โทษทีครับ คนนี้ผมจองตั้งแต่ห้องคลอด ตอนที่ 35 [END] 20.10.2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: โทษทีครับ คนนี้ผมจองตั้งแต่ห้องคลอด ตอนที่ 35 [END] 20.10.2018  (อ่าน 28673 ครั้ง)

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 22 : โจ๊ก Solo

สวัสดีครับ ผมโจ๊ก "สากล โชคปรีดา" หนุ่มโสดคนสุดท้าย ของกลุ่มโฉด เอ๊ย โสดวิศวะ เรื่องอะไรจะทำตัวพันธะแบบคนอื่นล่ะครับ หลังจากไอ้แทนกับไอ้กันแขวนหูหม้อดำๆ อย่างเป็นทางการแล้ว เรียกว่าสาวๆ ก็เทมาหาผมกันหมด เรียกว่าหัวบันไดไม่แห้ง วันๆ มีแต่สาวโทรตาม เรียกว่าน้ำแทบจะหมดตัว เรื่องอะไรจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนล่ะครับ ผู้หญิงมีหลายแบบจะตาย มีทั้ง

แบบใสซื่อ

"พี่โจ๊กค่ะ แนนพึ่งเคยนอนหอคนเดียว แนนกลัวพี่โจ๊กมานอนเป็นเพื่อนหน่อย"

น้องแนน เภสัช


ทั้งแบบฮาร์ดคอร์

"พี่โจ๊ก นกเบื่อ ถ้าพี่โจ๊กว่างมาเอานกหน่อย"

น้องนก บัญชี


แบบคิกขุ

"พี่โจ๊ก แครอทอยากเล่นพ่อแม่ลูก พี่โจ๊กมาเล่นทำลูกกับแครอทหน่อย"

น้องแครอท อักษร

ชีวิตมันดีขนาดนี้จะเปลี่ยนแปลงทำไมล่ะครับ จะมีปัญหาหน่อยตอนไปแดกข้าวกับเพื่อนนี่แหละครับ แม่งสวีทจนกูอิจฉา และปัญหาอีกอย่างคือตอนเช้านี่แหละครับ เนื่องจากวันนี้เปิดเทอมวันแรก ต่างคนแม่งก็ไปรับแฟน ทิ้งให้โจ๊กนั่งรออย่างเหงาๆ ที่คณะคนเดียว รออย่างเดียวไม่ว่า แม่งยังไลน์มาฝากกูซื้อกาแฟอีกคนล่ะแก้ว บอกกูขับบิ๊กไบค์มา แม่งก็บอกให้แขวนหน้ารถ บอกมันว่าไม่เท่ห์แม่งก็บอกให้เอาปากคาบมา เออ กูมันคนโสดหัวเดียวกระเทียมลีบ แม่งไม่อ่อนโยนกับกู น้อยใจสัด

ผมขับบิ๊กไบค์สักพักก็ถึงร้านกาแฟ ไม่ต้องไปหงไปห้างให้เสียเวลา เนื่องจากมหาลัยที่ผมอยู่เป็นมหาลัยเอกชน แต่ที่พีกกว่านั้นคือ หน้ามอมีเหมือนห้างเล็กๆอยู่ด้านหน้า เรียกว่าครบวงจร อยากแดกอะไรมีหมดครับ ร้านกาแฟแบรนด์หลอดเขียวที่พวกนั้นชอบแดกก็เช่นกัน ผมจอดรถคู่ใจถอดหมวกไว้หน้าร้าน พร้อมเดินไปสั่งกาแฟ

"ขอลาเต้เย็นสองแก้ว ม็อกค่าปั่นเพิ่มช็อตสองแก้วนึง ขอบคุณครับ" โอยยยย ร้อนฉิบหาย ทำไมกูต้องทำตัวลำบากไม่ขับรถแอร์เย็นๆ แบบคนอื่นเค้า อ้อ มันไม่เท่ห์ ความหล่อเท่ห์มันต้องอดทนสิน่ะ

"ลุงค่ะ" ใครว่ะ ใครบังอาจเรียกพี่โจ๊กสุดหล่อว่าลุง

"ลุงนั่นแหละค่ะ หันหาใคร" หันซ้ายหันขวา แม่งก็ไม่มีใคร

"ลุง" อ้าว มายืนเตี้ยอยู่นี่เอง ผมก้มลงมอง ผู้หญิงแบ๋วๆ ใสๆ ตรงหน้า

"ลุงหูหนวก หรือกวนตีนค่ะ ทำไมลุงไม่ต่อแถว"

"โทษทีครับ ลุง เอ๊ย พี่มองไม่เห็นแถว น้องตัวเตี้ยพี่มองไม่เห็นโทษทีครับ" อันนี้พูดจริงครับ ไม่ได้กวนตีน

"อ้าว พูดว่าเตี้ย ออกไปต่อยกันหน้าร้านไหมค่ะ"

"พี่ไม่ทำร้ายผู้หญิงครับ พี่มองไม่เห็นโทษที" ผมก้มหน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปต่อแถวด้านหลัง

ผมจึงได้มีเวลาจ้องมอง น้องคนนี้ น่าจะเป็นน้องน่ะครับ เพราะว่ายังใส่ชุดนักเรียนอยู่ แต่เครื่องแบบไม่ค่อยคุ้น โรงเรียนไรว่ะกระโปรงสก็อตสีแดง แถวนี้มีด้วยหรือว่ะ ว่าแต่หน้าตาน้องมันก็น่ารักตัวเล็กๆ ขาวอย่างกับแดกกระดาษไป แต่ปากโครตหมาไม่ค่อยกลัวคน เออแปลกดี ลองสีสักหน่อยล่ะกัน ท่าจะเคี้ยวกรุบกรับ น่ารักตัวเล็กอุ้มง่าย

"น้องครับ น้องที่เตี้ยๆ น่ะครับ"

"อ้าว บอกว่าอยากเรียกเตี้ย หาเรื่องรึคะ"

"เปล่าครับ พี่อยากรู้จักชื่อ ชื่อไรครับ" ผมพูดเสร็จพร้อมยิ้มให้

"จะจีบเหรอค่ะ" พูดเสร็จน้องก็หยักคิ้วหนึ่งที แม่งเดี๋ยวจับกดเลย

"ไม่ได้จีบครับ แค่ลองคุยๆ กันก่อน เผื่อเป็นเพื่อนกันไง"

"มีเพื่อนเยอะแล้ว ไม่อยากมีเพื่อนเพิ่ม"

"งั้นจีบก็ได้ครับ ชื่อไรครับ"

"ไม่เอาค่ะ กลัวโรคเลือด" ด่ากูสำส่อนเถอะ ถ้าจะแรงขนาดนี้

"หูย เป็นแฟนพี่ดีน่ะ หล่อเท่ห์ ขับบิ๊กไบค์ด้วย"

"แดกได้ไหมค่ะสรรพคุณที่พูดมา"

"หูย แรงอ่ะ พี่กินได้น่ะ ลองกินพี่ไหม"

"พี่ตรวจเลือดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ค่ะ" โอย เหี้ย เจ็บแทงสุดด้าม

"พี่สะอาดน่ะ ..... พี่อาบน้ำแล้ว" เจอกูไป เป็นไง

น้องถอนหายใจแล้วไม่พูดอะไร แต่เปลี่ยนไปนั่งรอกาแฟที่โต๊ะแทน มีรึโจ๊กจะปล่อย เดินตามไปติดๆ

"มารอแฟนหรือครับ" น้องนั่งดูดกาแฟ พร้อมเบือนหน้าหนี

"มาคนเดียวเหงาหนา เดี๋ยวพี่เสียสละนั่งเป็นเพื่อน"

ยังคงเงียบ ไม่หือรือ โจ๊กถือว่าอนุญาตนะครับ อิอิ

"น้องมารอใครรึเปล่าครับ เผื่อพี่รู้จัก"

"พี่น่าจะไม่รู้จักน่ะคะ เพราะพี่เค้าไม่น่าจะคบหม้อเป็นเพื่อน" โอย เจ็บ แม่งแถงลึกลงใจโจ๊ก เจอง่ายๆ มาจนเบื่อ เจอยากๆ แม่งท้าทาย

"สรุปพี่ยังไม่รู้จักชื่อเลยครับ มารอพี่ใช่ไหม ผู้หญิงผู้ชาย เผื่อพี่รู้จัก"

"รอพี่ชายน่ะคะ ที่มือตีนหนักๆ นะคะ"

"หูย อยู่คณะไรครับ มีใครมือตืนหนักกว่าพี่อีกครับ"

น้องถอนหายใจ คงรู้ล่ะครับว่ารุ่นนี้หน้าหนาขนาดไหน ด่าว่ายังไงก็ไม่ไปเพราะตื้อเท่านั้นที่ครองโลก

"เรามาคุยกันดีๆ ดีกว่านะครับ น้องชื่ออะไรครับ หาพี่ที่คณะไหน เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่า"

"เค็ก วิศวะ" น้องตอบห้วนๆ มาก็ดีใจล่ะครับ แสดงว่าพอมีหวัง

"งั้นเดี๋ยวพี่โจ๊กไปส่งน้องเค็กดีกว่า พี่ชื่อโจ๊กน่ะครับ ฝึกร้องครางไว้ก่อนเพื่อต้องใช้" เอาน่า หยอดนิดหยอดหน่อยเผื่อแม่งได้ เห็นน้องแม่งมองบน ไม่ได้ก็ถือว่าพี่พยายามสุดแล้วล่ะกัน

"ไม่ได้ล่อลวงน่ะ"

"บ้า ถ้าน้องยอมพี่ก็โอเคน่ะ แต่พี่ไม่ไปส่งฟรีๆ น่ะ แลกกับเบอร์โทร" ผมหยักคิ้วพร้อมยื่นมือถือให้

"ได้ ดิว" น้องรับมือถือพร้อมกดเบอร์ เสร็จโจ๊กไม่รอดแน่ครับ

ผมเดินนำน้องมาจนถึงบิ๊กไบค์คันเท่ เป็นไง สาวไหนเห็นก็กรี๊ด หลงพี่โจ๊กแล้วล่ะสิ ผมยืนกอดอกพิงด้วยความเท่ห์

"โหย แม่งโครตร้อน มีแอร์ไหมล่ะพี่" แม่งจะมีได้ไงล่ะ หรือจะให้กูเป่าลมให้

"ไม่มี พี่ไม่เท่ห์หรือ"

"ขาดเสื้อกั๊ก งั้นทุกๆ อย่างแม่งใช่เลยพี่" ด่ากูเป็นวินอีกปากดี

ผมยื่นหมวกให้น้องใส่ พร้อมสตาร์ทรถรอ ขึ้นรถเมื่อไหร่ พี่โจ๊กจะเบรกกระชากถี่ๆ ให้นมกระแทรกหลังพี่โจ๊กแรงๆ โอยยย ฟิน นิดๆ หน่อยๆ พี่ก็ต้องทำ

คิดไปคิดมา โอ๊ะระนาบลูกแรกโจ๊กเบรกเอี๊ยด โอยนุ่มนิ่ม นุ่มนิม ฟินสุด โอ๊ะอีกลูก  โอยยย พี่จะไม่ไหว ผมเลยพาอ้อมไปอีกสักรอบ เบรกดังเอี๊ยดดดด รอบนี้กระเชาะ เสร็จเลยกู เละตั้งแต่หลังยันหัว น้องแม่งเอาแก้วกาแฟมาคั่นกลาง อากาศร้อนเหี้ยๆ ยังสั่งกาแฟร้อน นี่น้องเพิ่มน้ำเชื่อมใช่ไหมครับ เหนียวขนาดนี้ ดีน่ะไม่ร้อนมาก สรุปตั้งใจแกล้งพี่ไหมนี่

สักพักก็ถึงหน้าคณะ

"ตายละพี่ เค็กขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ตายๆ"

"งั้นเดี๋ยวน้องเดินไปนั่งรอที่ใต้ตึกก่อน เดี๋ยวพี่ไปล้างตัวแวบ เดี๋ยวช่วยหาพี่ล่ะกัน"

น้องพยักหน้ารับ พร้อมเดินไปใต้ตึกอย่างโดยดี แม่งเสื้อช็อปก็เลอะ เสื้อยืดก็เลอะ ดีหน่อยครับที่เสื้อช็อปเป็นสีแดง มันเลยเห็นคราบไม่ชัด ผมรีบล้างคราบเหนียวออกอย่างรวดเร็ว รีบใส่ตีนหมามาเต๊าะน้องเค็กต่อ แต่ออกมาหาใต้ตึกก็ไม่เจอ เดินไปที่โรงอาหารกลางก็ไม่เจอ ผมดูจนทั่วจนมั่นใจว่าน้องคงหายละเหยไปกับอากาศแล้ว แม่งน้องเค็กแม่งลูบคมพี่โจ๊ก โธ่เอ๊ย เด็กๆ น้องลืมไปหรือเปล่าครับพี่มีเบอร์น้องอยู่ ผมไม่รอช้ารีบกดเบอร์ที่โทรออกล่าสุดที่น้องเค็กกดไว้

"ขอสายน้องเค็กครับ"

"ค่ะ รับกี่ปอด์นค่ะ"

"โหยรับทั้งตัวเลยครับ"

"เอาหน้าอะไรค่ะ"

"เอาหน้าไหนก็ได้ครับ เอาแบบเสียวๆ สุดๆ น่ะครับ"

"รับเองหรือส่งค่ะ"

"เอ๋?????"

"รับเองหรือส่งค่ะ"

"เดี๋ยวน่ะครับ ขอสายน้องเค็กครับ"

"ค่ะ นี่ร้านน้องเค็ก คาเฟ่ค่ะ"

น้องแม่งเล่นกูล่ะ กว่ากูจะเคลียร์จบ กูต้องสั่งเค็กไปอีกห้าปอด์นแทนคำขอโทษร้านเค็ก โจ๊กแค้น โจ๊กเจ็บปวด อย่าให้โจ๊กเจอตัวน่ะ โจ๊กจะเอาคืนให้สาสม ว่าแต่ กาแฟเพื่อนกูล่ะ สงสัยกูจะลืมไว้ร้านกาแฟ นี่วันอะไรของโจ๊ก

หลังเลิกเรียน ผมก็นั่งเซ็งๆ พร้อมเค็กที่กินเหลืออยู่ที่หอ โจ๊กเซ็ง โจ๊กเครียด ว่าแล้วก็โทรชวนเพื่อนไปกินเหล้าร้านเฮียบอยแถวมอ เฮียบอยเป็นรุ่นพี่ที่คณะที่จบไปแล้ว เรียกว่าแดกเหล้าจนได้ดี จนมีกิจการร้านเหล้าเป็นของตัวเอง ด้วยเหตุผลทีี่ว่าแดกที่อื่นมันเปลือง เปิดร้านแดกเองประหยัดกว่า นี่แทบจะลุกขึ้นตบมือในเหตุผล แต่ร้านเฮียบอยก็ทำกำไรครับ พี่ๆ น้องๆ ไปอุดหนุนกันแน่ทุกคืน วันนี้ผมคงต้องแดกเหล้าให้มันหายคับข้องใจ ว้นนี้แม่งแห้วแดกทั้งวัน ว่าแล้วก็โทรหาเพื่อน แต่ชีวิตโจ๊กแม่งช่างบดซบ โทรหากัน แม่งก็ไปดูหนังกับหวาน โทรหาแทนแม่งก็บอกกำลังปล้ำเมีย โทรหาพี่หมอกตัดสายทิ้ง โทรหาอีกทีแม่งปิดเครื่องทิ้งกูไว้กลางอากาศ ไม่อ่อนโยนกับกูสัด ช่างแม่ง ไปคนเดียวก็ได้ว่ะ เดี๋ยวค่อยไปหาที่โน่น ว่าแล้วก็แต่งตัวขี่บิ๊กไบค์สุดเท่ห์ไปโฉบหาสาวดีกว่า

กว่าจะถึงร้านก็ปาไปเกือบสามทุ่มครับ เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ คนค่อนข้างแน่นเป็นพิเศษ แต่พวกๆ กันทั้งนั้น ผมต้องเดินไหว้รุ่นพี่ตั้งแต่หน้าร้าน คนคุ้นเคยกันทั้งนั้น ดูคงจะได้ที่กันแล้ว ผมเดินตรงดิ่งไปหาเฮียบอยที่บาร์ด้านใน ทักเจ้าของร้านก่อนเผื่อได้แดกฟรี อิอิ

"เฮียบอยหวัดดีครับ"

"อ้าวมึง มาแต่หัววัน คิดถึงกูหรือมาหิ้วสาว มาแต่หัววันเลยมึง ไม่มาดึกๆ ล่ะมึง มาตอนสาวๆ เมาจะได้หลอกล่อง่ายๆ แต่มึงหล่อน่ะกูว่าแค่ชวนเค้าก็ไปล่ะมั๊ง"

"โหยเฮีย ด่าผมว่าเหี้ยแล้วตามด้วยหล่อ ตบหัวแล้วลูบหลังโครต"

เฮียบอยหัวเราะแล้วยื่นแก้วเหล้าให้ ผมรีบคว้ามากระดกอย่างไว

"ว่าแต่เฮีย วันนี้มีสาวๆ สวยๆ เด็ดๆป่ะ"

เฮียบอยหัวเราะแล้วชี้มือไปตรงโต๊ะริมสุดด้านใน ที่มีหญิงสาวชุดดำเข้ารูปนั่งอยู่เพียงลำพัง แต่มันไกลจนผมมองไม่ชัด

"สวยรึเฮีย"

"สวยไม่สวย กูเห็นคนแม่งวนไปชนแก้วไม่ขาดสาย แต่แม่งคงยากว่ะ กูเห็นแม่งแห้วแดกกันมาทุกคน น่าจะยากอยู่"

หูยท้าทายน่ะ ผมนั่งมองอยู่สักพัก ก็เห็นมันเป็นจริงอย่างที่เฮียบอยบอก คนแม่งเข้าหาเยอะ แต่ก็ไม่มีใครได้สักคน มีแต่เดินคอตกกลับมา แม่งโครตท้าทาย มีรึที่โจ๊กจะไม่ร่วมด้วย

ผมเดินถือแก้วตรงไปช้าๆ ค่อยๆ เดินฝ่าผู้คนและแสงไฟ จนใกล้ถึงโต๊ะเป้าหมาย แต่ผมต้องตกใจ เพราะคนนั่งอยู่คือตัวต้นตอของปัญหาวันนี้ "น้องเค็ก" โหยพระเจ้าได้ให้โอกาสโจ๊กได้แก้ตัว ผมไม่รอช้ารีบตรงปรี่เข้าไป

"โหย เจอกันอีกล่ะน่ะครับ เจอกันครั้งแรกคงบังเอิญ ครั้งที่สองน่าจะพรหมลิขิตน่ะครับ"

น้องหันหน้ามาถอนหายใจหนึ่งที ก่อนจะไปยกแก้วขึ้นมาดื่มต่อ

"โหยอะไรอ่ะ พี่โจ๊กอุตสาห์ทัก มาคนเดียวมันอันตราย เดี๋ยวพี่โจ๊กนั่งเป็นเพื่อนล่ะกันอิอิ"

  น้องเค็กยังคงนั่งดื่มอย่างเงียบๆ ท่าทางแบบนี้คงมีปัญหาแน่ๆ ผู้หญิงคนเดียวมานั่งดื่มเหล้าล่อตระเข้ขนาดนี้จะมีเรื่องอะไรได้ นอกจาก 

"มีปัญหากับแฟนหรือ มีไรปรึกษาพี่ได้น่ะ เพื่อช่วยเป็นตัวแก้ขัดก่อนได้ ไม่ถือ" 

น้องทำท่าตกใจเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่พูดอะไร

"ปรึกษาฟรีไม่เสียตังค์นา โปรดีๆ แบบนี้จะหาที่ไหน"

น้องทำท่าคิดเล็กน้อย แต่ก็ปรึกษาอาจจะด้วยฤทธิ์เหล้าอะไรก็แล้วแต่

"พี่ว่าคนรักกัน เซ็กส์มันสำคัญไหม"

"หูย สำคัญสิครับ คบกันจะให้นอนจับมือถูๆ กันก็ไม่ใช่เรื่อง" แหมปรึกษาพี่ถูกคนล่ะครับ

"สำคัญมากกว่าความรักหรือ"

"อืมตอบยากแฮะ พี่ว่าเซ็กส์กับความรักมันต้องมาคู่กัน ถ้าเรารักใครก็คงอยากมีเซ็กส์กับเค้ามั๊ง แต่เซ็กส์ที่มีแต่ความไคร่มันก็มี แล้วแต่คนน่ะครับพี่ว่า" กูนี่ไงคนนึง

"แต่เค็กยังไม่เคย เค็กไม่เหมือนคนอื่น" โอย เปิดซิงแน่กู

"ไม่เหมือนยังไงครับ หรือน้องมีนมสามเต้า พี่โจ๊กโอเคน่ะครับ มาหกเต้าพี่ก็ยินดี" กูจะคลึงๆ ดูดๆ ให้ครบหกเต้าเลยคอยดู

"เค็กไม่ใช่ผู้หญิง เค็ก..."

"โอย น้องครับ ถ้าน้องไม่ใช่ผู้หญิง ผู้หญิงในคณะพี่คงเป็นนักมวยเก่าล่ะครับ แต่ละคนทึกเกินหญิง แทบจะล้มวัวได้ด้วยมือเปล่า" ผมพูดติดตลก แต่น้องเค็กแม่งไม่ขำ

"เค็กไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆ น่ะ" โอยยย น้องตัวเล็กหน้าสวย ขนาดนี้อย่ามาหลอกพี่ให้ยาก เหมือนน้องจะรู้ว่าผมไม่เชื่อ จึงคว้ามือผมเข้าไปจับกับตรงกลางเป้า เหี้ยล่ะกู บอกกูสิว่าไม่จริง ไม่จริงงง

"เค็กบอกแล้วว่าเค็กไม่เหมือนคนอื่น เค็กอยากมีความรักที่ดี เป็นคนรักที่ดี แต่ทุกอย่างมันยากเมื่อเค็กเป็นแบบนี้ คนทุกคนเข้าเพราะหน้าตา จะมีใครไหมที่รับในสิ่งที่เค็กเป็นได้"

"พี่ว่ารักแท้มีอยู่จริงน่ะ อย่าพึ่งท้อ พี่ว่าน้องยังไม่เจอมากกว่า วันนึงน้องคงเจอหรือไม่รักแท้ของน้องจริงๆ อาจจะอยู่ตรงหน้าแล้วก็ได้"


หลังจากคำพูดนั้น เราสองคนก็นั่งดื่มกันเงียบๆ ผมมานั่งคิดดูว่าถ้าเป็นผม ผมจะรับเค็กที่เค็กเป็นได้ไหม ภายนอกเค็กดูเป็นคนห้าวๆ เข้มแข็งไม่ยอมคน แต่ภายในช่างบอบบางเหลือเกิน คงไม่เหมาะที่จะให้ผมหลอกล่อมาเป็นคู่ขา ผมยังคงคิดว่าผมจะจริงจังที่จะคบกับเค็กได้ไหม ผมตอบตัวเองเลยว่าได้ครับ เค็กไม่ได้เหมือนผู้หญิง แต่เค็กเกิดมาเป็นผู้หญิงมากกว่า ทั้งรูปร่างหน้าตา เสียง ดูให้ตายก็เป็นผู้หญิง เรียกได้ว่าหญิงแท้ที่คณะดูทึกกว่าหลายเท่าตัวนัก และผมยังคิดว่าผมจะมีเซ็กส์กับเค็กได้ไหม แต่คิดไปก็ปวดหัว พี่โจ๊กเลยสรุปตามวิถีของโจ๊กแบบง่ายๆ ถ้าของพี่โจ๊กแข็ง พี่โจ๊กก็เอาได้ครับ อิอิ


เรานั่งดื่มมาสักพักใหญ่ๆ จนร้านเริ่มปิดและเหลือเราเป็นสองคนสุดท้าย ผมมึนและเดินเซเล็กน้อย ซึ่งน้องเค็กเองก็ไม่ต่างกัน

"เค็ก น้องเค็กกลับยังไง"

"เค็กว่าจะเปิดโรงแรม กลับไปสภาพนี้โดนพี่ด่าเปิงแน่"

"เค เดี๋ยวพี่ไปส่ง"

คิดว่าสภาพนี้ผมจะขับรถไปส่งรึครับ แค่โค้งนี้ก็คงโดนจับตรวจแอลกอฮอล์ แม่งไม่คุ้ม ผมคิดแค่ว่าจะไปส่งน้องเค็กที่โรงแรมฝั่งตรงข้าม แค่เดินข้ามฝั่งที่ผมไปประจำเหมือนมีหุ้นอยู่ภายใน ผมไม่คิดอะไรน่ะครับ แค่จะไปส่งน้องเค้าเแยๆ แล้วจะกลับมานอนที่ร้ายเฮียบอย อ๊วกให้เฮียเค้าเช็ดซะหน่อยไม่เจอกันนานคิดถึง

ทันทีที่ผมเดินข้ามฝั่ง พนักงานโรงแรมคนสนิทก็มาช่วยประคองอย่างสนิทชิดเชื้อ

"โหยพี่มาครับ เดี๋ยวผมช่วยประครองเปิดห้องเอาเหมือนเดิมน่ะครับ"

ผมพยักหน้าส่งๆ มึนิใช่น้อย แต่ยังประคองสติอยู่ได้ ผมจ่ายเงินและเดินตามพนักงานมาเข้าห้องพร้อมให้ทิป

"เดี๋ยวผมเอาของมาให้ครับ"

ผมพยักหน้าส่งๆ แล้วโยนคนเมาลงเตียง เฮ้อเหนื่อย ว่าจะนั่งพักสักหน่อย แต่ก็พลอยหลับไปด้วยฤทธิ์เหล้า แต่สักพักก็ต้องตื่นเพราะเสียงเคาะประตู โอยยยย ผมเดินหน้ายุ่งออกมาเปิดประตู พนักงานคนสนิทยื่นถุงยางมาให้หนึ่งกล่องพร้อมรอทิป จะบอกว่าไม่ใช่ก็คงไม่ทันได้แต่รับๆ แล้วจ่ายเงินไป ผมโยนถุงยางไว้บนเตียง แต่เป้าคงแม่นไปหน่อย โดนหน้าผากน้องเค็กจังๆ

"โอยยยยย"

"เห้ย โทษทีพี่ไม่ได้ตั้งใจ" โอย กูมึน

"โหยอะไรน่ะ โยนมาได้ อะไรน่ะ" เค็กค่อยๆนั่งอ่าน

"ถุงยางนี่ พี่จะปล้ำเค็กเหรอ" น้องทำท่าตกใจ

"ไม่ได้ปล้ำ พนักงานมันเอามาให้เฉยๆ ปกติมันซื้อมาให้ตลอด" ผมไม่เคยใช้กำลังครับ ส่วนมากสมยอมกันทั้งนั้น

"ที่ไม่ปล้ำเพราะเค็กไม่มีเสน่ห์ แถมมีไอ้นั่นใช่ไหม" พูดเสร็จก็นั่งร้องไห้ เค็กครับพี่ว่าน้องเมาล่ะครับ อารมณ์แม่งขึ้นๆ ลงๆ

"ไม่ใช่ ไม่ใช่"

"สรุปงั้นปล้ำใช่ไหม" พูดเสร็งน้องแม่งก็ลากผมขึ้นเตียงนั่งคล่อมทันที

"พี่ว่าน้องเมาแล้วน่ะครับ" เค็กหยุด พร้อมเอานิ้วชี้ส่ายไปมาพร้อมพูด โนโนโน อะเอาให้เต็มที่

"แล้วน้องไม่เก็บครั้งแรกไว้ให้คนที่น้องรักแล้วหรือครับ"

"อ้าวก็พี่โจ๊กบอกว่าคนเราไม่รักกันก็มีไรกันได้ ตอนนี้เค็กอยากก็มีได้"

พูดเสร็งน้องแม่งก็กระชากเสื้อออกก้มเลียหัวนม

"เฮ้ยยยย" ผมร้องเสียงหลง

"เห็นในหนังเอวีชอบทำ ทำบ้าง"

พูดเสร็จแม่งก็ลงเลียต่อพร้อมกระชากกางเกงนอกออก ผมจับมือน้องที่จะกระชากกางเกงในผมออกพร้อมพูดขู่

"ถ้าพี่มีอารมณ์แล้วพี่ไม่หยุดน่ะครับ"

อย่างที่ผมเคยบอกถ้าของผมแข็ง ผมต้องมีที่ลงน่ะครับ น้องแม่งไม่ฟังเสียงกูถอดของกูออกหมดแล้ววิ่งลงไปถอดชุดตัวเองที่ข้างเตียงแล้วกระโดดลงมานอนกอดนิ่งๆ

ผมถอนหายใจกับคนเมา

"น้องเค็ก เซ็กส์ไม่ได้หมายความว่านอนแก้ผ้ากอดกันน่ะครับ"

"แล้วทำไงล่ะ" น้องพูดพร้อมทำหน้างง

"งั้นพี่ไม่เกรงใจล่ะนะครับ"ผมพลิกตัวขึ้นนอนทับอีกฝ่าย

"เดี๋ยว!!" ผมชะงักกึกทันทีที่มีเสียงห้ามพร้อมทำหน้างง

"ใส่ถุงก่อน ใส่ถุงก่อน"

ปกติผมใส่ตลอดน่ะครับไม่เคยขาด แต่น้องเค้าบอกแล้วว่าไม่เคย และดูจากท่าทางการกระทำแล้วก็จริงแบบน้องพูด ผมเลยกะจะไม่ใส่ เพราะยังไงเป็นผู้ชายด้วยกัน ไม่ท้องอยู่แล้ว แต่น้องจะใส่ก็ใส่ครับ

"เค็กเรียนมาเค็กใส่เอง"

ผมนอนมองดูเค็กแกะถุงยางและใส่ ฉิบหายล่ะตามที่น้องมันเรียนเป๊ะ แม่งแกะถุงยางเสร็จบีบลมออก แล้วเอาใส่จนมิด ไม่ใช่ใส่โจ๊กน้อยจนมิด ใส่นิ้วหัวแม่โป้งมือมันจนมิดนี่แหละครับ ตรงตามที่อาจารย์สอนเป๊ะ

"ใส่แล้ว มาๆ"

แกะของกูใส่นิ้วซะหมดกล่องเอาสดละกันน่ะครับ และทุกๆ อย่างก็เป็นไปตามสิ่งที่มันควรเป็น ทุกๆ อย่างผ่านไปด้วยดี เซ็กส์มันก็คือเซ็กส์ ผมมีอารมณ์กับเค็กไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่น มันไม่ได้ฝืนแต่อย่างใด ผมกลับมีความสุขมากกว่าทุกครั้งด้วยซ้ำ บางครั้งผู้หญิงที่พูดตรงๆ ปากหมาบ้าง มันกลับดูมีเสนห์กว่าผู้หญิงเสแสร้ง ใสซื่อบางคนอีก ผมสุขสมมากกว่าครั้งๆ ไหนๆ จนผมรู้สึกสนใจในตัวเค็กและพลางนึกเสียดายว่าผู้ชายคนนั้นแม่งโง่ที่ทิ้งผู้หญิงดีๆ มาคนนึงด้วยเหตุผลที่รับไม่ได้เพราะเป็นเพศเดียวกัน ทั้งๆ ที่น้องเค้าก้ไม่ได้บิดบังความจริงเรื่องนี้ สำหรับผมรักคือรัก ถ้าผมรักใครสักคนนึง ถ้ามันไม่ทำให้ใครเดือดร้อนและผมมีความสุข ความรักนั้นสวยงามเสมอสำหรับผม หรือผมจะเจอรักแท้จริงๆ กับเค้าสักทีน่ะ

ผมตื่นขึ้นมารุ่งสายมองดูนาฬิกาก็เกือบสิบโมง หันมองคนข้างๆ คงเขินอาย คลุมโปงซะมิดเชียว มาม่ะ น้องเค็กมาต่อรอบเช้ากัน ผมค่อยๆขยับมือเลื่อนไปใต้ผ้าห่ม อ้าวหมอนข้าง แนะ แอบซ่อนพี่ในห้องน้ำ อ้าวไม่มี ผมเดินงงจนหยุดที่หัวเตียงพบกระดาษโน๊ตที่เขียนว่าน้องรีบกลับกลัวพี่ชายจะแหกอก พร้อมทิ้งเงินไว้ส่วนนึงเป็นค่าโรงแรม น้องไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้ผมติดต่อ คงให้แค่ผมเก็บเป็นแค่ความทรงจำที่สวยงาม แต่ผมก็ยังนึกถึง ความใสซื่อ กวนๆ ในแบบของเค็กที่ยังคงทำให้ยิ้มทุกครั้งที่นึกถึง ทุกๆ อย่างกำลังจะสวยงาม ถ้าผมไม่บังเอิญเห็นเงินวางไว้ด้านล่าง 500 บาทถ้วน พร้อมกระดาษที่เขียนข้อความ

"ค่าตัว ก็โอเคนะ"

อะไรน่ะ พี่โจ๊กมีค่าแค่ 500 พร้อมประโยคที่ให้ตีความเองว่า "ก็โอเค" สรุปก็โอเคนี่มันดีหรือไม่ดี คือมันก็โอเค หรือโอเค คืออะไรกูงง ลีลากูแย่แบบงั้นๆ หรือลีลากูดีแบบเออ โอเค โอยยยยยยยย แม่งจำจนตายน้องเค็ก ให้พี่ 500 พร้อมก็โอเค

ผมหงุดหงิดตลอดช่วงเช้า พร้อมคิดตลอดว่าก็โอเคมันคือดีหรือไม่ดี วันนี้ไม่มีเรียนเพราะมีงานเปิดคณะโชว์สิ่งประดิษฐ์และนวัฒกรรมสิ่งใหม่ที่นักศึกษาคิดค้น ผมเลยมาสายนิดหน่อย ปล่อยให้เพื่อนทำงานกันไปก่อน โจ๊กมีปัญหา โจ๊กเครียด ผมเดินมาหาเพื่อน แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นไอ้แทนกอดและหอมแก้มอดีตนายจ้างเจ้า "น้องเค็ก" เจ้าของเงิน 500 และประโยคสุดคลาสิก "ก็โอเค" แต่เอ๋ มันจะดูยังไงยังไงอยู่น่ะ ไอ้แทนแม่งจะนอกใจน้องหนึ่งรึ ว่าแต่น้องหนึ่งมามันจะไม่แหกอกมึงรึ เหี้ยยยย พูดยังไม่ทันขาดคำ ไอ้แทนรอกูก่อน เดี๋ยวกูไปช่วย

----------------------------------------------------

มาล่ะคะ โจ๊กมาโซโล่ซะยาวเลย น่าจะเป็นตอนที่ยาวที่สุดน่ะคะ ขอโทษที่รอนานน่ะคะ อย่างที่บอกเขียนสดทุกตอน เขียนเสร็จลงเลย จริงๆ เขียนนิยายก็ไม่ง่ายน่ะ น้องต้องหาแรงบรรดาลใจในการเขียน บทนึงนี่ต้องหาเรื่องหลักๆ ในตอนนั้นๆ สัก 5-6 อย่างแล้วค่อยขยายจากส่วนนั้น เขียนไม่ยากน่ะ แต่ไอ้หาอีส่วนหลักนั้นน่ะอยาก มาช้าติดงานด้วยเลยมาช้าด้วยประการทั้งปวง

P.s. ตอนหน้าหวานนำทีม ไปป่วนคณะวิศวะกันค่ะ

Aemmilicious

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
โจ๊ก 500 ขอให้ตามหาน้องเค็กให้เจอนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ ลูฟ่า

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ สนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 23 : คอลมี เจมส์.. เจมส์ บอนด์



วันนี้เป็นวันที่ผมดีใจมาก ไม่ใช่เพราะวันนี้เป็นอาทิตย์แรกของการเปิดเทอม แต่วันนี้เป็นวันแรกที่แม่ของผมกลับมาจากต่างประเทศ ที่ผมร้องไห้โฮตั้งแต่เห็นหน้าแม่ ไม่ใช่คิดถึงแม่มาก อย่างที่แม่เข้าใจ แต่และแล้วผมก็หลุดพ้น การการกด ขี่ ควบในบางครั้ง จากไอ้แทนเพื่อนในวัยเด็ก และแฟนคนแรก มันทำกับผมเหมือนเป็นหมู เลี้ยงให้อ้วนพลีอยู่ดีกินดี แล้วก็.... แล้วก็ เชือดผมอย่างหนักหน่วงไม่เหลือชิ้นดี จะฟ้องมูลนิธิปวีณาก็ไม่ได้ เพราะบางครั้งผมก็คล้อยตามแต่โดยดี เพราะมันเป็นไปตามสัญชาตญาณ มันทำจนฟ้าเหลืองไหมหรือครับ อย่าว่าแต่ฟ้าเหลืองเลยครับ ฟ้าสีปกติแม่งก็ไม่ให้ผมเห็น มันทำยังไงเหรอครับ ผมจะเล่าให้ฟัง เตรียมกระดาษเช็ดชู่ซับน้ำตากันได้เลยครับ

หลังจากที่คืนแรกผ่านพ้นไป ผมก็คิดว่าคงจะหมดแค่นี้ พรุ่งนี้ผมคงจะเป็นอิสระ เพราะรู้สึกเจ็บและคุยกับเพื่อนรู้เรื่องแล้ว แต่ผมยังไม่ทันตื่นดี ก็ต้องเจ็บอีก ซึ่งผมนึกว่าเป็นฝันร้าย ที่เจ็บเหมือนจริง แต่ตื่นมาเท่านั้น ไอ้แทนยิ้ม แฮะๆๆ แล้วบอกล้างหน้าไก่น่ะครับเมีย ล้างหน้าไก่คืออะไร ทำไมต้องล้าง จะห้ามก็ผ่านไปครึ่งนึงแล้ว จะหยุดก็ค้างผมเลยต้องนอนให้เป็นไก่ให้มันล้างหน้าไปอีกหนึ่งรอบ แทบจะคลานไปอาบน้ำแต่งตัว ดีหน่อยที่มีแทนมันดูแลไม่ห่าง อาบน้ำออกมา ป๋าแทนก็เลี้ยงอาหารอีกชุดใหญ่ บางวันนี่แทบยกทั้งร้านมากินที่บ้าน เยอะจนสุดลูกหูลูกตา ผมถามมันว่าทำไมจัดมาชุดใหญ่ขนาดนี้ มันก็บอกมันจะเอาชุดใหญ่เหมือนกัน กินเสร็จไม่ทันจะย่อย มันก็มาทวงชุดใหญ่ โซฟาห้องรับแขก โต๊ะกินข้าว ทุกซอกทุกมุม แม่งเอาชุดใหญ่จนยืนแทบไม่อยู่ ยังมีกะจิตกะใจไปต่อชุดใหญ่ที่ห้องนอน แม่งเอาจนหนำใจ ก็ไม่ใส่เสื้อผ้าคืนให้กู ปล่อยให้กูนอนเป็นผักปลาอยู่บนเตียง ตกดึกแม่งมาตามไปกินข้าวแม่งก็ไม่ละเว้น บอกเมียแก้ผ้ายั่ว ความผิดกูหรือแทน ความผิดกูหรือ ตกดึก แม่งก็หลอกให้ดีใจบอกจะพาไปข้างนอก ไอ้เราก็แต่งตัวนึกว่าจะพาไปเดินห้างดูหนัง แต่งตัวเสร็จแม่งจูงมือออกมาระเบียง บอกเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง มีตอนไหนที่ฟ้าเหลือง ไม่เหลืองไม่ฟ้าอะไรทั้งนั้น พูดแล้วจะร้องไห้ ถ้าถามแล้ววันอื่นๆ ล่ะ ไอ้แทนแม่งก็ทำเหมือนเดิมทุกวัน จะแตกต่างหน่อยก็วันนี้ ที่ผมดีใจจะได้กลับบ้าน กำลังเอื้อมมือไปเปิดประตู แม่งก็กระชากมากอด บอกหน้าประตูยังไม่เคยทำ เลยโดนไปอีกรอบ แทบจะต้องอุ้มขึ้นรถ มีแต่ไอ้แทนที่อารมณ์ดีผิวพรรณเปล่งปลั่ง หันมาทางกูเหมือนผักขาดน้ำ เอากูจนพอใจแล้วสิน่ะ กว่าชีวิตจะสงบสุขก็ตอนอยู่บ้านนี่แหละครับ แต่แทนก็วีดีโอคอลมาบ้าง โทรมาบ้าง ไลน์มาบ้าง ทำทุกๆ อย่างที่เทคโนโลยีจะเอื้ออำนวย แต่แปลกตรงที่ผมไม่รำคาญบางครั้งกลับรอให้มันโทรมาด้วยซ้ำ หลังจากที่ผมได้รู้ความจริงเรื่องแทน เหมือนผมจะหมดความกังวลหรือสงสัยในตัวแทนไปเลย ส่วนเรื่องคบหากันนี่ แม่ผมคงดีใจแทบบ้านแตก เพราะเป็นแม่ผมนี่แหละ ที่คอยถ่ายรูปผมส่งข่าวให้แทนตลอดหลายปีที่ผ่านมา นี่ถ้ารู้ว่าคบกันจริงจังแล้ว ไม่รู้จะต้องไปแก้บนกี่สำนัก

วันทุกๆ วันของผมยังมีแทนวนเวียนอยู่เสมอ แทนยังคงไปรับส่งทุกๆ วัน แม้ว่าเราจะเรียนไม่ตรงกัน บางวันผมมีเรียนเช้า แทนมีเรียนบ่าย มันก็มารับทุกเช้า การที่ผู้ชายสองคนจะคบกัน ตอนแรกผมคิดว่ามันคงจะเป็นปัญหาใหญ่  แต่ทำไมมันไม่เกิดปัญหากับผมทั้งเพื่อนและครอบครัว ทุกคนดูยินดีหมด แต่ทุกๆ ความสัมพันธ์ย่อมมีปัญหา และนี่คือปัญหาเดียวที่เกิดขึ้น

ระหว่างที่ผมรอเรียนในคาบเช้าพร้อมตือหวาน และแน่นอนคุณชายแทนก็ไม่ไปไหน

"แทน มึงเดินห่างๆ กูหน่อยกูอายเค้า"

"จะอายทำไมล่ะครับ คนกันเองทั้งนั้น จริงไหมครับหวานตือ"

"เออ จริง ไม่เห็นมีไรต้องอาย ได้กันมาตั้งเท่าไหร่ล่ะมึง" หวาน มึงอย่ามารู้ดี

"บ้า มึงกูพึ่งคบกันมันเร็วไป" ใครจะไปยอมรับ ฝันไปเถอะมึง

"เร็วเหี้ยไรล่ะ ไอ้แทนรอมึงมาตั้งกี่ปีล่ะ แล้วไอ้ที่ยังไม่ได้กันนี่รูไหน รูจมูกใช่ไหม ไอ้แทนหน้าตาเปร่งปรั่งขนาดนี้ อย่ามาหลอกกูให้ยาก"

ตือพยักหน้าเห็นด้วยกับหวาน หน้ามึงก็ดูสดชื่นไปน่ะแทน แต่มึงคิดผิดหวาน รูจมูกไอ้แทนก็ไม่เว้น มันพ่นน้ำใส่มาล่ะข้างนึง ตอนนี้มีรูจมูกข้างขวากูข้างเดียวที่บริสุทธิ์อยู่ แต่จะยอมรับก็อายกูเดินเบลอๆ ไปล่ะกัน เราเดินมาจนเจอม้านั่งว่างที่หน้าตึก เออดี กูเมื่อยล่ะ


"เดี๋ยวครับเมีย"

"อะไรมึง" เรื่องเยอะจริงๆ ครับคุณชายแทน

"ม้านั่งเปรอะ เดี๋ยวผัวเช็ดให้ก่อน" หันไปมองตือ หวานก็ทำหน้าเอียนความรัก กูก็เช่นกัน

"ตือ ในฐานะที่มึงเป็นเพื่อนสนิทกู โต๊ะข้างนี้ก็เปรอะ ลงไปเลียให้กูหน่อย" หวานบอกตือ ตือทำหน้าจะดีหรือ

"เดี๋ยวแทนเช็ดให้ด้วย รักเมียก็ต้องดูแลเพื่อนเมีย" อืม ดีๆ ทำดีแทน พูดเสร็จแม่งก็ไปเช็ดฝั่งตือหวานก่อน แล้วค่อยมาเช็ดอีกฝั่ง

"สะอาดล่ะครับนั่งได้" ทายสิมันให้ผมนั่งยังไง

พูดเสร็จแม่งก็ลงนั่ง แล้วดึงผมมานั่งบนตักมัน เฮ้อออออ

"แทนมึงเป็นเอามากน่ะ"

"โหย รักเมียดูแลเมียไม่ดีตรงไหน"

"มันก็ดีน่ะมึง แต่กูว่ามันเกินไปนิดนึง"

"กูว่าปกติน่ะมึง พี่หมอกก็ทำแบบนี้" ตือมึงกับพี่หมอกทำที่บ้าน ไอ้แทนมันทำหน้าตึก

"อืม นั่นสิ คนเยอะแยะจะอายทำไม" นั่นแหละที่กูอาย

"จริงๆ มึงฟันกูแล้วทิ้ง เหมือนผู้หญิงที่ผ่านมาของมึงก็ได้น่ะ

"บ้า เมียครับคนเยอะแยะจะให้ฟันอะไร ที่ที่สาธารณะ ไม่หมกมุ่นน่ะครับ"

โว๊ยยยยยยยย และแล้วกูก็แพ้ และนี่คือปัญหาที่ผมกล่าวถึงครับ

ผมผ่านการเรียนช่วงเช้ามาอย่างสบาย สบาย ไม่เคร่งเครียดมาก เนื่องจากเป็นอาทิตย์แรกที่เปิดภาคเรียน นอกจากเรียนไม่หนัก ช่วงบ่ายยังว่างอีกต่างหาก เพราะเนื่องจากคณะวิศวะมีงานจัดแสดงผลงานนักศึกษา ทำให้อาจารย์บางท่านต้องไปดูความเรียบร้อยของงาน ซึ่งไอ้แทนก็โชว์ผลงานในงานนี้ด้วย ซึ่งมันบอกเพียงสั้นๆ ว่าเทคโนโลยีที่มันทำนั้นจะช่วยเปลี่ยนแปลงโลก และช่วยให้ผมสบายและใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น แม้จะสงสัยแต่ผมก็ปฏิเสธไปแล้วเพราะว่ามีเรียน ใครจะไปคิดว่าอาจารย์จะยกเลิก รีบกลับบ้านให้ตือไปส่ง ไปนอนเปิดแอร์ตากไข่ที่บ้านดีกว่า อ้อนแม่สักหน่อยไม่เจอกันนาน อิอิ

"มึงกูมีเรื่องให้ช่วยหน่อย" หวานหันมาทำหน้าเคร่งเครียดขอความช่วยเหลือ ผมกับตือหันมองหน้ากันเลิกลั่ก

"กูว่าช่วงนี้กันมันแปลกๆ กูสัมผัสได้" ผมกับตือเริ่มสนใจ ยังไงว่ามา

"ช่วงนี้มันไม่ค่อยโทรหากู กูว่ามันมีคนอื่น"

"โอยยยย หวานมันจะโทรหามึงได้ไง ในเมื่อมึงโทรหามันก่อนทุกๆ ครั้งที่มึงว่าง" จริงตือ จริงกูเห็นด้วย ได้ข่าวค่าโทรเดือนๆ นึงแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว

"มึงแต่สัญชาติญาณหญิงกูบอก บอกพวกมึงไปก็ไม่เข้าใจ ต้องคนที่มีมดลูกเท่านั้นถึงเข้าใจ เนี่ย มดลูกกูเริ่มสั้นล่ะ" เออ เอาที่สบายใจเลยมึง

"แล้วมึงจะเอายังไง" อย่ามัวอ้อมอยู่ เข้าประเด็นเลยมึง

"กูจะชวนมึงไปแอบดู สังเกตกันที่งานคณะวิศวะวันนี้"

"อืม ไปสิหวาน ยังไงก็ว่างอยู่ล่ะ ตือจะได้ไปหาพี่หมอกด้วย หนึ่งจะได้ไปหาแทน" ได้ข่าวกูพึ่งห่างกันยังไม่ถึงชั่วโมง

"ไม่ได้มึง เราต้องไปแบบไม่ให้มันรู้ตัว" กูว่ามันเริ่มยากล่ะ

"งั้นเราไปถึงก็แอบหลังเสา ยังไงก็มิดมันไปเห็น" โถ ตือเพื่อนกู ทุ่งลาเวนเดอร์ชัดๆ

"ไม่ เราต้องปลอมตัว" เออ อันนี้ค่อยน่าฟังหน่อย

"ยังไง" ผมกับตือประสานเสียง

หวานทำหน้าเจ้าเล่ห์ พร้อมหยิบเสื้อช็อปสีแดงของคณะวิศวะ พร้อมแว่นหนาเตอะออกมา

"ถ้า Superman ปลอมตัวได้ด้วยแว่นอันเดียว กูก็ต้องเหนือกว่า เพราะกูมีเสื้อช็อปด้วย" อยากไล่แม่งไปวิ่งเล่นกับตือสองคนที่ทุ่งลาเวนเดอร์เมื่อกี้

"มึงไปเอาของพวกนี้มาจากไหนนี่"

"แว่นกูซื้อมาจากไดโซะ เสื้อช็อปนี่กันมีเป็นสิบ มันไม่ใส่ซ้ำ โครตสำอางกูเลยแอบจิ๊กมา" เอาดีๆ น่ะหวานละครกับเรื่องจริงมันต่างกัน ขนาดกูดูล่า กูยังรู้ว่าเป็นหมิวปลอมตัวมา ขนาดมีดั้งมีจมูกปลอม มึงมีแค่นี้ เด็กสามขวบยังจำได้เลย

"ไม่เชื่อ ไม่เชื่อใช่ไหม เดี๋ยวกูจะทำให้มึงดู ดูสิว่าเพื่อนในห้องจะจำได้ไหม"

พูดเสร็จแม่งก็ใส่เสื้อ ใส่แว่น เดินกร่างไปหน้าห้อง

"หวาน เอาเสื้อใครมาใส่วะ ใส่แว่นทำไมวะ เท่ห์งี้" ไอ้ท็อปพูดเสร็จหวานแม่งก็ตบหัวไอ้ท็อปแทบคว่ำ หวานมึงเป็นผู้หญิง สำรวมด้วยเพื่อน พูดเสร็จ แม่งก็เดินกลับมาที่โต๊ะ

"แปลกมาก ทำไมไอ้ท็อปแม่งจำได้ หรือเพราะมันฉลาดว่ะ" ไอ้ท็อปนี่เรียนดีจนได้ทุนครับ เกรดมันสูงสุดของคณะ

"ไม่ได้ล่ะ เดี๋ยวกูถักเปียสองข้างด้วย มันจะได้ดูอยากหน่อย" พูดเสร็จแม่งก็ตั้งใจถักเปีย แล้วเดินกร่างไปหาไอ้ท็อป

"โทษน่ะครับ คุณเป็นใครครับ นี่คณะแพทย์น่ะครับ คุณอยู่วิศวะน่าจะมาผิดตึกน่ะครับ" โอยยยเป็นกูก็ไม่รู้จักมึงหวาน เล่นตบมันซะหัวทิ่ม

หวานเดินกลับมาอย่างผู้ชนะ ผมกับตือมองหน้ากัน พร้อมทำตามที่หวานสั่ง แม้จะดูไม่เข้าท่า แต่ดีกว่าโดนมันตบหัวว่ะ เอาไงก็เอาตามใจมึงเลยหวาน

ตัวคณะแพทย์และวิศวะอยู่ห่างกันไม่มากครับ แต่ละคณะแบ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจน เพราะมหาลัยเน้นการศึกษาแบบปฏิบัติมากกว่าท่องจำ เลยมีห้องปฏิบัติการณ์เสมือนจริงของแต่ละคณะเลยต้องมีตึกประจำของคณะนั้นๆ แต่ละคณะจะมีสีประจำคณะของตัวเอง เช่นคณะแพทย์สีม่วง นิเทศสีส้ม วิศวะสีแดง เกษตรสีเขียวเป็นต้น ซึ่งแยกตามสีเนคไท ซึ่งผ่านเทอมแรกก็ไม่มีใครใส่กันล่ะครับ นอกจากคณะแพทย์ที่แต่งเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมกับตือจึงไม่ลืมที่จะถอดเนคไทก่อน มาถึงคณะวิศวะ ก็ต้องพบเจอกับคนล้านแปด เนื่องจากมีการเปิดให้คนนอกเข้ามาด้วย งานเป็นงานแสดงผลงานนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างสรรค์ของนักศึกษาทุกชั้นปี และมีการนับยอดผู้ชมในแต่ละบูทด้วยเพื่อหาบูทที่มีผู้ชมสูงสุดเพื่อเป็นผู้ชนะในปีนั้นๆ


"หนึ่งตือ อย่าลืมใส่แว่น" หวานตรวจความเรียบร้อยก่อนเดินเข้า ผมไม่ลืมใส่แว่นตามคำสั่ง

"เดี๋ยวเดินมาดีๆ ระวังหลงล่ะมึง พวกมึงใส่แว่นแล้วกูจำไม่ค่อยได้เดี๋ยวหากันไม่เจอ" ตามใจมึงเลยหวาน 


หลังจากเข้ามา ผมว่าหวานคิดถูกน่ะครับที่เอาเสื้อช็อปมาใส่ เพราะทุกคนที่อยู่คณะวิศวะ พร้อมใจกันใส่เสื้อช็อปสีแดงกันทั้งหมด แม้จะมีคนนอกเข้ามาบ้างแต่ก็ไม่เยอะมาก ส่วนมากก็เป็นคณะใกล้ๆ จะมากหน่อยก็สาวๆ ทั้งในและนอกมหาลัยที่อาศัยจังหวะนี้ออกล่าเหยื่อ เออ ทำไมคณะผมไม่มีแบบนี้บ้าง แม่งละลานตาไปหมด

สิ่งประดิษฐ์ก็มีทั้งมีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ ไม่มีประโยชน์ชนิดที่ว่ายังนึกงงในใจว่าคิดมาทำไม ไอ้พวกมีประโยชน์ก็พวกเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นเครื่องปลอกทุเรียน. แอร์แบบกระเป๋าพกพา น่าสนใจจนผมอยากจะแวะชม แต่ติดที่หวานนี่แหละที่บอกว่ากูมาสืบเรื่องไอ้กันไม่ใช่ชมวิว ผมกับตือเลยต้องเดินตามอย่างว่าง่าย

เดินมาสักพักก็เจอกลุ่มไอ้แทน ซึ่งตอนนี้เหลืออยู่สามคน พี่หมอกคอยคุมเครื่องมืออยู่ด้านหลัง จะมีแทนและกันยืนคนล่ะฝั่งคอยแนะนำกับคนที่เข้ามา ซึ่งทั้งหมดของผู้ชมก็คือสาวๆ ทั้งในและนอกคณะ และนี่คือสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่มีประโยชน์ที่ผมพูดถึง สิ่งประดิษฐ์ของมันนั้น ก็สมเป็นของกลุ่มมันอย่างดี นั่นคือ "เครื่องช่วยใส่ถุงยาง" แล้วทำไมต้องมีเครื่องช่วย ทำไมมึงไม่ใส่เอง มึงจะแบกเครื่องช่วยไปช่วยใส่รึ กูงงใจกับความคิดพวกมึงมาก ด้วยบูทของแทนและเพื่อนอยู่ใกล้ๆ หัวมุม เราจึงใช้เสาร์เป็นที่กำบัง และน่าจะต้องรอสังเกตุอยู่นาน ตือเลยไม่ลืมซื้อลูกชิ้นและน้ำมาเป็นเสบียง จนหวานต้องด่าว่าพวกมึงจริงจังกันหน่อย

"แม่งกูว่าละเห็นระริกระรี้ออกมาเตรียมงานตั้งแต่ตีห้า กูว่าแหละว่ามันแปลกๆ หน้าระรื่นเลยมึงไอ้กัน" มึงตายแน่ไอ้กัน

"ใจเย็นหวาน ไอ้กันมันก็ต้องต้อนรับไปตามมารยาทเปล่าวะ" อืมกูเห็นด้วย

"แต่ตรงนี้แม่งไกล ทำไงถึงจะได้ยินที่มันคุยกันว่ะ" ผมเสนอความเห็น

"กูมีเครื่องดักฟัง กูแอบเอาไปติดไว้ใต้โต๊ะล่ะ รอกูแปบ"

"มึงเอามาจากไหนอ่ะ"

"โอยมึงสมัยนี้ ในเน็ตเยอะแยะ กูยังซื้อยานอนหลับแบบไม่มีรสไม่มีกลิ่นมาเลย" มึงเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวจริงๆ สงสารไอ้กัน

"มาล่ะ" หวานพูดเสร็จหลังจากที่ต่อและเปิดเครื่องเสร็จ

"พี่ชื่อกัน น่ะครับ น้องน่ารักขนาดนี้ทำไมพี่ไม่เคยเห็น" กูพูดได้คำเดียวมึงตายแน่กัน

"น้องชื่อเทียร์ร่าค่ะ สิ่งประดิษฐ์พี่น่าสนใจมากเลยค่ะ ปกติเทียร์ร่าใช้ปากใส่ตลอด ไม่รู้ว่ามีเครื่องช่วยด้วย"

"หูยยยย อยากให้ลองใช้ปากใส่ให้ดูจังครับ"

"พี่อะบ้า"

"โอยยย ประดิษฐ์มากเทียร์ร่า แต่ก่อนชื่ออีล่าชิมิ เข้ากรุงเลยเปลี่ยนเป็นเทียร์ร่า กระทืบแม่งเลยดีกว่า"

สิ้นเสียงผมกับตือต้องช่วยกันจับหวานไม่ให้ไปกระทืบไอ้กัน มึงวอนตายมาก ผมรั้งอยู่นาน กว่ามันจะสงบลงได้ ไม่งั้นงานคงพังไม่เป็นท่า

"เฮ้อ.... ตือแม่งก็โชคดีที่ไอ้พี่หมอกแม่งไม่เจ้าชู้"

ผมพยักหน้าเห็นด้วย

"แลัวมึงล่ะหนึ่ง ไม่กลัวไอ้แทนนอกใจบ้างรึ" ผมนิ่งไปสักพัก ก่อนจะส่ายหัวไป แม้ว่าแต่ก่อนแทนมันจะเจ้าชู้มาก แต่มันก็ไม่เคยจริงจังกับใคร ในใจมันก็มีผมคนเดียว เรื่องในอดีตมันผ่านมาแล้วแก้ไขไม่ได้ ผมก็ไม่ซีเรียสอะไร แค่ขออย่าให้มันทำอีกหลังจากที่เราคบกันก็พอ

"พี่แทนคิดถึงจัง"

"เค็กมาได้ยังไง มาให้พี่กอดที"

เสียงดังจนผมทั้งสามต้องหยุดเถียงกันและชะโงกหน้าไปดู ภาพที่ผมเห็นคือไอ้แทนกอดกันกลมกับผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักใส่ชุดหวานๆ สีชมพู

"เฮ้ยยย ใจเย็นน่ะมึง อาจจะเป็นน้องมันก็ได้" ตือพูดปลอบใจ

"ไอ้แทนมีน้องชาย" ผมตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สรุปคนที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้คือผมเหรอ

“บ๊ะ บ๊ะ บ๊ะ เอาแล้วมึง เอาแล้วมึง” เออ หวานกูรู้แล้ววววว

ภาพที่ผมเห็นคือไอ้แทนทั้งกอดและหอมแก้ม ผู้หญิงคนนั้นอย่างอ่อนโยน มันบาดใจผมจนเจ็บลึกโดยที่ไม่มีเลือดออกสักหยด แต่จะให้ผมไปหึงหวง ร้องกรี๊ดๆ แล้วไปตบหน้าผู้หญิงคนนั้นก็ทำไม่ได้ ได้แต่นั่งมองและฟังเสียงการสนทนานั้น เท่าที่ดูแทนกับน้องคนนั้นน่าจะสนิทกันมาก ดูจากการพูดคุยและการแตะเนื้อต้องตัวกันอย่างไม่เคอะเขิน นี่ผมหึงมันรึนี่ ไม่ได้ไม่ได้ เราต้องคิดวิเคราะห์อย่างมีสติ อาจจะเป็นน้องข้างบ้าน แต่ไอ้แทนอยู่คอนโด อาจจะเป็นรุ่นน้อง แต่ไอ้แทนเรียนเมืองนอกมา อาจจะเป็นลูกแม่บ้าน แต่ทำไมต้องกอดลูกแม่บ้าน ระหว่างที่ผมกำลังคิดวิเคราะห์อย่างชาญฉลาดอยู่นั้น ก็มีเสียงแทนเข้ามาและหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลย

"มานอนกับพี่ที่คอนโดไหม"


------------------------------------------------------------------


มาล่ะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านน่ะคะ ขอโทษที่ให้รอนานน่ะคะ จะพยายามเขียนให้เร้วขึ้น มากขึ้นน่ะคะ ไม่อยากให้รอกันนาน แต่กลัวว่ารีบเขียนไปจะดูไม่ค่อยสนุก ตันๆ งี้ แต่ยังไงอาทิตย์ละตอนมาแน่น่ะคะ ถ้ามาสองตอนแสดงว่าว่างและหัวสมองปลอดโปร่ง ขอบคุณทุกคนที่รอน่ะคะ

รัก

Aemmilicious

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แทนระวังตัวนะ ตอนหน้าคิดว่าแทนเละแน่นอน  :a5:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เค้กเป็นน้องแทนแน่เลย แทนไม่น่าจะเป็นไรหนึ่งน่าจะฟังบ้าง แต่กันนี่ดิ ยืนไว้อาลัยให้กัน 3 วิ555555 เจอหวานกระทืบแน่

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
​ตอนที่ 24 : อย่าเข้าใจฉันผิด โปรดออย่าเข้าใจฉันผิด

- หนึ่ง -

มันเหมือนหูอื้อไม่ได้ยินแม้เสียงอะไร เสียใจที่ความไว้ใจที่เคยมีให้ไม่สามารถฉุดรั้งให้คนเราซื่อสัตย์ในความสัมพันธ์ได้ หรือคงเป็นผมที่ผิดเอง ที่ไว้ใจคนง่ายเกินไป ผมไม่โทษน้องเค้าน่ะครับที่มาเป็นมือที่สามในความสัมพันธ์ เพราะตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง ในเมื่อแทนมันไม่ซื่อสัตย์ ให้กับคนอื่นใครคนไหนก็ได้  ไม่ใช่ว่ามันจะมีได้แค่น้องคนนี้คนเดียว จะให้ผมไปตบตีแย่งไอ้แทนผมคงไม่ทำ ทำไมเราต้องลดศักดิ์ศรีตัวเราเองด้วย อีกอย่างผมก็เป็นผู้ชายยังไงก็คงไม่เหมาะอยู่ดี ยิ่งมองยิ่งเห็นภาพบาดใจ ผมทำได้เพื่อแค่ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ยิ่งอยู่นานยิ่งเห็นภาพบาดตาบาดใจ ในหัวผมบอกตัวเองให้ค่อยๆ เดินออกไป แต่ร่างกายไม่ทำตามใจสั่ง กลับเร่งฝีเท้าวิ่งอย่างไว ผมไม่รับรู้อะไรทัังนั้น จนกระทั่ง


"เหี้ยยยยย......" เสียงผู้คนร้องกันระงม หันมามองผมเป็นตาเดียว


ผมสั่งใจให้วิ่งหนีออกไปข้างนอก เพื่อให้ไม่ต้องเห็นภาพบาดตาบาดใจ แต่ร่างกายกลับวิ่งมาต่อยไอ้แทน สลบไปในหมัดเดียว แหม่... หมัดผมก็ยังหนักอยู่น่ะครับ แต่เดี๋ยวนี่ไม่ใช่เวลามาดีใจ วิศวะแม่งมองกูเป็นตาเดียวเลย เอาไงดีกู จะหนีหรืออะไรดี หวานตือมองหน้ากันไปมา เอาไงดี


"น้องหนึ่ง หึงแทนใช่ไหมน้องหนึ่งกำลังเข้าใจผิดน่ะ" พี่หมอกเข้ามาเคลียร์ อย่ามาโกหกน่ะ กูได้ยินเต็มสองหู เห็นเต็มสองตา

"นี่น้องชาย ไอ้แทนมันชื่อเค็ก" ผู้ชาย? มึงไปหลอกเด็กไปไอ้กัน ดูยังไงเป็นผู้ชาย มึงก็รักเพื่อนเกิ๊น ปกป้องกันเข้าไป

"จริงๆ น้องชื่อเค็ก เป็นผู้ชาย" โจ๊ก วิ่งมาจากไหนไม่รู้พูดเสร็จก็มายืนหอบอยู่ข้าง เหมือนโจ๊กจะรู้จากสายตาที่ทุกๆ คนมองมันว่าโกหกเป็นเด็กเลี้ยงแกะ มันจึง เอามือไปเปิดกระโปรงน้องเค็ก

 

"ฮืม...." เสียงแสดงความตกใจ จากสักขีพยานนับร้อยในงาน

 

....... ชัดเลยกู หมดข้อสงสัย ขนาดน่าจะพอๆ กับพี่มัน น้องชายแทนจริงๆ ด้วย เดี๋ยวน่ะนี่ผมตัดสินความสัมพันธ์ของครอบครัวจากขนาดรึ

ภาพที่ผมเห็นยังคงติดตาและอึ้งอยู่ แม้ตอนนี้น้องเค็กจะแสดงความเป็นชายที่มีด้วยการลงไปกระทืบโจ๊กโทษฐานที่เปิดกระโปรงมันก็ตาม ดูท่าโจ๊กจะสิ้นฤทธิ์นอนพะงาบ พะงาบอยู่ที่พื้นแล้ว จนน้องเค็กสบายใจแล้วจึงเดินตรงมาหาผม


"พี่สะใภ้ครับ ผมขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิดด้วยครับ ผมเค็กครับ น้องชายพี่แทน"

"พี่ขอโทษด้วยน่ะครับที่เข้าใจผิด"

"ไม่เป็นไรครับพี่ ผมผิดเองที่ไม่ไปแนะนำตัวกับพี่ก่อนทำให้เข้าใจผิด"

แหม เจอน้องน่ารักแบบนี้ ผมก็ดีใจครับ ด้วยความเป็นลูกคนเดียว อยากมีน้องน่ารักๆ มานานล่ะ  เอ.... จะให้เป็นน้องชายหรือน้องสาวดีล่ะ แหมความสัมพันธ์ในครอบครัวช่างแนบแน่นจริง...

"เออ... พี่ว่า..." โอยพี่หมอก ขัดจังหวะ

"พาแทนไปห้องพยาบาลก่อนไหม"

อ้าว กูลืม แต่แทนเป็นไรน่ะ แทนป่วย น่าจะเป็นลม นี่เป็นแฟนไง ต้องช่วยเหลือ ขอให้แม่งจำไม่ได้ทีเถอะ ว่าผมเป็นคนชกมันจนสลบ กูไม่รู้จะบอกเหตุผลในการกระทำของกูเล๊ย ว่ากูทำไปทั้งหมดเพราะหึง

 

พี่หมอกกับโจ๊กช่วยกันหิ้วปีกแทนคนล่ะข้าง ทุกคนรีบเดินตามอย่างรีบเริ่ง จนลืมไปว่า

"เดี๋ยว..... พวกมึงเอากูไปด้วย" อ้าวโจ๊ก กูลืม ผมตือกำลังจะช่วยพยุงโจ๊ก แต่โดนขัดด้วยน้องเค็ก

"เดี๋ยวพี่รีบไปดูพี่แทนเถอะครับ เดี๋ยวทางนี้เค็กดูพี่เค้าเอง"

ผมทำตามอย่างว่าง่าย เพราะนึกเป็นห่วงแทนอยู่ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าน้องเค็กกับโจ๊กไปสนิทกันตอนไหน แต่ช่างเถอะ ไปดูแทนก่อนล่ะกัน


------------------------------------------------

 
- แทน -

 

ทำไมมันน่าเบื่อขนาดนี้ แทนที่ผมจะไปอยู่กับหนึ่ง กลับต้องมานั่งค้าง ทำงานกับกันกับไอ้พี่หมอก ไอ้โจ๊กก็หายหัว ปล่อยให้พวกกูทำงานกันอยู่สามคน วันนี้เรียกว่าเป็นงานใหญ่ของคณะ ไม่มาก็ไม่ได้เซ็งว่ะ

"โอยยยย อะไรมันจะทำหน้าอย่างกับแบกโลกไว้ทั้งโลก ยิ้มหน่อยสิวะเพื่อนๆ สาวๆ สวยๆ กำลังจะมา เมียก็ติดเรียนไม่มาคุม ดีจะตายห่า ยังทำหน้าเหมือนขี้ไม่ออกอีก"

ผมถอนหายใจ เมินใส่ไอ้กันที่ดูตั้งใจทำงานเป็นพิเศษ ไอ้นวัตกรรมที่พวกผมคิด แม่งล่อเป้าขนาดนี้ ยังไงผมเอาหัวเป็นประกันเลยครับว่าสาวๆ แน่นบูทแน่นอน

"เอาน่า ตั้งใจทำงาน รีบทำรีบกลับ ไปหาน้องหนึ่งละกันน่า" พี่หมอกพูดปลอบใจ เออเออทำงานโว๊ย ตั้งใจทำจะได้ไปเต๊าะเมีย

"เออพี่หมอก โจ๊กไปไหนล่ะ"

"อ้อ มันโทรมาบอกพี่ล่ะ ว่ามันไปค้างข้างนอกมา บอกต้องกลับไปแต่งตัวที่คอนโดก่อน อาจมาช้าหน่อย" ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ สงสัยไปค้างกับสาวๆมาแน่ วิถีคนโสดจริงๆ มึง

 

กว่าจะจัดของเสร็จเตรียมพร้อมที่จะรับฝูงชนที่เข้ามาก็เกือบสิบโมงเช้า เหลือเพียงชั่วโมงเศษก่อนเริ่มงาน ผมจึงต้องรีบไปกินข้าวทำธุระส่วนตัวก่อนที่จะไม่มีเวลา เวลามันบีบจนผมไม่มีเวลาไลน์หาหนึ่ง แม่งก็ไม่ไลน์มา ถ้ารู้ว่าไปให้พี่บอสมันเต๊าะ กูจะ..... กูจะตามมึงให้ติดกว่าเดิม ผมจะทำอะไรได้ ทำอะไรรุนแรงเดี๋ยวเมียไม่รัก อยู่ดีๆก็ขึงเมียโชว์ คนอ่านคงไม่เหม็นกลิ่นความรักกันใช่ไหมครับ

 

เป็นไปตามคาดครับ ทันทีที่เริ่มงานคนก็แน่นขนัด รุ่นพี่รุ่นน้องต่างมาช่วยกันอย่างแน่นขนัด เพราะครั้งนี้มีการหาผู้ชนะจากยอดผู้ชมสูงสุดเพื่อรับคะแนนพิเศษด้วยครับ น้องๆ พี่ๆ ต่างมาช่วยกัน อีกทั้งยังมีนักศึกษาคณะอื่นและคนนอกมาดูงานได้ด้วยครับ แหม ผมไม่เคยเห็นกันมีความสุขในการทำงานเท่านี้มาก่อน หม้อหูดำของมึงยังใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่น่ะ เราแบ่งหน้าที่กันอย่างขัดเจนครับ พี่หมอกเป็นคนคุมเครื่องจักร ผมคอยและจดรายชื่อคนที่มาเข้าชมเพื่อทำสถิติ ส่วนโจ๊กก็คอยแซว เอ๊ยยยแนะนำอุปกรณ์และการใช้งาน เห็นหน้าเพื่อนบานขนาดนี้ กูก็มีความสุขด้วย ดูมึงสุขจนกูเริ่มจะหมั่นไส้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ คิดถึงเมียโว๊ยยยย

 

"แทน นั่นใช่พวกน้องหนึ่งป่ะ"

พี่หมอกตะโกนถาม พร้อมชี้มือไปยังกลุ่มคนสามคนที่ทำลับๆ ล่อๆ อยู่ห่างๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นมาก เพราะคณะวิศวะไม่ใช่คณะแก่เรียนเหมือนคณะแพทย์ จึงไม่ค่อยมีใครใส่แว่นหนาเตอะขนาดนั้น อีกอย่างการถักเปียสองข้างของหวานก็เด่นมากเช่นกัน แต่ทำไมต้องทำลับๆ ล่อๆ แถมยังมีเสื้อช็อปประจำคณะผม เออ หรือมาปลอมตัวสืบอะไร ผมมองตามสายตาที่หวานมองมา  อ้อออออ.... ไอ้กันกูเตือนมึงแล้วมึงตายแน่

ผมคอยแอบมองหนึ่งอยู่เรื่อยๆ คิดถึงอยากวิ่งไปกอด แต่ก็อยากรู้ว่าพวกหนึ่งกำลังทำอะไรอยู่ และก็รู้สึกหมั่นไส้ ไอ้กันเล็กๆ เลยอดทนรออย่างเงียบๆ ไอ้กันมึงก็ไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง ผมมองมันอย่างขำๆ


"พี่แทนคิดถึงจัง"

ผมสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อโดนพุ่งเข้ากอด เอาแล้วไงกู กูว่ากูเคลียร์หมดแล้วน่ะ เมียแอบดูอยู่ กูตายแน่ ผมรีบแกะมือออก และหันหลังไปเคลียร์ แต่ต้องตกใจเมื่อเจอกับผู้หญิงน่ารักในชุดสีชมพู "เค็ก" น้องชายคนเดียวที่ผมคอยปกป้องตลอดเวลา

"เค็กมาได้ยังไง มาให้พี่กอดที"


ดีใจครับ บอกตรงๆ ไม่เจอกันเกือบปี สงสัยกันสิครับว่าน้องชายยังไง เดี๋ยวผมจะเล่าเรื่องย้อนให้ฟัง แม่ผมอยากได้ลูกสาวมากครับ หวังเต็มที่ว่ายังไงคนต่อมาก็ต้องเป็นผู้หญิง แต่ออกมาเป็นผู้ชายซะนี่ แต่แม่ผมก็โอเคครับ เพราะเค็กหน้าตาน่ารักเหมือนผู้หญิง ขี้อ้อนเป็นที่รักของทุกคน แต่แม่ผมก็ให้แต่งตัวปกติน่ะครับ แต่มันจะมีปัญหาตอนเข้าเรียนนี่แหละครับ ด้วยความน่ารักเหมือนผู้หญิงของน้องผม ทำให้ผู้หญิงเข้ามาเล่นด้วยเยอะ ไอ้พวกเด็กผู้ชายเห็นแม่งก็หมั่นไส้หรืออิจฉาขึ้นมาก็ไม่อาจจะทราบได้ แม่งหาเรื่องน้องผมทุกวัน จนผมเองก็ตามไปแก้ปัญหาปกป้องไม่ไหว จะให้น้องลุกขึ้นสู้ ก็เด็กมาก ได้แต่ร้องไห้อย่างเดียว แม่ผมเลยออกไอเดียว่า ถ้าหน้าสวยจนผู้ชายอิจฉา ก็ต้องเปลี่ยนความอิจฉานั้นให้เป็นความรัก ตอนแรกผมก็งงๆ ว่ายังไง จนแม่จับน้องแต่งกระโปรงติดกิ๊ปน่ารักๆ แค่นั้นแหละครับ ไอ้พวกที่คอยหาเรื่อง ก็เปลี่ยนมาจีบเช้าถึงเย็นถึง ให้ขนม เดินเป็นเพื่อน คอยปกป้องดูแล ผมล่ะงงใจพวกเด็กๆ พวกนั้น ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นเด็กผู้ชายเหมือนกัน แต่ดูแลราวกับนางพยา ผมเลย เออ เป็นการแก้ปัญหาที่ผมคาดไม่ถึง ตั้งแต่นั้น เวลาอยู่ข้างนอกเค็กก็แต่งหญิงใส่วิกผมยาวจนมีคนตามจีบมากมาย แต่อยู่บ้านก็ใส่ชุดปกติ ผมสั้นไม่ต่างจากผม เป็นน้องชายคนเดิมของผม

 

แอบมาเงียบๆ ไม่บอกพี่ให้รู้ น่าตีจริง ผมเอามือลูบผมพร้อมมองน้องให้เต็มตา

"มานอนกับพี่ที่คอนโดไหม"

"อืมมมมม" น่ารักมากอดอีกที

ระหว่างผมกอดน้องอยู่นั้น ก็เห็นหนึ่งค่อยๆ เดินเข้ามา แต่สักพักทำไมวิ่ง ดีเลยต้องแนะนำให้รู้จักพี่สะใภ้สักหน่อย ผมผละออกจากอ้อมกอด

"เค็ก เดี๋ยวพี่แนะนำให้รู้จัก นี่...."

โอยยยยยย เมียครับต่อยผัวทำไม ด้วยความแรงของหมัดทำให้ผมตัวปลิวไปชิดบอร์ดด้านหลัง เอาอีกแล้วน่ะครับเมีย ชอบใช้กำลังกับผัว ทำไมไม่ใช้บนเตียงล่ะครับ นั่นคือสติสุดท้ายที่ผมมีอยู่

 

--------------------------------------------------

- หนึ่ง -

เอาไงดีว่ะกู ผมกำลังนั่งอยู่ในห้องพยาบาลคนเดียวรอแทนฟื้น ส่วนคนอื่นน่ะเหรอครับ โจ๊กบอกไม่เป็นไรมาก เดี๋ยวไปพักต่อที่คอนโด จะดูน้องเค็กให้ เพื่อให้ผมกับแทนสะดวก แม้จะงงว่าสะดวกคืออะไร แต่ก็เออออไป ส่วนพี่หมอกตือเมื่อเห็นว่าแทนไม่เป็นอะไรแล้วก็กลับไปรับผิดชอบงานที่บูทต่อ โดยมีตือคอยช่วย มันสมองสองคนอยู่ด้วยกันก็รอดครับงานน่าจะผ่านไปด้วยดี ไม่น่าเป็นห่วง ส่วนหวานกับกัน ก็ขอตัวออกไปคุยกันข้างนอกเพื่อจะเคลียร์กัน ผมยังบอกให้คุยกันดีๆ หวานยังบอกเลยว่าหึงหน้ามืดตามัวใช้กำลังอย่างมึงมันไม่เกิดประโยชน์ จะออกไปคุยกันดีๆ เงียบๆ ได้ยินอย่างนั้นผมเลยวางใจ


"อืมมมมม...." โอ๊ะ แทนฟื้นแล้ว 5 4 3 2 1 เริ่ม

"แทน ฟื้นแล้วกูตกใจมาก อยู่ดีๆ มึงก็เป็นลมล้มไป กูเป็นห่วงมึงมากน่ะ โธ่ แทน จำกูได้ไหม"

"หมัดหนักเหมือนเดิมน่ะครับเมีย" อ้าว จำกูได้สิน่ะ

"เออ... เป็นไงบ้างมึง" จำนนต่อหลักฐาน ไม่กล้าสบตาเลยกู

"เมียต่อยผัวทำไม"

"กูเป็นเมนส์น่ะมึง" หวานเคยบอกเป็นเมนส์ชนะทุกอย่าง เถียงกับใครบอกเป็นเมนส์ชนะเรียบ

"เมียไม่มีมดลูกครับ" อ้าว ไม่เนียน เอาไงดีว่ะกู

"งั้นถ้าเมียไม่ตอบงั้นพยักหน้าว่าใช่ไม่ใช่อย่างเดียวน่ะครับ" ผมก้มหน้าไม่ตอบอะไร

"ที่เมียมาต่อยผัวเพราะเค้าใจผิดเรื่องเค็กใช่ไหมครับ" ผมก้มหน้า พร้อมพยักหน้ายอมรับ

"เมียเข้าใจผิดว่าผัวกับเค็กเป็นแฟนกันใช่ไหมครับ"

ผมอ้ำอึ้ง

"ใช่ไหมครับ" แทนถามย้ำ ผมเลยพยักหน้าตอบไป จนแทนเงียบ ผมจึงเงยหน้าขึ้นมาเห็นมันยิ้มหน้าบานปากจะฉีกถึงรูหู

"เป็นไรมึงอยู่ดีๆ ก็ยิ้ม หัวมึงคงกระแทกหนักตามหมอไหม" แทนส่ายหน้า

"ผัวดีใจที่เมียหึง"ผมทำหน้าเลิกลัก

"เมียหึงแสดงว่าเมียรักผัว" พูดเสร็จแม่งก็ลุกมากอด แต่ก็ดีเหมือนกันน่ะครับ ผมไม่อยากให้มันเห็นหน้าที่แดงจนแทบจะแตกอยู่แล้วของผม เรากอดกันสักพัก จนแทนก้มตัวจับหัวเหมือนเจ็บ

"เป็นไรไหมมึง"

"ปวดหัวน่ะครับเมีย จำทางกลับบ้านไม่ได้ไปส่งหน่อย นอนคนเดียวก็กลัว" มึงเล่นลิ้นขนาดนี้ อาการมึงคงดีแล้วสิน่ะ ผมเป็นคนผิดที่ทำมันเจ็บตัว

"เออ... เดี๋ยวกูไปค้างด้วย"

"โอยมือข้าวขวาก็ปวด กินข้าวเองไม่ได้"

"เออ เดี๋ยวกูป้อน" เป็นคนแพ้ก็ต้องดูแลตัวเองสิน่ะ

"ขาก็ปวด ยืนอาบน้ำเองไม่ได้" ได้คืบจะเอาศอกน่ะมึง

"เอออออ..... เดี๋ยวกูอาบให้"

"แขนซ้ายก็ปวด ช่วยตัวเองก็ไม่ได้ จะทำอะไรก็ไม่ได้" พูดเสร็จก็ทำหน้าเป็นหมาเหงา กูต้องพูดใช่ไหม

"เออออ.. เดี๋ยวกู On Top ให้"


พูดเสร็จแม่งก็ดึงผมไปกอดหอมแก้มซ้ายขวาอย่างพอใจในคำตอบ อืมมันก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียวน่ะ เรากอดกันสักพักไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ ความรักที่ผมมีให้แทนคงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ที่ความรักที่ผมมีนั้นจะมากเท่าที่แทนมีให้ผม ผมค่อยเอียงคอคอยรับจูบจากคนเจ้าเล่ห์ วันนี้วันของมึงจะทำอะไรก็ทำ


"เดี๋ยวกูปิดม่านให้น่ะ" ผมสะดุ้งผละออกจากกันแทบไม่ทัน ไอ้หวานมาตอนไหน แม่งเอ๊ยยยย ขัดกู

"เออ.... มึงคุยกับไอ้กันรู้เรื่องยัง" เรื่องเปลี่ยนเรื่องนี่กูถนัดขอให้บอก

"อ้อ เรียบร้อยล่ะมึง"

"คืนดีกันแล้ว" ผมถามย้ำให้มั่นใจ

"เออ... สิ ไม่งั้นจะเข้ามารึ"

"แล้วกันไปไหนล่ะ ทำไมไม่เข้ามาพร้อมกัน"

"อ้อ... มันนอนอยู่น่ะ" เดี๋ยวน่ะ

"นอน? มันง่วงรึ มันนอนทำไม"

"คือกูก็ออกไปคุยอย่างผู้ดี อย่างที่บอกมึง คุยไปคุยมาไอ้กันมันแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ กูก็เลยไม่อยากจะสนใจ ก็เลยมองไปด้านข้าง กูก็เออ กระถางต้นไม้ข้างๆ น่ารักดี กูเลยหยิบขึ้นมาดู สักพักไอ้กันก็เอาหัวมากระแทกกระถาง หัวแตก ลงไปนอน กูงงมากกกกไม่รู้จะทำยังไง ยืนคิดข้างนอกก็ร้อน เลยมานั่งคิดกับมึงข้างในนี่แหละ แอร์เย็น มีคนช่วยคิดด้วย"

"เหี้ยล่ะ แทนโทรตามรถพยาบาล" ผมรีบจะวิ่งออกไปดูกัน ป่านี้นอนพะงาบ หมาคาบไปแดกล่ะ

"หนึ่ง ไม่ช่วยกูคิดก่อนเหรอ"

"คิดเหี้ยไรล่ะหวาน พามันไปส่งโรงบาลก่อน แล้วค่อยคิด"

"เออ จริงๆ" หวานพยักหน้า พร้อมเดินตามออกมาอย่างมาอย่างมีสติ
 

โอยยยย ทำไมมันวุ่นวายอย่างงี้ วันอะไรของกูนี่


---------------------------------------------------------

 :katai4:
มาล่ะคะ ฟืนกันไหมทุกคน เดี๋ยวมีตอนพิเศษ วาเลนไทน์ ลงให้พรุ่งนี้หรือช้าสุด 15 ตอนค่ำน่ะคะ ขอให้ความรักดีๆ เกิดขึ้นกับทุกคนค่ะ

Aemmilicious

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
กันเดินอีท่าไหน ถึงเอาหัวไปโหม่งกระถางได้เนี่ย  :laugh:

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 25 : วาเลนไทน์ มือใหม่

พวกคนโสด ผมถามหน่อยคุณใช้ชีวิตยังไงกันครับในวันวาเลนไทน์ ไม่ต้องบอกผมครับ คุณคงคิดอิจฉาตอนเห็นคนเดินจูงมือให้ดอกกุหลาบช่อใหญ่ ช็อกโกแลตแท่งโต ทำตัวหวานจนมดขึ้น ทำไมผมถึงรู้น่ะหรือครับ พูดแล้วจะร้องไห้ เพราะผมโสดมาทั้งชีวิต จะมีแฟนกับเค้าทั้งทีก็วาเลนไทน์ปีนี้แหละครับ ปีผ่านๆ มาเห็นคนมีคู่แล้วอิจฉา อยากจะวิ่งตัดขาให้ล้มทั้งคู่ กุหลาบสักช่อ ช็อกโกแลตสักแท่งก็ไม่เคยได้ แต่นั่นเป็นอดีต ว่าแต่อีวันวาเลนไทน์นี่เค้าต้องทำอะไรบ้าง อะไรยังไง มือใหม่ครับ พึ่งมีปีแรก

 

"มันต้องมีซื้อของแทนใจเว๊ย"

ผมนั่งฟังหวานผู้มีประสบการณ์รับดอกไม้ช็อกโกแลตมานับไม่ถ้วน ในขณะที่ผมนั่งฟังเฉย แต่ตือกลับจดเลคเชอร์ไปด้วย จริงจังแค่ไหนเรียกจริงจัง

"แล้วกูต้องซื้ออะไรว่ะ" งงเอาเคลียร์หวาน

"มึงก็ต้องสังเกตว่าแฟนมึงชอบอะไรที่สุดแล้วค่อยซื้อให้ ของที่มึงซื้ออาจจะไม่ต้องใช้เงินเลยก็ได้ ความพอใจของคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาของที่ให้"

นั่นคือสิ่งที่หวานบอกก่อนล่วงหน้าก่อนถึงวันวาเลนไทน์ในอีกหนึ่งอาทิตย์

 

ผมจึงทำการสังเกต แทนอย่างใกล้ชิด แทนชอบอะไร ผมนั่งคิดอยู่นาน อ้อ มันชอบซีดี สะสมซีดี ซื้อซีดีให้มันดีกว่า แต่ก็ต้องพับโครงการไปเพราะแผ่นที่มันอยากได้มันก็มีหมดแล้ว จะสั่งแผ่นใหม่ๆ แม่งก็พรีออเดอร์ก่อนวันออกด้วยซ้ำ ผมจึงเปลี่ยนแผนการใหม่

 

ในเมื่ออยากได้ลูกเสือ ก็ต้องบุกถ้ำเสือ ผมจึงต้องไปสืบที่คอนโดมัน ว่ามันชอบอะไร มีอะไรสะสม ผมจึงเอ่ยขอไปเที่ยวคอนโดแทนในวันต่อมา หลังจากเข้าถ้ำเสือ ก็ได้ลูก..... ไม่ได้ลูกเสือหรอกครับ ได้ลูกเลยนี่แหละครับ แม่งเอาตั้งแต่ยังไม่เปิดประตู รู้ตัวอีกทีสว่างคาตา สรุปมึงจะเอาไหมแทนของขวัญวาเลนไทน์ แต่ไม่ได้ครับต้องปิดเป็นความลับ ให้มันเซอร์ไพรส์

 

สรุปผมต้องหาแผนการใหม่ เมื่อแอบส่องแล้วไม่ได้เรื่อง ก็ต้องถามมันตรงๆ วันรุ่งขึ้นที่โรงอาหาร

"แทนชอบกินอะไรน่ะ"

"ชอบกินเมียครับ" โอยยย เขิน เฮ้ยไม่ใช่

"แทนมึงชอบสะสมอะไรไหม"

"สะสมรอบกับเมียทำสถิติครับ นี่ได้สูงสุดวันล่ะสี่รอบ อยากได้หกรอบครับ" โอยยยย

"แทนมึงอยากไปเที่ยวไหนไหม"

"อยากไปป่ารกๆ ครับ อยาก Outdoor"

เออ กูยอม

 

สรุปจนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าจะซื้ออะไรให้มัน วันนี้คือวันที่ผมหวานตือ จะไปซื้อของขวัญวันวาเลนไทน์ครับ ตือตกลงจะซื้อนาฬิกาสองเรือนคู่กัน สลักชื่อด้านหลังเพราะเป็นสิ่งที่พี่หมอกใส่ติดตัวตลอด และจะได้รู้ว่ามีเวลาให้กัน หวานเหี้ยๆ กูยอม ในขณะที่หวานนั้นพีกกว่า เพราะมันซื้อกุหลาบให้ มันพีกยังไงน่ะเหรอครับ มันพีกตรงที่มันมาทั้งกระถาง เหตุผลน่ะหรือครับ หวานมันบอกว่ากันจะได้ระลึกเสมอว่าอย่านอกใจกู เพราะจะเจ็บตัวแบบที่ผ่านมา แหมเหตุผลดี สรุปมึงรักกันใช่ไหม ก็เหลือแต่ผมนี่แหะที่ไม่รู้จะซื้ออะไร จะซื้อนาฬิกาแม่งก็ไม่ค่อยใส่ แถมแม่งมีเกือบสิบเรือนแล้ว ซื้อไปก็ไม่น่าจะมีประโยชน์ เวลาผมให้ของใครก็อยากให้ได้ใช้จริงๆ ครับ ไม่อยากให้แล้วไม่มีประโยชน์

 

ผมเดินห้างมาสักพักก็ยังนึกไม่ออกว่าจะซื้ออะไร เสื้อผ้า แม่งก็มีเยอะแล้ว กระเป๋าตังแม่งก็ใช้แบรนด์เนม ซื้อถูกไปแม่งก็ไม่น่าจะได้ใช้ รองเท้านี่ตัดไปเลยครับ เค้าว่ากันว่าซื้อรองเท้าให้แฟนจะเดินหนี ไม่ได้เชื่องมงายแต่กันไว้ก่อนก็ดีกว่าแก้นี่ครับ

 

"มึงนึกออกยังจะซื้ออะไร" มึงเหมื่อยใช่ไหมหวาน

"ยังเลยว่ะ"

"หนึ่งลองนึกดูสิว่ามีอะไรที่แทนชอบมาก ได้แล้วอยากได้อีก เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ต่อให้ซื้อไปซ้ำมันก็อยากได้ ให้สิ่งที่แทนชอบแทนน่าจะมีความสุข"


อืมมมมมม เอาอะไรดีน่ะ แทนชอบแดกชาบู แต่กูคงห่อใส่กล่องไม่ได้ อืมมมมม ผมคิดออกแค่อย่างเดียวตามที่ตือบอก แต่มันจะดีหรือว่ะ แต่ก็นึกไม่ออกจะเอาอะไรให้ แต่นี่เป็นวาเลนไทน์ปีแรก กูให้มึงพิเศษเลยแล้วกัน ผมเดินไปที่แผนกห่อของขวัญที่ตือกำลังห่อนาฬิกาอยู่

"โทษน่ะครับผมขออันนี้ ห่อของขวัญให้ด้วยครับ"

อันนี้แหละน่าจะเหมาะที่สุด ผมสั่งห่อของขวัญเรียบร้อย ท่ามกลางความสงสัยของตือและหวานว่ามึงจะเอาไปทำอะไร

 

และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันวาเลนไทน์ ช่างเลื่อนเอียนเหลือเกิน กลิ่นความรักฟุ้งกระจายไปทั่ว วันที่ดอกกุหลาบแพงที่สุด แต่ก็ยังเห็นคนซื้อหาจนแดงเถือกทั้งมหาลัย วันที่ช็อกโกแลตขาดตลาด เพราะซื้อกันจนหมดห้าง วันที่ไก่เป็ดหัวหมูขาดตลาดเพราะปีนี้ตรงกับวันตรุษจีนด้วย เมื่อเช้าก็พึ่งกินของไหว้มา ดีที่ไก่สุกแล้วไม่งั้นลากกันสะบัด การกินของไหว้ตรุษจีนเป็นสิ่งยืนยันอย่างเดียวว่าผมมีเชื่อสายจีน นอกจากผิวขาวแล้ว หน้าตาแม่งไม่จีนซะนิด อยากแบบเกาๆ นิดๆแม่งก็ไม่เกาเสียใจ

 

วันนี้ก็เป็นอีกวันดีของหวานครับ ที่รับดอกไม้ช็อกโกแลตจนไม่วัดไม่ไหว ผมกับตือต้องช่วยกันใส่ถุงแยกของกินกับของอื่นๆ ให้เรียบร้อย มึงนี่ก็เป็นระเบียบกันเนอะ ต่อแถวก่อนหลังกันมีมารยาทสุดๆ

 

"มึงไม่เอารถมาขนซะเลยว่ะ เยอะขนาดนี้" มึงก็ฮ็อตไปหวาน

"มึงทำดีๆ เดี๋ยวแม่งกล่องยับ"

"โหย หวงขนาดนี้ไอ้กันไม่น้อยใจแย่เหรอมึง"

"น้อยใจเหี้ยไรล่ะ เดี๋ยวกูเอาไปขายต่อ แดกหมดนี่เบาหวานแดกพอดี"

แหม อยากให้คนที่ให้รู้จักตัวตนจริงๆ ของมึงซะจริงๆ

ซึ่งระดับหวานพูดจริงทำจริงครับ เพราะแค่ชั่วครู่ก็มีร้านขายของหน้ามหาลัยมารับไปขายต่อ ซึ่งหวานได้เนาะๆ เกือบหมื่น รวยยยยย

"มึงทำอย่างนี้คนให้ไม่น้อยใจเหรอว่ะ"

"น้อยใจอะไรมึง กูไม่เคยโกหกใครว่ายังไม่มีแฟน ถ้ากูปฏิเสธไปคนให้ไม่น้อยใจกว่ารึ คนให้เค้าอยากให้เรารับเค้าก็ดีใจ ยังไงถ้าเหลือก็ต้องทิ้ง อย่างนี้ไม่เกิดประโยชน์กว่ารึ อีกอย่างเงินที่ได้กูก็เอาไปทำบุญ ทุกคนก็เข้าใจเปล่าว่ะ"

เออจริง แม่พระจริงๆ มึง ถ้ากูไม่เหลือบเห็นกระถางดอกกุหลาบมึงก่อนน่ะ

 

นี่ก็เรียนเสร็จเรียบร้อยครับ รอพวกแทนมา ตือกับพี่หมอกจะกลับไปทำกับข้าวกินกันสองคนที่บ้าน ส่วนหวานกับกันจะไปดูหนัง ส่วนผมแทนแม่งไม่บอกอะไรบอกจะเซอร์ไพรส์ สงสัยแม่งจะขอแต่งงาน 55555

 

รอจนคนอื่นไปหมดแล้วแทนก็ยังไม่มา เห็นพี่หมอกบอกแทนจะมาช้าหน่อย โอยยย แทนกูหิวไส้จะขาดล่ะ บ่นได้แวบเดียวก็มา จอดดังเอี๊ยดฝุ่นตลบใส่กูไม่พอ แม่งกวนตีน ไม่ลงมารับด้วย ได้แต่บีบแตรใส่ ได้กูแล้วทำงี้เหรอมึง มึงเปลี่ยนไป มึงไม่อ่อนโยน ไม่ทันจะด่าแต่พอเปิดประตูก็ต้องตกใจกับลูกโป่งจำนวนมากที่ลอยออกมา ไอ้แทนเปิดประตูออกมายิ้มหน้าบาน

"เซอร์ไพรส์ไหม"

"อืมมมมม เซอร์ไพรส์" ผมเขินหน้าแดงคนมองแทบทั้งคณะ บ้า ไอ้แทนคนเยอะแยะ ว่าแต่

"เออออออ... แทนคือกู...."

"เมียครับ จะบอกรักกันแค่นี้จะเขินทำไม มาๆ พูดมาครับ"

"ไม่ใช่มึง คือ... กูจะนั่งยังไง"

มึงจะให้กูนั่งตรงไหนในเมื่อลูกโป่งมึงล้นออกมาขนาดนี้ ไอ้ดีใจกูก็ดีใจ แต่จะให้กูโหนรถเมล์ตามก็ใช่เรื่อง

"เออว่ะ... ในละครกับความจริงแม่งต่างกัน นั่งไงล่ะ"

นั่นแหละที่กูถามมึง

"งั้นเราปล่อยลูกโป่งไปสักครึ่งนึง ให้เหลือเฉพาะเบาะหลังน่ะครับเมีย"

เราสองคนต่่งช่วยกันเอาลูกโป่งออกจากรถ ลูกโป่งสีแดงลูกแล้วลูกเล่าลอยออกจากรถ เหมือนสายรุ้งสีแดงทอดยาวไปบนฟ้า ทำให้ผมซึ้งใจว่าแทนต้องใช้เวลาเป่าแค่ไหนกว่าจะได้จำนวนขนาดนี้

 

"ขอบคุณน่ะแทน"

"โหย อย่าพึ่งขอบคุณสิครับนี่ยังเด็กๆ" โหย ป๋าแทนทุ่มมาก เขินน่ะ

 

ผมคิดว่ามันก็คงพาผมไปกินชาบูหรือบุฟเฟ่ต์อย่างเคย แต่อย่าดูถูกป๋าแทนครับ แม่งเล่นเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นชื่อดังกลางทองหล่อ ที่ได้ข่าวว่าต้องจองคิวเป็นเดือน หรูซะกูไม่กล้าลงเลย

"กินร้านนี้หรือมึง แพงไปเปล่ากูเกรงใจ"

"กินๆ ไปเถอะครับเมีย ปีแรกมันก็เว่อร์ๆ แบบนี้แหละครับ ปีหน้าต้มมาม่าแดกสองคนที่ห้องครับ หมดโปร อีกอย่างจ่ายเงินไปแล้ว รีบๆ เข้าไปเถอะ"

หมายถึงกูจะได้แดก แค่ปีนี้ชิมิ งั้นกูจะแดกให้มึงล่มจมเลย การจ่ายเงินจองไม่ใช่เรื่องแปลกในวันนี้ครับ เพราะคนล้านแปดมาก ไม่จองนี่อดกินทุกร้านครับ ต่อแถวจนเอ็นขึ้นก็ยังไม่ได้กิน

 

บรรยายกาศของร้านตกแต่งแบบญี่ปุ่นโบราณ นั่งเป็นหลุมๆ บนเบาะเตี้ยๆ ร้านคนไม่เยอะมากครับ เพราะค่อนข้างส่วนตัว น่าจะไม่เกิน 30 โต๊ะ นั่งไม่ถึงห้านาทีอาหารก็เสิร์ฟครับ เพราะมีการสั่งอาหารไว้ล่วงหน้าแล้ว

 

"โหยยย อร่อยน่ะ ปลาสดมาก ไม่คาวเลย" มีความสุข ฮอลลลลลล

"อร่อยใช่ไหมครับเมีย ผัวว่าแล้วต้องชอบ" ผมพยักหน้ายิ้มอย่างมีความสุข

"นี่ยังน้อยไปน่ะ มีเซอร์ไฟร์กว่านี้อีก" โหยป๋าน่ะ ผมรีบคลานเข่าไปกราบแทบอกป๋าแทน

"เปลี่ยนเป็นถวายบัวได้ไหมครับ"

"เฮ้ออออออ...." กูถอนหายใจแล้วรีบคลานกลับอย่างไว


และแล้วเซอร์ไพรส์แรกก็มาถึงด้วยปลาแซลมอนตัวยักษ์

"ตายๆ กูลาบปากจริง เดี๋ยวไปล้วงคออ๊วกก่อน"

"เมียครับ อย่ามาสร้างภาพ แดกหมดอ่าวเมียก็ไม่อิ่ม"

รู้ทันกูอีก แหมสวรรค์ อยากอยู่ตรงนี้ไปนานๆ ฮอลลลลล


ผมกำลังเพลิดเพลินกับการกินอย่างหนักหน่วง จนคิดว่าจะค้างที่นี่เลย กินอิ่ม นอนแล้วตื่นมากินต่อ พร้อมซึ้งในน้ำใจพ่อพระแทน แต่สายตาผมก็ต้องมาหยุดตรงที่แทนลุกขึ้นยืน ถือกล่องสีแดงเล็กๆ มาตรงหน้าและกำลังจะนั่งคุกเข่า

เหี้ยล่ะ อย่าบอกน่ะว่าจะขอกูแต่งงาน มันเร็วไป ไอ้แทนคนเยอะแยะกูอาย ทำไมมึงชอบทำอะไรประเจิดประเจ้อ เอาไงดีว่ะกู อยากจะแทรกแผ่นดินหนี ระหว่างที่แทนกำลังค่อยๆ ก้มนั่งคุกเข่าใกล้ๆนั้น สิ่งเดียวที่ผมคิดได้ตอนนั้นเพื่อหยุดการกระทำของมันตอนนี้คือ

 

ถีบ และดูเหมือนผมจะถีบแรงไปหน่อย จนแทนมันกลิ้งไปชนพนักงาน อาหารทะเลทั้งถาดตกใส่หัวมันจนเละ ซวยล่ะกู

"เมียถีบผัวทำไมอ่ะ ทำไมไม่ใช้กำลังบนเตียง"

"มึงคุกเข่าทำไม คุกเข่าทำไม"

"ตะเกียบหล่น" อ้าว

"แล้วกล่องแดงๆ ในมือคืออะไร"

"โชยุ" อ้าวกูมองเป็นกล่องแหวนได้ยังไง ขวดโยชุชัดๆ เหี้ยล่ะกู

"สรุปถีบผัวทำไม" ตาย กูตานแน่ๆ

"ยุงกัดมึงน่ะ"

"เลยใช้ตีนสะกิดงี้ อ่อนโยนกับผัวมากเลยครับเมีย"

"กูกลัวมึงเป็นไข้เลือดออกน่ะ กูหวังดีจริงๆ น่ะ"

 


ตัดภาพมาปัจจุบัน

 

ไหนมึงบอกปีแรกให้กูแดกอย่างหรูไง ทำไมตอนนี้กูต้องมาแดกมาม่าที่คอนโดมึงแทน อ้อเป็นเพราะกูสิน่ะ กูคงต้องรับผลจากการกระทำของกู ป๋าแทนไม่ได้โกรธอะไรครับ ผมนี่ต้องขอบคุณป๋า สงสัยต้องชดใช้ด้วยการถวายบัวให้ แต่เจ้าตัวอยากอาบน้ำ ซึ่งผมก็เข้าใจ เพราะเป็นผมก็คงจะอยากอาบน้ำเหมือนกัน แต่ดูเหมือนมึงจะรีบไปน่ะแทน รอให้เค้าห่อแซลมอนกลับบ้านไม่ได้รึไง ใจร้ายยยยย


"เป็นไงครับเมีย มาม่าอร่อยไหม" แทนเดินออกมาพร้อมเช็ดผมที่เปียกในชุดขาสั้น มึงแต่งน้อยชิ้นไปน่ะ

"กูขอโทษน่ะมึง อย่าโกรธกูน่ะ"

"มีเมียคนเดียวใครจะไปโกรธลง" พูดเสร็จมันก็มานั่งเอาแขนโอบกอดอยู่บนโซฟา ผมเอาหัวพิงไหล่มัน

"มึงไม่โกรธจริงน่ะแทน"

"ครับ ใครก็คงไม่อยากให้เกิดเรื่องอย่างนี้ มันเป็นอุบัติเหตุผัวเข้าใจครับ"

"กูขอโทษ"

"ทำผิดแล้วขี้อ้อนเหรอครับเมีย ดีจัง ถีบผัวอีกรอบนึงไหม"

ผมทำหน้าบู้ใส่

"กูมีของขวัญให้มึงด้วย กูไม่รู้จะซื้ออะไรให้มึง กูว่ามึงน่าจะอยากได้สิ่งนี้ เพราะเป็นสิ่งเดียวที่มึงชอบ อยากได้แล้วอยากได้อีก อย่ามองหน้ากู กูเขิน

พูดเสร็จผมก็ยื่นกล่องของขวัญให้

"อะไรครับเมีย ทำไมต้องหน้าแดงด้วย"

"เออ แกะเถอะ ลีลา เดี๋ยวกูเอาคืน"

แทนรีบแย่งไปแกะอย่างไว พร้อมทำหน้างง เมื่อเห็นว่าของในกล้องคือโบว์ติดกล่องของขวัญ

"โบว์ติดของขวัญ เอามาทำไมครับ"

"เอามาติดของขวัญที่กูจะให้มึง"

พูดเสร็จผมก็เอาโบว์มาติดหัว

"กูเป็นของมึงแล้วน่ะ กูไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ อาจจะไม่ดีพร้อม อาจจะทำผิด อาจจะทำให้มึงผิดหวัง แต่กูรักมึงน่ะแทน อาจจะไม่เท่าที่มึงรักกู แต่กูจะค่อยๆ รักมึงไปเรื่อยๆ ให้เท่าหรือมากกว่าที่มึงรักกู กูจะรักมึงเรื่อยๆ ไปทุกวัน"

พูดเสร็จผมก็เอาหน้าซุกกับอกแทน

"ขอบคุณน่ะแทนที่มึงกลับมา"

แทนยิ้มแก้มแทบปริ ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปากแทน มีแต่ความรู้สึกอุ่นไอรักจากอ้อมกอดของแทน แต่เอ๊ะ ผมลืมไป ว่าแล้วผมก็ก้มลงถอดกางเกงแทน

"หืมมม เมียทำไรครับ"

"ถวายบัวไถ่โทษที่กูทีบมึง"

"เฮ้ยยยยย" แทนร้องเสียงหลง เพราะไม่คิดว่าผมจะเริ่มก่อน

"สถิติที่มึงจะเอาเท่าไหร่น่ะ หกรอบใช่ไหม"

"หืมมมม"

"ทำซะวันนี้แหละกูพร้อมแล้ว"

"โหยยยย มีเมียดีขนาดนี้ ผัวให้ถีบทุกวันยังได้เลย"

อย่าทำลายบรรยากาศกูแทน....

 

ผมตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะหิวน้ำ จึงลุกขึ้นมาเปิดตู้เย็นมาหาน้ำดื่ม แต่ต้องตกใจที่แทนอ้อมมากอดจากด้านหลัง

"แทนถ้ามึงเอากูมากกว่านี้ ก็เอากูส่งโรงบาลด้วย"

"ทำไมเมียชอบคิดเรื่องอกุศลตลอดเวลาล่ะครับ"

กูผิดอีก

"เลยวันวาเลนไทน์ล่ะ ยังไม่ได้ให้ของขวัญเลย"


ไม่มีบรรยากาศที่สวยหรู ไม่มีอาหารที่เลิศรส มีเพียงคนสองคนที่ใส่แค่กางเกงขาสั้นอยู่ในความมืด แต่ทำไมมันเป็นบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก หวานหอมจนยากที่จะให้ผ่านไปโดยง่าย แทนค่อยหยิบกล่องของขวัญเล็กมาวางบนโต๊ะและนั่งตรงข้าม ผมค่อยๆ แกะช้าๆ

"เร็วหน่อยครับเมีย ตื่นเต้นเยี่ยวจะแตกแหละ"

"สัดแทนทำลายบรรยากาศกู" แทนนั่งหัวเราะ

ผมแกะออกมาละพบสร้อยคอเส้นยาวเส้นหนึ่ง

"ขอบคุณน่ะแทน"

แต่ผมก็ต้องงงอีกครั้งเมื่อปลายของสร้อยนั้น มีกุญแจห้อยอยู่


"หนึ่ง ย้ายมาอยู่ด้วยกันน่ะ"


-------------------------------------------------

ช้าไปสองวันขอโทษด้วยค่ะ ตอนแรกตั้งใจจะเขียนสั้นๆ ไปๆ มา เต็มตอนซะงั้น อาทิตนี้มาเร็วสามตาอนรวด ตอนหน้ามาดูโจ๊กกับน้องเค็กกันต่อค่ะ

รักที่สุด

Aemmilicious

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อย่ารีรอ รีบกลับห้องไปเก็บของ เตรียมย้ายด่วนเลย  :mc1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 26 : โจ๊ก Featuring

กว่าจะหาตัวเจอได้ไม่ใช่เรื่องง่าย จะปล่อยนายจ้างให้หายตัวไปก็ไม่ใช่วิธีของโจ๊ก แม้สัจจะของคำว่าเพื่อนจะไม่กินผู้หญิงทับลายกัน แต่นี่โจ๊กแดกน้องเพื่อนไปแล้ว แถมเปิดบริสุทธิ์อีกต่างหาก ถ้าไอ้แทนรู้โจ๊กคงต้องแอดมิดร่างคงจะหักไปหลายท่อน แต่เมื่อเพื่อนไม่รู้โจ๊กจึงต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องก่อน นี่แสร้งเป็นคนดีรับดูแลน้องเพื่อนไม่รู้เพื่อนจะสงสัยรึเปล่า แต่คิดไปก็เท่านั้น ยังไงโจ๊กก็ต้องจมตีนเพื่อนอยู่ดี แค่คิดโจ๊กก็เจ็บ เมาตีนจนมึน แต่อย่าคิดว่าผมจะมีเวลารำพึงรำพัน ที่ว่างนี่คือรอเค็กตัวปัญหาอาบน้ำอยู่ นี่ก็เข้าไปชั่วโมงกว่าล่ะ มึงอาบหรือช่วยเค้าฝังท่อประปา นานแท้ ยังไง โจ๊กก็จะรอ ผมกุมความแค้นไว้ในมือ อะไรน่ะหรือครับก็เงินค่าตัว 500 หยาดเหงื่อแรงงานของโจ๊ก มันช่างต่ำต้อย ไปเที่ยวผู้หญิงอย่างต่ำแม่งก็ต้องจ่าย 1,500 ทำไมโจ๊กได้ 500 โจ๊กจะฟ้องกระทรวงแรงงาน

 

รอไม่นานเค็กก็ออกมาในชุดกางขาสั้นกับเสื้อกล้ามเก่าๆ ของผม ไม่มีวิกผมหรือการแต่งหน้าใดๆ เหมือนเด็กผู้ชายธรรมดาทั่วไป แต่ทำไมแม่งช่างเร้าใจปลุกเร้าอารมณ์โจ็กจนไม่อยากคุย ผิวแม่งขาวจนแทบจะเห็นเส้นเลือด เสื้อก็หลวมมีแค่สายเสื้อกล้ามปิดหัวนมชมพูรำไร โจ๊กจะไม่ทน แต่โจ๊กต้องเคลียร์ เคลียร์เสร็จค่อยปล้ำ

 

ผมไม่รอเวลาให้ร่ำไร เพราะเดี๋ยวจะทนไม่ได้ ไม่ใช่สิ เดี๋ยวจะเสียเวลา

"นี่อะไร" ผมพูดพร้อมชูเงิน 500 บาทขึ้นมา เจ้าตัวเช็ดผมพร้อมหันมามอง ช่างยั่วยวนโจ๊กยิ่งนัก อะไอ้นี่ถามไม่ตอบ

"นี่อะไร" ต้องให้กูขึ้นเสียง

"เงินไง" กูรู้

"เงินนี้คือเงินที่เค็กทิ้งไว้ให้พี่"

"อ้อ .. อืม" พูดเสร็จแม่งก็หันไปเช็ดหัวต่อ ดูหน้ากูด้วยกูซีเรียสอยู่

"ทำไมให้เงิน 500"

"ก็จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกัน" อันนี้กูจะพยายามเข้าใจ

"ทำไมแค่ 500"

"อยากได้มากกว่านี้เหรอ"

"ไม่ใช่ แต่ 500 มันน้อยไปไหม กับลีลาของพี่" มึงดูถูกกระบวนท่าของกูมากไปล่ะน้องเอ๋ย

"ทำไมขายของเกินราคา" เอาปืนมายิงกูดีกว่าพูดงี้

"ไม่ใช่เว๊ยน้องคือ ไม่ได้อยากได้เงิน แต่ถ้าให้มันก็น้อยไป"

"สรุปจะขอเงินเพิ่ม" พูดเสร็จทำหน้างงใส่กูอีก

 

สงสัยจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ผมเลยพักครึ่งมาสงบอารมณ์ สูบบุหรี่ที่ริมระเบียง แม่งแข็งหมดล่ะ ไม่ใช่สิ อารมณ์โกรธสิ

 

ผมตัดสินใจเดินเข้าไปคุยอีกครั้ง น้องแม่งก็ไม่สนใจอะไรกู นั่งดูทีวีสบายใจ

"เค็กเรื่องเมื่อคืนไม่บอกไอ้แทนได้ไหม" กลัวจมตีนเพื่อนครับพูดตรงๆ

"รู้น่า"

เค็กทำตัวปกติดูไม่เคอะเขินอะไร มีแต่ผมนี่แหละที่ไม่ปกติ

"แล้วนี่มาอยู่ไทยนานไหมกลับเมื่อไหร่"

"ก็อยากอยู่นานๆ นะ แต่ไม่มีเงินน่ะ อีกสองอาทิตย์ก็น่าจะกลับ 555" พูดซะกูอยากจะคืนเงิน 500

"แล้วนี่เอาไงต่อ"

"ก็คงไปพักกับพี่แทน"

เสี้ยวเวลานั้น ผมได้ใช้สมองอันน้อยนิดคิดไตร่ตรองและแล้วผมก็คิดแผนชั่วได้สำเร็จ 55555

"เฮ้ย... แต่พี่ว่าจะไปพักกับไอ้แทนให้ไอ้แทนเลี้ยง มันก็ใช่เรื่องนา พวกเด็กฝรั่ง 15-16 เค้าก็หางานทำกันแล้วนา ได้เงิน ได้อยู่เที่ยวด้วย"

"แต่เค็กยังเรียนไม่จบ เอกสารอะไรก็ไม่มี"

"มาทำงานกับพี่ไหม"

"เอ๋... จริงนะ" น้องร้องกระโดดดีใจ น้องเอ๋ย เสร็จพี่แน่ ใครนะช่างปล่อยแกะ ออกมาให้หมาป่าตะคลุบ อ้อไม่มีใครปล่อย กูไปล่อลวงมาเอง

"งานหนักไหม เค็กทำงานหนักไม่ค่อยไหว"

"ไม่หนักครับน้อง งานสบาย รายได้ดี"

"มีงานแบบนั้นด้วยเหรอ"

"มีสิ" เสร็จพี่โจ๊กแน่

"งานอะไรอ่ะ"

"งานเดียวกับพี่ทำให้เค็กไง ยังไงของก็เคยๆ กันแล้วไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย" ดูน้องลังเลเล็กน้อย ไม่ได้ไม่ได้ ผมต้องเอาเงินล่อ

"พี่ทำพี่ได้ 500 แต่ถ้าเค็กทำพี่ให้ 1,500 เลย"

กูจะล่อลวงมันสำเร็จไหมว่ะดูมันลังเล

"คิดดูดีๆ นา เงินดีๆ งานสบายแบบนี้ไม่ได้หาง่ายๆ นา อีกอย่างที่พักก็ฟรี อะไรก็ฟรีได้เพียวๆ เลยน่ะ รอบล่ะ 1,500"

เห็นน้องมันทำหน้างง นั่งนับนิ้วคำนวนเงินก็น่ารักดีน่ะครับ ดูเป็นเด็กใสๆ ไม่ค่อยเข้าใจโลก ไอ้แทนกับที่บ้านคงเลี้ยงดูอย่างดี ถนอมอย่างกับไข่ในหิน มาถึงมือโจ๊กไม่รู้จะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย เฮ้ออออ คนบาปอย่างโจ๊ก

"สรุปว่า..." น้องมึงเอาไงบอกมา พูดเสร็จน้องมันก็ผลักผมที่นั่งอยู่ปลายเตียงลง พร้อมก้มลงจูบเบาที่ริมฝีปากผม

"เดี๋ยว เค็กต้องไปซื้อ แปรงสีฟัน ยาสระผม ครีมทาผิว เสื้อผ้า เริ่มงานเลยแล้วกัน"

โหยยย Deal ครับ

 


สองอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก

 

ทุกๆ อย่างเป็นปกติครับ หลังจากที่น้องเค็กได้งานแล้ว เค็กก็โทรไปบอกพี่ชายมันเสร็จสับว่าจะอยู่เมืองไทยต่อสักพัก พร้อมทำงานไปด้วยบอกพี่ชายไม่ต้องเป็นห่วง ไอ้แทนเห็นน้องอยู่ดี มีความสุขก็เลยไม่ว่าอะไร ความลับยังเป็นความลับ โจ๊กยังครบ 32 ไอ้ที่จะเปลี่ยนแปลงก็มีนิดหน่อย

 

"อะไรที่ทำให้เสี่ยโจ๊กของผมต้องมานั่งซดมาม่าอยู่นี่ครับ" มาถึงก็ปากดีเลยน่ะไอ้กัน

"ช่วงนี้กูเลี้ยงเด็ก ต้องใช้เงินเยอะ"

"หูยเป็นอมตะ เคี้ยวกรุบๆ ดีไหมมึง"

"กรุบพ่อมึงสิ ทะลึ่ง"

"โหยแม่งปกป้อง สงสัยคนนี้จริงจัง"

ไม่ทันจะคิดอะไร ไอ้แทนกับพี่หมอกก็มาสมทบ

"พี่ว่าช่วงนี้โจ๊กดูเหนื่อยๆ เพลียๆ น่ะ หักโหมไปเปล่า" พี่หมอกมึงก็นับวันจะอยากรู้อยากเห็นเหมือนน้องตือไปล่ะ

"เออจริง ว่าแต่มึงไปทำไรมา"

มึงอยากรู้จริงๆ ใช่ไหมไอ้แทน กูจะเล่าให้ฟัง ก็เค็กน้องมึงน่ะ อยากได้ I-Phone X ราคาแม่งก็ 50,000 ต้นๆ น้องมึงก็จะรีบทำงานให้ครบ กูให้น้องแม่งทำไปได้ 24,000 น้ำกูก็จะออกหมดตัวแหละ นี่ดีนะกูบอกให้น้องมันผ่อนจ่ายสองงวดได้ ไม่งั้นกูคงนอนพงาบอยู่ที่โรงบาล

"อ่านหนังสือหนักน่ะ" เนียนไม่เนียนไม่รู้ รู้แต่ว่ากูต้องเอาตัวรอด พูดเสร็จแม่งก็เบ้ปากแล้วเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น ทิ้งกูไว้กลางทาง

การเรียนก็เป็นปกติครับ ถึงแม้ผมจะเจ้าชู้เกเรยังไง แต่เรื่องเรียนก็สำคัญ เพราะมันเป็นตัวกำหนดอนาคต ซึ่งเพื่อนๆ ทุกคนก็คิดเหมือนกันครับ ยังไงตั้งใจเรียนในห้องก็ดีกว่าอ่านเองครับ พวกผมเลยตั้งใจเรียนกันเป็นพิเศษ ถึงเวลาเลิกเรียนก็ต้องรีบกลับครับ เดี๋ยวน้องมันรอ

"เฮ้ย.... พวกมึงเดี๋ยวกูกลับก่อน"

"หูยยยยย สงสัยคนนี้แม่งจริงจัง เรียนเสร็จแม่งกลับปั๊บ ช่วงนี้แม่งก็ไม่เที่ยว ผู้หญิงก็ไม่ยุ่ง คงจะสิ้นลายกันคราวนี้แหละครับ"

"ไอ้กันปากดี เดี๋ยวกูเอากระถางปาหัว" ขนลุกเลยสิมึง

 

จะว่าไปช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน เพราะน้องมันอยู่ห้องคนเดียว มีบ้างที่น้องออกไปข้างนอกคนเดียวบ้างแต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล มากสุดก็เซเว่นใต้ตึก เนื่องจากไม่ชินพื้นที่และไม่มีเพื่อนที่นี่ จะมีบางครั้งที่ผมชวนไปเดินห้างดูหนัง แต่เจ้าตัวก็ไม่ไปบอกเปลืองเงิน จนผมต้องบอกว่ามีงานรับกินข้าวด้วย น้องแม่งก็ทำหน้างงว่ามีด้วยเหรอ ผมนี่แถไปยาวๆ บอกดาราทำกันเยอะแยะ แต่น้องมันไม่รับเงินนะครับ บอกแค่ผมเลี้ยงก็เกรงใจแล้ว จะเกรงใจทำไม นี่กูอุตสาห์แดกมาม่าเผื่ออดออม วันนี้ชวนน้องไปดูหนังดีกว่า

 

ผมรีบเดินมายังบิ๊กไบค์คู่ใจเพื่อจะรีบกลับ แต่ต้องผงะเมื่อเจอคู่ขาเก่าอย่างน้องนก บัญชี

"พี่โจ๊กวันนี้ไปไหนรึเปล่า นกเบื่อๆ ไปเอากันดีกว่า" ตรงแท้ น้องเอ๋ย

"พี่ต้องรีบกลับนะครับ พอดีมีธุระโทษทีนะครับ"

 

พูดเสร็จผมรีบออกรถแทบไม่ทัน ทำไมตามตื้อขนาดนี้ นก ไม่ใช่แฟนผมนะครับ ผมจะเรียกว่าอะไรดีล่ะครับ sex-friend? เราต่างชอบพอกันในเซ็กส์เท่านั้นแค่มาเจอกันเวลาที่อยาก พอได้สมอารมณ์หมายก็ต่างคนต่างไป แต่ก่อนก็ไม่อะไรมาก แต่พอผมปฏิเสธบ่อยๆ เข้าก็มีมาดักรออย่างที่เห็น จนผมไม่รู้จะทำยังไง แต่โทษใครได้ครับ เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอง อย่างน้อยวันนี้ผมก็รอดแหละ ว่าแต่ทำไมผมต้องปฏิเสธล่ะ ผมเคยคิดหาคำตอบว่าทำไมผมจึงปฏิเสธผู้หญิงทุกคน และเลือกที่จะมีกับน้องเค็กคนเดียว หรือผมจริงจังที่จะคบกับน้องมัน แต่ด้วยสมองอันชาญฉลาดของผมก็คิดได้ว่า สงสัยผมคงมีอะไรกับน้องมันมากเกินไป จนไม่รู้สึกอยากจะมีอะไรกับคนอื่น คิดได้อย่างนั้นก็สบายใจ

 

ผมขับรถไม่นานก็ถึงคอนโดครับ ด้วยความที่เป็นบิ๊กไบค์ทำให้ฝ่ารถติดได้อย่างง่ายดาย กลับมาถึงห้องก็สบายใจ จำสภาพห้องเก่าแทบจะไม่ได้ แต่ก่อนนี่ผมแทบจะใช้ขาเขี่ยหาทางเดิน ด้วยความที่เป็นผู้ชายแมนๆ กับความซกมกเป็นของคู่กัน ห้องเลยรกสุดจะบรรยาย แต่ตั้งแต่น้องมันมาอยู่ห้องสะอาดโล่ง ฝุ่นสักนิดก็ไม่มี เสื้อผ้าซักรีดใส่ตู้เรียบร้อย แถมบางวันน้องมันว่างทำอาหารเย็นให้อีกต่างหาก เคยบอกว่าไม่ต้องทำเกรงใจ น้องมันก็บอกอยู่ว่างๆ ก็เบื่อ และงานบ้านก็เป็นงานไม่กี่อย่างที่น้องมันทำได้ เพราะที่บ้านไม่ค่อยปล่อยให้ไปทำอะไรข้างนอกเท่าไหร่เพราะเป็นห่วง งานที่พอจะทำได้ก็มีแค่งานบ้านเท่านั้น แต่น้องมันถ่อมตัวครับ เพราะมันไม่ใช่แค่ทำได้ แต่ทำได้ดีเยี่ยมเลยล่ะครับ สะอาดเรียบร้อย อาหารนี่อร่อยอย่างกับร้านมิชลิน ผมได้กินทีเหมือนอยู่บนสวรรค์ เงียบขนาดนี้ สงสัยออกไปเดินเล่นใต้ตึกหรือไม่ก็ไปเซเว่น แต่ยังไงวันนี้ก็ไม่รีบอยู่แล้วครับ เพราะหนังดูรอบดึกก็ได้ครับ งั้นระหว่างรอพี่โจ๊กไปอาบน้ำดีกว่า เผื่ออาบเสร็จน้องมันจะให้สักดอกก่อนไป อิอิ

 

ผมอาบไปสักพักได้ยินเสียงเปิดประตู สงสัยน้องกลับมาแล้ว

"เค็ก พี่อาบน้ำอยู่ มาอาบด้วยกันไหม" ผมตะโกนถาม แม้จะเคยมีอะไรกันมาทุกที่แล้ว แต่ในห้องน้ำก็ตื่นเต้นดีครับ อิอิ

ไม่นานนักก็มีมือ เอื้อมมากอดจากด้านหลัง วันนี้ว่าง่ายแฮะ ทุกทีต้องหลอกล่อกว่าจะมาได้ ผมค่อยๆ หันหน้าไปสบตากับเจ้าของมือเล็กๆ แต่ต้องผงะเมื่อรู้ว่าคนที่มากอดผมนั้นไม่ใช่น้องเค็ก แต่เป็นนกนั่นเอง

"เข้ามาได้ยังไงน่ะนก" ผมรีบผละออกด้วยความตกใจ

"ทำไมต้องตกใจด้วยล่ะ ก็ไขกุญแจเข้ามาไง พี่โจ๊กให้นกไว้ จำไม่ได้เหรอ" ตายๆ กูให้ใครไปบ้างจำไม่ได้แล้ว สงสัยต้องเปลี่ยนกุญแจ

"นกออกไปก่อน เดี๋ยวพี่แต่งตัวแวบ"

"จะอายทำไม อมก็อมมาแล้ว จะมาอายทำไม" กูไม่ได้อาย เข้าใจกูด้วย

ผมทำหน้าอึดอัดใจ จนต้องเอ่ยปากถาม

"ทำไมไม่ยอมมีอะไรกับนก หรือของพี่โจ๊กไม่แข็ง"


ในวินาทีนั้น สัญชาตญาณความเป็นชายมันถูกหยามไม่ได้ ผมเลยทำตามที่นกต้องการ ในเมื่อเซ็กส์มันก็เป็นแค่เซ็กส์ ผมจะไปซีเรียสทำไม ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรุนแรงตั้งแต่ต้นจนจบ ตามสัญชาตญาณดิบในตัว ผมก็มีความสุขกับเซ็กส์เหมือนทุกครั้ง แต่ทำไมครั้งนี้ตอนทำเสร็จแล้วผมถึงรู้สึกแย่ ผมนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างเตียงหลังจากไม่ได้สูบมานานแล้ว เพราะน้องเค็กมันแพ้ควันบุหรี่ ได้กลิ่นมากๆ แล้วน้องมันจะป่วยเป็นไข้ ผมเลยค่อยๆ ลดจำนวนลง ทำไมผมถึงต้องรู้สึกไม่ดี ทั้งๆที่เซ็กมันก็คือเซ็กเหมือนทุกครั้ง ผมไม่รอช้ารีบเร่งให้นกแต่งตัวออกไป แม้นกจะอิดออดบ้าง แต่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย เพราะเธอได้ในสิ่งที่เธอต้องการเรียบร้อยแล้ว และทุกๆ อย่างก็หยุดนิ่ง เมื่อมีอีกคนปรากฏตัว


" อ้าวน้องมาอยู่ด้วยเหรอ ทำไมไม่บอกนกก่อน จะได้ออกไปเอากันข้างนอก" ไม่มีการพูดจาใดๆเกิดขึ้น มีเพียงการจ้องตาของผมกับเค็กเท่านั้น

"งั้นพี่ไปก่อนน่ะจ๊ะ ชื่อไรจ๊ะหน้าตาสวยเหมือนเด็กผู้หญิงเลย" เค็กยกมือไหว้อย่างนอบน้อม นกหันหลังมายิ้มให้ผมก่อนจากไป

 

อะไรคือความกระอักกระอวลที่เกิดขึ้น ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมผมต้องรู้สึกผิด ผมลุกขึ้นแต่งตัวตามปกติ แม้จะงงในการหาคำตอบให้กับตัวเอง แต่บรรยากาศทุกอย่างเงียบสงบจนน้องเค็ก เป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน

"พี่จะกินข้าวเลยไหม เค็กซื้อข้าวเย็นมาให้แล้ว"

"อืม"

ทุกๆ อย่างยังคงเงียบ ไม่มีการพูดคุยใดๆ และคืนนั้นเป็นคืนแรกที่ผมกับน้องไม่ได้มีอะไรกัน ทุกๆ อย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

 

จนวันนี้หลังผมกลับมาจากเรียน ทุกๆ อย่างยังปกติเหมือนเดิม ของทุกอย่าง ทุกชิ้นที่ผมซื้อให้น้อง มันยังอยู่ที่เดิมอย่างที่มันเคยเป็น จะไม่เหมือนเดิมที่น้องเค็กไม่อยู่แล้ว มีเพียงกระดาษโน้ตเล็กๆ ที่เขียนไว้ว่า

 

"มีธุระด่วนรีบบินกลับ ขอบคุณนะครับที่ดูแลมาตลอด"

 

ของทุกอย่างที่ซื้อด้วยเงินของผมยังอยู่ครบทุกชิ้น เรียกได้ว่าน้องเข้ามาตัวเปล่ายังไง ก็ออกไปตัวเปล่าเช่นนั้น น่าแปลกตรงที่ของทุกชิ้นที่ซื้อนั้นล้วนเป็นสิ่งที่น้องเค็กอยากได้มาก แต่น้องก็ไม่เอ่ยปากขอพ่อแม่ทั้งที่แค่พูดท่านก็แทบประเคนให้แล้ว แต่น้องกลับอยากหามาด้วยตัวเอง แม้ของบางอย่างจะดูฟุ่มเฟือย แต่น้องก็ใช้อย่างคุ้มค่าจริงๆ หรือน้องมันจะไม่อยากได้ของพวกนี้แล้ว

 

ชีวิตของผม ทุกๆ อย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมเที่ยว ดื่ม สูบบุหรี่เหมือนเดิม รับผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาเหมือนเดิมเช่นกัน ผมกลับมาเป็นคนเดิม แต่ทำไมในใจผมเจ็บ ยังคงคิดถึงใครคนนึงที่เข้ามาในชีวิต มันอาจเป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ แต่ทำไมผมยังคิดถึงทุกครั้งที่กลับห้อง และผมยังคงมาเที่ยวร้านเดิมที่เคยเจอคนๆ นั้น และยังมองหาคนๆ นั้นที่โต๊ะเดิมอยู่ดี.....


--------------------------------------------------------------


ตอนนี้มาช้าหน่อยขอโทษที่ให้รอน่ะคะ ติดงานไปอาทิตย์นึง เลยรีบพาโจ๊กมาให้แม่ๆ ดูใจ หวังว่าคงมีคนหลงรักผู้ชายเจ้าชู้ที่ดูโง่ๆ ในเรื่องความรักแบบโจ็กน่ะคะ ตอนหน้าเอาไงกันดีค่ะ เอาโจ๊กต่อ หรือขนของย้ายเข้าบ้านผู้ชายกันดีค่ะ

Aemmilicious

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :fcuk: ขอที โทษฐานการทำให้น้องเค้กเสียจายยยย  :m16:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
​ตอนที่ 26 : โจ๊ก & เค็ก The begining



- เค็ก Part -


คุณคิดว่า “รักแท้” สามารถเริ่มต้นจากเซ็กส์ได้ไหม?


ความรักเป็นสิ่งเดียวที่ผมไม่เข้าใจ แม้จะพยายามหาคำตอบอย่างไรก็ไม่สามารถหาได้ และเป็นสิ่งเดียวที่ google ไม่มีคำตอบ ใครเป็นคนนิยามความรักขึ้นมา ความรักไม่มีรูปแบบ ไม่มีจุดตายตัวว่าต้องเป็นเช่นไร แม้ผมจะเจ็บช้ำกับความรักที่มีตัวกำหนดด้วยเรื่องเพศมาก่อนหน้า จนคิดว่าพอแล้วสำหรับความรัก แต่ชีวิตกลับเล่นตลก ผมกลับตกหลุมรักคนๆ นึงอย่างง่ายดาย เรามีความสัมพันธ์กันชั่วข้ามคืนด้วยเซ็กส์ล้วนๆ แม้ผมจะเจ็บกับรักครั้งเก่าและกลัวที่จะเริ่มต้น จนต้องหนีออกมา แต่โชคชะตาก็นำพาให้เราได้พบกันอีก

พี่แทนเคยพูดไว้ว่าคนเราเจอคนที่เราชอบครั้งแรกมันเป็นเรื่องความบังเอิญ แต่ถ้ามาพบเจออีกครั้งคือพรหมลิขิต ถ้านี่มันเป็นพรหมลิขิต ผมจะเชื่อในความรักได้อีกครั้งไหม ผมเรียนรู้ที่จะรักแบบระวังตัว รักแบบเผื่อเจ็บ แต่กำแพงที่สร้างมันก็พังทลายหมดเมื่อเราได้ใกล้ชิดกัน จริงอยู่ที่ในความสัมพันธ์ของเรานั้นมีเซ็กส์เป็นเรื่องหลัก แต่มันก็ทำให้ผมหวั่นไหวและค่อยๆ รักจนรู้ตัวอีกทีก็หมดใจ ผมคงเป็นคนใจง่ายที่โง่ที่หลงรักคนเจ้าชู้ และเชื่อมั่นว่าความรักจะเยียวยาทุกอย่าง จะเปลี่ยนคนๆ นึงได้ ผมมีความสุขในทุกๆ วันที่อยู่ด้วยกัน จนลืมไปแล้วว่าความเจ็บมันเป็นยังไง

และแล้ววันนึงผมก็รู้ว่าความรักที่เริ่มต้นด้วยเซ็กส์มันคงจะเป็นจริงไม่ได้ ในเมื่อเราเริ่มต้นด้วยเซ็กส์มันก็ต้องจบด้วยเซ็กส์ เสือยังไงก็คือเสือ เราจะมีอะไรไปหยุดคนเจ้าชู้ ผมนั่งคิดและดูตัวเอง บางทีผมคงไม่มีอะไรดีให้ใครมารัก ถ้าต้องจบแบบเกลียดกัน ผมคงทนไม่ได้ ผมยังอยากรู้อยากเห็นว่าเค้ายังมีความสุขอยู่ ผมจึงตัดสินใจเดินออกมาแม้ผมจะบอกเค้าว่าจะบินกลับต่างประเทศแล้ว แต่ใจของผมยังอยากอยู่ใกล้ๆ ผมยังแอบไปดูในบางครั้งว่าในเมื่อไม่มีผมแล้วเค้าจะเสียใจหรือคิดถึงผมบ้างไหม แต่ผมก็ต้องเจ็บทุกครั้งที่เห็นเค้าควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า และยังทำตัวเหมือนเดิมเช่นที่เคยเป็น ผมคงหาคำตอบได้แล้วว่าความรักที่เริ่มต้นจากเซ็กส์นั้นคงไม่มีจริง เรื่องบางเรื่องไม่มีตำราให้เราศึกษาเราคงต้องเรียนรู้ที่จะเจ็บและจำ


-----------------------

 
- โจ๊ก Part -

 

เวลานี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ค่อยอยากรีบกลับ แม้เวลาจะผ่านมาร่วมเดือนแล้ว แต่ทำไมเวลาผมกลับห้องทีไรมันรู้สึกโหวงๆ เหมือนขาดอะไรชอบกล มันทำให้ผมต้องออกเที่ยวทุกวัน เผื่หลีกหนีจากความอ้างว้าง แม้ผมจะมีคู่นอนไม่ซ้ำหน้า แต่ผมก็รู้สึกเหงาเหมือนขาดอะไรไป ผมก็เป็นผมคนเดิม แต่ทำไมยังคิดถึงเค็กอยู่ตลอด เฮ้ออออ สงสัยต้องย้ายคอนโดซะละมั้ง ออกจากที่เดิมๆ เผื่ออะไรจะดีขึ้น ผมนั่งสูบบุหรี่พร้อมถอนหายใจไปพร้อมๆ กัน

 

"เป็นเหี้ยไรว่ะโจ๊กทำหน้าเป็นส้นตีนเลย" ไอ้แทนเดินมาทักพร้อมเอามือลูบหน้าว่าเหมือนตีนไหม มึงเล่นดูอารมณ์กูด้วย

"ไม่รีบไปหาน้องหนึ่งรึมึง" ปกติกูเห็นรีบกลับตลอด

"หนึ่งมีคุยงานกับอาจารย์น่ะ เสร็จแล้วเดี๋ยวมันโทรมา" ผมพยักหน้าเข้าใจ พร้อมมองทอดอารมณ์ไปไกลๆ อย่างล่องลอย

"มีไรปรึกษากูได้น่ะโว๊ย" ผมลังเลเล็กน้อย แต่ไหนๆ เรื่องก็จบไปแล้ว คงไม่เป็นไร

"แทน สมมุติน่ะ ถ้ามึงไปมีอะไรกับคนๆนึงด้วยเซ็กส์ล้วนๆ ไม่มีความรัก"

"มึงจะมาคิดอะไร มึงแม่งก็ทำออกบ่อย" เออ กูมันเหี้ย แต่ฟังกูก่อน

"แต่มึงกลับคิดถึง อย่างสุดหัวใจ"

"ลีลาน้องเค้าคงดีมั๊งมึง มึงเลยติดใจ ใครว่ะ คณะไหน"

"แต่มึงคิดถึงเค้าทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องบนเตียงล่ะ"

"คิดถึงยังไง"

"ก็คิดถึงตอนอยู่ด้วยกัน คิดถึงหน้าตอนนอน ตอนตื่น ตอนมีความสุข ยังคงไปทุกๆ ที่ที่เคยไปด้วยกัน และยังมองหาเค้าในที่ๆ เดิม มึงว่ามันแปลกไหมว่ะ"

"มึงตกหลุมรักแล้วว่ะโจ๊ก" นี่มันคืออาการของคนตกหลุมรักหรือ ที่แท้ผมก็รักน้องเค้ก …. แต่เฮ้อออออ

"มึงจะมานั่งถอนหายใจทำเหี้ยไรล่ะ ไปบอกน้องเค้าสิว่ามึงรักเค้า ฉลาดทุกเรื่องมาโง่อยู่เรื่องเดียว" แทนพูดพร้อมส่ายหัว

"กูว่ามันคงสายไปแล้วล่ะ มันจบแล้วล่ะ"

"สายไปยังไง น้องมันตายแล้วรึไง" ผมส่ายหน้า

"ถ้าน้องมันยังไม่ตายแล้วมึงลองไปบอกน้องรึยัง"

"แต่น้องเค้าอยู่ไกล"

"ระยะทางเป็นปัญหากับเสี่ยโจ๊กด้วยเหรอมึง"

ผมนั่งลังเล คิดอะไรในหัววนไปหมด

"รอเหี้ยไรล่ะ รีบไปสิวะ"

ผมรีบลุกแล้ววิ่งออกมา ไม่ลืมที่จะหันไปขอบคุณไอ้แทน

"ขอบใจน่ะโว้ยแทน ถ้ากูคบกับน้องเค้ามึงอย่าเกลียดกูน่ะโว๊ย"

"มึงแค่โง่ กูจะเกลียดมึงทำไม" แทนหัวเราะพร้อมโบกมือไล่ให้ผมรีบไป

 

ผมไม่รอช้ารีบแพ็กของไปหาเค็กที่อเมริกาอย่างไว พร้อมจองตั๋วและเอกสารทุกอย่างอย่างรีบเริ่ง ด้วยเส้นสายของทางบ้านที่มีอยู่ทำให้ผมได้วีซ่าและทุกๆ อย่างมาในวันเดียว ขอบคุณครับป๋าม๋า เดี๋ยวโจ๊กเอาลูกสะใภ้ไปฝาก

 

ผมรีบโทรหาแทนให้ช่วยไปส่งที่สนามบินและขอความช่วยเหลือ พร้อมอ้างว่าผู้หญิงที่ผมจะไปหานั้น อยู่รัฐเดียวกับบ้านมันเลยจะขออยู่อาศัยที่บ้านมันสักสองวัน มันก็ตอบตกลงอย่างง่ายดาย ยังไงครั้งนี้สำเร็จ โจ๊กรับรองจะเป็นน้องเขยที่ดีน่ะครับพี่แทน

 

นี่ก็เป็นเวลาเกือบจะตีสองแล้ว แต่แทนก็ทำหน้าที่เป็นสาระถีรับส่งผมอย่างดี จนกูรู้สึกบาปที่แดกน้องเพื่อน จนต้องเอ่ยถาม

 

“แทน กูขอบคุณมึงน่ะที่ไปส่ง”

“เออ ไอ้ห่านี่คบมาตั้งนาน มานั่งทำซึ้งเหี้ยไรตอนนี้”  เอาซะกูรู้สึกผิดเลย

"แทนกูสมมุติน่ะ สมมุติว่ามึงไปชอบน้องไอ้กัน มึงจะทำยังไง"

"หูย กูมีหนึ่งแล้ว กูไม่เจ้าชู้แบบมึงหรอก" ด่ากูว่าเหี้ยเลยดีกว่าถ้าจะทำให้มึงสบายใจ

"กูสมมุติ"

"อืมมมมม ถ้ากูจริงใจกับน้องไอ้กัน กูว่าไอ้กันมันคงไม่ว่าอะไรน่ะ คนสองคนรักกันจะห้ามยังไงว่ะ"

"แล้วถ้ากลับกัน ถ้าไอ้กันมาหลงรักน้องมึง มึงทำไงว่ะ"

"เรื่องสมมุติใช่ป่ะ"

"เออ"

"กูก็คงโอเคน่ะ น้องกูมีความสุข กูก็มีความสุข"

ได้ยินแบบนั้นผมก็สบายใจ มึงคงไม่ทำกูหนักใช่ไหม กูจริงใจกับน้องมึงขนาดนี้ เออ ว่าแต่....

 

"ได้ข่าววันนี้น้องหนึ่งไปค้างที่คอนโดมึง ขอโทษทีนะโว้ยที่ให้มึงมาส่ง น้องหนึ่งเลยต้องอยู่คนเดียว"

ไอ้แทนหัวเราะ

"มึงคิดว่ากูจะปล่อยเมียกูให้อยู่คนเดียวไหม นี่น้องกูอยู่ด้วย กูเลยมาส่งมึงได้ ไม่งั้นมึงนั่งแท็กซี่ไปล่ะ"

"อะไรน่ะ ไอ้แทน" กูขอชัดๆ อีกที

"หูมึงตึงหรือโจ๊ก แทงแต่หญิง รูหูมึงหัดแคะบ้างน่ะมึง"

"แทนหยุดรถ เมื่อกี้มึงบอกว่าไงน่ะ" แทนจอดรถชิดข้างทางอย่างเสียอารมณ์

"กูบอกมึงว่า เมียกูอยู่กับน้องกู"

"เค็ก?"

"เออ กูมีน้องคนเดียว ไอ้ห่านี่ถามแปลกๆ" ผมตาลีตาเหลือกลนลาน

"แทนกลับรถไปคอนโดมึง"

"นี่บนทางด่วนมึงกลับยังไง แล้วมึงไม่ไปอเมริกาแล้วรึ"

"กู.... กูจำวันผิดน่ะ ช่วงนี้สติไม่อยู่กับเนื้อกลับตัว ขอไปตั้งสติที่คอนโดมึงก่อน"

"คอนโดกู? กลับไปตั้งที่คอนโดมึงไหม"

"ไม่ได้มึง คือ..... แบบศาลพระภูมิที่คอนโดมึงแม่นมาก กูว่าจะไปไหว้ให้ชี้แนะหน่อย"

"ทำไมกูไม่เคยได้ยิน"

"มันพึ่งดังน่ะ ขับๆ ไปเถอะมึง" แม้จะงงๆ อยู่บ้าง แต่ไอ้แทนก็ทำตามอย่างว่าง่าย

 

ขับรถไม่นานก็ถึงคอนโดไอ้แทน

"โจ๊ก เดี๋ยวกูวนไปหาที่จอดรถก่อน มึงไปนั่งพักที่ห้องกูก่อนล่ะกัน เดี๋ยวกูตามขึ้นไป"

ผมรีบพนักหน้าแล้วรีบขึ้นตึกอย่างไว ในใจคิดอะไรไปต่างๆ นาๆ ประหม่า กลัว ไม่รู้จะอธิบายยังไง

ผมรีบกดออด ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ระยะเวลาที่รอให้คนมาเปิดประตูช่างยาวนานเหลือเกินสำหรับผม

 

"พี่แทนทำไมกลับช้าจัง พี่หนึ่งหลับไปแล้วนี่" ผมรีบโผเข้ากอดน้องเค็ก คิดถึงเหลือเกิน น้องรีบพลักผมออก 

"อ้าวพี่โจ๊กหวัดดีครับ มาได้ไงพี่" ท่าทีห่างเหินแบบนี้คืออะไร ผมไม่รอช้ารีบง้อคืนดี

"พี่มาหาหัวใจ" เค็กทำหน้างง พี่ลูกทุ่ง พี่ขอโทษ

"เค็ก พี่ขอโทษที่รู้ตัวช้า ขอโทษที่ทำให้เค็กเจ็บ เค็กให้โอกาสพี่ได้ไหม" เค็กไม่พูดอะไร ตาแดงนิดๆ เหมือนจะร้องไห้

"พี่รักเค็กน่ะ เค็กเป็นแฟนพี่ได้ไหม" เค็กยังคงไม่ตอบอะไร

"พี่จะไม่มีคนอื่น พี่จะมีเค็กคนเดียว รักเค็กคนเดียว เค็กอยากได้อะไร พี่จะให้เค็กทุกอย่าง เค้กคบกับพี่ได้ไหม พี่รักเค็กมากน่ะ"

เค็กร้องไห้และโผกอดผม พร้อมกระสิบข้างหู

"คิดว่าพี่จะไม่มาซะแล้ว"

ผมรีบผละออกพร้อมจับหน้าเค็ก

"สรุปเค็กตกลงเป็นแฟนพี่แล้วน่ะ"

"อืม" เค็กพูดพร้อมพยักหน้า

"จริงๆ น่ะ"

"อืม" ผมร้องเฮดีใจลั่น จนเค็กต้องบอกให้ผมเงียบๆ ผมโผเข้ากอดเค็ก เฮ้ออออ และแล้วผมก็ได้เค็กกลับคืนมา ไม่รู้ว่าเรากอดกันนานเท่าไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็มีเสียงอันดุดันมาจากด้านหลัง

 

"มึงทำไรน้องกู" ผมหันหลังกลับไปมอง คนๆ นั้นคือแทนเพื่อนรักของผม ผมจับมือเค็กและหันไปบอกแทน

"แทน กูกับเค็กรักกัน กูตกลงจะคบกันน่ะ หวังว่ามึงจะเข้าใจ" หลังจากที่หลอกถามมันแล้วดูมันจริงใจในคำตอบ มันคงยอมรับผมกับเค็กได้ เพราะเรารักกัน

"มึงอย่าบอกน่ะ ว่าคนที่มึงบอกกูว่าเริ่มต้นด้วยเซ็กส์คือน้องกู"

ผมพยักหน้า

“ใช่ กูรักน้องมึงอย่างจริงใจ หวังว่ามึงจะไม่ว่าอะไร และยินดีกับความรักของกูกับน้อง” ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เต็มไปด้วยบรรยากาศของความรัก มันช่าง......

“ที่กูตอบมึงน่ะมันเป็นเรื่องสมมุติ”

หืมมมมมมมมมมมมมม


 

"พี่โจ๊ก อ้าปากเค็กป้อนแอปเปิ้ลให้" ผมอ้าปากรับอย่างว่าง่าย แหม... บรรยากาศช่างดีเหลือเกิน

"ดูมึงอารมณ์ดีไปน่ะโจ๊ก ไอ้แทนน่าจะหักขามึงอีกท่อน" อ้าวสรุปกูอยู่โรงบาล ไอ้แทนไม่ได้ทำอย่างที่คุยกันในรถ แต่แม่งกระทืบผมไม่เหลือชิ้นดี นี่มันยังปราณีน่ะครับที่ไม่หักขาผมเล่น หักแค่แขนกับคอที่ต้องใส่เฝือก กับรอบช้ำตามตัว ขอบคุณที่เว้นหน้ากูด้วยกูต้องใช้ทำมาหากิน แต่ได้เมียกลับคืนมาก็ถือว่าคุ้มครับ

“อิจฉากูล่ะสิ กัน ทำไมไม่ให้หวานแฟนมึงปลอกให้”

“จริงกัน หวานอยากกิน”

“สรุปคือหวานจะให้กันปลอกให้กิน ทำไมมันสับกันล่ะ”

“กันบนหัวเตียงมีกระถางดอกไม้” พูดเสร็จไอ้กันก็ปลอกเปลือกเรียงใส่จานอย่างสวยงาม สบน้ำหน้าพวกขี้อิจฉา

“พี่บอกแล้วไงครับตือ พี่บอกแล้วโจ๊กมันยังอยู่ดี ตายแล้วค่อยไปงานมันก็ได้ เรากลับบ้านไปทำอะไรกันดีกว่า” ปากมึงก็ดีขึ้นเรื่อยเนอะพี่หมอก ชิ

“น้องพี่หิวน้ำ ป้อน ป้อน” น้องเค้กก็ว่านอนสอนง่าย ฮอลลลลล

“กูว่ากูหักไปข้างเดี๋ยวน่ะ อีกข้างน่าจะยังใช้ได้อยู่” ผมสะดุ้งยกมือขึ้นไหว้

“สวัสดีครับพี่เมีย”

“พี่เมียเหี้ยไรโจ๊ก กูแค่ให้ดูๆ กันไปก่อนอย่ามาลุ่มล่าม” ทำไมพี่เขยไม่อ่อนโยนกับโจ๊ก

“แต่เราได้กันไปแล้วน่ะครับพี่เมีย”

“ก่อนหน้านั้นกูไม่นับ กูนับตั้งแต่ตอนนี้” เอ๊าทำไมใจร้ายกับโจ๊ก

“แสดงว่าหลังจากนี้ถ้าได้กันก็เรียกพี่เมียได้ใช่ไหมครับ”

“อย่ากวนตีนกูโจ๊ก เดี๋ยวแขนอีกข้างจะไม่เหลือ”


นี่ยังดีที่น้องหนึ่งมาด้วยเลยมีคนห้ามปราม ตอนนี้แทนมันเป็นใหญ่ผมคงต้องยอมๆ มันไปก่อน แต่คิดหรือครับว่าผมจะเชื่อฟัง มีโอกาสพี่โจ๊กก็ต้องโจ๊ะ ไม่ต้องออกจากโรงบาลอะไรหรอกครับ เดี๋ยวไอ้แทนกลับพี่โจ๊กก็เริ่มโจ๊ะตั้งแต่ในโรงบาลแล้วล่ะครับ จุ๊ๆๆๆๆ ครับ อย่าเอ็ดไปเดี๋ยวแม่งได้ยิน


-----------------------------------------------



มาแล้ว มาเร็วมาก เป็นตอนที่เขียนเร็วที่สุด ใช้เวลาเพียง 1 วัน ปกติตอนนึงนี่เขียนใช้เวลา 3-4 วัน กว่าจะคิดเรื่องในตอนนั้นๆ ก็สุขสมอารมณ์หมายกันไปอีกคู่ ใครเชียร์โจ๊กก็ไปเยี่ยมโจ๊กที่โรงบาลได้ ใครสบน้ำหน้าโจีกไปตามด่าได้เช่นกัน ตอนหน้าเมื่อผู้ชายชวนเข้าบ้าน เราก็ต้องไปตามนัดน่ะคะ เอาค่ะ ตอนหน้ามาช่วยกันขนของ

P.S. หิววววววว

Aemmilicious

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
โจ้ก......สภาพเละเลยอ่ะ เขาว่าโจ้กอร่อยมันต้องเละ ๆ น้องเค้กคงชอบ  :hao3:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 28 : ซ่องโจร


แม้จะนอนไม่หลับเพราะการชวนไปอยู่ด้วยกันของแทน แต่นอนไปนอนมาสักพักก็หลับเพราะมันง่วง คิดมากก็ปวดหัว ในเมื่อมันชวนแล้วยังไม่ตอบก็คือไม่ผิด เมื่อคิดได้แบบนั้นก็นอนหลับอย่างสบายใจ ผมตื่นเช้ามาด้วยความหิวโหย ยังไงเรื่องมันยังไม่เกิด เอาไว้เรื่องเกิดค่อยคิด เมื่อคิดได้เช่นนั้นผมจึงแต่งตัวลงมาทานอาหารเช้ากับแม่สุดที่รัก ผมรีบวิ่งมายังโต๊ะอาหาร แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นแทนใส่สูทผูกไทนั่งเป็นประทานอยู่หัวโต๊ะ

"แทนมึงมาทำไม"

"มาคุยงานครับเมีย นั่งให้เรียบร้อยจริงจังด้วย"

"จริงจังอะไรของมึงแทน วางกาวในมือลงก่อนแล้วค่อยๆ คุยกัน"

"ผัวจริงจังอยู่นะครับ ทำไมเมียชอบพูดเล่นครับ"

"อย่าบอกกูนะว่า......"

"อ้าว หนึ่งมาพอดี ทานข้าวเช้ากันเร็ว แม่ทำเสร็จพอดี แทนทานเยอะๆ นะลูก"

"วันนี้แม่สวยจังครับ นี่ผมคิดว่าตาฝาดเห็นนางฟ้า" ดูจากการชมของมึงวันนี้มึงคงเอาจริงสินะแทน อย่าบอกกูนะว่า....

"แม่ครับ ผมว่าจะขอหนึ่งไปอยู่ด้วยครับ"

"เอาสิ ไปค้างกี่คืนลูก"

"ไม่ใช่ครับแม่ ผมจะมาขอให้หนึ่งย้ายไปอยู่ด้วยกันเลยครับ" ผมรีบตรงดิ่งไปชกหน้าไอ้แทน

"โอย... ใช้ความรุนแรงอีกแล้วนะครับเมีย" มันหันมาทำหน้าบู่ใส่แล้วหันไปคุยกับแม่ผมต่อ

"ผมอยากขอให้แม่ให้หนึ่งย้ายไปอยู่กับผมเลยนะครับ" ดูท่าแม่ผมจะลังเลใจ ไอ้แทนจึงย้ำอีกประโยคให้แม่ผมวางใจ

"ถ้าห่วงว่าจะมีอะไรเกินเลย แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะมีอะไรเกินเลยตั้งแต่ก่อนย้ายไปอยู่ด้วยกันแล้ว เรื่องนั้นอยากให้วางใจได้" ล่อซะแม่กูแทบตกเก้าอี้

"แม่ อนุญาต แต่แม่อยากจะไปอยู่ด้วย แม่ฟิน โมเม้นท์มันได้"

"ผมว่าแม่ค่อยไปเยี่ยมบ่อยๆ ดีกว่าครับ" แม่ทำหน้าเข้าใจ กูว่าเรื่องมันดูง่ายไปนะ

พูดเสร็จแทนก็ก้มลงกราบแม่ที่ตัก

"แม่ครับ ผมขอบคุณแม่นะครับที่แม่ช่วยผมมาตลอด ถ้าไม่มีแม่ผมก็ไม่มีวันนี้ ผมสัญญานะครับว่าผมจะดูแลหนึ่งอย่างดีแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ" แม่น้ำตาคลอพูดไม่เป็นภาษา

"แม่.... แม่อยากได้กล้อง หนึ่งถ่ายรูปให้แม่หน่อย" จบหมวดความฟินของสาววาย ล่อซะแม่กูยิ้มนอนฝันไปอีกนาน


ผมทานข้าวสักพักก็ต้องรีบไปเรียนครับ เพราะวันนี้มีเรียนเช้า ผมรอแม่ถ่ายรูปจนพอใจจึงปล่อยให้ขึ้นรถไปเรียนได้ เรียกได้ว่าคืนความสุขให้สาววายฟินสุดๆ กันไปเลย

คุณชายแทนนั่งอารมณ์ดีพลางปลดไทให้สบายขึัน

"มีความสุขจริงนะมึง"

"ครับเมีย"

"มึงคิดจะถามอะไรกูสักคำก่อนมาไหม"

"ต้องถามรึครับ" พูดเสร็จทำหน้าใสซื่อใส่กูอีก

"ต้องถามสิ นี่มันบ้านกู นั่นก็แม่กู"

"งั้นคราวหน้าค่อยถามนะครับ" มึงยังจะมีคราวหน้า

"แล้วเรื่องได้กันก่อนย้ายนี่คืออะไร มึงใช้อะไรคิด"

"ผัวกลัวแม่เมียเป็นห่วง อยากบอกให้สบายใจจะได้หมดห่วง"

"ด้วยการบอกว่าได้กันแล้ว"

"ครับ"

"ใช้อะไรคิด"

"ไม่ใช้นะครับ อยากพูดก็พูด อยากบอกก็บอกนะครับเมีย"

"กวนตีน"

"ทำไมหยาบคายครับเมีย เดี๋ยวบดปากเลย"

สิ้นประโยคทุกอย่างนิ่งสงบ ไม่ได้ไอ้แทนแม่งพูดจริงทำจริง ขับมาสักพักก็มาถึงหน้าตึก

"สรุปเมียเก็บของวันไหนครับ เดี๋ยวผัวมาช่วย"

"ไม่เก็บ"

"งั้นซื้อใหม่หมดก็ได้เนอะ ซื้อกางเกงในด้วยเอาแบบเซ็กซี่ เซ็กซี่นะครับ"

"ไม่ย้าย"

"เอ๋???? ทำไมล่ะครับ"

"ยังไม่อยากย้ายนะมึง อย่าพึ่งเร่งสิ"

"เอ๋???? แล้วผัวจะอยู่กับใครล่ะ"

"คนเดียวไงมึง คนเดียว ปกติมึงก็อยู่คนเดียวม่ะ"

"ทำไมใจร้าย ทำอย่างผัวไม่ใช่คน" มึงก็โอเว่อร์

"อย่ามาบีบน้ำตา กูไปเรียนล่ะ"

"ฮือออออออ" นั่งคือเสียงคร่ำครวญของชายหนุ่มวิศวะวัยกลัดมัน ร้องซะสาว16 ยังอายท่าจะเป็นเอามาก

ผมเดินตรงไปนั่งเรียนกับตือหวานตามปกติ ทักทายกันไม่เท่าไหร่ก็ต้องตั้งใจเรียนเพราะอาจารย์เข้าเรียบร้อย เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ถึงเวลาพักเที่ยงพอดี ซึ่งเที่ยงนี้คงสงบเพราะพวกไอ้แทนมีเรียนเวลาพักไม่ตรงกัน สบายกูล่ะทีนี้

"มึงย้ายไปอยู่กับแทนมันวันไหนว่ะ" หวานพูดจาหวานสมชื่อมึงมาก

"ว่าจะไม่ย้าย ยังไม่พร้อม"

"ยังไม่พร้อมอะไรของมึง ได้กันยัง"

"เออ" ถามมากจริง

"แล้วกลัวไร กลัวรูหลวม" กูได้แต่ถอนหายใจใส่ แทนคำตอบ มึงพูดเกรงใจหน้าหวานๆ ของมึงด้วยหวาน มึงไม่กลัวแฟนคลับมึงได้ยินรึ

"หรือหนึ่งกลัวการเปลี่ยนแปลง" มีมึงเท่านั้นแหละตือที่เข้าใจกู

"อืม กูกลัวว่าพออยู่ด้วยกันจะเข้ากันไม่ได้ ต้องทะเลาะกันบ่อยๆ กลัวว่าจะไม่รักกันเหมือนเดิม"

"มึงดู Club Friday  มากเกินไปใช่ป่ะ พี่อ้อยพี่ฉอดบอกมึงมาใช่ม่ะ งั้นกูถามมึงหน่อย แล้วไอ้ที่มึงกลัวๆ นี่มึงได้ลองรึยัง ว่ามันเป็นอย่างที่มึงกลัวไหม" ผมส่ายหน้า

"งั้นมึงก็แค่กลัวการเปลี่ยนแปลงกลัวสิ่งที่มันยังมาไม่ถึง บางทีการกลัวของมึงอาจจะไม่เป็นจริงก็ได้ ใครจะไปรู้" หวานมึงมีสาระ น้ำตากูจะไหล

"ยิ่งมึงอยู่ห่างกันแบบนี้ เกิดมีสาวไปอ่อยไอ้แทนที่คอนโด แม่งอยู่คนเดียวเหงาๆ มีผู้หญิงมาอ่อย ใครมันจะไม่เอา" มึงคิดมากไปป่าวว่ะหวาน

"เนี่ยกันเคยเล่าให้ฟังว่า สมันก่อน ผู้หญิงขึ้นคอนโดแทนไม่ขาดสาย บางวันมาสองคนพร้อมกันก็มี มึงไม่กลัวมันกลับไปเจ้าชู้เหมือนเก่าหรือว่ะ" หรือมันจะมีมูล

"กันบอกกูแบบ ฟันกันโชะโชะเลย" อืมมมม น่าคิด

"มึงอยากรู้ความจริงป่าวล่ะ เดี๋ยวกูพาไปสืบ"

"หวานคดีเก่ามึงยังไม่เคลียร์เลย มึงหาเรื่องเพิ่มอีกแลัวเหรอมึง"

"หนึ่งเชื่อกูคราวนี้ไม่มีพลาด กันมันเล่าแบบฟันกันโชะๆ เลย"

"ไม่เอาปลอมตัวนะ"

"เออ ปลอมตัวมันเด็กๆ นี่เราไปแบบมืออาชีพ"

"ทำไมใจดีจังหวาน"

"กูรักเพื่อนเป็นห่วงเพื่อนกูผิดเหรอ"

"ไม่มีแผนซ้อนแผน"

"ซ้อนอะไรหลายชั้น มึงดูหน้ากูใสซื่อขนาดนี้"

"ไม่มีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดงี้"

"มึงดูตากูใสซื่อขนาดนี้ กันบอกไม่เจ้าชู้กูยังเชื่อเลย" ผมกับตือได้แต่มองหน้ากัน แม้จะสงสัยในตัวหวาน แต่ก็ต้องให้มันช่วยอยู่ดี

"เออก็ได้ แล้วจะไปแอบดูมันวันไหน"

"วันนี้ แทนมันติดงานตอนเย็น มันไม่ได้ไปส่งมึง"

ผมงงเล็กน้อยแต่ต้องโดนขัดจากไลน์ของแทน

แทน(หัวใจ)หนึ่ง: เมียครับ ตอนเย็นผัวติดงาน ไปส่งไม่ได้ โหนรถเมล์กลับเอานะครับ

"ทำไมมึงรู้ว่ะหวาน"

"นั่นไง นั่นไง มันติดงานไปส่งมึงไม่ได้ใช่ป่ะ นี่เพื่อมึงน่ะ สงสัยใช่ไหมทำไมกูรู้ นี่ง่ะเมื่อเช้าก่อนออกกูโทรให้หมอช้างดูดวงให้ นี่หมอช้างทายแม่นมาก พูดแล้วกูขนลุก"

"มึงไม่ถามเรื่องตัวเองมั่งหรือมึง"

"นี่ง่ะ กูดูดวงตัวเองเสร็จ รักเพื่อนไง กูคนดี เลยดูเผื่อเพื่อน นี่แม่นโคตร ขนกูลุกไปหมดแล้ว" เล่นใหญ่มากกกก เอาซะกูไม่อยากถามต่อ

ผมเรียนต่อจนหมดคาบ ผม ตือ หวาน รีบแอบซุ่ม ไปแถวคณะวิศวะ แอบหารถแทนจนเจอแล้วจอดใกล้ๆ 

"หวาน แทนมันจะจำรถมึงได้ไหมว่ะ"

"ไม่ได้หรอกมึง เชื่อกู"

"ทำไมว่ะ กูยังจำได้เลย"

"นี่ไงมึง ทำอะไรไม่ใช้ความคิด กูนี่คิดมาเผื่อเพื่อน กูนี่คนดี กูกลัวมันจำรถกูได้ กูนี่อุตสาห์เอาสติกเกอร์ไปติดท้ายรถว่า รถคันนี้สีชมพู แค่นี้มันก็จำรถกูไม่ได้ล่ะ ปกติรถกูสีขาว นี่ชมพูทั้งคันใครจะไปจำได้"

ผมกับตือหันมองหน้ากันว่ามึงเข้าใจมันไหม แต่ไม่ทันไร แทนก็มาที่รถ และสังเกตุมาทางรถหวานด้านข้าง แม้ฟิล์มจะดำ กูก็หลบ กูกลัว แทนทำหน้างงเล็กน้อย ก่อนบ่นพึมพำ

"โอ้โหรถใครว่ะ แม่งชมพูแสบตาโคตร"

พูดเสร็จแม่งก็ไขกุญแจออกรถไป หวานไม่รอช้าขับตาม ทิ้งให้กูงง

"ทำไมแทนมันเห็นรถเป็นสีชมพูอย่างที่มึงบอกว่ะหวาน"

"มึงนี่ไม่ใช่สติกเกอร์ธรรมดา นี่ไง กูรักเพื่อน นี่กูลงทุนน่ะ สติกเกอร์นี่ปลุกเสกมาอย่างดี ทำพิธีมาเก้าวันเก้าคืน พูดแล้วขนลุก ไม่งั้นไอ้แทนไม่เห็นเป็นสีชมพูทั้งคันหรอก ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ"

พูดเสร็จแม่งก็ยกมือไหว้ ผมกับตือมองหน้ากันพร้อมยกมือไหว้ตาม ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ครับ


เราขับตามแทนมาห่างๆ แปลกที่วันนี้แม่งขับช้าาาา ช้า ปกติแม่งเหยียบมิด หรือแม่งรักตัวกลัวตายขึ้นมา แต่นั่นก็เป็นผลดี เพราะมันทำให้หวานขับตามได้ง่าย แต่ผมก็ยังดีใจนะครับที่มันกลับบ้านคนเดียว ไม่ได้หิ้วสาวที่ไหนกลับมาด้วย พูดไม่ทันขาดคำแม่งเลี้ยวหักรถเข้าห้าง

"ทำไมแทนแวะเข้าห้างว่ะ หรือมันนัดกับใคร" สิ้นเสียงตือผมทำหน้าเสียเล็กน้อย ก่อนตือจะกลับลำเมื่อเห็นผมเครียด

"อ้อ สงสัยมาซื้อของกินป่าว" ไม่ทันล่ะตือ กูคิดไปล่ะ

"มึงจะสงสัยกันทำไม ตามเข้าไปดูก็สิ้นเรื่อง"

พูดเสร็จหวานก็หักรถตามไปติดๆ จนกูว่ามันจะติดไปนะ

"มึงห่างๆ หน่อย เดี๋ยวแม่งสงสัย"

"เออ เชื่อใจกูหนึ่ง เชื่อใจกู"


หวานจอดรถฝั่งตรงข้าม เราซุ่มดูจนแน่ใจว่าแทนไกลออกไปแล้ว จึงค่อยๆ ลงจากรถหวังสะกดรอยตาม แต่ชีวิตจริงไม่เหมือนละคร คนแม่งล้านแปด กูจะเจอมันไหม

"เอาไงดีว่ะหวาน คนแม่งเยอะขนาดนี้จะหาแม่งยังไง"

"มึงใจเย็นๆ กูขอคลำทางก่อน" พูดเสร็จแม่งก็หลับตา ปากก็ขยับบ่นอะไรพึมพลำ ผมกับตือต่างมองหน้ากันไปมา ด้วยความสงสัยในตัวเพื่อน แต่ไม่ทันจะเอ่ยอะไร อยู่แม่งก็มีจิตสัมผัสที่แม่นกว่าริว

"แทนนั่งกินข้าวอยู่ร้านวาโก ชั้นสี่"

ผมกับตือมองหน้ากันอีกครั้ง แต่ก็เดินตามอย่างว่าง่าย ผมกับตือเดินอย่างระมัดระวังตัวอย่างกับสายลับ ในคณะที่หวานเดินเหมือนมาช็อปลำพังอย่างสบายใจ มึงดูรีแลคไปนะหวาน ในขณะที่ผมกับตือกำลังสงสัยในจิตสัมผัสของหวานว่ามันจะแม่นขนาดไหน แต่ก็ต้องอึ้ง เมื่อแทนอยู่ในร้านวาโกจริงๆ วาโกเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เป็นข้าวหน้าของทอดต่างๆ ตัวร้านตกแต่งแบบญี่ปุ่น มีฉากกั้นแบ่งเป็นส่วนๆ จึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว

"แล้วเอาไงต่อ" อย่าถามกูตือ กูก็สงสัยเหมือนมึง

"เข้าไปสิรอไร" ไม่ทันจะเอ่ยปากห้าม หวานก็ก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงต้อนรับภาษาญี่ปุ่นจากทางร้าน พนักงานทุกคนต่างประสานเสียงจนกูต้องเอาหนังสือมาบัง แต่เป็นเพราะโชคช่วยหรือไอ้แทนโง่ อันนี้ไม่ทราบได้ แม่งไม่เห็นจะสนใจเลย ไม่หันหลังกลับมามองด้วยซ้ำ หวานรีบเดินนำไปนั่งโต๊ะข้างๆ ซึ่งอันนี้ผมไม่ค่อยกังวลเพราะฉากกั้นบังมิดอยู่แล้ว

"หวานมึง ไม่ไปนั่งบนตักไอ้แทนมันเลยว่ะ ถ้ามึงจะนั่งใกล้ขนาดนี้"

"มึงไม่อยากรู้เหรอว่ามันนัดใคร คุยไรกัน"

"กูก็อยากรู้ แต่กูกลัวมันเห็น"

"แล้วมันเห็นไหม มึงมานั่งเงียบๆ เลยเดี๋ยวก่อเรื่องแบบคราวที่แล้วอีกเสียแผนกูหมด" ด่ากูเลยดีกว่าถ้าจะตอกย้ำขนาดนี้

"เออ แต่ทำไมไอ้แทนแม่งไม่สงสัยบ้างว่ะ มีคนตามมาเป็นฝูงขนาดนี้"

"ไม่ดีหรือไงมึง"

"มันก็ดี แต่ปกติแทนมันเป็นคนหูตาไว แต่ทำไมแม่งจับไม่ได้ว่าเราตามมา"

"มันคงเรียนหนักมั๊ง โถ แทน เรียนก็หนัก เหนื่อยก็เหนื่อย ยังอยู่คนเดียวไม่มีคนดูแล ทำไมน่าสงสารเช่นนี้"

กูว่าประโยคมึงดูแปลกๆ นะ ไม่ทันจะเอ่ยถามอะไร ก็ต้องหลบเพราะมีคนมาใหม่ที่โต๊ะแทน เมื่อมั่นใจว่าทุกคนนั่งลงหมดแล้ว ผมจึงค่อยๆ ชะโงกหน้าขึ้นไปแอบดูเห็นเป็นน้องผู้หญิงสองคน ที่ต้องเรียกว่าน้องเพราะทั้งสองคนยังแต่งชุดนักเรียนม.ปลาย นี่มึงแดกเด็กหรือแทน ไม่ได้ผมต้องใจเย็น จะเอาทั้งทีต้องได้คาหนังคาเขา เราต่างก้มตัวลงต่ำเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ โดยเฉพาะตือ เมื่อเป็นเรื่องชาวบ้านแล้วดูจะตั้งใจเป็นพิเศษ

"พี่แทนหวัดดีค่ะ ตื่นเต้นจังที่พี่โทรมาชวน อันนี้ผึ้งค่ะ เพื่อนขอมาด้วยพี่แทนคงไม่ว่า" ไอ้เลว กูเผลอแวบเดียวมึงถึงขนาดโทรไปนัดน้องเค้า น้องเค้า 18 รึยังว่ะ เดี๋ยวเถอะมึงพรากผู้เยาว์กูจะหัวเราะเยาะให้

"วันนี้พี่ว่างน่ะ มากันสองคนพี่จะไหวไหมนี่" มึงนี่มันเลวแทน เด็กก็เด็ก นี่มึงเล่นสวิงควบสอง มึงนี่มัน...

"พี่แทนออกจะเก่งขนาดนี้ ไหวอยู่แล้วล่ะคะ"

โอยยย กูจะไม่ทน กูต้องการเลือด เอาเลือดหัวแม่งออกสักลิตรสองลิตร เผื่อมันจะสำนึก ผมกำลังจะลุกขึ้นไปตีไอ้แทนที่โต๊ะข้างๆ แต่ต้องหยุดเพราะตือดึงมือไว้

"ใจเย็นๆ หนึ่ง เราต้องใจเย็นทำไรต้องมีหลักฐาน เอาให้ดิ้นไม่หลุด หวานผยักหน้าตามคำพูดของตือ ใจเย็น ใจเย็น ผมท่องในใจช้าๆ แต่สติก็มืดบอดลงเมื่อได้ฟังประโยคต่อมา

"เดี๋ยวรีบกินข้าว แล้วไปต่อกันที่ห้องพี่ล่ะกัน"

ไอ้เลว มึงนี่มันเลวแทน มึงคบกูได้ไม่เท่าไหร่ มึงแม่งจะนอกใจกู มึงมันมักมาก มึงนี้แม่ง.... ระหว่างที่พยายามสงบสติอารมณ์ ตือก็ยังดึงมือผม สงสัยช่วยเตือนสติให้ผมใจเย็น

"เออ ตือกูใจเย็นอยู่"

"ไม่ใช่มึง"

"คือ.... เดี๋ยวกูกลับก่อนได้ไหม พี่หมอกรอกูอาบน้ำอยู่ ปกติต้องอาบด้วยกันตลอด"

ผมถึงขนาดมองบนใส่ มึงจะสวีทกันยังไงช่วยเกรงใจกูด้วย นี่เพื่อนมึงนะ ไอ้แทนกำลังนอกใจกูเป็นห่วงกูด้วย

"เออๆ ทางนี้กูดูแลเอง ไม่ต้องห่วง"

"ยังไงฝากแทนด้วยนะหวาน กูเป็นห่วง"

หวานพยักหน้า โบกมือลากันเรียบร้อย สรุปกูมีเพื่อนดีใช่ไหม จำไว้เลยนะตือมึง ผมน้ำตาคลอมองหน้าหวาน

"ไม่ต้องห่วงมึง ตือมันเลวมันรักแต่ตัวเอง มีกูนี่แหละที่รักมึงอยู่เคียงข้างกันตลอด" ผมกระโดดเข้าไปกอดหวานอย่างซาบซึ้ง

"มึงปล่อยกูก่อน กูว่าเราต้อง..."

"มึงมีแผนแล้วใช่ไหมว่าจะทำไงต่อ"

"แผนเผินเหี้ยไรล่ะ กูหิว น้องสั่งอาหารด้วยค่ะ"

ถ้ามึงจะรักและห่วงกูขนาดนี้กลับพร้อมตือเลยก็ได้นะหวาน


หลังจากที่อาหารมาเสิร์ฟทุกๆ อย่างก็เงียบไป แทนมันก็คุยแต่เรื่องสับเพเหระทั่วไป ไม่มีอะไรน่าสนใจ อารมณ์ผมเริ่มคงที่ ตัดมาที่หวานก็นั่งกินอย่างมีความสุขประดุจหนึ่งเพื่อนมาเลี้ยงข้าว ผมกลับมาคิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมา มันดูแปลกๆ ทำไมหวานรู้อะไรหลายๆ อย่างที่แม่นอย่างกับตาเห็น แม่นเหมือนนัดกันมา หรือว่า..... อาจารย์ช้างอะไรนี่จะดูแม่นจริงๆ ไม่ได้ๆ ว่างๆ ต้องโทรไปดูดวงบ้างล่ะ แม่นเหมือนจับวาง

"คิดเงินด้วยครับ"

ทันไดนั้น ไอ้แทนแม่งก็เช็คบิล ผมกับหวานต่างหลบเอาตัวแนบติดกำแพง รอเวลาที่มันเช็คบิลเสร็จและเดินออก ยังไงวันนี้มึงก็ไม่รอดแทน

"ป่ะหวาน รีบตามมันไป"

"มึงจะรีบทำไม"

"สะกดรอยตามไง"

"มึงจะตามมันทำไม มันก็บอกอยู่ว่าจะไปคอนโด มึงไปไม่ถูกหรือไง" เออ จริง

"แล้วเอาไงต่อหวาน"

"มึงต้องใจเย็นๆ ก่อน นั่งสงบสติอารมณ์ก่อน"

"เผื่อกูจะไม่ทำเสียแผนแบบคราวที่แล้วใช่ไหมมึง"

"เปล่า กูยังแดกไม่เสร็จ มึงนั่งสงบสติอารมณ์ไปก่อน เดี๋ยวกูแดกแวบ"

น้ำตากูจะไหล มึงจริงจังกับกูมาก

หลังจากกินข้าวเสร็จบรรยากาศมันชักแปลกๆ เหมือนมีผมคนเดียวที่ร้อนใจ นั่งกระสับกระส่าย หันไปมองหวาน แม่ผ่อนคลายราวอยู่ชายทะเล มีเปิดเพลงคลอร้องตาม และเต้นตามในบางช่วง ดูอารมณ์ดีแปลกๆ

"หวานมึงยังอยู่เป็นเพื่อนกูใช่ไหม ดูมึงชิวมากกก"

"กูพูดตรงๆ นะหนึ่งในใจกูช่างร้อนรุ่มเพราะเป็นห่วงเพื่อน แต่กูไม่อยากให้มึงเครียด" แสดงซะเนียนเลยมึง นี่กูจะช่วยมึงร้องเพลงคลออยู่ล่ะ


ขับไม่นานก็มาถึงคอนโด ผมกุมกุญแจห้องไว้แน่น ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมเดินอย่างไร้ความรู้สึกจนมาหยุดอยู่ที่ประตูห้อง

"หนึ่งมึงต้องใจเย็นๆ น่ะ" โอเค ใจเย็น ใจเย็น

"มึงต้องทำให้คนอื่นรู้ว่าแทนเป็นของมึง และห้องนี้เป็นของมึง" เออ ทำอะไรนะ

ไม่ทันได้เตรียมใจหวานเปิดประตูดังโครม และแถบจะถีบผมเข้าไปในห้อง ทั้งห้องว่างเปล่า

"ห้องนอนชัวร์ ห้องนอน นี่คงจะโชะโชะกันอยู่ มันอยู่คนเดียวคงเหงา" สรุปมึงเข้าข้างใครหวาน

ผมไม่รอช้ารีบเปิดประตูเข้าห้องนอน ภาพที่ผมเห็นคือแทนนั่งเล่นมือถืออยู่ปลายเตียง ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ผมได้ยินเสียงน้ำดังมาจากห้องน้ำคงไม่ต้องบอกว่ามีอะไรเกิดขึ้น กูจับได้คาหนังคาเขาขนาดนี้ กูโวยวายได้แล้วใช่ไหม

"มึงทำอะไรแทน"

"นอกใจครับเมีย" เลว เลวจริงๆ มึงยอมรับง่ายๆ แบบนี้นะเหรอ

"ทำไมมึงเลวแบบนี้แทน"

"อืม อยู่คนเดียวเหงา" มึงจะตอบเหี้ยๆ แบบนี้ไม่ได้ มึงต้องแก้ตัวสิ ไม่ใช่มายอมรับ แล้วกูจะไปต่อยังไง

"สวิงด้วย สองต่อหนึ่งครับ" โอยยยยย แล้วกูจะโวยวายยังไง ในเมื่อมึงสารภาพมาขนาดนี้

"ได้ กูจะย้ายมาอยู่กับมึงแทน ถ้ามึงพาสาวมาห้องอีกกูจะตัดของมึงทิ้ง แล้วจะเอาสาวที่มึงพามาให้มึงดู"

โอย โกรธ โมโห แต่ทำไรไม่ได้แม่งสารภาพหมด กูจะหาเรื่องมึงยังไงแทน

"ว่าไงน่ะครับเมีย"

"กูจะย้ายมาอยู่กับมึงที่นี่แทน"

"ตอนไหนครับ"

"ตอนนี้ เดี๋ยวนี้" โอย โมโห มึงยังมาถามเซ้าซี้กูอีก

หวานที่ทนดูอยู่นาน คงอดทนไม่ได้เดินตรงดิ่งเข้าไปหาแทน มึงคงจะไปต่อยมันแทนกูใช่ไหม

"งานเสร็จแล้ว จ่ายเงินมา" พูดเสร็จแม่งก็แบบมีอกระดิกนิ้ว

"โอเคครับหวาน ขอบคุณมาก เดี๋ยววานไปส่งน้องๆ เอกการแสดงสองคนด้วยนะครับ"


มันคืออะไร ผมงงไปหมดแล้ว ภาพที่ผมเห็นคือหวานนับเงินอย่างขะมักเขม้น นับเสร็จแม่งก็ชวนน้องสองคนออกมาจากห้องน้ำซึ่งน้องทั้งสองคนก็ไม่ได้อาบน้ำ แถมยังแต่ชุดเต็มยศ หันมาโบกมือแล้วจูงมือกันออกไป ล็อคประตูให้เรียบร้อย

สรุปคืออะไร งง ผมเงียบสักพักคิดทบทวน โถหวาน ไอ้เพื่อนเลวมึงร่วมมือกับไอ้แทน ทำไมกูโง่แบบนี้

"สรุปกูโดนหลอกใช่ไหมมึง"

"ไม่ใช่ครับเมีย เรียกว่าช่วยกันให้เมียยอมรับสิ่งที่ใจเรียกร้องครับเมีย"

"เรียกร้องว่าอะไรมึง"

"เรียกร้องว่า เมียอยากอยู่กับผัว แต่ปากแข็งครับ" สรุปกูโดนหลอก หมอช้างไม่แม่นจริงใช่ไหม

"มึงมันเลวแทน มึงไม่ใช่คนดี ที่นี่คือซ่องโจรดีๆ นี่เอง" มึงล่อลวงกูมานะแทน

"ในเมื่อผัวเป็นโจร ก็ต้องตุ้ยท้อง แล้วต้องปล้ำ"

"ฮืมมมมม"

"เสียดายไม่มีกระท่อมกลางป่า สรุปปล้ำเลยแล้วกันน่ะครับ"

"อย่าาาาาาาา.....น้าาาาาา"


------------------------------------------



หายไปเป็นเดือนต้องขอโทษด้วยนะคะ หลังจากที่ปั่นตอนที่แล้วเสร็จก็ว่าจะพักสักสี่ห้าวันค่อยเขียนต่อ แต่อยู่ดีๆ ก็รู้สึกตัวร้อน ปกติพอตัวร้อนเหมือนจะมีไข้นี่จะไปหาหมอฉีดยาทันที เพราะว่าเราต้องทำงานทุกวัน แต่ครั้งนี้ไม่หาย เลยเข้าไปหาหมออีกที หมอบอกว่าไข้หวัดสมัยนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน ไข้หวัดสมัยนี้จะเกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งไม่มียารักษา แต่เชื้อไวรัสจะตายและหายเองได้ในเจ็ดวัน สรุปนี่ต้องนอนไข้ขึ้นลง อยู่หกวัน มันเหมือนไข้มันขึ้นๆ ลงๆ สวิงไปมา จริงๆ เราไม่รุ้สึกอะไรเลย รู้สึกแค่อยากนอนและเหนื่อย และเราก็นอน นอนอย่างเดียวเลย ข้าวปลาไม่กิน น้ำหนักลดไปหกโลในหนึ่งอาทิตย์ ตอนนี้ผอมละ (อันนี้ไม่ใช่ประเด็น) สรุปวันที่ห้านี่เราเริ่มโอเคล่ะ แต่จะมีปัญหาที่เรากินอาหารไม่รู้รส แต่สักวันที่ห้าเราเริ่มปวดหัว ตอนแรกคิดว่าเป็นไข้ แต่มันปวดหัวเหมือนมีคนมากดเส้นประสาท เอามือกดอย่านั้น จนวันที่หกเราหายปวดหัวและค่อยๆ ดีขึ้น แต่หัวมีเสียงแบบวิ๊งงงงง อยู่ในหัว สรุปเราดีขึ้นในวันที่หก แต่ผลที่ตามมาคือเมายาแก้ไข ด้วยความที่เราอัดยาไปเยอะ ปกติหมอให้กินแปดชั่วโมง นี่กินทุกๆ สี่ชั่วโมง สรุปคือนั่งงงๆ เบลอไปอีกเกือบอาทิตย์ถึงหาย ตอนแรกนึกว่าไม่รอด นั่งนึกในใจตายแน่ๆ กู เพราะนี่ไม่ค่อยป่วย ถ้าป่วยนี่คือหนักแบบนอนโรงพยาบาลเลย นี่ยังดีไม่ถึงขนาดต้องแอดมิด สรุปตอนนี้เป็นปกติแล้วเลยนั่งเขียนนิยายต่อ ตอนนี้ใช้เวลาเขียนไปสี่วัน แต่จะพยายามจะอัดเขียนให้เสร็จช่วงว่างตอนสงกรานต์นะคะ

ตอนนี้เป็นช่วงสุดท้ายของเรื่องแล้วนะคะ นับถอยหลังอีก 10 ตอนก็จะจบเรื่องแล้วค่ะ เราอยากให้คนอ่านสนุกและมีความสุขกับการอ่าน จึงคิดจะไม่ใส่ดราม่าใดๆ ลงในตัวเรื่องเลย แต่จะเน้นที่ความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นของตัวละคร และความตลกโปกฮาของกลุ่มเพื่อนทั้งคู่ หวังว่าคงชอบกันนะคะ

P.S. น้องยังไม่ตายและคิดที่จะพิมพ์หนังสือเรื่องนี้ออกมาน่ะคะ ของแถมคิดไว้ล่ะ สร้างสรรค์และน่ารักสุดๆ นี่ก็ดูคนวาดปกไว้บ้างแล้ว หวังว่าทุกคนคงรักแทนกับหนึ่งและอยากเก็บตัวเล่มกันน่ะคะ ตอนพิเศษที่อยู่ในหนังสือจะเป็นตอนแต่งงานและฮันนีมูนค่ะ ฟินกันทั่วหน้าแน่นอน


น้องรักทุกคนและยังมีชีวิตอยู่

Aemmilicious

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น้องหวานเอาตุ๊กตายาง เอ้ย  ตุ๊กตาทองไปครองเลยคะ แสดงดีจริงๆ บทเฉียบขาดรุ่งริ้งจริงๆ เชื่อตั้งแต่สติกเกอร์ติดแล้วสีรถเป็นสีชมพู  o13

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด