⚙️ ซีรีส์ชุด อินทาเนีย [วิศวกรรมศาสตร์] メภาค MEメเสือนับแต้ม CH.08 (25-04-2018)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ⚙️ ซีรีส์ชุด อินทาเนีย [วิศวกรรมศาสตร์] メภาค MEメเสือนับแต้ม CH.08 (25-04-2018)  (อ่าน 46489 ครั้ง)

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Behind CE scenes, into ME story

   ท่ามกลางความมืดมิดของท้องฟ้ายามค่ำคืนอันเงียบสงบ กลับมีสองชีวิตวิ่งพล่านไปทั่วสารทิศในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างร้อนรน ก่อนจะวกกลับมาเจอกันอีกครั้ง

   “ได้ข่าวไอ้ป่านบ้างเปล่าวะ” พีถาม

   “......” เต็นจนคำพูด ทำได้เพียงส่ายหัวด้วยสีหน้าเป็นกังวล

   “แฟนหายแบบนี้ อาจทิ้งมันไปแล้วก็ได้ คงกำลังช้ำในตายอยู่ที่ไหนสักแห่ง”

       “มันคงไม่คิดสั้นหรอกนะ”

       สองเพื่อนซี้ต่างทอดถอนใจด้วยความเป็นห่วง เพราะต่างรู้ว่าเพื่อนรักของตนเปราะบางแค่ไหนกับเรื่องราวแบบนี้ ซึ่งหลังได้รับโทรศัพท์ เต็นและพีได้รีบตรงมาหาป่านทันที แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า น้ำเสียงที่อ่อนระโหยโรยแรงและคำพูดคำจาราวกับหมดอาลัยตายอยากของเพื่อนยังคงดังก้องสะท้อนในหู

       “ลองโทรหามันอีกรอบซิ” เต็นว่า พีคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนรักของตนอีกครั้ง

       “ไอ้เชี่ย กดตัดสาย!”

       พีโวยวายอย่างหงุดหงิด ทว่าอีกใจก็เป็นห่วง เพราะการถูกตัดสายหมายถึงอีกฝ่ายไม่พร้อมที่จะพูดอะไร สิ่งที่พวกเขาเป็นห่วงอาจกำลังเป็นจริง

       “ใครมาโวยวายอะไรดึกดื่นขนาดนี้วะ!”

       เสียงบุคคลที่สามดังแทรก ทำให้พีและเต็นต้องเหลียวมองรอบตัวหาที่มา พร้อมกับรู้ตัวว่าพวกเขาได้ตามหาเพื่อนจนมาถึงช็อปเชื่อมโลหะโดยไม่รู้ตัว

       ทั้งสองสอดส่องสายตามองพุ่งตรงไปยังภายในห้องปฏิบัติการผ่านประตูที่เปิดกว้าง ก่อนจะได้ยินเสียงแสดงความรำคาญดังออกมาพร้อมปลายเท้าที่ก้าวพ้นประตูออกมา

       “อกหักไม่ตายหรอก อย่าโง่...”

        อยู่ดีไม่ว่าดี มีคนมาด่าเฉย พีคิดพลางจ้องร่างที่ค่อยๆ ปรากฏชัด เป็นใบหน้าบอกบุญไม่รับที่กำลังขยับปากพูดออกมาด้วยถ้อยคำลึกซึ้งคล้ายคนเคยผ่านประสบการณ์ความเจ็บปวดลึกในหัวใจ

        “โดนหลอกสิ... ตายทั้งเป็น!”


ท่ามกลางเสียงตอกเสาเข็มที่ดังสนั่นลั่นแสดงการตั้งหลักปักฐานอันมั่นคงของความรัก...

ยังมีเรื่องราวหัวใจของคนคู่หนึ่งที่เสาหัก คานถล่ม เหลือเพียงเศษซากความรู้สึกที่ทำให้หวนกลับมาพบเจอกันอีกครั้ง...

........................................
พบกับซีรีส์ อินทาเนีย เรื่อง เสือนับแต้ม ภาค ME (วิศวกรรมเครื่องกล)
เขียนโดย Boorina  ธีม แฟนเก่า



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2018 19:56:07 โดย Boorina »

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปูเสื่อ  ปูเสื่อ นอนรอ  :a12:

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0


- ลำดับที่ 3 -

ซีรีส์ชุด Intania ภาค ME [ Mechanical Engineering วิศวกรรมเครื่องกล]

เรื่อง เสือนับแต้ม

เขียนโดย   Boorina


 

 

 

intro

 

 

            สำหรับผมแล้ว...

            เพราะลดทอนความรักตัวเอง ความเจ็บปวดยามจากลาจึงตื้นเขิน

            กลายเป็นยิ่งคิดถึงตรึงใจ เคยรู้สึกมากแค่ไหน เวลานี้ยิ่งมากมาย

            จึงเป็นเรื่องยากที่จะให้ละสายตาจากเส้นผมพลิ้วลู่ลมเคลียใบหน้าชื้นเหงื่อ แม้ดวงตาคู่คมที่ตวัดต่ำมองมาจะว่างเปล่า แต่ยังคาดหวังว่าอาจมีเยื่อใยในวันวานหลงเหลือเป็นตะกอนที่ก้นหัวใจ

            ขอเพียงเศษเสี้ยว ผมก็พร้อมที่จะเดินหน้า

            ใต้แสงนวลของพระจันทร์ในค่ำคืนงานเกษตรแฟร์ของมหาวิทยาลัย... ร่างโปร่งในชุดเสื้อช็อป ปวส. สีเทาอ่อนได้กระโดดลงมาจากต้นไม้พร้อมลูกโป่งหัวใจสีชมพู เขาก้มลงหยิบถุงมะขามหวานบนพื้นหญ้าแล้วเหยียดกายยืนตรง ก่อนยกคิ้วเชิงสงสัยมองมายังผมพร้อมล้วงเอามะขามฝักหนึ่งขึ้นมากระเทาะเปลือกออกแล้วงับกินอย่างเอร็ดอร่อย

            ผมขยับเท้าไปข้างหน้าสองก้าว ปลายเท้าที่สวมรองเท้าแตะของผมจึงห่างกับรองเท้าหนังหัวเหล็กซอมซ่อที่ใช้มานานตั้งแต่เสื้อช็อปของคนตรงหน้ายังเป็นสีกรมท่าเพียงคืบ ทำเอาเผลอคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เหมือนเขายังเป็นคนเดิม

            ปากผมขยับ... ปากเขาเผยอ...

            เสียงทุ้มเบาดังขึ้น แผ่วพร่าจนแทบกลืนหายไปกับเสียงหวีดของลมที่พัดผ่าน

            “เรากลับมาคบกันนะ”

            ด้วยใบหน้ายามปกติที่เรียบนิ่ง ตาเฉี่ยวคมที่สร้างอารมณ์เหมือนคนติดหยิ่ง ดังนั้นตอนที่ปากหยักคลี่ขยับจนเห็นรอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นมา หัวใจของผมจึงเริ่มพองโต

            “บนพันสาม ล่างเจ็ดร้อย สองตัวล่างเก้าร้อย รวมเงินต้นทั้งหมดสองพันเก้าร้อย ส่วนลดไม่มีให้เพราะติดมานานเกือบสามปี แต่ขอคิด vat 7% service charge 50% ต่อปี ฉะนั้นยอดรวมเบ็ดเสร็จต้องเป็น แป๊บนะ...” ว่าพลางล้วงมือถือจากกระเป๋าเสื้อช็อปออกมากดยิกๆ  “หกพันสองร้อยหกบาทถ้วน”

            หัวใจของผมถูกความร่ายยาวภาษาเงินตีแสกกลางกระบาลก่อนสะเทือนลงไปยังหัวใจ จากที่ฟูฟ่องพองลม มันได้ระเบิดดังโพล้ะ แฟบแบนจนมือสั่นตีนสั่น เส้นเลือดตรงขมับเต้นตุบตับ

            เป็นบรรยากาศเก่าก่อนอย่างแท้จริง ไอ้เด็กคนนี้ยังคงเหมือนเดิม หน้าเงินได้ทุกสถานการณ์ หากมีสักอย่างที่เปลี่ยนไปก็คงเป็นดีกรีความงกที่สูงขึ้น ความด้านที่เพิ่มชั้นความหนา และความหล่อติดหยิ่งที่สะท้านสะเทือนใจหนักกว่าเดิม

            “จะผ่อนก็ได้นะ ไหนๆ ก็คนกันเอง”

            คนกันเองเรอะ?

            service chart 50% นี่ถ้าไม่สนิทคงไม่ได้รับเกียรติขนาดนี้แน่ ไหนจะภาษีหวยอีก เอากับมันสิ!

            แต่ช่างเถอะ ถือซะว่าเป็นความผิดพลาดของพระจันทร์ดวงกลมในยามค่ำคืนเหงาหงอย ที่บิ้วท์อารมณ์ผมจนนึกอยากเป็นผู้ชายสายโรแมนติกในตอนที่บังเอิญพบหน้าแฟนเก่าขึ้นมา...

            ใครๆ ถึงได้บอก อย่าฝืนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง เพราะนอกจากน่ารำคาญแล้ว ยังรู้สึกขัดใจตัวเองอยู่หน่อยๆ ผมในบทบาทคุณชายแสนดีน่าสงสารแบบนั้นช่างไม่เหมาะกันเลย

            “อยากได้ค่าหวยนักก็ตามมา”

            เป็นอย่างที่คาด ค่าหวยทำให้คนหน้าเงินเดินตามหลังผมมา

            ตู้ม!

            “ไอ้เสือ...” เป็นเสียงราบเรียบที่ดังมาจากคนเบื้องล่าง

            ผมยิ้มรับคำเรียกขาน เอ่ยสุภาพว่า “ครับแต้ม?”

            ผมเปล่าแกล้งนะ ทั้งยังแอบหวังว่าแต้มมันจะไม่โง่เดินลงไปในคูน้ำสีเขียวที่ดูเหมือนพื้นหญ้าทั้งที่ผมกระโดดข้ามมา แต่การได้ยืนมองแฟนเก่าตะเกียกตะกายพาร่างเปียกชุ่มที่ชโลมด้วยตะไคร่น้ำขึ้นมานั้น ดันทำให้รู้สึกว่ามันโคตรน่ารักน่าเอ็นดู ยิ่งถูกสายตาเฉียบคมมองมาอย่างไร้ความรู้สึกด้วยแล้ว ยิ่งพาให้อารมณ์ดีจนหุบยิ้มไม่ได้

            ดังนั้นทั้งที่หน้าแหกไปแล้วรอบหนึ่งก็ยังอยากจะพูดซ้ำทำนองเดิม

            “ตามมานะ พี่เสืออยากจีบ”

            นอกจากแต้มจะเป็นชื่อของแมวสีดำตัวหนึ่งในหนังสือเรียนภาษาไทยชั้นประถมศึกษาแล้ว แต้มยังเป็นชื่อแฟนเก่าสมัยละอ่อนของผมอีกด้วย

            ผมไม่เคยลืมช่วงเวลาที่เคยถูกแมวป่าตัวนี้อ้อนเลยสักวัน...

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุยกันค่ะ

สำหรับเรื่อง เสือนับแต้ม จะมาในธีม ‘แฟนเก่า’

เนื้อเรื่องก็จะยกระดับความเข้มข้นจากเรื่อง เซียนเหนือฟ้า มาอีกนิด

เนื้อเรื่องมีมิติมาอีกหน่อย

พี่เสือที่ดูเหมือนเจ้าเล่ห์ ไม่อยากจะบอกว่า... เป็นลุงกากๆ นี่เอง

ฝากติดตามด้วยนะคะ

วันนี้เอามาแค่อินโทรสั้นๆ

ไว้ตอนหน้าเนอะ... มาดูความเสือถูกแมวตะปบหน้ากัน

ปล. ขอบคุณที่อ่าน เซียนเทียน / ป่านเจี๋ย

หวังว่าจะติดตามกันต่อๆไปนะคะ

เพราะแต่ละเรื่องในเซ็ตนี้ มีคอนเซปต์ต่างกันทั้งหกเรื่อง ไม่จำเจแน่นอน

ปล.2 เราอาจไม่บ้าบอ พูดจ้อ ช่างล้อ ช่างเหน็บ เหมือนพี่นักเขียนผู้ชาย

(เก็บกดช่วงที่ผลัดกันอัพ โดนพี่แกว่าเป็นหมา ไม่ได้ตอบโต้เลย)

แต่อ่านแล้วมีอะไรติดขัดส่วนไหน ถามได้เลยค่ะ

Boorina


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-02-2018 09:01:39 โดย Boorina »

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
นิยายชุดนี้มีแต่ละร้ายๆ 555555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เสือกับแมว กัดกัน ตัวไหนจะชนะนะ อยากรู้ อยากเผือก  :m28:

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

- ลำดับที่ 3 -

เรื่องสั้นชุด Intania ภาค ME

(ME  : Mechanical Engineering วิศวกรรมเครื่องกล)

เรื่อง เสือนับแต้ม

เขียนโดย   Boorina



CH.01

แฟนเก่าแล้วไง...ห้ามใครแตะ!

 

            ผมที่นั่งทานข้าวในช่วงบ่ายกับกลุ่มเพื่อนที่โรงอาหารวิศวะปรายตามองไปยังลานกิจกรรม เห็นเด็กเฟรชชี่ปีหนึ่งภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลถูกยืนห้อมล้อมด้วยรุ่นพี่ปีสองและปีสาม จากนั้นเสียงเพลงกึกก้องเป็นจังหวะพร้อมเพรียงและดุดันได้ดังขึ้น  บางช่วงตะโกนชื่อภาค ‘We are ME, Mechanical Engineering...’ เป็นบรรยากาศที่ชวนให้รุ่นพี่ปีสี่อย่างผมหวนคิดถึงครั้งยังเป็นเด็กปีหนึ่งด้วยอารมณ์ฮึกเหิม ภูมิใจ กับมนต์ขลังของคำว่า ‘วิศวะ’

            ทั้งที่กำลังระรื่นหูอยู่กับบทเพลงเชียร์ แต่ท่วงทำนองกลับถูกสอดแทรกด้วยเสียงแซ่ๆ สลับกับเสียงเคาะโลหะให้หงุดหงิดเป็นระยะ...

            ที่สแตนด์ผุพังเก่าๆ ข้างลานกิจกรรม มีร่างหนึ่งกำลังนั่งเชื่อมซ่อมแซมโครงเหล็ก ขณะที่อีกสามคนกำลังทาสี ดูจากเสื้อช็อปสีเทาอ่อนแต่เข้มกว่าของวิศวกรรมอุตสาหการสองเฉดสีคาดว่าน่าจะเป็นเด็กวิศวกรรมการเชื่อม หลักสูตร ปวส.ต่อเนื่อง ที่เพิ่งเปิดมาเป็นปีที่สอง

            แล้วจู่ๆ ก็มีเพื่อนผมคนหนึ่งเดินเข้าไปคุยกับไอ้คนที่ถือหน้ากากเชื่อม...

            “มึงเป็นไงบ้างไอ้เสือ เมื่อเช้าโดดเรียนแล้วได้ไปหาหมอป่ะ” ไอ้หลิวหน้าหล่อแต่ขาสั้นถามไถ่ ผมละสายตาจากภาพที่กำลังสนใจมามองเพื่อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ

            เมื่อคืนผมมีอาการปวดกล้ามเนื้อที่หัวไหล่อย่างรุนแรงตั้งเเต่ช่วงห้าทุ่ม พากระสับกระส่ายจนนอนไม่หลับ กระทั่งผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ตอนที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าไหล่ผมก็อักเสบจนบวมเป่ง ยกขยับสักนิดยังทำไม่ได้ ทั้งยังมีไข้เล็กน้อย จำใจขาดเรียนครึ่งวันเช้าเพื่อลากสังขารจากคอนโดฯ ไปโรงพยาบาล

            “หมอบอกแคลเซียมเกาะกระดูก ฉีดยาแล้วดีขึ้นหน่อย แต่ยังบวมๆ อยู่เลยว่ะ”       

            “เรียกง่ายๆ ว่าหินปูนเกาะกระดูก เป็นโรคที่เกิดขึ้นบ่อยกับคนแก่” คนถามยิ้มรับ อวดภูมิขึ้นมาอีกหน่อยว่า “หน้าแก่ไม่พอ ร่างกายยังอ่อนปวกเปียก ไม่รู้ตรงนั้นมีหินปูนเกาะด้วยไหม เห็นช่วงนี้รุ่นพี่เสือของน้องๆ เงียบกริบ ไม่มั่วไม่ยุ่งเหมือนงดคั่วชั่วคราว ที่แท้ก็ป่วยเป็นโรค ไม่อึด ไม่ฟิต ไม่เปรี๊ยะ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก”

            แดกกูขนาดนี้... มึงเอาช้อนส้อมมาจิ้มอกซ้ายกูเถอะ

            “ปีสี่แล้วควรตั้งใจกับโปรเจกต์จบไหม ทำตัวแบบมึงคงจบช้าไปอีกเทอม”

            เป็นไอ้อินนิลที่สอดแทรก เพื่อนคนนี้เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มเพื่อนสนิท แต่ดันมาดแมนใส่แต่ชุดช็อปทั้งปีทั้งชาติจนสีกรมท่าเข้มๆ ซีดเป็นผ้าขี้ริ้วขาดแหว่ง มันก็ยังเอามาใส่ นอกจากวันสอบเท่านั้นถึงจะเห็นมันนุ่งกระโปรง เห็นผู้ชายหล่อก็กรี๊ด เห็นสาวสวยก็สะกิดให้มอง ทำเอาพวกเรายังคงสับสนรสนิยมของมันจนถึงปัจจุบัน

            “เพื่อนอินนิลชอบว่าอ่ะ ปากร้าย ไม่แปลกเลยที่ไอ้บุญส่งจะเปลี่ยนใจไปชอบผู้ชาย”

            ไม่ทันที่ไอ้อินนิลจะโพล่งด่าเอาคืน ไอ้คนที่ถูกกล่าวถึงก็วิ่งปรี่จากสแตนด์มานั่งเบียดผมจนแทบตกก้าอี้ ทั้งยังเอาหน้ามาถูไถที่ไหล่ผมในอาการขวยเขินจนหน้าแดงก่ำลามไปทั้งตัว

            “อะไรของมึงเนี่ยไอ้ส่ง ถอย! กูเจ็บไหล่อยู่สัด!”

            “แหม มึงก็...” มันเหยียดหลังตรง เค้นสีหน้าหน้าเอาการเอางานแล้วเล่าเสียงปริ่มสุขว่า “น้องคนนั้นอ่ะมึงที่หล่อโฮกๆ อ่ะ ใครๆ ก็ว่าน้องมันหยิ่งหน้าดุจนพากันป๊อดไม่กล้าจีบ แต่รู้ไหมตั้งแต่ไอ้เดือนมหา’ลัยปีสามโพสต์รูปคู่กับน้อง โหยยยย กระแสลั่นมาก เหมือนมีป๋าดัน ยิ่งไอ้เดือนบอกว่าน้องมันโสด นิสัยดี ติดที่หน้าไม่รับแขก ชีวิตกูเหมือนปลดล็อกว่ะ ตะกี๊กูเลยรีบเดินหน้าหยอดมา...”

            “ออ…” ผมขานรับ “รู้ชื่อน้องมันยังล่ะ” เห็นชอบมาเพ้อให้ฟังอยู่บ่อยๆ

            “น้องแต้ม วิศวกรรมการเชื่อม หลักสูตรต่อเนื่อง เทียบแล้วก็เท่ากับปีสามเนอะ หล่อว่ะ ปลื้มโคตร ไม่คิดว่าเด็กสายอาชีพจะมีหล่อวัวหายควายล้มขนาดนี้หลงอยู่ด้วย”

            “เอาจริง?”

            “เออดิ กูเลยจะมาขอคำแนะนำจากมึงไงเสือ ในฐานะที่มึงเกลือกกลั้วจนฉาวโฉ่วในโลกคาวโลกีย์เป็นวิสัย สอยดาวเดือนมาจนครบทุกคณะ...”

            เสียงหัวเราะของเพื่อนอีกสามคนประสานท่วงทำนองใส่หน้าผมแทรกจังหวะพูดของไอ้บุญส่ง

            “เสือไบอย่างมึงสอนกูทีเหอะ ว่าจีบผู้ชายเขาทำกันยังไงวะ”

            “มึงก็บอกมันหน่อยเหอะไอ้เสือ” ไอ้หลิวยุ “แต่อย่าเอาสกิลสมัยที่มึงถูกทิ้งตอนปีหนึ่งมาใช้นะ ตอนนั้นมึงหงอยจนเป็นลูกแมวเลย ซึมกระทือเป็นวรรคเป็นเวร คิดแล้วฮา คนอย่างไอ้เสือถูกแฟนเด็กทิ้ง ถุย!”

            เพื่อนคนอื่นๆ ตะลึงตาโต ด้วยไม่เคยรู้อัตชีวประวัติข้อนี้ของผม  พอดีกับที่เพื่อนทั้งสามตัวหันไปสนใจร่างหนึ่งที่เดินผ่านไปยังร้านน้ำ ก่อนจะเดินกลับมาทางเดิมพร้อมเครปแผ่นใหญ่และน้ำแตงโมปั่นที่แดงแข่งกับหน้าของมันจากการทำงานตากแดดกลางสนาม

            “วี้ดวิ่วววว...” ไอ้หลิวผิวปากแซว

            “นกเขาไม่ขันรึไง ปากทำงานจัง” อีกฝ่ายพูดลอยๆ เข้ามากระแทกหน้าไอ้หลิวจนเหวอแดก

            “น้องมันหล่อว่ะ แต่กูสงสัย นี่มึงจะบนหรือล่างวะไอ้ส่ง แมนซะ!” ไอ้อินนิลโพล่งออกมาทั้งที่แต้มยังเดินไม่พ้นโต๊ะเราด้วยซ้ำ ถือเป็นการนินทาระยะเผาขนแบบไม่กลัวเกรง

            “นั่นสิ ตะกี๊ก็ไม่เคลียร์” เป็นไอ้เด็กแต้มที่ชิงตอบลอยๆ อีกครั้งขณะเดินผ่านโต๊ะผมไปแล้วสองสามก้าว

            “น้องแต้มครับ” เท้าของคนที่ถูกเรียกชะงักกึก ก่อนใบหน้าหล่อคมจะสะบัดพรืดมาจ้องไอ้บุญส่งที่ยิ้มรอ “แวะก่อนๆ”

            “มีไร!” ห้วน สั้น กระชับ ชัดเจน สมแล้วที่ไม่มีใครกล้าจีบ แต่ถ้าแจกตีนนี่ก็อีกเรื่อง

            “เปล่า พี่ก็แค่อยากแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก จะได้คุ้นเคยกันไว้ไง”

            แต้มยักไหล่ก่อนเดินอ้อมโต๊ะมาฝั่งผมแล้วหยุดยืนหลังไอ้บุญส่งด้วยใบหน้านิ่งเรียบแฝงอารมณ์ยโสเล็กๆ

            “แล้วคิดได้ยังว่าจะบนหรือล่าง” แต้มถามย้อนพลางกัดเครป ก่อนเศษแป้งจะหักกระเด็นตกใส่หัวผม “อ้าว โทษทีๆ”

            มันบอกก่อนวางมือแหมะลงกลางกระบาลผม จากนั้นก็ทำทีเป็นปัดเศษขนมออก จนผมต้องคว้าหมับที่ข้อมือมันให้หยุด ดวงตาสองคู่สอดประสานอย่างไม่มีใครยอมใคร ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ ที่มองมาอย่างสนใจ ยกเว้นไอ้บุญส่งที่ยังจ้อต่อไปอีกหน่อยอย่างไม่รู้สถานการณ์ว่า

            “มึงสอนกูหน่อยดิไอ้เสือ บนหรือล่างอันไหนดีกว่ากันวะ"

            “ก็ดีคนละแบบ ลองถามน้องแต้มดูสิ ว่าน้องแต้มชอบแบบไหนมากกว่ากัน” ผมตอบไอ้บุญส่ง แต่สายตากำลังเชือดเฉือนกับคนในอุ้งมือ “หรือจะให้พี่ตอบแทนดีว่าน้องแต้มชอบล่างโคตรๆ”

            “จะบนหรือล่าง... ก็ขายหมดแหละ” จำเป็นต้องตอบแฝงลามกไหมฮึ!

            “งั้นพี่ซื้อบนน้องแต้มพันห้าแล้วกันเนอะ” คำพูดนี้ของไอ้บุญส่งทำเอาหนวดเสือของผมกระตุก ทั้งยังถูกไอ้แต้มสะบัดมือแล้วทำเมินก่อนเบียดกายแทรกลงนั่งระหว่างผมกับไอ้บุญส่ง จากนั้นจึงหยิบมือถือจากกระเป๋าเสื้อช็อปออกมายื่นให้เพื่อนผม

            “เอาไปแอดไลน์มึงสิ”

            หน้าตาเพื่อนแต่ละตัวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม มองไอ้บุญส่งที่ยิ้มแป้นขณะพิมพ์ไอดีไลน์ตัวเองในมือถือแต้ม และเหมือนคนถูกจ้องจะรู้ตัว แต้มจึงยิ้มรับและเป็นฝ่ายตอบแทนไอ้บุญส่งให้ทุกคนคลายสงสัย

            “ลงทะเบียนจีบ”

            “พี่งง?” อินนิลเอ่ยหน้าฉงน

            “ลงทะเบียนจีบพร้อมจ่ายค่าลงทะเบียนพันห้าเป็นค่าหวย ถึงจะได้ไลน์ไอดีน้องแต้ม แต่กูซื้อหวยไม่เป็นไง เลยต้องกลับมาปรึกษาพวกมึงว่าเวลาซื้อหวยต้องบนหรือล่างดี”

            ทุกคนร้องอ้อยาวเฟื้อยเหมือนเข้าใจด้วยหน้าตาที่ยังงุนงง ดวงตาจับจ้องคนถูกจีบรับมือถือคืนด้วยมาดจริงจัง แต่มีรอยยิ้มการค้าประดับบนใบหน้า

            “ขอเฟสบุ๊คด้วยได้ไหม”

            “เพิ่มยอดซื้ออีกห้าร้อยนะ” ไอ้บุญส่งพยักหน้าดีใจ รับมือถือแต้มมากดแอดเฟสบุ๊คตัวเองอย่างระริกระรี้ ถ้ามีหางก็คงสั่นจนหางหลุดตูดนั่นแหละมันถึงหยุด

            “จะเอาเลขอะไรก็ส่งไลน์มาแล้วกัน พิเศษสำหรับลูกค้าใหม่กูลดให้สิบเปอร์เซ็นต์สำหรับการซื้อครั้งแรก แล้วสะดวกจ่ายสดหรือโอนเข้าบัญชีล่ะ”

            คนถูกถามล้วงกระเป๋าสตางค์มาเปิดดูเงินข้างใน ก่อนจะพูดเสียงอ่อย

            “พี่มีติดตัวอยู่เจ็ดร้อย” ยื่นส่งให้แต้มก่อนมันจะมองมาที่ผม “ไอ้เสี่ย ไอ้ป๋าาาาา พี่เสือคร้าบ เอามายืมพันสามดิ๊ ตอนเย็นกดเอทีเอ็มคืนให้”

            “จ่ายมาพร้อมกับหนี้เก่าหกพันสองร้อยหกบาทด้วยเลยสิ”

            แต้มหันมาแยกเขี้ยวทวงหนี้ใส่ผม เล่นเอาเพื่อนฝูงตะลึงอีกระลอก ส่งเสียงเปรยแผ่วๆ ว่า “รู้จักกันด้วยเหรอวะ?” ต่อด้วย “มึงไปหลอกล่อน้องมันยังไงวะถึงรู้จักกันได้?” และ  “ไอ้ลูกชายหน้าโง่ของเจ้าของเครือข่ายสัญญาณมือถือเนี่ยนะติดหนี้เด็ก!?”

            “อยากได้ก็ตามมา กระเป๋าตังค์อยู่บนรถ” ผมบอกแต้มพลางลุกขึ้นยืน “ว่าแต่ลดให้แค่ลูกค้าใหม่เหรอ แล้วลูกค้าเก่าล่ะ”

            แต้มแหงนหน้าขึ้นมองผม “ซื้องวดนี้ก่อนดิ เดี๋ยวลดของเก่าให้”

            “กระทั่งกับแฟนเก่าก็ยังเคี่ยว”

            “ก็แฟนเก่ามันชอบเบี้ยวนี่หว่า” มันย้อนกลับมาด้วยใบหน้าไม่แยแสโลกอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่สะท้านต่อความสัมพันธ์ระหว่างเราที่ผมโพล่งออกไปกลางวงเพื่อนๆ จนพวกมันตาโตปากหวอ

            “เชี่ย!” เป็นไอ้หลิวที่ส่งเสียงดังขึ้นมาเป็นคนแรก “แฟนเก่า!”

            “น้องแต้มก็ชอบผู้ชายด้วย!” ไอ้หลิวตะลึงงัน

            “ไอ้เสือ นี่มึง! น้องแต้ม! แฟนกัน?” ไอ้บุญส่งไร้คำพูดหลังจากนั้น ตัวสั่นจนมือถือในมือร่วงลงกระแทกโต๊ะ

            “ฟิล์มกระจกแตก... บวกเพิ่มมาอีกสองร้อยเก้าสิบด้วยนะบุญส่ง” ไอ้แต้มทวงยิบไม่ตกหล่นสักสตางค์แดงเดียว เก็บมือถือใส่กระเป๋าแล้วเหลียวมองกลับมาที่ผม “6,206+1,300+290 เฮ้ย! ลืมหักส่วนลด ไว้ลดให้งวดหลังเนอะบุญส่งจะได้คิดง่ายๆ” มันหันกลับไปเคลียร์กับเพื่อนผมที่พยักหน้าเอออออย่างช้ำใจคล้ายสติหลุดลอย ก่อนจะขอไปเก็บอุปกรณ์เครื่องมือที่สแตนด์เชียร์แล้วจะตามไปที่รถ

            คล้อยหลังแต้มผมตบไหล่ไอ้บุญส่งเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ

            “การจะจีบแต้มถ้าเงินไม่พร้อมก็ต้องอาศัยประสบการณ์ชั้งสูง อ่อนด๋อยอย่างมึงน่ากลัวว่าถูกสูบจนหมดแล้วก็ยังได้แค่มอง ให้แฟนเก่าอย่างกูสาธิตให้มึงดูเถอะว่าจีบยังไงถึงสามารถนับเป็นแต้มได้”

            “ไม่ต้องมาประกาศศักดิ์ดาข่มกู”

            ไอ้บุญส่งครวญเสียงขุ่น ผมรึจะแยแส รู้งี้น่าจะช่วยแต้มปั่นยอดอีกหน่อย ให้ไอ้นี่ที่ริจีบแฟนเก่าผมเสียสักหมื่น แม้สุดท้ายจะเป็นเงินผมที่มันยืมไปจ่ายก็เถอะ

            “กูแค่อยากดับฝันมึง ถึงแต้มจะเป็นแฟนเก่า แต่ก็แฟนกู ห้ามแตะ”

            “ไม่บอกแต่แรกวะ ทำกูเสียไปตั้งกี่พัน”

            “หมั่นไส้ล้วนๆ”

            ไอ้หลิวหัวเราะ “ถึงว่าช่วงนี้ทำเงียบ ที่แท้ก็เป็นไอ้เสือซุ่มที่แอบซ่อนเชี้ยวเล็บไว้ขย้ำแฟนเก่านี่เอง” ไอ้หลิวตั้งข้อสังเกต “ถึงเสือมันจะแก่ แต่เสือก็คือเสือ ไม่เคยทิ้งลาย”

            “แต่เสือก็เคยถูกแฟนเด็กทิ้ง... ไอ้กากกกกกก” ไอ้บุญส่งแขวะ ท่าทางจะเคืองผมหนักจริงๆ

            “เปย์ได้ไม่เท่าก็หุบปากซะเพื่อน”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนหน้าจะได้รู้ถึงความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างพี่เสือกับแต้ม
ว่าจะหวานชื่นหรือระทมมากน้อยแค่ไหน
ฝากด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกวิวและคอมเมนท์มากค่ะ
Boorina


ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เลิกกันเพราะเหตุใด  เกี่ยวกับหวยไหมเนี่ย  :hao3:

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0


- ลำดับที่ 3 -
ซีรีส์ชุด Intania ภาค ME
(ME  : Mechanical Engineering วิศวกรรมเครื่องกล)
เรื่อง เสือนับแต้ม
เขียนโดย   Boorina


CH.02
แมวป่าขี้อ้อน




            “เอาไปสี่พันก่อนนะ”


            ผมที่ยืนกอดอกพิงเสากลมข้างตึกซึ่งมีรถจอดเรียงรายยื่นเงินให้ไอ้หล่อมาดเถื่อนที่ถอดเสื้อช็อปพาดไหล่ไว้ เสื้อยืดสีเทาบนตัวมันชุ่มไปด้วยเหงื่อ ก่อนจะมองสำรวจใบหน้าไอ้เด็กแต้ม นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้มองมันเต็มสายตาแบบนี้


            แต้มยังคงเป็นแมวป่า มีนิสัยดื้อรั้นและหน้าเงินเหมือนเดิม ทั้งยังมีความดิบเถื่อนตามสไตล์เด็กช่างติดตัว แต่เพราะหน้าตาหล่อคมทำให้ยิ่งดึงดูดสายตาคนให้เหลียวมองอย่างสนใจ โดยเฉพาะสาวๆ สมัยนี้ที่ชอบมาดแบดบอยเร้าใจ


            “มองหน้ากูนานเกินเหตุจำเป็นกูคิดตังค์นะ”


            “พูดไม่เพราะกับพี่เสือเลยแต้ม”


            “ปากกูไหม”


            “คำละยี่สิบ ‘พี่เสือ’ พูดได้ไหม”


            “จ่ายค่าติดให้ครบก่อน แล้วค่อยว่ากัน” บอกพลางเก็บเงินใส่กระเป๋า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถาม “ที่เหลือจะจ่ายเมื่อไหร่ล่ะ ปล่อยไว้นานๆ กูคิดดอกเบี้ยนะ” ผมเงียบไม่ตอบ เอาแต่จ้องหน้ามันไม่ละสายตา ในที่สุดมันก็ทนไม่ไหวจนต้องโพล่งออกมา “มีอะไรอีกไหม ไม่งั้นกูกลับแล้ว”


            “...แต้มตามพี่มาเหรอ?”


            มันชักสีหน้าหงุดหงิด ส่ายหน้ารำคาญก่อนจะเดินเบียดไหล่ผมเพื่อเดินจากไป


            “โอ๊ย...” ผมร้องครางหงิงๆ ไม่ดังนัก เน้นการแสดงทางสีหน้าเมื่อแต้มหันกลับมามองพร้อมเลิกคิ้วโก่งเชิงถาม ผมจึงตอบออกไป “แคลเซียมเกาะกระดูก”


            มันพยักหน้ารับ สมัยก่อนที่เราคบกันผมก็เคยป่วยแบบนี้ มันจึงไม่แปลกใจนัก


           “ขับรถพาพี่ไปโรงพยาบาลหน่อย ค่าขับหนึ่งพัน ค่าเสียเวลาห้าร้อย พร้อมค่าติดที่เหลือทั้งหมด”


            “อืม”


            แต้มตอบรับสั้นๆ ก่อนจะก้มลงเก็บถุงมือเชื่อมเก่าๆ ข้างหนึ่งที่ร่วงจากกระเป๋าเสื้อช็อปตอนไหล่ชนกัน...


            ผมกดปลดล็อกแล้วยื่นกุญแจรถให้ มันรับก่อนหันหลังเดินตรงไปยังรถ BMW Z4 สีดำ ภาพตรงหน้าซ้อนทับภาพในวันวาน ผมเป็นคนสอนแต้มขับรถพร้อมพาไปสอบใบขับขี่ด้วยรถคันนั้น...


            ห้วงอารมณ์คิดถึงดีดพุ่งขึ้นมา ฉากสอนไปด่าไป กระทั่งป้อนขนม แอบเนียนจับมือและตอดเล็กตอดน้อยได้ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ก่อนจะถูกสีหน้าเซ็งจัดของแต้มตัดอารมณ์


            ผมยิ้มขำให้กับภาพปัจจุบันที่แต้มพยายามเปิดประตูรถแต่ไม่มีวี่แววสำเร็จ


            “คันโน้น...”


            ผมพยักพเยิดใบหน้ากลั้นขำไปยังรถสีดำอีกคัน


            “เปลี่ยนรถใหม่ก็บอกดิวะ” ให้บอกตอนไหนล่ะ เลิกกันไปตั้งหลายปี “ไอ้ห่า เจ้าของรถเดินหน้าดุมาแล้ว วิ่งโว้ยๆ” มันบ่นพลางวิ่งอ้อมรถไปเปิดประตูรถ Porsche 911 Turbo S Cabriolet เข้าไปประจำตำแหน่งคนขับด้วยใบหน้าที่แดงเถือกด้วยความกระดากอาย


            ความรู้สึกที่เคยลังเลว่าจะจีบแฟนเก่าดีไหมเริ่มสั่นคลอน


            อยากบอกแต้มว่า... ตอนนี้พี่พร้อมเปย์ทุกอย่างให้น้องจริงๆ นะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


            นับจากวันที่เราเลิกกัน ผมนึกย้อนถามตัวเองบ่อยครั้งว่าอยากกลับไปคืนดีด้วยไหม?


            ‘แน่นอน’ ผมตอบแบบนี้ทุกครั้ง


            แต่พอถามอีกหน่อยว่า แล้วแต้มล่ะ ยังเหลือเยื่อใยอะไรให้ผมพอมีหวังบ้างไหม?


            ผมได้แต่กุมขมับ ปล่อยวันเวลาให้ไหลผ่านไปเรื่อยๆ  กระทั่งได้เจอกันเมื่อต้นปีในงานเกษตรแฟร์ของมหา’ลัยที่จัดขึ้นทุกปี ในคืนนั้นผมได้พบแต้มอีกครั้ง มันยังคงตรึงสายตาของผมไว้กับมันได้เสมอ


            ตอนที่พูดออกไปว่า... ‘ตามมานะ พี่เสืออยากจีบ’


            ไม่คาดคิดว่าผ่านไปครึ่งปีกว่าผมจะได้พบกับแต้มอีกครั้งในมาดของนักศึกษาในเขตแดนวิศวกรรมศาสตร์ จะให้หลงคิดว่าน้องมันตามมาก็ดูจะหลงตัวเองไปหน่อย เพราะในความเป็นจริงแล้วมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนสาขาที่เกี่ยวข้องกับงานเชื่อมนั้นมีค่อนข้างน้อย และการที่มันสอบเข้ามาเรียนที่นี่ได้ก็เพราะเจ๋งพอตัว ไม่ใช่คิดอยากเรียนก็สามารถตามมาได้ง่ายๆ


            ความเจ๋งที่ว่าก็คือ แต้มเป็นเจ้าของเหรียญทองในการแข่งขันทักษะงานเชื่อมระดับอาเซียนตอนเรียน ปวช. ก่อนจะแว่วข่าวว่าได้เหรียญทองโอลิมปิกที่เยอรมนีเมื่อปีก่อน


            ตอนคบกันสมัยแต้มเรียน ปวช. และผมเรียนมหา’ลัยปีหนึ่ง... ผมยังจำรอยยิ้มกว้างจนหมดมาดเถื่อนตอนที่มันวิดีโอคอลมาหาหลังจบการแข่งขันที่สิงคโปร์ได้ดี




            ‘พี่เสือ... ทำได้แล้วว่ะ ทำได้แล้วโว้ยยยย’

            ‘ไหนโชว์มือให้ดูหน่อย’

            ‘นี่ไงๆ ดูสิ ไม่สั่นแล้ว เจ๋งเปล่า’

            ‘ใช่ ไม่สั่นแล้ว เก่งมากแต้ม’

            ‘เพราะได้เครื่องรางดีมั้ง’

            ‘แล้วพี่เสือล่ะ... ดีไหม?’

            ‘โคตรชั่ว’

            ‘อะไรวะ ว่าพี่ได้ไง’

            ‘ชอบทำใจผมสั่นว่ะ... ไอ้เลวววววว’


           

            อันที่จริง... เห็นแต้มมาดเถื่อนแต่เนื้อแท้แล้วก็แค่แมวขี้อ้อนดีๆ นี่เอง


            แต้มสมชื่อจริงๆ


            “ตื่นๆๆๆ ขับกลับไปเองนะ กูขึ้นหอพักแล้ว” ผมปรือตากว้างหลังงีบพักสายตาระหว่างทางกลับจากโรงพยาบาลมายังหอพักของมัน โดนอาหมอบ่นไปยกใหญ่ที่ทำตัวตอแหลไปหาหมอสองครั้งในรอบวัน

            ผมคว้าข้อมือแต้มไว้


            “ขอเข้าห้องน้ำหน่อย” มันหรี่ตาเข้มจดจ้องอย่างระแวดระวัง ไม่ต้องเอ่ยผมก็รู้ว่ามันคิดอะไร “ไข้ขึ้นขนาดนี้ คงมีแรงปล้ำมั้ง แถมตีนก็หนักซะขนาดนั้นยังต้องกลัวอะไร... ห้าสิบบาท”


            “เออ”


            การต่อรองการค้าเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว ในที่สุดผมก็ได้เข้ามาในห้องพักนักศึกษาของแต้มที่อยู่ในซอยหลังมหา’ลัย หลังผมเข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้วเจ้าของห้องก็เอ่ยลาพร้อมฝากให้ปิดประตูห้องให้ด้วยก่อนพาตัวหายเข้าไปในห้องน้ำ เป็นโอกาสให้ผมได้มองสำรวจภายในห้องขนาดเล็กที่ค่อนข้างโล่ง เตียงเล็กๆ ขนาดสามฟุตครึ่งตั้งชิดติดกำแพง มีโต๊ะหนังสือที่ไร้หนังสือวางใกล้กัน โดยมีเพียงนาฬิกาปลุกกับกระปุกออมสินขนาดใหญ่วางประดับ ผมเดินไปหย่อนแบงค์สีแดงลงไปในช่องว่างเหมือนอย่างที่ชอบแอบทำสมัยเคยคบกัน

           


            ‘เก็บเงินเก่งนะ’

            ‘เก็บเงินไว้เรียนไงพี่เสือ’

            ‘เหนื่อยไหมเนี่ย เรียนก็หนักแล้ว เสาร์อาทิตย์ยังรับงานนอกอีก’

            ‘เห็นเงินแล้วหายเหนื่อย’

            ‘แล้วตอนเห็นหน้าพี่ล่ะ’

            ‘เหนื่อยใจ’

            ‘หืม?’

            ‘ใจเต้นโคตรแรง... เหนื่อยมากจริงๆ’


 


            ม่านสีเทาเรียบๆ พลิ้วไปตามลมจากพัดลมเพดาน ผมจำผ้าม่านผืนนี้ได้ดี เป็นผืนเก่าในห้องนอนที่บ้านของแต้ม... ผมเดินไปเปิดดูภายในตู้เสื้อผ้า พบชุดนักศึกษาสามชุด เสื้อช็อป ปวส. เก่าๆ สองตัว คิดว่าคงเอาไว้ใส่ตอนรับงาน นอกจากนั้นก็ยังมีเสื้อยืดสีพื้นๆ กับกางเกงขาสั้นและกางเกงยีนส์ขาดๆ ไม่กี่ตัว


            ข้างตู้มีเครื่องเชื่อมไฟฟ้าวางอยู่สองเครื่อง ซึ่งก็คงเป็นเครื่องมือทำมาหากินของมัน


            ผมพยายามมองหาร่องรอยระหว่างเราสองคนที่อาจมีหลงเหลืออยู่ในห้อง แต่กลับต้องผิดหวัง เรื่องราวระหว่างเราคล้ายเหลือทิ้งไว้เพียงความทรงจำเท่านั้น


            ผมเหลือบมองไปยังกระเป๋าเป้สีดำของแต้ม ยังคงเป็นใบเก่าที่เคยเห็นมันใช้เมื่อหลายปีก่อน


            ของที่เคยให้ไป ไม่มีเหลือทิ้งไว้เลยสักอย่าง


            แล้วของชิ้นนั้นในกระเป๋าล่ะ ที่แต้มทำตกที่ลานจอดรถแล้วรีบเก็บยัดเข้าไปเหมือนกลัวว่าผมจะเห็น จะใช่ของสิ่งนั้นไหม ใช่เยื่อใยสุดท้ายที่เหลือไว้รึเปล่า


            ผมเปิดกระเป๋า


            ...ผ่านไปห้านาทีแต้มเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพสวมเสื้อกล้ามตัวโคร่งสีน้ำเงินพร้อมกางเกงขาสั้นสีขาว จ้องผมพลางใช้ผ้าเช็ดผม กลิ่นอ่อนๆ ของแชมพูฟรุ้งกระจาย ผมสูดลมหายใจลึกเข้าไป



            กระทั่งแชมพูก็ยังเป็นกลิ่นเดิม...


            “เดี๋ยวนี้ผมยาวขึ้นเยอะเลยนะ”


            ผมเปรย มองดูแต้มเดินไปหยิบไดร์เป่าผมจากตู้เสื้อผ้ามาเสียบที่ปลั๊กข้างโต๊ะแล้วหย่อนกายลงนั่งบนเตียง ก่อนที่เสียงน่ารำคาญหูจะดังขึ้นพร้อมเส้นผมที่ลู่ไปตามลมร้อน ปลายผมยาวเคลียบ่า บางส่วนเคลียต้นคอขาวชวนมอง หน้าผากปรกผมม้าฟันปลาจนถึงคิ้ว...


            อื้อหือ แฟนเก่าผมหล่อระเบิดระเบ้อ น่าจะแซ่บหลายกว่าเดิมแน่


            “ชอบ แลดูอปป้าสาวกรี๊ด”


            “พี่ไม่ชอบ”


            “ก็กูชอบไหมล่ะเสือ”


            แต้มหงุดหงิด ใบหน้ามุ่นกรุ่นเคืองปราศจากรอยยิ้ม ก่อนเอ่ยปากไล่ผมกลับ...




            ‘อยากไว้ผมยาวว่ะพี่เสือ อยากมัดจุก’

            ‘อ้อร้อนะ’

            ‘หัวเกรียนมาตั้งกี่ปี อยากไว้ยาวบ้างไม่ได้เหรอ ให้เรียนจบก่อนเถอะ แม่จะไว้ให้ยาวจนรวบได้ทั้งหัว’

            ‘ไม่ค่อยชอบ แต่ตามใจ’

            ‘เออ... ตามใจพี่เสือก็ได้วะ เฮ้อ แก่แล้วยังเอาแต่ใจ อุตส่าห์อยากประหยัดค่าตัดผม’

            ‘ให้เรียนจบก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที’

            ‘พี่พูดเหมือนเราจะยังคบกันถึงตอนนั้น...’

            ‘ถึงตอนนั้นแล้วถ้ายังอยากไว้ยาว... พี่จะคอยมัดผมให้’

            ‘พี่เสือแม่งโคตรพีค’

            ‘อะไรของมึงแต้ม’

            ‘ชอบอ่อยให้หลง... เกลียดความเสือว่ะ!’


           


            นอกจากแต้มจะขี้อ้อนแล้ว... ยังมีความสปอยด์ผัวเล็กๆ อีกด้วย แค่กๆ แฟนครับแฟน


            “แต้ม... พี่ถามอะไรหน่อยสิ”


            “ตอบแล้วรีบกลับเลยนะ ง่วงแล้ว คนจะนอน” บอกพลางหาวหวอดใส่หน้าผม... ผมเดินไปหย่อนกายลงนั่งข้างมันแล้วเริ่มถาม


            “เสื้อผ้าดีๆ ที่เคยซื้อให้ทำไมไม่เอามาใส่บ้างล่ะ”


            แต้มยิ้มพลางหวีผม ตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ขายมือสองในตลาดนัดหมดแล้ว ได้มาเป็นหมื่นแน่ะ โคตรคุ้มกับค่าเช่าที่แค่สี่สิบบาท” ได้ข่าวที่พี่เปย์ไปราคาน่าจะคูณสิบนะ


            “นาฬิกา Patek Philippe ล่ะ ไม่เห็นใส่”


            “เอาขายไปซื้อเครื่องเชื่อมแล้ว” แพงกว่าเครื่องเชื่อมยี่สิบเครื่องรวมกันอีกนะโว้ยไอ้แฟนเก่า!


            “กระเป๋าเป้ รองเท้าหนังดีๆ หายไปไหนหมด”


            “เอาขายจ่ายเป็นค่าเทอมตอนเรียน ปวส. เกลี้ยงเลย” ช่างเถอะ ถือเป็นค่าโสหุ้ยเล็กๆ น้อยๆ ในการจีบแล้วกัน


            “ก็ยังดี อย่างน้อยของพวกนั้นก็พอมีประโยชน์กับแต้มบ้าง”


            “แน่นอน ไม่ว่าอะไรที่เคยได้มาจากมึง มันย่อมมีราคาและขายได้ เก็บไว้ก็เท่านั้นสู้ขายไปซะให้หมดไม่ดีกว่าเหรอ เพราะยังไงของพวกนั้นก็ไม่ใช่ของที่มีไว้เพื่อคนอย่างกูอยู่แล้ว...”


            ท้ายเสียงที่ควรมีความรู้สึกเสียใจแฝงไว้สักนิดตอนเอ่ยถึงเรื่องในอดีตกลับว่างเปล่า กระทั่งความโกรธเคืองที่ควรมีต่อผมสักหน่อยก็ไม่มี ไม่รู้เพราะแต้มไม่ใส่ใจจนลืมเลือน หรือเพราะยังเกลียดจนไม่อยากหวนคิดกันแน่


            “แต่ก็ยังเหลือชิ้นนี้ไว้”


            ผมบอกพลางหยิบของคู่หนึ่งออกจากกระเป๋าซอมซ่อ นัยน์ตาหยิ่งไม่แยแสโลกกระตุกวูบ ก่อนจะปรายมองมาที่ผมอย่างเย็นชา ผมคลี่ยิ้มอวดคมเขี้ยวเสือ ลูบของในมืออย่างทะนุถนอม...


            เป็นฝีเข็มยึกยือที่ปักลงบนถุงมือหนังคู่หนึ่ง ข้างขวาเป็นเสือไร้เขี้ยว ข้างซ้ายเป็นแมวไร้เล็บ ของสิ่งนี้เคยมอบให้คนๆ หนึ่งที่กำลังตื่นสนามกับการแข่งขันนอกประเทศเป็นครั้งแรก



 

            ‘ยื่นมือมา พี่มีของจะให้’

            ‘ถุงมือ?’

            ‘เวลาลงสนามแล้วเกิดสั่นหรือประหม่า ให้คิดว่าถุงมือหนังคู่นี้เป็นมือของพี่ที่กำลังจับมือแต้มไว้’

            ‘พี่เสือคิดว่าผมจะสงบลงไหมล่ะ’

            ‘แหงอยู่แล้ว’

            ‘เวลาถูกเสือตะปบ ยิ่งต้องสั่นไม่ใช่เหรอวะพี่’

            ‘เหมือนตอนนี้เลยเนอะ'

            ‘นี่ล้วงอะไร เอามือออกไปนะโว้ยไอ้พี่เสือ!’

            ‘ทำให้คุ้นเคย จะได้เลิกสั่น’

            ‘…พี่เสือแม่ง สัตว์กินเนื้อ!’

            ‘…แค่เนื้อแมว ...โอ๊ย ...ข่วนเบาหน่อยแต้ม ...พี่เสือเจ็บ’

            ‘พี่เสือแม่งหน้าด้าน... ชอบทำโรแม้งให้เคลิ้มตลอด... อื้อ... อึ้มมม...’

 


            ในตอนนั้น... แม้จะเป็นเสือไร้เขี้ยวแต่ก็ขย้ำเนื้อกินได้ แม้จะเป็นแมวไร้เล็บแต่ก็ทำแผ่นหลังผมเป็นรอยแดงยาวได้ ฟินดีจริงๆ


            “ทั้งสกปรกทั้งเปื้อน แถมยังขาดอีก ขายออกก็แปลกแล้ว เลยต้องเก็บไว้ใช้เอง” แต้มปั้นหน้าเฉยไร้ความรู้สึก ก่อนจะเอื้อมมือมาดึงถุงมือคืน แต่ถูกผมยื้อไว้ “ให้ซื้อใหม่ก็คู่ละหลายร้อยเลยนะ” น้องมันยังคงพยายามแถ


            “หรือเพราะมีคุณค่าทางจิตใจ ถึงตัดใจทิ้งไม่ลง”           


            ปลายนิ้วของแมวน้อยขยุ้มถุงมือแน่น จิกเอาใบหน้าเสือที่เป็นลายปักยู่ยี่จนหมดความน่าเกรงขาม ผิดกับถุงมืออีกข้างที่เป็นลายปักรูปแมว เคยน่ารักขี้อ้อนยังไง ตอนนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้น


            ใครว่าแต้มงก... เปล่าเลย...


            ไม่เห็นเหรอว่ามีแค่ของไร้ราคาชิ้นนี้เท่านั้นที่ยังถูกเก็บรักษาไว้


            เยื่อใยเล็กๆ ที่หลงเหลือ แค่นี้ก็มากพอให้ผมมั่นใจที่จะพุ่งเข้าใส่เป้าหมาย


            “พี่อยากจีบแฟนเก่า อนุญาตไหม?”


            “ลงทะเบียนจีบพันห้า”


            ขอถอนคำพูดดีไหมกู...



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อันที่จริง แต้มเป็นตัวละครในแบบที่ชอบเลยค่ะ
ถึงจะซึน และเหมือนจะร้าย แต่ซื่อตรงกับความรัก
ช่วยรักแต้มเยอะๆ ด้วยนะคะ อย่าไปหน้ามืดกับเงินอิพี่เสือมัน
อินี่มันจอมหลอกลวง

ปล.ต้องลุ้นค่ะ ว่าเรื่องหวยเกี่ยวกับสาเหตุการเลิกไหม 55

Boorina
[/color]





CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
นั่นสิ ทำไมถึงเลิกกัน อิพี่เสือไปทำอะไรไว้

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เลิกกันเพราะอะไรน๊า อยากรู้

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มีใครไปดูถูกน้องหรือเปล่า ทำให้น้องคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับของที่เสือเคยให้ไว้นะ   :m16:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
พี่เสือนี่สายเปย์จริงๆ อยากรู้สาเหตุที่เลิกกันแล้ววว

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0




- ลำดับที่ 3 -

เรื่องสั้นชุด Intania ภาค ME

(ME  : Mechanical Engineering วิศวกรรมเครื่องกล)

เรื่อง เสือนับแต้ม

เขียนโดย   Boorina





CH.03

นับแต้มแลกสถานะ
[/color]

 

 

            เงื่อนไขคร่าวๆ ในการจีบแต้ม

            1. สมัครเป็นดาวน์ไลน์ขายหวย

            2. ถ้าผมทำยอดขายถึงเป้าหมายแรกแต้มจะรับผมไว้พิจารณา

            3. ทุกยอดขายคือคะแนน สามารถนำมาแลกของรางวัลได้ แต่จะชิ้นเล็กชิ้นน้อยหรือมหึมา ล้วนขึ้นอยู่กับตัวเลข

            4. ยอดขาย 10 บาท เท่ากับ 1 คะแนน

 

            นั่นทำให้เกิดเหตุผลในการลงทุน...   

            แต่จะเป็นการลงทุนที่ตลกมากไปรึเปล่ากับแอพพลิเคชั่นที่จ้างให้ไอ้เด็กเนิร์ดเทพโคตรประจำภาควิศวกรรมคอมพิวเตอร์เขียนขึ้นมา แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายย่อมสูงเล็กน้อย เพราะงานชิ้นนี้เสร็จภายในสองวัน

            ผมลองล็อกอินเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่น ‘นับแต้ม’ รายละเอียดภายในค่อนข้างง่ายต่อการใช้งาน มีระบบคำนวณคะแนนจากยอดขาย ซึ่งเมื่อกรอกยอดขายแล้วต้องได้รับการอนุมัติจากแต้มก่อน เมื่อสะสมคะแนนถึงเป้าก็สามารถแลกของรางวัลได้...

            หลายคนอาจคิดว่าแค่การจีบแฟนเก่าทำไมต้องทำอะไรให้ยุ่งยากด้วย?

            งั้นบอกให้กระจ่างเลยว่า... ถ้าการจีบแฟนเก่ามันง่ายขนาดนั้น ผมคงง้อสำเร็จตั้งแต่มีปัญหากันจนต้องเลิกกันไปแล้ว ไอ้เรื่องที่ว่าแต้มงกจนปวดหัวนั้นดูกระจอกไปเลยเมื่อเทียบกับความใจแข็งของมัน

            และผมเองก็อยากให้น้องมันรับรู้ถึงความจริงใจของผม

            ค่อยๆ จีบอย่างที่ไม่เคยจีบ ค่อยๆ สานสัมพันธ์อย่างที่ไม่เคยทำ ชดเชยสิ่งเหล่านั้นที่ขาดหายไปให้กับแต้ม อยากให้ความรู้สึกของผมละเมียดลึกเข้าไปในใจของมัน

            ดีเท่าไหร่แล้วที่แต้มยอมเผชิญหน้ากับผม ไม่หลีกลี้หนีหน้าทำเมินเป็นคนไม่รู้จักกัน

            กับอีแค่ความรู้สึกที่เหมือนตัวเองเป็นดาวน์ไลน์ขายหวยของแต้มแค่เนี๊ยะ พี่เสือชิลมาก

            “มึงนี่เวอร์เนอะ ลงทุนจัด”

            น้องแต้มของผมยิ้มแหยะ ก่อนจะก้มลงมองหน้าจอด้วยเรียวคิ้วที่ค่อยๆ กระตุกเป็นจังหวะ

            “เผื่อมีคนโกง"

            “เหอะ!”

 แต้มส่งเสียงคล้ายเอือมระอาก่อนหย่อนก้นลงนั่งพิงกับกำแพงห้องแล็บนิวเมติกส์หลังผมเลิกคลาส ผมจึงทิ้งกายลงนั่งข้างกัน ไม่ลืมแกล้งตอดโดยวางมือทับมือข้างหนึ่งของมันที่ทาบพื้นไว้ ก่อนจะถูกสลัดออกพร้อมฟันเขี้ยวที่ถูกแยกใส่เหมือนพร้อมจะกระโจนเข้ามากัด

“เยอะนะเสือ"

            “แต้มต้องเป็นคนกดอนุมัติคะแนนให้พี่ด้วยนะ เป็นระบบสแกนลายนิ้วมือ เอานิ้วมานี่...”

            ว่าแล้วผมก็คว้ามืออุ่นของมันมาพร้อมกับมือถือเพื่อเพิ่มลายนิ้วมือของมันลงไปในระบบ

            โธ่ถัง หน้าหล่อเฟี้ยว แต่มือสากชะมัด แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้รั้งอารมณ์ผมให้บีบกระชับมือนั้นไว้ ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาต้องทนร้อนทนเหนื่อยแค่ไหนถึงพาตัวเองมาจุดนี้ได้ ช่วงปิดเทอมก่อนเข้าเรียนต้องใช้มือข้างนี้หาเงินหนักแค่ไหนกับการหาเงินมาจ่ายค่าเทอม

            แค่คิดหัวใจของผมก็แกว่งไกว

            ทั้งที่อยากดูแล

            อยากให้กำลังใจ

            แต่สุดท้าย... กลับพลาดพลั้งปล่อยมือคู่นี้ไปนานหลายปี

            มันดึงมือกลับ ทำเป็นไม่ใส่ใจ “เจ๋งแฮะ ชื่อแอพฯ อะไรเนี่ย จะได้โหลดมาบ้าง” ดูสีหน้าที่กำลังครุ่นคิดของมัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคิดอยากเอาไปใช้กับดาวน์ไลน์คนอื่น เหอะ ฝันไปเถอะ

            “ไม่ต้องโหลด มันเป็นระบบออฟไลน์ ต้องใช้กับเครื่องพี่เท่านั้น”

            “ทำไมไม่ทำระบบออนไลน์เนี่ย” มันแย้งเสียงขุ่นหน้าเคือง ติดไม่ชอบใจอยู่เนืองๆ

            “เปลืองตังค์ค่าเช่าโดเมนเช่าเซิร์ฟเวอร์” นั่นคือความแหลเล็กๆ เพราะเหตุผลจริงๆ คือต้องการหาเรื่องเจอหน้ามันทุกวัน ต่อให้เกลียดขี้หน้ากันก็ต้องมีวันที่หัวใจกร่อนบ้างล่ะวะ “เจอกันวันละครั้ง มาเช็คแต้มอนุมัติหัวใจให้พี่นะ”

            มันทำเสียงแหวะ “ไม่คิดบ้างเหรอว่าไร้สาระ เสียเวลา น่ารำคาญ” ด่าเสร็จสรรพก็ก้มดูหน้าจออีกครั้ง “เฮ้ย! รางวัลอะไรวะเนี่ย?”

 

            สิทธิประโยชน์และการใช้คะแนนแลกของรางวัล

            หมวดที่ 1. รางวัลประจำวัน

                        เรียกพี่เสือว่า ‘พี่เสือ’                        30       คะแนน

                        เลี้ยงข้าวแต้ม(เช้า/เที่ยง/เย็น)             50       คะแนน

                        จับมือ                                        100       คะแนน

                        หอม                                          150       คะแนน

                        จูบ                                            280       คะแนน

                        นอนเตียงเดียวกัน                         330       คะแนน

            หมวดที่ 2. สถานะ

                        จีบแต้ม                                       100       คะแนน

                        เสือกินแต้ม                                1,000     คะแนน

                        แต้มข่วนเสือ                            -10,000      คะแนน

                        แต้มแฟนพี่เสือ                         100,000      คะแนน 

 

            *หมายเหตุ  รางวัลหมวดที่ 1 ใช้ได้ไม่จำกัดครั้งต่อวัน


 

            ทั้งนี้และทั้งนั้น... ตอนนี้สถานะของผมในแอพฯ คือ ‘ดาวน์ไลน์’

            “ไม่ต้องทำหน้าเหมือนอยากกระทืบพี่ จีบกันแฟร์ๆ ไง พี่ช่วยขายหวย น้องได้เงิน แต่อย่าลืมว่าการทำการค้าไม่มีหรอกที่ฝ่ายหนึ่งจะไม่หวังผล มันเป็นโลกแห่งความเป็นจริง และพี่ต้องการแต้ม จบนะ”         

            “กูรู้สึกเหมือนหลงอยู่ในโรงพยาบาลบ้า!”

            ผมมากกว่ามั้งที่รู้สึกเหมือนอยู่ในโรงพยาบาล ดูเอาเถอะ ดูไอ้วิดวะคอมพ์ตัวนั้นมันเขียนโปรแกรมมา กว่าจะได้เเต้มเป็นแฟน ผมไม่ต้องเสียเป็นล้านเลยเหรอวะ จำได้ว่าที่ร่างไปมันแค่หนึ่งหมื่นคะแนนนี่หว่า แต่มันใส่มาหลักแสน บรรลัยแล้ว

            ไม่น่าเชื่อใจไปขอให้ไอ้บุญส่งมันแนะนำคนให้เลย

            “ฟินเลยไหมล่ะ... กดคอนเฟิร์มยอดขายหวยที่พี่ส่งให้ดูทางไลน์เมื่อเช้าให้ด้วยเลย ตั้งพันแปดแน่ะ เท่ากับว่าพี่มีหนึ่งร้อยแปดสิบคะแนนแล้วนะ”

            “กูไม่ได้หน้าเงิน ไม่ได้ขายตัวนะโว้ย!” แต้มเคือง ส่งเสียงฟึดฟัด ก่อนจะโพล่งออกมาว่า “ไอ้บ้าเสือ ค่าลวนลามกูแค่หลักร้อย เอามันสมองส่วนไหนคิด มันควรหลักพันหลักหมื่นไหม ไอ้งกเอ๊ย! แล้วมาทำเป็นพูดว่าจะจีบ ไอ้กาก ไม่ลงทุน...”

            ไม่ลงทุนกับผีสิครับน้องแต้ม รู้ไหมสองสามวันนี้พี่หมดไปกับน้องเท่าไหร่ ไม่รู้อะไรอย่ามาทำเป็นพูดเลย พี่ทุ่มทุนวางแผนพร้อมเปย์น้องตั้งขนาดนี้ ถึงจะมองไม่เห็นค่า ก็ควรมองเห็นราคาสักนิดไหมครับ

            “คิดเป็นแฟนกูต้องใช้สิบล้านคะแนน!” งั้นชาตินี้คงเป็นได้แค่คนรู้จักแล้วแหละ คิดพลางรับมือถือคืนจากแต้ม “ตั้งค่าใหม่เลยนะ... ไอ้พี่เสือ”

            ตั้งค่าไงล่ะ?

            เอ๊ะ!

            ตะกี้เรียกว่าไงนะ??

            ตอนที่ก้มมองหน้าจอ พลันพบเลขสามอยู่บนกล่องของขวัญ พอกดเข้าไป พบรายละเอียดของขวัญประจำวันที่แลกไว้

            หนึ่ง... เรียกพี่เสือ

            สอง... ออกเดท

            สาม... จับมือ

            ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี น้องแต้มคนดีของพี่ถึงได้ใจดีกดแลกแทนพี่จนคะแนนหมดเกลี้ยง แล้วอย่าหลงระเริงดีใจไปว่าน้องมันว้อนท์ มันคงกลัวถูกตอดเยอะกว่าจับมือ และคงอยากให้ผมทำยอดให้มันเพิ่มมากกว่า

            ซึ่งดูจากใบหน้าที่เหมือนมีแบงค์สีเทาแปะหราอยู่ น่ากลัวว่ากว่าน้องมันจะใจอ่อน ผมอาจสิ้นเนื้อประดาตัวไปซะก่อน เฮ้อ หมั่นไส้แฟนเก่าตัวเอง อยากฟาดปากมันด้วยลิ้นว่ะ

            “พี่เสืออยากหอมแก้มมากกว่านะ” ว่าแล้วก็พุ่งปากด้วยความเร็วปีแสงไปทาบแก้มนุ่มนิ่มของไอ้เด็กดื้อ “อันนี้ขอแลกรางวัลล่วงหน้า พรุ่งนี้ค่อยทำยอดมาลงระบบใช้หนี้แล้วกันเนอะ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

และนี่ก็คือที่มาของชื่อเรื่องค่ะ เสือนับแต้ม ^^

ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านและคอมเมนท์ให้นะคะ

ขอบคุณที่รักในตัวละคร

แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ ^^

Boorina



ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อืม กว่าจะได้กลับมาเป็นแฟนอีกรอบ พี่เสือคงเสียเป็นล้านจริง ๆ ฮา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
พี่เสือห้ามหมดตัวก่อนน่ะ ไม่งั้นอดได้แต้ม

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ต้องใช้กี่คะแนนเสือจะได้แต้ม  แล้วต้องใช้กี่คะแนนแต้มจะได้เสือ คะแนนฝ่ายไหนจะมากกว่ากันล่ะเนี่ย  :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

- ลำดับที่ 3 -

เรื่องสั้นชุด Intania ภาค ME

(ME  : Mechanical Engineering วิศวกรรมเครื่องกล)

เรื่อง เสือนับแต้ม

เขียนโดย   Boorina





CH.04

แค่ลมปากเท่านั้นที่บอกว่าไม่





 
            การเดินหน้าจีบแต้มใช่ว่าจะเป็นอย่างที่พูดได้ทุกอย่าง เพราะเวลาว่างของเราไม่ตรงกันนัก แต้มมีเรียนของแต้ม เสาร์อาทิตย์มีงานนอกที่ต้องไปทำเพื่อหาตังค์ บางครั้งก็ไปช่วยเทรนด์เด็กแข่งทักษะที่วิทยาลัยเทคนิคที่จบมา เวลาไร้สาระจึงมีน้อยเต็มที

 

            ไอ้ตัวผมเองก็เรียนปีสี่ ชีวิตวุ่นวายกับโปรเจกต์จบ เวลาว่างสั้นๆ ของผมก็เป็นเวลาเรียนของมัน เลิกเรียนก็หาตัวมันไม่ค่อยพบ มือถือก็ไม่ค่อยรับ ไม่รู้ว่ากำลังทดสอบความอดทนของผมเล่นรึเปล่า เอาเป็นว่าด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นทำให้อารมณ์ผมเย็นลง แต่ในหัวก็เต้นตุบๆ ไปกับแฟนเก่าที่เหมือนจะเปิดโอกาสให้แต่กลับไม่ยอมเล่นด้วยง่ายๆ

 

            ความคิดของผมคล้ายตีวนในอ่าง ก่อนสะดุดลงด้วยเล่มโปรเจกต์สีน้ำเงินเข้มที่ถูกฟาดลงบนไหล่ เป็นไอ้บุญส่งที่ตีหน้ายักษ์ใส่ผมก่อนนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามใต้ตึกภาค หันมองบรรยากาศรอบข้าง โต๊ะเนืองแน่นไปด้วยเพื่อนร่วมภาคและพวกรุ่นน้องจนแทบไม่มีที่ว่าง เป็นปกติของเด็กมหา’ลัยที่ชอบแบกแล็ปท็อปมาใช้ไวไฟเร็วปรู๊ดปร๊าดหลังเลิกเรียน เล่นบ้าง ทำงานบ้าง โดยเฉพาะพวกอยู่หอที่ชอบอยู่ดึกจนตีสองตีสาม

 

            ไอ้บุญส่งคว้าแมคบุคตรงหน้าผมไปตรวจดู ก่อนจะเริ่มสวดยับกับสไลด์สอบหัวข้อโปรเจกต์ที่ผมนั่งแก้ตามคอมเมนท์ของอาจารย์ที่ปรึกษาเมื่อวันก่อน

 

            “ไอ้เสือแก่ สอบพร็อพโพซอลพรุ่งนี้เก้าโมงนะโว้ย เฉื่อยแฉะแล้วยังทำงานห่วย คืนนี้ได้โต้รุ่งแน่ งานไม่เรียบร้อยกูไม่ให้มึงกลับคอนโดฯนะ เฮ้อ ชีวิตกูบรรลัยมากมีเพื่อนเป็นมึง!” ลึกๆ ยังคงเหน็บร้ายถึงเรื่องแต้ม นึกแล้วก็ทั้งขำทั้งสงสารมัน ท่าทางจะอยากได้เอามาก

 

            แต่กูไม่ให้ ฮ่าๆๆ

 

            “ตั้งแต่พลาดจีบแฟนเก่าเพื่อนนี่อารมณ์เสียบ่อยนะ เดี๋ยวกูตบหัวทิ่มตีนเลยไอ้นี่”

 

            ผมเย้ามันเล่น สักพักไอ้อินนิลเพื่อนร่วมกลุ่มโปรเจกต์ก็ตามมาสมทบในชุดไปรเวทธรรมดาพร้อมถุงขนมใบโต ดูพร้อมสำหรับงานนี้มาก

 

            พร้อมกินล่ะไม่ว่า! เพราะหนึ่งชั่วโมงที่มันนั่งอยู่ มันเอาแต่หยิบขนมเข้าปาก แถมมีไปช่วยไอ้เฮดว้ากปีสามพ่วงตำแหน่งน้องรหัสผมอย่างไอ้แอมป์แกล้งน้องปีหนึ่งอยู่มุมโน้นอีก

 

            “ไหนๆ มึงก็นั่งว่างแล้ว...”

 

            ไอ้เพื่อนเวรละหน้าจากจอคอมพ์เอ่ยกับผม ก่อนจะหยิบแล็ปท็อปเครื่องดำของมันมาให้ พร้อมกล่องอุปกรณ์จำพวกเซ็นเซอร์และบอร์ด Arduino

 

            “เพราะมึงมันโง่ ไม่ได้เรื่อง กูเลยต้องมานั่งแก้เอง... ฉะนั้นมึงช่วยต่อบอร์ด Arduino กับโปรแกรม LabView ให้กูหน่อย เขียนโค้ดมารันให้กูด้วย ขี้เกียจก็ลองเซิร์สดู แต่กูลองหามาแล้วแหละดันเสือกรันไม่ได้ ไม่รู้แม่งผิดตรงไหน”

 

            “ใช้เซ็นเซอร์ตัวไหนวะ ในกล่องมีตั้งหลายตัว”

 

            “ลอง MQ-5 LPG Gas ก่อน”

 

            ไอ้บุญส่งพูดแค่นั้นก็เงียบลงแล้วก้มหน้าก้มตาทำโปรเจกต์จบไป ไอ้ผมจะบ่นก็ไม่ได้ เพราะเรื่องโปรเจกต์ก็มีมันเป็นตัวหลักด้านเอกสารและการใช้ความคิด ส่วนผมกับไอ้อินนิลเป็นสาขาแรงงานและทุนทรัพย์ บางครั้งก็เป็นปรสิตสูบเลือดเนื้อ สุดท้ายก็ต้องเกาะแกะมันจนกว่าจะเรียนจบนั่นแหละ จึงจำใจช่วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำไปได้ยี่สิบนาทีก็ลองโทรหาเด็กดื้อ ก่อนจะถอนหายใจ ส่งไลน์หา แล้วนั่งทำงานเพื่อนต่อไป

 

            “…ป๋าเสือขาาาาาา หน้าตาเหมือนเสือจำศีล แลดูระโหยโรยแรงจังเลยคร้าบ” เป็นไอ้หลิวที่พาหน้าระรื่นโผล่เข้ามาในสายตาพร้อมนั่งลงข้างผม ก่อนจะกระซิบเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนไอ้บุญส่งมากนัก “มัวแต่อืดอาดนั่งทำงาน กูเห็นน้องแมวของมึงผูกสัมพันธ์กับผู้ชายที่เซเว่น ยิ้มระรื่นมีความสุขไม่เหมือนตอนอยู่กับมึงเลยว่ะ หน้างี้นิ่งเป็นศพ เหมือนไร้ความรู้สึก ตายด้านนน...”

 

            ส่วนมึงอ่ะหน้าด้าน

 

            “อย่าบิ้วท์กูให้ขึ้นไอ้หลิว” ผมเปรยข้ามเสียงนิ่ง แต่ความรู้สึกขุ่นมัวจนตาฝ้าฟาง หน้าจอคอมพ์เบลอจนโฟกัสสายตาไม่ได้ “กูใคร? กูพี่เสือเครื่องกลปีสี่ วุฒิภาวะสูงปรี๊ด มึงไม่ได้แดกกูหรอก”

 

            ไอ้หลิวเบ้ปากใส่ครั้งนึง ก่อนจะรันโปรแกรม SolidWork แล้วนั่งเขียนแบบชิ้นหนึ่งซึ่งเป็นโปรเจกต์จบของมันอย่างชิลๆ เพราะมันเพิ่งสอบหัวข้อผ่านไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

 

            “กูหิวว่ะ ไปหาไรกิบแป๊บ”

 

            “เผื่อด้วยนะป๋าเสือ... วี๊ดวิ่วววววว...”

            เป็นไอ้อินนิลที่ส่งเสียงล้อทั้งที่ปากยังเคี้ยวปลาเส้นตุ่ยๆ ก่อนผมจะเดินไปเซเว่นฯ ซึ่งอยู่ใกล้กับลานขจีอันเป็นชื่อเล่นของศูนย์บริการคอมพิวเตอร์สำหรับนักศึกษาที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมเข้าไปซื้อของกินแล้วเดินออกมาอย่างเซ็งๆ กวาดตามองไปรอบๆ ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มเศษ นักศึกษายังมีมากพอสมควรจนตาลาย ก่อนที่สุดท้ายสายตาจะสะดุดเข้ากับร่างคุ้นเคยในเสื้อยืดสีขาวลาย Tom&Jerry คอย้วยยานกับกางเกงขาสามส่วนสีแดงซีดๆ ภายในลานขจี

 

            ไอ้เด็กแต้มนั่งสวมเฮดโฟนสีดำ กำลังนั่งหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังกับหนังในหน้าจอพีซี ไม่สนใจสายตาเพื่อนร่วมสถาบันที่เหลียวมองด้วยสายตาหงุดหงิด จนคนข้างๆ ต้องตบกระบาลเป็นการเตือนมันถึงได้หุบปากลง ตอนที่ผมเดินเข้าไปในห้องแล้วทำทีเป็นเดินผ่านด้านหลัง ได้ยินเสียงพูดคุยของผู้ชายทั้งสองคน

 

            “ไลน์ดังไม่หยุด กูรำคาญ”

 

            ได้ยินแล้วอดมองไปตรงหน้ามันที่มีมือถือวางทับชีทเรียนปึกหนึ่งไม่ได้ หน้าจอสว่างวาบ ข้อความแจ้งเตือนต่อท้ายไอค่อนสีเขียวยาวเป็นหางว่าว

 

            ไม่ใช่จากใครที่ไหน จากผมเอง

 

            “กูดูหนัง... ไม่ว่าง...” ตอบพลางคลิกเมาส์ไปที่เทลเลอร์หนังเรื่องใหม่ “น่าดูดีว่ะมึง หนังเข้าต้นเดือนหน้า มึงไปดูกับกูไหม เดี๋ยวกูเลี้ยงมึงเอง”

 

            ไอ้คนที่นั่งข้างมันหันขวับ ตาโตจนแทบถลนออกมานอกเบ้า  กระหวัดสองแขนโอบรัดรอบคอไอ้แต้มไว้แน่น พูดขอบคุณย้ำไปย้ำมาด้วยเสียงสั่นเครืออย่างกับร้องไห้ในความเปย์เพื่อนของเเต้ม

 

            “ช่วงนี้กำไรดี ค้าขายรุ่ง เงินเยอะ เป๋าตุง งั้นเลี้ยงพี่อีกคนได้ไหมครับ”

 

            ผมพูดยิ้มๆ ด้วยเสียงทุ้มต่ำโทนเดียวจนจบประโยคจึงวางถุงขนมลงบนโต๊ะ แต้มที่ซบอยู่บนไหล่อีกคนแหงนเงยขึ้นมามอง หน้าตาติดงงงวยเล็กๆ กับการปรากฏกายมายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ของผม

 

            เราต่างรู้จักกันดี แค่แต้มมองผมปราดเดียวก็น่าจะรู้ถึงอารมณ์ขมุกขมัวภายในใจของผม แต่มันยังคงนิ่ง ทำเป็นไม่สนใจ ซึ่งไม่แปลกหรอก ในเมื่อผมเป็นแค่แฟนเก่า หวังจะให้มันทำตัวเป็นแมวมาออดอ้อนให้หายเคืองเหมือนเมื่อก่อนคงยาก

 

            แล้วความรู้สึกที่ถูกตีเดือดขึ้นมาล่ะจะทำยังไง?

 

            อัดอั้นจนเริ่มรู้สึกหน้ามืดทีละนิดแล้วสิ

 

            แต่จู่ๆ มันก็ฉกมือถือของผมไปจากมือ กดยุกยิกแป๊บนึงแล้วส่งคืนให้ ผมมองหน้าจอซึ่งเปิดค้างที่แอพฯ นับแต้ม พ้อยท์ในระบบเพิ่มขึ้นอีกสองร้อย

 

            ตอนที่เหลียวกลับไปสบตาแฝงความรำคาญของแต้ม มันเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนว่า...

 

            “ไว้โหลดบิทไปนอนดูที่ห้องกูแล้วกันเนอะ... ไอ้พี่เสือ”

 

            “คืนนี้เลยแล้วกัน พี่ไปทำยอดแป๊บ”

 

            บอกส่งท้ายก่อนจะกลับไปยังตึกภาคแล้วส่งไลน์หาแต้มว่าให้แวะมาหาผมก่อนกลับหอพัก ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ มันก็พาหน้าง่วงๆ มาเนียนนั่งข้างไอ้บุญส่ง ทำเอาเพื่อนผมสั่นด้วยความกระดากอายสลับกับส่งสายตาเกลียดชังมาให้ผม ไม่ทันที่ผมจะได้เข้าประเด็น มันก็กระแซะหาลูกค้า เริ่มจากเพื่อนกลุ่มผมก่อนจะลามไปยังรุ่นน้องคนอื่นๆ บรรยากาศเริ่มครึกครื้นกับการแลกไลน์ขายหวยของแต้มจนผมเริ่มหงุดหงิดเบาๆ

 

            ไอ้ที่คิดว่ามันว่านอนสอนง่ายบอกให้มาก็มานั้น เริ่มรู้เช่นเห็นชาติว่ามันก็แค่อยากมาขายหวย นึกแล้วก็อยากภาวนาสาปแช่งให้ถูกลากเข้าตะรางสักที จะได้เลิกหาเงินแบบนี้ ถึงจะเป็นการช่วยอาที่มันพึ่งใบบุญก็เหอะ

 

            สุดท้ายผมจำต้องเดินไปลากมันให้มานั่งข้างผม ก่อนจะทำเรื่องใช้พ้อยท์แลกของรางวัล

 

            จีบแต้ม...

 

            นอนเตียงเดียวกัน...

 

            “คะแนนหมดแล้ว อดกินแต้มเลย” ผมกระซิบบอกขำๆ

 

            ไม่ใช่ขาดแคลนเงินที่จะเปย์ แค่อยากให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปอย่างช้าๆ ให้ตะบี้ตะบันครอบครองเอาทั้งหมดทีเดียวคงโดนเกลียดในตอนท้าย หวังอยากให้เขาใจอ่อนยกโทษให้นั้นเลิกคิดไปได้เลย

 

            ฉะนั้นการเริ่มต้นจากศูนย์ก็ไม่ได้แย่อะไร ขอแค่อย่ามีใครมาขวางทางให้รำคาญใจก็พอ

 

            “เห็นกูยอมให้มานอนด้วยง่ายๆ แบบนี้คิดว่ากูอ่อยป่ะ”

 

            แต้มถามขึ้นลอยๆ หลังจากที่เรากลับมาที่หอพักนักศึกษาของมัน จากนั้นมันก็พาตัวหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะออกมา ระหว่างที่ผมเข้าไปอาบน้ำแล้วหยิบชุดมันมาเปลี่ยนนั้น มันกำลังนอนเหยียดยาวลอกการบ้านวิชาฟิสิกส์อยู่บนเตียง

 

            “แต้มอ่อย”

 

            “เหมือนพี่เสือไง ทำทีเป็นจีบ”

 

            “คิดงั้น?”

 

            “ตอนคบกันก็ใช่ว่าจะรักกันนี่หว่า หลังเลิกกันไปเกือบจะสามปี จะให้คิดว่าพี่เสือกลับมาจีบเพราะชอบเหรอ ตลกไปไหมวะ”

 

            คำพูดของแต้มเหมือนจะลากเข้าดราม่าแฟนเก่า แต่เจ้าตัวกลับลอกการบ้านไปชิลๆ ไม่ใยดีต่อระเบิดที่ทิ้งตู้มไว้ ทั้งยังพูดหลังเงียบไปนานว่า

 

            “ในเมื่ออยากหาอะไรสนุกเล่น ก็เป็นเพื่อนเล่นให้ ยังไงก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร มีแต่กำไรเห็นๆ เดิมทีก็ไม่ได้เกลียดอะไร อาจจะเคยโกรธไปบ้าง แต่ก็ช่างมันเถอะ ไม่ใช่สาระสำคัญอะไรในชีวิตอยู่แล้ว”         

 

            ผมเดินไปนั่งลงบนเตียงใกล้แต้ม ยื่นมือไปลูบหัวมันเล่นเบาๆ ก่อนหยิบหนังสือการ์ตูนกินทามะที่วางอยู่ใกล้หมอนมาเปิดอ่านพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนหนุนหลังแต้ม เราต่างเงียบกระทั่งผมผล็อยหลับไป รู้สึกตัวอีกทีในตอนที่ไฟในห้องถูกปิดจนมืดมิด ตามด้วยผ้าห่มผืดบางที่ห่มคลุมร่างผมไว้

 

            การที่ผู้ชายตัวโตสองคนนอนเบียดกันบนเตียงสามฟุตครึ่งคงทำให้แต้มไม่สบายตัว ยิ่งผมแกล้งขยับเบียดทีละนิดมันก็ยิ่งต้องนอนตะแคงข้างจนแทบกลายร่างเป็นตุ๊กแกเกาะติดกำแพงห้อง ด้วยความสงสารจึงตะแคงกายแล้วโผเข้าไปกอดมัน มันรึก็ไม่ส่งเสียงโวย ไม่ขัดขืน หนำซ้ำยังทำหน้ามึนหันกลับมาเผชิญหน้ากับผมท่ามกลางความมืดอย่างเป็นธรรมชาติ

 

            แม้จะไม่ชัดนัก แต่ผมพอมองเห็นใบหน้าเลือนลางของมันที่อยู่ใกล้ใบหน้าผมเพียงเสี้ยวคืบ เรานอนบนหมอนเดียวกัน หัวโข่งๆ นอนหนุนแขนผมอย่างเคย แขนของผมพาดโอบหลวมๆ ที่เอวมัน  กลายเป็นความตื่นเต้นที่จู่โจมเข้ามาแทนอารมณ์อยากแกล้ง

 

            “นอนแบบนี้สบายกว่าจริงด้วย” แต้มหาวตบท้ายประโยค ขยับหัวเล็กน้อยให้ลงล็อกที่ซอกคอผม ก่อนมันจะกอดตอบผมเบาๆ “เหมือนอ่อยเลยว่ะพี่เสือ แต่อย่าคิดมากนะโว้ย ขี้เกียจทำสะดิ้งลงไปนอนบนพื้นหรือถีบพี่ลงไป...ง่วงแล้ว อยากนอน”

 

            อะไรเอ่ยคิดอยากแกล้งเขาแต่ดันแดจาวูซะเอง?

 

            กูไง... เสือเอง...

 

            “แต้ม พี่เสือตื่นเต้นว่ะ” จังหวะที่เอียงหน้าจะจุ๊บปาก มันก็ดันใช้ฝ่ามือฟาดเปรี๊ยะมาที่ปากผมกันไว้ “พี่เสือเจ็บ! ลงไม้ลงมือกับพี่ทำไม"

 

            “ใครใช้ให้ทำแอพฯ สร้างเงื่อนไขผูกมัดตัวเองล่ะ ในเมื่อไม่มีคะแนนแลกจูบ ก็จูบลมจูบฟ้าไปแล้วกัน”

 

            “แล้วทำไมให้กอดฟรีๆ”

 

            “ในแอพฯ ไม่มีให้กดแลกนี่ อยากกอดก็กอดไป”

 

            คำพูดนั้นทำผมอึ้งกิมกี่ นึกไม่ถึงว่าจะถูกตลบหลังจนกระดูกซี่โครงเดาะได้ขนาดนี้  ไอ้ความยียวนกวนโอ๊ยหน้าเฉยนี่ไปเลียนแบบใครมา จากที่เคยหมั่นไส้ความขี้อ้อนตามใจผมจนเผลอใจ ตอนนี้ชักปวดกระบาลหัวใจคนขี้อ้อนในมาดกวน ลองมันพูดมางี้ แสดงว่าผมต้องเดินหน้าสะสมคะแนนจนครบเเสนเพื่อแลกแต้มมาเป็นแฟน

 

            “อ้อ… งั้นแบบนี้ก็ได้เนอะ”

 

            กระซิบบอกเสียงเเผ่วที่ใบหูแต้มแล้วสอดมือผ่านชายเสื้อเข้าไปลูบไล้แผ่นหลังเปลือย ช่างเนียนนุ่มน่าบีบน่าเค้นน่าหม่ำ อยากจับขย้ำให้ตัวอ่อนตัวนวลใต้ร่าง แค่คิดก็สยิวกิ้วขั้วหัวใจ อยากลงมือจนเนื้อตัวสั่น กระทั่งเสียงลมหายใจยังหน่วงลึก น่าตกใจกับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านได้เพียงแค่คิดชวนทะลึ่ง

 

            “น้องห้ามพี่จูบแสดงว่าใช้ลิ้นได้”

 

            “ปากบอกว่าจีบแต่ชอบหน้าด้านลวนลาม แบบนี้ก็ไม่ต่างจากเมื่อก่อนสิ”

 

            “พูดดี” เล่นเอามือผมชะงักค้างกลางเวหา กลับมากอดหลวมๆ เหมือนเดิม “ขี้งกเอ๊ย”

 

            “เป็นคนที่คิดถึงแต่ใจตัวเอง ทำร้ายใครต่อใครไปเท่าไหร่ แล้วเป็นไง สุดท้ายก็ยังมาตีมึนหน้าด้าน ทำเป็นมาแกล้งจีบแฟนเก่า สมกับชื่อย่อภาคเครื่องกลเนอะ”

 

            “หืม?”

 

            “ME”

 

            “ยังไง?”

 

             “เอาแต่ความต้องการตัวเองไว้ก่อน แต่นี่คือเสือไง แค่ได้กินเนื้อที่ชอบ ได้อิ่มท้อง ก็ไม่มีอะไรต้องสนใจอีกแล้ว...”

 

            นิสัยช่างประชดประชัน แดกดันจนคนอื่นอับจนหนทางเถียงได้มาจากไหน ความไม่คุ้นเคยนี้ทำเอาผมอดหงอยไม่ได้ แต่ยังคงกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น เลือกที่จะยืนยันความคิดให้แต้มรับรู้เหตุผลในการกระทำ

 

            “กระทั่งตอนนี้พี่ก็วางความต้องการตัวเองเป็นเป้าหมาย แต่เพราะใจมันรู้สึกไม่ใช่รึไงถึงได้ตามเต๊าะตามจีบ จุดเริ่มต้นของเราอาจไม่ดีนัก แต่พี่ไม่เชื่อหรอกว่าเราจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งไม่ได้...”

 

            “แล้วไม่คิดบ้างเหรอว่าผมอาจมีแฟนใหม่แล้ว”

 

            “ก็แค่แย่ง”

 

            “เฮ้อ...” มันลากเสียงยาวอย่างปลงๆ “สู้ๆ  ทำยอดเยอะๆ เข้าไว้ อย่าเอามากดแลกพร่ำเพรื่อจนหมด”

 

            “ขอบคุณสำหรับกำลังใจ” ได้ข่าวว่าบางครั้งก็กดแลกแทนจนคะแนนเป็นศูนย์อยู่บ่อยๆ “อีกอย่างอยากจะเตือนแต้ม เลิกขายหวยได้แล้วนะ”

 

            เนื่องด้วยพี่เสือคนนี้โคตรไม่ชอบ เห็นปั้นหน้าหล่อแจกยิ้มให้ใครต่อใครแล้วอารมณ์ขึ้น ไหนจะยังแลกไลน์ไปทั่วจนมีคนรู้จักแทบทุกคณะ เห็นแบบนี้แล้วใจมันแกว่ง หวั่นใจว่าความแก่จะเพลี่ยงพล้ำให้กับความสดใสเร้าใจของเด็กๆ

 

            ชาติแมวไว้ใจไม่ได้!

 

            ยิ่งเป็นแมวหน้าหยิ่งตาดุมาดเฉียบนี่ตัวดีเลย ล่อหลอกไอ้พวกทาสแมวมาติดกับได้เก่งนัก เหมือนแมวป่าตัวนี้ แรกเริ่มเข้ามาเรียนเป็นที่กล่าวขวัญว่าเป็นไอ้หล่อมาดเถื่อนติดหยิ่ง ตอนนั้นยังนึกชอบใจที่ไม่มีใครกล้าเข้าหา แล้วเป็นไงล่ะ ตอนนี้มีเหยื่อตั้งเท่าไหร่ที่หลงติดใจความหน้าทนขายหวยของมัน

 

            หากเป็นคนอื่นอาจมีกระเจิงหายด้วยความรังเกียจเหมือนพวกที่มาขายตรง หรือยัดเยียดให้สมัครบัตรเครดิต

 

            แต่สำหรับแมวที่ชื่อแต้มตัวนี้... ไอ้พวกทาสแมวทั้งหลายกลับยินยอมพร้อมใจศิโรราบ ขอแค่ได้รับรอยยิ้มการค้าและไลน์ไว้สั่งซื้อหวยก็พอ

 

            ทั้งที่พวกนั้นออกจะมักน้อย ผมก็ยังอดหงุดหงิดไม่ได้อยู่ดี

 

            “ถ้าเลิกขายแล้วพี่เสือจะเอาคะแนนมาจากไหน... ไม่อยากได้แต้มเป็นแฟนแล้วเหรอ?”

 

            อึ้ม มันก็จริง ผมควรตั้งใจทำยอดขายเป็นเป็นดาวน์ไลน์ชั้นเยี่ยมให้ได้!







การจะตัดขาดจากแฟนเก่าที่เคยรักกันมากนั้น...มันยากจริงๆ
ยิ่งการจากลานั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะไม่รัก ยิ่งทำให้เยื่อใยมันขาดจากกันได้ยาก
ร่วมลุ้นกันต่อไปเนอะ
เป็นกำลังใจให้แต้มด้วยนะคะ ^^

บูค่ะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

- ลำดับที่ 3 -

เรื่องสั้นชุด Intania ภาค ME

(ME  : Mechanical Engineering วิศวกรรมเครื่องกล)

เรื่อง เสือนับแต้ม

เขียนโดย   Boorina




CH.05

ใครกันแน่ที่กำลังปั่น


 





            สรุปใครกำลังปั่นหัวใครเล่นกันแน่นั้นเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก

            งั้นเลือกทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็แล้วกัน

            ในคืนนั้นเหมือนผมกับแต้มได้เคลียร์บางอย่างกันไปแล้ว แม้ไม่ทั้งหมด แต่ก็โล่งขึ้นหลายเปราะ แต้มเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าผมไม่ได้ทำลงไปเพราะอยากแกล้งเล่น ผมเองก็พอเข้าใจว่าที่แต้มไหลไปตามเกมเพราะยังมีเยื่อใย แต่เหมือนจะเออออเข้าข้างตัวเองซะมากกว่า เพราะแต้มก็ยังเป็นแต้ม โกรธเกลียดผมยังไงอย่างมากก็แค่ทำเฉยเมย ไม่สนใจ จนกลัวว่าการแสดงออกแบบนั้นจะหมายถึงหมดใจกันแล้วจริงๆ

            สรุปคืนนั้นผมหลับไปทั้งฝันร้าย ฝันเห็นใบหน้าเจ็บปวดของคนที่ผมนอนโอบกอดในอดีต

            ในวันที่เราเลิกกัน...

           

            ‘แต้มเกลียดพี่เสือแล้วใช่ไหม?’

            ‘เกลียด... แต่ยังรู้สึก’

            ‘ถึงจะเผลอใจ... แต่พี่รู้สึกจริงๆ’

            ‘แต่ผมปล่อยใจให้พี่เสือหมดเลยนะ เลยยังมึนๆ งงๆ ว่าคนหมดใจมันต้องทำยังไง... ’

            ‘แต้มจะทิ้งพี่เสือเหรอ?’

            ‘ปล่อยมือกันเถอะพี่เสือ... ใจทางนี้ที่มอบให้มันเทียบไม่ได้กับใจพี่ที่ให้คนอื่นไปหรอก’


 

            เป็นน้ำเสียงเจ็บปวดที่มั่นคง เช่นเดียวกับความใจเด็ดที่ติดตรึงอยู่ในใจของผม

            ผมติดค้างแมวป่าตัวนี้มากจนละอายแก่ใจ สลัดทิ้งยังไงก็หนีไม่พ้น เพราะหัวใจของผมไม่เคยลืม ไม่เคยหมดใจจากแต้มแม้แต่เสี้ยววินาที...

            จึงหวนกลับมาอีกครั้ง สานสัมพันธ์ที่ค้างคา อยากมีความสุขร่วมกันเหมือนวันวาน

            แต่เหมือนการสะสมคะแนนของผมจะไม่ราบรื่นนัก ด้วยเพราะไอ้แมวเหลี่ยมจัดชอบแอบกดแลกรางวัลรัวๆ จนเหลือศูนย์ มากสุดที่ได้คือได้ฟังแต้มเรียกผมว่าพี่เสือ ฟังแล้วลื่นหูมีความสุข

            ตอนเช้าได้แวะพาแต้มไปเลี้ยงข้าวเช้าอยู่บ่อยๆ แต้มยังคงเรียบง่าย ชอบกินโจ๊กใส่ไข่อย่างเคย

            “กินแต่ข้าวต้มกุ้ง ไม่เบื่อบ้างรึไง”

            “กินแต้มไม่ได้นี่ ทำไงได้”

            “ไม่ป๋าไม่เปย์ก็อดไปเถอะ”

            มันกระเซ้าแหย่ผมเล่นทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องใช้เงินแลกคะแนนไม่ใช่ปัญหา แต่ที่ไม่ทำก็เพราะอยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นไปด้วยดี

            เอาเข้าจริงไอ้ระบบนับแต้มแลกของก็เหมือนข้ออ้างในการใกล้ชิดเท่านั้นแหละ

            แต่ผมกลับรู้สนุกและมีความสุขในจุดนี้

            จุดที่ได้ใกล้เพื่อกระแซะหัวใจน้องให้อ่อนไหว

            และการได้จีบแต้มอย่างจริงจังคือความสุขที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน... จั๊กจี้หัวใจเหมือนกันแฮะ

            บางครั้งก็นึกขอบคุณความหลงลืมของตัวเอง ที่แม้บางวันจะไม่มีแต้มแลกฟิน ก็ยังสามารถลักกอดน้องได้ แต่ก็นั่นแหละ บางครั้งก็ถูกถีบกระเด็น โดนหมัดเสยฮุกเข้าที่ปลายคาง โดนสันเท็กบุ๊กฟาดเปรี้ยงเต็มหน้า ใช่ว่าผมจะมีความสุขโดยไม่เจ็บตัวได้ทุกครั้ง         

            แต่ที่เจ็บมากสุดเห็นจะเป็นเรื่องจูบ

            แต้มไม่เคยพลาดท่าปล่อยให้คะแนนผมมากไปกว่าการหอมเลยสักครั้ง ดังนั้นเรื่องที่จะให้เพ้อฝันว่าได้กินแต้มจึงห่างไกล คิดไปก็เปลืองสมอง เอาเวลามานึกหาวิธีให้ได้จูบน้องน่าจะดีกว่า...

            “โว้ยยย... ปล่อยนะไอ้เสือหื่น!”

            “พี่กดแลกหอมไปแล้วก็ต้องยอมสิ”

            “มากไปแล้วโว้ย หอมอะไรนักหนา กูขนลุก!”

            “ลืมหมายเหตุแล้วเหรอ ไม่จำกัดครั้งต่อวัน”

            “ไม่ปล่อยกูพังรถมึงแน่!”

            แมวหน้าบูดขู่ฟ่อ เบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากของผมที่พยายามหอมแก้มนุ่มนิ่มให้ครบร้อยครั้งก่อนปล่อยแต้มไปเรียนในช่วงบ่าย เมื่อแมวเจ้าไม่เล่นด้วยจึงคว้ามือมาพรมจูบ สาแก่ใจจึงได้ปล่อยแต้มลงจากรถ มองดูร่างโปร่งเดินกระฟัดกระเฟียดหน้าแดงก่ำเข้าไปในอาคารปฏิบัติการงานเชื่อม

            ผมส่งไลน์ไปย้ำเตือนความจำเล็กน้อยก่อนเหยียบคันเร่งกลับตึกภาควิชาของตัวเอง

 

            เสือนับแต้ม         : 712  คะแนนแล้วนะ

 

            ช่วงนี้ผมคึกอยากแกล้ง ไม่อยากปล่อยให้แต้มได้ใจ พอน้องมันกดอนุมัติคะแนนสะสมเรียบร้อยผมจะรีบฉกมือถือกลับคืน เป็นการแกล้งกดดันให้ไอ้คนที่ชอบทำหน้าเฉยไม่สนใจโลกต้องอึดอัด เพราะเมื่อคะแนนครบพันเมื่อไหร่ย่อมหมายถึงผมมีสิทธิ์ที่จะหม่ำแมว ช่วงนี้ผมจึงไม่กดแลกพร่ำเพรื่อ เน้นหน้าด้านกอดฟรีเป็นหลัก วันไหนทนหน้ามืดไม่ไหวก็กดแลกหอมไป

            ไม่ให้จูบก็ไม่จูบ

            จะหอมให้คึกนึกทรมาน

            ในเมื่อแต้มชอบแกล้งพี่เสือดีนัก งั้นเราก็มาเคลิ้มจนค้างไปพร้อมๆ กันเถอะ มานึกอยากถอนตัวออกจากเกมนี้ทีหลังก็ช้าเกินไปแล้ว ในเมื่อใจดีแล้วชอบแกล้งตีมึนเล่นวิชามารหักแต้มพี่จนหายเกลี้ยง งั้นจงเล่นเกมไปด้วยความหวาดผวาซะเถอะ

            ถึงผมจะเคยเปรยบอกแต้มไปว่าจะไม่ใช้เงินตัวเองในการทำยอดเพื่อความแฟร์ แต่ผมคือพี่เสือที่น้องๆ อยากรู้จักและสานสัมพันธ์ แม้จะแก่ไม่สดใหม่ แต่ความเก๋าของหนังหน้าและแบล็กกราวน์ชีวิตค่อนข้างเด่นชัดจนเจิดจรัส จึงไม่เคยขาดแคลนคนเข้าหา การเป็นเจ้ามือหวยสาขาย่อยจึงเป็นที่กล่าวขานและถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการเข้ามาจีบผม

           

            เสือนับแต้ม         : 850  คะแนนแล้วนะเด็กดี

           

            “กูนับถือหัวใจมึงจริงๆ ที่ช่วยแฟนทำมาหากินสร้างอนาคตจนตัวเป็นเกลียวขนาดนี้ นี่กูขอสารภาพได้ไหม ว่ากูลืมภาพรุ่นพี่เสือจอมสอยไปหมดแล้ว ตอนนี้คำว่าหวยติดหราบนหน้าผากมึงเหมือนป้ายร้านค้า ใครเห็นใครแวะ เป็นเสือสิ้นลายขายหวย ดีใจแทนน้องแต้มมันที่มีคนเอาการเอางานมาจีบ...”

            เป็นการร่ายยาวติดเหยียดเรียกเสียงเฮจากไอ้อินนิล ก่อนจะถูกเสริมทัพจากไอ้หลิวและบุญส่งด้วยคำพูดแสลงหู

            “กูว่าเหมือนถูกหลอกใช้มากกว่าว่ะ ฮ่าๆ”

            “รู้น้องหลอกแต่เต็มใจให้หลอก”

            แต่ละตัว... ไม่เคยมีคำพูดเจริญหูเจริญใจหลุดออกมาจากปากเน่าๆ เป็นการให้กำลังใจเพื่อนบ้างเลย นึกแล้วละเหี่ยใจ เก็บข้าวของเตรียมเลิกคลาสในวิชาสุดท้ายของวัน ก่อนมือจะชะงัก พร้อมใจที่เต้นระทึกไปกับข้อความไลน์ที่ถูกส่งมา

           

            แต้มเจ้าป่า          : พี่เสือ

            เสือนับแต้ม         : ครับแต้ม

            แต้มเจ้าป่า          : เย็นนี้กินข้าวกันไหม เดี๋ยวเลี้ยง

            เสือนับแต้ม         : งง!

           

            ผมแอบชะโงกหัวออกไปนอกหน้าต่างมองท้องฟ้า แดดเปรี้ยงจนแสบตา ลมพัดพาเอาไอร้อนมากระแทกหน้าจนต้องรีบถอยกลับเข้าในห้องอย่างเดิม ในหัวปวดตุบ มือที่พิมพ์ข้อความสั่นยิก   

 

            แต้มเจ้าป่า          : ว่าไง เลี้ยงเลยนะ                       

            เสือนับแต้ม         : วันนี้พี่เลิกค่ำ ติดงานกลุ่ม

            แต้มเจ้าป่า          : งั้นแวะมากินที่ห้อง

            เสือนับแต้ม         : อย่าลำบากเลย

            แต้มเจ้าป่า          : ไม่ลำบากหรอก ไม่มาค้างนานแล้วนี่

            แต้มเจ้าป่า          : มานอนเบียดกันหน่อยสิ

 

            เงียบ ไม่ตอบ ผมกำลังกลืนน้ำลายลงคอเฮือกโต         

 

            แต้มเจ้าป่า          : จูบ

            เสือนับแต้ม         : ?       

            แต้มเจ้าป่า          : จูบกัน

            แต้มเจ้าป่า          : อยากจูบพี่เสือ

           

            รู้ว่าแมวตัวนี้มันแกล้งอ้อน... แต่เสือแก่อย่างผมไม่สามารถฉุดรั้งนิ้วมือสั่นๆ ที่กำลังพิมพ์ข้อความตอบกลับให้หยุดลงได้ ให้ใจแข็งเป็นหินผาก็กร่อนได้วะ จะคะแนนติดลบก็ช่าง แลกกับจูบที่พยายามอดกลั้นมานาน ทำเอาผมในตอนนี้สติหลุดลอย จินตนาการเป็นฉากเป็นตอนจนหน้าเห่อร้อนขึ้นมา...

           

            เสือนับแต้ม         : ทั้งตัวนะ!         

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แต้มมีแผนอะไรรึเปล่าเน้อ

ฝากติดตามด้วยนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ขอให้มีความสุขตลอดวัน

Boorina

20-03-2018




ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นับกันจนแต้มจะพรุนไปทั้งตัวหมดแล้ว  o18

ออฟไลน์ Boorina

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0



- ลำดับที่ 3 -

เรื่องสั้นชุด Intania ภาค ME

(ME  : Mechanical Engineering วิศวกรรมเครื่องกล)

เรื่อง เสือนับแต้ม

เขียนโดย   Boorina





CH.06

ครั้งที่เป็นแฟนกัน

 

            ผมโหยหาจูบหอมหวานที่เจือจางในความทรงจำ...

            บดเบียดริมฝีปากเอิบอิ่มอ้อยอิ่งเนิ่นนาน ดวงตาคนในอ้อมกอดฉ่ำหวิวยามสอดปลายลิ้นเข้าไปควานขยับลิ้มรสละมุน  ร่างที่เคยต่อต้านขัดขืนอ่อนปวกเปียกจนต้องกระหวัดสองแขนโอบรอบคอผม อาศัยกำแพงห้องเป็นหลักอิงกายให้มั่นคง เส้นผมที่ปรกหน้าผากเกะกะจนต้องปัดออกก่อนกดปากพรมจูบ ปัดป่ายความอุ่นวาบอาบไล้ไปทั่วใบหน้าแดงจัด

            ทั้งหมดคือจังหวะคุ้นชินที่เคยมีร่วมกันมานาน

            รสจูบเจือจางกลับมาเข้มข้มชัดเจนอีกครั้ง

            พลาดไปแล้วจริงๆ ที่ยอมปล่อยมือไปง่ายๆ

            ไม่น่าเชื่อว่าช่องว่างความห่างไกลจะทำให้เกิดความคิดถึงได้ไม่มีที่สิ้นสุด กระทุ้งความรู้สึกภายในใจให้พลุ่งพล่านขึ้นมา เคยรู้สึกยังไงในตอนนี้ยิ่งมากกว่า ไม่เคยมีใครมาแทนที่คนๆ นี้ได้ และไม่เคยคิดอยากหาใครมาซ้อนทับที่นั่งภายในใจ

            มันไม่เคยว่าง

            แม้ปล่อยมือไปแล้วก็ไม่เคยว่างเพื่อใคร

            ต้องพยายามมากแค่ไหนจึงจะได้ครอบครอง อยากให้หัวใจถูกเติดเต็มด้วยแต้ม...

            “พอก่อน”

            แต้มบอกพลางผลักผมให้ถอยออกแล้วขยับเท้าหนี แต่ถูกผมรั้งไว้พร้อมปากที่พุ่งปราดเข้าไปบดจูบอีกระลอกพร้อมแต้มที่ก้าวถอยหลังกระทั่งขาชนกับขอบเตียง แต้มเสียงหลักล้มลงรั้งกายผมให้ล้มทาบทับลงไปด้วย แต่ปากเรายังคงประสานจูบ ไม่ผละปล่อยจากกัน

            เนิ่นนานกระทั่งผมถูกแมวกัดปากจนส่งเสียงคราง

            “พอ...”

            “หืม?”

            “เลยเที่ยงคืนแล้วโว้ย จูบอะไรนักหนา หมดเวลา” หน้ายู่ยี่หงุดหงิดช่างขัดแย้งกับใบหน้าที่ยังแดงปลั่งจนผมหลุดหัวเราะ ออกมา “อยากจูบต่อก็ใช้คะแนนแลกก่อน”

            ผมกัดปากข่มความหมั่นไส้ไอ้คนชอบยั่วชอบอ่อย

            “แต่เอ๊ะ! ตะกี๊มีหอมมีนอนเตียง งั้นต้องหักค่าหอมแก้มกับนอนเตียง คำนวณคร่าวๆ เหมือนจะเหลือไม่พอให้แลกจูบ งั้นก็พอแล้วเนอะพี่เสือ”

            แต้มพล่ามด้วยมาดพ่อค้าพร้อมรอยยิ้มกริ่ม ทำเอาหัวผมหมุนคว้างกับการถูกสลัดทิ้งกลางทาง ไอ้ลูกเล่นแพรวพราวแบบนี้ใช่ว่าจะไม่คิดมาก่อน เพียงแต่อดรู้สึกทะแม่งกับการกระทำของมันไม่ได้

            ตอนแรกก็เออออคล้อยตามกับการเล่นเกม เหมือนไม่เดือดไม่ร้อนที่ถูกเต๊าะถูกลวนลามเล็กๆ น้อยๆ ต่อมาก็ทำเหมือนหวงตัว คอยกันท่าไม่ให้จูบ ก่อนถูกตลบด้วยการที่น้องมันบอกว่าอยากจูบด้วย

            แล้วนี่อะไร กำลังฟินอยู่ดีๆ ไหงกลับรู้สึกเหมือนถูกเอาท่อนเหล็กสิบตันมาฟาดหัวแบบนี้ ทำเอาใจทรุดทะลุคอนกรีตลงไปชั้นล่างซะอย่างนั้น

            “ไอ้แต้มขี้งง”

            ผมพูดติดขำด้วยเสียงแห้งแล้งแฝงความเจ็บปวด ในเมื่อผมมันเป็นเสือแก่สิ้นคะแนนประดาตัวเลยเลือกที่จะนอนคร่อมทับและกอดแต้มไปนิ่งๆ  ฝืนข่มใจไม่ให้ฟุ่งซ่าน แต่ก็อดคิดมากไม่ได้

            แต้มคิดอะไรอยู่กันแน่?

            ปล่อยให้ผมมีโอกาสใกล้ชิด แต่ก็ยังสร้างป้อมปราการสะกัดกั้นผม

            แต้มยังต้องการพี่เสือคนนี้ไหม?

            “เลิกเล่นกันเถอะพี่เสือ” แต้มที่นอนนิ่งใต้ร่างผมเปรยขึ้นมาด้วยเสียงราบเรียบแฝงความจริงจัง

            “หมายความว่ายังไง”

            “ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องมาทนเล่นอะไรแบบนี้อีก เลิกขายหวย ขี้เกียจแล้ว แยกย้ายสลายตัวกันเถอะ”

            “อยู่ดีๆ ก็พูดแบบนี้ แต้มเป็นอะไรรึเปล่า” ผมถามอย่างใจเย็น แต่ความคิดไถลไปไกลสุดกู่ ใบหน้าคงฉายชัดความคิดกดดันคนตรงหน้ามากไป มันถึงกับถอนหายใจแล้วยอมตอบออกมา

            “แค่รู้สึกไม่จำเป็น... เราไม่มีกันและกันเราก็อยู่กันมาได้ตั้งนานไม่ใช่รึไง”

            “ใช่ ไม่มีแต้มพี่ก็ไม่ตาย แต่มีแต้มแล้วพี่มีความสุข แต้มให้พี่มีความสุขไม่ได้เหรอ” จากนั้นเราต่างพากันเงียบ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์จากด้านนอกที่แว่วเข้ามาแทรกความอึดอัดที่แผ่วงกว้างไปทั่วห้อง

            “ไม่รู้”

            “...แล้วแต้มปล่อยให้พี่จูบทำไม”

            ถ้อยประโยคนั้นดังขึ้นพร้อมกับผมที่ขยับกายลงจากร่างแต้ม ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้แต้มอย่างหมดแรง อธิบายไม่ถูกว่าควรรู้สึกยังไง ควรพูดอะไร และทำยังไงต่อไป...

            ขอเวลาพักสักนิด ตอนนี้ใจหวิวเล็กๆ แล้วจะกลับมาด้านใหม่

            “…แล้วระหว่างนั้นหายไปไหนมา ทำไมเพิ่งจะมาเริ่มเอาตอนนี้ล่ะ?” จบประโยคนั้น ผมเป็นอันสะท้านเฮือกเมื่อคนข้างตัวขยับกายมาสวมกอดผมไว้พร้อมใบหน้าที่ซุกแนบแผ่นหลัง “...ถ้าพี่เสือลังเลในวันที่ผมเทใจให้ทั้งหมดอีกครั้ง เคยคิดไหมว่าคนๆ นี้จะอยู่ยังไง”

            “...ตอนนั้นเจ็บมากไหม”

            “สาหัสมากเลยพี่เสือ”

            ผมกุมมือแต้มไว้ กระชับแน่นไม่คลาย...

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

            ไม่รู้เป็นเพราะสาเหตุนี้รึเปล่าที่ทำให้แต้มแปลกไป

            ‘อาโป’ เป็นชื่อของคนในอดีตที่กำลังหวนกลับมา

            เที่ยงวันระหว่างที่กำลังทานมื้อเที่ยงอยู่ที่ KFC ซึ่งเป็นชื่อเล่นของโรงอาหารรวมของมหา’ลัย เบอร์โทรศัพท์ที่ขาดหายไปจากหน้าจอนานสองปีกว่าได้ปรากฏขึ้น ผมกดรับอย่างงงๆ ก่อนจะได้ยินเสียงอ่อนโยนดังกระแทกหู เป็นน้ำเสียงที่ฟังกี่ครั้งก็รู้สึกเย็นกายสบายใจ สมกับความหมายของชื่อที่แปลว่าน้ำ...

            ‘พี่กลับมาสักพักแล้วว่ะเสือ ได้งานแล้วด้วย’

            “ไม่ได้กลับมาช่วยงานที่บ้านเหรอ”

            ‘ขอหาประสบการณ์ก่อนดิ ก็เลยลองมาทำงานเป็นลูกจ้างดู คอยเป็นล่ามให้พวกผู้บริหารระดับสูง ก็สนุกดีนะ เงินดี แต่ก็ปวดหัว ว่างๆ ก็แปลหนังสือขาย ขออิสระสักพักเถอะ... แล้วเสือล่ะ เป็นยังไงบ้าง’

            “เรื่อยๆ ใกล้จบแล้วครับ”

            ‘ตั้งใจเข้าล่ะ... ว่างแล้วมาเจอกันหน่อยนะเสือ พอดีก่อนกลับพี่ซื้อของฝากมาให้ด้วย แต่เพิ่งเคลียร์ตัวเองได้เลยเพิ่งได้โทรหา โทษทีนะ’

            “ได้ครับ”

            ‘งั้นค่อยนัดกันอีกที’

            เขากลับมาแล้ว

            อาโปที่อายุมากกว่าผมสองปี เป็นผู้ชายที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย เรารู้จักกันเพราะเขาเป็นรุ่นพี่ของผมสมัยเรียนมััธยม และเพราะเราเป็นนักกีฬาโรงเรียนเหมือนกันเลยทำให้มีโอกาสได้พบหน้ากันบ่อยๆ แต่ไม่ได้สนิทเป็นพิเศษนัก ด้วยนิสัยที่น่าคบทำให้หวั่นไหวมอบใจให้อย่างงงๆ กระทั่งเขาเข้ามหา’ลัยไปผมก็ยังไม่กล้าลงมือจีบ ผ่านไปสองปีผมก็สอบเข้าไปเรียนที่เดียวกันกับเขา

            อาโปเรียนศิลปศาสตร์เอกภาษาฝรั่งเศสปีสาม ส่วนผมเรียนวิศวกรรมเครื่องกลปีหนึ่ง ตึกเรียนอยู่ห่างกันเป็นโยชน์ แต่ก็พยายามพาตัวเองเข้าใกล้ด้วยการไปอยู่ร่วมชมรมเดียวกัน ความจงใจที่ดูคล้ายความบังเอิญทำให้เราเริ่มสนิทกันมากขึ้น...

            บ้านอาโปค่อนข้างมีฐานะด้วยธุรกิจที่เกี่ยวกับเหล็กโครงสร้างและโลหะต่างๆ มีพี่ชายหน้าดุเป็นอาจารย์สอนในวิทยาลัยเทคนิคชื่อดัง และในตอนที่ผมกำลังมีเรื่องกับกลุ่มเด็กช่างก็ได้พี่ชายของอาโปพร้อมเด็กนักเรียนคนหนึ่งมาช่วยไว้

            เด็กคนนั้นชื่อแต้ม หน้าตาเหมือนแมวป่าอารมณ์ร้าย ครั้งแรกที่เราสบตากันมันทำท่าเหมือนอยากกางกงเล็บแล้วกระโจนเข้ามาข่วนหน้าผม ภายหลังจึงได้รู้ว่านั่นแค่บุคลิกภายนอกเท่านั้น แต่น่าแปลกว่าพอเวลาอยู่กับอาโปมันกลับหัวเราะยิ้มแย้มอย่างกับเป็นคนละคน ทำเอาผมเขม่นหน้ามันขึ้นมาทันที

            ...ไอ้เด็กแต้มมันเป็นเด็กปั้นของพี่ชายอาโป มีฝีมือในงานเชื่อม ช่วงที่ต้องเตรียมซ้อมก่อนไปแข่งขันทักษะวิชาชีพนั้นมันต้องเก็บตัวฝึกซ้อมทุกวันหลังเลิกเรียนจนดึกดื่น จึงต้องมากินนอนอยู่ที่บ้านของอาโป กระทั่งเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้หยุดพัก จึงไม่แปลกหากมันจะสนิทสนมกับอาโป

            ผมอิจฉา... และเริ่มมีแผนหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ

            เป็นแผนการณ์ที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัว ไม่แยแสจิตใจใคร

            เริ่มด้วยการให้อาโปช่วยหาช่างมาซ่อมรั้วสแตนเลสที่บ้านหลังหนึ่งให้ ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าเด็กแต้มมันทำงานพิเศษโดยมีอาจารย์ของมันช่วยเหลือหางานให้ ซึ่งเป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ อาโปส่งตัวเด็กแต้มมาให้ผม

            ผมเริ่มตีซี้แต้มเพื่อหาโอกาสเข้าหาอาโป

            ไปๆ มาๆ จึงเริ่มสนิทกับทางบ้านของอาโปไปโดยปริยาย พร้อมกับได้เรียนรู้นิสัยของเด็กช่างคนนี้

            เวลาอยากให้ขนมอาโป ผมต้องมีมาให้แต้มด้วยเพื่อไม่ให้ดูน่าสงสัย ฉะนั้นเวลาที่ควรอยู่กับอาโปจึงต้องแบ่งมาให้เด็กแต้มเกินครึ่ง...

            แต้มเป็นเด็กชาวบ้านธรรมดา มาดแมนติดเถื่อน แต่มีความหล่อที่ไม่เข้ากันนัก เป็นเด็กที่เรียนปานกลางแต่ทักษะฝีมือจัดอยู่ในขั้นยอดเยี่ยม มีความขยันขันแข็งในการหาเงินจนผมนึกทึ่งและยอมรับ แต่บางครั้งก็ต้องส่ายหน้ากับความขี้งกของมัน

            เห็นพูดจาขวานผ่าซากติดห้วน แต่ลึกๆ เป็นเด็กจิตใจดี จริงใจไร้มารยา มักอ่อนไหวง่ายกับคนที่ใจดีด้วย อย่างเช่นผมเป็นต้น

            จากที่ไม่ชอบขี้หน้ากลายเป็นถูกใจและสนิทกัน ผมชอบลากแต้มไปเที่ยวเล่นในวันหยุด ให้มีช่วงเวลาหาความสุขให้ตัวเองเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป แต่ด้วยความที่มันชอบทำงานหาเงิน ผมจึงต้องใช้ข้ออ้างจ้างทำโน่นนี่ กระทั่งสอนมันขับรถเพื่อจ้างให้มันคอยช่วยขับรถให้

            นานวันเข้าผมกลับรู้สึกสนิทกับแต้มมากกว่าอาโป จึงพาให้ใจดีและเอาใจใส่

            ไม่เคยฉุกคิดเลยว่าการกระทำของตัวเองจะย้อนกลับมาทำให้หัวใจตัวเองหวั่นไหว ความรู้สึกมันค่อยๆ ซึบซาบเข้ามา กว่าจะรู้ว่าใจผมแปลกไปก็คือวันหนึ่งที่่โมโหจนนึกอยากจูบเด็กดื้อ ที่ไปมีเรื่องกับเพื่อนต่างแผนกช่างจนฟกช้ำดำเขียวไปทั้งตัว

            นั่งสับสนเป็นเสือหน้ามึนอยู่หลายวันจนเลือกสารภาพความรู้สึกกับอาโป ตีความสรุปว่าบ้าไปเองที่คิดว่าเผลอใจไปชอบคนที่เปรียบเหมือนน้องชายคนหนึ่ง

            ผมถูกอาโปปฏิเสธแต่ยังเสือกยิ้มได้ แถมยังไม่ยอมแพ้ พยายามหน้าด้านหน้าทนเข้าหา แต่คนมันไม่รักก็คือไม่รัก ผมถอยออกมาเงียบๆ แต่ใครจะรู้ว่าแต้มคอยเฝ้ามองผมอยู่ เห็นผมหงอยไปก็คอยดูแลแต่ไม่เอ่ยถาม เอาวะ อย่างน้อยก็ยังมีน้องชายคอยให้กำลังใจ ดังนั้นเวลาที่เคยเป็นส่วนของอาโปจึงเทมาหาแต้มจนเกือบหมด

            ไม่ได้แฟนแต่ได้น้องชายมันเจ๋งกว่าเป็นไหนๆ

            แถมแต้มยังเป็นน้องที่พึ่งพาได้ ระบบไฟในบ้านเสียมันยังไล่หาจนเจอว่าสาเหตุเกิดจากตรงไหน ท่อประปาแตกก็ซ่อมได้ ราวตากผ้าพังก็ทำใหม่ให้ รถเสียก็ช่วยเข็นเข้าข้างทางจนเหงื่อท่วมตัว ซื้อต้นไม้มาก็แบกจอบขุดหลุมปลูกและรดน้ำให้ ใครทำทีเข้ามาหาเรื่องก็ดึงผมไปข้างหลังแล้วออกโรงปกป้องจนต้องเขกมะเหงกเตือนสติ

            จนในวันหนึ่งที่เครื่องทำน้ำอุ่นเสียในช่วงหน้าหนาวมันก็ยังอุตส่าห์ต้มน้ำอุ่นให้ผมอาบ ส่วนตัวเองต้องอาบน้ำเย็นเพราะแก๊สหมดพอดี

            วินาทีที่ผมเห็นแต้มเดินตัวสั่นออกมาจากห้องน้ำ ในหัวผมพลันชะงักงันเมื่อพบว่าผมได้หลงชอบเด็กดื้อไปแล้ว

            ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ที่เผลอใจ และแพ้ทางเด็กคนนี้

            …ผมดราม่าในใจเป็นวรรคเป็นเวร

            …แต้มเป็นเด็กช่างมาดแมน พูดจาห้วนไม่สนใจโลก และแต้มเชื่อใจผม

            …จะให้ผมทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเราเพียงเพราะผมชอบมันงั้นเหรอ?

            ตอนที่แต้มทิ้งตัวลงนอน ผมจึงเนียนกอดน้องมันแน่น กระเซ้าหยอกว่าหนาวไหม เดี๋ยวพี่เสือจะกอดให้อุ่นเอง แทนคำขอโทษที่แย่งอาบน้ำอุ่นจนหมด

            แต่ในใจนึกสังเวช เสืออยากกินแมวแต่กินไม่ได้ ทำได้แค่ใช้ขนอุ่นกายน้องในอ้อมแขนให้คลายหนาว อยากจูบสัมผัสก็ยากเกินจะทำ ต้องแกล้งเล่นมวยปล้ำแล้วพุ่งเบ้าหน้าและปลายจมูกให้ชนหน้าชนคอแต้มแล้วแอบสูดกลิ่นไอ

            เป็นเสือกลัดมันที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเล่นบทพี่ชายต่อไป

            ความขลาดกลัวการสูญเสียนี้ทำให้ผมอยากลาออกจากชื่อเสือเหลือเกิน...

           

            ‘พี่เสือ... ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม’

            ‘ถามสิ’

            ‘พี่เสือคิดอะไรกับผมรึเปล่า’

            ‘คิดว่าไงล่ะ’

            ‘ไม่รู้หรอก แต่เหมือนผมจะชอบพี่เสือ...’

            ‘แต้มคบกับพี่ไหม’

            ‘ไม่จีบกันสักนิดเหรอ... พี่เสือใจง่ายไปนะ’



            ใครจะคิด!

            แต้มทำผมอึ้งด้วยคำถามที่เอ่ยออกมาหน้านิ่ง แต่ฝ่ามือกลับเย็นเยียบทั้งที่เหงื่อออก ผมจำต้องสะกดความดีใจที่ล้นทะลักออกมาแล้วตีเนียนเข้าใส่ ไม่อยากหมดมาดเสือทั้งที่มันไม่มีเหลือตั้งแต่แรก พูดกันตามจริง แต้มใจกล้าเหมาะกับชื่อเสือมากกว่าผมซะอีก

            เราควรสลับชื่อกัน

            แมวเป็นเสือ... เสือเป็นแมว...

            นับจากวินาทีนั้นความรักของเราได้ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย มีความสุขกับการได้เรียนรู้กันและกัน ผมติดกับดักแมวหน้าหยิ่งขี้อ้อนจนถอนตัวไม่ขึ้น หลงเด็กจนกู่ไม่กลับ

            …กระทั่งทุกอย่างพังลง

            …แต้มเหลือเพียงสถานะ ‘แฟนเก่า’ ทิ้งไว้ให้ผม

            “ไอ้เสือ! นั่งเหม่ออะไรของมึงวะ” ไอ้หลิวเรียก ก่อนจะพล่ามเรื่องตัวเองหน้าหงอย “โปรเจกต์กูเอาไงดีวะ ต้องเชื่อมไทเทเนียม มึงพอรู้จักช่างเชื่อมไทเทเนียมฝีมือดีบ้างไหม พอดีลุงนันเพื่อนพ่อกูดันป่วยเป็นมะเร็งอาการทรุดเข้าโรงพยาบาล ไม่งั้นงานกูมีชะงักแน่”

            “มึงลองถามน้องแต้มหน่อยดิ ว่าพอรู้จักใครบ้างไหม ช่วยไอ้หลิวมันหน่อย” ไอ้บุญส่งเสนอ

            “มี แต่มึงสู้ราคาไหวไหมแค่นั้น” พวกมันสองตัวเลิกคิ้วโก่งเชิงขอคำอธิบาย “ช่างคนนี้ฝีมือระดับโลก เคยได้รางวัลเหรียญทองโอลิมปิก ฉะนั้นค่าตัวค่อนข้างสูงหน่อย แต่รับรองงานเนี๊ยบ”

            “นี่มึงกะหักค่านายหน้าใช่ไหม ขี้โม้ว่ะ” ให้หลิวแย้ง

            “มีใบเซอร์ฯ การันตีจากเยอรมนีด้วย เขาเคยไปอบรมพิเศษหลังได้เหรียญทองมา”

            “พล่ามมาก บอกราคามาไอ้เสือว่าวันละเท่าไหร่”         

            “ฝีมือระดับนั้นใครเขาคิดราคาเป็นวัน... ขั้นต่ำสามพันต่อนิ้ว ถ้าสู้ไหวค่อยมาคุยรายละเอียดกับกูแล้วกัน กูไม่รีบหรอก”

            “ใครวะ?” ไอ้อินนิลถามด้วยความอยากรู้พอๆ กับเพื่อนอีกสองตัวที่จ้องหน้าผม

            “น้องแต้มของพี่เสือไง”

            พวกมันตาโตด้วยคาดไม่ถึง ก่อนไอ้บุญส่งจะเบะปากใส่ผม ทุกวันนี้มันยังไม่เลิกหมั่นไส้ผม ร่ำๆ จะตีท้ายครัวถ้าเกิดผมจีบแต้มไม่ติดขึ้นมา

            “หึ! ช่วยกันทำมาหากินดีเนอะ หมั่นไส้! เดี๋ยวกูไลน์ไปคุยส่วนตัวดีกว่า เผื่อได้ขอส่วนลดเป็นพิเศษ นิ้วละสามพันกูคงต้องขายนาเอาเงินมาทำโปรเจอต์แล้วแหละ แต่บ้านกูไม่มีนา ฮ่าๆๆ ไหนๆ ก็คนกันเอง น้องมันน่าจะหยวนๆ ให้ส่วนลดกูบ้าง”

            ไอ้หลิวบอกก่อนจะก้มหน้าก้มต่อพิมพ์ไลน์คุยกับแต้มด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ไม่ต้องถามก็รู้ว่าคงต่อลองราคากันอยู่ แต่ไอ้หลิวมันอ่อน ซื้อของไม่เคยต่อราคา มาเจอแต้มเข้าไปแทนที่จะได้ส่วนลดอาจโดนอัพราคาแทน สักพักผมก็เห็นมันกดโทรหาแต้ม พูดอ้อนวอนเสียงแจ๋ว ก่อนไอ้หลิวจะยื่นมือถือมาให้ผม

            “น้องแต้มจะคุยด้วย”

            ผมยิ้มเยาะสมน้ำหน้า รับมือถือมากรอกเสียงไปตามสาย

            “ว่าไงแต้ม”         

            ‘เสาร์อาทิตย์นี้พอจะว่างไหมพี่เสือ จะให้ไปส่งทำธุระหน่อยอ่ะ’

            “ไม่ว่างด้วยสิแต้ม เสาร์อาทิตย์นี้พี่มีกิจกรรมของภาคที่มหา’ลัย คืนวันศุกร์ก็ต้องกลับไปค้างที่บ้านด้วย พอดีเมื่อวานพ่อโทรมาเรียกตัว... แต่เดี๋ยวพี่ทิ้งรถไว้ให้ใช้แล้วกัน”

            ‘ให้ขับปอร์เช่ไปรับจ้างเชื่อม? พูดนี่คิดบ้างนะ ตลกตายห่า เขาคงแจ้งตำรวจมาจับผมแล้วแหละ’

            “ฮ่าๆ งั้นเดี๋ยวเอาปิกอัพมาให้ใช้”

            ‘ไม่ต้องๆ ไปเองได้ แค่นี้แหละ’

            “เดี๋ยว... พี่อยากกินโมโม่ เลิกเรียนแล้วพี่ไปรอรับที่ตึกนะ”

            ‘ตามใจ’

            แต้มตัดบทแล้วกดวางสายไป ไอ้เพื่อนสามตัวเบ้ปากหมั่นไส้ด้วยความเกลียดชังที่ทวีสูงขึ้นทุกวัน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++





ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ใกล้จะรู้เหตุผลที่เลิกกันแล้ว  :hao3:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ฮือออ หลงทั้งสองคนหนักมาก รักแต้ม รักพี่เสือ เขิลลล บรรยากาษละมุนจัง :mew3:

ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด