|:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]  (อ่าน 171564 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
้เลิกไปเล้ย เลิกทั้งๆที่ยังไม่ได้คบนี่แหละ รู้สึกแน่ๆ เพราะถ้าไม่รู้สึกอะไรก้อบ้าละ

ออฟไลน์ wildride

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
  :pig4:

 wellwellwell Now they're exactly in the weird zone.

 I wonder where do they take it from here &/ what do they mean for each other?

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปวดตับจริง ๆ เลย  :ling1:

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่ออยยยยย

ตอนนี้หน่วงมากจ้า
ต่างคนต่างไม่เคย in relationship
แต่ความรู้สึกนี่น่าจะคาดหวังในตัวอีกคนไปแล้ว
อ่านละมันหงุ่ยๆหนุ่ยๆตุ่ยๆ
จับแซ้ก มาเขย่าๆๆๆๆให้มีสติซะดีมั้ย

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
สรุปคือแซ็คโง่ กว่าจะฉลาดติมก็ไม่อยู่ด้วยแล้ว สมน้ำหน้า!!!555555555555555 กอดน้องติมน้าาาา หาผัวใหม่เลยลูก เอาคนที่มันไม่โง่แบบนี้!!ๆๆๆ

ออฟไลน์ waragorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หน่วงได้อีก คงต้องเจ็บกันอีกเยอะ  :katai1:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ยึดตามอินโทร ติมคงไม่ได้คบแซค

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust - Chapter 32 :: Award. (รางวัล)



“You look good. (นายดูดีนะ)” ไอติมคลี่ยิ้มให้แซ็คขณะที่กำลังเช็กสภาพตัวเองในชุดเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงยีนสกินนี่ และสูทสีน้ำเงินเข้มสวมทับเชิ้ตอีกทีอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ

           

 

“You too. (คุณก็เหมือนกัน)” แซ็คอยู่ในชุดสูทสีดำเนี้ยบ แพทเทิร์นชุดปกติเวลาผู้ชายใส่ออกงานทั่วไป เชิ้ตสีดำมันเลื่อมแหวกอกให้เห็นจี้กระต่ายสีทองอ่อน ท่อนล่างเป็นกางเกงสแล็คสีดำกับรองเท้าหนังสีน้ำตาขัดมันเลื่อม

           

 

“Ready? (พร้อมรึยัง)” ไอติมพยักหน้าก่อนก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องน้ำ มีแซ็คเดินตามหลังมา ไอติมเดินไปหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาคล้องคอ เพราะกะว่าจะไปเก็บบรรยากาศในงาน เก็บไว้ดูเป็นประสบการณ์ชีวิตกับการได้ไปร่วมงานประกาศรางวัลทางการแสดงของนักแสดงหนังผู้ใหญ่

           

 

“Where is Lukas? (ลูคัสอยู่ไหน)”

           

 

“Almost here. (ใกล้ถึงนี่แล้วละ)” วันนี้จะมีออกงานด้วยกันแค่ห้าคนคือ แซ็ค ไอติม ลูคัส แอนโทนี่ แล้วก็แคสโทรล โปรดิวเซอร์กล้ามใหญ่เลยบอกให้ไปรถคันเดียวกัน เนื่องจากลูคัสต้องผ่านมาทางนี้อยู่แล้ว ก็เลยจะแวะรับทั้งสามคน แต่แคสโทรลมีธุระด้านนอกอยู่แล้วเลยจะขับรถไปเจอที่งานเลย

           

 

ตอนที่กำลังเดินไปรอลูคัสหน้าบ้าน เจค็อบก็เดินสวนมาจากหน้าบ้านพอดี เขามองแซ็คสลับกับไอติมก่อนหันไปพูดกับแซ็คคนเดียว “Good luck and see you. (โชคดีแล้วเจอกัน)”

           

 

เจค็อบพูดแค่นั้นก่อนจะเดินไปในครัว ไอติมกับแซ็คก้าวเท้าเดินต่อไปไม่ได้หันไปสนใจหรือหันไปมองหนุ่มใหญ่อีกคน จังหวะกำลังเปิดประตูหน้าบ้านก็ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดด้านหน้าของรั้วบ้านพอดี ไอติมใส่รองเท้าหนังหัวแหลมสีน้ำตาลอ่อนขัดมันเลื่อมคล้ายกับของแซ็คเสร็จก็เดินลงบันไดตรงเฉลียงหน้าบ้านไปเปิดประตูรั้ว เจอกับแอนโทนี่ในชุดเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีขาวแดงและมีสูทสีเลือดหมูทับอีกที

           

 

“ผร่อมนะ” ไอติมยิ้มพร้อมกับพยักหน้า ก้าวเท้าเดินออกจากประตูใหญ่หน้าบ้านไปที่รถครอสโอเวอร์คาร์สีทองอมน้ำตาลคันใหญ่ของลูคัส ประตูกระจกฝั่งคนขับเลื่อนลงเผยให้เห็นใบหน้าหล่อแบบสูงวัยของเจ้าของรถ

           

 

“Wow, my daughter is so pretty. (ว้าว ลูกสาวฉันน่ารักมาก)” ไอติมคลี่ยิ้มกว้างและส่งเสียงหัวเราะ ลูคัสยกมือขวาขึ้นและชี้เข้ามาในรถ ไอติมก้าวเท้าเดินไปเปิดประตูรถฝั่งด้านหลังคนขับ แซ็คเดินอ้อมหน้ารถเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ และแอนโทนี่ขึ้นด้านหลังอีกฝั่งกับไอติม

           

 

“Do you have the speech on stage? (มีคำพูดบนเวทีรึยัง)” แอนโทนี่หันไปถามไอติมขณะที่รถถอยหลังเคลื่อนออกจากประตูรั้วบ้าน

           

 

“ฮะ? Speech? I have to go on stage เหรอ”

           

 

“Yeah, if he wins you will go to pick the award with him. He was nominated from porn that you were producing it. (ใช่สิ ถ้าเขาชนะ เธอต้องขึ้นไปรับรางวัลกับเขา เขาเข้าชิงจากหนังที่เธอทำนะ)”

           

 

“Oh…” ไอติมอ้าปากหวอ หน้าตาเหลอหลา แต่พักเดียวแอนโทนี่ก็หลุดหัวเราะ และสองหนุ่มด้านก็ร่วมขำไปด้วย

           

 

“หล่อเล้น หมั่ยต้องขึ้นไปหลอก” ไอติมยิ้มแห้ง แต่ก็รู้สึกโล่งใจ

           

 

“ถ้าผมขึ้นไปพูด คนคงงงกันทั้งงาน” แอนโทนี่ขำ ไอติมยิ้มกว้าง รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกมองเลยบิดหน้าไปมองทางแซ็ค ซึ่งเป็นจังหวะที่เขาบิดหน้ากลับไปมองถนนด้านหน้าพอดี ไอติมเลยเอนหลังพิงกับเบาะแล้วนั่งมองวิวข้างทางฝั่งตัวเองไปเรื่อย

           

 

สถานที่จัดงานสำหรับปีนี้จัดที่โรงละครแห่งหนึ่งใกล้กับตัวเมือง แต่สถานที่ที่ทางงานจัดบ่อยที่สุดคือลาสเวกัส มีสลับมานี่บ้างแล้วแต่จังหวะและโอกาส ไอติมเคยเห็นแต่ภาพข่าวในเว็บไซต์ เคยเห็นคลิปทั้งในยูทูปและเว็บโป๊ บรรยากาศในงานคึกคักและยิ่งใหญ่ นักแสดงหลากหลายค่ายหรือไม่มีค่ายตบเท้าเข้าร่วมงานกันล้นหลาม มีช่วงเดินพรมแดง มีช่างภาพและนักข่าว อาจจะไม่ได้มากมายเท่าพวกออสการ์แต่ก็คือมี จริง ๆ มันมีอยู่หลายงานเหมือนกันสำหรับงานประกาศรางวัลของอุตสาหกรรมหนังโป๊ แต่งานนี้ที่ไอติมไปนั้น ถือว่าเป็นเวทีหลักและเป็นเวทีที่ใหญ่สุดในความรู้สึกของคนในอุตสาหกรรม ใครได้รางวัลจากเวทีนี้ถือว่าเป็นเครดิตที่ดีมากในการทำงาน

           

 

“แฟนพันธุ์แท้ไอ่ไบร่อั้นบอกด้ายไหมว่ามันด้ายรางวัลอ่ะไรมาแหล่วบ้าง” ไอติมที่กำลังมองวิวข้างทางเพลิน ๆ หันไปมองแอนโทนี่ เขาได้ยินคำถามนั้นและนิ่งคิดประมวลผลครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ตอบด้วยความไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าข้อมูลที่คิดอยู่ในหัวนั้นถูกต้องมั้ย

           

 

“ห้าหรือหกมั้ยฮะ…” ไอติมย่นคิ้วแปบหนึ่งแล้วก็พูดต่อ

 

 

“…ของเวทีนี้ ที่เรากำลังจะไป ได้สาม ดาวรุ่งชาย แล้วก็นักแสดงนำชายอีกสองครั้ง…” ไอติมนิ่ง ในหัวคิด ใบหน้าหันมองแซ็คที่เหลียวหน้ามามอง ไอติมมองแซ็คนิ่ง อีกฝ่ายก็มองไอติมนิ่ง แต่พอไอติมคิดคำตอบต่อได้ก็เลื่อนสายตากลับไปมองแอนโทนี่ต่อ

 

 

“…มีได้เวทีของเกย์โดยเฉพาะด้วยหนึ่งครั้ง แล้วก็ ป๊อบปูล่าโหวตของเวทีนึง อันนี้ผมจำแม่น เพราะผมเสียเงินซื้อไอเท่มหัวใจให้เขา” แอนโทนี่ปรบมือแล้วหัวเราะถูกใจ ไอติมยิ้มกว้าง แซ็คชะโงกหน้ามองแอนโทนี่ด้วยความงุนงง ลูคัสเองก็ยังหันจากถนนข้างหน้ามามองแอนโทนี่จนไอติมนึกหวาดเสียวว่าจะเสยกับรถคันอื่นเอารึเปล่า

 

 

“He said that,” แอนโทนี่เล่าให้เพื่อนอีกสองคนฟังว่าคุยอะไรกับไอติม พอรู้เรื่องที่ทั้งคู่คุยกัน สองหนุ่มข้างหน้าก็แสดงอาการต่างกัน ลูคัสส่งเสียงร้องว้าวด้วยความประทับใจ ส่วนแซ็คมองไอติมแล้วยิ้ม ไอติมยิ้มมุมปากให้นิดหนึ่งแล้วก็ยิ้มกว้างเมื่อลูคัสงอแขนยื่นมือขวามาให้ ไอติมยื่นมือซ้ายไปจับและหัวเราะฮิฮะ

 

 

“ทีนี้แกรู้แล้วนะไบรอั้นว่าตอนนั้นแกได้ป๊อบปูล่าโหวตเพราะใคร” แอนโทนี่แซว แซ็คยิ้มบางและยักคิ้ว ดวงตาสีเทาอ่อนมองหน้าไอติมอ่อนโยน ไอติมยิ้มอ่อนก่อนหันไปมองวิวข้างทาง

 

 

ไอติมปล่อยให้อีกสามหนุ่มคุยกัน ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นการฝึกสกิลการฟัง ถ้าจะให้คะแนนภาษาอังกฤษตัวเอง ไอติมคิดว่าตอนนี้น่าจะได้สักครึ่งหนึ่งจากคะแนนเท่าไหร่ก็ตาม (เต็ม 2) เพราะไอติมจำตัวเองตอนแรก ๆ ที่มาที่นี่ได้ว่าเป็นยังไง ทุกวันนี้ไอติมแปลได้เร็วขึ้น ไม่นิ่งค้างนาน แต่อาจจะยังพูดสลับสับไปมา และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย บางสถานการณ์กลัวโดนแย่งพูดก็ไม่รู้สกิลเก่งขึ้นได้ยังไง ซึ่งถ้าอยู่กับสภาพแวดล้อมแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไอติมคิดว่าตัวเองน่าจะคล่องแคล่วมากขึ้น

 

 

“แล้วงานที่เจคบอกล่ะ” แซ็คไหวไหล่กับคำถามของลูคัส หน้าตาไม่ยินดียินร้ายอะไร

 

 

“ก็ไม่มีอะไรนี่ ก็ไป แค่นั้น”

 

 

“แน่ใจเหรอ” แซ็คพยักหน้า

 

 

“ก็ไม่ได้ยากอะไร อีกอย่าง มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนระหว่างฉันกับเจค นายก็รู้”

 

 

“นั่นแหละ ฉันถึงถามว่าแน่ใจเหรอ เจคยอมแลกง่าย ๆ แบบนี้เนี่ยนะ” แซ็คพยักหน้าอีกที ไอติมหันมองแอนโทนี่ หนุ่มแว่นนั่งเงียบ หน้าเรียบตึง มือซ้ายถูบนหน้าตักตัวเองขึ้นลงช้า ๆ ไอติมแปลออกว่าสองคนข้างหน้าพูดอะไร แต่ไม่รู้ว่าพูดถึงอะไร ซึ่งพอลองคิดดู ไอติมเจอสถานการณ์อย่างนี้แบบที่เริ่มจะเรียกได้ว่าบ่อยแล้ว

 

 

“And are you going to live with him at the new place, ice-cream? (แล้วเธอจะไปอยู่กับเขาที่ที่พักใหม่มั้ย ไอศกรีม)” ลูคัสมองไอติมผ่านทางกระจกหลัง ไอติมที่นิ่งเงียบฟังทั้งสองคนอยู่ก่อนแล้วจับใจความประโยคนั้นได้เลยจะเปิดปากตอบ แต่พอแซ็คเหลียวหน้ามามองก็รู้สึกชะงักไปนิดหนึ่ง แต่ก็ตอบออกไป

 

 

“Yes, อืม I will live with him. (ฮะ อืม ผมจะอยู่กับเขาฮะ)” ไอติมก้มหน้ามองกางเกงยีนตัวเอง ไม่สบตาคนนั่งข้างคนขับ ก้มอยู่อย่างนั้นแล้วก็หันออกไปมองวิวด้านนอก โดยเห็นเงาสะท้อนแวบ ๆ ในกระจกว่าแซ็คกำลังมองตัวเองอยู่

 

 

ใช้เวลาไปเท่าไหร่ในการเดินทางไอติมก็ไม่รู้ แต่นั่งมองข้างทางเพลิน ๆ จนมาถึงสถานที่จัดงานแล้ว พอลูคัสดับเครื่องยนต์ ทุกคนก็ลงจากรถ เมื่อพร้อมแล้วก็พากันเดินตรงไปทางอาคาร ไอติมเดินอยู่ด้านหลังกับแอนโทนี่ ให้สองพระเอกดังต่างยุคเดินด้วยกัน ไอติมรู้สึกว่าลูคัสเซ็กซี่มากในชุดเชิ้ตขาวคล้องเนคไทสีดำ สูทสีดำและสแลคสีเดียวกับเสื้อ ถึงจะอายุมากแล้วแต่เขาก็หล่อแบบมีเสน่ห์ทางเพศไม่แพ้พระเอกรุ่นน้องเลย 

 

 

“Do they know that they will get award? (พวกเขารู้มั้ยว่าพวกเขาจะได้รางวัล)” ไอติมถามแอนโทนี่ คนถูกถามส่ายหัว

 

 

“หมั่ยหลู่หร่อก ที่งานเขาจะเชิญทุ่กโค่น ใครมาก่อมา หมั่ยมาก่อไหม่ว่า ถ่าได้รางวัลก่อให้คับขึ่นรับแทนก่อด้าย”

 

 

“ถือว่าเป็นออสการ์หนังโป๊ได้มั้ยฮะ” ไอติมถามเป็นไทย เพราะอยากสื่อสารเร็วๆ

 

 

“ถ่าเวทีนี้น่ะ ได้อยู่ล่ะ” ไอติมพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่จะขมวดคิ้ว

 

 

“เขาให้รางวัลกันยังไงฮะ…” ไอติมบุ้ยปากไปซ้ายทีขวาที

 

 

“…คือเพราะทุกคนที่เข้าชิงก็เอากัน แต่เรื่องราวในเรื่องให้โชว์ฝีมือทางการแสดงน้อยมาก โชว์ศักยภาพแค่เอากัน ผมเห็นมีช่วงนึงคนเดิม ๆ ได้สามปีติด แต่สตอรี่ของหนังโป๊เขาแทบไม่ต่างกันเลย” แอนโทนี่หัวเราะในขณะที่เดินเบี่ยงตัวหลบผู้ชายผิวสีตัวสูงที่เดินสวนมา

 

 

“ดู่ฟีลลิ่งแหละ เข่าถึงบทบาทมากก่อได้ข่ะแนนโหวตมาก…” แอนโทนี่ทำหน้าฉุกคิด

 

 

“…ก่อเปนเรื่องหน่าคิดนะ ว้าจิง ๆ แล้วเข๋าตัดซิ้นจากอาไหร่กั่นแน่”

 

 

“ผมถึงเคยบอกไงฮะว่า หลาย ๆ เรื่องมาแค่เอากันแล้วจบไปเลย ผมรู้ว่าคนดูเขาไม่ได้ต้องการน้ำ เขาต้องการเนื้อแนบเนื้อเลย แต่ผมว่ามันเหมือนอาหารฟาสต์ฟู๊ดเลย เร็ว อร่อย แต่ไม่ได้น่าจดจำ”

 

 

“อือ ฉั่งเปรี่ยบเทียบนะ เถ่อเลยชอบทำหนั่งโป๊แบบมีเรื่องราวล่ะสิ” ไอติมพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง

 

 

“ฮะ ผมว่ามันน่าลุ้นดี มีอะไรให้คนดูลุ้นระหว่างทางบ้าง ไม่ใช่รู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวปลายทางก็จ้ำบ๊ะกัน” แอนโทนี่หัวเราะ แต่ก็มีความงงนิดหน่อย

 

 

“จั่มบ๊ะ แปลว่าเอ่ากันฉั่ยมั้ย” ไอติมพยักหน้าหลายทีแล้วก็หัวเราะ จังหวะนั้นแซ็คหันมองไอติม เจ้าตัวเหลือบตามองแล้วยิ้มบาง แซ็คยิ้มมุมปากน้อย ๆ แล้วหันหน้ากลับไปมองทางเดินต่อ

 

 

บรรยากาศหน้าโรงละครที่ใช้จัดงานตกแต่งด้วยโทรฟี่สีทองของงานขนาดยักษ์ ตั้งตระหง่านใกล้กับประตู มีกรงสีดำขนาดใหญ่ ในนั้นมีเตียงสีแดงและอุปกรณ์สำหรับเซ็กซ์แบบนายและทาสให้คนได้ถ่ายรูปกัน และมีซุ้มจากสปอนเซอร์ให้ร่วมกิจกรรม หน้าประตูเข้างานมีการ์ดหนุ่มผิวสีกับผิวขาวร่างบึ้กยืนคุมเชิง และรอบงานก็ยังมีการ์ดร่างโตอีกหลายคน เขาเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาชมได้ด้วย แต่ก็ได้แค่บริเวณด้านหน้ากับบริเวณพรมแดงที่มีนักข่าวและช่างภาพตั้งกองทัพอยู่นอกสายกั้นสีแดง เสียงเพลงและเสียงประกาศจากไมค์ตีกันชวนให้ระทึกใจ ไอติมหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพบรรยากาศมุมกว้างไปหลายช็อตก่อนรีบเดินตามแอนโทนี่ที่พาเขาเดินแยกจากลูคัสกับแซ็คที่ต้องไปเดินเข้าทางพรมแดง

 

 

“Do you want to take photo? (อยากถ่ายรูปมั้ย)”

 

 

“Yes.” แอนโทนี่พาไอติมเดินเข้าไปในดงสื่อ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปแทรก พาไปหาช่องว่างที่ยังมีเหลืออยู่คือเกือบสุดทางถึงทางเข้าไปด้านในงาน แสงแฟลชวูบวาบและมีชายหนุ่มหญิงสาวเกือบสิบคนที่ไอติมยังไม่เจอคนที่ตัวเองจำได้ยืนโพสต์ท่าหน้าแบ็คดร็อปสีดำซึ่งมีชื่อรางวัลสีทองสกรีนตัวเบ้อเริ่มตรงกลางและมีรายชื่อสปอนเซอร์ติดยิบย่อยรอบ ๆ ถึงแม้จะยังไม่เจอคนที่ตัวเองคุ้นเคย แต่คิดว่าคนบนพรมแดงตอนนี้ก็เป็นนักแสดงหนังผู้ใหญ่นั่นแหละ

 

 

“อู้ววว” ไอติมตาโตเมื่อหญิงสาวผิวสีหุ่นอวบอั๋นในชุดราตรีตาข่ายสีดำขยับตัวเดินมายืนตรงกลางแบ็คดร็อป แสงแฟลชสาดใส่เธอ หญิงสาวแอ่นอกที่ไม่มีบราใด ๆ ปกปิด มีเพียงสติ๊กเกอร์รูปกากบาทปิดมาเท่านั้น ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงในลูกไม้สีดำตัวจิ๋ว เธอดูมั่นใจและมั่นคงกับการใส่ชุดนี้มากทีเดียว

 

 

“Here they are. (พวกเขามาแล้ว)” แอนโทนี่ชี้สองหนุ่มต่างวัยที่กำลังเดินตามกันมา ทั้งสองคนหยุดถ่ายรูปตรงช่วงเริ่มต้นของพรมแดง ไอติมย่นคิ้วมองลูคัส

 

 

“Lukas have to walk? I mean he retire. (ลูคัสต้องไปเดินเหรอ ผมหมายความว่าเขาเกษียณแล้ว)”

 

 

“But he is the legend, (แต่เขาเป็นตำนานไง)” ไอติมมองแซ็คที่เขยิบห่างออกจากแซ็คมาโพสต์ในอีกจุดหนึ่ง

 

 

“And the organizer asked him to walk on the red carpet. (แล้วคนจัดงานก็ขอให้เขาเดินพรมแดง)” ไอติมร้องอ้อเบา ๆ และพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ยกกล้องขึ้นมากดถ่ายภาพสองหนุ่มตัวท็อปจากอดีตและปัจจุบันเอาไว้ในมุมข้าง ๆ แบบนี้ ไอติมมองแซ็คแล้วยิ้ม ไม่คิดว่าเสื้อเชิ้ตดำมันเลื่อมแหวกอกกับผมธรรมชาติไม่จัดทรงจะทำให้เขาน่าดึงดูดทางเพศขนาดนี้ ไอติมขยับปากเป็นเส้นตรงแล้วเลิกคิ้วขึ้นช้า ๆ พ่นลมหายใจเบา ๆ และยกกล้องขึ้นกดถ่ายรูปต่อ ตอนที่ไอติมกำลังรัวชัตเตอร์อยู่ หญิงสาวชุดราตรีตาข่ายก็เดินบิดเข้าไปในงาน มีชายหนุ่มร่างอวบแต่มีออร่าแซ่บบนเตียงเดินตามเธอเข้าไปพร้อมกับผู้ชายที่คล้ายคนดูแลอีกคน

 

 

“Lukas used to fuck boy in real life? (ลูคัสเคยเอากับผู้ชายในชีวิตจริงมั้ย)” ไอติมหันไปถามแอนโทนี่ระหว่างรอให้ลูคัสกับแซ็คเขยิบมาใกล้ตัวเองมากกว่าเดิม

 

 

“I don’t know. Really. He never told about his private life. They are the same people. (ฉันไม่รู้ เรื่องจริง เขาไม่เคยบอกเรื่องส่วนตัวของเขาอะ สองคนนั้นเป็นคนประเภทเดียวกัน)” แอนโทนี่ชี้สลับไปมาที่สองหนุ่มบนพรมแดง ไอติมพยักหน้าหนึ่งครั้งด้วยความเข้าใจ

 

 

“Can I ask more one question? (ถามอีกคำถามได้มั้ยฮะ)” แอนโทนี่พยักหน้า แต่ไอติมนึกขึ้นได้ว่ามันไม่ควรถามแล้ว ไอติมเลยสั่นหัว

 

 

“ไม่ถามแล้ว” แอนโทนี่หน้าเหวอ

 

 

“อ้าว ป่อยฉั่นค้างเช้ยเลย” ไอติมหัวเราะ หันไปมองสองหนุ่มที่เขยิบเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้น ไอติมยกกล้องขึ้นถ่ายรูป แซ็คหันมองกล้องไอติมแล้วยิ้มหล่อ ยืนเท่ให้แชะหลายช็อต ก่อนจะก้าวเท้าเดินนำลูคัสที่หยุดให้ไอติมถ่ายรูปอยู่ ไอติมลดกล้องลงแล้วยิ้มให้ ตามด้วยชูนิ้วโป้งให้โปรดิวเซอร์ของตัวเอง ลูคัสอ้าปากแล้วยิ้มมุมปากก่อนก้าวเท้าเดินตามแซ็คที่รออยู่ตรงทางเข้างาน แอนโทนี่พยักหน้าให้ไอติมเดินตามมา สตาฟหนุ่มเขยิบหลบทางให้เมื่อลูคัสชี้บอกว่าทั้งสองคนมาด้วยกันกับตัวเอง

 

 

ไอติมเดินเข้าไปในงานด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ กับแสงสีเสียงที่เห็นและได้ยิน ที่นั่งเป็นเบาะหนังเหมือนเวลาไปดูหนัง ไล่ระดับสูงต่ำเป็นเนิน ตรงกลางด้านล่างเป็นเวทีขนาดใหญ่ ม่านสีแดงสดเป็นฉากตระกาลตา มีจอ LED ติดอยู่สองฝั่งข้างเวที ฉายภาพบรรยากาศในงานที่มีผู้คนนั่งอยู่ตามเบาะแบบที่เริ่มจะหนาตาแล้ว ชั้นด้านบนสุดถ้าไอติมเข้าใจไม่ผิดคิดว่าตรงนั้นน่าจะเป็นที่นั่งของกลุ่มแฟน ๆ ที่ได้รับบัตรเชิญให้เข้ามาร่วมงาน ไอติมเคยได้ด้วย แต่ตอนนั้นไม่กล้ามา

 

 

“ของจริงยิ่งใหญ่กว่าที่เห็นในข่าวอีกนะเนี่ย” ไอติมพึมพำเบา ๆ กับแอนโทนี่ หนุ่มแว่นยิ้มและหลีกทางให้ไอติมเดินเข้าไปนั่งข้างแซ็ค แถวที่นั่งของเขาทั้งสี่คนอยู่ด้านบนสุดของที่นั่งนักแสดงกับทีมงานจากค่ายต่าง ๆ รวมทั้งเหล่านักแสดงทั้งที่มีสังกัดและอิสระ

 

 

“Are you happy? (นายมีความสุขรึเปล่า)” ไอติมหันไปมองคนนั่งข้างซ้ายมือตัวเองด้วยความงุนงง ดวงตาสีเทาของแซ็คมองไอติมนิ่งสงบ

 

 

“Yes. I am okay. I mean I don’t have bad thing I am okay. Not happy over เอ่อ over but okay. (ใช่ ผมโอเค ผมหมายความว่าผมไม่มีสิ่งไม่ดีผมโอเค ไม่ได้มีความสุขโอเว่อร์ เอ้อ โอเว่อร์ แต่โอเค)” ไอติมนึกคำว่าโอเว่อร์ที่ใช้พูดในภาษาอังกฤษไม่ออก

 

 

ดวงตาสีเทาอ่อนมองใบหน้าเรียวได้รูปแบบที่เจ้าของหน้าก็อ่านไม่ออกว่ามองด้วยสายตาแบบไหนและรู้สึกยังไง “You may not notice, but since that night you are not the same with me. (นายอาจจะไม่ได้สังเกต แต่ตั้งแต่คืนนั้นนายไม่เหมือนเดิมกับฉัน)”

 

 

“And how is the same? (แล้วเหมือนเดิมคือยังไง)” แซ็คยิ้มมุมปาก

 

 

“As you do with Lukas, Anthony and when you were talking with your friend on the phone. (แบบที่นายทำกับลูคัส แอนโทนี่แล้วก็เวลาที่นายคุยกับเพื่อนทางโทรศัพท์)”

 

 

“I’m okay เอ่อ I’m the same i-tim. (ผมโอเค เอ่อ ผมเป็นไอติมแบบเดิม)” ไอติมจะสื่อว่าตัวเองนั้นปกติดีไม่ได้มีอะไร ยังเป็นไอติมเหมือนเดิม

 

 

“You are the same to everyone except me. (นายเหมือนเดิมกับทุกคนยกเว้นฉัน)” แซ็คกดหน้ามองไอติมนิ่ง กระต่ายตัวจ้อยกะพริบตาปริบ

 

 

“Why you care? I mean you don’t have to care. (ทำไมคุณแคร์ ผมหมายถึงคุณไม่ต้องแคร์ก็ได้)” แซ็คนิ่งไปพักหนึ่งแล้วก็เปิดปากพูด

 

 

“Yesterday you don’t talk to me even one word after you have told me to wear condom. (เมื่อวานนี้นายไม่พูดกับฉันอีกเลยหลังจากที่บอกให้ฉันใส่ถุงยาง)”

 

 

“I don’t know to talk what. And today I talk to you. (ผมไม่รู้จะพูดอะไร แล้ววันนี้ผมพูดกับคุณ)” ไอติมตอบด้วยความรู้สึกสับสน

 

 

“That’s not the point. The point is I feel you are changing, (นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือฉันรู้สึกว่านายกำลังเปลี่ยนไป)” ไอติมกดสายตาลงมองจี้กระต่ายสีทองบนอกของแซ็คก่อนเลื่อนมามองกล้องที่ห้อยอยู่ตรงอกของตัวเอง

 

 

“You mad at me about Lexy. (นายโกรธฉันเรื่องเล็กซี่)” ไอติมเลื่อนสายตาขึ้นไปสบตากับแซ็ค

 

 

“I said no. (ผมบอกแล้วไงว่าไม่)”

 

 

“You lie. (นายโกหก)” ไอติมพ่นลมหายใจหนึ่งที เอนหลังพิงเบาะนั่งของตัวเอง สายตามองไปข้างหน้า แซ็คเอนหลังพิงเบาะบ้าง แต่ใบหน้ายังหันมองไอติมอยู่ ไอติมรู้สึกได้ว่าเขามอง แต่ไม่ได้หันไปมอง นั่งมองไปข้างหน้านิ่งสักพักก่อนหันไปชวนแอนโทนี่คุย

 

 

“แคสโทรลยังไม่มาอีกเหรอฮะ”

 

 

“หมั่ยรุสิ ชั่งเข๋าเถอะ มาหมั่ยมาก่อหมั่ยเป็นไร หยั่งไงเข๋าก็ไม่ชิงอยู่แล้ว” ไอติมอ้าปากหวอนิดหน่อย ก่อนจะนึกขึ้นได้

 

 

“อ้อ เออ ใช่ ของแคสโทรลเป็นหนังเกย์เนอะ” แอนโทนี่พยักหน้า

 

 

“มีงานเดื่อนน่า เขาได้เข่าชิงอยุ่แล้วล่ะ”

 

 

“เอามารวมกันไม่ได้เหรอฮะ”

 

 

“หมั่ยด้ายหรอก หมั่ยใช่เพาะว่าเหยีดยเพดน๊ะ แต๊ว้า มันเป่นเรื่องของการทำงานข่องหนักซาแดงน่ะ หมั่นมีผล ดูหมั่ยดีเทารัย”

 

 

“อ้าว แต่ของไบรอั้น ก็ถือว่าเป็นหนังเกย์มั้ยฮะ เพราะมีผมอยู่ด้วย”

 

 

“เห่นเถ่อนิดเดียว หมั่ยถึงสิบวิด่วยซ้ำ ถื่อว่าฉั่ยด้าย อี่กหย่าง หมั่ยบอกก้อไม่รุหรอกว่านั่นเด็กผุชาย หมั่ยเหนหน้าเหนนมสักหน่อย” ไอติมยิ้มกว้างขำ พยักหน้าน้อย ๆ พยายามทำความเข้าใจแม้จะยังไม่เข้าใจดีก็ตาม นึกอยากถามต่อแต่เสียงเพลงก็ดังขึ้นกระหึ่มจนไอติมคิดว่าคุยตอนนี้ก็คงไม่ค่อยรู้เรื่อง

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v

พองานเริ่มขึ้น ไอติมก็สนใจแต่สิ่งตรงหน้า งานประกาศรางวัลของที่นี่ดูไม่ทางการเท่าออสการ์หรืองานประกาศรางวัลทางการแสดงของหนังปกติทั่วไป การแสดงบนเวทีเป็นโชว์เชิงวาบหวิว แต่ไม่ถึงกับโป๊เปลือยโชว์ของเด็ดชายหญิงอะไรแบบนั้น มีทั้งของฝั่งหญิงสาว ฝั่งชายหนุ่ม และแบบรวมกัน มีการเต้นประกอบเพลงของศิลปินดังจากทีมนักเต้นสาวที่ใส่ชุดหนังสีดำรัดรูป ทรงชุดว่ายน้ำวันพีชออกมาเต้นพร้อมกับเก้าอี้ ทีเด็ดของพวกเธอคือการเต้นได้พร้อมเพรียงสวยงาม ลายเต้นชัดแข็งแรง เรียกเสียงหวีดร้องได้เป็นระยะ และพอโชว์จบลงก็ได้รับเสียงปรบมือดังไปทั่วโรงละครที่ใช้จัดงาน

 

 

“Good evening brother and sister!” พิธีกรชายสูงวัย แต่ไอติมจำได้ว่าลีลาเขาแซ่บแค่ไหนในหนังเดินควงพิธีกรสาวผมทองตัดสั้นซอยในชุดราตรีดำแหวกไปถึงสะดือออกมา เสียงปรบมือและเสียงหวีดร้องดังกระหึ่มต้อนรับทั้งสองคน

 

 

“We back again, the Oscar of porn industry! (เรากลับมาอีกครั้ง ออสการ์ของวงการหนังโป๊!)” เสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือดังจนไอติมรู้สึกฮึกเหิมตามไปด้วย ดนตรีที่เปิดเป็นซาวด์แบ็คกราวด์เร้าใจน่าดู พูดคุยทักทายปล่อยมุกกันอยู่พักหนึ่งก็เริ่มเข้าสู่การประกาศรางวัล โดยเริ่มจากรางวัลดาวรุ่งหญิงก่อน รางวัลนี้ไม่มีจำกัดจำนวนคนเข้าชิง ใครหน้าใหม่มาในปีนั้น จับเข้าชิงชัยหมด ถ้าปีไหนไม่มีหน้าใหม่เกิดขึ้นเลย ก็คือไม่มีใครได้รางวัลนี้ไปในปีนั้น ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วเท่าที่ไอติมตามมา เนื่องจากใช่ว่าทุกคนจะเดินเข้าสู่วงการหนังโป๊ได้ตลอดเหมือนวงการแสดงปกติ 

 

 

ตอนที่จอ LED กำลังฉายภาพและวิดีโอสั้น ๆ จากหนังที่นักแสดงหญิงแสดง (แต่ไม่เห็นฉากนั้น) แคสโทรลก็เดินเข้ามานั่งข้างแอนโทนี่ ไอติมเอ่ยทักทาย แคสโทรลยื่นมือทักทายแซ็คกับลูคัสด้วย

 

 

“And the male rising star goes to…” เสียงซาวด์ดนตรีกลองตีรัวดังทั่วโรงละคร แสงไฟบนเวทีสลับวิววับก่อนที่อีกพักหนึ่งพิธีกรจะประกาศชื่อของผู้ที่ได้รับรางวัล ไอติมปรบมือแม้ว่าจะไม่รู้จักคนที่ได้รับรางวัลหรือผู้เข้าชิงอีกสี่คนเลยก็ตาม คนที่ได้รับรางวัลเป็นฝรั่งที่เห็นครั้งแรกคือนึกไม่ออกเลยว่าจะเป็นหนุ่มประเทศอะไรได้อีกนอกจากอเมริกัน ตัวสูง ผิวขาวขุ่น หุ่นล่ำสมส่วน โครงหน้าโหนกกรามตามฉบับสายฝอ ผมสีน้ำตาลอ่อนยุ่งเหยิงนิดหน่อยราวกับเพิ่งตื่นนอนมารับรางวัล

 

 

“Thank you for…” ไอติมมองโทรฟี่รางวัลสีทองที่ไอติมจำได้ตอนแซ็คถือเมื่อได้รับรางวัลปีแรกว่าเป็นรูปชายหญิงกอดกันกลมเกลียวรวมกันเป็นร่างหนึ่งเดียว ด้านล่างเป็นฐานรางวัลสีดำ จะมีชื่อเวที ชื่อรางวัลและปีที่ประกาศสลักอยู่บนแผ่นทองคำอีกที

 

 

“เล็กซี่จะไปเข้าชิงปีหน้าใช่มั้ยฮะ”

 

 

“ช่าย ปี่นี้ส่งหมั่ยทัน แข่ยัดไอ่ไบร่อั้นมาลง เจคก่อคุยกับเจ่าของเวทีหน่านมาก” ไอติมพยักหน้าแล้วหันไปมองบนเวทีต่อ ทีมนักเต้นวาบหวิวหนุ่มสาวออกมาสะบัดลีลาอยู่ราวหนึ่งนาที แล้วจากนั้นบนจอ LED ก็ฉายหนังสั้นเกี่ยวกับเวทีนี้ เป็นเหมือนแก๊กตลกล้อเลียนวงการหนังโป๊และจิกกัดใครหลายคนที่ไอติมไม่อาจคาดเดาได้ ที่รู้เรื่องก็เพราะแอนโทนี่บอกทั้งนั้น

 

 

“กั่ดผ่วกสปอนเซอร์แหล่วก็นายทุนบางรายน่ะ บอกปัยเถ่อก่อยังหมั่ยรุจัก” ไอติมพยักหน้าและมองพิธีกรคู่เดิมเดินกลับมา พูดคุยอะไรสักแปบกับคนในงานจนเกิดเสียงหัวเราะ

 

 

การประกาศรางวัลดำเนินต่อไป โดยที่สามรางวัลใหญ่สุดของงานคือ นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม นักแสดงชายยอดเยี่ยม กับหนังยอดเยี่ยมจะอยู่ท้ายสุด ซึ่งรางวัลของแซ็คแบ่งออกเป็นเดี่ยวชายเดี่ยวหญิง ถือว่าเป็นสาขาใหญ่ไม่แพ้กัน แต่ก็ยังเล็กกว่านักแสดงนำชายหญิงที่เขาเอากันเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าแสดงเดี่ยว

 

 

“Best editing porn goes to…” เสียงซาวด์ดังสักพักก่อนที่เสียงประกาศชื่อจะดังขึ้น หญิงสาวร่างอวบผมสั้นคนหนึ่งยืนขึ้นแล้วชูมือด้วยความดีใจ เธอเดินลงบันไดไปเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงดนตรี เธอขึ้นไปรับรางวัลแล้วกล่าวขอบคุณ ไอติมหันหน้าไปยิ้มกว้างกับลูคัส ก่อนที่รอยยิ้มจะชะงักเมื่อมองตาแซ็ค แต่ก็ยังคงยิ้มแม้จะไม่กว้างเท่าอีกคนก็ตาม

 

 

ไอติมต้องขอชมในใจว่าการจัดงานของเขาดีมาก ยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีของเหล่าคนในวงการนี้ ที่น่าประทับใจที่สุดคือตอนจอแสดงผลให้เห็นหน้าผู้เข้าชิงทั้งห้าคน คือทุกคนมากันครบ และร่วมยินดีไปกับผู้ที่ได้รับรางวัล แม้ไอติมจะไม่เคยดูงานของคนเหล่านั้น เพราะปีที่ผ่านมามุ่งมั่นแต่เรื่องแซ็ค แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในวงการนี้และได้มาเห็นบรรยากาศการประกาศรางวัลแบบนี้ ไอติมก็สัญญากับตัวเองว่าจะต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จะไม่หยุดพัฒนาเพียงเพราะมีคนบอกว่าทำดีแล้ว

 

 

“And the next is one of the exciting awards that we are waiting for it. (และรางวัลต่อไปเป็นหนึ่งรางวัลอันน่าตื่นเต้นที่เรารอมันอยู่ค่ะ)”

 

 

“Yes, and as always, lady first. (ใช่ครับ และก็เช่นเคย สุภาพสตรีก่อน)” พิธีกรเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไอติมขอปรบมือให้ว่ามืออาชีพและคล่องแคล่วมาก ๆ ฟังแล้วไหลลื่น ไม่มีสะดุด ไม่น่าเบื่อ ไม่ยืดเยื้อ และตอนประกาศก็มีจังหวะที่ดีมาก ไอติมเคยดูตอนปีก่อนหน้านี้ (ซึ่งเน้นแค่ปีแซ็ค) ไอติมคิดว่าพิธีกรปีนี้มีพลังดีกว่า หรือเพราะไอติมได้มาเห็นของจริงถึงรู้สึกพลังของงานนี้มากกว่าตอนดูผ่านยูทูปก็ไม่รู้

 

 

“And this is our nominee in best male solo. (และนี่คือผู้เข้าชิงของเราในสาขา นักแสดงชายเดี่ยวยอดเยี่ยม)” จอ LED ฉายภาพนักแสดงชายคนแรกที่เข้าชิงในสาขานี้จนกระทั่งมาถึงแซ็คที่อยู่คนที่สาม ทางเวทีตัดช็อตริมทะเลที่ไอติมถือล้องสัมภาษณ์แซ็คที่นั่งสวมหมวกสานอยู่บนชายหาด ไอติมลืมตัวเลยหวีดร้องออกมาอย่างดัง ดีที่ไม่เป็นจุดเด่นมากเพราะแอนโทนี่กับแคสโทรลก็ร่วมวงด้วย พอคนที่สี่ขึ้นมา ไอติมถึงหยุดแล้วหันไปหัวเราะตาหยีกับลูคัสและแซ็ค ขวัญใจไอติมยิ้มอ่อน

 

 

“This is you that you always be with me. (นี่คือนายที่เป็นกับฉัน)” ไอติมยิ้มอ้าปากค้างแวบหนึ่ง

 

 

“อ้อ…” ไอติมหุบปากลงแล้วยิ้มบาง ก่อนหันกลับไปมองข้างหน้าต่อ พิธีกรสาวหยิบซองสีดำขึ้นมาเปิดออกก่อนหยิบกระดาษแข็งสีขาวขึ้นมาเปิดแล้วยื่นให้พิธีกรชายอ่าน ไอติมยกสองมือขึ้นมากุมตรงอก มองด้วยความลุ้น หัวใจเต้นตึกตัก

 

 

“And the award goes to…” เสียงซาวด์ดนตรีดังรัว ยิ่งพาให้หัวใจไอติมเต้นตุบหนักหน่วง เผลอหันไปมองแซ็คด้วยความตื่นเต้น หนุ่มตาสีเทาอ่อนยิ้มกริ่ม จังหวะที่ไอติมหันไปมองบนเวทีก็เป็นตอนที่พิธีกรชายเปิดปากอ่านชื่อผู้ที่ได้รับรางวัล

 

 

“Bryan Steve from happy holiday!”

 

 

“ว้ากกก!!” ไอติมกระโดดชูสองแขนขึ้นด้วยความดีใจ ก่อนจะตามด้วยปรบมือรัว ๆ เหลียวหน้าไปมองแซ็คที่ยิ้มกว้างและกำลังลุกขึ้นยืน ลูคัสนั่งหัวเราะอารมณ์ดีพร้อมกับปรบมือดัง ๆ บนจอสองข้างเวทีฉายภาพแซ็คยืนขึ้นเต็มตัวแล้วกำลังพูดอะไรสักอย่างกับไอติมที่ส่ายหัวหน้าตื่นเป็นการปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ถูกแซ็คลากออกไปจากแถวที่นั่งด้วยกันจนได้

 

 

ไอติมหูอื้อและตาลายเพราะแสงไฟวูบวาบ และกำลังช็อคที่แซ็คบอกให้ขึ้นไปรับรางวัลด้วยกัน ไอติมก้าวเท้าเดินไปอย่างคนมีสติไม่เต็มร้อย มีแซ็คจูงมือนำถึงเดินต่อไปได้ เสียงหวีดร้องดังอื้ออึงแข่งกับเสียงเพลง และเสียงพิธีกรที่พูดอะไรไอติมก็ฟังไม่รู้เรื่องแม้แต่ประโยคเดียว รู้ตัวอีกทีคือตอนเดินขึ้นไปยืนข้างแซ็คหน้าแท่นวางรางวัลสีดำที่มีโทรฟี่วางรออยู่แล้ว ไอติมมองฝูงคนด้านหน้าตัวเองด้วยความตื่นตูม แล้วก็เขยิบไปยืนซ่อนตัวข้างหลังแซ็ค สร้างเสียงหัวเราะครืนดังไปทั่วโรงละคร

 

 

แซ็คยิ้มกว้าง ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าโดยมีไอติมเกาะเอวเดินตาม พระเอกหนังผู้ใหญ่ยื่นมือขวาไปหยิบรางวัลขึ้นมาจากแท่นแล้วชูขึ้น เสียงปรบมือดังอึกทึกอีกรอบ แซ็คก้าวเท้าเดินไปตรงไมค์กลางเวที มีไอติมที่เอาหน้าผากวางชิดแผ่นหลังเขาเดินตามมาติด ๆ เสียงหัวเราะดังเหมือนเสียงคลื่นวิทยุ

 

 

“Thank you for this award. This is the fourth time that I am on this stage. Many of you might be wonder who this little boy is, (ขอบคุณสำหรับรางวัลนี้ครับ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่แล้วที่ผมอยู่บนเวทีนี้ พวกคุณหลายคนอาจจะสงสัยว่าเด็กผู้ชายคนนี้เป็นใคร)” แซ็คเหลียวหลังไปมองไอติมที่ยังคงเอาหน้าผากแนบชิดกับแผ่นหลังของเขาแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปพูดต่อ

 

 

“He is the person that made me get this award. He is the scripter, the director, the editor and the inspirator of me. (เขาคือคนที่ทำให้ผมได้รับรางวัลนี้ เขาเป็นนักเขียน ผู้กำกับ คนตัดต่อ และเป็นผู้ให้แรงบันดาลใจของผม)” เสียงปรบมือดังอีกครั้ง แซ็คยกแขนขวาขึ้น ก้มหน้าลงพูดกับไอติม

 

 

“Hey, show your face to them, just a bit. (เฮ้ โชว์หน้าให้พวกเขาเห็นหน่อย นิดนึงน่า)” ไอติมดึงหน้าผากออกจากหลังแซ็คก่อนจะเอียงหน้าไปด้านขวา มองเหล่าผู้คนบนที่นั่งแล้วคลี่ยิ้มกว้าง มือขวายกโบกมือให้ทุกคนที่ส่งเสียงตอบรับอย่างเป็นมิตร ไอติมยิ้มตาหยีก่อนจะซุกหน้ากับหลังแซ็คตามเดิม

 

 

“That’s him. Thank you. (นั่นเขาครับ ขอบคุณ)” แซ็คพาไอติมเดินออกจากไมค์ เสียงปรบมือดังส่งท้ายอีกครั้ง ไอติมเปลี่ยนไปเดินข้างซ้ายของแซ็ค ก้าวให้ทันขายาว ๆ ของเขาจนกระทั่งลงเวทีไป

 

 

“My heart is ooooooh. (หัวใจผมแบบ อู้วววว)” ไอติมไม่รู้จะบรรยายยังไง มือขวาตีที่อกซ้ายเบา ๆ สีหน้ายังคงแสดงออกถึงความตื่นเต้น แซ็คยิ้มกว้าง

 

 

มีสตาฟชายหัวล้านที่หูมีหูฟังเดินเข้ามาหาแซ็คและคุยอะไรกับเขาสักพักก่อนที่ฝรั่งตาสีเทาอ่อนจะพยักหน้า แล้วหันมาหาไอติม “You go to wait with Anthony and Lukas. I must go to take a photo at behind the stage. (นายไปรอกับแอนโทนี่และลูคัส ฉันต้องไปถ่ายรูปหลังเวที)”

 

 

ไอติมทำหน้างง แซ็คหันไปหาสตาฟ สื่อสารกันครู่สั้น ๆ แล้วสตาฟก็พยักหน้า แซ็คหันมาหาไอติม พยักหน้าให้หนึ่งทีแล้วพาเดินขึ้นบันไดกลับไปตรงแถวที่นั่ง พอไปถึงตรงนั้นแซ็คก็ตะโกนบอกให้แอนโทนี่รู้ว่าตัวเองต้องไปถ่ายรูปเลยพาไอติมมาส่ง แอนโทนี่บอกไอติมเป็นภาษาไทยอีกที ไอติมร้องอ๋อแล้วหันไปพยักหน้ากับแซ็ค ขวัญใจไอติมเดินลงบันไดกลับไปหาสตาฟคนเดิมที่รออยู่

 

 

“What’s up superstar?! (ว่าไงซูเปอร์สตาร์)” ลูคัสเอ่ยแซวตอนที่ไอติมนั่งลงบนเบาะ ไอติมหันไปยิ้มตาหยีและหัวเราะด้วยความเขิน ยกสองไหล่ขึ้นด้วยความเขินอาย ลูคัสยื่นมือขวามาขยี้หัวไอติมเบา ๆ ก่อนดึงออกแล้วยกนิ้วโป้งให้หนึ่งทีเป็นการชมว่ายอดเยี่ยม

 

 

 

 



“เดี๋ยวค่อยฉลองแล้วกัน พรุ่งนี้ฉันมีงาน ไม่อยากเมา” ลูคัสพูดจากบนรถ แซ็คพยักหน้า ไอติมยิ้มกริ่มและโบกมือให้ลูคัสกับแอนโทนี่ ประตูกระจกเลื่อนขึ้นพร้อมกับที่รถของลูคัสถอยหลังออกไป แซ็คใช้รีโมตกดเปิดประตูบ้าน ไอติมเดินนำเข้าไปก่อน มือขวาถือโทรฟี่รางวัลของแซ็คแน่นเพราะกลัวทำของเขาตก

 

 

“Hungry? (หิวมั้ย)” แซ็คถามตอนที่ไขกุญแจเปิดประตูหน้าบ้าน ไอติมถอดรองเท้าแล้วก้มลงใช้มือซ้ายถือขึ้นมา

 

 

“No. Just want water. (ไม่ฮะ แค่ต้องการน้ำ)” แซ็คบิดลูกบิดแล้วดันประตูเข้าไปข้างใน ไอติมเดินเข้าไปในบ้าน มีแซ็คเดินตามหลัง ร่างผอมฝ่าความสลัวไปที่ครัวของบ้าน วางรองเท้าไว้บนพื้น วางโทรฟี่ไว้บนเค้าน์เตอร์ เปิดตู้เย็นออกแล้วหยิบขวดแก้วที่บรรจุน้ำเปล่าออกมาหนึ่งขวด หันไปอีกทีก็เห็นแซ็คถือรองเท้าตัวเองไว้ให้และถือโทรฟี่ไว้แล้ว แซ็คพยักหน้า ไอติมหยิบแก้วหนึ่งใบ ก้าวเท้าตามแซ็คไปทางห้องนอน

 

 

“Where is key? (ไหนกุญแจ)” แซ็คก้มหน้าลงไปมองกระเป๋าเสื้อสูท ไอติมใช้มือขวาหยิบพวงกุญแจบ้านของแซ็คออกมา เข้าไปในห้องก็กดเปิดไฟให้ความสว่าง แซ็คใช้เท้าดันตู้วางรองเท้าลง วางของตัวเองกับของไอติมลงบนนั้นก่อนปล่อยเท้าออกให้ชั้นตีกลับขึ้นไปปิดตามเดิม

 

 

“You want to take a shower? (อยากอาบน้ำมั้ย)” แซ็คถาม ไอติมที่เทน้ำใส่แก้วอยู่พยักหน้า

 

 

“You? (คุณล่ะ)” แซ็คส่ายหัว

 

 

“I’m going to upstairs, bring the rest of stuff here. We are going to move out from here tomorrow. (ฉันจะขึ้นไปข้างบน ไปเอาของที่เหลือลงมา เราจะย้ายออกจากที่นี่พรุ่งนี้)” ไอติมยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม มองแซ็คที่นั่งตรงปลายเตียงนิ่ง แปลคำพูดของเขาในหัว และพอแปลได้ก็ดึงแก้วน้ำออกจากปาก อ้าปากหวอ มองหน้าแซ็คด้วยความตกใจ

 

 

“Move tomorrow? (ย้ายพรุ่งนี้)” แซ็คพยักหน้า ไอติมหันไปมองรอบห้อง ยังไม่มีของชิ้นไหนได้เก็บสักอย่าง

 

 

“We don’t keep things put in bag. (เรายังไม่ได้เก็บของใส่กระเป๋า)”

 

 

“I don’t have much and I think you too. We can keep it in three or four hours. (ฉันไม่มีของเยอะนักหรอก และฉันคิดว่านายก็ด้วย เราเก็บสามหรือสี่ชั่วโมงก็เสร็จ)” แซ็คไม่เคยเห็นไอติมไปช็อปเสื้อผ้าหรือของอะไรเพิ่มเติมเลยนอกจากของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น ประเมินจากจำนวนของที่ไอติมเอาเข้ามาตอนมาอยู่ที่นี่ แซ็คมองว่ามันไม่ได้เยอะจนต้องใช้เวลานาน และเขาเองก็ของไม่ได้เยอะอย่างที่ว่า

 

 

“You need help? (ให้ช่วยมั้ยฮะ)”

 

 

“It’s fine. Go to take a shower. (ไม่เป็นไรหรอก ไปอาบน้ำเถอะ)” ไอติมพยักหน้า แซ็คลุกขึ้นยืนถอดสูทตัวนอกออก ปลดกระดุมแขนเสื้อเชิ้ตแล้วพับขึ้นไปกองที่ข้อแขน ไอติมถอดสูทออกบ้าง เดินไปหยิบผ้าขนหนูตรงตู้เสื้อผ้ามาพันรอบเอว จัดการถอดกางเกงออก แล้วตามด้วยถอดเสื้อเชิ้ต ไอติมหยิบเสื้อผ้าใส่ลงตะกร้า แซ็คเดินไปที่ประตูห้อง เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอติมเดินเข้าไปในห้องน้ำ

 

 

ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำไม่เกินสิบห้านาทีไอติมก็เดินตัวแห้งออกมาข้างนอก เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนออกมาใส่ นึกตามคำพูดของแซ็คว่าจะต้องย้ายออกพรุ่งนี้แล้ว แม้จะยังไม่รู้เวลาว่าจะออกไปตอนไหน แต่ไอติมก็เริ่มทยอยเก็บของลงกระเป๋าเดินทางไว้ก่อน เพื่อที่ตอนเช้าจะได้ไม่วุ่นวาย

 

 

ไอติมนั่งเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางของตัวเองจนหมดตู้ เหลือเพียงชุดที่จะใส่ออกไปจากบ้านในวันพรุ่งนี้ ไอติมเดินวนรอบห้องเช็กของว่าอะไรตกหล่นอีกหรือไม่ พอแน่ใจว่าไม่น่าจะลืมอะไรก็ดันกระเป๋าไปไว้ข้างโต๊ะคอมพิวเตอร์แต่ยังไม่ปิด เพราะคิดว่าตอนเช้าจะทวนกับตัวเองอีกรอบ เผื่อตอนนี้มันใกล้เวลานอนแล้วอาจจะเบลอจนลืม

 

 

จะเที่ยงคืนครึ่งแล้ว…

 

 

ไอติมกับแซ็คกลับมาถึงบ้านตอนห้าทุ่ม แซ็คหายขึ้นไปข้างบนเป็นชั่วโมงแล้ว ไอติมเดินไปจะหยิบขวดน้ำมาเทน้ำดื่ม แต่ขวดน้ำหายไป สงสัยแซ็คคงเอาออกไปด้วยเพราะหมดแล้ว ไอติมเดินไปเปิดประตูห้อง ออกไปในความมืดสลัวอีกครั้ง เดินตรงไปห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่ม ตอนที่กำลังปิดประตูตู้เย็นและจะเดินกลับห้อง ไอติมก็ได้ยินเสียงโครมครามดังมาจากด้านบน ไอติมอ้าปากหวอ นิ่งเงียบฟัง วางขวดน้ำไว้บนเค้าน์เตอร์ครัว กระเถิบเท้าเดินไปทางบันไดพร้อมกับแหงนหน้ามองขึ้นไปด้านบน

 

 

“ซะ…” ไอติมกำลังจะอ้าปากเรียกแซ็ค แต่นึกได้ว่ามันดึกแล้ว และไม่ได้มีแค่แซ็คอยู่คนเดียว

 

 

“Hey, what happened? (เฮ้ มีอะไรเหรอ)” ไอติมที่กำลังโลเลก้มหน้าลงมองผู้มาใหม่ แคสโทรลที่สูทพาดแขนอยู่ถามด้วยความสงสัย

 

 

“I don’t know. Bryan go to above and I heard some sound. (ไม่รู้ฮะ ไบรอั้นขึ้นไปข้างบนแล้วผมก็ได้ยินเสียงบางเสียง)”

 

 

“Why don’t you go to upstairs? Don’t be afraid. You live here. (ทำไมไม่ขึ้นไปดูข้างบนล่ะ ไม่ต้องกลัวน่า นายอยู่ที่นี่นะ)”

 

 

“I am not owner this house. (ผมไม่ใช่เจ้าของบ้านนี้)”

 

 

“Don’t think like that. Come on. Follow me then. (อย่าคิดแบบนั้นสิ มานี่มา ตามฉันมาแล้วกัน)” แคสโทรลเดินนำไอติมไปขึ้นบันได ไอติมเห็นว่ามีคนพาขึ้นไปก็รีบเดินตามอย่างไว เพราะใจก็อยากขึ้นไป เผื่อเมื่อกี้เป็นเสียงแซ็คทำของหล่นแล้วต้องการคนช่วยหรือเปล่า

 

 

ตอนที่เดินไปจะถึงตรงห้องแซ็ค แมนดี้ที่ท่าทางกระฟัดกระเฟียดก็เปิดประตูห้องออกมา ไอติมชะงักกึก ก่อนที่จะเบิกตากว้างเพราะสภาพห้องของเธอนั้นเละเทะ แมนดี้มองค้อนไอติมก่อนดึงประตูปิดดังปัง สาวเท้าเดินตึง ๆ ไปทางบันได ในมือซ้ายถือกระเป๋าสะพายของผู้หญิงไปด้วย ไอติมหันไปมองแคสโทรลที่เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้าง

 

 

“Good night. (ฝันดี)” แคสโทรลกระซิบ ก่อนหมุนตัวเดินไปอีกฝั่ง เดินเข้าไปในซอยติดกับระเบียงชมวิวหลังบ้าน ไอติมเดินไปทางห้องแซ็ค เห็นแสงไฟลอดออกมาจาง ๆ ก็โล่งใจว่าเขาอยู่ในนี้ ไอติมบิดลูกบิดแล้วดันประตูเข้าไปด้านใน วินาทีที่ประตูเปิดผางไอติมก็นึกได้ว่าตัวเองควรเคาะประตูห้องก่อน

 

 

“Sor—I.” จังหวะที่จะดึงประตูกลับเพื่อปิดแล้วขอเคาะประตูห้องก่อนเปิดใหม่อีกรอบ ไอติมก็ตัวแข็งทื่อเหมือนโดนเมดูซ่าสาปให้เป็นหินกับภาพตรงหน้าของตัวเอง แต่ก็ยังมีสติเหลือพอที่จะรีบปิดประตูแล้วเดินหนี

 

 

“No, don’t go. (ไม่ อย่าไป)”

 

 

 

  เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้




:ruready ก็ยังคงชอบสีหน้านี้ 555555 ตอบโจทย์

ช่วงนี้เม้าน้อยเพราะเร่งปิดต้นฉบับอยู่ค่ะ ทั้งปั่น ทั้งพรูพ ยอมรับว่าเหลือแรงน้อย และในทวิตก็อะไรนักหนาไม่รู้ อินทั้งการเมือง และหวีดลูกสาว 555555 พออินอะไรสักอย่างเสร็จก็กลับมาเขียนต่อวนไป เหมือนเป็นการเบรกจากการเขียน ฮ่าาา

อ่านคอมเม้นจากตอนก่อนแล้ว ไม่กล้าแคปไปเม้าต่อนอกรอบเลย 55555 อินเนอร์มาอะเนอะ !


ลบข้อความโดย ผู้ดูแลห้อง Boy's love story 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2019 16:19:08 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ถึงไม่ใช่นิยายผี แต่ก็ขอถามนิสสสส "ใครอยู่ในห้อง"  :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ไปค่ะน้องติม กลับไปเก็บของต่อ แล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น 5555555555555555555555555  :hao7: อะไรไม่รู้ รู้แต่ค้างมาก

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แซ็คความลับเยอะเกิ๊นนนน  :katai1:

เหมือนทุกคนจะรู้เรื่องแซ็คหมด ยกเว้นไอติมและชั้น :z3:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :fire: เเซ็คทำอะไรอีกแล้ว

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น้องคือควรเก็บของกลับไทย เราจะเลี้ยงน้องเอง!!

ออฟไลน์ Janemera

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไม่ใช่แมนดี้แล้วใครรรรรรรรรอ่ะะะะะะะะะะะ ว้อททททททททททททท :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: หนีไปอยู่ที่อื่นเถอะไอติมมมม

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องติมไปอยู่กะแดนนี่ดีกว่าลูก.  :katai1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ใครอยู่ในห้องงง

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
น่าจะเป็นเจค

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เกิดอะไรขึ้น??? ใครอยู่ในห้อง...งงงงงงงง

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ค้างง
น้องติม ไปอยู่กับป๋าลูคัสเลยรูก
แซ่บๆเป็นตำนาน  :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
แซ็คเอากับใครอยู่แน่ๆ เดาว่าเจค็อบ(?) รอวันที่ไอติมกลับไทยจะแย่ เมื่อไหร่จะถึงตอนนั้น เกลียดแซ็ค ปมในชีวิตไม่ใช่ข้ออ้างที่ใช้มองข้ามความรู้สึกคนอื่นหรือทำร้ายจิตใจใครได้หรอกนะ ที่ผ่านมายูมันเห็นแก่ตัวอะ

ออฟไลน์ องศาวาย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไอติมเก็บของกลับไทยไปเลย แซคมันเลิกไม่ได้นิสัยนี้

ออฟไลน์ waragorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai1: ค้างไปอีกกก รอดูจุดเปลี่ยนของเรื่องเลย อ่านไปก็ตื่นเต้นไปว่าจะดราม่าอะไรอีก เพราะช่วงนี้ไอติมน่าจะไม่มีแล้วฟิลลิ่งแฮปปี้ 555

ออฟไลน์ jin_kazu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ค้างไปอี้กกกกกกก
แซ็คกำลังทำอะไรกับใครในห้อง ?!?   :angry2:

ไอติมลงไปเอากระเป๋าแล้วหนีไป ~ !!!!!

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ถ้าพี่แซ็คจะมั่วทั่วถึงขนาดนี้
ติมคงรับไม่ไหวเหมือนกัน

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ ไอติมหนีไปลูกหนีไปกลับไทยดีกว่า

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
ความลับของอิพี่นี่ค่อยๆคลายออกแล้ว ตอนนี้ได้แต่ลุ้นว่าใครจะบอกคำว่ารักออกมาก่อนกัน ระหว่างสองคนนี้

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust - Chapter 33 :: Break the cage. [แหกกรง]





ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ลอยผ่านหน้าไอติมไปโดยชายหนุ่มเกือบสิบคนจากบริษัทรับจ้างย้ายบ้านที่แซ็คทำการติดต่อเอาไว้ล่วงหน้ามาสักพักแล้ว ไอติมนั่งอยู่บนโซฟาห้องโถงด้วยความรู้สึกอึน รู้สึกโล่ง ๆ เปล่า ๆ คล้ายว่าในหัวมีแต่อากาศและตัวเป็นโพรง สายตาของไอติมถูกดึงไปโดยบุคคลที่เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน ไอติมมองร่างสูงโปร่งมีกล้ามเนื้อพอประมาณในชุดเสื้อคลุมสีแดงเลือดหมูกับกางเกงบ็อกเซอร์สีดำและรองเท้าสลิปเปอร์ด้วยความรู้สึกบิดเบี้ยว ด้านหลังของร่างนั้นที่ตามคือหญิงสาวผมแดงหน้าตาเรียบตึง แมนดี้ใช้ตาแข็งกร้าวของเธอกวาดตามองกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าเป้และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะด้วยความหงุดหงิด

           

 

“How do you feel about this success? (รู้สึกยังไงกับความสำเร็จนี้ล่ะ)” แมนดี้ถามด้วยท่าทีกระแนะกระแหน ไอติมพ่นลมหายใจเบา ๆ แล้วบิดปากเล็กน้อย หน้าหน้าหนีไม่มองแมนดี้เพราะไม่ได้มีอารมณ์อยากวุ่นวายด้วย

           

 

“You pack everything? (เก็บของเสร็จหมดแล้วเหรอ)” เจค็อบถามพลางเดินมานั่งลงบนโซฟาตัวเยื้อง ๆ กับไอติม

           

 

คนถูกถามมองคนถามนิ่ง ๆ สักพักก่อนเปิดปากตอบ “อือฮึ”

           

 

“Do you know where are you going at? (รู้รึเปล่าว่าเธอกำลังจะไปพักที่ไหน)” ไอติมนิ่งเงียบ ไม่แน่ใจว่าเจค็อบถามว่าอะไร

           

 

“He is going to know when we are there. (เขาจะรู้ตอนที่เราไปถึงที่นั่นแล้ว)” แซ็คที่เดินแบกกระเป๋าเป้ออกมาอีกใบเป็นคนตอบคำถามของเจค็อบ ฝรั่งตาสีเทาอ่อนเดินเอากระเป๋าไปวางกองรวมกับใบอื่น จังหวะนั้นพนักงานชายสามคนเดินกลับเข้ามาในบ้านแล้วยกกระเป๋าเป้ออกไป แซ็คเดินไปนั่งโซฟาเดี่ยวตัวตรงข้ามกับเจค็อบ

           

 

“นายจะไปจริงเหรอ” แซ็คหันไปมองแมนดี้แล้วคลี่ยิ้มบางก่อนจะพยักหน้าหนึ่งที แมนดี้ออกอาการไม่พอใจ แล้วพักเดียวเธอก็เปลี่ยนเป็นมองแซ็คด้วยสายตาเป็นกังวล

           

 

“มัน… มันไม่ดีสำหรับนายนะ” ไอติมมองแมนดี้นิ่ง แต่นึกประหลาดใจกับน้ำเสียงหวาดกลัวของเธอ ไอติมเลื่อนสายตามองเจค็อบที่นั่งเอนหลังพิงโซฟาด้วยท่าทีสบาย สีหน้าไม่ยินดียินร้าย

           

 

“ทำไมถึงจะไม่ดีล่ะ” แซ็คถาม สีหน้าผ่อนคลาย

           

 

“นายรู้ นายอยู่ที่นี่จะปลอดภัย” แซ็คยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มแสดงความขมขื่น

           

 

“อยู่ที่ไหนก็ปลอดภัยแมนดี้ ไม่เกี่ยวกับสถานที่ มันเกี่ยวกับคน” แมนดี้เหลือบสายตามองเจค็อบแล้วเลื่อนไปมองไอติม ก่อนกลับไปมองแซ็คต่อ

           

 

“นายถึงยิ่งต้องอยู่ที่นี่” แซ็คส่ายหัว

           

 

“อยู่เหมือนหมาน่ะเหรอ” แมนดี้มองแซ็คอย่างอ้อนวอน ดวงตาสีเทาอ่อนของเขาเลื่อนมองเจค็อบ

           

 

“งานทุกอย่างฉันยังทำตามปกติ ฉันแค่เปลี่ยนที่อยู่ มันคงไม่กระทบอะไรหรอกนะ” ไอติมไม่แน่ใจว่าริมฝีปากของเจค็อบขยับเป็นรอยยิ้มหรือไม่ ถ้ายิ้มคือเขายิ้มน้อยมาก

           

 

“ไม่ แค่หวังว่านายจะรู้ว่าสัญญาของเรามันเป็นยังไง” แซ็คยิ้มเหยียด

           

 

“ฉันรู้ และคงจะไม่รู้ไม่ได้อีกต่อไป” เจค็อบพยักหน้า คราวนี้ไอติมเห็นชัดว่าอีกฝ่ายยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ไอติมไม่ชอบและไม่ไว้ใจ

           

 

“It was disgusting, (มันน่ารังเกียจ)” ทุกคนหันไปมองไอติมเป็นตาเดียว หนุ่มเอเชียกลืนน้ำลายลงคอ หัวใจเต้นตุ้มต่อม แต่ก็พูดต่อด้วยความปกติ

           

 

“Your contract. (สัญญาของคุณ)” ไอติมต่อประโยคจนจบ หันไปมองแซ็คก็เห็นเขานั่งมองกลับมาด้วยสายตาสั่นไหว ไอติมหันกลับไปมองเจค็อบที่ยังคงนิ่ง ส่วนแมนดี้ก็เหมือนเดิม ไม่รู้จะหน้าบึ้งอะไรนัก

           

 

“Then why he has signed it? (งั้นเขาเซ็นทำไมล่ะ)” เจค็อบขยับเสื้อคลุมยาวสีแดงเลือดหมู ไอติมตอบโต้เจค็อบด้วยการมองนิ่ง

           

 

“If you don’t know everything, don’t say anything. (ถ้าเธอไม่ได้รู้ทุกอย่างก็อย่าพูดอะไร)” ไอติมย่นคิ้ว รู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย

           

 

“I will say. This is my mount. (ผมจะพูด นี่ปากผม)” ไอติมได้ยินเสียงขำพรืดดังมาจากฝั่งแซ็ค ซึ่งนั่นทำให้ไอติมรู้ตัวว่าไม่ควรพูดกับเจ้านายตัวเองแบบนี้

           

 

ไอติมลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขาเป็นเจ้านายตัวเอง

           

 

“You shut the fuck up, boy.” (หุบปาก เด็กน้อย)” แมนดี้แทรกขึ้นมา ไอติมเลื่อนสายตามองเธอ แต่ก็เงียบไม่ตอบโต้อะไร เพราะไอติมรู้สึกว่าเถียงกับคนลักษณะนิสัยแบบนี้ มันเสียเวลา

           

 

“I’m not talking to you. (ผมไม่ได้พูดกับคุณสักหน่อย)” ไม่เถียง แต่ขอแซะบ้างละกันนะ

           

 

แมนดี้จ้องไอติมตาแข็ง คราวนี้ไอติมเลือกจะไม่เถียงไม่สู้ นั่งเฉย ๆ ให้อีกฝ่ายตาแข็งไปคนเดียว แซ็คมองไอติมแล้วยิ้มพึงใจ พนักงานขนของเข้ามาขนคอมพิวเตอร์ออกไปเป็นอย่างสุดท้าย

           

 

“Don’t forget an appointment next week. You know how important it is. (อย่าลืมนัดสัปดาห์หน้า นายรู้ว่ามันสำคัญแค่ไหน)” แซ็คไหวไหล่ พยักหน้าให้ไอติมพร้อมกับลุกขึ้นยืน

           

 

“I know, that’s big money. (ฉันรู้ นั่นน่ะเงินก้อนใหญ่นะ)” ไอติมลุกเดินไปยืนข้างแซ็ค มองเจค็อบด้วยความรู้สึกบิดเกลียวในท้อง เจค็อบที่เห็นว่าไอติมมองตัวเองอยู่ก็มองกลับอย่างไร้ความรู้สึก แต่ริมฝีปากเขาคลี่ยิ้มบาง ไอติมรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกตามสันหลัง

           

 

“I hope you will bring good memory from here with you. (หวังว่าเธอจะเอาความทรงจำดี ๆ จากที่ไปกับเธอด้วยนะ)” เจค็อบมองไอติมด้วยสายตาและรอยยิ้มเดิม

           

 

ไอติมย่นคิ้ว เจค็อบลุกขึ้นยืนพร้อมกับกระชับเสื้อคลุมสีแดงเลือดหมูมันเลื่อมให้เข้าที่ หนุ่มสูงวัยเดินไปในครัว แซ็คหันมองไอติม ก่อนหันกลับไปมองแมนดี้ที่มองเขาด้วยความสิ้นหวัง

 

 

“See you.” แซ็คสะกิดไอติมให้เดินออกไปจากบ้าน จังหวะที่ไอติมกำลังจะหมุนตัว แคสโทรลกับหญิงสาวผมทองคนนึงก็เดินลงมาจากบนบ้าน ไอติมรีบหันตัวแล้วก้าวเท้าเดินตามแซ็คไป ทั้งสองคนเดินออกไปจากบ้านโดยไม่ได้หันกลับไปมองด้านหลัง ได้ยินเสียงพูดคุยกันแว่ว ๆ เป็นเสียงสุดท้ายในบ้านหลังนี้ ประตูรั้วบ้านเปิดกว้างเพื่อความสะดวกแก่พนักงานช่วยย้ายบ้าน ไอติมเดินไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับด้วยความรู้สึกหวิวโหวงในอก

 

 

ไม่ใช่เพราะรักบ้านหลังนี้ ไม่ใช่เพราะมีความผูกพัน แต่มันเป็นความรู้สึกกังวล ความรู้สึกไม่แน่นอนและไม่แน่ใจ

 

 

“Rabbitch, get in the car. They are waiting. (กระต่ายแรด ขึ้นรถสิ พวกเขารออยู่)” แซ็คยกนิ้วโป้งชี้ไปทางรถบรรทุกคันใหญ่ที่สตาร์ทเครื่องรอแล้ว ไอติมพยักหน้าแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างในรถพร้อมกับแซ็ค

 

 

“Are you sure? (คุณแน่ใจเหรอ)” ไอติมถามขณะที่แซ็คสตาร์ทรถ

 

 

“We are leaving now. (เรากำลังจะไปแล้วนี่ไง)” แซ็คถอยรถออกจากหน้าบ้าน หักรถขึ้นไปนำรถบรรทุกเพื่อนำไปยังที่พักใหม่ของตัวเองกับไอติม

 

 

“I mean, that we will stay together. (ผมหมายถึง ที่เราจะอยู่ด้วยกัน)” แซ็คหันมองไอติมด้วยสายตาเคลือบแคลงนิดหน่อย

 

 

“What? (อะไรนะ)”

 

 

“We don’t have to live together. We see on set only it’s okay. (เราไม่ต้องอาศัยด้วยกัน เราเจอกันแค่กองถ่าย มันโอเค)” แซ็คขมวดคิ้ว

 

 

“Are you mad at me or something? (นายโกรธฉันหรือยังไง)” ไอติมส่ายหัว ได้ยินคำนี้บ่อยจนจำได้ขึ้นสมอง

 

 

“Not about mad. It’s about เอ่อ…” ไอติมนึกคำศัพท์ไม่ออกเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาในดิคชันนารี

 

 

“Considerate. (เกรงใจ)”

 

 

“But it is convenient to you when we have shooting. (แต่มันสะดวกกับนายเวลาเรามีถ่ายนะ)” ไอติมเข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงเรื่องการเดินทาง ระยะเวลาในการทำงาน ไม่ต้องวกไปวนมาให้วุ่นวาย ซึ่งไอติมเห็นถึงประเด็นนี้เลยยังมีความลังเลใจอยู่นี่แหละ

 

 

ซึ่งไอติมก็ถามตัวเองว่าทำไมต้องลังเลใจ ในเมื่อเราเป็นรูมเมทกันเฉย ๆ เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น แต่พอนึกถึงภาพบนเตียงของเขากับเล็กซี่ บวกกับกับคำพูดของเจมส์ที่เล่าให้ฟังซึ่งน่าจะไม่ใช่เรื่องหลอกลวง และบวกกับ…

 

 

ไอติมพ่นลมหายใจแผ่วเบา จังหวะนั้นโทรศัพท์ของไบรอั้นดัง เจ้าของหยิบขึ้นมากดรับ “ว่าไง… งั้นเหรอ… ไปเจอฉันที่แถวซานตามอนิก้า… ย้ายบ้านน่ะ”

 

 

ไอติมนั่งมองไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ มีเสียงแซ็คกำลังคุยอะไรสักอย่างแบบที่ไอติมแปลไม่ออกเพราะไม่ได้ตั้งใจฟัง กำลังเริ่มคิดวิเคราะห์กับตัวเองได้สักพักก็โดนขัดเพราะเสียงแซ็ค

 

 

“Leo is here. (เลโออยู่นี่แล้ว)” ไอติมหันไปมองแซ็คด้วยความงงแวบหนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มตาเป็นประกาย

 

 

“Really? (จริงเหรอฮะ)” แซ็คพยักหน้า ย่นคิ้วนิดหน่อยเมื่อเห็นสีหน้าไอติม

 

 

“You look fresh immediately when I said that. (นายดูสดชื่นทันทีเลยนะพอฉันบอก)” ไอติมยิ้มกว้าง

 

 

“I miss Leo. (ผมคิดถึงเลโอฮะ)” แซ็คยิ้มหึ

 

 

“And he is fucking miss you. I can tell. (แล้วมันก็โคตรคิดถึงนาย บอกได้เลย)”

 

 

“He will see us? (เขาจะมาเจอเรามั้ยฮะ)” แซ็คพยักหน้า

 

 

“And he asked me to stay for one week. (แล้วมันก็ขอค้างด้วยหนึ่งอาทิตย์)” ไอติมตาโต ยกสองมือปรบมือเปาะแปะ

 

 

“Very good!” แซ็คหันไปหรี่ตามองกระต่ายตัวจ้อย

 

 

“Why? You miss his sex taste? (ทำไม คิดถึงรสชาติเซ็กซ์ของมันเหรอ)” ไอติมกะพริบตามองหน้าแซ็คปริบ ๆ ในหัวยังไม่ทันคิดอะไรแบบนั้นเลยจริง ๆ แต่พอแซ็คพูดขึ้นมา ภาพทั้งหลายก็พุ่งวาบเต็มหัว แล้วแก้มขาว ๆ นั่นก็เริ่มแดง แซ็คยิ้มเยาะน้อยๆ

 

 

“Okay, I knew it. (โอเค ฉันก็ว่าอยู่แล้ว)” ไอติมแปลไม่ชัดเจนนักหรอกว่าแซ็คพูดอะไร แต่เห็นสีหน้าท่าทางเยาะ ๆ ของเขาแล้วก็รู้สึกไม่ชอบนิดหน่อย

 

 

“I can fuck with him again. (ผมเอากับเขาได้อีก)”

 

 

“Yes, I know. (ใช่ ฉันรู้)”

 

 

“Like you fuck Lexy. (เหมือนที่คุณเอาเล็กซี่)” แซ็คเหลือบตามองไอติม ริมฝีปากขยับยิ้มบาง ตอนนั้นเองที่ไอติมชะงักไป แล้วก็รู้สึกว่านิสัยแบบนี้มาได้ยังไงกัน

 

 

“Are you sure you don’t mad at me? (แน่ใจนะว่าไม่ได้โกรธฉันน่ะ)” ไอติมเม้มปาก ไม่ได้นึกอยากจะโต้เถียงอะไรกับเขาอีก เพราะเริ่มงงกับตัวเองว่าเป็นอะไร ทำไมต้องประชดประชันเหมือนสาวน้อยวัยใสที่แอบรักใครสักคนแล้วเขาทำให้หึง

 

 

หึงงั้นเหรอ…

 

 

ไอติมตัวเย็นวาบเมื่อคิดว่าตัวเองอาจจะกำลังรู้สึกอย่างนั้น

 

 

 

 

ที่พักใหม่ที่แซ็คหาไว้อยู่ตรงหาดซานต้ามอนิก้า ไอติมที่นั่งนิ่งเงียบมาตลอดทางจนแซ็คแอบรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศนั้น จู่ ๆ ก็ตาเป็นประกายตื่นเต้นกับบรรยากาศรอบ ๆ ที่พักใหม่ที่ติดกับทะเล ไอติมหวีดร้องดีใจ เปิดปากเล่าด้วยภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นตัวเองว่าวันแรกที่มาถึงเมืองนี้บ่นกับเดนนี่ว่าอยากพักใกล้กับทะเล ไม่คิดว่าวันนี้จะได้มาพักใกล้กับทะเลสมใจ

 

 

“Denny will happy for me. (เดนนี่ต้องดีใจกับผม)” ไอติมยิ้มคิกคักตอนรถผ่านชายหาดขนาดใหญ่ เลยหาดไปเป็นท่าเรือมีเรือจอดเป็นร้อยลำเห็นจะได้

 

 

“I’m happy for you, too. (ฉันก็ดีใจกับนายเหมือนกัน)” แซ็คตอบพลางเลี้ยวเข้าไปในดงตึกสีครีมหลังคาสีส้ม

 

 

“How much? (เท่าไหร่ฮะเนี่ย)” แซ็คส่ายหน้า

 

 

“You don’t need to know. Just know that I can handle with the price. (ไม่ต้องรู้หรอก รู้แค่ว่าฉันจ่ายได้ก็แล้วกัน)” ไอติมกะพริบตาด้วยความงง แซ็คขยายความต่อ

 

 

“I can pay for it. I have money. (ฉันจ่ายได้ ฉันมีตังค์)” ไอติมทำปากว่าอ้อแบบไร้เสียง แล้วภาพในหัวก็ผุดขึ้นมา ภาพลูกค้าวีไอพีที่ไอติมไม่เคยเห็นหน้า แต่จ่ายให้แซ็คไม่อั้นเพียงแค่ให้ได้นอนกับเขา

 

 

ไม่สิ ไอติมเคยเห็นแล้ว

 

 

รถของแซ็คนำรถบรรทุกเข้าไปจอดในลานจอดรถหน้าตึกสีครีมขนาดใหญ่ที่มีจำนวนสี่ชั้น ตัวอาคารดูโปร่งโล่งสบายไม่แออัดยัดเยียดจำนวนห้อง ยิ่งเห็นแบบนี้ ไอติมยิ่งคิดเลยว่าราคาคงแพงอย่างที่คิด ติดทะเล ที่จอดรถส่วนตัว จำนวนห้องไม่อัดติดกัน มองจากภายนอกก็พอจะเดาได้ว่าห้องมีขนาดใหญ่

 

 

“I’m sorry that I can’t pay for the house. (ขอโทษทีที่ฉันซื้อบ้านไม่ได้)” ไอติมหันไปมองแซ็คขณะที่กำลังมองสำรวจอาคาร

 

 

“House? (บ้านเหรอ)”

 

 

“Actually, I want to have a house, but this apartment was good for my wallet, it’s a second hand. (ที่จริงฉันอยากจะได้บ้านน่ะ แต่อาร์ทเม้นต์อันนี้มันดีต่อกระเป๋าตังค์ฉัน มันเป็นห้องมือสองน่ะ)” ไอติมพยักหน้า เดินถือกระเป๋าเป้สีเขียวขี้ม้าของตัวเองตามแซ็คที่เดินนำหน้าเข้าไปในตึก ร่างสูงใหญ่ของฝรั่งในชุดเสื้อโปโลขาวกับกางเกงขาสามส่วนลายทหารเดินตรงเข้าไปติดต่อพนักงานหญิงผิวสีร่างท้วมตรงเค้าน์เตอร์ไม้ พูดคุยกันอยู่พักหนึ่งเธอก็ยื่นกุญแจให้แซ็ค ฝรั่งหันไปมองหนุ่มไทยแล้วพยักหน้า ไอติมหันไปมองรถบรรทุก เห็นเหล่าพนักงานกำลังช่วยกันขนย้ายของลงมา ไอติมหมุนตัวเดินตามแซ็คเข้าไปในลิฟต์ แซ็คกดเลขสี่ซึ่งเป็นชั้นสูงสุด

 

 

“It look good. (มันดูดี)” ไอติมหันไปบอกแซ็คและคลี่ยิ้มบาง ฝรั่งตาสีเทาอ่อนยิ้มตอบกลับมา

 

 

“Thank you. (ขอบใจ)” ไอติมยิ้มบางเป็นการให้กำลังใจอีกฝ่าย

 

 

 

‘This is the first time that I am going to leave from here. (นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะออกไปจากที่นี่)’

 

‘How long you stay here? (คุณอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว)’

 

‘8 almost 9 years. (8 เกือบ 9 ปี)’

 

‘And he… (แล้วเขา…)’ แซ็คส่ายหัว

 

‘I have to rise for myself, (ฉันต้องลุกขึ้นเพื่อตัวฉันเอง)’ ไอติมรู้สึกหน่วง ๆ ที่หัวใจ แซ็คยื่นมือขวามาจับมือซ้ายของเขาไว้

 

‘You are my inspiration. (นายเป็นแรงบันดาลใจของฉันนะ)’

 

 

 

เขาออกจากบ้านนั้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสิบปี และอยู่ด้วยความทุกข์มากกว่าความสุข ไอติมสับสนว่ามันเป็นคำพูดจูงใจรั้งเขาไว้ด้วยหรือเปล่า แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าฟังแล้วรู้สึกดี

 

 

 

‘เขาหลอกใช้งานมึงรึเปล่า’ เสียงเดนนี่ตอบกลับมาด้วยความแหบพร่า แม้ว่าจะนอนไปแล้ว แต่เพราะไอติมขอร้องปนขู่บอกให้คุยด้วยก็เลยถ่างตาด้วยความสลึมสลืออยู่แบบนี้

 

‘เรื่องงานเขาไม่ได้หลอกหรอก กูก็ต้องทำงานกับเขาจริง ๆ จะหลอกหรือไม่ ยังไงกูก็ต้องทำงาน’

 

‘แสดงว่ามึงมีผลประโยชน์กับเขา’ ไอติมสีหน้าไม่ดีนักแต่ก็ไม่ได้ถึงกับเศร้าสร้อย

 

‘การทำงาน ถ้าเราไม่มีผลประโยชน์กับเขา เขาจะจ้างเราเหรอเดน…’ ไอติมพูดเสียงแผ่ว

 

‘…แล้วถ้ากูมีประโยชน์กับเขาขนาดนั้น กูก็ยิ่งต้องทำตัวให้เขาไม่กล้าหือกับกูใช่เปล่า’ ไอติมหัวเราะเบา ๆ เดนนี่ขำเสียงแหบ

 

‘มึงโตขึ้นนะ รู้ตัวรึเปล่า’ ไอติมขมวดคิ้ว

 

‘กูก็โตอยู่แล้วเหอะ’

 

‘ใช่ มึงโตอยู่แล้ว แต่มึงโตแค่ตัว แต่สติมึงเหมือนคนปัญญาอ่อน กูว่าตอนนี้ปัญญามึงเริ่มแข็งขึ้นมาบ้างละ’ ไอติมถลึงตา แม้ว่าเดนนี่จะไม่ได้อยู่ตรงหน้า

 

‘มึงรีบมาให้กูตบหัวซะดีๆ’ เดนนี่หัวเราะเสียงแหบแห้ง

 

‘เออ เข้าที่เข้าทางแล้วส่งข่าว เดี๋ยวกูไปหา’ ไอติมยิ้ม รู้สึกอุ่นใจที่อย่างน้อยมีเดนอยู่ด้วย

 

‘ขอบใจนะเดน คิดถึงมึงนะ’

 

‘คิดถึงคxx กูก็บอก’ ไอติมเม้มปากหน้าแดง

 

‘บ้า!’ เดนนี่หัวเราะ

 

‘เจอหน้าเดี๋ยวรู้เลย’ 




 

 

“Lovely. (น่ารักจัง)” ไอติมมองไปรอบห้องใหม่ของตัวเองกับแซ็ค ภายในห้องทาสีส้มสลับกับสีขาว ห้องนี้เป็นห้องริมสุดของชั้นนี้ เปิดประตูไม้สีขาวบานใหญ่เข้ามาก็เจอกับเค้าน์เตอร์ครัวอยู่ด้านซ้ายมือ มีอปุกรณ์ครัวบางชิ้นทิ้งไว้ให้ราวกับเป็นของที่ระลึก ห้องโถงกลางมีโซฟาสีดำตัวยาวหนึ่งตัวและโต๊ะไม้สีน้ำตาลแก่ให้หนึ่งตัว มีชั้นวางทีวีที่ไม่มีทีวี ที่ไอติมชอบมากคือมีระเบียงด้านนอกติดกับวิวถนนด้านหน้าของอาคารและสามารถมองเห็นทะเลผืนกว้างได้จากบนห้องของตัวเอง

 

 

“Beautiful.” ไอติมเคยเห็นบรรยากาศแบบนี้ในหนังฝรั่ง และคิดว่ามันให้ความรู้สึกชิล ๆ ละมุน ๆ ถ้ามีห้องติดริมทะเล คิดว่าถ้าได้รับการตกแต่งอีกสักหน่อยคงจะน่าอยู่ยิ่งขึ้นไปอีก

 

 

“That’s our bedroom. (นั่นห้องนอนของเรา)” แซ็คชี้ประตูสีขาวบานขวามือจากจุดที่ไอติมยืนอยู่ ไอติมหันไปมองประตูอีกบานที่อยู่เยื้องกัน

 

 

“What room? (ห้องอะไร)”

 

 

“Bathroom and toilet.” ไอติมอ้าปากหวอนิดหน่อย

 

 

“Only one bedroom? (แค่ห้องนอนเดียวเหรอ)” แซ็คพยักหน้า

 

 

“Yes. Why? (ใช่ ทำไมล่ะ)”

 

 

“And I will go live where if you bring some girl here. (แล้วผมจะไปอยู่ไหนถ้าคุณเอาผู้หญิงมาที่นี่)” ด้วยความรีบร้อนพูดเลยเรียงประโยคผิดมั่วไปหมด แซ็คชะงัก สีหน้าช็อคไปนิด จังหวะนั้นพนักงานขนของก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับตู้เสื้อผ้า แซ็คละสายตาจากไอติมเดินไปเปิดประตูห้องนอนให้พนักได้ขนของเข้าไปได้อย่างสะดวกก่อนเดินกลับมาหาไอติมและผายมือไปทางระเบียงห้อง ทั้งสองคนเดินไปเลื่อนประตูกระจกระเบียง ปล่อยให้พนักงานจัดการจัดของให้

 

 

“I won’t bring any girl here, okay? (ฉันจะไม่พาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่ โอเคมั้ย)” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ แซ็คพ่นลมหายใจเบาๆ

 

 

“Zach.”

 

 

“What? (ว่าไง)” ไอติมเม้มปาก สีหน้าชั่งใจ แต่สักพักก็ตัดสินใจพูด

 

 

“You can fuck many people but don’t fuck me, okay? (คุณเอากับใครก็ได้ แต่อย่าเอาผม โอเคมั้ยฮะ)” แซ็คมองไอติมด้วยความรู้สึกอึ้งนิดหน่อย

 

 

“After next month, March. I back Thailand I will go to check my blood. (หลังจากเดือนหน้า มีนาคมน่ะ ผมกลับประเทศไทย ผมจะไปเช็กเลือดของผม)” แซ็คนิ่งค้าง ความรู้สึกชาค่อย ๆ แล่นไปตามกล้ามเนื้อบนหน้าทั้งที่ไอติมไม่ได้ตบหน้าเขาเลยแม้แต่นิด กว่าจะดึงสติกลับมาได้ก็เงียบไปเกินนาที

 

 

“Okay.” แซ็คตอบเสียงเบา ดวงตาสีเทาอ่อนลง สีหน้าของไอติมแสดงออกถึงความรู้สึกไม่ดี แต่ก็พยายามนิ่งไว้

 

 

“Go to make room? (ไปจัดห้องมั้ยฮะ)” ไอติม (พยายาม) ยิ้ม แซ็คหันไปมองในห้อง พนักงานกำลังวางของวุ่นวาย หนุ่มฝรั่งพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้อง ไอติมหันไปมองทะเลสีครามกว้างสุดลูกตา พ่นลมหายใจยาว ๆ หนึ่งทีก่อนหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องอีกคน

 

 

 

 

“Leo will come here tomorrow. (เลโอจะมานี่พรุ่งนี้)” แซ็คบอกไอติมขณะที่กำลังเช็ดหัวให้แห้ง กระต่ายตัวจ้อยที่นอนเหยียดขายาวอยู่บนเตียงและกำลังพิมพ์งานในแม็คบุ๊คอยู่เงยหน้าขึ้นมองคนบอกแล้วคลี่ยิ้ม

 

 

“How long he will stay in L.A.? (เขาจะอยู่ในแอลนานเท่าไหร่ฮะ)” แซ็คดึงผ้าขนหนูออกจากเอวจนตัวเปลือยเปล่า ไอติมหลุบตาลงต่ำเพื่อเลี่ยงมองเจ้าสิ่งนั้น

 

 

“A month, maybe. (น่าจะเดือนนึง)” ไอติมรู้สึกว่าเตียงฝั่งขวามือ ซึ่งเป็นฝั่งของแซ็คยุบลง

 

 

“Lukas wanted to see video three of us in Thailand. (ลูคัสอยากเห็นวิดีโอเราสามคนที่เมืองไทย)” ไอติมหันไปมองแซ็คที่นั่งตัวเปลือยเปล่า มีเพียงสร้อยคอจี้กระต่ายห้อยประดับเนื้อ แซ็คมองไอติมแววตาวิบวับ

 

 

“Why Lukas want to see? (ทำไมลูคัสถึงอยากเห็น)”

 

 

“Because it could help him to decide if he wants to sign the contract with Leo or not. (เพราะมันจะช่วยให้เขาตัดสินใจได้ว่าเขาอยากจะเซ็นสัญญากับเลโอมันรึเปล่าน่ะ)” ไอติมมองหน้าแซ็คด้วยความรู้สึกเด๋อด๋า แซ็คยิ้มบางแล้วขยายความ

 

 

“Leo will become our new actor if we can deal with him. (เลโอจะมาเป็นนักแสดงคนใหม่ของเราถ้าเราตกลงกับเขาได้)” ไอติมแปลช้า ๆ แบบไม่รีบเพื่อความแน่ใจ แล้วก็แน่ใจว่าตัวเองไม่น่าแปลผิด

 

 

“Wow, we just have Castrol and now—we, (ว้าว เราเพิ่งมีแคสโทล และตอนนี้ ระ… เรา)” ไอติมชะงักด้วยความงุนงงเมื่อแซ็คส่ายหัว

 

 

“No. Leo will not be actor under Jacob’s company. He will be us. (ไม่ใช่ เลโอจะไม่ได้เป็นนักแสดงของบริษัทเจค เขาจะเป็นนักแสดงของเรา)” ไอติมขมวดคิ้ว

 

 

“Us?”

 

 

“Lukas has founded the new studio, (ลูคัสตั้งค่ายใหม่แล้ว)” ไอติมอ้าปากหวอน้อยๆ

 

 

“We are the new team. (เราเป็นทีมใหม่)” ไอติมย่นคิ้ว

 

 

“But you have the contract with Jacob, and it is—. (แต่คุณมีสัญญากับเจค็อบ แล้วมันก็…)”

 

 

“We will deal with that issue. You don’t need to worry about this. Just do your job. (เราจะจัดการกับปัญหานั้น นายไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้ แค่ทำหน้าที่ของนายก็พอ)” หัวใจไอติมเต้นตุ้มต่อม เต้นด้วยจังหวะแปลก ๆ มันเป็นการเต้นในโทนของความหวาดกลัว

 

 

“Is it okay? (แบบนี้มั้นโอเคเหรอ)” แซ็คยิ้มและพยักหน้าหนึ่งครั้ง

 

 

“It is going to be okay. (มันจะต้องโอเค)” ไอติมนิ่งไปพักหนึ่ง

 

 

“Are you sure อ่า… you are not something special with him? (คุณแน่ใจเหรอว่าคุณ อ่า… ไม่ได้เป็นบางอย่างพิเศษกับเขา)” แซ็คขบกราม สีหน้าเรียบตึง

 

 

“Me and Lexy is something special? (ฉันกับเล็กซี่เป็นบางอย่างพิเศษกันหรือเปล่าล่ะ)” แซ็คทวนคำพูดของเจ้ากระต่าย ไอติมส่ายหัว

 

 

“No. Like you and me, too. (ไม่ เหมือนคุณกับผมด้วย)” แซ็คชะงัก ไอติมพ่นลมหายใจ หันหน้ากลับไปมองจอแม็คบุ๊ค กดเซฟงานแล้วปิดฝาพับลง วางไว้บนโต๊ะเขียนหนังซื้อข้างเตียงที่ตั้งตรงหน้าต่างห้องพอดี ปิดโคมไฟสีเหลืองนวลฝั่งตัวเองแล้วหันกลับมาคลี่ผ้านวมเตรียมนอน

 

 

“Are you sure you don’t want to eat your carrot? (แน่ใจเหรอว่าไม่อยากกินแคร็อทน่ะ)” ไอติมหันไปมองแซ็คที่เลิกคิ้วขึ้นและยิ้มมุมปากขวา ไอติมนิ่งไปหลายวินาทีแล้วก็ส่ายหัว

 

 

“No. Good night. (ไม่ ฝันดีฮะ)” ไอติมล้มตัวลงนอน แซ็คมองกระต่ายตัวจ้อยแล้วยิ้มบาง หันตัวไปปิดโคมไฟอันเล็กกว่าของไอติมที่อยู่ฝั่งตัวเอง ภายในห้องมืดลง แต่ไม่ถึงกับมืดสนิทเพราะมีแสงจากด้านนอกเล็ดลอดเข้ามาจาง ๆ แซ็คล้มตัวลงนอนพร้อมดึงผ้านวมขึ้นมาห่ม จังหวะนั้นไอติมลืมตาขึ้นมองแซ็ค ฝรั่งตัวโตหันหน้าไปมอง

 

 

“I can serve you if you want. (ฉันเสิร์ฟให้ได้นะ ถ้านายอยาก)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ เม้มปากแน่น หัวใจเต้นรัว

 

 

“Eh?” แซ็คยักคิ้ว ยิ้มทะเล้น ไอติมตีหน้านิ่งแม้หัวใจจะเต้นรัว

 

 

“No.” ไอติมหันตัวนอนหันหลังให้แซ็คแล้วหลับตาลง ข่มใจให้นิ่ง นับแกะนับแพะไปเรื่อยเพื่อกล่อมให้ตัวเองหลับ แต่สักพักฝูงแกะฝูงแพะก็กระจายเมื่ออีกคนใช้แขนกอดเอวเขาไว้ ไอติมบิดหน้าไปมองรูมเมทของตัวเองที่กำลังยิ้มละมุน

 

 

“I don’t fuck I just hug you. (ฉันไม่ได้จะเอา ฉันแค่กอด)” ไอติมพ่นลมหายใจ บิดหน้าไปนอนตะแคงตามเดิม แซ็คคลี่ยิ้มและก้มลงหอมแก้มไอติมหนึ่งทีก่อนที่จะนอนกอดไอติมไว้อย่างนั้น

 

 

ไอติมสัมผัสได้ว่าหัวใจแซ็คเต้นแรง และแซ็คเองก็สัมผัสได้ว่าเจ้ากระต่ายของเขาหัวใจเต้นแรงเช่นกัน

 

 

 

 เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



ย้ายบ้านแว้ววว ถึงจะเป็นอพาร์ทเม้นต์แต่ก็เป็นบ้านของเขาสองคนนน อิ ๆ พี่แซ็คนี่จะรับเลี้ยงดูกระต่ายตัวนี้จริงจังเลยมั้ยคะหรือยังไง หื้มมมม

แต่ก็ได้ออกมาสมใจพี่เขาสักที และนำพาตัวน้องมาอยู่ด้วย

แหม รั้งเขาไว้สุดเลยน้าา แต่ก็กั๊กสุดเช่นกัน หึๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2019 23:53:29 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :serius2: :serius2:  ชีวิตดูยุ่งเหยิงไปหมด

ออฟไลน์ waragorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ้าว อุตส่าเตรียมใจนึกว่าจะมาม่าชามโต 555 แต่ก็เพราะเป็นไอติมแหละเนอะ นางเป็นคนไม่คิดมาก(รึป่าว) :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด