...ผลประโยชน์ทับซ้อน...ตอน เมา (30 พ.ย. 2563) หน้า 42
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ผลประโยชน์ทับซ้อน...ตอน เมา (30 พ.ย. 2563) หน้า 42  (อ่าน 457025 ครั้ง)

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ติดตามค่ะ :katai2-1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เจ๋งจะ...เหมือนโจ๊กหรือเปล่า  ติดตามจ้า  o13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2017 21:31:47 โดย ืniyataan »

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เจ๋งอย่าเป็นแบบพี่โจ๊กไบโพล่าร์เลยนะ 5555555

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อ๋อออออ น้องเจ๋งของพี้โจ๊กนี่เองงงง มาๆๆๆๆๆ  ปูเสื่อเกาะจอคอมฯทุกวันพฤหัสฯ อีกครั้งค่าาา  :กอด1:

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
มาวี้ดดดดดดดด

ดีใจเจ๋งปกมาแล้ว วันพฤหัสจะไม่เงียบเหงาอีกต่อไป 555+
เจ๋งนี่นิสัยเหมือนโจ๊กเลยนะ แต่ปกนี่ก็แอบร้ายไม่เบา ท่าทางน่าสนุก รอติดตามจ้า

ป.ล. รอความกากอีโจ๊กอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจ้า

ออฟไลน์ SM_day

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
อิเจ๋งคงมีชะตากรรมเดียวกันกับอิโจ๊ก555

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
มาตามต่อกิๆ พี่เจ๋งนี่เกรี้ยวกราดพอๆกับพี่ชายเลยนะ5555555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เรื่องใหม่มาแล้ว ดีใจ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bmine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
เจ๋งต้องหนักกว่าโจ๊กแน่ๆเลยยยย เพราะปกดูแซ่บกว่าโซ่คนซื่ออ่ะ 555555 เสร็จแน่ๆเจ๋ง รอติดตามค่าาา สนุกกก

ออฟไลน์ rotedump

  • รถดั้มพ์ถังซัมจั๋ง
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
นายเอกดูชั่วร้าย ชอบบบบ ติดตามๆๆๆ

ออฟไลน์ 。Atlas

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ติดใจคนพี่ก็จะตามมาบ่วงคนน้องต่อ
เรื่องที่แล้วเรารักโจ๊กมากกก เอ็นดูมาก ยกให้เป็นลูกชาย 555555
มาถึงเรื่องของน้องเจ๋งบ้าง คงน่ารักน่าเอ็นดูน่าแกล้งน่าถีบพอ ๆ กับโจ๊ก ฮ่าา
แต่สกิลปากดูรุนแรงกว่าโจ๊กมาก 55555

แต่น้องปกนี่คาแรคเตอร์ผิดจากที่เดาไปเลยค่ะ ไม่นึกว่าจะเป็นฝ่ายที่คิดจะจีบเขาก่อน ชอบ ๆ
ดูมีความร้ายแบบเคะราชินี

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เอื้ออออ ใครจะเป็นพระเอก ใครจะเป็นนายเอกกันนะ ดูไม่ออกเลยข่า 555555555555
น้องปกเหมือนจะเป็นนายเอกแต่ทว่ามีรังสีบางอย่าง อาจจะเป็นพระเอกได้ นี่ไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ย

ออฟไลน์ Elektra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-18
ชอบผู้ชายปากจัดแบบเฮียเจ๋ง

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1

ติดตามเช่นเคยค่ะ

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ผลประโยชน์ทับซ้อน
By: Dezair
…………………….
ตอนที่ 2


หลังกิจกรรมเฟิร์สเดท แต่ละคณะมีกำหนดการรับน้องของตนเอง ปกฉัตรและดิษกรอยู่คนละคณะ แม้จะอยู่บ้านติดกัน แต่ก็แทบไม่ได้เจอกันอีก ยิ่งเปิดเทอมก็ยิ่งหาเวลาเจอกันยาก เพราะกิจกรรมเลิกไม่พร้อมกัน


อย่างเย็นวันนี้...ที่คณะรัฐศาสตร์มีห้องเชียร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้รุ่นน้องปีหนึ่งเลือกที่จะเข้าหรือไม่เข้าร่วมก็ได้


แต่...เสียงลือเสียงเล่าอ้างที่ว่า ‘พี่วินัย’ หน้าตาดีมากกกกกก...ทำให้ใครๆก็อยากเข้าร่วม


   ในโถงของตึกเรียน มีแต่เสียงจ้อกแจ้กจอแจของเฟรชชี่คณะรัฐศาสตร์ซึ่งมารวมตัวก่อนจะเข้าห้องเชียร์ แม้จะไม่เป็นแถวไปบ้าง แต่ก็พอมองออกว่ากลางห้องโถงคือเด็กปีหนึ่ง ส่วนที่ยืนรายล้อมอยู่รอบๆคือรุ่นพี่ปีสองขึ้นไป


   “อุ๊ย! ปก! เข้าห้องเชียร์เหมือนกันเหรอ” เสียงจากคนที่เดินมายืนข้างๆ ทำเอาปกฉัตรหันมอง เจ้าของเสียงไม่ใช่ใครที่ไหน เพื่อนร่วมคณะคนแรกที่รู้จักกันตอนงานเฟิร์สเดทอย่างติซซี่นั่นเอง


ปกฉัตรพยักหน้าน้อยๆแทนคำตอบ


   “ฮั่นแหน่ะ! เข้าเพราะพี่วินัยเหมือนเรารึเปล่า”


คนถูกถามยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา


   “เปล่า เข้าเพราะอยากรู้เฉยๆว่าห้องเชียร์เป็นยังไง”


   “ดีมาก! จะได้ไม่แย่งเรา อ๊ะ! นั่นพี่ปาร์ค ปกครอง อุ๊ย! พี่โจ๊ก ปกครองก็มา! วันนี้แต้มบุญเยอะเหลือเกินนนนนน...” แล้วสายตาติซซี่ก็ไถลออกไปที่อื่น ปกฉัตรหัวเราะเบาๆ ดูเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นคนนี้จะรู้จักคนมากมายเป็นพิเศษ


   “นู่นๆ พี่คนนั้นเขาว่ากันว่าไม่ได้เจอตัวได้ง่ายๆนะ! หล่อตี๋อินเทรนด์แถมแบดบอยนิดๆ สร้างวีรกรรมมีปัญหากับรุ่นพี่ปีก่อนๆด้วยแหละ ถึงหน้าตาจะไม่รับแขกไปหน่อย แต่ความหล่อเอาไปสิบกะโหลก!” แม้ตอนแรกจะไม่ได้สนใจ แต่เพราะเพื่อนชี้ชวนให้ดู ปกฉัตรก็เลยหันไปมอง


   ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ผิวขาวเหลือง ตาเรียว โหนกแก้มสูง แม้สีหน้าบึ้งตึงเหมือนหงุดหงิดตลอดเวลา แต่...หน้าตาแบบนี้...เหมือน...


   ...เหมือนผู้ชายคนนั้น...


   ...คนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้...


   แต่เปิดเทอมมาร่วมเดือน ปกฉัตรก็ยังไม่ได้เจอใครคนนั้นเลย


   “มีคนพูดว่าพี่เขามีน้องชายหรือพี่ชายเรียนอยู่บัญชีด้วยแหละ” ประโยคต่อมาของติซซี่ ทำเอาปกฉัตรหันขวับกลับไปมองคนพูดแทบไม่ทัน แต่พออ้าปากจะถามต่อ สายตาของติซซี่ก็ไถลไปพบคนหล่อรายถัดไป


   “อร๊าย! นั่นพี่โซ่ ไออาร์!! ปกดูๆ ตายแล้ว พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง! หล่อ สว่าง ไสว สะอาด สำรวม...โอ้วววว...สเป็คสาธารณะที่แท้ทรู...” ดูเหมือนติซซี่จะล่องลอยไปกับสเป็คสาธารณะคนนี้เสียแล้ว ปกฉัตรหมดโอกาสจะได้ถามอะไรต่อ แต่คำว่าคณะบัญชียังวนเวียนอยู่ในใจของเขา


   ...ทำยังไงถึงจะได้เจอ ทำยังไงถึงจะมีโอกาสได้พบกัน...


   เขาตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด อาศัยเวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนเข้าห้องเชียร์ส่งข้อความไปหาเพื่อนสนิทที่อยู่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี


   ‘ดิษ มึงกลับยัง’


   หัวแถวถูกรุ่นพี่พาเดินไปยังห้องที่ใช้ทำกิจกรรมสอนร้องเพลงเชียร์แล้ว ปกฉัตรเหลือบสายตามองก่อนจะก้มลงมองโทรศัพท์ในมืออย่างร้อนใจ


   ...ถ้าดิษยังไม่กลับ จะบอกให้มันรอ จะแวะไปหามัน เผื่อจะได้...มีโอกาสถามถึงพี่คนนั้น...


   ‘กลับแล้วว่ะ วันนี้อานิศบอกให้กลับไว มึงยังอยู่มหา’ลัยเหรอ’


   หมดกัน ดิษกรกลับไปแล้ว ปกฉัตรถอนหายใจเบา


   ‘กูเข้าห้องเชียร์น่ะ ไม่เป็นไรมึง’


   แล้วเขาก็ตัดสินใจเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง หมดหวังอีกแล้วสำหรับวันนี้

…………………….

   ห้องเชียร์ของคณะรัฐศาสตร์ใช้เวลาสามสิบนาที สิบห้านาทีแรกคือการสอนร้องเพลง ส่วนสิบห้านาทีหลังคือการทำหน้าที่ของ ‘พี่วินัย’ ที่ลือกันหนักหนาว่าหน้าตาดีทั้งหญิงชาย


วันนี้ รุ่นพี่ที่ทำหน้าที่พี่วินัยมี 5 คน ปกฉัตรคุ้นหน้าคุ้นตาทุกคน แต่มีบางคนที่เขาไม่รู้จักชื่อ ไม่เหมือนติซซี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งดูเหมือนจะรู้จักชื่อรุ่นพี่ทุกคน แต่...ดูเจ้าตัวจะไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับเสียงตะโกนเลย เพราะหูตาเยิ้มไปกับ ‘รุ่นพี่สเป็คสาธารณะ’ ที่ยืนอยู่ริมห้องอย่างเดียว


“นิสิตรัฐศาสตร์! ถ้าพวกคุณสอบเข้ามาที่นี่เพื่อศึกษาหาความรู้! คณะนี้มีพร้อมทั้งคณาจารย์และวัตถุดิบให้พวกคุณ!! ใครขยัน! ก็ได้มาก! ใครขี้เกียจ! ก็ได้น้อย! ใครไม่เข้าคณะ! ผมขอเสนอให้คุณลงวิชาที่ไม่เช็คชื่อ! วิชาไหนยาก ผมแนะนำให้พวกคุณลงแบบ sit in! เอาความรู้! ไม่เอาเกรด! แต่วิชาไหนที่ยากและจำเป็นต้องเอาเกรด! ก็ลงไปสิ! มันเป็นหลักสูตร!!”


“อ้าวววว...” เกิดเสียงครวญเล็กน้อย แต่พอพี่วินัยหน้าขึงขังทำตาดุ ทั้งห้องก็เงียบลงอย่างเก่า


“ความรู้และเกรดเป็นเรื่องสำคัญ! เมื่อคุณก้าวออกไปในโลกของการทำงาน! คนข้างนอกไม่มีใครรู้จักคุณ! สิ่งแรกที่เขาดูคือคุณได้เกรดเท่าไร! เพราะมันบอกว่าคุณใส่ใจกับหน้าที่ของคุณแค่ไหน! ตั้งใจ!! ให้สมกับที่สอบเข้ามา!!”


เหมือนในห้องมีไฟเปล่งประกายจากน้องๆปีหนึ่งหลายคน


“แต่ถ้าพวกคุณแน่ใจว่าเรียนยังไงเกรดก็ไม่ดี! เขียนคำตอบยังไงก็เข้าไม่ถึงใจอาจารย์! เป็นคนกลางๆ กลางไปหมดทุกอย่าง! ดิฉันขอแนะนำให้คุณทำกิจกรรมให้มาก! รู้จักคนให้เยอะ! เรียนรู้คนจากการทำงานร่วมกับคนอื่น!! ซึ่งคณาจารย์ไม่ได้สอน! แต่กิจกรรมและการทำงานกับคนอื่นจะสอนคุณ!” คราวนี้เป็นเสียงของพี่วินัยผู้หญิง หน้าสวยคม...สวยจนปกฉัตรมองตาม


 “พี่โซ่หล่อมากเลยอ่า...” แต่ความสวยของพี่วินัยทำอะไรติซซี่ไม่ได้ เพราะนอกจากจะหูตาเยิ้ม ก็ยังเอาแต่ครวญเบาๆไม่หยุด ปกฉัตรต้องกลั้นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะด้วยความเอ็นดูเพื่อนต่างภาคฯรายนี้


“นิสิตรัฐศาสตร์! ถ้าคุณเข้ามาคณะนี้เพื่อเป็นนิสิตรัฐศาสตร์อย่างเดียว! คุณทำสำเร็จแล้ว! แต่! คุณยังไม่เป็นสิงห์! ยังไม่มีรุ่น!! คุณรู้จักใครบ้าง! ใครรู้จักคุณบ้าง! ออกไปเจอโลกข้างนอก! เจอคนถามคุณว่าคุณเป็นสิงห์รุ่นอะไร! แต่ถ้าคุณไม่มี! แบลงก์!! อีกาบินผ่านหัวพร้อมจุดสามจุด!!” เสียงรุ่นพี่อีกคนดังต่อ คราวนี้รุ่นน้องปีหนึ่งมองหน้ากันเหมือนจะถามกันทางสายตาว่าพี่วินัยพูดอะไรวะ?


“พี่โซ่มองมาทางนี้ด้วย ไม่ไหวแล้ว...นี่มัน...ซอโซ่แห่งพรหมลิขิตจริงๆ” แต่ใครจะมองหน้ากันก็มองไป ติซซี่มอง ‘พี่โซ่’ คนเดียว แถมยังเปรียบเปรยได้น้ำเน่าจนปกฉัตรแทบกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเองไม่ไหว เสียงตะโกนของพี่วินัยยังดังต่อเนื่อง แต่กดดันอะไรเขาไม่ได้เลย เพราะติซซี่เบรคความกดดันทั้งหมดด้วยออร่าสีชมพูที่ส่งให้ ‘พี่โซ่’ ซึ่งยืนสังเกตการณ์อยู่ริมห้อง


“คุณมีความรู้! มีความสามารถ! คนอื่นก็มีความรู้และความสามารถเหมือนคุณ! แต่สิ่งที่เขาจะมีไม่เหมือนคุณ คือรุ่น! คือสายสัมพันธ์! คือคอนเนคชั่น! สิ่งเหล่านี้คือฐานรากของสังคมอุปถัมภ์และคอรัปชั่น! แต่อย่าลืม! ถือปืนเข้าป่าคนเดียว! ล้มช้างได้! แต่ลากช้างออกจากป่าไม่ได้! อย่าถามดิฉันว่าจะล้มช้างทำไม! ดิฉันเปรียบเปรยเฉยๆ!” รุ่นพี่ผู้หญิงสวยคมคนเดิมสร้างความเป็นยูนิตี้ด้วยน้ำเสียงฮึกเหิม


“พี่ซอโซ่ของน้องงงงง...” แต่ความฮึกเหิมและคำเปรียบเปรยใหญ่โตก็ไม่อาจทำอะไรติซซี่ได้ เวลานี้เจ้าตัวเริ่มบิดตัวไปมาให้สมกับความเขินหลังจากได้ตาสบตากับ ‘พี่โซ่’ ไปแล้ว


“น้องเป็นอะไร” สภาพติซซี่ที่เหมือนขนมครองแครงกรอบ บิดจนแขนไขว้กันแล้ว ทำเอาพี่วินัยที่เดินผ่านมาพอดีหันมาถาม ติซซี่ผู้อ่อนไหวกับความหล่อของ ‘พี่โซ่’ รีบตั้งสติแล้วส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว


“ป...เปล่า...”


“ดีมากที่เข้มแข็ง! นี่คือตัวอย่างของคนที่จะเป็นสิงห์! แต่ถ้าไม่สบายก็ต้องยอมรับว่าไม่สบาย! ถ้าคุณฝืน ไม่ใช่แค่คุณที่จะลำบาก! แต่เพื่อนของคุณจะลำบากไปด้วย! ฝ่ายสวัสดิการอยู่ไหน! มาพาน้องคนนี้ไปพัก!”


“เอ้ย! ติซซี่ไหวค่ะ! ติซซี่ไหว!” ติซซี่รีบออกตัว เกรงว่าการถูกพาไปพักจะเป็นการไปอยู่ในจุดที่ไกลโพ้น ไม่สะดวกต่อการสอดส่อง ‘พี่โซ่’ ที่ยืนอยู่ริมห้องอีก ปกฉัตรเห็นสีหน้าเหมือนโลกจะแตกของติซซี่ก็พอจะรู้ว่าเพื่อนร่วมรุ่นคนนี้ไม่อยากเดินออกไปจากจุดที่ยืนอยู่เลยแม้แต่นิด


“เพื่อนผมไม่เป็นไรหรอกครับ” เขาเอ่ยปากขึ้นมา คราวนี้ตาดุๆและสีหน้าถมึงทึงของพี่วินัยหันมามองที่เขา


“คุณเห็นรึเปล่าว่าเพื่อนคุณหน้าแดงมาก! ถ้าเกิดเพื่อนของคุณเป็นอะไรขึ้นมา คุณรับผิดชอบไหวมั้ย?! ผมบอกเลยว่าผมรับผิดชอบไม่ไหว!” เป็นพี่วินัยที่ตรงไปตรงมายิ่งนัก ติซซี่เกือบจะเทใจให้กับพี่วินัยผู้เถรตรงคนนี้แล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าพอเหลือบตาไปทางขวาแล้วเห็น ‘พี่โซ่ ไออาร์’ ยืนอยู่ หนุ่มน้อยปีหนึ่งจากภาคสังคมก็กลับลำยึด ‘พี่โซ่’ เป็นสรณะของหัวใจตามเดิม


“ติซซี่ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ...ติซซี่...หน้าแดงเพราะเขิน...” เพราะกลัวว่าจะถูกพาออกจากแถวจริงๆ หนุ่มน้อยปีหนึ่งภาคสังคมเลยยอมบอกความจริง


“เขิน?! พวกผมตะโกนปาวๆ คุณเขินอะไร?!”


“ข...เขินพี่โซ่ค่ะ” ปกฉัตรเหมือนเห็นเส้นเลือดที่ข้างขมับพี่วินัยเต้นตุบๆ ก่อนที่จะตะโกนไปยังข้างห้อง


“ไอ้โซ่! อยู่ไหน?! ออกจากห้องไปเดี๋ยวนี้เลย!”


“อ้าวววววว...” เสียงครวญดังลั่นห้อง บอกให้รู้ว่าการที่ ‘พี่โซ่ ไออาร์’ ถูกไล่ออกจากห้อง ไม่ได้มีแค่ติซซี่คนเดียวที่เสียใจ พี่วินัยเจ้าของคำสั่งกวาดตามองไปรอบห้อง สีหน้าดูจะเข่นเขี้ยวน้องๆปีหนึ่งรุ่นนี้เป็นพิเศษ


“พวกคุณร้องอะไรกัน?!! เสียดายที่ผมไล่ไอ้โซ่ออกจากห้องเหรอ?!!”


ไม่มีคำตอบ แต่ปกฉัตรพอจะเห็นหลายคนทำปากขมุบขมิบ บางคนเหลือบไปมอง ‘พี่โซ่’ เหมือนเสียดาย


“ดี! ผมจะได้รู้ว่าพวกคุณเข้าห้องเชียร์เพราะอยากมาเจอไอ้โซ่! แต่ผมจะบอกให้พวกคุณรู้! ผม!...อรรณพ นิสิตปีสี่ คณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ! เป็นพี่รหัสของ สิตางศุ์ หรือที่พวกคุณเรียกว่า พี่โซ่ ไออาร์!” สิ้นประโยคนั้นของพี่วินัยหน้าดุ ก็เกิดเป็นเสียงอื้ออึงดังไปทั้งห้อง


“เชี่ยยยย”


“ฉิบหาย! ดุตายโหงเป็นพี่รหัสพี่โซ่!”


“ไม่จริง! พี่โซ่เป็นน้องรหัสพี่วินัย!”


“ถึงว่า...ทำไมเขาบอกกันว่าพี่โซ่โสด...”


ปกฉัตรยังยืนเงียบ เขาเห็นพี่วินัยผู้มีสถานะเป็น ‘พี่รหัสพี่โซ่’ กระตุกยิ้มที่มุมปาก แล้วตะโกนขึ้นอีกครั้ง


“ใครที่จ้องน้องรหัสผมไว้! ก็จำไว้ด้วยว่าผมเป็นพี่รหัสมัน!! คราวนี้พวกคุณเข้าใจคำว่าคอนเนคชั่นกันแล้วรึยัง?!!!”


ยิ่งกว่าการวาดรูปประกอบ เพราะความสัมพันธ์ของ ‘สเป็คสาธารณะ’ กับพี่วินัยที่ดุทั้งหน้า ดุทั้งเสียงนั้นชัดเจน


ห้องเชียร์ดำเนินต่อไปแล้ว ติซซี่ยังคงยืนอยู่ข้างปกฉัตรเหมือนเดิม แต่คนที่ถูกไล่ออกจากห้องคือรุ่นพี่ปีสามอย่าง ‘พี่โซ่ ไออาร์’ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าคนถูกไล่ออกจากห้องจะออกไปอย่างงงๆด้วยซ้ำ ปกฉัตรยืนเงียบๆ มองไปรอบๆห้อง พี่วินัยคนที่เผยสถานะพี่รหัสของ ‘พี่โซ่ ไออาร์’ และวาทกรรมเรื่อง ‘คอนเนคชั่น’ ทำให้เขาหวนคิดถึงเรื่องของตนเอง


ระหว่างเขากับเจตน์ มองเผินๆเหมือนห่างเหิน แต่ถ้ามองดีๆแล้ว...ห่างกันแค่กำแพงกั้น ต่างคนต่างรู้จักหน้ากัน ต่างคนต่างจำกันได้ แต่...ไม่เคยมีใครก้าวเท้าข้ามกำแพงไปหาอีกฝ่ายก่อนเลย


ปกฉัตรทบทวนและไตร่ตรอง และพอเลิกห้องเชียร์ เขาก็หันไปบอกเพื่อนๆด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้มน้อยๆ


“พอดีมีธุระ ไปก่อนนะ”


แล้วร่างสูงโปร่งของหนุ่มปีหนึ่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็สะพายกระเป๋าเป้เดินออกจากคณะ


ธุระของเขา...อยู่ที่คณะบัญชี

............................

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีไม่ใช่คณะเล็กๆ พื้นที่คณะประกอบด้วยตึกสูงๆสามตึกที่โอบรอบสนามฟุตบอลเอาไว้ ไม่รู้จะพบคนที่อยากเจอได้อย่างไร ริมฝีปากบางของคนมาเยือนได้แต่ขบเม้มเข้าหากันอย่างชั่งใจ แต่ก็ยังก้าวเท้าเดินไปเรื่อยๆ


แม้จะเย็นมากแล้ว แต่ในคณะยังมีนิสิตและผู้คนเดินขวักไขว่ ปกฉัตรไม่รู้จักใครสักคน แถมคนที่เขารู้จักและเรียนคณะนี้ก็กลับบ้านไปแล้ว


...ไอ้ดิษ...คอนเนคชั่นเดียวที่มี แต่ไม่มีประโยชน์เอาซะเลย...


เดินวนใต้ตึกทั้งสามอย่างละรอบ เลยตัดสินใจหาที่นั่ง ปกฉัตรเลือกโต๊ะม้าหินหน้าตึกเรียนริมสนามฟุตบอล จากมุมนี้มองเห็นตึกทั้งสามตึกได้อย่างชัดเจน แต่...ถ้าจะมีใครสักคนเดินออกจากตึกไหนสักตึกไปโดยไม่ทันสังเกต ก็คงไม่เห็น


ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองซ้ายขวา ก่อนจะชะงักเมื่อพบร่างสูงใหญ่ที่แสนคุ้นตาเดินออกจากใต้ตึกใกล้ๆโต๊ะม้าหินที่เขานั่งอยู่


เจตน์...เจตน์จริงๆด้วย!


ปกฉัตรตั้งสติ ก่อนจะล้วงขวดน้ำพลาสติกที่เหลือน้ำอยู่เกือบครึ่งขวดจากกระเป๋าสะพายแล้วขว้างใส่พื้นข้างหน้าเจตน์


ปั่ก!


“เชี่ย!” เสียงร้องดังลั่นมาจากคนที่กำลังเดินออกจากตึก เพราะขวดน้ำเฉียดเท้าไปนิดเดียว


เจ้าของเสียงตวัดตาเรียวๆไปจ้องตามทิศทางที่ขวดน้ำกระเด็นมา ปกฉัตรกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ตีสีหน้าเรียบเฉยแล้วเดินออกจากโต๊ะม้าหินมาเก็บขวดน้ำที่ตัวเองตั้งใจโยน


   “ขอโทษครับ พอดี...มันหลุดมือ” และเป็นการหลุดมือที่ตั้งใจมากๆด้วย


   “มึงนี่เอง...มาทำไรที่นี่” หนุ่มตี๋ตาเรียวหน้าตาหงุดหงิดถาม และเป็นคำถามที่ทำเอาปกฉัตรรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อกำลังขยับปีกอยู่บนหัวใจของตนเอง


   ... ‘มึงนี่เอง’...แสดงว่าจำกันได้จริงๆด้วย...


   “เอ่อ...ผมมาหาดิษ” แม้จะดีใจ แต่คำพูดที่เอ่ยออกไปกลับเรียบสนิทและพูดเรื่องของเพื่อนสนิทแทน แถมสีหน้าก็ยังเฉยเหมือนเดิม หากไม่สังเกตดีๆก็คงไม่เห็นว่าริมฝีปากบางสีสดนั้นยกขึ้นเล็กน้อย


   “หาไอ้ดิษ? ป่านนี้เนี่ยนะ” เจ้าของตาเรียวเอาเรื่องย้อนถาม


   “ก็...ผมเพิ่งเลิกห้องเชียร์” เจตน์พยักหน้าหงึกหงักเหมือนไม่สนใจจะรับรู้เท่าไร แต่ก็ยังมีน้ำใจตอบ


   “มันกลับไปแล้วมั้ง กูเห็นมันเผ่นออกจากคณะไปตอนสี่โมง” เป็นคนหน้าตาเอาเรื่อง ชอบทำหน้าหงิกเหมือนไม่พอใจคนทั้งโลก แต่...ก็ยังมีน้ำใจ ปกฉัตรอดไม่ไหว รอยยิ้มที่มุมปากยกขึ้นอีกหน่อยจนเห็นได้ชัด และมันชัดจนคนเป็นรุ่นพี่ขมวดคิ้วฉับ


   “ยิ้มเชี่ยอะไรของมึง”


   “เอ่อ...เปล่าครับ...” ตอบแล้วก็เบือนสายตามองไปรอบๆเพราะไม่กล้าสบตาคนตัวสูงกว่า...สูงกว่าไม่พอ ยังตัวใหญ่กว่ามากอีกด้วย พอเจตน์มายืนอยู่ตรงหน้า เขาก็มองทางข้างหน้าไม่เห็นอีก ไม่รู้เพราะอีกฝ่ายตัวใหญ่จนบังทัศนียภาพมิด หรือเพราะ...สายตาของเขามองแค่เจตน์คนเดียว


   ...คิดแล้วเขิน...มองบล็อกปูทางเท้าบนพื้นนี่แหละ จะได้ไม่ต้องสนใจคนตรงหน้ามากนัก...


   “มึงลองโทร.หามันดูแล้วกัน” เจตน์เห็นอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตาก็เลยตัดบท ปกฉัตรรีบเงยหน้าขึ้นทันที ร่างสูงใหญ่กำลังจะเดินจากไปแล้ว แต่...ยังคุยกันแค่ไม่กี่คำเอง


คนอุตส่าห์บุกมาถึงต่างถิ่นรีบพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว


   “เอ้อ! เฮี...เอ่อ...พี่!” ตัดสินใจเพียงชั่ววินาที ที่จะไม่เรียก ‘เฮีย’ เหมือนคนอื่นๆ รอบกายผู้ชายตรงหน้าคงมีแต่คนเรียกเฮีย แต่...ปกฉัตรจะเรียกไม่เหมือนใคร


   ...จะเรียก ‘พี่’ จะได้จำได้สักทีว่ามีใครคนนึงที่พิเศษกว่าคนทั่วๆไป...


   เจตน์หันกลับมามอง ดวงตาเรียวสีดำสนิทจับจ้องคนที่เรียกเขาด้วยคำแปลกๆ คำที่ไม่มีใครใช้เรียกคนเชื้อสายจีนอย่างเขา


   “...ผมขอยืมโทรศัพท์พี่ได้มั้ย” คราวนี้ตาเรียวๆจ้องเขม็งกว่าเดิม ทว่าปกฉัตรยังคงทำสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นว่างเปล่าเหมือนไม่มีอะไรซุกซ่อนอยู่


   “คือ...มือถือของผมแบทฯหมด ก็เลย...” ปากว่าแบบนั้นแต่ไม่ล้วงโทรศัพท์มาให้ดูหรอก ว่ายังเหลือแบตเตอรี่อีกตั้งครึ่งนึง


   “มึงนี่วุ่นวายชะมัด!” เจตน์บ่นแต่มือล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถือส่งให้ ทว่าไม่ทันที่ปกฉัตรจะกดเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนสนิท หน้าจอก็ปรากฏสายเรียกเข้า เขาส่งให้เจ้าของโทรศัพท์ดู เจตน์เลยหยิบกลับไปกดรับสาย


   “ฮัลโล กำลังจะออกจากคณะแล้ว!”


   “เออ...รอหน่อยแล้วกัน! เลือกร้านที่อยากกินไว้ เดี๋ยวไปหา!” แล้วเจ้าของโทรศัพท์ก็กดตัดสาย ก่อนจะส่งกลับไปให้ปกฉัตรอีกครั้ง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองเจ้าของโทรศัพท์อย่างชั่งใจ เขาทันเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์เมื่อครู่นี้


ชื่อ ‘นุ่น’ คงจะเป็นผู้หญิง...แถมจะไปกินข้าวด้วยกันอีกต่างหาก


   “แฟน...โทร.มาเหรอ” ใจจริงก็ไม่อยากถามหรอก แต่อยากรู้ เลยต้องถาม


   “เรื่องของกู อย่าเสือก แล้วมึงจะโทร.หาไอ้ดิษได้รึยัง” ถึงจะไม่ยอมบอก แต่ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นว่าผู้ชายอย่างเจตน์มีตัวเลือกมากมาย ถึงจะปากไม่ดี ถึงจะขี้หงุดหงิด แต่ก็หน้าตาดี เรียนเก่ง นามสกุลดัง ที่สำคัญคือมีน้ำใจ...คนแบบนี้ ก็คงมีแฟนอยู่แล้ว


   ปกฉัตรตัดสินใจดันมือที่ยื่นโทรศัพท์มาให้กลับไป แล้วส่ายหน้า


   “ผมว่าผมไม่โทร.แล้วดีกว่า ขอบคุณมากครับ”


   “อะไรของมึงวะ” เจตน์งง แต่สีหน้าเหมือนมีเรื่องอยู่ในใจของคนตรงหน้าทำเอาด่าไม่ออก พอจะอ้าปากถาม อีกฝ่ายที่ดูเนิบนาบกลับชิงพูดขึ้นมาก่อน


   “ผมว่า...พี่หัดพูดดีๆบ้างก็ดีนะ อย่างเมื่อกี้...มันห้วนไปหน่อยถ้าจะพูดกับผู้หญิง” ปกฉัตรพูดแล้วค้อมศีรษะหนึ่งทีเป็นการลา ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากคณะไป ทิ้งเจตน์ให้ยืนนิ่งอ้าปากค้างที่อยู่ดีๆก็ถูกสั่งสอนจากรุ่นน้องต่างคณะที่ไม่ได้สนิทกันสักนิด


   ...แถมเป็นการสั่งสอนครั้งที่สองแล้วนะเว้ยเฮ้ย!!!...


   “ไอ้เชี่ย! ด่ากูเฉยเลย!!” หนุ่มปีสองโวยตามหลัง แต่...อีกฝ่ายเดินเลี้ยวออกจากคณะไปแล้ว เสียงโวย สีหน้าและอารมณ์ของเขา ตามไปไม่ทัน

.............................

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8



ดิษกรออกจะงุนงงนิดหน่อยที่เมื่อตอนเย็น อยู่ดีๆปกฉัตรก็ส่งข้อความมาถามเขา แต่จะว่าไป ตั้งแต่ต่างคนต่างสอบติดคนละคณะก็แทบจะไม่ได้เจอกันเลย ทั้งๆที่บ้านอยู่ติดกันแท้ๆ


หนุ่มวัย 19 เปิดผ้าม่านมองส่องไปที่บ้านข้างๆ เกือบหกโมงเย็นแล้ว ไม่รู้ว่าปกฉัตรกลับมาถึงรึยัง


“มองอะไรน่ะดิษ” คำถามดังมาจากข้างหลัง ดิษกรหันไปมองแล้วส่งยิ้มให้ผู้ปกครองเพียงคนเดียวของเขา นิศราเป็นหญิงโสดสวมแว่นวัยสี่สิบ มีสถานะเป็นอาที่เลี้ยงหลานชายคนเดียวอย่างดิษกรมาตั้งแต่ยังไม่ถึงขวบปีแทนบิดามารดาที่เสียพร้อมกันด้วยอุบัติเหตุ


“ไอ้ปกน่ะอา ไม่รู้มันกลับมารึยัง” บ้านของปกฉัตรอยู่ติดกับบ้านของเขา รายนั้นก็อยู่เพียงลำพังเพราะบิดามารดาไปทำงานที่ต่างประเทศ ปีหนึ่งจะกลับมาเยี่ยมลูกชาย 2-3 ครั้ง


“วันนี้อยู่ดีๆมันส่งข้อความมา...เป็นห่วงเหมือนกัน”


“งั้นดิษไปดูหน่อยก็ดี เอาขนมไปฝากด้วย อาซื้อมาตั้งเยอะ” คุณอาสาวโสดร่างท้วมผลุบหายเข้าไปในครัว ดิษกรยืนรออยู่อึดใจก็ได้ถุงขนมและผลไม้มาเต็มมือไปเป็นของฝากเพื่อนข้างบ้าน พอก้าวเท้าพ้นรั้วบ้านของตนเอง เขาก็พบว่าเจ้าของบ้านเดินเข้าซอยมานู่นแล้ว


“ไอ้ปก...วู้วววว...” ดิษกรคนร่าเริงส่งเสียงดังพร้อมรอยยิ้ม ปกฉัตรก้าวเท้าไวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนสนิทยืนรอ


“มีอะไร”


“อานิศให้กูเอาขนมกับผลไม้มาฝาก” หนุ่มร่างผอมโปร่งยิ้มจาง แล้วเดินเลยบ้านของดิษกรไปที่บ้านของตัวเอง มีเพื่อนซี้ตัวใหญ่เดินตามหลัง


“มึงเพิ่งเลิกเหรอ ทำไมกลับเย็นจังวะ” ดิษกรถามด้วยความสงสัย นี่หกโมงกว่าแล้ว ถึงจะมีห้องเชียร์ก็ไม่น่าจะเย็นมากขนาดนี้ คนเพิ่งกลับนิ่งไปเล็กน้อย ไม่อยากบอกเลยว่าเขาเอาเวลาไปทิ้งไว้ที่คณะบัญชีตั้งนานสองนาน เพียงเพื่อจะได้รับรู้ว่าเจตน์จะออกไปกินข้าวกับแฟน


“ก็...กูอืดอาดเองแหละ” เขาบอกปัดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“แล้วกินไรยัง”


“ยัง”


ดิษกรทำตาโต อ้าปากหวอ


“จะทุ่มโมงแล้วยังไม่แดกข้าวอีก!? บ้านมึงมีอะไรกินมั้ยล่ะ เอากับข้าวบ้านกูมั้ย เดี๋ยวกูไปเอามาให้” ปกฉัตรส่ายหน้ายิ้มๆ ถึงดิษกรจะกำพร้า แต่ก็ถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรักและเอาใจใส่อย่างดี เพราะเจ้าตัวมักจะเผื่อแผ่ความเอาใจใส่มาให้เขาเสมอ


“กูหากินเองได้”


“งั้นก็กินได้แล้ว มึงผ้อมผอม! ที่คณะกับข้าวไม่อร่อยเหรอวะ”


“อ้าว พูดยังงี้ พรุ่งนี้มึงมากินข้าวคณะกูเลย จะได้รู้ว่าคณะกูกับคณะมึง กับข้าวใครอร่อยกว่ากัน” ถึงแม้จะยังไม่มีรุ่น ถึงแม้จะยังไม่เป็นสิงห์ แต่ใครจะมาหาว่าโรงอาหารคณะรัฐศาสตร์ไม่อร่อยไม่ได้ ถือว่าเสียเกียรติเป็นอย่างยิ่ง!


ดิษกรยิ้มแฉ่งอย่างยินดี ตกปากรับคำจะไปกินข้าวเที่ยงที่โรงอาหารคณะรัฐศาสตร์ในวันพรุ่งนี้ ก่อนจะเดินตามเพื่อนรักต้อยๆเข้าห้องครัว ปกฉัตรมองเพื่อนสนิทนิสัยร่าเริงและอารมณ์ดี ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในเรื่องราวของตนเองและเจตน์ถูกปัดเป่าด้วยเรื่องตลกๆของคนที่มานั่งเป็นเพื่อนในระหว่างที่เขาทานข้าว


...เวลาแบบนี้อยู่คนเดียวเงียบๆอาจจะดี แต่พอมีเพื่อนมาอยู่ด้วย มันดียิ่งกว่าเสียอีก...

.................................

หลังจากนัดแนะกันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเมื่อวานนี้ ดิษกรก็ตั้งหน้าตั้งตารอเที่ยงขอวันถัดมาที่จะได้ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนรักที่คณะ


นาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังห้องเรียนบอกเวลาเที่ยงตรง ผู้ชายตัวใหญ่เจ้าของรอยยิ้มแฉ่งก็รีบคว้าข้าวของใส่กระเป๋าเป้แล้วบอกลาเพื่อนๆร่วมคาบเรียนก่อนจะพุ่งตัวออกจากห้องทันที


...วันนี้นัดไอ้ปกที่โรงอาหารคณะรัฐศาสตร์...


พอคิดถึงเพื่อนรักที่รู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล ดิษกรก็อารมณ์ดีแม้อากาศข้างนอกจะร้อนจัด และเขาก็คงจะเดินฝ่าเปลวแดดตอนเที่ยงออกจากคณะไปแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าบังเอิญเจอรุ่นพี่ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี


“ไอ้ดิษ!” คนเรียกคือเจตน์ที่แท็กทีมด้วยเพื่อนสนิทต่างคณะแต่จบจากโรงเรียนมัธยมที่เดียวกันอีก 3 คน ดิษกรรู้จักทุกคนเพราะล้วนอยู่ในชมรมฟุตบอลด้วยกัน เขายกมือไหว้เรียงตัว ตั้งแต่ธนทัตจากคณะเศรษฐศาสตร์ การุนจากคณะสัตวแพทย์ และอิสระจากคณะวิศวกรรมศาสตร์


“เฮียเจ๋ง เฮียไท เฮียรุน เฮียอิส สวัสดีครับ ไปก่อนล่ะครับ วันนี้รี้บรีบ” ไหว้หนึ่งครั้งทักทาย แล้วตามด้วยไหว้อีกหนึ่งครั้งเป็นการลา บอกให้รู้ว่าวันนี้รีบจริง


“มึงจะรีบไปไหน” คนรีบท้วงคือหนุ่มรุ่นพี่ร่วมคณะอย่างเจตน์


“ไปรัฐศาสตร์ครับเฮีย นัดไอ้ปกไว้” ดิษกรสาบานว่าเห็นสีหน้าหนุ่มตี๋ตาเรียวบึ้งตึงขึ้นมาทันที ในขณะที่อีก 3 คนยังปกติกันดี


“อ้าวเหรอ แล้วเย็นนี้ว่างเปล่าวะ สักหกโมง...ไอ้เจ๋งจะนัดแดกเหล้า นี่ตั้งแต่มึงสอบติด พวกกูยังไม่ได้ฉลองให้มึงเลยนะ” การุนจากคณะสัตวแพทย์ หนุ่มแว่นเพียงคนเดียวในแก๊งเพื่อนของเจตน์ เป็นคนชวน คนสอบติดที่ยังไม่ถูกเลี้ยงฉลองจากเหล่าพี่ๆทำหน้านิ่งคิด


“วันนี้วันศุกร์...อ่า...คิดว่าไปได้นะเฮียรุน แต่ต้องโทร.บอกที่บ้านก่อน”


“เออ งั้นมึงบอกที่บ้าน แล้วสักหกโมง ไปเจอที่คอนโดไอ้เจ๋ง” คนบอกพิกัดยังคงเป็นการุนคนเดิม ในขณะที่เจ้าของห้องยืนหน้านิ่วคิ้วขมวด


“เชี่ยเจ๋ง ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย เดี๋ยวไอ้ดิษไม่ไป” ธนทัตเพื่อนซี้จากคณะใกล้เคียงเห็นสีหน้าหงุดหงิดงุ่นง่านของเพื่อนสนิทแล้วอดไม่ไหว


“นั่นสิเฮีย หน้าตาไม่รับแขกเลย”


“อย่าถือสา ไอ้เจ๋งเพิ่งเลิกกับแฟนก็งี้ สดๆใหม่ๆเมื่อวานนี้เอง เลยมู้ดดี้นิดหน่อย” ธนทัตแจกแจง


“มู้ดดี้พ่อง! กูไม่ได้คิดเรื่องนั้นแล้ว” คนเพิ่งเลิกกับแฟนมาหยกๆหันมาสวน ดูแล้วก็ไม่มีวี่แววจะเศร้าสลดกับการเลิกแฟนเลยแม้แต่นิด เพราะอารมณ์ร้ายเหมือนเดิม


“อ่ะๆ ไม่คิดก็ไม่คิด ไม่คิดก็ไปแดกข้าวกลางวันก่อนแล้วกันครับ” เพื่อนคนอื่นๆพากันตบไหล่คนเพิ่งเลิกแฟน ใครๆในกลุ่มก็มองว่าที่เจตน์ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี สาเหตุคงเพราะเพิ่งเลิกรากับคนรักมา แต่...จะมีใครรู้ว่าต้นเหตุที่แท้จริงของความหงุดหงิดคือการที่โดนด่ามาเมื่อวานต่างหาก! แถมคนด่าไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เพื่อนสนิทของดิษกรนี่ไง!!


…แล้วด่าแบบตะโกนยังไม่เจ็บเท่าด่าแบบหน้าตายๆนั่นนะ! เชี่ยเอ๊ย!! เกลียดสายตากับสีหน้ามันฉิบหาย!...


“งั้นไว้เจอกันเย็นนี้นะครับ เฮียๆ ผมไปก่อนล่ะ เดี๋ยวไอ้ปกรอ” ดิษกรยกมือไหว้ลารุ่นพี่ทุกคนอีกรอบ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินจากไป เสียงของเจตน์ก็ดังขึ้น


“มึงบอกเพื่อนมึงที่รัฐศาสตร์ด้วย ว่าอย่ากวนตีนกูให้มันมากนัก!”


คนรอบข้างชะงักกึกกับคำพูดที่ไม่มีที่มาที่ไปของหนุ่มตี๋ตาเรียวเจ้าของสีหน้าบึ้งตึง ทุกคนมองหน้ากันอย่างงุนงง ก่อนที่ธนทัตจะผลักศีรษะเพื่อนสนิทหน้าหงิก


“อะไรของมึงวะเจ๋ง เลิกแฟนแล้วอย่าพาลสิ ไปๆ ไอ้ดิษ มึงไปได้แล้ว เดี๋ยวเพื่อนมึงรอ” ดิษกรพยักหน้าอย่างงุนงง แม้จะเดินจากมา แต่ก็ยังไม่วายหันกลับไปมองรุ่นพี่อีกครั้ง


‘มึงบอกเพื่อนมึงที่รัฐศาสตร์ด้วย ว่าอย่ากวนตีนกูให้มันมากนัก’


…เพื่อนที่รัฐศาสตร์ก็มีแต่ไอ้ปก แล้วไอ้ปกไปกวนตีนเฮียเจ๋งเนี่ยนะ?!...


…บอกว่ามนุษย์โลกจับมือกับมนุษย์ดาวอังคารยังน่าเชื่อกว่าซะอีก!!!...

.............................

กว่าจะเดินมาถึงคณะรัฐศาสตร์ ก็เกือบเที่ยงครึ่งแล้ว ในโรงอาหารซึ่งเป็นจุดนัดพบในเวลานี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ดิษกรโผล่หน้าเข้าไปกวาดตามองแค่แวบเดียวก็เห็นเพื่อนสนิทที่สอบติดคณะนี้กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะหนึ่งด้านในโรงอาหาร


...หล่อสงบมาดผู้ดีสมกับเป็นไอ้ปก...น่าเสียดายที่ผอมกะหร่อง ถ้ากล้ามแน่นกว่านี้อีกหน่อย ไปเป็นพระเอกเชื้อเจ้าเชื้อขุนนางได้สบาย...


“ไอ้ปก”


เจ้าของชื่อหันมอง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนหยีลงเล็กน้อยเมื่อเจ้าตัวยกยิ้มจางๆ


“ไม่ต้องมายิ้มเลย กูโคตรหิว”


“ก็มึงมาช้าเอง ไหนว่าเลิกเที่ยง” ปกฉัตรย้อนถามพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ แต่หน้าตาดูไม่ได้เดือดร้อนกับการที่เพื่อนรักมาช้ากว่าเวลานัดเท่าไร นิสัยใจเย็นแบบนี้ ทำให้ดิษกรอยู่ด้วยแล้วเย็นใจ แม้จะเพิ่งเดินตากแดดเปรี้ยงมา


“เอ้า! ก็กูเลิกเที่ยง กว่าจะเดินมาอีกล่ะ แถมเจอพวกเฮียๆชวนคุยด้วย”


“พวกเฮียๆ?” เจ้าถิ่นคณะรัฐศาสตร์ถามแล้วเลิกคิ้ว ขณะลุกจากโต๊ะเพื่อไปรับอาหารที่สั่งเอาไว้


“ก็พวกเฮียเจ๋งไง” คำตอบของดิษกรทำเอาคนที่กำลังจะก้าวออกจากโต๊ะถึงกับชะงัก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหันไปมองคนพูดทันที และนั่นทำให้เขารู้ว่าดิษกรมองเขาอยู่ก่อนแล้ว ปกฉัตรพยายามตั้งสติ แล้วเฉสายตามองไปทางอื่น ก่อนจะก้าวออกจากโต๊ะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“อ๋อเหรอ...เขาอยู่คณะเดียวกับมึงนี่นะ เดี๋ยวกูไปเอาข้าวที่สั่งก่อน คงได้แล้วแหละ สั่งนานแล้ว” ร่างสูงโปร่งของปกฉัตรเดินออกจากโต๊ะอย่างรวดเร็ว โดยมีสายตาของเพื่อนรักมองตาม


ดิษกรจับสังเกตมาตั้งแต่เมื่อกี้ อันที่จริงเขาก็คงไม่สังเกตอะไร ถ้าไม่ใช่ว่าอยู่ๆ เจตน์ก็ฝากคำด่าปกฉัตรมากับเขา


...สองคนนี้ไปมีเรื่องมีราวกันตอนไหน ทำไมอยู่ดีๆเฮียเจ๋งถึงดูหงุดหงิดกับไอ้ปก?...


พักใหญ่ๆ ปกฉัตรก็เดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งพร้อมด้วยสุกี้แห้งทะเลสองจาน จานของปกฉัตรมีผักมากหน้าหลายตา ส่วนของดิษกรผู้ไม่กินผักกาดย่อมมีแต่ผักบุ้ง วุ้นเส้น ไข่และปลาหมึกกับกุ้ง


“กูจะอิ่มถึงชั่วโมงมั้ยวะ แดกสุกี้แห้ง” แขกจากต่างคณะบ่นอุบ ถึงจะให้เยอะ แต่สุกี้แห้งเป็นอาหารที่ย่อยง่ายสำหรับดิษกรมากกกกกก...


“ไม่ใส่ผักกาดด้วย” ในขณะที่เจ้าของคณะซึ่งถืออภิสิทธิ์สั่งมาเลี้ยง เสริมเรียบๆ คนฟังถึงกับแค่นยิ้ม


“ขอบใจมากครับคุณปก แต่แดกนี่เสร็จแล้ว ไปแดกโรงอาหารคณะกูต่อเลยนะ กูไม่อิ่มเว้ย!” คำว่า ‘คณะ’ ของดิษกรเป็นอีกครั้งที่ปกฉัตรชะงัก และแน่นอนว่าคราวนี้ก็อยู่ในสายตาของหนุ่มบัญชีฯเช่นเคย


ดิษกรหรี่ตาลงอย่างจับผิด “มึงเป็นไร มีอะไรกับคณะกู หรือไม่อยากไป?”


“เปล่า...แต่...กูว่านี่ก็เยอะแล้ว ไม่ต้องไปกินคณะมึงก็ได้”


“แน่นะ? ไม่ใช่ไปกวนรุ่นพี่คณะกูไว้หรอกนะ?”


“กูจะไปกวนใคร มึงเห็นเพื่อนมึงชอบเล่นกับคนอื่นรึไง” ปกฉัตรย้อนถาม ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับรุ่นพี่คนไหนในคณะของดิษกรทั้งสิ้น


“เออ ก็จริงว่ะ มึงมันวางตัวดีมาตั้งแต่อนุบาลสอง เอาเถอะๆ ไม่ได้ไปกวนใครก็ดีแล้ว กูจะได้ชวนมึงไปแดกเหล้ากับพวกเฮียเจ๋ง เมื่อกี้กูโทร.ขออานิศ อาบอกว่าถ้าจะไปก็ให้เอารถไป นี่กะฆ่าหลานรักทางอ้อมชัดๆ กูเมาเป็นหมาง่ายขนาดนั้นยังจะให้เอารถไปอีก กูก็เลยจะให้มึงไปขับรถกลับให้” ประโยคหลังๆนั่นแทบไม่ได้อยู่ในความสนใจของปกฉัตรเลยแม้แต่นิดในเมื่อคำว่า ‘แดกเหล้ากับพวกเฮียเจ๋ง’ ฉุดสติทั้งหมดของเขาไป


...ไอ้ดิษจะไปกินเหล้ากับ ‘พี่’...


...เมื่อไร ที่ไหน...


“ปก ฟังกูอยู่เปล่า กูบอกว่าจะขอแรงมึงขับรถ” ดิษกรพูดซ้ำเมื่อสังเกตว่าเพื่อนสนิทตาลอยไปแล้ว


“อ้อ...เออ ได้ๆ อ่า...ม...เมื่อไหร่ล่ะ”


“เย็นนี้” คราวนี้คนที่เหมือนเพิ่งได้สติจากภวังค์ก็ช็อกไปอีกหน


“เย็นนี้เลยเหรอ?”


“ใช่ ทำไม หรือมึงไม่อยากไป” ดิษกรถามแล้วเหล่ตามาที่ปกฉัตรที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม


“ม...ไม่ใช่ แต่...เอ่อ...วันนี้กูมีห้องเชียร์...” อันที่จริง ห้องเชียร์ก็ไม่ได้สำคัญถึงขนาดจะโดดไม่ได้ แต่...ถ้าตกปากรับคำง่ายๆ ปกฉัตรก็คิดว่าตัวเองจะดูกระตือรือร้นอยากไปมากเกินไป


...ต้องนิ่งเอาไว้ ปกฉัตร นิ่งเอาไว้...


“มึงเลิกห้องเชียร์ห้าโมงไม่ใช่เหรอ นี่เฮียนัดหกโมง”


ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนทำเป็นเฉไฉมองไปทางอื่นเหมือนตัดสินใจไม่ได้ ในขณะที่ลูกกระเดือกวิ่งขึ้นลงช้าๆเพราะกลืนน้ำลาย


...วันนี้...จะได้เจอ ‘พี่’...


“ไปกับกูนะปก” ดิษกรอ้อนวอนอีกที ทำตาปริบๆขอความเห็นใจ


ปกฉัตรกลืนน้ำลายหนืดๆ อยากตะโกนตอบตกลงอย่างรวดเร็วใจจะขาด แต่...ถ้าทำแบบนั้นดิษกรต้องจับพิรุธได้แน่ๆ ดวงตาสีน้ำตาลยอมเหลือบกลับมาสบตาเพื่อนรัก แล้วส่งยิ้มจางๆ


“แล้วเฮียเจ๋งของมึงจะไม่ว่าเหรอ ที่มึงพา ‘คนอื่น’ ไปด้วย” คำว่าคนอื่นนั้น เขาพูดด้วยเสียงที่เบาและแผ่ว พูดกี่ครั้งก็คันยิบๆในใจ ที่เป็นได้แค่คนอื่นของเจตน์


“ไม่ว่าหรอก ก็กูขับรถไม่แข็งนี่หว่า แล้วอีกอย่าง...เฮียใจกว้าง มีคนไปเยอะๆ ยิ่งชอบ”


จากรอยยิ้มจางๆ ขยับยิ้มมากขึ้นอีกนิด แต่ก็ยังดูสุขุมใจเย็นเหมือนปกฉัตรคนเดิม


“ถ้ามึงว่างั้น กูจะไป...ขับรถให้”


ดิษกรยิ้มกริ่มอย่างดีใจ แล้วก้มหน้าตักสุกี้เข้าปากต่อไม่ทันเห็นสีหน้าของปกฉัตรที่จากรอยยิ้มสุขุมกลับกลายเป็นรอยยิ้มยินดี ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมีแววถูกใจ


... ‘คอนเนคชั่น’ กำลังทำหน้าที่ของมันแล้ว...


ติดตามตอนต่อไป (วันพฤหัสฯหน้าค่ะ)

ใครบอกน้องปกร้ายยยยย ปกไม่ร้าย แต่แค่เป็นคนไม่ค่อยแสดงออกเฉยๆ (แอบเขวี้ยงขวดน้ำใส่ขาผช.ที่ชอบก็ได้อี๊ก) ส่วนเฮียเจ๋ง...เห็นลางของความน่าสงสารเหมือนญาติของเฮียที่ชื่อโจ๊กแล้วใช่มั้ยคะ ฮ่าฮ่า

ตอนที่เขียนเนี่ย คิดหลายตลบมากเลยค่ะ ว่าจะเขียนห้องเชียร์(พี่วินัยและโซตัส)ยังไงดี เพราะมันก็มีหลายประเด็นที่ทำให้มองระบบโซตัสว่าเป็นการคุกคาม แต่เนื่องจากสมัยเรียน บัวพบเจอโซตัสในแบบที่ทำให้ประทับใจ ก็เลยคิดว่าจะสื่อถึงเรื่องเหล่านี้ในแบบที่ตัวเองเจอ

คาแรกเตอร์ของอรรณพ พี่รหัสของโซ่ก็มาจากคาแรกเตอร์พี่วินัยที่บัวเคยเจอค่ะ เกรี้ยวกราดแต่น่ารักมากกกกก

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตามและพื้นที่บอร์ด

เจอกันเรื่องนี้ ในพฤหัสหน้า แต่...เจอกันตอนพิเศษ(สั้นๆ)ของเรื่องไหนสักเรื่อง วันที่ 11.11 นี้ค่ะ


ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หนูปกคะ ชอบเค้าต้องเอาขวดเขวี้ยงใส่เค้าด้วยหรอคะ
เอ็นดูปกอ่ะะะะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ปกลิขิตก่อนพรหมลิขิตสินะ 5555

ออฟไลน์ Cacao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แง๊ น้องปกน่ารักมากเลย เวลาหัวสมองคิดแผนว่าจะเคลมพี่เค้ายังไงนี่มันกรุ้งกริ้งมาก
คือน้องเรียบร้อยแต่ก็รู้อยากได้อะไร และทำอะไรบ้าง คืนนี้แหละไปบ้านเค้าแล้ว
มันจะต้องมีไรดีๆเกิดขึ้นบ้าง พี่เค้าเหมือนโจ๊กมากเลย แบบรู้เลยว่าเป็นญาติกัน

ออฟไลน์ chnokky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องปกเรียกเฮียเจ๋งให้สนใจแบบฮาร์ดคอร์มาก ชอบการปาขวดน้ำใส่ สุดยอดมาก เดี๋ยวจำไปใช้บ้าง 55555555555

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ทำดีแล้วน้องปก ทำต่อไป เข้าอวยเราแน่นอน 55555

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ในวาระซ่อนเร้นเหฌนปกหงิมๆไม่คิดเลยว่าจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ แบบนี้ต่อให้อิพี่เจ๋งมันจะเกรี้ยวกราดขนาดไหนก็คงหนีน้องปกไม่พ้นหรอก หึๆ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ชอบๆๆๆๆๆๆๆ ขอตอนพิเศษของจอมร้ายได้ไหม..คิดถึงของขวัญ   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ปกร้ายลึกก 55555
เจ๋งนี่ก็น่าจะอีหรอบเดียวกะโจ๊กมะ แอบชอบเขาแต่เก๊กไว้ 55555 :hao7:
รอตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ SM_day

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
เอ็นดูเจ๋งมากอ่า ดูท่าแล้ว น้องปกร้ายไม่เบา เจ๋งถึงจะโหดจะดุก้ไม่เคยจะตามน้องทันเล้ยย เอ็นดูวววว

ออฟไลน์ 。Atlas

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เรารู้สึกถูกชะตากับน้องดิษลูกก น้องเหมือนพวกเมะหมาน้อย ร่าเริง สดใส ยิ้มแฉ่ง
แต่ดิษคงไม่ได้คิดเกินเพื่อนกับน้องปกใช่มั้ยลูก  :hao3:

ตลกน้องปกในการเรียกความสนใจจากพี่เขาด้วยการปาขวดน้ำ
ถ้าปาพลาดเข้าหัวได้มีเฮ อิพี่เจ๋งจำจนตาย 55555555


ปล.ยังคงคิดถึงโจ๊กโซ่มากก  :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด