ตอนที่ 26
ผับ throw up ในช่วงดึก ผมเดินเข้ามาทางด้านหลังร้านเหมือนอย่างทุกที ติดแค่ที่ว่าวันนี้ผมมาสายมากกว่าปกติเพราะในสมองที่ยังคิดถึงไอ้เด็กนรกที่เจอกันเมื่อคืน แถมคำพูดที่มันพูดกับผมเมื่อเช้าก็ยังจำได้ทุกประโยคไม่มีลืม
“ อย่างมึงคงไม่มีวันวนกลับมาเจอกูอีกแน่ ทฤษฎีโลกกลมมันไม่มีจริงสำหรับกู “ ผมยกยิ้มกับประโยคนั้นของมันตอนที่มองตรงไปที่โซนของบาร์แล้วพบว่า คนที่ทำให้ทฤษฎีโลกกลมของผมเป็นจริงกำลังยืนอยู่ด้านในและกำลังพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์อย่างไอ้เดย์ด้วยรอยยิ้ม
“ อ้าว มาแล้วเหรอพี่เจ ” ไอ้อัยย์ทักผมเป็นคนแรก ตอนที่หย่อนตัวเองลงนั่งตรงที่นั่งตัวเดิมเหมือนทุกที ยักคิ้วให้มัน ผมหันไปยิ้มให้เมดที่ก็ยิ้มกลับมาให้ผมเช่นกัน ในมือของคนตัวขาวถือเอกสารฉบับนึง ถ้าให้เดาก็คงมาเช็คสต๊อกเหล้าที่ไอ้บาร์เทนเดอร์สองตัวคงทำไว้ไม่เรียบร้อยเหมือนทุกที “ วันนี้มาสายนะพี่เจ “
“ กูเซ็ง เอาบรั่นดีมาแก้ว ”
“ บรั่นดีเลย ปกติพี่มึงกินอะไรฟรุ้งฟริ้งไม่ใช่เหรอ ” ไอ้เดย์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลเสริมก่อนที่เมดจะถามผม
“ เครียดอะไรรึเปล่าวะเจ “
“ นิดหน่อย “
“ ชีวิตพี่มึงมีอะไรให้เครียดด้วยเหรอวะ ” ไอ้อัยย์ว่าก่อนจะวางบรั่นดีแก้วนึงลงตรงหน้าผม
“ กูไม่ได้เครียด กูบอกว่า กูเซ็ง มึงฟังกันมั้ยวะเนี้ย “ ผมบอกทุกคนแบบนั้น ก่อนจะดึงแก้วบรั่นดีขึ้นมาชิมพลางมองไปที่แฟนของเพื่อนตัวเอง กำลังคิดว่าจะถามเมดไปตรงๆเลย มันจะดีหรือไม่ดี แต่เอาจริงๆผมคิดภาพไม่ออกเลยว่า มันสองคนจะเป็นคนที่รู้จักกันได้ยังไง เมดดูสะอาดและบริสุทธิ์ต่างกับเด็กเวรนั่นที่มีแต่เขี้ยวเล็บ เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือน ขาวกับดำ เทวดากับซาตานเลยก็ว่าได้
“ เจ “ เสียงของคนที่จ้องผมอยู่เอ่ยเรียกกัน ดึงสติกลับมาก่อนจะยิ้มให้แล้วเอ่ยตอบ
“ ครับผม “
“ มึงมีอะไรรึเปล่า “
“ อะไรมีอะไร “ ทำเป็นซื่อถามอีกคนแบบไม่รู้เรื่อง แต่เมดก็แค่ยิ้มตอบกลับมา
“ ก็เห็นมองกูเลยคิดว่ามีอะไรจะคุยกับกูรึเปล่า ”
“ มองคนน่ารักไม่ได้เหรอวะ มีแฟนแล้วหวงตัวเหรอเมด “ คนฟังถอนหายใจออกมาก่อนจะส่ายหน้าแล้วหันไปทำงานต่อ แต่ก็ไม่ลืมบ่นอุบอิบตามประสา
“ กูละเหนื่อยกับพวกมึงจริงๆ ”
“ พี่เจๆ” ไอ้อัยย์ดึงตัวเองเข้ามาใกล้ผมก่อนจะพูดออกมาเสียงเบาๆ “ เมื่อวานพี่เจมึงไม่มา เฮียทะเลาะกับพี่เมดเว้ย พี่เมดแม่งเมาด้วย ตอนเดินไปคลอเคลียเฮียนะ เค้ามองกันทั้งผับเลย “
“ ไอ้เมดนี่อะนะเมา “ หันไปมองคนที่ถูกพูดถึงครู่นึงก่อนจะก่อนจะหันกลับมาน้องคนที่สนิทที่ก็พยักหน้ารับแบบมั่นใจ “ มึงมอมเหล้ามัน ? “
“ พี่มึงรู้ได้ไง เฮียเล่าเหรอ” ท่าทางตกใจของไอ้อัยย์ชวนให้ผมยกยิ้ม พวกมันจะรู้มั้ยว่า คนอย่างผมแค่มองตาก็รู้ไปถึงสันดานแล้ว แบบชนิดที่แค่เกริ่นไม่ต้องเล่าอะไรออกมาด้วยซ้ำ อีกอย่างคือเมดมันไม่กินเหล้าอยู่แล้วตัดไปได้เลยถ้ามันจะขอกิน ไอ้อาฟเองก็หวงเมียมันจะตายห่า คงไม่ให้มานั่งกินเหล้าจนเมาอยู่ที่บาร์แน่ ก็เหลือแค่พวกมันสองตัวที่ดูท่าว่าก็คงหลอกล่ออีกคนด้วยคำที่ว่า ‘ พี่เมดกินสิไม่ผสมเหล้าหรอก น้ำผลไม้ธรรมดา ’
“ ไม่ต้องให้ไอ้สัดอาฟเล่าหรอก กูเห็นหน้ามึง กูก็รู้แล้วว่าสันดานเหี้ยแค่ไหน ”
“ รุนแรงกับใจน้องเหลือเกิน “ มือที่ยกขึ้นทาบอกของคนพูด ผมส่ายหน้าไปมากับมันก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นกิน “ เมื่อวานพี่มึงไม่มา พี่เมดนะน่าสงสารมากทะเลาะกับเฮียอะ เฮียแม่งก็งอนยังกับตุ๊ด มีความไม่พูดไม่คุยกับเค้า แต่ปากบอกไม่โกรธ สุดท้ายเจอกูมอมเหล้าพี่เมดไป เป็นไง เรียบร้อย คืนดี “
“ นี่มึงเจอไอ้อาฟยัง “ ผมถามมันที่ยกมือขึ้นห้ามคำพูดนั้น
“ ถามว่าหัวกูเป็นไงหลังโดนเฮียตบกะโหลกดีกว่า “
“ กูว่าละ ว่าต้องโดน “
“ คือหัวกูเกือบหลุดออกจากบ่า เฮียตบทีสมองเกือบไหลออกทางหู ทีหลังอย่างให้กูรู้ว่ามึงมอมเหล้าแฟนกูอีก เฮียว่างั้นก่อนจะเดินไปจากกูไปแบบหล่อๆ เหลือไว้แค่พี่เมดที่ถามกูว่า เป็นอะไรมั้ยน้องอัยย์ แต่พอพี่เมดจะเดินเข้ามาหากู ก็โดนเฮียลากขึ้นชั้นสามไปเลยจ้า นี่ก็เพิ่งได้ลงมา สงสัยจะขึ้นไปจู๋จี๋กันแบบว่า โดนจับฟัดด้วยจูบอย่างออกรส เค้าเป็นห่วงเธอนะรู้มั้ย หูยยยยยยย เขินอะ “ ผมหลุดยิ้มกับท่าทางการเล่าที่ผสมจินตนาการแสนโอเว่อร์ของมัน “ แทนที่จะขอบคุณกู ให้โบนัสกู ที่ทำให้ดีกันได้ อะไรวะเซ็ง “
“ มันหวงไอ้เมดจะตายมึงก็รู้ เสือกไปยุ่งเองสมน้ำหน้า ”
“ เอาจริง ถ้าไม่ได้กูก็ไม่ดีกันมั้ย “
“ ยังไม่สำนึก “ ส่ายหน้าให้มันก่อนจะถอนหายใจ “ มึงพูดเหมือนไม่รู้จักเฮียมึง ไอ้อาฟมันไม่ปล่อยให้ตัวเองทะเลาะกับไอ้เมดนานหรอก กูว่ามันคงเคลียร์เอง แต่ที่ทำเป็นห่างคงเพราะแค่ทำอารมณ์ให้มันเย็นก่อน แล้วค่อยคุยด้วยเหตุผล “
“ งั้นเหรอวะ “ ไอ้อัยย์เอียงหน้ารับ “ แต่ก็คงจริงอย่างที่พี่เจมึงพูดมั้ง คือพี่มึงต้องเห็นตอนเฮียรู้ว่าพี่เมดเมา ตานี่เขียวปั๊ดหันมามองทางบาร์จนกูกับไอ้เดย์นี่ถอยหลังไปยืนสงบนิ่งเลยจ้า แล้วกูว่าพี่เมดคงขอมาแหละว่าอย่าทำอะไรกู เฮียเลยเบาลงให้เหลือแค่ตบหัวกับสั่งนิดหน่อยว่า อย่าให้พี่เมดเมาอีก “
“ ดีนะ ไอ้เมดยังใจดีรู้ว่าไอ้อาฟเป็นยังไง มันรู้ว่ามึงโดนแน่ๆถ้ารู้ว่าเป็นคนมอม นี่ถ้าไอ้เมดไม่พูดอะไรนะมึงตายไอ้อัยย์ อย่างแรกเลยคือ หักเงินเดือน ไอ้สัด มึงเกลี้ยงแน่เดือนนี้ อย่าหวังจะมีแม้เงินผ่อนรถ ”
“ กลัวแล้วจ้า อย่าถึงขั้นนั้นเลย น้องก็หวังดีเนอะ แบบอยากให้พี่สองคนได้ดีกันไง ด้วยรัก “ ทำท่าซารางเฮโยส่งมาให้ผม ที่ก็ยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมา “ แต่มึงว่าแปลกๆมั้ยพี่เจ “
“ ยังไงอีก “
“ ทำไมเฮียต้องไม่โอเคกับการที่กูมอมเหล้าพี่เมดด้วยอะพี่เจ คือ พี่เมดเมาเฮียมันมีแต่ได้กับได้เลยนะ ได้ปรับความเข้าใจ ไหนจะได้เรื่องอย่างว่าอีก “
“ อาจจะมีเรื่องที่มันไม่ชอบใจอยู่มั้ง “ ผมบอกอีกคนก็พยักหน้ารับ
“ เหรอ “
“ คือมึงก็ต้องเข้าใจว่า เมด ไม่เหมือนคนอื่น คนนี้ไอ้อาฟมันจริงจัง มันถนอมของมัน มึงก็ลองหันไปดูหน้าซ้อมึงก่อน “
“ ขาวดีนะครับ ณ จุดนี้ เสื้อเชิ้ตสีแดงคอกว้างตัวนี้ก็ตัดกับผิวมาก ดีงามมากจริงๆเลย สมเป็นแฟนเจ้าของผับ throw up “
“ ไอ้สัด “ สถบออกไป ไอ้อัยย์ก็ยิ้มกว้างถูกใจ
“ เอาจริงๆ กูว่าพี่เมดไม่ได้ใสซื่อขนาดที่เฮียหวงเลย เมื่อวานเค้าก็รู้ว่ากูใส่เหล้าลงไปผสมในน้ำผลไม้ แต่กูก็เข้าใจแหละ ถ้าเทียบกับพวกเรา ก็ยังนับว่าแสนดีอยู่ดี “
“ ไม่ใช่หรอก มันรักของมัน มันก็เลยอยากจะดูแลไอ้เมดให้ดีที่สุด เหตุผลก็เท่านั้น ไม่มีเหตุผลอื่นเลยมึง “
“ สมที่เป็นเพื่อนเฮียมาเกือบทั้งชีวิต ” ไอ้อัยย์ปรบมือให้ผม ดังจนไอ้เมดไอ้เดย์ที่ยืนอยู่ไกลออกไปยังหันมามอง “ แล้วนี่ทำไมพี่มึงมาสาย ปกติมาก่อนผับเปิด “
“ นอน เพิ่งตื่น “ ตอบมันไปแบบนั้นก่อนจะถอนหายใจ คำถามนั้นชวนให้ผมคิดถึงหน้าไอ้เด็กเวรนั่นขึ้นมาอีกแล้ว ทั้งๆที่ไม่อยากจะไปคิดถึงเรื่องเหี้ยอะไรพวกนั้นเลยสักนิด ในใจที่อยากจะทำเป็นลืมแต่ก็แค้นชิบหายที่ต้องเสียเงินให้มัน ผมคิดอยากจะเอาคืน แต่ตอนนี้ยังคิดแผนไม่ออก รู้แค่ว่าต้องทำให้สาสมกับที่โดนหลายเท่าตัวหน่อย และตอนนี้เห็นทีว่าต้องสืบข้อมูลให้แน่นก่อน อย่างน้อยก็ควรรู้ว่า มันเป็นอะไรกับไอ้เมด “ นี่ ไอ้อาฟอยู่ไหน “
“ ชั้นสามมั้ง เฮียแม่งไม่นั่งบาร์ก็ชั้นสามอะพี่มึงก็รู้ ”
“ เมด ไอ้อาฟอยู่ชั้นสามใช่มั้ย ” ถามเลขาที่ก็พยักหน้ารับให้ ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหยิบแก้วขึ้นมาดื่มจนหมดก่อนจะวางลง “ กูขึ้นไปหาไอ้อาฟหน่อยนะ ฝากดูข้างล่างด้วย “
“ โอเคครับผม “
กดรหัสปลดล็อคประตูสต๊าฟ ผมเดินขึ้นไปบันไดไปที่ชั้นสามก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป ความเย็นที่ปะทะใบหน้ามาพร้อมกับเสียงของเกมส์ดุเดือดที่เจ้าของผับกำลังเล่นอย่างเมามันส์ ผมเอ่ยทักมันก่อนจะนั่งตรงที่นั่งของเลขาที่ตอนนี้มันว่างอยู่
“ เฮ้ย! ” ไม่มีเสียงตอบรับกลับ ไอ้อาฟแค่ปรายตามามอง และพอรู้ว่าเป็นใครก็หันกลับไปสนใจเกมส์ในหน้าจอต่อ “ โคตรเย็นชากับกูเลยไอ้สัด “
“ ทำไมมึงเพิ่งมา “ อีกคนถามทั้งๆที่สายตาก็ยังจ้องอยู่ที่หน้าจอ ผมขยับตัวเองเปลี่ยนท่าเป็นกึ่งนอนบนเก้าอี้ออฟฟิศก่อนจะยกเท้าไปฟาดอีกฝั่งนึงของโต๊ะ พลางมองจอที่ทีวีขนาดใหญ่ที่ฉายภาพจากกล้องวงจรปิดในผับทั้งหมดที่ติดอยู่ด้านหลัง
“ มึงเคยไปคอนโด AC ที่อยู่แถวฝั่งธนมั้ย “
“ คอนโดไอ้เมด “ อีกคนตอบแต่สายตาก็ยังไม่ผละออกจากเกมส์ที่เล่น “ ถามทำไม จะซื้อ ? “
“ เหมือนเมื่อวานกูไปนอนกับน้องชายมันมา “ เสียงของคีย์บอร์ดที่กำลังกดอย่างเมามันส์หยุดชะงักไป ใบหน้าคมของเพื่อนสนิทหันมามองผมอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนจะเอ่ยถามกันเสียงเรียบ
“ มึงรู้จักไอ้วิว “
“ มันชื่อวิว ? ” ผมถามกลับอีกคนก็พยักหน้ารับด้วยสายตาที่ยังไม่เข้าใจ “ เมื่อวานกูไปเจอเด็กคนนึงที่ผับใหม่ฝั่งนั้น กูกับมันมีวันไนท์กัน แล้วเมื่อเช้าตอนกูตื่นแม่งก็ขโมยเงินกูไปห้าพัน ก่อนจะไล่ออกจากห้องพร้อมขู่ว่าจะแจ้งตำรวจเพราะมันยังไม่บรรลุนิภาวะ แต่ก่อนกูจะออก กูดันหันไปเห็นภาพไอ้เมดในกรอบรูป เลยคิดว่ามันน่าจะรู้จักไอ้เมด ”
“ โง่ “ ไอ้อาฟพูดสั้นๆก่อนจะกดออกจากเกมส์แล้วหันไปมองที่ทีวีที่ฉายกล้องวงจรปิด มันคงดูเหมือนกันว่าตอนนี้ไอ้เมดอยู่ส่วนไหนของผับ เพราะแน่นอนว่า ไอ้เมดจะยังรู้เรื่องนี้ไม่ได้ “ ไม่ดูหน่อยเหรอวะ ว่านั่นมันเด็ก “
“ ผับที่ไหนแม่งให้เด็กเข้าไปไอ้สัด กูก็คิดว่าเคี้ยวได้ ” อาฟส่ายหน้าไปมาให้กับผม
“ โง่จนไม่อยากจะนับมึงเป็นเพื่อน ผับโลวหน่อยแค่จ่ายยามแม่งก็เข้าไปได้แล้วมั้ย “ ถอนหายใจกับความซ้ำเติมของมัน อีกฝ่ายก็ยิ้ม “ แล้วมึงจะเอายังไง จะเอาคืนมัน ? “
“ มึงให้ทำมั้ยละ นั่นน้องแฟนมึง “
“ เรื่องของมึงไม่เกี่ยวอะไรกับกูอยู่แล้ว ถ้าไม่รุนแรง “ เรามองตากันมีรอยยิ้มเล็กๆปรากฏที่หน้าคนเจ้าเล่ห์อย่างเพื่อนผม มันคงรู้ว่าผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไร แล้วมันก็น่าเบื่อมาก เวลาที่ผมอยากจะคีพลุคเป็นเสือร้ายแต่มันก็ไม่สำเร็จเท่าไหร่เพราะเพื่อนรู้ทัน
“ กูอยากรู้ประวัติมันก่อน นี่มันเป็นน้องไอ้เมดจริงๆเหรอวะ ”
“ คอนโด AC ย่านฝั่งธน ” อีกคนถามย้ำเหมือนจะช่วยหาคำตอบให้ผมมั่นใจ
“ อื้ม “
“ คอนโดแบบสองห้องนอน “
“ อื้ม “
“ แต่งห้องโทน loft “
“ ประมานนั้น “
“ โซฟาในห้องกลางสีน้ำตาล ข้างหลังแต่งเป็นตู้ลิ้นชักไม้เยอะๆสีน้ำตาลอ่อน ”
“ ถูกเลย “
“ ตรงทีวีมีตู้โชว์ ชั้นบนสุดเป็นพระ ถัดลงมาเป็นหนังสือ ของตกแต่ง แล้วก็มีภาพไอ้เมดใส่กรอบตั้งอยู่ในนั้น เมดใส่เสื้อลายขวางกำลังยิ้มกอดกับไอ้เด็กนั่นที่มีเรื่องกับมึง ถัดไปเป็นภาพเดี่ยวไอ้เมดที่กำลังยิ้มมองกล้อง “
“ อื้ม “ ผมพยักหน้ารับกับมันอีกคนก็พยักหน้ารับ
“ งั้นก็ไอ้วิวน้องไอ้เมด “
“ นี่กูควรตกใจว่ามันคือน้องไอ้เมดจริงๆก่อน ทั้งๆที่กูคิดมาว่าแบบ อาจจะแค่ญาติ ลูกพี่ลูกน้อง หรือควรตกใจที่เพื่อนกูแม่งเก็บรายละเอียดทุกอย่างในชีวิตเมียได้หมด ทั้งๆที่แม่งจำรายละเอียดอะไรในชีวิตตัวเองไม่ค่อยได้ก่อนดีวะ “
“ สัด “ คนตรงหน้าสบถผมก็ยิ้มแล้วส่ายหน้า
“ โลกมันกลมดีจริงๆ “ ว่าแบบนั้นก่อนจะหันกลับไปมองที่ทีวีอีกครั้ง บนนั้นเมดที่กำลังยิ้มกว้างแล้วก็หัวเราะอยู่กับไอ้เดย์แล้วก็ไอ้อัยย์ ท่าทางที่กำลังสนุกกับมือที่จดนู้นนี่ไปเรื่อย “ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเป็นน้องไอ้เมด นิสัยกับความเหี้ยดูต่างจากพี่มันสุด เหมือนไม่ได้เติบโตมาจากพ่อแม่เดียวกัน “
“ มันก็เป็นแบบนั้น “ อีกคนบอกผมก็หันไปมองมัน “ เท่าที่กูรู้ พ่อแม่ไอ้เมดก็คนนึง พ่อแม่ไอ้วิวก็คนนึง แม่ไอ้เมดเสีย พ่อไอ้วิวเสีย พ่อแม่มันก็เลยมาได้กัน แล้วก็มาเป็นครอบครัวเดียวกัน “
“ แบบนั้นนี่เอง “ ผมพยักหน้ารับ “ แล้วนี่เมดมันรู้มั้ยว่าน้องมันมีปัญหา “
“ ทำไมมึงถึงคิดว่ามันมีปัญหา ”
“ เด็กที่ไหนจะชวนคนอื่นไปนอนได้ง่ายๆแบบมัน แถมยังจิ๊กเงินกูอีก ไม่พอแม่งยังขู่จะฟ้องตำรวจ กูพนันเลยว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก ท่าทางมันต้องเซียนแถมยังดูไม่กลัวอะไรด้วย “
“ มันอาจจะแค่แรด “ อาฟบอกผมก็ได้แต่หลุดยิ้ม
“ แต่มันดูไม่แรดขนาดนั้นนะ จะพูดไงดีวะ กูมันดูมีชั้นเชิง ไม่ใช่แบบพวกเข้ามานั่งคุยแล้วใช้สายตามองบอกตั้งแต่วินาทีแรกเลยว่าอยากได้ เหมือนมันคิดก่อนว่าโอเคมั้ย แล้วมันก็ค่อยรุกแบบตรงๆ เหมือนแค่อยาก ก็เอาเลย เซ็กส์คือธรรมชาติ เรื่องธรรมดาทั่วไป “ คนฟังยกยิ้มหัวเราะ “ แล้วนี่มึงเคยเจอมันรึยัง “
“ ครั้งนึง ตอนพาไอ้เมดไปเอาเสื้อผ้าที่ห้อง “
“ แล้วตอนนั้นมันเป็นยังไงในความคิดมึง ”
“ เด็กแรด “ อาฟบอกสั้นๆ “ วันที่กูไปเจอมัน เมดก็แนะนำว่ากูเป็นใคร มันก็พยักหน้ารับยกมือไหว้กูด้วยสีหน้าแบบต้องทำ ก่อนจะหันไปหอมแก้มแฟนกูข้างละสิบกว่าที “ มันยกยิ้มแล้วส่ายหน้าให้ผมตอนทีคิดถึงภาพเหตุการณ์วันนั้น “ ไม่ถูกกูถีบก็บุญละ เสือกมาหอมแก้มแฟนกู ”
“ อันนั้นมึงก็มากไป มันพี่น้องกันมั้ย หอมแก้มกันมันก็ปกติ “
“ กูกับไอ้เดย์ไม่ทำ “ ถอนหายใจออกมากับคำพูดของเพื่อน ผมปรายตามองมัน
“ ช่วยเลิกเอาชีวิตตัวเองไปเป็นบรรทัดฐานให้คนอื่นเถอะไอ้สัด มึงสองตัวมันไม่ใช่พี่น้องทั่วไป พวกปากไม่สนใจแต่ห่วงใยกันเก่ง ”
“ แล้วมึงจะเอายังไงเรื่องไอ้วิว “ อาฟถามเข้าเรื่องผมที่นิ่งไป
“ มึงว่าเมดมองน้องชายมัน เป็นยังไงในความรู้สึกมึง “
“ เป็นเด็กดี ” มันยกยิ้มก่อนจะมองแฟนตัวเองผ่านจอทีวี “ มันมองน้องชายตัวเองเป็นเด็กดี น่ารัก อาจจะไม่ได้มองว่าเรียบร้อยเพราะน้องมันแค่ดูท่าทางออกว่า น้องมันก็แรงในระดับนึง “
“ แต่คงไม่คิดว่าจะแรงขนาดพาผู้ชายขึ้นห้อง แล้วไถตังได้ “
“ ผู้ชายมันโง่ด้วยละที่ให้เด็กมัธยมไถตังค์ได้ “
“ ไอ้สัด “
“ หรือมึงว่าไม่จริง ” เพื่อนสนิทยิ้มถาม ผมก็ได้แต่ถอนหายใจ จะบอกว่าจริงมันก็จริงเสือกโง่เองที่ตอนนั้นยอมง่ายๆ เพราะไปคิดถึงแค่คำขู่เรื่องฟ้องตำรวจของไอ้เด็กเวรนั่น ทั้งๆที่ความเป็นจริงตัวมันก็เท่านั้นผมเดินไปจับข้อมือแรงๆเงินพวกนั้นก็คงหลุดออกมาจากมือมันแล้ว ต่อยสักทีคงสลบตัวเล็กจิ๊ดเดียว “ กูถามจริงๆ มึงชอบเหรอวะ ”
“ ชอบอะไร “ ผมถามอีกคนที่อยู่ๆถามขึ้นมา “ มึงหมายถึงเด็กนั่น “
“ อื้ม “
“ ทำไมคิดงั้น “
“ ปกติมึงไม่ใช่คนแบบนี้ “ อาฟบอกผมก็ยกยิ้ม “ มึงไม่ค่อยชอบวันไนท์กับใคร ตั้งแต่เลิกกับไอ้เบล มึงมีอะไรวันไนท์กับใครนับครั้งได้ มึงบอกกูว่ามึงไม่ชอบ มึงชอบคบใครแบบจริงจังไปเป็นคนๆมากกว่า “
“ ประทับใจจังว่ะเพื่อนอาฟจำเรื่องราวของกูได้ ไม่เสียแรงที่คบกันมาตั้งแต่สมัยยังเล่นเบย์เบลด ” ว่ามันขำๆแต่อีกคนก็แค่จ้องหน้าผมเหมือนจะตอบคำถามที่มันเองก็ยังคงสงสัย ก็ยอมรับว่าก็เป็นแบบที่อาฟว่านั่นแหละ มันพูดถึงผมได้ถูกต้องแล้ว และผมก็รู้ว่าตอนนี้มันดูออกว่าผมรู้สึกยังไงกับน้องของไอ้เมดเพราะงั้นสิ่งเดียวที่ทำได้ ก็แค่ต้องยอมรับ “ เออ กูถูกใจมัน “
“ ในแง่ไหน จริงจัง ไม่จริงจัง “
“ ไม่รู้วะ กูแค่รู้สึกว่ามันน่าสนใจ ทั้งคำพูดของมัน ท่าทางของมันตอนที่กูได้คุยด้วย กูว่ามันก็โอเค “ ผมเว้นเสียงไปตอนที่นึกถึงบรรยากาศช่วงที่เรานั่งคุยกันอยู่ตรงด้านข้างของผับ “ ตอนแรกที่ตื่นขึ้นมา กูอยากจะแลกไลน์กับมัน เพราะกูคิดอยากจะคุยต่อ “
“ แต่สุดท้ายก็โดนไถเงินไปก่อน “
“ ไอ้เด็กเวร “ ผมสถบออกมาก่อนจะหันไปมองอีกคน “ มึงรู้มั้ย มันบอกกูด้วยนะ ว่ามันกับกูคงไม่มีทางได้เจอกัน แล้วตอนนั้นกูก็หันไปเห็นภาพไอ้เมดในกรอบรูปพอดี จากที่กูหงุดหงิดเพราะต้องเสียตังค์ ตอนนั้นกูนี่ยิ้มเลย ในใจกูมันบอก ได้ เดี๋ยวมึงได้เจอกูไอ้สัด “
“ ตกใจมึงถูกใจหรือไม่ถูกใจกันแน่วะ “
“ ถูกใจก็ส่วนถูกใจ แต่ส่วนที่มันเอาเงินกูไป ยังไงก็ต้องทำให้เข็ดหลาบ “ ไอ้อาฟยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมา “ ดีแค่ไหนที่เป็นกู แล้วก็โชคดีแค่ไหนที่ตลอดมามันไม่เคยเจอพวกเหี้ยๆ ที่จับมันปล้ำ ถ่ายคลิปแก้แค้นมัน ไม่ก็ลากเพื่อนมารุม แล้วดีไม่ดีไอ้เมดเผลอกลับบ้านอาจจะพลอยโดนหางเลขไปด้วยก็ได้ ไอ้เด็กเวรนี่มันยังไม่เจอคนจริงกูจะบอกไว้ มันคิดว่ากฏหมายคุ้มครองมันได้เหรอกูบอกไว้เลยว่ามึงเจอคนเหนือกฏหมายมึงตายแน่ๆ “
“ อย่างพวกที่พอได้มันแล้ว มันไถเงิน จากนั้นก็จับมันปล้ำต่อ เพราะแรงแค่นั้นผลักก็คงกระเด็น “
“ ใช่ “ ผมตอบรับความคิดไอ้อาฟ
“ จากนั้นก็ถ่ายคลิปตอนเอากันไว้แบล็คเมล์ แล้วก็ขู่ไปสิ จะให้ทำอะไร จะให้มาเอาอีก จะให้เพื่อนมารุมเอา “
“ แล้วพอรู้ว่ามีพี่หน้าตาดีแบบไอ้เมด “
“ มึงหยุด “ ไอ้อาฟบอกเสียงเข้มพลางชี้หน้าผม ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
“ ทุกอย่างมันเป็นไปได้ทั้งนั้น ถ้าน้องของมันยังเป็นแบบนี้ ทางที่ดี มึงควรบอกให้ไอ้เมดหยุดมันซะ “ ผมบอกก่อนจะถอนหายใจ
“ เสียดายของชิบหายไอ้สัด หน้าตาก็น่ารักแต่เสือกทำตัวสิ้นคิดกูแม่งไม่เข้าใจ “ อาฟยกยิ้มขึ้นมาตอนที่ผมพูดออกไปแบบนั้น “ ยิ้มเหี้ยอะไรของมึง “
“ วิวมันทำให้มึงถูกใจขนาดนี้เลยเหรอวะ ”
“ พูดอะไรของมึง “
“ พูดแบบที่คิด เพราะที่มึงพูดออกมา เหมือนมึงไม่ได้โกรธที่มันไถตังค์มึงเท่าไหร่ เหมือนไม่ใช่ประเด็น อาจจะแค้นที่เสียรู้เด็ก แต่ที่แน่ๆเหมือนมึงแค่เสียดายมากกว่าที่ไม่ได้จีบต่อเพราะมันไม่ได้เป็นแบบที่มึงคิด “ ก็อาจจะจริงที่มันพูดผมถอนหายใจออกมาไม่ได้พูดอะไร “ ตอนนี้มึงก็เลยเหมือนทั้งแค้นและก็ทั้งกำลังเป็นห่วงมันไปด้วย มึงคิดว่าถ้ามันเจอคนเหี้ยจริงๆขึ้นมาจะทำยังไง และเพราะแบบนั้นเลยคิดว่าเอามาไว้ใกล้ตัวดีกว่า เลยจะใช้ไอ้เมดมาอ้างเพื่อจะให้กูจัดการไปบอกให้ น้องมันจะได้หยุดทำแบบนั้น เพราะถ้าเมดรู้มันคงไม่ปล่อยให้น้องมันไปไหน “
“ มึงก็คิดไปไกล บางทีกูก็กลัวแฟนมึงจะเป็นอันตรายด้วยมั้ย “
“ งั้นถ้าเรื่องนั้นมึงก็ไม่ต้องห่วง เพราะเมดมันไม่ไปไหนไกลจากระยะที่กูมองเห็นอยู่แล้ว “ เพื่อนสนิทยักคิ้วให้มันที่ยกยิ้มมองผม เบื่อความสนิทที่ไม่ต้องพูดอะไรกันมากก็เข้าใจกันของเราชิบหาย
“ แล้วมึงคิดว่าถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมากับน้องมัน ไอ้เมดมันจะไม่เสียใจเหรอวะ “
“ เจมึงแม่ง “ อีกคนสถบยิ้ม “ คือ จากเด็กเหี้ยไถตังค์ที่มึงแค้น ทำไมมากลายเป็นเรื่องที่ไอ้เมดได้ว่ะ “
“ ก็กูเป็นห่วง “ ผมตอบไอ้อาฟที่จ้องผมอยู่ “ ห่วงไอ้เมดไง คือหมายถึงเป็นห่วงไอ้เมดแล้วก็มึงด้วย มึงลองคิดดูว่าถ้าไอ้เมดรู้ความจริงจะเป็นยังไง มันจะเสียใจมากมั้ย มันจะทำยังไง มึงจะปลอบมันยังไงให้มันปลงว่าน้องมันแรดนอนกับผู้ชาย ไถตังค์คนอื่น กูถามหน่อย “
“ มึงจะเอายังไง ว่ามาเลยดีกว่า กูฟังแล้วไม่มีอะไรมากกว่า การที่มึงไปนอนกับน้องมันแล้วมึงก็ติดใจ สุดท้ายอยากจะต่อแต่ต่อไม่ได้ แล้วพอมานั่งคิดๆก็เสือกเป็นห่วงน้องมันขึ้นมา เลยมาถามกูเพื่อสืบให้แน่ว่าตกลงน้องมันเป็นใคร แต่พูดไปพูดมามึงเริ่มโยงออกเรื่องไอ้เมด เออ มันอาจจะเครียดถ้ามันรู้แต่ก็ชีวิตน้องมันมั้ยสูงต่ำอยู่ที่ทำตัว “ ไอ้อาฟว่าก่อนจะมองหน้าผม “ จุดประสงค์จริงๆ ตอนนี้ที่คิด จะเอาอะไรพูดมาเลย “
“ แนะนำกูให้มันรู้จัก “
“ เพื่อ ? “
“ เพื่อให้ไอ้เด็กเวรนั่นรู้ว่า โลกมันกลมกว่าที่มันคิด “ อีกคนถอนหายใจออกมาก่อนจะส่ายหน้าไปมา มันหันไปมองคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
“ อ้าง “ อาฟบอกก่อนจะส่ายหน้า “ จริงๆ มึงก็แค่อยากจะเจอมันอีกครั้งเพื่อให้มันรู้สึกว่า มึงอยู่เหนือกว่ามันเพราะมึงกุมความลับของมันไว้ ซึ่งแผนต่อไปก็คือทำให้มันอยู่ในกำมือมึงคนเดียว เพื่อความปลอดภัยว่ามันจะไม่โดนคนเหี้ยๆแบบที่มึงคิดจัดการ หึ.. แล้วก็เอาเมียกูมาอ้างไอ้สัด “
“ เหมือนมึงตอนยังไม่ได้ไอ้เมดอะ “ ผมบอกอีกคนก็ปรายตามามอง “ เจาะยางรถเค้า เอารถเข้าอู่ อาสาไปรับไปส่ง “
“ ไอ้สัด “
“ สมกับที่เป็นเพื่อนรักกันว่ามั้ย “
“ ใครเพื่อนมึง “ ผมลุกจากที่นั่งตอนที่อีกคนพูดแบบนั้น
“ ไปหาคุณมินเมดดีกว่า ไปสืบสักหน่อยว่าเค้ารู้สึกยังไงกับน้องเค้า “
“ อย่าเพิ่งบอกให้ไอ้เมดรู้ “ อาฟบอกผมเสียงจริงจัง มันที่เหลือบตาขึ้นมาจากหน้าจอคอมเพื่อจ้องหน้าผม “ อย่าให้เมดรู้เรื่องวิว เดี๋ยวกูจะจัดการบอกมันเอง เรื่องที่จะให้ไอ้วิวมาเจอมึงก็ด้วย แต่ต้องใช้เวลาหน่อย “
“ สุดท้ายก็ห่วงความรู้สึกเมียแหละวะ “ ผมแซวมันก่อนจะถามสิ่งที่อยากรู้ “ ได้กันยัง มึงกับไอ้เมด “
“ ยัง “
“ ช้า “
“ เสือก “ มันตอบออกมาผมก็ได้แต่ยิ้มแซว
“ ไม่สมกับการเป็นคุณอารยะเจ้าของ throw up เลยว่ะ เขี้ยวเล็บไปไหนหมด นั่นมันก็แค่ลูกแมวตัวเล็กๆมั้ย “
“ ไว้มึงรักใครจริงจังขึ้นมาสักคน มึงจะเข้าใจเอง ”
“ ไม่อยากจะเชื่อว่าคำนี้จะหลุดออกมาจากปากมึง “ ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะส่ายหน้า “ เมดแม่ง เปลี่ยนมึงไปมากเลยว่ะ “
“ กูแค่อยากให้มันรู้สึกดีกับกูที่สุด รู้สึกดีจนลืมไอ้เชี้ยนั่นไปเลย “
“ กูไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่ไอ้บินจะสู้มึงได้สักอย่าง จะไปซีเรียสทำไม “
“ สู้ได้ทุกอย่าง แต่เมดก็ยังไม่ลืมมันอยู่ดี “ อาฟยกยิ้มก่อนจะสะบัดมือไล่ผมออกไปจากห้อง “ มึงไปเถอะ กูจะเล่นเกมส์ “
“ มันอยู่ไม่ตลอดหรอกสัดอาฟ อย่างน้อยตอนนี้มันก็ค่อยๆหายไป เพราะมีมึงเข้าไปแทนที่ “ อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรผมก็ส่ายหน้า
“ อย่ารีบร้อนเกินไป อยากได้อะไรก็ได้มาง่ายจนชินก็แบบแหละสัด ทีหลังไปหัดนั่งตกปลาบ้างนะมึง จะได้รู้ว่า กว่าปลาจะกินเหยื่อแม่งต้องใช้เวลานานแค่ไหน “
“ สอนกูจัง เอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อน คิดให้ดี ว่าแค่ห่วงเด็ก หรือชอบเด็ก ไอ้สัด “
“ เบื่อมึงชิบหาย ไปหาเมดดีกว่า “
“ แล้วอย่าลืม “
“ เออๆ กูไม่ลืม ไม่บอกหรอกน่า ห่วงเมียมึงจังเว้ย “ บ่นเบาๆก่อนจะเดินออกไปแต่ก็ไม่ลืมล้อมัน “ อ้อ ลืมไปยังไม่ใช่เมีย เพราะ ยังไม่ได้กัน “
“ K “ โดนแจกนิ้วกลางมาให้อันนึง ก่อนจะปิดประตูห้องนั้นลง