<< วิญญาณเสน่หา >>[สนพ.Sensebook]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << วิญญาณเสน่หา >>[สนพ.Sensebook]  (อ่าน 87655 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                          วิญญาณเสน่หา

                                                                               บทที่ ๓



                      บรรยากาศของตลาดในยามสายที่ยังมีผู้คนจับจ่ายหนาตาทำให้ผู้ที่นั่งอยู่ในร้านน้ำชาเล็ก ๆ ทอดสายตามองอย่าง

รื่นรมย์ ถนนหนทางที่สร้างทั่วพระนครตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ห้านั้นขยับขยายเสียจนกว้างขวาง

ผู้คนที่มีฐานะเริ่มหันมาสัญจรกันด้วยรถออร์โตโมบิลจากต่างประเทศจนขวักไขว่ แต่ถึงกระนั้นชาวบ้านก็ยังนิยมใช้การเดินทางด้วยเรือ

ในลำคลองเช่นเดิม นอกจากนั้นยังมีรถลากของเจ๊กที่เข้ามาอาศัยใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารวิ่งกันเกลื่อนกลาด


                    เมื่อถนนหนทางมีมากขึ้น ตลาดที่ตั้งบนบกจึงมีมากขึ้นไปด้วยนอกจากตลาดน้ำดั้งเดิมที่มีก่อนแล้ว การค้าขายขยับขยาย

กิจการหลายอย่างให้เข้ากับชาวตะวันตกที่เข้ามามีอิทธิพลต่อบ้านเมือง รวมไปถึงศิลปะความบันเทิงที่เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วในรัช

สมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน



                  หากแต่เสียงเอะอะเอ็ดตะโรกับความชุลมุนที่กำลังเกิดขึ้นไม่ไกลจากที่นั่งจิบน้ำชาอย่างสำราญนั้น ทำให้หัวคิ้วโก่งที่ตั้ง

อยู่บนกรอบหน้ารูปหัวใจนั่นต้องขมวดลงอย่างสงสัย ดวงตาเรียวที่มีขนตายาวเป็นแพปกคลุมเบื้องบนเพ่งมองอยู่ตรงบริเวณเกิดเหตุที่

เป็นริมถนนสายเล็กในตลาดยามเช้า



                 “ไอ้ฉ่ำ เอ็งไปดูทีว่าเกิดกระไรขึ้น”



                เสียงนุ่มออกคำสั่งแก่บ่าววัยกลางคนที่นั่งคุยอยู่กับเพื่อนวัยเดียวกันอยู่ที่โต๊ะถัดไปของร้านน้ำชา ทำให้มันต้องเด้งตัวลุก

อย่างรวดเร็วแล้ววิ่งไปหาข่าวด้วยความชำนาญในการสอดรู้ ก่อนที่จะวิ่งกลับมาหาผู้เป็นนายพลางหอบเป็นหมาหอบแดดเมื่อรายงาน

ข่าวต่อผู้เป็นเจ้านายของมัน



                 “นายเหมือน ลูกชายเจ้าคุณฝั่งขะโน้นขอรับคุณพุ่ม กำลังให้พวกบ่าวรุมตีนไอ้หนุ่มคนหนึ่งอยู่ กระผมดูแล้วเห็นท่าจะอาการ

หนักเพราะคงจะโดนไปหลายตีนแล้ว”



                  คุณพุ่มของไอ้ฉ่ำถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะรู้ถึงกิตติศัพท์ดีว่านายเหมือนบุตรชายของพระยาไกรสรสิทธิ์ที่มีบ้านเรือน

หลังใหญ่ตั้งอยู่ใกล้กับคุ้งแม่น้ำนั้นขึ้นชื่อเรื่องอันธพาลแค่ไหน แต่ที่ต้องถอนหายใจออกมาก็ด้วยความกลัดกลุ้ม พุ่มจะไม่สนใจเลยหาก

ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวของกับตระกูลนี้ด้วยการหมั้นหมายอยู่กับแม่ละมัยน้องสาวของนายเหมือน ที่ใกล้จะถึงกำหนดวิวาห์ในอีกไม่นานนัก

ด้วยการจัดการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย


                แต่ครั้นมองเห็นสภาพเจ้าคนเคราะห์ร้ายที่โดนรุมทำร้ายจากชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ในขณะที่มันมีเพียงสองมือกับสองเท้าเพื่อ

ปกป้องตนเองแล้วนั้น หากไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเกรงว่ามันอาจจะช้ำในจนตายคาถนนเสียก็เป็นได้ คิดได้ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นยืนด้วย

ท่าทีงามสง่า


                   แม้พุ่มจะไม่ใช่ชายหนุ่มรูปร่างกำยำ แต่ด้วยเพราะความสูงโปร่ง ผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้านใบหน้าหมดจดนี่แหละที่

ทำให้พุ่ม หรือขุนพิพิธโสภณแห่งกรมช่างสิบหมู่สังกัดกรมวัง ผู้เป็นบุตรชายโทนของพระยาวิเชียรอัครภาคมีชื่อเสียงขจรขจายถึงความ

งดงามมีเสน่ห์รวมทั้งอุปนิสัยอ่อนน้อมและโอบอ้อมอารี ทำให้หญิงงามในพระนครเฝ้าถวิลหาและพากันเสียดายเมื่อเขามีภาระเกี่ยวดอง

อยู่กับแม่ละมัยเสียแล้ว


                พุ่มก้าวเดินข้ามถนนเส้นเล็กที่ชาวบ้านพากันมุงดูและพูดคุยด้วยความตื่นเต้นแต่กลับไม่กล้าให้ความช่วยเหลือเจ้าหนุ่ม

เคราะห์ร้าย เพราะคนต้นเหตุคือนายเหมือนที่กำลังยืนกอดอกหน้าเหี้ยมคุมเชิงให้ลูกน้องกลุ้มรุมทำร้ายคนดวงซวยอยู่ กิตติศัพท์ของ

นายเหมือนเป็นที่เลื่องลือถึงความเกกมะเหรกเกเรและได้บิดาให้ท้าย จะมีเพียงแต่ขุนพิพิธโสภณเท่านั้นที่กล้าเข้าไปกล่าวห้าม



                “หยุดก่อนเถิด กระผมว่าทำร้ายมันหนักมือเกินไปแล้วนะขอรับพ่อเหมือน”



                เสียงนุ่มแต่หนักแน่นทำให้นายเหมือนผู้ชายร่างโตหันหน้ามามองอย่างไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นว่าคนที่กล้าเข้ามาขัดขวางเป็น

ใครใบหน้าถมึงทึงจำต้องคลายออกอย่างไม่เต็มใจนัก



                 “นึกว่าใครที่กล้ามาห้าม ที่แท้ก็พ่อพุ่มนี่เอง หยุดก่อนพวกมึง ว่าที่น้องเขยกูเข้ามาห้าม ไม่มีตามองหรือกระไร”



                 เสียงโห่ฮาดังขรมจากคนที่ยังไม่สาแก่ใจในการรุมทำร้ายคนอื่น แต่พวกมันก็ยอมหยุดตามคำสั่งของเจ้านายพลางก้าวเดิน

ถอยหนีเปิดทางให้พุ่มได้มองเห็นชายหนุ่มวัยเพิ่งพ้นแตกพานนอนตัวงออยู่บนพื้นดิน ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ร่องรอยฟกช้ำแต่ดวงตาคมคู่นั้น

ยังแกร่งกล้าไม่ยอมสยบถึงแม้จะหาทางสู้ไม่ได้  และทันใดดวงตาคู่นั้นกลับตวัดมองมายังเขา เมื่อพุ่มได้สบประสานสายตาหัวใจของ

เขากลับเต้นตึกตักจนต้องเบนสายตาหนีกลับมาอยู่กับผู้ร่วมสนทนา พุ่มเอ่ยถามนายเหมือนที่ยังมีทีท่าคุกคามไม่เลิกรา



                   “ไอ้หนุ่มคนนี้มันทำผิดกระทงไหนรึ พ่อเหมือนจึงได้ลงโทษมันแรงขนาดนี้”



                    “เฮอะ ถุย!”



                    เหมือนถ่มน้ำลายใส่ร่างงอนั้นจนมันหาญกล้าโงหัวขึ้นมาด้วยสายตาคั่งแค้น แต่ทันใดนั้นลูกน้องของนายเหมือนก็กระทืบ

ลงไปบนแผ่นหลังจนมันส่งเสียงร้องด้วยความแค้นที่ตอบโต้อะไรไม่ได้



                  “เพราะมันเหิมเกริมเข้าไปชิงอาหารที่พวกกระผมกำลังกินอยู่ไม่ทันอิ่มหนำ พ่อพุ่มลองตรองดูว่ามันเลวแค่ไหน”



                พุ่มลอบถอนหายใจ หากนับว่าผิดก็คงจะผิดจริงในโทษฐานขโมย แต่โดยปกตินายเหมือนก็ตั้งวงสุรากินทิ้งกินขว้างอยู่แล้ว

หากใจมีเมตตาสักนิดแบ่งปันให้คนยากไร้หิวโหยก็คงจะไม่เกิดเรื่องนี้ ยิ่งได้ยินเสียงซุบซิบมาจากชาวบ้านที่ล้อมวงยืนมองด้วยความ

เห็นใจด้วยแล้ว



                 “มันก็หยิบกินแต่ของเหลือไอ้ที่โยนทิ้งบนพื้นดอก มิใช่หยิบคว้าในสำรับเสียเมื่อไหร่”



                 มองร่างที่ฟกช้ำเพราะถูกทำร้ายแล้วพุ่มจึงตัดสินใจ หากเขาไม่ยื่นมือเข้าไป คล้อยหลังจากนี้คงถูกนายเหมือนและลูกน้อง

ทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตแน่



               “เอาเป็นว่ากระผมขอชีวิตมันไว้ก็แล้วกัน เห็นใจกลัวว่ามันจะตายเสียก่อน ขอให้กระผมได้จ่ายอัฐชดใช้ค่าอาหารให้พ่อ

เหมือน พ่อเหมือนจะคิดค่าเสียหายเท่าไรก็แจ้งมา”



                    นายเหมือนแสยะยิ้มเมื่อได้ยินคำขอนั้น และเมื่อกล่าวราคาค่าตัวของการช่วยเหลือออกไปก็เรียกเสียงฮือฮาจากชาวบ้าน

ที่มุงมองอย่างไม่เห็นด้วย



                  “ถ้าพ่อพุ่มใจดีจะเลี้ยงดูสำรับอาหารแทนไอ้สารเลวนี่ กระผมก็ขอคิดค่าอาหารแค่หนึ่งชั่งคงไม่มากเกินไป”



                  พุ่มนิ่งงัน หนึ่งชั่งสำหรับการช่วยเหลือมนุษย์ที่ไม่มีทางต่อสู้เขาไม่รู้ว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ แต่เมื่อเห็นคนที่พยายามยันกาย

ตนเองขึ้นมานั่งอยู่ตรงพื้นนั่นแล้วพุ่มจึงตัดสินใจได้ไม่ยาก เขาล้วงห่อเงินมาจากชายพกกางเกงแพรเนื้อดีแล้วโยนให้นายเหมือนคว้าไป

ด้วยสีหน้าเรียบเฉย มีแต่นายเหมือนที่กระหยิ่มกับอัฐที่ได้รับไป



               “พ่อเหมือนน่าจะพอใจกับค่าอาหารแล้วก็เชิญเถิด ส่วนไอ้หนุ่มคนนี้กระผมจะขอตัวไว้เอง”



                 นายเหมือนไม่ได้สนใจอีก เขาพาพวกเฮละโลจากไป พุ่มหันไปให้ความสนใจกับชายหนุ่มร่างผอมที่แรงพอจะฟื้นจน

สามารถยันกายขึ้นมานั่งคุกเข่าได้แล้ว



                “เอ็งชื่ออะไร”



               ร่างผอมกะหร่องเงยหน้าขึ้นมา มันจ้องมองใบหน้าของบุรุษที่งดงามที่สุดตั้งแต่มันเคยพบด้วยความนับถือและซาบซึ้งใน

น้ำใจที่ให้การช่วยเหลือคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างมัน



                “กระผมชื่อดินขอรับ ขอบพระคุณเหลือเกินที่ช่วยชีวิต กระผมเป็นหนี้ชีวิตของคุณแล้ว”



                “ไม่ต้องคิดว่าเป็นหนี้กระไรดอก ถือเสียว่าข้าช่วยลูกนกลูกกา เอ็งไปได้แล้วไอ้ดิน”



                  พุ่มแค่อยากจะช่วยชีวิตของคนไร้ที่พึ่ง เขาไม่ชอบเห็นคนตกทุกข์ได้ยาก เมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้วชาวบ้านที่ยืนออกันก็

ต่างแยกย้ายกันไป พุ่มจึงเดินกลับหลังเพื่อลงเรือเดินทางไปทำงาน เขาก้าวเดินไปยังท่าจอดเรือเรื่อย ๆ จนกระทั่งชะงักเมื่อไอ้ฉ่ำบ่าว

ติดตามสะกิดแขนยิก ๆ



                   “คุณพุ่มขอรับ ไอ้ดินที่คุณพุ่มเพิ่งช่วยไว้มันเดินตามมาไม่ยอมห่างเลยแน่ะขอรับ”



                  ไอ้ฉ่ำเอ่ยขึ้นทำให้พุ่มต้องหยุดเดินและหันกลับมามองดินอีกครั้ง



                  “เอ็งตามมาทำไมไอ้ดิน”



                   ดินทรุดตัวลงกราบแทบเท้าของพุ่ม



                 “กระผมเป็นเด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตร ที่คุณช่วยกระผมไว้ครานี้เป็นบุญคุณที่ไม่อาจทดแทนหมด กระผมไม่มีที่ไป ขอไป

อยู่รับใช้คุณเพื่อทดแทนพระคุณเถิดขอรับ”



                พุ่มสบตากับมัน ดวงตาของมันกระจ่างใสไร้วี่แววกลับกลอกจนพุ่มนึกเวทนา



                “พ่อแม่เอ็งไม่มีรึ”



                “ตั้งแต่เกิดกระผมยังไม่เคยเห็นพ่อแม่เลยขอรับ กระผมอยู่กับหลวงตากินข้าวกินข้าวก้นบาตรจนโต นึกละอายแก่ใจที่โต

เป็นควายแล้วยังต้องแย่งไอ้แกละไอ้จุกที่วัดกินจึงกราบหลวงพ่อออกจากวัดแล้วมารับจ้างทำงานแลกอัฐแลกข้าว กระผมไปกับเรือขน

ซุงเดินทางขึ้นล่องไปค้าขายที่ปากน้ำโพ แต่เมื่อวันก่อนกระผมถูกไอ้เจ้าของเรือมันให้พวกของมันบังคับกระผมให้ทำงานและทำร้ายจน

บาดเจ็บตกเรือและลอยมาติดอยู่ที่ท่าน้ำขอรับ”



                   ดินเล่าประวัติของมันอย่างรันทด พุ่มยิ่งนึกเวทนาสงสารมันมากขึ้นไปอีก มองสภาพอิดโรยของดินแล้วพุ่มจึงตัดสินใจ



                  “เอาเถิด หากไม่มีที่ไปเอ็งก็ไปอยู่กับข้า บ้านเรือนใหญ่โตจะเลี้ยงเอ็งเพิ่มอีกสักคนคงไม่เสียหาย เอาไว้ข้าจะแจ้งแก่เจ้า

คุณพ่อของข้าเองก็แล้วกัน”



                นับจากวันนั้น ไอ้ดินก็เข้าไปอยู่อาศัยในเรือนหลังใหญ่ของพระยาวิเชียรอัครภาคบิดาของพุ่ม ช่วงแรกพุ่มให้ดินช่วยทำงาน

ที่ต้องใช้แรงงานในบ้านเช่นเดียวกับบ่าวผู้ชายคนอื่น ๆ ดินเป็นคนขยันขันแข็งและมีน้ำใจไม่นิ่งดูดาย ไม่นานนักมันจึงเป็นที่รักของบ่าว

ในเรือน และเพราะข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ร่างผอมโซของมันจึงค่อยมีเนื้อมีหนัง ผิวสีดำแดงของดินเป็นมันเงางามยามมีเหงื่อชโลม

กาย



                    “หน่วยก้านไอ้ดินมันไม่เลวนัก ให้มันมาติดตามพ่อพุ่มแทนไอ้ฉ่ำเถิด”



                    คุณหญิงพร้อมมารดาของพุ่มกล่าวกับเขาในวันหนึ่ง



                      “มันยังหนุ่มแน่น หน้าตาก็ดูไม่เลว จับมาฝึกมารยาทเสียหน่อยแล้วให้คอยติดตามรับใช้พ่อพุ่ม ไอ้ฉ่ำมันก็แก่ลงไปมาก

จะทำอะไรก็งก ๆ เงิ่น ๆ ไอ้ดินมันดูคล่องแคล่วว่องไว พ่อพุ่มจะได้ไม่ลำบากตอนที่ออกไปทำงานไกล ๆ”



                พุ่มทำงานที่กรมช่างสิบหมู่ได้ตำแหน่งขุนพิพิธโสภณ รั้งตำแหน่งช่างเขียนฝีมือดีโดยงานหลักนั้นคือวาดเขียนลงรักปิดทอง

ตามอุโบสถวัดหลวงแล้วแต่จะได้รับคำสั่งมาจากกรมวัง ในบางคราวหากต้องไปทำงานในวัดที่ห่างไกลพระนคร พุ่มก็ต้องนอนที่กุฏิพระ

แทนที่จะกลับบ้าน


                 หลังจากวันนั้นไอ้ดินก็กลายเป็นบ่าวคนสนิทของพุ่ม มันรับใช้เจ้านายของมันทั้งกลางวันและกลางคืนมิให้ขาดตกบกพร่อง

มันเทิดทูนเจ้านายมันจนขึ้นชื่อ


                   “คุณพุ่มของไอ้ดิน”



                   กลายเป็นคำติดปากยามที่ดินได้คุยกับใครต่อใครเรื่องคุณพุ่มของมัน ไอ้ดินชอบเวลาได้ติดตามเจ้านายออกไปทำงาน

เมื่อคุณพุ่มหรือขุนพิพิธโสภณกำลังออกแบบและวาดลวดลายวิจิตรอยู่ในอุโบสถของวัด ภาพที่เจ้านายของมันใช้สมาธิในการถือพู่กันลง

สีทีละน้อยช่างงดงามจนมันหลงใหล กว่าจะรู้ตัวไอ้ดินก็หลงรักนายของมันเข้าเต็มหัวใจ แต่มันก็ต้องหักห้ามไว้เพราะมันกับคุณพุ่มนั้น

ช่างห่างไกลจนมันไม่กล้าคาดหวัง มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ชายด้วยกันอีกต่างหาก มันได้แต่คอยปรนนิบัติพัดวีดูแลนายของมัน ยุงไม่ให้ไต่ไร

ไม่ให้ตอมตั้งแต่เช้าจรดเย็น





มีต่ออีกนิด...



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2017 01:29:51 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


อ่านต่อตรงนี้...




                   ยามบ่ายวันหนึ่งที่พุ่มไม่ได้ทำงาน เขานั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ชานบ้านโดยมีดินเฝ้าอยู่ไม่ห่าง ไอ้ดินชะเง้อชะแง้มองหนังสือ

ในมือเจ้านายของมันด้วยความสงสัย


                  “คุณพุ่มอ่านตำราอะไรหรือขอรับ เห็นนั่งทอดถอนหายใจหลายรอบเหลือเกิน”


                   พุ่มวางหนังสือในมือลงแล้วหันไปยิ้มให้ดิน เพียงเท่านี้ไอ้ดินก็หัวใจพองโตแล้ว


                  “พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องมัทนะพาธา เอ็งเคยได้ยินหรือเปล่าดิน”

           
                   ไอ้ดินส่ายหน้าพรืด กระทั่งตัวหนังสือสักตัวมันยังไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร น้ำหน้าอย่างมันน่ะหรือจะอาจเอื้อมถึงกับอ่านงาน

พระราชนิพนธ์ได้


                    “ไม่เคยหรอกขอรับคุณพุ่ม”


                    “เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักที่น่าสงสารของนางอัปสรคนหนึ่งที่ผิดหวังในความรักจนกลายเป็นดอกกุหลาบ”


                   เพราะเห็นบ่าวคนสนิทนั่งฟังอยู่ด้วยความสนใจพุ่มจึงใจดีเล่าให้ฟัง


                 “มัทนาเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ มีเทวดาองค์หนึ่งหลงรักนางชื่อว่าสุเทษณ์ เทวดาองค์นี้ใช้ให้วิทยาธรบังคับด้วยมนตราไปพา

นางมา  แต่ครั้นขอความรักมัทนากลับปฏิเสธ สุเทษณ์จึงสาปให้มัทนาไปเกิดที่โลกมนุษย์ นางขอไปเกิดเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม สุ

เทษณ์จึงให้นางไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ จะเป็นมนุษย์ได้ในคืนวันเพ็ญเท่านั้นต่อเมื่อมีความรักจึงจะพ้นสภาพการเป็นดอกไม้ และถ้าหาก

ทนทุกข์เพราะความรักให้อ้อนวอนแล้วสุเทษณ์จะมาช่วย”

                  “ที่โลกมนุษย์ฤาษีในป่าช่วยเลี้ยงดูนาง ต่อมีกษัตริย์ชื่อท้าวชัยเสนเดินทางเที่ยวในป่าและพบกับมัทธาจึงต่างหลงรักกัน

ท้าวชัยเสนทูลขอนางกับฤาษีและพากลับไปวัง แต่ปรากฏว่าท้าวชัยเสนนั้นมีเมียอยู่แล้ว และพระมเหสีก็โกรธและหึงหวงมากจึงหาเรื่อง

ออกอุบายใส่ไคล้ว่ามัทนาเป็นชู้กับทหารเอกของท้าวชัยเสน และแอบส่งข่าวให้พระบิดาส่งกำลังมาตีเมืองลูกเขย”


                    “เลวจริง ๆ ขอรับ”


                     ดินที่นั่งฟังตาแป๋วถึงกับสบถออกมา พุ่มยิ้มเมื่อเห็นดินโมโหแทนมัทนา


                   “ท้าวชัยเสนเชื่อมเหสีจึงสั่งประหารทั้งมัทธากับทหารเอก”


                   “อ้าว เลวกว่าอีกขอรับ” ดินอ้าปากหวอ


                    “แต่คนของมเหสีสำนึกผิดมาสารภาพกับท้าวชัยเสนว่าทุกอย่างเป็นแผนการชั่วร้าย ท้าวชัยเสนตกใจมากแต่โชคดีที่

ทหารที่รับหน้าที่เพชฌฆาตทูลว่ายังไม่ได้ประหารทั้งคู่”


                 “เฮ้อ โชคดี” ดินถอนหายใจโล่งอก


                   “ฤาษีรับมัทนากลับไปอยู่ในป่า นางอ้อนวอนให้เทวดาสุเทษณ์ช่วยให้นางกลับไปสวรรค์ สุเทษณ์ยังไม่คลายรักนางจึง

เอ่ยขอให้มัทนาปลงใจอีกครั้ง แต่มัทนาก็ไม่ยอมเพราะไม่ต้องการเป็นหญิงสองผัวและใจยังไม่อาจตัดจากท้าวชัยเสนได้ เทวดาสุ

เทษณ์โกรธมากจึงสาปให้มัทนากลายเป็นดอกกุหลาบตลอดไป ท้าวชัยเสนที่มาตามหาแต่ไม่ทันเสียใจมาก ฤาษีที่เลี้ยงมัทนาจึงได้

ช่วยให้พรว่าต้นกุหลาบมัทนาจะมีอายุขัยเท่ากับท้าวชัยเสน จากนั้นท้าวชัยเสนจึงนำต้นกุหลาบมัทนาไปปลูกในวัง”


                  “น่าสงสารนางมัทนานะขอรับ ยามรักก็ยอมทำได้ทุกอย่างแต่กลับต้องมาผิดหวัง”


                “ตรงกับคำประพันธ์ในเรื่องนี้อย่างไรล่ะ”


                 พุ่มคว้าหนังสือขึ้นมาเปิดและอ่านบทประพันธ์ให้ดินฟัง


                  “ความรักเหมือนโรคา           บันดาลตาให้มืดมน
 

                ไม่ยินและไม่ยล                     อุปสัคคะใดใด


                ความรักเหมือนโคถึก              กำลังคึกผิขังไว้


                ก็โลดออกจากคอกไป             บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง


                 ถึงหากจะผูกไว้                      ก็ดึงไปด้วยกำลัง


                 ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง                     บ หวนคิดถึงเจ็บกายฯ”
 



                       ยังมิทันจะอธิบายความหมายพุ่มก็ต้องวางหนังสือลงเมื่อบ่าวในเรือนวิ่งมาแจ้งว่าท่านเจ้าคุณวิเชียรฯผู้เป็นบิดาเรียกให้

ไปพบ พุ่มจึงต้องรีบไปหาบิดาทันที



                    “เจ้าคุณพ่อมีสิ่งใดกับกระผมหรือขอรับ”



                    เจ้าพระยาวิเชียรอัครภาคมองบุตรชายโทนด้วยสายตาเข้มงวด



                   “ถึงเวลาที่พ่อพุ่มต้องตบแต่งเป็นฝั่งเป็นฝากับแม่ละมัยได้แล้ว มันไม่งามที่จะปล่อยให้ลูกเต้าของเขากลายเป็นสาวเทื้อ

คาบ้าน ผัดผ่อนมาเป็นระยะเวลานานพ่อกับแม่เสียหน้ากับคำต่อว่าของเจ้าคุณฝั่งขะโน้นมิใช่น้อย”
 
 


                                                                                TBC

                                                    เด็ก ๆ รู้จักมัทนะพาธา กันหรือเปล่าเอ่ย

                                                           :m12: :m12: :m12: :m12: :m12:






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2017 01:37:57 โดย Belove »

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
       รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ  :mew1:  :mew1:
ชอบจังเลยค่ะอ่านไปได้ฟิวแบบโบราณแบบนี้  :pig4:  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2017 23:51:37 โดย เป็ดอนุบาล »

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
โถ่ ดินเอ้ย ชีวิตเอ็งนี้...ยังไม่เข้าช่วงไคลเเมกซ์แต่เราพอจะรู้ๆแล้วล่ะค่ะ...แงๆๆ ดินนนน สงสารอ่า! :hao5:

ปอลิง.อ่าา คิดถึงจังเลยน้า~ แบบเรียนสมัยเก่านี้ จำได้ว่าเคยท่องด้วย แหมๆ//บ่งบอกอายุ...

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
น่าติดตามมาก ชีวิตช่างน่าสงสารนะ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
จำได้ว่าอ่านคู๋นี้ในเรื่องสั้นแล้วร้องอะจึ๋ยระยะอายุของพระเอกนายเอกตอนเกิดใหม่มากแต่ชอบแนวนี้แปลกใหม่ดี

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ไม่เคยอ่านกลอนเลยรู้สึกว่านักแต่งเก่งเข้าใจประยุกใช้

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ไม่เคยอ่านเลยจ้าา เรื่องนี้พอแต่งแบบตอนยาวแล้วมีส่วนขยายเยอะจริงๆแหละและเหมือนจะปรับบทด้วย แต่ยังไงก็เห็นแววดราม่ามาแต่ต้นเลยนะเนี่ย ดินเอ้ยย หลงรักนายไม่พอยังต้องมารู้ว่านายต้องแต่งงานอีกดินจะทำใจยังไง

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
บ่ฮู้จัก เน้อ คุณพุ่มของไอ้ดิน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
 :o8: :o8: รออ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เคยอ่านกลอนค่ะแต่ว่าเรื่องราวของนางมัทนาเราจำไม่ได้แล้วว่าเคยเรียนไหม
พออ่านแล้วก้อสงสารเจ้าดินมันล่วงหน้าเลย

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ไม่เคยอ่ะ คราวนี้รู้แล้ว
ตามต่อๆๆๆๆ

ออฟไลน์ PAtxxkMxxn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                      วิญญาณเสน่หา

                                                         บทที่ ๔


                พุ่มถึงกับขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน ความคิดต่อต้านปะทุขึ้นมาจนเขาต้องหักห้ามไว้มิให้เอ่ยปาก

คัดค้านบิดาด้วยความรุนแรงผิดวิสัย หากเป็นเวลาก่อนพุ่มอาจมีเพียงแค่ความเฉยชามิได้กระตือรือล้นในการ

วิวาห์ แต่ในบัดนี้เขากลับรุ่มร้อนดังมีไฟมาลนที่ใจอันเนื่องจากสาเหตุใดพุ่มก็ยังอธิบายแก่ใจตนเองมิได้ เขา

รู้เพียงว่าเขาไม่ต้องการแต่งงานกับแม่ละมัย วูบหนึ่งคล้ายมีใบหน้าคมเข้มของบ่าวในปกครองกระจ่างขึ้นมา

จนเขาต้องรีบปัดความรู้สึกเหล่านั้นออกไป
               


            “มีงานจิตรกรรมฝาผนังที่วัดบวรนิเวศที่กระผมได้รับมอบหมายในเดือนหน้าขอรับเจ้าคุณพ่อ

กระผมเกรงว่าอาจจะไม่มีเวลา…”



                “ไฮ้  พ่อพุ่มอย่าเอาเรื่องงานมาเป็นข้ออ้าง”



                เจ้าคุณวิเชียรฯ โบกไม้โบกมือไปมาเพื่อหยุดคำปฏิเสธของบุตรชายโทนจนพุ่มต้องเงียบเสียง

ลง



                “ปีนี้พ่อพุ่มอายุอานามยี่สิบสี่แล้ว บวชเรียนรึก็ผ่านมาหมดรับราชการเจริญก้าวหน้า เป็นเวลาที่

เหมาะแก่การมีคู่ครองแล้ว ไม่รู้ละ เดือนหน้าก่อนถึงฤดูน้ำหลากพ่อจะจัดแจงงานวิวาห์ให้แก่พ่อพุ่มกับแม่ละ

มัย”



                น้ำเสียงเด็ดขาดของผู้เป็นบิดานั่นเองที่ทำให้เขาต้องกลับมานอนปวดหัวอยู่ในห้องตนเอง คิ้ว

โก่งย่นเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว จิตใจของพุ่มกระวนกระวายเมื่อถูกบังคับให้กระทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ



                “คุณพุ่มเป็นกระไรรึขอรับ สีหน้ามิสู้ดีเลย”



                ดินผิดสังเกตตั้งแต่มันยกโถใส่น้ำเข้ามาในห้องแล้ว เจ้านายของมันหายเข้าไปในห้องท่านเจ้า

คุณเสียนานจนมันถือโอกาสไปยกผ้าผ่อนของเจ้านายมาจากแม่แช่มที่เพิ่งจะซักอบจนหอมมาเก็บในห้อง

จนเสร็จเรียบร้อยมันเพิ่งจะเห็นพุ่มเดินออกจากเรือนใหญ่ของท่านเจ้าคุณด้วยสีหน้าเคร่งเครียดผิดกับทุกวัน


                ผ้าชุบน้ำหมาดหอมกลิ่นมะลิที่ลูบไล้อยู่บนท่อนแขนรวมทั้งน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย

จากบ่าวที่คุกเข่าอยู่ข้างเตียงจุดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าที่มีแต่ความกังวลนั้นได้ไม่ยาก พุ่มเหยียดแขนข้างหนึ่ง

ออกไปให้ไอ้ดินมันเช็ดเนื้อเช็ดตัวสร้างความสดชื่นให้ ตั้งแต่ไอ้ดินมาอยู่ด้วยพุ่มมีแต่ความสบายใจเมื่อมัน

ดูแลไม่เคยขาดตกบกพร่องจนเขาเอ็นดูมันกว่าบ่าวคนอื่นมากนัก


                เขามองหน้ามัน ไอ้ดิน เด็กหนุ่มที่เขารับมาเลี้ยงจากข้างถนน เพียงเวลาไม่นานมันกลายเป็น

ชายหนุ่มรูปร่างกำยำ เมื่ออยู่ในเขตบ้านมันจะเปลือยท่อนบนสวมใส่เพียงผ้าขาวม้ายกรั้งจนถึงต้นขา อวด

กล้ามเป็นมัดอยู่บนแผ่นอก ผิวเข้มคร้ามแดดใบหน้าของมันก็ดูคมกริบจนเขาเองยังใจเต้นเมื่อมองหน้ามัน

ตรงๆ หลายครั้งที่พุ่มเคยเห็นบ่าวผู้หญิงบางคนชม้ายชายตาให้มัน


                “ไอ้ดิน ปีนี้เอ็งอายุเท่าใดแล้ว”



                ไอ้ดินเงยหน้ามองคุณพุ่มของมันด้วยแววตาเทิดทูนอย่างไม่ปิดบังความรู้สึก



                “ไอ้ดินอายุจะครบยี่สิบแล้วขอรับคุณพุ่ม”



                คุณพุ่มของมันมองสบตาอย่างมีนัยประหลาดที่ไอ้ดินแปลไม่ออก



                “อายุครบบวชแล้ว ข้าจะให้เอ็งบวช หลังจากนั้นถ้าเอ็งคิดจะมีเมียข้าจะไปขอให้ เอ็งไปรักไป

ชอบสาวคนไหนไว้บ้างหรือเปล่า”



                โธ่ คุณพุ่มของไอ้ดิน



                ไอ้ดินคร้านจะบอกกับคุณพุ่มว่ามันจะไปรักไปชอบสาวคนใดได้ ในเมื่อมันยกหัวใจทั้งดวงให้

คุณพุ่มของมันไปหมดแล้ว ไอ้ดินได้แต่สุมความอึดอัดไว้จนคับแน่นในอก มันได้แต่ก้มหน้านิ่งเก็บอาการไว้



                “ดิน ขึ้นมาบนเตียงแล้วมานวดขมับให้หน่อย”



                ไอ้ดินเงยหน้าขวับ จ้องมองนายของมันที่ให้โอกาสมันขึ้นไปบนที่นอนยัดปุยนุ่นที่คุณพุ่มกำลัง

นอนหลับตาพริ้มอยู่นี่หรือ



                “เร็วสิไอ้ดิน อย่าชักช้า ข้าปวดหัวอยู่ไม่รู้หรือไร”



                ไม่ต้องรอให้สั่งซ้ำ ไอ้ดินผวาขึ้นไปนั่งอยู่ด้านหัวเตียง มันยกศีรษะทุยได้รูปของคุณพุ่มมาวาง

อยู่บนตักของมันต่างหมอนอย่างทะนุถนอมพลางใช้ปลายนิ้วนวดวนอยู่ตรงขมับทั้งสองข้างให้นายของมัน



                “มือหนักดีแท้ นวดเสียหัวข้าแทบระเบิด”



                “คุณพุ่มเจ็บหรือขอรับ ไอ้ดินขอโทษ อย่าโกรธไอ้ดินนะขอรับ”



                มันรีบละล่ำละลักพูดพลางหยุดมือเพราะกลัวจะทำให้พุ่มไม่พอใจ แต่นึกไม่ถึงว่าพุ่มกลับ

ยกมือมาวางอยู่บนหลังมือของมัน ฝ่ามือของเจ้านายช่างนุ่มจนไอ้ดินอยากจะดึงมาแนบแก้มสากของมันยิ่ง

นัก



                “ใครบอกว่าข้าโกรธ ข้าชอบนะที่มีเอ็งอยู่ใกล้ ดิน ข้าขอบใจเอ็งที่มาดูแลข้าเป็นอย่างดี”



                น้ำเสียงคุณพุ่มฟังดูอ่อนล้าจนแม้แต่คนโง่อย่างไอ้ดินก็เข้าใจได้โดยง่าย



                “ถ้าอีกหน่อยข้ามีเมีย เอ็งคงจะมาอยู่แบบนี้ไม่ได้แล้ว”



                ไอ้ดินใจหาย หน้ามันซีดเผือดเมื่อได้ยิน คุณพุ่มของไอ้ดินจะแต่งเมียเข้าบ้าน มือที่แตะอยู่ตรง

ขมับเจ้านายเผลอกำแน่นด้วยความรวดร้าว



                “ผู้หญิงอย่างแม่ละมัยคงจะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ข้าเป็นแน่ ข้าคงจะคิดถึงเอ็งน่าดู อ๊ะ!”



                พุ่มอุทานอย่างตกใจเมื่อขณะที่นอนหนุนตักแข็งของไอ้ดินและหลับตาครุ่นคิดด้วยความไม่

สบายใจ จู่ ๆ ริมฝีปากของเขาก็ถูกปิดแนบลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นก็เห็นเพียงกรอบ

หน้าคมของบ่าวคู่ใจที่โน้มกายก้มหน้าลงมาจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าวรินรดอยู่ตรงปลายคาง ริมฝีปากแห้ง

ผากของไอ้ดินที่แนบชิดอยู่กับกลีบปากของพุ่มทำให้เจ้าตัวใจสั่นและหมดแรงห้ามปรามจนต้องปล่อยให้บ่าว

ต่ำต้อยเป็นฝ่ายผละใบหน้าออกไปเองเมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่


                สิ้นไร้ซึ่งคำสนทนา มีเพียงดวงตาสองคู่ต่างจ้องสบตากันอย่างค้นคว้าเข้าไปในห้วงลึกของอีก

ฝ่าย ดวงตาคู่หนึ่งบอกถึงความรักและบูชาจนหมดใจในขณะที่อีกคู่หนึ่งกลับมีแต่ความสับสนและหวาดวิตก

กับสิ่งที่เกิดขึ้น



                “ดิน ... ข้า...”



                “ไอ้ดินขอโทษ ไอ้ดินมันเลวที่กระทำการจาบจ้วง ไอ้ดินมัน…”



                ดินเพิ่งจะได้สติว่ากระทำหยามเกียรติเจ้านายของมันนัก สีหน้าของมันแตกตื่นลนลานซีด

เผือด ดินกลัวว่าพุ่มจะโกรธและขับไล่มันให้ไกลห่าง หากแต่ดินไม่นึกเลยว่าพุ่มจะเป็นฝ่ายยกสองมือโน้มคอ

ดินลงมาให้มันได้มีโอกาสแนบชิดปากสากลงกับกลีบปากนุ่มของผู้เป็นนายอีกครั้ง


             ดินตกตะลึงแต่มันไขว่คว้าโชคของมันได้เร็วยิ่ง และคราวนี้มันไม่ยอมสูญเสียโอกาสที่จะขบเม้ม

ไปตามเรียวปากนุ่มอย่างที่ใจมันต้องการมาเนิ่นนาน ปลายลิ้นอุ่นค่อย ๆ แตะไล้ให้คุณพุ่มของมันเผยอปาก

รับจนมันสอดลิ้นลึกเข้าไปชิมความหวานจนได้ มือสากประคองกรอบหน้างดงามให้เงยรับจนความเร่าร้อน

เริ่มมาเยือนสู่จูบอันยาวนานของมัน


              เนิ่นนานจนเกือบขาดใจฝ่ามือนุ่มที่จับแค่ก้านพู่กันจึงได้ผลักไหล่มันออกให้ไอ้ดินหอบลึกใน

ขณะที่คุณพุ่มนอนร่างสั่นไหว กลีบปากที่ดินรู้แล้วว่าหวานฉ่ำนักสั่นระริกแดงเรื่อ ไอ้ดินคว้ามือนุ่มมาแนบ

แก้มได้สำเร็จอย่างใจนึก มันมองสบตาเรียวที่อยู่บนใบหน้าแดงซ่านของคุณพุ่มแล้วกดจูบไปที่กลางฝ่ามือ



                “คุณพุ่มไม่ต้องพูดกระไรดอกขอรับ บ่าวอย่างไอ้ดินได้เพียงแค่นี้ก็ดีใจเหลือเกินแล้ว”



                “ดิน ข้า…”



                ร่างกายของไอ้ดินกำลังต้องการมันรู้ตัวดี และร่างกายของคุณพุ่มก็กำลังต้องการมันเองมอง

ออกเช่นกัน ถึงอย่างไรทั้งเจ้านายและมันก็เป็นมนุษย์ปุถุชนที่ยังต้องการปลดปล่อยด้วยธรรมชาติ  แต่มันไม่

อยากให้นายของมันแปดเปื้อนไปยิ่งกว่านี้ ไอ้ดินขยับตัวไปด้านปลายเท้าของคุณพุ่มก่อนจะเอ่ยเสียงสั่นพร่า



                “ให้ไอ้ดินช่วยคุณพุ่มได้มีความสุข นะขอรับ”



                บ่าวต่ำต้อยไม่รอคำตอบ มันเอื้อมมือไปปลดกางเกงแพรลื่นมือออกแล้วดึงขอบผ้าลงช้า ๆ

พลางลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนับเมื่อแก่นกายอันจ้อยที่เคยเห็นของนายในตอนนี้กลับฟูฟ่องชวนกลืนกิน

ไอ้ดินไม่รอช้ามันโน้มกายลงต่ำแล้วคว้ามากอบกุมในมือพลางเปิดปากใช้ลิ้นแตะลงที่ส่วนหัวสีสวยก่อนเม้ม

ปากตามลงไป



                “ดิน อา อย่าทำแบบนี้ มันไม่ดีต่อเอ็งด้วย”



                ผู้เป็นเจ้านายผงกศีรษะมองด้วยความตกใจ ไม่เคยมีใครแตะต้องพุ่มใกล้ชิดถึงเพียงนี้ แต่

ดวงตาคมของดินช่างแน่วแน่เสียเหลือเกินที่จะทำให้พุ่มมีความสุช



                “ชีวิตนี้ของไอ้ดินมีคุณพุ่มเป็นเจ้าของ ต่อให้ตายไปวิญญาณของไอ้ดินก็ยังจะภักดีต่อคุณพุ่ม

เพราะฉะนั้นเรื่องเพียงเท่านี้ คุณพุ่มอย่าได้เป็นกังวลเลยขอรับ”



                พุ่มสะดุ้ง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครมาทำเรื่องเช่นนี้ให้เขา ไอ้ดินเหลือบตาขึ้นมองอย่างพอใจ

เมื่อมันรูดปากลงไปช้า ๆ ให้แท่งร้อนของนายสัมผัสทุกส่วนของโพรงปากของมัน ลิ้นร้อนควานรอบจนได้ยิน

เสียงครางลึกจากคุณพุ่ม ตอนนั้นไอ้ดินก็เริ่มรูดรั้งยกหัวขึ้นลงรวดเร็ว



                “ฮัก ฮัก ดิน ไอ้ดิน”



                พุ่มเสียวสะท้านจนต้องเด้งเอวเข้าหา ดวงตาเรียวราวเนื้อทรายปรือฉ่ำหวานพลางสอดนิ้วขยุ้ม

กลุ่มผมดกดำของไอ้ดินไว้แน่น ท่อนเนื้อเกร็งหนักเมื่อพบกับความฉ่ำชื้น ไหนจะมือสากที่ลูบไล้บีบเค้นอยู่

ตรงต้นขานั้นอีกเล่า แต่ละอย่างเร่งเร้าให้พุ่มผวา เขาเกร็งกายพ่นลมหายใจร้อนระอุออกมาเมื่อร่างกาย

ตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ



                “ไม่ไหวแล้วดิน อีกนิดเดียว อื้อ”



                ไอ้ดินดูดรั้งจนแก้มตอบเมื่อพุ่มกระตุกแล้วพ่นอัดน้ำคาวออกมาให้ไอ้ดินกลืนกินไปหมดสิ้น

พุ่มนอนดวงตาลอยคว้างหอบหายใจลึกเร็วจนคลายเหนื่อยจากนั้นจึงเผลอหลับไปอย่างสบายตัวที่ได้ปลด

ปล่อย ในขณะที่ไอ้ดินกระวีกระวาดทำความสะอาดให้นายของมันและนั่งมองอย่างพอใจเมื่อเห็นสีหน้าของ

นายผ่อนคลายเมื่อหลับใหล

               ส่วนตัวมันนั้นเล่าแค่ได้เห็นหน้านายและใช้มือสากกอบกุมตัวเองแล้วจินตนาการว่ามีคุณพุ่มอยู่

ในอ้อมกอดไอ้ดินก็ปลดปล่อยได้ไม่ยากเหมือนอย่างที่มันแอบกระทำอยู่เกือบทุกคืน แต่ในคืนนี้มันต้องรีด

น้ำตัวเองออกไปถึงสามคราวกว่าจะสบายตัวและบรรเทาความร้อนรุ่มในวัยหนุ่มได้หมด



                “คุณพุ่มของไอ้ดิน สุดที่รักของไอ้ดิน”



                มันพึมพำแผ่วเบาก่อนที่จะล้มตัวลงนอนอยู่บนพื้นห้องข้างเตียงของเจ้านายนั่นเอง ดวงตาคม

ของมันปิดลงอย่างสุขสมและหลับฝันดีตลอดราตรีนั้น
 






              ไตรภูมิผวาสุดตัวจากการหลับใหล ร่างสูงโปร่งยกท่อนแขนเช็ดเหงื่อที่ไหลรินอยู่ตรงขมับ

ราวกับเพิ่งผ่านการวิ่งรอบสนามฟุตบอลมาหมาด ๆ และดึกดื่นคืนนี้ก็อีกเช่นเคยที่องคาพยพใต้ร่มผ้าจะปลด

ปล่อยน้ำคาวออกมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวทั้งที่เพิ่งสะดุ้งตื่น หากแต่ที่แปลกคือในค่ำคืนนี้ความฝันของเขา

ชัดเจนเสียเหลือเกิน


                ชัดเจนเหมือนกำลังดูละครโทรทัศน์ ภาพของชายหนุ่มรูปร่างกำยำกล้ามเนื้อแน่นเป็นลอนช่าง

คมชัด มันน่าแปลกที่เขารู้สึกผูกพันจนหน่วยตาชื้นร้อนผ่าว ไตรภูมิยกปลายนิ้วแตะขอบตาตนเองอย่างไม่

เข้าใจ


               หัวใจของเขาร้อนรนจนทนอยู่นิ่งบนเตียงไม่ไหว ร่างสูงของไตรภูมิก้าวลงจากเตียงแล้วก้าวไป

เปิดไฟกลางห้องจนสว่างไสวก่อนเดินไปที่แผ่นเฟรมผ้าใบที่ขึงกระดาษรออยู่แล้ว เขาหยิบชิ้นงานที่ทำค้าง

ไว้ออกไป คว้าดินสอขึ้นมาร่างเค้าโครงตามนิมิตอย่างรวดเร็ว       


                มันเป็นภาพที่ไตรภูมิร่างแบบได้เร็วที่สุดตั้งแต่เคยทำมาทั้งที่ไม่มีแบบให้เห็นนอกจากใบหน้า

เด่นชัดในความฝันเท่านั้น ปลายนิ้วเรียวจับดินสอลากเส้นบนกระดาษโดยไม่วอกแวกจนกระทั่งแสงสีทองเริ่ม

จับที่ขอบฟ้าไตรภูมิจึงได้ละมือเขายืนมองภาพที่ปรากฏอยู่บนเฟรมอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นเป็นใบหน้าชาย

หนุ่มและลำตัวท่อนบนที่เปลือยเปล่า ลอนกล้ามเนื้อเป็นลูกตั้งแต่บ่ากว้างจนถึงใต้ราวนม ใบหน้าคมเข้ม

อย่างคนสมัยก่อน คิ้วดกดำเป็นปื้นจมูกโด่งคมสัน ดวงตาในภาพคมกริบราวกับจะจ้องตรงมายังเขา



                “สวัสดีนายดิน ในที่สุดเราก็พบกันเสียทีนะ”



                ปากหยักของคนในภาพคลี่ยิ้มเล็กน้อยอย่างคนยิ้มยาก ไตรภูมิมองฝีมือตัวเองแล้วหัวใจหวาม

ไหวชอบกล เขาไม่รู้ว่าการที่จ้องมองภาพผู้ชายแล้วใจสั่นมันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่



                “ท่าจะเพี้ยนแล้วไอ้ไตร”



                เขาโคลงศีรษะเบา ๆ ก่อนหาวหวอดเมื่อความง่วงงุนมาเยือน ชายหนุ่มเดินหลับตาไปทิ้งตัว

ลงกลางเตียงและหลับสนิทลงอย่างรวดเร็ว



                มวลอากาศค่อย ๆ เกาะกลุ่มรวมกันอยู่ตรงหน้าแผ่นเฟรมจนเกิดเป็นเงาจางก่อนจะเด่นชัดขึ้น

เรื่อย ๆ กลายเป็นชายหนุ่มที่มีหน้าตาพิมพ์เดียวกับในภาพไม่ผิดเพี้ยน ร่างโปร่งแสงของชายหนุ่มจาก

มวลอากาศจ้องมองภาพของตนอย่างพึงพอใจ



                “ฝีมือของคุณพุ่ม ไม่ว่าเวลาจะผันผ่านไปนานเพียงใดก็ยังงดงามไม่เคยเปลี่ยน”



               ร่างเงาชัดจนเกือบจะมองผ่านคล้ายมนุษย์ตรงไปยังเตียงที่ไตรภูมิหลับสนิท เขาเอนร่างลงไป

นอนตะแคงเคียงข้างจ้องมองใบหน้าของไตรภูมิอย่างแสนรัก



                “ถึงรูปกายภายนอกจะเปลี่ยนแปลงแต่ไอ้ดินรู้ว่าจิตของคุณพุ่มยังคงเป็นคุณพุ่มของไอ้ดิน”



                มือหยาบลูบไล้แผ่วเบาไปตามกรอบหน้าแล้วเลื่อนมาโอบรัดอยู่ตรงหน้าอก เขาวางแก้มแนบ

ลงไปกับกลุ่มผมนุ่มของไตรภูมิ



                “รออีกนิดนะขอรับ ตั้งแต่คุณพุ่มมาอยู่ใกล้ ๆ พลังของไอ้ดินก็ยิ่งมีมากขึ้น อีกไม่กี่วันเท่านั้น

เราจะได้พบหน้ากันเสียที”



มีต่ออีกนิด...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2017 00:35:46 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
อ่านต่อตรงนี้...


               “กรวดน้ำหน่อยไหม ส่งบุญถึงเขา”


               หลวงพ่อบอกเขาในเช้าวันหนึ่งเมื่อเขางัวเงียมาใส่บาตร หลังจากจัดการท่องคำกรวดน้ำแผ่

เมตตาตามที่หลวงพ่อนำทางให้แล้ว พระภิกษุชราจึงได้เอ่ยถาม


               “พระที่ให้ไปไม่ได้คล้องคอไว้หรอกรึโยม”


               “เอ่อ…”           


               ไตรภูมิหัวเราะเจื่อนจนหลวงพ่อโคลงหัว ตั้งแต่วันที่ถอดออกจากคอแล้วไตรภูมิก็ลืมเสียสนิท


               “เอาเถอะ เขาก็ไม่ได้มาร้ายหรอก หมั่นทำบุญไปให้นั่นแหละดีแล้ว”


               ไตรภูมิกลับเข้ามาในบ้านเพื่อเตรียมตัวออกไปเรียน เขาแวะเบื้องหน้ากรอบรูปที่เขาวาดและลงสี

เสร็จเรียบร้อยแล้วหลังจากวันแรกที่ลงมือวาดภาพผ่านไปไม่กี่วัน ตอนนี้ภาพนั้นเสร็จสมบูรณ์มันช่างเหมือน

จริงราวกับคนในภาพกำลังจ้องมองเขาไม่วางตา


               “ผมไปเรียนก่อนนะดิน ค่ำ ๆ จะกลับมา ฝากบ้านด้วยล่ะ”


               เขาพูดเหมือนดินอยู่ใกล้ ไม่รู้สิ ไตรภูมิรู้สึกเช่นนั้นแม้จะไม่เคยเห็นดินแบบชัด ๆ และช่วงนี้เขาก็

หลับสนิทไม่ได้ฝันอีก ไตรภูมิยังไม่รู้ว่าเรื่องราวต่อจากในฝันจะเป็นอย่างไรทั้งที่เขาเองก็อยากรู้ใจจะขาด



               กว่าจะกลับมาถึงบ้านเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจก็ค่ำมืดเพราะการจราจรติดขัดจากฝนที่ตกหนาเม็ด

ไตรภูมิจอดรถยนต์ได้ก็รีบวิ่งเข้าบ้านเนื้อตัวเปียกปอนจนต้องรีบอาบน้ำ พอสบายตัวเขาก็คว้าพู่กันเตรียม

ทำงานที่ค้างไว้แต่ยังไม่ทันจะได้ลงมือด้านนอกกลับบังเกิดพายุฝนกระแทกหน้าต่างปิดดังปังใหญ่ เสียง

กระแสลมหวีดหวิวปะปนกับเสียงสายฝนที่เทลงมาราวกับฟ้ารั่วจนไม่ได้ยินอย่างอื่น ไตรภูมิขมวดคิ้วเมื่อแสง

ไฟกลางห้องติด ๆ ดับ ๆ ก่อนจะดับวูบลงจนมืดมิด


               “อ้าวเฮ้ย อย่าเพิ่งดับสิวะงานยังไม่เสร็จ”


               เขาสบถลั่นเพราะงานที่ต้องเร่งส่งอาจารย์ยังค้างอยู่ กำลังนึกหาไฟฉายว่าตนเองวางไว้ตรงไหน

พลางเดินส่งเดชมาจนถึงหน้ากรอบรูปของดินที่วางอยู่บนหลังตู้ใส่ของสูงขนาดเท่าเอวของเขา มือเรียวคลำ

หาไฟฉายจนคว้าอะไรบางอย่างที่เย็นเยียบ


               ไตรภูมิเอะใจ เขากะพริบตาถี่เพื่อให้ชินกับความมืดแล้วจึงเพ่งมองสิ่งที่ตนเองกำลังจับ


               ท่อนแขน!


               กลั้นหายใจจนเกือบหมดลมแต่หัวใจกลับเต้นถี่ยิบ ริมฝีปากสั่นไปหมดเมื่อเขาฝืนใจเงยหน้าช้า ๆ


               “เฮ้ย!”


               ผงะเมื่อเห็นกรอบหน้าคมแจ่มแจ้งแม้จะอยู่ในความมืด ดวงตาของไตรภูมิเบิกกว้างเหลือกลาน

เมื่อแน่ชัดว่าสิ่งที่ปรากฎในสายตามันไม่ใช่เพียงบุรุษในภาพ แต่เขาคนนั้นมีตัวตนจริง ๆ เสียแล้ว


                                                            TBC


                                      ไอดินกับคุณพุ่มกลับมาแล้วจ้า


                                         :-[ :-[ :-[ :-[ :-[










ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ตื่นเต้นๆ  :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ดินฟื้นพลังเพราะคุณพุ่ม พลังหื่นน่ะนะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
งานนี้สงสัยต้องมีสงครามย่อมๆ เกิดขึ้นแน่
โดนข้าสึกต่อสู้ กอดรัดฟัดเหวี่ยง แน่นวล
 :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
คุนพุ่มกับดินจะคุยกันแล้ว

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
คิดถึงเรื่องนี้จ้าา ในที่สุดเขาก็ได้พบกันแล้ววว

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เจอกันแล้ว แต่มาแบบนี้ระวังคุณพุ่มหัวใจวายนะดิน 55555

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
      ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะค่ะเราชอบมากเลย อ่านไปอินไปค่ะระหว่างความรักของคนสองคนที่ต่างชนชั้นกันและอะไรที่ทำให้คุณพุ่มในอดีตหายไปและอะไรคือสาเหตุที่ดินตายอ่านไปลุ้นไปว่าม่ามาจะเศร้าแค่ไหนกลัวเศร้ามากเกินไปสงสารทั้งตัวละค่ะและสงสารตัวเองค่ะอิอิกลัวจะร้องตามดินและคุณพุ่มไปด้วยอีกคน
      รออ่านตอนต่อไปนะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ  :pig4:  :pig4:  :pig4:
                                                            :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
มาแล้ว เจอกันซะที

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เจอกันแล้วๆๆๆ
คุณพุ่มของดิน

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                                                     วิญญาณเสน่หา

                                                                           บทที่ ๕

             แวบแรกระบบสั่งการอัตโนมัติบงการให้ไตรภูมิหวาดกลัวจนขนลุกเย็นเยียบไปหมดทั้งตัวเมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขามั่นใจว่า
ไม่ใช่มนุษย์ ขาสองข้างหนักอึ้งราวกับก้อนหินขณะที่เขาก้าวถอยหลังให้ห่างไกลจากมวลอากาศหนาหนักที่เกาะกลุ่มกันจนกลายเป็น
ภาพชัดเจน

             ผี!

             แม้ว่าจะคุ้นตาอยู่ในความฝันจนถึงกับวาดออกมาได้เป็นภาพเหมือนคนจริง แต่เมื่อได้สบตากันคราแรกไตรภูมิก็ยังอด
หวาดหวั่นไม่ได้ ความรู้สึกนั้นทำให้เขาหนาวเยือกไปทุกอณูขุมขนตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า และทำให้เขาหมดแรงจนแข้งขาทรุด
              “คุณพุ่ม”


                ร่างที่ไตรภูมิรู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ละลิ่วเข้ามารับร่างของไตรภูมิไว้อย่างรวดเร็วก่อนที่ไตรภูมิจะลงไปกองอยู่กับพื้น ร่าง
เพรียวของเขาอยู่ในวงแขนเย็นเยียบที่กอดตระกองไว้ไม่ยอมปล่อย ไตรภูมิจึงได้ประสานสายตากับดวงตาคมคู่นั้นในระยะประชิด
ดวงตาที่มีแต่ความห่วงใยและอาวรณ์จนหัวใจของไตรภูมิสะท้านไปหมดทั้งดวง
           “ดิน”


               แม้จะสบตากันในความมืดแต่กระแสความผูกพันกลับชัดแจ้ง ภาพในความฝันที่เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดอยู่ใกล้แค่
คืบ จากที่หวาดกลัวหัวใจของเขากลับเต้นระรัวอย่างยินดี น้ำตาแห่งความตื้นตันเอ่อท้นอย่างไม่รู้ตัวเมื่อมือเรียวเอื้อมไปลูบไล้คางสาก
มือนั้น
                 “ในที่สุดเราก็ได้พบกันนะดิน”


              ดวงตาคมเบิกกว้างเป็นประกายด้วยความยินดี ใบหน้าเข้มอย่างชายชาตรีสว่างไสวอยู่ในความมืด มือเย็นไร้เลือดเนื้อวาง


แนบไปกับหลังมือของไตรภูมิก่อนจะกล่าวตอบด้วยความโหยหา




              “ดีใจเหลือเกิน ที่จิตของคุณพุ่มยังจำบ่าวที่ภักดีคนนี้ได้”




              เสียงของดินเอ่ยอยู่ใกล้หูและเพิ่งจะปลุกไตรภูมิให้ได้สติ เขากำลังเอนกายอยู่ในอ้อมกอดที่ไม่ใช่ของมนุษย์




              “ดิน คุณเป็นผีใช่ไหม”




               ถามออกไปน้ำเสียงสั่นพร่า ดินยิ้มเศร้าและกล่าวตอบชวนให้เศร้ากว่า




                  “หากคุณพุ่มจะเรียกกระผมว่าผีก็ตามแต่ใจคุณพุ่มเถิดขอรับ”




                “ไม่จริง เป็นผีแล้วทำไมผมจับตัวคุณได้ล่ะ”




                ไตรภูมิรีบยกมือแตะต้องสัมผัสที่ต้นแขนแน่นกล้ามของดินอย่างเหลือเชื่อ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้น่าหวาดกลัวคิดจะทำร้าย
อย่างเช่นผีหรือวิญญาณที่เคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กแล้วไตรภูมิก็กล้าที่จะพูดคุยกับดิน ดินช้อนร่างผอมขึ้นมาด้วยท่อนแขนแล้วอุ้มไตรภูมิ
ที่ยังสติกระเจิดกระเจิงมาวางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม


              “อาจเป็นเพราะแรงบุญที่คุณพุ่มส่งมาให้ พลังของกระผมจึงได้แกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ขอรับ กระผมดีใจที่คุณพุ่มยังไม่ลืมกระผม”


             สติของไตรภูมิเริ่มหลอมรวมกันได้เมื่อดินไม่ใช่ผีน่ากลัวอย่างที่เคยจินตนาการ ไตรภูมิกล้าจ้องมองใบหน้าคมเข้มนั้น แม้
ภายในห้องจะยังมืดมิดแต่เขากลับเห็นดินชัดเจนจนหัวใจกลับมาเต้นรัวอีกครั้ง


                “ผมจำไม่ได้หรอกครับดินว่าเรื่องในอดีตมันเป็นยังไง ผมรู้อยู่อย่างเดียวว่าผมดีใจที่ได้เจอคุณ”




               น้ำตาร่วงเผาะอยู่ตรงร่องแก้มเมื่อเงยหน้าจ้องร่างสูงที่ยังประคองเขาไว้ในอ้อมแขน ความอาวรณ์เอ่อล้นจนน้ำตาไหลพราก
ไม่รู้ตัว ดินสบตาอย่างสงสารพลางเอื้อมปลายนิ้วมาเช็ดน้ำตาให้ไตรภูมิ


                 “โธ่ คุณพุ่มของไอ้ดิน อย่าได้ร้องไห้เลยขอรับ ไอ้ดินเห็นน้ำตาของคุณพุ่มแล้วใจจะขาดเสียให้ได้”




                ดินดึงร่างมนุษย์เข้ามาซุกแนบอกเย็นเยียบ ไตรภูมิร้องไห้อย่างกลั้นไม่อยู่




                “มันทรมานนะดิน ไอ้ความรู้สึกที่ผูกพันแต่กลับจำไม่ได้สักนิด ผมอยากจำดินให้ได้เหลือเกิน อยากรู้ว่าทำไมผมถึงอยาก
พบเจอ ทำไมผมถึงคิดถึงดินขนาดนี้”


                   “คุณพุ่ม”




                ดินเชยคางเรียวขึ้นมาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่เขารู้ว่ามีจิตของพุ่มอยู่ในกายหยาบของไตรภูมิ แม้รูปร่างหน้าตาจะเปลี่ยน
ไปในชาติภพใหม่ แต่ความรู้สึกรักและบูชายังเปี่ยมล้นจนอดใจไม่ได้ที่จะก้มหน้าบดปากซีดเย็นลงกับกลีบปากนุ่มของไตรภูมิ


                   “อืม ดิน ดินจ๋า”




                ไตรภูมิครางแผ่วกับรสจูบที่คุ้นเคยเหลือเกิน ไม่รังเกียจสักนิดเมื่อเงยหน้าให้ดินไล่เม้มไปตามเรียวปาก เขาเปิดรับลิ้นลื่น
อย่างยินดีแถมยังเผลอไผลคล้องคอหนาให้ยิ่งเบียดหน้าแนบแน่น ร่างกายปะทุจนร้อนรุ่มอยู่กับกายเย็นของดิน เขาถึงกับผวาเมื่อดิน
ผละปากออกมา


              “ดิน ยะ อย่าหยุดได้ไหม คิดถึง คิดถึงดินเหลือเกิน”




                 เพิ่งรู้ว่าตนเองนั้นเฝ้ารอสัมผัสจากชายที่ไม่ใช่มนุษย์มานาน ไตรภูมิโหยหาจนร้องขออย่างลืมตัว ดินจ้องมองไตรภูมิด้วย
นัยน์ตาเปี่ยมรักพลางกดร่างมนุษย์ลงกับที่นอนนุ่ม มือเย็นดึงเสื้อยืดผ่านหัวของไตรภูมิออกช้า ๆ ตามด้วยกางเกงขาสั้นที่สวมใส่ ไม่นาน
ไตรภูมิก็เหลือแต่เนื้อหนังมังสาเบียดอยู่กับร่างที่ไร้เลือดเนื้อของดิน


             “ถ้าคุณพุ่มไม่ให้หยุดไอ้ดินก็จะไม่หยุดขอรับ เพราะไอ้ดินเองก็คิดถึงคุณพุ่มเหลือเกิน”




              ค่อย ๆ ก้มหน้าลงเฟ้นจูบหนักหน่วงจนไตรภูมิเริ่มหอบดินจึงได้ลากไล้ปากมาสัมผัสทั่วเรือนร่างอย่างกระหาย ไตรภูมิคราง
แผ่วกับสัมผัสจากปลายลิ้นที่แวะชิมไปทุกจุดจนกระทั่งดินยกขาของเขาขึ้นแล้วเม้มปากไปที่โคนขาอ่อนก่อนจับแยกออกจากกันเพื่อที่
จะได้ลิ้มรสอยู่ตรงทางแยก


              “ดิน อือ…”




             ผวาเมื่อดินห่อลิ้นแล้วแหย่เข้าไปในทางเข้า ไตรภูมิสะดุ้งวาบเผลอยกเอวจนลอยจากที่นอนนุ่มให้ลิ้นนั้นเข้าไปลึกกว่าเดิม
มือเรียวสอดขยุ้มเข้าไปในกลุ่มผมดกดำพลางจิกเล็บอย่างรัญจวน


              “คุณพุ่มของไอ้ดินยังหวานเช่นเดิม”




                 วิญญาณครางลึกอย่างได้ใจพลางเริ่มสอดนิ้วหนาเข้าไป คราวนี้ไตรภูมิครางกระเส่าเมื่อดินจัดการเขาทั้งมือและลิ้น
ร่างกายของเขากำลังต้องการดิน ไตรภูมิผงกหัวขึ้นมองเจ้าของเส้นผมที่ป้วนเปี้ยนอยู่ตรงกลางร่างกายของเขา


             “ดิน ดินครับ ใส่เข้ามาเถอะ ผมทนไม่ไหวแล้ว”




             “ขอรับ คุณพุ่ม”




         รับคำอย่างยินดี ทันใดนั้นผ้านุ่งยกรั้งที่สวมใส่ก็หลุดร่วงจากตัวดิน มันเอนกายทาบทับบดเบียดสะโพกหนาจนแก่นกายทั้งสอง
ถูไถซึ่งกัน ไตรภูมิผวาหอบหนักเมื่อดินแทรกกายเข้ามาช้า ๆ ในช่องทางของเขา


              “อึก อื้ม”




                เจ็บ แต่ทนได้ ไตรภูมิอ้าขากว้างเพื่อให้ดินดันกายเข้ามาได้อย่างเต็มที่แม้ว่าเขาจะเจ็บจนน้ำตาไหลแต่เขาอยากให้ร่าง
ของดินได้เติมเต็มในร่างของเขา


               “คุณพุ่ม โอ แน่นเหลือเกินขอรับ”




              ดินครางลึกเมื่อได้ฝังกายเข้าไปจนสุดลำในร่างกายที่มีจิตของคนที่เขารักและหวงแหน แม้ดินจะไม่เข้าใจว่าทำไมใน
อดีตกาลเนิ่นนานนั้นคุณพุ่มจึงไม่ได้ทำตามสัญญาก่อนที่ดินจะกลายเป็นวิญญาณที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด


                       “ดิน เสียวมาก ฮื้อ”




                 ไตรภูมิเป่าปากเมื่อดินเริ่มขยับ แก่นกายเย็นเยียบกระแทกกระทั้นอยู่ในช่องทางอุ่นร้อน ไตรภูมิแอ่นตัวเข้าหาเบียดกาย
แนบชิดให้ดินได้สาวเอวกระแทกกระทั้น ไตรภูมิเพิ่งจะเคยลิ้มรสกับความสุขสมเมื่อร่างกายของเขาเกร็งค้างก่อนจะแตกทลายคล้าย
ทำนบน้ำพังครืน


                 “มีความสุขเหลือเกินครับดิน




                ไตรภูมิกระซิบเสียงสั่นพร่าจนดินดีอกดีใจ จากนั้นดินก็เริ่มต้นมอบความสุขให้กับไตรภูมิอีกครั้ง ไตรภูมิปล่อยให้ดินพาเขา
ลอยละล่องครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบรุ่งสางจึงได้คล้อยหลับท่ามกลางสายฝนที่ยังไม่หยุดโปรยปราย

               เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพียงเดียวดายในยามสายที่แสงอาทิตย์ลอดหน้าต่างเข้ามาจนอากาศอุ่นร้อนนั่นเองไตรภูมิจึงได้
สำเหนียกว่า เขากลายเป็นเมียผีไปเสียแล้ว
 




มีต่ออีกนิด...





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2017 15:01:41 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...




             พุ่มลืมตาตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะความที่หลับสนิทตลอดทั้งคืน อาจจะเพราะความสบายเนื้อตัวที่บ่าวคนสนิทจัดการให้ นึกถึง

เรื่องนี้ใบหน้าของพุ่มจึงเปลี่ยนสีเรื่อขึ้นกับความสนิทชิดเชื้อที่เขาไม่เคยมีกับผู้ใดมาก่อน


                 เขาลุกจากเตียงนอนเมื่อไม่เห็นดินในห้อง ปกติจะมีร่างสูงกำยำของดินที่ตื่นก่อนนอนทีหลังจัดน้ำล้างหน้าถูฟันมารออยู่

ก่อนแล้ว พุ่มเดินไปที่หน้าต่างห้องเขาเปิดผ้าม่านหน้าต่างผืนบางออกรับอากาศเย็นยามเช้า ตะวันยังส่องไม่เต็มลูกนักตอนที่พุ่มมอง

เห็นภาพบาดตา


               เบื้องล่างไม่ไกลจากเรือนของเขาที่ปลูกแยกมาจากเรือนของเจ้าคุณวิเชียรอัครภาค พุ่มมองเห็นร่างสูงของดินกำลังเจรจา

พาทีอยู่กับบ่าวผู้หญิงหน้าตาดีอยู่ พุ่มไม่เข้าใจกับความรู้สึกขุ่นข้องที่เห็นภาพนั้น ยิ่งเมื่อเห็นบ่าวตัวดียิ้มแย้มรับช่อดอกแก้วมัดเป็นพวง

มาจากแม่สาววัยขบเผาะเขาก็ยิ่งหงุดหงิดจนต้องเดินออกมาให้ห่างจากหน้าต่างเพื่อไม่ให้เห็นภาพบาดตา


                ปกติพุ่มเป็นคนใจเย็น แต่เมื่อเห็นภาพดังกล่าวหัวใจของพุ่มร้อนราวกับมีไฟสุม เขารู้สึกถึงความเป็นเจ้าของในตัวดินและ

เจ็บแปลบยามที่ดินไปใกล้ชิดกับผู้อื่น พุ่มแปลกใจกับความคิดเหล่านั้นและไม่รู้ว่าเขาควรจะเรียกมันว่าอะไรกันแน่



             “อ้าว คุณพุ่มตื่นนอนแล้วหรือขอรับ”



               เมื่อเห็นคนต้นเรื่องเดินยิ้มแฉ่งเข้ามาในห้องพร้อมโถใส่น้ำล้างหน้าพุ่มก็หน้าตึงขึ้นมา คิ้วโก่งย่นเข้าหากันพลางชายตามอง

จนไอ้ดินทำหน้าตาเหรอหรา



               “คุณพุ่มเป็นกระไรขอรับ หน้าตาบึ้งตึงเทียว หรือว่ายังไม่หายปวดหัวจะให้กระผมนวดให้อีกไหมขอรับ”



               “ไม่ต้อง” เสียงของคุณพุ่มห้วนจัดจนไอ้ดินตกใจ



               “อยากจะไปทำอย่างอื่นก็ไป”



                “โธ่คุณพุ่ม”



                ไอ้ดินวางโถน้ำที่โต๊ะแล้วจึงรีบกุลีกุจอมานั่งแทบเท้านายของมัน



               “กระผมทำได้อย่างเดียวคือดูแลคุณพุ่มของกระผมเท่านั้นขอรับ”



              น้ำเสียงซื่อ ๆ ที่เอ่ยออกมาทำให้พุ่มพอจะคลายหงุดหงิดลงบ้าง แต่เมื่อเห็นพวงดอกแก้วที่วางอยู่บนผืนผ้าสำหรับเช็ดหน้า

พุ่มก็ยังอดเอ่ยเสียงแข็งไม่ได้



              “นังแก้วที่มันให้ดอกแก้วเอ็งมาคงอดน้อยใจไม่ได้ที่เอ็งกล่าวเช่นนั้น หากจะปลีกเวลาไปดูแลมันบ้างข้าก็ไม่ว่ากล่าวเอ็งดอก

ไอ้ดิน”



              “อ๋อ”



               ดินพอจะเดาเรื่องได้บ้างแล้ว มันยิ้มกริ่มพร้อมกับคว้าพวงดอกแก้วมาวางไว้บนตักของพุ่มพลางกล่าวเสียงอ่อน



               “กระผมวานนังแก้วให้เด็ดดอกแก้วมาให้คุณพุ่มนี่แหละขอรับ เห็นดอกมันชูช่อสะพรั่งส่งกลิ่นหอมฟุ้งจึงอยากให้คุณพุ่มได้

ชมบ้าง ไม่ใช่ว่าจะมีอะไรกับมันนอกเหนือจากนี้”



                “แต่มันคงอยากให้เอ็งคิดกับมันนอกเหนือจากเด็ดดอกแก้วกระมัง ถึงได้ยิ้มแย้มเล่นหูเล่นตาขนาดนั้น”



                แม้หัวใจจะพองโตเพราะฟังความจากดินแต่พุ่มก็ยังอดประชดประชันไม่ได้ จนกระทั่งบ่าวตัวดีกำเริบเสิบสานขยับขึ้นมานั่ง

เคียงข้างอยู่บนขอบเตียงและใช้วงแขนโอบกอดเขาไว้ พุ่มได้แต่ฝืนกายตัวแข็งอยู่ในอ้อมกอด



             “คุณพุ่มอย่าคิดฟุ้งซ่านไปเช่นนั้น ทั้งที่คุณพุ่มก็รู้ว่าชีวิตของไอ้ดินมีแต่คุณพุ่มเพียงคนเดียวนะขอรับ”



              พูดจบมันก็กดปากแห้งของมันลงมากับแก้มนุ่มของเจ้านายพลางสูดลมหายใจเข้าดังฟอด จากนั้นมันก็เลื่อนปากปากของมัน

มาที่กลีบปากสีแดงอิ่มทันที



             “ดิน อย่า ข้ายังไม่ได้ล้างปาก อื้ม...”



                พุ่มจนใจจะขัดขวางเมื่อบ่าวใกล้ชิดชิงส่งปลายลิ้นเข้ามากวาดไล้จนหายใจแทบไม่ทัน จนเกือบขาดใจกว่าพุ่มจะดันไหล่

กว้างให้ออกห่างไปได้บ้าง ใบหน้าของเขาแดงก่ำราวลูกตำลึงสุก แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยปากต่อว่าเพราะจูบนั้นก็ทำให้ทั้งขวยเขินและอิ่ม

เอิบไปพร้อมกัน



                  “ปากของคุณพุ่มหวานเหลือเกิน บุญของไอ้ดินแล้วที่ได้ชิมรสจนติดใจ”



                   มันกระซิบคำหวานจนพุ่มต้องยกมือปิดปากมัน



                   “พอแล้วดิน”



                “หายโกรธไอ้ดินหรือยังขอรับ ไอ้ดินสัญญาว่าจะไม่เข้าใกล้ใครอื่นให้คุณพุ่มต้องทำหน้าบึ้งอีกแล้ว”



                 “ใครโกรธเอ็ง”



                 พุ่มฉวยโอกาสผลักไอ้ดินออกห่างพลางสะบัดหน้าหนี ไอ้ดินหัวเราะแย่งยื้อมือนุ่มมากุมไว้



                  “ใครก็ไม่รู้ขอรับ หน้างอเสียงแข็งจนไอ้ดินเสียวถูกหวายเฆี่ยนหลังลาย ยิ้มให้บ่าวหน่อยเถิดครับสักนิดก็ยังดี ถ้าไม่ยิ้มไอ้

ดินคงไม่มีใจจะทำงานแล้ว”



               พุ่มเขินจัด แต่เมื่อเห็นสายตาเว้าวอนแล้วเขาก็คลี่ยิ้มออกไปจนได้ ไอ้ดินร่าเริงขึ้นมาทันที



                “ถ้าไม่ติดว่าคุณพุ่มต้องไปทำงานกระผมคงไม่ปล่อยให้คุณพุ่มไปไกลกว่าอ้อมกอดของกระผมเป็นแน่ คนดีของไอ้ดินมา

ล้างหน้าล้างตาเสียเถิดจะได้รีบไปทำงาน แล้วคืนนี้ไอ้ดินจะช่วยผ่อนคลายให้คุณพุ่มหลับสบายอีก”



                “น้อยหน่อยเถอะเอ็ง”



               พุ่มอดหัวเราะไม่ได้ เขาลุกขึ้นมาเตรียมตัวไปทำงาน



                “บทจะเกี้ยวก็เกี้ยวเสียจนข้าไปไม่เป็น แล้วข้าก็ไม่ได้เคร่งเครียดให้เอ็งต้องช่วยไปเสียทุกค่ำคืนดอก”



                 “ว้า”



                ไอ้ดินทำหน้าละห้อย



                “กระผมสู้อุตส่าห์หวังดีนะขอรับ คุณพุ่มกลับตอบมาให้เจ็บช้ำ”



              พุ่มส่ายหน้า เขาแสร้งส่งเสียงดังลั่นพลางกลั้นหัวเราะไว้อย่างยากเย็น



              “เอ็งนั่นแหละที่ไปเตรียมตัวได้แล้ว จะไปกับข้าไหมไอ้ดินถ้าไม่ไปข้าจะได้พาบ่าวคนอื่นไปแทน”



              “ขอรับ เดี๋ยวนี้เลยขอรับ”



                ไอ้ดินลนลานจนพุ่มอดขำไม่ได้ หัวใจของพุ่มเบิกบานเมื่อมีดินอยู่ด้วย เขาไม่อยากนึกเลยว่าหากวันข้างหน้าที่ขาดดินไป

ชีวิตของเขาจะอับเฉาแค่ไหน แต่ในเมื่อวันนี้เขายังมีดินอยู่เคียงข้างพุ่มก็ไม่อยากคิดถึงเรื่องอื่นให้เจ็บในหัวใจ
 





             ตลอดทั้งวันพุ่มหรือขุนพิพิธโสภณไปนั่งประชุมอยู่ที่กรมช่างสิบหมู่เพื่อเตรียมการตกแต่งอุโบสถสร้างใหม่ของวัดพระอาราม

หลวง ส่วนไอ้ดินนั่งรอพร้อมบ่าวของเจ้านายคนอื่นจนกระทั่งยามบ่ายพุ่มจึงเลิกงานและก้าวออกมาจากสำนักช่างวาดของเขา ไอ้ดิน

กระวีกระวาดไปรับทันที



                 “เหนื่อยหรือไม่ขอรับคุณพุ่ม”


       
               มันเอ่ยถามอย่างอาทร



               “ไม่หรอกดิน วันนี้แค่วางแผนหารืองานเท่านั้น”



              “นั่นหนังสืออะไรหรือขอรับ กระผมถือให้”



               พุ่มส่งหนังสือเล่มหนาให้ดินรับไปถือขณะเดินไปที่ท่าน้ำสำหรับจอดเรือ



                “เรื่องพระอภัยมณี ของท่านครูภู่ หรือพระยาศรีสุนทรโวหาร แต่งไว้ตั้งแต่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่สอง เอ็งเคยได้ยินไหมดิน”



               “เคยได้ยินชื่อขอรับ”



                  ดินตอบคำถามขณะก้าวตามเจ้านายของมันลงไปในเรือ มันคว้าพายมาค่อย ๆ จ้วงลงไปในน้ำเพื่อเดินทางกลับเรือนเจ้า

คุณวิเชียรฯ



                “เป็นบทกลอนที่ไพเราะมากนะดิน ข้าหยิบเล่มนี้มาเพราะมีบทกลอนที่ข้าชอบที่สุด”



               “กระผมอยากรู้ คุณพุ่มอ่านให้กระผมฟังหน่อยได้ไหมขอรับว่าบทกลอนที่คุณพุ่มชอบจะไพเราะแค่ไหน”



                 พุ่มที่นั่งอยู่ตรงกลางลำเรือเปิดหนังสือมาอ่านขณะที่ดินพายเรือไปตามลำน้ำที่มีผู้คนใช้สัญจรไม่ขาดระยะ



              “ได้สิ ข้าจะอ่านให้เอ็งฟัง”
 



                          ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร                   ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน


           แม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร                                       ขอพบพานพิสวาทมิคลาดคลา


              แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ                               พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา


             แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา                                      เชยผกาโกสุมปทุมทอง


             แม้เป็นถ้ำอำไพขอให้พี่                                         เป็นราชสีห์สมสู่เป็นคู่สอง


            ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง                           เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป
 



               ไอ้ดินซาบซึ้งไปกับบทกลอนนั้น มันมองแผ่นหลังของคุณพุ่มด้วยความรักและภักดี มันสาบานกับตัวเองว่าความรักของมันจะ

เป็นเหมือนบทกลอนที่คุณพุ่มอ่าน ไม่ว่ากี่ชาติมันจะขอภักดีกับคุณพุ่มตลอดไป
 



                                                                 TBC

                                    สุนทรภู่ก็มาจ้า ยกบทนี้ให้เป็นบทหวาน ๆ เลยน้า

                                                         
:m10: :m10: :m10: :m10: :m10:






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2017 15:09:37 โดย Belove »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ดินทำดีมาก

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ดิน ไตรภูมิ เขาได้กันแล้วล่ะ ท่านผู้ช๊ม ขอให้ดินเป็นหนุ่มหล่อในภพปัจจุบันด้วยเถิด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด