▪▪▪อมยิ้มสื่อรัก▪▪▪||ตอนที่ 12.2 || 27-6-18 P.3 {จบแล้ว}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▪▪▪อมยิ้มสื่อรัก▪▪▪||ตอนที่ 12.2 || 27-6-18 P.3 {จบแล้ว}  (อ่าน 19745 ครั้ง)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำไมช่างเป็นเพื่อนสนิทที่ดีต่อกันจริง ๆ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 9 ชอบ (2)



  ผมชะงัก


"ห้ะ...มึงว่าไงนะ"

"เขาชอบมึง เหี้ยเอ้ย!...ทำไมกูต้องมาเป็นคนบอกมึงด้วยวะ เจ็บสัด!"


   ผมเอื้อมมือไปแตะไหล่วุฒิ แม้จะเจ็บแต่ผมฝืน เพราะอยากปลอบใจเพื่อน

"ไอ้วุฒิ คือ กู...ไม่รู้มาก่อนว่าพี่ชินชอบกู"

"ก็ตอนนี้ มึงรู้แล้ว ถ้ามึงขืนเล่นตัว กูจะถีบให้!!"

"กูขอโทษ"

"ไอ้ติ มึงจะขอโทษกูทำไม มึงไม่ผิด มึงชอบเขา เขาชอบมึง ก็ดีแล้ว เวลานี้ถึงต่อให้กูกราบตีนพี่ชินให้เขาชอบ กูก็ไม่ได้หัวใจเค้าอยู่ดี"

   ผมดีใจนะที่พี่ชินชอบผม แต่ผมสงสารวุฒิที่มันต้องมาบอกเรื่องนี้ ทั้งๆที่มันก็ชอบพี่ชินเหมือนกัน


"วุฒิ กูขอโทษจริงๆว่ะ"

"พอแล้วน่า มึงรู้ไหม? ที่กูบอกมึงตอนนี้ เพราะกูเห็นมึงเจ็บตัวอยู่ กูเลยสงสาร ถ้ามึงร่างกายปกติดี กูคงต่อยมึงไปแล้วว่ะ พอกูเห็นสภาพมึงแล้ว เราก็เจ็บไม่ต่างกัน!"

   ผมยิ้มแหยๆ แล้วจู่ๆ ผมกลับนึกถึงพี่ชาย แต่ปากผมมันพูดไปเองโดยอัตโนมัติ

"วุฒิ ถ้าพี่ตั้นเกิดชอบมึงขึ้นมา"

   ผมเห็นวุฒิชะงัก แล้วมันรีบตอบกลับ

"อย่าเพิ่งพูดเรื่องพี่ตั้นได้ไหม? ขอล่ะ"

"ขอโทษว่ะ เออ! วุฒิ แล้วพี่ชินรู้หรือเปล่า? ว่ากูชอบเขา..."

"ยัง กูไม่ได้บอก"

"ถ้างั้น อย่าเพิ่งพูดนะ เพราะกูอยากให้ร่างกายกูดีกว่านี้ก่อน"

   วุฒิพยักหน้า แม้มันจะเป็นข่าวดีที่ผมได้รับว่าผมและพี่ชินใจตรงกัน แต่ผมอยากทำให้การบอกชอบพี่ชินของผมมันดีกว่าที่ผมต้องมาอยู่ในสภาพนอนโทรมแบบนี้....



 




.................


-วุฒิ-


   ผมอกหักโดยสมบูรณ์

   คิดแล้วก็น่าขำ คนไม่โดนรับรักอย่างผม กลับต้องมาบอกข่าวดีให้คนที่สมหวังในความรัก

   มันก็คงไม่ต่างกับการแข่งรถที่พอถึงพิธีการมอบถ้วยรางวัล คนแพ้อย่างผมกลับต้องยื่นถ้วยรางวัลให้คนชนะนั่นแหละ...

   น่าเจ็บไหมล่ะ?

  เจ็บโคตรๆเลยเถอะ! แต่ยังดี คนที่ผมยื่นถ้วยรางวัลแห่งชัยชนะให้เป็นเพื่อนรักของผม

   มันเลยทำให้ความเจ็บลดลงมาได้ระดับหนึ่ง

   ผมยอมรับตรงๆว่าอิจฉาติที่พี่ชินเลือกมัน แต่ความรักมันก็เป็นเช่นนั้นเอง

   ในเมื่อติชอบพี่ชิน พี่ชินชอบติ มันก็ถูกต้องแล้วล่ะ เพราะถึงต่อให้ผมเอามีดขู่จะปาดคอพี่ชิน ถ้าพี่ชินยอมเป็นแฟนกับผมก็คงได้แค่ร่างกาย คงไม่ได้หัวใจ ผมว่าถ้าเป็นอย่างนั้นอยู่ด้วยกันไป ก็ทรมานกันไปเปล่าๆ

   เพียงแต่ผมเองก็มีหัวใจ มีความรู้สึก ตอนที่ผมต้องบอกเรื่องนี้ ก่อนหน้านั้น ผมแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ พอทำใจได้ระดับหนึ่ง และรู้ตัวเองว่า การบอกข่าวนี้จะไม่เผลอร้องไห้ต่อหน้าติจึงเดินมาหาเพื่อนเพื่อบอกความจริง   
   
     ส่วนสาเหตุที่ผมรู้ว่าติแอบชอบพี่ชิน ผมรู้จากปากพี่ตั้น ตั้งแต่วันที่ไปทะเลหนก่อน

    ผมเสียใจที่ติทำตัวเสียสละโดยไม่ถามผมก่อน

    ติเป็นเพื่อนที่ผมรักมาก ผมเคยช่วยมันให้รอดตายจากการเป็นตะคริวตอนเล่นน้ำที่ทะเล
 
    เวลาที่เล่าให้ใครต่อใครฟังคงดูเหมือนผมเป็นพระเอก จริงๆไม่ใช่เลย ถ้ามีใครเห็นภาพเพื่อนสนิทตัวเองตะเกียกตะกาย ตะโกนร้องเรียกชื่อผมให้ช่วย ด้วยใบหน้าซีดไร้สี จะรู้ว่าทรมานขนาดไหน

    ผมถึงรู้ในทันทีว่าถ้ามันตายโดยที่ผมไม่ทำอะไร ผมคงเสียใจไปตลอดชีวิต


   ผมดีใจที่เพื่อนมีความสุข ตรงกันข้ามกับผมที่ช่วงนี้เจอะแต่ปัญหา

   ปัญหาครอบครัว ความรักและชีวิตผมที่มีคนใจร้ายประทับตราบาปไว้บนตัวผม

  พี่ชายเพื่อน

   วันที่ผมรู้ว่า ติชอบพี่ชิน กับวันที่พี่ตั้นทำร้ายหัวใจผมเป็นวันเดียวกัน

    จุดเริ่มต้นมาจากคืนที่ผมออกมาจากห้องน้ำและสงสัยว่าพี่ชินหายไปไหน ทำไมไม่อยู่ที่ห้องพัก จึงเดินออกมาตามหานอกโรงแรม แต่แล้วสองเท้าก็หยุดชะงัก

   เมื่อภาพที่เห็น คือ พี่ชินซบไหล่ติ

   สัมผัสใกล้ชิด สนิทสนมจนผมยืนเหวอ สมองเบลอ มึนงง ทำตัวไม่ถูกกับภาพตรงหน้าที่เห็น อยากหมุนตัวหันหลังหนีไป แต่ขากลับก้าวไม่ออก

    ผมยืนมองทั้งสองคนชิดใกล้กันนานหลายนาที  จนกระทั่ง มีเสียงใครอีกคนกระซิบข้างหู

"ปล่อยให้เขาอยู่ด้วยกันเถอะ"   

   ผมหันขวับ ไม่รู้เลยว่าพี่ตั้นมายืนอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่

"พี่ตั้นหมายความว่าไงครับ?"

"ติชอบชินมาตั้งนานแล้ว วุฒิไม่รู้เหรอ?"

  ผมอ้าปากค้างตาโต ก่อนจะส่ายหน้า

"อ้าว...นี่พี่นึกว่าเราแข่งกันจีบชินซะอีกนะเนี่ย!"

"พี่พูดบ้าอะไร? ถ้าผมรู้ว่าติชอบ ผมไม่จีบพี่ชินหรอก"


   ผมโกรธที่พี่ตั้นพูดจาแบบนี้ มันดูถูกความรู้สึกผมพอสมควร ผมไม่ใช่พวกเอาชนะที่ใครดี ใครได้ ผมไม่พอใจพี่ตั้นจึงเดินหนีไปให้พ้นหน้า
 
    ผมไม่รู้ว่าพี่ตั้นเดินตามมา จนกระทั่งถึงหน้าห้องของผม พี่ตั้นคว้าแขนผมไว้ ก่อนเปิดประตู

"พี่ขอโทษที่พูดแบบนั้น วุฒิเครียดเหรอ? มานั่งเล่นห้องพี่ก่อนสิ"

"ไม่ ผมอยากนอน"

"คิดซะว่านั่งกินเบียร์เป็นเพื่อนพี่ก็ได้...นะครับนะ...พี่เหงา"


    ผมชั่งใจแต่พอเห็นสายตาพี่ตั้นดูเศร้าสร้อย หงอยเหงา ผมสงสารจึงใจอ่อนเดินตามเข้าห้องพี่ตั้นไป

    เราสองคนนั่งดื่มเบียร์กันเงียบๆ ที่ผมเงียบเพราะคิดเรื่องที่ติชอบพี่ชิน ไหนจะภาพที่ทั้งสองซบกันอีก

   จู่ๆพี่ตั้นก็พูดแทรกความคิดของผมขึ้นมา

"พี่อยากมีโมเมนต์ถูกแย่งเหมือนชินบ้างจัง"

"พี่คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกมากเหรอไง? ถึงพูดแบบนี้"

"ไม่ พี่พูดจริงครับ การที่มีแต่คนรุมรัก ใครๆก็อยากได้แบบนั้น หรือวุฒิจะเถียงว่าไม่จริง?"


   ผมเงียบไม่ตอบ เพราะคิดว่าคนอย่างพี่ตั้นพูดด้วยก็เหนื่อยเปล่าจึงลุกไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาสองกระป๋อง ทั้งของผมและเผื่อให้พี่ตั้น

    ผมอยากดื่มให้เมา หลับไวๆ จะได้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องนี้อีก ผมกระดกเบียร์ไม่คิดชีวิต พอผมมึน ผมขอพี่ตั้นนอนในห้อง แล้วถ้าติมาค่อยปลุก เพราะเห็นว่าเป็นพี่ชายเพื่อนเลยไว้ใจ

    ผมหลับ แต่ไม่รู้ตัวว่านานหรือเปล่า? ไม่กี่นาทีต่อมา ผมรู้สึกตัวร้อนผ่าวผสมอารมณ์ซาบซ่านแปลกๆ ผมลืมตา ตกใจ เมื่อเห็นพี่ตั้นกำลังใช้ปากของเขาครอบแก่นกายผมอยู่

   ผมดิ้น ใช้มือผลักไหล่ให้พี่ตั้นรู้ว่าผมตื่น

"พะ...พี่ตั้นทำอะไร จะลักหลับผมเหรอ?"

   ผมมองอีกฝ่ายที่หน้าแดงจัดและมีท่าทางหื่นจนน่ากลัว

"พี่เห็นมันตื่นน่ะเลยจะช่วยให้มันสงบ"

"พะ...พี่ไม่ต้อง ผมจะกลับห้องผม...อื้อ"

   ผมพูดไม่ทันจบ พี่ตั้นไวมากที่กระโจนมาจูบปิดปากแทน เพียงผมเผยอปากเพื่อหายใจ พี่ตั้นก็ใช้ปลายลิ้นสอดเข้าไปในโพรงปากผมได้สำเร็จ

   พี่ตั้นจูบผมรุนแรง เหมือนจะกลืนกินผมไปทั้งตัว ยิ่งผมดิ้น เขายิ่งจูบหนักขึ้น ขณะเดียวกัน มือของพี่ชายเพื่อนยังรูดรั้งลูกชายของผมให้ตื่นตัวไปด้วย

   เซ็กซ์เป็นเรื่องปกติของผู้ชาย และเป็นสิ่งสำคัญที่ผมขาดไม่ได้

   ผมพยายามฝืนใจ แต่ผมยอมรับว่ามือร้อนผ่าวของอีกฝ่ายที่อุณหภูมิไม่ต่างจากแก่นกายของผมกำลังกระตุ้นอารมณ์ทางเพศและทำให้ผมรู้สึกดี จนอยากปลดปล่อย

     ผมอายที่เผลอหลุดร้องครางให้กับการกระทำของพี่ชายเพื่อน ผมห้ามไม่ได้จริงๆ เมื่อมือไม่คุ้นเคยกำแก่นกายผมแน่น มันทำให้ผมร้อนวูบวาบและเสียวซ่าน จนสุดท้าย ผมข่มอารมณ์ไม่ไหว ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาหมดไม่มีกั๊ก

     ผมกัดปากก้มหน้าอย่างอายๆ เพราะไม่กล้าสบตาพี่ตั้นที่ตัวเองเผลอปล่อยของเหลวอย่างรู้เป็นความนัยว่าสื่อถึงอะไร

   ผมกดตาลงต่ำ แต่ดันเหลือบเห็นของเหลวสีขาวขุ่นของผมเองที่เปรอะเปื้อนมือของพี่ตั้น

    ผมชำเลืองมองพี่ตั้นที่ยกมือนั้นแล้วเลียหลักฐานจนหมดไม่เหลือคราบ แล้วทำไมกัน ทำไมผมต้องใจสั่นกับท่าทางเหล่านั้นด้วย

    พี่ตั้นยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะขึ้นคร่อมบนตัวผม รวบมือผมไว้เหนือศรีษะด้วยมือเดียว ผมไม่เคยเห็นพี่ตั้นมุมนี้มาก่อน พี่ตั้นก้มตัวลงต่ำมอบจูบแสนเร่าร้อนแบบที่ผมไม่เคยสัมผัสมาในชีวิต

     
     ผมยอมรับว่าพี่ตั้นช่ำชองจนผมอ่อนระทวยและไม่อาจขัดขืนได้อีก
   
     ช่วงที่ผมหลงใหลไปกับจูบเร่าร้อน ผมสัมผัสได้ถึงความลื่นจากของเหลวเย็นๆจากนั้น ผมรู้ว่านิ้วของพี่ตั้นสอดเข้าช่องทางข้างหลังทำผมจุก เสียดและเสียวอย่างน่าประหลาด

       มันไม่ควรเป็นแบบนี้!...

      ผมยอมรับว่าผมอ่อนไหวกับจูบพี่ตั้น จนมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่ตั้นเอานิ้วออกแทนที่ด้วยแก่นกายที่แข็งจนน่ากลัว
 
     ผมไม่เคยให้ใครมารุกล้ำอาณาเขตของผม

    ไม่เคยคิดจะเป็นฝ่ายรับ และไม่!...เด็ดขาด!

    ช่วงแรกพี่ตั้นถนอมผม แต่พอถึงจังหวะจะร่วมรักกัน พี่ตั้นกลับรุนแรงและป่าเถื่อน  เมื่อพี่ตั้นยัดแท่งร้อนของเขาเข้าจนสุดลำ ผมน้ำตาไหล กัดปากจนเจ็บแสบไปหมด


"พี่ตั้นครับ ผมเจ็บ"


    เสียงที่เปล่งออกไป ช่างไร้ประโยชน์ พี่ตั้นไม่ฟัง และยังดึงดันเอาเข้า จนผมทำตัวไม่ถูก

   มันเหมือนแท่งเหล็กที่เข้ามาอยู่ในตัวผม พี่ตั้นดันจนสุด ก่อนจะถอนมันออกมาช้าๆ

   จังหวะนั้น...


"พะ...พี่ตั้น ผมเจ็บครับพี่ ผมเจ็บ..."


    แม้ย้ำเป็นครั้งที่สอง ก็ยังไม่เป็นผล พี่ตั้นไม่สนความรู้สึกผมแต่อย่างใด เอาแต่จะหาทางสอดใส่เข้าไปในช่องทางรักผมอีกครั้ง กระทั่ง เขาดันแท่งร้อน กระแทกเข้าไปใหม่จนสุดแรง ดันเข้า-ดึงออกจนสุดถึงสองครั้ง

     มันเป็นเพราะอะไรกัน!...

    ตอนที่พี่ตั้นช่วยให้ผมถึงฝั่งฝันกับตอนที่พี่ตั้นมีเซ็กซ์ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

   ผมเจ็บ ผมทรมาน ผมน้ำตาไหล

   ผมไม่ไหว กรีดร้องทั้งๆที่กัดปากแน่น ผมใช้แรงที่มี ข่วนหลังพี่ตั้นจนเศษหนังหลุดติดอยู่ที่ปลายเล็บ


"พี่ตั้น ผมเจ็บครับ ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมใช้ปากช่วยพี่ก็ได้ ให้ทำอะไรก็ได้ แต่ขอร้อง!...หยุดเอาเข้าเถอะนะครับ ได้โปรดดด!" 


    ผมมองร่างคนตัวโตที่อยู่เหนือผมผ่านม่านน้ำตาอย่างพร่าเลือน ผมมองได้ไม่ชัดว่าเขาทำสีหน้าอย่างไร รู้แต่หลังจากนั้น พี่ตั้นถอนแก่นกายออก ใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาที่ไหล


    ผมร้องไห้ ผมไม่เคยเป็นฝ่ายรับให้ใครมาก่อน


    ถึงวันหนึ่ง ถ้าผมคิดจะให้ใครสักคนจริงๆ มันควรเป็นการให้ด้วยความสุข ไม่ใช่แบบนี้!...


    พี่ตั้นทิ้งตัวลงนอนข้างผม ดึงตัวผมเข้าไปกอดจนแผ่นหลังของผมแนบไปกับอกกว้าง ผมไม่อยากทำตัวสำออยเหมือนผู้หญิง แต่ผมเจ็บจริงๆ ผมดิ้น สะดีดสะดิ้ง พยายามถีบตัวเองให้ห่างจากพี่ชายเพื่อน แต่แขนแข็งแกร่งกลับล็อคแน่น



"ชู่วว์ อย่าร้องนะครับ พี่ขอโทษวุฒิ พี่ขอโทษ..พี่ไม่รู้ว่าวุฒิไม่พร้อม พี่ไม่ทำแล้วนะ...พี่ขอโทษ"


"ทำไมพี่ทำกับผมแบบนี้ ผมเพื่อนไอ้ตินะ"


"พี่รู้ครับพี่รู้ พี่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก แต่วุฒิอย่าดิ้น พี่ขอนอนกอดได้ไหม?"


"พี่ปล่อยผมเถอะ ผม..ไม่อยากใกล้พี่ ผม ไม่ฮึก! พี่ข่มขืน..."
ผมพูดไม่เป็นภาษา


    ไม่รู้สิกลายเป็นว่า ผมกลัวพี่ตั้นไปเลย แม้แต่หน้าผมยังไม่กล้ามอง


"พี่ขอโทษครับ วุฒิอย่าร้อง มาๆให้พี่กอดนะวุฒิ แค่คืนนี้ คืนเดียวก็ได้นะครับ นะ..."


     ตอนพี่ตั้นมีเซ็กซ์ เขาดูดุดันจนน่ากลัว แต่พอตอนนี้ พี่ตั้นออดอ้อน อ่อนโยน พูดจานุ่มนวล กอดผม จูบซับหลังคอ พรมจูบทั่วลาดไหล่ จนผมสับสนและไม่รู้ว่าตัวตนของพี่ตั้น คือคนไหนกันแน่...

    ผมเหนื่อยจะดิ้น หมดแรงกับทุกสิ่ง สุดท้าย ผมจำใจนอนฝืนหลับทั้งน้ำตา ภายใต้อ้อมกอดของคนที่คิดจะข่มขืนผม....



..............................


.
สงสารวุฒิ...งือออ...
เรื่องของวุฒิยังมีต่อพาร์ทหน้าค่า :mew1: :mew1:
.




       
 

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

แล้วไหนบอกกับติว่าไม่โดนเสียบไง

ยังตะหงิดอยู่ว่าแค่ถูกปล้ำยังไม่โดนเสียบมันไม่น่าจะโกรธขนาดนั้นเนอะ

แต่แปลก ๆ กับอารมณ์ของตั้นเหมือนกัน

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1

 
 ตอนที่ 10 ภาพจำ




     แหละจากวันนั้น เรื่องที่ติแอบชอบพี่ชินแล้วไม่บอกผม กลายเป็นเรื่องเล็กไปเลยและยอมรับว่าผมก็หลงลืมเรื่องนั้นไป เพราะทุกขณะการใช้ชีวิตกลับมีภาพของใครบางคนซ้อนทับในสมองของผมขึ้นมา
 
 
    ภาพจำระหว่างผมกับพี่ตั้นยังชัดเจนเหมือนเดิมทุกอย่าง


     ใบหน้าพี่ตั้นที่จะมีเซ็กซ์กับผม / รสจูบอันเร่าร้อน / รอยรักสีกุหลาบทั่วแผ่นหลังของผม
 

     ใช่ว่าผมอยากจำ แต่ผมกลับสลัดหรือลบภาพเหล่านั้นไปจากใจไม่ได้

     ผมไม่เกลียด แต่กลัว
   
     ความกลัวที่ก่อตัวตอนที่พี่ตั้นพยายามดึงดันในการมีเซ็กซ์กับผม

     ผมเครียดเรื่องเกือบโดนพี่ชายเพื่อนข่มขืน แต่ต้องปั้นหน้าฝืนยิ้มว่ามีความสุขในทุกๆวัน เท่านี้ ผมก็เหนื่อยมากแล้ว     
   
     พี่ชินคือทางออกเดียวที่จะเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจของผมได้ในวันที่ผมมีปัญหาถาโถม   

    ผมตัดสินใจแล้วว่าจะหาจังหวะถามความรู้สึกในใจพี่ชินให้ได้เร็วๆนี้
             
     ผมพยายามลืมสิ่งที่พี่ตั้นทำกับผมมาโดยตลอด จนกระทั่งวันที่พี่ตั้นเข้ามาทำให้ภาพที่ใกล้จางหายกลับชัดเจนกว่าเก่า

    ภาพตรงหน้า คือ พี่ตั้นถือเค้กวันเกิดมาให้ผม

    คนที่ผมพยายามลืม กลับมายืนตรงหน้าในวันสำคัญของผม

    ผมพยายามคิดมาตลอดว่า คืนนั้น พี่ตั้นคงเมา และความเคยชินของคนที่เอาไม่เลือก เลยเตลิดเกิดเหตุแบบนั้น

    แต่ความคิดนั้นกลับสั่นคลอน เมื่อเจอสายตาพี่ตั้น ตอนผมเป่าเทียนเสร็จแล้วผมนึกว่าคนที่ถือเค้กเป็นเพื่อนของผมอีกคน


     สายตาพี่ตั้นที่แสดงออกว่าเสียใจ


     พี่ตั้นไม่ควรแสดงออกแบบนี้ จริงๆความรู้สึกของเขามันควรจบลงตั้งแต่วันนั้น อย่างมาก ก็อาจจะเสียดายที่ไม่ได้มีเซ็กซ์กับผม มากกว่าจะมานั่งเสียใจที่เผลอกระทำรุนแรงกับผม และอีกอย่างพี่ตั้นไม่ควรตัดพ้อ ทำท่าน้อยใจ เสียใจหรือว่ากันง่ายๆ เขาไม่ควรแสดงความรู้สึกอะไรที่ดูไปในทางว่าอยากสานสัมพันธ์ต่ออย่างนั้น...
 

    เพราะการที่พี่ตั้นทำแบบนั้นมันทำให้ผมโกรธเขาไม่ลง


     ผมได้สติรีบบอกติว่าไปหาพี่ชินทันที เพราะเหตุการณ์วันที่พี่ตั้นกระทำป่าเถื่อนใส่ผม มันผุดซ้อนขึ้นมาเป็นฉากๆจนผมจะร้องไห้


    ผมไม่อยากให้พี่ตั้นรู้ว่าผมอ่อนแอ สิ่งที่พี่ตั้นควรรู้ คือ ผมเข้มแข็งพอจะเชิดหน้าใส่ให้กับสิ่งที่พี่เขาทำในวันนั้น


    หลังจากที่ผมออกมาจากห้องติได้ ผมโทรหาพี่ชินว่าจะไปหา จากนั้นก็ปล่อยโฮทันที...


    ชีวิตผมพังไม่มีชิ้นดี ผมไม่มีความสุขจริงๆ นับตั้งแต่วันที่พี่ตั้นคิดจะข่มขืน

    แม้ผมจะหลบหนีไปพักบ้านพี่ชินบ้าง บ้านพี่ชายบ้าง หวังจะดีขึ้น

     แต่มันก็ได้แค่ร่างกายที่หนี แต่หัวใจกลับหนีพี่ตั้นไม่ได้เลย

    เรื่องของพี่ตั้นลอยวนในหัวตลอด  ผมไม่เคยเป็นแบบนี้


     ผมทรมานที่ไม่สามารถหยุดคิดถึงเรื่องนั้นได้


     ผมทนไม่ไหว จนคืนหนึ่งที่ผมอาศัยบ้านพี่ชิน ผมขออนุญาตพี่ชินให้ผมได้นอนห้องเดียวกับเขา ผมอ้อนขอกอดพี่ชิน ผมแค่อยากหาที่พักพิงจากใครสักคน และผมหวังว่าพี่ชินจะทำให้ผมดีขึ้น


    สิ่งที่ผมได้รับ มันทำให้ผมดีขึ้นได้จริงๆ ผมกับพี่ชิน เรานอนกอดกัน อ้อมกอดพี่ชินอบอุ่นเหลือเกิน แต่พอผมหลับตาเตรียมเข้าสู่ห้วงนิทรา ภาพที่ผุดมากลับเป็นพี่ตั้นที่พูดเสียงอ่อนโยน จูบจากพี่ชายเพื่อนที่แตะหลังต้นคอ และทั่วลาดไหล่ของผม

    ทุกอย่างที่พี่ตั้นกระทำทิ้งไว้บนเรือนร่างของผมมันไม่เคยลืมเลือนได้เลย...


    เหมือนว่าสิ่งที่ผมตั้งใจจะลืม มันกลับกลายเป็นความพยายามที่สูญเปล่า

   
    ผมรู้แล้วว่า ผมหนีไม่พ้น ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจแก้ปัญหาทีละเรื่อง


   เรื่องแรก คือ การถามความรู้สึกพี่ชินว่าคิดยังไงกับผม ถ้าพี่ชินรับรัก ผมอาจจะลืมเรื่องพี่ตั้นได้

    จากนั้น ผมจะมีเซ็กซ์กับพี่ชิน จูบพี่ชินเผื่อมันจะลบภาพเก่าให้หายไป

   แต่ถ้าพี่ชินตอบปฏิเสธ ผมอาจจะขอเงินพี่ชายไปต่างประเทศ หรือไม่ก็คงจะวันไนท์ แสตนด์ นอนกับใครก็ได้ และผมจะทำทุกวันให้มันลบภาพพี่ตั้นไปให้ได้ในเร็วที่สุด


     เมื่อผมได้ขอสรุป ผมหาวันที่เหมาะสมได้นัดติให้มากินบาร์บีคิวด้วยกัน เพื่อติจะได้รู้ความคืบหน้าของเรื่องผมด้วย

     ผมออกไปซื้อของ ตั้งใจว่าวันนี้ น่าจะเป็นวันดีของผม

    จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านพี่ชิน ลงจากรถแท็กซี่ หอบหิ้วของเต็มไม้เต็มมือจะเข้าบ้าน กลับช็อค ตกใจ เมื่อภาพที่ผมเห็นตรงโรงจอดรถ คือ

    ภาพที่พี่ชินกับติจูบกัน

    ผมไม่คิดเลยว่าจะเจอแบบนี้ ผมแทบหมดแรงและคิดไม่ออก เพราะตั้งรับไม่ทัน แต่แล้วผมต้องแกล้งทำเป็นไม่เห็นและรักษาสภาพจิตใจให้เหมือนว่าผมเป็นคนร่าเริง ไม่เสียใจ

    ผมยืนคิดอยู่ในครัวอยู่นานว่าผมจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี จนผมรู้แล้วว่า การปล่อยเวลาให้นานกว่านี้ ผมจะยิ่งเจ็บกว่าเดิม
   
    ผมตัดสินใจจะถามวันนี้ หลังจากติขึ้นไปนอนพัก ผมใจเต้นแรง แต่ก็พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ


    ผมนั่งมองพี่ชินที่โซฟา ขณะที่เขานั่งพักดื่มน้ำ หลังจากไปส่งติที่ห้องนอน   

    แม้ภาพมันฟ้องและชัดเจนแค่ไหน แต่ผมไม่อยากคิดไปเอง

    ผมอยากได้คำตอบที่แน่ชัดจากปากพี่ชินมากกว่า

   ทิ้งตัวลงนั่ง ทำหน้าจริงจัง

"ผมว่ามันถึงเวลาแล้วล่ะ จนถึงตอนนี้ พี่ชินชอบผมบ้างไหมครับ?"


    ผมถามออกไปตรงๆเพราะเวลานี้ การพูดจาอ้อมค้อมรังแต่จะทำให้ผมเสียเวลาและเจ็บกว่าเดิม


"ถ้าสิ่งที่วุฒิถามหมายถึงชอบแบบแฟน พี่ขอโทษด้วยนะ พี่ไม่ชอบวุฒิแบบนั้น"


    เจ็บนะ แต่จำเป็นต้องถามต่อ


"ถ้างั้น พี่ชินชอบติใช่ไหมครับ?"
 

   
    พี่ชินอึกอัก แต่จากนั้น เขากลับตอบเสียงหนักแน่น


"ใช่ วุฒิรู้เพราะวุฒิเห็นหรือว่า..."

"ครับ ผมเห็น เห็นตั้งแต่ที่พี่ชินอยู่กับติที่ทะเลแล้วล่ะครับ เฮ้อ!...ผมเสียใจนะ...มากด้วย แต่ก็ดีที่รู้ว่าเป็นไอ้ติ"


"พี่ขอโทษนะ"

"ผมทำให้พี่ชินมีความสุขไม่พอหรอครับ?"


   แปลกนะ...ก็รู้อยู่แล้วว่าผิดหวัง ยังจะซ้ำเติมความเจ็บปวดด้วยการถามหาเหตุผลเพิ่มเติมทำไมอีกก็ไม่รู้     


"เปล่าหรอก วุฒิทำให้พี่มีความสุขเหมือนกัน เพียงแต่เวลาที่พี่อ่อนแอ คนที่อยู่ข้างพี่ตลอด คือติ ก็เท่านั้นเอง"


  คำธรรมดา แต่ผมกลับจุกจนแน่นิ่งไปเลย การที่พี่ชินบรรยายใครอีกคนด้วยสีหน้าปลื้มปีติช่างทำให้ผมรู้สึกต่ำต้อยไปถนัดตา


"นั่นสิ..เจ็บจัง..แต่ก็ขอบคุณนะครับที่พี่ชินพูดตรงๆ ผมอยากรู้ว่ามีอะไรอีกที่พี่ชินประทับใจในตัวติ"


   ผมงงตัวเองเหมือนกันว่าปากของผมทำไมถึงถามคำถามที่พาตัวเองช้ำใจ หรือผมเป็นพวกเสพติดความเจ็บปวดก็ไม่รู้

  ผมมองพี่ชินที่อมยิ้มเมื่อพูดถึงติ

"พี่ชอบตัวเองเวลาที่ได้อยู่กับติ พี่ได้เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องสร้างภาพ ไม่ต้อง..."



"พอ..พอเถอะครับพี่ชิน...ผมไม่อยากรู้แล้วล่ะ แววตาพี่ดูออกมากว่าชอบเพื่อนผม ผมขอให้พี่โชคดีแล้วกันนะครับ!"


    ผมไม่ไหวแล้ว ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พี่ชินลุกขึ้นตามแล้วจับแขนผม


"พี่ขอโทษจริงๆนะวุฒิที่รู้สึกแบบนั้นกับวุฒิไม่ได้ แต่ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นแฟนกัน วันไหนที่วุฒิเครียดหรือมีปัญหาอยากระบาย วุฒิมาหาพี่ได้เสมอนะ พี่พร้อมรับฟัง เพราะพี่รู้แล้วล่ะว่า หากวันที่เรามีปัญหา การได้มีคนอยู่ข้างๆ มันดียังไง?"

    แม้พี่ชินจะเลือกติ แต่ยังมิวาย พูดเป็นห่วงผมเช่นเคย

    ผมเพิ่งตาสว่าง และเข้าใจวันนี้นี่เอง ที่หลายครั้ง พี่ชินเอาใจใส่ผม เป็นห่วงผม รับฟังปัญหาของผม จนผมถึงกับนึกเข้าข้างตัวเองว่าพี่ชินคงมีใจให้ผมอยู่บ้าง...

    แท้จริงแล้ว มันไม่ใช่เลย พี่ชินไม่เคยชอบผม... ไม่เลยสักนิดเดียว!!...

    การที่พี่ชินปฏิบัติกับผมอย่างเป็นห่วง เป็นใย เพราะพี่ชินก็เป็นแค่คนดีคนหนึ่งที่ทำแบบนี้กับทุกๆคน ...เท่านั้นเอง....



****1.1****


"เพราะพี่รู้แล้วล่ะว่า หากวันที่เรามีปัญหา การได้มีคนอยู่ข้างๆ มันดียังไง?" 

 ชินห่วงวุฒิจริงๆถึงพูดแบบนั้น แต่เวลาที่ชินพูด เขาแค่นึกถึงใครอีกคนเท่านั้นเอง
อย่างประโยคนี้ วุฒิไม่รู้ว่าพี่ชินหมายถึงใคร? แต่ถ้าติเดินมาได้ยินอาจดีใจ...



ส่วนน้องวุฒิไปหาพี่ตั้นเถอะนะ ลองดู เขาดามใจได้อยู่แล้วล่ะ
อย่ากลัวเลย (พี่ตั้นเขาแค่ยับยั้งชั่งใจตัวเองไม่ได้ เลยเถื่อนไปหน่อย) 555555

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่า

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
 โอ้ยยยยยยยย :m15: :sad4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

น่าสงสารวุฒินะ  แต่ถ้าจะลองให้อภัยพี่ตั้น  ก็น่าจะเป็นหนทางแห่งความสุขได้  เพราะจากสิ่งที่ตั้นแสดงออกมา  ก็น่าจะบ่งชัดได้ว่าจริงใจกับวุฒิขนาดไหน

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1

ตอนที่ 10 ภาพจำ(2)



-ตั้น-



'วุฒิ คือ จุดเปลี่ยนของผม'





   ผมไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนน้องชาย จะทำให้ผมสูญเสียตัวตนได้ขนาดนี้



   ผมจำภาพวันที่มีเซ็กซ์กับวุฒิได้ชัดเจน



   ใบหน้าเหยเกแสดงความเจ็บปวด การส่งเสียงกรีดร้องเมื่อผมเผลอกระแทกสุดแรงตอนสอดใส่เข้าไปในช่องทางรัก และน้ำตาที่ไหลมาพร้อมเสียงขอร้องเหมือนขาดใจ   

   

    ตอนผมมีเซ็กซ์กับคนอื่น ไม่มีใครเคยห้ามกลางคันหรือปฏิเสธ กลับชอบและติดใจจนร้องขอว่า เอาอีก เอาอีก..



   แต่แปลกที่มันไม่ใช่กับวุฒิ

 

   น้องทำตัวตรงกันข้ามกับทุกคนที่ผ่านมา


   ผมไม่เคยมีเซ็กซ์กับใครแล้วนอนร้องไห้ น้ำตาไหลพรากขนาดนี้


    ผมไม่ได้ตั้งใจจะข่มขืน เพียงแต่ตอนนั้น ผมรู้สึกแปลกๆ มันรู้สึกดีกับวุฒิจนห้ามใจไม่ให้เอาเข้าไปไม่ได้ สมองของผมมันมีแต่อยากแลกเปลี่ยนสัมผัสกันและกัน แต่ผมไม่รู้ว่า วุฒิจะต่อต้านถึงกับขั้นรับไม่ได้และเสียใจอย่างหนัก


     พอเป็นอย่างนี้ ผมถึงตกใจ รีบปลอบประโลมและดึงตัวน้องเขาเข้ามากอด

   
     ซึ่งโดยปกติ เรื่องการกอด ผมเป็นคนไม่ชอบนอนกอดใครข้ามคืน  ผมรู้สึกอึดอัดและรำคาญตัว แต่แปลกที่พอเป็นเพื่อนน้องชาย ผมสามารถนอนกอดวุฒิได้ทั้งคืนไม่มีบ่นหรืออิดออดแต่อย่างใด


     หรือเป็นเพราะความรู้สึกผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน...


     แหละคืนนั้น กว่าผมจะนอนได้ก็ปาไปตีสองกว่า


    ผมจะนอนหลับตาลงได้อย่างไร? ในเมื่อผมเพิ่งได้ยินเสียงหยุดสะอื้นจากน้อง ตอนเที่ยงคืน ทั้งๆที่เราจบกิจกรรมบนเตียงไปตั้งแต่ห้าทุ่มกว่า


    ผมรู้สึกไม่ดีเพราะไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายความรู้สึกน้องขนาดนั้น แม้ผมจะต้องการเซ็กซ์แค่ไหน แต่ผมก็ให้ความสำคัญกับคนที่ผมจะร่วมรักด้วยเสมอ


    คืนนั้นจึงเป็นคืนที่ผมหลับไม่ลง จนกระทั่งตอนเช้า ลืมตามาอีกที วุฒิก็ไม่อยู่แล้ว


    หลังจากไปทะเลกลับมาไม่กี่วัน ผมทำงานตามปกติ แต่ยอมรับว่ายังคิดถึงแต่เรื่องของวุฒิ จึงโทรเรียกน้องนักศึกษาที่เคยติดต่อกันมามีเซ็กซ์ พอวันถัดมาก็เรียกเนมมานอนด้วย หวังว่าจะช่วยให้ตัวผมเองดีขึ้น



     แต่น่าแปลก ที่ความรู้สึกผมกลับเปลี่ยนไป

      ผมมีเซ็กซ์ก็จริง แต่มันไม่สนุก ไม่มีความสุขเท่าแต่ก่อน ความมันส์ เร่าร้อนที่เคยได้รับ ทว่า จืดชืด ไร้รสชาติ


     หรือคงเป็นเพราะเจอะอะไรเหมือนเดิมอยู่ตลอด พอถึงจุดอิ่มตัว ผมก็เกิดเบื่อหน่าย ก็คงไม่ต่างจากกินเมนูข้าวกระเพราหมูสับทุกวันล่ะมั้ง เมื่อถึงวันหนึ่ง ผมกลับเอียน
   

     และอีกอย่างที่ทำให้ผมไม่อยากมีเซ็กซ์ ไม่รู้ว่าผมหลอนหรือเปล่า? แต่หลังจากที่ผมมีเซ็กซ์เสร็จแล้ว บางครั้ง ผมจะได้ยินเสียงแว่วของเด็กหนุ่มก้องในหัว


"หยุดเอาเข้าเถอะนะครับ ได้โปรด!..."


     ผมไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร

     สำหรับวุฒิแล้วแตกต่างจากคู่นอนของผมทุกคน วุฒิเป็นผู้ชายรูปร่างใกล้เคียงกับผม เพียงแต่หุ่นบางกว่า เตี้ยกว่า และหน้าตาดูอ่อนกว่าวัย ที่ต่างอาจเป็นเพราะเวลาผมมองน้อง ผมรู้สึกว่าวุฒิเหมือนเด็กผู้ชายวัยสิบห้า ที่กำลังโตและอยู่ในวัยซุกซน แถมขี้อ้อนในบางเวลามากกว่า


    ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ยิ่งโดยเฉพาะตอนมีเซ็กซ์ น้องเป็นตามที่ผมคิดหมดเลย หรือเป็นความไร้เดียงสา ผมก็ไม่แน่ชัดในคำตอบเหมือนกัน


    เมื่อผมยังไม่ได้เคลียร์กับวุฒิ และเบื่อหน่ายทางเซ็กซ์ ผมจึงหยุดมีเพศสัมพันธ์กับทุกคนที่เคยผ่านเข้ามา


    หลังจากที่ผมคิดได้ ผ่านไปแค่วันเดียว ติก็โทรมาหาผม วานให้ซื้อเค้กไปให้วุฒิที่ห้องของติ ผมดีใจที่ได้ยิน จนหุบยิ้มไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้ ผมไม่ได้ติดต่อวุฒิเลย จะขอเบอร์โทรจากติก็กลัวมีพิรุธ


    ผมไม่รู้ว่าวุฒิชอบกินเค้กรสอะไร แต่ผมเลือกเค้กรสชาติที่ผมชอบ ระหว่างขับรถไปหาวุฒิ วางเค้กบนที่นั่งข้างคนขับ จัดตำแหน่งให้เหมาะสม และผมขับรถช้าอย่างระมัดระวัง เพราะผมกลัวว่าหน้าเค้กจะคว่ำก่อนไปถึงมือผู้รับ


     ถึงที่หมาย ผมใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ ตอนอยู่หน้าห้องน้องชาย พอส่งข้อความบอกติว่าถึงแล้ว ไม่นาน ติมาเปิดประตู ผมเดินเข้าไปและจินตนาการว่าวุฒิต้องดีใจและชอบเค้กก้อนนี้


     แต่เปล่าเลย...


   สิ่งที่ผมเห็นคือ วุฒิตกใจที่รู้ว่าเป็นผม


    เสียใจเหมือนกันที่น้องแสดงออกแบบนั้น


    ไม่รู้สิ ผมไม่ชอบให้วุฒิทำท่าเหมือนไม่ชอบกัน


    อาจเป็นเพราะที่ผ่านมา ผมชอบใคร ทุกคนชอบผมกลับ ผมไม่เคยโดนปฏิเสธ พอวุฒิทำสายตาแบบนั้น ผมหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก  ยิ่งตอนที่วุฒิเมินเฉยใส่และบอกกับติว่าจะไปหาชิน ผมเจ็บปวด


    พอผมจะตามวุฒิไป กลับเจอน้องชายงี่เง่าใส่ ผมทนไม่ไหว จึงบอกความจริงบางส่วนออกไปถึงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับวุฒิ


    ไม่แปลกหรอก หากติจะโกรธและไม่ยอมพูดกับผมอีกเลย


     ก็รู้ว่า เป็นการกระทำที่แย่ แต่จะทำอย่างไรได้ ผมไม่ได้ตั้งใจและมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว


    น้อยใจ /เสียใจ /ผิดหวัง



    ความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นในใจผม จากตอนแรกผมเลือกจะไม่มีเซ็กซ์กับใคร แต่วันที่วุฒิชาเฉยใส่ผม มันก็ลงเอยด้วยการที่ผมเรียกเนมมา


    ผมหนีความเครียด ด้วยการหาทางออกเพื่อระบาย นั่นก็คือ เซ็กซ์


    แต่คราวนี้ มันแปลกจนผมไม่เข้าใจตัวเอง ขณะที่เนมกำลังออรัล เซ็กซ์ให้ ผมไม่มีความรู้สึกที่อยากจะสำเร็จความใคร่ ผมบอกให้เนมหยุดแล้วปล่อยให้เนมหลับอยู่ในห้อง ส่วนผมออกมานั่งที่โซฟาครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง จนตั้งสัจจะได้แล้วว่า ผมจะหยุดทำตัวแบบนี้ แล้วหาทางเจอวุฒิให้ได้



    ตั้งแต่วันนั้น ก็นับวันมาตลอด จนผ่านไปสิบวัน นับตั้งแต่วันเกิดวุฒิ เราไม่เคยได้เจอกันอีกเลย


    ผมนั่งเหม่อเวลางาน บางวันออกไปพบลูกค้า จากที่เคยนำเสนองานได้ดีจนลูกค้าประทับใจ ระยะหลังๆ กลับพูดตะกุกตะกัก นึกคำสวยหรูไม่ออก พูดจาวกวนไปมา บ้างก็ติดขัดจนลูกค้าไล่กลับให้ผมไปตั้งหลักแล้วค่อยมาคุยใหม่


    ผมเป็นบ้าไปแล้ว

    ใช่ ผมเป็นบ้า!

    บ้าที่คิดถึงแต่วุฒิมากเกินไป




    ไม่แน่ใจว่า ผมโชคดีหรือเปล่า? เพราะตั้งแต่เด็กจนโต ผมสมหวังในความรักและชนะมาโดยตลอด อยากคบใครก็ได้คบ ไม่เคยมีใครปฏิเสธในตัวผม


    ...แต่กับวุฒิ..

   ผมแพ้ราบคาบ

   ทั้งๆที่ผมยังไม่เคยมีเซ็กซ์กับน้องเลยสักครั้ง ผมยังเป็นหนักขนาดนี้


   เมื่อผมหาคำตอบให้ตัวเองได้แล้วว่า ผมทนไม่ไหว ถ้าหลังจากนี้จะไม่ได้เจอหน้าวุฒิ ผมจึงมาหาน้องชายที่ห้องเพื่อขอความช่วยเหลือ



   ในเวลาสี่ทุ่ม ที่ติเดินมาเปิดประตูและมองผมอย่างอึ้งๆ เมื่อเห็นผมอยู่ตรงหน้าประตู

  ผมถือโอกาสนี้ ปรับความเข้าใจกับน้องชายด้วย


"ติ กูขอโทษ เลิกโกรธกูเถอะ...ยกโทษให้กูนะติ ขอร้องล่ะ"



    ผมมองน้องชายทำหน้าครุ่นคิด จึงพูดต่ออย่างคนหมดแรง


"กูแพ้แล้วติ กูแพ้แล้ว ให้กูได้เจอวุฒิเถอะนะ..." 



"อะ...อะไรของพี่วะ พี่ตั้น"


     ติเดินถอยหลังไปหลายก้าว คงกลัวว่าวันนี้ผมจะมาไม้ไหน?


     แต่ผมมาอย่างคนไร้เรี่ยวแรง มันเนือย ซึมอย่างไม่มีเหตุผล และผมก็ไม่คิดหรอกว่า คราวนี้จะเป็นผมที่ต้องตามงอนง้ออีกฝ่ายอย่างไม่เหลือมาดดูดีสักนิด


"กูขอล่ะ ขอให้กูได้เจอวุฒิเถอะนะ"


"พี่ตั้น สงสารวุฒิเถอะ อย่าทำร้ายใจมันอีกเลย"

"แล้วกูล่ะ มึงไม่สงสารกูบ้างหรอ กูพี่มึงนะติ ช่วยกูเถอะ กูอยากเจอวุฒิจริงๆ ให้กูทำอะไรก็ได้"

 

   ผมโผกอดน้องชายตัวเองจนติประหลาดใจที่ผมสิ้นฤทธิ์ขนาดนี้ น้องผมใจอ่อนถึงลากผมไปนั่งที่เตียงเพื่อฟังปัญหา

   ผมบอกจนหมดว่า ที่ผมเป็นแบบนี้ เพราะอะไร และใช่ว่าผมจะรู้สึกดี มันกลายเป็นผมจะทำอะไรก็เหมือนมีบางอย่างติดค้างคาใจตลอดเวลา


"พี่สัญญากับผมได้ไหม? ว่าถ้าผมให้โอกาส พี่จะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม"


   ผมพยักหน้ารัว

"ที่ถามเพราะไม่ใช่อะไรหรอก วุฒิอกหักจากพี่ชินแล้ว พี่ชินเขาชอบผม"


"กูดีใจด้วยนะ"



      ผมไร้เรี่ยวแรงในการแสดงออก แต่ผมดีใจมากจริงๆที่น้องชายผมสมหวัง อย่างน้อย ผมก็โล่งใจ หมดปัญหาไปอีกหนึ่งเรื่อง

 
"ส่วนเรื่องที่พี่อยากเจอวุฒิ...เสาร์นี้ วุฒิชวนผมไปดูคอนโดที่มันถูกใจ มันอยากให้ผมช่วยดูห้องใหม่ ว่าชอบไหม?"

"ได้ กูไปด้วย"


      ผมรีบรับคำทันที จากนั้น ผมกอดน้องรักอีกครั้ง แต่พอผละ ผมเพิ่งเห็นรอยช้ำมุมปาก


"มึงไปมีเรื่องกับใครมา"

"แฟนเก่าพี่ชินอะดิ"

"ทำไมไปเจอได้? อยากให้ช่วยจัดการอะไรไหม?"


"ไม่ต้องหรอกพี่ตั้น ลืมๆไปเถอะ เรื่องมันจบไปแล้ว พี่นั่นแหละจัดการตัวเองเถอะ ถ้าจริงจังกับวุฒิอย่างที่เคยบอกจริงๆ ผมจะช่วยพี่"


"ขอบคุณนะที่ช่วย ส่วนเรื่องวันนั้น กูพูดจริงนะติ กูไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายความรู้สึกเพื่อนมึงนะ กูขอโทษ"
ผมพูดหนักแน่นเพื่อให้น้องเข้าใจ

"โอเคๆ ผมรู้แล้วครับ เริ่มใหม่แล้วกันพี่และถ้าพี่ตั้นทำให้วุฒิชอบพี่ได้ พี่ต้องพาวุฒิไปหาแม่ด้วยนะ"


    ผมรู้ว่าติจะสื่อถึงอะไร เราไม่ใช่ครอบครัวใหญ่ เรามีกันแค่สามคน ผม ติแล้วก็แม่ ถ้าการที่จะพาใครไปเจอแม่ เราต่างรู้ดีว่า คนๆนั้นสำคัญแค่ไหน?...

"มึงไม่บอกกูก็ทำ"


"โอเคพี่ตั้น"

"ขอบใจจริงๆนะติ"

"ก็ถึงแม้พี่จะเหี้ย แต่พี่ตั้นก็เป็นพี่ชายผมนี่นา ฮ่าๆ...ที่ผมช่วย เพราะรอบนี้ ผมเห็นแววตาพี่ดูจริงจังกับเรื่องวุฒิหรอก ผมดีใจว่ะ พี่ตั้นเปลี่ยนเป็นคนดีได้จริงๆ"



     ผมมองน้องชายที่ยิ้มกว้างดีใจเกินไป จนบางที ผมก็คิดนะ ว่าในสายตาน้องชาย ผมเลวมากขนาดนั้นเลยหรือ?


"เปลี่ยน?"


     ผมพูดลอยๆขึ้นมาจากคำตอบของน้องชายทำให้ผมฉุกคิดได้ว่า ใช่!...ผมเปลี่ยนไป จากคนที่ต้องการแต่เซ็กซ์ เซ็กซ์และเซ็กซ์ วันนี้ ผมกลับเบื่อ


    ผมเชื่อว่า เป็นเพราะวุฒิ แต่พอประโยคต่อมา ที่น้องชายผมพูด ผมถึงกับนั่งอึ้ง


"ใช่...ความรักไงที่ทำให้พี่เปลี่ยน...อย่าลืมขอบคุณสิ่งนี้ล่ะพี่...คืนนี้ก็นอนห้องผมเลยแล้วกันเนอะ..."   



   ผมหันไปหาติที่ยิ้มไม่หุบ น้องชายผมคงรู้ว่า ผมยังไม่ได้อาบน้ำ ถึงโยนผ้าเช็ดตัวมาให้ผมที่ปลายเตียง ก่อนจะปีนขึ้นเตียงไปนอน มิวายบอกผมฝันดี ทิ้งให้ผมนั่งใจเต้นแรงอยู่คนเดียว...




........................................


จากนี้ ก็มีแต่ฟินนนนนนนนนนนนนนนนนน

มาดูกันว่าพี่ตั้นจะได้วุฒิอีกไหม? เอ้ย! ง้อ วุฒิสำเร็จไหม?


ส่วนน้องติที่น่ารัก ถ้าร่างกายหายดีเมื่อไหร่ เขาเตรียมเดินหน้ารุกพี่ชินจริงจังแล้วจ้า

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่า
:hao3: :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

รอดูปฏิกิริยาของวุฒิ  ว่าจะทำอย่างไรวันดูคอนโด

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
 
ตอนที่ 11 เป็นแฟนกันนะ


 
     หลังจากวันที่ผมได้รับข่าวดีว่าพี่ชินชอบผม ผมรอให้ร่างกายหายดีจากการมีเรื่องคราวก่อน เมื่อดีขึ้น ก่อนการนัดหมาย ผมกวนอชิให้ช่วยพาพี่ชินมาร้านอาหารญี่ปุ่นที่ผมระบุสถานที่ไว้

    ตอนแรกอชิงงและเกิดคำถามว่าทำไมผมต้องนัดพี่ชินด้วย ผมตัดสินใจบอกความจริงอย่างไม่มีปิดบังว่าผมจีบพี่ชินอยู่ อชิดีใจใหญ่โต ยิงคำถามมาเป็นชุด จนผมต้องรีบตัดบทแล้วบอกว่าจะอธิบายภายหลัง เธอถึงยอมเข้าใจและทำตามแผน

    และวันนี้ก็มาถึง วันที่ผมนัดพี่ชินเพื่อเซอร์ไพรส์ ใกล้เวลานัดหมาย ผมนั่งรอร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามร้านอาหารญี่ปุ่น
 
     ผมเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นซึ่งเป็นเมนูโปรดของพี่ชิน  แต่ผมอยากให้มันพิเศษกว่าปกติ จึงสำรวจดูว่า อาหารญี่ปุ่นที่พิเศษไปอีกขั้นคืออะไร ผมค้นข้อมูลจนได้รู้ว่า โอมากาเสะ คือ อาหารญี่ปุ่นอีกประเภทที่ควรลิ้มลอง ความน่าสนใจอยู่ตรงที่เป็นเมนูตามใจเชฟ คนกินจะไม่รู้ว่าเชฟจะเสิร์ฟเมนูอะไรให้ ซึ่งเชฟจะรังสรรค์ซูชิโดยขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่มีในช่วงระยะเวลานั้นๆ ผนวกกับความมุ่งมั่นตั้งใจของเชฟที่บรรจง พิถีพิถันในการปั้นแต่งซูชิและใส่ความรักลงไปในแต่ละคำเพื่อต้องการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสู่ลูกค้า
 
    ผมจึงคิดว่าสิ่งนี้ น่าจะเป็นตัวแทนของผมที่สื่อให้พี่ชินได้รู้ว่าเขาเป็นคนพิเศษสำหรับผมมากแค่ไหน
 
     ผมยอมรับว่า อยากให้เขาประทับใจและได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่ด้วยความที่โอมากาเสะหลายร้านราคาเหยียบหมื่น ลำพังตัวผมมีเงินเก็บไม่มาก จึงจำเป็นต้องเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นที่ราคาถูกลงมาหน่อยและพอจ่ายไหว จนเจอร้านที่ตั้งอยู่บนห้างสรรพสินค้า ที่นอกจากราคาจะรับได้แล้วการเดินทางก็สะดวกด้วย   
 
ตะดึ่งดึ้ง
 
     เหลือบมองข้อความไลน์ ที่อชิส่งข้อความมาว่าแยกกับพี่ชินแล้ว ผมตั้งตารอพี่ชินเดินผ่านและเข้าไปประชิดตัวทันที
 
     ไม่นาน ผมเห็นพี่ชินเดินดุ่มๆมาแต่ไกล
 
หมับ!
 
      ผมจับแขนเขาก่อนเดินเข้าร้านได้ทัน คนอายุมากกว่าสะดุ้งจนผมขำ
 

"ติ ทำพี่ตกใจหมดเลย แล้วนี่มาได้ไง?"


"ให้เฮลิคอปเตอร์ลงจอดหน้าลานกิจกรรมมั้งครับ"


"เดี๋ยวเถอะนะ พี่ถามดีๆ อชิชวนติด้วยเหรอ?"



    ผมชอบจริงๆเวลาได้กวนประสาทพี่ชินเนี่ย!


"ใช่ครับ อชิชวนมาด้วย" ผมตอบเนียนๆ


     จนบัดนี้ ผมทำตัวใสซื่อ และทำเป็นไม่รู้ว่าพี่ชินชอบผม ซึ่งพี่ชินก็ยังไม่รู้ว่าผมชอบ


"ไม่เห็นอชิบอกเลยว่าติจะมา"

"ทำไมครับ? ผมมาด้วยไม่ได้หรอ?"

"มาได้ แต่ติไม่ชอบอาหารญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ? ช่างมันเถอะ เข้าไปข้างในกัน"
 


   ผมชะงักไปนิดที่พี่ชินใส่ใจผม  ทันใดนั้น...
 

   ผมเลื่อนมือลงไปกุมมือพี่ชินเดินเข้าร้านอย่างไม่แคร์สายตาใคร
 

"ตะ...ติ จับมือพี่ทำไมปล่อยนะ" พี่ชินกระตุกมือผมพลางพูดเสียงลอดไรฟัน


"กลัวพี่หลง"

"จะบ้าหรือไง? ก็เราเข้ามาในร้านกันแล้ว"

"เถอะน่า..."


 
   ผมอดยิ้มไม่ได้ที่เห็นพี่ชินประหม่า ก้มหน้างุดเหมือนเขิน ผมบอกพนักงาน ก่อนจะพาพี่ชินไปส่วนซูชิ บาร์


   เราทั้งสองนั่งข้างกันหันหน้าไปทางเชฟญี่ปุ่นที่กำลังยืนตระเตรียมวัตถุดิบ

   ขณะนั่งรอเชฟบรรจงทำซูชิให้คำแรก ผมดูดชาเขียวเย็นรอ
 

"ไม่รออชิเหรอ?"


     ผมยิ้มลอยหน้า ลอยตาไม่ตอบ


"อ้อ! นี่เป็นแผนของติ อชิไม่มาแล้วใช่ไหม?"

"พี่ชินฉลาดจัง"

"แล้วทำไมต้องเตี้ยมกับอชิ บอกพี่ดีๆก็ได้ อีกอย่างที่นี่มันแพงนะติ มีอะไรปิดบังหรือเปล่า? บอกพี่มาให้หมดนะ"

"พี่ชินคร้าบบบ... ผมพาพี่มาก็เพื่อต้องการให้พี่ได้กินสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมพอทำได้ อย่าเพิ่งถามมากได้ไหม เชฟอุตส่าห์ตั้งใจทำซูชิให้เราได้กินนะ"
 
   

    พี่ชินเงียบทันที ผมยิ้มกว้างที่เห็นอีกฝ่ายเชื่อฟัง ผมน่ะเฉยๆกับอาหารญี่ปุ่น แต่ผมอยากให้พี่ชินได้ลิ้มรสความอร่อยกับของโปรดที่พวกเรามีเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น
 
    สิ่งสำคัญเหนืออื่นใด ผมอยากให้เขาจดจำวันนี้ให้ขึ้นใจด้วย

     ผมลอบมองพี่ชินเป็นระยะๆ เวลาที่เขารับซูชิเข้าปากไปแต่ละคำ พี่ชินดูเสพสุนทรีย์อย่างเอร็ดอร่อยและมีความสุขมาก

     ผมดีใจนะที่เห็นพี่ชินรู้สึกดีกับซูชิสิบคำนี้

    หลังจากที่พวกเรากินเสร็จ ผมจ่ายเงินเรียบร้อย และพาพี่ชินมากินไอศกรีมกันต่อ


"เดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงเองนะ"

"ไม่ต้องครับพี่ชิน วันนี้เป็นวันของผม"

"อะไรกันเนี่ยติ พี่ถามว่าเลี้ยงทำไมก็ไม่ยอมตอบ รวยมากหรือไง?"

"ไม่รวยมากหรอก แต่แฟนคนเดียวผมจ่ายไหว"

"ติพูดว่าอะไรนะ"

"ห้ะ!...ผมลืมไปแล้วว่าพูดอะไร กินๆๆ"


    พี่ชินมองหน้าผมด้วยความประหลาดใจก่อนจะตักไอศกรีมเข้าปาก กินไปเรื่อยๆจนกระทั่งหมดถ้วย ก็เตรียมกลับบ้าน
 

   ใช้เวลาได้คุ้มค่า จนตอนนี้ก็ปาไปสองทุ่ม พี่ชินจึงอาสาไปส่ง แต่พอขึ้นรถมา ก่อนพี่ชินจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ผมดึงไหล่พี่ชินให้หันมาหากัน บีบกระชับเบาๆ มองตาเขาให้รู้ว่าผมจริงจัง
 

"พี่ชินครับ...."
 
"หืม...มีอะไรติ"

"เป็นแฟนกันนะ"
 

    เห็นพี่ชินหน้าเหวอ และอึ้งไปพักใหญ่ จากนั้น ใบหน้าพี่ชินเริ่มแดงก่ำ ก่อนจะหลบตาผม


"อ...อะไรติ อยู่ดีๆมาขอพี่เป็นแฟน ก่อนหน้านี้ ยังไม่เห็นมีทีท่าว่าจะจีบเลย"
 


"ก็ก่อนหน้านี้ วุฒิชอบพี่ ผมจะจีบได้ไงครับ แล้วอีกอย่างตอนนี้ เราก็ใจตรงกันแล้วไม่ใช่หรอ? จะจีบทำไมให้เสียเวลา"

   ผมมองคนชะงักงัน จากนั้น พี่ชินเขินจนหน้าแดง หูแดงหมดแล้ว เขาพูดอ้อมแอ้ม


"วุฒิบอกหรอ?"

"ครับ พี่อย่าโกรธวุฒินะ ผมดีใจนะตอนที่รู้ว่าพี่ชินชอบผมเหมือนกัน ผมตื่นเต้นมากเลย และวันนี้ ที่ผมนัดเจอและเลี้ยงพี่ทุกอย่าง เพราะผมตั้งใจจะให้วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดในการขอพี่เป็นแฟน "
 
"ติชอบพี่มานานรึยัง?"

"ก็นานแล้วครับ นานจน....อื้อ..."


   ผมตกใจมากที่จู่ๆพี่ชินก็โน้มตัวมาประกบจูบผม

   เราจูบแบบเฟรนส์คิส แต่ไม่นานมากนักพี่ชินก็ผละออกก่อน ซึ่งน่าเสียดายเพราะผมยังไม่หายอยากเลย...
 

"ขอบคุณนะที่อธิบายให้พี่ได้เข้าใจ ถ้างั้นไม่ต้องจีบหรอก เป็นแฟนกันเลยก็ได้"
 


   ต่างคนต่างโสดและมีใจให้กัน

   มันก็ไม่แปลก หากเปลี่ยนสถานะจากคนรู้จัก มาเพิ่มความสัมพันธ์ด้วยคำว่า แฟนนำหน้า

 
"เย้!...พี่ชินน่ารักจังครับ"

"เพิ่งรู้หรือไง?"
พี่ชินว่าพลางกัดปากยิ้มๆ แล้วเบือนหน้าหนีเหมือนเขิน


"โอ้ยยยยยย! อย่าทำตัวน่ารักสิพี่ เดี๋ยวผมจะไม่ไหวเอานะ"


"คิดอะไรอยู่!...ถ้างั้น วันนี้ติ นอนบ้านพี่นะ"
ผมชะงัก เมื่อพี่ชินชวน
 

     เพียงคำเชิญชวนว่า 'นอนบ้านพี่'  ทำให้ผมสามารถจินตนาการไปได้ไกล ถึงกับขั้นว่าตัวเองนั่งคร่อมบนร่างพี่ชินเรียบร้อยแล้ว
 

"พี่ชินโอเคใช่ไหม? มันไม่เร็วไปหรอกเนอะ ที่เราจะ...มี...อะ..."

"โอเคอะไร? ติคิดทะลึ่งอยู่เหรอ? พี่ชวนนอนเฉยๆนะ"
 

    ผมชะงัก เปลี่ยนสีหน้าแทบไม่ทัน
 

"อ้าว!..ก็เราตกลงเป็นแฟนกัน ชวนนอนเฉยๆมันได้ด้วยหรอครับ? ผมก็นึกว่าจะได้มากกว่านั้น โอ้ย! พี่ชินอะ"
 


   พี่ชินตบปากผม ผมผิดอะไร? พอคบกัน พี่ชินชวนนอนบ้านอย่างนี้ ผมก็คิดสิว่าเขาอยากชวนให้ผมมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ใครจะไปรู้ล่ะว่า พี่ชินชวนนอนค้างที่บ้านเฉยๆ

"พี่...แค่อยากให้ตินอนกอดพี่ก็เท่านั้น"

    ฮือออออ!

    ประโยคต่อมาทำให้ผมรู้สึกละอายใจที่คิดทะลึ่งไปเลย มิหนำซ้ำ ผมยังใจอ่อนปวกเปียก เมื่อพี่ชินช้อนตามองผม

    เป็นแฟนกันไม่ทันข้ามวัน ผมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้นี่เอง ว่าพี่ชินเป็นคนขี้อ้อน
 

"แฟนพูดแบบนี้ พี่คิดว่าผมจะกลับห้องตัวเองเหรอ? ก็ต้องนอนสิครับ รออะไรล่ะ"
 


   ผมเห็นพี่ชินหลุดขำ ไม่ตอบ ก่อนจะเคลื่อนรถออกจากลานจอดห้างสรรพสินค้าไปยังบ้านของพี่ชิน

   ถึงบ้านคนอายุมากกว่าแล้ว เราสองคนถอดรองเท้ากันตรงที่วางรองเท้า เดินเข้ามาส่วนตัวบ้าน ยังไม่พ้นโซฟา ผมโอบรัดเอวพี่ชิน ดึงให้นั่งลงที่โซฟา และหอมแก้มไปหลายฟอด

 
"ผมยังดีใจอยู่เลย เชื่อไหม?" พูดขณะที่มือยังกอดเอวพี่ชินที่นั่งเกยตักอยู่

"พี่เชื่อ แต่ให้พี่อาบน้ำก่อนนะ เหม็นตัวจะแย่"

"ไม่เห็นเหม็นเลย ไม่เชื่อผมหอมให้ดูอีกก็ได้"
 

    ฟอด ฟอด  ฟอด
 

"อื้อ...ติ พอก่อนได้ไหม?" พี่ชินพยายามแกะมือผมออกจากเอว แต่ผมไม่ปล่อยหรอก อยากทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว


"พี่ชินอย่าดุสิครับ โถ่..ก็ผมมีความสุขนี่นา ที่พี่ชินชอบผม"

"ติชอบพี่จริงๆ แล้วทำไมวันที่พี่ทักไป ติไม่ตอบพี่ล่ะ?"

   ผมงงเป็นไก่ตาแตกเลยครับ
 

"ทัก? อะไรครับ? ไม่เข้าใจ?"


"ก็ติเล่นแอพหาคู่ด้วยไม่ใช่หรอ? พี่กดถูกใจติก่อน พอติถูกใจพี่ เราแมทซ์กัน พี่ทักติไปก็ไม่ตอบเลย พี่ก็นึกว่าติไม่ชอบพี่ก็เลยทำใจ พอไม่กี่เดือนผ่านไป เห็นติที่ออฟฟิส พี่ก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะบังเอิญขนาดนี้ ในตอนแรก พี่ถึงพยายามไม่สนใจติไง แต่ก็ทำไม่ได้ พอเจอกันจริงๆแล้วมัน..."



 จุ๊บ!

 
     ผมโน้มตัวไปจูบปิดปากพี่ชิน

    ผมจำได้ว่าเคยลงทะเบียนสมัครแอพหาคู่ไว้เมื่อสามเดือนก่อนเข้าทำงานที่นี่ แต่ผมเล่นได้ไม่ถึงเดือน ก็ลบแอพทิ้งไป เพราะรำคาญที่พี่ตั้นมาวุ่นวายกับโทรศัพท์ของผม ซึ่งผมแทบไม่รู้เลยว่าพี่ชินก็เล่นด้วย
 
 
"ผมไม่รู้จริงๆ สงสัยคงเป็นจังหวะที่ผมลบแอพทิ้งพอดี พี่ชินอย่าคิดมากนะ นี่ไง ตอนนี้โชคชะตาพาให้เรามาเจอกันตัวเป็นๆแล้วไงครับ"

"ครับ ติ"
 


"ผมดีใจที่ได้เป็นแฟนพี่ชินนะ"
 
"พี่รู้แล้วครับ...ว่าแต่....ติว่าบ้านที่พี่อยู่นี้เป็นยังไงเหรอ? พี่อยากรู้มุมมองของติน่ะ"



"ก็สวยดีครับ แต่ผมว่าบ้านพี่มันใหญ่ไปหน่อยนะสำหรับการที่จะอยู่คนเดียว มันดูโล่ง เปล่าเปลี่ยว อ้างว้าง ยังไงไม่รู้"


"เหรอ? ถ้างั้น ติคงรู้แล้วว่าพี่รู้สึกยังไง จะเป็นไปได้ไหม? ถ้าติจะช่วยทำให้บ้านหลังใหญ่ดูเล็กลงและอบอุ่นขึ้น?"


 
    โอ้โห! พี่ชินหลอกถามผมได้คมคายเหลือเกิน ผมมองคนตรงหน้าส่งสายตาเว้าวอนแล้วอดใจอ่อนไม่ได้


"หืมม...พี่ชินอย่าอ้อนสิครับ" ผมบอกพลางลูบแก้มเนียนเล่นไปมา

   พี่ชินเอ่ยเสียงเบาหวิว


"พี่ขอมากไปเหรอ? พี่ขอโทษนะ ก็นึกว่าติจะอยากอยู่...ด้วย..กั...น...อื้อ...ติอย่า...อ้ะ.."
 


    จะน่ารักเกินไปหน่อยแล้ว ผมไม่ไหวหรอกนะ ที่พี่ชินจะพูดและทำหน้าทำตาออดอ้อนทุกสิบนาทีแบบนี้ ผมซุกไซ้ซอกคอ พรมจูบจนทั่ว ก่อนจะขบเม้มดึงดูดสร้างรอยรักจนขึ้นสีกุหลาบ
 

   ผมหื่นไหมไม่รู้ แต่ถ้าเจอคนที่ผมรักพูดจาแบบนี้จะทนใจแข็งได้อย่างไร  ผมสอดมือเข้าใต้เสื้อยืดลูบไล้วนหน้าท้องก่อนจะเคลื่อนมือไปบีบขยี้ตุ่มไตสีสวยอย่างมันมือ
 

"อ้ะ...ติ...อย่า พี่ยังไม่พร้อม"
 

   พี่ติผลักอกจนผมชะงัก
 

"ผมขอโทษครับ ถ้าทำให้พี่ชินไม่สบายใจ"


   พี่ชินรีบส่ายหน้า

"เปล่านะติ พี่รู้สึกดีมาก เพียงแต่ตอนนี้ พี่อยากมีโมเมนต์แบบนอนกอดกันเฉยๆ"

"ได้ครับ ผมขอโทษที่รุกพี่เร็วไปหน่อย"

"ไม่ต้องขอโทษ พี่ไม่ได้โกรธ แต่ไม่รู้สิ พี่แค่..."


"ไม่เป็นไรครับพี่ชิน เรายังเป็นแฟนกันอีกนาน ค่อยๆเริ่มกันก็ได้ครับ" ผมบอก


"ขอบคุณนะที่เข้าใจพี่"

"ครับ"

 

   ผมดีใจที่พี่ชินพยายามอธิบายให้ผมเข้าใจ ผมไม่ได้หื่นจนหน้ามืดตามัว เพียงแค่ตอนแรก ผมทนไม่ไหวเลยเผยความรู้สึกตัวเองมากไปหน่อยก็เท่านั้นเอง


   เมื่อเราสองคน ต่างอาบน้ำ อาบท่ากันเสร็จเรียบร้อย ผมกระโดดขึ้นเตียงไปหาคนที่นอนรออยู่ก่อนแล้ว ผมดึงตัวพี่ชินเข้ามากอด จูบปลายจมูกพลันจ้องมองใบหน้าพี่ชินที่อยู่ห่างกันแค่คืบ
 

"ทำไมถึงอยากให้ผมกอด"

"พี่นอนคนเดียวมาก็นาน พอวันนึงที่พี่มีแฟนอีกครั้ง พี่ก็อยากให้เขากอดพี่..แค่นั้น"

 

    ผมสบตาคนพูดก็นึกสงสาร ผมรู้แล้วว่า หากจะมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง  พี่ชินให้ผมได้อยู่แล้ว  เพียงแต่ตอนนี้ พี่ชินก็แค่ต้องการความรู้สึกแบบคนรักกันจริงๆ การได้สัมผัส การแตะเนื้อต้องตัวกันแบบพอดิบ พอดีที่ให้ความละมุนละไมในอีกแบบ


    เมื่อผมเข้าใจความต้องการของพี่ชิน ผมจึงกอดรัดเขาแน่นกว่าเดิม


"พี่ชินอยากให้ผมนอนกอดทั้งคืนไหม?"

"ติทำให้ได้ไหม?"

"ได้สิครับ งั้นผมกอดพี่ชินไม่ปล่อยเลยนะ"


  พี่ชินยิ้มกว้างพยักหน้ารัว แล้วโน้มมาหอมแก้มผมทั้งสองข้าง ก่อนจะไถลตัว ซบหน้าซุกลงบนแผ่นอกผม
 

"ขอบคุณนะติ อุ่นดีจัง"

"ฮ่าๆ...ทำไมพี่ชินขี้อ้อนจังครับ"

"ไม่ต้องมาขำ พี่ง่วงแล้ว ขอนอนก่อน ฝันดีนะติ"

"คร้าบบบบ ฝันดีเหมือนกันนะพี่ชิน"
 


   พี่ชินหลับตาลงแล้ว ผมลูบหลังเขาไปเรื่อยๆก่อนกดจูบบนกลุ่มผมนุ่ม และโอบกอดให้ความอบอุ่นตามที่พี่ชินร้องขอ



****1.1****


 กับคนบางคน อาจชอบฟีลลิ่งแค่สัมผัส แบบแค่กอดก็อุ่นใจแล้ว

หนูติก็อย่ารีบรุกพี่เค้าสิคะ อดอยาก ปากแห้งมาจากไหน ความละมุน ละไม หนูอะรู้จักไหม? 5555



ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2018 20:58:39 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่...แฟนกันรักกันแบบใส ๆ ไร้สิบแปดอัพ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 11 เป็นแฟนกันนะ(2)



-ตั้น-

   

"โธ่เว้ย!"


   ผมสบถขึ้นมาอย่างหงุดหงิดที่วันนี้ เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทำให้การจรารจรติดขัด รถจอดนิ่งสนิทราวกับลานจอดมาได้ชั่วโมงเศษแล้ว
 
    ผมได้แต่นั่งสงบอารมณ์บนรถเพราะไปหาวุฒิที่คอนโดไม่ทัน จึงบอกและรบกวนน้องชายให้พาวุฒิไปกินข้าวที่ห้างสรรพสินค้าละแวกนั้นก่อนแล้วผมต้องเปลี่ยนเป้าหมายไปที่นั่นแทน

    สองชั่วโมงผ่านไป หลังจากที่ผมหลุดจากจราจรสาหัสดั่งนรถได้ ผมถึงห้างสรรพสินค้าและเดินตามหาร้านที่น้องชายระบุไว้

    ตอนนี้ ติกับวุฒิกินข้าวเสร็จเรียบร้อย น้องชายผมพาวุฒิมานั่งรอที่ร้านกาแฟ โดยติแวบไปหาชินแล้ว เมื่อรู้ว่าผมใกล้ถึง

   ผมขอบคุณติที่ช่วยอย่างเต็มที่และผมจะตอบแทนน้องชายภายหลัง ส่วนผมก็ต้องรีบรับช่วงต่อไปรับวุฒิที่ร้านกาแฟต่อ

   กวาดตามองวุฒิทั่วร้าน จนสายตาหยุดชะงักตรงโต๊ะกลมริมกระจก วันนี้ วุฒิแต่งตัวดีจนผมไม่อาจละสายตาได้เลย คงไม่ใช่แค่การแต่งตัวดีเพียงอย่างเดียว ดูเหมือนว่าน้องจะทำสีผมใหม่เป็นสีโทนน้ำตาลช็อคโกแลตซึ่งสว่างกว่าสีผมสีเก่า

   น้องดูดีขึ้นและสดใสกว่าเดิม
   
   ผมเดินดุ่มๆไปหาวุฒิที่นั่งก้มหน้า ก้มตาเล่นโทรศัพท์

   หางตาของน้องคงเห็นว่ามีคนนั่งฝั่งตรงข้ามถึงชำเลืองมอง แต่วุฒิดูตกใจที่รู้ว่าเป็นผม



"พ...พี่ตั้น มาได้ไง"

"มารับวุฒิไงครับ"

"ไอ้ติบอกพี่หรอ?"

"ครับ"


"ไอ้เพื่อนเลว"


    ผมไม่อยากให้วุฒิโทษติ เพราะความจริง น้องชายผมเองก็คงลำบากใจไม่น้อย

"อย่าว่าติเลย...ปะ...เรากลับกันเถอะ...พี่อยากคุยกับวุฒิด้วย"

"ใครจะกลับกับพี่"

   ผมยังไม่มีโอกาสได้แก้ตัว วุฒิลุกหนีผมเดินออกจากร้าน ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไล่ตามวุฒิให้ทัน

"วุฒิฟังพี่ก่อน"

"ผมไม่ฟัง เรื่องของเราจบไปตั้งนานแล้ว พี่อย่าพยายามจะรื้อมันขึ้นมาใหม่เลย"

"พี่ขอโทษ วันนั้นพี่ไม่ได้ตั้งใจ"

"เฮอะ! ถ้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ พี่ควรจะหยุดตั้งแต่ผมร้องขอคำแรกไหม?"



   ผมอึ้งไปนิด เมื่อตอนที่วุฒิพูด เขาหันมาบอกด้วยแววตาเศร้าปนผิดหวัง
 
   ผมไม่รู้ตัวเลยว่า ได้ทำร้ายความรู้สึกน้องจนเกิดเป็นบาดแผลขึ้นในใจได้ถึงเพียงนี้

"พี่ขอโทษนะวุฒิ"

"ผมให้อภัยพี่แล้ว แต่ขอร้องอย่าเจอกันอีกเลยครับพี่"

   จังหวะที่วุฒิหมุนตัวกลับไปอย่างไร้เยื่อใย ผมคว้าแขนวุฒิไว้แน่น

"วุฒิ อย่าเดินหนี"

"ปล่อยผม"

    เพราะเราเป็นผู้ชายเหมือนกัน แรงเหวี่ยง ยื้อยุด ฉุดกระชากของทั้งคู่จึงดูเหมือนเป็นเรื่องทะเลาะใหญ่โต ผู้คนที่ผ่านไป ผ่านมาจึงเริ่มมองกันเป็นจำนวนมาก

"พี่จะปล่อยวุฒิไปได้ยังไง พี่ชอบวุฒิ พี่จะไม่ให้วุฒิหนีพี่อีกแล้ว"

   ผมเผลอพูดเสียงดังอย่าทนไม่ไหว ถึงทำให้คนที่แค่เมียงมองกลับหยุดชะงัก


"พะ...พี่ตั้นเป็นบ้าอะไร" วุฒิหน้าแดงก่ำ จังหวะที่น้องเผลอเพลี่ยงพล้ำ ผมกุมมือน้องให้เดินตามแรงของผมไปที่รถ

"พี่ตั้นปล่อยผม"

"ยิ่งดิ้น คนยิ่งมอง วุฒิไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เดินตามพี่ก็พอ"

    ถึงรถผมแล้ว วุฒิยังไม่วายทำท่าจะหนีผมอีก


"ถ้าวุฒิหนีพี่อีก แล้วพี่จับได้ทีหลัง คราวนี้ พี่ไม่ปราณีแล้วนะ ขึ้นรถ!"

      ผมเสียงแข็ง ซึ่งความจริงผมไม่อยากทำแบบนี้ แต่ที่ต้องเล่นบทโหดก็เพื่อให้วุฒิหยุดดื้อสักที 

     คราวนี้วุฒิชะงัก

"ทำไมพี่ถึงเลวได้ขนาดนี้"

     ผมไม่ตอบ แต่ขับรถออกจากลานจอดรถให้ไวที่สุด

     แม้ว่า เราสองคนจะถึงคอนโดแล้ว แต่จนบัดนี้ น้องยังไม่ยอมพูดอะไรกับผมเลยตั้งแต่ขึ้นรถมา ผมถามอะไรน้องก็ไม่ยอมตอบ ผมเลยไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรให้น้องเข้าใจในมุมมองของผมบ้าง

    เดินลงจากรถ อ้อมไปทางฝั่งที่นั่งข้างคนขับ เปิดประตู ดึงแขนวุฒิให้ลงมาจากรถ

"วุฒิครับ ขึ้นห้อง"

"ไม่..."

"ขึ้นห้องไปคุยกันดีๆ เรื่องสำคัญแบบนี้ วุฒิอยากให้คนอื่นได้ยินหรอ?"

"พี่ก็ดีแต่บังคับคนอื่น"



   ผมอมยิ้มไม่พูดอะไร มองคนบ่นแต่ก็ใจอ่อนเดินตามขึ้นห้อง เมื่อถึงที่หมาย ประตูห้องผมปิดลงไม่ทันไร ก้าวยาวๆไปสวมกอดวุฒิจากด้านหลัง


"คิดถึง"

    ผมสัมผัสได้ว่าน้องเกร็ง ตัวแข็งอย่างเห็นได้ชัด


"พี่ทำแบบนี้ทำไม"

"พี่บอกแล้วไงว่า พี่ชอบวุฒิ"

    วุฒิชะงัก ก่อนตอบ


"โอเคครับ ผมรู้ความต้องการของพี่ตั้นแล้ว ถ้าพี่ต้องการแค่เซ็กซ์ ผมยอมให้ก็ได้ แต่หลังจากนี้ พี่ต้องเลิกตอแยผมอีก"


    ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่น้องต้องการสื่อความหมาย ผมชอบวุฒิ แต่ทำไม วุฒิถึงคิดว่าผมต้องการแต่เรื่องอย่างว่า ผมตอบหนักแน่น


"กับวุฒิ พี่ไม่ได้ต้องการแค่เซ็กซ์ พี่ต้องการทุกอย่าง"


   วุฒิแกะมือที่ผมสวมกอดออก น้องก้าวถอยห่างจากผมไปหลายก้าว


"พูดเรื่องของพี่มาเลยดีกว่าครับ"


"วันนี้ไปจองห้องมา จ่ายค่ามัดจำไปเท่าไหร่?"

"ถามทำไม?"

"พี่ถามก็ตอบสิครับ"

"แปดพัน"



      ผมควักเงินในกระเป๋าสตางค์ให้วุฒิ


"พี่จ่ายค่ามัดจำแทนให้ แล้วจากนี้เป็นต้นไป วุฒิมาอยู่กับพี่"


"มะ ไม่มีทาง..."

"ทำไม? วุฒิไม่อยากอยู่กับติ ก็มาอยู่กับพี่ไง ไม่เห็นจะยากเลยแถมไม่เปลืองเงินด้วย"

"พี่ตั้นคิดจะเอาเงินฟาดผมเหรอครับ?"


"แล้วแต่วุฒิจะคิด สำหรับพี่ พี่ก็แค่ต้องการซื้อเวลาที่วุฒิจะต้องไปอยู่ที่อื่น ให้วุฒิมาอยู่กับพี่แค่นั้นเอง"

    ผมว่าวุฒิดูจะชะงักงันกับคำพูดผมอยู่หลายรอบ


"ผมจะอยู่ห้องผม ผมมีเงินจ่ายและผมขอเงินจากพี่ชายแล้ว"

"อย่าเอาแต่ปฏิเสธสิ ให้โอกาสพี่ได้พิสูจน์อีกครั้ง ส่วนเรื่องเงินที่พี่ให้ไปน่ะ วุฒิเอาเงินไปคืนพี่ชายก็ได้นะ"

"แต่...."

"พี่ชายวุฒิจะได้รู้สึกดีที่รู้ว่าวุฒิยืนได้ด้วยขาของตัวเอง วุฒิมาอยู่กับพี่แล้วพี่จะรับผิดชอบทุกอย่าง ชดเชยกับความผิดที่ผ่านมา"



    ผมมองคนที่ตอนแรกยืนกรานเสียงหนักแน่น ตอนนี้สีหน้าเริ่มลังเลและใจอ่อน วุฒิไม่สบตาผม กลับก้มหน้ามองพื้นแล้วตอบอ้อมแอ้ม


"ผมจะรู้ได้ไงว่าพี่จะไม่พาใครมานอนอีก"


"พี่ไม่ได้มีเซ็กซ์กับใครแล้ว และรับรองว่าจากนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก"

"พี่คิดว่าพูดแบบนี้ แล้วผมจะเชื่อเหรอ?"


"พี่ไม่ได้ต้องการให้วุฒิเชื่อคำพูดของพี่ แต่พี่ต้องการพิสูจน์ด้วยการกระทำ วุฒิให้โอกาสพี่สิ...นะครับ..."



   ผมเขยิบเข้าไปใกล้เพื่อมองตาเพื่อนน้องชายและดึงมือน้องมาวางทาบลงบนใบหน้าผม


   ผมยิ้มหว่านเสน่ห์ เพราะคิดว่าวุฒิต้องสงสารและใจอ่อนบ้าง


"นะครับ วุฒิ"

"ก...ก็ได้...ครับ"

"ขอบคุณนะ"

   

    ผมโผกอดวุฒิด้วยความดีใจ ที่สุดท้าย วุฒิยอมเปิดใจให้โอกาสผมได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง





.............


-วุฒิ-



   ผมไม่รู้ว่า ตัดสินใจถูกหรือเปล่า? แต่ผมก็เอ่ยปากบอกไปแล้ว ผมอยากเป็นคนเข้มแข็งกว่านี้ แต่เมื่อเห็นท่าทางพี่ตั้นอ้อนวอน ขอร้อง โดยเฉพาะคำที่บอกชอบ ทำให้ผมใจอ่อนดั่งขี้ผึ้งลนไฟ


   ผมยอมรับว่าคำๆนี้ ทำผมใจสั่น อาจเป็นเพราะความรู้สึกที่เคยปลื้มพี่ตั้น เมื่อนานมาแล้ว มันได้ถูกสะกิดขึ้นโดยพี่ตั้น


    ผมไม่ถึงกับหลงรักขนาดนั้นหรอก ก็แค่คนเคยรู้สึกดี เพราะช่วงที่ผมเรียนมหาฯลัยปีสอง มีวันหนึ่ง พี่ตั้นมาหาติที่มหาวิทยาลัย ตอนนั้น พี่ตั้นดูหล่อและมีเสน่ห์ แถมเฟรนด์ลี่อีกต่าง แต่วันนั้น ผมจำได้ว่าเป็นจังหวะที่ติไปหาอาจารย์ ผมจึงต้องคุยเพื่อฆ่าเวลาก่อน ระหว่างที่สนทนา พี่ตั้นเป็นคนคุยเก่ง แถมยังใจดีเลี้ยงข้าวผมชุดใหญ่ ซึ่งเอาเข้าจริง ตอนนั้น ผมเจอเขาครั้งแรกยังไม่สนิทสนมก็เลยประหลาดใจนิดหน่อยถึงความเป็นมิตร ผมเลยรู้สึกดีและปลาบปลื้ม

    แหละนับตั้งแต่วันนั้น ผมไม่ได้เจอพี่ตั้นอีกเลย แม้จะไปบ้านติก็ไม่เคยเจอ ผมจึงหยุดความรู้สึกนั้นไว้ไม่คิดจะสานต่อ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผมมักได้ยินติพูดถึงพี่ตั้นกรอกหูเสมอว่าไม่เคยจริงจังกับใคร ผมก็ยิ่งขยาด แต่ผมก็ไม่คาดคิดไง ว่าคนที่ผมเคยปลื้มในสมัยเรียนมหาฯลัย กลับมาบอกชอบผมในวันนี้


     โดยเฉพาะตอนที่พี่ตั้นโผกอดผม เมื่อรู้ว่า ผมให้โอกาส ผมใจสั่น หวั่นไหวพอสมควร แต่ผมก็ต้องทำใจแข็ง และยื่นข้อเสนอว่าถ้าจะให้ผมนอนค้างด้วย พี่ตั้นห้ามทำอะไรเกินเลยกับผมอีกเด็ดขาด


    ผ่านพ้นไปด้วยดีกับหนึ่งคืน...


    พี่ตั้นไม่ละเมิดกฏผม เขาไม่ทำอะไร นอกจากขอนอนกอดผมเท่านั้น ผมดีใจที่เขาเชื่อฟังคำขอ


    ยามสายของวัน ผมตื่นแล้วแต่ยังนอนกลิ้งอยู่บนเตียงเพียงลำพัง เพราะผมคิดถึงถ้อยคำที่พี่ตั้นตื่นมากระซิบข้างหูผม เขาคงไม่รู้ว่าตอนนั้น ผมตื่นแล้ว


"พี่จะดูแลวุฒิสุดความสามารถ ให้โอกาสพี่หน่อยนะ"


    พี่ตั้นบอกและจูบซับหลังคอ ก่อนจะลุกจากเตียงไป

    แล้วผมเป็นบ้าอะไรไม่รู้ที่ดันใจสั่นกับประโยคที่เขากล่าวเช่นนั้น

    ยิ่งคิดก็ยิ่งเขิน ผมยิ้มมุมปาก ก่อนจะคว้าผ้าขนหนู รีบไปอาบน้ำ เปิดประตูก็เจอะพี่ตั้นอยู่ที่ครัว

   ภายนอกเขาเหมือนผู้ชายเจ้าชู้ ร้ายกาจ แต่พออยู่โซนครัว กำลังจัดวางอาหารใส่จาน ผมว่ามันดูอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก


   พอพี่ตั้นเห็นผมเดินออกมาเขายิ้มเบาบางและเอ่ย


"วุฒิครับ พี่ทำขนมปังปิ้งกับไข่ดาวและแฮม กินได้ไหม?"

    ผมหลุบตาลงต่ำแต่ก็ตอบ


"กินได้ครับ ขอบคุณนะครับ"


    ผมรีบปรี่เข้าห้องน้ำ เม้มปากกลั้นยิ้มไม่ให้พี่ตั้นรู้ว่าผมดีใจที่อีกฝ่ายใส่ใจที่จะตื่นมาทำอาหารเผื่อผม...


    ยืนคิดอยู่ในห้องน้ำตั้งนานกว่าจะเปิดฝักบัว ถ้าคราวนี้ ผมเปิดใจให้พี่ตั้นอีกสักหน ผมคงไม่เจ็บเหมือนตอนพี่ชินใช่ไหม?


    จนกระทั่ง อาบน้ำเสร็จ ผมไม่เห็นพี่ตั้นอยู่ที่ครัว เดินเข้ามาในห้องนอนก็ไม่เจอ แต่สิ่งที่เห็นอยู่ปลายเตียง คือ เสื้อผ้าและกางเกงขาสั้นของพี่ตั้นที่เขาจัดเตรียมไว้ให้ผมสวมใส่


   ผมกัดปากอย่างยิ้มๆ ที่เห็นพี่ตั้นดูแลผมจริงอย่างที่ปากพูด


   ผมสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย นั่งเป่าผมที่เปียกด้วยไดร์เป่าผม พอผมแห้ง ผมเดินออกมาจากห้องนอนพี่ตั้น ตัดสินใจว่าจะลดอคติ และจะพูดดีๆกับเขา


   แต่เดินไปได้แค่สองก้าวก็ชะงัก ก้าวขาต่อไม่ออก  เมื่อภาพตรงหน้า คือ พี่ผู้ชายผมสีบลอนด์ยืนนัวเนียพี่ตั้นอยู่ แม้พี่ตั้นจะยืนอยู่เฉยๆก็เถอะ แต่การที่ผมเห็นแบบนี้บอกเลยว่าเหี้ยมาก
   
    นี่น่ะเหรอ? คนที่ว่า ขอโอกาส

    ก็ยังมักมากไม่เปลี่ยน


    ผมไม่อยากเห็นภาพอุจาดตา จากที่ว่าจะกินขนมปังปิ้ง ไข่ดาวที่พี่ตั้นทำให้ ผมพับโครงการ ไม่งอแง ไม่โวยวาย ไร้สาระ เดินกลับเข้าห้องนอนคว้ากระเป๋าสตางค์ แล้วเดินออกมาหวังจะกลับบ้านทันที
 
 
    เดินดุ่มๆ กระแทกไหล่ใครอีกคนไปยังประตูห้อง พี่ตั้นมือไวจับแขนผมไว้ได้ทัน


"วุฒิจะไปไหน?"

 "มันไม่ใช่เรื่องของ...อื้อ.."



    ผมไม่คิดว่ามือหนาจะกระชากแขนผมอย่างแรงจนปะทะกับอกแกร่ง และล็อคคอผมเพื่อประกบจูบ ผมเหวอเพราะไม่คิดว่าพี่ตั้นจะใช้วิธีนี้

 
   ผมทุบอกให้พอ แต่พี่ตั้นไม่ยอมหยุด กลับจับริมฝีปากล่างให้ผมเผยอและสอดปลายลิ้นเข้ารุกล้ำสู่ภานมนโพรงปาก เขาทำมากกว่าแค่ปากแตะปากไปแล้ว


    เรายังคงจูบกัน ผมใจสั่น ตัวร้อนผ่าว และเขินจัด เนื่องจากมีคนอื่นอยู่ด้วย ผมไม่อยากให้พี่ตั้นรู้ว่าผมใจเต้นแรงที่เขาจูบ จึงหยิกแขนเขาสุดแรงให้หยุด พี่ตั้นถึงผละแต่มิวายใช้ปลายนิ้วโป้งเช็ดน้ำใสที่เลอะขอบปากของผมและส่งยิ้มหวานละมุนมาให้


    พี่ตั้นละสายตาจากผม หันไปหาผู้ชายอีกคน แต่ขณะเดียวกันมือของพี่ตั้นเลื่อนมาโอบเอวผมไว้เหมือนกลัวหนี


"เนมครับ นี่วุฒิ แฟนตั้นเอง"


    ผมหันขวับกับคำขี้ตู่ทันที ผมยังไม่เคยบอกพี่ตั้นเลยสักคำ ว่าผมเป็นแฟนกับเขา


"หืม! เอากันอย่างนี้เลยเหรอ? หักหน้ากันแบบนี้เลย?"


   ผมเห็นผู้ชายผมสีบลอนด์เทาหน้าดำ หน้าแดง และคงโกรธจัดที่โดนฉีกหน้ากันเห็นๆ


"ขอโทษ ตั้นไม่ได้ตั้งใจจะหักหน้าเนม เพียงแต่ตั้นไม่อยากเสียน้องเค้าไป คนนี้ ตั้นจริงจัง"


 
   ผมห้ามใจตัวเองไม่ให้สั่น หวั่นไหว และย้ำตัวเองตลอดว่าอย่าเชื่อกับคำตลบแตลงของคนมักมาก แต่เอาเข้าจริง ผมกลับดีใจจนเนื้อเต้น


"พี่ตั้น หยุดเถอะครับ ผมไม่อยาก..."

จุ๊บ!

  ผมตกใจเมื่ออีกฝ่ายปิดปากด้วยจูบ จนผมไม่กล้าพูดอะไรอีก


"วุฒิหยุดพูด เรื่องนี้ พี่จัดการเอง" พี่ตั้นหันมาดุ ก่อนจะวกสายตากลับไปหาคนที่ว่าชื่อเนม


"ขอโทษนะเนม เราจบกันแค่ตรงนี้เถอะ!"

"หมายความว่าไงวะ ตั้น"

"เราต่างก็รู้ดีมาตั้งแต่แรกว่าที่ทำอยู่มันก็แค่เรื่องสนุก"


เพี้ยะ!


"เลวจริงๆ ที่เนมมีเซ็กซ์ด้วย ก็หวังนะว่าตั้นจะสนใจเนมจริงๆ"

"ตั้นขอโทษนะ แต่ตั้นไม่ได้..."

"คนชั่ว อย่าหวังว่าจะเจอกันอีกเลย"

 

    ผมเห็นผู้ชายผมสีบลอนด์เทา ตบหน้าพี่ตั้นอีกครั้ง ก่อนจะปรายตามองผมเหยียดๆ และฮึดฮัดเดินออกจากห้อง ผมสะบัดแขนพี่ตั้นทิ้ง และไม่คิดถามหรือสงสารที่เขาโดนตบหน้าด้วย

    มันเป็นสิ่งที่สมควรมากๆ


"ไหนพี่ตั้นบอกว่าเคลียร์หมดแล้วไงครับ ทำไมวันนี้ ยังมีคนมายุ่งย่ามล่ะ ขอร้องนะครับพี่ อย่าเอาผมเป็นของเล่น เห็นอย่างนี้แล้วผมไม่มีทางเป็นแฟนกับพี่แน่ๆ"

   พี่ตั้นยกมือลูบแก้มตัวเองก่อนจะสบถไม่เป็นภาษา จากนั้น เขาปรับท่าทาง และพูดกับผมด้วยโทนเสียงนุ่ม


"พี่บอกสักคำรึยังว่าวุฒิเป็นของเล่น อย่าคิดแทน พี่จริงจังกับวุฒิ ถึงกล้าบอกคนอื่นไงว่าวุฒิเป็นอะไรกับพี่ อดีตพี่เลว พี่รู้ ...แต่สนใจแค่ปัจจุบันที่มีแค่พี่กับวุฒิได้ไหม?"


"คนมักมาก ติดเซ็กซ์อย่างพี่ มั่นใจเหรอว่าจะหยุดที่คนเดียวได้ ไปบำบัดโรคติดเซ็กซ์กับหมอก่อนไหมพี่? ผมไหว้ล่ะ"

    ผมตั้งใจว่าแรงๆให้เขาได้รู้สึก แต่ผมไม่คิดนะว่า พี่ตั้นนอกจากจะไม่สะทกสะท้าน แล้ว แกยังยิ้มและดึงเอวผมไปกอด ซุกหน้าลงซอกคอผมแล้วกระซิบ


"ทำไมต้องไปให้หมอบำบัด ก็วุฒิไงบำบัดให้พี่ได้ไหม โรคติดเซ็กซ์ที่ว่าน่ะ!."

"อ...ไอ้...พี่ตั้น"



"หืมม...อะไรหรอครับ? จากนี้ วุฒิเป็นแฟนพี่แล้วนะ"

"โรคจิต ชอบบังคับคนอื่น จีบก็ยังไม่ได้จีบ จะข้ามขั้นเป็นแฟนแล้ว อะไรวะ"



     ผมใจเต้นแรงทุกครั้งเวลาอยู่ใกล้พี่ตั้น เขาจูบซอกคอสองที ก่อนกลับมายืนตัวตรงและมองหน้าผม


"โอเคครับ พี่ไม่บังคับก็ได้ ให้วุฒิเลือกเลยตอนนี้ ว่าอยากเป็นแฟนพี่ไหม? ถ้าอยาก ให้พยักหน้า ถ้าไม่อยากก็ให้พยักหน้า"


    เหมือนโดนสะกดจิต หรือเป็นผมเองที่รก ลนลาน เพียงได้ยินคำสุดท้ายว่าถ้าไม่อยากก็พยักหน้า ผมจึงพยักหน้ารัว แต่ทำไมผมถึงเห็นพี่ตั้นยิ้มเจ้าเล่ห์

"ขอบคุณนะที่ตกลงเป็นแฟนกับพี่"

"ห้ะ!...เดี๋ยวนะ...อะไร พี่ตั้น"

"เอาน่า เป็นแฟนกับพี่สนุกนะจะบอกให้"

"เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน ผมตอบผิดหรอ?"



    พี่ตั้นไม่ตอบ แต่ดึงร่างผมเข้าไปกอด ทั้งๆที่ผมยังงุนงงไม่หาย แต่สติและเรี่ยวแรงกำลังจะหาย เมื่อพี่ตั้นใช้ปลายลิ้นร้อนเลียไล้ไล่ตามซอกคอของผมจนเกิดความเสียวซ่านทั่วร่าง


"พี่ตั้น เรายังคุยกันไม่จบ อ้ะ อย่านะ...เ..ว้..ย อ้ะ.."


   พี่ตั้นหยุดโลมเลียและตอบ


"พรุ่งนี้ค่อยคุยนะครับ เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกเยอะ"

    ผมยอมรับว่าดันเสียวกระสันไปกับการกระทำของพี่ตั้นตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ผมจะไม่ยอมให้พี่ตั้นเกินเลยเด็ดขาด รวมถึง ผมยังมีเรื่องต้องเคลียร์เกี่ยวกับการเป็นแฟนกันให้ชัดเจนกว่านี้

 

...............................


 คู่นี้มันก็จะมึนๆหน่อยๆ อย่างว่าเริ่มก็มึนๆ จบก็ต้องมึนๆ 55555
อ้อ! ตอนหน้าก็จบแล้วจ้า



แท่น แท้น แทนนนนนนน....!!!

เรามีนิยายเรื่องใหม่แล้วนะคะ 5555
 

*...-+-...-+-เพื่อนพ่อ-+-...-+-...*
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67267.0 



ขอบคุณน้าาาาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2018 01:11:17 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

โถ่...วุฒิผู้ปากไม่ตรงกับใจ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
 

ตอนที่ 12 อมยิ้มสื่อรัก (ตอนจบ)






-ชิน-





     นับจากวันที่ผมและติตกลงเป็นแฟนกันกลับไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกัน เนื่องจาก ผมเองก็ยุ่งเรื่องงานจนปวดหัว ไหนจะมาเจอะเรื่องที่ชวนเสียความรู้สึกอย่างพอล คนที่ผมยกให้เป็นเพื่อนสนิท แต่กลับหักหลัง เอาไอเดียต่างๆที่ทีมช่วยกันระดมความคิดเห็นไปบอกบริษัทคู่แข่งที่แฟนของพอลทำอยู่ ไม่เพียงแต่ไอเดีย แต่ยังมีการฮั้วกันกับซัพพลายเออร์ที่ทางบริษัทผมติดต่อไว้ พอลก็เอาไปให้บริษัทของแฟนตัวเองทั้งหมด เพียงเพราะคำเดียว คือ ผลประโยชน์ ที่ได้จากการแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์กัน มันทำรายได้ให้พอลเป็นกอบเป็นกำ



     ผมเครียดเพราะผมเป็นเจ้าของบริษัท เพียงแต่ผมใช้ชื่อแม่ของผมในการจดทะเบียนบริษัทรวมถึง ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ผมก็จ้างคนอื่นมาดำรงตำแหน่งนี้ ผมไม่ได้บอกใครในบริษัท แม้แต่ติเอง มีเพียงอชิและแท็คเท่านั้นที่รู้


      ใช่เพียงแต่เรื่องงานที่พอลทำผมเจ็บแสบ เรื่องที่ไมค์รู้ที่อยู่บ้านของผมก็ได้มาจากพอลเช่นเดียวกัน ซึ่งคนที่จับได้คือ แท็ค ได้ยินพอลคุยโทรศัพท์กับแฟนตัวเองในห้องน้ำ ผมไม่ถามเหตุผลต่อว่าเพราะอะไร ผมรู้ว่า การทำแบบนี้ พอลคงไม่ชอบขี้หน้าผมแน่ๆ ผมไม่ได้เอาความอะไรและจะให้อภัย เพียงแต่ผมจะไม่เลิกจ้างพอลเพื่อต้องเสียค่าชดเชยตามกฏหมายแรงงานให้กับคนแบบนี้ ผมตกลงกับพอลให้เขายินยอมลาออกจากบริษัทนี้เอง พอลจำใจตกลงและเหลือไม่ถึงอาทิตย์ พอลก็จะพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของบริษัทนี้โดยสมบูรณ์



      ส่วนเรื่องโทรศัพท์มือถือของไมค์ที่ติได้มาคราวที่มีเรื่องมันยังนอนแอ้งแม้งอยู่ในลิ้นชัก โดยที่ผมไม่เคยหยิบมาดูหรือคิดรื้อค้นข้อมูล ผมแค่มีไว้ให้อุ่นใจว่าไมค์จะไม่เอามันมาขู่ผมให้นึกกลัวอีก


       อีกอย่าง ติ ทำให้ผมเลิกสนใจอดีต กล้าเผชิญหน้ากับปัจจุบันมากขึ้น และมันจะมีเหตุผลอะไรที่ผมต้องสนใจคลิปเหล่านั้น และอาจเป็นเพราะผมรักติมากขึ้น


     ผมโชคดีที่มีติเคียงข้าง ถึงแม้เราจะยังไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน แค่ได้เห็นข้อความสั้นๆที่น้องส่งมาว่า...เป็นห่วง...แค่นั้น มันก็ชุบชีวิตให้ผมมีชีวาได้จริงๆ


     อันที่จริง ตอนที่ผมโสดก็รู้สึกดีเหมือนกัน เพราะผมได้คุยและปรับความเข้าใจภายในจิตใจกับตัวเอง ได้รักตัวเองมากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าพอได้มีแฟนอีกครั้ง มันกลับเติมเต็มชีวิตผมได้อย่างสมบูรณ์แบบ


     ผมเคลียร์งานให้วุ่นน้อยที่สุด เพื่อจะได้ใช้เวลากับคนที่ผมรัก จนเวลาล่วงเลยมาราวสัปดาห์กว่าๆ ผมก็จัดการพาตัวเองมาอยู่กับติได้ตามปรารถนา


      วันเกิดติ


      ผมรู้มาจากปากติเองที่บอกแบบไม่มีปิดบังว่าวันเกิดนั้น ติอยากมีเวลาอยู่กับผมสองต่อสอง ตอนนี้ ผมถึงพาติมาดูหนังพักผ่อน


       แม้ว่าติอาจดูธรรมดาในสายตาคนอื่น แต่ผมชอบความเป็นคนธรรมดาและความเป็นธรรมชาติของเขา เพราะติทำให้ผมได้เป็นตัวเอง และไม่รู้สึกต้องแสร้งเป็นใครให้เหนื่อยใจ อีกประการ ติใส่ใจในความรู้สึกของผมมาก ผมจึงอยากทำอะไรตอบแทนเขาบ้างก็เท่านั้น...


"พี่ชินคนน้อยดีเนอะ"


      ผมมองติที่อมยิ้มแปลกๆ เมื่อจบเพลงสรรเสริญพระบารมี ผมและน้องหย่อนกายลงนั่งที่นั่งแถว E



"ไม่ดูหนังเหรอ ถามมากจัง?"




ฟึ่บ!


      ผมคว้าผ้าห่มออกมาจากกระเป๋าเป้ เพื่อคลุมตัวระหว่างดูหนัง ผมเป็นคนขี้หนาว เลยพกติดตัวอยู่บ่อยๆ แต่ผมไม่คิดหรอกว่าการที่ผมนำผ้าห่มมาคลุมตัว จะเป็นการจุดประกายให้ใครบางคน คิดทะลึ่ง เมื่อมือของรุ่นน้องคืบคลานเข้าใต้เนื้อผ้าห่มผืนบาง

   

"ติจะทำอะไร"

"ผมหนาว ขอซุกมือหน่อย"


     แม้มันจะมืด แต่แสงสว่างจากหน้าจอภาพยนตร์ก็ทำให้ผมเห็นคนยิ้มเจ้าเล่ห์ได้ชัด จะลองดูซิว่าติจะมาไม้ไหน ผมนั่งนิ่งเมื่อมือหนาเริ่มอยู่ไม่สุก ลากมือลงต่ำมาลูบไล้ตามแนวยาวของอวัยวะเพศ ผมตีมือให้น้องหยุด



"พี่จะดูหนัง อย่าหื่นสิ อื้อ..."


      ผมตกใจมากที่ติพุ่งตัวมาชิดผม ใช้มือที่ว่างรั้งคอผมไปประกบปาก  ผมรีบผละเพราะนี่ คือ โรงหนัง

      ผมรู้ว่าช่วงนี้ เราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันแต่ผมไม่คิดว่าน้องจะกล้าจูบผมในพื้นที่สาธารณะเช่นนี้

      ถึงแม้แถวที่เรานั่งชมภาพยนตร์จะไม่มีใครก็ตาม แต่เพราะโรงหนังอันกว้างใหญ่รวมถึงมีกล้องวงจรปิด ก็ทำให้ผมตื่นเต้น และรู้สึกกลัวเพราะไม่เป็นส่วนตัว


"ติ พี่จะดูหนัง"


    รีบผละจากจูบ หยิกเข้าที่แขนแรงๆ ให้น้องมีสติและรู้ตัวว่าเราไม่ได้อยู่กันที่บ้าน


"วันเกิดผมแท้ๆ แต่ผมกลับต้องมาโดนแฟนดุหรอ?"

"พี่ขอโทษครับ แค่มันผิดเวลานะ"

"ผมคิดถึงพี่จะแย่อยู่แล้ว ผมแค่ทนไม่ไหวที่จะ....เฮ้อ...โอเคครับ"



      ผมมองน้องที่ตัดบทเองอย่างน้อยใจ ผมรู้สึกผิดในทันที ผมไม่ได้ต้องการให้ติรู้สึกแย่ แต่วันนี้ วันเกิดติ ผมอยากให้เขามีความสุขในแบบที่ผมอยากให้เป็น ไม่ใช่ให้น้องมาทำให้เกิดการผิดแผน

    มองคนหน้างอในความมืด จึงต้องดึงมือติมากุมมือไว้ใต้ผ้าห่ม อ้อน เอาใจด้วยการจุ๊บซอกคอติเบาๆ ก่อนจะเอนศรีษะพิงบ่าคนข้างกายเพื่อดูหนังไปด้วยกัน


จุ๊บ

     ติหันมากดจูบบนกลุ่มผมสีเข้ม และบอก


"เพราะพี่เป็นอย่างนี้ไงครับ ? ผมถึงโกรธพี่ไม่ลง"


       


        ผมยิ้มมุมปาก จากนั้น เราดูหนังกันอย่างตั้งใจ จนผ่านไปสองชั่วโมงเศษ เราทั้งคู่ก็พาตัวเองเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์และกินข้าว กินปลาก่อนกลับบ้าน


      สำหรับผมหลังจากฟมดงานยุ่ง มันไม่ต้องมีกิจกรรมทำอะไรมาก แค่การได้อยู่กับน้อง ผมว่ามันก็ผ่อนคลายเหมือนกัน พอผมนั่งนึกถึงเดือนหน้าก็รู้สึกตื่นเต้น ที่ติตัดสินใจย้ายมาอยู่บ้านผมตามที่เคยขอไว้


      ผมดีใจที่ผมไม่ต้องนอนคนเดียวเปล่าเปลี่ยว และผมจะมีคนให้นอนกอดทุกๆคืนแล้ว



      หลังจากที่เราจัดการอาหารเสร็จขึ้นรถ  ก่อนที่ผมจะขับรถออกจากห้างสรรพสินค้า ผมยื่นอมยิ้มหนึ่งช่อแบบที่ติชอบให้ผมตอนเป็นบัดดี้


       เพราะ อมยิ้ม เป็นจุดเริ่มต้นที่ติอยากให้ผมยิ้ม และอมยิ้มนี่เองที่ทำให้ผมนึกถึงติทุกครั้ง

      "อมยิ้ม" เป็นสัญลักษณ์ที่เรารู้กันสองคน




"สุขสันต์วันเกิดครับ"     


"ผมได้แค่นี้เองหรอ?"


"พี่ก็พาไปเลี้ยงหนังแล้วไง ยังไม่พอใจเหรอ?"
 


      ผมถามคนหน้าจ๋อย แต่ไม่นานใบหน้านั้นก็เปื้อนยิ้ม เมื่อเพิ่งเห็นกระดาษแผ่นเท่านามบัตรที่มีข้อความที่ผมเขียนแปะอยู่ข้างช่ออมยิ้ม


'สุขสันต์วันเกิดครับ ขอให้มีความสุขนะและไม่ว่าติจะเจอปัญหามากแค่ไหน พี่จะอยู่ข้างๆเพื่อให้ติยิ้มได้ในทุกๆวันเหมือนที่ติชอบบอกพี่นะครับ'

   
     ลอบมองคนอ่านข้อความพลางยิ้มเขินจนต้องยิ้มตาม ครู่หนึ่งผมเห็นติเบือนหน้าหนีไปนอกหน้าต่างรถและบอก


"ขอบคุณนะครับ ผมไม่คิดว่าพี่ชินจะมีมุมหวานอย่างคนอื่นเขา"

"แล้วชอบไหม?"

"ชอบครับ ขอบคุณนะพี่ชิน"

"ครับ"




    ผมยิ้มและละสายตาจากคนที่ยังยิ้มแฉ่งหันไปมองท้องถนนดังเดิม

    ติเป็นผู้ชายที่มีความเป็นผู้ชายจริงๆ ไม่หล่อขาว ตี๋ ฉบับเกาหลี แต่เขาดูดี มีผิวสีแทน หน้าคมเข้มคล้ายชายไทยสมัยก่อน สำหรับผม ผมว่ายิ่งมอง ติยิ่งมีเสน่ห์อย่างน่าดึงดูดอย่างไม่มีเหตุผล


     ไม่น่าเชื่อเลย พอกลับมามีความรัก หลังๆมานี้ ผมก็เพ้อและมีแต่เรื่องของติเต็มหัวสมอง


    หลังจาก รถเคลื่อนตัวออกมาจากห้างได้ไกล ตอนนี้ ผมจอดติดตรงสี่แยกไฟแดง



   
"พี่ชินครับ"


"ครับ?"
ผมหันไปมองหน้าแฟนที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์


"ช่วยผมกินหน่อย"   
   
     
     ผมชะงักหน้าแดง เมื่อติดูดอมยิ้มเสร็จ ยื่นมาให้ผม เหมือนกับตอนที่ผมยั่วยวนติครั้งที่ไปทะเลหนก่อน


"เอาคืนพี่เหรอ?"

"เปล่าสักหน่อย ก็แค่อยากให้พี่กินอมยิ้มแท่งเดียวกับผมเท่านั้นเอง"



    ผมยิ้มกรุ้มกริ่ม


"ถ้างั้นก็ป้อนพี่หน่อยสิ"


    ติยิ้มมุมปากและยื่นอมยิ้มมาให้ พอผมอ้าปากจะรับอมยิ้มในมือของเด็กหนุ่ม มันกลับเป็นปลายลิ้นที่ติสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของผมแทน


"อิ...อื้อ..."


     ผมใจเต้นตึกตักรัวและเร็ว เมื่อติกดจูบหนักๆที่ปาก ราวกับชดเชยช่วงเวลาที่ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดและสัมผัสกัน


      ภายในห้องโดยสารรถยนต์ กำลังอบอวลด้วยความรัก ความโหยหาและปรารถนาอย่างแรงกล้า เราจูบกันดูดดื่มอย่างไม่มีใครยอมใคร และกำลังเตลิดไปไกล เมื่อติใช้มือขยำ เค้น คลึง น้องชายของผมจนตื่นตัวและขยายขนาดเติบโตเต็มที่...


     จังหวะนั้น...


ปรี้นนนนนนนน!


    เสียงแตรรถยนต์บีบลากยาวช่วยเรียกสติ ผมสะดุ้งและนึกอายที่มัวแต่ฝักใฝ่ในกามจนไม่รู้ตัวเลยว่าสัญญาณจราจรไฟเขียวแล้ว


"หวานดีนะครับ พี่ชินว่าไหม?"



    เหลือบมองคนไม่สะทกสะท้านในความผิดที่ริเริ่มจูบไม่รู้เวล่ำ เวลา จนรถยนต์ที่ตามหลังมาป่านนี้คงด่าไปถึงต้นตระกูลของผมแล้วแน่ๆ


   ตัวผมเองก็นึกละอายใจที่ไม่ยอมหยุดทำ เพราะยอมรับว่ามันก็ตื่นเต้นไม่น้อย และมืออุ่นๆของน้องที่ลากผ่าน คลำคลึงน้องชายผมก็เป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ยากจะหยุดยั้งเช่นกัน


     ถ้าไม่ติดว่าอยู่บนท้องถนน เผลอๆ อาจเป็นผมก็ได้ที่เป็นฝ่ายกระชากคอน้องมาจูบ และเอ่ยปากบอกว่า อย่าเสียเวลาเลยเรามาทำกันต่อเถอะ...


     ไม่คิดว่าความห่างเหินจะทำให้ผมต้องการตัวติขนาดนี้


     แหละตั้งแต่ที่เราจูบกันจนมีรถคันหลังบีบแตรไล่ จากนั้น เราสองคนก็เงียบและไม่คุยอะไรกันอีก จนมาถึงบ้านของผม


     เปิดประตูกระจกใสก้าวเท้ายาวๆเดินเข้าตัวบ้าน ยังไม่ทันจะเดินไปถึงแผงไฟตรงผนัง ติรั้งเอวผมไปกอดแน่นและเหวี่ยงผมลงโซฟา ก่อนที่น้องจะขึ้นมานอนทาบบนตัวผมแล้วเอ่ย


"พี่ชินครับ วันนี้วันเกิดผม"

"ค...ครับรู้แล้ว ติจะอ้อนเอาอะไรเหรอ? ลุกจากตัวพี่ก่อนนะ"
ผมบอกน้องเสียงเบาและสั่น

"ผมอยากผูกพันกับพี่มากขึ้น"


    ผมกำลังจะบอกน้องอีกครั้งว่าให้ลุกจากตัวผมก่อนที่จะ....



Happy birthday to you...
Happy birthday to you
Happy birthday Happy birthday......
Happy birthday to youuuuuuuuu....



     เพียงแสงไฟในบ้านสว่างวาบขึ้น ติตกใจทำหน้าเหรอหรา เมื่อเห็นวุฒิ และพี่ตั้น แต่ยิ่งไปกว่านั้น ติกระโดดลุกออกจากตัวของผมและยืนตัวตรง เมื่อเห็นแม่ถือเค้กมาให้


"แม่...."


    ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จัดเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อยและอายจนรู้ว่าหน้าร้อนผ่าว เพราะ
ผมรู้มาตลอดว่ามีคนรออยู่ในบ้าน เนื่องจากผมเองที่เป็นคนวางแผนเซอร์ไพร์สน้อง ผมถึงเกร็งพอสมควรตอนที่ติขึ้นมานอนบนตัวผม ตอนนี้ผมก้มหน้า ชำเลืองมองคนรักที่หลับตาอธิษฐาน


     เมื่อติเป่าเทียนวันเกิดจนดับ ตั้นรับเค้กไปถือ ติโผกอดแม่ทันที


"มีแฟนไม่บอกแม่รึไง แล้วที่แม่ได้ยินคืออะไร? ...อยากผูกพันกับพี่มากขึ้น?..ไหนอธิบายแม่มาซิ"


"คือ...หนู...หมายถึง..."


    ติผละจากการกอดแม่ และก้มหน้ากระอึกกระอัก


   อย่าว่าแต่ติเลยที่อายจนตอบไม่ได้ ตอนนี้ ผมเองก็อายไม่แพ้กัน เพราะนึกไม่ถึงว่าจะผิดแผนตรงที่น้องมานอนบนตัวผม แทนที่จะเป็นการเดินเข้าบ้านปกติ และทุกคนถือเค้กมาอวยพร พอเจอแบบนี้ ผมได้แต่ยืนตัวลีบ ก้มหน้างุด



"ก็บอกแม่ไปเลยสิว่าอยากได้ชินอะ"

"ไอ้พี่ตั้น เงียบเลยว่ะ พี่เองก็เหมือนกันนั่นแหละ อยากได้ไอ้วุฒิจะแย่ ใช่ไหมล่ะ"



      พอคำว่าวุฒิโผล่มาจากบทสนทนา ผมเหลือบมองวุฒิเกาคอแก้เก้อ ผมดีใจที่วุฒิมีความรักครั้งใหม่ และได้คบกับตั้น ผมเชื่อว่าเขาดูแลวุฒิได้ดี และดีใจที่วุฒิไม่โกรธเกลียดผมที่ไม่รับรักในคราวที่ผ่านมา



"นี่จะเถียงกันให้ได้อะไรขึ้นมา แม่ยืนทนโท่อยู่ตรงนี้นะ อายคุณชินบ้างสิ"

"เอ่อ...ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณหรอครับ คือ..."


    ผมพยายามบอกความต้องการของตัวเอง แต่ไม่คิดว่า จู่ๆ ติจะตั้งสติรวบรวมความกล้า คว้ามือผมไปจับมือสอดประสานปลายนิ้วเข้าหากันแนบแน่น


"โอเคครับ ที่ผ่านมาหนูขอโทษที่ไม่ยอมบอกว่า หนูคบพี่ชิน หนูแค่รอจังหวะที่เหมาะเจาะกว่านี้ ส่วนเรื่องที่แม่ได้ยิน ก็ตามนั้นแหละแม่ ผมรักพี่ชิน ถึงจุดหนึ่ง ผมเลยอยากให้บางอย่างของผมเชื่อมโยงหาพี่ชิน เพื่อผูกพันกันมากขึ้น"


     แม้ถ้อยคำที่ติบอกแม่จะไม่หยาบโลน แต่ทำไมพอได้ยิน ผมหน้าร้อนผ่าวยังไงไม่รู้


      ผมจะไม่เขินเลย ถ้าตั้นจะไม่ส่งสายตาล้อเลียนมา ผมอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ไหน ขากนั้น ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอจากแม่ของติ


     อันที่จริง แม่ของติรู้แล้วว่าผมกับน้องเราคบกัน ผมอาจจะผิดที่ชิงตัดหน้าติในการบอกเรื่องสำคัญ แต่เนื่องจากผมต้องการให้แม่แฟนร่วมมือเซอร์ไพร์สลูกชายในวันเกิดจึงจำเป็นต้องบอก


   ผมประหลาดใจเล็กน้อยตอนที่แม่ของติรู้เรื่องแล้วแต่ไม่โกรธหรือรับไม่ได้ที่ผู้ชายสองคนชอบกัน กลับบอกว่าดีใจ เพราะเธอถูกชะตาผมตั้งแต่ตอนที่เธอเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการขอโทษผมนั่นแหละ


     เธอมั่นใจและสัมผัสได้ว่าผมจะดูแลติได้ดีเหมือนเธอจะสบายใจถ้าฝากติไว้กับผม

   

"โอเค แม่เข้าใจแล้ว ถ้างั้นติก็ขึ้นห้องไปพักผ่อนเถอะ ส่วนตั้นมาคุยกับแม่เดี๋ยวนี้" ผมมองแม่ของติที่ตีแขนลูกชายคนโตพลางลากไปนั่งที่โซฟา คงไม่พ้นเรื่องราวระหว่างวุฒิกับตั้นแน่นอน ผมไม่สนใจเรื่องของคนอื่นเท่ากับแฟนผมคนนี้


    ติตัดเค้กแบ่งเป็นชิ้นเรียบร้อย ก็บอกว่าจะลงมากินเค้กภายหลัง เขาขอเดินขึ้นไปเก็บของก่อน พอมาถึงห้องนอน ผมยังไม่ทันปิดประตูให้สนิท ติดึงแขนผมไปที่เตียง กระโดนนั่งคร่อมบนตัวผม


"อ้ะ...ติอะไรกัน อย่านะ มีคนอยู่"

"วางแผนแนบเนียนแถมไม่ยอมบอกผมเลยนะ"


   ผมยิ้มทะเล้นให้แฟน แล้วตอบ


"ถ้าพี่บอกจะเรียกว่าเซอร์ไพร์สไหมล่ะ?"

"หึๆ...ได้..."


"ขะ...ขำอะไรติ"

"วันนี้ คือวันของผม ผมจะทำอะไรก็ได้ ถ้างั้น คืนนี้ ผมขอ...นะ"


"ดะ...เดี๋ยว พี่อยากกินเค้กวันเกิดอะ ลงไปกินเค้กก่อนนะ...นะ ติ นะ" 


    ผมอ้อนว้อนคนอายุน้อยกว่า ความจริง ผมรู้ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องมีกิจกรรมสร้างความผูกพันกันอยู่ดี แต่พอถึงเวลาจริงๆ ที่ตอนนี้ มีทั้งแม่แฟนและพี่ชายแฟนอยู่ในบ้าน ผมก็เกิดอาการกลัว เกร็งและไม่กล้าจะปฏิบัติขึ้นมา






***1.1***


บอกมาค่ะ พี่ชินกลัวอะไร? กลัวเสียงจะดังทะลุออกไปนอกห้องใช่ไหมคะ? แหะๆ

อีกพาร์ทก็จบบริบูรณ์ค่ะ

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่ะ
:z1: :z1: :z1: :o8: :-[ :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2018 20:06:32 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อะไรคือตอนจบ แต่ยังมีอีกพาร์ทก็จะจบบริบูรณ์?

อ่อ  ตอนจบ  ส่วนอีกอันที่จะตามมาคือ  ตอนจบบริบูรณ์ สินะ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 12 อมยิ้มสื่อรัก (2)(ตอนจบ)




-ติ-



   

       


      มองคนทำหน้าอ้อน ก็ใจอ่อน ผมยิ้มเออออก่อนจะลงไปเอาเค้กให้และตั้งใจจะไปคุยกับแม่และพี่ชายด้วย


     เดินลงมาเห็นวุฒินั่งตัวเกร็งก็นึกขำ ไม่เคยคิดเลยว่า จู่ๆเพื่อนรักของผมจะกลายเป็นพี่สะใภ้ของบ้านผมซะอย่างนั้น


     สาวเท้ายาวๆไปนั่งพิงหลังแม่ที่หันหน้าไปคุยกับพี่ตั้นและวุฒิด้วยท่าทางสบายๆ


"ทำอะไรติ" ผมนั่งเบียดแม่ จนอีกฝ่ายต้องหยุดบทสนทนาแล้วหันมาถามผม


"แม่ไม่ต้องบ่นพี่ตั้นหรอกครับ มากินเค้กกันดีกว่า"


"แม่ไม่ได้บ่นสักหน่อย แม่แค่ถาม เรื่องที่ตั้นคบวุฒิไม่บอกแม่สักคำต่างหาก"


"ฮ่าๆ แล้วแม่ดีใจไหมล่ะครับ ที่ได้เพื่อนผมเป็นพี่สะใภ้"
ชะโงกหน้าไปแหย่วุฒิที่ชะงักก่อนจะทำหน้าถมึงทึงเหมือนอยากด่า แต่ด่าไม่ได้


    ผมยกมือปิดปากกลั้นขำ ตอนนี้ เป็นการพูดคุยที่ไม่ได้จริงจังอะไร พี่ตั้นจึงตัดบทสนทนาและลุกจากโซฟาไปตรงโต๊ะที่วางเค้ก ทุกคนจึงลุกตามไป


      ดูเหมือนแม่ผมจะถูกใจพี่ชินเข้าให้จริงๆ เพราะแม่ผมมิวายถามถึงพี่ชินตลอด ผมโกหกว่า พี่ชินปวดหัวลงมาไม่ไหว ซึ่งแม่ดูจะตกใจไม่น้อย รีบกำชับผมหาน้ำ หายาให้พี่ชินด้วยท่าทีเป็นห่วง ผมกลัวหลุดความจริง จึงรีบพยักหน้าเออออกลับไป


      เวลานี้ทุกคนดูผ่อนคลาย ผม วุฒิ พี่ตั้น และแม่นั่งกินเค้กด้วยกันอย่างมีความสุข


      นับว่าเป็นช่วงเวลาของการกินเค้กที่แสนเรียบง่ายและธรรมดา แต่ผมมีความสุขมาก เพราะคนที่รายล้อมรอบตัวผมตอนนี้ คือ คนที่ผมรักทั้งสิ้น


     จัดการของหวานแสนอร่อยกันเสร็จ แม่ผมนึกอยากกลับบ้าน จึงบอกพี่ตั้นให้ไปส่ง เนื่องจากแกกังวลและห่วงบ้านไม่อยากนอนค้างอ้างแรมที่อื่นเท่าไหร่ แม้ผมจะรบเร้าให้นอนที่นี่แทบตาย แต่แม่ก็ยังดื้อดึงดันจะกลับให้ได้ ผมเลยไม่อยากเถียงให้เกิดปัญหา


     เดินออกมานอนตัวบ้าน ขณะที่พี่ตั้นเดินนำหน้าไปกับแม่ ผมรั้งแขนวุฒิให้เดินช้าลงกว่าเดิมและถาม



"สบายใจขึ้นบ้างรึยัง?"

"เรื่องอะไร?"

"พี่ชายกู"




     มองวุฒิตัวแข็งทื่อและดูจะเขินอายก็ส่งสายตาล้อเลียน ผมไม่รู้หรอกว่าตอนที่แม่ถามเรื่องราวความรักของสองคนนี้ พี่ตั้นพูดความในใจอะไรออกไปบ้าง แต่ดูท่าทางวุฒิแปลกไปไม่น้อย


"สะ...บายใจ"


"มึงควรดีใจ พี่ตั้นไม่เคยพาใครมาหาแม่"


"อะอื้มม..."


"ถ้ามึงคบกับพี่ตั้นแล้วมีปัญหาหรืออึดอัดใจอะไร ปรึกษากูได้นะ"


      วุฒิยิ้มมุมปากพลางหน้าแดง


"ขอบใจนะ อ่อสุขสันต์วันเกิดอีกรอบนะมึง คำอวยพรคงไม่ต้องแล้วมั้ง ก็ชีวิตมึงสมหวังแล้วนี่"


"ฮ่าๆ เออ...ขอบใจที่มึงก็เข้าใจเรื่องกูกับพี่ชินนะ"

"อื้ม...ก็มึงเป็นเพื่อนกูนี่"



     ผมและวุฒิส่งยิ้มให้กันก่อนจะแยกย้ายกันไปใช้เวลาส่วนตัว


    แม้ก่อนหน้านี้ จะมีบ้างที่ผมกระดากกระเดื่องในความสัมพันธ์ระหว่างกัน แต่พอเคลียร์เรื่องรักลงตัว ผมสบายใจและรักวุฒิมากกว่าเดิม...


     ขณะที่ยืนส่งทุกคนกลับบ้าน จนกระทั่ง รถยนต์พี่ตั้นพ้นลานสายตา ผมรีบวิ่งขึ้นห้องไปหาพี่ชินพร้อมเค้กชิ้นโตอย่างกลัวว่าพี่ชินจะน้อยใจที่ผมหายไปนาน


    เปิดประตูห้องนอน เห็นพี่ชินนอนรอผมอยู่บนเตียง



"สรุปไม่มีใครนอนที่นี่นะครับพี่ชิน ผมเลยยืนคุยก่อนพวกเขาจะกลับบ้าน อ้าว!...พี่ชินอาบน้ำแล้ว อย่างงี้พี่ชินก็ไม่กินเค้กแล้วสิ?"


"กินครับ เดี๋ยวพี่ค่อยแปรงฟันอีกรอบ"



      ผมพยักหน้า ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆคนที่ขยับตัวมานั่งชิดริมเตียง


      ผมยื่นจานเค้กให้พี่ชิน นั่งมองพี่ชินตักเค้กเข้าปาก ค่อยๆละเลียดก็แอบอมยิ้ม
 

      ผมคิดว่าตัวเองโชคดีที่สมหวังกับความรัก ในขณะที่ยังมีคนอีกมากมายผิดหวังกับความรักไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม


     ผมเห็นคุณค่าของการได้มาซึ่งโอกาสนี้จึงตั้งปนิธานกับตัวเองว่าจะดูแลพี่ชินให้ดีที่สุด ผมจะเอาใจใส่พี่ชินเหมือนที่พี่ชินเอาใจใส่ผม วันไหนที่เราอยู่ด้วยกัน ผมจะกอดเขา โอบเขา กุมมือเขาให้รู้ว่าผมจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน?



    ผมรู้นะว่า มีพบก็ต้องมีจาก แต่ผมจะไม่กังวลกับอนาคตมาก  ดังนั้น ผมจะสนใจแต่ปัจจุบัน เก็บเกี่ยวช่วงเวลาเหล่านี้ ดูแลและรักพี่ชินให้มากเท่าที่จะทำได้



"ยิ้มอะไร?"


 
      มัวแต่คิดเรื่องที่ว่าจะดูแลพี่ชินอย่างไรเลยไม่รู้ว่าตัวเองหลุดยิ้มตั้งแต่ตอนไหน?


"ผมดีใจที่มีพี่"


      พี่ชินชะงัก แล้วอยู่ดีๆแกหันไปวางจานเค้กลงบนโต๊ะ ก่อนจะหันมาหาผม ยกมือประคองใบหน้า โน้มตัวมาประกบจูบ ปีนป่ายขึ้นมานั่งคร่อมบนตักผม


      ผมช็อค ที่จู่ๆพี่ชินก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง บรรเลงบทรักโดยไม่บอกผมก่อน แม้พี่ชินจะเป็นฝ่ายเริ่ม แต่ใช่ว่าผมจะยอมให้พี่ชินทำอยู่ฝ่ายเดียว ผมจึงโต้กลับด้วยการส่งปลายลิ้นไปเกี่ยวกระหวัดกันอย่างหยอกเย้า เราจูบดูดดื่มลิ้มรสความหวานกันอยู่สักพัก พี่ชินถอนริมฝีปากออก ไล่ลงมาพรมจูบ ขบเม้มตรงลำคอของผม จากนั้น ค่อยใช้ลิ้นเลียวนจนผมตัวสั่น หัวใจวาบหวามกับการกระทำที่พี่ชินบรรจงทำให้


     พี่ชินเลิกชายเสื้อผมขึ้น ถอดมันออก จากนั้น ก็เลื่อนริมฝีปากมาขบเม้ม ดึงดูดยอดอกของผมสลับข้างไปมาจนผมเผลอซี้ดปาก

   
     ในขณะเดียวกัน พี่ชินปลดกระดุมเสื้อของตัวเองและถอดชุดนอนที่ใส่ออก ดันตัวผมให้นอนราบไปกับเตียง ปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของผมดึงลงออกจากขาโยนทิ้งออกไปให้พ้นตา



     ตอนนี้ เราสองคนร่างกายเปลือยเปล่า จากตอนแรกที่ผมเป็นฝ่ายนอนราบโดยที่พี่ชินคร่อมบนตัวผม ผมจับไหล่พี่ชิน พลิกตัวลงไปนอน ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนมาอยู่ข้างบนบ้าง


     แม้จะสลับตำแหน่งกัน แต่เรายังคงจูบต่อเนื่อง และเหมือนใจตรงกัน เพราะตอนที่ผมเอื้อมมือไปจับแก่นกายของพี่ชินนั้น เป็นจังหวะที่อีกฝ่ายก็เอื้อมมือมาจับน้องชายของผมพอดี


     เราต่างรูดรั้งแก่นกายให้กันและกันอย่างรู้งาน วินาทีนั้น ผมดึงมือพี่ชินออกและกำทั้งแท่งร้อนของผมและพี่ชินกอบกุมไว้ด้วยมือเดียว


    พี่ชินหลุดร้องเสียงครางกระเส่า จนความเสียวซาบซ่านของผมเกิดขึ้น ผมกำแก่นกายของเราสองรูดรั้งอย่างเนิบช้าก่อนจะค่อยๆเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นจนมันถูไถ เสียดสีกัน


    แต่หลังจากนั้น ผมสะดุ้งลืมตามมามอง เมื่อพี่ชินจับข้อมือของผมลงไปถูตรงช่องทางรักข้างหลัง ตกใจยิ่งกว่าที่ผมไม่รู้ว่าทำไมช่องทางของพี่ชินถึงเปียกชุ่ม ฉ่ำแฉะได้ขนาดนี้



     มองหลักฐานข้างกายเป็นหลอดเจลหล่อลื่นก็ได้แต่นึกประหลาดใจว่าพี่ชินไปแอบเอามาตั้งแต่เมื่อไหร่


    ผมยิ้มพอใจที่อีกฝ่ายรู้งานเป็นอย่างดี ผมจึงค่อยๆสอดนิ้วเข้าช่องทางรักพี่ชินช้าๆ ก่อนจะเพิ่มนิ้วจับขาพี่ชินขึ้นมาพาดบ่า เมื่อได้ที่ ผมกำแท่งร้อน นำส่วนหัวจ่อตรงช่องทางหลัง สอดเข้าไปทีละนิดๆจนตอนนี้เข้ามาค่อนลำ จากนั้น ผมดันแก่นกายให้เข้าไปลึกที่สุด ก่อนจะเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ


      ระดับความสุขของผมพุ่งพรวด เมื่อมองใบหน้าคนรักจ้องมองมาด้วยแววตาหวานเชื่อม เผยอปากบน กัดริมฝีปากล่าง  ยั่วยวนกันแบบนี้ ผมรีบเร่งจังหวะเร็วขึ้น กระแทกรัวแรงอย่างลืมตัว


"อ้ะ ติ....อ่าห์..."


"อ่าห์....ของพี่....ซี้ด....ฟิตจังครับ"


     
ร่างกายของพี่ชินตอบสนองผมเป็นอย่างดี ทุกท่วงท่า จังหวะจะโคนที่เราร่วมรักกันจึงมีความหมายมากกว่าเซ็กซ์ทั่วๆไป


     ...เซ็กซ์ที่มีรัก...


      ผมเปลี่ยนท่าพลิกตัวพี่ชินให้นอนคว่ำหน้าราบไปกับเตียง มีเพียงสะโพกเนียนขาวที่ลอยเด่น ผมจับบั้นท้ายกลมกลึงบีบเค้น ขยำอย่างแรงจนขึ้นเป็นรอยแดง ก่อนจะโน้มตัวแนบไปกับแผ่นหลังอีกฝ่าย พรมจูบทั่วแผ่นหลัง ขบกัดบ้างบางคราว ในขณะที่ช่วงล่างของเรายังคงเชื่อมต่อกัน มืออีกข้างที่ว่างของผมเอื้อมไปจับแก่นกายของพี่ชินหวังจะช่วยเหลืออีกฝ่าย ผมรูดรั้งช้าๆสลับกับเร่งจังหวะ ไม่นานนัก ที่พี่ชินก็ถึงฝั่งฝันก่อนผม


"อ่าาาาาห์"


      หยาดเหงื่อแห่งความสุข เสียงครางกระเส่าจากความเสียวกระสัน รวมถึงเสียงเตียงดังเอี๊ยดอ๊าด ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของผมให้ลุกโชน


       ผมซอยสะโพกถี่รัว กระแทกกระทั้นเข้าหาพี่ชินด้วยจังหวะที่รวดเร็วกว่าเดิม หนักหน่วงกว่าเดิมจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังตั่บๆๆกึกก้อง
 

        จังหวะที่ผมรู้ตัวว่าใกล้ถึงฝั่งฝัน ผมรีบถอนแก่นกายออก ใช้มือรูดรั้งรัวเร็วก่อนที่ไม่กี่วินาทีต่อมา ของเหลวแห่งความสุขจะถูกปลดปล่อยพวยพุ่งออกมาเลอะเต็มสะโพกของคนรัก



      สวมกอดพี่ชินจากด้านหลัง พร้อมกับกระซิบข้างหู


"ขอบคุณสำหรับของขวัญนะครับ"


      พี่ชินทิ้งตัวลงนอนอย่างคนหมดแรง ผมจุมพิตหลังใบหูและสวมกอดเขาแน่น


      เหมือนแค่พักยก เพราะผมนอนกอดพี่ชินไม่นาน ก็ปลุกอารมณ์พี่ชินด้วยการเล้าโลมอีกครั้ง ผมไซ้หลังหู โลมเลียมายังซอกคอเนียน ก่อนที่เราจะเริ่มมีเซ็กซ์กันเป็นครั้งที่สองและสามที่จะตามมาในไม่ช้า....








....................




       เช้าของอีกวัน ผมตื่นขึ้นมาก่อน แอบมองคนรักนอนนิ่งสนิท ภายใต้ห้องนอนที่ยังคงอบอวลด้วยรักไม่จางหาย อมยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เราร่วมรักกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย

 

       ไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมผมถึงไม่รู้จักพอ จนบัดนี้ ผมยังอยากมีเซ็กซ์กับพี่ชินอีกเรื่อยๆ

 

       ปลายนิ้วผมเกลี่ยริมฝีปากล่างอย่างหยอกเย้า จูบเขาเบาๆ ก่อนที่จะลุกไปอาบน้ำ



      หลังจากผมจัดการธุระตัวเองเสร็จเรียบร้อย ผมคว้าโทรศัพท์มือถือมากดสั่งอาหารออนไลน์ที่มีบริการส่งแบบเดลิเวอร์รี ในขณะที่รออาหารมา ผมปีนขึ้นเตียง หวังจะกอดพี่ชิน แต่ผมสัมผัสได้ว่าอุณหภูมิร่างกายของอีกฝ่ายพุ่งสูงขึ้น





"พี่ชินครับ พี่ชิน"


     ปลุกคนที่หลับใหลไม่รู้เรื่อง จนพี่ชินปรือตาขึ้นมามอง



"มีอะไร?" เสียงแหบแห้งแผ่วเบาถาม



"ไปหาหมอเถอะ พี่ไม่สบาย"



"แค่กๆ บ้าจริง ป่วยได้ไง"

 

"นั่นสิครับ หรืออาจจะเป็นเพราะพี่แก่แล้วเลยป่วยง่าย..โอ้ย! พี่ชิน"



     ดูสิดู...คนป่วยยังมีแรงมาหยิกท้องผมได้

 

"พูดมาก พี่แค่ปวดตัว ไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่อยากไปหาหมอ ขอเช็ดตัวเฉยๆได้ไหม?"



"ถ้างั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเช็ดให้ แต่ถ้าไม่หายต้องไปหาหมอนะครับ"



"ครับ ขอบคุณนะติ"



"พี่ชินเป็นไงบ้าง มีแฟนเด็กเด็ดไหมครับ?"

 

"ทะลึ่งนะ ติ แค่กๆ..."

 

    ผมหัวเราะ มองหน้าคนป่วยก็นึกสงสาร แต่เพราะใบหน้าแดงๆมันทำให้ผมอดใจไม่ไหว ก้มลงไปฟัดแก้มทั้งสองข้างแล้วจูบปากอีกรอบ

 

"อย่าติ เดี๋ยวติดไข้"

 

"ผมไม่กลัว"

 

"ติไม่เอาน่า อย่าดื้อ....อื้อ...." 
คราวนี้ ผมจับปลายคางพี่ชินให้เผยอปาก ก่อนจะสอดเรียวลิ้นเข้าไปข้างใน กวาดต้อนน้ำหวาน รุกไล่เล่นลิ้นของพี่ชินอย่างคนเอาแต่ใจ จนพี่ชินยันสองมือดันแผ่นอกผมไว้คล้ายห้าม



"อย่าเล่นเป็นเด็กสิ ต้องมีใครคนหนึ่งแข็งแรง เผื่อมีเรื่องอะไรจะได้ออกไปไหนได้"



"คร้าบบบพี่ชิน ไม่เล่นก็ได้ ถ้างั้นผมลงไปข้างล่างก่อนนะครับ พอดีผมสั่งอาหารไว้"

 

      พี่ชินพยักหน้า แต่พอผมลุกขึ้นจะไปจริงๆ พี่ชินร้องเรียก



"ขึ้นมาเร็วๆนะ"

 

 

     โอ้ย! พี่ชินจะน่ารักไปไหน? ผมยิ้มกว้าง กุมมือพี่ชินยกขึ้นมาจุมพิตหลังมือก่อนจะพยักหน้าและย้ำคำสัญญาว่าจะเช็ดตัวให้ด้วย





     ในระหว่างที่ผมรอให้พนักงานมาส่งอาหาร ก็นึกขึ้นได้ว่า ผมลืมช่อดอกไม้ที่พี่ชินให้ไว้ในรถของเจ้าตัว เดินไปหยิบกุญแจรถที่แขวนไว้ตรงผนัง ตรงดิ่งไปยังรถยนต์ เปิดประตู สอดตัวเข้าไปเอาช่ออมยิ้มออกมา ก็เป็นจังหวะที่พนักงานมาส่งอาหารพอดี ผมจ่ายเงินเดินกลับเข้ามาในบ้านพร้อมอาหารและช่ออมยิ้ม





     ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้และวางของทุกอย่างลงบนโต๊ะ มองช่ออมยิ้มนั้นอยู่นาน จนผมนึกไงไม่รู้ตัดสินใจแกะอมยิ้มออกมาจากช่อทีละอันๆ แต่จังหวะที่ผมดึงอมยิ้มออกมาเป็นอันที่เก้า ผมขมวดคิ้วมุ่น เมื่ออมยิ้มอันนี้ดูยวบยาบแปลกๆ



    แกะเปลือกอมยิ้มแท่งนั้นออกมาดู ก่อนจะเบิกตาโพลงอย่างตกใจ เมื่อมันไม่ใช่อมยิ้ม แต่กลับเป็นแหวนเกลี้ยงที่ทำมาจากทองคำขาวสองวงวางอยู่บนกระดาษที่ถูกขยำให้เป็นก้อนกลมๆ



    รู้ได้ในทันทีว่ามันสื่อถึงอะไร ผมยิ้มดีใจ ไม่คิดว่าพี่ชินจะเซอร์ไพร์สให้ผมด้วยการใส่แหวนไว้ในช่ออมยิ้ม



    ตื้นตันใจ น้ำตาจะไหล ยอมรับว่าอาจอ่อนไหวไปบ้าง แต่ที่เป็นแบบนี้ เพราะไม่เคยมีใครทำให้จึงรู้สึกดีมากเป็นพิเศษ ผมกำแหวนแน่นแล้วรีบขึ้นไปหาพี่ชิน



     ขึ้นมาบนห้อง พี่ชินก็ยังนอนนิ่งไม่ไหวติง จนผมโพล่งขึ้นขัดความเงียบ



"พี่ชินขอบคุณนะครับ สำหรับแหวน"


     แม้จะพูดขึ้นอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ แต่คนที่ทำเซอร์ไพร์สย่อมรู้ดี ใบหน้าคนป่วยจึงแต้มยิ้มออกมา



"เจอไวดีนะ"


"แหมไม่บอกกันเลย ถ้าเกิดผมทิ้งอมยิ้มขึ้นมาล่ะ"



"พี่มั่นใจว่าติไม่ทิ้ง"



   ผมยิ้มพยักหน้า มันก็จริงอย่างที่พี่ชินว่า ใครจะกล้าทิ้งของที่แฟนให้กันล่ะ ผมหยิบแหวนวงหนึ่งไปสวมใส่นิ้วนางให้พี่ชิน เสร็จแล้วผมยื่นแหวนอีกวงให้พี่ชินสวมกลับให้ผมบ้าง



    แม้แหวนของผมที่ใส่จะหลวมนิดหน่อย แต่ผมสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของพี่ชิน จึงไม่สนเรื่องของขนาด เพราะผมค่อยหาทางทำให้มันใส่ได้พอดีกว่านี้ในภายหลัง



    แหละตอนนี้เราสองคนต่างมีแหวนแทนใจกันและกัน ซึ่งมันไม่ใช่แค่การหมายถึงว่าต่างฝ่าย ต่างมีเจ้าของแล้วเท่านั้น แต่มันยังหมายรวมถึงว่าเมื่อไหร่ที่ผมมองแหวนวงนี้ ผมรู้สึกได้ว่ามีอีกคนที่รักผมอยู่เคียงข้างผมเสมอ



    โน้มตัวไปกอดพี่ชิน ผมมีความสุขจนอดจะขอบคุณทุกๆสถานการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตไม่ได้



   ขอบคุณที่ได้ทำงานที่เดียวกับพี่ชินจนเราได้มาเจอกัน ขอบคุณที่ตัวผมเองยังไม่ถอดใจเลิกรักพี่ชินไปเสียก่อน ขอบคุณที่พี่ชินยอมบอกความในใจกับวุฒิว่ารู้สึกยังไงกับผม เพราะถ้าพี่ชินไม่บอกก่อน ผมก็คงไม่กล้าพอที่จะสู้ และเก็บงำความรู้สึกนี้เอาไว้จนต่อมาผมคงผิดหวังก็เป็นได้



    และสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากขอบคุณมากที่สุด คือ ขอบคุณที่มีวันนี้ วันที่พี่ชินเลือกผมจนเราได้รักกัน


    ผละจากอ้อมกอด มองพี่ชินที่ยังคงยิ้มด้วยใบหน้าแดงๆ ผมลูบริมฝีปากคนรักก่อนเอ่ย



"รอยยิ้มของพี่มีความหมายสำหรับผมจริงๆนะ"



     พอผมตอบแบบนั้น อีกฝ่ายพยายามยกยิ้มกว้างกว่าเก่า


     ตอนนี้ ผมและเขาสบตากันโดยไม่พูดอะไร ปล่อยให้รอยยิ้มสื่อความหมายในใจของเราสองคน แค่นั้นก็พอ...





..................จบบริบูรณ์...................

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ
:mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

จบบริบูรณ์

ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ขอบคุณครับ เป็นกำลังให้นะ

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
โอ้ยยยย ลุ้นมาก มาแค่ 3 หน้าเอง 55555  :serius2: :serius2:
ลุ้นว่าจะได้รักกันตอนไหน กว่าจะได้บอก จะได้รู้กัน แอบดร่าม่านะเอ่ยยยย อยากให้มีเรื่องของพี่ตั้นก็วุฒิเพิ่มจังเยยยยย  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ชื่อเรื่องหวาน ๆ ใส ๆ นึกว่าแนวเด็กน้อย

  พอกลางเรื่องนี่มาม่าจนเกือบขม  :o12: สงสัยอมยิ้มรสช็อคโกแล็ต 

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ Freezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารักมากครับ เรื่องนี้
จะปวดหัวความรักของเพื่อนไปบ้าง
เลยวุ่นวายไปครึ่งเรื่องเลยยย

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารักดีค่ะ
แม้จะแอบดูน้ำเน่าไปหน่อยตอนที่ติยอมเพื่อนเรื่องพี่ชิน


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด