✦ว่าด้วยเรื่องของพระรอง✦ภาคปลาย บทหนึ่ง P.25 14/01/66 อัพพ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✦ว่าด้วยเรื่องของพระรอง✦ภาคปลาย บทหนึ่ง P.25 14/01/66 อัพพ  (อ่าน 180160 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
รอเรื่องนี้ทุกวัน พอเจอปมขนาดนี้แล้วก้อเริ่มเริ่มใจชื้นว่าน้องเสิ่นจิ้งเฟยคงไม่ตายง่ายๆ
เราข้องใจหมอในตระกูลจริงๆเลย

รอวันเขาย่องเข้าห้องอีกค่ะ ป้อนยาน้องบ่อยๆนะพี่ไป๋ 5555
ขอบคุณค่ะ 新年快乐!

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ขอบคุณมากเลยค่ะ


สนุกมากก :katai2-1:



ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ได้โชว์ฝีทือทั้งที แต่ไหงถึงดูท่าจะไปมีเรื่องดับองค์ชายละเนี่ยยยยยยยย

ออฟไลน์ vy0Cik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ปมเริ่มมาแล้วววว คุณชายเสิ่นไปโดนใครวางยากันแน่นะ แล้วใครเป็นคนช่วย น่าสงสัย อยากรู้แล้วฮือออ น่าติดตามๆ รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
เป็นไปได้ไหมว่าเจิ้นไม่รู้ว่าตัวเองโดนวางยา เพราะเข้าร่างนี้ทีหลัง ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นอา

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทำเป็นไม่บอก ที่จริงก็คือจื่อฟางเองก็ไม่รู้สินะ เฮ้อ ลำบากแท้หนอ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
มาอัพที ยาวจุใจ  แต่ยังอยากอ่านต่ออีกอ่ะ  :ling1: :ling1: :ling1:

มีปมของเสิ่นจิ้งเฟยอีก ไปโดนยาพิษได้ยังไง แล้วใครช่วยชีวิต ????  :katai1:
อ๋องสาม เกี่ยวข้องกับขอทานยังไง  :hao4:
แล้วชายสูงศักดิ์ รู้จักจิ้งเฟยด้วยหรือ  :hao3:
 :mew1: :mew1: :mew1:  ชอบบบบบ  ซูเหลียนฮวา นางปั่นหัวไป๋อยู่นะ  :m20:
รู้ใจไป๋ ยิ่งกว่าตัวไป๋เองซะอีก  o18  :laugh:

ตอนนี้ไป๋ ไม่ชอบลูกไหนจริงหรือ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ แต่สนใจจื่อฟางก็ใช้ได้ละ
ไป๋ผูอวี้ จื่อเฟย   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ใครกันนะที่ต้องการให้จื่อฟางตาย   :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
งือช่างซับซ้อนยิ่ง ทำไม ๆ ในหัวเต็มไปหมด

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เรื่องซับซ้อนไปเรื่อยๆ แล้วจื่อฟางจะตอบยังไงล่ะ
มีแต่คนใหม่ๆ มาเกี่ยวพัน จื่อฟางไม่รู้จะเชื่อมโยงยังไงเลย

คุณชายไป๋ก็ไม่อยากเก็บลูกไหนหรอก
เอาไว้เชยชมบนต้นไปก่อน

จางต้ากับหยางชวีมาติดตาม ก็อยากให้ไว้ใจ
ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปนะ ตอนนี้จื่อฟางวางตัวลำบาก
ขนาดตัวเองยังสับสนเลย

คุณชายเสิ่นตัวจริงอยู่ที่ใด จื่อฟางในโลกปัจจุบันเกี่ยวข้องยังไงนะ


ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
น้องเดินลมปราณเป็นเหรอคะ เดินพล่ดเดี๋ยวธาตุไฟแตกซ่านเอานะ

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1

ออฟไลน์ kimlowbatt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อยากเห็นโจรย่องเบาแล้วจ้าา อิอิ
แต่ยิ่งอ่านก็มีเรื่องให้คิดเกี่ยวกับเสิ่จิ้งเฟยเยอะเลย
หรือคุณชายรูปหล่อคนนั้นจะเป็นอ๋องสาม?
ปริศนาเต็มไปหมดเด้อออออ
อยากรู้แล้ว แต่ก็รอฉากกุ๊กกิ๊กด้วยเหมือนกัน งื้อออออ  :ling1:

ออฟไลน์ Toxic

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จริงๆแล้วคุณชายเสิ่นไม่ได้ด้อยความสามารถสินะแต่กลัวว่าจะถูกฆ่าเหมือนท่านปู่ก็เลยต้องทำตัวไม่เอาไหน (เรามะโน :z1:) :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สนุกมากเลย ปมมาแล้วใครวางยาพิษนะ

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
สนุกมาก เนื้อเรื่องก็น่าติดตาม
รอลุ้นว่าจะเป็นยังไงต่อ

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Akanasan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เดาว่าเสิ่นจิ้้งเฟยน่าจะโดนพิษจนตายนายเอกเลยเข้ามาสวมร่างงี้คนวางยาจะมาวางซ้ำอีกรอบมั้ยนะ

 :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
รอติดตามค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
โดนลอบฆ่าแน่ๆเลย  :hao5:

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4


บทเก้า: ความลับ

เหตุการณ์ในโรงน้ำชาหลิวซื่อแพร่สะพัดไปทั่วตลาดภายในเวลาไม่กี่ชั่วยาม เสิ่นจิ้งเฟยคุณชายเจ้าสำราญผู้นั้นเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆหรือ? นอกจากบรรเลงกู่เจิงได้ไพเราะ ยังวาดภาพได้สวยงามน่าทึ่ง ผู้คนที่อยู่ในโรงน้ำชาเห็นเองกับตาถึงไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ไป๋ผูอวี้ปล่อยจื่อฟางกลับเมื่อเรียนจบบท เขาโล่งใจเมื่อออกมาไม่เจอกับคุณชายสูงศักดิ์ผู้นั้นแล้ว หยางชวียืนรอด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเคย จื่อฟางมองผ่านเหมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตนก่อนเดินออกไปนอกโรงน้ำชา ผู้คนบนท้องถนนหันมองด้วยสายตาสงสัยใคร่รู้ เขาคร้านจะใส่ใจจึงเงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามเบื้องบนแทน ดวงตะวันลอยค่อนไปทิศตะวันตกแล้ว

ถึงแม้ภายนอกเขาจะดูปรอดโปร่ง แต่ในใจกลับหนักอึ้งด้วยความกังวล คิดวนเวียนแต่เรื่องอาการป่วยของเสิ่นจิ้งเฟย เขาป่วยเป็นอะไรกันแน่ ดูแล้วไม่ใช่การป่วยธรรมดา จื่อฟางไม่กล้าถามซูเหลียนฮวาถึงต้นเหตุของอาการป่วย เพราะเสิ่นจิ้งเฟยฝึกวิชาลมปราณเพื่อฟื้นฟูร่างกายจะไม่รู้ตัวว่าป่วยก็คงแปลกๆ เขาเข้ามาอยู่ในร่างนี้ได้สองเดือนไม่ได้กินยาหรือเดินลมปราณ ร่างกายถึงได้เป็นเช่นนี้ เหตุใดเสิ่นจิ้งเฟยต้องเก็บเรื่องป่วยไว้เป็นความลับด้วยแม้แต่บิดาอย่างเสิ่นมู่หยางก็ไม่ได้บอก เสิ่นจิ้งเฟยทำอะไรอยู่กันแน่ เรื่องเดินลมปราณหากขอให้หยางชวีช่วย คงไม่เป็นไรกระมัง 

“คุณชาย รีบกลับจวนเถอะขอรับ”จางต้าเอ่ยเมื่อเห็นคุณชายเสิ่นยืนอยู่กับที่ด้วยท่าทางเหม่อลอย คิ้วขมวดมุ่นราวกับมีเรื่องอยู่ในใจ หากกลับถึงจวนแล้วเขาจะเรียกหมอกู้มาตรวจคุณชายทันที แล้วจะซักถามด้วยว่าเหตุใดถึงตรวจไม่เจอว่าคุณชายมีอาการป่วย!

“คุณชายเหนื่อยหรือ ข้าจะไปเรียกรถม้าให้”หยางชวีมองคุณชายเสิ่นที่มีสีหน้าอ่อนเพลียคล้ายไม่อยากเดินไปหน้าตรอกก็เอ่ยขึ้น เสิ่นจิ้งเฟยเหลือบมองเขาก่อนพยักหน้า หยางชวีจึงรู้ว่าถูกคุณชายโกรธเข้าให้แล้ว แต่จะทำอย่างไรได้เล่า เขารับคำสั่งจากนายท่านให้เฝ้าดูคุณชายเสิ่นถึงตนจะไม่สบายใจแต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ หยางชวีหันมองจางต้า ส่งสายตาบอกว่าดูคุณชายให้ดีก่อนจะเคลื่อนกายออกไปอย่างรวดเร็ว รอไม่นานรถม้าแบบไม่มีหลังคาก็มาถึง จื่อฟางนั่งจมอยู่ในความคิดไปตลอดทางระหว่างกลับจวน

เสิ่นมู่หยางกลับจากราชสำนักได้ยินเรื่องของบุตรชายแพร่อยู่ในตลาด ทั้งยังเป็นเรื่องดี ก็คลายใจที่เสิ่นจิ้งเฟยไม่ได้สร้างเรื่องใดอีก เมื่อเห็นบุตรชายกลับมาด้วยท่าทางอ่อนล้าจึงสั่งให้บ่าวรับใช้นำพัดผ้าไหมที่เขาได้ได้มานานแล้วไปให้บุตรชาย

“นี่คือ…”จื่อฟางเพิ่งนั่งพักได้ไม่นานก็มีบ่าวรับใช้ที่เขาจำหน้าได้ว่าอยู่ในเรือนของเสิ่นมู่หยางนำกล่องใบหนึ่งมาให้

“นายท่านใหญ่มอบให้คุณชายขอรับ”บ่าวรับใช้ยื่นกล่องมาให้ จื่อฟางรับมาเปิดดูอย่างไม่ใส่ใจนัก ที่แท้ก็เป็นพัดผ้าไหมสวยงามเล่มหนึ่ง เขาแส้รงฉีกยิ้มพอใจเพราะจำได้ว่าเสิ่นจิ้งเฟยชอบสะสมพัด

“อ้อ ฝากขอบคุณท่านพ่อด้วย”จื่อฟางบอกกับบ่าวไพร่ที่ตั้งท่าจะถอยออกไป บ่าวคนนั้นเพียงรับคำแล้วออกไปเงียบๆ เหลือเพียงหยางชวีที่ยังอยู่ในห้องกับเขาสองคน ส่วนจางต้ายังไม่กลับมาจากการไปตามหมอกู้มาตรวจอาการของตนอีกรอบ จื่อฟางถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกมองหยางชวีเป็นแค่ธาตุอากาศ เขาตัดสินใจแล้วในเมื่อเจ้านี่คิดจะทำตัวเป็นสายสืบให้เสิ่นมู่หยาง เขาก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติดีด้วยอีกต่อไป

“คุณชายโกรธข้าน้อยหรือขอรับ”หยางชวีเอ่ยถามเมื่อเห็นคุณชายเสิ่นทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน มองเด็กหนุ่มถอดอาภรณ์จนเหลือแต่เสื้อตัวกลาง

“ทำไมข้าต้องโกรธด้วย ข้าเข้าใจเรื่องที่เจ้าทำงานให้ท่านพ่อ”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงปราศจากอารมณ์ขุ่นเคือง แต่ในใจกลับแค่นเสียงเหอะ นึกอยากไล่หยางชวีออกไปจากห้องเพราะตอนแรกตั้งใจจะค้นห้องของเสิ่นจิ้งเฟยดูให้ถี่ถ้วนอีกครั้งว่าซ่อนสิ่งใดไว้บ้างหรือไม่ คงต้องรอให้หมอกู้มาตรวจอาการก่อนแล้วค่อยไล่พวกบ่าวไพร่ออกไปให้หมด

หยางชวีได้ยินน้ำเสียงไม่ปรากฏอารมณ์ใดของเสิ่นจิ้งเฟยก็เกิดอาการไม่สบายใจขึ้นมา พานนึกถึงคำพูดของคุณชายเสิ่นเมื่อตอนที่อยู่ในโรงน้ำชาหลิวซื่อ เจ้าไม่ต่างอะไรกับพวกบ่าวไพร่ในจวนสักนิด ระหว่างทางกลับจวนเสนาบดีเขาไตร่ตรองมาตลอดว่าควรทำเช่นไร ใจหนึ่งเขาไม่อยากปกปิดนายท่าน อีกใจก็ไม่อยากถูกมองเป็นเพียงข้ารับใช้เท่านั้น หยางชวีอยากให้คุณชายเสิ่นไว้ใจตนเองเหมือนจางต้า คิดถึงตรงนี้แล้วอาการไม่สบายใจก็ยิ่งเพิ่มพูน

“คุณชายเสิ่น ในเมื่อเป็นเช่นนี้…ข้าจะยอมหลับตาข้างหนึ่ง…เรื่องนี้ิข้าจะไม่รายงานนายท่าน”หยางชวีถอนหายใจ มิใช่ว่าเขาหลับตาข้างหนึ่งมาตลอดหรือ หากนายท่านมาทราบทีหลัง เขาคงถูกทำโทษสถานหนัก เรื่องสุขภาพของคุณชายไม่ใช่เรื่องเล็ก เขาตัดสินใจถูกแล้วหรือไม่ ‘คุณชายเสิ่นท่านเก่งเรื่องทำให้คนลำบากใจนัก’

“เจ้าว่าอะไรนะ”จื่อฟางหมุนตัวมองหยางชวีอย่างไม่อยากเชื่อหู คนผู้นี้ยอมเก็บความลับให้เขาจริงๆน่ะเหรอ

“ท่านก็ได้ยินแล้ว”หยางชวีเอ่ยหน้านิ่งมองคุณชายเสิ่นที่ฉีกยิ้มกว้างจนต้องเบนสายตาไปทางอื่น

“ข้าขอบใจเจ้ามากจริง ๆ”จื่อฟางดีใจเสียจนอยากเข้าไปกระโดดกอดอีกฝ่าย แต่ก็รู้ดีว่าจะทำให้หยางชวีกลัวไปเปล่าๆ

“แค่เพียงเรื่องนี้เท่านั้น อีกประการ…”หยางชวีเอ่ยเสียงเข้มทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเสิ่นจิ้งเฟยจางลง

“หากหมอกู้มาตรวจ ท่านต้องให้ข้าอยู่ด้วย”เขาไม่สนใจสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคุณชายตรงหน้า กลับคืนสู่อาการสงบนิ่งของตัวเองอีกครั้ง จื่อฟางอยากแย้งเพราะตั้งใจจะสอบถามหมอกู้เรื่องอาการป่วยของเสิ่นจิ้งเฟยให้แน่ชัด นึกถึงสีหน้าอ่อนใจของท่านหมอเมื่อคราวที่มาตรวจดูบาดแผลฟกช้ำให้จื่อฟางก็รู้สึกตงิดใจ เขาไม่แน่ใจว่าท่านหมอชราผู้นี้ทราบอาการป่วยของเสิ่นจิ้งเฟยหรือไม่ แต่ก็คุ้มที่จะหลอกถาม

“ก็ได้”จื่อฟางจำต้องยอมเพราะเท่านี้หยางชวีก็ลดราให้มากแล้ว หยางชวีไม่ได้เอ่ยอะไรอีกเพียงยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นรอท่านหมอกู้ เวลาผ่านไปสักพักจื่อฟางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังอยู่ด้านนอก จางต้านำท่านหมอกู้เข้ามาด้วยท่าทางลับๆล่อๆ ท่านหมอชรามีสีหน้าเป็นกังวล เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องเพียงลำพังก็ชะงักไปเล็กน้อย

กู้เซ่าอิ่งเข้ามาในห้องขมวดคิ้วเห็นว่าไม่ได้มีแค่คุณชายเสิ่น ยังมีหยางชวีผู้ติดตามที่ทำงานให้กับนายท่านอยู่ด้วย

“ข้าขอตรวจคุณชายตามลำพัง ไม่อยากให้มีผู้ใดรบกวน”กู้เซ่าอิ่งเอ่ยเสียงเคร่งเครียด เหตุใดคุณชายถึงปล่อยให้มีคนรู้เรื่องนี้ เจ้าเด็กจางต้ามาตามหาเขาถึงโรงหมอทั้งยังโวยวายว่าเขาตรวจอาการให้คุณชายเสิ่นไม่ดี

‘ท่านมิใช่คนบอกให้ข้าเก็บเรื่องอาการป่วยเป็นความลับหรือ จางต้ายังพอเข้าใจ แต่เจ้าหยางชวีผู้นี้จะไว้ใจได้หรือ’

“ไม่เป็นไรหรอก เขารู้แล้ว ท่านตรวจข้าเถอะ”จื่อฟางกล่าวพอจะรู้ว่าท่านหมอชรากังวลเรื่องใด แสดงว่าหมอกู้รู้เรื่องอาการป่วยของเสิ่นจิ้งเฟยสินะ มิน่าถึงปิดได้ตั้งนาน

“แต่ว่าคุณชาย…”

“หยางชวีจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไม่บอกท่านพ่อแน่นอน ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ ใช่หรือไม่”เขาหันไปถามหยางชวีที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เจ้าตัวขมวดคิ้วส่งเสียงรับคำสั้นๆแล้วก็เงียบไป ความจริงจื่อฟางอยากให้จางต้าออกไปนอกห้อง แต่ก็คิดว่าไม่ถูก ยิ่งเห็นสีหน้าหมาหงอยของอีกฝ่าย เขาก็ไล่ไม่ลง ท่านหมอกู้ถอนหายใจพึมพำอะไรบางอย่างได้ยินแว่วๆว่า‘เป็นโชคร้ายของข้า’หรืออะไรทำนองนั้น

กู้เซ่าอิ่งไม่คิดว่าหยางชวีจะยอมช่วยปิดเรื่องอาการป่วยของคุณชาย หากเป็นอาการป่วยธรรมดาคงไม่เท่าไหร่แต่นี่เป็นอาการป่วยที่มีผลต่อเนื่องมาจากการถูกยาพิษ หยางชวียังยอมช่วยอีกหรือ? เหตุใดเขาถึงยอมปิดนายท่านใหญ่เล่าถ้าไม่มีเหตุผลใดแอบแฝง กู้เซ่าอิ่งไม่วางใจนัก แต่ก็ทำอะไรมิได้ เขาไม่รู้ว่าตนคิดถูกหรือคิดผิดที่ช่วยคุณชายเสิ่นปกปิดเรื่องใหญ่เช่นนี้

เมื่อปีกลายเสิ่นจิ้งเฟยถูกพิษระหว่างที่พักอยู่โรงเตี๊ยมข้างทางเมื่อครั้งที่ไปเยี่ยมสกุลฝั่งมารดา คุณชายบอกเพียงว่ามีท่านผู้กล้ามีอายุคนหนึ่งช่วยชีวิตไว้ จำได้ว่าคุณชายต้องนอนพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมห้าวัน ก่อนถูกพากลับมาที่จวนด้วยสภาพอ่อนเปลี้ยเพลียแรง เวลานั้นนายท่านไม่อยู่ในจวนออกไปที่ใดเขามิอาจทราบได้ กู้เซ่าอิ่งถูกตามตัวมาดูอาการคุณชายกลางดึกและพบว่าอาการป่วยหนักตามที่จางต้าบอกนั้นไม่ธรรมดา คุณชายเสิ่นขอให้เขาเก็บเป็นความลับ ทั้งยังมีจดหมายจากท่านผู้กล้าเขียนบอกอาการของคุณชายทิ้งไว้ให้อย่างละเอียด ท่านผู้กล้าเป็นสุดยอดฝีมือโดยแท้ถึงสามารถช่วยคุณชายไว้ได้ คุณชายไม่ได้บอกที่มาที่ไปถึงสาเหตุที่ถูกพิษ กู้เซ่าอิ่งเอ่ยถามแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ในใจคิดไปถึงเสิ่นฉินอี้ท่านปู่ของคุณชายที่ด่วนจากไปเพราะเรื่อง‘สุขภาพ’เช่นกัน หมอกู้ถอนหายใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อปีกลาย เป็นเวรเป็นกรรมของเขาแท้ๆ หากวันใดนายท่านรู้ก็โดนลงโทษไปพร้อม ๆกันเถิด!

หมอชราจัดการตรวจชีพจรให้เป็นอันดับแรกเพราะจางต้าบอกเขาว่ามีนางคณิกาจับชีพจรให้คุณชาย ตอนที่ได้ยินเขายังแปลกใจไม่คิดว่าจะมีหญิงคณิกาจับชีพจรเป็น และตรวจรู้ด้วยว่าคุณชายมีอาการป่วย

“คุณชายเสิ่น…”หมอกู้เอ่ยเสียงเครียด ใบหน้าเหี่ยวย่นมีริ้วรอยกังวล จื่อฟางใจเต้นถี่รัวเตรียมใจไว้แล้วว่าต้องถูกดุว่าที่ไม่ได้บำรุงร่างกาย

“ไยอาการท่านแย่ลงเช่นนี้ ท่านไม่ได้ดื่มยาบำรุงที่ข้าจดเทียบให้หรือ อาการอ่อนแรงเกิดขึ้นอีกแล้วใช่หรือไม่”กู้เซ่าอิ่งไม่อยากจะเชื่อว่าคุณชายเสิ่นจะละเลยเรื่องสุขภาพของตนเช่นนี้

“...”จื่อฟางรีบพยักหน้า

“ท่านหยุดดื่มนานเท่าใดแล้ว”หมอกู้มองเขาด้วยสายตาเรียบนิ่งคล้ายกับจะมองให้ทะลุไปถึงความคิดของเขา

“ก...เกือบสองเดือน”จื่อฟางตอบเสียงสั่น รู้ดีว่าเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควร เมื่อเขาเอ่ยตอบคนในห้องก็ขมวดคิ้วมีสีหน้าเช่นเดียวกัน สงสัยคล้ายกันว่าเหตุใดคุณชายถึงไม่ได้กินยาถึงสองเดือน ท่านหมอกู้หน้าเผือดซีดก่อนแปรเปลี่ยนเป็นโมโห

“ไยท่านทำเช่นนี้ กว่าข้าจะหาสมุนไพรให้ท่านได้ไม่ง่ายเลย ไหนจะต้องปกปิดนายท่าน แล้วยังมีใต้เท้าเฉินเข้ามาอยู่ในจวนเช่นนี้ก็ยิ่งลำบาก ท่านอยากแกล้งคนแก่อย่างข้าหรือไร”กู้เซ่าอิ่งกดเสียงต่ำเกรงว่าบ่าวไพร่ในเรือนจะได้ยิน ทุกวันนี้เขาต้องลำบากเพียงใดคุณชายก็น่าจะรู้

“ข้า…พอดีว่ายาหมดแล้ว”จื่อฟางแก้ต่างให้ตนเอง เขานึกเหตุผลที่เข้าท่ากว่านี้ไม่ออก ยามนี้เขาถูกสายตาโกรธเคืองของหมอกู้จ้องมองจนหวาดหวั่น

“หมดหรือ เหตุใดท่านไม่มาขอเพิ่ม ท่านก็รู้ว่าร่างกายของท่านอ่อนแอยิ่งนัก”หมอกู้ดุด้วยเสียงสั่นเครือ

“ข้าไปไหนมาไหนลำบาก หยางชวีก็คอยเกาะติดตลอดเวลา…”จื่อฟางยกเรื่องนี้มาตอบ เสิ่นจิ้งเฟยตัวจริงเก็บงำเรื่องอาการป่วยมาได้นานถึงขนาดนี้ถือว่าเก่งพอตัว

หมอกู้ไม่ปล่อยให้เขาหลุดรอดไปได้ “แล้วเหตุใดท่านไม่เดินลมปราณ ชีพจรและลมปราณของท่านเสียหายหนักเพราะถูกพิษร้ายแรง ท่านจำเป็นต้องฝึกวิชาลมปราณเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย หากท่านละเลยเพียงนิดก็ส่งผลต่อตัวท่าน หรือท่านอยากตายนัก!”คำพูดของหมอกู้ส่งผลรุนแรงต่อคนในห้อง รวมทั้งเขาด้วย เสิ่นจิ้งเฟยถูกพิษหรือนี่!นี่มันเรื่องใหญ่แล้ว เดิมทีเขาคิดว่าเสิ่นจิ้งเฟยแค่ป่วยหนักเท่านั้น…เสิ่นจิ้งเฟยไปทำให้ใครโกรธแค้นถึงได้ถูกหมายปองเอาชีวิตเช่นนี้ เขาพลันรู้สึกเย็นเยียบไปถึงกระดูก อาการเครียดยิ่งเพิ่มพูน หยางชวีและจางต้าไม่คิดว่าอาการป่วยของคุณชายจะมาจากการโดนพิษร้ายแรงจึงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

“คุณชายเสิ่น เหตุใดท่านเก็บเรื่องใหญ่เช่นนี้ไว้กับตัว แล้วยังไม่ยอมรักษาร่างกายอีก…”หยางชวีไม่แน่ใจว่าคุณชายอยากตายจริง ๆ หรือมีเหตุผลมากกว่านั้น เพราะคุณชายดูแปลกไปตั้งแต่เมื่อสองเดือนก่อนก็ตรงกับช่วงที่คุณชายไม่ได้กินยาพอดี

“คุณชาย ท่านอย่าเพิ่งถอดใจเลย หากนายท่านทราบเรื่องจะต้องหาหมอที่ดีที่สุดมารักษาคุณชายได้แน่”จางต้ารีบเอ่ยอย่างหวาดกลัว เรื่องจริงจังถึงเพียงนี้ไม่มีเหตุผลใดเลยที่คุณชายจะไม่ดื่มยาและไม่เดินลมปราณรักษาร่างกายนอกเสียจากว่าคุณชายของเขาคิดอยากตายจริง ๆ

“บอกไม่ได้เด็ดขาด!”จื่อฟางเผลอพูดเสียงดัง ในเมื่อเสิ่นจิ้งเฟยเก็บเป็นความลับมานานทั้งที่เป็นเรื่องเสี่ยงต่อความปลอดภัยของตนเองเช่นนี้ก็แสดงว่าต้องมีเหตุผลสำคัญที่ไม่อยากให้ผู้ใดรู้และที่เขาเลือกจะเก็บไว้เป็นความลับเหตุผลหนึ่งคือไม่รู้จะตอบเสิ่นมู่หยางอย่างไรหากถูกซักถามหนักๆเข้า จื่อฟางจะต้องรีบหาสาเหตุให้เจอ ก่อนที่จะถูกเล่นงานอีกรอบ ในเมื่อเสิ่นจิ้งเฟยยังไม่ตาย คนที่วางยาจะต้องหาทางอีกเป็นแน่  แค่อาจจะรอเวลาเท่านั้น เขายิ่งรู้สึกหนาวเย็นเมื่อมาคิดว่าชีวิตของเสิ่นจิ้งเฟยตกอยู่ในอันตราย

“ข้า…”จื่อฟางพูดไม่ออก อธิบายอย่างไรก็คงดูไม่เข้าที

“คุณชาย ข้ารู้ว่าท่านกังวล แต่อย่างที่ข้าเคยบอกพิษที่ท่านโดนร้ายแรงนัก ต่อให้ตามหมอเทวดามาก็ทำได้แค่รักษาให้ดีขึ้นเท่านั้น ท่านอย่าคิดสั้นท้อแท้ใจไป ข้าจะพยายามเสาะหายาดีมาให้อย่างสุดความสามารถ…”กู้เซ่าอิ่งรู้สึกเสียใจยิ่งนัก คุณชายเฝ้าถามเรื่องอาการอยู่บ่อยครั้งเขาก็ทำได้แต่ตอบเช่นเดิม บางทีเรื่องอนุของนายท่านที่คุณชายสืบเจออาจทำให้คุณชายท้อแท้หมดหวังในชีวิตขึ้นมาก็เป็นได้ ในวัยเด็กแม้จะได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากนายท่าน แต่ก็เป็นเพียงเปลือกนอก เขารู้ว่าคุณชายตัวน้อยโดดเดี่ยวเพียงใด คุณชายเสิ่นต้องการความรักที่ไม่ใช่เงินทอง

จื่อฟางพูดไม่ออก อาการตื่นตระหนกและเคร่งเครียดจากเรื่องที่ได้ยินทำให้เขาแน่นหน้าอก รู้สึกว่าหัวใจบีบรัดรุนแรง เลือดลมตีกลับจนเขาหูอื้อ

“คุณชายเสิ่น ท่านรีบเดินลมปราณเดี๋ยวนี้”หมอกู้เอ่ยด้วยเสียงตื่นตระหนก เหตุใดอยู่ ๆคุณชายถึงเป็นเช่นนี้ จื่อฟางไม่รู้จะทำเช่นไรได้แต่หลับตาพยายามสงบสติอารมณ์ แต่ไม่เป็นผลเขาพลันรู้สึกอุ่นวาบในอก เลือดซึมออกมาที่มุมปาก

“คุณชาย!”จางต้าร้องเสียงหลง หยางชวีรีบเข้าไปดูเสิ่นจิ้งเฟยทันที ในใจเต็มไปด้วยคำถาม ท่านไม่ได้กินยามาสองเดือนจนร่างกายอ่อนแอหากบอกว่าอยากตายก็ยังพอเชื่อ แต่นี่ไม่รู้แม้กระทั่งวิธีเดินลมปราณ ท่านเป็นอะไรกันแน่?

“คุณชาย หันหลัง”เขาเอ่ยเสียงห้วนคล้ายไม่สนใจว่าตนเป็นเพียงผู้ติดตามเท่านั้น จื่อฟางไม่ได้ถือสานักรีบทำตามอย่างรวดเร็ว ฝามืออุ่นร้อนของหยางชวีนาบลงมาบนแผ่นหลังผอมบางของเขา จื่อฟางพลันตัวสั่นระริกเมื่อรับรู้ถึงกระแสอุ่นร้อนแปลกประหลาดไหลเข้ามาในร่างแต่แขนขากลับเย็นเฉียบ หยางชวีขมวดคิ้วระหว่างที่บังคับลมปราณในร่างของคุณชายให้ผ่านจุดต่าง ๆอย่างราบเรียบ จิตใจของเขาหนักอึ้งเมื่อรับรู้ว่าลมปราณในร่างของคุณชายผิดปกติแค่ไหน อาการหนักอย่างที่ท่านหมอกู้ว่าจริง ๆ

“ท่านหมอ คุณชายถูกพิษนานหรือยัง”เขาเอ่ยถามหมอกู้

“นับคร่าวๆก็เกือบหนึ่งปีมาแล้ว”กู้เซ่าอิงมีสีหน้าหนักใจ แต่ร่างกายของคุณชายกลับยังไม่ดีขึ้น ชายชรามองคุณชายเสิ่นด้วยความเป็นห่วง หยางชวีขมวดคิ้วแน่นเกือบหนึ่งปี…แต่คนที่วางยาพิษคุณชายไม่คิดลงมืออีก หรือกลัวว่าจะถูกจับได้จึงคิดรามือไป หยางชวีรู้สึกขุ่นเคืองอยู่ในใจ ช่วงเวลานั้นคุณชายก็ยังออกไปเที่ยวเตร่ตามเดิมราวกับไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้น ท่านไม่กลัวตายหรืออยากตายกันแน่? ยิ่งคิดเขาก็พบว่าคุณชายเสิ่นประหลาดนัก

“รู้สึกดีขึ้นหรือไม่”ผู้ติดตามเอ่ยถามเมื่อสัมผัสได้ว่าร่างกายของคุณชายผ่อนคลายแล้ว เสิ่นจิ้งเฟยเพียงพยักหน้าตอบ เขาจึงหยุดมือเพราะกลัวร่างกายของอีกฝ่ายรับไม่ไหว เขาเพียงส่งพลังลมปราณอ่อนๆเข้าไปช่วยไหลเวียนเท่านั้น ได้ยินที่ซูเหลียนฮวาบอกว่าต้องใช้กำลังภายในทะลวงจุดชีพจร แต่ร่างกายคุณชายเป็นเช่นนี้จะต้องใช้เวลานานกี่ปีกัน ถึงเวลานั้นร่างกายทนไหวก็คงดี เขาพลันเข้าใจความรู้สึกท้อแท้ของคุณชายขึ้นมา

จื่อฟางรับรู้ว่าอาการแน่นหน้าอกหายไปแล้ว ทั้งยังหายใจคล่องกว่าเดิมแต่เนื้อตัวไร้เรี่ยวแรงราว หมอกู้หน้ายังคงหน้าซีด แม้ในใจจะสงสัยที่คุณชายเดินลมปราณไม่ได้แต่ยามนี้ไม่มีเวลามาสงสัยแล้ว เขาหยิบห่อสมุนไพรที่นำติดตัวมาด้วยส่งให้จางต้า

“นำสมุนไพรแบ่งออกปริมาณเล็กน้อยต้มให้คุณชายดื่มทุกเวลาหลังอาหาร อย่าให้ขาดตกบกพร่องเด็ดขาด”กู้เซ่าอิ่งเอ่ยกำชับกับจางต้าที่พยักหน้าอย่างขันแข็ง

เขาหันพูดกับคุณชายเสิ่นอีกครั้ง “หากร่างกายท่านแข็งแรงขึ้นสักเล็กน้อย ข้าจะฝังเข็มให้”กู้เซ่าอิ่งถอนหายใจ มองเด็กหนุ่มด้วยสายตาเป็นห่วงเสมือนปู่มองหลานคนหนึ่ง

“ข้าเห็นท่านมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ยามเติบโตก็อยากเห็นท่านมีร่างกายแข็งแรงสร้างครอบครัว หากท่านคิดท้อแท้ก็นึกถึงมารดาท่านไว้ นางคงไม่อยากพบท่านเร็วนัก คุณชายโปรดรักษาตัวให้ดี อย่าลืมกินยาและเดินลมปราณเป็นอันขาด”ท่านหมอกู้ตบหลังมือคุณชายเสิ่นเบาๆเป็นการปลอบใจ

“เจ้าไปส่งท่านหมอ ดูให้ดีอย่าให้ใต้เท้าเฉินเห็น”หยางชวีเอ่ยกับจางต้า เขามีเรื่องจะถามคุณชายเสิ่นสักเล็กน้อย เมื่อท่านหมอกับจางต้าออกไปแล้วเขาก็ตีสีหน้าเคร่งขรึม ขยับเข้าไปใกล้เสิ่นจิ้งเฟย กวาดตามองตามใบหน้าซีดขาวไม่วางตา ใช้ฝามือลูบไปตามแนวสันกรามและไรผมของคุณชายช้า ๆเพื่อหาสิ่งผิดปกติ

“เจ้าทำอะไร”จื่อฟางถามอย่างงุนงง เวลานี้เขาเหนื่อยมากจนอยากนอนอยู่เฉยๆจึงปล่อยให้หยางชวีลูบหน้าอยู่อย่างนั้น เจ้านี่คิดจะทำอะไรกันแน่ เขามองแววตานิ่งสงบของหยางชวี เดาไม่ออกเลยว่าอีกฝ่ายคิดจะทำสิ่งใด

“หรือเจ้าอยากปรนนิบัติข้า”เขาเอ่ยหยอกล้อ เพื่อลดบรรยากาศตึงเครียดที่เกิดขึ้น แต่แปลกที่หยางชวีกล้าถลึงตาใส่ตน

“ท่านใช่คุณชายเสิ่นจิ้งเฟยแน่หรือ”เขาเอ่ยถามเสียงเรียบ จื่อฟางเลิกคิ้ว ใจกระตุกวูบแต่ก็ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หยางชวีสงสัยอะไรอีก

“หากไม่ใช่แล้วจะเป็นใครได้เล่า”เด็กหนุ่มมองผู้ติดตามด้วยสายตาแฝงรอยยิ้ม คนผู้นี้ขี้สงสัยเกินไปแล้ว แต่ต่อให้สงสัยก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี มีสิ่งใดมาพิสูจน์กันว่าเขาไม่ใช่เสิ่นจิ้งเฟย หยางชวีสำรวจมองใบหน้าของคุณชาย แต่ก็ไม่พบสิ่งปกติ มิได้แปลงโฉมมาแต่อย่างใด

“ท่านมิใช่ตัวปลอมแต่เหตุใดถึงแปลกไปเช่นนี้”หยางชวีพึมพำเบาๆคล้ายกับรำพึงกับตัวเอง

“ฮ่าๆเจ้าบ้าไปแล้วหรือ”จื่อฟางหัวเราะเสียงดัง ขบขันกับความคิดของอีกฝ่ายที่เข้ามาลูบๆคลำๆเขาก็เพราะเหตุนี้สินะ

“ท่านเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อสองเดือนก่อน ท่านไม่ได้กินยาไม่ได้เดินลมปราณทั้ง ๆที่รู้ตัวว่าป่วย เมื่อครู่ลมปราณท่านตีกลับ แต่ท่านกลับเดินลมปราณไม่ได้ ท่านเคยฝึกวิชามาก่อน เหตุใดถึงทำไม่ได้แล้ว”หยางชวีเอ่ยถึงสิ่งที่สงสัยออกมา จื่อฟางนึกบางสิ่งออก ในเมื่อมีโอกาสอธิบายแล้วเขาจะปล่อยผ่านไปได้เช่นไร

“ข้าจะบอกความจริงกับเจ้าก็ได้ แต่เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง”เขากล่าวด้วยเสียงจริงจัง มองตาอีกฝ่ายอย่างไม่คิดหลบหนี

“สิ่งที่เจ้ากล่าวมาเป็นความจริง ข้าไม่ใช่คนเดิม ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้…”

“ท่านหมายความว่าอย่างไร”เขาเอ่ยถามเสียงแหบแห้ง

“เรื่องที่ข้าเคยทำได้ยามนี้กลับไร้ความสามารถ เรื่องที่เคยเกิดขึ้นก็มักลืมเลือน พักนี้ข้าเป็นเช่นนี้บ่อย ๆ แม้แต่ความสามารถเพียงหนึ่งเดียวอย่างบรรเลงกู่เจิง ข้าก็ทำไม่ได้แล้ว ข้าหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร ข้าไม่ได้อยากเจอเรื่องยุ่งยากเช่นนี้ หากเจ้าไม่ชินก็คิดเสียว่าข้าคือเสิ่นจิ้งเฟยคนใหม่ก็แล้วกัน”จื่อฟางไม่ได้พูดโกหก ทุกคำพูดจึงหนักแน่น เขาแค่เลือกจะไม่เล่าความจริงที่เหลือ เรื่องเหนือธรรมชาติที่ไม่มีเหตุผลรองรับกล่าวไปก็ไร้ประโยชน์ อีกทั้งเขาก็ไม่คิดบอกใคร หากวันใดวันหนึ่งเขาได้กลับไปยังโลกปัจจุบันขึ้นมาเล่า คงอธิบายลำบาก

“…”หยางชวีไม่รู้ว่าเสิ่นจิ้งเฟยพูดเกินจริงหรือไม่ แต่สีหน้ายามพูดก็ไม่มีวี่แววโกหกและเขาก็หาพิรุธไม่ได้ อีกทั้งคุณชายเคยโดนพิษร้ายแรงมาก่อน เขาไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นพิษใด แต่มีพิษใดบ้างที่มีผลกระทบเช่นนี้? หยางชวีนึกไม่ออก ถึงจะสองจิตสองใจแต่ก็หาเหตุผลมาอธิบายเรื่องพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคุณชายไม่ได้จริง ๆ

จื่อฟางเห็นระลอกคลื่นในแววตาดำสนิทคล้ายลังเลใจของอีกฝ่าย ก็ใส่ไฟเพิ่ม “บางทีข้าอาจใกล้ตายแล้วกระมัง”

“คุณชายเสิ่นอย่าพูดเช่นนี้ ท่านไม่ตายง่ายๆหรอก แต่อย่างไรความตายก็เป็นเรื่องปกติ….”หยางชวีคิดว่าตนพูดไม่ถูกต้องเพราะเห็นสีหน้าของคุณชายเปลี่ยนไป แต่เขาไม่ถนัดเรื่องปลอบใจคนจึงได้แต่เอ่ยเสริมเสียงแข็งทื่อ

“หากท่านรักษาไปเรื่อย ๆก็ดีขึ้นเอง”

จื่อฟางมองหยางชวีด้วยความรู้สึกขบขัน ดูแล้วหยางชวีคงไม่ชินเรื่องพูดจาปลอบคนจริง ๆ “เช่นนั้นเจ้าสอนข้าเดินลมปราณได้หรือไม่”จื่อฟางถือโอกาสเอาตัวรอด

“ย่อมได้”หยางชวีตอบอย่างไม่ต้องคิดและเขาเองก็เต็มใจสอน เพราะอยากให้คุณชายผู้นี้มีแข็งแรงเร็วๆ เรื่องที่ยังหาเหตุผลไม่ได้ก็ปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน สักวันเขาจะต้องสืบหาให้เจอ

“ข้าอยากอาบน้ำแล้ว เจ้าไปเรียกคนเอาน้ำเข้ามา”เด็กหนุ่มถือโอกาสออกปากไล่ หยางชวีมองเขาครู่หนึ่งก่อนออกไป รอไม่นานบ่าวไพร่สองคนก็หิ้วถังน้ำเข้ามาด้วยอาการเหนื่อยหอบ วันนี้จื่ิอฟางมีอาการอ่อนล้ากว่าทุกทีจึงเรียกอี้เหมยสาวใช้คนเดิมเข้ามาปรนนิบัติเช่นเคย สาวใช้คนอื่นนึกอิจฉาอี้เหมยที่ได้ใกล้ชิดคุณชายเช่นนี้ แต่จะมีผู้ใดล่วงรู้บ้างว่าคุณชายเสิ่นไม่คิดจะแตะต้องอี้เหมยเลยสักนิด

“วันนี้คุณชายร่ำเรียนหนักหรือเจ้าค่ะ”อี้เหมยส่งเสียงถามระหว่างที่ใช้ไยบวบขัดถูแผ่นหลังเนียนขาวของคุณชาย นางนึกอิจฉาอยู่ในใจ ผิวของคุณชายดีกว่านางเสียอีก

“อืม ร่างกายของข้าจึงล้านิดหน่อย”จื่อฟางตอบสั้นๆ อี้เหมยไม่เหมือนสาวใช้นางอื่นที่จ้องอยากปรนนิบัติบนเตียงใจจะขาด อีกทั้งทรวดทรงของนางก็แบนเป็นกระดาน ใบหน้าก็จิ้มลิ้มเหมือนเด็กที่ยังไม่แตกสาว เขาอยู่ด้วยจึงไม่รู้สึกว่านางน่าเขมือบแต่อย่างใดกลับรู้สึกว่านางเหมือนน้องสาวมากกว่า จื่อฟางจึงรู้สึกสบายใจเวลาเรียกใช้ ว่าแต่ร่างกายเป็นเช่นนี้เสิ่นจิ้งเฟยยังชอบออกไปเที่ยวที่หอผูเยว่บ่อย ๆ ช่างเป็นคนที่เจ้าสำราญจริง ๆ ยังมีแรงทำเรื่องบนเตียงด้วยหรือไร เขาหลุดหัวเราะออกมาเมื่อคิดถึงเรื่องบนเตียงของร่างนี้

หยางชวีได้ยินเสียงหัวเราะของเสิ่นจิ้งเฟยก็ขมวดคิ้ว ดูเหมือนคุณชายจะชอบสาวใช้นางนี้มาก ร่างกายก็บอบบางไม่เหมือนชายชาตรีเหตุใดถึงยังมีเรี่ยวแรงทำเรื่องเช่นนั้นอีก หยางชวีไม่รู้จะชื่นชมหรือถอนหายใจดี

“คุณชายหัวเราะสิ่งใดหรือ”นางเอ่ยถามอย่างงุนงงที่อยู่ ๆคุณชายก็หัวเราะออกมา นางกำลังใช้มือขยี้เส้นผมยาวสลวยของคุณชาย นี่ก็อีกเรื่องผมของคุณชายสุขภาพดียิ่งนัก นางนึกถึงเรื่องที่มีข่าวลือว่าคุณชายชอบบุรุษ ก็อาจมีเค้าความจริง พักนี้คุณชายไม่เรียกใช้พี่ลู่เฟย อีกทั้งไม่ชอบให้สาวใช้เข้ามาวุ่นวายในเรือนนอน

“ข้าแค่นึกถึงเรื่องบางเรื่องน่ะ หากเจ้าสระผมให้ข้าเสร็จก็ออกไปได้ ที่เหลือข้าจัดการเอง”เขาเอ่ยบอก อี้เหมยรับคำเบาๆล้างเส้นผมให้คุณชายเสร็จก็ออกไปนอกฉากกั้น ถูกผู้ติดตามของคุณชายจ้องมองจนหวาดกลัว

‘หยางชวีผู้นี้น่ากลัวยิ่งนัก หรือเขามีความสัมพันธ์ใดกับคุณชายถึงได้จ้องข้าเช่นนี้’อี้เหมยรีบออกไปจากเรือนคุณชายทันที

จื่อฟางเอนพิงถังน้ำครุ่นคิดถึงเรื่องของเสิ่นจิ้งเฟย เหตุใดเรื่องราวถึงได้ดูซับซ้อน เดิมทีเขาคิดว่าชีวิตของเสิ่นจิ้งเฟยสบายนัก วันๆไม่มีสิ่งใดให้ทำนอกจากเที่ยวเล่น แต่ผู้ใดจะไปคิดว่าเขาถูกปองร้ายเอาชีวิต เป็นความแค้นส่วนตัวหรือเป็นเพราะเสิ่นจิ้งเฟยอยู่ในตระกูลขุนนางอย่างสกุลเสิ่นกันแน่ แต่เสิ่นจิ้งเฟยเป็นเพียงคุณชายเจ้าสำราญเท่านั้น ฆ่าแล้วได้อะไร ดูท่าจื่อฟางต้องสืบหาต้นเหตุของเรื่องโดยเร็ว เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าไหมได้ไม่นาน จางต้าก็ยกถาดอาหารเย็นที่ล้วนเป็นของบำรุงร่างกายมาโดยเฉพาะเข้ามาในห้อง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2019 13:31:06 โดย DuenTwinBII »

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
   

“ท่านพ่อได้เอ่ยถามอะไรหรือไม่”

“ไม่เลยขอรับ”จางต้าส่ายหน้า จื่อฟางนั่งลงที่โต๊ะเหลือบมองหยางชวีที่ใช้สายตาสืบเสาะมองตนอยู่นานแล้ว ไม่ใช่แค่คนหน้าตายแต่จางต้าก็เช่นกัน หลังจากที่จัดแจงอาหารให้เขาเรียบร้อย บ่าวคนสนิทก็มองจื่อฟางด้วยสายตาที่แฝงแววชื่นชม จางต้าคิดว่าคุณชายของตนยังมีแรงหยอกล้อหญิงสาวได้อยู่แสดงว่าอาการป่วยไม่ได้หนักหนาสาหัส

จื่อฟางเลิกสนใจทั้งสองคน เริ่มลงมือกินข้าวเงียบๆ ถึงแม้จะเป็นอาหารบำรุงร่างกายจำพวกแกงตุ๋นยาจีนแต่ก็เขาก็เติมข้าวไปหลายถ้วย

“คุณชาย ข้าได้ยินว่าด้านนอกจับโจรได้แล้วขอรับ!เป็นเพราะฝีมือภาพเหมือนของคุณชายแท้ๆ”จางต้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงชื่นมื่นเมื่อเห็นคุณชายเจริญอาหารดีไม่มีท่าทีเบื่ออาหารยิ่งทำให้เขามีรอยยิ้มบนหน้า

“งั้นหรือ ข้าว่าเขาไม่น่าเป็นโจรไปได้ ตัวผอมแห้งเช่นนั้นจะทำการใดได้ ก็แค่ขอทานคนหนึ่ง”จื่อฟางมุ่นคิ้วอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆอยู่บ้าง

“จิตใจมนุษย์ยากหยั่งถึง ท่านไม่มีวันล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้วคนผู้นั้นคิดสิ่งใด”หยางชวีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงคล้ายสั่งสอนอยู่ในที

“เหมือนเจ้า?”เขาเอาตะเกียบชี้ไปที่อีกฝ่าย หยางชวีเลิกคิ้วเพียงเล็กน้อย พินิจมองคุณชายเสิ่นที่สีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย แม้แววตาจะดูอ่อนล้าอยู่บ้าง

“จิตใจของข้าไม่ยากหยั่งถึง เพียงแต่จะเปิดให้หยั่งหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”หยางชวีกล่าวเรียบๆ สีหน้านิ่งสงบ

“ช่างสำบัดสำนวนนัก พูดธรรมดาไม่ได้หรือ”จางต้าพึมพำเบาๆ

จื่อฟางยกยิ้มขำเอ่ยถามเรื่องที่คาใจ “เจ้าไม่ไปหาท่านพ่อหรือ”ปกติเขาต้องหายไปสักหนึ่งชั่วยาม

“วันนี้ข้าไม่มีสิ่งใดรายงาน นายท่านก็ไม่ได้มีเรื่องที่อยากซักถามเป็นพิเศษ”พูดถึงเรื่องนี้แล้วหยางชวีก็ไม่สบายใจขึ้นมา แต่ก็ปัดความกังวลทิ้ง หากเขาหาสาเหตุพบว่าเหตุใดคุณชายถึงโดนพิษ ค่อยบอกนายท่านตอนนั้นก็มิสาย

หลังจากท้องอิ่มจื่อฟางต้องดื่มยาสมุนไพรขมๆไปอีกหนึ่งถ้วย

“เจ้าจะสอนข้าเดินลมปราณเมื่อใด”จื่อฟางเอ่ยถามระหว่างที่เดินเล่นไปมาอยู่ในห้อง เขาอยากค้นห้องจะแย่อยู่แล้ว แต่หยางชวียังไม่ยอมไปไหน เด็กหนุ่มเลือกหยิบนิยายที่อ่านค้างไว้มาอ่าน

“รอให้ร่างกายของท่านดีขึ้น ยามนี้ฝืนไปก็มีแต่ทำให้ยิ่งแย่ ท่านพักฟื้นฟูร่างกายสักสองสามวัน ช่วงนี้ข้าจะช่วยเดินลมปราณให้ท่านไปก่อน”เขาบอกคุณชายที่อ่านหนังสืออยู่บนเตียงก็ขมวดคิ้ว

“เรื่องเรียนหนังสือ ท่านอย่าได้หักโหม เข้านอนพักผ่อนแต่หัววันจึงจะดี”หยางชวีเอ่ยเห็นว่าถึงเวลาที่คุณชายต้องเข้านอนแล้ว จึงสั่งให้จางต้าดับตะเกียงจนเหลือเพียงโคมไฟที่แขวนอยู่ที่ฉากบังลมเท่านั้น จื่อฟางนั่งมึนงงอยู่บนเตียง ดูเหมือนเขาจะโดนบังคับให้เข้านอนเสียแล้ว เขายังไม่ได้ตรวจค้นห้องของเสิ่นจิ้งเฟยเลยนะ

“เจ้าเห็นข้าเป็นเด็กหรือไร”จื่อฟางต่อว่า แต่หยางชวีไม่อยู่แล้ว เขาจึงล้มตัวนอน อาการอ่อนเพลียเริ่มคืบคลานเข้ามา

~•~

ดึกสงัด สายลมพัดเอื่อย ดวงจันทร์กระจ่างอยู่บนฟากฟ้า ไป๋ผูอวี้กระโดดเข้ามาในเขตเรือนของเสิ่นจิ้งเฟย ผู้คนในจวนสกุลเสิ่นคล้ายหลับกันหมดแล้ว เขาสวมชุดคลุมสีขาวกระจ่างดุจภูติพรายในความมืด บุรุษหนุ่มมากลางดึกเช่นนี้เพราะอยากก่อกวนเสิ่นจิ้งเฟย เขาจำเรือนของคุณชายเสิ่นได้แม้จะเคยมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ใต้ชายคามีเพียงโคมไฟสีแดงส่องแสง เท้าของเขาสัมผัสพื้นได้ไม่นาน เงาร่างสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาโจมตี ไป๋ผูอวี้เตรียมรับมืออยู่แล้ว เขาเอี้ยวตัวหลบ ประมือกันไปสองกระบวนท่า ทั้งเขาและหยางชวีก็ถอยออกจากกัน

“ฝีมือเจ้าไม่ธรรมดา”เขาเอ่ยชมด้วยท่าทางปรอดโปร่งราวกับไม่ได้บุกเข้ามาในจวนของผู้อื่น

“ท่านเข้ามาในจวนสกุลเสิ่นเพราะเหตุใด”หยางชวีเอ่ยถามเสียงนิ่งเรียบ ไม่แปลกใจที่เห็นคุณชายผู้นี้ลอบเข้ามา ซูเหลียนฮวาเองก็เป็นเช่นนั้น คนในจวนสกุลไป๋เป็นเหมือนกันหมดกระมัง

“ข้าไม่วางใจ จึงคิดแวะมาดูอาการคุณชายเสิ่น ซูเหลียนฮวาฝากให้ข้านำยาสมุนไพรมาให้เขา ท่านคงรู้ว่านางมีความสามารถเพียงใด”ไป๋ผูอวี้เอ่ยเสียงสงบ ยืนเอามือไพล่หลังอย่างผ่อนคลาย

“ถ้าเช่นนั้นท่านก็นำสมุนไพรให้ข้า แล้วก็ไปเสีย”หยางชวีไม่มีเรื่องใดต้องเกรงกลัวไป๋ผูอวี้ สกุลไป๋เป็นเพียงคหบดี อีกทั้งเขาไม่จำเป็นต้องเคารพศิษย์พี่ของนางมารหมื่นพิษ เว่ยหลงไม่เคารพคุณชายของเขา ไยเขาต้องเคารพคุณชายไป๋ด้วย

“ข้าอยากคุยกับเสิ่นจิ้งเฟย”เขาเอ่ยตามตรง หลังจากที่ได้อ่านจดหมายของสหาย เขาก็มีเรื่องที่อยากลองเชิงคุณชายท่านนี้

“คุณชายเข้านอนแล้ว”หยางชวีไม่ยอมให้คุณชายท่านนี้เข้าไปเพียงเพราะอยากคุยกับคุณชายแน่

“ข้ามีเรื่องสำคัญ”ไป๋ผูอวี้เอ่ยอย่างอดทน หึ ดูท่าเสิ่นจิ้งเฟยคงสั่งสอนบ่าวไพร่ดีจริงๆถึงได้ป่วนประสาทพอกัน

“ท่านก็รู้ว่าร่างกายคุณชายไม่ค่อยดี เหตุใดยังมารบกวนดึกดื่น”หยางชวีไม่ยอมลดละ

“เจ้าจะให้ข้ามาเยี่ยมตอนที่เสนาบดีเสิ่นอยู่หรือไร ข้านำยาสมุนไพรของซูเหลียนฮวามาให้ ยาของนางจะช่วยให้คุณชายเสิ่นดีขึ้น และข้าต้องการมอบให้เขาเองกับมือ”ไป๋ผูอวี้พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง หยางชวีนิ่งคิดทบทวนอยู่ครู่ใหญ่ นางมารนั่นรู้เรื่องใดบ้าง เขาคงต้องไปเค้นถาม

“นางได้บอกอะไรท่านบ้างหรือไม่ ตอนนี้อาการของคุณชายยังไม่ดีขึ้น”หยางชวีเก็บสีหน้าเป็นกังวล แต่มีหรือที่ไป๋ผูอวี้จะมองไม่ออก

“เขาไม่ตายง่ายๆหรอก เจ้าวางใจเถิด”จากที่ซูเหลียนฮวาตรวจชีพจรดูแล้วไม่น่ามีอันตรายถึงชีวิต เพียงแค่ต้องหมั่นบำรุงร่างกายเท่านั้น ลมเย็นวูบหนึ่งพัดมาทำให้ชายเสื้อคลุมสะบัด ไม่ใช่ลมธรรมชาติ แต่เป็นลมจากผู้ติดตามของเสิ่นจิ้งเฟย ดูเหมือนคำพูดของเขาจะทำให้หยางชวีโกรธ เขาเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ อยู่ ๆเป็นอะไรไปแล้ว

“ท่านต้องการคุยสิ่งใดกับคุณชาย”เขาถามหน้าบึ้งตึง

“เรื่องอาการป่วย ข้าคงไม่จำเป็นต้องยืนขาแข็งอธิบายให้เจ้าฟังทั้งคืนหรอกกระมัง”ไป๋ผูอวี้ไม่อยากยืนอยู่เช่นนี้นานเพราะกลัวมีคนมาเจอ อีกอย่างเรื่องนี้ก็ไม่ได้สำคัญอย่างที่เขาพูด เขาเพียงแค่เอายาสมุนไพรมาให้และตรวจดูอาการของเสิ่นจิ้งเฟยเท่านั้น

“ซูเหลียนฮวาฝากมาบอกว่านางคิดถึงท่าน ช่วยแวะไปหานางที่หอผูเยว่ด้วย”ไป๋ผูอวี้เอ่ยโกหก หยางชวีมองหน้าเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยเช่นเดิมแต่เขาเห็นเส้นเลือดเต้นตุบๆที่ขมับ ดูท่าหยางชวีจะโดนนางปั่นหัวไม่ใช่น้อย มีเสียงเคลื่อนไหวมาจากเรือนรับรอง หยางชวีย่นคิ้ว นั่นเป็นเรือนของใต้เท้าเฉิน เขาไม่รู้ว่าตาเฒ่าร้ายกาจนั่นมีฝีมือแค่ไหน แต่ตาแก่นั่นอาจรับรู้ได้ว่าไป๋ผูอวี้ลอบเข้ามาในจวน

“ข้าให้เวลาท่านครู่เดียว”หยางชวีถอนหายใจยอมเอ่ยออกมาในที่สุด ไป๋ผูอวี้นึกขันอยู่ในใจเขาจะใช้เวลามากหรือน้อยหยางชวีสั่งได้หรือ บุรุษเคลื่อนไหวรวดเร็วเข้าไปในเรือนนอนของคุณชายเสิ่น ในห้องมีเพียงโคมไฟแขวนอยู่ฉากกันลมเท่านั้น เตียงสี่เสาเป็นเงาตะคุ่มอยู่เบื้องหลัง ไป๋ผูอวี้ก้าวเข้ามาเงียบๆจนถึงข้างเตียง ม่านสีเข้มถูกปล่อยไว้ เขารวบขึ้น นั่งลงที่ข้างเตียงพบว่าเสิ่นจิ้งเฟยนอนหลับสนิท

“หลับเช่นนี้โดนลอบฆ่าตายไปเจ้าก็ยังคงไม่รู้ตัวกระมัง”ไป๋ผูอวี้พึมพำ แสงจากโคมไฟส่องให้เห็นใบหน้าซีดเซียว เส้นผมดำขลับล้อมรอบใบหน้า ไป๋ผูอวี้ขมวดคิ้ว เมื่อสังเกตว่าเสิ่นจิ้งเฟยดูซีดเซียวผิดปกติ แค่เวลาไม่กี่ชั่วยามเหตุใดคุณชายเสิ่นถึงได้คล้ายคนป่วยเช่นนี้ เขายื่นมือไปจับชีพจรอีกครั้ง ถอนหายใจโล่งอกเมื่อรับรู้ว่าลมปราณในร่างไหลเวียนดีกว่าเมื่อตอนบ่ายมาก ไป๋ผูอวี้มองใบหน้าซีดขาวของเสิ่นจิ้งเฟยก่อนยื่นมือไปแตะอย่างเบามือ แต่ไม่คิดว่าเสิ่นจิ้งเฟยจะลืมตาสะลึมสะลือทั้งยังคว้าฝามือของเขาไว้

“อืม...”จื่อฟางลืมตาอย่างง่วงงุ่นมองเห็นร่างหนึ่งนั่งอยู่ที่ข้างเตียงก็ใจหายวูบ

“ไป๋ผูอวี้...”เขาพึมพำคิดว่าตนเองฝันไปแน่ถึงได้เห็นไป๋ผูอวี้มานั่งอยู่ข้างเตียง แถมมือก็ยื่นมาสัมผัสแก้มของเขาอีก จื่อฟางมองมือใหญ่ที่ตนจับอยู่ ...อุ่นด้วย

“เหตุใดท่านถึงดูซีดเซียวนัก”ไป๋ผูอวี้เอ่ยถาม แต่เสิ่นจิ้งเฟยคล้ายกับคนที่ยังไม่ตื่นเต็มตา ร่างบางจึงเอาแก้มแนบกับฝามืออุ่นๆของตนพร้อมกับถูไปมาเหมือนแมวตัวหนึ่ง

“...คุณชายเสิ่น”ไป๋ผูอวี้เรียกเบาๆ หมายจะดึงมือออกแต่เสิ่นจิ้งเฟยยิ่งฝังหน้ามากกว่าเก่า ริมฝีปากของอีกฝ่ายแตะอยู่กับฝามือของเขาให้ความรู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย

“เสิ่นจิ้งเฟย”ครั้งนี้เขาโน้มตัวไปกระซิบข้างหู ส่งเสียงดังกว่าเดิมเล็กน้อย จื่อฟางกระพริบตามองใบหน้าของไป๋ผูอวี้ที่อยู่ใกล้ๆจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆของอีกฝ่าย

“นี่…ไม่ได้ฝันไปเหรอ...”เขาพึมพำ ขมวดคิ้วมุ่น

“ท่านไม่ได้ฝัน”ไป๋ผูอวี้เอ่ยเสียงนิ่ง จื่อฟางมองใบหน้าของไป๋ผูอวี้ที่คล้ายประดับรอยยิ้ม “หรือท่านฝันถึงข้า”

เด็กหนุ่มจึงตื่นเต็มตาแม้จะแปลกใจที่เห็นไป๋ผูอวี้แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนผู้นี้ลอบเข้ามาในห้อง จื่อฟางแสร้งตบที่ว่างบนเตียง “อ้อใช่ ข้าฝันว่าเก็บลูกไหนอยู่ มาเก็บด้วยกันไหมเล่า”

“ข้าไม่มีเวลาล้อเล่นกับท่าน ลุกมาคุยกับข้าดี ๆ”ไป๋ผูอวี้เอ่ยเสียงเรียบ

“มิใช่เจ้าเป็นฝ่ายล้อเล่นกับข้าก่อนหรือ”จื่อฟางลุกนั่ง ปัดผมยาวสยายออกอย่างรำคาญใจ ไป๋ผูอวี้มองเขาอยู่ครู่หนึ่ง

“เหตุใดท่านทำตัวลับๆล่อๆกลางดึก หยางชวีเล่า”จื่อฟางแอบลอบยิ้ม รู้ตัวว่าเวลาเสิ่นจิ้งเฟยปล่อยผมแล้วอย่างกับผู้หญิงดี ๆนี่เอง

“อยู่ด้านนอก”บุรุษหนุ่มตอบสั้นๆละสายตามาจากใบหน้าหมดจดของคุณชายเสิ่น

“เขายอมให้ท่านเข้ามาด้วยหรือ”เขาเบิกตาโตอย่างแปลกใจ

“อืม”

“ท่านมีเรื่องใด”จื่อฟางเอ่ยถาม ไป๋ผูอวี้ชอบทำตัวเหมือนโจรเข้าไปทุกที

“ซูเหลียนฮวานำยาสมุนไพรมาให้ท่าน”บุตรชายสกุลไป๋หยิบกระปุกยาลูกกลอนส่งให้เสิ่นจิ้งเฟย

“ท่านมาเพราะนางนี่เอง”คุณชายรูปงามแสร้งพึมพำเบาๆระหว่างที่รับกระปุกยามาจากอีกฝ่าย ไป๋ผูอวี้ได้แต่มองหน้าเขาอยู่เงียบๆ

“ท่านมองหน้าข้าอีกแล้ว คิดว่าข้างามใช่หรือไม่”จื่อฟางหยอกล้อ ไหน ๆไป๋ผูอวี้ก็มาแล้วควรจะแกล้งเล่นเสียหน่อย ไป๋ผูอวี้ไม่ได้ตอบคำ

“ท่านกลายเป็นท่อนไม้ไปแล้วหรือ”คนผู้นี้เป็นแบบนี้ทุกที

“ท่อนไม้?”ไป๋ผูอวี้ย้อนถามอย่างไม่เข้าใจ

“ก็เวลาข้าแกล้งท่าน ท่านมักทำเช่นนี้เสมอ”เขาตบแผ่นอกของอีกฝ่าย แปลกใจที่ไป๋ผูอวี้มีร่างกายแข็งแรงขนาดนี้ แค่ตบเบาๆก็รู้แล้วว่าภายใต้เสื้อตัวยาวสีขาวมีกล้ามเนื้อ

ไป๋ผูอวี้ยกยิ้ม “หากท่านสนุกที่ได้เล่นกับท่อนไม้เช่นข้า ก็ทำต่อไปเถิด”อีกฝ่ายดูมั่นใจมากว่าจื่อฟางคงอ่อยไม่สำเร็จ

“เจ้าใจดียิ่งนัก”ร่างบางเอ่ยประชด เปิดกระปุกดมยาลูกกลอน กลิ่นขมลอยมาแตะจมูก ซูเหลียนฮวาเก่งเรื่องสมุนไพร หากได้ยาของนางมาบำรุง ร่างกายของเสิ่นจิ้งเฟยอาจดีขึ้นก็ได้

“ฝากขอบคุณนางด้วย”จื่อฟางคิดว่าจะลุกลงจากเตียงเพราะนึกถึงพัดจีบที่ยังไม่ได้ให้ไป๋ผูอวี้เสียที 

“แล้วท่านเป็นอย่างไร เหตุใดถึงดูซีดเซียวอีกแล้ว”

“ข้า...”จื่อฟางนึกถึงเรื่องเมื่อเย็น คิดหาคำพูดอธิบาย “ลมปราณของข้าติดขัดเล็กน้อย ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก”

ไป๋ผูอวี้มองคุณชายร่างกายผอมบางแล้วถอนหายใจ ตัวผอมบางเช่นนี้ ผู้ใดยังคิดวางยาอีก จื่อฟางก้าวลงจากเตียงพลันเกิดอาการวิงเวียนขึ้นมา ร่างกายจึงซวนเซ ไป๋ผูอวี้เห็นท่าไม่ดีตั้งใจจะคว้าแขนของอีกคนไว้แต่เขาคิดช้าไปเพราะร่างของคุณชายตรงหน้าเซล้มอยู่บนตัวเขา เหตุการณ์คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในห้องดื่มชาส่วนตัวเมื่อนานมาแล้ว แต่ริมฝีปากของเสิ่นจิ้งเฟยกระแทกกับริมฝีปากของเขาเต็มแรง ...แรงเสียจนไป๋ผูอวี้รับรู้รสชาติคาวเลือดในปาก ดันกัดปากตัวเองเสียได้

“โอ๊ยย”จื่อฟางหลุดร้องออกมา ยกมือแตะริมฝีปากที่ปวดตุบๆทันที หยางชวีเฝ้าอยู่ด้านนอกได้ยินเสียงร้องของเสิ่นจิ้งเฟยก็รีบเข้ามาดู

“คุณชาย ท่านเป็นอะไรหรือไม่…”หยางชวีก้าวพรวดไปหลังฉากบังลม แต่ก็อ้าปากค้าง คำพูดหายไปในลำคอเมื่อเห็นภาพตรงหน้า คุณชายเสิ่นซบอยู่บนตัวของไป๋ผูอวี้ด้วยริมฝีปากมีเลือดซึม จื่อฟางตกใจที่หยางชวีเข้ามาเร็วขนาดนี้จึงรีบปล่อยมือที่จับริมฝีปากออกเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ ไป๋ผูอวี้ขยับถอยห่างจากเขาเช่นกันแต่ลืมคิดไปว่าด้านหลังคือเสาเตียง ดังนั้นศีรษะของบุรุษผู้นั้นจึงขยับกระแทกกับเสาเตียงดังโป๊ก

จื่อฟางหลุดขำทันที “ฮ่าๆ”เพิ่งเคยเห็นไป๋ผูอวี้เป็นเช่นนี้ แม้เจ็บปากเล็กน้อยแต่ก็ยังหัวเราะได้ เด็กหนุ่มหันมองหยางชวีด้วยสายตาแพรวพราว

“เจ้ามาขัดจังหวะข้ากับไป๋ผูอวี้ทำไม หากได้ยินเสียงอะไรก็ทำหูทวนลมไปซะ”เขาเอ่ยแกล้งหยางชวี ใบหน้าเรียบเฉยของหมอนั่นแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ

“ท่าน…”ไป๋ผูอวี้เอ่ยแทรก แต่จื่อฟางยกนิ้วแตะริมฝีปากของอีกฝ่ายไว้

“ชู่วว”เด็กหนุ่มมองเห็นเลือดไหลซิบ ๆก็ใช้นิ้วปาดออกให้ ไป๋ผูอวี้ตัวแข็งทื่อสีหน้างุนงงคล้ายกับไม่เข้าใจเรื่องราว อาจเป็นเพราะแสงสะท้อนของโคมไฟเพราะเขาเห็นใบหูของไป๋ผูอวี้แดงเถือก

“คุณชายท่านกับ…”หยางชวีไม่กล้าเอ่ยคำอีก เขาทนอยู่ในบรรยากาศแปลกๆระหว่างทั้งสองคนไม่ไหวจึงรีบหมุนตัวออกไปทันที ไป๋ผูอวี้กับคุณชายเสิ่น…เรื่องจริงหรือ

“เหตุใดท่านถึงทำเช่นนี้ แกล้งหยางชวีสนุกนักหรือ”ไป๋ผูอวี้ได้สติก็กดเสียงต่ำเอ่ยเบาๆ คุณชายเสิ่นติดนิสัยของซูเหลียนฮวามาหรือไร

“สนุกสิ ครั้งก่อนเขากลัวข้าไปตั้งหลายวัน”จื่อฟางนึกแล้วก็หัวเราะเบาๆ ยังคงแกล้งซบอยู่บนแผ่นอกของไป๋ผูอวี้ ไออุ่นจากร่างแข็งแกร่งทำให้เขาอยากกอดแน่นๆ ท่อนไม้ไป๋เหมาะเป็นหมอนข้างจริง ๆ จื่อฟางฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่ายเต้นตุบๆกระทบหู

ไป๋ผูอวี้ขมวดคิ้วก้มมองคุณชายเสิ่นที่ยังคงไม่ยอมผละไปจากร่างตน ดูไปคล้ายลูกแมวที่มาเอาใจเจ้าของ ไป๋ผูอวี้หัวใจสูบฉีด เขาคิดอะไรอยู่ คุณชายเสิ่นน่ะหรือคล้ายแมว เขาขยับตัวดันไหล่ของเสิ่นจิ้งเฟยเบาๆ ‘ท่านสบายเกินไปแล้ว’

“คราวก่อนข้าแค่แกล้งบอกว่าอยากให้เขาปรนนิบัติบนเตียงเท่านั้นเอง”ไป๋ผูอวี้ชะงักมือ สายตาก้มมองร่างในอ้อนแขน คุณชายเสิ่นประสานสายตากับเขาเช่นกัน นัยน์ตาเป็นประกายอยู่ในความมืด บุรุษหนุ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ได้ยินแต่คำว่า‘ปรนนิบัติบนเตียง’ดังก้องอยู่ในหู

“ไป๋ผูอวี้”จื่อฟางผละออกมามองดูอีกฝ่าย เจ้านี่กลายเป็นท่อนไม้อีกแล้ว

“ปรนนิบัติบนเตียง…เรื่องเช่นนี้ล้อเล่นได้ด้วยหรือ”ไป๋ผูอวี้เพิ่งรับรู้ว่าเสิ่นจิ้งเฟยเป็นดั่งสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง ท่าทางเช่นนี้ค่อยเหมือนเสิ่นจิ้งเฟยที่เขาเคยรู้จัก

“ท่านกับหยางชวีคงไม่ได้…”ชายหนุ่มมีสีหน้าคลางแคลงใจ

“เหลวไหล!”เขาถลึงตาใส่ทันที

“แล้วหลี่ฮุ่ยจือเล่า…”ไป๋ผูอวี้ถามเรื่องนี้อีกแล้ว

“ข้าไม่ได้ชอบเขา คนเช่นนั้นมีสิ่งใดน่าคบหานอกจากอำนาจ”จื่อฟางเผลอพูดอย่างที่ใจคิด คนอย่างเสิ่นจิ้งเฟยจะยอมคบกับหลี่ฮุ่ยจือเพื่ออะไร เขาเองไม่แน่ใจเรื่องรสนิยมของร่างนี้นัก

“ท่านก็เลยยอมทนคบหากับเขาทั้ง ๆที่ต้องถูกแทะโลมน่ะหรือ เพราะอำนาจ?”ไป๋ผูอวี้ยกยิ้มมุมปาก รู้สึกเหมือนได้เห็นเสิ่นจิ้งเฟยคนเดิม แค่เพราะอำนาจ…

จื่อฟางรู้สึกว่าน้ำเสียงของอีกฝ่ายแฝงแววค่อนแขวะ รอยยิ้มของไป๋ผูอวี้ทำให้รู้สึกแปลกๆ เขาไม่ได้ตอบโต้เพราะเดาใจเสิ่นจิ้งเฟยไม่ถูก แต่ที่ไป๋ผูอวี้พูดมาก็จริง ชายหนุ่มจับจ้องเขาอยู่ครู่หนึ่ง ในห้องจึงตกอยู่ในความเงียบอยู่พักใหญ่

“…”

ไป๋ผูอวี้ถอนหายใจ “ดูเหมือนท่านจะไม่เป็นไรแล้ว”

“ข้าเพิ่งนึกได้ว่ามีของให้ท่าน”จื่อฟางรีบเอ่ย ไป๋ผูอวี้เหมือนอยากกลับแล้ว เขาจึงลุกเดินไปที่หีบหนังวัวสีเหลืองใบแรกสุดที่ตู้ข้างเตียง จำได้ว่าจางต้าเอาเก็บไว้ที่หีบใบนี้ เมื่อเปิดเจอกล่องสีดำเรียบ ๆเขาก็หยิบออกมา ไป๋ผูอวี้ยืนเอามือไพล่หลังสีหน้าปรอดโปร่ง แต่เหตุใดตนกลับรู้สึกว่าไป๋ผูอวี้ดูเย็นชาชอบกลเพราะเรื่องหลี่ฮุ่ยจือน่ะหรือ

“ข้าวาดให้ท่าน ความจริงข้าจะมอบให้ตั้งแต่เกิดเรื่องหลี่ฮุ่ยจือแล้ว”เขาส่งให้กล่องพัดให้อีกฝ่าย

“ข้าจำได้ว่าท่านส่งชาชั้นดีมาให้ไม่ใช่หรือ”ไป๋ผูอวี้คลี่พัดออก กวาดตามองภาพวาดนกกระเรียนในหมู่สน เขาไล่สายตาจนถึงตัวอักษรแปลกประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“ท่านเขียนสิ่งใด”ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างสนใจ

“แค่ลายเส้นไร้สาระน่ะ”จื่อฟางได้แต่เอ่ยตอบไปเช่นนั้น ไป๋ผูอวี้ไม่ปักใจเชื่อนักแต่ก็หุบพัดเก็บ

“ขอบคุณมาก ข้าจะเก็บไว้อย่างดี”ไป๋ผูอวี้ชะงักเล็กน้อย เมื่อนึกได้ว่าที่ตนมาก็เพราะมีเรื่องจะถามเสิ่นจิ้งเฟย   

“ข้ามีคำถาม เรื่องที่ท่านถูกวางยาพิษ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้เลยหรือ”บุรุษหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ จื่อฟางส่ายหน้า

“ท่านพอจะสงสัยหรือไม่ว่าเป็นฝีมือผู้ใด”

“ข้าพยายามขบคิดแต่ก็หาคำตอบไม่ได้เสียที”หากเป็นเสิ่นจิ้งเฟยตัวจริงอาจจะรู้ก็ได้

“ท่านโดนพิษมานานแค่ไหนแล้ว”

“เกือบๆหนึ่งปี”เขาตอบตามที่หมอกู้บอก

“ท่านไม่สงสัยหรือเหตุใดคนที่คิดร้ายต่อท่านถึงปล่อยให้ท่านลอยนวลเช่นนี้”ไป๋ผูอวี้ซักถามจนเขารู้สึกว่ากำลังให้การกับตำรวจ

“ก็คงหาจังหวะอยู่กระมัง อย่างที่เห็นร่างกายของข้าเป็นเช่นนี้ ข้าคิดว่าคนผู้นั้นคงพอใจ”ถึงจะไม่ตายแต่ ผลกระทบสำหรับคนร่างกายบอบบางอย่างเสิ่นจิ้งเฟยถือว่าหนักหนา

“ท่านควรระวังตัวไว้ หยางชวีไม่ได้อยู่ช่วยท่านตลอดเวลา ท่านก็อย่าเข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่ง”ไป๋ผูอวี้มองหน้าเขาอยู่นานจนจื่อฟางอึดอัด เหตุใดวันนี้ท่อนไม้ไป๋มองหน้าตนบ่อยนัก

“โจรที่ท่านวาดภาพถูกจับแล้ว เขาเป็นคนของอ๋องสามหรือหลิวอ๋องเจี่ยซิน”ไป๋ผูอวี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงรื่นหู จับตามองดูท่าทีของเสิ่นจิ้งเฟยว่ามีพิรุธหรือไม่ หากเสิ่นจิ้งเฟยรู้จักกับหลิวอ๋อจริงคงเป็นเรื่องยุ่งยากเกินกว่าที่เขาจะเข้าไปวุ่นวายได้ แค่เขามาเกี่ยวข้องกับเสิ่นจิ้งเฟยก็ถือว่าล้ำเส้นที่ตนเองขีดไว้มากแล้ว

“อ๋องสาม?”จื่อฟางทวนคำอย่างงุนงง มองหน้าไป๋ผูอวี้อย่างไม่เข้าใจ เขาไม่รู้จักอ๋องสามหรือหลิวอ๋องอะไรทั้งนั้น แล้วเหตุใดขอทานคนหนึ่งถึงเป็นคนของท่านอ๋องได้

“เจ้าคนตัวเหม็นนั่นน่ะเหรอ เขาจะเป็นคนของท่านอ๋องได้อย่างไร”ดูไปแล้วเหมือนขอทานคนหนึ่งมากกว่า

“ขอทานทำอะไรได้มากกว่าที่ท่านคิด สืบข่าว ส่งข่าว ทำได้ทั้งนั้น”

“อย่างนี้นี่เอง”จื่อฟางพึมพำ ราวกับสายลับ ในวงการตำรวจก็มีพวกนอกเครื่องแบบแฝงตัวอยู่ในชุมชนเสมอ แต่เดี๋ยวนะถ้าเช่นนั้นเขาก็เป็นคนที่ทำให้คนของท่านอ๋องถูกจับน่ะสิ… 

“อ๋องสามเป็นคนสุขุมเด็ดขาด ท่านมีส่วนทำให้คนของเขาโดนจับ…”ไป๋ผูอวี้ทิ้งท้ายไว้ แต่จื่อฟางเข้าใจความหมายทันที ดูเหมือนว่าเขาจะไปล่วงเกินท่านอ๋องคนหนึ่งเข้าแล้ว

“ข้าไม่รู้นี่ว่าขอทานเป็นคนของท่านอ๋อง เขาคงไม่มาเล่นงานคนอย่างข้าหรอกกระมัง”จื่อฟางนึกกลัวขึ้นมา

“ก็ต้องดูว่าท่านมีค่าพอให้เขาเล่นงานหรือไม่”คำพูดของไป๋ผูอวี้ทำให้เขาขมวดคิ้ว

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”จื่อฟางมีสีหน้าสับสน

“ท่านย่อมรู้ตัวดี”ไป๋ผูอวี้พูดด้วยเสียงกระซิบ แววตาคมปราบ บุรุษหนุ่มเพียงพูดเพื่อดูปฏิกิริยาของเสิ่นจิ้งเฟยเท่านั้น

จื่อฟางใจเต้นแรงรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา เสิ่นจิ้งเฟยเจ้าทำสิ่งใดอยู่กันแน่?

“ข้าไม่รบกวนเวลานอนท่านแล้ว”ไป๋ผูอวี้มาทิ้งระเบิดไว้ก็จากไป เงาร่างสูงใหญ่หายไปจากหน้าต่าง เพียงครู่เดียวก็หายไปจากสายตาแล้ว จื่อฟางย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ขอทานมาชนตนเองอีกครั้ง หากขอทานนั่นไม่ใช่ขอทานธรรมดาตามที่ไป๋ผูอวี้บอก เป็นไปได้หรือไม่ที่รู้จักกับเสิ่นจิ้งเฟย…เขานึกถึงท่าทางแปลกๆของขอทานผู้นั้นตอนที่มาชนตนแล้วจื่อฟางไม่เอาเรื่อง ขอทานมีสีหน้าแปลกใจ ทั้งยังเป็นคนของอ๋องสาม 

“คุณชายท่านควรพักผ่อนได้แล้ว”เสียงของหยางชวีดังแว่วออกมาจากนอกประตู เขาไม่ได้ตอบกลับ ได้แต่เดินไปเดินมาอย่างกังวล สายตาของจื่อฟางพุ่งไปที่หีบหนังวัวสีเหลืองที่เอาไว้สะสมพัดสามสี่ใบของเสิ่นจิ้งเฟย เขาเคยเปิดดูไปหีบเดียวเท่านั้น จื่อฟางมองไปที่ประตูห้องก่อนจะก้าวเบาๆไปที่หีบทั้งสี่ใบ หีบแรกเขาเคยเปิดแล้ว จึงเปิดหีบที่สองเต็มไปด้วยกล่องใส่พัดเต็มหีบ ใบที่สามมีแต่พัดเช่นกัน เด็กหนุ่มเปิดกล่องดูพบว่าเป็นพัดกระดาษธรรมดา น่าแปลก เขาไม่คิดว่าเสิ่นจิ้งเฟยจะชอบพัดเรียบง่ายเช่นนี้ บนพัดมีลายมือบรรจงตวัดเขียนบทกวีไว้ ลายมือของเสิ่นจิ้งเฟยคล้ายๆกับเขาจนน่าแปลก จื่อฟางคิดว่าบทกวีน่าสนใจ แต่เวลานี้ดึกแล้ว เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาอ่าน ร่างบางขยับเปิดหีบใบสุดท้าย ค่อนข้างเปิดยาก เขาออกแรงจนหอบแฮ่ก สายตาเหลือบมองที่ประตูห้องกลัวว่าหยางชวีจะเข้ามา หีบใบนี้ไม่ทำให้เขาผิดหวังในนั้นมียาสมุนไพรซุกซ่อนอยู่จริง ๆ

‘ที่แท้เจ้าก็ซ่อนไว้ตรงนี้นี่เอง’

จื่อฟางหยิบกระปุกยาลูกกลอนมาดู นอกจากนั้นยังมีหนังสือนิยายและตำราเก่าๆ เขาหยิบตำราเล่มบาง ๆมาดูในตำรามีตัวอักษรเรียงเป็นคำว่าโหยวหลันอย่างบรรจง โหยวหลันเป็นชื่อมารดาของเสิ่นจิ้งเฟย นางเขียนตำราเล่มนี้หรือ เมื่อเปิดดูคร่าวๆก็พบว่าเป็นบทเพลงสำหรับบรรเลงกู่เจิง ตำราอื่น ๆเป็นตำราความรู้ทั่วไป และหนังสือนิยายหน้าปกเก่าๆ จื่อฟางหยิบมาดูเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นหนังสือแนวชายรักชาย

เสิ่นจิ้งเฟยมีรสนิยมเช่นนี้จริงหรือ ผิดคาแรคเตอร์ในนิยายอย่างรุนแรง เขารีบพลิกเปิดอ่านคร่าวๆ มีภาพประกอบด้วย เขาเปิดไปเจอกระดาษแผ่นหนึ่งสอดไว้ ดูจากความเก่าน่าจะถูกสอดเก็บไว้นานแล้ว เด็กหนุ่มเดินไปอ่านตรงโคมไฟ ลายมือบรรจงปรากฏให้เห็น แต่บางคำลงน้ำหนักไม่เท่ากันบ่งบอกว่าผู้เขียนใส่อารมณ์ไปด้วย แต่ยิ่งอ่านก็ยิ่งใจเต้นแรง บทความนี้คล้ายเป็นบทความวิพากษ์ฮ่องเต้

จื่อฟางคิดไม่ถึงว่าคนอย่างเสิ่นจิ้งเฟยจะมีความคิดเช่นนี้ สนใจเรื่องราวในราชสำนักด้วยหรือ ในบทความกล่าวว่าฮ่องเต้ปกครองได้ดี แต่ก็มีส่วนที่แย่ ฮ่องเต้รักสนุก ขาดว่าราชการบ่อยครั้ง หมกมุ่นเรื่องกามารมณ์ แอบเลี้ยงดูชายงามด้วย จื่อฟางต้องอ่านซ้ำอยู่หลายรอบเพราะกลัวตนเองอ่านผิด เรื่องราวเหล่านี้เสิ่นจิ้งเฟยรู้ได้อย่างไร เขาเม้มปากอ่านถ้อยคำบรรทัดสุดท้ายที่ทำให้เขาใจหวิว เสิ่นจิ้งเฟยขวัญกล้าเกินไปแล้ว

‘ฮ่องเต้ตระบัดสัตย์ มิสมควรครองราชย์’

เขาพ่นลมหายใจเบาๆ ในยุคที่ฮ่องเต้คือคนตัดสินชีวิต เขาจะต้องทำลายบทความนี้เสีย เสิ่นจิ้งเฟยเขียนวิพากษ์ได้เช่นนี้ก็แสดงว่าเขาไม่ใช่คนโง่

เสิ่นจิ้งเฟยเจ้ายังมีความลับใดอีก!





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2019 13:31:23 โดย DuenTwinBII »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ความลับเยอะจริงๆ สรุปว่าอนุมีอยู่จริง
คุณชายนี่ชีวิตลำบากจริงนะ ที่ทำไปทั้งหมดเพื่อสร้างข่าวลือแน่เลย ทำตัวอ่อนแอ เกเร เที่ยวหอนางโลม แอบรักคุณหนูฉิน เดาว่าคือการสร้างแผนลวงเพื่อเอาชีวิตรอด
นี่ถ้าจื่อฟางไม่เข้าร่าง มีเหรอที่จะได้สนิทกับไป๋ผู่อวี้แบบนี้ แค่จะคุยกันดีดียังไม่เห็นวี่แววเลย
ปมเยอะดีค่ะ เรานึกไปว่าตอนนี้ร่างจริงของจื่อฟางมีคุณชายเสิ่นดูแลอยู่ หรือไม่ก้อเวลาในโลกความจริงผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่นาทีในขณะที่ในนิยายเวลาผ่านไปเป็นปี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-02-2018 20:30:10 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นนนนนนน รอติดตามตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Akanasan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่ธรรมดาแฮะเสิ่นจิ้งเฟยมีความลับเยอะอะไรเบอร์นั้น
 :ruready :ruready

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
แล้วเสิ้นจิ้งเฟยหายไปไหน??

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ทำตัวเสเพลกลบเกลื่อนตัวตนแน่ๆ เอาวะ พระรองนำมาขนาดนี้ จื่อฟางสืบเลย เดี๋ยวจะแย่เอา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด