3
..พวกมันเดินตรงไป เลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวซ้าย..
ห้อง 308
หากใครมาเห็นผมกวัดๆแกว่งๆมีดพกอยู่ในห้องพักผู้ป่วยคงจะคิดว่าผมบ้า
โชคดีที่ผมฉลาดพอที่จะเปิดเพลงแอโรบิคจากโทรศัพท์
..ไม่รู้ฉลาดหรือโง่ แต่สภาพตอนที่พยายามทำเหมือนเต้นนี้น่าสมเพชชิบหาย!
ก็เจ้าหมอนั่นยังนอนไม่รู้เรื่องอยู่ แต่พวกปีศาจในโรงพยาบาลไม่ได้หลับด้วย
พวกมันดูตื่นเต้นกับการสูบ'อะไรบางอย่าง'จากร่างของเขาเหลือเกิน
ผมที่เฝ้ามองดูอยู่อย่างเงียบๆเริ่มขยะเเขยงจนทนไม่ไหว
และนี้คือที่มาของท่าแอโรบิคที่ผมกำลังทำอยู่ ณ ขณะนี้
"ทำท่าอะไรน่ะ ตลกชะมัด"
เสียงเบาๆดังขึ้น ไม่ดังมาก แต่ดังพอให้ผมหันขวับ
"กระชับสัดส่วนมั้ง แหกตาดูสิ"
ผมพูดอย่างเหลืออด นี้ก็ทำเพื่อมันทั้งนั้น!
"จริงๆแค่เอามีดพกนั้นเเขวนไว้ที่ประตูห้องก็จบเเล้ว"
เขาพูดเบาๆก่อนจะหยิบเเว่นตาข้างเตียงมาสวม
"อืม..พวกนี้มันหิวแฮะ"
"ตั้งแต่เมื่อไหร่"
ผมถาม
"ห้ะ?"
"ที่รู้ว่าฉันมองเห็น"
"ตั้งแต่เห็นนายนั่นแหละ"
"ฉันไม่ได้เข้าไปช่วยนายเพราะต้องการหรอกนะ ฉันแค่อยากใช้ชีวิตธรรมดาๆ"
ผมพูด สีหน้าที่จ้องเขาคาดคั้น
"เพราะฉะนั้น อย่าได้บอกเรื่องนี้กับใครเชียว"
ผมพูดอย่างวางอำนาจ เเละเขาพยักหน้ารับ
"แล้วนายก็ต้องตอบคำถามฉันด้วย ไอ้สิ่งที่ฉันกับนายเห็นมันคืออะไร แล้วทำไมมีเเค่เราที่เห็นมัน "
"ถ้านายไม่อยากเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะรู้ไปทำไม"
น้ำเสียงเรียบๆนั้นถามกลับด้วยความอิดโรย เเต่ใจความแฝงด้วยความกวน(ส้น)เท้า อยู่ไม่น้อย
เมื่อเห็นผมเท้าสะเอวมองอย่างจริงจัง เขาจึงยอมพูดต่อ
"พวกนี้เป็นปีศาจที่มาจากอีกโลกหนึ่ง ที่เราเรียกว่า โลกปีศาจ ปกติเเล้วทางเชื่อมระหว่างสองมิติไม่ได้เปิดง่ายๆ
พวกมันเป็นเหมือนป้อมปราการที่เเข็งแกร่ง ที่ช่วยรักษาสมดุลระหว่างโลกปีศาจเเละโลกมนุษย์.."
เขาหยุดเพื่อให้ผมตามสิ่งที่เขาเล่าให้ทัน
"..แต่ก็เหมือนทุกป้อมปราการ ระยะเวลาผ่านไป ความเก่าแก่ ความทรุดโทรมย่อมเกิดขึ้น ปีศาจชั้นต่ำที่พอจะลอดรูรั่วผ่านมาได้ จึงผ่านมา ..และอย่างที่นายคงรู้ มันชอบดูดกลืนอารมณ์ ความรู้สึกทั้งหยาบเเละละเอียดอ่อนของมนุษย์.."
"..พลังชีวิตของมนุษย์เเละเเรงปรารถนาเป็นตัวหล่อเลี้ยงพวกมัน"
"อย่างไรก็ตาม มันไม่มีอำนาจพอจะปรากฏตัวเป็นกายหยาบ อย่างน้อยๆก็พวกชั้นต่ำที่วนเวียนอยู่ล่ะนะ"
ผมกระพริบตาปริบๆ กำลังคิดว่าตัวเองมาตกอยู่ในหนังแฟนตาซีเรื่องใดหรือเปล่า..
แต่ไอ้การสงสัยคำพูดของเขา ก็ดูจะไม่ยุติธรรมไปหน่อย
เพราะทั้งเขาและผม ต่างก็มองเห็นพวกปีศาจเหมือนกันทั้งคู่
"แล้วทำไมฉัน หรือนาย ถึงได้มองเห็นพวกมัน..?"
ผมถาม..ละประโยคถัดมาที่ว่า ..การมองเห็นของเรามีความหมายอะไรหรือเปล่า..ไว้
"ในส่วนของนาย ฉันไม่รู้หรอก"
เขาพูดก่อนจะยิ้มบางๆให้ผม
ผมยักไหล่
เรื่องบางเรื่องผมอาจไม่จำเป็นต้องรู้
เป็นการฉลาดกว่าหากจะไม่รู้
คิดได้ดังนั้นผมจึงบอกลาเขา
ในห้องสะอาดสะอ้านของโรงพยาบาล
แสงอาทิตย์สีทองของช่วงเวลา5-6โมงเย็นกำลังสาดส่องเข้ามา..
หน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้..
"ขอบคุณนะ"
น้ำเสียงที่ฟังดูอิดโรยไล่ตามหลังมา
ผมหันหลัง
ยกมือขึ้นทำท่าเท่ๆเหมือนตำรวจเกสตาโปแบบไม่ได้ใส่ใจ
เมื่อเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยมายังทางเดิน
ผมก็มองเห็น..
สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด..คล้ายมนุษย์ผู้หญิงที่มีรูปร่างบิดเบี้ยว
รอยยิ้มของมันกว้างเสียจนเห็นริมฝีปาก..
ไอ้คำว่า ยิ้มกว้างจนปากฉีก.. มันเป็นแบบนี้นี่เอง
ผมคิดเเล้วอดสมเพชตัวเองไม่ได้ ที่มีอารมณ์ขันไปกับเรื่องเเบบนี้
ปีศาจหญิงร่างบิดเบี้ยวเดินลากขาผ่านผมไป..
สักพักปีศาจที่รูปร่างเหมือนเด็กแบเบาะ คลานผ่านมาตามทางเดิน
มันหยุดเป็นระยะระยะ สาดส่องสายตาเหมือนกำลังมองหาสัญญาณบางอย่าง
ผมสังเกตเห็นปีศาจอีก 2-3 ตน ที่เดินมุ่งหน้าไปยังทางเดียวกัน
..พวกมันเดินตรงไป เลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวซ้าย
เดินตรงไปยัง ห้อง 308
..................................
ให้ตายเถอะ
ผมไม่ได้อยากเป็นฮีโร่
ไอ้ที่พยายามจะใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้ก็เเค่อยากเป็นคนธรรมดาๆเท่านั้นเอง..
มันไม่จำเป็นใช่ไหม..
บางเรื่องผมไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ใช่ไหม..
'..คิก คิก คิก..'
เสียงหัวเราะเเหบพร่านี้คุ้นเคยเสียจนผมต้องหันขวับ
และผมก็ได้สบตากับมัน..
ดวงตาเกรี้ยวกราดน่าขนลุก ผิวสีเเดงที่ปริแตกเหมือนก้อนเลือด..
มันจ้องมองผมกลับ แววตาเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์
'คิก..คิก..คิก'
แต่มันไม่สนใจผม มันเดินอย่างอ้อยอิ่งไปยังทิศเดียวกับปีศาจตนอื่นๆ
และเพื่อไม่ให้ผมรู้สึกไร้ค่านัก
มันเอี้ยวคอกลับมายิ้มให้ผมอย่างเชื้อเชิญอีกที..
"กูไปแน่..ไอ้สวะ"
ผมพูดเบาๆลอดไรฟัน ก่อนจะหมุนตัวออกวิ่ง
วิ่งไปยังทิศทางเดียวกับพวกมัน..ตรงไป เลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวซ้าย!!
...................................
เมื่อผลักประตูเข้ามา ภาพที่เห็นทำให้ผมแทบทรุด
เขานอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง
มือกุมท้องที่มีเลือดซึม
ผมมองเห็นหน้าต่างเปิดอยู่
มองเห็นสร้อยที่มีมีดพกที่ผมเเขวนไว้ตรงบานประตู มันหลุดลงไปนอนบนพื้น
แว่นตาของเขาเองก็เเตกอยู่บนพื้น
ผมรีบวิ่งเข้าไป กดกริ่งเรียกพยาบาล
"บอกมาสิ กูต้องทำยังไง"
"..มีด"
ผมวิ่งไปเอาสร้อยมีดพกมาคล้องคอเขา
พวกปีศาจเเตกกระจายออก
มีปีศาจปรสิตเล็กน้อยไหลออกมาจากบริเวณที่คาดว่าจะเป็นแผลของเขา
พยาบาลวิ่งเข้ามาพร้อมกับปีศาจชราร่างสีเเดง..
เมื่อปีศาจเห็นว่าเขาใส่สร้อย ..มันไม่คิดจะเฉียดใกล้เขาอีก
แต่มันเดินมาหาผม
มันยิ้มให้ผม
เนิ่นนาน โกรธเเค้น ชั่วกัปชั่วกัลป์..
อารมณ์ปะทุออกมากจากแววตาชั่วร้ายนั้น
ผมพยายามไม่ตัวสั่น
หลังจากพี่พยาบาลจัดการตรวจสภาพเเผลและทำความสะอาดให้เสร็จ
เธอก็หันมากำชับผม
"อย่าพึ่งให้พี่ชายขยับตัวแรงๆสิจ้ะ ไม่อย่างนั้นแผลจะฉีกแบบนี้อีก"
ผมขัดใจนิดหน่อยเเต่ก็พยักหน้ารับ
เพราะเจ้าหมอนี้สูงโย่งจนใครต่อใครเข้าใจผิดหมด
.................................
หลังจากพี่พยาบาลออกไป ผมก็อยู่เพียงลำพังกับเขาอีกครั้ง
..จะเรียกว่าลำพังก็ไม่ได้.. มีปีศาจชราผิวแดงยืนมองเราอยู่ที่มุมห้อง
ผมมองเขาที่สภาพดูเหนื่อยจนไม่อยากพูดอะไร
ผมเองก็ไม่อยาก
"ไม่สนิทอย่ามามองนัก พวกปีศาจไร้มารยาทกันทุกตัวเลยเหรอวะ"
ไม่อยากหรอกครับ..ถ้าไม่จำเป็น!
ผมพูดขี้นลอยๆ
แต่มันกลับเรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากคนที่นอนอยู่ได้
"มันยังอยู่เหรอ"
เขาถาม
"ไม่เห็นหรือไง"
ผมตอบก่อนจะนั่งข้างเตียงผู้ป่วย
ไม่ใช่อยากใกล้ชิดหรือเกิดความโรแมนติกอะไรกับมันขึ้นมาหรอกครับ
ก็แค่ไม่อยากไปนั่งบนโซฟาที่อยู่ใกล้ไอ้ปีศาจวิตถารมารยาททรามนั่น เท่านั้นเอง
เขาส่ายหัว
"ผมเห็นได้เพราะมีเเว่น"
"นี่ก็จะเย็นแล้ว นายกลับบ้านเถอะ"
ผมถอนหายใจก่อนจะกลอกตาขึ้นมองบน(แบบที่สาวๆชอบทำน่ะครับ)
"อย่าคิดจะทำเท่คนเดียวนะเว่ย จะตายมิตายแหล่ มองก็ไม่เห็น ขนาดสร้อยแขวนที่ประตู มันยังทำตกได้
นับประสาอะไรกับเเขวนที่คอ"
"นายจะอยู่เป็นเพื่อนผมเหรอ"
"เลือกเอา เพื่อนนักเรียนธรรมดาหรือลุงวิตรถารที่จ้องนายตาเป็นมันมาหลายนาทีแล้ว"
"เพื่อนสิครับ"
เขาพูดก่อนจะพยายามลุกขึ้นนั่ง
"ลึกๆผมคาดว่านายจะกลับมา แต่ผมไม่คิดว่านายจะกลับมาจริงๆ"
ผมไม่พูดอะไร เเม้คำพูดเขาจะฟังเเล้วชวนโมโหอยู่บ้าง
ผมกดโทรศัพท์บอกแม่ว่าเย็นนี้จะอยู่ทำรายงานบ้านเพื่อน
พวกท่านไม่ติดใจอะไร แต่ก็คงอดสงสัยไม่ได้
ก็ตั้งเเต่เกิดมาผมยังไม่เคยมีเพื่อนสนิทจริงๆสักคน
จะไปมีประสบการณ์การนอนบ้านเพื่อนได้อย่างไร
แถมเรื่องไปทำรายงานบ้านเพื่อนก็เป็นเพียงมุกเก่าแก่หากินที่ยืมมาจากหนังที่เคยดูเท่านั้น
..................................
"บอส นายจะนอนตรงนี้จริงๆเหรอ"
เด็กชายร่างสูงถามเมื่อเห็นผมฟุบหน้าลงนอนบนแขนตัวเอง
ผมพยักหน้า สายตามองไปที่โซฟา ปีศาจชราตัวสีแดงยังยืนนิ่งอยู่บริเวณนั้น
"มานอนบนเตียงเถอะ..เดี๋ยวผมไปนอนโซฟาเอง"
ผมส่ายหัว ทำเสียงจิ๊จ๊ะด้วยความขัดใจ
"เพราะนายเอาแต่ยอมแบบนี้ไง ไม่ว่าใครก็เลยเอาเปรียบได้ง่ายๆ.."
"บอกตรงๆนะ ฉันไม่เคยสงสารเลย ..ไม่ว่าจะไอ้พวกที่แกล้งนาย หรือคนที่ทำตัวเองให้ถูกแกล้งแบบนาย มันก็น่าสมเพชทั้งนั้น"
ผมนิ่งเพราะรู้สึกว่าอาจจะพูดแรงไป
..แม้จะคิดอย่างนั้นจริงๆก็เหอะ
เขาไม่พูดอะไรและปล่อยให้ผมนอนต่อไป ผมเองก็พยายามจะนอนให้หลับ
พยายามอย่างยิ่ง
..................................
อือ..ทำไมผ้าห่มมันแข็งจังเลยวะ..
ที่นอนก็แคบๆ อึดอัดยังไงก็ไม่รู้..
ผมลืมตาขึ้นมา
และพบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมแขนของคนคนหนึ่ง
เด็กชายหน้าตาหล่อเหลา ผมสีดำสนิท จมูกโด่งได้รูป..
นายแบบคนนี้มันเป็นใคร!
และเมื่อเขาลืมตา ความทรงจำของผมก็กลับคืนมาทันที
มาคิดๆดูแล้วหมอนี่แปลกชะมัด..
ทั้งๆที่หน้าตาหล่อเหลา กลับซ่อนสิ่งเหล่านี้ไว้หลังเเว่นเห่ยๆ
ส่วนสูงกับรูปร่างที่สามารถโดดเด่นในหลายๆวงการ
กลับเดินหย็องๆ ดูเงอะงะตลอดเวลา
และที่สำคัญ..ทำไมความทรงจำเกี่ยวกับหมอนี้ถึงได้เลือนลางง่ายเป็นพิเศษกันนะ..
"..อ..เอ่อ ข..ขอโทษ คือเมื่อคืนตอนนายนอนอยู่ นายละเมอขึ้นเตียงมานอนเองน่ะ ผมเลยขยับที่ให้.."
เขาพูดด้วยท่าทางเงอะงะ
"ช่างเถอะ"
ผมพูดก่อนจะมองไปที่โซฟา ..ปีศาจชราหายไปแล้ว
"ฉันคงต้องกลับบ้าน"
ผมพูดกับเขา
"ครั้งนี้กลับจริงๆ"
เขาพยักหน้า
ก่อนจะเดินออกจากประตูห้อง ผมฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันกลับไปถามเขา
"ว่าแต่ นาย, .."
"นายชื่ออะไรนะ"
น่าแปลกที่เขาตอบผมกลับมาเพียงรอยยิ้ม
รอยยิ้มเศร้าๆที่คุ้นเคยแปลกๆ
เมื่อมองผ่านแสงอาทิตย์ยามเช้ารวมกับใบหน้าของเขา
ช่างงดงามราวกับภาพเขียนของจิตรกร..
..................................
"เป็นใบ้เรอะสัส เล่นตัว"
ผมพูดแทรกจังหวะงดงามด้วยความหงุดหงิด
และเขาหัวเราะ