เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น EP40 (จบ) : เกียร์สีขาว (16/07/2018)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น EP40 (จบ) : เกียร์สีขาว (16/07/2018)  (อ่าน 117202 ครั้ง)

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2018 16:43:04 โดย ninepinta »

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น

 

ตอนที่ 1 : จุดเริ่มต้น

 

“ไม่เอาพี่ ยังไงผมก็ไม่เป็น”



            ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาสีขาวสะอาดพูดตอบอีกฝ่ายของปลายสายโทรศัพท์ไปอย่างเด็ดขาด เขาเพิ่งกลับจากงานปฐมนิเทศน์ที่คณะ และเขาตัดสินใจที่จะปักหลักคุยกับรุ่นพี่คนสนิทให้รู้เรื่องก่อนจะเดินขึ้นหอที่เขาเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่ถึงสัปดาห์



            “ไป๋ ช่วยพี่หน่อย นี่มันงานหน้าตาของคณะนะเว่ย” เสียงจากอีกฝั่งยังคงรบเร้าต่อ



            “ไม่เอาพี่ พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบยุ่งวุ่นวายกับคนเยอะๆ ให้ไอ้ว่านเป็นก็ดีแล้วพี่ มันหล่อจะตาย” ไป๋ตอบออกไปเสียงเรียบๆ



            “ไม่ได้ไป๋ เสียงส่วนใหญ่ในคณะเลือกไป๋ แล้วไป๋จะไม่เป็นได้ยังไง นี่มันเดือนคณะเลยนะเว่ย ใครๆ ก็อยากเป็น” พี่ภาค รุ่นพี่โรงเรียนเก่า และตอนนี้ยังได้ฐานะเป็นรุ่นพี่คณะแพทยศาสตร์ของเขาพูดออกมาอย่างไม่ยอมแพ้



            “พี่ภาค ผมไม่สะดวกจริงๆ คนที่พร้อมกว่าผม หล่อกว่าผมมีเยอะแยะ พี่ให้คนอื่นเป็นเถอะ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แต่เจตนาข้างในของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง



            “ไป๋อย่าเถียงเสียงส่วนใหญ่ ถือว่าช่วยคณะก็ได้ ไป๋รู้ไหมว่าคณะแพทย์เราไม่ได้รางวัลเดือนคณะมานานแล้วนะ เราแพ้ให้วิศวะมาสองปีซ้อนแล้ว ปีนี้พี่ฝากความหวังไว้กับไป๋เลยนะ” ปลายสายโน้มน้าว



            “อย่าพูดงี้ดิ วิศวะชนะแล้วก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยพี่ แข่งเดือนคณะมันไม่ได้วัดอะไรสักหน่อย ชนะไปก็ไม่เห็นมีอะไร พี่คิดมากไปหรือเปล่า อีกอย่าง ไอ้ว่านก็หล่อจะตาย ถ้าไอ้ว่านรู้ว่าพี่โทรมาหาผมแบบนี้มันโกรธผมแน่”



            “ตอนนี้ชื่อไป๋เป็นเดือนอย่างไม่เป็นทางการแล้ว รุ่นไป๋เลือกไป๋เยอะสุด ถึงไป๋จะประกาศว่าจะไม่เป็นแต่มันก็ยังไม่มีผลอะไรอยู่ดี ว่านมันก็เพื่อนไป๋น้องพี่ มันไม่โกรธหรอก”



            “พี่ ผมไม่อยากเป็นจริงๆ พี่อย่าบังคับผมเลย” เขางัดไม้อ่อนขึ้นมาเอ่ยปฏิเสธอีกครั้ง



            “เอางี้ ไป๋ไปนอนคิดให้ดีก่อน เดี๋ยวอีกสามสี่วันพี่โทรมาขอคำตอบใหม่ ไม่ต้องรีบ พี่รอได้” ภควัตเอ่ยออกมาอย่างไม่ยอมแพ้



            “วันนี้หรืออีกสามวันคำตอบก็เหมือนเดิมพี่” ไป๋ตอบอย่างนุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น



            “อีกสามวันพี่จะโทรมาใหม่ หวังว่าไป๋จะไม่ปฏิเสธพี่นะ”



            ปลายสายเอ่ยเป็นครั้งสุดท้ายอย่างกำชับ ก่อนจะตัดสายวางไปแบบไม่เอ่ยคำร่ำลา ชายหนุ่มหยิบมือถือออกมาดูพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก เขาไม่ชอบโดนบังคับ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรและจากใคร ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นรุ่นพี่ที่เขาสนิทมากก็ตาม



 



            “กระจอก...”



            เสียงปริศนาลอยมาจากที่ไม่ห่างออกไปไกลจากตัวเขานัก ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวามองหาต้นตอไม่นานก็เจอกับเจ้าของเสียงที่ไม่ใช่ใครอื่น อิฐ คนที่จะเรียกว่าเพื่อนก็ไม่ใช่ ศัตรูก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าเป็นฐานะเพื่อนโรงเรียนเก่าของเขาแล้วกัน



            “เสือก...”



            เขาตอบกลับไปด้วยสีหน้าเมินเฉยตรงกันข้ามกับอีกฝั่งที่ทำสีหน้ากวนประสาทเขาสุดฤทธิ์ สำหรับคนอื่น การตอบแบบนี้ให้กับคนแปลกหน้าคงจะเป็นจุดเริ่มต้นของการวางมวยแน่ แต่ไม่ใช่สำหรับเขาและคนตรงหน้านี่ ข้อหนึ่ง พวกเขาไม่ใช่คนแปลกหน้า และข้อสอง เขารู้จักนิสัยไอ้คนตรงหน้านี้ดี



            “กูไม่ได้เสือก มึงเอ่ยชื่อคณะกู แถมยังพาดพิงกูด้วย มึงจะหาว่ากูเสือกได้ไง” อิฐ เด็กหนุ่มอีกคนที่นั่งห่างออกไปหนึ่งโต๊ะตอบออกมาด้วยท่าทางยียวน



            “มึงเป็นเดือนคณะวิศวะ?” ไป๋ตั้งคำถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย



            “แน่อยู่แล้วไอ้น้อง” อิฐตอบพร้อมยักคิ้ว



            “หึหึ สงสารคณะมึงเหมือนกันนะเนี่ย หาคนหล่อสุดได้แค่มึง” ไป๋ตอบออกไปอย่างกวนประสาทเช่นกัน



            “คณะมึงก็เหมือนกันแล้วว๊า หาดีได้แค่มึงแค่เนี้ย” อิฐตอบออกไปอย่างไม่สะทกสะท้านกับคำสบประมาทนั่นแม้แต่น้อย



 



            อิฐกับไป๋ถือเป็นมนุษย์ที่มีความต่างกันอย่างสุดขั้ว



            ไป๋ เด็กหนุ่มจากคณะแพทยศาสตร์เป็นผู้ชายตัวสูงผอมแต่งตัวเนี๊ยบ ชายเสื้อของเขาอยู่ในขอบกางเกงเสมอ ผิวขาวของเขาตัดกับสีผมดำขลับที่ไม่เคยทำสีผมแม้แต่ครั้งเดียว หากจะให้นิยามมนุษย์ที่อยู่กรอบมากที่สุด ไป๋น่าจะเป็นคนเหล่านั้น เขาไม่ชอบการแหกกฎ ไม่ชอบการทำอะไรที่วุ่นวายและเรื่องมาก สิ่งที่เขาชอบมีเพียงความเงียบ และหนังสือดีดีสักเล่ม



            อิฐ เด็กหนุ่มจากคณะวิศวกรรมศาสตร์แต่งตัวผิดระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมสีน้ำตาลเข้มยาวถึงต้นคอ เสื้อนักศึกษาติดสาปซ่อนกระดุม กางเกงขากระบอกเล็กจนเกือบจะเป็นทรงเดฟ และรองเท้าผ้าใบสีฉูดฉาด หากไป๋เป็นมนุษย์บ้ากฎ อิฐก็น่าจะเป็นพวกที่อยู่ตรงข้าม เพราะนอกจะไม่ชอบปฏิบัติตามกฎแล้ว ยังชอบทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามอีกด้วย



 



            “ไม่ลงแข่งเพราะกลัวแพ้กูหละสิ” เสียงของอิฐดังมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังยังไงก็เป็นการเยาะเย้ย



            “ไร้สาระ กูไม่เห็นจะสนใจ” ไป๋พูดพลางหันหลัง พร้อมทำท่าจะเดินขึ้นหอไปอย่างไม่สนใจคนตรงหน้าอีก



            “มึงแพ้กูแน่” อีกฝ่ายเร่งเสียงขึ้นอีกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะเดินหนี



            “แพ้มึงแล้วยังไง กูไม่เห็นว่ามันจะสลักสำคัญอะไรกับชีวิตกูเลย” ไป๋หันมาตอบอย่างรำคาญ



            “เออ ใช่ กูลืมไป มึงก็แพ้กูมาตลอดนี่นา”



            เด็กหนุ่มเจ้าของผิวไม่ขาวไม่ดำพูดออกมาอย่างจงใจยั่วโมโห อิฐจงใจยกมือขึ้นไปลูบตุ้มหูที่ใส่อยู่เพียงหูฝั่งขวาฝั่งเดียวของเขาอย่างจงใจ ตุ้มหูอันนั้นเป็นรูปเสื้อกาวน์อันเล็กจิ๋ว แต่แทนที่มันจะเป็นสีขาวเหมือนเสื้อกาวน์ทั่วไป มันกลับย้อมไปด้วยสีฝุ่นขมุกขมัว อิทธิกรจงใจลูบตุ้มหูนั้นช้าๆ อย่างออกนอกหน้า เขารู้ว่าตุ้มหูอันนี้มีความหมายต่อไป๋มากเสียจนพอที่จะทำลายนิสัยตายซากของหมอไป๋ผู้เย่อหยิ่งได้



            “ถ้ากูชนะแล้วมึงจะทำไม” ไป๋จงใจพูดอย่างสงบสติอารมณ์ ประโยคที่ว่าฟังดูอย่างไรก็รู้ว่าเป็นการยื่นข้อเสนอ



            “ถ้ามึงชนะกู กูก็จะให้สิทธิ์การขออะไรก็ได้กับมึงหนึ่งสิทธิ์ เหมือนที่กูเคยได้จากมึงนี่ไง”



            อิฐพูดพร้อมยิ้มมุมปาก ใช่ หมอไป๋เคยแพ้พนันกับเขา และสิ่งที่เขาได้รับคือสิทธิ์ที่จะสั่งอะไรมันก็ได้หนึ่งอย่าง ตอนนั้นเขายังเลือกที่จะไม่ตัดสินใจว่าจะสั่งอะไร แต่เขาขอตัวแทนคำสั่งนี้ด้วยตุ้มหูกาวน์สีฝุ่นของไป๋ที่มันรักนักหนา ตราบใดที่ตุ้มหูนี่ยังอยู่กับเขา นั่นก็หมายความว่า เขายังชนะไป๋อยู่ก้าวหนึ่งเสมอ



            “ได้ กูจะลงแข่ง แล้วถ้ากูชนะเมื่อไหร่ กูจะมาเอาเสื้อกาวน์ของกูคืน”



            ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงกระชากก่อนจะเดินหันหลังขึ้นหอไปอย่างไม่สนใจคนตรงหน้านี้อีก อิฐหันมาดูดน้ำกาแฟเย็นที่วางทิ้งไว้อย่างสบายใจ มืออีกข้างของเขายังลูบตุ้มหูรูปเสื้อกาวน์นั้นอย่างถูกใจราวกับมันเป็นของเล่นชิ้นโปรด





           

            ‘งานนี้มึงได้แพ้กูอีกแน่ ไอ้หมอไป๋’





               นายพินต้า

               ติดตามและพูดคุยกับนักเขียนได้ที่ www.twitter.com/ninepinta

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น



ตอนที่ 2 : อีกครั้ง



            “ถ้ากูตกลงเป็นเดือน มึงจะโกรธกูเปล่าวะ”



            เสียงของเขาดังขึ้นทันทีเมื่อปลายทางรับสาย ไป๋ตัดสินใจโทรหาว่านทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องพักของตนเป็นที่เรียบร้อย ว่านคือคนที่ได้คะแนนเสียงการเลือกตั้งเดือนเป็นอันดับสอง คนที่เขาเอ่ยไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะว่ามันจะต้องเป็นเดือนแทนคนที่ถูกเลือกมากที่สุดอย่างเขา



            “เห้ย กูจะโกรธทำไมวะ มึงได้เลือกมึงก็ต้องเป็นดิ แล้วกูจะไปโกรธมึงเรื่องไร” ปลายสายตอบกลับมาพร้อมเสียงกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี



            “ก็ตอนแรกกูบอกจะให้มึงเป็นแทนกูไปแล้ว”



            “กูยังไม่ตอบตกลงสักหน่อย หรือจะพูดให้ถูก กูยังไม่ได้เก็บมาคิดสักนิดเลยหวะ ฮ่าฮ่าฮ่า”



            ว่าน หรือหมอว่าน เพื่อนสนิทของเขาตั้งแต่มัธยมปลายตอบออกมาด้วยเสียงร่าเริงอย่างติดนิสัย พวกเขาสนิทกันมาตั้งแต่โรงเรียนเก่าแล้ว ไอ้ว่านเป็นคนอารมณ์ดีและเฟรนลี่มาก เรียกได้ว่าแทบจะตรงกันข้ามกับเขาที่เป็นคนเงียบๆ และไม่ค่อยพูดเลย



            “ว่าแต่อะไรมันดลบันดาลให้คนอย่างมึงเปลี่ยนใจได้วะ” ปลายสายถามต่อมาด้วยความสงสัย



            “ไม่มีอะไรหรอก ช่างมันเถอะ” ไป๋พูดอย่างตัดรำคาญ



            “ไอ้ไป๋ ตอบมา ตอนแรกกูไม่สงสัย แต่ตอนนี้กูเริ่มจะสงสัยแล้วเนี่ย อะไรมันทำให้คุณชายไป๋บนหอคอยงาช้างอยากจะครองตำแหน่งเดือนไปจิ๊จ๊ะกับมนุษย์ได้วะ” ว่านขู่แกมกวน แต่ก็อยากได้จากเขาอย่างจริงจัง



            “กูบอกว่าไม่มีอะไร”



            “ไอ้ไป๋”



            “วันนี้กูเจอไอ้อิฐ”



            “อิฐ ไอ้ไนท์อิฐจอมบ้าพลังอะนะ”



            “เออ มันสอบติดคณะวิศวะหวะ กูเพิ่งเห็นมันวันนี้เอง”



            “แล้ว”



            “มันเป็นเดือนคณะ”



            “ก็เหมาะสมอยู่นะ คิงคองยักษ์กล้ามเป็นมัดๆ อย่างมันก็ควรจะเป็นเดือนแหละกูว่า ตอนอยู่มัธยมก็เนื้อหอมใช่เล่นที่ไหน อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้” ว่านตอบกลับมาอย่างพินิจพิเคราะห์



            “เออ นั่นแหละ” ไป๋ตัดบท

 





            “แล้วไงต่อไอ้ไป๋ กูไม่เห็นว่าการที่ไอ้อิฐเป็นเดือนวิศวะมันจะเกี่ยวอะไรกับมึงเลย หรือมึงอยากจะลงแข่งเดือนมหาวิทยาลัยเพื่อเอาชนะมัน ไม่มั้ง กูว่าไม่ใช่อะ” ปลายสายตอบออกมาอย่างรู้จักเพื่อนตัวเองดี



            “มันบอกว่าถ้ากูชนะ มันจะคืนกาวน์ให้กู” ไป๋ตอบออกไปโดยพยายามคุมน้ำเสียงให้เรียบที่สุด



            “เหรอ”



            “อืม”



            “ศึกการแข่งขันของพวกมึงมันยังไม่จบอีกเหรอเนี่ย กูนึกว่ามันจบไปตั้งแต่เรียนจบม.ปลายแล้วนะ” ว่านตอบออกมาพร้อมกลั้วหัวเราะ



            “ใครจะไปคิดว่าจะได้มาเจอกันอีกวะ”



            “เออ เอาเหอะ จะทำอะไรก็แล้วแต่มึง มีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกัน” ว่านพูดสรุป



            “เนี่ย ตอนนี้กูมีเรื่องจะให้ช่วย”



            “อะไรวะ”



            “มึงช่วยโทรบอกพี่ภาคให้หน่อยดิว่าเกลี้ยกล่อมให้กูยอมเป็นเดือนสำเร็จแล้ว เมื่อกี้กูปฏิเสธเขาไปเสียงแข็งเลย กูไม่อยากเสียหน้า” ไป๋พูดด้วยเสียงอ่อยๆ



            “ฮ่าฮ่าฮ่า มึงนี่น้า ฟอร์มเยอะไม่เคยหาย” ว่านหลุดขำออกมาอย่างตลกในความเรื่องมากของเพื่อนตัวเอง



            “เออ ช่วยกูหน่อยนะ”



            “นี่ถ้าคนอื่นเขามารู้ว่าหมอไป๋สุดหล่อนิสัยที่แท้จริงเป็นอย่างงี้ คนอื่นเขาจะว่ายังไงวะ ฮ่าฮ่าฮ่า”



            ว่านพูดกระเซ้า ไอ้หมอไป๋เพื่อนเขานี่ถือว่าเป็นคนหล่อคนหนึ่งเลย มันเป็นผู้ชายตัวสูงและผอม ที่สำคัญคือมันผิวขาวมาก ผมดำ คิ้วเข้ม หน้าใส พิมพ์นิยมสไตล์หนุ่มเกาหลีไม่มีผิด แต่นิสัยของไอ้ไป๋นี่ถือว่าเป็นมนุษย์ที่เข้าถึงยากมาก จะเรียกว่าไงดีนะ คือมันสนิทกับคนยากมากและแทบไม่เคยแสดงธาตุแท้ให้ใครเห็นเลย ภายนอกมันจะดูเป็นคนเงียบๆ เย็นชา ตายด้าน แต่ความจริงมันก็เป็นคนนิสัยดีคนหนึ่งเลยแหละ เพียงแต่มันไม่ค่อยหันมุมพวกนี้ให้ใครเห็น แน่นอนว่าเพื่อนสนิทอย่างเขาเป็นข้อยกเว้น เวลาเขาเห็นไอ้ไป๋เพื่อนจอมหยิ่งไม่สนใจโลกของเขามาวุ่นวายกับเรื่องจุกจิกเล็กๆ น้อยๆ เขาจะตลกเป็นพิเศษ มันชอบแสดงออกว่ามันไม่เคยสนใจอะไร แต่ความจริงแล้ว มันเป็นมนุษย์ที่โคตรสนใจสายตาคนอื่นเลย

 





            “เออ ครั้งหน้าถ้ามึงเจอสาวถูกใจ เดี๋ยวกูจะเดินไปขอเบอร์มาให้หนึ่งครั้ง ถือว่าเป็นอันหายกัน”



            “เรื่องดิ ให้มึงไปขอเบอร์ให้กูก็อดดิ ผู้หญิงเขาก็หันไปชอบมึงกันหมด ว๊าว หมอไป๋สุดหล่อ หัดเข้าไปเล่นเฟสบุ๊คบ้างนะ จะได้รู้ว่ามีคนทักมาจีบไม่ขาดสาย”



            “รำคาญ”



            “เห้ย พูดงี้ได้ไงวะ ความรักมันคือสีสันของโลกเลยนะเว่ย มึงนี่น้า สงสัยอ่านหนังสือจนกลายเป็นก้อนหินศิลาจารึกไร้หัวจิตหัวใจไปเสียแล้ว”



            ว่านพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี ใช่แล้ว เขานี่แหละที่โปรดปรานความรัก โปรดปรานถึงขั้นที่ว่าหากมากกว่านี้อีกหน่อยก็จะเรียกว่าหน้าหม้อแล้ว



            “ไม่เห็นจำเป็นกับชีวิตเลย ไร้สาระ” ไป๋พูดออกมาด้วยเสียงเบาๆ



            “ถามจริง มึงไม่ชอบใครที่ไหนบ้างเลยเหรอวะ ฮอร์โมนมึงก็ไม่น่าจะผิดปรกติน้า มึงต้องชอบๆ ใครบ้างสิ บอกกูมาเหอะ เดี๋ยวกูช่วย”



            “ไม่มีหวะ กูชอบอยู่ของกูเงียบๆ แบบนี้แหละ”



            “โกหกตกนรก”



            “นรกไม่เปิดต้อนรับคนอย่างกูหรอก”



            “อินดี้ชิบหาย”



            “เออๆ ปล่อยกูไปเหอะ ฝากโทรบอกพี่ภาคด้วยนะ เดี๋ยวกูจะไปหาไรกินละ”



            “เออ โชคดีมึง วันจันทร์เจอกัน”



            “เออ”



            ไป๋กดตัดสายพร้อมโยนมือถือไปไว้บนเตียงข้างตัว เขายกมือขึ้นมาเท้าคางพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่างอยางไม่มีจุดหมาย ความรักสำหรับเขาเป็นเรื่องที่วุ่นวายและเข้าใจได้ยากมาก แต่เอาเข้าจริงแล้วเขาก็ตอบไม่ได้ว่ามันเข้าใจได้ยาก หรือเขาไม่ได้พยายามทำความเข้าใจมันจริงๆ

           





            ‘เฮ้อออ’







               นายพินต้า


               ติดตามและพูดคุยกับนักเขียนได้ที่ www.twitter.com/ninepinta

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น



ตอนที่ 3 : เดือน

 

            ชีวิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยปีหนึ่งส่วนใหญ่มักจะคล้ายคลึงกัน กล่าวคือนักศึกษาเกือบทุกคณะต้องมาเรียนวิชาพื้นฐานร่วมกันที่หลักสูตรกลางของมหาวิทยาลัย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคณะอะไร ส่วนใหญ่ก็ต้องมาเจอหน้ากันเป็นเรื่องปรกติ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียนในห้องเดียวกัน แต่โดยส่วนใหญ่ก็ต้องเรียนในตึกเดียวกันอยู่ดี ช่วงมหาวิทยาลัยปีหนึ่งจึงถือเป็นเวลาทองของทุกคณะในการพยายามรู้จักเพื่อนต่างคณะ ซึ่งอาจจะรวมไปถึงแฟนต่างคณะด้วย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคณะแพทย์ นี่คือเวลาทองเลย ก่อนที่พวกเขาจะขึ้นปีสองและแทบจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาจากตำรากันอีกแล้ว

 





            “คนนี้แจ่ม” เสียงรำพึงดังขึ้นพร้อมกับเสียงผิวปากอย่างอารมณ์ดี



            “สักคนไอ้ว่าน กูนั่งฟังมึงเต๊าะสาวให้กูฟังมาเกินสิบคนแล้ว เลือกเอาสักคน เยอะแยะมากมายระวังเอดส์ถามหา”



            ไป๋พูดพลางส่ายหน้า พร้อมกับก้มหน้าลงกินอาหารเช้าต่อไป พวกเขากำลังอยู่ในโรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์ เช้านี้เป็นวันเปิดเทอมแรกของพวกเขา ปีหนึ่งของพวกเขาไม่มีเรียนในคณะของตัวเองเลย วิชาพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ก็มาเรียนที่นี่ทั้งหมด



            “กูป้องกันเป็นน่า เชี่ย คนนี้ก็แจ่ม”



            ว่านพูดอย่างไม่สนใจ ปากยังคงวิพากย์วิจารณ์ผู้หญิงรอบตัวไปเรื่อยเปื่อย ถ้าจะพูดถึงเรื่องสายตา ไอ้ว่านนี่ถือว่ามีดวงตาเจ้าชู้เป็นอันดับหนึ่ง สายตามันระริกระรี้ตลอดเมื่อเจอผู้หญิงถูกใจ แต่มันไม่ค่อยเข้าไปจีบใครจริงจังหรอก มันก็นั่งหม้อให้ฟังไปเรื่อยเปื่อย



            “กำหนัด”



            “เฮ้ยๆๆ นางฟ้าเสื้อฟิตกำลังเดินตรงมาทางนี้หวะ”



            ว่านเอ่ยปากพูดพร้อมกับหยิบน้ำขึ้นมาแกล้งทำเป็นดื่มเพื่อไม่ให้แสดงอาการสนใจมากเกินไป เขาหันหน้าไปเล็กน้อยก็พบความจริงอย่างที่เพื่อนของเขาว่าจริงๆ ผู้หญิงคนล่าสุดที่เพื่อนของเขาเอ่ยถึงกำลังเดินตรงมาทางนี้ ข้อหนึ่งคือผู้หญิงคนนี้แจ่มจริง ข้อสองคือเราน่าจะเรียกเธอได้ว่านางฟ้าได้อย่างไม่น่าเกลียด และสุดท้าย เสื้อเธอฟิตเปรี๊ยะอย่างที่ไอ้ว่านพูดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน

 





            “ไป๋ใช่ไหม?”



            เจ้าของชุดเสื้อฟิตกระโปรงสั้นเอ่ยถามเขา ผู้หญิงตรงหน้าเขานี่จัดว่าเป็นผู้หญิงดูดีคนหนึ่งได้เลย อธิบายยังไงดีหละ เธอดูเป็นผู้หญิงเปรี้ยวๆ มั่นใจในตัวเอง สำหรับเขาอาจจะไม่ค่อยนิยามความสวยไว้แบบนี้เท่าไหร่ แต่ก็ช่างเถอะ ผู้หญิงตรงหน้าจะสวยหรือไม่ก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา



            “อืม เราชื่อไป๋ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า”



            ชายหนุ่มตอบออกไปตามมารยาท คำทิ้งท้ายประโยคที่บอกว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่านี่ทำเอาเพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกับเขาถึงกับเลิกคิ้ว คนอย่างไอ้ไป๋เนี่ยนะจะช่วยเหลือใครง่ายๆ ฝันไปเถอะ มันโคตรเป็นคนไม่ชอบยุ่งกับใครเลย



            “เราชื่อน้ำหอมนะ พี่ภาคโทรมาบอกเราแล้วเรื่องดาวคณะ พอดีวันศุกร์เราติดแคสงานเลยไม่ได้เข้าปฐมนิเทศ แต่พี่ภาคบอกว่าเราได้รับเลือกให้เป็นดาว ไป๋ได้เป็นเดือน พอดีพี่ที่สโมกลางโทรหามาเราแล้วว่าเย็นนี้ให้เข้าไปประชุมเรื่องการประกวดดาวเดือน เขาฝากให้มาบอกเดือนคณะด้วย”



            น้ำหอมพูดทั้งที่ยืนอยู่แบบนั้น ตัวเขาเองเงยหน้าขึ้นฟังเพื่อนร่วมคณะที่เขาเพิ่งรู้เมื่อกี้ว่าได้ตำแหน่งดาวคณะอย่างสนใจ ความจริงวันศุกร์ที่เปิดโหวตกัน ชื่อน้ำหอมถูกเสนอขึ้นมาให้เป็นตำแหน่งดาวด้วย แถมเจ้าตัวยังได้รับรางวัลทั้งที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมด้วยแม้แต่น้อย แต่ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ ไปแคสงานแบบนี้ก็คงจะมีผลงานในวงการบันเทิงบ้าง น้ำหอมน่าจะเหมาะที่จะยืนกลางแสงไฟมากกว่าเขา อย่างน้อยเธอก็ดูคุ้นเคยและชอบที่จะตกเป็นเป้าสนใจมากกว่าเขา



            “เหรอ ยังไงที่ไหนกี่โมงหละ ต้องเตรียมตัวอะไรไปก่อนไหม” เขาถามขึ้นด้วยเสียงที่พยายามกระตือรือร้นขึ้นอีกหน่อย อย่างน้อยมันก็ต้องถือว่าเป็นงานของทั้งสองคนหละนะ



            “ตึกปลาวาฬ ชั้นหนึ่งตอนหกโมงเย็น เรื่องเตรียมตัวคงไม่ต้อง น่าจะไปฟังรายละเอียดงานเฉยๆ คงไม่มีอะไรมากมาย”



            “นี่ไลน์เรา แอดไว้สิ เผื่อมีอะไรก็ไลน์มา ไว้ติดต่อคุยงานกัน”



            ไป๋เปิดหน้าจอไลน์ให้เป็นหน้าสัญลักษณ์คิวอาร์โค๊ดพร้อมกับยื่นมือถือให้ดาวคณะแสกนเพื่อแอดไลน์เก็บไว้ สีหน้าของเขาราบเรียบ ส่วนสีหน้าของไอ้ว่านก็ราบเรียบเช่นกัน แต่ตอนนี้สายตาของมันแสดงแววระยิบระยับออกมาอย่างปิดไม่มิด นับถอยหลังไม่ถึงสามวินาทีหลังจากน้ำหอมลับหลังไป เขาต้องโดนมันล้อแน่ๆ



            “โอเค ไว้เจอกันนะ”



            หญิงสาวหยิบมือถือขึ้นมาแสกนไอดีไลน์ของเขาเก็บไว้จนขึ้นชื่อเรียบร้อยก็เอ่ยลาพร้อมกับเดินจากไป ก่อนจากเธอหันมายิ้มให้กับว่านเล็กน้อยเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้แต่ก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา น้ำหอมเดินจากพวกเขาไปแล้วพร้อมกับสายตาใครหลายคน เธอเป็นคนที่ดึงดูดสายตาคนได้เก่งจริงๆ



            “เชี่ย พี่ไป๋แจกไลน์สาวหวะ สงสัยงานนี้เพื่อนกูจะสละโสดซะแล้ว” ว่านพูดพร้อมกับเอาไหล่มากระทบเขาอย่างกระเซ้า



            “งานมะ ได้ข่าว” เขาตอบอย่างไม่สนใจอะไร





 

            NAMHOM-099111xx : sent a sticker

 





            “เชี่ยยย ตั้งเบอร์โทรเป็นชื่อไลน์ด้วยหวะ สงสัยงานนี้พี่ไป๋ไม่จีบไม่ได้แล้ว” ว่านเย้าต่อเมื่อเห็นไลน์ของเขาเด้งเตือน น้ำหอมทักมา และที่สำคัญ เธอตั้งเบอร์โทรศัพท์เป็นชื่อไลน์ด้วย



            “กูยกให้ มึงจีบเลย ได้แฟนเป็นดาวคณะมึงคงจะนอนตายตาหลับ”



            ไป๋พูดด้วยสีหน้าตายด้านก่อนจะลุกขึ้นไปเก็บจานเข้าที่อย่างไม่สนใจเพื่อนอีกต่อไป ไอ้ว่านอาจจะจีบน้ำหอมก็ได้ใครจะรู้ ความจริงว่านก็ถือว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง หากมันตั้งใจจีบน้ำหอมจริงๆ ก็ถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยง เห็นไอ้ว่านแบบนี้ แต่มันก็มีคนคุยจนนับนิ้วไม่หวาดไม่ไหวเหมือนกัน





 

            “สวัสดีค่ะทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่การประชุมดาวเดือนครั้งที่หนึ่งประจำปีนี้ค่า”



            หญิงสาวร่างท้วมท่าทางทะมัดทะแมงยื่นจับไมค์พูดเจี้ยวแจ้วอยู่หน้าห้องประชุมอยู่ ณ เวลานี้ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในตึกปลาวาฬ ตึกเรียนรวมของคณะวิทยาศาสตร์ที่เด็กมหาวิทยาลัยตั้งชื่อเล่นให้ว่าตึกปลาวาฬ แน่นอนว่าเขาก็ไม่รู้ที่มาของชื่อเหมือนกัน มันอาจจะมาจากสีฟ้าของตึกที่เหมือนปลาวาฬ ขนาดของตึกที่อ้วนเหมือนปลาวาฬ หรืออาจจะกำลังเปรียบเทียบนักศึกษาที่เรียนในห้องว่าเป็นแพลงตอนที่กำลังจะตายในท้องปลาวาฬก็เป็นได้



            “ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะว่าการประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัยเราไม่ได้เน้นหน้าตานะคะ ทางสโมสรเน้นย้ำเรื่องนี้กับทุกคณะเสมอว่าเราค้นหาตัวแทนที่มีความสามารถที่จะเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยได้ แน่นอนว่าหน้าตาไม่สำคัญเท่าความสามารถนะคะ ถึงแม้จะดูเหมือนว่าทุกคณะจะส่งคนโดยคัดเลือกจากหน้าตามาเป็นหลัก แต่การตัดสินมาจากความสามารถค่ะ”



            นักศึกษาปีสามเจ้าของตำแหน่งนายกสโมสรของมหาวิทยาลัยกล่าวชี้แจงเรื่องต่างๆ ของการประกวดดาวเดือนต่อไปอย่างไม่รู้เหนื่อย ตอนแรกเขาเข้าใจว่าต้องมาคนเดียว แต่พอมาถึงก็พบว่าแต่ละคณะหิ้วเพื่อนบ้างรุ่นพี่บ้างกันมาเยอะแยะ เขาก็เลยหนีบไอ้ว่านให้อยู่เป็นเพื่อนเขาในการประชุมนี้ด้วย แน่นอนว่าน้ำหอมก็เข้ามาฟังประชุมด้วยเช่นกัน อยู่ห่างจากเขาไปไม่กี่โต๊ะเลคเชอร์ คือห้องประชุมที่เปิดมีจำนวนที่นั่งเยอะกว่าคนเข้าประชุมมาก เด็กที่มานั่งฟังก็นั่งห่างๆ กันตามสบาย น้ำหอมก็อยู่ใกล้พวกเขาที่สุดในทุกคณะ แต่ก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเลยนอกจากยิ้มให้กันนิดหน่อย

 





            “เชี่ยยย นี่มันฮาเร็มชัดๆ”



            เสียงไอ้ว่านกระซิบดังมาจากข้างตัวเขาแบบเก็บความระริกระรี้ไว้ไม่มิด สิ่งที่ไอ้ว่านพูดก็คงไม่ผิด เพราะงานประชุมครั้งนี้รวมเอาคนหน้าตาดีจากทั้งมหาวิทยาลัยมารวมกันไว้อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เรียกได้ว่าถ้าระเบิดห้องประชุมมาตอนนี้ค่าเฉลี่ยหน้าตาของนักศึกษามหาวิทยาลัยนี้ก็คงลดฮวบ ดาวและเดือนจากแต่ละคณะที่คัดกันมาถึงที่สุดแล้ว ไม่นับรวมเหล่ารุ่นพี่จากแต่ละคณะที่เข้ามาฟังด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นดาวเดือนปีที่แล้วนั่นเอง



            “มึงต้องขอบคุณนะที่ลากมึงมาด้วย”



            เขาถือโอกาสทวงบุญคุณจากไอ้ว่านทันทีที่มีโอกาส ตอนแรกมันบ่นกระปิดกระปอดเรื่องลากมันมาเข้าประชุมด้วย ถ้ามันชอบ ต่อไปเขาจะได้ลากมันมาบ่อยๆ อันที่จริงเขาไม่ค่อยมากับน้ำหอมสองคน อย่างว่าหละนะ เขาไม่ค่อยชอบอยู่กับคนที่ไม่สนิทเท่าไหร่ ส่วนไอ้พี่ภาคไม่ต้องพูดถึง หลังจากที่เขายอมเป็นเดือนเป็นที่เรียบร้อยก็ไม่ติดต่อเขามาอีกเลย ลอยแพกันเป็นที่เรียบร้อย







               นายพินต้า



               ติดตามและพูดคุยกับนักเขียนได้ที่ www.twitter.com/ninepinta

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ขอกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะครับ ^ ^

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 o13 ตามติดชิดขอบจอเลยจ้า  :mew1:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ท้ากันขนาดนี้ อิฐอาจจะสนใจไป๋อยู่นะเนี่ย

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น



ตอนที่ 4 : กลับ



            ประเด็นหลักในการมาพูดคุยวันนี้คือการอธิบายให้เข้าใจถึงการประกวดดาวเดือนที่แท้จริง กล่าวคือดาวเดือนไม่ใช่การประกวดเพื่อหาคนหน้าตาดีที่สุด แต่เป็นคัดเลือกตัวแทนนักศึกษาที่เหมาะสมเพื่อเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยไปทำกิจกรรมร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่นได้ นอกจากนี้ สโมสรยังพยายามสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคณะโดยให้เหล่าดาวเดือนจากแต่ละคณะสนิทกันอีกด้วย เพื่อที่ต่อไป การร่วมกิจกรรมระหว่างคณะจะได้สะดวกมากขึ้น ไป๋นั่งฟังไปฟังมาก็เริ่มมองภาพการประกวดดาวเดือนขึ้นดีขึ้นเป็นลำดับ ถึงแม้ว่าบางอย่างจะไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมแล้วก็ยังดีกว่าการมานั่งคัดคนหน้าตาดีที่สุดในมหาวิทยาลัยแน่ๆ

           





            “ต่อไปเพื่อให้ทุกคนสนิทกันและเป็นการละลายพฤติกรรมกันมากขึ้น เราจะเล่นเกมบัดดี้กันค่ะ โดยทุกคนจะจับชื่อเพื่อนที่เป็นดาวเดือนต่างคณะไปคนละหนึ่งคน จับได้ชื่อใครก็ต้องดูแลเทคแคร์คนนั้นโดยไม่ให้เขารู้ตัว กิจกรรมนี้จะเล่นหนึ่งเดือนนะคะ งานประกวดดาวเดือนจะจัดช่วงก่อนสอบกลางภาคหรืออีกประมาณหนึ่งเดือนครึ่ง เราจะเฉลยบัดดี้กันในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าหรือก่อนวันประกวดประมาณสองอาทิตย์นั่นเอง ช่วงนี้อยากให้ทุกคนสนิทกันไว้มากๆ สโมสรอยากให้ดาวเดือนเป็นคนเชื่อมโยงทุกคณะเข้าหากัน หลังจบงาน คณะไหนอยากจัดกิจกรรมร่วมกับคณะไหนก็สามารถพูดคุยจัดการกันได้เองเลย”



            การจับบัดดี้พัฒนาไปไกลกว่าที่คิดมาก ทุกคนหยิบมือถือขึ้นมาเปิดเว็บไซต์ห้องสุ่มออนไลน์อันหนึ่ง ทุกคนจะเข้าไปสุ่มหยิบตัวเลขขึ้นมาหนึ่งตัว โดยระบบจะไม่ให้คนจากคณะเดียวกันได้รายชื่อกันเองเด็ดขาด การจัดฉลากบัดดี้เป็นไปอย่างรวดเร็วมาก เขาสุ่มเลือกเลข 22 ขึ้นมาจากฉลากทุกเบอร์ และเรียกว่าอะไรดีนะ แจ๊กพ๊อตแตกก็ได้มั้ง เขาจับได้คนที่เขาไม่คิดว่าเขาจะจับได้ที่สุดเลย



 



            ‘เดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์...’

 





            “เชี่ยยย มึงจับได้ไอ้อิฐหวะ” ไอ้ว่านรีบสุมหัวเข้ามากระซิบกระซาบทันทีที่เห็นชื่อปรากฎอยู่ในหน้าจอมือถือผม เออ อะไรมันจะเหมาะเจาะแบบนี้



            “แลกได้เปล่าวะ”



            ไป๋บ่นออกมาอย่างปรึกษา สายตาของเขากวาดไปทั่วห้องเพื่อหาเจ้าตัวคนที่ว่า เพียงไม่นานสายตาของเขาก็ปะทะกับสายตาหนึ่งที่ทอดมองมาก่อนแล้ว ไอ้อิฐโดดเด่นจริงๆ ถึงแม้ว่าคนในห้องนี้จะเต็มไปด้วยคนหน้าตาดีอย่างร้ายกาจเต็มไปหมด แต่ดูเหมือนรัศมีของไอ้อิฐก็จะไม่แพ้ใคร ผมทรงใหม่ไถข้างกับสีผมที่ดูเหมือนจะย้อมกลับมาเป็นสีดำแล้ว ที่สำคัญมันอยู่ในชุดเสื้อช็อปสีน้ำเงินเข้มตัดกับนักศึกษาคนอื่นที่อยู่ในเสื้อนักศึกษาธรรมดากันหมด นี่แหละมั้งที่อาจจะทำให้มันโดดเด่นและดึงดูดสายตาเขาได้ขนาดนี้



            “มึงโง่หรือมึงโง่วะ จับฉลากออนไลน์แบบนี้มึงยังจะหวังสลับได้อีกเหรอ มึงคิดว่าเขาจะไม่เก็บข้อมูลไว้เลยหรือไง มึงสอบติดหมอเข้ามาได้ไงวะเนี่ย” ไอ้ว่านตอบกลับมาแบบกวนประสาท เขารู้อยู่แล้ว เขาไม่น่าจะเปลี่ยนฉลากในมือนี้ได้เลย อย่างน้อยก็ในตอนนี้หละนะ



            “กลับกันเหอะ แค่คิดว่าต้องเทคแคร์ไอ้เถื่อนกูก็เหม็นเบื่อจะแย่ละ”



            ไป๋บ่นอย่างเซ็งๆ พร้อมกับสะกิดชวนว่านกลับ หลังจากเห็นว่าการประชุมเสร็จสิ้นแล้วคนในห้องก็ทยอยเริ่มลุกกันออกไปแล้ว



            “เออๆ”



            ว่านหยิบกระเป๋าลุกขึ้นตามเขาออกมาจากที่นั่งอย่างเห็นดีเห็นงามกับการเลิกประชุมด้วยเช่นกัน แต่ก่อนกลับไอ้ว่านก็ไม่ลืมจะหันไปโบกมือบ้ายบายน้ำหอมเพื่อนร่วมคณะของเขาอย่างอารมณ์ดี ไป๋เลยต้องพลอยโบกมืออำลาไปด้วย นี่ถ้าไอ้ว่านไม่หันไป เขาก็แทบลืมไปแล้วว่าเขายังมีดาวคณะอยู่ในห้องประชุมนี้อีกคน

 





            “ไป๋ใช่ไหม?”



            เสียงทักเขาเอ่ยดังขึ้นอีกรอบ แต่คราวนี้เป็นเสียงผู้ชายแฮะ เขาหันไปข้างหลังก็เจอผู้ชายผิวขาวตัวสูงคนหนึ่งกำลังยิ้มอวดฟันขาวให้เขาอยู่ คนตรงหน้านี้ถือว่าหน้าตาดีใช้ได้เลยคนหนึ่ง แต่นั่นแหละ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสนใจ เขาสนใจมากกว่าว่ามันเรียกเขาทำไม



            “หืม” เขาเอ่ยเสียงในลำคอเชิงตอบรับ



            “เราชื่อโฟคนะ เดือนคณะทันตะ เพื่อนของกิจ คณะวิทย์ เห็นกิจเล่าให้ฟังว่าเจอกันตอนรับน้อง ได้มาเจอเลยแวะมาทักไว้ก่อน เผื่อต่อไปต้องทำงานด้วยกัน” โฟค เพื่อนใหม่อีกคนของวันนี้ของเขาพูดพลางยิ้มโชว์ฟันสวย สมกับเป็นคณะทันตแพทยศาสตร์จริงๆ



            “อ๋อ เราไป๋ คณะแพทย์นะ ยินดีที่ได้รู้จัก”



            เขายิ้มให้โฟคหนึ่งทีก่อนจะผงกหัวให้หนึ่งครั้งและขอตัวแยกออกมา โอเค เขารู้ดีว่าการตอบเพื่อนใหม่ด้วยประโยคสองประโยคแบบนี้มันดูไร้มารยาทไปสักหน่อย แต่ช่างเถอะ เขาก็เป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว โฟคทำหน้างงๆ แต่ก็ปล่อยเขาออกมาโดยดี



            ไอ้ว่านปลดโซ่จักรยานพร้อมกับยกมืออำลาอย่างง่ายๆ เขากับว่านปั่นจักรยานกันมาคนละคัน ไอ้ว่านอยู่หอใน เขาอยู่หอนอก ซึ่งต้องแยกไปอีกทางหนึ่ง





 

            “ไปไหนจ๊ะน้องสาว”



            เสียงหนึ่งดังขึ้นห่างจากตรงที่เขาจอดจักรยานไปนิดเดียว หันไปมองก็พบว่าไอ้ว่านนั้นปั่นจักรยานลับตาไปแล้ว และก็มีมนุษย์หน้าใหม่มายืนอยู่ไม่ห่างออกไปนัก มนุษย์เจ้าของชื่อบนโทรศัพท์มือถือของเขาเมื่อเวลาไม่นานที่ผ่านมา



            “น้องสาวพ่อมึงสิ”



            เขาตอบอย่างรำคาญ จุดที่เขาจอดจักรยานเป็นส่วนหลังของตึกที่ไม่ค่อยมีใครเอามาจอดเท่าไหร่นัก ตอนนี้จึงเหลือคนอยู่แค่พวกเขาสองคน



            “อ๊าว นี่มึงเป็นอากูเหรอเนี่ย ไม่เห็นรู้ตัวมาก่อนเลย ฮ่าฮ่าฮ่า” ไอ้มนุษย์ในเสื้อช๊อปสีฟ้ายังพูดต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน



            “กวนส้นตีน” ไป๋สบถไปอย่างไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะคิดว่ามันหยาบคายหรือเปล่า



            “ปากหมาเสมอต้นเสมอปลายจริงนะมึงเนี่ย” อีกฝ่ายตอบ



            “หลบไป กูจะกลับหอ”



            บริเวณที่จอดจักรยานแบ่งช่องออกเป็นช่องจอดแคบๆ พอไอ้อิฐมายืนขวางอยู่แบบนี้ก็เท่ากับว่าขวางทางกลับบ้านของเขาไปโดยปริยาย ไป๋บ่นอย่างหงุดหงิดแต่สายตาก็พาลไปมองเห็นสิ่งเดิมที่คุ้นตาเขา ตุ้มหูเสื้อกาวน์ของเขา มันยังอยู่บนที่เดิมของไอ้อิฐจอมกวนตีน

           





            “กลับกับกู กูเอารถมา ปั่นจักรยานข้ามถนนใหญ่มันอันตราย เดี๋ยวก็ได้ตายห่าก่อนเรียนจบหรอก” อิฐพูดด้วยสีหน้าเรียบๆ



            “ไม่”



            “มึงจะเรื่องมากทำไม”



            “เรื่องของกู”



            “กูก็บอกให้กลับกับกูนี่ไง”



            “ก็กูบอกว่าไม่กลับ กูจะกลับเอง”



            “เฮ้ย มึงจะเรื่องมากทำไมวะ หอก็อยู่หอเดียวกัน จะทำให้มันวุ่นวายทำไม” เสียงอิฐเริ่มหงุดหงิดขึ้นตามภาวะการถกเถียงของพวกเขาทั้งคู่



            “มึงอะต้องถามตัวเองว่ามึงจะทำให้มันวุ่นวายทำไม กูมาของกู กูก็กลับของกูได้” ไป๋พูดอย่างหงุดหงิดก่อนจะเลื่อนจักรยานออกมาอีกครั้ง คราวนี้อิฐกระเถิบตัวเปิดทางให้เขาปั่นออกมาอย่างโดยดี





 

            “ถ้ามึงจะมาทำดีกับกูเพราะมึงจับชื่อกูได้เป็นบัดดี้ มึงก็ลืมไปได้เลย กูในฐานะบัดดี้อนุญาตให้มึงไม่ต้องดูแลอะไรกูทั้งสิ้น กูมีมือมีตีนดูแลตัวเองได้ มึงไม่ต้องมาเทคแคร์”







               นายพินต้า




               ติดตามและพูดคุยกับนักเขียนได้ที่ www.twitter.com/ninepinta

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ชอบไม่ชอบอย่างไรอย่าลืมบอกกันน้า จุ๊บจุ๊บ เป็นกำลังใจให้หนูหน่อย อิอิ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

คงจะเป็นการแอบรักของอิฐที่มีต่อไป๋มาอย่างยาวนานกระมัง

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ลงชื่อติดตามค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อิฐ ชอบไป๋แน่ๆ  :hao3:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :hao7: ชอบมากกกกก.....

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ fsbeentaken

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ชอบให้กัดกันอย่างนี้ง่ะ มันส์ดี

แต่อยากให้มาทีละยาวๆจังงงง

 o13 :oo1:

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
แอบชอบเค้าอยู่แน่ๆ :pig4:

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น



ตอนที่ 5 : ข้าวต้มปลาหมึก



            เขาขี่จักรยานออกมาแล้ว บางครั้งเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงปากหมากับอิฐได้ทุกที ความจริงเขาเป็นคนปากหมาะหนะใช่ แต่ปรกติเขาจะไม่ค่อยพูดออกมาเท่าไหร่ แต่พอเป็นไอ้หัวไถข้างนั่น เขาก็เผลอออกไปโดยไม่ค่อยจะรู้ตัวสักที



            ไป๋ขี่จักรยานออกมาท่ามกลางความเงียบของความรู้สึกตัวเองตลอดระยะจากคณะวิทยาศาสตร์จนถึงหน้ามหาวิทยาลัย ถนนใหญ่หน้ามหาวิทยาลัยตอนนี้คราคร่ำไปด้วยรถจากไหนไม่รู้มากมายเต็มไปหมด ความจริงไอ้อิฐก็พูดถูก การพยายามข้ามถนนด้วยจักรยานตอนนี้ดูจะไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่เลย



            ‘สงสัยต้องเอารถยนต์มาใช้ได้แล้วมั้ง’





 

            WAN1081009 : ไอ้ไป๋ กูมีอะไรจะให้ดู



            WAN1081009 : sent a photo



            เสียงไลน์ดังขึ้นตั้งแต่เขาเดินเข้ามาถึงเขตหอ ไอ้ว่านที่เพิ่งแยกกับเขาไปเมื่อกี้ส่งรูปอะไรมาให้ดูในไลน์สักอย่าง เขาเลื่อนสไลด์หน้าจอเพื่ออ่านข้อความในโปรแกรมแชตสีเขียว หางตาของเขาเหลือบไปเห็นคนที่น่าจะมาถึงก่อนเขาด้วยรถยนต์ แน่นอนว่าเขาไม่ได้หันไปมอง เขาจงใจไม่หันไปมอง

 





            FACEBOOK FAN PAGE : หมอไป๋ FC



            ใช่แล้ว รูปที่ไอ้ว่านส่งมาให้เป็นรูปแคปเจอร์หน้าจอแฟนเพจหนึ่งที่พูดถึงมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ใช่ใครอื่น ตัวเขาเอง เขารีบกดเข้าเฟสบุ๊คเพื่อค้นหาแฟนเพจดังกล่าวแล้วก็พบว่ามันมีจริงๆ ด้วย ในเพจแทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย มีเพียงรูปเขาสองสามรูปที่ลงไว้อยู่ในเพจ จากการสังเกตรูปเหล่านั้นก็น่าจะมาจากกล้องของรุ่นพี่ในคณะที่เอามาถ่ายวันปฐมนิเทศ เลื่อนไปดูอีกครั้งก็เจอคนกดไลค์แฟนเพจอยู่กว่า 2,500 ไลค์ได้ ใครมันหลงมากดไลค์วะ?

 





            BAIBAI : ใครทำวะ



            WAN1081009 : กูจะไปรู้เรอะ แต่มึงก็ฮอตเหมือนกันนะเนี่ย เปิดเพจมาไม่กี่วันสองพันกว่าไลค์แล้ว ต่อไปชีวิตมึงบันเทิงแน่



            BAIBAI : ปาก



            WAN1081009 : เฮ้ยยย เดือนคณะแพทย์เลยนะเว้ยยย ไม่ฮอตยังไงไหววะ มึงเลือกเอาสักคนสิ มึงจะได้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้นหน่อย ไม่ใช่ตายด้านเป็นผีตายซากแบบนี้



            BAIBAI : เอาตัวเองให้รอดก่อนมึงอะ กูเห็นมึงก็ไม่มีจริงๆ จังๆ สักคนเปล่าวะ ทำเป็นพูด



            WAN1081009 : แหม กูก็ต้องเลือกหน่อยเปล่าวะ เขาเรียกว่าใช้ความโสดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด



            BAIBAI : หน้าหม้อก็บอก อย่าอธิบายให้ยาว



            WAN1081009 : หม้อแล้วทำไมวะ กูไปละ ง่วงชิบหาย เออว่าจะบอก ไอ้อิฐก็มีแฟนเพจนะเว้ย ฮอตกว่ามึงอีก ไปลองเสิจดูดิ อิฐ อิทธิกร

 





            ไป๋ไม่ตอบอะไรแต่เลือกที่จะกดออกจากโปรแกรมแชตสีเขียวและกลับเข้ามาในเฟสบุ๊คอีกครั้ง แอพพลิเคชันขึ้นตัวแดงเตือนว่ามีคนส่งคำขอเป็นเพื่อนเข้ามา 99+ ซึ่งเขาก็ไม่สนใจว่ามันบวกเท่าไหร่ เขาไม่แม้กดเขาไปดูรายชื่อด้วยซ้ำ แต่เขาเลือกที่จะกดไปในช่องค้นหาเพื่อพิสูจน์คำบอกเล่าที่ไอ้ว่านเพิ่งบอกมาเมื่อกี้



 

            ‘มีจริงๆ ด้วยแฮะ’

 



            เพจของไอ้อิฐมีคนกดไลค์เยอะมาก เกือบหมื่นคนได้ เขายอมรับว่ามันหล่อก็จริง แต่ก็ไม่น่าถึงขั้นที่จะมีคนชอบมากมายขนาดนี้ เอ๊ะ หรือจริงๆ มันหล่อกว่าที่เขาคิด



            เมื่อเขาเลื่อนลงมาดูก็พบว่าเพจของไอ้อิฐนี่เป็นเพจที่ตั้งแต่สมัยมันอยู่มัธยมปลายแล้ว ความจริงเขากับมันเรียนโรงเรียนเดียวกัน รู้จักกันดีเลยหละ แต่ก็ไม่ยักรู้ว่ามันมีคนมาปลาบปลื้มจริงจังอะไรขนาดนี้



            ในเพจมีแต่เรื่องของมันเต็มไปหมด หลังจากที่ลองอ่านดูเรื่อยๆ ก็สันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นกลุ่มแฟนคลับของมันทำขึ้นมากกว่า เพราะเท่าที่ดู ไม่มีลักษณะคำพูดที่ดูเหมือนมันเป็นคนเขียนเองเลย



            ภาพใหม่ล่าสุดเป็นรูปของอิฐในชุดช็อปสีน้ำเงินเข้มกับผมทรงใหม่ ท่าทางเหมือนจะถูกถ่ายตอนอยู่ในห้องเรียนรวมสักวิชาหนึ่ง จะอธิบายลักษณะไอ้อิฐยังไงดีนะ มันเป็นคนขาวแต่ตากแดดบ่อยจนไม่ขาวมากเท่าแต่ก่อน หุ่นแน่นสไตล์นักกีฬา หน้าตากวนประสาทและโคตรไม่เป็นมิตร คิดสภาพเหมือนพวกเด็กช่างที่พร้อมจะมีเรื่องตลอดเวลา ไอ้อิฐก็เป็นอะไรประมาณนั้น ความจริงนิสัยมันก็ไม่แย่ เพียงแค่มันดูกวนตีนไปเสียหน่อย



            ภาพรองลงมาเป็นภาพตอนมันรับน้อง หน้าไอ้อิฐเต็มไปด้วยรอยสีสารพัดสีวาดเต็มไปหมด มันกำลังชูสองนิ้วฉีกยิ้มกว้างให้กล้อง ยิ้มก็เป็นเหมือนกันนะเนี่ย ใต้ภาพเต็มไปด้วยความคิดเห็นเต็มไปหมด ส่วนใหญ่ก็เป็นสาวๆ ที่เข้ามาพิมพ์คลั่งไคล้มัน รูปนี้มันยิ้มคอมเมนท์เลยเยอะเป็นพิเศษ เขาเลื่อนดูนิดหน่อยก็เลื่อนไปดูภาพถัดๆ ไป



            ถัดจากนั้นมาอีกไม่กี่รูปก็เป็นรูปสมัยตอนที่มันเรียนม.ปลาย เสื้อนักเรียนกับกางเกงสีน้ำเงินที่เขาโคตรคุ้นเคย ไอ้อิฐเป็นนักกีฬาแนวหน้าของโรงเรียน รูปของมันก็เต็มไปด้วยสารพัดช่วงเวลาการเล่นกีฬาของมันเต็มไปหมด มันเป็นนักบาส นักบอล นักแบด แต่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนมากที่สุดน่าจะเป็นกีฬายิงธนูของมัน ดีกรีของมันถึงขั้นเป็นตัวแทนประเทศไปแข่งขันที่อินโดนีเซียในการแข่งขันยิงธนูนานาชาติรุ่นเยาวชน ตอนนั้นรูปมันกลายเป็นป้ายไวนิลขนาดใหญ่แปะอยู่หน้าโรงเรียนอยู่เป็นเดือนได้ นักบาส นักบอล นักแบดอาจจะมีทุกโรงเรียน แต่นักกีฬายิงธนูไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายทุกโรงเรียนแบบนี้ ไอ้อิฐมันเลยดังเป็นพิเศษท่ามกลางกลุ่มนักกีฬาที่อยู่ในชมรม KNIGHT CLUB หรือชมรมกีฬาของโรงเรียนเก่าของเขา ตอนม.หก มันเป็นหัวหน้าชมรมและมันดังมาก ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรที่คนหน้าตาดีและมีความสามารถโดดเด่นอย่างมันจะกลายเป็นที่คลั่งไคล้ของสาวๆ ต่างๆ มากมาย อย่างน้อยจำนวนคนไลค์เพจเกือบหมื่นคนนี่ก็พอจะการันตีความฮอตของมันได้หละนะ

           





            ก๊อก ก๊อก



            เสียงดังจากประตูห้องเรียกเขาออกจากจอมือถือตรงหน้านี้ได้ เขากดออกจากระบบเฟสบุ๊ควางมือถือลงแล้วเดินออกไปที่หน้าประตู หอนี้ไม่มีตาแมว และนี่เป็นเรื่องที่เขาไม่ชอบ แต่ก็ช่างเถอะ ไม่น่าจะมีใครมาหาเขามากมายนักหรอก คนที่รู้ที่อยู่เขาก็มีแค่ไอ้ว่านคนเดียวที่มาช่วยตอนย้ายของเข้าหอ สงสัยมันจะยืมของ ว่าแต่ทำไมมันไม่โทรหาเขาก่อนวะ

 



            “...”



            และเมื่อเขาเปิดประตูออกไปก็พบแต่ความว่างเปล่า แต่ด้วยความหนักของการเปิดประตูตามปรกติก็ทำให้เขาก้มไปดูตรงลูกบิดประตูที่ดูเหมือนจะมีอะไรสักอย่างมาแขวนอยู่





 

            ‘ใคร และทำไมถึงรู้ว่าเขาชอบกินข้าวต้มปลาหมึก’



            คำถามข้อแรกคือใครเป็นคนเอาข้าวต้มมาแขวนไว้หน้าห้องเขาในเวลานี้ พลิกดูในถุงพลาสติกก็ไม่มีการระบุชื่อเจ้าของแต่อย่างใด มันน่าสงสัยตั้งแต่ทำไมถึงมีคนรู้หอและห้องของเขาด้วย ของบรรณาการนี่ไม่ใช่การผิดตัวแน่นอน เขาชอบกินข้าวต้มปลาหมึก และก็คงไม่มีคนที่ชอบกินข้าวต้มปลาหมึกมาบังเอิญเช่าห้องอยู่แถวห้องเขาแน่ ไป๋เม้มปากอย่างครุ่นคิดก่อนจะหยิบถุงข้าวต้มมาแช่ตู้เย็นไว้ และปล่อยให้มันนอนแน่นิ่งอยู่ในนั้นตลอดคืน

 





            “ใครวะ”

 

 

 





            “ไป๋”



            เสียงเรียกหนึ่งดังขึ้นเมื่อเขากำลังจะเดินออกจากหอ หันไปตามเสียงก็พบเจ้าของเสียงที่เขาเพิ่งรู้จักเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ ไอ้หมอฟันหน้าขาวเจ้าของฟันขาว โฟค มันอยู่หอนี้ด้วยเหรอวะ



            “อ๊าว อยู่หอนี้ด้วยเหรอ”



            “เปล่าหรอก แต่อยู่ใกล้ๆ นี่เอง”



            “อ๋อ มาหาเพื่อนเหรอ” ไป๋เอ่ยถาม



            “มาหาไป๋นั่นแหละ” อีกฝ่ายตอบพลางยิ้มกว้าง



            “หือ” เขาส่งเสียงตั้งคำถามอยู่ในลำคอ



            “ก็เห็นเรียนที่คณะวิทย์เหมือนกัน ทางเดียวกัน ก็เลยแวะมารับ” โฟคยังตอบพร้อมกับรอยยิ้มไม่หุบ



            “ไม่ต้องก็ได้ เกรงใจ” เขาตอบปฏิเสธตามนิสัย



            “บ้า เกรงใจทำไม เพื่อนกัน” ไอ้โฟคนี่เป็นมนุษย์ที่ยิ้มได้เรี่ยราดจริงๆ



            “ไม่ต้องหรอก เกรงใจ” เขายังยืนยันคำเดิม



            “จะปั่นจักรยานไปทำไมไป๋ มันอันตราย หอเราก็อยู่แค่นี้เอง ไปด้วยกันก็ไม่เห็นเสียหายอะไร”



            ความจริงไอ้โฟคก็พูดถูก หลังจากเมื่อวานเขาต้องปั่นจักรยานข้ามถนนใหญ่เพื่อกลับหอตอนที่รถสุดแสนจะวุ่นวายในช่วงหัวค่ำ เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่เอาจักรยานไปมหาวิทยาลัยแล้ว เขาตั้งใจจะนั่งแท๊กซี่ไปแล้วขากลับบังคับให้ไอ้ว่านมาส่งแทน





 

            ไอ้โฟคเหมือนมนุษย์คนละสไตล์กับไอ้อิฐเลย



            หน้าไอ้โฟคเป็นเหมือนคุณหนูบ้านคนจีน ตาตี่ๆ ผิวขาวๆ ฟันสวยสมกับเป็นหมอฟัน หน้าตาดูใจดีเหมาะกับการจะอุดฟันผุให้เด็กๆ ตรงข้ามกับไอ้อิฐที่หน้าดุและกวนตีนจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นหน้าธรรมชาติ เจาะหู ไถข้าง เหมาะกับการเอาไปขู่เด็กน้อยว่าจะถูกมันลักพาตัว ถ้าไม่ยอมอ้าปากให้กำจัดแมงกินฟันเสียดีๆ   

 





            “เฮ้ย ไม่เป็นไรจริงๆ เกรงใจหวะ”



            “เอาน่า จับได้ไป๋เป็นบัดดี้ก็ต้องเทคแคร์หน่อยดิ”



            “หือ”



            “บัดดี้เมื่อวานไง โตๆ กันแล้ว ไม่ต้องปิดบังกันก็ได้มั้ง เพื่อนกัน พูดกันตรงๆ นี่แหละ เทคแคร์ง่ายดี ยังไงก็ต้องเฉลยอยู่แล้ว”



            “มึงจับได้ชื่อกูเป็นบัดดี้เหรอ” ไป๋ถามอย่างสงสัย ตอนแรกเขานึกว่าเป็นไอ้อิฐเสียอีก



            “อืม ก็เลยเข้าไปทักเมื่อวานไง”



            “อ๋อ”



            “โฟคไม่ซื้อของอะไรให้เยอะหรอกนะ ขับรถไปส่งนี่แหละ ง่ายดี ยังไงก็ทางเดียวกัน” โฟคพูดต่อ ปากก็ยังคงยิ้มตลอดไม่หยุดสักที



            “อืม อย่างนั้นก็ได้มั้ง”



            ไป๋รับปากไปอย่างไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรดี ไอ้โฟคก็มีเหตุผลของมัน ความจริงมีคนไปส่งตอนเช้าก็ไม่ใช่เรื่องแย่ อย่างน้อยเขาจะได้ไม่ต้องไปยืนโบกแท๊กซี่ให้วุ่นวายแต่เช้า



            ไอ้โฟคถือจังหวะที่เขาตอบตกลงหยิบหนังสือแลปในมือของเขาไปถือ พร้อมเดินตรงยังรถที่จอดอยู่หน้าลานจอดรถของหอที่เขาอยู่ ว่าจะเอ่ยห้ามแต่มันก็เดินงุดๆ นำหน้าไปเสียแล้ว







            ‘ช่างมันเถอะ มันคงเป็นคนอัธยาศัยดี’







               นายพินต้า




               ติดตามและพูดคุยกับนักเขียนได้ที่ www.twitter.com/ninepinta

               อย่าลืมแนะนำติชมนิยายเพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะครับผม ^ ^

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ขอบคุณทุกความคิดเห็นเลย ทุกความเห็นคือแรงใจในการแต่งนิยายของผม ใครอ่านแล้วอย่าลืมเม้นด้วยน้า หนูอยากได้กำลังใจ หนูรีเฟรชมารอคอมเม้นที่ท่าน้ำทุกชั่วโมงเลยยยยย 555555

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เนื้อเรื่องใสๆ น่ารักดีครับ ดูแววอิฐน่าจะได้ตำแหน่ง

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
มีคนเข้าหาเยอะจริงนะหมอไป๋ :กอด1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไงดีหล่ะ  รู้สึกว่าทุกห้วงคำนึงของไป๋  จะปรากฏแต่อิฐนะ

คิดไรป่ะเนี่ย?

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
มาต่อๆ
ชอบๆ

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ข้าวต้มต้องเป็นฝีมือชายอิฐแน่ๆ o13

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ขุ่นโฟคนี้...ขอดูไปก่อนนะ ยังไงๆอยู่

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น



ตอนที่ 6 : คาร์โบแคทไอออน




            “ไอ้ไป๋ อ๊าว ทำไมมากับโฟคได้วะ” ว่านเอ่ยทักเขาเมื่อเขาวางจานข้าวแล้วนั่งตรงข้ามมันที่โต๊ะโรงอาหารคณะวิทย์ที่มันนั่งอยู่ก่อนแล้ว



            “พอดีมันอยู่หอใกล้ๆ เลยขอติดรถมันมา” ไป๋ตอบอย่างตัดบท ไอ้ว่านก็พงกหัวงึกงักเป็นเชิงรับรู้แล้วก็ไม่ได้ติดใจสงสัยถามอะไรต่ออีก



            “แล้วนี่มึงไม่ไปเรียนเหรอวะ”



            ไป๋หันไปถามโฟคอย่างสงสัย เพราะนอกจากมันจะไม่แยกตัวไปเรียนแล้ว มันยังซื้อข้าวมานั่งปักหลักกินกับพวกเขาด้วย



            “ก็เรียนอยู่ห้องเดียวกันนี่แหละจะให้แยกไปไหนหละ ถามได้”



            โฟคตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม ความจริงเขารู้ว่าคณะแพทย์ เภสัช แล้วก็ทันตะจะเรียนวิชาเคมีช่วงเช้านี้ด้วยกัน แต่ความหมายของเขาคือ มันไม่คิดจะแยกกลับไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนที่คณะตัวเองหรือไง แต่พอมันตอบไม่ตรงประเด็น เขาก็ขี้เกียจถามอีก เดี๋ยวพอขึ้นเรียนก็รู้เอง

 





            สรุปคือไอ้โฟคนั่งเรียนเคมีกับพวกเขาอยู่ด้วยกันตลอดเช้า



            ฝั่งขวาของเขาเป็นไอ้ว่านที่หลับไปตั้งแต่สามสิบนาทีแรก ส่วนฝั่งซ้ายเป็นไอ้โฟคที่นั่งจดอะไรยุกยิกตามอาจารย์สอนไม่หยุดหย่อน ส่วนเขาก็จดบ้างไม่จดบ้างตามอารมณ์ ตรงไหนก็รู้แล้วเขาก็ไม่ค่อยสนใจและหยิบมือถือขึ้นมานั่งเล่นบ้าง ความจริงเขาเป็นเด็กค่ายเคมีโอลิมปิค วิชาเคมีในมหาวิทยาลัยนี่เขาก็เรียนมาตั้งแต่อยู่ในค่ายแล้วพอสมควร

 





            “ไป๋ๆ เข้าใจตรงนี้ปะ”



            ไอ้โฟคเอานิ้วมาสะกิดเขาตอนที่เขากำลังนั่งกดเกมมือถืออยู่ พอหันไปก็เจอมันกำลังเอามืออีกข้างหนึ่งชี้ไปที่สไลด์ที่อาจารย์พูดผ่านไปค่อนข้างรวดเร็ว



            “อ๋อ คาร์โบแคทไอออน คืออะตอมคาร์บอนที่มีประจุเป็นบวกอะ” เขาตอบไปอย่างง่ายๆ



            “อ๊าว ทำไมคาร์บอนถึงเป็นบวกได้อะ มันต้องเป็นกลางไม่ใช่เหรอ” โฟคตอบมาแบบไม่มั่นใจ



            “คือสถานะปรกติมันก็เป็นกลางแหละ แต่คาร์โบแคทไอออนนี่มันศึกษาไปถึงขั้นกลไกการเกิดปฏิกิริยาเคมีอะ ความจริงในขั้นตอนละเอียดๆ คาร์บอนมันเป็นบวกเป็นลบได้นะ”



            “อ๊าวเหรอ” โฟคตอบมาแบบงงๆ



            “เดี๋ยวน่าจะได้เรียนเพิ่มนะ อันนี้อาจารย์แค่พูดเกริ่นเฉยๆ แหละ จำไปแค่มันเป็นคาร์บอนที่เป็นบวกก็พอ เดี๋ยวก็ได้เรียนอีกทีแหละ”



            “ดีเนอะ” โฟคตอบพึมพำออกมา



            “ดียังไงวะ”



            “หมายถึง ไป๋อะ เก่งดีเนอะ ขนาดเรียนไปเล่นมือถือไปยังรู้เยอะกว่าเราที่ตั้งใจจดตามอาจารย์สอนอีก” โฟคพูดพร้อมรอยยิ้มกว้างอีกแล้ว



            “ไม่หรอก พอดีเคยได้ยินมาบ้างหนะ ก็เลยพอรู้”



            “ดูก็รู้ว่าไป๋อะเรียนเก่ง” โฟคพูดยิ้มๆ



            “ไม่ขนาดนั้นหรอก”



            “ขอจองตัวติวก่อนสอบไว้ก่อนเลยนะ ท่าทางต้องเกาะติดไป๋ไว้แล้วเนี่ย”

 





            ตอนบ่ายพวกเขาไปเรียนแลปวิชาเคมีต่อซึ่งจะแบ่งกันทำแลปกันเป็นโต๊ะๆ แพทย์ เภสัช ทันตะ เรียนพร้อมกันเหมือนเคย แต่คราวนี้จะต้องถูกจับกลุ่มตามรหัสนักศึกษา ไป๋และว่านรหัสไม่ห่างกันเท่าไหร่เลยได้ทำแลปอยู่โต๊ะติดกันแต่คนละกลุ่ม ส่วนโฟคที่อยู่คนละคณะได้ไปอยู่ทำแลปอีกห้องหนึ่งเลย

 





            “มึงไปสนิทกับไอ้โฟคตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”



            ว่านทักขึ้นหลังจากที่ทำแลปเสร็จแล้ว ที่เหลือตอนนี้ก็แค่เขียนรายงานผลแลปส่ง ซึ่งให้ว่านก็ลากเก้าอี้มานั่งติดกับเขา ไม่รู้ว่ามาเพื่อชวนคุยหรือลอกผลแลปกันแน่



            “นั่นดิ กูก็คิดเหมือนมึงเนี่ย” เขาตอบไปแบบไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน อยู่ดีๆ วันนี้ไอ้โฟคก็มานั่งเรียนกับพวกเขาด้วย



            “เหรอ แล้วตอนเช้ามึงเจอมันได้ไงวะ” ว่านซักต่อ



            “มันบอกว่ามันจับได้กูเป็นบัดดี้หวะ มันเลยอาสามาส่ง” ไป๋ตอบไปตามตรง



            “มันเนี่ยนะจับได้มึงเป็นบัดดี้”



            “เออ มันบอกกูงั้นอะ แปลกดีเหมือนกันหวะ มาเฉลยเฉ๊ย”



            “พูดถึงบัดดี้ มึงเริ่มต้นเทคไอ้อิฐบ้างยังวะ”



            ว่านถามขึ้นแบบนึกขึ้นได้ แต่ประโยคที่ว่าก็แทงใจไป๋อยู่พอสมควร นอกจากไม่เทคแคร์บัดดี้แล้วยังปากหมาใส่บัดดี้ไปเยอะด้วย สงสัยป่านนี้มันคงหาทางดักกระทืบเขาอยู่มั้ง นึกถึงเมื่อวานแล้วก็ยังจำหน้าไอ้อิฐได้ดี หน้าตามันดูไม่พอใจมาก



            “ยังเลยหวะ” เขาตอบออกไปเสียงเรียบๆ



            “ให้กูช่วยอะไรไหมหละ มึงจะได้ไม่ต้องออกหน้า” ไอ้ว่านเสนอตัวเข้าช่วยเหลือ แต่สายตาของมันก็ยังคงมองใบรายงานผลแลปแล้วลอกตามใบของเขายิกๆ



            “สัด มึงอย่าลอกมั่วซั่วดิวะ เดี๋ยวอาจารย์ก็รู้หมดว่าลอกกันมา”



            “กูรู้หรอกน่าอะไรลอกได้ลอกไม่ได้ ไอ้ไป๋ กูก็สอบติดหมอมาเหมือนมึงนะเว้ย” ไอ้ว่านตอบกลับมาทั้งที่มือก็ยังคงเขียนต่อไป



            “เออๆ ไอ้หมอว่านคนฉลาด”



            “ว่าแต่จะให้กูช่วยไรมะ ฝากของไปให้ไรเงี้ย”



            “ไม่รู้หวะ เดี๋ยวกูคิดดูก่อน ฝากมึงไปมันก็รู้หมดดิว่ากูเป็นคนให้ มันก็รู้อยู่ว่ากูสนิทกับมึง”



            “เออๆ แล้วแต่มึงแล้วกัน จะให้ช่วยอะไรก็บอก”



            “มึงคิดอะไรดีๆ ได้ก็บอกกูด้วยละกัน”



            “แล้วเดี๋ยวเรียนเสร็จแล้วมึงไปไหนต่อ” ว่านถามพร้อมเสียงจ๊อบแจ๊บ เหมือนมันจะแอบเอาอะไรเข้ามากินในห้องแลปด้วย



            “กูว่าจะไปห้องสมุดหวะ กลับหอไปก็ไม่มีไรทำ ไปหาอะไรนั่งอ่านเล่นหน่อย”



            “นี่มึงเป็นบ้าเปล่าเนี่ย เวลาว่างแทนที่จะไปหาอะไรบันเทิงทำดันไปเข้าห้องสมุด นี่มันเพิ่งเปิดเทอมได้ไม่ถึงอาทิตย์เลยนะเว้ย”



            ว่านหันมาบ่นเพื่อนอย่างเซ็งๆ ยิ่งมันขยัน เขาก็ยิ่งกดดัน ไอ้ไป๋นี่เป็นนักเรียนอันดับหนึ่งมาตั้งแต่โรงเรียนเก่าแล้ว รัศมีความฉลาดของมันที่ไม่เคยจางไปเลยแม้แต่นิดเดียว





 

            ไอ้ไป๋คือหัวหน้าชมรม Bishop Castle หรือชมรมวิชาการของโรงเรียนสมัยที่พวกเขาเรียนม.ปลาย



            ไอ้ไป๋นี่ถือเป็นเด็กที่เรียกได้ว่าฉลาดเป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียนก็ได้นะ มันเป็นประธานชมรมวิชาการ เป็นเด็กค่ายเคมีโอลิมปิค และก็เป็นทีมแข่งขันตอบปัญหาวิชาการที่คอยไปกวาดรางวัลให้โรงเรียนจนนับรางวัลไม่ถ้วน ไอ้ไป๋นี่ถือเป็นลูกรักของครูทั้งโรงเรียนเลยแหละ เพราะถึงแม้มันจะปากหมาแค่ไหน แต่ตอนมันอยู่ต่อหน้าครูมันก็เป็นเด็กที่เรียบร้อยมาก มันแทบไม่เคยออกนอกกฎระเบียบแม้แต่นิดเดียว ยิ่งตอนมันไปแข่งเคมีโอลิมปิคได้เหรียญทองกลับมานะ ครูใหญ่นี่แทบจะปูพรมแดงให้มันเดินเข้าโรงเรียน หน้ามันนี่แปะเด่นหราเป็นป้ายไวนิลอยู่หน้าโรงเรียนเป็นเดือน แต่แต่ก่อนมันไม่ได้หน้าตาแบบนี้หรอกนะ ไอ้ไป๋มันใส่แว่นหนาเตอะ หัวเกรียน ใส่เสื้อตัวโคร่ง มันจะเพิ่งมาดูดีตอนเข้ามหาวิทยาลัยนี่แหละ ตั้งแต่ไว้ผมยาวแล้วก็ทำเลสิคทำให้มันดูดีขึ้นมาก แต่เอาจริงๆ ดูเหมือนมันก็ไม่ค่อยรู้ตัวนะว่ามันดูดีขึ้นเยอะ ไอ้ไป๋นี่เป็นคนที่ไม่มั่นใจเรื่องหน้าตาตัวเองมาตั้งแต่เด็กแล้ว โตขึ้นมามันก็ยังเหมือนเดิม ขนาดมันได้เป็นเดือนคณะแล้ว มันก็ยังดูไม่ได้มีความมั่นใจเรื่องหน้าตามั่นขึ้นมาแม้แต่น้อย เรื่องสมองหนะไอ้ไป๋มั่นใจมาก แต่เรื่องหน้าตาแล้วไอ้ไป๋นี่ไม่เคยแสดงความมั่นใจออกมาให้เห็นชัดๆ สักที





 

            ‘มันไม่เคยรู้ตัวจริงๆ แหละว่ามันหน้าตาดีขึ้นเยอะ แต่ความจริงก็ดีแล้วแหละ แค่มันมั่นใจเรื่องสมองของมันนี่ก็น่ารำคาญจะแย่อยู่แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า’







               นายพินต้า





               ติดตามและพูดคุยกับนักเขียนได้ที่ www.twitter.com/ninepinta

               อย่าลืมแนะนำติชมนิยายเพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะครับผม ^ ^

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
กราบทุกคนที่เข้ามาเม้นนนน ใครไม่เม้นเม้นเป็นกำลังใจให้หนูด้วยน้า แอร๊ยยยยย

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด