⚙️ ซีรีส์ชุด อินทาเนีย [วิศวกรรมศาสตร์] メภาค MEメเสือนับแต้ม CH.08 (25-04-2018)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ⚙️ ซีรีส์ชุด อินทาเนีย [วิศวกรรมศาสตร์] メภาค MEメเสือนับแต้ม CH.08 (25-04-2018)  (อ่าน 46479 ครั้ง)

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17     



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

Intania
ซีรีส์ชุด อินทาเนีย [วิศวกรรมศาสตร์]
เขียนโดย
Boorina  และ  Blue-Legend
6 เรื่องราวความรักของนักศึกษาหนุ่ม จาก 6 ภาควิชาหลักของคณะวิศวกรรมศาสตร์
ที่จะมาร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวความรัก และมิตรภาพ ผ่านบรรยากาศในรั้วมหาวิทยาลัย
ส่งต่อความภาคภูมิสีเลือดหมูให้ซึมลึกไปทั่วทุกอณูหัวใจ
เฉกเช่นตำนานเล่าขานแห่ง ‘Intania’

สารบัญ
Intania ลำดับที่ 1
เรื่อง เซียนเหนือฟ้า ภาค IE [Industrial Engineering วิศวกรรมอุตสาหการ]
เขียน  Boorina
⚙️Behind IE scenes, into CE story

Intania ลำดับที่ 2
เรื่อง Breaking Way ภาค CE [Civil Engineering วิศวกรรมโยธา]
เขียน  Blue-Legend
⚙️Intania ภาค CE : Breaking Way #01     ⚙️Intania ภาค CE : Breaking Way #02
⚙️Intania ภาค CE : Breaking Way #03     ⚙️Intania ภาค CE : Breaking Way #04
⚙️Intania ภาค CE : Breaking Way #05     ⚙️Intania ภาค CE : Breaking Way #06
⚙️Intania ภาค CE : Breaking Way #07 [จบภาค CE]
⚙️Behind IE scenes, into CE story

Intania ลำดับที่ 3
เรื่อง เสือนับแต้ม ภาค ME [ Mechanical Engineering วิศวกรรมเครื่องกล]
เขียน Boorina

⚙️Intania ภาค ME : เสือนับแต้ม #Intro
⚙️Intania ภาค ME : เสือนับแต้ม #01    ⚙️Intania ภาค IE : เสือนับแต้ม #02
⚙️Intania ภาค IE : เสือนับแต้ม #03     ⚙️Intania ภาค IE : เสือนับแต้ม #04
 ⚙️Intania ภาค IE : เสือนับแต้ม #05     ⚙️Intania ภาค IE : เสือนับแต้ม #06
⚙️Intania ภาค IE : เสือนับแต้ม #07     ⚙️Intania ภาค IE : เสือนับแต้ม #08
========= พูดคุยกันได้ที่ ==========
Fanpage : Boorina
ฝากแฮชแท็ก #อินทาเนีย #ชาเย็น
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2018 22:01:30 โดย Boorina »

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
บทนำ
Intania

            แม้การทำงานอย่างต่อเนื่องกว่าสี่สิบแปดชั่วโมงจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ทั้งยังมีความเอื่อยเฉื่อยเล็กน้อยจากบรรยากาศรอบด้านที่ครึ้มมัวเนื่องจากท้องฟ้าอับแสง แต่ชายหนุ่มกลับขับรถแล่นไปบนถนนที่ทอดยาวผ่านคณะต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยด้วยสติที่ดีเยี่ยม

เมื่อถึงปลายทาง เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอพิเศษที่กระจายคละคลุ้งจากเหล่านักศึกษาในชุดเสื้อยืดชุ่มเหงื่อ ด้านหลังของเสื้อสกรีนอักษรเดียวกับป้ายผ้าผืนใหญ่ที่ขึงตึงเหนือศรีษะบริเวณทางเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์  มีตัวอักษรสามคำเด่นชัดจากพื้นสีขาว  ‘Intania Tradition Running’

            น่าแปลกที่มีเพียงคำเดียวที่สะกิดใจชายหนุ่มให้สงสัย กระชากความสนใจของเขาให้อยากรู้ซึ้งถึงความหมายของคำว่า ‘Intania’

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ปล. มาทำความรู้จักกับชื่อเรื่องกันหน่อยนะคะ

            Intania เป็นชื่อเรียกของนิสิต นักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นคำซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาละติน เป็นคำที่ตายแล้วคือคำที่ไม่มีความหมายไม่มีการนำมาใช้โดยตรง ความหมายของ INTANIA หรือ อินทาเนีย เดิมทีใช้เรียกทหารที่มีความชำนาญในการสร้าง เช่น สร้างสะพาน สร้างอาวุธ หรือสร้างยุทโทปกรณ์ต่างๆ ในสมัยโบราณ หรืออาจเรียกว่า นักรบผู้สร้าง ในปัจจุบันคำว่า อินทาเนีย ได้เพี้ยนเป็น เอ็นจิเนียร์ หรือก็คือวิศวกรนั้นเอง ด้วยประวัติความเป็นมานี้ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์หลายสถาบันจึงนำคำว่า อินทาเนีย หรือ เอ็นทาเนีย ซึ่งเป็นคำเดียวกันมาใช้เรียกตัวเองเพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้เกิดขึ้น และใช้ปลูกฝังรุ่นน้องให้ระลึกถึงความสำคัญของที่มาดังกล่าวและสืบทอดต่อไป

            Cr.ฝ่ายวิชาการ สโมสรนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มข.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คอนเซ็ฟต์ของนิยายชุดนี้คือ Intania ซึ่งเป็นภาษาละติน หมายถึง Engineer

** นิยายเรื่องนี้เริ่มเขียนเมื่อปลายปี 2559 เขียนจบต้นปี 2560**


ในซีรีส์ Intania ประกอบด้วย 6 เรื่อง ตามภาควิชาหลักในคณะวิศวกรรมศาสตร์
(ไม่รวมตอนพิเศษซึ่งยาวมากพอสมควร และเป็นตอนที่พิเศษสุดๆ)

จะเป็นคณะไหนบ้างนั้น ต้องติดตามกันเองน้า
มีผู้แต่ง 2 คน ผลัดกันแต่งคนละเรื่องสลับกันค่ะ

อินทาเนีย ไม่ได้เน้นเพียงเรื่องราวความรัก
แต่เราจะพาเพื่อนนักอ่านไปสัมผัสบรรยากาศของชาวคณะวิศวกรรมศาสตร์

นิยายเรื่องนี้แต่งจบแล้ว ไม่มีปัญหาดองแน่นอนจ้า ยกเว้น สนพ. ตามมาซิว ถ้ายังไม่ถูกลืมน้า 555


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2018 13:45:00 โดย Boorina »

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ซีรีส์ชุด Intania ภาค IE

เรื่อง เซียนเหนือฟ้า   
[ IE : Industrial Engineering   วิศวกรรมอุตสาหการ ]   
                     
เขียนโดย  Boorina





ตอนที่ 1

เพียงระยะห่างที่ใกล้ที่สุด


   ไม่ค่อยเข้าใจทำไมใครๆ ต้องอยากเป็นเมียวิศวะ กระทั่งนิยายรักวัยรุ่นสายนอร์มอลหรือวาย ตัวเด่นมักเป็นไอ้พวกวิศวะหน้าหล่อโลกสะเทือนอย่างกับตกมาจากสวรรค์ ซึ่งตรงข้ามกับนิสัยที่เหมือนผุดมาจากใต้พิภพ ด้วยความใคร่รู้ใคร่สงสัยผมจึงลองเข้าไปส่องแฮชแท็กยอดฮิตติดเทรน #ยอมแล้วทูนหัวอยากมีผัวเป็นวิศวะ #วิศวะหล่อบอกต่อ ในทวิตเตอร์ จึงทำให้พอทราบสาเหตุ ดังนี้

   1. เสื้อช็อป

   2. เกียร์

   ทำไมต้องอยากได้นักได้หนา กรี๊ดกร๊าดซะเหมือนร่างทรงหมอผี สาวๆ พวกนั้นไม่รู้หรือไง ว่าไอ้พวกวิศวะหน้าหล่อมีสกุล สุดท้ายสันดานล้วนสถุลเหมือนกันหมด อย่างเพื่อนผมตระกูลโคตรเหง้าเป็นผู้ดี รวยสตางค์ล้นฟ้า ขับปอร์เช่หรูโคตรอลัง เมื่อมาใช้ชีวิตอยู่ในดงวิศวะมันก็พาซกมกเหมือนผมนั่นแหละ

   เสื้อช็อป อยากได้ไปสวม ไปกก ไปกอด รู้ไหมมันซักกันเทอมละกี่ครั้ง ดีหน่อยก็เดือนหนึ่งถึงจะซัก ขึ้นขี้เกลือแล้วยังอยากเอามาคลุมอุ่นกายซุกหน้าดมเสพฟินกันอีก เห็นความเพ้อของสาวๆ แล้วอดหัวเราะก๊ากไม่ได้ จะไปสาธยายให้ฟังความเป็นจริงของโลกก็สงสาร ไม่อยากขัดมโนอันหวานล้ำเหล่านั้น

   เกียร์ มีคนละอัน ยังอยากจะได้ของพวกเราอีก นั่นมันศักดิ์มันศรีและเกียรติของพวกเราชาววิศวะเลยนะโว้ย ต่อให้ถวายตัวให้ก็ใช่ว่าจะได้ไป แถมตอนเลิกกันเห็นชอบเอาไปโยนจมอยู่ก้นบึงก้นสระ รู้สึกเจ็บใจกับค่านิยมเสี่ยวๆ นี้เหลือเกิน เธอเหล่านั้นจะรู้บ้างไหมว่ากว่าที่หนุ่มวิศวะอย่างเราจะได้เกียร์มานั้นต้องเสียเม็ดเหงื่อและแรงใจไปมากแค่ไหน

   ฉะนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าแฟนคนแรกในรั้วมหา’ลัยอาจไม่ใช่คนที่ได้รับเกียร์แทนใจไป จนกว่าจะเจอคนที่ใช่ นั่นล่ะพวกเราถึงมอบให้เป็นของแทนใจ

   ดังเช่นที่คอของท่านเทพเซียนคนหนึ่งของภาควิชา ตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสาม เกียร์ชิ้นนั้นยังคงห้อยคล้องคอมันอย่างเดิม แม้บางช่วงเวลาในระยะสองสามปีที่ผ่านมามันจะไม่ได้เดินเพียงลำพัง

   “ขอติดจักรยานไปช็อปหล่อหน่อย”

   เป็นเสียงของบุรุษหนุ่มที่ถูกเรียกขานว่าท่านเทพเซียนประจำภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ ไม่ใช่ด้วยสมองเทพทักษะเซียน ไม่ใช่ด้วยหน้าตาหรือสัดส่วนร่างกายที่เหมือนถูกประติมากรเอกของโลกปั้นเสกจนกลายเป็นเดือนมหา’ลัย แต่ฉายานี้ได้มาด้วยชื่อของมันล้วนๆ

   ผมมองคนตรงหน้าที่กระโดดเข้ามาขวางทางด้วยอารมณ์เอือมระอา

   “มองกูนะ... กูกำลังตั้งหน้าตั้งตาปั่นไปประตูหลังมอ หมายความว่ากูกำลังกลับหอถูกไหมไอ้เซียน!”

   “แล้วไง? แค่กลับหัวรถเอง” ไม่แนะนำเปล่า ไอ้เซียนยังช่วยเข็นรถหันหัวจักรยานกลับไปยังเส้นทางที่มุุ่งสู่ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ ตามด้วยกระโจนขึ้นคร่อมเบาะหลัง วางสองเท้าบนที่ตั้ง สองมือเกาะที่เอวผมหลวมๆ “Let’s go...”

   “หนักชิบ กินควายไหนมา...” ผมเริ่มร่ายพร้อมออกตัวปั่น “ถ้ายางล้อระเบิด ใครรับผิดชอบวะ ไหนจะเสียเวลา ไหนจะเงินที่ต้องจ่ายค่าซ่อม คนเราเกิดมาเป็นนิสิตนักศึกษา จริยธรรมความรับผิดชอบต้องสูงนะเข้าใจไหมมึง? แล้วถ้าการที่กูต้องเสียเหงื่อในการปั่นเพื่อมึงจนหิวท้องกิ่วตาลายขึ้นมา ก็ต้องเป็น...”

   “เอ้า แดกไป”

   อ้าม... เป็นซาลาเปาอวบนุ่มปุกปุยที่ถูกยัดเข้าปากผมทั้งลูก ความอุ่นร้อนขับรสละมุมกลมกล่อมให้คละคลุ้งข้างใน ส่งผลต่อปากที่จ้อฝอยคำไม่หยุดให้ต้องเงียบลงเพื่อขยับปากเคี้ยวละเมียดชิมรสชาตินั้นให้ยาวนานที่สุด

   โมเมนต์ที่ 169 ไอ้เซียนป้อนซาลาเปาให้ผม

   อุ่นในใจจนถึงปลายทางกระเพาะ หัวใจลั่นก้อง กระดอนกระเด็นจนแทบทะลุออกมานอกอก แต่สีหน้ายังคงฉาบทับด้วยความเซ็งในอารมณ์อย่างเสแสร้ง เพราะไม่อยากให้มันจับความรู้สึกที่ผมเก็บซ่อนไว้ภายในใจได้

   ที่ว่าใครๆ อยากเป็นแฟนวิศวะเห็นทีจะไม่ผิด

   ขนาดว่าที่เอ็นจิเนียร์อย่างผมยังอยากสอยเกียร์ของไอ้เซียนมันเลย...

   ถ้าเสื้อช็อปสีเทาอ่อนของมันติดคราบน้ำมันหรือขึ้นขี้เกลือ ผมก็พร้อมจะโยนใส่เครื่องปั่นแห้ง ถ้าเกียร์อันนั้นเคยหายไปเพราะมันเลิกกับสาวคนไหนแล้วถูกโยนทิ้งจมอยู่ก้นสระ ผมก็พร้อมจะกระโจนลงไปเพื่อดำหา

   แต่ความเป็นเพื่อนมันค้ำคอ  ทำได้แค่เพ้อหาท่านเทพเซียนไปวันๆ

   “ขอบใจไอ้แสงสว่างนำทาง”

   “กูชื่อเทียนครับ”

   ผมแย้งด้วยประโยคซ้ำซากอย่างเคย คล้ายเป็นสคลิปที่ต้องเอ่ยทุกครั้งหลังได้รับคำขอบใจจากมัน บางทีก็อยากเป็นแสงสว่างนำใจ มากกว่าสารถีนำทางพามันมาส่ง เพราะเมื่อถึงที่หมายต่างต้องถีบตูดลากัน

   คล้อยหลังไอ้เซียนที่กำลังเดินลัดเลาะไปยังจุดหมาย ผมเงยหน้าขึ้นมองป้าย ‘ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ (Industrial Engineering)’ หน้าอาคารเก่ากึกสองชั้นซึ่งเป็นโรงงานสำหรับเวิร์คช็อปในวิชาปฏิบัติ อีกหนึ่งอาคารชั้นเดียวด้านหลังซึ่งมีสระน้ำขนาดใหญ่คั่นคือโรงงานหล่อโลหะที่โทรมยิ่งกว่า เสริมความขลังวังเวงด้วยร่มเงาจากต้นไม้หนาทึบโดยรอบ ตึกเรียนห้าชั้นดูดีจากการทาสีใหม่ มีต้นอโสกเขาสูงใหญ่เรียงรายทอดไปตามถนนจนถึงอาคารแปดเหลี่ยมสิบเอ็ดชั้นของภาควิชาวิศวกรรมการบินและภาควิชาอื่นๆ ที่แตกแขนงเพิ่มขึ้นมาในภายหลัง ถัดไปคือตึกใหม่ขนาดแปดชั้น ติดชื่อบนป้ายหินอ่อนใหญ่อลังการด้านหน้าว่าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล ซึ่งแยกเป็นเอกเทศไม่ใช้ตึกร่วมกับภาควิชาอื่นในคณะมาตั้งแต่สองปีก่อน...

   เป็นลูกเมียน้อยไม่พอ ยังต้องมาเจ็บปวดกับคำนิยามของภาควิชาตัวเองที่ว่า ‘วิศวกรรมจับฉ่าย'

   ใครหนอใคร... ช่างกล่าวว่าวิศวกรรมอุตสาหการนั้นเป็นภาควิชาที่เรียนชิลที่สุดในบรรดาทุกภาควิชาของคณะวิศวกรรมศาสตร์ เน้นเรียนวิเคราะห์กระบวนการผลิตและบริหารงานในโรงงาน ไม่ต้องปวดสมองลงมือสร้างเครื่องอย่างภาคเครื่องกล ไม่ต้องปวดหัวกับแผงวงจรและสายไฟที่พันเลื้อยจนต่อผิดต่อถูกอย่างภาคไฟฟ้า ไม่ต้องตาลายกับแปลนบ้านแล้วนั่งหลังขดหลังแข็งเขียนแบบ AutoCAD 2D 3D อย่างภาคโยธา ไม่ต้องเขียนโปรแกรมให้ปวดสมองอย่างพวกวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ที่แค่พิมพ์โค้ดผิดตัวเดียวก็รันไม่ผ่านจนต้องรื้อใหม่

   อยากตะโกนให้ก้องโลกสะเทือนแผ่นดินว่าแม่งเอ๊ย! กูต้องเรียนแทบทั้งหมด!

   ไม่ได้เรียนลึกซึ้งถึงแก่น แต่ต้องรู้ต้องเสือกรายวิชาบางตัวของชาวบ้าน ไหนจะวิชาช็อปของภาคตัวเองอีก เป็นอะไรที่ต้องเค้นศักยภาพความถึกที่ฝังลึกออกมาทั้งหมดจึงจะสอบผ่าน ทั้งตะไบเหล็ก กลึง กัด ตัด ไส งานหล่อ งานเชื่อม ส่องกล้องวิเคราะห์โครงสร้างโลหะ แม่จ้าวววววว เยอะจัด!

   ง่ายเรอะ? กับผีสิ!

   แต่หากถามว่าหลังเข้ามาเรียนแล้วรู้ความจริง พร้อมมือที่ด้านจนหนังถลอกจากการตะไบเหล็ก ได้ทำให้ผมคิดอยากซิ่วไปเรียนคณะอื่นไหม?

   ตอบเลยว่า ‘ใช่!’ แต่ผม ‘ไม่ไป’

   เพราะอยากมีช่วงเวลาได้นับโมเมนท์ที่ 170,171,172...

   ผมไม่ได้หลบซ่อนอยู่ในมุมหลืบ แอบมองไอ้เซียนแล้วสร้างดราม่าน้ำตาโชกให้รันทด แต่ผมพาตัวเองมาอยู่ใกล้ๆ ให้มันอยู่ในรัศมีสายตา ไม่ได้เพ้อแอบหวังว่าเพื่อนคนนี้จะหวั่นไหว แค่อยากมองหน้ามันชัดๆ เท่าที่โอกาสจะอำนวยอวยพรในระยะเวลาสี่ปีถ้าผมจะเรียนจบตามเกณฑ์

   เพียงระยะห่างที่ใกล้ที่สุด... แค่นี้ก็ฟินแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะ...
สำหรับเรื่องแรกของชุด มาเจอกับเรื่องของบูเนอะ
สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องชิลๆ แอบรักเพื่อน
(เป็นแนวที่ถนัดที่สุด แต่ไม่รันทดเหมือนแฟนฟิคเอิ้นพีทที่เคยเขียน หากมีใครเคยอ่าน)

เชื่อว่านักอ่านหลายคนอาจจะเคยอ่านนิยายที่ตัวเอกเป็นหนุ่มๆ จากคณะวิศวะกันเยอะแล้ว
บางคนอาจเบื่อ บางคนอาจชอบ
ตอนแรกก็ลังเลที่จะเขียนค่ะ  เพราะไม่รู้ยังเหลืออะไรที่แปลกใหม่ให้เราได้บอกเล่าอีกบ้างไหม

ดังนั้นเรื่องอาจไม่อัดแน่นด้วยสาระ (เพราะปกติชอบให้ตัวละครเวิ่นเว้อหาความรัก)
แต่อย่างน้อยก็มีบางบรรยากาศให้เพื่อนนักอ่านได้ซึมซับและสัมผัสค่ะ

ขอให้อ่านไปยิ้มไปนะคะ... Boorina

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชอบสำนวนจังเลยค่ะ อ่านแล้วสนุก

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ชอบค่ะชอบ
นี่ก็อยากได้เกียร์5555
รอมาต่อนะคะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อุตะ...... นี่เข้าใจผิดมาตลอดเลยนะเนี่ย แสดงว่าเสือช็อปนี้มีแค่ตัวเดียวหรอก หลงเข้าใจว่ามีอย่างน้อยก็ 3 ตัว  :katai1:

ออฟไลน์ Dark_Sky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ซีรีส์ชุด Intania ภาค IE
เรื่อง เซียนเหนือฟ้า   
[ IE : Industrial Engineering   วิศวกรรมอุตสาหการ ]   
                     
เขียนโดย  Boorina

ตอนที่ 2
สกิลเนียน






            “ไอ้เอกหัวหอม...”

            ผมเรียกชื่อติดคำสร้อยห้อยท้ายชื่อโหลๆ ของเพื่อนกลุ่มพันธมิตรซึ่งนั่งประจำแถว F ด้านหลังผมภายในห้อง Slope200  ของตึกภาควิศวกรรมอุตสาหการ ตามด้วยหันขวับไปมองหน้าแล้วเอ่ยอย่างเป็นการเป็นงาน

            “วิชาอังกฤษอาจารย์บอกหลังมิดเทอมมีงานกลุ่มสามคนให้ทำอีกแล้วว่ะ มึงจะแยกมาอยู่ด้วยกันอีกไหม”

            ปกติวิชาภาษาอังกฤษควรเรียนครบทั้งสามตัวเก้าหน่วยกิตตั้งแต่ปีสอง แต่เนื่องจากมหา’ลัยของผมเหมาจ่ายค่าเทอมและมีหน่วยกิตเหลือ ผมจึงเลือกลงวิชาสปีคกิ้ง โดยไม่คิดว่าไอ้เพื่อนกลุ่มพันธมิตรจะเลือกตาม เวรกรรมจริงๆ

            ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไอ้เอกพยักหน้าเออออทันที ทำเอากลุ่มเพื่อนที่นั่งขนาบข้างเจ้าตัวซ้ายสองคนขวาหนึ่งคนเริ่มหันมองกัน สีหน้าราวกับกำลังเผชิญหน้ากับล่องความกดอากาศต่ำ ไม่ทันจะได้เอ่ยปากแย่งโควต้าที่เหลืออีกหนึ่ง ไอ้คนที่ฟุบหลับอยู่ก็ผงกหัวชูคอเสนอหน้าหล่อกระซวกใจขึ้นมากระแทกใส่ตาผม

           
           “พี่เทียนคร้าบบบ... น้องเซียนอยู่ด้วยคนน้าาา...” ทำเป็นลากเสียงแบ๊วยาน เพิ่มความน่าเห็นใจด้วยสายตาหมาหงอย คิดว่ากูคนนี้จะหลงกล?

            “เหอะๆ”

            “เทอมก่อนโน้นเราก็ทำงานกลุ่มเดียวกันนะ มาเทอมนี้ไม่ชวนกันเลย บางทีก็รู้สึกเหมือนถูกทิ้งอ่ะ”

            อื้อหือ พ่อรูปหล่อเดือนวิศวะสุดหล่อ โอ๊ย! ดูทำหน้าเข้า แลดูรันทดน่าสงสารจัง แหวะ!

            “มึงไม่ต้องฉะอ้อนออเซาะฉอเลาะเป็นเด็กน้อย... งานกลุ่มก็ว่ามึงเป็นปลิงแล้ว งานเดี่ยวยังจะเกาะหนึบอีก สำนึกน่ะมีบ้างไหมวะฮะถามจริง”

            หน้าตามันไม่มีหรอกที่จะแสดงความสำนึก ไร้ยางอายได้ถึงขั้นสุดนั่นแหละคือไอ้เซียน ใครที่มองมันเพียงผิวเผินอาจหลงไปด้วยภาพลักษณ์ แต่ลองได้ใกล้ชิดสักนิดจะรู้ซึ้งถึงความด้านได้อายอด ตอนที่นึกด่ามันไปร้อยแปดพันเก้า ไอ้เซียนกำลังหยิบๆ ล้วงๆ อะไรบางอย่างในกระเป๋าเป้ให้ผมสงสัย

            “บ่นเป็นพ่อใส่มันขนาดนั้น งั้นก็มีที่ว่างสำหรับกูแล้วอ่ะดิ”

            ผมคลี่ยิ้มให้ไอ้คนถามที่นั่งข้างไอ้เอก ก่อนจะรับของที่ถูกส่งมาจากไอ้เซียน

            “เคยมีด้วยเหรอปิง” ตอกใส่หน้าคนที่ชอบฝันลมๆ แล้งๆ ก่อนจะโบกสะบัดตั๋วฟุตบอลรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย ไทย-ญี่ปุ่น โซน N อวดมัน เสร็จก็ยื่นมือไปลูบหัวไอ้เซียนอย่างเอ็นดูในความน่ารักเหมือนเด็กน้อย “งานดีมากไอ้เซียน แบบนี้กูยอมให้มึงเกาะจนวันตายเลย”

            “เอ็นดูกูนานๆ นะครับไอ้เทียน กว่าจะได้ตั๋วใบนี้มากูนั่งรีเฟรชหน้าจอทั้งวันเลยนะโว้ย”

            เอาของฟาดหัวผมสำเร็จมันก็สลัดสรรพนามที่แสนละมุนหูทิ้ง กลับมาสถุลมึงกูตามสันดานเดิม พร้อมฉีกยิ้มหล่ออวดรอยบุ๋มที่แก้มเพิ่มความอปป้าให้หนังหน้า ก่อนยื่นมือมาวางแหมะลงบนหัวของผม ถูไปมาจนรู้สึกว่าชักจะแรงเกินไป แต่ผมรึจะยอม แรงมาเท่าไหร่ก็รีเอฟเฟกต์กลับไปเท่านั้น

            “ไอ้เชี่ยเซียน ปล่อย ผมกูเสียทรงหมดแล้วไอ้ห่า!”

            “มึงเล่นหัวกูก่อนอ่ะ กูเอาคืนโว้ย”

            “คืนบ้านโพ่งมึงสิ หนังหัวกูจะหลุดหมดแล้ว” ร้องโวยพลางง้างมือของมันที่กำเส้นผมจุกใหญ่ของผมไว้ “ไม่ปล่อยกูฉีกตั๋ว”

            “ฉีกก็เรื่องของมึง กูไปดูคนเดียวได้ แต่มึงรับของๆ กูไปแล้ว ฉะนั้นงานกลุ่มเทอมนี้มึงก็ต้องให้กูเกาะด้วย ไม่งั้นกูไม่ยอม กูจะตามเกาะตามรังควานมึงจนอยู่ไม่สุขเลยคอยดู”

            “เออ! ของมางานเดิน ว่าแต่ฟรีป่ะ?”

            “ไม่ฟรีก็ต้องฟรีแล้วไหม ถามไม่คิด”

            ตอนที่หันกลับมา ชีทเรียนวิชาดิฟอิเควได้ถูกเลื่อนกลับคืนมาจากไอ้เพื่อนเพลงที่นั่งข้างกัน มีข้อความเขียนด้วยลายมือที่ทำให้คิ้วผมต้องขมวดมุ่น

 
            ‘เนียนเลยเนอะ!’
 

            ผมเพียงหันไปแสยะยิ้มปั้นหน้าเหนือชั้นใส่ไอ้เพลง ก่อนจะหันกลับมาก้มหน้างุดเพื่อยิ้มระรื่นให้กับผลลัพธ์ที่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ บอกเลยว่าดีใจโคตรๆ ยิ้มแก้มปริจนหุบไม่ได้ ตัวผมแม้จะไม่ได้เก่งระดับหัวกะทิ มีดีแค่เอาตัวรอดสอบผ่านทุกวิชา แทบไม่มีวิชาไหนติดท็อป ไม่มีวิชาไหนตกมีน แต่มีวิชาหนึ่งที่ผมถนัดนั่นก็คือวิชาภาษาอังกฤษ ด้วยเพราะตอนม.ปลายเสล่อเรียนสายวิทย์-คณิต ภาคอินเตอร์


            นอกจากนั้นแล้ว ภายใต้มาดมึน ไม่มีอะไรดี ไม่มีอะไรเลว ผมยังมีความแอบเนียนซุกซ่อนไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

            ไอ้ที่ทำทีเป็นถามไอ้เอกเรื่องงานกลุ่มนั่นแค่เปลือกที่เคลือบไว้ เพราะจุดประสงค์ที่ซ่อนไว้ก็คืออยากอ่อยให้บางคนเสนอตัวเข้ามาใกล้ผมเอง

            บอกแล้วไงว่าแค่อยากใกล้ เรื่องที่จะให้มันมาตกหลุมรักผมนั้นแค่หลับฝันยังยากเลย

            แล้วดูดิ ยังจะได้ไปดูฟุตบอลกับมันอีก ถึงจะมีเพื่อนคนอื่นพ่วงไปด้วยเป็นกระพวนก็เถอะ

            งื้อ... ฟิลลิ่งนี้แหละ ใช่เลย

            ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ผมมีความสุขกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ จากคนด้านหลัง ตอนที่กำลังคิดย้อนหาจุดเริ่มต้นนั้น ผมได้แอบมองมันผ่านเงาสะท้อนจากเคสกระจกมือถือที่แสร้งทำเป็นส่องเบ้าหน้าหล่อน้อยของตัวเอง

            “กูหล่อกว่า” เป็นเบ้าหน้าของคนชอบเสือกที่โผล่หน้าเข้ามาอยู่ในกรอบกระจกเดียวกัน แถมสะบัดหัวจนเส้นผมพลิ้วกระชากสายตาผมให้มองนิ่ง

            “กวนตีนมากไปละ”

            “ชอบด่ากู...​ ปากจัดนะเราน่ะ”

            รู้สึกเกลียดดดดดดด สรรพนามสุดท้ายที่มันใช้เรียกผมจนเส้นประสาทที่ปลายเท้ากระตุก ไม่ใช่อะไรหรอก แค่รู้สึกหวั่นไหวไปชั่วขณะ เป็นดาเมจรุนแรงที่ปั่นป่วนหัวใจโคตรๆ คล้ายกับตอนนั้น

            โมเมนท์ที่ 001...
 
            ‘หนักเหมือนกันนะเราน่ะ’

            ‘งั้นสลับกัน!’

            ‘นั่งไป ใกล้ถึงแล้ว’
 

            ผมจำได้ดี... ครั้งแรกที่เราเจอกันบนรถกระป๊อในช่วงเวลาที่คนแน่นขนัด และต่างเร่งรีบเพื่อไปสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยให้ทันเวลา ผมจำต้องสละที่นั่งให้นักเรียนสาว ม.ปลายเพื่อย้ายก้นไปนั่งบนตักไอ้คนแปลกหน้าตามคำเชื้อเชิญซึ่งมีจุดหมายเดียวกัน

            ท่ามกลางความรู้สึกประดักประเดิด รถได้ซิ่งผ่านลูกระนาดพาเอารถกระโดด ตัวผมกระเด้งสูง วินาทีที่คิดว่าหัวต้องกระแทกกับหลังคารถแข็งๆ กลับมีฝ่ามือหนึ่งกันไว้ ไอ้ยินเสียงหลุดร้องโอ๊ยออกมา ตอนที่เบือนหน้าไปมองจึงได้เห็นสกิลหนังหน้ามันชัดๆ

            ‘หล่อสวรรค์ล่มนรกสะเทือน’ นิยามสั้นๆ แค่นี้น่าจะพรรณาเบ้าหน้าของมันได้เป็นอย่างดีแล้ว

            เมื่อถึงที่หมายเราต่างลงจากรถเพื่อจ่ายเงิน ผมแอบเหล่มองชื่อบนแฟ้มสะสมผลงานในมือมัน ‘ทัพเทพ ไทชนะ’ แล้วจำชื่อนั้นประทับติดไว้ในใจ ว่าไอ้ผู้ชายคนนี้นี่แหละที่ฟาดฝ่ามือใส่หัวผมซะมึน!

อยากจะบอกเหลือเกินว่าปล่อยหัวกูกระแทกไปเถ๊อะ เพราะมันน่าจะเจ็บน้อยกว่ากว่ากันเยอะ

            ในตอนที่ผมแทบจะลืมผู้ชายคนนั้นไปตามวันเวลาที่ผ่านไปตามเข็มนาฬิกาที่หมุนวน ผมได้เจอมันที่หน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ในวันปฐมนิเทศน์อีกครั้ง เพื่อพบว่ามันจำผมไม่ได้แล้ว...

            ช่างสิๆๆ

            ค่อยๆ ตะล่อมเข้าหาแล้วกัน วันหนึ่งเมื่อเราเป็นเพื่อนกันแล้ว มันจะได้ไม่ลืมผมอีก

            ในตอนนั้น ผมคิดเพียงแค่นั้นจริงๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุยกันนะ...^^
๑.ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่านและคอมเมนท์นิยายให้นะคะ ดีใจมากเลย และขอบคุณท่านที่ชอบสำนวนการเขียนมึนๆ แบบนี้ด้วยค่ะ
ฝากเพื่อนๆติดตามไปเรื่อยๆ จนจบด้วยนะคะ

๒.ขอตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับเสื้อช็อปของ คุณ areenart1984 น้า : คุณ areenart1984 ไม่ได้หลงเข้าใจผิดค่ะ บางคนก็มีสามตัวตามที่เข้าใจเลย แล้วแต่จะตัดจะซื้อเพิ่มเอาค่ะ  ซึ่งบางมหาลัย จะมีเสื้อช็อปอย่างน้อยสองตัวค่ะ มีช็อปคณะ กับช็อปภาค แต่บางมหาลัยก็ไม่มีช็อปคณะ

บางคนแรกๆ ก็ใส่ตัวเดียว แล้วค่อยมีเพิ่มเอาตอนหลัง อาจด้วยสลับใส่ หรือน้ำหนักเพิ่มจนต้องมีเพิ่ม บางคนก็อยากปักลาย(อาทิ บางมด เสื้อช็อปจะมีรูปมด แต่ นศ.บางคนไปสั่งตัดร้านข้างนอกเพราะอยากให้เขาปักมดเอ็ก มดแดง มะตะนอย อะไรก็ว่าไป ซึ่งผิดระเบียบ ^^;)

สำหรับในบทที่เขียนไป เขียนในมุมมองคนซกมกเพิ่มสีสันค่ะ ซึ่งบางคนเขาก็รักษาความสะอาดเป็นปกติ แต่บางคนต่อให้มีสามตัวก็เหมือนจะสกปรกทุกตัว. มันขึ้นอยู่กับคนจริงๆ สำหรับภาคอุตเอง เสื้อช็อปจะเปื้อนเอาง่ายๆ ค่ะ เพราะวิชาช็อปค่อนข้างลุย ไม่เหมือนภาคคอมพ์เค้า

ในเรื่องอินทาเนีย จะมีบางฉากพูดถึงช็อปคณะ กับช็อปภาค ซึ่งต่างสีกัน ลองสังเกตดูนะคะ


หวังว่าจะมีความสุขกับการอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ... บูค่ะ
  :hao3:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2017 20:13:27 โดย Boorina »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ขอบคุณที่ตอบข้อสงสัยจ้า   :กอด1:

วิธีเนียนเข้าหานี่ ต้องเจ็บตัวทุกครั้งหรือเปล่าเนี่ย ไงก็อย่าลืมพกยาอม ยาลม ยาหม่องไว้ด้วยนะ เป็นห่วงจ้า  o18

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
แฮะๆ อ่อยหนักๆไปเลยลูก ต้องรุกแรงๆ

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มีความเนียน  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ก็แอบรักเขา ก็ต้องมีตีสนิทบ้างไรบ้าง
แต่มีความยอมรับการแอบชอบ ไม่แสดงตัว ไม่สารภาพ
เทียน ยอมรับสภาพอย่างมีความสุข ขอแค่อยู่ใกล้ๆเซียนก็พอแล้ว 
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kankanin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ว้าย พี่เซียนของน้อง เนียนจัด นั่งเฟรชหน้าจอทั้งวันเลย  :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ซีรีส์ชุด Intania ภาค IE
เรื่อง เซียนเหนือฟ้า
                           [ IE : Industrial Engineering   วิศวกรรมอุตสาหการ ]                         
เขียนโดย  Boorina


ตอนที่ 3
แค่อยากใกล้


   ทว่าหลังผ่านไปหนึ่งเทอมกับการเป็นนักศึกษาในเสื้อช็อป ที่ผ่านการชิงธงรุ่น รับน้อง และได้เกียร์มาแล้วนั้น ผมได้รู้ตัวว่าไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับไอ้ทัพเทพ หรือชื่อเล่นของมันที่เพื่อนเรียกขานกันว่า ไอ้เซียน ไอ้เทพเซียน หรือท่านเทพเซียน นั่นหรอก

   ยิ่งแอบส่องแอบมอง ก็ยิ่งถลำลึกเข้าไปในวังวนของมัน รู้ตัวอีกทีความรู้สึกหนึ่งได้ก่อตัวขึ้นแล้ว แต่จะให้ทำยังไง ในเมื่อผมเห็นมันยังคุยป้อหม้อสาวอยู่ตลอด บ่งบอกรสนิยมความรักอย่างชัดเจน จะให้แสดงความรักออกมาตรงๆ หรือเดินดุ่มๆ เข้าไปสารภาพความรู้สึกก็น่ากลัวว่าจะโดนฝ่าตีนประทับแสกกลางหน้ากลับมา

   แต่ก็ยังอยาก ‘ใกล้’ มันอยู่ดี   

   ดังนั้นในช่วงแรกที่เรียนด้วยกันผมจึงเริ่มขุดสกิลเนียนเข้ามาใช้ เริ่มจากตำแหน่งนั่งในห้องเรียน... ผมจะพยายามนั่งเรียนแถวหน้ามันหรือหลังมัน

   นั่งหน้าถึงจะไม่เห็นหน้าแต่ก็ยังได้ยินเสียงมันพูดจอแจกับเพื่อนในแก็งค์ 

ถ้านั่งหลังก็จะได้เห็นแผ่นหลังกว้าง เส้นผมที่สะบัดไปตามหัวที่หันซ้ายทีขวาที บางครั้งก็ได้เห็นใบหน้าด้านข้างที่ชวนให้สะท้านใจเงียบๆ คนอะไรจมูกโด่งเป็นสันเรียวได้น่าอิจฉาขนาดนี้

   จากที่ไม่สนิทกัน พวกเราสองกลุ่มจึงเริ่มพูดคุยกัน ผมเลือกที่จะเสวนากับไอ้เอกหัวหอมมากที่สุดเพราะมันเป็นเพื่อนสนิทไอ้เซียน เวลาชวนทำอะไร กินอะไร ไอ้เซียนก็จะติดสอยห้อยตามไปด้วย เรียกว่าเข้าทางเพื่อนอย่างเนียนๆ กระทั่งสองกลุ่มกลายเป็นพันธมิตรร่วมกันทั้งในเรื่องเรียนและเรื่องเที่ยว

   “พี่เซียน หนูชื่อฟ้าใสค่ะ ขอเบอร์โทรหน่อยได้ไหมคะ”

   เป็นเสียงตะโกนดังกังวานสะท้อนเอคโค่จากหอพักนักศึกษาฟากโน้น ที่ระเบียงห้องหนึ่งมีผู้หญิงผมยาวยืนโบกไม้โบกมือยื่นไมตรี สักพักจึงได้ยินเสียงหนึ่งตะโกนกลับไป

   “081-188-881…”

   เป็นไอ้เซียนที่คงยืนอยู่ตรงระเบียงห้องไอ้เอก ถ้าไม่มาทำงานก็คงมาเล่นเกมตามประสา ทำให้ผมได้มาเจอกับช็อตจีบกันของเด็กมหา’ลัย ไอ้นี่ก็เถอะ ใจง่ายไปทั่ว ความรักนวลสงวนตัวช่างหาได้ยากจากผู้ชายคนนี้ซะจริง 

   และการที่ผมเลือกเช่าห้องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เป็นความจงใจล้วนๆ

   “เดี๋ยวโทรไปนะคะ”

   “อะไรวะ ทำไมใครๆ ก็อยากเป็นเมียวิศวะ” เป็นเสียงไอ้เอกที่ลอยมาตามลมแล้วกระแทกเข้าหูผม

   กูตอบให้นะเอก ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับสกิลหนังหน้าและมวลมูลค่าของแบงค์ในกระเป๋าล้วนๆ ให้ดีมีรถยนต์หรูขับมาเรียน ขี้คร้านให้เรียนอะไรก็ล่อสาวเด่นประจำคณะได้ทั้งนั้นแหละโว้ย ไม่งั้นกูคงไม่โสดจนว่างมาแอบฟังพวกมึงสองตัวเพ้อให้รำคาญหูหรอก

   “กูว่าเค้าอยากเป็นเมียกูมากกว่ามั้ง ไม่งั้นมึงคงไม่โสดหรอก มึงก็เรียนวิศวะเหมือนกัน”

   “ใช่สิ กูไม่ใช่เดือนมหา’ลัยอย่างมึงนี่ บ้านก็ไม่ได้รวยเป็นเจ้าของเเฟรนไชส์ขนมจีบซาลาเปาชื่อดัง ไหนจะธุรกิจของป๊ามึงอีก กระเป๋ากูก็แฟ่บ ต้องปั่นจักรยานไปเรียน ดำก็ดำ เบ้าหน้าก็ไม่อปป้าโคเรีย เหอะ!”

   สาบานได้เอก ว่ามึงไม่ได้พูดกระทบกูเลยสักคำ!

   “ร่ายซะกูสมเพชมึงเลยเอก”

   ฉึก! เหมือนลูกศรพุ่งเสียบเข้ากลางอก ไอ้เซียนสมเพชเพื่อนมันก็เท่ากับสมเพชผมด้วย เป็นสมบัติความเท่ากันทางคณิตศาสตร์ของคนที่มีเบ้าหน้าบ้านๆ อย่างเรา

   “กูก็อยากเป็นผัววิศวะเหมือนกันนะโว้ย” หืม ว่าไงนะ คำพูดนั้นเล่นเอาหูผมกระดิก “หน้าตาจิ้มลิ้มทั้งนั้นเลย วันก่อนไปตึกเค็มเอ็นมา อื้อหือ ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะมาก มีคนนึงดัดฟันด้วย โคตรชอบเลยว่ะ”

   สเปกของมันเล่นเอาคนแอบฟังอย่างผมสะท้านไปทั้งตัว ก้มหน้ามองต่ำมาที่แขน ไม่ดำ แต่ก็ไม่ขาว และต่อให้ขาวก็ไม่น่ากิน แถมฟันยังไม่ดัดอีกเพราะเสียดายฟันเขี้ยวที่ต้องถอน เลยตัดใจทั้งที่อยากจะดัดมาตั้งแต่สมัยม.ปลาย

   “ก็เลือกเอาสักคน ทำเป็นหล่อเสียของอยู่ได้” ไอ้เอกแซะ

   “รำคาญ”

   “เรื่องมากได้กาก”

   “แต่มักมากมักได้เลือกนะโว้ย"

   แหวะ! ขออ้วกเถอะ!

   “หรือว่ามึงมีคนที่ชอบแล้ว?” คำถามนี้ของไอ้เอกเล่นเอาผมต้องขยับกายประชิดติดกำแพง เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจว่าไอ้เซียนจะเอ่ยชื่อสาวคนไหนออกมา

   “เฮ้อ... ไม่เสือกสิ!”

   “ชะ… เชี่ย!”  ผมสะดุ้งพร้อมกับหลุดร้องออกมาตอนที่เสียงนั้นดังข้างหู เป็นไอ้เซียนที่โผล่หัวข้ามกำแพงมาแล้วหัวเราะ ร่าชอบใจ “เล่นอะไรวะ ตกใจหมด กูตกระเบียงตายไปใครรับผิดชอบฮะ เบ้าหน้าอย่างกูมีหนึ่งเดียวในโลกนะโว้ย มึงมีปัญญาทำไปคืนแม่กูเหรอ ทีหลังจะทำอะไรคิดบ้าง ไม่ใช่มีหน้าหนาๆ ไว้คั่นหูอย่างเดียว”

   “ฝอยอะไรเนี่ย” มันเหน็บด้วยหน้าหล่อๆ ที่พยายามกลั้นขำ “เมื่อยปากบ้างไหมวะ พูดมากจัด มานี่เลยมา มาแข่งเกมกับกู PK ตัวต่อตัว”

   “แข่งแล้วได้อะไร คุ้มค่าเวลาที่เสียไปไหม ไหนจะเสียเวลานอนอีก งานกูก็ยังไม่เสร็จ...” สะดีดสะดิ้งทำเข้มพอเป็นพิธีแล้วก็เสริมอีกหน่อยว่า “แล้วสไลด์นำเสนอวิชาแมททรีเรียลมึงเสร็จแล้วเหรอวะถึงได้คิดจะเล่นเกม ถ้าเสร็จก็เอามาให้กูลอกบ้าง กูยังไม่เสร็จเลยอ่ะ” ท้ายเสียงของผมเริ่มอ่อยและเบาลง

   “มึงหยิบฉลากได้โลหะชิ้นเดียวกับกูรึไงจะมาลอกเนี่ย แต่ละคนต้องมาขัด กัดกรด แล้วส่องกล้องวิเคราะห์โครงสร้างเองไม่ใช่รึไงวะ สมองมีอ่ะ คิดๆๆๆๆๆ ไม่ใช่สักแต่จะลอก อย่าให้กูต้องสอน” มันแย้งขึ้นมายาวเหยียด หน้าผมชาวาบ ผมผิดอะไร แค่อยากอยู่ใกล้นิดหนึ่งก็ไม่ได้

   แล้วมึงอ่ะ... โคตรฝอยหนักกว่ากูอีก บอกเลย

   “ก็กูไม่แม่นโครงสร้างนี่หว่า พยายามดูรูปเทียบอยู่เนี่ย ไม่รู้เป็นสเตนเลสตัวไหน ออสเตนนิติก เฟอร์ริติก มาร์เตนซิติก หรือว่ามันเป็นเหล็กหล่อวะ แล้วหล่อชนิดไหนก็ไม่รู้ แกรไฟต์ก้อนกลมรึเปล่า มีกลมๆ ด้วยอ่ะ เฮ้อ มึนว่ะ” ผมยังคงไม่ละความพยายาม

   “พูดขนาดนี้... กูไม่ช่วยมึงได้ไหม”

   “มันก็ได้อ่ะนะ แต่ชื่อมึงจะหายไปจากงานกลุ่มอังกฤษทันที”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ขยันตอดเข้าไปลูก มันต้องติดเข้าสักวัน  :katai2-1:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
เหมือนตัดฉึบไปเฉยย :ling1: :ling1:


ขอเยอะๆๆๆ  :mew1: น้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เซียน ที่เทียนชอบ ก็หน้าหม้อล่อสาวไปเรื่อย  :z3:
สาวมาขอเบอร์ต่อหน้าต่อตา
แล้วเซียนก็ให้เบอร์ง่ายๆ เฮ้อๆ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
สงสารเทียน ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งรับรู้ และสะท้อนสะท้านใจ
ทั้งที่มักน้อย แค่ขออยู่ใกล้ๆแท้ๆ  :hao5: :hao5: :hao5:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เทียนหนูมักน้อยจังเลยลูก  :katai3: ดีใจนะเนี่ยที่เห็นช็อปสีเทาในนิยาย ส่วนมากเห็นไม่สีกรมก็สีเลือดหมู เพราะมอเราวิศวะก็ใส่สีเทา รู้สึกตื่นเต้น 555555

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ซีรีส์ชุด Intania ภาค IE
เรื่อง เซียนเหนือฟ้า
                           [ IE : Industrial Engineering   วิศวกรรมอุตสาหการ ]                         
เขียนโดย  Boorina



ตอนที่ 4

ตลบกี่ชั้นกี่อาศาจึงได้มา

   กลายเป็นว่ามันพูดคำว่า ‘ถูกแล้ว’ สั้นๆ สองคำแล้วกดปิดโปรแกรมพาวเวอร์พ้อยท์ลง จากนั้นก็ยึดแล็ปท็อปผมเพื่อกดเข้าเกมแล้วพาไปนั่งเล่นที่โต๊ะคอมพ์อย่างสบายใจเฉิบ พลางส่งเสียงตะโกนอย่างสะใส ‘ลงดัน!.. ฆ่ามัน!... ขยี้บอส... ลุยโว้ย!!!’ ทิ้งปัญหาเหนื่อยยากให้ผมต้องทำอีกหน่อยกับการเขียนแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ แลกกับคำสองคำของมันเมื่อตะกี้นี้บนเตียงของไอ้เอก

   ที่น่าเจ็บใจไม่ใช่เพราะต้องทำอะไรให้มัน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ผมเต็มใจ แต่เพราะงานชิ้นนี้ไม่ใช่งานของมัน แต่เป็นของยัยเด็กฟ้าใสที่ตะโกนของเบอร์หนุ่มข้ามหน้าข้ามตาผม เหอะ! อยากหน้าไม่อายแบบน้องมันบ้าง ไม่ต้องเหนื่อยคิดหาวิธีอ้อมโลกอย่างที่เป็นมาตลอด

   อย่างผมกว่าจะได้เบอร์โทรกับไลน์ไอ้เซียนมันน่ะเหรอ ต้องใช้มารยาขั้นไหน ตลบไปกี่ชั้นกี่องศา คิดแล้วก็คงต้องย้อนกลับไปตอนปีหนึ่งเทอมหนึ่งสักหน่อย




   ‘กูก็พอช่วยมึงได้หรอก แต่เดี๋ยวกูมีธุระต้องรีบกลับว่ะ’

   ‘ขอบใจนะไอ้เทียน’

   ‘เออ งั้นเอาเบอร์โทรหรือไลน์มาหน่อยดิ’

   ‘หือ? เขียนแล้วจะถ่ายส่งไลน์มาให้ลอกเหรอ? เออๆ ดีๆ ลืมคิดไปเลย เอามือถือมา กูกดเบอร์ให้’

   ‘โอเคร ไลน์เด้งเข้ามาแล้ว ค่ำๆ จะไลน์หาว่ะ ขอจัดการธุระก่อน’

   

   ในความเป็นจริงนั่นคือสกิลความตอแหลเพราะอยากได้เบอร์ผู้ชาย คิดอีกทีถ้าขอแลกเบอร์กันปกติมันก็คงไม่นึกสงสัยอะไรหรอก แต่เพราะผมมันป๊อดคิดมากกลัวมันคิดลึก เลยต้องอ้อมค้อมจนนึกรำคาญตัวเองที่ทำให้เหนื่อยแรงเข้าไปอีก


   ท้องฟ้า      :   ชื่อจริงภาษาอังกฤษสะกดไง?

   ท่านเทพเซียน   :   ถามทำไม

   ท้องฟ้า      :   เอ้า ไอนี่

                    ให้กูเขียนแนะนำตัวภาษาอังกฤษให้ มึงก็ตอบๆ มาเหอะ

   ท่านเทพเซียน   :   อ้อ ท่านเทพเซียนลืมไป โทษทีครับ

   ท้องฟ้า      :   กูเกลียดชื่อมึง

                    ความกระแดะก็เช่นกัน

   ท่านเทพเซียน   :   555 ไม่เป็นไร ไม่ถือ

                   ความเกลียดชังของมึงไม่ส่งผลต่อคอลลาเจนบนหน้ากู

                   Thapthep Thaichana

   ท้องฟ้า      :   ไอ้หลงตัวเอง

                   วันเกิด?

   ท่านเทพเซียน   :   21 มี.ค.

                   วันดีที่เทพเซียนลงมาจุติ อย่าลืมของขวัญกูนะ ขอบคุณ

   ท้องฟ้า      :   พล่ามมาก

                    พ.ศ.?

   ท่านเทพเซียน   :   เดียวกับมึง

   ท้องฟ้า      :   สูง?

   ท่านเทพเซียน   :   187.65

                    กูสูงกว่ามึงกี่เซ็นต์วะ สิบได้มะ

   ท้องฟ้า      :   กวนส้นกูอีกละ กู 185

   ท่านเทพเซียน   :   นี่มึงปัดเศษจาก 165 ใช่ไหม

   ท้องฟ้า      :   จาก 179 โว้ย ไอ้เบื๊อกนี่

                   น้ำหนัก?

   ท่านเทพเซียน   :   กูต้องไปชั่งไหม

   ท้องฟ้า      :   ช่างหัวมึงเหอะ

                    เรียนจบม.ปลายจาก รร.?  บ้านเลขที่? มีพี่น้องกี่คน? ชอบสี? ชอบกิน? เกลียด?

                    งานอดิเรกล่ะ เสาร์อาทิตย์ชอบไปเที่ยวไหนวะ

                    เชียร์บอลทีมอะไร ศัตรูหงส์กูเปล่า

                   สเปกคนในฝันต้องยังไงสาธยายมา

                   แล้ว... เรียนจบจะสมัครงานที่ไหนเป็นที่แรก

   ท่านเทพเซียน   :   เอาสูติบัตร เลขบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน

                   ภาพถ่ายหลังคาบ้านจากกูเกิ้ลแม็พด้วยไหม  หรือจะให้แชร์โลเคชั่นในไลน์ไปให้

                   ทรานสคลิป ม.ปลายก็ด้วย กูพร้อมหมดอ่ะ

   ท้องฟ้า      :   ก็ดีนะ

   ท่านเทพเซียน   :   ตลกนะเราน่ะ

   ท้องฟ้า      :   E-mail FB IG twitter Line ID เบอร์บ้านด้วย

                   เดี๋ยวเขียนไม่ถึงสองหน้า

   ท่านเทพเซียน   :   เดี๋ยวแถมเบอร์ป๊ากับม๊าให้

                     เออ กูว่าจะถาม...

                    ทำไมใช้ชื่อไลน์ว่าท้องฟ้าวะ

                    ชื่อหมา? ชื่อแฟน?

                     เอ้า เงียบอีก

                     เออๆ เขียนไป

   ท้องฟ้า      :   ก็นะ... คนๆ นั้นอยู่บนท้องฟ้า

   ท่านเทพเซียน   :   ออ กูขอโทษว่ะ

                    ไม่คิดว่าชีวิตมึงจะมีดราม่าเรื่องเศร้าทำนองนี้ด้วย


   เฮ้อ ไอ้โง่ นี่กูต้องดิฟต้องอินทริเกรตกี่ชั้นถึงจะคำนวณค่าความโง่เง่าในหัวมึงได้เนี่ยไอ้เซียน แต่ถ้ามากกว่าสองชั้นก็ขอโบกมือลา แค่นั้นก็ทำกูเดี้ยงจนวิชาแคลคูัสตอนปีหนึ่งสอยมาได้แค่ซีบวก

   หลังจากร่างงานให้ไอ้เซียนเรียบร้อยแล้วตั้งแต่สองชั่วโมงก่อน ผมในสภาพแก้มบวมเพราะหุบยิ้มไม่ลงเพราะสมองเต็มไปด้วยโปรไฟล์เอ็กซ์คลูซีฟก็ได้กดมือถือโทรหามันหลังเที่ยงคืน ได้ยินเสียงเกมดังผ่านสัญญาณมาตามสาย น้ำเสียงมันค่อนข้างงงเล็กน้อยตอนเอ่ยถาม

   ‘โทรทำไมให้เปลืองตังค์ ไม่ไลน์มาวะ’

   ‘มือถือตัดโปรฯ ตอนเที่ยงคืนพอดี เล่นเนตไม่ได้ งานมึงก็ต้องส่งตอนเช้าด้วย เลยจะโทรมาบอกให้มึงเขียนตามที่กูพูดเนี่ย’

   ‘เดี๋ยวกูก็สะกดผิดอีก ทักษะการฟังกูไม่ได้เทพไปกว่าการเขียนนะโว้ย... เอางี้ พรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าที่โรงอาหารนะ เดี๋ยวกูเลี้ยงข้าวเช้ามึงด้วย’

   ‘โอ๊ยยยย เช้าว่ะ ขี้เกียจอ่ะ เอางี้ได้มะ... ถ้ามึงตื่นตอนไหนก็โทรปลุกกูหน่อยแล้วกัน โทรย้ำจนกว่ากูจะรับนะโว้ย’

   ‘เออ ไอ้ขี้เซา!’

   อุ๊ย! แค่แกล้งทำเป็นอินเตอร์เน็ตหมดเพื่อหาข้ออ้างอยากฟังเสียง ใครจะรู้ว่าผมดันโชคดีถูกผู้ชายสายเปย์เสนอตัวจะเลี้ยงข้าว เฮ้อ... คุ้มค่าเหนื่อยดีจริงๆ


   


   โอ๊ย! เจ็บ!!

   “ไอ้เซียน มึงถีบกูทำไม!?”

   ผมยกมือขึ้นลูบเอวหลังถูกไอ้เซียนถีบจนแทบพลัดตกเตียง ยังดีที่มือเหนียวคว้าเอาขอบเตียงไว้ทันเลยร่วงกรูไปแค่ช่วงล่าง พอดีกับที่ไอ้เอกเจ้าของห้องกลับมาจากข้างนอกเพื่อหาซื้ออาหารรอบดึกมาปาร์ตี้ ผมลุกขึ้นยืนบนเตียงแล้วพยักหน้าเดือดใส่ไอ้เซียน

   “เล่นทีเผลอเหรอ ตัวต่อตัวไหมมึงอ่ะ เจ๋งมาจากไหนวะ คิดจะรังแกกู” ตอนที่ผมพูด ไอ้เอกส่ายหน้ารัวแล้วเลี่ยงเดินไปหยิบจานชามช้อนส้อมเพื่อแกะกับแกล้มและแก้วสำหรับเบียร์สองถุงใหญ่

   “อ้าว ใครจะรู้ คิดว่าผีเข้า เห็นนั่งยิ้มน้ำลายไหลจนกระดาษเปียกหมดแล้ว แถมยังไม่ได้เขียนอะไรเลยสักตัว”

   กูก็คิดเรื่องมึงอยู่ไง กูถึงได้เป็นแบบนี้ ไม่รู้อะไรอย่ามาพูดเลย

   “ก็เขียนไม่ถูกป่ะวะ ให้กูเขียนให้เขา แม่ง ชื่ออะไรกูยังไม่รู้เลย”

   ไอ้เซียนตีหน้ายุ่งใช้ความคิดเล็กน้อยก่อนจะพาตัวมานั่งลงบนเตียงแล้วดึงแขนผมให้นั่งลงข้างกัน

   “นั่งดิ๊ กลิ่นมันโชย”

   ผมตบเสยท้ายทอยมันไปหนึ่งทีเน้นๆ ด้วยความหมั่นไส้ปากที่คอยแต่จะเรียกส้น พ่วงด้วยอารมณ์หมั่นไส้ที่ทำให้ผมต้องมาเป็นเบ๊รับใช้ผู้หญิงในสต็อกของมัน

   “มึงโทรถามน้องมันดิวะ กูจะได้เขียนให้เสร็จๆ เนี่ย”

   “โทรให้เปลือง”

   “โหวววว ไอ้ขี้งก นี่มึงจีบสาวแล้วยังเค็มอีก ไม่ป๋าเลยว่ะ... ลำบากกูโคตร"

   “มึงก็เว้นไว้สิ อะไรที่ต้องเติมอ่ะ”

   “มันฉลาดพอที่จะรู้ไหมว่าต้องเติมอะไร” แต่ผมว่าฉลาดใช่ย่อยเลยแหละกับวิธีอ่อยหนุ่มของน้องฟ้าใส ทำเป็นเอาเรื่องเรียนมาออดมาอ้อน เหอะ! มารยาขั้นเบบี๋มาก เทียบชั้นพี่ไม่ติดหรอก

   “งั้นอันไหนเป็นข้อมูลส่วนตัว หรือความชอบผู้ชอบสาวแบบไหน มึงก็เอาปากกาแดงเขียนข้อมูลมึงลงไปเป็นตัวอย่าง ถ้าน้องฟ้าใสมันจะโง่ขนาดไม่รู้ว่าต้องทำยังไงก็ปล่อยไปเถอะ จะไปเคร่งเครียดอะไรกับงานของเขา”

   เออ ก็รู้นี่ว่างานเขา แล้วมึงรับมาทำแป๊ะซะเหรอ แถมยังทำกูเหนื่อยต้องมาช่วยมึงจีบสาวอีก กรรมอะไรของกูวะเนี่ย

   “4 February 19... แล้วนี่กูชอบสีอะไรวะ... สเปกตัวผู้น้องมันล่ะ... เฮ้อ...”

   ผมพึมพำขณะจรดปากกาตวัดเขียนด้วยความเซ็งในอารมณ์!
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คุยกันนะ

๑. โทษทีนะคะที่ตอนก่อนหน้าสั้นไปหน่อย ^^;
๒. สำหรับเสื้อช็อปสีเทา เมื่อเขียนแล้วโดนใจคนอ่านก็ดีใจค่ะ  โดยในเรื่องแต่ละภาควิชาจะมีสีช็อปแตกต่างกันไป แต่จะมีช็อปคณะสีเดียวกัน (บางมหาวิทยาลัยก็มีช็อปคณะ บางที่ก็ไม่มีค่ะ) ซึ่งเดี๋ยวจะมีสอดแทรกในเรื่องนะคะ จำไม่ได้ละว่าเขียนใส่ไว้ในเรื่องไหน ต้องฝากติดตามอ่านไปเรื่อยๆ นะคะ
๓. แต่ละเรื่องจะยาวไม่มากนักค่ะ ไม่กี่ตอนก็จบแล้ว
๔. ในเรื่อง เซียนเหนือฟ้า เริ่มต้นอาจราบเรียบ แต่เตรียมฟินช่วงครึ่งได้เลยค่ะ ^^
๕. หลังจบเรื่อง เซียนเหนือฟ้า (วิศวกรรมอุตสาหการ) ก็จะเป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มภาควิชาวิศวกรรมโยธา ค่ะ
ฝากติดตามด้วยนะคะ
๖. ความตอดนั้น...อีกไม่นานก็ทะลักออกมาแล้วค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันจ้า







ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เวรกรรมอะไรของนางต้องมาทำงานให้สาวที่คนที่ตัวเองชอบเล็งไว้  วงวารนาง 5555555555

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เทพเซียน จะรู้ตอนไหนกันนะว่าเทียนชอบตัวเอง  :hao3:
         :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ึคน ๆ นั้นที่อยู่บนท้องฟ้า คือ เทพเซียน แม่นบ่  :hao3:

ออฟไลน์ kankanin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ว้ายยยย เทียนมารอเทพที่ท้องฟ้าทุกวันเลยยย เซียนอีบื้ออออออ

ออฟไลน์ nine.petch

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อื้อหือ แค่ขอเบอร์ทำไมต้องอ้อมค้อมอ้อมโลกขนาดนั้นห้ะเซียน ทำไมชีวิตดูพอใจกับการแอบชอบ รุกบ้างสิ กระโดดคล่อมจับปล้ำเรียบร้อยโรงเรียนจีน เซียนไม่ว่าอะไรหรอก เอ๊ะ หรือว่าเซียนไม่ใช่พระเอกที่แท้จริง มีคนแอบชอบเทียนอีกต่อหนึ่งหรือเปล่า หรือว่าเอกหัวหอม เฮ้ยไม่หรอกน่า ก็บอกอยู่ว่าคนๆนั้นอยู่บนฟ้า ถ้าไม่ใช่เทพเซียนแล้วจะเป็นใครกัน เอ๊ะ หรือว่าคนบนฟ้ามันเอื้อมถึงยากนี่เนอะ ก็คงดราม่าไป สุดท้ายก็มาลงเอยกับเอกอยู่ดี หรือเปล่า
สนุกดี รอๆๆๆๆ  :katai4: :katai4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด