Update ความคืบหน้าเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยค่า หลังจากแบกปกจนกล้ามปูดจากโรงพิมพ์ A ไปโรงพิมพ์ B อย่างที่เคยเล่าให้ฟังคราวที่แล้ว ตอนนี้ก็ได้หนังสือตัวอย่างมาอยู่ในมือเรียบร้อย หลังจากนี้จะปรูฟตัวสะกดและรายละเอียดปลีกย่อยก่อนจะสั่งพิมพ์จริงๆ ค่ะ รูปที่แปะมาให้ดูก็คือรูปตัวอย่างหนังสือนั่นละ (คนที่อยู่ใน fb friend list คงจะเห็นแล้ว) ตรงชื่อเรื่อง "แม้นมั่นคำสัญญา" กับกรอบสีทองที่ดูขึ้นเงาสะท้อนแสงแวบๆ นั่นเพราะว่าเคลือบสปอตยูวี นี่ละสาเหตุที่ยอมยุ่งยากใช้สองโรงพิมพ์
ความคืบหน้าตอนนี้:
1. ตรวจแก้คำผิดของเล่ม 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากแก้ของเล่ม 2 เสร็จก็จะสั่งพิมพ์เลย น่าจะไม่เกินสัปดาห์นี้
2. หลังจากปรับขนาดบอกซ์เซ็ทให้ได้ตามขนาดหนังสือตัวอย่างแล้วก็จะส่งเข้าโรงพิมพ์เหมือนกัน น่าจะไม่เกินสัปดาห์นี้เช่นกัน (ตัวบอกซ์นี่ละที่จะใช้เวลาทำนาน ถึงได้ต้องเผื่อเวลาเยอะ)
ถ้ารันไปตามกระบวนการนี้ ทุกอย่างก็น่าจะเรียบร้อย + จัดส่งได้ตามกำหนดในต้นเมษาค่ะ ความจริงก็อยากเร่งให้เร็วกว่านั้น แต่โรงพิมพ์ก็มีคิวงานของเขา + อิป้าเองมีรายงานสามตัวที่ต้องทำให้เสร็จและส่งเดือนนี้ ก็เลยต้องเฉลี่ยความสำคัญไปให้เท่าๆ กัน ไม่งั้นอาจโดนผู้ปล่อยเงินกู้ค่าเทอมงับหัวเอาได้ที่มัวเขียนนิยายจนเกรดตก และเนื่องในโอกาสที่มาอัพความคืบหน้าครั้งนี้...จึงขอยั่วคนอ่านด้วยส่วนหนึ่งของตอน Side story ในรวมเล่ม เพราะไหนๆ หลายคนก็ทายถูกอยู่แล้วว่าจะเป็นคู่ของใคร เลยเอามาให้อ่านกันพอเป็นน้ำจิ้มก่อนค่ะ (อภิสิทธิ์ให้ชาวเล้าที่เดียว เพราะว่าเป็นบอร์ดแรกที่ลงเรื่องนี้) หลังจากนี้คงไม่ได้มาอัพความคืบหน้าเท่าไหร่กระทั่งได้ทั้งหนังสือและบอกซ์เพราะคงหัวฟูกับกองรายงาน ก็ขอฝากความคิดถึงนักอ่านทุกคนไว้ตรงนี้เลยแล้วกันนะคะ แล้วเจอกันในอัพเดทคราวหน้าค่า
Again ใครยังไม่ได้โอนเงินก็ยังมีเวลาถึง 24 มีนา หรือถ้าหากมีเหตุจำเป็นให้ต้องโอนช้ากว่านั้นนิดหน่อยแต่ไม่เกินปลายเดือน ขอให้อีเมล์มาบอกกันก่อนวันที่ 24 จะได้ตกลงเป็นรายๆ ไปค่ะ (อีเมล์ bellbomb [at] hotmail dot com)++------++
Side story: เดิมพันของหัวใจ (เนื้อหาบางส่วน)
“แน่ใจนะว่าจะไม่ลุกไปอาบน้ำเองจริงๆ?”
คนถูกถามทำท่าคิดทั้งที่ยังกอดหมอนข้างไม่ปล่อย จากนั้นก็หลับตาปี๋แล้วส่ายหน้า นรพัฒน์จึงถอนหายใจแล้วก็ลุกขึ้น
“ถ้างั้นก็ถอดเสื้อผ้าซะ เดี๋ยวเฮียไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ ระหว่างนี้ห้ามหลับไปซะก่อนล่ะ”
ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องนอนโดยไม่ได้หันหลังไปมองว่าเจ้าเด็กปากดีกำลังทำหน้าแบบไหน ที่แน่ๆ เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล แต่ก็ตัดสินใจว่าจะเล่นตามน้ำไปก่อน
จะได้รู้กันไปว่าเด็กมันตั้งใจยั่ว...หรือเมาจนไม่รู้ตัวว่ากำลังเล่นกับใครอยู่กันแน่...
นรพัฒน์แวะเข้าห้องนอนตัวเองเพื่อหยิบเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นสำหรับให้ชลิตเปลี่ยน จากนั้นก็เข้าห้องน้ำไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กกับอ่างพลาสติกที่รองน้ำใส่ไว้ครึ่งหนึ่ง ชายหนุ่มใช้วิธีพาดผ้าทุกชิ้นไว้บนไหล่จะได้ไม่ต้องถือให้รุงรัง เมื่อเดินกลับเข้าไปในห้องด้านในสุดอีกครั้งก็พบว่าเด็กหนุ่มยันตัวขึ้นนั่งแล้ว แต่ดูเหมือนยังทำใจถอดเสื้อไม่ได้เพราะกระดุมเชิ้ตสีขาวถูกปลดไปสองเม็ดเท่านั้น
เจ้าของบ้านวางเสื้อผ้ากับอ่างน้ำลงบนโต๊ะข้างเตียง จากนั้นก็นั่งลงข้างๆ แล้วยื่นมือไปช่วยปลดกระดุมเสื้อ ชลิตสะดุ้งแล้วก็ทำท่าเหมือนจะถอย แต่แล้วก็เม้มปากและยอมนั่งนิ่งให้นรพัฒน์ถอดเสื้อให้แต่โดยดี พลันคนที่ไม่มีปากเสียงก็ทำตาโตแล้วรีบคว้ามือแข็งแรงที่กำลังจะถอดเข็มขัดกับกางเกงให้
“เฮ้ย! เฮีย! เช็ดแต่ข้างบนก็ได้ ข้างล่างไม่ต้องหรอก เดี๋ยวผมทำเอง”
นรพัฒน์เลิกคิ้วพลางเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าแดงก่ำของอีกฝ่าย จากนั้นก็เหลือบตาลงแล้วถอดเข็มขัดต่ออย่างไม่นำพากับอาการดิ้นขลุกขลัก
“ไม่ได้ ในเมื่อไม่ไปอาบน้ำเองตั้งแต่แรกก็ต้องให้เฮียเช็ดตัวให้ทั้งตัวแบบนี้แหละ”
“เว้ย! เดี๋ยวก่อน!! เดี๋ยวๆๆๆ!!!!”
เด็กหนุ่มหลับตาปี๋แล้วก็ผลักอกนรพัฒน์เต็มแรงจนชายหนุ่มผงะ ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าแก้มที่แดงก่ำของอีกฝ่ายคงไม่ได้มาจากแอลกอฮอลล์แน่
“ถ้าอายก็ถอดออกแต่ตัวนอกแล้วเหลือกางเกงในไว้ก็ได้ ถอดแล้วก็เอาผ้าห่มปิดไว้ก็แล้วกันจะได้รีบๆ เช็ดตัวให้เสร็จแล้วนอนกันสักที รู้หรือเปล่าว่านี่มันจะตีสามแล้วนะ”
ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะหันหลังให้ด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่าย ด้านหลังไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวจนกระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่ อึดใจถัดมาอีกฝ่ายก็เรียกเขาเสียงอ่อย
“เสร็จแล้วเฮีย…”
นรพัฒน์หันกลับไปโดยแทบจะไม่ได้สนใจมองร่างเปลือยท่อนบนของเด็กหนุ่มที่เขาแอบมองมานาน หากเป็นเวลาอื่นและสถานการณ์อื่น เขาอาจจะตื่นเต้นกับโอกาสที่ถูกยื่นให้ถึงที่มากกว่านี้ แต่เพราะลางสังหรณ์ว่ามีอะไรบางอย่างไม่เข้าที่เข้าทางรวมกับความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งคืน ตอนนี้เขาจึงเพียงแต่อยากจะทำเรื่องตรงหน้าให้เสร็จเพื่อจะได้ไปพักผ่อน
“ยื่นแขนมา”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากจุ่มผ้าลงในอ่างน้ำและบิดจนหมาดแล้ว เมื่ออีกฝ่ายยกแขนให้อย่างเงอะๆ งะๆ นรพัฒน์ก็ดึงแขนข้างนั้นให้เหยียดตรงด้วยแรงที่เกือบจะเหมือนกระชาก ทว่ายามที่มือใหญ่ใช้ผ้าชื้นเช็ดไปตามลำแขนผอมเรียวนั้นกลับเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
“เฮีย...โกรธผมเหรอ?”
ชลิตถามเสียงอ่อย นรพัฒน์เหลือบตาขึ้นมองคนถามแวบหนึ่งก่อนจะเบนสายตาลงหาภารกิจตรงหน้า “เปล่า เฮียแค่เหนื่อย...ส่งแขนอีกข้างมา”
ร่างสูงเอ่ยหลังจากเช็ดแขนข้างซ้ายให้เด็กหนุ่มเสร็จแล้ว ทว่าแทนที่จะยื่นแขนขวาให้ ชลิตกลับโถมตัวเข้ามากอดคอเขาไว้แน่น การกระทำอันไม่คาดคิดทำให้นรพัฒน์นั่งอึ้งโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไร และไม่แม้แต่จะยกมือขึ้นกอดอีกฝ่ายตอบด้วย
“เฮีย จูบผมหน่อย”
++--- tbc ---++
อยากรู้ว่าทำไมเฮียนอต้องมาเช็ดตัวให้น้องบอย และจะเกิดอะไรต่อจากนี้ รออ่านในรวมเล่มนะจ๊ะ อิอิ