-๓-
รูมเมท
กลับมาที่ห้องแล้วปลาวาฬก็รีบเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเตรียมไว้ทันที ทั้งที่ในใจกลับคิดแต่เรื่องเพื่อนเพราะจนป่านนี้ก็ยังไม่กลับมาที่ห้องเลย ถ้าคืนนี้ยังไม่มีวี่แววจะกลับมาเขาตั้งใจจะไปแจ้งความคนหายแน่นอน
แอ๊ดดดด
เมื่อได้ยินเสียงคนเปิดประตูห้อง ปลาวาฬก็ยิ้มแล้วรีบชะเง้อหน้าไปมองทันที คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อนรักนั่นเอง
“ไอ้เงินมึงหายหัวไปไหนมาวะ กูเป็นห่วงมึงแทบแย่” เจ้าตัวรีบเดินหาเพื่อนรักแล้วมองด้วยความโล่งอก
“กูขอโทษว่ะพอดีมีเรื่องนิดหน่อย” เจ้าตัวพูดเสียงอ่อยเหมือนคนหมดแรง ก่อนจะเดินเหม่อลอยไปนอนบนเตียง
“นี่มึงเป็นอะไร ทำไมกลับมาในสภาพนี้ ใครทำอะไรมึงบอกกูมา ไอ้เสี่ยนั่นรึเปล่าวะ!” ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนมาก ปลาวาฬจึงเดินตามไปเค้นเอาความจริงอย่างไม่ลดละ
“ก็ไม่เชิงอ่ะแต่ต้นเหตุก็มาจากไอ้เสี่ยนั่นคนเดียวเลย ฮือๆๆๆ” อยู่ๆคนที่โดนถามก็ร้องไห้เสียงดังออกมา ปลาวาฬตกใจจึงรีบวิ่งเข้าไปกอดเพื่อนไว้ทันที
“ไอ้เสี่ยมันทำอะไรมึงบอกกูมา!” ยิ่งได้ยินเพื่อนพูดอย่างนี้ยิ่งใจคอไม่ดี สภาพอย่างนี้อย่าบอกนะว่าเสร็จไอ้เสี่ยนั่นไปแล้ว “หรือว่ามึงโดยไอ้เสี่ยนั่น..”
“ไม่ใช่โว้ย ฮึก ไอ้เสี่ยเจียงมันวางยากูก็จริงแต่คนที่เอากูไปนอนด้วยมันอีกคนนึง”
“มึงโดนข่มขืนมางั้นเหรอวะ มันเป็นใครเดี๋ยวกูจะไปจัดการมันให้” ทำตัวนักเลงขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าเพื่อนโดนรังแกมา
“จะว่าอย่างงั้นก็ได้ กูโดนวางยามามันเองก็เมา ฮือๆๆ กูจะทำยังไงดีวะ”
“อย่างนี้จะโทษมันฝ่ายเดียวไม่ได้นะเว้ย แล้วไอ้นั่นมันเป็นใครหล่อรวยป่ะ”
“ไอ้ปลาวาฬมึงยังจะมีหน้ามาถามอย่างนี้อีกเหรอวะ เพื่อนมึงโดนมาขนาดนี้นะ” เงินรีบตวาดแหวให้เพื่อน
“กูขอโทษ กูแค่อยากรู้เฉยๆ มึงเสียตัวแล้วนะเว้ยอย่าให้เสียฟรีๆดิ ถ้ามันรวยก็รีบจับมันไว้ให้แน่นๆ มึงก็รู้ว่าคนอย่างพวกเรา จะมีโอกาสดีๆกับเขาซะที่ไหนกันล่ะ” ที่กล้าพูดเพราะเจ้าตัวก็กำลังทำอย่างนี้อยู่
“กูไม่กล้าทำอย่างมึงหรอก” เจ้าตัวนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง มองหน้าเพื่อนด้วยความลังเลใจ
“ชีวิตเรามันไม่มีทางให้เลือกมากขนาดนั้นหรอกไอ้เงิน สรุปแล้วไอ้นั่นมันเป็นใครกูจะได้แนะแนวทางให้ถูก บอกมาเร็วๆ”
“มันเป็นลูกค้าในผับ ตามจีบกูได้หลายเดือนแล้วแต่กูไม่เล่นด้วย ไอ้นั่นมันเจ้าชู้เสือผู้หญิงเลยล่ะ” พูดแล้วก็ยังนึกถึงใบหน้าหล่อๆนั่นอยู่ตลอดเวลา
“โอ๊ย!! มันทำขนาดนั้นแล้วจะรออะไรวะ ตัวก็เสียไปแล้วลองคบกับมันดูก็ไม่เสียหาย กูเองก็อยากให้มีคนมาดูแลมึงจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“พูดเหมือนกับมึงจะไปไหนซะอย่างนั้น” เงินมองหน้าเพื่อนด้วยความสงสัย ก่อนจะมองเห็นกระเป๋าใบใหญ่ที่ถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย “นั่นกระเป๋า..มึงจะไปไหนวะ”
“กูได้งานใหม่แล้วพรุ่งนี้จะย้ายไปอยู่กับนายจ้างคนใหม่” เจ้าตัวพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“งานอะไรวะทำไมต้องย้ายไปอยู่กับเขาด้วย”
“กูรับจ้างมีลูกให้เขาอ่ะ”
“นี่มึงอย่าบอกนะว่า...” เงินชี้หน้าเพื่อนแล้วยิ้มออกมา
“ใช้แล้ว! กูจะได้เงินห้าล้านบาทแล้วโว๊ยยย!!” ปลาวาฬตะโกนเสียงดังแล้วทั้งสองก็กอดกันด้วยความดีใจ
“พอก่อนๆๆ กูเจ็บตูด” ขณะกำลังกอดเพื่อนเอาไว้แน่น เงินก็รู้สึกเจ็บช่วงล่างขึ้นมาทันที มันเพิ่งผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วง ขยับตัวนิดหน่อยก็รู้สึกเจ็บปวดทันที
“โทษทีว่ะกูดีใจไปหน่อย นี่มึงโดนมากี่รอบกันแน่ทำไมถึงปวดหนักขนาดนี้” เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเพื่อนก็อดถามไม่ได้
“ก็หลายครั้งอ่ะ แม่งมันไปตายอดตายอยากมาจากไหนก็ไม่รู้” พูดแล้วก็เจ็บใจไม่หาย
“โดนขนาดนี้แสดงว่ามันคงติดใจมึงมากแน่ๆ กูแนะนำให้มึงคบกับมันไปเลย ถ้าไม่ชอบหรือฝืนจริงๆค่อยเลิก ตั้งแต่กูเป็นเพื่อนกับมึงมา ไม่เคยเห็นมึงมีแฟนสักคน ลองดูนะเผื่อว่าอาจจะเป็นบุพเพสันนิวาสก็ได้”
“บุพพังน่ะสิ ตูดกูนี่พังเต็มๆ มึงไม่คิดเหรอว่าถ้ากูคบกับมันแล้ว มันอาจจะเอากูจนตายเลยก็ได้” ยิ่งนึกถึงเจ้าโลกของอีกฝ่ายยิ่งขยาด มันใหญ่มากจนไม่อยากให้เข้ามาในตัวอีกเลย
“มึงก็เวอร์ไป...เอาน่าเพื่อนวันนั้นต่างฝ่ายต่างไม่มีสติ ถ้าได้คบกันจริงๆมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่มึงคิดก็ได้ ที่แนะนำเพราะกูเป็นห่วง ถ้ามีคนดูแลมึงกูจะได้สบายใจไง” ปลาวาฬพยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อน แม้จะไม่เคยเห็นหน้าตาของนายคนนั้น แต่พอได้รู้ว่าเคยมาจีบอยู่นานหลายเดือนก็คิดว่าคงจะรักเพื่อนไม่น้อย ไม่งั้นคงไม่ตามตื้อนานขนาดนี้ และที่สำคัญเขาเป็นห่วงเพื่อนกลัวว่าคนของเสี่ยจะมาตามรังควานอีก
“ถ้ามันจะทำให้มึงสบายใจ กูจะลองคบกันนายนั่นก็ได้”
“ไม่ใช่เพื่อกูแต่เพื่อมึงต่างหาก กูมั่นใจว่ามึงจะมีความสุข” ปลาวาฬจับมือเพื่อนไว้แล้วเอ่ยด้วยความจริงใจ
“เมื่อคืนมันพูดว่าถ้ากูไปอยู่กับมัน มันจะทำตัวใหม่ แต่กูไม่มั่นใจว่ามันจะทำได้หรือเปล่า” ในใจก็อยากจะลองให้โอกาสดู แม้ว่านายนั่นจะกะล่อนไปหน่อย แต่ดูท่าทางแล้วไม่น่าจะใช่คนเลวร้ายอะไร
“เขาพูดขนาดนั้นแล้วไปๆเถอะ” เจ้าตัวปัดมือไล่เพื่อนอย่างขำๆ
“แหมๆมึงไล่กูจังเลยนะ ว่าแต่มึงเถอะจะไปอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน”
“ก็จนกว่ากูจะคลอดลูกให้เค้านั่นล่ะ”
“กูถามจริงๆนะ..มึงกล้าทิ้งลูกของมึงได้ลงคอเหรอวะ” แม้จะรู้ว่ามันเป็นการว่าจ้างแต่ถึงกระนั้นเด็กในท้องก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเพื่อน มันต้องมีความผูกพันธ์กันอยู่ไม่น้อย
“เอาจริงๆนะกูทำใจไว้แล้ว มันไม่มีทางเลือกนี่หว่าเราติดสินใจแล้วต้องยอมรับผลที่ตามมา” พูดเหมือนปลงๆกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป
“ก็อย่างว่าล่ะนะ เด็กกำพร้าอย่างพวกเรามันจะมีทางเลือกที่ไหนกัน มีโอกาสก็ต้องรีบคว้าเอาไว้”
“แล้วมึงล่ะสรุปจะเอายังไง”
“กูจะไปอยู่กับนายนั่น ลองดูสักตั้งสิวะตัวก็เสียแล้วต้องเอาคืนให้คุ้ม” ตอนนี้เจ้าตัวมีท่าทีร่าเริ่งขึ้นมาบ้างแล้ว หลังจากได้ปรับทุกข์กับเพื่อนรัก ที่กำลังจะแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“ต้องอย่างนี้สิเพื่อนกูสู้ๆโว้ย”
“มึงเองก็สู้ๆอย่าลืมโทรหากูด้วยล่ะ”
“เออกูก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามึงจะเอาผัวอยู่รึเปล่า” ปลาวาฬเอ่ยแซวเพื่อนรัก
“แน่นอนอยู่แล้วถ้ามันกล้าหือกูจะหอบผ้าหอบผ่อนหนีมันไป” พูดแล้วก็ขำออกมา
“โถๆๆกูก็นึกว่าจะแน่กว่านี้ไอ้อ่อน ฮ่าๆๆ”
ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ส่งท้ายที่จะได้อยู่ร่วมห้องเป็นรูมเมทกัน
*-*-*-*-*-*-*
เช้าวันรุ่งขึ้นมีคนขับรถมารับปลาวาฬที่หอพักตั้งแต่เช้า เงินช่วยเพื่อนขนของลงมาที่หน้าหอพัก ก่อนที่คนขับรถจะนำไปเก็บไว้ท้ายรถ
“โชคดีนะเว้ยมึง” เงินมองหน้าเพื่อนรัก อยู่ๆน้ำตามันก็ไหลลงมา อยู่ด้วยกันมาตลอดมันก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน
“มึงก็เหมือนกัน อย่าร้องสิวะกูไม่ได้ไปตายซะหน่อย” ปลาวาฬขำกับท่าท่างของเพื่อน ที่ดูเป็นเด็กขี้แยไปซะแล้ว
“เออ.. รีบๆไปเถอะก่อนกูจะร้องหนักกว่านี้”
“ดูแลตัวเองด้วยนะอย่าหักโหมนักล่ะ” ก่อนจะเดินขึ้นรถไปก็ไม่วายที่จะแซวเพื่อน
“ไอ้เพื่อนเลวมึงรีบๆไปเลยนะ”
ไม่รู้ทำไมคำพูดของเพื่อนเมื่อสักครู่ ถึงทำให้เจ้าตัวหน้าแดงได้ขนาดนี้นะ คอยดูนะถ้าไปอยู่ด้วยกันแล้วเขาจะเอานายคนนี้ให้อยู่หมัดเลยทีเดียว ให้สาสมกับที่จัดหนักเขาในวันนั้น
*-*-*-*-*-*-*
นั่งรถประมาณยี่สิบนาทีก็มาถึงคฤหาสน์หลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านที่ใครๆต่างก็เรียกว่าหมู่บ้านเศรษฐี นั่นเพราะบ้านทุกหลังมีมูลค่าเกินสิบล้านบาททั้งนั้น เจ้าของบ้านล้วนแต่เป็นคนมีอันจะกิน ทั้งเศรษฐีเก่าเศรษฐีใหม่และบรรดาข้าราชการระดับสูง บรรยากาศในหมู่บ้านก็น่าอยู่ มีทะเลสาบประจำหมู่บ้านและสวนสาธารณะให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย
“เชิญด้านในครับ” คนขับรถยืนถือกระเป๋ารอและผายมือเชิญเข้าไปในบ้าน เจ้าตัวรู้สึกตื่นแต้นมากเหลือเกิน เพราะไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง
“ขอบคุณครับพี่” ปลาวาฬเดินนำหน้าคนขับรถเข้าไปในบ้านด้วยความประหม่า
เมื่อเข้าไปถึงก็พบกับสมาชิกในบ้านทั้งสี่คนนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ ราวกับว่ามาเพื่อต้อนรับเขาซะอย่างนั้น ปลาวาฬกวาดสายตามองหาคนที่เขารู้จักเพียงคนเดียวนั่นคือนักรบ ก็พบว่ากำลังนั่งอยู่ข้างๆหญิงสูงวัยท่าทางดูดีคนหนึ่ง
“สวัสดีครับ” เมื่อเดินมาถึงก็ยกมือไหว้ทุกคน ก่อนจะยืนอยู่ท่ามกลางสายตาของคนที่ไม่คุ้นเคย ทุกคนมองมาราวกับเขาเป็นตัวประหลาดซะอย่างนั้น
“มาซะทีหนูปลาวาฬใช่ไหมจ๊ะ” หญิงสูงวัยอายุราวหกสิบปีเอ่ยทักทายเป็นคนแรก
“ครับผมชื่อปลาวาฬ” เจ้าตัวยิ้มให้ ต้องมีมารยาทเอาไว้ก่อนให้คนรักดีกว่าคนเกลียด ถ้าจะมีคนเกลียด เขาขอให้เป็นนักบินคนเดียวเท่านั้น
“หน้าตาน่ารักจริงๆลูกออกมาต้องน่ารักน่าชังเหมือนแม่แน่ๆ” คุณหญิงฉัตรฉายมองหน้าผู้มาใหม่อย่างเอ็นดู
“ขอบคุณครับคุณท่าน” ปลาวาฬรู้งานดีเรื่องการเอาใจผู้ใหญ่ ถ้าเดาไม่ผิดผู้หญิงคนนี้คงจะเป็นแม่ของนักบิน ส่วนผู้ชายแก่ๆคนนั้นน่าจะเป็นพ่อ และชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเขาจะต้องเป็นน้องชายแน่นอน
“มาวันแรกก็มีสัมมาคารวะเสียแล้ว แกเลือกคนไม่ผิดจริงๆ เรียกฉันว่าคุณฉัตรก็ได้จ๊ะ” คุณหญิงฉัตรฉายหันไปเอ่ยกับลูกชาย “หนูนั่งก่อนสิจ๊ะ”
“ขอบคุณครับคุณฉัตร” เจ้าตัวตอบรับแล้วนั่งลงที่พื้นทันที
“ไม่เอาสิจ๊ะขึ้นมานั่งบนโซฟานี่เร็วสิ ข้างๆพี่เขา” คุณหญิงรีบเอ่ยออกมาเสียงดัง ส่วนปลาวาฬรีบลุกขึ้นยืนก่อนจะปรายตามองนักบินแวบหนึ่งแล้วเดินไปนั่งลงข้างๆ
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านมหาธำรงกุลนะหนู ฉันชื่อเกริกไกรเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้และเป็นพ่อของนักบินด้วย” เกริกไกรผู้เป็นเจ้าของบ้านเอ่ยต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
เมื่อได้ยินอย่างนั้นปลาวาฬก็ทำหน้างงๆเพราะไม่รู้จักชื่อเล่นของอีกฝ่าย
“นักบินเป็นชื่อเล่นฉันเอง” เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆทำหน้างง นักบินจึงบอกความจริงไป
“อองั้นเหรอครับ ชื่อเพราะดีนะ” เจ้าตัวยิ้มให้อย่างเสแสร้งแล้วเอ่ยกับทุกคน “ขอบคุณทุกคนที่เมตตาผมนะครับ” ว่าแล้วก็ยกมือไหว้สวยๆ
นักบินนั่งเงียบมองดูทุกอิริยาบถของอีกฝ่าย ทำไมถึงได้ต่างกันราวฟ้ากับเหวอย่างนี้นะ เวลาอยู่กับเขาซนอย่างกับลิง ปากก็จัดอย่างกับแม่ค้าในตลาด อย่างนี้มันสองมาตรฐานชัดๆ
“เราต่างหากที่ต้องขอบใจหนูปลาวาฬ ที่ช่วยมาอุ้มท้องหลานคนแรกของตระกูลให้เรา หวังว่าหนูจะไม่ทำให้เราผิดหวังนะจ๊ะ” คุณหญิงฉัตรฉายเอ่ย
“ผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วครับ ห่วงแต่คุณนักบินนั่นล่ะว่าจะเอ่อ...มีน้ำยารึเปล่า” เจ้าตัวเอ่ยพาดพิงคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินอย่างนั้นนักบินก็หันขวับไปมองทันที ส่วนปลาวาฬก็ทำหน้าตายแล้วหันไปโปรยยิ้มให้กับทุกคนแทน
“ได้ยินรึยังนักบินทุกอย่างขึ้นอยู่กับแกแล้วนะ” ผู้เป็นแม่หันไปเอ่ยกับลูกชาย
“ครับแม่” เจ้าตัวยอมรับแต่โดยดี อย่าให้อยู่กันสองต่อสองนะจะจัดการซะให้เข็ดหลาบเลยทีเดียว
“ขอแนะนำตัวบ้างนะ ผมชื่อนักรบเป็นน้องชายพี่นักบินครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ชายหนุ่มรูปหล่อเอ่ยแทรกขึ้นมา
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนักรบ”
“ว่าแต่ปลาวาฬอายุเท่าไหร่แล้วครับ”
“ผมยี่สิบปีแล้วครับ”
“อ้าว! อายุเท่ากันเลย ถ้างั้นเราก็เป็นเพื่อนกัน เรียกนักรบเฉยๆก็ได้นะ”
“ไม่ดีมั้งครับผมเป็นแค่ลูกจ้างจะมาตีตัวเสมอเจ้านายได้ยังไงกัน” พูดอย่างถ่อมตัว คุณหญิงฉัตรฉายเห็นอย่างนั้นยิ่งปลื้มเข้าไปใหญ่ เด็กอะไรจะน่ารักและมีสัมมาคารวะขนาดนี้
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะหนูปลาวาฬลูกชายฉันเป็นคนง่ายๆไม่ถือตัว”
“ถ้างั้นผมก็ยินดีที่จะเป็นเพื่อนกับนักรบครับ” ว่าแล้วก็ยิ้มให้กับเพื่อนใหม่
ระหว่างที่ทุกคนกำลังคุยกันอย่างสนุกปากนั้น นักบินก็พูดแทรกขึ้นมาเพราะทนความเสแสร้งของอีกฝ่ายไม่ไหว
มันน่าหมั่นไส้เสียจริงๆ
“ผมขอพาปลาวาฬขึ้นไปดูห้องก่อนนะครับ”
“กำลังคุยกันสนุกปากเชียว แต่ไม่เป็นไรค่อยลงมาคุยกันใหม่นะหนู”
“ครับคุณฉัตร”
นักบินลุกขึ้นยืนแล้วแล้วหันมาเอ่ยกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ตามฉันมาเดี๋ยวจะพาขึ้นไปดูห้อง”
ปลาวาฬมองหน้าแวบหนึ่งแล้วหันไปยิ้มให้ทุกคน
“ผมขอตัวก่อนนะครับทุกคนแล้วค่อยคุยกันใหม่ครับ” เจ้าตัวลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้ก่อนจะเดินตามหลังร่างสูงไปอย่างเงียบๆ โดยมีคนขับรถถือกระเป๋าตามขึ้นไปให้ด้วย
เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องๆหนึ่งนักบินก็หยุดอย่างกะทันหัน ทำให้คนที่เดินตามหลังมาชนเข้าให้ เพราะมัวแต่ตื่นตาตื่นใจกับความใหญ่โตและสวยหรูของตัวบ้าน
“จะหยุดทำไมไม่บอก” เจ้าตัวมองหน้าแล้วถลึงตาใส่
“นายนั่นล่ะที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเอง” ทำหน้าดุใส่แล้วหันไปเอ่ยกับคนที่ถือกระเป๋าอยู่ด้านหลัง “วางกระเป๋าไว้ตรงนั้นล่ะแล้วลงไปได้”
“ครับคุณนักบิน”
เมื่อคนขับรถลงไปแล้วนักบินก็หันมามองปลาวาฬอีกครั้ง
“ถือกระเป๋าตามเข้ามา”
เจ้าตัวไม่พูดอะไรเดินไปถือกระเป๋าของตัวเองแล้วตามเข้าไปในห้อง
เมื่อเดินเข้าไปในห้องเจ้าตัวก็ทำตาโตทันที เพราะภายในห้องนอนถูกตกแต่งได้อย่างสวยหรูตามสไตล์ยุโรป ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ จะเห็นก็แต่ในหนังในละคร วันนี้เขาได้รู้แล้วว่าสวรรค์บนดินมันเป็นยังไง
“โอ้โหหรูหรามาก นี่คุณจะให้ผมนอนที่ห้องนี้คนเดียวเลยเหรอ” เจ้าตัวเดินตรงไปที่เตียงแล้วนั่งขย่มอย่างสนุกสนาน “เตียงโคตรนุ่มเลยอ่ะ” นอนกลิ้งตัวไปมาไม่ยอมหยุด
“ใครบอกว่าฉันจะให้นายอยู่คนเดียว นี่มันห้องนอนฉันต่างหากล่ะ” ยืนกอดอกพูดแล้วปรายตามองอีกฝ่าย
“อะไรนะ! นี่ห้องนอนคุณหรอกเหรอแล้วทำไมไม่ให้ผมไปพักห้องอื่นล่ะ” เมื่อรู้ความจริงก็ลุกขึ้นจากเตียงทันทีแล้วเดินเข้ามาถามใกล้ๆ
“ฉันจ้างนายมาเพื่อมีลูกให้นะ คนจะมีลูกเขาก็ต้องเอากันป่ะ แล้วไปอยู่ห้องอื่นเมื่อไหร่นายจะท้อง คิดสิๆ”
“อยู่ห้องไหนก็ท้องได้ถ้าคุณมีน้ำยาพอ อย่างนี้ผมก็อึดอัดแย่เลยสิ”
“ทำอย่างกับฉันไม่อึดอัดงั้นล่ะ แต่นี่เป็นคำสั่งของคุณแม่ท่านอยากอุ้มหลานเร็วๆ” พูดแล้วก็ทำหน้าเบื่อหน่าย เขาเองก็ไม่อยากให้คนอื่นมานอนบนเตียงด้วยเหมือนกัน
“ถ้างั้นผมนอนบนเตียงคุณนอนพื้นละกัน”
“ได้ยังไงกันนี่มันห้องฉันนะนายนั่นล่ะไปนอนที่พื้นเลย”
“ไม่! ผมจะนอนบนเตียงเท่านั้น”
“ถ้างั้นก็นอนด้วยกันนี่ล่ะโอเคมะ”
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” มองหน้าอย่างไม่ลดละ
ดีเหมือนกันจะได้รู้ว่าไอ้ปลาวาฬคนนี้ร้ายกาจแค่ไหน “ตกลงตามนี้”
ถ้านายมาโดนตัวฉันแม้แต่น้อยอย่าหวังจะได้นอนเลยคืนนี้ หึๆ-------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคอมเมนท์และกำลังใจนะคร้าบบบ