⚙️ ซีรีส์ชุด อินทาเนีย [วิศวกรรมศาสตร์] メภาค MEメเสือนับแต้ม CH.08 (25-04-2018)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ⚙️ ซีรีส์ชุด อินทาเนีย [วิศวกรรมศาสตร์] メภาค MEメเสือนับแต้ม CH.08 (25-04-2018)  (อ่าน 46478 ครั้ง)

ออฟไลน์ wichiwiwie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จชอบอะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ :)

ออฟไลน์ wichta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รีบเลยคะ จะลงแดงแล้วค้างงงงงงอยู่บนฟ้ากับเทพเซียนแล้วเนี่ย เอ็นดูเทียนจริงๆเล๊ย ขอทีเดียว 10'เลยค๊า

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ซีรีส์ชุด Intania ภาค IE
เรื่อง เซียนเหนือฟ้า
[ IE : Industrial Engineering   วิศวกรรมอุตสาหการ ]                         
เขียนโดย  Boorina


5
ภาพคู่


   “กว่าจะถึงคิวกู โอ๊ย ยืนรอไปสิ รอจนรากแก้วงอกอ่ะมึง” ไอ้เพลงส่งเสียงครวญตอนที่เดินเข้ามานั่งใกล้ผมในห้องเรียนเพื่อรอเรียนวิชาถัดไปในคาบบ่าย จ้อต่อไปอีกว่า “แล้วนี่กว่าไอ้เซียนกับไอ้เอกจะได้ สงสัยพวกเราเลิกคลาสกันก่อน เป็นแค่ร้านน้ำบ้านๆ แต่ดันขายดีโคตร เรียนจบแล้วอยากมาเปิดร้านแข่งด้วยเลย”

   ผมจะไม่สนใจคำพล่ามของมันเลยถ้าหากไม่มีชื่อไอ้เซียนอยู่ในนั้น ผมเออออทำทีเป็นรับฟัง ในหัวปิ๊งไอเดียหนึ่งขึ้นมา หยิบมือถือมากดแชะภาพเล่น สักพักทำทีลากคอไอ้เพลงกับไอ้หรั่งที่นั่งขนาบข้างผมมาเซลฟี่อย่างเฮฮา กะจังหวะให้พวกไอ้เซียนเดินเข้ามาด้านหลังเพื่อให้ติดอยู่ในเฟรมเดียวกัน เพราะยังไงโต๊ะนั่งประจำของพวกมันก็อยู่ข้างหลังผมอยู่แล้ว

   แต่ใครจะคิด... ว่าไอ้เซียนจะนึกอยากก่อกวนพวกผมด้วยการทำเป็นยืนเก๊กหล่อเป็นแบล็กกราวน์เบื้องหลังพร้อมไอ้เอก หึ ทำกูหมองเลย แต่อารมณ์โคตรฟิน

   “ส่งมาให้บ้างสิไอ้เทียน” ไอ้เซียนชะโงกหัวมาข้างหน้าเพื่อบอกผมด้วยเสียงเริงร่าตามนิสัยเฟรนด์ลี่ขี้เล่น “เอาภาพที่กูหล่อนะ”

   “ไม่ให้ เพราะกูไม่หล่อ มึงจะโผล่หัวมาทำไมเนี่ย ทำพวกกูดร็อปหมด อย่างกับถูกหมอผีเสกหนังควายเข้าท้อง มึงนี่นิสัยเลวมาก ไสหัวไปไกลๆ กูเลยไอ้เซียน ไอ้ขี้เสือก”

   ไปไกลๆ เลยชิ่วๆ กูจะได้มีเวลานั่งส่องรูปมึง โอ๊ย ออร่ามึงจัดมาก ชอบมาก ปลื้มปริ่มจริงๆ

   “ขี้งกอ่ะ... ตัวดำ... ใจดำ...”

   มันส่งเสียงค้อนลอยเข้ามาในรูหูผมเป็นระยะๆ ตลอดชั่วโมงเรียน


   ท้องฟ้า      :   มึงงงง

                    ภาพนี้โอเคไหม

   PlengKPop   :   ไม่ได้ต้องการไหม

                    ที่กูขอคือภาพพวกเราสามคน

   ท้องฟ้า      :   กูเห่อไง

                     ภาพคู่แรก

   PlengKPop   :   ไม่ใช่ภาพครอปเฉพาะหนังหน้ามึงกับไอ้เซียนเหรอ

                    ไอ้ขี้อวดดดดดดดดด

                    กากกกกกกกกกกกก

   ท้องฟ้า      :   ยังไงก็คือภาพคู่

                    ปล่อยกูเพ้อเถอะ

                    พลีสสส...

   ภาพคู่... ไอ้เซียนยืนดูดชาเย็นเยื้องไปด้านหลังผมเล็กน้อย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

   วันนี้ผมไม่มีเรียนคาบเช้า จึงเข้ามหา’ลัยในช่วงสายเพื่อหาของกินที่ตลาดละลายทรัพย์ซึ่งในหนึ่งสัปดาห์จะมีเพียงวันพุธเท่านั้น หยิบโน่นซื้อนี้จนของกินเต็มมือจึงเดินไปโซนแฟชั่น คำนวณเม็ดเงินที่เหลือในกระเป๋าแล้วสรุปได้สั้นๆ ว่าสามารถซื้อของไร้สาระได้แค่สองร้อยบาทเท่านั้น ไม่งั้นทั้งเดือนคงได้ทำข้าวต้มใส่เกลือกินแทน เพราะกระทั่งบะหมี่ก็ยังแพงเกินไปสำหรับผม

   ตอนที่เดินผ่านร้านเครื่องประดับผมสะดุดตากับสร้อยข้อมือ ไม่ใช่เพราะสวยหรืออะไรหรอก แต่เพราะเห็นไอ้เซียนยืนก้มหน้าก้มตาด้วยความสนใจ อดที่จะหลบมุมแล้วแอบมองไม่ได้ว่ามันซื้อสร้อยแนวไหน ผมเห็นเพียงมันจับชิ้นโน้นหยิบชิ้นนี้แล้วเดินจากไป เมื่อทางโล่งโปร่งสะดวกผมจึงรีบปรี่เข้าไปประชิดติดโต๊ะเครื่องประดับ ปลายนิ้วชี้ไปยังสร้อยแบบหนึ่ง

   “เส้นนี้เท่าไหร่ครับพี่”

   “สองร้อยห้าสิบจ้ะ”

   “อ้อ...”

   ผมหยิบสร้อยหนังสีน้ำตาลขึ้นมาเส้นหนึ่ง มีแถบสแตนเลสเล็กๆ ประดับอยู่ตรงกลาง เป็นแบบเดียวกับที่ไอ้เซียนเล็งไว้  ในใจครุ่นคิดขึ้นมาทันที  อยากสลักชื่อท่านเทพเซียนไว้เหลือเกิน

   สลักชื่อเพิ่ม 30 บาท

   เห็นป้ายที่วางอยู่แล้วติดสตั้นไปสองวินาที ลำพังสร้อยราคาสองร้อยห้าสิบก็ขูดเลือดขูดเนื้อผมจนแทบเหลือแต่กระดูก  คิดลองหาแบบอื่นที่ราคาถูกลง แต่มันก็ไม่สวยไม่เท่อย่างที่ไอ้เซียนมันสน ทั้งยังมีคำที่สลักไว้อยู่แล้ว ไม่สามารถเลือกคำที่ชอบได้

   เหลียวกลับมามองสร้อยในมืออย่างอาลัยอาวรณ์แล้วตัดใจ สามสิบบาทก็เงิน ในเมื่อความมั่นคงทางการเงินไม่เอื้ออำนวยก็ปล่อยมันไปเถอะ

   “ไม่เอาเหรอ เห็นยืนดูอยู่ตั้งนาน” ไอ้เซียนทำผมตกใจกับเสียงเอ่ยทัก แกล้งนิ่งสยบหัวใจที่เต้นโครมครามแล้วตอบกลับไปอย่างเป็นธรรมชาติอย่างที่ควรเป็น

   “ขี้เกลียดเสียตังค์เพิ่มค่าสลักชื่อ แล้วมึงเสือกอะไรด้วยเนี่ยไอ้เซียน”

   “อยากได้คำว่าอะไรอ่ะ” ชื่อมึงไงเซียน ยุ่งจริงโว้ย “ตะกี้ตอนกูดูเห็นมีคำว่า SKY  ด้วยนะ ความหมายเดียวกับชื่อไลน์มึงเลย แลดูโรแม้งมาก จะได้ไม่ต้องสลักใหม่ให้เสียตังค์ไง”

   “จริงดิ แต่ที่กูจะเอาไม่ใช่แบบเส้นที่มันเป็นสีๆ กูจะเอาสายหนัง แต่แพงไง”

   ไอ้เซียนยื่นมือไปชี้ถุงใสใบหนึ่งที่มีสร้อยข้อมืออยู่ในนั้น แม่ค้าหยิบแล้วยื่นส่งให้มันทันที

   “มีคนสั่งแล้วชิ่งหนี พี่แกเลยบอกถ้าสนก็เอาไปเลยไม่ต้องเสียค่าสลัก”

   มันพล่ามพร้อมหยิบสร้อยข้อมือออกมา มีคำว่า SKY สลักอยู่จริงๆ ด้วย แต่มึงเข้าใจไหมเซียน กูเปล่าอยากได้ ให้เอาไปนอนเพ้อถึงชื่อตัวเองเหรอ ซากดิ กูอยากได้ชื่อมึงต่างหาก จุ้นไม่เข้าเรื่อง

   “เอาไปดิ”

   จะสลัดออกจากจุดนี้ได้ยังไง ไอ้เซียนเห็นผมนิ่งยิ่งทำหน้ามุ่นสงสัย ผมถอนหายใจติดรำคาญ โพล่งออกไปว่า

   “อ้อ… สวยดีเนอะ"

   “สวยดิ กูยังชอบเลย มาๆ กูใส่ให้เอง มือมึงถือของกินเยอะ เฮ้อ แค่นี้ยังอ้วนไม่พอใช่ไหม ลงพุงเยอะไปแล้วนะมึง”

   พูดจบมันก็คว้ามือผมไปสวมสร้อยข้อมือให้ แสงสว่างสะท้อนวิบวับกับแผ่นสแตนเลสสีเงินงดงามตระการตา ยังไม่พอ มันยังใจดีล้วงเศษเงินในกระเป๋ากางเกงผมส่งให้พ่อค้า ช่างเป็นเพื่อนแสนดีจนผมซาบซึ้งน้ำตาคลอ ร้องไม่ได้้หัวเราะไม่ออก รู้สึกอยากตะโกนด่ามันให้น้ำไหลไฟดับทั้งตำบลให้สาสมกับความแค้นใจในครั้งนี้

   ห้าสิบบาทที่เกินงบไปไม่เท่ากับมันที่ทำให้ผมเสียเงินไปกับของที่ไม่อยากได้

   เสือกได้โล่เลยมึงไอ้เซียน!

   “เทียน... ไป Terminal 21 ด้วยกันไหม”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ออฟไลน์ aommyga40

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตามแอบส่องเขาอย่างไงให้เขาตลบหลังได้เนี่ย  :hao4:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ไม่ใช่ว่าเส้นที่สลักว่าสกายที่จริงเซียนเป็นคนสั่งนะ แล้วทามมาเปง 555555555555

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ซีรีส์ชุด Intania ภาค IE
เรื่อง เซียนเหนือฟ้า
[ IE : Industrial Engineering   วิศวกรรมอุตสาหการ ]                         
เขียนโดย  Boorina



อิมเมจ
แจบอม + จินยอง
(สามารถแว้บไปดูได้ในเด็กดีนะคะ)




ตอนที่ 6
หน่วง



   ตังค์หมดคงไปได้หรอกนะ!

        นอกจากหมดไปกับของไร้สาระที่ไม่นึกอยากถอดออกเพราะมีคนใส่ให้ ยังเสียไปกับค่าถ่ายเอกสารข้อสอบเก่าและหนังสือรวมฮิตเคล็ดวิชาดิฟอิเคว ไหนจะค่ารายงานที่มาเรียกเก็บวันนี้ กลายเป็นเงินหมดกระเป๋าของจริง

   คิดวิเคราะห์ถึงความลำบากเรื่องเงินทองแล้วจึงตัดสินใจนั่งรถตู้ไปหาอาพัด ใช้สกิลออดอ้อนสักนิดคงได้เงินมาหลักพันอย่างสบายๆ และอาจต้องนอนค้างที่คอนโดฯ สักคืนไม่ให้ดูน่าเกลียด ผมในตอนนี้จึงนั่งอยู่ในรถตู้แถวที่สามริมซ้ายซึ่งเป็นที่นั่งเดี่ยว สักพักสังเกตเห็นแผ่นหลังคุ้นตาด้านนอกแว้บๆ จึงพยายามเอียงซ้ายเอียงขวาเพื่อหามุมที่สามารถมองได้ชัดเจน

   โป๊ก!!

   “โอ๊กกกก เจ็บสาดดดด!”

   ร้องครวญพร้อมยกมือขึ้นกุมหัวก่อนจะชะงักให้กับเสียงหัวเราะที่ดังขึ้น แต่พอสะบัดหน้าพรืดไปมอง ไอ้เด็กเวรสองตัวบนรถแถวเดียวกันก็รีบหุบปากแล้วหันหน้าหนีไปทันที

   ถังดับเพลิงจัญไร! มาแขวนเกะกะอะไรตรงนี้เนี่ย!  เจ็บจนน้ำตาจะไหล แต่ต้องทำเข้มเเข็ง เพราะมีตัวเสือกจ้องหัวเราะ ว่าแล้วก็อยากเตะเด็ก

   “อ้าว ไปไหนอ่ะ” เป็นไอ้เซียนที่ร้องถามหน้าเหวอทั้งที่ยังยืนโก้งโค้งอยู่ในรถ ก่อนจะเดินไปนั่งเบาะหลังสุดด้านหลังผมแล้วยื่นหน้ามากระซิบที่ข้างหูผมว่า “ทีกูชวนไปไหนล่ะไม่ไป ที่แท้ก็แอบนัดคนอื่นไว้”

   “ให้กูไปเถอะ ก่อนจะไม่มีแดก”

   “ตังค์รายเดือนหมดแล้วเหรอ แล้วจะไปเอาที่ใคร พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดนี่”

   “ว่าจะไปขายตูดเล่น”

   เพียะ! “ไม่ขำ”

   “แล้วมึงจะมาตบหัวกูทำไม กูพูดเล่นไหม รุนแรงกับกูตลอด เห็นกูเป็นอะไรเนี่ย ถาดส้มตำเหรอ กระโหลกร้าวขึ้นมาทำไง ใช้สมองคิดสิ ตอบสิ เงียบทำไม มีตะกร้อครอบปากอยู่เหรอ อ่อนหรือกาก ซากหรือเดน  ไอ้เวรหรือเดือน เพื่อนหรือ...”

   เฮ้! ฉิบหายแล้ว พล่ามมากจนเกือบพลั้งปาก ดีนะที่ตะปบปากตัวเองทัน ถ้าหลุดออกไปมีหวังโดนเค้นแน่ๆ

   “เพื่อนหรือแฟน? แฟนหรือผัว? ผัวหรือเมีย? เอ้า เลือกเลยไอ้เทียน”

   อะไรวะ ย้อนกลับมาที่ผมได้ไง คล้ายถูกย้อนกลับมาอย่างงงๆ แต่อย่าคิดนะเซียน ว่าคนอย่างกูจะหน้าบางยอมแพ้มึง พลาดแล้ว รู้จักคนอย่างกูน้อยไปแล้วโว้ย

   “เลือกให้มึงแพ้ทางผู้ชาย” เป็นไงล่ะ อึ้งเลยไหมเพื่อนเซียน

   “ฝอยเก่งแบบนี้ ก็ลื่นหูดี”

มันพูดสั้นๆ ไม่แยแสต่อถ้อยคำย้อนศรจากปากผม ก่อนจะกระหวัดแขนโอบรอบคอผมจากด้านหลัง สักพักจึงรู้สึกถึงน้ำหนักที่กดลงมาที่ไหล่ ใบหน้าที่ขยับซุกไปที่คอ ลมหายใจที่เป่ารดบนผิวผม

“รู้สึกเหมือนเมารถเลยว่ะเทียน ฉิบหายแล้วกู”

   แล้วกูต้องทำไงวะเซียน?

   มึงรู้ไหมว่ากูในตอนนี้ตื่นเต้นจนขาแขนเป็นอัมพาตไปทั้งยวง สติสตังจะควานหายาดมในเป้ให้มึงก็หลุดหาย ลืมแม้กระทั่งลำดับโมเมนท์เซียนเทียนล่าสุด ครั้งนี้มันเท่าไหร่แล้ววะ ดูท่าสมองจะชะงักและประกาศหยุดทำการชั่วคราวซะแล้ว

   แต่เอาเถอะ ใช่ว่าโอกาสแบบนี้จะมีกันง่ายๆ ขอ ‘แชะ’ เก็บไว้เป็นที่ระลึกสักภาพก็แล้วกัน

   ภาพคู่... เส้นผมที่พันกันของเซียนเทียน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

   ท้องฟ้า      :   สุดท้ายกูเลยต้องพามันนั่งรถตู้ไปส่งที่บ้าน

   PlengR&B   :   แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหน

   ท้องฟ้า      :   ห้องนอนมัน แม่มันกับมันยื้อกูอยู่กินข้าวเย็น

                    นี่จะสี่ทุ่มแล้วยังไม่ให้กูกลับ

                    อยากขึ้นเตียงกับกูก็บอกตรงๆ เหอะ ทำเป็นให้แม่มาช่วยออกหน้า

   PlengR&B   :   เฮ้อ...

                    จุก เพื่อนกูเพ้อได้อีก

                    งั้นกรี๊ดดิ รอไร

   ท้องฟ้า      :   เหอะๆๆๆ มันคงได้ยินหรอก

                    ใส่หูฟังเล่นเกมสบายใจเฉิบ สาบานได้ว่าตะกี้มันป่วย

   PlengR&B   :   มันวางแผนลากมึงมาล่อตูดเปล่า

   ท้องฟ้า      :   สาาาาาธุ!

                    พูดเห้ละ!!!

   PlengR&B   :   เอาจริงๆ นะโว้ยไอ้เทียน

                    กูว่ามึงลองเสี่ยงบอกชอบมันอ้อมๆ ดูสักครั้งไหมวะ

                    ยังไงก็ไม่ใช่เพื่อนกลุ่มเดียวกัน 

                   ถ้ามันจะรังเกียจมึงจนเลิกคบ

                   มึงก็ยังมีกูนะ

   ท้องฟ้า      :   ถามกูบ้างยังว่าอยากมีมึงป่าวววววว

   PlengR&B   :   ไอ้บัดซบ! ไปตายห่าไหนก็ไปเลย!!!

                    กูไม่สนใจมึงแล้ว

                    ไอ้เพื่อนเวงงงงงงงง


   ไม่ทันได้พิมพ์โต้กลับไป มือถือผมเป็นอันดับวูบ สายชาร์ตของตัวเองก็ไม่ได้เอาติดตัวมาด้วย เหลียวไปมองหาของไอ้เซียนก็พบว่ามันกำลังใช้อยู่ ทั้งยังรู้สึกเซ็งที่ไอ้เซียนลากให้ผมอยู่ค้างด้วยแต่ตัวเองดันไปนั่งเล่นเกม ผมชักอยากแกล้งสับเบรกเกอร์ไฟให้มันคลั่งตาย

   ลองยื่นสายตาไปใกล้ๆ ก็ชักเริ่มไม่แน่ใจว่ามันมัวเล่นเกมหรือแชทคุยกับเพื่อนในเกมกันแน่ แลดูได้อรรถรสจนลืมเพื่อนที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี่

   “จะเอาอะไรป่ะ?” ไอ้เซียนถอดหูฟังออกแล้วเอ่ยถาม

   ผมส่ายหน้าตีมึนแต่สายตาจับจ้องไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ “ไปอาบน้ำไป กูจะขอใช้คอมพ์หน่อย จะส่งงานเขียนแบบให้ไอ้เพลงอาร์แอนด์บี” ท้ายเสียงกระแดะเสตรสเสียงซะอ้อร้อเลยกู

   “อ้อ วันนี้เปลี่ยนชื่อไลน์จากเพลงเคป็อบเป็นอาร์แอนด์บีแล้ว เยอะเนอะเพื่อนมึง”

   “เยอะได้ไม่เท่ามึงหรอก”

   “แตะไม่ได้เลยเนอะ เพื่อนคนนี้”

   “ไม่ได้... ห้าม... อยากแตะมาแตะกูนี่”

   “แตะไงอ่ะ” มันถามพร้อมหมุนเก้าอี้มาเผชิญหน้ากับผมที่ยืนอยู่ ตามด้วยงานมือที่ตะปบแหมะที่เอวผมทั้งสองข้าง “งี้เหรอ?” ว่าแล้วก็เลื้อยมือขึ้นสูงอีกหน่อย “หรือจะวกลงต่ำดี” ไม่พูดเปล่า มันเลื่อนมือลงสอดคล้องกับคำพูดจนถึงสะโพก “ยืนทำหน้าเป็นผีตายซากซะกูหมดอารมณ์เลย”

   ไอ้เชี่ยเซียน... กูตกใจจนลืมหายใจต่างหากโว้ย ตัวกูแข็งทื่อเพราะตกใจขนาดนี้ยังไม่รู้อีก มึงลองเอาหูแนบมาที่อกกูนี่ มึงจะรู้เลยว่าหัวใจกูสั่นแรงมากแค่ไหน ไอ้บ้าเอ๊ย แล้วนี่อะไร แกล้งกูแล้วยังมาทำเป็นถอนหายใจพรวดยาวน่ารังเกียจใส่กูอีก

   ผมมองตามไอ้เซียนที่เดินไปไปหยิบผาเช็ดตัวในตู้แล้วดิ่งเข้าห้องน้ำ

   “กูใช้คอมพ์นะ” ผมตะโกนไล่หลังไอ้คนที่กำลังปิดประตูห้องน้ำ โชคดีที่เสียงไม่สั่น คงเพราะตะเบ็งเสียงเข้มสุดแรง

   “เออ แต่อย่าแตะเกมกูนะ”

   หลังใช้ไอแมคจอโตของมันส่งอีเมลให้ไอ้เพลงเรียบร้อยแล้วผมก็นึกอยากส่งไลน์หามัน แต่เพราะมือถือแบตหมดผมจึงกดเข้าไปที่โปรแกรมไลน์ในคอมพ์ แต่พอกดปุ๊บโปรแกรมดันรันเข้าสู่ระบบอัตโนมัต กรอบสีเขียวเต็มไปด้วยรายชื่อเพื่อน ช่องแชทมีหมายเลขแจ้งเตือนข้อความที่ยังไม่ได้อ่านยาวเหยียด

   เฮ้อ... โคตรป็อบ

   ผมมองรายชื่อไอ้เอกที่ไอ้เซียนค้างอ่านห้าข้อความ ในใจนึกอยากเสือกความลับของมันไม่น้อย แต่กลัวว่ากดเข้าไปแล้วมันจะรู้ว่ามีคนกดเข้าไปอ่าน และกลัวว่าจะมีการพูดถึงชื่อสาวที่มันสนใจ ผมตัดใจไม่ขอเสือก กดกากบาทปิดหน้าต่างโปรแกรม แต่มันไม่ใช่การล็อกเอาท์ เพราะเมื่อมีคนส่งข้อความเข้ามา ได้มีกล่องสี่เหลี่ยมแจ้งเตือนเล็กๆ ปรากฏข้อความแชทที่มุมขวามือทุกครั้งก่อนจะเลื่อนหายไป

   

   เอกหัวหอม   :   เป็นไง เที่ยวเทอร์มินอล

                    ได้กันยัง เอายังวะ จับปล้ำเลยไหม

                    ไอ้เซียนนนนนนน อยู่หนายยยยยย

                    สถานะกูพร้อมเสือกกกกกกกกกกก

                   ตอบไวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ         

         

   หน่วง...

   “ทำไรวะ”

   หน่วงยังไม่เสร็จ ดราม่าชะงักลึกได้แค่ปากทางซอกหลืบในหัวใจ ไอ้เซียนก็เดินตัวปลิวเข้ามาหาด้วยสภาพชิลสุดๆ ยืนเช็ดผมเปียกในสภาพสวมชุดบาสไร้แขนสีขาว สายตาจับจ้องหน้าจอที่ยังคงมีข้อความจากไอ้เอกหัวหอมเด้งขึ้นมาเรื่อยๆ

   “กูไม่ได้กดอ่านนะ” ผมแหงนหน้ามองมันที่ยืนค้ำหัวผม “แค่เห็นไงว่ามันเด้งขึ้นมา”

   “……” เงียบ?

   “ไม่ได้เสือกอะไรเลย กูมีมารยาท”

   “……” กูไม่ได้ร้อนตัวนะ มึงอย่าเงียบ

   “กูเคยเป็นตัวแทนประกวดมารยาทไทยตอน ป.6 ได้ที่หนึ่งเลยนะ”

   “……”

   “แม่กูสอนมาดี แม่กูเป็นครูภาษาจีน มึงเชื่อใจกูได้”

   “ก็ไม่ได้ว่าอะไร”

   “……” เออว่ะ

   “ร้อนตัวนะเราน่ะ”

   มันตอบงงๆ เหมือนไม่ใส่ใจ ไม่รู้จะโล่งอกหรือเจ็บใจดี ใช่สิ แค่นัดสาวไปคั่วกันแล้วมีเพื่อนนอกกลุ่มมาเห็น ไม่มีอะไรต้องอาย ถูกแล้ว ใช่แล้ว เป็นผมเองต่างหากที่เพ้อไปเองว่ามันอยากเก็บเป็นความลับ ผู้ชายอย่างเราๆ การได้อวดสกิลสอยสาวเป็นเรื่องดีจะตายห่า รู้งี้กูเสือกไม่ยั้งไปนานแล้ว

   แล้วจู่ๆ ไอ้เซียนก็หย่อนก้นลงมาเบียดบนเก้าอี้ตัวเดียวกับผม คลิกเมาส์ไปที่โปรแกรมไลน์แล้วเปิดแชทไอ้เอกที่พร่ำแต่อยากจะขอเสือกเต็มที่

   “ชอบเสือกเนอะ”

   “เออ ไอ้เอกแม่งเสือกโคตร”

   “กูว่ามึง”

   อ้อ นี่กูถูกเหน็บ?

“เจ็บก็ได้”

   มันไม่หือไม่อือ คว้าหัวผมไปชิดแล้วกดถ่ายรูปส่งไปให้ไอ้เอก ตามด้วยพรมนิ้วลงบนแป้นเพื่อส่งข้อความออกไปสั้นๆ ว่า ‘อยู่กับไอ้เทียน กูเล่นเกมก่อน’ ก่อนจะเหยียดตามองมาที่ผมด้วยอารมณ์เหมือนอยากถีบหน้า

   “เหม็นเปรี้ยวแล้ว ไปอาบน้ำไป”   

   “ไปเอาผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนมาให้กูยืมก่อน” มันส่ายหน้ารำคาญ เดาได้ว่าคงกำลังกราดด่าผมในใจที่ขัดเวลาเล่นเกมของมัน ผมจึงส่งเสียงบงการหวังแกล้ง “เอาเสื้อสีเหลืองนะ วันนี้วันพุธกูถือเคล็ด”

   “เยอะ!”

   หลังจากนั้นไอ้เซียนก็พาตัวไปเปิดตู้เสื้อผ้าก่อนจะส่ายหน้ารัวแล้วบอกว่าจะลงไปเอาที่ชั้นล่าง ไม่นานมันก็กลับเข้ามาพร้อมโยนแปรงสีฟัน เสื้อ กางเกง และชั้นในใหม่แกะกล่องสีเหลืองอ๋อยสะท้อนแสงลงบนตักผม เจ็บใจจนอยากโพล่งด่าแต่ก็เป็นตัวเองที่ร้องขอมันไป จึงทำได้เพียงส่งยิ้มหน้าระรื่นขอบคุณ

   “อ้าว ยังส่งเมลไม่เสร็จเหรอ”

   “อ้อ…” ผมมองย้อนกลับไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ อีเมลถูกส่งออกเรียบร้อยแล้ว “เสร็จพอดี”

   ตอนที่มันหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้แทนที่ผมพร้อมมือที่ขยับคลิกเมาส์เปิดเกม มันได้ถามขึ้นว่า

   “ไม่ถอดสร้อยข้อมือก่อนวะ”

   “ไม่ถอด”

   ถึงจะตังค์กู  ถึงกูจะไม่อยากได้ แต่เพราะเป็นมึงที่ใส่สร้อยข้อมือหนังสีน้ำตาลเส้นนี้ให้ กูเลยไม่อยากถอดออก ให้วินาทีนั้นติดตรึงอยู่แบบนี้เถอะ เฮ้อ พล่ามแล้วอารมณ์ซึ้งขึ้นจมูกฟึดฟัด รันทดในความแอบเพ้อของตัวเอง

   “ช่างมึงเหอะ แค่กลัวมันเปียกแล้วชื้น ที่นี้ก็จะเหม็นอับ กลิ่นชวนอ้วกก็จะติดตัวมึงเหมือนซากหมาเน่าๆ”

   “เหมือนกลิ่นหัวมึงตอนนั่งบนรถตู้เลย”

   ผมกระโดดหลบผ้าเช็ดผมของมันที่ถูกเขวี้ยงมาก่อนวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำไป...

   โมเมนท์ที่ 188(มั้ง) ผมโดนไอ้เซียนนั่งเบียดก้น  และกำลังได้นอนร่วมเตียงเดียวกับมัน

   โมเมนท์ที่ 189 ขณะที่ผมนอนตื่นเต้นอยู่บนเตียงท่ามกลางความมืด แสงจากพระจันทร์เหลืองนวลด้ทอผ่านม่านบางกระทบร่างของไอ้เซียนที่ทิ้งน้ำหนังลงบนฟูกเดียวกัน ผ้าห่มที่คลุมเพียงขาผมถูกเลื่อนสูงขึ้นมาที่อก  ก่อนที่เจ้าตัวจะเอนกายลงนอนบนหมอนอีกใบใกล้กัน ลมหายใจของมันที่ดังกระทบแก้วหูฟังคล้ายกระสับกระส่ายเล็กน้อย ต่างจากผมที่คล้ายสตั้นนิ่งจนลืมหายใจ

   เชี่ย โมเมนท์แบบนี้ ไม่ใช่ว่ามันก็คิดอะไรกับผมนะโว้ย!

   “เทียน...”

   ในที่สุดมันก็เรียกผม... รู้สึกหน้าซ่านใจสั่น แม้กระทั่งตัวก็แทบเป็นตะคริวจนพูดไม่ได้หายใจก็ไม่ออก

   “อืม…”

   “มึงว่ากูเป็นเพื่อนที่ดีไหม”

   นี่เป็นการอารัมภบทเข้าสู่ใจความสำคัญของความรู้สึกใช่ไหมวะ แล้วมือที่ทาบทับบนมือผมคืออะไร ไหนจะนิ้วทั้งห้าที่พยายามสอดประสานกับนิ้วผมอีก

   “ดะ… ดี-ดิ-วะ”

   เสียงจะสั่นไปไหน... โอ๊ย... กลัวหัวใจจะวายตาย มือกูนิ้วกูมันอ่อนปวกเปียกหมดแล้ว ปล่อยสิ อย่ายื้อดิวะไอ้เซียน เดี๋ยวกูข้ามขั้นสมยอมมึงเลยนะ

   “งั้น... ติวแล็บเคมีมิดเทอมให้หน่อยนะ กูไม่อยากติดเอฟเป็นครั้งที่สองว่ะ ไม่งั้นกูโดนม้าด่าเละแน่เลย แต่นั่นไม่เท่าไหร่ ที่น่ากลัวของจริงคือเฮียกูอ่ะดิ มันได้กระทืบกูจมคอนกรีตถนนหน้าบ้านแน่ นะนะ เทียนน้าาา...”

   ม่ายยยย มึงปล่อยมือกูเลย อย่าบีบดิวะ เจ็บ ไอ้เซียน! ไอ้ขี้โกง! ไอ้ขี้อ่อย! ไอ้คนตอแหลหลอกลวง! กูรังเกียจมึง!

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อ่านไป เดาไป ลุ้นไป ว่าใครจะเนียน ใครจะแหก ใครจะหน่วง ใครจะอด... ฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณที่อ่านค่ะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2017 20:10:29 โดย Boorina »

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
เซียนคิดมั๊ย คิดสิๆๆ
เรารอฟินอยู่


แต่ว่าตกลงใครอ่อยใครกันแน่ :hao6:

ออฟไลน์ elephantisme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอวันที่เทพเซียนแวะมาเอาเทียนไปส่องสว่างกลางท้องฟ้า  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kankanin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อร้ายยยยยยย อิเซียนเนียนจัดนะตัวเองงงง ทำมาเป็นสกินชิฟ ว่าแต่สกายนี่ใครอ่า  :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ซีรีส์ชุด Intania ภาค IE
เรื่อง เซียนเหนือฟ้า
[ IE : Industrial Engineering   วิศวกรรมอุตสาหการ ]                         
เขียนโดย  Boorina

7

เฮียร้านขนมจีบซาลาเปา



   ผมได้รับผลกระทบจากโมเมนท์ ‘ห่มผ้า’ จนต้องบากหน้าโทรไปหารุ่นน้องภาควิศวกรรมเคมีซึ่งเป็นน้องชายของเพื่อนสมัยมัธยม เพื่ออ้อนวอนให้มันมาติวไอ้สิ่งที่ผมบรรจุใส่ไหถ่วงน้ำทิ้งไปตั้งแต่ออกจากห้องสอบตอนปีหนึ่ง

   ไอ้แล็บเคมีที่เคยสอยบีบวกมาได้นั้นเพราะผมได้คู่ทำแล็บดีเหอะ ไม่งั้นคงได้แค่ด็อกบวกหรืออย่างมากก็ซีแหละวะ

   แต่จะปล่อยโมเมนท์ติวไอ้เซียนให้คนอื่นไปก็กระไรอยู่ ยอมรับก็ได้ว่างก อยากให้ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ได้อยู่ใกล้มันเป็นผม

   ดังนั้นช่วงไหนว่างๆ ผมเป็นอันต้องแว้บไปตึกเค็มเอ็น นั่งให้ไอ้รุ่นน้องเวรด่าแซะสาดเสียเทเสียว่าโง่กว่าเด็ก แค่ดุลสมการเคมีง่ายๆ ยังจะลืม... ไม่มีใจกูไม่ยอมทำขนาดนี้หรอกนะไอ้เซียน มึงจงสำนึกซะ!

   “กินซาลาเปาฟรีไหมพี่ คนขายแฟนเพื่อนผมเอง”

   แน่นอนอยู่แล้วว่าผมต้องยอมรับข้อเสนอ กินฟรีเชียวนะ ให้ปฏิเสธทำซาก ช่วงนี้เงินยิ่งตึงมือ ผมมองดูมันวิ่งไปยังรถเข็นขนมจีบซาลาเปาจึงพลอยได้มองหน้าพ่อค้าเต็มสายตา เรียกได้ว่าต่อให้ยืนประจำที่หลังรถเข็น สวมผ้ากันเปื้อนเก่าซีด และมีเหงื่อไหลโชกหน้า แต่ออร่าความหล่อขาวกระจ่างใสไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย พี่แกหล่อจัดในสไตล์หนุ่มจีนตาตี่ ร่างสูงตัวหนากำลังพอดี แถมมาดเอาการเอางานดูดีตั้งขนาดนี้ บอกเลยว่าเป็นพ่อค้าที่สะแด่วใจโคตร

   ผ่านไปสองนาทีไอ้น้องเพื่อนใจป๋าจึงวิ่งเหยาะกลับมาพร้อมยื่นซาลาเปาในถุงให้ผม

   อื้อหือ... หอมยวนเย้าน้ำลายในช่องปากมาก รูปทรงอวบอิ่มพอดีมือช่างคุ้นตา กระทั่งรสชาติกลมกล่อมยังคุ้นเคย เอาเป็นสรุปได้ว่าซาลาเปานี้น่าจะเป็นเจ้าเดียวกับที่ไอ้เซียนเคยป้อนผมและเห็นมันซื้อมากินอยู่บ่อยๆ บางทีก็มีเผื่อแผ่มาถึงผมเป็นครั้งคราว

   ไอ้เซียนช่างร้าย เพื่อของกินมันยอมเดินไกลมาถึงภาควิศวกรรมเคมี ยอมใจว่ะ

   “เฮ้ย! นั่นไอ้เซียนนี่หว่า”

   ฉิบหายแล้ว พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา ผมรีบขยับปรับเปลี่ยนมุมที่นั่งกลัวว่าไอ้เซียนที่กำลังตรงดิ่งไปยังร้านขนมจีบซาลาเปาจะเห็นเข้า ไม่อยากให้มันเห็นผมในสภาพหัวฟูเพราะกำลังติวเคมี ไม่งั้นมันคงสงสัยแน่ๆ ว่าทำไมผมต้องลงทุนทำอะไรเพื่อมันมากมายตั้งขนาดนี้...

   “นั่นพี่เซียนเดือนวิศวะใช่ไหมพี่” พ่วงตำแหน่งเดือนมหา’ลัยด้วยคร้าบ เอาให้เต็มยศ

   “เออ…” ว่าแต่ถามทำไม สนใจมันเหรอวะ เหอะ กูไม่ให้มึงหรอก “ไม่คิดว่าคนไม่แยแสโลกอย่างมึงจะจำใครได้”

   “ผมว่าทั้งภาคเค็มเอ็นคงจำพี่แกได้หมดอ่ะ เล่นโผล่หัวมาซื้อขนมจีบซาลาเปาเกือบทุกวัน ไม่รู้ชอบกินหรือชอบพ่อค้า”

คำพูดกึ่งจริงกึ่งเล่นของมันทำเอาแป้งที่กำลังไหลลงคอชะงักกึก ขวางเส้นทางการหายใจผมจนสำลัก ยังดีที่คนข้างกายมีสำนึกช่วยตบหลังให้จนแป้งและก้อนหมูหลุดไหลลงกระเพาะไป

“...พี่เทียนดูดิ มียื้อมีแย่ง พี่พ่อค้าแกจะแถมให้ก็สะดีดสะดิ้งไม่เอา หาเรื่องถ่วงเวลาอยู่จีบพี่แกได้ตลอด”

   “แล้วมันไม่รู้รึไงวะ ว่าพ่อค้ามีเพื่อนมึงเป็นแฟน"

   “ไม่รู้ว่ะ แต่พี่เซียนเป็นเพื่อนในภาคพี่ไม่ใช่เหรอ ถ้าอยากรู้ก็ลองถามดูดิ”

   “กูก็ไม่รู้ว่ะ แต่มันก็งี้แหละ แม่ง ถือว่าตัวเองหล่อไง ไม่ดูเลยว่าหมามีเจ้าของ เล่นจีบดะไปทั่ว” อุ้ย! เผลอกดปลายปากกากับโต๊ะหินอ่อนจนหัวพังเลย ด้ามนึงตั้งร้อยยี่สิบ โฮกกกก โดนฤทธิ์ไอ้เซียนเล่นงาน

   “แลดูหวงแฟนแทนเพื่อนผมออกหน้าออกตาเนอะ” แซวได้ไอ้น้อง แต่อย่าใช้สายตาเหมือนกำลังจับผิดกูแบบนี้ เดี๋ยวปั้ดตบหัวทิ่ม “แต่อาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะ แค่คนมันชอบกิน”

   กินเปาหรือกินตูด เฮอะ!

   แล้วไม่มีอะไรกับผีสิ ได้ข่าวว่านอกจากพ่อไอ้เซียนจะทำธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์แล้ว ฝั่งแม่มันยังเป็นเจ้าของโรงงานผลิตขนมจีบซาลาเปาเจ้าใหญ่ คนซื้อแฟรนไชส์ไปทำมาหากินทั่วประเทศ แลัวยังมีเหตุผลอะไรให้มันต้องมาซื้อกินแทบทุกวัน ถ้าไม่เพราะสนใจใครบางคน

   เรียนร่วมกันมาสามปี... ไม่เคยเห็นแววว่ามันจะเปลี่ยนจากสอยดาวมาเป็นเดือน รู้ตัวอีกทีก็มีคู่แข่งเป็นพ่อค้ารูปหล่อซะแล้ว

   พ่อค้าแล้วยังไง?

   ก็กลัวไงวะ หล่อล่ำเกินหน้าเกินตา รัศมีเจิดจ้ากลบดำๆ อย่างผมซะมิด

   เสียงแรงอุตส่าห์ทุ่มเท ค่อยช่วยเหลือเหมือนไอ้บ้า เรียนไม่เก่งยังพยายามอ่านพยายามติวเพื่อมาสอนมัน สิ่งที่ได้รับกลับคืนมาคือความจริงที่ว่า... มันกำลังจีบผู้ชายอื่น

   เหมือนชีวิตผมที่ผ่านมาจะมัวหมกมุ่นและคอยช่วยมันแก้ไขปัญหา จนลืมคิดว่าหากถึงวันที่มันรักใครสักคนจริงจังขึ้นมา ผมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ มันจะเป็นยังไง

   ก็คง ‘เจ็บเคล้าหน่วง’

   ไม่ชอบเลย...

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

   คราวนี้มาเข้าประเด็นปัญหาของตัวเองอย่างจริงจังบ้าง จะให้มัวซึมกระทือเพราะผู้ไม่ชายตาแลก็ดูไร้สมองมากเกินไป

   ถึงผมจะถนัดกับการสอบวิชาทฤษฎีให้ได้คะแนนผ่านมีนแค่นิดหน่อย แต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมที่ผมไม่เคยติดเอฟ ไม่เคยดร็อปวิชาไหน จึงพอจะเป็นที่พึ่งพาของเพื่อนอย่างไอ้เซียนได้บ้าง

   แต่วิชาปฏิบัติค่อนข้างหัวทึบเล็กน้อยค่อนไปทางมาก ไม่เข้าใจว่าทั้งที่วางองศาหัวจับลวดเชื่อมอย่างกับเอาวงเวียนมากางวัด ใช้กระแสไฟในการการเดินแนวเชื่อมตามที่อาจารย์บอก ท่วงท่าการยืนได้ระยะพอเหมาะ แล้วทำไมวะทำไม! ไหงแนวเชื่อมที่ออกมาถึงได้พอกนูนจนเหมือนกองขี้หมาได้ขนาดนี้

   “กูไม่คิดว่ามึงจะกากขนาดนี้ว่ะเทียน อ่อนโคตร”

   ผมชะเง้อมองข้ามแผงกั้นระหว่างบูธเชื่อมของผมกับไอ้เซียนที่ส่งเสียงข่มชอบใจ ตั้งใจจะด่าสวนเอาคืนแต่จำต้องสงบปากลงอย่างรวดเร็ว เพราะแนวเชื่อมมันเป็นเกล็ดเรียงสวย นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่รู้สึกว่ามันเซียนสมชื่อจริงๆ

   “เยาะเย้ยเหรอ สนุกมะ มีความสุขเหรอ เอาเลยสิ เอาให้หนำใจ ได้ทีแล้วนี่ ใช่สิ กูมันไม่เทพ กูไม่ใช่เซียน กูมันกากเดน เหอะ! ที่จริงกูก็ไม่ได้ห่วยหรอก เครื่องเชื่อมมันกี่สิบปีมาแล้ว ลวดเชื่อมที่เอามาให้ฝึกก็เหมือนจะหมดอายุ ถุงมือที่ใส่ก็สั้นแถมยังขาดอีก มันเลยรู้สึกไม่ค่อยถนัดมือ... ฝีมือเจ๋งแต่ถ้าอุปกรณ์ไม่พร้อม งานก็ดีไม่ได้หรอกโว้ย”

   แน่ะ ยังมีหน้ามาหัวเราะใส่กูอีก ไอ้เวรตะไลนี่!

   “ฝอยเยอะจัด ปวดหัวกับมึงจริงๆ... มึงฟังกู ระยะอาร์กมึงสูงไปโว้ย แถมยังเดินช้าอีก สแปตเตอร์ถึงได้กระจายขนาดนั้น ส่วนถุงมือมึงควรมีส่วนตัวไหม ที่มีอยู่ในช็อปก็ขาดรุ่งริ่ง แถมยังเอาอันสั้นมาใส่อีก เจ็บขึ้นมาอย่างร้องให้กูสมเพช... แล้วมือก็อย่าสั่นนัก นิ่งๆ กว่านี้หน่อย ทำไม เมื่อคืนใช้งานมือขวาหนักเหรอ กี่รอบฮะ ยันรุ่งเลยไหม”

   “ไอ้เซียน!” ผมชักสีหน้าเตรียมโวย ปลายลวดเชื่อมร้อนๆ จ่อไปที่หน้าของมัน

   “เอาลง อันตราย จิ้มตากูขึ้นมามึงมีปัญญารับผิดชอบเหรอ มึงจะสละดวงตาให้กูได้ไหม ไอ้ดำนี่ เล่นไม่รู้เรื่อง”

   “ก็มึงทะลึ่งอ่ะ”

   “กี่รอบ”

   “สองหรือสามนี่แหละ” กูก็ยอมตอบไปเนอะ “ไอ้สาด!”

   “ทำกระมิดกระเมี้ยนเอียงอายเป็นเด็กอนุบาล เลิกกระแดะแล้วตั้งใจเลยมึงอ่ะ เป็นงี้ได้สอบตกพอดี ไม่มีโอกาสแก้ตัวนะโว้ย มึงจะจบไปทั้งที่วิชาภาคได้ด็อกหรือมีเอฟโชว์เด่นหรากลางทรานสคลิปรึไงวะ”

   เป็นพ่อหรือแม่กูเนี่ย สอนกูจัง ไอ้พี่เทพ ชีวิตมึงดีกว่ากูมากเลยนะไอ้วิชาคำนวณกับอังกฤษเนี่ย แถมยังสอยเอฟแล็บเคมีมาอีก! หน้าด้านกว่านี้มีอีกไหม!!

   “แล้วยังไงอ่ะ ต้องแค่ไหน” ไหนร่ายสิ สอนสิคุณครู

   “มึงเชื่อมไป”

   ผมเงอะงะงงงวยกับคำบอกของมัน ก่อนจะเริ่มต้นเชื่อมใหม่อีกครั้ง แต่แล้วผมต้องสะดุ้งจนมือยิ่งสั่นหนัก เมื่อมือที่หนากว่าวางทับซ้อนบนมือขวาผม แล้วค่อยๆ กดมือผมให้ต่ำลงพร้อมประคองด้วยระยะอาร์กและความเร็วคงที่ ในวินาทีนั้นผมสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวในถุงมือหนังกันความร้อนที่สวมอยู่ กระทั่งเม็ดเหงื่อยังผุดกระจายไปทั่วหน้าจนหยดติ๋งไหลไปตามแนวสันกรามจรดปลายคาง

   เสียงพูดที่คอยบอกคอยสอนทำให้หน้าผมร้อนผ่าว ลมหายใจที่ปะทะข้างแก้มทำให้ใจผมเต้นแรงเต็มสตรีม ใช่ว่าไม่เคยใกล้ ใช่ว่าไม่เคยสัมผัส แต่บรรยากาศในตอนนี้ช่างละเอียดอ่อนให้ใจหวั่นไหว ยากที่จะควบคุมมือไม้ให้นิ่งสงบ กระทั่งสติยังไหววูบจนรั้งไว้ไม่อยู่

   ตายๆๆๆๆ ทั้งที่ตอนเรียนอาจารย์รูปหล่อก็เคยมาช่วยสอนในลักษณะนี้ แต่ไม่เห็นจะรู้สึกตื่นเต้นเลย ใจจะเต้นได้มันขึ้นอยู่กับคนจริงๆ ไม่ชอบก็คงไม่สะเทือน แต่เพราะชอบไงร่างกายถึงได้ตอบรับสัมผัสแบบนี้

   อย่าคิดเชียวว่าผมจะตื่นเต้นจนเซ่อซ่าเผลอทำตัวเองเจ็บอย่างในทีวี เพราะผมในตอนนี้กำลังลมจับด้วยหัวใจเต้นแรงเกินไป ร่างกายร้อนจนเกินไป

   ไม่ไหว... โมเมนท์ช่างดีงามจนหน้ามืดหวืดจะเป็นลม!

   “ทำไมเละกว่าเดิมวะ”

   เป็นเสียงไอ้เอกที่ดังขึ้นใกล้หู กระชากสติของผมกลับคืนมา ตอนที่เผลอหันขวับไปมองจึงได้รู้ว่าไอ้คนที่ผมเผลอใจเต้นแรงให้ไม่ใช่ไอ้เซียน แต่ดันเป็นเพื่อนสนิทของมันที่สลอนหน้าเข้ามาเสือกในโมเมนท์ที่ควรประทับแน่นในใจด้วยความปลาบปลื้ม

   มึง ไอ้เอก มึงทำลายมโนจิ้นของกูจนหมดสิ้น กูเกลียดเมิงงงงงง และเกลียดตัวเองที่เพ้อจัดจนมองนิ้วสั้นกุดแต่อวบอัดด้วยไขมันของไอ้เอกเป็นนิ้วเรียวยาวของไอ้เซียนซะได้ สายตาของคนมีความรักมันมัวเมาได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ

   ส่วนไอ้เซียนที่ยืนหัวโด่อยู่นั้น ผมเห็นแล้วอยากตะโกนใส่หน้ามันมากว่า ‘เก๊กนิ่งทำเตี่ย! แสยะยิ้มทำซาก!!’ แต่เพราะมีเหตุให้ผมร้อง “โอ๊ยยยยย!!!!” ซะลั่นทุ่ง เนื่องจากใช้มือเชื่อมแต่ตาดันเหร่หนุ่ม ทำเอาปลายลวดเชื่อมจุ่มลงบ่อหลอมละลายจนเกิดเสียงตูมเบาๆ น้ำเหล็กกระเด็นเข้าไปในถุงมือโดนสร้อยข้อมือหนังจนละลายติดกับเนื้อ จำต้องดึงกระชากจนสายหนังขาดแล้วยัดลงกระเป๋าเสื้อช็อป ตามด้วยแงะเอาเม็ดเหล็กที่เย็นตัวลงออกจากบาดแผลวงกลมที่บุ๋มลึกลงไป

   ชีวิตกูนี่ไม่เคยจะเหมือนอย่างตัวเอกในซีรี่ส์บ้างเลย ซีนนี้ควรเป็นไอ้เซียนที่เข้ามาช่วยและโอ๋ปลอบดิวะ แต่ไหงมันดันยืนตรงเคารพธงชาติอย่างกับสอบร้องเพลง ‘ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย...’ ตอนประถม

   “เซียน มึงสนใจกูบ้างก็ได้นะ” ผมครางพลางกระพริบตาปริบๆ อ้อน แต่ในสายตามันคงคิดว่าผมเพียงแกล้งเล่นขำๆ

   “ลืมเลย โทษที”

   มันพูดเสียงเอื่อยเฉื่อยก่อนตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะ... ท่านเทพเซียนช่างมีความสุขเหลือเกิน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สวัสดีปีใหม่

มีความสุขมากมายก่ายกอง ไชโยโห่ฮิ้ววววววว

ขอให้เป็นปีที่ดีงามของทุกคนค่ะ

บู


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ทำไมเซียนนิ่งอย่างเดียวล่ะ ไม่ชอบเทียนหรือไง  :katai1:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
นี่ปวดใจยิ่งกว่าเทียนอีกค่ะ นี่คือคนอิน

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0



ซีรีส์ชุด Intania ภาค IE
เรื่อง เซียนเหนือฟ้า
[ IE : Industrial Engineering   วิศวกรรมอุตสาหการ ]                         
เขียนโดย  Boorina


8

ซ่อนความหมาย



   ผมพาตัวเองที่สติหลุดลอยมานั่งอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนริมสระน้ำหลังทำแผลเรียบร้อยแล้ว ตรงกันข้ามคือโรงหล่อโลหะที่มีควันไฟลอยคลุ้งจากปล่องเหนือหลังคา ไม่นานไอ้เพลงเพื่อนรักก็เดินมาทิ้งตัวนั่งลงใกล้กัน ใช้ไหล่กระแซะผมจนต้องส่งเสียงรำคาญออกไป


   “คัน? เป็นสังคังรึไง” พยายามเค้นเสียงเล่นมุข แต่กลับฝืดเหมือนเครื่องกลึงปราศจากน้ำหล่อเย็นช่วยหล่อลื่นระบายความร้อน พาบรรยากาศรอบข้างหมองน่าอึดอัด


   “อุ๊ย มีหงุดหงิดนะเพื่อนกู”


   “ใกล้จะเหลือแค่คนรู้จักแล้ว”


   “ยินดีด้วย มึงได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้” แหม ไอ้นี่ สะเทือนบ้างก็ได้นะตอนถูกกูบอกเลิกเป็นเพื่อนเนี่ย “หงุดหงิดอะไรวะ เสียดายว่างั้นที่ดันกลายเป็นไอ้เอกที่มามีโมเมนท์คู่มึงจนกลายเป็นคู่จิ้นประจำภาคไปแล้ว”


   “ช่างคิดเนอะ” ผมหมดอารมณ์ต่อปากต่อคำ พ่นพรวดลมหายใจออกมาเฮือกโตก่อนจะทิ้งหัวลงบนไหล่ของไอ้เพลงแล้วพร่ำเพ้อเสียงแผ่วหมดแรงอย่างคนอกหัก “มึง! ไอ้เพลง! หรือว่าไอ้เซียนจะรู้วะว่ากูชอบมัน มันถึงหลีกเลี่ยงที่จะใกล้กู แตะตัวกู มันรังเกียจกูเหรอถึงต้องให้ไอ้เอกมาเสียบแทนที่ ขนาดทำแผลนะยังปล่อยให้อาจารย์ทำให้กูเลย ไอ้คนไร้น้ำใจ... กูเสียใจมากเลยนะมึง กูนอยด์แดกสัด!”


   “อะไรวะ จู่ๆ ดราม่าขึ้นมาแบบนี้ คิดมากไปไหมมึง ลองคิดอีกแง่นึงนะโว้ย หรือเป็นเพราะไอ้เอกมันชอบมึง มันถึงเข้ามาแทรกได้เหมาะเหม็งแบบนั้น เหมือนกันท่าไอ้เซียนเลยว่ะ”


   “จัญไรเถอะ!!! เพื่อนกันๆๆๆ” ผมโพล่งขัด เอาหัวโขกต้นแขนมันรัวๆ “แต่กับไอ้เซียนนี่ดิ แลดูนิ่งๆ ว่ะช่วงนี้”


   “มีเรื่องคิดเยอะมั้ง กูเห็นมันก็คุยเล่นปกติกับมึงดีนี่หว่า”


   “เหรอ ไม่รู้ดิวะ กูรู้สึกแปลกๆ อีกอารมณ์นึงก็รู้สึกเหมือนมันกำลังอกหักว่ะ”

   อาจเพราะผมเฝ้ามองมันเสมอ เมื่อไหร่ก็ตามที่มันแปลกไปแค่นิดเดียวก็สะกิดใจผมแล้ว หรืออาจเพราะจิตใจของผมกำลังสับสนจากพ่อค้าขนมจีบซาลาเปา ผมถึงมองทุกอย่างติดลบได้มากขนาดนี้...


   เมื่อมองย้อนกลับไป... เซียนยังคงยืนอยู่ที่เดิมในจุดที่เป็นเพื่อนผมอย่างที่ผ่านมา มองจากมุมนี้มันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลยนี่หว่า


   “แต่แว่วคนซุบซิบมาว่ะ ว่ามันไปมีประเด็นกับเด็กภาคเค็มเอ็นหน้าร้านซาลาเปามา บางทีอาจมีปัญหาอะไรเครียดๆ อยู่ ก็ได้ มึงอย่าเพ้อเจ้อคิดมากไปเอง”

   มึงพูดจบปุ๊บ กูคิดเยอะเวอร์เลย


   ไอ้เพลงกลับเข้าไปในช็อปเพื่อทำงานต่อ ปล่อยให้สมองผมคิดมากเพียงลำพัง ก่อนจะเป็นไอ้เซียนกับไอ้เอกที่เดินสวนมาพร้อมเสียงดังลั่นทุ่ง โดยเป็นไอ้เอกที่กำลังกวนตีนใส่ไอ้เซียนไม่ขาดปาก ก่อนมันจะหน้าซีดจนเผือดขาวเมื่อพวงกุญแจที่ไอ้เซียนหมุนควงกับนิ้วเล่นได้ลอยคว้างในอากาศแล้ว ‘จ๋อม’ หายไปในสระน้ำ


   “ไอ้เพื่อนเวร!  มึง! ไอ้เซียน!!!”

   ก็ไม่มีอะไรมาก แค่กุญแจพ่วงคีย์การ์ดหอ กุญแจล็อคล้อจักรยาน กุญแจตู้ล็อกเกอร์ กุญแจลิ้นชักเอกสารในห้อง และกุญแจกล่องเครื่องมือช่างส่วนตัวของไอ้เอกมัน

   “ไอ้เซียน กูเกลียดมึง ไอ้ห่านี่ มึงไปหานอนที่อื่นเลยไป คืนนี้ตัวใครตัวมัน! หาที่นอนเอาเอง!”


   ผมมองหน้าไอ้คนที่ยังยิ้มขำไร้สำนึก ก่อนจะเบนหน้าปรายสายตาหมาหงอยมาหาผม ช่างเป็นคนที่เปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วซะเหลือเกิน เป็นสกิลอัพความหนาบนใบหน้าที่หาใครเทียบได้ยาก


   “เทียนนน...” สเต็ปแรกก็ต้องเสียงย้วนยาน ตามด้วยกระพริบตาวิ้งค์ๆ สไตล์อปป้า “คือพ่อแม่กูไปต่างจังหวัดกันหมด กูเลยตั้งใจจะนอนกับไอ้เอก ก็เลยไม่ได้เอากุญแจบ้านติดตัวมาด้วย” จากนั้นก็ร่ายสาธยายความรันทดในชีวิตคนหล่อ “แต่ไอ้เอกมันเกลียดกูแล้วอ่ะ กูไม่มีใครอีกแล้ว ชีวิตกูมีแค่มึงน้าาา...”


   ดูเอาเถอะ มันก็ยังเป็นปกติเหมือนเดิม ขี้อ้อน ออเซาะ ฉอเลาะ แล้วก็เป็นผมที่แพ้ทางคนอย่างมันทุกที


   “เออ…” ผมโพล่งก่อนมันจะทันได้เอ่ยปากขอ  แล้วล้วงหยิบกุญแจในกระเป๋าเสื้อช็อปออกมาพลางถามมันว่า “มึงส่งงานแล้วใช่ไหม งั้นมึงเอากุญแจไปก่อนแล้วกัน กูต้องอยู่ทำงานอีกหน่อย ดูท่าจะนานเลยว่ะ” ตอนที่พูดจบคือตอนที่ผมยื่นส่งกุญแจให้มันแล้วมองสร้อยข้อมือที่หยิบติดมือออกมาด้วยความเสียดาย


   “ขอบใจนะ”


   ผมยักคิ้วให้มันตามด้วยขมวดคิ้วให้กับป้ายสแตนเลสที่สร้อยข้อมือ ตอนที่หันหลังเดินกลับเข้าช็อป ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง เส้นประสาทคล้ายถูกแทะเล็มทีละน้อย กระทั่งหัวใจเริ่มบีบรัดแน่นแล้วคลายโหวงสลับกัน


   ตอนที่ย้อนกลับไปกระชากแขนไอ้เอกจนตัวมันปลิวติดมือผมมานั้น เจ้าตัวเกิดอาการเหวอแดก ก่อนแขนอีกข้างของมันจะถูกกระชากไปอีกทาง แต่ผมรึจะยอม ทั้งกระชากลากยื้อ แต่ก็ต้องถูกอีกฟากรั้งแย่งตัวไอ้เอกไป


   “ปล่อย!”


   “ไม่! มึงปล่อยไอ้เอกเลยเทียน!”


   “ม่ายยย... มึงดิปล่อย!”


   “โว้ย เหี้ยไรของพวกมึงสองตัวเนี่ย!” ไอ้เอกหวีดแตก ระเบิดเสียงตะคอกลั่นออกมา แต่ไม่สามารถสลัดมือที่กุมแน่นข้อมือทั้งสองของมันจนแดงก่ำได้


   “กูมีเรื่องจะคุยกับมึง” ผมบอกไอ้เอก


   “กูกำลังคุยกับมันอยู่ มาสอดมาแทรกอะไรเนี่ย ตามคิวได้มะ”

ไอ้เซียนแทรกหน้ามึน ทั้งยังยกตีนพุ่งมายันตัวผมไว้ เลยจำต้องเบี่ยงตัวหลบแล้วฟาดตีนเอาคืน แต่มันดันดึงไอ้เอกมาเป็นโล่กันไว้ ทำเอาไอ้เอกต้องใช้หัวกระแทกเข้ากับหัวผม พอผมเผลอปล่อยมือจากมัน มันก็ใช้มือข้างนั้นฟาดกระโหลกไอ้เซียนดังป้าบ


   “หยุดเลยทั้งสองตัว กูเริ่มรำคาญแล้ว!” รำคาญเพื่อนมึงก็อย่ามาลงที่กูสิเอก กูแค่มีธุระกับมึงเอง “มึงไอ้เซียน เงียบไปก่อน กูงี้เหนื่อยกับมึงมาเยอะแล้ว มึงมันของตาย เอาไว้ทีหลัง” จักการตัดบทอย่างรวบรัดแล้วก็ขึงตามองมาที่ผม อารมณ์ผมเหมือนถูกแม่จ้องหน้าเค้นหาความผิดก็ไม่ปาน “ส่วนมึง...”


   “อะไรเนี่ย” รู้สึกสะท้านกับสายตามันที่มองมา


   “มีอะไรว่ามา”


   “เอ่อ...” ผมมองหน้าไอ้เอกสลับกับไอ้เซียน “คุยสองคนได้ไหมอ่ะ”


   “แสดงว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับได้เซียน?”


   “ปล้าวววววว!”


          แล้วก็ไม่มีใครพูดอะไร เล่นเงียบแล้วจ้องเค้นผมทั้งคู่ เอาวะ พูดก็ได้


        “วิชาสปีคกิ้งมีแสดงละครใช่ไหมล่ะ ไอ้เพลงร็อคกำลังเขียนบทไง เลยตั้งใจว่าจะเอาชื่อตัวละครจากชื่อเล่นพวกเราที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ กูเลยมาถามพวกมึง อย่างของไอ้เพลงมันก็ชื่อ Music ของมึงนี่จะให้ใช้อะไรอ่ะ One หรือ First แต่กูว่าชื่อหลังดีกว่าเนอะ”

   ไอ้เอกพยักหน้าทั้งที่ยังขมวดคิ้วงง ส่วนอีกตัวยืนหน้าเรียบเฉย ทำเอาเสียงผมขาดห้วงหายเพราะติดสตั้นไปหลายวินาที ผมตรึงสายตานิ่งไปยังไอ้เซียนที่ตอนนี้เริ่มขยับกายทีละนิดไปยืนแอบอยู่ข้างหลังไอ้เอกที่เตี้ยกว่าราวสิบเซ็นต์
 

   “แล้วท่านเทพเซียนอย่างมึงล่ะ จะใช้คำว่าอะไร?”


   มันวางคางเกยลงบนไหล่ไอ้เอก ขยับปากส่งเสียงแผ่วออกมา...


   “GOD”


   นอกจาก ‘SKY’  นั่นคืออีกคำที่ถูกสลักซ่อนไว้อีกด้านหนึ่งของแผ่นสแตนเลส...


   ความสับสนงุนงงตีกันในหัว มันคือความความบังเอิญหรือตั้งใจแฝงความหมาย ยิ่งมองลึกเข้าไปในดวงตาเหงาหงอยของมันใจของผมก็ยิ่งเต้นรัวแรง เข่าสั่นพาร่างอ่อนเปลี้ยทรุดฮวบลงจนก้นกระแทกลงกับพื้น กระทั่งเสียงลมหายใจยังหนักหน่วงเกินควบคุม ได้แต่นั่งชันเข่าขึ้นมากอดเกยคางอย่างหมดสภาพ


   มันเหนือการบรรยาย...


   จะใช่หรอวะ?

   ไม่จริงหรอก! เป็นไปไม่ได้หรอก! ไม่มีทาง!!!


   ทำไงดี เขินก็ไม่ได้ ให้เฉยก็ยากที่จะทำ ลำพังแค่จะเงยขึ้นมองหน้ามันอีกสักครั้งก็รู้สึกถึงหนังหน้าที่ไม่ด้านพอ กระทั่งเป็นมันที่ลดกายต่ำนั่งลงตรงหน้า ปลายนิ้วแตะสะกิดที่ปลายจมูกผม...



   “ส่วนมึงใช้ SKY ได้ไหม?” 



   เพราะเทียนในภาษาจีนให้ความหมายว่าท้องฟ้า มันเลยอยากเป็นเทพเป็นเซียนเพื่อได้อยู่คู่กับผมงั้นเหรอ?


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ตอนหน้าเตรียมฟินได้เลย






ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Happy New Year 2018
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑  ขอให้ไรท์ปราศจากโรคภัย มีความสุขมากๆ

อูยยยยย......เอาล่ะสิ  :ling1: :ling1: :ling1:
เซียน ชอบเทียนจริงๆเหรอ อะจ๊ากกกกก
ที่ไปซื้อซาละเปาอร่อย ก็ซื้อให้เทียนเหรอ
งั้นที่ให้เทียนติว ก็เพื่อหาทางใกล้ชิดกับเทียน
แล้วที่ไม่ยอมใกล้ตัวเทียน  ตอนสอนเทียนเชื่อม
เพราะกลัวตัวเองสั่น ที่ตัวติดกับเทียน  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ได้ซิ ได้ซิ ตอบไปอย่างนี้เลยเทียน  :man1:

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ซีรีส์ชุด Intania ภาค IE
เรื่อง เซียนเหนือฟ้า
[ IE : Industrial Engineering   วิศวกรรมอุตสาหการ ]                         
เขียนโดย  Boorina




8

คนช่างเพ้อ





               ผมไม่กล้าพอที่จะตีกรอบจำกัดความรู้สึกระหว่างเรา... จึงหยิบมือถือขึ้นมา

           

             

        เพราะปราศจากการแจ้งเตือนเลยทำให้ผมหลงลืมว่าครั้งหนึ่งเคยส่งอีเมลฉบับหนึ่งถึงตัวเอง ซึ่งเนื้อหาใจความคือข้อความแชทไลน์ระหว่างไอ้เซียนและไอ้เอกหัวหอมที่ผมขโมยมาจากคอมพิวเตอร์ของไอ้เซียน



            แต่น่าแปลกที่ไม่มีจดหมายใหม่ในกล่องเข้า บางทีอาจส่งอีเมลล้มเหลว แต่อย่างน้อยก็ควรมีอยู่ในกล่องจดหมายที่ถูกส่งออกหรือฉบับร่าง พอกดเข้าไปปุ๊บจึงถอนหายใจโล่งอก

           

            xx*%$+@ST!


 

            ชื่อหัวข้อจดหมายในกล่องออกที่ถูกพิมพ์ใส่ไปมั่วๆ

           

            [LINE]เอกหัวหอม.txt

 

            ชื่อไฟล์แนบที่แอบเซฟมาจากไลน์ของไอ้เซียน

            เมื่อคลิกเปิด จึงปรากฏข้อความให้ผมได้ค่อยๆ ไล่อ่านไป

 

            20xx.09.16 Monday

            12:30 เอกหัวหอม             กูหิวจะตายแล้ว ยังจะแกล้งเดินชิลรั้งท้ายกับมันอีก

            12:30 เอกหัวหอม             นิดหน่อยก็ยังจะเอาเนอะ

            12:31 ท่านเทพเซียน          ไม่กวนสิ มารยาทอ่ะมีบ้าง

            12:31 เอกหัวหอม             งั้นมึงเลิกเดินตีนเข้าจังหวะกับมันได้มะ เป็น รด. เหรอมึง

            12:32 ท่านเทพเซียน          บางทีก็เสือกไปนะ

 

            20xx.09.17 Tuesday

            13:59 เอกหัวหอม             เนียนเลยเนอะ!

            13:59 เอกหัวหอม             ล่อมันไปดูบอลจนสำเร็จ

            13:59 ท่านเทพเซียน          ถึงวันแล้วมึงไสหัวไปไกลๆ ขี้แตกอะไรก็ว่าไป

            13:59 ท่านเทพเซียน          ขอหวานนั่งเบียดกันสองคน อย่าเสล่อมาให้เห็นหัว

            14:00 เอกหัวหอม             ไอ้เลว ทิ้งเพื่อน

            14:00 ท่านเทพเซียน          แค่เพื่อน อย่าเยอะ!

            14.04 ท่านเทพเซียน          มันนี่ชอบส่องกระจกเนอะ ดำแล้วไม่เจียม

            14.04 เอกหัวหอม             แต่ยังเสือกแพ้ทางคนดำ

           

            โครม!!!



            เสียงมือถือร่วงหรือหัวใจเต้นวะ!?



            โชคดีที่ไอ้เซียนยังนอนยาวคว่ำหน้าหลับอยู่บนเตียงหลังติวเคมีจบไปหนึ่งบทด้วยบรรยากาศปกติ ไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมาขัดจังหวะผมที่นั่งแผ่นหลังอิงแนบกับขอบเตียงอยู่บนพื้นกระเบื้อง ทำให้ยังพอมีเวลาใช้นิ้วมือสั่นๆ เลื่อนอ่านข้อความถัดไปด้านล่าง แต่อื้อหือมือถือกู ร่วงลงพื้นได้ไม่เกรงใจกันเลย หน้าจองี้อย่างกับติดฟิล์มกันรอยลายใยแมงมุมสุดฮอต เห็นแล้วอยากจะร้องไห้ แกะเคสมือถือออกเพื่อสำรวจตัวเครื่องเล็กน้อย

 

            20xx.09.18 Wednesday

            21:05 ท่านเทพเซียน          ไอ้เชี่ยเอก มึงกลับมาไวๆ อยู่สองคนแล้วตื่นเต้น ไม่กล้ามองหน้า

            21:05 เอกหัวหอม             ไก่ทอดไหม

            21:05 ท่านเทพเซียน          เล่นเกมก็กดมั่ว มือสั่นไปหมด โดนบอสฆ่าตายเลยกู

            21:05 เอกหัวหอม             เบียร์โหลนึงพอป่ะ สองดีกว่า

            21:05 ท่านเทพเซียน          กูอยากกินเทียน มึงรีบกลับมาห้ามกูให้ไว

                                   

            20xx.09.19 Thursday

            02:05 ท่านเทพเซียน          เหี้ยเอกกกกกก ฉิบหายแล้ว

            02:05 ท่านเทพเซียน          กระดาษที่กูทำเป็นหลอกให้ไอ้เทียนเขียนให้น้องฟ้าใสอ่ะมึง       

            02:06 ท่านเทพเซียน          ไอ้เวนนนนน ไม่รับสายกู ตื่นมาฟังกูเดี๋ยวนี้

            02:07 ท่านเทพเซียน          Call me Tien. In Chinese, it means sky.

            02:08 ท่านเทพเซียน          กูดราม่ามานานเท่าไหร่ คิดว่าที่มันไม่มีแฟนเพราะฝังใจกับแฟนที่ตายห่าอยู่บนท้องฟ้า

            02:08 ท่านเทพเซียน          แล้วที่มันเคยบอกกูล่ะ ว่าคนๆ นั้นอยู่บนท้องฟ้าอ่ะ หมายถึงใครวะ

            02:09 ท่านเทพเซียน          เชี่ย ตื่นมาช่วยกูคิดเลยนะ ไอ้เพื่อนเวนนนนนนน

            02:11 ท่านเทพเซียน          เข้าข้างตัวเองนิดได้ไหมว่าหมายถึงกู

            02:11 ท่านเทพเซียน          แต่สามปีเลยนะ มันก็ยังเฉย ไม่เห็นจะแสดงออกว่าชอบกูเลยสักนิด เฮ้อ   

            02:12 ท่านเทพเซียน          For love, I’ll always be the sky where my beloved lives.

            02:13 ท่านเทพเซียน          บอกกูหน่อย ว่าที่มันเขียน มันเขียนด้วยความรู้สึกของมัน หรือของน้องฟ้าใสวะ

            02:13 ท่านเทพเซียน          กูอยากให้ sky คำนั้นหมายถึงมัน หมายถึงไอ้เทียน

            02:14 ท่านเทพเซียน          และให้ my beloved ที่มันพูดถึงหมายถึงกู

            02:14 ท่านเทพเซียน          เราสองคนคู่กัน

            02:14 ท่านเทพเซียน          โอ๊ย เจ๋งเป้งงงงงง

            05:28 ท่านเทพเซียน          เอกกกกกกกกกกกกกก กูนอนไม่หลับ

            10:05 เอกหัวหอม             เพ้อขนาดนี้ มึงรุกเถอะ

            10:06 เอกหัวหอม             ถ้ายังป๊อด ก็หุบปาก ไม่ต้องมาเพ้อ กูรำคาญ โพ่งงงง

 

            20xx.09.23 Monday

            17:05 ท่านเทพเซียน          ขอบใจสำหรับรูป

            17:09 เอกหัวหอม             สงสารหมา ครวญครางจะเอารูปอย่างกับช้างตกมัน

            17:11 ท่านเทพเซียน          ดูนี่ เป็นไงรูปคู่กูกับมัน น่ารักโคตรเลยไหม

            17:09 เอกหัวหอม             สงสารไอ้เพลง มีค่าแค่ติ่งหูที่ติดไป

            17:12 ท่านเทพเซียน          เฮ้ย เชี่ยละ กูครอปใหม่แป๊บ ไม่ทันเห็นว่าติดมา แปะหัวใจชมพูเพิ่มด้วยดีกว่า

                       

            20xx.09.26 Thursday

            12:05 ท่านเทพเซียน          กูให้สร้อยข้อมือไปแล้วว่ะ ถ้ามันเห็นจะรู้ไหมวะ

            12:05 ท่านเทพเซียน          ว่าจะชวนมันไปเดินเทอร์มินอลเล่น ถ้ามันรู้ตัวตอนอยู่กับกูก็คงดี

            12:06 ท่านเทพเซียน          กูจะสารภาพให้้หมด วัดดวงกันไปเลย

            17:27 ท่านเทพเซียน          มึง... เขาเฉยจัง... เงียบจัง...

            17:27 ท่านเทพเซียน          ยังไม่เห็นข้อความบนเลส หรือเห็นแล้วแต่ทำเมิน ไม่อยากรับรู้ความรู้สึกของกูกันแน่วะ

            17:28 ท่านเทพเซียน          กูหน่วงในใจว่ะ

            20:28 ท่านเทพเซียน          เกลียดมึง ปล่อยกูเพ้อคนเดียว

            20:29 ท่านเทพเซียน          ลืมบอก วันนี้ตอนแกล้งเมารถ กูแอบจุ๊บคอมันด้วย

            20:29 ท่านเทพเซียน          กูเกือบดูดคอมันแล้ว โคตรหมั่นเขี้ยวเลยว่ะ

            20:30 ท่านเทพเซียน          โอ๊ยยยยย เชี่ย กูเขิน กูฟินนนนน อยากลงเขี้ยววววววววว

            21:59 เอกหัวหอม             เป็นไง เที่ยวเทอร์มินอล

            21:59 เอกหัวหอม             ได้กันยัง เอายังวะ จับปล้ำเลยไหม

            22:00 เอกหัวหอม             ไอ้เซียนนนนนนน อยู่หนายยยยยย

            22:00 เอกหัวหอม             สถานะกูพร้อมเสือกกกกกกกกกกก

            22:00 เอกหัวหอม             ตอบไวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 


            ดูท่ามือถือผมจะสิ้นอายุไขก็คราวนี้ คิดว่าไม่น่าจะแค่ฟิล์มกระจกที่แตก แต่หน้าจอมือถือคงละเอียดไปด้วยหลังร่วงกระแทกพื้นเป็นครั้งที่สอง อารมณ์ผมตอนนี้กำลังพลุ่งพล่าน ลำพังแค่จะขยับมือยังทำไม่ได้ จะเหลียวหลังไปหาไอ้ตัวที่นอนหมดสภาพจึงยากเกินจะทำ


            ความรู้สึกไหลเวียนตีกัน ไม่รู้จะกรีดร้องด้วยความรู้สึกแบบไหน มึนอึนงงไปหมด ลำดับขั้นตอนการจัดการชีวิตไม่ถูก จนต้องเริ่มเรียงเรียงความคิดใหม่ ดังนั้นสิ่งที่ผมสงสัยมากที่สุดในตอนนี้คือมันจะทำตัวดราม่าเมินเฉยใส่ผมขนาดนั้นเพื่ออะไร


            ไม่คิดบ้างล่ะว่าที่ผมทำเป็นเฉยก็เพราะยังไม่เห็นคำแฝงความหมายของมัน หรือเห็นแต่โง่ไม่เข้าใจ แทนที่จะเข้ามาถามให้รู้เรื่องเพราะยังไงมันก็เจตนาอยากให้ผมรับรู้ความรู้สึกของมันอยู่แล้ว ดันเงียบเป็นหมาหงอยจนน่าสงสาร


            ถ้ามันรู้ว่าผมอ่านแชทของมันแล้วผมยังทำเฉยสิ แบบนั้นน่าจะดราม่าซะมากกว่า เฮ้อ ไม่เข้าใจความคิดมันเลย คืนนั้นก็มัวแต่รีบเซฟไฟล์ เลยไม่ทันได้อ่านสแกนเพราะกลัวมันกลับเข้ามาในห้องซะก่อน


            ถ้าเพียงผมจะอ่านสักข้อความให้สะกิดใจ คงไม่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมานานร่วมอาทิตย์แบบนี้หรอก


            แต่ตอนที่กดปิดไฟล์แชทแล้วปรากฏหน้าอีเมลฉบับนี้ สิ่งที่เห็นทำให้ผมต้องหลุดโคตรเหง้าบรรพบุรุษออกมาเป็นพรวนจนต้องขอขมาในภายหลัง...

 

            From : เทียนนที แสงธารา

            To : t.thapthepอย่าแสดงเมลบนบอร์ด         


 

            ฉิบหาย! จัญไรเถอะ! ส่งผิด!



            โมเมนท์ที่ 192 ของเซียนเทียน หน้ากูแหกจนเละ! ความเสือกแล้วพาโง่นี้กูได้จากใดมา?

           


         ตั้งใจส่งให้ตัวเอง แต่สมองดันคิดแต่เรื่องไอ้เซียน จึงกลายเป็นกดส่งอีเมลให้ไอ้เซียนซะงั้น แถมยังโง่ไม่รู้ตัวมาได้ตั้งหลายวัน

           

             ควับ!

           


         “เฮ้ย!” ผมร้องเสียงหลง พยายามตลบผ้าห่มที่ถูกคลุมหัวออก แต่ก็ต้องชะงักหยุดท่ามกลางความมืด เมื่อท่อนแขนแข็งแรงกระหวัดโอบรอบคอผมจากด้านหลัง ก่อนถูกหัวหนักๆ กดทับที่หลังคอโดยมีผ้าห่มหนากั้นกลาง ความใกล้ชิดทำให้ผมได้ยินเสียงลมหายใจหนักหน่วงของมัน “ไอ้เซียน?”



            “ทำไมมึงเมินใส่กูนักวะเทียน”



            “……”



            “บอกกันตรงๆ ก็ได้”



            “……”



            “แต่เพราะกลัวว่าจะลงเอยแบบนี้ไง กูถึงเก็บมาตั้งสามปี”



            “……”



            “มึงไม่เกลียดกูได้ไหม”



            “เกลียดโว้ย!”



         

       ท่อนแขนที่กอดรั้งที่คอผมผ่อนแรงลงทันทีคล้ายตกอยู่ในอาการชะงักงัน  ผมจึงอาศัยจังหวะนั้นตลบเอาผ้าห่มออกแล้วเบี่ยงกายหันไปหาไอ้ตัวที่นอนคว่ำหน้าใต้ผ้าหนา ก่อนที่หัวของมันจะค่อยๆ ขยับโผล่ออกมา มันในสภาพคล้ายเต่าหัวหดมองผมด้วยดวงตาตัดพ้อน่าสงสาร



            ทั้งที่สงสารแต่ดันรู้สึกเหมือนเส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ



            “กูหายใจไม่ออก ไอ้ปัญญาอ่อนนี่”



            ในที่สุดผมก็รู้ถึงสาเหตุที่มันนอยด์แดกจนแปลกไป... มันคงคิดว่าผมรับรู้ความรู้สึกของมันผ่านอีเมลฉบับนั้นแล้ว แต่พอเห็นผมนิ่ง ทำตัวเป็นปกติ เลยหลงคิดไปว่าผมทำไปเพราะไม่อยากให้เรื่องนั้นกระทบความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน



            อยากจะโกรธความโง่เง่าของมันก็ทำไม่ลง เพราะที่โง่ยิ่งกว่าคือผมคนนี้



            มันขยับกายลุกนั่ง โยนผ้าห่มไปกองรวมกับหมอน ก่อนจะเก็บชีทเรียนแล็บเคมีเข้ากระเป๋า ท่ามกลางความเงียบ ผมเฝ้ามองมันทุกการเคลื่อนไหว กระทั่งมันทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งพร้อมผ้าห่มที่คลี่สะบัดคลุมกาย ทิ้งท้ายประโยคหนึ่งก่อนเข้านอนว่า



            “ห้ามไล่กูนะ กูไม่มีที่ไป ฝันดี”



            ผมขยับกายลุกขึ้นไปนั่งขัดสมาธิบนเตียง มันปิดเปลือกตาหนีสายตาผม ก่อนจะตกใจเมื่อเปิดเปลือกตาแล้วเห็นผมยังนั่งจมปรักอยู่ที่เดิม มันขมวดคิ้วมองสงสัยเชิงถาม...



            “เซียน... เอ่อ... กูแม่ง! เพิ่งรู้ตัวว่าส่งอีเมลผิดเมื่อห้านาทีที่แล้ว...”



            เหมือนดวงตามันจะหรี่ลงคล้ายใช้ความคิด ตามด้วยเบิกกว้างขึ้นทีละน้อย เหมือนมันจะหลุดสบถออกมา แต่เป็นเพียงปากที่ขยับโดยปราศจากเสียง หัวใจของผมเองก็เช่นกัน แม้จะไม่มีเสียงดังลอดออกมา แต่กำลังกระเด้งกระดอน ปวดปร่าด้วยความตื่นเต้นตกใจ



            “ถึงแม่กูจะเป็นครูภาษาจีน ถึงกูจะเคยประกวดมารยาทไทย แต่... ถ้าเป็นเรื่องของมึงกูหยุดเสือกไม่ได้จริงๆ กูโคตรสนใจทุกอย่างที่เป็นมึงเลยว่ะ”



            ไม่นานริมฝีปากที่เม้มข่มอารมณ์ก่อนหน้านั้นได้เผยออกจนยิ้มกว้าง เราต่างสบจ้องโดยปราศจากคำพูด ใบหน้าก่ำแดงของมันทำหน้าผมร้อนซ่าน กระทั่งลำคอและแขนขาวของมันได้แดงปลั่งคล้ายเลือดกำลังซึมผ่านผิวกายออกมา...



            “กูเพิ่งรู้ว่ามึงโคตรขี้เพ้อ” ตอนที่ผมพูดประโยคนี้ เหมือนมันจะเขินจนต้องคลุมโปงแล้วม้วนตัวเป็นดักแด้หนีหน้า  “มึงรู้สึกว่าตัวเองอาการหนักไปรึเปล่า... ความเพ้อของมึง เพลาๆ ลงบ้างนะ กูเป็นห่วง”



            “ไม่เสือกสิ” อุตส่าห์โผล่หน้าออกมาด่ากู มาทำซึนตอนนี้มันสายไปแล้วไหม



            “แล้วนี่คืออาการคนเขิน?”



            “อย่าดึงผ้าห่มกู ปล่อยนะไอ้เทียน! อย่ามาแย่งสิ! กูหนาว แอร์มันเย็น มึงอย่าเลว ปล่อยโว้ย”



            กูยังไม่ได้เปิดแอร์เลยนะเซียน



            “หายเขินเมื่อไหร่ มึงจีบกูนะ กูจะรอ...”



            รอนับว่าโมเมนท์ที่เท่าไหร่ เราถึงจะได้เป็นแฟนกัน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เฉลยให้แล้ว...แม้จะพอเดากันได้ว่าเขาต่างคนต่างแอบชอบ

แต่คิดว่า พอได้อ่านความเพ้อของเซียน ทุกคนคงฟินกันนะ

ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ

บูค่ะ






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตอนหน้าก็ดำเนินการเริ่มจีบกันได้แล้วนะ จะรอดู  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เง้อออออ........มีความสุข ดีต่อใจจริงๆ
อ่านไป ยิ้มไป  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

เซียน เทียน ชอบกันๆๆๆๆๆๆๆๆ
โอ๊ยๆ.......เซียน เก๊กหล่อ แอบซึน เพ้อพกกับเอกหัวหอม
ทำเป็นให้เทียนติว  น่าร้ากกกกกกก
เทียนก็เนียนเข้าหาเซียน  :z3: :z3: :z3:
เซียน เทียน :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
ชอบบบบบบบความเนียนของเซียนอ่ะ555
มาต่อเร็วๆนะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ elephantisme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
แอบยิ้มเขินๆอยู่คนเดียว

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
รอนะคะ คนแต่งสู้ๆ

รอฟิน กิกิ :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ kankanin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกก ฟสด่กสดา่ฟหวส่งฟด่ส่ำดฟ่วฟ่ด่กหฟดว
ความเพ้อนี้ท่านได้แต่ใดมาหนอเซียน โอ้ยยย เซียนมาเหนือมาก เหนือฟ้าจริงๆ อยากอ่านตอนต่อไปใจจะขาดแล้ววว งืออออออ  :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
55555 ทำไมซื้อหวยไม่ถูกเหมือนเดาทางนิยายบ้างนะ 55555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด