ตอนที่ 22 : แฟนมีตติ้ง“เมื่อคืนพี่นอนไม่หลับเลยมัวแต่ตื่นเต้น”
“พี่ซินไม่เคยไปงานแฟนมีตติ้งของรามเหรอ ผมนึกว่าไปทุกปี” กล้าถามพี่ซินจากเบาะหลัง พวกเรากำลังเดินทางไปยังสถานที่จัดงานแฟนมีตติ้งของราม พี่ซินลงทุนปิดร้านหนึ่งวันเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
“ไม่เคย พี่ไม่กล้ากลัวแก่ไป”
“พี่ซินคิดมาก อายุมากกว่าพี่ซินไปกันเยอะแยะ รามมีทั้งแฟนคลับทั้งแม่ยก เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย” ผมพยายามขยิบตาให้กล้า แต่เพื่อนผมดันไม่เห็น พูดต่อจนจบประโยค
“อย่างพี่นี่แม่ยกใช่ไหม” พี่ซินหัวเราะแห้งๆ ผมส่ายหัว ผิดจากที่คิดที่ไหน ไม่สังเกตหน้ากูเลย
“ไม่ใช่พี่” แต่กล้าก็สามารถเอาตัวรอดไปได้ “อย่างพี่ซินไอ้รามไม่อยากให้เป็นแม่ยกหรอก มันอยากให้เป็นอย่างอื่นชัวร์ ผมเอาหัวเป็นประกัน”
พี่ซินหน้าแดงเรื่อ ก่อนถอนใจออกมาเบาๆ สีหน้ากังวลและคิดหนัก
“พี่ปรึกษาอะไรหน่อยได้ไหม”
“ว่ามาเลยพี่ซิน” กล้าเป็นคนตอบหลังจากลอบสบตากับผม
“คือ..” พี่ซินเริ่มอึกอัก “ที่กล้ากับว่านเคยพูดพี่ก็คิดนะ พักนี้รามแวะมาที่ร้านบ่อยมาก บางวันไม่ว่างก็ยังโผล่มาห้านาทีสิบนาที วันไหนหยุดก็มาขลุกอยู่ที่ร้านเกือบทั้งวัน พี่ไม่ค่อยสบายใจเห็นทำงานเหนื่อย ไล่ให้ไปพักก็ไม่ยอมไป ตัวเองก็นอนน้อย”
“ผมว่าพี่ซินก็ได้คำตอบแล้วนี่ครับ” ผมมองใบหน้าด้านข้างของเจ้านาย พี่ซินถอนใจออกมาเป็นระยะ
“มันจะเป็นไปได้เหรอว่าน พี่แก่กว่ารามหกเจ็ดปีเลยนะ พี่ไม่อยากเสียใจทีหลัง บอกตรงๆ ว่ากลัวเป๋ไม่เป็นท่า”
“มันก็เป็นไปได้พี่ซิน” ผมตาโตหันขวับไปมองกล้า “อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น คบแล้วไม่รอด คบแล้วอายุเป็นปัญหา คบไปนานแล้วดันเลิกถึงตอนนั้นก็แก่พอดี”
“ไอ้กล้า!” ผมเรียกเสียงหลงไม่คิดว่าเพื่อนจะใช้ไม้ตรงขนาดนี้
“แต่ถึงอย่างนั้นพี่ซินก็มีความสุขใช่ไหมครับเวลาที่รามแวะมาหา ถึงจะแค่ห้านาทีสิบนาทีก็เถอะ”
“อืม” พี่ซินพยักหน้า
ผมดูรูปการแล้ว ไหนๆ กล้าก็กระชากพี่ซินเข้าสู่โหมดความจริง ผมคิดว่าควรตามน้ำไป “ผมเห็นด้วยกับกล้านะพี่ซิน เรื่องแบบนี้ไม่มีคำตอบถูกหรือผิดหรอกครับ คนรู้จักระวังตัวเองก็ถูก คนเลือกความรักก็ถูก ก็แค่เลือกว่าอยากสุขแบบไหน สุขสุดๆ ที่ได้อยู่กับคนที่เรารักถึงจะสั้นไปหน่อยก็ช่างมัน หรือสุขแบบใช้ชีวิตเรียบง่าย สุขกันไปยาวๆ พี่ซินก็ต้องเลือกเอง”
“พี่ซินมองตรงไปข้างหน้า แววตาครุ่นคิด ผมกับกล้าต่างนั่งเงียบ ไม่มีใครทวงถามคำตอบที่พี่ซินเลือก
• • • • • • • •
ผมเดินตามพี่ซินกับกล้าไปยังเก้าอี้ที่ระบุหมายเลขในบัตร ที่นั่งแถวหน้าสุดใกล้จนเห็นเวทีชัดเจน พี่ซินดูตื่นเต้นมาก ขณะที่กล้ามองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ
“เห็นอย่างนี้ไอ้รามแม่งหล่อขึ้นเป็นสิบเท่า”
“ใช่ แล้วพี่ก็ดูเป็นยายเพิ้งขึ้นมาเป็นสิบเท่า” พี่ซินพูดเสียงอ่อย “มีแต่เด็กหน้าใสๆ แต่งตัวน่ารัก”
“พี่ซินอยากใส่สั้นๆ แบบนั้นบ้างเหรอ ลองดูก็ได้นะ” กล้าแหย่พี่ซินเพื่อให้ขำ
“ไม่เอา~” พี่ซินหัวเราะออกมาได้ “ว่าแต่ตฤนกับปอนมาด้วยใช่ไหม” พี่ซินหันมาถามผม
“มาครับ ผู้จัดการเชิญมาเซอร์ไพรส์ราม”
“แต่ไอ้รามรู้?”
“ใช่” ผมพยักหน้าให้กล้า
“แล้วมันเรียกเซอร์ไพรส์ตรงไหนวะ”
“กูว่าคงหมายถึงเซอร์ไพรส์คนดูมากกว่า” ผมเบาเสียงลง ไม่อยากให้คนนั่งใกล้ๆ ได้ยิน
“ก็น่าจะ หล่อๆ สามคนมารวมกันคนคงชอบ”
“อืม กูก็ชอบ” ผมยิ้มกว้างให้กล้า
“ไม่ค่อยออกตัวเลยนะมึง ตั้งแต่สถานะชัดเจน เต็มปากเต็มคำตลอด”
“งั้นมึงกับพี่ซินก็มาชัดเจนเหมือนกูสิ จะได้พูดเต็มปากเต็มคำด้วยกัน” นานๆ หรอกครับผมจะทำให้กล้าเงียบกริบได้
ผมไม่เคยมางานแฟนมีตติ้งมาก่อน ยอมรับว่าสนุกมาก รามเอ็นเตอร์เทนแฟนคลับได้ดี ยิ่งได้ปอนออกมาช่วย ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ ส่วนแฟนผมเหรอครับเน้นยืนนิ่งๆ เรียกเสียงกรี๊ดมากกว่า
ถึงช่วงท้ายงาน เป็นช่วงที่รามเปิดใจพูดคุย รวมถึงขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่คอยให้กำลังใจและติดตามผลงานเสมอมา
“สุดท้ายผมอยากขอบคุณคนพิเศษของผม” สายตาของรามมองตรงมาที่พี่ซิน “ผมอยากขอบคุณทุกคนที่ผมรัก คุณพ่อคุณแม่และน้องสาวที่สนับสนุนผมมาโดยตลอดเสียดายที่วันนี้ไม่ว่างมา ขอบคุณเพื่อนรักที่ยืนอยู่ตรงนี้ ขอบคุณพี่ซิน กล้าและว่านที่มาให้กำลังใจ และที่ขาดไม่ได้ขอบคุณแฟนคลับที่น่ารักของผมทุกคน ขอบคุณครับ”
กล้าเลิกคิ้วขึ้น หันมามองหน้าผมกับพี่ซิน ประหลาดใจที่รามเอ่ยชื่อพวกเราบนเวที พี่ซินหน้าแดงก่ำ เบียดตัวจมลงไปกับเก้าอี้จนผมขำ
แฟนมีตติ้งจบลงไปอย่างสวยงาม สายตาของรามเมื่อครู่บ่งบอกทุกความรู้สึกที่มีต่อเจ้านายผม ได้แต่หวังว่าพี่ซินจะเห็นเช่นกัน
“พี่คะ พี่สนิทกับพี่รามเหรอคะ”
“คะ?” พี่ซินตกใจที่จู่ๆ ก็มีสาวน้อยหน้าตาน่ารักโฉบเข้ามาหา ทันทีที่พวกผมเดินออกมาหน้าห้องจัดงาน หางตาผมเห็นผู้จัดการของรามเดินมาแต่ไกล
“พี่เป็นอะไรกับพี่รามค่ะ พี่เป็นญาติเหรอคะ”
พี่ซินสบตากับผู้จัดการของราม สายตาที่มองตรงมายังพี่ซินมีร่องรอยความกังวล “พี่มากับเพื่อนของรามค่ะ สองคนนี้” พี่ซินเลี่ยงคำถาม ชี้นิ้วมาที่ผมกับกล้า
“อ๋อค่ะ หนูอิจฉาพี่จัง”
“ค่ะ” พี่ซินยิ้มให้เด็กสาว
“คุณซิน กล้า ว่าน เชิญทางนี้ค่ะ” เสียงผู้จัดการดังแทรกขึ้นมาก่อนที่สาวน้อยจะทำตัวสนิทสนมกับพวกผมมากไปกว่านี้ พี่ซินเอ่ยขอตัว ลอบถอนใจเบาๆ เมื่อเดินพ้นมาได้
“รามให้พี่มาตามเข้าไปห้องข้างในค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ แต่พี่จะขอบคุณมากถ้าคุณซินจะช่วยระวังเรื่องชื่อเสียงของรามให้ด้วย”
พี่ซินชะงัก ผมนึกสงสารพี่ซินจับใจ แต่เจ้านายของผมเพียงแค่ยิ้มบางๆ ออกมา “ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง”
ผู้จัดการของรามพาพวกผมเดินลัดเลาะไปตามทาง ผู้คนเริ่มบางตา จนถึงโถงโล่งๆ ขนาดใหญ่แต่ไม่มีใครยืนอยู่ “ห้องนี้นะคะ” มือเรียวชี้ไปยังประตูห้องที่ปิดอยู่ “พี่ขอตัวก่อน จะไปดูว่าข้างหน้าเคลียร์คนเรียบร้อยดีไหม”
“ขอบคุณค่ะ” พี่ซินค้อมศีรษะให้
“พี่ซิน” ผมจับแขนพี่ซินข้างที่ใช้ผลักประตู ดึงไม่ให้ก้าวเข้าห้อง “โอเคไหมครับ”
“โอเคสิ” พี่ซินยิ้มอ่อนๆ ให้ผม
“ไม่ใช่ว่าใจเสีย ถอดใจ ขวัญหนีดีฝ่อไปแล้วนะพี่ซิน อย่าให้คนอื่นมากระทบการตัดสินใจของเรา” กล้าทักด้วยความเป็นห่วงพอๆ กับผม
“แต่พี่เข้าใจที่ผู้จัดการของรามพูดนะ เขาคงไม่อยากให้เราหลุดพูดอะไรออกไป ถ้าเขาจะห้ามจริงจัง เราคงไม่ได้มาที่นี่แล้ว”
ผมพยักหน้า เริ่มเห็นด้วยกับพี่ซิน
“อีกอย่างพี่ก็ตัดสินใจได้แล้ว”
“หา!” ผมว่าชักไม่เข้าท่า กลัวพี่ซินเก็บคำพูดของใครต่อใครมาคิด “อย่าไปฟังคนอื่นเลยพี่ซิน เชื่อผมกับกล้าเถอะ”
“ฟังสิ ทำไมจะไม่ฟัง”
“พี่ซิน~”
“ว่านไม่ได้ยินเหรอ..” พี่ซินหน้าแดงเรื่อ “รามพูดว่าคนพิเศษ ขอบคุณทุกคนที่ผมรัก”
ผมหน้าเหวอไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความโล่งอก “โธ่พี่ซินทำเอาผมตกใจ”
“พี่ตัดสินใจได้ตั้งแต่วินาทีนั้นแล้ว ว่าจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะ พี่ไม่แคร์อีกแล้ว พี่อยากตามใจตัวเอง อยากรักคนที่พี่รัก” ดวงตาพี่ซินสุกใส สีหน้ามีความสุข ไม่เหลือความกังวลอย่างที่ผ่านมา
“โอ้ยผมดีใจด้วย” หัวใจของผมพองโตตามพี่ซินไปด้วย แม้แต่กล้ายังยิ้มกว้าง
“รามมึงจะเข้าก็เข้าจะออกก็ออก ยืนคาประตูอยู่ทำไมวะ” เสียงตฤนดังลอดออกมาจากประตูที่เปิดแง้มไว้ ฝีมือของพี่ซินเอง ดูเหมือนเจ้านายผมจะตัวแข็งทื่อไปแล้ว มือที่แตะประตูยังคาอยู่แบบนั้น
“พี่..พี่กลับก่อนนะ” พี่ซินหันหลังทันที่ที่ตั้งสติได้ แต่ช้ากว่าคนที่เปิดประตูออกมา รามคว้าข้อมือของพี่ซิน ส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้เมื่อพี่ซินหันกลับมามอง
“กล้า ว่าน ช่วยเข้าไปข้างในก่อนได้ไหม”
“ได้” กล้าพยักหน้า ผมส่งสายตาให้กำลังใจเจ้านาย ได้แต่ลุ้นว่าขอให้ทุกอย่างออกมาดี
• • • • • • • •
-ราม-“ที่พูดเมื่อกี้?” ผมมองใบหน้าภายใต้แว่นกลมโต พี่ซินหลุบตาลงต่ำก่อนเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม
“บอกพี่ก่อนได้ไหมว่าที่รามพูดบนเวที มัน..มันหมายความอย่างที่พี่เข้าใจใช่ไหม”
“แล้วพี่ซินเข้าใจว่ายังไงครับ” ผมโน้มหน้าลงไปหา พี่ซินหน้าแดงก่ำ ยกมือขึ้นดันแว่นขึ้นแบบที่เจ้าตัวชอบทำเสมอเวลาเขิน
“ผมชอบพี่ซิน”
ปากบางเผยอออกน้อยๆ ดวงตาภายใต้แว่นกลมเบิกกว้าง น่าเอ็นดูจนผมอดใจไม่ได้ แตะปลายนิ้วลงบนแก้มของพี่ซินแผ่วเบา
“คบกับผมได้ไหมครับ”
“พี่อายุมากกว่ารามนะไม่ใช่แค่สองสามปี รามแน่ใจใช่ไหม” เสียงที่พูดออกมาแผ่วเบา ราวกับไม่มั่นใจในตัวเอง
ผมมองผู้หญิงตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า ปล่อยมือที่แตะอยู่บนแก้มพี่ซินลง แววตาของพี่ซินไหววูบ ก่อนโดนผมดึงเข้ามากอดแนบอก
“โตให้ทันผมก่อนเถอะค่อยมาถาม”
“แน้~ พี่โตแล้ว” พี่ซินเงยหน้าขึ้นมา ผมอาศัยจังหวะนี้กดริมฝีปากลงบนหน้าผากอย่างแผ่วเบา
“คบกับผมเถอะนะ อย่าใจร้ายกับผมเลย”
พี่ซินหลบตาไม่ยอมประสานสายตากับผม
“นะครับ”
“อื้อ” ใบหน้าเล็กพยักขึ้นลงหลายครั้ง จนผมต้องใช้มือทั้งสองข้างจับไว้ มองอีกฝ่ายด้วยดวงตาเป็นประกาย ทั้งขำทั้งเอ็นดู
“ขอบคุณครับ” ผมอดใจไม่ไหวจริงๆ ดึงร่างเล็กของพี่ซินเข้ามากอด กดจมูกฝังที่แก้ม สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ความเหนื่อยล้าหายไปสิ้น
“พอแล้ว” พี่ซินดันอกผมออก ก้มหน้างุด
“ก็แฟนผมน่ารัก ใครจะอดใจไหว”
“แต่มึงควรอดใจเพราะอาจมีใครโผล่เข้ามาได้”
ผมกับพี่ซินหันไปมองทั้งกลุ่มพร้อมกัน พี่ซินอายม้วนต้วน รีบถอยห่างจากผม อยากเตะเพื่อนก็วันนี้แหละ
“กูว่าจะไม่ออกมาเตือนแล้วนะ แต่กลัวมึงไม่ทันคิด” ปอนพูดต่อ เสียงเปิดประตูดังตอนไหนผมไม่รู้ตัวสักนิด
“อีกอย่างมึงควรเคลียร์เรื่องงานวันนี้ของมึงให้เสร็จเพราะพวกกูหิวแล้ว ไม่อย่างนั้นจะทิ้งมึงไว้ที่นี่”
“ใจร้อนจริง รอกูแป๊บขอกูคุยกับผู้จัดการก่อน”
“ให้ไวเลยมึง”
“เออ”
ผมมองผู้หญิงที่ยืนยิ้มอายๆ อยู่ตรงหน้า ไม่รู้ทำไมแค่ได้มองพี่ซินผมก็มีความสุขแล้ว ริมฝีปากของผมคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม หันไปหาทุกคนที่ยืนรออยู่
“แต่ก่อนไปกูขอแนะนำใครคนหนึ่งให้พวกมึงรู้จักก่อน” ผมดึงพี่ซินมายืนข้างหน้า วางมือลงบนบ่าทั้งสองข้าง “นี่แฟนกู รู้จักกันไว้”
แน่นอนว่าผมได้เสียงโห่ของเพื่อนเป็นการตอบรับ แถมแฟนหมาดๆ ก็จ้ำอ้าวเดินหนี ผมหัวเราะออกมาเสียงดัง ก็น่ารักแบบนี้จะไม่ให้รักได้ยังไง
• • • • • • • •
-ว่าน- “หุบยิ้มได้แล้วกระต่ายเอ๋อ”
“ก็ผมดีใจ”
“ทำอย่างกับรามบอกรักตัวเอง”
“หึงเหรอ” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หมีหน้าบึ้ง คุณหมีคุมพวงมาลัยรถเกือบไม่อยู่ หน้าแดงขึ้นมา
“เดี๋ยวเถอะ”
ผมถอยตัวกลับ ยิ้มพออกพอใจ สนุกที่ได้แกล้งคุณหมีของผม
“กลัวกันหรือเปล่า”
“กลัวอะไรครับ”
“กลัวว่ารามจะทำพี่ซินเสียใจ คนชอบพูดว่าคบกับดารามักไปไม่รอด”
ผมหันไปมองหน้าตฤน ยิ้มกว้างแม้รู้ว่าตฤนไม่เห็น
“แล้วตฤนล่ะ ตฤนเป็นนายแบบใช่ว่าจะไม่ดัง คิดว่าจะคบกับผมรอดไหม”
“กระต่ายเอ๋อ!”
“เห็นไหม คบรอดไม่รอดมันอยู่ที่คน ถ้าคนๆ นั้นมั่นคงกับเราเสียอย่าง มีอะไรต้องกลัวอีก”
“หึๆ” ตฤนดูอารมณ์ดีขึ้นทันที “หนักแน่นอย่างนี้ให้ได้นะว่าน ฉันคงทำงานตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ มันอาจมีเรื่องเข้าหูให้นายไม่สบายใจ แต่ขอให้เชื่อมั่นในตัวฉันก็พอ”
“ผมรู้”
“รู้ดี” น้ำเสียงของตฤนหมั่นไส้ผมนิดๆ ผมจึงส่งยิ้มกว้างจนตาหยีไปหา ใช้นิ้วสะกิดให้อีกฝ่ายหันมามอง
“อะไร” เสียงพูดของตฤนปนหัวเราะ ตฤนมักยิ้มกว้างเสมอถ้าเห็นตาหยีๆ ของผม
“เพราะเป็นเรื่องของคนที่ผมรักไง ผมถึงมั่นใจว่ารู้”
หน้าของตฤนแดงเรื่อ คุณหมีหน้าบึ้งเหมือนผ่านการวิ่งรอบสนามมา น่ารักและน่าขำไปพร้อมกัน
“กระต่ายเอ๋อ”
“ครับ”
“หยุดหัวเราะได้แล้ว”
“ผมไม่ได้หัวเราะ” ผมกลั้นขำจนปากสั่น ไม่ได้หันมาสักหน่อยรู้ได้ไง ตฤนถอนใจออกมายาวๆ เหลือบสายตามามองผม
“คิดว่าฉันไม่รู้จักนายดีหรือไง”
ผมนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนปล่อยเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น เอื้อมมือไปแตะแก้มของตฤน
“วันหลังบอกรักผมง่ายกว่านี้หน่อยก็ได้นะ”
“กระต่ายเอ๋อ!”
คุณหมีหน้าบึ้งก็ยังเป็นคุณหมีขี้อายอยู่วันยังค่ำ ผมยิ้มอย่างมีความสุข ไม่ต้องเปลี่ยนไปหรอก เป็นแบบไหนก็ได้ที่ตฤนอยากเป็น ความเข้าใจจะทำให้ความรักของเรามั่นคงเอง
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin