>…ปฏิบัติการณ์รักของพ่อเหมียว…< [ตอนที่ 24**TheEnd** 06-05-61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >…ปฏิบัติการณ์รักของพ่อเหมียว…< [ตอนที่ 24**TheEnd** 06-05-61]  (อ่าน 44406 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
 :katai2-1:  คุยกันเข้าใจแล้ว

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>….ตอนที่ 22 [100%]….<

เช้าต่างคนต่างแยกไปทำงาน ท่านขุนติดใจบ้านหลังนี้มาก...ไม่ได้ติดใจที่ว่ามันเป็นบ้าน ส่วนที่อยู่เขาเป็นแค่โรงซ่อมรถหรอกนะ แต่ที่ติดใจคือการได้นอนกอดพีระพลอยู่บนเตียงของพีระพลต่างหาก อบอุ่นมาก...มีความสุขมาก

พี่พีกลับมายิ้มให้ท่านขุนแล้ว ทำอาหารเช้าให้ด้วย และดูแลท่านขุนตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผมจนเรียบร้อยกว่าจะออกจากบ้านได้ เมื่อปรับความเข้าใจกันแล้ว อะไรๆ ก็กลับมาสดใสเหมือนก่อนรักเข้ามา อาจไม่ได้มานั่งหวานกระหนุงกระหนิงกันแบบเด็กๆ แต่ก็ดูแลกันเหมือสามีภรรยามากกว่า พีระพลกอดเอวท่านขุนที่อยู่ในชุดเซฟตี้เตรียมจะขับออกไป เจ้าของบิ๊กไบก์ยังไม่ได้ใส่หมวกกันน๊อกทำให้พีระพลสามารถจูบปากท่านขุนได้

ข้างบ้านไม่ต้องห่วงหรอก...เวลานี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ท่านขุนเองเมื่อได้รับจูบมาก็จูบตอบไม่อิดออด เขาเป็นคนสมัยใหม่กว่าพี่พี กล้าได้กล้าเสีย กล้าโชว์มากกว่า คิดว่าการแสดงความรักไม่ใช่เรื่องน่าอาย ถ้าเราไม่ได้ประเจิดประเจ้อจนเกินไป

“ขับรถดีๆ นะครับ พี่เป็นห่วงนะรู้ไหม อย่าขับเร็วมากนัก เป็นอะไรขึ้นมาพี่จะเสียใจนะ...” ท่านขุนเองก็กอดเอวพี่พีในชุดทำงานเช่นกัน

“ผมรู้แล้วคร้าบ ผมจะขับช้าๆ สัญญาว่าจะไม่ขับเกินร้อย” วันนี้นะ ไม่ใช่วันอื่น

“อื้อ เที่ยงพี่เข้าไปหา”

“ครับ ผมจะทำของโปรดเอาไว้รอ” เขาจูบกันเบาๆ อีกหนหนึ่ง พีระพลปล่อยท่านขุนใส่โม่งและหมวกกันน๊อก

เขาทั้งคู่ออกจากบ้านพร้อมกัน ขับรถช้าๆ ไปด้วยกันก่อนจะแยกกันไปทำงานคนละทาง พีระพลมองส่งท่านขุนจนรถสีแดงคันนั้นหายลับสายตา เขาเดินทางมายังบริษัทเวลาเดิมเหมือนเคย แจ็กเห็นเพื่อนมีรอยยิ้มบางๆ ในวันนี้ก็รู้สึกแปลกๆ จะเดินเข้าไปทักทายสักหน่อย พอเข้ามาใกล้สิ่งที่เห็นกลายเป็นรอยดูดตรงคอ ไม่แดงมากแต่ก็เห็นแหละ

“หน้าตาแบบนี้...ดีกันแล้วใช่ไหมล่ะ” พีระพลยิ้มบาง พยักหน้ายอมรับง่ายๆ

“ใช่ เคลียร์กันแล้วเรียบร้อย”

“เคลียร์แบบถึงเนื้อถึงตัวเลยทีเดียว”

“ก็นะ...” รอยยิ้มกรุ่มกริ่มของพีระพลทำให้แจ็กขนลุก ไม่ใช่มันไม่ดี แต่...มันชวนขนลุกแปลกๆ อะนะ

“วันนี้ฉลองกัน โอเค...ตามนั้น วันเสาร์ด้วย วู้ฮู” ลั้นลาเกินวัยสามสิบกว่ามากเลยอะเพื่อน พีระพลก็ปล่อยเพื่อนตัวเองมีความสุขไป เพราะเขาเองก็กำลังมีความสุขเช่นกัน

เหมือนได้ปลดเรื่องหนักใจออกจากตัวเอง การทะเลาะกับคนรักนี่มันน่าอึดอัดเป็นบ้า ยิ่งเราเอาแต่คิดเองเออเองเสร็จสรรพ ก็ยิ่งทำร้ายเราด้วยตัวเราเองเสียอย่างนั้น พีระพลก็รู้แหละว่าตัวเองค่อนข้างงี่เง่าในครั้งนี้ เขานับถือใจท่านขุนที่ยอมอ่อนข้อให้ก่อน ไม่งั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะใจเย็นพอไปคุยได้เมื่อไหร่

อันที่จริง...ตอนนี้พีระพลก็ไม่ได้สบายใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นหรอก เขาคิดว่ารักต้องยังมาป้วนเปี้ยนอีกแน่ๆ แต่เพราะรู้แล้วไงว่าท่านขุนไม่มีทางกลับไป เขาเชื่อคนรักของเขา และเพราะเชื่อก็เลยไม่กลัวเรื่องการเผชิญหน้ากับรักแล้ว

พีระพลทำงานวิเคราะห์เคมีของตัวเองเสร็จตอนสิบโมงครึ่ง จากนั้นครึ่งชั่วโมงเขาใช้ไปกับการกรอกค่าเคมีใส่กราฟในคอมพิวเตอร์ งานทุกอย่างเรียบร้อยในเวลาสิบเอ็ดโมงตรงเป๊ะ ไม่มีขาดไม่มีเกิน เพราะพีระพลเป็นคนตรงต่อเวลามากๆ อะไรที่ควบคุมได้จะถูกเขาควบคุมทั้งหมด แต่เขาไม่ใช่คนเผด็จการอะไรหรอก เขาแค่ชอบความเป็นระเบียบของชีวิต

ว่าแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาเล่น สิ่งแรกที่เห็นคือภาพของมณีน้อยกำลังกินอาหารเม็ดจากมือของท่านขุน อีกฝ่ายส่งมาบอกว่ามณียี้อาหารเม็ดมากเลยล่ะ เท่าที่เห็นก็กินดีอยู่นี่นา พีระพลบอกว่าถ้าไม่ยี้มณีน้อยจะกินมากขนาดไหนนะ ท่านขุนตอบกลับมาเร็วมากเช่นกันว่าคงหมดถุง...

จะว่าท่านขุนเกเรก็ได้นะ แต่ท่านขุนอู้งานเพื่อตอบข้อความของพี่พี แถมตอนนี้ไม่ทำงานแล้วด้วย เขียนใบรายการอาหารที่จะให้จิมสั่งซื้อเพื่อเอามาทำมื้อเที่ยงแทน เขารู้ว่าพี่พีทำงานเสร็จตอนสิบเอ็ดโมง และสามารถออกมาก่อนเวลาได้ ด้วยตำแหน่งและหน้าที่ของพี่พี ทำให้พี่พีได้รับอภิสิทธิ์พอสมควร ทว่าพี่พีไม่ใช้สิ่งเหล่านั้น พี่พีทำตัวเหมือนพนักงานคนอื่นๆ อยู่ในกฎของบริษัทโดยไม่ละเมิดเหมือนกับแจ็ก

ท่านขุนขอเวลาไปทำอาหารก่อน ซึ่งพีระพลไม่ยื้อเอาไว้ อีกไม่กี่นาทีเขาเองก็จะได้เวลาพักเที่ยงแล้ว ถ้าไม่ปล่อยให้ที่รักไปทำกับข้าว แล้วเที่ยงนี้เขาจะกินอะไรล่ะถูกไหม พีระพลเลือกเข้าเฟซบุ๊ก ดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยเปื่อยเพื่อฆ่าเวลา เขารู้สึกว่าโซเชี่ยลมีเดียร์เป็นอะไรที่ผลาญเวลาไปอย่างไร้ประโยชน์มากๆ แต่ก็เล่น...

เผลอแป๊บเดียวเสียงหวอก็ดังขึ้น พีระพลคว้ากุญแจรถและกระเป๋าเงินเดินลิ่วตัวปลิวไปที่รถของตนเอง สตาร์ทขับออกไป ดูรีบแต่ก็ไม่ได้ขับเร็วอะไรนัก เขาเป็นคนระมัดระวังในทุกยอย่างที่ทำ คงเพราะเป็นนักวิเคราะห์เคมีด้วยแหละมั้ง เลยต้องใส่ใจจุดเล็กจุดน้อย เป็นคนละเอียดกับหลายสิ่งหลายอย่าง ยิ่งอุบัติเหตุนี่พีระพลกลัวมาก ไม่ได้กลัวตัวเองเป็นอะไรแต่กลัวทำให้คนอื่นเขาเจ็บปวด

ขับรถไปตามทางไม่รีบร้อน ข้างหน้าเป็นซอยที่ร้านท่านขุนตั้งอยู่ พีระพลชิดซ้าย เปิดไฟเลี้ยวเตรียมเอาไว้แต่เนิ่นๆ ทว่าช่วงที่จะหักเลี้ยวเข้าไปนั้น มีรถบิ๊กไบก์คันหนึ่งปาดหน้าเขาอย่างจัง เจ้าของรถแค่หันมามองแล้วก็บิดคันเร่งไป พีระพลไม่แน่ใจว่าความจำตัวเองผิดเพี้ยนไหม เขาคิดว่านั่นเป็นรถของรัก

และมันก็จริง...เมื่อเขามาถึงร้าน

รักกำลังถอดอุปกรณ์เซฟตี้ออกจากตัวเอง ทางนั้นยืนมองเขาตาขวางๆ จะว่าเหมือนคนเล่นยามันก็ไม่เชิง...แต่ก็คล้ายนะ พีระพลไม่สนใจความขวางโลกของรัก เขาล็อกรถเก๋งของตนด้วยรีโมตคอนโทรล เสร็จเดินเข้าไปในร้าน มณีน้อยนอนอยู่ที่เดิม...ที่ประจำของเธอ

“สวัสดีจ๊ะมณี...คิดถึงกันไหมน้า” เป็นเรื่องปกติที่พีระพลจะเอ่ยทักมณีน้อยก่อนเป็นอันดับแรก

“พี่พีสวัสดีครับ” จิมและแอ้ยกมือไหว้พีระพลแทบจะพร้อมๆ กัน ส่วนรักกกำลังเดินเข้ามาในร้าน

“สวัสดีครับ” พีระพลไหว้ตอบพร้อมยิ้มบางๆ รักมองดูการกระทำของอีกฝ่าย...รักไม่ชอบอะ ต่อให้สิ่งที่พีระพลทำมันจะเป็นสิ่งที่ดี แต่คนไม่ชอบก็มองว่ามันเชยเป็นบ้า

“ไม่ค่อยแก่เท่าไหร่เลยอะ...” เป็นคำบ่นลอยๆ ที่กระแทกพีระพลเข้าอย่างจัง แต่พีระพลไม่สน

“คนจำนวนมากชอบดูถูกคนอื่นเพราะตัวเองไม่มีคุณสมบัติที่ดีเทียบเท่าคนคนนั้นน่ะครับ” เป็นการตอบกลับแบบสุภาพที่สุดแล้ว พีระพลเห็นหน้าก็อยากต่อยแล้วล่ะ คิดว่ารักไม่ชอบตนแค่ฝ่ายเดียวหรือไงกัน

“พูดอะไรเข้าใจยากเนอะ”

“อืม นิดหน่อยครับ...ต้องมีการศึกษาหน่อยถึงจะเข้าใจ” รักแทบปรี่เข้าไปต่อย นี่ด่าเขาไร้การศึกษางั้นเหรอ

พีระพลลูบหัวมณีผู้เมินเขาได้ทุกวี่ทุกวันเบาๆ หนึ่งที จากนั้นเดินเข้าไปหาท่านขุนที่อยู่ในครัว เจ้าของร้านของเรากำลังตั้งใจทำอาหารจนไม่รู้ว่าข้างหลังของเขามีใครเข้ามาใกล้ พีระพลชะโงกหน้ามองหน่อยๆ ว่าตอนนี้ท่านขุนไม่ได้ถืออะไรที่เป็นอันตรายใช่ไหม

“หิวจังครับ...” พีระพลสอดมือเข้าไปกอดเอวของท่านขุนเบาๆ ที่ดูว่าไม่มีอะไรอันตรายเพราะกลัวท่านขุนตกใจแล้วจะเกิดการเจ็บเนื้อเจ็บตัวขึ้น

“อะ...พี่พี โหย มาตอนไหนเนี่ย...ผมมัวแต่ทำอาหารเลยไม่เห็น ผมทำเสร็จแล้วแหละ พี่พีนั่งก่อน เดี๋ยวท่านขุนผู้นี้จะเสิร์ฟอาหารให้” ท่าทางร่าเริงของท่านขุนทำให้พีระพลยิ้มกว้าง

“ขอบคุณนะครับ” เขาหอมแก้มคนรักหนึ่งทีใหญ่ๆ ให้ชื่นใจ มีแต่กลิ่นน้ำมันแหละ...ท่านขุนเป็นช่างซ่อมรถนี่จริงไหม

“ท่านขุนนนนนน” ยังไม่ทันได้คลายมืออกจากรอบเอว รักก็ส่งเสียงดังเข้ามาข้างในพร้อมปรากฏกาย

“รัก” พูดไปขนาดนั้นแล้ว ไม่คิดว่าจะมาอีก

“ขอมาฝากท้องหน่อยน้า”

“เชิญครับ” กลายเป็นพีระพลที่ต้อนรับด้วยรอยยิ้มแทน ท่านขุนมองแฟนตัวเองด้วยความแปลกใจ วันนี้พี่พียิ้มให้รักได้ด้วยเหรอ…

“ขอบคุณนะครับ แต่อันที่จริง…ผมต้องถามความสมัคใจท่านขุนนะ” เหมือนจะบอกว่ากูไม่ได้ถามมึงแบบนี้ใส่หน้าพีระพลเลย

“จะผมหรือท่านขุนก็คนคนเดียวกันนั่นแหละครับ” พีระพลตอบกลับธรรมดา ดูเป็นกันเอง...ดูไร้พิษภัย แต่ถ้าเห็นแววตาจะรู้ว่า...เจ้าของร่างใหญ่ยิ้มแค่ปากจริงๆ

พีระพลหันกลับไปช่วยท่านขุนหยิบจับนั่นนี่ใส่จานชามให้เรียบร้อย รักนั่งโต๊ะจองที่ก่อนใคร ทั้งยังเอาเปอร์เซียร์น้อยออกมาจากกรงวางบนโต๊ะกินข้าวอีกต่างหาก พีระพลไม่รู้จักแมวตัวนี้ พอเขาเห็น เขาก็รู้สึกแปลกใจ เหนือกว่าความแปลกใจคือการมองหามณีอย่างไวต่างหาก

มณีหวงที่มากนะ...พีระพลเจ็บตัวเพราะมณีมามากเขารู้ดี ทั้งหวงท่านขุน ทั้งหวงพื้นที่ของตนเอง พีระพลมองหามณีไม่เจอ จะลุกออกไปเดินหาในเวลามื้อเที่ยงแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องเสียด้วย เขาคิดว่าเดี๋ยวกินเสร็จลองหามณีน้อยดู ไม่รู้น้อยใจแย่หรือยัง

“สรุปพรุ่งนี้...ไปรถผมนะ” ท่านขุนตักกับข้าวใส่จานให้พี่พีพร้อมเสียงอ้อนๆ เรื่องการเดินทางไปงานหนังสือ

“ไปไหนกันเหรอ” ตัวแถมดันสอดขึ้น

“ไม่เอาครับ ท่านขุนแหละต้องไปรถพี่...” พีระพลไม่สนใจคำถามรัก เขาตอบคำถามท่านขุนแทน

“ก็ได้ แต่ไม่ตื่นเช้ามากได้ไหมครับ ผมตื่นเช้ามากมาหลายวันแล้วอ่า อยากนอนตื่นสายๆ บ้าง”

“ได้สิครับ” เขาสองคนนั่งยิ้มหวานให้แก่กัน พูดคุยกันในเรื่องที่รักไม่สามารถแทรกได้

รักพยายามแล้ว...ตั้งคำถามใส่ทั้งคู่ แต่ไม่มีใครตอบคำถามของเขาเลย ท่านขุนเอาใจแต่กับพีระพล มองหน้าพีระพลไม่วางตา มือไม้เกี่ยวกันไปเกี่ยวกันมาเห็นแล้วขัดลูกตาเป็นบ้า ส่วนพีระพลที่ดูมีมารยาท...วันนี้ดูไร้มารยาทเป็นบ้า คนถามกลับไม่ยอมตอบคำถาม หนำซ้ำยังเมินเขาเหมืนเขาไม่มีตัวตนอีก

รักรู้ว่าเขามาแทรกกลางระหว่างทั้งคู่ ท่านขุนเองก็บอกแล้วเรื่องความรู้สึกที่แตกหักของเขา แต่เขาไม่เชื่ออะ...เขาไม่คิดว่าระหว่างเรามันจะกลับไปเป็เหมือนเดินไม่ได้ เมื่อคืนรักแทบไม่ได้นอนเลย คำว่าขุนเกลียดรักยังก้องอยู่ในหัวไม่ยอมไปไหน โคตรเสียใจ...เขาไม่อยากยอมแพ้ให้กับคนจืดชืดอย่างพีระพล ดูยังไง...ก็เป็นแค่ผู้ชายน่าเบื่อคนหนึ่ง

นี่ขนาดนั่งคุยกันตามประสาคู่รักไม่เห็นหัวเขาแล้ว ยังคุยกันเรื่องนิยายบ้าบออะไรก็ไม่รู้ รักไม่รู้จักเลยสักเรื่อง พีระพลเล่าเรื่องเกี่ยวกับตำนานพ่อมดที่ได้อ่านหนังสือให้ท่านขุนฟัง มันน่าตื่นตาตื่นใจมากๆ และท่านขุนโคตรตั้งใจฟังเลย ทว่ารักไม่รู้สึกแบบนั้น...รักว่ามันโคตรน่าเบื่อต่างหาก

ตำนานพ่อมดแม่มดมันก็แค่เรื่องหลอกเด็ก แค่นิทานปรัมปราโง่ๆ เท่านั้นแหละ มีใครเขาเชื่อเป็นบ้าเป็นบอบ้าง รักอาศัยว่ามีแมวให้เล่นแก้เหงามือ เขาทนดูทั้งคู่จนท่านขุนเก็บจานเก็บชามไปล้าง พีระพลเหลือบมามองเขาอีกครั้งหลังจากไม่มองหน้าเขาเลย...

“ว่าแต่...คุณรักนี่ทำงานอะไรเหรอครับ” จู่ๆ ก็มาถามเรื่องงาน มันจะมาไม้ไหนดีกว่า...ช่างเหอะ รักไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว

“ผมร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านขายบิ๊กไบก์น่ะครับ ไม่ได้เป็นลูกจ้างเขาหรอก...” พีระพลเป็นลูกจ้าง...แต่เขาสิ เขาเป็นเจ้าของกิจการ

“อ่อ งานน่าจะสบายนะครับ”

“ก็ดีนะ...”

“ผมอิจฉาจังเลย วันๆ ไม่ต้องทำอะไร...” ถึงจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่รักก็รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจด่าเขา

“ผมก็ทำ แค่คุณไม่เห็น”

“อื้อนั่นสิ...ผมเห็นคุณเอาแต่มานั่งเล่นที่นี่ นี่เอาจริงๆ นะ ผมอยากมีชีวิแบบคุณบ้าง...ผมจะนั่งเฝ้าแฟนทั้งวันเลย แถวนี้แมวขโมยเยอะ...กลัวคนรักหายจัง” รักเกือบเผลอจิกขนแมวติดมือเพราะคำพูดเสียดแทงของพีระพล

ท่านขุนก็ได้ยิน…เขายืนอยู่แค่นี้เอง ห่างจากทั้งคู่ไม่มาก ดูก็รู้ว่าพี่พีของเขาจงใจตอกกลับรักชัดๆ แบบนี้เรียกหึงใช่ไหม ตอบได้หรือเปล่าว่าอยากให้พี่พีมานั่งเฝ้าทั้งวันเหมือนกัน อยากอยู่ด้วยตลอด อยากนอนด้วยทุกคืน

เฮ้...นี่เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนะ มาอารมณ์โรแมนซ์อะไรคนเดียวอยู่ได้

แต่ก็นะ...พี่พีหึงเขาเลยนะเว้ย!

“เหรอครับ ผมไม่คิดว่าเป็นขโยนะ ผมว่าเป็นแมวเจ้าถิ่นต่างหาก มันอาจจะกลับมาที่ที่ของมัน...”

“แมวเจ้าถิ่นที่โดนไล่ไปแล้วอะนะ ทวงถิ่นคืนได้เหรอ...เจ้าของพื้นที่เขาไม่ต้องการแล้วไม่ใช่เหรอครับ” พีระพลแทรกพร้อมสีหน้าตกใจในคำพูดของรัก ดูยังไงก็กวนตีนกันชัดๆ แม่งเอ้ย...ด่ากันตรงๆ ไม่ง่ายกว่าหรือไง

รักไม่มีคำโต้เถียง ท่านขุนเดินกลับมานั่งข้างพีระพล และเขาสองคนก็นั่งยิ้มให้กัน เป็นพีระพลที่ดึงมือท่านขุนลุกขึ้นเพื่อพากันเดินไปบนชั้นสอง ประตูห้องของท่านขุนถูกเปิดด้วยมือของพีระพลเอง เขาพาคนรักเข้ามาก่อนจะปิดประตูแล้วล็อกห้อง

“พี่พีร้ายนะ...” ท่านขุนส่งเสียงเย้าหยอกเบาๆ

“ไม่ชอบเหรอ ไม่ชอบพี่ไม่ทำก็ได้นะ” พีระพลขยับตัวมองหน้า ท่านขุนดันแฟนตัวเองออกจากวงแขนเบาๆ แล้วพาไปที่เตียงนอน

“ใครว่าล่ะ...ชอบดิ มีคนหึงคนหวงขนาดนี้ เป็นใครไม่ชอบบ้างล่ะครับ” พีระพลรั้งให้ท่านขุนนั่งหันหน้าบนตักของเขา มือไม้ค่อนข้างนุ่มลูบไล้แผ่นหลังคนรักบนตักเบาๆ

“แต่คนหึงไม่ชอบเลยครับ มันหวงไปหมดเลย...” พีระพลจูบซับไปที่ลำคอของท่านขุนเบาๆ แค่นั้นก็ทำเอาเขาขนลุกไปทั้งตัว

“อื้อ...พี่พีอย่าสิ เดี๋ยวของขึ้นแล้วพี่จะไปเข้างานสายน้า” ท่านขุนเอยเย้า แต่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการ ถ้าจะจัดสักนิดก่อนพี่พีเข้างานเขาก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

พีระพลยิ้มบางเบากับเสียงยอกนั้น มันน่ารักแม้จะดูไม่เข้ากับท่านขุนที่ดูไม่มีความสาวอยู่ในตัว เป็นผู้ชายบ้านๆ ใส่กางเกงสามส่วนและเสื้อยืดคอกลมสีพื้น แต่พอเราชอบใครหรือรักใครสักคนแล้ว เราก็จะชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเป็น เหมือนที่พีระพลกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้

เขาไม่สนใจเสียงห้าม สอดมือเข้าไปใต้เสื้อของคนรักตัวเอง ในขณะที่อีกมือก็คว้าต้นคอของท่านขุนเพื่อโน้มใบหน้าอีกฝ่ายลงมา เขาเอียงหน้าเล็กน้อยเพื่อไม่ให้แว่นตัวเองชนกับหน้าของท่านขุน ริฝีปากนุ่มๆ แนบชิดและบดเบียดกันเนิบนาบ ไม่ได้เร่งเร้าทว่าค่อยๆ สร้างความอบอุ่นอ่อนไหวให้กันและกัน มือของพีระพลลูบไล้ไปมาบนแผ่นหลังเนียนละเอียด กรีดนิ้วตรงกระดูกสันหลังเบาๆ ด้วยรู้ดีว่าตรงนี้เร้าอารมณ์อีกฝ่ายได้ดี

“อื้อพี่พี...” ท่านขุนกระซิบเสียงพล่า ตอนนี้จะห้ามไม่ให้ของขึ้นก็คงไม่ได้...มันยากยิ่งกว่าทำให้แมวสองตัวข้างล่างนั้นดีกันเสียอีก ขนาดส่วนนั้นของพีระพลยังตื่นแล้วเลย ท่านขุนสัมผัสได้ ก็เขานั่งทำมันอยู่

ไม่ต้องพูดว่าอยาก แค่สายตาที่มองมาของพีระพลก็บอกท่านขุนได้แล้วถึงความต้องการของตนเอง แต่นี่มันก็ใกล้จะได้เวลาเข้างานของพีละพรแล้วเหมือนกัน คนบบพีระพล...เรื่องงานก็ต้อรับผิดอบให้เต็มที่ จะให้เรื่องส่วนตัวมาทำให้เสียงานคงไม่ดีเท่าไหร่นัก

“มันจะสาย...” ท่านขุนเอ่ยอีกหนเมื่อพีระพลจูบเข้าที่ลำคอ

“อื้อ เสียดาย...ไม่อยากไปทำงานเลย” เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินพี่พีพูดแบบนี้ออกมา นี่แบบนี้คิดเข้าข้างตัวเองไหรือเปล่าว่าพี่พีรักและหลงเขามาก ท่านขุนยิ้มกริ่ม แย่งแว่นของพี่พีมาสวมแล้วโปรยยิ้มหล่อใส่คนตรงหน้า

“ไมได้นะ งานก็คืองาน...” ทำหน้าเหมือนนักวิชาการ แต่ก็ยั่วอีกฝ่ายไม่ใช่น้อย พีระพลอาจมองเห็นใบหน้าของท่านขุนไม่ชัดเจนนัก แต่เขาหมั่นเขี้ยวเข้าจริงๆ จนเผลออ้าปากงับต้นคอทันทีหนึ่งด้วยความเอ็นดู

”อื้อ พี่พี...” เรียกว่าแกล้งให้เจ็บแถมด้วยความซาบซ่านก็แล้วกัน

“แบบนี้เรียกยั่วรู้เปล่า อย่าทำแบบนี้กับคนอื่นนะ...” พีระพลมองหน้าท่านขุนใกล้ๆ ตอนนี้เห็นแล้วว่าท่านขุนยามสวมแว่นก็ดูดีโคตรๆ ที่น่าละอายไปกว่านั้นคือนึกถึงฉากพ่นพิษใส่หน้าแล้วเปื้อนแว่น...ให้ตายเถอะ เขานี่มันแย่จริงๆ

“ไม่มี ไม่ทำแบบนี้กับใครนอกจากพี่พีคนเดียว...” ท่านขุนสวมกอดพีระพลเต็มวงแขน ซึ่งอีกฝ่ายก็กอดเขาเช่นกัน

“พี่ไว้ใจขุนนะ...”

“ครับ ผมรักพี่พี” คนบนตักเอียงหน้าเพื่อหอมแก้มเนียนเบาๆ

“พี่รักท่านขุนครับ” พีระพลหอมแก้มอีกฝ่ายกลับด้วยความรักใคร่

มันอดไม่ได้ เมื่อมองหน้ากันพวกเขาก็มอบจูบหวานๆ ให้กันอีกครั้งหนึ่ง แล้วต้องหยุดเมื่อเวลาเข้างานกระชั้นขึ้นเต็มที ท่านขุนลุกจาตักของพี่พี สวมแว่นคืนอีกฝ่ายพร้อมทั้งจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้พี่พีด้วย ต่างก็แต่งเนื้อแต่งตัวให้กันด้วยรอยยิ้ม

รักยังนั่งอยู่ที่โซฟากลางร้านไม่ไปไหน พีระพลเห็นแล้วบอกกับตัวเองในใจว่าอีกฝ่ายหน้าด้านจริงๆ แต่ที่เขาแปลกใจคือเขาไม่เห็นมณีเลย แมวน้อยแสนพยศตัวนั้นหายไปไหนแล้วนะ วันนี้ได้แค่ลูบหัวหนึ่งทีเท่านั้น ยังไม่หนำใจเขาเลย ช่างเถอะ...ตอนเย็นคงได้เจอกัน

“...” รักมองไปที่ทั้งคู่ด้วยสายตาอิจฉา อยากเป็นคนที่ได้จับมือท่านขุนแบบนั้น ที่ตรงนั้นมันควรเป็นของเขาสิ

“ผมไปทำงานก่อนนะครับ คุณรักเอง...ทำงานให้สนุกนะครับ” รอยยิ้มของพีระพลเหยียดหยันรักเห็นๆ ทั้งดูถูกเขา...ทั้งด่าเขาในแววตา ช่างแม่ง...เขามาเพื่อเอาท่านขุนคืน ไม่ได้จะมาสนใจใยดีอะไรมันสักหน่อย หึ...การที่ท่านขุนยังรักและเอ็นดูมณีต้องเป็นเพราะท่านขุนยังมีใจให้เขา ไอ้เรื่องเมื่อวานนี้ ไอ้คำพูดร้ายๆ นั่นก็เพราะท่านขุนกำลังอารมณ์ไม่ดีต่างหาก!

….100%….

รักควรไปพบหมอนะคะ มั่นหน้าขนาดนี้คนปกติเขาไม่เป็นกันค่ะ!

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :z6: ให้รักเต็มๆเท้าเลย บังอาจเอสมณีไปขังอีกแล้วใช่ไหม

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
แม่มณีน้อยใจ หายไปไหนแล้ว

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เดี๋ยวจะมีประกาศหาแมวหายไหมนะ

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่พีด่าเจ็บมาก55555555  แบบนี้เค้าเรียกว่าผู้ดี 55555

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
แม่มณีหายไปไหนแล้ว

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พี่พีพูดนิ่งๆ แต่เจ็บจี๊ดถึงทรวงมาก แต่ไม่ใช่รักล่ะมั้ง ยังหน้าด้านหน้าทนอยู่อีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>….ตอนที่ 23 [100%]….<

ส่งพี่พีไปทำงานแล้วใช่ว่าท่านขุนจะเข้าไปเผชิญหน้ากับรักในร้าน เบื่อจะพูดแล้ว...รู้อยู่ว่ารักเป็นคนช่างตื๊อ ไม่งั้นตอนที่เลิกกันจะถึงขั้นต่อยกันกลางร้านเหรอ มาหนนี้เขาไม่อยากมีเรื่องกับรัก ไม่อยากทะเลาะแรงๆ แบบเมื่อก่อนเพราะเกรงใจพี่พี จะว่ารักษาภาพลักษณ์ให้ดูดีเพราะพี่พีก็ได้แหล เขาไม่เถียง...

“เขาพูดจาไม่ดเลย นี่เหรอผู้ใหญ่...” รักเดินออกมาพูดกับท่านขุน จากที่ก้มหน้าก้มตาถอดล้อรถขนาดหกร้อยห้าสิบซีซีออกเพื่อจะเปลี่ยนโซ่ก็ต้องชะงักลง

“อะไรอีกอะ...” มันจะเรื่องมากไปไหน เข้ามาป่วนแล้วโดนแค่นี้ก็นับว่าเบามากแล้วนะ

“รักเป็นแขกนะ แล้วดูพี่พีของท่านขุนพูดจาแดกดันรักสิ...เฮ้ แบบนี้ไม่โอเคเลยอะ ไม่ให้เกียรติกันเกินไปมะ” ป่วนเขาก็พอทนแล้ว มาว่าพี่พีอีก เข้าข้างแฟนตัวเองสุดใจอะบอกเลย

“แขกเหรอ? ถ้าเป็นแขกคือผมเชิญปะ...รักไม่ใช่แขกด้วยซ้ำ รักมาของรักเอง อีกอย่างนะ...รักก็พูดจาไม่ดีใส่พี่พี รักยังมีหน้ามาให้พี่พีพุดดีใส่ตัวเองอีกเหรอ รักไม่ใช่พระเจ้านะเว้ย ไร้มารยาทใส่เขาก่อน เขาจะไม่รักษามารยาทด้วยก็ถูกแล้วไง”

“เอาเข้าไป...เข้าข้างกันเข้าไป”

“ก็เขาเป็นคนรักผม ผมต้องเข้าข้างเขา...”

“แต่รักก้เคย...”

“เคย แค่เคย! เมื่อวานผมพูดไปชัดเจนมากอะรัก ผมรู้สึกยังไง คิดยังไงกับคุณผมบอกไปหมดแล้ว เลิกหวังอะไรลมๆ แล้งๆ ได้แล้ว...มันไม่มีประโยชน์อะ มีแต่น่ารำคาญ” คำพูดของท่านขุนทำร้ายรักอีกหน รักเข้าไปกระชากต้นแขนของท่านขุนก่อนดึงเข้าหาตัว

“รักรักขุนะ...แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านขุนจะพูดจายังไงกับรักก็ได้” เพราะมันเจ็บ...และมันแปลเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจ

“ผมพูดดีแล้วนี่...คุณไปไหมล่ะ” ท่านขุนไม่กลัว ผู้ชายคนนี้สร้างความหวาดกลัวอะไรให้ท่านขุนไม่ได้ หากรักทำร้ายเขา ท่านขุนก็พร้อมตอบโต้ได้เสมอ ขึ้นโรงขึ้นศาลก็มาเลย เขาจะไม่ยอมให้รักมาข่มขู่

“ถ้าบอกว่าไม่ไปจนกว่าจะได้ขุนกลับมาล่ะ” รักบีบแขนท่านขุนเกือบเต็มแรงของตนเอง แต่คนโดนกลับนิ่งเฉยเหมือนไม่รู้สึกรู้สา

“ถึงบอกว่าเลิกหวังไง...”

“ไม่ รักไม่เลิกหวัง...รักรักท่านขุนจริงๆ รักเหมาะกับท่านขุนทุกอย่างไม่เหมือนมัน”

“อย่ามาเรียกพี่พีว่ามันนะเว้ย!” คิดว่าท่านขุนของขึ้นไม่เป็นหรือไง ท่านขุนออกแรงผลักรักจนอีกฝ่ายถอยห่างไปหลายก้าว แต่รักไม่ยอม มันตรงเข้ามาจับต้นแขนทั้งสองของท่านขุนแล้วออกแรงบีบ ใบหน้าเดือดดานนั้นกำลังโน้มเข้ามาหมายบดปากจูบ

ฉิบ! จะมาเล่นบทตบจูบกับเขาหรือไง...ตลกแล้ว นี่ไม่ขำ แล้วก็ไม่เล่นด้วยทั้งนั้น ท่านขุนตัดสินใจเตะเข้าสีข้างรักเต็มๆ ด้วยความไม่ทันตั้งตัว รักจึงปล่อยไหล่ทั้งสองของท่านขุนแล้วเซไปอีกทาง

“ไประยำที่อื่น ไม่ใช่ที่นี่...” โกรธมาก ท่านขุนโกรธรักมาก

“คอยดู...ความแตกต่างของท่านขุนกับมันจะทำให้ท่านขุนเสียใจ” อะไรที่ใส่ไฟได้รักก็ใส่ไฟมันหมด เขาไม่รู้จักพีระพลดีด้วย ตัดสินจากสิ่งที่เห็น...ตัดสินจากผิวเปลือก

“นั่นก็เรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับรัก ถ้ามันจะต้องเลิกกันผมต้องเป็นเพราะผมกับเขาไปกันไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่ทะเลาะกันเพราะคนอื่น ส่วนรัก…ผมย้ำอีกร้อยครั้งก็ยังได้ว่าผมไม่ได้รักรักแล้ว อย่าหวังเลย...ความหวังที่รักกอดอยู่อะ มันไม่มีอยู่จริงเว้ย” ท่านขุนอยากจะผลักอีกคนให้ล้มลงไปกับกองพื้นเปื้อนน้ำมัน แต่เขาก็ไม่ได้ทำ แค่สาวเท้าเข้าร้านผ่านหน้ารักไป

ท่านขุนต้องการพื้นที่สงบๆ อยู่เงียบๆ ไม่มีรักเข้ามาก่อกวน นับจากวันแรกที่รักกลับมา เอารถมาทำ ความเกลียดในอดีตเจือจางลงไปบ้างแล้วก้เลยพอจะมองหน้ารักได้อยู่ ทว่ายิ่งผ่านไป...การได้กลับมาอยู่กับรักกลับยิ่งทำให้ความเกลียดชังนั้นขุ่นขึ้นมา รักไม่เปลี่ยนไปเลย มั่นใจในตัวเอง..มั่นใจในความคิดตัวเองและมองว่าตัวเองคือศูนย์กลางจักรวาล ทั้งที่มันไม่ใช่...

รักมองแผ่นหลังของท่านขุนด้วยความเจ็บใจ อยากจะเข้าไปตื๊อแต่ติดที่ว่ามันต้องทะเลาะกันแน่ๆ เขาเองก็อารมณ์ร้อน เมื่อกี้ใช้กำลังกับท่านขุน ใส่อารมณืกับท่านขุนเหมือนที่ตนเองเคยทำเมื่อปีก่อน เขาไม่คิดว่าการควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้จะเป็นข้อเสียของเขา มนุษย์มันก็แบบนี้แหละ...ใครมันจะไปทนเก็บอารมณ์ได้ซะทุกอย่าง โมโห โกรธ ก็ต้องแสดงออก จะให้นิ่งเงียบแล้วรักษาภาพลักษณ์อะไรกันนักหนาล่ะ

ทุกอย่างที่ตนเองเป็น...คือเรื่องปกติและน่าชื่นชมด้วยซ้ำ มีใครมาตามตื๊อแฟนเก่าขนาดนี้ ยอมมากขนาดนี้ นอกจากเขาใครเขาทำกันบ้าง เพราะเขารักท่านขุนมากเขาถึงได้ยอมเสียศักดิ์ศรีขนาดนี้ ทำไมท่านขุนไม่เห็น ไปเห็นรักใหม่ที่จืดชืดแบบนั้นมีค่ากว่าเขาได้ยังไง แล้วไอ้การที่เขาพูดจาใส่พีระพลแบบนั้น...ก็ปกตินี่ เขาไม่ได้พูดอะไรแรงไปเสีย แต่พีระพลต่างหากที่ใช้คำพูดแดกดันเขาเกินไป แบบนั้นมันโคตรไร้มารยาท!

แล้วแทนที่ท่านขุนจะเห็นแล้วเข้าข้างเขา ท่านขุนกลับเอาแต่เข้าข้างคนรักตัวเองแบบไม่ลืมหูลืมตา แบบนี้ไม่น่าเจ็บใจได้ไง ภาพลักษณ์สุภาพบุรุษและอ่อนโยนของฝ่ายนั้นแม่งชนะขาด ท่านขุนหลงแค่เปลือกเท่านั้น คนแบบนั้นนะ...ชำแหละออกมาข้างในก็มีแต่ความเน่าเฟะเท่านั้นแหละ นี่ขนาดมาประกาศตรงๆ แล้วว่าจะมาเอาคนรักคืนยังจะหน้าด้านหน้าทนไม่ยอมคืนเขา สร้างภาพรั้งท่านขุนเอาไว้กับตัวเอง...โคตรเกลียดแม่ง!

“เหมี๊ยววววว” มณีแอบหนีออกมาข้างนอกได้พักใหญ่ เฝ้ามองดูทาสทั้งสองทะเลาะกันเงียบๆ เธอส่งเสียงพลางเดินเข้ามาคลอเคลียร์ที่ขาของรัก อยากให้รักอารมณ์ดีขึ้นมาแล้วมาดูแลเธอ แต่รักอารมณ์ไม่ดี เขาเผลอเตะมณีให้พ้นทาง

“ไปไกลๆ รำคาญ!” จากนั้นสาวเท้าตัวเองไปที่รถ...จากไปทั้งที่ยังฉุนเฉียว

เจ็บ...แต่มณีบอกไม่ได้ว่าเจ็บ

เธอค่อยๆ ลุกขึ้นหลังจากโดนเตะจนล้มกองไปกับพื้นเปื้อนน้ำมันใกล้กันรถคันใหญ่ เสียงร้องเศร้าๆ ดังออกมาขณะมองตามหลังรถคันนั้นวิ่งจากไป รักเคยรักมณีมาก...ไม่แม้แต่จะไม้ลงมือกับแมวน้อยเลย แล้วทำไมครั้งนี้ถึงมาใส่อารมณ์กับเธอ มณีไม่รู้ว่าเธอผิดอะไร เธอแค่เข้ามาคลอเคลียเพราะเห็นรักดูอารมณ์ไม่ดีเท่านั้น ก็เวลาเข้าไปอ้อน ใครๆ ก็อารมณ์ดีขึ้นไม่ใช่เหรอ...

ดวงตาคู่สวยเศร้าสร้อยขึ้นมา...พักนี้ใครๆ ก็ไม่สนใจเธอเลย คนที่เธออยากให้กลับมาหาก็มาพร้อมแมวตัวใหม่ จะทิ้งเธอเหรอ...ไม่รักเธอแล้วใช่ไหม รักถึงขนาดขังมณีเอาไว้เพื่อให้เจ้าเหมียวนั่นได้อยู่ในร้านสบายใจเฉิบ พามันไปที่ที่ของเธอ ไม่ว่าจะหน้าเคาน์เตอร์ โซฟาฝั่งโปรด หรือแม้กระทั่งพามันขึ้นร่วมโต๊ะอาหาร...

ไม่มีใครรักมณีแล้วเหรอ?

ไม่มีใครต้องการมณีแล้วใช่ไหม?

ทั้งรัก ทั้งท่านขุนและเจ้าแว่นนั่นต่างก็สนใจแมวน้อยสีดำขนฟูตัวนั้นกันหมด ไม่มีใครมีเล่นกับมณีเลย จิมก็แค่ให้ข้าวจบมื้อไปงั้น สนใจหรือก็เปล่า...ช่างสิ คนที่เธอต้องการให้มาสนใจคือรักกับท่านขุนต่างหากล่ะ แต่พวกเขาไม่สนมณีเลย...

มองเข้าไปในร้าน ท่านขุนนั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ แมวเปอร์เซียร์อยู่ข้างมือแล้วท่านก็ลูบไล้มันพลางคุยกับจิม แอ้นั่งหลับไม่ได้สนใจอะไร ตรงนั้นเคยเป็นของมณีแต่เพียงผู้เดียว ตัวอื่นไม่มีสิทธิ์ ทั้งที่คิดว่าถ้ารักกลับมาแล้วทุกอย่างจะเป็นเมื่อก่อน

เวลาอาจผ่านไปนาน แต่มณีจำได้...ช่วงที่รักกับท่านขุนดูแลอุ้มชูมณีมันมีความสุขมาก ใครๆ ก็สนใจเธอ เอาอกเอาใจเธอทุกอย่าง ไม่เคยหายหน้าหายตาไปไหนนาน บางทีมณีก็รำคาญความจุกจิกมากไปหน่อย แต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกพิเศษกว่าใครๆ แล้วดูตอนนี้สิ...ดูตอนที่พวกเขามีสิ่งอื่นมาดึงดูดความสนใจสิ มณีไม่มีค่าเลยเหรอ แค่เจ้าแว่นนั่นเข้ามาแย่งความรักจากท่านขุนไปเธอก็ไม่พอใจอยู่แล้ว รักกลับมาก็คิดว่าจะเหมือนก่อนก็ไม่เป็นแบบนั้น...รักของเธอเปลี่ยนไปแล้ว ไม่รักเธอเหมือนก่อนแล้ว

มณีมองแดดร้อนจัดเบื้องหน้า เธอชอบในร้านมากกว่า...มันไม่ร้อน แต่ในนั้นเหมือนไม่มีที่ของเธอเลย ดังนั้น...เธอจะไม่หันกลับเข้าร้านหรอก เธอเดินออกไปท่ามกลางแดดจัดจ้า เดินออกจากร้านของท่านขุนไป

“เออ แล้วมณีไปไหนอะ...เห็นมณีปะ” ท่านขุนเอ่ยถามจิม มือของเขากำลังลูบขนเจ้าเปอร์เซ๊ยร์ไร้ชื่อที่รักทิ้งเอาไว้ ตอนแรกมันอยู่ในกรง แต่เห็นมันร้องแล้วสงก็เลยเอาออกมา

“ไม่นะพี่ ไปไล่จับหนูในร้านมั้ง” จิมตอบทั้งที่ไม่เงยหน้าจากหน้าจอมือถือ

“ไรวะ...มณีครับ มณี....” ท่านขุนส่งเสียงเรียกสุดที่รักของเขา แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ

“ท่านขุนเอาขนมมาเสิร์ฟแม่มณีแล้วคร้าบ...มณีที่รักอยู่ไหนเอ่ย” เขาลุกจาเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ เดินส่องไปตามซอกตามมุมใกล้ตัวก่อน

“มันไม่ตอบพี่หรอก” จิมพูดไม่ใส่ใจ

“เอ้ามึง...แทนที่จะกวนประสาทกูมาช่วยหามณีดีกว่ามะ”

“แทนที่พี่จะมาหาแมวในร้าน พี่ไปทำงานดีกว่ามะ ช่วงนี้เอาแต่วุ่นอยู่กับแฟน ไม่สนใจงานเลย...เดี๋ยวผมก็หักเงินพี่หรอก” คำพูดน่าหมั่นไส้มาก ท่านขุนละสายตาจากการมองหามณีมาที่จิม จากนั้นตบหัวลูกน้องผู้น่ารักของตัวเองด้วยความเอ็นดูที่ล้นหัวจิตหัวใจ

“กูสิต้องตัดเงินมึง แม่ง...เล่นแต่เกมอยู่นั่นแหละ กูให้ดูแลร้าน ไม่ได้ให้มึงมานั่งบวกกับชาวบ้านชาวช่องเขาอยู่ได้” ก็ไม่อยากด่าหรอกนะ แต่ทำเป็นสั่งสอนเขาได้ไง...งานก็สบายอยู่แล้วยังจะมาปากดี

“โหย...ร้านก็มีแค่นี้ ดูอะไรนักหนาเล่า ความสะอาดผมก็ทำแล้ว บัญชีก็เคลียร์แล้ว มันว่างนะเว้ย...ว่างแล้วก็ต้องหาอะไรทำดิวะพี่”

“ว่างมากก็มาหามณีให้กู กูจะได้ไปทำงานไงครับคุณเจ้านาย” ท่านขุนผลักหัวลูกน้องอีกที

“หิวเดี๋ยวก็มาเองแหละ พี่ก็ห่วงไรไม่เข้าเรื่อง...”  มันก็ใช่ ปกติมณีไม่ออกไปนอกร้านถ้าท่านขุนไม่ได้อุ้มออกไปเอง เธอไม่ชอบแดดร้อน ไม่ชอบอากาศแปรปรวน ไม่ชอบทุกอย่างนอกร้านนั่นแหละ เพราะแอร์เย็นๆ และทาสมากมายในนี้คือความสุขของเธอ

“มึงนี่แม่งขี้เกียจจริงๆ เออ...แล้วแมวนี่จะเอาไงดีวะ”

“ไม่ต้องเอาไง ปล่อยไว้งี้แหละ เดี๋ยวพี่รักก้คงมาเอาเองแหละ” ก็หวังว่าแบบนั้น ไม่งั้นต้องมานั่งเกลี่ยกล่อมแมวสองตัวให้ดีกันอีก ยากเกิ้น...

ท่านขุนจำใจละความสนใจจากที่รักของเขา หันไปปลุกแอ้ที่นั่งหลับพักกลางวันให้ออกไปทำงานด้วยกัน รถเข้ามาซ่อมทุกวัน ไม่มีวันไหนไม่มีคิวซ่อม อาจจะมีมากน้อย เคสเล็กใหญ่ต่างกันเท่านั้น ซึ่งวันนี้รถมีแค่สองคัน เปลี่ยนโซ่กับท่อเท่านั้น เขาทำคันที่เปลี่ยนโซ่ค้างเอาไว้จึงกลับไปทำต่อ

ระหว่างทำเวลาก็เดินไปเรื่อยๆ เริ่มเข้าบ่ายสองเกือบบ่ายสามคนในคลับก็ทยอยมากันที่ร้าน นี่ท่านขุนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าวันนี้เป็นวันมีตติ้งของคลับ จะว่าไงดีล่ะ...ปกติก็มากินที่นี่กันทุกเสาร์อยู่แล้วอะ ต่อให้ไม่มีนัดรวมตัวพวกก็มาอยู่ดี

งานท่านขุนเสร็จตอนบ่ายสามนิดๆ จิมเป็นคนติดต่อไปทางลุกค้าให้มารับรถและเคลียร์ค่าใช้จ่าย ส่วนท่านขุนก็นั่งดื่มเบียร์แต่วันกับรุ่นพี่รุ่นน้องในคลับ บางคนยังไม่เลิกงานเช่นพี่แจ็กมาสเตอร์คลับก็ต้องโอดครวญในไลน์กลุ่มกันไป พวกนี้เล่นส่งรูปกระป๋องเบียร์ กับแกล้มต่างๆ เข้าไปยั่วคนทำงานให้เกิดความกระสันอยากออกไปเติมแอลกอฮอล์ให้เลือดตัวเอง

ท่านขุนไม่ได้ส่งรูปต่างๆ ให้แค่คนในกลุ่มบิ๊กไบก์ของเขาเท่านั้น แต่ยังส่งไปให้พีระพลด้วย เวลานี้พี่พีของเขาค่อนข้างว่างแล้ว งานเคมีมันมีเวลาตายตัวในการทำ หากงานไม่มีปัญหาก็ว่างยาวยันเลิกงาน มันก้เหมือนช่วงเช้าที่พีระพลจะว่างตั้งแต่สิบเอ็ดโมงนั่นแหละ และต่อให้ว่างก็ไม่ออกมาก่อนเวลา ดังนั้นทั้งคู่จึงนั่งคุยกันผ่านโปรแกรมแชต

“เออไอ้ขุน แม่มณีของมึงหายไปไหนวะ...” ห้าโมงนิดๆ พี่พีกำลังเดินเข้ามาในร้าน ทว่าเพื่อนคนหนึ่งของเขาถามถึงมณีขึ้นมาก่อน

“ไม่รู้วะ...เออ ไม่ออกมาเลยนี่หว่า” ตอนแรกลืมไปแล้วไงว่ามณีหายไป พอโดนทักขึ้นมาก็ฉุกคดถึงได้อีกครั้ง

พีระพลก้มหัวทักทายคนในร้าน พวกนั่งรายล้อมอยู่รอบโต๊ะกลางร้านเพื่อสังสรรค์กันตามปกติ พีระพลค่อนข้างชินกับการเข้ามาในร้านวันนี้จะเจอคนเยอะและกระป๋องเบียร์มากมาย สิ่งแรกที่เขามองคือท่านขุน ตามติดด้วยมณีน้อยของเขา

“พี่พี…มานั่งนี่สิครับ มาๆ “ ท่านขุนตบเบาะข้างตัวเอง

“มณีล่ะครับ” ถามเหมือนเพื่อนท่านขุนเลย

“เมื่อกี้ผมเพิ่งถามไปเลยว่ามณีไปไหน นี่มณีรู้ไหมว่ามีเด็กต่างถิ่นเข้ามายึดพื้นที่เนี่ย” ใช่…เปอร์เซียร์สีดำขนฟูตัวนั้นแย่งพื้นที่ของมณีไปแล้ว พีระพลเผลอขมวดคิ้วนิดหน่อยเพราะเขาเองก็ลืมถามว่าแมวตัวนี้เป็นของใคร

“รู้ดิ เจอกันครั้งแรกก็กัดกระจายเลยอะ...” ท่านขุนบอก

“แล้วแมวใครเหรอ”

“อ๋อ แมวรักอะพี่พี...เอ่อคือ รักมันบอกว่าเก็บได้” ท่านขุนได้แต่ยิ้มแหยๆ มันน่าเขื่อไหมล่ะเก็บเปอร์เซียร์ได้ข้างถนนเนี่ย

“ฮ่าๆ...ผัวเก่ามึงตอแหลเนอะ” เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น คนในนี้รู้กันหมดแหละว่ารักเป็นคนแบบไหน ปกติพีระพลไม่ชอบคำหยาบคายเท่าไหร่ แต่หนนี้อยากจะปรบมือให้แรงๆ เลย

“อะไรๆ...ไอ้รักกลับมาป้วนเปี้ยนเหรอน้องรัก” แจ็กตามเข้ามาช้ากว่า เพราะแจ็กแวะซื้อของกินมาด้วย

“ใช่พี่ ไล่แล้ว...”

“แต่ไม่ไป” รุ่นพี่คนหนึ่งของท่านขุนเปรยสั้นๆ เห็นได้ชัดว่ารักดชื่อเสียงดีมากจริงๆ

“ที่งอนๆ กันเนี่ยเพราะรักปะ...” แจ็กแซะทั้งที่รู้ทั้งรู้แหละนะ

“อืม รักแม่งโคตรรกวนตีนเลยพี่ พูดจาแต่ละคำ โคตรน่าตบปาก แต่เอ่อ...ผมต้องรักษาภาพลักษณ์อะนะ” ว่าแล้วมองหน้าพีระพล คนโดนมองหัวเราะ เขากอดคอท่านขุนเพื่อดึงให้ชิดใกล้กันอีกนิด

“ไม่ต้องก็ได้...พี่ถือหรอกถ้าแฟนพี่จะโหดอะ” หวานไปอีก...หวานเกินไปแล้ว คนมองโอดครวญในใจแต่ไม่มีใครกล้าแซ็ว ส่วนหนึ่งเพราะเกรงใจพีระพลซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ไม่เหมือนแจ็กที่คนเกรงใจน้อยกว่ามาก อาจเพราะสนิทชิดเชื้อกันดี

“ไม่บอกแต่แรก ผมจะต่อยมันโขว์เลย” พีระพลขำ

“นั้นก็เกินไปครับ...”

“ใช่ เกินไปจริงๆ...หวานเกินหน้าเกินตามากๆ อะน้า เอ้า...ยกแก้วเว้ย แด่คนเมียไม่รัก เมียไม่หลงอย่างพวกเรา...หรือต้องเรียกว่าคนโสดไม่มีใครเอาอย่างเราดีวะ” มีคนเดียวที่กล้าขัด แจ็กยกกระป๋องเบียร์เปิดแล้วขึ้นชู ตามด้วยคนอื่นๆ ยกชน

“เรียกว่าโสดไม่มีใครเอาดีกว่าพี่ ฮ่าๆ” เสียงขำขันของเหล่าชายฉกกรจ์ดังขึ้น แม้แต่ท่านขุนหรือพีระพลก็ยังหัวเราะไปกับพวกเขา

พีระพลดื่มกระป๋องเดียวกับท่านขุนก่อนอึกสองอึก กะว่าเดี๋ยวจะไปหยิบกระป๋องใหม่มาเปิดดื่มร่วมกับคนอื่นๆ เขาเหมือนกัน ติดที่เขายังเอาแต่มองหามณี เมื่อกี้ถามยังไม่ได้รับคำตอบเลยว่ามณีหายไปไหน

“มณีออกมากินข้าวบ้างไหมเนี่ย...” เขาถามท่านขุนเบาๆ กันสองคน

“ยังเลยพี่พี เออ...แป๊บนะ” แล้วจู่ๆ ท่านขุนก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาลุกเดินไปที่หลังเคาน์เตอร์แคชเชียร์ พีระพลเดินตามเขามาเช่นกัน

คนอื่นยังคงดื่มและพูดคุยกันสนุกสนาน ขณะที่ท่านขุนกับพีระพละกำลังเปิดกล้องวงจรปิดหน้าร้านดู ในฐานะที่รักของมณีแล้ว ท่านขุนเองก็คิดมากเรื่องนี้ ปกติมณีต้องเดินป้วนเปี้ยนหรือมาไล่ที่ จากเที่ยงมาเย็น มณีหายไปเลย ไม่มากินข้าวหรือส่งเสียงร้องขอขนม แต่เพราะงานด้วย เพื่อนๆ พี่ด้วย ทำให้ท่านขุนหลงงลืมไป จนมาพี่พีถามเนี่ยแหละเขาเลยสะกิดใจขึ้นมา

“พี่พีเจอมณีตอนสุดท้ายเมื่อไหร่...” ท่านขุนจำไม่ได้แล้วว่าเขาเห็นมณีตอนสุดท้ายเมื่อไหร่ น่าจะสายๆ หรือเที่ยง

“ตอนเที่ยงครับ เข้ามาในร้านก็เจอเลย...ตอนออกไปนี่พี่ไม่เห็นมณีแล้ว” ไม่เชิงเครียดแต่เป็นความกังวล ท่านขุนรีบลงมือกรอกเวลาที่ต้องการดูกล้องลงไป จากนั้นก็ค่อยๆ กรอกดูทีละน้อย จากพี่พีลงรถ เดินเข้ามาในร้านและเข้าไปเล่นกับมณี

“ปกติมณีไม่ออกนอกร้าน...” ท่านขุนเปรยเบาๆ การไม่เห็นมณีเลยเป็นไปได้ที่มณีจะหนีออกไป

“ไอ้จิม มึงขึ้นไปดูชั้นบนดิ้ว่ามณีอยู่ปะ”

“คร้าบ...” ไม่อยากทำก็ต้องทำ จิมเดินขึ้นไปดูชั้นสอง พีระพลกับท่านขุนมาตั้งใจดูภาพในกล้องวงจรปิดกันอีกรอบ

ตอนพวกเขาอยู่ในครัวกันมณีน้อยอยู่หน้าครัว เธอป้วนเปี้ยนตรงนั้นครู่หนึ่งก็หายไป ท่านขุนเน้นตรงหน้าประตูร้านเป็นหลัก กรอกไวๆ เพื่อจะได้ดูว่ามณีออกไปนอกร้านหรือเปล่า ประมาณเที่ยงสี่สิบหกนาทีแอ้เปิดประตูออกไปนอกร้าน ตอนนั้นเองที่มณีน้อยแอบกระโดดออกไปพร้อมแอ้ ลุกน้องท่านขุนดูเหมือนไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำ แอ้ทำอะไรสักอย่างอยู่ไม่ถึงห้านาทีก้กลับเข้ามา มณีไม่ได้เข้ามาพร้อมแอ้...
“พี่ขุน ชั้นสองไม่มีเลย...ผมเรียกห้าแล้ว ห้องผมก็ไม่มี ห้องพี่ก็ไม่มี ซอกตู้เตียงดูหมด ไม่เจอ” รู้ว่าจะโดนจี้ถามจุดที่น่าจะซ่อนตัวได้ จิมรีบรายงานทันทีกันไว้ก่อนจะได้ไม่ต้องขึ้นไปอีก
“กล้องมันเห็นแค่ตรงนี้เหรอ...” พีระพลเป็นกังวลขึ้นมาจับใจ
“มันมีตรงรั้วหน้าร้านอีกพี่” ว่าแล้วท่านขุนก็เปิดกล้องตัวรั้วใหญ่ควบคู่กับหน้าร้าน ไล่เวลาดูไปเรื่อยๆ เพื่อจะได้เห็นว่ามณีออกจากร้านไหม หรือว่าหายไปไหน ที่แน่ๆ...ไม่มีภาพมณีเดินกลับเข้ามาในร้านอย่างที่เจ้าของหวังไว้

….100%….

เรารีบอัปนะคะ ขออภัยที่คำผิดอาจจะเยอะไปหน่อยตอนนี้

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
แม่มณีน้อยใจหนีออกจากบ้านไปแล้ว โถ่ลูก ไปหลบอยู่ไหนเนี่ย

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตายแล่ววววววววววววว  แม่มณีไปไส  แวรือาร์ยู๊วววววว????

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
เรื่องจริงนะ

รักกันก็หาหมาแมวมาเลี้ยง
จบกันก็เลี้ยองกันต่อไปได้ ลงที่หมาที่แมว น่าสงสารจริงๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ห่วงแม่มณีแล้วเนี่ยะ เจ้าพวกทาสไปตามกลับมาไวๆเลย

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>….ตอนที่ 24 [TheEnd]….<

ทุกคนยังคงครึกครื้นอยู่กับเหล้าเบียร์และกับแกล้ม เจ้าแมวเปอร์เซียร์ตัวใหม่น่ารักน่าชังกว่ามณีเสียอีก ขนฟูๆ กับท่าทางออดอ้อนชวนให้คนรอบข้างหลงใหลในตัวมัน ไม่เหมือนมณีที่ดุเหลือเกิน ดุยิ่งกว่าหมาหวงเจ้านายเสียอีก แต่ก็...ไม่เห็นมณีน้อยแล้วแปลกๆ ไปเหมือนกัน ราวกับว่า...มณีคือเอกลักษณ์ของร้านนี้ไปแล้ว

เวลาในกล้องวิดีโอผ่านไปเรื่อยๆ อยากเพิ่มอัตราความเร็วให้มากกว่านี้แต่กลัวจะพลาดสายตาจากมณี ด้วยความที่มณีเป็นแมวพันธ์ไทย ตัวไม่ได้ใหญ่นักแถมยังสีขาวสะอาดสว่างสู้แดดอีก จากหาง่ายกลายเป็นยาก สองคนสี่ตาช่วยกันดูไปเรื่อยๆ เห็นรางๆ ว่ามณีเดินเล่นอยู่กับเครื่องไม้เครื่องมือช่าง จากนั้นหายไปมุมไหนสักมุม พีระพลขับรถออกไปแล้ว ท่านขุนทำงานของตนเอง รักเข้ามาอีก...เข้ามาป้วนเปี้ยนและเหมือนจะจูบเขา

ตรงนั้น...พีระพลเผลอมองหน้าท่านขุน ไม่เห็นเล่าให้ฟัง ไม่เห็นบอกกันเลยว่ารักมันทำแบบนี้ เขาอยากจะต่อว่าหรือตำหนิสิ่งที่ท่านขุนทำ ทว่าเห็นสีหน้าเป็นกังวลนั้นแล้วก็ทำไม่ลง พีระพลพยายามสงบใจเพื่อหันกลับไปมองกล้องวงจรปิดต่อ ได้ดูเหตุการณ์จากนั้นที่ท่านขุนทำร้ายและผลักไสไล่ส่งรัก พวกเขาทะเลาะกัน...แลtใช้กำลัง ดีที่ท่านขุนไม่ได้โดนรักทำร้ายมา ความไม่พอใจหายไปเป็นปลิดทิ้ง รู้แล้วว่าท่านขุนไม่ได้อยากให้รักทำแบบนั้นกับตนเอง...

แต่แล้ว...หลังท่านขุนเข้ามาในร้านแค่ไม่กี่นาที แมวน้อยสีขาวก็เดินออกมาจากมุมอับของกล้อง เข้าไปคลอเคลียที่ขาของรัก ออดอ้อน เอาอกเอาใจด้วยอยากให้รักหายอารมณ์เสีย ทว่ารักกลับทำสิ่งที่แย่กว่านั้น...รักแตะมณี

“ไอ้เหี้ยรัก!” ท่านขุนกำหมัดแน่นขึ้นมาทันที ความโกรธเกลียดชิงชังปะทุขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ พีระพลเองก็สะเทือนใจและโกรธในสิ่งที่รักทำเช่นกัน

“ใจเย็นก่อนท่านขุน...”

“ใจเย็นอ๋อพี่ พี่พีดูมันทำกับมณีดิ...มันเป็นคนซื้อมณีมา มณีรักมันแล้วมันทำแบบนี้กับมณีเหรอ!” เสียงโวยของท่านขุนดังลั่นร้าน มันดังมากตั้งแต่สบถคำหยาบแล้ว

“อะไรกันวะ...” แจ็กเดินเข้ามาถาม

“ไอ้เหี้ยรักแม่งแตะมณี ผมจะเอาเลือดหัวแม่งออก...ไอ้สัส” เห็นได้ชัดว่าท่านขุนโกรธมากขนาดไหน ทั้งยังเปิดภาพนั้นรีเพล์ให้คนในคลับได้ดูอีกด้วย

เสียงก่นด่าตามมาแบบติดๆ พีระพลใช่พอใจ...โกรธมากเหมือนกันเพราะเขาก็รักมณี แต่สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือการหาว่ามณีอยู่ไหน ในขณะที่คนอื่นเอาแต่ด่ารักอยู่ พีระพลคว้ามือท่านขุนเอาไว้ บีบเบาๆ ให้กำลังใจ อีกมือก็กดเล่นวีดีโอต่อเพื่อดูว่าหลังจากนั้นมณีไปไหน

แล้วภาพที่มณีน้อยเดินหนีออกจากร้านไปก็ฉายอยู่ในจอ...

“บ่ายโมงกว่า บ่ายโมง...นี่จะหกโมงเย็นแล้ว” หัวใจเจ้าของร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม

“ใจเย็น มณีอาจไปได้ไม่ไกล...เราตามหาตอนนี้น่าจะยังเจอเธออยู่”

“แต่มันนานมากแล้วนะพี่พี” เสียงท่านขุนสั่น ความเป็นห่วงที่เอ่นล้นขึ้นมามันสั่นคลอนอารมณ์ของเขา พีระพลประครองสติตัวเองได้ดีกว่า เขาจับมือคนรักทั้งสองข้างมากุมเอาไว้ จ้องหน้า...จ้องเข้าไปในดวงตาอีกฝ่าย

“มณีจะไม่เป็นอะไร เราแยกกันตามหา...มณีอาจไปไม่ได้ไกลนัก เธอยังเด็ก และเธอไม่ชินกับเส้นทางหรือถนนหนทางข้างนอก แจ็ก...กูวานมึงกับเพื่อนๆ ช่วยกันแยกไปตามซอยหรือริมถนนเพื่อหามณีหน่อย กูกับท่านขุนจะลองเลาะในซอยนี้ดูก่อน มีอะไรหรือเจออะไรแจ้งในไลน์เลย หรือโทรเลยเข้าใจปะ” เขาหันไปสั่งเพื่อน พีระพลไม่รู้เส้นทางมาก...จะว่าเขาไม่รู้ทางพอๆ กับมณีก็คงได้ แต่จะให้นิ่งเฉย ปล่อยเวลาไปอีกคงไม่ได้

“เดี๋ยวฉันช่วยประกาศหาในเฟซ” ผู้หญิงซึ่งเป็นแฟนสาวของคนในกลุ่มออกความเห็น

“ขอบคุณมากครับ ปะ...เรารีบตามหาดีกว่า มีอะไรจะได้ทันท่วงที” คนรักเขายังมีสติไม่ครบเลย แต่พีระพลไม่รอ...เขาดึงมือท่านขุนให้ออกไปข้างนอก
 
เสียงท่อของมอเตอร์ไซก์เกือบสิบคันดังขึ้นแทบพร้อมๆ กัน ในที่แคบและค่อนข้างอับมันดังสนั่นจนพีระพลอดนึกรำคาญนิดๆ ไม่ได้ แต่ก็เอาเถอะ มันเป็นความชอบของคนอื่น ท่านขุนมองดูพี่ๆ ขับรถออกไป เขาล้วงหยิบกุญแจรถซึ่งอยู่ในกระเป๋ากางเกงตลอดเวลาออกมาถือ

พี่พีไม่ชอบนั่งมอเตอร์ไซก์...

“เรารีบไปกันครับ”

“แต่...” ท่านขุนมองหน้าพี่พี

“ไม่เป็นไร พี่ซ้อนได้” รู้สึกขอบคุณพี่พีที่ยอมเพื่อมณี

แต่ตอนนี้ต้องรีบตามหามณีก่อน มณีไม่เคยออกมานอกร้านเอง ไม่เคยก้าวพ้นรั้วสนามแข่งรถของเขาเลยสักครั้งเดียว ท่านขุนขึ้นคร่อมรถคู่ใจ ขยับถอยตั้งหลักจนเรียบร้อย ไม่ได้ใส่เซฟตี้เพราะคิดว่าคงไม่ใช้ความเร็วเท่าไหร่ พีระพลขึ้นซ้อนตามเมื่อเห็นว่าท่านขุนพร้อมจะที่ขับออกไปแล้ว…

มณีออกมาจากร้านตั้งแต่แดดเปรี๊ยงๆ เธอไปไหนไม่ได้ไกลเพราะหวาดกลัวเสียงรถข้างนอกซอย ถนนใหญ่และรถวิ่งกันไปมาด้วยความเร็ว สิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อนทำให้เธออยากหันหลังกลับไป แต่ก็...ไม่อยากกลับไป มณีน้อยป้วนเปี้ยนอยู่ในซอย เจอต้นไม้ใหญ่ที่มีบ้านหลังเล็กๆ...ห้อยอะไรไม่รู้ แถมบ้านยังอยู่บนเสาไม้อีกต่างหาก มณีไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่เธออาศัยมันในการนอนหลบแดด

ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงมณีก็หิว เธอลุกจากที่นอนอยู่เพื่อเดินหาอะไรกิน ไม่เคยต้องหาอาหารเอง ปกติร้องขอก็จะมีคนหามาให้ เธอส่งเสียงร้อง...เธอเรียกหาคน ใครก็ได้เอาอาหารมาให้เธอหน่อย ร้องอยู่เป็นชั่วโมงกลับไม่มีแม้เงาคนเดินผ่านมา มณีจำต้องเดินออกมาจากที่แห่งนั้นเพื่ออะไรประทังชีวิต

ข้างทางเป็นป่า ต้นไม้ระเกะระกะกับเศษขยะมากมาย มณีใช้จมูกในการดมกลิ่นหาอาหาร ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับเป็นกลิ่นเหม็นเน่าของอาหารเสีย มันไม่ใช่สิ่งที่กินได้ มีถ้วยมาม่าถูกวางทิ้งเอาไว้ มณีจำได้ว่าท่านขุนเคยกินมัน เธอตรงเข้าไป...มีน้ำอยู่ก้นถ้วย กลิ่นฉุนไม่น่ากิน แต่ทำไงได้...เธอหิว มณีมุดหน้าลงไปในถ้วยนั้น เศษม่ามาและน้ำเหล่านั้นเผ็ดเกินกว่ามณีจะกินได้

ทรมาน...ต้องทำยังไงถึงจะหายน้ำ เธอมองหาน้ำเปล่าๆ ที่พอจะกินได้บ้างในแถวนั้น แต่มันไม่มี...เดินวนรอบๆ ดูแล้วก็ยังหาไม่ได้เลย มณีเริ่มท้อใจ ก้าวออกมาข้างถนนอีกครั้ง มองไปตามทาง...อยากกลับไป อยากไปหาท่านขุน

แล้ว...ทางกลับมันอยู่ไหน?

ร่างมอมแมมโซซัดโซเซไปเรื่อยๆ ดมทางกะว่ามันคงจะคุ้นจมูกในไม่นานนี้ ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว...ดวงไฟใหญ่นั้นกำลังเคลื่อนที่หายไป มณีรู้ว่ามันเป็นเวลากลางคืน ที่ไม่รู้คือเมื่อไหร่จะหาทางกลับบ้านเจอ ท่านขุนตามหาเธอไหม...รักล่ะเป็นห่วงเธอหรือเปล่า

เดินจนเหนื่อย ขาอ่อนล้าไม่มีแรง มองซ้ายมองขวาทุกอย่างมืดมิดไปหมด แต่เธอมองเห็นนะ...เธอเห็นทุกอย่างชัดเจน แล้วสิ่งที่ชัดเจนที่สุดสำหรับมณีในตอนนี้คือเธอโดดเดี่ยวเหลือเกิน แมวน้อยตั้งใจจะนอนพักข้างทาง

ทว่า...กลิ่นสุนัขกลับทำให้เธอผวา

มณีถอยหนีกลับไปทางเดิมเพราะอีกทางมีเงาตะคุ่มๆ ของสุนัขสี่ห้าตัวกำลังย่างกรายเข้ามา เธอเป็นแค่แมวน้อยตัวเล็กๆ สู้อะไรสุนัขจรหิวโหยพวกนี้ไม่ได้ พวกมันน่ากลัว...พวกมันแยกเขี้ยวน้ำลายเยิ้มพร้อมกับเสียงขู่ มณีพยายามจะพองขนขู่กลับ เพื่อปกป้องตัวเองแล้ว...

เธอพยายามแล้ว...

“ขุนๆ...” พีระพลตบไหล่คนรักเบาๆ เขามองไม่เห็นหรอก...แต่ตรงนั้นน่ะ

ท่านขุนจอดรถตามคำบอกของพี่พี ทว่าไม่ทันได้ถามพีระพลก็วิ่งไปก่อนแล้ว รถยังไม่ทันจอดให้สนิทเลยยด้วยซ้ำ มันเป็นมุมมืดๆ รายล้อมไปด้วยขยะและต้นไม้ พีระพลไม่เห็นมณีแต่เขาได้ยินเสียง เขาจึงวิ่งไปทางเสียงนั้นอย่างไม่คิดอะไร

“มณี!” โชคดีเป็นของมณี เสียงเรียกนั้นดังมาพร้อมกับที่เจ้าหมาสี่ตัวกระโจนใส่เธอ

พีระพลปรี่เข้าไปคว้ามณีเอาไว้ด้วยความเร็วของเขา แว่นไร้กรอบร่วงหล่นเพราะเขารีบก้มหน้าอุ้มแมวน้อย เจ้าหมาถิ่นสี่ตัวพุ่งเข้ากัดที่แขนและขาของพีระพลแทนมณี เขาไม่ได้สนหรอก...เจ็บหน่อยช่างมัน เขารีบชูมณีขึ้นสูงสุดแขนแล้วหันไปถีบหมาออกให้พ้นตัวเอง

ในจังหวะที่ชุลมุนวุ่นวาย...ท่านขุนรีบเข้ามาพร้อมกับไม้หยิบมาจากข้างทาง มีของเล็กของน้อยเอามาปาหมาด้วย ทั้งเสียงเห่า เสียงขู่ของสุนัขหลายตัวและเสียงร้องของมณีผู้ตกใจหวาดผวา เธอทั้งกัด ทั้งข่วนพีระพลด้วยความหวาดกลัว ส่วนคนโดนสนใจแค่เอาสุนัขพวกนี้ให้ออกไป

“พี่พี!” แขนเสื้อและขากางเกงก็ขาด น่าจะกัดเข้า ไอ้หมาหิวพวกนั้นรุมทึ้งพี่พีไปพักหนึ่งก่อนท่านขุนเข้ามา

“ฮ่าๆ ดูไม่ได้เลยโดนหมาฟัด...” พีระพลหัวเราะเบาๆ เขาส่งยิ้มให้ท่านขุนที่หวาดกลัวไม่ต่างจากมณี

“บ้าเอ้ย” พี่พีเอามณีลงมากอดไว้แนบอก พยายามลูบหัวปลอบแมวน้อยเสียขวัญ ทว่าท่านขุนก็เข้ามาสวมกอดเขาอีกชั้นหนึ่ง

“อะไร แค่หมากัดเอง...” เขาลูบหัวคนรักเด็กกว่าด้วยมือข้างหนึ่ง

“รู้แล้ว...ผมห่วงพี่นี่ ห่วงมณีด้วย” ท่านขุนมองที่รัก มณีน้อยส่งเสียงร้องอ้อนวอนท่านขุนอยู่ในมือพี่พี

“เธอคงอยากให้ท่านขุนปลอบใจนะ” พีระพลส่งแมวให้ท่านขุนอุ้ม แต่ท่านขุนแค่ลูบหัวมัน

“แต่ต้องพาพี่พีไปหาหมอก่อน ฝากพี่พีอุ้มมณีก่อนนะ” ว่าแล้วท่านขุนก็วิ่งกลับไปที่รถมอเตอร์ไซก์ของตนเอง ส่วนพีระพลก็เดินไปเก็บแว่นที่หล่นด้วยความลำบากเล็กน้อย ก็มันมองไม่เห็น

ทั้งที่ว่าจะไม่ซิ่งก็ต้องซิ่งพาพี่พีไปหาหมอ โรงพยาบาลใกล้สุดอยู่แค่นี้ ทุกอย่างวุ่นวายและชุลมุนไปหมด เหล่าไบก์เกอร์ที่ออกตามหามณีก็มารวมตัวอยู่ที่นี่เหมือนกัน ระหว่างรอหมอทำแผลให้พี่พี ท่านขุนพามณีไปหาอะไรกินและปลอบใจแมวน้อย มันดูน่าสงสาร...ตัวสั่นงันหงกไปหมด

ลึกๆ...มณีรู้สึกดีมากที่ท่านขุนกลับมารับเธอ แต่น่าแปลกที่คนมาด้วยเป็นเจ้าแว่นนั่นไม่ใช่รักที่เธอโหยหา หน้าห้องฉุกเฉิน พวกไบกก์เกอร์นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยหลายสิ่งหลายอย่าง ท่านขุนคุยด้วย ส่วนเธอกำลังมองจ้องเข้าไปในห้องนั้น กลิ่นยาฉุนๆ มณีไม่ชอบ แต่ในความไม่ชอบเธอได้กลิ่นพีระพล...

ผู้ชายคนนั้นช่วยเธอ...

“ท่านขุน” เสียงของรัก...เสียงของผู้ชายที่มณีเคยโหยหาดังขึ้น ท่ามกลางสายตาของคนมากมายมองมาที่รัก

“มาทำเหี้ยไร มาทางไหนมึงกลับไปทางนั้นเลยนะ!!!” ท่านขุนเดือดดานมาก มณีส่งเสียงร้องเพื่อฟ้องว่ารักทำกับเธอยังไง ท่านขุนลูบหัวเธอ...นุ่มนวลและอบอุ่น

มณียังโหยหารัก และอยากได้รักกลับมาอยู่ร่วมกับท่านขุนเหมือนเมื่อก่อน ทว่าตอนนี้เธอเป็นห่วงคนที่โดนหมารุมกัดในห้องนั้นมากกว่า บวกกับสิ่งที่รักทำกับเธอในวันนี้...เธอไม่ชอบ รักรังเกียจเธอและเธอก็ไม่จำเป็นต้องรักรักเหมือนเมื่อก่อน

“ใจเย็นก่อน...รักเป็นห่วงมณี”

“เมี๊ยวววว” มณีไม่ได้ร้องเรียกหารัก ไม่ได้เชื่อว่ารักเป็นห่วง แต่กลิ่นของพีระพลใกล้เข้ามาแล้ว เธอตัดสินใจกระโดดลงจากมือของท่านขุนไปที่หน้าประตู

“ไงจ๊ะแม่มณี...” เจ้าแว่นออกมาแล้ว มณีนั่งลง...เงยหน้าส่งเสียงร้องพร้อมกับเอียงหน้าซบไปที่ขาของพีระพล

“มิ้ว...มิ้วววว” อุ้มหน่อย อุ้มฉันสิเจ้าแว่น...นี่กำลังอ้อนนะ ต้องอุ้มนะ

“โอย...ใจพี่ละลายแล้วครับ” ร่างของเธอโดนมือที่อแสนจะทะนุถนอมอุ้มขึ้นมากอดเอาไว้ เธอไม่เล่นตัว ทั้งยังเอาหัวตัวเองถูไถไปกับหน้าใสๆ ของผู้ชายตาสีน้ำตาอ่อนคนนี้

เป็นความน่ารักท่ามกลางความตึงเครียดของท่านขุนกับรัก แน่ล่ะท่านขุนยังไม่หายโกรธคนที่แตะสุดที่รักของเขาหรอกนะ แต่เขาละสายตาจากมณีน้อยกับพี่พีไม่ได้เลย อยากให้มณีดีกับพี่พีมาตั้งนานแล้ว สงสารพี่พีที่ยอมมณีทุกอย่างแต่มณีก็ไม่เคยเป็นมิตรด้วย วันนี้...มณีอ้อนพี่พีด้วยแหละ!

“กลับไปซะ...อย่าให้กูเอาเรื่องมึงเลยรัก” ท่านขุนตัดสินใจปล่อยผ่านรักไปก่อน นี่เวลาครอบครัว...เวลาของเขากับพี่พีและมณี เขาผลักรักให้พ้นทาง ซึ่งรักยอมถอยโดยดี

“ท่านขุนดูดิ มณีอ้อนพี่ด้วยแหละครับ โหย...นี่ถ้ารู้ว่าพี่โดนหมาฟัดแล้วมณีรัก พี่ยอมพลีชีพไปนานแล้วนะ” คำพูดของพี่พีอบอุ่นมาก เป็นคำเย้าหยอกเต็มไปด้วยความดีใจ เล่นง้อมณีมาตั้งนาน โดนทำร้ายมาตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ในที่สุดมณีก้เห็นความรักของเขาแล้ว...เขาต้องดีใจเป็นเรื่องธรรมดา

“อื้อ พี่กับมณีเข้ากันมากครับ...” ท่านขุนก็มีความสุข...ชอบที่มันเป็นแบบนี้

“เรากลับกันเถอะ...อยากไปสวีตในที่ส่วนตัวมากกว่า” ไม่พูดเปล่า พีระพลมองไปด้านหลังท่านขุน สบตากับรักเพื่อบอกว่ารักนั่นแหละที่เป็นส่วนเกิน

“ฮ่าๆ ก็ดีครับพี่...อยากให้พี่พีพักแล้ว เจ็บเยอะเลย”

“ไม่เป็นไร มณีปลอดภัยพี่ก็ว่าคุ้มแล้วนะ” พีระพลโน้มหน้าจูบหน้ามณีน้อยในอ้อมแขน เธอไม่ดิ้นหนี...ไม่ตบสวนด้วยแหละ

รักถูกทำให้เป็นส่วนเกินของทั้งคู่และคนเกือบยี่สิบคนในคลับท่านขุน พวกเขาเดินกันเป็นกลุ่ม คุยกันแค่ในกลุ่มและไม่มีใครสนใจรักเลย ทั้งที่รักเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกมาก่อน รักเดินตามหลังคนหมู่มากไป พวกนั้นยังต้องไปจ่ายค่ารักษา จ่ายค่ายาให้เรียบร้อย

ไม่ได้ยอมแพ้...แต่รู้สึกพ่ายแพ้มากๆ

จัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็มูฟมาที่ร้านของท่านขุน พีระพลขอตัวไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยก่อนเพราะไม่ไหวกับสภาพที่หมาฟัดมากๆ มณีเองก็ถูกนำไปอาบน้ำด้วยเช่นกัน ท่านขุนอยากจะขึ้นไปช่วย ติดที่พีระพลเกรงใจคนอื่นๆ อยากให้เจ้าของร้านหรือเจ้าของบ้านอย่างท่านขุนอยู่ต้อนรับ อีกอย่างพวกเขาช่วยในการตามหามณี ต้องขอบคุณพวกเขาด้วยเหมือนกัน

ท่านขุนขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยเขาในวันนี้ เลี้ยงทุกอย่างไม่อั้น สั่งได้เอาเลย ลูกน้องเขาก็เหมือนลูกน้องตัวเอง อยากได้อะไรจิกใช้ได้เต็มที่ ตอนนี้เขามีความสุขมาก เหมือนลูกสาวกับพ่อเลี้ยงเข้ากันได้แล้ว อารมณ์ประมาณนั้นเลย มันโคตรแฮปปี้ มันเลยต้องยิ่งฉลองและฉลอง

“มาทำไมวะ...” แต่มันมีแขกไม่ได้รับเชิญ

“รัก...” ไม่รู้ต้องพูดยังไงดี ตอนแรกมาหาก็มาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมแหละ แต่พอเห็นท่านขุนกับพีระพลและมณีอยู่ด้วยกัน...ความมั่นใจบางอย่างก็หดลง

“มีอะไร เร็วๆ...กูจะได้พูดเรื่องของกู” ทุกคนเห็นหมด ได้ยินหมด และคิดว่ามีวางมวยแน่นอน

“ท่านขุนยังรักรักบ้างไหม” อยากจะขำเมื่อได้ยินคำถาม

“นี่ใช้สมองหรืออะไรคิด...ปฏิเสธไปขนาดนี้แล้วยังเชื่ออะไรผิดๆ อีกเหรอรัก”

“ก็ถ้าท่านขุนไม่รักรักแล้ว ท่านขุนเก็บมณีเอาไว้ทำไม...ทิ้งไปสิ...” คำพูดของรักขาดหายไป เพราะหน้าสะบัดจากเงื้อมือท่านขุน

“ถุยเหอะ อย่ามาคิดอะไรโง่ๆ หน่อยรัก…มณีเป็นตัวแทนความรักของเราก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเลิกกันแล้วเราต้องทิ้งมณีไป ตอนนี้กูรักมณี มณีเป็นสุดที่รักของกู…ไม่ใช่ตัวแทนความรักเหี้ยๆ ที่เคยมีกับมึงเว้ย” รักเงยหน้ามองท่านขุน ทั้งโกรธทั้งรักเจือปนกันมั่วไปหมด

พลั้ว...!

“และนี่สำหรับที่มึงแตะที่รักของกู ไสหัวออกไปจากร้านกู...ออกไปให้พ้นๆ หน้ากูและอย่ามาโพล่ให้กูเห็นหน้ามึงอีก” เลือดไหลกลบปาก รักมองหน้า...อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่คนอื่นๆ ในร้านเริ่มลุกขึ้นมาแล้ว ยังไงซะ...คนเดียวมันก็สู้คนจำนวนมากไม่ได้

เป็นอีกครั้งของหลายๆ ครั้งที่รักต้องเดินออกไปจากร้านนี้เหมือนหมาตัวหนึ่ง...ทว่าหนนี้มันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง สิ่งที่เขาได้กระทำกับมณีก็เหมือนกับที่เขาเคยทำกับท่านขุน มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นที่ตนเผลอทำร้ายสิ่งที่รักไป

คิดได้ตอนนี้มันก็เรียกอะไรคืนไม่ได้...ไม่เหลืออะไรให้เขายื้อไว้อีกแล้ว ไม่มีที่สำหรับเขา ไม่มีช่องว่างให้เขาเข้าไปแทรกได้อีก รักมองกลับไปทางร้านอีกครั้ง ความหวังของเขา เขาเคยกอดมันเอาแนบแน่นเพราะต้องการสานต่อความสัมพันธ์กับท่านขุน ตอนนี้สิ่งที่เขามันเป็นเพียง...ลมและตัวเอง

พีระพลลงมาข้างล่างอีกครั้งหลังอาบน้ำอาบท่าให้ตัวเองและมณีเรียบร้อย เขาไม่ได้ตรงเข้าไปหาท่านขุนแต่เข้าไปเอาขนมและอาหารมาให้มณีผู้เรียบร้อยดุจผ้าพับไว้ บทเธอจะดี...ก็ดีใจหาย บทเธอจะร้ายก็ไม่ไหวจะต่อกร

จากครั้งแรกที่เธอมองเจ้าแว่นนี่...กับตอนนี้มันไม่เหมือนกัน

เธอเคยคิดว่าเจ้าแว่นจะเข้ามาแย่งท่านขุน แย่งพื้นที่ แย่งความรัก แย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอ แท้ที่จริงแล้ว...มันไม่ใช่เลย เธอแค่ใจแคบไปหน่อย สิ่งที่เคยเฝ้าฝันให้กลับมาเป็นอย่างเดิมมันเป็นแค่ความต้องการอันเปล่าประโยชน์ มณีไม่รู้หรอกว่ามนุษย์คนหนึ่งเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดไหน แต่ที่รู้ตอนนี้คือเธอ...ชอบเจ้าแว่นนี้แล้ว

“วันนี้มณีไม่ทำร้ายพี่เลย...มณียอมรับพี่แล้วใช่ไหม เรา...เป็นครอบครัวกันแล้วใช่ไหมครับมณี” ดูตลกในสายตาคนอื่นที่ชายหนุ่มร่างสูงผู้ดูดีตั้งแต่หัวจรดปลายเท้ากำลังพูดกับเจ้าแมว มาดนางพญาของเธอไม่ได้ลดน้อยลงไป ก็เป็นมิตร...ก็ยอมรับ แต่ไม่ได้หมายความจะยอมก้มหัวให้ง่ายดายขนาดนั้น

นายยังไงก็ยังคงเป็นนาย

และทาส...ก็ต้องเป็นทาสวันยันค่ำ

แต่เอาเถอะ...แก่ความดีของทาสใส่แว่น เธอยอมให้หนึ่งวันก็ได้ มณีเดินเข้าไปใกล้ๆ บนโต๊ะอาหาร เธอเอาหัวตัวสอดเข้าไปในฝ่ามือนุ่มนั้นแล้วไถไปมาเบาๆ เจ้าแว่นยิ้มหน้าบาน...อารมณ์ดีจนน่ามั่นไส้ แต่รอยยิ้มนั้นก็ทำให้เห็นถึงความรักที่มีต่อเธอ มณีไม่รำคาญก็ได้...ให้วันหนึ่งไงล่ะ

“เฮ้อ...ผมหึงแมวได้ไหมนะ” ท่านขุนยืนกอดอกอยู่ตรงกรอบประตู พีระพลส่งยิ้มกว้างให้เขา วงแขนแข็งแรงโอบอุ้มเจ้ามณีน้อยพร้อมกับเดินเข้าไปหาคนรักที่มีวัยอ่อนกว่า พีระพลโน้มหน้าเข้าไปใกล้ จูบปากท่านขุนเบาๆ รับเอารสเบียร์ฝาดๆ และความนุ่มยุ่นอบอุ่นหัวใจ...

“ไม่ต้องหึงหรอกครับ...ยังไงพี่พีก็เป็นของท่านขุน”

ให้ตายเถอะ…บาดใจขนาดนี้ลากขึ้นเตียงเลยได้ไหม!!!


….TheEnd….

จบแล้ววววว จบจริงๆ แต่จบไม่หมด ฮา ขออนุญาตเสิร์ฟตอนพิเศษในเล่มนะคะ ไม่พอใจเรายังไงเราต้องขออภัยด้วย ดูจบสั้นไปหน่อยไหมนะ แฮ่ๆ

สำหรับเรา พี่พีแทบจะเป็นตัวเราเลยค่ะ เราชอบอ่านหนังสือ ชอบอยู่บ้านสงบๆ ใช้ชีวิตราบเรียบกับการทำงานในห้องแล็บ แล้วพอเขียนพี่พีออกมา เราก็…หลงรักตัวเองค่ะ  ฮ่าๆ หวังว่านีลักอ่านทุกท่านจะชื่นชอบพี่พีของเราและอิจฉาท่านขุนกับแม่มณีที่ได้ความรักจากพี่พีไปเต็มเปี่ยม

แอบสปอยเล็กๆ ในตอนพิเศษพวกเขาจะแต่งงานกันค่ะ แต่คงไม่ได้แต่งง่ายๆ ยังไงก็ฝากติดตามรูปเล่มเราด้วยนะคะ

ขอบคุณทุก/ คอมเมนต์เลยค่ะ เป็นกำลังใจที่แน่นมากสำหรับเรา เราไม่ถนัดฟิวกู๊ด หวังว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังมากเกินไปนะคะ

สุดท้าย…เจอกันเรื่องหน้าค่า ^^

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ในที่สุดพี่พีก็เอาชนะใจแม่มณีได้ เจ็บตัวครั้งนี้คุ้มเลย   

ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆให้อ่านนะคะ  :3123: :L1:

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอบคุณมากๆนะคะ  ชอบพี่พีมากเลยค่ะ ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก และก็ชอบผู้ชายแบบท่านขุนด้วย เอาจริงไก็อยากเป็นแม่มณี5555  :o8:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :mc4: ในที่สุดคุณมณีก็ยอมรับทาสแว่นผู้น่ารักแล้ว  :katai2-1:
ตัวเอกคือน้องมณี ที่เหลือคือตัวปลากรอบ 55555
สนุกดีค่ะ แต่รำคาญรัก อ่านในส่วนของรักแล้ว โห...คนเราคิดยังงี้ก็ได้หรา
ว่าคนอื่นพูดไม่ดี ทำไม่ดีกับตัว แต่ไม่มองว่าตัวทำอะไรไปบ้าง คิดว่าตัวเองถูกเสมองี้หรา
เราว่าคนอย่างรักไม่น่าคบ และน่าสงสาร ถ้ายังคิดยังนี้อยู่ ตัวเองนะล่ะจะอยู่ยาก
สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร ถือว่าตัวละครรักทำให้คนๆ หลายๆ คิดได้นะ
 :L1:  :pig4:  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ที่สุดของเรื่องต้องยกให้แม่มณี

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อ้าว The End ซะงั้น ปุ๊บปั๊บมาก
ต้องให้มณีอ้อนกว่านี้

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ทำไมเราบวกเป็ดไม่ได้ มันขึ้นแต่อ้างอิง อ่าาาา

ปล ถ้าลูกหมู จาก ก๊อกๆ กับ พี่พี่ขุน ออกเล่มเมื่อไร มาบอกที่นี่อีกทีนะ เราอยากได้ทั้งสองเรื่องเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-05-2018 00:26:23 โดย Billie »

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อื้อหืออออ นี่ขึ้นมาก มาทำร้ายแม่มณีได้ยังไงเนี่ยนายรัก

และในที่สุด เจ้านายมณีก็ยอมรับทาสคนใหม่สักที ฮาาาา เอ็นดูพี่พีมากๆๆๆ

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โอ๊ยยยย จบซะแล้วววว  อยากให้มีตอนพิเศษใบเว็บมากๆ
เราว่าเรื่องนี้สนุกอ่ะ ทั้งการบรรยายผ่านมุมมองของแม่มณี ท่านขุน หรือพี่พี
ชอบการดำเนินเรื่องมาก ไหลลื่น ค่อยๆดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ
สุดท้ายนี้อยากเอาขนมไปเซ่นแม่มณีมากๆ  555555

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ไม่นะ จบแล้วเหรอ ต้องมีตอนพิเศษสิ มณีน้อยกับเปอร์เซียดำที่น่าสงสาร ปล่อยท่านขุนกับพี่พีไปเราจะตามติดชีวิตเหมียวๆ เนี่ยต่อมเผือกทำงานแล้ว 555

ออฟไลน์ satiara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แม่มณีน่าร้ากกก
#ทีมทาสแมว
เล่มออกเมื่อไหร่มาแจ้งด้วยน้าา
อยากได้มณีมาไว้บ้านน <3

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
จบไวจังเลย พี่พีเพิ่งดีกับแม่มณีเองนะ

 :pig4:

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
เขียนได้น่ารักจริง ๆ ค่ะ
แม้จะหมั่นไส้ท่านขุนที่ปล่อยให้รักเข้าถึงตัว
แต่ก็จบดีค่ะ ถึงจะสั้นไปหน่อย แต่ก็ลงตัวดี

ขอบคุณนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด