[ Special Chapter ] - Happy New Year
* เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตหลังจากจบเรื่อง I'm not Playboy ผมไม่ได้เจ้าชู้ *
------------------------------------
ช่วงเทศกาลปีใหม่นี่เป็นช่วงที่ดีเนอะ
ดีทุกอย่าง....ยกเว้นการจราจร
เฮ้อ....
ผมนั่งมองวิวข้างทางที่เห็นมาประมาณเกือบชั่วโมงอย่างเหนื่อยใจ รถแทบไม่ขยับเลยครับ ในรถนี่เปิดแอร์เย็นมากนะแต่ก็อดหัวร้อนไม่ได้จริงๆ ตอนนี้เป็นเวลาประมาณบ่ายกว่าๆ เมื่อช่วงสายๆ ผม พี่ขุน ไอ้หมี ไอ้ขัน ตกลงกันว่าจะไปซื้อพวกของสดมาทำเป็นบาร์บีคิวปิ้งกินกัน เพื่อฉลองคืนเคาท์ดาวน์ คือของเนี่ยะซื้อเสร็จก่อน 11 โมงละ พอจะขับรถกลับนี่รู้เรื่องเลย
โคตรน่าหงุดหงิด
" ทำไมรถมันติดแบบนี้นะ "
" ก็คนเค้าออกต่างจังหวัดกันไงครับ "
" น่าเบื่ออ่ะ ไม่ชอบเวลารถติดเลย "
" มึงนี่บ่นมากจริงๆ เลยนะไอ้หนม "
ผมหันไปมองคนที่นั่งเบาะหลัง " เรื่องของกู แบร่บๆๆๆๆๆ " ว่าแล้วผมก็แลบลิ้นใส่มัน
" ไอ้น้องเวรนี่ ดะกูก็บ้องหูให้ "
" ไอ้ขัน!!!!! "
" หนมครับ " พี่ขุนปรามผม " อย่าเสียงดังสิ "
ไอ้หมีมันตีมือไอ้ขัน " พี่ก็เลิกแกล้งหนมมันสักที "
" เอ๊ะ มึงนี่ " คนโดนตีทำหน้าเหี้ยมก่อนจะบีบแก้มไอ้หมี " อยากตายหรอ"
" อยากนอนนอกห้องไหมล่ะ ถ้าไม่อยากก็เอามือออก " หลังจากที่ไอ้หมีมันเอ่ยเสียงเรียบ ไอ้ขันมันก็ยอมเอามือออกแล้วนั่งมองข้างทางไปเงียบๆ
กลัวเมียหนิไอ้สัส
ผมเบ้ปากใส่ไอ้ขันทีนึงก่อนจะหันกลับมานั่งอย่างเดิม เอาจริงๆ ไม่ได้อยากเคาท์ดาวน์ร่วมกับไอ้ขันเลยนะแต่แบบเพราะไอ้หมีไงก็เลยต้องยอม ทริปเคาท์ดาวน์ปีนี้คึกครื้นมากครับ มีแก๊งค์ผม แก๊งค์พี่ขุนและก็มีพวกสมปองด้วย ไอ้หมีบอกว่าพวกนั้นโดนบังคับให้มา ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ก็นะงานปีใหม่ คนมากันเยอะๆ มันก็สนุกดี
คงเป็นความสนุกที่วุ่นวายมากๆ
สถานที่สำหรับเคาท์ดาวน์ในปีนี้ก็คือฟาร์มของป่ะป๊าไอ้หมีครับ ผมเพิ่งรู้เมื่อไม่นานเหมือนกันว่าบ้านไอ้หมีทำธุรกิจฟาร์มโคนม และเลี้ยงแกะ เพราะงี้ตอนที่ไปเที่ยวฟาร์มกันเมื่อช่วงหยุดยาวไอ้หมีถึงดูชอบแกะมาก เรื่องของที่บ้านไอ้หมีมันไม่เล่าให้เพื่อนฟังเลยนะ คือถ้าไอ้ขันไม่มาบอกแล้วผมไม่ไปเค้นไอ้หมีต่อก็ไม่รู้อ่ะ
เก็บเป็นความลับเงียบ
พูดถึงไอ้ขันกับไอ้หมีนี่ใจนึงก็รู้สึกดีใจนะที่มันมารักกันได้ แต่อีกใจก็รู้สึกหมั่นไส้เหมือนกัน กว่าจะลงเอยกันผมนี่เกลียดไอ้ขันไปช่วงนึงเลย คิดแล้วโคตรหงุดหงิด แต่ก็นะ มันกำลังจะปีใหม่ละ เรื่องเก่าๆ ก็ลืมไปดีกว่า ถ้าปีหน้าไอ้ขันมันทำตัวชั่วอีกเมื่อไหร่ผมจะไล่กระทืบมันเอง
" หนมครับ "
" หืม " ผมหันมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ " มีอะไรครับ "
" หงุดหงิดขนาดนั้นเลยหรอ "
" ก็หงุดหงิดนะ ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกที่อยู่ที่ไร่จะทำไรกันอยู่ "
" พี่ว่าคงนอนกันนั่นแหละ ก็เมื่อคืนมาถึงกันก็เกือบตีสองเสือกนั่งเล่นไพ่กันต่ออีก กว่าจะได้นอนก็เมื่อเช้า "
" นั่นสินะ " ผมเปิดเก๊ะก่อนจะหยิบขนมออกมาแกะกิน " แล้วทำไมพี่ขุนถึงไม่อยู่เล่นไพ่กับเพื่อนๆ ล่ะ "
" พี่เห็นว่าหนมง่วง "
ผมยื่นขนมไปป้อนให้เจ้าตัว " เกี่ยวอะไรกับหนม "
" ก็พี่อยากไปนอนกอดหนมมากกว่านี่ครับ " พี่ขุนบอกก่อนจะยิ้มหวาน
" พี่นี่มัน....." ผมเบือนหน้าหนีไปทางอื่น " บ้าจริงๆ "
" พี่ขันมีถุงป้ะ "
ไอ้ขันมองหาถุงให้ไอ้เพื่อนตัวดี " มึงจะเอาไปทำไรวะ "
" เหม็นความรัก....จะอ้วก "
พี่ขุนเบ้ปากให้ไอ้หมี ตาก็มองมันผ่านกระจกหลัง " มึงก็ลงไปอ้วกข้างทางสิ "
" เดี๋ยวมึงก็ได้ลงไปเข็นรถหรอกไอ้ขุน " ไอ้ขันมันบอกเสียงเหี้ยม
ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ มือก็ป้อนขนมพี่ขุนไปเรื่อยๆ อยู่กันเงียบๆ ดีกว่าไม่งั้นคงได้มีการทะเลาะวิวาทกันใหญ่โตแน่ๆ มองไอ้หมีกับไอ้ขันผ่านกระจกหลังก็เห็นมันหยอกอะไรกันไม่รู้อยู่สองคน แหวะ มาบอกว่าคู่กูเหม็นความรัก มึงสองคนก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก กลิ่นความรักนี่เอียนจนจะคลื่นไส้ละ กลับถึงฟาร์มนี่ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำไปอ้วกก่อนสักสองรอบ
จิ๊....รถห่านี่ก็ติดจังเลยโว้ยยยย
TB : FARM
หลังจากที่เสียเวลาให้กับการจราจรไปเกือบ 3 ชั่วโมง เราทั้งสี่คนก็กลับมาถึงฟาร์มแล้วครับ ตอนนี้กำลังช่วยกันแบกของเข้าครัวอยู่ บรรดาเพื่อนๆ ผมก็มาช่วยถือกัน ส่วนพวกเพื่อนๆ พี่ขุนนี่ไม่เห็นเลยสักคนสงสัยยังไม่ตื่นกันล่ะมั้ง แต่นี่มันจะสี่โมงแล้วนะ เดี๋ยวพอขนของเสร็จผมต้องไล่ให้พี่ขุนไปปลุกเพื่อนๆ ให้หมดเพราะมันใกล้จะเย็นแล้ว แม่ผมสอนไว้ว่าห้ามนอนตอนช่วงเย็น เพราะมันอาจจะทำให้ปวดหัว แล้วหลับต่อตอนกลางคืนไม่ได้
" พี่ขุน "
" ว่าไงครับ "
ผมส่งถุงเนื้อไปให้ " ถ้าขนของเสร็จไปปลุกเพื่อนๆ ด้วยนะ "
" พี่ก็กะทำอย่างนั้นอยู่เหมือนกันเพราะว่าจะให้พวกมันมาช่วยเตรียมของ "
" พี่จะเป็นคนหมักใช่ไหม "
" ใช่ครับ เดี๋ยวพี่จัดการเอง " เจ้าตัวยิ้มรับก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน แหม่ะ ผมนี่มีแฟนเป็นพ่อบ้านตัวอย่างจริงๆ เลยนะ
ไงล่ะ....อิจฉาล่ะสิอิจฉา
" ไอ้หนม " ไอ้ปั้นมันเดินมาคล้องคอผมก่อนจะกระซิบข้างหูเบาๆ " ไปลำธารกันป้ะ "
" เอาดิ่ ใครไปบ้าง "
" ก็พวกเรานี่แหละ ให้พวกพี่เค้าเตรียมของกันไป "
" เออได้ งั้นกูไปบอกพี่ขุนก่อน " ผมกำลังจะเดินเข้าไปในบ้านแต่ไอ้ปั้นมันรั้งข้อมือไว้ " จะดึงกูไว้ทำไมเนี่ยะ "
" ไม่ต้องบอกหรอก ไปกัน " ว่าแล้วมันก็ลากผมไปทันที อะไรของมันวะ
ผมกลัวว่าถ้าหายไปไหนแล้วไม่บอกก่อนเดี๋ยวพี่ขุนจะโกรธเอา อีกอย่างคือไม่อยากให้มันเป็นห่วงด้วย ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นฟาร์มของบ้านไอ้หมีก็เถอะ แต่ดูท่าคงจะไม่ได้บอกแล้วแหละครับไอ้ปั้นเล่นลากผมมาซะขนาดนี้
เอาเป็นว่า....หนมขอโทษนะพี่ขุน
ไอ้ปั้นมันลากผมมาจนถึงทางเดินเข้าลำธาร บรรดาชาวแก๊งค์ทยอยเดินตามกันมา ไอ้หมีมันคล้องคอสมปองมาด้วย ทริปนี้ลันตาไม่ได้มากับพวกเรานะ ถามสมปองมันก็บอกว่าลันตาไปกกผัว ทิ้งเพื่อนทิ้งฝูงบลาๆๆๆ แต่สีเทียนก็แซะมันกลับประมาณว่า มึงก็พูดได้สิ มึงมากับผัวหนิ
หลังจากนั้นก็เงียบกริบ
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก
คำพูดของสีเทียนนี่สังหารได้ทุกคนอ่ะ โดนกันมาหมดละไอ้พวกที่นั่งรถมาด้วยกันเมื่อวาน ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผู้ชายที่หน้าสวยขนาดนั้นปากร้ายได้ถึงขนาดนี้ แต่สีเทียนดูเข้ากันได้ดีกับไอ้หมีมากเลยนะ เอาจริงๆ ไอ้หมีมันก็เข้าได้กับทุกคนแหละ ผมรู้ว่าไอ้ขันมันหงุดหงิดใจเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ต่อหน้าคนอื่นมันก็ปรามได้ไม่มาก แต่คิดว่าถ้ามันอยู่ด้วยกันสองคนไอ้หมีมันคงตายแน่
ตายแบบไม่เหลือซาก
" หมี "
" ว่าไงครับเพื่อนหนม " มันยิ้มแฉ่งก่อนจะเลื่อนแขนอีกข้างมาคล้องคอผมไว้ " เรียกเพื่อนหมีทำไมหืม "
" มึงเบื่อไอ้ขันบ้างป้ะ "
" กูจะเบื่อแฟนตัวเองได้ไง มึงนี่ก็ถามอะไรแปลกๆ "
" ไม่เห็นจะแปลกเลย ขนาดกูเป็นน้องมันกูยังเบื่อมันเลย "
ไอ้หมีหยิกแก้มผมแรงๆ " มึงมันเป็นน้องที่ไม่น่ารักไง "
" มันทำตัวเป็นพี่ที่น่ารักตายห่าแหละ " ผมบอกก่อนจะเบ้ปากใส่
" มึงเห็นพี่ขันเป็นแบบนั้นแต่เค้าก็รักมึงมากยิ่งกว่าใครๆ เลยนะ " ไอ้หมีมันเอ่ยอย่างจริงจังก่อนจะเบะปาก " ขนาดกูอ่ะ พี่ขันยังไม่รักถึงขนาดนั้นเลย "
มึงจะดราม่าทำไมวะ
ผมตบไหล่มันเบาๆ " เสียใจด้วยละกัน กูรำคาญมึงละว่ะ ไปเดินกับไอ้เผือกดีกว่า "
" เอ้าไอ้สัส "
ผมแกะแขนไอ้หมีที่คล้องคออยู่ออกก่อนจะเดินมาขนาบข้างไอ้เผือกกับไอ้ไผ่ ไม่รู้ว่าอีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงลำธาร ผมว่าที่ไอ้พวกนี้มันอยากไปที่นั่นก็เพราะไอ้หมีมันโม้ไว้ให้ฟังนั่นแหละ เมื่อวานที่นั่งรถมามันอวดใหญ่เลยครับว่าลำธารที่ฟาร์มมันสวยมาก น้ำใสมองเห็นปลางี้ แถมมันยังบอกด้วยว่าเดี๋ยวมันจะลงไปว่ายน้ำเล่นกับปลาให้ดู
มึงคิดว่าตัวเองเป็นแอเรียลหรอวะ
อา....ไม่น่าคิดภาพตามเลยหนมเอ้ย
เมื่อคืนที่มาถึงกันน่ะผมว่าอากาศที่นี่เย็นมาก น่าจะเป็นเพราะติดกับช่องเขา คือคิดได้เลยว่าน้ำในลำธารมันต้องเย็นยะเยือกแน่นอน อุณหภูมิเมื่อคืนก็แค่ 20 องศาเอง ยังไงแม่งก็ต้องหนาวอ่ะวันนี้ ที่ผมไปลำธารกับพวกมันนี่ก็ไม่ได้คิดจะเล่นน้ำนะครับ
คิดจะไปเพื่อถีบไอ้หมีตกน้ำโดยเฉพาะ
" จะถึงแล้วเหล่าเพื่อนรัก ตามเพื่อนหมีมา " มันบอกก่อนจะเดินนำขบวนไป
" ทำไมอากาศมันเย็นจังวะ " ไอ้ภีมมันยกมือแนบแก้มตัวเอง
" ไม่เห็นจะเย็น " ไอ้เป้จับมือไอ้ภีมที่แนบหน้าอยู่ก่อนจะสอดเข้ากระเป๋าเสื้อฮู้ดตัวเอง " มึงนี่มันขี้หนาวจริงๆ "
" ใครจะหนังหนาอย่างมึงล่ะ "
" มึงนี่...." ไอ้เป้มันยกยิ้มก่อนจะเลื่อนหัวเข้าไปใกล้ " อยากโดนเอาข้ามปีไหม "
ไอ้หมีมันหันขวับมามองทันที " เฮ้ยกูได้ยินนะ มึงนี่มันร้ายจริงๆ เลยหน่าเพื่อนเป้ "
" เมียปากร้ายต้องโดนกำราบ "
" ระวังได้นอนข้างนอกนะมึงน่ะ "
ไอ้เป้ยิ้มกรุ้มกริ่ม " ชอบเอาท์ดอร์หรอครับเมีย ก็ได้นะ "
" มึงนี่มัน...." ไอ้ภีมเบือนหน้าหนี แก้มขาวๆ นั่นแดงก่ำเลยว่ะ นี่ถ้ามีกล้องนะผมคงถ่ายเก็บไปละ
โมเม้นท์หายาก
เมื่อก่อนจะมีแค่ผมกับพี่ขุนที่ทำให้คนรอบข้างเหม็นความรักกันบ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ แต่ตอนนี้มันก็มีคู่ไอ้เป้กับไอ้ภีมเพิ่มเข้ามา ส่วนไอ้ขันกับไอ้หมีก็ไม่ได้หวานให้เห็นอะไรขนาดนั้น ไอ้เป้มันดูชอบใจนะครับเวลาที่เมียมันโดนแซวน่ะ สนับสนุนเต็มที่ด้วยไม่มีการปกป้อง ไอ้ภีมนี่เขินวันละสิบล้านรอบได้ เห็นแล้วก็สงสาร แต่ในความสงสารก็มีความสะใจนิดๆ
ฮ่าๆๆๆๆ
" ยิ้มห่าไรของมึงวะไอ้หนม "
เสือกกับการยิ้มของกูอีก
ผมหุบยิ้มทันทีที่มีเสียงไอ้เป้ทัก ทำไมเดี๋ยวนี้เวลาที่ยิ้มออกมาชอบมีเพื่อนขัดตลอดเลยวะ ทีเมื่อก่อนนี่อยากให้กูยิ้มกันจัง น่าหมั่นไส้จริงๆ นะไอ้พวกบ้า พี่ขุนไม่เห็นห้ามไม่ให้ผมยิ้มแบบนี้เลย รายนั้นดูชอบอกชอบใจด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่ผมยิ้มหวานๆ มันก็ชอบดึงเข้าไปกอดไปหอมเป็นประจำด้วย นี่สินะที่เขาบอกว่าเพื่อนกับแฟนน่ะมันต่างกัน พอพูดถึงพี่ขุนแล้วก็....
คิดถึงจัง
หวังว่าคงจะไม่ทะเลาะกับไอ้ขันอยู่หรอกนะ
[ บันทึกพิเศษ : ขุนศึก ]
" มันจะแดกได้จริงป่ะเนี่ยะไอ้ขุน "
" จริงสิพี่....วานส่งเกลือให้ผมหน่อย "
มือหนาหยิบขวดสีขาวส่งมาให้ผม " อ่ะ เอาไป "
" นี่มันน้ำตาล เกลือมันอีกอันนึงพี่ขัน "
" ใครจะไปรู้วะก็มันขวดสีขาวเหมือนกัน " เจ้าตัวบ่นก่อนจะหยิบขวดสีขาวอีกขวดส่งมาให้ " อ่ะ คงถูกอันละนะ "
" ถูกละพี่ " ผมรับขวดมาก่อนจะโรยเกลือใส่ชามที่หมักเนื้อ
" เออขุน เวลาไอ้หนมมันอยู่กับมึง มันดื้อมากไหม "
" ไม่เลยนะพี่ น้องน่ารักมาก ขนมเป็นคนมีเหตุผลนะ "
พี่ขันเลิกคิ้วมอง " หรอวะ "
" ใช่สิ เวลาอยู่กับพี่ขัน หนมดื้อมากเลยหรอ "
" ดื้อดิ่ ตอนเด็กๆ ก็น่ารักอยู่หรอก " พี่ขันบ่นก่อนจะหยิบแตงกวาไปกินเล่น " มันไม่ดื้อกับมึงก็ดีแล้วล่ะนะ เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนละกันถ้าไอ้หมีโผล่มาบอกว่ากูอยู่ที่ห้อง "
" ได้เลยพี่ " ทันทีที่ผมรับคำ พี่ขันก็เดินออกไปจากครัว
ดีจริงๆ นะที่ผมกับพี่ขันคุยกันได้อย่างปกติน่ะ
ช่วงตลอดปีที่ผ่านมานี่มีเรื่องให้ต้องหมางใจกันอยู่ตลอดเลย แต่ก็ดีที่เรื่องวุ่นวายทั้งหมดนั่นมันจบลงได้ด้วยดี ช่วงที่ไอ้หมีกับพี่ขันมีปัญหากัน ขนมนี่เครียดหนักเลยเพราะตัวเองเป็นคนกลางไง ย้อนไปคิดก็สงสารอยู่เหมือนกันนะ ผมทำอะไรไม่ค่อยได้เลยตอนนั้น เต็มที่ก็ทำได้แค่กอดปลอบ แล้วพยายามทำให้น้องยิ้ม
ผมทำได้แค่นั้นจริงๆ
พอๆ เลิกคิดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วดีกว่า คิดไปก็หน่วงใจเปล่าๆ คิดถึงขนมยังเข้าท่ากว่าเยอะเลย พูดถึงขนมผมก็ไม่รู้ว่าน้องหายไปไหน อาจจะนั่งเล่นนอนเล่นอยู่กับเพื่อนๆ ล่ะมั้ง เดี๋ยวพอผมหมักพวกเนื้อเสร็จก็จะไปตามน้องมาอาบน้ำ ส่วนเรื่องเตรียมเตาปิ้งเดี๋ยวให้ไอ้สยามมันจัดการ พวกเพื่อนๆ ผมมันซื้อพวกพลุโอ่งกับไฟเย็นมาเยอะเลยครับ ในส่วนตรงนี้เดี๋ยวไอ้ชาจะเป็นคนจัดการเตรียมจุดตอนเคาท์ดาวน์
" ไอ้ขุน "
ผมหันมองตามเสียงเรียกก็พบกับไอ้สยามที่เดินทำหน้าบึ้งมา " มีไรวะ แล้วมึงเป็นไรเนี่ยะ "
" เมียหาย "
" กูก็นึกว่าเรื่องอะไร " ผมส่ายหัวอย่างเอือมๆ " แตกตื่นไปได้นะมึง "
" เมียมึงก็หายไปด้วยนะ "
ผมหันขวับไปมองทางมันทันที " จริงจัง "
" จริงจังสิสัส เรื่องเมียใครเค้าล้อเล่นกันวะ " มันบอกเสียงขุ่นก่อนจะเดินมานั่งข้างผม " หายไปกันไปหมดเลยพวกปี 1 น่ะ ไม่รู้ว่าไปเล่นซนกันที่ไหน "
" มึงลองหาทั่วแล้วหรอ "
" เออหาทั่วแล้ว ข้างนอกเริ่มมืดแล้ว แถมยังหนาวอีก กูเป็นห่วงปอง มันกลัวความมืดมึงก็รู้ "
" กูว่าคงไปด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ เดี๋ยวก็คงมาแล้วล่ะ "
" หวังงั้นเถอะ เดี๋ยวกูไปเตรียมเตารอละกัน " มันบอกก่อนจะเดินออกไป หงุดหงิดน่าดูเลยนะน่ะ
ผมเองก็ชักจะหงุดหงิด
ตกลงกันไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะไปไหนให้บอกกันก่อน ไม่คิดเลยว่าน้องจะผิดคำพูดกับผม เดี๋ยวจะต้องลงโทษหน่อยละโทษฐานที่ดื้อและทำให้เป็นห่วง ผมเอาผ้าขาวมาคลุมชามหมักเนื้อไว้ก่อนจะเดินไปล้างมือ ผมเตรียมของเสร็จหมดแล้วครับ ตอนนี้ก็ 6 โมงกว่าๆ ละ พวกเราตั้งใจว่าจะเริ่มกินกันประมาณ 3 ทุ่ม แล้วก็ต่อกันไปยาวๆ เลยคืนนี้
ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน
ผมเดินออกมาหน้าบ้านพลางมองวิวไปรอบๆ เริ่มมืดแบบที่ไอ้สยามบอกจริงๆ ด้วย แถมอากาศก็เริ่มเย็น ได้ยินเสียงโวยวายดังเข้ามา หันไปมองก็พบกับพวกเด็กปี 1 ที่เดินมากันด้วยสภาพที่เปียกโชกไปทั้งตัว ขนมนี่ตัวสั่นเดินนำมาเลย
ไปทำอะไรกันมาวะ
" พะ....พี่ขุน " ทันทีที่น้องเห็นผมก็ยิ้มแห้งๆ ออกมาทันที
" ไปไหนมาครับ " ผมถามเสียงเข้มพลางมองคนตัวเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้า " ทำไมถึงได้เปียกแบบนี้ "
" หนมไป....เล่นน้ำมา "
" เราตกลงกันไว้ว่ายังไง "
คนตรงหน้าเบะปากขึ้นหน่อยๆ " ก็....ถ้าไปไหนให้บอกก่อน "
" ใช่....แล้วหนมได้บอกพี่ไหม "
" ไม่ครับ " น้องบอกเสียงอ่อนก่อนจะเลื่อนมือมาจับมือผม " แต่หนมมีเหตุผลนะ คือว่า...."
" ไปคุยกันที่ห้อง " ผมตัดบทก่อนจะรีบลากน้องเข้ามาในห้องพัก ตอนนี้มือขนมเย็นมาก ผมเข้าใจว่าน้องคงหนาวเพราะงั้นให้รีบไปอาบน้ำก่อน
กลัวน้องไม่สบายครับไม่ใช่อะไร
" พี่ขุนโกรธหนมหรอ "
" ไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน "
" กะ...ก็ได้ " คนตัวเล็กเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวก่อนจะหันมองผม " รอแปปนึงนะ " เจ้าตัวบอกก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
ทำไมมันน่าฟัดจังวะ
ผมยกมือลูบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อข่มอารมณ์ เสื้อที่มันแนบเนื้อแบบนั้นทำเอาใจสั่นได้เหมือนกันนะ แก้มขาวๆ นั่นก็น่ากดจมูกลงไปถูแรงๆ เป็นบ้า อา....ทำไมผมถึงได้คิดอะไรลามกแบบนี้วะ คงเป็นเพราะว่าผมห่างเรื่องพวกนี้กับน้องมาได้สักพักนึงมั้ง สองเดือนมานี้ผมไม่ได้มีอะไรกับขนมเลยอ่ะ พยายามต้อนแล้วนะแต่น้องก็ไม่ใจอ่อน
กะให้ผมลงแดงตายงี้
ผมกับขนมคบกันมาครึ่งปีกว่าๆ แล้วนะ มีอะไรกันไปแค่ 3 ครั้งเองอ่ะ นี่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองอดทนมาได้ยังไง แต่ว่าทุกครั้งที่มีอะไรกันนี่หนักเลยนะครับ ขนมก็ชอบมาบ่นว่าทำมากเกิน ร่างกายจะอย่างโน้นอย่างนี้ ผมเลยต่อรองไปว่างั้นเปลี่ยนเป็นทำอาทิตย์ละครั้งไหม ครั้งละรอบ คนตัวเล็กก็ไม่ยอมแถมเอาหมอนตีผมด้วย
นี่ผิดไรอ่ะ
งงใจมากๆ
หลังจากที่ผ่านไปได้สักพักขนมก็เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวยิ้มยิงฟันให้ผม " เสร็จแล้ว "
" มานี่ " ผมตบตักตัวเองเบาๆ " มาเร็วๆ "
" หนมไม่ได้ตัวเล็กๆ นะ ถึงจะให้ไปนั่งตัก " น้องบ่นอุบอิบ แก้มขาวๆ ก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ
ซี๊ดด.ด....มันช่างน่า....
" อย่าให้พี่ต้องพูดซ้ำสิครับ "
" พี่ขุนอ่ะ " น้องทำหน้ามุ่ยก่อนจะยอมเดินมานั่งบนตักผมแต่โดยดี " อย่ามาบ่นว่าขาชานะ "
ผมโอบรอบเอวน้องไว้ " พี่เคยบ่นด้วยหรอหืม "
" หื้อออ.อ.อ...."
" ไม่ต้องมาหื้อเลย เรามีคดีติดตัวอยู่นะ เดี๋ยวจะโดน "
" คืองี้นะ " ขนมหันมองผม " ไอ้ปั้นอ่ะมันมาชวนหนมไปที่ลำธาร ตอนแรกหนมก็บอกมันแล้วว่าจะมาบอกพี่ขุนก่อน แต่มันก็ไม่ยอมให้มาบอกอ่ะ มันลากหนมไปเลยนะ แล้วพี่ขุนดูตัวมันกับตัวหนมสิ ใครจะสู้แรงได้ถูกไหม อีกอย่างหนมไม่ได้อยากเล่นน้ำหรอก แต่ไอ้หมีมันดึงลงไป หนมรู้ว่าหนมผิดที่ไม่ได้บอกแต่หนมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ เรื่องนี้ถ้าจะโทษก็โทษไอ้ปั้นเพราะมันลากหนมไป "
ผมนั่งฟังคนตัวเล็กร่ายยาวก่อนจะหลุดยิ้มออกมา น่าถ่ายวิดีโอเก็บไว้ชิบ สีหน้าตอนที่ขนมอธิบายมันน่ารักมากเลยอ่ะ ทำตาใสแบบนั้นใครจะไปโกรธลง น้องรู้แหละว่าถ้าทำหน้าแบบนี้ใส่ผมตัวเองจะรอดแน่ๆ รู้อยู่หรอกว่าวิชามารนี้ไอ้หมีเป็นคนสอนขนมมา เดี๋ยวไว้ไปจัดการไอ้หมี
แต่ตอนนี้ต้องจัดการขนมก่อน
" แล้วไง "
คนบนตักทำคิ้วขมวดใส่ทันที " หมายความว่าไง พี่ไม่เชื่อหนมหรอ "
" เชื่อ แต่หนมก็ผิดอยู่ดีจริงไหม "
" อื้ออ.อ.อ.....ไม่ผิด " น้องบอกเสียงอ่อนก่อนจะซุกหน้าที่ไหล่ผม " ไม่ผิดนะ "
" ผิดสิ "
ขนมผละออกมาจากไหล่ก่อนจะมองผม " หนมผิดตรงไหน "
" ก็ผิดตรงที่...." ผมเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้จนจมูกเราชนกัน " หนมทำตัวน่ารักเกินไป "
" พี่ขุน...."
" หึ....." ผมกดริมฝีปากลงไปทาบทับกับปากบางๆ นั่น
เสร็จพี่เถอะคนดี
น้องพยายามจะดิ้นหนีแต่ขอบอกเลยว่ามันไม่สะทกสะท้านผมเลยสักนิด ขนมเม้มปากเพื่อจะไม่ให้ผมล่วงล้ำเข้าไปด้านใน เห็นแบบนั้นผมก็ขบปากล่างน้องแรงๆ พอเจ้าตัวเผลอเปิดปากออกผมจึงสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากเล็ก สองมือก็กดให้น้องนอนราบไปกับเตียงก่อนจะขึ้นคร่อมไว้ ปากก็แลกจูบอยู่แบบนั้น
รู้สึกดีจริงๆ
ผมไล่ต้อนลิ้นเล็กอยู่อย่างนั้นพลางขบเม้มที่ริมฝีปากน้องไปด้วย แก้มใสแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด มือบางเลื่อนขึ้นมาโอบรอบคอผมช้าๆ เริ่มเคลิ้มแล้วสินะ ดีมากครับที่รัก พี่รอเวลานี้มานานแล้วรู้ไหม ผมเลื่อนมือเข้าไปลูบผิวเนียนใต้เสื้อเบาๆ ก่อนจะถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
ปากสีแดงเจ่อๆ นี่เร้าอารมณ์จริงๆ เลยนะ
" แฮ่ก....คนลามก "
" พี่ลามกตรงไหนหรอ " ผมไล่จูบไปตามซอกคอขาว " นี่ยังไม่ทันทำอะไรเลยนะ "
" ยังจะมีหน้ามาพูดอีก....อื้ออ.อ.อ...อย่าลูบ...อ๊ะ "
ผมวนลูบรอบยอดอกน้องเบาๆ " ก็ดูชอบนี่ครับ "
" อื้ออ.อ...พี่ขุน "
" เรามีเวลาอยู่นะ หนมรู้ใช่ไหม " ผมเลิกเสื้อน้องขึ้นมาก่อนจะไล่จูบวนแถวหน้าท้อง " เพราะงั้น....โดนพี่แง่มซะดีดีเถอะ "
" ไม่ "
" หึ....." ผมเลื่อนมือมาจะเพื่อจะดึงกางเกงน้องลง " คิดว่าจะขัดขืนพี่ได้หรอ "
" พี่ขุน!!! "
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
จิ๊....ใครวะ
" สัสเอ้ย " ผมสบถออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะลุกออกมาจากตัวน้อง ขนมรีบรั้งเสื้อลงก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่อตัวไว้ทันที เดี๋ยวจัดการคนที่มาขัดจังหวะก่อน แม่งมาตอนเข้าด้ายเข้าเข็มเลยนะมึงนะ
" เปิดเร็วๆ สิวะ มึงทำอะไรกันอยู่ "
เสียงนี้มัน.....
ผมรีบเปิดประตูทันที " พี่ขัน เอ่อ....มีอะไรอ๋อพี่ "
" ไอ้หนมอ่ะ "
" กูอยู่นี่ " น้องรีบย่องลงมาจากเตียงโดยที่ยังมีผ้าห่มคลุมตัวอยู่ " มีไรวะ "
" คือ....กูมีเรื่องจะคุยด้วย ไปกับกูแปปนึง " ว่าแล้วพี่ขันก็ลากขนมออกจากห้องไปทันทีโดยไม่สนใจผมที่ยืนอยู่ตรงนี้เลย
วัทททท
" เชี่ยไรเนี่ยะ " ผมยกมือขึ้นทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด พี่ขันนะพี่ขัน มีเรื่องคุยอะไรตอนนี้วะ
จะได้แง่มขนมอยู่แล้ว
ผมปิดประตูก่อนจะเดินมาทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยาก อารมณ์ค้างแบบค้างเลย เมื่อกี้นี้ผมคิดว่าจะแง่มน้องจริงๆ นะครับไม่ได้เล่นๆ อย่างน้อยก็สักครั้ง แต่ตอนนี้โดนพี่ขันทำลายแผนการแง่มของผมไปแล้ว โผล่มาเหมือนรู้เลยอ่ะ เดี๋ยวไปด่าไอ้หมีดีกว่าโทษฐานที่ปล่อยให้พี่ขันมาขัดขวางความสุขของผม
ส่วนขนม....หลังเคาท์ดาวน์เดี๋ยวเจอกัน
เราไม่รอดจากพี่หรอกครับที่รัก
[ จบบันทึกพิเศษ : ขุนศึก ]
------------- 50% -------------