:: บทที่ 24 บทส่งท้าย ::
“ใครก็ได้ พาไอ้พลไปศรีธัญญาทีดิ๊” แมทพูดขึ้นมาก่อน
“นั่นน่ะดิ นั่งยิ้มเหมือนพวกสติไม่เต็ม” กู้สนับสนุน ส่วนผมที่ถูกเพื่อนๆ แซวยังคงนั่งยิ้มอยู่ตามเดิม
วันนี้พวกเรานัดรวมพลกันครั้งสุดท้ายก่อนสอบ หลังจากนี้จะเจอกันอีกทีหลังสอบเลย
ส่วนสาเหตุที่ผมมานั่งเพ้อให้เพื่อนๆ แซวกันอยู่นี่ก็เพราะไอ้ฝุ่นนั่นแหละ ผมนั่งลุ้นว่าตื่นขึ้นมาฝุ่นจะถอดสร้อยข้อมือผมออกไหม แต่มันไม่ถอดครับ ใส่ยาวจนผมไปส่งที่คณะมันก็ยังใส่อยู่
เย็นนี้ผมไม่ได้ไปรับฝุ่น เพราะมันจะมากับพวกไวท์และดิว มันบอกให้ผมรออยู่ที่นี่กับเพื่อนๆ ที่มาก่อนหน้า สถานที่คือร้านนั่งชิล ‘ยกซด’
ผมนั่งคอยกระทั่งเห็นฝุ่นเดินเข้ามา ถ้าผมมีหาง ป่านนี้มันคงส่ายรัวเมื่อเห็น ผมมองข้อมือมันก่อนเป็นสิ่งแรก ยิ้มเมื่อมันยังใส่อยู่
“กูว่าอาการมันหนักขึ้นทุกวันแล้วนะ” กู้เขวี้ยงทิชชูใส่หน้าผม ดิวผลักให้ฝุ่นมานั่งข้างๆ ซึ่งผมก็ขยับรับดีๆ
อาหารลำเลียงมาถึงเพราะเราสั่งไปก่อนหน้านั้นแล้ว ผมรีบกุลีกุจอดูแลฝุ่น
“กูโคตรอิจฉามึงเลยว่ะฝุ่น” ดิวมันพูดขึ้นมาบ้าง “พลมันดูแลมึงโคตรดี”
ฝุ่นถอนหายใจแรง
“ช่วงกำลังหลง”
ผมจิ๊ปากกับคำดูถูกมัน แต่ก็นั่นแหละ ประวัติเสียผมเยอะ จะโดนพูดแบบนี้ก็ไม่แปลก เรื่องพวกนี้ต้องดูกันไปยาวๆ ครับ
“แล้วนี่อะไร” เสกู้ตาดีเห็นสิ่งที่ผมกับฝุ่นใส่เหมือนกันบนข้อมือ มันจับข้อมือผมไปดูทันที “มีเหมือนกันเลย!”
ผมฉีกยิ้มกว้าง ไม่ตอบอะไร
“ยอมรับมันแล้วเหรอฝุ่น ถึงได้ใส่เหมือนกัน”
ฝุ่นมองหน้าคนถาม
“ก็แค่สร้อยข้อมือ”
ผมแสร้งงอนใส่ หัวเราะตามเพื่อนๆ ไป
และแล้วก็ถึงช่วงเวลาหนักหนาสาหัสสำหรับนักศึกษาทุกคน ช่วงสอบไฟนอลเทอมแรก และเป็นช่วงที่ผมต้องฝึกความอดทนอย่างหนักที่จะไม่จับฝุ่นฟัด ทั้งที่มันก็มายืนแก้ผ้าต่อหน้าให้ต่อมหื่นกำเริบ สภาพเพื่อนผมแต่ละคนก็พอกัน กระทั่งการสอบผ่านพ้นไป
ปิดเทอมเล็กนี้ฝุ่นมันจะกลับไปอยู่บ้านครับ ผมรีบปั่นจักรยานกลับหอทันที เพราะเดี๋ยวจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกเกือบเดือนเลย พอเข้าไปก็ได้กลิ่นอะไรหอมๆ ลอยมา ผมยื่นจมูกนำเข้าไปก่อน จนเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน คนที่ผมโคตรคิดถึงหันมามอง ภายในห้องพักเล็กๆ มีโต๊ะญี่ปุ่นกางไว้ มีอาหารสดใหม่จัดเรียงไว้จนเต็ม พร้อมข้าวสวย มันกำลังเทออกจากถุงอยู่ ผมรีบเดินไปทิ้งตัวลงนั่งทันที
“อะไรเนี่ย”
“ฉลองสอบเสร็จ”
ผมฉีกยิ้มดีใจ วางกระเป๋าไว้ข้างเตียง ไม่พูดพร่ำทำเพลงหยิบช้อนมาตักกินทันที
“จะดีกว่านี้ถ้าอาหารพวกนี้มึงเป็นคนทำ”
มันเหลือบตามอง แต่ไม่ตอบ
“มึงกลับบ้านวันไหน”
“พรุ่งนี้”
“เดี๋ยวกูไปส่ง”
มันส่ายหน้าไปมา มองหน้าผม
“เดี๋ยวกูไปส่ง” ผมยืนยัน มันส่ายหน้าไปมาอีกรอบ
“กูไปเองพล”
“เดี๋ยวกูจะไปส่ง” ผมยืนยันอีกทีอย่างไม่ยอมแพ้ มันจ้องผม ทำหน้าจริงจังใส่
“กูจะไปเองพล และตลอดระยะเวลาปิดเทอมนี้ไม่ต้องโทรหากู ไม่ต้องไปหากู และไม่ต้องส่งเมสเสจมาด้วย”
ผมนั่งอึ้ง ถ้ามันปฏิเสธด้วยน้ำเสียงโมโห ผมยังจะดื้อแพ่ง แต่นี่มันบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมไปไม่เป็น
“ทำไม กูคิดถึงมึง กูจะไปหามึง”
มันส่ายหน้าอีกรอบ วางช้อนลง จ้องหน้าผมนิ่ง
“มึงมั่นใจแค่ไหนว่ารักกู”
“มั่นใจมาก” ผมตอบกลับทันที
“งั้นก็มาพิสูจน์ความมั่นใจของมึงกัน”
ผมฟังงงๆ
“ตลอดระยะปิดเทอมเล็กนี้ ห้ามไปหากู ห้ามโทรหากู ห้ามส่งเมสเสจหากูด้วย แล้วดูซิว่าความรู้สึกที่มึงมีให้กูมันยังเหมือนเดิมไหม”
ผมนิ่งไป วางช้อนลง
“แต่…”
“หรือไม่มั่นใจว่ารักกูจริง”
“รักสิ”
“งั้นก็พิสูจน์พล อดทนให้ได้ ถ้าเปิดเทอมความรู้สึกมึงยังเหมือนเดิม…” มันนิ่งไป กัดปากเบาๆ
“กูจะพิจารณาถอดสร้อยข้อมือของพี่เรย์ออกให้”
ผมอึ้งฟัง หัวใจที่แฟบๆ อยู่ฟูฟ่องขึ้นมาทันที
“มึงพูดจริงหรือเปล่า!”
“ไม่รับปาก แค่บอกว่าจะรับพิจารณา”
ผมยิ้มออกมาทันที ผมรู้ครับว่าฝุ่นมันทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร มันคงเข้าใจว่าความใกล้ชิดทำให้ผมหลงเพ้อถึงมัน มันจึงต้องการให้เราห่างกัน เพื่อพิสูจน์ว่าผมต้องการมันจริงหรือเปล่า ถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่เกินเดือนก็เถอะ
“ก็ได้ กูจะอดทน”
ฝุ่นไม่พูดอะไรอีก ก้มหน้ากินข้าวต่อ ผมยิ้ม ตักข้าวกินต่อเหมือนกัน
และแล้ววันที่ผมต้องแยกจากมันก็มาถึง ถึงจะแค่ไม่กี่อาทิตย์ แต่เราเคยอยู่ด้วยกันทุกวัน แถมก่อนจากมันยังไม่ยอมให้ผมฟัดส่งท้ายอีกต่างหาก
“อย่าลืมกูนะฝุ่น”
“กูแค่กลับบ้านพล”
“กูกลัวมึงรักกูน้อยลง”
มันมองหน้าผม
“กูยังไม่ได้รักมึงนะพล”
ฟังแล้วน่านอยด์ แต่ไม่เป็นไรครับ ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก
“กูจะรอ” ผมดึงมันเข้ามากอดเบาๆ ก่อนพามันเดินไปส่งขึ้นรถแท็กซี่
ผมพ่นลมหายใจแรง กลับเข้ามาอยู่ในห้องแห่งความทรงจำ ผมตัดสินใจกลับบ้านเช่นกัน เพราะอยากพิสูจน์ว่าตัวเองหลงเพ้อฝุ่นเพราะความเคยชินจริงรึเปล่า
ผมคว้าเสื้อผ้ามายัดใส่กระเป๋า จนของหมดทุกชิ้นถึงได้หันมองไปทางเตียง กะจะเอาควายถึกไปด้วย เอาไปกอดแทนฝุ่น แต่ควายถึกไม่อยู่ ผมกวาดมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็น
นี่ฝุ่นเอาควายถึกไปด้วยเหรอ?
ผมคลายยิ้มออกมาได้ในที่สุด หยิบกระทิงเปลี่ยวมายัดใส่กระเป๋าแทน
“กูแค่กลัวมึงเหงาหรอกนะ” ผมแบกของทุกอย่างมุ่งตรงกลับบ้าน เอารถจักรยานขึ้นมาเก็บไว้บนห้องแทนเพราะไปนานกลัวรถหาย
“เป็นไงบ้างไอ้ลูกชาย” พ่อผมทักมาทันทีที่เดินเข้าบ้าน เพราะช่วงสอบผมไม่ได้กลับบ้านเลย “สบายดีครับ พวกพีทกับแม่ล่ะ”
“เด็กๆ อาบน้ำ แม่ยังไม่กลับ”
ผมพยักหน้า เอากระเป๋าไปโยนตุบที่พื้น เดินไปหยิบสปอนเซอร์ในตู้เย็นมากินคลายร้อน
“พี่พล!!” ได้ยินเสียงเรียกพอๆ กับเสียงวิ่งตุบๆ ลงบันไดของน้องๆ ผมมองตาม เดินไปนั่งบนโซฟา โดยมีพ่อนั่งก่อน พีทกับแพทนั่งขนาบพ่อทันที ทุกคนจ้องหน้าผมเขม็ง ผมยกน้ำดื่มอีกอึก
“มีไร” คลายปากออกมาถาม
“พี่โดนเจื๋อนแน่”
“ทำไม” ผมถามงงๆ ยกน้ำดื่มเป็นระยะ แพทคิ้วขมวด หันไปมองตาพีท
“มีไร”
“เป็นเกย์แล้วทำไม่บอก”
ผมพ่นน้ำที่กินอยู่ออกพรวด รีบเช็ดด้วยหลังมือ ตาโตมองพวกมันอึ้งๆ
“พี่ไม่ได้เป็นเกย์”
“ไม่ได้เป็นได้ไง ข่าวพี่แอบคบกับพี่ฝุ่นดังกระฉ่อนมาถึงมหา’ลัยผมแล้ว”
ผมอึ้งฟัง
ตายห่ะ ถ้าข่าวไปไกลขนาดครอบครัวผมรู้เรื่อง แล้วฝุ่นล่ะ…
ผมทำท่าจะหยิบมือถือ แต่นึกถึงคำสั่งมันก็จำต้องเก็บมือลงที่เดิม หันมามองคนในครอบครัวที่เหลือ กระแอมไอ
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ปิดบังไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เพราะความจริงก็เป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ
“ก่อนอื่นบอกไว้ก่อนว่าพี่ไม่ได้เป็นเกย์ แต่บังเอิญว่าพี่ชอบฝุ่นที่เป็นผู้ชาย แค่ฝุ่นเท่านั้น ไม่ได้คิดพิศวาสผู้ชายคนไหนอีก”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่อะไรพี่ ได้ไง เพราะพี่คั่วสาวมาตลอดนะ”
ผมหน้าเบี้ยว มองหน้าน้องๆ รวมถึงผู้ให้กำเนิดที่มาพร้อมกับรอยตีนกาเป็นแผง
“ก็…” ผมกระแอมไอ แล้วเริ่มต้นเล่าเรื่องทุกอย่างให้น้องๆ ฟัง ทุกคนนั่งตาแป๋ว โดยเฉพาะพ่อผม
“ก็ตามนั้น”
“พี่รักพี่ฝุ่นมากเลยเหรอ”
ผมพยักหน้ารับ พวกมันพ่นลมหายใจแรง
“แม่รู้ยัง”
“รู้แล้วพี่ แต่เห็นบอกว่าจะรอพี่กลับมาก่อน แล้วจะถามอีกที”
“แม่ว่าอะไรไหมอ่ะ”
“ก็ดูช็อกๆ นะ แต่แม่เขาชอบพี่ฝุ่นไง เห็นบอกว่าให้คบกับพี่ฝุ่น ดีกว่าเป็นเอดส์ตายเพราะมั่วผู้หญิง”
ผมกระแอมไออีกรอบ
“นี่ ถามจริงๆ ตั้งแต่พี่คบกับพี่ฝุ่น ไม่ได้นอนกับคนอื่นอีกเลยจริงๆ เหรอ”
ผมพยักหน้า
“โห…” พวกมันครางทึ่ง “ทำได้ไง”
ผมไม่ได้ตอบคำถามน้องๆ หันไปทางพ่อ
“รังเกียจผมไหมพ่อ”
พ่อจ้องหน้าผม
“แกเป็นรุกหรือรับ”
“รุกดิ” ผมตอบกลับทันที พ่อพ่นลมหายใจแรง
“ก็ยังดี สรุปรักฝุ่นจริงๆ และตอนนี้อยู่ในช่วงพิสูจน์”
ผมพยักหน้ารับ
“เอาเถอะ พ่อยังเหลือลูกชายเอาไว้ทำพันธุ์ตั้งสองคน” พ่อพูดปลงๆ
“ใครว่าละฮ้าคุณพ่อขา พีทจะพาผัวมาให้อีกคน” พีทมันจีบปากจีบคอ พ่ออ้าปากค้าง ผมกับแพทหัวเราะร่วนเพราะรู้ว่าพีทมันแกล้งเล่น พ่อส่ายหัว รีบไล่ให้ผมไปอาบน้ำแล้วมานั่งรอแม่ด้วยกัน
ทุ่มกว่าๆ ก็ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอดภายในบ้าน ผมออกไปรอรับทันที เดินเข้าไปกอดคนที่เปิดประตูก้าวลงมา
“คิดถึง” ผมหอมแก้มแม่เบาๆ ทีเอาใจ
“ย่ะ เกือบลืมไปแล้วว่ามีลูกชายอีกคน”
“โธ่แม่ก็” ผมส่งเสียงเง้างอน “กินข้าวมายัง”
“เรียบร้อยแล้ว ขอแม่ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวลงมาคุยกัน”
ผมมองหน้าแม่แบบอ้อนๆ คล้ายสมัยเด็กที่ผมทำบ่อยๆ
“เรื่องฝุ่นเหรอ”
แม่มองหน้าผม
“รู้ตัวก็ดี ขอเวลาก่อน”
ผมพยักหน้า แล้วไปนั่งรอในห้องรับแขก ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า รอกันไม่เกินครึ่งชั่วโมงแม่ก็เดินลงมา
แล้วผมก็เปิดปากเล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ฟังโดยไม่ต้องรอให้แม่ซักฟอก เล่าเหมือนที่เล่าให้พวกน้องๆ กับพ่อฟังนั่นแหละ
แม่พ่นลมหายใจแรง
“เลิกมั่วแล้วใช่ไหม”
“เลิกแล้ว นอนกับฝุ่นคนเดียว”
แม่พ่นลมหายใจแรงอีกที
“สงสารตาฝุ่นจัง ใครได้ตาพลเป็นแฟนนี่โชคไม่ดีเลย”
“อ้าวแม่ นี่ลูกแม่นะ ไม่เข้าข้างกันเลย”
“ถ้าลูกแม่นิสัยดีหน่อยจะเข้าข้างอยู่หรอก แต่ก็ดีที่ยังเป็นผู้เป็นคนขึ้น”
แม่ถอนหายใจแรง
“ใช้ช่วงเวลานี้ทบทวนตัวเองซะ แล้วมาลุ้นกันว่าฝุ่นจะตอบเซย์โนหรือเซย์โอ”
“แล้วแม่ล่ะ อยากให้ตอบแบบไหน”
“ถ้าฝุ่นปฏิเสธ จะกลับไปสำส่อนเหมือนเดิมหรือเปล่า”
“ไม่รู้สิ”
“แม่ไม่เข้าข้างใครทั้งนั้น รอดูไปละกัน”
ผมพยักหน้า
ตลอดเวลานั้น ผมทำตัวเป็นเด็กดี ไปช่วยงานพ่องานแม่ ใครใช้ให้ทำอะไรทำหมด
คิดถึงฝุ่นมาก ร่ำๆ จะหยิบมือถือมากดโทรหามันตั้งหลายรอบ แต่ก็พยายามข่มใจ นั่งดูรูปถ่ายในมือถือแทนเจ้าของ บางภาพผมปรินต์ออกมาแปะตามฝาผนังเลย ทั้งภาพยามเผลอและภาพที่มีผองเพื่อนรวมกันอยู่ โดยเฉพาะภาพที่ฝุ่นมันยิ้ม รวมไปถึงภาพเรต 18+ ทั้งหลายด้วย แต่ไม่เรตมากหรอกครับ เพราะแม่ขึ้นมาทำความสะอาดห้องให้บ่อยๆ
จริงๆ เป็นเรื่องปกติ เพราะห้องผมก่อนหน้านี้มีแต่ภาพสาวๆ นุ่งน้อยห่มน้อย บางภาพนี่โชว์เต้า บิกินี่ปิดไม่มิด รวมไปถึงหนังสือหรือซีดีโป๊วางเกลื่อน แต่ผมหอบไปไว้ที่หอหมดแล้ว และก็ยกให้เพื่อนๆ ไปหมดแล้วเช่นกัน เพราะฉะนั้น ถ้าจะมีภาพฝุ่นเวอร์ชั่นเอ็กซ์ติดอยู่บนผนังคงไม่ทำให้แม่แปลกใจเท่าไหร่
ตอนนี้ห้องผมไม่มีภาพสาวๆ เหลืออยู่เลย มีแต่ภาพของฝุ่นติดเต็มพรืดไปหมด
“พี่ฝุ่นเอ็กซ์ได้ขนาดนี้เลยเหรอพี่” พีทกับแพทที่เข้ามานั่งเล่นห้องผมถามทึ่งๆ หลังจากเข้ามาเห็นคอลเลกชั่นอันใหม่ที่ผมเพิ่งแปะไปวันนี้ มันเป็นภาพฝุ่นที่ใส่เพียงกางเกงขาสั้นหันหลังให้ แต่ภาพมันเอ็กซ์เพราะผมจงใจถ่ายให้ได้ภาพแบบนั้น ภาพมันตอนหลับ แน่นอนว่าไม่มีเสื้อผ้าบนตัว ยกเว้นผ้าห่มปิดไว้หมิ่นเหม่
รวมถึงภาพที่มันกำลัง เอ่อ…มีอารมณ์ แต่ไม่มีภาพการร่วมรักกันเต็มๆ หรอก
…แอบหวงครับ…
“มาก โดยเฉพาะเวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม ครางอย่างกับน้องเอมิ”
น้องผมฟังตาแป๋ว
“พี่ฝุ่นไม่เจ็บเหรอพี่”
“เจ็บสิ แต่แค่แรกๆ หลังๆ ก็คงรู้สึกดี มันก็เหมือนทำกับผู้หญิงนั่นแหละ เพราะบางคนก็ชอบด้านหลัง”
“จริง” พีทหันไปทางแพท แพทตาโต
“พี่เคยลองแล้วเหรอพี่พีท”
พีทพยักหน้า
“อยากบอกว่าแน่นมาก”
แพทตาโต ก่อนยู่หน้า
“แพทยังจีบไม่ติดสักคน”
ผมหัวเราะหึๆ
“เอาน่า ยังมีเวลา”
ได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากอนุญาตประตูก็ถูกเปิดออก แม่โผล่หน้าเข้ามา
“ไปทานข้าวกันได้แล้วหนุ่มๆ มาสุมหัวทำอะไรกันแถวนี้”
“มาดูรูปพี่ฝุ่นแม่ ดูดิ พี่ฝุ่นโคตรเอ็กซ์” แพทชี้ไปยังรูปล็อตใหม่ของผม แม่มองตาม ทำหน้ายุ่งใส่
“พอแล้ว เลิกดูๆ เดี๋ยวได้เบี่ยงเบนชอบผู้ชายเหมือนพี่ชายเราด้วยอีก แม่อดได้อุ้มหลานกันพอดี”
ผมหัวเราะร่วน พอๆ กับพวกน้องๆ
“เดี๋ยวผมจะพยายามปั๊มหลานให้แม่นะ ไม่ต้องห่วง” ผมแซวเล่น
“คงได้หรอกนะ แล้วนี่ฝุ่นมาเห็นเข้าไม่ว่าเอารึไง”
“ไม่ว่าหรอก แต่กระทืบม้ามแตกเลย” ผมตอบตรงๆ ทุกคนหัวเราะร่วน พากันเดินลงไป
พ่อละสายตาจากแท็บเล็ตที่กำลังอ่านอยู่ขึ้นมอง พอทุกคนนั่งครบพ่อก็ยื่นสิ่งที่ดูอยู่ให้ผมดู ผมมองแล้วนิ่งไป
เพราะตอนนี้พ่อเปิดเฟซบุ๊กดูอยู่ เพิ่งรู้ว่าพ่อแอบส่องความเคลื่อนไหวของลูกๆ ตลอด ในนั้นมีภาพผมกำลังขี่จักรยานมีฝุ่นนั่งซ้อนในมหา’ลัย ไม่รู้ใครแอบถ่ายมาลง แต่ภาพมันหลายวันมาแล้ว เขาคงแชร์ๆ กันมา
“ครอบครัวฝุ่นรู้ยัง”
ผมส่ายหน้า
“ไม่รู้ว่ารู้รึยัง ผมก็เป็นห่วงอยู่”
“แพทว่าน่าจะรู้แล้วล่ะ เรื่องของพี่ดังจะตาย”
ผมขมวดคิ้ว ดังขนาดนั้นเลยเหรอวะ
หัวข้อสนทนาของเราวันนี้คือถ้าครอบครัวฝุ่นรู้แล้วเราจะทำกันยังไง ก็ได้แต่คาดเดากันไปครับ แม่บอกให้มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ให้กำลังใจ
พออิ่มเราก็นั่งเล่นพูดคุยกันอีกนิดหน่อยก็แยกย้ายกันเข้าห้องใครห้องมัน
ผมกดเข้าเฟซตัวเอง ช่วงนี้ผมจะอัปเฟซบ่อยมาก ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เผื่อฝุ่นมันเข้ามาเล่น มันจะได้เห็นภาพผมบ้าง และหวังว่ามันจะเข้ามากดไลก์หรือคอมเมนต์บ้าง ถือว่าไม่ผิดข้อตกลง
แต่ตั้งแต่แยกจากกัน ผมไม่เห็นฝุ่นออนไลน์เลย ไม่เข้ามาอัปอะไร (ซึ่งมันก็ไม่ค่อยอัปอะไรอยู่แล้ว) ไม่กดไลก์ ไม่คอมเมนต์ด้วย
ผมถ่ายรูปตัวเองนอนหงายอยู่บนเตียงพร้อมกระทิงเปลี่ยวที่นอนอยู่เคียงข้าง อัปสถานะ
‘เหงา คิดถึงเมีย’
คนเข้ามาคอมเมนต์กันมากมาย ผมจ้องนิ่งรอคอยฝุ่นตามเดิม ผ่านไปราวชั่วโมงไม่มีข้อความของมันสักคำ
ผมถอนหายใจแรง
สเตตัสที่ผมจะอัปบ่อยสุดคือคำว่า ‘คิดถึง’
วันถัดมา ภาพที่ผมอัปลงเฟซคือภาพมือผมที่กำลังโปรยฝุ่นลงกลางอากาศ จะถือว่าผมมีพรสวรรค์ด้านการถ่ายรูปดีไหม ภาพออกมาสวยดี อัปแล้วก็มานั่งคอยตามเดิม
จนผ่านไปร่วมสามอาทิตย์ อีกไม่กี่วันก็เปิดเทอมแล้ว ความรู้สึกผมก่อนจากเป็นไง ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม ดูจะมากกว่าเดิมจนเหมือนผมจะกลายเป็นโรคจิตเพราะความคิดถึงรอมร่อ
“หล่อขึ้นอีกแล้วนะพี่พล” น้องผมมันแซว ผมหันไปมองคนพูด
แน่นอนสิ เพราะผมดูแลตัวเองดีนี่ กะว่ากลับไปต้องทำให้ฝุ่นรักฝุ่นหลงผมมากกว่าเดิม ทั้งดูแลผิวหน้าและออกกำลังกาย พยายามซกมกให้น้อยลงด้วย จริงๆ ก็ทำไม่ยากหรอกครับ สูตรง่ายมาก ‘เอาออกมาจากตรงไหนก็เก็บไว้ที่เดิม’ ทำบ่อยๆ มันก็ชิน
วันนี้เป็นวันที่ผมกับฝุ่นตกลงจะกลับเข้าหอ ผมตื่นขึ้นมาแพ็กของตั้งแต่เช้ามืด โดยมีน้องๆ มาอยู่เป็นกำลังใจให้
“ถ้าพี่ฝุ่นปฏิเสธ พี่จะทำไง”
“จีบไปเรื่อยๆ “
พวกน้องๆ พยักหน้าเข้าใจ ผมแบกกระเป๋าโบกแท็กซี่เข้าหอทันที แอบหวังเล็กๆ ว่าฝุ่นจะกลับมาก่อน แต่ห้องยังล็อกแน่นเหมือนเดิม ผมเอากระเป๋าไปจัดเก็บ แล้วทำความสะอาดห้องรอ กระทั่งมั่นใจว่าทั้งห้องสะอาดสะอ้านแล้วถึงได้ไปอาบน้ำแต่งตัวรอ
แม้จะเป็นชุดอยู่บ้าน แต่ผมก็เลือกตัวที่ดูหล่อที่สุด ตรวจสอบไปยันกางเกงในว่าใส่กลับด้านไหม
ผมนั่งคอยอย่างร้อนรน ตั้งแต่เช้าผ่านเที่ยงไปจนถึงบ่ายฝุ่นก็ยังไม่โผล่
กระทั่งหกโมงเย็นถึงได้ยินเสียงลูกบิดดังเบาๆ ผมดีดตัวลุกยืนทันที วิ่งถลาไปทางหน้าประตู พอบานไม้เปิดออกและเห็นชัดๆ ว่าคนที่โผล่เข้ามาเป็นคนที่ผมกำลังรอคอย ผมก็ถลาเข้าไปกอดมันแน่นทันที
“ถ้ามึงมาช้ากว่านี้อีกนิด กูคงคิดถึงมึงตายแน่ๆ ฝุ่น”
สีหน้ามันดูตกใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ กระเป๋ามันร่วงลงพื้นตั้งแต่ผมชาร์จมันแล้ว
“ไม่มีวันไหนที่กูไม่คิดถึงมึงเลยนะ” ผมก้มหอมหัวมันเบาๆ ด้วยความคิดถึง หอมแก้ม หอมหู แล้วเลื่อนกลับขึ้นไปหอมหัวอีกรอบ
พอหนำใจถึงได้ค่อยๆ คลายตัวมันออกมอง จับคางมันพลิกซ้ายพลิกขวา ราวกับจะสำรวจคุณภาพสินค้าสักชิ้น
“ตัดผมทรงใหม่เหรอ น่ารักจัง”
แก้มมันเรื่อสีนิดๆ ผมยิ้ม รวบกอดมันอีกรอบ
ผมคลายตัวออกอีกที จับมือมันมาสำรวจ แอบหวังเล็กๆ ว่ามันจะถอดสร้อยข้อมือของพี่เรย์ออก
ผมนิ่งไปเมื่อเห็น
ครับ…
สร้อยข้อมือฝุ่นหายไปหนึ่งเส้น
แต่ไม่ใช่เส้นของพี่เรย์ ที่หายไปคือสร้อยที่ร้อยวงแหวนของผมไว้ต่างหาก
ใจผมร่วงไปอยู่ที่พื้น ผมคิดเอาไว้แค่ว่าฝุ่นมันจะเลือกผมแล้วถอดสร้อยข้อมือพี่เรย์ หรืออย่างแย่ที่สุดคือมันยังไม่ถอดออก
แต่ไม่ได้คิดไว้ว่ามันจะถอดของผมออกแทน
หัวใจผมเหมือนโดนคว้านออกไปทั้งยวง เพ่งมองไปยังข้อมือมัน ลูบไล้เบาๆ ราวกับจะเสกให้สร้อยที่หายไปกลับคืนมา
ผมกลืนน้ำลายลงคอ สบตามันอีกรอบ
“คำตอบของมึงคือไม่เหรอ” ผมถามแผ่ว มันไม่ตอบอะไร ผมกลืนน้ำลายอีกอึก ค่อยๆ ดามหัวใจที่กำลังพังทลายของตัวเองให้ใช้งานได้อย่างปกติ ขยับไปรวบกอดมันอีกรอบเบาๆ
“กูจะพยายามให้มากกว่าเดิมนะฝุ่น” ผมคลายปล่อยมันออก ฝืนส่งยิ้มให้ “กินข้าวมารึยัง เหนื่อยไหม อยากอาบน้ำก่อนรึเปล่า ถ้ายังไม่ได้กินอะไร เดี๋ยวกูปั่นจักรยานพาไปกินข้าวร้านโปรดมึง”
“ขอกูเก็บของก่อนละกัน ค่อยไปกินข้าว กลับมาค่อยอาบน้ำ”
ผมพยักหน้า รอจนมันจัดของเสร็จ แล้วพามันเดินลงไปข้างล่างเพื่อปั่นจักรยานไปยังร้านอาหาร
ผมปั่นแบบเหม่อๆ ไม่ได้พูดได้ถามหรือขอเหตุผลที่มันถอดสร้อยของผมออกสักคำ รู้คำตอบอยู่แล้ว จะถามทำไม
รู้ว่าผมจำเป็นต้องสู้ต่อ แต่แอบหมดแรงนี่ครับ
ถึงจะนอยด์ขนาดไหนผมก็ยังดูแลฝุ่นดีเหมือนเดิม กระทั่งอิ่มก็พามันกลับหอ
ผมให้ฝุ่นอาบน้ำก่อน พอมันออกมาผมถึงได้เข้าไปอาบต่อด้วยสภาพนอยด์ๆ ตามเดิมนั่นแหละ ฝุ่นนั่งอ่านหนังสืออยู่ ผมเดินออกไปแต่งตัว หันกลับไปมองแผ่นหลังเพรียวๆ นั้น มันเป็นภาพที่ไม่ได้เห็นมาเกือบเดือน ผมคิดถึงมันจริงๆ
พอครบกำหนดเวลา มันก็ลุกขึ้น เดินมาขึ้นเตียง ผมนั่งคอย ฝุ่นไม่พูดอะไรกับผม ทิ้งตัวลงนอน หยิบควายถึกมากอด ขยับหันหลังตะแคงข้างดังเดิม
ผมขยับไปกอดมันไว้ จูบหัวเบาๆ จริงๆ ไม่ได้เจอมันนาน ผมน่าจะเกิดอารมณ์และจับมันฟัดให้สมอยาก แต่สภาพจิตใจผมมันนอยด์หนัก เลยไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแบบนั้น
ผมกระชับกอดมันแน่นขึ้น
“ความรู้สึกกูยังเหมือนเดิมนะฝุ่น เคยรักมึงยังไง ตอนนี้ก็ยังรักอยู่”
มันไม่พูดตอบอะไร ผมปิดไฟ ความมืดเข้ามาแทนที่ ผมกระชับกอดมันแน่นขึ้น บอกตัวเองว่าพรุ่งนี้จะเริ่มใหม่
ผมตื่นก่อนฝุ่น ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว พอเรียบร้อยฝุ่นก็เข้าต่อ ผมปั่นจักรยานไปส่งฝุ่นที่คณะเหมือนเดิม ความรู้สึกที่มีวงแขนมันโอบกอดไว้ที่เอวยังทำให้ผมรู้สึกดีตามเดิม ผมยิ้ม ปล่อยให้สายลมยามเช้าพัดไหว ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ถึงกรุงเทพฯจะไม่หนาวเท่าตจว.ก็เถอะ แต่มันก็เย็นกว่าที่เคย
ผมปล่อยมือจากแฮนด์รถมาจับมือที่เอวเบาๆ ลูบไล้ มือฝุ่นนุ่มขึ้นหรือเปล่านะ ผมเลื่อนไปลูบแขนมันเบาๆ เพื่อพิสูจน์ มันลื่นปรื้ดเลย
ผมดึงมือกลับมาจับแฮนด์ดังเดิม
…แล้วนิ่งคิด
…เดี๋ยวนะ…
แขนมันลื่นเกินไปหรือเปล่า ลื่นจนเหมือนไม่มีอะไร เพราะจำได้ว่าเวลาผมลูบไปแบบนี้มันต้องสะดุดกับสร้อยข้อมือนี่ ผมก้มมองมือฝุ่นที่เอว
แล้วรีบกำเบรกหยุดรถไว้กลางทาง ลุกขึ้นยืนหันไปมอง
ฝุ่นยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม
“ฝุ่น!”
ข้อมือมันไม่มีสร้อยสักเส้น ไม่ว่าจะของผมหรือของพี่เรย์
“สร้อยพี่เรย์หายไปไหน” เพราะเมื่อคืนผมยังเห็นมันใส่อยู่เลย
มันมองหน้าผม ผมจ้องกลับ หรือว่ามันทำขาดระหว่างทาง
“มึงทำขาดหรือว่าตั้งใจถอด” หัวใจผมเต้นตุ๊มต่อม
“แล้วแต่จะคิด”
“ฝุ่น!!” ผมอยากกอดมันมากๆ แต่ไม่อยู่ในสถานการณ์ที่เอื้อ มันก้าวลงจากรถ เพราะมีเพื่อนร่วมคลาสมันเดินมาพอดี
“เดี๋ยวกูไปพร้อมเพื่อนๆ ละกัน” แล้วมันก็หันหลังเดินจากไปแค่นั้น ผมยืนหันรีหันขวาง ใจอยากเข้าไปถาม แต่มันก็ไม่เหมาะ ผมจำต้องกดข่มทั้งความดีใจและสงสัยลง ปั่นจักรยานไปคณะตัวเอง
ฝุ่นมันตั้งใจถอดออกใช่ไหม นี่มันรับรักผมแล้วเหรอ ผมขมวดคิ้ว แล้วทำไมมันต้องถอดสร้อยผมออกด้วยล่ะ
โอ๊ย! ทำไมมันต้องทำแบบนี้กับผมด้วยวะ!!
ผมประสาทจะกินเอาให้ได้ในการเข้าเรียนวันแรก ไอ้สายรหัสก็ดันอยากเลี้ยง แต่ผมปฏิเสธหมดโดยให้เหตุผลว่าจะไปหาเมีย ซึ่งพวกนั้นไม่อาจคัดง้างอะไรได้
ผมโทรหาฝุ่นบอกมันว่าจะไปรับ แต่มันบอกว่าติดนัดสายรหัสเหมือนกัน ผมถามว่าอยู่ไหน ผมจะไปนั่งเฝ้า แต่มันไม่ยอมบอก ผมจึงทำได้แค่กลับมานั่งคอยอยู่ที่ห้อง กระทั่งประตูเปิดออก ผมรีบถลาเข้าไปหามันทันที
“ฝุ่น มึงกำลังจะทำให้กูเป็นบ้านะ” ผมบอกอย่างร้อนรน “บอกกูสิ มึงเป็นคนถอดสร้อยข้อมือพี่เรย์ใช่ไหม มึงรับรักกูแล้วใช่ไหม”
ฝุ่นค่อยๆ ล้วงหยิบบางสิ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง
มันคือสร้อยข้อมือครับ
ของพี่เรย์นั่นแหละ สภาพยังครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ได้ขาดอะไร หัวใจผมเต้นตึกตัก รวบมันเข้ามากอดแน่น
“มึงถอดมันออก มึงยอมรับกูแล้วใช่ไหม” ผมถามอย่างดีใจ กอดมันแน่นขึ้น ก่อนผลักมันออก
“แล้วสร้อยข้อมือกูล่ะ มึงถอดออกด้วยทำไม”
มันมองหน้าผม ก่อนค่อยๆ ล้วงดึงบางสิ่งออกมาจากคอตัวเอง
ผมเพิ่งสังเกตว่ามันใส่สร้อย ผมคิ้วขมวด ปลายของสร้อย คือแหวนวงหนึ่ง ซึ่งผมจำไม่ผิดว่ามันเป็นแหวนของผมแน่ๆ
“พอดีกูปีนต้นไม้เล่นระหว่างไปเที่ยวบ้านยายแล้วมันขาด กูส่งกลับไปซ่อมอยู่ เลยต้องใส่ไอ้นี่แทน”
ผมอ้าปากค้าง
“แล้วทำไมมึงไม่บอกกู ปล่อยให้กูคิดมากอยู่ตั้งนาน”
มันยักไหล่ ผมรวบกอดมันแน่นขึ้น
“กูจะถือว่ามึงรับรักกูแล้วนะฝุ่น มึงถอดสร้อยพี่เรย์ออกแล้ว มึงตกลงแล้ว” ผมโมเมทันทีตามข้อตกลงที่เคยคุยกันไว้
ผมคลายอ้อมแขนออก ย่อตัวลงไปนั่งคุกเข่าต่อหน้ามัน จับมือมันมากุมไว้ทั้งสองข้าง แหงนหน้ามอง
“แต่งงานกับกูนะ”
ฝุ่นอ้าปากค้าง
“มากไปแล้วพล แค่นี้ก็พอ”
ผมทำหน้างอแงใส่ ไม่ยอมขยับ รวบกอดสะโพกมันแน่นแหงนหน้ามองทั้งที่ยังคุกเข่าอยู่ ส่งสายตาออดอ้อน
“น้า แต่งงานกับกูเถอะ”
“ทำตัวเป็นเด็กไปได้ คบกันให้รอดพ้นปีก่อนเถอะ”
ผมตาวาว
“งั้นถ้าครบปี มึงจะแต่งงานกับกูใช่ไหม”
มันพ่นลมหายใจแรง จับหูผมสองข้าง ยืดห่างจากหัวแรง ผมร้องโอ๊ยๆ
“อย่าใช้อารมณ์และความอยากตัดสินอนาคตพล คิดให้รอบคอบก่อนจะพูดอะไร”
ผมจ้องตามันนิ่ง มองกลับด้วยสีหน้าจริงจัง
“กูไม่ได้เพิ่งคิดนะฝุ่น กูคิดมานานแล้ว คิดเห็นแม้กระทั่งภาพเราสองคนแต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกันยันแก่เฒ่านู่น”
คราวนี้มันมองผมนิ่งค้าง
ผมจับมือฝุ่นมาวางไว้ตรงตำแหน่งหัวใจตัวเองอีกรอบ ยกขึ้นจูบ มันก้มมองผม และผมก็แหงนหน้ามองมันด้วยสายตารักใคร่
“หัวใจดวงนี้ เลือดเนื้อกายใจนี้ กูยกให้มึง”
แก้มมันเรื่อสีขึ้นนิดๆ เสหลบเสีย ไม่ได้เห็นมันเขินมานานแล้วนะเนี่ย
“คราวนี้มึงจะแต่งงานกับกูได้รึยัง”
มันส่ายหน้าไปมา ผมหน้าเบี้ยว
“คบกันให้พ้นปีโดยมึงไม่เบื่อก่อนละกัน”
ผมตาวาวอีกรอบ
“ได้สิ ถึงเวลานั้นกูจะมาขอมึงแต่งอีกรอบ ห้ามปฏิเสธกูล่ะ”
“ไม่รับปาก ขึ้นอยู่กับมึงทำตัวดีแค่ไหน”
ผมเบ้หน้าแล้วยิ้มแป้น รวบกอดมันแน่นทั้งที่ยังคุกเข่าอยู่ท่าเดิม มันลูบหัวผมเบาๆ
“ปล่อยได้แล้วกูจะไปอาบน้ำ”
ผมขยับลุก
“อย่าเพิ่งดีกว่า อาบตอนนี้เดี๋ยวก็ต้องอาบอีก”
มันมองมางงๆ ผมไม่อธิบายอะไรให้มันฟัง ขยับเข้าไปชิด ให้รู้ว่าผมหมายความว่าไง
“กูอัดอั้นมาตั้งเป็นเดือนถึงเวลาเอาใจพลน้อยแล้ว”
มันเบิกตากว้าง
“เดี๋ยวพล!!”
ไม่ดงไม่เดี๋ยวแล้ว ผมรวบจับฝุ่นโยนขึ้นเตียงทันที ไม่เปิดโอกาสให้มันได้ทักท้วงอะไรอีกแม้แต่คำเดียว จัดการกลืนกินมันทั้งตัว
ทันที
The end
จบไปอีกเรื่อง ขอบคุณทุกรีไพล์และทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

พยายามเขียนนิยายที่ไม่มีดราม่า อ่านแล้วฟีลกู๊ด มั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่มีบทเศร้าแน่ๆ แต่ก็ยังมีบางคนเสียน้ำตาจนได้ (คนแรกกำลังหั่นหอม อีกคนมือถือตกใส่ตีนระหว่างยืนอ่าน = =; ) ซียูเน็กจ้าา
ฝากอ่านเรื่องอื่นๆ ด้วยน้าา โดยเฉพาะหงส์ซาน แนวฟีลกู๊ดพอกัน ส่วนใครสายดราม่าแนะนำทาสแค้น
อยากได้อยากอ่านแนวไหนไปพูดคุยทักทายกันได้ที่เพจและทวิตนะคะ (นอกจากแจ้งอัพนิยายแล้วนางไม่อัพอะไรอีกเลย นางสายอยู่ถ้ำ = =;)
สำหรับคนที่ต้องการหนังสือและอีบุ๊กไปสะสมก็จิ้มลิงค์นี้ได้เลยค่ะ
>
https://goo.gl/wvGNzS>อ่านเรื่องถัดไป Our Love ผมท้องกับเพื่อน >
https://goo.gl/PM5HCs