[จบ]You're my fav person•คนโปรด•[Special Talk : HNY](01/01/2562)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบ]You're my fav person•คนโปรด•[Special Talk : HNY](01/01/2562)  (อ่าน 72630 ครั้ง)

ออฟไลน์ rk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
รอเลยค่ะะะะ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
สงสารสมิธ   :hao5:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น้องต้องโดนกระทำแบบนี้จนโตเลยใช่ไหม อีลู่ ขอทีเถอะ  :fcuk:

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อิลุค....พรากผู้เย๊าาาาว์

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อยากรู้ความลับ ^^
ที่แน่ๆแม่รู้อะไรสิน

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
คนโปรด 7

“ตรงนั้นมันอักเสบ ทำให้มีไข้อ่อนๆด้วย เด็กมึงก็เลยงอแงนั่นแหละ กูฉีดยาให้แล้วเดี๋ยวคงดีขึ้น” ชายหนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนผละออกจากการตรวจร่างกายเล็กที่หลับอยู่บนเตียงหลังใหญ่แล้วเอ่ยบอกเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านหลังพร้อมจ้องเขาเขม็ง

“เออ ขอบใจ”ลูคัสเอ่ยสั้นๆก่อนจะเดินมาดูร่างเล็กที่หลับตาขมวดคิ้วนิดๆอย่างไม่สบายตัวเพราะพิษไข้ ชายหนุ่มเรียกเพื่อนคนเดียวที่เขาสนิทใจมาดูอาการเด็กตรงหน้า เพราะตอนที่สมิธกอดลูคัส ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่าอุณหภูมิจากร่างกายเด็กน้อยมันสูงกว่าปกตินิดหน่อย ลูคัสไม่คิดจะพาสมิธส่งโรงพยาบาลให้เป็นเรื่องใหญ่ จึงเรียก ‘เกรย์ แอนเดอร์สัน’ ว่าที่จิตแพทย์ที่เป็นเพื่อนสนิทเขามาดูอาการแทน

“จะว่ากูเสือกหรืออะไรก็แล้วแต่เพราะกูอยากเสือกจริงๆ แต่กูถามจริงมึงคิดยังไงถึงกล้าเอาเด็กตัวแค่นี้วะ ขนาดตัวไม่เท่าไหร่นะนี่อายุถึง10ขวบรึเปล่าวะลุค” เกรย์เอ่ยถามเพื่อนออกไปอย่างใคร่รู้ รู้จักกันมาก็เกือบจะสิบปี ไม่เคยเห็นมันมีรสนิยมแนวนี้มาก่อน

“ก็ไม่คิดยังไง อยากเอาก็เอา อีกอย่างมิทตี้ก็12แล้ว ไม่ถือว่าเด็กเท่าไหร่…คนอย่างมึงที่อึ๊บสาวครั้งแรกตอน11ไม่น่าถามเลยนะ”

“มันเหมือนกันที่ไหนล่ะ กูเป็นผู้กระทำแต่เด็กมึงเป็นผู้ถูกกระทำ สมยอมหรือไม่ก็ผิดกฎหมายนะโว้ย”เกรย์เอ่ยเตือนเพื่อนที่ยืนหน้านิ่งด้วยความหวังดี แม้ว่าจะรู้ว่าลูคัสไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน มันเป็นพวกเชื่อมั่นในความคิดตัวเองตั้งแต่ไหนแต่ไร

“กูไม่สน…หมดธุระมึงก็กลับไปได้แล้ว”

“เฮ้อ…ยังไงก็เพลาๆมือหน่อยละกัน ให้เด็กมันหายก่อนไม่งั้นอาการมันจะหนักกว่าเดิม”

“เออ”

“ค่าปิดปากกู พรุ่งนี้ร้านไอ้จอร์ชสี่ทุ่มนะมึง”เกรย์เอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะก้าวออกจากห้อง เขาแค่ต้องการชวนไอ้หยิ่งนี่ไปดื่มด้วยกันเท่านั้นเอง

“ขอคิดดูก่อน”ร่างสูงใหญ่ของเกรย์ชะงักไปก่อนจะหันหน้ากลับมามองเพื่อนตนเอง ปกติถ้านัดกันมันแทบไม่เคยปฏิเสธคำชวนเขาเลย

“ติดเด็กแล้วสินะมึงน่ะ…พาไปด้วยสิ ระดับมึงยังไงก็เข้าได้อยู่แล้ว”เกรย์กระตุกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี ไม่เคยเห็นมันห่วงใครขนาดนี้มาก่อน

“ไม่ต้องเสือก ไสหัวมึงไปได้แล้ว…ไปก็เจอไม่ไปก็ไม่เจอ”ลูคัสตัดบทไล่เกรย์อย่างรำคาญ เกรย์หัวเราะหึๆในลำคอกวนเส้นประสาทเพื่อนก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก

+++++++++++++

"มิทตี้ ตื่นเถอะค่ำแล้วนะ"ชายหนุ่มสะกิดร่างบางบนเตียงพร้อมเอ่ยเรียก เมื่อเขาเห็นว่าสมิธหลับไปนานพอสมควรแล้ว ควรจะตื่นมาทานอาหารค่ำเสียที

เด็กชายค่อยๆขยับตัวจากแรงปลุก เปลือกตาเล็กค่อยๆลืมขึ้นอย่างหนักอึ้ง เมื่อเห็นภาพคนที่ยืนอยู่เหนือศีรษะก็ถึงกับผงะไป ลูคัสขมวดคิ้วนิดๆอย่างไม่ค่อยพอใจกับปฏิกิริยาที่เด็กชายแสดงออกนัก แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเด็กชาย

"รู้สึกดีขึ้นไหม?" ลูคัสยื่นน้ำพร้อมหลอดดูดให้เด็กชาย สมิธรับแก้วมาดูดน้ำจนหมด พร้อมสำรวจตัวเองว่าตรงนั้นมีมันเจ็บๆหน่วงๆไม่ค่อยเจ็บมากแล้ว ร่างกายที่อ่อนเพลียก็รู้สึกดีขึ้น ดวงตาสีมหาสมุทรกวาดมองไปทั่วห้อง พบว่าเขาถูกย้ายมาอยู่ที่ห้องตนเองแล้ว

"ผมดีขึ้นมากแล้วล่ะครับแต่ยังรู้สึกเพลียๆง่วงๆ"

"เจ็บแล้วทำไมไม่บอกพี่หืม?"ชายหนุ่มทรุดนั่งบนเตียงพร้อมยื่นมือไปลูบหัวเล็กเบาๆอย่างไม่สนใจอาการเกร็งที่เกิดขึ้นจากเด็กชาย

"ก็...ไม่อยากให้ลุคเป็นห่วง"เด็กชายอ้อมแอ้มตอบ เขาคิดว่าแค่ทายาที่ลุคเตรียมไว้ให้เดี๋ยวก็หาย

"ยิ่งมิทตี้เจ็บพี่ก็ยิ่งห่วง คราวหลังเป็นอะไรก็บอกพี่ เข้าใจรึเปล่า"สมิธพยักหน้ารับ หัวใจเต้นแรงเมื่อคนข้างๆโน้มหน้ามาจูบริมฝีปากเขาอ่อนหวานแผ่วเบาราวกับปุยเมฆ จนเด็กชายลืมความกลัวก่อนหน้านี้ไปหมดสิ้น

"ลุกขึ้นมาทานอะไรหน่อยเถอะ แล้วค่อยกลับมาตอนต่อ"ชายหนุ่มผละริมฝีปากแล้วกระซิบบอกชิดใบหูเล็กพร้อมกดจมูกบนแก้มใสอีกฟอดใหญ่ สมิธหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

"อื้อ"เด็กชายตอบรับอย่างว่าง่าย ก่อนจะถูกให้รางวัลจากคนตัวโตกว่าเป็นจูบหวานๆไปอีกที กว่าลูคัสจะตัดใจถอนริมฝีปากออกจากร่างเล็กได้ก็กินเวลาไปเกือบสิบนาที สมิธได้แต่ก้มหน้างุดๆอย่างเขินอายซ่อนริมฝีปากเจ่อแดงของตัวเองแล้วเดินตามแรงจูงชายหนุ่มออกจากห้องไปทานอาหาร

+++++++++++++++

​​

"ทำไมยังไม่ไปนอนอีก"ลูคัสเงยหน้าจากแฟ้มเอกสารเอ่ยถามเด็กที่เดินมาทรุดตัวนั่งลงข้างๆเขา

"ไม่ง่วงแล้ว"สมิธเอ่ยบอกชายหนุ่มไปตามความจริง แม้ช่วงแรกๆที่ตื่นขึ้นมาจะรู้สึกงัวเงียอยู่บ้างแต่พอได้ตื่นเต็มตาแล้วจนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด

"พักผ่อนให้มากๆจะได้หายเร็วๆ"

"ครับ"สมิธรับคำเสียงอ่อน

"เอาเถอะ อีกสักพักค่อยไปนอนก็แล้วกัน ดูทีวีเล่นไปก่อน"เพราะตรงที่พวกเจานั่งคือห้องนั่งเล่น ลูคัสก็ไม่อยากจะดุอะไรเด็กชายนักจึงอนุญาตให้อยู่ได้

สมิธรับคำแล้วกดรีโมทเปิดดูช่องโปรด เขาหลี่เสียงลงเพื่อไม่ให้รบกวนลูคัสจนเกินไป นั่งดูไปได้สักพักปากเล็กก็เริ่มอ้าหาวถี่ขึ้นเรื่อยๆจนลูคัสเองยังสงเกตได้

"มิทตี้ ง่วงก็เข้าไปนอนสิ"น้ำเสียงของชายหนุ่มเข้มขึ้นนิดๆอย่างตักเตือน แม้เวลานี้จะพึ่งสามทุ่ม แต่เด็กชายก็ควรจะพักผ่อนได้แล้ว

"อ่ะ ผมยังไม่ง่วง...เท่าไหร่"สมิธพยายามเก็บอาการแม้จะรู้สึกง่วงมากสักเพียงใดแต่ก็ยังไม่อยากเข้านอนในตอนนี้ ลูคัสที่ตอนแรกตั้งท่าจะดุเด็กชายที่ดื้อดึง แต่พอเห็นสายตาเหงาหงอยและคาดหวังบางอย่างก็ทำเอาเขาดุไม่ลงเหมือนเหมือนกัน เหมือนใจมันยวบลงไปซะเฉยๆ

ลูคัสวางแฟ้มในมือลงบนโต๊ะ แล้วดึงเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆมานั่งบนตักแกร่งของตนเองแทน สมิธรีบหันหน้าเข้าหาชายหนุ่ม กอดคอแล้วซุกหน้ากับอกอุ่นๆนั่นทันที ซึ่งกลายเป็นท่าประจำที่เด็กชายชอบทำไปซะแล้ว

ลูคัสหัวเราะในลำคอเบาๆ มือวางบนสะโพกมนขนาดพอดีมือ เผลอลูบไล้ไปมาอย่างหยุดมือไม่ได้

"ช่วงนี้ขี้อ้อนนะเราน่ะ"ลูคัสกดจูบบนจอมกลางศีรษะเล็กของอีกคนอย่างหมั่นเขี้ยว

"ไม่ได้หรอ?"สมิธเงยหน้าขึ้นมองอีกคนอย่างอ้อนๆ ก่อนจะยื่นริมฝีปากไปจูบปลายคางคนตัวโตอย่างไม่เกรงกลัว

"อยากเจ็บหนักกว่าเดิมรึไง หืม?"ลูคัสอดไม่ได้ที่จะขบแก้มป่องนิดๆนั่นไปที แต่คงขบแรงไปหน่อยเด็กเลยมองซะตาเขียวเลย

"ลุคชอบทำแรง"พอปากเล็กๆยื่นออกมา ก็ถูกริมฝีปากอีกคนดูดจ๊วบเข้าให้

"ก็ไม่เห็นบ่น นึกว่าไหวชอบให้ทำแรงๆ"สมิธหน้าแดงแปร๊ดรู้สึกว่าลูคัสจะคุยไปคนละเรื่องกับตน เขาหมายถึงเวลาจูบหรือหอมหรอก แต่ไม่ว่าลุคจะทำเบาหรือแรงเขาก็ยอมหมดนั่นแหละ...แค่เป็นผู้ชายคนนี้เท่านั้น

"งื้อ...ไม่อยากคุยกับพี่แล้ว"เด็กชายซุกหน้าลงกับซอกคอแกร่งเพื่อหนีอาย

"เวลาพี่ไม่อยู่ระวังจะคิดถึง"จบประโยคจากลูคัส เด็กชายก็เงยหน้าขึ้นมองเขาตื่นๆ

"พี่จะไปแล้วหรอ"น้ำเสียงเศร้าๆของเด็กชายทำให้หัวใจของอีกคนกระตุกไปจังหวะหนึ่ง

"เปล่า เดือนนี้พี่จะอยู่อังกฤษทั้งเดือน อาจเดินทางไปประเทศใกล้ๆแถบนี้บ้างแต่พี่จะพยายามกลับมาหามิทตี้เร็วๆแล้วกัน"ชายหนุ่มพูดเหมือนเอาใจเด็กชาย แต่ความจริงแล้วเขากำลังทำตามใจตัวเองอยู่ต่างหาก ช่วงนี้คาสิโนที่ลาสเวกัสก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาจึงว่างมากกกอดเด็กได้นานหน่อย

"อื้ม"สมิธฉีกยิ้มอย่างดีใจ กอดคอชายหนุ่มแน่นขึ้นไปอีก ลูคัสคิดว่าเด็กอาจจะมีนิสัยน่ารำคาญให้เขาอารมณ์เสียไม่น้อย       



แต่สมิธกลับรู้จักวางตัวและควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีในระดับหนึ่ง รู้ว่าสถานการณ์ไหนควรเข้าใกล้หรือถอยห่าง เรียกร้องเท่าทีเขาให้ได้

เพราะแบบนี้สมิธจึงเป็นคนที่เขาโปรดปราณมากคนหนึ่ง

"เด็กดีของพี่"ลูคัสลูบหัวเด็กชายเบาๆ

"เอ่อ...ลุคเรื่องโรงเรียน"เด็กชายเกริ่นขึ้นเมื่อนึกเรื่องโรงเรียนที่คุยกับเดวิดเมื่อกลางวันออก

"อ้อ พี่ให้โยหามาให้แล้ว โรงเรียนAก็น่าสนใจนะ" สมิธได้ฟังชื่อโรงเรียนก็ภึงกับตาลุก ที่นั่นเป็นโรงเรียนที่มีเชื่อเสียงเป็นอันดับ1ในอังกฤษ พวกเจ้าชายหรือเชื้อพระวงศ์ของอังกฤษก็เรียนแต่ที่นี่ เจ้าชายหรือเศรษฐีจากประเทศอื่นก็พากันมาเรียนที่นี่ เรียกว่าเป็นโรงเรียนเจ้าชายเลยก็ว่าได้...แม้จะอยู่ในระดับนั้น แต่สมิธก็ไม่อยากไปเรียนเลยสักนิด มันคนละโลกกันเกินไป

"ผม...ไม่อยากไปเรียนที่นั่น"เด็กชายบอกอีกคนอย่างที่ใจคิด

"ทำไมล่ะ"ลูคัสเชยคางอีกคนให้สบตาเขาอย่างหาคำตอบ

"มันไม่ใช่สังคมที่ผมเคยอยู่ ผมคนละระดับกับคนที่นั่น"

"มิทตี้ก็ต้องรู้จักปรับตัวสิ นายมีพี่อยู่ไม่ต้องกลัวจะน้อยหน้าใคร"ลูคัสเอ่ยอย่างมั่นใจในอำนาจและเงินตราของตัวเอง เขาไม่มีทางยอมให้ใครก็ตามมาดูถูกคนของเขาได้แน่

"ลุค ไปโรงเรียนRได้ไหม ที่นั่นก็ดีเหมือนกันนะ"ลูคัสหรี่ตาลงนิดๆมองร่างเล็กตรงหน้า โรงเรียนRก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ที่นั่นดันเป็นโรงเรียนประจำ ซึ่งเขาไม่ต้องการให้สมิธห่างหูห่างตาเขาขนาดนั้น

"ทำไมถึงอยากไปที่นั่น โรงเรียนประจำต้องนอนหอนะ...มิทตี้ไม่อยากอยู่ดับพี่หรือไง?" สมิธนิ่งคิดไปเล็กน้อยก่นจะค่อยๆอธิบายเหตุผลให้ชายหนุ่มฟัง

"โรงเรียนRมีเด็กจากหลายชนชั้น หลักสูตรก็ดี เพื่อนผมจากที่โรงเรียนก็คิดจะไปต่อที่นั่นหลายคน ได้ฝึกระเบียบวินัยและการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น...และถ้าลุคมาอังกฤษผมก็แวะออกมาหาได้แค่ต้องกลับหอให้ทันเวลาที่เขากำหนด อีกอย่างลุคก็ไม่คิดจะค้างกับผมอยู่แล้ว นอนที่ไหนก็เหมือนกัน"ชายหนุ่มสะอึกกับประโยคสุดท้ายของเด็กชาย สมิธรู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนและรู้ว่าให้เขาให้ได้แค่ไหน เพราะฉะนั้นน้ำเสียงของเด็กชายจึงเรียบเรื่อยไม่มีแววประชดประชันออกมาเลยสักนิด

"พี่...ขอคิดดูอีกทีก็แล้วกัน"เขายังไม่รับปากในทันที ก็อยากจะตามใจอยู่หรอก แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวพันกับเขาโดยตรง คงต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้

"นะลุค...ให้เรียนที่นี่เถอะนะ ยอมทุกอย่างเลย" สมิธไถจมูกเล็กๆกับซอกคอแกร่งไปมาอย่างออดอ้อน โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าอีกคนขนลุกเกรียวขึ้นมาด้วยความรู้สึกบางอย่าง

"มิทตี้ นั่งดีๆ...อืม"ลูคัสพยายามจะห้ามปรามอีกคนเพราะถ้าเขาทนไม่ไหวขึ้นมา คราวนี้สมิธได้เข้าโรงพยาบาลจริงๆแน่

"รับปากก่อน...นะครับ"เด็กชายกดจูบไปตามสันกรามอีกคนอย่างเอาใจ ชายหนุ่มก็เริ่มเคลิ้มกับสิ่งที่อีกคนคอยเอาใจ

"อืม"เพราะทนแรงตื้อกับดวงตากลมโตออดอ้อนนั้นไม่ไหว ในที่สุดชายหนุ่มก็ตกปากรับคำเด็กจนได้

"เย้!รักลุคที่สุด"สมิธชูมืออย่างดีใจก่อนจะจูบลงบนริมฝีปากบางลูคัสเร็วๆแล้วกอดชายหนุ่มแน่น

"พี่รับปากแล้ว ทีนี้มิทตี้ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำแล้วล่ะ"สมิธเงยหน้ามองชายหนุ่มงงๆ ลูคัสแสยะยิ้มแล้วจับมือเล็กไปกุมเป้าตัวเองที่บางสิ่งมันตื่นขึ้นมาแล้ว

สมิธมองอึ้งๆก่อนจะยิ้มแห้งๆออกมา

"ผมทำไม่เป็น"

"ก็ฝึกสิครับ ตอนนี้เลย"ลูคัสยิ้ม...นั่นเป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มคิดว่ารอยยิ้มของคนตรงหน้าดูชั่วร้ายแปลกๆ

+++++++++++++

น้องน่ารักจัง อยากเขียนพาร์แบบนี้ไปอีกหลายๆตอนTT

-อาจมีคนสงสัยเรื่องนามสกุลลูคัส// ชื่อลูคัส ฮาล์น นะคะ แต่เดรทไพรส์ เป็นตระกูลของย่าที่อยู่อังกฤษ ซึ่งทายาทปัจจุบันเหลือแค่สองคน คือ ลูคัส กับ ทศกัณฐ์ แม้ไม่ได้ใช้นามสกุลแต่ก็เป็นคุณชายประจำตระกูล ซึ่งในตอนหลังจากที่ทศกัณฐ์โต เขาก็เพิ่มสกุลของย่าเป็นชื่อกลางเข้าไปเพราะเป็นผู้รับมรดกนะคะ(เฮียลุคไม่เอา ฮีรวยแล้ว)

-ถ้าเปรมจะอัพวันไหน เปรมจะบอกวันล่วงหน้าไว้ในเพจในเฟซบุ๊คนะคะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอบนี้ ใครจะหลงกลใครกันนะ   :hao4:

ออฟไลน์ mundoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
มิทตี้ขี้อ้อนจัง อิพี่หลงแย่เลย

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ถ้าเป็นคนธรรมดาไอเป็นคุกๆไปแล้ว อห  :katai1:

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
​​คนโปรด 8.1


สมิธช้อนดวงตาสีฟ้าเข้มมองคนตรงหน้าด้วยสายตาประหม่า เขายังไม่ประสาในเรื่องแบบนี้เท่าไรนักและยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน แต่ก็เคยเห็นผ่านๆตาที่เวลาที่เพื่อนดูAVกัน

เซ็กส์...คือเรื่องปกติสำหรับคนที่นี่ พวกเขาถูกสอนเรื่องเพศตั้งแต่เด็กๆด้วยซ้ำ เพื่อนเขาหลายคนก็เริ่มมีแฟน เพราะร่างกายวัยนี้ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเป็นหนุ่มเป็นสาวกันมากขึ้น

สมิธมองว่าสิ่งที่ลูคัสทำกับเขามันคือเรื่องปกติของคนรักกัน...อาจจะแปลกที่เขาทั้งคู่เป็นผู้ชายเท่านั้นเอง ซึ่งสมิธก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ความรักมันไม่มีขอบเขตของคำว่าเพศหรอก

"ขยับตัวลงไปนั่งข้างล่างสิเด็กดี"ลูคัสที่เห็นท่าทางเด็กชายดูเก้ๆกังๆก็หอมผมสีน้ำตาลเข้มเบาๆแล้วเอ่ยบอก สมิธขยับตัวลงจากตักแกร่งอย่างว่าง่าย เขานั่งคุกเข่าลงที่พรมเปอร์เซียเนื้อนุ่มตรงหว่างขาที่อ้าออกนิดๆของชายหนุ่มพอดี

ลูคัสอ้าขาออกอีกเล็กน้อยแล้วกระดิกนิ้วเรียกให้เด็กชายขยับเข้ามาใกล้อีกนิด สมิธก็ทำตามอย่างว่าง่าย

"รูดซิปแล้วเอามันออกมา"ลูคัสส่งสายตาบอกเด็กชายว่ามันที่เขาหมายถึงอะไร และเด็กชายก็ไม่เคยทำเขาผิดหวัง มือเล็กเอื้อมมาปลดหัวเข็มขัดให้เขาช้าๆ ค่อยๆปลดตะขอกางเกงและรูดซิปลง ไรขนอ่อนๆตั้งแต่ใต้สะดือลากลงไปภายใต้อันเดอร์แวร์ทำให้สมิธมองว่าลูคัสช่างเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่มากจริงๆ เด็กหนุ่มหน้าแดงระเรื่อขึ้นโดยไม่รู้ตัว

สิ่งที่ปกปิดไว้ด้วยอันเดอร์แวร์สีขาวโป่งนูนขึ้นมาจนแทบจะชีหน้าสมิธ เด็กชายกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะค่อยเกี่ยวขอบอันเดอร์แวร์ลงช้าๆ มังกรที่อยู่ภายในดีดขึ้นมา แม้จะกึ่งแข็งกึ่งอ่อนตัว แต่เมื่อเด็กชายประเมินด้วยสายตาแล้ว เกรงว่ามือเดียวของเขาจะกำไม่รอบ

"ลองจับสิ ทำเหมือนที่พี่เคยทำให้นาย"ลูคัสเอนตัวพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางผ่อนคลาย ดวงตาสีเขียวเข้มจ้องมองเด็กน้อยที่เคลื่อนมือมาจับมังกรเขาช้าๆ ทันทีที่มือสมิธสัมผัส ลูคัสน้อยก็ผงาดขึ้นแทบทันที

สมิธขยับรูดชักสิ่งที่อยู่ในมือตนเองอย่างกล้าๆกลัวๆ พยายามนึกภาพเมื่อตอนที่ลูคัสเคยทำให้แล้วก็ทำตาม ไม่นานมังกรสีแดงคล้ำหัวบานใหญ่ก็ขยายตัวขึ้นจนมือเล็กกำข้างเดียวไม่รอบจริงๆ

"อึก...อมเข้าไป...ดูด แล้วก็รูดเข้าออกเหมือนตอนกินไอศรีมแท่ง ระวังอย่าให้โดนฟัน"ลูคัสกัดฟันข่มความเสียวบอกเด็กน้อย สมิธทำตามที่ชายหนุ่มบอกอย่างไม่อิดออด

ปากเล็กอ้าออกกว้าง ก่อนจะค่อยๆครอบสิ่งที่อยู่ในมือเข้ามาในปาก กลิ่นความเป็นชายลอยคลุ้งอยู่ในปากและจมูกให้ความรู้สึกแปลกใหม่เด็กชาย สมิธอมไปได้เพียงครึ่งท่อนก็หยุดเพราะมันลึกเกินจะรับไหว ทั้งยังใหญ่คับปากเล็ก สมิธช้อนสายตามองลูคัสทั้งน้ำตาคลอ ขืนเข้าไปลึกกว่านี้ได้มีอ้วกแน่ๆ ลูคัสเพียงกระตุกยิ้มพร้อมลูบหัวเด็กชายเบาๆ

"เด็กน้อย ทำได้เท่านี้เองหรอ" สมิธตาลุกวาวนิดๆรู้สึกไม่ชอบใจที่ลูคัสทำเหมือนผิดหวังในตัวเขา เด็กชายฝืนครอบริมฝีปากเล็กให้ลึกขึ้น ก่อนจะห่อปากแล้วขยับปากรูดขึ้นลงตามที่ชายหนุ่มบอก

"อ่ะ...อืมมมห์"สมิธที่เห็นลูคัสครางในลำคอด้วยความสุขสมก็ยิ่งได้ใจ ตั้งหน้าตั้งตาขยับริมฝีปากไม่หยุด แม้เขี้ยวเล็กๆของสมิธจะเกี่ยวเนื้ออ่อนนั้นจนลูคัสสะดุ้งในบางครา การตั้งใจทำมห้เขาอย่างไม่ประสาของเด็กน้อยก็ทำให้เขาเกิดอารมณ์มากขึ้น แต่ทำไปนานหลายสิบนาทีลูคัสก็ยังไม่เสร็จสักที ทำเด็กน้อยชักจะเมื่อยปาก สมิธทำท่าจะผละออกอย่างทนไม่ไหว แต่ชายหนุ่มก็รั้งหัวเล็กเอาไว้แล้วเด้งเอวสวนไปซะเอง สมิธห่อปากเก็บฟัน ทุกครั้งที่ลูคัสไถลตัวตนเข้ามา มันลึกมากจนเด็กชายน้ำตาคลอ ลูคัสผ่อนแรงเมื่อเห็นเด็กตั้งท่าจะร้อง เขาใกล้จะถึงแล้วและจะไม่ยอมให้สวรรค์ล่มเด็ดขาด

"ดูดตรงปลายแรงๆมิทตี้ พี่จะเสร็จแล้ว..ซี๊ด"เด็กชายยอมทำตามอย่างว่าง่าย ดูดหัวเห็ดสีชมพูเข้มแรงๆอย่างที่ลูคัสบอก ลิ้นเล็กกรีดไปตามร่องอย่างไม้รู้ตัว...ลูคัสกระตุกปลดปล่อยออกมาแทบจะทันที สมิธสำลักเพราะไม่รู้จังหวะ น้ำรักพุ่งทะยานไหลสู่ลำคอบางส่วน อีกส่วนเลอะออกมาตามริมฝีปากและคอ

หลังจากที่สมิธถอนปากออก ลูคัสก็ขยับมือกับมังกรของตัวเองให้ปลดปล่อยหยาดน้ำออกมาให้สุด มันพ่นออกมาป็นระลอกเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าของเด็กที่ยังไปค็อกแค็กและดวงตาคู่สวยยังคลอไปด้วยน้ำตาอยู่

ลูคัสที่เห็นสมิธสภาพนี้แล้วอยากจับมาขย้ำหนักๆ มังกรยักษ์ที่น่าจะสงบกลับตื่นตัวจึ้นมาอีกเล็กน้อย ชายหนุ่มสูดลดหายใจระงับอารมณ์ หยิบทิชชู่ใกล้มาเช็ดทำความสะอาดน้องชายแล้วเก็บเข้ากางเกง

ชายหนุ่มหันไปสนใจเด็กน้อยที่พึ่งหยุดไอ เขาโน้มตัวไปอุ้มเด็กชายขึ้นมานั่งบนตักดังเดิม มือเรียวหยิบทิชชู่เช็ดหน้าให้เด็กชายด้วยความอ่อนโยน สมิธที่เขินกับสายตาร้อนแรงของชายหนุ่มจึงกอดคอแกร่งซุกหน้าลงกับอกกว้าง

"เป็นไร?เขินหรอเรา หึๆ"ลูคัสกดจมูกหอมผมสีเข้มของอีกคนไปหลายที

สมิธยิ่งเขินหนักเข้าไปอีกได้แต่บี้หน้าสวยกับอกกว้างไปมาแก้อาย

"ไม่เอาน่า เดี๋ยวหน้ายับหมด"ลูคัสดึงหน้าเรียวเล็กออกจากอกตนเอง ก่อนจะก้มหน้าจูบปากสีกระจับของอีกคน กลิ่นคาวเล็กๆของน้ำเขายังหลงเหลืออยู่ในปากของเด็กน้อย

มันยิ่งทำให้ชายหนุ่มบดจูบริมฝีปากเล็กๆของอีกคนแนบแน่นร้อนแรงยิ่งกว่าเดิม สมิธที่แม้จะตกใจในคราแรก แต่สุดท้ายก็โอนอ่อนไปตามการชักนำของคนตัวโตกว่า ริมฝีปากอิ่มขยับจูบตอบตามอารมณ์วาบหวาม นานหลายนาทีกว่าลูคัสจะยอมถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งเพราะไม่อยากให้อารมณ์ตัวเองเตลิดไปมากกว่านี้...ถึงกระนั้นมือเรียวก็ซุกอยู่ในหางเกงของคนตัวเล็ก เผลอบีบเคล้นสะโพกมนไปหลายที

"ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็ไม่เขินแล้ว"ชายหนุ่มยังแซวต่อ ก่อนจะหอมแก้มใสที่แดงระเรื่ออย่างหมั่นเขี้ยว

"บ้า"สมิธทำปากยื่นนิดๆ รู้สึกเถียงไม่ค่อยออก เพราะถ้าลูคัสจะทำจริงๆ ยังไงเขาก็ยอม...

"เอ้า!ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นไปเรียนแต่เช้า...อ้อ แล้วก็ไม่ต้องไปเองแล้วนะ พี่คนขับรถจะให้คนคอยรับส่งมิทตี้"

"ทำไมล่ะครับ"สมิธถามอย่างสงสัย ปกติเขาเดินทางไปเรียนเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

"พี่มีเหตุผลของพี่ก็แล้วกัน...เอาล่ะเดี๋ยวกระผม จะอุ้มเจ้าชายน้อยไปส่งนะครับ"ชายหนุ่มจับเด็กน้อยอุ้มในท่าเจ้าหญิงแล้วลุกขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาก้มหอมเจ้าชายน้อยหลายทีในขณะที่เดินไปตามทาง เรียกเสียงหัวเราะอารมณ์ดีจากเด็กชายไปหลายยก

คล้อยหลังหนึ่งหนุ่มหนึ่งเด็ก ยังมีสายตาของอีกคนที่มองตาหลังคนทั้งคู่เงียบๆ

โยฮันเนสเป็นมือซ้ายของลูคัส เขาติดตามชายหนุ่มคนนั้นไปแทบทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ครั้งนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นโยฮันเนสล้วนรับรู้ เพียงแต่เขาก็มีมารยาทพอที่จะอยู่อีกมุม...แต่ก็ยังได้ยินเสียงอยู่ดี

ลูคัสดูอารมณ์ดีมากอย่างที่น้อยครั้งจะได้เห็น...เหมือนยิ้มและหัวเราะออกมาจากใจชายคนนั้นจริงๆ

 ในวงการธุรกิจเจ้านายเขาคนนี้แม้จะอายุยังน้อยแต่ก็ไม่สามารถเคี้ยวเขาได้ง่ายๆ ฝีมือและชั้นเชิงต่างๆถูกเขี้ยวกรำมาอย่างหนัก ผู้ชายคนนี้จึงแข็งแกร่งยากที่ใครจะล้มเขาได้ง่ายๆ นั่นจริงหล่อหลอมให้คนผู้นี้มีจิตใจที่ซับซ้อนยากจะหยั่งถึง ใบหน้าที่ฉาบด้วยรอยยิ้มสุภาพนั้น แท้จริงใครจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

แต่สิ่งที่เขาเห็นเมื่อกี้ทำเอาใจหายวาบอยู่หลายส่วน ผู้ชายที่เก่งกาจและหยิ่งยโสในศักดิ์ศรีอย่าง ลูคัส ฮาล์น คนนั้นยอมเรียกแทนตัวเองให้ดูต่ำศักดิ์กว่าอีกคน แม้จะเป็นแค่การหยอกล้อเอาใจกันเล่นๆ

แต่ถ้ารู้จักลูคัสมานานมากพออย่างเขา เรื่องแบบนี้แทบไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย

สมิธ เกรย์เยอร์ ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ

++++++++++++

"สมิธ นายมีแฟนรึเปล่า" อยู่ๆเดวิดก็เอ่ยถามเพื่อนที่นั่งทานอาหารข้างๆกันขึ้น สมิธแทบสำลักสปาเกตตี้ที่กินเข้าไปเลยทีเดียว

"ทำไมถามแบบนั้นล่ะ"สมิธกระพริบดวงตากลมโตมองเพื่อนปริบๆ เดวิดที่นั่งใกล้ๆเหมือนโดนดาเมจอย่างรุนแรงจากดวงตาคู่นั้น ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว่าสมิธดูมีเสน่ห์น่ามองขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆเลย

"เอ่อ ก็ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้นายดูอารมณ์ดี น่าตาก็สดใส อย่างกับคนมีความรักแหนะ"เดวิดเกาแก้มนิดๆแก้เก้อสายตาสมิธที่มองตัวเองอยู่

"ฮ่าๆๆ ขนาดนั้นเลยหรอ ฉันก็ปกติน่า อาจจะอารมณ์ดีที่จะได้เรียนต่อที่เดียวกับพวกนายไง"สมิธเลือกที่จะตอบปัดไป

"นายอารมณ์ดีได้ทุกวันเป็นเดือนเลยเนี่ยนะ อะไรจะมีความสุขขนาดนั้น"จอนห์นนี่ที่นั่งทานเบอร์เกอร์อยู่อีกฝั่งถามขึ้นมาบ้าง ตั้งแต่วันที่สมิธมาบอกพวกเขาด้วยรอยยิ้มว่าจะไปเรียนต่อที่เดียวกันจนวันนี้ก็ผ่านมานับเดือนแล้ว

"บอกมาเถอะน่าว่ามีแฟนใช่ไหม ไม่ต้องอาย ช่วงนี้ไรอันก็ยังคุยกับเจนนี่เลย"จอห์นนี่ยังไล่ต้อนสมิธไม่หยุด หยิบไรอันหนุ่มผมทองตาสีฟ้าหนุ่มหล่อประจำกลุ่มขึ้นมาอ้างบ้าง

"อ่า ก็ไม่ใช่แฟนหรอก"สมิธเกาหลังคอแก้เขิน รอยยิ้มบนใบหน้าเดวิดหุบลงโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆที่เขาเป็นคนเปิดประเด็นเรื่องนี้ แต่พอได้คำตอบจากอีกคนก็ทำเอาใจเดวิดแกว่งแปลกๆ

"แสดงว่าดูๆกันอยู่หรอ หรือว่าไม่มีสถานะ"ไรอันถามบ้างด้วยความอยากรู้

"ก็ไม่รู้สิ อย่ามาถามเลยน่า กินๆไปเลย"สมิธตัดบทเพื่อน เหลือบเห็นเดวิดดูเงียบๆไปก็จิ้มพายแอปเปิ้ลชิ้นพอดีคำจ่อปากเพื่อน เดวิดเดิมทีที่นอยด์ๆไปเห็นคนข้างๆเอาอกเอาใจก็อารมณ์ดีขึ้นมา จึงอ้าปากรับพายเข้าปาก สมิธก็มองขำๆไม่ได้คิดอะไร เมื่อเห็นว่าเพื่อนคุยกันไปเรื่องอื่นแล้วก็เริ่มทานอาหารกลางวันของตัวเองต่อ

ในใจก็คิดไปถึงคำถามของเพื่อนก่อนหน้านี้

แฟนอย่างนั้นหรอ...

ไม่ใช่ว่าสมิธไม่เคยถามลูคัส แต่คำตอบที่ได้รับจากอีกคนทำให้เด็กชายไม่กล้าพูดคำๆนี้อีก

'แฟนงั้นหรอ เรื่องไร้สาระพรรค์นั้นพี่ไม่อยากมีหรอกนะ'ลูคัสพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ

'ทำไมล่ะ'

'พี่ไม่คิดจะผูกตัวเองไว้กับใคร...มิทตี้นายก็รู้ว่าพี่ให้นายได้แค่ไหน...เลือกเอาว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไป หรือจะเป็นแฟนอะไรนั่นที่พี่ไม่รู้จัก'

'แต่พี่บอกว่ารัก'

'ก็รักไง แบบที่มิทตี้ต้องการ'

เพราะคำตอบนั้นลึกๆแล้วสมิธก็รู้สึกปวดหน่วงในใจอย่างน่าประหลาด

คำว่ารักของลุคช่างดูล่องลอยไร้ความหมาย

แต่สมิธจะทำอะไรได้...ในเมื่อหัวใจดวงน้อยๆนี้มันรักไปแล้ว

ก็ได้แต่กดส่วนที่เจ็บไว้ให้ลึกสุดในหัวใจ และเลือกที่จะมีความสุขในทุกๆวันกับเขาคนนั้นก่อนจะหมดเวลาของตัวเอง...

+++++++++

สมิธนางเป็นเด็กฉลาดนะเพียงแต่อาจจะแสดงด้านที่เป็นเด็กกับลูคัสมากกว่าปกติเลยไม่ค่อยเห็นมุมความคิดความอ่านนางเท่าไหร่...แต่อย่าลืมว่าแม้จะเด็ก แต่ก็มีหัวใจนะเออ

//เปรมขอมาลงครึ่งแรกก่อน ตอนนี้ค่อนข้างยาว เลยปาดมาลงก่อนครึ่งหนึ่ง ไม่อยากให้รอนาน ❤

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Panizzz3838

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
พี่สมิธธธธ :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สงสารสมิธจังเลย ไอ้พี่ลู  :3125:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
สงสารสมิท รอสมิทโต

ออฟไลน์ mundoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
ต้องเตรียมผ้าไว้เช็ดน้ำตาแล้วใช่ไหม

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
​​คนโปรด 8.2


"ซัมเมอร์นี้อยากไปไหนเป็นพิเศษรึเปล่า"ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นคนตัวเล็กเล่นเกมส์เพลย์จบไปอีกรอบ สมิธวางจอยเกมส์ลงแล้วนิ่งคิดไปสักพักก่อนจะส่ายหัวให้ชายหนุ่ม

"ไม่มีหรอก ปกติก็ไม่เคยไปที่ไหน"เด็กชายบอกด้วยความซื่อ ทั้งชีวิตมิเชลพาเขาไปเที่ยวไม่เกินสองเมืองจากลอนดอนสักที แล้วเขาก็ไปจนเบื่อแล้วเลยไม่อยากจะไปเท่าไหร่ ถึงคาดหวังว่ามิเชลจะพาไปเที่ยวก็ไม่ได้ไปอยู่ดี

"ไม่มีเลยจริงๆหรอ"ลูคัสถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อ ปกติเด็กวัยนี้ต้องอยากไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ตามวัยสิ เขาถามโยฮันเนส รายนั้นก็บอกว่าเด็กๆส่วนใหญ่ถ้าถึงช่วงปิดเทอมหน้าร้อนพ่อแม่ก็จะพาไปเที่ยวพักผ่อนต่างประเทศบ้าง พักร้อนที่บ้านตากอากาศบ้าง...แต่สมิธนี่สิ

"อื้ม ก็ไม่รู้จะไปไหนนี่นา...แต่ว่า"

"แต่ว่าอะไร?"ลูคัสถามอย่างตั้งใจ

"ผมอยากเจอมิเชล"สมิธมองชายหนุ่มด้วยสายตาคาดหวัง  ลูคัสชะงักไปนิดก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ

"ไปทะเลก็แล้วกัน พี่ว่างหนึ่งสัปดาห์พอดี" ชายหนุ่มลูบผมนิ่มเด็กชายเบาๆ สมิธหลุบสายตาลงต่ำก่อนจะพยักหน้าให้อีกคน

"เด็กดีของพี่"ลูคัสรั้งใบหน้าเล็กเข้ามาใกล้ก่อนจะจุมพิตหนักๆบนหน้าผากมน

+++++++++++

"แฮ่กๆ สมิธรับ!"ลูกหนังสีส้มถูกส่งใส่มือเล็กเจ้าของชื่อ สมิธรับลูกมาจากไรอันแล้วเลี้ยงลูกหลบฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว

ด้วยเพราะสมิธ เกรย์เยอร์เป็นผู้เล่นที่ตัวเล็กที่สุดในสนาม ทำให้ฝ่ายตรงข้ามล้อมร่างบางไว้เพียงสองคนก็บังร่างผอมๆได้จนมิดแล้ว

ถึงแม้จะตัวเล็ก แต่ก็มีความคล่องตัวอยู่มาก ร่างบางขยับเท้ายึกยักไปมาขณะเลี้ยงลูก หลอกล่ออีกฝ่ายโดยการจะขว้างลูกไปอีกทาง ฝ่ายตรงข้ามมองตามแต่กลับไม่เห็นลูก รู้ตัวอีกที่ร่างเล็กก็เลี้ยงลูกอ้อมผ่านพวกเขาไปกระโดดชู๊ตได้สองแต้มมาอย่างสวยงาม

ข้างสนามที่นั่งเชียร์อยู่ถึงกับลุกขึ้นโห่ร้องให้กับสมิธกันสนั่น แม้ไม่ใช่ลูกตัดสิน แต่ฟอร์มการเล่นของเพื่อนร่างเล็กก็โชว์เทพจนไม่น่าเชื่อว่าฝึกเล่นได้แค่สามเดือน

หลังจากจบการแข่งขัน แม้ทีมสมิธจะพ่ายแพ้ไปด้วยคะแนนฉิวเฉียด แต่สมิธก็เป็นหัวข้อที่น่าสนใจของเพื่อนที่เล่นบาสเกตบอลด้วยกันมากกว่า เด็กหนุ่มโดนเพื่อนล้อมหน้าล้อมหลังตั้งแต่ห้องเปลี่ยนชุดยันหน้าโรงเรียน

"เฮ้!สมิธ นั่นใช่รถของที่บ้านนายรึเปล่า"จอห์นนี่ชี้ไปที่รถสีดำคันหรูที่จำได้ว่าช่วงเดือนหลังๆมานี้จะคอยมารับส่งเพื่อนเขาคนนี้ตลอดซึ่งสมิธก็บอกว่าเป็นคนที่พี่ชายให้มาดูแลตอนที่ไม่อยู่

รถคนดังกล่าวที่จอดติดเครื่องอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องหน้าโรงเรียนเรียกดวงตาสีมหาสมุทรให้หันมองตามและขมวดคิ้วนิดๆเมื่อเห็นว่าใช่รถที่เขานั่งอยู่ประจำจริงๆ แต่วันนี้เขาแจ้งจิมมี่ว่าจะกลับเองเพราะคิดจะอยู่เล่นบาสและกะจะไปเดินเล่นต่อกลับเพื่อนหลังจากนั้น

จิมมี่เป็นคนที่ลูคัสส่งมาคอยดูแลหลายๆเรื่องของสมิธทั้งขับรถตามรับตามส่งหรือแม้แต่อาหารการกิน ชายหนุ่มชาวอเมริกันคนนี้เป็นผู้จัดการให้ทั้งหมด

มือขาวเรียวปลดแขนของเดวิดที่พาดอยู่บนบ่าของตัวเองลงช้าๆ

"ถ้าอย่างนั้น ฉันกลับเลยก็แล้วกัน"สมิธเอ่ยลาเพื่อน ไหนๆจิมก็อุตส่าห์มารอรับ สมิธก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายรอเก้อ

"อ้าว ไหนว่าจะไปย่านGกับพวกฉันล่ะ"ไมเคิลท้วงขึ้นอย่างรู้สึกเสียดาย เขาเป็นเพื่อนคนละห้องกับพวกสมิธ แต่เริ่มมาสนิทกันเพราะการเล่นกีฬาบาส

"ขอโทษนะ...เอาไว้ฉันชดเชยวันหลังนะไมค์"สมิธมีสีหน้าลำบากใจนิดๆทั้งๆที่นัดเพื่อนไว้แล้วแท้ๆเชียว

"เอาอย่างนี้ เดี๋ยวฉันพานายไปบอกให้ที่บ้านนายกลับไปก่อนดีไหม ถ้าดึกฉันจะไปส่งนายเอง" เดวิดเอ่ยหาทางออกให้ สมิธก็นิ่งคิดตามเพื่อนก่อนจะพยักหน้าตกลง

เดวิดจับมือสมิธข้ามทางม้าลายไปอีกฝั่งโดยให้เพื่อนๆที่เหลือยืนรออยู่ที่หน้าโรงเรียน เดวิดจูงมือสมิธพาสมิธจนถึงรถ ร่างเล็กดึงเพื่อนให้อยู่ด้านหลังแล้วชี้มือเข้าหาตัวเองว่าเขาจะเป็นคนพูดเอง ซึ่งเดวิดก็ยอมแต่โดยดี

มือเล็กเคาะกระจกด้านคนขับเบาๆไม่กี่ที กระจกก็เลื่อนลงมาครึ่งหนึ่ง ทำให้เห็นใบหน้าของจิมมี่ได้ชัดเจน

"สวัสดีครับจิม"

"สวัสดีครับคุณสมิธ"แม้จิมมี่จะทักทายเด็กหนุ่มกลับมา แต่ก็มีสีหน้ากระอักกระอ่วนจนสมิธสังเกตได้

"วันนี้ผมบอกจิมไปแล้วนี่นาว่าจะกลับเอง ทำไมจิมถึงมาได้ล่ะครับ มีอะไรรึเปล่า?"เด็กชายเอ่ยถามอย่างสงสัย

"ก็...ไม่มีอะไรหรอกครับ"เขาไม่มี แต่อีกคนนี่สิ

"ถ้าอย่างนั้นจิมกลับไปก่อนเถอะครับ ผมจะไปเดินเล่นต่อกับเพื่อนๆสักพักแล้วค่อยกลับ ถ้าค่ำเกินไปเดี๋ยวเดวิดไปส่ง" สมิธชี้ไปทางเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านหลังของตน ซึ่งเดวิดก็พยักหน้ายืนยัน

"เอ่อ..." จิมมี่ไม่รู้จะพูดให้เด็กหนุ่มเข้าใจยังไง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรออกไปมากกว่านี้ เสียงเรียบเย็นก็ดังขึ้นราวกับฟ้าผ่า

"ไม่ต้องไป มาขึ้นรถได้แล้วมิทตี้"สมิธสะดุ้งกับเสียงที่สามที่ดังแทรกขึ้นมาเหมือนหมดความอดทน จิมมี่เลื่อนกระจกลงจนสุดทำให้สมิธสามารถมองเข้าไปในรถได้อย่างชัดเจน เห็นลูคัสที่นั่งอยู่เบาะหลังจ้องมาทางเขาไม่วางตา

"ลุค...พี่ไม่เห็นบอกว่าจะมา"เมื่อหายตกใจเด็กหนุ่มก็เอ่ยถามชายหนุ่มเจ้าของชื่อด้วยความแปลกใจ

"พี่มีหน้าที่ต้องคอยรายงานนายตั้งแต่เมื่อไหร่" ลูคัสยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างดังเดิม ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีรอยยิ้มแต้มอยู่อย่างเคย

เพราะสีหน้าและน้ำเสียงของลูคัสก่อให้เกิดมวลความรู้สึกบางอย่างวูบวาบขึ้นมาสมิธรู้สึกแน่นไปทั้งอกจนรู้สึกหายใจไม่ถนัด เหมือนหัวใจมันถูกของมีคมกรีดบางๆจนเลือดซิบ

สมิธหลับตาข่มความรู้สึกกลั้นบางสิ่งไม่ให้ไหลออกจากดวงตาคู่สวย

ร่างเล็กหันหลังกลับไปหาเพื่อนก่อนจะเอ่ยลาเสียงแผ่ว

"วันนี้ไปด้วยไม่ได้แล้ว ขอโทษนะเดวิด"

"สมิธ!นาย..."เดวิดที่เห็นใบหน้าซีดๆและดวงตาแดงๆของเพื่อนก็เอ่ยเรียกอีกฝ่ายอย่างตกใจ เขาทำท่าจะหันไปเอาเรื่องอีกคนที่ทำให้เพื่อนเขาเป็นแบบนี้อย่างไม่สนว่าตัวเองจะเคยกลัวผู้ชายคนนี้มากแค่ไหน แต่สมิธกลับจับแขนเขาไว้แน่น และส่งสายตาขอร้องที่ดูน่าสงสารจนอยากจะดึงอีกฝ่ายมากอดปลอบแน่นๆ แต่สายตาผู้ชายคนนั้นที่มองมาก็แทบจะฆ่าเขาให้ตายอยู่รอมร่อ

"ไว้คราวหลังนะ ฝากขอโทษทุกคนด้วย บาย" สมิธฝืนยิ้มให้เพื่อนก่อนจะโบกมือลาแล้วหันหลังก้าวขึ้นรถไป

เดวิดมองตามท้ายรถคันหรูไปจนสุดสายตา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเขาถึงได้รู้สึกเป็นห่วงสมิธมากเหลือเกิน

++++++++++++

หลังจากที่สมิธก้าวขึ้นรถและรถออกตัวมาได้สักพัก ภายในรถกลับเงียบสนิทอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ลูคัสนั่งหน้าตึงแผ่รังสีเย็นยะเยือกออกมาเป็นระยะ หางตาเหลือบมองเด็กหนุ่มที่นั่งเงียบอยู่อีกมุม หัวคิ้วชายหนุ่มกระตุก ความรู้สึกหงุดหงิดใจก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ

เขาหงุดหงิดตั้งแต่เห็นสมิธเดินออกจากโรงเรียนกับเพื่อนที่กอดคอเกี่ยวแขนอย่างถึงเนื้อถึงตัว ทั้งที่รู้ว่ามันเรื่องปกติของเด็กผู้ชาย

หงุดหงิดที่ไอ้เด็กนั่นกล้าจับมือคนของเขาเดินมาหาเขาถึงที่

และโคตรหงุดหงิดที่รู้สึกว่ามันอาลัยอาวรณ์กันเหลือเกิน กว่าจะล่ำลากันได้

แล้วนี่ยังมาเงียบใส่เขาอีก...เขาคงใจดีเกินไปใช่ไหม สมิธถึงได้กล้าออกนอกลู่นอกทางขนาดนี้

เห็นทีต้องกำราบให้เข็ดหลาบ...

ทางด้านสมิธที่เอาแต่นั่งเงียบเพราะยังรู้สึกหน่วงๆในใจไม่หายกับคำพูดของลูคัสอยู่

เขากลัวว่าถ้าพูดอะไรออกไปแล้วไม่ถูกใจอีกคนจะถูกเย็นชาใส่ยิ่งกว่าเดิม เพราะแค่นี้ก็กลั้นน้ำตาไว้แทบไม่ไหวแล้ว

หลังจากถึงเพ้นท์เฮาส์ต่างคนต่างก้าวเข้าลิฟท์โดยไม่มีใครปริปากออกมาก่อนจนกระทั่งถึงห้อง ลูคัสก็ใช้สายตาไล่ลูกน้องเงียบๆ จิมมี่จึงรีบหลบไปอีกด้านของห้องทันที

"เอาของไปเก็บแล้วไปหาพี่ที่ห้อง"พูดจบชายหนุ่มก็เดินแยกไปที่ห้องตัวเองทันที สมิธเม้มปากนิดๆอย่างอึดอัด

ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยจริงๆ

เด็กหนุ่มนำกระเป๋าไปเก็บอย่างว่าง่าย เขาล้างหน้า ล้างมือและล้างเท้าให้สะอาดก่อนไปหาลูคัส เพราะรู้ว่าอีกคนรักความสะอาดแค่ไหน

สมิธเคาะประตูห้องลูคัสสองสามครั้ง ก็ได้ยินเสียงคนในห้องอนุญาตให้เข้าไป มือบางโยกคันโยกประตูก่อนจะเปิดเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูตาม

เมื่อหันหน้ากลับไปก็พบลูคัสนั่งหน้านิ่งรออยู่ที่ปลายเตียงแล้ว

"มานี่สิ" เมื่อลูคัสเห็นเด็กน้อยยืนนิ่งอยู่หน้าประตูจึงเอ่ยเรียกอีกคนให้ขยับเข้ามาใกล้ๆตนเอง เด็กชายมีท่าทีลังเลอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายก็ได้แต่ขยับเท้าเดินไปหาคนสั่ง

เมื่อก้าวไปถึงระยะห่างกันประมาณหนึ่งช่วงแขนชายหนุ่ม สมิธก็ลอบมองสีหน้าอีกฝ่ายอย่างกล้าๆกลัวๆ ไม่เคยเจอกับลูคัสที่เป็นแบบนี้มาก่อน

"พี่เรียกผมมา มีอะไรรึเปล่า"น้ำเสียงที่เคยออดอ้อนของสมิธ แปรเปลี่ยนเป็นราบเรียบโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ตัว

ลูคัสใช้ลิ้นดุนแก้มเหมือนทุกครั้งที่เขาพยายามกลั้นความหงุดหงิดแต่สุดท้ายก็สะกดเอาไว้แทบไม่อยู่ ชายหนุ่มจึงกระชากร่างเล็กเข้าหาตัวอย่างแรง ก่อนจะกดกายบางลงจากเตียงแล้วเขาก็ตามคร่อมทับอีกคนไว้อย่างรวดเร็ว

"อ๊ะ...ลุค!พี่จะทำอะไร"เด็กหนุ่มถามด้วยความตกใจปนหวาดหวั่น ขยับแขนทั้งสองข้างให้หลุดพ้นจากพันธนาการที่อีกฝ่ายตรึงไว้ด้วยมือเดียว

"วันนี้รู้ตัวไหมว่านายทำพี่หงุดหงิดมากแค่ไหน"

"ผมทำอะไร?" สมิธถามอีกคนอย่างไม่เข้าใจว่าเขาไปทำให้อีกฝ่ายโกรธตั้งแต่เมื่อไหร่

"ทำไมเลิกเรียนแล้วไม่กลับบ้าน?ทำไมปล่อยให้ไอ้เด็กผมทองนั่นนัวเนียขนาดนั้น ชอบมันนักรึไง!"

"ลุค!เดวิดเป็นเพื่อนผม!เราไม่ได้มีอะไรเกินเลยต่อกัน"

"เพื่อนที่เอากันด้วยรึเปล่า!"ลูคัสว่าอย่างใส่อารมณ์ ไม่ฟังเหตุผลที่อีกคนอธิบายใดๆทั้งสิ้น

"พี่อย่ามายัดเยียดความคิดต่ำๆของพี่ให้ผม!"

เพียะ! ใบหน้างามหันไปตามแรงตบ แก้มซ้ายชาไปทั้งแถบก่อนที่ความเจ็บจะค่อยๆตีตื้นขึ้นมา น้ำตาเม็ดโตร่วงผล็อยออกมาจากดวงตาคู่สวย

สมิธหันหน้ากลับมามองอีกคนทั้งน้ำตา ลูคัสก็มองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเลยสักนิด

"ผมเกลียดพี่"สมิธพูดเสียงแผ่วทั้งน้ำตา "ได้ยินไหมว่าผมเกลียดพี่!! อื้ออ!"ลูคัสที่ได้ยินคำว่าเกลียดคำแรกก็รู้สึกจี๊ดๆที่อก แต่พอสมิธเอ่ยย้ำขึ้นมาอีกรอบก็ทำเส้นความอดทนเขาขาดสะบั้นลงทันที

ริมฝีปากบางชายหนุ่มกระแทกจูบปิดปากอีกคนไม่ให้เอ่ยประโยคใดๆออกมาได้อีก ลูคัสขบเม้มริมฝีปากอิ่มของสมิธอย่างดุดัน  

มือเรียวบีบกรามอีกคนจนร่างเล็กร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทำให้ชายหนุ่มได้โอกาสส่งลิ้นเข้าไปซอกซอนโพรงปากหวาน ลิ้นร้อนพยายามไล่ต้อนเกี่ยวพันลิ้นเล็กที่หลบหนีลิ้นเขาราวกลับรังเกียจ นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มบดจูบระบายโทสะกับปากอิ่มเล็กมากยิ่งขึ้นไปอีก สมิธร้องไห้และขัดขืนแต่ก็สู้แรงคนตัวโตกว่าไม่ได้เลยสักนิด รสเค็มปร่าในปากทำให้เขารู้ว่าตัวเองปากแตกแล้วเป็นแน่

แก้มก็เจ็บ ปากก็เจ็บ...หัวใจยังเจ็บ

ลูคัสทั้งดูดและกัดปากเล็กจนริมฝีปากอีกคนบวมเจ่อแต่เขาก็ไม่ได้หยุดยั้งการกระทำของตัวเองเลยสักนิด

กลับกันชายหนุ่มยังใช้มือข้างเดียวถอดเข็มขัดตัวเองออกก่อนจะนำมามัดมือทั้งสองข้างของสมิธจนแน่น

ลูคัสจูบปากอีกคนอย่างต่อเนื่องโดยไม่ให้พักหายใจ มือที่ว่างฉีกทึ้งเสื้อผ้าที่ติดกายสมิธออกอย่างหยาบคายไร้ความอ่อนโยน

ริมฝีปากบางของลูคัสเคลื่อนห่างออกจากริมฝีปากที่บวมช้ำมาทีต้นคอระหงแทน

เขากัดลงไปเต็มแรงจนเด็กชายร้องลั่น ลูคัสทั้งกัดแล้วดูดแรงๆจนห้อเลือด ลำคอขาวๆเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์กที่แดงช้ำจนน่ากลัว

ชายหนุ่มเหลือบสายตามองใบหน้าเล็กที่ยังร้องไห้ไม่หยุด คราวนี้เขาไม่คิดจะผ่อนแรง เพราะเขาตั้งใจทำเพื่อลงโทษอีกคนให้หลาบจำ

ลูคัสอ้าขาเรียวออกกว้าง สมิธที่รู้ว่าชายหนุ่มจะทำอะไรกับตนก็ดิ้นรนขัดขืนอย่างไม่ยอม ขาเล็กปัดป่ายไปมาจนลูคัสต้องใช้ขาตัวเองกดขาสมิธไว้ข้างหนึ่ง อีกข้างก็ใช้มือจับให้อ้าออกกว้าง

"จำครั้งนี้ไว้เป็นบทเรียน ให้รู้ไว้ว่าที่พี่ทำกับนายแบบนี้เพราะนายทำตัวเอง"พูดจบชายหนุ่มก็สอดนิ้วเรียวยาวที่ไร้ตัวช่วยหล่อลื่นใดๆทั้งสองนิ้วยัดพรวดเข้าสู่ช่องทางสีหวานของสมิธทันที

"อ๊ากกกก"สมิธร้องด้วยความเจ็บ ช่องทางด้านหลังตอดรัดสิ่งแปลกปลอมโดยอัตโนมัติ แต่ลูคัสก็ยังฝืนขยับนิ้วไม่สนใจเสียงขอร้องอ้อนวอนจากอีกคนเลยสักนิด

"พอแล้วลุค ฮืออออ เจ็บแล้วๆ ฮึก"ลูคัสสอดนิ้วที่สามเข้าไปแล้วขยับนิ้วชักเข้าออกรัว

"จำรึยังมิทตี้"เขาเอ่ยถามขณะที่กำลังขยับนิ้วเข้าออกไม่หยุด

"จำแล้วครับ พอแล้ว ฮือออ"สมิธเจ็บยิ่งกว่าครั้งแรกที่ลูคัสทำซะอีก ครั้งนี้เขาไม่เต็มใจและลูคัสป่าเถื่อนจนเขาเจ็บไปทั้งกาย

"เด็กดีของพี่ไหนบอกมาซิ ว่าควรจะทำยังไงให้พี่พอใจ" รอยยิ้มเย็นปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม

"ฮึก...ผมไม่รู้...ฮือออ"

"นายต้องรู้!"ลูคัสขยับกดนิ้วเข้าไปด้านในแรงขึ้นกว่าเดิมจนร่างบางร้องเสียงหลง

"ผมยอมคุณแล้ว ฮึก ยอมทุกอย่างจริงๆ"

"ดี! จำคำของตัวเองไว้ให้ขึ้นใจ นายเป็นของพี่คนเดียวเท่านั้น อย่าให้พี่เห็นเหตุการณ์แบบวันนี้อีก ถ้ามีพี่จะทำยิ่งกว่านี้...และนายจะไม่ได้เห็นหน้ามันอีก จำไว้!"จบประโยคของชายหนุ่ม สมิธก็สัมผัสได้ว่านิ้วมือที่อยู่ช่องทางนั้นถูกถอดออกไปและถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่านั้นเข้ามาแทนโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

"อ๊าา ลุค..."สมิธพูดไม่ออก มันเจ็บจนแทบจะสลบไป

"ถึงนายจะรู้ว่าผิด แต่การลงโทษก็จะยังมีต่อไป"ลูคัสขยับสะโพกแต่ก็ขยับไม่ได้ดังที่ต้องการ เพราะแรงรัดจากอีกคน

"ถ้านายเกร็ง นายจะเจ็บจนลุกไม่ขึ้นเลยนะ"ลูคัสโน้มตัวไปกระซิบข้างใบหูเล็กก่อนจะกดจมูกลงกับแก้มที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา

สมิธส่ายหน้าไปมาเพราะไม่สามารถรู้สึกผ่อนคลายได้เลย แม้ลูคัสจะช่วยสาวแก่นกายเล็กขนาดพอดีของเขาแต่สมิธก็ไม่สามารถมีอารมณ์ร่วมได้จริงๆ

สุดท้ายลูคัสก็ฝืนขยับ ไม่ได้สนใจเสียงร้องที่ดังระงมเพราะความเจ็บปวดของสมิธเลยสักนิด เสียงเฉอะแฉะที่ช่องทางนั้น และเสียงกายเนื้อที่กระทบกันพั่บๆดังขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมๆความเจ็บปวดของร่างเล็ก ชายหนุ่มยังคงขยับเอวเป็นจังหวะคงที่ จับร่างบางที่เลิกขัดขืนเพราะไร้เรี่ยวแรงแล้วพลิกตัวเปลี่ยนท่าไปมาตามอารมณ์ที่เขาต้องการ

.

.

.

ลูคัสขยับสะโพกสอบรัวเร็วในจังหวะสุดท้ายใส่ช่องทางที่บวมช้ำอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะกระตุกปลดปล่อยหยาดน้ำออกมาเป็นรอบที่สาม น้ำสีขาวขุ่นจางๆไหลทะลักออกมาเต็มถุงยาง เขาสาวสะโพกต่ออีกสามสีทีแล้วค่อยถอนตัวออกมา

สมิธสลบไปเป็นรอบที่สอง ชายหนุ่มกวาดสายตามองร่างเล็กที่เต็มไปด้วยรอยจูบที่บางแห่งม่วงช้ำจนน่ากลัว ดวงหน้าเล็กๆที่หลับสนิทไปมีคราบน้ำตาเกาะอยู่ไม่น้อย ช่องทางสีหวานที่แดงช้ำและบวมขึ้นเพราะโดนเขาทรมานร่วมสามชั่วโมง

ครั้งนี้เขารุนแรงมากจริๆ ยอมรับว่าโมโหมากแต่ทุกอย่างที่ทำไปลูคัสล้วนมีสติอยู่ตลอดเวลา

อาจจะโดนเกลียดอย่างที่ปากเล็กๆนี่พึมพำด่าทอ แต่เขามั่นใจว่ายังไงสมิธก็ยังรักเขาอยู่ดี

ความรักมักทำให้เราแพ้เสมอ

และเขาจะไม่มีวันเป็นผู้แพ้

+++++++++++++

​ตอนนี้แต่งจนเกือบโต้รุ่ง ฮ่า กราบใจความชั่วของอิพี่ เขียนเองเกลียดเองคิดดูเอา :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2018 05:29:54 โดย YINGPREM »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
บอกตรง ๆ ตอนนี้เมนต์ไม่ออกอ่ะ ทำได้เพียง  :beat: :z6: :13223: :โป้ก1: :pigangry2: :z4: :fcuk: :fire: :katai1:

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คนแต่งสู้ๆนะคะ  :pig4: :3123: :กอด1:
สิ่งที่นางทำนางยังคิดว่ายังเป็นการอยากเอาชนะอยู่หรอ ใครกันแน่ที่จะแพ้ในอนาคต ฮึ่ยยยย น้องออกจะเป็นเด็กดีขนาดนี้ ทำร้ายน้องทำไม :beat: :angry2:

ออฟไลน์ jaratree2528

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :z3: :z3: :katai1: สงสารสมิทจัง รอๆมาไวไวนะ

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
 โอ้โห!ดูนสงทำ ขอ :z6: :z6: แล้วก็ :beat: ปิดท้าย :z6: :z6: สักหน่อยเถอะ

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
​​คนโปรด 9



"เขาเป็นยังไงบ้าง"

(หลังทานอาหารทานยาเสร็จก็นอนต่อเลยครับ)จิมมี่รายงานเจ้านายผ่านสายโทรศัพท์

"เขาได้พูดอะไรไหม?...ได้ถามหาผมรึเปล่า"

(ไม่ได้พูดอะไรเลยครับนาย ผมถามอาการก็พูดคำตอบคำครับ)

"เหรอ...ช่างเถอะ ดูแลเขาให้ดีๆก็แล้วกัน...สัปดาห์นี้ยังไม่ต้องให้เขาไปเรียน"ลูคัสถอนหายใจหนัก ก่อนจะเอ่ยย้ำลูกน้องให้ดูแลคนของเขาให้ดี

"ครับนาย"จิมมี่รับคำแล้วรอให้เจ้านายกดวางสายไปก่อน

"ถ้าห่วงขนาดนั้นก็ไม่น่ารีบจากมาเลยนะครับ"โยฮันเนสเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลูคัสเงียบไปพักใหญ่ๆหลังจากวางสายจากจิมมี่

"ก็ไม่ได้อยากจะมานักหรอก"ลูคัสเสยผมสีบลอนด์ทองที่ยาวประบ่าของตนเองอย่างหงุดหงิด ถ้าไม่ใช่ต้องมาจัดการไอ้คนที่ต้องการลองของกล้าโกงการเล่นพนันในคาสิโนของเขา ลูคัสคงไม่ต้องถ่อจากอังกฤษมาอเมริกาในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ระหว่างเขากับสมิธแบบนี้หรอก

"คุณสมิธเธอยังเด็ก ถ้าง้อสักหน่อยเธออาจจะหายโกรธก็ได้นะครับ"โยฮันเนสเอ่ยแนะเจ้านาย ในสถานการณ์ที่โดนกระทำแบบนี้ใครไม่โกรธก็บ้าแล้ว...หรือแค่คำว่าโกรธอาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ

"ง้ออะไร? ผมทำอะไรผิดงั้นเหรอ...มิทตี้เป็นคนของผม คนอื่นไม่มีสิทธิ์แตะต้อง และเขาผิดที่ไม่รู้จักสงวนร่างกายตัวเอง...มองผมแบบนั้นหมายความว่าไงโย?"ลูคัสเอ่ยถามเมื่อเห็นลูกน้องคนสนิทมองตนเองอย่างแปลกใจ

โยฮันเนสเหมือนได้สติคืนมาจึงเอ่ยถามเจ้านายด้วยน้ำเสียงไม่เป็นธรรมชาติ

"เอ่อ...ผมขอถามอะไรสักอย่างได้ไหมครับนาย"

"อืม"

"ตอนที่นายเห็นคุณสมิธอยู่กับคนอื่น นายรู้สึกไม่ชอบใจหรือหงุดหงิดใช่ไหมครับ"

"ใช่"ลูคัสยอมรับออกไปตามตรง

"บ่อยครั้งที่นายมองไปยังสิ่งต่างๆแล้วจะคิดถึงคุณสมิธขึ้นมาใช่ไหมครับ" ลูคัสนิ่งคิดไปก่อนจะพยักหน้าให้ลูกน้อง

"และตอนนี้ที่คุณสมิธไม่สบาย นายท่านก็รู้สึกเป็นห่วง และกระวนกระวายอยากกลับไปหาคุณสมิธที่อังกฤษใช่ไหมครับ"

"คุณจะสื่ออะไรกันแน่โย?"

"ถ้าผมพูดอะไรบางอย่างออกไป นายจะไม่ชักปืนมายิงผมใช่ไหมครับ"โยฮันเนสยิ้มมุมปากนิดๆ แต่ในน้ำเสียงก็มีความหวาดกลัวว่าจะนายจะทำอย่างที่เขาพูดรึเปล่า

"พูดมา"

"ผมคิดว่านายอาจจะ...ชอบคุณสมิธ"

"..."

"..."

จบประโยคของโย ทำให้ทั้งห้องเงียบกริบลงในทันใด เงียบชนิดที่โยได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นถี่ขึ้นด้วยความหวั่นเกรงอารมณ์จากเจ้านาย

"ไม่มีทาง"ลูคัสพูดเสียงเครียดราวกับจะยืนยันในคำพูดของตัวเอง

คำว่าชอบของเขาและโยฮันเนสไม่เหมือนกัน หากลูคัสชอบหรือถูกใจใคร นั่นหมายความว่าเขาต้องการคนๆนั้นมาอยู่ในความสัมพันธ์ที่ผิวเผิน

กลับกันกับคำว่าชอบของโยฮันเนส ที่สื่อความหมายคำว่าชอบในลักษณะลึกซึ้งกับคนๆหนึ่ง

"ผมอาจจะแค่หลงเขาไปชั่วขณะ สมิธยังสดใหม่นะโย" ลูคัสหาเหตุผลมาขัดแย้งในสิ่งที่เขาไม่อยากจะยอมรับ

"ความหลงก็แปรเปลี่ยนเป็นความชอบหรือรัดได้ทั้งนั้นแหละครับ...อีกอย่าง ผมหาคู่นอนที่บริสุทธิ์มาให้นายก็ตั้งหลายคน ไม่เห็นนายจะ 'หลง' เป็นพิเศษเหมือนคนนี้" ลูคัสกัดฟันกรอดอย่างเถียงไม่ออก

"โย!!!"โยฮันเนสรีบหุบปากลงทันที เมื่อเห็นว่าอารมณ์เจ้านายจวนเจียนจะระเบิดเต็มทีอย่างที่ไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนักสำหรับคนเก็บอาการเก่งอย่างลูคัส

"ผมขอโทษครับ"โยฮันเนสเอ่ยอย่างสำนึกผิดเมื่อเห็นว่าตัวเองชักจะพูดลามปามเจ้านายเกินไป

"ไปหามา"อยู่ๆลูคัสก็เอ่ยห้วนๆทะลุกลางปล้อง

"ครับ?"โยฮันเนสรับคำอย่างสงสัยแต่ไม่กล้าถามออกไปให้เจ้านายเป่าหัวทิ้ง ณ อารมณ์นี้ของลูคัส เขาไม่กล้าตอแยด้วยจริงๆ

"หาคนที่เหมือนสมิธ เอาให้เหมือนที่สุด...ผมจะพิสูจน์ให้ดูว่ามันไม่จริงอย่างที่คุณว่า"

"ครับนาย"โยฮันเนสก้มหัวรับคำสั่ง ในใจพลางคิดอย่างสงสัยว่า...แล้วถ้านายเกิดรู้สึกอย่างที่เขาพูดขึ้นมาจริงๆล่ะ...ท่านจะทำยังไงต่อไป?

ถึงเวลานั้นหวังว่ามันคงจะไม่สายไปหรอกนะ...

+++++++++++++

"สมิธนายโอเครึเปล่า ช่วงนี้ดูผอมๆแล้วก็ซึมไปเยอะเลยนะ"เดวิดเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กอย่างเป็นห่วง หลังจากที่สมิธหยุดเรียนไปทั้งสัปดาห์ เจอกันอีกทีสมิธก็เซื่องซึมและเหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัด ความสดใสและรอยยิ้มร่าเริงที่มีติดบนใบหน้าเล็กเสมอก็หายไป

"หืม?ฉันโอเค" สมิธบอกขณะเปลี่ยนชุดลำลองเป็นชุดพละเตรียมเข้าวิชาถัดไป เพื่อนๆคนอื่นเดินออกจากห้องกันไปหมดแล้ว เหลือเพียงเดวิดที่รั้งอยู่รอสมิธที่เปลี่ยนชุดอย่างเชื่องช้า

"แน่ใจนะ?...นายบอกฉันได้ทุกเรื่องนะสมิธ"เดวิดจับไหล่เพื่อนแล้วพลิกมาเผชิญหน้ากับตนเองก่อนจะเอ่ยถามอย่างจริงจัง

"เดวิด...บางทีฉันอาจจะไม่ได้ไปเรียนต่อที่เดียวกับนายแล้วก็ได้นะ"สมิธเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ

"เกิดอะไรขึ้น!? นายมีปัญหาอะไร...หรือว่าทะเลาะกับพี่ชาย?"

"ก็มีนิดหน่อย"สมิธก้มหน้านิดๆอย่างไม่อยากจะนึกถึง

"เพราะเรื่องวันนั้นนั้นหรอ?"เดวิดคาดเดาสาเหตุ วันที่เขากับสมิธเดินไปที่รถวันนั้น ดูท่าพี่ชายสมิธจะไม่พอใจอยู่พอสมควร

"หลายๆเรื่องน่ะ...นี่เดวิด ถ้านายโดนคนที่รักมากๆทำร้ายร่างกายแล-...หรือจิตใจ นายจะยังสามารถรักเขาต่อไปได้ไหม?"



"ฉัน...ไม่รู้ แต่ว่าความรักมันจะเลิกได้ง่ายๆอย่างนั้นหรอ"เดวิดตอบไม่ถูก เพราะว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์ทางด้านนี้มาก่อน

"นั่นสิ ถ้าเลิกรักได้ง่ายๆอย่างที่อยากให้เป็นโลกนี้ก็คงไม่มีคนอกหักแล้วล่ะ...ไปกันเถอะเรากำลังจะสายแล้ว"สมิธเดินนำเพื่อนชายออกจากห้อง โดยไม่ได้ไขความกระจ่างให้อีกคนที่เดินตามหลัง

++++++++++++

"วันนี้ทานน้อยอีกแล้วนะครับ"จิมมี่เอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสมิธทานอาหารได้ไม่เกินสิบคำก็วางช้อนส้อมลงแล้วดื่มน้ำตาม แม้อาหารแต่ละอย่างที่เขาสั่งซื้อมาจะเป็นของโปรดของร่างเล็กตรงหน้าก็ตามที

"ผมไม่ค่อยหิวน่ะครับ"สมิธฉีกยิ้มนิดๆอย่างไม่ต้องการให้จิมมี่คะยั้นคะยอให้เขาทานเพิ่มอีก เขาฟังประโยคพวกนี้มาเป็นสิบๆครั้งในรอบสัปดาห์แล้ว

"คุณสมิธผอมลงไปมาก ถ้านายมาเห็นสภาพคุณตอนนี้ ท่านเอาผมตายแน่"จิมมี่พูดทีเล่นทีจริง แต่เวลาที่เขาพูดถึงเจ้านายทีไรเด็กคนนี้ก็จะเงียบลงไปถนัดตา

"ก็ไม่เห็นว่าเขาจะมาดูผมเลยนี่"สมิธพูดเสียงขื่น ดวงตาคู่สวยสีฟ้ามหาสมุทรฉายแววความรู้สึกหลากหลาย ทั้งโกรธ เศร้า และโหยหาในเวลาเดียว

"นายดูคุณอยู่ตลอดนะครับ"จิมมี่ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม แต่สิ่งที่เขาพูดออกไปล้วนเป็นความจริง ในทุกๆวันนอกจากหน้าที่ดูแลสมิธแล้ว เขายังมีหน้าที่ถ่ายภาพอริยบทต่างๆประจำของเด็กคนนี้ส่งให้เจ้านายเขาอีกด้วย

เรียกว่าจับตาดูอยู่ทุกวันก็ว่าได้

"เขาเบื่อผมแล้วรึเปล่าจิม"น้ำเสียงเศร้าๆของสมิธทำให้จิมมี่อดรู้สึกเวทนาไม่ได้ แต่จิมมี่เป็นแค่ลูกน้อง เขาไม่มีสิทธิ์คิดหรือตอบคำถามแทนเจ้านาย

"ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมทำอะไรผิด แต่ถ้าเขาบอกว่าผมผิดผมก็จะยอมผิด...ฮึก ต่อให้เขาทำร้ายผมมากแค่ไหนผมก็ยังให้อภัย ฮึกๆ หรือต่อให้เขาไม่รักผมแล้ว ผมก็ยังรักเขาอยู่ดี"สมิธพูดทั้งนั้นตาอย่างอัดอั้นตันใจฟันขาวกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อกลั้นสะอื้น

ทั้งๆที่พยายามจะเก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจแล้วแท้ๆ แต่สุดท้ายเมื่อความเจ็บปวดมันกัดกินหัวใจลงทุกวัน ความเหงา ความโดดเดี่ยว และความบอบช้ำทางด้านจิตใจ ทำให้สมิธรู้สึกแย่ลงในทุกๆวัน...ทำไมมันถึงได้ทรมานขนาดนี้นะ

"ฝากบอกเขาได้ไหม ฮึก ผมจะเป็นเด็กดีฮึกๆจะไม่ดื้อเลย ไม่โกรธแล้วด้วย กลับมาหาผมได้ไหม ฮือออ"สมิธขอร้องจิมมี่ทั้งน้ำตา

"อย่าร้องเลยนะครับ"จิมมี่เดินอ้อมไปหาสมิธ นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเด็กชายที่นั่งร้องไห้อยู่บนเก้าอี้ มือหนาหยิบทิชชู่เช็ดน้ำตาให้ร่างบางอย่างสงสาร

"ฮือออออ"สมิธกัดริมฝีปากร้องไห้โฮ ยิ่งจิมมี่ปลอบ เด็กหนุ่มก็ยิ่งหลั่งน้ำตาหนักขึ้นกว่าเดิม จิมมี่จึงทำเพียงเช็ดน้ำตาให้อีกคนเงียบๆ ได้แต่หวังว่าร่างบางจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง...

อีกด้านหนึ่ง...ลูกน้องของลูคัสอีกคนที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของจิมมี่ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก็ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นกดโทรออกรายงานผู้เป็นนาย

+++++++++++++

วันต่อมา...

"คุณสมิธ!ผมมีข่าวดีจะบอกล่ะครับ"จิมมี่เอ่ยขึ้นอย่างดีใจจนลืมกล่าวทักทายเด็กหนุ่มหลังจากขึ้นมานั่งบนรถ

"อะไรหรอครับ?"สมิธถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ ใบหน้ายังคงดูหม่นหมองหลังจากเสียน้ำตาอย่างหนักไปเมื่อวาน

"สัปดาห์หน้า วันที่คุณสมิธรับวุฒิจบการศึกษา...นายท่านจะมาดูด้วยนะครับ!"

"จ จริงหรอ?"สมิธถามย้ำอีกครั้งอย่างตื่นเต้นระคนดีใจ

"จริงครับ ท่านโทรมาบอกผมเมื่อเช้านี้หลังจากที่ผมมาส่งคุณสมิธนี่แหละครับ"

"แล้วลุค ได้พูดอะไรอีกไหม?" สมิธสบดวงตาจิมมี่ผ่านกระจกมองหลังด้วยความรู้สึกคาดหวัง

"ท่านฝากบอกให้คุณสมิธดูแลตัวเองให้ดี ทานอาหารที่มีประโยชน์...ท่านเป็นห่วง" สมิธฉีกยิ้มกว้างในรอบสองสัปดาห์ แค่ลูคัสบอกว่าจะมาหาแค่นี้เขาก็ดีใจมากแล้ว

ความโกรธ ความน้อยที่มีอยู่ก่อนหน้านี้มลายหายไปแทบจะหมด

เพราะสมิธไม่เคยเกลียดใครเป็นจริงเป็นจังได้สักที เป็นประเภทที่โกรธง่ายหายเร็ว แค่ทำดีด้วยหน่อยเขาก็แทบจะลืมความโกรธเหล่านั้นไปง่ายๆ

"ผมดีใจมากเลยจิม"สมิธยิ้มตาหยี แทบนับวันรอที่ลูคัสจะมาหาเขาไม่ไหวแล้ว

++++++++++++++

"สมิธนายมองหาอะไร?" จอนห์นนี่ถามขึ้นอย่างอดความสงสัยไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กชะเง้อคอมองไปทางที่ผู้ปกครองนั่งหลายทีแล้ว

"ฉันหาพี่ชายฉันอยู่ พวกนายเห็นไหม?ใกล้จะได้ขึ้นไปรับใบประกาศแล้ว ฉันอยากให้ลุคเห็น"สมิธพูดขึ้นอย่างร้อนใจ

"เดี๋ยวฉันช่วยดูให้"ไรอันที่ตัวสูงที่สุดในกลุ่มก็ยืดตัวมองหาช่วยเพื่อน แต่ก็ไม่เห็น

"พี่ชายนายไม่มาแล้วรึเปล่า"เดวิดพูดขึ้น ทำให้สมิธหน้าเศร้าไปในทันทีจนเดวิดรู้สึกผิด

"ฉันขอโทษ...บางทีเขาอาจจะติดธุระอยู่ก็ได้"เดวิดเอ่ยขอโทษและปลอบใจสมิธออกไป

"ไม่เป็นไร บางทีเขาอาจไม่มาแล้วอย่างที่นายพูดก็ได้"สมิธพูดเสียงเศร้าแต่ก็ยังฝืนส่งยิ้มให้เพื่อน

ไม่นานหลังจากนั้นคุณครูก็เอ่ยชื่อนักเรียนที่จบเกรดหกขึ้นไปรับวุฒิเป็นแถวหน้ากระดาน จวบจนกระทั่งจบพิธีการ คนที่สมิธหวังว่าจะได้เห็นหน้าก็ยังไม่มา...

+++++++++++

"นายท่านอาจจะติดธุระด่วนอยู่ก็ได้นะครับ คุณสมิธอย่าโกรธท่านเลย"เป็นจิมมี่อีกครั้งที่ทำหน้าที่ปลอบใจสมิธ

"ผมไม่ได้โกรธ แต่ผมผิดหวังและเสียใจ"แม้สมิธจะไม่แสดงอารมณ์ใดผ่านสีหน้า แต่น้ำเสียงสั่นๆของเด็กหนุ่มทำให้จิมมี่รู้ว่าสมิธต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนในการอดกลั้นความรู้สึกเหล่านั้น บอดี้การ์ดหนุ่มจึงไม่ได้เซ้าซี้ในเรื่องนี้ต่ออีก

"นี่ก็เลยเวลาทารอาหารกลางวันมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว ผมพาไปหาอะไรกินนะครับ"

"ผมไม่หิว"สมิธมองออกไปนอกหน้าต่างรถด้วยสายตาเหม่อลอย

"ไม่หิวก็ต้องทานครับ ร้านTD ที่คุณสมิธชอบเป็นไงครับ?"จิมมี่เสนอร้านอาหารอิตาเลียนที่สมิธชอบ และเจ้านายเขามักจะพาเด็กคนนี้ไปทานบ่อยๆ

"อืม"สมิธตอบรับแบบขอไปทีอย่างไร้อารมณ์เพราะไม่อยากฟังจิมมี่คะยั้นคะยอให้มากความอีก

.

.

.

.

"สวัสดีครับคุณสมิธ"ผู้จัดการร้านTDสุดหรูแห่งนี้ก้มหัวเล็กน้อยให้เด็กชายที่สูงเลยเอวเขามาไม่มากแล้วยื่นมือไปเช็คแฮนด์ทักทายอย่างนอบน้อม สมิธเป็นลูกค้าVIPอีกคนที่ทางร้านทำการต้อนรับเป็นอย่างดี เพราะเด็กคนนี้มักจะมากับลูกค้าVIPกระเป๋าหนักอย่างลูคัส ฮาล์น เสมอ

"สวัสดีครับผู้จัดการ"สมิธทักทายกลับอย่างมีมารยาท

"เดี๋ยวผมจะนำทางไปโต๊ะคุณลูคัสให้นะครับ"ผู้จัดการร้านเอ่ยบริการสมิธด้วยตนเอง

"เอ๊ะ?หมายความว่าไงครับ?"สมิธถามอย่างไม่เข้าใจ ผู้จัดการร้านทำเหมือนกับว่าลูคัสอยู่ที่นี่

"คุณไม่ได้นัดกับท่านไว้หรือครับ? ท่านนั่งอยู่โซนAกับแขกอีกท่านหนึ่งน่ะครับ"

"ผมไม่ได้นัดไว้ แต่คุณช่วยพาผมไปที่โต๊ะเขาที"สมิธพูดเสียงเรียบ

"เอ่อ..."ผู้จัดการร้านมีสีหน้าลำบากใจและไปต่อไม่ถูก เขารู้สึกว่าตัวเองทำงานพลาดไปเสียแล้ว

"ถ้าอย่างนั้นผมจะไปเอง"พูดจบสมิธก็วิ่งฉับๆไปยังโซนโต๊ะที่เขาคุ้นเคยทันที เขามาที่นี่บ่อย ทำไมจะไม่รู้ว่าโซนAโต๊ะVIPที่เขานั่งประจำอยู่ตรงไหน จิมมี่และผู้จัดการร้านรีบก้าวตามเด็กหนุ่มไปทันที

สมิธเดินดุ่มๆเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ยิ่งเห็นแผ่นหลังกว้างคุ้นตาและผมสีบลอนด์ทองยาวประบ่านั่นใกล้เท่าไหร่ ใจเขาก็ยิ่งสั่นมากขึ้นเท่านั้น เด็กหนุ่มเลื่อนสายตามองคนที่นั่งตรงข้ามกลับลูคัสที่หัวเราะและยิ้มกว้างอย่างมีความสุขกับอะไรสักอย่าง...และผู้ชายคนนี้รูปร่างหน้าตาทำไมมันดูคุ้นๆบอกไม่ถูก

"ลุค!"สมิธเดินไปหยุดอยู่ข้างโต๊ะและเอ่ยเรียกชื่อคนที่ทำให้เขารอมาค่อนเดือน

ลูคัสหันไปตามเสียงเรียก ตอนแรกเขานึกว่าบริกรจะเดินเข้ามาเสิร์ฟอาหารซะอีก

แต่เมื่อเห็นหน้าของคนที่เรียกตรงๆแวบแรกชายหนุ่มเผลอมองร่างเล็กด้วยความประหลาดใจแต่ก็กักเก็บเอาไว้อย่างรวดเร็ว

"มิทตี้? มีอะไร?"ลูคัสเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่ยืนค้ำหัวเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่คำถามของลูคัสมันช่างทิ่มแทงจิตใจคนถูกถามซะจริง

"มีอะไรงั้นหรอ? วันนี้พี่บอกว่าจะไปดูผมที่โรงเรียนไม่ใช่หรือไง"

"พี่มีธุระ"

"ธุระอะไร? มากินข้าวสบายใจเฉิบเนี่ยหรอ!"สมิธขึ้นเสียงด้วยโกรธ ลูคัสขมวดคิ้วไม่ชอบใจแล้วกดเสียงต่ำบอกอีกคน

"มันไม่ใช่เรื่องของนาย"

"เหอะ!"สมิธเงยหน้าพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลด้วยความเจ็บใจ

"เอ่อ...ใจเย็นๆกันก่อนนะครับ"เสียงหวานใสดังขึ้นอีกด้านของสมิธ

"ไม่ต้องมาเสือก!!"สมิธหันไประบายโทสะใส่ผู้ชายหน้าหวานคนนั้นทันที

"สมิธ!อย่าทำตัวไร้มารยาท"ลูคัสลุกขึ้นกระชากแขนเล็กของสมิธอย่างแรงด้วยความโกรธ เขาเกลียดนักพวกชอบโวยวายเสียงดังไม่รู้จักกาลเทศะ

"แล้วยังไงพี่ดีนักหรอ?มึงดีนักหรอ!"ประโยคแรกร่างบางพูดใส่ลูคัส ส่วนประโยคสุดท้ายสมิธหันไปตะคอกเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ รายนั้นผงะสะดุ้งนิดๆเพราะเสียงตะคอกจากสมิธ ยิ่งทำให้ร่างบางรู้สึกไม่ชอบผู้ชายคนนี้ยิ่งขึ้นไปอีก

"อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าเด็กที่สั่งสอนไม่จำอย่างนาย!"ลูคัสพูดเสียงต่ำลอดไรฟันอย่างระงับอารมณ์ เขาบีบแขนเล็กจนสมิธนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

"ก็เพราะพี่พรากแม่ไปจากผมไม่ใช่หรือไงผมถึงได้สันดานต่ำแบบนี้ มันเป็นเพราะพี่ เพราะพี่คนเดียว!!!" เพียะ! ลูคัสฟาดปากเล็กอย่างหมดความอดทน รอบตัวพวกเขาเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ ผู้จัดการร้านที่ยืนอยู่ข้างหลังถึงกลับหน้าซีดตัวสั่น ดีที่โซนAค่อนข้างเป็นส่วนตัวและตอนนี้ยังไม่มีลูกค้าโต๊ะอื่นนอกจากลูคัส ส่วนโซนอื่นๆเขาก็ให้ลูกน้องไปกันไว้ไม่ให้เข้ามาในโซนนี้ได้ ถ้าลูคัสรู้ว่าเขาเป็นคนบอกสมิธว่าชายหนุ่มอยู่ที่นี่ล่ะ...ไม่อยากจะคิดสภาพเลย

สมิธน้ำตาร่วงเผาะเป็นเม็ดๆก่อนจะไหลเป็นสายอาบแก้มนวล มุมปากเล็กที่บวมจากแรงตบมีเลือดซึมออกมาเป็นทางจนลูคัสยังตกใจ เด็กหนุ่มเงยหน้ามองคนที่ตนรักทั้งนั้นตา

"ผมไม่น่ารักคุณเลย ผมน่าจะรู้ตัวว่าคุณไม่มีทางรักผมอยู่แล้ว...ฮึก คุณใจร้ายมากจริงๆ คุณทำแบบนี้กับผมได้ยังไง! ผมทำอะไรผิดครับ ทำไมต้องมาทำร้ายผมด้วยวิธีการนี้!"เด็กหนุ่มตัดพ้อร้องไห้เสียงดังจนแทบขาดใจ ร่างเล็กทรุดนั่งกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

"จิม...พาสมิธกลับห้องไปก่อน"ลูคัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นติดลบ จิมมี่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะก้าวเข้าไปพยุงตัวสมิธขึ้น เด็กหนุ่มขัดขืนดิ้นรนแต่ก็สู้แรงบอดี้การ์ดที่ตัวโตกว่ามากไม่ไหว

"ปล่อย!ผมไม่อยากกลับไป!!!"

"คุณสมิธใจเย็นๆก่อนนะครับ"จิมมี่เอ่ยปลอบร่างเล็ก

"ผมต้องเย็นมากแค่ไหน!เย็นจนไม่รู้สึกอะไรเลยไหมถึงจะพอใจพวกคุณ!!!"สมิธตะคอกทั้งน้ำตา ในใจปวดร้าวจนยากจะบรรยาย

"ขออนุญาตนะครับนาย"จิมมี่หันไปก้มหัวขออนุญาตลูคัสก่อนจะก้มลงอุ้มสมิธขึ้นพาดบ่าทันที ลูคัสหัวคิ้วกระตุกด้วยความขุ่นมัวในใจกับภาพนั้น แต่ก็เห็นด้วยที่จิมมี่ทำแบบนี้ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถพาสมิธออกไปได้ง่ายๆ...แต่ก็รู้สึกไม่ชอบใจอยู่ดี

"ปล่อยยยย!!!"สมิธดิ้นและทุบตีจิมมี่อย่างเสียสติ

"กลับไปสงบจิตสงบใจที่ห้องซะสมิธ"ลูคัสสั่งเสียงเข้ม ร่างบางของสมิธที่ดิ้นไปมาอยู่ๆก็หยุดลงอย่างกระทันหัน ได้ยินเพียงเสียงสะอื้นเล็กๆที่ดังลอดออกมา

"อย่ามาสั่ง...ฮึก จากนี้ไปผมจะไม่เชื่ออะไรคุณอีกแล้ว คนหลอกลวงอย่างคุณ...ผม-เกลียด-ที่สุด" จิมมี่อุ้มสมิธออกไปแล้ว แต่คำว่าเกลียดของสมิธกลับฝังอยู่ในหัวลูคัสซ้ำไปซ้ำมา...มันหนักแน่นและจริงจังที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมา

++++++++++++

จิมมี่วางร่างสมิธบนเบาะหนังของรถอย่างเบามือ...แปลก ที่สมิธไม่ได้โววายเหมือนอยู่ในร้านเลยสักนิด

เด็กคนนี้ดูนิ่งเงียบและไม่มีแม้กระทั่งเสียงสะอื้น มีเพียงน้ำตาที่ยังไหลอาบหน้าย้ำเตือนว่าสิ่งที่เขาเห็นก่อนหน้าคือความจริง

จิมมี่ก้าวขึ้นรถแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ ก่อนจะขับเคลื่อนรถออกจากบริเวณ จิมมี่ขับรถออกจากร้านอาหารได้ไม่ถึงห้านาที คนที่นั่งร้องไห้เงียบๆอยู่เบาะหลังรถก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"ช่วยขับช้ากว่านี้ได้ไหมจิม...ผมยังไม่อยากกลับไปตอนนี้ ที่ๆมีเขาผมยังไม่อยากไป"เด็กหนุ่มส่ายหน้าขอร้องทั้งน้ำตา

"แต่..."จิมมี่ลำบากใจที่จะตอบรับ ใจหนึ่งก็ต้องทำตามหน้าที่ แต่อีกใจก็สงสารสมิธเหลือเกิน

"ผมขอร้อง ขอเวลาให้ผมได้ทำใจสักนิด...ฮึก ผมทรมานจนจะไม่ไหวแล้วจริงๆ"น้ำเสียงสั่นเครือที่ดูไร้เรี่ยวแรงของสมิธทำให้จิมมี่ตัดสินใจหักพวงมาลัยเลี้ยวรถไปถนนอีกเส้นที่การจราจรติดขัดและค่อนข้างอ้อมกว่าจะถึงเพ้นท์เฮ้าส์ของลูคัส

"ขอบคุณ"

สมิธเอ่ยขอบคุณจิมมี่เบาๆก่อนจะซบหน้าลงกับฝ่ามือตัวเองแล้วปล่อยโฮเสียงดังอย่างกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดไม่ไหวอีกต่อไป...

+++++++++++

สงสารมิทตี้เนอะ เข้มแข็งนะ ฮึบๆ...ความเจ็บปวดจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นเอง❤

*เรื่องเด็กเกรด6ที่เมืองนอกรับวุฒิเหมือนไฮสคูลไหมเปรมไม่แน่ใจนะคะ(ลืมถามพี่)แต่สมมติว่ามันมีแล้วกัน ฮ่าาา

ป.ล.ใกล้สงกรานต์แล้ว นักอ่านบางคนอาจเดินทางไปต่างจังหวัด เปรมขอให้เดินทางปลอดภัยโดยสวัสดิภาพนะคะ เป็นห่วงนะะ...มว๊วฟ :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-04-2018 02:35:57 โดย YINGPREM »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: You're my fav person•คนโปรด•(Drama,SM):คนโปรด9[12/04/61]
« ตอบ #49 เมื่อ: 12-04-2018 01:51:37 »





ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อีพี่ลู ทำน้องเสียใจอีกแล้ว   :katai1:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
สงสารสมิธ รีบๆโตนะลูก  แล้วค่อยหาทางไปจากลูคัส

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
คนโปรด 10.1

"หิวรึเปล่าครับ"จิมมี่เอ่ยถามเด็กหนุ่มที่เดินอยู่เคียงข้าง สมิธส่ยหัวแทนคำตอบ ดวงตากลมโตที่บวมแดงจากการร้องไห้เป็นเวลานานปรือเล็กๆเพราะความอ่อนเพลีย ริมฝีปากรูปกระจับเจ่อช้ำจากการถูกลงมือสั่งสอน สมิธเดินเซนิดๆเหมือนทรงตัวไม่อยู่ จิมมี่ที่คอยสังเกตอยู่เห็นจึงจับร่างบางเอาไว้ได้ทัน

"คุณสมิธเดินไหวไหมครับ?"

"ไหว"สมิธดึงแขนออกจากการพยุงของบอดี้การ์ดหนุ่ม เขาพยายามจะเดินให้ได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง

จิมมี่เป็นผู้กดลิฟท์ไว้ให้สมิธ ขณะอยู่ในลิฟท์ก็ไม่มีผู้ใดเปล่งเสียงออกมาสักคำ ด้านสมิธเขาหมดอารมณ์จะพูดคุยกับใคร มันไร้เรี่ยวแรงไปหมด ส่วนจิมมี่ที่จับอารมณ์ของสมิธได้ก็ไม่กล้ารบกวนอีกคน

"ผม...ไม่อยากอยู่กับเขาแล้ว"อยู่ๆเด็กหนุ่มก็เอ่ยขึ้นกลางความเงียบ ลมหายใจของจิมมี่สะดุดไปหนึ่งจังหวะที่ได้ยินประโยคนั้น

"คุณสมิธค่อยคุยกับท่านเองดีกว่านะครับ...อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้"

"อยากหลอกผมก็หลอกไปเถอะ...ผมมีตาใช่ว่าจะดูไม่ออก"

จิมมี่เงียบอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เพราะสิ่งที่สมิธพูดก็ใช่ว่าจะผิดซะทีเดียว

เมื่อถึงเพ้นเฮ้าส์ กลับไม่พบสิ่งมีชีวิตใดนอกจากสมิธและจิมมี่

เด็กหนุ่มเหยียดยิ้มมุมปากเยาะหยันก่อนจะเดินตรงดิ่งเข้าห้องตนเองทันที

สมิธเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบกระเป๋าเป้ของตนในลิ้นชักออกมา มือบางกำลังจะหยิบเสื้อผ้าออกจากไม้แขวนแต่ก็ชะงักไปเพราะนึกขึ้นได้ว่าเสื้อผ้าพวกนี้ไม่มีตัวไหนที่เป็นของเขาเลย มีแต่ของที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นซื้อมาประเคนให้

ของดูมีค่าแต่ไร้ความหมาย

เด็กหนุ่มเงยหน้ากระพริบตาไล่น้ำตาไม่ให้ไหล เขาเปิดลิ้นชักชั้นล่างสุดหยิบเอาเสื้อผ้าของตนเองก่อนที่จะมาอยู่ที่นี่ยัดใส่เป้แทนและไม่ลืมหยิบเอกสารที่มิเชลให้มาติดตัวไปด้วย

เด็กชายเม้มปากมองไปทั่วห้องอีกครั้ง แม้จะรู้สึกใจหายแต่เขาก็ตัดสินใจดีแล้ว

ไม่อยู่คงจะดีกว่า จะได้ไม่เจ็บปวดที่ใจอีก

เด็กหนุ่มเปิดประตูออกไปนอกห้อง ไม่เห็นจิมมี่อยู่ในห้องโถงแสดงว่าอีกฝ่ายน่าจะอยู่ในห้องครัวหรือไม่ก็ห้องน้ำ สมิธล็อคห้องนอนของตัวเองจากด้านในก่อนจะรีบเดินย่องเร็วๆไปที่หน้าประตูและสวมรองเท้าอย่างรวดเร็วแล้วรีบเปิดปนะตูออกจากห้องให้เร็วที่สุด

หัวใจเด็กหนุ่มเต้นถี่เร็วจนได้ยินในหัว รีบกดลิฟท์ให้เปิดเร็วๆ สายตามองสอดส่ายต้นทางอยู่ตลอดเวลา

ติ้ง!เสียงลิฟท์มาถึง เด็กหนุ่มรีบถลาตัวเข้าไปและกดปิดอย่างรงดเร็ว มือบางบีบเข้าหากันแน่น สมิธรู้ว่าบางทีเขาอาจไม่ต้องหนี ลูคัสก็คงปล่อยตนเองไปง่ายๆอยู่แล้ว...เพราะสมิธถูกเบื่อแล้วยังไงล่ะ

แต่เด็กหนุ่มก็เลือกที่จะจากไปก่อนเพราะเขาทนให้อีกฝ่ายเอ่ยไล่ไม่ไหวจริงๆ

แค่นี้ก็เจ็บจนไม่มีแรงแล้ว

สมิธออกจากเพ้นท์เฮ้าส์ เดินเตร่ไปตามทางอย่างไม่รู้จะไปที่ไหน ถ้าจะไปบ้านเพื่อนก็รู้สึกเกรงใจ แต่เงินในกระเป๋าก็มีอยู่เพียงน้อยนิด คงพอใช้จ่ายได้แค่ไม่ถึงสัปดาห์

เป็นครั้งแรกที่สมิธรู้สึกสิ้นหวังไร้หนทาง...ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี

สมิธก้าวเดินอย่างเหม่อลอยท่ามกลางผู้คนที่เดินสวนกันขวักไขว่ อยู่ๆหยดน้ำก็หยดแหมะลงมาบนใบหน้าเล็กก่อนจะค่อยๆร่วงรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย ฝนในช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นเรื่องปกติ หลายคนจึงหยิบร่มขึ้นมากางบังฝน บ้างก็เดินไปหลบตามที่ต่างๆ แต่สมิธกลับยืนนิ่งงันอยู่อย่างนั้นราวกับไม่รู้สึก

แต่ใครจะรู้ว่าสายฝนที่พร่างพรมลงมาจะค่อยๆชะล้างหยาดน้ำตาให้กลืนหายไป

++++++++++++

ผลั๊วะ!!!ตุบ! ร่างของจิมมี่ล้มลงกับพื้นทันทีเพราะทรงตัวไม่อยู่หลังโดนลูคัสใช้ด้ามปืนตบระบายโทสะอย่างแรง จิมมี่ไอแค่กครั้งเดียวก็มีเลือดพุ่มออกจากปากพร้อมฟันกรามของเขาสองซีกหลุดออกมา จิมมี่ตัวสั่นสะท้านเพราะไม่เคยเห็นเจ้านายเดือดขนาดนี้มาก่อน

"กูให้มึงดูแลคนของกูให้ดี แต่มึงกลับปล่อยให้เด็กกูหนีไปได้...กูจะทำยังไงกับมึงดีห๊ะ!!!จิมมี่!!"ลูคัสตะคอกเสียงดังอย่างเกรี้ยวกราด ลูน้องที่อยู่ภายในห้องแห่งนี้ราวสิบกว่าคนพากันก้มหน้านิ่งยกเว้นโยฮันเนสและเกเบียล

มีอยู่สองสถานการณ์ที่ลูคัส ฮาล์น คนนี้จะใช้คำพูดหยาบคายต่อคนอื่น

หนึ่ง...คือคนๆนั้นเขาสนิทด้วยมาก และ

สอง...เขาโกรธจัดจนใกล้ถึงขีดสุดแล้ว

และตอนนี้จิมมี่กำลังเผชิญกับลูคัสในห้วงอารมณ์ที่น่ากลัวที่สุด...แม้กระทั่งลูกน้องคนอื่นๆยังเกรงว่าจะโดนลูกหลงไปตามๆกัน

"ผมขอโทษครับนาย-..."

ปัง!!อึก! จิมมี่กัดฟันครางในลำคอกลั้นความเจ็บปวด แขนซ้ายสะบัดอย่างแรงเพราะถูกปืนมาคารอฟสัญชาติรัสเซียในมือลูคัสเหนี่ยวไกลในระยะประชิด

"กูไม่อยากได้ยิน!"ลูคัสก้าวไปใกล้จิมมี่ แนบปลายมาคารอฟที่ยังมีควันลอยกรุ่นออกมาบางเบากับหน้าผากกว้างของจิมมี่

"มึงจะชดใช้ให้กูยังไงจิมมี่...ชีวิตเดียวของมึงยังไม่พอเลย"ลูคัสพูดเสียงเหี้ยม นิ้วเรียวยาวกำลังจะกดเหนี่ยวไกล จิมมี่ตัวสั่นหลับตายอมรับชะตากรรม

"เดี๋ยวครับนาย"เป็นโยฮันเนสที่เอ่ยขึ้นยืดเวลาตายของจิมมี่ไปได้อีกหลายวินาที

"มีอะไร"ลูคัสหันกลับไปถามโยฮันเนส

"เวลานี้อย่าเพิ่งมาสนใจลงโทษจิมเลยนะครับ ผมว่าเขาอาจจะมีประโยชน์ในการตามหาคุณสมิธ"ลูคัสขมวดคิ้วนิ่งคิด

เขามาถึงเพ้นท์เฮ้าส์เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ด้วยหวังว่าจะมาจัดการกับสมิธ พอประตูลิฟท์เปิดออกก็กำลังสวนกับจิมมี่ทั่รีบร้อนจะเข้ามาในลิฟท์โดยไม่ทันได้ดูว่าใครอยู่ในลิฟท์

ลูคัสเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เมื่อจิมมี่เอ่ยปากบอกว่าสมิธหายตัวไป หมัดหนักๆของลูคัสก็ประทับลงที่หน้าลูกน้องอย่างไม่ทันที่อีกฝ่ายได้ตั้งตัว

เขาสั่งให้ลูกน้องครึ่งหนึ่งออกตามหาสมิธทันที ส่วนที่เหลือให้ลากตัวจิมมี่เข้าไปสอบสวนในห้องอย่างละเอียด เมื่อจิมมี่เล่าจบ เหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่เห็น

ทั้งที่เด็กคนนั้นเอ่ยปากว่าไม่อยากอยู่กับเขา มันยังกล้าคลาดสายตา แถมมารู้ตัวว่าเด็กคนนั้นไม่อยู่เมื่อเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้ว!

ลูคัสกัดฟันกรอด ยิ่งคิดยิ่งโมโห

"กูจะให้โอกาสมึงครั้งเดียว ภายในวันนี้ไม่ว่ายังไงมึงต้องไปตามสมิธกลับมาให้ได้...ไม่อย่างนั้นมึงจะไม่เหลือชีวิตไว้หายใจอีก!"ว่าจบ ลูคัสก็หันหลังเดินเข้าห้องทำงานตัวเองไปอย่างฉุนเฉียว โยฮันเนสพยักหน้าให้ลูกน้องอีกคนมาช่วยเหลือจิมมี่ก่อนจะเอ่ยทิางท้ายแล้วเดินตามเจ้านายเข้าไปในห้องทำงาน

"รีบทำแผลซะ...เวลาชีวิตของนายขึ้นอยู่กับความปลอดภัยของเด็กคนนั้น"

++++++++++++

สมิธตัวสั่นนิดๆด้วยความหนาว ตอนนี้สมิธนั่งหลบอยู่มุมหนึ่งของสถานีรถไฟแห่งหนึ่งในเขตนอกเมืองลอนดอน เด็กหนุ่มขึ้นรถไฟจากสถานีใกล้เพ้นท์เฮ้าส์มาลงที่นี่เพราะไม่รู้จะไปที่ไหน อย่างน้อยก็ขอให้อยู่ให้ไกลจากผู้ชายคนนั้น

สมิธเปลี่ยนชุดไม่ได้ เพราะเสื้อผ้าในกระเป๋าเป้มันเปียกไปหมด ได้แต่ยืนให้เสื้อผ้าแห้งเอง

เด็กหนุ่มนั่งกอดเขาตัวเอง คนที่เดินผ่านบางคนเห็นก็เดินผ่านไป บ้างก็มองด้วยสายตาสงสารแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร บ้างก็มองด้วยสายตาเหยียดหยามเพราะคงคิดว่าเขาเป็นเด็กใจแตกหนีออกจากบ้าน

พวกผู้ใหญ่ก็เป็นแบบนี้...ไม่เคยมีใครเข้าใจเขาเลย คิดแต่ว่าตัวเองถูกที่สุด

แล้วเด็กอย่างเขาจะพูดอะไรได้...พูดไปเขาก็ไม่เคยใส่ใจจะฟังอยู่ดี

เหมือนกับที่ผู้ชายคนนั้นทำ...เหยียบย่ำหัวใจสมิธจนไม่เหลือชิ้นดี

แม้ว่าช่วงกลางวันผู้คนที่ใช้บริการรถไฟของชานชลานี้จะพลุกพล่าน แต่เมื่อตกดึกคนก็เริ่มบางตาลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะที่นี่ไม่ใช่เขตท่องเที่ยว และสมิธก็ไม่อยากเสี่ยงเดินออกไปข้างนั่น เพราะเป็นไม่คุ้นเคยสถานที

แต่อันตรายมันก็มีอยู่ทุกที่...

"เฮ้ย!ไอ้หนู มานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียววะ"ชายผิวขาวซีดสูงกระหร่องอายุราว25-30ปี ใช้เท้าเตะร่างเล็กที่นั่งก้มหน้าไม่เบานัก

สมิธสะดุ้งด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตเหลือบมองคนตรงหน้าหวาดๆ ด้านหลังผู้ชายที่เตะเขายังมีผู้ชายลักษณะเดียวกันกับผู้ชายคนนี้อีกสองคน

สมิธตัวสั่นแต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือเอ่ยถามออกไป

"มีอะไรกับผมงั้นเหรอครับ"

"มีอะไรงั้นหรอ?ไปคุยกันหน่อยไหม"ชายที่เตะสมิธชี้มือออกไปด้านนอกสถานี สมิธส่ายหน้าปฏิเสธทันที

"พี่ชายมีอะไรก็คุยกันตรงนี้เถอะ"อย่างน้อยถ้าเกิดอะไรขึ้นก็น่าจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หรือคนรอบๆได้ทัน

"มึงอย่าพูดไม่รู้เรื่อง กูบอกให้ไปก็ไปสิวะ!" ช่ยคนดังกล่าวพยักหน้าให้สัญญาณเพื่อนที่อยู่ด้านหลัง สมิธที่เห็นท่าไม่ดีลุกขึ้นจะวิ่งไปหาเจ้าหน้าที่ที่อยู่อีกด้าน แต่ความยาวขาเด็กหรือจะสู้ผู้ใหญ่ ร่างบางวิ่งได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกคว้าตัวปิดปากเอาไว้ ร่างเล็กดิ้นหนีสุดกำลัง ฟันเล็กกัดเข้าที่มือสกปรกจนได้เลือด มันร้องและสะบัดมืออก ปากอิ่มขยับจะร้องแต่ชายหัวโจกก็รู้ทันชกกำปั้นซัดใส่ท้องเล็กสมิธอย่างแรก

เด็กหนุ่มจุกจนร้องไม่ออก พวกมันช่วยกันหามสมิธออกจากบริเวณนั้นไปอย่างรวดเร็ว

สมิธน้ำตาไหลอย่างขมขื่น หรือชีวิตเขาจะจบอยู่แค่ตรงนี้แล้ว

ใครจะมาช่วยเขาได้

สมิธไม่กล้าหวังเลย

พระเจ้า...ท่านใจร้ายกับผมเกินไปแล้ว

+++++++++++++

เอามาให้ชิมก่อนครึ่งแรก ครึ่งหลังน่าจะเสร็จทันพรุ่งนี้ดึกๆนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2018 22:58:34 โดย YINGPREM »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตำรวจอยู่ไหน ช่วยหนูมิทตี้ด้วยจ้า  :ling1:

ออฟไลน์ wanida023

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0


ฮือออออ สมิทน่าสงสาร

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
คนโปรด 10.2

"ปล่อย!"สมิธตวาดเสียงแผ่วเนื่องจากจุกที่ท้อง พวกมันพากันฉุดเด็กหนุ่มมาหยุดที่ตรอกเปลี่ยวแห่งหนึ่งไม่ไกลจากสถานีรถไฟ

ตุบ!คนที่แบกสมิธออกมาโยนเด็กหนุ่มลงใส่กองถุงขยะบริเวณนั้นอย่างไม่ปราณี สมิธกัดฟันกรอดเพราะจุกเสียดจนหายใจไม่ทั่วท้อง เขาตวัดสายตากรุ่นโกรธมองพวกมันทีละคนอย่างไม่กลัวตาย

"มองหน้าพวกฉันแบบนั้นหมายความว่าไงไอ้หนู?"ชายที่แบกสมิธขึ้นบ่าเอ่ยถามเด็กหนุ่มอย่างเอาเรื่อง รู้สึกไม่สบอารมณ์กับสายตาคู่นั้นที่มองมาที่พวกเขาสุดๆ

"ผมทำอะไรให้พวกคุณ ทำไมต้องมารังแกกันแบบนี้ด้วย"

"ฮ่าๆๆๆๆ"ชายหนุ่มทั้งสามคนพากันหัวเราลั่นกับคำถามของเด็กน้อย

"โลกสวยซะจริงนะ...นายไม่ได้ทำอะไรพวกฉันเลยเด็กน้อย แต่พวกฉันอยากรังแกนายโคตรๆเลยว่ะ ฮ่าๆๆ"ชายที่เป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้นพร้อมสายตาแปลกๆที่ไล่มองไปตามร่างกายสมิธ

เด็กหนุ่มตัวสั่นสะท้าน...ขนลุกชันไปทั้งกาย สายตาแบบนี้เขาเคยเห็นไอ้ไมเคิลมองตอนที่มันบุกจะเข้าไปข่มขืนเขา

"ยะ อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ...นี่ของมีค่าทั้งหมดของผม คุณเอาไปได้เลย"สมิธหยิบกระเป๋าเป้ยื่นให้ชายแปลกหน้าอย่างยินยอม ยังไงก็ต้องเอาชีวิตรอดก่อน แต่ชายที่ยืนอยู่หน้าสุดกลับปัดกระเป๋าสมิธทิ้งไปอีกทาง พร้อมสาวเท้าเข้ามาใกล้ ในขณะที่สมิธก็กระถดตัวหนีเข้ากำแพงเรื่อยๆจนแผ่นหลังบางชิดกับกำแพงชื้นโดยไม่รู้ตัว

"ไอ้ของน่ะพวกฉันเอาแน่ แต่ตอนนี้ขอเอาเธอก่อนว่ะ น่าเย็_ฉิบหาย"ชายที่เป็นหัวหน้ากลุ่มพูดจาหยาบคายโลมเลียสมิธ เด็กหนุ่มตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัวจนน้ำตาไหลอาบแก้ม

"อย่าทำผมเลยนะครับ ได้โปรด ฮึก"สมิธหวาดกลัวขอร้องคนพวกนั้นทั้งน้ำตา แต่เงาดำทั้งสามก็คืบคลานเข้าใกล้ร่างเล็กเรื่อยๆ ส่างร่างพุ่งไปจับแขนเล็กของสมิธคนละข้างแล้วกดลงกับพื้น สมิธดิ้นและกรีดร้องได้ไม่ถึงครึ่งเสียงก็โดนชกท้องเข้าที่จุดเดิมอีกรอบ คราวนี้ไม่ใช่แค่จุก แต่มันปวดแน่นจนกระทั่งหายใจยังลำบาก

"ยอมดีๆแปบเดียวก็เสร็จแล้วน่า"ชายที่ยืนอยู่ต่อหน้าสมิธพูดกับร่างบางด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย

"กูขอเอาต่อมึงมึงนะอเล็กซ์"ชายที่อยู่ฝั่งซ้ายสมิธเอ่ยขอเพื่อนเพราะมีรสนิยมเดียวกัน ส่วนอีกคนเพียงแค่ช่วยเพื่อนเท่านั้น

"ได้!"ชายเจ้าของชื่อตอบรับเพื่อนก่อนจะก้มลงเพื่อจะจัดการกับเด็กหนุ่มหน้าสวย แต่ในจังหวะที่อเล็กซ์กำลังจะก้มตัวขึ้นคร่อมร่างเล็ก สมิธก็รวบรวมเรี่ยวแรงสุดท้ายถีบเข้าที่อกชายคนนั้นจนล้มก้นจ้ำเบ้า

อเล็กซ์กัดฟันกรอดอย่างโมโห เนื่องจากรู้สึกเสียหน้าต่อหน้าเพื่อน เขาขยับกายขึ้นคร่อมสมิธอย่างรวดเร็วแล้วตบแก้มใสจนหน้าหัน

ดวงหน้าเล็กชาไปทั้งแถบ ก่อนจะรู้สึกปวดตุบๆราวกับแก้มจะระเบิดตามมา

ความเจ็บขนาดนี้เขาไม่เคยสัมผัส ขนาดที่ว่าลูคัสตบยังไม่เจ็บเท่านี้

"กูว่าจะถนอมมึงแล้วนะ แต่มึงแส่หาเรื่องเองว่ะไอ้เด็กเปรต!!"อเล็กซ์ตะคอกด้วยความโมโห มือผอมซีดกระชากเสื้อสมิธอยู่หลายนาทีกว่าจะขาด เขาก้มลงดูดกัดไปตามซอกคอขาวของสมิธทันที ร่างบางดิ้นรนและย่นคอหนีด้วยความรังเกียจปนขยะแขยง อเล็กซ์ล้วงมือเข้าไปในเป้ากางเกงตัวเองแล้วเค้นคลึงแก่นกายที่กำลังตื่นตัวให้แข็งขึ้น

แค่ได้ดมร่างกายหอมๆของเด็กนี่เขาก็มีอารมณ์แล้ว

"อย่า ฮือ อย่าทำผม"สมิธไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืนเพราะร่างกายบอบช้ำจากการถูกทำร้ายอย่างหนัก เขาอยากตายๆไปซะจะได้ไม่ต้องมาเผชิญกับเรื่องน่ากลัวน่ารังเกียจแบบนี้

และในจังหวะที่อล็กซ์เลื่อนมือไปรั้งกางเกงสมิธลง ร่างบางตกใจจนแทบสิ้นสติเขากรีดร้องสุดเสียงพร้อมกับเสียงดัง

ปุ! ดังขึ้นใกล้ๆหูก่อนที่ร่างของอเล็กซ์จะร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดแล้วทรุดตัวล้มทับร่างเล็ก

เพื่อนอเล็กซ์ทั้งสองเห็นสภาพเพื่อนแล้วปล่อยมือจากสมิธอย่างแตกตื่น

หูเล็กๆได้ยินเสียงฝีเท้าหลายสิบวิ่งเข้ามาใกล้ ก่อนจะได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขึ้นบนศีรษะ

"อย่าขยับ...ถ้าไม่อยากตาย"เสียงของโยฮันเนสเอ่ยบอกกับชายทั้งสาม พวกเขานิ่งไม่กล้าขยับก่อนจะถูกเหล่าชายชุดดำจับตรึงตัวไว้ให้ห่างจากร่างบาง

โยฮันเนสเดินไปช่วยพยุงสมิธขึ้นพร้อมๆกับจิมมี่ ร่างบางที่เห็นจิมมี่จึงโผเข้ากอดร่างสูงอย่างต้องการหาที่พึ่ง

"จิม...ฮือออออ ผมกลัว"ร่างเล็กสั่นสะท้านอย่างน่าสงสารในความรู้สึกของจิมมี่ ก่อนที่เขาจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากด้านหลัง จิมมี่เหลือบสายตาไปยังต้นตอของรังสีนั้น

ลูคัส กำลังจ้องเขม็งมาทางจิมมี่ราวกับมีดที่กำลังแล่เนื้อเขาช้าๆ

"เอ่อ คุณสมิธปล่อยผมก่อนนะครับ"ถ้าไม่ติดว่ากลัวเจ้านายมาก เขาคงยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามขมับด้วยความกดดัน

สมิธนิ่ง มือบางกำเสื้อเชิ๊ตของจิมมี่แน่น ใบหน้าเล็กยังคงร้องไห้ซบกับอกจิมมี่

"พาสมิธไปขึ้นรถ...เซน ตามจิมมี่ไปด้วย"ลูคัสสั่งเสียงนิ่ง จิมมี่และเซนรีบพยุงสมิธไปขึ้นรถตามคำสั่ง แม้ร่างบางจะเจ็บจนแทบเดินไม่ไหวก็ไม่มีใครกล้าอุ้ม เพราะกลัวมาคารอฟในมือเจ้านายจะลั่นเจาะกระโหลกพวกเขาซะก่อน

"ปลอดภัยแล้วนะครับ"จิมมี่ลูบหลังเล็กอย่างปลอบโยน สมิธแม้จะยังตัวสั่นนิดๆแต่เขาก็ยอมเงยหน้าออกจากอกจิมมี่

จิมมี่และเซนพาสมิธเข้าไปนั่งในรถเจ้านายที่ลูกน้องอีกคนขับมาจอดไว้คอยท่า

"ขอบคุณนะจิม"

"ไปขอบคุณนายท่านเถอะครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย"

"..."สมิธเงียบ ก่อนที่ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นแขนซ้ายของจิมมี่ที่แขนเสื้อถูกตัดออกและมีผ้าพันแผลพันไว้ที่ต้นแขน

"แขนเป็นอะไร?"สมิธถามจิมมี่ด้วยความเป็นห่วง

"..."

"จิมมี่!"

"ถูกยิงครับ"

"ใครทำ"

"..."จิมมี่เงียบอีกครั้ง ซึ่งสมิธก็เข้าใจได้ทันที

"เขาใช่ไหม?"

"ท่านทำถูกต้องแล้วครับ ผมทำหน้าที่ได้ไม่ดี ก็ต้องรับผิดชอบสิ่งนั้น"

"เพราะ...ผมสินะ"สมิธพูดเสียงเศร้าๆ ก็จิมมี่ทำหน้าที่เป็นคนดูแลเขาไม่ใช่หรือไง

จิมมี่ไม่ได้ตอบอะไรสมิธกับไป เพราะถ้าเขาบอกว่าไม่เป็นไรสมิธก็คงจะคิดหนีไปอีก แต่ถ้าจะให้จิมมี่โทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของสมิธก็ไม่ได้หรอก

เด็กคนนี้ถูกบีบให้ต้องทำต่างหาก

"ผมขอโทษนะจิม...แต่ผมไม่ยอมรับผิดหรอกนะ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด คนที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้คือเขา เขานั่นแหละเป็นคนผิด!" สมิธพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แววตาดูเปลี่ยนไปจนจิมมี่ยังรู้สึกใจหาย

ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นแค่ไม่กี่ชั่วโมงได้เปลี่ยนเด็กคนนี้ไปตลอดกาล...

+++++++++++++++

อีกด้านหนึ่ง...ขณะเดียวกัน

"อึก! อ๊ากกกกกก!!!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังลอดออกจากปากที่มีถุงขยะพลาสติกอัดแน่นอยู่เต็มปากของอเล็กซ์ เขาถูกผู้ชายผมทองดูมีอำนาจคนนี้ใช้เท้าบดขยี้ปากแผลจากการถูกยิงเมื่อครู่ซ้ำแล้วซ้ำอีก

ทุกครั้งที่อเล็กซ์ร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวด ชายหนุ่มคนนี้จะแสยะยิ้มมุมปากที่ทำให้อเล็กซ์หนาวสั่นไปถึงขั้วหัวใจ

"อื้อๆๆๆ"พวกเพื่อนอเล็กซ์ที่อยู่ในสถาพถูกมัดและโดนอุดปากเหมือนกันส่งเสียงร้องจนแทบสิ้นสติเมื่อเห็นสิ่งที่เพื่อนถูกกระทำ

"คุณเกือบจะล่วงเกินคนของผม...ไม่สิ คุณทำร้ายเขาไปแล้ว รู้รึเปล่า?"ลูคัสเอ่ยถามชายที่อยู่ใต้รองเท้าตนเองด้วยรอยยิ้มเย็น อเล็กซ์ส่ายหน้าทั้งน้ำตา เขากลัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิตนี้

"ทำอะไรเขาไปแล้วบ้าง?"ลูคัสยังถามต่อ แต่ไม่ได้ต้องการคำตอบ เพราะไม่ว่าจะตอบยังไงบทลงโทษที่เขามอบให้อีกฝ่ายก็มีอยู่สถานเดียว

"คนของผม ผมทำได้คนเดียว" ปุ!ลูคัสยิงปืนเก็บเสียงอีกหนึ่งนัดใส่ต้นขาอเล็กซ์

"อ๊ากกกกก"อเล็กซ์ร้องหนักขึ้นเมื่อลูคัสขึ้นไปเหยียบบนตนขาเขาที่ถูกยิง

"ไอ้นี่รึเปล่าที่ริอยากลองไม่ถูกที่"ลูคัสใช้เท้าอีกข้างกระอย่างแรงตรงกลางกายของอเล็กซ์ เขาพยายามดิ้นหนีด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ถูกลูน้องของลูคัสตรึงร่างไว้แน่นจนขยับไม่ได้

เหตุการณ์ราวกับเดจาวูเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เพียงแต่ผู้ถูกกระทำเปลี่ยนจากเด็กคนนั้นเป็นอเล็กซ์แทน

"จำเอาไว้ คิดจะทำเรื่องชั่วต้องมั่นใจว่าจะทำสำเร็จ ไม่อย่างนั้นคุณต้องชดใช้มัน...ด้วยชีวิต"ลูคัสก้มหน้ากระซิบข้างหูอเล็กซ์ก่อนจะขยับลงจากตัวชายคนดังกล่าว

เขาถอดรองเท้าคู่เก่าทิ้งราวกับรังเกียจก่อนจะสวนคู่ใหม่ที่ลูกน้องนำมาเปลี่ยนให้ ลูคัสหันหลังเตรียมจะเดินจากไปพร้อมคำสั่งหนักแน่นหนึ่งประโยคที่ทำเอาชายทั้งสามที่ถูกจับมัดร้องไห้ฉี่ราดด้วยความหวาดกลัว

"ส่งพวกมันไปสารภาพบาปกับพระเจ้าซะ"

+++++++++++++++

ลูคัสเดินมาถึงรถของตนก็พบจิมมี่และเซนยืนเฝ้าอยู่นอกรถ

ชายหนุ่มขยับเท้าเข้าไปใกล้ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าจิมมี่ที่ยืนก้มหน้าอยู่

"สนิทกันดีนี่?"เสียงเย็นๆของลูคัสทำเอาจิมมี่ตัวสั่นขึ้นมานิดๆ เขาที่ยิ่งมีคดีก่อนหน้าอยู่แล้วเจอเหตุการณ์เมื่อกี้เข้าไปอีกแทบจะหาโอกาสรอดชีวิตไม่เจอ

"ผมไม่มีโอกาสให้คนทำงานพลาดเป็นครั้งที่สอง...อย่าให้มีแบบวันนี้อีก ไม่ว่าจะเหตุการณ์ไหนก็ตาม"

"ครับนาย" จิมมี่รับคำเสียงเข้ม

ลูคัสเบี่ยงตัวออกเดินไปทางประตูที่เซนเปิดไว้คอย ภายในรถสตาร์ทเครื่องไว้อยู่แล้ว ดวงตาคมสีเขียวเข้มหรี่มองร่างเล็กที่นอนขดตัวอยู่บนเบาะหลัง มีเสื้อโค้ทของบางคนห่มร่างไว้ให้

ชายหนุ่มขยับตัวเข้าไปนั่ง ก่อนจะกระชากโค้ทออกจากร่างบางลงบนพื้นรถ

สมิธตัวสั่นขึ้นมาด้วยความหนาว ลูคัสมองสำรวจร่างเล็กที่เสื้อยืดถูกฉีกจนแทบขาดออกจากกัน ชายหนุ่มถอดเสื้อโค้ทขนนุ่มราคาแพงของตนห่มให้ร่างบาง ก่อนจะอุ้มร่างผอมปวกเปียกขึ้นมานั่งบนตักตนเอง ชายหนุ่มจับขาสมิธทั้งของสมิธให้พาดอยู่บนเบาะแล้วจับตัวเด็กหนุ่มซบลงกับอกตนเอง ลมหายใจอุ่นๆของเด็กน้อยเป่ารดต้นคอแกร่ง ทำให้ความรู้สึกอัดแน่นในอกเบาบางลง

"ออกรถ"ลูคัสเอ่ยสั่งลูกน้องที่นั่งประจำคนขับ



สมิธขยับตัวตื่นด้วยความเจ็บเพราะร่างกายที่บอบช้ำถูกขยับ ดวงตาเห็นต้นคอแกร่งเป็นสิ่งแรก แต่กลิ่นกายที่คุ้นเคยทำให้สมิธมีปฏิกิริยาต่อต้านทันที

"อยู่นิ่งๆ"แขนแกร่งโอบกระชับร่างเล็กแน่นขึ้นเนื่องจากคนตัวเล็กขยับตัวดิ้นไปมา

"ไม่!ปล่อยนะ!!"

"มิทตี้อย่าดื้อ!!"ลูคัสกดเสียงดุ แต่สมิธกลับเชิดหน้าสบตาคนตัวโตกว่าอย่างไม่ยอมแพ้

"แล้ว จะตบอีกไหมล่ะ?"ร่างเล็กแสยะยิ้มอย่างท้าทาย ลูคัสกัดฟันกรอด สภาพหน้าข้างหนึ่งบวมเป่ง มุมปากก็ช้ำ ขืนเขาตบอีกคงได้เจ็บหนัก แม้ลูคัสจะเคยตบสมิธแต่เขาก็ทำเพื่อสั่งสอน ยั้งแรงและรู้ลิมิตว่าควรทำในสภาพไหน

"จะตบก็ตบเลย ผมมันไร้ค่าอยู่แล้ว...อื้อออ!!"สมิธเอ่ยพร้อมรอยยิ้มหยันก็ยิ่งยั่วโมโหอีกคนโดยไม่รู้ตัว ลูคัสจึงประกบปากร่างบางให้หยุดพูดยั่วยุเขาสักที สมิธร้องด้วยความตกใจเมื่อปากเล็กถูกอีกคนขบเม้มครอบครองโดยที่เขาไม่ทันได้ต้องตัว เด็กหนุ่มพยามเม้มปากและขัดขืน แต่ก็ทำได้ยากเพราะเจ็บตัวเจ็บหน้าไปหมด ลูคัสบดเบียดริมฝีปากเล็กด้วยหลายๆความรู้สึก เขาขบดูดกลีบปากอีกคนซ้ำไปซ้ำมาโดยไม่ยอมผละออกห่างแม้แต่มิลเดียว แม้การจูบนี้จะไม่ได้สอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากเล็กแต่ก็เหน็ดเหนื่อยจนร่างเล็กหายใจแทบไม่ทัน

สมิธไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน เขาถูกลูคัสจูบไปตลอดทางจนหมดทางต่อต้าน เมื่อถูกถอนจูบออกก็รู้แค่ว่าปากตัวเองชาจนแทบไร้ความรู้สึก หัวหนักตาปรือ ศีรษะเล็กตกลงกับบ่าแกร่ง สัมผัสสุดท้ายก่อนจะหลับไปคือความหนุ่มหยุ่นอุ่นๆที่ข้างขมับ

+++++++++++++

อิเฮียน่ากลัวจัง อย่างกับฆาตรกรโรคจิตเลย...แต่มีบางคนถูกเมียเมินแล้วไงทีนี้ หึๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :z6: ขอทีเถอะ  :katai1:

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ยังไงต่อๆ :ling1:

ออฟไลน์ mundoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
มิตตี้กำลังจะเอาคืนอิพี่!! เราจะสมน้ำหน้าแกลูคัส

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
 :z6:  สำหรับอีลู

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด