Section I :: อะไรของมัน :: [เบสกับต่าย*]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Section I :: อะไรของมัน :: [เบสกับต่าย*]  (อ่าน 136859 ครั้ง)

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
แวะมาเยี่ยม และรออ่านตอนต่อไป

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ไหนว่าไม่เกินอาทิตย์หน้าไงจ๊ะ บูมจ๋า เหอๆ :z3:

ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
ความเดิมตอนที่แล้ว...

หลังจากต่ายไปสนามกีฬา ต่ายก็เป็นลม จากนั้นเบสก็ไปซื้อข้าวกับยาให้กิน
พอตอนกลับบ้าน ซึ่งตอนมาต่ายมากับพี่ซัน แต่พอตอนกลับความรู้สึกของต่ายคืออยากไปกับเบส
แต่ต่ายสุดท้ายต่ายก็ต้องไปกับพี่ซัน พี่ซันไม่ได้พาได้กลับบ้าน แต่พาไปซื้อกับข้าว
เพื่อกลับไปกินที่บ้าน พี่ซันพาต่ายมาบ้านตัวเอง จากนั้นก็แกะกับข้าวทานกับนโต๊ะ สองคน…



ตอนที่ ตอนที่ 37 สิ่งสุดท้าย

“อร่อยมั้ยครับ ทานเยอะน่ะๆ”

พี่ซันพูดกับผมระหว่างที่เราสองคนนั่งกินข้าวอยู่ในครัว
กับข้าวเต็มโต๊ะ แต่พี่แกไม่ให้ผมตักอะไรเลยครับ
เพราะพี่แกตักให้ผมทุกอย่าง จนตอนนี้กับข้าวปนกัน
จนแทบจะเป็นอาหารหมาแล้วครับ

“หึหึ พอก่อนดีกว่าครับ เดียวผมทานไม่หมด ”

“ครับ อิ่มเมื่อไรบอกได้น่ะครับ ไม่ต้องฝืน เพราะเดียวเราค่อยไปนั่งเล่นกันบนห้องพี่ เพื่อให้อาหารย่อย”

เหอ....ผมหายใจทิ้งไปแทบทุกวินาที
เพราะเมื่อไรที่พี่ซันแกพูดถึงห้องนอน ผมก็ต้องนึกภาพไอ้เบสหน้าโหดทุกทีจริงๆ
 
“อืม....ยังเลยครับ ยังไม่อิ่ม”

ผมไม่แน่ใจว่าตัวจะยืดเวลาได้นานแค่ไหน
เพราะกระเพาะผมก็เริ่มอืดแล้วครับ
แล้วมันก็อยากจะอ้วกออกมาทุกครั้งที่ต้องฝืนกินข้าว

ฝนที่ตกแรงอย่างกับพายุเข้า และไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
มันทำให้ผมรู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องอันตรายเข้าตัวครับ

และหากผมขอไม่ให้ไอ้เบสไปบ้านผมตอนนี้
จะทันหรือเปล่าครับ เพราะไอ้นี่มันเจ้าอารมณ์อยู่ด้วย
แล้วหากผมมาบ้านพี่ซัน แล้วไปอยู่บนห้องกับพี่ซันนกันสองต่อสอง

แบบนี่ไอ้เบสมันต้องฆ่าผมแน่ๆ

“พี่อิ่มแล้วครับ เดี๋ยวพี่ไปจัดห้องรอน่ะครับ”

เกร๊ง......ช้อนในมือผมหลุดอย่างไม่รู้ตัว

“เหะๆ ครับ แต่ผมยังไม่อิ่มเลย พี่เบสขึ้นไปก่อนเหะๆครับ”

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปจัดห้องก่อนน่ะครับ” พี่ซันยิ้มให้ผม

“ครับ”

อึก....ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วแบบนี้น่ะครับ
อย่าให้กระเพาะผมเท่าปลาวาฬจริงๆเลย
จะได้กินไปถึงพรุ่งนี้ เหะๆ

(ฮื่อๆๆ ไอ้เหี้ยเบส ทีกูต้องการเมิงทำไมไม่มา
แล้วแบบนี้กูจะทำไงดีว่ะ)

พี่ซันเดินขึ้นห้องไปแล้ว ผมจึงต้องใช้ความคิด
ที่ในหัวมีเรื่องไร้สาระอัดแน่นเต็มไปหมด

แต่คำตอบที่ได้คือ เมิงไม่รอด...เมิงไม่รอด...เมิงไม่รอด

ผมหันมองโทรศัพทืที่คิดว่าเป็นทางรอดสุดท้าย
เลยตัดสินใจ กดโทรหาไอ้เบส แต่ก็...

หมายที่ท่านเรียกไม่สามารถ บร้าๆๆๆ

ผมกดหาอีกสี่ห้าครั้ง แต่ก็เหมือนเดิม
แล้วชื่อของบูมก็แวบเข้ามาในหัว

ผมเลยโทรหาบูม ที่คิดว่าน่าจะช่วยผมได้บ้าง
และหลังจากที่ผมรอสายอยู่สักพัก บูมก็รับสาย....(พระเจ้าเข้าข้างลูกแล้ว)

“โหลบูม เบสอยู่กับนายหรือเปล่า”

“เปล่าน่ะ ทำไมเหรอ” บูมตอบ

“หากเจอเบสช่วยบอกมันหน่อยว่าเราอยู่บ้านพี่ซัน ให้มาช่วยรับหน่อย”

“อ่าวไปอยู่บ้านไอ้ซันได้ไง”

“เรื่องยาว เดียวเราค่อยเล่าให้ฟัง”

ผมรีบตัดบท เพราะหาเล่าเรื่องนี้ในบ้านพี่ซัน
ท่าจะไม่ปลอดภัยต่อผมเท่าไร

“อืมๆ ได้”

“โอเค ขอบใจมาก”

ผมกดวางไป และได้แต่สาธุให้ไอ้เบสมารับผมไวๆเถอะครับ
แต่ดูจากฝนตกแรงขนาดนี้โอกาสที่มันจะมา แทบเป็นไม่ได้เลย
แล้วที่ผมจะให้มันพยายามเพื่อผมขนาดนี้
หากมันถามว่าผมกับมันเป็นอะไรกัน
แล้วผมจะตอบมันว่ายังไง…

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ผมก็ยังมีหวังอยู่

“ต่ายครับ อิ่มหรือยังครับ พี่จัดห้องเสร็จแล้วน่ะครับ”

พี่ซันเดินลงจากบันไดด้วยสภาพกางเกงขาสั้นตัวเดียว
ส่วนด้านบนตั้งแต่เอวขึ้นไป ก็ไม่มีอะไรปกปิด
กล้ามหน้าท้อง กับผิวขาวๆของพี่แก แทบทำให้ผมคุมอารมณ์ตกใจไม่อยู่

“เมื่อกี่คุยกับใคร เหรอครับ”

“ห๋า...อ่ะ เอ่อ เพื่อนโทรมาครับ”

ผมหายใจแทบไม่ออก กว่าจะตอบคำถามนี้ได้
แล้วพี่ซันเขาไปได้ยินตอนไหนล่ะเนี่ย หึหึ หูดีจริงๆ เนอะพี่

“อืมครับ แล้วน้องต่ายอิ่มยังครับ พี่จัดห้องเรียบร้อยแล้ว”พี่ซันถามผมหน้าตายิ้มแย้ม

“อืม....ครับอิ่มแล้ว” จะให้กินต่อก็คงต้องอ้วกแน่ๆ

“งั้นเดี๋ยวเก็บจาน แล้วขึ้นบนห้องกันเลยน่ะ”

พี่แกไม่รอคำตอบจากผม แล้วก็เดินไปเก็บจานข้าวที่วางอยู่
ผมก็ไม่รู้จะทำไงต่อ เลยต้องไปช่วยพี่แกเก็บจาน แล้วเอาไปล้าง

ตอนแรกพี่ซันจะไม่ให้ผมล้างหรอกครับ
แต่คงทนสายตาออดอ้อนของผมไม่ไหว
เลยยอมให้ล้าง แล้วมีพี่แกยืนให้กำลังใจอยู่ข้างๆ

สายตาพี่ซันที่มองผม มันทำให้ผมรู้สึกประหม่า
เพราะทุกการเคลื่อนไหวของผม พี่แกก็จะมองแล้วยิ้ม
เหมือนพี่เขากำลังคิดอะไรอยู่โดยที่ผมมรู้

แล้วสุดท้ายช่วงเวลาที่ผมพยายามหลีกเลี่ยง
มันก็มาถึงจนได้ ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนห้องพี่ซัน
ที่ดูเรียบร้อย สะอาดตา เหมาะกับหน้าตาของพี่เขามากๆ

“เออ ห้องพี่ซันสะอาดดีน่ะครับ”

ผมพูดตามความจริง เมื่อมองดูรอบๆ
ก็ไม่เห็นมีตรงไหนที่ไม่ถูกระเบียบ
แม้แต่ตะกร้าเสื้อผ้า พี่ซันก็จัดเข้ามมุมห้องอย่างเรียบร้อย

และในห้องพี่แกก็มีห้องน้ำในตัว
รวมถึงระเบียงที่ยื่นออกไปด้านนอกด้วย

“ขอบคุณครับ แล้วน้องต่ายชอบฟังเพลงหรือเปล่า”
พี่ซันยกกีต้า ขึ้นตั้งบนตัก แล้วหันมายิ้มให้ผม

“ครับชอบ”

“แล้วอยากฟังเพลงอะไรล่ะ พี่จะร้องให้ฟัง”พี่ซันบอกผมหน้าตาจริงจัง

“อืม เพลงอะไรก็ได้ครับ ผมฟังได้หมด”

ผมไม่กล้าเลือกเพลงหรอกครับ เพราะกลัวพี่เขาร้องไม่เป็น
เพราะเพลงที่ผมชอบส่วนใหญ่จะเป็นเพลงเก่าๆ
รุ่นตอนที่ผมยังอยู่ประถมอยู่เลย

“งั้น ลองฟังเพลงนี้แล้วกันน่ะครับ ไม่รู้ชอบหรือเปล่า”

พี่ซันยิ้มให้ผม จนผมชักรู้สึกชอบร้อยยิ้มพี่ซันแล้วซิครับ
รอยยิ้มพี่เขาดูอ่อนหวาน จริงใจ และทำให้ผมรู้สึกดีด้วย

พี่ซันเริ่มดีดกีต้า โดยไม่ดูเนื้อร้อง
แล้วสายตาพี่แกก็มองมายังผม ด้วความจริงจัง

แม้ว่าลมจะเปลี่ยนทิศไป เมฆที่ลอยจะเปลี่ยนสีไป
ฉันก็ยังไม่เปลี่ยนหัวใจที่มีให้เธอ
แม้ตะวันจะเลือนลับไป ฝนจะซาจะหยุดหายไป
ฉันก็ยังไม่หยุดหัวใจที่ยังรอเธอ

วันนั้นวันนี้พรุ่งนี้วันที่เท่าไหร่
วันไหนวันนั้นแต่ฉันก็ยังรอเธอ
วันนั้นที่เคยได้รอตั้งแต่แรกเจอ
พรุ่งนี้ก็ยังจะรอแต่เธอเรื่อยไป

ฟ้าอาจเบื่อที่อยู่ข้างบน โลกอาจเบื่อที่มันต้องกลม
แต่ฉันไม่เบื่อที่ยังมั่นคงโปรดจงเข้าใจ
แม้ว่าใครจะยังรักเธอ แม้ว่าเธอจะยังรักใคร
ฉันก็ยังจะมีหัวใจให้เพียงแค่เธอ

ฉันไม่มีเหตุผลที่เป็นอย่างนี้มันเพราะอะไร
ฉันก็ไม่เข้าใจทำไมต้องเป็นแค่กับเธอ
รู้แค่เพียงว่าใจ บอกฉันทุกวันว่าฉันรักเธอ
รู้แค่เพียงว่าใจสั่งให้ฉันรอ

รอเธอ วันนั้นวันนี้พรุ่งนี้วันที่เท่าไหร่
วันไหนวันนั้นแต่ฉันก็ยังรอเธอ
วันนั้นที่เคยได้รอตั้งแต่แรกเจอ
พรุ่งนี้ก็ยังจะรอแต่เธอเรื่อยไป



เพลงจบลง พร้อมกับร้อยยิ้มพี่ซันที่มอบให้ผม
ตอนนี้ผมนอนอยู่บนเตียงพี่แกโดยไม่รู้ตัว
สงสัยเพราะอาการหนาวๆตอนฝนตก
กับเสียงเพลงเพราะๆ เลยทำให้ผมเคลิ้มไป

“เพราะเปล่าครับ”

พี่ซันวางกีต้าไว้ข้างเตียง แล้วล้มลงมานอนข้างผม

“ครับ เพราะมากเลยครับ”

ผมเห็นสายตาพี่ซันที่จ้องผมอยู่ ก็แทบละลาย
ผมพยายามหลบหน้าพี่เขาน่ะครับ
แต่พี่เขาก็เอามือมาจับหน้าผม ให้มองอยู่ที่หน้าพี่เขาเหมือนเดิม

“เป็นอะไรไรครับ ทำไมต้องหลบตาด้วย”พี่ซันนถามผมด้วยร้อยยิ้ม

“เออ-- เหะๆ ไม่รู้ดิครับ”

ใครจะไปตอบได้ละครับ เล่นถามกันตรงๆอย่างนี้
ผมรู้สึกเหมือนพี่เขาจะขยับมาใกล้ผมมากขึ้น
แล้วหน้าของผมกับพี่เขา ก็แทบติดกันอยู่แล้ว
แต่ผมก็ยังพอมีสติ ที่ไม่เคลิ้มไปกับร้อยยิ้มของพี่เขาน่ะครับ
 เพราะหลังจากนั้น ผมก็ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะมีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้

“เป็นอะไรเปล่าครับ”พี่ซันถามผม

“เปล่าครับ ผมว่าเราไปนั่งเล่นกันด้านล่างดีกว่าน่ะครับ” ผมพูดไปโดยไม่มองหน้าพี่ซัน

“อืม แล้วแต่น้องต่ายครับ”

พี่ซันกับผมลงมานั่งคุยที่ที่เราเคยนั่งกินข้าวกันก่อนหน้านี้อ่ะครับ
พี่ซันชวนผมคุยเรื่องพ่อแม่พี่ซันที่ไปทำงาน แล้วพี่ซันก็ต้องอยู่คนเดียวบ่อยๆ
ผมเลยถามไปถึงแฟนพี่เขา พี่เขาบอกว่ายังไม่มี หาคนจริงใจยาก
ดูสายตาพี่เขาตอนที่ตอบ เหมือนพี่เขาเคยอกหักกับเรื่องความรักมานับสิบ

ผมเลยเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องเพื่อนๆพี่เขาที่ไปเล่นฟุตบอลด้วยกัน
แล้วมันก็เขาสู่เรื่องไอ้เบสจนได้ พี่เขาเล่าว่ารู้จักไอ้เบสตั้งแต่ตอนที่อยู่บ้านไกลกัน
แล้วพอไอ้เบสย้ายบ้านก็ยังพอติดต่ออยู่บ้าง จนพี่ซันพูดมาถึงแฟนไอ้เบสนี่แหละ
ผมถึงได้รู้ว่ามันเป็นคนตามใจแฟนมันทุกอย่าง รักแฟนตัวเองมาก รักจนพี่เขาบอกว่าไม่สนอะไร
พี่ซันเล่าต่อว่า แฟนมันเคยโทรหาพี่เขาบ่อยๆ จนเขาเองก็พอรู้ตัวว่าทำไม…
เขาเลยเลี่ยงๆไป แล้วแฟนไอ้เบสก็เลิกยุ่งไป แต่พอหลังจากนั้น
ดูเหมือนแฟนไอ้เบสจะเป็นคนบอกเลิกมันเอง(เหมือนที่บูมบอกผมเลย)

ไอ้เบสมันเป็นบ้าไปเลย มันประชดแฟนมันที่เขาไม่สนใจ
แต่ล่าสุด พี่ซันบอกว่าแฟนมันมาขอคืนดี
ไอ้เบสที่รักแฟนมันอยู่ เลยกลับไปคบกันต่อ
ผมแทบไม่อยากเชื่อเลย ว่าคนอย่างไอ้เบสจะรักคนอื่นเป็นด้วย

แล้วพักหลังๆมานี่มันก็ขึ้นไปกรุงเทพบ่อยๆ
เพื่อจะขึ้นไปหาแฟนมัน(พยายามสูงเนอะ) พอพี่ซันบอกว่ามันขึ้นไปกรุงเทพ
ผมเลยไม่ค่อยแน่ใจ ว่าที่มันหายไปโดยไม่มาหาผมเลย
อันนี้มันเอาเวลาไปอยู่กับแฟนมันที่กรุงเทพหรือเปล่า

ผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาดื่อๆ กับเรื่องไอ้เบส
ผมไม่รู้ว่าทำไมต้องรู้สึกเสียใจกับเรื่องไอ้เบสไปหาแฟนมันด้วย
เพราะมันกับผม เราก็ตกลงกันเรื่องนี่แล้ว ว่าแค่เล่นสนุกๆ
แต่ความรู้สึกของผมล่ะ ที่เคยบอกตัวเองว่าไม่รักไอ้เบส
แล้วนี่ มันทำไม...

ฝนหยุดตกแล้วครับ แล้วมันก็ดึกมากแล้วด้วย
จนตอนนี้ผมลืมไปเลยว่ากำลังรอไอ้เบสอยู่

“ตอนนี้ก็ดึกแล้ว พี่ว่าน้องต่ายนอนบ้านพี่เลยดีกว่า”พี่ซันบอกผม ผมมองไปที่นาฬิกา ที่ตอนนี้ประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ
 
“เออ-- เดียวผมบอกให้แม่มารับดีกว่าครับ รบกวนพี่เปล่าๆ”ผมพูดด้วยความเกรงใจ ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรพี่เขาเหมือนตอนเย็นหรอกครับ
 
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าพี่ไปส่งเอง”

“เออ- - เสื้อผ้าผมก็ไม่ได้เอามา ผมว่า..”

“ต่ายไม่ต้องกลัวพี่จะทำอะไรหรอกครับ เพราะหากจะทำ พี่คงทำตั้งแต่ตอนนอนเล่นบนห้องแล้ว และหากต่ายยังไม่เชื่อใจพี่ คืนนี้พี่มานอนข้างล่างก็ได้ครับ ส่วนต่ายนอนด้านบนห้อง”

พี่ซันพูดมีเหตุผล และน้ำเสียงจริงจังของพี่เขา ก็ทำให้ผมยากที่จะปฏิเสธ
ผมเลยตอบตกลงพี่เขา พี่ซันเลยโทรไปคุยกับแม่ผมให้ ตอนแรกผมว่าจะคุยเอง
แต่พี่ซันบอกว่าพี่เขาจะรับผิดชอบผมเอง (พูดอย่างกับผมได้เสียแล้วนั้นแหละ)

หลังจากวางสาย พี่ซันก็บอกเรื่องที่ทำให้ผมแทบเป็นลม
ก็ไอ้เบสไงครับ มันมานั่งรออยู่ที่บ้านผม
แต่พี่ซันบอกว่าไม่มีปัญหาแล้ว เพราะมันจะมาหาใหม่วันหลัง
พี่ซันดูท่าทางสบายใจน่ะครับ แต่ผมแทบนั่งๆไม่ติด เพราะรู้นิสัยไอ้นี่ดี
แล้วตอนนี้มันก็น่าจะกำลังมาบ้านพี่ซันแล้วด้วย (ตายห่าแน่กู)

พี่ซันบอกให้ผมขึ้นไปอาบน้ำบนห้องก่อน
เดี๋ยวพี่แกจะเตรียมเสื้อผ้าตั้งรอไว้ให้
พอพี่แกส่งผ้าขนหนูให้ผม ผมก็เข้าห้องน้ำอย่างร้อนใจ
ระหว่างอาบน้ำ ผมก็พยายามมองโลกในแง่ดี
ว่าไอ้เบสมันคงไม่ใส่ใจอะไรอย่างนี้หรอก
แล้วมันก็คงไม่มาหาผมถึงบ้านพี่ซันหรอก
เหอ...ทำไมมันเหมือนปลอบใจตัวเองก็ไม่รู้

ผมอาบน้ำจนรู้สึกสดชื่น ก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวที่ปิดส่วนล่างอยู่
ตอนแรกผมคิดว่าพี่เขาจะเอาเสื้อผ้าตั้งไว้ให้แล้ว แต่มัน...ไม่มี

ผมเลยมองหาจนทั่วห้องอีกครั้ง ก็ไม่เจอ เลยเดินลงไปหาพี่แกด้านล่าง
แต่พอเห็นหน้าพี่แกก็แทบตะร้องกรี้ด ไม่ได้กรี้ดพี่เขาน่ะครับ
แต่กรี้ดตกใจไอ้เบส ทำไมมันมาไวแบบนี้
แล้วสายตาเคืองแค้นที่มันมองผม มันคืออะไร?
มันไปโกรธกับใครมาหรือเปล่า หึหึ กูตายแน่ๆ

“เดี่ยวพี่ไปเอาเสื้อผ้าให้ครับ” พี่ซันบอกผม

ผมเลยเดินขึ้นไปนั่งรอบนห้องตัวสั่น
ที่สั่นเพราะอะไรคงรู้ดีน่ะครับ.....ไอ้เบส

พี่เขายิบเสื้อผ้าที่ดูดีอย่างกับไปเที่ยวให้ผมชุดหนึ่ง
ตอนแรกพี่เขาให้กางเกงในมาด้วย (ที่ยังไม่ใช้น่ะครับ)
แต่ผมบอกว่าใส่ตัวเก่าก็ได้ หึหึ สกปรกจริงๆกู
 
แต่จริงๆเพราะผมต้องกลับบ้านอยู่แล้วล่ะครับ
เพราะพี่ซันบอกว่า แม่ให้ไอ้เบสมารับผม
พี่เขาดูหน้างงๆน่ะครับ
แต่ผมไม่งงหรอก เพราะรู้ว่าไอ้เบสมันตอแหล

ไอ้เบสดึงผมจนแทบลากไปกับพื้นตอนออกจากบ้านพี่ซัน
ผมไม่ทันจะลาพี่เขา ตอนที่พี่เขามาส่งหน้าบ้าน
ไอ้เบสมันสตาร์สรถแล้วขับออกไปอย่างเร็วจนผมแทบกรี้ด

ฮื่อๆๆ หากกูตกรถแล้วตายไป กูจะมาหลอกเมิง

คำด่าที่ผมเคยได้ยินจากปากไอ้เบสเวลามันโมโห
ไม่มีเลยครับ...เงียบ...แต่มันก็ไม่เงียบเท่าหรอกครับ
เพราะเสียงลมที่ผ่านผมไป
ก็พอจะรู้ว่า มันขับรถจนเห็นนรกอยู่ปลายทาง

ไอ้เบสขับเลยทางบ้านผม แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกตกใจหรอกครับ
เพราะเตรียมใจมาล่วงหน้าแล้ว ว่ามันคงไม่พาผมกลับบ้านแน่ๆ

ตอนนี้ไอ้เบสเริ่มลดความเร็วเมื่อเขาสู่ตัวเมือง
ที่ผมแทบไม่เห็นรถเลย คงเพราะดึกมากแล้วด้วยล่ะครับ
ไอ้เบสขับรถเลี้ยวเขาซอยตรงบริเวรร้านน้ำสมุนไพรที่ผมชอบกิน
เพราะอยู่ใกล้โรงเรียนชายล้วนด้วยมั้งครับ เลยเป็นอาหารตาไปด้วย หึหึ

ไอ้เบสหยุดรถหน้าร้านอาหารตามสั่ง คนนั่งกันเต็มร้านเลยครับ
แล้วมันก็มองผมที่กำลังนั่งกอดถุงเสื้อผ้าตัวเองที่เอามาจากบ้านพี่ซัน
ผมทำตัวไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่ามันมองแล้วหมายถึงอะไร
(กูไม่ใช่หมอดูน่ะโว้ย จะได้อ่านใจเมิงออก)

“ไม่แดกอะไรใช่ไหม”ฮื่อๆ มันพูดไม่สุภาพครับ เล่นเอาผมสะดุ้งโย้ง

“กะ---ก็แล้วแต่”ผมพูดกล้าๆกลัวๆ

“เออดี งั้นก็ไม่ต้องกิน”

ไอ้เบสหันไปสั่งอาหารของมันคนเดียว แล้วไม่สนใจผมอีก
ผมก็ไม่ได้โวยวายอะไรครับ ไม่คิดว่ามันใจร้ายขนาดนี้ แต่ไม่สิ...
แค่นี้เป็นธรรมดาของมันอยู่แล้ว

ผมยืนมองแม่ค้าทำอาหาร ส่วนไอ้เบสมันเหมือนกำลังจ้องผมอยู่
ตอนแรกไม่กล้าหันไปมอง คิดว่าตาฝาด
แต่พอหันไปเจอสายตาพิฆาตมัน แทนที่มันจะตกใจ
กลับเป็นผมที่ต้องหลบสายตามัน

ผมปล่อยให้มันมองไป สักพักมันก็ได้ข้าวที่สั่งไป
รู้สึกจะเป็นคะน้าหมูกรอบ อืม...จำไว้คนหล่อเขาชอบกิน หึหึ
ไอ้เบสรับข้าวจ่ายตั้ง สตาร์สรถอย่างรวดเร็ว จนผมแทบตกรถ
ผมไม่กล้ากอดเอวไอ้เบสหรอกครับ แต่พอมันแบรกตอนไฟแดงนี้สิ
ผมโผลเข้าไปกอดมันเต็มๆ

“อู๊ยยย เจ็บ ขับรถอะไรว่ะ”ผมบ่นแต่ไอ้เบสไม่หันมามองเลยครับ
มันยังทำหน้าเหี้ยเหมือนเดิม
 
มันขับรถผ่านซอยจนผมงงตึบไปหมด
เพราะเหมือนมันจะขับวน แล้วสักพักมันก็มาจอดรถหน้าบ้านหลังใหญ่
ที่คิดว่ายังไงก็ไม่น่าจะใช่ของมันแน่ๆ แต่แป๋ว...

“เอาไปเปิดประตูเร็วๆ”ไอ้เบสสั่งผมแล้วยื่นกุญแจให้

ผมรับมาแล้วเดินไปไขกุญแจประตูเหล็กหน้าบ้านมัน
มันขับรถเข้าบ้าน ผมก็ล็อกประตูเรียบร้อยอย่างรู้งาน
ในบ้านไอ้เบสมีรถเก๋งจอดอยู่คันหนึ่งคลุมผ้าอยู่
แล้วก็รถมอไซค์ของมัน มันเหมือนจะรอให้ผมไปเปิดประตูบ้านให้
ผมก็รีบเดินไปเปิดให้ กลัวไม่ถูกใจมัน กว่าจะหาดอกกุญแจเจอก็ช้านิดหน่อย

แต่ไม่เห็นว่ามันจะโว้ยวาย
พอเข้ามาในบ้านมัน มืดมากๆครับ ไม่เปิดไฟสักดวง
ไอ้เบสหายไปในความมืด แล้วสักพัก ไฟก็เปิดจนทั่วบ้าน
โห้.......

ผมอ้าปากค้าง ไม่ใช่เพราะบ้านจัดอลังฯเหมือนบ้านพี่ซันหรอกครับ
แต่บ้านมันรกยังกับกรุเก็บขยะ
ผมมองไปทางไหนก็มีแต่กล่องวางซ้อนกัน แล้วก็ผ้าสีขาวคลุมฟอร์นิเจอร์เต็มไปหมด
แล้วฝุ่นก็จับหนายังกับดิน

ไอ้เบสดูจะไม่สนใจอะไร เพราะมันเดินขึ้นชั้นสองไปเลย
ส่วนผมยังไม่หายงงกับสภาพบ้าน เลยยืนอึ้งอยู่ที่ประตู
จนไอ้เบสมันตะโกรลงมานั้นแหละ

“ปิดประตู ปิดไฟ แล้วขึ้นมาด้านบน”

คำสั่งของมันที่ผมต้องทำตาม
ผมล็อกประตูเรียบร้อย ปิดไฟด้านล่างจนหมดทุกดวง
เหลือแต่ไฟด้านบนที่พอนำทางผมอยู่

ผมเดินขึ้นมาด้านบน  สภาพไม่ต่างจากด้านล่างเลย
บนบ้านมันมีสองห้องนอน และห้องไปเบสก็อยู่ติดกับบันได
ในห้องมันมีของเต้มไปหมดครับ เสื้อผ้าเกลื่อนพื้น
ต่างจากห้องพี่ซันลึบลับ ผมยังแอบคิดเลยครับ
หากมันฆ่าคนแล้วเอามาหมกไว้ห้องของมัน
ผมว่าหาศพไม่เจอแน่ๆ หึหึ

“เอาน้ำให้หน่อย”ไอ้เบสสั่งผม

ผมมองหาขวดน้ำในห้องมัน ที่แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย
เพราะมันรกจนผมหาอะไรไม่เจอ
แต่แล้วก็เจอครับ ผมรินใส่แก้วยื่นให้มัน

ไอ้เบสกินน้ำเสร็จ มันก็ดูทีวีโดยไม่สนใจอะไรผมเลย
ผมยังงงครับ มันให้ผมมาเพื่ออะไร มาเป็นคนใช้ใช่มั้ย?

“ทำไมถึงพาเรามาที่บ้านนาย”ผมจ้องหน้ามัน

ไอ้เบสหันมามองผมด้วยสายตาเย็นชา
ก่อนจะหันไปสนใจทีวีต่อ

“กะจะมาเอาเมิง แต่ยังไม่มีอารมณ์”มันพูดหน้าตาเฉย

“พูดไรให้เกียรติหน่อยได้ไหม เราไม่ใช่คนขายตัวที่นึกจะเอาก็เอา”ผมพูดอารมณ์เริ่มเดือด

“หึหึ เกียรติ เกียรติเหี้ยไรเมิงอีก  เมิงให้ไอ้ซันไปเอาถึงบ้าน  แล้วนี้เมิงยัง...”ไอ้เบสพูดยังไม่จบ

ผมก็เอาถุงเสื้อผ้าที่ถืออยู่ (ถือทำบ้าไรตั้งนานแล้วว่ะกู)
ปาเข้าใส่หน้ามันเต็มแรง มันก็ไม่หลบน่ะครับ
แล้วมันก็หันมายิ้มเหมือนสะใจให้ผม
นั้นคงเพราะมันเริ่มเดือนขึ้นมาบ้างแล้ว
แต่ดีแล้วล่ะครับเพราะสันดานอย่างไอ้เบส
เวลาพูดอะไรมันก็ไม่เคยแคร์ความรู้สึกใครอยู่แล้ว

“หึหึ”

ไอ้เบสไม่พูด แต่เสียงในลำคอที่ดูน่ากลัวของมัน
ก็ทำให้ผมไม่ทันระวังตัว มันเลยลากผมขึ้นเตียง
โดยที่แรงมันยังกับควาย และผมก็ไม่สามารถสู้ได้เลย

“เห้ย....ปล่อยเบส ไม่เล่น”ผมพูดด้วยความตกใจ

“กลัวทำไม นึกว่าชินซะอีก”ไอ้เบสล็อกมือผมทั้งสองข้างไว้บนหัว

แล้วมันก็เอามือที่เหลือข้างหนึ่งปลดเข็มขัดของมัน
ผมได้ทีเลยใช้เท้าถีบไปที่ท้องมันไม่แรงนัก
แต่พอให้มันกระเด็นห่างจากเตียงสักระยะ

“เราไม่เคยทำอะไรอย่างที่นายคิด แล้วเลิกพูดอย่างนี้สีกที”

ผมโกรธมันจนตัวสั่น แต่เกลียดที่ทำอะไรมันไม่ได้
ผมเลยเดินเลี่ยงมัน แต่ก็โดนมันกระชากกลับมาให้นอนอยู่ที่เตียงเหมือนเดิม
ผมรีบลุกขึ้น แต่ไอ้เบสโหมตัวมันมาทับผมไว้ เลยทำให้ผมขัดขืนไม่ได้

“อย่าเล่นตัวดีกว่า เมิงอยากโดนกูทำแบบนี้อยู่นานแล้วใช่ไหมล่ะ”

ผมพยายามใช้มือผลักมันออก แต่ครั้งนี้ไอเบสมันไม่ปล่อยให้ผมหลุดไปได้แล้ว
เพราะมันก้ใช้เข็มขัดที่พึ่งถอดออก มามัดมือผมไว้
แล้วหน้ามันตอนนี้ก็ซุกกอยู่ที่คอผม

อารมณ์ผมไม่ได้รู้สึกถึงคนที่อยากมีเซ็กซ์
แต่มันรู้สึกกลัวแล้วก็โกรธ ผมอยากจะตะโกนให้ดัง
แต่เสียงก็ดังแค่ในลำคอ ไอ้เบสมันใช้ปากประกบปากผมแน่แทบหายใจไม่ออก

เสื้อผ้าที่เคยอยู่บนตัวผมก็ถูกมันกระชากจนขาดไปกองกับพื้น
กางเกงในที่เป็นสิ่งปกปิดอันสุดท้ายก็ยังโดนมันถอดทิ้งไปไกล
ตอนนี้สภาพผมที่นอนเปลือยเปล่า ก็โดนมือไอ้เบสมันสัมผัสทุกส่วน
เหมือนผมเป็นของเล่น มันจะกัดตรงไหนก็กัด โดยที่ผมพยายามกลั่นเสียงไว้
เพื่อไม่ให้มันได้ยิน ว่าผมเจ็บจากสิ่งที่มันทำมากแค่ไหน

น้ำตาไหลจนหยุดไหล ไอ้เบสมันก็เห็นว่าผมร้องไห้
แต่มันกลับไม่สนใจ และลุกขึ้นถอนเสื้อผ้ามันออกบ้าง
ตอนนี้ทุกส่วนของมันที่ผมเคยเห็นมาแล้ว
ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเขินอายเลย แต่มันกลับทำให้ผมกลัว
ไอ้เบสโถมตัวเข้าใส่ผมอย่างรุนแรง
และมันก็พยายามปลุกอารมณ์ของผม...จนสำเร็จ

“หึหึ เมิงก็อยากให้กูเอาเข้าใช่ไหมล่ะ”

คำพูดไอ้เบสไม่มีผลกับผมอีกต่อไป เมื่อความเจ็บเข้ามาแทนที
ไอ้เบสใส่ของมันเข้ามาในตัวผมรวดเดียว
ผมรู้สึกจุก และอยากร้องแต่ร้องไม่ออก

ทุกอย่างไอ้เบสมีความพึ่งใจมาก
ร่างกายของผมที่เป็นของมัน แต่ความรู้สึกที่ผมเคยมีให้มัน
ตอนนี้ได้ลอยหายไปพร้อมหยดน้ำตา...

คนเราเวลาถูกข่มขืนมันทรมานแบบนี้เลยเหรอครับ
ร่างกายที่แทบรับไม่ไหว กับสิ่งที่เข้าออกอยู่ทางด้านหลัง
มันทำให้ผมเจ็บ เจ็บจนชาไปทั้งตัว แล้วในที่สุด ก็ไม่เหลือความรู้สึกอะไรอีกเลย

ทุกวินาทีที่ไอ้เบสมันจูบปากผม
ครั้งหนึ่งที่ผมเคยรู้สึกชอบกับสัมผัสนี้มันหายไป
แล้วเนื้อตัวที่หอม และผิวที่ขาวเนียนของไอ้เบส
ที่ผมเขินอายทุกครั้งเวลามันแกล้งให้ผมสัมผัส
ตอนนี้ไม่เหลืออีกแล้ว มันหมดสิ้น
 
“อะ...อ่ะ......อ๊า”

ไอ้เบสขยับตัวอีกสองครั้งสามครั้ง หยาดหยดที่อุ่นร้อน
ก็เขามาอยู่ในตัวผมจนล้นทะลัก
ไอ้เบสมองผมด้วยสายตาประหลาดที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่ผมก็หลบหน้ามัน ไม่ใช่เพราะเขิน
แต่เพราะรังเกียจที่จะเห็นหน้ามันต่อแม้สักวินาทีเดียว

มันปล่อยร่างกายผมให้เป็นอิสระ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ผมนอนมองฝาพนังที่ว่างเปล่า เอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวไว้
และพยายามคิดถึงสิ่งที่ผมกับไอ้เบสเคยทำด้วยกัน
และความรัก ที่ผมเคยมีให้มัน ผมพยายามจดจำมันเอาไว้
เพราะสิ่งเหล่านี้ มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ไอ้เบสจะทำ....กับผม


................................................................................................


ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
ไม่ได้มาต่อนาน แล้วเวลาก็เร่งรีบมากเลยครับ ขอโทษที่ไม่ได้มาต่อ
และคนที่รอผม ก็ขอบคุณมากๆครับ ตอนนี้ผมมีกำลังใจที่จะเขียนเรื่องต่อ
และมหาลัย ผมหลังจากเครียดมานานก็ได้สักที เหะๆๆ

เรื่องผมเขียนไปตอนนี้เนื้อเรื่องเขียนใกล้จบแล้วครับ รอแค่ลงอย่างเดียว
และคิดว่าคงจะมีคนอ่านถึงคำสุดท้ายของเรื่อง ขอบคุณน่ะครับ ขอบคุณจริงๆ


 :bye2:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3

gift_deb

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะ คนบร้า รุนแรง ให้ต่ายหาผัวใหม่เลยค่ะ  :m16:

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Natavishi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1

ออฟไลน์ l3iZal2l2e

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-0
กี๊ดดดดดดดดดดดด
โดนข่มขืนแล้วววววว :angry2:
เกลียดเบสมากกกกก ... อะไรว่ะ
จะบอกว่าหึงรึไงเนี่ยยยยยย
 :m31:

อะไรวะแม่มมมม ... ทีตัวเองยังไปหาแฟนเก่าได้เลยยยย
แล้วจะมาโมโหอะไรที่ต่ายมากับพี่ซันว่ะ
ไม่ได้รักต่ายสักหน่อยแม่มมม ... สงสัยอาการหวงก้างกำเริบ  - -"
ต่ายรักพี่ซันเหอะ ... ลืมไอ้เบสปายยยยยยย
 :m31:

มาต่ออีกตอนนะคะ :impress2:

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
โอวววววววววว อะไรเนี่ยยยยยย

โผล่มาปุ๊บ เสียตัวปั๊บ ไถ่โทษที่ให้รอป่าวเนี่ย ปกติหนีได้ตลอด อิอิ :z1:

ยินดีด้วยเรื่องมหาลัยนะจ๊ะ :L2:

ติดตามจนหยดสุดท้าย หุหุ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5


ตอนที่ 38 ติดตัว

ผมเดินออกจากบ้านไอ้เบสประมาณตอนตีสามของคืนนั้น
ตอนที่ผมตื่น ผมเห็นว่าไอ้เบสมันเอาแขนมากอดผมไว้หลวมๆ
กว่าผมจะขยับตัวได้ก็แทบร้องกรี้ดดด
เพราะมันเจ็บไปทั้งตัว แล้วอีกอย่างแสบตูดโครตๆ

ผมมองหาเสื้อผ้าที่โดนไอ้เบสฉีก เผื่อมันยังเหลือสภาพให้ใส่กลับบ้านได้
แต่เปล่าเลย ไอ้เบสมันฉีกจนไม่เหลือสภาพของเสื้อผ้าเลย
ผมเลยตัดสินใจเอาเสื้อผ้าชุดเก่า(ที่เอามาจากบ้านพี่ซัน)มาใส่
เนื้อตัวผมยังไม่ได้ล้างเลย แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดหรอกครับ
คิดอย่างเดียวคือกลัวไอ้เบสที่นอนอยู่ตื่นขึ้นมา
ผมทำทุกอย่าง อย่างระมัดระวัง จนออกจากบ้านไอ้เบสได้ในที่สุด

ผมเดินออกจากบ้านไอ้เบส แล้วมองหารถมอไซค์ที่คิดว่าน่าจะยังมีอยู่บ้าง
แต่มันก็เนอะ....คนมันซวยมาทั้งวัน
ผมเลยตัดสินใจโทรหาไอ้คม ที่บ้านมันอยู่ห่างจากนี้ไม่มากนัก

ผมไม่พูดอะไรมาก นอกจากสถานที่ที่ให้มันไปรับ
พอวางสายจากมันไป ผมก็หาที่นั่งแถวๆนั้น
จนเจอม้าหินอ่อนวางอยู่ ผมนั่งรอมันสักพัก
ไอ้คมก็มาถึงแล้วสภาพของมันก็ง่วงเต็มทน
แต่พอมันเจอผมเท่านั้นแหละ

“เห้ย……”ไอ้คมตกใจ
 
“..........”ผมไม่พูดอะไร เพราะรู้สึกสภาพจิตใจตอนนี้แย่มากๆ เลยเดินไปกอดมันไว้หลวมๆ

“ใครทำไรเมิง ไอ้เบสใช่ไหม?” ผมไม่รู้ว่าไอ้คมมันรู้ได้ยังไง แต่พอมันพูดชื่อไอ้เบส ผมก็เริ่มร้องไห้จนตัวสั่น แล้วยิ่งไอ้คมมันปลอบผม ผมก็ยิ่งนึกถึงตอนที่ไอ้เบสมันทำกับผมมากขึ้น จนตอนนี้ผมไม่สามารถบังคับให้ตัวเองหยุดร้องได้เลย

“อืม  ร้องออกมาเหอะ” ไอ้คมพูดแล้วกอดผมแน่นยิ่งขึ้น
ผมเองก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย เพราะหากยิ่งพูดก็จะยิ่งเจ็บ
อ้อมกอดไอ้คม มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก
เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยผมก็ยั่งมีมัน ยังมีเพื่อนที่จะอยู่ข้างๆผมตลอดเวลา

“กูว่าเมิงไปนอนบ้านกูดีกว่าไหม เพราะหากกลับบ้านเมิงตอนนี้ แม่เมิงตื่นมาต้องถามแน่นอน”
 ไอ้คมบอก แล้วมันก็ประคองผมให้นั่งลงบนเบาะรถมอไซค์ของมัน

“อืม ก็ได้” ผมพยักหน้าให้มันอย่างหมดแรง

ผมซ้อนท้ายรถมอไซค์ไอ้คมจนมาถึงบ้านมัน
บ้านไอ้คมมีมันอยู่คนเดียวครับ พ่อกับแม่มันอยู่ต่างจังหวัดกันหมด
มันเข้ามาเรียนที่หาดใหญ่ พ่อมันเลยซื้อบ้านให้อยู่

ตอนเดินเข้าบ้านไอ้คม ผมไม่มีแรงเหลือเลย
ไอ้คมคงเห็นผมเดินช้า มันเลยตัดสินใจอุ้มผมพาไปที่ห้องมัน
ตัวไอ้คมมันตัวใหญ่ไงครับ แล้วแรงมันก็เยอะ
เรื่องอุ้มผม เลยเป็นงานสบายๆของมัน

“เดี๋ยวกูเอาผ้าชุบน้ำ แล้วมาเช็ดตัวให้น่ะ”ไอ้คมบอกผม หลังจากมันวางผมลงบนเตียงนอนเรียบร้อยแล้ว

“อืม” ตอนนี้มันจะทำอะไรผมก็ทำเหอะครับ เพราะผมไม่มีแรงเหลือเลย

หนังตาที่ปิดลงและเห็นภาพไอ้คมเดินออกจากห้องไปเป็นภาพสุดท้าย
หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย
.
.
.
เที่ยงของอีกวัน ผมตื่นขึ้นมารู้สึกเหนื่อยไปหมดทั้งตัว
แล้วรู้สึกหิวน้ำมากด้วย ผมมองหาไอ้คมจนทั่วห้องแต่ก็ไม่เจอ
เลยตัดสินใจเดินไปหาน้ำกินเองในครัว
แต่ยังไม่ทันก้าวเดิน ความเจ็บก็เล่นพล่านอยู่บริเวณก้นผม
แล้วขาทั้งสองข้างก็เกิดไม่มีแรงขึ้นดื่อๆ เลยทำให้ผมล้มตึงลงบนพื้นห้อง

ผมแทบน้ำตาไหลเมื่อก้นไปกระแทกกับพื้น
เพราะความเจ็บที่มันเจ็บอยู่แล้ว
เมื่อโดนกระแทกเข้าไปแรงๆ แทบกลั่นเสียงร้องไว้ไม่อยู่

“อีต่าย ทำไมเมิงถึงมานอนที่พื้นเนี่ย”

เสียงโมดังมาจากประตูห้องที่ผมนอนอยู่
ผมหันผมไปมอง ก็เห็นพวกมันยืนอยู่ครบทุกคนเลยครับ
ทั้งไอ้คม ไอ้ต้า ไอ้กรด แล้วก็ไอ้โม
พอพวกมันเห็นว่าผมพยายามจะขึ้นบนเตียง
พวกมันก็รีบวิ่งเข้ามาประคอง จนผมสามารถนั่งบนเตียงได้อีกครั้ง

“เป็นไงปวดหัวมากหรือเปล่า”ไอ้คมถาม แล้วมันก็เอามือมาแตะที่หน้าผากผมเพื่อวัดไข้

“นิดหน่อยว่ะ”

“แต่กูดูจากสภาพเมิง กูว่าไม่นิดแล้วน่ะโว้ย”ไอ้โมพูดด้วยความเป็นห่วง
 
ผมมองสายตาที่พวกมันเป็นห่วงผม
น้ำตาที่คิดว่าจะไม่ไหล มันก็ไหลออกมาจนกลั่นไม่อยู่
ผมเอามือปากน้ำตาทิ้งไป พอหันหน้าไปมองพวกมันอีกที
ก็เห็นไอ้โมยืนร้องไห้กอดไอ้คมตัวสั่น
ส่วนไอ้ต้า ไอ้กรดมันสองคนลงมานั่งข้างๆผม
แล้วจับไหลผมเบาๆ

“เห้ยอย่าทำหน้าอย่างนี้ดิว่ะ กูยังไม่เป็นไรสักหน่อย เห็นมั้ย”

ผมพยายามฝืนทำหน้าตาสดชื่น จนกลายเป็นตลกให้พวกมันเห็น
แต่ก็รู้ดีครับ ว่าพวกมันคงไม่เชื่อผมแน่นอน

“เหะๆ อีสาด เจ็บจะตายยังมาปากดีอีก” ไอ้โมกัดผม

ในที่สุดมันก็ยิ้มออกคนแรกครับ
ผมหันไปมองไอ้คมที่ปลอบมันอยู่ ผมก็เห็นไอ้คมยิ้มให้ผมฝืดๆ
ร่วมถึงไอ้ต้ากับไอ้กรดด้วยเหมือนกัน

“เมิงหิวยัง”ไอ้ต้าเปลี่ยนเรื่องคุย

“อืม แล้วพวกเมิงซื้ออะไรให้กูบ้างล่ะ”รู้สึกตัวเองห่วงกินไปหน่อย เหะๆ

“กูซื้อกะจะให้เมิงแดกไปถึงชาติหน้าเลยว่ะ”ไอ้โมพูด

“ดี กูจะแดกแม่งให้หมด ฮ่าๆ”

ทุกคนเริ่มเข้าสู่ปกติอีกครั้ง นั้นก็รวมถึงผมด้วย
แต่ถึงแม้มันยังไม่ครบร้อย แต่ผมก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้วครับ

หลังจากผมบอกว่าหิว พวกมันก็ช่วยกันประคองผมไปที่หน้าทีวี
แล้วสักพักไอ้โมกับไอ้กรด ก็เป็นคนยกอาหารมาตั้งที่โต๊ะ
อาหารตั้งเต็มโต๊ะ แต่พวกผมใช้เวลาไม่นานก็หมด
ตอนแรกไม่มีใครยอมกิน ผมจับใส่ปากพวกมันทีละคน
พอมาดูอีกที อ่าวหายไปไหนหมดว่ะ

ผมนั่งคุยกับพวกมันสักพัก ก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ
พอไปยืนอยู่หน้ากระจก ก็ตกใจกับรอยช้ำที่คอ ที่ไอ้เบสมันทำทิ้งเอาไว้
ผมจัดการทุกอย่างจนเสร็จ แล้วออกมานั่งคุยกับพวกมันด้านนอก
พอผมมานั้งได้สักพัก ไอ้โมมันกระอักกระอ่วนเหมือนจะถามอะไรผม
พอผมหันไปมองหน้ามันทุกคนก็เป็นเหมือนกันหมด

“เป็นไรกันว่ะ” ผมกวาดตามองพวกมันทุกคน จนไปหยุดที่ไอ้ต้า

“ก็พวกกูอ่ะ อยากจะรู้ว่าเมิงจะเอายังไงต่อกับไอ้เบส”ไอ้ต้าตอบผมด้วยสีหน้าจริงจัง

“กูคงจะเฉยๆ ไม่อยากไปยุ่งกับมันอีก แล้วเรื่องแก้แค้นก็ปล่อยตามเวรตามกรรมมันแล้วกัน”

ผมพูดโดยไม่หันมองพวกมัน
เพราะยิ่งนึกถึงไอ้เบส ภาพเก่าๆที่เกิดขึ้น
ก็ยิ่งย้ำให้ผมเสียน้ำตามากเท่านั้น

“เห้ย แต่กูไม่ยอมน่ะโว้ย”ไอ้ต้าอารมรณ์เดือดขึ้นทันตา

“แต่ถ้าเมิงไม่ยอม มันก็จะตามล้างแค้นกูอีก แล้วแบบนี้เมื่อไรจะจบสักทีว่ะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียเย็นลงหน่อย

“งั้นเมิงก็อยู่เฉยๆ เดี๋ยวกูจัดการเอง”

ผมรู้ว่าไอ้ต้า มันเป็นคนพูดจริงทำจริง
ตอนนี้พวกผมสี่คนก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรไปมากกว่านั้น
นอกไอ้กรดที่จับไหลมันไว้เบาๆ

ตลอดทั้งวันผมนั่งอยู่ที่บ้านไอ้คมพร้อมกับพวกมันทั้งสามคน
ตอนที่นั่งอยู่ ผมนึกขึ้นได้เรื่องแม่ เลยจะโทรไปบอกสักหน่อย
แต่ไอ้คมบอกว่ามันโทรบอกให้แล้ว
ผมเลยค่อยเบาใจหน่อย เพราะแม่จะได้ไม่ต้องห่วง

พวกผมนั่งดูหนังฟังเพลงไปเรื่อยเปื่อย
แต่ทำยังไง ผมก็ยังมีหน้าไอ้เบสมาหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา
เลยทำให้พลอยนึกถึงเรื่องที่ไอ้คมมันรู้ว่าเกี่ยวกับไอ้เบส
ผมเลยสงสัยว่ามันรู้ได้ไง ทั้งที่ผมยังไม่บอก

“คม กูลืมถามไปเลยว่ะ เมิงรู้ได้ไงว่า....ไอ้เบส มันทำอย่างนี้กับกู”

ผมพูดชื่อไอ้เบสอย่างลำบาก
แล้วทำให้พวกมันที่สนใจอยู่ที่ทีวี
ก็หันมามองผมเป็นสายตาเดียวกัน

“ไอ้ต้าเมิงเล่าดิ”ไอ้คมโยนไปให้ไอ้ต้า

“รู้ไงว่ะ”ผมถามไอ้ต้า  ท่าทางของมันดูลังแล ก่อนจะเล่าให้ผมฟัง

“ก็เมื่อวานกูไปบ้านเมิงมา กะจะถามเรื่องไอ้เบสนี้แหละว่าเมิงจะเอาไง เพราะกูแค้นไอ้บูมเต็มทน หากเมิงพร้อมกูจะให้พวกไอ้นนท์มันจัดการเลย แต่พอตอนกูไปกูก็สวนทางกับไอ้เบสพอดี กูนึกว่ามันมาจากบ้านไอ้บูมเลยไม่สงสัย แต่พอเข้าไปนั่งบ้านเมิงสักพัก แม่เมิงก็บอกว่าเมิงไปนอนบ้านไอ้พี่ซัน แล้วไอ้เบสมันก็ลืมเจ็กเก็ตเอาไว้บ้านเมิง แม่เมิงเลยถามว่ากู รู้จักไอ้เบสเปล่า มันทำเสือลืมไว้ เท่านั้นแหละกูเลยรู้ว่าไอ้เบสมาหาเมิงที่บ้าน แล้วตอนที่มันขี่รถออกไป มันก็ทำหน้ายังกับญาติเสีย กูก็เดาเอาว่ามันไม่พอใจชัวร์ๆ แล้วมันต้องไปตามเมิงกลับบ้าน กูเลยตัดสินใจโทรหาพวกเราทุกคนแล้วถามว่ามีใครรู้จักบ้านไอ้พี่ซันเปล่า เพราะกูรู้สึกว่าจะเกิดเรื่อง(เซ็นเมิงดีจริงๆ)  แต่ไม่มีใครรู้จัก กูเลยไม่รู้ทำไง แล้วก็ไม่คิดว่าไอ้เหี้ยนั้นมันจะ......ทำกับเมิงยังนี้”

สี่ห้าคำของท้ายประโยค ไอ้ตาพูดเสียงเบาอยู่ในคอ
และผมรู้ว่ามันต้องคิดว่าที่ผมเป็นแบบนี้เพราะมันแน่นอน

“ไม่ใช่ความผิดใครหรอก ก็แค่กูโชคดีน้อยกว่าทุกวัน ก็เท่านั้น”

ผมเดาได้ว่าพวกมันคงไม่ลืมเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน
และตัวผมเองต่อให้ข่มตาหลับในทุกๆคืน
ไม่ว่าความฝันหรือความจริง เรื่องนี้มันก็จะเป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจผมไปตลอด

ผมพักอยู่บ้านไอ้คมสองวัน โดยบอกแม่ว่า จะไปเที่ยวแล้วค้างคืนกับเพื่อน
แม่ผมน่าจะรู้สึกสัยมั้งล่ะครับ ที่ผมไม่ได้ไปบอกด้วยตัวเอง แต่โทรไปบอก
แต่ก่อนที่แม่จะถามอะไรมากกว่านั้น ผมก็รีบชิงตัดสายให้เร็วที่สุด

ระหว่างอยู่บ้านไอ้คมพวกมันก็หมุนเวียนกันมาหาผมทุกวัน
จนสภาพผมดีขึ้นมาก และรอยช้ำที่คอ ก็ค่อยๆจางไป
ผมกลับมาหัวเราะอีกครั้ง เวลาที่อยู่กับพวกมัน
แต่พอกลางคืน หน้าไอ้เบสก็ยังอยู่ในความคิดผมตลอดเวลา
ผมทำใจให้ข่มตาหลับ ทำใจไม่ให้คิดถึงมัน
แต่ไม่มีผล ทุกอย่างมันตรงข้ามกันหมด

น้ำตา....เลยเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนนอน ที่ช่วยให้ผมหลับลงได้
และพร้อมที่จะพบเจอกับสิ่งใหม่ๆในเช้าต่อไป

ผมกลับบ้านนั่งคุยกับแม่ คุยกับเพื่อน
ทุกวันของผมเริ่มกลับเข้าสู่ปกติ อย่างน้อยก็สี่ห้าวันมาแล้ว
ไอ้เบสมันโทรหาผม จนผมต้องเลิกให้โทรศัพท์ไป
เวลามันมาหาผมที่บ้าน ผมก็จะออกไปเที่ยวกับเพื่อน
และจะกลับมาอีกทีก่อนตอนที่ดึกมากๆแล้ว

แม่ผมก็ถามว่าผมมีปัญหากับมันหรือเปล่า
ผมบอกว่าเปล่า แม่ก็ไม่สักไซร้ต่อ
จนในที่สุดมันก็เลิกมาหาผม
*
*
*
สองสัปดาห์ต่อมา ในเช้าที่เป็นวันหยุดทำงานของแม่
แม่ผมก็มีเรื่องใหญ่ที่ต้องให้ผมใช้ความคิด
กับการต้องย้ายบ้าน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่คิดมาก่อน
และแม่ก็ไม่ได้มีแววว่าจะย้ายบ้านมาก่อนเลย

“แม่ว่าเชียงใหม่ก็เหมาะกับเราน่ะ”

แม่ผมพยายามหาของดีของการย้ายไปเชียงใหม่ให้ผมเห็น
และผมก็รู้ว่า แม่อยากให้ผมไปอยู่มากๆ

“แต่ต่ายไม่อยากปรับตัวแล้วอ่ะ เพื่อนต่ายก็อยู่ที่นี้ แล้วต่ายก็ไม่อยากย้ายโรงเรียนด้วย”

ผมพูดไปก็อยากร้องไห้ไป เมื่อนึกถึงพวกไอ้ต้า
พวกมันเป็นเพื่อนสนิทของผมมากที่สุด
แล้วหากผมย้ายไปที่อื่น ผมก็ไม่รู้ว่าจะหาเพื่อนได้แบบนี้หรือเปล่า

“แล้วเราจะอยู่คนเดียวได้ไง”แม่ผมพูดด้วยความเป็นห่วง

“แต่ต่ายก็ผู้ใหญ่แล้วน่ะแม่ หากแม่ไม่ลองปล่อยให้ต่ายอยู่คนเดียว แล้วเวลาเรียนมหาลัย ต่ายจะปรับตัวยังไงอ่ะ ไอ้คมเพื่อนต่ายอ่ะ พ่อแม่ก็ปล่อยให้มันอยู่คนเดียว แล้วหากแม่อยากให้ต่ายไปหา ต่ายไปตอนปิดเทอมใหญ่ก็ได้ ไม่เห็นมีปัญหาเลย...”

ผมพยายามยกหาเหตุผลมาหักล้างกับเหตุผลของแม่
ตอนนี้แม่ทำหน้าเหมือนกำลังใช้ความคิดกับสิ่งที่ได้ฟังไป
ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆน่ะครับ เพราะคนเราจะอยู่กับแม่ไปตลอดไม่ได้หรอก
แล้วผมเองก็คิดว่า ตัวเองต้องฝึกเป็นผู้ใหญ่ให้พร้อมเอาไว้
ทั้งที่นิสัยยังเหมือนเด็กป.1ก็เหะ...

“งั้นก็แล้วแต่เรา แต่......”ผมยิ้มด้วยความดีใจ แต่ต้องหยุดค้างไว้เพื่อให้แม่พูดต่อ

“ถ้าหากเราอยู่ไม่ได้หรือก็ปัญหา แม่จะให้เราตามแม่ไปเลยโอเคน่ะ”

“ได้ครับแม่”ผมรีบตกปากรับคำโดยไม่ต้องคิด

เหอ...ผมคิดว่าตัวเองตัดสินใจดีแล้วน่ะครับที่ไม่ตามแม่ไป
ตอนนี้ผมรู้สึกดีใจ ที่แม่ยอมเชื่อมั่นในตัวผมบ้าง
แต่มันก็ไม่แน่นอนหรอกครับ วันหนึ่ง ผมอาจเสียใจก็ได้
ที่ได้อยู่ที่นี้ต่อ....

ไม่กี่วันต่อมา แม่ผมก็ขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่เลยครับ
ผมเองรู้สึกใจหายวูบ  ตอนที่ไปส่งแม่ขึ้นเครื่อง
เพราะผมกับแม่ไม่เคยห่างกันขนาดนี้
ตั้งแต่พ่อจากไป แม่ผมก็อยู่ข้างผมตลอด

เวลาที่เราต้องอยู่คนเดียว บ้างครั้งผมก็รู้สึกดีใจที่ได้เป็นอิสระ
แต่บ้างครั้งมันกลับกัน เพราะผมกลัวว่าตัวเองไม่กล้าพอ
ที่จะอยู่คนเดียวได้ โดยไม่เหงา

“ได้ครับแม่”พวกเพื่อนผมพูดพร้อมกัน

หลังจากผมไปส่งแม่ที่สนามบิน ซึ่งพวกเพื่อนผม มันบอกว่าจะตามไปด้วย
แล้วแม่ก็ฝากผมไว้กับพวกมัน พวกมันดูจะรับปากกันดิบดี
ว่าจะไม่ให้ผมกลับบ้านดึกมาก ไม่เที่ยวกลางคืนบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อน

แต่พอตกค่ำ…….
พวกมันกลับพาผมไปฉลองที่รานน้ำชาร้านเดิม
ผมก็คิดไว้แล้ว น้ำหน้าอย่างพวกมันจะไม่เที่ยวกลางคืนได้หรอ...

“หายไปนานเลยน่ะครับ”

พี่พนักงานเสิร์ฟที่เคยหลงเสน่ห์ไอ้ต้า
ยืนเมนูให้พวกผม ก่อนจะยิ้มหวานๆให้ไอ้ต้า

“นั้นดิ แล้วแบบนี่พี่คิดถึงกันบ้างเปล่าเนี่ย” ไอ้โมไม่วายแซวพี่เขาครับ

“คิดถึงดิครับ”พี่แกตอบเขินๆ

“คิดถึง แต่หันไปมองอีต้าคนเดียว แบบนี้หมายความว่าไงหว่า....”ไอ้โมมันกล้าจริงๆครับ

จนไอ้ต้าส่ายหัวไปมา เชิงบอกว่าเลิกได้แล้ว
แต่ท่าทางพี่เขาดูจะหลงไอ้ต้ามันเอามากน่ะครับ
แต่พี่เขาคงไม่ใช่สเป็คไอ้ต้ามัน เพราะเห็นมันไม่สนใจอะไรพี่เขาเลย

พอไอ้โมมันแกล้งพี่เขาจนนำใจ จากนั้นก็ถึงเวลาสั่งอาหารแล้วครับ
ผมสั่งตามเดิมครับ ช็อกโกเล็ตปั่น ตอนแรกไอ้โมมันบอกว่าอย่ากินมากเดียวเป็นสิว
แต่ตอนนี้หน้าผมเรียบ เด้งแล้วครับ แล้วไม่รู้จะดูแลตัวเองไปทำไม
ในเมื่อ....ไม่มีใครให้เราต้องใส่ใจอีกแล้ว

“กูว่าพี่เขาชอบเมิงแน่เลยอ่ะอีต้า”ไอ้โมรีบพูดทันที เมื่อพี่พนักงานเดินออกจากโต๊ะไปได้ไม่นาน

“คิดมากเปล่าว่ะ”ไอ้ต้าทำหน้าตาเหมือนเรื่องที่ไอ้โมพูด ไม่ใช่ความจริง

“โห้อีสาด ไม่ต้องมาแกล้งโง่ เขาให้ท่าเมิงเห็นๆ แบบนี้ยังไม่ชัดอีกเหรอว่ะ”

ไอ้โมเวลามันพูดอะไร มันต้องทำสีหน้าประกอบด้วยน่ะครับ เพื่อความสมจริง
แล้วเรื่องที่มันพูดมา ปฏิกิริยาไอ้ต้าก็เหมือนเดิม คือนิ่ง

“พี่เขาหน้าตาก็ดีนี่หว่า ดูท่าทางน่าจะนิสัยดี ทำไมไม่สนใจว่ะ” ไอ้กรดลงความเห็น

“กูว่าลองคบดูก็ไม่เสียหาย” ไอ้คมเสริม

ไอ้กรดกับไอ้คมนี้ผู้ชายแท้ๆน่ะครับ มั่นใจเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ เหะๆ
เพราะมันทีแฟนเป็นผู้หญิงทั้งคู่ แล้วดูรักกันดีด้วย
ท่าทางไม่มีออกครับว่าจะเป็นเกย์

แต่สามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ผมเผื่อไว้
เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
ผู้ชายอย่างมันสองคน อยู่กับพวกผมมากๆ
สภาพแวดล้อมอาจจะพาไปก็ได้(ใช่มั้ย?)

“หน้าตาดีอย่างเดียว ก็ไม่รู้นิสัยหรอกโว้ย ดูอย่างไอ้เหี้ยบูมกับไอ้เบสดิ แม่งหน้าตาก็ใช้ได้
แต่นิสัย...”

“ยังไงเหรอว่ะ”เสียงแทรกขึ้นระหว่างที่ไอ้ต้าพูด

พวกผมทั้งโต๊ะหันไปมองที่ต้นเสียง
บูมในลุคตัดผมสกินแฮด ยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนในกลุ่มสี่ห้าคน
ซึ่งพวกผมเคยเจอมาแล้วหลายครั้ง
ในทีแรกผมคิดว่าจะได้เจอกับไอ้เบสรวมอยู่ในนั้นด้วย
แต่ปรากฏว่ามันไม่ได้มา...

“ยังกับหมา”

ไอ้ต้าเติมสิ่งที่มันกำลังพูดให้จบ
และสายตามันก็ดูไม่ต่างจากบูมเลย
ผมไม่รู้ว่าไอ้สองคนนี้มันมีเรื่องกันเมื่อไร
เพราะก่อนหน้านี้ดูจะเข้ากันได้ดี โดยเฉพาะบูมที่บอกว่าชอบไอ้ต้า
แต่ทำไมมาวันนี้ ยังกับพวกเด็กช่างจะตีกัน

“ถุย.....มันก็เหมือนกันแหละว่ะ”

บูมถมน้ำลายที่พื้นเหมือนพวกเด็กช่างจริงๆด้วย
เพราะนิสัยแบบนี้ของบูม ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
แล้วท่าทางเคียดแค้นของบูม ที่พร้อมจะต่อยไอ้ต้าตลอดเวลา
มันก็ทำให้ผมรู้สึกกลัวแทนไอ้ต้ามันจริงๆ

ตอนนี้มันสองคนจ้องหน้ากันอย่างเอาจริงเอาจัง
แล้วทั้งร้านก็มองกันใหญ่ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับกลุ่มผมและบูมเลย
มีแต่พี่พนักงานที่หลงไอ้ต้าอ่ะครับ ดูทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเหลือเกิน

“มีเรื่องอะไรกันเปล่าครับ”พี่เขาเข้ามายื่นข้างพวกผม
และหันไปมองพวกบูมอย่างสงสัย

“ไม่เกี่ยวกับเมิง อย่างเสือก”บูมด่าพี่พนักงาน
ซึ่งผมคิดว่าน่าจะรุ่นเดียวกับบูมนั้นแหละ

พี่เขาดูไม่พอใจบูมมากๆ ซึ่งเป็นใครก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
แต่พี่เขาเพียงเก็บอาการเก่งครับ คงเพราะบูมมันเป็นลูกค้า
แล้วอีกอย่าง หาจะมีเรื่องกับพวกบูม ผมว่าตายลูกเดียว

“เห้ย-- ทำไมต้องพาลว่ะ”ไอ้ต้าตะโกนใส่บูม

จากที่มันนั่งอยู่ ตอนนี้ก็ยืนรวดขึ้นเลยครับ
พวกผมก็พลอยยืนไปด้วย
ไอ้คมกับไอ้กรดผู้ชายแท้ ที่หน้าตาก็ดูแค้นบูมสุดๆ
ต้องระงบสติอารมรณ์ แล้วกันไอ้ต้าให้ออกห่างจากบูมให้มากที่สุด

“ทำไม มันผัวเมิงเหรอ ถึงได้ปกป้อง”บูมอารมณ์เดือดมากขึ้น
 
“ไอ้เหี้ย วอนกินตีนแล้วมั้ยล่ะ”ไอ้ต้าพูดจบก็กระโจนใส่บูมทันที

ไอ้คมที่ตั่งท่ารอไว้แล้ว ก็จับไอ้ต้าไว้ได้
ส่วนบูมดูจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย ยืนเฉยซะด้วยซ้ำ
ไอ้ต้าตะเกียดตะกายทั้งเท้าทั้งมือให้หลุดจากไอ้คม
พวกผมที่เหลือก็ช่วยๆกันจับไอ้ต้า
ไอ้โมเหมือนจะพูดกระซิบอะไรข้างหูไอ้ต้า
ซึ่งผมคิกว่ามันน่าจะกำลังพูดให้ไอ้ต้าใจเย็น แต่มันโง่หรือบ้าเนี่ย
อยากกรี้ดใส่หูมันจริงๆ ไอ้ต้าอารมณ์จะฆ่าคน แทนที่มันช่วยจับ
มันกลับไปปลอบ เหอ...อีโมน่ะอีโม

“สัด อย่าให้กูหลุดไปได้น่ะ เมิงเตรียมตัวตายไว้ได้เลย ปล่อย...พวกเมิงปล่อยกู”ไอ้ต้าตะโกน

แรงมันเยอะมากๆ เห็นตัวเล็กแบบนี้ก็เหอะ
เล่นเอาไอ้คมแทบเอาไม่อยู่ ผมที่เห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดี
เลยตัดสินใจไปพูดกับบูมที่ยืนมองไอ้ต้าอยู่
ส่วนพวกเพื่อนมัน หน้าตาก็กวนตีนอย่างแรง

“บูมเราขอเหะ ออกไปคุยกันนอกร้านดีกว่า เดี่ยวตำรวจมา”ผมบอกเหตุผลกับบูม

บูมมันก็รับฟังผมครับ เพราะมันผยักตอบรับ
แล้วเดินออกไปนอกร้านข้างถนน
ผมเลยขอบใจมัน ก่อนจะบอกไอ้คมกับไอ้กรดให้พาไอ้ต้าออกไปนอกร้าน
ส่วนไอ้โมมันก็ไปจ่ายเงินค่าอาหารที่สั่งไป หึหึ

พวกผมออกมายืนกันนอกร้าน
ตอนนี้ไอ้ต้าเริ่มจะสงบสติอารมณ์ได้นิดหน่อย
แต่ไอ้คมกับไอ้กรดก็ต้องจับมันไว้
เพราะท่าทางไอ้ต้ามันไม่น่าไว้ใจเท่าไร
กลัวมันขึ้นมากอีกรอบ คราวนี่คงเอาไม่อยู่

“พวกเมิงจะเอาไงว่ามา”ไอ้คมเป็นคนพูดกับกลุ่มบูม
เมื่อพวกเราทั้งสองกลุ่มมายืนประจันหน้ากันที่ระยะห่างกันสมควร เพื่อป้องหมาบ้าอย่างไอ้ต้า

“ถามเพื่อนเมิงดีกว่า จะเอาไง เพราะพวกกูได้อยู่แล้ว”บูมพูดจบก็ชี้ไปที่ไอ้ต้า

“ว่าไง”ไอ้คมถามไอ้ต้า ที่มองบูมไม่วางตา

“เลิกแล้วต่อกัน แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน อาบน้ำนอนโอเค”ไอ้โมรีบเสนอความคิด
แต่ความคิดมันดูจะไม่ถูกใจไอ้ต้า ซึ่งมันก็แน่อยู่แล้ว
เพราะปัญญาอ่อนแบบนี้ มีแต่อีโมคนเดียวที่จะคิดได้

“ให้มันมากราบตีนกูดิ”ไอ้ต้าพูดเยาะเย้ย แล้วชี้ไปที่เท้าตัวเอง

“จะให้ผัวกราบตีน มันไม่มากไปหน่อยเหรอ”บูมก็พูดได้แรงโดนใจจริงๆครับ

“…….”ไอ้ต้าโกรธตัวสั่นจนพูดไม่อออก

“พวกเมิงเอาไงว่ามาดีกว่า เรื่องจะได้จบๆ”ไอ้คมเป็นฝ่ายยื่นขอเสนอตัดปัญหา

บูมใช้ความคิดสักครู่ ก่อนจะยิ้มแปลกๆมาทางผม

“อืม--งั้นก็ได้ ขับรถตามพวกกูมาเลย”


ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
บูมเหมือนต้องการจะแหย่ไอ้ต้า แล้วไอ้นี่ก็ดันยุขึ้นสะด้วย
ผมเห็นไอ้โมทำหน้าประมาณ ยังไงงานนี้เราต้องแพ้แน่ๆ
ซึ่งผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน

บูมขับรถนำไปก่อน โดยมีไอ้ต้าขับตามหลัง
พวกผมก็อยู่ท้ายๆครับ เพราะไอ้ต้ามันรีบ จึงขับแซงพวกเเราไป
ที่ช้าก็เพราะไอ้โมตัวเดียว มันไปเอาของที่เราสั่งตั้งไว้ในร้านอ่ะครับ
ตอนแรกผมนึกว่ามันจะไม่เอาแล้ว แต่มันก็ยังห่วงกินอีก
สถานการณ์น่ากลัวแบบนี้ อีนี่มันยังกินลงอีกเนอะ [-_-“]

ผมไม่รู้ว่าบูมจะพาพวกเราไปไหน แต่หากบูมจะลงไม้ลงมือกับไอ้ต้าจริงๆ
ผมว่าบูมมันก็เป็นผู้ชายที่เหี้ยพอๆกับไอ้เบสเลยล่ะ เพราะรูปร่างอย่างไอ้ต้า
ยังไงก็แพ้ชัวร์ๆ แบบนี้บูมจะยังจะทำกับมันอีกเหรอ?

หรือบ้างทีผมอาจจะคิดมากไปก็ได้ บูมอาจจะแค่ต้องการพูดกับไอ้ต้า
ซึ่งผมก็ขอให้มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เถอะครับ

“ทำไมวันนี้ชาเย็นมันจืดๆว่ะ”

ไอ้โมดูดชาเย็นที่ถืออยู่ในมือไปเกือบครึ่งถุง แล้วมันก็เริ่มวิจารณ์ทันที
ผมที่นั่งอยู่ด้านหลังมัน กำลังใช้ความคิดว่าหากเหตุการณ์มันแย่มากๆจะทำยังไง
แต่อีนี่ดูสบายใจ จนผมอยากจะถีบมันลงจากรถ แล้วขับไปเองซะจริงๆ

พวกบูมขับรถลึกเข้าไปในซอย ซึ่งผมเริ่มรู้สึกคุยตาอย่างมาก
เพราะเหมือนเคยมาที่นี่แล้ว แต่จำไม่ได้
จนรถมาจอดอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่นี่แหละ
ผมถึงได้รู้ว่ามันคือบ้านไอ้เบส ที่ผมไม่คิดจะเยียบมาที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง

“เมิงพาพวกกูมาบ้านใคร”

ไอ้ต้าถามด้วยอารมณ์หงุดหงิด หลังจากลงจากรถ
พวกผมที่ค่อยๆทยอยกันไปสมทบ
จนตอนนี้ก็ยืนแยกเป็นสองกลุ่มเหมือนเดิม

“บ้านเพื่อนกูเอง”

บูมยิ้มให้ไอ้ต้า ก่อนจะหันหน้ามองมาที่ผม
ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เมื่อนึกถึงคืนนั้น

“แล้วเมิงจะเอาไง ว่ามาเลย กูพร้อม”ไอ้ต้าสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

มันยังคงบ้าดีเดือดเหมือนเดิม บูมกำลังจะเดินมาใกล้ไอ้ต้า แต่ก็โดนไอ้กรดขว้างไว้วะก่อน

“เดียวก็รู้”บูมพูดจบก็เดินไปกดกริ่งหน้าบ้านไอ้เบส
ซึ่งไอ้พวกเพื่อนผมมันยังไม่รู้ว่าบ้านนี้เป็นของไอ้เบส
ไม่นานนักผู้ชายที่ผมหลบหน้ามาเกือบเดือน
ก็เดินออกมาเปิดประตูรั้วให้พวกบูมแล้วก็รวมถึงพวกผมเข้าไป

พวกเพื่อนผมมันหันมามองหน้าผม
แต่ไม่มีใครถามอะไร ผมเลยพยักหน้าให้เชิงว่าใช่นี่แหละบ้านมัน

“เห้ย พวกกูขอเปลี่ยนที่”ไอ้ต้าตะโกนไล่หลังบูมเข้าไป

“งั้นเรื่องก็ไม่จบ จะเอาไง”บูมตอบ เหมือนตัวเองถือไพ่เหนือกว่า

พวกเพื่อนผมเลยหันมามองที่ผมอีกครั้ง
เชิงขอคำตอบ ซึ่งผมเองก็รู้ว่าพวกมันแคร์ผม

“อืม....ให้เรื่องมันจบๆไปเหะ”ผมพูดเมื่อเริ่มทำใจได้แล้ว

“งั้นก็เข้ามาเลย”ไอ้เบสพูด

ผมพยายามไม่มองหน้าไอ้เบส ทั้งที่มันจ้องมาที่ผมคนเดียว
ผมรู้สึกถึงความกลัวเมื่อเดินผ่านมันไป
แต่ก็ยังดีหน่อยที่ไอ้คมกับไอ้โมเดินอยู่ข้างๆ
เพราะไอ้เบสจะรอปิดประตูเป็นสุดท้าย
เลยทำให้ผมกับมันมีโอกาสมองหน้ากัน
แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น...

“เมิงจะเอาไงบอกมาเลย”ไอ้ต้าพูดเสียงดังและหยุดยืนบนทางเท้า

พวกผมที่ยืนอยู่หลังไอ้ต้าต้องตั้งใจฟังของเสนอและดูทีท่าของบูม และรวมถึงไอ้เบสด้วย

“เบส....”

เสียงผู้ชายเรียกชื่อไอ้เบสดังขึ้นในบ้าน
แต่ก็ไม่มีใครสนใจเท่าไร จนเมื่อตัวต้นเสียงออกมายืนข้างๆไอ้เบส
พวกผมก็รีบหันไปมองอย่างสงสัย ไอ้โมที่มองอยู่ก่อนแล้ว
ก็ทำสายตาอย่างกับไอ้คนที่ยื่นข้างๆไอ้เบสเป็นตัวเชื้อโรค

ผมเองก็รู้สึกไม่ชอบมันเท่าไร(จริงๆก็มากแหละ)
ไม่ใช่เพราะหน้าตามันไม่ดีหรอกครับ
แต่สายตากับท่าทางที่มันจับแขนไอ้เบส
ผมเห็นแล้วรู้สึกหงุดหงิดเป็นบ้า

“อ่าว....บูม ” มันเรียกบูมเหมือนคนที่เคยรู้จักกัน แถมดูสนิทกันดีอีกด้วย

“อ่ะ...อ่าว...นัท มาเมื่อไร ไม่เห็นไอ้เบสบอกเลย”บูมยิ้มฝืดๆให้มัน

 แล้วหันไปมองไอ้เบสด้วยความงุนงง
แต่ไอ้เบสมันคงไม่เห็นหรอกครับ เพราะตอนนี้มันกำลังจ้องผมอยู่
ผมก็ได้แต่ทำสายตาเฉยชา แล้วหันไปมองทางอื่น

“ก็เกือบเดือนแล้วล่ะ แล้วนี้....”

อีนัทหันไปยิ้มให้บูม แล้วหันมามองพวกผม
ซึ่งมันก็ประทะกับหน้าไอ้ต้าที่กำลังหงุดหงิดพอดี
แถมสายตาที่มันมองพวกผม ก็ดูไม่มิตรยังไม่รู้

แล้วชื่อ...นัท...มันก็ทำให้ผมคิดไปถึงแฟนไอ้เบสคนแรก
และเป็นคนที่มันรักมากที่สุด ผมคิดว่าหากเดาไม่ผิด
มันต้องคนเดียวกับอีนี่แน่ๆ

 “กูไม่ใช่เพื่อนมัน ไม่ต้องมามอง....รำคาญ”ไอ้ต้าพูดใส่อีนัทอย่างหงุดหงิด

“อ่ะ--เออ”อีนัทถึงกับพูดไม่ออก หึหึ

“พาลว่ะ”บูมพูดขึ้นลอยๆ แต่ไอ้ต้ามีเหรอจะไม่รู้ตัว

“สัด เมิงจะเอาไงว่ามาสักที กูเบื่อ เห็นหน้าเมิงแล้วนึกถึงหมาที่บ้าน”

ไอ้ต้าเดินเขาไปประจันหน้ากับบูมใกล้มากขึ้น
อีนัทที่ทำท่ากระฟัดกระเฟียตไอ้ต้า แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร
พวกเราทั้งสองฝ่ายก็รอดูว่าบูมมันจะตอบว่าไง
เพราะตอนนี้ไอ้ต้าก็เดินเครื่องเต็มที่แล้ว

“ตัวต่อตัว”บูมพูดจบก็ยิ้มให้ไอ้ต้าอย่างท้าทาย

“งั้นก็เริ่มเลยแล้วกัน...”

ไอ้ต้าพูดจบก็ฝาดหมัดเข้าที่แก้มบูมอย่างแรง
พวกผมที่ไม่ทันตั้งตัวก็รีบเข้าไปจับไอ้ต้าไว้
แต่มันก็ดิ้นจนหลุดไปได้ แต่พอจะไปจับมันอีกที
พวกเพื่อนมันก็รีบเข้ามาขว้างไว้ เลยทำให้เราต้องดูอยู่ห่างๆ

“เล่นทีเผลอนี้หว่า”บูมพูดจบก็ตั้งท่ารับหมัดไอ้ต้า

ไอ้ต้าจากที่ผมไม่คิดว่ามันต่อยใครเป็น
แต่พอดูจากท่าทางแล้วการกำหมัด ของมัน
ผมว่ามันต้องเคยเป็นนักมวยเก่ามากแน่ๆ

“แน่จริงก็มาต่อยอีกข้างดิ”บูมทำแก้มป่อง

เหมือนกำลังยั่วโมโหไอ้ต้าอยู่
แล้วไอ้นี่มันก็ไม่ดูอะไรเลย
พอได้ยินแบบนั้น มันก็พุ้งหมัดตรงไปหาบูม
แต่คราวนี้มันไม่ได้โชคดีแบบเมื่อกี่นี่ดิ

“เห้ย....”ไอ้ต้าร้องตกใจ เพราะบูมมันรับหมัดไอ้ต้าได้ แทบยังรวบมือไอ้ต้าไว้ทั้งสองข้างด้วย

ไอ้คมกับไอ้กรดพอเห็นดังนั้นจึงพุ้งเข้าไปช่วยไอ้ต้า
แต่โดนพวกบูมมันผลักกับมาที่เดิมอีกครั้ง

ภาพที่อยู่ตรงหน้าผมดูชุนละมุนไปหมด

--ไอ้คมกับไอ้กรดที่พยายามฝ่าด้านกำแพงเพื่อนบูม
จนตอนนี้เริ่มมีการลงไม้ลงมือกันแล้ว

--ไอ้ต้าที่พยายามต่อสู้ให้หลุดจากอ้อมแขนของบูม
ตัวมันเล็กกว่าบูมตั้งเยอะ เห็นแล้วเหนื่อยแทนมันจริงๆ

--ผมกับไอ้โมที่พยายามจับพวกไอ้คมให้แยกออกจากกัน


“พวกเมิงหยุดกันก่อนได้ไหม เห้ย.....หยุดๆ หยุดฟังก่อน”

ผมกับไอ้โมตะโกนโวกแวกแล้วพยายามดึงให้ทั้งสองฝ่ายแยกจากกัน
แต่ดูจะไม่เป็นผลสำเร็จ ผมหยุดหายใจจนสายตาเลือบไปเห็นไอ้เบสกับอีนัท
ที่ยืนดูอย่างไม่ทุกร้อน แต่มันก็แน่อยู่แล้วล่ะ เพราะพวกมันเยอะกว่านิ
พวกผมแค่ห้า แต่หากเอาจริงๆแล้วคนที่สู้ไหวก็มีอยู่แค่สองคน

“ไม่คิดจะช่วยกันบ้างเหรอ”

ไอ้โมตะโกนใส่ไอ้เบสกับอีนัทระหว่างที่มันพักเหนื่อย
ผมลงไปจับพวกมันแยกกันต่อโดยไม่อยากรอฟังคำตอบ
เพราะการกระทำของมันก็พิสูจน์ดีอยู่แล้ว

อารมณ์โกรธที่เห็นเพื่อนโดนรุมบวกกับแค้นไอ้เบส
มันก็ทำให้ผมเตะพวกเพื่อนมันไปคนหนึ่ง
อารมณ์ผมที่คุมไม่อยู่จนอีโมเห็นแล้วตะลึ่ง แต่ผมก็ไม่สนใจ
ผมจับพวกมันให้แยกออกไป แต่หากใครยังดื่อดึงจะต่อยกันต่อ
ผมก็จะเป็นฝ่ายที่หาเรื่องมันซะเอง ผมเตะเข้าที่ท้องพวกมันไปสองสามคน
ตอนนี้ไอ้คมกับไอ้กรดเลยกลับมาสู้ได้แล้ว

จากที่สู้แค่สองคนตอนนี้ก็รวมผมก็กลายเป็นสาม
เพื่อนไอ้เบสมันเป็นควายแน่ๆ ขนาดผมเตะไปที่ท้อง มันก็ยังลุกขึ้นมาได้อีก
ผมหันไปมองไอ้ต้ากับบูม แต่ปรากฏว่ามันสองคนหายไป
ผมหันดูรอบๆก็ไม่เห็น พอมองออกไปนอกบ้านก็พบว่ามอไซค์บูมหายไป

“เห้ย.....บูมกับไอ้ต้าหายไป โอ้ย.....”

ผมโดนต่อยเข้าที่ท้องจนทำให้ตัวเองต้องลงไปนอนขดอยู่ที่พื้น
ตอนนี้พวกมันกำลังแลกตีนกันอย่าเมามัน โดยไม่มีใครสนใจผม
ไอ้โมเองก็เป็นคนลุกขึ้นมาสู้บ้าง เหะๆ
ผมรู้สึกเจ็บที่ท้องจนลุกขึ้นไม่ไหว มองดูรอบๆก็เห็นไอ้เบสสีหน้าตื่นตกใจมองมาที่ผม
มันแกะแขนที่โดนอีนัทจับอยู่จนหลุด แล้ววิ่งตรงมาผม

“ต่าย เป็นอะไร.....ได้ยินเราไหม”

ไอ้เบสตะโกนถามผม ซึ่งผมยังพอมีสติอยู่บ้าง เลยผยักหน้าให้มันไปทีหนึ่ง

“เห้ย........พวกเมิงหยุดก่อน”

ไอ้เบสตะโกนสั่งพวกเพื่อนมัน พวกมันก็เริ่มหยุดกันทีละคน
ตอนนี้พวกเพื่อนผมมันก็เริ่มเห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

“ต่าย เมิงเป็นอะไรมากหรือเปล่า”

ไอ้โมถามอาการผม แต่ผมจุกจนพูดไม่ออก
ไอ้เบสเลยตัดสินใจเป็นฝ่ายอุ้มผมเข้าไปในบ้านมัน
ผมมองใบหน้าไอ้เบสที่ยังดูดีเหมือนเดิม สายตาที่ดูห่วงใยของมันก็ทำให้ผมรู้สึกถึงภาพเก่าๆ
อกที่ผมแนบอยู่ตอนนี้ก็ยังมีกลิ่นตัวของมันที่ผมเคยชอบ
ข้างในผมรู้สึกปั่นป่วนไปหมด ผมพยายามดึงความคิดให้กลับมาปัจจุบัน
จนถึงตอนที่ไอ้เบสมันวางผมลงบนโซฟาในบ้านที่ยังคุมผ้าสีขาวอยู่
ไอ้เบสถูกเบียดให้ออกไปโดยไอ้โม แต่ผมก็ยังพอมองเห็นหน้ามันอยู่บ้าง

“เมิงเจ็บตรงไหน แล้วเจ็บมากเปล่า”ไอ้โมสีหน้าตกใจระหว่างถามผม

“เจ็บที่ท้องนิดหน่อย ไม่ต้องเป็นห่วง”ผมพยายามยิ้มให้มัน

“ไอ้ต้ากับบูม หายไป”ผมพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้

พวกมันหันมองหาในบ้านแต่ก็ไม่เจอ ไอ้คมเลยวิ่งออกไปดูข้างนอก
มันก็บอกว่าก็ไม่เจอ ไอ้โมเลยโทรหาไอ้ต้า แต่โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง

หลังจากผมอาการดีขึ้น ก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่งโดยมีไอ้โมมาประคอง
ตอนแรกผมเห็นไอ้เบสมันทำท่าจะเข้ามาประคอง แต่โดนไอ้โมมันตัดหน้าซะก่อน

คืนนั้นหลังจากผมรู้สึกดีขึ้นพวกเราก็พากันกลับบ้าน
ตอนแรกตัดสินใจจะไปตามหาไอ้ต้า แต่เบสบอกว่าบูมโทรมา
แล้วจะพาต้าไปส่งเอง แต่หากพวกเรายังคิดจะตามหาหรือแจ้งตำรวจ
บูมมันบอกว่าจะพาไอ้ต้าหนีไกลๆ พวกเราเลยต้องเชื่อฟังบูมมัน
และคิดว่าไอ้ต้าคงไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ

ตอนที่ออกจากบ้านไอ้เบสมันก็เดินมาส่งพวกผมที่หน้าบ้านพร้อมกับอีนัท

“ขอบคุณที่ช่วย”

ผมกล่าวตามมารยาทที่มันช่วยผมไว้ ไอ้เบสมันเหมือนจะพูดอะไร
แต่ผมหันหลังขึ้นรถไอ้คมซะก่อน ส่วนรถไอ้ต้า ไอ้กรดมันจะพากลับไปให้
ผมออกจากบ้านไอ้เบสโดยไม่หันกลับไปมองอีก ความรู้สึกเก่าๆวันนี้
ที่ผมเคยทิ้งมันไปแล้ว ความเจ็บปวด ที่ไอ้เบสมันเคยทำกับผม
ตอนนี้มันกลับมาอีกแล้ว มันติดตัวผมมาจนถึงตอนเข้านอน ผมไม่สามารถข่มตาหลับได้
และคืนนั้นน้ำตาก็ยังเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนนอน
เหมือนในทุกๆคืนที่ผ่านมากับการอยู่คนเดียว...


...

ขอบคุณทุกๆคนมากครับ

ปล.เนื้อเรื่องผมพยายามรวบรัดน่ะครับ เหะๆ ก็พอใช้เวลาเขียนเรื่องนี้ถึงได้รู้ว่า
ตัวเองเขียนตัวละคร ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไร แล้วบางทีตอนหน้า อาจทำให้ใครหลายคนหงุดหงิด
แต่ก็น่ะครับ อยากอ่านให้จบจริงๆ เพราะผมคิดว่าไอ้เบสมันน่าจะดีได้


ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
คู่ต้าบูมเค้าน่าลุ้นอ่ะ ไปเคลียร์กันถึงไหนแล้วละเนี่ย  :z1:

ถึงมันจะงงๆ แต่ก็จะตามอ่านจนจบจ้า จิ้ม+ เป็นกำลังใจให้นะจ้ะ  :L2:

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆสิจ๊ะ เดี๋ยวก้อเก่งเอง :กอด1:

ไงก้อติดตามต่อไป ถึงไหนถึงกันอยู่แล้ว หุหุ :-[

แล้วไอ้นัทกลับมาแบบนั้นเนี่ย เจ้าเบสมันจะทำไงต่อไปนะ สงสารต่ายอ่า ถึงะทำเหมือนไม่สนใจ แต่ลึกๆข้างในก้อตัดไม่ขาดอยู่ดี หนีหัวใจตัวเองน่ะ หนีไปไหนก้อไม่พ้นหรอก เห้อออออออออ

เจ้าบูมก้อนะ พระเอกหนังไทยจริงๆนะเนี่ย เพื่อนต่อยกัน ยังแอบชิ่ง ลากเมียหนีไปกก หึหึ

รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ tagloveX-Mark

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-6
โอ้วมาทียาวสะใจ แต่อย่าหายไปนานนะคับ กะลังมันส์เลยอ่ะ ติดพัน อย่าให้ขาดช่วงนะค้าบ
+1 ให้เลยคับผม ^^

ออฟไลน์ chocolate_ness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
ไม่ได้อ่านเรื่องนี้นานมากเลยอ่ะ

เศร้าจังอ่ะ

kaewpoo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5

ตอนที่ 39 สารภาพ

เมื่อคืนกว่าจะนอนก็ดึก แล้วนี้ต้องตื่นเช้าอีก เหอ...ง่วงมากๆ
ผมเกาะราวบันไดแล้วค่อยๆเดินลงมาเปิดประตูบ้านในตอนเช้าของอีกวัน
ตอนแรกนึกว่าเป็นพวกเพื่อนผมที่มากดกริ่ง แต่พอเปิดประตูออกไปดูถึงได้รู้ว่า...

“ดีตอนเช้าครับน้องต่าย”

พี่ซันมาหาผมตั้งแต่เช้า แล้วสภาพผมก็ดูไม่ได้สุดๆ
ผมจากที่งัวเงียก็เปลี่ยนเป็นตกใจ จนทำตัวไม่ถูก
ก็พี่แกหายหน้าไปนาน ผมก็ไม่คิดว่าจะมาหา แถมเช้าขนาดนี้ด้วย

“อ่ะ..เอ่อ....ดีครับพี่ซัน เข้ามานั่งในบ้านก่อนดิครับ”

ผมยกมือไหว้พี่เขา แล้วเวลาพูดก็พยายามปิดปาก
เพื่อไม่ให้กลิ่นปากที่ยังไม่แปรงฟัน ทำให้พี่เขารู้สึกรังเกียจ หึหึ
พี่ซันดูจะงงกับท่าทางของผม แต่ก็เข้ามานั่งในบ้านโดยดี
ผมวิ่งเข้าไปในครัวหาน้ำหาท่าให้พี่เขากิน  เปิดทีวีให้ดู
จากนั้นก็ขอตัวขึ้นไปจัดการกับสภาพตัวเอง จนคิดว่าดูไม่ทุเรศมาก
จึงกลับมานั่งคุยกับพี่เข้าต่อที่หน้าทีวี

“พี่ขอโทษน่ะครับที่มาหาเช้าขนาดนี้”พี่เขาพูดทันทีเมื่อผมนั่งลง

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แล้วพี่ซันมีอะไรเปล่าครับ เห็นมาตั้งแต่เช้า”ผมมองนาฬิกาที่เข็มสั้นชี้อยุ่ที่เลขหก

“ก็เราเล่นหายไปเลย”พี่เขาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

ผมเองตั้งแต่วันที่ไปบ้านพี่เขา จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
ไม่คิดว่าเขาจะเป็นห่วงเราขนาดนี้ แล้วช่วงที่ผมไม่ได้ไปเฝ้าไอ้เบสที่สนาม
ไม่รู้ไอ้เบสมันจะแก้ตัวว่าไงน่ะ แต่ผมคิดว่าไอ้เบสมันคงไม่บอกความจริงเรื่องนั้นไปหรอก

“แล้วเบสมันบอกพี่ว่าไงครับ”

“มันบอกว่าเราไม่ว่าง แต่พี่ไม่ค่อยเชื่อเท่าไร...”พี่ซันมองมาทางผมเหมือนกำลังจับผิด

“อ่ะ..เอ่อ ก็คงงั้นแหละครับ”ผมไม่รู้ตอบว่าไง เลยปล่อยให้พี่เขาสงสัยไป เพราะ อย่างน้อยมันก็ดีต่อตัวผมเอง

“อืม..พี่เห็นไอ้เบสมันพานัทไปที่สนาม เลยคิดว่าเรามีปัญหาอะไรกับมันหรือเปล่า”

“เปล่า”ผมเผลอขึ้นเสียงใส่พี่เขา เมื่อได้ยืนว่าไอ้เบสมันไปกับอีนัท
ดูท่าพี่เขาก็ตกใจไม่น้อย

“เออ--หากไม่มีปัญหาอะไรก็ดีแล้วครับ พี่แค่เป็นห่วง”

ความเป็นห่วงขอพี่เขา บ้างครั้งผมก็รู้ว่าเขาเหมือนมีใจให้
แต่ในบางประโยคบางคำพูด เขาก็เหมือนเป็นพี่ชายของผม
แต่ถึงแม่พี่ซันจะคิดกับผมยังไง ตอนนี้ผมไม่พร้อมที่จะคิดกับใครเกินเลยกว่าเพื่อน
หรือพี่ชายทั้งนั้น ความรู้สึกดีๆที่พี่เขาให้ผม ผมก็ตอบกลับไปเท่าที่จะไม่ล้ำเส้นของความรู้สึก
อย่างน้อยมีคนรักมันก็ดีกว่ามีคนเกลียดไม่ใช่เหรอครับ

“ขอบคุณครับ แล้วนี่พี่ซันจะไปไหนหรือเปล่าครับ”

“ก็ว่าจะไปสนามกีฬา แล้วเราจะไปด้วยมั้ย”พี่ซันเอยปากชวนผม เหมือนอยากให้ผมไป

“เออ...ก็ได้ครับ ไปก็ได้”

หลังจากตกลงกับพี่เขา ผมก็ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ส่องกระจกจนคิดว่าตัวเองน่าจะพอเดินคู่กับพี่เขาได้แล้ว
จากนั้นก็ลงมาปิดประตูปิดบ้าน แล้วขึ้นรถพี่เขาเลย

คนเราวิ่งหนีอดีตไปตลอดไม่ได้หรอกครับ
และผมเองก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ที่ผมตกลงจะมากับพี่วัน
นั้นเพราะผมคิดอยากจะมา แต่อีกใจหนึ่งหากเจอไอ้เบสผมจะทำไง?

ดังนั้นผมจึงอยากลองวิ่งชนปัญหามันดูบ้าง เพราะอย่างน้อยเราก็จะได้รู้ว่า
ตัวเราลืมอดีตมันไปแล้วหรือเราแค่แกล้งทำเป็นที่จะลืมมัน
.
.
.
ผมมาถึงสนามกีฬา ตรงบริเวณที่ผมเคยมาเป็นประจำ
ผมคงหายหน้าไปนานจริงๆนั้นแหละครับ
เพราะเพื่อนพี่เขาถามผมอย่างเป็นห่วงทุกคน
ผมเองรู้สึกยิ้มไม่หุบเลยตั้งแต่มานั่ง พอคนนี้พูดจบคนโน้นก็พูดต่อ
จนลืมไปว่า ไอ้เบสมันก็อยู่ที่นี่ด้วย เพียงแต่มันยังไม่มา

“ต่ายนั่งรอตรงนี้อย่าไปไหน เพราะพี่กลัวมีคนฉุดมา เหะๆ”พี่ซันยิ้มให้ผม

จากนั้นก็วิ่งลงสนามไปพร้อมกับพวกเพื่อนๆของพี่เขา
ผมนั่งมองพี่ซันเล่นฟุตบอลเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงรถที่คุ้นหู
ก็ไม่ใช่รถใครอื่นหรอกครับ เป็นรถไอ้เบสนั้นแหละ
ผมหันไปมอง เห็นไอ้เบสมันกำลังขับโดยมีอีนัทซ้อนท้ายมาด้วย
ผมรีบหันหน้าไปมองที่สนามเหมือนเดิม เพราะยิ่งเห็นมันก็ยิ่งหงุดหงิด

สักพักไอ้เบสก็วิ่งลงสนามไป มันเองก็หันมองผมเป็นระยะ แต่ผมก็ไม่ได้ทำสีหน้าอะไร
นอกจากเฉยชา ส่วนอีนัทมันนั่งห่างจากมไม่มาก แล้วสายตากับท่าทางมัน ก็หาเรื่องมากๆครับ
แค่ผมหันหน้าไปมองมัน มันก็ทำท่างยังจะตบผม (คิดว่ากูกลัวเหรอ)

ตอนเช้าอย่างนี้แดดกำลังดีเลยครับ ผมมองไปที่สนามอื่นก็เห็นมีคนมาออกกำลังกายเหมือนกัน
ผู้ชายตัวสูงโปร่งกำลังถอดเสื้อแล้วส่งให้กับผู้ชายอีกคนที่ดูอ่อนแอ ยังกับเป็นเกย์รับเลยครับ
พอเห็นนี้เลย ทำให้นึกถึงตัวเองเมื่อก่อน เวลาไอ้เบสมันใช้อะไรผมก็ทำให้หมด ไม่ว่าจะซื้อน้ำ
หรือเช็ดเหงื่อ  ผมยังสงสัยอยู่เลยว่า เวลาเราทำอะไรให้ใครสักคน ไม่ว่ามันจะลำบากแค่ไหน
แต่หากคำว่ารัก เราจะทำได้ทุกอย่างเลยใช่มั้ย? แล้วไอ้เบสล่ะ มันเคยทำอะไรเพื่อผมจริงๆจังๆบ้าง
เท่าที่ผมสังเกต...ไม่มีเลย.... แต่ถึงอย่างนั้น ทำไมผมถึงมีความสุข

ผมนั่งใต้ต้นไม้ที่ผมเคยฝันว่าเจอผู้ชายเคยนั่งร้องไห้อยู่ ซึ่งตอนนั้นเป็นตอนที่ผมเป็นลมไป
แล้วพี่วันก็มาเจอเข้า และผู้ชายในฝันคนนั้นก็คือ...ไอ้เบส ผมมาคิดตอนนี้ก็ไม่อยากเชื่อ
ว่าผมเคยมีความฝันที่บ้าบอแบบนั้น เพราะคนอย่างไอ้เบสมันมีแต่ทำให้คนอื่นเสียใจ
ไม่มีทางหรอก ที่มันจะเสียใจเพื่อแค่ใครสักคน...

“ต่ายครับ” ผมรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่พี่ซันเข้ามาสะกิด
เพราะมั่วนั่งกินลม อินกับความทรงจำเก่าๆอยู่

“คะ..ครับ”ผมสะดุ้งตกใจ

“นั่งคิดถึงใครอยู่ครับ”

“เปล่าครับ แล้วนี้เหนื่อยมั้ย”ผมโกหก

“เหนื่อยครับร้อนด้วย”ถึงพี่เขาไม่ตอบผมก็พอรู้

เพราะสภาพพี่เขาตอนนี้เหงื่อท่วมตัว เสื้อที่ใสอยู่ก็เปียกจนแนบเนื้อ
แล้วจู่ๆพี่แกก็ถอดเสื้อออกโดยไม่เกรงใจผมเลยครับ
แต่ผมก็ไม่ได้เขินอายอะไรหรอก เพราะเห็นของไอ้เบสจนชินแล้ว
แต่อีนัทนี่สิ มองพี่ซันตาเป็นมัน ผมรู้ครับว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่

“เดียวผมเช็ดเหงื่อให้น่ะครับ”ผมขออนุญาตพี่เขา

“น้องต่ายไม่เหม็นเหงื่อเหรอครับ”พี่ซันมองผมเหมือนลังแล

“ไม่หรอกครับ ตัวพี่ซันหอมออก”ผมเอาจมูกไปใกล้ๆกับหน้าอกพี่เขา
ก็ได้กลิ่นโคโลนอ่อนๆที่โชยออกมา ทำให้ผมรู้สึกพี่เขามีเสน่ห์เพิ่มขึ้นอีก

“อ่ะ เอ่อ ก...ก็ ได้ครับ”

ผมแค่แกล้งแหย่ แต่ทำไมพี่ซันเขินจริงๆว่ะ หึหึ
ผมเอาผ้าซับเหงื่อที่หน้าขาวๆพี่เขา แล้วหันหน้าไปมองอีนัท
อีนัทมันทำหน้าตาไม่พอใจ แต่ดูจะไม่ใช่แค่มันคนเดียว
เพราะไอ้เบสที่ยื่นอยู่ข้างอีนัทก็มองผมตาเขียวเหมือนกัน

“เห้ย หวานไปเปล่าเมิง”เพื่อนพี่ซันในกลุ่มแซวพี่เขากับผม ขำๆ

ผมพอรู้สึกตัวว่าที่ทำอยู่ มันดูน่าเกลียดเกินไป เลยลดมือข้างที่กำลังเช็ดอยู่
แต่พี่ซันกลับคว้ามือผมให้ค้างไว้ ผมเลยทำสายตาสงสัย

“เช็ดต่อน่ะครับ”พี่ซันพูดเชิงขอร้อง ผมเลยต้องทำต่อ

รู้สึกแผนแหย่อีนัทได้ผลเกินคาดครับ มันนั่งมองผมอย่างอาฆาต
ส่วนไอ้เบสได้แต่ทำท่าทีหงุดหงิด เพราะมันทำอะไรผมไม่ได้
แล้วงานนี้คนที่ได้กำไรสุดๆก็ดูจะเป็นพี่ซัน เพราะขนาดลงเล่นฟุตบอลกลางแดด
ยังยิ้มสดชื่นเหมือนพึ่งอาบน้ำเลยอ่ะ ผมก็ได้แต่ยิ้มๆ แต่ในใจก็ไม่ได้คิดอะไร

ผมหันไปมองอีนัท มันก็หันมามองผมเหมือนกัน แต่สายตาของมันที่มองผม
มันคงอยากฆ่าผมมากๆที่ไปทำกับพี่ซัน ที่มันแอบชอบอย่างนั้น
เพราะพี่ซันเคยบอกผมว่าอีนัทตามจีบพี่เขา แต่พี่เขาไม่เล่นด้วย
แล้วตอนนั้นผมอยากรู้ว่าไอ้เบสมันรู้บ้างหรือเปล่า ว่าคนที่มันคบอยู่หักหลังมันขนาดนี้
ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพสไอ้เบสมันดี ที่มีแฟนอย่างอีกนัท...

กริ่ง......

ผมละสายตาจากอีนัทมารับโทรศัพท์ ที่เบอร์โทรเข้าเป็นของ….ไอ้ต้า

“โหล เมิงอยู่ไหนว่ะ เป็นไงบ้าง”ผมรีบถามไอ้ต้าทันทีที่กดรับสาย
เพราะตั้งแต่เมื่อคืนผมก็ไม่ได้โทรหามันเลย แล้ววันนี้ก็มาที่นี่ตั้งแต่เช้า
ลืมนึกถึงมันไปเลย(ชั่วจริงๆลืมพื่อน)

“กูอยู่บ้าน สบายดี แล้วนี่เมิงอยู่ไหนว่ะ”ไอ้ต้าน้ำเสียงปกติ ไม่ได้ดูเหนื่อย

“อยู่ที่สนานกลาง แล้วเมื่อคืนเมิงกลับตีเท่าไร”ผมยังเป็นห่วงมัน

“ก็ประมาณตีสอง แล้วเมิงไปทำอะไรสนามกลางว่ะ”

“มาเป็นเพื่อนพี่ซัน”ผมค่อยใจเย็นลงหน่อย

“อ่าว แล้วไอ้เบสไม่อยู่เหรอ”

“อยู่ดิ แถมเอาอีนัทมาด้วย มันโครตกวนตีนกูเลยว่ะ”ผมพูดจบก็หันไปมองอีนัทที่ทำสายตาสงสัย

“แม่ง...เดี๋ยวกูไปจัดการให้มั้ย”ไอ้ต้ามันเลือดร้อนจริงๆครับ

“ไม่เป็นไร แล้วเมื่อคืนไปกับบูมเป็นไงบ้าง”ไอ้ต้าเงียบไปเมื่อผมพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง

“เรื่องมันยาว เดี๋ยวให้กูไปรับมั้ย จะได้เล่าให้ฟังทีเดี๋ยวพร้อมกันเลย”มันหมายถึงพวกไอ้คม ไอ้กรดแล้วก้อีโม

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูนั่งรถไปบ้านเมิงเอง”ผมรีบปฏิเสะเพราะกลัวมีเรื่อง

“เออๆ เดี๋ยวมาถึงก็โทรมาบอก กูไปรับหน้าปากซอยเอง”

“อืมๆได้ งั้นไว้เจอกัน”

ผมกดวางสายแล้วหันไปสนใจที่สนามฟุตบอล ไอ้เบสนี่มันโรคจิตแน่ๆเลยครับ
เวลาผมหันไปมองมันทีไร ก็จะเห็นมองผมอยู่ก่อนแล้ว อยากจะตะโกนถามมันเหลือเกิน
‘เมียก็มีทำไมมามองกู’ ในเมื่อมันเหลืออีนัท ไม่ใช่ผมนี่หว่า...หงุดหงิด เหะๆ

ผมนั่งรอพี่ซันไม่นาน พี่เขาก็มาชวนผมกลับบ้าน
ผมก็รอเวลานี้อยู่เหมือนกันเพราะนัดกับไอ้ต้าเอาไว้ แล้ว
แต่ก่อนกลับพี่เขาบอกว่าขอเข้าห้องน้ำก่อน ผมเลยเดินไปด้วย
เพราะไม่อยากเห็นไอ้เบสกับอีนัท เช้ดเหงื่อให้กัน อ้วกกก....

พี่ซันเดินเข้าห้องน้ำไป ผมก็รออยู่ด้านนอก
ระหว่างนั่งรอ ไอ้เบสมันก็เดินมาคว้ามือผม ทั้งกระชากลากถู
จนไปอยู่กับมันสองคนที่มุมแคบๆข้างๆห้องน้ำ

“เห้ย ปล่อย”ผมพยายามแกะมือมันออก แต่มันไม่หลุดง่ายๆ

“เมิงฟังกูก่อนได้ไหม กูไปหาเมิงที่บ้าน เมิงก็หลบหน้ากู...”

“เราไม่อยากฟัง เรื่องมันผ่านไปแล้ว”

ผมไม่อยากฟังไอ้เบสอธิบายอะไรทั้งนั้น เพราะกลัวใจอ่อน
แล้วสุดท้ายก็ต้องกลับไปอยู่ในสภาพเดิม

“ไม่ยังไงเมิงก็ต้องฟัง เพราะกูไม่ชอบ หากเอาใครโดยไม่เต็มใจ”ผมอึ้งกับคำพูดของมัน

“เอามีไรก็บอกมาแล้วจะได้จบ ๆ”ผมกลั่นใจพูด ทั้งที่น้ำตามันกำลังจะไหล

“กูไม่ชอบเวลาที่เมิงทำอย่างนั้นกับไอ้ซัน เมิงเลิกได้ไหม”ผมมองหน้าไอ้เบสที่มองผมด้วยสายตาจริงจัง

“เพื่ออะไร ในเมื่อเมิงกับกูไม่ได้เป็นอะไรกัน”ผมเริ่มพูดเมิงกูกับไอ้เบส เพราะไม่ชอบที่มันจะมาใช้นิสัยอย่างเก่า

“นั้นเมิงคิดไปเอง”ไอ้เบสพูดเสียงดัง

“กูคิดไปเองเหรอ? แล้วอย่างงั้นถามหน่อยว่ากูกับเมิงเป็นอะไรกัน”ผมรู้สึกจุกับคำถามนี้ จนกลั่นน้ำตาต่อไปไม่ไหว
 
“...........”ไอ้เบสเงียบ แล้วหลบหน้าผม

“ทำไมไม่ตอบล่ะ หรือเมิงไม่รู้...”ผมตะคอกใส่หน้ามัน แล้วพูดต่อ

“งั้นกูช่วยบอกให้ก็ได้ .....กูก็คู่นอนเมิงไง เมิงนึกจะทำอะไรก็ทำ จะเอาตอนไหนก็เอา ไม่ต้องถามว่ากูรู้สึกยังไง เพราะเมิงมันไม่เคยใสใจคนอย่างกูอยู่แล้ว....”

ผมร้องไห้จนคุมตัวเองไม่อยู่ ไอ้เบสมันทำได้แค่กอดผมไว้
ไม่พูดอะไรออกมา ผมรู้สึกอึดอัดข้างในมาก อึกอัดกับความรู้สึกอย่างนี้
ไอ้เบสมันเลวมา ทันทำให้ผมเจ็บมากขนาดนี้ มันรู้หรือเปล่า
ผมเจ็บกับมันมามากแค่ไหน มันรู้หรือเปล่า...

“ต่าย เมิงไม่รู้หรอกว่ากูอึดอัดแค่ไหน”ไอ้เบสพูดเบาๆข้างหูผม

“เมิงมันใจร้ายมาก รู้ไหม....อึก....”ผมพูดไปสะอึกไป แล้วน้ำตาก็ยิ่งไหลมากขึ้น

“กูรู้ว่ากูเลว ที่ทำกับเมิงอย่างนั้น ตลอกเวลากูเอาแต่หงุดหงิดใส่เมิง มาลงที่เมิง
แล้วเมิงรู้บ้างไหมต่าย พอเมิงหายไปคืนนั้นกูขับรถหาเมิงทั่วซอย แต่ก็ไม่เจอ ไปรอหน้าบ้านจนเช้า
แม่เมิงก็บอกว่าเมิงยังไม่กลับ กูไปหาเมิงทุกวัน กูรอเมิง แต่เมิงหลบหน้ากู กูไม่รู้ว่าข้างในนี้มันเป็นอะไร...”

ไอ้เบสพูด แล้วเอามือผมไปแตะหน้าอกชุ่มเหงื่อของมัน
แต่ผมไม่พูดอะไร มันเลยพูดต่อ

“กูไม่เคยเป็นกับใคร กูหงุดหงิดเวลาเห็นเมิงอยู่กับคนอื่น กูไม่ชอบเวลาเมิงทำอย่างนั้นกับไอ้ซัน
กูเป็นเหี้ยไรว่ะต่าย.....กูไม่รู้ว่ากูเป็นอะไร....ถึงกูอยู่กับนัท แต่ทำไมกูคิดถึงเมิง เมิงเข้าใจมั้ย
เมิงเข้าใจมั้ยต่าย”

ไอ้เบสกอดผมแน่จนผมเริ่มหายใจไม่ออก หากที่ไอ้เบสพูดมามันเป็นเรื่องจริง
ผมก็รู้สึกดี และผมก็รู้ว่าที่มันเป็นอยู่เขาเรียกอะไร
ไอ้เบสเริ่มตัวสั่นนิดหน่อย แต่ผมรู้สึกได้ และหยดน้ำตกลงมาโดนแก้มผม
มันก็ทำให้ผมรู้ว่า ไอ้เบสกำลัง....ร้องไห้....

ผมรู้สึกงงกับหลายๆอย่างในตัวไอ้เบส แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกดี
ไอ้เบสไม่เคยพูดแบบนี้กับผมมาก่อน ไอ้เบสไม่เคยร้องไห้กับผมมาก่อน
แล้วไอ้เบส มันก็ไม่เคยดูอ่อนโยนอย่างนี้ในสายตาผมมาก่อน

ผมจับหน้าไอ้เบสที่อยู่สูงกว่าผม มันค่อยๆคล้ายกอดผม
แต่ยังกอดไว้หลวมๆ ไอ้เบสมองหน้าผมผ่านหยดน้ำตา
ผมเห็นแล้วรู้สึกใจไม่ดี และทำให้ผมอยากปลอบคนที่อยู่ตรงหน้านี้มากๆ

ผมค่อยประทับริมฝีปากลงบนปากไอ้เบส ผมรู้สึกอบอุ่นที่ลิ้นเข้าไปอยู่ข้างใน
โดยไอ้เบสเองก็ตอบรับอย่างดี หวาน อบอุ่น สบายใจ
ทุกอย่างมันร่วมกันอยู่ในตัวผม และคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้า
คงมีความรู้สึกไม่ต่างจากผม เราจูบกันนานแค่ไหน ผมไม่รู้
เพราะทุกอย่างมันเป็นไปเองตามทำธรรมชาติ

ผ่านมาเกือบเดือนที่ผมรอจูบนี้…
ผ่านมาเกือบเดือนที่ผมไม่ได้เห็นหน้ามัน…
ผ่านมาเกือบเดือนที่ความรู้สึกข้างในมันบอกว่าคิดถึง…

ผมเป็นคนเลวหรือเปล่า หากชิงไอ้เบสมาจากอีนัท
แล้วหากผมต้องเป็นคนดีแล้วเสียไอ้เบสไป
ผมอยู่ได้เหรอ...ผมอยู่ได้หรือไง....ในเมื่อรู้ว่าผมรักมัน แล้วมันก็รักผมมากขนาดนี้

แต่ถึงแม้อนาคตผมจะต้องผิดหวังหรือสมหวัง
ในตอนนี้ผมอยู่กับไอ้เบส ผม...รัก...มันและรู้ว่ามัน...รัก...ผม
ผมก็มีความสุขแล้ว และช่วงเวลานี้ ผมก็ขอเก็บความรู้สึกนี้ให้มากที่สุด
เพราะวันหนึ่ง ผมอาจจะต้องเสียมันไป ให้ใครสักคน
.
.
.
ผมเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำ โดยมีไอ้เบสล้างหน้าอยู่อ่างข้างๆ
ผมแหงนมองหน้าตัวเองในกระจก แล้วหันมองไอ้เบสที่ยังล้างหน้าอยู่
ผมกับมันตอนนี้เป็นอะไรกัน? คำตอบนี้ผมก็ตอบไม่ได้
แต่หากถามว่าผมรักมันมั้ย? ผมตอบได้ว่ารัก
แล้วกลัวเจ็บอีกมั้ย? ผมกลัวมาก
แล้วทำไมผมถึงได้รักมันอีก?

ผมไม่ได้รักมันอีกครั้ง แต่ผมไม่เคยหยุดรักมันเลย
ผมนอนร้องไห้ คิดถึงมัน แค่นี้ก็คงพอสูจน์ได้แล้ว ว่าผมรักมันหรือเปล่า

“เบส หันมานี่หน่อย”ผมเรียกมันหลังจากที่มันล้างหน้าพึ่งเสร็จ

“ทำไมเหรอ”

“อยู่นิ่งๆน่ะ”มันทำตามที่ผมสั่ง

ผมเอาผ้าเช็ดหน้าที่พาดอยู่บนไหล่มัน
เช็ดน้ำที่อยู่บนหน้าให้มันเบาๆ จนน้ำออกหมด
มันยิ้มเก็กหล่อให้ผม แล้วเอาผ้าที่ผมถืออยู่มาครองคอผมให้เข้าหาตัวมัน
แล้วปากผมกับปากมันก็ประกบกันเบาๆ ไอ้เบสมันเริ่มต้นจูบอีกครั้ง
ผมปล่อยให้มันจูบโดยไม่ขัดขื่น แล้วเวลานี้ในห้องน้ำก็ไม่มีคนเข้าด้วย

ไอ้เบสถอดปากออกแล้ววิ่งไปปิดประตูพร้อมกดล็อก ผมมองหน้ามันงงๆว่ามันจะทำอะไร
แต่มันยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม กว่าผมจะพูดมันก็สายไปแล้วครับ
ไอ้เบสปิดปากผมด้วยปากมันอีกครั้ง ผมพยายามขัดขื่น แต่สู้แรงมันไม่ไหว
แถมจูบมันก็ทำเอาผมเคลิ้มไปด้วย ไอ้เบสยกตัวผมให้ขึ้นไปนั่งบนอ่างล้างหน้า
แต่ปากยังไม่ถอดออก มันจับต่ายน้อยของผมที่เริ่มแข็งสู่มือมัน
แล้วมันก็ยกขาทั้งสองข้างของผมไปพาดไว้บนหัวไหล่มัน ผมรู้สึกอายมันมาก
แต่ไอ้เบสอารมณ์หื่นมันเข้าสิ่งครับ หลังจากมันถอดกางเกงผมแล้ว
มันก็ปลดกางเกงกีฬาของมันลงอย่างรวดเร็ว

“อะ....อ่า....บะ...เบส..ระ...เรา..ซืด”

ไอ้เบสมันปล่อยปากของผมให้เป็นอิสระ
แต่พอผมกำลังจะร้องห้าม มันก็ไซร้คอผม จนผมพูดติดๆขัดๆ
สุดท้ายมันก็ลงมาดูดหัวนมผม ทำเอาผมเสียวจนต้องร้องออกมา

“ต่ายครับ เบสไม่ไหวแล้วครับ”

ไอ้เบสร้องบอก แล้วสายตาของมันก็ทำให้ผมหลงกลมันจนได้
มันเริ่มแทรกตัวเข้ามาในตัวผม โดยไม่มีการเปิดทาง
ขนาดของเบสน้อยที่ไม่น้อยของมัน ทำให้ผมเจ้บจนทนไม่ไหว

“โอ้ย...เบส หยุดก่อน”

ผมพูดขึ้นเสียงดัง ไอ้เบสได้ยินก็สะดุ้ง มันหยุดกึก
ผมเอาขาลงจากไหล่มัน แล้วจับหน้ามันให้เข้ามาใกล้ๆกับหน้าผม

“เบสรอได้ไหม ต่ายยังไม่พร้อม”

ผมทำสายตาอ้อนวอน ตอนแรกคิดว่าไอ้เบสจะหงุดหงิด
แต่มันยิ้มให้ผม แล้วจูบหน้าผากผมเบาๆ

“ได้ หากเมิงต้องการ”

ผมไม่คิดว่าไอ้เบสมันจะยอมผมขนาดนี้
เพราะขนาดผมยังรู้สึกอึดอัดเลย หากไม่ได้ปลดปล่อย

“แล้วทนได้เหรอ? หรือว่า.......จะทำกับนัท”

ผมพูดเสียเศร้าเมื่อนึกถึงตอนที่ไอ้เบสกับอีนัทมันจะต้องทำกันจริงๆ

“แล้วเมิงยอมเหรอ?”ไอ้เบสมันหน้าตาจริงจัง

“เบสจะทำยังไงได้หมดแหละ เราได้ทั้งนั้น”ผมฝืนยิ้ม

“ไม่หวงเลยเหรอ?”ไอ้เบสถามอย่างน้อยน้อยใจ

“หวง จะให้ทำไงล่ะ ก็เรา...”ผมกำลังจะพูดต่อ แต่ไอ้เบสมันเอามือมาปิดปากไว้

ผมเห็นมันยิ้ม ก็ไม่เข้าใจว่ามันยิ้มทำไม
ทั้งที่ผมเครียดอยู่ หรือว่ามันเห็นเป็นเรื่องตลก

“กูแค่อยากรู้ว่าเมิงก็หวงกู หึหึ”ไอ้เบสมันแกล้งให้ผมหึงมันนี้เอง

“แล้วเรื่องนั้น....จะทำกับนัทจริงๆเหรอ”ผมยังไม่สบายใจเรื่องนั้น

ถึงแม้ผมจะไม่ใช่คนยึดติดด้านร่างกาย
แต่เรื่องอย่างนั้น หากไอ้เบสมันทำเพราะอยากทำกับผม
แต่ไปปลดปล่อยกับคนอื่น ผมก็รู้สึกไม่ดี

“งั้นกูสัญญา ว่าต่อไปนี้จะไม่ทำกับคนอื่น ยกเว้นเมิงคนเดียว”ไอ้เบสมันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ซึ่งมันทำให้ผมเชื่อใจมันมากขึ้น ทั้งที่ตอนแรกก็กลัวว่ามันทำไม่ได้

“ทำได้แน่เหรอ”ผมถามเพราะไม่อยากให้ไอ้เบสมันต้องทำอะไนในสิ่งที่ไม่เต็มใจ

“งั้นนี้คือสิ่งที่กูขอสัญญา”ไอ้เบสพูดจบ มันก็จูบผมอีกครั้ง

จูบเป็นคำสัญญาที่มันจะฝั่งไว้ข้างในใจผมตลอดไป
จูบที่ผมจะไม่มีวันลืมว่าไอ้เบสคนที่ผมรัก ได้สัญญาเอาไว้

ไอ้เบสผละออกจากผม ผมเลยได้โอกาสพูดบ้าง

“งั้นนี้คือสัญญาของเราว่า จะรอบสคนเดียว”

ผมลงไปประทับจูบเบาๆที่ปากไอ้เบส มันจูบกลับมา เชิงรับรู้
กอด...แค่เรากอดกัน มันก็แทนความหมายหลายๆคำพูดได้
และจูบ...ผมว่ามันก็แทนความหมายหลายๆคำที่ไอ้เบสมันต้องการบอกผมได้เหมือนกัน

ไอ้เบสเดินจับมือออกจากห้องน้ำโดยไม่อายคนที่เดินผ่านไปผ่านมา
ความรู้สึกมั่นใจ ความรู้แบบนี้ ไอ้เบสมันทำให้ผมรู้สึกตั้งแต่เมื่อไร
ผมเคยอยากเดินจับมือใครสักคนที่ไม่ต้องอายว่าคนอื่นจะมองยังไง
ไม่ต้องสนความรุ้สึกใครๆนอกจากเราสองคน
ผมได้มาแล้วจากไอ้เบส ในวันนี้ผมมีความสุข ถึงวันหน้าจะทุกข์ผมก็ไม่กลัว

ผมไม่ถามและไม่ปล่อยมือไอ้เบสเลย จนมาถึงใกล้ๆกับที่อีนัทนั่งอยู่
และมีพวกเพื่อนๆพี่ซันนั่งอยู่ด้วย ผมหยุดเดินทันที จนไอ้เบสหันมามองผมอย่างสงสัย

“ใกล้ถึงแล้ว...”ผมบอกไอ้เบส แต่ไอ้เบสยังไม่หายสงสัย

“ทำไมไม่เดินต่อล่ะ”ไอ้เบสถามอย่างกับไม่รู้จริงๆว่าผมหมายความว่าไง

“มือนายอ่ะ”ผมบอกไอ้เบสตรงๆและหันไปมองมือผมกับมือมัน
ผมมองหน้าไอ้เบสแต่มันไม่พูดอะไร ผมเลยต้องเป็นฝ่ายดึงมือออก

“ไม่อยากจับเหรอ?”ไอ้เบสถามน้ำเสียงน้อยใจ

“เปล่า ก็ยังพอเดินไปถึงต้องปล่อยอยู่ดีไง”ผมพูดแล้วต้องถอนหายใจตามหลัง เหมือนรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำอยู่

“ทำไมต้องปล่อยล่ะ หรือเมิงไม่อยากให้ใครรู้”ไอ้เบสมันซื่อจริงๆหรือมันแกล้งเนี่ยครับ

“เราน่ะไม่สน แต่นายนั้นแหละ”ผมพยายามยิ้มให้มัน แต่สายตาผมมันคงปิดไม่ได้

ไอ้เบสดันผมให้ชิดกำแพง ณ ที่ตรงนั้น ก่อนจะปรับหน้าตาจากสงสัย
เป็นสายตาและสีหน้าที่จริงจัง เวลาไอ้เบสมันทำอย่างนี้ทีไร
ผมรู้สึกว่ามันเป็นผู้ใหญ่ และสิ่งที่พูดไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

“กูไม่สนใครและแคร์ใครอยู่แล้ว นอกจากเมิง หากเมิงพร้อมกูก็พร้อม
เพราะกูไม่อยากห่างกับเมิงอีกแล้ว มัน....ก็อย่างที่บอก อึกอัด ทรมาน
จากนี้เมิงจะเอาไง กูก็พร้อมทำตาม....”

ไม่อยากเชื่อว่าเวลที่ผมห่างจากไอ้เบส มันจะทำให้ไอ้เบสเปลี่ยนไปขนาดนี้
ผมเข้าไปกอดไอ้เบส อย่างที่ไม่เคยรู้สึกอยากอดใครมากเท่านี้

และในที่สุดผมก็ยิ้มออก

“แล้วนัทล่ะ”ผมถามถึงคนที่ปัจจุบันเป็นแฟนไอ้เบสอยู่

“ไม่ต้องสนใจ แค่เชื่อใจกูไว้ก็พอ ได้มั้ย?”ไอ้เบสพูดพร้อมกับเอามือผมขึ้นมาลูบอย่างถนอม

ไอ้เบสแตะริมฝีปากลงบนนิ้วมือผม ผมรู้สึกเขินนิดหน่อย(กรี้ดดดดด)
แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นกุ้มไว้ข้างๆลำตัว ผมมองหน้าไอ้เบสที่แต้มด้วยรอยยิ้ม
ความเชื่อมั่น และความมั่นใจเหมือนถูกถ่ายถอดมาให้ผม

ผมกุ้มมือไอ้เบสแน่ และคิดว่ายังไงก็ไม่มีวันหลุดแน่นอน
เราก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน ต่อให้ต้อเงจอกับอะไร
ผมคิดว่าไอ้เบสจะพาผมผ่านพ้นไปได้
และถึงแม้ความผิดหวังจะมาจากทุกทิศทาง
ความรักของไอ้เบส ผมว่ามันก็พอแล้ว ที่ผมจะสู้ต่อไป

“งั้น เราก็พร้อม” ผมพูดอย่างไม่เคยมั่นอะไรเท่านี้มาก่อน


.................................................................................

ขอบคุณทุกๆคนมากๆครับที่ติดตาม
เนื้อเรื่องอาจจะไม่มีเหตุผล หรือ น้ำเน่า เหะๆ

ขอบคุณมากๆสำหรับใครที่รออาจจนตอนสุดท้าย
ดีใจครับ ทั้งที่ผมเครียดอยู่ก็ตาม
เรื่องนี้ผมอยากแก้ตัวในคู่ของต้า
ซึ่งคิดว่าตัวเองอาจเขียนได้ดีขึ้น
ไงก็ขอบคุณทุกกำลังใจ จริงๆครับ

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
อ้าว แล้วพี่ซันหายไปไหนอ่ะ

อีกอย่าง ถามหน่อย ต่ายไม่อายหรอ หวานกะพี่ซันออกหน้าออกตาอยู่แหมบๆ ตอนนี้มาเดินกุมมือกะเจ้าเบส คนอื่นมองมาไม่เข้าข่ายร่านไปแล้วเรอะ เดี๋ยวมั่วกะคนหนึ่ง เดี๋ยวโผใส่คนหนึ่ง เพราะคนอื่นเค้าไม่รุ้ต้นสายปลายเหตุ มองจากภาพรวมแล้วมันเปนงั้นนะ ตรงนี้ต่ายไม่แคร์เลยหรอ ไม่กลัวว่าใครเค้าจะมองตัวเองด้วยสายตาดูถูกเลยหรอ

คู่ต้า-บูมก้อน่าสนนะ แต่ที่อยากอ่านมากๆคงเปนคู่ของโม-? เพราะเราชอบนายเอกแนวนี้ นายเอกที่แสดงออกเลยว่าเปน แรดๆ แรงๆ แต่ก้อมีศักดิ์ศรีในตัวเอง หุหุ

เปนกำลังใจให้เช่นเคยคร้าบบบบ

jedi2543

  • บุคคลทั่วไป
เห็นด้วยกับเมนต์ข้างบน


ถ้าต่ายเดินออกมาหวานกับเบส เราว่าต่ายทำไม่ถูกมากๆ เพราะทำให้พี่ซันเสียหน้า เสียความรู้สึก รวมถึงพี่ๆ คนอื่นด้วย ภาพลักษณ์เสียสุดๆ




ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
เจ้าต่ายมันแพ้ทางเจ้าเบสจริง ๆ ยอมเค้าตลอดอ่ะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ l3iZal2l2e

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-0
เห็นด้วยกะสามรีข้างบนอ่ะ
คนอื่นเค้าจะมองต่ายยังไง ? ถึงจะบอกว่า ทั้งคู่ไม่แคร์ก้เถอะ
แต่เบสก้ควรคิดให้ไกลอีกนิดนึง คิดเผื่อต่ายด้วย ... อย่างน้อยก้อย่าเพิ่งแสดงออกโจ่งแจ้งขนาดนี้
เอิ่มมมมม ... สงสารพี่ซันเลยแฮะ

แล้วก้อยากด่าต้าโคดดดดดดดดดดดดดดดดด
โง่ได้อีกกกกก อิหนู ! ถ้าเราอยู่ในเหตุการณ์คงมีตบเรียกสติต้าอ่ะ 5 55+
อารมณ์ร้อน ใจร้อน ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง จนทำให้เพื่อนต้องเดือดร้อนไปด้วยเลยไง
 :เฮ้อ:

ป.ล. ตอนนี้แอบหวานเนาะ ... ชอบบบบบบบบบบบบบบบ

มาต่อไวไวนะคะ ... จะรอค่ะ
 :กอด1:

mackerel

  • บุคคลทั่วไป
มอบแต้ม+ ที่ 164 คร้าบ
***
ขอบคุณที่มาต่อตอนใหม่คร้าบ  :pig4:

ออฟไลน์ tagloveX-Mark

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-6
จบแล้วเหรอคับ มันดูห้วน ๆ จังเลยอ่าคับ เหอ ๆ มีมาต่ออีกมั๊ยคับเนี่ย ดูมันยังไม่สมบูรณ์ดีเลยง่ะคับ งัยก็ +1 ให้เลยนะค้าบ มายาวดีจิง ๆ อ่านเพลิน

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะติดตามต่อไปนะ ถ้ายังมีต่อนะ

ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
ตอนที่ 40 ฝันดีที่สุด


ผมกับไอ้เบส เราสองคนเดินมาถึงสนามฟุตบอล และสายตาคู่แรกที่หันมามองผมกับไอ้เบสคืออีนัท
มันมองมาที่มือของเราสองคน ผมเห็นสายตาไม่พอใจของอีนัท ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่ผมคิดไว้

“เบส...ทำไมต้องจับมือกันด้วย”อีนัทเปิดฉากทันทีที่ผมกับไอ้เบสเดินไปใกล้มัน

“เรามีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย”ไอ้เบสไม่ตอบคำถามอีนัท

“มีอะไรก็พูดมาซิ”

“กลับไปคุยกันที่บ้าน”ไอ้เบสบอกด้วยน้ำเสียงหนักใจ

“ทำไมไม่คุยที่นี้ล่ะ”อีนัทขึ้นเสียงใส่ไอ้เบส ผมยืนนิ่งไม่พูดอะไร

“เรื่องส่วนตัวน่ะ”

“แล้วมันเกี่ยวกับต่ายด้วยเปล่า”อีนัทมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง แต่ผมพยายามข่มใจ

“เกี่ยว แต่เราจะพูดกับนัทก่อน”ไอ้เบสพูดตรงๆ

“งั้นก็พูดมาเลย เราพร้อม”อีนัทมองหน้าผมเดือดดาล

“กลับไปคุยที่บ้าน”

“จะเลิกกับเรา แล้วไปคบกับต่ายก็บอกมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อม”อีนัทพูดเสียงดังแล้วชี้หน้าผม

“ใช่ เราจะเลิกกับนัท แล้วไปคบกับต่าย”ไอ้เบสพูดตรงๆ  ผมว่าหากผมเป็นนัทคงเสียใจมากแน่ๆ (แอบสงสาร)

“ไม่เลิก....แล้วเมิงก็อย่าคิดว่าจะได้ไอ้เบสไปง่ายๆ”อีนัทพูดกับบูมแล้วหันมาพูดกับผม

“นัทจะคบกับเราอีกทำไม ในเมื่อนัทก็มีคนอื่นอยู่แล้ว”คำพูดของไอ้เบส ทำให้อีนัทหันมองตาค้าง

“คะ...ใคร...บอก เรามีไอ้เบสคนเดียว”อีนัทตอบเสียงสั่น

“นัท....เรื่องของนัทอย่านึกว่าเราไม่รู้ เรารู้ทุกอย่าง แค่เราแกล้งไม่สนใจเท่านั้น”

“ระ..เรา มีไอ้เบสคนเดียวจริงๆ ที่เรามาหาไอ้เบสถึงหาดใหญ่ เพราะเรารักไอ้เบสจริงๆน่ะ”อีนัทพยายามยกหาเหตุผลมาพูดกับไอ้เบส แต่สีหน้าไอ้เบส ดูไม่รับรู้กับเรื่องโกหกที่อีนัทพูดขึ้น

“นัท ที่นัทมาหาเรา เพราะนัทเลิกกับแฟนนัท ทำไมเราจะไม่รู้...เราว่าพอแค่นี้เหอะ”

ไอ้เบสยื่นยันนักแน่ ผมเองได้แต่ยืนมอง เพราะหากต้องพูดอะไร ผมก็รู้ว่ามันคงไม่ดีขึ้น
และยิ่งแย่ด้วยซ้ำ อีนัทไม่ได้ร้องไห้ แต่มันมองมาทางผมเหมือนเป็นตัวปัญหา
ผมไม่ได้หลบตา หรือทำสีหน้าสะใจที่มันถูกบอกเลิก ในลึกๆแล้วผมก็สงสารมัน
ถึงแม้มันจะเกลียดผมก็ตาม

“งั้นเราคงพูดอะไรไม่ได้แล้ว”อีนัททำสีหน้าเสียใจ(แสร้งอ่ะดิ) แล้วหันกลับไปมองไอ้เบส

“แต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช้มั้ย”อีนัทพูดต่อ

ไอ้เบสดูสายตาลังแล แล้วหันกลับมามองผม ซึ่งหากผมเดาไม่ผิด
มันคงรอคำตอบจากผม ผมเลยพยักหน้าให้ ประมาณตามใจเมิงเหอะ

“ครับ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันได้”ไอ้เบสยิ้มให้อีนัท...เพื่อนใหม่ของมัน

ผมรู้สึกดีที่อีนัทจบลงกับไอ้เบสด้วยความเป็นเพื่อน
แต่ผมก็ไม่ใช่คนมองโลกในแง่ดีเสมอไปหรอกครับ
เพราะท่าทางแล้วกิริยาที่อีนัทมันมองผม
นั้นคงเป็นเครื่องหมายที่ว่า ผมมีศัตรูเพิ่มอีกคน…

“เมิงให้ไอ้ซันไปส่งบ้าน เดียวกูไปหา...แล้วห้ามไปไหนเด็ดขาด”

ไอ้ไอ้เบสกระซิบข้างหูผม เน้นประโยคหลังเป็นพิเศษ
และที่ผมไปพร้อมไอ้เบสไม่ได้ ก็เพราะอีนัทมันมาด้วย....ซึ่งผมก็เข้าใจ

พอตอนเดินไปถึงที่รถพี่ซัน พวกเพื่อนๆแกก็มองผมเหมือนอยากถาม
แต่ก็ไม่มีใครเอยปากถามผมสักคน

“เอ่อ แล้วนี่กลับบ้านกันเลยมั้ยครับ”ผมถามพี่ซัน และมองหน้าเพื่อนๆพี่เขา

“ครับๆๆ....กลับบ้าน.....เห้ยกูไปก่อนซัน กลับบ้านดีๆ....ไปแล้วโว้ย”

เพื่อนพี่ซันพูดจบก็รีบลุกขึ้นสตาร์สรถเหมือนมีพิรุธ พี่เขาเองก็เหมือนกัน
ไม่พูดอะไรกับผมสักคำ จนถึงวงเวียนใหญ่ผมก็นึกถึงไอ้ต้าขึ้นมาได้
เลยขอลงตรงนี่ พี่เขามองหน้าผมงงๆ

“เอ่อ......ผมจะไปบ้านเพื่อนอ่ะครับ ขอบคุณพี่มากน่ะครับ”ผมบอกให้พี่แกหายสงสัย

“ครับๆ มีอะไรก็โทรมาน่ะ”

“ครับขอบคุณครับ”

หลังจากบอกลาพี่แกเรียบร้อย ผมก็โบกรถตุ๊กๆไปบ้านไอ้ต้า
ระหว่างนั่งก็รีบกดหาไอ้ไอ้เบส เพราะลืมบอกมันว่าต้องไปบ้านไอ้ต้าก่อน

“โหลเบส...เดียวเราไปบ้านไอ้ต้ามันก่อน ลืมว่านัดมันเอาไว้”ผมรีบแก้ตัว

“แล้วอยู่นานเปล่า”

“ไม่แน่ใจ”

“กลับแล้วโทรมาบอก เดี๋ยวกูไปรับหน้าปากซอย”

“อืม..โอเค”

ไอ้เบสไม่ได้หงุดหงิดหรือโกรธผมอย่างที่คิด
มันเป็นคนพูดง่ายขึ้นมาก และคิดว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้ไปนานๆ
เพราะผมกลัวว่ามันจะเอาใจผมเฉพาะช่วงนี้ แล้วพอคบไปนานๆ มันก็เบื่อ...

ผมมาถึงบ้านไอ้ต้าใช้เวลาไม่นาน พอเข้าไปในบ้านผมก็เจอทุกคนนั่งอยู่แล้ว
สรุปคือผมมาเป็นคนสุดท้าย เหะๆ พวกมันไม่ได้ถามว่าทำไมมาช้า หรืออะไร
พอผมนั่ง ไอ้ต้าก็เริ่มเล่าทันที ผมมองสภาพไอ้ต้าก็ไม่เห็นมีอะไรบุบสะลาย
ดูปกติทุกอย่าง แสดงว่าบูมมันไม่ได้ทำ...อะไรมัน

ไอ้ต้าเล่าว่าบูมพามันไปปรับความเข้าใจ แต่มันอารมณ์หงุดหงิดจะต่อยบูมให้ได้
บูมเลยจเอาผ้ามัดมือหมัดปากมัน จนมันทำอะไรไม่ได้ บูมเลยเล่าให้ฟังทีละเรื่อง
ซึ่งเรื่องเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ไอ้ต้ามันเคยทะเลาะกับบูม บูมมันขอเวลาพิสูจน์
ว่ามันรักไอ้ต้าคนเดียว ไม่ได้รักคนอื่น ตอนที่ไอ้ต้ามันเล่า มันพยายามเก็บอาการ
แต่ก็มียิ้มให้เห็นบ้าง ไอ้ต้าบอกว่า มันไม่รู้คิดอะไรในตอนนั้น เลยตอบตกลงบูมไป
พวกผมก็พากันงง เพราะตอนแรกมันจะฆ่ากันตาย แต่พอหายไปไม่กี่ชั่วโมง
ไอ้ต้ากลับเปลี่ยนใจ แต่ไม่มีใครพูดอะไร รอให้ไอ้ต้ามันเล่าต่อ ไอ้ต้าบอกว่าเรื่องแก้แค้น
มันสับสนว่าจะทำไงดี เพรามันไม่แน่ใจว่าอยากทำอย่างนั้น ผมก็พอเข้าใจน่ะ
เพราะอยู่ในอาการเดียวกับมัน แต่ไอ้คมกับไอ้กรด ดูจะไม่พอใจเท่าไร

ทุกคนเลยลงความเห็นกันว่า ที่ไอ้ต้าเป็นอย่างนั้นเพราะมันชอบบูม
ไอ้ต้าบอกว่ามันไม่แน่ใจ แต่มันก็ยิ้มน่ะครับ มันเลยบอกว่าเรื่องที่จะให้ยกพวกมารุมบูม
เป็นอันยกเลิก ทุกคนก็เฉยๆ เพราะพอรู้เรื่องไอ้ต้ากับบูมมาบ้างแล้ว
เหลือก็แต่ผมที่ยังไม่เล่าให้พวกมันฟัง

ผมกระอักกระอ่วนอยู่นานกว่าจะตัดสินใจพูดเรื่องไอ้เบสกับพวกมัน
ทุกคนตั้งใจฟังผมมาก หลายครั้งที่ไอ้คม ไอ้กรด ไอ้ต้าจะขัด
แต่อีโมบอกให้เล่าต่อ ผมเลยเล่าเรื่องที่เกิดในวันนี้จนจบ
แต่ข้ามเรื่องที่มันจะทำ...กับผมในห้องน้ำน่ะครับ หึหึ

“กรี้ดดดด เพื่อนได้กับคู่แค้น”อีโมกรี้ดกราดเมื่อรู้ว่าผมกับไอ้ต้า ต่างก็รักคนที่แค้นกันมาตลอด

“เหอ.....กูไม่มีอะไรจะพูด”ไอ้กรดถอนหายใจ

“กูก็ไม่ค่อยเข้าใจ....แต่หากพวกเมิงรัก กูก็ไม่ว่าอะไร”ไอ้คมพูดเหมือนพ่อพวกผมเลยครับ ซึ้งจริงๆ


ผมกับไอ้ต้าล้วนแล้วแต่โล่งอกกับเรื่องที่เก็บงำมานาน และดีใจที่เพื่อนต่างเข้าใจดี
ผมไม่รู้ว่าการรักใครง่ายๆ อย่างผมรักไอ้เบส กับไอ้ต้ารักบูม(หรือเปล่า)
จะเคยเกิดกับใครบ้างมั้ย...รักแรกพบ...ยอมได้เพื่อรัก...มันจะดูน้ำเน่า หรืองี้เง่าไปหรือเปล่า?
แต่ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับใคร เหมือนที่รู้สึกกับไอ้เบส ต่อให้เวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันจะน้อย
และอยู่ด้วยกันทีไร ไอ้เบสก็ด่าผม แต่ผมรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่มีมันอยู่ใกล้ๆ

พอหรือเปล่า...

แค่นี้มันพอหรือเปล่า ที่จะเป็นหนึ่งเหตุผล...

ในจำนวนหลายล้านเหตุผล…

ที่ทำให้ผม...รักมัน
.
.
ผมนั่งคุยกับพวกมันอยู่สักพัก บูมมันโทรมาหาต้า จะรับต้าไปเที่ยว
พวกผมเลยต้องยกทัพกลับบ้าน ผมเลยโทรหาไอ้เบสให้มารับหน้าปากซอย
ผมบอกทางมาบ้านไอ้ต้า มันบอกว่าจะออกไปให้เร็วที่สุด (สงสัยคิดถึงเรา เอิ้ก)

“ไปเดี๋ยวกูไปส่ง”ไอ้คมบอก หลังจากผมว่างสายไอ้เบส

“ไม่เป็นไรว่ะ เดี๋ยวไอ้เบสมารับ”ผมบอกตามตรง

“นี่แหละเนอะ ได้แฟนแล้วลืมเพื่อน”ไอ้คมแกล้งพูดน้อยใจได้น่าถีบมากๆ

“ไม่เป็นไรคม อย่างน้อยก็ยังมีเรา”ไอ้โมกระโดดขึ้นที่ว่างด้านหลังรถ แล้วกอดหลังไอ้คมแน่น

“หึหึ ทันทีน่ะเมิง”ไอ้คมหัวเราะ ผมก็พลอยหัวเราะไปด้วย

“แล้วเมิงอ่ะกรด ไม่ไปรับแฟนบ้างเหรอ”ผมถามไอ้กรดที่นั่งขำไอ้โมอยู่บนรถ

“ตอนนี้กูโสดโว้ย”ไอ้กรดท่าทางภูมิใจ

“เลิกคราวนี้ไม่สนใจผู้ชายบ้างเหรอว่ะ”ผมถามมันขำๆ

“ก็ว่าจะลองดู ไม่รู้ผู้ชายกับผู้ชายมันสนุกตรงไหน เหะๆๆ”

“แล้วแฟนเมิงอ่ะคม”ไอ้ต้าถาม

“เลิกกันตามคาด เบื่อ...กูว่าจะลองผู้ชายอยู่เหมือนกัน เหะๆ”ไอ้คมมันพูดเหมือนไอ้กรด
ผมอยากรู้จริงๆ ว่าหากมันมีแฟนเป็นผู้ชาย พวกมันจะทำไง

“ถ้าเมิงไม่รักเขา ก็อย่าเลยว่ะ....แต่ถ้าเป็นกู เมื่อไรนัดมา...”ไอ้โมพูดเสียงเครียดในตอนแรก
แต่พอประโยคหลัง มันทำเอาพวกผมหัวเราะกันไม่หยุด

แต่มันก็จริงอย่าที่ไอ้โมบอก ถ้าไม่รักก็อย่าดีกว่า เพราะ...เกย์...ก็มีความรู้สึก

ผมเดินออกมารอไอ้เบสหน้าปากซอย แดดร้อนมากๆ แต่ไม่นานมันก็มา
มันแต่งตัวเสื้อยืด เกงยีนต์ธรรมดา มีหมวกสีขาวที่มันใส่กันแดด
ผิวขาวของมันเข้ากับเสื้อสีชมพู เห็นแต่ไกลแล้วน่ารักน่ากอดมากๆ
ผมขึ้นซ้อนท้ายมอไซค์ไอ้เบส หลังจากไม่ได้นั่งกับมันมานาน

“จะไปเที่ยวไหนมั้ย”ไอ้เบสหันมาถามผม

“อืม ไปหาอะไรกินมั้ย เรายังไม่กินข้าวเช้าเลย”ผมมองนาฬิกาเวลาใกล้เที่ยงแล้ว

“ได้ครับ”ไอ้เบสพูดจบ มันก็เอาหมวกที่มันใส่อยู่มาครอบให้ผม

จุ๊บ........

มันหอมแก้มผมทีหนึ่งก่อนออกรถ ผมได้แต่นั่งอึ้ง เพราะในซอยมีคนขับรถไปมา
ถึงไม่ได้มากก็เหอะ มันก็อายอยู่ดีนั้นแหละ (แต่ก็มีความสุข)
ไอ้เบสหันมองผมทางกระจกรถพร้อมกับเลิกคิ้วกวนๆ ผมแลบลิ้นใส่มัน
มันหัวเราะชอบ จากนั้นก็เอามือผมไปกอดเอวมันแน่น ทั้งที่อากาศก็ร้อน เหะๆ

ไอ้เบสไปถึงที่ร้านปรากฏว่าที่นั่งเต็ม เพราะตอนนี้พนักงานอยู่ในช่วงพักเที่ยงพอดี
ผมเลยเสนอความคิดว่าซื้อไปกินที่บ้าน ไอ้เบสมันก็เห็นด้วย ผมเลือกกับข้าวมาสองสามอย่าง
ส่วนใหญ่จะเป็นพวกผัก และคิดว่าไอ้เบสมันชอบ เพราะดูจากร่างกายของมันดูเหมือนคนรักสุขภาพ
ผมซื้อเสร็จไอ้เบสก็จ่าย เหอ...ตอนแรกแย่งกันครับ แต่ไอ้เบสบอกว่าผัวที่ไหนให้เมียเลี้ยง
ผมเลยต้องยอมให้มันจ่าย เพราะถูกของมัน หึหึ

หลังจากนั้นเราก็พ้นไปร้านเช่าหนัง เพราะวันนี้มีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งวัน ไอ้เบสบอกว่ามันว่าง
ซึ่งมันก็ว่างทุกวันอยู่แล้วแหละ มันเลือกเรื่องหนึ่ง ผมเลือกสองเรื่อง เพราะมันช่าสิงฟรีหนึ่ง

“เบสเลือกเรื่องไรอ่ะ”ผมถามไอ้ไอ้เบสที่เลือกอยู่ในมุมหนังไทย

“นี่อ่ะ”ไอ้เบสมันยื่นให้ผม ผมดูชื่อเรื่อง...รักสามเศร้า...

“ยิบผิดเปล่า”ผมถามมันสงสัย เพราะนิสัยอย่างมันชอบดูหนังแนวนี้เหรอ

“กูยิบไม่ผิดน่ะ ก็รักสามเศร้าไง”ไอ้เบสมองดูหน้าปก แล้วทำสายตาสงสัย ซื่อๆ

“อืมๆ งั้นไปจ่ายตังค์กันได้แล้ว”ผมกลั่นหัวเราะ เพราะไอ้เบสมันดูซื่อจริงๆ

เราออกจากร้านเช่าหนังโดยผมได้เรื่อง สี่แพร่ง กับเรื่อง ปิดเทอมใหญ่ ส่วนไอ้เบสได้รักสามเศร้า
ที่มันยังไม่รู้ว่าผมแอบขำมันอยู่ ไอ้เบสขับรถมาบ้านผม ซึ่งมันก็ไม่ไกลมาก พอมาถึงเบสมันถามผมทันที

“แม่อยู่บ้านเหรอ เห็นรถอยู่” ผมลืมไปว่าไม่ได้บอกเรื่องที่แม่ย้ายไปเชียงใหม่ให้มันรู้

“เปล่า แม่เราจอกรถไว้บ้าน”ผมตัดสินใจไม่บอกมันดีกว่า
เดี๋ยวมันเกิดทำอะไรขึ้นมาจะได้อ้างว่าแม่อยู่ เหะๆ

ผมเข้าไปในบ้านเตรียมจานช้อนออกมาตั้งไว้หน้าทีวี ไม่รู้น่ะผมเป็นคนชอบดูทีวีไปด้วย
กินข้าวไปด้วย ไอ้เบสมันก็เริ่มแกะกับข้าวใส่จานจนหมด แล้วเอาข้าวเปล่าที่ซื้อมาด้วยแบ่งกัน
ไอ้เบสมันเอาข้าวไปน้อยมาก ผมเลยถามว่าไม่หิวเหรอ ไอ้เบสก็บอกว่าพึ่งกินมา ผมก็ไม่ถามอะไรต่อ ไอ้เบสกินข้าวเหมือนพยายามฝืน ผมเห็นแล้วก็สงสัยเลยตัดสินใจถาม

“ไม่อร่อยเหรอ”ผมถาม

“เปล่า กูอืดๆท้อง เพราะพึ่งกินมา”ไอ้เบสตอบมันพร้อมเปิดพุ้ง ที่ผมไม่เห็นว่ามันจะอ้วนตรงไหน

“อืมๆ”ผมหันมากินข้าวจนหมด ไอ้เบสมันไม่กินตั้งแต่สองคำแรกแล้วครับ
สงสัยมันอิ่มจริงๆ ผมเก็บจานไปล้าง ไอ้เบสมันก็ช่วย พอล้างเสร็จผมก็มานั่งดูหนังกับมัน
เรื่องแรกที่เปิดคือรักสามเศร้า ที่ไอ้เบสเลือก สองชั่วโมงที่ผมนั่งดูแล้วไอ้เบสมันนอนเอาหัวหว้บนตัก ผมว่าเรื่องนี้ทำเอาผมเสียน้ำตาจนได้ ไอ้เบสมันไม่ได้น้ำตาไหลสักหยด

“ไม่เศร้าเหรอ”ผมถามมันตอนไปเอาแผ่นออกจากเครื่องเล่น

“เศร้ามาก หนังดีด้วย”ไอ้เบสน้ำสียปกติ แต่กูไม่เห็นว่าเมิงจะเศร้าตรงไหน

ไอ้เบสใส่แผ่นเรื่องปิดเทอมใหญ่ที่ผมเลือก แล้วกลับมานอนดูบนตักเหมือนเดิม
เรื่องนี้ดีหน่อยไม่เศร้าครับ รักสดใส แถมมีอมยิ้มด้วย พอนั่งจบผมก็สงสัยทำไมไอ้เบสไม่ลุก

“อ่าว..หลบตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”

ผมมองไอ้เบสที่นอนหลับเหมือนเด็ก มันดูน่ารักไม่มีพิษภัย ใสซื่อ แต่นิสัยมันเป็นไง
อันนี้ผมไม่แน่ใจ เพราะผมยังรู้จักมันไม่ดีพอ บ้างครั้งผมเหมือนจะเข้าใจ แต่มันก็ไม่ใช่
ไอ้เบสเป็นคนเก็บอารมณ์เก่งครับ แต่หากมันซื่อมันก็ซื่อไปเลย บ้างทีผมอาจจะเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลย ผมก้มลงจูบแก้มไอ้เบส แต่ไม่ตั้งใจให้มันตื่นเลย

“อื่อ....หนังจบแล้วเหรอ”ไอ้เบสพูดเมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นผมมองมันอยู่แล้ว

“จบแล้ว ง่วงก็นอนต่อเลยไม่เป็นไร”

ไอ้เบสลุกขึ้นบิดตัวไปมา แล้วนั่งลงข้างผมเหมือนเดิม มันนั่งมองผมเหมือนมีอะไรอยู่บนหน้า
ผมเลยเอามือลูบๆ มันก็เอามือผมออก แล้วมองต่อ
ผมยิ่งสงสัยใหญ่ แต่ก็รีบหลบตามัน เพราะไอ้นี่สายตามันดูแปลกๆ จนผมชักขนลุก

“เป็นอะไร”เบสถามผมที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมมองหน้ามัน

“เปล่า แล้วนายเรามองทำไม”ผมพูดไม่มองหน้ามัน

“มองหน้ากูดิ แล้วจะตอบ”ผมเลยต้องมองหน้ามันอีกครั้ง มันก็มองผมด้วยสายตาเหมือนเดิม

“ไหนอ่ะจะบอกอะไร”

“ทำไมกูไม่อยากห่างเมิงเลยว่ะ”

“ไม่รู้ดิ เพราะนายไม่มีเพื่อนคบมั้ง” เหะๆ

“แล้วเมิงอยากอยู่กับกูเปล่า”ไอ้เบสไม่ขำ แต่ถามผมกลับ

“แล้วคิดว่าไงอ่ะ”

“งั้นกูขอจูบเมิงหน่อยดิ”ไอ้เบสบอกผมซื่อๆ

‘สาด....เมิงไม่คิดว่ากุเขินบ้างเหรอว่ะ’ ผมคิดในใจ

ผมไม่ตอบตกลงแต่คิดว่ามันคงรู้ จูบนุ่มลึกของมันทำให้ผมลืมตัว จนเผลอนอนแนบไปกับโซฟา
ไอ้เบสมันได้ทีเลยขึ้นคร่อมผม แต่คราวนี้มันไม่ง่ายหรอกครับ ผมถอดปากออก
แล้วดันตัวมันออกให้นั่งที่โซฟาเหมือนเดิม ไอ้เบสมันยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม
ซึ่งมันคงไม่คิดว่าผมจะไหวตัวทัน ไม่เหมือนตอนอยู่ในห้องน้ำที่สนามกีฬาหรอก ชิชิ

ผมกับไอ้เบสนั่งคุยกันต่อ มันก็ยังหาจังหวะที่ผมเผลอ ลวนลามผมจนได้
แต่แค่จูม หอมแก้ม ไม่เป็นไรมากครับ ให้อภัยได้ แต่หากมากกว่านี้คงต้องคิดหนักหน่อย
จนประมาณสามทุ่ม ไอ้เบสมันถามว่าทำไมแม่ยังไม่กลับ ผมก็ไม่รู้จะโกหกไง
เลยบอกว่าแม่ติดประชุม มันก็พยักหน้างิกๆรับรู้ สักพักอีนัทมันก็โทรมา ถามว่าจะกลับบ้านไหม
ไอ้เบสเลยหันมามองผม ผมก้ได้แต่คิดหนักใจแต่ไม่พูด ไอ้เบสเลยบอกว่ากลับ
มันว่าสายจากอีนัทมันก็บอกว่าจะกลับเลยเพราะดึกแล้ว ผมพอไอ้เบสจะกลับก็เกิดกลัวขึ้นมา
กลัวว่าไอ้เบสกลับไปจะต้องนอนห้องเตียงเดียวกับอีนัท แล้วพาลไปคิดถึงภาพต่างๆ

“เบสจะกลับแล้วเหรอ”ผมถามไอ้เบสตอนมาส่งมันที่หน้าบ้าน

“อืม เพราะเดี๋ยวแม่เมิงก็กลับมาแล้ว”

“เอ่อ...”ผมพูดไม่ออก ไอ้เบสมันก็รอฟังว่าผมจะเอาไง

“นอนกับเราได้มั้ย”ผมตัดสินใจพูดอย่างไม่อาย (หน้าด้านมาก..)

“แม่เมิงไม่ด่าเหรอ”ไอ้เบสสงสัย แต่เห็นมันแอบยิ้ม

“ไม่หรอก พวกเพื่อนเรามันก็เคยมานอน”ผมโกหกไอ้เบส

“ได้ๆ”ไอ้เบสมันตอบแบบไม่ต้องคิดเลย เพราะว่ามันก็อยากนอนอยู่แล้ว

มันโทรไปบอกอีนัทว่านอนบ้านผม แต่กว่าจะคุยกันเสร็จ ก็นานเหมือนกัน
ระหว่างที่รอมันคุยโทรศัพท์ ผมก็หาเสื้อผ้า แปรงสีฟัน แล้วผ้าเช็ดตัวให้มัน
จากนั้นผมก็เข้าไปอาบน้ำ ออกมาอีกทีมันก็นั่งเปิดทีวีดูอยู่ในห้องผมแล้ว

“ไปอาบน้ำดิ เสื้อผ้าเตรียมให้แล้ว”ผมบอกมัน แล้วเดินไปเช็กผมที่เปียก หน้าพัดลมปลายเตียง

ตอนเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมไม่สั่งเกตุหรอกครับว่าไอ้เบสมันจะมองผมยังไง
แต่พอนั่งเช็ดผมสักพักก็มีมือมากอดผมจากด้านหลัง ซึ่งเป็นมือไอ้เบสนั้นแหละ

“ตัวเมิงหอมว่ะ”ไอ้เบสไม่พูดเปล่า เอาจมูกมาดมหลังผมจนทั่ว

“เห้ย จักจี้”

“เมิงอย่าถอดเสื้อให้ใครเห็นยกเว้นกูคนเดียว ได้มั้ย”ไอ้เบสลงไปนั่งที่พื้นตรงหน้าผม

“อืมได้”ผมเห็นหน้าตาจริงจังของมันก็ตลก แต่ก้กลั่นเอาไว้

“เมิง”จู่ๆไอ้เบสมันก็เรียก

“ทำไม”

“กูเห็นเมิงถอดเสื้อ แล้วมันแข็งว่ะ”ไอ้เบสยิ้มกว้างให้ผม แต่ผมรีบออกห่างจากมัน

มันคว้าผ้าเช้ดตัวแล้วเดินหัวเราะเข้าห้องน้ำไปเลย
ผมมองมันจนลับตาและคิดว่าปลอดภัยแล้ว ก็หันมาเช็ดผมแต่

“กูว่าเมิงรีบใส่เสื้อดีกว่า เดี๋ยวคืนนี้เมิงได้เสียวแน่ๆ”

ไอ้เบสเปิดประตูห้องน้ำออกมาบอกผมในสภาพกางเกงในตัวเดียว
ผมตกใจรีบหันไปมอง ทีนี้ก็ได้เห็นเต็มตาเลยครับ ว่าของมันแข็งจนล้นขอบกางเกงออกมา
ผมฟังจบก็วิ่งไปหาเสื้อผ้ามาใส่ อย่างหนา ย้ำว่าหนามาก ไอ้เบสมันก็ร้องเพลงไป
หัวเราะไประหว่างอาบน้ำ จนผมชักไม่แน่ใจว่ามันปกติดีอยู่หรือเปล่า

ตอนมันออกมาผมก็นอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว ไอ้เบสใส่กางเกงที่ผมเตรียมให้
แต่ไม่ใส่กางเกงในตัวใหม่ของผมที่ผมเตรียมให้มัน ร่วมถึงเสื้อด้วย มันเดินเปลือยอก
แล้วที่เป้ากางเกงก็มีไอ้เบสน้อย ดันออกมาเวลามันเดิน จนผมรู้สึกร้อนหนาวไปทั้งตัว

“ฝันดีน่ะครับ”

ไอ้เบสมันจูบปากผมก่อนจะลงมานอนกอดผมแน่น ผมรู้สึกยิ้มจนหน้าร้อนไปหมด
เพราะไอ้เบสมันไม่เคยพูดเพราะอย่างนี้ แล้วหน้ามันก็ทาแป้งผมจนหอมไปทั่วตัว
ผมกดปิดไฟที่หัวเตียง ตอนนี้ทั้งห้องก็มืดหมด

“ฝันเหมือนกันครับ”

ผมบอกมันแล้วจูบมันที่ปาก ไอ้เบสยังไม่หลับ มันกอดผมแล้วเอาหน้าผมไปซุก
ไว้กับอกของมัน ผมอุ่นมาก แล้วมีความสุขมากด้วย

คืนนั้นผมกับไอ้เบสไม่ได้มีเซ็กซ์กัน แต่ผมรู้สึกดีกว่ามีอะไรกันอีกน่ะครับ
เพราะได้รู้ว่าไอ้เบสมันไม่ได้ต้องการอยู่กับผมเพื่อเซ็กซ์ แต่เพราะมันรักผม
ผมนอนหลับไปด้วยรอยยิ้ม ไม่ใช่หลับด้วยน้ำตาเหมือนทุกๆคืน
และคิดว่าอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป

...

ปล.ขอบคุณมากๆน่ะครับ...

อาจเป็นเพราะผมยังไม่เข้าถึงอารมณ์ของตัวละครตัวนั้น
เลยทำให้ผมเขียนออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไร ไงขอโทษด้วยน่ะครับ

จะพยายามครับ



ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
ตอนที่ 41 หากันจนเจอ


ในตอนเช้าขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นจากเตียง ไอ้เบสมันก็รู้สึกตัวขึ้นมา แล้วมันก็ลากให้ผมลงไปนอนกับมันต่อ แต่ผมไม่ยอม เลยเกิดการต่อสู้ สุดท้ายผมใช้ท้าไม้ตาย ไซร้คอไอ้เบสจนมันรอซืด...
พอมันเผลอ ผมก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที แต่พออกมา มันก็นอนหลับเหมือนเดิม ผมเลยไปนั่งดูทีวีอยู่ปลายเตียงโดยไม่ได้ปลุกมัน

“อือ........”เสียงไอ้เบสตื่นนอน ผมนั่งดูการ์ตูนโปเกม่อนอยู่ มันก็คงเห็นว่าผมไม่สนใจ
เลยเข้ามานั่งชิดด้านหลัง จนไอ้เบสน้อยที่แข็งเต็มที่ก็มาดันอยู่ที่ก้น

“เบส เอาออกไปไกลๆเลย”ผมสั่ง

“อะไรของเมิง”

“ไอ้แข็งๆอ่ะ เอาออกห่างๆจากก้นเราหน่อย”ผมบอกให้ชัดขึ้น สายตาก็นั่งจ้องอยู่ที่ทีวี

“อะไรอ่ะ แข็งๆ กูไม่รู้จัก”ไอ้เบสแกล้งโง่ เพราะจริงๆมันต้องการแกล้งผม

“จะไม่ไมทำ”

“งั้นเมิงถอดกางเกงดิ กูจะได้ทำสักที หึหึ”ไอ้เบสมันหื่นจริงๆครับ
 ผมหันมองหน้ามัน มันก็ยักคิ้วล้อเลียน

“จะเอาก็ได้ แต่หลังจากนี้ก็อย่าหวัง ตกลงน่ะ”ผมทำทีเป็นลุกขึ้นถอดเสื้อผ้า แต่ไอ้เบสร้องห้ามไว้ซะก่อน

“เออ ไม่เอาก็ได้ว่ะ แต่เมิงต้องอาบน้ำพร้อมกู”ไอ้นี้มันยังมีต่อรองอีกน่ะครับ

“แล้วทำไมเราต้องอาบกับนาย”

“เพราะเมิงไม่ให้กูเอา”อ่าว...กูผิดใช่มั้ย ที่กูกลัวเจ็บ

“เราให้เอา แต่เป็นครั้งสุดท้าย”ผมพูดอย่างนี้ แต่จริงๆหากมันต้องการผมก็ยอมแหละครับ

“อืม ไม่เอาก็ได้”

ไอ้เบสพูดจบก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปเลย ผมสงสัยว่ามันโกรธอะไรหรือเปล่าที่ผมไม่ให้เอา
เพราะผู้ชายมันอึกอัดใช่มั้ย หากไม่ได้ปลดปล่อย แล้วผมก็เป็นแฟนมัน เรื่องอย่างนี้
หากแฟนไม่ทำให้แล้วใครจะทำ งั้นแสดงว่าผมเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลยดิ

ผมนั่งดูโปเกม่อนอีกใจหนึ่งก็อยากดูต่ออีกใจหนึ่งก็แคร์ไอ้เบส ผมมองประตูห้องน้ำ
สลับกับหน้าจอจนปวดหัว เลยตัดสินใจเดินไปเคาะประตูห้องน้ำเรียกไอ้เบสดีกว่า

ก๊อก-----ก๊อก------ก๊อก

“เบสโกรธเราเปล่า”ผมตะโกนถามมันแล้วรอสักพัก แต่มันก็ไม่ตอบกลับมา

“เบสเปิดประตูหน่อย”ไอ้เบสชักเหมือนเด็กๆน่ะครับ ขี้งอน ผมเรียกอีกที มันก็ไม่เปิด
เลยลองบิดลูกบิดประตูดู ปรากฏว่ายังไม่ล็อก

“เราเข้าไปน่ะ”ผมบอกมัน แต่มันไม่ตอบ เลยตัดสินใจแง่มประตูดู เพราะกลัวไอ้เบสมันมีแผน
จนประตูเปิดกว้างออก ผมเห็นมันนอนหมดสติอยู่บนพื้นห้องน้ำในสภาพเปลือย ตอนนี้ผมไม่มีเวลาอาย เพราะกำลังตกใจ วิ่งเข้าไปหามัน แล้วเอาหัวมันมาหนุนที่ตัก

“เบสเป็นไร....เบสได้ยินเราไหม”ผมตบหน้ามันเบาๆ เพื่อให้มันฝื้น แต่มันก็ยังหลับนิ่ง

“เบส......เป็นไร เบส เบส ตื่นดิเบส เบส”ผมพยายามปลุกมัน และรู้สึกตกใจมาก น้ำตากับน้ำที่ไหลจากฝักบัวปนกันจนแยกไม่ออก  ผมกำลังจะลุกขึ้นไปโทรศัพท์เรียกรถโรงพยาบาล แต่มือไอ้เบสมันจับผมไว้ซะก่อน

“เบส เป็น....”ผมก้มลงมองหน้ามัน ก็เห็นมันกำลังยิ้มอยู่ เลยรู้ว่าโดนมันแกล้ง ผมหงุดหงิดมาก
เอาหัวมันออกจากตัก โดยไม่สนใจว่าหัวมันจะโดนกับพื้นหรือเปล่า

โอ้ย...............

ผมกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ กลับต้องหันไปมองมันอีก ตอนนี้ไอ้เบสกุ้มหัวแน่น ผมรู้ว่าตัวเองเป็นคนทำให้มันเจ็บ เลยกลับลงไปนั่งข้างมันเหมือนเดิม และแกะมือที่กุ้มหัวอยู่ออก เพื่อดูว่ามีบาดแผลหรือเลือดออกหรือเปล่า จนเมื่อเห็นหน้าไอ้เบสที่ยิ้มอย่างภูมิใจ เลนยรู้ว่ามันลอกผมได้สำเร็จอีกครั้ง
“เฮ้ยยยย อย่าพึ่งไปดิ”ไอ้เบสจับมือผมไว้ เพื่อไม่ให้ผมลุกออกจากห้องน้ำ

“ปล่อย”ผมพูดเสียงแข็ง

“เมิงโกรธเหรอ”

“เราก็คนน่ะเบส”ผมมองมันตาขว้าง ถามมาไม่คิดเลยน่ะเมิง

“เห้ย กูขอโทษ กูแค่อยากให้เมิงอาบน้ำด้วยกันก็เท่านั้นเอง”

“แล้วไม่คิดถึงใจเราบ้างเหรอ ว่าเราเสียความรู้สึกขนาดไหน ที่รู้ว่าเบสโกหก”

“กูขอโทษน่ะที่เล่นอะไรไม่คิด....เบสขอโทษน่ะครับ”

ไอ้เบสเอาหน้าผากผมไปชนกับหน้าผากของมัน ขณะที่น้ำจากผักบัวก็ไหลรดตัวเราสองคน
ปลายจมูกที่ชนกันมันทำให้ผมรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ
ผมนั่งนิ่งปล่อยให้มันทำอย่างนี้อยู่เป็นนาน เพราะข้างในตัวผมรู้สึกดีอย่างประหลาด
แล้วความหงุดหงิดในตัวกลับหายไป เหลือแค่ความอบอุ่น และความรู้สึกดีๆที่คนตรงหน้า
พยายามส่งผ่านให้ผม ได้รับรู้

“กูขอโทษน่ะ ไม่คิดว่าเมิงจะเป็นห่วงขนาดนี้”สายตาของไอ้เบส มันทำให้รู้ว่ามันสำนึกผิดจริงๆ

“แล้วทีหลังอย่าเล่นแบบนี้อีกน่ะ”ผมใจอ่อน

“ครับ...ไม่เล่นอีกแล้ว”ไอ้เบสพยักงิกๆ แต่มันกลับยิ้มที่มุมปาก

“แต่มันก็ดีน่ะ...เพราะได้รู้ว่าเมิงรักกู”คำพูดไอ้เบสทำให้ผมหน้างอ แต่กลับมายิ้มได้อีกครั้ง

สรุปในวันนั้นผมก็ต้องอาบน้ำกับมันสองคน โดยไอ้เบสใช้ขออ้างที่ว่า

“เสื้อเมิงเปียกแล้ว งั้นอาบน้ำด้วยกันเลยน่ะ”

แต่ผมขัดขืนไม่อาบน้ำกับมัน เพราะกลัวเกิดเหตุเสียตัวครั้งที่สอง เหอะๆ
แต่ไอ้เบสมันบอกว่าจะไม่ทำอะไรผม จนกว่าผมจะยอมมันเอง ผมเลยโล่งใจ
แต่ก็แอบกลัวใจตัวเองเหมือนกัน เพราะสภาพไอ้เบสตอนนี้ไม่หลงเหลืออะไรปกปิด
ส่วนผมถอดกับไม่ถอดก็มีค่าเท่ากัน เพราะเสื้อกับกางเกงที่ผมใส่อยู่ มันบางจนเห็นกางเกงใน
แถมกางเกงในก็ยังขาวอีกด้วย ไอ้เบสจึงหาโอกาสที่จะลวนลามผมตลอด จนผมต้องหันไปทำตาขว้าง แต่แทนที่มันจะสำนึก มันกลับหัวเราะถูกใจ พอตอนถูสบู่ ผมหันไปมองหน้าไอ้เบส
เพราะใส่เสื้อผ้าอยู่ เลยถูไม่ได้ ไอ้เบสเลยแนะนำว่าให้ผมถอด มันพูดง่ายแต่ผมทำใจอยาก
แต่สุดท้ายก็ต้องยอมถอด ให้เหลือแต่กางเกงใน ผมไม่ชินเลยกับการอาบน้ำกับคนอื่น
แล้วยิ่งเป็นไอ้เบสที่กำลังมองผมทุกสัดส่วน มันทำให้ผมเขิน อึดอัด ระแวง ทุกอย่างมันมั่วไปหมด

แล้วยิ่งมันเข้ามาประชิดตัวผม จนมือผมเผลอไปโดนเข้ากับส่วนด้านล่างของมัน
จากที่เคยอ่อน ตอนนี้มันแข็งผง่าเหมือนจะมาสู้กับผม ผมก้มลงไปมอง ด้วยความตกใจ
ไอ้เบสมันบอกว่าผมลวนลามมัน แต่ผมบอกปัดไป บอกว่ามันมาชนเอง แต่ไอ้เบสยังย้ำหนักแน่น
แล้วมันก็บอกให้ผมรับผิดชอบ

ไอ้เบสมันทำตัวเด็กจริงๆน่ะครับ พอผมบอกว่าไม่ มันก็งอแงเหมือนเด็ก ชิชิ
จนผมต้องตอบตกลง ผมไม่รู้ว่ารับผิดชอบในความหมายของมันคือยังไง
แต่พอมันบอกชี้ไปที่ปากผมแล้วก็ชี้ไปที่ตรงส่วนนั้นของมัน ผมรีบสิ่งออกจากห้องน้ำ
โดยไม่เช็ดตัวเลยครับ

ผมออกมาเช็ดตัวด้านนอก ถอดกางเกงในไปตาก เข้าในห้องอีกทีก็เห็นไอ้เบสกำลังทาแป้งอยู่แล้ว
มันหันมายิ้มหน้าตาเจ้าเล่ห์ให้ผม ผมเลยชี้หน้ามันประมาณ เมิงอย่าหวัง แล้วลงไปนั่งหน้าพัดลมเพื่อเช็ดผม ผมกับมันเราแต่งตัวเสร็จก็ลงไปนั่งดูทีวีกันด้านล่าง เพื่อดูหนังที่เหลือให้จบ
สี่แพร่ง..ทำเอาผมตกใจจนสะดุ้งหลายครั้ง ไอ้เบสก็เหมือนกัน บ้างฉากที่ลุ้นมากๆ มันก็จับมือผมแน่น จนเมื่อเรื่องจบ ผมก็ค่อยโล่งอก แต่มันรู้สึกติดตามากๆ  หลังจากดูหนังกันเสร็จ ผมกับมันก็ออกไปกินข้าวกันข้างนอก เพราะไม่มีใครทำอาหารเป็น พร้อมเอาหนังไปคืนด้วย  ผมกับมันกลับมาปบ้านประมาณช่วงเย็นๆ มันนั่งกอดผมดูทีวี เพราะไม่มีอะไรทำ ผมนั่งไปเรื่อยๆก็คิดถึงเรื่อง
อีนัทขึ้นมา เลยตัดสินใจถามไอ้เบส

“เบส...ทำไมนายถึงบอกเลิกนัทล่ะ เห็นว่านายรักนัทมากไม่ใช่เหรอ”ผมถามไอ้เบสถึงปัญหาที่คาใจผมอยู่

“ใคร?.....บอก”เบสทำสีหน้าสงสัย

“บูมกับพี่ซัน”

“แล้วเมิงเชื่อเปล่าล่ะ”ไอ้เบสถามผมกลับ

“เราเชื่อ”ผมพยักหน้ายอมรับ

“ทำไมเมิงถึงเชื่ออย่างนั้น”

“ก็หากนายไม่รัก นายจะกลับไปหาเขาอีกทำไม ในเมื่อเขาบอกเลิกนายแล้ว”

“แล้วทำไมต้องคิดว่าเพราะรัก ที่กลับไป”ไอ้เบสมันถามมากอีก
สรุปคือมันถามผม ไม่ใช่ผมถามมัน

“แล้วที่นายประชด อ่ะ..เอ่อ....ไปนอนกับคนอื่นๆ หากไม่ใช่เพราะรักนายทำเพื่ออะไร”

“เพื่อสนุก”คำตอบสั้นๆของมัน แต่ทำให้ผมงง

“เพื่อสนุก แล้วทำไมต้องไปหานัทถึงกรุงเทพด้วยล่ะ”ผมยังไม่หยุด

“ใครบอกว่ากูไปเพื่อจะเจอนัท ที่กูไปเพราะเรื่องเรียนต่างหาก”อ่าว กูคิดไปเองเหรอว่ะ

“เอ่อ.........”ผมนั่งอ้าปากค้าง เพราะเรื่องที่คิดมันกลับตรงข้ามกันหมด ไม่คิดว่าที่ไอ้เบสจะทำไปทั้งหมด กับอีนัท อีปอ แล้วคนอื่นๆที่มันนอนด้วยเพื่อสนุก  จนเมื่อคิดมาถึงตัวเอง ที่ไอ้เบสมันทำกับผม มันคงไม่ใช่แค่เรื่องสนุกใช่มั้ย ผมได้แต่เก็บเอาไว้เพราะไม่กล้าถาม กลัวจะเป็นการไม่เชื่อใจ
แล้วอีกอย่างหากที่มันทำมาทั้งหมด เพื่อสนุก อย่างนี้ผมคงตายแน่ๆ

“มีอะไรจะถาม ถามมาเลย”ไอ้เบสยักคิ้วล้อเลียนผม

“แล้วนายคิดว่าเรากับนัทคล้ายกันเปล่า”ผมถามเพราะคิดถึงเรื่องที่บุมเคยบอก
ว่าที่ไอ้เบสมันแกล้งผม เพราะผมหน้าตาเหมือนอีนัท

“ไม่”ไอ้เบสบอกผมและผมก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะตอนเห้นอีนัทครั้งแรก
ผมยังหาความคล้ายในตัวมันกับตัมผมไม่เจอเลย เพราะผมน่ารักกว่า กร๊ากกก

ผมหมดคำถามที่จะถามมันแต่ในลึกๆก็ยังมีปัญหาคาใจอยู่ และคิดว่าผมจะไม่ถามมัน
จนกว่ามันจะบอกผมเอง ว่าที่มันทำมาทั้งหมดกับผมเพื่อความสนุก ตอนนี้ผมอยู่กับมัน
รู้สึกมีความสุข และไม่อยากจะเป็นเหมือนเก่าอีกแล้ว การมีให้เรารัก ให้เราห่วงใย
ผมว่าแค่นี้มันก็เกินกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้แล้วล่ะครับ
.
.
.
วันต่อมาผมกับมันตื่นขึ้นมาพร้อมกันซึ่งไอ้เบสมันก็ยังนอนบ้านผมอยู่ และแอบสงสัยเรื่องแม่
แต่ผมก็บอกว่าแม่ออกจากบ้านเร็ว มันก็ไม่ถามอะไรต่อ ผมกับมันเราอาบน้ำด้วยกันอีก
คราวนี้ ผมยอมให้ไอ้เบสจูบกับอาตัมมาเบียดผมได้ แต่เรื่องอย่างว่า ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
ยังไม่มีอะไรที่ทำให้ผมเสียประตูครั้งที่สองได้เลยครับ

“กินข้าวเสร็จ แล้วค่อยไปดูหนัง กับเดินเที่ยวกัน”ผมเสนอความคิด

“แล้วตอนค่ำไปทะเล”

ผมกับมันนั่งคิดกันเรื่องเที่ยวกับเรื่องอาหารวันนี้ เพราะวันนี้ว่าง(อีกแล้ว)
ผมกับมันเลยนัดออกเดท เห้ย นัดกันเที่ยว ไอ้เบสมันบอกว่าอยากไปทะเลตอนกลางคืน
ผมก็ไม่เคยไปหรอก แต่มันบอกว่าอากาสดี (อันนี้ต้องพิสูจน์)

“งั้นชวนพวกเพื่อนเราไปด้วย ได้มั้ย”

“ได้ แต่พวกเพื่อนเมิงไม่โกรธกูแล้วเหรอว่ะ”ไอ้เบสดูท่าคิดนัก เพราผมยังไม่บอกเรื่องที่พวกเพื่อนผม รู้เรื่องที่ผมคบกับมันแล้ว

“ไม่แล้ว พวกมันเขาใจเรา”ผมเห็นมันเบาใจขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบจากผม

ผมกับมันตัดสินใจกันเรื่องเที่ยวได้แล้ว ส่วนเรื่องกิน ผมบอกว่าไปกินร้านคุณปู่ ซึ่งเป็นส้มตำ
ที่ผมเคยไปกินแล้ว อร่อยด้วย ไอ้เบสก็ตอบตกลง ผมจึงโทรนัดแนะพวกเพื่อนๆ พวกมันตอบตกลง
ว่าเจอกัน ผมกับไอ้บสเลยออกจากบ้านกันตอนนั้นเลย ผมไปถึงร้านอย่างรวดเร็ว
และผมกับไอ้เบสก็ไปกันคู่แรกจรีงๆด้วย ผมเข้าไปนั่งในร้าน คนเยอะหน่อยครับ แต่ยังพอมีที่ว่าง
ผมกับไอ้เบสเดินผ่านโต๊ะผู้หญิง ก็เห็นทั้งโต๊ะหันมามองพวกผม แล้วมุ้งความสนใจไปที่ไอ้เบส เพราะการแต่งตัวมัน........ดูดี เพราะมันไปยืมเสื้อผ้าบูมมาใส่ มันใส่ของผมไม่ได้
ขนาดตัวมันใหญ่อ่ะ

“สั่งน้ำมากินก่อนมั้ย”เบสถามผม แล้วเขียนในใบสั่งอาหารหลังจากหาดตะได้แล้ว

“เราเอาน้ำแครอท”

“กินเหมือนกระต่ายเลยว่ะ”ไอ้เบสยิ้มให้ผม

“อ่าว ทำไม มันผิดเหรอว่ะ”ผมพูดจาหาเรื่อง เหมือนนักเลง แต่ไอ้เบสหลุดขำ

“เมิงเป็นนังเลงไม่ได้หรอก เป็นได้แต่...”ไอ้เบสพูดแล้วหยุด

“ได้แต่อะไร พูดให้จบ”ผมหงุดหงิดอยากรู้

“เอาหูมาใกล้ๆ จะบอก”ไอ้เบสทำลับๆล่อๆ มีพิรุธ ผมก็พลอยสงสัย แต่ไม่ทันระแวงถึงภัยที่มาถึง

“อะไร”ผมถามมันแล้วเอาหูไปใกล้ๆกับปากมัน

จุ๊บ.......................

“เป็นได้แต่เมียกู”ไอ้เบสจูบแก้มผม แล้วบอกถึงสิ่งที่มันพูดค้างไว้

ผมจะผละออกก็ไม่ทันแล้วครับ เพราะมันทำไปเรียบร้อยแล้ว
ผมได้แต่ทำหน้าตาเหร่อหร่าเพราะอึ้ง คนนั่งอยู่โต๊ะข้างๆมันก็ไม่สนใจ
แถมอีโต๊ะผู้หญิงเมื่อกี่ก็ยังมองอยู่ แถมกำลังจับกลุ่มแล้วพูดอะไรก็ไม่รู้ที่ผมคากว่าน่าจะนินทา

ไอ้เบสยิ้มอย่างถูกใจ ส่วนผมหน้าแดง ก็สิ่งที่มันทำไว้ ไม่ให้เขินก็บ้าแล้วครับ
เอาดูดิ ดูมันยิ้มครับ ดูมัน แล้วแบบนี้ผมจะไม่ยิ่งเขินได้ไงว่ะ

ผมนั่งมองหน้ามันพร้อมกับมองคนข้างๆว่ายังสนใจอยู่มั้ย ซึ่งนอกจากโต๊ะผู้หญิงแล้ว
ก็ไม่มีใครมองอีก ผมกับำอ้เบสนั่งรอที่สั่งไปสักพัก โทรศัพทืไอ้เบสก็มีใครโทรเข้ามา ผมขอเดาว่าดเป็นอีนัท

“โหลนัท”เบสรับโทรศัพท์ของคนที่ผมพึ่งเดาไป
-
“อยู่ร้านอาหาร”
-
“อืมๆ แปปน่ะ”เบสบอกปายสาย

“นัทจะมาด้วย”เบสหันมาถามผม ผมก็พยักหน้า เพราะหากบอกว่าไม่ มันก็น่าเกลียดใช่มั้ยครับ

“ได้ๆ”เบสไปคุยต่อ
-
“อืมๆโอเค”เบสวางสาย แล้วทำสีหน้าทุกข์ใจ ซึ่งผมเองก็พอเข้าใจ

“นัทให้กูไปรับ”เบสบอกผม

“อืม เรารอที่น่ะ”ผมพยายามทำน้ำเสียงใส แต่จริงๆแล้วข้างในเหมือนจะร้องไห้

“เดี๋ยวกูมา จุ๊บ......”

ไอ้เบสก้มลงมาหอมแก้มผมอีกทีก่อนไป แต่ผมเพียงแค่ยิ้มฝืดๆให้มัน ไม่อายหรือใจเต้น
มันรู้สึกเหมือนกำลังเสียอะไรไป หรือจริงอย่างที่ใครๆบอก...หากเราได้อะไรมาง่ายๆ
มันก็จะจากเราไปเร็วเสมอ… ความรักที่ไอ้เบสได้จากผม มันไม่จำเป็นจะต้องพิสูจน์อะไรเลย
แค่เพียงคำพูดของมัน ผมก็ใจอ่อน และยอมรับให้มันเข้ามาอีกครั้ง ทั้งที่ยังกลัวเจ็บ

หรือเพราะผมที่พยายามยึดและดึงให้มันเข้าหาตัวเองให้เร็วที่สุด โดยไม่สนว่าอนาคตจะเป็นยังไง
ไม่สนว่ามันจะเคยบอกรักผมหรือไม่ หรือแม้แต่เรื่องที่มันบอกว่า...เพื่อสนุก...
การมีอะไรกับคนอื่นเพื่อสนุก ผมเริ่มกลัวว่ามันจะเป็นจริง เหมือนที่มันทำกับหลายๆคน

“เดี๋ยวเบสก็กลับมา อย่าคิดมา”ผมบอกตัวเอง

แต่นั้นสิไม่รู้ทำไมผมถึงกลัว ตลอดเวลาที่ผมอยู่กับมัน มันทำหลายๆอย่างให้ผมยิ้มออก
แล้วหาวันนี้มันไปทำอย่างนั้นกับอีนัท ผมล่ะ จะเป็นยังไง

“เมิงแย่งเขามาน่ะ” คำพูดหนึ่งดังขึ้นในหัวผม

ตัวผมเองอาจจะรู้สึกผิด แต่ในเมื่ออีนัทไม่เคยรักเบส แบบนี้จะเรียกว่าแย่งหรือเปล่า
เบสรักผม....ผมคิดอย่างนั้นน่ะ...เพราะรู้สึก...แต่ไม่เคยได้ยินจากปากเบส

ผมกังวลจนแทบนั่งไม่ติด แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งจ้องมองน้ำแครอทที่พนักงานพึ่งเอามาเสิร์ฟ
ตอนแรกรู้สึกหิวข้าวมาก แต่ตอนนี้กลับกินอะไรไม่ลง ผมนั่งรอเหมือนคนอกหัก


ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
โว้ยยยยยยยยยย......

“กูเป็นไรว่ะ”ผมเผลอร้องเสียงดังออกมา จนทั้งร้านหันมามอง แต่ผมไม่สนใจ..


เห้ยยยยยยยยยย......

“เป็นไรว่ะ”ไอ้โมวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในร้าน รวมถึงไอ้คม ไอ้กรด ไอ้ต้าแล้วก็บูม

“มานานยัง”ผมถามน้ำเสียงไม่ตกใจหรือแปลกใจที่เห็นพวกมัน

“มาถึงตอนเมิงตะโกนนั้นแหละ กูตกใจหมดนึกว่าอะไรเข้าสิง”ไอ้กรดพูดแล้วนั่งลงข้างผม

“กูก็นึกว่าเมิงเป็นอะไร...แล้วนี่ไอ้เบสไปไหนว่ะ”ไอ้ต้าพูดจบก็นั่งลงอีกคน แล้วตามด้วยคนอื่นๆ

“นั้นดิ แล้วเมื่อคืนเบสไปนอนบ้านต่ายเหรอ”บูมถามเสียงอยากรู้ คนอื่นๆเลยพลอยสนใจไปด้วย

“แล้วเมิงมีอะไรกันแล้วใช่มั้ย”เห้ย........อีโมมัน เมิงถามกูตรงไปเปล่า

“แล้วแฟนไอ้เบสกลับกรุงเทพยังว่ะ”ไอ้คมถาม แล้วเอาน้ำแครอทผมไปดูดจนเกือบหมด


ผมสะบัดความคิดไอ้เบสออกจากหัวชั่วคราว แล้วหันมาตอบคำถามพวกมัน

“ไอ้เบสกับบ้าน...แล้วเมื่อคืนมันก็นอนบ้านกู...แต่ไม่ได้มีอะไรกัน...ส่วนอีนัท เบสกำลังไปรับ
เดี๋ยวก็คงเจอกัน”พวกมันมองผมด้วยสายตาคิดนัก

“มันเลือกใครกันแน่ว่ะ อีนัทหรือเมิง”ไอ้ต้าน้ำเสียงหงุดหงิด โดยมีบูมจับไหลอยู่ข้างๆ

“กูคิดว่าบูมเหลือกู”ผมพูดอย่างไม่มั่นใจ

“คิดว่า....งั้นแสดงว่าไม่แน่ใจอ่ะดิ”ไอ้ต้าถามกลับ

“ใจเย็นๆก่อนดีกว่า...”ไอ้ต้าหันไปทำตาขว้างใส่บูมที่เป็นคนพูด

“พวกเดี๋ยวกันมันก็ต้องเข้าข้างกันดิว่ะ”ไอ้ต้าพาลไปทะเลาะกับบูม จนผมต้องร้องห้าม

“กูว่าอย่าพึ่งคิดอะไรเลยต่าย เมิงรอถามเจ้าตัวจริงๆน่าจะดีกว่า”อีโมเสนอ ซึ่งมันก็ทำให้ผมเริ่มใจเย็นลงหน่อย

“เออๆ คิดมาก เอาเป็นว่ากินก่อนแล้วกัน...”ไอ้คมพูดจบก็ยิบปากกาขึ้นมาเขียนเมนูอาหาร

แล้วช่วงเวลานั้นพวกมันก็สั่งอาหารมากินกันหลายอย่าง ทั้งส้มตำ น้ำตก หมูย่าง บร้าๆๆ...
แต่ผมกินไม่ลง เพราะนั่งรอไอ้เบสอยู่ นั่งรอจนพวกเพื่อนผมมันบังคับให้ผมกิน ไม่งั้นพวกมันก็จะไม่กินด้วย ผมเลยจำใจต้องกิน แต่กินไปแค่คำสองคำก็ไม่อยากกินต่อ ถึงแม้อาหารจะอร่อย
แต่หากเราไม่สนใจ มันก็กลายเป็นอาหารธรรมดาๆ ที่เราเบื่อเท่านั้นแหละครับ

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป อาหารที่เคยเต็มโต๊ะก็หมดไปด้วยฝีมือพวกมันที่กำลังนั่งเงียบมองผมอยู่ห่างๆ
ส่วนไอ้เบสกับอีนัท ผมไม่แน่ใจว่าไอ้เบสจะจำทางได้มาได้หรือเปล่า หึหึ มันคงไม่ลืมหรอกน่ะ
 ว่าผมคนที่เป็น...แฟน...มันจะนั่งรอจนกินอะไรไม่ลง

“แล้วเมิงโทรหามันยัง”ไอ้ต้าถาม

“ยัง”

ที่ผมไม่โทรเพราะอยากให้มันโทรมาหาเองมากกว่า
หรือหากมันติดธุระ มันก็น่าจะโทรมาบอกผมสักหน่อยก็ยังดี

“กูว่าเมิงโทรหามันดีกว่าว่ะ เผื่อมันมีเรื่องอะไร...ที่มาไม่ได้”ไอ้โมบอก

คำพูดไอ้โมทำให้ผมนึกถึงอุบัติเหตุ ที่ผมลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป เพราะมั่วแต่หมกมุ่นกับเรื่องอีนัท
ผมรีบกดโทรศัพท์หาไอ้เบส ไม่นานมันก็รับสาย

“โหล...เบสอยู่ไหน”ผมถามน้ำเสียงรีบร้อน

“ใคร...ต่ายเหรอ”ไม่ใช้เสียงไอ้เบสแต่เป็นเสียงอีนัท

“ใช่...แล้วเบสไปไหน”พวกเพื่อนผมทำหน้าสงสัย เมื่อรู้ว่าคนที่รับไม่ใช่เบส

“เบสนอนอยู่ข้างๆมีอะไรฝากบอกหรือเปล่าล่ะ”คำพูดอีนัททำให้ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอจนพูดต่อไปไม่ได้

“อ่ะ...เอ่อ...แล้วเบสเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่มาตามที่นัด”น้ำเสียงผมสั่น จนพวกมันที่ยื่นข้างๆเป็นห่วง

“เบสบอกว่าไม่คิดว่าจะรอ เลยไม่ไป”

“..............”ผมอึ่ง

“มีอะไรอีเปล่า แค่นี้น่ะ..พอดีเรากับเบสมีอะไรต้องทำด้วยกันอ่ะ”ผมเหมือนได้ยินอีนัทหัวเราะเบาๆก่อนจะวางสายไป

ความรู้สึกของผมอยู่ในช่วงเวลาที่วางเปล่า ในหัวไม่มีอะไรลงเหลือ นอกจากภาพเก่าของไอ้เบส
ผมไม่รู้ว่าตัวเองยื่นอยู่อย่างนั้นนานแค่ไหน แต่รู้สึกอีกทีก็ตอนที่ไอ้คมผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำที่หน้า
ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าน้ำอะไร ไอ้โมเข้ามาเหมือนจะกอดปลอบผม แต่ผมกับไม่รู้สึกอะไร...

“ไอ้บูม เห็นเพื่อนเมิงมั้น แม่งเลวจริงๆ”ไอ้ต้ากำลังหงุดหงิดหัวฟัดหัวเหวี่ยง

“อ่าว เราไม่เกี่ยวน่ะ”บูมทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้

ผมร้องไห้จนพวกมันต้องรีบพาผมออกไปนอกร้าน เพราะคนในร้านเริ่มมองกันเยอะแล้ว
อีโมให้ผมนั่งที่ม้าหินอ่อนหน้าร้าน ซึ่งไม่ค่อยมีคนเดินไปเดินมาเท่าไรแล้ว พวกมันยิ่งปลอบ
ก็ทำให้ผมยิ่งร้อง

เรื่องไอ้เบสมันไม่ใช่ครั้งแรกที่มันทำผมเจ็บ แล้วเพื่อนที่อยู่ข้างๆคอยปลอบ มันหลายครั้ง
จนผมแอบคิดว่า หากไม่มีพวกมันจะทำยังไง จะพูดคุยกับใคร จะระบายกับใคร แล้วจะปรึกษา
เรื่องที่ไม่สบาย ที่มันอัดแน่กับใคร

ผมพยายามควบคุมตัวเองให้ได้ ไม่ให้น้ำตาต้องไหลไปมากกว่านี้
และต้องไหลเพราะคนที่มันทำเลวกับผมอีกครั้ง เป็นนานกว่าน้ำตาหยุดไหล
และภายนอกผมเข้าสู่สภาพปกติ  พวกมันเลยนั่งคิดตัดสินใจว่าจะไปไหนต่อดี
เพราะไม่อยากให้ผมกลับบ้าน ซึ่งผมก็เห็นด้วยเหมือนกัน แล้วในที่สุด
เมื่อตกลงกันได้ว่าจะไปเดินเล่นกันที่เปิดท้าย พวกมันก็ออกรถทันที
โดยผมไปซ้อนท้ายกับไอ้คม

ผมเดินล่อลลอยเหมือนผีไร้ญาต หน้าตาไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ ถึงอีโมมันจะพูดตลก
ผมก็แค่ยิ้มให้มัน เชิงว่ากูเข้าใจ และขอบคุรที่พวดเมิงพยายามปลอบ

วันนี้วันศุกร์ซึ่งนักเรียนและคนก็จะเยอะมากเป็นพิเศษ กว่าพวกเราจะเดินซอยหนึ่งทะลุไปอีกซอย
ได้ ก็ใช่เวลานาน แล้วยิ่งเดินอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง โดยไม่ได้ซื้ออะไร
มันทำให้ผมเหนื่อย เลยบอกพวกมันว่าให้เปลี่ยนเป็นที่อื่นได้มั้ย ซึ่งพวกมันก็ตามใจ
และลากผมจนมาถึงทางออก ไอ้คมให้ผมรอที่จุดนัดผม แล้วเข้าไปเอารถ ที่จอดอยู่ด้านใน

“เมิงอยากไปที่ไหนว่ะ”ไอ้ต้าถามผม

“ไปที่คนไม่เยอะ เงียบๆหน่อยอ่ะ”ผมบอกมัน

แต่สายตามองอยู่ที่ทางเข้าของตลาดเปิดท้าย ซึ่งผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาเยอะแยะ
บ้างคนก็มากับแฟน บ้างคนก็มากับเพื่อน ดูเข้าหัวเราะสนุกสนาน มันเลยทำให้ผมคิดถึงตัวเอง
หากวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับผม ผมคงจะหัวเราะ แล้วทำให้พวกเพื่อนผมสนุกได้
มากกว่านี้

“งั้นไปสระน้ำเน่า แถวไดอาน่า ดีมั้ยว่ะ”ไอ้ต้าถามขึ้นอีก

ที่มันบอกว่าสระน้ำน่า เพราะเมื่อก่อนน้ำมันเน่าจริงๆครับ แล้วสถานที่ก็โทรมมากด้วย
วัยรุ่นขี้ยาเยอะ แต่พอเข้าเปลี่ยนแปลง จัดสวน สร้างศาลา ตอนนี้เลยผลิกจากหน้ามือ
เป็นหลังเท้าเลยครับ

“อืม ก็ได้”ผมหันมาตอบมัน แล้วหันกลับไปที่เดิมต่อ

“ต่าย เมิงรู้สึกไงก็บอกได้ พวกกูเป้นห่วง”ไอ้โมที่นั่งอยู่ข้างผมอีกด้าน บอกด้วยน้ำเสียงเย็น
แต่มันก็อบอุ่น พอหันไปมองหน้าพวกมันสองคน ก็รู้ว่าพวกมันห่วงผมแค่ไหน
แต่ตอนนี้ผมไม่พร้อมที่จะพูดและถึงพูด ก็ไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหนดี

เราสามคนรอพวกที่ไปเอารถอยู่สักพัก มันก็ออกมาพร้อมกันเลย ไอ้กรดไปกับไอ้โม
ไอ้ต้าไปกับบูม แล้วผมไปกับไอ้คม

“ไปสระน้ำเน่าข้างไดอาน่า”ไอ้ต้าบอกพวกที่ขับรถ

โดยมีบูมขับนำ พอรถเริ่มเคลื่อนตัวได้สักพัก บุมก็เกิดหยุดขึ้นมา เลยทำให้พวกที่เหลือหยุดไปด้วย
ผมเลยหันไปมองข้างหน้าว่าเกิดอะไรขึ้น และก็เห็นบูมกำลังยืนคุยอยู่กับไอ้เบสแล้วก็อีนัท
ผมเห็นแล้วก็รีบหลบไปข้างหลังไอ้คม

“เราขับนำไปก่อนได้มั้ย กูไม่อยากเห็นหน้ามัน”ผมกระซิบบอกไอ้คม

“ได้ดิ”ไอ้คมทำตามที่ผมสั่ง แต่ก็ยังไม่ทันจะออกตัวมันก็แบรกรถกะทันหัน

“ต่ายเมิงกับกูมีเรื่องต้องคุยกัน”ไอ้เบสเข้ามาคว้างรถไอ้คมไว้

“คมขับไปเลย เดี๋ยวมันก็หลบออกไปเอง”ผมบอกไอ้คม แต่มันเหมือนจะลังเล
ผมเลยเอื้อมมือไปบิดขันเร่งเอง พอมันกระตุกออกไป ไอ้คมก็เลยต้องขับต่อ
เพราะหากมันเกิดแบรกรถต้องล้มแน่

เป็นอย่างที่ผมคาด ไอ้เบสมันกระโดดหลบจริงๆ ผมเห็นมันทางกระจกรถ มันดูท่าจะโกรธมาก
แต่ตอนนี้ผมไม่สนหรอกครับ เพราะที่มันทำกับผม มันเยอะกว่ากันตั้งเยอะ ไอ้คมขับจนมาออกถนนใหญ่ สักพักผมก็เห็นพวกไอ้กรด กับบูมตามมา ไอ้คมขับนำไปเรื่อยๆ ไม่นานก็มาถึง

ที่นี้กลางคืนคนจะเยอะกว่าตอนกลางวัน เพราะแสงไฟที่สะลัว แล้วการตกแต่ง
มันดูจะเข้ากับการนั่งพูดคุย หรือมานั่งเล่นกับฟน แล้วตรงกลางสระน้ำก็จะมีเวที
ซึ่งผมก็เคยมาดูเข้าเล่นดนตรีเหมือนกันครับ แต่จะมีเป็นช่วงๆ

ผมลงจากรถก็เดินไปนั่งที่ขอบสระที่เป็นแนวโค้ง ไอ้ต้ากับไอ้บูมระหว่างเดินมา
พวกมันสองคนก็ทะเลาะกันมาตลอด ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องไอ้เบส และก็ดีใจ
ที่ไอ้เบสไม่ตามมาด้วย ผมนั่งลงด้วยความรู้สึกอึดอัด เมื่อได้เจอไอ้เบสอีกครั้ง
มันทำให้ความรู้สึกอยากร้องไห้กลับมาอีกครั้ง

“กูไปเข้าก้องน้ำแปปหนึ่งน่ะ”ผมบอกไอ้โมกับคนอื่นๆที่นั่งด้วยกัน

“กูไปเป็นเพื่อนมั้ย”ไอ้โมถาม แต่ผมปฏิเสธ

ผมเข้าไปล้างหน้าล้างตา ปล่อยให้ความคิดเรื่องไอ้เบสไหลลงท่อน้ำไป
แต่มันก็ยังซึมซับอยู่ในความคิดผม ทุกครั้งที่ผมพยายามหลีก มันก็เหมือนจะยิ่งเจอ
หรือว่าบ้างที เวลาอาจจะพอช่วยให้ผมดีขึ้นก็เป็นได้

ผมเดินออกจากห้องน้ำผ่านกลุ่มวัยรุ่นผู้ชายสี่ห้าคน เสียงพูดคุยของพวกมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังมีอันตราย เลยต้องรีบเดินออกจากที่นั้นให้เร็วที่สุด เมื่อผ่านมาได้ ผมก็นั่งลงที่เดิม
ลมเย็นๆที่พัดผ่านไป ผมรู้สึกหนาวอย่างประหลาด มองไปมุมหนึ่งของสวน ผู้ชายสองคน
กำลังเดินจับมือกัน ภาพนั้นมันทำให้ผมรู้สึกหนาวมากยิ่งขึ้น จนต้องหันมองไปทางอื่น

ประมาณเที่ยงคืนผมถึงบ้าน...ไม่มีใคร...ไม่มีใครทั้งนั้น รถไอ้เบสไม่จอดอยู่
แสดงว่ามันก็ไม่อยู่เหมือนกัน ผมเดินเข้าบ้านหลังจากลากับไอ้คมเรียบร้อยแล้ว
ผมขึ้นไปบนห้อง ถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ ตอนเอาผ้าไปใส่ตะกร้าผมเห็นเสื้อไอ้เบสที่ใส่แล้ว
ยังอยู่ในตะกร้า เลยจัดการยิบใส่ถุงกระดาษแล้ววางไว้อีกมุม เพราะหากมันจะมาเอาคืน
มันจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับผมนาน

ผมเข้าไปอาบน้ำ ยังได้กลิ่นแป้งที่ไอเบสใช้ทาตัวอยู่เลย ผมคิดว่าผมคงต้องเปลี่ยนแป้งใหม่แล้วล่ะ
เพราะผมจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ลืมมันได้เร็วที่สุด แปรงสีฟันไอ้เบสผมก็ยิบเอาไปใส่ในถุงเสื้อผ้า
หรือหากมันไม่ต้องการก็จะได้เอาทิ้ง ทั้งที่ยังไม่อยากทำอย่างนั้นก็ตาม

คืนนี้ผมผมกลับมาบ้านโดยไม่เสียน้ำตาสักหยด หรือว่าผมชิดแล้ว ชิดกับการต้องเจ็บเพราะมัน
เมื่อก่อนมันยังทำผมเจ็บกว่านี้ เรื่องแค่นี้ผมว่ามันคงไม่เกินความสามารถของผม ที่จะทนได้

ผมเปิดไฟในบ้านเพียงดวงเดียวคือที่บันได นอกจากนั้นก็ปิดหมด ในตอนแรกผมคิดว่านอนเลย
แต่นอนไม่หลับ เลยลงไปดูทีวี แต่ไม่มีอะไรที่ผมอยากดู เลยเปลี่ยนเป็นเปิดวิทยุทีแทน
เมื่อก่อนตอนที่แม่ซื้อมาใหม่ๆ ก็จะเปิดแทบทุกวัน แต่พอนานไป เมื่อเรา...เบื่อ...
มันก็ไม่มีค่าอะไรเลย

“เพลงต่อไป เป็นเพลงรักที่อยู่ในใจผมและคิดว่าของใครหลายคน
การตามหารักแท้ บ้างครั้งเราอาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิตกว่าจะเจอ
บ้างคนอยู่กับมันตลอดเวลา แต่กว่าจะรู้มันก็สายไปแล้ว ดังนั้น
ไปฟังกันเลยครับ .....หากันจนเจอ....”

เสียงดีเจเงียบลง แทนทีด้วยร้องของผู้หญิงที่ผมฟังแล้วต้องหยุดนิ่ง
และปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปตามเนื้อเพลง
แม้ว่าเพลงนี้จะเป็นเพลงรักและสมหวัง แต่ทำไมผมฟังแล้วรู้สึกจบ
รู้สึกเหมือนตัวเองวางเปล่า เหมือนไม่มีใคร การอยู่คนเดียวมันอ้างว้าง
ผมรู้ดี แต่เมื่อฟังเพลงนี้ น้ำตาที่ไม่คิดว่าไหล ก็ไหลจนหยุดไม่ได้
ภาพไอ้เบสตอนมันกอดผม ตอนมันทะเลาะกับผม ทำไมถึงเป็นภาพที่ผมเห็นในเวลานี้

แต่เราก็หากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา รู้สึกไหมว่าชีวิตคุ้มค่า เมื่อมีใครสักคนข้างกาย...

ผมเหงา...
ผมร้องไห้...
ผมรู้สึกเจ็บที่อก...
ผมรู้สึกไม่เหลือใคร...
ผมรู้สึกอยากอดใครสักคน...

ตอนนี้ผมอยากถามไอ้เบสเหลือเกิน ว่ามันสนุกหรือเปล่าที่ได้ทำกับผมอย่างนี้
มันดีใจหรือเปล่าที่ทำให้ผมร้องไห้ หรือนี้หากเป็นการแก้แค้น มันก็ทำได้สำเร็จ
ผมยอมแพ้ ยอมแพ้มันจริงๆ และไม่เหลือแรงที่จะมาสู้ต่อได้แล้ว

“เบส...กูเจ็บ...แล้วเมิงล่ะ.. มีความสุขอยู่ใช่มั้ย”

...

ปล.ที่มาลงช้า เพราะติดรับน้องปี1 ครับ
ไงขออภัยด้วยครับผม ใครอยู่ ม.อ.ปัตตานี
คงน่าจะได้เจอกัน ว๊ากกกกกกก

แล้วจะมาลงต่อให้เร็วที่สุด เท่าที่เวลาจะอำนวย
ขอบคุณมากครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด