คนโปรด 17.1
"วันนี้แดกอะไรดี? "ผมถามเอ่ยขึ้นขณะที่เรากำลังเดินออกจากห้องเรียน
"อะไรก็ได้"นั่นไง คำตอบกวนส้นตีนที่กูไม่อยากได้ยิน เดี๋ยวมึงๆ
"ขรี้ไหมงั้น"ผมหันไปเลิกคิ้วถามมันกวนๆ
"ขรี้พ่อมึงสิ! "ไอ้ตี๋เถียง (ด่า) ทันที
"เอ้า! อยากแดกของพ่อกูก็ไม่บอก"ผมก็ยังกวนมันไม่เลิก
"ไอ้สมิธ! ดี! ช่วยกูด้วย! "มันสะบัดหน้าใส่ผมแล้วหันไปฟ้องคนข้างๆ อีกคนแทน
"โห่ เถียงไม่สู้ก็ฟ้องผัว"ผมล็อคคอไอ้ตี๋เตี้ยแน่นแล้วยีหัวมันแรงๆ เพื่อแกล้ง มันก็โวยวายใหญ่เลยทีนี้
"ไอ้เหี้ยสมิธ! ไอ้คนนิสัยไม่ดี! ปล่อยกูเลยนะ...ดี๊! "
"พอๆ แดกก๋วยเตี๋ยวเรือหน้ามอละกัน"ไอ้ดี หรือ 'ใจดี' ห้ามทัพในที่สุดและด้วยสายตาดุๆ ที่มันตวัดมองรอบคอไอ้ตี๋ทำให้ผมเสียวสันหลังวูบ ผมเลยยอมปล่อยแขนออกจากคอไอ้ตี๋ หรือ 'เซนท์'
ทั้งสองคนเป็นเพื่อนในกลุ่มที่ผมคบด้วย และยังมีอีกคนหนึ่งที่ตอนนี้กำลังหายหัว ชื่อ 'ทศกัณฐ์' เราเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ภาคอินเตอร์สาขาเดียวกัน เลยได้มาเป็นเพื่อนกันนี่แหละครับ ยกเว้นทศกัณฐ์ที่ผมรู้จักก่อนจะมาเจอเซนท์และใจดี
"ก็แค่เนี้ย! "ผมยักไหล่ทั้งสองข้าง ไอ้เซนท์เห็นท่าทางแบบนั้นของผมก็แยกเขี้ยวใส่
"มึงแม่งทำไมไม่คิดเองวะ เป็นคนชวนแดกแท้ๆ "ไอ้ตี๋เตี้ยยังโวยวายไม่เลิก
"ถ้ากูคิดออกกูจะถามพวกมึงเหรอ? "ผมกอดอกเหลือบสายตามองมันแล้วส่ายหัวเหมือนอ่อนใจซะเต็มประดา
"ฟายเอ้ย เดี๋ยวกูไม่ไปแดกด้วยละมึงจะหนาว"
"กรุงเทพฯ สามสิบหกองศาเซลเซียส บ้านมึงเรียกหนาวเหรอ? "
"ไอ้บ้า กูขู่หรอกเว้ย"
"อ๋อเหรอออ กลัวจังเลยครับน้องเซนท์"ผมทำหน้าทำตาใส่มัน
"จิ๊! ไม่อยากคุยกับมึงแล้ว"งอนไปแล้วครับ แต่ผมไม่ง้อหรอก เดี๋ยวมันก็ลืม...
"หึๆ "เสียงหัวเราะไอ้ดีดังขึ้นเบาๆ ทำให้ไอ้เซนท์หน้างอกว่าเดิม ไม่ต้องแปลกใจที่มันไม่ค่อยมีบทนะครับ เพราะมันไม่มีสคริปต์ไงล่ะ แฮร่! ขำอ่ะดิๆ (ขำมาก-_-)
อ้อ! ลืมบอกไป ผมชื่อสมิธครับ อายุ21ขวบ วัยกำลังน่าเคี้ยว (เอื้อง?) เป็นนิสิตคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยY ชั้นปีที่3 ครับ!!!
รายงานอย่างกับเป็นทหารเลยกู...ถ้าบอกรหัสนิสิตด้วยนี่ก็ครบองค์เข้าห้องเชียร์ได้เลยนะ
เอาล่ะ! หยุดเวิ่นเว้อก่อนนะสมิธ!
หลังจากที่ตกลงจะไปแดก เอ้ย! ทานข้าวเย็นที่ไหนแล้ว พวกเราก็แยกย้ายกันไปรถคนละคัน ไอ้เซนท์ไปรถไอ้ดี ส่วนผมก็เดินมาที่แลมโบกินี สีดำด้านของตัวเอง
ในทุกๆ วันเพื่อนในกลุ่มอย่างน้อยหนึ่งคนจะต้องไปทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนผม
แล้วพวกมันไปไหม? ...ก็ไปนะครับ
เพราะผมบังคับไง
ผมไม่มีเหตุผลจะอธิบายว่าทำไมถึงทำตัวเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ แต่ไอ้ทศมันก็ยอมไปนะไม่เคยขัดผมเลยสักครั้ง แรกไเซนท์กับไอ้ดีก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง เมื่อนานๆ ไปสนิทกันแล้วทั้งไอ้เซนท์และไอ้ดีก็จะไปกินข้าวเย็นกับผมตลอด ยกเว้นว่าวันไหนที่พวกมันไม่ว่างจริงๆ
อย่างช่วงนี้ที่ไอ้ทศไม่อยู่ ไม่ว่างไปด้วย หน้าที่หลักเลยตกอยู่ที่ไอ้เซนท์กับไอ้ดีนี่แหละ
ถ้าถามว่าทั้งไอ้ดีกับเซนท์เต็มใจไหม? ผมกล้าพูดได้ว่าพวกมันเต็มใจนะ
ไม่รู้สิ...ก็เป็นเพื่อนกันแล้วนี่นา
ถ้าพวกมันไม่พอใจก็คงปฏิเสธตั้งแต่แรกหรือไม่ก็เลิกคบกับผมไปแล้วล่ะ คงไม่ทนคบกันมาตั้งสองสามปีหรอกมั้ง
หลังจากที่ทานก๋วยเตี๋ยวเรือจนอิ่มหนำเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ผมก็แวะคอนโดเอาของไปเก็บที่ห้องก่อน จากนั้นจึงกดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น40 ชั้นที่ไอ้ทศอยู่
กริ่งๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ผมกดออดห้องมันซ้ำอยู่หลายครั้งก็ไม่มีคนมาเปิด แสดงว่ามันยังไม่กลับห้อง
โทรศัพท์ก็โทรไม่ติดอีก เฮ้อออ
ผมถอนหายใจก่อนจะเดินลงบันไดกลับห้องเพื่อออกกำลังกาย
เป็นห่วงเพื่อนว่ะ รู้ว่ามันเอาตัวรอดเก่งแต่ก็อดจะห่วงมันไม่ได้
แหนะๆ อย่ามา...ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มันก็แสนไกล ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิทยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป~ ของพี่ดานะครับ
กูนี่ขนลุกพรึ่บๆ ๆ เลย
ไอ้ทศมันเป็นเพื่อนสนิทผม และก็เป็นผู้มีพระคุณของผมด้วย
ถ้าผมไม่มีมันผมคงไม่มีโอกาสได้มาลั้ลลาแบบนี้หรอก ฮี่ๆ
ผมเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมออกไปเล่นฟิตเนส ช่วงนี้กำลังบ้ากล้าม
แต่ผมไม่ได้ได้อยากกล้ามใหญ่เบอเริ้มแต่หัวเล็กหรอกนะครับ
เอาแค่พอสูสีไอ้เชรี่ยทศ (หยาบเพราะอิจฉา) ก็พอ
สาวจะกรี๊ด ถึงผมจะหล่ออยู่แล้วก็เถอะ
หลังจากที่ผมกลับจากฟิตเนส ผมก็ตรงดิ่งกลับห้องเลย ไม่ได้ออกไปไหนต่อ
ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จิบไวน์ไปเกือบครึ่งขวด (นี่เรียกจิบ?) ก็พอ จะได้หลับสบายๆ
ผมล้มตัวลงนอน กอดก่ายหมอนข้างไว้แน่นแล้วหลับตาลง
พูดตามความจริงแบบไม่เข้าข้างตัวเองเกินไป แทบทุกคืนผมไม่เคยขาดคนนอนด้วย จริงๆ นะครับไม่กับเพื่อนก็ผู้หญิงสักคน ผมรู้ว่าการทำตัวแบบนี้มันไม่ดี
แต่ผมไม่สามารถนอนหลับโดยไม่มีใครอยู่ข้างๆ ไม่ได้...ผมมักจะฝันร้ายบ่อยๆ
เพียงแต่วันนี้ผมเป็นห่วงไอ้ทศมากเลยไม่มีอารมณ์ไปนอนกับผู้หญิงคนไหน ไอ้เซนท์กับไอ้ดีก็ต้องกลับไปนอนบ้านใหญ่ ไอ้ทศก็เสือกไม่อยู่ห้องอีก
ผมเลยต้องมานอนกอดหมอนข้างเน่าๆ แบบนี้ไง
เฮ้อ หวังว่าจะมีใครสักคนช่วยพาไอ้ทศกลับมาได้นะ
ผมจะได้มีอารมณ์ไปปี้สาวสักที! (?)
+++++++++++++
เหี้ย!!! ...ขอโทษที่หยาบครับ
ก็คนมันตกใจนี่ ไอ้ทศถูกแทงแหละ กูว่าแล้วกูเป็นห่วงมันผิดปกติ
ซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้วะ (แต่ก็ไม่เคยซื้อ) ดีนะมันหนังเหนียวยิ่งกว่าหนังควายตากแห้งเลยรอดมาได้
เห็นเจฟ (ผู้ช่วยไอ้ทศ) เล่าว่าเป็นเด็กผู้ชายช่วยไอ้ทศเอาไว้
"มึงไม่ดูแลตัวเองวะไอ้สัส"ผมด่ามันทันทีที่เจอหน้า
แล้วคุณรู้ไหมว่าตอบกลับผมด้วยวิธไหน?
มองหน้าผมนิ่งๆ โดยไม่สำนึกผิดอะไร ก่อนจะโยนหมอนอัดใส่หน้าผมเต็มแรง จากนั้นมันก็หันหลังคลุมโปงให้
ไอ้สาสสสส ถ้าไม่เห็นว่ามึงเจ็บอยู่นะ กูกระโดดถีบไปแล้ว
" กูโกรธจริงๆ นะทศ" ผมพูดเสียงนิ่งออกไปทางจริงจัง ได้ยินเสียงมันถอนหายใจแล้วเปิดผ้าห่มออกมามองหน้าผมตรงๆ
" มึงหายไปโดยไม่บอกอะไรกับกูเลยแล้วกูยังเป็นเพื่อนกับมึงอยู่ไหมวะ"
" กูขอโทษ "
" เออ! ช่างมันเถอะ มึงไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว ถ้าหายแล้วก็ไปเรียนด้วยนะมึง ขาดเรียนไปไม่ใช่เป็นเดือนแล้วเรอะ"
"คิดดูก่อน"ดูมันตอบ
"ไอ้นี่ ถ้างั้นกูก็จะขาดเรียนไปช่วยมึงตามหาน้าบุหงาด้วย" ผมว่าอยากเอาแต่ใจ
" ไม่ต้องเสือกเลยมึง "มันว่าดุๆ เพราะไม่อยากให้ผมเสียการเรียนไง แต่ตัวเองเสือกไม่ไปเรียน (อย่าเอาแบบอน่างมันนะครับ)
" ทีมึงยังขาดได้" ผมเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
"เฮ้อ เออๆ "มันยอมรับปากในที่สุด
" เออเหี้ยอะไร? "
" ถามมากเดี๋ยวกูถีบ อยู่กับมึงแล้วเปลืองพลังงานชีวิตกูฉิบหาย"มันทำท่าจะยกเท้าถีบผมจริงๆ อ่าครับ
"โห่ ถ้าไม่มีกูแล้วมึงจะเหงา"
"ปล่อยให้กูเหงาสักทีเถอะ"คือต้องมองกูด้วยสายตาเหยียดหยามขนาดนี้เลย?
ในกลุ่ม ถ้าถามว่าไอ้ดีแพ้ทางใคร? =ไอ้เซนท์
ไอ้เซนท์แพ้ทางใคร? =ผม
ผมแพ้ทางใคร? =ไอ้เหี้ยทศกัณฐ์นี่ไง
"กูไม่คุยกับมึงละ ไปเรียนดีกว่า"ผมขี้เกียจเถียงกับมัน เลยตัดบทซะเลย
"กูรอคำนี้มานานแล้ว รีบๆ ไปสักที"มีปัดมือไล่กูอย่างกับแบคทีเรีย
"ไอ้สัสสสส"อดจะด่าไม่ไหวจริงๆ ครับ
"ขอเป็นเสือชีต้าร์"มึงยังมาตบมุกอีก
ใครว่ามันนิ่งผมขอเถียง มันไม่ได้นิ่ง! แต่มันโคตรกวนตีนหน้าตายเลยโว้ย!!!
ผมเดินออกจากห้องนอนไอ้เหี้ยทศ (เพิ่มยศให้) ด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยที่เถียงสู้มันไม่ชนะ
ไปถึงมหาวิทยาลัยเลยได้กวนตีนไอ้เซนท์แกล้งมันได้นิดหน่อยเพราะไอ้ดีคุมไว้อยู่ ผมเลยพอจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง หึๆ
เอ้อ! อย่าว่าผมนิสัยเสียอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ถ้าจะว่าก็ไปด่าไอ้ทศกัณฐ์นู่น มันนั่นแหละที่ขัดเกลาให้ผมเป็นแบบนี้
จริงๆ ผมออกจะเป็นผู้ชายสุภาพเรียบร้อย ใช่ไหมครับ
+++++++++++++
ในที่สุดไอ้ทศก็ยอมมาเรียนในสองวันต่อมา แล้วแม่งเสือกกดกริ่งหน้าห้องปลุกผมตั้งแต่เช้าด้วยนะครับ จริงๆ วันนี้ก็มีเรียนเช้าแหละ แต่ว่าอาจารย์งดคลาสก็เลยมีเรียนแค่ตอนบ่าย ผมบอกมันไปแล้วด้วย แล้วมันเสือกมาปลุกผมแต่เช้าทำเพื่อ?
พอมันมาผมก็ชวนมันไปแดกเหล้าฉลองการกลับมาเรียนทันที (ดูยิ่งใหญ่เนอะ) ก็ไปกันทั้งกลุ่มนั่นแหละครับ นัดกันเย็นวันศุกร์ที่ร้านไอ้ดี
แผลเพื่อนก็ยังไม่หายดีหรอก คิดว่าคงไม่เป็นไรมั้ง เจ้าตัวก็ไม่เห็นว่าอะไรเลยนี่นา
และแล้ววันศุกร์ก็มาถึง ดึกๆ เราก็นัดกันไปกินเหล้าเคล้านารีกันปกติ แต๊!
มันดันเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติขึ้นน่ะสิครับ อยู่ๆ มีเด็กผู้ชายที่ไหนไม่รู้พรวดพราดเข้ามาในห้องที่พวกผมกำลังดื่มอยู่
มันเป็นเด็กผู้ชายร่างสูงผอม ผมมองหน้ามันไม่ค่อยชัดเพราะห้องมันมืด แต่ใส่แว่นน่าจะเด็กเนิร์ดๆ เอ๋อๆ มั้ง...น่าแกล้งดี
ไอ้เด็กนี่บอกว่ามาตามไอ้ทศกลับ
มันเป็นใครวะครับ? ผมเลยแกล้งเรียกไอ้เด็กนี่ว่าเมียไอ้ทศเพื่อดูปฏิกริยาเพื่อน ไอ้ทศเอ่ยปฏิเสธนิ่งๆ ไม่มีพิรุธ
แต่ต่อมเสือกผมมันสั่นกึกๆ 9.8ริกเตอร์ไปแล้ว
เถียงกันไปได้ไม่กี่คำ ไอ้เด็กแว่นก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดจึกๆ แล้วยื่นจอใส่หน้าไอ้ทศ
"สัด!!! ไอ้สตอว์เบอร์รี่บอย มึงอยากตายจริงๆ ใช่ไหม! "อยู่ๆ ไอ้ทศก็ลุกขึ้นกระชากคอเสื้อไอ้เด็กแว่นพร้อมกับตะคอกเสียงดัง
ไอ้เชรี่ยยย รู้จักไอ้ทศมา5-6ปี ไอ้เด็กนี่คนแรกเลยว่ะที่ทำให้ไอ้ทศแสดงความเกรี้ยวกราดได้ขนาดนี้
" กลับไหมครับ? "ไอ้เด็กแว่นพูดแล้วฉีกยิ้มเยือกเย็นให้ไอ้ทศ
ผมรู้สึกกลัวรอยยิ้มมันขึ้นมาแปลกๆ มันทำให้ผมนึกถึงใครบางคนขึ้นมา
ผมได้ยินเสียงไอ้ทศกัดฟันกรอด คิดว่ามันต่อยแน่ แต่ที่ไหนได้มันกลับสะบัดตัวไอ้เด็กแว่นออก หยิบกุญแจรถและเดินปึงปังออกจากห้องไปโดยไม่ร่ำลา ใครเลย
"เหี้ย..."ผมกับไอ้ดีอุทานออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ผมเบนสายตาไปมองไอ้เด็กนี่อย่างอึ้งๆ ทำไอ้ทศโกรธยังว่าน่าตกใจแล้ว
นี่สั่งได้โดยไม่โดนต่อย ผมนี่ช็อคเลยครับ
เด็กนั่นยิ้มให้พวกผมแล้วก้มหัวลาก่อนจะเดินตามไอ้ทศออกไป ผมกับไอ้ดีก็มองหน้ากันงงๆ เลย
"กูว่าเรากลับไหม? "ไอ้ดีถามพร้อมโบกมือไล่สาวๆ ออกไปจากห้องด้วย
"ก็ดีนะ แต่กูอยากเสือกว่ะ"บอกจุดประสงค์เพื่อนออกไปตรงๆ เพื่อหาแนวร่วม
"เซนท์เมาแล้ว"ไอ้ดีอ้างเหมือนไม่อยากร่วมเท่าไหร่
"กูจะไม่แกล้งไอ้เซนท์สองวัน"ต่อรองกันไปครับ
"สามวันละกัน"
"โอเค"ผมตกลง จับมือเป็นพันธมิตรกับไอ้ดี ไอ้เหี้ยนี่ก็หลงเมียเว่อร์กูแตะนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้เลย
ไอ้ดีแบกไอ้เซนท์ขึ้นพาดบ่าพากันออกไปก่อน ส่วนผมเดินรั้งท้าย
อ่า...คุณคงจะคิดว่าผมเป็นคนขี้เสือกอ่ะดิ
ใช่ครับ...ผมขี้เสือก แต่ก็เสือกเฉพาะเรื่องของเพื่อนสนิทอ่ะ แล้วก็เสือกอย่างมีจรรยาบรรณด้วย ถึงบางครั้งจะเผลอลืมๆ ไอ้จรรยาบรรณที่ว่านั้นบ้างก็ตาม
แต่ถ้าเป็นคนอื่นที่ผมไม่สนิทผมไม่ยุ่งเรื่องของเขาเด็ดขาด ไม่ได้อยู่ในสายตาผมเลยด้วยซ้ำ
เรื่องของไอ้ทศนี่มันมีกลิ่นแปลกๆ อย่างนี้มันต้องสืบ
มีเรื่องสนุกๆ ให้ทำอีกแล้วสิ
++++++++++++
อิพี่สมิธคนเกรียนcome back นิสัยนางดูน่ารำคาญก็จริง แต่เขามีเสน่ห์นะ งื้อๆ ช่วงแรกๆ ก็จะเป็นการเล่าชีวิตปัจจุบันของฮีและเหล่าเพื่อนชายก่อนนะคะ (เรื่องของตัวเองพักไว้ก่อน) ก็จะเรื่อยๆ ไม่หวือหวาเท่าไหร่จ้ะ