<< วิญญาณเสน่หา >>[สนพ.Sensebook]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << วิญญาณเสน่หา >>[สนพ.Sensebook]  (อ่าน 87560 ครั้ง)

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ทำไมเราไม่เห็นว่าอัพตอนใหม่ละเนี่ยเกือบพลาดไปแล้วมั้ยละ อาวุธนี่เลวตั้งแต่ชาติที่แล้วยันชาตินี้เลยก็หวังว่าจะหมดกรรมกันในชาตินี้นะ ส่วนดินคงใกล้ได้ไปเกิดแล้วสินะ รอๆ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                  วิญญาณเสน่หา

                                    บทที่ ­­๑๑




         ไม่มีคำปฏิเสธจากร่างที่มีเพียงวิญญาณแต่เต็มไปด้วยความรัก ดินได้แต่ปรนเปรอจูบหวานไปทั่วร่างกาย

ขาวโพลนที่นอนทอดกายท่ามกลางดินโคลนและห่าฝนที่เทลงมาจนน้ำในคลองกระจายเป็นวงกว้าง มือเย็นชื้นลูบไล้

หนักหน่วงกลับสร้างความร้อนระอุอยู่ในอารมณ์แห่งรักของมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ


           “ดิน ดินของผม”


           ไตรภูมิผวาเบียดกายเข้าหา เนื้อตัวของเขาถูกลูบไล้ไปทุกสัดส่วนด้วยปากลิ้นและมือของดิน ที่ทั้ง

ทะนุถนอมแต่ก็ปรนเปรอรสสวาทแทบขาดใจ ไตรภูมิพาดขาไปบนไหล่กว้างเปิดทางให้ดินได้สัมผัสช่องทางรัก ดิน

โน้มกายลงไปดึงแก่นกายงดงามกลืนกินจนหมด นิ้วใหญ่สอดลึกเปิดทางไปพร้อมกันจนไตรภูมิแอ่นกายดิ้นพล่านไปกับ

ดินโคลน


            “คุณพุ่มของไอ้ดิน ไอ้ดินจะไม่รักใครอีกแล้ว”


            “อ๊า ดิน”


           ไตรภูมิผวาเมื่อเขาปลดปล่อยออกมาปนเปื้อนไปกับสายฝน ไอ้ดินไม่รอช้ามันสวนกายอัดท่อนเนื้อ

เข้าหาจนไตรภูมิแทบสำลักความสุข


          “ดิน ดินจ๋า ผมเองก็รักดิน”


          ไตรภูมิยกตัวขึ้นกอดแผ่นอกกำยำไว้แน่น เป็นฝ่ายใช้ปลายลิ้นกระดกรัวอยู่ที่ยอดอกสีคล้ำของดิน ดิน

เงยหน้าครางลั่นก่อนจะกระแทกกายเข้าหาจนเกิดเสียงดัง


        “ฮึก ฮึก อ๊า ดิน ผมจะไม่มีใครนอกจากดิน”


          ลางสังหรณ์บอกไตรภูมิว่าร่างไร้เลือดเนื้อที่ทาบทับอยู่เบื้องบนกำลังจะจากเขาไป ความอาลัยอาวรณ์

อาบไปทั่วหัวใจแต่ไตรภูมิไม่ต้องการให้ความรู้สึกของเขาฉุดรั้งดินไว้ มีแต่จะตักตวงความสุขครั้งสุดท้ายไว้ในได้มาก

ที่สุด ไตรภูมิเด้งเอวรับแรงจากดิน มือเรียวดึงใบหน้าคมเข้มเข้ามาจูบ ปลายลิ้นยิ่งเกี่ยวกระหวัดรัดแน่นจนแทบหายใจ

ไม่ออก ไตรภูมิเกร็งกล้ามเนื้อเมื่อร่างกายของเขากำลังบีบคั้นครั้งสุดท้าย


            “อ๊า ดิน”


            “โอ คุณพุ่ม”


          ดินเกร็งกายแช่ค้างเมื่อได้มอบความสุขให้แก่ยอดดวงใจของเขาเป็นครั้งสุดท้าย เขามองสบตาไตรภูมิที่

ยังหายใจหอบเหนื่อยแล้วกดจูบแผ่วเบาที่หน้าผากเกลี้ยง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ต้องจากและไม่รู้ว่า

จะมีอีกไหมที่จะได้พานพบ


          “ถึงเวลาที่ไอ้ดินต้องไปแล้วลาก่อน คุณพุ่มของไอ้ดิน”


           แม้จะรู้ว่าเวลานี้ต้องมาถึงแต่ไตรภูมิก็ยังอดใจหายไม่ได้ ร่างกายที่ไตรภูมิกอดก่ายไว้จางหายลงทีละ

น้อย ไตรภูมิร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นร่างของดินค่อย ๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าท่ามกลางสายฝนที่ยังโปรยปรายก่อนเลือน

หายไปท่ามกลางความมืดมิดในที่สุด




        18ปีผ่านไป
 



         “สายจนได้นะเรา”



         ไตรภูมิในวัยหนุ่มใหญ่บ่นกับตนเองขณะกำลังเดินขึ้นอาคารเรียนภายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง วันนี้เป็นวัน

เปิดเทอมวันแรกที่เขาต้องสอนนักศึกษาในวิชาที่รับผิดชอบอยู่


         เหตุการณ์เมื่อสิบแปดปีที่ผ่านมาเป็นเรื่องดังอยู่ในสังคมพักใหญ่ เมื่อบ้านโบราณของเขาถูกไฟไหม้จนไม่

เหลือเค้าเดิม เจ้าหน้าที่พบศพชายคนหนึ่งแต่ไม่ใช่เจ้าของบ้านอยู่ท่ามกลางซากไม้สีดำ ไตรภูมิให้การว่าอาวุธเพื่อน

ของเขามาเที่ยวที่บ้านและหนีออกมาไม่ทันเมื่อเกิดไฟไหม้


          และเมื่อมีการรื้อถอนซากออกไปกลับพบโครงกระดูกมนุษย์ที่ไม่สามารถระบุว่าเป็นกระดูกของใครอยู่ใต้

เสาบ้านต้นหนึ่ง เมื่อไตรภูมิได้เห็นเขาก็ร้องไห้ออกมาและนำโครงกระดูกนั้นไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้


           เมื่อความโศกเศร้าจางไปไตรภูมิกลับมามีชีวิตตามปกติ เขากลับมาอยู่ที่คอนโดมิเนียม เรียนหนังสือ

วาดรูป มีกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัยและมุ่งมั่นทำบุญจนกระทั่งเรียนจบปริญญาโทไตรภูมิจึงได้มาเป็นอาจารย์สอน

คณะสถาปัตยกรรมในวิชาวาดรูปเบื้องต้น


           ปัจจุบันนี้ไตรภูมิเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในวัยสามสิบแปดปีที่ยังดูดีหน้าตาอ่อนกว่าวัย และหลังจาก

วันที่ดินจากไปเขาไม่เคยมีคนรักอีกเลย


           ไตรภูมิรู้จักหัวใจตนเองดี รู้ว่าเขาคงรักใครไม่ได้อีกแล้ว ในเมื่อความรักของเขามีให้เพียงชายไทย

ใบหน้าคมที่มักจะมองเขาอย่างเทิดทูน



           “คุณพุ่มของไอ้ดิน”



           วลีนั้นยังขับขานอยู่ในใจจนไม่อาจรักใครได้อีก แม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะผ่านมาสองชาติภพแล้วก็ตาม


          ร่างสูงเพรียวของไตรภูมิอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนกับกางเกงยีนส์ตัวเก่งก้าวไปยืนบนเวที ด้านข้างมีโต๊ะ

สำหรับคอมพิวเตอร์พกพาต่อตรงกับเครื่องฉายไปยังจอรับภาพ เบื้องหน้าของเขาเป็นเหล่านักศึกษาปีหนึ่งที่นั่งกระจาย

ตัวอยู่บนเก้าอี้เรียนที่เรียงตัวสูงขึ้นไปภายในห้อง เขาคว้าไมโครโฟนขึ้นมาใกล้ปากและเริ่มต้นกล่าวคำทักทายในวันแรก

ของภาคเรียน



           “สวัสดีครับนักศึกษา ขอโทษทีที่อาจารย์มาช้าไปหน่อย แต่คงจะไม่ช้าเกินกว่าเราจะรู้จักกันในคาบ

เรียนแรกใช่ไหมครับ”



           ใบหน้าอ่อนเยาว์กว่าวัยแจกรอยยิ้มไปรอบห้องจนนักศึกษาสาว ๆ ทำตาปรอยพลางซุบซิบกันเบา ๆ



            “วันแรกขอเช็คชื่อเพื่อเราจะได้รู้จักกันนะ วันต่อไปก็ไม่เช็คแล้วล่ะ ใครอยากเห็นหน้าอาจารย์ก็มา

ทุกคาบก็แล้วกัน ขอให้มีงานส่งตามกำหนดและเข้าสอบให้ผ่านเท่านั้น”



        ไตรภูมิก้มหน้าอ่านรายชื่อจากแผ่นกระดาษในมือและให้นักศึกษายกมือรับทีละคน เขายิ้มรับให้นักศึกษาทุก

คนจนกระทั่งถึงชื่อหนึ่งที่เขาเอ่ยออกไป



         “ปฐพี”



         “ผมครับ”



         “........”



          ไมโครโฟนร่วงหล่นจากมือเมื่อไตรภูมิมองเห็นนักศึกษาชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหลังแถวบนสุด


          หัวใจของอาจารย์หนุ่มเต้นโครมครามจนเกือบจะหลุดมานอกทรวงอกเมื่อเงยหน้าขึ้นไปสบตากับดวงตา

คมคู่นั้น


          จนกระทั่งเสียงไมโครโฟนที่หล่นกลิ้งอยู่กับพื้นส่งเสียงหวีดหวิวไตรภูมิเพิ่งจะได้สติ เขาก้มลงเก็บมันทั้ง

ที่มือสั่นระริกก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นไปมองดวงตาคมวาวคู่นั้นอีกครั้ง


         น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อสบตา


         ก็นั่นน่ะ มันดวงตาของดินชัดๆ!
 







          ไตรภูมิจบการสอนในคาบเรียนแรกตั้งแต่ยังไม่หมดชั่วโมงด้วยซ้ำ บอกตรง ๆ ว่าเขาไม่มีสมาธิกับการ

สอนเอาเสียเลย ในเมื่อคอยแต่จะหันไปสบตากับดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองมายังเขาไม่วางตาเช่นกันจนกระทั่งเขาจำต้อง

เอ่ยปากจบการเรียนการสอนและอนุญาตให้นักศึกษากลับออกไปได้


           นักศึกษาทยอยออกจากห้องกันไปหมดแล้ว เหลือเพียงร่างสูงของนักศึกษาที่ชื่อปฐพีที่ยังคงนั่งนิ่งและ

ลุกขึ้นยืนเป็นคนสุดท้าย ไตรภูมิหายใจขัดไปหมดเมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นเดินลงมาจากแถวที่นั่งบนชั้นสูงแล้วก้าวตรงมายัง

เขาช้า ๆ


           รูปร่างสูงโปร่งไว้ผมทรงสั้นอย่างเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะพ้นจากการไว้ผมเกรียนมาหมาด ๆ แต่งผมด้วยเจล

จนอยู่ทรงตามสมัยนิยม คิ้วเข้มดกดำพาดอยู่เหนือดวงตาคมที่ทำให้ไตรภูมิใจสั่นขณะที่ยังจ้องมาทางเขา จมูกโด่งรั้น

นิด ๆอย่างคนเอาแต่ใจราวกับเป็นคุณชายน้อยที่ทุกอย่างต้องได้ดั่งใจ ติ่งหูข้างหนึ่งใส่ต่างหูสีเงินแวววาว


           ไตรภูมิกัดริมฝีปากตนเองไว้เมื่อกลายเป็นว่าเขาควบคุมตนเองไม่ได้เลย หัวใจของเขาเต้นโครมคราม

ไร้เหตุผล เขาได้แต่ดุตนเองพลางเบนสายตาหลบจากดวงตาคมคู่นั้นด้วยการหันไปเก็บตำราหอบใหญ่บนโต๊ะด้านข้าง



          “โอ๊ย บ้าจริง”



           สบถอย่างไม่ได้ดังใจเมื่อมือไม้อ่อนจนพลาดกลายเป็นทำหนังสือหลายเล่มร่วงลงจากโต๊ะ อาจารย์

หนุ่มทรุดตัวลงไปเพื่อจะเก็บหนังสือเหล่านั้น



          “ผมช่วยครับ”



         เสียงนุ่มดังอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับก้มตัวลงมาช่วยเก็บ ไตรภูมิชะงักเมื่อมือข้างหนึ่งที่คว้าหนังสือขึ้นมากลับ

ถูกสัมผัสจากปลายนิ้วของหนุ่มน้อยลูกศิษย์ปีหนึ่งของเขา


         ชายหนุ่มที่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาจนอายุเกือบสี่สิบกลั้นเสียงสะอื้น ขอบตาร้อนผ่าวไปหมดเมื่อรู้สึกถึงไอ

อุ่นจากปลายนิ้ว ไตรภูมิสัมผัสได้ถึงความมีเลือดเนื้อเหล่านั้น เสียงของหัวใจที่เต้นอยู่ในทรวงอกที่ซ่อนอยู่ในชุด

นักศึกษามันทำให้ไตรภูมิตื้นตันเหลือเกิน



          “อาจารย์ร้องไห้”



         “ปละ เปล่า ผมเคืองตานิดหน่อย”



          ไตรภูมิยิ้มออกมาจนได้เมื่อลุกยืนขึ้นมา ปฐพีที่ยืนอยู่ตรงหน้าก้มหน้ามองเขาเพราะเด็กหนุ่มสูงกว่าเกือบ

คืบ



           “ผมปล่อยก่อนเวลา นักศึกษาไม่ไปพักก่อนเรียนวิชาต่อไปหรือ”



           “เรียกผมว่าเอิร์ทดีกว่าครับ”



            รอยยิ้มอันอบอุ่นเกิดขึ้นบนใบหน้าของลูกศิษย์



           “ให้ผมช่วยถือหนังสือพวกนี้ไปส่งดีกว่า ท่าทางจะหนักน่าดู”



           ไตรภูมิพยักหน้ารับ เขาเดินนำปฐพีไปทางห้องพักของเขาโดยปราศจากการพูดคุยอีก
               





          เสียงฝีเท้าที่เดินตามหลังสร้างความอบอุ่นในหัวใจที่อับเฉามาเนิ่นนาน ไตรภูมิรู้สึกฉ่ำชื่นราวกับต้นไม้ใน

ทะเลทรายอันแร้นแค้นที่ได้รับการประพรมจากสายฝนแรกจากท้องฟ้า เขาก้มหน้ายิ้มให้กับตัวเองเมื่อเดินมาถึงห้องพัก

ของเขา



            “วางหนังสือไว้บนโต๊ะของผมตรงนี้แหละ ขอบคุณที่ช่วยนะ เอ่อ เอิร์ท”



            “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจที่สุด”



           ปฐพีฉีกยิ้มให้เขาจนไตรภูมิเผลอยิ้มตอบ ใบหน้าของเขายิ่งสว่างไสวจนปฐพีจ้องไม่วางตา



           “อาจารย์ครับ ผมกับอาจารย์ เราสองคน เอ่อ เคยรู้จักกันมาก่อนไหมครับ”



           ไตรภูมิสะดุ้งในใจ เขาเงยหน้าเอียงคอมองปฐพี



          “อะไรทำให้เอิร์ทคิดอย่างนั้นล่ะ”



          ปฐพียักไหล่ ลักษณะของเขาเหมือนวัยรุ่นทั่วไปแต่เพราะเหตุใดจึงได้จับใจไตรภูมินัก เขาเองก็สุดจะรู้



          “ก็ไม่รู้สิครับ อันที่จริงผมรู้สึกคุ้นชื่ออาจารย์ตั้งแต่เลือกเซคชั่นลงวิชานี้แล้ว ยิ่งเห็นหน้าอาจารย์ครั้งแรก

มันก็ยิ่งคุ้นตาเหลือเกิน”



          ไตรภูมิใจสั่นไปหมดแล้วตอนนี้ สายตาของเด็กหนุ่มที่มองมาช่างสื่อความหมายมากมายเกินกว่าคำพูดที่

หลุดออกมาจากปาก เมื่อนัยน์ตาคู่นั้นบอกถึงความโหยหาอาดูรโดยที่ปฐพีไม่รู้ตัว



         “คุ้นว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน คุ้นว่าเราเคยระ…”



           น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงมาจากดวงตาของปฐพีที่รีบยกมือขึ้นปาดทิ้งอย่างตกใจตัวเองพลางหัวเราะกลบ

เกลื่อน



           “บ้าจริงผมนี่ พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้ คงทำให้อาจารย์ตกใจหมดเลย”



            “เอิร์ท”



             อาจารย์หนุ่มทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มปลอบโยน ปฐพีมองใบหน้าอ่อนโยนนั้นแล้วเขาก็ห้ามใจไม่

ได้อีกต่อไป


           ร่างสูงของเด็กหนุ่มดึงไหล่ไตรภูมิเข้าไปกอด วงแขนกว้างโอบรัดจนไตรภูมิจมเข้าไปในแผงอก ปฐพี

วางใบหน้าแนบไปบนกระหม่อมของไตรภูมิ



           “อาจารย์ครับ ผมขอโทษ แต่ช่วยอยู่นิ่ง ๆ แบบนี้สักพักได้ไหมครับ”



           ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ต่างก็อยู่ในท่านั้น ไตรภูมิแนบหูลงไปกับหน้าอกของปฐพี เสียงหัวใจที่เต้นเร็ว

และแรงทำให้เขาอบอุ่นจนเผลอยกแขนกอดตอบ จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานดังขึ้นทั้งคู่จึงได้สะดุ้งและผละ

จากกัน


           ไตรภูมิไม่กล้าสบตาเมื่อรู้สึกว่าเลือดลมแถวใบหน้าจะสูบฉีดแรงจนหน้าร้อนเห่อเพราะปฐพีมองมาด้วย

สายตาแพรวพราวผิดปกติ เด็กหนุ่มหัวเราะแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินเมื่อก้าวห่างออกไปจากตัวเขา



          “ไม่รบกวนเวลางานของอาจารย์แล้วครับ ผมขอตัวก่อน”



          ร่างสูงก้าวเดินออกไปจากห้อง แต่ยังไม่ทันพ้นประตูปฐพีก็หันกลับมาอีกครั้งพร้อมคำพูดทิ้งท้ายที่ทำให้

หัวใจของไตรภูมิยิ่งสูบฉีดเลือดหนักกว่าเดิม



           “หนังสือของอาจารย์หนักมากพรุ่งนี้ผมจะช่วยอาจารย์แบกมันแทนอาจารย์จะได้ไม่เหนื่อย ถ้าเป็นไป

ได้ให้ผมช่วยทุกวันเลยนะครับ อาจารย์ไตรภูมิ”






มีต่ออีกนิด...







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2018 23:42:02 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...





          ปฐพียิ้มกับตัวเองขณะที่เขาหันกลับไปมองอาคารเรียนที่เพิ่งจะก้าวลงมา เขายังงงกับความรู้สึกเมื่อครู่ที่

ได้แสดงออกไปกับอาจารย์คนใหม่ของเขาทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกันเป็นวันแรกแต่ปฐพีกลับดึงอาจารย์เข้ามากอดอย่างไม่มี

เหตุผล

         อันที่จริงต้องบอกว่าหัวใจของเขาไม่ได้เต้นในจังหวะเดิมอีกเลยตั้งแต่เห็นอาจารย์ที่ชื่อไตรภูมิก้าวเดินเข้า

มาในห้องด้วยท่าทางรีบร้อน ตั้งแต่วินาทีนั้นปฐพีก็ควบคุมสายตาไม่ได้อีกเลยเมื่อมัวแต่จ้องใบหน้าอ่อนกว่าวัยจนแทบ

ไม่ได้ฟังเนื้อหาที่อาจารย์สอน จนกระทั่งเขาเดินตรงไปยังเวทีด้านล่างและดึงอาจารย์เข้ามากอดนั่นแหละ

         ร่างที่อยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น มีเลือดเนื้อและทำให้ปฐพีเต็มไปด้วยความสุข เขาไม่เข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้น

อย่างฉับพลันรู้เพียงแต่เขาไม่อยากจะปล่อยร่างนั้นออกไปจากอ้อมกอดเลยสักนิดถ้าเป็นไปได้


          “บ้าไปแล้วกู”


           บ่นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังโรงอาหารในยามสาย เขากวาดสายตามองหาที่นั่งจนมอง

เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนห้องเดียวกันตั้งแต่มัธยม ชายหนุ่มก้าวเข้าไปหาพลางทักทาย


           “รุ้ง”


          ปฐพีนั่งลงตรงข้ามกับรุ้งงามที่กำลังตักข้าวเข้าปากแต่สายตากลับจ้องเอกสารการเรียนที่ถืออยู่ในมือ


          “ว่าไงเอิร์ท”


          “อะไรจะคร่ำเคร่งขนาดนั้นล่ะ กินข้าวให้หมดก่อนค่อยดูชีทก็ได้”


           รุ้งงามวางเอกสารลงบนโต๊ะก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่


           “ไม่คร่ำเคร่งไม่ได้สิแก วันแรกก็มีการบ้านให้ทำแล้ว โหดว่ะ”


           เพื่อนของปฐพีสอบติดคณะอักษรศาสตร์ หญิงสาวทำหน้ามุ่ยพร้อมกับตักข้าวใส่ปาก


          “งานอะไรของแก”


          “ก็นี่เลยงานแรก วิเคราะห์วรรณคดี แล้วนี่ได้โจทย์ยากเลย”


           ปฐพีเลิกคิ้ว เขาหยิบการบ้านของรุ้งงามมาถือในมือ


           “เรื่องอะไรรุ้ง”


           “มัทนพาธา โคตรยากเลยแก โคลงฉันท์กาพย์กลอนร่าย ครบหมดเรื่องนี้”


            ปฐพีเลื่อนสายตามองตัวอักษรที่ปรากฏอยู่บนเอกสารแผ่นแรก เขาอ่านบทกวีนั้นอยู่ในใจ




                           อ้าอรุณแอร่มระเรื่อรุจี

                 ประดุจมโนภิรมย์ระตี           ณ แรกรัก

                        แสงอะรุณวิโรจน์นะภาประจักษ์

                 แฉล้มเฉลาและโสภินัก        นะฉันใด

                      หญิงและชาย ณ ยามระตีอุทัย

                  สว่าง ณ กลางกมลละไม      ก็ฉันนั้น


           อ่านจบแค่เพียงท่อนแรกมือของปฐพีก็สั่น ความคุ้นเคยถาโถมเข้ามาจนหัวใจสั่นไหว ปฐพีเจ็บใจที่เขา

จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนหน้านี้



         “วรรณคดีสมัยรัชกาลที่หกไงแก แต่เรื่องมันเศร้ามากอะนะ ผู้หญิงคนหนึ่งยอมกลายเป็นดอกกุหลาบ

เพียงเพื่อรักษาความรักให้ผู้ชายที่ไม่เชื่อใจตัวเอง เฮ้อ อะไร ทำไมแกทำหน้าแบบนั้นล่ะเอิร์ท”


          “เป็นตอนที่ท้าวชัยเสนกล่าวเปรียบเปรยว่าความรักนั้นงดงามเหมือนแสงสว่างของพระอาทิตย์ในยามเช้า
และสัญญาต่อหน้าฤๅษีที่เลี้ยงดูมัทนาว่าจะแต่งงานเคียงคู่กับมัทนาไปตลอดชีวิต”



        ปฐพีถึงกับยกมือไปวางแนบหน้าอกข้างซ้ายเมื่อมันเต้นเร็วและแรงจนปวดหนึบเมื่อโสตประสาทได้ยินเสียง

นุ่มลอยล่องเข้ามา แต่เขายังจับใจความไม่ได้ว่าใครเป็นคนพูดประโยคนี้ให้เขาฟัง

 


                                TBC


                         นั่นแน่ะ คู่นี้ยังไงกันน้า อิอิ



                        :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2018 23:49:59 โดย Belove »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ได้เจอกันแล้ว จะไม่เศร้าแล้วใช่ไหม รอกันมาตั้งนาน ฮื่อออ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เจอกันแล้วว

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น้องดินวัย18 จัดเลยค่ะ จะรออะไร  รอมา18ปีแล้ว
อื้อหือในที่สุด

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
โหยลุ้นให้เขากลับมานักกันอีกกกก ถึงจะอ่านเรื่องสั้นแล้วก็เหอะ

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ดินกลับมาแล้ววววววววววว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
วุ้ย...ดีใจแทนไตรภูมิ ไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดายอีกแต่ไป
ว่าแต่คนเขียน..อย่าให้อาวุธกลับมาอีกนะ ฮึ
ถ้ากลับมา ก็ขอให้มีแฟนเป็นของตัวเองไปนะ อิอิ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
 o7 ในที่สุดดินก็กลับมาเกิดแล้วมาจนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเพิ่งจะผ่านไปครึ่งเรื่องหรือใกล้จะจบแล้วก็ไม่รู้ แต่ต่อจากนี้คิดว่าเอิร์ทคงต้องเริ่มหาคำตอบแน่ๆ และหวังว่าจะหมดดราม่าแล้วนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
สิบแปด สามสิบแปด เหมาะสม

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
อิอิกินเด็กเฟ้ยยยย

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
        :pig4: :pig4: :pig4:
ในที่สุดเค้าก็ตามมาจนได้เจอกันและคงได้รักกันแล้วซินะค่ะ....รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :katai5: :ling1:

อยากอ่านตอนต่อไปมากๆเลย

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                 วิญญาณเสน่หา

                                    บทที่ ­­๑๒



          แวบหนึ่งในขณะที่ปฐพีกำลังถามตนเองอยู่นั้นกลับปรากฏใบหน้าของอาจารย์ที่สอนในวิชาล่าสุด ทำให้

เขาต้องดึงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วเปิดดูภาพที่เขาถ่ายรูปของอาจารย์ไตรภูมิในอิริยาบทต่าง ๆ บนเวที

ไว้หลายรูป ปฐพีไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดไตรภูมิจึงได้มาอยู่ในความคิดคำนึงของเขา


          “รูปใครน่ะเอิร์ท”


           รุ้งงามยื่นหน้ามองด้วยความใคร่รู้เมื่อเห็นปฐพีจ้องมองโทรศัพท์ไม่วางตา


           “โหย หล่ออะแก อาจารย์คณะแกเหรอ”  รุ้งงามส่งเสียงวี้ดว้ายตามประสาผู้หญิง




                           “หน้าตาสะอาดสะอ้าน แต่งตัวก็ดี ไหนขอดูรูปอื่นซิ”


           หญิงสาวแย่งโทรศัพท์ไปจากปฐพีแล้วเปิดดูรูปที่เขาถ่ายมาพลางเอ่ยชมไม่ขาดปาก


          “ว้ายแก ตอนยิ้มอ่อนนี้ทำเอาใจละลายเลย นี่ เอิร์ท รูปนี้ยิ่งหล่อ ชื่ออาจารย์อะไรเนี่ย”


          “อาจารย์ไตรภูมิ”


          ปฐพีตอบทันควันราวกับชื่อนั้นประทับอยู่ในความทรงจำของเขา ดวงตาคมจ้องมองภาพถ่ายพลางคลี่ยิ้ม

อย่างลืมตัว


          “โอ๊ยแก ผู้หญิงคณะแกโชคดีว่ะเอิร์ท ถ้าเป็นฉันไปนั่งเรียนแล้วมีอาจารย์ไตรภูมิเป็นคนสอนนะ ฉันคง

ได้แต่นั่งมองหน้าอาจารย์จนสอบตกเพราะไม่ได้ฟังเนื้อหา นี่ เอิร์ท ชอบรูปนี้ว่ะ แกส่งไลน์มาให้ฉันหน่อยสิ”


          เห็นรุ้งงามทำท่ากระดี๊กระด๊าแล้วปฐพีก็หงุดหงิด เขารู้สึกหวงภาพที่อยู่ในโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างไม่มี

สาเหตุ ปฐพีรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของจนต้องคว้าโทรศัพท์มาจากมือของรุ้งงาม


          “ไม่ให้”


          เสียงนั้นเข้มกว่าเคยแต่รุ้งงามยังไม่ทันผิดสังเกต รุ้งงามทำหน้าง้ำเมื่อปฐพีไม่ยอมตามใจ


          “อะไรวะแก แค่รูปอาจารย์ก็แบ่งไม่ได้ ไอ้คนขี้หวง แกจะเก็บรูปอาจารย์ไปทำไมเขาเป็นผู้ชายเหมือน

แกนะ แกก็ไปตามเก็บรูปเชอร์ปรางรูปน้องปัญของแกไปสิ”


          คำต่อว่าแม้จะไม่จริงจังนักแต่กลับสะดุดใจปฐพี ทำไมเขาจะต้องสนใจผู้ชายด้วยกันอย่างไตรภูมิด้วย

แล้วไหนจะความรู้สึกหวงแหนนั้นอีกเล่า


          “พอเลย”


          ยกมือเขกศีรษะรุ้งงามเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินหนี หัวใจของปฐพีว้าวุ่นเกินกว่าจะอยู่คุยกับเพื่อนได้

และความว้าวุ่นนั้นก็ยังก่อกวนไปตลอดทั้งวันจนถึงดึกดื่น ปฐพีได้แต่ตอนกระสับกระส่ายพลิกไปมาหากแต่ข่มตาไม่หลับ

จนต้องคว้าโทรศัพท์มือถือไว้ในมือ

         มัทนพาธา


         ปลายนิ้วไวเท่าใจคิด เขาพิมพ์ชื่อวรรณคดีลงไป ไม่กี่วินาทีข้อมูลก็ปรากฏต่อสายตา ปฐพีเลือกเข้าไปใน

เว็บไซด์หนึ่งซึ่งมีตัวอย่างบทประพันธ์ที่ดังที่สุดของเรื่องนี้
               

                  “ความรักเหมือนโรคา           บันดาลตาให้มืดมน


                ไม่ยินและไม่ยล                 อุปสัคคะใดใด


            ความรักเหมือนโคถึก                  กำลังคึกผิขังไว้
 

            ก็โลดออกจากคอกไป                  บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง


            ถึงหากจะผูกไว้                      ก็ดึงไปด้วยกำลัง


           ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง                       บ หวนคิดถึงเจ็บกายฯ”

 


          ปฐพีย่นหัวคิ้วเข้าหากันพลางท่องบทกวีนั้นซ้ำไปซ้ำมา เปลือกตาหนาหนักปิดเข้าหากันก่อน

สติสัมปชัญญะจะลดลงไปเรื่อย ๆ และแทนที่ด้วยภาพสีจาง ๆ คล้ายว่าเขากำลังมองฉากหนึ่งในภาพยนตร์ยุคโบราณ
 







            “ได้ดอกแก้วมาอีกแล้วรึ นังแก้วนี่มันคงจะมีใจให้เอ็งแน่แท้เสียกระมัง”



            เสียงแข็งกว่าเคยนั้นทำให้ไอ้ดินยิ้มแห้ง มันไถลไปตบเบาะนอนตบหมอนหนุนบนเตียงพลางวางช่อ

ดอกแก้วไว้บนหมอน ครั้งจะบอกความจริงว่านังแก้วนั้นมิได้มอบช่อดอกแก้วกะจิ๋วหลิวมาให้มันเสียเมื่อไหร่ จุดหมาย

ของบ่าวบนเรือนใหญ่คือลูกชายเจ้าของเรือนต่างหาก



          “พี่ดิน ข้าฝากดอกแก้วไปให้คุณพุ่มบ้างสิ”



           นังแก้วกระมิดกระเมี้ยนส่งช่อดอกไม้ที่มันปลิดจากต้นหน้าบ้านห่อด้วยใบจำปีมัดเสียเป็นช่อส่งให้ไอ้ดิน



          “นังแก้ว เอ็งนี่ชักจะเหลวไหล เป็นสาวเป็นนางใยส่งดอกไม้ให้ผู้ชายเช่นนี้”



          ไอ้ดินส่งเสียงดุแต่นังแก้วบ่าวแสนกะล่อนกลับมิได้นึกหวั่น มันลอยหน้าตอบไอ้ดินเสียงแจ๋ว ๆ



          “มัวแต่คิดมากแล้วเมื่อใดข้าจะได้ผัวดี ๆ กับเขาบ้างเล่า พี่ก็รับใช้เป็นทนายหน้าหอ(หมายถึงคนรับใช้

ออกหน้าออกตา//ผู้แต่ง) ก็ต้องรู้ดีว่าคุณพุ่มเนื้อหอมแค่ไหน หากข้าไม่เสนอตัวเป็นทางเลือกคุณพุ่มจะชายตาแลข้า

ก็คงไม่ นะพี่ดิน คิดเสียว่าช่วยเหลือลูกนกตาดำ ๆ เผื่อว่าข้าจะได้ดิบได้ดีเป็นเมียคุณพุ่มแค่เมียรองก็ยังดี ฝากดอก

แก้วช่อนี้ให้คุณพุ่มและบอกทีว่านังแก้วมันเด็ดให้หวังจะทำให้คุณพุ่มชื่นใจนอนหลับฝันดี”



           ไอ้ดินมันซื่อแต่ไม่โง่ มันรับช่อแก้วนั้นมาแต่มิได้บอกใจความที่คนฝากหวังจะให้เจ้านายที่มันรักได้รู้

ไอ้ดินเฉไฉไปตามเรื่องและหาทางพูดจาให้คุณพุ่มของมันเลิกสนใจที่มาของดอกแก้วที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วห้อง



          “โธ่ คุณพุ่ม อย่าได้สนใจนังแก้วเด็กแก่แดดกะโหลกกะลาเลยขอรับ มานี่ดีกว่า วันนี้คุณพุ่มเมื่อยขบ

เพราะวาดรูปที่อุโบสถเสียทั้งวัน นอนลงให้กระผมนวดเฟ้นให้หายเมื่อยเถิดขอรับ”



         รอยยิ้มปะเหลาะของบ่าวตัวดีทำให้พุ่มยอมเอนกายลงนอนแผ่ให้มือหนักออกแรงนวดเฟ้นพลางเปิดสมุด

บันทึกของตนออกมากางอ่านด้วยเสียงนุ่ม





            “ความรักเหมือนโรคา           บันดาลตาให้มืดมน


        ไม่ยินและไม่ยล                    อุปสัคคะใดใด


        ความรักเหมือนโคถึก                กำลังคึกผิขังไว้


         ก็โลดออกจากคอกไป               บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง


        ถึงหากจะผูกไว้                    ก็ดึงไปด้วยกำลัง


           ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง                  บ หวนคิดถึงเจ็บกายฯ”         



               “ไพเราะเหลือเกินขอรับ แต่มันหมายความถึงกระไรหรือขอรับคุณพุ่ม”


                พุ่มยิ้มบาง ๆ พลางหันไปสบตากับดิน เขาอธิบายถึงความหมายของบทกวีที่เขาชอบ


               “ความรักบางครั้งก็ทำให้ดวงตามืดบอด ไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น เปรียบเสมือนวัวที่กำลังคึกคะนอง หาก

มัดมันไว้อยู่ในคอกมันก็จะดิ้นรนหาทางให้หลุดพ้นไปโดยไม่สนใจว่าจะเจ็บตัวแค่ไหน”


         ดินนิ่งคิดตาม มันเอ่ยถามเจ้านายด้วยความกังขา



         “ความรักมันอันตรายร้ายแรงขนาดนั้นเทียวหรือขอรับ”



         “ไม่หรอกดิน”



           พุ่มนึกเอ็นดูสีหน้าของบ่าวหนุ่ม เขาเอื้อมมือเรียวไปวางแนบบนใบหน้าเข้มพลางแตะไล้ที่ไรหนวดสีเขียวจาง



         “หากเรารักอย่างมีสติ รักนั้นย่อมไม่มีอันตราย”



         ดินยกมือสากวางทับไปบนหลังมือของพุ่ม มันจ้องมองใบหน้าของคนที่ครอบครองหัวใจของมันไปเสียทุกส่วน

คุณพุ่มของมันงามทั้งกายงามทั้งใจจนไอ้ดินไม่อาจหักใจ มันโน้มกายลงช้า ๆ จนกระทั่งรู้สึกถึงไออุ่นจากจมูกโด่งได้รูป

และกลีบปากนุ่มหวานฉ่ำ


            ดินประทับริมฝีปากของมันอย่างไม่รีบร้อนเพราะรู้ดีว่าคุณพุ่มของมันมิได้หนีหายไปไหน ดินเม้มกลีบปากหยุ่น

เบา ๆ ก่อนจะใช้ลิ้นของมันนำทางเข้าไปแตะไล้กับสบฟันของพุ่มและส่งปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากแสนหวาน


           “อืมมม ดิน”


          ได้ยินเสียงหอบหายใจดังมาจากลำคอของพุ่ม ไอ้ดินพลันตวัดเรียวลิ้นอุ่นเข้าหาพลางเอนกายกำยำของมันลง

ทาบทับบนเนื้อตัวนุ่มเนียน มือร้อนที่วางอยู่ตรงเอวสอดลึกเข้าไปในผ้าป่านบางเบาของพุ่มก่อนจะไปหยุดที่ตุ่มไตเม็ด

เล็กแล้วเคล้าคลึงเบามือ


         “อื้อ”


         ร่างโปร่งแอ่นสูงเบียดเข้าหามันอย่างลืมตัว ไอ้ดินแค่สะกิดเบา ๆ ปมมัดกางเกงผ้าแพรที่พุ่มสวมใส่ก็หลุดลุ่ย ดิน

ทิ้งน้ำหนักที่เอวไปมาจนชายกางเกงแพรเนื้อลื่นตัวนั้นพลันเลื่อนไหลออกจากท่อนขาเรียวไปกองอยู่ตรงปลายเท้าให้พุ่ม

สะบัดจนหล่นหาย เพียงไม่นานพุ่มก็เหลือเพียงกายไว้ให้ไอ้ดินได้มองอย่างหลงใหล


          “คุณพุ่มงามเหลือเกินขอรับ” มันเอ่ยเสียงกระเส่า


          “หมดจดไปหมดทั้งตัว หาได้มีไฝผ้ามาให้เกิดราคีแม้สักนิด”


           “ปากเอ็งหวานนัก”


           พุ่มมองกลับสายตาฉ่ำหวาน มืดนุ่มวางอยู่บนบ่ากว้างจิกเล็กลงไปเบา ๆ เมื่อรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของท่อน

เนื้อที่บดเบียดลงมาจนต้องเปิดทางรับ


         “เอ็งจะไปกล่าวคำหวานเช่นนี้กับผู้อื่นบ้างหรือไม่”


        “หัวใจของไอ้ดินมีแค่คุณพุ่มเพียงคนเดียวขอรับ”


          ไอ้ดินกล่าวคำสัตย์ มันดันเอวล่วงล้ำเข้าไปในร่างกายร้อนผ่าวทีละนิด สัมผัสเสียดสีเรียกเสียงครางแผ่วจากร่าง

ข้างใต้ที่ตั้งขายกฉากเพื่อให้สัมผัสนั้นสอดลึกยิ่งขึ้น


        “รวมถึงร่างกายนี้ก็มีเจ้าของเพียงคนเดียวคือคุณพุ่มเท่านั้นขอรับ”

         พูดจบไอ้ดินก็ดันเอวเข้าไปจนหมด หัวคิ้วดกดำย่นเข้าหากันเมื่อรับรู้ถึงความคับแน่นที่รอให้มันได้เชยชมใน

ค่ำคืนนี้ ร่างสูงเต็มไปด้วยพละกำลังหยัดกายขึ้นมา มันเฝ้ามองเนื้อตัวที่มีเงาจากตะเกียงดวงโตที่แขวนอยู่มุมห้อง แสง

เงาวูบวาบอยู่บนกายขาวผ่องยิ่งทำให้ไอ้ดินเต็มไปด้วยความเสน่หา


           ดินช้อนแขนเข้าไปใต้เข่าของพุ่มและยกขึ้นสูง เอวแกร่งเลื่อนกายเข้าออกช้า ๆ เพื่อเพิ่มแรงปรารถนาจนถึงขีด

สุด คุณพุ่มของมันแหงนหน้ากัดฟันพริ้มตา ร่างกายบิดพล่านซ้ายขวาเป็นสัญญาณให้ดินรู้ว่าเวลาของมันมาถึงแล้ว

ความเร็วและความแรงจึงทวีขึ้นเรื่อย ๆ จนพุ่มถึงกับผวาเข้ากอดรัด


        “โอ ดิน”


         สองแขนของพุ่มโอบรัดอยู่บนร่างกำยำชื้นเหงื่อ ได้ยินเสียงครางคร่ำครวญของตนปนเปไปกับเสียงกระทำหนัก

แน่นของบ่าวคู่ใจ พุ่มเป็นฝ่ายเอียงใบหน้าเข้าหาแล้วประกบริมฝีปากของเขากับปากแห้งผากของดิน ทั้งคู่ตวัดลิ้นเกี่ยว

พันดูดดื่ม ร่างของพุ่มถูกท่อนแขนของดินช้อนเข้าใต้แผ่นหลังและยกขึ้นมาจนกลายเป็นเขานั่งคร่อมทับอยู่บนเอวหนาที่

ยังออกแรงไม่มีตก


        “อื้อ ดิน อีกนิดเดียว”


        พุ่มขยับเอวขึ้นลงรับแรงของดิน ร่างกายของเขาสั่นระริกราวกับจะปริแตก ใบหน้าเนียนซุกลงไปกับไหล่กว้างและ

กัดฟันเต็มที่เมื่อกล้ามเนื้อส่วนล่างบีบอัด น้ำรักพุ่งวาบออกมาเปรอะเปื้อนอยู่เต็มแผ่นท้องของดิน  เสียงหวานหลุดลอด

จากลำคอยาวนานเมื่อพบกับความสุขสมและปล่อยให้ดินได้กระหน่ำเรี่ยวแรงตามติด


           “คุณพุ่ม อา ไอ้ดินจะตายเสียแล้วขอรับ”


            ช่องทางนั้นรัดรึงจนดินสุดจะทานทน มันกอดรัดพุ่มไว้แน่นพลางกลั้นใจออกแรงเฮือกสุดท้าย พิษรักของมัน

ฉีดอัดอยู่ในช่องทางร้อนระอุหากแต่หวานฉ่ำ ไอ้ดินเป่าปากพ่นคำรักหวานซึ้งออกมา


          “อา รัก ไอ้ดินรักคุณพุ่มเหลื่อเกิน คุณพุ่มของไอ้ดิน”





มีต่ออีกนิด....


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2018 00:38:24 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


อ่านต่อตรงนี้..





         “คุณพุ่มของไอ้ดิน”


          ปฐพีสะดุ้งเฮือกพลางลืมตาหอบกระเส่า แผ่นหลังของเขาชื้นเหงื่อทั้งที่ห้องนอนติดเครื่องปรับอากาศ

เปิดจนเย็นฉ่ำ เขาผุดลุกขึ้นมานั่งยกมือลูบใบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติ ใบหน้าที่ปรากฏในความฝันยังตรึงตาจนบัดนี้


        ใครกัน!


        ปฐพีถามตนเองอย่างงงงันแต่ก็ไม่ได้คำตอบ เขาดึงผ้าห่มออกจากตัวด้วยความรำคาญจนได้เห็นว่าช่วงล่าง

ของเขาเปียกชื้น และรู้สึกคล้ายกับว่าเพิ่งผ่านบทรักยาวนานเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา


รอจนหายใจเป็นปกติชายหนุ่มจึงได้สะบัดหน้าขับไล่ความมึนงง เขาหาคำตอบไม่ได้ว่าบุรุษที่อยู่ในความฝันนั้นเป็นใคร

กันแน่





           กว่าจะขับรถยนต์มาถึงมหาวิทยาลัยก็ช่วงสายของวัน ปฐพีจอดรถเรียบร้อยจึงได้เดินทอดน่องมาตาม

ทางเดินพลางคิดถึงความฝันของเขา ทำอย่างไรก็สลัดใบหน้านั้นให้หลุดไปจากจินตนาการไม่ได้เสียทีจนเริ่มจะ

หงุดหงิด แต่ความคิดของเขาก็พลันสะดุดเมื่อเหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ริมสระน้ำกว้างของ

มหาวิทยาลัยที่จัดไว้เป็นสวนร่มรื่น เท้าของปฐพีก้าวเข้าไปหาทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากสมอง


          “สวัสดีครับอาจารย์”


           คนที่นั่งหันหลังและกำลังใช้ดินสอร่างภาพบนกระดาษหันขวับมา ปฐพีถึงกับสะดุ้ง


           แม้ใบหน้าจะไม่เหมือนกันแต่นัยน์ตาสดใสคู่นั้นไม่ต่างกันเลย อะไรบางอย่างทำให้ปฐพีนำใบหน้าของ

ผู้ชายสองคนมาซ้อนทับกัน หัวใจของเขาพลันเต้นรัว


         “อ้าว เอิร์ท”


         “ผมรบกวนเวลาของอาจารย์หรือเปล่าครับ”


          ปฐพีเพิ่งตั้งสติได้ เขายิ้มเฝื่อนด้วยความเกรงใจที่มาทำลายเวลาส่วนตัวของไตรภูมิ แต่อีกฝ่ายส่ายหน้า

ปฏิเสธแถมยังส่งยิ้มบาง ๆ มาให้


        “ไม่รบกวนหรอก ผมมาซ้อมฝีมือนิดหน่อยก่อนจะไปสอนน่ะ”


        “อาจารย์วาดสวยมากครับ”


          เบนสายตาไปมองภาพสเก็ตบนกระดาษ แม้ยังไม่คมชัดแต่ก็มองออกว่าเป็นภาพสระน้ำตรงหน้า ลาย

เส้นดินสอนั้นยิ่งสะกิดใจของปฐพีจนว้าวุ่น


         “ขอบใจนะ อ้าว ใกล้ถึงเวลาสอนแล้ว”


         ไตรภูมิลุกขึ้นยืนพลางทำท่าจะหยิบหนังสือเล่มใหญ่ข้างตัว ปฐพีรีบคว้ามันมาถือไว้ในมือทันที


         “ผมบอกแล้วว่าจะช่วยอาจารย์แบกหนังสือหนัก ๆ นี่ไงครับ”


         “มันไม่ได้หนักขนาดนั้น ผมถือเองได้”


          เสียงเบากล่าวแก้แต่ปฐพีก็ยังดื้อดึง


         “ให้ผมถือให้ดีกว่า ไปสิครับ วันนี้สอนที่ตึกไหนครับ”


          ไม่รู้ว่าปฐพีจะคิดไปเองหรือเปล่าว่าใบหน้าของไตรภูมิเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย เขาหันริมฝีปากแดงเรื่อตาม

ธรรมชาติเม้มเข้าหากันก่อนที่ไตรภูมิจะเดินนำเขาออกจากสวนเล็ก ๆ แห่งนี้

           ปฐพีมองตามแผ่นหลังนั้นเงียบ ๆ ความอบอุ่นแล่นอาบเต็มหัวใจจนเผลอยิ้มออกมา ร่างสูงชะงักตาม

คนข้างหน้าที่หยุดเท้าลงแล้วหันไปมองต้นแก้วข้างทาง

            ไตรภูมิจ้องมองดอกแก้วดอกเล็กที่กระจายตัวกันอยู่บนพุ่มใบของต้นแก้ว ปฐพีเอ่ยถามทำลายความ

เงียบ


           “อาจารย์ชอบดอกแก้วหรือครับ”


           “ใช่” ไตรภูมิพยักหน้ารับ


           “ผมว่ามันมีเสน่ห์ กลีบสวยและมีกลิ่นหอมเย็นชื่นใจ”


            อาจารย์หนุ่มใหญ่มองซ้ายมองขวาราวกับกลับไปเป็นเด็กก่อนจะยื่นมือเรียวไปเด็ดดอกแก้วมาช่อหนึ่ง

ไตรภูมิหันมายิ้มให้ปฐพีพลางขยิบตาให้


           “ขอเด็ดสักหน่อย คนสวนคงไม่จับได้หรอกนะ”


           ปฐพีลืมตัวจ้องมองใบหน้าสดใสนั้น เขากล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลกว่าเคยใช้กับใคร


           “ผมก็อยากได้ดอกแก้วบ้าง”


           ไตรภูมิเอียงคอมอง


           “เด็ดสิ ช่วงนี้คนสวนยังไม่มาหรอก”


          ปฐพีส่ายหน้า ดวงตาคมพราวแสงเมื่อเขาชี้นิ้วไปที่ดอกแก้วในมือของไตรภูมิ


          “ผมไม่อยากได้ดอกแก้วบนต้นครับ ผมอยากได้ดอกแก้วในมือของอาจารย์ต่างหาก”




                                  TBC




                    โอ๊ยยย น้องเอิร์ทอย่าเพิ่งรุกแรง แค่นี้ก็หลงแล้ว

                      :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2018 00:44:12 โดย Belove »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:
วัยรุ่นใจร้อน

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ใจเย็นนะไอ้หนุ่ม ฮิฮิ
ชอบที่ฝันนี่แหละค่ะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
มาตอนนี้ ทำเอาเลือดกำเดาไหลเลยนะ
 :haun4:
โอ๊ย...คิดถึงทั้ง 2 คน
 :man1: :man1:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เขินไปอีกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
จะจีบอาจารย์ก็ค่อยไปจีบข้างนอกสิคะ จีบในมหาลัยเดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกหรอก นี่ขนาดยังไม่แน่ใจอะไรน้องเอิร์ทยังรุกแรงขนาดนี้ถ้าแน่ใจแล้วอาจารย์ไตรภูมิจะมีแรงมาสอนมั้ยเนี่ย อิอิ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
อ่อยได้อีกนะน้องเอิร์ท คุณครูหัวใจสยบแล้ว

ออฟไลน์ minmin96

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เจอน้องเอิร์ทมาในแบบนี้ เล่นเอาอาจารย์ไปไม่เป็นเลย
ชอบฉากในความฝันมาก ฝันบ่อยๆนะ

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
แอร๊ยยยย
เปนเด็กเปนเล็กริอาจจะเด็ดดอกแก้วซะแล้ว
คนเป็นอาจารย์จะทำไงดีหนอออออ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เริ่มจะจำได้แล้วสินะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                  วิญญาณเสน่หา

                                     บทที่ ­­๑๓



           แก้มของหนุ่มใหญ่วัยใกล้สี่สิบเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยเลือดฝาด ท่าทางเคอะเขินแสดงออกให้เห็นเด่น

ชัดทำให้ปฐพีอดยิ้มไม่ได้ อาจารย์ไตรภูมิหลบสายตาของเขาก้มมองได้แค่กระดุมชุดนักศึกษาเม็ดแรกจนปฐพีเอ็นดู

อะไรบางอย่างบอกเขาว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนที่จะรุกจนไตรภูมิตกใจ


          “ผมล้อเล่นน่ะครับอาจารย์อย่าถือสาเลย รีบไปเถอะครับแดดแรงมากขึ้นทุกทีแล้ว”


          พูดจบปฐพีก็ต้องยกคิ้วสูงอย่างแปลกใจเมื่อไตรภูมิยื่นมือที่ถือดอกแก้วมาตรงหน้าทั้งที่ยังก้มหน้าต่ำ


          “รับไปสิ”


           เสียงเบาแทบไม่ต่างจากเสียงกระซิบดังมาจากใบหน้าที่ปฐพีจ้องมองอย่างเผลอไผล


           “อะไรนะครับอาจารย์”


           “ก็ถ้าเอิร์ทอยากได้ดอกแก้วผมก็ให้”


          หัวใจของปฐพีพองจนล้นอก เขายื่นมือไปรับดอกแก้วช่อนั้นมาจากไตรภูมิ กระทั่งปลายนิ้วที่สัมผัสกัน

ยังสร้างความหวั่นไหวได้มากขนาดนี้ เขายกดอกแก้วขึ้นดอมดมจรดจมูก


           “ขอบคุณนะครับอาจารย์ ดอกแก้วที่อาจารย์ให้จะต้องหอมที่สุดในบรรดาดอกแก้วทั้งต้นเลย”


          ปฐพีมองเห็นเลือดฝาดนั้นแดงลามไปถึงใบหู ไตรภูมิรีบหันหลังให้ปฐพีและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่พยายาม

ปกปิดความหวั่นไหวให้ได้มากที่สุด


          “รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวผมไปสอนช้า”


            ร่างโปร่งนั้นเดินจ้ำอ้าวนำไปลิ่ว ๆ ปฐพีได้แต่อมยิ้มแล้วเดินตามต้อย ๆ เขาหย่อนดอกแก้วช่อเล็ก

ไว้ในกระเป๋าเสื้อชุดนักศึกษาอย่างทะนุถนอมราวกับมันเป็นสิ่งของล้ำค่าที่สุดของเขา








          ปฐพีอารมณ์ดีตลอดทั้งวันจนเพื่อนร่วมชั้นปีทักอย่างแปลกใจตอนที่เขาไปร่วมกิจกรรมรับน้องในช่วงเย็น


          “วันนี้ไอ้เอิร์ทแม่งยิ้มทั้งวัน ถามจริงไปโดนตัวไหนมาวะ”


          “ทำไม กูไม่ได้ดีดขนาดนั้นหรอก แต่คนอารมณ์ดีมันก็ต้องยิ้มสิวะ”


           เขาตอบเพื่อนไปแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้บอกสาเหตุว่าเพราะอะไรถึงได้หุบยิ้มไม่ลงสักที


          “นี่ ฉันไปสืบข่าวเรื่องอาจารย์ไตรภูมิมาแล้วนะ”


          กลุ่มที่นั่งคุยด้านข้างเป็นกลุ่มหญิงสาว หัวข้อที่คุยนั้นเรียกความสนใจจากปฐพีได้ทันที เขาหูผึ่งลอบฟัง

สาว ๆ คุยกันเรื่องอาจารย์ไตรภูมิที่กลายเป็นจุดสนใจของนักศึกษาผู้หญิงหลายคน


         “โสดค่ะพวกคุณๆ ทั้งหลาย โสดสนิทไม่เคยมีแฟน อาชีพหลักเป็นอาจารย์สอนพวกเรา มีอาชีพเสริม

คือวาดรูปขาย แล้วแต่ละรูปเขาว่าขายได้ราคาแพงด้วยนะแก”


          “โอ๊ย สเป็คเลย ฮือ หล่อ เก่ง โสด จองนะคนนี้ เหมาะจะเป็นหลัวมาก”


          “อ้าว จองได้ไง ตบกันหลังเซเว่นปิดไหมจะได้จบ ๆ”


          “พวกแกหยุดแย่งกันเลยนะ ของกลางโว้ย สมบัติของมหาลัย มองได้อย่างเดียวห้ามแตะต้อง”


           ข้อมูลจากบทสนทนานั้นทำให้ปฐพีลิงโลด สถานะโสดของไตรภูมิทำให้เขาเกิดความมั่นใจหากจะเดิน

หน้าสร้างสัมพันธภาพ ในฐานะอะไรปฐพีก็ยังไม่รู้ เขารู้แต่ว่าอยากอยู่ใกล้ไตรภูมิอยากเห็นไตรภูมิตลอดเวลา








          กว่าจะเลิกจากกิจกรรมเชียร์ก็ถึงเวลาพลบค่ำ ปฐพีรีบวิ่งไปที่รถยนต์คันเก่งที่บิดายกให้ใช้ท่ามกลาง

บรรยากาศขมุกขมัวและร้อนอบอ้าว ขึ้นนั่งบนรถยังไม่ทันสตาร์ทเครื่องฝนก็เทลงมาหนาตา ปฐพีสบถออกมาเบา ๆ


         “เอาแล้วไง ตกอะไรตอนนี้ว้า แล้วจะถึงบ้านตอนกี่โมงล่ะเนี่ยรถติดตายห่า”


          ชายหนุ่มขับรถยนต์ออกมาจากมหาวิทยาลัยช้า ๆ ที่ปัดน้ำฝนทำงานถี่ดังขวับ ๆ ท้องฟ้ายามเย็นกลาย

เป็นสีดำมีเมฆฝนปกคลุมและสายฝนยังกระหน่ำลงมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด การจราจรเริ่มติดขัดจนรถยนต์เคลื่อนที่ได้ทีละ

นิด ปฐพีมองไปนอกหน้าต่างเมื่อต้องหยุดรถตามคันหน้า พลันต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างคุ้นตาหลบฝนอยู่ที่ป้าย

รถเมล์หน้ามหาวิทยาลัยปะปนไปกับคนอื่น ๆ  ชายหนุ่มรีบจอดเทียบและเปิดกระจกทันที


         “อาจารย์ครับ อาจารย์ไตรภูมิ”


          หันมองตามเสียงเรียก เจ้าของเสียงคือนักศึกษาปีหนึ่งที่ทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหวได้ทุกครั้งยาม

สบตาคมคู่นั้น


         “อาจารย์ขึ้นมาบนรถของผมก่อนเถอะครับ”


          กลายเป็นเป้าสายตาให้หลายคนมองจนไตรภูมิวางหน้าไม่ถูก  เขาวิ่งฝ่าสายฝนไปที่ฝั่งด้านข้างคนขับ

ด้วยเนื้อตัวเปียกปอน เมื่อไตรภูมิขึ้นรถแล้วปฐพีจึงบังคับรถให้เคลื่อนที่ต่อ


         “หนาวไหมครับอาจารย์”


         เห็นไตรภูมินั่งสั่นเพราะความเหน็บหนาวปฐพีจึงรีบเพิ่มอุณหภูมิในรถให้อุ่นขึ้น เขาเหลียวมองคนที่นั่งอยู่

ด้านข้างด้วยความเป็นห่วง


        “ทำไมอาจารย์มายืนตากฝนอยู่ตรงนี้ล่ะครับ อาจารย์ไม่มีรถยนต์เหรอ”


       “มี แต่ไม่ค่อยได้ใช้น่ะ จากคอนโดของผมมาที่มหาวิทยาลัยใช้รถไฟฟ้าสะดวกกว่า ไม่นึกว่าฝนจะตกด้วย”


        “คอนโดอาจารย์อยู่แถวไหนครับเดี๋ยวผมไปส่ง”


          ปฐพีรีบอาสาแต่ไตรภูมิมีท่าทีเกรงใจลูกศิษย์จนต้องเอ่ยปฏิเสธ


         “ไม่เป็นไรหรอก ผมกลับเองก็ได้ รบกวนเอิร์ทแค่สถานีรถไฟฟ้าก็พอแล้ว”


         “ไม่ได้เป็นการรบกวนเลยครับ ผมเต็มใจอย่างยิ่งที่จะไปส่งอาจารย์”


           ชายหนุ่มหันหน้ามากล่าวด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะกลับไปสนใจการจราจรเบื้องหน้า


          “คอนโดอาจารย์อยู่ที่ไหนครับ”


          ไตรภูมิลอบมองเสี้ยวหน้าคมของคนที่นั่งข้าง ๆ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงต้องนำปฐพีไปเปรียบเทียบ

กับดินด้วย เด็กหนุ่มที่เป็นลูกศิษย์ของเขาดูเหมือนจะเป็นคนเอาแต่ใจอยู่บ้างหรือไม่อย่างนั้นก็เป็นตัวของตัวเองอย่าง

มาก บุคลิกของปฐพียิ่งสร้างความน่าสนใจและน่าค้นหากลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเขา


          “อยู่แถว....”


          ในที่สุดไตรภูมิก็ต้องยอมบอก ปฐพีส่งยิ้มมาให้จนหัวใจของไตรภูมิเต้นผิดจังหวะ


          “ประมาณสี่สถานี ความจริงก็ไม่ไกลแต่ตอนนี้คนใช้รถไฟฟ้าคงแน่นขนัดไปหมด ผมไปส่งอาจารย์น่ะ

ดีแล้วจะได้ไม่ต้องไปเบียดใคร”


          “แต่รถมันติดมากและฝนก็ยังตกไม่หยุด ระยะทางใกล้ ๆ ก็คงจะนานกว่าจะถึง”


           “นานก็ดีสิครับ” ปฐพีหันมาสบตา ดวงตาคมส่องประกายวิบวับคล้ายจะแฝงความนัยในคำพูด


            “ผมจะได้อยู่ใกล้อาจารย์ คุยกับอาจารย์ได้นานขึ้นไงครับ”


           ลูกหยอดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของปฐพีทำงานได้ดีเมื่อไตรภูมิแสดงความขัดเขินออกมาอีกแล้ว แม้ว่าคน

สูงวัยกว่าจะพยายามเก็บอาการเหล่านั้นแต่ก็ไม่แนบเนียน ปฐพีเริ่มไม่มั่นใจว่าไตรภูมิจะมีอายุใกล้สี่สิบจริง ๆ อย่างที่

พวกสาว ๆ ในชั้นปีไปหาข้อมูลมาจริงหรือเปล่า เพราะอาจารย์ของปฐพีไม่ได้มีท่าทีกร้านโลกเหมือนคนวัยเดียวกันสัก

นิด

         ปฐพีเปลี่ยนเรื่องคุยไปเป็นสัพเพเหระอื่น ๆ เพราะอยากให้ไตรภูมิพูดคุยกับเขาด้วยความคุ้นเคยมากกว่านี้

นึกอยากจะให้คอนโดมิเนียมของไตรภูมิอยู่ไกลออกไปเพื่อที่จะยืดระยะเวลานี้ให้มากที่สุด ปฐพีเสียดายเมื่อเขาขับรถ

มาถึงหน้าคอนโดมิเนียมของไตรภูมิในที่สุด


          “ขอบใจนะเอิร์ทที่มาส่ง”


            ใบหน้าอ่อนกว่าวัยหันมาส่งยิ้มอ่อนโยนจนปฐพีแทบละลาย เขาตะลึงมองขณะที่ไตรภูมิกำลังจะก้าว

ลงจากรถ ปฐพีเอื้อมมือไปยึดข้อมือของไตรภูมิไว้อย่างลืมตัว


            “เอ่อ...อาจารย์”


            สมองของปฐพีทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อหาข้ออ้างที่เขารั้งไตรภูมิไว้


             “ผมปวดฉี่ ขอไปเข้าห้องน้ำที่ห้องของอาจารย์ได้ไหมครับ”





มีต่ออีกนิด...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2018 00:10:26 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


อ่านต่อตรงนี้....





          ไตรภูมิแปลกใจที่เขายอมให้บุคคลที่เพิ่งจะรู้จักกันไม่กี่วันล่วงล้ำเข้ามาในห้องส่วนตัวได้ เพียงแค่เห็น

แววตาอ้อนวอนจากปฐพีเขาก็พยักหน้ารับและปล่อยให้ชายหนุ่มเดินตามหลังมาจนถึงห้องพักของเขา


          “ห้องน้ำอยู่ด้านนั้นนะเอิร์ท”


           ปฐพีเดินไปตามที่ไตรภูมิบอก เขากวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างรวดเร็ว ห้องพักของไตรภูมิมีพื้นที่

ใช้สอยเหมาะกับคนเมืองหลวง พื้นที่ตรงกลางจัดเป็นส่วนอเนกประสงค์ มองเห็นประตูห้องที่น่าจะเป็นห้องนอนอยู่ห้อง

หนึ่งถัดไปเป็นห้องน้ำและระเบียงแคบ ๆ ไตรภูมิเข้าห้องน้ำให้ตรงกับที่เขาอ้างเหตุผลมาเยือนที่แห่งนี้ เสร็จธุระแล้วจึง

เดินออกมามองเห็นเจ้าของห้องพักยืนอยู่ริมหน้าต่างที่เป็นกระจกใส ด้านหน้าของไตรภูมิเป็นขาตั้งสำหรับวางเฟรม

กระดาษวาดรูป


           “อาจารย์จัดห้องเป็นระเบียบมากเลยครับ”


       กล่าวชมอย่างจริงใจเมื่อก้าวเดินไปถึง ไตรภูมิถอดเสื้อผ้าเปียกชื้นออกแล้วและอยู่ใต้เสื้อคลุมตัวยาว เส้นผม

เช็ดจนหมาด สายตาที่จับจ้องภาพร่างบนเฟรมกระดาษอ่อนโยนจนปฐพีอดไม่ได้ที่จะมองภาพในกระดาษแผ่นนั้น


        ภาพนั้นเป็นเค้าโครงใบหน้าของผู้ชาย แม้จะยังเป็นเส้นหยาบ ๆ แต่ก็สามารถมองออกว่ามีใบหน้าคมเข้ม

อย่างคนไทยแท้ ปฐพีนึกอิจฉาคนในภาพที่ไตรภูมิจ้องมองด้วยนัยน์ตาหวานเจือรอยเศร้า


          “คนในรูปนี้เป็นใครหรือครับอาจารย์”


           ถามออกไปด้วยความอยากรู้พร้อมกับรอคำตอบด้วยหัวใจระส่ำระสาย ไตรภูมิถอนหายใจเบา ๆ


           “ผมกับเขาเคยรักกันในอดีต แต่ก็จากกันไปนานแล้วล่ะนะ ไม่ได้คิดถึงเขามาพักใหญ่ แต่ไม่รู้ทำไม

อยู่ ๆ ช่วงนี้ถึงได้คิดถึงเขาขึ้นมา”


          ปฐพีเจ็บจี๊ดอยู่ในอกเมื่อรู้ว่าหัวใจของไตรภูมิเคยมีใครบางคนได้ครอบครองไว้ เขามองใบหน้าหรุบต่ำที่

ฉายแววเศร้าพลางถามคำถามโง่ ๆ ออกไป


           “อาจารย์ยังรักเขาหรือครับ ทั้งที่เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างอาจารย์”


           กลีบปากแดงเม้มเข้าหากันอย่างพยายามสะกดอารมณ์ แพขนตาหนากะพริบถี่ มือเรียวยื่นไปแตะไล้

ใบหน้าบนกระดาษ


          “ขอแค่ได้รักเขาก็พอแล้ว”


           ปฐพีลืมตัว เขาแค่ไม่อยากเห็นไตรภูมิมีสีหน้าเศร้าสร้อยเช่นนี้ ชายหนุ่มกระชากต้นแขนของไตรภูมิให้

มาสบตากับเขาพร้อมกับเอ่ยเสียงเข้มกว่าที่เคย


         “อดีตก็คืออดีต อาจารย์ไม่ควรจะจมอยู่กับมันนะครับ วันนี้คือปัจจุบันของอาจารย์ อาจารย์ควรจะรักคนที่

อยู่ในปัจจุบันของอาจารย์สิครับ”


          ดวงตากลมโตจ้องมองเขาอย่างตกตะลึงในการกระทำที่แสนจะหุนหัน ปฐพีเพิ่งได้สติ มือที่ยึดต้นแขน

ทั้งสองของไตรภูมิตกลงมาแนบลำตัว


         “ขอโทษครับ ผมลืมตัวไปหน่อย งั้นผมกลับดีกว่ารบกวนอาจารย์นานแล้ว”


          “เอิร์ท...”


           ปฐพีฝืนยิ้ม หัวใจของเขาเหี่ยวแห้งผิดกับตอนแรกที่เดินเข้ามา


          “รีบเข้านอนนะครับ วันนี้อาจารย์เปียกฝนเดี๋ยวจะเป็นหวัด ผมไปละ”


            เขาก้าวไปทางประตูและเดินออกไป ไตรภูมิมองตามแผ่นหลังนั้นห่างไปจนกระทั่งประตูปิดลงอย่าง

ใจหาย เขาทรุดนั่งบนเก้าอี้พลางมองภาพของดินในกระดาษด้วยความสับสน

          ไตรภูมิรักดิน ทุกวันนี้ก็ยังรัก


          แต่หัวใจของเขากำลังหวั่นไหวไปกับผู้ชายที่อายุน้อยกว่าถึงยี่สิบปี เพียงเพราะปฐพีมีดวงตาและอะไร

บางอย่างที่คล้ายกับดินแค่นั้นหรือ

        ไตรภูมิควรจะทำเช่นไรกับความรู้สึกของตนเองในตอนนี้ดีเล่า ช่างเป็นคำถามที่หาคำตอบได้ยากเหลือเกิน







         ปฐพีล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างเซ็ง ๆ หลังจากที่กลับมาถึงบ้านและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว

เขาชูช่อดอกแก้วที่เหี่ยวแห้งอยู่ระดับสายตาก่อนจะถอนหายใจออกมา

          เฝ้าแต่ถามตนเองว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้เฝ้าคิดถึงคนที่เพิ่งจะรู้จักได้ไม่กี่วัน หากแต่ความรู้สึกล้ำ

ลึกบางประการนั้นกลับรุนแรงราวกับรู้จักกันมายาวนาน

           คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาจ้องภาพหน้าจอซึ่งก็คือไตรภูมินั่นเอง ปฐพีสนใจผู้ชายคนนี้ เขาชอบมองใบหน้า

อ่อนเยาว์ เขาอยากรู้ความเป็นอยู่ของไตรภูมิว่าจะสุขหรือทุกข์ประการใด ยามดวงตาหวานฉายความเศร้าเขาก็อยากไป

ปลอบประโลม ความลึกซึ้งเหล่านี้เกาะกุมหัวใจแม้จะเพิ่งรู้ว่าไตรภูมิมีเจ้าของหัวใจเสียแล้ว


          “เฮ้อ ไอ้เอิร์ท เป็นไรว้า อย่าบอกนะว่าชอบเขา”


          พึมพำเบา ๆ ก่อนจะวางดอกแก้วไว้บนหมอนข้างหู ปฐพีหลับตาลง


          “เขามีแฟนแล้ว เขาก็บอกอยู่โต้ง ๆ นี่มึงจะนกตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มต้นหรือไงวะ”


           ขนาดหลับตาก็ยังมีภาพของไตรภูมิปรากฏอยู่ ปฐพีเคลิ้มหลับไปทั้งที่ยังไม่เลิกคิดถึงไตรภูมิ






          “ดิน ดินครับ”


           เสียงนุ่มดังขึ้น ปฐพีลืมตาขึ้นมา เขาเหลียวมองโดยรอบและรู้ได้ว่าไม่ใช่ภายในห้องนอนของตน แต่

ตอนนี้เขาอยู่ในบ้านไม้หลังหนึ่งที่คุ้นเคยเสียเหลือเกิน


          “ขอรับคุณพุ่ม”


           เขาขานรับด้วยภาษาที่ไม่เคยพูด ปฐพีเคลื่อนไหวราวกับไม่ใช่ตนเอง เขาก้มมองร่างกายโปร่งใสมอง

ทะลุได้ด้วยความแปลกใจ และยิ่งต้องแปลกใจมากขึ้นเมื่อเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงกว้าง ไตรภูมินั่นเองแต่เหมือนจะ

อายุรุ่นราวคราวเดียวกับปฐพี เขาเคลื่อนกายไปเคียงข้างและวางท่อนแขนลงไปบนเอวของไตรภูมิ


          “เรียกไอ้ดินทำไมหรือขอรับ”


          “ก็เห็นดินยืนเหม่อไงครับ มีอะไรหรือเปล่า”


          “จะมีกระไรนอกจากหาทางให้คุณพุ่มสุขสบายเท่านั้นเองขอรับ”


           “ปากหวานตลอดเลยดิน พูดกับผมแบบธรรมดาบ้างก็ได้”


           ไตรภูมิยิ้มเขิน ร่างกายไร้เลือดเนื้อได้แต่ดึงเขาเข้ามากอด


           “กระผมกล่าวตามที่ใจคิดขอรับ สิ่งใดที่จะทำให้คุณพุ่มมีความสุขได้ก็จะทำ”


           “ดินดีกับผมเหลือเกิน เมื่อไหร่ที่เราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างคนทั่ว ๆ ไปบ้าง”


            “โธ่ คุณพุ่มของไอ้ดิน อย่าทำหน้าเศร้าแบบนี้เลย ไอ้ดินจะขาดใจตาย หันหน้ามาทางนี้เถอะ ให้

ไอ้ดินจูบรับขวัญนะขอรับ”


           ร่างเย็นบรรจงจูบไปกับเนื้ออุ่น มือใหญ่วาดมือสัมผัสแนบไปบนต้นขาบีบเค้นเป็นทาง ไตรภูมิสูดลม

หายใจช้า ๆ เมื่อถูกฟอนเฟ้นใบหูด้วยปลายลิ้น ส่วนอ่อนไหวตกอยู่ในกำมือหนาหนัก ไตรภูมิผวาเข้าหาพลางส่งเสียง

แหบพร่าพาให้เตลิด


          “ดิน รักดินจังครับ”


          เลื่อนกายลงต่ำไปอยู่ตรงเอวของไตรภูมิ จ้องมองแก่นกายพอเหมาะงดงามนั้น เขายึดมันไว้และขบเม้ม

เชยชมยอดอ่อนสีหวานก่อนจะลามกลืนกินเข้าไปจนหมดด้วยความเต็มใจ ได้ยินเสียงแผ่วหวานดังลอดมาจากกลีบปาก

งามเมื่อเขาขยับซ้ายขวา


           “หากคุณพุ่มชอบ กระผมก็ดีใจขอรับ”


           ส่งเสียงอู้อี้เพราะยังเอร็ดอร่อยเหลือเกิน น้ำลายเปียกชื้นอยู่โดยรอบจนเขาคอแหบแห้งแต่ก็ยังไม่

เลิกรา มือเย็นเคล้าคลึงตุ่มไตบนแผ่นอกเนียนเรียบจนมันชูชันขยายชัด คุณพุ่มของมันบิดพล่านไปมา


           “อื้อ ดินครับ อีกนิดเดียว”


             ได้ใจจนยิ่งออกแรงโยกหน้าขึ้นลง มือของคุณพุ่มที่กำแน่นบนบ่าจิกเนื้อลงมาพร้อมกับส่งเสียงดัง

กว่าเก่า น้ำรักผุดออกมาให้มันได้ลิ้มรสจนต้องดูดกลืนไม่มีเหลือ ตอนนั้นเองที่มันเพิ่งจะยอมคลายออกจากปากให้คุณ

พุ่มได้เป็นอิสระ มันผงกหัวมองใบหน้าหวานสุขสมด้วยความยินดี

           คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อใบหน้าคุณพุ่มในตอนนี้กลับซ้อนทับกับคุณพุ่มในอีกใบหน้าหนึ่ง แม้จะแตก

ต่างแต่กลับสนิทแนบแน่นราวกับเป็นคนเดียวกัน

           ปฐพีผวาตื่นขึ้นมานั่งหัวใจเต้นตึกตัก เมื่อในฝันเขากลายเป็นไอ้ดินที่กำลังเชยชมเรือนร่างของไตรภูมิ

ความรู้สึกเหล่านั้นชัดเจนราวกับผู้ที่กระทำต่อไตรภูมิคือตัวเขาเอง




                                TBC

                        กำลังสับสนทั้งคู่เลย เฮ้ออ

                  o9 o9 o9 o9 o9








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2018 00:18:43 โดย Belove »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ฝันดีตลอดแหละ  อิอิ
แต่ถ้าจะให้ดีกว่าฝันต้องรุกบอกชอบไปเลย เล่าความฝันไปเลยสิ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
อิอิ ค่อยๆ ฉายอดีตทีละเล็กละน้อย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด