|:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]  (อ่าน 148846 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
โล่งอกไปที ที่แท้เป็นเด็กของนี่เองที่อยู่ในห้อง  :katai2-1:

ออฟไลน์ องศาวาย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไอติมเด็ดขาดไปเลยนะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
สรุปว่าน้องติมไปเห็นอะไร???   :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยกมือขอเปลี่ยนพระเอกเป็นเดนนี่ค่ะ ไม่อยากให้ลูกเราชอกช้ำ :katai1:

แซ็คเหมือนยังไม่สำนึก ยังหลอกล่อน้องติมด้วยแครอท ไม่มีอาการสลดใดๆ

อยากให้ขุ่นเจ้ลงโทษนางค่ะ :katai4:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
แซ็คไม่พูดแะไรให้เคลียเลย ไม่โอเคกัยไอติม น้องจะรู้ตัวมั้ยว่า เริ่มรักแซคแล้ว

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
สรุปไอติมเห็นอะไรในห้องลูก  :katai1:

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คิดว่าคนที่อยู่กับแซ็คในห้องตอนนั้นคือเจค็อบเพราะติมดูไม่พอใจตอนเห็นนางเดินลงมา เดาอีกว่าเจคคือหนึ่งในลูกค้าวีไอพีของแซ็ค ไอติมตอนโดนทำร้ายน้องจะเจ็บมากมั้ยคะ ฮือ แต่เดี๋ยวก็กลับไทยแล้ว กลับแล้วคงยาวเลยใช่ไหม จริงๆสงสารแซ็คนะดูเหมือนปมในชีวิตจะเยอะมากกกกก แต่รำคาญมากกว่าเพราะนางก็เลือกเองทั้งนั้น ชีวิตตัวเองใครจะบังคับอะไรได้นักหนา

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เด็ดเดี่ยวมากลูก มาหอมหัวหนึ่งที

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เราว่าเหตุการณ์ในห้องที่ไอติมเห็นมันอาจไม่ใช่แค่เจคอบอ่ะ
อาจจะร้ายแรงกว่านั้นแบบ Threesome ไม่ก็ BDSM หรือ Fetish
แบบที่ทำให้ไอติมรับไม่ได้อ่ะ เพราะตอนเล็กซี่ ติมดูเหมือนรับได้มากกว่านี้นะ
ดีใจที่ไอติมโตขึ้น ก้าวข้ามความหลงไหลที่เรามองเห็นในตอนแรกไปแล้ว
ดีมาก ย้ำอีกครั้งว่าหนีไปกับป๋าลูคัสเลย เค้ารวยและแซ่บกว่าไอ้คนนี้รูกกก
 :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust - Chapter 34 :: House. (บ้าน)





   ไอติมลืมตาตื่นตอนเช้ากับความรู้สึกแปลกใหม่ในบ้านใหม่ ถึงจะเป็นอพาร์ทเม้นต์แต่ไอติมรู้สึกอยากเรียกว่าบ้านมากกว่า ไอติมหันไปมองข้างข้างกายก็เห็นเพียงความว่างเปล่า ร่างผอมบางลุกขึ้นนั่งใช้นิ้วชี้สองข้างเขี่ยขี้ตาตรงหัวตาออก หันไปหยิบโทรศัพท์มากดดูหน้าจอก็เห็นว่าเป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว ได้ยินเสียงรถวิ่งผ่านไปมาบนท้องถนนด้านหน้า แต่ก็ไม่ได้เสียงดังวุ่นวายอะไรมาก และแม้จะไม่ถึงกับได้ยินเสียงคลื่น แต่แค่รู้ว่ามองจากระเบียงห้องก็เห็นทะเล ก็ทำให้ไอติมรู้สึกสดชื่นขึ้นแล้ว
   

“Good morning. (สวัสดีตอนเช้า)” ไอติมเงยจากโทรศัพท์หันไปมองแซ็คแล้วคลี่ยิ้มให้ เกือบจะชะงักเพราะแซ็คอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าทั้งตัว มีเพียงสร้อยจี้กระต่ายสีทองอ่อนเท่านั้นที่อยู่บนเนื้อ ในมือขวาถือโทรศัพท์ สภาพผมเผ้าเขาเหมือนคนเพิ่งตื่น ให้เดาคงเดินไปเข้าห้องน้ำมา และคงตื่นก่อนหน้าเขาไม่นาน
   

“Good morning.” ไอติมทักตอบพร้อมกับรอยยิ้ม เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเขาก็เข้านอนด้วยสภาพนี้
   

“Hungry? (หิวมั้ย)” ไอติมพยักหน้า
   

“I called Leo and asked him buy some food for us because we don’t have any food in our new house yet. (ฉันโทรหาเลโอและฝากให้มันซื้ออาหารมาให้เราแล้ว เพราะไม่มีอาหารอะไรเลยในบ้านใหม่เรา)” ไอติมยิ้มกับกับว่า บ้าน เขาเองก็คงชอบเรียกที่นี่ว่าบ้านเหมือนกัน
   

“Thank you. (ขอบคุณฮะ)” แซ็คเอาโทรศัพท์ไปวางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ชิดกับมุมห้องฝั่งไอติมนอน หนุ่มเอเชียเดินลงจากเตียง ตอนกำลังเดินผ่านฝรั่งก็โดนฝ่ายนั้นใช้แขนซ้ายรัดเอวเอาไว้แล้วดึงไปแนบชิดติดกับตัว ไอติมแหงนหน้าขึ้นไปมอง แซ็คยิ้มบางก่อนก้มลงจูบปากไอติมหนึ่งที ไอติมย่นคิ้วเพราได้กลิ่นเหม็นของอะไรบางอย่าง
   

“You smoking marijuana? (คุณสูบกัญชาเหรอ)” แซ็คยิ้มตาเยิ้ม ใบหน้าเคลิ้มนิดหน่อย ไอติมมองเขาด้วยความเป็นห่วง แซ็คก้มหน้าหอมแก้มไอติมหนึ่งฟอด ไอติยิ้มไม่เต็มปากนัก
   

“I will go to toilet. (ผมจะไปห้องน้ำ)” แซ็คหัวเราะเสียงทุ้ม จูบต้นคอของไอติมไปหนึ่งที
   

“Okay, rabbitch.” แซ็คปล่อยแขนออกจากตัวไอติม กระต่ายตัวจ้อยยิ้มแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องนอน ตรงไปยังห้องน้ำ เพื่อเข้าไปฉี่ กลิ่นฉุนของกัญชารบกวนสมองของไอติม ทำให้รู้สึกมึนนิดหน่อย
   

พอฉี่เสร็จไอติมก็เดินออกมายืนกลางห้องโถง ประตูห้องนอนเปิดอยู่ ไอเย็นของแอร์เลยแผ่ออกมาด้านนอก ไอติมยืนมองแซ็คนอนห้อยขาตัวเปลือยอยู่บนเตียง ใบหน้ากำลังยิ้มเยิ้ม เคลิบเคลิ้มไปกับฝ้าเพดานห้องนอน ไอติมพ่นลมหายใจ หันหน้าไปมองทางระเบียง เห็นวิวข้างนอกผ่านผ้าม่านสีครีมที่แหวกออกเป็นช่องขนาดเท่าตัวคน ไอติมหันกลับไปมองในห้องนอนแล้วก้าวเท้าเดินเข้าไปในนั้น เดินผ่านแซ็คที่นอนมองเพดานตาหวานไปหยิบโทรศัพท์แล้วก้าวเดินออกไปจากห้อง เดินตรงไปทางระเบียงขณะที่มือก็กดโทรศัพท์ไปด้วย
   

ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด…
   

ไอติมนั่งลงบนเก้าอี้ไม้เก่า ๆ หนึ่งตัวที่มีอยู่ก่อนพวกเขาจะเข้ามาอยู่แล้ว สายตามองไปยังผืนทะเลสีคราม เกิดความรู้สึกสงบขึ้นในจิตใจและรู้สึกปลอดโปร่งกับอากาศและแสงแดดในยามเช้า
   

[ว่าไงจ๊ะหลานชาย] เสียงน้าแพนดังมาตามสายพร้อมกับเสียงอึกทึกเล็กๆ
   

“น้าแพน ยังไม่หลับใช่มั้ย”
   

[ฮู้ย ยัง นั่งดื่มไวน์ ดูลอร์ดออฟเดอะริงอยู่กับเพื่อนสาวเนี่ย กว่าจะนอนก็อีกนาน] ไอติมยิ้มดีใจที่ได้ยินเสียงน้า จริง ๆ อยากโทรหาแม่ แต่คิดว่าเรื่องนี้คุยกับน้าแพนน่าจะเหมาะกว่า
   

“ดีเลย น้องติมมีเรื่องจะปรึกษา”
   

[ปัญหาหัวใจล่ะซี้] ไอติมตาโตอ้าปากหวอ
   

“โอ๊ะ น้าแพนรู้ได้ไงอะ” เสียงอึกทึกหายไป ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะเบา ๆ ของน้าแพน
   

[เดาเอา แต่ถูกเหรอ] ไอติมเปลี่ยนเป็นหัวเราะ
   

“อื้อ ถูก ติมอยากถามกูรูผู้มีประสบการณ์”
   

[อะ จัดมา ฝรั่งแซ่บคนนั้นเขาทำให้จิตใจว้าวุ่นแค่ไหน เดี๋ยวน้าแพนจะช่วยหาบทสรุป] ไอติมหัวเราะคิกคัก แต่สักพักก็ทำหน้ามู่และพ่นลมหายใจพรืด
   

“เขาเป็นพระเอกหนังโป๊ใช่เปล่าล่ะ…”


[อือฮึ น้าดูผลงานเขาละ ตาถึงนะเราน่ะ] ไอติมยิ้มเขินตาหยี ก่อนเปลี่ยนเป็นหน้ายู่


“…คือน้องติมเห็นเขาเอากับคนอื่นในหนัง น้องติมโอเค แต่น้องติมเห็นเขาเอากับคนอื่นนอกจอด้วย น้องติมไม่โอเค มันใจหวิว ๆ ยังไงก็ไม่รู้”


[หึงเขาอะสิ] ไอติมตาโต


“โอ๊ะ หึงเหรอ หึงเลยเหรอน้าแพน”


[แล้วน้องติมคิดว่ามันเป็นอาการอะไรได้อีกบ้าง] น้าแพนถามน้ำเสียงปกติ ไม่ได้ประชดประชัน แต่ถามเผื่อว่าหลานชายจะมีคำตอบอื่นจากความรู้สึกของตัวเขาเอง


ไอติมนิ่งคิด กะพริบตาปริบ ๆ มองแก๊งค์ผู้ชายฝรั่งวัยรุ่นถอดเสื้อปั่นจักรยานไปทางท่าเรือแบบล่องลอย “ไม่รู้อะน้าแพน…”


[…] น้าแพนเงียบ ไม่ได้คิดเร่งรัดเอาคำตอบ 


“…น้องติมไม่รู้ว่าความหึงมันเป็นยังไง ไม่รู้ว่ามันใช่แบบที่น้องติมรู้สึกอยู่รึเปล่า” แพนยิ้มอย่างเอ็นดูกับความรู้สึกของหลานชาย


[น้องติมอยากเห็นภาพแบบนั้นอีกมั้ยล่ะ นอกจอน่ะ] ไอติมนึกถึงเมื่อวานนี้ที่คุยกับแซ็คเรื่องผู้หญิงของเขา ว่าถ้าพามาห้องนี้ แล้วตัวเองจะไปอยู่ไหน ตอนนั้นไอติมรู้สึกเลยว่าความรู้สึกมันออกไปทางกระฟัดกระเฟียดปนน้อยใจ


“ไม่อยาก…” ไอติมตอบเสียงอ่อย


“…แต่น้องติมเข้าใจเข้านะ”


[เข้าใจว่า?]


“เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องปกติของเขา”


[เรื่องเซ็กซ์ เป็นเรื่องปกติของทุกคน มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถามว่ามันจำเป็นต้องมีมั้ย ไม่มีก็ไม่ตาย…] ไอติมได้ยินเสียงน้าแพนดื่มน้ำสองสามอึกก่อนพูดต่อ


[…แต่สำหรับเขา อันนี้ความคิดน้านะ น้าว่ามันก็น่าจะปกติของเขาแหละที่จะมีนอกรอบ เพราะทำงานด้านนั้น จะมีนอกจอในจอ น้าว่ามันก็เป็นการมีเซ็กซ์เหมือนกัน]


“อื้อ” ไอติมรู้ตามนั้น ตามที่น้าแพนว่า


[แล้วเขาก็อยู่กับอะไรแบบนี้มานาน มันน่าจะเป็นหนึ่งในนิสัยของเขาไปแล้วมั้ง]


‘การมีแฟนไม่เหมาะกับฉัน’ คำพูดของแซ็คดังขึ้นในหัว


“ละติมต้องทำไงอ่าน้าแพน”


[ตอนนี้น้องติมไม่ได้เป็นอะไรกับเขา อาจจะเข้าใจเขา มองว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา แต่ถ้าคบกันล่ะ]


“งั้นน้องติมต้องเป็นแฟนกับเขาก่อนเหรอ” แพนหัวเราะด้วยความเอ็นดู ไอติมยิ้มกว้างและหัวเราะอิ๊อ๊ะ


[ถ้าตกลงกันได้ก็เป็น แต่มุมมองน้องติมจะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า น้องติมจะหึงเขามากกว่าตอนที่ไม่ได้เป็นแฟนกันมั้ย]


“สรุปน้องติมหึงเขาเหรอ”


[น้าก็ว่าหึงนะ ไม่น่ามีคำอื่นแล้ว หวงไม่น่าใช่ เพราะน้องติมดูเข้าใจการทำงานของเขา]


“ฮะ น้องติมเข้าใจจริงๆ”


[ซึ่งเป็นเรื่องดีนะลูกที่น้องติมเข้าใจ ถ้าไบรอั้นเขายังทำงานด้านนี้อยู่ เขาต้องคลุกคลีกับผู้หญิงอีกหลายคน]


“แล้วถ้านอกงานเขาก็คลุกคลีผู้หญิงอีกล่ะน้าแพน ติมก็ต้องเข้าใจเขาด้วยเหรอ”


[อันนี้หมายถึงถ้าน้องติมคบกับเขาใช่มั้ย เพราะถ้ายังไม่ได้คบ น้องติมก็ต้องทำใจ เพราะนั่นมันเรื่องของเขาคนเดียว ไม่ใช่ของเรา]


“สมมุติถ้าคบล่ะ”


[ก็ต้องเรียนรู้กันไป แล้วหาจุดกึ่งกลางระหว่างเราสองคน]


“น้าแพนพูดเหมือนว่าเขาจะไม่เลิกนิสัยนี้”


[อันนี้น้าไม่รู้หรอก และน้าจะไม่บอกด้วยว่าถ้าเขารักไอติมมากพอ เขาจะไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ เพราะความรักไม่ใช่สูตรสำเร็จทั้งหมดของความสัมพันธ์ ผู้ชายบางคนรักเมียรักลูกมาก แต่ก็ต้องการรสชาติเซ็กซ์ใหม่ ๆ เมียก็เลือกจะปิดตาข้างนึงตราบใดที่ผัวเขาปฏิบัติต่อครอบครัวเหมือนเดิม]


“อืมมม”


[ความคิดและมุมมองของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าทำแล้วตัวเรามีความสุขมั้ย อยู่กับมันได้หรือเปล่า]


“เหมือนพ่อเลยอะดิ”


[เคสแม่เรากับพ่อเรานี่น้าว่าต่างจากคนที่เขาเลือกปิดตาข้างนึง คือแม่เราน่ะไม่ปิดตา รับรู้หมด และไม่ยอม ไม่พอใจ แต่ไม่ตามราวีใคร เขาอยู่เพราะติม แต่พอติมบอกว่าอยู่กับแม่กับน้าได้ ชีก็เชิ่ดใส่ผัวเลยเห็นมั้ยล่ะ ชีวิตคู่แต่ละคนมีสไตล์ไม่เหมือนกันหรอกนะ คู่ใครคู่มัน ปัญหาใครปัญหามัน ทางออกแต่ละคู่ย่อมไม่เหมือนกัน เพราะต่อมความรู้สึกมันคนละต่อม] ไอติมพยักหน้าทั้งที่น้าแพนไม่เห็น


“แล้วสมมุติถ้าเขารักติม เขาจะไม่เลิกนิสัยแบบนี้จริงดิ”


[อันนี้ก็ต้องลองคบ ลองรักกันก่อน ถึงจะตอบได้] ไอติมร้องหูวเบาๆ


“ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าเขาคิดยังไงกับติม”


[แล้วติมล่ะคิดยังไงกับเขา เอาคำตอบจากตัวเองให้ได้ก่อน พอได้จากตัวเอง ก็ไปถามเขา]


“หูย น้าแพน มันไม่ใช่ง่าย ๆ น่า”


[น้ารู้ แต่เราถามให้เคลียร์ มันจะดีต่อใจและความรู้สึกของเรามากกว่ามั้ย ถ้าเขาไม่ชอบ ติมก็ยอมรับความเสียใจนั้น แล้วบอกกับตัวเองว่าจะเอายังไง ดีกว่าปล่อยให้มันล่องลอยจับต้องอะไรไม่ได้เปล่า ยิ่งปล่อยไว้ยาวความรู้สึกเรายิ่งย่ำแย่นะ]


“แต่ถ้าผลมันออกมาไม่ใช่อย่างที่น้องติมคิด มันก็แย่อยู่ดีอะ”


[มันแย่แค่ทีนั้นทีเดียวเปล่าลูก ถามแล้ว ได้คำตอบชัดแล้วว่าเขาโน เจ็บจุดนั้น เจ็บหนักครั้งเดียว ดีกว่าให้อะไรที่ติมเห็นมากร่อนความรู้สึกไปเรื่อย ถ้าเขาโน ติมก็ต้องคิดกับตัวเองว่าจะเอายังไง อยู่ต่อแล้วค่อย ๆ สมานแผลใจ หรือจะขอกลับมาไทยก็ได้นี่ กลับมาพักใจ น้าว่าดีกว่าปล่อยให้มันเป็นไปแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้] สีหน้าไอติมครุ่นคิดและค่อนข้างเครียด คนอื่นอาจไม่เครียด แต่สำหรับคนไม่เคยสนใจความรักอย่างไอติมมันเป็นเรื่องเครียด


“น้องติมกลัวผิดหวัง”


[คนเราจะสมหวังไปซะทุกเรื่องไม่ได้หรอกนะติม]


“โอ๊ะโห”


[จริง สมหวังทุกเรื่องเป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าครั้งนี้ผิดหวัง น้องติมก็เรียนรู้เอาไว้] ไอติมหน้างอง้ำ


“งั้นติมไม่อยากรู้แล้ว” แพนหัวเราะเบาๆ


[ก็แล้วแต่ แต่ติมจะไม่อึดอัดใช่มั้ย และติมต้องอยู่อย่างเข้าใจเขาซะตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่แหละดีที่สุด]


“ติมอยากย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ตอนนี้ติมอยู่กับเขาสองคน”


[ก็ได้นี่ลูก ถ้าติมต้องการ เราไม่ได้ยากจนขนาดนั้น แม่กับน้าดูแลติมได้] หัวใจไอติมเต้นตึกตักพอคิดว่าตัวเองจะย้ายออก


“…”


[แต่ติมแน่ใจรึเปล่าว่าไม่อยากอยู่กับเขาแล้วจริงๆ] ไอติมมองชายหาดสีขาวเหลืองด้วยความสับสน


“เขาติดกัญชาด้วยอะ น้องติมไม่ค่อยชอบ ตอนเขาเมา ๆ เคลิ้ม ๆ มันทำให้นึกถึงพ่อ” ไอติมไม่ได้ยินเสียงน้าแพนตกใจหรือรู้สึกประหลาดใจอะไรเป็นพิเศษ


[ถ้าอยากออกก็บอก ก็แค่หาที่อยู่ใหม่ หรือติมอยากจะไปอยู่กับใครก็ไป เอาที่ติมสะดวกและไว้ใจ หรืออย่างที่บอก อยากจะกลับบ้านก็ได้]


“กลับเดือนมีนาแหละหน้าแพน ต้นเดือนนั้นมันครบสามเดือนพอดี ตอนนี้งานกำลังไปได้ดี เงินเดือนฝากลูคัสไว้ฮะ”


[ลูคัสที่เคยสไกป์คุยกันรึเปล่า]


“ใช่ฮะ”


[อ้อ ก่อนกลับอย่าลืมให้เขาโอนเงินให้ล่ะ]


“อื้อ…” ไอติมเม้มปาก สายตามองท้องฟ้าสีฟ้าสดใส


“…ติมจะรวบรวมความกล้าลองถามเขาดู ส่วนเรื่องย้ายออก ติมขอดูสถานการณ์หลังจากคุยกันได้มั้ยน้าแพน เผื่อเขาบอกชอบติมอะ แฮะๆ”


[ฮู้ยยย] แพนหัวเราะหลานชายอย่างเอ็นดูอีกครั้ง นึกหน้าหลานออกว่ายิ้มหน้าตาน่ามันเขี้ยวแค่ไหน


[ก็แล้วแต่ ยังไงก็ได้ แต่จำไว้ว่าชีวิตติมไม่ใช่คนจนตรอก อยู่ไม่สะดวกก็แค่กลับมาไทย แค่นั้นเอง] ไอติมยิ้มชื่นใจ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะ


“ฮะ คิดถึงนะน้าแพน เดี๋ยวติมโทรหาแม่ก่อน แค่โทรไปคุยด้วย ไม่เล่าหรอก”


[จ้ะ ดูแลตัวเองดี ๆ มีอะไรก็โทรหาน้ากับแม่ได้เสมอ หรือถ้าเหตุด่วนเหตุร้ายอะไร บอกเพื่อนน้าได้เลย ทุกคนพร้อมไปช่วย] ไอติมได้ฟังแล้วรู้สึกฮึกเหิม ฟังแล้วรู้สึกไม่เหงากายเหงาใจ


ไอติมวางสายจากน้าแพน โทรคุยไปเกือบครึ่งชั่วโมงแบบไม่สนใจค่าโทร สิ้นเดือนบิลมาคงหน้าซีด แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าไอติมจะโทรคุยกับแม่กับน้าบ่อยซะเมื่อไหร่


“ฮาโหล แม่”


[จ้า ตื่นแล้วเร้อ] ไอติมหัวเราะ ก่อนจะนั่งคุยกับแม่ไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้เล่าเรื่องราวความรู้สึกของตัวเองมากมาย เพราะได้รับความสบายใจจากการคุยกับน้าแพนมาแล้ว ที่คุยกับแม่ก็เป็นเรื่องทั่วไปของแม่ ร้านอาหาร จัมโบ้กับปีโป้ แม่เล่านั่นเล่านี่ไปเรื่อย ไอติมคิดว่าแม่จะเหงา แต่แม่ไม่เหงาเลย แม่มีเพื่อนมานอนบ้านด้วยบ่อยมาก บางทีน้าแพนก็มานอนด้วย และแม่เองก็ทำงานทั้งวันเกินกว่าจะเหงาได้


ก๊อกๆๆ


“โอ๊ะแม่ มีคนมาเคาะประตูห้องแหละ น้องติมต้องไปก่อน”


[จ้า ดูแลตัวเองนะ เดือนหน้าหน่อย ๆ เจอกัน]


“ฮะแม่” ไอติมกดวางสายจากแม่ ลุกเดินกลับเข้าไปในห้อง เลื่อนประตูปิดตามหลัง เดินไปส่องตาแมวก็เห็นว่าเป็นเลโอยืนอยู่ ไอติมยิ้มด้วยความตื่นเต้นที่ได้เจอพ่อคิงคองอีกรอบ ร่างผอมบางดึงประตูเข้ามา


“Hi!” ไอติมเอ่ยทักเสียงใสพร้อมรอยยิ้มกว้าง เลโอยิ้มกว้างตอบ ยิ้มแบบคิงคองที่ไอติมเรียก ไอติมอมยิ้มขำกับรอยยิ้มนั้น


“Hello, my dear. (สวัสดีที่รัก)” ไอติมยิ้มหวาน มองถุงกระดาษสีน้ำตาลกับถุงพลาสติกเต็มสองมือเลโอก็รีบดึงออกมาจากมือขวาของเขาเพื่อช่วยถือ ไอติมเอาของวางบนเค้าน์เตอร์ครัว เลโอเดินเข้ามาในห้องและปิดประตูห้องให้ตามหลัง เอาของไปวางไว้บนเค้าน์เตอร์ครัวบ้าง


“I miss you so much. (ฉันคิดถึงนายมาก)” เลโอก้มลงจูบปากไอติมหนึ่งทีแล้วดึงตัวขึ้นไปยืนตามเดิม ไอติมอมยิ้มเขิน เลโอยักคิ้ว


“Your bag, there, there. (กระเป๋าคุณ ตรงนั้น ตรงนั้น)” ไอติมทำท่าให้ไอเลโอถอดกระเป๋าเป้ออกและชี้โซฟา เลโอยิ้มมุมปากแล้วใช้สองมือถอดกระเป๋าเป้ใบใหญ่ กำลังจะก้าวเท้าเดินผ่านห้องนอนก็ชะงักมองเพื่อนที่นอนเปลือยกายอยู่บนเตียง


“Is he drunk? (มันเมาเหรอ)”


“อื้อ marijuana (กัญชาน่ะ)” เลโอเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับเบ้ปากน้อย ๆ ก่อนพยักหน้าสองสามที เดินเอากระเป๋าเป้ใบใหญ่ไปวางพิงโซฟา


“Hungry? (หิวมั้ย)” ไอติมพยักหน้า เลโอยิ้ม มองไอติมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาชื่นชม


“You look pretty as usual. (นายน่ารักเหมือนเดิมเลย)” ไอติมยิ้มเขิน มองเลโอทั้งเนื้อทั้งตัวแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม เสื้อกล้ามบาสเก็ตบอลสีน้ำเงินขับผิวสีน้ำตาลเข้มของเขาให้ดูน่ามองยิ่งขึ้น


“You sexy.” ไอติมกัดริมฝีปากล่าง เลโอยักคิ้ว กำลังจะเลื่อนหน้าเข้าไปจูบไอติมอีกรอบแต่ก็ชะงักไว้


“มาถึงก็ลวนลามคนอื่นเลยเหรอ” แซ็คที่กำลังพันผ้าขนหนูสีขาวรอบเอวยักคิ้วให้เพื่อนหนึ่งที เลโอกลอกตาและยืดตัวตรง ไอติมมองขวัญใจตัวเองด้วยความงุนงงนิดหน่อย


“แกฟื้นแล้วเหรอ” แซ็คไหวไหล่แล้วก้าวเท้าเดินออกไปยืนระหว่างกลางทั้งสองคน


“มืออาชีพก็งี้” เลโอบิดปาก แล้วหันมองไอติมที่หันไปแหวกถุงอาหารที่ซื้อมา แซ็คเดินเข้าไปหาไอติมแล้วใช้แขนซ้ายคล้องเอวก่อนก้มลงจูบขมับไอติมไปที ไอติมแหงนหน้ามองพ่อฝรั่งด้วยความเหลอหลา แซ็คคลี่ยิ้มแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะหายเข้าไปก็ยักคิ้วเย้ยเลโอที่เบะปากตอบกลับ


ไอติมกลอกตาไปซ้ายทีขวาที หัวใจเต้นตึกตัก นึกถึงที่คุยกับน้าแพนก่อนหน้านี้แล้วหัวใจก็ยิ่งเต้นแรง สองมือหยิบอาหารออกจากถุงเชื่องช้า พ่นลมหายใจออกยาว ๆ แล้วก็เริ่มจะตัดสินใจได้มากขึ้น


“Oh, chicken. (โอ้ ไก่)” ไอติมหันไปยิ้มให้เลโอที่กำลังช่วยแกะห่อกระดาษ พ่อคิงคองหนุ่มมองหาจานหรือถ้วยสักอันบนเค้าน์เตอร์แต่ก็ไม่มี


“We move here yesterday we don’t have things much. (เราย้ายมานี่เมื่อวานนี้ เราไม่มีของอะไรมาก)”


“Okay.” ดีที่อาหารที่เขาซื้อมานั้นไม่ต้องใส่จานก็ได้ สองคนช่วยกันแกะฟลอยด์ห่อไก่ แกะกระดาษห่อเบอร์เกอร์ และกล่องใส่สเต๊ก ถือเอาไปวางบนโต๊ะไม้ตัวเก่าของห้องจนเต็ม จังหวะนั้นแซ็คเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพหัวเปียก ใบหน้าชุ่มไปด้วยหยาดน้ำ


“Come to eat. (มากินฮะ)” ไอติมเรียกแซ็ค ฝรั่งเปลือยกายท่อนบนเดินยิ้มเข้ามานั่งข้างไอติมที่นั่งพิงโซฟาอยู่ด้านล่าง


“ถ้าฉันไม่เห็นแก่เงินว่ามันประหยัด ฉันจะไม่มาอยู่กับแกเลยจริงๆ” เลโอบ่นสีหน้าขึงขังในขณะที่ใช้มือฉีกสเต๊กออกแล้วเอาเข้าปาก


“แกจะออกไปอยู่ข้างนอกก็ได้นะ หรือจะไปอยู่กับลูคัส แอนโทนี่ คนไหนก็ได้ หรือจะไปอยู่กับเจคก็แล้วแต่” เลโอมองค้อนเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ หันไปมองไอติมที่นั่งเคี้ยวไก่ทอดตุ้ยๆ


“ถ้าเควินมันน่ารักอย่างไอศกรีม ไม่เจ๊าะแจ๊ะ ก็จะไปอยู่หรอก” แซ็คหัวเราะขณะที่เคี้ยวเบอร์เกอร์เต็มปาก


“หมอนั่นมันรักแกน่า”


“ขอบคุณที่รักกัน” แซ็คยิ้มขำ


“ช่วงที่ฉันไม่อยู่ แกได้ทำชั่วกับไอศกรีมรึเปล่า” แซ็คเบะปากและทำลอยหน้าลอยตา หันไปมองไอติมที่กำลังวุ่นวายกับการกินอยู่


“จะพูดอะไรก็ระวังหน่อย ตอนนี้เด็กนี่เก่งภาษาอังกฤษขึ้นเยอะ” เลโอเบ้ปาก


“ดีสิ ไอศกรีมจะได้รู้ว่าแกน่ะเลว” แซ็คที่เคี้ยวเบอร์เกอร์จนแก้มอูมชูนิ้วกล้างข้างซ้ายให้เลโอ และไม่ต่อความยาวสาวความยืดใด ๆ พาเปลี่ยนไปเรื่องอื่นแทนที่จะพูดถึงเรื่องนี้


“เดี๋ยวพวกลูคัสจะมาฉลองบ้านใหม่ แล้วก็คุยกับแกเรื่องงาน”


“คุยธุรกิจในวงเหล้างั้นเหรอ”


“ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกรึเปล่า” เลโอมองไปรอบห้องขณะที่เคี้ยวเนื้อสเต๊ก ห้องโถงยังโล่ง ๆ ไม่มีอะไรให้เห็นมากนัก


“ห้องแกแทบไม่มีของใช้อะไร จานก็ไม่มี ช้อนก็ไม่มี”


“ฉันเลยว่าจะออกไปซื้อกับกระต่ายลามก แล้วแกอยู่เฝ้าห้องไปก่อน” เลโอย่นคิ้ว


“ฉันไปด้วยไม่ได้รึไง” แซ็คส่ายหัว


“ไปทำไม เป็นแค่ผู้อาศัย ก็อาศัยไปเถอะ”


“เออ” แซ็คหันไปคุยกับไอติมว่ากินเสร็จให้ไปอาบน้ำแล้วจะได้ออกไปชอปปิ้งมอลด้วยกัน เพื่อหาซื้อของใช้เข้าห้อง ไอติมพยักหน้าและดูดนิ้วโป้ง


พอกินอิ่มไอติมก็ลุกเดินเข้าไปในห้องนอน หยิบเสื้อผ้าออกมาจากตู้เสื้อผ้าเพื่อเอาเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ ปล่อยให้สองหนุ่มคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ไอติมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำยี่สิบนาทีก็เดินออกมาหลังทาครีมเสร็จ


“I’m ready. (ผมพร้อมแล้วฮะ)” ไอติมในชุดกางเกงสีขาวขาสั้นกับเสื้อโปโลสีชมพูบอกแซ็คหลังจากตากผ้าขนหนูไว้ด้านนอกเสร็จเรียบร้อย แซ็คลุกเดินเข้าไปในห้องนอน ไอติมเดินตามเข้าไปหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองออกมา แซ็คคลี่เสื้อยืดสีดำแล้วสวมใส่ขณะที่เท้าก้าวออกมาห้องโถงแล้ว


“แกจำลูคัสได้ใช่มั้ย” เลโอนิ่งคิดสักแปบขณะที่นั่งเคลียร์ของบนโต๊ะ


“จำได้แหละ เห็นหน้าอีกทีคงร้องอ๋อ”


“เผื่อหมอนั่นมาก่อน แกก็เปิดประตูให้เข้ามาเลย” เลโอพยักหน้า แซ็คหันไปหาไอติมแล้วพยักหน้าให้หนึ่งครั้ง ไอติมเดินไปเปิดประตูห้อง มีแซ็คเดินตามหลังมา เลโอมองหลังไว ๆ ของเพื่อนก่อนที่ประตูจะปิดลงแล้วเบ้ปากน้อยๆ


“ทำอย่างกับแต่งงานกันแล้วงั้นแหละ”

V
v
v

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v

แซ็คกับไอติมไป Brentwood market มีทั้งของกินของใช้ให้เลือกซื้อ เป็นสถานที่ช็อปปิ้งสไตล์คันทรี่หน่อย ไอติมค่อนข้างตื่นตาตื่นใจกับการมีแหล่งช็อปปิ้งใกล้บ้านแบบนี้ มันไม่ได้หรูหราเป็นห้างติดแอร์ขนาดนั้น แต่มันน่าเดินด้วยบรรยากาศการตกแต่งของสถานที่


“Table for eating we should have. (โต๊ะสำหรับกินเราควรมี)”


“Yeah, I know.” แซ็คพาไอติมเดินไปดูร้านเฟอร์นิเจอร์ ช่วยกันเลือกช่วยกันตัดสินใจอยู่พักหนึ่งก็ซื้อโต๊ะทรงกลมขนาดกลางมาหนึ่งตัว เก้าอี้นั่งสองตัว ไอติมหยอกไบรอั้นว่าให้ซื้อเค้าน์เตอร์บาร์เครื่องดื่ม แต่ไบรอั้นเอาจริง และซื้อเก้าอี้สีเหลืองทรงสูงสำหรับนั่งดื่มเก๋ ๆ ตรงเค้าน์เตอร์ และแน่นอนว่าต้องซื้อตู้เย็นใหม่


นอกจากนั้นก็เป็นพวกอุปกรณ์ถ้วยจานชาม ช้อนส้อม มีด เขียง กระทะ ตะหลิว อะไรจำพวกนี้ที่ควรมีอยู่ในครัว ก็ซื้อไปให้หมด และก็มีของที่ควรมีในบ้านด้วยอย่างเช่น ราวตากผ้า ตู้เก็บของอันเล็ก และใหญ่สุดก็คงเป็นทีวีกับเครื่องเล่นดีวีดีและอุปกรณ์เสริม  ดีที่เจ้าของเดิมทิ้งเตียงไว้ให้เลยไม่ต้องซื้อใหม่


“Anything else? (เอาไรอีกมั้ย)” แซ็คถามหลังจากที่นำของทุกอย่างมาให้พนักงานคิดเงินและทำเรื่องให้ทางร้านเอาของไปส่งที่บ้าน


“Don’t know now. (ตอนนี้ไม่รู้)” ไอติมนึกได้แต่พวกของที่ควรมี แต่พอไปถึงแล้วอาจจะนึกออกทีหลังอีกทีว่าจริง ๆ แล้วขาดอะไรไปบ้าง


“Can I help to pay? (ผมสามารถช่วยจ่ายได้มั้ย)”


“No. I can deal with it. (ไม่ต้องหรอก ฉันจัดการได้)” แซ็คยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานสาวที่รับไปรูด จัดการรูดเสร็จก็ยื่นบิลให้แซ็คเซ็น


“Next station, food. (สถานีต่อไป อาหาร)” ไอติมยิ้มกริ่ม แซ็คยิ้มกว้าง ไอติมหรี่ตามองว่ารอยยิ้มนั้นเป็นยิ้มจริงจากเขาหรือเพราะเมากัญชา แซ็คเหมือนรู้ว่าไอติมคิดอะไรอยู่ก็เลยหัวเราะ ยื่นมือซ้ายไปจูงมือขวาไอติม


“I’m a professional of weed. (ฉันเป็นมือโปรเรื่องกัญชาน่า)” ไอติมหน้ามึนตาแป๋ว แซ็คยิ้มแล้วก้มลงจูบปากไอติมไปที และพากระต่ายตัวจ้อยเดินไปตามตรอกของตลาด




“ไอติมบอกว่าให้คุณคัมแบ็คในรอบสิบกว่าปีที่หายไป ได้กระแสมากแน่ๆ” แซ็ค เลโอ ดัสติน โจ และบรูซเพื่อนของแซ็คอีกคนร้องโว้ว ๆ ว้าว ๆ กันยกใหญ่กับไอเดียที่ไอติมเสนอไป ลูคัสที่หน้าแดงอ่อน ๆ ยิ้มกว้างจนร่องแก้มย่น


“Seriously? (เอาจริงเหรอ)” ไอติมได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าจริงจัง


“Serious. You are legend. (จริง คุณเป็นตำนาน)” หนุ่ม ๆ คนอื่นที่เมาพอกัน และคึกคักเพราะเสียงเพลงโห่ร้องพร้อมกับรัวมือไปทางลูคัสที่ยกแขนขวาขึ้นเบ่งกล้ามโชว์ ไอติมยกนิ้วโป้งให้สองนิ้ว


“I will think about it after you present the concept to me. (ฉันจะลองคิดดูหลังจากที่เธอเสนอคอนเซ็ปต์ให้ฉันแล้ว)” ไอติมยิ้มกว้าง แววตาเปล่งประกาย


“Okay!”


“And what about my concept? (แล้วคอนเซ็ปต์ของฉันล่ะ)” เลโอแกล้งถาม


“Jungle. (ป่าฮะ)” แซ็คกับโจหัวเราะ เลโอยิ้มด้วยความประหลาดใจ


“That’s interesting, and I fuck you? (น่าสนใจ แล้วฉันได้เอานายรึเปล่า)”


“No. Fuck tree. (ไม่ฮะ เอาต้นไม้)” หนุ่ม ๆ ที่เหลือหัวเราะจนไอติมกลัวว่าห้องข้าง ๆ จะมาตีหัวเอา แต่เห็นแซ็คบอกว่าที่นี่เก็บเสียงได้ดี แล้วเดี๋ยวเขาสองคนจะช่วยกันเอาแผงกันเสียงที่เอาไว้ใช้ในห้องซ้อมดนตรีมาติดกำแพงเพิ่มด้วย


“My dick is going to break. (จู๋ฉันต้องหักแน่ๆ)” คนอื่น ๆ หัวเราะกับมุกตลกของเลโอ


เลโอได้ทำความรู้จักกับลูคัสและคนอื่น ๆ อย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะเข้าขากันได้ดีหลังจากคุยกันไประมาณชั่วโมงนึง เลโอตกลงเซ็นสัญญา ณ ตอนนั้น กลายมาเป็นนักแสดงในสังกัดคนที่สองของค่ายหนังของลูคัส ซึ่งจะเป็นนักแสดงฝั่งหนังโป๊เกย์ ส่วนแซ็คจะเป็นทั้งสองฝั่ง แต่จะเน้นผู้หญิงมากกว่า


“And Dustin I am still waiting for you to play porn นะ (และดัสติน ผมยังรอคุณเล่นหนังโป๊นะ)” หนุ่มรอยสักเต็มแขนหัวเราะแล้วชี้ไอติม


“And then you will be my bottom, okay?. (และถ้างั้นนายก็มาเป็นรับให้ฉัน โอเคมั้ย)” ไอติมยิ้มตาหยี คนอื่น ๆ ยกเว้นแซ็คโห่แซวเบาๆ


“Don’t forget to tell your dance team about calendar. (อย่าลืมบอกทีมเต้นของคุณเกี่ยวกับปฏิทินนะ)” ไอติมหันไปบอกทั้งแซ็คและบรูซกับข้อเสนอก่อนหน้านี้


“Don’t worry. We are willing to help. (ไม่ต้องห่วง เราเต็มใจจะช่วย)” บรูซบอกให้ไอติมคลายกังวลใจกับการที่อยากได้ทีมเต้นมาถ่ายปฏิทินนู้ด และไม่ใช่การกุศลใด ๆ ด้วย เป็นปฏิทินขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองล้วน ๆ ซึ่งโชคดีเหลือเกินที่เพื่อน ๆ แซ็คดูจะตอบรับด้วยการลดค่าตัวลงให้ครึ่งนึง


“What about sponsor? (แล้วสปอนเซอร์ล่ะฮะ)” ไอติมถามลูคัส


“We have them. Don’t worry. (เรามี ไม่ต้องห่วงนะ)” ไอติมพยักหน้า ถ้าลูคัสบอกว่ามีก็คือมีนั่นแหละ ในส่วนนี้ไอติมคิดว่าตัวเองช่วยอะไรไม่ได้มาก


“And Anthony, he don’t come really? (และแอนโทนี่ เขาไม่มาจริงเหรอ)” ลูคัสมีสีหน้าปลดปลงและส่ายหัวช้าๆ


“No. He has chosen to stay with Jacob. He said he can’t do that. Yeah, we know what we are doing is such a bad thing, but we must do something. (ไม่ เขาเลือกจะอยู่กับเจค็อบต่อ เขาบอกเขาทำไม่ได้ ใช่ เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันไม่ดี แต่เราก็ต้องทำอะไรสักอย่าง)” พูดถึงชื่อนี้แล้วไอติมก็รู้สึกมวนท้องอีกครั้ง แอบเหลือบหางตาไปมองแซ็ค อีกฝ่ายนั่งยกแก้วขึ้นดื่มแบบชิลๆ


“He will angry? (เขาจะโกรธมั้ย)” ลูคัสพยักหน้าแบบไม่รีรอ


“And we are ready to deal with him. (และเราก็พร้อมจะรับมือกับเขา)”


“Nah, this is not a bad thing, this is a badass. Finally, you guys ran away from that son of bitch. (ไม่ นี่ไม่ใช่สิ่งไม่ดี นี่เรียกว่าเจ๋งต่างหาก คือในที่สุดพวกนายก็หนีไอ้ห่านั่นมาแล้ว)” ดัสตินอ้าปากหวอแต่ก็ดูออกว่าพร้อมจะขำออกมา บรูซตาโตพรึ่บและพยายากลั้นยิ้ม ลุคัสขำพรืด เจมส์เบ้ปากอย่างไม่แยแส รู้สึกสะใจด้วยซ้ำที่ได้พูด


“ใจเย็นเพื่อน อย่างน้อยหมอนั่นก็ให้เงินฉันเยอะน่า” แซ็คพูดยิ้ม ๆ คนอื่นขำเบาๆ


“เงินที่แกแลกมาด้วยหยาดน้ำอสุจิแกน่ะเหรอ”


“เอ๊ะ ทำไมล่ะ น้ำแตกบ่อย ๆ เป็นเรื่องดีออก” หนุ่ม ๆ คนอื่นหัวเราะกับมุกของแซ็ค ไอติมยิ้มขำน้อย ๆ แซ็คยิ้มกว้างและยกแก้วขึ้นชนกับเพื่อน ๆ ตัวเอง




“Good night, Leo.” เลโอที่อยู่ในสภาพเมายกมือขวาขึ้นตะเบ๊ะก่อนลมตัวลงนอนบนโซฟา ไอติมปิดไฟในห้องโถง ดึงประตูห้องนอนเข้ามา แซ็คที่เมาไม่แพ้กันแต่ยังสติเหลืออยู่นั่งเปลือยกายเช็ดหัวอยู่บนเตียง ไอติมเดินผ่านแซ็คไปนั่งลงบนฝั่งตัวเอง มองแผ่นหลังของแซ็คด้วยอาการใจเต้นตุ้มต่อม


เป็นเวลาเกือบตีสี่ที่ทุกคนแยกย้ายกันกลับไปหลังจากช่วยกันเก็บกวาดของเสร็จเรียบร้อย แซ็คอยากชวนทุกคนนอนฉลองบ้านใหม่ตัวเอง แต่ด้วยความคับแคบเลยต้องปล่อยให้ทุกคนกลับบ้านไป


“Zach…”


“ฮึ?” เจ้าของชื่อเหลียวหน้าไปมองด้านหลัง ไอติมเม้มปาก สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพ่นออกมา กลืนน้ำลายลงคอหนึ่งอึก


“I have something to ask you. (ผมมีบางอย่างจะถามคุณ)” แซ็คพลิกตัวหันไปนั่งมองไอติมตรง ๆ พยักหน้าหนึ่งครั้งเป็นเชิงบอกให้ถามได้เลย


หัวใจไอติมเต้นถี่รัว เกิดความกลัวในอก รู้สึกถึงโพรงขนาดใหญ่ในช่องอกของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดก็ถามออกไปเพื่อที่จะได้กำหนดทิศทางตัวเองถูกอย่างที่น้าแพนว่า


“How you feel with me? (คุณรู้สึกยังไงกับผม)”


คนถูกถามหยุดเช็ดผมและมองคนถามนิ่ง คนถามเองก็นั่งนิ่งเช่นกัน เพราะร่างเย็นจนชาไปหมดแล้ว







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้

 :katai1:

คำถามตะเตือนใจ แล้วก็ดันถามเขาตอนเมาเนาะลูก 55555 เป็นกำลังใจให้น้องต่ายตัวน้อย ๆ ด้วยนะคะ



ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
คำตอบของคนเมา...น่าจะทำให้น้องฝังใจ(ย้อนกลับไปตอนเปิดเรื่อง)รึเปล่า???   :ruready :ruready :ruready

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
แซค เอาให้เคลียร์นะเออ

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หืมมมม ต้องใกล้จุดแตกหักของติมกับแซ็คแล้วแน่ๆ :hao7:


ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ถ้าตอบ i dont know จะซื้อตั๋วแล้วบินไปตีหัวแซ็ค  :m31:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ขอคำตอบหน่อยจ้า คนเมา  :katai5:

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
มาค่ะ ถ้าตอบแบบกั๊กรับรองได้หนามทุเรียนแน่ๆแซค  :angry2:
ชอบครอบครัวน้องติมจังอ่ะ ทั้งน้าแพน ทั้งแม่
ถ้าแซคทำเลวอะไรใส่น้องติมรับมือได้แน่  :hao3:

ออฟไลน์ องศาวาย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พร้อมแล้วค่ะไรท์ จัดมาหนักๆเลยยย :katai1:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ยังสงสัย ว่าน้องไอติม เห็นอะไรในห้องนอน แต่ก็ช่างเหอะ เพราะผ่านมาถึงจุดที่แยกตัวออกมาแล้ว ต่อไปนี้ ต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเองแล้วเนอะ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :m31: ทำไมนิ่งไปหล่ะแซ็ค ตอบน้องงงงงง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cho_co_late

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ท่าทางน่าจะเป็นจุดแตกหักแน่นอน อีกไม่กี่ตอนน่าจะถึง present day ในตอนแรก
พี่จะรอปลอบน้องกระต่าย เทนังแซ็คมันป๊ายย

ออฟไลน์ Janemera

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ดีๆนะอิแซคคค ถ้าทำต้องเจ็บบ แกจะต้องเจ็บกว่าาาา :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
รักน้าแพนนนนนนนนน ส่วนตอนนี้ต้องการการแตกหักค่ะ เบื่อแซ็คแล้ว 555555

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
แตกเป็นแตกค่าาา มาเลยนังแซ็ค ! //เปิดกระเป๋าเดินทางเตรียมยัดน้องติมใส่เป่ากลับไทย

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องติมมมมมมมมมม
รักแรกของน้องมันโคตรจะแฟนตาซี
สู้ๆนะลูก เค้าไม่ชัดเจนก็ออกมา

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
เอาล่ะ หนูติมยอมรับตัวเองได้ก่อนแฮะ มาลุ้นส่วนอิพี่ต่อว่าจะยอมรับตัวเองไม๊

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๊ยยย บาดจิตบาดใจ ไอติมเจอเรื่องช็อคสิบตลบ ซ้ำซากมากจ้า
สงสารไอติมนะ คือไม่คิดมาก ทำใจมาบ้าง แต่ก็ต้องมีอึ้งบ้างแหละ
บางทีก็ใกล้ตัวเกินไป ที่เห็นขึ้นไปข้างบน และเจคดูไม่ชอบไอติม
ตอนนี้ไอติมก็คงเคลียร์แล้ว ว่าทำไม แต่ถือว่าไอติมใจกว้างมากนะ

แซคเอ้ย ชีวิตนี้ สับสนในตัวเองมากไปไหม เป็นนกหนีออกจากกรง
มันเติบโตได้นะ แต่ถ้ายังเมากัญชาแบบนี้ กลัวจะไม่รอด คนเราไม่เก่งไปตลอด

อันนี้แซคคงให้คำตอบที่ไอติมไปต่อไม่ได้ และเลือกจะกลับไปอยู่เมืองไทย
หรืออาจจะมีเรื่องอื่นแทรกมาอีก ถ้าคาบเกี่ยวกับแมท คือแซคยังไม่สมหวัง

ไอติมโตขึ้นเหมือนเดนบอก และดีที่ไอติมพูดกับน้าแพน ช่วยได้เยอะ
แถมมีแม่และคนที่รักรายรอบ ยังไง ไอติมก็มีคนคอยช่วยเหลืออยู่แล้ว

หวังว่าคำตอบแซคคงไม่ทำให้ไอติมใจเสียนะ เพราะทำน้องเฮิร์ตหลายเรื่องแล้ว

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

Fall in lust - Chapter 35 :: Hollow. (ว่างเปล่า)




   “What? Again. (อะไรนะ อีกรอบนึงสิ)” ไอติมที่หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะมองจี้กระต่ายบนอกแซ็คแล้วพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ อีกที ตั้งสติกับตัวเองดี ๆ และค่อย ๆ เปิดปากพูด
   

“I think I like you. (ผมคิดว่าผมชอบคุณ)” แซ็คย่นคิ้วนิดหน่อย ดวงตาสีเทาอ่อนเยิ้มมองไอติมด้วยความวูบวาบ
   

“Yeah, you like me. I know that. You are my fan. (ใช่ นายชอบฉัน ฉันรู้ นายเป็นแฟนคลับฉันไง)” ไอติมส่ายหน้า
   

“No. I like you. Not a fan but I LIKE YOU. Like, girl like boy, but I am a boy like you. (ไม่ใช่ ผมชอบคุณ ไม่ใช่แบบแฟนคลับ แต่เป็น ผม ชอบ คุณ เหมือนผู้หญิงชอบผู้ชาย แต่ผมเป็นผู้ชายชอบคุณ)” ไอติมเม้มปาก หัวใจเต้นกระหน่ำรัวยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้พูดออกไป ตัวเย็นเฉียบแบบที่ไม่ใช่เพราะแอร์ ท้องบิดเป็นเกลียวด้วยความเสียววูบวาบราวกับกำลังเล่นรถไฟเหาะอยู่
   

“I love you. เอ่อ อะ… ไอ I am fear you will think I just like you like fan. But I like you because I love you. (ผมรักคุณ เอ่อ อะ…ไอ ผมกลัวว่าคุณจะคิดว่าผมชอบคุณแบบแฟนคลับ แต่ผมชอบคุณเพราะผมรักคุณ)” ไอติมอธิบายเพิ่มเติมเมื่อเห็นว่าแซ็คยังไม่ทีท่าโต้ตอบกลับมา แต่แววตาสั่นระริกและดูหวาดกลัวของแซ็คยิ่งทำให้ไอติมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
   

“You love me? (รักฉันงั้นเหรอ)” แซ็คถามเสียงแหบพร่า ไอติมที่สีหน้าหวาดหวั่นพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง
   

“I want to know your feeling. You เอ่อ make many things to make me think more. So, I want to know, to make it clear. (ผมอยากจะรู้ความรู้สึกคุณ คุณ เอ่อ ทำหลายอย่างให้ผมคิดมาก ผมก็เลยอยากรู้ ทำให้มันกระจ่าง)” ไอติมกลืนน้ำลายลงคออันแห้งผาก รู้สึกถึงความเย็นแล่นไปตามแขนแบบวนลูป
   

แซ็คมองไอติมด้วยสีหน้าหนักใจ แววตาของเขาดูกังวล แต่เขาก็พยักหน้าสองสามที “Yeah, I like you. (ใช่ ฉันชอบนาย)”
   

หัวใจไอติมหล่นวูบและเด้งกลับขึ้นมาอีกครั้ง ไอติมมองแซ็คด้วยความไม่แน่ใจ และไม่ได้รู้สึกดีใจที่ได้ยินแบบนั้น “Zach, I need the truth. I know that you want me to work for you, to make money for you. I want to เอ่อ เอิ่ม di—divide feeling. You make you like me because I can make money for you or you like me really. (แซ็ค ผมต้องการความจริง ผมรู้ว่าคุณอยากให้ผมทำงานให้ อยากให้ผมทำเงินให้ ผมอยาก เอ้อ เอิ่ม ยะ แยกความรู้สึก คุณทำชอบผมเพราะผมทำเงินให้คุณได้หรือเพราะคุณชอบผมจริงๆ)” ไอติมได้แต่หวังว่าแซ็คะจะเข้าใจถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อผ่านภาษาอังกฤษอันงอกง่อยของตัวเอง
   

“You like me just because I can make money or you like me because you like me. (คุณชอบผมเพราะผมทำเงินหรือคุณชอบเพราะชอบผม)” ไอติมอธิบายเพิ่มเติม เพื่อหวังให้อีกฝ่ายเข้าใจและตอบคำถามของเขาให้ชัดเจน
   

“Answer the real answer. Don’t lie. (ตอบคำตอบจริง อย่าโกหก)” ไอติมขอร้องเสียงแผ่ว
   

แซ็คยิ้มบาง แววตาสีเทาเยิ้มน้อย ๆ มองไอติมด้วยความอ่อนโยน เขาดันตัวลุกขึ้นนั่งชันเข่าแล้วคลานเข่าไปนั่งขัดสมาธิกลางเตียง ยกมือขวากวักเรียกให้ไอติมเข้ามาหา กระต่ายตัวจ้อยเขยิบเข้าไปนั่งด้านหน้าของเจ้านาย รู้สึกขอบคุณที่อีกฝ่ายเอาผ้าขนหนูปิดตรงแคร็อทเอาไว้
   

“I am going to tell the truth and this is not a lie. (ฉันจะพูดความจริง และนี่ไม่ใช่คำโกหก)”
   

“…” ไอติมนิ่งเงียบ มองแซ็คแบบปกติ ไม่ได้กดดันอะไร
   

“I like you, not because of money. I like you because you are my rabbitch. I can’t say love at this moment, but I have a fucking good feeling with you, (ฉันชอบนาย ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน ฉันชอบนายเพราะนายคือกระต่ายแรดของฉัน ฉันยังพูดว่ารักตอนนี้ไม่ได้ แต่ฉันมีความรู้สึกที่โคตรดีกับนายเลย…)” ไอติมมองตาเมาเคลิ้มของแซ็ค แซ็คเม้มปาก หลับตาลงพักหนึ่งก่อนลืมขึ้นแล้วระบายลมหายใจพร้อมกับพยักหน้าสองสามครั้ง


“I can’t say it now but I can feel it. (ฉันพูดไม่ได้ แต่ฉันรู้สึกได้)” ไอติมขยับริมฝีปากเป็นรอยยิ้มนิดหน่อย
   

“Really? (จริงเหรอ)”
   

“Really. (จริง)”
   

“Like me like boyfriend girlfriend? (ชอบผมแบบ แฟนหนุ่ม แฟนสาวเหรอ)” แซ็คยิ้มขำน้อย ๆ แล้วพยักหน้าหนึ่งครั้ง ไอติมขยับยิ้มมากขึ้นอีกนิด หัวใจเต้นตึกตัก กระเพาะวูบวาบโหวงเหวง
   

“But we can’t be boyfriend. (แต่เราคบกันไม่ได้หรอก)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ และเมื่อแน่ใจแล้วว่าประโยคนั้นแปลว่าอะไร หัวใจไอติมก็เหมือนจะหยุดเต้นไปชั่วคราว รอยยิ้มหดลง ลำไส้กลับมาบิดเป็นเกลียวอีกครั้ง
   

“W… why?” แซ็คขบกรามแน่น สีหน้าและแววตาหนักใจ ยกมือขวาขึ้นวางบนแก้มเนียนนุ่มของไอติม
   

“I’m scared. (ฉันกลัว)” ฝรั่งเอ่ยเสียงแผ่วเบา ไอติมมองดวงตาสีเทาที่อ่อนไหวตาแป๋ว ยิ่งเห็นดวงตาใสซื่อของไอติม แซ็คก็ยิ่งรู้สึกเศร้า
   

“Scare what? (กลัวอะไร)” ไอติมถามกลับเสียงเบา
   

“Me. (ตัวฉันเอง)” กระต่ายตัวจ้อยมองด้วยความไม่เข้าใจ


“My lifestyle doesn’t fit for having a relationship. (ไลฟ์สไตล์ชีวิตของฉันไม่เหมาะกับการมีความสัมพันธ์)” ไอติมยกมือซ้ายขึ้นจับหลังมือของแซ็ค เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อแล้ว


“Maybe it will change. (บางทีมันจะเปลี่ยน)” ไอติมว่าอย่างมีความหวัง ทั้งที่ภาพของพ่อปรากฏชัดในความคิด


ผู้ชายคนนั้นจนทุกวันนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม


“Ice-cream,” ไม่กี่ครั้งที่แซ็คจะเรียกชื่อเล่นเขาแบบนี้ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสั่นระริก


“It is my nature, my instinct, it’s like when the tiger found his victim. (มันคือธรรมชาติของฉัน สัญชาตญาณฉัน เหมือนกับเสือเวลาเจอเหยื่อของมัน)” ใบหน้าไอติมหม่นลง 


เสือเจอเหยื่อ มันก็ล่า แล้วก็กิน


“Are you sick? (คุณป่วยหรือเปล่า)” แซ็คมองคนถามด้วยความไม่แน่ใจ


“I mean sick about sex เอ่อ hysteria? Something like that. (ผมหมายถึงป่วยเกี่ยวกับเซ็กซ์ เอ่อ ฮิสทีเรีย อะไรประมาณนั้นน่ะ)” ไอติมไม่ได้จะด่าแซ็ค แต่นึกคำเปรียบเปรยอื่นไม่ออก เลยเอาคำที่เคยได้ยินบ่อย ๆ มาใช้ในการถาม


แซ็คยิ้มมุมปากนิดหน่อย “No. It’s just me. (เปล่า ตัวฉันเท่านั้น)”


ไอติมพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง “You will not change… (คุณจะไม่เปลี่ยน…)” …for me (…เพื่อผม) เลยเหรอ  ไอติมอยากถามแบบนี้ แต่คิดว่าพาวเว่อร์ตัวเองยังไม่มากพอที่จะดึงขึ้นมาเป็นแรงจูงใจ


“I want, but I know it’s not easy for me. (ฉันอยาก แต่ฉันก็รู้ว่ามันไม่ง่ายสำหรับฉัน)” ไอติมพ่นลมหายใจ มองดวงตาอ่อนแสงลงผสมกับความเยิ้มของแซ็คด้วยความรู้สึกท้อถอย


“Then we can’t have relationship together, right? (งั้นเราก็มีความสัมพันธ์ด้วยกันไม่ได้ ใช่มั้ย)” ไอติมยิ้มเศร้า แวตาและสีหน้าของแซ็คหม่นหมอง เขาไม่ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร ทุกอย่างนิ่งสนิท


“I want to have you by my side but I know it’s going to be a selfish. (ฉันอยากมีนายอยู่ข้าง ๆ แต่ฉันก็รู้ว่ามันเห็นแก่ตัว)” ไอติมพยักหน้าน้อยๆ


“Very much. (มากเลยแหละ)” แซ็คยิ้มบาง


“Your English has improved so much. (ภาษาอังกฤษของนายพัฒนาเยอะเลยนะ)” ไอติมคลี่ยิ้มบาง


“Can I move out from here? (ผมย้ายออกจากที่นี่ได้มั้ย)” รอยยิ้มของแซ็คลดน้อยถอยลงจนกระทั่งหายไปจากใบหน้า ไอติมกลืนน้ำลายลงคอ มองอีกคนด้วยความรู้สึกหวิวใจ


“You can stay here actually, as a roommate. (อันที่จริงนายอยู่ที่นี่ได้นะ แบบรูมเมท)” ไอติมส่ายหัว


“No. I don’t think with you as a roommate. It’s not easy to stay with you as a roommate. I just tell I love you. (ไม่ ผมไม่ได้คิดกับคุณแบบเพื่อนร่วมห้อง มันไม่ง่ายกับผมเลยที่จะอยู่กับคุณแบบเพื่อนร่วมห้อง ผมเพิ่งบอกรักคุณนะ)” สีหน้าของแซ็คหม่นลงอีกครา แววตาเอื่อยล้า


“I got it. (ฉันเข้าใจ)” ไอติมเม้มปาก ยื่นมือขวาไปช้อนจี้สร้อยกระต่ายขึ้นมองแล้วยิ้มอ่อน


“You are my first love. (คุณคือรักแรกของผม)”


แซ็คยิ้มอ่อน “You too. (นายก็เป็นรักแรกของฉันเหมือนกัน)”


กระบอกตาไอติมร้อนผ่าว มือขวาปล่อยออกจากจี้กระต่าย เลื่อนสายตาขึ้นมองดวงตาสีเทาอ่อน พยายามฮึบน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา “At least you love me back. (อย่างน้อยคุณก็รักผมตอบ)”


แซ็คมองไอติมด้วยสายตาหวาดกลัว เขามีท่าทีสับสน จนกระทั่งมองหน้าไอติมอีกครั้ง เขาก็ถอนหายใจออกมา และพูดด้วยน้ำเสียงเบาหวิว


“Yes, I love you. (ใช่ ฉันรักนาย)” That’s why I don’t want to make you cry more. (ฉันถึงไม่อยากทำให้นายร้องไห้อีก) แซ็คต่อประโยคในใจ


ไอติมพ่นลมหายใจ น้ำใส ๆ ในดวงตาตอนแรกเหือดหายไปเพราะฝืนสู้กับมันจนชนะในที่สุด “I will move out tomorrow. I mean to day, morning. (ผมจะย้ายออกพรุ่งนี้ หมายถึงวันนี้ ตอนเช้าๆ)”


หัวใจแซ็คกระตุกวูบแล้วก็รู้สึกโหวงเหวงในช่องอก “Okay.”


“We still work together. Work is work. Love is love. Not same thing. (เราจะยังคงทำงานด้วยกัน งานคืองาน รักคือรัก ไม่ใช่อย่างเดียวกัน)” ไอติมยิ้มพร้อมกับถอนหายใจ แซ็คยิ้มตอบอย่างเศร้าสร้อย


“You can see me fuck other girl? (นายเห็นฉันเอากับผู้หญิงคนอื่นได้เหรอ)” ไอติมยิ้มมากขึ้นอีกนิด แซ็คพยายามยิ้มมากขึ้นให้ดูเป็นการแซว


“It’s your job. And I have your porn. Don’t forget it. (งานคุณนี่ แล้วผมก็มีหนังโป๊คุณ อย่าลืมสิ)”


“Ah, right. (อ้อ ใช่)” ทั้งสองคนมองตากันแล้วยิ้ม ก่อนที่ยิ้มนั้นจะลดลง แซ็คมองไอติมด้วยสายตาโหยหาทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ได้จากไป ไอติมเม้มปากแล้วยกตัวขึ้นนั่งคุกเข่า โน้มตัวไปกอดแซ็ค ขวัญใจไอติมยกสองแขนกอดตอบ


ต่างคนต่างลูบหลังให้กันและกันราวกับเป็นการปลอบ ดวงตาสดใสของไอติมหม่นหมอง ความเป็นประกายหายไป ความรู้สึกเหงาหงอยขึ้นมาจุกอยู่ตรงอก


แซ็คหลับตาลง หัวใจเต้นตุบ ๆ เป็นจังหวะหนักหน่วง ช่องอกกลวงโบ๋ ตอนที่ไอติมผละออกไป ความเย็นยะเยือกที่ไม่ใช่เพราะแอร์ก็พุ่งห่อล้อมตัวเขา


“Good night.” ไอติมหอมแก้มซ้ายของแซ็คหนึ่งทีแล้วลมตัวลงนอนบนเตียงฝั่งตัวเอง แซ็คมองไอติมด้วยสายตาหงอยเหงาก่อนจะพ่นลมหายใจ ลุกออกจากเตียงไปปิดไฟดวงใหญ่ในห้อง เดินกลับมานอนบนเตียง เขาเขยิบเข้าไปใกล้ไอติมและกระซิบเสียงเบา


“I want to hug you for one last time. (ฉันอยากกอดนายเป็นครั้งสุดท้าย)” รอไม่ถึงนาทีไอติมก็พลิกตัวเข้าหาเขา เขยิบหัวขึ้นไปนอนบนอกซ้ายของแซ็ค ฝรั่งตัวโตยกแขนซ้ายโอบไหล่ร่างเล็กไว้ ก้มลงหอมหัวไอติมหนึ่งครั้ง แล้วหลับไปในเวลาไล่เลี่ยกัน







ไอติมนอนไปได้แค่ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ตื่นก่อนใครในบ้าน ไอติมโทรหาเดนนี่ที่พอได้ยินเสียงแห้ง ๆ อันหม่นหมองของเขาก็ไม่บ่นอะไร รับปากแค่ว่าจะมารับ ไอติมเก็บของให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดีที่ไอติมยังไม่ได้เอาของออกจากกระเป๋าเยอะมาก เลยไม่ต้องวุ่นวายหลายนาที พอเก็บของเสร็จไอติมก็ออกไปทำกับข้าวให้สองหนุ่ม ซึ่งจะตื่นตอนไหนก็ไม่รู้ เพราะต่างคนต่างเมา ไอติมเลือกทำอาหารง่าย ๆ อย่างไข่เจียวหมูสับ ปลาแซลม่อนทอด และต้มจืดหมูเพื่อซดน้ำซุปร้อน ๆ ทำเสร็จแล้วก็เอาวางไว้บนเค้าน์เตอร์บาร์ที่ซื้อมาเมื่อวาน และเอาจานปิดอาหารแต่ละจานไว้


ไอติมเตรียมอาหารเสร็จก็เข้าไปอาบน้ำ ออกมาแต่งตัวข้างนอก แซ็คยังนอนหลับอยู่บนเตียง ไอติมมองร่างสูงใหญ่นอนนิ่งสักพักก่อนหันไปหยิบกระเป๋าเดินทางของตัวเองออกจากห้องนอน เอาไปวางไว้ตรงประตูบ้าน ไอติมหยิบกระดาษเอสี่ฉีกครึ่งมาเขียนด้วยภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ ว่าให้สองหนุ่มกินอาหารให้อร่อยแล้วเจอกันตอนทำงาน


Rrrr!


“ฮัลโหล… โอเค” ไอติมพูดเสียงเบา ยัดโทรศัพท์ลงไปในกางเกงยีน เดินไปเปิดประตูบ้านเบามือที่สุด ลากกระเป๋าเดินทางออกไป ดึงประตูห้องปิดตามหลัง ก่อนจะก้าวเท้าเดินเร็ว ๆ ไปทางลิฟต์






แซ็คลืมตาตื่นหลังจากแน่ใจว่าได้ยินเสียงปิดประตูห้องชัดแล้ว เขานอนแน่นิ่งมองเพดานอยู่ย่างนั้นหลายนาทีกว่าจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งอย่างเชื่องช้า เขาหันหน้าไปมองความว่างเปล่าของเตียงฝั่งไอติม หัวใจไหววูบ รูโหว่ในอกคล้ายจะขยายใหญ่ขึ้น บนโต๊ะเขียนหนังสือก็แทบไม่เหลืออะไรนอกจากถ้วยรางวัลของเขากับกรอบรูป


แซ็คพ่นลมหายใจ ลงจากเตียงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดออกก็เจอความว่างเปล่าครึ่งหนึ่งของตู้ที่ตอนแรกเป็นฝั่งใส่เสื้อผ้าของไอติม เขามองพื้นที่โล่งนั้นที่เหมือนรูโหว่ในอกของเขาด้วยความรู้สึกเหงา


เขารู้ว่าเดี๋ยวยังไงก็ได้เจอกันตอนทำงาน แต่…


แซ็คพ่นลมหายใจด้วยท่าทีเซื่องซึม หยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอว เปิดประตูห้องนอนออกไปก็เห็นจานอาหารวางบนเค้าน์เตอร์บาร์ที่ซื้อมาเมื่อวาน เขาเดินไปหยิบกระดาษขึ้นมาอ่านข้คอวามที่ไอติมเขียนแล้วยิ้มนิดหน่อยก่อนเอาวางไว้ตามเดิม หันไปมองเพื่อนที่นอนหมดสภาพแวบหนึ่งแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ


แซ็คมองแก้วใส่แปรงสีฟันด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวไม่ต่างจากแปรงสีฟันของเขาที่เหลืออยู่อันเดียว ดวงตาสีเทาอ่อนเลื่อนมองเงาหน้าตัวเองในกระจกที่ไร้ชีวิตชีวา จี้กระต่ายสีทองเด่นหราบนอกเปลือยของเขา


เหลือแต่สิ่งของ แต่คนให้ไปแล้ว


แซ็คผ่อนลมหายใจยาว หันไปเปิดฝักบัวรดหัวเพื่อให้รู้สึกเย็นชุ่มฉ่ำ เขาใช้เวลาอยู่ใต้ฝักบัวนานเท่าไหร่ไม่รู้ จนกระทั่งประตูห้องน้ำถูกเคาะและตามด้วยเสียงเรียกของเลโอ เขาจึงปิดฝักบัว หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดตัวจนแห้งและเช็ดหัวหมาดๆ


“ไอศกรีมไปไหนวะ” เลโอถามด้วยท่าทีตกใจ มือขวาชูกระดาษที่ไอติมเขียนทิ้งไว้ แซ็คเดินผ่านเพื่อนไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาน้ำดื่ม แต่ก็ตอบคำถามเพื่อนไปด้วย


“ย้ายออก”


“ฮะ? อยู่ยังไม่ถึงสามวันเลยนะ” แซ็คกระดกน้ำเปล่าในแก้วขึ้นดื่มไปหลายอึกก่อนตอบ


“จะกี่วันก็คือเขาย้ายออก”


“ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า” แซ็คนิ่ง


“ความคิดเห็นไม่ตรงกัน” มันไม่ใกล้เคียงคำว่าทะเลาะกันเลยสักนิด เพียงแต่ต่างคนต่างมีความคิดที่ไม่อาจหาทางมาบรรจบกัน


 “อะไรของแกสองคนวะ” เลโอถามด้วยความไม่เข้าใจ แน่ล่ะ จะเข้าใจได้ยังไง แต่เขาก็ต้องเค้นเพื่อนตัวเองเพื่อให้เข้าใจให้ได้


“ฉันออกมาจากห้องน้ำ แกต้องเล่าให้ฉันฟัง” แซ็คไม่รับปาก หมุนตัวเดินไปนั่งบนเก้าอี้ทรงสูงตรงเค้าน์เตอร์บาร์ นั่งมองอาหารที่ไอติมทำไว้ให้ด้วยสายตาเหม่ออยู่พักหนึ่งก่อนจะลุกเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ เปิดลิ้นชักโต๊ะหัวเตียงฝั่งตัวเอง หยิบกล่องเหล็กสีเงินออกมาหนึ่งกล่องแล้วเดินออกไปนอกห้องนอน


“ไอ้ไบรอั้น มานั่งคุยกันก่อน…” คนโดนเรียกทำท่าจะเดินออกไปนอกระเบียง


“…ไอศกรีมทำอาหารไว้ให้ แกไม่คิดจะกินหน่อยเหรอ มันอาจเป็นมื้อสุดท้ายที่แกได้กินฝีมือเขาแล้วนะ” แซ็คยืนนิ่งอยู่กับที่ สายตามองทะลุประตูกระจกบานเลื่อนไปยังผืนทะเล


‘ตอนมาถึงนี่ผมบอกเพื่อนว่าอยากมีห้องพักใกล้กับทะเลแหละ’


“เพราะมันอาจเป็นมื้อสุดท้าย ฉันเลยไม่อยากกิน…” แซ็คพึมพำกับตัวเองแบบที่แน่ใจว่าเลโอจะได้ยินแบบแว่ว ๆ เขาพ่นลมหายใจ หมุนตัวเดินกลับไปหาเลโออย่างเชื่องช้า วางกล่องเหล็กในมือไว้บนเค้าน์เตอร์บาร์ติดกับผนังห้อง กระเถิบตัวเองขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ทรงสูง


“แกกับไอศกรีม ยังไงกัน” แซ็คส่ายหัว หยิบจานที่ปิดอาหารออก


“ถ้าแกยังชอบกระต่ายตัวนั้นอยู่ แกก็ไปดูแลให้ดี”


“ได้ไง ยกให้กันง่าย ๆ แบบนี้ทั้งที่ทำหวงก้างแทบตายน่ะเหรอ” แซ็คหันไปมองเลโอแล้วกลอกตาหนึ่งครั้ง


“แกไม่ชอบเด็กนั่นแล้วเหรอ”


“ฉันชอบ แต่เขาไม่ชอบฉัน และถ้าฉันจะได้ไอศกรีม เขาจะต้องไม่ใช่ของเหลือจากแก” แซ็คตักแซลม่อนออกมาชิ้นพอดีคำและส่ายหัว


“ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน และคงไม่ได้เป็น…” แซ็คถอนหายใจ เขาไม่ชอบเล่าเรื่องส่วนตัว ความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้ใครฟัง จนกระทั่งมีไอติมเข้ามาในชีวิต เขาก็อยากจะระบายความรู้สึกนั้นออกมา เพราะไอติมเป็นสีขาว ขณะที่รอบตัวเขานั้นเป็นสีดำ สว่างสุดก็คือสีเทา


“…ฉันมีอิสระในชีวิตมานานเกินไป” เลโอตักแซลม่อนทอดเข้าปากบ้าง


“งั้นก็ถือว่าแกยังไม่ชั่วเท่ากับที่ฉันเคยปรามาสไว้” แซ็คยิ้มขำบางเบา


“ถ้าฉันไม่รู้สึกรักกระต่ายตัวนั้นขึ้นมาก่อน ฉันก็อาจจะเป็นไปอย่างที่แกว่า” เลโอถอนหายใจ เพิ่งรู้ตัวว่า ถึงรู้ว่าเพื่อนกำลังเป็นอะไร แต่เขาก็ช่วยอะไรเพื่อนไม่ได้อยู่ดี เลโอยกมือซ้ายไปตบบ่าเพื่อนเบา ๆ แซ็คเขยิบตัวลงจากเก้าอี้ หยิบกล่องเหล็กติดมือเดินไปตรงประตูระเบียงเงียบ ๆ คนเดียว

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v

“รบกวนอีกทีนะโรเบิร์ต” เดนนี่บอกน้องชายที่ต้อนรับอย่างเป็นมิตร ไอติมเอ่ยทักทายรูมเมทของโรเบิร์ตที่ต้อนรับอย่างเป็นมิตรเช่นกัน สองเพื่อนซี้ยกกระเป๋าเข้าไปในห้องนอนห้องเดิมของไอติมในหอพักของโรเบิร์ต


“แล้วเวลามึงจะไปทำงาน จะทำยังไง”


“รถไฟใต้ดินกับรถเมล์ไง มึงก็ช่วยฝึกกูขึ้นสิ”


“เหมือนฝึกหมาอะเหรอ” ไอติมถลึงตาใส่เพื่อนที่ยิ้มยียวน ไอติมกดเปิดแอร์แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียง ถอดกระเป๋าเป้ออกจากทางด้านหลัง เอาแขวนไว้กับหัวเตียง หันไปมองเดนวางกระเป๋าลากใหญ่ไว้ข้างโต๊ะเขียนหนังสือแล้วก็ถอนหายใจ เดนนี่หันไปมองเพื่อนก่อนเดินไปนั่งข้าง ๆ บนเตียง


“อยากเล่ามั้ย” ไอติมนิ่งเงียบสักแปบก็ล้มตัวลงนอนบนตักของเพื่อน


“กูสารภาพรักกับแซ็ค” เดนนี่มีทีท่าประหลาดใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเหวอหรือตกใจแบบใจหายใจคว่ำ


“สภาพงี้อกหัก?” เดนนี่ยกมือขวาลูบหัวไอติม


“ไม่หรอก แซ็คเขาก็รักกู”


“แล้วทำไมซึม แถมยังหนีออกมาอยู่ข้างนอกอีก” ไอติมพ่นลมหายใจยาว ๆ ใบหน้าหม่นแต่ก็ไม่ถึงกับอมทุกข์ เดนนี่เลื่อนมือจากหัวไอติมไปวางบนไหล่ของเพื่อน


“รักกันแต่คบกันไม่ได้ มันมีมาก่อนกูกับเขาใช่มั้ยเดน” เดนนี่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ แต่ก็พอจะเริ่มคลำทางได้


“เยอะแยะ หลายเหตุผลว่ากันไป ของมึงเหตุผลอะไรล่ะ” เดนไม่ได้คาดคั้นว่าจะต้องได้คำตอบ ถ้าเพื่อนตอบก็คือเขารู้ แต่ถ้าไม่ตอบเขาก็แค่ไม่รู้เท่านั้นเอง


“แซ็คเหมือนพ่อ…” ไอติมย่นคิ้วนิดหน่อย


“…ก็ไม่ได้เหมือนขนาดนั้น คือเขาคะแนนความซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียวน้อย”


“ระหว่างพ่อมึงกับขวัญใจมึงคนไหนคะแนนน้อยกว่ากัน” ไอติมนิ่งคิด พ่อนี่น้อยจนติดลบ แต่กับแซ็ค…


“ไม่รู้”


“ไม่ลองเรียนรู้กันหน่อยเหรอ” ไอติมส่ายหัวทั้งที่ยังนอนอยู่ตักเดน


“ถ้าเป็นแบบนั้นความรู้สึกกูก็จะยิ่งถลำลึก แล้วยิ่งลึกกูก็ยิ่งจะถอยออกมายาก” เดนนี่ยิ้ม


“ครั้งนี้มึงเลยถอยออมาก่อนว่างั้น” ไอติมพยักหน้า


“เขาเปลี่ยนไม่ได้ กูรับไม่ได้ มันยากนะเดน…” ไอติมขมวดคิ้วนิดหน่อย


“…แต่กูก็เข้าใจธรรมชาติของเขาแหละ”


“เข้าใจจริงรึเปล่า”


“อื้อ จริง เข้าใจ แต่ทำใจยอมรับกับธรรมชาตินั้นไม่ได้”


“มึงโตขึ้นจริง ๆ แหละติม” ไอติมส่ายหัวช้าๆ


“ไม่หรอกเดน กูยิ่งเด็กกว่าเดิมด้วยซ้ำ กูอยากให้แซ็ครักกูคนเดียว มีกูคนเดียว เอากูคนเดียว อยากให้เขาเป็นของกูคนเดียว…” ไอติมกลอกตาไปมาก่อนเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง


“…แต่กูโอเคนะถ้าเขาเอาผู้หญิงคนอื่นเวลาถ่ายหนัง” เดนนี่ย่นคิ้ว


“อะไรของมึงวะ ซอยความรู้สึกกี่ชั้นเนี่ย” ไอติมมองข้างบนและทำท่าครุ่นคิด


“ก็แบบ มันเป็นงานไง เหมือนนักแสดงทั่วไปที่ต้องมีฉากจูบ ฉากเลิฟซีน แค่อันนี้เอาจริง แตกจริงแค่นั้นเอง เข้าใจได้และยอมรับได้อะ” เดนนี่ยังคงย่นคิ้วและยกมือขวาเกาหัวเบาๆ


“ละลองคุยกันจริง ๆ จัง ๆ ยังว่าจะเอายังไง ว่ามึงคิดแบบนี้” ไอติมทำปากยื่น


“คุยไปแล้วจะได้อะไร ยังไงเขาก็ไม่หยุดที่กูคนเดียว” เดนนี่ถอนหายใจ ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะเป็นการนำไฟในออกและนำไฟนอกเข้ามาหรือเปล่า


“กูไว้ใจมึงนะ…” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะพยักหน้ารัว ๆ อย่างแข็งขัน


“…พ่อกูมีผู้หญิงคนอื่น ยังไม่ถึงขั้นเมียน้อย แต่ก็ไปมาหาสู่กันบ่อย” ไอติมอ้าปากหวอด้วยความตกใจ นึกถึงหน้าพ่อเดนที่ดูอบอุ่นและใจดีแล้วก็รู้สึกแปลกพิกลเมื่อได้ยินเรื่องแบบนี้


“จะ… จริงเหรอ” เดนนี่กดหน้าลงหนึ่งครั้ง


“แล้วแม่ล่ะ แม่รู้มั้ย แม่ว่ายังไงบ้าง”


“แม่รู้ แต่แม่เลือกปิดตาข้างนึง…” ไอติมชะงักนิ่ง เพราะเป็นประโยคเดียวกับที่น้าแพนพูด


“…พ่อยังเป็นพ่อที่ดีของกู ยังเป็นสามีที่ดีของแม่ ถึงใครจะบอกว่าคนดีต้องไม่ทำแบบนี้ แต่กูกับแม่ว่าดี ก็จบป้ะวะ…” เดนนี่หัวเราะ ไอติมมองสำรวจสีหน้าและแววตาของเพื่อน พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีทีท่าเศร้าสร้อยก็เบาใจ


“…เขายังกลับมา และเขาก็เป็นแบบเดิม”


“แล้วถ้าวันนึงเขาไปล่ะ เหมือนพ่อกู” เดนนี่ไหวไหล่


“คนจะไปก็ต้องไป อะไรก็รั้งเขาไม่ได้ แม่กับกูไม่ได้รั้งเขาเลยนะ ไม่พูดถึงด้วย กูมองว่าถ้าเขายังดูแลฝั่งนั้นไม่ให้มาระรานแม่ได้ กูก็โอเค เพราะเขายังดูแลแม่กับกูในฐานะหัวหน้าครอบครัวได้ดีเหมือนเดิม”


“แม่มึงอาการเป็นไงอะ ของแม่กูแม่ร้องไห้เสียใจมาก แต่ไม่เคยไปตามราวีเมียน้อยนะ มีแต่เมียน้อยมาวุ่นวาย” เดนนี่ยิ้มบางเบา


“ไม่มีไม่เสียใจหรอก เขาก็เยียวยาตัวเองจนเขาอยู่เป็นและอยู่ได้ ตอนแรกเขาก็อยากหย่า แต่พ่อกูเขาเหมือนเดิมทุกอย่าง แค่เขามีแหล่งปลดปล่อยที่อื่น…” เดนนี่มองสีหน้าครุ่นคิดของไอติมแล้วถอนหายใจ


“…กูไม่ได้มาเรียกร้องให้มึงเห็นใจขวัญใจมึง หรือพยายามโนมน้าวว่าเรื่องแบบนี้มันปกติ หรือเอาสัญชาตญาณผู้ชายมาอ้าง เพราะไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่เป็นแบบพ่อมึง พ่อกู หรือขวัญใจมึง” ไอติมหรี่ตา


“แล้วมึงล่ะ เป็นด้วยเปล่า มึงก็ใช่ย่อยน้าเดน” ไอติมยิ้มแซว ยักคิ้วหลิ่วตาอย่างแพรวพราว


“ตั้งแต่เอามึงครั้งนั้น กูก็ไม่ได้แม้แต่ชักว่าวเหอะ” ไอติมตาโต


“จริงอ้ะ?”


“กูบอกว่าจริง ถ้ามึงไม่เชื่อก็คือไม่จริง” ไอติมหัวเราะคิกคักสักพักก่อนจะทำปากจู๋แล้วพ่นลมหายใจเบาๆ


“กูไม่รู้จะทำยังไงดี กูไปไม่ถูก จะให้กูยอมรับกับตรงนั้นเหรอ ถ้าคบกัน เขาเป็นแฟนคนแรกกูเลยนะ” เดนนี่มีสีหน้ายุ่งยาก


“กูก็ไม่รู้จะพูดไงว่ะ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่มึงตกลงกัน ถ้าหาทางเดินร่วมกันได้ก็สบาย…” เดนนี่ย่นคิ้วท่าทางนึกคิด


“…พระเอกหนังโป๊บางคนแต่งงานแล้ว แต่ก็ยังถ่ายงานพวกนี้อยู่ แล้วก็บางคนอาจมีนอกรอบ มึงไม่ลองขอคำปรึกษาเขาดูล่ะ” ไอติมที่กำลังเหม่อลอยส่ายหน้าช้าๆ


“ไม่ต้องหรอก ปรึกษาไปแล้วได้อะไร ถ้าใจกูไม่โอเค ถึงจะได้มุมมองใหม่ ๆ แต่มันอยู่ที่ใจกูทั้งนั้น”


“แล้วมึงจะให้มันเป็นไปอย่างนี้ใช่มั้ยล่ะ” ไอติมหน้าเศร้านิดหน่อย


“ตอนนี้กูยังไม่ได้รักเขามาก ซึ่งกูไม่รู้ว่าตัวเองจะรักได้มากอีกแค่ไหน และใจกูจะมีลิมิตเท่าไหร่…” แววตาที่เคยสดใสเปล่งประกายทอแสงหม่นหมองไร้แววซุกซน


“…ตอนนี้กูยังพอเบรกตัวเองได้ ก็เบรกไว้ก่อนแล้วกัน”


“ระวังเบรกแตกนะมึง”


“ก็ไม่เบรกแล้วละถ้าอย่างนั้น” ไอติมยิ้มขำบางเบา เดนนี่มองเพื่อนแล้วยิ้ม ยกมือขวาไปขยี้หัวเพื่อน


“มึงโตแล้ว ความคิดมึงไม่ง๊องแง๊งอีกแล้ว ทีนี้ก็ใช้ทั้งสมองและใจควบคู่กันไป”


“กูแค่กลัวว่า ถ้าวันนึงคนที่เขานอนด้วยเป็นคนเดียวกับที่เขาถูกใจ…” ไอติมเม้มปาก เดนนี่มองเพื่อนด้วยความเข้าใจ


“ถ้าเขารักมึงตอบ อย่างน้อยมึงก็มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่น หรือมึงอินกับประโยคที่ว่า อยากเป็นหนึ่งเดียวไม่ได้อยากเป็นที่หนึ่ง?” ไอติมย่นคิ้วคิดตามประโยคของเพื่อนก่อนจะขยับหน้าไปทางขวา เปลือกตาหรี่ลง


“อืม ก็ไม่ได้อินขนาดนั้นอะ แต่…” ไอติมเบิกตากว้างแวบหนึ่งแล้วตามด้วยไหวไหล่สองข้างขึ้น


“มึงนี่เอาใจยากจริง แล้วมึงก็เห็นแก่ตัวด้วยนะเนี่ย”


“ยังไง กูเห็นแก่ตัวอะไรเนี่ย”


“มึงคิดแต่จะมีความสุขอย่างเดียวเลย…” ไอติมอ้าปากจะพูด เดนนี่ยกมือขึ้นห้าม


“…กูรู้ว่ามันไม่ผิด มันสิทธิ์ของมึง”


“ก็ใช่ไง สิทธิ์ของกูที่อยากมีความสุขอะ” ไอติมเถียงเป็นเด็กดื้อ เดนนี่ยกมือขวาผลักหน้าผากไอติมจนหน้าหงาย


“เอาแค่ความรักปกติทั่วไปเลยนะ ไม่มีหรอกที่จะสุขสมหวังดังใจมึงไปทุกเรื่อง”


“แต่เรื่องนี้มันหนักหนากะใจกูนะเดน”


“แต่มึงก็รักเขา” ไอติมพยักหน้าทั้งที่ปากเริ่มเบะ


“กูยังจำความรู้สึกตอนเห็นเขานอนกะคนอื่นที่ไม่ใช่แค่ในจอได้อยู่เลย” ริมฝีปากสีแดงเบะคล้ายจะร้องไห้ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะปล่อยโฮออกมา


“แต่มึงก็รับรู้แล้ว ต่อไปมึงอาจจะไม่รู้สึกแบบเดิมแล้วก็ได้นะ” ไอติมหน้ามุ่ยใส่เดน


“นี่มึงจะให้กูคบกับแซ็คให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย”


“เอ๊า หรือมึงไม่อยากคบเขา”


“อยาก! แต่ก็พูดอยู่เนี่ยว่าเขาเลิกนิสัยล่าเหยื่อไม่ได้!”


“มึงก็กำหนดไปเลยสิว่าล่าได้มากแค่ไหน พื้นที่ล่าเป็นยังไง ถ้ามันยังไม่ถึงขั้นเป็นโรคติดเซ็กซ์ น่าจะคุยกันได้อยู่แหละ” ไอติมชะงัก เดนนี่เลิกคิ้วมองเพื่อน พักนึงไอติมก็พ่นลมหายใจแรง ๆ และบู้ปาก ก่อนที่เสียงท้องร้องจะดังขึ้นกลบบรรยากาศในห้องนอน


“ไปกินข้าวกันเหอะ หิว” 








เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



 :mew6:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พบคนลัครึ่งทางได้มั้ย น้องก็ยอมบ้าง ขอแค่ป้องกัน แบบมีขอบเขตอ่ะ แซคก็พยายามลดๆลง ไรงี้ เดี๋ยวก็เลิกได้เอง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด