ตอนที่ 31 เห้ย...ใจเย็น
วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกตินิดหน่อยครับ
แล้วสาเหตุมันก็เพราะ
กริ้ง......
อืม.....เสียงโทรศัพท์ผมนี้แหละ
ตอนแรกคิดว่าเป็นไอ้ต้าหรือไม่ก็พวกเพื่อนผมนี้แหละ ที่โทรเข้ามา
แต่พอรับสาย แล้วฟังเสียงที่ตอบกลับมา.....(มันไม่ใช่นี้หว่า )
“เมิงต่ายเปล่า”ใครไม่รู้ เสียงคุ้นๆ
“ใครว่ะ”
“กูแฟนเบส”ผมค่อยๆเริ่มตั้งสติ
และพยายามนึกถึงไอ้คนที่บอกว่าเป็นแฟนไอ้เบส
ซึ่งมันก็มีอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละครับ
ประกาศตัวซะขนาดนี้...อีปอ
“อ่าวนึกว่าใคร ชู้เบสนี้เอง”
“แกนั้นแหละ ไม่ใช่ฉัน”“ฮ่าๆ....มีไรว่ามา กูง่วง”
จริงๆผมก็ไม่ง่วงแล้วละครับ
แต่ไม่อยากฟังเสียงแหลมๆของมันมากกว่า
แสบแก้วหูโว้ย.....
“ดี งั้นกูพูดเลยแล้วกัน เมิงอย่างมายุ่งกับเบส
ไม่อย่างนั้น...อย่าหาว่าไม่เตือน”นี้มันขู่ผมหรือเล่นตลกครับ พูดอย่างกับในหนัง
แล้วอีกอย่าง มันก็มาขู่ผิดคนแล้วครับ เหะๆ
“ขนลุกว่ะ ยังกับหมาหอน ฮ่าๆๆ”
“เมิงจะไม่เลิกใช่ไหม”“รอกูเบื่อก่อนแล้วกัน เดี๋ยวกูเซ้งต่อให้เมิง”
“ตกลงเมิงอยากลงดีใช่ไหม”“ก็พร้อมน่ะ เอาไงว่ามา”
ผมรู้ว่าอีกฝ่ายก็เริ่มหงุดหงิดแล้วครับ
แล้วผมก็ไม่ได้กลัวอะไรมันเลยด้วย
จะมีเรื่องผมก็ไม่แคร์....
“งั้นเมิงก็จับเบสไว้ดีๆแล้วกัน เพราะกูจะเอาเบสมาเป็นของกู
แล้วพอถึงตอนนั้น กูค่อยมาจัดการเมิง”“คงไม่มีวันนั้นหรอก เพราะกูกับเบสเร้าร้อนกันดี” กล้าเนอะ
“ให้มันจริงอย่างที่พูดแล้วกัน”“ของมันแน่อยู่แล้ว”
“หึหึ กูจะคอยดู”อีปอมันกดตัดสายไปแล้วครับ
ส่วนผมก็จัดการบันทึกเบอร์มันไว้เรียบร้อย
เพราะเวลามันโทรมา จะได้ปรับภาษาพูดได้ถูก เหะๆ
ผมล้มตัวลงนอน พร้อมกับคิดเรื่องที่พึ่งผ่านไป
ซึ่งผมคิดว่า การที่ผมไปมีเรื่องกับอีปอ
มันเหมือนผมกำลังหวงไอ้เบสก็คงไม่ผิด
ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมอยากให้เป็นการทำเพื่อตัวเองและเพื่อแผนมากกว่า
“กูทำอะไรอยู่ว่ะเนี่ย”
ผมตะโกนใส่หมอน ที่จู่ๆก็นึกถึงหน้าไอ้เบสขึ้นมา
ผมไม่อยากให้ความรู้สึกหึง หวง มันเกิดขึ้นระหว่างผมกับไอ้เบสเลยครับ
เพราะผมรู้ดีว่าหากผมคิดแบบนั้น ไม่นานมันก็กลายเป็นเหมือน...บูม
และผมก็ไม่อยากให้ตัวเองมานั่งเสียใจทีหลังด้วย
ผมนอนคิดเรื่องไอ้เบสอยู่พักใหญ่
แล้วก็ลุกไปอาบน้ำ แล้วก็ไม่ลืมทายาสิวด้วย (สำคัญมากๆ)
ผมออกจากห้องน้ำได้ไม่นาน ก็มีคนมากดกริ่งหน้าบ้าน
ซึ่งผมคิดว่าต้องเป็นพวกไอ้ต้าแน่นอน
ผมเลยลงไปเปิดประตูให้พวกมัน ทั้งที่นุ่งแค่ผ้าขนหนูผื้นเดียว (วิ้วๆ)
และพอลงไป ก็เป็นพวกมันจริงๆนั้นแหละ
“แม๋ๆๆ...แต่งยั่วซะขนาดนี้ นึกว่าเบสล่ะสิเมิง”
อีโมมันคิดได้ไงครับ หึหึ สงสัยต้องเอาไปใช่กับไอ้เบสหน่อย
“สัด กูพึ่งอาบน้ำเสร็จโว้ย”
ผมรู้สึกหน้าร้อนๆน่ะครับพออีโมพูดถึงไอ้เบส
“โมเมิงก็ไปล้อมัน ดูดิ หน้าแม่งแดงหมดแหละ”
ไอ้ต้ามันก็รวมหัวกับอีโมอีกคน เหอ...เพื่อนดีจริงๆ เหะๆ
“เปิดประตูด้วย กูไปใส่เสื้อผ้าแหละ”
ผมวิ่งขึ้นห้องไปเลยครับ เพราะรู้สึกอารมณ์ชักจะมากขึ้นทุกที
ผมจับหน้าตัวเองก็รู้สึกร้อนๆ แถมมียิ้มอีก (เป็นอะไรว่ะกู)
แต่สาเหตุคงไม่มีอะไรมาก ก็เพราะไอ้เบสตามเคย
ผมแต่งตัวเสร็จก็มานั่งรวมกลุ่มกับพวกมันด้านล่าง
ตอนที่ผมลงมา พวกมันก็ไม่เห็นมีใครพูดอะไรครับ
แล้วไอ้ต้ามันก็ไม่รู้หายไปไหน...
“ไอ้ตาไปไหนว่ะ” ผมหันไปถามไอ้คม
“มันไปเที่ยวกับไอ้บูม”
ผมพยักหน้าให้ไอ้คม แล้วก็นั่งลงข้างมัน
วันนี้พวกมันดูแปลกครับ ไม่เห็นคุยกันเหมือนทุกๆวัน
ปกติไอ้คมมันจะเป็นหัวหลักเลยน่ะ แต่วันนี้มันนั่งเงียบ
ส่วนไอ้กรดกับอีโม ก็นั่งกันคงละฝั่ง
ทำเหมือนไม่รู้จักกัน ชักแปลกๆ
“แล้วพวกเมิง ไม่คุยกันเรื่องแผนเหรอ”
ผมหันไปมองไอ้คมกับไอ้กรดยิ้มๆครับ
เพราะน่าจะช่วยคลายบรรยากาศ ที่รู้สึกเครียดๆได้บ้าง
“ไม่มีอะไรคุยแล้ว”
ผมเริ่มหุบยิ้ม แล้วก็เข้าโหมดงง
ที่ไอ้คมบอก...ไม่มีอะไรคุยแล้ว...
ตกลงมันหมายความว่าไงกันแน่
“อ่าว...ทำไมว่ะ”
ผมถามไอ้คม ที่ดูมันจะไม่สนใจอะไรเท่าไร
ร่วมถึงผมด้วย....
“ก็เหลือที่เมิงคนเดียว เพราะฝั่งไอ้บูมก็ไม่มีปัญหา
แล้วเรื่องไอ้นนท์ ตอนนี้มันกับพวกก็พร้อมแล้ว
เหลือแต่เมิงนี้แหละ จะจัดการไอ้เบสมันยังไง ให้มันเชื่องให้ได้”
ผมชงักไปพักใหญ่ เพราะไม่คิดว่าพวกมันจะจัดการกันเร็วขนาดนี้
แล้วเรื่องแผน ก็เหลือเพียงแค่ผมเท่านั้น...
“อ่ะ...เอ่อ แล้วอย่างเร็ววันไหนว่ะ”
ในหัวผมมีเรื่องแผน กับหน้าไอ้เบส ตีกันไปหมด
ไม่รู้จริงๆแล้ว ผมพร้อมหรือยัง ที่จะให้เวลานี้มาถึง
แล้วเรื่องที่ไอ้เบสมันเชื่อง ผมว่ามันไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไรเลย
แล้วสุดท้าย ดูเหมือนว่าผม จะเป็นฝ่ายที่ต้องเชื่องไอ้เบสมากกว่า เหะๆ
“ก็เมิงพร้อมเมื่อไร ก็เมื่อนั้นแหละ
แต่อย่าช้าเกินน่ะโว้ย เดี๋ยวมีปัญหาตามมาอีก”
ไอ้คมมันยังสนใจทีวีต่อ แล้วไอ้กรดกับอีโม
พวกมันสองคนก็ไม่พูดอะไรกันเหมือนเคย
เหอ...กลุ้ม จริงๆกู
ผมพยักหน้าให้ไอ้คม แล้วก็กลับมานั่งมองทีวี
แต่ความคิดผม มันคิดไปถึงเรื่องไอ้เบส แล้วก็แผน
แผนแล้วก็ไอ้เบส สองอย่างนี้สลับวนกันไป
ผมนั่งคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดทั้งวัน
พอไอ้คม ไอ้กรด แล้วก็ไอ้โมมันกลับบ้าน
ผมก็ขึ้นห้อง แล้วกลับมานอนคิดเรื่องนี้ต่ออีก
แล้วไอ้เบส ที่มันบอกผมว่าจะมาหา
ผมก็ไม่เห็นมันมาเลย...( ยังรอมันอยู่ เหะๆ)
แถมโทรศัพท์ มันก็ไม่โทรเข้ามาเลยสักครั้ง
เหอ.....แบบนี้ผมควรจะเอาไงดีครับ
.
.
.
ประมาณช่วงตอนค่ำๆ อีโมมันมาที่บ้านครับ
ซึ่งตอนนั้นผมก็นอนหลับอยู่
ตอนแรกที่ไอ้โมมาปลุก ผมก็ไม่อยากตื่นเท่าไร
เพราะตื่นขึ้นมา เรื่องที่จะคิด ก็มีแต่เรื่องไอ้เบส
สู้หลับไป โดยที่ไม่ต้องคิดถึงมันซะยังดีกว่า...ชิชิ
“มาปลุกกู มีไรเปล่าว่ะ”
“ออกไปเที่ยวกับกูหน่อย”
ไอ้โมหันมองผม แล้วหน้าตาของมันก็เหมือนคนอมทุกข์มากๆ
ซึ่งผมก็พอรู้ ว่ามันกับกำลังไม่สบายใจอยู่แน่นอน
“อืมๆ รอแปป”
ผมรีบวิ่งไปล้างหน้าล้างตา แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า
จากนั้นก็เดินมาลากแขนไอ้โม ออกจากบ้านไปเลย
ผมนั่งรถกับมันมาเรื่อยๆ จนเริ่มเข้าสู่ในตัวเมือง
แล้วบรรยากาศในตอนกลางคืน ผมว่าดูน่าสนใจกว่ากลางวันอีกครับ
ไม่รู้ผมคิดไปเองเปล่าน่ะ เหะๆ
พับมากมายที่เปิดอยู่สองข้างทางที่ไอ้โมมันขับรถผ่าน
ผมว่าดูคึกคัก พอๆกับตลาดสดในตอนเช้าเลยครับ
แถมคนไปไทยแล้วก็ชาวต่างชาติ ที่เข้ามาเที่ยว
ผมว่าสวนใหญ่ เขาหมักจะมาเที่ยวกลางคืนมากกว่า
แล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้ ผมว่าก็น่าจะเป็นการขายบริการน่ะครับ
เพราะแถวที่ผมนั่งรถผ่าน ก็เป็นย่านที่ดังเรื่องนี้เหมือนกัน
ไม่รู้เข้าขายกันยังไงน่ะครับ...(^ ^*)
ไอ้โมมันขับต่อไปอีกสักพัก มันก็หยุดรถที่หน้า 7-11
มันบอกว่าหิว หาอะไรกินก่อน
ผมก็พยัก งิกๆ เพราะตอนเย็นก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย
หาอะไรรองท้องซะหน่อยแล้วกันครับ
ผมเดินตามไอ้โมเข้าไป แต่เดินกันคนละล็อก
เดินดูโน้นดูนี้ไปเรื่อย เลยเจอขนมปังฟาร์มเฮ้าส์
แล้วมันก็เหลือชิ้นสุดท้ายแล้วด้วยครับ
ผมกำลังจะเอื้อมมือไปยิบ แต่ เห้ย....
มีคนมาแย่งไปก่อน แล้วไอ้คนนั้นมันก็รู้ด้วยครับว่าผมจะเอา
มันเป็นผู้ชายครับ ตัวก็เท่าๆผมนี้แหละ
แล้วที่สำคัญ หน้ามันกวนตีนมากๆ
พอมันเห็นผมทำหน้างงๆ มันก็สะบัดหน้า
แล้วเดินผ่านไปเลยครับ...
“อะไรว่ะ”
ผมยังงงๆอยู่ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
เลยเดินไปซื้ออย่างอื่นต่อ
แล้วพอมาที่แผนกเครื่องดื่ม
ผมกำลังจะเปิดตู้เย็นเพื่อยิบน้ำ
อีกแหละ
“โอ้ยยย…..”
ผมร้องออกมา แล้วกุ้มหน้าผากแน่นเลยครับ
ก็ไอ้ประตูตู้เย็นมันชนเข้ากับหน้าผากผมเต็มๆ
แถมไอ้คนที่มันเปิดชนผม ยังมาหัวเราะใส่อีก
แบบนี้ มันมากเกินไปแล้วครับ
“หึหึ”
ไอ้คนที่ทำผม หัวเราะแบบซะใจ
ซึ่งมันก็เป็นคนเดียวกับที่ยิบขนมปังตัดหน้าผมนั้นแหละ
ผมมองหน้ามัน แถมอารมณ์ก็เริ่มร้อนครับ
เพราะรู้ว่าไอ้เนี่ยมันตั้งใจแกล้งผม
ซึ่งผมก็ไม่เคยรู้จักมันหรอก
แต่หากมันเล่นมาหาเรื่องผมแบบนี้
อย่าคิดว่าผมยอมน่ะครับ
ผมเดินเข้าไปหามันใกล้ๆ
ซึ่งดีหน่อยที่คนไม่ค่อยเยอะมาก
ผมกับมัน เลยไม่เป็นที่สนใจของใครเท่าไร
“เมิงจะเอาไง ว่ามา”
ผมถามมัน พร้อมกำหมัดแน่น
แล้วหน้าตาโครตกวนตีนของมัน ก็ยิ่งทำให้อารมณ์ผมร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก
“ไม่ได้เอาไง ก็แค่สั่งสอน”
ผมกำลังจะลงหมัดเข้าที่หน้ามัน
แต่ไอ้โม มันเข้ามาคว้าแขนผมซะก่อน
ซึ่งตอนนี้ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น
ขอแค่ จัดการไอ้คนตรงหน้าให้ได้ก็พอ
“เห้ย ใจเย็น พนักงานมองอยู่”
ไอ้โมมันกระซิบบอกผม แหละเมื่อผมหันไปมอง
ก็จริงด้วยครับพี่พนักงาน7-11
มองมาทางผม กับไอ้หน้าตีนคนนี้
ผมเลนลดหมัดลง แต่หน้าตาก็ แค้นมันสุดๆ
“เมิงเป็นใคร แล้วหาเพื่อนกูทำไม”
ไอ้โมครับ ที่เป็นฝ่ายพูดแทนผม
ซึ่งไอ้หน้าตีนมันก็ยิ้มกวนๆมาทางผม
ก่อนจะตอบคำถามไอ้โม
.
.
.
“กูแฟนเบส”
*****************************************************
ปล.ขอบคุณทุกๆคนมากๆครับผม ที่รออ่าน
ซึ่งเหตุผลคงมากจากงาน เหะๆ เพราะพึ่งเสร็จไปอีกงาน
ก็ค่ายอาสาพัฒนาครับ เมื่อวันศุกร์นี้เอง (ปัญหาเยอะมากๆ)
แล้วที่ลงนิยายให้อ่านไม่ได้ คงเพราะคอมยังอยู่บ้านเพื่อนครับ
ผมเลยต้องมาพิมพ์ที่ร้านเน็ต
เพราะกวนคนไม่อ่านของเรา เหะๆ
ขอบคุณทุกคนที่ดัน ทุกกำลังใจที่อ่าน ฮื่อๆ จะร้องไห้
เดี๋ยวจะเอาภาพกิจกรรมาให้ดูน่ะครับ กลัวไม่เชื่อ
หายไปนาน อย่าโกรธกันเลยครับ
