ตอนที่ 32 : คนหลงเมีย 2018แทน"แม่งงานหนักฉิบหายกว่าจะเสร็จ"
กันบ่นอุบหลังจากเสร็จงานกลุ่ม ซึ่งกูไม่เห็นมึงจะทำเหี้ยไรเลยกัน กูเห็นเดินไปแซวคนโน้น คนนี้ที กลับมานั่งแดกน้ำ แล้วก็บ่นเหนื่อย ไอ้พี่หมอกยังไม่บ่นเหนื่อยเลย
ตอนนี้ใกล้ส่งงานทุกคนก็มารวมตัวกันทำงานกลุ่มกันใต้ถุนคณะ เรียกว่ารอจนไฟลนก้นแหละครับแล้วค่อยทำ เพราะมีลานกว้างให้สังสรรค์เฮฮา อยากจะทำไรก็ทำ ดึกๆ อาจารย์กลับหมด ตั้งวงเหล้า แดกหมูกระทะสบาย ยามเห็นต้องทำไงเหรอครับ ก็ชวนยามมาแดกด้วย เสร็จตามวิศวะ สไตล์โดยแท้จริง
"ทำงานเสร็จแล้วเอาไงดีว่ะพวกมึง" โจ๊กมึงไม่น่าถาม
"เดี๋ยวพี่จะไปดูหนังกับตือ"
"เหรอพี่ นี่เค็กก็ทำอาหารเย็นรอกูล่ะ เดี๋ยวกูต้องรีบกลับ"
"เดี๋ยวหวานใช้กูไปต่อแถวซื้อขนมที่พารากอนน่ะ คิวแม่งยาวต้องรีบไปต่อไม่รู้แม่งจะอินอะไรกันนักหนา"
"เออ กูจะไปปล้ำเมีย ถ้างั้น...." เราทั้งสี่พยักหน้าเข้าหากัน
"ป่ะกลับ แยกย้าย"
"เดี๋ยวสิวะพวกมึง" พวกเราหันหลังตามเสียง เจอไอ้ก็อต แม่งเรียกทำไมว่ะ
ก็อตเป็นหัวโจ๊กประจำคณะ พวกประธงประธานกิจกรรมอะไรแม่งเอาหมด วีระกรรมเด็จ นี่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องดีๆ เพราะเรื่องเหี้ยแม่งเด็ดกว่า ตั้งแต่เมาไม่ได้สติ ผอ. เดินผ่านนึกว่ายาม เลยเรียกมากินเหล้าด้วย เรียกว่าวงแตกกันคนล่ะทิศคนล่ะทาง โดนทัณฑ์บนกันเป็นแถว แล้วแม่งก็ไม่จบ มีโกรธแอบไปเจาะลมยางรถผอ. แต่โง่ไม่ดูกล้องวงจรปิด เรียกว่าเล่ากันสามวันเจ็ดวันไม่หมด
"มึงจะรีบไปไหนกันว่ะ"
"กลับบ้านสิมึง" ใช่โจ๊ก จะอยู่ให้ยุงในคณะมาหามกูเรอะ
"รีบกลับไปไหนว่ะ ได้ข่าวว่ามีเมียกันครบทุกคนล่ะ หายหัวกันไปเลยน่ะมึง"
"เออ ให้กูอยู่กันทำเหี้ยไรล่ะมึง ช่วยมึงทำงานงี้" จริงกัน
"ไม่ใช่มึง อยู่แดกเหล้ากับกูก่อนสิ มึงจำได้ไหมว่าแดกเหล้ากับกูครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่"
อืมมมมม เมื่อไหรว่ะ
"นั่นไง พวกมึงจำกันไม่ได้ล่ะสิ แม่งนานจนลืม ไหนๆ พวกมึงก็เสร็จงานกันล่ะ สังสรรค์เฮฮากันหน่อยสิว่ะ"
"พวกกูมีนัดกับแฟนกันหมดแล้วว่ะ เอาไว้คราวหน้าแล้วกันมึงกูรีบ"
ปะกลับๆ
"หรือที่พวกมึงรีบขนาดนี้เพราะพวกมึงกลัวเมีย"
ผมทั้งสี่ชะงักหันกับหลัง
"ใครกลัวเมีย กูนี่เป็นช้างเท้าหน้า เมียนี่ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ เดี๋ยวมึงดูกู" ไอ้กันพูดเสร็จก็กดโทรศัพท์
"ฮัลโหล หวานนี่กันน่ะ ร้านขนมที่พารากอนถ้าอยากกินไปต่อเองน่ะ กันจะกินเหล้ากับเพื่อน อย่ามีปัญหา"
"เป็นไงมึง กลัวที่ไหน" แมนสุดๆ มึงตายแน่ไอ้กัน
"ฮัลโหลเค็กเหรอ พี่กลับช้าน่ะ จะกินเหล้ากับเพื่อน อะไรน่ะ ทำกับข้าวเผื่อ ไม่ได้สั่งอยากทำเองก็กินเองแค่นี้" แมนสุดๆ อยากจะเข้าไปตบหัวสักป๊าบนั่นน้องกู
แต่ทุกอย่างต้องหยุดเพราะทุกคนรอคนนี้คนเดียว เอาให้เต็มที่เลยครับพี่หมอก
"ฮัลโหลครับนี่พี่หมอกน่ะ พี่กลับดึกหน่อยน่ะ ขออยู่กินเหล้ากับเพื่อนแวบ อยู่คนเดียวอย่าลืมล็อกประตูล่ะ เดี๋ยวพี่รีบกลับ โอเคน่ะครับ"
"อะไรพี่แค่นี้" กันไม่พอใจ
"แล้วใครบอกมึงว่าโทรไปขอเมียกินเหล้าต้องเกรี้ยวกราด"
"อ้าว" เออจริงกันมึงอย่ามา ตายแน่มึง
และแล้วก็ถึงตาผมที่ต้องโทรหาคู่หมั้นหมาดๆ
"ฮัลโหล เมียครับ"
"เออว่า"
"ผัวกลับบ้านดึกน่ะครับ จะกินเหล้ากับเพื่อน"
"อะไรน่ะ" โอะ มีขึ้นเสียงสูง
"จะกินเหล้ากับเพื่อนกลับดึกครับ"
"ไม่ได้ไหมมึง" มีหงมีห้าม
"กินไม่ได้ ไม่ให้กินเหรอครับ"
"ไม่กลับได้ไหมมึงกลับซะเช้า กูจะได้ไม่ต้องกังวลเล่นเกมส์สบาย"
"นี่ผัว"
"เออ คิดมาก กูล้อเล่น แดกๆ ไปเถอะ จะถึงก็โทรมาเดี๋ยวกูเปิดประตูให้"
"ไม่ห้ามเหรอครับ"
"ห้ามทำเหี้ยไรล่ะ แดกเหล้ากับเพื่อน เอาไว้ไปตีกระหรี่กูค่อยห้ามไหม"
"ไม่ห่วงผัวเหรอ"
"ห่วงทำไม เพื่อนมึงอยู่กันเยอะแยะ อีกอย่างกูก็รู้จักหมดมีไรให้ห่วง"
"อยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอครับ"
"เหงากูก็ช่วยตัวเอง ไปแดกเหล้าป่ะ แค่นี้"
เอ๊า ความอ่อนโยนของคู่หมั้นมาดๆ อยู่ไหนครับ
"หน้าหงอยเลยมึง น้องหนึ่งว่าไงว่ะ" โจ๊กถามด้วยความเป็นห่วง
"เมียบอกให้แดกๆ ไป"
"ก็ดีสิมึง จะหน้าเศร้าทำไม"
"ทำไมไม่ห้ามกูว่ะ ต้องแบบคิดถึงกู ไม่อยากอยู่คนเดียว ขาดกูไม่ได้งี้"
"เอ๊า ไอ้ห่านี่แปลก ไป ป่ะแดกเหล้า"
การทำงานกลุ่มจนดึกจนดื่นนี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ ทางคณะเองก็เปิดไฟให้ใช้สถานที่อย่างเต็มที่ ยามดึก หิวคิดอะไรไม่ออก ก็โทรสั่งหมูกระทะกันตามระเบียบ คนที่ทำงานเสร็จก็ค่อยๆ ทะยอยกันกลับเหลือพวกที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่ออีก 10-20 คน และพวกทำงานเสร็จที่รอแดกเหล้าและบริจาคเลือดให้ยุงอยู่อีกสี่คน
เมื่อรถมอไซค์ส่งหมูกระทะมาถึง นั่นคือสัญญาณหยุดพักกินข้าวและดื่มเพื่อพักผ่อน เนื่องจากคนมีจำนวนมาก เราเลยโทรสั่งหมูกระทะมาหลายชุด นั่งแยกเป็นวงๆ อยู่บนสนามหญ้าหน้าคณะ กลิ่นหอมฉุยควันโพยพุ่งเคล้าเบียร์เย็นก็สบายดีนะครับ แต่ล่ะคนนี่เริ่มจะได้ที่กันล่ะ
"กูก็นึกว่าพวกมึงกลัวเมีย แม่งเรียนเสร็จรีบกลับกันตลอด" ก็อตเปิดบทสนทนาตามระเบียบ
"กลัวที่ไหนมึง กูใครกูกัน แดกให้อ๊วกไปเลยมึง เอ๊า ชน"
เรานั่งสังสรรค์เฮฮาสักพัก ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมีเสียงดังจากกลุ่มอีกกลุ่ม
"ตายล่ะเกรงใจ จะดีเหรอค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับ สวยๆ แบบนี้ ผมเลี้ยงเต็มที่"
"ปกติไม่เคยดื่มด้วย เหล้าเบียร์ จะได้ใกล้ชิดสุดก็เห็นแต่ในรูปนะคะ" แม้จะเพ่งมอง แต่ก็มองไม่ชัดด้วยแสงสลัวที่สนามหญ้า แต่กูว่ามันคุ้นๆ น่ะ
"กัน ผู้หญิงที่นั่งอยู่กลุ่มโน่น ใช่หวานป่ะ"
"หวาน เหวนอะไร กูไม่รู้จัก ชนโว๊ยยยยย"
"มึงตั้งสติก่อนกัน นั่นใช่หวานเมียมึงป่ะ ที่นั่งชนแก้วกับผู้ชายกลุ่มนั้นน่ะ"
กันหยุด แล้วหันมาเพ่งมองแต่ไม่ชัด แต่ด้วยความสงสัย จึงเดินไปดูใกล้ๆ
"หวานมาทำไรครับ" กูว่าล่ะ
"อ้าวกัน หวัดดี เรามาหาแฟนใหม่น่ะ ตายล่ะในกลุ่มนี้ใครโสดบ้างค่ะ"
เสียงเฮดังลั่น เฮฮากันเต็มที่ ดูครึกครื้นเป็นพิเศษเมื่อมีสาวมานั่งด้วย อย่างว่าแหละครับคณะนี้ไม่ค่อยมีผู้หญิง ที่มีก็แข็งแรงบึกบึนกันเหลือเกิน กันเดินกลับมาอย่างไม่สนใจใยดีจนไอ้โจ๊กต้องทัก
"เฮ้ย ว่าไงเพื่อน ไม่ไปหึงหวงหน่อยเหรอว่ะ เดี๋ยวไอ้พวกนั้นก็คาบไปแดก"
"ช่างแม่ง ทำไมกูต้องสนใจด้วย" เรานั่งกินกันต่อสักพักท่ามกลางบรรยากาศอึมครึม
"พวกมึงกูกลับก่อนล่ะกัน กูไม่สนุกล่ะ"
กันเอ่ยขึ้น ท่ามกลางความเงียบ
"เออดี ไปง้อๆ กันซะจะได้คืนดีกัน"
"แมนๆ อย่างกู ทำไมต้องง้อ เออกูไปล่ะ"
"ไปไหนมึง"
"พารากอน"
"ไปทำไมว่ะมึง ห้าทุ่มป่านี้แม่งปิดหมดแล้ว"
"ไปต่อแถวซื้อขนมให้เมีย ต่อแม่งตั้งแต่ตอนนี้แหละจะได้ได้คิวแรก"
"เอ๊า" พูดเสร็จแม่งก็ใส่ตีนหมาวิ่งเร็วอย่างกับจรวด
แม้จะงงกลับการกระทำของมันว่าทำไมมึงไม่เอาเมียกลับ แต่กลับรีบไปตากยุงต่อแถวซื้อขนมที่พารากอน แต่ก็เข้าใจเมื่อเห็นหวานที่อยู่อีกกลุ่ม
"ว๊ายยยย ตายแล้ว"
"อะไรครับ" แหมพวกมึงเทคแคร์ดี๊ดี
"ทอดปลาไว้นะค่ะ ลืมกลับ ยังไงต้องขอตัวไปกลับปลาก่อนนะคะ"
ท่ามกลางความมึนงง ว่าทอดปลาคืออะไรยังไง หวานก็หายไปพร้อมๆ ความเร็วแสง มึงสองคนช่างสมกันจริงๆ ว่าแล้วโทรหาเมียดีกว่า เผื่อเมียคิดถึง
"ฮัลโหล เมียทำไรอยู่ครับ"
"แดกข้าวมีไรมึง"
"น่าสงสาร ผัวไม่อยู่น่าจะกินไม่ค่อยลง ค่อยๆ ฝืนกินหน่อยนะครับ"
"นี่มึงเมาแล้วใช่ป่ะ"
"ทำไมปากแข็งล่ะครับ คิดถึงก็บอกตรงๆ"
"ปากแข็งเหี้ยไร นี่กูแดกไก่ไปถังนึงแหละ กระดูกยังแทบไม่เหลือ มึงเมาใช่ป่ะสรุป"
"ไม่เมาครับ เหงาไหม"
"เหงาเหี้ยไรครับคุณชายแทน มึงหายไปยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลย"
"สองชั่วโมงคงเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก เมียนั่งนับเหงารอผัวกลับใช่ไหมครับ"
"แทนมึงฟังกูดีๆ น่ะ ไปแดกเหล้าซะ แค่นี้"
พูดเสร็งแม่งก็กดวางสายใส่ อะไรคือความหวานช่วงเวลาของคู่หมั่นครับ
"น้องหนึ่งด่าหรือไงมึง" พี่หมอกถามด้วยความห่วงใย
"อืมพี่ เมียบอกรีบๆ วางสายไปแดกเหล้าซะ"
"เออ น้องหนึ่งแม่งดีว่ะ ว่าแล้วกูโทรหาเค็กบ้างดีกว่า"
พูดเสร็จโจ็กแม่งก็กดโทรศัพท์หาน้องเค็ก ตอนแรกกูก็เห็นทำหน้ารื่นเริง สักพักแม่งก็ทำหน้าเครียด ออกไปคุยนอกวงเหล้า มีปัญหาไรป่าวว่ะ เรานั่งคุยนั่งกินไปสักพัก โจ๊กก็เดินกลับมา
"เฮ้ยพวกมึงเดี๋ยวกูกลับก่อนน่ะ"
"อะไรมึง พึ่งนั่งแดกแวบๆ ยังไม่ทันหมดจะทิ้งกูล่ะ" ก็อตโวยวาย
"กูมีเรื่องนิดหน่อย กูขอกลับก่อน"
"เมียด่ากลัวเมียว่างั้น"
"กลัวเมียเหี้ยไรล่ะ"
"อ้าวแล้วอะไรล่ะมึง"
"ก็น้องเค็กบอกอยู่คอนโดคนเดียวกลัว แต่ก็อุ่นใจเมื่อมียามมาเฝ้า"
"เออ มียามมาเฝ้าแล้วก็ดีแล้วไง มึงจะเอาไรอีก"
"เมียกูกลัวเลยชวนยามขึ้นไปเฝ้าที่ห้อง นี่กับข้าวเหลือเลยชวนยามแดกข้าวอยู่บนห้อง นี่กูไปช้าไม่รู้จะกินอะไรกันต่อ น้องมึงเลยแทนเด็ดจริง งั้นแค่นี้"
พูดเสร็จแม่งก็ขึ้นบิ๊กไบค์หายไปกับตา ไอ้กันว่าเร็วแล้วเจอโจ๊กไปนี่เหมือนหายตัว ป่านี้ไม่เหยียบ 180 ถึงคอนโดแล้วรึ
"เออ ไอ้พวกนี้แม่งทิ้งเพื่อนไปหาเมีย เหลือมึงกับพี่หมอกแล้วน่ะแทน" อิจฉาโจ๊กจังครับมีคนโทรตามด้วย
"มาชนแก้ว...." แก้วยังไม่ทันชนก็ต้องขัดด้วยเสียงคล้ายโทรศัพท์
"เสียไรว่ะ ใครแม่งโทรมาอีกกก" ก็อตแม่งหงุดหงิดเล็กน้อย
"อ้อ นาฬิกาปลุกพี่เอง เดี๋ยวพี่ต้องกลับล่ะ สี่ทุ่มล่ะ พี่ต้องไปอาบน้ำกับตือ เดี๋ยวตือรอ พี่กลับล่ะ"
พูดเสร็จไอ้พี่หมอกก็ลุกขึ้นปัดหญ้าที่ก้น ขยับแว่นหนึ่งทีและจากไป ทิ้งให้ผม ก็อตและคนอื่นๆ อึ้งอยู่กลางวงเหล้า
"พี่หมอกแม่งเชียบว่ะ กูว่าเพื่อนมึงสองคนที่แล้วว่าจากกูไปแบบไร้เยื้อไยแล้ว ไอ้พี่หมอกนี่เรียกว่าไม่ทิ้งเยื้อไยอะไรยิ่งกว่า แม่งอยากไปก็ไป ไม่เปิดโอกาสให้กูห้ามสักนิด แม่งเชียบ"
"อืม กูเห็นด้วย" พี่หมอกแม่งเป็นคนไม่แคร์โลกอยู่ล่ะ ดีนะที่มีเมีย เลยดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย
"หวังว่ามึงคงไม่ได้กลัวเมียจนรีบกลับล่ะ"
"กูใคร กูแทน กูจะอยู่กับมึงจนหลับคาวงเหล้านี่แหละ แต่เดี๋ยวกูโทรหาเมียก่อน"
"อ้าว" จะอ้าวทำเหี้ยไร กูคิดถึงของกู
"เมียครับ"
"โอยยย แทนทำไมมึงไม่ไปแดกเหล้าโทรมาทำไมอีก"
"กลัวเมียเหงาครับ"
"เหงาเหี้ยไร อ่านปากกูนะ กูไม่เหงา"
"ทำไมปากแข็งครับ"
"เออ แล้วแต่เลยมึง"
"ผัวเมาแล้วขับรถไม่ไหว มารับหน่อย"
"กูขับรถไม่เป็นแทน สองสิ่งในชีวิตที่กูทำไม่เป็นคือขับรถกับเปลี่ยนหลอดไฟ"
"ทำไมไม่หัดขับล่ะครับ"
"เพราะกูอยากนั่งเคียงข้างไปกับมึงไง"
"ฮืมมมม ทำไมหวาน"
"ชอบไหมมึงพูดหวานๆ"
"ชอบครับ เอาอีก"
"เอาอีกเหี้ยไร กูล้อเล่น กูสอบใบขับขี่ไม่ผ่าน ผ่านป่านี้แม่กูให้ขับไปล่ะ"
"อ้าว"
"อ้าวเหี้ยไร แค่นี้"
ทำไม ห่างผมไปตั้งนาน ไม่คิดถึงกันเหรอ นี่ผมคิดถึงแทบตาย
ผมเดินกลับไปวงเหล้า พวกคนอื่นๆ แยกย้ายไปทำงานต่อกันแล้ว เหลือแต่ก็อตเจ้าเก่าเจ้าเดิมนั่งเฝ้าวงเหล้าขวักมือหยอยๆ เรียกกลับไปกินเหล้า
"เมียมึงด่าไหมว่ะ"
"ด่าเหี้ยไรล่ะ นี่ยังไล่ให้กูมาแดกเหล้ากับมึงอยู่เลย"
"เออ เมียมึงดีว่ะ" เราต่างคนต่างหัวเราะ พร้อมชนแก้วอย่างครื้นเครง
จนเมื่อผ่านไปสักพักความเงียบเริ่มครอบงำต่างคนต่างได้ที่ ผมเรียกช่วงนี้ว่าช่วงเปิดเผยความจริงครับ เป็นช่วงที่คนเมาๆ ได้ที่จะเปิดเผยความจริงออกมา
"กูอิจฉามึงน่ะโว๊ยแทน"
"อิจฉากูเรื่อง"
"เรื่องที่มึงมีแฟนน่ะ"
"ยังไงว่ะ"
"กูก็คิดซะว่าชาตินี้มึงจะไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนซะแล้ว กูเห็นฟันผู้หญิงไม่เลือกหน้า แม่งแย่งกับกู" จบประโยคเราต่างก็หัวเราะ
"พอคนบอกมึงเริ่มวางมือเพราะมีแฟนแล้ว แถมเป็นผู้ชายอีกต่างหาก กูยิ่งไม่เชื่อไปใหญ่ แต่พอเห็นมึงมีความสุขเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น กูก็ดีใจกับมึงด้วย กูยังอิจฉามึงเลยที่มึงมีความสุข"
"แล้วทำไมมึงไม่หาบ้างล่ะวะเพื่อน"
"กูยังไม่เจอคนที่ถูกใจว่ะ"
"งั้นกูถามมึงหน่อย คนที่มึงถูกใจน่ะแบบไหน"
"กูเหรอ เอาแบบขาวๆ สวยๆ นมโตๆ เอ็กซ์ๆ นะมึงกูชอบ"
"เอาตรงๆ นะเพื่อน ตั้งแต่มึงบอกความต้องการมึงมา มันยังไม่มีตรงไหนเลยที่มึงมองหาคนที่จิตใจ สิ่งที่มึงมองมีแต่รูปลักษณ์ความสวยงามที่ภายนอก จะมีคนที่สมบูรณ์ตามที่มึงบอก และเข้ากับมึงได้สักกี่คนว่ะ" ก็อตพยักหน้าเข้าใจ
"สิ่งที่กูอยากบอกคือ ก็ให้มึงตามหาคนที่มึงอยากได้ไปนี่แหละ แต่คนๆ ที่ใช่สำหรับมึงอาจจะไม่ต้องจำเป็นต้องมีทุกอย่าง อย่างที่มึงต้องการ แค่เค้ามีอะไรอย่างนึงที่มึงสนใจ แล้วมึงค่อยๆ หาและดูสิ่งอื่น ว่าสิ่งนั้นถูกใจมึงรึเปล่า สิ่งภายนอกที่มึงเห็นอาจจะสวยงามน้อยกว่าภายในที่มีอยู่ก็ได้มึง"
"อืม ขอบคุณว่ะแทน"
"เออ มีแฟนกับเค้าบ้างมึง จะได้ไม่ต้องเหงา ชวนกูมาแดกเหล้าเป็นเพื่อน"
"อ้าว ไอ้เหี้ยนี่ กูก็นึกว่าห่วงกู"
"เออ เดี๋ยวกูต้องกลับแล้วน่ะโว๊ย ดึกแล้ว ขอโทรหาเมียแวบ"
"เมียครับ ทำไรอยู่"
"โอย แทน ถ้าโทรมาบ่อยขนาดนี้ ไม่ชวนกูไปแดกเหล้าด้วยเลยล่ะ"
"กินเสร็จแล้ว เมา กลับบ้านไม่ไหว ขึ้นแท็กซี่มารับหน่อย"
"ทำไม ไม่ให้เพื่อนมึงขับมาให้ล่ะ"
"เพื่อนก็เมา อีกอย่างกลัวเมียเป็นม่ายตั้งแต่ยังสาว"
"มึงตายกูก็หาใหม่ตั้งแต่วันแรกแล้วแทน"
"ไม่รู้ไม่ชี้เมา"
"แล้วทำไมไม่เรียกแท็กซี่มาเอง"
"จำทางกลับบ้านไม่ได้ กลัวโดนปล้น"
"หน้าอย่างมึงใครจะไปกล้าปล้นให้โดนตีนว่ะแทน ตอบกูสิ'
"เมียมารับหน่อย นาาาาาาาาา"
"เออ ลำบากกูจริง"
"ครับบบบบบบ"
---------------------------------------------------
ก็อต"เป็นไงบ้างว่ะ"
"เออ เดี๋ยวเมียมารับ"
เรานั่งดื่มกันต่อสักพัก ผมก็เริ่มไม่ไหวล่ะ ชักง่วงกริ่มๆ ได้ที่ ผมเห็นรถแท็กซี่จอดอยู่ไม่ไกล มีผู้ชายขาวๆ เดินลงมา แม่งมาทั้งชุดนอนสีฟ้าลายโดเรม่อน เออ แปลกดี
"แทนมึงดูใครไม่รู้แม่งใส่ชุดนอนลายโดเรม่อนมาทางคณะเรา สงสัยแม่งว่าง เดินมาให้คณะเราแซว"
"แซวเหี้ยไร นั่นเมียกู" พูดเสร็จแม่งก็เอาเหล้าสาดใส่ตัวเอง ไม่แดกบอกกูดีๆ ก็ได้แทน กูเสียดายของ
ผมสบตากับคนมาใหม่เล็กน้อย
"หวัดดีครับ ผมหนึ่งครับ มารับแทน"
"อ้อครับ นั่งอยู่นั่นเอาไปได้เลยครับ"
"โหยแทน มึงแดกอะไรขนาดนี้ เป็นญาติกับสิงห์รึไงมึง กลิ่นหึ่งเลย" อ้อ กูเข้าใจล่ะ
"เมียเหรอครับ เมามากเลย อุ้มกลับบ้านหน่อย"
"โอยแทน ลากมึงกูยังไม่ไหวเลย คลานไปแท็กซี่ได้ไหม คลานไม่ได้กลิ้งไหมมึง"
"เมียครับ เมาอยู่ อารมณ์เกรี้ยวกราด เดี๋ยวบดปากเลย" แม่งอยู่ดีๆ ก็จะเล่นหนังสดให้กูดู
"เดี๋ยวผมช่วยผยุงไปแท็กซี่ล่ะกันครับ"
"เคครับ ขอบคุณมากครับ"
หนึ่งรีบวิ่งไปเปิดแท็กซี่รอ ผมค่อยๆ พยุงแทน แม่งก็แสดงเนียนเหลือเกิน ผมค่อยๆ กระซิบ
"แทนกูขอโทษน่ะโว๊ยที่ว่าพวกมึงกลัวเมีย"
"พูดเหี้ยไรตอนนี้ พยุงดีๆ เดี๋ยวกูล้ม"
"กูเข้าใจแล้ว จริงๆ พวกมึงไม่ได้กลัวเมีย แต่พวกมึงหลงเมียต่างหาก"
"พูดเหี้ยไรของมึง งง"
ผมอดอมยิ้มไม่ได้ แต่ก็ช่วยแสดงให้สมบทบาท หนึ่งกล่าวขอบคุณและขอตัวลากลับ ผมค่อยๆ มองรถที่เคลื่อนออกไป คงมีสักวันน่ะครับที่จะเป็นวันของผมบ้าง หวังว่าจะยังมีคนดีๆ รอผมอยู่น่ะ
--------------------------------------------------
หนึ่งในแท็กซี่
"โอยแทนมึงนั่งดีๆ เมาแล้วมึงไม่มีกระดูกหรือไงเลื้อยมาขนาดนี้"
เอ๊าไอ้นี่ยิ่งว่ายิ่งยุ เลื้อยใส่ อย่างเดียวไม่พอยังล้มมานอนตักอีก เฮ้อออ หมดแรงจะห้าม ผมเลยให้มันนอนตามสบาย พลางมองข้างทางสลับกับคนเมาเป็นระยะ ความหวานเกือบจะเข้าที่ ถ้าไม่ติดที่คุณชายแทน
"เมียครับ อะไรแข็งๆ ชนหัว" พูดเสร็จแม่งก็เอามือมาคลำ สรุปมึงเมาจริงๆ ใช่ไหม
"นั่นKกูแทน"
"ทำไมแข็งล่ะครับมีอารมณ์หรือครับ"
"ไม่ได้แข็งเพราะมีอารมณ์แต่Kกูใหญ่ ลุกไปได้แล้ว อายพี่แท็กซี่เค้า"
ผมแอบเห็นสายตาพี่แท็กซี่อมยิ้มเล็กน้อย แทนลุกขึ้นอย่าว่านอนสอนง่าย พร้อมยื่นเงินให้แท็กซี่ 1,000 บาท
"พี่ครับ เมื่อกี้พี่เห็นอะไรไหมครับ"
"พี่ไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยครับน้อง ตามสบายเลยครับ" อ่ะ มึงได้พวกแล้วแทน
"งั้นนอนต่อเลยนะครับ"
"หยุดเลยแทน" แทนเบ้ปากใส่เล็กน้อย เมาแล้วเอาแต่ใจเป็นเด็กเลยมึง
"งั้นกุมมือกัน" โอ้ แม่สาวน้อย ทำไมเอาแต่ใจอย่างนี้ ผมพยักหน้าตัดรำคาญ
"มือเมียอุ่นจังครับ"
"แทนที่มึงกุมอยู่นั่นKกูไม่ใช่มือ"
"สงสัยเมาน่ะครับ สับสนแต่อุ่นดีงั้นกุมต่อล่ะกัน"
เกือบจะเป็นนิยายหวานแหววโรแมนติก ถ้าคุณชายแทนไม่ดึงมาอีโรติกซะก่อน พูดไปก็เหนื่อย ปล่อยไปล่ะกันเพลินดี เฮ้ยยยย ไม่ใช่ ไม่ใช่ เค้าบอกอย่าถือสาคนบ้า อย่าว่าคนเมาต่างหาก เฮ้ออออ
----------------------------------------------
มาล่ะคะ มาช้าแต่น้องก็มา คิดถึงคนอ่านทุกคน หน้าฝนตกๆ หยุดๆ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นดูแลสุขภาพกันด้วยเด้อ ชอบการพัฒนาของตัวละครแทนหนึ่ง ในส่วนความคิดของคนเขียนเอง การคบกันเป็นคนรักด้วยเป็นเพื่อนด้วย มันน่าจะยืนยาวมากกว่าความรักแบบหึงหวง ส่วนเรื่องที่แทนคุยกับก็อต เกิดที่คนเขียนแนะนำน้องเพื่อนไป ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบทุกอย่าง ทุกคนต่างมีข้อดีข้อเสียในตัว ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ มองโลกนี้ให้กว้างขึ้น บางครั้งเราอาจจะเห็นแง่มุมในมุมที่เราไม่เคยเห็น ความรักอยู่รอบตัวค่ะ ขอให้คนอ่านพบเจอคนรักดีๆ แบบที่แทนมีให้หนึ่งน่ะคะ
รักที่สุด
Aemmilicious
xxxxx