15 ตอนจบ“ขันหมากมาแล้ว!!!” คนในงานพากันตะโกนเมื่อเห็นขบวนขันหมาก มายืนตั้งแถวอยู่บนถนนด้านหน้าหมู่บ้าน วันนี้บอกตรงๆว่าผมเหนื่อยมาก ทั้งม๊าทั้งเจ้ทั้งสองเจ้ ต่างพาเรียกใช้ผมให้หัวหมุน พวกพี่ลมไอ้เต๋าก็พลอยโดนใช้ไปด้วย พอได้ยินว่าขวบนกำลังเดินเข้ามา ไอ้เต๋าก็พวกผมไปกั้นขันหมาก พี่ลมยืนกับไอ้สร ส่วนผมยืนคู่ไอ้เต๋า ระหว่างรอไอ้เต๋าก็เหมือนเห็นคนบางคนที่หน้าแม่งโคตรคุ้น มันเลยเรียกผมดู
“ไอ้ฟ้า มึงเห็นเหมือนกูไหม คนที่ถือต้นกล้วย ที่ยืนอยู่ข้างๆเจ้าบ่าวหน้าเหมือนไอ้พี่ดินกับไอ้พี่เมืองวะ”
“เดี๋ยวๆ ขอกูเพ่งก่อนวะ” ผมเพ่งมอง พอขบวนค่อยๆเข้ามาใกล้ๆบ้าน ผมโคตรตกใจจนเกือบจะร้องเรียกพี่ดิน
“ผัวมึงฟ้า!!!” แต่ไม่ทันไอ้เชี่ยเต๋าที่ร้องตกใจขึ้นมาก่อน
“เออกูรู้แล้ว! แล้วทำไมพวกพี่ดินมาทำไรที่งานนี้วะ ไหนว่าพี่ชายมันแต่งงาน”
“ไอ้โง่ฟ้า ถ้าไอ้พี่ดินมางานนี้แปลว่าพี่ชายมันเป็นผัวพี่มึงไง”
“เจ้กู.....” ผมมองหน้าไอ้เต๋าอย่างตกใจ ก่อนจะชี้ที่ท้องตัวเอง ไอ้เต๋ามันมองผมแล้วพยักหน้า ผมกับไอ้เต๋าหันกลับไปมองพวกพี่ดิน ก่อนจะมองค้อนให้อีกฝ่าย โคตรอยากจะงอนพี่มันเลย มีอะไรไม่เคยบอก ทางไอ้พี่ดินพอเห็นหน้าผมก็ยิ้มแป้น คือเรื่องแบบนี้มึงควรจะบอกกูไหม ห่า! ได้ข่าวว่ากูเป็นแฟนมึงนะไอ้ดิน
ขบวนขั้นหมากเดินมาถึงหน้าบ้าน เสียงฆ้องเสียงโฮ่ดังลั่น งานวันนี้คืองานแห่งความสุข ผมจะไม่งอนพี่มันก็ได้ เพราะว่าพอดูๆแล้ว พี่ชายพี่ดินที่จะมาดองกับบ้านผมมันก็หล่ออยู่เหมือนกัน แถมดูกวนตีนเหมือนพี่ดินอีกด้วย สมควรแล้วที่อิเจ้ผมมันท้องก่อนแต่ง
“พี่หิน น้องคนนั้นพี่ให้ซองเยอะๆนะเว้ย” พี่ดินมันสะกิดพี่ชายมัน
“คนไหน”
“คนนั้นไง” คราวนี้ล่ะทั้งขบวนมองมาที่ผมเป็นตาเดียว ไอ้เชี่ยพี่ดินมึงทำอะไรเนี่ย กูเริ่มอายละนะ เพียงไม่นานขบวนเจ้าบ่าวก็มาถึงที่กั้นขันหมาก พอผ่านไปสองสามคนก็มาถึงคู่ผมกับไอ้เต๋า อันที่จริงวันนี้ไอ้สิงห์ก็มานะครับแต่ม๊าให้มันเป็นช่างกล้อง วันนี้เพื่อนสิงห์ของผมมันดูจะเลิกบ้าคลั่ง เลิกอกหัก เหมือนจะทำใจกับความรักได้แล้วนิดนึง เพราะว่าตั้งแต่ผมเอารูปหไอ้สรกับพี่ลมให้มันดู มันเลยเปลี่ยนเป้าหมายจากความเศร้าแล้วมาพุ่งมายุ่งกับไอ้พี่ลมแทน ทุกวันนี้เฝ้าน้องอย่างกับหมา
“น้องฟ้าใช่ไหม” เจ้าบ่าวพี่ดาวถามผม ผมมองหน้าพี่เขยของตัวเองก่อนจะพยักหน้าตอบ พี่หินแม่งหน้าอย่างหล่อ บ้านนี้มันจะหล่อทั้งบ้านเลยใช่ไหม
“ครับ”
“น่ารัก” พูดจบ พี่เจ้าบ่าวก็ยื่นซองสีชมพูมาหนึ่งซอง ผมรับแต่โดยดีแต่ไอ้เต๋าก็ทำท่าทางบ่ายเบี่ยงไม่ยอม ไอ้เพื่อนห่านิงกจะเอาอีก
“ไม่พอครับ ซองเดียวมันจะไปคุ้มอะไร เจ้ดาวของผมสวยนะครับ ซองเดียวผมไม่ให้ผ่านหรอก” ไอ้เต๋าแม่งสกิลใช้ได้
“งั้นเอาไปอีกซอง” พี่ของพี่ดินยื่นซองให้พวกเราอีกซอง
“เฮ้อ มือมันแน่นเหมือนตุ๊กแกเลยพี่ ดูดิ มือมันไม่ยอมปล่อยสร้อยเลยวะ ถ้าได้อีกสักซองสองซองก็คงจะ....” ไอ้เต๋าแม่งโคตรเล่นลิ้น ผมก็เอาแต่หัวเราะ คำพูดมัน
“พี่หินคนนี้มึงให้ห้าซองเลย” พี่ดินชี้มาที่ผม ไอ้พวกพี่เมืองพี่ภูที่อยู่ด้านหลังแม่งก็ร้องโห่แซวลั่น
“แฟนมึง มึงก็เปย์เองดิ”
“พี่หิน! คนนี้คือคนที่จะมาใช้นามสกุลพี่อีกคนนะเว้ย” พี่เมืองเข้ามาสมทบ หน้าผมเหมือนจะร้อนๆขึ้นมานิดนึงแล้ว ก็พวกพี่มึงเล่นพูดแบบนี้กูก็อายเป็นนะเว้ย
“เออๆ เอาซองไปเลยห้าซอง คู่นี้กูเสียเยอะสุดแล้วมั้งเนี่ย” พี่ของพี่ดินยอมให้ซองตามที่พี่ดินว่า พอผมปล่อยสร้อยปุ๊บเจ้าบ่าวก็เดินเข้าบ้านต่อ ส่วนไอ้พี่ดินพอเห็นผมว่างมันก็เข้าชาร์ตผมทันที มันคว้าเอวผมให้เดินไปข้างๆมัน
“วันนี้น่ารักนะเราอ่ะ” พี่มันกระซิบ ผมทำเป็นไม่ได้ยิน แกล้งทำเป็นหันไปสวัสดีพี่ภูพี่ไม้ พี่เมืองและก็พี่มิ่งแทน
“หวัดดีๆพี่ๆนะครับ”
“ฟ้าอย่ามาทำเป็นไม่สนใจพี่”
“ก็มันน่าไม่ล่ะ นี่แฟนไง แต่ไม่เคยบอกกันเลยว่าพี่ชายจะมาแต่งงานกับพี่ผม”
“พี่ก็ไม่รู้ เพิ่งมารู้จากพี่ชายเมื่อวาน ว่าเจ้าสาวเขามีน้องชายเรียนที่มหาลัยเดียวกับพี่ พวกพี่สี่คนไอ้เมืองไอ้ภูไอ้มิ่งก็ถามกันยกใหญ่ ถามไปถามมาถึงรู้ว่าน้องของเจ้าสาวชื่อเวหา เรียนคณะนิเทศ แม่งโลกโคตรกลมอ่ะ”
“อืม โคตรกลมจริงๆ”
“พอรู้นะ แทบอยากบอกแม่ให้จัดขบวนขันหมากสองขบวนเลย กะว่าจะมาขอฟ้าแต่งด้วยอีกคน”
“ไอ้พี่ดิน เราเพิ่งคบกันเห๊อะ”
“คบไม่คบแต่ได้เป็นเมียแล้ว..คืออยากแต่งแล้ว”
“เพ้อเจ้อ”
พอเริ่มพิธีแต่งงาน พวกผมก็พากันเข้ามานั่งด้านใน พี่ดินแม่งเดินติดกูแจเลย รู้สึกเหมือนมีน้องชายไม่ก็พี่ชายเพิ่มมาอีกคน พิธีตอนเช้าจบป๊าม๊าของผมก็พาญาติพี่น้องฝั่งเจ้าบ่าวหรือพวกเพื่อนๆฝั่งพี่ดินมานั่งทานข้าวอะไรด้วยกัน แล้วค่อยหาที่พักผ่อน หาที่นอนหมอนมุ้งให้เสร็จสรรพ เพราะตอนกลางคืนเราต้องกลับไปจัดงานที่บ้านพี่ดินต่อ
ม๊าหาขนมมาประเคนให้พวกพี่ดินได้กินกันแทบทุกสิ่งอย่าง แถมพอรู้ว่าไอ้พี่ดินคือแฟนผม แกยิ่งดูจะเปย์ไอ้พี่ดินจนออกนอกหน้า เรียกม๊าอย่างนู่นมาอย่างนี้ เจ้นับเดือนก็อีกคนพอเห็นคนหล่อๆนั่งรวมกันไม่ได้เลย พี่สาวผมเอาแต่นั่งยิ้มตาเยิ้ม แถมยังมากระซิบกระซาบถามผมอีกว่าแฟนมึงคนไหน กูอยากเห็น กูจะจิ้น อะไรของเจ้แกเนี่ย
“ไอ้ฟ้า แฟนมึงคนไหน” พี่นับเดือนเข้ามากระซิบถามผม เวลานี้พวกผมกำลังนั่งๆนอนๆกินขนมกันที่ลานหลังบ้าน
“คนนี้ครับพี่นับเดือน” พี่เมืองรีบชี้ไปทีพี่ดินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมพอดี
“หล่อวะ!!!!”
“หวัดดีครับ เมื่อเช้างานยุ่งผมเลยไม่ได้แนะนำตัวกับพี่เลย”
“เออไม่เป็นไร แต่เมื่อไรจะมาขอน้องพี่อ่ะ”
“อีกไม่นานครับพี่”
“ไอ้พี่ดิน!!” ผมรีบเรียกชื่อห้ามปรามมัน
“ไอ้ลมแม่งมีเจอของดีนิหว่า” พี่เมืองชี้ไปที่พี่ลมที่ถูกสรลากไปกินนู่นนี่ในงาน โดยมีไอ้สิงห์ตามประกบอยู่อีกที
“แต่ดูถ้าจะจีบยากวะพี่” ไอ้เต๋าพูดขึ้นมา
“ทำไมวะ”
“พี่มันดุอย่างหมา ไอ้สิงห์เห็นแบบนั้นหวงน้องยิ่งกว่าอะไรดี”
“เออ ก็จริง วันนี้มันยังไม่เข้ามาทักพวกกูเลย เอาแต่ตามตูดไอ้ลมแจ”
“แต่กูละอยากให้แม่งได้กันจริงๆ กูได้ไม่ต้องมาระแวงเมียกูกับมัน” พี่ดินพูดแทรกขึ้นมา ผมเลยมองค้อนพี่มันไป ระหว่างที่เรากำลังคุยกันอยู่ พี่ภูก็เรียกให้พวกเราทุกคนหันไปมองแขกคนใหม่
“เฮ้ยไอ้ดิน น้องชายสุดที่รักมึงมาแล้ววะ” ไอ้พี่ภูชี้ให้พี่ดินหันหลังไปมองเด็กที่เดินเข้ามาในบ้าน เด็กคนนั้นใส่ชุดนักเรียนมัธยม แต่ตัวแม่งโคตรสูง หน้าตาก็ละหม้ายคล้ายไอ้พี่ดินโคตร แต่ไม่เหมือนกันตรงที ไอ้น้องคนนั้นมันขาว ส่วนพี่ดินแม่งดำ
“ไอ้อิฐมานี่ มาแนะนำตัวให้เขารู้จักหน่อยดิ” พี่ดินกวักมือเรียกน้องชายตัวเองให้เข้ามานั่งข้างๆ
“ฟ้า พี่นับเดือนนี่น้องชายสุดท้องของบ้านผม ชื่อไอ้อิฐ”
“สวัสดีครับ” เด็กอิฐยกมือไหว้พวกผม แต่หน้าแม่งโครตนิ่งเลย ดูน่ากลัวเบาๆ
“เออ บ้านดินตั้งชื่อเล่นลูกเก๋มากเลยนะ หิน ดิน อิฐ” พี่นับเดือนพูดพลางยิ้ม
“แม่ผมขี้เกียจตั้งครับพี่ เออ.... ไอ้อิฐสมัครเรียนเป็นไงบ้าง” พี่ดินหันไปถามน้องชาย
“ต่อแถวเขียนใบสมัคร ก็ไม่ยากนะพออ่านหนังสือออก” พอน้องพี่ดินพูดจบ พี่เมืองพี่มิ่งพี่ภูก็พากันหัวเราะยกใหญ่ ชอบใจความกวนส้นของน้องชายพี่ดิน
“ไอ้ห่านิกวนส้นตีน”
“ไหนอ่ะเมียพี่... คนนั้นเหรอ” เด็กอิฐชี้ไปทางพี่ไม้ ที่นั่งอยู่ข้างๆพี่เมือง
“ไอ้บ้า!... นั่นของไอ้เมืองมัน เดี๋ยวกูเตะ”
“เอ้าก็พี่บอกว่าสเป็คมึงน่ารักน่ากิน หรือว่าคนนั้น” ไอ้เด็กนั่นชี้ไปทางพี่มิ่ง
“ไอ้อิฐมึงอย่าโง่ ทั้งกลุ่มมีคนเดียวที่โคตรน่ารัก”
“คนนู่น” มันชี้ไปทางไอ้สรที่กำลังเดินไปหยิบขนมกับพี่ลม
“คนนั้น คนชื่อฟ้าอ่ะ” ไอ้พี่ดินเลยต้องเป็นฝ่ายชี้มาที่ผมเอง เพราะหงุดหงิดที่น้องตัวเองทำตัวป่วนไปเรื่อย
“เหรอ อืม ยินดีต้อนรับเข้าสู่วังวนแห่งความกากนะพี่ฟ้า” ไอ้น้องอิฐทำหน้านิ่งก่อนจะยิ้มมุมปากให้ผม “ที่ผมไม่ชี้พี่เพราะผมคิดว่าไอ้ห่านี้ไม่น่าจะจีบคนแบบพี่ติด พี่แม่งน่ารักเกินไปวะ ขอเบอร์ดิ” ไอ้เด็กอิฐพูดจบก็โดนไอ้พี่ชายของตัวเองตบกบาลไปที
“ไอ้น้องเวร ไอ้เด็กติดยาคูลย์! เมียกูไหมละ นั่นเมียกู!!!!” ผมเลยได้แต่หัวเราะพี่น้องคู่นี้ แต่พวกพี่เมืองพี่ภูแม่งโคตรหัวเราะเกินเบอร์ คงชอบใจที่มีคนมาต่อกรกับไอ้พี่ดินได้
“ไม่เป็นไรถ้าอึบกันไปแล้ว เพราะผมมันน้องชายที่แม่ชอบให้ใช้ของต่อจากพี่อยู่แล้ว ว่างๆโทรมานะพี่ 087-XXXXXXX”
“ไอ้ห่าอิฐ หุบปากไปเลย เดี๋ยวตบกะโหลกแตก”
“ไอ้อิฐแม่ง โครตมาเหนือพี่มันอ่ะ กูยอมใจลูกชายบ้านนี้เลย” พี่เมืองพูดขึ้นมา ผมก็พยักหน้าตามคำของพี่มัน น้องพี่ดินแม่งโคตรมาเหนือในเรื่องของความกวนตีน
“เออ อิฐแล้วมึงสมัครเข้าคณะอะไรวะ” พี่ภูถามขึ้นมา ฝั่งพวกผมก็ได้แต่นั่งฟังพวกพี่ๆมันคุยกัน
“ศิลปกรรม”
“หืม อิฐชอบศิลปะเหรอ” ผมถามน้องพี่ดิน
“เปล่าครับ ผมสมัครศิลปกรรม เอกดนตรีไทย”
“มหาลัยเดียวกับกูเปล่า” พี่ดินถามต่อ
“เปล่า กูไม่อยากอยู่กับมึง พี่ดิน”
“ไอ้เชี่ยนิ พูดขนาดนี้แล้ว... มึงขึ้น กูมึง กับคนเป็นพี่อย่างกูก็ได้นะไอ้ห่าอิฐ”
“มึงพูดเองนะดิน!” พอไอ้อิฐพูดจบเท่านั้นแหละ ไอ้พี่ดินแม่งแทบกุมขมับ บอกตามตรงว่าน้องของพี่ดินแม่งไม่ธรรมดา เลเวลความกวนตีนมีมากกว่าพี่มันเป็นร้อยเท่า ไอ้พี่ดินเวลาพูดมันยังยิ้มมั้งอะไรมั้ง แต่ไอ้เด็กอิฐเวลาพูดหน้าโคตรนิ่งอ่ะ นี่ถ้าหน้าไม่หล่อกูว่าน่าจะโดนกระทืบตายก่อนแก่
“ดีจังเนอะ บ้านนี้พี่น้องรักกันดี” พี่นับเดือนเป็นคนเดียวที่น่าจะไม่ทันอะไรเลย “เออ อีกอย่างบ้านดินก็ดีนะ พี่น้องแต่ละคนชอบกันคนละแบบเลย พี่หินชอบสัตว์ ดินชอบเกษตรใช่ไหม” พี่ดินมันพยักหน้า “ส่วนอิฐก็ชอบดนตรี คนละแนวดีจัง”
“แต่เรื่องสเป็คผมกับพี่ดิน เราชอบคล้ายๆกันนะ” ไอ้อิฐมองผมหน้าตาแม่งโคตรจริงจัง
“น้องครับ เมียกู!”
“ขอ”
“เดี๋ยวเตะ”
“แม่บอกมีอะไรควรแบ่งให้น้อง”
“แต่อะไรแบบนี้กูก็ให้ไม่ได้เปล่าวะ”
“กูจะฟ้องแม่”
“อิฐน่ารักจัง” พี่นับเดือนยังเป็นพี่สาวที่ตามอะไรไม่ทันอยู่ดี
“น่ารักตรงไหนครับพี่เดือน แม่เขาชอบตามใจมัน น้องผมมันเลยเพี้ยนๆแบบนี้ไง” พี่ดินตอบพลางแขกหัวน้องชายไปที “ไอ้คนพี่ไม่เท่าไร ไอ้คนน้องนี่แม่สปอยไว้เยอะ วันๆเอาแต่เล่นดนตรี ว่างๆก็เอาแต่ตีระนาดเป่าขลุ่ย ซีซออะไรของมันไปเรื่อย”
“ผมซีซอให้พี่ๆผมฟังครับ” พอน้องอิฐพูดจบ พี่ในวงสนทนาก็หัวเราะกันลั่นอีกครั้ง
“ไอ้ห่าอิฐ”
“เออ แม่อยู่ไหนอ่ะ อยากกลับบ้านแล้วอ่ะ ง่วง”
“แม่คุยกับผู้ใหญ่บ้านฟ้าอยู่ มึงอย่ามางอแง”
“ก็กูง่วง งั้น นอนห้องเมียมึงได้ไหม”
“หูย แรง” พี่เมืองพูดขึ้นมา
“ไม่ได้ กูยังไม่เคยนอนเลยมึงเป็นใคร จะมานอนห้องเมียกู”
“ดิน กูก็น้องมึงไง มึงจำกูไม่ได้เหรอดิน” ไอ้เด็กอิฐกวนส้นตีนเบอร์ใหญ่ มันมองหน้าพี่ชายมันก่อนจะเดินมานั่งฝั่งผมแล้วทิ้งหัวลงบนตักผมทันที
“โคตรท้าทายอำนาจมืด” พี่ภูแม่งพูดขึ้นมา พลางมองหน้าเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้น่าจะโกรธลมออกหู
“มึงจะลุกดีๆ หรือว่ามึงจะให้กูใช้ลำแข้งช่วยให้มึงลุก”
“กับน้องกับนุ้งก็ไม่เว้น พี่ฟ้าผมกลัว” ไอ้น้องคนนี้ พูดว่ากลัวแต่หน้ามันยังนิ่งอยู่เลย สองพี่น้องฟาดฟันกันอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนที่พี่หินเจ้าบ่าวของเจ้ดาวของผมจะออกมาห้ามปราม แล้วลากน้องสองคนของตัวเองออกไปเคลียร์ ผมรู้มาจากพี่เมืองว่า พี่ดินกับน้องชายไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไร กัดกันตลอดเวลา แต่สิ่งที่สองคนนี้กลัวที่สุดคือพี่ชายของมัน พี่หิน! เห็นหน้ายิ้มๆแบบนั้น เคยเตะน้องสองคนของตัวเองตกคลองมาแล้ว โหดไหมละ
ระหว่างที่ผมกำลังเดินไปหยิบขนมให้พวกพี่มันในครัว พี่ดินก็เดินตามเข้ามา
“อิฐล่ะ”
“พี่หินลากให้มันไปนอนในรถล่ะ ง่วงที่ไรกวนส้นตีนทุกที”
“ไม่ถูกกันเหรอ”
“เปล่าแต่นิสัยมันก็แบบนั้นแหละ มันบอกเห็นพี่กระวนกระวายแล้วมีความสุข กวนไหมล่ะ”
“555 เพิ่งเคยเห็นพี่โดนต้อนจนมุมเป็นครั้งแรก”
“ก็ยอมมันคนเดียว”
“ยอมผมด้วยเปล่า” ผมเอียงหน้ามองแฟนตัวเอง
“คนนี้ยอมตลอดชีวิตเลยเอ้า” ไอ้พี่ดินยิ้ม พลางหยิกแก้มผมเบาๆ “น่ารักวะ ขอฟัดเหม่งหน่อยดิ” พูดจบมันก็ดึงผมไปหอมแก้ม
“ไหนว่าฟัดเหม่งไง มาฟัดแก้มทำไม”
“ผิดๆ มาเอาใหม่” พี่ดินพูดจบมันก็ดึงผมไปหอมหน้าผาก ไอ้พี่ดินนิมันเจ้าเล่ห์จริงๆ
“แบบนี้ก็มีด้วย”
“อยากจะฟัดมากกว่านี้ด้วยซ้ำ คืนนี้ขอฟัดหน่อยดิ”
“ไม่เอา”
“โธ่ฟ้า”
“แต่....ถ้าทำตัวดีๆ จะพิจารณาคำขอนะ”
“รักวะ”
“ก็รักเหมือนกันวะ” ผมพูดตอบ ไม่รู้ว่าพี่ดินมันหมั่นเขี้ยวหรือว่าอะไร มันเลยแกล้งดึงแก้มผมเบาๆ
ช่วงบ่าย ผมกับญาติพี่น้องก็เดินทางมาที่บ้านเจ้าบ่าว มาช่วยกันจัดงานเตรียมงานช่วงกลางคืน พี่หินเดินมาบอกผมกับพี่เดือนว่า ต่อไปนี้เขาขอยึดพี่ดาวไว้ที่นี่นะ พี่หินสัญญาว่าจะเลี้ยงดูและเปย์พี่สาวผมเป็นอย่างดีไม่ต้องห่วง ถ้าผมกับพี่เดือนอยากมาหาเมื่อไรก็มาได้เสมอ มาอยู่เลยก็ได้ ไอ้พี่ดินพอได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ายกใหญ่ บอกว่าต่อไปยังไงผมก็ต้องมาเป็นคนบ้านนี้ ดูพี่มันพูด
พอเราจัดเตรียมงานเสร็จ พี่ดินก็พาพวกผมไอ้เต๋าไอ้สิงห์เที่ยวชมไร่ของมัน บ้านพี่ดินว่าใหญ่แล้วที่ทางยังเยอะอีกด้วย สมแล้วที่ซื้อไก่ตัวละ12000 ของพี่เมืองให้พวกผมกิน พี่ดินพาผมซ้อนท้ายจักรยานไปเที่ยวในสวน ส่วนคนอื่นก็ปั่นตามๆกันไป พี่ดินชี้นา ชี้สวนผลไม้ พาพวกผมกินนู่นกินนี่จนแทบอิ่ม บ้านพี่มันทำเกษตรที่มีครบทุกอย่างเลยครับ สมแล้วที่มันเลือกเรียนเกษตร
“ข้ามคลองตรงนี้ไปก็เป็นสวนของไอ้เมือง” พี่ดินพูดพลางจอดจักรยานให้ผมลง
“บ้านพี่เมืองปลูกอะไรอ่ะ” ผมหันไปถามพี่เมือง
“ก็ผลไม้ธรรมดา ลำใย เงาะ บ้านไอ้ดินปลูกเยอะกว่าพี่อีก บ้านพี่เน้นปลูกผักปลูกข้าวโพดกันมากกว่า”
“แล้วบ้านพี่ภูล่ะ อยู่ไหน”
“ของพี่อยู่อีกฝั่ง สวนไอ้ดินอยู่ตรงกลาง ฝั่งซ้ายของไอ้เมืองฝั่งขวาของบ้านพี่”
“อ๋อ ดีจังอยู่ติดกัน”
“บ้านไอ้ภูมันผลิตโคนมนะ นมบ้านมันอร่อยมาก” พี่ดินพูดขึ้นมา
“อยากกินเลย”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะเอามาให้กิน”
“ผมรอเลย”
ระหว่างที่พูดๆกันอยู่ พี่เมืองก็พาผมเดินไปดูสวนของพี่มัน ผมแกล้งเดินเข้าไปถามพี่ไม้ว่าเคยมาไหม พี่ไม้มันพยักหน้าแถมยังพูดอวดอีกว่า เมืองพามาบ่อย
“แล้วพี่เมืองเคยไปบ้านพี่ป่ะ” ผมถามพี่ไม้อีกครั้ง
“ไปบ่อยพอกันนะ”
“ดีจัง... เออแล้วถ้าพี่เรียนจบพี่จะทำงานที่ไหนอ่ะ ในเมืองหรือมาทำอยู่ที่นี่”
“พี่ว่าจะทำในเมือง มาอยู่ที่นี่มีหวังไม่มีงานแน่ มีแต่สวนแต่ไร่ใครจะมาจ้างสถาปนิกแบบพี่”
“งั้นก็ต้องแยกกันดิ” ผมหันไปมองพวกพี่ๆ ที่เวลานี้กำลังแกล้งกันอยู่ตรงริมคลอง พวกพี่ๆมันแกล้งกันแบบไม่ธรรมดา เล่นเตะกันแบบใครเผลอมึงมีหล่นคลองแน่ ไอ้เต๋าโดนไปแล้วคนแรก
“อืม”
“ทนได้เหรอ”
“ทนไม่ได้ก็ต้องทนให้ได้ คนรักกันมันต้องเชื่อใจกันฟ้า ถ้าเมืองจะมีคนใหม่พี่ก็คงห้ามอะไรไม่ได้ แต่เมืองเคยบอกว่าถ้างานพี่เข้าที่เข้าทาง เขาก็อยากให้พี่มาอยู่ด้วยกัน แบบรับงานมาทำที่บ้านอะไรแบบนี้”
“ก็ดีนะพี่”
“พี่ก็คิดๆอยู่ ช่วงแรกๆที่ทำงาน ก็คงต้องวัดใจกันหน่อยว่าชีวิตคู่มันจะรอดหรือไม่รอด”
“ต้องรอดดิพี่”
“แล้วฟ้าล่ะ ถ้าดินจบ ดินก็ต้องกลับมาทำงานที่นี่ ฟ้าทนได้เหรอ”
“นั่นสิ ผมไม่เคยคิดเลยว่าสักวันพี่ดินก็ต้องเรียนจบ แล้วเขาก็ต้องไปทำงานของตัวเอง” ผมเริ่มกังวลกับชีวิตคู่ของตัวเอง
“ไม้แกล้งอะไรแฟนดินอีกแล้ว ดูดิแฟนดินทำหน้ามุ้ยแล้ว” พี่ดินเดินเข้ามาหาผม
“ก็แค่ถามว่า ถ้าดินเรียนจบ ฟ้าจะอยู่ได้ไหมถ้าไม่ได้เจอดิน”
“อยู่ได้ดิ เพราะยังไงดินก็ต้องขึ้นไปหาแฟนดินทุกๆอาทิตย์อยู่แล้ว ดินไม่ทิ้งแฟนดินหรอก น่ารักขนาดนี้ทิ้งได้ไง เดี๋ยวมีคนมาแย่งไปพอดี” พี่ดินหันมายิ้มให้ผม ก่อนจะคว้ามือผมไปจับ พอพี่มันพูดแบบนี้ค่อยชื่นใจขึ้นมาหน่อย
“แล้วช่วงทำงานล่ะ ฟ้าเรียนนิเทศยังไงก็ต้องทำงานในเมืองอยู่แล้ว แยกกันอีกแล้วนะ หรือว่าฟ้าอยากมาอยู่กับดินที่ไร่เลย” พี่ไม้ถามย้ำอีกครั้ง
“เอายังไงหืม... จะให้แม่ไปขอเลยรึเปล่าล่ะ” พี่ดินอมยิ้มถามผม ผมเลยทุบอกมันไปที
“บ้า!.... ดูปากดิ”
“พี่ก็เตรียมตัวดิ เดี๋ยวหาค่าสินสอดไม่ทัน”
“เรียนจบมาใหม่ๆ ผมก็อยากทำงานในสายที่ผมเรียนดิ”
“โอเค งั้นจะตามไปทุกทีเลย จะขึ้นไปฟัดเมียทุกอาทิตย์เหมือนเดิม ลักพาตัวกลับบ้านได้ก็จะลัก นี่ก็คิดอยู่ว่าจะพามาปู้ยี่ปู้ยำที่บ้านสักที”
“เดี๋ยวจะตีปาก ทะลึ่งใหญ่แล้ว”
“ไม้ว่าคู่ดินเรื่องระยะทางคงไม่มีปัญหาแล้วล่ะ”
“ดินไม่ทำให้มีหรอก ดินรักฟ้าจะตาย รักมากด้วย”
“รู้แล้วน้า”
“รักเว้ยเฮ้ย”
“พอ!”
งานช่วงกลางคืน เป็นงานเลี้ยงแบบสบายๆ เราจัดงานท่ามกลางธรรมชาติ มีดอกไม้มีร่มกางประดับรอบงาน แนววินเทจบ้านๆ พี่หินกับพี่ดาวรับแขกอยู่หน้างาน วันนี้ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวสวยหล่อสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ผมดีใจที่พี่สาวผมเจอคนดีอย่างพี่หิน ถึงเราจะรู้จักกันได้ไม่ถึงวัน แต่ผมประทับใจมากที่พี่หินเดินมาสัญญากับผมว่าจะดูแลพี่สาวผมเป็นอย่างดี ผมรู้สึกถึงแววตาและน้ำเสียงของพี่หินว่าเขาจะทำตามสัญญาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
งานดำเนินไปได้ด้วยดี วันนี้พวกพี่ดินทำหน้าที่การแสดงอยู่บนเวที พลัดกันร้องพลัดกันเล่นเพลงรักให้พี่ชาย ส่วนไอ้พี่ลมก็ถูกดึงไปร้องด้วยอีกคนเหมือนกัน ผมเห็นแววตาที่พี่ลมมองไอ้สรก็รู้สึกว่าสองคนนี้น่าจะสปาร์คกันแล้วแน่ๆ หวานซะ แต่พอเห็นหน้าไอ้สิงห์ก็หมดอารมณ์ เพราะแม่งนั่งแยกเขี้ยวอย่างกับหมาอยู่ข้างน้องมัน
พองานผ่านไปสักพัก พิธีกรก็เรียกคู่บ่าวสาวขึ้นเวที ขึ้นไปขอบคุณแขกร่วมงาน ขึ้นไปตัดเค้ก โยนช่อดอกไม้ ก่อนที่พี่หินจะเอาเก้าอี้มาให้พี่ดาวนั่งข้างเวที แล้วเขาก็เรียกน้องชายทั้งสองคนขึ้นมาทำการแสดงให้กับเจ้าสาวของตัวเอง
อิฐเดินมานั่งบนโต๊ะที่มีระนาด ส่วนพี่ดินเดินขึ้นมาพร้อมขลุ่ย ผมที่นั่งอยู่โต๊ะด้านล่างมองสามพี่น้องที่อยู่ด้านหน้าเวทีด้วยความแปลกใจ อยากรู้เหมือนกันว่าพวกพี่มันจะเล่นอะไรกัน พอพี่หินมองหน้าน้องชายทั้งสองของตัวเอง แล้วพยักหน้าให้ พวกอิฐและพี่ดินก็เริ่มบรรเลงเพลงไทยเดิม ไฟในงานก็ดับลงและถูกแทรกด้วยแสงไฟตะเกียงที่อยู่โดยรอบ โคตรโรแมนติกแบบสุดๆ
พี่ดินเป่าขลุ่ยส่วนอิฐก็เล่นระนาด ทำนองเพลงแสนหวานดังคลอไปเรื่อยๆ จนกระทั้งเสียงหินร้องขึ้นมา ผมรู้เลยว่าทุกคนในงานนี้ต้องทำตาหวานปานน้ำผึ้งใส่เจ้าบ่าวแน่ๆ เพราะเสียงพี่หินเพราะมาก ผมฝังผมยังขนลุกเลย
(พี่หิน) โอ้ละหนอดวงเดือนเอ่ย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง
โอ้ว่าดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นห่วงรักเจ้าดวงเดือนเอย
ขอลาแล้วเจ้าแก้วโกสุม(เอื้อน) พี่นี้รักเจ้าหนอขวัญตาเรียม
จะหาไหนมาเทียมโอ้เจ้าดวงเดือนเอย (ซ้ำ) จบท่อน พี่ดินเลิกเป่าขลุย กลายเป็นเสียงดนตรีที่พวกพี่เมืองเล่นขึ้นมาแทรกแทน แต่ยังมีเสียงระนาดของอิฐคลอไปเรื่อยๆ พอขึ้นท่อนต่อไป พี่ดินก็หยิบไมค์ขึ้นมาร้องผมมองพี่มันด้วยความแปลกใจ ไม่คิดว่าพี่ดินมันจะร้องเพลงแนวนี้ได้ พี่ดินร้องไปในขณะที่สายตาก็ยังคงจ้องมองแต่ผม พอเจอเสียงหวานๆ บวกกับสายตาของพี่ดินที่โคตรหวาน หน้าผมมันก็เลยรู้สึกร้อนขึ้นมาแบบไม่มันตั้งตัว เขินแฟนตัวเองอีกแล้ว จะบ้าตาย ปาใจแม่งเลย
(พี่ดิน) หอมกลิ่นเกสร เกสรดอกไม้ หอมกลิ่นคล้ายคล้ายเจ้าสูเรียมเอย (ซ้ำ)
(พี่ดิน พี่หิน) หอมกลิ่นกรุ่นครันหอมนั้นยังบ่เลย เนื้อหอมทรามเชยเอยเราละเหนอ (ซ้ำ)
พอจบเพลงพี่หินก็เดินไปที่เจ้าสาวแล้วก็นั่งคุกเข่าก่อนจะคว้ามือพี่ดาวมากุม แล้วจุ๊บลงไปเบาๆ เรียกเสียงกรี๊ดได้ทั้งงาน อย่าว่าแต่พี่ดาวเขินเลย ผมยังเขินเหมือนกัน พี่น้องบ้านนี้ทำไมชอบทำตัวหวานๆให้น่าเขินได้ขนาดนี้
สิ้นพิธีการทั้งหมด ทุกคนก็ร่วมสนุกร้องเพลง เต้นกันหน้าเวทีสนุกสนาน พี่ดาวก็หัวเราะเจ้าบ่าวของตัวเองที่วันนี้สนุกสุดเหวี่ยง พี่สาวผมก็ใช่ย่อยอยากเต้นกับเขาเหมือนกันแต่ถูกพี่หินห้ามไว้ก่อน เพราะกลัวจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องเลยได้แต่นั่งตบมือดูเจ้าบ่าวของตัวเองเต้นไป
ส่วนผมระหว่างที่นั่งฟังเพลงอยู่ ไอ้พี่ดินเดินมาจากทางไหนก็ไม่รู้ มาพาตัวผมออกไปจากกงาน มันลากผมไปด้านหลังบ้าน พาผมไปนั่งบนม้านั่งทางด้านหลัง เงียบแถมไม่มีผู้คน เริ่มกลัวใจแฟนตัวเองจริงๆ
“ขอมือ” พี่ดินมองผม ก่อนจะแบมือตัวเองมาที่ด้านหน้าผม
“ไม่ใช่หมานะ จะมาของมงขอมือ”
“ไม่ใช่หมาแต่เป็นเมียไง”
“ชอบพูดอะไรน่าอาย”
“ฟ้าครับ พี่ดินขอมือหน่อย” พี่ดินมันพูดเพราะกับผมครับ พอเจออะไรแบบนี้เข้าไป ก็ทำเอาผมไปไม่เป็นเหมือนกัน ซ้ำยังมาทำตาหวานใส่ยิ่งแล้วใหญ่
“ก็ได้”
“มันอาจจะไม่ได้มีค่าอะไรมากมาย แต่พี่ก็อยากให้มันอยู่ติดตัวฟ้าไปตลอด” พี่ดินมันพูดพลางสวมแหวนให้ผม มันเป็นแหวนเงินธรรมดาที่ไม่มีลวดลายอะไร เรียบๆ แต่มันทำให้ผมประทับใจจนพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน
พาร์ทดิน“พี่รักเรานะฟ้า” ผมบอกน้อง ก่อนจะจับมือน้องขึ้นมาจูบหลังมือเบาๆ
“ให้แหวนไม่ได้ขอแต่งงานใช่ไหม” ฟ้าพูดเชิงเล่นเชิงจริงแต่ดวงตาของน้องมันคลอไปด้วยน้ำตา ที่เหมือนกับว่ามันจะไหลออกมาได้ตลอด
“อยากขออยู่หรอก แต่เมียยังเรียนไม่จบ”
“บ้า” น้องว่าผม ก่อนที่ผมจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้น้อง
“ให้เอาไว้แทนใจ ที่จริงของมันก็สู้ใจที่พี่ให้ฟ้าไม่ได้หรอก แต่พี่แค่อยากให้เรารู้ว่าพี่จะอยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา ทั้งยามที่ฟ้ามีปัญหาพี่ก็จะช่วยแก้ ยามที่ฟ้าทุกข์ใจพี่ก็จะช่วยปลอบ ยามที่ฟ้ามีความสุข ข้อนี้พี่จะทำให้ฟ้ามีความสุขเองทั้งยามกิน
ยามนอน” ยามนอนนี่กูเน้น กูขยี้ให้เมียกูอายเลยอ่ะ
“ทะลึ่ง” น้องทุบไหล่ผม พลางหัวเราะ
“โห่ ไม่ได้คิดอะไรเลยเห๊อะ เรื่องบนเตียงไม่ได้อยู่ในหัวเลย”
“ไม่อยากจะเชื่อ” ฟ้าค้อนใส่ผม ตอนนี้เมียทำอะไรก็น่ารักไปหมดอ่ะ เห่อสุดแล้วคนนี้
“ทำไมน่ารักแบบนี้วะ รักวะ” ผมรวบตัวฟ้าเข้ามากอด
“รักเหมือนกัน รักมากด้วย”
ผมไม่รู้ว่าชีวิตต่อไปของเราจะเป็นยังไง แต่ผมรู้แค่ว่าต่อจากนี้ วันนี้ หรือวันไหนๆ ผมจะรักฟ้าของผมคนเดียวเท่านั้น
The endลองฟัง ลาวดวงเดือน เวอร์ชั่น โดม กับกันเดอะสตาร์จะเห็นภาพงานแต่งของพี่หินเลยค่ะ
เสียงหวานเพราะมาก
https://www.youtube.com/watch?v=Nv_BEQpdFc4พระเอกคนใหม่ของนักเขียนออกมาแล้วนะคะ คราวหน้าเกรียนกากเท่ห์กว่านี้แน่นอน
ฝากตัวน้องพระเอกคนใหม่ด้วยเน้อ น้องอิฐ เอกดนตรีไทยของเจ้
แล้วก็รอติดตามสเปของพี่ลมนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมา ขอบคุณแทนพี่ดินน้องฟ้ามากค่า