กับเขา มันคือสิ่งที่เขาบอกกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา
"รู้แล้วน่า"
"อย่าลืมกินข้าวเช้าด้วย ทีไปเรียนจริงๆ แล้วนะ"
"รีบๆ ไปเลย"
"ไล่อ่ะ เสียใจ"
มิ้มย่นจมูกใส่ นึกมันเขี้ยวคนทำเสียงงอแงเป็นเด็กๆ เลยหอมแก้มเอาใจไปอีกหนึ่งทีแล้วผลักให้รีบลุกก่อนไอทีจะไปเรียนสาย ริมฝีปากยิ้มแย้มโบกมือลาด้วยความสดใสแม้ในใจจะหม่นหมอง จนเมื่อประตูห้องปิดลงรอยยิ้มหวานๆ ก็จางหายไป
สุดท้ายก็ไม่กล้าถามออกไปตรงๆ อยู่ดี
TBC
ทัพไม่กากนะ แต่วันนี้เขาให้เท่านี้ก็เอาแค่นี้ไปก่อนเนอะ รู้อนาคตนะแบบนี้ ฮ่าๆๆ
แล้วก็ฝากเอาใจช่วยหนูมิ้มด้วยน้า ได้โปรดเข้าใจน้องด้วยยยย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่า