[3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy แจ้งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy แจ้งข่าว  (อ่าน 80748 ครั้ง)

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
สงสารพริ้มอ่ะ ก็ไหนไม่เอาไม่ใช่หรอ ให้ค่าทำขวัญมาตั้ง 50,000 แล้วอ่ะ
เป็นถึงผู้มีอิทธิพลเรื่องแค่นี้สืบไม่ได้หรอว่าพริ้มทำกับท่านแค่คนเดียวอ่ะ หรือพระเอกจะโง่ก่อนแล้วค่อยฉลาด?

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ดาร์กมาก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สงสารพริ้มจังเลย เมื่อไหร่จะได้เจอคนดีๆ บ้างนะ  :sad4: :กอด1:

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สงสารรรร ทำไมเสี่ยต้องทำขนาดนี้
ถ้าไม่ได้รู้สึกอะไร เสี่ยไม่ต้องหวงก้างขนาดนี้ก็ได้
รู้จักครั้งเดียวก็จบ ไม่ใช่ทำกันแบบนี้ ฮรื่อออ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ แม่พิเสือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-2
ตอนที่ 7


หลังจากที่ท่านสั่งให้บอดี้การ์ดเก็บกวาด บอดี้การ์ดก็เอาผ้านวมผืนหนามาห่อตัวผมจนเหมือนเค้กโรลก้อนใหญ่ๆ พี่เขาอุ้มผมมาวางที่เบาะหลังก่อนจะขับรถออกจากคลับ


ผมมองสองข้างทางที่รถขับผ่านด้วยจิตใจเหม่อลอย
เมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่นะ มันคือความจริงหรือความฝัน


ผมรู้ว่าท่านคงโกรธที่ผม ‘ขาย’ ให้คนอื่น
แต่สิ่งที่ท่านทำมันโหดร้าย ทารุณ เกินกว่าที่ใจผมจะรับไหว
ชีวิตนี้ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะถูกข่มขืนต่อหน้าผู้ชายหลายคน


ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ติดตัวผมมาตั้งแต่เกิดมันไม่เหลือแล้ว
ท่านทำลายมันป่นปี้ไปหมดแล้ว


ผมเหมือนคนใจสลาย ไม่ยอมรับรู้อะไรจากโลกภายนอกจนกระทั่งถูกอุ้มวางในอ่างน้ำขนาดใหญ่
ใจผมไม่ได้ใส่ใจว่าสถานที่นี้จะหรูหรา ดูดีมากแค่ไหน
ผมแค่อยากไปจากที่นี่ ออกไปจากที่ตรงนี้
ผมอยากหนีหายไปจากท่าน


ผมไม่ได้ใส่ใจฟังว่าพี่บอดี้การ์ดพูดอะไรก่อนจะเดินออกไป
หูผมดับไปชั่วขณะ


ผมนั่งแช่น้ำจนตัวเปื่อยอยู่ในอ่างน้ำวนขนาดใหญ่ เขาเรียกว่าอะไรนะ…จากุชชี่ใช่ไหม
ถึงสายน้ำวนจะช่วยนวดตัวเบาๆสร้างความผ่อนคลาย แต่ผมกลับไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแบบนั้นเลย


ร่างกายของผมเครียด แข็งเกร็งไปหมด
ความทรมานของการถูก ‘ข่มขืน’ ยังฝังอยู่ทั่วทุกอณูของร่างกาย


ผมหลับตาลงช้าๆก่อนจะไถลตัวลงไปในอ่าง ให้น้ำมิดหัว
กลั้นหายใจตายๆไปเลยดีไหมนะ จะได้ปลดปล่อยตัวเองจากความทรมานนี้สักที

1
.
2
.
3
.
4


ยังไม่ทันที่ผมจะนับในใจครบถึงสิบ
ร่างทั้งร่างของผมก็ถูกอุ้มขึ้นมาจากอ่างน้ำ


“เด็กโง่”ผมปรือตาขึ้นมามองท่าน ซบหน้าลงกับแผงอกแกร่ง
กลิ่นหอมเย้ายวน มีเสน่ห์ดึงดูดให้หลงใหลนี้เป็นกลิ่นของท่าน กลิ่นที่ตอนเจอกันครั้งแรก ทำให้ผมรู้สึกลุ่มหลงมัวเมาไปกับมัน แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กลิ่นนี้ทำให้ผม…กลัว


ผมว่าตอนนี้ผมคงมีอาการหลอนนิดๆแบบที่คนใกล้ตายทุกคนคงเคยสัมผัส
ผมจ้องมองท่านที่อุ้มผมด้วยท่าทีถนุถนอม ค่อยๆประคองวางผมลงบนเตียงอย่างนิ่มนวล   
คนใจร้ายแบบท่านคงไม่มาดูแลผมแบบนี้


ผมหลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย
พิษไข้กับอาการปวดหัวเริ่มแสดงอาการ แผ่นหลังที่โดนทั้งแส้และเข็มขัดฝาดแสบจนชาไปหมด นี่ยังไม่รวมถึงอาการปวดแสบปวดร้อนที่ช่องทางรักด้านหลัง


“เด็กดื้อ”ท่านพูดขณะดึงตัวผมให้นั่งพิงอกท่านที่นั่งซ้อนตัวอยู่ทางด้านหลัง
ท่านใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวให้ผม แต่งตัวให้ผม รวมทั้งเป่าผมให้


นี่ผมฝันอยู่รึเปล่านะ?
หรือว่าผมกำลังหลอน?
คนที่กำลังดูแลผมอยู่ตอนนี้ใช่คนเดียวกับคนที่ทำร้ายกันจนปางตายจริงๆเหรอ


“ชั้นขอโทษ”ผมได้ยินคำขอโทษแว่วเข้ามาในหูก่อนที่สติผมจะลานเลือง


นี่ต้องเป็นฝันแน่ๆ
คนแบบท่านไม่น่าจะขอโทษผมง่ายๆแบบนี้

.
.
.

ผมตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความรู้สึกเจ็บแสบไปทั้งตัว
ข้อมือด้านซ้ายรู้สึกเจ็บจี๊ดเป็นพิเศษเมื่อยกมือขึ้นมา
เข็มน้ำเกลืออันใหญ่ขนาดนี้แทงเข้ามาในร่างกายผมตั้งแต่เมื่อไหร่นะ


ผมพยายามจะลุกจากเตียงแต่ก็ทำไม่สำเร็จ
สุดท้ายสายน้ำเกลือก็หลุดออกจากข้อมือ ที่แขวนน้ำเกลือคว่ำลงกับพื้นเสียงดังโครมคราม


“ซนแต่เช้าเลยนะ”ท่านยืนกอดอกพิงประตูอยู่


“ขอโทษครับ”วินาทีนี้ผมนึกคำอื่นไม่ออก นอกจากขอโทษไว้ก่อน
ผมไม่อยากให้ท่านโกรธอีก เพราะถ้าท่านโกรธ…ผมคงต้องเจ็บตัวอีก


“ลุกขึ้นสิ จะนั่งตรงนั้นอีกนานไหม?”


“ครับ”ผมพยายามเท้าแขนลงกับพื้นแล้วพยุงตัวลุกขึ้น ความเจ็บแผ่ซ่านไปทั้งร่างเมื่อผมก้าวเดิน
โดยเฉพาะความรู้สึกแสบขัดที่ช่องทางด้านหลัง


“ช้า”ท่านพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะสาวเท้าเร็วๆมาหาผม
ผมก้าวถอยหลังด้วยสัญชาตญาณ สุดท้ายผมก็หล่นลงไปกองบนเตียง


ท่านปรับจังหวะการเดินให้ช้าลง เดินด้วยท่าทีสบายๆ แต่ผมกลับไม่รู้สึกแบบนั้น
ร่างกายของผมแข็งเกร็งด้วยความกลัว คราวนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นฝ่ามือหรือฝ่าเท้าที่ประทับลงมาบนร่างผม


ผมยกมือไหว้ท่านน้ำตาคลอ มือสั่น


“กลัวชั้นขนาดนั้นเลยเหรอหมาน้อย”


“…”ผมเม้มริมฝีปากแน่น


“รู้แล้วใช่ไหมว่าผลของการหักหลังชั้นมันเป็นยังไง?”ท่านลูบหัวผมเบาๆ แต่ผมไม่รู้สึกถึงความอ่อนโยนเลย
มันเหมือนการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของคนที่เหนือกว่า


“ครับ”


“รู้ไหมว่าชั้นเมตตานายแค่ไหน ถ้าเป็นคนอื่นชั้นส่งไปให้ลูกน้องรุมโทรมแล้ว”


“ไม่นะครับ ไม่เอานะครับ”


“ถ้าไม่อยากโดน ก็ทำตัวดีๆ เป็นหมาที่ซื่อสัตย์ต่อชั้นเพียงคนเดียว เข้าใจไหม?”


“ครับ”ท่านหยิบโช้คเกอร์หนังถักสีดำ ด้านหน้าห้อยจี้ทองคำขาวแผ่นกลมสลักตรงกลางเป็นรูปตัว R มาใส่ให้ผม


ผมไม่ต่างอะไรกับหมาจริงๆ…วันแรกก็ได้ปลอกคอแล้ว


“ทีนี้ก็รู้แล้วนะว่าใครคือเจ้าของนาย”ผมพยักหน้ารับรู้
คำว่า ‘หมาไม่มีเจ้าของ’ ที่หลุดออกจากปากผมเมื่อคืนคงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ท่านโกรธ


“มองหน้าชั้นทำไม?”ท่านถามผมเมื่อเห็นผมจ้องหน้าท่านไม่วางตา
ผมชอบดวงตาของท่าน มันมีเสน่ห์เย้ายวนใจเหลือเกิน มองแล้วให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา


“จูบได้ไหม?”ผมตอบกลับไปเหมือนคนต้องมนต์
พอมีสติระลึกได้ว่าตัวเองพูดอะไรไปก็แทบอยากตบปากตัวเอง
ไอ้คนใจไม่รักดี เขาทำร้ายกันขนาดนี้ยังจะอยากจูบเขาอีก


ดวงตาของผมเอาแต่จับจ้องริมฝีปากหนาสีชมพูซีดของท่าน
ที่ผ่านมา เรามีอะไรกันก็จริง แต่เราไม่เคยจูบกันเลย
หรือว่าท่านจะเก็บจูบไว้ให้คนที่ท่านรักแบบในนิยายที่พระเอกแบดๆชอบทำกัน


“อยากเหรอ”ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ ผมไม่ได้อยากมีเซ็กส์ ผมแค่อยากจูบ
อยากให้ท่านมอบสัมผัสดีๆเพื่อลบภาพจำแสนโหดร้ายเมื่อคืน
อยากให้สัมผัสของท่านลบความรู้สึกขยักแขยงร่างกายตัวเองที่โดนผู้ชายคนอื่นสัมผัส


ถ้าท่านจูบผม แสดงว่าท่านคงอภัยให้ผมแล้ว
ถ้าท่านจูบผม อย่างน้อยผมก็ได้รู้ว่าท่านไม่ได้รังเกียจผม ผมจะได้เลิกรังเกียจตัวเองสักที


“หึ”


“ผมคงขอมากไป ขอโทษครับ”ผมก้มหน้ารับในสิ่งที่เกิดขึ้น
ผมมันก็แค่หมาตัวหนึ่งที่ท่านรับเลี้ยง ไม่เห็นจะต้องใส่ใจความรู้สึกหมาโง่น่ารังเกียจตัวนี้เลย
ถึงยังไงผมก็เป็นหมาของท่าน จะให้ไปผสมพันธุ์กับหมาตัวอื่นตามที่ท่านเลือกก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
หมาอย่างผม ไม่มีสิทธิเลือกอนาคตตัวเองอยู่แล้ว


“ตัวก็ใหญ่ ทำไมใจเล็กใจน้อย น่ารำคาญจริงๆ”ท่านพูดแค่นั้นแล้วก็เดินออกไป


ผมนั่งชันเข่าขดตัวกอดเข่าร้องไห้ น้ำตาใสๆไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ไม่เอาแล้ว…ไม่อยากเป็นหมาแล้ว
ไม่อยากเป็นหมาที่ไม่ถูกรัก
รับเลี้ยงผมแล้วก็ช่วยดูแลกันหน่อยได้ไหม


อย่าเอาแต่มองว่าผมเป็นวัตถุทางเพศ
จะข่มขืน จะทำร้ายจิตใจกันยังไงก็ได้
พอแล้วได้ไหม


ปลอกคอนี่ก็เหมือนกัน
ถอดออกได้ไหม
พันธนาการมันรัดแน่นจนผมหายใจแทบไม่ออกอยู่แล้ว


ผมนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิมจนแสบตาไปหมด
คุณบอดี้การ์ดที่พาผมขึ้นไปหาท่านวันนั้นเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับยื่นถุงเสื้อผ้าแบรนด์เดิมมาให้


“นี่เสื้อผ้าของคุณครับ รีบแต่งตัวให้เรียบร้อย ท่านรอทานข้าวอยู่”


ผมค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นจากพื้น ปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออก
ปกติเวลามีเรื่องอะไรผมก็เข้มแข็ง ผ่านมันไปได้ตลอด
ไม่รู้ทำไมกับเรื่องนี้ถึงได้ร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆ


ผมเดินช้าๆออกมาจากห้องนอน สายตาสำรวจไปทั่ว
ห้องนี้คงเป็นคอนโดของท่าน ไม่ใช่โรงแรมแบบครั้งนั้น


ท่านนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเล็กๆในห้องกินข้าว
ตอนแรกที่เห็นผมก็อดประหลาดใจไม่ได้ ผมคิดว่าพวกคนรวยจะต้องนั่งโต๊ะยาวๆกินข้าวห่างๆกัน


“ข้าวต้มปลา ทานได้ไหม?”


“ได้ครับ”


“รีบๆกิน อย่าพิรี้พิไร เวลาเป็นเงินเป็นทอง เข้าใจไหม”ท่านดุเมื่อผมเอาแต่คนข้าวต้มให้หายร้อน ไม่ยอมกินสักที ความอยากอาหารของผมเป็นศูนย์เลยตอนนี้


“ครับ”


“ชัย ถ้าพริ้มทานข้าวเสร็จแล้วก็พาไปจัดการเรื่องเรียนให้เรียบร้อย อย่าลืมแวะซื้อเสื้อผ้าของใช้จำเป็นมาด้วยละ ส่วนเรื่องหอพักเน่าๆนั่นก็ยกเลิกเช่าไปเลย ข้าวของดีๆจำเป็นก็ขนมา แต่ของเน่าๆก็ทิ้งไว้ที่นั่น ส่วนเรื่องงานก็ไปลาออกให้หมด”
ตอนแรกที่ท่านพูดเรื่องเรียนผมดีใจแทบตาย
แต่พอพูดเรื่องอื่นต่อก็ทำเอาผมตามไม่ทัน


“มองหน้าชั้นมีปัญหาเหรอ?”ท่านเลิกคิ้วมองผม
สัญชาตญาณการเอาตัวรอดบอกให้ผมตอบว่า ‘ไม่มีปัญหา’ แต่ความสงสัยหลายๆอย่างมันยังค้างคาในใจ


“ไม่มีครับ แต่…”


“แต่อะไร?”


“ท่านจะให้ผมเรียนหนังสือเหรอครับ? ผมไม่เงินจ่ายค่าหน่วยกิตหรอกนะครับถ้าท่านให้ผมลาออกจากงานทั้งหมด”


“ชั้นพูดสักคำรึยังว่าให้นายจ่ายเอง ทำไม? ไม่อยากเรียน?”


“ไม่ครับ ผมอยากเรียน”


“ดี ชั้นไม่ชอบหมาโง่ การศึกษาต่ำ”


“เรื่องหอพักท่านอย่ายกเลิกเลยนะครับ ตอนนี้หอพักดีๆเต็มหมดแล้ว ถ้ายกเลิกหอนี้ไป ผมหาหอราคาถูกแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วแน่ๆ เงินประกันค่าห้องเพื่อเช่าใหม่ผมก็ไม่มี”


“นี่พริ้ม คิดว่าการเป็นเด็กเลี้ยงของผู้ชายสักคนมันหมายถึงอะไร?”ท่านถามผมก้วยน้ำเสียงเอือมระอา


“มันคือการตอบสนองความอยากของผู้ชายคนเดียวแลกเงิน เอากัน น้ำแตก แล้วก็แยกทาง”


“ชั้นเหนื่อยกับเธอจริงๆ ชัยจัดการด้วยนะ”ท่านถอนหายใจ ส่ายหน้าอย่างรำคาญ หยิบไอแพดที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินออกไป


ผมเข้าใจผิดตรงไหน?
คิดยังไงก็คิดไม่ออก…


ผมวางช้อนลงในถ้วยข้าวต้มจ้องมองคุณชัยนิ่ง มีคำถามมากมายที่ผมอยากถาม


“อธิบายให้ผมฟังทีเถอะครับ เด็กเลี้ยงในอุดมคติของท่านเป็นแบบไหน”


“สิ่งแรกที่เด็กเลี้ยงของท่านควรมี คือ ‘สมอง’ ”คุณชัยพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มเหมือนกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป แต่ถ้อยคำที่กล่าวออกมานี่เสียดแทงใจเหลือเกิน
ผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกด่าว่า งี่เง่า ไม่มีสมอง คิดเองไม่เป็น เอาแต่ถามอย่างเดียว


“ปกติเด็กเลี้ยงทุกคนของท่านจะได้รับเงินเดือนทุกเดือน เดือนละ 100,000 บาทตามข้อตกลง ไม่ว่าท่านจะใช้บริการคุณหรือไม่ แต่ถ้าท่านไปใช้บริการ ท่านก็จะจ่ายเพิ่มให้ครั้งละ 50,000 บาท เด็กของท่านทุกคนมักจะได้บ้าน ได้รถเป็นชื่อตัวเองเมื่อดูแลท่านครบ 1 ปี แล้วสัญญาทุกอย่างก็จะจบลง ท่านไม่เคยเลี้ยงใครนาน นี่คือสิ่งแรกที่คุณควรเข้าใจ”


ท่านเป็นพวกรักสนุก แต่ไม่ผูกพันธ์สินะ
ไม่เลี้ยงใครนาน ก็เพราะไม่อยากสร้างความสัมพันธ์ผูกมัดตัวเอง


“สิ่งที่สองที่ควรทำความเข้าใจคือท่านไม่ชอบคนไม่ซื่อสัตย์ ในระหว่าง 1 ปีของการอยู่ในสัญญา คุณจะต้องไม่มีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น เว้นแต่ท่านจะเป็นคนอนุญาต”


“แต่ในกรณีของคุณ สัญญาอาจจะแตกต่างจากเด็กเลี้ยงคนอื่นตรงที่ คุณต้องพักอาศัยอยู่กับท่าน ทำงานทุกอย่างที่ท่านสั่ง รวมถึงทำงานบ้าน ทำอาหาร แทนแม่บ้านเพื่อชดใช้หนี้ 10 ล้านที่ท่านได้ชำระไปให้คุณแล้ว”


“ท่านจ่ายไปแล้วเหรอครับ?”ผมถามคุณชัยตาโต หนี้ 10 ล้านไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ


“ใช่ครับ”


“ทำไม?”ผมถามคุณชัยด้วยความสงสัย


“เรื่องนี้ถ้าคุณอยากรู้ คุณควรจะสอบถามกับท่านเองโดยตรง”


ผมกำลังรู้สึกเหมือนถูกท่านเอาเงินฟาดหัว
เงิน 10 ล้านที่ท่านจ่ายให้คงเหมือนเงินค่า ‘ค่าทำขวัญ’ ล่วงหน้าสำหรับการทำ ‘ระยำ’ ยังไงกับผมก็ได้


“ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณจะอายุ 20 ปีบริบรูณ์แล้ว แต่ท่านก็จะทำหน้าที่ผู้ปกครอง ดูแลให้ทุนการศึกษาให้คุณได้เรียนสูงที่สุดเท่าที่คุณอยากเรียน โดยมีข้อแม้ว่าเกรดเฉลี่ยทุกเทอมต้องมากกว่า 3.5 ถ้าเทอมไหนเกรดคุณตก ข้อตกลงนี้จะถูกยกเลิกทันที และเมื่อคุณจบการศึกษา คุณต้องมาทำงานชดใช้ทุนในบริษัทของท่านเป็นเวลา 2 เท่าของเวลาที่ได้รับทุน”


“หมายความว่า ผมจะอยู่ในสัญญาของการเป็นเด็กเลี้ยงแค่ 1 ปี หลังจากนั้นผมก็จะกลายเป็นแค่เด็กในปกครองที่มีพันธะผูกพันธ์กับท่านเพียงแค่การทำงานชดใช้หนี้ เท่านั้นใช่ไหมครับ”


“ใช่ครับ ส่วนเรื่องบ้านและรถที่เด็กเลี้ยงทุกคนของท่านมักจะได้ เรื่องนี้คุณคงต้องคุยกับท่านเอง เพราะท่านก็จ่ายให้คุณไปเยอะมากพอแล้วเหมือนกัน”คำพูดของคุณชัยเหมือนการด่าผมแบบอ้อมโลกว่าอย่าได้สะเออะขออะไรแบบนั้น เพราะเท่านี้ท่านก็ให้ผมมากเกินพอสำหรับสิ่งที่ผมควรจะได้แล้วด้วยซ้ำ


“สิ่งสุดท้ายที่คุณควรทราบก็คือที่นี่คือคอนโดส่วนตัวของท่าน คุณไม่ได้รับอนุญาตให้แจ้งกับใครว่าพักที่นี่ และไม่มีสิทธิพาใครมาที่นี่ทั้งนั้น ถ้าเมื่อใดเรื่องนี้หลุดรั่วออกไป คุณจะถูกไล่ออกจากที่นี่ทันทีโดยไม่มีการสอบสวนใดๆทั้งสิ้น”


“ข้อมูลทุกอย่างในห้องทำงานท่านเป็นความลับของบริษัท ถ้าท่านทราบว่าข้อมูลรั่วมาจากคุณ คุณคงไม่อยากรู้หรอกใช่ไหมครับว่าคุณจะถูกลงโทษลงยังไง”ผมพยักหน้า แค่เมื่อคืนท่านจับได้ว่าผมขาย online ยังโดนข่มขืนโชว์ซะขนาดนั้น เกิดผมขโมยข้อมูลลับของบริษัทท่านไปขาย มีหวังผมโดนแล่เนื้อ ควักอวัยะขายแล้วส่งซากไปค้ามนุษย์ที่ชายแดน


“คุณไม่ได้รับการอนุญาตให้ติดต่อกับท่านโดยตรง ยกเว้นมีกรณีฉุกเฉินเกิดขึ้น ถ้าคุณต้องการติดต่อท่านให้ติดต่อผ่านผมเท่านั้น”ผมพยักหน้าแล้วยื่นโทรศัพท์ให้คุณชัยเมมเบอร์โทรให้


“ข้อตกลงตอนนี้ก็มีเพียงเท่านี้ คุณมีคำถามหรือข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมรึเปล่า?”


“ผมสามารถเลือกเรียนในสิ่งที่ผมอยากเรียนได้ไหมครับ?”ผมเลือกถามในสิ่งที่ผมสงสัยและต้องการคำตอบมากที่สุด


การได้กลับไปเรียนในคณะที่ผมตั้งใจอ่านหนังสือจนสอบเข้ามหาลัยปิดของรัฐอันดับต้นๆของประเทศเป็นความภาคภูมิใจในชีวิตอย่างหนึ่งของผม
โชคดีเหลือเกินที่ผมทำเรื่องดรอปไว้ และเสียเงินคงสภาพนักศึกษาทุกเทอม


“ได้ครับ เฉพาะปริญญาตรีที่คุณยังมีสถานภาพนักศึกษากับมหาลัยเท่านั้น แต่การศึกษาในระดับสูงต่อจากนี้ ท่านจะเป็นคนพิจารณาให้คุณเอง”


“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้คุณชัย แค่ได้กลับมาเรียนผมก็ดีใจมากๆอยู่แล้ว


ท่านหายไป 1 เดือนก็จริง แต่เหมือนท่านไม่ได้ปล่อยเวลานั้นให้สูญไปอย่างเปล่าประโยชน์
จริงๆระหว่างรอ ท่านคงให้คนคอยตามสืบประวัติผม เฝ้าดูพฤติกรรมว่าผมเหมาะสมที่จะมาอยู่ตรงนี้หรือไม่
ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมเมื่อวานท่านถึงโกรธขนาดนั้น


เป็นผม…ผมก็โกรธ
เด็กคนหนึ่งที่เราต้องการมอบชีวิตใหม่ให้ วางแผนอนาคตทุกอย่างไว้ให้
กลับหักหลังเราอย่างเลือดเย็น


ผมกุมสร้อยคอล็อคเก็ตที่ด้านในเป็นภาพพ่อกับแม่อย่างดีใจ
ถึงท่านจะมีพฤติกรรมป่าเถื่อน โหดร้าย รุนแรง แต่ท่านก็มอบชีวิตใหม่ให้กับผม
ดึงผมออกมาจากงานกลางคืน งานที่ผมไม่ชอบทำ


ถึงผมจะไม่ได้มีอะไรกับลูกค้า แต่ผมก็ไม่ชอบเวลาที่ต้องคอยดูแล ปรนนิบัติใคร
ทุกๆคืนเจอลูกค้าหมุนเวียนเปลี่ยนเข้ามา ไม่ซ้ำหน้ากันสักคืน
ลูกค้าบางคนถือว่าตัวเองจ่ายเงินแล้ว เลยคิดว่าการลูบไล้ตามร่างกายโฮสต์เป็นเรื่องที่ทำได้
บางครั้งผมก็ถูกบังคับให้จูบเหมือนวัตถุทางเพศไม่มีราคา


ลูกค้าบางคนยอมจ่ายค่าห้อง VIP เพื่อให้ผมจูบเธอตลอดทั้งคืน
จูบแล้วก็เธอก็ช่วยตัวเองจนเสร็จครั้งแล้วครั้งเล่า
เรื่องแบบนั้นผมไม่อยากทำอีกแล้ว


ผมอยากมีชีวิตเป็นคนกลางวัน
ทำงาน 8 ชั่วโมงเหมือนคนทั่วไป
ได้นอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่ม
ไม่ต้องคอยพะว้าพะวงว่างานนี้เสร็จ ต้องไปทำงานนู้นต่อ


แค่นี้ก็พอแล้วจริงๆที่ผมต้องการ


ต่อให้ท่านร้ายยังไงกับผมในอนาคต
ทุกๆอย่างก็จะ ‘ไม่เป็นไร’
ท่านคือผู้ให้ชีวิตใหม่กับผม เป็นผู้มีพระคุณ
ผมจะ ‘อดทน’ และผ่านมันไปให้ได้


“ถ้าคุณทำความเข้าใจในข้อสัญญาทุกข้อแล้วก็เซ็นต์ด้วยครับ”ผมรับสัญญามาเปิดอ่านก่อนจะจรดปลายปากกาเซ็นต์ชื่อ


“ผมจะไปจัดการเรื่องเอกสารการเรียนให้ คุณจะออกไปกับผมเลยไหม จะได้ไปซื้อชุดนักศึกษาแล้วก็ไปจัดการเรื่องหอพักของคุณ”


“ไปด้วยกันเลยครับ”


คุณชัยขับรถพาผมมาที่มหาวิทยาลัย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนแจ้งว่า ผมไม่สามารถลงทะเบียนเรียนในเทอมนี้ได้แล้ว
เนื่องจากมาติดต่อขอลงทะเบียนล่าช้ากว่ากำหนดไปมาก


หลังจากรับทราบข้อมูล คุณชัยโทรศัพท์รายงานท่าน เพียงไม่นานเจ้าหน้าที่ทะเบียนก็ได้รับโทรศัพท์ให้จัดการกรณีของผมเป็นกรณีพิเศษ
ผมสามารถเริ่มมาเรียนได้เลยในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
มีเวลาเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้นที่ต้องตามงานและเรียนตามเพื่อนให้ทันเพราะใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว


เรื่องนี้สำเร็จไปด้วยดี ไม่รู้เพราะอำนาจเงินหรือบารมีของตระกูลท่านกันแน่


หลังจากจัดการเรื่องลงทะเบียนเรียบร้อย คุณชัยก็พาผมไปซื้อชุดนักศึกษา หนังสือเรียนที่จำเป็นและอุปกรณ์อื่นๆ


“ผมต้องจ่ายคืนท่านไหมครับ”ผมถามคุณชัยด้วยความสงสัย เงินที่จ่ายไปในวันนี้เป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว
ถ้าจะจ่ายคืนให้ครบ ผมคงต้องรับตุ๊กตาหมีมาเย็บหลายตัว


“ไม่ต้องครับ ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาทั้งหมดท่านจะเป็นคนรับผิดชอบให้ เพียงแต่ทุกครั้งที่คุณจ่ายไปต้องมีใบเสร็จรับเงินมาเบิกทุกครั้ง”


“ครับ”ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับวิธีการจัดการของท่าน
หรือผมควรใช้วิธีนี้กับน้องชายตัวเองบ้างนะ


หลังจากซื้อเสื้อนักศึกษาเสร็จ
คุณชัยก็พาผมไปที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย
คุณชัยเดินพุ่งตรงไปที่แบรนด์ดังซึ่งปกติมีแต่นักท่องเที่ยวจีนต่อแถวซื้อเหมือนแจกฟรี


“คุณชัยครับ แบรนด์นี้ผมจ่ายไม่ไหวหรอกครับ ไปซื้อที่ประตูน้ำดีไหมครับ เดินไปอีกหน่อย แต่ราคาน่ารักกว่ากันเยอะ”


“ไม่ได้ครับ ท่านสั่งมา”


“ผมช่วยท่านประหยัดเงิน ท่านไม่ว่าหรอกครับ”คุณชัยทำท่าคิดแล้วเหมือนจะคล้อยตามผม


“ไม่ได้หรอกครับ ถ้าใครรู้ว่าคุณเป็นเด็กเลี้ยงท่าน แล้วแต่งตัวเหมือนขอทานข้างถนนแบบที่คุณเคยแต่ง ท่านจะดูไม่ดี”


“ไม่มีใครรู้หรอกครับ ในสัญญาก็ระบุไว้ไม่ใช่เหรอครับว่าผมห้ามบอกใครเรื่องที่เป็นเด็กเลี้ยงของท่าน”


“คุณห้ามบอกแต่ใช่ว่าท่านจะบอกไม่ได้นี่ครับ”ผมอ้าปากหวอทันทีที่คุณชัยพูด จริงด้วยแหะ
แต่ถึงยังไงก็ยังมองไม่เห็นวันที่ท่านจะป่าวประกาศว่าผมเป็น ‘เด็กเลี้ยง’ อยู่ดี


“เข้าไปเลือกๆมาสัก 2-3 ตัวเถอะครับ คุณคงไม่อยากโดนท่านลงโทษที่ขัดคำสั่ง”หลังจากที่ได้ยินคำว่าลงโทษ ผมก็รีบเดินเร็วไปต่อแถวแต่คุณชัยดึงผมออกมาแล้วพาเข้าร้าน


ความ VIP ที่ผมเข้าไม่ถึงจริงๆ


ผมเดินไปเลือกเสื้อยืดกับเสื้อเชิ้ตมาอย่างละตัว สายตาเหลือบไปเห็นป้ายราคาแล้วก็ได้แต่สงสัยว่านี่ราคาหรือรหัสสินค้า นับจำนวนหลักตัวเลขไม่ถูกเลยทีเดียว


“แค่นี้?”


“ครับ”คุณชัยพยักหน้าแล้วเดินไป ‘กวาด’ ผมเน้นว่ากวาดเสื้อยืดและเสื้อเชิ้ตแบบที่คล้ายๆกับผมเลือกมาเพียงแต่คนละสีมาทั้งราว


“ผมว่ามันเยอะไปนะครับ ใช้เงินมากไปท่านจะโกรธได้”


“ใช้น้อยไปไม่ถูกใจก็ถูกโกรธได้เหมือนกันครับ คุณเชื่อผมเถอะ”ผมพยักหน้าอย่างปลงๆ


“เอากางเกงไปลองครับ”


“ครับ”


ผมเดินออกมาพร้อมกางเกงแสล็คทรงสวย เข้ารูปสีขาว คุณชัยพยักหน้าแล้วหันไปบอกพนักงาน “เอาแบบนี้อีก 5 ตัวคละสีมาเลยครับ”


หลังจากที่ซื้อเสื้อผ้าเหมือนจะไม่ได้ซื้ออีกแล้วทั้งชีวิต คุณชัยก็พาผมไปซื้อรองเท้า ชุดนอน กางเกงใน
ผมคิดไม่ทันเลยว่าวันนี้รูดบัตรท่านไปเท่าไหร่แล้ว


ขออย่างเดียวอย่าเรียกเก็บผมย้อนหลังเวลาบัตรเครดิตเรียกชำระหนี้แล้วกัน
เพราะถ้าเรียกเก็บทีหลัง ผมจะไม่ยอมตัดป้ายยี่ห้อออกเด็ดขาด ผมจะเอาของมาคืนแทน


หลังจากจัดการเก็บของทั้งหมดในรถ คุณชัยก็ขับรถพาผมมาที่หอพัก
คุณชัยดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าเสื้อ คลุมมือไว้แล้วกดลิฟท์
เว่อวังไปอีกกกกกกกกกกก!


ผมไขกุญแจห้องแล้วเปิดเข้าไป


“แค่กๆ”เสียงไอของผู้ลากมากดีดังอย่างต่อเนื่อง
ได้ยินแล้วรำคาญจนอยากจะไล่ลงไปด้านล่าง


“อันนั้นคุณเอาไปไม่ได้”คุณชัยรีบตะโกนออกมา เสียงดังทะลุ mask ที่พึ่งหยิบมาใส่หลังจากไอจนเจ็บคอ


“ทำไม”


“เมื่อเช้าท่านสั่งว่าห้ามเอาของเน่าๆเข้าคอนโด คุณก็ได้ยิน”


“ผมไม่เห็นว่าเสื้อนอนของผมมันจะเน่าตรงไหน มันก็แค่ยืดและย้วยกว่าปกติเท่านั้น”


“ยังไงก็ไม่ได้”ผมขี้เกียจจะเถียงด้วย สุดท้ายก็โยนเสื้อยืดลงถุงดำที่เตรียมจะทิ้ง


เลือกของในห้องไปมา สุดท้ายเหลือสิ่งที่เอาไปได้แค่เอกสารระบุตัวตนว่าเป็นพลเมืองไทยเท่านั้น


เสื้อผ้าของใช้ถูกคุณชัยสั่งให้ทิ้งลงถุงดำทั้งหมด
ผมเถียงหน้าดำหน้าแดงอยู่นาน ต่างคนต่างไม่ยอมกัน
จนสุดท้ายท่านโทรมาบอกว่าให้คุณชัยรีบกลับ ท่านต้องการให้คุณชัยขับรถไปงานเลี้ยงคืนนี้
เราเลยได้ข้อสรุปกันว่าต้องทิ้งของทั้งหมด


ผมสอดโน๊ตบอกลาและขอบคุณเจ๊ซอนย่าไว้ที่ช่องใต้ประตูห้อง
ถึงเจ๊ซอนย่าจะเป็นสาวประเภทสอง ชอบเอางานแปลกๆมาแนะนำให้ผมทำ ทั้งการเป็นโฮสต์ที่โรสคลับ และเป็นเด็กขายออนไลน์ แต่ผมก็ต้องขอบคุณเจ๊แกที่ทำให้ผมมีเงินใช้มาถึงทุกวันนี้


ถ้าไม่ได้เจ๊แกป่านนี้ผมโดนพวกหนี้นอกระบบคว้านท้องขายตับ ขายไต ควักแก้วตาออกไปขายนานแล้ว


ผมบอกลาที่อยู่ที่อยู่มาตลอด 2 ปีอย่างใจหาย
วันไหนที่ท่านไม่ต้องการผมแล้ว ผมอาจจะต้องกลับมาอยู่ที่นี่อีก


“เร็วๆสิคุณพริ้ม ถ้าช้าแล้วผมโดนท่านว่า ผมจะบอกให้ท่านลงโทษคุณ”


“คุณชัยครับ คุณเองก็อายุมากแล้วยังทำตัวเป็นตาแก่ขี้ฟ้องอีกเหรอ”คุณชัยอายุน้อยกว่าท่าน ดูหน้าตาน่าจะประมาณ 30 แต่ผมก็ล้อเขาไปอย่างนั้นแหละ


ถึงท่าทาง คำพูดจะดูร้ายกาจ
แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนใจดี ขี้เม้าท์
เม้าท์ให้ผมฟังเรื่องการทานอาหารของท่านตั้งหลายเรื่อง
ตลกดี


คนอะไรกินเฉาก๊วยไม่เป็น ตอนเด็กๆท่านเคยสำลักจนเฉาก๊วยออกมาทางจมูก


คอยดูนะ ถ้าวันไหนผมโกรธท่าน ผมจะซื้อเฉาก๊วยมาแช่ให้เต็มตู้เย็นเลย


ผมใช้เวลานานมากกว่าจะกลับถึงคอนโดท่าน
ตอนแรกผมกะจะขอคุณชัยไปลาพี่ส้มโอเจ้าของร้านกาแฟหลังจากไลน์ไปขอลาออก
แต่คิดอีกทีผมค่อยมาวันหลังเองดีกว่า
เกิดไปถึงคอนโดช้า ผมได้โดนลงโทษอีก

.
.
.

“ช้า”ท่านนั่งไขว่ห้างกดไอแพดอยู่บนโซฟา พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์


“รถติดครับ”คุณชัยรีบตอบท่าน


“นายไม่รู้จักนวัตกรรมที่เรียกว่ารถไฟฟ้ารึยังไง?”หลังจากท่านถามผมก็คิดตาม
จริงด้วย…ถ้ามารถไฟฟ้าคงถึงนานแล้ว
แต่เดี๋ยวนะ
ถ้าคุณชัยมารถไฟฟ้าแล้วใครจะขับรถละ


“ผมขับรถไม่เป็น”ผมแทบจะตบปากตัวเองเมื่อหลุดพูดออกไป ท่านตวัดสายตาคมกริบมองผม ลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้ามาหาผมช้าๆ ใจผมอยากจะเดินถอยหลังหนี แต่ขามันก้าวไม่ออก


“ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เซ็กส์ก็ห่วย ทักษะการเอาตัวรอดและใช้ชีวิตก็ไม่มี”ท่านเดินมาพูดกับผมด้วยสายตาดุ


“อบรมเด็กนี่ด้วยนะชัย”


ท่านพูดทิ้งท้ายไว้กับคุณชัยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป
คุณชัยหันหลังกลับมามองผม และพูดว่า ‘เกือบตาย’
อืม…เกือบตายจริงๆนั่นละ เกือบตายเพราะความปากเปราะของตัวเอง
ถ้าเมื่อกี้ทำตัวนิ่งๆแล้วเอ่ยคำขอโทษให้จบๆไป ก็คงไม่ถูกด่าให้เจ็บใจแบบนี้


ใจมันเจ็บแปล๊บๆแปลกๆ











น้องงงงงงงงงงงงงงง  :mew2:

ดราม่าเกินไปใจไม่ดี

ฝาก #พริ้มกับdaddy ด้วยค่ะ

อย่าพึ่งหนีน้องไปไหน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2018 20:22:16 โดย แม่พิเสือ »

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
สนุป เป็นคนยังไง ?

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
อ่านตอนล่าสุดละรู้สึกว่าชอบท่านขึ้นมานิดนึง   ท่านก็มีมุมน่ารักๆอยู่สินะ

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อร้ายยย(?) มาเร็วอีกแล้ว รักคนเขียนมากกว่าพริ้มกับท่านอีก  :-[ ท่านแอบน่ารักนะ แต่ปากไม่ค่อยดี ส่วนพริ้มก็สายงง น้องจะไปทางไหนต่อ ตั้งใจเรียน น่ารักๆนะพริ้ม เอาให้ท่านคลั่งตายไปเลย :hao7:  ว่าแต่.... ท่านชื่ออะไรอ่ะ เราอ่านข้ามหรือนักเขียนยังไม่บอก :m21: ไปหวีดในทวีตต่อออ

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
แต่งสนุกจังครับ
มาต่อบ่อยๆนะครับ

 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ แม่พิเสือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-2
อร้ายยย(?) มาเร็วอีกแล้ว รักคนเขียนมากกว่าพริ้มกับท่านอีก  :-[ ท่านแอบน่ารักนะ แต่ปากไม่ค่อยดี ส่วนพริ้มก็สายงง น้องจะไปทางไหนต่อ ตั้งใจเรียน น่ารักๆนะพริ้ม เอาให้ท่านคลั่งตายไปเลย :hao7:  ว่าแต่.... ท่านชื่ออะไรอ่ะ เราอ่านข้ามหรือนักเขียนยังไม่บอก :m21: ไปหวีดในทวีตต่อออ


คุณท่านชื่อคุณ รัตติกาลค่ะ

เจ๊จีน่าเคยกล่าวถึงไว้ในตอนที่ 3

ขอบคุณคนอ่านสำหรับคอมเม้นท์ในทุกๆตอนเหมือนกันนะคะ

เป็นกำลังใจทำให้อยากมาต่อทุกวันเลยค่ะ :)

 :mew3:  :mew2:  :mew6:

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ชอบอ่ะ คุณท่านโหดมาก คนที่สามจะโผล่มาไงเนี่ย แฝดคุณท่านงี้หรอ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โอ้วววว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รู้สึกดีมากกับตอนนี้

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ท่านดูเป็นคนดีขึ้นนิดนึง
บุคคลที่ 3 โผล่มายังน้า

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
โถ่วน้องพริ้ม ไปเป็นหนี้อะไรตั้งสิบล้าน ท่านติดใจอะไรน้องมิทราบคะ แต่คงเป็นความโชคดีผสมโชคร้าย รอลุ้นไปกะน้อง

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อร้ายยย(?) มาเร็วอีกแล้ว รักคนเขียนมากกว่าพริ้มกับท่านอีก  :-[ ท่านแอบน่ารักนะ แต่ปากไม่ค่อยดี ส่วนพริ้มก็สายงง น้องจะไปทางไหนต่อ ตั้งใจเรียน น่ารักๆนะพริ้ม เอาให้ท่านคลั่งตายไปเลย :hao7:  ว่าแต่.... ท่านชื่ออะไรอ่ะ เราอ่านข้ามหรือนักเขียนยังไม่บอก :m21: ไปหวีดในทวีตต่อออ


คุณท่านชื่อคุณ รัตติกาลค่ะ

เจ๊จีน่าเคยกล่าวถึงไว้ในตอนที่ 3

ขอบคุณคนอ่านสำหรับคอมเม้นท์ในทุกๆตอนเหมือนกันนะคะ

เป็นกำลังใจทำให้อยากมาต่อทุกวันเลยค่ะ :)

 :mew3:  :mew2:  :mew6:
สรุปคือเราลืมเอง5555 แอบแวบกลับไปอ่านมา จริงด้วยลืมไปเลย  อ่านแต่ท่านจนลืมชื่อ :m20: นักเขียนเขียนได้สนุกมากค่ะ สื่ออารมณ์ดีมาก  :katai2-1: เราจะติดตามผลงานนน  :mew1: :กอด1:

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ตามค่ะ

ท่านโหดนะ คนที่3จะเข้ามาได้ คงต้องระดับเทพแล้วล่ะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เป็นเด็กท่านต้อง  perfect

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
นอกจากคุณท่านแล้วจะมีใครมาเป็น3Pของน้องอีกอ่ะ
หวังว่าคุณท่านจะสืบเรื่องน้องชายของน้องพริ้มมาด้วยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อันนี้นี่คุณท่านใจดีสุด ๆ แล้วใช่ปะ มีใจดีกว่านี่ไหม  :a6:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เสี่ยกำลังตบหัวแล้วลูบหลัง  :ling1:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ขอสมัครเป็นแฟนคลับคุณชัยค่ะ ตอนเถียงๆกับพริ้มกับตอนไปซื้อเสื้อผ้ารู้สึกว่าคุณชัยน่ารักจังเลย ฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ แม่พิเสือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-2
ตอนที่ 8


หลังจากท่านกับคุณชัยออกไปแล้ว
พี่แม่บ้านก็เดินเข้ามาทักทายผม


“สวัสดีค่ะคุณพริ้ม พี่ชื่อมะลินะคะ เป็นแม่บ้านดูแลที่นี่”พี่มะลิสวมชุดแม่บ้านเสื้อสีฟ้ากับกางเกงขายาวสีดำ ท่าทางทะมัดทะแมง พี่มะลิเป็นคนผิวค่อนข้างเข้ม แต่มีรอยยิ้มกว้างที่มองแล้วดูสดใส


“สวัสดีครับ ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณหรอกครับ”ผมรีบยกมือไหว้ตอบพี่มะลิ


“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเป็นคนของคุณท่าน ยังไงพี่ก็ต้องให้เกียรติ”อีตัวแบบผมยังมีเกียรติเหลือพอให้คนอื่นมาให้เกียรติอีกเหรอ


“ตามใจพี่มะลิเลยครับ”


“ก่อนอื่นพี่มะลิจะพาคุณพริ้มเดินดูห้องก่อนนะคะ แล้วเราค่อยมาคุยเรื่องงานที่คุณท่านจะให้คุณพริ้มทำแทนพี่นะคะ”


“ครับ”ผมเดินตามหลังพี่มะลิ สายตาก็สำรวจคอนโดของท่านไปด้วย


ห้องของท่านกินอาณาบริเวณกว้างทั้งชั้น ภายในห้องตกแต่งแบบสมัยใหม่ เน้นโทนสีขาวและดำ


“ห้องนี้คือห้องของคุณท่านนะคะ”พี่มะลิเปิดประตูห้องนอนที่อยู่ติดกับระเบียงด้านนอกให้ผมดู
ห้องนอนของท่านภายในตกแต่งด้วยสีดำสนิททั้งห้อง


มืดมัว ใจดำ อำมหิตเหมือนคนอยู่นั่นแหละ...


“ห้องของคุณท่านจะมีห้องน้ำเชื่อมกับห้องของคุณพริ้มนะคะ”พี่มะลิพาผมเดินทะลุห้องน้ำออกไปอีกห้องหนึ่งที่ตกแต่งแตกต่างจากห้องอื่นๆ


ห้องนี้เป็นห้องที่ผมนอนเมื่อคืน ภายในห้องตกแต่งด้วยสีฟ้าทั้งหมด รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ด้วย


“ห้องนี้ดูต่างจากห้องอื่นจังเลยครับ”ผมถามพี่มะลิด้วยความสงสัย
คนแบบคนท่านไม่น่าจะชอบสีฟ้าพาสเทลแบบนี้


“ห้องนี้เคยเป็นห้องของคุณฟ้าครามค่ะ ตอนคุณเขาย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ เธอเจอห้องสีดำแล้วเธอบอกว่ามันดูมืดมัวน่ากลัวเกินไปค่ะ คุณท่านเลยยอมตกแต่งห้องใหม่ตามใจเธอ”พี่มะลิพูดถึงคุณฟ้าครามด้วยดวงตาเป็นประกาย


“ตอนนี้คุณฟ้าไปเรียนต่อที่อเมริกา อีกไม่นานก็น่าจะกลับมาแล้วค่ะ คุณพริ้มน่าจะได้เจอ”พี่มะลิยังคงเล่าถึงคุณฟ้าต่อไปด้วยน้ำเสียงที่คิดถึงคะนึงหา


“คุณฟ้าครามคือผู้ชายในรูปนี้เหรอครับ”ผมเดินไปหยิบกรอบรูปที่ด้านในบรรจุภาพถ่ายเด็กผู้ชายผิวขาวหน้าตาดี ดวงตากลมมน ขนตายาวสวยเรียงเป็นแพ มองครั้งแรกก็รู้สึกว่าสวย เป็นเด็กผู้ชายที่ดูหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก น่าเอ็นดู


“ใช่ค่ะ”พี่มะลิยิ้มกว้างตอบผม


“น่ารักจังเลยครับ น้องชายคุณท่านของพี่มะลิเหรอครับ”


“ไม่ใช่ค่ะ คุณฟ้าเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทคุณพ่อของคุณท่านค่ะ”ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะวางกรอบรูปไว้ที่เดิม


คนในรูปน่าจะมีความสำคัญกับท่านมากกว่านั้น…
ไม่อย่างนั้นคงไม่มีสิทธิครอบครองพื้นที่ส่วนตัวที่ท่านหวงแหนสุดชีวิต...


“ไปค่ะคุณพริ้ม ไปดูห้องอื่นกัน”พี่มะลิพาผมเดินไปดูห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องทานข้าว ห้องทำงานของคุณท่านและสุดท้ายคือห้องดนตรีสีขาว


ผมเดินเข้าไปลูบแกรนด์เปียโนสีขาวหลังใหญ่ที่ตั้งตรงกลางห้อง
ผ้าม่านสีขาวใสปลิวไสวตามแรงลม
ดอกมะลิที่ลอยอยู่ในอ่างแก้วใบใหญ่ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั้งห้อง


“คุณท่านน่าจะชอบเล่นเปียโนมากเลยนะครับ”ผมถามพลางกดคีย์บอร์ดเปียโนเล่น ส่งเสียงดัง ‘ติ๊งๆ’
ถ้าไม่ชอบเล่นดนตรี คงไม่มีแกรนด์เปียโนหลังใหญ่ขนาดนี้


“ไม่ค่ะ...ไม่ชอบเลย แต่คุณฟ้าเธอชอบ คุณท่านเลยซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบอายุ 18 ปี”ผมพยักหน้ารับแล้วรีบปล่อยมือออกจากเปียโนหลังงามตรงหน้า


ของสำคัญ…ที่มอบให้คนสำคัญไม่ควรมีรอยสัมผัสจากคน ‘ไม่มีค่า ไม่มีราคา’ แบบผม


ตั้งแต่เดินสำรวจคอนโดท่านมา ผมได้ยินชื่อคุณฟ้าจากพี่มะลิไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง
เป็นคนที่มีความทรงจำฝังอยู่ทั่วทุกมุม
คุณฟ้าคงเป็นคน ‘สำคัญ’ สำหรับท่านและคนในครอบครัวนี้ไม่น้อย


พี่มะลิเปิดประตูที่เชื่อมห้องดนตรีกับระเบียงด้านนอกออก
เมื่อเดินออกไปจะพบห้องออกกำลังกายอยู่ด้านซ้าย
ส่วนด้านขวาเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่กินความยาวเกือบทั้งชั้น
ผมมองสระว่ายน้ำที่ส่องประกายรับกับแสงสุดท้ายของวันอย่างกลัวๆ ผนังด้านหนึ่งของสระมีเพียงกระจกใสกั้นไว้เท่านั้น ถ้าดำลึงลงไปใต้น้ำคงเห็นวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครได้ไกลสุดลูกหูลูกตา


“คุณท่านของพี่มะลิน่าจะชอบว่ายน้ำน่าดูเลยนะครับ ทำสระใหญ่ขนาดนี้”


“คุณท่านไม่ชอบหรอกค่ะ คุณท่านสร้างให้คุณฟ้า ตอนคุณฟ้าเรียนปริญญาตรี เธอเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของมหาลัย ต้องอยู่ซ้อมดึกๆดื่นๆบ่อยๆ คุณท่านเลยสั่งรื้อสวนออกแล้วสร้างเป็นสระว่ายน้ำแทน”


ในคอนโดของท่านมีสิ่งที่ท่านไม่ชอบมากมาย
แต่มันกลับถูกรังสรรค์ไว้อย่างดีเพื่อคน ‘สำคัญ’ ของท่านล้วนๆ


ผมชักจะอยากเจอคุณฟ้าแล้วสิ
คนๆนั้นจะเป็นคนแบบไหน มีนิสัยใจคอยังไง
ทำไมท่านถึงยอมก้าวข้ามสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบและยอมตามใจได้ขนาดนี้


“รื้อสวนเลยเหรอครับ”


“ใช่ค่ะ เมื่อก่อนตรงนี้เป็นสวน ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ร่มรื่นมากเลยค่ะ แต่ตอนสร้างสระว่ายน้ำต้องรื้อออกไปเกือบทั้งหมด ตอนนี้เหลือแค่เรือนกระจกหลังเล็กๆเองค่ะ”


“พี่มะลิพาไปผมไปดูได้ไหมครับ”


“ได้สิคะ”ผมเดินตามหลังพี่มะลิไปอย่างระวัง พยายามเว้นระยะห่างจากสระว่ายน้ำเยอะๆ
ใจผมไม่อยากจะเดินผ่านตรงนี้ด้วยซ้ำ เพราะผมว่ายน้ำไม่เป็น
เกิดพลาดท่าตกน้ำตกท่าไป…ใครจะช่วย


ตอนเด็กๆผมเคยจมน้ำ หลังจากนั้นมาผมกลายเป็นเด็กฝังใจและกลัวน้ำ
ถ้าอยู่ในระดับน้ำตื้นๆแค่เข่ายังไม่เป็นไร แต่ถ้าระดับน้ำสูงขึ้นมาจนถึงอกเมื่อไหร่ ผมจะรู้สึกทรมานเหมือนคนหายใจไม่ออกทันที


“นี่ค่ะเรือนกระจก”ผมเดินตามพี่มะลิเข้าไปในเรือนกระจกที่ทำจากไม้สีขาว หลังคาด้านบนเป็นกระจกใส ภายในปลูกไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด


“สวยจังเลยครับ”ผมมองดอกไม้ที่ผลิดอกรอบๆอย่างหลงใหล
กลิ่นหอมของดอกไม้ที่อบอวลในเรือนกระจกทำให้ผมรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย


“มีสวยกว่านี้อีกค่ะ”พี่มะลิพาผมเดินต่อเข้าไปด้านในสุดของเรือนกระจก
มีโซฟาตัวยาววางอยู่เคียงข้างต้นตะบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์
ผมเคยรู้มาว่าต้นตะบองเพชรเลี้ยงให้ออกดอกยากมาก แต่ของท่านออกดอกสีสวยแทบทุกต้น


“ต้นตะบองเพชรพวกนี้คุณท่านรักมากนะคะ ต้นไม้อื่น ท่านยอมให้พี่ดูแลรดน้ำต้นไม้ให้ แต่เจ้าเด็กๆพวกนี้ ท่านดูแลเองทุกต้นเลยค่ะ”ผมพยักหน้ารับก่อนจะยื่นมือออกไป หวังใจจะลูบเจ้าดอกสีสวยเบาๆ


“โอ๊ะ!”ผมรีบชักมือกลับด้วยความรวดเร็วเมื่อนิ้วมือผมไปโดนหนามตะบองเพชรแทนดอกสีสวย


“ตายแล้วคุณพริ้ม เจ็บไหมคะ”พี่มะลิถามอย่างร้อนรน ดึงนิ้วผมไปดู


“ไม่เป็นไรครับ”ผมพยายามบีบหนามที่ฝังอยู่ในนิ้วแต่มันไม่ออก มีแต่เลือดสีแดงสดเท่านั้นที่ออกมา


“นั่งรอพี่แปปนึงนะคะ พี่จะเอาไปเข็มมาเขี่ยให้”พี่มะลิพูดจบแล้วรีบวิ่งออกไป


ผมพันไปมองเจ้าตะบองเพชรแล้วอดคิดถึงเจ้าของมันไม่ได้
มันเหมือนกับเจ้าของมันเหลือเกิน...งดงาม มีเสน่ห์ น่าหลงใหล เชิญชวนให้สัมผัส แต่ก็มีหนามแหลมคมพร้อมทิ่มแทงคนอื่นให้เจ็บปวด


“พี่มะลิมาแล้วค่ะ ส่งนิ้วมาให้พี่มะลิดูสิคะ”พี่มะลิวางกล่องปฐมพยาบาลลง หยอบเอาแอลกอฮอล์เทราดลงบนปลายนิ้ว


“…”ผมกัดฟันแน่นด้วยความแสบ


“ทนหน่อยนะคะคุณพริ้ม”พี่มะลิใช้ปลายเข็มสะกิดหนังที่อยู่รอบๆออกก่อนจะเขี่ยหนามออกมา หลังจากเขี่ยหนามออกแล้วก็ทายา ปิดปลาสเตอร์ให้ผม


“วันหลังห้ามซนนะคะรู้ไหม”พี่มะลิดุผมเบาๆหลังทำแผลเสร็จ


“ครับ”ผมรับคำ รู้สึกตัวเองเหมือนเด็กเล็กๆที่ทำผิดแล้วโดนดุ


เมื่อกี้โชคดีแค่ไหนแล้วที่ผมโดนหนามทิ่มก่อน
เกิดผมสัมผัสเจ้าดอกตะบองเพชรไปจริงๆแล้วมันเสียหาย
มีหวังผมจะพาพี่มะลิซวย โดนท่านลงโทษไปด้วย


“อันนี้คือบัวหิมะนะคะ คุณพริ้มเอาไว้ทาแผลที่หลังนะคะ จะได้ไม่เป็นแผลเป็น”พี่มะลิหยิบบัวหิมะกระปุกใหญ่วางบนฝ่ามือผม ผมเปิดกระปุกออกด้านในเป็นครีมสีขาวๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ


“ส่วนถุงนี้เป็นยาที่คุณหมอฝากไว้ให้ มียาลดไข้ ยาแก้อักเสบแล้วก็ยาอะไรอีกก็ไม่รู้ พี่มะลิไม่แน่ใจ ขอโทษนะคะที่ลืมเอาให้คุณพริ้มเมื่อเช้า”


“คุณหมอฝากไว้ให้เหรอครับ”ผมรับถุงยาจากพี่มะลิอย่างแปลกใจ
ผมยังไม่ได้ไปโรงพยาบาล แล้วจะมียาจากคุณหมอได้ยังไง


“ใช่ค่ะ เมื่อคืนตอนตีสามคุณพริ้มไข้ขึ้นสูงมาก คุณท่านเลยโทรตามคุณหมอมาฉีดยาแล้วก็ให้น้ำเกลือค่ะ ท่านอยู่เช็ดตัวคุณทั้งคืนจนไข้ลดเลยนะคะ”


“เหรอครับ?”ผมรับคำอย่างไม่อยากจะเชื่อ คนใจร้ายอย่างเขาเนี่ยนะที่จะดูแลผมทั้งคืน
ความเป็นไปได้นี่ 0.0000000000…..01 % เลย


“ช่วงอาทิตย์นี้พี่จะเข้ามาทุกวันนะคะ มาช่วยสอนคุณเรื่องงานบ้าน เรื่องอาหารแล้วก็ช่วยคุณพริ้มดูแลบ้านก่อน ถ้าคุณมีข้อสงสัยหรือว่าอยากรู้อะไรถามพี่ได้เลยนะคะ”


“พี่มะลิไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอครับ”


“ไม่ค่ะ พี่พักที่บ้านใหญ่ แต่จะเข้ามาทำความสะอาด ทำอาหารให้คุณท่านแล้วก็กลับค่ะ”


“บ้านใหญ่เหรอครับ?”


“บ้านคุณพ่อคุณแม่ของคุณท่านนะค่ะ อยู่ชานเมืองออกไปหน่อย ท่านทั้งสองชอบอากาศบริสุทธิ์ที่นั่น”


“เรื่องงาน…ผมต้องทำอะไรบ้างครับ?”


“ตอนเช้าคุณท่านจะตื่นประมาณตีห้าครึ่งเพื่อออกกำลังกาย คุณพริ้มมีหน้าที่ตั้งโต๊ะอาหารเช้าให้ทันก่อนเจ็ดโมง สิ่งที่คุณพริ้มต้องเตรียมให้คุณท่านทุกเช้าคือกาแฟดำ ไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาลนะคะ ส่วนอาหารท่านทานอะไรก็ได้ค่ะ”


“ท่านทานได้ทุกอย่างใช่ไหมครับ ไม่มีอาหารที่แพ้?”


“ไม่มีค่ะ ส่วนมื้อเย็น คุณพริ้มก็หุงข้าวกล้องกับทำกับข้าว 2-3 อย่าง งานบ้านประจำวันที่ต้องทำ คือ ดูดฝุ่น ถูพื้น รดน้ำต้นไม้”


พี่มะลิอธิบายเรื่องในคอนโดเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยแล้วขอตัวกลับไป
หลังจากพี่มะลิกลับไป ผมก็เดินเข้าห้อง จัดการเก็บข้าวของที่ซื้อมาวันนี้ใส่ตู้ให้เป็นระเบียบ
เสื้อผ้าที่ซื้อใหม่ก็เอาไปซักที่ห้องซักล้าง ตากไว้ริมระเบียง


ผมต้มมาม่าง่ายๆเป็นอาหารเย็น กินเสร็จแล้วก็มานั่งดูทีวีรอคุณท่าน
นาฬิกาบอกเวลา 4 ทุ่มแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าคุณท่านจะกลับมา
สุดท้ายผมผลอยหลับไปบนโซฟาด้วยความอ่อนเพลีย

.
.
.

“เด็กขี้เซา”ผมขมวดคิ้ว ขยี้ตา พยายามเงี่ยหูฟังเสียงคุณท่านพูดอะไรสักอย่างแว่วๆข้างหู
ดวงตาของผมยังไม่ทันลืมสนิทดี รู้ตัวอีกที…ร่างทั้งร่างของผมก็ลอยออกจากอ้อมอกคุณท่านลงไปในสระว่ายน้ำ


ตูมมมมม!
เสียงน้ำแตกกระเซ็นเพราะวัตถุมวลมากตกกระทบผิวน้ำ


ผมตะเกียกตะกายไขว่คว้าหาอากาศ สะบัดมือไปมา พยายามดันตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ


“ชะ…ช่วยด้วย”ผมพยายามตีน้ำ เพื่อดันตัวเองขึ้นเหนือผิวน้ำ แต่ก็ไม่รอด ผมค่อยๆจมดิ่งลงไปใต้น้ำอย่างช้าๆ


“แฮ่กๆ”ผมสูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอด ทันทีที่คุณท่านลากคอเสื้อ ดึงผมขึ้นมาจากก้นสระ


“ยืนสิวะ!”ท่านลูบเส้นผมที่เปียกน้ำปรกหน้าปรกตาตัวเองออก พร้อมๆกับด่าผมอย่างอารมณ์เสีย


“แค่กๆ”ผมไอค่อกแค่กอย่างแสบคอจากการสำลักน้ำ


“ถึงจะว่ายน้ำไม่เป็น แต่ถ้านายไม่โง่ นายก็แค่ยืนขึ้น นายไม่มีวันจมน้ำในสระที่ลึกแค่เมตรห้าสิบ เข้าใจไหม?!”


“ผมขอโทษ”คำนี้เหมือนคำพูดติดปากผมไปแล้ว
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าเรื่องนั้นผมจะเป็นคนผิดหรือไม่ ผมก็ต้องขอโทษไว้ก่อน
เผื่อว่าคำขอโทษจะช่วยลดอารมณ์โกรธของท่านได้บ้าง


“อยู่ใกล้นายนี่ชั้นเหมือนอยู่ใกล้ระเบิดเวลา หาเรื่องเดือดร้อนได้ทุกวี่ทุกวัน”ผมก้มหน้าเอาคางชิดอก อยากจะเถียงออกไปใจจะขาด แต่ต้องเถียงในใจ


คนผิดวันนี้ก็คือคุณท่านนั่นแหละ
ถ้าไม่พิเรนทร์ปลุกผมด้วยการโยนลงสระว่ายน้ำ…ผมจะจมน้ำไหม???


“ปล่อย ชั้นจะขึ้น”คุณท่านหันมาดุผมเสียงเขียวที่ผมดึงชายเสื้อไม่ให้ท่านเดินขึ้นจากสระ


“ผมไปด้วย”


“ไม่”


“คุณท่าน…”ผมร้องเรียกคุณท่านที่ปัดมือผมทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้วเดินขึ้นจากสระ


ท่านทิ้งให้ผมยืนขาสั่นอยู่กลางสระว่ายน้ำ มองไปทางขวาก็เจอกระจกที่มองลงไปเห็นวิวทั่วกรุงเทพจากตึกสูง 20 กว่าชั้น มองไปทางซ้ายก็ไกลเหลือเกินกว่าจะเดินถึงขอบสระ
ถ้าผมเดินแล้วลื่นคงได้จมน้ำตายอยู่ตรงนี้


“จะยืนเป็นผีพรายเฝ้าสระน้ำชั้นอีกนานไหม”คุณท่านกลับออกมาจากห้องนอนด้วยด้วยชุดคลุมสีขาว ฝ่ามือหนากำลังใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเช็ดผมอยู่


“ผมไปไม่ได้ ผมกลัว…อึก ผม…”ผมตอบคุณท่านไปเสียงสั่น ความรู้สึกหายใจไม่ออกกำลังโจมตี
สำหรับคนอื่น ความลึกของน้ำแค่นี้อาจจะไม่ส่งผลอะไร
แต่กับผมที่มีความหลังฝังใจมาก่อน มันไม่ง่ายเลย


“ถ้ากลัวก็ยืนอยู่ตรงนั้นไปทั้งวันนั่นแหละ อย่าหวังว่าชั้นจะช่วย”


ผมยืนขาแข็ง จิกเท้าลงกับพื้นสระว่ายน้ำอยู่นานจนคุณท่านอาบน้ำเสร็จแล้วมานั่งจิบกาแฟดำอยู่ริมสระ


“คุณท่าน…”ผมร้องเรียกคุณท่านอีกครั้งเผื่อท่านจะเมตตา


คุณท่านเหลือบตาขึ้นมองผมจากหน้าจอโทรศัพท์ แล้วทำเพียงแค่โยนโฟมอันเล็กมาให้เท่านั้น


ผมค่อยๆก้าวขาช้าๆไปหาโฟมที่คุณท่านโยนลงมาให้
แต่ด้วยความสั่นกลัวของตัวเองทำให้ผมลื่นลงไปใต้น้ำ ผมสำลักน้ำจนแทบหายใจไม่ออก
สองมือตะเกียกตะกายเหมือนลูกหมาตกน้ำ จนสุดท้ายคำพูดของคุณท่านก็ดังขึ้นมาในหัวว่าให้ผม ‘ยืน’


ผมดันตัวเองขึ้นจากก้นสระขึ้นมาด้านบน
พยายามยืนทรงตัวนิ่งอยู่กับที่ สูดอากาศเข้าปอด
ผมไอแค่กๆหน้าดำหน้าแดง จากการสำลักน้ำ


“เดินมาหาชั้น”คุณท่านเดินมานั่งหย่อนขาอยู่ริมสระแล้วสั่งผม


“ครับ”ผมปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความแสบคอ แสบจมูกแล้วเดินไปหาคุณท่าน


“เกาะขอบสระไว้แล้วลงไปหายใจใต้น้ำให้ครบ 1 นาที”ท่านสั่งทันทีที่ผมเกาะขอบสระได้
ผมเงยหน้ามองท่านงงๆ จะสั่งให้ผมทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?


“ผมทำไม่ได้”อย่าว่าแต่ 1 นาทีเลย 10 วิยังยากสำหรับคนที่กลัวน้ำแบบผม


“สำหรับชั้น ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”ทันทีที่ท่านพูดจบ ท่านก็กดหัวผมลงไปในน้ำ ผมหายใจใต้น้ำไม่เป็น ทำให้น้ำไหลเข้าจมูกจนแสบไปหมด ผมสะบัดมือคุณท่านออกแล้วรีบขึ้นมาหายใจเหนือน้ำ


“แค่กๆ”ผมหันไปมองคุณท่านด้วยสายตาที่พร่าเบลอ การหายใจไม่ออกเพราะถูกกดให้จมน้ำมันไม่ใช่เรื่องตลก จะฆ่าจะแกงกันทุกลมหายใจเลยรึไง? นี่มันเด็กเลี้ยงแบบไหนกัน?


“เฮ้อออออ มานี่”ท่านลากผมไปยืนที่หว่างขา ใช้เข่าสองข้างหนีบหัวไหล่ผมไว้


“สิ่งที่ชั้นกำลังจะให้นายฝึกคือการหายใจใต้น้ำ นายต้องหายใจเข้าให้เต็มปอดแล้วกลั้นหายใจไว้ ค่อยๆหย่อนตัวลงไปใต้น้ำแล้วปล่อยลมหายใจออกมาทีละนิด หมดลมหายใจเมื่อไหร่ก็ขึ้นมา”ผมรู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองคงมองคุณท่านตาคว่ำ คนอะไร…สอนดีๆก็สอนได้ ทำไมต้องจับกดน้ำด้วย


โป๊ก!


“โอ๊ย”ผมกุมหน้าผากตัวเองที่โดนคุณท่านดีด


“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาค้อนผู้ใหญ่”ผมหลับตาทำหูทวนลมไม่อยากจะสนใจฟัง หายใจเข้าปอดให้เต็มที่แล้วทรุดตัวลงนั่งยองๆใต้น้ำ ลงไปยังไม่ทันถึง 5 วินาทีผมก็พุ่งตัวขึ้นจากน้ำ


“อดทนหน่อยสิ”


“…”ผมไม่ตอบอะไร แค่ดึงมือท่านมากุมให้อุ่นใจ ท่านคงไม่ใจไม้ไส้ระกำปล่อยให้ผมจมน้ำตายต่อหน้าต่อตา
ผมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วลองพยายามดูอีกรอบ


“15 วิ ลองอีกที”


“30 วิ ดีขึ้น เอาใหม่”


“1 นาที เก่งมากเด็กดี”ฝ่ามือของคุณท่านลูบหัวผมเบาๆ
ผมยิ้มกว้างรับสัมผัสท่าน จริงๆแล้วผมก็เป็นแค่เด็กน้อยคนนึงที่ดีใจเวลามีคนชม


“ทำให้ได้ 5 นาทีแล้วชั้นจะให้พอ”


ผมดำผุดดำว่ายอยู่หลายรอบจนหายใจใต้น้ำได้ครบ 5 นาทีตามที่ท่านตั้งไว้


“ดีมาก เด็กดี ต่อไปเกาะขอบสระไว้ ใช้ขาตีน้ำยกตัวลอยขึ้น”ผมเดินไปเกาะขอบสระ ตั้งใจตีน้ำตามที่ท่านสอนไม่นานก็สามารถลอยตัวขึ้นมาได้


“ลอยตัวได้แล้วทีนี้ก็เกาะโฟมแล้วใช้ขาตีน้ำเหมือนเมื่อกี้”


“ผมไม่กล้า”


“ชั้นสั่ง”คำสั่งของคุณท่านเหมือนประกาสิทธิ์ที่ผมต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้


ผมรับแผ่นโฟมมาเกาะไว้ พยายามตีขาเพื่อลอยตัวขึ้น
ผมลองพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าจน 15 นาทีผ่านไปก็ยังทำไม่ได้
เวลาที่จะยกเท้าขึ้นมาตีความรู้สึกมันเหมือนจะจมลงไป ทำให้ผมเหยียดขาลงเพื่อยืนแทน


“กล้าๆหน่อยพริ้ม ชั้นไม่ได้มีเวลาทั้งวันมานั่งสอนเธอว่ายน้ำหรอกนะ ชั้นให้เวลาเธออีก 30 นาที ถ้ายังว่ายไม่ได้ ชั้นจะลงโทษเธอ นาทีละครั้ง”ภาพที่ท่านใช้แส้ฟาดผมเมื่อคืนก่อนยังสะท้อนชัดอยู่ในใจ


ถึงผมจะกลัวจมน้ำมากแค่ไหน แต่ความหวาดกลัวที่จะเจ็บปวดแบบคืนนั้นมันมีมากกว่า
ผมลองพยายามตีขาอีกครั้ง ถึงจะรู้สึกเหมือนกำลังจะจมก็ไม่ปล่อยขาลงพื้น พยายามตีน้ำดันตัวลอยขึ้น
สุดท้ายไม่กี่นาทีก็ทำได้


“ลอยตัวได้แล้วทีนี้ก็ปล่อยโฟมออก ใช้แขนสองข้างว่ายน้ำ”


“ท่านครับ...”


“ชั้นจะเข้าไปชงกาแฟ หวังว่ากลับมาเธอจะว่ายน้ำได้แล้ว ถ้าไม่ได้ โดนดีแน่”ผมพยายามลอยตัวเหนือน้ำ ดำผุดดำว่าย อยู่หลายครั้งจนครั้งสุดท้ายหางตาผมเหลือบไปเห็นคุณท่านกำลังเดินมา ไม่รู้ผมไปเอาทักษะว่ายน้ำมาจากไหน อยู่ดีๆก็ว่ายได้


“ว่ายได้แล้วนี่”


“ผมขึ้นได้แล้วใช่ไหมครับ”


“ว่ายไปกลับให้ครบ 5 รอบก่อน ถ้าชั้นเห็นว่าเธอทำได้จริงๆ ชั้นจะให้ขึ้น”


ผมว่ายไปเกาะที่ขอบสระก่อนจะเริ่มว่ายไปอีกฝั่ง รอบแรกๆมีจมบ้าง แต่รอบหลังๆดีขึ้น นอกจากจะไม่จมแล้วยังว่ายเร็วขึ้น


หลังจากว่ายครบ 5 รอบคุณท่านก็ไม่อยู่แล้ว
มีเพียงพี่มะลิที่ยืนถือเสื้อคลุมรออยู่


“คุณพริ้มเก่งมากเลยค่ะ ท่านสอนแปปเดียวก็ว่ายน้ำได้แล้ว”
สอนแบบฮาร์ดคอขนาดนี้ ถ้าผมว่ายไม่ได้คงแปลก


“ท่านอาจจะดุไปบ้าง สอนแบบโหดไปหน่อย แต่เชื่อพี่มะลิเถอะค่ะว่าท่านหวังดีกับคุณจริงๆ”


“ครับ”ผมรับคำพี่มะลิถอดเสื้อที่เปียกออกแล้วรับชุดคลุมมาใส่


ผมอยากจะเชื่อในคำพูดที่พี่มะลิพูด
แต่มันยากที่จะเชื่อเหลือเกิน
ถ้าเขาหวังดีกับผมจริงๆ เขาคงไม่สนใจแค่สิ่งที่เขาต้องการคือ ฝึกหมาให้ว่ายน้ำเป็น
แต่เขาควรจะคิดถึงแผลที่หลังและในทางช่องทางรักของผมที่ไม่ควรโดนน้ำ


“ทายาด้วยนะคะคุณพริ้ม”พี่มะลิแตะเบาๆบนแผลที่หลังที่ตอนนี้คงเปื่อยพอสมควร เนื่องจากผมแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน รวมๆน่าจะเกือบ 3 ชั่วโมงได้

.
.
.

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมย้ายตัวเองออกมานั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
เปิดทีวีเลื่อนช่องหารายการดูไปเรื่อยๆ


“ฮัดชิ่ว”ผมจามออกมาเสียงดัง


“ดื่มนมอุ่นๆก่อนค่ะ”


“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรับนมอุ่นๆมาดื่ม


“คุณพริ้มไม่ต้องไหว้พี่มะลิหรอกนะคะ”ผมพยักหน้ารับคำอย่างเหนื่อยอ่อน
ตอนนี้ไม่เหลือแรงจะเถียงกับใครแล้ว
ผมล้มตัวลงนอนบนโซฟา หลับตาลงเพื่อพัก

.
.
.

“คุณท่านคะ คุณพริ้มเธอไข้ขึ้นสูงมากเลยค่ะ”มะลิรีบรายงานคุณท่านทันทีที่กลับมา


“ฝากมะลิเอากับข้าวไปตั้งโต๊ะด้วยนะ”รัตติกาลส่งถุงกับข้าวที่ไปซื้อมาให้แม่บ้าน ก่อนจะสาวเท้าเร็วๆไปดูพริ้มที่นอนหลับอยู่ที่โซฟา


ฝ่ามือหนาทาบลงบนหน้าผากของคนป่วย สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างน่าตกใจ


“พริ้มตื่นมาทานข้าวทานยาก่อน”รัตติกาลเขย่าตัวพริ้มเพื่อปลุก


“ผมปวดหัว”พริ้มตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง


รัตติกาลปัดผมที่ปรกหน้าปรกตาพริ้มออก ทำให้เห็นว่าสีผิวบนใบหน้าของคนป่วยซีดลงผิดปกติ
ฝ่ามือหนารีบดึงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงมาโทรออกหาหมอประจำตระกูล


“คุณอาครับ รบกวนช่วยเข้ามาดูคนป่วยให้ผมอีกครั้งได้ไหมครับ ตอนนี้ไข้ขึ้นสูงมาก ผมกลัวว่าจะช็อค”


หลังจากรัตติกาลโทรไปไม่นาน คุณหมอก็เข้ามาดูอาการ จัดการฉีดยาลดไข้ ให้น้ำเกลือผสมวิตามินเพื่อบำรุงร่างกาย


“ดูแลเขาดีๆหน่อยสิกาล ปล่อยให้ไข้ขึ้นสูงบ่อยๆไม่ดีหรอกนะ”หลังจากส่งคุณอาหมอกลับ รัตติกาลอุ้มพริ้มขึ้นมาอยู่ในอ้อมอกแล้วให้มะลิช่วยลากสายน้ำเกลือเข้าไปในห้อง


ฝ่ามือหนารับผ้าเช็ดตัวชุบน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้พริ้ม


“มะลิรบกวนคุณท่านทายาให้คุณพริ้มด้วยนะคะ”มะลิส่งยาที่ใช้ทาที่แผ่นหลังและในช่องทางรักให้รัตติกาลแล้วรีบเผ่นแผลวออกนอกห้อง ขืนไม่รีบออกมาคงโดนคุณท่านไล่เหมือนหมูเหมือนหมา ก็ท่านหวงคนของท่านจะตายไป


รัตติกาลพลิกตัวพริ้มเพื่อทายาให้ ฝ่ามือหนาลูบเบาๆบนรอยแผลที่เขาเป็นคนสร้างไว้
หลังจากทายาที่หลังเสร็จ ก็จัดการป้ายยาที่นิ้วชี้ สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางรัก


“อื้อออออ…”คนป่วยครางยาวอย่างไม่สบายตัว


รัตติกาลหมุนวนในช่องทางรักเพื่อทายาให้ทั่ว
การกระทำรุนแรงในวันนั้นทำให้ช่องทางรักอักเสบ บวม แดง แผลที่ฉีกขาดก็ยังไม่หายดี


รัตติกาลจัดการใส่เสื้อผ้าให้คนป่วยก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มจนถึงคอ


“อย่าดื้อกับชั้นให้มากนักสิ เป็นเด็กดีจะได้ไม่เจ็บตัวแบบนี้อีก”











คุณท่านน่ารักจะตาย...เนอะๆ

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ

ฝาก #พริ้มกับdaddy ด้วยนะคะ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2018 20:23:07 โดย แม่พิเสือ »

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ไม่อะ ไม่น่ารัก เราไม่ชอบคนเล่นกับความกลัวคนอื่น เกิดน้องเป็นโฟเบียขึ้นมาไม่ช็อคตายเหรอ เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง โตๆกันแล้ว เอาแต่ใจเป็นเด็กๆ

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
คุณท่านเป็นคนขี้อายรึเปล่าคะ ทำดีกับพริ้มตอนพริ้มรู้สึกตัวบ้างจะดีมากเลยนะคะท่าน   :mew5: :mew5:

ออฟไลน์ Spenguin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณท่านเป็นไบโพล่ารึเปล่าเนี่ยะ :katai1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ยังมองไม่เห็นความสมเหตุสมผล

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด