-ต่อจากด้านบน-
ชายหนุ่มใช้เวลาไปถึงครึ่งชั่วโมงในการอาบน้ำและแต่งตัวด้วยชุดลำลองสบายๆ อย่างกางเกงนอนขายาวเพียงตัวเดียว
ใช่ อธิษฐ์ใส่กางเกงนอนขายาวเพียงตัวเดียว…
มันไม่ใช่การเตรียมพร้อม— เอ่อ ยอมรับก็ได้ว่านั่นเป็นเหตุผลส่วนนึงของการแต่งตัวแบบนี้ แต่เขามีนิสัยใส่กางเกงนอนเพียงอย่างเดียงมานานแล้ว เช่นเดียวกับคนที่ทำครัวไปด้วยร้องเพลงไปด้วยที่ชอบใส่เสื้อนอนเพียงอย่างเดียว ตอนแรกอธิษฐ์ก็คิดว่าเด็กมันยั่ว แต่พอใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาสักพักหนึ่ง ถึงได้รู้ว่านั่นเป็นนิสัยส่วนตัวของร่างเล็ก
เจ้าของร่างสูงร้อยแปดสิบหกเซนติเมตรค่อยๆ เดินย่องเข้าไปในครัว พลางเงี่ยหูฟังเสียงพึมพัมของพ่อครัวอารมณ์ดี
“Daddy finger.. Daddy finger.. where are you?”
เส้นคิ้วคมขมวดเล็กน้อยกับทำนองเพลงไม่คุ้นหูนั่น
“ร้องเพลงอะไรของเธอ”
พ่อครัวตัวเล็กสะดุ้งโหยงแล้วรีบหันกลับมามองในทันที พอเห็นว่าเป็นเขายืนซ้อนอยู่ด้านหลังก็หลับตาพร้อมถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ตกใจหมดเลยครับ”
“ขวัญอ่อนจริงเชียว”
“ก็คุณเล่นเดินเข้ามาเงียบๆ นี่” ว่าพลางยกมีดหันผักชี้หน้าคาดโทษร่างสูง ชายหนุ่มจึงเอนตัวหลบด้วยกลัวว่าปลายคมแหลมของมันจะบาดปลายจมูกโด่งของตนเข้า ในขณะที่ส่งสายตาบอกให้ปรมิณลดของอันตรายในมือลง
“เธอยังไม่ตอบเลยว่าเมื่อกี้ร้องเพลงอะไร” เขาถามซ้ำอีกครั้ง ในตอนที่ถอยหลังมายืนพิงสะโพกกับเคาน์เตอร์บาร์
“Daddy Finger ครับ เป็นเพลงเด็กน่ะ”
“หืม?” ครางรับในลำคอระหว่างไล่สายตาพิจารณาเรือนร่างเล็กของพ่อครัวอย่างเช่นทุกที
ตอนนี้ที่มาของเพลงที่ปอร้องไม่น่าสนใจเท่าเด็กหนุ่มสวมเสื้อสเวตเตอร์ปกปิดร่างกายเพียงอย่างเดียว โชคดีที่อีกฝ่ายตัวเล็กและไซส์เสื้อมันใหญ่กว่ารูปร่างกะทัดรัดของเจ้าตัวไปมากโข
แต่ก็นับว่าโชคร้ายที่มันไม่ได้ยาวจนคลุมเข่า เพราะฉะนั้นเวลาที่อีกฝ่ายเขย่งเอื้อมมือหยิบอะไรสักอย่างที่อธิษฐ์ไม่ได้ใส่ใจมองเท่าเรียวขาขาวราวน้ำนมนั่น ปลายเสื้อสีชมพูก็เลิกขึ้นจนเกือบเห็นบั้นท้ายกลมกลึงอย่างหมิ่นเหม่
และโอเค
เขาเห็นว่าอันเดอร์แวร์สีขาวโผล่มาทักทายวับๆ แวมๆ จนอดที่จะเลียริมฝีปากแห้งผากของตนไม่ได้เลย ยั่วตาใสแบบไม่ได้ตั้งใจหรือเปล่าไม่รู้ ทว่าพอได้สบนัยน์ตาใสซื่อ เขาก็รู้ว่าเมื่อกี้ปอคงไม่ได้ตั้งใจ(มั้ง)
“เป็นเพลงเด็กน่ะครับ ผมได้ยินตอนช่วยครูอนุบาลถือของไปส่งที่ตึกฝั่งเด็กเล็ก”
“เหรอ”
“ฟังแป๊บเดียวเองนะครับแต่มันติดหูผม— คุณอธิษฐ์” เอ่ยเรียกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูจะไม่ได้สนใจเรื่องที่เขากำลังพูดเสียแล้ว ก็ดวงตาเป็นประกายวิบวับนั่นเอาแต่มองต่ำอยู่ตรงขาน่ะสิ
“อะไรครับ”
“หน้าผมไม่ได้อยู่ข้างล่างนะ”
“ข้างล่างเธอมันก็ไม่ได้น่ามองน้อยกว่าหน้าเธอสักเท่าไหร่หรอก”
“คุณธิ!” ร้องแหวอย่างทนไม่ไหว ปรมิณคนนี้อยากจะบ้าตาย ทำไมชายหนุ่มตรงหน้าถึงได้เป็นคนแบบนี้เนี่ย สายตาน่ะมองเหมือนจะกินคนเด็กกว่าเข้าไปแทนอาหารเย็นที่กำลังเร่งทำอยู่รอมร่อ
“อะไรเล่า”
“พูดอะไรของคุณเนี่ย”
“ทำเป็นเขิน” พูดหยอกพลางเกลี่ยนิ้วล้อแก้มแดงๆ ของพ่อครัวตัวน้อย “ไหนร้องให้ฉันฟังใหม่ซิ”
“ครับ?”
“เพลงนิ้วคุณพ่อของเธอน่ะ”
“อยากฟังเหรอครับ?” ถามพลางแสดงสีหน้าไม่ไว้ใจออกมา ก็ประโยคที่คุณอธิษฐ์พูดออกมานั้นมันฟังดูปกติเสียที่ไหนล่ะ เล่นแปลกออกมาซะตรงตัว ถ้าคนไม่คิดอะไรมันก็ไม่คิดหรอก
“ใช่ ฉันอยากฟังเธอร้อง” หนุ่มนักธุรกิจพูดจบก็ยกยิ้มกริ่มที่มุมปาก
ทางด้านเด็กหนุ่มนั้นมองจงอินอย่างระแวง ก่อนจะสะบัดหน้าไล่ความคิดแปลกๆ ไป คุณจงอินคงไม่ได้คิดลึกอะไรกับเพลงเด็กอ่อนแบบนี้หรอกมั้ง เขาจึงสูดลมหายใจเข้าปอดพร้อมกับช้อนตามองใบหน้าหล่อเหลาขณะขยับริมฝีปากเปล่งเสียงทุ้มห้าวที่พยายามร้องออกมาอย่างนุ่มนวลที่สุด
“Daddy finger.. Daddy finger.. where are you?”
แต่ทว่าปอคงไม่รู้ ว่าคุณธิที่มองหน้าเขาอยู่ตอนนี้กำลังคิดลึก
“Here I am.. Here I am.. How do you do?”
และลึกมากเสียด้วย
อันที่จริงเพลงมันไม่ได้มีแค่ท่อนของคุณพ่อหรอกนะ ยังมีท่อนคุณแม่ พี่ชาย พี่สาว ที่ปรมิณต้องร้องต่อ แต่เพราะมีมือมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ เอวคอยก่อกวนทำให้นักร้องจำเป็นต้องหยุดเสียงลงฉับพลัน พร้อมกับส่งยิ้มถามร่างสูงที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์ชอบกล
“ชอบหรือครับ”
“อืม ชอบ”
ชอบมาก
“งั้นผมร้องให้ฟังอีกเอามั้ย?”
“เอาสิ”
ชอบจนอยากฟังปอร้องมันทั้งคืน
“แต่ว่าคราวนี้เธอต้องสอนฉันร้องด้วยนะ” คุณธิบอกพลางสอดแขนเกี่ยวเอวเล็กดึงร่างนุ่มนิ่มเข้ามาแนบชิด
“ได้สิครับ” เขายิ้มให้ร่างสูงอย่างกระตือรือร้น ดูท่าคุณอธิษฐ์จะชอบมากถึงขั้นให้เขาสอนร้องเลยหรือเนี่ย “สอนไปทำอาหารไปเนอะ”
“ได้”
ผึ้งตัวน้อยก็ยังคงยิ้มอย่างชอบใจ โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า มันกำลังจะถูกเจ้าหมีนักล่าดูดกลืนความหอมหวานจากตัวของมันจนแทบหมดสิ้น
“Baby, let’s start singing”
อธิษฐ์ยกร่างของคุณนักร้องจำเป็นที่สวมผ้ากันเปื้อนสีดำตัดกันกับเสื้อสเวตเตอร์สีชมพูอ่อนวางลงบนเคาน์เตอร์ ก่อนแทรกตัวเข้าไปยืนกลางหว่างขาพร้อมเท้ามือทั้งสองข้างลงบนพื้นหินอ่อนเย็นเยียบ กักขังให้ผึ้งน้อยตากลมตกอยู่ในอาณัติ โดยไม่อาจหลุดพ้น
ดวงตากระจ่างใสฉายแววตื่นตระหนกเพียงครู่ ก่อนจะอมยิ้มเมื่อรู้ว่าตนนั้นเสียรู้ให้ชายหนุ่มวัยกลางคนอีกเช่นเคย ปรมิณหลุบตามองฝ่ามือซุกซนขยับนิ้วเล่นปูไต่ตามผิวเนื้อขาวนวล
“เราจะเริ่มจากท่อนไหนกันก่อนดีล่ะ ที่รัก”
ชายหนุ่มถามพลางช้อนแววตาเจ้าเล่ห์ขึ้นมองใบหน้าใส ในขณะเดียวกันก็ไล้ปลายนิ้วตามเส้นรอบปากอิ่มช้าๆ อย่างนุ่มนวล จังหวะลากเอื่อยราวกับต้องการจดจำรายละเอียดของริมฝีปากแดงเรื่อให้แม่นยำ จนกระทั่งหยุดสัมผัสลงกึ่งกลางริมฝีปากล่าง ร่างสูงก็บีบนิ้วห่อเนื้อนุ่มหยุ่นก่อนจะใช้ลิ้นชิมความหวานเป็นการกระตุ้นอารมณ์
“ให้ตายเถอะ” ร่างเล็กสบถออกมาในระหว่างสอดประสานสายตาเป็นประกายวาววามของคนรัก “คุณนี่มัน” เขาใช้สายตาต่อว่าอย่างไม่จริงจัง ก่อนยกแขนสองโอบรอบลำคออุ่นพร้อมกระหวัดขาเกี่ยวเอวสอบเข้ามาแนบชิด ฝ่ามือขาวจัดลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาพร้อมมองด้วยสายตาชื่นชมหลงใหล
ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เวลาที่อธิษฐ์รอคอยก็มาถึง เมื่อปรมิณค่อยๆ เอียงใบหน้าเข้าหา ก่อนร่างเล็กจะมอบความหวานแบบปากต่อปากให้คุณหมีนักล่าที่เอียงศีรษะรอรับอย่างรู้หน้าที่
บดเบียดกลีบปากเข้าหากันเชื่องช้า
ละเลียดชิมรสชาติหอมหวานแสนโปรดปรานวินาทีต่อวินาที
ขณะที่ค่อยๆ เพิ่มความตื่นเต้นใส่ลงไป
ริมฝีปากขยับฟัดกันไต่ระดับความรุนแรงของอารมณ์ที่โหมกระพือขึ้นเรื่อยๆ เปลี่ยนความนุ่มละมุนให้เร่าร้อนจนปอต้องสอดมือขยุ้มเรือนผมสีปีกกาของร่างสูงที่จู่โจมจูบอย่างดุดัน มีคุณธิคอยต้อนงับริมฝีปากอิ่มพลางไล่ละขอบปากด้วยปลายลิ้นชื้น สอดเรียวแขนโอบแผ่นหลังเล็กทำมุมเฉียงกับพื้นเคาน์เตอร์หินอ่อน เพราะเจ้าปอกำลังเหลวเป็นขี้ผึ้งโดนไฟรน
“อื้ออ..”
คนตัวเล็กส่งเสียงประท้วงเมื่อร่างถูกยกขึ้นลอยเหนือเคาน์เตอร์บาร์ ร่างสูวโอบอุ้มคนรักทั้งที่ริมฝีปากยังเชื่อมติดกันแน่น มือหนาสอดรองใต้บั้นท้ายกันคนที่โอบแขนกอดเขาไว้แน่นจะตกลงไป
อธิษฐ์ก้าวเท้าเร็วๆ มาถึงห้องนั่งเล่น ก่อนเหวี่ยงร่างเล็กลงบนโซฟา ทำให้จูบยาวนานหลายนาทีนั้นขาดช่วง ทว่าคนตัวสูงที่ยืนเข่าคร่อมร่างอยู่นั้นหาได้สนใจ ผ้ากันเปื้อนสีดำเกะกะลูกตานี่ต่างหากที่เป็นปัญหา คุณนักธุรกิจหนุ่มพยายามปลดเปลืองมันด้วยความทุลักทุเล
หากไม่ได้คนที่สวมมันเองกับมือเป็นคนถอด เขาคงไม่มีทางได้เห็นผิวขาวนวลภายใต้เสื้อสเวตเตอร์สีชมพูอ่อนเป็นแน่ ร่างสูงจึงตอบแทนการช่วยเหลือของคนตัวเล็กด้วยการป้อนจูบแสนร้อนแรงให้เป็นของกำนัล ทั้งบดคลึงและดูดเม้มกลีบปากบนล่างสลับกัน เขาพยายามเอาลิ้นดุนเพื่อให้เจ้าของความหวานล้ำนี้เปิดปาก
ทว่าคนตัวเล็กที่อายุห่างกันถึงรอบปีดันรู้ทัน ปรมิณนั้นผละจูบห่างเขาชั่วครู่ ใช้รอยยิ้มซุกซนหยอกล้ออย่างยั่วยวน ปั่นประสาทความต้องการเขาให้ดิ้นทุรนทุรายจนสมใจ จากนั้นก็กลับเข้ามาจูบใหม่ด้วยระดับความฮอทที่เร่าร้อนเกือบทะลุปรอท
เด็กหนุ่มดูดและขบริมฝีปากล่างเบาๆ สลับกับแตะปลายลิ้นเล็กหลอกล่อ ความแสบซ่าของคนตัวเล็กทำให้ร่างสูงรู้สึกดีแบบสุดๆ เขาจูบตอบกลับขณะที่ยอมเล่นตามเกม ลองเป็นปลาเล็กที่ว่ายเวียนตามหางปลาใหญ่ดูบ้างคงไม่เสียหาย
ก่อนที่ครู่ต่อมาเสื้อแขนยาวสีหวานแหววที่ปอจงเกลียดจงชังมันนัก จะถูกถอดออกจากร่างด้วยฝ่ามือของคุณหมีที่ตะปบคราวเดียวก็หลุดปลิวไปตกอยู่บนพื้น จากนั้นมือหนาจึงจับยกร่างที่เหลือเพียงแค่อันเดอร์แวร์สีขาวปกปิดของสงวนขึ้นนั่งบนตัก พร้อมป้อนจูบไม่ยอมห่าง
“อ่า.. ตัวแสบ” อธิษฐ์เอ่ยเสียงพร่ายามที่มือเล็กสอดลึกเข้ามาในกางเกงนอน
ความร้อนเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงดุร้ายที่นอนสงบภายใต้กางเกงชั้นในนั้นลูบไล้ ปลุกปั้นมันให้ผงาดความยิ่งใหญ่ขึ้นอย่างแช่มช้า ปรมิณเขย่ากรงกักขังแรงปรารถนาของเขาสั่นสะเทือนด้วยสายตาท้าทายและเย้ายวนจนมันปะทุ ในตอนนั้นแกนกายแข็งแกร่งพร้อมไล่ล่าความหวานเพื่อเพิ่มเติมเต็มช่องโหว่งของห้วงอารมณ์กำหนัด
“ฮืมมม..” ร่างสูงร้องคำรามระบายความเสียวซ่าน ยามอุ้งมือร้อนชักลูบท่อนเนื้ออวบราวลูกสูบ นัยน์ตาคมหรี่มองใบหน้าเจ้าเล่ห์ของผึ้งน้อยบนตัก ก่อนจะทนไม่ไหวเมื่อคนตัวเล็กแย้มยิ้มกว้างคล้ายเด็กเล็กๆ ที่กำลังเล่นสนุกกับการเข็นรถพลาสติกกลับไปกลับมา
มือหนาคว้าลำคอขาวดึงใบหน้าแดงเรื่อเข้ามารับจูบอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ปอกลับเปิดริมฝีปากรับลิ้นเขาเข้ามาดูดทักทายมันแผ่วเบา หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ลิ้นอุ่นๆ ตวัดสัมผัสได้ตามอัธยาศัย มีบางครั้งที่เด็กหนุ่มผลักดันลิ้นที่กำลังกวาดต้อนไปรอบปากอย่างเพลิดเพลิน บวกกับฝ่ามือขาวที่ยังเล่นซนกับท่อนแข็งตึงของเขาไม่หยุด ยอมรับว่าจังหวะนั้นคุณธิแทบจะปลดปล่อยความต้องการของตัวเองออกมาให้หมดสิ้น
“เด็กดี บทเพลงของเราควรเริ่มมันได้แล้ว” ร่างสูงผละหน้ามากระซิบข้างใบหูแดงก่ำ ก่อนจะแตะลิ้นแล้วเลียติ่งเล็กๆ เป็นการตบท้ายให้ร่างน้อยบนตักสั่นสะท้าน
“สอนฉันร้องเพลงนิ้วคุณพ่อของเธอสักที”
“อื้ออ.. แด๊ดดี้” พึมพำเคลิ้บเคลิ้มเมื่อบั้นท้ายนิ่มถูกบีบกระชับ “ถ้าคุณอยากฟังมัน—”
“ที่รัก ฉันอยากฟังมันจากปากเธอ” พูดกล่อมเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่แฝงความต้องการลึกๆ ไว้ในประโยค “Please”
ปรมิณอมยิ้มในขณะที่เกี่ยวขอบกางเกงนอนขายาวของคุณอธิษฐ์ร่นลงมาถึงครึ่งแข้ง ก่อนแอ่นสะโพกบดเบียดท่อนเนื้อร้อนที่บวมจัดจนเส้นเลือดปูดโปนของคนรัก
ตาประสานตา ระหว่างที่ก้านนิ้วเรียวของเบบี้ตากลมเกลี่ยรอบสันกรามคม ก่อนดันปลายคางทู่เชิดขึ้นและเริ่มบรรเลง ‘Daddy finger’ ข้างใบหูของคุณแดดดี้ผิวเข้ม
“Daddy finger.. Daddy finger.. Where are you?”
โดยที่ปลายนิ้วของ Daddy นั้นเกี่ยวขอบชั้นในผลุบหายเข้าไปในร่องสะโพกขาวอวบของเบบี้ เจ้าของอันเดอร์แวร์สีขาวสะดุ้งโหยงพร้อมกับเผยอปากปล่อยเสียงครางหวานยามที่นิ้วของคุณพ่อสอดลึกผ่านรูจีบเข้ามาทีเดียวถึงสองนิ้ว
ใบหน้าน่ารักบิดเบี้ยวด้วยเสียวกระสันเมื่อเรียวนิ้วของอธิษฐ์กระแทกกระทั้นในช่องทางรักพร้อมกับเสียงกระซิบแหบพร่าข้างหูด้วยประโยคที่ปอไม่ต้องสอนด้วยซ้ำ
“Here I am.. Here I am..”
“อื้ออ.. อ่า”
“How do you do?”
สะโพกอวบลอยผวาเหนือตักแกร่งเพราะจังหวะสอดลึกนั้นกระแทกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างเล็กซบหน้าลงบนบ่ากว้างพลางขบริมฝีปากกลั้นเสียงน่าอาย— อยากจะบ้า เขาเสียววูบวาบคล้ายตอนที่รถลงสะพานมาด้วยความเร็วแบบนั้น
นักธุรกิจหนุ่มจูบซับเหงื่อข้างขมับให้คนตัวเล็ก ก่อนจะแลบลิ้นเลียใบหูแดงจัดอีกครั้งเพื่อกระตุ้นความปรารถนาปริ่มขอบเขตอารมณ์ เขาใช้ปลายจมูกคลอเคลียพวงแก้มยุ้ยในขณะเดียวกันนั้นปลายนิ้วก็ยังคงกระแทกอยู่ในรังผึ้งไม่หยุด
“ปอ ร้องออกมา..”
“อึก”
“ทนไม่ไหว เธอก็แค่ร้องมันออกมา”
“ซิ๊ดดด” เสียงสูดปากดังระงมอยู่ข้างหูเรียกขนอ่อนของร่างสูงลุกเกรียวกราว อีกทั้งความขาวที่สว่างล่อตาล่อใจ ดึงดูดให้อธิษฐ์แนบริมฝีปากกับผิวเนื้อนวลสะท้อนแสง ดูดเม้มจนเกิดรอยจ้ำสีกุหลาบตรงแอ่งชีพจร
“Baby” เรียกคนที่อ่อนระทวยอยู่บนตัก ก่อนจะจุ๊บเบาๆ บริเวณหน้าผากพร้อมกับตั้งคำถาม “Are you ready?”
“Yes, Daddy”
จบคำนั้น ฝ่ามือที่บีบเค้นบั้นท้ายนุ่มนิ่มจนล้นตามหว่างนิ้วก็จับร่องสะโพกแยกออก เพื่อต้อนรับ Daddy finger จริงๆ ที่ชำแรกผ่านรูจีบสีชมพูระเรื่อซึ่งถูกเบิกทางมาก่อนนั้นเข้าไปสำรวจด้านใน
“อ่าา” คุณธิเผยอปากปล่อยเสียงระบายความคับแน่นที่บีบรัดตัวตนของเขาจนแทบจะเสร็จสมตามอารมณ์โดยที่ยังไม่ทันขยับเสียดสีด้วยซ้ำ “ผ่อนคลายหน่อยเด็กดี”
“อ่า.. ขะ— ของคุณมันใหญ่เองต่างหาก”
“ปากดี” เขาว่าพลางบีบห่อริมฝีปากบวมเจ่อหลังผ่านสมรภูมิจูบมาหมาดๆ ก่อนจะตวัดเรียวลิ้นเลียเพิ่มความหยาบกระด้างของรสรักพร้อมกระแทกเอวสวนขึ้นไป
“อื้อออ” ปอร้องได้เพียงเท่านั้น เขาไม่มีโอกาสเถียงด้วยซ้ำ เพราะหลังจากนั้นร่างสูงก็ตั้งหน้าตั้งตากระแทกสะโพกไม่ยั้ง มันไม่หลงเหลือความนุ่มนวลใดๆ ตามสัญชาตญาณของนักล่า
เงาร่างของคนสองคนเกาะเกี่ยวกันจนแยกไม่ออก เสียงจังหวะหยาบโลนดังทั่วห้องนั่งเล่นตอนที่หน้าขาเนื้อหนั่นกระทบกับบั้นท้ายกลมกลึง อธิษฐ์เอามือช้อนซาลาเปาสองลูกใหญ่ให้ลอยเหนือตัก เขาจับกระชับมันให้อยู่นิ่งเช่นนั้นก่อนจะเด้งสะโพกสวนด้วยความเร็วถี่กระชั้น คล้ายลูกสูบที่ทำงานอย่างบ้าคลั่งจนช่องทางสูบนั้นร้อนแทบไหม้
แรงเสียดสีที่ดิบเถื่อนรุนแรงทำเอาร่างเล็กเสียววูบบริเวณช่วงท้อง รวมถึงช่องทางที่แกนกายใหญ่ขยับเข้าออกรัวเร็วจนเกิดฟองขาว
และให้ตาย คุณอธิษฐ์คงไม่ได้ใส่ถุงยางแน่ๆ เพราะเขารู้สึกว่าผิวเนื้อของเราทั้งคู่นั้นแนบชิด ทั้งยังเสียวจนเขาใจจะขาดคาอกแกร่งเช่นนี้ ปรมิณขบแนวฟันขาวกลั้นเสียงร้องคราง ที่บางครั้งมันก็หลุดออกมาเพราะทนเก็บความกระสันซ่านไม่ไหว
เซ็กส์ของชายหนุ่มวันสามสิมสามเป็นอะไรที่…
“ซิ๊ดดด”
ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่บนเครื่องเล่นที่อายุการใช้งานค่อนข้างนาน ความน่ากลัวของมันอยู่ที่เราไม่มีทางรู้ว่าเครื่องเล่นนี้จะพังลงตอนไหน กลับกัน มันก็เป็นความสนุกอย่างหนึ่งที่ทำให้เราลุ้นระทึกและจมจ่ออยู่กับความอันตรายของมันตลอดเวลา
เสียวปลาบทุกครั้งที่การแกว่งตัวของมันสะเทือนดังกึกๆ
เป็นความสนุกสนานที่สุดเหวี่ยงถึงใจ
และปรมิณก็ชอบมัน
“อ๊ะ อื้อ.. คะ— คุณธิ เร็วอีกครับ” ปอร้องขอเมื่ออารมณ์เขาหมุนพัดเข้าใกล้คำว่าไคลแม็กซ์เข้าไปทุกที จังหวะการสอบสะโพกใส่ช่องทางฉ่ำน้ำยังดุดันและแรงดีไม่มีตก
ชายหนุ่มนักรักซบหน้ากับบ่าแคบชื้นเหงื่อพร้อมกดสะโพกให้ส่วนหัวมนทู่ย้ำลึกถึงจุดที่ทำให้ปอเสียวจนร่างสั่นพร่า ร่างเล็กแหงนใบหน้าระบายความกระสันพลางส่ายสะโพกหมุนวนเป็นเลขแปด ก่อนจะควบเอวด้วยจังหวะเชื่องช้า แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นทีละนิด
“อ่า.. ที่รัก ขย่มมันลงมาเลย”
“อื้ออ.. ผมจะไม่ไหวแล้ว”
“เด็กดี ควบฉันไปให้ถึงเส้นชัยของเธอ..” คุณธิขบแนวฟันกับตุ่มไตที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า เขาตวัดลิ้นเลียมันที่แข็งตัวสู้ ก่อนจะผละออกมาส่งเสียงครางระบายอารมณ์กำหนัดตอนที่ปอขย่มสะโพกลงมาสุดแรง
“อ๊ะ.. อื้อออ”
“ฉันไม่ไหวแล้ว” เสียงทุ้มประกาศกร้าวหลังจากนั้นก็จับร่างเล็กที่ผิวขาวจัดแต้มสีแดงระเรื่อไปทั่วทั้งตัวนั้นลงบนโซฟา ขาข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิง ส่วนอีกข้างถูกเขากดพับมันลงบนหน้าท้องแขม่วเกร็ง บ่งบอกว่าเด็กหนุ่มใกล้แตะจุดสูงแล้ว
“แด๊ดดี้! รักผม.. รักผมแรงๆ เลย!”
ร่างสูงปฏิบัติตามคำสั่งของคนรักทันที เขากดสะโพกเข้าลึกแล้วดึงออกจนส่วนหัวกลมมนคาอยู่ตรงปากทางเข้า จากนั้นก็โถมร่างกระแทกกระทั้นใส่เต็มแรงจนเอวขอดกิ่วยกลอย ปออ้าปากค้างครวญเสียงครางไม่หยุดเมื่อธิเร่งซอยสะโพกถี่ยิบ
“อ่า..”
“อื้ออ..”
ริมฝีปากทั้งสองประกับแนบสนิทกันอีกครั้ง อกใจไหวสะท้านพร้อมกับปล่อยตัวไปตามความต้องการของอารมณ์โดยไม่มีใครขัดขืน เมื่อบทเพลงนิ้วคุณพ่อบรรเลงมาจนถึงท่อนสุดท้ายพอดิบพอดี อ้อมแขนทรงพลังของคุณธิก็กอดปรมิณไว้แน่น
“ฮ้าาา”
ร่างสูงชักแกนกายที่ยังไม่บรรเทาความแข็งตึงเข้าออกในรังผึ้งบรรจุน้ำหวานเต็มล้นสองถึงสามครั้ง หลังจากนั้นจึงค่อยๆ ถอนกายออก ก่อนล้มตัวลงนอนตระกรองกอดร่างเล็กที่อ่อนปวกเปียกไม่ต่างกัน ปรมิณซุกซบแผงอกกำยำพลางผ่อนลมหายใจด้วยจังหวะสม่ำเสมอ
เป็นการร้องเพลงอนุบาลที่ปอจะจำไปอีกนานเลย
End
Talk
แฮ่ๆ จากนี้ก็จะฟังเพลงเด็กดด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป
คุณแด๊ดดี้กับเบบี้ของเขาร้อนแรงจนลืมกินข้าวกินปลากันไปเลยทีเดียว
จริงๆ เรื่องนี้เราดัดแปลงมาจากฟิคที่เราแต่งไว้อีกที
หวังว่าจะสนุกและถูกใจทุกคนเน้อ
ขอฝากตัวด้วยนะคะ
.byul