lll:::::ไฟร้ายลวงรัก:::::lll--Ch.19--อวสาน--(Up.09-04-2018)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: lll:::::ไฟร้ายลวงรัก:::::lll--Ch.19--อวสาน--(Up.09-04-2018)  (อ่าน 25768 ครั้ง)

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-04-2018 18:46:52 โดย ไมเลอร์ »

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-1-

เปิดฉากตัวร้าย



บ้านศิริกรโสภณ

          ตระกูลศิริกรโสภณเป็นตระกูลเก่าแก่  ที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆของประเทศ  จากการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  ‘จรัญ ศิริกรโสภณ’ เจ้าของบ้านอายุหกสิบห้าปี และสมาชิกในบ้านกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้ากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา



       ‘เพลินพิศ  ศิริกรโสภณ’ ภรรยาในสมรสคนปัจจุบันของจรัญ

       ‘น้ำ นที ศิริกรโสภณ’ อายุ 18 ปี  ลูกชายคนเล็กที่เกิดจากเพลินพิศ

       ‘ไฟ อัคนี ศิริกรโสภณ’ อายุ 20 ปี ลูกชายคนโตที่เกิดจาก ‘แก้ววดี’ เมียนอกสมรสที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง

       ‘หิน รัชตะ ศิริกรโสภณ’ อายุ 30 ปี หลานชายของแม่นมที่เคยเลี้ยงดูจรัญมาจนโต  แม่และยายของหินได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะหินอายุได้ 15 ปี จรัญจึงส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาโทจากต่างประเทศแล้วให้มาช่วยบริหารงานที่บริษัท



            “เมื่อคืนไปไหนมาทำไมกลับดึกจังไฟ” จรัญเอ่ยถามพร้อมกับหันไปมองลูกชายคนโต ที่กำลังนั่งทานอาหารโดยไม่ได้สนใจใครเลยแม้แต่น้อย

            “ผมไปเที่ยวกับเพื่อนมา” เขาตอบอย่างไม่ยี่หระ  นี่ล่ะคือนิสัยของไฟ หนุ่มน้อยหน้าหวานที่มีนิสัยเย่อหยิ่งเป็นที่โจษขานไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย ความร้ายกาจของไฟทำให้หนุ่มๆที่เข้ามาจีบต่างก็ต้องหนีกระเจิงไปหลายราย  ถึงกระนั้นก็ยังมีหนุ่มๆใจกล้าเข้ามาขายขนมจีบกันไม่เว้นแต่ละวัน

            “มัวแต่เที่ยวจะเรียนจบกับเค้าไหมล่ะ” จรัญเอ่ยกับลูกชาย

            “พ่อไม่ต้องห่วงผมหรอกผมเอาตัวรอดได้  ที่ถามนี่เพราะคิดว่าผมเรียนไม่เก่ง  เหมือนลูกชายคนเล็กของคุณพ่อใช่ไหมล่ะ”  ไฟพูดพร้อมกับเบะหน้าใส่น้องชายต่างมารดาที่นั่งอยู่ข้างๆ

            น้ำเป็นเด็กที่เรียบร้อยและเรียนเก่งมาก เป็นที่รักของทุกๆคนในบ้าน  ซึ่งแตกต่างจากไฟที่ชอบวีนและชอบโวยวาย  ทำให้คนในบ้านไม่มีใครชอบนิสัยของเขาเลยแม้แต่คนเดียว  นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมไฟถึงได้อิจฉาและเกลียดน้ำมากที่สุด  เขาไม่เคยได้รับความรักจากใครๆเหมือนน้องชายมาก่อน  แม้กระทั่งผู้เป็นพ่อคนที่พาเขาเข้ามาอยู่ที่นี่หลังจากแม่ของเขาตาย

            “ทำไมต้องไปแขวะน้องด้วยล่ะ!” จรัญขึ้นเสียงใส่  จนทุกคนที่นั่งร่วมโต๊ะต่างก็เงียบ

            “แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะครับ ใช่สิผมไม่ใช่ลูกรักเหมือนไอ้น้ำนี่” ไฟวางช้อนส้อมเสียงดังแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไป

            “ไฟ! กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้ลูกเวร!” จรัญเหลืออดกับพฤติกรรมของลูกชายคนโตมากเหลือเกิน

            “คุณคะปล่อยแกไปเถอะ  วัยรุ่นก็อย่างนี้ล่ะคะอารมณ์ร้อน เดี๋ยวแกคิดได้ก็คงดีขึ้นแน่นอน” เพลินพิศเอ่ยกับผู้เป็นสามี

            “ใช่ครับคุณพ่อพี่ไฟเค้าก็เป็นอย่างนั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว คุณพ่อใจเย็นๆนะครับ”

            “ถ้าไฟมันเป็นเด็กดีได้เท่าน้ำก็คงดี  พ่อจะได้ไม่ต้องปวดหัวอย่างทุกวันนี้” จรัญเอ่ยอย่างอารมณ์เสียก่อนจะวางช้อนส้อมลง  ตอนนี้เขาทานอะไรไม่ลงแล้ว

            “ฉันอิ่มแล้ว เดี๋ยวเจอกันที่บริษัทนะหิน” เขาเอ่ยกับหินก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถที่หน้าบ้าน

            “ครับคุณท่าน” หินตอบก่อนจะวางช้อนส้อมลง

            “ผมอิ่มแล้วครับคุณน้า” เธอบอกกับเพลินพิศ

            “ผมก็อิ่มแล้วครับแม่”

            “ถ้างั้นก็เตรียมตัวไปมหา’ลัยเถอะลูก ให้พี่หินเค้าไปส่ง” เพลินพิศบอกกับลูกชาย

            “แต่ว่าพี่หินเค้าต้องรีบไปทำงานนะครับแม่” น้ำเอ่ยอย่างเกรงใจ

            “เราจะไปได้ยังไงล่ะเมื่อเช้านายพลมาบอกแม่ว่ารถเราเสียน่ะสิ”

            “น้องน้ำเดี๋ยวพี่ไปส่งก็ได้ครับ วันนี้พี่ไม่รีบ” หินเอ่ยกับหนุ้มน้อยที่อยู่ข้างๆ

            “ถ้างั้นก็รีบไปกันเถอะจ๊ะเดี๋ยวสายกันพอดี” เธอบอกกับทั้สองคน

            “ถ้างั้นน้ำไปก่อนนะครับแม่” น้ำยกมือไหว้ผู้เป็นแม่

            “ผมไปก่อนนะครับคุณน้า” หินยกมือไหว้

            “จ้าขับรถดีๆล่ะ” เธอยิ้มให้กับชายหนุ่มทั้งสองคน

            เพลินพิศมองตามหลังลูกชายและหินไป  เธอไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย  นั่นเพราะเธอตั้งใจว่าจะจับคู่น้ำกับหิน  สักวันหนึ่งเธอจะต้องให้สองคนนี้แต่งงานกันให้ได้  เพราะหินเป็นคนเก่งในเรื่องการบริหารและได้รับความไว้วางใจจากจรัญ  ให้รับผิดชอบโครงการใหญ่ๆหลายโครงการ  ในอนาคตคงจะได้ขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารแทนจรัญอย่างแน่นอน  ถ้าเด็กสองคนนี้ได้แต่งงานกัน  ทรัพย์สมบัติทุกอย่างของสิริกรโสภณจะไปไหนเสีย  มันจะต้องเป็นของลูกชายเธอแต่เพียงผู้เดียว

“แกไม่มีทางได้สมบัติของสิริรกรโสภณแม้แต่สตางค์แดงเดียวไอ้ไฟ”

            เพลินพิศยกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ  หล่อนเกลียดไอ้เด็กคนนี้มากเหลือเกิน  ลูกชายของคนที่เป็นรักแรกของจรัญ  แม้กระทั่งแก้ววดีตายไปนานหลายปีแล้วแต่จรัญก็ยังคงรักไม่เปลี่ยนแปลง  นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเธอถึงได้เกลียดสองแม่ลูกมากขนาดนี้



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            “ขอบคุณนะครับพี่หิน” น้ำยกมือไหว้ชายหนุ่มเมื่อรถเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าคณะแพทยศาสตร์

            “ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวเย็นนี้พี่มารับนะ”

            “ถ้าพี่หินไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวน้ำนั่งแท็กซี่กลับก็ได้”

            “พี่ว่างครับเดี๋ยวถ้ายังไงก็อย่าลืมโทรหาพี่ล่ะว่าจะให้มารับที่ไหนกี่โมง”

            “ได้ครับพี่หิน ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

            “เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ”

            “สวัสดีครับ”

            ทั้งสองโบกมือให้กันก่อนที่หินจะขับรถออกไป  ส่วนก็น้ำเดินเข้าไปในคณะแพทยศาสตร์ก่อนจะเจอเพื่อนสนิทที่เพิ่งจะมาถึงพอดี

            “ว้าย! มีผู้ชายมาส่งด้วยวันนี้” อาร์มเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของน้ำเอ่ยแซวเพื่อน

            “วันนี้รถเราเสียอ่ะพี่หินเลยมาส่ง”

            “สมใจอยากแล้วล่ะสิ”

            “อาร์มพูดอะไรเนี่ยเรางงไปหมดแล้ว” ร้อยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหวานเมื่อถูกเพื่อนแซว

            “อย่ามาแอ๊บเรารู้ว่าน้ำชอบพี่หิน เห็นพูดเรื่องพี่หินให้เราฟังบ่อยขนาดนั้น ถ้าไม่รักไม่ชอบมันก็แปลกๆแล้วล่ะเธอ”

            “อย่าพูดดังไปเดี๋ยวคนก็ได้ยินหรอก” น้ำเอ็ดเพื่อนก่อนจะมองไปรอบๆว่ามีคนรู้จักอยู่แถวนี้หรือเปล่า

            “โอ๊ย! จะกลัวอะไรยะไม่มีใครรู้เรื่องหรอก”

            “เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ เข้าเรียนกันเถอะเดี๋ยวจะสายเอา”

            “จ้าแม่เรียบร้อยปานผ้าพับไว้ จะมีใครที่เรียบร้อยเท่ากับเธออีกไหมเนี่ย” อาร์มว่าให้เพื่อนก่อนจะเดินตามหลังไป



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            “วี๊ดวิ้ว น้องไฟคนสวยมาแล้วโว้ย!” เสียงหนุ่มๆคณะวิศวกรรมศาสตร์ส่งเสียงแซว  เมื่อไฟและเพื่อนอีกสองคนกำลังเดินผ่านไปที่หอสมุดของมหาวิทยาลัย

            “ถ้ายังอยากมีปากไว้กินข้าวก็หุบปากซะ” ใบหน้าสวยใช้หางตามองชายหนุ่มทั้งห้าคนก่อนจะตะโกนด่าอย่างไม่ไว้หน้า

            “ถึงน้องไฟจะปากหมาแต่พี่ก็ยังชอบนะครับ” โดมหนุ่มหล่อดีกรีเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ตอบกลับ  โดยไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับคำก่นด่าของหนุ่มน้อยหน้าหวานเลยแม้แต่น้อย

            “เห่าไปเถอะคนอย่างฉันไม่มีทางลดตัวลงไปคบคนต่ำๆอย่างนายหรอก” ระเบิดลูกใหญ่ถูกทิ้งไว้ก่อนที่ไฟจะเดินเชิดหน้าไปพร้อมกับเพื่อน

            คนที่ได้ฟังถึงกับยิ้มแห้งๆทันที  โดมตามจีบหนุ่มหน้าหวานคนนี้มาเป็นปี  แม้จะรู้กิตติศัพท์ความเย่อหยิ่งและปากร้ายแต่คนอย่างเขาไม่มีทางยอมแพ้อย่างแน่นอน

            หลังจากเดินผ่านกลุ่มหนุ่มวิศวะมาแล้ว

            “ไฟ...มึงไม่พูดแรงเกินไปหน่อยเหรอวะ” วีเอ่ยถาม

            “แรงตรงไหนวะกูก็พูดอย่างนี้ประจำเวลาเจอพวกปากหมามาแซว”

            “แต่พี่โดมเค้าตามจีบมึงมานานแล้วนะโว้ย โดนมึงด่าบ่อยๆอย่างนี้อาจจะเก็บกดแล้วตามมาข่มขืนมึงเข้าซักวันจะทำยังไง” วียังไม่ยอมหยุดกวนใจเพื่อน

            “กูไม่กลัวโว้ย มันกล้าทำก็ลองดูสิ” ไฟเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ  คนที่คู่ควรกับเขาต้องอยู่ในระดับเดียวกันเท่านั้น  คนอย่างนายนั่นเป็นแค่นักศึกษาวิศวะจนๆ ไม่มีทางที่จะชายตาแลอย่างแน่นอน

            “ก็มึงเลือกมากอย่างนี้น่ะสิถึงยังไม่มีแฟนซักที” ‘ปลา’เพื่อนอีกคนของไฟเอ่ยขึ้น

            “สรุปพวกมึงเป็นเพื่อนกูรึเปล่าเนี่ย” ไฟมองหน้าเพื่อนทั้งสองอย่างขัดใจ

            “ก็เพราะพวกกูเป็นเพื่อนมึงนี่ไงถึงได้บอกสิ่งที่มึงควรจะปรับปรุงตัว ไม่งั้นจะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้มึงอีกนะไอ้ไฟ” ปลาเอ่ย

            “ใครไม่อยากคบกับกูก็ช่างหัวมัน  กูมีพวกมึงก็พอแล้ว” เหมือนคำแนะนำที่ทั้งสองคนบอก  มันไม่ได้เข้าหูไฟเลยแม้แต่น้อย

            “เออๆกูไม่บอกไม่สอนมึงอีกแล้วเหมือนสีซอให้ควายฟังซะอย่างนั้น” วีเกาหัวแกร็กๆเขายอมแพ้แล้วกับความดื้อด้านของเพื่อนคนนี้

            “เห็นมะในที่สุดกูก็ชนะตามเคย ฮ่าๆ” เหมือนมันเป็นเรื่องเคยชินไปแล้วสำหรับคนอย่างไฟ  เพราะเขาเจอเรื่องแบบนี้มานักต่อนัก  ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือคนรอบตัวมักจะเอ่ยเตือนอย่างนี้เสมอ แต่คนอย่างเขาไม่เคยแคร์อะไรอยู่แล้ว



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            หลังจากเลิกเรียนแล้วไฟก็ขับรถกลับบ้านตามปกติ  แต่วันนี้มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ระหว่างขับรถเข้ามาในซอยก็เจอรถของหินขับอยู่ข้างหน้า  คนอย่างไฟมีหรือที่จะปล่อยให้โอกาสนี้มันผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์  เขาเร่งความเร็วจนแซงขึ้นไปตัดหน้ารถของหิน  ก่อนจะเปิดกระจกแล้วโบกไม้โบกมือให้อย่างอารมณ์ดี  แล้วขับเข้าไปในรั้วบ้านก่อน

            เมื่อจอดรถที่โรงรถแล้วไฟก็ยืนรออีกฝ่าย  เขาอยากจะเห็นสีหน้าของคนที่ถูกขับรถปาดหน้าว่าจะเป็นยังไง  เมื่อเห็นหินเดินมาพร้อมกับน้ำไฟก็ยิ้มออกมาทันที  ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยเหรอเนี่ย  ไอ้ลูกคนใช้ที่มักใหญ่ใฝ่สูงจนได้เป็นถึงรองประธาน  กับไอ้น้องต่างแม่ที่แอ๊บเรียบร้อยอ่อนแอน่าสงสาร  เขาเกลียดสองคนนี้ที่ใครๆต่างก็รักและเอาใจใส่ไม่เหมือนกับสิ่งที่เขาได้รับ

            “ทำไมถึงทำอย่างนี้ ถ้ามันเกิดอุบัติเหตุนายจะรับผิดชอบไหวไหม” หินเดินตรงมาหาทันที  สีหน้าของชายหนุ่มดูแล้วมีอารมณ์อยู่ไม่ใช่น้อย

            “แล้วมันเกิดป่ะละ” คนที่โดนกล่าวหาทำหน้ายียวนกวนประสาท ไม่ได้สนใจคำพูดนั่นเลยแม้แต่น้อย

            “คนอย่างนายคงไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี  คิดอยากจะทำอะไรก็ทำไม่เห็นหัวใคร สมแล้วที่ในบ้านหลังนี้ไม่มีใครรักเลยซักคน” หินเอ่ยประโยคแทงใจดำออกมาทำให้คนที่ฟังอยู่ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีทันที

            “ใช่สิก็ฉันไม่ใช่คนที่เรียนเก่งจนติดหมออย่างแกจนทุกคนต่างก็เยินยอสรรเสริญ  ไม่ใช่คนที่มักใหญ่ใฝ่สูงชอบประจบประแจงจนมีหน้าที่ใหญ่โตนี่” น้ำมองหน้าพี่ชายอย่างรู้สึกผิดหวังเมื่อได้ยินประโยคนั้น

            “ไปกันเถอะน้ำอย่าไปใส่ใจกับคนประเภทนี้เลย” หินว่าแล้วก็จูงมือน้ำเดินผ่านหน้าไป

            “หยุดเดี๋ยวนี้กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน” คนอย่างไฟไม่มีวันยอมแพ้  เขาจะต้องเอาชนะทุกคนในบ้านหลังนี้ให้ได้

            “น้ำเข้าไปในบ้านก่อน”

            “แต่....”

            “ไม่มีแต่เข้าไปก่อน” เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของพี่ชายน้ำก็ยอมเดินไปแต่โดยดี “ตอนนี้ก็เหลือเราสองคนแล้วจะว่าอะไรก็ว่ามา  คนอย่างน้ำไม่ควรมาได้ยินถ้อยคำสถุลอย่างนี้” หินมองหน้าอย่างเอาเรื่อง

            “นี่สินะธาตุแท้ของนายคุณพ่อจะรู้ไหมนะว่าลูกคนใช้ที่เอามาเชิดหน้าชูตา  แท้ที่จริงมันก็ไม่เคยลืมกำพืดของมันต่ำยิ่งกว่าอะไร” สีหน้าท่าท่างบ่งบอกว่าไฟนั้นขยะแขยงคนที่อยู่ตรงหน้ามากขนาดไหน

            “หยุดดูถูกแม่พี่เดี๋ยวนี้นะไฟ!...ไม่งั้น...” คนตัวสูงกระชากแขนร่างบางเข้ามาประชิดจนใบหน้าห่างกันแค่เพียงคืบ  ก่อนที่ไฟจะเบะปากใส่อีกคนอย่างไม่รู้สึกสำนึก

            “ไม่งั้นนายจะทำอะไรฉัน กล้าเหรอ?” คนที่ถูกรั้งตัวไว้ท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว

            “อย่าท้านะไฟ” ใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความโมโหจ้องมองอย่างเหลืออด

            “ไม่ได้ท้า ทำสิถ้าฉันเจ็บแม้แต่นิดเดียวรับรองเรื่องถึงคุณพ่อแน่”

            “นายไม่เจ็บแน่รับรอง” คนถูกท้ายทายกลับแสยะยิ้มให้อย่างมีเลศนัย  จนคนที่ต้องเป็นฝ่ายกลัวนั้นกลับเป็นไฟเองซะอย่างนั้น

            “นะ...นายจะทำอะไร อื้อ” พูดยังไม่ทันจบหินก็ประกบจูบที่ริมฝีปากบางทันที  คนโดนจูบเบิกตากว้างด้วยความตกใจ  หินไม่ปล่อยให้คนที่อยู่ในอ้อมกอดมีโอกาสหายใจแม้แต่วินาทีเดียว เขาตักตวงความหอมหวานในโพรงปากนั้นอย่างชำนิชำนาญ  มือเรียวเล็กพยายามดันที่อกแกร่งเอาไว้ แต่มือหนาทั้งสองข้างของหินกลับกอดรัดที่เอวบางเอาไว้แน่นไม่มีทีท่าว่าจะยอมปล่อยง่ายๆ

            “เจ็บไหมล่ะ? ไม่นึกเลยว่าคนปากหมาอย่างนายปากจะหวานขนาดนี้” หินเลียที่ริมฝีปากของตัวเองแล้วยิ้มเยาะเย้ยคนที่อยู่ในอ้อมกอด

            “ไอ้เลวฉันจะฟ้องพ่อว่าแก....” สิ่งจะพูดออกมาเป็นอันต้องสะดุดเพราะมันช่างกระดากปากเขาเสียเหลือเกิน

            “ฟ้องสิจะฟ้องว่าอะไรล่ะ”

            “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” เมื่อสมใจแล้วหินก็ยอมปล่อยแต่โดยดี

            เพี๊ยะ!

            “จำเอาไว้อย่าได้บังอาจมาแตะเนื้อต้องตัวฉันอีก  ไม่งั้นฉันเอานายตายแน่” ไฟชี้หน้าคนตัวสูงอย่างไม่ยอมแพ้

            “ถ้าเป็นไปได้พี่จะไม่แตะตัวนายแม้แต่ปลายเล็บ รู้ไหมเพราะอะไร เพราะตัวนายมันน่าขยะแขยงไง ใจนายก็สกปรกโสมมยิ่งกว่าน้ำครำซะอีก  จำไว้เหมือนกันว่าอย่ามาอวดดีกับพี่  ไม่งั้นพี่ก็ไม่รับรองเหมือนกันว่าจะบังคับตัวเอง  ไม่ให้ทำอะไรนายได้รึเปล่า”  พูดจบหินก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันที  ปล่อยให้อีกคนยืนตัวสั่นด้วยความโมโหอยู่คนเดียว

            “พวกแกไม่มีทางได้อยู่อย่างสงบสุขแน่นอนถ้าฉันยังอยู่ที่นี่” ดวงตาแข็งกร้าวมองตามหลังไปอย่างไม่ยอมแพ้ เพราะคนอย่างไฟสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น....



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



---------------------------------------------------------
มาเปิดเรื่องใหม่ฝากติดตามกันด้วยนะคร้าบบบบบบ 
เรื่องนี้นายเอกจะร้ายกาจมากที่สุด.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2018 12:32:11 โดย ไมเลอร์ »

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
ตามต่อนะ  ชอบนายเอกร้ายๆ  เปิดบรรยายฉากเหมือนละคร ณ .บ้าน..... รอชมต่อนะ รู้สึกมันเริ่งเข้มข้นเหมือนคมพยาบาท

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รออ่านตอนต่อไปว่าจะร้ายกว่าหญิงเล็ก + แม่กาละเกดหรือป่ะ  o18

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
lll:::::ไฟร้าย:::::lll:::Ch.02--บทลงโทษ--(Up.07-03-2018)
«ตอบ #4 เมื่อ07-03-2018 12:31:18 »

 
CHAPTER
-2-
บทลงโทษ
[/b]



            ขณะนั่งทาครีมบำรุงผิวอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอนก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            “คุณไฟคะ”

            “เข้ามาสิ” เขาเอ่ยแค่นั้นก่อนสาวใช้จะเปิดประตูเข้ามา

            “คุณท่านให้ไปพบที่ห้องทำงานตอนนี้เลยค่ะ”

            “โอเคเดี๋ยวฉันไป”

            เกิดความสงสัยขึ้นมาทันที  นานแล้วที่ผู้เป็นพ่อไม่เคยเรียกตัวเข้าไปพบอย่างนี้  เขาสังหรณ์ใจว่ามันจะต้องมีเรื่องที่ทำให้ทำให้ลำบากใจอย่างแน่นอน

            ไม่นานหลังจากนั้นไฟก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของผู้เป็นพ่อ  ซึ่งอยู่ชั้นสามของตัวบ้านก่อนจะเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป  ก็เห็นผู้เป็นพ่อใส่แว่นหนาเตอะตามฉบับคนสูงวัยกำลังนั่งตรวจงานอยู่บนโต๊ะ

            “คุณพ่อมีอะไรครับ” เขาเอ่ยแต่ไม่ยอมนั่งลงที่เก้าอี้

            “ทำไมไม่นั่งลงก่อนล่ะ” จรัญมองหน้าลูกชายคนโตอย่างขัดใจ

            “ไม่ล่ะครับ คุณพ่อมีอะไรก็รีบๆพูดมาเถอะผมจะรีบกลับไปนอน”

            “เวลานอนของแกมันคงจะมีค่ามากกว่าได้มาคุยกับฉันสินะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าแกจะเป็นลูกของแก้ว  ทำไมแกไม่เอานิสัยดีๆจากแม่มาใช้บ้างห๊ะ!” ไม่มีสักครั้งที่จรัญจะไม่อารมณ์เสียเมื่อได้พูดคุยกับลูกชายคนนี้

            “ผมก็ไม่เคยเป็นลูกรักในสายตาคุณพ่ออยู่แล้วนี่ ไม่ต้องมาสนใจหรอกว่าผมจะเป็นตายร้ายดียังไง” เมื่อได้ยินพ่อพูดอย่างนั้นไฟเองก็มีอารมณ์ไม่น้อย  เขาไม่อยากให้ผู้เป็นพ่อเอ่ยถึงแม่ของตัวเองเลยแม้แต่น้อย  หากพ่อไม่ทิ้งให้เขากับแม่ต้องอยู่อย่างลำบาก  แม่คงไม่ต้องตายจากเขาไปอย่างแน่นอน

            “ฉันก็อยากทำอย่างนั้นถ้าแกไม่ใช่ลูกของฉัน”

            “คุณพ่อไม่ต้องคิดว่าผมเป็นลูกก็ได้ ฮึก” ไฟไม่อาจทนฟังสิ่งที่พอของตัวเองพูดได้  เขาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วจะเดินออกจากห้อง

            “เดี๋ยว! ฉันยังพูดไม่จบ” เมื่อได้ยินไฟก็ยอมหันกลับมาแต่โดยดี

            จรัญพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองเมื่อเห็นว่าลูกชายดูเหมือนจะร้องไห้ออกมา  เขายอมรับว่าตัวเองก็พูดแรงเกินไปจริงๆ  ที่พูดและบ่นทุกอย่างเพราะเขาเป็นห่วงลูกคนนี้มาก  แต่ด้วยนิสัยเอาแต่ใจและไม่เคยฟังคนอื่นทำให้ความรักที่ส่งไปมันไม่เข้าถึงตัวไฟได้เลยแม้แต่น้อย  เขาเองก็มีส่วนผิดที่ไม่พยายามที่จะเข้าหาลูกชายให้มากกว่านี้

            “แกต้องไปฝึกงานที่บริษัท ส่วนที่แกเลือกไว้แล้วพรุ่งนี้ก็ไปยกเลิกซะ” นั่นเพราะไฟเรียนด้านบริหาร  จึงอยากจะให้ไปเรียนรู้งานเผื่อในอนาคตจะช่วยแบ่งเบางานที่นั่นได้บ้าง  และอีกอย่างเขาอยากจะทำให้ลูกชายคนนี้ได้เรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากันคนอื่นได้บ้าง  จรัญตั้งใจจะให้หินเป็นคนสอนงานให้เพราะหินเป็นคนใจเย็น เด็ดขาดและมีความเป็นผู้ใหญ่คงจะรับมือกับคนอย่างไฟได้

            “ไม่! ผมไม่ไปพ่ออย่ามาบังคับผมซะให้ยากเลย”

            “แกต้องไปไม่งั้นฉันจะตัดค่าใช้จ่ายของแกหมดทุกอย่าง แกจะไม่มีเงินใช้แม้แต่สตางค์แดงเดียว”

            “ผมไม่สนพ่อบังคับผมไม่ได้หรอก”

            “แกไม่เชื่อฟังฉันไม่เป็นไร แต่ควรจะนึกถึงหน้าแม่แกที่ตายไปแล้วด้วย  แก้วคงจะเสียใจที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทำกับคนเป็นพ่ออย่างนี้” เขารู้ว่าถ้าเอาชื่อภรรยามาอ้างจะทำให้ลูกชายยอมใจอ่อนลง

            “ไม่ต้องเอาแม่มาอ้างเลย”

            “ฉันจะให้แกกลับไปคิดดูหนึ่งคืนแล้วพรุ่งนี้มาบอกฉัน  หวังว่าคำตอบที่ได้จะทำให้ฉันพอใจนะ”

            คนอย่างพ่อของเขาทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว เขาจะยอมทำตามคำสั่งก็ได้แต่ไม่ใช่เพื่อพ่อ  แต่เพื่อแม่ของเขาต่างหากล่ะ อยากให้เข้าไปฝึกงานที่นั่นดีนักเขาจะป่วนซะเข็ดเลยคอยดู

            “ผมตกลงครับ” เมื่อได้ยินลูกชายตอบรับจรัญก็เงยหน้าขึ้นมามองทันที “ไม่ต้องทำหน้าแปลกใจอย่างนั้นหรอกครับ ที่ผมยอมตกลงก็เพราะแม่ไม่ได้ทำเพราะยอมเชื่อฟังคนอื่น ขอตัวนะครับ” พูดจบไฟก็เดินออกจากห้องไป

            “ฉันจะทำยังไงกับแกดีนะ” จรัญส่ายหัวให้กับความร้ายกาจของลูกชายก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



เช้าวันต่อมาที่มหาวิทยาลัย

            “พวกมึงกูมีเรื่องจะบอก” ไฟเอ่ยขึ้นขณะนั่งอยู่กับเพื่อนที่ศาลาข้างคณะ

            “ว่าไงยะ” ปลามองหน้าเพื่อนอย่างสงสัย

            “คือเรื่องที่เราสามคนจะไปฝึกงานที่เดียวกันน่ะ” ไฟมองหน้าเพื่อนอย่างสำนึกผิด

            “อย่าบอกนะว่ามึงจะไม่ไปกับพวกกูแล้ว” วีเอ่ยถาม

            “อื้ม...มันจำเป็นน่ะเมื่อคืนพ่อกูบอกว่าจะให้ไปฝึกงานที่บริษัท”

            “ไม่เป็นไรถ้าเป็นที่บ้านมึงพวกกูไม่โกรธหรอก แต่ถ้าเป็นที่อื่นมึงได้ตายคามือกูแน่” วียกมือขึ้นโชว์หราให้เพื่อนดู

            “ทำไมโหดจังวะเพื่อนกู ฮ่าๆ” ปลาขำกับท่าทางของวี

            “เก่งเรื่องใช้กำลังไง ถ้าเป็นเรื่องปากสู้กูไม่ได้หรอก” ไฟเอ่ยขึ้น

            “เหรออออ..มึงไปจูบกับใครมาถึงได้รู้ว่าตัวเองเก่งห๊ะไอ้ไฟ” วีแซว

            เมื่อได้ยินเพื่อนแซวไฟก็หน้าแดงขึ้นมาทันที  เพราะมันทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อนที่โดนหินจูบที่โรงรถ

            “มึงพูดบ้าอะไรไอ้วีที่ว่าปากดีหมายถึงเรื่องด่าคนโว้ย!”

            “แล้วทำไมมึงต้องหน้าแดงด้วยล่ะวะ หรือว่ามึงไปจูบกับใครมาจริงๆบอกมาเดี๋ยวนี้!” วีจับพิรุธได้จากสีหน้าและท่าทางของไฟ  เขารู้นิสัยเพื่อนดีว่าเป็นคนตรงๆคิดอะไรก็พูดอย่างนั้น รู้สึกยังไงก็แสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน

            “จริงด้วยมึงบอกมาว่าไปจูบกับใคร พูด!” ปลาเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าพยายามคาดคั้นเอาความจริงจากเพื่อนให้ได้

            “พวกมึงเป็นเชี่ยอะไรกันเนี่ย! จะบ้ากันไปใหญ่แล้วคนอย่างกูเนี่ยนะจะไปจูบกับใคร” ไฟปฏิเสธเสียงแข็งแต่สีหน้าและท่าทางส่อพิรุธอย่างชัดเจน  ทำให้เพื่อนทั้งสองยังไงก็ไม่มีทางเชื่อแน่นอน

            “มึงมีพิรุธ” วีจ้องหน้าอย่างไม่ละสายตา

            “พอๆกูกลับบ้านและเบื่อพวกมึงว่ะ” พูดแล้วก็ลุกขึ้นยืนเตรียมจะกลับบ้าน

            “ยิ่งรีบหนีแบบนี้ยิ่งมีพิรุธ” ปลาเอ่ย

            “มันไม่มีอะไรจริงๆพวกมึงนี่นะกูกลับล่ะ” ไม่รอให้เพื่อนตอบกลับแต่ไฟรีบเดินออกมาโดยเร็ว  เพราะนายนั่นคนเดียวเลยทำให้เพื่อนจับพิรุธเขาได้ “เพราะนายคนเดียวเลย” ไฟเอ่ยกับตัวเองเบาๆด้วยความหงุดหงิด

            เมื่อกลับมาถึงบ้านไฟก็ต้องอารมณ์เสียอีกครั้งเมื่อเห็นแม่เลี้ยงกำลังยืนอยู่หน้าบ้าน  เขากับเพลินพิศไม่เคยจะพูดจาดีๆต่อกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เจอหน้ากันทีไรก็ต้องมีปากมีเสียงกันตลอด  แต่ความร้ายกาจของเพลินพิศมันจะแสดงออกมาเมื่อเจอกับไฟซึ่งๆหน้าเท่านั้น  หากมีผู้เป็นสามีอยู่ด้วยหล่อนก็คือแม่เลี้ยงแสนดีคนหนึ่งนั่นเอง

            “ปิ๋วเธอได้กลิ่นอะไรเน่าๆไหม” เมื่อได้ยินผู้เป็นนายหญิงเอ่ย  ปิ๋วสาวใช้คนสนิทของเพลินพิศ  ก็ทำจมูกฟุดฟิดๆ เพื่อหาต้นตอของกลิ่นที่มโนขึ้นมาเอง

            ไฟหยุดอยู่ตรงนั้นเพื่อรอดูว่าสองคนนี้จะเล่นอะไรกับเขาอีก  คนอย่างไฟไม่มีทางเดินหนีศัตรูถ้าเขาทำแบบนั้นก็หมายความว่าเขาแพ้

            “กลิ่นเหมือนอะไรเน่าๆเลยค่ะคุณนาย” เธอตั้งใจเน้นคำเมื่อเข้ามาใกล้ตัวไฟ

            “สงสัยเป็นหมาหัวเน่าล่ะมั้งนังปิ๋ว ใครๆก็ไม่รัก ใครๆก็ไม่อยากพูดด้วย ทำตัวเหลวแหลกไปวันๆ ฮ่าๆ” เพลินพิศพูดแล้วก็หัวเราะชอบใจพร้อมกับสาวใช้คนสนิท

            “ไม่คิดเหรอว่าจะเป็นกลิ่นปากเน่าๆของพวกเธอ ปากก็หมาความคิดก็เลวอะไรมันน่าจะเหม็นเน่ามากกว่ากันนะ” พูดจบไฟก็เบ้ปากใส่คนทั้งสองอย่างไม่ยอมแพ้

            “อร้ายย!! แกกล้าว่าฉันเหรอไอ้ไฟ ไอ้ลูกเมียน้อย ไอ้สารเลว” เพลินพิศกรีดร้องเสียงดังพร้อมกับชี้หน้าด้วยความโมโห  ส่วนเจ้าตัวที่โดนชี้หน้ากลับยืนเกาะอกอย่างไม่สะทกสะท้าน  เห็นอย่างนั้นเพลินพิศยิ่งดิ้นพล่านเข้าไปใหญ่

            “ฉันไม่ได้เอ่ยชื่อใคร ถ้าคิดว่าเป็นตัวเองก็รับไป  ฉันจะบอกให้เอาบุญคนที่เป็นเมียน้อยน่ะเธอไม่ใช่แม่ฉัน พ่อคบกับแม่ฉันมาก่อนที่เธอจะเข้ามาแย่งไป คนที่เป็นเมียน้อยน่ะคือเธอเพลินพิศ แล้วอย่าหวังว่าเธอจะเอาชนะฉันได้ ต่อไปที่นี่ก็จะเป็นของฉัน เธอคงไม่รู้สินะคุณพ่อให้ฉันไปฝึกงานที่บริษัท คิดเอาเองนะว่าต่อไปใครจะเป็นใหญ่ที่นี่” เขารู้ว่าเพลินพิศหวงสมบัติมากกว่าสิ่งอื่นใดจึงใช้วิธีพูดเพื่อเอาชนะ

            “ไม่จริง! คนอย่างแกจะทำอะไรได้เรียนก็จะจบไม่จบแหล่ แถมวันๆเอาแต่เที่ยวเตร่ไม่มีสาระอะไรเลย  คนที่จะได้บริหารงานต่อจากคุณจรัญก็มีแต่หินเท่านั้น  และอีกไม่นานฉันก็จะให้หินแต่งงานกับน้ำ สมบัติทุกอย่างก็จะตกเป็นของลูกชายฉันกับหิน แกจะไม่ได้อะไรแม้แต่สตางค์แดงเดียว”

            “คอยดูก็แล้วกันว่าใครจะได้สมบัติของคุณพ่อไป” ว่าพร้อมกับเบ้ปากใส่อย่างไม่ยี่หระก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านอย่างอารมณ์ดี  ปล่อยให้แม่เลี้ยงทำหน้าบูดบึ้งอยู่กับสาวใช้อย่างนั้น

            “ไอ้ไฟ ไอ้บ้า แกไม่มีทางเอาชนะลูกชายฉันได้หรอก! บลาๆๆ...”

            อีกสารพัดคำก่นด่าที่ออกมาจากปากผู้เป็นนายหญิงของบ้าน  จนคนรับใช้ต่างก็เอือมระอาและเอาไปนินทากันอย่างสนุกปาก  แต่เหตุการณ์อย่างนี้มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณผู้ชายของบ้านไม่อยู่เท่านั้น



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            เช้าวันต่อมาบนโต๊ะอาหาร

            “หินพ่อจะให้ไฟไปฝึกงานกับเรานะ” จรัญเอ่ยขึ้นในระหว่างรับประทานอาหารเช้า ทุกคนต่างก็มองมาที่หัวโต๊ะเป็นตาเดียวกัน  แต่เพลินพิศกลับจ้องมองลูกเลี้ยงอย่างอาฆาตแค้น

            “ครับคุณพ่อแล้วจะเริ่มฝึกวันไหนครับ” ถึงแม้ว่าจะรู้สึกอึดอัดใจอยู่ไม่น้อย  แต่หินก็พยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด

            “เอ้อลืมถามไปเลย แล้วแกจะมาเริ่มฝึกงานได้วันไหนล่ะไฟ” จรัญหันไปถามลูกชาย

            “วันจันทร์หน้าครับขอผมทำเรื่องกับทางมหา’ลัยก่อน” ไฟตอบอย่างไม่เต็มใจนักโดยเฉพาะการได้ไปอยู่ในปกครองของคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก

            “ออ ก็เตรียมตัวให้พร้อมละกันฉันจะให้พี่หินเค้าเป็นคนสอนงานให้”

            “ครับ”

            เพลินพิศรู้สึกไม่ไว้ใจลูกเลี้ยงคนนี้จึงพยายามที่จะพูดหว่านล้อมให้ผู้เป็นสามีคิดให้ดีอีกครั้ง

            “คุณคะทำไมไม่ลองให้ลูกไฟไปฝึกงานที่อื่นดูก่อนล่ะ เผื่อว่าอาจจะได้ประสบการณ์ดีๆมาพัฒนาที่บริษัทเราในอนาคตก็เป็นได้นะคะ”

            “ผมว่ามาฝึกที่บริษัทเราดีที่สุดแล้ว  อนาคตเผื่อได้มาช่วยงานแล้วจะได้ไม่ต้องมาสอนกันอีก” จรัญเอ่ย

            “แต่ดิฉันว่าลูกไฟน่าจะอยากไปฝึกงานกับเพื่อนๆมากกว่านะคะ” เธอยังไม่ยอมหยุด

            “ไม่ครับผมเต็มใจอีกอย่างได้พี่หินมาสอนงานยิ่งทำให้ผมอยากไปมากๆ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับพี่หิน” ไฟยิ้มให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้า  เพลินพิศไม่มีทางเอาชนะเขาได้หรอก ไม่มีทาง

            “ครับน้องไฟ” หินตอบรับอย่างเสียมิได้พร้อมกับยิ่มเจื่อนๆให้  เขาเริ่มจะกลัวเด็กคนนี้ขึ้นมาซะแล้วสิ  คนอะไรมีความลึกลับซับซ้อน  อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็อีกอย่างลับหลังก็อีกอย่างน่ากลัวชะมัด

            “เห็นไหมครับคุณน้าเพลินพิศทุกคนต่างก็เต็มใจ  ไม่เห็นมีความจำเป็นที่ผมจะต้องไปฝึกงานที่อื่นเลย  ผมเองก็อยากช่วยงานคุณพ่อเหมือนกัน” เขายิ้มให้เพลินพิศ  ส่วนเจ้าหล่อนเองก็ยิ้มกลับอย่างปลอมๆ

            “ถ้างั้นก็ขอให้โชคดีกับการฝึกงานนะคะลูกไฟ” เธอยิ้มให้

            “ขอบคุณครับ”

            ทั้งสองมองหน้ากันเหมือนอย่างไม่มีใครยอมใครก่อนที่ไฟจะละสายตาแล้วขอตัวลุกออกจากโต๊ะ

            “ขอตัวไปมหา’ลัยก่อนนะครับ”

            ไม่รอให้ผู้เป็นพ่ออนุญาตไฟก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกมาทันที  ก่อนจะเดินออกจากประตูบ้านก็มีมือของใครบางคนมารั้งแขนเอาไว้  ทำให้ไฟต้องหันไปมองแรงใส่ทันที

            “นายคิดจะทำอะไร” เป็นหินนั่นเอง

            “ไม่ได้ทำอะไร ปล่อย!ฉันรีบ”

            “รีบมากใช่ไหม? เดี๋ยวพี่ไปส่งเองมานี่” พูดแล้วก็ลากตัวมาที่รถ

            “ปล่อยนะไอ้บ้า!” ไฟโวยวายเสียงดัง

            “จะขึ้นดีๆหรือจะต้องให้ทำเหมือนวันนั้นก่อน” เสียงเข้มขู่

            “เอาสิถ้ากล้า” ไฟกล้าท้าทายนั่นเพราะมีคนสวนกำลังยืนทำงานอยู่ไม่ไกลนัก

            “อย่าคิดว่าพี่ไม่กล้านะหรือจะลองดู” ไม่ว่าเปล่าหินค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ

            “ยะ..หยุด! ไปก็ได้” ก่อนที่จะอะไรมันจะเลยเถิดไฟก็รีบเข้าไปนั่งในรถ  เมื่อเห็นอย่างนั้นหินก็ยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจแล้วเดินไปฝั่งคนขับทันที

            อีกมุมหนึ่ง

            น้ำเดินออกมาเห็นทั้งสองคนพอดีก่อนจะยืนทำหน้าเศร้าๆอยู่หน้าบ้าน  เพลินพิศเห็นลูกชายมองตามรถที่กำลังเคลื่อนตัวออกจากรั้วบ้านไปก็เดินเข้ามาปลอบใจ

            “น้ำ”

            “ครับคุณแม่” เมื่อได้ยินเสียงก็หันไปมองทันที

            “อย่าคิดมากนะลูกพี่หินไม่มีทางไปสนใจคนอย่างมันหรอก” เธอบอกกับลูกชายพร้อมกับโอบไหล่เอาไว้

            “คุณแม่อย่าเรียกพี่ไฟอย่างนั้นอีกนะครับ ถึงแม้พี่ไฟจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณแม่  แต่พี่ไฟก็คือพี่ชายของน้ำนะครับ”

            “อย่าห้ามแม่เลยลูก น้ำก็รู้ว่าไฟมันกำลังจะจับพี่หินหรือลูกไม่ได้รักพี่หินแล้ว” เธอพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายเกลียดไฟไปด้วยอีกคน

            “น้ำรักพี่หินครับคุณแม่”

            “ถ้ารักพี่หินก็ต้องฟังแม่ ตอนนี้ไอ้ไฟมันกำลังจะจับพี่หินและกำลังคิดจะฮุบสมบัติของคุณพ่อเอาไว้คนเดียว  ถ้าน้ำอยากแต่งงานกับพี่หินต้องเชื่อฟังแม่อย่าไปญาติดีกับไอ้ไฟเด็ดขาด”

            “ครับแม่น้ำจะเชื่อฟังแม่ทุกอย่าง”

            “ดีมากลูก”

            เธอกอดลูกชายเอาไว้พร้อมกับแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจ คนอย่างแกไม่สมควรที่จะมีใครรักและหวังดีด้วยไอ้ไฟ เพลินพิศคิดในใจ



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            ขณะอยู่บนรถ

            “นายคิดจะทำอะไรบอกพี่มา”

            “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ทำอะไร” ไฟตอบกลับด้วยสีหน้าบึ้งตึง

            “ทำไมถึงอยากไปฝึกงานที่บริษัทร้อยวันพันปีพี่ไม่เคยเห็นว่านายจะอยากไปที่นั่นเลย” ตอนนี้หินกลัวว่าไฟจะเข้าไปป่วนที่บริษัท  จนทำให้ทุกอย่างเสียหายนิสัยของไฟใครๆก็รู้ดีว่าร้ายกาจขนาดไหน

            “ฉันไม่ได้อยากไปที่นั่นสักหน่อยคุณพ่อต่างหากที่บังคับ”

            “อย่ามาโกหกซะให้ยาก ตอนอยู่บนโต๊ะอาหารชัดเจนซะขนาดนั้นว่านายเต็มใจ”

            “ก็แล้วแต่นายจะเชื่อหรือไม่เชื่อฉันเบื่อจะคุยแล้ว รีบๆขับไปฉันอึดอัดที่จะอยู่กับคนต่ำๆอย่างนายแล้ว” ไฟเอ่ยอย่างไม่ยี่หระก่อนจะเบนหน้าออกไปที่ข้างทาง

            เอี๊ยด!

            “โอ๊ย! จะจอดหาสวรรค์วิมานอะไรเนี่ย” ไฟตะโกนเสียงดังใส่หน้า เพราะหน้าผากเกือบกระแทกกับหน้ารถ

            “คำก็ต่ำสองคำก็ต่ำ ไม่คิดเหรอว่าสักวันนายอาจจะได้เป็นเมียคนต่ำๆอย่างพี่” หินยิ้มเหี้ยมใส่จนคนที่นั่งอยู่ถึงกับขนลุกขึ้นมาทันที

            “นะ..นายจะทำอะไร” ไม่รอช้าไฟรีบปลดเข็มขัดนิรภัยออก  แต่ไม่ทันการณ์เพราะโดนมือหนาจับเอาไว้ก่อนจะประกบจูบอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

            “อะ...อื้อ” มือเรียวพยายามทุบที่อกแกร่งอย่างไม่ยั้งมือ  แต่หินกลับรวบเอาไว้แน่นจนหมดหนทางขัดขืน  หินบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างรุนแรง ลิ้นเย็นๆถูกส่งเข้าไปในโพรงปากตักตวงความหอมหวานอย่างไม่มีท่าทีว่าจะจบสิ้น  เสียงลมหายใจถี่ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสายบ่งบอกถึงความต้องการที่มากล้นของคนตัวสูง  เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ใต้อาณัติไม่มีท่าทีจะขัดขืนบวกกับความอิ่มเอมใจของตัวเอง  หินก็ผละริมฝีปากออกมาแล้วจ้องหน้าคนตัวเล็กอย่างพอใจ

            “นี่คือบทลงโทษของคนดื้อ จำเอาไว้ว่าถ้านายยังร้ายกาจแบบนี้มันจะไม่ใช่แค่จูบ พอเข้าใจนะ” เขายิ้มกริ่มให้อย่างผู้ชนะ แต่ไฟกลับจ้องหน้าอย่างอาฆาตแค้น

            “คนอย่างนายมันก็ทำได้แค่นี้ล่ะ ฉันจะถือว่าทำบุญทำทานให้หมูให้หมา” ใบหน้าบูดบึ้งทำให้หินยิ้มกริ่มในหัวใจ  เขาอยากรู้ว่าคนตัวเล็กจะร้ายได้ขนาดไหนกันเชียว  คนอย่างเขาก็เป็นพวกชอบปราบพยศอยู่แล้วล่ะสิมันทำให้เขารู้สึกกระปี้กระเปร่ามากเหลือเกิน



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



-----------------------------------------------------------
ฝากติดตามกันด้วยนะครับ
ฝาเพจด้วยนะ
https://web.facebook.com/MilerStory/?ref=bookmarks :z10:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไฟ หนูอย่าร้ายให้มากนักนะ จะเป็นอันตราย เป็นห่วง  :hao3:

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
อูยยยยย ร้อนแรง

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
 o13

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
สนุกนายเอกร้ายแซ่บ ติดตาม

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-03-

วันแรกของเด็กฝึกงาน
[/b]



             ไฟรู้สึกหิวในช่วงดึกจึงเดินออกมาจากห้องเพื่อลงไปหาอะไรรองท้องที่ห้องครัว  แต่บังเอิญได้ยินเสียงน้องชายต่างมารดาดังแว่วเข้าหู  ก่อนจะหลบตัวที่มุมห้องเพื่อแอบฟังอย่างตั้งใจ

            “พี่หินครับ!”

             “มีอะไรรึเปล่าน้ำ?” หินกำลังจะเดินเข้าไปในห้องนอนจำต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียก  แล้วหันไปยิ้มให้น้องชายที่สุดแสนจะเรียบร้อยและน่ารักอย่างอ่อนโยน

            “คือ...น้ำขอถามอะไรหน่อยครับ ตอบตามความจริงนะครับพี่หิน” ท่าทางลังเลของน้ำทำให้คนที่กำลังฟังถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน

            “ว่ามาสิ”

            “พี่หินคิดยังไงกับพี่ไฟครับ ผมเห็นพี่หินกับพี่ไฟ...เอ่อ...จูบกันเมื่อวันก่อน” น้ำก้มหน้าเอ่ยคำถาม  เขาคิดมากจนจะเป็นบ้าถ้าไม่ได้ถามวันนี้คงจะอกแตกตายอย่างแน่นอน  ความรักที่มีให้หินนั้นมันมากมายเหลือเกิน  ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่สามารถเข้ามาอยู่ในหัวใจของน้ำได้เลย  มีเพียงผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คนเดียวเท่านั้น  แค่เห็นหินจูบกับไฟเมื่อวันก่อนหัวใจก็แทบแหลกสลายเป็นผุยผง

            หินทำหน้าไม่ถูกเมื่อเจอคำถามแทงใจอย่างนี้  ไม่ใช่หินไม่รู้ว่าน้ำชอบตัวเองแต่เขาคิดกับน้ำแค่น้องชายเท่านั้น  บางทีมันก็ยากที่จะปฏิเสธเพราะกลัวว่าอีกคนจะเสียใจแต่ถ้าไม่บอกตอนนี้  เขาก็กลัวว่าน้ำจะคิดไปเองฝ่ายเดียวจนไม่เปิดใจให้ใคร  ซึ่งมันไม่ดีแน่ถ้าเป็นอย่างนั้น

            “พี่ไม่ได้คิดอะไรกับไฟทั้งนั้น ที่น้ำเห็นมันเป็นแค่การลงโทษเล็กๆน้อยๆคนอย่างไฟถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้นก็คงจะไม่ยอมหยุด  พี่คงรักคนอย่างนั้นไม่ลงหรอกครับ” หินตอบ

            เมื่อได้ยินน้ำก็ยิ้มออกมาทันที  เขาจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยความดีใจอย่างน้อยมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด

            “น้ำดีใจที่พี่หินตอบอย่างนี้”

            “น้ำ....” หินถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยกับคนที่อยู่ตรงหน้า “ถึงแม้พี่จะไม่ได้รักไฟแต่พี่ก็คงรักน้ำเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากความเป็นพี่น้อง  พี่รักน้ำเหมือนกับน้องชายคนนึงเท่านั้น  พี่อยากให้น้ำเปิดใจให้กับคนอื่นดูบ้าง  ถ้าน้ำยังคงยึดติดกับพี่มันจะเป็นการปิดโอกาสตัวเองนะครับ”

            “ทำไมพี่รักน้ำไม่ได้? ทำไม? ฮึก” คนที่ยืนฟังอยู่ถึงกับน้ำตาซึมออกมาทันที  น้ำรู้สึกเหมือนมีคนเอามีดมากรีดที่หัวใจมันเจ็บปวดมากเหลือเกิน

            “พี่ขอโทษ...น้ำอย่าร้องสิครับ” หินเอื้อมมือจะเช็ดน้ำตาให้กับน้องชาย  แต่เจ้าตัวกลับขยับตัวหนี

            “น้ำเกลียดพี่หิน! น้ำเกลียดพี่หิน!” หลังจากตะโกนใส่หน้าแล้วก็รีบวิ่งเข้าไปที่ห้อง

            “น้ำเดี๋ยวก่อน!” หินทำได้แค่เพียงตะโกนตามหลังไปอย่างรู้สึกผิด  แต่มันก็ดีแล้วที่เป็นอย่างนี้ทุกอย่างมันจะได้กระจ่างเสียที

            ไฟที่แอบฟังอยู่ก็เดินเข้ามาหาคนตัวโตทันที

            “รู้สึกผิดมากเลยเหรอ? ตามไปสิ” ไฟเอ่ยถามพร้อมกับเบ้ปากใส่อย่างไม่ยี่หระ  เขารู้สึกสะใจมากจริงๆที่เรื่องมันเป็นอย่างนี้  เพลินพิศจะรู้ไหมนะว่าคนที่เธอหมายจะให้แต่งงานกับลูกชาย  ไม่ได้พิศวาสลูกของเธอเลยแม้แต่น้อย

            “นายนี่ไม่มีมารยาทเอาซะเลย!” หินว่าให้เมื่อรู้ว่าไฟแอบฟังที่เขาและน้ำพูดกันเมื่อสักครู่

            “แล้วไงใครแคร์ ถ้าไม่แอบฟังก็ไม่รู้สิว่าน้องชายหน้าโง่มันรักนายขนาดนี้  ทำไมไม่สงเคราะห์มันไปสักครั้งสองครั้งล่ะ รู้สึกสมเพชจริงๆ” เขาแสยะยิ้ม

            “นายนี่เลวจนไม่รู้จะเอาอะไรมาเปรียบเทียบเลยจริงๆ ที่พูดถึงอยู่นั่นน้องชายของนายนะ”

            “ฉันไม่นับว่ามันเป็นน้องมันก็ไม่ต่างจากแม่ของมัน  ที่นี่ไม่มีใครรักและหวังดีกับฉันซักคน แล้วทำไมฉันจะต้องแคร์พวกมันด้วยล่ะ” ไฟตอบด้วยสีหน้าจริงจัง  เขาอยู่ที่นี่เหมือนอยู่ตัวคนเดียวทั้งๆที่มีผู้คนรายล้อม  แม้กระทั่งผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้ใส่ใจเขามากมายนัก  นับประสาอะไรกับคนอื่นๆที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน

            “ว่าแต่คนอื่นต่ำ ไม่เคยดูตัวเองเลยว่าต่ำขนาดไหน  นายนี่ไม่น่าเกิดมาเป็นลูกคุณพ่อเลยจริงๆ” ไฟส่ายหัวให้กับความร้ายกาจของน้องชายต่างสายเลือด

            “ใช่สิก็ฉันไม่ใช่คนโปรดอย่างนายนี่  ขนาดเป็นลูกคนใช้คุณพ่อยังโปรดปรานขนาดนี้  ถ้าเป็นลูกจริงๆคงจะประเคนทุกอย่างให้หมดเลยสินะ” ไฟเอ่ยประชดประชัน

            “นายอิจฉารึไง?” หินเอ่ยพร้อมกับค่อยๆเดินเข้าไปหาแล้วจับที่ต้นแขนดึงตัวเข้ามาหาตัวเอง

            “ไม่เลยสักนิด ฉันไม่มีทางอิจฉาลูกคนชั้นต่ำอย่างนายหรอก” ไฟจ้องหน้าอย่างไม่ลดละ

            “สงสัยจะติดใจรสจูบของพี่สินะถึงได้ปากดีอย่างนี้” หินมองที่ริมฝีปากบางอย่างสนใจ  เขาจงใจจะแกล้งให้อีกคนรู้สึกกลัว  แต่ไม่มีทางที่คนอย่างไฟจะกลัวอย่างที่เขาคาดหมายเอาไว้

            “คนอย่างนายมันก็ทำได้แค่รังแกคนอื่น” พูดจบไม่ถึงวินาทีไฟก็ตีเข่าไปที่กลางเป้าของหินทันที

            “โอ๊ย! เชี่ยยย” หินร้องขึ้นเสียงดังพร้อมกับเอามือกุมที่น้องชายเอาไว้  มันจุกจนเขาต้องนั่งคุกเข่าลงที่พื้นก่อนที่ไฟจะง้างมือเรียวฟาดไปที่ใบหน้าอีกครั้ง

            เพี๊ยะ!

            “นี่สำหรับที่นายเคยทำอะไรฉันไว้ คนอย่างฉันฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ จำไว้!” ร่างบางชี้หน้าชายหนุ่มที่กำลังนั่งกุมเป้าพร้อมกับทำหน้าเหยเกอยู่บนพื้น  หลังจากนั้นก็เดินลงข้างล่างไป

            “นายเจอดีแน่ไฟ” หินมองตามหลังไปด้วยความเจ็บใจ  เขาไม่น่าเสียท่าให้กับผู้ชายตัวเล็กๆคนนี้เลย  มันน่าอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนีเสียจริงๆ



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            @ บริษัทศิริกรโสภณ

            วันนี้เป็นวันแรกที่ไฟต้องเข้ามาฝึกงานที่บริษัท  หินนั่งรออยู่ในห้องทำงานอย่างหงุดหงิดเพราะตอนนี้ก็ล่วงเลยเวลาเข้างานมานานแล้วแต่เด็กฝึกงานกลับยังไม่มีวี่แววจะเข้ามาสักที  ทั้งๆที่เมื่อเช้าเขาเห็นไฟขับรถออกมาจากบ้านก่อนใคร

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            เสียงเคาะประตูห้องทำให้หินหลุดจากภวังค์แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองที่ต้นเสียง

            “คุณหินคะเด็กฝึกงานคนใหม่มาถึงแล้วค่ะ” เลขาสาวสวยหน้าห้องเข้ามาแจ้ง

            “ให้เข้ามาได้”

            “ค่ะ”

            หลังจากนั้นไม่นานไฟก็เปิดประตูเข้ามายืนมองหน้าอย่างไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย

            “นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ทำไมถึงมาเอาป่านนี้” หินเอ่ยกับเด็กฝึกงานคนใหม่ด้วยสีหน้าจริงจัง

            “แล้วไงพ่อฉันเป็นเจ้าของที่นี่จะเข้าตอนไหนก็ได้ป่ะ” ไฟยืนกอดอกตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจ

            “ทุกคนที่นี่ต้องอยู่ในกฎระเบียบของบริษัท ไม่เว้นแม้กระทั่งพี่หรือคุณพ่อ  ถึงแม้นายจะเป็นแค่เด็กฝึกงานก็ต้องทำตามกฏระเบียบ  แค่นี้คิดเองไม่เป็นรึไงห๊ะ!”

            “ก็ฉันอยากจะทำแล้วจะทำไม” ร่างบางเบ้ปากใส่อย่างได้ไม่สนใจคำพูดของหินเมื่อสักครู่เลยแม้แต่น้อย

            “วันนี้วันแรกพี่จะอนุโลมให้แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีกนายโดนดีแน่” หินชี้หน้าเจ้าตัวคาดโทษเอาไว้  เขาต้องข่มอารมณ์โมโหเอาไว้เพราะดูท่าแล้วคงจะเจอแบบนี้อีกบ่อยๆมันจะได้ชิน

            ไฟไม่ได้โต้ตอบอะไรเขาเพียงแค่กรอกลูกตาไปมาพร้อมกับเบ้ปากยืนอยู่อย่างนั้น

            “นั่งลงก่อนสิพี่จะสั่งงาน” เขาสั่งเมื่อเห็นไฟไม่มีทีท่าว่าจะยอมนั่งลงง่ายๆ

            ไฟยอมนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของหินอย่างเสียมิได้  ก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินถือแฟ้มอ้อมมาหลังเก้าอี้ที่ไฟนั่งอยู่แล้ววางลงแฟ้มบนโต๊ะเสียงดัง

             “อ่านซะ” เขาเอ่ยแล้วก้มโค้งลงมากักตัวหนุ่มน้อยเอาไว้ด้วยวงแขนแกร่งที่ข้างหนึ่งค้ำอยู่บนโต๊ะ  และอีกข้างที่ค้ำอยู่บนพนักเก้าอี้

            “จะอ้อมมาเพื่อ? ออกไปดิ๊” ไฟเอี้ยวตัวมาผลักอกแกร่งให้ออกห่างจากตัวเอง  แต่มีหรือที่หินจะยอมให้มันเป็นอย่างนั้น  เมื่อคืนเขายังไม่ได้ชำระความกับเด็กน้อยคนนี้เลย

            “สอนงานไงนั่งอยู่เฉยๆไม่งั้นพี่จะจูบจรงๆด้วย เมื่อคืนยังไม่ได้ชำระความเลยนะ” หินส่งสายตาพิฆาตมาจนคนที่อยู่ในวงแขนแกร่งต้องยอมนิ่งแต่โดยดี

            “นี่นายกำลังคุกคามฉันอยู่นะ”

            “ใครบอกมันเป็นวิธีการสอนงานของพี่เอง” หินยกยิ้มที่มุมปาก

            “คงจะทำกับเด็กฝึกงานบ่อยๆล่ะสิ  สงสารคุณพ่อจริงๆที่ไว้ใจคนอย่างนี้”

            “คนอื่นไม่ได้ดื้ออย่างนี้นายคือคนแรกที่พี่ต้องใช้วิธีนี้เข้าใจนะ”

            “โกหก” ใบหน้าบูดบึ้งเอ่ยออกมาเบาๆก่อนจะนั่งมองดูแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะ  หากจะมองไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มก็คงไม่ได้เพราะอยู่ห่างกันเพียงแค่คืบเท่านั้น

            “นี่เป็นเอกสารที่เลขาจะเอามาให้พี่เซนต์ทุกๆวัน  ต่อไปนี้จะเป็นหน้าที่ของนายต้องตรวจก่อนที่จะเอามาให้พี่เซนต์” หินเอ่ย

            “แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่ามันผิดตรงไหน ก็เพิ่งมาทำงานวันแรกนี่” ไฟเอ่ยถามแล้วหันหน้าไปมองชายหนุ่ม  เขาลืมไปว่าตอนนี้ใบหน้าทั้งสองห่างกันแค่นิดเดียว  ทำให้จมูกของทั้งสองสัมผัสกัน สายตาที่จ้องกันอย่างไม่ได้ตั้งใจมันเหมือนมีมนตร์วิเศษที่ไม่อาจจะละสายตาไปได้

            หินรู้สึกแปลกที่อยู่ๆหัวใจก็เต้นแรงผิดจังหวะ  ทำไมในดวงตาคู่นี้มันมีแรงดึงดูดมากขนาดนี้  ทำไมกลิ่นตัวของคนที่อยู่ตรงหน้ามันถึงได้หอมหวลชวนน่าสัมผัสมากเหลือเกิน

            “ทำไมไม่ตอบล่ะ?” เสียงของไฟทำให้สติของหินกลับคืนมาก่อนจะผละตัวออกไป

            “เอ่อ...อ่านๆไปถ้าสงสัยตรงไหนก็มาถามพี่ละกัน เอาแฟ้มไปนั่งอ่านตรงนั้นก่อนไป” เขาชี้ไปที่โซฟามุมห้อง

            ไฟมองหน้าอย่างไม่เข้าใจก่อนจะถือแฟ้มเดินไปนั่งที่โซฟา  ส่วนหินก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม  เขาพรูลมออกจากปากหลายต่อหลายครั้งเพื่อทำใจให้เป็นปกติ  ทำไมอยู่ๆถึงได้เป็นอย่างนี้นะทั้งๆที่แต่ก่อนถึงขั้นจูบแต่ก็ยังรู้สึกเฉยๆ แต่นี่แค่จ้องตาในระยะประชิดครั้งเดียวเหมือนกับต้องมนตร์ซะอย่างนั้น  ‘นายทำอะไรใส่ฉันนะไฟ’ หินได้แต่คิดในใจ

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            เสียงประตูดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่หินจะมองไป  และพบว่าเป็นท่านประธานของบริษัทนั่นเองที่กำลังเดินเข้ามา  หินลุกขึ้นยืนแล้วยกมือขึ้นไหว้

            “คุณพ่อมีอะไรรึเปล่าครับถึงได้มาที่ห้องด้วยตัวเอง” เขาเอ่ยถามแต่สายตาของผู้เป็นพ่อกลับมองไปที่เด็กฝึกงานคนใหม่

            ไฟมองผู้เป็นพ่อแวบนึ่งก่อนจะก้มหน้าทำเป็นอ่านเอกสารในแฟ้มอย่างตั้งใจ  เขาขี้เกียจจะคุยกับพ่อของตัวเองซะเต็มประดา

            “เป็นไงบ้างหินเด็กฝึกงานคนใหม่” จรัญเอ่ยถามลูกชาย

            “วันแรกก็มาสายแล้วครับคุณพ่อ แต่ผมได้ตักเตือนเรียบร้อยแล้วครับ”

            “จัดการได้ตามสบายเลยนะพ่ออนุญาต เด็กฝึกงานก็คือเด็กฝึกงานจะไม่มีอภิสิทธิ์เหนือกว่าใครๆทั้งนั้น พ่อฝากด้วยนะ” เขารู้ดีว่าลูกชายคงไม่อยากจะพูดด้วยสักเท่าไหร่ จึงได้แต่เอ่ยกับหินแต่จุดประสงค์ก็เพื่อให้ลูกชายตัวดีได้ยินไปด้วย

            “ครับคุณพ่อ ผมจะดูแลให้ดีที่สุดเลยครับ” หินเน้นเสียงประโยคสุดท้ายเพื่อให้คนที่นั่งนิ่งอยู่ที่โซฟาได้ยินถนัด

            “เดี๋ยวพ่อออกไปประชุมข้างนอกก่อนนะ คงไม่เข้ามาบริษัทอีก”

            “ครับคุณพ่อ”

            หินยกมือขึ้นไหว้อีกครั้งก่อนที่จรัญจะเดินออกไป

            “ขี้ประจบอย่างนี้สินะคุณพ่อถึงได้หลงนักหลงหนา” เสียงหวานเอ่ยขึ้นลอยๆขณะก้มหน้าอ่านเอกสารในแฟ้ม  โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้คนตัวสูงได้เดินเข้ามานั่งข้างๆพร้อมกับโอบไหล่บางเอาไว้แล้ว “เหี้ยอะไรเนี่ย ปล่อย!”

            “ไม่ได้ยินเหรอว่าคุณพ่อฝากให้พี่ดูแล ไหนไม่เข้าใจตรงไหนบ้าง” ไฟพยายามแกมือหนาออกแต่ก็ไม่เป็นผล  ก่อนจะถอนหายใจนั่งนิ่งทำหน้าเซ็งๆ

            “เข้าใจทุกบรรทัด ปล่อย!”

            “ไม่ปล่อย!” คนตัวโตมองหน้าแล้วเลิกคิ้วใส่

            “ปล่อยไม่งั้นโดนดีแน่”

            “กลัวตายล่ะ” แทนที่จะยอมปล่อยโดยง่ายแต่หินกลับกอดเด็กฝึกงานแน่นขึ้นไปอีก พร้อมกับมองใบหน้าหวานนั้นอย่างเพลินตา  เขาลืมตัวอีกแล้วใบหน้าคมค่อยๆโน้มเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่

            “อี๋...ไอ้คนฉวยโอกาส นี่มันห้องทำงานนะ!” คนที่โดนหอมแก้มเอียงหน้าหนีโดยเร็ว  ใบหูแดงผึ่งลามมาจนถึงใบหน้า  ผิวที่ขาวจัดทำให้ทุกอย่างที่แสดงออกมันชัดเจนมาก  จนผู้คุมเกมส์นั้นถึงกับยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ

            “แล้วไงนี่ห้องทำงานส่วนตัวพี่นายระวังตัวไว้เถอะ ถ้ายังไม่ทำตัวดีๆก็จะโดนอย่างนี้เรื่อยๆนี่ถือว่าเตือนแล้วนะ”

            “เออๆ เข้าใจแล้วปล่อยดิ” ตอนนี้ต้องยอมๆไปก่อนเขาขยะแขยงอ้อมกอดนี้เต็มทนแล้ว

            “อย่าลืมที่พูดล่ะไม่งั้นมันอาจจะไม่ใช่แค่นี้”

            หินยอมคลายอ้อมกอดนั้นอย่างเสียดาย แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม  หลายต่อหลายครั้งที่สายตาเหลือบมองคนที่นั่งอยู่โซฟา เขาไม่ได้ชอบเด็กที่ก้าวร้าวคนนี้ ไม่มีทาง เขาต้องไม่ชอบ  ถ้าหากต้องชอบใครสักคนเขาขอให้คนนั้นเป็นน้ำยังจะดีกว่าซะอีก หินได้แต่ทำสงครามกับความคิดของตัวเองอยู่อย่างนั้น

ช่วงพักเที่ยง

            “ป่ะลงไปทานข้าวกัน”

            เมื่อได้ยินเสียงเรียกไฟก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วยืดเส้นยืดสายทันที  เขารู้สึกเบื่อกับการที่ต้องมานั่งอ่านเอกสารบ้าบออะไรพวกนี้  จริงๆแล้วมันแทบจะไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำแต่ก็ขี้เกียจให้คนอย่างนายนั่นมาอธิบายให้ฟัง  เกลียดขี้หน้าจะตายชัก

            “ไปกินที่ไหนอ่ะ”

            “ตามหาเถอะเดี๋ยวก็รู้เอง”

            ไฟยอมเดินตามผู้สอนงานโดยง่าย  เมื่อขึ้นลิฟท์ลงมาชั้นล่างสุดคนตัวสูงก็พาเดินเข้าไปยังห้องอาหารของบริษัท  ช่วงเที่ยงอย่างนี้พนักงานทุกคนต่างก็ทยอยพากันเข้ามาจับจองที่นั่งจนเกือบเต็ม

            ไฟมองหน้าหินอย่างมีคำถาม  นี่เขาต้องมานั่งทานข้าวกับพนักงานพวกนี้เหรอเนี่ย  คนอย่างนายนั่นปกติคงไม่มานั่งทานที่นี่อย่างแน่นอน  ไฟคิดว่าตัวเองคงจะโดนแกล้งให้มานั่งทานข้าวที่นี่

            “เราต้องทานข้าวที่นี่งั้นเหรอ?”

            “ใช่ ทำไมเหรอ” หินมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ

            “ฉันไม่เชื่อว่านายจะมาทานข้าวที่นี่ทุกวัน นายจงใจแกล้งฉันใช่ไหม” เขามองหน้าหินอย่างเอาเรื่อง

            “เปล่าพี่ก็มาทานที่นี่ทุกวัน อาหารที่นี่อร่อยทุกร้านแถมยังสะอาดอีกด้วยนะ”

            “ฉันไม่กินข้าวกับพนักงานระดับล่างพวกนี้แน่” ไฟเอ่ยเสียงดังจนพนักงานที่อยู่ใกล้ๆต่างก็หันมามองเป็นตาเดียวกัน

            “เบาๆสินี่ไม่ใช่ที่บ้านนะ พี่จะบอกอะไรให้คนที่จะเป็นเจ้านายคนได้ต้องเข้าถึงลูกน้อง  ต้องได้ใจลูกน้อง  เราอาจจะโดนแบ่งชนชั้นจากตำแหน่งหน้าที่  แต่เราทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน  การมาทานข้าวที่นี่มันก็บ่งบอกว่าเราไม่ถือตัว  หากเค้าศรัทธาในตัวเราการปกครองมันก็จะมีประสิทธิภาพขึ้นไปอีก” เขาเอ่ยกับคนตัวเล็กซะยืดยาว

            “รู้แล้วน่าบ่นซะยาวเชียว แล้วจะนั่งไหนล่ะ” ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ไฟฟังเหตุผลของหิน  เขายอมอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

            ขณะที่ทั้งสองกำลังมองหาโต๊ะว่างอยู่นั้นก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

             “ว้าย! ขอโทษค่ะ” หญิงสาวร้องเสียงหลงจนคนทั้งโรงอาหารหันมามอง  แก้วน้ำแดงในมือของพนักงานสาวหกรดบนเสื้อนักศึกษาสีขาวของไฟจนเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที

            “เธอทำบ้าอะไรเนี่ย ดูสิเสื้อฉันเลอะหมดแล้ว” คนที่โดนน้ำแดงหกรดบนเสื้อตวาดแหวเสียงดัง  จนหญิงสาวต้องหดคอลงด้วยความตกใจกลัวทันที

            “ดิฉันขอโทษคะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” เธอยกมือขึ้นไหว้ปรกๆ

            “กราบตีนฉันเดี๋ยวนี้ ฉันถึงจะยกโทษให้” ไฟชี้ลงที่พื้น

            หินรีบห้ามเอาไว้เพราะคำพูดของไฟมันแรงมาก  จนทำให้พนักงานต่างก็ซุบซิบนินทากันเสียงดังระงม  เขากลัวว่าทุกอย่างมันจะเลยเถิดไป  จึงสั่งให้พนักงานสาวคนนั้นรีบเดินออกไป

            “เธอไปได้แล้วไม่ต้องกราบอะไรทั้งนั้น ขอโทษแทนเด็กฝึกงานคนนี้ด้วย” หินสั่งก่อนที่หญิงสาวจะเดินไปโดยเร็ว

            “นี่นายทำไมพูดอย่างนี้ ไม่เห็นเหรอว่ามันทำเสื้อฉันเปื้อนไปหมด” ไฟถลึงตาใส่คนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความโมโห

            “คำพูดของนายมันแรงเกินไป  อีกอย่างนายมาอยู่ที่นี่ในฐานะเด็กฝึกงานไม่ใช่ลูกเจ้าของบริษัทจำไว้ด้วย”

            “นายมันก็เข้าข้างลูกน้องนายนี่” ไม่ว่าเปล่าคนตัวเล็กผลักอกคนตัวสูงอย่างเอาเรื่อง

            “ท่าจะพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วออกมานี่” พูดจบก็จูงมือออกมาข้างนอกทันที

            “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะฉันจะกลับบ้าน”

            “อย่าเอาแต่ใจตัวเองตามมา!”

            หินกึ่งลากกึ่งดึงให้เดินตามอย่างทุลักทุเล



            อีกมุมหนึ่งของพนักงานสาว

            “ฮัลโลคุณเพลินพิศคะ”

            (“เป็นไงบ้างหญิงเธอทำงานเสร็จเรียบร้อยรึยัง”)

            “เรียบร้อยแล้วค่ะตอนนี้ทุกคนกำลังซุบซิบนินทาคุณไฟกันทั้งบริษัทแล้ว”

            (“เยี่ยมมากเดี๋ยวฉันจะตบรางวัลให้เธออย่างงาม จับตามองมันแล้วมารายงานฉันด้วย”)

            “ค่ะคุณเพลินพิศ”

            (“แค่นี้ล่ะ”)

            “สวัสดีค่ะ”

            หญิงคือพนักงานที่เคยสนิทสนมกับเพลินพิศมาก่อน  เธอจึงสั่งให้คอยสังเกตการณ์และสร้างเรื่องแกล้งลูกเลี้ยงของเธอขณะมาฝึกงานที่นี่...



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


--------------------------------

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ถ้ารู้ว่าชะนีตัวนั้นเป็นสาย ไฟคงไม่แค่ด่า คงจะ.....  :z6:

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เริ่มสนุก ติดตามค่า

ออฟไลน์ Hyung.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เกลียดนังเพลินพิศ  :z6:
ไฟก็แรงเกินไปนะ ปากร้ายขนาดนี้สักวันหินทนไม่ได้ขึ้นมาล่ะก็ ...  :-[

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-04-

ยั่วโมโห



             ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

            “นี่เป็นแผนของนายรึเปล่า?”

            หินจำเป็นต้องพาไฟออกมาทานข้าวนอกบริษัท  หลังจากเจ้าตัวโวยวายไม่มีทีท่าว่าจะยอมอ่อนลงโดยง่าย

            “แผนบ้าแผนบออะไรของนาย”

            “ก็แกล้งเดินชนให้น้ำแดงหกใส่เสื้อเพื่อที่จะได้ออกมาทานข้าวข้างนอกอย่างนี้ไงล่ะ”

            “นายเอาสมองส่วนไหนคิด ใครจะบ้าทำเรื่องอย่างนั้น ยัยนั่นมันตั้งใจมาชนฉันเองต่างหากล่ะ” เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ทีไรยิ่งทำให้โมโหทุกครั้ง เขาจำหน้าพนักงานสาวคนนั้นได้ดีสักวันจะต้องเอาคืนให้สาสม

            “เดี๋ยวกินแล้วจะพาไปซื้อเสื้อใหม่ละกัน รำคาญลูกตา”

            “ฉันอิ่มแล้วไปตอนนี้เลยเหนียวตัวจะแย่ จริงๆนายควรพาฉันไปก่อนที่จะมานั่งอยู่อย่างนี้”

            “สรุปมันเป็นความผิดของพี่เหรอเนี่ย คนอย่างนายเคยโทษตัวเองบ้างไหม?”

            “ไม่! ฉันถูกเสมอ”

            ไฟลุกขึ้นแล้วเดินออกมารอที่รถ ส่วนอีกคนก็รอเช็คบิลแล้วเดินตามมาสมทบทีหลัง  หินพาคุณหนูตัวร้ายไปซื้อเสื้อใหม่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยต้องมายืนรอคนอื่นลองเสื้ออย่างนี้มาก่อน  บางทีมันก็รู้สึกแปลกๆกับสายตาที่พนักงานสาวแอบมองมา  ราวกับว่าเขากับไฟเป็นแฟนกันซะอย่างนั้น

            ครืดดด

            เสียงเลื่อนประตูห้องลองเสื้อดังขึ้นทำให้ไฟที่กำลังยืนเปลือยท่อนบนอยู่นั้น  รีบเอาเสื้อที่กำลังจะลองมาปกปิดที่หน้าอกเอาไว้

            “นายเข้ามาทำไมเนี่ย ออกไป๊!”

            เมื่อเห็นอย่างนั้นหินก็ทำหน้าเหรอหราแต่ก็ยังไม่ยอมออกไปโดยง่าย  นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเรือนร่างที่บอบบางของคนที่ปากดีอย่างไฟ  ผิวกายที่ขาวนวลเนียนชวนสัมผัส  ยอดอกสีชมพูระเรื่อทั้งสองข้างที่เห็นก่อนจะถูกปกปิดด้วยเสื้อเป็นที่ล่อตาล่อใจมากเหลือเกิน

            “ไม่มีใครอยากดูของนายหรอก แค่เสื้อตัวเดียวทำไมต้องลองซะนานขนาดนี้ด้วย” เขาเอ่ยเหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับภาพที่เห็น

            “ฉันไม่เชื่อใจคนอย่างนายหรอก ออกไปเลยจะเสร็จแล้ว!” ร่างบางตะโกนไล่

            “เร็วๆด้วยจะถึงเวลาเข้างานแล้ว” หินเดินออกไปแต่ยังคงนึกถึงภาพที่เห็นเมื่อสักครู่  มันยังคงติดตาเขาอยู่ไม่หาย

            หินยืนรออยู่สักพักไฟก็เดินออกมาพร้อมกับเสื้อตัวใหม่  เขาปรายตามองก่อนจะเดินนำหน้าไปที่ลานจอดรถทันที

            @ บริษัทศิริกรโสภณ

            “วันแรกก็ก่อเรื่องวุ่นวายซะแล้ว จะฝึกงานผ่านรึเปล่าเนี่ย” เมื่อกลับมาถึงห้องหินก็เริ่มปะทะฝีปากทันที

            “ใครก่อเรื่องฉันไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนซะหน่อย”

            “ถึงแม้นายจะไม่ได้เป็นคนเริ่มแต่คำพูดคำจาของนายมันไม่ปกติ การอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมสิ่งที่ต้องระวังคือคำพูด  เคยได้ยินไหมสุภาษิตที่บอกว่า ‘ปลาหมอตายเพราะปาก’ นายคือปลาหมอนั้น” หินเอ่ยสั่งสอนเด็กฝึกงาน

            “พ่อยังสอนฉันไม่ได้เลย แล้วนายเป็นใครถึงได้กล้ามาสอนฉัน” คนที่นั่งอยู่บนโซฟาหันมามองตาขวาง

            “ก็เป็นอย่างนี้ไงถึงไม่มีใครรัก ตอนนี้นายอยู่ในปกครองของพี่แล้ว ห้ามทำอะไรตามอำเภอใจเด็ดขาด ไม่งั้นโดนดีแน่” คนตัวสูงขู่

            “กลัวตายล่ะคนอย่างนายไม่มีค่าพอที่ฉันจะต้องก้มหัวให้หรอก” ไฟมองหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ความหยิ่งยโสยังมีอยู่ในตัวเต็มร้อย

            “มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ”

            ว่าแล้วหินก็เดินไปล็อคประตูเอาไว้ก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างบาง

            “นะ...นายจะทำอะไร” เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี ไฟก็ลุกขึ้นจะเดินออกไปจากห้องให้ได้

            พลั่ก!

            “คิดจะออกไปมันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ  คิดจะร้ายทำไมไม่ร้ายให้ถึงที่สุดล่ะจะหนีทำไมห๊ะ!” หินผลักร่างบางลงที่โซฟาก่อนจะกักตัวเอาไว้ด้วยวงแขนแกร่ง

            “ก็นายเล่นสกปรก นายมันก็ร้ายไม่ต่างจากฉันนักหรอก”

            “ถ้าอย่างนั้นเราก็เหมาะสมกันดีนี่ ร้ายกับร้าย” หินโน้มใบหน้าลงไปจนสันจมูกสัมผัสที่ซอกคอขาว กลิ่นตัวของคนที่อยู่ใต้ร่างมันช่างยั่วยวนปลุกอารมณ์ความเป็นชายของเขาขึ้นมาได้ดีนัก

            “อื้อ...อ่อยย” ริมฝีปากบางถูกประกบจนพูดไม่เป็นภาษา

            หินรวบมือทั้งสองข้างตรึงไว้กับพนักโซฟา  ไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย  ริมฝีปากยังคงทำหน้าที่ไม่ยอมหยุด  มันบดเบียดที่ริมฝีปากบางของคนอวดเก่งอย่างสนุกสนาน  ลิ้นเย็นถูกสอดเข้าไปสัมผัสความหอมหวานในช่องปากของร่างบาง  ความเป็นชำนาญของหินทำให้คนที่อยู่ใต้ร่างอ่อนระทวย  เสียงลมหายใจดังถี่ขึ้นอย่างไม่เป็นจังหวะบ่งบอกถึงความเร่าร้อนของชายหนุ่ม

            เมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มไม่มีการขัดขืนหินก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาตัวบางที่เพิ่งซื้อมาใหม่ออกอย่างช้าๆ  มือหนาเอื้อมไปสัมผัสที่ยอดอกทั้งสองข้างอย่างเบามือ  ใบหน้าหวานที่กำลังเคลิ้มทำให้ชายหนุ่มยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะส่งลิ้นเย็นไปละเลงที่ยอดอกสีกลีบกุหลาบรัวไม่เป็นจังหวะ

            “อ๊ะ!..อื้อ พะ...พอเถอะ” ไฟเอ่ยออกมาเสียงกระเส่า ถึงแม้ปากจะปฏิเสธแต่ร่างกายกลับตอบสนองอย่างชัดเจน  ใบหน้าที่เหยเกราวกับกำลังจะขาดใจ มือทั้งสองข้างที่กำเอาไว้ข้างๆตัวไร้การขัดขืนทำให้หินได้ใจ  คนร้ายๆอย่างไฟมีหรือที่โดนรสสวาทของเขาแล้วจะไม่ยอมสยบ

            ยอดอกทั้งสองข้างถูกดูดเม้มอยู่นานจนเป็นรอยแดงช้ำ  แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อีกคนยอมหยุดโดยง่าย  เขาจับมือของอีกฝ่ายมาคลึงที่กลางกายที่มันกำลังแข็งได้ที่จนดันออกมาเกือบทะลุกางเกง

            “ไม่!” ไฟเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อมือเรียวไปสัมผัสส่วนนั้นของชายหนุ่ม  ใบหน้าที่ขาวใสกลับกลายเป็นสีแดงระเรื่อ  ยิ่งโดนคนที่กำลังคุมเกมส์อยู่จ้องมองมายิ่งทำให้ความอับอายมันเพิ่มทวีคูณขึ้นมาเป็นเท่าตัว  เขาพยายามดึงมือออกมาเมื่อได้สติแต่มีหรือที่หินจะยอมปล่อยไปโดยง่าย

            “ตกใจรึไง! ทำอย่างกับไม่เคย” หินยกยิ้มที่มุมปาก

            “ไอ้บ้าไม่มียางอายบ้างเลยรึไง ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”

            “ทำเป็นปากดีเมื่อครู่ยังทำหน้าเคลิ้มอยู่เลย”

            ไฟทำหน้าเหรอหราเมื่อได้ยินคำพูดกวนๆนั่น  มันก็จริงอย่างที่หินพูดเขาเผลอตัวมีอารมณ์ร่วมกับนายนั่นอย่างน่าละอายเหลือเกิน

            “ใครเคลิ้มก็เห็นๆอยู่ว่านายบังคับขืนใจฉัน”

            “อ๊ะ..ไอ้บ้า” ไฟต้องร้องเสียงหลงออกมาอีกครั้งเมื่อถูกมือหนารวบตัวเข้าไปจนชิด

            “ถ้าด่าพี่อีกโดนกดแน่” ไฟรีบเม้มปากเอาโดยทันที  สถานการณ์นี้เขาเป็นรองยังไงก็ต้องยอมทำตามโดยไม่มีข้อแม้

            “ปล่อยซะทีสิฉันสัญญาว่าจะเงียบ” ไฟทำหน้าไม่ถูกเมื่ออยู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมากระตุกที่หน้าขา  ก่อนจะเห็นรอยยิ้มของคนที่อยู่ตรงหน้าก็ถึงบางอ้อ  คนอะไรจะลามาจกเปรตขนาดนี้ไฟคิดในใจ

            “ขอร้องพี่สิ” วงแขนแกร่งกระชับตัวร่างบางเข้ามาแนบชิดมากขึ้นไปอีก

            “ไม่มีทาง”

            “ไม่มีทางเหรอออ ถ้างั้นต้องโดน” หินโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ จนร่างบางถึงกับต้องหลับตาปี๋

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            เสียงเคาะประตูดังขึ้นเหมือนเป็นเสียงสวรรค์สำหรับไฟ  เขารีบผลักคนตัวสูงให้ออกจากตัวแล้วรีบใส่กระดุมเสื้อทันที  ส่วนหินก็ทำหน้าเซ็งๆก่อนจะพยายามทำให้เจ้าน้องชายที่กำลังตื่นตัวให้หลับลงเหมือนเดิม  หลังจากนั้นก็เดินไปเปิดประตู

            “น้ำมาได้ไง!”

            เสียงหินดังแว่วทำให้ไฟรู้ทันทีว่าคนที่มาเป็นใคร  ก่อนจะคิดแผนการอะไรบางอย่างออก  ไฟปลดกระดุมเสื้อออกเหมือนเดิม  ก่อนจะแหวกจนเห็นยอดอกที่มีรอยแดงเป็นจ้ำๆจากการโดนคนตัวสูงทำเอาไว้เมื่อสักครู่

            “พอดีน้ำผ่านมาแถวนี้เลยแวะมาหาพี่หินน่ะครับ” คุยกับหินแต่น้ำกลับส่องสายตาหาพี่ชายของตัวเอง  เขาอยากรู้ว่าสองคนทำอะไรกันอยู่ถึงได้ล็อคประตูเอาไว้

            “อ๋อ ถ้างั้นเข้ามาข้างในก่อน”

            หินเดินนำหน้าเข้ามาข้างในก่อนจะเห็นไฟยืนในสภาพเสื้อหลุดลุ่ยจึงรีบวิ่งเข้าไปยืนบังเอาไว้

            “ใส่เสื้อให้เรียบร้อย” หินกระซิบบอกขณะยืนบังเอาไว้

            “ไม่” ไฟตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ

            “นายคิดจะทำอะไร” เขาเริ่มกลัวว่าไฟคิดจะทำอะไรแผลงๆ

            “มีอะไรกันรึเปล่าครับ” น้ำเห็นท่าทางแปลกๆของทั้งสองคนจึงเอ่ยถามขึ้น

            “ไม่มีอะไรน้ำ นั่งก่อนๆ” หินยิ้มแหยๆให้

            “พี่หินมายืนบังไฟทำไมเนี่ย” ไฟเดินออกมาจากข้างหลัง

            น้ำเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพของไฟในตอนนี้  เสื้อนักศึกษาที่ถูกปลดกระดุมออกจนเห็นแผงอก  ยิ่งเห็นรอยแดงเป็นจ้ำๆหลายจุดที่บริเวณยอดอกยิ่งทำให้น้ำมั่นใจมากขึ้นไปอีก

            “นี่พี่สองคนทำอะไรกัน” น้ำยืนมองหินอย่างเสียความรู้สึก

            “คือ...” หินถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเจอฤทธิ์ของไฟเข้าไป

            “ก็พี่หินน่ะสิน้ำทำรอยไว้บนตัวพี่ นี่ก็ห้ามแล้วนะแต่ก็ยังไม่ยอมหยุด จนเป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะ” ไฟพูดเยาะเย้ยน้องชายด้วยสีหน้ากวนๆ  พร้อมกับเข้าไปควงแขนหินเอาไว้

            “พี่หินทำไมทำแบบนี้ น้ำเสียความรู้สึกกับพี่จริงๆ กลางวันแสกๆก็ยังไม่เว้น น้ำเกลียดพี่หิน!” น้ำร้องไห้ร้องห่มด้วยความเสียใจก่อนจะวิ่งออกไปทันที

            “น้ำ! พี่ขอโทษ” หินพยายามจะวิ่งตามไปแต่โดนคนที่ยืนอยู่ข้างๆดึงแขนเอาไว้

            “ไม่ต้องตามมันไป...สมน้ำหน้า” ไฟแสยะยิ้มด้วยความสะใจ

            “ทำอย่างนี้ทำไม  รู้รึเปล่าว่าน้ำจะเสียใจมากแค่ไหน” ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักน้ำแต่ก็ยังห่วงความรู้สึกของน้องชายอยู่ไม่น้อย

            “ช่างหัวมันสิ ใครบอกให้มันมาเอง ช่วยไม่ได้”

            “ทำได้แม้กระทั่งน้องตัวเอง นายนี่มันโคตรเหี้ยเลย!” หินเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาเขาบีบไหล่บางทั้งสองข้างเต็มแรงจนไฟถึงกับทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด

            “นายมันก็เหี้ยไม่ต่างจากฉันหรอก นายมันน่าขยะแขยงที่สุด”

            “ขยะแขยงงั้นเหรอดี! วันนี้นายจะได้รู้ว่าคนอย่างฉันมันน่าขยะแขยงได้มากกว่านี้อีก มานี่!”

            หินลากตัวร่างบางออกจากห้องลงไปทางบันไดหนีไฟ  ก่อนจะจับตัวขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จองตั๋วติดขอบเตียง รอตอนหน้า

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
หินจะทุบเกราะร้ายๆของไฟแล้ว :jul1:ติดตามค่ะสนุกมาก

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เร็วดีอ่ะ
ต่อเลยๆๆๆ

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
lll:::::ไฟร้าย:::::lll:::Ch.05--ปราบพยศ--(Up.19-03-2018)
«ตอบ #18 เมื่อ19-03-2018 14:59:02 »

CHAPTER

-5-

ปราบพยศ



            พลั่ก!

            ร่างบางถูกผลักลงบนเตียงนุ่มในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง  หลังจากโดนลากตัวมาอย่างไม่ได้เต็มใจ  ชายหนุ่มยืนจ้องด้วยความโมโหไม่มีทีท่าว่าจะยอมสงบลงเลยแม้แต่น้อย  ไฟชอบเอาแต่ใจและทำอะไรไปโดยไม่นึกถึงความรู้สึกของคนอื่น วันนี้ล่ะเขาจะปราบพยศเด็กดื้อคนนี้ให้อยู่ในโอวาสให้ได้

            “นายกล้าดียังไงพาฉันมาที่แบบนี้ไอ้บ้า!” สีหน้าตื่นกลัวขัดกับฝีปากที่ยังก่นด่าไม่ยอมหยุด

            “ทำไมจะไม่กล้า...นายเองยังกล้าทำร้ายความรู้สึกคนอื่นเลย แล้วทำไมพี่จะทำอย่างนั้นกับนายไม่ได้”

            “คุณพ่อเลี้ยงคนผิดจริงๆ กินบนเรือนขี้บนหลังคา ถ้านายทำอะไรฉัน...ฉันฟ้องคุณพ่อแน่” ร่างบางขู่

            “เอาเลย! ฟ้องเลย! พี่จะรับผิดชอบโดยการแต่งงานกับนายเองดีซะอีกจะได้มีเมียกับเค้าซะที” หินไม่ได้สะทกสะท้านกับคำขู่ของอีกคนเลยแม้แต่น้อย   เขารู้ว่าไฟเกลียดเขามากคงไม่มีทางที่จะยอมร่วมหอลงโรงด้วยอย่างแน่นอน

            “เลวจริงๆ ไอ้คนเนรคุณ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!”

             ร่างบางตะเบงเสียงด่าได้เพียงไม่กี่คำหินก็ขึ้นไปบนเตียงแล้วรวบตัวเอาไว้  วงแขนไม่ยอมให้อีกฝ่ายขยับเขยื้อนได้เลยแม้แต่น้อย  ใบหน้าทั้งสองอยู่ในระยะประชิดจนปลายจมูกสัมผัสกัน  สายตาคมของชายหนุ่มจ้องมองด้วยไฟราคะที่กำลังคุกรุ่นอย่างเต็มที่

            “วันนี้พี่จะทำให้นายได้รู้จักกับความพ่ายแพ้ และรู้ว่าปลาหมอตายเพราะปากของจริงมันเป็นยังไง” เสียงกระซิบแผ่วเบาเอ่ยข้างๆใบหู  ไฟรู้สึกขยะแขยงเต็มทนเขาทำได้เพียงส่ายหน้าไปมาหลังจากโดนร่างแกร่งพยายามไซ้ซอกคอขาวอย่างบ้าคลั่ง

            “ปล่อยกูไอ้บ้าหิน!” ข้อมือที่โดนตรึงเอาไว้บนเตียงพยายามขยับไปมาเพื่อให้เป็นอิสระ  แต่เงื้อมมือแกร่งกลับไม่ยอมปล่อยให้เป็นอย่างนั้นไปได้ง่ายๆ

            “รีบๆด่าต่อไปนายจะได้มีหน้าที่ครางอย่างเดียว” หินแสยะยิ้มขณะจ้องตาร่างบางที่ส่งสายตาพิฆาตมาให้ด้วยความโกรธแค้น

            “สถุนที่สุดคนชั้นต่ำอย่างนายคงคิดได้แต่เรื่องพรรณนี้สินะ” คำก่นด่าที่ออกจากปากของคนที่อยู่ใต้ร่าง  ไม่ทำให้หินสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย  เขายังคงยกยิ้มที่มุมปากพร้อมกับโลมเลียบริเวณใบหน้าเพื่อเพิ่มดีกรีความเดือดพล่านให้กับอีกคน

            “วันนี้ล่ะนายจะได้เป็นเมียคนชั้นต่ำอย่างพี่”

            “อื้อ”

            พูดไม่ทันขาดคำหินก็ประกบจูบริมฝีปากบางทันที  เขาบดเบียดริมฝีปากอย่างหนักหน่วงราวกับตั้งใจทำให้อีกคนจะขาดใจเสียให้ได้  เสียงลมหายใจถี่ของทั้งสองดังขึ้นเรื่อยๆเฉกเช่นเดียวกับอุณหภูมิของใบหน้าที่มันสูงปรี๊ดขึ้นอย่างฮวบฮาบ

            ขาเรียวของร่างบางพยายามถีบยันไปมาบนเตียง  แต่กลับถูกท่อนขาแกร่งของชายหนุ่มทับทาบเอาไว้เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย  กระดุมเม็ดแล้วเม็ดเล่าถูกปลดออกมาอย่างทุกลักทุเล  แต่ถึงกระนั้นมันก็หลุดออกมาจนถึงเม็ดสุดท้ายก่อนที่เสื้อตัวบางจะถูกโยนไปที่พื้นอย่างไม่ใยดี  รสจูบที่รุนแรงและหนักหน่วงสะกดคนที่อยู่ใต้ร่างให้เริ่มอ่อนลง

            อาภรณ์ที่เคยปกปิดของสงวนถูกปลดเปลื้องออกจนเห็นเรือนร่างอันเปลือยเปล่ายั่วตายั่วใจชายหนุ่ม  หินที่อยู่ในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อนเบียดขาแกร่งเข้าไปแทรกตรงหว่างขาของร่างบางเอาไว้ เขารู้สึกได้ถึงการตอบรับที่ดีจากคนที่อยู่ใต้ร่างนั้นเพราะถูกท่อนเอ็นขนาดพอเหมาะดุนอยู่ที่หน้าท้อง

ใบหน้าขาวใสเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาคมปานจะกลืนกิน  เขาต้องรู้สึกขยะแขยงผู้ชายคนนี้สิแต่ทำไมต้องรู้สึกเขินอายเมื่อถูกสายตาคู่นั้นจับจ้องมา ความคิดเกิดขึ้นในหัวพร้อมๆกับความกำหนัดที่เริ่มจะก่อตัวขึ้นจนไม่สามารถปฏิเสธการรุกรานของชายหนุ่มได้

            “อืม” หินส่งเสียงครวญครางออกมาด้วยความกระสันขณะบดจูบริมฝีปากบาง  ลิ้นเย็นถูกสอดเข้าไปตวัดอย่างอิสระเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง  แต่มันกลับพบแค่ความหอมหวานและการตอบรับที่ดีจากเจ้าของโพรงปากเท่านั้น

            ขาทั้งสองข้างถูกแยกออกจากกันเกือบจะร้อยแปดสิบองศา  เพื่อรองรับการบดเบียดจากสะโพกกลมของคนตัวสูง  แก่นกายที่กำลังแข็งได้ที่ถูกบดเบียดถูไถบริเวณช่องทางจนร่างบางรู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วร่าง  ไฟไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนในชีวิตนี่เป็นครั้งแรกของการถูกรุกราน  ไม่นานหลังจากนั้นเขาต้องสะดุ้งผางเมื่อรู้สึกได้ถึงการรุกรานของนิ้วมือจากชายหนุ่ม  เพียงแค่นี้ก็ทำให้ไฟถึงกับกลั้นหายใจชั่วขณะพร้อมกับทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด

            “อื้อ จะ..เจ็บ...พอ”  เสียงสั่นเอ่ยออกมาอย่างประหม่า  มือเรียวดันที่อกแกร่งเอาไว้เพื่อคลายความอึดอัด

            “ครั้งแรกก็เจ็บอย่างนี้ล่ะเดี๋ยวก็ชิน” เสียงเข้มเอ่ยด้วยความกระเส่าข้างใบหูก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาที่ยอดอกที่ตั้งชูชันเหมือนกำลังรอใครบางคนมาสัมผัสมัน  เมื่อลิ้นเย็นของหินเริ่มสัมผัสคนที่อยู่ใต้ร่างก็แอ่นอกรับด้วยความเสียวซ่าน  มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เลวเลย  หากจะโดนอีกคนแซวหลังจากนี้เขาก็ยอมเพราะตอนนี้ความต้องการมันดันปรอทเจียนจะแตกออกมาอยู่แล้ว

            “อ๊ะ...โอ๊ย!”

            ไฟต้องเงยหน้าขึ้นด้วยความเจ็บปวดราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆเสียให้ได้ น้ำตาไหลพรากลงเป็นสายเมื่อแท่งร้อนถูกดันเข้าไปอย่างช้าๆจนคับแน่นไปหมด  เขารู้สึกอึกอัดกับส่วนล่างจนกำมือทุบที่แผ่นหลังของคนตัวสูงรัวๆ

            หินไม่รอช้าดันเข้าไปจนสุดก่อนจะแช่เอาไว้แล้วหันไปสนใจกับริมฝีปากบางแทน  เขาประกบจูบอีกครั้งเพื่อให้คนที่อยู่ใต้ร่างรู้สึกผ่อนคลาย  มือหนาก็สะกิดที่ยอดอกไปพรางๆเพื่อเพิ่มดีกรีความต้องการของอีกคน

            “ผ่อนคลายแล้วนายจะสนุกกับมัน” เขาพรมจูบไปทั่วเมื่อเห็นว่าร่างบางเริ่มผ่อนคลายแล้วก็เริ่มขยับช่วงล่างอย่างเป็นจังหวะ  เสียงครวญครางของทั้งสองคนดังขึ้นประสานเสียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

            “อ๊ะๆๆ”

            ยิ่งได้ยินเสียง ยิ่งเห็นร่างบางที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ใต้ร่าง  ยิ่งทำให้หินมองอย่างกระสัน  เขาจับจ้องใบหน้าสวยแทบไม่กระพริบตา

บทรักบรรเลงไปเนิ่นนานจนถึงจุดๆหนึ่งที่หินต้องขบริมฝีปากเอาไว้พร้อมกับทำหน้าเหยเกเมื่อของเหลวในร่างกายเริ่มไหลมาจ่อตรงส่วนปลายของแท่งร้อน

            “อ่าส์ จะแตกแล้วๆ”

             ปับๆๆๆ

             เสียงกระเส่าเอ่ยออกมาซ้ำๆพร้อมกับบั้นท้ายที่เร่งจังหวะไม่ยอมหยุด

            “อ๊าก!!!”

            เมื่อของเหลวสีขาวขุ่นพุ่งกระฉุดเข้าไปในตัวร่างบาง  หินก็ร้องออกมาเสียงดังราวจะขาดใจ ร่างหนาฟุบลงทับตัวร่างบางเอาไว้ เม็ดเหงื่อผุดเกาะไปทั่วทั้งตัวราวกับเพิ่งผ่านการอาบน้ำมาหมาดๆ  โดยฉพาะบริเวณใบหน้าที่หยดลงบนเตียงจนเปียกชุ่ม

            “ลุกออกตัวฉันเดี๋ยวนี้ ฉันขยะแขยงนายเต็มทนแล้ว” ถึงแม้จะรู้สึกเสียใจมากแค่ไหนแต่ร่างบางก็ไม่ร้องไห้เสียงดังให้อีกคนได้ยิน  มีเพียงน้ำตาที่ไหลลงมาเพื่อระบายความเจ็บช้ำเท่านั้น

            “มานี่พี่ช่วย” มือหนาคว้าหมับเข้าที่ส่วนล่างของไฟทันที  ร่างบางสะบัดมือออกก่อนจะรีบลุกขึ้น

            “โอ๊ย!”

            ไฟต้องทำหน้าเหยเกเมื่อรู้สึกเจ็บที่ช่องทาง  เขารู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะจากการโดนคนตัวสูงปล่อยน้ำรักเข้าไปข้างใน  เมื่อเห็นคนตัวสูงกำลังจะลุกขึ้นมาพยุงเอาไว้ไฟก็กัดฟันเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างทุลักทุเล

            “ไอ้หิน ไอ้เลว ฮือๆ” เมื่อเข้าไปในห้องน้ำเรียบร้อยแล้วคนที่ใจแข็งก่อนหน้านี้ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างเต็มที่ขณะนั่งอยู่บนชักโครก  ยิ่งเจออย่างนี้เขายิ่งจะมีแต่โกรธแค้นอีกคนมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว “ฉันไม่ยอมเสียตัวฟรีๆหรอกนายจะต้องเจ็บปวดที่ทำกับฉันอย่างนี้” ร่างบางเช็ดน้ำตาก่อนจะชำระล้างร่างกายจนสะอาดแล้วเดินออกไปข้างนอกไม่พูดไม่จากับอีกคน

            “เป็นไงบ้างเจ็บมากไหมเดี๋ยวพี่จะพาไปหาหมอ” เมื่ออารมณ์เย็นลงหินก็เริ่มรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป

            “ไม่ต้อง! กลับกันเถอะ” ท่าทีเฉยเมยของอีกคนอีกคนทำให้หินรู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่น่าทำอย่างนี้ลงไปเลย  หากจะรับผิดชอบคนอย่างไฟก็คงไม่ยอมอย่างแน่นอน

            “เดี๋ยวนั่งรอพี่แป๊บนึงขอเข้าห้องน้ำก่อน” หินรู้สึกแปลกใจที่อีกคนไม่ได้โวยวายเหมือนก่อนหน้า  แถมยังเงียบผิดปกติอีกต่างหากทำให้รู้สึกใจคอไม่ดีเลย

            ขณะหินอยู่ในห้องน้ำไฟก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพเสื้อผ้าที่วางเกลื่อนอยู่บนพื้น  ก่อนจะหยิบมาสวมใส่ให้เรียบร้อย  เมื่อหินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็ใส่เสื้อผ้าหลังจากนั้นก็รีบพาร่างบางออกไปทันที



*-*-*-*-*-*-*



            บ้านศิริกรโสภณ

            เมื่อเข้าไปในบ้านไฟก็เห็นเพลินพิศกับสาวใช้คนสนิทกำลังยืนจ้องมองมา  แต่เขาก็แค่ปรายตามองแล้วเดินผ่านไปอย่างช้าๆไม่พูดไม่จาซึ่งผิดแปลกจากที่เคยประจันหน้ากัน

            “ไปไหนกันมาน่ะหิน” เพลินพิศเอ่ยถามหินที่เดินตามหลังมาติดๆ

            “เอ่อ...พอดีไฟไม่ค่อยสบายน่ะครับผมเลยพามาส่ง”

            “คนอย่างมันเจ็บป่วยกับเค้าเป็นด้วยเหรอ?” เพลินพิศเบ้ปากเมื่อเอ่ยถึงลูกเลี้ยง

            “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวขึ้นข้างบนก่อนนะครับ” ไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยปากถามอีกครั้งหินก็รีบขึ้นมาข้างบน

            “แกว่าสองคนนี้ดูแปลกๆยังไงพิกลไหมนังปิ๋ว” เพลินพิศมองตามหลังทั้งสองคนด้วยความสงสัย

            “ใช่ค่ะคุณนายดูท่าเดินคุณไฟสิแปลกๆพิกล แถมยังคุณหินยังมาส่งถึงที่บ้านปิ๋วไม่อยากจะคิดเลยค่ะว่าสองคนนั้นจะ.....”

            “หยุดเลยนังปิ๋วหินไม่มีทางไปเกลือกกลั้วของต่ำๆอย่างไอ้ไฟแน่นอน” เพลินพิศเอ็ดสาวใช้ “เพราะคนที่คู่ควรกับไฟคือลูกชายฉันเท่านั้น” เธอแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจ

            เมื่อขึ้นมาข้างบนแล้วหินก็ยืนมองไปที่หน้าห้องของร่างบาง เขายังรู้สึกผิดที่ทำอย่างนั้นลงไป  จากนี้ไปความสัมพันธ์ระหว่างเขาและไฟมันจะเป็นอย่างไรนั่นคือความคิดที่อยู่ในหัวตอนนี้



*-*-*-*-*-*



            เย็นวันนั้น

            “แล้วไฟไปไหนไม่ลงมาทานข้าว” จรัญเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นลูกชายคนโตอยู่บนโต๊ะอาหารเช่นทุกวัน

            “เดี๋ยวดิฉันขึ้นไปตามให้นะคะคุณท่าน” ป้าแสงหัวหน้าแม่บ้านเอ่ย

            “ไฟเค้าไม่ค่อยสบายครับคุณพ่อ เมื่อช่วงบ่ายผมพามาส่งที่บ้าน”

เมื่อได้ยินหินเอ่ยอย่างนั้น น้ำที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็เงยหน้าขึ้นมามองทันที  ตั้งแต่กลับมาจากบริษัทเขายังไม่ได้คุยกับหินแม้แต่คำเดียวคงอีกนานกว่าจะทำใจได้กับเรื่องนี้     

            “แล้วน้องเป็นอะไรมากรึเปล่าหิน” จรัญเอ่ยถามอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง

            “ไม่ครับ...เดี๋ยวทานข้าวแล้วผมจะขึ้นไปดูน้องให้”

            “พ่อฝากด้วยละกันไอ้ลูกคนนี้มันดื้อพ่อขี้เกียจคุยกับมันแล้ว”

            “ครับคุณพ่อ”

            น้ำนั่งนิ่งน้ำตาตกในเพราะรู้สึกว่าหินจะเป็นห่วงเป็นใยพี่ชายของตัวเองมากเหลือเกิน  หรือที่ปฏิเสธเขานั่นเพราะหันไปสนใจไฟอย่างนั้นหรือ  ยิ่งคิดยิ่งทำให้น้ำรู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้น

            หลังจากทานข้าวเสร็จแล้วเพลินพิศเห็นลูกชายสุดที่รักยืนมองตามหลังหินตาละห้อย  ช่วงที่อยู่บนโต๊ะอาหารลูกชายก็เอาแต่แอบมองหินอยู่บ่อยๆ  จนเธอสงสัยว่าทั้งสองอาจจะมีเรื่องไม่เข้าใจกันอยู่

            “น้ำ” เมื่อได้ยินเสียงเรียกของผู้เป็นแม่น้ำก็หันไปมองทันที

            “มีอะไรครับแม่”

            “น้ำกับพี่หินมีเรื่องผิดใจอะไรกันรึเปล่าลูก”

            “ไม่มีครับ ทำไมคุณแม่ถามอย่างนั้นล่ะครับ” สายตาที่พยายามซ่อนเร้นอะไรบางอย่างมีหรือที่เพลินพิศจะสังเกตไม่ออก

            “อย่าโกหกแม่เลยสายตาลูกมันฟ้อง  มีอะไรก็บอกแม่มาเถอะเราจะได้ช่วยกันหาทางออก” เธอบอกลูกชาย

            “คุณแม่ครับ ฮึก” เมื่อถูกซักถามเข้าเรื่อยๆน้ำก็ร้องไห้ออกมาทันที

            “มันเกิดอะไรขึ้นลูกบอกแม่มา” เพลินพิศรู้สึกตกใจที่เห็นน้ำตาของลูกชาย

            “พี่หินกับพี่ไฟเค้า...”

            น้ำเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เจอที่บริษัทให้กับผู้เป็นแม่ฟัง  เพลินพิศได้ยินอย่างอย่างนั้นเธอถึงกับโมโหขึ้นมาทันที  เธอจะไม่ยอมให้ลูกของผู้หญิงชั้นต่ำอย่างไฟมาแย่งคนที่ลูกชายเธอรักอย่างแน่นอน



*-*-*-*-*-*-*



            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            ขณะกำลังเพลินอยู่กับการเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียง  เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็ทำสีหน้าหงุดหงิดขึ้นมาทันที  ไฟยังคงไม่สนใจแต่ประตูยังถูกเคาะอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุดจนเริ่มรำคาญ  เขาจึงเดินอิดออดไปเปิดประตูอย่างไม่เต็มใจ

            “ไม่มีมารยาทเคาะอยู่ได้” เขาบ่นออกมาทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร  จนเมื่อรู้ว่าเป็นหินก็ทำหน้าบึ้งตึงใส่ทันที “มีอะไร!” เสียงห้วนเอ่ยถาม

            “คุณพ่อให้มาดูว่าเป็นไงบ้าง” เสียงเข้มเอ่ยออกไปอย่างเป็นห่วง

            “ยังไม่ตายไปบอกท่านด้วย” ว่าแล้วไฟก็จะปิดประตูห้องแต่คนตัวสูงกลับไม่ยอมโดยง่าย  เขาเบียดตัวแทรกเข้ามาในห้องก่อนจะเป็นคนปิดประตูซะเอง “ออกไปเดี๋ยวนี้!”

            “ไม่! จนกว่าจะแน่ใจว่านายไม่เป็นอะไร”  ร่างบางเดินถอยหลังจนถึงเตียงก่อนจะยืนประจันหน้ากับผู้บุกรุก

            “ก็ฉันบอกแล้วไงว่ายังไม่ตาย  ได้ยินแล้วก็ออกไปซะ” ใบหน้าบึ้งตึงแสดงออกอย่างชัดเจน  คนตัวสูงเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ

            “รู้ว่ายังไม่ตายแล้ว...เจ็บตรงนั้นมากป่ะ” หินจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตอย่างหวานเยิ้ม  จนเจ้าของห้องรู้สึกร้อนวาบขึ้นที่ใบหน้า

            “เจ็บไม่เจ็บก็เรื่องของฉัน  ส่วนเรื่องวันนี้ถือซะว่าทำทานให้กับหมูให้หมา ออกไป๊!”  ไฟผลักคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าจนเซนิดหน่อย  แต่หินกลับใช้มือหนาคว้าหมับเข้าที่ก้นงอนอย่างเต็มแรง

            “โอ๊ย! เจ็บนะโว้ย” ไฟทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดจนทนยืนไม่ไหว  มือเรียวจึงยกขึ้นไปโอบที่ต้นคอของชายหนุ่มอย่างไม่ตั้งใจขณะกำลังจะเซล้ม

            “สงสัยจะเจ็บมากจริงๆ” หินยิ้มที่มุมปากเมื่อกำลังโดนอีกคนโอบต้นคอเอาไว้  มือหนาได้ทีก็สวมกอดที่เอวคอดเอาไว้แน่น “ถ้าไม่ติดว่านายเจ็บอยู่พี่ก็จะ....” ลิ้นสากเลียวนที่ริมฝีปากของตัวเองเพื่อสื่อถึงความต้องการ

            “นายนี่มันโรคจิตชัดๆ ออกไปได้แล้วฉันจะนอน”

            “กินยาแก้ปวดรึยังล่ะพี่เป็นห่วงเรา”

            “กะ...กินแล้ว ปล่อย!” ไฟรู้สึกแปลกๆที่มีคนห่วงใยอย่างนี้  ตั้งแต่แม่ของเขาเสียชีวิตไปก็ไม่มีใครมาแยแสเลยแม้แต่คนเดียว  แม้กระทั่งผู้เป็นพ่อที่เลี้ยงเขามาด้วยเงินตรา  ความรักความห่วงใยเขาแทบไม่เคยได้สัมผัสมันเลย

            “พรุ่งนี้พี่ให้ลางานวันนึงก็แล้วกัน  พักผ่อนให้เต็มที่เดี๋ยวพี่ไปบอกคุณพ่อเองนอนเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะเดินออกไปข้างนอก

            ขณะนอนอยู่บนเตียงใบหน้าหล่อคมของหินผุดขึ้นในหัวไม่ยอมหยุด ไฟพยายามสลัดความคิดพวกนั้นออกไปก่อนจะส่ายหัวไปมาแล้วข่มตานอน

            ส่วนหินที่เดินออกมาจากห้องแล้วก็รู้สึกแปลกๆ  เป็นอีกครั้งที่อยู่ใกล้เด็กดื้อคนนั้นแล้วหัวใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะ  ทุกสัมผัสที่เคยครอบครองก่อนหน้านี้มันยังตราตรึงอยู่ในหัวเขาตลอดเวลา  จนอยากจะครอบครองเรือนร่างนั้นอีกครั้งและเก็บเอาไว้เป็นสมบัติของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว....



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



----------------

ฝากคอมเมนท์กันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ


ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
กว่าจะรักกัน ดุเผ็ดมันส์แน่นนอน
รอไฟแผลงฤทธิ์ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: lll:::::ไฟร้าย:::::lll:::Ch.05--ปราบพยศ--(Up.19-03-2018)
« ตอบ #19 เมื่อ: 19-03-2018 19:37:58 »





ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ไฟ. พยศจริงๆ
น้ำ. ท่าทางเงียบๆน่าร้ายลึก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไฟเอย หนูอย่าร้ายให้มากนักลูก  ศัตรูลูกมีหลายนะ ระวังตัวไว้ด้วย  :katai1:

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-6-

ขอหมั้น



            รุ่งเช้าไฟยืนรอน้องชายอยู่หน้าห้อง  ที่น้ำเห็นในห้องทำงานตอนนั้นมันแค่เบาะๆแต่วันนี้สิมันคือของจริง  ถ้าจะเล่นงานใครเขาต้องเอาให้ถึงที่สุด ‘ถ้าเห็นภาพนี้แกจะได้รู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง’ ไฟคิดในใจพร้อมแสยะยิ้มอกมา

             “เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป” เมื่อเห็นน้องชายเดินออกมาจากห้องไฟก็ตะโกนเรียกแล้วเดินเข้าไปหา

            “พี่ไฟมีอะไรครับ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นแต่ไม่ยอมมองหน้าพี่ชายเลยแม้แต่น้อย

            “ฉันมีอะไรจะให้ดู” ไฟเปิดภาพถ่ายเมื่อตอนอยู่ในโรงแรมม่านรูดให้กับน้องชายดู “ที่แกเห็นในห้องทำงานนั่นมันแค่น้ำจิ้ม หลังจากแกออกไปแล้วพี่หินทนไม่ไหวพาฉันไปที่โรงแรมม่านรูดแล้วผลก็ออกมาอย่างที่เห็นนี่ล่ะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวย

             น้ำเห็นอย่างนั้นก็ถึงกับหน้าซีดขึ้นมาทันที  นี่ไฟต้องการจะให้เขาดิ้นตายอยู่ตรงหน้าให้ได้เลยหรือ

            “ผมขอตัวก่อน” น้ำแสดงสีหน้าไม่ค่อยดีนักก่อนจะเดินผ่านหน้าไป

            “ฝากบอกแม่แกด้วยนะว่าแผนจับคู่ไม่มีทางสำเร็จแน่นอน” ไฟแสยะยิ้มอย่างพอใจ

            น้ำเดินลงไปข้างล่างแล้วรีบตรงดิ่งไปยังห้องน้ำ  เขาปล่อยโฮออกมาทันทีหัวใจมันบีบรัดจนเจ็บปวดราวจะขาดใจ  ทำไมพี่ชายที่เขาไม่เคยคิดร้ายเลยแม้แต่ครั้งเดียวถึงทำกันได้ลงคอ  ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาชอบหินมากขนาดไหน  “ฮึก ผมเกลียดพี่ไฟ! ผมเกลียดพี่ไฟ!” เขาพูดซ้ำๆต่อหน้าตัวเองในกระจกก่อนจะซับน้ำตาจนหมดแล้วออกจากห้องน้ำไป

            “อ้าว! น้ำทำไมตาแดงออกมาอย่างนั้นล่ะลูก” เพลินพิศเดินผ่านมาเห็นลูกชายพอดีจึงเอ่ยถามขึ้น

            “ปะ...เปล่าครับแม่” เขาเอ่ยแต่กลับหลบสายตา

            “อย่าโกหกแม่...ใครทำอะไรลูกบอกมา” ดูจากสีหน้าหล่อนก็รู้ว่าลูกชายกำลังมีเรื่องไม่สบายใจ

            “พี่ไฟเค้ามาเยาะเย้ยผมเรื่องพี่หินอีกแล้วครับ ฮือๆ” น้ำอดไม่ไหวจึงร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

            “อย่าร้องไปเลยลูก  แม่จะจัดการเรื่องนี้ให้เอง แม่จะให้คุณพ่อจัดงานหมั้นให้ลูกกันพี่หิน”

            “แต่พี่หินไม่ได้รักน้ำนะครับแม่” น้ำก็รู้สึกไม่สบายใจที่แม่ของตัวเองจะบังคับให้หินยอมรับการหมั้นในครั้งนี้

            “หรือว่าลูกอยากให้ไอ้ไฟมันงาบพี่หินไปเหรอ!” เธอขึ้นเสียงใส่ลูกชายอย่างลืมตัว

            “ไม่ครับ!” น้ำก้มหน้าลง

            “แม่ขอโทษที่ขึ้นเสียงใส่ลูก  แต่แม่ไม่มีทางให้ไอ้ไฟมันแย่งทุกอย่างของลูกไปเด็ดขาด” เธอกอดลูกชายเอาไว้ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก  เมื่อนึกถึงวันที่ลูกเลี้ยงต้องพ่ายแพ้ให้แก่หล่อนอย่างราบคาบ

            ขณะนั้นเองไฟบังเอิญเดินเข้ามาได้ยินพอดี  เขามองสองแม่ลูกด้วยความเคียดแค้น  ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เพลินพิศไม่เคยชอบขี้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย  หน้าไหว้หลังหลอกอยู่ต่อหน้าเขาก็อีกอย่างนึง  อยู่ต่อหน้าพ่อของเขาก็อีกอย่างนึง  คนอย่างนี้เขาไม่มีทางญาติดีด้วยเด็ดขาด  และที่สำคัญหากไมใช่เพราะเพลินพิศมาจับพ่อของเขา  แม่ก็คงได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะเมียหลวงและไม่ต้องตายอย่างแน่นอน  เขาจะแย่งของทุกอย่างที่เพลินพิศอยากได้  ไม่มีทางให้หล่อนได้สมหวังอย่างแน่นอน

            "แกอย่าหวังว่าจะชนะฉันได้เพลินพิศ”

            เขาจะเอาคืนให้หมดทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพลินพิศหรือแม้แต่หินเองก็ตาม



*-*-*-*-*-*-*



            บริษัทศิริกรโสภณ

            ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนไฟเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้หินตายใจ ไม่ใจร้อนและว่านอนสอนง่ายขึ้น  ทำให้หินสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีและเริ่มมีความรู้สึกดีๆกับไฟขึ้นเรื่อยๆ   

            “เลิกงานแล้วพี่หินจะไปไหนรึเปล่าครับ” ร่างบางส่งยิ้มมาให้

            “พะ...พี่ไม่ได้ไปไหน” หินได้ยินแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองไฟเรียกเขาพี่เป็นครั้งแรก  เขาทำหน้างงจนอีกคนถึงกับยิ้มออกมา

            “พี่หินไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นหรอกครับ ผมนั่งคิดทบทวนดูแล้วที่ผ่านมาผมทำร้ายคนอื่นมามาก  จากนี้ไปผมจะพยายามเปลี่ยนเป็นคนใหม่ให้ได้ครับ  ที่ผ่านมาผมต้องขอโทษพี่หินด้วยนะครับ” เขายิ้มหวานให้กับชายหนุ่ม  หินรู้สึกดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นโดยไม่เฉลียวใจแม้แต่น้อย

            “ถ้าไฟคิดได้อย่างนั้นพี่ก็ไม่ติดใจอะไร  พี่เองซะอีกที่ต้องขอโทษไฟที่เคย...” หินแสดงสีหน้าสำนึกผิดที่เคยล่วงเกินร่างบางในวันนั้น

            “ผมไม่มีทางยกโทษให้ถ้าวันนี้พี่หินไม่พาผมไปดูหนัง”  ร่างบางยิ้มอย่างจริงใจให้อีกคน

            “ได้สิไม่มีปัญหา...คุณพ่อคงดีใจที่ไฟเปลี่ยนไปแล้ว”

            “ผมจะพยายามปรับตัวให้เข้ากับทุกคนครับ”

            “พี่จะเอาใจช่วยนะ”

            หินรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก  ยิ่งได้เห็นไฟเปลี่ยนไปอย่างนี้ยิ่งทำให้เขามีความหวังมากขึ้น  เขาหวังว่าความรู้สึกดีๆที่มีให้กับไฟมันจะมีโอกาสพัฒนาไปมากกว่านี้ได้

            โรงภาพยนตร์

             เมื่อมาถึงทั้งสองก็เดินเข้าไปดูรอบหนังที่หน้าจอขนาดใหญ่ของโรงภาพยนตร์  ทุกสายตาต่างจับจ้องมามองทั้งสองคนพร้อมกับมีเสียงซุบซิบนินทาอยู่ไม่ขาด  นั่นเพราะไฟกำลังควงแขนนักธุรกิจหนุ่มหล่อที่กำลังมาแรงที่สุดในขณะนี้โดยไม่แคร์สายตาใครเลยแม้แต่น้อย

            “เลือกตามใจไฟเลยนะพี่ยังไงก็ได้”

            “ถ้างั้นดูเรื่องนี้ละกันเนาะผมชอบแนวแฟนตาซี”

            “ได้ครับ”

            หินเองก็ยังทำตัวไม่ค่อยถูกกับการเปลี่ยนไปของร่างบาง  เวลาที่สายตาหวานจ้องมองมาพร้อมกับรอยยิ้มมันรู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูก

            อยู่ๆก็มีเสียงทักดังมาจากด้านหลังทำให้ทั้งไฟและหินต่างหันไปมองพร้อมกัน

            “น้องไฟมาดูหนังเหรอครับ” เป็นโดมหนุ่มรุ่นพี่ร่วมสถานบันนั่นเองที่กำลังดูรอบหนังอยู่ข้างๆพร้อมกับกลุ่มเพื่อน

            ปกติหากเห็นหน้าโดมทีไรไฟก็จะวีนใส่แทบทุกครั้ง  แต่ครั้งนี้มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นไฟกลับยิ้มและทักทายราวกับคนละคน

            “สวัสดีครับพี่โดม มาดูหนังเหมือนกันเหรอครับ” ไฟเดินเข้าไปจับที่ต้นแขนของชายหนุ่มเพื่ออยากดูปฏิกิริยาของหินที่กำลังมองหา  ซึ่งมันก็ได้ผลหินจ้องตาเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเสียให้ได้

             โดมแปลกใจที่เจอกันครั้งนี้ไฟไม่ได้เย่อหยิ่งและดูถูกเขาเหมือนคราวที่แล้ว  แถมยังมาสัมผัสตัวเขาก่อนอีกต่างหาก  หรือว่าร่างบางคนนี้เริ่มจะติดใจเขาขึ้นมาบ้างแล้ว

            “ครับน้องไฟ...แล้วน้องไฟมาดูเรื่องอะไรครับ”

            “เรื่อง XXX ครับ”

            “เรื่องเดียวกันเลยอ่ะ”

            “เดี๋ยวถ้ายังไงผมขอตัวก่อนนะครับ”

            “แล้วเจอกันในโรงหนังครับ” โดมยิ้มให้

            ไฟเดินกลับมาหาหินอีกครั้งสีหน้าของคนตัวสูงกลับไม่ยิ้มแย้มเหมือนก่อนหน้า

            “พี่หินเป็นอะไรรึเปล่าครับ ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”

            “เปล่าพี่ไม่เป็นไร  ว่าแต่ไอ้คนนั้นมันเป็นใครทำไมถึงไปแตะเนื้อต้องตัวมันซะขนาดนั้น” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ

            “อ๋อ พี่โดมเค้าเป็นรุ่นที่ที่มหา’ลัยครับ  คือพี่เค้ากำลังตามจีบผมอยู่” ไฟบอกไปตามตรง

            “วันหลังถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปถึงเนื้อถึงตัวกับเค้าขนาดนั้น  เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่านายมีใจให้”

            “แล้วพี่ไฟรู้ได้ยังไงว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่โดม” หินได้ยินอย่างนั้นถึงกับจ้องมาที่ร่างบางด้วยความหงุดหงิด

            “ไม่ได้นะ!”

            “ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ” ไฟยิ้มอย่างพอใจที่เห็นท่าทีของอีกฝ่าย  ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปตอนนี้หินคงจะเริ่มมีใจให้เขาซะแล้วสิ

            “ก็...ก็หินเป็นของพี่แล้วไง!” หินหลุดปากเอ่ยออกมาอย่างโมโห

            “ถ้าไม่จำเป็นพี่หินไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีกนะครับผมไม่ชอบ” ไฟแกล้งทำหน้าบึ้งตึงทันทีที่ได้ยินพร้อมกับกอดอกหันหน้าหนี

            “พี่ขอโทษแต่พี่อยากรับผิดชอบนายนะ  พี่ทำใจไม่ได้หากจะมีใครมาทำอย่างนั้นกับไฟอีก” ชายหนุ่มจับที่ต้นแขนทั้งสองข้างของร่างบางเอาไว้

            “ผมไม่อยากทำให้พี่หินลำบากใจ  ที่ผ่านมาผมร้ายมากจนทำให้พี่หินโกรธก็หลายครั้ง  ผมคงไม่มีหน้ามาให้พี่รับผิดชอบหรอก  และอีกอย่างผมเป็นผู้ชายยังไงก็ไม่เสียหายอยู่แล้ว” ไฟทำหน้าเศร้าเพื่อเรียกคะแนนความสงสาร

            “เสียหายสิ! ยังไงพี่ก็จะรับผิดชอบไม่ต้องคิดมากนะ” มือหนาเอื้อมมาจับที่แก้มขาวอย่างเบามือ

            “รับผิดชอบยังไงครับ ให้ผมเป็นคนรักหรือเป็นแค่เมียเก็บพี่อย่างนั้นเหรอ”

            “พี่จะบอกคุณพ่อเรื่องของเรา” หินมองหน้าร่างบางด้วยสายตาที่จริงจัง

            “แล้วยังไงต่อครับ พี่หินคิดว่าคุณพ่อจะยอมรับเราอย่างนั้นเหรอ”

            “ไม่ลองก็ไมรู้” สายตาที่มุ่งมั่นมองมาทำให้ไฟถึงกับเผลอคล้อยตามกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด

            “พี่ทำเพื่อผมขนาดนี้ผมจะไม่เปิดใจให้ใครนอกจากพี่คนเดียวเท่านั้นครับผมสัญญา”  ไฟให้คำสัญญากับอีกฝ่าย

            “พี่ดีใจที่ไฟคิดและเปลี่ยนแปลงตัวเองได้”

            “ผมก็ดีใจครับที่พี่หินเชื่อใจในตัวผม” ทั้งสองยิ้มให้กินอย่างหวานซึ้ง

            “เข้าไปข้างในกันเถอะใกล้ถึงเวลาหนังจะฉายแล้ว” ร่างบางยิ้มให้แล้วเดินควงแขนชายหนุ่มเข้าไปข้างใน

            ในโรงภาพยนตร์

            ขณะทั้งสองกำลังนั่งดูตัวอย่างรอภาพยนตร์ฉาย  ก็มีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามานั่งข้างๆไฟ

            “อ้าว!น้องไฟ บังเอิญจริงๆเลยนะเนี่ย” โดมทักด้วยความดีใจ

            “ใช่ครับบังเอิญมาก” เขายิ้มรับ  ดีล่ะเขาจะทำให้คนที่นั่งอีกฝั่งหึงหวงมันก็สนุกไม่ใช่น้อยไฟยิ้มในใจ

            ไฟหันไปคุยกับโดมโดยไม่ได้สนใจหินเลยแม้แต่น้อย  เมื่อกลายเป็นอากาศอยู่นานหินก็สะกิดที่แขนจนไฟต้องหยุดการสนทนากับโดมแล้วหันมาหาชายหนุ่มทันที

            “มีอะไรเหรอครับพี่หิน” ไฟถามเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

            “ลุกขึ้นเปลี่ยนที่นั่งกัน” เสียงเข้มออกคำสั่ง

            “ไม่เอานั่งตรงนี้ก็ดีอยู่แล้ว”

            “ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นครั้งที่สองดังมากจนคนแถวนั้นเริ่มหันมามอง  โดมเองก็มองหน้าหินอย่างไม่พอใจนัก

            ไฟยอมลุกขึ้นเปลี่ยนที่นั่งกับหินทันทีเพราะเกรงใจคนอื่นๆ  เมื่อนั่งลงแล้วหินก็ประสานมือร่างบางแล้ววางไว้บนพนักเก้าอี้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของให้โดมได้เห็น

            “โทษทีนะพอดีไม่อยากให้คนอื่นมาอยู่ใกล้กับแฟน” เสียงเข้มเอ่ยขณะตายังจ้องไปที่หน้าจอ

            โดมนั่งกำหมัดด้วยความโมโห  เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าไฟมีแฟนแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจเขาได้อย่างแน่นอน  เพราะเขาใช้ความพยายามมานานกว่าจะมีโอกาสได้พูดคุยและใกล้ชิดกับไฟได้  เขาจะไม่ปล่อยโอกาสดีๆนี้ไปอย่างแน่นอน

            “ก็แค่แฟน” โดมเองก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายพูดจาเหน็บแนมได้เพียงฝ่ายเดียว  เขาโต้กลับอย่างไม่ยอมเหมือนกัน

            ชายหนุ่มทั้งสองจ้องหน้ากับอย่างไม่มีใครยอมใคร  ราวกับศัตรูที่โกรธแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน

            ไฟนั่งยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจที่เห็นชายหนุ่มทั้งสองคนต่างก็แย่งสิทธิ์ในตัวเขา  โดยหารู้ไม่ว่าต่างก็อยู่ในเกมส์ของไฟโดยไม่รู้ตัว



*-*-*-*-*-*-*



            บ้านศิริกรโสภณ

            กว่าหนังจะจบก็ปาเข้าไปเกือบจะสองทุ่ม  หินและไฟเดินจูงมือกันเข้ามาในบ้านก็เห็นทุกคนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น  หินกระชับมือร่างบางเอาไว้แน่นก่อนจะมองหน้าให้อีกฝ่ายได้มั่นใจ  ตอนนี้ทุกคนก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วหินจึงตัดสินใจที่จะบอกความจริงให้รู้

            “สวัสดีครับคุณพ่อคุณน้า” หินยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนก่อนจะมาจับมือร่างบางไว้เหมือนเดิม

            “ไปไหนกันมากลับซะดึกเชียว” จรัญเอ่ยถามลูกชายขณะก้มหน้าอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่

            “ผมกับไฟไปดูหนังกันมาครับ” เมื่อได้ยินอย่างนั้นจรัญก็เงยหน้าขึ้นมามองทั้งสองคนทันที  ช่วงหลังๆหินและไฟไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ เขาคิดว่าอาจจะเป็นเพราะการฝึกงานทำให้ความสัมพันธ์ของลูกชายทั้งสองดีขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ  แต่มือที่ประสานกันอยู่นั้นทำให้จรัญถึงกับขมวดคิ้วมองลอดแว่นมาด้วยความสงสัย

            ส่วนน้ำไม่อาจจะทนมองภาพบาดตาบาดใจได้เขาพยายามจะลุกขึ้นแต่โดนผู้เป็นแม่จับมือเอาไว้ก่อน

            “เดี๋ยวนี้พวกแกสองคนดูสนิทกันนะ”

            หินถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อเรียกความกล้าก่อนจะเอ่ยออกมา

            “ผมกับไฟเรา....มีอะไรกันแล้วดังนั้นผมอยากจะขออนุญาตคุณพ่อหมั้นกับน้องได้ไหมครับ?”

            หินเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับกระชับมือร่างบางเอาไว้แน่น

ไฟรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่นและจริงใจของชายหนุ่มทำให้รู้สึกผิดในใจอย่างบอกไม่ถูก  แต่ทุกอย่างมันต้องเป็นไปตามเกมส์ที่เขาได้วางไว้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



           ---------------------

ฝากติดตามและคอมเมนท์กันด้วยนะครับบบ
ขอเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น ไฟร้ายลวงรักนะครับ เพื่อให้เหมาะกับเนื้อเรื่อง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2018 10:17:53 โดย ไมเลอร์ »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สุดยอดพี่หิน ยอดคนแมนตัวจริง กล้าทำ กล้ารับ  o13

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ไม่อยากให้หมั้นตอนนี้เลย
แอบสนใจในตัวพี่โดมจัง อิอิ

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-07-

ฮีโร่ในความทรงจำ



          “มันเกิดขึ้นได้ยังไง! ฉันเลี้ยงพวกแกให้เป็นพี่น้องกันทำไมถึงเกิดเรื่องบัดสีอย่างนี้ขึ้นได้!” จรัญตวาดเสียงดังพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห

            “ผมขอโทษครับคุณพ่อ มันเป็นความผิดของผมเองน้องไม่ได้เต็มใจเลยแม้แต่น้อย เพราะงั้นผมจึงขอโอกาสคุณพ่อรับผิดชอบน้องครับ” หินนั่งคุกเข่าก้มกราบแทบเท้าผู้เป็นพ่อ

            ไฟมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกผิดในใจ  เขาไม่นึกเลยว่าหินจะกล้าทำถึงขนาดนี้

            น้ำนั่งมองน้ำตาคลอไม่น่าเชื่อว่าหินจะรักพี่ชายของตัวเองได้มากขนาดนี้

            “ผมรักพี่หินครับพ่อ พวกเรารักกัน” ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วเขาก็ต้องเล่นให้ถึงที่สุด  เขามองหน้าหินแล้วยิ้มให้  ดูท่าทางชายหนุ่มจะอึ้งไม่น้อยที่ได้ยินคำพูดเมื่อสักครู่

            “พวกแกมั่นใจแล้วเหรอที่ตัดสินใจกันอย่างนี้” เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนรักกัน  จรัญเองก็คงห้ามอะไรไม่ได้  ช่วงหลังๆมานี้ไฟทำตัวดีขึ้นมากอาจเป็นเพราะได้หินคอยช่วยขัดเกลานิสัย  เขาเองก็คิดว่ามันน่าจะดีกับไฟถ้าได้หินมาคอยดูแล

            “ครับ /ครับ” ทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมๆกัน

            “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปดูฤกษ์ให้ก็แล้วกันว่าจะจัดงานหมั้นวันไหนดี” ในที่สุดจรัญก็ยอมอ่อนลงแล้วก็ยิ้มให้กับลูกชายทั้งสองคน

            เพลินพิศนั่งกอดลูกชายเอาไว้ด้วยความเคียดแค้น  หล่อนจ้องเขม็งไปที่ลูกเลี้ยงด้วยสายตาอาฆาตแค้น  แต่ใบหน้าสวยนั้นกลับแสยะยิ้มให้หล่อนด้วยความสะใจ  ‘แกเล่นกับฉันอย่างนี้ใช่ไหมไอ้ไฟ แกได้เห็นดีกับฉันแน่’ เพลินพิศคิดในใจ  สายตาทั้งสองประสานกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

            “ขอบคุณครับคุณพ่อ” หินยกมือขึ้นไหว้ด้วยความดีใจแล้วหันมายิ้มให้กับว่าที่คู่หมั้นทันที

            น้ำมองทั้งสองคนด้วยความเสียใจ  เมื่อหินเห็นสายตานั้นกลับหลบตาด้วยความรู้สึกผิด  แต่ความจริงก็คือความจริงน้ำต้องรับมันให้ได้  ถ้าไม่ทำอย่างนี้เขาเองก็ไม่มีความสุขเช่นกัน



            เหตุการณ์เมื่อสักครู่ได้ผ่านไปแล้ว  ทั้งหมดได้แยกย้ายกันไปจะเหลือก็เพียงเพลินพิศและไฟเท่านั้น  เธอยืนรอที่จะพูดคุยกับลูกเลี้ยง

            “เดี๋ยว!”

            “ว่าไงครับคุณแม่เลี้ยง” น้ำเสียงเย้ยหยันเอ่ยออกจากปากอย่างผู้มีชัย

            “แกคิดเหรอว่าทำอย่างนี้แล้วจะเอาชนะลูกฉันได้”

            “แล้วเอาชนะได้ไหมล่ะ? ลูกชายเธอร้องไห้ร้องห่มซะขนาดนั้น” ร่างบางยิ้มเยาะด้วยความสะใจ

            “หินแค่หลงมารยาทของแกเท่านั้น สักวันหินจะต้องตาสว่างแล้วรู้ว่าแกมันก็แค่ก้อนกรวดชั้นต่ำดีๆนี่เอง  ต่อจากนี้ไปอย่าหวังว่าชีวิตแกจะสงบสุข”  เพลินพิศถลึงตาใส่ด้วยความโมโหแล้วเดินเบียดตัวออกไป

            “ฉันก็ไม่ยอมให้พวกแกมีความสุขเหมือนกันจำเอาไว้” ร่างบางมองตามหลังแม่เลี้ยงแล้วเอ่ยออกมาเบาๆ



*-*-*-*-*-*-*



          คืนนั้น

          “ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

          “ไฟนอนรึยัง” เสียงเข้มตะโกนมาจากหน้าประตู ร่างบางรีบปิดบทสนทนากับใครบางคนอยู่แล้ววางโทรศัพท์มือถือลงรีบเดินไปเปิดประตู

          “พี่หินมีอะไรรึเปล่าครับ” ไฟยิ้มหวานให้กับชายหนุ่ม

          “พี่มีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อย”

          “ได้ครับเข้ามาก่อน”

          เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้องหินก็เข้าไปทันที  เขาเดินตามหลังร่างบางไปแล้วเข้าสวมกอดจากด้านหลัง

          “พี่หินทำอะไรเนี่ย!” ด้วยความตกใจร่างบางอุทานออกมาเสียงดัง

          “ไม่รู้ทำไมพี่ถึงได้คิดถึงไฟมากขนาดนี้ เราทำเส่นห์ใส่พี่รึเปล่าน้า” เสียงเข้มเอ่ยด้วยความขี้เล่น

          “เปล่าสักหน่อยพี่นั่นล่ะที่ทำเสน่ห์ใส่ผม” ไฟเองก็ต้องตามน้ำเมื่ออีกฝ่ายเล่นซะขนาดนี้

          ฟอด!

          เสียงสูดลมหายใจดังขึ้นข้างๆใบหู  เมื่อชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้ามาที่แก้มนุ่ม

          “คนฉวยโอกาสปล่อยเลยนะ”

          “ไม่ปล่อย! ต่อไปพี่ก็จะมีสิทธิ์ในตัวเราอย่างเป็นทางการแล้วนะ” คนตัวสูงโน้มใบหน้าเข้ามามาเกยที่ไหล่บาง

          ไฟรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูกที่โดนอีกฝ่ายถึงเนื้อถึงตัวอย่างนี้  มันช่างอบอุ่นแตกต่างจากแต่ก่อนที่เอาแต่เหม็นขี้หน้า

          “ตกลงพี่หินมีเรื่องอะไรเหรอครับ”

          “พี่อยากจะมาขอโทษเราน่ะ สำหรับเรื่องที่ผ่านมาที่พี่เอาแต่มองไฟในแง่ร้าย” เสียงเข้มเอ่ยข้างใบหูจนคนที่ได้ยินถึงกับขนลุกขึ้นมาทันที  มันดูจริงใจจนรู้สึกได้

          “ผมเองก็ต้องขอโทษพี่หินเหมือนกันครับ  เรามาเริ่มต้นใหม่กันนะ”

          “พี่สัญญาว่าจะไม่มองใครจะมีแต่ไฟคนเดียว”

          “ขอบคุณครับที่เชื่อใจผมขนาดนั้น ผมเองก็จะไม่ทำให้พี่ผิดหวังเหมือนกัน”  ไฟรู้สึกกระดากปากที่เอ่ยประโยคนั้นออกไป

          ไลน์!

          เสียงดังจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น  ทำให้ไฟผละตัวออกมาจากชายหนุ่มแล้วเปิดดูข้อความ

          “พี่หินครับผมขอคุยกับเพื่อนก่อนนะครับ”

          “เอาสิพี่จะนอนอยู่เฉยๆไม่กวนเราหรอก” หินว่าแล้วก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอย่างถือวิสาสะ

          “ไม่เอา! กลับไปนอนที่ห้องเลยน้ำก็ยังไม่อาบสกปรก”

          “ไม่สกปรกหรอกน่า อยากให้พี่ออกไปใช่ป่ะ” ชายหนุ่มจ้องหน้าเหมือนมีเล่ห์กลบางอย่าง

          “อื้อ” ร่างบางตอบสั้นๆ

          “หอมแก้มพี่ก่อนถึงจะยอมออกไป” หินทำแก้มพองๆรอให้อีกคนมาหอมแก้ม

          ฟอด!

          ไฟรีบเข้าไปหอมแก้มชายหนุ่มอย่างว่าง่าย  เพราะตอนนี้เขาต้องการให้หินออกไปจากห้องให้เร็วที่สุด

          “ทำไมง่ายจังอ่ะ”

          “อย่างอื่นก็ทำมาแล้วหอมแก้มแค่นี้ทำไมจะทำไม่ได้อ่ะ รีบออกไปเลย” ไฟดึงแขนคนตัวสูงให้ลุกขึ้นจากเตียง  แต่โดนอีกคนดึงเข้าไปจนล้มทับตัวเอาไว้

          “อุ้ย!”

          ใบหน้าทั้งสองห่างกันแค่เพียงนิดเดียว  สายตาคมจ้องมองมาแทบไม่กระพริบตา  เหมือนมีแรงดึงดูดทำให้ร่างบางต้องโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น  ริมฝีปากบางประกบอย่างช้าๆอย่างไม่รู้ตัว  ชายหนุ่มบดจูบริมฝีปากทันทีที่ริมฝีปากทั้งสองสัมผัสกัน  มือหนากอดรัดที่แผ่นหลังของร่างบางเอาไว้แน่น  พร้อมกันนั้นก็ลูบไล้จนไฟสวาทเริ่มลุกโชนขึ้นมา

          “อื้อ!”

          ทั้งสองหายใจถี่เมื่อความต้องการเริ่มสูงขึ้นจนไม่อาจหยุดมันได้

          ไลน์!

          เสียงไลน์ดังขึ้นอีกครั้งทำให้ร่างบางตั้งสติได้แล้วรีบผละตัวออกมาทันที

          “พะ...พี่หินออกไปได้แล้ว!”  เสียงหวานเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก ใบหน้าขาวกลับแดงก่ำด้วยความเขินอายที่เผลอตัวทำอย่างนั้นไป

          “ไฟทำพี่ค้างรู้ไหม?” สายตาคมจ้องมองราวกับจะกลืนกินเขาไปทั้งตัวเสียให้ได้

          “ไปทำเองที่ห้องพี่เลย วันนี้พอแค่นี้ล่ะ” คราวนี้ร่างบางดึงคนตัวสูงออกจากเตียงได้สำเร็จ

          “ใจร้ายจัง” คนตัวสูงยิ้มหวานให้

          “จะใจร้ายกว่านี้แน่ถ้าไม่ออกไป”

          “โอเคๆ พี่ออกไปก็ได้ครับ”

          ฟอด!

          หินขโมยหอมแก้มร่างบางก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้องทันที  ไฟเดินไปล็อคประตูห้องเอาไว้อย่างโล่งอก  ก่อนจะเดินไปสนใจกับโทรศัพท์มือถือต่อ



*-*-*-*-*-*-*



          เมื่อออกมาจากห้องของไฟแล้วหินก็เดินยิ้มอย่างมีความสุข  ไม่นึกเลยว่าคนที่เขาเคยไม่ชอบขี้หน้าจะทำให้เขามีรอยยิ้มและมีความสุขได้มากขนาดนี้  แต่ก็ต้องหุบยิ้มทันทีทีเห็นใครบางคนยืนขวางหน้าอยู่

          “น้ำ!”

          “ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วยครับ”

          “เปล่าพี่ก็แค่ไม่นึกว่าจะเห็นน้ำยืนอยู่ตรงนี้”

          “ดูท่าทางพี่หินมีความสุขนะครับ” น้ำเสียงประชดประชันบวกกับสายตาที่มองอย่างไม่เป็นมิตร  ทำให้หินเองก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที

          “พี่ขอโทษ” เขาเอ่ยเสียงเบา

          “พี่หินขอโทษผมเรื่องอะไรเหรอครับ”

          “ก็เรื่องที่พี่จะหมั้นกับไฟ”

          “พี่ไม่ต้องมาขอโทษผมหรอกครับ  มันเป็นสิทธิ์ของพี่  พี่จะรักใครชอบใครผมเองก็คงห้ามไม่ได้  ที่ผมมายืนรอพี่หินก็เพราะอยากจะมาแสดงความยินดี  ยินดีด้วยนะครับกับความสุขที่อยู่บนความทุกข์ของผม” น้ำไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้มันไหลลงมาเป็นสาย  เมื่อเห็นอย่างนั้นหินก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจ

          “น้ำพี่ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย”

          “ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้งั้นเหรอ พี่ก็รู้ว่าน้ำชอบพี่ถ้าเป็นคนอื่นน้ำจะไม่รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย  แต่นี่เป็นพี่ไฟพี่ชายของน้ำ  น้ำต้องทนเห็นพวกพี่พลอดรักกันทุกวันต่อหน้าต่อตา  พวกพี่สองคนใจร้าย  น้ำไม่มีวันยกโทษให้เด็ดขาด!”  หินโดนอีกคนผลักอกจนเซ  หลังจากนั้นเจ้าตัวก็รีบวิ่งร้องไห้เข้าไปในห้อง

          หินได้แต่มองตามหลังด้วยความรู้สึกผิด  น้ำเป็นเด็กดีไม่เคยก้าวร้าวใส่เขาอย่างนี้มาก่อน  จะทำยังไงดีให้เรื่องทั้งหมดมันจบลงด้วยดี  เขายังคิดหาทางออกไม่เจอเลยจริงๆ



*-*-*-*-*-*-*



          หลังจากหินออกไปจากห้องแล้วไฟก็นอนตอบไลน์โดมทันที

          kingdome :  ทำไมตอบไลน์ช้าจังครับ ทำอะไรอยู่

          ffiree :  พอดีผมคุยกับคุณพ่ออยู่ครับ

          kingdome : พี่ดีใจจังที่น้องไฟให้โอกาสพี่

          ffiree :  ก็พี่โดมเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายไงครับ ผมเลยใจอ่อน

          kingdome : ในที่สุดความพยายามของพี่ก็ไม่เสียเปล่า (พร้อมกับส่งสติ๊กเกอร์รูปหัวใจมาให้)

          ffiree : ขอบคุณพี่โดมที่รักคนร้ายๆอย่างไฟนะครับ (ส่งสติ๊กเกอร์การ์ตูนกำลังเขินอาย)

          kingdome : ไม่ว่าน้องไฟจะร้ายยังไงก็เป็นคนน่ารักในสายตาพี่ วันพรุ่งนี้ว่างไหมครับพี่ว่าจะชวนไปกินไอติมซะหน่อย

          ffiree :  ได้ครับแล้วไปที่ไหนอ่ะ

          kingdome :  ที่ห้าง XXX ครับช่วงบ่ายน้องไฟว่างรึเปล่า

          ffiree :  ว่างครับไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ ตอนนี้ผมง่วงแล้วต้องขอตัวไปนอนก่อน

          kingdome : ครับผมฝันดีนะครับ

          ffiree : เช่นกันครับ

          ไฟปิดหน้าจอแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มอย่างพอใจ  คนอะไรจะหลอกง่ายขนาดนี้นะ  ผู้ชายอย่างโดมไม่มีทางที่เขาจะสนใจแน่นอน  เป็นได้แค่เครื่องมือให้เขาใช้แก้แค้นหินก็เท่านั้น



*-*-*-*-*-*-*



          วันต่อมา

          ไฟนั่งรอโดมที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ได้นัดหมายกันเอาไว้  ไม่นานหลังจากนั้นชายหนุ่มที่ก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับร้อยยิ้ม

          “พี่ขอโทษที่มาช้านะครับพอดีรถมันติด” โดมยืนหอบแฮ่กๆ เมื่อมาถึง  เขาพยายามวิ่งมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้  หลังจากนั่งรถเมล์มาหลายต่อหลายต่อ

          “ไม่เป็นไรครับ  ไปกันเลยไหม” ร่างบางเอ่ยถาม

          “ได้ครับ”

          “วันนี้คงอยู่ด้วยได้ไม่นานนะครับเพราะช่วงเย็นผมมีนัด”

          “โอเคครับ” โดมตอบรับอย่างเข้าใจ

          ทั้งสองเดินเคียงคู่กันไปที่ร้านไอศกรีมชื่อดังซึ่งอยู่ที่ชั้นสามของห้าง  ตั้งแต่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับโดม  ทำให้ไฟรู้สึกถึงความคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก  คล้ายๆกับใครคนนั้นแต่มันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

          “อร่อยไหมครับน้องไฟ” โดมยิ้มกริ่มเมื่อเห็นอีกคนตักไอศกรีมทานอย่างเอร็ดอร่อย

          “ก็อร่อยดีครับ” ร่างบางยิ้มให้

          “อร่อยก็ทานเยอะๆนะครับ”

          “ครับ”

          ไฟสังเกตเห็นรอยแผลเป็นที่แขนของชายหนุ่มที่ยาวเกือบนิ้ว  ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย

          “มีอะไรรึเปล่าครับถึงได้มองแขนพี่อย่างนั้น” เขาสังเกตเห็นไฟมองแผลเป็นที่แขนอยู่นาน

          “ปะ...เปล่าครับไม่มีอะไร” มันคงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดหรอก  คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญขนาดนั้น

          “สงสัยล่ะสิว่าแผลเป็นนี่เกิดขึ้นได้ยังไง”

          “แล้วพี่โดนอะไรมาอ่ะครับ” นั่นคือสิ่งที่เขาอยากรู้

          “สมัยเด็กพี่โดนมีดฟันเพราะไปช่วยเด็กคนนึงไว้” เขาเริ่มเล่าถึงเรื่องราวสมัยเด็กที่ยังคงจดจำได้เป็นอย่างดี  มองเห็นรอยแผลเป็นนั่นทีไรจำต้องนึกถึงเด็กคนนั้นตลอด

          “เล่าให้ผมฟังได้ไหมครับ ผมอยากฟัง” ยิ่งรู้ว่าแผลเป็นนั่นได้มายังไง  ยิ่งทำให้ไฟอยากรู้มากยิ่งขึ้นไปอีก  จะใช่รึเปล่านะ จะใช่คนที่อยู่ในความทรงจำเขารึเปล่า

          “วันนั้นมีเด็กคนนึงโดนเพื่อนๆล้อ ว่าเป็นลูกไม่มีพ่อจนทนไม่ไหวแล้วมีเรื่องชกต่อยกัน  เด็กชายคนนั้นดูน่าสงสารเพราะกำลังโดนรุมอย่างไม่มีทางสู้  พี่เข้าไปช่วยแต่โชคไม่ดีที่เด็กพวกนั้นมีมีด  กำลังจะเข้าไปฟันเด็กน้อยคนนั้นพี่เลยเอามือไปป้องไว้  จนได้แผลมาซะยาว  หลังจากนั้นก็มีตำรวจมาเจอเข้าพอดีพี่กับเด็กคนนั้นก็เลยรอดมาได้  พี่ถูกส่งตัวไปทำแผลที่โรงพยาบาลและไม่พบเด็กคนนั้นอีกเลย  แต่มองที่แผลเป็นทีไรใบหน้าเด็กคนนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวทุกทีไม่รู้ทำไม” โดมเล่าให้อีกคนฟัง ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

          “เฮ้ย! เรื่องมันซึ้งขนาดนั้นเลยเหรอครับน้องไฟ”  โดมต้องตกใจเมื่อเห็นอีกคนมีน้ำตาคลอเบ้า

          “ปะ...เปล่าครับพอดีฝุ่นเข้าตา” เขาเอ่ยแก้ตัวไป

          “เข้าไปล้างตาในห้องน้ำก่อนไหมเดี๋ยวตาจะอักเสบเอา”  โดมเอ่ยด้วยความเป็นห่วง

          “ไม่เป็นไรครับ ดีขึ้นแล้ว” ร่างบางยิ้มให้

          “ดีแล้วพี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”

          “ขอบคุณนะครับพี่โดมสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา”

          “ขอบคุณอะไร พี่ยังไม่ได้ทำอะไรให้เลยนะ” โดมรู้สึกงงกับคำพูดของอีกฝ่าย

          “ก็ผมอยากขอบคุณไม่ได้รึไงอ่ะ”

          “ดะ...ได้ครับ” ชายหนุ่มตอบรับอย่างเสียมิได้

          หลังจากนั้นไฟก็ยิ้มให้ชายหนุ่มอีกครั้ง  ในที่สุดเขาก็หาคนๆนั้นเจอ  คนที่เคยเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตเขาไว้  ไม่น่าเชื่อว่าจะเห็นกันมาตั้งนานแต่ไม่เคยรู้เลยสักนิดว่าโดมคือเขาคนนั้น  จากคนที่เขาเคยรังเกียจเดียดฉันมาตลอด  วันนี้โดมจะเป็นคนที่มาเติมเต็มชีวิตของไฟให้สว่างสดใสขึ้นมา


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


------------------------------------------------
จริงๆแล้วไฟมีอดีตที่ฝังใจทำให้สร้างภาพที่ร้ายกาจออกมาอย่างนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2018 00:28:41 โดย ไมเลอร์ »

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-08-

สับสน



          งานหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายภายในบ้านเมื่อวันที่ผ่านมา  มีเพียงสมาชิกในบ้านเท่านั้นที่ร่วมเป็นสักขีพยาน  ทั้งสองแลกแหวนแทนใจซึ่งกันและกันและได้กล่าวคำสัญญาว่าจะรักและดูแลกันตลอดไป  สำหรับพิธีมงคลสมรสต้องรอให้ไฟเรียนจบก่อนถึงจะมีการจัดขึ้นอย่างเป็นทางการอีกครั้ง  ส่วนน้ำไม่สามารถทนอยู่เห็นภาพบาดตาบาดใจได้จึงอ้างติดเรียน  ทางด้านเพลินพิศก็ได้แต่นั่งฝืนยิ้มให้งานจบๆไปเท่านั้น

            บริษัทสิริกรโสภณ

            “พี่หินเดี๋ยวผมไปชงกาแฟให้นะครับ” เมื่อเห็นว่าคู่หมั้นนั่งทำงานไปหาวไปอยู่บ่อยครั้งไฟก็เลยอาสาไปชงกาแฟมาให้

            “ขอบใจนะรู้ใจพี่จริงๆเลย”

            “ขอบใจอย่างเดียวไม่พอ” ร่างบางทำแก้มพองเอียงหน้ารอ

            เห็นอย่างนั้นหินก็ยิ้มแล้วเดินเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่พร้อมกับสวมกอดจากด้านหลัง

            “เดี๋ยวนี้ยั่วเก่งนะเรา” หินโน้มใบหน้าคมเข้าไปคลอเคลียที่ซอกคอขาวอย่างพอใจ

            “แล้วชอบไหมล่ะ”

            “ชอบสิครับ”

            ไฟรีบผละตัวออกก่อนที่ชายหนุ่มจะทำอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้  เขาตั้งใจยั่วให้อีกคนอารมณ์ค้าง

            “เดี๋ยวไม่ได้ดื่มกาแฟกันพอดี รอสักครู่นะครับ”  ร่างบางส่งสายตายั่วยวนชายหนุ่มแล้วเดินยิ้มออกไป

            หินมองตามหลังคนรักด้วยความเสียดาย  ทำไมถึงได้ชอบยั่วให้เขาอารมณ์ค้างอยู่เรื่อย  ตั้งแต่คราวนั้นที่ทั้งสองเป็นของกันและกัน เขายังไม่เคยได้ครอบครองเรือนร่างนั้นอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว  อย่างมากก็ได้แค่กอดจูบและหอมแก้มเท่านั้น  หินคิดว่าคงหลังจากแต่งงานโน่นล่ะมั้งเขาจึงจะได้ทำอะไรสมใจอยากอีกครั้ง

            ไฟเดินเข้ามาในห้องเล็กๆที่ถูกออกแบบและตกแต่งขึ้นเพื่อใช้เป็นที่สำหรับชงกาแฟและเครื่องดื่มโดยเฉพาะของพนักงานออฟฟิศ  ระหว่างชงกาแฟอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  ไฟหันไปมองก็เห็น ‘หญิง’ พนักงานสาวที่เคยมีเรื่องกับเขาในโรงอาหารครั้งก่อนกำลังยืนยิ้มให้  เห็นอย่างนั้นไฟก็มองตาขวางไม่ได้ยิ้มหรือพูดอะไรตอบกลับ เขารู้สึกไม่ถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้ซะเหลือเกิน

            “สวัสดีค่ะคุณไฟ มาชงกาแฟให้คุณหินเหรอคะ” เสียงกระแนะกระแหนเอ่ยถาม

            “รู้แล้วจะถามทำไม” ร่างบางเอ่ยแต่ยังงุ่นกับการชงกาแฟอยู่ไม่ได้หันไปสนใจเจ้าหล่อนแม้แต่น้อย

            หญิงได้ยินอย่างนั้นก็เบะหน้าใส่ด้วยความหมั่นไส้

            “คุณไฟเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกเลยนะคะ  ที่ได้หมั้นกับผู้ชายที่ดีมากอย่างคุณหิน ดีมากจนไม่คู่ควรกัน...” เธอแกล้งพูดยั่วโมโหเนื่องจากได้รับคำสั่งจากเพลินพิศทำยังไงก็ได้ให้ทั้งสองคนผิดใจกัน

            “เธอพูดแบบนี้หมายความว่าไง” เมื่อได้ยินประโยคนั้นไฟก็หันขวับมาถลึงตาใส่หญิงทันที

            “อุ๊ย! หนูพูดอะไรผิดเหรอคะ”  หญิงสาวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

            “เธอคิดว่าเธอเป็นใครถึงได้กล้ามาต่อกรกับฉันอย่างนี้” ไฟค่อยๆเดินเข้าไปหาเจ้าหล่อนอย่างช้าๆ

            “คุณไฟอย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ” เธอโวยวายเสียงดังเพื่อให้คนที่ยืนอยู่แถวนั้นได้ยิน

            “เธอเป็นบ้าอะไร ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ” ไฟเริ่มงงกับท่าทางของหญิงสาว

            “ช่วยด้วยค่ะคุณไฟอย่านะคะ” เธอโวยวายแล้วแสยะยิ้มให้  หลังจากนั้นก็ยกแก้วน้ำดื่มเทใส่ศีรษะตัวเองจนเปียกไปทั้งตัว

            “เธอทำบ้าอะไร” เขาจับที่แขนของหญิงแล้วบีบเอาไว้

            “โอ๊ย! หนูเจ็บนะคะคุณไฟ” เธอร้องโวยวายเสียงดัง

            “ว้าย! คุณไฟทำอะไรหญิงคะนั่น” พนักงานคนอื่นๆวิ่งกรูเข้ามาดูจนเต็มหน้าห้อง  ทุกสายตาที่มองไฟราวกับว่าเขาเป็นผู้ต้องหาซะอย่างนั้น

            “ฉันเปล่านะ”

            “คุณไฟทำไมทำหนูอย่างนี้คะ ฮือๆ หนูแค่ทักทายเฉยๆไม่ได้ด่าว่าอะไรคุณเลยนะคะ” หญิงร้องไห้ร้องห่มอย่างน่าสงสาร

            “ไฟเกิดอะไรขึ้น!” หินเดินเข้ามาเจอพอดี

            “ผมไม่ได้ทำอะไรเค้าเลยนะครับ อยู่ๆเค้าก็เทน้ำราดหัวตัวเอง” ร่างบางพยายามอธิบายให้หินฟัง  ก่อนจะหันไปมองหญิงสาวอีกครั้ง “บอกความจริงไปสิว่าเธอทำตัวเองทั้งนั้น”

            “ไม่จริงค่ะ หนูจะทำอย่างนั้นทำไม ฮือๆ”

            หินมองหน้าคู่หมั้นของตัวเองอย่างชั่งใจ  ใจจริงเขาก็อยากจะเชื่อสิ่งที่ไฟพูดออกมา  แต่หญิงคือคนที่เคยมีเรื่องกับไฟมาก่อน  มันอาจเป็นไปได้ว่าไฟคิดจะแก้แค้นแล้วทำเรื่องอย่างว่าก็เป็นได้  ส่วนหญิงเป็นแค่พนักงานธรรมดาคงไม่กล้าทำเรื่องใส่ร้ายลูกชายของประธานบริษัทอย่างแน่นอน

            “ทำไมพี่หินทำหน้าเหมือนไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูดอย่างนั้นล่ะครับ”

            “คือไม่ใช่อย่างนั้น”

            “พี่ไม่ต้องพูดแล้ว! แค่เห็นหน้าก็พอจะรู้แล้วว่าพี่คิดยังไง ผมผิดหวังในตัวพี่มาก!” ร่างบางเดินเบียดออกไปโดยเร็ว  พนักงานต่างก็มองตามหลังแล้วเกาะกลุ่มซุบซิบนินทา

            หลังจากนั้นหินก็สั่งให้ทุกคนกลับไปทำงาน  กลุ่มพนักงานจึงแยกย้ายออกไปอย่างกับผึ้งแตกรัง

            “ส่วนเธออยู่ก่อน” หินเอ่ยกับหญิงขณะหล่อนกำลังจะเดินออกไป

            “คุณหินมีอะไรรึเปล่าคะ” เธอก้มหน้าราวกำลังมีความผิด

            “ไฟทำอย่างนั้นกับเธอจริงรึเปล่า”

            “ทำไมคุณหินถามอย่างนั้นล่ะคะ ฮึก” หญิงเริ่มร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้งเมื่อโดนซักถาม

            “ฉันก็แค่ถามเพื่อความมั่นใจ เอาเป็นว่าฉันขอโทษแทนไฟด้วยก็แล้วกัน” เขาจำเป็นต้องเอ่ยปากขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น  เพราะอย่างน้อยก็อาจทำให้พนักงานคนอื่นๆไม่มองว่าเขาเข้าข้างคนรักของตัวเองจนลืมความถูกต้อง

            “ไม่เป็นไรค่ะคุณหิน หนูก็มีส่วนผิดที่เข้ามาช่วงที่คุณไฟอยู่ในห้อง ทั้งที่รู้อยู่ว่าเคยมีเรื่องกับคุณไฟมาก่อน” เธอเอ่ย

            “คราวหลังอยู่ให้ห่างคุณไฟก็แล้วกันจะได้ไม่ต้องมีเรื่องอีก ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ”

            “ค่ะ” เธอเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำแล้วแสยะยิ้มต่อหน้ากระจก  ก่อนจะโทรรายงานผู้เป็นเจ้านายที่คอยสั่งการอยู่ที่บ้าน


*-*-*-*-*-*



            ในห้องทำงาน

            ไฟนั่งหน้ามุ่ยอยู่บนโซฟาไม่พูดไม่จาใดๆ  ไม่แม้แต่จะมองหน้าหินที่กำลังยืนกอดอกอยู่ตรงหน้า

            “โกรธพี่เหรอ?”

            “.......” ร่างบางยังคงเงียบทำเป็นนั่งอ่านเอกสารอยู่ตรงหน้า

            “สงสัยจะโกรธจริงๆ” หินยกยิ้มที่มุมปากแล้วเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ  ก่อนจะจับเอกสารที่อยู่ในมือร่างบางกลับหัวให้ถูกต้อง  “คนอะไรอ่านหนังสือกลับหัวก็ได้”

            “ไม่ต้องมายุ่ง!” มือเรียวกระชากเอกสารนั้นคืนทันทีที่โดนอีกคนเอ่ยแซว

            “ไม่ยุ่งได้ไงก็คู่หมั้นพี่กำลังงอนนี่นา” หินพยายามพูดเอาใจเพื่อให้อีกคนอารมณ์เย็นลง

            “คู่หมั้นที่เชื่อคนอื่นมากกว่าคนรักตัวเอง อย่างนี้ไม่มีจะดีกว่า”

            “ไฟต้องเข้าไจพี่ด้วยนะ  ถ้าหากว่าพี่เชื่อไฟทันทีก็จะทำให้พนักงานคนอื่นๆคิดว่าพี่เข้าข้างแฟนตัวเองจนไม่ลืมหูลืมตา  ไฟคิดว่าคนอื่นจะเชื่อใครล่ะสภาพหญิงก็เป็นซะขนาดนั้น” เขาพยายามอธิบายเหตุผลให้ร่างบางฟัง

            “ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจกว่าที่พี่หินคิด” ในใจก็คิดตามสิ่งที่หินพูดเมื่อสักครู่  ก็จริงที่ใครเห็นก็คงคิดว่าเขาเป็นคนกระทำ  เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องที่โรงอาหารเขาก็แผลงฤทธิ์ซะจนคนติดภาพร้ายกาจไปแล้ว

            “พี่ไม่รู้หรอกว่าใครจะเป็นยังไง  แต่พี่รู้ว่าตอนนี้ไฟเปลี่ยนไปแล้ว  คงไม่ทำเรื่องอย่างนั้นแน่นอน” เขาพยายามพูดเอาใจอีกฝ่ายทั้งๆที่ในใจก็ยังไม่ได้เชื่อเต็มร้อย

            “ขอบคุณที่เข้าใจผมนะถึงแม้จะไม่รู้ว่าจริงใจรึเปล่าก็ตาม  ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นมันชื่อหญิงเหรอ?” หินได้ยินก็ถึงกับชะงัก  ความโกรธทำให้ร่างบางลืมตัวเอ่ยคำว่ามันออกไปก่อนจะถามใหม่อีกครั้ง “เค้าชื่อหญิงเหรอครับ”

            “ใช่...ทำไมเหรอ” หินถามกลับ

            “เปล่าครับผมก็ถามไปงั้นล่ะ  เผื่อเจอกันคราวหน้าจะได้ทักทาย”

            “ถ้าเป็นไปได้พี่ขอให้เราต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า  พนักงานคนอื่นจะได้ไม่มองไฟในแง่ลบไปมากกว่านี้” ชายหนุ่มแนะนำ

            มีหรือที่คนอย่างไฟจะยอมฟัง  ผู้หญิงคนนั้นร้ายกาจกว่าที่เขาคิดซะอีก  จะต้องเอาคืนให้สาสมและไม่มีทางให้เล่นงานเขาได้อีกเด็ดขาด

            “คือจริงๆแล้ว...ผมเป็นคนทำหญิงอย่างนั้นเองล่ะครับ”  คนอย่างหญิงรู้จักเขาน้อยไป

            “แล้วทำไมตอนแรกถึงได้ปฏิเสธเสียงแข็งซะอย่างนั้นล่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความสงสัย

            “ผมยอมรับว่าตอนแรกตั้งใจจะโกหกทุกคนเลยพูดอย่างนั้นออกไป  แต่ผมมีเหตุผลนะครับพี่หิน”

            “เหตุผลอะไรทำไมถึงได้ทำกันขนาดนั้น”

            “ผมทนไม่ได้ที่หญิงเค้ามาว่าพี่หิน....” ร่างบางทำท่าอึกอักก้มหน้าไม่กล้าพูดต่อ

            “ว่ายังไง?” หินงงว่าหญิงจะว่าอะไรเขาได้ในเมื่อแทบจะไม่ได้เจอกับพนักงานคนนี้เลย

            “หญิงบอกว่าพี่หินตกถังข้าวสารที่ได้หมั้นกับผม  ได้ยินอย่างนั้นผมก็ทนไม่ได้เลยสาดน้ำใส่หน้าด้วยความโมโห” ในเมื่อหญิงใส่ร้ายเขา  มีหรือที่จะโดนกระทำเพียงฝ่ายเดียว

            “นี่หญิงกล้าพูดขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย!” หินขึ้นเสียงสูงด้วยความโมโห  จะบอกว่าเรื่องนี้เป็นปมสำหรับเขาก็ว่าได้  ตัวเขาเริ่มต้นจากศูนย์ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลยแม้แต่น้อย  แถมตอนนี้ก็ได้หมั้นกับไฟซึ่งเป็นลูกชายของบริษัทนี้อีกต่างหาก  ไม่แปลกที่คนจะคิดกันอย่างนี้ 

            “ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าพนักงานธรรมดาอย่างหญิงจะกล้าพูดขนาดนี้  แต่พี่หินไม่ต้องไปใส่ใจหรอกนะครับ  ยังไงซะเราก็รักกันไม่ต้องไปแคร์คนอื่นหรอก” ตอนแรกหินเป็นฝ่ายเอาใจร่างบาง  แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนกันซะอย่างนั้น

            “พี่ขอบใจนะที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพี่ขนาดนี้  เอาเป็นว่าพี่จะไม่คิดมากก็แล้วกัน  ขอแค่เรารักกันเป็นพอ” คนตัวสูงจับมือเรียวเอาไว้แน่นแล้วยิ้มหวานให้

            “ผมกับพี่ก็เหมือนคนๆเดียวกันแล้ว  ใครว่าพี่ก็เท่ากับว่าผมเหมือนกัน” ร่างบางยิ้มให้

            “พี่คิดไม่ผิดเลยที่รักไฟ” ว่าแล้วก็สวมกอดร่างบางเอาไว้แน่น

            “ผมก็ดีใจที่ได้รักพี่ครับ”

            ไฟแสยะยิ้มอย่างพอใจนับวันหินยิ่งหลงเขาหัวปักหัวปำ  ส่วนเพลินพิศและลูกชายก็กำลังร้อนรุ่มในใจจากการที่เขาหมั้นกับหิน  อีกไม่นานทุกคนจะต้องเจ็บปวดเจียนตายอย่างแน่นอน



*-*-*-*-*-*-*



             บ้านศิริกรโสภณ

             “สวัสดีครับคุณน้า” หินยกมือไหว้เมื่อมาถึงบ้านในตอนเย็น

             “ทำไมวันนี้กลับช้าจังเลยหิน” เธอเอ่ยถามพร้อมกับปรายตามองคนที่ยืนควงแขนอยู่ข้างๆด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

             “พอดีผมพาไฟไปดินเนอร์มาครับเลยกลับดึกไปหน่อย  นี่คุณน้ารอใครอยู่เหรอครับ”

            “รอน้ำจ๊ะวันนี้บอกว่าจะกลับดึกน้าเลยมารอ”

            “ออครับ” เขายิ้มให้เพลินพิศ

            “หินน้ามีอะไรจะคุยด้วยหน่อยน่ะ”

            “ได้ครับคุณน้า” เขายืนรอให้อีกฝ่ายพูด  แต่หากเพลินพิศกลับมองไปที่คู่หมั้นของตัวเองราวกับว่าเป็นส่วนเกิน

            “ไฟจ๊ะน้าขอคุยกับหินเป็นการส่วนตัวสักครู่ได้ไหม?”

             “เอาสิครับ” ร่างบางยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ  แล้วหันไปเอ่ยกับหิน “พี่หินผมขึ้นไปก่อนนะครับรีบตามขึ้นไปนะ”

            ฟอด!

            ร่างบางโน้มใบหน้าเข้าไปหอมแก้มชายหนุ่มต่อหน้าต่อตาเพลินพิศ  เขาตั้งใจจะเย้ยว่าตอนนี้สามารถเอาชนะลูกชายของหล่อนได้อย่างขาดลอย

            เพลินพิศเหล่ตามองด้วยความหมั่นไส้  ขนาดวันนี้เจอเรื่องนั้นมายังไม่สามารถทำให้ทั้งสองแตกคอกันได้เลย  เธอจะต้องคิดแผนใหม่ซะแล้ว

            หลังจากไฟเดินเข้าไปในบ้านแล้ว

            “พรุ่งนี้น้าจะวานให้หินช่วยพาน้ำไปเลือกชุดหน่อยจ๊ะ”

            “ได้ครับว่าแต่จะไปกี่โมง” พรุ่งนี้เป็นวันหยุดเขาเองก็ไม่ได้ไปไหน

            “ตั้งแต่เช้าเลยครับพี่หิน” เสียงน้ำเอ่ยแทรกเข้ามา  ทั้งสองหันไปมองทันที

            “มาได้เวลาพอดีเลยลูก คุยกับพี่เค้าต่อนะแม่จะเข้าไปข้างในแล้ว” เพลินพิศยิ้มให้กับทั้งสองคน  แล้วมองหน้าลูกชายเหมือนกับสั่งว่าให้มันได้เรื่องนะอะไรประมาณนั้นแล้วเดินเข้าไป

            “น้ำจะซื้อชุดไปงานอะไรครับ”

            “พอดีที่คณะมีงานเลี้ยงครับ น้ำต้องไปขออนุญาตพี่ไฟก่อนรึเปล่าครับ”  คนที่พูดหลบตาลงเมื่อเอ่ยชื่อของพี่ชาย  ทำให้หินต้องเชยคางน้องชายขึ้นเพื่อให้ความมั่นใจว่าเขาเต็มใจโดยไม่ต้องไปขออนุญาตใครทั้งนั้น

            “ไม่ต้องหรอกไฟเค้าคงเข้าใจ”

            “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เจอกันนะครับ” น้ำยิ้มด้วยความดีใจถึงแม้จะรู้ดีว่าไฟคงไม่ชอบใจสักเท่าไร  แต่เขาก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด...ช่วยไม่ได้!


*-*-*-*-*-*-*



            ห้องนอนของไฟ

            หลังจากเข้าห้องมาแล้วก็มีสายโทรเข้ามา

            “ว่าไงครับพี่โดม”

            (“คิดถึงจึงโทรมาหา”) โดมหยอดคำหวานใส่

            “คิดถึงใคร” ร่างบางยิ้มเมื่อได้ยินประโยคก่อนหน้า

            (“พูดกับใครก็คิดถึงคนนั้นล่ะ”)

            “จริงดิ”

            (“จริงสิครับ”)

            “เขินเลยนะเนี่ย  ว่าแต่พี่โดมโทรมามีอะไรรึเปล่าครับ”

            (“พรุ่งนี้น้องไฟว่างไหม?”)

            “พรุ่งนี้ว่างครับ จะชวนไปไหนน้า”

            (“พรุ่งนี้พี่ว่าจะชวนไปดูหนังซะหน่อย”)

            “ได้ครับพี่โดมกำลังอยากดูพอดีเลย”

            (“ดีใจจัง...ถ้างั้นเจอกันที่เดิมนะครับ”)

            “ครับพี่”

            (“พี่ไม่กวนแล้วนะ ฝันดีครับ”)

            “ฝันดีเช่นกันครับ”

            วางสายไปแล้วร่างบางก็นอนยิ้มอยู่บนเตียง  ตั้งแต่รู้ว่าโดมคือฮีโร่ในวัยเด็กความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ  โดมเข้ามาเติมเต็มชีวิตของไฟให้มีความสุขและรับรู้ได้ถึงความรักที่แท้จริง  ที่คนในบ้านหลังนี้ไม่เคยให้เขาได้เลย  พรุ่งนี้เขาจะบอกความจริงว่าเด็กที่โดมเคยช่วยชีวิตไว้ในวันนั้น...ก็คือเขาเอง

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            เสียงเคาะประตูทำให้ร่างบางหลุดจากภวังค์ แล้วรีบเดินไปเปิด

            “พี่หินมีอะไรรึเปล่าครับ”

            “พี่มีเรื่องจะมาบอก”

            “เรื่อง...”

            “พรุ่งนี้พี่จะพาน้ำไปซื้อชุดสำหรับไปงานเลี้ยง เลยมาขออนุญาตเราก่อน”

            “เอาสิครับผมไม่ว่าอะไรหรอก น้ำก็น้องชายผม อย่าลืมสิว่าผมเปลี่ยนไปแล้วไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก” ร่างบางยิ้มละมุนให้

            ได้ยินอย่างนั้นหินก็รู้สึกโล่งใจที่ไฟไม่มีปัญหาขัดข้องอะไร  ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้ไฟสามารถเปลี่ยนได้ถึงขนาดนี้ เขายิ้มในใจ

            “พี่ดีใจนะที่ได้ยินอย่างนี้เอาเป็นว่าพี่ไม่กวนแล้ว” ชายหนุ่มโน้มใบหน้าไปจุมพิตที่กลางหน้าผากนุ่มอย่างบรรจง “กู๊ดไนท์ครับ”

            “กู๊ดไนท์เช่นกันครับ” ทั้งสองยิ้มให้กันก่อนหินจะเดินกลับไปที่ห้อง

            ร่างบางปิดประตูเข้ามานอนอยู่บนเตียงเช่นเดิม  ถึงแม้ปากจะบอกว่าไม่มีอะไรแต่ทำไมในใจรู้สึกหวงชายหนุ่มอย่างบอกไม่ถูก นี่เขากลัวจะแพ้น้องชายหรือกลัวว่าจะโดนแย่งคู่หมั้นไปกันแน่  เขาเองก็ยังสับสนกับความรู้สึกนี้...



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2018 12:50:44 โดย ไมเลอร์ »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นังหญิงตายแน่ ๆ ตอนหน้าหวังว่าพี่ร่วมกับเฮียปอคงทำงานกันนะ  :z6:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เรียกรถฉุกเฉินด่วน ต้องมีใครสักคนเจ็บแน่ๆ

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-09-

แตกหัก



           ห้างสรรพสินค้า

            หินเดินตามหลังน้ำเข้าไปเลือกเสื้อหลายต่อหลายร้านแต่ก็ยังไม่ถูกใจเจ้าตัวเลยสักที  จนตอนนี้เริ่มออกอาการเบื่อหน่าย  ในระหว่างนั้นหินได้โทรหาคนรักหลายต่อหลายครั้งแต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมรับสาย  ทำให้เจ้าตัวรู้สึกหงุดหงิดซะเหลือเกิน

            “พี่หินเป็นอะไรรึเปล่าครับเห็นทำหน้าเครียดๆ” ขณะน้ำกำลังเลือกชุดอยู่นั้นก็สังเกตใบหน้าของชายหนุ่มไปด้วย

            “เปล่าครับพี่ไม่เป็นไร น้ำเลือกต่อเถอะ” หินยังคงฝืนยิ้มให้กับน้องชาย

            “พี่หินมาช่วยน้ำเลือกหน่อยสิครับ”

            “ได้สิ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาทันที

            “พี่ว่าชุดนี้เข้ากับน้ำไหมครับ” น้ำเอาชุดที่เลือกมาทาบบนตัวให้ชายหนุ่มดู

            “ก็โอเคนะ เหมาะกับน้ำดี” ใจจริงเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเพียงแต่พูดเพื่อให้จบๆไปเท่านั้น

            “ถ้าพี่หินบอกว่าโอเคน้ำก็โอเค” น้ำเอ่ยก่อนจะยื่นชุดให้กับพนักงาน “เอาชุดนี้ครับพี่”

            ระหว่างนั้นหินก็มองไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะคลับคล้ายคลับคลาเห็นไฟเดินมาพร้อมกับโดม

            “นั่นไฟนี่” เขาเอ่ยออกมาเบาๆ

            “มีอะไรรึเปล่าครับพี่หิน” น้ำเห็นพี่ชายยืนมองหาอะไรบางอย่างจึงเกิดความสงสัย

            “ไม่มีอะไรครับ น้ำเสร็จรึยัง”

            “จ่ายตังค์เรียบร้อยแล้วครับ  ตอนนี้ก็รอแค่ของ” น้ำตอบ

            “น้ำจะไปไหนต่อรึเปล่าครับ”

            “ไม่ครับแล้วพี่หินล่ะ”

            “พี่ว่าจะไปซื้อของฝั่งโน้นสักหน่อย น้ำไปนั่งรอในร้านกาแฟก่อนได้ไหม” เขาตั้งใจจะตามไปดูว่าคนรักมาทำอะไรกับโดมกันแน่

            “ให้น้ำไปด้วยนะครับ” เมื่อได้ยินอย่างนั้นหินก็แสดงสีหน้าหนักใจขึ้นมา

            “คือ...”

            “ถ้าพี่หินไม่สะดวกน้ำไปรอที่ร้านกาแฟตรงหัวมุมก่อนก็ได้ครับ” เขารู้ว่าหินกำลังลำบากใจจึงได้บอกไปอย่างนั้น

            “ถ้างั้นพี่ไปก่อนนะ เสร็จธุระแล้วพี่จะไปหาที่ร้านกาแฟ” หินเอ่ยแล้วรีบเดินไปโดยเร็ว  ทำให้น้ำรู้สึกสงสัยแล้วแอบเดินตามไปห่างๆ



*-*-*-*-*-*-*



            หลังจากดูหนังจบแล้วโดมและไฟก็เดินซื้อของในห้างอย่างมีความสุข  โดยตอนนี้กำลังเลือกซื้อเสื้อยืดที่ร้านดังแห่งหนึ่ง

            “พี่โดมว่าตัวนี้สวยไหมครับ” ร่างบางยิ้มหวานแล้วยกเสื้อยืดที่แขวนอยู่ให้ชายหนุ่มดู

            “สวยครับน้องไฟตาถึงนะเนี่ย”

            “ปากหวานตลอดเลยนะ”

            “ก็หวานกับน้องไฟคนเดียวเท่านั้นล่ะ” ทั้งสองจ้องตากันแล้วยิ้ม

             ไฟหยิบเสื้ออีกตัวที่เหมือนกันแต่ไซส์ใหญ่กว่าไปทาบตัวโดม  เจ้าตัวทำหน้าเหรอหราที่ร่างบางเข้ามาประชิดโดยไม่ทันตั้งตัวขนาดนี้

            “เอ่อ...เอาเสื้อมาทาบตัวพี่ทำไม?” เมื่อเห็นคนตัวสูงทำหน้าเหรอหราด้วยความเขินอายไฟก็ถึงกับขำ

            “ก็ไฟจะซื้อเสื้อให้พี่โดมไงครับ  เราจะได้ใส่เสื้อคู่กัน”

            “เสื้อคู่คนใส่จะต้องเป็นแฟนกันนะครับ  ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าไฟยอมเป็นแฟนพี่แล้วใช่ป่ะ” โดมยิ้มกริ่มขึ้นมาทันที  เขาจ้องหน้าไฟอย่างมีความหวังถึงแม้จะรู้ว่าไฟนั้นมีแฟนแล้ว

            “ก็ไม่รู้สินะ” ร่างบางก้มหน้ายิ้ม  แล้วหันไปบอกกับพนักงานขาย “พี่ครับเอาสองตัวนี้” เขายื่นเสื้อให้เพื่อจะนำไปใส่ถุง

            “เดี๋ยวพี่จ่ายให้” โดมรีบควักกระเป๋าสตางค์ออกมา

            “ไม่เป็นไรครับพี่โดมแค่นี้เอง หนังพี่ก็เลี้ยงแล้วตอนนี้ผมขอจ่ายเองมั่ง”  ร่างบางยิ้มให้

             “ถ้างั้นก็ตามใจน้องไฟละกัน”

             “พี่โดมครับซื้อเสื้อแล้วเราไปหาที่นั่งพักกันได้ไหมครับ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”

              “เอาสิไปนั่งที่ลานน้ำพุกัน”

             “ครับ”

             รับถุงเสื้อจากพนักงานขายแล้ว  ทั้งสองก็เดินไปที่ลานน้ำพุซึ่งอยู่ชั้นล่างทันที

            หินมองทั้งสองคนด้วยความโกรธแค้น  ท่าทีกระหนุงกระหนิงนั่นทำให้ใจของหินร้อนรนแทบจะทนไม่ไหว  ทำไมไฟถึงได้ทำท่าสนิทสนมกับไอ้คนนั้นซะเหลือเกิน  คนที่แอบซุ่มดูอยู่ขบฟันด้วยความคับแค้นใจแล้วเดินตามไป

            ส่วนน้ำที่เดินตามหินมาติดๆก็พอจะรู้แล้ว  ว่าเหตุอันใดที่ทำให้หินต้องร้อนรนถึงขนาดนั้น  เป็นเพราะไฟอยู่กับผู้ชายคนอื่นนั่นเอง  ไหนบอกว่ารักกันนักหนาแล้วทำไมถึงได้มากับผู้ชายคนอื่นอย่างนี้  หากเป็นแต่ก่อนเขาคงจะรู้สึกเห็นอกเห็นใจพี่ชายตัวเอง  แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วยิ่งเห็นอย่างนี้เขายิ่งชอบใจ  มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะต้องเปลี่ยนตัวเองบ้างเพื่อจะได้ครอบครองคนที่ตัวเองรัก



            ลานน้ำพุ

            เมื่อทั้งสองมาถึงลานน้ำพุแล้วก็เดินมานั่งที่เก้าอี้  มองน้ำพุที่กำลังพุ่งกระจายเป็นละอองดูแล้วเย็นสบายตาอยู่ไม่น้อย

            “น้องไฟมีอะไรจะคุยกับพี่งั้นเหรอครับ” ชายหนุ่มหันหน้ามามองคนที่นั่งข้างๆ

            “พี่โดมยังจำเด็กคนที่พี่โดมเคยช่วยชีวิตไว้ในตอนนั้นได้ไหมครับ?”

            “ได้สิทำไมเหรอ” โดมเริ่มงงว่าทำไมอยู่ๆไฟถึงได้เอ่ยถึงเรื่องนี้

            “ถ้าจะบอกว่าผมคือเด็กคนนั้นพี่โดมจะเชื่อไหม”

โดมแทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินนั่นเพราะในชุมชนที่เขาอาศัยอยู่นั้นมันเป็นชุมชนแออัด  คุณหนูอย่างไฟจะไปอยู่ที่อย่างนั้นได้ยังไงกัน

            “พี่ก็อยากจะเชื่อหรอกนะแต่ที่นั่นมันเป็นชุมชนแออัด  คุณหนูอย่างน้องไฟจะอยู่ที่อย่างนั้นได้ยังไงกันครับ”

            “จริงๆแล้วผมเคยอยู่ที่นั่นกับแม่มาก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับคุณพ่อที่บ้านหลังปัจจุบัน” เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เขาเองก็ยิ่งคิดถึงผู้เป็นแม่ขึ้นมาทันที

            “เป็นไปได้ยังไงครับ” โดมแทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน

            “จริงๆแล้วที่ผมพูดจาดูถูกคนอื่น  พี่โดมเองก็เคยโดนอยู่หลายครั้ง  มันก็เป็นแค่ภาพผมที่สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น  จริงๆแล้วพื้นเพผมก็ไม่ได้สูงส่งอะไร  แม่ของผมเป็นแม่ค้าอยู่ที่ชุมชนนั่นจนบังเอิญได้พบกับคุณพ่อแล้วมีผม  ทางบ้านพ่อเค้าไม่ชอบสะใภ้ชั้นต่ำอย่างแม่พวกเราก็เลยต้องใช้ชีวิตที่นั่นจนผมอยู่มอสาม  แม่ก็ป่วยเป็นมะเร็งพอแม่เสียพ่อก็มารับผมไปอยู่ด้วย” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเล่าประวัติชีวิตส่วนตัวให้คนอื่นฟัง  แม้กระทั่งเพื่อนสนิทก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

            “ทำไมน้องไฟถึงได้บอกเรื่องนี้กับพี่ล่ะ”  ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองโดมก็คิดว่าเขาเป็นคนที่ไฟไว้ใจมาก

            “ก็ผมไว้ใจพี่โดมนี่ครับ ไว้ใจมากกว่าคนในครอบครัวซะอีก” ร่างบางยิ้มหวานให้

            “พี่ดีใจที่ได้ยินอย่างนี้” มือหนาถือวิสาสะจับมือเรียวเอาไว้พร้อมกับจ้องตาด้วยความปลื้มปิติ

            “ผมรักพี่นะครับ” ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาพูดคำนี้ออกไป  ยิ่งเห็นหน้าชายหนุม่คนนี้ยิ่งรู้สึกอบอุ่นในหัวใจจนอยากฝากทั้งชีวิตเอาไว้

            “พี่ไม่ได้หูฝาดใช่ไหมครับ” ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะได้ยินคำนี้จากปากคนที่เฝ้าจีบมานานแรมปี

            “มันคือเรื่องจริงครับ....ผมรักพี่โดม” ร่างบางโผเข้ากอดชายหนุ่มทันที

            “แล้วแฟนน้องไฟล่ะ” โดมถามเพราะรู้ว่าไฟมีหินอยู่แล้ว

            “ผมจะไปบอกเลิกเค้าเพื่อพี่”

            ขณะนั้นเองหินที่กำลังซุ่มแอบฟังอยู่ทนไม่ได้จึงรีบเดินเข้ามากระชากตัวร่างบางออกไปทันที  ก่อนจะเหวี่ยงหมัดเข้าที่ใบหน้าของโดมเต็มแรง

            ผัวะ!

            “กลางวันแสกๆยังกล้ากอดกันไม่อายคนอื่นบ้างรึไง!” หินทนไม่ได้ตะโกนเสียงดังจนคนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองเป็นตาเดียวกัน

            “พี่หิน!” เมื่อรู้ว่าเป็นหิน  ไฟก็แทบช็อกไม่นึกเลยว่าเรื่องมันจะบังเอิญถึงขนาดนี้

            “ใช่พี่เอง...ตกใจมากสินะที่พี่มาเห็นความร่านของนายขนาดนี้” ตอนนี้หินควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว  เขานึกสิ่งใดได้ก็เอ่ยออกมาอย่างไม่ยั้งคิด

            “มึงจะมากไปแล้วนะ!” โดมทนฟังไม่ได้ก็ทยานตัวเข้าไปหาหินแต่ไฟกลับมาขวางเอาไว้ก่อน

            “อย่าครับพี่โดม”

            “มึงเข้ามาเลยกูไม่กลัวมึงหรอก” หินท้าทาย

            “พี่หินพอได้แล้วกลับไปก่อนเถอะ”

            “ได้แต่ไฟต้องกลับพร้อมพี่” เขาดึงมือร่างบางเดินออกไป  แต่เจ้าตัวกลับยืนอยู่กับที่ไม่ยอมขยับเขยื้อน

            “ไม่! พี่กลับไปก่อนเถอะ มากับน้ำไม่ใช่เหรอ  ส่วนผมจะตามไปทีหลัง”

            “อ๋อ คงจะไปต่อกับไอ้นี่สินะ”

            เพี๊ยะ!

            ไฟทนฟังคำดูถูกจากชายหนุ่มไม่ได้จึงฟาดมือเรียวไปที่แก้มเต็มแรง

            “อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนตัวเอง  กลับไปก่อนแล้วค่อยไปเคลียร์กันที่บ้าน” ร่างบางยังคงรั้น  ยังไงซะเขาก็จะกลับพร้อมโดม

            “ไฟ!” หินตวาดลั่นพร้อมจ้องเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

            ขณะนั้นน้ำตัดสินใจเดินเข้ามาเพื่อพาตัวหินกลับบ้าน  เขาทนดูไม่ได้ที่เห็นพี่ชายของตัวเองทำร้ายจิตใจหินขนาดนั้น

            “พี่หินกลับบ้านกันเถอะครับ  ตอนนี้คนหันมามองกันเยอะแล้ว” น้ำจับแขนชายหนุ่มไว้

            “ดีสิคนอื่นจะได้รู้ว่าคู่หมั้นพี่กำลังจะนอกใจ” หินแสยะยิ้ม

            “น้ำพาพี่หินกลับบ้านก่อนเถอะ” ไฟบอกกับน้องชาย  น้ำเองก็พยักหน้ารับ

            “ครับ”

            น้ำพยายามดึงตัวหินออกจากตรงนั้น  สายตากลับหันมามองคู่หมั้นอย่างไม่วางตา

            ไฟกลุ้มใจไม่น้อยที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น  มันเร็วเกินไปสำหรับแผนการที่ได้วางเอาไว้  เขาว่าจะรอให้หินหลงเขามากกว่านี้เสียอีก  แต่เรื่องมันถึงขนาดนี้แล้วก็ช่วยไม่ได้  เย็นนี้เขาจะไปบอกเลิกกับหินและขอถอนหมั้น  เพื่อมาคบกับโดมอย่างออกหน้าออกตา

            “ไฟเป็นอะไรไหม” โดมเดินเข้ามาหาแล้วเอามือวางที่ไหล่บาง

            “พี่โดมนั่นล่ะเจ็บไหมครับ ดูสิปากแตกซะขนาดนั้น” เมื่อเห็นเลือดที่มุมปากของโดมก็ตกใจ

            “พี่ไม่เป็นไรหรอก  ว่าแต่ผู้ชายคนนั้นเป็นคู่หมั้นของไฟจริงๆเหรอ พี่นึกว่าแค่เป็นแฟนซะอีก” โดมไม่มองหน้าเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้  ดูอีกมุมเขาเองก็เหมือนโดนไฟหลอกไม่ต่างจากผู้ชายคนนั้น

            “ใช่ครับพี่หินเป็นคู่หมั้นผมเอง  แต่ผมไม่ได้รักเค้านะครับ วันนี้ผมจะไปทำให้ทุกอย่างมันจบเสียที” ร่างบางพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

            “ไฟคิดดีแล้วเหรอที่จะทำแบบนั้น” โดมเตือนสติร่างบางอีกครั้ง

            “ผมคิดดีแล้วครับ”  น้ำเสียงดูมั่นอกมั่นใจ

            “พี่รักไฟมากนะ  พี่เคารพการตัดสินใจของไฟเสมอ  ไม่ว่ายังไงไฟก็มีจะพี่ข้างๆนะ”

            “ขอบคุณมากนะครับ  ผมเลือกพี่โดมแล้วไม่ว่าจะต้องทำให้ใครเจ็บปวดผมก็ไม่แคร์” เขาต้องสะใจสิที่ได้เอ่ยคำนี้  แต่ทำไมในใจกลับรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก กลัวว่าอีกคนจะต้องเจ็บปวด

            “ถ้างั้นเรากลับกันเถอะครับ” โดมเอ่ย

            หลังจากนั้นโดมก็ขับรถมอเตอร์ไซต์คู่ใจพาไฟกลับบ้านทันที



*-*-*-*-*-*-*



            บ้านศิริกรโสภณ

            เป็นอย่างที่ไฟคิดไว้จริงๆว่ากลับมาบ้านจะต้องเจอแม่เลี้ยงใจยักษ์  ยืนรอต้อนรับอยู่หน้าบ้านอย่างแน่นอน  ไฟเห็นเพลินพิศก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพยายามทำใหฮึดสู้กับเจ้าหล่อน  ถึงแม้ว่าบางครั้งเขาจะเหน็ดเหนื่อยกับการสู้รบกับคนพวกนี้แต่ก็ต้องทนสู้ต่อไป  ตอนนี้เขารอวันที่จะได้ออกไปโบยบิน  ใช้ชีวิตที่ต้องการไม่ต้องมาทนอยู่กับการถูกเกลียดชังอย่างนี้

            “นังปิ๋วแกได้กลิ่นอะไรเน่าๆไหมยะ” เมื่อได้ยินนายหญิงเอ่ยปิ๋วก็ทำจมูกฟุดฟิดเหมือนเหม็นอะไรบางอย่าง

            “กลิ่นมันอยู่ใกล้ๆนี่ล่ะคะคุณนาย”

            “ฉันรู้แล้วว่ากลิ่นมันมาจากไหน มันมาจากหมาหัวเน่าตัวนึงแถวๆนี้ไง  อีกไม่นานหรอกมันก็จะถูกเขี่ยทิ้ง” เพลินพิศเบ้ปากใส่ด้วยความสะใจ

            “พูดจบรึยังฉันจะเข้าไปแล้ว” ร่างบางเอ่ยด้วยความอ่อนเพลีย  เขาไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับคนพวกนี้  แค่เจอเรื่องเมื่อตอนบ่ายก็หนักมากพอแล้ว

            “เดี๋ยว! ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ ก่อนเข้าไปให้นึกถึงหน้าแม่แกเอาไว้ด้วย  เผื่อจะช่วยอะไรแกได้บ้าง” เพลินพิศแสยะยิ้ม  วันนี้หล่อนดีใจซะเหลือเกินที่เอาชนะไฟได้โดยไม่ต้องลงมืออะไรเลยเพราะทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะไฟเป็นคนทำตัวเองแท้ๆ

            เมื่อเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน  ไม่ว่าจะเป็นพ่อ หิน และน้ำ  กำลังจ้องมองมาที่เขาเหมือนตั้งใจมารอซะอย่างนั้น

            “ทุกคนมีอะไรเหรอครับ?” เขาเอ่ยถามเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

            “ทำไมแกทำตัวต่ำอย่างนี้ ฉันสั่งสอนแกให้เป็นพวกร่านผู้ชายรึยังไงถึงได้ทำตัวอย่างนี้ห๊ะ!” จรัญขึ้นเสียงดังที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา  นี่คือครั้งแรกที่พ่อโกรธเขาขนาดนี้

            “ผมก็เป็นของผมอย่างนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร  ช่วยไม่ได้คนอื่นอยากมายุ่งกับผมเอง” เขาพยายามจ้องตากับหินอย่างไม่ลดละเหมือนไม่ได้สำนึกผิดเรื่องที่ทำไว้เลยแม้แต่น้อย

            “พี่รักไฟมาก แต่ทำไมไฟถึงทำกับพี่อย่างนี้  ไฟบอกรักคนอื่นต่อหน้าพี่ นี่เหรอคนที่เป็นคู่หมั้นเค้าทำกัน” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้  ร่างบางกลืนน้ำลายลงคอเขาจะไม่ใจอ่อนกับใครทั้งนั้น วันนี้ทุกอย่างจะต้องจบ

            “พี่มันโง่เองจะบอกให้เอาบุญผมไม่เคยรักพี่เลยแม้แต่น้อย  ที่ทำเป็นรักก็เพราะต้องการแก้แค้นคืนก็เท่านั้น  ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งสองตัวแกล้งทำให้พี่รักแล้วก็หักอก  และยังทำให้ไอ้น้ำมันเสียใจด้วยสมน้ำหน้าจะตาย” ร่างบางยิ้มเยาะ

            “ไฟ” หินเอ่ยออกมาเบาๆ  แล้วมองร่างบางตาละห้อยด้วยความเสียใจ ทุกอย่างมันเป็นแค่ภาพลวงตางั้นเหรอ  รอยยิ้มและสีหน้าที่มีความสุขมันคือการเสแสร้งเท่านั้น

            “ฟังชัดๆ ผมขอถอนหมั้นกับพี่หินนับจากวันนี้เป็นต้นไป!” ร่างบางพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้

            “ไอ้ลูกเหี้ย! แกไปเอานิสัยเลวๆพวกนี้มาจากไหน  ทำตัวอย่างนี้ใครจะไปรักแกได้ลง” จรัญเริ่มเลือดขึ้นหน้าเขานึกว่าลูกชายจะเปลี่ยนไปแล้ว  แต่กลับกลายเป็นว่ามันคือภาพลวงตาที่ไฟสร้างขึ้นก็เท่านั้น  เขาเหลืออดกับลูกคนนี้จริงๆ

            “ผมก็เลวเหมือนพ่อไงล่ะ ถ้าไม่เพราะพ่อเห็นแก่ตัวแม่ก็คงไม่ตาย  ถ้าตอนนั้นพ่ออยู่กับพวกเราแม่ก็ยังพอมีทางรักษาหาย   เพราะความจนไงทำให้แม่ไม่มีเงินไปรักษาตัว ผมเกลียดพ่อ! ผมเกลียดทุกคนในบ้านหลังนี้” ไฟระเบิดคำพูดและความรู้สึกที่อัดอั้นมานานออกไป  จนทุกคนเงียบไม่มีใครปริปากใดๆ  โดยเฉพาะจรัญที่รู้สึกผิดขึ้นมาทันที  ทั้งหมดที่ไฟพูดมามันคือเรื่องจริงทั้งนั้น

            “พ่อขอโทษที่ทำให้ไฟเป็นแบบนี้” จรัญเริ่มอ่อนลง

            “พ่อไม่ต้องมาขอโทษผมหรอก  ไปขอโทษแม่เถอะ  ผมจะออกไปจากที่นี่ผมจะกลับไปใช้ชีวิตในที่ๆผมเกิดมา  ถึงแม้จะไม่ได้เป็นคุณหนูเหมือนแต่ก่อนแต่คนที่นั่นก็ให้ความรักผมได้มากกว่านี้  ขอบคุณที่เลี้ยงดูผมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมมา” พูดจบไฟก็เดินขึ้นไปข้างบนเพื่อเก็บข้าวของออกจากบ้านหลังนี้

            “ไฟ! เดี๋ยวก่อนลูก” จรัญตะโกนตามหลังลูกชายด้วยความเสียใจ  นี่เขาทำร้ายลูกมาโดยตลอดงั้นเหรอเนี่ย

            เพลินพิศแสยะยิ้มด้วยความสะใจ  ในที่สุดวันที่หล่อนรอคอยก็มาถึง  วันที่ลูกเลี้ยงออกไปจากบ้านหลังนี้แล้วทุกอย่างก็จะตกเป็นของลูกชายหล่อนแต่เพียงผู้เดียว



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด