ตามที่เคยบอกว่าจะเอาตอนพิเศษสั้นๆ ของต้นกับไผ่มาให้อ่านสักตอนก่อนรวมเล่มจะเสร็จ คราวนี้ก็ได้ฤกษ์ละค่ะ แต่จะทยอยมาลงให้ไปเรื่อยๆ เพราะเนื้อหาไม่ต้องอ่านแบบต่อเนื่องอยู่แล้ว ใครแฟนประจำอ่านแล้วแวะลงชื่อกันหน่อยเร้ว~ ![เมา :really2:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/really2.gif)
++------++
ตอนพิเศษ 1 (1/?)#01 – กำลังใจ
ตระการอาจจะอายุน้อยกว่าพรพฤกษ์สองปีก็จริง แต่หลายเรื่องก็รู้ดีกว่ามากจนพรพฤกษ์ตามไม่ทัน ถึงกระนั้นพรพฤกษ์ก็ไม่เคยนึกอิจฉา เพราะเขาไม่เคยต้องเหนื่อยใจกับการแข่งขันชิงไหวชิงพริบกับคนรัก แถมบางครั้งตระการยังทำให้เขารู้สึกดีที่อายุมากกว่าด้วยการเข้ามาอ้อนขอกำลังใจหลังจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะมอบให้อีกฝ่ายได้
#02 – รูปถ่าย
หลังจากพรพฤกษ์ย้ายมาอยู่บ้านของตระการแล้ว มีหลายครั้งที่พวกเขาไปไหนมาไหนด้วยกันและถ่ายรูปคู่หรือรูปเดี่ยวเก็บไว้ แต่รูปที่ตระการชอบที่สุดไม่ว่าเมื่อไหร่ก็คือรูปที่เขาแอบถ่ายตอนพรพฤกษ์กำลังยืนดูวิวบนวัดพระธาตุดอยสุเทพ เขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่าทำไม แต่อาจเพราะนั่นเป็นรูปที่ถ่ายในวันแห่งความทรงจำที่ทั้งสองเริ่มคบกัน หรือไม่ก็เป็นเพราะรูปนั้นเตือนให้เขานึกถึงช่วงเวลาที่แอบชื่นชมพรพฤกษ์โดยที่เจ้าตัวไม่รู้มาตลอดสิบกว่าปี และทำให้เขารำลึกได้ว่าความสัมพันธ์ที่พวกเขามีร่วมกันในตอนนี้มีค่ามากแค่ไหน
#03 – เพื่อน
แม้ว่าพรพฤกษ์จะเติบโตมากับตาตั้งแต่ยังจำความไม่ค่อยได้ แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยมองโลกในแง่ร้ายที่ตัวเองไม่มีพ่อแม่เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ และคิดว่าเขาโชคดีกว่าอีกหลายคนที่มีเพื่อนสนิทอย่างนรพัฒน์และดิษยะที่คอยห่วงใยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และเขาก็นึกขอบคุณตระการที่ไม่เคยหึงหวงอย่างไร้สาระเวลาที่บอกว่าอยากไปเยี่ยมเพื่อนๆ ที่เชียงใหม่
#04 – รำคาญ
ตอนเด็กตระการเคยสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะตื่นมาพบแต่ห้องนอนอันมืดทะมึนและอ้างว้าง ไม่ว่าจะร้องได้ดังสักแค่ไหนก็ไม่มีใครมาอยู่ข้างๆ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยแสดงความรำคาญเวลาที่พรพฤกษ์ละเมอและร้องไห้ช่วงหลังออกจากโรงพยาบาล และคอยดูแลจนกว่าอีกฝ่ายจะเพลียและหลับไปเองเท่านั้น เพราะเขารู้ดีว่าการหลั่งน้ำตาในความมืดโดยไร้อ้อมกอดที่ปลอบโยนนั้นทรมานเพียงไร
#05 – ครอบครัว
ตระการไม่สนิทกับพ่อมาตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็ไม่เคยทำตัวนอกลู่นอกทางเพื่อเรียกร้องความสนใจเพราะได้รับความอบอุ่นจากพิมผกาเพียงพอ หลังแม่เลี้ยงเสียไปตระการก็ได้แต่หวังว่าพ่อจะอ่อนโยนลงและให้เขามีโอกาสใกล้ชิดด้วยบ้าง แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นเรื่องเพ้อฝันจนกระทั่งพรพฤกษ์ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านสุวรรณฤทธิ์ และนั่นเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่เขาได้สัมผัสความอบอุ่นของการเป็นครอบครัวจริงๆ
#06 – อาหาร
ถึงแม้ที่บ้านสุวรรณฤทธิ์จะมียายแสนและเด็กแม่บ้านอีกสองคนคอยทำอาหารอยู่แล้ว แต่หลังจากตระการบ่นว่าอยากทานอาหารฝีมือพรพฤกษ์บ้าง วันเสาร์วันหนึ่งพรพฤกษ์จึงเข้าครัวทำอาหารมื้อกลางวันเองโดยที่ตระการคอยเป็นลูกมือ ตอนแรกที่รู้ว่าทั้งคู่จะทำกับข้าวนั้นตฤณเพียงแต่ทำเสียงหึขึ้นจมูก แต่หลังจากได้ทานแกงเขียวหวานไก่ที่พรพฤกษ์ทำเป็นครั้งแรก จากนั้นมาผู้สูงวัยก็ไม่เคยแสดงความเห็นอีกเวลาที่รู้ว่าลูกชายกับลูกเลี้ยงจะทำอาหารให้ทาน
#07 – วันแรก
ยามเข้าฤดูฝน ไม่ว่าวันไหนก็ตามที่ฝนตกหนัก พรพฤกษ์จะชอบมองสายฝนและนึกย้อนไปถึงวันแรกที่ตระการไปเยือนบ้านนฤมิตร ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายวิ่งฝ่าฝนเข้าไปในบ้านด้วยสภาพเปียกมะลอกมะแลกระหว่างที่เขากำลังทำความสะอาด ก็คงไม่ทำให้ชายหนุ่มประทับใจและจำครั้งแรกที่พบกันได้แม่นยำถึงขนาดนี้
#08 - งาน
ช่วงที่ต้องอยู่ห่างจากพรพฤกษ์เพราะตฤณไม่ยอมรับนั้น ตระการทำงานหนักเพื่อแสดงให้พ่อรู้ว่าเขาสามารถรับช่วงธุรกิจและรักษาความสัมพันธ์ส่วนตัวไปพร้อมกันได้ แต่หลังจากที่พ่อของเขายอมให้พรพฤกษ์ย้ายมาอยู่ด้วยแล้ว ตระการก็ยังคงทำงานหนักเพื่อแสดงความขอบคุณให้กับตฤณ และเพื่อให้พรพฤกษ์ภูมิใจที่ตัดสินใจย้ายจากเชียงใหม่มาอยู่กับเขา
#09 – รัก
กลางดึกคืนหนึ่งพรพฤกษ์เดินออกจากห้องนอนเพื่อจะลงไปเอาน้ำดื่มที่ห้องครัวชั้นล่าง ระหว่างทางเขาเห็นแสงไฟลอดออกมาจากประตูห้องพระจึงเดินเข้าไปดู และพบว่าตฤณกำลังนั่งขัดสมาธิมองรูปแม่ของเขาและแม่ของตระการที่ตั้งอยู่บนหิ้ง ถึงแม้จะมองไม่เห็นว่าคนในห้องทำสายตาเช่นไรเพราะเจ้าตัวหันหลังให้ แต่พรพฤกษ์ก็เชื่ออย่างจริงใจในวินาทีนั้น ว่าพ่อของตระการไม่ใช่คนที่ไร้จิตใจหรือรักใครไม่เป็นอย่างเด็ดขาด
#10 – สัมผัส
ธุรกิจที่ขยับขยายและความรับผิดชอบที่เพิ่มพูนทำให้ตระการเหน็ดเหนื่อยกับงานที่ทำอยู่บ่อยครั้ง แต่ว่าเขาก็ไม่เคยเก็บเรื่องนั้นมาบ่นให้พรพฤกษ์ฟัง ชายหนุ่มมักจะเพียงแต่เล่าว่าเขากำลังทำโปรเจ็คต์อะไรเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ และเพียงแค่พรพฤกษ์ส่งสายตาว่าเข้าใจและเข้ามากอดหรือสัมผัสเขา เพียงแค่นั้นชายหนุ่มก็รู้สึกราวกับความเหนื่อยล้าที่แบกรับไว้ได้รับการบรรเทาแล้ว
#11 – ขอโทษ
ในช่วงปีแรกหลังจากพรพฤกษ์ไล่ตระการกลับบ้านเมื่อได้รู้ความจริงเรื่องของแม่ มีบางคืนที่เขาขับรถขึ้นไปศาลาชมวิวเพียงคนเดียวและนั่งมองดาวบนฟ้าจนดึกดื่น บางครั้งก็จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหมายเลขที่ตระการโทรเข้ามาแต่เขาไม่ได้รับ และสุดท้ายก็เก็บโทรศัพท์นั้นเข้ากระเป๋าก่อนจะขับรถกลับไปที่บ้านนฤมิตรเงียบๆ พรพฤกษ์เคยขอโทษตระการเรื่องนี้หลังจากที่ทั้งสองคนคบกันแล้ว แต่ตระการกลับบอกว่าเขาไม่จำเป็นจะต้องขอโทษ เพราะการผ่านเรื่องนั้นมาด้วยกันคือหนึ่งในก้าวสำคัญที่ทำให้พวกเขาสองคนมาถึงจุดนี้ได้
#12 – เจ็บ
ตอนที่พรพฤกษ์ประสบอุบัติเหตุและต้องนอนพักในโรงพยาบาลนั้น เป็นครั้งแรกที่ตระการได้รู้ซึ้งว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่อดทนต่อความเจ็บมากแค่ไหน เพราะถึงแม้พรพฤกษ์จะขมวดคิ้วหรือกัดริมฝีปากเวลาที่ขยับตัวแล้วกระเทือนร่างกายบ้าง แต่เขาก็แทบจะไม่เคยได้ยินเสียงที่แสดงความเจ็บหลุดลอดมาเข้าหูเลยสักครั้ง ทว่ายิ่งได้เห็นว่าพรพฤกษ์อดทนรับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ปริปากบ่นเพียงใด เขาก็ยิ่งนึกอยากให้ตัวเองแบกรับความเจ็บนั้นแทนคนที่รักมากขึ้นเท่านั้น
#13 – เช้า
พรพฤกษ์เป็นคนติดนิสัยนอนตื่นเช้ามาแต่ไหนแต่ไร ตอนที่ทำเกสต์เฮ้าส์เขาก็ยังตื่นเช้าแม้ในวันธรรมดาซึ่งไม่มีแขกเข้าพัก จนกระทั่งย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ และทำงานประจำแล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนนิสัยนี้ ดังนั้นจึงมีบ่อยครั้งที่เขาจะเป็นฝ่ายตื่นก่อนตระการในวันหยุด แต่ว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้ลุกไปไหน และไม่เคยปลุกให้คนข้างๆ ตื่นนอนตามด้วย เพราะเขารู้ดีว่าระดับความรับผิดชอบและเนื้องานของตระการหนักหนาจนต้องใช้เวลาพักผ่อนนานกว่ามาก บางครั้งพรพฤกษ์จึงเพียงแค่ลุกไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วกลับมาเอนหลังอ่านหนังสือเป็นเพื่อนตระการเงียบๆ จนกว่าอีกฝ่ายจะตื่น จากนั้นถึงค่อยลงไปทานมื้อเช้าที่ชั้นล่างพร้อมกัน
#14 – ชา
พรพฤกษ์พอจะมีความรู้เรื่องสมุนไพรพื้นบ้านอยู่บ้างเพราะตอนเด็กเขาโตมากับตา บางครั้งเวลาไม่สบายตาก็จะเป็นคนหานั่นหานี่มาต้มให้ดื่มจนกว่าเขาจะหาย ดังนั้นพอได้มาอยู่บ้านสุวรรณฤทธิ์แล้ว บางครั้งเขาก็จะต้มชาสมุนไพรที่มีสรรพคุณที่ช่วยบรรเทาอาการของตฤณให้ดื่ม ถึงแม้ผู้อาวุโสจะไม่ใคร่เชื่อนักว่าชาพวกนั้นมีคุณสมบัติช่วยโรคประจำตัวของตนได้จริงๆ เมื่อเทียบกับยาของหมอ แต่ตฤณก็ไม่เคยปฏิเสธน้ำใจของพรพฤกษ์และรับถ้วยชาไปดื่มพร้อมกับคำว่า ‘ขอบใจ’ ทุกครั้ง
#15 – ประหม่า
ตอนที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านใหม่ๆ นั้น พรพฤกษ์จะกระอักกระอ่วนทุกครั้งที่ตระการอาบน้ำเช็ดตัวให้ แต่ก็จนใจเพราะเขาทำอะไรเองไม่สะดวก และถึงแม้อีกฝ่ายจะแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการไม่ทำอะไรเกินขอบเขตที่จำเป็น แต่พรพฤกษ์ก็สังเกตได้ว่าตระการจะพยายามเลี่ยงที่จะสบตากับเขาระหว่างที่เช็ดตัวให้ หรือไม่ก็พยายามไม่จดจ่อสายตาที่ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งของเขานานเกินไป ซึ่งนั่นก็ช่วยให้เขาคลายความประหม่าลงได้ไม่น้อย เพราะถึงแม้จะไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่อายยามถูกอีกฝ่ายถอดเสื้อผ้าให้เสียหน่อย
#16 – สงสัย
มีบางครั้งที่พรพฤกษ์นึกสงสัยว่าถ้าหากเขากับตระการได้เจอกันตั้งแต่เด็กๆ เมื่อโตขึ้นพวกเขาจะได้คบกันในฐานะคนรักไหม ไม่แน่ว่าหากทั้งสองได้รู้จักกันตั้งแต่ตอนนั้น เขากับตระการอาจเป็นเพียงพี่น้องต่างสายเลือดที่สนิทสนมกันมากเท่านั้นก็เป็นได้ แต่แล้วความคิดนั้นก็จะปลิวหายไปทุกครั้งที่ตระการดึงเขาเข้าไปหาแล้วประทับริมฝีปากลงมา หรือว่ายามที่เขาลูบไล้บนแผงอกแกร่งยามอีกฝ่ายขยับกายอย่างเร่าร้อนอยู่ภายในตัวเขา และท่ามกลางสติที่เลือนลางเพราะความสุขสมที่ตระการปรนเปรอให้ พรพฤกษ์ก็อดคิดไม่ได้ว่าดีแล้วที่ทั้งสองไม่เคยได้พบกันในวัยเด็ก
#17 – ความทรงจำ
ตระการเคยเกลียดโรงเรียนประถมมาก เพราะช่วงเวลานั้นเขาสุขภาพอ่อนแอจนต้องขาดเรียนเพื่อพักผ่อนอยู่กับบ้านเป็นประจำ ถึงแม้จะตามบทเรียนทันเพราะว่าตฤณจ้างครูมาสอนพิเศษให้เป็นการส่วนตัว แต่เด็กน้อยก็แทบจะไม่มีเพื่อนเพราะเขาเล่นเกมหรือกีฬาที่ใช้แรงมากอย่างคนอื่นๆ ไม่ได้ แถมบางครั้งยังถูกล้อหรือทำเป็นเมินใส่จากเหล่าเพื่อนร่วมชั้นเสียอีก ความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลานั้นที่มีค่าที่สุดสำหรับเขาคือการได้รับความเอาใจใส่จากพิมผกาซึ่งเป็นแม่เลี้ยง กับดูรูปและฟังเรื่องของพรพฤกษ์ที่พิมผกาคอยแอบมาเล่าให้ฟังเท่านั้น
#18 – ชดใช้
ตอนที่ได้เห็นหน้าพรพฤกษ์เต็มๆ เป็นครั้งแรก ตฤณทั้งชังทั้งโมโหที่อดีตเด็กน้อยซึ่งทำให้พิมผกาไม่เปิดใจให้กับเขาหน้าตาคล้ายเจ้าตัวมากถึงขนาดนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนเขายอมรับคนรักของตระการได้ ผู้สูงวัยอยากจะเชื่อว่าเขาได้ชดใช้บางสิ่งให้กับทั้งพิมผกาและพรพฤกษ์แล้วเมื่อได้เห็นรอยยิ้มอย่างมีความสุขยามที่อีกฝ่ายอยู่ใกล้ลูกชายของเขา ถึงแม้จะรู้ดีว่านั่นเทียบไม่ได้กับการที่ทำให้พรพฤกษ์ขาดแม่ในวัยเด็กก็ตามที
#19 – ห่าง
พรพฤกษ์กับตระการต่างรู้ว่าความทรมานของการอยู่ห่างกันนั้นเจ็บปวดแค่ไหน ไม่ว่าจะครั้งแรกที่ห่างกันด้วยความไม่เข้าใจ หรือครั้งที่สองที่จำใจต้องห่างเพราะความจำเป็นบังคับ ดังนั้นถ้าหากเป็นไปได้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจำเป็นต้องเดินทางออกไปค้างอ้างแรมต่างจังหวัดเพราะเรื่องงาน อีกฝ่ายก็จะพยายามเคลียร์งานเพื่อตามไปด้วยให้ได้ทุกครั้ง
#20 – หนาว
ถึงแม้พรพฤกษ์จะชินกับฤดูหนาวเพราะโตมาในเมืองเหนือ แต่กระนั้นก็เป็นคนขี้หนาวและต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆ เวลาที่อากาศเปลี่ยนทุกครั้ง ไม่เหมือนตระการที่เป็นคนอุณหภูมิคงที่ตลอดเวลาและไม่ค่อยรู้สึกหนาวง่ายๆ ดังนั้นเวลาที่อากาศเริ่มเย็นลงเมื่อไหร่ พรพฤกษ์จะชอบอาศัยจังหวะที่คนอื่นในบ้านไม่เห็นจับมือตระการหรือซุกตัวกอดอีกฝ่ายเพื่อขอแบ่งไออุ่นบ้าง และนี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญให้ตระการชอบเร่งแอร์ในห้องนอนของพวกเขาสองคนอยู่เป็นประจำ
++---TBC---++
A/N: ตอนแรกก็คิดว่าจะมาลงหลังจากเต็มบทดีไหม แต่ก็ไม่อยากทิ้งช่วงนานเพราะยังอีกหลายสัปดาห์กว่าจะปิดจองหนังสือ ก็เลยของัดไอเดีย 50 themes ที่เคยใช้ในลำนำรักสีรุ้งมาใช้อีกครั้ง เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าของเรื่องนี้จะเขียนกี่ธีม ก็เลยขึ้นหัวว่า (1/?) นี่ละค่ะ สัปดาห์ถัดไปก็จะพยายามเข็นออกมาให้ได้อีกสัก 20 ธีมเท่าครั้งนี้ จะสังเกตได้ว่าคราวนี้ไม่ได้แบ่งชัดเจนว่าเลขคู่เลขคี่เป็นของใคร แล้วก็มีป๊ะป๋ามาแจมด้วย ไม่แน่ของครั้งต่อๆ ไปอาจมีของตัวละครอื่นมาแจมเพิ่มอีก หวังว่าคงทำให้หายคิดถึงต้นกับไผ่ได้บ้างระหว่างที่รอรวมเล่มนะคะ ส่วนใครยังไม่รู้รายละเอียดการจองก็ไปดูได้ที่หน้า 15 แล้วเจอกันใน 20 ธีมถัดไปช่วงประมาณกลางๆ สัปดาห์หน้าค่า ![o13](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/onion074.gif)