( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 487053 ครั้ง)

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แงงงง ดีกันนะๆๆๆๆ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ดีกัน ก็ดีแล้ว อย่าทะเลาะกันนานคนอ่านใจไม่ดี

อิบิน ต้องให้มาเป็เมียน้องเดย์กับน้องอัยย์ กามนัก

เพื่อนฝูงแตกแยกกันก็เพราะไอ้กามบินนี่แหละ

ส่งน้องเดย์กับน้องอัยย์ไปเป็นผัวนางเลย

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เมื่อไหร่ไอ้ยีนส์จะรับกรรมซะที
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ palm-metto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
เป็นตอนที่อ่านแล้วอึดอัดมาก

ได้คิดตลอดตั้งแต่ต้น
ทำไมอาฟไม่ทำงั้น ทำไมเมดไม่ทำงี้
แต่ก็นั่นแหละ เราไม่ใช่ทั้งคู่ ไม่สามารถรู้ถึงความรู้สึกของทั้งคู่ได้หมด

แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของทั้งคู่ที่แสดงออกมา
อาฟบอกว่าอาฟรักมาก แต่อาฟคงเสียใจมาก แล้วคิดว่า ขอปล่อยมือที่เคยกอดเมดไว้มากอดตัวเองบ้างได้มั้ย 

เมดคงแบบถ้าคนที่เรารักต้องการแบบไหน .. เราก็พร้อมจะทำให้ แม้เราจะต้องร้องไห้ขนาดไหนก็ตาม

ยอมมมมม เรื่องนี้เลยจริง อ่านแล้วดูดพลังมาก แต่ก็ยังรอคนเขียนมาอัพตลอด .. และเข้าใจว่ามันต้องมีดราม่าอีกแน่ๆ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ต้องกราบเจย์งามๆนะเนี่ยะ ลุ้นเว่อว่าอาฟจะทำยังไง ดีแล้วปล่อยความเจ้บปวดไปแล้วเริ่มต้นใหม่กันดีๆ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ดีนะที่พี่เจช่วยดึงสติพี่อาฟได้ ไม่งั้นไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น ลืมเรื่องทั้งหมดแล้วจับมือกันเดินต่อนะพี่อาฟน้องเมด :กอด1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
โล่งอกกกกก~

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:  โล่งเลยยยยยยยยยยย   

ดีกัน ๆ อย่างเจว่าถูกต้อง   :katai2-1:
ดันตกหลุม ที่สาระเลวยีนส์วางกับดักจนได้
รู้ตัวแล้วปีนขึ้นมา รักกันๆให้มันผิดหวังดีกว่า   :hao3:
อย่าเสียเวลากับความเสียใจที่ทั้งเมด อาฟก็ไม่อยากให้เกิด
บล็อกมันไปเลย คนชั่วกับคนเลวที่ไม่ควรมาอยู่ในสมอง
ให้มันอยู่ในหลุมนรกของมันปาย :m20: :laugh:

อาฟ  เมด   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ิอึดอัด สงสาร เห็นใจ โล่ง เขัาใจกันจริงๆสักทีอย่าให้คนที่เคยทำเหี้ยๆมามีอิทธิพลอีกนะทั้งสองคนปล่อยให้มันอยู่กับความเหี้ยของตัวเองแบบนั้นแหล่ะเดี๋ยวมันก็ได้รับผลกรรมที่มันก่อเอง(ตัวจันไรโผล่ออมมาเมื่อไหร่เมดร้องไห้หนักทุกที)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เราโคตรเข้าใจอาฟเลย มันเข้าใจเหตุผลเขานะ เข้าใจ แต่เรายังเจ็บไง เข้าใจแล้วเจ็บไม่ได้เลยเหรอ เข้าใจแล้วน้อยใจไม่ได้เหรอ เราเข้าใจ แต่เรารู้สึกไง เราห้ามมันไม่ได้

แต่ก็เข้าใจเมดแหละ

ดีกันแล้วก็ดีแล้ว อย่าทำอีกนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แผนของนังเพื่อนเห็บหมาเกือบได้ผล ดีที่ได้เจมาเตือนสติ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนที่ 44

ภายในห้องนอนที่ค่อนข้างเงียบ อากาศเย็นชวนให้ผมห่อตัวเข้ากับผ้าห่มผืนหนา ก่อนที่แขนของคนที่นอนอยู่ข้างกันจะเอื้อมมากอดเอวผมไว้แล้วดึงให้เข้าไปใกล้จนแผ่นหลังของผมแนบชิดลงกับอก ท่าทางที่บอกว่าคนที่นอนอยู่ด้วยกันคงตื่นนอนแล้ว และกำลังเริ่มกิจวัตรประจำวันของเค้า นั่นคือการจูบที่ต้นคอของผมเป็นอย่างแรก ก่อนจะตามมาด้วยการกดจูบลงไปที่ข้างแก้มเป็นลำดับต่อมา

 “ หมวย ตื่นไปช่วยป๊าขายซาลาเปาได้แล้ว ” พ่อของผมไม่เคยเปลี่ยนอาชีพเลย ตั้งแต่คบกับอาฟมา พ่อผมขายของอยู่สองอย่างเท่านั้นในตอนเช้า นั่นคือซาลาเปากับโจ๊ก และมันก็จะมาพร้อมกับแรงหอมที่ฝังลงไปบนข้างแก้มแบบเต็มแรง แรงแบบชนิดที่ว่าแก้มของผมมันยุบลงไปจนทำให้ปากจู๋

ในความคิดอาฟ มันคงคิดแค่ว่าผมเป็นพวกนอนขี้เซาแบบไม่ยอมตื่นนอนถ้ายังไม่ถึงเวลา มันเลยคิดว่าตัวมันจะทำอะไรก็ได้ จะหอมแก้มกันแบบแรงแค่ไหน หรือนานเท่าไหร่ก็ได้ ผมก็จะไม่มีวันตื่นขึ้นมาเห็นตัวมันที่ชอบทำอะไรแบบนั้นเด็ดขาด ทั้งๆที่มันคงไม่ได้คิดหรอกว่า  ‘ หอมแก้มแรงขนาดนั้น ไม่มีใครไม่ตื่น ยกเว้นคนตายแล้ว ’

“ อื้ม ” ทำทีเป็นสะเมอแล้วพลิกกลับตัวมากอดอีกคนไว้ เอาจริงๆเหตุผลที่ไม่ยอมบอกความจริงว่าตัวเองตื่นแล้ว ก็คงพ่วงด้วยเหตุผลนี้

ผมเองก็ชอบที่จะทำแบบนี้ในทุกเช้า ชอบการที่ตัวเองจะซุกอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนแล้วสูดดมกลิ่นตัวอุ่นๆในยามตื่นนอนของอาฟ เป็นช่วงเวลาที่ดีๆที่ไม่อยากจะให้หายไปไหนทั้งนั้น เตียงนุ่ม อากาศเย็น และอ้อมกอดของคนที่เรารัก มีความสุขที่สุดแล้ว

“ ตื่นแล้วก็ลุก ” ก็ถ้าไม่นับว่า วิธีนี้มันไม่เคยเนียนเลย อาฟรู้ตัวตลอดว่าผมตื่นนอนแล้ว

เผลอถอนหายใจออกมาแต่ก็ทำทีเป็นหลับทั้งๆที่ไม่เนียน ผมซุกหน้าอยู่กับซอกคอของอีกคนก่อนจะกอดไว้แบบนั้น ทำตัวเหมือนลูกแมว แม้ว่าคนที่ผมกอดไว้จะไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น

“ มึงคิดว่ามึงเป็นลูกแมวตัวเล็กๆรึไง ลุกออกไปไอ้ลูกหมู กูหายใจไม่ออก ”

“ ไอ้สัด ” สบถด่าออกมาในที่สุด ผมเริ่มคิดอย่างจริงจังแล้วว่าอาฟคงอยู่ไม่ได้จริงๆถ้ามันไม่ได้ยินเสียงด่าของผม

จำใจเลื่อนหัวตัวเองมานอนที่หมอนอย่างเซ็งๆ หมดกันความรู้สึกหวานซึ้งในตอนเช้า ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะลืมตาแล้วพยายามปรับดวงตาให้เข้ากับแสงภายในห้องแต่ก็ไม่ไหวสุดท้ายก็พลิกตัวหันไปหลบเข้ากับอกคนข้างตัวอยู่ดี อาฟหลุดหัวเราะออกมาตอนที่เห็นแบบนั้น มันดึงตัวเองเข้ามาใกล้ผม พยายามยกตัวเองให้สูงขึ้นเพื่อให้อกอยู่ในมุมที่ทำให้ผมซุกตัวได้ถนัดขึ้น แล้วก็แอบยกยิ้มอยู่คนเดียว ตอนที่ผมซุกตัวเข้าไปใกล้

ผมจะไม่มีวันบอกมันหรอก ว่าผมรู้ว่ามันตั้งใจทำแบบนั้นให้กันในทุกเช้าเพราะอยากให้ผมนอนหลับเต็มอิ่ม และจะไม่มีวันบอกด้วยว่าผมรู้สึกตัวอยู่ตลอดไม่ได้หลับแต่อย่างใด ผมรู้ว่ามันลูบหัว รู้แม้กระทั้งว่ามันชอบก้มลงมาจูบ ก่อนจะเปลี่ยนไปนอนนิ่งๆทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรอย่างงั้น มันคงบอกตัวเองว่า ‘ ก็แค่ขยับตัวเพื่อนอนเล่น ’  คนแบบนั้นก็คงมีแต่ข้ออ้างแบบนี้เพื่อหลบหลีกความเขินอาย

“ กี่โมงแล้ววะ ” หลับตาอยู่นานก่อนจะลืมตาขึ้นถามคนที่นอนด้วยกัน ผมพลิกตัวไปหยิบมือถือที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงขึ้นมาเปิดดู อาฟเองก็เปลี่ยนท่าทางทำเป็นหลับต่อด้วยการก้มลงมาซุกที่ซอกคอแล้วกอดเอวกันไว้แน่น มันที่หายใจเข้าออกสม่ำเสมอชวนให้ผมยิ้มเพราะรู้สึกว่ามันเหมือนอยากจะหลับต่อจริงๆ

เวลาเกือบบ่ายสองฉายขึ้นบนหน้าจอรู้สึกขี้เกียจอย่างบอกไม่ถูก อยากนอนโง่ๆบนเตียงถ้าทำได้ แต่นั่นคงเป็นแค่ฝัน เพราะความจริงที่ต้องเจอคือแจ้งเตือนของงานมากมายของวันนี้ที่ปรากฏอยู่บนแล้วหน้าจอ

ผมเปิดเข้าไปในไลน์กลุ่มของสต๊าฟผับ throw up เป็นอย่างแรก เพราะปกติพี่ซองผู้จัดการร้านจะเป็นแจ้งรายละเอียดต่างๆประจำวันไว้ให้ แม้ทุกคนจะมีตารางงานอยู่แล้ว แต่ก็มีบ้างที่มีลืม ยกตัวอย่างเช่นผมในตอนนี้ ที่กำลังตาโตกับสิ่งที่เห็นบนหน้าจอ

[ คืนนี้ รายละเอียดงานจะเริ่มตั้งแต่สองทุ่มนะครับ  สองทุ่มดีเจเปิดแผ่น สามทุ่มถึงสี่ทุ่มวง the need ขึ้นแสดง จากนั้น ห้าทุ่มจนถึงเที่ยงคืน ส้มฉุน จะขึ้นแสดงนะครับ โต๊ะ VIP เต็มหมดทุกโต๊ะ ส่วนแขกขาจรเก็บค่าเข้า 500 นะครับฟรีสเมอร์นอฟหนึ่งขวด ตรงส่วนนี้อินกับน้องนายแคชเชียร์จะเป็นคนดูแลนะ ส่วนแบบเหมาโต๊ะ ไม่รับแล้วนะครับ เต็มแล้ว ]

   ทั้งประโยคยาวเยียดนั่นที่ได้อ่าน สาบานว่าผมสนใจแค่คำว่า ‘ ส้มฉุน ’ เพียงเท่านั้น ก่อนจะนิ่งไปแล้วอ่านมันซ้ำๆว่าตัวเองไม่ได้อ่านผิดหรือเข้าใจผิดแต่อย่างใด มือของผมชา หัวใจของผมมันสั่นรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก จนเผลอย้ำถามกับคนที่นอนกอดกันออกไป

“ อาฟ วันนี้นักร้องที่ชื่อพี่ส้มฉุนเค้าจะมาที่ผับเราเหรอวะ ”

“ อื้ม ” อีกคนบอกแบบไม่ใส่ใจแต่ในใจของผมมันกลับยิ่งเต้นรัว คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว ‘ จริงเหรอวะ นี่พี่ส้มฉุนจะมาที่ผับเราเหรอวะ พี่ส้มฉุนอะนะ พี่ส้มฉุนที่กูชอบมากๆน่ะนะ จริงเหรอ นี่เรื่องจริงเหรอวะ  ’  “ เป็นอะไร ”

คำถามที่ทำให้ผมหันไปมองคนที่หันก็มามองกัน  แววตาคมที่สบกันนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถระงับอาการความดีใจได้ ปากมันอยากจะพูดระบายความรู้สึกดีใจทั้งหมดออกไปให้หมดเปลือก แต่ทุกอย่างก็ถูกชะงักไว้กับความคิดที่โผล่ขึ้นว่า ‘ ผมไม่คิดว่าอาฟจะโอเคถ้ามันรู้ว่าผมชอบพี่ส้มฉุน ’

“ เปล่า ” ส่ายหน้าเป็นคนคำตอบให้อีกคน ก่อนจะพยายามสงบจิตใจให้นิ่งไว้

‘ ส้มฉุน ’ คือนักร้องและนักแต่งเพลงที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี ผมไม่ได้เข้าใจแนวเพลงของเค้าว่ามันเรียกว่าอะไร  แต่ไว้ว่าจะเป็นเพลงอะไรที่เค้าร้องผมก็ชอบมันทั้งหมด ผมชอบเสียง ผมชอบเนื้อหาในเพลง แล้วก็ชอบความมีสไตส์ของเค้า รูปลักษณ์ภายนอกของพี่ส้มฉุน ไม่ใช่คนหล่อ แต่เค้าดูน่ารัก เป็นหนุ่มเซอร์ที่ไม่ได้ไว้หนวดเคราแต่มีกีต้าร์สะพายอยู่กับตัวเป็นอิมเมจที่เหมือนจะแยกจากเค้าไปไม่ได้

เค้าเป็นนักร้องคนแรกที่ผมชอบ ชอบถึงขนาดซื้อซีดีทุกแผ่นที่วางขาย โหลดเพลงเต็มอัลบั้มไว้ในมือถือ และก็เป็นนักร้องคนเดียวในชีวิตที่คิดว่า สักครั้งต้องไปเห็นเค้าร้องเพลงสดๆกับตาให้ได้ แต่ทว่าตั้งแต่ชอบเค้ามา ผมก็ไม่เคยมีโอกาสได้ไปดูเค้าเลยสักครั้ง แม้จะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ก็ตาม 

“ มึงเป็นอะไรรึเปล่า ? ”

“ ห๊ะ ? มีอะไร ” หันไปถามอีกคนอาฟก็แค่ขมวดคิ้ว

“ มึงดูแปลกๆ ”

“ แปลกอะไร ไม่มี๊ ” ผมบอกเสียงสูงก่อนจะล็อคหน้าจอมือถือทำทีเป็นไม่สนใจอะไร “ วันนี้กูว่าเข้าผับเร็วหน่อยดีกว่า ”

“ เข้าไปเพื่อ ? ”

“ ก็มันมีนักร้องมา เผื่อกูช่วยอะไรพวกมันได้ ”

“ งานมึงเมื่อไหร่ งานไอ้เจมัน ”

“ ก็เข้าไปช่วยไง เผื่อมีอะไรให้กูช่วย แบบงานเล็กๆน้อยๆ ”

“ คนช่วยมันเยอะแยะ ” อาฟบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา “ คนเรามันมีหน้าที่เป็นของตัวเอง เราแค่ปล่อยให้เค้าทำงานในหน้าที่ของเค้า ไม่อย่างงั้นกูจะจ้างคนเยอะแยะทำไม ถ้ามึงไปช่วยงานเค้าทำหมด เราก็ไม่ต้องแบ่งหน้าที่กันทำงานหรอก  ” 

“ แปลได้ว่า อย่าเสือกงานไอ้เจ แล้วอยู่เฉยๆทำงานของมึงไปรึเปล่าวะ ” ผมถาม อาฟก็แค่ยิ้มก่อนจะก้มลงมาจูบหน้าหน้าผาก

“ ฉลาดขึ้นแล้วนี่ ”

“ ไอ้สัด ” ได้แต่ถอนหายใจออกมาเซ็งๆ ทั้งๆที่อยากจะเถียงต่อออกไปเหลือเกินว่า ที่กูอยากจะเข้าผับเร็ว กูไม่ได้อยากจะเข้าไปช่วยอะไรเจมันหรอก กูก็อ้างไปแบบนั้น แต่กูแค่อยากจะทำงานของกูให้เสร็จเร็วๆมากกว่า แล้วพอห้าทุ่มกูจะได้ว่างแล้วลงมานั่งฟังพี่ส้มฉุนร้องเพลง เพราะกูชอบพี่เค้า กูชอบเพลงเค้า กูอยากฟังเพลงของไอดอลกู

ลุกตัวเองขึ้นจากเตียง ต่างจากทุกวันที่ผมมักจะงัวเงียอยู่นาน บางทีนี่อาจจะเป็นของขวัญจากพระเจ้า ท่านคงเห็นว่าผมเศร้าอยู่หลายวันแล้วกับปัญหาร้อยแปดก็เลยส่งพี่ส้มฉุนมาให้ปลอบใจ ผมเดินเข้าไปอาบน้ำในตอนนั้นก็ฮัมเพลงโปรดของตัวเองไปด้วย หยุดยิ้มกับตัวเองไม่ได้เลยสักวินาที ในตอนที่ออกจากห้องน้ำแล้วเปิดประตูเสื้อผ้าก่อนจะยืนคิดอยู่นานว่าจะใส่ชุดไหนดี
“ อาฟ ” เอ่ยเรียกอีกคนที่นอนดูทีวีไม่ยอมลุกไปไหน ผมชูเสื้อสองตัวไปให้มันดู “ มึงว่ากูใส่ตัวไหนดูดีกว่ากัน ”

“ มันต่างกันยังไง ” คนตอบถามกลับด้วยท่าทางสงสัย ผมก็ก้มลงมองเสื้อที่ตัวเองถืออยู่ ตัวนึงเป็นเสื้อยืดคอกลมแบบแขนยาวลายขวางสีขาวดำ ส่วนอีกตัวเป็นผ้าเป็นเสื้อเชิ้ต ลายขวางเหมือนกันแต่เป็นทางยาวสีน้ำเงินกับขาว

“ มันต่างกันนะเว้ย ตามึงมีปัญหาเหรออาฟ ทำไมแยกแยะไม่ได้วะ ”

“ ไปหาที่มันต่างกว่านี้มาไป ” เข้าไปในห้องแต่งตัวอีกครั้งคราวนี้ผมหยิบแบบแขนสั้นลายขวางมาแล้วก็แขวนเสื้อลายขวางสีน้ำเงินขาวที่หยิบออกไปเมื่อครู่ไว้ที่เดิม

“ ต่างพอยัง  มึงว่าแขนสั้นหรือแขนยาวดี ” ผมยิ้มให้มันตอนที่ถาม อาฟเองก็หันมาทำหน้านิ่งก่อนจะถาม

“ ถามจริงๆนะ ชาติหน้ามึงอยากเกิดม้าลายเหรอ ”

“ มึงแม่ง กูก็ไม่ได้ใส่เสื้อลายขวางบ่อยขนาดนั้นเปล่าวะ ” เถียงมันออกไปแบบยิ้มๆ ทั้งที่ก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนพวกบ้าเสื้อขวางอย่างจริงจัง เห็นเป็นไม่ได้ ชอบเหลือเกิน ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็อยากจะซื้อ อีกอย่างผมรู้สึกว่ามันคือเสื้อแนวกันตายของผม ใส่ยังไงก็รอด ไม่ดูเชย

“ ไม่บ่อยหรอก ก็แค่อาทิตย์หนึ่งเจ็ดวัน มึงใส่เสื้อลายขวางไปแล้วห้า ”

“ แม่ง ฮ่าๆ ” ได้แต่หัวเราะออกมาเสียงดังกับคำพูดนั้น ผมเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวอีกครั้ง แล้วยืนตัดสินใจเลือกเสื้อสองตัวที่ดูไปดูมามันเก็เหมือนกันอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจแขวนเสื้อแขนสั้นแล้วก็เหลือไว้แค่เสื้อแขนยาวลายขวางตัวที่ใส่บ่อยๆ ชุดเก่งที่รู้สึกว่าใส่เมื่อไหร่ก็ดูดี ก่อนจะหยิบเอาเสื้อสีเทาแขนยาวออกมา ผมออกไปข้างนอกอีกครั้ง “ อาฟ ว่าไง คราวนี้ต่างละ ”

“ ลายขวาง ” อีกคนปรายตาจากจอทีวีมามองก่อนจะตอบแค่สั้นๆ

“ เห็นมั้ย ไม่ว่ายังไงมึงก็ยังเลือกลายขวางให้กูใส่อยู่ดี ถึงกูจะใส่บ่อยๆก็เถอะ นั้นก็เพราะว่ากูใส่แล้วเหมาะถูกมั้ย ”

“ เพราะมึงเดินออกมาให้กูเลือกสามรอบแล้วสำหรับเสื้อเหี้ยนี่ งั้นก็แสดงว่ามึงอยากใส่มันที่สุด กูก็เลยเลือกมัน ” คำพูดที่ทำให้ผมนิ่งก่อนจะหันไปมองเสื้อที่อยู่ในมือ ก็คงจริงแบบนั้น ผมตอบตัวเองในใจ และตอนนั้นเองที่เห็นอาฟยกยิ้มด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจก่อนจะหันมามองผมแล้วพูดแบบอวดอย่างรู้ใจ  “ แล้วก็ต้องใส่กับกางเกงสีดำปลายบานตัวนั้น แล้วก็รองเท้าที่กูซื้อให้ตอนวันเกิดคู่เดิม ”

“ รู้ใจขนาดนี้ไม่สมเป็นมึงเลยนะอารยะ ” ผมบอกแบบนั้นอีกคนก็ยิ่งได้ใจ อาฟส่ายหน้าไปมาก่อนจะถอนหายใจออกมา เป็นท่าทางที่เหมือนจะบอกกันว่า ‘ เรื่องแค่นี้เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับมัน ’

ทั้งๆที่จริงวันนี้ตั้งใจจะใส่กางเกงขอเดฟกับรองเท้าอดิดาสคุมโทนดำขาวตั้งแต่หัวจรดเท้าสักหน่อย แต่ก็เอาว่ะ กูจะยอมใส่กางเกงขาบานเหนือตาตุ๋มตัวนั้นกับรองเท้าตอนมึงให้ตอนวันเกิดก็ได้ ไม่อยากจะทำลายความมั่นใจที่แสนภาคภูมิใจของอีกคน
“ เสร็จแล้ว ” ผมเดินออกมาด้วยชุดที่มันบอก อาฟหันมามองกันด้วยหางตา รอยยิ้มที่บอกกันว่า คิดไม่ผิดเลยว่าต้องชุดนี้ ฉายออกมาจากแววตานั้น “ มึงว่าเป็นไง ”

“ อะไรเป็นไง ”

“ หมายถึงชุดกู ”

“ ก็เหมือนทุกครั้งที่ใส่ ” อาฟบอกแบบปัดๆ ผมก็ได้แต่ก้มลงมองชุดที่ใส่อยู่ ถึงมันจะเป็นชุดเก่งที่ใส่อยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่อยู่ดี คงเพราะวันนี้มันไม่ใช่วันธรรมดาทั่วไป ผมตั้งใจอยากจะแต่งตัวให้มันดูดีสักหน่อย เพราะตั้งใจไว้ว่า จะขอเข้าไปถ่ายรูปคู่กับพี่ส้มฉุนสักรูป ถ้าทำได้ละก็นะ

“ แล้วมึงว่ามันเป็นไง แบบ หล่อ ก็ดี หรือยังไง ” คำโดนถามลุกขึ้นจากเตียงตอนที่ผมพูดแบบนั้น อาฟมองหน้าผมอยู่นานก่อนจะไล่สายตามองตั้งแต่เสื้อจรดปลายเท้า ก่อนจะมองกลับขึ้นมาสบตากันอีกครั้ง ความเงียบในตอนนั้นชวนให้ผมเลียปากไปมาเพราะเริ่มทำตัวไม่ถูก “ มันพูดยากเหรอวะ หรือยังไง กูเกร็งนะ มึงอย่าเสือกคิดนาน..”

“ น่ารัก ” มันขัดคำพูดที่กำลังพูดอยู่ของผม เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้อีกคนแล้วตอนที่กำลังแซวว่า ‘ อะไรนะ ไม่ได้ยิน ’ เพื่อให้มันพูดซ้ำ อาฟก็บอกปัดแค่สั้นๆ ว่า “ ไม่พูดซ้ำ ” ก่อนจะเดินเข้าไปห้องน้ำไปด้วยอาการหูแดงจนมันลามมาที่หน้า   

 ครืน ครืน ครืน

เสียงโทรศัพท์ของผมดังอยู่ในรถที่กำลังขับตรงไปที่ผับ ปากที่กำลังฮัมเพลงโปรดไม่หยุดปากถอนหายใจออกมากับสายที่โทรเข้ามาขัดตอนที่ถึงท่อนฮุกของเพลงพอดี

“ กำลังได้ฟิวเลย แม่งโทรมาขัดทำไมวะ คนกำลังจะร้องเพลง ” ผมบ่น แต่ตอนนั้นอาฟก็แค่ยิ้มก่อนจะพูดเบาๆ

“ งั้นกูก็คงต้องขอบคุณมันแล้วละ ”

“ อารยะไม่น่ารัก ”  เอื้อมมือไปจับคางมันอาฟที่สะบัดออกก่อนจะพูดแบบไม่สนใจ

“ นั่นมันหน้าที่มึงไม่ใช่หน้าที่กู ” ยักคิ้วให้ตอนที่พูดเสร็จ ก่อนจะเชิดหน้าไปที่มือถือที่ก็สั่นไม่หยุด “ แล้วก็รับสักที กูรำคาญ ”

ก้มหน้าลงมองมือถือทันทีก่อนจะได้พูดอะไรต่อ บนหน้าจอนั้นฉายภาพของน้องชายผมเป็นคนโทรเข้ามา ผมกดรับ “ ว่าไงครับน้องวิว ”

“ พี่เมดมึงอยู่ไหน ”
 
“ กำลังจะไปผับ ” ผมตอบอีกคนก่อนกดเบาเสียงพูดของอีกคนที่เหมือนจะก้องออกมาจากลำโพงของมือถือ

“ วันนี้พี่ส้มฉุนมาที่ร้านมึงรู้ยัง ” ปลายสายพูดด้วยความดีใจ ผมก็ทำทีเป็นนิ่งทั้งที่ในใจอยากจะตะโกนบอกความรู้สึกทั้งหมดที่มีออกไป อยากบอกวิวด้วยซ้ำว่าตอนนี้ถ้าผมทำได้คงย้ายเวลาไปห้าทุ่มแล้ว เพราะผมอยากจะเจอเค้าใจจะขาดอยู่แล้ว แต่ทว่าความจริงสิ่งที่ทำได้มีแค่

“ เออ รู้แล้ว ”

“ อะไรวะ มึงไม่ดีดี๊เลยอะพี่เมด ปกติมึงต้องกรีดร้องแล้วไม่ใช่เหรอวะ นี่พี่ส้มฉุนนะเว้ย ”

“ กูอยู่กับอาฟ ” ผมบอกอีกคนเป็นประโยคสั้นๆ วิวก็เงียบไปก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ พี่อาฟยังไม่รู้สินะว่ามึงติ่งพี่ส้มฉุน ”

“ เออ ” ผมบอก

“ ถ้ารู้มีหวังมึงต้องนั่งแห้งอยู่ในห้องที่ชั้นสามแน่ๆ ”

“ ไว้ถ้ามันทำแบบนั้น กูจะโทรมาร้องไห้ให้มึงฟังนะ ”

“ ฮ่าๆ ” อีกฝ่ายหัวเราะเสียงดัง “ กลัวอะไร พี่มึงก็ดื้อบ้างสิ ”

“ ดื้อเหี้ยอะไร เรื่องเก่ากูเพิ่งเคลียร์ ”

“ อะ พอพูดเรื่องเก่า กูคิดว่ากูเองก็ควรนิ่งแล้วไม่ควรออกความคิดเห็นเหี้ยอะไรทั้งนั้น เอาที่พี่เมดคิดว่าดีเลยจ้า ” ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่อีกคนบอกกันด้วยเสียงล้อเลียน

“ แล้วนี่มึงโทรมาทำไม ”

“ เอ้อ เกือบลืม! กูมีอะไรจะบอก วันนี้กูไปฟิวที่รังสิตมากับพี่เจ แล้วมึงรู้มั้ยตอนกูกินบอนชอนอยู่ใครเดินมานั่งในร้าน ”

“ ใครวะ ”

“ เจออีเชี้ยบินกับผู้หญิงนางนึงจ้าอีพี่มึง ” ผมถอนหายใจออกมาตอนที่ได้ยิน ทำไมซื้อหวยไม่ถูกบ้างวะ ผมคิดว่าถ้าไม่ใช่บิน ก็คงเป็นยีนส์ไม่ก็จิงแน่นอนสำหรับคนที่มันเจอแล้วต้องโทรมาบอกกันแบบนี้ “ แล้วคือกูว่าชะนีนางนั้นต้องเป็นแฟนมัน คือมีความพูดตลอดว่า บินคะบินขา  แล้วไม่นั่งตรงข้ามนะจ๊ะ นั่งข้างกันเลยมึงทั้งที่มากันสองคน แล้วคือแบบออเซาะตลอดเวลา ”

“ เหรอ ” บอกน้องแบบนั้นพราะไม่รู้จะมีรีเอ็กชั่นกับเรื่องนี้ยังไง  ไม่อยากจะใส่ใจแล้วสำหรับเรื่องนั้น ชีวิตมันจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ใช่สิ่งที่อยากรู้อีก  ผมเบื่อที่จะฟังชื่อคนพวกนั้นด้วยซ้ำ ฟังไปชีวิตก็ไม่ได้ดีขึ้นจากที่เป็นเท่าไหร่ แต่วิวก็เหมือนจะพูดยิงยาวแบบไม่มีช่วงหยุดให้แทรกบอกได้เลย

“ แต่มันก็ยังไม่เลิกสันดานเหี้ยๆเนอะพี่เมด ยังคั่วยังมั่วเหมือนเดิม แต่ก็สมควรละของแบบนี้ก็เหมาะกับเชี้ยยีนส์ดีแล้ว มันต้องได้รับความเสียใจอย่างสาสมที่มาทำร้ายคนแบบมึงละพี่เมด แล้วนี่กูถ่ายภาพเชี้ยบินกับผู้หญิงคนนั้นมาด้วยนะ ถ้าเกิดว่ามึงอยากดู...”

“ ลบไปเถอะมึง ” ผมบอกวิว  “ อย่าไปสนใจมันเลย ชีวิตของเค้าเราไม่เกี่ยวจะเป็นยังไงก็เป็นเรื่องของเค้า อีกอย่างรู้ไปก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตกูดีขึ้นด้วย มีแต่ทำให้แย่ลง ”

“ เดี๋ยวนะ..ปกติมึงต้องอยากเห็นหน้าของผู้หญิงไม่ใช่เหรอวะ คือ โอเค มึงไม่ใช่ชอบหาเรื่องคนกูรู้ แต่แบบกูถ่ายรูปมาอะ ปกติมึงต้องขอดูว่าหน้าตาเป็นยังไงนะ แต่นี่พี่มึงเปลี่ยนไปอะ อะไรที่ทำให้พี่มึงเป็นแบบนี้ไปได้วะ ”

“ การทะเลาะกับไอ้อาฟครั้งที่แล้วไงไอ้สัดที่มันทำให้กูเปลี่ยนไป ” ปลายสายที่ได้ฟังหัวเราะออกมาจนเสียงดังจนผมเองต้องเผลอยิ้มแล้วหันไปมองคนข้างกันที่ก็หันมามองผมพอดี คงเพราะมีชื่อมันอยู่ในบทสนทนาของเราอาฟก็เลยให้ความสนใจ แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ บทเรียนราคาแพงเนอะ ”

“ ไม่เอาอีกแล้วจ้า ” ผมลากเสียงยาว ปลายสายที่ฟังก็เงียบไปผมได้ยินเสียงของวิวถอนหายใจออกมา

“ แต่ก็ดีแล้วละพี่เมด ตอบโต้กันไปตอบโต้กันมามันไม่มีวันจบ พี่อาฟไม่ชอบก็อย่าไปยุ่งมันก็ดีแล้ว ต่างคนต่างอยู่เพราะยังไงคนพวกนั้นมันก็ไม่มีวันเจริญหรอก มันทำร้ายพี่เมดแบบนั้นสักวันกรรมมันก็ต้องตามสนอง ”

“ อื้ม ” ผมตอบ “ ปล่อยมันไปเถอะ กูมีความคิดว่าสนใจมันไปชีวิตกูก็ไม่ได้ดีขึ้น มีแต่แย่ลงด้วยซ้ำ อีกอย่างกูเดินออกมาแล้วกูก็ไม่ควรหันหลังกลับไปสนใจอีก สิ่งที่กูควรทำคือเดินหน้าต่อไป ”

“ เฉียบ ”

“ มึงเองก็ด้วยวิว เลิกสนใจพวกมันเถอะ อย่าเอามันเข้ามาเป็นส่วนนึงในชีวิตเลยวะกูว่า แล้วทีหลังกูขอเลยนะ ถ้ามึงเจอมันก็ไม่ต้องบอกกู กูไม่อยากรับรู้ ไม่อยากจะสนใจด้วย มันจะเป็นตายร้ายดียังไงก็เรื่องของพวกมัน ไม่มีเกี่ยวอะไรกับกูอีก ”

“ โอเคเข้าใจแล้ว ”  อีกคนพูดตอบกลับเสียงเบา

“ แล้วภาพนั้นก็ลบเลยนะ ไม่ต้องเก็บไว้ มึงอย่าไปเอาปัญหาของคนอื่นมาทำให้เป็นปัญหาของเรา ต่างคนต่างอยู่มันดีที่สุดแล้ว เข้าใจมั้ย ”

“ เข้าใจแล้วครับ น้องเข้าใจแล้ว น้องจะลบทันทีเลยหลังจากที่พี่เมดวางสายไปโอเคมั้ย ”

“ อื้ม ดีมาก ”

“ แต่วิวถามหน่อยสิพี่เมด ”

“ ว่า ”

“ แล้วถ้าพวกมันยังแกล้งพี่เมดอยู่เหมือนเดิม ยังวอแวอ้อนตีนกันอยู่แบบนี้ไม่ยอมปล่อย พี่เมดจะทำยังไง จะทนต่อไปเหรอ ”

“ อื้ม ก็คงงั้น ” ผมตอบ “ กูคงทำเป็นเฉยๆ เหมือนมองไม่เห็นไปนั่นแหหละ เพราะว่าถ้าเราไม่สนใจมันนานๆไป มันก็เบื่อแล้วก็เลิกสนใจเราเองนั่นแหละมั้ง ”

“ ก็คงมั้งนะจริงๆสำหรับคนพวกนั้น ” วิวถอนหายใจออกมาตอนที่บอก “ แต่จำคำวิวไว้นะพี่เมด ถ้ามันทำอะไรเกินขอบเขตขึ้นมาเมื่อไหร่ วิวไม่ปล่อยมันไม่แน่ แล้วก็ไม่สนใจด้วยว่าจะมีหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนมาห้าม ”

“ หน้าไอ้เจอะ ”

“ อันนั้นกูก็ไม่สนหรอก เพราะกูจะไม่มีวันปล่อยให้ใครมารังแกมึงเกินขอบแขตแน่นอน พี่กู กูรังแกได้คนเดียวคนอื่นกูห้าม มันไม่มีสิทธิ์ ”

“ เท่ห์สุดน้องวิวกู ” ผมเอ่ยแซวมันก่อนจะหัวเราะ “ แต่อย่าสร้างปัญหาเลยมึง กูพูดจริงๆนะ อีกไม่นานกูก็จบปีสี่แล้ว นี่ก็เทอมสุดท้ายแล้ว ทนๆไปเถอะ จบจากตรงนี้กูก็ไม่เจอมันแล้วละ ”

“ ไม่รู้ไม่ชี้ ”

“ เดี๋ยวกูจะฝากให้ไอ้เจคอยดูแลมึง กูจะอนุญาตให้มันหยิกหัวนมมึงได้ตามสบายถ้ามึงดื้อ ”

“ อีพี่เวร ฮ่าๆ ” อีกฝ่ายสบถออกมาก่อนจะตามด้วยเสียงหัวเราะ “ มึงต้องปกป้องกูสิ นี่น้องไง น้องวิวที่จะคอยปกป้องพี่เมด ”

“ ขอบใจมึงมากนะ แต่.. ”

“ แต่ไม่ต้องเสือกเรื่องกู  มึงจะพูดแบบนี้ใช่มั้ยพี่เมด โอเค กูเก็ตเลย  ” มีแต่เสียงหัวเราะที่ดังลั่นออกมาตอนที่มันพูดแบบนั้น ไม่อยากจะบอกอว่า ใช่ นั่นแหละคำที่กูจะพูดเลย แต่เพราะผมกลัวว่ามันจะโดนตอบกลับจากอีกฝ่ายแรงๆมากกว่า ถ้าเกิดยื่นมือเข้าไปเกี่ยว ไหนจะเจอีก ผมไม่อยากให้มันสองคนทะเลาะกันในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของมัน “ งั้นแค่นี้ก่อนแหละ มึงก็มีความสุขกับการดูพี่ส้มฉุนให้มากๆแล้ว แต่ระวังอย่าให้พี่อาฟรู้ละ ไม่งั้นโดนขังไว้ชั้นสามแน่นอน เชื่อกู ”

“ เออน่า แค่นี้แหละ ไว้คุยกัน ดูแลตัวเองด้วยนะ ”

“ พี่เมดด้วยนะ เข้าใจว่าพี่อาฟร้อนแรง แต่ก็อย่ามัวแต่จิ้มกับพี่อาฟละ แบบวันก่อนที่วิวกลับมายังอยู่กันในห้องไม่ออกมาแม้มันจะเที่ยงแล้ว แบบนั้นไม่เอาแล้วนะ ”

“ กูนอนมั้ย ไม่ได้เอากันไอ้บ้า ”

“ น้องได้ยินเสียงงงงง ” ผมส่ายหน้าไปมากับปลายสายที่พูดขึ้นมา “ ไม่รู้ละพี่เมดต้องตั้งใจเรียนด้วยนะ ”

“ มึงไปบอกตัวเถอะ แค่นี้แหละไอ้ตัวดี ”

“ รักพี่เมดนะ จุ๊บๆ ”

“ เออ จุ๊บๆ ” กดวางสายของไอ้น้องจอมป่วนนั่นลง ก่อนจะส่ายหน้ากับตัวเองแล้วก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ผมมองออกไปนอกหน้าต่างรถที่ตอนนี้เคลื่อนไปช้ากว่าทุกทีก่อนที่มันจะจอดลงเพราะสัญญาณไฟแดงด้านหน้าที่ฉายขึ้น อาฟดึงมือลงจากพวงมาลัยที่จับอยู่ แล้วในวินาทีต่อมามันก็ขยับเกียร์เข้าสู่โหมดจอด ก่อนจะดึงเบรคมือขึ้น แล้วก็นั่งนิ่งอยู่แบบนั้น

เราไม่ได้พูดอะไรกันแต่น่าแปลกที่มันกลับไม่อึดอัดเลยสักนิด คงเพราะเพลงที่เปิดอยู่ หรือบางทีอาจจะเป็นเมือหนาของอีกคนที่เอื้อมมือมาจับมือของผมไว้ อาฟกุมมือของผมหลวมๆ เป็นความรู้สึกที่ชวนให้อบอุ่นอย่างที่สุด แล้วในวินาทีที่เราสบตากันอีกคนก็ชี้ชวนให้ผมหันไปมองอีกฝั่ง

“ ดูนู้นสิ ”

“ อะไร ” เผลอหันไปมองแล้ววินาทีนั้น มือข้างที่กุมอยู่ก็โดนดึงขึ้นไปจูบแบบรวดเร็วก่อนจะโดนลดลงมาที่เดิม ในตอนที่ผมหันไปหันกลับไปมอง คนที่กระทำการนั้นก็แค่ตีหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนผมได้แต่กลั้นขำ “ อารยะ มึงไม่เนียนนะ ”

“ อะไรไม่เนียน ” ยังคงตีหน้าซื่อต่อไป ปล่อยให้ผมกลั้นยิ้มจนหูแดงหูแดงอยู่แบบนั้นกับความรู้สึกปั่นป่วนในท้องราวกับมีผีเสื้อเป็นฝูงบินไปวนไปมา

“ มึงจูบมือกู กูรู้นะ ”

“ แบบนี้น่ะเหรอ ” ถามออกมาก่อนจะดึงมือผมขึ้นจูบบนหลังฝ่ามือ แววตาคมนั้นจดจ้องกันก่อนจะยกยิ้มบอก “ กูไม่ได้ทำสักหน่อย ”

“ อารยะ มึงนี่มัน.. ” หน้าผมแดงไปทั้งหน้าในตอนนั้น บอกเลยว่า แพ้น็อคอย่างราบคาบ แต่ในใจก็ยังกร่อนด่าอีกคนด้วยความแค้น ‘ ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้สัด ’

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ผับ throw up ในช่วงเวลาก่อนเปิดร้านสำหรับวันที่มีอีเว้นท์ค่อนข้างวุ่นวายทุกครั้ง พนักงานเสิร์ฟที่กำลังวิ่งวุ่นกับการจัดการโต๊ะ หัวเรือใหญ่ของงานวันนี้อย่างเจ ยืนมองการทำงานของทุกคนอยู่ข้างๆพี่ซอง เวทีวันนี้ถูกต่อเติมออกมาเพราะต้องจัดตั้งเครื่องดนตรีแบบครบชุด

“ ทำอะไรอยู่ครับคุณแฟน ” คนมาใหม่ที่เอ่ยทักพร้อมกับแขนหนาที่กอดเข้าที่รอบคอ ผมหันไปมองน้องเดย์ที่ก็หันมายกยิ้มให้ก่อนที่จะมีแขนอีกแขนเอื้อมมาปัดมันออกไปแล้วกอดคอมเข้าแทนที่

“ ยุ่งไรกับแฟนกูเชี้ยเดย์ ” น้องอัยย์บอกแบบนั้นก่อนจะหันมายิ้มให้ผมที่ก็ได้แต่ถอนหายใจกับความขี้เล่นบาร์เทนเดอร์สองคนที่ก็ผลัดกันปัดมือของอีกคนให้ออกจากไหล่อยู่แบบนั้น

“ แฟนกู มึงอะถอยไปสัดอัยย์ ”

“ แฟนกู มึงนั่นแหละถอยไปไอ้เชี้ยเดย์ ”

“ เอ่อ ขอโทษนะครับ พอดีมีผัวแล้ว ”  ผมบอกน้องหน้านิ่งๆพร้อมกับสองมือที่ก็ยกขึ้นห้ามเด็กสองคนข้างตัวที่นิ่งไปแต่ถึงอย่างงั้นก็ยังรับมุกอย่างต่อเนื่อง

“ หนูบอกอเค้าไปสิ ว่าพี่คือผัวหนู ” น้องเดย์บอกน้องอัยย์ก็คว้ามือผมไปจับ

“ หนูเมด หนูบอกบอกเค้าสิค่ะ ว่าเมื่อคืนหนูบอกพี่ว่า ‘ yes daddy hit me harder ’ ” ได้แต่หันไปมองคนพูดแบบตาโต ก่อนจะหันไปมองที่ประตูทางเข้าผับแล้วทำทีเป็นตกก่อนจะพูดขึ้นทั้งๆที่ไม่มีใครมา

“ อ้าว อาฟ ”

“ สัดพี่ไอ้เชี้ยอัยย์มันลามกใส่พี่เมด มันบอกพี่เมดว่า yes daddy hit me harder สัดพี่ สัดพี่มาจัดการมันเลย สัดพี่!!! ”เสียงน้องเดย์ที่โวยวายออกมาเสียงดังแบบไม่ทันหันไปมองประตูว่าคนที่ผมพูดถึงเดินเข้ามาจริงๆมั้ย แต่นั่นก็ทำให้เพื่อนสนิทถึงขั้นเลิกลั่กก่อนจะชี้หน้าด่าเพื่อนตัวเองออกมา

“ ไอ้เชี้ยยยยยย ไอ้เพื่อนเหี้ยย มึงก็พูดไอ้สัด ” ว่าแบบนั้นก่อนจะหันไปมองประตูก่อนจะพบว่าไม่มีใครมา “ อ้าว แล้วไหนเฮีย ” มือที่กำลังชี้ด่าเพื่อนลดระดับลงหน้าตาเลิกลั่กที่กำลังกลั่วนั่นก็ด้วย น้องอัยย์หันมามองเราสองที่ก็ได้แต่หัวเราะท่าทางนั้นด้วยความถูกใจ

“ ฮ่าๆ ว๊ายยยยย โง่นี่ ”
“ K ” สถบออกมาใส่เพื่อนแค่นั้นก่อนจะหันมาจ้องผมตาแขม็งแบบโกรธๆ “ พี่เมดแกล้งน้องอัยย์เหรอ เดี๋ยวก็ทำให้ตกหลุมรักซะเลยดีมั้ยครับ ”

“ งั้นก็ต้องขอโทษทีนะน้องอัยย์ พี่เมดติดอยู่ในหลุมรักไอ้อาฟ คงออกไปตกในหลุมน้องอัยย์ไม่ได้หรอกนะครับ ”

“ โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย จิกตีนแล้วตัวกู ” สองเสียงของเพื่อนซี้ที่ประสานขึ้นแซวชวนให้ผมได้แต่ยิ้มขำก่อนจะส่ายหน้าบ่นเบาๆ

“ รำคาญพวกมึงชิบหาย แม่ง โคตรหนวกหู ไปทำงานได้แล้วไป ” โบกมือไล่แต่เหมือนจะไม่มีใครยอม ทั้งน้องเดย์น้องอัยย์ต่างก็กอดแขนผมไว้ไม่มีปล่อย ก่อนจะส่งเสียงแบบเด็กน้อยที่น่ารำคาญยิ่งกว่าสิ่งใดๆในโลกออกมา

“ น้องไม่ไป น้องจะอยู่กับพี่เมด พี่เมดของน้องเดย์ ” น้องเดย์บอกก่อนจะเอาหัวมาถูแล้วส่ายหน้าไปมาแขนผม ส่วนน้องอัยย์ก็เช่นกัน

“ ใช่ๆ น้องจะอยู่กับพี่เมด น้องอัยย์จะอยู่กับพี่เมด  ”

“ โว๊ยยยยยย กูรำคาญญญญญญญญ ปล่อยกู ” สะบัดแขนออกเสียงหัวเราะดังลั่นออกมาด้วยความถูกใจของคนช่างกวนตีนที่ก็สรรหามาให้ปวดหัวไม่มีหยุด

“ เออ วันนี้พี่ส้มฉุนมานี่หว่า ” น้องเดย์ที่หันมองตรงเวทีเอ่ยบอก ตอนนั้นน้องอัยย์ก็พูดขึ้น

“ กูโคตรชอบเพลงเค้าเลย เพลงความคิดอะโคตรเพราะ ”

“ ใช่มั้ย พี่เมดก็ชอบเพลงเค้ามากเหมือนกัน ” หันบอกน้องอัยย์คนที่มีความคิดเดียวกัน “ เพลงความคิดนะเป็นเพลงที่โคตรดีฟังกี่ครั้งก็เศร้าอะ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้อกหักเหี้ยอะไรหรอก ”

“ จริง แล้วทุกเพลงคือดังทุกเพลงเลยอะ ขนาดไปร้องร่วมกับคนอื่นแค่มีเสียงเค้าก็ยังรู้สึกเพราะเลย ”

“ ใช่มั้ยน้องอัยย์นี่พี่เมดคิดว่าพี่เมดคิดไปคนเดียว คือเสียงเค้ามีเอกลักษณ์มากๆอะ  พี่เมดนะชอบทุกเพลงของเค้าเลยรู้มั้ย แล้วมันก็ดีไปหมดเลยเนอะ ไม่ว่าจะเป็นทำนองเนื้อร้องดนตรี ออกเพลงใหม่มากี่ครั้งก็ไม่เคยผิดหวังอะ นี่ขนาดให้พี่เมดเลือกเพลงที่ชอบที่สุดพี่เมดยังเลือกไม่ได้เลย แล้วก็นะ..”

“ เดี๋ยวนะ นี่พี่เมดเป็นแฟนคลับพี่ส้มฉุนเหรอวะ ”

ในตอนนั้นผมได้แต่อ้าปากค้างกับคำถามของน้องที่ถามกันออกมาแบบยิ้มๆ ในใจก็ได้แต่สบถออกว่า ‘ ชิบหาย ’ แล้วมองซ้ายทีขวาทีอย่างไม่รู้จะอ้างอะไรออกมาในวินาทีนั้น ครั้นจะบอกความจริงก็คิดขึ้นมาได้ว่า ‘ ถ้าพวกมันรู้ อาฟแม่งก็ต้องรู้ ’

“ เปล่า ” ส่ายหน้าบอกก่อนจะส่งยิ้มไปให้ “ แต่แค่ชอบฟังเพลงเค้าเฉยๆไง ไม่ได้ซื้อหรอกพวกซีดี โหลดเพลงอะไรแบบนั้น แค่ฟังเพลงเฉยๆ ”

“ รู้มั้ยว่าเป็นคนโกหกไม่เนียน ” น้องเดย์บอก ผมก็ได้แต่ทำทีเป็นเกาคอแล้วมองไปทางอื่น สายตาที่จ้องมาแบบจับผิดของเด็กสองคน

“ ไม่ได้โกหก แค่ชอบฟังเพลงเค้าเฉยๆเท่านั้นจริงๆ ” ยังคงย้ำแบบนั้นแม้จะไม่ได้รับสายตาที่เชื่อถือกลับมาเลยก็ตาม “ ไปๆ แยกย้ายไปทำงาน พี่เมดขึ้นชั้นสามละ บัญชีเยอะมากจะสิ้นเดือนแล้วด้วย ” หันหลังเดินออกมาจากเด็กสองคนนั้นก่อนจะถอนหายใจโล่งอกออกมาเฮือกใหญ่ตอนที่แตะคีย์การ์ดผ่านเข้ามาตรงทางขึ้นชั้นสามได้  “ รอดตายไปกู ”

“ ห๊ะ ว่าไงนะ ? ” เสียงถามที่ทำให้ผมสะดุ้งด้วยความตกใจ หัวใจที่แทบจะหยุดเต้นผมจับที่อกตัวเองก่อนจะมองคนที่เดินลงบันไดเข้ามาใกล้

“ ตกใจหมดเลย ไอ้เชี้ยเอ้ย ”

“ เป็นบ้าอะไร กูต้องถามมึงมากกว่าเป็นอะไรถึงมายืนบ่นอยู่คนเดียว ” คำถามที่ทำให้ผมส่ายหน้าไปมาแรงๆก่อนจะตอบ

“ เปล่าเป็น ”

“ รู้มั้ยว่าเป็นคนโกหกไม่เนียน ” คำพูดเหมือนน้องเดย์ถูกพูดขึ้น ผมก็หันไปมองอาฟที่หยุดยืนอยู่ตรงบันไดสองขั้นสุดท้าย คนที่ตัวสูงกว่าในตอนนั้นกอดอกก่อนจะก้มมองกันด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะบอกกันว่ามันรู้เรื่องผมดีทุกเรื่อง แล้วนั่น แม่งก็เป็นอะไรที่โคตรน่าหมั่นไส้

“ กูโกหกไม่เนียนยังไงวะ ก็กูไม่ได้โกหกสักหน่อย ”

“ งั้นไหนลองพูดเรื่องโกหกให้กูฟังสักข้อ ”

“ กูเกลียดมึง ” บอกแบบนั้นแต่คนที่อยู่ตรงหน้าก็แค่ยิ้ม ก่อนจะก้มลงมาใกล้กันมากขึ้น สายตาคมนั้นจ้องลงไปลึกในสายตาของผม มันบอก

“ ไม่เนียน ”

“ งั้นมึงก็คงโกหกแนบเนียนมากเลยสินะ ” อีกฝ่ายไม่ตอบอะไร อาฟแค่ขยับตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นก่อนจะเอียงหน้าเพื่อบรรจงจูบลงบนริมฝีปากอย่างแผ่วเบา

“ กูรักมึง ” พูดแค่นั้นก่อนจะผละออกแล้วก็เดินออกไปจากตรงบันได ทิ้งไว้แค่ผมที่ยังคงยืนนิ่งอยู่แบบนั้นไม่ไปไหน เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ร่างกายมันชา แม้แต่หัวใจยังเหมือนจะจมหายไปที่สักที่ มันเป็นครั้งแรกที่อาฟบอกรักผม แต่ว่านะ..

“ เมื่อกี้กูแม่งให้มันพูดโกหกไม่ใช่เหรอวะ ” ขมวดคิ้วกับตัวเอง ความตื่นเต้นเมื่อครู่หายไป ผมได้สติ “ แล้วนี่ตกลงแม่งรักกูเปล่าวะ ”

เก็บคำถามนั้นเดินคิดขึ้นมาจนถึงห้องทำงาน ผมเปิดคอมก่อนจะหันไปมองเวลาที่กำลังเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ   ผมคิดขึ้นได้ว่าตัวเองควรปล่อยทุกอย่างไปก่อน ตอนนี้ควรรีบทำงานให้เสร็จแล้วสักสี่ทุ่มครึ่งก็ทำทีลงไปทำสต๊อกเหล้าที่บาร์ จัดเรื่อยๆ นานๆ จัดไปฟังเพลงที่ส้มฉุนไปอย่างแนบเนียน แผนวันนี้ ผมตั้งใจไว้แบบนั้น

“ อ้าว พี่เมด ” เสียงทักของน้องเดย์เอ่ยทักผมตอนที่เดินเข้ามาส่วนบาร์ในช่วงเวลาสี่ทุ่มครึ่งตามเวลาที่กำหนดไว้พอดี

“ มาเช็คสต๊อกเหล้าน่ะ ”

“ เพิ่งเช็คไปเมื่อสองวันก่อนไม่ใช่เหรอวะ ” คำถามของน้องทำให้ผมหวนคิดว่ามันก็จริงอย่างงั้น ช่างเป็นคนที่วางแผนได้โง่ๆมากเลยไอ้เมด  “ เหล้าใหม่ก็ยังไม่ลงไม่ใช่เหรอ ในบาร์ก็ไม่มีอะไรเพิ่มนะ ไม่ต้องเช็คหรอกพี่เมด ”

“ เพื่อความมั่นใจไง เดี๋ยวสต๊อกผิด ”

“ ไม่ผิดหรอกวันนั้นก็เช็คตั้งหลายรอบแล้ว ” น้องอัยย์บอกผม “ พี่เมดขึ้นไปพักผ่อนข้างบนเถอะ ไม่มีอะไรแล้ววันนี้อะ อีกอย่างพี่ส้มฉุนมาเช็คไปก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดีคนเค้ากรี๊ดกัน ไว้เช็คพรุ่งนี้ ”

“ อยากเช็ค ”ผมบอกน้องเสียงเบา ก่อนจะส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ “ เช็ควันนี้เถอะ นะ เช็ควันนี้ ”

“ ก็บอกน้องไปว่าชอบพี่ส้มฉุน เช็คเลยวันนี้ ” หันไปมองต้นเสียงที่เอ่ยบอกกัน เจที่กำลังนั่งท้าวคางอยู่ที่โต๊ะอีกฝั่งนึงของบาร์มันยิ้มให้ผม ส่วนคนที่นั่งข้างกันเป็นไอ้อาฟที่นั่งกินเหล้าอยู่

“ แล้วทำไมมานั่งฝั่งนี้วะนั่น ”

“ ก็จะได้ให้น้องเมดแฟนพี่อาฟนั่งดูพี่ส้มฉุนถนัดๆไงละครับ ”

“ หมายความว่าไงวะ ” ผมหลุดถามออกไปด้วยความงุนงง คิ้วของผมขมวดเข้าหากันก่อนจะเอียงหน้ามองคนพูดที่ก็ยังยิ้มอยู่แบบนั้น เหลือบไปมองอาฟมันก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วตอนนั้นน้องเดย์ก็บอกผม

“ พี่เมดไปนั่งข้างสัดพี่ไป สัดพี่มันเหลือที่นั่งไว้ให้ที่หนึ่ง ”

“ เดี๋ยวนะ นี่รู้กันหมดแล้วเหรอ ” ไมได้เดินไปตามแรงผลักของน้องแต่ผมกลับเอ่ยถามเจออกไปด้วยความงุนงง “ คือ ช่วยเล่ากูก่อน กูงง แล้วที่กูปิดบังอยู่นี่คือ พวกมึงรู้กันหมดแล้ว ”

“ ก็บอกอยู่ว่ามึงเป็นคนโกหกไม่เนียน ” อาฟบอกก่อนจะยกเหล้าที่ตั้งอยู่ตรงหน้าขึ้นกิน มันถอนหายใจออกมาก่อนจะส่ายหน้าแล้วมองผม “ โง่ซะจริง ”

“ เอ้า ไอ้สัด ”

“ คืออย่างงี้นะ เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนที่กูนั่งคิดว่าจะติดต่อศิลปินคนไหนให้มาเล่นดนตรีในผับดี วิวมันก็เสนอว่าให้เอาพี่ส้มฉุนมา เพราะพี่ชายมันชอบ กูเลยเอามาบอกเจ้าของผับ throw up แล้วพอเค้ารู้ว่าแฟนเค้าชอบ เค้าก็ปฎิเสธเลย บอกว่า ไม่ ทำไมกูต้องไปจ้างคนที่ไอ้เมดชอบมาทำให้มันมีความสุขทั้งๆที่มันควรเป็นกูที่ทำได้คนเดียว ” ผมเหล่มองอาฟตอนที่เจพูดออกมาแบบนั้น แต่อีกคนก็แค่เอื้อมมือไปตบหัวเพื่อนก่อนจะบอก

“ เงียบปากมึงไปไอ้สัด ”

“ แล้วคราวนี้พอไอ้วิวรู้ ด้วยความรักพี่ชายอยากให้พี่ชายได้เจอพี่ส้มฉุนไอดอลในดวงใจ มันก็เลยเอามือถือกูโทรไปบอกไอ้อาฟด้วยเสียงตอแหลว่า ช่วงนี้พี่อาฟไม่สังเกตเหรอว่าพี่เมดไม่ค่อยร่าเริงเลย แถมยังเจอแต่เรื่องแย่ๆอีก พี่อาฟควรทำให้บรรยากาศระหว่างพี่อาฟกับพี่เมดกลับมาเหมือนเดิมสิ จ้างพี่ส้มฉุนเถอะ เค้ามีเมียแต่งงานแล้วไม่ต้องหึงหรอก พี่เมดก็ชอบแค่เพลงเท่านั้น บลาๆ เท่านั้นแหละ ”

“ จ้างพี่ส้มฉุนเลย ” น้องอัยย์บอก เจก็ส่ายหน้า

“ วางสายใส่ไอ้วิวไปเลย ” หลุดขำออกมาทั้งโต๊ะไม่เว้นแม้แต่แขกที่นั่งอยู่ที่บาร์ที่ก็ได้ยินเสียงสนทนาของเรา “ แล้วหลังจากนั้นไม่นาน สักห้านาที พี่อาฟคนเดิมก็โทรกลับมาหากูแล้วก็บอกให้จ้างพี่ส้มฉุนมาที่ผับ ”

“ มันคงเป็นความรักเนอะ ” น้องเดย์หันมาแซวผมด้วยชื่อเพลงนึงของพี่ส้มฉุน

“ แล้วก็ไม่บอกกูตั้งแต่แรกนะไอ้สัดอาฟ ปล่อยให้กูคิดว่ามึงไม่รู้ตั้งนาน ” บอกอีกคนที่ก็ยกยิ้มขึ้นมา อาฟวางแก้วเหล้าที่กำลังถือ

“ ถ้ากูไม่รู้ กูไม่เลือกชุดนี้ให้มึงใส่หรอก ” อาฟยักคิ้วให้ผมที่ก็ก้มลงมองเสื้อผ้าตัวเอง “ ถามจริง มึงไม่คิดว่ามันดูเก่าบ้างรึไง ใส่จนสีมันซีดหมดแล้ว ตัวสีเทาใส่แล้วดูดีกว่าอีก ”

“ ก็แล้วทำไมมึงไม่บอกกุละไอ้สัด ”

“ บอกให้โง่เหรอ ” อาฟหันมาปรายตามองผมก่อนจะพูดเสียงเบา “ ทำไมกูต้องทำให้มึงดูน่ารักในสายตาคนอื่นด้วย ให้มันอยู่แค่ในสายตากูคนเดียวก็พอแล้ว “

คำพูดนั้นทำให้ผมนิ่งแล้วก็ได้แต่ยืนถอนหายใจเบาๆออกมา หน้าแดงที่ไม่รู้จะเอาสายตาไปมองทางไหนไม่ต่างกับอาฟที่ก็เอาแต่มองไปทางอื่นเช่นกัน ในช่วงเวลานั้นคนสามคนที่ได้ยินอย่างน้องเดย์ น้องอัยย์แล้วเจ ได้แต่ตาโตก่อนจะทำท่าอ้วกแบบไม่มีเสียงกันถ้วนหน้า

“ มานั่งนี่ อีกสิบนาทีแม่งก็ขึ้นแล้ว ไปยืนเกะกะอยู่ในบาร์อยู่ได้ ”

“ เพราะงั้นก็ไปนั่งเกะกะอยู่ข้างๆสัดพี่ไป๊ ” น้องเดย์หันมาบอกผม ที่ก็เดินไปออกไปจากบาร์แล้วก็นั่งลงข้างอาฟอย่างว่าง่าย

“ ขยับชิดๆหน่อย คนจะมานั่งบาร์ ” เจบอกก่อนจะขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้อาฟมากกว่าขึ้น จนอีกคนขยับตัวเข้ามาใกล้ผม จนแขนเราเบียดกัน ไม่ต่างอะไรกับฉากรักของเด็กมัธยมต้นที่เวลาเพื่อนได้นั่งข้างคนที่ชอบ คนที่เหลือก็จะพยายามเบียดๆให้เราได้ใกล้กัน แต่ว่านะ.. กูสองคนก็ได้กันแล้วไง อะไรแบบนี้ก็คงไม่ต้องแล้วมั้ง เบียดกว่านี้ก็เคยมาแล้ว

“ พี่เมดกินอะไรมั้ย ค๊อกเทลสักแก้วสิเวลาแบบนี้ ”

“ เสือก ” อาฟบอกน้องอัยย์ที่ก็เสนอตัวจะชงค็อกเทลให้ผม

“ น่าเฮีย ให้มันเข้ากับบรรยากาศ ”

“ เอาสเมอร์นอฟมาขวดนึง ” ผมบอกน้องอัยย์ อาฟก็หันมามองหน้าผมเหมือนจะดุกันด้วยสายตา “ ขวดเดียวเองมึง ไม่เมาหรอก นานๆจะกินสักครั้ง ”

“ เออ ขวดเดียวเอง ให้พี่เมดกินๆไปเถอะน่า เฮียก็นั่งเฝ้าอยู่ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเมาก็นู้นเลย ชั้นสาม เตียงยังว่างเพื่อเธอ ” คนยุยงวางเจ้าขวดที่ผมสั่งลงตรงหน้า อาฟที่มองกันไม่วางตาตอนนั้นผมก็หยิบขวดไปชนกับแก้วของมันเหมือนชวนให้ดื่ม ก่อนที่ผมเองจะยกมันดื่มเข้าไป

รสชาติประหลาดไหลลงคอ ขมนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ ไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่เพื่อบรรยากาศผมก็กินได้ จดจ้องไปบนเวทีด้วยความตื่นเต้น ท่าทางที่ทำให้น้องอัยย์ที่ยืนอยู่ตรงหน้ากันเอ่ยทัก

“ พี่เมดนี่ ท่าทางจะชอบพี่ส้มฉุนมากนะ มองไม่วางตาเลย ”

“ ชอบมาสิ ชอบมาตั้งแต่สมัยม.ปลายแล้ว ชอบเพลงเค้า ชอบมากๆ ” บอกแบบนั้นผมก็หันไปมองอาฟที่ก็ทำหน้านิ่งไม่สนใจ แล้วตอนนั้นเจก็หัวเราะ

“ ทำเป็นนิ่งไอ้สัด หึงก็บอกไป ”

“ หึงเหี้ยอะไร ไร้สาระ ”

“ อ๋อเหรออออ ไว้กูจะคอยดูคนไม่หึงนะครับพี่อาฟ ” ลากเสียงยาวแบบยียวนกวนประสาทก็เลยโดยตบหัวไปฉาดหนึ่งแบบแรงๆ

“ ขึ้นละ ” เสียงของผมพูดขึ้นพร้อมกับเสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นมาจากคนรอบๆผับ ผมหยุดยิ้มไม่ได้เลยตอนที่เห็นเค้าอยู่บนเวทีตรงนั้น ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับในภาพที่เห็นหรือสื่อทีวีเท่าไหร่นัก แต่น่าแปลกที่หัวใจของผมกลับเต้นเร็วจนต้องจับมันไว้ ใบหน้าที่หยุดยิ้มไม่ได้ของผม เพลงแรกที่เปิดแสดงเป็นหนึ่งในเพลงที่ผมชอบที่สุด

“ ชื่อเพลงอะไรวะพี่เมด ” น้องอัยย์ถามผม

“ เพลงให้ตายสิพับผ่า ” คำตอบที่ได้รับทำให้น้องยกนิ้วโป้งให้ ปากของผมฮัมเพลงพร้อมกับโยกหัวไปตามจังหวะของเพลง ก่อนที่เพลงนั้นจะจบลงแล้วต่อขึ้นประโยคขึ้นต้นเพลงที่แสนคุ้นเคย ผมร้องตามคนที่ร้องอยู่บนเวทีสายตาที่ไม่ละออกไปไหนแต่ในตอนนั้นก็รู้สึกมีสายตานึงหันมามองกันอยู่ตลอด

“ มองอะไร ” ผมหันไปมองอาฟ “ หึงเหรอวะ กูแค่มองคิลปินที่กูชอบเองนะ ”

“ กูไม่ได้ว่าอะไร มึงก็มองไปสิ ” อีกคนบอกแต่ก็ยังมองผมอยู่แบบนั้น “ กูก็กำลังมองคนที่กูชอบอยู่เหมือนกัน ”

“ ท๊อปฟอร์มเกินไปแล้วมั้งไอ้สัด หัวใจกูระเบิดขึ้นมาทำไง ” ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนตอนที่บอกแบบนั้น แต่อาฟกลับไม่ได้ตอบอะไรมันแค่จับมือผม

“ เงียบ แล้วฟัง  ”

‘ มันคงเป็นความรักที่ทำให้ตัวฉันยังยืนอยู่ตรงนี้ มันคงเป็นความรักที่ทำให้ตัวฉันไม่ยอมหยุดเสียที
แม้ว่าเหมือนไม่มีโอกาส แม้ว่าฉันต้องพลาดไปอีกสักที แต่ว่าความรักก็ยังขอให้ฉันทำแบบนี้
ที่จะให้เธอจนกว่าเธอจะรับ บอกรักเธอจนกว่าเธอนั้นจะยอม
เธอคือความสุขของฉัน ถ้าเธอไม่รับมันให้ฉันเริ่มต้นอีกกี่ครั้งก็พร้อม
หากสุดท้ายเธอไม่เปลี่ยนใจ ไม่เป็นไรใจฉันก็ไม่ยอม
เธอรอให้ฉันหยุดหัวใจ คงต้องรอให้โลกหยุดหมุนไปก่อน ’

ทำได้แค่สบตากันอยู่แบบนั้น ผมไม่ได้หันไปมองเวทีตั้งแต่นั้น ทั้งผมทั้งอาฟไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้นแต่รอบตัวเรากลับอบอุ่นราวกับกำลังโอบกอดและบอกรักกันด้วยคำพูดแสนหวาน ทั้งๆที่มีเพียงแค่สายตา และมือที่กุมกันเอาไว้ เป็นความเงียบที่อยู่ในความรู้สึกที่กำลังรายล้อมอยู่รอบตัวเรา แล้วในตอนนั้นอาฟก็ถามผม

“ ชื่อเพลงอะไรนะ ”

“ มันคงเป็นความรัก ” ผมบอกอีกคนก็ยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ

“ อื้ม มันคงเป็นความรัก ”


ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
หัวใจของผมมันอ่อนแรงลง ได้แต่ถอนหายใจออกมาช้าๆ อยากเอ่ยปากร้องเรียนมันว่า ‘ พอได้แล้ว ไม่ไหวแล้ว หัวใจจะระเบิดออกมาแล้ว ’ แต่เหมือนจะไม่มีใครรับฟังคำกล่าวนั้นเลย อาฟยังคงจับมือผมไว้แล้วจับไว้แน่นแบบนั้นไม่ยอมปล่อย

“ มึง ”

“ ว่า ” อีกคนหันมามองตอนที่ผมเรียก

“ กอดหน่อยได้มั้ยวะ ” มันเป็นความต้องการของผมที่รู้สึกอยากจะทำมันเหลือเกินในตอนนี้ ผมอยากกอดอาฟแต่เขินเกินกว่าจะเอื้อมมือเข้าไปกอดมันไว้ทั้งๆที่มีผู้คนรายล้อมเราไว้แต่ ณ ขณะนั้นผมลืมมันไปแทบทุกอย่าง ราวกับมีเราแค่สองคนในตอนที่อาฟยกยิ้มแล้วก็เอื้อมมือมากอดไหล่ผมไว้ก่อนที่มันจะดึงผมให้เข้าไปซบลงตรงไหล่ “ กูโคตรอินเพลงเลยว่ะ ไม่ว่าเพลงไหนที่เค้าร้อง ก็เหมือนแม่งต้องมีสักท่อนที่หมายถึงกูกับมึง ”

“ งั้นเหรอ ”

“ คงจริงอย่างที่ใครเค้าพูดกันมั้ง ”

“ พูดว่า ”

“ คนเราเวลารักใคร เค้าจะเข้าไปอยู่ในเพลงโปรดของเรา แล้วก็เป็นคนในเพลงโปรดเพลงนั้น ” อาฟไม่ได้ตอบอะไรผมเองก็ได้แต่เงียบไป จนเพลงที่แสนไพเราะนั่นจบลง ด้วยชื่อเพลงของมัน ‘ มันคงเป็นความรัก ’

“ ไหนใครที่นี่รู้สึกว่า แฟนปัจจุบันที่มีมันดีกว่าแฟนเก่าบ้าง ” พี่ส้มฉุนพูดขึ้นบนเวที ผมที่ตอนนั้นดึงตัวเองขึ้นจากอกของอาฟก่อนจะยกมือขึ้นแบบสุดแขน

“ ผมครับ! ” เสียงตอบของผมตะโกนออกไปพร้อมกับแขกคนอื่นๆ

“ พี่เมดดด ” บาร์เทนเดอร์สองคนประสานเสียงกันขึ้นมาก่อนจะตบมือถูกใจไม่ต่างอะไรกับเจที่ก็ถึงขั้นสำลักเหล้าที่กำลังกินอยู่ อาฟเองก็นิ่งไปก่อนจะถามผมแบบยิ้มๆด้วยอาการหูแดงกำเริบ

“ มึงเมาเหรอเมด ”

“ ไม่ได้เมา เมาอะไรกูกินไปคำเดียวเอง กูพูดเรื่องจริงต่างหาก ”

“ สุดยอดเลยพี่เมดกู ” น้องเดย์บอกก่อนจะยื่นมือมาจับมือผมด้วยความชอบใจ  ผมที่ตอนนั้นหันไปมองอาฟก่อนจะยักคิ้วให้

“ ไม่ยอมให้มึงท๊อปฟอร์มคนเดียวหรอกอาฟ ” ทำนองสนุกของเพลงดังขึ้นผมโยกหัวไปตามทำนองนั้น ก่อนจะกอดคออาฟไว้ตอนที่ร้องเพลงท่อน ‘ ฉันมีความสุขดีอยู่แล้วกับคนปัจจุบัน ’

“ มึงแน่ใจนะ ” อาฟถามผมตอนที่ยกเหล้าขึ้นกิน

“ แน่ใจสิ ทำไม ? มึงคิดว่ากูไม่แน่ใจ ”

“ ก็เห็นอาทิตย์ที่แล้วร้องไห้เหมือนจะตายให้ได้ ”

“ โห สภาพมึงต่างกับกูมากเลย ” ผมแซวอีกคนก็หันมามองหน้า “ แต่ความรักมันก็แบบนี้แหละมึง สุขบ้างเศร้าบ้าง ไม่งั้นมันจะเรียกว่าการเรียนรู้เหรอ ”

“ กูว่ามึงเมา ” คนข้างตัวหัวเราะมันบอกย้ำแบบนั้นกก่อนจะดึงหน้าเข้ามาหอมแก้มผมเบาๆ

“ กูว่ามึงมากกว่าที่เมา ” บอกอาฟก่อนจะหันไปมองที่เวทีอีกครั้งก่อนจะถูกอีกคนเรียกชวนคุยอีกครั้ง

“ นี่เมด ”

“ มึงเลิกชวนพี่เมดคุยได้มั้ยสัดพี่ กูไม่เห็นพี่เมดได้ดูพี่ส้มฉุนดีๆเลย พอเค้าตั้งใจดูมึงก็เรียก วอแวอยู่นั่นอะ ” น้องเดย์บอกก่อนจะส่ายหน้าไปมา แล้วตอนนั้นเจก็พูดขึ้น

“ มันหึงไง มันไม่อยากให้แฟนมันไปจดจ้องคนอื่นมากกว่ามัน ”

“ กูไมได้หึงปัญญาอ่อนขนาดนั้น ” อาฟเถียงกลับน้องชายตัวเองกับเพื่อนสนิทก่อนจะทำเป็นยกเหล้าขึ้นกินแบบไม่ใส่ใจ

“ งั้นมึงก็เงียบๆไปสักที ให้พี่เมดได้ตั้งใจดูสักเพลงสองเพลงก็ยังดีนะสัดพี่ ” พอน้องบอกแบบนั้น คนที่กำลังจะชวนผมคุยก็ต้องเงียบไป 

ผมนึกขอบคุณน้องเดย์ที่หยุดมัน แต่ก็แอบสงสารมันเหมือนกันที่ทำได้แค่นิ่งอยู่แบบนั้น อาฟเป็นคนขี้หวงผมรู้ว่ามันไม่ชอบหรอกที่ผมจะไปจดจ้องใครคนอื่นที่ไม่ใช่มันแบบนานๆด้วยสายตาชื่นชม และเพราะเป็นแบบนั้นมันก็เลยต้องแอบมองผมสลับกับพี่ส้มฉุนอยู่ทุกห้านาที ในใจตอนนั้นมันคงบ่นไม่หยุด เพราะอยากจะให้การแสดงนี้มันจบลงซะที

“ เพลงสุดท้ายแล้วอะ ” ผมพูดออกมาก่อนจะถอนหายใจ เพลงฮิตของเค้าถูกร้องขึ้นมา ผมร้องเพลงตามเค้าไปเรื่อยๆมีความสุขจนอธิบายไม่ถูก มันเหมือนได้รับพลังอะไรสักอย่าง เป็นความรู้สึกที่พองโตอยู่ในหัวใจ เสียงปรบมือดังมาจากทั่วทุกทิศตอนที่เค้าแสดงจบลงผมเองก็นั่งปรบมืออยู่แบบนั้นจนกระทั้งเจหันมาถาม

“ เมด ถ่ายรูปกับพี่ส้มฉุนสักรูปมั้ย ”

“ ได้เหรอ ”

“ หันมาถามกูสิ ” อาฟพูดขัดขึ้นผมก็หันไปมองหน้ามันที่ก็ทำหน้านิ่งแบบไม่พอใจอยู่

“ นะ ขอถ่ายรูปสักใบสิ อยากถ่ายอะ นะอาฟนะ ขอกูถ่ายสักใบ ”

“ ไม่หึงเนอะ บ้าน่า กูไม่หึงอะไรปัญญาอ่อนหรอก ” น้องเดย์บอกก่อนจะยักคิ้วท้าพี่ชายตัวเองที่ก็พอหันไปมองน้องตัวเองแล้ว จะกลับคำเห็นทีว่าจะไม่ได้แล้ว

“ จะถ่ายก็ถ่ายสิ ”

“ เยส! ” ก่อนจะยื่นมือถือไปให้เจ แต่อาฟกลับคว้ามันไว้ก่อน

“ กูถ่ายให้เอง ” มันบอกแบบนั้นเราทุกคนก็หันมองหน้ากันเพราไม่ไว้ใจในตัวมันเท่าไหร่ แต่ในตอนนั้นผมก็พยักหน้ารับ

“ โอเคได้ ”

“ เดี๋ยวกูไปตามให้ พวกมึงอยู่นี่แหละ ” เจเดินออกไปจากเก้าอี้ที่นั่งผมในตอนนั้นก็ผ่อนลมหายใจออกมาเพื่อระงับความตื่นเต้นทั้งหมดที่มียกมือขึ้นเช็ตผมตัวเองปัดไปมาให้เข้าที่ก่อนจะหันไปถามอาฟ

“ มึงเป็นไง หน้าตากูมันโอเคยัง ”

“ ยัง ” เสียงไม่สบอารมณ์บอกก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้หัวผมจนยุ่ง

“ โอ๊ยยย ปล่อยหัวกูไอ้สัดอาฟ ”   ดึงหัวตัวเองออกจากมือของอีกคนผมหันไปมองกระจกข้างๆที่นั่งแล้วพบว่าตอนนี้สภาพหัวผมมันยุ่งซะจนดูไมได้เลย “ มึงแม่งกวนตีน ทำผมกูยุ่งหมด ”

“ อาฟ ” เสียงของเจทักอีกคนที่หันไปมอง ข้างๆเจมีพี่ส้มฉุนยืนอยู่ “ นี่คุณอาฟครับเป็นเจ้าของผับ throw up ”

“ สวัสดีครับ ”

“ สวัสดีครับ ” คนสองคนที่เอ่ยทักกันก่อนที่เจจะหันมามองผม

“ ส่วนคนนี้เป็นคนที่อยากจะถ่ายรูปด้วย คุณเมดเป็นเล..”

“ เป็นแฟนผมครับ ” อาฟพูดแทรกขึ้นไปเจก็ได้แต่เม้มริมฝีปากตัวเองกลั้นขำไว้ มันคงคิดเหมือนผมกับคำที่อาฟพูด ‘ ไม่ได้ขี้หึงขนาดนั้น ’ 

“ สวัสดีครับ ” ก้มหน้าลงทักอีกคนที่ก็เอ่ยตอบรับกลับ

“ สวัสดีครับ ”

“ คนนี้เค้าเป็นแฟนคลับของคุณส้มฉุนมานานแล้วนะครับ เค้าชอบคุณมากเลย ”

“ แค่ชอบเพลง ” อาฟบอกเสริมคำพูดเจที่อีกคนก็ถึงกับนิ่งไปเลย เพราะปรับสีหน้ากับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ค่อยถูก มันเงียบอยู่สักพัก ขนาดพี่ส้มฉุนก็ยังต้องยืนยิ้มแห้งๆ ก่อนที่เจจะดึงสติตัวเองกลับมาได้ แล้วพูดขึ้น

“ ขออนุญาติคุณส้มฉุนช่วยถ่ายภาพกับคุณเมดสักรูปนะครับ ”

“ ได้เลยครับ ไม่มีปัญหา ” พี่ส้มฉุนบอกอย่างดีเค้าเดินเข้ามายืนข้างผม ที่ตอนนั้นทำได้แต่เม้มปากตัวเองแน่นก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ ถ่ายสิครับคุณอาฟ ” เจบอกอีกคนที่ก็ยกกล้องขึ้น อาฟกดถ่ายก่อนจะล็อคหน้าจอแล้วส่งคืนให้ผม

“ เดี๋ยวขอกล้องนี้ด้วยครับ ” เจยกมือถือตัวเองขึ้นมามันกดถ่ายรูปผมไปสองสามรูปก่อนจะพยักหน้ารับขอบคุณพี่ส้มฉุน ผมเองก็ยกมือไหว้เค้าปากหนักจนพูดอะไรไม่ออกเลย แม้คำพูดที่จะบอกว่า ‘ ผมชอบเพลงพี่มากๆ ขอบคุณที่ทำเพลงดีๆมาให้ฟังตลอดเลยนะครับ ’  ทุกอย่างนั้นมันถูกความตื่นเต้นกลืนไปจนหมด  เหลือไว้แค่คำพูดสั้นๆ

“ ขอบคุณมากครับ ” เพียงเท่านั้น ก่อนที่พี่ส้มฉุนจะเดินออกไปพร้อมกับผู้จัดการร้านของเราที่มีหน้าที่เดินไปส่ง ส่วนผมก็ได้แต่มองเค้าไปจนสุดสายตาที่เค้าออกไปจากประตูหลังของผับ

“ พี่เมด ไหนขอดูรูปหน่อย ” น้องอัยย์ที่ยืนอยู่ในบาร์ยื่นมือมาขอดูภาพผม ที่ก็หยิบขึ้นมาดูด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุขในใจที่พูดกับตัวเองแค่ว่า ‘ ภาพใบแรกที่ถ่ายคู่กับพี่ส้มฉุน ภาพใบแรก..’ แต่ทว่าผมก็ต้องนิ่งไปตอนที่ได้เห็นภาพตัวเองที่อยู่ในนั้น

“ กูถามจริงดิ ” เงยหน้ามองอาฟที่ตอนนี้กลับไปนั่งกินเหล้าตรงที่เก้าอี้ของตัวเอง น้องเดย์น้องอัยย์หรือแม้แต่เจชะโงกหน้าเข้ามาดูมือถือผมด้วยความสงสัยก่อนที่ทุกคนจะหัวเราะออกมาเสียงดังตอนที่เห็นภาพนั้น

มันเป็นภาพคู่ของผมกับพี่ส้มฉุน ที่ไม่มีส้มฉุนอยู่ในนั้น ใช่แล้ว อาฟมันถ่ายแค่ผม แค่ผมคนเดียวเท่านั้น

“ แล้วก็บอกว่าไม่หึงปัญญาอ่อน โถ่ไอ้สัด มึงนั่นแหละตัวปัญญาอ่อนเลยไอ้เหี้ยอาฟ ” เจที่พูดออกมาก่อนจะเดินไปผลักหัวเพื่อนแล้วนั่งลงข้างกัน

“ กูไม่ได้หึง ” อาฟยังคงยืนยัน ผมในตอนนั้นบรรยายความรู้สึกตัวเองไม่ออกเลย ได้แต่ถอนหายใจออกมา คือมันก็เสียดาย แต่มันก็น่าตลกมากกว่า ผมก็เลยได้แต่บ่นเบาๆ ออกมากับภาพนั้นแบบยิ้มๆ

“ มึงนั่นแหละ โกหกไม่เนียนเลยไอ้สัดอาฟ ”

ในคืนวันนั้นผมกดอัพภาพนั้นลงไปในอินสตราแกรมของผม ภาพถ่ายใบแรกของผมกับพี่ส้มฉุน ที่ไม่มีพี่ส้มฉุนอยู่ในนั้น ด้วยแคปชั่นที่ว่า ‘ อาฟ ช่วยถ่ายภาพกูกับพี่ส้มฉุนให้หน่อย ’  ก็ยังถูกจัดว่าเป็นคืนดีๆ คืนหนึ่งของผมครับ

Jjjjjjjing.pv ได้กดถูกใจรูปภาพของคุณ
..............................................................................

ชื่อตอนคือ ดราม่าเหนื่อยนัก ก็พักหน่อย
มีความตั้งใจจะเขียนพาสนี้แค่ห้าหน้า และจะเขียน บรรทัดสุดท้ายอีกห้าหน้า
สรุป เราจับพาสนี้ที่ 14 หน้า หนมไม่รู้ว่าหนมเป็นคนเวิ่นเว่อ หรือยังไง แต่แบบเราตั้งใจจะเขียนการปล่อยวางของเมด และ ฉากความสุขของอาฟเมด แต่มันก็ยาวจนแบบ..
ต้องยกไปเขียนตอนหน้า จนได้
โอเค เจอกันตอนหน้าจ้า    
ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
กลับมาคืนดีกันแล้วก็น่ารักก๊งกิ๊งๆดีๆๆ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ปากอาฟร้ายกาจจริงความที่ใส่เสื้อลายขวางบ่อยก็ด่าหยอกๆเป็นม้าลาย ขำมากนี่ถ้าไม่ใช่แฟนมีโกรธนะ

เช้าๆเนียนจูบเนียนหอมแถมเรียกหมวยช่างเป็นการแสดงความรักได้น่ารักมาก

หึงได้ไม่เนียนเข้าขั้นปัญญาอ่อนเหมือนเพื่อนๆว่านั่นแหละปากแข็งจริงอาฟ

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
ความอารยะอย่างแท้ทรู 555 น่ารักดี

ว่าแต่ Jjjjjjjing.pv ต้องมีอะไรแน่ๆ มากดไลค์ ... อยากได้เพื่อนกลับ?

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ SHmnex

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ว่าแล้วว่าคุณอารยะต้องไม่ธรรมดา 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อาฟขี้หึงเว่อร์

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ว่าแล้วววววว ว่าแล้วว่าต้องถ่ายออกมาแบบนี้ 55555 ขำลั่นเลย

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
ชอบๆๆ อ่านตอนนี้แล้วยิ้มไม่หุบเลย ชอบอ่ะ อาฟแบบว่าหึงได้น่ารักมากเลย ชอบบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขรอบๆตัวอาฟกับเมดแบบนี้จัง
อ่านที่วิวพูดแล้วเหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นมาอีกเลย ฝ่ายนู้นจะออกฤทธิ์อะไรกันอีกนะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
นี่สิอารยะตัวจริง5555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบๆๆ อ่านตอนนี้แล้วยิ้มไม่หุบเลย ชอบอ่ะ อาฟแบบว่าหึงได้น่ารักมากเลย ชอบบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขรอบๆตัวอาฟกับเมดแบบนี้จัง
อ่านที่วิวพูดแล้วเหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นมาอีกเลย ฝ่ายนู้นจะออกฤทธิ์อะไรกันอีกนะ

ชอบบบบบบบบบบบ.....เหมือนกันเลย
นึกแล้ว.....อาฟต้องรู้เรื่องส้มฉุน ก็เพราะวิวปากมาก
เรื่องถ่ายรูปก็ออกมาอย่างที่คิดจริงๆ  :m20:
ขำความหึงของอาฟ ยังปากแข็งได้อีก :laugh: :pigha2:

อาฟ  เมด   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ wildride

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
  :pig4:

 Made & Af(ter) are sensitized to each other and easily hurt just by small slights from each other,
and still also highly fear of losing each other

 รักกันมากก็เป็นเรื่องน่าอิจฉา แต่ก็น่าเหนื่อยเช่นกัน

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สวดยอดพระเอกขี้หึง  o13

ออฟไลน์ TongRung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
#ไม่หึงไร้สาระ #โกหกไม่เนียน  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด