ตอนที่10
ช้าก่อน ถ้าผมให้เขาไปส่งที่คอนโด บอกฝันดีโบกมือลาเราก็จะแยกทางกันตรงนั้นและวันพรุ่งนี้ผมจะต้องไมเกรนขึ้นเพราะฟรานจะถูกผู้หญิงรุมล้อม...ไม่ได้การ ผมต้องชวนเขาขึ้นห้อง เอ๊ย หาวิธีสานต่อความสัมพันธ์ของพวกเรา อย่าให้เป็นคนที่บังเอิญเจอกันแค่นั้นอีก สมองอันชาญฉลาดของผมทำงานอย่างหนักเพื่อหางทางหลอกล่อผู้ชาย กระทั่งเดินออกมานอกร้านสายตาผมก็สะดุดเข้ากับร้านสะดวกซื้อชื่อดัง
”อ๊ะ เซเว่น! แวะได้ปะ แป๊ปเดียวน้า”ผมสะกิดสีข้างร่างสูงและชี้ไปที่ร้านสะดวกซื้อตบท้ายด้วยแววตาออดอ้อนที่ถนัด ฟรานหันมาแบบว่า เอิ่ม ทำไมพี่ไม่ไปซื้อแถวคอนโดวะครับ แต่ผมทำเป็นไม่สนใจเพราะแผนของผมผมต้องมีของติดไม้ติดมือไว้
อะแฮ่ม บอกไว้ก่อนเลยละกัน คือผมกะจะแกล้งทำเป็นลืมถุงไว้ในตะกร้าหน้ารถของฟราน ทีนี้ก่อนนอนผมก็จะทักแชทไปเพื่อล่อ เอ๊ย ขอให้เขาเอาถุงมาคืนที่คณะของผมวันจันทร์ แผนดีแต่อุปกรณ์ประกอบแผนหายากชิบเป๋งเลย
“จะซื้ออะไรเหรอ”ฟรานเดินตามผมเข้ามาในร้าน ผมหันไปหัวเราะแหะๆให้อีกฝ่าย ไม่ตอบคำถามเพราะยังคิดไม่ได้เหมือนกันว่าจะซื้ออะไรดี
มันต้องไม่ใช่ของโง่ๆอย่างเสร่อปี้ที่เก็บถึงวันจันทร์ไม่ได้ และต้องเป็นของที่มีราคาในระดับหนึ่ง
“ยากแฮะ...”ผมบ่น จะซื้อน้อยก็ไม่ได้ด้วยไง มันต้องมีของเยอะเต็มสองมือทำให้ซ้อนท้ายไม่สะดวกจนเขาเอ่ยปากบอกเองว่าให้เอาไปวางไว้ในตะกร้าสิ
ผมคิดจนปวดสมองสุดท้ายก็หยิบตะกร้ามากวาดของแห้งลงไปเยอะๆ เน้นปริมาณไว้ก่อนประโยชน์ใช้สอยค่อยว่ากันทีหลัง ร่างสูงยืนมองผมที่มีวิญญาณผีนักช็อปเข้าสิงหยิบสบู่ตรานกแก้วนกขุนทอง ยาสีฟันคอลเกต สบู่วิเศษ ปักเป้ายิงชุบ!เหมือนคนจะไปเข้าค่าย ดีที่มีสติพอเลยไม่ได้คว้าชุดสังฆทานมาด้วย
“อะแฮ่ม พอดีนึกขึ้นได้ว่าวันเสาร์นี้เพื่อนนัดไปทำบุญให้เด็กยากไร้น่ะ”
ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไปครับ ผมถือคติว่าชีวิตมีทางให้แถเสมอ
ฟรานขมวดคิ้วแทบเป็นโบว์ผูกของขวัญแต่ผมก็ทำเป็นเมินและเดินเลี่ยงไปจ่ายตัง
“มา ช่วยถือ”เขาส่งมือมาตรงหน้าเมื่อพวกเราออกมาจากร้าน
“แค่นี้ก็ถึงรถละเนี่ย ไม่ต้องช่วยหรอก”ฟรานไม่ได้พูดอะไร เขาแค่เดินไปยังรถของตัวเองและยื่นมือมาให้ผมอีกครั้ง
“ส่งมาสิ วางไว้ในตะกร้าจะได้ไม่ลำบากถือ”เข้าแผนผมเต็มๆ
ผมยิ้มกว้างพลางยื่นถุงรวมของสารพัดอย่างให้อีกฝ่ายและรับหมวกกันน็อคมาใส่
“หือ”ผมมองมือของเขาที่ยังคงแบอยู่ตรงหน้าแบบงงๆ จะเอาไรอีกอ่ะ ถุงก็ส่งไปให้หมดแล้วไง
“กระเป๋า”
“อ้อ ไม่เป็นไร ใบนิดเดียวสะพายได้”
“ใบนิดเดียวใส่ตะกร้าได้”
โอเค ยอมจ้า ไม่เถียงแล้วจ้า ผมส่งกระเป๋าของตัวเองให้เขาพร้อมขึ้นไปนั่งซ้อนรอ เมื่อรถออกตัวผมก็ค่อยๆรวมรวบความกล้าของตนเอื้อมมือไปจับตรงเอวของฟราน คนถูกแต๊ะอั๋งสะดุ้งเบาๆ
”จับได้ปะ กลัวตกอ่ะ”ผมพูดฝ่าเสียงลม ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่านาทีก่อนผมยังเปรี้ยวบอกว่าตัวเองเป็นสก๊อยน้อยร้อยท่ออยู่ดีๆก็เกิดอาการกลัวตกมอ’ไซค์ขึ้นมาซะงั้น เอาเถอะ ฟรานไม่เอะใจหรอก อื้มๆ
ผมคิดว่าตัวเองเนียนมากพอแล้วจึงสะบัดความคิดไร้สาระออกจากสมองและเริ่มบอกทางอีกฝ่ายเรื่อยๆ”ใช่ๆ เลี้ยวขวาแยกนั้นแล้วเจอเลย”น่าเสียดายที่แม่ซื้อคอนโดไว้ให้ใกล้มหาลัย เผลอแป๊ปเดียวก็มาถึงละ
“ขอบคุณนะ ฝันดีจ้า”ผมรีบถอดหมวกกันน็อคออกจากหัว ส่งยิ้มหน้าแป้นแล้น โบกมือบ๊ะบายและทำเป็นลืมถุงในตะกร้าหน้ารถของอีกฝ่ายอย่างที่เตรียมการเอาไว้
“สีคราม!”ผมได้ยินเสียงทุ้มตะโกนไล่หลังมาแต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน วิ่งสามคูณร้อยไปยังประตูทางขึ้นตึก
อาศัยจังหวะที่มีผู้หญิงวัยทำงานคนหนึ่งหยิบคีย์การ์ดของประตูออกมาตี๊ดลอดตามเธอเข้าไปพร้อมรีบพุ่งไปกดลิฟต์ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก วิ่งหนีหมายังไม่เร็วเท่านี้ เมื่อเข้ามาในลิฟต์ได้ผมก็ยิ้มร้ายกับตัวเองกะว่าพออาบน้ำเสร็จแล้วค่อยทักไลน์ฟรานไปว่าดันลืมเอาถุงกลับมา
เป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบมาก
แต่เอ๊ะ
เหมือนลืมอะไรบางอย่าง?
อ้อ ลืมกระเป๋า...
กี๊สสสสสสสสสสสส ผมฝากกระเป๋าตัวเองไว้ในตะกร้าด้วยนี่หว่า!
ไอ้โง่ครามเอ๊ย ไอ้โง่ครามเอ๊ย อยากจิเอาหัวโขกผนังลิฟต์แต่ก็เกรงใจเจ๊คนข้างๆ ผมเครียดจนสมองแทบจะเบิด คือกุญแจห้องมันอยู่ในนั้น ยังไงผมก็ต้องลงไปเอาอ่ะ นี่มั่นใจว่าฟรานจะต้องรอคืนของให้ผมอยู่ข้างล่างแน่ๆ ผมรอจนเจ๊ที่ขึ้นมาพร้อมกันลงจากลิฟต์กดกลับไปที่ชั้นล่างใหม่อีกครั้ง
“แฮ่!”เมื่อเปิดประตูใต้คอนโดออกมาก็พบกับมอ’ไซค์คันเดิมจอดรออยู่ สุดหล่อที่นั่งอยู่บนนั้นมีสีหน้าอ่านยาก ผมรู้สึกผิดจนไม่กล้าสบตา”ขอโทษที่ขี้ลืม...”แกล้งลืมแต่ดันลืมจริง ลืมแบบอินเซปชั่น
“ไม่เป็นไร”เขาตอบสั้นๆตามแบบฉบับก่อนจัดแจงยื่นถุงจากร้านสะดวกซื้อและกระเป๋ามาให้ ผมรับของมาด้วยสีหน้าผิดหวัง แผนการล่อให้มาเจอกันอีกครั้งพังไม่เป็นท่า
เห้อ วันนี้ขนาดท้องฟ้ายังไม่เป็นใจเลย เงยหน้าขึ้นไปแล้วเห็นแต่เมฆครึ้มเหมือนฝนทำท่าจะตก เดี๋ยว ฝนตกเหรอ ผมมองท้องฟ้าสลับกับมอเตอร์ไซค์ของคุณคนโปรดตรงหน้า ฉับพลันรอยยิ้มร้ายก็ปรากฏขึ้น เอาวะ จะริเป็นแรดก็อย่าเป็นแค่ลูกแรด จงเป็นแรดตัวแม่
“อุ๊ย เมฆหนาเชียว ฝนน่าจะตกหนักนะ ขึ้นไปหลบข้างในก่อนป่ะ”
“รีบกลับตอนนี้น่าจะทัน”
“อ้อ งั้นโชคดีนะ บาย”
“บาย”
“...”
บาย
โว๊ยยยยยยยยย พังแม่งทุกมุก!!
ผมแทบจะทรุดลงไปนั่งกับพื้นรอฝนตกเผื่อจะเล่นบทเป็นนางเอกเอ็มวีเพลงช้ำรักกะเข้าบ้างอะไรบ้างแต่นั่งนานยุงเยอะ โดนกัดเป็นตุ่มแดงน่าเกลียดเปล่าๆ ขึ้นไปอาบน้ำนอนคิดแผนจับผู้ชายใหม่ดีกว่าเยอะ
“เห้อ...”ผมกำลังจะนอน วันนี้ง่วงเร็วคงเพราะผ่านศึกใหญ่และพ่ายแพ้มาแบบย่อยยับ”งืมมมม ไม่น่าฝากกระเป๋าไว้ในตะกร้าเลย”แล้วผมจะเอาสบู่ตรานกแก้วไปใช้ทำอะไร สังคมช่วยให้คำตอบผมทีสิ ถุงที่ซื้อมาจากเซเว่นยังกองอยู่ปลายเตียงบาดหัวใจกันอยู่เลย
“ไปไกลๆเลย ชิ่ว!”ผมยื่นตีนไปเขี่ยของลงจากเตียงอย่างเกรี้ยวกราด ทันใดนั้นเองสายตาก็สะดุดเข้ากับซิบกระเป๋า
กระเป๋าเล็กข้างหน้าผมเอาไว้ใส่เศษเหรียญ ตั๋วรถเมลล์ ใบเสร็จและเปลือกลูกอมที่แกะแล้วแต่ตอนนั้นหาถังขยะไม่ได้เลยขอหมกๆไว้ก่อน ซิบของมันปิดไม่สนิท ผมกำลังจะเอื้อมมือไปรูดปิดแต่จับกระเป๋าดีๆแล้วถึงรู้สึกตัวว่ามันเบาหวิวกว่าปกติ
“หือ...คุณกบหาย?”คุณกบคือกระเป๋าใส่เศษเงินของผมเวลาจ่ายค่ารถเมล์ ถึงมันจะมีแต่เหรียญแต่นับๆรวมกันแล้วก็เป็นร้อยอยู่นะ ไหนจะแบงค์ยี่สิบกับแบงค์ร้อยที่ยัดไว้แบบลวกๆอีก
ซวย!
“อะไรกันล่ะเนี่ย! ฮืออออ แม่จ๋า ลูกไม่โอเค แม่~~~~~”ผมล้มแหมะเอาหน้าซุกหมอน มือปะป่ายควานหามือถือ ตั้งใจจะเปิดไลน์แชทหาคุณแม่ที่รักทว่าแจ้งเตือนข้อความเข้าข้อความนึงกลับหยุดทุกการกระทำของผมเอาไว้
‘S FRAN : กระเป๋ากบตกอยู่ในตะกร้ารถ
“กี๊สสสสสสสสสสสสสสสส”กรี๊ดแบบออกเสียง กรี๊ดแบบไม่เกรงใจข้างห้องเพราะคอนโดเก็บเสียงดี
วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีอะไรเยี่ยงนี้!!
BLUE SKY : โทษที เดี๋ยววันจันทร์ไปเอานะ
‘S FRAN : ได้ๆ
BLUE SKY : *สติกเกอร์ขอบคุณ
BLUE SKY : ยังไม่นอนเหรอ
ชวนคุยสิครับรออะไร”คิกๆ ฮ่ะๆๆ โอ๊ยย ฟินจ้า”หยุดหัวเราะไม่ได้เลยจ้า
‘S FRAN : กำลังจะนอน
อ้าว ไอ้บ้า ตอบมาแบบนี้ใครจะกล้าชวนคุยต่อวะ แต่ก็เอาเถอะ นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดี! ผมยิ้มกว้างก่อนพิมพ์ตอบกลับไปว่าไม่รบกวนแล้ว จะนอนเหมือนกันพร้อมสติกเกอร์รูปหมีโบกมือลา เขากดอ่านและเงียบไปสักพักผมเลยคิดว่าเขาคงไม่ตอบอะไรแล้ว
แต่เปล่าเลย ผมคิดผิด
เขาหายไปประมาณสามนาทีและกลับมาพร้อมกับคำว่า
‘S FRAN : อืม ฝันดีนะ
ฝันดีนะ!!
ฝันดีนะ!!!!!
ฝันดีนะ!!!!!!!!!!!!!!
คึกๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ๊ยยยยยย ดีงามอะไรเบอร์นี้ โว้ยยยย ว้าววววววววววววววว
ผมฟินจนแทบไม่เหลือสติ กลิ้งตัวไปมากับเตียงห้าตลบแปดตลบ แทบจะม้วนหน้าม้วนหลังตีลังกาหกสูงแถมด้วยแล้ว และเมื่อฟินจนสาแก่ใจผมก็กลับมานั่งอ่านคำว่าฝันดีนั่นซ้ำๆเหมือนคนบ้า อ่านวนอยู่นานจนคิดได้ว่า...ผมไม่ได้ตอบกลับเขาไป
ชิบหาย
ตามบทผมต้องตอบกลับว่าฝันดีเหมือนกันนะไง
“ยังทันมั้ย”
ทันกะผีน่ะสิ ดิ้นเป็นกุ้งเต้นเกือบสิบนาทีป่านนี้เขานอนไปแล้วป่ะ หรือถ้ายังไม่นอนแต่กดอ่านแล้วทิ้งช่วงไปนานกว่าจะตอบมันจะดูแปลกๆป่าววะ
“โอ๊ยยย เครียด เอาไงดี”
พิมพ์ดีหรือไม่พิมพ์ดี เรื่องแบบนี้มีบอกในพันทิปมั้ย
“เอาวะ กล้าๆหน่อย”พอคิดว่าเมื่อกี้ถึงขั้นชวนเขาขึ้นห้องจะมานั่งเหนียมอายอะไรกะอีแค่คำว่าฝันดีผมก็รวมรวบความกล้าและตอบฟรานกลับไป ถึงจะช้าไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่ตอบเลยล่ะวะ!
BLUE SKY : เจอกันในฝัน~
ว๊าย เจอมุกนี้เข้าไปเป็นไงล่ะ คิกๆ
‘S FRAN : ได้สิ 555+
“!!!!!”
-----------------------------
วันนี้มาอัพแต่ไก่โห่และลงท้ายตอนด้วยคำว่าฝันดีนะ 555 #ย้อนแย้ง
คิดว่าระหว่างสีครามกับฟรานใครจะฝันดีกว่ากันคะ ถถถ