ห้องตรงข้ามผมมันนักเลง - *** แจ้งข่าวรีไรท์ *** อัพตอนพิเศษ!!! (4/11/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ห้องตรงข้ามผมมันนักเลง - *** แจ้งข่าวรีไรท์ *** อัพตอนพิเศษ!!! (4/11/61)  (อ่าน 79380 ครั้ง)

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3

เชียร์ #ตี๋รัญ ได้ปะ?

เฮียรัญไหน ๆ ริจะกินเด็กแล้ว ก็พรากผู้เยาว์โลด (Oops! ช้านพูดอัลไลออกไป    :-[ )

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
แงงง เมื่อไหร่เขาจะเริ่มมีใจให้กันนะะะ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ ก่อนเหมันต์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-2
8
คืนคนเมา




กี่วันแล้ว ที่ราชวุฒิต้องเดินในโรงเรียนท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมาพร้อมกับเสียงซุบซิบนินทากันหนาหู เพราะมีมือดีปล่อยคลิปที่เขาเข้าบ้านไปกับชายแปลกหน้ากลางดึกกลางดื่น

บ้างก็ว่าเขามีคนคอยเลี้ยงบ้างล่ะ บ้างก็ว่าเมื่อดูจากสภาพเขาน่าจะถูกมอมแล้วแบล็คเมล์ บ้างก็ว่าเขารู้เห็นเป็นใจ ซึ่งแท้จริงเรื่องราวเป็นอย่างไรคงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขากับคนอีกคนในคลิปนั้น แต่คนอย่างราชวุฒิมีหรือจะสนใจในสายตาและเสียงนกกาเหล่านั้น ในส่วนของผลกระทบที่มีต่อชื่อเสียงของโรงเรียนนั้น เขาได้อธิบายความจริงทุกอย่างไปหมดแล้วในห้องปกครอง อยู่ที่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเชื่อคำพูดของเด็กผู้ชายอย่างเขาหรือไม่

แม้ภายนอกจะดูเข้มแข็งและไม่แคร์สิ่งที่มากวนจิตใจเหล่านั้นเลยก็ตาม แต่ภายในใจลึกๆ ก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนไหวไปกับมัน เขาไม่ได้ห่วงชื่อเสียงตัวเอง แต่สิ่งเดียวที่เขากลัวคือ กลัวว่าธันธเนศจะรังเกียจเขาไปตลอดกาล

 

หลังโรงเรียนเลิก เด็กหนุ่มนั่งเงียบๆ อยู่ริมทางเดินภายในโรงเรียน ถอนหายใจแล้วหายใจอีก ในหัวมีเรื่องราววุ่นวายเต็มไปหมด ไม่นานนักมืออุ่นของใครบางคนก็สัมผัสเข้าที่ไหล่เขาเบาๆ

เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่เป็นถึงคฑากรของโรงเรียนชายล้วนแห่งนี้ หย่อนกายนั่งลงข้างๆ เขา

“ยอห์นอยู่ข้างตี๋เสมอนะ”

เด็กหนุ่มหน้าตาอมทุกข์หันไปมองคนที่เพิ่งมานั่งลงข้างๆ ใบหน้าหวานที่คุ้นเคย

แม้จะดูอ่อนโยนน่าทะนุถนอม แต่ลักษินันท์ไม่ใช่ผู้ชายตุ้งติ้ง และไม่อ่อนแอ ที่เขาได้มาเป็นคฑากรชายของโรงเรียนก็เพราะโดนบังคับและเขาไม่ใช่คนปฏิเสธใครเป็น และที่สำคัญ ลักษินันท์คือนักกีฬาว่ายน้ำที่เก่งกาจที่สุดของโรงเรียนที่สาวๆ ต่างก็ใฝ่ฝันอยากจะได้มาครอบครอง

“วันนี้ไม่ซ้อมเหรอ” ใบหน้าเซื่องซึมเอ่ยถาม

“ซ้อมเสร็จแล้ว ว่าแต่ตี๋เถอะ ทำไมยังนั่งอยู่ตรงนี้ โรงเรียนก็เลิกนานแล้วนะ”

“ก็ไม่รู้จะไปไหน”

“คาราเต้ไง”

“เราไม่มีอารมณ์ซ้อมอ่ะ ยังไงเขาก็ไม่มาอยู่ดี”

ลักษินันท์รู้ดีว่าราชวุฒิมีใครอยู่ในใจอยู่แล้วที่ไม่ใช่ เขา คนที่นั่งอยู่ตรงนี้

ลักษินันท์ข่มบางอย่างไว้ในใจ ก่อนจะเอ่ยถามบางอย่างออกมาเสียงเบา “เขาที่ตี๋พูดถึงคือพี่คนที่อยู่ใน...” เด็กหนุ่มหน้าใสพยายามจะไม่พูดถึงสิ่งที่กำลังทำให้อีกฝ่ายมีปัญหาอยู่ในตอนนี้ “...ช่างมันเถอะ”

“เรื่องคลิปนั่น ยอห์นคิดว่าไง เพื่อนยอห์นพูดว่าอะไรกันบ้าง”

“ยอห์นไม่ได้สนใจหรอกยอห์นหรอก แต่ได้ฟังที่เพื่อนของตี๋พูดกันแล้วด้วย เราเชื่อว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นๆ ที่ไม่รู้อะไรเลยพูดกัน”

“อืม แต่ก็แปลกดีนะ ดึกขนาดนั้นไม่น่าจะมีคนเดินผ่านหน้าบ้านเราแล้วด้วยซ้ำ” ราชวุฒิออกความเห็นสีหน้าเรียบเฉย

ผู้ฟังก้มหน้านิ่ง เขารู้ดีว่าคลิปนั่นเป็นฝีมือใคร และเขาก็คิดว่าราชวุฒิน่าจะรู้ดีเช่นกันว่าเป็นฝีมือใคร

“ป่ะ” ร่างสูงลุกขึ้น ยื่นมือมารอคนที่นั่งอยู่

“ตี๋จะไปไหน”

“ไปกินข้าวกัน”

ลักษินันท์เงยมองท่าทีที่ดูอ่อนโยนต่อเขามากขึ้นแบบไม่เคยเป็นมาก่อน จนแทบไม่อยากเชื่อหูเชื่อตาตัวเอง เขายื่นมือมาจับมือหนาที่รออยู่นั้น ก่อนจะลุกขึ้นตามแรงดึง

 

 

ตั้งแต่คืนนั้น นี่ก็เป็นเวลานับเดือนแล้วที่ราชวุฒิไม่เจอหน้าธันธเนศเลย ติดต่อก็ไม่ได้ ไปรอพบที่หน้าบริษัทหรือที่โรงเรียนคาราเต้ก็ไม่เคยได้เจอ ราวกับว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามหนีหน้าเขาอยู่

 

“ฮัลโหลธัน วันนี้มึงจะมาซ้อมเปล่าเนี่ย”

“คงไม่ไปอ่ะ เหนื่อยๆ”

“ธัน นี่เป็นเดือนแล้วนะเว้ยที่มึงไม่โผล่หน้ามาเลย ไม่ซ้อมไม่เป็นไร แต่มึงเล่นหายไปเลย”

“โทษที ช่วงนี้กูยุ่งๆ”

“มึงยุ่งจริงเหรอ แน่ใจว่ามึงไม่ได้กำลังหลบหน้าใครอยู่”

“ไร้สาระน่า กูจะหลบหน้าใคร”

“หึ แล้วทำไมมึงไม่รับโทรศัพท์น้องเขา ไปหามึงที่บริษัทก็ไม่เคยเจอ”

“ก็กูบอกแล้วไงว่ากูยุ่งๆ ถ้ามันรอไม่ได้ก็ไม่ต้องรอดิ”

คนต้นสายหันไปมองเด็กหนุ่มที่นั่งห้อยขาหน้ามุ่ยอยู่บนโต๊ะวางอุปกรณ์ หลับตาปริบๆ สีหน้าเศร้าสร้อย

“ธัน มึงโกรธอะไรน้องเขา” คนต้นสายเสียงแผ่วลง ก่อนจะเดินห่างออกมา “มีอะไรทำไมไม่พูดกันดีๆ ปกติมึงไม่ใช่คนแบบนี้นี่ มีเหตุผลหน่อย สงสารน้องมัน จะไม่ซ้อมให้น้องมันแล้วก็บอกดีๆ”

ปลายสายยังคงนิ่งเงียบ

“ธัน มึงฟังกูอยู่หรือเปล่า”

เจนจพถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหมดหนทาง เขาคบกับธันธเนศมานานพอจะรู้ดีว่าอะไรเป็นยังไง นิสัยเพื่อนคนนี้เป็นอย่างไร เขาจำใจกดวาง พ่ายแพ้ต่อความเย็นชาของอีกฝ่ายในที่สุด

 

 

ธันธเนศนั่งเงียบๆ อยู่หน้าบาร์แห่งหนึ่งในค่ำคืนที่เงียบงัน แสงไฟสีส้มสาดแสงอ่อนๆ ไปทั่วบริเวณ เสียงเพลงเบาคลอเคล้าอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่นอยู่ในใจ

ในช่วงแรกค่ำคืนที่คนบางตา ธันธเนศยกเครื่องดื่มสีทองในแก้วขึ้นกระดกครั้งแล้วครั้งเล่า บุหรี่ราคาแพงถูกดึงออกมาจากตลับของมัน หลังจากที่อยู่ในนั้นมานานแสนนาน ซึ่งผู้เป็นเจ้าของจะถามหามันก็ต่อเมื่อมีเรื่องไม่สบายใจเท่านั้น เช่นเดียวกับเครื่องดื่มย้อมใจเหล่านั้น ที่นานๆ ทีจะได้สัมผัสกับริมฝีปากบางคู่นี้

ไม่นานนักชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเขาสามคนก็เดินเข้ามาในร้าน

 

หนุ่มร่างท้วมสะกิดเพื่อนที่เดินตามมาติดๆ ซึ่งมัวแต่สนทนากันอย่างออกรสออกชาติจึงไม่ได้เห็นในสิ่งที่เขาเห็น

การสนทนาหยุดลงในแทบจะทันที

“ไอ้ธัน” หนึ่งในนั้นอุทานขึ้นเบาๆ ขณะที่ตายังคงจดจ้องอยู่ที่ชายหน้าบาร์คนนั้น บางอย่างทำให้เขาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

 

“เห้ย” มือหนาผลักเข้าที่ไหล่ของคนที่นั่งอยู่เบาๆ เขาหันมามองเพื่อนทั้งสามที่ส่งยิ้มให้เฉกเช่นทุกครั้งที่พบหน้ากัน

“มึงเปลี่ยวอะไร มานั่งแดกเหล้าคนเดียว” เจนจพพูดขึ้นขณะหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสูงข้างๆ

บุหรี่ที่กำลังหมดลงถูกจี้ลงบนที่เขี่ยบุหรี่ที่วางอยู่ใกล้ๆ

“เปล่า” เขาตอบ

“อย่ามาโกหกพวกกู ธันธเนศที่แสนดี ตอนนี้ทำตัวไม่ต่างกับคนอมทุกข์ที่หันหน้าเข้าหาน้ำเมาเป็นที่พึ่ง” เจนจพประชดประชัน

ใบหน้าเบื่อโลกยังคงไม่มองหน้าเขา

“ไม่เอาน่า พวกกูดีใจนะที่เจอมึงวันนี้ ไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้ว ชวนทีไรมึงก็บอกแต่ว่าไม่ว่าง” คนที่นั่งอยู่ข้างๆ เสริม

“เดี๋ยวกูสั่งเหล้า ไปนั่งโต๊ะตรงโน้นกัน กูจองไว้”

“เดี๋ยวกูก็กลับแล้วล่ะ” สีหน้าเรียบเฉยตอบ

“มึงจะทำตัวห่างเหินพวกกูเกินไปแล้วนะ” อณวุฒิเสริมพลางลูบแขนเพื่อนป้อยๆ

“น่านะ สักคืน อยู่ดื่มด้วยกันก่อน มีเรื่องไรไม่สบายใจก็มาระบายให้พวกกูฟังก็ได้นี่หว่า” เจนจพเสริม

สีหน้าซังกะตายผ่อนลมหายใจอย่างเสียไม่ได้ หลังโดนเพื่อนสนิทคะยั้นคะยอ

 

ในบาร์ที่คนเริ่มหนาตา แสงไฟเริ่มสลัวลงสวนทางกับเสียงเพลงที่ดังและเร้าใจขึ้น

 “หายหน้าหายตาไปเลยนะธัน” อากิระ หรือเอก รุ่นพี่หนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น ผู้สืบทอดโรงเรียนสอนคาราเต้ต่อจากผู้เป็นพ่อ และเขายังเป็นเพื่อนกับธันธเนศตั้งแต่วัยเด็กอีกด้วย เช่นเดียวกับเจนจพและอณวุฒิ

“อืม เพิ่งเปลี่ยนงานน่ะ”

“ห๊า!!!”

สามเพื่อนหนุ่มประสานเสียงอุทานขึ้นพร้อมกัน อณวุฒิถึงขั้นสำลักน้ำเมาที่กำลังรินเข้าปาก

“นี่มึงยังอยู่โลกเดียวกับกูปะเนี่ยธัน ทำไมอะไรๆ เกิดขึ้นกับชีวิตมึง พวกกูไม่เคยรับรู้เลย” เจนจพเอ่ยถามสีหน้าเป็นห่วง

“ก็อยากให้มันเป็นไปเงียบๆ น่ะ พอดีมีปัญหานิดหน่อย”

“ปัญหาอะไร บอกพวกกูบ้างก็ได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว เผื่อพวกกูช่วยได้”

ผู้ฟังก้มหน้ามองต่ำ ก่อนจะผ่อนลมหายใจ

“พี่กล้าตามหากูเจอแล้ว”

“ห๊า!!!!!”

การประสานเสียงอุทานดังขึ้นเป็นรอบที่สอง คราวนี้ดังจนโต๊ะข้างๆ ต่างก็หันมามองกันเลิ่กลั่ก

เมื่อรู้ตัวว่ากำลังทำลายบรรยากาศ ทั้งสามได้แต่ก้มตัวลงต่ำเข้าหาผู้เล่าเรื่อง เพื่อที่การสนทนาจะได้เบาลง

“ไอ้สารเลวนั่นน่ะนะ” เจนจพถามขึ้น

“มันยังไม่เลิกราวีมึงอีกเหรอวะ” อณวุฒิเสริม

“อือ... เขาไปดักรอกูที่ทำงาน ทำตัวน่ากลัวขึ้นกว่าเดิมอีก นี่แหละเป็นสาเหตุให้กูต้องเปลี่ยนงานทันที”

“แล้วเมียมันรู้ไหมว่าผัวมันทำตัวแบบนี้”

“ถ้ารู้มันจะเป็นแบบนี้ไหมล่ะ แต่อีกไม่นานคงจะรู้ หูตามันยิ่งกว่าสับปะรด กูเลยต้องรีบเปลี่ยนงานหนี ก่อนจะเลวร้ายไปมากกว่านี้”

“ชีวิตมึงนี่มันจริงๆ เลย เหี้ยสุดๆ” อากิระที่นั่งฟังอยู่นานพูดขึ้น ก่อนจะยกเหล้าในแก้วขึ้นดื่ม

“เออจริง แต่คนที่เหี้ยคือไอ้บ้านั่น ใครพวกกูบอกเด็กดักเล่นแม่งดีไหม” อณวุฒิออกความเห็น

“ช่างแม่งเถอะ พวกมึงอย่าเอามือไปเปื้อนเลือดสกปรกของคนอย่างนั้นเลย อีกอย่างกูไม่อยากให้หลานกูกำพร้าพ่อ”

“แล้วตอนนี้มึงทำงานที่ไหน อะไร ยังไง” เจนจพถาม

“กูทำนิตยสารท่องเที่ยวอยู่น่ะ”

“ดูท่ามึงจะชอบทางวารสารฯเหลือเกินนะ ทิ้งไม่ลงเลย”

“อืม อันที่จริงที่ไหนก็ได้ ที่กูจะอยู่ได้โดยไม่ว่างงาน ระหว่างกูหนีจากคนๆ นั้น”

“เห้ออออ ขวัญเอ๊ยขวัญมา เรื่องนี้รู้แล้วเหยียบเลยนะพี่เอก ไอ้กล้วย เพื่อความปลอดภัยของตัวเพื่อนมึง”

“ได้ เดี๋ยวกูเหยียบให้กระจายเลย” หนุ่มร่างท้วมเย้าหยอก

“กระจายพ่อมึงสิ เดี๋ยวกูโบก” เจนจพพูดพลางออกท่า

 

เวลาล่วงเลยเที่ยงคืนมานานแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงฟ้าก็คงสว่าง เมื่อเมาได้ที่ ต่างฝ่ายก็ต่างร่ำลากันเพื่อแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน

“มึงแน่ใจนะธันว่าไม่ให้พวกกูไปส่ง”

“ส่งเหี้ยไร กูไม่ใช่เด็กอนุบาล”

“แต่มึงเมา”

“ไหนใครเมา กูจะเดินตามเส้นขาวนี้ให้ดู” เจ้าของใบหน้าแดงก่ำชี้นิ้วไปยังเส้นขาวบนขอบถนนบริเวณหน้าร้าน

สามหนุ่มยืนมองคนที่มีน้ำเสียงอ้อแอ้บ่งบอกว่าเพื่อนหนุ่มจริงๆ แล้วไม่ได้เก่งเหมือนปาก

“ก็เนี่ย พวกกูเห็นอยู่ว่ามึงเมา”

“ไม่มาววววว”

อากิระส่ายหัว “เดี๋ยวกูไปส่งแม่งเองก็ได้”

“พี่เอกไม่ต้องหรอก เดี๋ยวผมกับไอ้กล้วยไปส่งมันเอง พี่กลับเถอะ กลับไหวใช่ไหม”

“ไหวดิ กูไม่ใช่ไอ้ธันนะ”

“ได้ยินนะว่านินทา ผมบอกแล้วไงว่าไม่ได้เมา”

“เออ มึงไม่เมาก็ไม่เมา” กล้วยเดินตรงไปพยุงร่างที่โงนเงนจะล้มแหลมิล้มแหล่ ขณะเดินเตาะแตะไปตามเส้นขาวบนขอบถนนนั้น

 

“อ้าวพี่ๆ สวัสดีครับ” หนุ่มร่างสูงที่เพิ่งจะเดินออกมาจากผับที่อยู่ข้างกันกับเพื่อนหนุ่มสาวอีกประมาณหนึ่งกล่าวทักทายพวกเขาพร้อมกับยกมือไหว้ป้อยๆ “บังเอิญจังเลยนะครับ”

“เออๆ ไหว้พระไอ้น้อง ว่าแต่เอ็งจำพวกพี่ได้ด้วยเหรอ” เจนจพทักทายตอบ

“จำได้ดิพี่ โดยเฉพาะ...” สายตาคมหรี่มองร่างบางที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอณวุฒิ ผู้เป็นเสาหลักพยุงคนเมาที่อีกไม่นานก็คงเลื้อย “หนักเลย”

“เออ หนัก กูเนี่ยหนัก ไปกันยังวะแจ้” แม้จะตัวหนากว่าธันธเนศเป็นไหนๆ แต่ความไร้กระดูกของเอีกฝ่ายก็ทำให้อณวุฒิเริ่มจะประคับประคองไว้ไม่ไหวเหมือนกัน

“เออๆ ปะๆ” แจ้ทำท่าล้วงหากุญแจรถ

“เดี๋ยวพี่ ให้พี่ธันเขากลับกับผมแล้วกัน ผมเอารถมา แถมห้องอยู่ตรงข้ามกันด้วย จะได้ไม่ลำบากพวกพี่ๆ”

“เห่ย จะดีเหรอ” สามหนุ่มทำท่าลังเล หลังจากที่พอจะรู้ว่าเพื่อนหัวแก้วหัวแหวนของเขาไม่กินเส้นกับอีกฝ่ายเท่าไหร่นัก

“เอาน่าพี่ ผมกับพี่เขารู้จักกันดีแล้ว เดี๋ยวนี้คุยกันบ่อย พวกพี่ๆ รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”

“แต่เพื่อนพี่เมาแล้วเรื้อนมากเลยนะ น้องจะรับมือไหวเหรอ” เจนจพยังมิวายบ่ายเบี่ยง

“โอยพี่ ผมเจอมาแล้วทุกรูปแบบ เพื่อนผมเวลาเมาก็ไม่ธรรมดาทั้งนั้น ดูอย่าง...” ทุกสายตาหันไปมองยังสาวสวยที่กำลังให้ปุ๋ยต้นไม้อยู่ใกล้ๆ พร้อมกับเพื่อนอีกคนที่คอยลูบหลังให้อย่างสุดความสามารถ

สามหนุ่มรุ่นพี่พยักหน้ารับโงนๆ เมื่อเห็นดังนั้น

 

“พวกมึง กูกลับแล้วนะ กลับกันดีๆ” ธันวาหันไปร่ำลาเพื่อนๆ ที่ยืนกระจายตัวอยู่บริเวณหน้าร้าน บ้างดูดบุหรี่ บ้างคุยกับคนถูกใจพี่เพิ่งพบในค่ำคืนแห่งความสนุกนี้ บ้างก็บริจาคอาหารเย็นต่อให้ต้นไม้ ให้สุนัขจรจัดแถวๆ นั้น

 

ร่างของหนุ่มที่อ่อนปวกเปียกเหมือนผักลวกถูกทิ้งลงบนเบาะข้างคนขับโดยสองเพื่อน ก่อนจะประตูจะปิดลง

“ฝากด้วยนะไอ้หนุ่ม ดูเพื่อนพี่ดีๆ นะ ไม่งั้นเรื่องยาว” เพื่อนร่างท้วมของคนเมาสั่ง

“ครับผม”

สายตาเป็นห่วงเป็นใยทั้งสามคู่ยืนมองรถคันดังกล่าวขับออกไปจนลับตา ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าง

 

 

รถจอดลงในลานจอดของคอนโดที่ทั้งสองอาศัยอยู่ ธันวาหันไปมองร่างที่นอนสลบเหมือดอยู่ข้างเขา ก่อนจะส่ายหัวอย่างเอ็นดู

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบหน้าธันธเนศหลังจากที่เขาต้องใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการพาเด็กในสังกัดไปเก็บตัวซ้อมก่อนลงแข่งแมตช์ใหญ่ จนกระทั่งพาทีมไปแข่งเทควันโดที่ต่างจังหวัดอยู่นานหลายวัน

ร่างสูงเปิดประตูฝั่งโดยสารออก ก่อนจะยืนเท้าเอวมองร่างที่แน่นิ่งอยู่ตรงหน้า ใบหน้าหล่อเหล่าส่ายหัวก่อนจะยิ้มน้อยๆ ออกมา

เมื่อพยุงร่างที่อ่อนปวกเปียกมาถึงหน้าห้อง เขาก็เพิ่งนึกได้ว่าต้องมีกุญแจห้องของอีกฝ่ายถึงจะเข้าได้ ธันวาตัดสินใจล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงข้างซ้าย ปรากฏว่ามีเพียงโทรศัพท์มือถือ ส่วนข้างขวานั้น ก็ว่างเปล่า จะเหลือก็คงแค่กระเป๋าหลังกางเกงสองข้าง เขากลั้นใจล้วงลงไปข้างแรก กระเป๋าตัง และสุดท้าย...

ว่างเปล่า มันว่างเปล่า!!!

ฉิบหาย!

สิ่งเดียวที่เขาพอจะนึกออกก็คงเป็นบรรดาเพื่อนหนุ่มของธันธเนศเท่านั้น เขาหยิบโทรศัพท์ธันธเนศขึ้นมา

แบตฯหมด แบตฯหมด!!!

โธ่เอ๊ย พ่อคู้ณณณณ ถ้าเกิดไปเป็นอะไรขึ้นมาอยู่ที่ไหนคนเดียว อย่างนี้จะมีใครช่วยอะไรได้ไหมเนี่ย

“เอาวะ ไม่มีทางเลือกแล้ว” เขาพึมพำ

ร่างสูงประคับประคองคนที่สติชัตดาวน์ไปทางฝั่งประตูของตนเองก่อนจะเปิดเข้าไป

ร่างนุ่มนิ่มถูกวางลงบนที่นอนอย่างเบาแรง

“คืนนี้ก็นอนกับผมไปก่อนแล้วกันนะ”

เจ้าของห้องพูดพลางขยับร่างที่นอนแน่นิ่งให้อยู่ในท่าที่สบายตัว ถุงเท้าทั้งสองข้างถูกถอดออกให้ กระดุมเม็ดบนสุดถูกแกะออกเพื่อคลายความร้อนจากฤทธิ์เหล้าในตัวอีกฝ่าย

เมื่อจัดแจงกับคนเมาเสร็จเรียบร้อย ผู้เป็นเจ้าของห้องก็จัดการตัวเองเพื่อเตรียมตัวนอนเช่นกัน

 

เครื่องปรับอากาศในห้องเริ่มทำงานมันได้อย่างเต็มที่หลังจากเปิดมาชั่วขณะหนึ่งแล้ว ร่างสูงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จกับทั้งเนื้อทั้งตัวที่สวมเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวด้วยความเคยชิน เดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง มองคนที่นอนหายใจแผ่วเบาอยู่บนนั้น ก่อนจะแอบยิ้มออกมาอีกครั้ง

“เวลาหลับก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ดูไม่มีพิษสงดี” ร่างสูงพึมพำ

ไฟในห้องดับลงพร้อมกับความมืดที่คืบคลานเข้ามาแทนที่



... ก่อนเหมันต์ ...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2018 10:04:33 โดย ก่อนเหมันต์ »

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตื่นมาคงโวยวายน่าดู555

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ว๊ากกกก มาต่ออีกหน่อย อีกนิ๊ดเดียวก็ได้ นะ นะ นะ
 :m3: :m3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เผยปมเรื่อง "กล้า" มานิดเดียว

รอความกระจ่างต่อไป

ออฟไลน์ fsbeentaken

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
นึกว่าจะเป็นคืนที่เร่าร้อน โถ่วววว

 :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
จะรอดมั้ยนะ??

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
 ธัญเปลี่ยนงานแล้วพี่รัญจะเป็นยังไงละเนี่ยยย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชัดและ กล้าแฟนเก่าธันคือพี่เขยตัวเอง
ให้สงสัยพี่สาวธัน รู้ไหมว่า  ผัวตัวเองป็นคนรักน้องชายมาก่อน

ลักขณาสาวข้างบ้าน พี่สาวยอร์น ถ่ายรูปราชวุฒิที่เมา แล้วธันช่วย
แถมปล่อยคลิปอีก ทำทำไม เลววววววนะตัวเอง

ธัน ตื่นมาในห้องธัญ เป็นเรื่องแน่  :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
น้องธันตัองดูแลพี่ธันดีๆนะ
คงไม่ทะเลาะกันอีกแล้ว ใช่ไหม

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
แหมๆ ตื่นมาคงโวยวายน่าดู

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
ติดตามครับ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
อยากรู้อดีตของธันอ่ะ

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อยากรู้จังว่าทำไม ต้องกลัวพี่กล้ากันขนาดนั้น
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ตามค่ะ โอ้ยยยดีมากก
กล้านิตัวร้าย
ธันคือผู้ถูกกระทำ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
ดูวุ่นวายดีแท้

ออฟไลน์ ก่อนเหมันต์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-2
9
ความรู้สึกมันฝืนไม่ได้





ธันธเนศปรือตาขึ้นในเช้าวันใหม่ แสงสว่างสาดเข้ามาในห้อง ลมเบาๆ พัดผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่เข้ามาปะทะกับผ้าม่านปลิวไสว

ผ้าม่าน!

เขาเปลี่ยนผ้าม่านตั้งแต่เมื่อไหร่ มันไม่ใช่ผ้าม่านห้องเขา

ธันธเนศดีดตัวลุกขึ้นเมื่อได้สติ มองร่างขาวเหมือนหยวกเหยียดยาวอยู่ข้างๆ เสียงกรนเบาดังขึ้นจากจังหวะหายใจ

 

เกิดไรขึ้นเมื่อคืน? ทำไมเขาถึงได้เข้ามานอนในห้องของธันวา

 

เมื่อสำรวจตัวเองพบว่ายังอยู่ครบสามสิบสอง ไม่มีส่วนไหนชำรุดเสียหาย ธันธเนศจึงค่อยๆ ขยับตัวออกจากเตียงอย่างเบาแรงที่สุด แล้วย่องออกจากห้องไป แต่แล้วก็มีเสียงพลิกตัวไล่หลังมาติดๆ พร้อมกับเสียงสูดลมหายใจฟืดฟาด

“จะกลับไม่คิดจะบอกสักคำเลยเหรอ” เสียงงัวเงียพูดขึ้นทั้งที่ยังหลับตา “เข้าห้องไม่ได้หรอก คุณทำกุญแจหาย”

“เอาใส่เมล์บ็อกซ์ไว้ข้างล่าง กุญแจบ็อกซ์ก็ห้อยอยู่ที่คอนี่ไง”

“จริงดิ!” ร่างสูงดีดตัวลุกขึ้น จะว่าไปเขาก็ปลดกระดุมเสื้ออีกฝ่ายลงตั้งหนึ่งเม็ดก็ไม่ยักเห็นว่ามีกุญแจดอกนั้น

“เมื่อคืนพากลับเหรอ”

“ก็เออดิ”

“เข้าห้องไม่ได้ทำไมไม่บอก”

“ถ้าสติเหลือให้ถามก็คงดี”

“อ๋อเหรอ”

“อ๋อเหรอ?” คนบนเตียงทวนคำ “รู้งี้ปล่อยให้นอนกองอยู่หน้าห้องซะก็ดี”

“เออ งั้นไปล่ะ”

ประตูเปิดออก

“เดี๋ยว” ผู้เป็นเจ้าของห้องร้องเรียกไล่หลัง “ตัวนุ่มดีอ่ะ ว่างๆ มานอนให้กอดอีกหน่อยนะ”

ผู้ที่ยืนค้างอยู่ตรงประตูทำได้เพียงชูนิ้วกลางขึ้นแทนคำตอบ ก่อนประตูจะปิดลง

ใบหน้าที่ยิ้มแป้นเมื่อกวนตีนสำเร็จล้มตัวลงนอนต่ออย่างสบายอุรา

 

 

“ฮัลโหลธัน”


“อือ”

“พี่รู้แล้วนะว่าพี่กล้าไปหาแก”

“แล้วไงต่อ”

“เมื่อไหร่แกจะเลิกยุ่งกับเขาสักที เขามีลูกกับพี่แล้วนะธัน”

“ผมไม่ได้อยากจะยุ่งเลย เขาต่างหากที่ไม่ยอมเลิกยุ่งกับธันสักที”

“อ๋อ นี่แกกำลังจะบอกว่ากล้าเขายังรักแกเหรอ แกเองหรือเปล่าที่ยังติดต่อเขาอยู่ ไม่งั้นเขาจะหาแกเจอได้ยังไง”

“มีน ธันเป็นพี่น้องร่วมท้องกับมีนนะ มีนพูดอะไรควรจะให้เกียรติธันบ้างดิ”

“ถามตัวเองดูว่ายังมีเกียรติอยู่หรือเปล่า เลิกยุ่งกับครอบครัวคนอื่นเขาเสียที ก่อนที่เรื่องนี้จะถึงหูพ่อกับแม่”

“อย่างน้อยธันก็มีเกียรติพอที่จะไม่แย่งของคนอื่นมาเป็นของตัวเองหรอกนะ”

“ไอ้ธัน!”

“มีนบังคับให้ธันเป็นแบบนี้เองนะ ในเมื่อเชื่อใจคนนอกมากกว่าพี่น้องในไส้ก็แล้วแต่เลย แต่ขอบอกไว้อย่างหนึ่งนะ ผู้ชายแบบนั้นน่ะ ไม่มีวันซะหรอกที่ธันจะกลับไปเสียเวลาด้วย”

“พูดได้ดีนิ พูดได้ ก็ขอให้ทำให้ได้ด้วยนะ”

การสนทนาได้จบสิ้นลงเพราะเขาไม่อาจทนฟังสิ่งที่พี่สาวกำลังกระแหนะกระแหนเขาได้อีกต่อไปแล้ว

 

ตั้งแต่จำความได้ ธันธเนศก็ไม่แน่ใจแล้วว่าเขากับมีนา ผู้เป็นพี่สาวฝาแฝดพูดกับเขาดีๆ สักกี่ครั้ง หรืออาจจะไม่มีเลยสักครั้งเสียด้วยซ้ำไป

               

           e’bear~Banana
            ‘วันนี้มีนัดซ้อมใหญ่ก่อนเด็กๆ ลงแข่ง @thun_thaneth คนสำคัญของยิมจะมาให้กำลังใจไหมน๊า’

            Bug KaiJae          
            ‘เออ หายนานไปแล้วนะเว้ย’

            Bank คึคึ
            พี่ธัน!!! @thun_thaneth

            Naruemon Konshopkin
            พี่ธันธเนศคนหล่อ @thun_thaneth

            AAA Naja
            พี่ธันคร้าบบบบ@thun_thaneth

            Nong Baimian4g
            พี่ธัน น้องรออ้ายอยู่เด้ออออ @thun_thaneth

 

            ......
            ...

 

 ข้อความจากไลน์กลุ่มเด้งขึ้นแสดงในหน้าจอสมาร์ทโฟนอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหย่อนในขณะที่เขากำลังเคร่งเครียดกับงานที่เพิ่งจะเริ่มได้ไม่กี่เดือน จนต้องตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูให้รู้แล้วรู้รอด

“มึงจะเมนชั่นเหี้ยไรกันนักหนา” เขาบ่นอุบ

 

            thun_thaneth
            ‘เดี๋ยวกูไป ใครเมนชั่นกูคนแรก เป็นคู่ซ้อมให้ด้วย [อีโม’กำปั้น]’


 

 

 

หลังจบสิ้นการรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ชอากิระ และแนะทริคเล็กๆ น้อยๆ พร้อมกับคำอวยพรในฐานะรุ่นอาวุโสสุดของโรงเรียนให้แก่คนที่กำลังจะลงแข่งแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ

ธันธเนศกำลังผลัดผ้าอยู่ในห้องแต่งตัวของโรงยิมเช่นทุกครั้ง ก่อนจะแยกตัวกลับบ้าง ขณะเดียวกันก็มีเสียงของความเคลื่อนไหวดังขึ้นทางด้านหลัง แต่เขาก็หาได้สนใจไม่ เพราะมีศิษย์คาราเต้มากมายเดินออกเดินเข้าอยู่ตลอด เสียงฝีเท้าเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ เขา

“หลบหน้าผมทำไม”

เสียงที่คุ้นหูดึงความสนใจเขาไปมองร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ใบหน้านั้นยังคงมองตรงไปยังกระจกที่อยู่ตรงหน้า

ราชวุฒินั่นเอง

สีหน้านิ่งเฉยของผู้ถูกถามหันกลับมา ก่อนจะก้มลงต่ำ แล้วกวักน้ำที่กำลังไหลออกจากก๊อกขึ้นล้างหน้า “ทำไมถึงคิดแบบนั้น” ดวงตาเฉยชามองตรงในกระจก น้ำหยดใสหยดแหมะลงจากใบหน้าใสสู่อ่างล้างหน้า

“ผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจบอกได้นะ”

สายตาทั้งสองคู่ต่างก็ใช้กระจกบานใหญ่ตรงหน้าเป็นตัวกลางในการสื่อสารแทนที่จะมองคู่สนทนาตรงๆ

“พูดเรื่องอะไรของมึงวะ”

“ก็พี่ไม่ยอมเจอหน้าผมเลย โทรศัพท์ก็ไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่อ่าน ไปรอที่บริษัทก็ไม่เจอ” เจ้าของเสียงน้อยอกน้อยใจหยุด ข่มอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงน่าเห็นใจ “ไม่ซ้อมให้ผมไม่เป็นไรหรอกนะ ขอแค่ให้ผมได้เจอพี่บ้าง”

“กูเพิ่งย้ายงาน ช่วงนี้เลยยุ่งๆ เด็กอย่างมึงจะไปเข้าใจอะไร”

“ใช่ ผมมันเด็ก ใครจะเหมือน...” เขาหยุด สกัดกั้นคำพูดบางอย่างที่อยากพูดออกมาใจจะขาดเอาไว้ ก่อนที่คำพูดแทนความน้อยอกน้อยใจของตัวเองจะไปช่วยสนับสนุนคำสบประมาทจากอีกฝ่าย “ถ้ายุ่งก็แค่บอกผมบ้าง สักคำก็ยังดี วันนี้ก็ด้วย พี่ก็ไม่แม้แต่จะมองหน้าผมด้วยซ้ำ หรือเพราะเรื่องคลิปนั่นใช่ไหม พี่ถึงตีตัวออกห่างผม”

ผู้ถูกถามก้มหน้า มองน้ำในอ่างที่กำลังเหือดแห้งไป

“ไม่ใช่หรอก” เขาตอบเสียงเบา

เขาไม่ได้อยากจะหนีหน้า เขาไม่ใช่คนหนีปัญหา แต่เพราะคำพูดของราชวุฒิในคืนนั้นมันทำให้เขากลัวใจตัวเอง กลัวว่าจะกลับไปเป็นแบบเดิมอีกครั้ง กลัวว่าจะห้ามใจตัวเองไม่ได้เหมือนที่อุตส่าห์ทำมาตลอดหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น กลัวว่าความพยายามที่ผ่านมามันจะสูญเปล่า

“จะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ผมขอโทษ” ใบหน้าก้มต่ำเสียงอ่อย

“ขอโทษอะไรมึง กูไม่ได้โกรธสักหน่อย” เขาปรับอารมณ์ ก่อนที่สถานการณ์มันจะแย่ไปกว่านี้ สิ่งที่รบกวนจิตใจเขามีมากพอแล้วที่จะหาเรื่องใหม่เข้าไปเสริม “ป่ะ เดี๋ยวกูพาไปแดกข้าวก็ได้” ก่อนจะตบไหล่อีกฝ่ายเพื่อให้หลุดจากสถานการณ์อึมครึมนี้

หนุ่มมัธยมหันขวับมายังคนที่อยู่ข้างๆ สีหน้าตื่นเต้นกลบความเศร้าสร้อยที่เคยปรากฏ “จริงนะ พี่ชวนผมกินข้าว จริงๆ นะ” น้ำเสียงร่าเริงดังขึ้น

“อือ”

“เยสๆๆ”

“มันต้องดีใจขนาดนี้เลย ให้เร็ว อย่าท่าเยอะ เดี๋ยวกูเปลี่ยนใจ”

 

 

ในมื้ออาหารเย็นที่แม้จะเป็นเพียงบะหมี่ข้างทาง แต่กลับทำให้ราชวุฒิมีความสุขกับอาหารมื้อนี้เป็นที่สุด หลังจากที่ต้องทนกินข้าวขมคอมานานสองนาน เมื่ออิ่มหนำ เด็กหนุ่มร้องขอที่จะเดินมาส่งผู้เป็นรุ่นพี่ให้ถึงที่ให้จงได้

ลึกๆ แล้วก็เพราะมีเป้าหมาย หากธันธเนศหายหน้าไปอีก อย่างน้อยเขาก็พอจะรู้ว่าควรจะไปตามหาอีกฝ่ายได้ที่ไหนอีกบ้าง

 

บนฟุตบาทที่แสงไฟส่องสว่างเป็นระยะๆ สลับกับร่มไม้อึมครึม การสนทนาได้เงียบลงไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่ธันธเนศที่เดินตามหลังจะเรียกคนที่เดินเอื่อยเฉื่อยนำอยู่ข้างหน้า

“ตี๋”

“ครับ”

“ไม่ว่ามึงจะรู้สึกยังไงกับกูก็แล้วแต่ กูแค่อยากจะบอกมึงไว้ก่อนว่า...”

“ว่า”

“เป็นพี่น้องแบบนี้น่ะดีแล้ว”

ร่างสูงที่เดินนำอยู่ไม่ได้สนใจหันกลับมามอง ยังคงเดินทอดน่องต่อไป

“ผมโกหกความรู้สึกตัวเองไม่ได้หรอก ฝืนก็ไม่ได้ด้วย มีเพียงการกระทำที่ผมจะทำให้ในสิ่งที่พี่ขอได้” เสียงเรียบเฉยไม่ได้บ่งบอกอารมณ์เศร้าหรือเสียใจใดๆ เขาคงพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะข่มมันไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจ

ราชวุฒิคงรู้อยู่แก่ใจแล้วล่ะ ว่าคนอย่างธันธเนศคงไม่โง่พอที่จะไม่รับรู้ถึงความรู้สึกจริงๆ ที่เขามีให้เลย

“พี่ธันครับ”

“หือ”

“ขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหม ปวดท้อง”

“มึงมาปวดอะไรตอนนี้เนี่ย”

“น๊า ผมจะไม่ไหวแล้ว ห้องพี่อยู่อีกไกลไหม”

“ไม่ไกลแล้ว แค่นี้เอง”

 

 

เสียงกดชักโครกดังออกมาจากในห้องน้ำบ่งบอกว่าผู้มาเยือนได้เสร็จกิจแล้ว ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานประตูห้องน้ำจะเปิดออก

“ขี้แตกหรอ” เจ้าของห้องที่นั่งอยู่จ้องแล็ปท็อปอยู่กล่าวขึ้น

“ไม่ได้เข้าส้วมมาหลายวันแล้ว คงถึงเวลาของมัน”

ร่างสูงเดินสอดส่องสายตาไปทั่วห้องอย่างสนใจ โดยที่ผู้เป็นเจ้าของห้องไม่ได้สนใจแต่อย่างใด

“เออ ห้องพี่นี่ก็น่าอยู่เหมือนกันนะ ดูอบอุ่นดี กลิ่นก็หอมเหมือนห้องผู้หญิงเลย” ผู้พูดออกความเห็นขณะหลับตาพริ้มแหงนจมูกสูงเพื่อสูดกลิ่น

“เคยไปห้องผู้หญิงบ่อยล่ะสิมึง ถึงได้รู้ดีว่ากลิ่นห้องผู้หญิงเป็นยังไง”

“เห็นอย่างนี้ผมก็เคยมีแฟนนะ”

“แล้วเขาไปไหนแล้ววะ”

“เลิก เขาบอกว่าผมสนใจกีฬามากกว่าเขา”

“ก็สมควร”

“แหม แล้วพี่อะ”

“กูอะไร”

“ตอนนี้คบกับใครอยู่หรือเปล่า”

“เปล่า”

“ไม่น่าเชื่อ แล้วเคยมีใครหรือเปล่า”

“ไม่เคย”

“ไม่เชื่อ!”

ตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์คาราเต้ที่ตั้งอยู่บนชั้นวางถูกหยิบมาดูอย่างสนใจ

“ผมว่าจะซื้อของเข้าบ้านอยู่เหมือนกัน แม่บอกว่าบ้านโล่งไป แต่พวกเขาไม่ค่อยมีเวลา เลยอยากให้ผมที่อยู่ตลอดช่วยทยอยซื้อของเข้าบ้าง ถ้าผมไปพี่ช่วยไปเลือกหน่อยนะ ผมไม่รู้จักของพวกนั้นเลย”

“อือ ถ้ากูว่างนะ”

ร่างสูงที่ยืนพูดพลางเดินจับนู่นจับนี้ไปทั่วห้องอยู่หลัดๆ ตอนนี้มาหยุดอยู่ข้างเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ก่อนที่ตัวหนาหนักจะทิ้งตัวนั่งลงประชิดเขา

“ขนาดนี้แล้วมึงก็นั่งตักกูเลยเลยสิ”

“ได้เหรอพี่” สีหน้าตื่นเต้นพูดขึ้น

“เดี๋ยวกูโบก”

จมูกโด่งยื่นเข้ามาใกล้ “ตัวหอมจัง”

ธันธเนศเอียงตัวออกห่าง ก่อนจะส่งเสียงลอดจมูกห้ามปรามท่าทีกวนใจ

“บ้านหลังนั้นของใคร”

“พ่อผมซื้อไว้น่ะ อันที่จริงพ่อผมเป็นคนกรุงเทพฯ แต่ย้ายไปสอนที่ต่างจังหวัดตั้งแต่บรรจุ แล้วเขาเจอกับแม่ผมที่นั่น เลยขายบ้านหลังเก่าที่นี่ทิ้ง พอผมย้ายมาเรียนในกรุงเทพฯ เขาเลยคิดอยากจะซื้อบ้านใหม่ทิ้งไว้สักหลังให้ผมได้อยู่ เขาไม่อยากให้อยู่หอพักสักเท่าไหร่”

“แล้วที่บ้านมาเยี่ยมบ้างไหม”

“นานๆ ครั้ง บ่อยสุดก็เดือนละสองครั้ง ส่วนมากถ้าเป็นวันหยุดยาวผมจะเป็นฝ่ายกลับไปหาพวกเขาเองมากกว่า”

“งี้ก็เหงาแย่ดิ”

“ก็เหมือนพี่อะ พี่ก็อยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ ถ้าพี่เหงา ผมก็เหงา”

ใช่ เขาเหงา การอยู่คนเดียวมันเหงามากเลยล่ะ แม้จะดูเข้มแข็งต่อโลกภายนอกในสายตาคนอื่นสักเพียงใด แต่ความจริงแล้วเขาเหมือนคนที่ไร้ซึ้งที่พึ่งใดๆ ครั้นจะหันหน้าไปหาครอบครัวก็เหมือนหันหน้าเข้าสู่ความมืดยังไงยังงั้น ไม่ต่างกัน

 

เมื่อมองนาฬิกาตรงมุมล่างของหน้าจอแล็ปท็อปก็เห็นว่าเวลาล่วงเลยมาจนเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ธันธเนศละสายตาจากตัวหนังสือเล็กๆ สุดแสนจะลายตา สายตาพร่าปรับให้เข้ากับแสงอ่อนๆ ในห้อง หน้าจอถูกพับเก็บลงพร้อมกับแสงสว่างจ้า เผยให้เห็นบุคคลที่เงียบหายไปนานสองนานนอนขดตัวกอดหมอนอยู่บนโซฟาราบตรงข้ามเขา

เจ้าของห้องผู้ที่เหมือนมีน้องชายมาให้คอยดูแลอย่างงงๆ ส่ายหัวโงนๆ พร้อมกับพึมพำออกมาอย่างละเหี่ยใจ “ถ้าไม่บอกก็คือจะไม่กลับบ้านกลับช่องตัวเองจริงๆ ใช่ไหมมึงเนี่ย”

หลังจากปลุกคนที่ขี้เซาเหมือนเด็กอนุบาลให้งัวเงียตื่นขึ้นได้ เขาจึงบอกแกมบังคับให้รีบกลับ เพราะพรุ่งนี้ต่างฝ่ายต่างก็ต้องตื่นเช้าไปทำหน้าที่ของตน

 

เด็กหนุ่มหาวหวอดๆ เปิดประตูออกไปเป็นจังหวะเดียวกลับใครบางคนที่เดินมาเห็นเข้าพอดิบพอดี

สายตาของคนทั้งคู่สบกัน ธันวาหยุดก้าวเหมือนลืมท่าเดินชั่วขณะ ก่อนจะก้าวต่อมาหยุดอยู่หน้าห้องตัวเอง ก้มหน้าก้มตาควานหากุญแจห้อง

แม้จะทำเป็นไม่สนใจอีกฝ่าย แต่นักศึกษาหนุ่มห้องตรงข้ามก็มิวายแอบมองแผ่นหลังหนาเดินออกไปในโถงทางเดิน พร้อมกับคำถามที่ครุกรุ่นอยู่ในใจ



TBC...


... ก่อนเหมันต์ ...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2018 10:05:03 โดย ก่อนเหมันต์ »

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ช่างเป็นพี่สาวฝาแฝดที่ ไม่เข้าใจ ไม่ผูกพันกับแฝดน้องตัวเอง  เหมือนแฝดคู่อื่น ๆ เลยนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อูยยย ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
เอาแล้วไงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด