Fall in lust - Chapter 40 :: Remind. (เตือนใจ) ติ๊งๆๆๆ
เสียงออดใส ๆ ดังถี่รัวไปตามจังหวะการกดของแขกผู้มาเยือนที่ยืนหน้าตาเคร่งเครียดอยู่ตรงประตูรั้วอยู่เป็นนาทีก่อนที่ประตูไม้บานใหญ่จะค่อย ๆ เลื่อนเปิดออกด้วยระบบอัตโนมัติ และยังไม่ทันที่ประตูบานไม้จะเลื่อนออกกว้างนัก ฝรั่งร่างสูงที่ตอนนี้กล้ามเนื้อฟีบจากเดิมแทรกตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว สองเท้าก้าวขึ้นบันไดหน้าบ้าน เดินผ่าประตูที่เปิดอยู่แล้วไปอย่างเร็ว
“ไอศกรีม!” แซ็คตะโกนเรียกชื่อเจ้ากระต่ายด้วยความร้อนรน ใบหน้าทรุดโทรมของเขาขุ่นมัวแต่ก็แสดงออกถึงความกลัวในเวลาเดียวกัน ดวงตาสีเทาซีดกวาดมองไปรอบชั้นล่างของบ้านแต่ก็ไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิต
“Bunny!” แซ็คตะโกนอีกรอบ เขาหายใจหอบแรงขึ้น และเริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่เจอไอติมสักที ใบหน้าของแซ็คพร้อมอาละวาดเต็มที่ แต่ก็พยายามตั้งสติว่าควรจะไปดูจุดอื่นของบ้านมากกว่าจะยืนอยู่แค่กลางบ้านแบบนี้
เขาเดินไปทางห้องนอนเก่าของตัวเองก่อน เปิดเข้าไปก็เจอกับความโล่ง แซ็คปิดประตูห้องนอน หมุนตัวเดินไปเปิดประตูหลังบ้านด้วยความร้อนใจ กวาดสายตาสักแปบก่อนที่ความโล่งใจจะถาโถมเข้าหาตัวเมื่อเห็นร่างของไอติมนอนหลับอยู่บนเก้าอี้อาบแดดริมสระน้ำ แซ็คกำลังจะยิ้มแต่สักพักสติก็ดึงสายตาให้หันไปมองในสระว่ายน้ำก่อนที่จะชะงักด้วยความอึ้งปนงง
“What the fuck? (เหี้ยไรเนี่ย)” เขาพึมพำเสียงแผ่วในขณะที่สายตาจับจ้องอยู่กับกลุ่มชายผิวสีร่างล่ำบึ้กหกคนที่กำลังว่ายน้ำบ้าง นั่งดื่มอยู่ริมสระบ้างและกำลังพูดคุยกันอย่างอารมณ์ดี แซ็คเลื่อนสายตากลับไปมองร่างขาวสว่างที่นอนหลับอยู่คนเดียวบนเก้าอี้อาบแดดด้วยความงุนงง แล้วสักพักก็เห็นกล้องวางอยู่บนขาตั้งกล้องตั้งอยู่อีกฝั่งของสระว่ายน้ำ แซ็คมองสามจุดนั้นรอบสระว่ายน้ำอีกทีก่อนจะเบิกตากว้าง
“พวกเขาชอบไอศกรีมนะ” แซ็คชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไปหาไอติมแล้วหันไปมองด้านหลังก็เจอกับเจค็อบกำลังยืนยิ้มละมุนอยู่ตรงกรอบประตู แซ็คมองจ้องคนตรงข้ามด้วยความโมโห
“นายคิดทำอุบาทว์กับเขาเหรอ” เจค็อบขยับยิ้มมุมปากซ้าย
“ฉันว่าเด็กนั่นไม่น่ามองว่าอุบาทว์นะ ของชอบไม่ใช่เหรอ…” แซ็คจ้องตาเจค็อบผ่านแว่นสี่เหลี่ยมที่เขาใส่อยู่
“…เด็กนั่นมาอยู่ที่นี่ก็เพราะเรื่องเซ็กซ์นี่”
“
เซ็กซ์กับฉัน ไม่ใช่กับใครคนไหนก็ได้” แซ็คเสียงแข็งใส่เจค็อบที่ยิ้มอย่างเฉยเมยกับคำพูดของเขา
“รู้ได้ยังไงกันว่าเด็กนั่นอยากมีเซ็กซ์กับนายแค่คนเดียว เขาอาจจะเบื่อแล้วก็ได้”
“ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นเจค็อบ ประเด็นคือนายอย่าเสือกทำแบบนี้” แซ็คพูดด้วยความหงุดหงิด เจค็อบยิ้มเยาะ
“เห็นว่ามีหนังส่วนตัวกับนายแล้ว ก็อาจจะอยากเป็นพระเอกหน้ากล้องจริง ๆ ดูบ้าง”
“เขาตัดสินใจเองได้ ไม่ต้องให้นายยัดเยียด” เจค็อบมองแซ็คสงบนิ่ง แซ็คพยายามจะนิ่งตอบแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาในสภาวะและสถานการณ์แบบนี้
“ไม่น่าสนใจงั้นเหรอ นายน่าจะเคยเห็นผ่านตา ผู้หญิงผิวขาวตัวเล็ก ๆ หนึ่งคนโดนผู้ชายผิวสีตัวใหญ่หลายคนรุม อันนี้ก็เปลี่ยนจากผู้หญิงมาเป็นผู้ชายเท่านั้นเอง ขายดีเลยละหนังแนวนี้” แซ็คขบกรามแน่น ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงประเด็นนี้ เพราะรู้ว่าเจค็อบกำลังสนุก
“พาเขามาทำไม” แซ็คตัดบทและรู้ว่าเจค็อบเข้าใจใจความสำคัญของคำถามนี้ดีว่าเขาต้องการสื่ออะไร คนถูกถามไม่ตอบ แต่กลับกวนอารมณ์ของแซ็คเพิ่มขึ้นด้วยการยิ้มขำเหมือนเป็นเรื่องสนุกสนาน แซ็คขบกรามแน่นก่อนหมุนตัวเดินเข้าไปหาไอติม พวกที่อยู่ในสระกับริมสระหันมองเขาเป็นตาเดียว แต่แซ็คไม่สนใจ
“ไอศกรีม… ไอศกรีม…” แซ็คตบหน้าไอติมเบา ๆ เพื่อเป็นการช่วยเรียก แต่ไอติมยังนอนนิ่ง แซ็คหันมองด้านซ้ายแล้วก็เจอถังน้ำแข็งวางอยู่บนโต๊ะสีขาว เขาเอื้อมมือไปหยิบน้ำแข็งมาถือไว้ในมือก้อนนึง ถูวนไปรอบมือทั้งสองข้าง วางน้ำแข็งไว้บนโต๊ะ เอาสองมือที่เปียกน้ำเย็นแปะลงบนหน้าไอติม รอบแรกไอติมยังไม่ทันตื่น แซ็คเลยหยิบน้ำแข็งมาทำแบบเดิมอีกรอบ และเอามือโปะลงบนหน้าไอติมอีกครั้ง กระต่ายตัวจ้อยลืมขึ้นแบบสลึมสลือ แซ็คหันไปมองเจค็อบตาขวาง
“นายเป็นเหี้ยอะไร เอายานอนหลับให้เขากินทำไม”
“ฉันรำคาญเวลาเด็กนี่พูด” แซ็คอยากจะด่าอะไรก็ได้ให้มันหยาบคายที่สุด แต่จากการเห็นสีหน้าไม่สะทกสะท้านของเจค็อบแล้ว ก็คิดได้ว่าไม่มีคำหยาบคำไหนหยาบคายที่สุดสำหรับเขาหรอก
“แซ็ค…” ไอติมเรียกแซ็คเสียงแผ่ว
“Yes, it’s me. (ใช่ ฉันเอง)” แซ็คลุกประคองไอติมให้ลุกขึ้นนั่ง
“เข้าไปคุยกันข้างในบ้าน…” เจค็อบบอกทั้งสองคน แซ็คหันมองด้วยความขุ่นเคืองอีกครั้ง ไอติมมองเจค็อบด้วยสายตาง่วง
“…ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” รอยยิ้มและความไม่สะทกสะท้านบนหน้าเจค็อบหายไป มีแต่เพียงความเรียบเฉยกับแววตานิ่งสงบที่ไม่อาจคาดเดาอารมณ์ใด ๆ ได้
“You can walk? (เดินไหวมั้ย)” แซ็คหันกลับมาถามไอติมหลังจากเจค็อบเดินไปแล้ว ไอติมพยักหน้าหนึ่งครั้งก่อนที่สายตาจะมองเห็นหนุ่มนิโกรล่ำบึ้กทั้งหกคน
“โห…” สองในหกหันมองไอติมแล้วยิ้มให้ พอสองคนนั้นนำยิ้ม ที่เหลือก็เลยหันมองตามก่อนยิ้มให้ไอติมทั้งหมด ไอติมยิ้มตอบแบบงุนงง
“You smile to them? (ยิ้มให้พวกมันงั้นเหรอ)” ไอติมหันมองแซ็คที่หน้าตึงด้วยความงง
“ฮะ เอ่อ what? อ๋อ he smile I just smile back. (เขายิ้ม ผมแค่ยิ้มกลับ)” แซ็คพ่นลมหายใจด้วยความเอือมปนหงุดหงิด แต่ก็แอบโล่งใจด้วย เพราะแสดงว่าไอติมยังปลอดภัยจากคนพวกนั้น
หรือจริง ๆ ไอติมยิ้มให้ทั้งที่เสร็จพวกนั้นไปแล้ว
“Come with me. (มากับฉัน)” ไอติมพยักหน้า แซ็คพาไอติมลุกเดินออกไปจากริมสระน้ำ ไอติมมีอาการมึนหัว และเดินเอียงไปเอียงมา ดีที่ได้แซ็คคอยประคอง ทั้งสองคนพากันเดินกลับเข้าไปในบ้าน เดินไปถึงห้องโถงก็เจอเจค็อบนั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา ไอติมชี้ไปที่กระเป๋าเป้และถุงพลาสติกใส่ของจากซูเปอร์มาร์เก็ตบนเค้าน์เตอร์ครัว แซ็คปล่อยให้ไอติมยืนคนเดียวสักพักแล้วเดินเข้าไปหยิบของก่อนกลับมายืนข้างไอติม
“นายมีอะไรจะพูดก็พูดมา ฉันจะพาไอศกรีมกลับ”
“นั่งก่อนก็ได้ ไม่ต้องรีบขนาดนั้น” เจค็อบผายมือไปทางโซฟาตัวยาว แซ็คเอือมแต่ก็พาไอติมที่ยังงง ๆ ง่วง ๆ เดินไปนั่งบนโซฟาตัวเล็ก ให้ไอติมนั่งบนเบาะส่วนตัวเขานั่งบนที่วางแขน
“สภาพนายแย่ดีนะ” เจค็อบว่าพลางพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก
“ยังแย่น้อยกว่าตอนอยู่กับนาย” เจค็อบยิ้มแบบไม่เห็นฟัน
“นั่นยังไม่แย่ที่สุดหรอก เชื่อฉันสิ” แซ็คขบกรามข่มใจ
“มีอะไรก็พูดเถอะเจค”
“คิดว่าฉันควรโกรธมั้ยกับเรื่องที่เกิดขึ้น…” เจค็อบถามด้วยท่าทีสบาย ๆ สายตามองทั้งสองคนนิ่งสงบ น้ำเสียงที่ใช้ก็นุ่มทุ้ม ไอติมแหงนหน้ามองแซ็คตาแป๋ว แซ็คยกแขนซ้ายขึ้นโอบไหล่ไอติม
“…นายคิดว่ายังไงล่ะไอศกรีม คิดว่าฉันสมควรโกรธมั้ยที่โดนแบบนี้” คราวนี้แววตาของเจค็อบเปลี่ยนเป็นวาววับ มือขวาของเขาวางบุหรี่ลงบนที่เขี่ยบุรี่สีใส ควันบุหรี่ลอยฟุ้งขึ้นในอากาศ
“About Zach leave you? (เกี่ยวกับแซ็คจากคุณ?)” ไอติมถามด้วยความไม่แน่ใจทั้งที่ในใจค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นประเด็นนี้ เจค็อบเอนหลังพิงกับพนักโซฟาพร้อมกับยกขาขวาขึ้นมาไขว่ห้างทับขาซ้าย สองแขนยกกอดอก
“พวกนายทำราวกับว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกต้อง และพยายามบอกว่าสิ่งที่ฉันทำมันผิด…” เจค็อบมองแซ็คแล้วยิ้มเยาะ คนถูกมองหลุบตาลงต่ำ
“…ทั้งที่ตอนนั้นนายเป็นคนอ้าแขนรับสิ่งที่ฉันเสนอให้เข้าไปในชีวิตอย่างเต็มใจ”
“But it’s not fair for him. (แต่มันไม่ยุติธรรมสำหรับเขา)” ไอติมแทรกเสสียงแผ่วเบา
“Believe me he doesn’t think like that at that time. (เชื่อฉันเถอะว่าเขาไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกในช่วงเวลานั้น)”
“ใช่ เจค มันคือช่วงเวลานั้น กาลเวลาผ่านไป นายจะไม่ให้ฉันคิดอะไรใหม่ ๆ บ้างรึไง” แซ็คโต้กลับ แต่ไม่ใช่การโต้กลับอย่างก้าวร้าวหรือจะเอาชนะ เขาแค่สื่อสารในสิ่งที่เขาคิด
และพูดกันตามจริง ประเด็นนี้เจค็อบเป็นผู้มีสิทธิ์ถูกต้องในมือมากกว่า
“ฉันก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางหรือแย้งนายเลย ถ้าหากนายจะคิดอะไรได้ใหม่…”
“…นายพูดเหมือนฉันไม่เคยต่อรองหรือถึงขั้นร้องขอ และยอมทำตามความต้องการของนาย”
“ก็ฉันไม่ยอมรับไง…” เจค็อบสะบัดเสียง หน้าตาไม่พอใจแวบหนึ่งก่อนจะหายไป
“…ทำไมแซ็ค ปล่อยให้มันเป็นไปตามสัญญาและตามที่เราคุยกันไว้ไม่ได้รึไง”
“A contract—a slave contract, right? 13 is the unlucky number and 13 year is disgusting for Zach. (สัญญา… สัญญาทาสนั่นใช่มั้ย เลขสิบสามเป็นเลขแห่งความโชคร้าย และสำหรับแซ็คคือสิบสามปีของความอุบาทว์)” ไอติมพูดปกติ ไม่ได้ใส่อารมณ์ใดเป็นพิเศษ แถมยังพูดด้วยความไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าใช้คำถูกมั้ยและเรียบเรียงประโยคได้ถูกต้องหรือเปล่า
“ฉันไม่ได้ให้เขาทำงานเกินเวลาหรือหักค่าตัวเขาเกินตามที่กฎหมายกำหนด มันจะเป็นสัญญาทาสได้ยังไง”
“นายรู้อยู่แล้วเจคว่าสัญญานั่นมันมีความผิดเพี้ยนแค่ไหน” เจค็อบหัวเราะ แต่แววตาที่มองแซ็คนั้นลุกวาว
“โอ้ว บางทีฉันก็ปล่อยให้นายเจอโลกกว้างมากไปสินะแซ็ค นายถึงได้เรียนรู้และฉลาดขึ้น”
“Everyone has a stupid timing. (เราทุกคนมีช่วงเวลาที่โง่)” ไอติมพยักหน้ายืนยันคำพูดนั้นของตัวเอง เจค็อบยิ้มเยาะน้อย ๆ แซ็คเลื่อนมือจากหัวไหล่ของไอติมลงไปวางบนแขน
“ตอนนั้นฉันโง่และคิดว่าตอนนี้ก็ไม่ได้ฉลาดอะไรมากนัก ฉันหลงไปกับสิ่งที่นายปรนเปรอให้ ใช่ ฉันชอบชีวิตแบบนั้น ตอนนี้ฉันก็ยังชอบ แต่ต้องไม่ใช่เพราะนายอีกแล้วเจค” เจค็อบปรับท่าทีให้นุ่มนวลอีกครั้ง ปล่อยสองแขนออกจากกันแล้วเอาวางบนที่วางแขนของโซฟา นั่งมองทั้งสองคนราวกับพระผู้มาโปรด
“ฉันกำลังตัดสินใจน่ะว่าจะทำยังไงดีกับเรื่องที่นายทำผิดสัญญาที่นายเซ็นไว้ด้วยความเต็มใจ” แซ็คขบกรามพร้อมกับพ่นลมหายใจด้วยความรู้สึกเหนื่อย
“ฉันขอโทษ” เจค็อบคลี่ยิ้มกว้าง มุมปากของเขายกขึ้นสูงจนไอติมรู้สึกขนลุก
“นายสองคนคบกันรึยังล่ะเนี่ย” แซ็คเหลือบตามองไอติมที่นั่งหันหน้าไปมองทางอื่นครู่หนึ่งก่อนเลื่อนสายตากลับไปมองเจค็อบต่อ
“ยัง” เจค็อบยิ้มขำ เรียกสายตาของไอติมกลับมามองที่ตัวเองอีกครั้ง
“นั่นสินะ ฉันจะแปลกใจมากถ้านายคบกับเด็กนี่” ไอติมย่นคิ้วนิดหน่อยกับประโยคของเจค็อบ หันไปมองแซ็คก็เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้าเครียด
“What weird? (อะไรแปลก)” ไอติมหันกลับไปถามเจค็อบ หนุ่มสูงวัยทำหน้าประหลาดใจ ก่อนจะแสร้งมองไอติมกับแซ็คด้วยความเหลือเชื่อ
“Don’t you know that? He didn’t tell you, hmm? (เธอไม่รู้เหรอ เขาไม่ได้บอกเธอรึไง หืม)” ไอติมส่ายหัวพร้อมกับสีหน้างง หันมองแซ็คก็เห็นว่าเขามองตอบกลับมาด้วยความนิ่ง
“He’s sick. (เขาป่วย)” ไอติมหันกลับไปมองเจค็อบสีหน้าเรียบเฉยแต่จริง ๆ คือกำลังงง
“Sick what? (ป่วยอะไร)”
“เจค ไม่…” แซ็คพยายามห้าม แต่เจค็อบเมินใส่เขา
“He is a philophobia and I think he is going to be satyriasis, completely, soon, I guess. (เขาเป็นฟิโลโฟเบีย และฉันคิดว่าเขากำลังจะเป็นซาไตเรียสิส แบบเต็มตัว เร็ว ๆ นี้ ฉันคิดว่างั้นนะ)” เจค็อบตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ราวกับกำลังเล่าเรื่องราวน่ารัก ๆ ของแซ็คให้ไอติมฟัง เขาเว้นวรรคในช่วงท้ายด้วยท่าทีอารมณ์ดี
ไอติมหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะงงกับคำศัพท์ที่เจค็อบใช้ “What’s that? (มันคืออะไร)”
“What do you want to know first? (อยากรู้อันไหนก่อนล่ะ)”
“เจค ไม่ต้องยุ่งได้มั้ย ฉัยคุยกับเขาเองได้” แซ็คเสียงแข็งและจ้องเจค็อบแข็งกระด้าง เจค็อบหันไปมองแซ็คแล้วยิ้มอ่อนก่อนหันกลับไปมองไอติมอีกที
“Fear of love and hypersexuality. I think google can help you more. (กลัวความรักและใคร่ไม่รู้อิ่ม ฉันคิดว่ากูเกิลช่วยเธอได้มากเลยละ)” แซ็คบิดปากหนึ่งทีพร้อมกับแสดงอาการสีหน้ารำคาญ ไอติมแปลอันแรกได้ และเกิดข้อสงสัยว่าอาการนี้เป็นมายังไง ส่วนอันที่สองไอติมยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่
“นี่ใช่มั้ยที่อยากพูด ถ้าได้พูดแล้ว ฉันขอตัว” แซ็คทำท่าจะพาไอติมลุก เจค็อบเลยโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงอันแข็งแกร่ง
“ที่ฉันถามว่าฉันควรโกรธหรือเปล่า ฉันคิดว่าฉันได้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว” แซ็คชะงัก นั่งลงตามเดิมและมองเจค็อบด้วยความระแวง
“จะเอายังไง แต่ต้องไม่ใช่การส่งไอศกรีมให้พวกนั้นนะ” แซ็คเริ่มออกอาการฉุนเฉียวเพราะรำคาญและหงุดหงิด
“ฉันอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าฉันควรจะทำยังไงดีกับเรื่องสัญญาของเราสองคน กับสิ่งที่นายทำ และสิ่งที่นายควรได้รับ” เจค็อบว่าน้ำเสียงราบเรียบ แต่ทั้งสองก็สัมผัสได้ถึงกระแสความเหี้ยมในน้ำเสียงนั้น ยิ่งกับแซ็คเขาสัมผัสได้มากกว่าไอติม
“ถ้าฉันอารมณ์ดี ฉันจะทำให้นายเจ็บตัวน้อยที่สุด แต่ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดี ฉันก็จะทำให้นายพังที่สุด…” แซ็คกับไอติมมองเจค็อบที่กำลังพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธของตัวเอง แม้ไอติมจะเพิ่งรู้จักเขาไม่นาน แต่บอกได้เลยว่าตอนนี้เขาอยู่ในห้วงอารมณ์โกรธจัดแบบที่พยายามสกัดความโกรธนั้นอย่างเต็มที่
“…นายอาจจะอยากฟ้องฉันกลับในส่วนที่กฎหมายไม่รองรับ นั่นเป็นสิทธิ์ของนาย แต่สิทธิ์ของฉันก็จะยังไม่หายไป หรือถ้าหายไป ฉันก็มั่นใจว่าตัวเองจะยังคงมีสิทธิ์มากกว่านายอยู่ดี” เจค็อบปากสั่น แววตาของเขานิ่งและแข็งกร้าว มองทั้งสองคนแทบไม่กะพริบตา
“ฉันไม่ฟ้องนายหรอกเจค ถ้าฉันทำ ฉันทำไปนานแล้ว ฉันขอร้องนายมาตลอดว่าขอแค่ปล่อยฉันไป” เจค็อบหัวเราะ แต่เป็นการหัวเราะด้วยความไม่พอใจ
“ปล่อยนายไปงั้นเหรอ…” เจค็อบจ้องตาแซ็ค แล้วไอติมก็อ้าปากหวอเมื่อเห็นว่าตาเขาแดงและมีอาการคล้ายคนจะร้องไห้
“…งั้นฉันคงต้องขอเตือนนายก่อนเป็นอย่างแรก” เจค็อบพูดอย่างเยือกเย็น แววตาของเขาไร้อารมณ์ ที่คิดว่าเขาจะร้องไห้ ตอนนี้ไม่มีอาการนั้นให้เห็นแล้ว
“นายจะเอายังไงเจค” แซ็คถามอย่างอดทนอดกลั้น เจค็อบโน้มตัวแล้วยื่นมือขวาไปหยิบบุหรี่ที่ลดเหลือครึ่งมวนขึ้นมาถือไว้
“ความเจ็บปวด เป็นหนึ่งในเครื่องเตือนใจที่ดีที่สุด ยิ่งถ้าเจ็บปวดเพราะคนที่เรารัก ย่อมเตือนใจได้มีประสิทธิภาพ…” เจค็อบเงยหน้าขึ้นมองสองคนตรงข้ามตัวเอง มือซ้ายหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“…นายจะเลือกให้ฉันโทรหาพวกข้างนอกแล้วให้พวกนั้นยกกล้องเข้ามา หรือว่าจะดับบุหรี่ให้ฉันดีล่ะ” เจค็อบมองแซ็คอย่างเรื่อย ๆ ท่าทีไม่รีบร้อนใด ๆ แซ็คขมวดคิ้วมองด้วยความไม่เข้าใจ
“ดับบุหรี่คืออะไร” เจค็อบเลื่อนสายตามองไอติมที่กำลังมีท่าทีระแวง
“ผิวสีขาวขนาดนั้น รอยคงชัดมากพอที่จะใช้มันเป็นเครื่องเตือนใจนายว่าการทรยศคนอย่างฉันไม่ใช่เรื่องที่นายจะ…” แซ็คเบิกตากว้าง
“ไม่!” เขาตะโกนเสียงดังลั่นบ้าน ไอติมหันไปมองแซ็คด้วยความตกใจเพราะเสียงที่เขาใช้นั้นแสนจะดุดัน แล้วพอยิ่งเห็นหน้าของแซ็คตอนนี้ ไอติมยิ่งรู้สึกตกใจ
“ฉันไม่ได้บอกนี่ว่าจำเป็นต้องเลือกข้อนี้ นายยังมีตัวเลือกอีกข้อนึงนะ” เจค็อบยิ้มเย็น แซ็คกัดฟันแน่น มองอีกฝ่ายอย่างโมโห
“จะตัวเลือกไหนฉันก็ไม่เลือกทั้งนั้น!”
“นายควรเลือกนะ เพราะไม่งั้นหกคนในสระว่ายน้ำพร้อมที่จะเป็นพระเอกหนังโป๊เรื่องแรกให้เด็กนี่ทันที” หน้าไอติมช็อค มองเจค็อบที่เหยียดยิ้มด้วยความสนุกสนานตาค้าง
“คิดว่านายจะทำอะไรได้ง่ายดั่งใจไปหมดทุกอย่างเหรอเจค?!” แซ็คถามเสียงกร้าว แขนซ้ายกระชับตัวไอติมเข้าไปติดข้างตัวเองแน่นขึ้น
เจค็อบย่นคิ้วมองแซ็ค มองด้วยความแปลกใจ “นายทำเหมือนไม่รู้จักฉันงั้นแหละแซ็คว่าฉันทำอะไรได้ดั่งใจเสมอ”
“แต่ครั้งนี้ไม่” แซ็คเสียงแข็ง แต่ถึงอย่างนั้นสีหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความหวาดกลัว เขาก้มลงมองไอติมที่หน้าซีดและดูช็อค แซ็คพาไอติมลุกขึ้นเพื่อจะพาไอติมออกไปจากที่นี่
“ถ้านายก้าวออกไปตอนนี้ เท่ากับว่านายเลือกส่งให้เด็กของนายไปเป็นอาหารของพวกนั้น ถึงจะยังไม่ใช่วันนี้ แต่ฉันรับรองเลยว่าต้องมีสักวันแน่นอน…” แซ็คยืนมองเจค็อบด้วยความเคียดแค้น เจค็อบคลี่ยิ้ม
“…โอ นายกำลังคิดให้เด็กนี่กลับเมืองไทยแล้วจะปลอดภัยใช่มั้ยล่ะ” เจค็อบหัวเราะด้วยความตลก
“เจค ฉันขอล่ะ ฉันจะกลับมาอยู่กับนายเหมือนเดิมก็ได้” หนุ่มสูงวัยเลิกคิ้วขึ้น
“No! Don’t come back. (ไม่ อย่ากลับมา)”
“โอ้ว หนุ่มน้อย เธอไม่ต้องกังวลหรอก ฉันไม่รับเขากลับมาแน่นอน แต่ฉันก็ไม่รับประกันว่าเขาจะก้าวหน้าต่อไปได้อย่างที่เขาหวังหรือเปล่า”
“ถ้างั้นก็สู้กันด้วยกฎหมาย ฉันจะไม่ยอมให้นายทำอะไรบ้า ๆ แบบนี้” เจค็อบยิ้มไม่สะทกสะท้าน
“ได้สิ ฉันพร้อม นายย่อมรู้ดีที่สุดว่าฉันพร้อมเสมอ…” แซ็คกำมือขวาแน่น สีหน้าเคียดแค้น เพราะเขารู้อย่างที่เจคว่า
“…ฉันมีความคิดอยู่ว่า ถ้านายตามใจฉันอีกสักสองสามเรื่อง ฉันจะไม่ฟ้องร้องนาย ยกเลิกสัญญาการทำงานระหว่างเรา แล้วหาทางออกสำหรับนายอย่างเหมาะสมที่สุด”
“Cancel the contract, really? (ยกเลิกสัญญา จริงเหรอ)” เจค็อบยิ้มให้กับไอติมที่มองกลับมาอย่างมีความหวัง
“We can make a deal. (เราตกลงกันได้นี่)”
“แต่ฉันไม่ตกลงกับตัวเลือกของนายตอนนี้” แซ็คเถียงเสียงแข็ง
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้บังคับ แต่ถ้านายก้าวออกไป ฉันสัญญาว่าจากที่คิดจะปล่อยให้นายอยู่อย่างสงบ แล้ว
ปล่อยให้เวลาทำงานของมัน ฉันจะเปลี่ยนใจ…” แซ็ครู้สึกอัดอัด อยากเดินเข้าไปต่อยหน้าเจค็อบสักที แต่ไอติมยกมือดันหน้าอกเขาไว้
“…เจ็บแบบฉันบ้างจะเป็นอะไรไป” ไอติมมองเจค็อบด้วยสายตาหวาดหวั่น ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน หันไปมองแซ็คด้วยสายตาครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วหันกลับไปมองเจค็อบต่อ
“Are you sure about the contract? (คุณแน่ใจใช่มั้ยเกี่ยวกับสัญญา)” เจค็อบยิ้มบางและกดหน้าลงหนึ่งครั้ง ไอติมก้าวเท้าเดินออกไป แต่แซ็ครีบคว้าตัวไอติมไว้
“No, ice-cream. You don’t have to sacrifice for me. I’m not gonna appreciate that. (ไม่ ไอศกรีม นายไม่ต้องเสียสละเพื่อฉัน ฉันจะไม่ซาบซึ้งกับมันหรอกนะ)” แซ็คมองไอติมสายตาดุและตำหนิ
“He will cancel contract. It can help you. (เขาจะยกเลิกสัญญา มันสามารถช่วยคุณ)”
“หรืออยากให้ฉันทำก็ได้นะ ฉันชักสนุกแล้วสิ”
“ไม่ต้อง!” แซ็คหันหน้าไปกระแทกเสียงใส่เจค็อบแล้วหันกลับมามองไอติม กระต่ายตัวจ้อยมองด้วยสายตาขอร้องแต่ในขณะเดียวกันก็หวาดกลัว ใบหน้าขาวใสซีดลง แซ็คมองอย่างเจ็บปวดและโกรธเคือง น้ำตาคลอขอบตาล่างของแซ็ค ตาขาวแดงแบบที่ไอติมแยกไม่ออกเพราะฤทธิ์กัญชาหรือเพราะเขาพยายามจะไม่ร้องไห้ออกมา
“เอาบุหรี่มานี่” แซ็คหันไปหาเจค็อบในที่สุด แม้จะตาแดงแต่เขาก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ แม้จะกลัวแต่ก็พยักหน้าสองสามทีเป็นการบอกแซ็คว่าตัวเขานั้นโอเค
“Wait,” ไอติมหันไปพูดกับเจค็อบที่เดินถือบุหรี่ควันฉุยและยิ้มพอใจ หนุ่มสูงวัยหยุดยืนห่างจากทั้งสองคนในระยะไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป ไอติมหันไปเปิดกระเป๋าเป้ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดเข้ากล้องถ่ายรูปแล้วเลือกโหมดวิดีโอ
“Say that word again that you will cancel the contract. (พูดประโยคนั้นอีกครั้งที่คุณบอกว่าจะยกเลิกสัญญา)” เจค็อบเผยอปากแวบหนึ่งแล้วก็ยิ้ม หรี่ตามองไอติมชั่วสั้น ๆ จากนั้นก็พยักหน้าพร้อมกับหัวเราะในลำคอ
“ฉันสัญญาว่าจะ
ยกเลิกสัญญาการทำงานของฉันกับแซ็ค จะไม่ฟ้องร้องเขาหากเขาทำตาม
เงื่อนไขของฉัน และยอมรับหนทางอัน
เหมาะสมกับเขาที่ฉันจะหาให้…” เจค็อบมองทั้งสองคนหลังจากพูดจบ
“…แล้วนายล่ะ จะยอมรับเงื่อนไขของฉันหรือเปล่า”
“ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเงื่อนไขของนายคืออะไร” แซ็คพยายามกดอารมณ์โกรธ
“อย่าคิดในแง่ร้ายนักเลยน่า เพราะสิ่งที่ร้ายกว่าคือจำนวนเงินที่นายต้องจ่ายให้ฉันถ้าถูกฟ้องร้องเรื่องผิดสัญญาขึ้นมา นายรู้อยู่แล้วว่ามันแย่แค่ไหน” เจค็อบเลิกคิ้วขึ้น ท่าทางของเขากำลังสนุกที่ได้เล่นเกม ไอติมมองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว
“เอางี้แล้วกัน ถ้าเงื่อนไขนั้นมันทุเรศเกินนายจะรับได้ นายมีสิทธิ์ปฏิเสธ แต่ฉันมั่นใจว่านายจะตอบรับมัน” แซ็คย่นคิ้ว เจค็อบยิ้มละมุน มองทั้งสองคนอย่างสบาย ๆ ไอติมมองเจค็อบอย่างไม่ไว้ใจกับความคิดของผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าเงื่อนไขนั้นจะเป็นแบบไหน แต่มันต้องเป็นสิ่งที่ไม่ได้ดีไปกว่าการถูกฟ้องร้องแน่นอน
หากไม่ยอมรับตัวเลือกของเขาวันนี้ เขาก็จะตามกัดไม่ปล่อย แต่ในขณะเดียวกันถึงยอมรับไป ก็ใช่ว่าเรื่องจะจบ แซ็คบอกจะกลับมาอยู่กับเขาตามเดิม เขาก็ปฏิเสธไม่รับกลับมา
เจค็อบเลือกแล้วว่าจะเหยียบพวกเขาให้ถึงที่สุด วันนี้ได้เหยียบครั้งแรก และเขาจะยังตามเหยียบต่อไป
“ว่าไงล่ะ” ไอติมหันมองแซ็ค และคิดว่าแซ็คคือคนที่รู้มากกว่าเขาว่าเจค็อบเป็นยังไง และกำลังคิดอะไร และสามารถทำอะไรได้บ้าง สุดท้ายแซ็คยื่นมือออกไป เจค็อบคลี่ยิ้มกว้างแล้วยื่นบุหรี่ให้แซ็ค ขวัญใจไอติมรับมาถือไว้ในมือทั้งที่สีหน้าไม่เต็มใจ
“…เจ็บปวด แต่ก็งดงามไปด้วยความรัก ความเสียสละ จริงมั้ย” เจค็อบยิ้มแย้ม แววตาเปล่งประกายวิบวับ ไอติมหันมองหน้าแซ็คที่มองกลับมาอย่างเศร้าสร้อย ไอติมพยักหน้าอีกครั้ง
“I’m sorry. (ฉันขอโทษ)”
เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้น้องต่าย
พี่อั้น
เจค็อบ