◈Jurassic Foster◈ กลายพันธุ์รัก ใต้ธารา <♦◈ธาราส่งท้าย◈♦> 25/03/62 P.17 -จบ-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◈Jurassic Foster◈ กลายพันธุ์รัก ใต้ธารา <♦◈ธาราส่งท้าย◈♦> 25/03/62 P.17 -จบ-  (อ่าน 112772 ครั้ง)

ออฟไลน์ Sistel2

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ติดตามมาตั้งแต่ภาคแรก เมื่อไหร่ลูก้าจะโตน๊าาา  :z2:

ออฟไลน์ Nunng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อยากอ่านต่อแล้ว :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
◈ธาราที่5◈




ยามราตรีอันเงียบสงัดมีเพียงแสงจันทร์ที่เล็ดรอดผ่านผ้าม่านเข้ามา ความเงียบที่มีทำให้การเคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อยเรียกสติที่จมดิ่งจากการนิทราให้ตื่นขึ้นได้อย่างฉับพลัน ร่างของคนข้างกายค่อยๆขยับแล้วลุกจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำ...การเดินนั่นเบาจนแทบไม่มีเสียงแถมยังไม่ชนกับข้าวของเลยอย่างสักชิ้น นั่นราวกับรู้ถึงตำแหน่งสิ่งของทุกชิ้นภายในห้องอย่างดีซึ่งก็ถูก


คนที่ลุกไปเข้าห้องน้ำคือเจ้าของห้องที่ผมอยู่ด้วย


แม้เขาจะพยายามขยับตัวให้เบาที่สุดแต่ก็ไม่อาจหลุดรอดสัมผัสหรือสัญชาตญาณของนักล่าอย่างผมไปได้


ไดโนเสาร์กลายพันธุ์เป็นชื่อเรียกของมนุษย์ที่มียีนของไดโนเสาร์ผสมอยู่ในร่าง ด้วยยีนนั่นทำให้สามารถกลายร่างเป็นไดโนเสาร์ได้


สิ่งที่รู้ทั้งหมดล้วนมาจากสามเป็นคนบอกทั้งนั้น


ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันจนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้หรอกว่าผ่านไปนานแค่ไหน รู้เพียงช่วงเวลาที่ได้อยู่กับคนคนนี้มันช่างวิเศษกว่าใครๆ


“ฝันร้ายเหรอลูก้า”น้ำเสียงนุ่มๆจากประตูห้องน้ำดังขึ้นเมื่อเห็นผมลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียง


“เปล่า”ผมส่ายหน้าตอบไป


ลูก้าเป็นชื่อของผม


ชื่อที่สามตั้งให้ตอนเจอกันครั้งแรก


จำได้ว่าวันแรกที่เจอกันผมกัดเขาไปหลายครั้ง ทั้งที่น่าจะโกรธหรือกลัวแต่สามกลับทำท่าทางเหมือนไม่เคยเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เขายังคงอยู่กับผมตลอด


“งั้นก็สะดุ้งตื่น”


“...ก็ใกล้เคียง”ใช้เวลาคิดสักพักก่อนจะตอบกลับไป ที่ผมตื่นขึ้นมาก็เพราะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวจากสาม ก่อนหน้านี้ที่อยู่ด้วยกันก็ไม่ได้มีสัมผัสดีแบบนี้ ดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งแรกกับเอสเทอมีนอโซคัสจะกระตุ้นบางอย่างในตัวให้ตื่นขึ้น


“เหรอ...นี่พึ่งตี2 นอนกันต่อเถอะ”ฝ่ามืออุ่นๆเอื้อมมาลูบเส้นผมสีแปลกตาก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ


“อืม”ผมได้แต่จดจำสัมผัสนั้นแล้วล้มตัวลงนอนตาม


ส่วนหัวเป็นส่วนที่ไม่ชอบให้ใครมาแตะ


ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่กับสาม...มันต่างออกไป


เสียงลมหายใจดังเข้าออกสม่ำเสมอในเวลาไม่นานหลังจากสามนอนต่อ ผมพลิกตัวเข้าหาแผ่นหลังนั้นช้าๆพร้อมกับใช้ดวงตาสีเงินของตัวเองจับจ้องไป ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นร่างกายก็ขยับเข้าไปใกล้หาไออุ่นจากสามและหลับไปโดยไม่รู้ตัว


เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเราตื่น อาบน้ำ แต่งตัวและออกไปกินมื้อเช้าเหมือนอย่างทุกๆวัน มื้อเช้าผมวันนี้เป็นข้าวต้มกุ้งและข้าวต้มทะเลชามโตผิดกับสามที่กินแค่ข้าวต้มกุ้งชามเล็กเท่านั้น


“แค่นั้นอิ่มเหรอสาม”ผมถามระหว่างจัดการข้าวต้มชามที่2


“อิ่มสิ...มื้อเช้าแค่นี้ก็พอแล้ว”


“กินน้อย”ไม่แปลกเลยที่ตัวจะเล็กกว่าผู้ชายอื่นที่นี่ เล่นกินน้อยแบบนี้จะเอาอะไรไปเลี้ยงร่างกายกันขนาดผมที่เด็กกว่าไม่รู้เท่าไหร่ยังโตถึงหน้าอกเขาแล้วเลย


“ไม่น้อยนะ...ก็กินเท่าคนปกติกินแหละ ลูก้าต่างหากที่กินเยอะ”สามตอบกลับพลางมองมายังชามข้าวต้มชามที่3ที่พึ่งถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ


“ผมไม่ควรกิน?”พอได้ยินแบบนั้นผมก็วางช้อนลงทั้งที่ท้องยังไม่อิ่ม


“เปล่า การที่ลูก้ากินเยอะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถึงจะอยู่ในร่างมนุษย์แต่ก็ยังมีอีกร่างที่ต้องการพลังงาน...อีกอย่างลูก้ายังอยู่ในช่วงเติบโต กินเยอะๆน่ะดีแล้วถ้าไม่กินผมคงเป็นห่วงแน่”พูดจบสามก็ส่งยิ้มมาให้


“เข้าใจแล้ว”ถ้าไม่อยากให้สามเป็นห่วงก็ต้องกินเยอะๆ


“วันนี้ผมอาจมารับช้านะ”ความอยากอาหารที่มีลดฮวบเมื่อได้ยินคำพูดนั้น


“...อีกแล้วเหรอ”ไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่ได้ยินว่าจะมาช้า รู้แค่ว่ามากจนไม่อยากนับ


“อืม...ขอโทษนะพอดีช่วงนี้มันยุ่งๆอีกแล้ว”


ก็เข้าใจว่าสามเป็นหัวหน้าอะไรสักอย่างของที่นี่เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำงานหนักขนาดนั้น แบ่งงานไว้ทำวันอื่นบ้างไม่ได้เหรอ หรือว่าไม่มีคนช่วยทำงาน


มีคำถามมากมายที่อยากพูดออกไปแต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าเบาๆก่อนตักข้าวต้มเข้าปากต่อ ข้าวต้มที่มาร้อนๆควรจะอร่อยแต่ตอนนี้กลับไม่รู้สึกถึงรสชาติอะไรเลย


สามพาผมมาส่งยังตึกเดี่ยว2ชั้นที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์น้ำกำลังนั่งคุยหรือเตรียมตัวออกไปปฏิบัติงานอยู่ คนที่ผมต้องอยู่ด้วยคือดาว ไม่สิ พี่ดาว สามบอกว่าเวลาเรียกควรมีคำนำหน้าเพื่อแสดงความนับถือหรือเคารพ


คำพูดนั่นทำให้คิดได้ว่าก็ควรเรียกสามว่าพี่ด้วย แต่ทุกครั้งที่จะลองเรียกมันก็เกิดความรู้สึกแปลกเหมือนกับไม่อยากเรียกจนตอนนี้ก็ยังไม่เคยได้เรียก


นอกจากพี่ดาวยังมีพี่จันอีกคนที่คอยมาดูแลหรือพูดคุยด้วย


“วันนี้พี่จะพาไปดูหอยเม่นนะลูก้าคุง”พี่ดาวบอกพลางเดินนำผมขึ้นไปบนสะพานซึ่งเป็นทางที่เชื่อมกับบ่อต่างๆ บ่อที่ผมเคยอยู่รู้สึกจะอยู่ไกลกว่านี้มาก


“...อืม”การที่ผมตอบเพียงคำเดียวไม่ใช่เรื่องหน้าแปลกใจ ในเมื่อไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยเลือกที่จะไม่พูด


ตอนอยู่กับสามก็คิดว่าเหมือนเวลาอยู่กับคนอื่นนะ แต่สามบอกว่าไม่ใช่


ก็อาจใช่และไม่ใช่ด้วย


ผมไม่ใช่คนชอบพูดมากแต่ตอนอยู่กับสามมักมีอะไรบางอย่างให้สงสัยอยู่ตลอด


ไม่ใช่แค่สงสัยแต่ยังมีอารมณ์ร่วมในหลายอย่างไม่ว่าจะถูกแหย่ ถูกบ่น ถูกแกล้งหรือถูกห่วง


มันเป็นช่วงเวลาที่มีอารมณ์หลากหลายเกิดขึ้นซึ่งตอนอยู่กับคนอื่นไม่เป็นแบบนี้


“นี่คือเม่นทะเล”พี่ดาวหยุดเดินก่อนจะชี้ไปยังบ่อด้านล่างที่มีน้ำทะเลไม่ลึกมาก ด้านใต้มีทั้งปะการัง โขดหินและอะไรบางอย่างสีดำๆอยู่เต็มบ่อ


สีดำๆนั่นคือเม่นทะเลสินะ


ถึงจะอยู่ด้านบนก็สามารถเห็นหนามเรียวแหลมที่ล้อมรอบอยู่นั่นอย่างชัดเจน แค่มองดูก็รู้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตราย...ไม่ควรเข้าใกล้ในร่างที่ดูอ่อนแออย่างมนุษย์ในตอนนี้


“เม่นทะเลอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลตื้นบ้างลึกบ้างตามก้อนหินหรือแนวปะการัง พวกมันมักพรางตัวอยู่ตามซอกหินไม่ก็แนวปะการัง...แต่ในบ่อนั่นเลี้ยงไว้เยอะคงพรางตัวไม่ได้หรอกเนอะ อาหารของมันสาหร่ายที่เกาะอยู่ตามโขดหินนั่นแหละ”พี่ดาวอธิบายต่อ


“...อืม”สิ่งที่ผมคิดเมื่อมองไปยังหอยเม่นตรงหน้าคือถ้าผมอยู่ในร่างของไดโนเสาร์ผมจะกินมันให้เรียบเลย


ความน่าอันตรายนั่นไม่เท่ากับความอยากลองในรสชาติใหม่ๆที่มี


“รู้ไหมว่าหอยเม่นเป็นหนึ่งในสัตว์ที่หัวหน้าชอบเลยนะ”


“สามชอบเหรอ?”พอในคำพูดนั้นมีความเกี่ยวพันธ์กับคนที่นึกถึงอยู่เสมอก็ทำให้ประโยคนั้นน่าฟังขึ้นมาทันที


“ใช่จ้า...หัวหน้าเคยเลี้ยงเม่นด้วยนะ รักมากถึงขนาดพาใส่ตู้ไปด้วยทุกที่เลย”พี่ดาวเล่าด้วยใบหน้ายิ้มๆ


“...”ถ้ารักมากจะพาไปด้วยทุกที่แปลว่าไม่ได้รักผมเลยไม่พาไปด้วยงั้นเหรอ


ความเจ็บแปล๊บแล่นเข้ามาเมื่อคิดแบบนั้น


“ขอโทษนะครับ นี่ใช่บ่อ8เม่นทะเลรึเปล่าครับ”เสียงสอบถามกับฝีเทาของคนประมาณ6คนเดินเข้ามาใกล้


“ใช่ค่ะ...มีอะไรกับบ่อนี้เหรอคะ พวกคุณเป็นคนของพิพิธภัณฑ์สินะ”พี่ดาวพูดหลังมองไปยังชุดที่พวกเขาใส่อยู่ เสื้อสีดำปักคำว่าพิพิธภัณฑ์ด้วยสีทอง


“ครับ พวกเรามารับหอยเม่นบางส่วนเพื่อไปจัดแสดงตามที่เคยแจ้งไว้เมื่ออาทิตย์ก่อน”


“แจ้งไว้...”


“ดาว!”ยังไม่ทันถามจบเสียงเรียกพร้อมกับร่างเต็มไปด้วยของหญิงสาวก็หยุดลงตรงหน้า ผู้หญิงคนนี้เหมือนจะเคยเห็นหน้ามาก่อนแต่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร


“โบ...มีอะไรเหรอรีบวิ่งมาเชียว”พี่ดาวถามพลางช่วยลูบหลังเพื่อคลายเหนื่อย


“โทรไปก็ไม่รับสายฉันก็เลยต้องวิ่งมาบอกด้วยตัวเองแบบนี้ไง”


“พอดีลืมโทรศัพท์ไว้ในล๊อกเกอร์ ว่าแต่มีเรื่องด่วนอะไร”


“ก็จะบอกว่าถ้ามีคนจากพิพิธภัณฑ์มารับหอยเม่นก็ให้เอาไปได้เลย”


“กำลังพูดเรื่องนี้กันอยู่เลย ขอโทษที่พึ่งทราบข่าวนะคะ เดี๋ยวพวกเราจะช่วยนำหอยเม่นขึ้นมาให้เองค่ะ”พี่ดาวบอกกับเพื่อนเสร็จก็หันไปบอกกลุ่มผู้ชายด้านข้าง


“ไม่เป็นไรครับ...รบกวนด้วย”


จากนั้นผมก็ยืนดูการขนย้ายหอยเม่นอยู่เงียบๆโดยมีคนของพิพิธภัณฑ์หลายคนหันมามองด้วยแววตาสงสัย จะไม่สงสัยก็คงแปลกด้วยสีผมอันแปลกตานี่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องขมวดคิ้วทั้งนั้น ขนาดตอนที่สามพาไปสวนสัตว์ยังมีแต่คนมองแต่เพราะไม่สนใจสายตาเหล่านั้นเลยไม่พูดอะไร


อีกอย่างที่สงสัยคือทำไมมนุษย์ถึงไม่มีสีผมเช่นเดียวกับที่ผมมี อย่างสามกับคนอื่นๆที่นี่ก็มีดำไม่ก็น้ำตาล สีฟ้าหรือแดงไม่เคยเห็นมาก่อนทั้งที่สีฟ้าเองก็เป็นสีของธรรมชาติ มีสัตว์ทะเลหลายตัวที่มีสีฟ้า ส่วนสีแดงแสดงถึงความอันตราย...ในหมู่สัตว์บกอาจรับรู้ด้วยกลิ่นก่อนจะเป็นขนาดหรือสีแต่สัตว์น้ำหากอยู่ในระยะมองเห็นจะรับรู้สีก่อนอย่างอื่น ยิ่งสัตว์ตัวไหนสามารถทำตัวเองให้มีสีจัดจ้านได้ก็ได้ทำให้ถูกล่าน้อยลงเพราะกลัวว่าสีเหล่านั้นจะเป็นภัยต่อตนเอง


เพราะงั้นผมเลยไม่กลัวหอยเม่นที่มีสีดำสนิทเพียงอย่างเดียวเท่าไหร่


เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็นพี่จันที่เปลี่ยนมาดูแลผมก็พาไปยังโรงอาหารในชั้นของตึกพักอาศัย ไม่ว่าจะเช้า กลางวันหรือเย็นผมก็มากินอาหารที่นี่เสมอ นอกจากจะอร่อยแล้วยังให้เยอะอีก


“ก๋วยจั๊บอืดหมดแล้ว”เสียงทุ้มของชายผมดำฝั่งตรงข้ามเรียกสติให้กลับเข้าร่างก่อนจะมองลงไปยังชามกวยจั๊บที่ตอนนี้อืดจนหมดความน่ากิน


“...”ตอนที่สามไม่อยู่เป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า


ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเหม่อ


ไม่เข้าใจกระทั่งเหม่ออะไรด้วยซ้ำ


“อยากเจอน้องสามเหรอ”สรรพนามที่ใช้เรียกสามของแต่ละคนต่างกันออกไปมีทั้งหัวหน้า ด๊อกเตอร์หรือแม้แต่น้องอย่างที่พี่จันเรียก


ผมเองถูกพี่ดาวเติมคุงท้ายชื่อเหมือนกัน


“สามยุ่งกับการทำงาน”ผมพูดเสียงเบา


“ก็ถูกนะ...รู้ไหมว่าทำไมถึงยุ่ง”


“...เพราะมีงานเยอะ”


“อืม...ก็ไม่ผิดแต่ยังไม่ใช่ ปกติน้องสามจะกินนอนอยู่ในห้องทดลองจนกว่างานจะเสร็จแต่พอมีเธอน้องสามก็เอาเวลาพวกนั้นมาอยู่กับเธอแทน”


“เพราะผมทำให้สามต้องยุ่งเหรอ?”ผมถามออกไปตามตรง


การได้ฟังความเห็นจากคนอื่นนอกจากสามจะช่วยให้รู้ความจริง ถ้าถามสามคำตอบที่ได้ก็ก็คงเป็นไม่ใช่


ตั้งแต่ตอนที่พิษของผมทำให้สามบาดเจ็บแล้วทั้งที่เป็นความผิดผมแต่สามก็เอาแต่บอกว่าไม่ใช่


จนบัดนี้แผลนั่นก็ยังไม่หาย เห็นสามบอกว่ามันจะกลายเป็นแผลเป็น


“ถ้าเอาตรงๆก็ใช่... ความจริงพวกงานวิจัยมีระยะเวลาในการทำค่อนข้างนานส่วนมากก็จะเผื่อเวลาให้อยู่แล้ว ถึงจะไม่ต้องอยู่ดึกก็ทำเสร็จทัน...มั้ง”


“งั้นทำไมถึงต้องทำจนดึกล่ะ”ถ้ามีเวลาเยอะทำไมถึงไม่ค่อยๆทำ ถ้าทำแบบนั้นก็จะได้อยู่ด้วยกันเร็วขึ้น


“ก็บอกแล้วไงว่าเพราะเธอน่ะลูก้า”พี่จันยกยิ้มขึ้นระหว่างพูด


“เพราะผม...”


“ใช่...น้องสามอยากรีบทำงานให้เสร็จเพื่อจะได้มีวันหยุดยาวพาเธอไปเที่ยว”


“...พาผม...”คำตอบที่ได้ยินทำให้ดวงตาสีเงินเบิกกว้างขึ้น


ไม่เคยรู้มาก่อนเลย...เรื่องนี้


“น้องสามคงไม่บอกสินะ...เห็นว่าครั้งก่อนที่พาไปสวนสัตว์ชอบมากเลยนี่”


“ชอบ”มีแต่สิ่งมีชีวิตแปลกๆเต็มไปหมด ถึงจะคนละสายพันธ์แต่ก็สามารถสื่อสารกันได้ไม่ยากเพียงแค่มนุษย์ปกติไม่สามารถทำได้เท่านั้น


“เพราะเธอชอบน้องสามเลยอยากพาไปอีกไง...เห็นว่าครั้งนี้จะพาไป...โอ๊ะ...”ยังพูดไม่ทันจบม้วนกระดาษทิชชู่ก็ลอยมาปะทะใบหน้าก่อนจะตกลงบนโต๊ะ


“ผมบอกแล้วไงว่าอย่างพึ่งพูดเรื่องนี้ให้ลูก้าฟังน่ะพี่จัน”เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นอย่างเคืองพร้อมกับก้าวเข้ามายังโต๊ะ


“สาม”ผมเรียกเบาๆ ก่อนหน้านี้ก็ได้กลิ่นสามเดินเข้ามาแล้วแต่ไม่ได้ทักเพราะสนใจเรื่องที่พี่จันเล่าอยู่


“แหม...ก็เห็นเขาซึมๆก็อยากช่วยให้ร่าเริงขึ้นนี่...ว่าแต่มาได้จังหวะพอดีเลยนะ”พี่จันหัวเราะเล็กน้อยพลางหยิบมวนกระดาษทิชชู่ไปวางไว้ข้างๆ


“สามมาสักพักแล้ว”ผมพูดขึ้น


“...ฮะ?”พี่จันดูจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยิน


“มาก่อนที่พี่จันจะพูดอีก”แค่ไม่เข้ามาทักเท่านั้น ที่ไม่เดินมาคงเพราะอยากรู้ละมั้งว่าพี่จันจะพูดอะไร


“แฮะๆ...โทษทีน้องสาม”พี่จันเงนหน้าไปหาสามที่จ้องมาอย่างเคืองๆ


“อุตส่าห์จะเซอร์ไพรนส์แท้ๆ”


“ก็น่าจะบอกไปเลย ไม่งั้นเขาก็นั่งเหงาหง๋อยอยู่แบบนี้”


“ไม่ได้เหงาหง๋อยสักหน่อย”ผมแก้ตัว


“ไม่เหงาจริงเหรอลูก้า”สามถามพร้อมกับเดินมากอดผมจากด้านหลังด้วยรอยยิ้มขำขัน


“...ไม่ได้เหงา”แค่เหม่อนิดหน่อยเอง


“ปากแข็ง”


“เปล่าสักหน่อย”


“จะเปล่าได้ไงเส้นอืดขนาดนี้”สามยังคงพูดแหย่ต่อแล้วใช้นิ้วชี้จิ้มแก้มผมเล่น


“ก็แค่ไม่หิว...”


“โห...ไม่หิว อย่ามาท้องร้องตอนนอนละกัน”


“สาม”ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงดังด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงขึ้น


ทำไมชอบแหย่กันอยู่เรื่อยเลยนะ


“มีอะไรครับลูก้า”ใบหน้ายิ้มๆนั่นน่าโมโหอย่างบอกไม่ถูกเลย


“ลูก้าตอนอยู่กับน้องสามนี่ต่างกับตอนอยู่กับพวกเราจังนะ”อยู่ๆพี่จันก็พูดขึ้น


“ต่างตรงไหน...”ไม่เห็นว่าจะต่างเลย


“นี่ไม่รู้ตัวเหรอว่าพูดเยอะขึ้นแถมยังมีอารมณ์ร่วมซะขนาดนั้น ติดน้องสามจริงๆเลยนะ”พี่หันหันมาบอก


“...”ผมตอนอยู่กับสามเป็นอย่างที่พี่จันพูดเหรอ


“ไม่ใช่แค่ติดนะพี่จัน...ต้องบอกว่าติดมากกก รู้ไหมว่าผมเคยถามว่าไม่ชอบพี่ดาวเหรอ...คำตอบที่ได้พี่จันลองเดาไหม”สามนั่งลงบนเก้าอี้ข้างผมพร้อมกับเล่าเรื่องผมให้พี่จันฟัง


“คำตอบเหรอ...ไม่ชอบละมั้ง”


“ผิด...ลูก้าตอบว่าเฉยๆ”สามเฉลย


“ฮืม...เฉยๆนี่เป็นคำตอบประมาณไม่ค่อยสนใจสินะ”


“ผมก็ว่างั้น...แล้วรู้ไหมว่าลูก้าพูดอะไรต่อ”สามถามอีกรอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม


“ไม่รู้สิ...เฉลยมา”


“ลูก้าบอกว่าชอบผมมากกว่า”ใบหน้าของตอนพูดคุยเรื่องผมดูมีความสุขมากจนผมต้องเม้มปากแน่นไม่ให้ตัวเองหลุดยิ้มออกมา


พอกินอาหารมื้อเย็นเสร็จพี่จันก็แยกไปผมและสามก็ขึ้นห้องตามปกติ ระหว่างรอสามอาบน้ำผมก็นั่งเฉยๆอยู่บนเตียงสีฟ้า...ในหัวก็นึกย้อนไปตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ไม่รู้ว่ามันผ่านมานานแค่ไหนรู้เพียงแค่ผมอยากให้มันเป็นแบบนี้ไปตลอด


อยากอยู่กับสามแบบนี้


ครืดดดด~ ครืดดดด~


แรงสั่นจากหัวเตียงเรียกผมให้หันไปมองเครื่องมือสื่อสารที่เรียกว่าโทรศัพท์ เหมือนสามจะเคยบอกว่าถ้ามันสั่นหรือร้องแปลว่ามีคนโทรมาหา


“สาม...มีคนโทรมา”ผมกระโดดลงจากเตียงไปบอกคนในห้องน้ำ


“ขอใส่เสื้อแป๊บ”สามตอบกลับมา


ไม่นานสามก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาก่อนจะใช้มือขยี้หัวผมเบาๆแทนการขอบคุณแล้วรีบวิ่งไปคว้าโทรศัพท์บนหัวเตียงขึ้นมารับสายทันที


“ครับ”รับสายแล้วสามก็หันมาทำปากขมุบขมิบโดยไม่ออกเสียงว่า...


ไปอาบน้ำเถอะ


ผมพยักหน้าตอบกลับไประหว่างที่เดินไปหยิบผ้าขนหนูบนราวตาด้านข้าง หยิบเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ


“โทรมาแบบนี้มีเรื่องอะไรอีกแล้วใช่ไหมเซโคร”นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่ผมจะปิดประตูห้องน้ำไป


สิ่งหนึ่งที่ผมรอคอยมาตลอดวันก็คือการได้นอนแช่น้ำแบบนี้ การอยู่ในอ่างที่มีน้ำเกือบเต็มทำให้รู้สึกดีจนอยากนอนในนี้ซะเหลือเกิน


อยู่แบบนี้เหมือนโดนน้ำโอบอุ้มเลย


“อ่า...”ชอบความรู้สึกนี้ที่สุดเลย


ผ่านไปสักพักใหญ่คิ้วของผมก็ขมวดเข้าหากันแน่นขึ้นเพราะปกติถ้าอยู่ในห้องน้ำขนาดนี้สามต้องมาเคาะเรียกแล้วแต่นี่กลับไม่มีแม้แต่เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้


เกิดอะไรขึ้น


ด้วยความสงสัยผมเลยลุกขึ้นจากน้ำแล้วเดินไปใส่ชุดนอนที่สามเตรียมไว้ให้ ด้วยร่างกายที่เติบโตเร็วกว่ามนุษย์ปกติสามเลยซื้อเสื้อไซด์ใหญ่กว่าตัวมาให้


พอเดินออกมาก็ต้องหยุดนิ่งเพราะสามยังคงถือโทรศัพท์ไว้แนบหูหันหลังให้อยู่ สามดูจะรู้ว่าผมออกมาแล้วเลยวางสายลงก่อนจะยกแขนเสื้อขึ้นเพื่อเช็ดอะไรบางอย่างออก


“นี่สาม...”คำพูดที่คิดไว้ถูกกลืนลงคอไปเมื่อเห็นใบหน้าของสามที่หันมา สามเป็นคนผิวสีน้ำผึ้งเวลาโกรธหรืออายก็เห็นได้แค่รางๆแต่ตอนนี้ขอบตาของสามกลับแดงจนเห็นได้อย่างชัดเจน


“หื้ม?”รอยยิ้มนั่นดูฝืนจนผมต้องก้าวไปหยุดอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่รีรอ


“เกิดอะไรขึ้น”เรื่องที่ผมอยากรู้ช่างมันไปก่อนเถอะ


ตอนนี้ผมต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสาม


ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้น


“เปล่า...”


“คิดว่าผมมองไม่ออกรึไง”ไม่ต้องรอให้พูดจบผมก็ตะโกนแทรกคำโกหกพร้อมดึงอีกฝ่ายให้ก้มลงมาเผชิญหน้ากันตรงๆ


“...ลูก้า”


“อย่าหลบตาผม”ผมพูดต่อเมื่อสามหลบตาหนี


“พรุ่งนี้ไปเที่ยวค้างคืนกันสองคนนะ”อยู่ๆสามก็เปลี่ยนเรื่อง


“...พรุ่งนี้สามต้องทำงานนี่”ไหนว่ายังไม่เสร็จเร็วๆนี้ไงแล้วทำไมถึงได้ว่างพาไป


“ลาเรียบร้อย...ผมจะพาลูก้าไปเที่ยวตลอด1อาทิตย์เลย”พูดเสร็จสามก็ดึงผมเข้าไปกอดแน่น ผมสัมผัสได้ว่ามันแน่นกว่าครั้งไหนๆที่ถูกกอด


“สาม...”


“นะ...ไปกันนะ”เสียงอู้อี้ที่กระซิบข้างหูกับสัมผัสของแขนที่โอบกอดไว้แน่น


ทั้งที่น่าจะดีใจกับการได้ไปเที่ยวกับสามแต่กลับมีความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้น


อะไรบางอย่างมันแปลก


“อืม”แต่ถึงแปลกการได้อยู่กับสามทั้งวันก็เป็นสิ่งที่ผมรอมากที่สุด


“ไปจัดของกันดีกว่า...เดี๋ยวจะพาไปเล่นน้ำตกแล้วก็เดินตลาด ถ้าเหลือเวลาจะพาไปทะเลด้วย”สามปล่อยแขนที่กอดผมก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อเอากระเป๋าเดินทางออกมา


“ไม่เป็นไรจริงเหรอสาม”


“อืม...ผมจะเป็นอะไรล่ะ แข็งแรงสุดๆเลย”คำตอบที่ได้และรอยยิ้มนั้นทำให้ผมเบาใจขึ้นนิดหน่อย


สามดูร่าเริงขึ้น แต่ก็ยังรับรู้ได้ถึงบรรยากาศแปลกๆที่แผ่ออกมา


ถ้าสามไม่ยอมบอกผมก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงจะบอกผมก็อาจทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิมก็ได้


“เพราะยังเป็นเด็ก...งั้นเหรอ”


“ว่าไงนะลูก้า”สามหันมาหาผมที่ยืนอยู่ห่างๆจึงแทบไม่ได้ยินสิ่งที่ผมพูด


“เปล่านี่...ผมช่วยนะ”ผมเลือกที่จะส่ายหน้าแล้วเดินเข้าไปช่วยสามจัดของ




(มีต่อนะคะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อค่ะ)

การเดินทางท่องเที่ยวตลอด1อาทิตย์ได้เริ่มขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว พวกเราเดินทางกันโดยรถยนต์คันสีเงินที่มีสามเป็นคนขับพายังสถานที่ต่างๆ สถานที่แรกที่พาไปเป็นตลาดที่มีคนเยอะมาก เรียกว่าเยอะจนเกิดอาการเวียนหัวขึ้นมา สามที่เห็นผมเป็นแบบนั้นก็รีบไปหาที่นั่งพักด้วยใบหน้าเป็นกังวล


สำหรับมนุษย์ปกติคงไม่เกิดอาการแบบนี้หรอก แต่เพราะอีกสายเลือดหนึ่งของผมมันมีประสาทสัมผัสที่ดีมากทำให้กลิ่นของมนุษย์หลายพันคนปะทะเข้ามาอย่างรุนแรง


หลังจากผ่านเรื่องวุ่นวายพวกเราก็ได้มาพักยังโรงแรมสุดหรู ห้องนอนของพวกเรากว้างมากมีทั้งห้องครัวห้องรับแขกและห้องน้ำราวกับอยู่ห้องของสามเลย


สิ่งเดียวที่ทำให้ผมไม่พอใจคือการที่มีเตียง2เตียงอยู่ภายในห้อง พอมี2เตียงแน่นอนว่าต้องแยกกันนอนเพราะเตียงนึงก็ไม่ได้ใหญ่มากเหมือนห้องสาม


“ไม่ชอบเหรอลูก้า”เสียงนุ่มๆของสามถามก่อนจะพลิกตัวมาหาผมจากเตียงข้างๆ


“ก็ไม่ใช่ไม่ชอบ...”


“จะบอกว่าเฉยๆสินะ”ไม่ต้องให้พูดจบสามก็สามารถต่อประโยคที่ผมคิดได้


“ก็นะ...นี่สามเห็นว่าเคยเลี้ยงเม่นใช่ไหม”


“ใช่...ไปได้ยินมาจาก อ้อ พี่จันไม่ก็ดาวสินะ”


“อืม...พี่ดาวบอก”สมแล้วที่เป็นสาม ไม่ต้องรอเฉลยก็รู้แล้ว


“ว่าแล้วเชียว...ผมเคยเลี้ยงประมาณ2ปีมาแล้ว”


“ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว?”


“อยู่สิ อยู่ในพิพิธภัณฑ์น่ะ หอยเม่นเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ผมชอบมากที่สุด ครั้งแรกที่ได้เพาะพันธ์ก็เลยเลือกตัวนึงมาเลี้ยง ผมพามันไปทุกทีไม่ว่าจะทำงานหรือพักผ่อนอยู่ห้อง”ระหว่างเล่าสามก็คลี่ยิ้มออกมาตลอด


“เพราะรักถึงได้พาไปทุกที่ แต่กับผมไม่ใช่แบบนั้นสินะ”ผมพูดเสียงเบา


“ลูก้า...ที่ผมไม่พาลูก้าไปทำงานไม่ใช่เพราะไม่รักแต่ถ้าลูก้าไปจะเบื่อมาก ห้องทดลองมีแต่ของอยู่เต็มไปหมด ทุกคนในนั้นทำงานกันแทบตลอดดังนั้นผมไม่มีเวลาดูแลลูก้าได้ ถ้าลูก้าอยู่กับดาวหรือพี่จันก็จะมีคนดูตลอด”


“เพราะผมยังเด็กสินะ”เพราะยังเด็กถึงได้ต้องมีคนมาคอยดูแล


“ใช่ ลูก้ายังเด็ก ผมยังไม่สามารถปล่อยให้ลูก้าทำอะไรหลายๆอย่างได้ด้วยตัวเอง”


“แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเรียกว่าโตล่ะ”ต้องใช้คำว่าเด็กไปถึงตอนไหน


“2ปี สำหรับลูก้าถ้าครบ2ปีก็แปลว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว”สามคิดสักพักก่อนจะตอบออกมา


“อีกนานเลย”


“ไม่นานหรอกตอนนี้ลูก้าอายุ10เดือนแล้วนะ เหลือแค่ปีกับอีก2เดือนเอง”


“ไม่นาน...”


“อืม...ขอเล่าเรื่องหอยเม่นต่อนะ หลังจากผมเลี้ยงมันได้ประมาณอาทิตย์นึงผมก็คิดว่าสภาพแวดล้อมที่จำเป็นสำหรับหอยเม่นไม่เหมาะที่จะถูกหิ้วไปมาแบบนี้ เพราะงั้นผมเลยพามันไปไว้ในพิพิธภัณฑ์ ยังไงการเลี้ยงสัตว์ก็ไม่เหมาะกับผมที่ต้องทำงานตลอดหรอก”พูดจบสามก็แหงนหน้าขึ้นมองเพดาน


“ทำไมสามถึงทำงานนี้ล่ะ น่าจะมีงานอีกเยอะที่สามสามารถทำได้”ไม่จำเป็นต้องทำงานที่หนักจนแทบไม่มีเวลาพักเลย


“นั่นสิ...ทำไมกันนะ ที่รู้คือการได้ทดลองหาในสิ่งที่ไม่รู้มันสนุกมากเลย ยิ่งการได้เพาะพันธ์และเลี้ยงดูเหล่าสัตว์น้ำหลากหลายชนิดมันทำให้ผมมีความสุข ผมชอบทะเล เพราะงั้นงานที่อยากทำจึงเป็นงานที่เกี่ยวกับทะเลแม้ว่างานนั้นจะมาพร้อมกับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ก็ตาม”


“หน้าที่เหรอ?”


“หน้าที่น่ะ บางทีก็เป็นสิ่งที่ไม่อยากทำแต่จำใจต้องทำ อย่างการเป็นหัวหน้าผมก็ไม่ได้ยากหรอกนะแค่มีคุณสมบัติที่คู่ควรเท่านั้นเอง”


“สาม...”


“เรื่องของผมคงจะน่าเบื่อเกินกว่าจะเป็นนิทานก่อนนอนนะ นอนกันเถอะ”สามลุกขึ้นเดินไปปิดไฟตรงผนังแล้วกลับมานอนที่เดิม
ความมืดที่เข้าปกคลุมไม่ได้ทำให้ความง่วงเพิ่มขึ้นสักนิด เตียงเย็นๆอุ่นขึ้นเพราะมีผ้าห่มผืนหนาแต่มันก็ยังไม่ใช่ความอุ่นที่ผมต้องการ


“สามนอนรึยัง”ผมพูดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศมืดสนิท


“เกือบแล้ว...นอนไม่หลับเหรอ”ร่างสามในความมืดขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะพลิกตัวมาทางผม แม้จะมืดสนิทเพียงใดการเคลื่อนไหวนั้นก็ไม่อาจรอดสายตาผมไปได้


“...ไปนอนด้วยได้ไหม”ไม่อยากทำตัวเหมือนเด็กแต่การกระทำของผมตอนนี้มันเด็กจริงๆ


“แคบนะ”


“ไม่เป็นไร”ยิ่งแคบก็ยิ่งสัมผัสถึงไออุ่นจากร่างกายได้มากขึ้นไปอีก


“งั้นก็มาสิ”


เพียงแค่ได้ยินคำตอบผมก็รีบสะบัดผ้าห่มทิ้งแล้วตรงไปล้มตัวลงนอนบนเตียงของสามทันที สามขยับตัวไปริมเตียงเพื่อให้ผมมีพื้นที่นอนมากขึ้น


“ติดนอนกับผมแบบนี้ต่อไปจะนอนคนเดียวได้เหรอ”น้ำเสียงห่วงๆดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามืออุ่นๆที่เอื้อมมาลูบเส้นผมสีฟ้าแซมแดงของผมเบาๆ


“ทำไมต้องนอนคนเดียวด้วย”พูดเหมือนกับว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน


หมับ!


ร่างผมถูกสามที่ขยับเข้ามาใกล้คว้าตัวไปกอดแน่น ความแนบชิดทำให้สามารถสัมผัสถึงร่างกายของอีกฝ่ายที่สั่นได้ย่างชัดเจน


“สาม...”เป็นอะไร


อยากจะถามออกไปแต่สิ่งที่ทำได้มีเพียงเอื้อมมือไปกอดอีกฝ่ายให้แน่นขึ้นเท่านั้น


บรรยากาศมืดๆแถมเงียบสงัดเกิดขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไรต่อ สามกอดผมไว้แน่นด้วยร่างกายสั่นๆ ผมเองก็กอดตอบสัมผัสด้วยความเต็มใจ


ผมอยากนอนหลับไปแล้วตื่นขึ้นในวันที่ตัวเองโตพอที่สามจะยอมบอกถึงสิ่งที่อยู่ในใจนี่สักที


หลังจากวันนั้นการท่องเที่ยวตลอดหนึ่งอาทิตย์ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี สามพาผมไปเห็นโลกอันกว้างใหญ่และเห็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาอย่างน้ำตกหรือภูเขา บรรยากาศแสนร่มรื่นมีผู้คนไม่มากเหมือนอย่างตลาดก่อนหน้านี้ผมเลยค่อนข้างชอบ ยิ่งได้นอนพักค้างแรมท่ามกลางธรรมชาติก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกดีสุดๆ


เมื่อท่องเที่ยวเสร็จพวกเราก็ขับรถกลับมายังศูนย์วิจัย ข้าวของต่างๆถูกยกขึ้นไปจัดการส่งให้แม่บ้านซักก่อนที่ผมจะขอตัวไปแช่น้ำ การเที่ยวติดต่อกันหลายวันแม้จะทั้งสนุกและตื่นเต้นแต่ก็ทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยอยู่พอสมควร


“ลูก้า ออกไปข้างนอกกัน”นี่คือคำถามแรกที่เจอเมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมา


“เราพึ่งกลับมานะ”จะไปอีกแล้วเหรอ


“อืม ไปกันเถอะ”


“ทำไมถึงทำหน้าเศร้า”ผมเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตาสีน้ำตาลอย่างสงสัย ใบหน้าสีน้ำผึ้งแสดงความเศร้าออกมาให้เห็น


“ขอยังไม่บอกนะ ไปกันเถอะ”สุดท้ายก็ต้องยอมเดินตามสามออกมาข้างนอกโดยไม่ได้รับคำตอบในสิ่งที่ต้องการ


สามพาผมเดินไปตาสะพานที่เป็นทั้งแหล่งเพาะพันธ์ บ่อพักสำหรับสัตว์ป่วยหรือแม้แต่การดูแลสัตว์น้ำซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในสัตว์เหล่านั้นที่อยู่ที่นี่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็มีหลายครั้งที่กลับร่างไดโนเสาร์และทุกครั้งผมก็ต้องมาอยู่ในบ่อที่129เสมอ


ผมไม่รู้ว่าต้องควบคุมการกลายร่างยังไง สิ่งที่ผมรู้คือถ้าอยากอยู่ในร่างมนุษย์ให้นึกว่าอยากอยู่กับสาม


กลิ่นของอะไรบางอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนนั่นทำให้ผมหยุดขาที่ก้าวตามสามไป ตรงหน้านั่นมีเรือจอดอยู่ แน่นอนว่าแค่เรือไม่ทำให้ผมหยุดก้าวหรอกแต่เพราะสิ่งที่อยู่บนเรือนั่นต่างหาก


ความน่าเกรงขามในระดับที่ไม่เคยได้สัมผัส


ความน่าเคารพที่แม้ไม่เคยเห็นหน้ายังทำให้รู้สึกได้


ใครกัน


สัมผัสกับกลิ่นแบบนั้น


ไม่ใช่มนุษย์


“เห็นว่าพึ่งกลับจากไปเที่ยวเหรอทรี”เสียงทุ้มออกนุ่มดังขึ้นพร้อมกับผู้ชายสองคนที่เดินลงมา คนแรกมีเส้นผมสีบลอนทองและมีดวงตาสีเขียวอมฟ้า ส่วนคนที่สองเป็นคนเดียวกับที่ผมสัมผัสได้เมื่อครู่..เส้นผมสีเทาแซมส้มกับดวงตาสีเหลืองอัมพันนั่นราวกับสัตว์ป่าที่ถูกจับให้มาอยู่ในร่างมนุษย์


เพียงแค่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้อันตราย


“ใช่...มาเร็วไปรึเปล่าเซโคร”ทันทีที่ชื่อนั้นหลุดออกมาจากปากสามผมก็นึกได้ทันทีว่าเป็นชื่อเดียวกับที่ได้ยินตอนคุยโทรศัพท์ครั้งก่อน


หลังจากได้รับโทรศัพท์นั่นสามก็แปลกไป


“อยากเจอเร็วๆนี่นา สวัสดีลูก้าเราเคยเจอกันแล้วแต่คงจำไม่ได้สินะ”ชายที่ชื่อเซโครหันมาคุยกับผมบ้าง


“...ทำอะไรสาม”ผมรู้ว่ามันไม่ใช่คำทักทายที่ดีเท่าไหร่ แต่ทำไงได้ในเมื่อสามไม่บอกก็มีแต่ต้องทำคนที่รู้เท่านั้น


“ฮืม? หมายถึงอะไร?”


“ตั้งแต่ที่คนชื่อเซโครโทรมาสามก็แปลกไป”


“พูดอะไรน่ะลูก้า”สามพูด


“พูดความจริงไง สามไม่ยอมบอกผมเลยต้องถามคนที่รู้”


“ลูก้า...”


“นี่ยังไม่ได้บอกเขาเหรอทรี”เซโครหันไปถามสามที่ยืนเกาหัวอยู่ข้างๆ


“โทษที...”


“มีเรื่องอะไร”ผมถามย้ำอีกครั้ง


“ถ้าทรียังไม่บอกงั้นผมจะบอกให้ ก่อนอื่นของแนะนำตัวก่อนผมหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่หรือเซโคร ส่วนนี่คนรักและคู่หูของผมชื่อยูทาร์”เซโครผายมือไปยังชายด้านข้างด้วยรอยยิ้ม


“...ผมลูก้า”


“นายก็เป็นเหมือนผมสินะ”เส้นผมสีเทาแซมส้มถูกลมทะเลพัดไปมาจนยุ่งเหยิงแต่เจ้าของกลับไม่สนใจมันนัก เขาจ้องมองมายังผมอย่างสำรวจเช่นเดียวกับที่ผมมองไป


“อืม”ผมพยักหน้าแทนคำตอบ แม้จะไม่มีคำพูดมากมายเราก็สามารถสื่อการได้


คนคนนี้เป็นไดโนเสาร์กลายพันธุ์เหมือนผม


“ในเมื่อทักทายเรียบร้อยขอเข้าเรื่องเลยนะ ผมกับยูทาร์มารับลูก้ากลับไปอยู่กับพวกเราที่เกาะน่ะ”


“...พูดอะไร”ประโยคนั่นทำให้ร่างกายเบาโหวงจนแทบทรุดลงไปกองกับพื้น


กลับไปเหรอ


หมายถึงต้องไปจากสามเหรอ


ดวงตาสีเงินของผมหันไปประสานกับดวงตาสีน้ำตาลของสามที่สั่นระริกอยู่ด้านข้างเพื่อถามว่าสิ่งที่ได้ยินมันไม่ใช่เรื่องจริง
ช่วยบอกผมสิว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง


“...ขอโทษที่ไม่ได้บอก”สามพูดเสียงสั่น


“สาม”ทำไมล่ะ


“ทรีทำหน้าที่ได้ดีมากแล้ว...ตั้งแต่ที่พาลูก้ามาก็คอยดูแลอย่างดีมาตลอด ทั้งสอนและพาไปเปิดหูเปิดตา ก็อยากให้เขาอยู่ต่อหรอกนะแต่จะรบกวนมากกว่านี้คงไม่ดีเท่าไหร่ ด้วยอายุในตอนนี้มากพอจะให้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆได้แล้ว”เซโครเป็นฝ่ายตอบแทน


“...หน้าที่เหรอ”จะบอกว่าที่สามทำทั้งหมดมันเป็นเพียงหน้าที่งั้นเหรอ


“ลูก้า...”


“ที่อยู่ด้วยกันมาตลอดมันคือหน้าที่ของสามงั้นสินะ”เพราะเป็นแค่หน้าที่ สามไม่ได้อยากมาอยู่กับผมด้วยความตั้งใจของตัวเองตั้งแต่แรกแล้ว


“ไม่ใช่นะลูก้า คือว่า...”


“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”ตอนนี้ผมไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น


“แต่ว่า...”


“พวกคุณมาพาผมไปสินะ”ผมเงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตาสีเขียวอมฟ้า


“พูดให้ถูกคือมารับน่ะ”


“เอาสิ ผมจะไป”ถ้าสามพาผมมาที่นี่ก็แปลว่าต้องการให้ผมไปอยู่แล้ว


นั่นสินะ ก็ผมมันเป็นแค่เด็ก


เด็กที่สามต้องมาคอยดูแลเพราะเป็นหน้าที่


“ไม่ลาทรีหน่อยล่ะ”เซโครถามเมื่อเห็นผมเดินขึ้นไปบนเรือ


“ไม่จำเป็น...”


“ลูก้า!”สามตะโกนเรียกก่อนจะดึงแขนผมให้หันกลับไปหาแต่เพราะถูกขืนไว้เลยไม่สำเร็จ


“ขอบคุณสำหรับการทำหน้าที่อย่างดีนะครับ”นี่เป็นคำลาสุดท้ายก่อนที่ผมจะสะบัดมือแล้วเดินเข้าไปข้างในโดยไม่สนเสียงตะโกนเรียกที่ตามมา


“ลูก้า!!”


ตอนนี้ในหัวมันสับสนไปหมด


ไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น


ก่อนหน้านี้ผมกับสามยังมีความสุขกับการไปเที่ยวอยู่เลย


มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้


“จะดีเหรอ เขาร้องไห้อยู่นะ”เสียงทุ้มจากยูทาร์เรียกสติให้ผมหันไปมอง


“...ใคร”ผมถามทั้งที่พอจะเดาคำตอบได้


“คนที่ชื่อสามไง”


“...”ทันทีที่ได้ยินหัวใจก็ชาวาบอย่างไม่มีสาเหตุ


สามร้องไห้


“แต่ถึงจะออกไปตอนนี้คงไม่ทันแล้ว”จริงอย่างที่อีกฝ่ายพูด ตอนนี้เรือได้แล่นออกจากท่าแล้ว


“ทำไมถึงร้อง”ทำไมสามถึงร้องไห้ คนที่อยากร้องมันคือผมต่างหาก


“ที่ร้องเพราะเสียใจที่จากกันไง”


“ไม่จริง ที่สามดูแลผมก็เพราะหน้าที่ เขาดีกับผมก็เพราะหน้าที่ ทุกอย่างมันเป็นหน้าที่ทั้งนั้น”เพราะเป็นแค่หน้าที่ก็ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องเสียใจเลยนี่


“จริงเหรอ”


“อะไร”ผมเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตาสีเหลืองอำพันอย่างไม่เข้าใจ


“คิดว่าที่เขาทำมันเป็นแค่หน้าที่จริงเหรอ”


“ถ้าไม่ใช่หน้าที่...ทำไมถึงไม่ห้าม ทำไมถึงพามาที่นี่ทั้งที่รู้ว่าผมต้องจากไปด้วยเล่า”ผมตะโกนออกมาอย่างหมดความอดทด
ไม่เข้าใจ


ไม่เข้าใจเลยสักนิด


“คำถามนั่นเก็บไว้ให้คนชื่อสามตอบดีกว่านะ”


“พูดเหมือนผมจะได้เจอเขาอีกงั้นแหละ”


“ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวนาย”


“หมายความว่ายังไง”


“ไว้ถึงเกาะเซโครจะบอกทุกอย่างที่นายคาใจ”พอพูดจบเขาก็เนออกไปด้านนอกปล่อยให้ผมจมอยู่กับความคิดตัวเองตามลำพัง


สามเสียใจที่ผมจากมาจริงเหรอ


สามไม่ได้ดูแลผมแค่เพราะหน้าที่จริงเหรอ


ทำไมถึงต้องพาผมมาที่นี่ทั้งที่ต้องเสียใจ


มีคำถามมากมายที่อยากรู้คำตอบ


เพียงแต่การกลับไปถามตอนนี้อาจไม่ได้รับคำตอบ


เพราะผมยังเด็กเลยไม่สามารถรับรู้อะไรได้สักอย่าง รวมถึงไม่อาจเข้าใจถึงสาเหตุที่สามทำแบบนี้


ถ้างั้นอีกหนึ่งปีสองเดือนผมจะกลับไป


จะกลับไปหาสามในวันที่ผมโตเป็นผู้ใหญ่


จากนั้นผมจะถาม จะถามถึงทุกอย่างที่ค้างคาใจ

...........................................................................

มาต่อแล้วสำหรับตอนที่5

หลายคนที่อ่านมาถึงตอนนี้อาจมีความรู้สึกว่ามันค้างและหน่วงๆอยู่สักหน่อย

ตอนนี้อาจเป็นตอนที่หน่วงที่สุดในเรื่องแล้วล่ะค่ะ 555

ไม่ถนัดแต่งความรู้สึกหน่วงๆแบบนี้เท่าไหร่เลยค่อนข้างใช้เวลานาน

ขอแจ้งกำหนดการอัพหน่อยนะคะ เราจะพยายามอัพ1ตอนไม่เกิน2ทิตย์ซึ่งบางครั้งอาจมีช้ากว่าบ้าง ทุกคนก็ช่วยรอกันด้วยนะคะแต่เราจะพยายามอัพให้ได้ค่ะ

ขอบคุณทุกคนสำหรับทุกๆคอมเม้นและทุกๆกำลังใจที่มีให้นะคะ

เห็นแบบนี้เราได้อ่านทุกคอมเม้นเลยน้า มีความสุขมาที่หลายๆคนชอบ

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

บ๊ายบาย

----มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์----

วันนี้ขอเสนอเป็นสัตว์แทนนะคะเพราะยังไม่มีไดโนเสาร์ออกโรง



เม่นทะเล หรือ หอยเม่น อยู่ในกลุ่มเอคไคนอยด์ที่มีสมมาตร อาศัยอยู่ตามพื้นแข็ง มีสีต่างกัน ด้านที่เกาะกับพื้นเป็นปาก ทวารหนักอยู่กลางลำตัว ด้านบนสุด เม่นทะเลจะมีหนามสองขนาด หนามขนาดยาวใช้ในการผลักดันพื้นแข็ง ขุดคุ้ยสิ่งต่างๆหรือช่วยในการฝังตัว หนามเล็กสั้นใช้ยึดเกาะเวลาปีนป่าย เม่นทะเลที่มีพิษจะมีหนามที่กลวงและมีพิษอยู่ภายใน หนามนี้จะแทงทะลุผิวหนังได้ง่าย เมื่อหักจะปล่อยสารพิษออกมา

เครดิต : http://phuketaquarium.org/sea-urchin/

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ก็เศร้าอยู่นะ แต่เดี๋ยวก็ได้เจอกันใช่ไหมคะ
นึกภาพตอนสามกระเตงหอยเม่นไปไหนมาไหนด้วยแล้วรู้สึกว่าน่ารักดี ฮา

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
โอ้ยยย สงสารทั้งสองคนเลย รอวันที่ลูก้าโต รอวันที่ทั้งสองคนจะได้เจอกันอีกครั้ง

ปล.ถ้าจะทับศัพท์คำว่า Surprise ไม่ต้องมี น เน้อออ

ออฟไลน์ AppleA-

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เศร้าใจจังเลยค่า สงสารสามกับลูก้ามากเลย
ยิ่งสามรักลูก้าประหนึ้งลูกน้อยในอุทรขนาดนี้ ยิ่งลธก้าเข้าใจผิดยิ่งเศร้าหนักแน่เลย ลูก้ารีบๆโค แล้วมาดูแลสามนะหนู

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ทำไมปล่อยลูก้าไปละ

ออฟไลน์ m.starlight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งื้ออออ :hao5:

ค้างหนังมาก สงสารน้องงง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น้องเม่นนนนนนนนนน

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
รอก่อนนะ อีก 1ปี 2เดือน

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
แค่14เดือนเอง ไม่นานหรอก

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ทรมานใจทั้งคู่เลยอ่ัะ.. 1ปี2เดือนมันนานเหลือเกินสงสาร... สาม.. สงสารลูก้า.... ความใกล้ชิดคือบ่อเกิดความรัก

ออฟไลน์ lolata

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
จะรอวันที่ลูก้ากลับมานะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
จากเพื่อไปเรียนรู้สิ่งที่ลูก้าต้องทำต่อไปอ แล้วก็จะเจอกันใหม่นะ อย่าโกรธสามนะลูก้า

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
สงสารทั้งคู่เลย เรื่องมันเศร้าเนอะ

ออฟไลน์ Nunng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ลูก้ามาแล้วววววววว :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :mew1:ยูมาร์ยังพูดน้อยเหมือนเดิม 555

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
โตไวๆนะจะได้ไปหา 3

ออฟไลน์ hoihak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
สามก็จะจมอยู่กับควาทเสียใจนั่น ._.  :hao5:
โตไวๆนะลูก้า จะได้มาหาสามไวๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อุ้ย!! น้องจะโต

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
สงสารทั้งคู่เลยย แต่แอบคิดว่าสามผิดอยู่นิดๆนะ
น่าจะอธิบายตอนที่ยังมีเวลาและโอกาสอะ
เพราะไม่ว่าสามพูดอะไรลูก้าก้เชื่อสามอยู่แล้ว
1ปี2เดือนที่สามบอกว่า ไม่นานหรอก
จะซึ้งกันตอนนี้แหละว่ามันยาวนานแค่ไหน
รอค่าา

ออฟไลน์ MissMay

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารลูก้า ถ้าสามใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ค่อยๆ อธิบาย ให้ลูก้าทำความเข้าใจ การจากลามันคงง่ายกว่านี้ และสามารถรอคอยที่จะพบกันอีกครั้งอย่างมีความหวัง ดีกว่าปล่อยให้ลูก้าไปโดยไม่รู้อะไร สับสน และไม่รู้ว่าอยาคตจะได้เจอกันรึเปล่า

//ซับน้ำตา :sad4:

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :katai1: แงงง ตอนนหน้าจะวาร์ปมั้ย จะวาร์ปหรือเปล่าา น้องจะโตพอแล้วใช่มั้ย สามต้องคิดถึงมากแน่ๆเลย แต่เค้าจะได้มาเจอกันใช่มั้ยคะ

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
สามรีบโตนาาา

ออฟไลน์ AppleA-

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แวะมารอน้องลูก้าลูกน้อยในดวงใจค่ะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ลูก้าเอ้ย น่าสงสาร
ไว้อีกสองปี กลับมาหาสามใหม่นะ

สามไม่ใช่ไม่รักไม่ห่วงนะ แต่ลูก้าต้องมีชีวิตที่ถูกทางกว่านี้
เพราะลูก้ายังไม่ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตของตัวเองเลย




 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด