รักของนายเอกหนังโป๊ [20+] >>> ตอนที่ 10 ผลงานใหม่ [Part 2] [26-Sep-18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ทีมใครกันเอ่ย

ฟรองค์
9 (36%)
โชน
16 (64%)
ราม
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 25

ปิดการโหวต: 09-11-2018 11:45:21

ผู้เขียน หัวข้อ: รักของนายเอกหนังโป๊ [20+] >>> ตอนที่ 10 ผลงานใหม่ [Part 2] [26-Sep-18]  (อ่าน 26974 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หายไปนานนะไรท์  ดีใจที่ไรท์กลับมา   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ราม สมกับทำอาชีพนี้  :fire:
ทำตัวชอบหนึ่ง แต่เวลางานมันแสดงถึงตัวตนที่โหดร้ายมาก  :z6:
ไม่คำนึงถึงจิตใจนักแสดงอย่างป้อง ที่เพิ่งเดบิ้วเลย
แล้วบทบาทมันทำร้าย กระทบกระเทือนจิตใจป้อง   :angry2:

โชน ดูใสซื่อซะหนึ่งชอบแกล้งไปแล้ว
ท่าทางโชน ดูจะเข้าตาหนึ่งที่สุดนะ
แบบหนึ่งสบายใจที่จะคุยด้วยมากกว่ารามกับโชน  :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เชียร์โชนให้หนึ่ง ดีกว่าอิคุณรามผู้เห็นแก่ตัว

ออฟไลน์ lcortsess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

งุย ๆ หนุ่มน้อยขี้อายจะได้ออกเดทแล้ว  อิอิ

ออฟไลน์ temaripik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โชนดูใสซื่อดี แต่ใสซื่อจริงหรือเปล่าไม่แน่ใจกลัวจะเป็นการแสดงละครจัง

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
หนึ่งอย่าแกล้งโชนสิ น่าตีจริง โชนเขาจริงจังนะ

ออฟไลน์ ตำไทยใส่พริกสิบเม็ด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-8

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

โชนมาวินสินะ  อิอิ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ใครเป็นพระเอกกันนะ?

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คุณโชนอบอุ่นอ่อนโยนจริงๆ ดีต่อใจอ่ะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ ตำไทยใส่พริกสิบเม็ด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-8
ตอนที่ 8 รักปักใจ



     ผมยืนมองสายฝนที่หล่นร่วงกระหน่ำลงมาไม่ขาดสายอยู่นอกหน้าต่าง ตอนที่ออกจากบ้านก็ไม่มีทีท่าว่าจะตกเลยสักนิด แต่พอดูละครเวทีจนจบและกำลังจะกลับบ้านเท่านั้นล่ะฝนเจ้ากรรมกลับตกลงมาห่าใหญ่แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ราวกับว่าท่านเทพแห่งสายฝนเป็นใจให้ผมกับคุณโชนได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองอย่างไรอย่างนั้น

     ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องของคุณโชนครับ ผมเป็นคนขอเขามาพักหลบฝนที่นี่เองแหละ ก็ห้องของคุณโชนอยู่ไม่ไกลจากโรงละครเท่าไหร่ เพราะมันดูน่าจะอันตรายหากจะให้คุณโชนขับรถฝ่าสายฝนที่ตกกระหน่ำจนน่ากลัวนั้นไปส่งผมที่บ้าน มาพักที่ห้องเขารอให้ฝนซาก่อนแล้วค่อยกลับมันน่าจะปลอดภัยกว่า

     แล้วก็อย่าถามผมนะว่าละครที่ดูวันนี้สนุกไหม เพราะผมแทบจะจำเนื้อเรื่องไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะมัวแต่แอบก้มมองมือของคุณโชนที่ยังคงจับมือผมเอาไว้มั่น ตั้งแต่ตอนที่เดินเข้าโรงละครจนถึงเวลาที่ละครจบเราสองคนแทบจะไม่ได้ปล่อยมือจากกันเลย ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมรู้สึกดีมาก มากเสียจนผมแทบจะไม่ได้สนใจในเนื้อหาของละครที่กำลังดูอยู่เลย ผมได้แต่เออออตามคุณโชนเขาไปว่าสนุกมากอย่างนั้นอย่างนี้แม้ว่าจริง ๆ แล้วแม้แต่ชื่อพระเอกผมยังจำไม่ได้เลย

     นี่ผมเริ่มจะชอบคุณโชนขึ้นมาจริง ๆ แล้วหรือนี่ ทั้ง ๆ ที่ตั้งมั่นเอาไว้อย่างแน่วแน่แล้วว่าจะไม่มีใครจนกว่าจะพ้นวาระการเป็นนักแสดงหนังจีวี และผมก็ทำได้ตามนั้นมาโดยตลอดผมไม่เคยจะโอนอ่อนไปกับใครที่ผ่านเข้ามาและหมายจะสานต่อความสัมพันธ์กับผม แม้แต่ฟรองค์ที่ไม่เคยลดละความพยายามที่จะพิชิตใจผมให้ได้ แต่อยู่ ๆ คุณโชนกลับเข้ามาทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหวได้อย่างง่ายดาย จากคนที่คิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจรับใครกลับปล่อยให้เขาแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่หัวใจได้อย่างง่ายดาย

     ผมหันมองด้านหลังเมื่อรู้สึกได้ถึงเนื้อผ้าหนา ๆ ที่เข้ามาห่อคลุมตัวผม เป็นคุณโชนที่ใบหน้าของยังเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและโอบโยน เขากำลังเอาเสื้อคลุมตัวใหญ่ห่มทับตัวผม แววตาละมุนของเขาที่สบกับแววตาของผมมันทำให้ผมรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่เขาส่งผ่านมาทางแววตา เขาทำให้ผมรู้สึกใจสั่นไปใหญ่แล้ว

     “ใส่ไว้นะครับ ฝนตกอย่างนี้อากาศเย็น เสื้อคุณหนึ่งดูบางมากเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

     “คุณโชน” ผมเรียกเขาพร้อมจับมือของเขาที่กำลังจัดระเบียบผ้าคลุมผืนใหญ่บนตัวผมให้เข้าที่เข้าทาง คุณโชนชะงักและมองผมอย่างตั้งคำถาม

     “คุณรู้สึกยังไงกับผมเหรอ” ผมถามเขาตรง ๆ อย่างไม่อ้อมค้อม โต ๆ กันแล้วอย่ามัวมาลีลาอะไรกันอีกเลย
ใช่ว่าผมจะไม่รับไม่รู้ถึงการกระทำของเขาที่มีต่อผมนั้นมันเป็นการกระทำของคนที่รู้สึกอย่างไรต่อกัน แต่อย่างไรก็ตามผมก็ยังอยากจะได้ยินจากปากเขาเพื่อความแน่ใจและชัดเจน ส่วนจะเอาอย่างไรต่อไปนั้นก็เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที เพราะเขาทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้นกับเขาไปแล้ว และผมก็ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป

     คุณโชนนิ่งไปหลังจากที่ถูกผมถามไปอย่างไปนั้น ผมขอร้องล่ะอย่ามัวนิ่งงันหรืออายที่จะพูดอะไรอีกเลย ถ้าผมแค่เข้าใจผิดไปเองก็รีบบอกกันเสียตั้งแต่ตอนนี้เถอะมันคงจะไม่เจ็บเท่าไหร่ อย่ารอให้ความรู้สึกของผมถลำลึกไปมากกว่านี้เลย

     “เอ่อ ผม.....” คุณโชนเอ่ยเริ่มต้นประโยคขึ้นมาแล้วเขาก็เงียบไปเหมือนกำลังคิดทบทวนอะไรบางอย่าง ผมรู้สึกได้ถึงความกังวลในแววตาของเขาที่กำลังมองผม ผมแทบจะเกร็งไปทั้งตัวเพราะลุ้นในคำตอบของเขา จะว่าอย่างไรก็รีบ ๆ พูดมาสักทีเถอะนะ
คุณโชนหลับตาและสูดลมหายใจเข้าไปเสียเต็มปอด ก่อนที่เขาจะกลั้นใจและให้คำตอบในสิ่งที่ผมอยากรู้

     “....ผมรักคุณ”

     “รักเหรอ...” ผมว่าพลางเลิกคิ้วอย่างนึกไม่แน่ใจ แม้ในคราวแรกคำตอบของเขาจะทำให้ผมยิ้มได้เสียเต็มหน้า แต่มันยังไวเกินไปหรือเปล่าที่จะใช้คำว่ารัก เขาแน่ใจแล้วหรือถึงได้พูดคำนั้นออกมา หากคำตอบของเขาเป็นคำว่าชอบหรือรู้สึกดีกับผม ผมคงจะรู้สึกยินดีได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยไม่ต้องกังวลใด ๆ เพราะคำ ๆ นั้น

     “คุณแน่ใจแล้วเหรอที่พูดแบบนั้น”

     เขาลืมตาขึ้นสบตากับผม แววตาของเขามันดูจริงจังจนน่าขนลุก แม้ท่าทางของเขาจะยังดูกล้า ๆ กลัว ๆ แต่เมื่อมองลึกเข้าไปในแววตาของเขาผมกลับสัมผัสได้ถึงความกล้าหาญอย่างประหลาดใจที่ผมเองก็อธิบายไม่ถูก

     “ผมแน่ใจ ผมรักคุณ รักมานานแล้ว และไม่เคยรักใครนอกจากคุณ” แม้สีหน้าและแววตาของเขาจะดูจริงจังและจริงใจแต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกมีความมั่นใจในสิ่งที่เขาพูดเลย เพราะคำ ๆ นั้นผมได้ยินคุณรามพร่ำเพ้อให้ฟังเสียจนแขยงหู

     เขาบอกว่ารักผมมานานแล้วมันจะนานสักแค่ไหนกันเชียว ผมกับเขาเพิ่งจะได้ทำความรู้จักกันแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง หรือจะบอกรักผมเพราะเห็นผมในหนังโป๊น่ะหรือมันเป็นไม่ได้หรอก จริง ๆ แล้วเขาก็คงจะแค่พูดให้ผมรู้สึกดีเพราะหวังเพียงแค่ตัวผมเหมือนคุณรามสินะ สำหรับผมนั้นคำว่ารักมันมีความหมายและยิ่งใหญ่มากนะ ผมไม่มีทางที่จะพูดคำ ๆ นั้นกับใครง่าย ๆ ถ้าหากเขาต้องการแค่หลับนอนกับผมก็บอกกันตรง ๆ เลยดีกว่า อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกผมอย่างนี้เลย

     “คุณหนึ่งอย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ ผมจริงใจกับคุณหนึ่งจริง ๆ” ความกังวลของผมมันคงจะแสดงออกทางสีหน้าจนเข้าสังเกตเห็นได้  คุณโชนใช้สองมือจับประครองที่แก้มผมทั้งสองข้าง ผมรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่มีแต่ความทะนุถนอมจากเขา แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจในคำว่ารักของเขาอยู่ดี

     “ผมไม่ได้รักคุณเพียงเพราะชื่นชอบผลงานที่คุณแสดงหรอกนะครับ ผมรักมานานมากแล้ว นานกว่าที่คุณคิดเสียอีก ถึงคุณหนึ่งจะจำผมไม่ได้.............” จะพูดก็รีบ ๆ พูดสักทีเถอะ ยังจะมัวลังเลอยู่ได้ เขารู้บ้างยิ่งเขาเว้นจังหวะคิดนานเท่าไหร่หัวใจผมมันก็ยิ่งแป้วขึ้นเท่านั้น

     “...........แต่พี่ไม่เคยลืมน้องหนึ่งของพี่เลยนะครับ”

     ผมเลิกคิ้วอย่างนึกสงสัยกับคำสรรพนามที่เปลี่ยนไปของเขา ผมกับเขาเคยรู้จักกันมาก่อนด้วยหรือ ที่ว่ารักผมนานมากนั้นมันนานแค่ไหน มันนานจนถึงขั้นจะทำให้ผมลืมหน้าเขาได้เลยหรือ ผมไม่แม้แต่จะรู้สึกคลับคล้ายคลับคลากับเขาเลย

     “นี่เราเคยรู้จักกันด้วยเหรอ”

     “น้องหนึ่งอาจจะไม่คุ้นกับชื่อเล่นของพี่ แล้วถ้าพี่บอกว่าชื่อจริงพี่ชื่อภูเบศล่ะครับ”  ภูเบศ?

     ภูเบศอย่างนั้นหรือ พอพูดถึงชื่อนั้นผมเองก็พอจะรู้สึกคุ้น ๆ อยู่เหมือนกันนะ ผมพยายามที่จะคิดทบทวนถึงชื่อที่เขาว่า ที่ผ่านมาในชีวิตผมพอจะรู้จักคนที่ชื่อภูเบศสักกี่คนกันนะ  หรือว่า!!!!

     ผมตาเบิกโพลงเพราะความตกตะลึงเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนจบได้คำตอบแล้วว่าคนที่ชื่อภูเบศที่ผมพอจะรู้จักก็มีอยู่แค่คนเดียว

     “อย่าบอกนะว่า!!!!”



[มีต่อในรีพลายถัดไปครับ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2018 15:14:23 โดย ตำไทยใส่พริกสิบเม็ด »

ออฟไลน์ ตำไทยใส่พริกสิบเม็ด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-8
[ต่อ]     


     ถ้าพูดถึงคนชื่อภูเบศที่ผมพอจะรู้จัก ผมก็นึกถึงใครไม่ออกนอกไปจากพี่ภูเบศคนนั้น แต่มันจะเป็นไปได้หรือก็พี่ภูเบศคนนั้นกับคุณโชนไม่ได้มีอะไรใกล้เคียงกันเลยสักอย่างคุณโชนคนนี้ทั้งหล่อและรูปร่างสมาร์ทแต่กับพี่ภูเบศที่ผมเคยรู้จักล่ะก็......

     คงจะต้องเล่าย้อนไปถึงตอนที่ผมยังเรียนอยู่มัธยม ที่ประเทศของผมก็ใช้หลักการนับปีการศึกษาเหมือนที่ประเทศไทยนั่นแหละ ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้นม.4 ส่วนพี่ภูเบศคนนั้นเขาอยู่ม.6 คนทั้งโรงเรียนก็น่าจะรู้จักพี่เขานั่นแหละเพราะพี่เขาเป็นถึงประธานนักเรียน แต่ยิ่งนึกถึงพี่เขาแล้วนอกจากความสูงแล้วก็ดูไม่มีดีสิ่งใดที่ดูใกล้เคียงจะเป็นคุณโชนในปัจจุบันไปได้

     เท่าที่ผมพอจะจำได้พี่ภูเบศเขาเป็นคนที่ดูเนิร์ด ๆ ใส่แว่นตาหนาเตอะ รูปร่างอวบอั๋นระดับเอ็กซ์เอ็กซ์แอล ไหนจะผิวหน้าที่มีรอยฝ่ากระอยู่เต็มไปหมดพี่ภูเบศคนนั้นไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่ดูสมบูรณ์แบบเหมือนคุณโชนเลยสักนิด แต่ว่าพี่ภูเบศเขาเรียนเก่งมากเลยนะ เท่าที่ผมจำได้คะแนนสอบของพี่เขาเป็นอันดับหนึ่งของระดับชั้นในทุก ๆ เทอมและผมได้ยินว่าพี่เขาสอบชิงทุนได้สำเร็จจนได้ไปเรียนต่อที่อังกฤษอีกด้วย

     ผมกับพี่เขาก็ไม่ได้สนิทอะไรกันหรอกเท่าที่จำได้ก็เคยคุยกันอยู่แค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง ตั้งแต่ที่พี่เขาเรียนจบม.6ไปผมก็ไม่ได้ยินข่าวคราวของพี่เขาอีกเลยส่วนเรื่องที่ทำให้ผมและพี่เขาได้คุยกันน่ะหรือ ก็......



☼​☼​☼​☼​☼​☼



     ผมหันมองตามเสียงแตรรถที่ถูกบีบลากยาวดังสนั่นมาจากรถเก๋งที่ขับมาด้วยความเร็วสูงชนิดที่น่าจะเกินที่กฎหมายกำหนดอย่างไม่สนใจว่าบริเวณนี้จะเป็นเขตโรงเรียน ยิ่งช่วงเลิกเรียนอย่างนี้เด็กยิ่งพลุกพล่านก็ยังกล้าที่จะขับรถแบบไร้สามัญสำนึก

     แล้วในขณะนั้นก็มีนายอวบอั๋นที่ไหนก็ไม่รู้เดินทะเล่อทะล่าข้ามถนมออกไปจนเป็นที่มาของเสียงบีบแตรสะเทือนจักรวาลนั้น ผมรีบพุ่งเข้าไปกระชากตัวนายคนนั้นกลับมาตามสัญชาตญาณ เรียกได้ว่านายนั่นรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด ไอ้รถเก๋งคันนั้นก็ขับต่อไปอย่างหน้าตาเฉย ไหนจะป้ายเตือนให้ลดความเร็ว ไหนจะทางม้าลายและสัญญาณไฟคนข้ามถนน มันไม่ได้ไปสะกิดจิตสำนึกของเจ้าของรถสักนิดเลยหรือไง แล้วโรงเรียนผมนี่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีสะพานลอยหน้าโรงเรียนสักที ถ้าหากมีคนขับรถแบบนั้นบ่อย ๆ เด็ก ๆ อันตรายแย่

     ผมและนายอวบอั๋นที่ผมเพิ่งจะช่วยชีวิตมาหมาด ๆ ต่างพากันทรงตัวไม่อยู่และเซถลาล้มลงไปตาม ๆ กันก็เพราะนายนั่นตัวใหญ่และหนักมากเทียบกับผมแล้วผมดูเป็นมดไปเลย แล้วเมื่อครู่นี้ผมกระชากเขามาสุดแรงเกิดสภาพก็เลยเป็นอย่างนี้

     ผมและนายคนนั้นล้มลงไปกองกับพื้นพร้อม ๆ กัน แต่เป็นโชคดีของผมที่ตัวนายนั่นถึงพื้นก่อนผมเลยล้มไปทับพุงนิ่ม ๆ ของเขาก็เลยไม่ได้เจ็บตัวสักเท่าไหร่แต่อีกฝ่ายที่ล้มลงพื้นตรง ๆ นั้นคงจะเจ็บไม่น้อย แต่ เอ๊ะ นี่มันพี่ภูเบศประธานนักเรียนนี่

     “พวกเธอเป็นอะไรกันหรือเปล่า!” เสียงคุณครูที่ยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนตะโกนพลางรีบวิ่งมาหาพวกเราอย่างร้อนใจ
ผมดันตัวเองขึ้นพลางค่อย ๆ คลานออกจากพุงนิ่ม ๆ ของพี่ภูเบศ ถึงพุ่งพี่แกดูน่าจะหนุนสบายแต่ถ้าขืนผมทับอยู่นาน ๆ พี่แกจะยิ่งแย่เสียเปล่า

     “ผมไม่เป็นอะไรครับแต่พี่ภูเบศน่าจะหนัก” ผมว่าพลางปัดฝุ่นตามร่างกาย จริง ๆ แล้วตามตัวผมก็มีรอยถลอกบ้างนิดหน่อยจะมีก็ตรงที่เข่าซ้ายที่แตกจนเป็นแผลเลือดไหล แต่แค่นี้ไกลหัวใจน่า

     เพื่อนนักเรียนที่อยู่ในบริเวณนั้นพากันมาช่วยประครองพี่ภูเบศลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล พร้อมทั้งก่นด่ารถเก๋งสายซิ่งที่เพิ่งขับผ่านไปเมื่อครู่เป็นเสียงเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วก็อาจจะโทษรถอย่างเดียวไม่ได้ เพราะอีตาพี่ภูเบศนี่ก็ประมาทเหมือนกัน เกือบจะทิ้งชีวิตไว้หน้าโรงเรียนแล้วไหมล่ะ

     “เอ่อ ขะขอบคุณมากนะครับน้อง.... เอ่อ....” พี่ภูเบศหันมองผมและกล่าวขอบคุณอย่างตะกุกตะกักคงจะยังเสียขวัญจากเหตุการณ์เมื่อครู่

     “ผมชื่อหนึ่งครับพี่ เรื่องแค่นี้เล็กน้อยพี่” ผมยิ้มให้พี่แก พี่แกก็ยิ้มตอบเหมือนดูเขิน ๆ

     “พวกเธอช่วยพาภูเบศไปห้องพยาบาลหน่อยเร็ว เธอก็ควรไปทำแผลด้วยเหมือนกันนะ” คุณครูบอกกับกลุ่มนักเรียนที่ยังช่วยกันประครองพี่ภูเบศไว้อยู่ ก่อนจะหันมาบอกกับผมด้วย

     “ไม่ดีกว่าครับครูพอดีผมต้องรีบไปรับน้องน่ะครับ” ผมตอบปฏิเสธคุณครูไปเพราะแผลที่เข่าผมมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรแค่แปะพลาสเตอร์ก็คงพอ ร้านชำแถวนี้ก็น่าจะมีพลาสเตอร์ขายอยู่นะอีกอย่างผมต้องรีบไปรับเจ้าสองที่โรงเรียนประถมเพื่อกลับบ้านพร้อมกันด้วย ถ้าปล่อยให้รอนาน ๆ มีหวังเจ้าน้องตัวแสบคงร้องไห้ขี้มูกโป่งเสีย

     ผมพนมมือไหว้คุณครูและพี่ภูเบศ ก่อนจะโบกไม้โบกมือลาเพื่อนนักเรียนที่อยู่ตรงนั้น และขอแยกตัวออกมา



☼​☼​☼​☼​☼​☼



     “พี่ให้ผมช่วยนะ” ผมว่าพร้อมกับเข้าไปแบ่งหนังสือที่เรียงกันเกือบจะท่วมหัวจากมือพี่ภูเบศมาถือไว้เองครึ่งหนึ่งอย่างถือวิสาสะ พอดีผมบังเอิญผ่านมาเจอพี่แกกำลังถือหนังสือพวกนี้ออกมาจากห้องคุณครูสมใจพอดี

     “ขะ ขอบคุณครับ น่ะ น้องหนึ่ง แต่ว่ามันหนักพี่ถือเองดีกว่า” เอ นี่มันก็ผ่านเหตุการณ์ที่พี่แกเกือบโดนรถชนมาหลายวันแล้วนะ ยังไม่หายจากอาการเสียขวัญอีกหรือทำไมถึงยังพูดตะกุกตะกักอย่างนั้น เมื่อเช้าตอนที่พี่แกพูดหน้าเสาธงแทนคุณครูก็เห็นพูดปกติดีนี่นา

     “ก็เพราะมันหนักอ่ะดิพี่ผมถึงต้องช่วย หนักขนาดนี้ปล่อยให้พี่ยกคนเดียวก็ตายพอดี พี่ไม่ต้องเกรงใจผมหรอกเห็นผมตัวแค่นี้แต่ผมแรงเยอะนะพี่” ผมยิ้มทำเก่ง แต่หนังสือพวกนี้เล่มหนา ๆ หนัก ๆ ทั้งนั้นขนาดผมแบ่งมาแค่มาครึ่งเดียวยังรู้สึกว่ามันหนักมากเลย

     แต่ทำไมพี่ภูเบศถึงดูเกร็งขนาดนี้นะ แค่ผมยิ้มให้พี่แกก็ทำเลิ่กลั่กหันมองทางอื่นอย่างกับกำลังหลบสายตาผม หรือพี่แกจะโกรธเรื่องที่ผมทำให้พี่แกล้มกระแทกพื้นวันนั้นนะ

     “เออ แล้วพี่เป็นยังไงบ้างยังตกใจอยู่ไหม”

     “พี่ไม่เป็นอะไรแล้วครับ” พี่ภูเบศว่าอย่างไม่ยอมสบตาผม

     “แล้วว่าแต่หนังสือพวกนี้พี่จะเอาไปไว้ที่ไหนเหรอ”

     “เอ่อ เอาไปไว้ที่ห้องคุณครูสมปองครับ เอ่อ น้องหนึ่งไหวไหมครับ” หา! พี่ภูเบศว่าพลางแอบเหลือบมองผมเหมือนหยั่งเชิง ผมนี้แทบจะช็อคเมื่อพี่ภูเบศบอกถึงจุดหมายที่จะต้องหนังสือกองโตหนักอย่างกับภูเขาพวกนี้ไปส่ง จากห้องครูสมใจที่พี่แกเอาหนังสือออกมานั้นไปถึงห้องครูสมปองไม่ใช่ใกล้ ๆ เลยนะ มันอยู่คนละตึกกันเลยนะนั่น กว่าจะไปถึงแขนผมต้องล้าแน่ ๆ คุณครูใช้แรงงานเด็กหนักเกินไปหรือเปล่านี่

     แค่นึกถึงระยะทางผมก็ท้อแล้วแต่จะทำอย่างไรได้ก็ผมเป็นคนอาสาจะช่วยเองนี่ ผมก็เลยได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ แล้วตอบพี่แกไปว่าสบายมาก ทั้งที่ในใจไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย




☼​☼​☼​☼​☼​☼



     “ช่วยด้วยค่า! ลูกหมาตกน้ำ”  ผมรีบวิ่งตามเสียงร้องขอความช่วยจากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ดังแว่วมาแต่ไกล
วันนี้เป็นวันหยุดผมเลยแวะมาติวหนังสือที่บ้านเพื่อนที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน ผมขอตัวกลับในยามบ่ายคล้อย ตอนที่เดินมาจนใกล้จะถึงบ่อน้ำหลังโรงเรียนผมก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือนั้นเข้า ผมรีบวิ่งตามเสียงนั้นไปในทันทีเพราะจากเสียงที่ได้ยินเด็กผู้หญิงคนนั้นคงกำลังเดือดร้อนมากแน่ ๆ

     เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุผมก็ได้พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนร้องไห้โฮมองเจ้าหมาน้อยที่กำลังลอยคอป๋อมแป๋มจะจมแหล่มิจมแหล่อยู่ในบ่อน้ำหลังโรงเรียน โดยที่ด้านข้างเด็กผู้หญิงคนนั้นก็มีอีตาพี่ภูเบศที่อยู่ในชุดนักเรียนพยายามที่จะยื่นไม้ยาว ๆ ไปหาเจ้าหมาน้อยที่กลางบ่อ แล้วเจ้าหมาน้อยมันจะเกาะขึ้นมาได้อย่างไรล่ะนั่น

     วันนี้ที่โรงเรียนคุณครูมีประชุมกันครั้งใหญ่โรงเรียนจึงหยุดทำการสอน แต่พี่ภูเบศเจ้าของตำแหน่งประธานนักเรียนยังคงต้องมาทำหน้าที่ นี่แหละนะเป็นประธานนักเรียนใครว่าสบายคนอื่นเขาได้หยุดกันแต่ตัวเองไม่ได้หยุดด้วย

     “มันเกาะขึ้นมาไม่ได้หรอก ต้องลงไปช่วยมันแล้วล่ะพี่” ผมวิ่งตรงเข้าไปตบบ่าของพี่ภูเบศพร้อมกับแนะหนทางที่จะช่วยเจ้าหมาน้อยตัวนั้นได้

     “เอ่อ... พ่ะพี่ว่ายน้ำไม่ได้เป็นครับ” ตอนที่หันมาเห็นหน้าผมพี่ภูเบศดูหน้าเหวอไปชั่วขณะ และเกิดอาการพูดตะกุกตะกักเหมือนลนลานอีกแล้ว พี่แกเป็นอะไรไปอีกแล้วนี่ ปกติตอนพูดหน้าเสาธงก็ไม่เห็นว่าจะติดอ่างสักหน่อย

     ผมถึงกับทุบหน้าผากตัวเองตอนที่พี่ภูเบศบอกว่าว่ายน้ำไม่เป็น อย่างนั้นก็คงต้องเป็นผมสินะ เอาก็เอาวะ ผมรีบกระโดดลงน้ำไปอย่างไม่มีเวลาฉุกคิด ขืนช้าไปกว่านี้มีหวังเจ้าหมาน้อยคงได้จมน้ำตายกันเสียก่อน


     ผมพาเจ้าหมาน้อยกลับขึ้นฝั่งมาได้อย่างปลอดภัย ผมส่งมันคืนให้กับสาวน้อยผู้เป็นเจ้าของมันและบอกกับเธอว่าให้ดูแลมันให้ดี ๆ เด็กผู้หญิงคนนั้นดูดีใจมากขอบคุณเสียยกใหญ่ ก่อนที่เธอจะอุ้มเจ้าหมาน้อยและขอแยกตัวออกไป พอได้ช่วยเหลือคนอื่นผมก็พลอยมีความสุขจนยิ้มตามได้ไปด้วย

     ผมรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวเพราะความเปียกปอน แล้วก็เสื้อยืดสีขาวบาง ๆ ของผมนี่สิพอโดนน้ำแล้วมันเห็นทะลุไปถึงข้างในหมดเลย นี่ผมต้องกลับบ้านสภาพนี้จริง ๆ หรือนี่

     “เออนี่พี่ภูเบศคือว่า... เฮ้ย พี่! เป็นอะไรหรือเปล่า” ผมหันไปหาพี่ภูเบศตั้งใจจะขอความช่วยเหลือเผื่อพี่แกพอจะมีเสื้อผ้าให้ผมเปลี่ยน แต่แล้วผมก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสภาพของพี่แกในตอนนั้น

     พี่ภูเบศมองมาทางผมตาค้างและอ้าปากค้างเหมือนกำลังช็อคกับอะไรบางอย่าง นี่พี่แกมีโรคประจำด้วยหรือนี่ ผมยิ่งต้องตกใจหนักเมื่อเห็นว่าพี่แกเริ่มมีเลือดกำเดาไหลจากจมูกก่อนที่จะแกจะหงายท้องตึงไปเลย เฮ้ย!!

     “พี่ภูเบศ!!!!”



☼​☼​☼​☼​☼​☼



     ก็นั่นแหละครับพี่ภูเบศที่ผมเคยรู้จัก เหตุการณ์หลัก ๆ ที่ได้พูดคุยกันเท่าที่ผมพอจะจำได้ก็มีเท่านั้นแหละ หลังจากนั้นก็มีทักทายกันบ้างครับตอนเจอกันที่โรงเรียน แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นสนิทสนมอะไรกันมากมาย และพี่เขาก็ดูเหมือนไม่ค่อยกล้าจะมองหน้าผมเท่าไหร่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เวลาผมยิ้มให้พี่แกก็ดูเลิ่กลั่กทุกที

     จากนั้นไม่นานพี่ภูเบศก็จบม.6 และไปเรียนต่อต่างประเทศตามที่สอบชิงทุนได้ หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ข่าวคราวของพี่ภูเบศอีกเลย ก็อย่างที่ผมบอกครับเราไม่ได้ถึงขั้นสนิทสนมกัน ช่องทางการติดต่อของพี่เขาไม่ว่าจะเบอร์โทรหรืออีเมลผมก็ไม่มีเลยสักอย่าง ผมกับพี่เขาก็เลยขาดการติดต่อและห่างหายกันไป

     เป็นเวลาเจ็ดปีที่ไม่ได้เจอหน้าและไม่ได้รู้ข่าวคราวกันเลย เรื่องราวของพี่ภูเบศก็ค่อย ๆ เลือนหายไปจากห้วงความทรงจำขอมผมเรื่อย ๆ จนผมเกือบจะลืมไปแล้วว่าในชีวิตของผมเคยรู้จักคนที่ชื่อนี้ด้วย


     แต่ว่ามันจะเป็นไปได้หรือที่พี่ภูเบศคนนั้นกับคุณโชนนี้จะเป็นคน ๆ คนเดียวกัน




     TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2018 22:17:43 โดย ตำไทยใส่พริกสิบเม็ด »

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ใครล่ะ ภูเบศที่เคยรู้จัก

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ใคร?  ใครคือภูเบศ?  แต่ที่แน่ ๆ ภูเบศคือโชน  อิอิ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ภูเบศคือใคร   :hao4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Saiias0005

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Lotsa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แงงงงงงงง^~^ ภูเบศศศศศ มาอธิบายเดี๋ยวนี้ว่านายเป็นใคร????? ฉันรอฟังอยู่
เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนนะคะ

ออฟไลน์ ตำไทยใส่พริกสิบเม็ด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-8

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ทำไมพี่ภูเบศถึงเปลี่ยนไปขนาดนั้นล่ะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ก็ไม่แปลกหรอก  คนเราพอผอมลงแบบคนสุขภาพดีมีกล้ามเนื้อก็ดูดีทั้งนั้นแหละ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ ตำไทยใส่พริกสิบเม็ด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-8
ตอนที่ 9 ปั่นหัว


     “ตอนนี้พี่ว่ายน้ำเป็นแล้วนะครับ แล้วก็ดูแลน้องหนึ่งได้แล้วด้วย” คุณโชนชิงพูดเรื่องที่น่าจะมีผมกับพี่ภูเบศเท่านั้นที่รู้กันขึ้นมาและตบท้ายด้วยคำหวานโดยไม่รอไม่ผมได้ถามคำถามใด ๆ

     แม้ท่าทีของเขาจะยังขัดเขินแต่ผมก็รู้สึกได้ถึงความจริงใจที่ส่งผ่านทางคำพูดและแววตาของเขา แต่ผมได้แต่มองตาด้วยความรู้สึกสับสน ผมไม่รู้ว่าผมควรจะต้องรู้สึกอย่างไรในเวลาแบบนี้ เมื่ออยู่ ๆ ผู้ชายที่มาให้ผมรู้สึกหวั่นไหวก็มาบอกว่าตัวเองคือรุ่นพี่สมัยเรียนที่ผมไม่ได้พบหน้ามานานแสนนาน

     “พี่ไม่กล้าบอกน้องหนึ่งตั้งแต่แรกว่าพี่คือใคร เพราะพี่กลัวน้องหนึ่งจะรังเกียจพี่” คุณโชนว่าพลางลดมือทั้งสองข้างที่กำลังจับประครองแก้มผมลง เขาจะกลัวถูกผมรังเกียจไปทำไมกัน ต่อให้เขาจะเป็นคนเดียวกันกับพี่ภูเบศคนนั้นจริง ๆ ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรน่ารังเกียจ มิหนำซ้ำทุกวันนี้เขายังกลายเป็นหนุ่มหล่อที่แสนเพอร์เฟค ผมต่างหากล่ะที่ควรจะต้องเป็นฝ่ายกลัวว่าเขาจะรังเกียจผม

     “น้องหนึ่งรู้ไหมพี่ชอบน้องหนึ่งมาตั้งแต่ตอนที่น้องหนึ่งช่วยชีวิตพี่ไว้ที่หน้าโรงเรียนวันนั้น  แต่พี่ก็ได้แต่แอบมองหนึ่งอยู่ห่าง ๆ น้องหนึ่งน่ารักอย่างกับนักร้องเกาหลีและยังนิสัยดีมีน้ำใจกับทุกคน มีคนอยากเข้าหาน้องหนึ่งเต็มไปหมดไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายแต่น้องหนึ่งก็ไม่เคยสนใจใคร จนพี่รู้สึกเจียมตัวว่าตอนนั้นพี่ก็ยังไม่ดีพอพี่ก็เลยไม่กล้าที่จะสารภาพความในใจ แถมเจอหน้าน้องหนึ่งทีไรพี่ก็เขินจนพูดอะไรไม่ออกทุกที”

     พอได้พูดออกแล้ว คุณโชนก็ถือโอกาสพรั่งพรูความในใจที่น่าจะเก็บเอาไว้มานานแสนนานออกมาอย่างหมดเปลือก ส่วนเรื่องที่ว่าเขาคือพี่ภูเบศจริงหรือเปล่า โอเคผมเชื่อก็ได้ถ้าเขาจะรู้เรื่องที่เป็นเรื่องเฉพาะผมกับพี่ภูเบศขนาดนี้

     คุณโชนว่าทั้งน้ำเสียงและแววตาที่วิงวอนแกมตัดพ้อเสียจนดูน่าสงสาร แต่ความรู้สึกของผมนั้น ผมยังรู้สึกสับสนมากจริง ๆ หลาย ๆ คำถามที่พุ่งเข้ามาจู่โจมในหัว ผมก็ยังไม่สามารถให้คำตอบตัวเองได้ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลังจากนี้ผมควรจะต้องเรียกเขาว่าอย่างไร จะเรียกเขาว่าคุณโชนอย่างเดิมที่เคยเรียก หรือจะต้องเรียกเขาว่าพี่ภูเบศอย่างที่เคยเรียกมาก่อนหน้า ทำไมเรื่องมันถึงกลับตาลปัตรไปได้ขนาดนี้นะ

     “ตลอดเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมาพี่ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับใครอีกเลย น้องหนึ่งคือแรงบันดาลใจที่ทำให้พี่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง และได้แต่หวังว่าสักวันพี่จะมีโอกาสได้เจอน้องหนึ่งอีกครั้งและพี่ก็จะกล้าพอที่จะไม่ปล่อยให้น้องหนึ่งหลุดมือไปอีกครั้ง จนกระทั่ง....”

     “ได้เห็นผมในหนังโป๊” ผมชิงพูดในส่วนที่เขาเว้นว่างไว้ดูเหมือนว่าเขาคงจะไม่กล้าที่จะพูดขึ้นมาเอง

     “เอ่อ ครับ” เขาตอบผมอย่างเกรง ๆ พลางมองผมอย่างหวั่น ๆ หรือเขากลัวว่าผมจะโกรธเขา แล้วผมจะไปโกรธเขาได้อย่างไรก็ในเมื่อผมเล่นหนังโป๊จริง ๆ นี่

     “ต่ะ แต่ว่า ไม่ว่ายังไงน้องหนึ่งก็ยังมีค่าและน่าทะนุถนอมที่สุดในสายตาของพี่เสมอนะครับ ห่ะ ให้โอกาสพี่ ด่ะ ได้ไหมครับ อุ๊บ!!!” ไม่ต้องมาพูดคำหวานหรือคำแก้ตัวอะไรอีกทั้งนั้นผมไม่อยากจะฟัง เพราะอย่างไรเสียเขาก็มีความผิดเรื่องที่ปิดบังผมมาตลอดอยู่ดีนั่นล่ะ

     ก็เพราะไม่อยากจะฟังเขาพูดอะไรอีกแล้วน่ะสิผมก็เลยจำเป็นต้องปิดปากเขา ผมกระชากคอเสื้อเขาเข้าหาตัวให้หน้าเขาโน้มลงมาใกล้หน้าผม ก่อนที่จะจัดการปิดปากของเขา...


     ....ด้วยปากของผมเอง


     คุณโชนตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ผมหลับตาพริ้มลงอย่างไม่อยากจะรับรู้อะไร แค่นี้เขาก็ตกใจแล้วหรือ เรื่องที่เขากับอีตาพี่ภูเบศคือคนเดียวกันมันน่าตกใจกว่านี้เยอะ เขาปั่นหัวผมมาตั้งนาน ในเมื่อเขาทำผิดผมก็ต้องทำโทษเขา

     ผมสอดแทรกลิ้นผ่านริมฝีปากของเขาเข้าไปได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร ผมรู้สึกได้ถึงมือสั่น ๆ เย็น ๆ ของเขาที่จับที่เอวผม ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะเขากำลังตกใจหรือเขาแค่ยังอ่อนหัดกันแน่ ลิ้นนุ่ม ๆ ของเขาเลยตอบสนองผมได้อย่างเก้ ๆ กัง ๆ จนเป็นผมเองที่ต้องเป็นผู้นำในการบรรเลงเพลงจูบอันซาบซ่านและรุนแรงจนผมได้กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ จากปากเขามาลอยมาเตะจมูก

     ผมบดขยี้ริมฝีปากของเขาอยู่พักใหญ่จนร่างกายมันเริ่มโหยหาอากาศหายใจ นักดนตรีผู้ชำนาญการอย่างผมจึงจำต้องหยุดการบรรเลงเพลงจูบไว้เพียงเท่านั้นก่อน ผมถอนปากและลิ้นออกมาอย่างเชื่องช้า แววตาละห้อยของเขามองตามริมฝีปากผมอย่างอาลัยอาวรณ์ เพลงจูบของผมนั้นมันคงจะถึงใจมากจนเขาลืมเจ็บตรงลอยแผลเลือดซิบ ๆ ที่ริมฝีปากล่างซึ่งเป็นผลงานที่ผมฝากเอาไว้

     แต่ยังหรอกผมยังทำโทษเขาไม่พอ แค่นี้มันยังไม่สาสมกับความผิดของเขาหรอกนะ ผมทั้งลากทั้งกระชากคอเสื้ออย่างไม่สนใจต่อแผลที่ริมฝีปากและเสียงหอบหายใจแรงของเขาแต่อย่างใด ผมลากเขามาจนเตียงนอนที่ผ้าปูยังคงเป็นสีน้ำเงินเช่นเดิมกับที่ผมเคยมานอนในคราวก่อน ซึ่งเขาก็เดินตามมาอย่างว่าง่าย

     แล้วก็ไม่รู้ว่าวันนี้สองขาของเขาเกิดอ่อนเปลี้ยอะไรขึ้นมาถึงได้ไหวเอนไปตามแรงผลักเบา ๆ ของผมและล้มตัวลงบนที่นอนได้อย่างง่ายดาย เขายังคงมองผมตาละห้อยยังติดเพลงจูบเมื่อสักครู่นี้อยู่ล่ะสิท่า จับตาดูให้ดีก็แล้วกันว่าผมจะทำอะไรต่อจากนี้แต่รับรองว่าเขาจะต้องจำไม่มีวันลืมเสียยิ่งกว่าเพลงจูบเมื่อครู่นี้แน่นอน

     ผมยิ้มร้ายให้กับเขาก่อนจะคลานตามขึ้นไปทาบทับบนตัวเขา ผมสบตากับเขาในแววตาละห้อยของเขานั้นดูเหมือนกับมันกำลังมีคำถามว่าผมกำลังจะทำอะไรต่อไป ผมจุมพิตอย่างแผ่วเบาที่ริมฝีปากของเขาอย่างไม่มัวพูดพร่ำก่อนจะเขยิบตัวลงมากระชากที่เสื้อของเขาจนกระดุมมันขาดหลุดกระเด็นทีละเม็ด เสื้อที่เขาใส่นั้นก็ดูราคาไม่น้อยแต่แล้วไงผมไม่ได้ใส่ใจสักหน่อย และเจ้าของเสื้อเขาก็ดูยินยอมให้ผมทำลายเสื้อราคาแพงของเขาอย่างไม่ปริปากสักคำ

     ผมทำแววตาเจ้าเล่ห์มองเขาก่อนจะจัดการแหวกเสื้อเชิ้ตที่ไร้กระดุมออกจนแผงกล้ามอกและลอนซิกแพคสวย ๆ ของเขาได้ออกมาโชว์ประจักษ์แก่สายตาผม จากคนที่เคยอ้วนมาก ๆ แต่มีวินัยในการออกกำลังจนรูปร่างดีได้ขนาดนี้ผมขอนับถือในความพยามยามเปลี่ยนแปลงตัวเองของเขาจริง ๆ มันยากลำบากสักแค่ไหนกันนะกว่าที่เขาจะได้ขนาดนี้

     ผมไม่รอช้าใช้ปลายลิ้นสัมผัสที่กล้ามท้องของเขาในทันทีโดยที่แววตาเจ้าเล่ห์ของผมยังคงจับจ้องมองใบหน้าที่แทบจะซ่อนความตื่นเต้นไว้ไม่มิดของเขาตลอดเวลา ผมลากลิ้นไล่ผ่านลอนกล้ามท้องของเขาจนมาหยุดตรงแผงอก ตลอดเวลาที่ลิ้นร้อนของผมเดินทางมาผมได้ยินเสียงครางเบา ๆ อื้ออึงในลำคอของเขาอย่างไม่ขาดสาย แต่นี่มันเพิ่งแค่เริ่มต้นเท่านั้นเองนะ

     ผมจุมพิตที่หัวนมสีน้ำตาลคล้ำทั้งสองข้างของเขาก่อนจะเริ่มโจมตีด้วยลิ้นจากตรงฝั่งซ้ายก่อน หัวนมของเขาแข็งตัวสู้ปากสู้ลิ้นของผมได้เป็นอย่างดีหลังจากที่ผมเริ่มใช้ลิ้นสัมผัสเลียวนสลับกันทั้งสองข้างก่อนที่ผมจะทั้งขบทั้งเม้ม เสียงครางที่อื้ออึงในลำคอของเขาก็เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้าของเขาในตอนนี้ดูเหยเก เขาหลับตาสนิทไม่รู้ว่าไม่กล้ามองสิ่งที่ผมกำลังทำหรืออย่างไร แต่มันยังมีอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่านี้อีกเยอะนะพ่อหนุ่มน้อย

     ผมขยับตัวลงต่ำไปกว่าเดิมหลังจากที่โจมตีท่อนบนของเขาจนสาแก่ใจ

     “น่ะ น้องหนึ่ง!” เขาผงกหัวขึ้นมาหน้าตาตื่นเมื่อผมวางมือสัมผัสลงตรงเป้ากางเกงของเขา ตอนนี้สิ่งที่อยู่ด้านในมันคงตื่นตัวเต็มที่แล้วถึงได้นูนตุงกางเกงเสียขนาดนี้

     ผมแสยะยิ้มให้เขาอย่างไม่สนใจต่อเสียงทักท้วง ก่อนที่ผมจะจัดการปลดตะขอและรูดซิบกางเกงของเขาลง แม้จะยังดูตกใจแต่คุณโชนก็ยอมยกตัวให้ผมดึงกางเกงของเขาลงไปไว้ที่บริเวณเข่าอย่างว่าง่าย ตอนนี้เขาคงจะตื่นตัวเต็มที่แล้วจริง ๆ เพราะบ็อกเซอร์ตัวเล็กแนบเนื้อของเขานั้นนู่นขึ้นเป็นรูปร่างตามท่อนลำที่แข็งขันวางพาดซ้ายอยู่ด้านใน จนผมสามารถมองเห็นรอยยักจากเส้นเลือดได้ชัดเจน ขนาดไอ้ตรงนั้นของเขามันก็ไม่ใช่เล่นเลยนะนี่

     ผมลูบไล้ท่อนเอ็นใต้เนื้อผ้านั้นเบา ๆ และจุมพิตตรงกลางลำเพื่อเป็นการทักทาย ผมตีสีหน้าเย้ายวนในแบบที่คุณโชนคงจะเคยเห็นบ่อย ๆ ในหนังที่ผมแสดง ก่อนจะล้วงมือผ่านยางยืดเข้าไปคว้าท่อนเอ็นด้านในบ็อกเซอร์นั้นให้ออกมากระจักษ์แก่สายตา

     แก่นกายขนาดใหญ่ที่กำลังแข็งตัวขั้นสุดจนผมจับได้อย่างเต็มไม้เต็มมือเด่นตระหง่านอยู่ตรงหน้าผม เขาหน้าแดงระเรื่ออาจจะเพราะอายที่ผมได้เห็นและได้สัมผัสส่วนที่ซ่อนเร้นของเขา ผมรูดแก่นกายไซส์บิ๊กลงจนสุดโคนก่อนจะใช้ปากครอบและดูดชิมน้ำหวานที่เยิ้มออกมาตรงส่วนหัวที่น่าจะมาจากการเล้าโลมของผมเมื่อครู่ คุณโชนถึงกับอยู่ไม่สุขตัวเขาเอี้ยวไปมาตามจังหวะการดูดดุนของผม คิ้วทั้งสองของเขาขมวดเข้าหากันสีหน้าของเขาตอนนี้มันดูเหยเกกว่าเมื่อครู่เสียอีก

     "อ่ะ...อื้อ...น้องหนึ่ง" เสียงครางกระเส่าของเขาดังเคล้าไปกับเสียงหอบหายใจที่โรยรินอย่างไม่พยายามเก็บกลั้นไว้ในลำคอแบบเมื่อครู่ มันใกล้จะถึงจุดที่ผมต้องการแล้วสินะ

     ผมถอนปากออกจากส่วนหัวแก่นกายของเขา ถึงตอนนี้คุณโชนหอบหายใจหนักราวกับคนกำลังจะขาดอากาศ ผมใช้ปลายลิ้นแตะลงตรงโคนของพวงสองลูกใต้แก่นกายของเขาและค่อย ๆ ลากลิ้นขึ้นมาอย่างเชื่องช้าจนถึงโคนของของท่อนลำนั้น ตอนที่ปลายลิ้นของผมลากผ่านหนังหุ้มสองลูกนั้นตัวของเขาเกร็งมาก เกร็งจนพูดได้ยินเสียงนิ้วเท้าของเขาที่เสียดสีกันได้อย่างชัดเจน

     ผมยังคงลากลิ้นต่อไปตามท่อนลำนั้นโดยสองตาที่พยายามเย้ายวนของผมยังคงไม่ละจากการจ้องมองใบหน้าของเขาแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อสังเกตปฏิกิริยาตอบสนอง ซึ่งมันก็เป็นไปที่ผมต้องการทุกอย่าง ก็ผมทำอาชีพทางด้านนี้อยู่แล้วนี่เพราะฉะนั้นเรื่องความชำนาญนั้นคงไม่ต้องบอก

     หลังจากที่ลากลิ้นผ่านไปจนสุดส่วนปลายผมผละออกจากตัวของเขาทันที ผมลุกมายืนอยู่ตรงปลายเตียง แววตาละห้อยของเขายังคงมองผมอย่างมีคำถามว่าผมกำลังจะทำอะไร ถึงขั้นนี้แล้วยังมีอะไรต้องสงสัยอีกหรือพ่อเด็กน้อย ผมหันหลังให้กับเขา ก่อนจะทำการปลดเปลื้องทุกสิ่งที่ปกปิดร่างกายผมอยู่ออก


     คนที่เคยตอนอยู่บนเตียงด้านหลังผมบัดนี้เขาพุ่งขึ้นมาคว้าตัวผมเข้าไปกอด หลังจากที่ผมจัดการถอดกางเกงในตัวจิ๋วซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่ปกปิดร่างกายผมและโยนมันทิ้งไป

     “น่ะ..น้องหนึ่งครับ พ่ะ..พี่ไม่ไหวแล้ว เป็นของพี่นะครับ” ฟังจากน้ำเสียงก็พอจะรู้ว่าเขาคงเกินจะอัดอั้นไว้แล้วจริง ๆ หัวใจของเขาเต้นแรงมากจนผมรู้สึกได้ผ่านแผ่นอกแน่น ๆ ของเขาที่กำลังแนบหลังผม  นี่ผมทำให้พ่อเด็กน้อยขี้อายตบะแตกแล้วหรือนี่

     ผมแกะมือของเขาที่กำลังโอบกอดผมออก และแอบชำเลืองมองเขาอย่างมีเลศนัยน์ก่อนจะทิ้งร่างอันเปลือยเปล่าลงนอนบนที่นอนสีน้ำเงินของเขา ผมส่งสายตาที่สุดแสนจะเชื้อเชิญให้กับเขาพร้อมทั้งกระดิกนิ้วเชิงเรียกให้เขาเข้ามาหา ผมนอนถ่างแข้งถ่างขาอย่างไม่เกรงใจต่อสายตาของเขาที่ยังคงจับจ้อง ก่อนที่ผมจะใช้มือข้างหนึ่งชักรอกที่แก่นกายไซส์มาตฐานของตัวเองส่วนมืออีกข้างนั้นผมก็เลื่อนลงไปใช้นิ้วเขี่ยเล่นแถว ๆ รูก้น พูดง่าย ๆ ก็คือผมกำลังช่วยตัวเองให้เขาดูนั่นแหละ และยังส่งครางที่แสนออดอ้อนให้เขาฟัง เรียกได้ว่าตอนนี้ผมกำลังยั่วยวนเขาแบบขั้นสุดอยู่ก็ว่าได้

     "ม่ะมันจะเกินไปแล้วนะครับน้องหนึ่ง" คุณโชนแทบจะกระโจนขึ้นมาคร่อมบนตัวผมหลังจากปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวออกอย่างร้อนรน นี่ผมปลุกสัญชาตญาณดิบที่หลับใหลมานานของเขาให้ตื่นขึ้นได้แล้วสินะ เขาโน้มตัวลงจูบปากผมพร้อมกับที่ผมใช้สองแขนโอบคล้องที่คอของเขา เราสองคนร่วมกันบรรเลงเพลงจูบอันแสนดูดดื่ม ลิ้นร้อนของเราทั้งคู่เกี่ยวพันหยอกเย้ากันอย่างสนุกสนาน

     หลังจากที่หนำใจกับเพลงจูบ คุณโชนถอนปากและลิ้นออกไปจากปากผมอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนที่เขาจะขยับตัวให้เขาล็อกกับสองขาของผมที่ยังคงถ่างกว้าง และเขาก็ขยับเอาท่อนเอ็นที่พร้อมใช้งานเต็มที่เข้ามาจ่อตรงปากทางประตูหลังของผม

     “น้องหนึ่ง!” คุณโชนถึงกับหันมองผมหน้าเหวอ เมื่อผมเอื้อมมือลงไปปิดตรงปากทางประตูหลังที่เขาหมายจะส่งเจ้าท่อนเอ็นแข็ง ๆ นั้นเข้าไปเยี่ยมชมด้านใน แต่ฝันไปก่อนก็แล้วกันนะ ผมยังไม่ยอมให้มันผ่านเข้าไปได้ง่าย ๆ หรอก
 
     “โนคอนดอมโนเซ็กส์ครับ”

     “เดี๋ยวพี่ลงไปซื้อข้างล่างนะครับ” คุณโชนรีบบอกอย่างร้อนอกร้อนใจอะไรจะกระหายขนาดนั้น ผมคิดไว้ไม่ผิดจริง ๆ ผู้ชายติ๋ม ๆ แบบเขาไม่มีถุงยางเก็บไว้ที่ห้องจริง ๆ ด้วย แต่ว่าอย่าเสียเวลาเลย

     “ไม่ต้องหรอกกว่าคุณจะกลับขึ้นมา ผมก็คงหมดอารมณ์แล้วล่ะ วันนี้พอเท่านี้ก็แล้วกัน” ผมว่าพลางยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัยพร้อมกับขยับตัวลุกออกจากเขาอย่างไร้เยื้อใย ก็นี่แหละสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ คุณโชนถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่สองตาของเขาดูช็อกหนักในทันทีเมื่อผมพูดออกมาอย่างนั้น

     “ตะ แต่ว่า” คุณโชนที่ยังอารมณ์ค้างมองผมตาละห้อย แววตาของเขามันช่างอ้อนวอนเสียจนดูน่าสงสารแต่อีกใจหนึ่งผมก็อดขำไม่ได้ อยากจะทำต่อขนาดนั้นเชียวหรือ แก่นกายของเขาที่ตื่นตัวพร้อมใช้งานเต็มที่แต่พอมันไม่ได้ใช้มันคงปวดทรมานน่าดู ก็ผมบอกแล้วไงว่าผมกำลังทำโทษเขาอยู่ถ้าผมยอมให้เขาสุขสมง่าย ๆ มันจะเรียกว่าทำโทษได้อย่างไร

     “หิวจังเลยในตู้เย็นมีอะไรทานบ้างอ่ะ” ผมทำทีไม่สนใจหน้าจ๋อย ๆ จากความผิดหวังของคนที่ยังนั่งอยู่บนเตียง พร้อมทั้งลุกไปเปิดตู้เย็นในห้องเขาหาของกินอย่างถือวิสาสะทั้งสภาพเปลือยกายยังนั่นแหละ ผมคงไม่เหลืออะไรให้อายเขาแล้วล่ะมั้งเล่นมีหนังที่ผมเล่นเก็บสะสมไว้ขนาดนั้นไหนจะเรื่องวันนี้และตอนที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าในคราวนั้นอีก ผมมีปานมีไฝตรงไหนบ้างเขาก็คงเห็นจนชินตาแล้วล่ะ

     “น้องหนึ่ง กะแกล้งพี่เหรอครับ” น้ำเสียงที่เหมือนคนกำลังเง้างอนว่าขึ้นตอนที่ผมกำลังจะเปิดกระป๋องน้ำอัดลมที่เพิ่งจะหยิบออกมาจากตู้เย็นของเขา อ้าว เพิ่งจะรู้ตัวหรือ

     ผมยักไหล่พร้อมกับทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้พลางกระดกน้ำอัดลมเข้าปากอย่างสบายอารมณ์ สีหน้าท่าทางของคนอารมณ์ค้างนี่มันช่างน่าขำจริง ๆ เอาน่า ๆ ผมได้ปั่นหัวเขาคืนแล้วก็ถือว่าหายกันแล้ว ผมก็ไม่ได้คิดจะใจร้ายกับเขาไปตลอดเสียหน่อยโอกาสหน้าก็ยังมี แต่วันนี้ผมขอใช้แฮชแท็ก #รวิกานต์คนใจร้าย ไปก่อนก็แล้วกัน



[มีต่อในรีพลายถัดไปครับ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2018 21:42:49 โดย ตำไทยใส่พริกสิบเม็ด »

ออฟไลน์ ตำไทยใส่พริกสิบเม็ด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-8
[ต่อ]



     ผมจำใจต้องลืมตาตื่นขึ้นมาแม้จะยังไม่สร่างจากอาการหาวนอน ก็เพราะแสงตะวันยามเช้าที่สาดแยงตา ผมดันตัวลุกขึ้นทั้งสภาพที่ยังงัวเงียก่อนจะบิดขี้เกียจพลางหันซ้ายหันขวามองหาคนที่น่าจะนอนอยู่ข้างผมในเวลานี้ แต่แล้วผมก็พบว่าบนที่นอนสีน้ำเงินผืนกว้างนั้นมีผมอยู่เพียงลำพังไม่มีใครนอนอยู่ข้างกายผม ทำไมคุณโชนเขาถึงได้ตื่นเช้าอย่างนี้

     คือว่าเมื่อคืนผมนอนค้างที่ห้องคุณโชนน่ะครับ เพราะฝนมันตกหนักมากตลอดทั้งคืนเลยจะให้เขาขับรถฝ่าฝนไปส่งผมก็อันตรายแย่ ผมก็เลยถือวิสาสะขอนอนค้างที่ห้องเขาเสียเลย ส่วนเรื่องระหว่างผมกับเขามันก็ไม่มีอะไรเลยเถิดไปกว่าที่ผมแกล้งปลุกอารมณ์และทิ้งให้เขาอารมณ์ค้างอยู่อย่างนั้น ผมรู้ว่าเขาเองก็คงอยากจะสานต่อสิ่งที่มันค้างคาไว้ให้จบเต็มที แต่เมื่อผมบอกว่าไม่ก็คือไม่ และคุณโชนก็ดูเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย ๆ ผมไม่รู้ว่าเขาต้องใช้ความพยายามเพื่อหักห้ามใจแค่ไหนก็ผมเล่นอ่อยไว้เสียขนาดนั้น แต่หลังจากที่ผมบอกว่าไม่ต้องการแล้วเขาก็ไม่ล่วงเกินผมเลยแม้แต่น้อย จะน่ารักก็ตรงนี้แหละ เอาน่า ๆ ผมเชื่อว่านิ้วทั้งห้าของเขาก็คงทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้ผมหรอก

     เมื่อเอาความดีของเขากับความผิดของเขามาหักลบกันแล้ว ผมหายโกรธก็ได้เรื่องที่เขาปิดบังตัวตนที่แท้จริงมาโดยตลอด

     ผมลุกจากที่นอนพร้อมกับความรู้สึกงุ่นง่านที่ขาก็เพราะกางกางแพรตัวใหญ่และหลวมโพรกมากเมื่ออยู่บนตัวผมของคุณโชนนี่สิมันพันแข้งพันขาผมไปหมด คราวที่แล้วที่มานอนห้องเขาคงเพราะผมกำลังตกใจมั้งเลยลืมรำคาญเจ้ากางเกงแสนวุ่นวายนี่ไปเลย ครั้นผมจะขอใส่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเล็ก ๆ นอนเจ้าของห้องเขาก็ไม่ยินยอม ทั้ง ๆ ที่เห็นผมในหนังโป๊มาตั้งไม่รู้กี่เรื่องแล้วจะมากลัวอดใจไม่ไหวอะไรกันตอนนี้

     ผมเปิดประตูออกจากห้องนอนของคุณโชนและเดิมตามกลิ่นหอม ๆ มาจนถึงส่วนที่เป็นห้องครัว จนได้พบกับเจ้าของห้องที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้า จะว่าไปแล้วคุณโชนเวลาอยู่ในมาดพ่อครัวนี่ก็เท่ไม่แพ้ฟรองค์เลยนะ หรือผมจะถูกโฉลกกับผู้ชายทำอาหารเสียแล้ว แต่เอ ผมก็ไม่ได้ชอบฟรองค์สักหน่อย

      คุณพ่อครัวคนเท่คงมัวแต่สนใจอาหารในกระทะเลยไม่ทันได้สังเกตเห็นผมที่แอบเข้ามาเงียบ ๆ ผมก็เลยได้ทีแอบย่องไปข้างหลังเขาโดยไม่ให้เขารู้ตัวเสียเลย

     “หอมจัง” ผมว่าพลางเขย่งเท้าขึ้นเอาคางไปวางเกยบนไหล่ของเขา พร้อม ๆ กับทำสายตาออดอ้อนรอให้คนที่กำลังขะมักเขม้นกับการทำอาหารหันมามอง

     ชั่ววินาทีแรกที่เขาหันมาผมทันเห็นนะว่าเขาเกือบจะเผลอหลุดยิ้มแต่ดูเหมือนจะนึกได้เสียก่อนก็เลยรีบชักสีหน้าเย็นชาใส่ผม เขาเบือนหน้าหนีผมไปอีกทางทำท่าทางเหมือนจะเมินจะผม สงสัยจะยังงอนจากเรื่องเมื่อคืน จริง ๆ แล้วเขาก็ดูมีท่าทีตึง ๆ ใส่ผมมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ แต่ว่าเมื่อคืนนั้นผมยังอยากแกล้งเขาอยู่เลยได้ง้ออะไรไม่คิดว่าเขาจะยังงอนมาจนถึงตอนนี้ แถมยังเล่นใหญ่จริงนะ

     “คุณโชน” ผมเรียกเขาพลางผละออกจากไหล่ของเขา แต่คนที่ถูกเรียกนั้นยังทำเมินตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารต่อไปราวกับว่าผมไม่มีตัวมีตนอยู่ตรงนั้น ทั้งที่เมื่อคืนก็ยังพูดกับผมอยู่เลย เพิ่งจะมาทำเป็นไม่พูดด้วยตอนเช้าอย่างนี้ไม่เนียนเอาเสียเลย

     ถึงเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงแล้วว่าเขาคือที่พี่ภูเบศรุ่นพี่ที่โรงเรียนสมัยมัธยมของผม แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังสนิทใจที่จะเรียกเขาว่าคุณโชนแบบที่เรียกจนติดปากมาเป็นเดือน ๆ แล้วมากกว่า

     “คุณโชนผมหิวจัง” ผมว่าด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมใส่ลีลาท่าทางเอามือลูบท้องเสมือนว่ากำลังหิวมาก ๆ ให้อีกฝ่ายเห็น ทั้งที่ผมอ้อนขนาดนี้แต่เจ้าตัวก็ยังเลือกที่จะทำเมิน ถ้าเขาจะเล่นใหญ่ขนาดนี้ อะ ๆ ง้อเขาหน่อยก็ได้

     “คุณโชนหายโกรธผมได้แล้ว” ผมไม่ว่าเปล่าแต่ยังเข้าไปสวมกวดที่เอวของเขาจากทางด้านหลังก่อนจะเขย่งเท้าและฝังหน้าซุกที่ต้นคอของเขา ผมส่ายหัวถูไถปากและจมูกฟัดไปตามหลังคอของเขา ผมอ้อนถึงขนาดนี้แล้วถ้ายังทนได้ก็ทนไป

     ผมหยุดการกระทำทุกอย่างลงพลางย่นจมูกใส่คนที่ยังคงหันหลังให้ผมอย่างไม่ได้ดั่งใจ หลังจากที่ผมกระทำชำเราหลังคอเขาอยู่ตั้งครู่ใหญ่จนหลังคอเขาเปรอะคราบน้ำลายผมเยิ้มเต็มไปหมด แต่เขากลับยังทำเฉย พอได้ทีแล้วเล่นใหญ่เชียวนะ ผมละอยากจะกระโดดงับคอคนเล่นตัวเก่งให้ทะลุเสียให้รู้เลยรู้ แต่คิดว่าผมจะยอมแพ้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือไม่มีทางเสียหรอก

     “พี่โชนครับ....” ผมช่างใจอยู่นานกว่าจะกล้าเอ่ยชื่อเขาด้วยสรรพนามที่ผมไม่ได้คิดจะเรียกเขาแบบนี้มาก่อน แต่นี่มันเป็นไม้ตายของผมแล้วนี่ ถ้าไม่อ้อนแบบนี้ผมก็คงต้องแพ้เขาน่ะสิ ไม่มีทางเสียหรอกไม่ว่าอย่างไรผมก็ต้องทำให้เขายอมพูดกับผมให้ได้ ถ้าหากยอมแพ้ง่าย ๆ เขาก็จะได้ใจเอาน่ะสิ

     และก็ดูเหมือนจะได้ผลเมื่อผมเปลี่ยนสรรพนามจากคุณเป็นพี่คนถูกเรียกนั้นก็ถึงกับชะงักลง ผมอยู่ใกล้เขามากจนพอที่จะสังเกตเห็นได้ชัดว่าที่หูเขาเริ่มแดงขึ้น ดูจากรูปการณ์แล้วผมคงใกล้จะเอาชนะคนเล่นตัวเก่งได้เต็มทีแล้วล่ะ เพราะอย่างนั้นผมก็ต้องรีบฉวยโอกาสจัดการให้อยู่หมัด ผมเขยิบตัวมาอยู่ข้าง ๆ เขาชนิดที่แนบสนิทจนเกือบจะเข้าสิงเขาได้อยู่แล้ว ถึงเขาจะไม่ได้หันมามองตรง ๆ แต่ผมก็แอบเห็นนะว่าเขาแอบปรายตามามองผมอยู่ตลอด พร้อมจะถูกผมปิดเกมแล้วหรือยังคุณรุ่นพี่ตัวดี

     “หายโกรธหนึ่งเถอะนะครับ นะนะ พี่โชนคนดี” ผมทำตาแป๋วและน้ำเสียงอ้อนวอนเสียยิ่งกว่าทุกครั้งที่ทำไปก่อนหน้านี้ ก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นจุมพิตที่แก้มของเขาเบา ๆ หนึ่งที เขาถึงกับตัวสั่นเมื่อริมฝีปากของผมสัมผัสกับแก้มของเขา ผมเปิดเกมบุกถึงขนาดนี้แล้วถ้ายังทนไหวก็ให้มันรู้ไป

     “เอ่อ น้องหนึ่งเรียกพี่แบบนี้ตลอดไปเลยได้ไหมครับ” เกมโอเวอร์! ผมแอบยิ้มร้ายเมื่อคนที่ฝืนทำตัวนิ่งอยู่นานพ่ายแพ้ให้กับเกมบุกของผมด้วยการยอมปริปากพูดประโยคเมื่อครู่นี้ขึ้นมาจนได้ แม้ว่าเขาจะก้มหน้างุดยังไม่ยอมหันสบตากับผม แต่แค่ฟังจากน้ำเสียงก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าเขากำลังเขินมากขนาดไหน

     “ยอมคุยกับผมได้แล้วเหรอ” ผมว่าอย่างผู้มีชัยหลังจากต้อนคู่ต่อสู้ให้จนมุมและยอมยกธงขาวได้สำเร็จ

     “ยอมตั้งนานแล้วครับ แต่เห็นน้องหนึ่งอ้อนพี่น่ารักดีเลยอยากให้อ้อนนาน ๆ” หน้าที่ยังก้มงุดของเขาก็ไม่อาจจะหลบซ่อนรอยยิ้มแห้ง ๆ ของเขาได้ เห็นอย่างนี้นี่ก็ร้ายใช่เล่นเหมือนกันนะ แต่เสียใจด้วยนะเพราะผมร้ายกว่าเยอะ

     “ว่ะ ว่ายังไงครับ เรียกพี่ว่าพี่ตลอดไปเลยได้ไหม” แน่ะ เขาหันหน้ามาทวงถามผมทั้งที่แววตาทั้งสองยังคงเต็มไปด้วยความประหม่า เอ ว่าแต่ผมจะยอมเรียกเขาแบบที่อยากให้เรียกดีไหมนะ

     “อยากให้ผมเรียกพี่จริง ๆ เหรอ” คุณโชนพยักหน้าหงึก ๆ เป็นคำตอบให้กับผม ผมยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่างก่อนจะว่าประโยคต่อไป

     “ผมเรียกว่าพี่ก็ได้นะ ถ้าอยากเป็นแค่พี่ แต่ถ้าเป็นพี่แล้วก็เป็นอย่างอื่นอย่างเช่นแฟนไม่ได้แล้วนะ” ผมว่าพร้อมกับส่งสายตายียวนให้กับเขา จริง ๆ แล้วผมก็พูดเหมือนทีเล่นทีจริงไปอย่างนั้นเอง แต่ดูฝ่ายนั้นท่าจะเป็นเอาหนักเขาถึงกับหน้าเหวอไปทันทีเมื่อผมพูดออกไปแบบนั้น

     “ม่ะ ไม่ ไม่เป็นพี่ครับ ไม่เป็นต้องเรียกพี่แล้วครับ น้องหนึ่ง เอ่อ คุณหนึ่ง” คุณโชนรีบเปลี่ยนคำพูดอย่างเลิ่กลั่กจนดูลนลานไปหมด ผมยิ้มอย่างเอ็นดูในความที่เขาเป็นเขา แต่ก็เพราะว่าเขาที่เป็นเขาแบบนี้นี่แหละที่ทำให้ผมชอบเขา

     “รอผมก่อนได้ไหมครับ” ผมพูดตัดอารมณ์ขึ้นมาโดยไม่รอให้เขาพูดอะไรต่อ ผมปรับอารมณ์และสีหน้าเข้าสู่โหมดจริงจังอย่างกะทันหัน จนคุณโชนเองก็ดูแทบจะปรับอารมณ์ตามไม่ทัน เขาเอียงหน้ามองผมเหมือนตั้งคำถาม ถึงผมจะได้รู้แล้วว่าเขาแอบมีใจให้ผมนานแค่ไหนและผมก็ยอมรับว่าผมชอบเขามากแต่ผมเองก็มีเหตุผลเช่นกันที่จะต้องบอกให้เขารอไปก่อน

     “อีกแค่ปีกว่า ๆ รอให้ผมหมดพันธะจากอาชีพนี้ก่อนได้ไหมครับ ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมจริง ๆ ที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับใคร ตราบใดที่ผมยังต้องมีอะไรกับคนอื่นอยู่เรื่อย ๆ แต่ผมรู้สึกดีกับคุณนะ รู้สึกดีมากจริง ๆ” ผมร่ายถึงเหตุผลที่ยังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับเขาเพราะผมยังคงชัดเจนไม่เจตนาเดิมที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้น ตราบใดที่ผมยังต้องนอนกับผู้ชายคนอื่นผมก็ยังทำใจไม่ได้ที่จะมีใครสักคนอย่างจริงจัง ถึงคุณโชนจะบอกว่าเขารับได้แต่ผมรับไม่ได้จริง ๆ ถ้าหากว่ามีแฟนแล้วยังจะต้องมีอะไรคนอื่นไปด้วย

     “ก็รอมาตั้งนานแล้วนี่ครับ จะรออีกสักหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แค่น้องหนึ่งมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับพี่ เท่านี้พี่ก็ดีใจมากแล้วครับ” ผมแทบจะน้ำตาปริ่มเมื่อเห็นรอยยิ้มที่แสนละมุนและอ่อนโยนที่เขาโอบมอบให้ผม

     มือหนาของเขาลูบเบา ๆ บนหัวของผม ผมชอบความรู้สึกแบบนี้ที่สุดเลยเวลาที่เขาสัมผัสตัวผม ผมรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนทะนุถนอมอย่างบอกไม่ถูก แววตาจริงใจจากผู้ชายที่แสนดีที่มองลึกเข้ามาในตาของผมนั้นมันทำให้รู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน ผมคงจะเป็นคนที่โชคดีมากจริง ๆ ที่อยู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งพร้อมจะรอผมไม่ว่านานแค่ไหนและรับได้ในทุกสิ่งที่ผมเป็นไม่ว่าผมจะผ่านอะไรมา แต่ผมกลัวเหลือเกินกลัวว่าตัวเองจะตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่ฝันไป ถ้าหากว่าความรักที่เขามีให้ผมเป็นเพียงแค่ความฝันผมก็ขอไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยดีกว่า ขอให้ความสุขนี้อยู่กับผมไปนาน ๆ ด้วยเถิด


     ขอบคุณนะครับพี่ภูเบศ






     TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2018 21:43:39 โดย ตำไทยใส่พริกสิบเม็ด »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

รอพาร์ทสอง  อิอิ

หนึ่ง  แกมันร้ายใช่เล่น

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องหนึ่งโชว์สกิลนายเอกหนังโป้ได้ถึงใจจริงๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ค้างงงงงงงงงงงงงง   :z3: :z3: :z3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด